อ.2 เทอม1

273 เรอ่ื ง ใบงำน จดุ ประสงค์ บ้านของเรา 1. เพอ่ื ใหเ้ ด็กรจู้ กั สมาชกิ ภายในบา้ น คำสง่ั 2. เพื่อใหเ้ กิดพฒั นาทางความคดิ ในดา้ นการวาดภาพ ให้เด็กวาดภาพบ้านของเรา ตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการของตนเองแลว้ ระบายสี ให้สวยงาม ระเมนิ ครู ผปู้ ระเมนิ ผปู้ กครอง เกณฑ์กำรประเมิน เกณฑ์กำรประเมิน ดี พอใช้ ดี ปรับปรุง พอใช้ ปรับปรุง ผ้ปู ระเมนิ ตนเอง ผปู้ ระเมนิ เพอ่ื น เกณฑก์ ำรประเมนิ เกณฑ์กำรประเมิน ดี ดี พอใช้ พอใช้ ปรับปรงุ ปรบั ปรุง

274 เรอ่ื ง ใบงำน จุดประสงค์ บา้ นของเรา 1. เพ่อื ฝกึ การสงั เกต เปรียบเทยี บความเหมือนและความแตกต่าง คำสงั่ 2. เพื่อใหเ้ กิดการพฒั นาการทางความคดิ ในด้านการวาดภาพ ใหเ้ ด็กวาดภาพ การตกแต่งบ้านใหน้ ่าอยู่ ตามความคิดดและจนิ ตนาการของตนเองแลว้ ระบายสใี หส้ วยงาม ผ้ปู ระเมนิ ครู ผปู้ ระเมิน ผปู้ กครอง เกณฑก์ ำรประเมนิ เกณฑก์ ำรประเมนิ ดี ดี พอใช้ พอใช้ ปรบั ปรงุ ปรบั ปรุง ผู้ประเมิน ตนเอง ผู้ประเมิน เพื่อน เกณฑ์กำรประเมนิ เกณฑ์กำรประเมนิ ดี ดี พอใช้ พอใช้ ปรบั ปรงุ ปรับปรงุ

275 แผนกำรจัดประสบกำรณ์ท่ี 71 ชัน้ อนุบำลปีที่ 2 สำระทค่ี วรเรยี นรู้ท่ี 2 เร่อื งรำวเกย่ี วกับบุคคลและสถำนทีแวดล้อมตวั เด็ก หนว่ ย ครอบครัวอบอุ่น เร่ือง พึ่งพาอาศยั สปั ดำห์ท่ี 15 ลำดับวนั ท่ี 71 ครูผ้สู อน คณุ ครูโชตกิ า เสือพิณ โรงเรียน วดั ทา่ บุญมี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคัญ ในบา้ นหลังหน่งึ มพี ่อ แม่ และญาตพิ ่ีน้องอาศัยอย่รู วมกนั เรียกว่า ครอบครวั เม่ืออยู่ในครอบครัว เดียวกนั คนเราต้องพง่ึ พาอาศยั กนั และกนั มีความรักสามัคคกี นั และต้องดูแลกนั เพื่อใหเ้ กิดความสุข 2. จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 2.1 เพือ่ ใหเ้ ดก็ มีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั การปฏิบัติตนในครอบครวั สามารนาไปปรบั ใชใ้ น ชีวิตประจาวันได้ 2.2 เพือ่ ใหเ้ ด็กสามารถปฏิบัติตามสัญญาณ และคาส่ังได้ 2.3 เพื่อใหเ้ ดก็ สามารถสร้างผลงานไดอ้ ย่างสร้างสรรค์ และเสรี 2.4 เพอ่ื ใหเ้ ด็กสามารถแสดงความคดิ เห็น และตอบคาถามเก่ยี วกับเรอื่ งที่สนทนาได้ 2.5 เพ่ือให้เดก็ สามารถปรบั ตัวในการเลน่ รว่ มกบั คนอื่นไดอ้ ยา่ งสนุกสนาน 2.6 เพอื่ ให้เด็กสามารถเรยี งลาดบั ภาพที่กาหนดให้ได้ 3. สำระกำรเรยี นรู้ 3.1 ควำมหมำยและควำมสำคัญ 3.2 ประสบกำรณ์สำคัญ 3.2.1 การอธบิ ายเก่ยี วกบั ส่ิงของ เหตุการณ์ และความสมั พันธ์ของสิ่งตา่ งๆ 3.2.2 การสร้างแบบจาลองต่าง ๆ ด้วยดนิ เหนียว ดินนา้ มนั แท่งไม้ ฯลฯ 3.2.3 การสารวจและอธบิ ายความเหมือน ความตา่ งของสิ่งต่าง ๆ 3.2.4 การรับรแู้ ละแสดงความรสู้ กึ ด้วยการเคลือ่ นไหวกบั จงั หวะ 3.2.5 การจับคู่ การจาแนก และการจัดกลุ่ม 4. กิจกรรมกำรเรยี นรู้ 4.1 กจิ กรรมเคลื่อนไหวและจงั หวะ (20 นำที) 4.1.1 กิจกรรมพื้นฐาน ใหเ้ ด็กเคลือ่ นไหวร่างกายไปทั่วบริเวณอย่างอิสระ เม่ือไดย้ ิน สัญญาณหยุดให้หยดุ เคล่อื นไหวในทา่ นนั้ ทนั ที 4.1.2 เดก็ และครูสนทนา และรว่ มกันกาหนดคาส่งั สาหรับปฏิบัติกิจกรรมเช่น

276 - แสดงทา่ ทางเปน็ คนใช้ - แสดงทา่ ทางกวาดบ้านและถูบา้ น - แสดงท่าทางเปน็ คุณยาย ฯลฯ 4.1.3 ให้เดก็ เคล่ือนไหวร่างกายอย่างอิสระ เมื่อไดย้ ินสัญญาณหยุดใหห้ ยดุ ฟังคาส่ังและ ปฏบิ ัติตามคาสง่ั ที่ตกลงรว่ มกันไว้ 4.1.4 เด็กและครรู ว่ มกันกาหนดข้อตกลงใหม่อีก แลว้ ปฏบิ ตั ิตามขอ้ 3 ซา้ อีก 4.2 กิจกรรมสรำ้ งสรรคแ์ ละกจิ กรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เดก็ และครรู ่วมกันจัดโต๊ะเพื่อใชฝ้ ึกกิจกรรมการปั้นดินน้ามัน เสรจ็ แล้วครแู จกดนิ น้ามนั และแผน่ รองปั้นให้เด็กคนละ 1 ขีด โดยครูอธิบายขนั้ ตอนการปฏบิ ัติให้เด็ก ดู แล้วใหล้ งมอื ปฏิบัตติ ามความคดิ สร้างสรรค์และจินตนาการ อยา่ งอิสระ โดยครู คอยดแู ลอยูห่ า่ ง ๆ 4.2.2 เมื่อเด็กปฏิบตั ิกจิ กรรมเสร็จแล้ว นาผลงานมาให้ครดู ู โดยบอกช่ือผลงานและวธิ กี าร ทา ผลงานใดเหมาะสมจะจัดเกบ็ ใหเ้ ก็บไว้ในกลอ่ งสะสมผลงานของเด็กเอง โดย ครเู ขียนชอื่ ผลงาน ชื่อเด็ก วันเดือนปที ี่ทากากบั ไวด้ ว้ ย 4.2.3 สาหรับเดก็ ท่ปี ฏบิ ตั กิ ิจกรรมเสรจ็ แล้ว หรอื รอโตะ๊ ว่างใหเ้ ลน่ ตามมมุ อิสระ เป็นการ ฝึกรอโอกาส 4.2.4 เมื่อเด็กปฏิบัติกิจกรรมครบทุกคนแลว้ ครูแนะนาให้เดก็ ช่วยกันทาความสะอาด บริเวณ และชว่ ยกันจัดเกบ็ สง่ิ ของ อุปกรณ์ตา่ งๆ เข้าท่ีใหเ้ รียบร้อย 4.3 กจิ กรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำที) 4.3.1 เด็กและครูสนทนาร่วมกันเก่ยี วกบั ความหมาย ความสาคัญ ของคาว่าครอบครัว โดยครูเลา่ นิทานเรื่อง “ครอบครวั ของดอน” ให้เด็กฟัง เสร็จแล้วสนทนาร่วมกนั เกี่ยวกบั เรอื่ งในนิทาน 4.3.2 ครตู ้ังคาถามใหเ้ ด็กช่วยกนั หาคาตอบ เช่น - ครอบครวั ของเด็กมีกีค่ น - ถา้ เด็กไมม่ ีครอบครัว เดก็ จะรู้สกึ อย่างไร - เดก็ ๆ คิดอย่างไรกับคนทไี่ ม่มีครอบครัว ไม่มีบา้ น เปน็ ตน้ 4.3.3 เด็กและครูสนทนาสรปุ ร่วมกันเก่ียวกับความหมาย และความสาคญั ของครอบครวั โดยครอู ธบิ ายใหเ้ ด็กฟงั เพ่ิมเติมว่า ครอบครัวคือสถานที่ ทก่ี ล่มุ คนอาศัยยรู่ ่วมกัน มี หัวหนา้ ครอบครัว และมีผูท้ ี่อาศยั อยูใ่ นครอบครัว ซึ่งทกุ คนมีความสาคัญและ ชว่ ยกันสร้างครอบครวั ใหน้ า่ อย่แู ละมคี วามสุข 4.3.4 เมอื่ เด็กปฏิบัติกิจกรรมครบทุกคนแลว้ ครแู นะนาใหเ้ ด็กชว่ ยกนั ทาความสะอาด บริเวณ และชว่ ยกันจัดเกบ็ สิ่งของ อุปกรณ์ตา่ ง ๆ เขา้ ที่ใหเ้ รียบรอ้ ย

277 4.4 กิจกรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำที) 4.4.1 เดก็ จัดแถวตอนเรยี งหน่ึง เดินจบั เอวกันเปน็ แถวลงสนามอยา่ งเป็นระเบียบ เมือถึง สนามแล้ว ครใู หเ้ ดก็ อบอุ่นร่างกายโดยการวิง่ เหยาะ ๆ รอบบริเวณ 2 – 3 รอบ 4.4.2 เด็กและครสู นทนาร่วมกันเก่ียวกับการเลน่ น่งั ขวา้ งเป้า โดยครูทบทวนวธิ กี ารเลน่ ให้ เดก็ ฟังดังนี้ - แบ่งกลุ่มเด็ก กลมุ่ ละ 4 – 5 คน ให้เดก็ จัดแถวตอนนงั่ เรียงกนั ครกู าหนด เปา้ ให้หา่ งจากเด็กประมาณ 3 – 4 เมตร ขีดเส้นเร่ิมต้นให้เดก็ - คนท่ี 1 ของแตล่ ะแถวถือลกู บอลสาหรับขวา้ งเปา้ และถา้ ขวา้ งถกู เป้าได้ 1 คะแนน - เดก็ ท่ขี วา้ งแลว้ ใหว้ ิง่ ไปต่อท้ายแถว คนตอ่ ไปขว้างเป้าบ้าง แถวใดขวา้ งถูก เป้า มากกว่า เปน็ ผู้ชนะ 4.4.3 ครูปลอ่ ยใหเ้ ด็กเลน่ อย่างอิสระ 5 – 10 นาที เสร็จแลว้ ให้เดก็ ไปทาความสะอาด ร่างกาย กลับเข้าหอ้ งเรยี น เพื่อเตรยี มตัวไปรบั ประทานอาหารกลางวัน 4.5 กจิ กรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำที) 4.5.1 เด็กและครูสนทนารว่ มกันเกย่ี วกบั เกมจับคูภ่ าพตามลาดับ โดยครอู ธบิ ายวิธกี ารเล่น ให้เดก็ ฟัง 4.5.2 แบ่งกลุ่มเด็กให้เล่นเกมชดุ ใหม่ สลับกับเกมท่ีเคยเลน่ มาแลว้ หรือเครอื่ งเลน่ สัมผสั 4.5.3 เมื่อเด็ก ๆ เลน่ เกมต่าง ๆ เสร็จแลว้ ครแู นะนาให้ช่วยกันเก็บสง่ิ ของเขา้ ทีใ่ ห้ เรียบร้อย 5. สือ่ กำรเรียน / แหล่งกำรเรยี นรู้ 5.1 ดนิ น้ามัน และแผ่นรองป้ัน 5.2 นทิ านเร่ือง ครอบครวั ของตน 5.3 เกมน่งั ขวา้ งเป้า 5.4 เกมจบั คภู่ าพตามลาดับ 6. กำรวดั ผลและประเมนิ ผล 6.1 วธิ ีวัดผลและประเมนิ ผล 6.1.1 สงั เกตการปฏิบัตติ ามสญั ญาณและคาสั่ง 6.1.2 สงั เกตความคิดสรา้ งสรรค์ในการสร้างผลงาน 6.1.3 สงั เกตการตอบคาถาม และการแสดงความคิดเห็น 6.1.4 ตรวจผลงานการปั้น

278 6.2 เคร่อื งมอื วัดผล 6.2.1 แบบประเมินผลการจัดประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการป้ัน 6.3 เกณฑ์กำรวดั ผลและประเมินผล ระดบั 3 ดี ระดับ 2 พอใช้ ระดบั 1 ปรับปรุง

279 แผนกำรจัดประสบกำรณท์ ่ี 72 ชน้ั อนบุ ำลปีที่ 2 สำระท่คี วรเรยี นรู้ท่ี 2 เรอ่ื งรำวเกย่ี วกับบุคคลและสถำนทีแวดล้อมตวั เดก็ หนว่ ย ครอบครัวอบอนุ่ เร่อื ง สมาชิกในครอบครัว สปั ดำห์ท่ี 15 ลำดับวนั ท่ี 72 ครผู ู้สอน คณุ ครูโชตกิ า เสือพิณ โรงเรียน วดั ทา่ บญุ มี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคัญ สมาชกิ ในครอบครวั ประกอบด้วย พอ่ แม่ ลกู ปู่ ย่า ตา ยาย ฯลฯ ครอบครัวบางครอบครวั อาจจะเปน็ ครอบครัวใหญม่ สี มาชกิ บางครอบครวั อาจจะเปน็ ครอบครวั เล็กมสี มาชกิ น้อย แต่ทกุ คนตอ้ งมคี วาม รกั สามคั คีกนั และตอ้ งดแู ลกันเพ่ือใหเ้ กดิ ความสุข 2. จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 2.1 เพ่อื ใหเ้ ด็กมีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั การปฏิบัติตนในครอบครัว สามารนาไปปรบั ใชใ้ น ชีวติ ประจาวันได้ 2.2 เพ่ือให้เดก็ สามารถปฏิบัติตามสญั ญาณ และคาส่ังได้ 2.3 เพอ่ื ให้เด็กสามารถสร้างผลงานได้อย่างสรา้ งสรรค์ และเสรี 2.4 เพื่อใหเ้ ดก็ สามารถแสดงความคิดเห็น และตอบคาถามเกยี่ วกบั เรือ่ งที่สนทนาได้ 2.5 เพอื่ ให้เดก็ สามารถปรบั ตัวในการเล่นรว่ มกบั คนอืน่ ไดอ้ ย่างสนุกสนาน 2.6 เพ่อื ให้เด็กสามารถเรียงลาดับภาพที่กาหนดให้ได้ 3. สำระกำรเรยี นรู้ 3.1 สมำชกิ ในครอบครัว 3.2 ประสบกำรณส์ ำคัญ 3.2.1 การจับคู่ การจาแนก และการจดั กลุม่ 3.2.2 การสร้างความสมั พันธก์ ับเด็กและผู้ใหญ่ 3.2.3 การเปรียบเทยี บจานวนมากกวา่ นอ้ ยกว่า เทา่ กนั 3.2.4 การมปี ระสบการณ์ทางการเล่นสรา้ งสรรคร์ ว่ มกบั ผอู้ ื่น 4. กจิ กรรมกำรเรียนรู้ 4.1 กจิ กรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ (20 นำที) 4.1.1 กิจกรรมพื้นฐาน ใหเ้ ดก็ เคล่อื นไหวรา่ งกายไปท่ัวบรเิ วณอย่างอิสระตามจงั หวะ เมื่อ ไดย้ ินสญั ญาณหยุดให้หยดุ เคลอื่ นท่ใี นทา่ นั้นทนั ที

280 4.1.2 เด็กและครสู นทนารว่ มกนั เกย่ี วกับการเล่นบทบาทสมมุติ โดยหาอาสาสมัคร 6 คู่ ออกมาจับมือกันสมมตุ ิเป็นรงั นก เดก็ คนอนื่ เปน็ นก 4.1.3 ให้เดก็ เคลื่อนไหวร่างกายไปท่ัวบริเวณอยา่ งอิสระ เมื่อได้ยนิ สญั ญาณหยุดใหเ้ ด็กที่ สมมตุ ิเปน็ นกทาท่าบินเข้าไปในรงั ซงึ่ ในแต่ละรังจะมีนกอยูไ่ มเ่ กนิ 3 ตวั 4.1.4 เดก็ และครสู นทนาร่วมกันเกี่ยวกบั ความร้สู ึกของตนเองเมื่อเข้ามาอยู่ในรังได้ และ เข้ามาอยู่ในรังไมไ่ ด้ 4.1.5 ครใู ห้เด็กปฏบิ ตั ิกิจกรรมตามข้อ 4.1.3 ซา้ อีก 4.2 กจิ กรรมสร้ำงสรรคแ์ ละกจิ กรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เด็กและครรู ว่ มกันจดั เพอื่ ใชฝ้ ึกกจิ กรรมการวาดภาพดว้ ยสเี ทยี น เสรจ็ แลว้ ครแู จก ใบงานให้เด็กคนละ 1 แผน่ สนทนารว่ มกนั เกีย่ วกบั รายละเอยี ดในใบงานเสร็จแล้ว ใหเ้ ด็กลงมือปฏิบตั ิกจิ กรรมตามคาสัง่ ในใบงาน และใหผ้ ลงานอน่ื ตามความคิด และ จินตนาการของตนเอง อย่างอิสระโดยครคู อยดแู ลอยหู่ ่าง ๆ 4.2.2 เมอื่ เด็กปฏบิ ัติกิจกรรมเสร็จแล้ว นาผลงานมาให้ครดู ู โดยบอกชื่อผลงานและวธิ ีการ ทา ผลงานใดที่เหมาะสมจะจัดเก็บ ใหเ้ กบ็ ไว้ในกล่องผลงานของเด็กเอง โดยครู เขยี นช่ือผลงาน ชอื่ เดก็ วันเดือนปที ่ที ากากบั ไว้ 4.2.3 เมือ่ เด็กปฏิบัตกิ ิจกรรมครบทุกคนแลว้ ครแู นะนาใหเ้ ด็กชว่ ยกันทาความสะอาด บรเิ วณและชว่ ยกันจดั เก็บสิง่ ของ อุปกรณ์ตา่ ง ๆ เข้าที่ใหเ้ รียบร้อย 4.3 กจิ กรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำท)ี 4.3.1 เดก็ และครูสนทนารว่ มกันเกย่ี วกับสมาชกิ ในครอบครัว โดยครูใหเ้ ด็กวาดภาพตาม คาเล่าของครู เชน่ ครอบครวั ของเด็ก ๆ มใี ครอาศยั อยู่บ้า - ใครมีอายุมาก น้อยทีส่ ุด - มผี ู้ชายกคี่ น ผ้หู ญงิ ก่ีคน ฯลฯ 4.3.2 เด็กและครสู นทนาร่วมกนั เกย่ี วกับภาพทีเ่ ด็ก ๆ วาด โดยครูอธิบายเพ่มิ เติมว่า สมาชิกในครอบครัวคือคนที่อาศยั อยรู่ ่วมกนั โดยมีหัวหนา้ ครอบครวั พ่อ และผดู้ ูแล ความสะอาดเรยี บรอ้ ยในบ้าน ผูท้ ่ีท่ีทาอาหารใหร้ บั ประทานคือคุณแม่ แต่บาง ครอบครวั กช็ ่วยกนั ทกุ คน สาหรับเด็กที่เปน็ ครอบครวั ใหญ่ก็จะมีทั้งปู่ ยา่ ตา ยาย ปา้ นา้ อา อาศยั อยดู่ ว้ ย ซึ่งแต่ละคนก็ลว้ นมคี วามสาคัญ 4.3.3 เดก็ และครชู ว่ ยกนั สรุปความหมายของครอบครัวและสมาชกิ ในครอบครวั และ กาหนดแนวทางในการปฏบิ ัติต่อกนั เพือ่ ใชใ้ นชวี ิตประจาวนั 4.4 กิจกรรมกลำงแจ้ง (45 นำที) 4.4.1 ใหเ้ ดก็ จัดแถวตอนเรียงหนึ่ง ทาท่านกบินลงสู่สนาม เม่อื ถึงสนามแล้วให้เดก็ อบอุ่น ร่างกายโดยการว่ิงเหยาะ ๆ 2 – 3 นาที

281 4.4.2 เดก็ และครสู นทนารว่ มกนั เก่ียวกับการเล่นกลางแจง้ และการเล่นเครื่องเลน่ สนาม โดยครสู อบถามเด็ก ๆ ว่ามใี ครไดร้ บั อนั ตราย หรือบาดเจบ็ จากเครื่องเล่นในสนาม หรือไม่ 4.4.3 เด็กและครสู นทนารว่ มกันเกี่ยวกบั การเล่นเคร่ืองเล่นสนามท่ีปลอดภยั และถกู ต้อง 4.4.4 ครปู ล่อยใหเ้ ด็กได้เล่นอยา่ งอิสระ เมื่อได้เวลาพอสมควรแล้ว ครใู ห้เดก็ ไปทาความ สะอาดรา่ งกาย ทาธรุ ะส่วนตวั กลับเข้าหอ้ งเรียน เตรียมตัวไปรบั ประทานอาหาร กลางวัน 4.5 กจิ กรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำที) 4.5.1 เดก็ และครูสนทนาร่วมกันเก่ียวกบั เกมจดั หมวดหมภู่ าพคาทีออกเสียงพยัญชนะตน้ เหมือนกัน โดยครูแนะนาและอธบิ ายวิธเี ล่นเกมใหเ้ ดก็ ฟัง 4.5.2 แบ่งเด็กเป็นกลุ่มตามความเหมาะสม ใหแ้ ตล่ ะกุล่มเล่นเกมชุดใหม่ และเกมทเ่ี คย เล่นมาแล้ว 4.5.3 เมือ่ เด็กเลกิ เล่นเกมแล้ว ครแู นะนาใหช้ ว่ ยกันเก็บสิง่ ของต่าง ๆ เข้าทีให้เรยี บร้อย 5. ส่ือกำรเรียน / แหล่งกำรเรียนรู้ 5.1 สเี ทียน 5.2 เกมจดั หมวดหม่ภู าพคาที่ออกเสียงพยัญชนะตน้ เหมอื นกัน 6. กำรวัดผลและประเมินผล 6.1 วธิ วี ดั ผลและประเมนิ ผล 6.1.1 สังเกตการปฏิบัติตามสัญญาณและข้อตกลง 6.1.2 สังเกตการตอบคาถาม และการแสดงความคิดเห็น 6.1.3 ตรวจผลงานการวาดภาพ 6.2 เครอ่ื งมอื วัดผล 6.2.1 แบบประเมนิ ผลการจัดประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการวาดภาพ 6.3 เกณฑก์ ำรวดั ผลและประเมนิ ผล ระดบั 3 ดี ระดับ 2 พอใช้ ระดบั 1 ปรับปรุง

282 แผนกำรจัดประสบกำรณท์ ่ี 73 ช้ันอนบุ ำลปีท่ี 2 สำระท่คี วรเรยี นรทู้ ่ี 2 เรื่องรำวเกยี่ วกับบคุ คลและสถำนทีแวดล้อมตวั เด็ก หน่วย ครอบครวั อบอ่นุ เร่อื ง ครอบครัวของฉัน สปั ดำหท์ ่ี 15 ลำดบั วนั ท่ี 73 ครผู ู้สอน คุณครโู ชตกิ า เสือพิณ โรงเรียน วดั ทา่ บญุ มี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคญั ในบ้านหลังหน่ึง มพี ่อ แม่ และญาตพิ ี่น้องอาศัยอยรู่ วมกัน พอ่ แม่ ของฉัน เป็นผู้นาครอบครัว มี หน้าทที่ างาน หาเงิน และเลี้ยงดูคนในครอบครัวให้มีความสุข 2. จุดประสงค์กำรเรยี นรู้ 2.1 เพ่อื ใหเ้ ดก็ มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับการปฏบิ ัติตนในครอบครวั สามารนาไปปรับใช้ใน ชีวติ ประจาวนั ได้ 2.2 เพ่ือให้เด็กสามารถปฏบิ ัติตามสัญญาณ และคาสั่งได้ 2.3 เพ่อื ให้เด็กสามารถสรา้ งผลงานได้อย่างสรา้ งสรรค์ และเสรี 2.4 เพือ่ ใหเ้ ด็กสามารถแสดงความคิดเห็น และตอบคาถามเกี่ยวกับเรอ่ื งทีส่ นทนาได้ 2.5 เพอื่ ใหเ้ ดก็ สามารถปรบั ตัวในการเล่นรว่ มกบั คนอ่ืนได้อย่างสนุกสนาน 2.6 เพอ่ื ใหเ้ ดก็ สามารถเรยี งลาดบั ภาพท่ีกาหนดให้ได้ 3. สำระกำรเรยี นรู้ 3.1 พ่อแมข่ องฉัน 3.2 ประสบกำรณส์ ำคัญ 3.2.1 การพูดกบั ผ้อู น่ื เกีย่ วกบั ประสบการณข์ องตนเอง หรือเล่าเรื่องเกีย่ วกับตนเอง 3.2.2 การสรา้ งความสัมพนั ธ์กับเด็กและผูใ้ หญ่ 3.2.3 การมปี ระสบการณ์ทางการเล่นสรา้ งสรรคร์ ว่ มกับผู้อน่ื 3.2.4 การแสดงความรู้สึกดว้ ยคาพดู 4. กิจกรรมกำรเรียนรู้ 4.1 กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ (20 นำที) 4.1.1 กจิ กรรมพน้ื ฐาน ใหเ้ ด็กเคลือ่ นไหวร่างกายไปทว่ั ๆ บรเิ วณอยา่ อสิ ระ เม่ือได้ยนิ สัญญาณหยดุ ใหห้ ยดุ เคล่อื นไหวในท่านั้นทนั ที 4.1.2 เด็กและครสู นทนาร่วมกนั เก่ียวกบั จังหวะ ช้า – เร็ว โดยครเู คาะจังหวะใหเ้ ด็กฟัง

283 4.1.3 เด็กและครูสนทนาร่วมกนั เก่ียวกับการทาทา่ ทางตามจินตนาการประกอบการเคาะ จังหวะ เชน่ สะบดั ศรีษะ ตบมอื ยักเอว ยักไหล่ 4.1.4 ให้เด็กเคลื่อนไหวรา่ งกายอย่างอิสระ เมื่อได้ยินสญั ญาณหยุดให้หยดุ ฟงั คาสั่ง และ ปฏบิ ัติตาม โดยปฏบิ ตั ชิ ้า หรอื เร็วให้ฟังจงั หวะการเคาะของครู 4.1.5 ใหเ้ ดก็ ปฏบิ ัติกจิ กรรมในข้อ 4 ซา้ อีก จนสมควรแกเ่ วลา 4.2 กิจกรรมสรำ้ งสรรค์และกิจกรรมเสรี (60 นำท)ี 4.2.1 เดก็ และครรู ว่ มกนั จดั โต๊ะเพ่ือใชฝ้ กึ กจิ กรรมการวาดภาพด้วยสีนา้ เสร็จแลว้ ครู อธบิ ายขัน้ ตอน การปฏิบัตกิ ิจกรรม ใหเ้ ด็กดู แลว้ ใหล้ งมอื ปฏิบัติตามความคิด และ จนิ ตนาการของตนเอง อย่างอิสระ โดยครูคอยดูแลอยู่หา่ ง ๆ 4.2.2 เมอื่ เด็กปฏบิ ตั กิ ิจกรรมเสรจ็ แลว้ นาผลงานมาใหค้ รูดู โดยบอกชอื่ ผลงานและวิธกี าร ทา ผลงานใดทเี่ หมาะสมจะจัดเก็บ ใหเ้ ก็บไวใ้ นกล่อมผลงานของเด็กเอง โดยครู เขียนชอื่ ผลงาน ช่ือเด็ก วนั เดือนปีที่ทากากับไวด้ ้วย 4.2.3 สาหรบั เด็กทปี่ ฏบิ ัตกิ จิ กรรมเสร็จแล้วหรือรอโต๊ะวา่ งใหเ้ ล่นตามมุมอยา่ งอสิ ระเป็น การฝึกการรอโอกาสและการแบ่งปันกนั 4.2.4 เมอื่ เด็กปฏบิ ตั ิกิจกรรมครบทุกคนแลว้ ครแู นะนาให้เด็กช่วยกนั ทาความสะอาด บรเิ วณและช่วยกันจดั เกบ็ อุปกรณ์ต่าง ๆ เขา้ ท่ใี ห้เรยี บร้อย 4.3 กจิ กรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำท)ี 4.3.1 เด็กและครูสนทนาร่วมกันเกีย่ วกับครอบครัว วา่ ในแต่ละครอบครวั กต็ ้องมีหัวหนา้ ครอบครวั ซงึ่ สว่ นมากแลว้ จะเปน็ พอ่ หรือแม่ ถ้าหากเราไม่มหี ัวหนา้ ครอบครวั เราก็ จะมอี ยู่ด้วยความยากลาบาก 4.3.2 ครูเล่านทิ านเร่ือง “คุณพ่อของฉัน” ให้เด็กฟงั เสรจ็ แล้วสนทนา และตอบคาถาม เก่ียวกับเรอื่ งในนิทาน เช่น - คณุ พ่อทางานหาเงินเพ่ือใคร - ถา้ หากไมม่ ีคณุ พอ่ ใครจะชว่ ยดูแลครอบครวั แทน ฯลฯ 4.3.3 เด็กและครูสนทนารว่ มกนั เก่ียวกบั การชว่ ยเหลอื และตอบแทนบุญคณุ ของพ่อ แม่ ซงึ่ ครแู นะนาวา่ เดก็ ๆ ไมต่ ้องรอจนโตกส็ ามารถตอบแทนบญุ คุณพ่อแมไ่ ดแ้ ลว้ เช่น ปฏิบตั ิตามคาสัง่ สอนของท่าน หรือชว่ ยเหลืองานเลก็ ๆ นอ้ ย ๆ ตามวยั แคน่ ี้ ก็เพียงพอแล้ว 4.3.4 เดก็ และครสู นทนาและกาหนดแนวทางในการปฏบิ ัตติ นในชวี ิตประจาวนั 4.4 กิจกรรมกลำงแจ้ง (45 นำท)ี 4.4.1 ให้เด็กจดั แถวตอนเรียงหนง่ึ ลงส่สู นามโดยการเดนิ 3 กา้ ว และกระโดด 1 คร้ัง เม่ือ ถงึ สนามแลว้ ครใู ห้เด็กอบอ่นุ ร่างกายโดยการวิ่งเหยาะ ๆ รอบ ๆ บริเวณ 2 – 3 นาที

284 4.4.2 เด็กและครสู นทนาร่วมกนั เกี่ยวกบั การการเดนิ กะลา โดยครแู นะนาให้เด็กได้เล่น ดว้ ยความระมัดระวังและแบ่งปนั เครอื่ งเลน่ แกก่ นั นอกจากนย้ี งั รจู้ ักขอโทษและให้ อภยั กันดว้ ย 4.4.3 ครูให้เด็กไดเ้ ลน่ อย่างอสิ ระ จนสมควรแกเ่ วลา จึงใหเ้ ดก็ ไปทาความสะอาดร่างกาย ล้างหน้า ล้างมือ ทาธรุ ะสว่ นตวั กลับเข้าห้องเรียน เพื่อเตรียมตวั ไปรบั ประทาน อาหารกลางวนั 4.5 กิจกรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำท)ี 4.5.1 เดก็ และครูสนทนารว่ มกันเกยี่ วกับเกมโดมิโนจานวน 6 – 10 โดยครูอธิบายวิธกี าร เลน่ ใหเ้ ดก็ ฟัง 4.5.2 แบ่งเด็กเป็นกลมุ่ ตามความเหมาะสม ให้แต่ละกลุ่มเลน่ เกมชดุ ใหม่ เกมทเี่ คยเลน่ มาแล้ว 4.5.3 เมอ่ื เด็กเลกิ เลน่ เกมแล้ว ครแู นะนาให้เด็กช่วยกันทาความสะอาด และเก็บสิ่งของเขา้ ทใ่ี ห้เรยี บร้อย 5. สื่อกำรเรียน / แหล่งกำรเรยี นรู้ 5.1 สีน้า พ่กู นั 5.2 นทิ านเร่ืองคณุ พ่อคนเกง่ 5.3 เกมโดมิโนจานวน 6 – 10 5.4 การละเลน่ การเดนิ กะลา 6. กำรวัดผลและประเมนิ ผล 6.1 วธิ กี ำรวดั ผลและประเมนิ ผล 6.1.1 สังเกตการปฏิบัตติ ามสัญญาณ และคาสง่ั 6.1.2 สังเกตการตอบคาถาม และการแสดงความคิดเหน็ 6.1.3 ตรวจผลงานการวาดภาพ 6.2 เครือ่ งมอื วดั ผล 6.2.1 แบบประเมนิ ผลการจัดประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการวาดภาพ 6.3 เกณฑก์ ำรวัดผลและประเมนิ ผล ระดับ 3 ดี ระดบั 2 พอใช้ ระดบั 1 ปรับปรุง

285 แผนกำรจัดประสบกำรณ์ที่ 74 ชน้ั อนบุ ำลปีที่ 2 สำระทคี่ วรเรียนรู้ท่ี 2 เรื่องรำวเกยี่ วกับบุคคลและสถำนทีแวดล้อมตวั เด็ก หนว่ ย ครอบครวั อบอนุ่ เรื่อง บ้านแสนสุข สปั ดำห์ท่ี 15 ลำดบั วันที่ 74 ครผู สู้ อน คุณครูโชตกิ า เสือพิณ โรงเรยี น วดั ทา่ บุญมี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคัญ เม่ืออยู่ในครอบครัวเดยี วกนั ครอบครัวของเราจะดารงอยไู่ ด้ด้วยความสขุ สมาชิกในครอบครัวตอ้ ง ชว่ ยกนั ทางานในทุกๆๆวันตามหน้าที่และช่วยเหลอื ซึ่งกนั และกัน ตามความสามารถของแต่ละคน 2. จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 2.1 เพอ่ื ให้เด็กมีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั การปฏบิ ตั ิตนในครอบครัว สามารนาไปปรบั ใชใ้ น ชีวติ ประจาวันได้ 2.2 เพ่อื ให้เดก็ สามารถปฏบิ ัติตามสญั ญาณ และคาสั่งได้ 2.3 เพ่ือใหเ้ ดก็ สามารถสรา้ งผลงานได้อย่างสรา้ งสรรค์ และเสรี 2.4 เพ่ือให้เด็กสามารถแสดงความคิดเหน็ และตอบคาถามเก่ยี วกบั เรื่องทีส่ นทนาได้ 2.5 เพอื่ ใหเ้ ดก็ สามารถปรับตัวในการเล่นร่วมกบั คนอ่ืนได้อยา่ งสนุกสนาน 2.6 เพื่อให้เด็กสามารถเรียงลาดับภาพท่ีกาหนดให้ได้ 3. สำระกำรเรยี นรู้ 3.1 ช่วยงำนในครอบครวั 3.2 ประสบกำรณ์สำคัญ 3.2.1 การร่วมปฏิบัตกิ จิ วตั รประจาวันของกลุ่ม 3.2.2 การมปี ระสบการณ์และการเรียงลาดับเหตกุ ารณ์ต่าง ๆ 3.2.3 การจบั คู่ การจาแนก และการจดั กลุ่ม 4. กิจกรรมกำรเรยี นรู้ 4.1 กิจกรรมเคลอ่ื นไหวและจังหวะ (20 นำที) 4.1.1 กจิ กรรมพ้ืนฐาน ให้เด็กเคลอ่ื นไหวรา่ งกายไปทั่ว ๆ บริเวณอยา่ งอิสระ เม่ือได้ยิน สญั ญาณหยุดให้หยุดเคลือ่ นไหวในทา่ นนั้ ทนั ที 4.1.2 เดก็ และครรู ่วมกันร้องเพลง งานส่ิงใด โดยครูร้องใหเ้ ดก็ ฟังก่อน แลว้ จงึ ให้รอ้ งตาม เสรจ็ แลว้ สนทนาตกลงรว่ มกันเกี่ยวกบั คาส่ังต่าง ๆ เชน่ - พับผา้ ห่ม

286 - เกบ็ ทน่ี อน กวาดหอ้ ง - ถูบ้าน พับถงุ เทา้ ฯลฯ 4.1.3 ใหเ้ ดก็ เคล่ือนไหวร่างกายอย่างอิสระ เม่ือไดย้ ินสัญญาณหยุด ให้ฟังคาส่ังและปฏิบตั ิ ตาม 4.1.4 เด็กและครูรว่ มกนั สนทนา ตกลงร่วมกนั เกี่ยวกบั คาส่ังขน้ึ ใหม่ แล้วให้ปฏบิ ตั ิ กิจกรรมในข้อ 4.1.3 ซ้าอกี 4.2 กจิ กรรมสร้ำงสรรคแ์ ละกิจกรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เดก็ และครูร่วมกันจัดโต๊ะเพื่อใช้ฝึกกิจกรรมการพับสี โดยครูทบทวนวิธีการทาให้ เด็กดู แลว้ ให้เดก็ ปฏิบตั ิกจิ กรรมโดยอสิ ระ ตามความคดิ และสร้างสรรคข์ องเดก็ 4.2.2 เมอื่ เด็กปฏิบตั ิกิจกรรมเสร็จแล้ว นาผลงานมาใหค้ รูดู โดยบอกช่ือผลงานและวิธีการ ทา ผลงานใดทเี่ หมาะสมจะจัดเก็บ ใหเ้ ก็บไว้ในกล่องผลงานของเด็กเอง โดยครู เขียนชื่อผลงาน ช่ือเดก็ วันเดอื นปที ที่ ากากับไวด้ ว้ ย 4.2.3 เมอื่ เด็กปฏิบัตกิ จิ กรรมครบทุกคนแล้ว ครูแนะนาให้เด็กช่วยกันทาความสะอาด บรเิ วณและช่วยกนั จดั เก็บส่งิ ของต่าง ๆ เขา้ ทใ่ี หเ้ รยี บร้อย 4.3 กิจกรรมเสริมประสบกำรณ์ (15 นำท)ี 4.3.1 เดก็ และครูสนทนาร่วมกันเกย่ี วกบั งานต่าง ๆ ที่มใี นครอบครวั โดยครูให้เดก็ วาด ภาพของใช้ในบา้ นตามจินตนาการของเด็ก 4.3.2 เด็กและครูร่วมกนั หาอาสาสมัครออกมาเลา่ ประสบการณเ์ ก่ียวกับการทางาน ชว่ ยเหลอื ครอบครวั วา่ ใครทาอะไรไดบ้ ้าง ถา้ หากเดก็ เลา่ ไมไ่ ด้ครตู ั้งคาถามใหเ้ ดก็ ชว่ ยกนั ตอบ 4.3.3 เด็กและครูสนทนาสรปุ รว่ มกันเกี่ยวกบั การชว่ ยเหลืองานของครอบครัว วา่ ทกุ คนท่ี อยูร่ ่วมกนั ต้องชว่ ยเหลอื กันตามความสามารถทม่ี ีและเหมาะสมกบั วยั ของเรา โดย ไมต่ ้องให้คอยบอก คอยตักเตือนเพราะครอบครวั ที่จะอยู่ดว้ ยกันได้อย่างมีความสุข นนั้ ทกุ คนต้องช่วยเหลอื กัน 4.3.4 เด็กและครชู ่วยกนั กาหนดแนวทางสาหรับนาไปปฏิบัตใิ นชีวติ ประจาวัน เก่ียวกับการ ทางานชว่ ยเหลือกันในครอบครัว 4.4 กจิ กรรมกลำงแจ้ง (45 นำที) 4.4.1 เด็กจดั แถวตอนเรียงสอง เดินจับมอื กนั เป็นคู่ ๆ ลงสนามอย่างเปน็ ระเบยี บ 4.4.2 เมอ่ื ถึงสนามแล้วใหเ้ ด็กอบอุ่นร่างกายโดยการวง่ิ เหยาะ ๆ รอบ ๆ บรเิ วณ 2 – 3 นาที 4.4.3 เดก็ และครสู นทนารว่ มกันเก่ียวกบั การเล่นตบมือส่งของเป็นวงกลม โดยครทู บทวน วธิ ีการเล่นใหเ้ ด็กฟัง 4.4.4 จัดเด็กให้เข้าแถวลอ้ มวงเปน็ วงกลม และเร่ิมเล่นเกมตามวธิ กี ารเล่นทีค่ รแู นะนา

287 4.4.5 ครูปลอ่ ยให้เด็กไดเ้ ล่นอยา่ งอิสระ 5 – 10 นาที และเม่ือไดเ้ วลาพอสมควร ให้เด็ก ไปทาความสะอาดร่างกาย ลา้ งหน้า ทาธรุ ะสว่ นตัว กลับเข้าห้องเรียน เพ่ือเตรียม ตัวไปรับประทานอาหารกลางวัน 4.5 กจิ กรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำท)ี 4.5.1 เด็กและครูสนทนาร่วมกันเกี่ยวกับเกมจับคู่แบบอนกุ รม โดยครแู นะนาวิธีการเลน่ เกมใหเ้ ด็กฟัง 4.5.2 แบ่งเด็กเปน็ กลุ่มตามความเหมาะสม ให้แตล่ ะกลมุ่ เลน่ เกมชดุ ใหม่ และเกมที่เคย เลน่ มาแลว้ 4.5.3 เม่ือเด็กเลกิ เล่นเกมแลว้ ครูแนะนาใหเ้ ด็กชว่ ยกนั ทาความสะอาดบริเวณ และ ชว่ ยกันเกบ็ ส่ิงของต่าง ๆ เข้าท่ีให้เรยี บร้อย 5. ส่ือกำรเรียน / แหล่งกำรเรียนรู้ 5.1 สนี ้า 5.2 เกมตบมือสง่ ของเป็นวงกลม 5.3 เกมจับคู่แบบอนุกรม 6. กำรวดั ผลและประเมินผล 6.1 วิธวี ดั ผลและประเมนิ ผล 6.1.1 สังเกตการปฏิบัติตามสญั ญาณ และคาส่งั 6.1.2 สังเกตการพูดแสดงความคิดเห็น และการตอบคาถาม 6.1.3 ตรวจผลงานการพบั สี 6.2 เคร่ืองมือวัดผล 6.2.1 แบบประเมนิ ผลการจดั ประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการพับสี 6.3 เกณฑก์ ำรวดั ผลและประเมินผล ระดับ 3 ดี ระดบั 2 พอใช้ ระดบั 1 ปรับปรุง

288 แผนกำรจดั ประสบกำรณ์ท่ี 75 ชน้ั อนุบำลปีที่ 2 สำระทีค่ วรเรียนรทู้ ี่ 2 เรอื่ งรำวเก่ยี วกับบุคคลและสถำนทีแวดลอ้ มตัวเด็ก หนว่ ย ครอบครวั อบอุ่น เรอื่ ง ปัจจยั 4 สัปดำหท์ ่ี 15 ลำดบั วนั ท่ี 75 ครูผสู้ อน คุณครโู ชติกา เสอื พิณ โรงเรยี น วัดทา่ บุญมี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคัญ ในบา้ นหลงั หนง่ึ มพี ่อ แม่ และญาติพี่น้องอาศัยอยู่รวมกัน ครอบครัวจะดารงอยู่ได้ตอ้ งมีสง่ิ อานวย ความสะดวก เป็นปจั จัยในการดารงชวี ิตที่สาคญั และขาดไม่ได้ คอื อาหาร เครื่องนุง่ ห่ม ท่ีอยอู่ าศยั และยา รกั ษาโรค เรียกอีกอยา่ งหนงึ่ ว่า ปจั จัย 4 ซง่ึ ไมจ่ าเปน็ ต้องมคี ่าหรอื ราคาแพงแต่จะทาให้เราเกิดความสุข 2. จุดประสงค์กำรเรยี นรู้ 2.1 เพอ่ื ใหเ้ ด็กมีความรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั การปฏบิ ัติตนในครอบครวั สามารนาไปปรบั ใชใ้ น ชวี ิตประจาวนั ได้ 2.2 เพอ่ื ให้เด็กสามารถปฏิบัติตามสัญญาณ และคาสั่งได้ 2.3 เพื่อใหเ้ ดก็ สามารถสรา้ งผลงานได้อย่างสรา้ งสรรค์ และเสรี 2.4 เพอ่ื ใหเ้ ดก็ สามารถแสดงความคิดเหน็ และตอบคาถามเกย่ี วกับเร่อื งที่สนทนาได้ 2.5 เพื่อให้เดก็ สามารถปรบั ตัวในการเลน่ ร่วมกบั คนอน่ื ไดอ้ ย่างสนุกสนาน 2.6 เพ่อื ใหเ้ ดก็ สามารถเรียงลาดบั ภาพที่กาหนดให้ได้ 3. สำระกำรเรียนรู้ 3.1 ควำมตอ้ งกำรพน้ื ฐำน 3.2 ประสบกำรณ์สำคัญ 3.2.1 การพูดกับผอู้ ื่นเกย่ี วกับประสบการณ์ของตนเอง หรือเล่าเร่ืองเกย่ี วกับตนเอง 3.2.2 การแสดงความรสู้ ึกด้วยคาพูด 3.2.3 การสารวจและอธบิ ายความเหมอื น ความตา่ งของสิ่งต่าง ๆ 4. กิจกรรมกำรเรยี นรู้ 4.1 กจิ กรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ (20 นำที) 4.1.1 กิจกรรมพน้ื ฐาน ให้เด็กเคลอ่ื นไหวรา่ งกายไปทัว่ ๆ บริเวณอยา่ งอสิ ระ เม่ือได้ยิน สัญญาณหยุดใหห้ ยุดเคล่ือนไหวในท่านั้นทนั ที 4.1.2 เด็กและครูร่วมกนั กาหนดมุมในบริเวณหอ้ งเป็น 4 มุม คอื มุมพยาบาล มมุ อาหาร มุมเสอื้ ผ้า มุมบ้าน

289 4.1.3 ให้เด็กเคล่ือนไหวรา่ งกายอย่างอิสระตามจงั หวะ ทีค่ รูเคาะ เมอ่ื ได้ยนิ สัญญาณหยุด ให้เด็กหยุดและปฏบิ ตั ิตามคาสงั่ เชน่ รบั ประทำนอำหำร เดก็ ๆ ต้องเดินไปทมี่ ุมอาหาร ไม่สบำย เดก็ ๆ ที่เดินไปมุมพยาบาล อำกำศหนำว เดก็ ๆ เดนิ ไปที่มุมเส้อื ผ้า เขำ้ ท่พี กั เด็ก ๆ จะเดินไปท่ีมมุ บา้ น เป็นตน้ 4.1.4 ใหเ้ ดก็ ปฏิบัติกจิ กรรมตามข้อ 4.1.3 ซ้าอกี 4.2 กิจกรรมสรำ้ งสรรคแ์ ละกิจกรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เดก็ และครูร่วมกันจัดโต๊ะเพื่อใช้ฝึกกิจกรรมการเปา่ สี เสร็จแล้วครูอธิบายขน้ั ตอน การปฏิบตั ิใหเ้ ด็กฟัง เสรจ็ แล้วให้เดก็ ลงมอื ปฏิบัตกิ จิ กรรมตามความคดิ และ จินตนาการของตนเองอยา่ งอิสระ โดยครูคอยดูแล ให้คาแนะนาอยู่หา่ ง ๆ 4.2.2 เมอื่ เด็กปฏบิ ัตกิ ิจกรรมเสรจ็ แล้ว นาผลงานมาใหค้ รดู ู โดยบอกชอ่ื ผลงานและวิธกี าร ทา ผลงานใดทเี่ หมาะสมจะจดั เกบ็ ให้เกบ็ ไวใ้ นกล่องสะสมผลงานของเด็กเอง โดยครเู ขยี นช่อื ผลงาน ช่ือเด็ก วนั เดอื นปที ท่ี ากากบั ไว้ด้วย 4.2.3 เด็กคนใดที่ปฏิบตั กิ จิ กรรมเสร็จแล้วให้เลน่ ตามมุมอยา่ งอสิ ระ รอเพือ่ น ๆ 4.2.4 เม่อื เด็กปฏบิ ัตกิ จิ กรรมครบทุกคนแลว้ ครูแนะนาให้เด็กช่วยกนั ทาความสะอาด บรเิ วณและช่วยกนั จดั เกบ็ สิ่งของ อุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าท่ีใหเ้ รียบร้อย 4.3 กจิ กรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำที) 4.3.1 เดก็ และครูสนทนารว่ มกนั เกี่ยวกบั ความตอ้ งการพ้ืนฐานในครอบครัว โดยครูอธบิ าย ความหมายของคาว่าความต้องการพนื้ ฐานใหเ้ ดก็ ฟงั พร้อมกบั ดรู ปู ภาพ ประกอบดว้ ย 4.3.2 ครตู ง้ั คาถามใหเ้ ด็กชว่ ยกันตอบ เช่น - เดก็ ๆ คิดวา่ อะไรสาคญั ท่ีสุดในครอบครัว - ถ้าไม่มอี าหารจะเป็นอยา่ งไร - ถ้าเด็ก ๆ ไมส่ บายเด็กจะไปท่ีไหน ฯลฯ 4.3.3 เดก็ และครสู นทนาร่วมกนั เกี่ยวกบั ความตอ้ งการพน้ื ฐานของครอบครัว โดยครู อธิบายเพมิ่ เติมให้เด็กฟงั วา่ แต่ละครอบครวั นน้ั มคี วามต้องการที่ไม่เหมือนกนั แต่สงิ่ ท่จี าเป็นในการดารงชวี ติ มีเพียงไม่ก่อี ย่าง คอื อาหาร ยารักษาโรค เครอื่ งนุ่งห่ม และที่อย่อู าศยั ซ่งึ สง่ิ ตา่ ง ๆ เหล่านพ้ี ่อแม่ของเด็ก ๆ จะเป็นคนหามาให้ และเด็ก ๆ เองก็ต้องช่วยกนั ใช้ใหเ้ กดิ ประโยชน์ทสี่ ุด 4.3.4 เดก็ และครูรว่ มกันกาหนดแนวทางทถี่ ูกต้องในการปฏบิ ัติตนในชีวิตประจาวัน

290 4.4 กจิ กรรมกลำงแจง้ (45 นำที) 4.4.1 เด็กจดั แถวตอนเรียงหน่ึง ให้วิง่ เหยาะ ๆ ลงสนาม เมื่อถงึ สนามแลว้ ให้เด็กกระโดด อยกู่ บั ท่ี นาน 2 – 3 นาที เปน็ การอบอ่นุ ร่างกาย 4.4.2 เดก็ และครูสนทนาทบทวน เกี่ยวกบั การเลน่ เกมแย่งหาง ซึ่งเดก็ เคยเล่นมาแลว้ เสร็จ แลว้ ใหเ้ ดก็ เล่นเกมตามขั้นตอนท่ีเคยเลน่ 4.4.3 ครูปล่อยให้เด็กได้เลน่ เคร่ืองเล่นสนามและเลน่ กลางแจ้งอย่างอสิ ระ 5 – 10 นาที โดยครูคอยดแู ลความปลอดภัยอย่หู า่ ง ๆ 4.4.4 เมอื่ ได้เวลาพอสมควร ครใู ห้เดก็ ไปทาความสะอาดรา่ งกาย ลา้ งหน้า ล้างมอื ทาธุระ สว่ นตวั กลบั เขา้ หอ้ งเรียน เพื่อเตรียมตวั ไปรบั ประทานอาหารกลางวนั 4.5 กิจกรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำที) 4.5.1 เดก็ และครูรว่ มกนั เก่ียวกับ วธิ กี ารเลน่ เกมจับคู่ภาพนาฬิกาแบบต่าง ๆ โดยครู แนะนาวิธกี ารเล่นเกมให้เด็กฟัง 4.5.2 แบง่ กลุ่มเด็กใหเ้ ลน่ เกมชดุ ใหม่ที่ครแู นะนา สลบั กบั เกมทีเ่ คยเลน่ มาแลว้ หรือเครื่อง เล่นสมั ผัส 4.5.3 เม่อื เด็กเลิกเล่นเกมแล้ว ครแู นะนาใหเ้ ด็กชว่ ยกนั เกบ็ ส่งิ ของต่างๆ เข้าท่ใี ห้เรยี บร้อย 5. สื่อกำรเรียน / แหล่งกำรเรียนรู้ 5.1 สีน้า หลอดกาแฟ 5.2 เกมแยง่ หาง 5.3 เกมจับคูภ่ าพนาฬิกาแบบตา่ ง ๆ 6. กำรวดั ผลและประเมินผล 6.1 วธิ วี ดั ผลและประเมินผล 6.1.1 สงั เกตการปฏิบัตติ ามสัญญาณและคาส่ัง 6.1.2 สงั เกตการตอบคาถาม การแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับเร่ืองทีส่ นทนา 6.1.3 ตรวจผลงานการเป่าสี 6.2 เครอ่ื งมอื วดั ผล 6.2.1 แบบประเมินผลการจดั ประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการเปา่ สี 6.3 เกณฑก์ ำรวดั ผลและประเมินผล ระดบั 3 ดี ระดับ 2 พอใช้ ระดับ 1 ปรับปรุง

291 ภาคผนวก เพลงงำนส่ิงใด แมน้ ใครละเลยท้งิ ปล่อย (บญั ฑิต บุญยำคม) หวงั คอยแต่เก่ียงโยนกลอง จาไว้ทกุ คนตอ้ ง งานส่งิ ใด งานสิง่ ใด ชว่ ยกัน ช่วยกัน ชว่ ยกัน มัวแตค่ อย เฝา้ แตค่ อย ไม่มีเสรจ็ ไม่มีเสรจ็ รับรอง ทางาน เราตอ้ งช่วยกัน นิทำนเร่อื ง ครอบครวั ของดอน (ดอน มดแดง) ณ หมบู่ า้ นดอกกหุ ลาย หมู่บ้านนเ้ี ป็นหมู่บ้านทเ่ี ปน็ ครอบครวั ใหญ่ ครอบครวั ของดอนก็เปน็ ครอบครัวใหญ่ มี พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย และน้าสาวอกี 2 คน รวมท้งั หมด 9 คน และน้าท้งั สองคนกย็ ังไม่มี ครอบครวั คณุ พ่อของดอนบอกวา่ อยดู่ ว้ ยกนั เยอะ ๆ จะได้ชว่ ยกนั ดแู ลกนั ยามเจบ็ ป่วยไม่สบาย และยัง สามารถชว่ ยเหลอื กันได้อีกหลายอย่าง เช่น ชว่ ยกนั ทางานช่วยกัน เปน็ เพือ่ นคยุ เพ่ือนเล่นกัน ครอบครวั ของดอนเปน็ ครอบครวั ชาวนา พ่อกับแมท่ านา ส่วนน้าสาวท้งั สองทาสวนผัก ทุกวันแต่ละ คนก็จะแยกยา้ ยไปประกอบหนา้ ทีข่ องตนเอว โดยไม่ต้องบอกกนั รจู้ ักหนา้ ที่ของตนเอง ในฤดฝู น พอ่ กับแม่จะชว่ ยกันทานาโดยมีนา้ สาวทงั้ สองไปช่วย และถ้าไม่ใช้ฤดทู านา พอ่ กบั แม่กจ็ ะ ช่วยกนั ซ่อมแซมคนั นาให้อาหารปลาท่เี ลีย่ งไวใ้ นบ่อ และดูแลสวนผักท่ีน้าสาวชว่ ยกนั ทาไว้ บางวันนา้ สามทง้ั สองก็ไปเกบ็ ผักมาสง่ ที่ตลาด ช่วยเหลือกันตลอดเวลา โดยไมป่ รปิ ากบน่ และสรา้ งความลาบากใจให้กัน พ่อแมข่ ายขา้ วไดเ้ งินมาก็ซอ้ื เส้ือผา้ ใหมใ่ ห้ดอนและคุณตา คณุ ยาย คุณปู่ คุณย่า คุณย่าไปเทย่ี วงาน ฤดหู นาวในเมืองด้วย ทง้ั หมดเทยี่ วดว้ ยความสนุกสนาน ดอนไปโรงเรยี นเองโดยปัน่ จักรยานที่พ่อแมซ่ ้ือให้นานแลว้ ไป บางวันก็รบั เพื่อนขา้ งบา้ นไปดว้ ย ซงึ่ ดอนก็บอกวา่ มีเพื่อนบ้านทดี่ ีก็สบายใจ เพราะจะไดม้ เี พ่อื นเลน่ และชว่ ยทาการบ้านด้วย ดอนบอกกับเพ่ือนวา่ ถา้ ดอนแตง่ งานมีครอบครัวดอนก็จะให้ทุกคนอยรู่ ่วมกนั แบบนี้ เปน็ ครอบครัว ใหญ่ อบอุ่น และสนุกสนานดี

292 นิทำนเรื่องคุณพอ่ ของฉัน (ดอน มดแดง) ฉนั อย่กู บั พ่อ แม่ ครอบครวั ของฉนั เปน็ ครอบครัวเล็กแต่อบอนุ่ ดี ทกุ วันท่ีฉนั ไปโรงเรียนคณุ แมจ่ ะ เดินไปส่ง ส่วนคุณพ่อจะออกไปทางานหาเงินมาจนุ เจอื ครอบครัว เมือ่ แม่มาส่งฉันแล้วก็จะกลบั ไปทางานบา้ น ซักผา้ รดี ผา้ ปดั กวาดทาความสะอาดบา้ นเรอื น และ ทาอาหารไวร้ อคุณพ่อทจี่ ะกลับมากินข้าวกลางวนั ท่ีบา้ น คุณพ่อของฉันมีอาชีพขับรถแท็กซี่รบั สง่ ผโู้ ดยสาร คุณพ่อบอกว่าคนเราเลอื กเกดิ ไม่ได้ แต่เลือกทาอาชีพที่สุจริตทาได้ และเลอื กทาความดี ไม่เบยี ดเบียนคนอืน้ แมจ้ ะเหน่ือยเพยี งใดคุณพ่อก็ไม่เคยบ่นใหฉ้ ันและคุณแม่ได้ยิน คณุ พ่อบอกวา่ การทางานหาเงนิ เป็นหน้าที่ ของหัวหนา้ ครอบครวั ขอให้ทุกคนใชจ้ า่ ยเงินอยา่ งประหยัดร้จู กั เกบ็ และอดออมเอาไว้ เพ่อื อนาคตข้างหนา้ เรา จะได้สบาย และหากเราอยากได้อะไรกจ็ ะสามารถซ้ือได้ ฉันบอกคณุ พอ่ วา่ ถ้าฉันเรียนจบมีงานทาฉันจะเลย้ี งคุณพ่อและคุณแมเ่ อง ซึ่งคุณพ่อก็บอกให้ฉนั ต้งั ใจ เรียนจึงจะมงี านทาและช่วยเหลอื พ่อแม่ได้ หากฉันไม่ตัง้ ใจเรียน มัวแต่เล่นกจ็ ะทาอยา่ งทตี่ ัง้ ใจไวไ้ ม่ได้ ฉนั ก็ รบั ปากคณุ พ่อคนเกง่ ของฉัน เดนิ กะลำ เปน็ การละเลน่ พื้นบา้ นท่หี าดไู ด้ไมบ่ ่อยนกั แต่หากเปน็ สมัยก่อนจะเห็นเด็ก ๆ เดินกะลา กนั ทัว่ ไป วิธเี ลน่ ผเู้ ลน่ จะต้องนากะลามะพรา้ ว 2 อันมาทาความสะอาดแล้วเจาะรตู รงกลาง ร้อยเชือกให้แน่น เพอ่ื ป้องกันไม่ใหเ้ ชือกหลุดเวลาเดิน เวลาเดินให้ใชน้ ้ิวหัวแม่เทา้ กบั นวิ้ ช้คี ีบเชือกเอาไว้แลว้ เดนิ หากมีเดก็ ๆ หลาย คนอาจจัดแขง่ เดนิ กะลา ได้ด้วยการกาหนดเสน้ ชยั ไวใ้ ครเดินถึงก่อนกเ็ ปน็ ผ้ชู นะไป ประโยชนข์ องการเดินกะลา ก็คอื ชว่ ยฝกึ การทรงตัว ความสมดลุ ของรา่ งกาย เพราะต้องระวงั ไมใ่ หต้ ก กะลา ช่วงแรก ๆ อาจจะรู้สกึ เจบ็ เทา้ แตถ่ า้ ฝึกบอ่ ย ๆ จะชินและหายเจ็บไปเอง แถมยงั ทาให้รา่ งกายแข็งแรง เพลดิ เพลินอกี ดว้ ย

293 เรอ่ื ง ใบงำน จุดประสงค์ สมาชกิ ในครอบครัว 1. เพื่อใหเ้ ด็กสามารถบอกสมาชิกในครอบครัวได้ 2. เพ่ือใหเ้ กิดพฒั นาทางความคดิ สรา้ งสรรค์ในด้านการวาดภาพ คำสั่ง ใหเ้ ดก็ วาดภาพสมาชิกในครอบครวั ตามความคิด และจนิ ตนาการของตนเอง เสร็จแล้ว ระบายสีให้สวยงาม ผ้ปู ระเมนิ ครู ผปู้ ระเมิน ผ้ปู กครอง เกณฑก์ ำรประเมิน เกณฑก์ ำรประเมนิ ดี ดี พอใช้ พอใช้ ปรับปรงุ ปรบั ปรงุ ผปู้ ระเมิน ตนเอง ผ้ปู ระเมนิ เพื่อน เกณฑ์กำรประเมิน เกณฑก์ ำรประเมนิ ดี ดี พอใช้ พอใช้ ปรับปรุง ปรบั ปรุง

294 แผนกำรจัดประสบกำรณ์ท่ี 76 ช้นั อนบุ ำลปีท่ี 2 สำระท่ีควรเรียนรทู้ ่ี 2 เรอ่ื งรำวเกี่ยวกับบคุ คลและสถำนทีแวดล้อมตวั เด็ก หนว่ ย ครอบครัวทีร่ กั เรอื่ ง ครอบครวั มีสุข สปั ดำหท์ ี่ 16 ลำดับวันท่ี 76 ครูผสู้ อน คณุ ครโู ชตกิ า เสอื พิณ โรงเรยี น วดั ทา่ บญุ มี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคญั ครอบครวั คือ การอยู่ร่วมกนั ของบุคคลหลาย ๆ คน ทุกคนตา่ งกม็ ีหนา้ ท่ีปฏบิ ัติทแ่ี ตกตา่ งกนั ไป ถา้ ทกุ คนชว่ ยเหลือกนั กจ็ ะทาให้ครอบครัวมคี วามสขุ ไปดว้ ย 2. จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 2.1เพ่อื ให้เดก็ มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับหมายของครอบครัวดี การปฏิบัตติ วั ของบคุ คลใหเ้ กิด ความสุข สามารถนาไปใชช้ วี ติ ประจาวันได้ 2.2 เพ่อื ใหเ้ ดก็ สามารถปฏิบัติตามสัญญาณ และคาสง่ั ได้ 2.3 เพอ่ื ใหเ้ ด็กสามารถสร้างผลงานไดอ้ ย่างสรา้ งสรรค์ และเสรี 2.4 เพอ่ื ใหเ้ ด็กสามารถแสดงความคดิ เหน็ และตอบคาถามเก่ยี วกับเรื่องท่สี นทนาได้ .2.5 เพอื่ ให้เด็กสามารถปรบั ตัวในการเล่นรว่ มกบั คนอนื่ ได้ 2.6 เพื่อให้เด็กสามารถเลน่ เกมท่ีกาหนดให้ได้ 3. สำระกำรเรยี นรู้ 3.1 ครอบครัวดีมคี วำมสขุ 3.2 ประสบกำรณ์สำคัญ 3.2.1 การอธิบายเกยี่ วกบั สง่ิ ของ เหตกุ ารณ์ และความสมั พันธ์ของสิง่ ตา่ ง ๆ 3.2.2 การสร้างแบบจาลองต่าง ๆ ด้วยดินเหนยี ว ดนิ น้ามัน แท่งไม้ ฯลฯ 3.2.3 การรับรูแ้ ละแสดงความรสู้ กึ ด้วยการเคล่ือนไหวกับจงั หวะ 3.2.4 การสรา้ งความสมั พนั ธ์กับเด็กและผูใ้ หญ่ 4. กิจกรรมกำรเรียนรู้ 4.1 กจิ กรรมเคล่ือนไหวและจัวหวะ (20 นำที) 4.1.1 กจิ กรรมพืน้ ฐาน ให้เดก็ เคล่ือนไหวรา่ งกายไปทั่วบรเิ วณอย่างอสิ ระตามจังหวะเมอื่ ได้ยนิ สัญญาณหยุดให้หยดุ เคลื่อนท่ีในทา่ น้ันทันที

295 4.1.2 เดก็ และครู สนทนาและตกลงร่วมกนั เกี่ยวกบั คาส่งั ทจ่ี ะปฏิบัติกิจกรรมเชน่ - จบั กลุ่มกนั 6 คน พรอ้ มกบั นับจานวน - กระโดดพร้อมกับนับ 1 – 6 ฯลฯ 4.1.3 ให้เดก็ เคล่ือนไหวรา่ งกายอย่างอสิ ระ เม่ือได้ยินสญั ญาณหยุดใหห้ ยุดฟังและปฎิบตั ิ ตามคาส่ังจากครู 4.1.4 เด็กและครูรว่ มกนั ตกลงคาสงั่ ใหม่ และปฏิบัติกจิ กรรมในข้อ 4.1.3 ซ้าอกี สมควร แก่เวลา 4.2 กิจกรรมสรำ้ งสรรค์และกิจกรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เดก็ และครรู ่วมกันจัดโต๊ะเพ่ือใชฝ้ ึกกจิ กรรมการปนั้ ดินนา้ มัน เสร็จแลว้ ครแู จกดิน น้ามนั และแผน่ รองปั้นใหเ้ ด็กคนละ 1 ชดุ โดยครอู ธิบายข้นั ตอนการปฏิบัติใหเ้ ด็ก ดู แลว้ ใหล้ งมือปฏิบตั ิตามความคดิ สรา้ งสรรค์และจนิ ตนาการ อย่างอิสระโดยครู คอยดแู ลอยหู่ ่าง ๆ 4.2.2 เม่ือเด็กปฏิบตั กิ ิจกรรมเสรจ็ แลว้ นาผลงานมาให้ครูดู โดยบอกชื่อผลงานและวธิ ีการ ทา ผลงานใดทเี่ หมาะสมจะจัดเก็บ ให้เกบ็ ไวใ้ นกล่องผลงานของเด็กเอง โดยครู เขยี นช่ือผลงาน ช่ือเดก็ วันเดอื นปที ี่ทากากับไว้ด้วย 4.2.3 สาหรับเดก็ ที่ปฏิบตั ิกิจกรรมเสรจ็ แลว้ หรอื รอโตะ๊ ว่างใหเ้ ล่นตามมมุ อยา่ งอิสระเปน็ การฝกึ การรอโอกาส 4.2.4 เมื่อเด็กปฏิบตั ิกจิ กรรมครบทุกคนแล้ว ครูแนะนาให้เด็กช่วยกนั ทาความสะอาด บริเวณและชว่ ยกันจดั เกบ็ สิ่งของ อปุ กรณ์ตา่ ง ๆ เข้าทใ่ี ห้เรียบร้อย 4.3 กิจกรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำท)ี 4.3.1 เด็กและครสู นทนารว่ มกนั เก่ยี วกบั ความหมายของครอบครัว โดยครูเล่านิทานเร่ือง “ครอบครวั ของฉัน” ให้เด็กฟัง เสรจ็ แล้วสนทนาร่วมกนั เกี่ยวกบั เรอ่ื งในนิทาน 4.3.2 เดก็ และครสู นทนารว่ มกันเกีย่ วกับบทบาทของสมาชกิ ในครอบครัวว่าแต่ละคนควร ปฏบิ ัตติ นอยา่ งไร ครอบครวั จงึ จะมีความสขุ 4.3.3 เดก็ และครรู ่วมกนั หาอาสาสมัครออกมาเล่าประสบการณ์ในการชว่ ยเหลอื งานใน ครอบครวั วา่ ใครทาอะไรได้บ้าง และปฏบิ ัตเิ ป็นประจาหรอื ไม่ 4.3.4 เดก็ และครูสนทนา และสรุปร่วมกนั เก่ียวกบั การปฏิบัตติ ัวเพ่ือให้ครอบครวั มี ความสุข โดยครแู นะนาวา่ เด็ก ๆ ควรปฏบิ ัติให้ถกู ต้องและเหมาะสมกับวยั เสรจ็ แล้วรว่ มกนั กาหนดแนวทางเพอ่ื นาไปปฏิบัตติ นในชีวติ ประจาวันตอ่ ไป 4.4 กิจกรรมกลำงแจ้ง (45 นำที) 4.4.1 ให้เด็กทาท่าเลียนแบบกระต่ายกระโดดอย่างอิสระลงสูส่ นาม 4.4.2 เมอื่ ถึงสนามแลว้ ครูใหเ้ ด็กอบอุ่นรา่ งกายโดยการวงิ่ เหยาะ ๆ รอบ ๆ บริเวณ 2 – 3 นาที

296 4.4.3 เด็กและครสู นทนารว่ มกันเก่ยี วกบั การเล่นการเล่นมอญซ่อนผา้ โดยครูอธบิ าย วธิ กี ารเล่นใหเ้ ด็กฟงั 4.4.4 ให้เดก็ ไดเ้ ล่นเกมที่ครูแนะนาโดยครคู อยดูแลการเล่นอยหู่ ่าง ๆ เสร็จแลว้ ใหเ้ ล่นอย่าง อสิ ระ 4.4.5 เมอ่ื ได้เวลาพอสมควรแลว้ ครใู ห้เดก็ ไปทาความสะอาดรา่ งกาย ล้างหนา้ ลา้ งมอื ทาธุระสว่ นตัว กลบั เขา้ หอ้ งเรียน เพือ่ เตรียมตวั ไปรับประทานอาหารกลางวัน 4.5 กิจกรรมเกมกำรศกึ ษำ (20 นำที) 4.5.1 เดก็ และครูสนทนารว่ มกันเกยี่ วกับเกมที่สังเกตรายละเอียดของภาพกับเงา โดยครู แนะนาวธิ ีการเลน่ เกมให้เด็กฟัง 4.5.2 แบง่ เดก็ เป็นกลุ่มตามความเหมาะสม ให้แต่ละกลุ่มเลน่ เกมชดุ ใหม่ และเกมทเ่ี คยเล่น มาแลว้ หรือเครื่องเล่นสัมผสั 4.5.3 เมือ่ เด็กเลน่ เกมเสร็จแล้ว ครแู นะนาให้เด็ก ๆ ชว่ ยกนั จัดเกบ็ สิ่งของตา่ ง ๆ เข้าที่ให้ เรยี บรอ้ ย 5. สือ่ กำรเรียน / แหล่งกำรเรยี นรู้ 5.1 ดินนา้ มัน และแผ่นรองป้ัน 5.2 นทิ านเรอื่ ง ครอบครัวของฉนั 5.3 เกมสังเกตรายละเอยี ดของภาพกบั เงา 5.4 การละเลน่ มอญซ่อนผ้า 6. กำรวดั ผลและประเมนิ ผล 6.1 วิธกี ำรวัดผลและประเมนิ ผล 1. สงั เกตการปฏบิ ัติตามสญั ญาณ และคาส่ัง 2. สังเกตการสนทนา และการตอบคาถาม 3. ตรวจผลงานวาดภาพ 6.2 เครือ่ งมือวดั ผล 1. แบบประเมินผลการจดั ประสบการณ์ 2. ผลงานของเดก็ 6.3 เกณฑ์กำรวดั ผลและประเมนิ ผล ระดับ 3 ดี ระดบั 2 พอใช้ ระดับ 1 ปรับปรงุ

297 แผนกำรจดั ประสบกำรณ์ที่ 77 ชนั้ อนบุ ำลปีที่ 2 สำระทคี่ วรเรียนรทู้ ี่ 2 เรือ่ งรำวเกี่ยวกับบคุ คลและสถำนทีแวดล้อมตัวเดก็ หนว่ ย ครอบครัวท่รี ัก เรอ่ื ง ปจั จัย 4 สัปดำหท์ ี่ 16 ลำดบั วันที่ 77 ครผู สู้ อน คณุ ครูโชตกิ า เสอื พิณ โรงเรยี น วดั ท่าบุญมี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคัญ ในบ้านหลงั หน่งึ มพี ่อ แม่ และญาตพิ ี่น้องอาศัยอยู่รวมกนั ครอบครัวจะดารงอยู่ได้ต้องมสี ง่ิ อานวย ความสะดวก เป็นปัจจัยในการดารงชวี ิตท่ีสาคญั และขาดไม่ได้ คือ อาหาร เคร่ืองนุง่ ห่ม ที่อย่อู าศัย และยา รกั ษาโรค เรยี กอกี อย่างหนง่ึ ว่า ปจั จยั 4 ซึง่ ไมจ่ าเปน็ ต้องมคี ่าหรือราคาแพงแต่จะทาให้เราเกิดความสุข 2. จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 2.1เพื่อใหเ้ ด็กมีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกับหมายของครอบครัวดี การปฏิบตั ิตวั ของบคุ คลให้เกิด ความสขุ สามารถนาไปใชช้ ีวติ ประจาวนั ได้ 2.2 เพ่อื ใหเ้ ด็กสามารถปฏิบัติตามสัญญาณ และคาส่ังได้ 2.3 เพอ่ื ใหเ้ ดก็ สามารถสร้างผลงานไดอ้ ย่างสรา้ งสรรค์ และเสรี 2.4 เพือ่ ให้เดก็ สามารถแสดงความคดิ เหน็ และตอบคาถามเกยี่ วกับเรื่องท่ีสนทนาได้ .2.5 เพ่อื ใหเ้ ด็กสามารถปรบั ตัวในการเล่นร่วมกับคนอื่นได้ 2.6 เพื่อใหเ้ ด็กสามารถเลน่ เกมที่กาหนดใหไ้ ด้ 3. สำระกำรเรียนรู้ 3.1 ควำมตอ้ งกำรพนื้ ฐำน 3.2 ประสบกำรสำคัญ 3.2.1 การพดู กับผอู้ นื่ เก่ียวกับประสบการณข์ องตนเอง หรือเล่าเร่ืองเกย่ี วกับตนเอง 3.2.2 การสารวจและอธบิ ายความเหมือน ความต่างของสงิ่ ตา่ ง ๆ 3.2.3 การใช้หรืออธบิ ายส่งิ ตา่ ง ๆ ด้วยวธิ ีการท่ีหลากหลาย 4. กิจกรรมกำรเรยี นรู้ 4.1 กจิ กรรมเคลือ่ นไหวและจังหวะ (20 นำที) 4.1.1 กิจกรรมพ้นื ฐาน ให้เด็กเคล่ือนไหวร่างกายไปทั่ว ๆ บรเิ วณอย่างอสิ ระตามจังหวะ เมือ่ ไดย้ ินสัญญาณหยุดใหห้ ยุดเคลอ่ื นไหวในท่าน้นั ทันที 4.1.2 เดก็ และครูรว่ มกนั กาหนดเส้นทางเปน็ เขาวงกต โดยใชช้ อลก์ หรือเชือกเขียนเปน็ เสน้ ทางไปท่วั บรเิ วณพื้นทส่ี าหรับเคลอ่ื นไหว

298 4.1.3 เด็กและครตู กลงร่วมกนั เก่ยี วกับการเคล่อื นไหวไปตามแนวเสน้ ทกี่ าหนดให้อย่าง อสิ ระ แต่ถา้ พบไมบ้ ล็อกให้กระโดดขา้ ม หรือถา้ พบเชือกให้ทาทา่ ลอดใต่เชือก เป็น ตน้ 4.1.4 ให้เด็กปฎบิ ัตกิ จิ กรรมตามทไี่ ด้ตกลงรว่ มกันในขอ้ 4.1.3 ซ้าอีก และเปล่ยี นข้อตกลง ใหม่ไปเรื่อย ๆ จนสมควรแก่เวลา 4.2 กจิ กรรมสร้ำงสรรค์และกจิ กรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เดก็ และครรู ว่ มกนั จัดเพ่อื ใชฝ้ ึกกิจกรรมการวาดภาพดว้ ยสีเทยี น เสร็จแลว้ อธบิ าย ขัน้ ตอน วธิ ีการปฏิบตั ิให้เด็ก แลว้ ให้เด็กลงมือปฏบิ ตั ิตามความคดิ และจนิ ตนาการ ของตนเอง อย่างอิสระโดยครูคอยดูแลอยู่หา่ ง ๆ 4.2.2 เด็กคนใดทป่ี ฏิบตั ิกจิ กรรมเสร็จแลว้ นาผลงานมาให้ครูดู โดยบอกชื่อผลงานและ วิธกี ารทา ผลงานใดที่เหมาะสมจะจัดเก็บ ใหเ้ กบ็ ไวใ้ นกล่องสะสมผลงานของเด็กเอง โดยครูเขยี นชือ่ ผลงาน ชื่อเด็ก วนั เดือนปที ท่ี ากากับไวด้ ้วย เสรจ็ แล้วให้เล่นตามมุม อย่างอสิ ระ รอเพ่ือน 4.2.3 เมือ่ เด็กปฏิบตั ิกจิ กรรมครบทุกคนแลว้ ครูแนะนาให้เด็กชว่ ยกันทาความสะอาด บริเวณและช่วยกนั จดั เก็บสิง่ ของ อปุ กรณ์ต่าง ๆ เข้าท่ีให้เรียบรอ้ ย 4.3 กิจกรรมเสริมประสบกำรณ์ (15 นำท)ี 4.3.1 เด็กและครสู นทนารว่ มกันเกย่ี วกบั ความตอ้ งการพื้นฐานของครอบครวั โดยครู อธบิ ายเพมิ่ เตมิ จากสัปดาหท์ ่ีแล้วให้เด็กฟัง และใหเ้ ด็กลองวาดภาพอาหารที่เดก็ ๆ ชอบ พรอ้ มกบั ระบายสใี ห้สวยงาม 4.3.2 ครตู ้ังคาถามให้เด็กช่วยกนั หาคาตอบ เก่ียวกบั ความต้องการพืน้ ฐานในชวี ติ เชน่ - บ้านทเี่ ด็กอาศัยอยู่ทุกวันนี้เป็นของใคร - ในแตล่ ะวันเดก็ ๆ ทาอยา่ งไรจงึ ไม่หวิ - ถา้ อากาศหนาวเด็ก ๆ จะทาอยา่ งไร เป็นต้น 4.3.3 เดก็ และครสู นทนาร่วมกันวา่ ส่ิงท่เี ด็ก ๆ ช่วยกนั ตอบเปน็ ส่ิงทคี่ รอบครัวและคนเรา ตอ้ งการและขาดไมไ่ ด้ และไม่ใชอ่ ยูท่ ค่ี วามสวยงาม หรือมรี าคาแพง แต่อยทู่ ี่ความ สะดวก สบายและความรักความอบอุ่นทท่ี ุกคนในครอบครวั มีใหก้ นั 4.3.4 เด็กและครูสนทนา และกาหนดแนวทางเพื่อนาไปปฏบิ ตั ิตนให้เหมาะสมกับ ชีวติ ประจาวัน 4.4 กิจกรรมกลำงแจ้ง (45 นำที) 4.4.1 ใหเ้ ดก็ ลงสสู่ นาม โดยการเดนิ 3 ก้าว กระโดด 3 ครง้ั แลว้ ว่ิงเหยาะ ๆ 4.4.2 เม่อื ถึงสนามแล้วใหเ้ ด็กอบอุน่ รา่ งกายโดยการวิง่ รอบ ๆ บรเิ วณ 2 – 3 นาที

299 4.4.3 เดก็ และครูสนทนารว่ มกันเกี่ยวกบั การเล่นกลางแจง้ อย่างอิสระ โดยครูใหเ้ ด็ก แบง่ กลมุ่ เพ่ือเลน่ ตามความสนใจของเด็ก และครแู นะนาการเลน่ วา่ ควรเลน่ ให้ ปลอดภัย และถูกวิธี นอกจากนน้ั ยังควรรจู้ ักแบง่ ปนั และให้อภัยซ่งึ กันและกันดว้ ย 4.4.4 ครูปลอ่ ยให้เด็กได้เล่นกลางแจง้ โดยอสิ ระตามกลุ่มที่แบ่งไว้ โดยครูคอยดแู ลความ ปลอดภยั อย่หู า่ ง ๆ 4.4.5 เม่ือได้เวลาพอสมควรแล้ว ครใู หเ้ ด็กไปทาความสะอาดรา่ งกาย ล้างหน้า ทาธรุ ะ ส่วนตวั กลับเขา้ หอ้ งเรยี น เพื่อเตรยี มตวั ไปรับประทานอาหารกลางวนั 4.5 กจิ กรรมเกมกำรศกึ ษำ (20 นำท)ี 4.5.1 เดก็ และครูสนทนารว่ มกนั เกีย่ วกับเกมท่ีจัดหมวดหม่ภู าพกับสัญลักษณ์พยญั ชนะ โดยครแู นะนาวิธกี ารเล่นเกมใหเ้ ด็กฟงั 4.5.2 แบ่งเด็กเป็นกล่มุ ตามความเหมาะสม ใหแ้ ต่ละกล่มุ เลน่ เกมชุดใหม่ และเกมท่เี คยเลน่ มาแล้ว 4.5.3 เมอื่ เด็กเลิกเลน่ แลว้ ครแู นะนาให้ชว่ ยกนั เก็บสิ่งของต่างๆ เข้าท่ใี ห้เรียบร้อย 5. สอื่ กำรเรยี น / แหล่งกำรเรยี นรู้ 5.1 สเี ทียน 5.2 เกมจดั หมวดหม่ภู าพกับสญั ลักษณ์พยญั ชนะ 6. กำรวัดผลและประเมนิ ผล 6.1 วิธกี ำรวัดผลและประเมนิ ผล 1. สังเกตการปฏิบัตติ ามสญั ญาณ และคาสัง่ 2. สงั เกตการสนทนา และการตอบคาถาม 3. ตรวจผลงานวาดภาพ 6.2 เครอ่ื งมือวดั ผล 1. แบบประเมินผลการจดั ประสบการณ์ 2. ผลงานของเดก็ 6.3 เกณฑ์กำรวดั ผลและประเมินผล ระดบั 3 ดี ระดบั 2 พอใช้ ระดบั 1 ปรับปรงุ

300 แผนกำรจัดประสบกำรณท์ ี่ 78 ชนั้ อนุบำลปีที่ 2 สำระท่คี วรเรียนรู้ท่ี 2 เรอื่ งรำวเกีย่ วกับบคุ คลและสถำนทีแวดล้อมตัวเด็ก หน่วย ครอบครัวที่รัก เร่อื ง ครอบครัวมสี ุข สปั ดำหท์ ่ี 16 ลำดบั วนั ท่ี 78 ครผู ูส้ อน คณุ ครูโชติกา เสือพิณ โรงเรียน วัดท่าบญุ มี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคัญ ครอบครัวแต่ละครอบครวั มคี วามเชอื่ และการนบั ถือศาสนาท่แี ตกต่างกันออกไป เช่น นับถือศาสนา พุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาครสิ ต์ ฯลฯ ศาสนาทกุ ศาสนากส็ อนให้ทกุ คนเปน็ คนดีดงั น้ันเราควรทาตามคา สอนของศาสนา 2. จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ 2.1เพอ่ื ใหเ้ ดก็ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับหมายของครอบครัวดี การปฏบิ ัติตัวของบุคคลให้เกิด ความสขุ สามารถนาไปใชช้ ีวติ ประจาวันได้ 2.2 เพื่อใหเ้ ด็กสามารถปฏบิ ตั ิตามสัญญาณ และคาสงั่ ได้ 2.3 เพือ่ ใหเ้ ดก็ สามารถสรา้ งผลงานไดอ้ ย่างสรา้ งสรรค์ และเสรี 2.4 เพื่อใหเ้ ด็กสามารถแสดงความคิดเห็น และตอบคาถามเกย่ี วกับเร่ืองทีส่ นทนาได้ .2.5 เพ่อื ใหเ้ ด็กสามารถปรับตัวในการเล่นรว่ มกบั คนอน่ื ได้ 2.6 เพื่อให้เด็กสามารถเลน่ เกมที่กาหนดใหไ้ ด้ 3. สำระกำรเรยี นรู้ 3.1 ศำสนำ และควำมเช่ือ 3.2 ประสบกำรณ์สำคัญ 3.2.1 การมีประสบการณ์ทางการเลน่ สร้างสรรค์รว่ มกับผอู้ ่นื 3.2.2 การสร้างความสมั พนั ธ์กบั เด็กและผใู้ หญ่ 3.2.3 การแสดงความรสู้ ึกดว้ ยคาพดู 3.2.4 การพูดกับผูอ้ ืน่ เกยี่ วกบั ประสบการณ์ของตนเอง หรือเล่าเรื่องเก่ยี วกับตนเอง 4. กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ 4.1 กิจกรรมเคลอ่ื นไหวและจังหวะ (20 นำท)ี 4.1.1 กิจกรรมพนื้ ฐาน ใหเ้ ด็กเคล่ือนไหวรา่ งกายไปท่ัว ๆ บริเวรอยา่ งอิสระ เม่ือได้ยิน สัญญาณหยดุ ใหห้ ยดุ เคล่อื นไหวในทา่ น้นั ทันที 4.1.2 เด็กและครูสนทนาร่วมกนั เกี่ยวกับคาบรรยายทจ่ี ะใหป้ ฎิบตั ิ ดงั น้ี

301 “วนั น้ี ช่วยคุณแมน่ บั ขนมไปตักบาตร 1 – 2 – 3 – 4 – 5 …. 10 หยบิ ขนมใสบ่ าตร ไหวพ้ ระเดินกลับบา้ น ก่อนนอนทกุ คืนคุณแม่ สอนให้ลูก ๆ กราบพระก่อนนอน 3 ครงั้ คอื กราบครั้งที่ 1 กราบครงั้ ที่ 2 กราบครั้งที่ 3 สวดมนต์และนอนหลบั ฝนั ดี” 4.1.3 ครูใหเ้ ดก็ นับปากเปลา่ 1 – 10 เสรจ็ แล้วปฏิบตั ิกิจกรรมในข้อ 4.1.2 ซา้ อกี 4.2 กจิ กรรมสร้ำงสรรค์และกจิ กรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เดก็ และครูร่วมกันจัดโต๊ะเพ่ือใช้ฝึกกิจกรรมการวาดภาพดว้ ยสนี ้า เสรจ็ แล้วครู อธิบายขน้ั ตอน การปฏิบัตกิ ิจกรรม ให้เดก็ ดู แล้วลงมือปฏิบตั ติ ามความคิด และ จินตนาการของตนเอง อยา่ งอสิ ระ โดยครูคอยดูแลอย่หู า่ ง ๆ 4.2.2 เด็กคนใดทป่ี ฏิบตั กิ จิ กรรมเสร็จแลว้ นาผลงานมาให้ครูดู โดยบอกช่ือผลงานและ วิธกี ารทา ผลงานใดท่เี หมาะสมจะจดั เกบ็ ใหเ้ ก็บไว้ในกลอ่ งผลงานของเด็กเอง โดย ครเู ขยี นช่ือผลงาน ช่อื เด็ก วนั เดอื นปที ่ีทากากบั ไว้ดว้ ย เสรจ็ แล้วใหเ้ ล่นตามมุม อย่างอิสระ รอเพื่อน ๆ 4.2.3 เมือ่ เด็กปฎิบตั กิ จิ กรรมครบทุกคนแลว้ ครูแนะนาให้เด็กช่วยกันทาความสะอาด บริเวณและชว่ ยกนั จดั เกบ็ อปุ กรณต์ ่าง ๆ เข้าทีใ่ ห้เรยี บร้อย 4.3 กจิ กรรมเสริมประสบกำรณ์ (15 นำที) 4.3.1 เดก็ และครูสนทนารว่ มกันเกีย่ วกับการนับถือศาสนาของแต่ละครอบครวั รวมถึง ความเชื่อตา่ ง ๆ ของชุมชนและท้องถ่นิ โดยอธิบายความหมายของศาสนาและความ เชื่อใหเ้ ดก็ ฟังเสรจ็ แลว้ ครูต้งั คาถามให้เด็กตอบ 4.3.2 เด็กและครูสนทนาร่วมกนั เกย่ี วกับกิจวตั รประจาวนั ของคุณตา คณุ ยาย ของเด็กว่า ปฏบิ ัติตนเกีย่ วกับศาสนาอยา่ งไรบา้ ง โดยครตู ั้งคาถามให้เด็กชว่ ยกันหาคาตอบ 4.3.3 เดก็ และครชู ่วยกนั หาอาสาสมัครออกมาเล่าประสบการณ์ของตนเองวา่ ไดป้ ฏิบตั ติ วั เกย่ี วกบั การนับถอื ศาสนาในเร่อื งใดบา้ ง อยา่ งไร 4.3.4 เด็กและครูสนทนาร่วมกันเกี่ยวกับผลทไี่ ด้จากการนับถือศาสนา ว่าเกนิ ผลดแี ละ ผลเสียอยา่ งไร โดยครูอธิบายและแนะนาการปฏิบตั ติ นทถี่ ูกต้องอย่างง่าย ๆ ใน การนบั ถือศาสนาโดยเน้นเร่ืองความเหมาะสมกว่าความงมงาย เสร็จแลว้ ร่วมกนั กาหนดแนวทางในการนาไปปฏิบตั ิในชีวิตประจาวัน 4.4 กจิ กรรมกลำงแจ้ง (45 นำที) 4.4.1 ใหเ้ ดก็ ลงสสู่ นามโดยทาท่าม้าวิ่งอย่างอสิ ระ เมอ่ื ถึงสนามแลว้ ให้เดก็ อบอนุ่ รา่ งกาย โดยการว่ิงเหยาะ ๆ อยู่กบั ท่ี 2 – 3 นาที 4.4.2 เดก็ และครสู นทนารว่ มกันเกี่ยวกบั การเลน่ ระบาดอกไม้ โดยครแู นะนาวิธีการเลน่ ให้ เดก็ ฟัง จนเด็กเขา้ ใจ ดังน้ี - ครโู ปรยดอกไม้กระดาษใหเ้ ป็นรปู วงกลม (นอ้ ยกวา่ จานวนเดก็ 1 ดอก)

302 - ใหเ้ ดก็ เดินร้องเพลงหรือปรบมอื ไปรอบ ๆ ดอกไม้ เมื่อได้ยินสียงนกหวีด ใหเ้ ด็ก ก้มเกบ็ ดอกไม้คนละดอก คนที่เกบ็ ไมไ่ ด้ต้องออกจากการเล่น - ครูเอาดอกไม้กระดาษออก 1 ดอก แลว้ ให้เล่นเกมต่อไป จนเหลือผเู้ ล่น 1 คน เป็นผ้ชู นะ 4.4.3 ครใู ห้เด็กไดเ้ ล่นเกมระบาดอกไม้ 2 – 3 รอบ เสรจ็ แล้วปลอ่ ยให้เด็กไดเ้ ลน่ อย่าง อิสระ 5 – 10 นาที ก่อนที่จะใหเ้ ด็กไปทาความสะอาดร่างกาย ลา้ งหน้า ล้างมือ กลบั เข้าหอ้ งเรียน เพ่ือเตรยี มตัวไปรับประทานอาหารกลางวนั 4.5 กจิ กรรมเกมกำรศกึ ษำ (20 นำที) 4.5.1 เดก็ และครสู นทนรว่ มกนั เกีย่ วกบั เกมหาความสมั พนั ธ์ภาพแบบเขาวงกต โดยครู แนะนาวิธกี ารเลน่ ที่ถูกต้องให้เด็กฟงั 4.5.2 แบ่งเดก็ เปน็ กลุ่มตามความเหมาะสม ใหแ้ ต่ละกลุม่ เล่นเกมชดุ ใหมท่ ีค่ รแู นะนาและ เกมท่เี คยเล่นมาแลว้ หรือเครือ่ งเลน่ สัมผสั 4.5.3 เมื่อเด็กเลน่ เกมเสรจ็ แล้ว ครแู นะนาให้เด็ก ๆ ชว่ ยกนั จัดเก็บสง่ิ ของต่าง ๆ เขา้ ที่ให้ เรยี บร้อย 5. สอื่ กำรเรียน / แหล่งกำรเรียนรู้ 5.1 สนี ้ พกู่ นั 5.2 เกมระบาดอกไม้ 5.3 เกมหาความรักสมั พนั ธภ์ าพแบบเขาวงกต 6. กำรวดั ผลและประเมนิ ผล 6.1 วธิ วี ัดผลและประเมนิ ผล 6.1.1 สงั เกตการปฏิบัติตามสญั ญาณ และคาบรรยาย 6.1.2 สังเกตการตอบคาถาม และการแสดงความคิดเหน็ 6.1.3 ตรวจผลงานการวาดภาพ 6.2 เคร่ืองมือวัดผล 6.2.1 แบบประเมนิ ผลการจดั ประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการวาดภาพ 6.3 เกณฑ์กำรวดั ผลและประเมนิ ผล ระดบั 3 ดี ระดับ 2 พอใช้ ระดับ 1 ปรับปรงุ

303 แผนกำรจดั ประสบกำรณท์ ่ี 79 ชนั้ อนุบำลปีที่ 2 สำระทคี่ วรเรียนร้ทู ่ี 2 เรอื่ งรำวเก่ียวกับบคุ คลและสถำนทีแวดลอ้ มตวั เด็ก หนว่ ย ครอบครัวที่รกั เรื่อง กจิ กรรมในครอบครวั สัปดำหท์ ่ี 16 ลำดบั วันที่ 79 ครูผสู้ อน คณุ ครูโชตกิ า เสอื พิณ โรงเรียน วัดท่าบญุ มี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคญั ครอบครวั คือ การอยรู่ ่วมกนั ของบุคคลหลาย ๆ คน การอยรู่ ว่ มกันในครอบครวั จาเปน็ ตอ้ งมีกจิ กรรม ทท่ี ารว่ มกนั ทั้งกิจกรรมท่ีใช้สาหรบั การผักผอ่ น และกจิ กรรมท่ใี ช้สาหรับการเลยี้ งชพี 2. จุดประสงค์กำรเรยี นรู้ 2.1เพื่อใหเ้ ดก็ มีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกับหมายของครอบครัวดี การปฏิบัติตวั ของบคุ คลใหเ้ กดิ ความสขุ สามารถนาไปใช้ชวี ติ ประจาวนั ได้ 2.2 เพ่ือใหเ้ ดก็ สามารถปฏิบัติตามสัญญาณ และคาส่ังได้ 2.3 เพือ่ ใหเ้ ด็กสามารถสรา้ งผลงานได้อย่างสร้างสรรค์ และเสรี 2.4 เพอ่ื ให้เด็กสามารถแสดงความคดิ เหน็ และตอบคาถามเกยี่ วกบั เรื่องทส่ี นทนาได้ .2.5 เพอื่ ใหเ้ ด็กสามารถปรับตัวในการเลน่ รว่ มกับคนอน่ื ได้ 2.6 เพอ่ื ใหเ้ ด็กสามารถเลน่ เกมทกี่ าหนดให้ได้ 3. สำระกำรเรยี นรู้ 3.1 กำรทำกจิ กรรมร่วมกันในครอบครวั 3.2 ประสบกำรณ์สำคญั 3.2.1 การร่วมปฏิบตั ิกจิ วตั รประจาวนั ของกล่มุ 3.2.2 การจับคู่ การจาแนก และการจดั กล่มุ 3.2.3 การมีประสบการณ์และการเรียงลาดบั เหตกุ ารณ์ต่างๆ 4. กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ 4.1 กิจกรรมเคลือ่ นไหวและจังหวะ (20 นำที) 4.1.1 กิจกรรมพีน้ ฐาน ให้เดก็ เคลือ่ นไหวรา่ งกายไปท่วั ๆ บรเิ วณอย่างอิสระ เมื่อไดย้ ิน สัญญาณหยดุ ใหห้ ยดุ เคลือ่ นไหวในทา่ น้นั ทันที 4.1.2 เด็กและครสู นทนา ตกลงร่วมกนั เกี่ยวกับคาสั่งทจี่ ะให้ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมเช่น - ถ้าครบู อกว่ากนิ ขา้ ว เดก็ ต้องจับทป่ี าก - ถ้าครพู ูดวา่ ฟงั เพลง เดก็ ต้องจับทห่ี ู - ถา้ ครพู ูดว่าดูหนงั เดก็ ต้องจับทตี่ า เปน็ ตน้

304 4.1.3 ให้เดก็ เคล่ือนไหวร่างกายอย่างอิสระ เม่ือได้ยนิ สัญญาณหยุด ให้เด็กฟังคาสั่งจากครู และปฏบิ ัตติ ามคาสั่งทีต่ กลงกันไวอ้ ย่างรวดเร็ว 4.1.4 เด็กและครูร่วมกนั กาหนดคาสั่งข้นึ ใหม่ และปฏิบตั าิ มข้อา 4.1.3 ซ้าอกี 4.2 กจิ กรรมสร้ำงสรรค์และกิจกรรมเสรี (60 นำท)ี 4.2.1 เด็กและครูร่วมกันจดั โต๊ะเพื่อใชฝ้ กึ กิจกรรมการร้อยลูกปดั สี โดยครทู บทวนวธิ กี าร ทาให้เดก็ ดู แล้วใหเ้ ดก็ ปฏิบตั ิกจิ กรรมโดยอสิ ระ ตามความคดิ สร้างสรรค์ของเด็ก โดยครูคอยดแู ลความปลอดภัย และอนั ตรายที่อาจจะเกิดจากเข็มร้อยอยา่ งใกล้ชิด 4.2.2 เดก็ คนใดทปี่ ฏิบัติกิจกรรมเสร็จแลว้ นาผลงานมาให้ครดู ู โดยบอกช่ือผลงานและ วธิ ีการทา ผลงานใดท่เี หมาะสมจะจดั เกบ็ ให้เก็บไว้ในกล่องสะสมผลงานของเด็ก เอง โดยครูเขียนช่ือผลงานชื่อเด็ก วนั เดือนปที ที่ ากากบั ไว้ด้วย 4.2.3 เด็กท่ีปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเสร็จแล้วให้เล่นตามมมุ อสิ ระ รอเพื่อน ๆ 4.2.4 เม่อื เด็กปฏบิ ตั กิ ิจกรรมครบทุกคนแลว้ ครแู นะนาใหเ้ ดก็ ช่วยกันทาความสะอาด บรเิ วณและชว่ ยกันจัดเกบ็ สง่ิ ของ อปุ กรณ์ต่าง ๆ เข้าทีใ่ หเ้ รียบร้อย 4.3 กจิ กรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำท)ี 4.3.1 เดก็ และครูรว่ มกนั ร้องเพลง “งานสิง่ ใด” โดยครรู ้องใหเ้ ด็กฟงั ก่อน แลว้ จึงให้ฝึกร้อง ตามและทาท่าทางประกอบด้วย เสรจ็ แล้วสนทนาร่วมกนั เกยี่ วเน้ือหาของเพลง 4.3.2 เดก็ และครสู นทนารว่ มกนั เก่ียวกบั การชว่ ยเหลือซง่ึ กันและกันในการทากจิ กรรมตา่ ง ๆ ในบ้านว่าการงานทุกอยา่ งจะสาเร็จลงไดด้ ้วยดีกเ็ พราะทุกคนชว่ ยเหลือกันตาม ความสามารถท่มี ีอย่โู ดยไม่เก่ียงงอนกัน 4.3.3 เดก็ และครูสนทนาสรปุ ร่วมกันเกย่ี วกบั การทากิจกรรมต่าง ๆ รว่ มกนั เสร็จแล้ว ร่วมกนั กาหนดแนวในการปฏิบัติตนเพ่ือนาไปใช้ในชวี ติ ประจาวัน 4.4 กิจกรรมกลำงแจ้ง (45 นำที) 4.4.1 ให้เดก็ ลงสู่สนาม โดยทาทา่ เดนิ หรือกระโดดของสัตวท์ ่ีเด็กชอบ เม่อื ถงึ สนามแลว้ ใหอ้ บอนุ่ ร่างกายโดยการว่ิงเหยาะ ๆ รอบ ๆ บริเวณ 4.4.2 เดก็ และครสู นทนาร่วมกันเก่ยี วกบั เกม “เรียกชื่อสัตว์” โดยครูแนะนาวธิ กี ารเลน่ เกม ใหเ้ ดก็ ฟัง ดงั น้ี - แบ่งเดก็ เปน็ กลุ่ม ๆ ละ 10 คนเลน่ ทีละกลุ่ม - ครบู อกช่ือสัตวท์ ีละประเภท ให้เด็กแสดงทา่ ทางและเสียงร้องของสตั วน์ น้ั - ทุกคนต้องร้องและทาท่าทางสัตวต์ ามท่ีครูบอก ใครทาชา้ จะถูกตัดออก 4.4.3 เปลยี่ นใหก้ ล่มุ ต่อไปได้เลน่ หมุนเวียนไปทุกกลุ่มจนครบ 4.4.4 ให้เดก็ ไดเ้ ล่นอยา่ งอิสระ 5 – 10 นาที ก่อนท่ีจะใหเ้ ด็กไปทาความสะอาดรา่ งกาย ล้างมอื ล้างหนา้ ทาธรุ ะสว่ นตวั กลบั เข้าห้องเรียน เพอ่ื เตรียมตวั ไปรบั ประทาน อาหารกลางวัน

305 4.5 กจิ กรรมเกมกำรศกึ ษำ (20 นำท)ี 4.5.1 เด็กและครูสนทนารว่ กนั เกย่ี วกับเกมพืน้ ฐานการบวก 1 – 6 โดยครูแนะนาวิธกี าร เลน่ เกมใหเ้ ด็กฟัง 4.5.2 แบ่งเด็กเป็นกลุม่ ตามความเหมาะสมให้แตล่ ะกลุ่มเล่นเกมชดุ ใหมส่ ลบั กับทเ่ี คยเลน่ มาแลว้ หรอื เครอื่ งเล่นสมั ผสั 4.5.3 เมื่อเด็กเลิกเล่นแลว้ ครูแนนาให้ชว่ ยกันเกบ็ ของเขา้ ที่ให้เรยี บรอ้ ย 5. ส่ือกำรเรียน / แหล่งกำรเรยี นรู้ 5.1 ลูกปัดสี เข็ม ดา้ ย 5.2 เพลงงานส่งิ ใด 5.3 เกมเรียกช่ือสตั ว์ 5.4 เกมพ้นื ฐานการบวกเลข 6. กำรวดั ผลและประเมนิ ผล 6.1 วธิ วี ดั ผลและประเมินผล 6.1.1 สงั เกตการปฏบิ ัติตามสญั ญาณและคาบรรยาย 6.1.2 สังเกตการพูดแสดงความคดิ เหน็ และการตอบคาถาม 6.1.3 ตรวจผลงานการรอ้ ยลูกปดั สี 6.2 เคร่อื งมอื วัดผล 6.2.1 แบบประเมินผลการจดั ประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการร้อยลกู ปัดสี 6.3 เกณฑก์ ำรวดั ผลและประเมนิ ผล ระดบั 3 ดี ระดับ 2 พอใช้ ระดับ 1 ปรบั ปรุง

306 แผนกำรจัดประสบกำรณท์ ่ี 80 ช้นั อนุบำลปีท่ี 2 สำระท่คี วรเรยี นรทู้ ่ี 2 เร่ืองรำวเก่ยี วกับบคุ คลและสถำนทแี วดล้อมตวั เดก็ หนว่ ย ครอบครวั ทร่ี กั เรื่อง ระเบยี บในครอบครวั สัปดำหท์ ี่ 16 ลำดับวันท่ี 80 ครผู ูส้ อน คณุ ครูโชติกา เสอื พิณ โรงเรยี น วดั ท่าบญุ มี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคญั ครอบครัวมีคนอาศัยอยรู่ ่วมกัน อาจจะทาใหเ้ กดิ ปัญหาในการดารงชวี ิตได้ ครอบครวั จึงจาเปน็ ตอ้ งมี กฎ ระเบียบ สาหรบั ใหส้ มาชิกในครอบครวั ได้ยึดถือปฏิบัติ จงึ จะอยู่รว่ มกนั ได้อย่างมีความสขุ 2. จุดประสงค์กำรเรยี นรู้ 2.1เพอื่ ใหเ้ ดก็ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับหมายของครอบครัวดี การปฏิบตั ิตัวของบคุ คลให้เกิด ความสขุ สามารถนาไปใชช้ วี ติ ประจาวนั ได้ 2.2 เพื่อใหเ้ ด็กสามารถปฏบิ ตั ิตามสัญญาณ และคาสัง่ ได้ 2.3 เพอ่ื ให้เด็กสามารถสร้างผลงานได้อย่างสรา้ งสรรค์ และเสรี 2.4 เพื่อให้เดก็ สามารถแสดงความคิดเห็น และตอบคาถามเก่ยี วกบั เร่ืองท่สี นทนาได้ .2.5 เพอ่ื ใหเ้ ด็กสามารถปรับตัวในการเล่นร่วมกบั คนอื่นได้ 2.6 เพอ่ื ใหเ้ ด็กสามารถเลน่ เกมที่กาหนดใหไ้ ด้ 3. สำระกำรเรียนรู้ 3.1 กฎ ระเบยี บในครอบครวั 3.2 ประสบกำรณส์ ำคญั 3.2.1 การร่วมปฏบิ ตั ิกจิ วตั รประจาวันของกลมุ่ 3.2.2 การสรา้ งความสมั พันธก์ บั เด็กและผูใ้ หญ่ 3.2.3 การมปี ระสบการณ์ทางการเลน่ สร้างสรรค์รว่ มกบั ผ้อู ื่น 4. กิจกรรมกำรเรยี นรู้ 4.1 กิจกรรมเคล่ือนไหวและจังหวะ (20 นำที) 4.1.1 กิจกรรมข้ันพน้ื ฐาน ให้เด็กเคล่อื นไหวร่างกายไปทั่ว ๆ บรเิ วณอยา่ งอสิ ระตามจงั หวะ เมอื่ ได้ยนิ สญั ญาณหยุดให้หยุดเคลอื่ นไหวในทา่ น้นั ทนั ที 4.1.2 เดก็ และครูสนทนาและตกลงคาสั่งรว่ มกนั เพื่อปฏิบตั ิกิจกรรม เช่น - กระโดดอยู่กับท่ี 5 คร้ัง แล้วนั่งลง - ตบมอื 5 ครั้ง แล้วกระโดด 1 คร้ัง เป็นต้น

307 4.1.3 ให้เด็กเคล่ือนไหวร่างกายอย่าอิสระตามจงั หวะเมื่อไดย้ ินสัญญาณหยุด ให้หยดุ ฟัง คาสั่งและปฏิบัตติ าม 4.1.4 เด็กและครูรว่ มกนั กาหนดคาส่ังขนึ้ ใหม่ และปฏบิ ตั ิกิจกรรมในข้อ 4.1.3 ซ้าอกี 2 – 3 รอบ หรอื จนหมดเวลา 4.2 กจิ กรรมสร้ำงสรรค์และกจิ กรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เด็กและครรู ่วมกันจัดโต๊ะเพ่ือใชฝ้ กึ กจิ กรรมการพิมพภ์ าพ เสรจ็ แล้วครอู ธบิ าย ขน้ั ตอนการทาให้เดก็ ดู แลว้ ใหเ้ ด็กลงมือปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตามความคิด และ จินตนาการของตนเอง อย่างอิสระโดยครูคอยดูแลอยหู่ า่ ง ๆ 4.2.2 เมื่อเด็กปฎิบัติกิจกรรมเสร็จแล้ว นาผลงานมาใหค้ รดู ู โดยบอกชือ่ ผลงานและวิธกี าร ทา ผลงานใดที่เหมาะสมจะจดั เกบ็ ให้เก็บไว้ในกล่องผลงานของเด็กเอง โดยครู เขยี นช่อื ผลงาน ช่ือเดก็ วันเดือนปที ่ที ากากบั ไว้ดว้ ย 4.2.3 เมือ่ เด็กปฎิบัติกิจกรรมครบทุกคนแลว้ ครูแนะนาใหเ้ ดก็ ช่วยทาความสะอาดบริเวณ และชว่ ยกนั จดั เก็บสง่ิ ของ อปุ กรณต์ า่ ง ๆ เข้าท่ใี ห้เรียบร้อย 4.3 กิจกรรมเสริมประสบกำรณ์ (15 นำที) 4.3.1 เด็กและครสู นทนารว่ มกันเกย่ี วกับกฏระเบียบต่าง ๆ ทง้ั ทบ่ี ้าน โรงเรยี นและ ประเทศว่าทกุ สถานทีต่ อ้ งมกี ฎระเบยี บเพื่อให้ทุกคนปฏบิ ัติตาม จงึ จะอยู่รว่ มกันได้ อยา่ งมีความสขุ โดยครูอาจจะตง้ั คาถามใหเ้ ดก็ เชว่ ยกนั ตอบกไ็ ด้ 4.3.2 เด็กและครรู ว่ มกนั หาอาสาสมัครออกมาเล่าเร่ืองกฎระเบียบในบ้านของเดก็ แต่ละคน ว่า มกี ฎระเบียบอะไรบา้ งที่เด็ก ๆ รู้และเด็ก ๆ โดนดหุ รอื โดนตาหนิเรอื่ งอะไรบ้าง 4.3.3 เด็กและครูสนทนาร่วมกนั ว่า การทเี่ ด็กโดนตาหนิในครอบครัว แสดงว่าเดก็ ต้อง ปฏิบัติตนไมถ่ ูกต้องอะไรสกั อยา่ ง ดังนัน้ เราตอ้ งพยายามปฏิบัติตนให้ถูกต้องตามท่ี ผ้ใู หญ่แนะนา 4.3.4 เดก็ และครูสนทนารว่ มกันเกย่ี วกับกฎระเบยี บของโรงเรียน โดยครูอธบิ ายใหเ้ ดก็ ฟงั ว่า นอกจากบา้ น แลว้ ยังมีโรงเรยี นซึง่ จาเปน็ ตอ้ งมกี ฎระเบียบให้ปฏิบัติ เพื่อความ สงบสุข และความเรียบร้อย 4.3.5 เดก็ และครูสนทนา กาหนดแนวทางรว่ มกนั ในการปฏิบัตติ นใหถ้ ูกต้องตาม กฎระเบยี บ และนาไปใชใ้ นชีวิตประจาวันได้อย่างมีความสขุ 4.4 กจิ กรรมกลำงแจ้ง (45 นำที) 4.4.1 ใหเ้ ด็กจดั แถวตอนเรียงหน่งึ เดนิ จับไหลค่ นขา้ งหนา้ เดินลงสนามอย่างเปน็ ระเบียบ 4.4.2 เม่อื ถึงสนามแลว้ ครใู ห้เด็กอบอุน่ รา่ งกายโดยการวิง่ เหยาะ ๆ อยกู่ บั ท่ี 2 – 3 นาที 4.4.3 เดก็ และครูสนทนารว่ มกนั เกย่ี วกับการเล่นเดินไก่ โดยครูอธบิ ายวิธกี ารเลน่ ใหเ้ ดก็ ฟงั เสร็จแลว้ ใหเ้ ดก็ ไดเ้ ล่นเดินไก่อย่างเสรี

308 4.4.4 ครูปลอ่ ยใหเ้ ด็กไดเ้ ล่นกลางแจง้ อยา่ งอิสระ 5 – 10 นาที โดยครูคอยดูแลความ ปลอดภยั อย่างใกล้ชดิ ก่อนที่จะใหเ้ ด็กไปทาความสะอาดร่างกาย ทาธรุ ะสว่ นตวั เพอ่ื เตรยี มตวั ไปรบั ประทานอาหารกลางวัน 4.5 กิจกรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำที) 4.5.1 เดก็ และครสู นทนาร่วมกนั เกยี่ วกบั เกมจบั คภู่ าพสูงตา่ โดยครูแนะนาวิธีการเล่นให้ เด็กฟัง 4.5.2 แบง่ เด็กเปน็ กลุ่มตามความเหมาะสม ใหเ้ แตล่ ะกลมุ่ ไดเ้ ลน่ เกมชุดใหม่ และเกมที่เคย เล่นมาแล้ว 4.5.3 เม่ือเด็กเลกิ เล่นแลว้ ครแู นะนาใหเ้ ดก็ ชว่ ยกันเกบ็ ส่ิงของต่าง ๆ เข้าท่ใี ห้เรียบร้อย 5. สอื่ กำรเรยี น / แหล่งกำรเรียนรู้ 5.1 สีน้า เศษวสั ดุต่าง ๆ 5.2 เกมการเดนิ ไก่ 5.3 เกมจับคู่ภาพสงู ต่า 6. กำรวดั ผลและประเมินผล 6.1 วิธีวัดผลและประเมินผล 6.1.1 สงั เกตการปฏิบตั ติ ามสัญญาณและคาสั่ง 6.1.2 สังเกตการตอบคาถาม การแสดงความคดิ เห็น 6.1.3 ตรวจผลงานการพมิ พ์ภาพ 6.2 เครอื่ งมอื วดั ผล 6.2.1 แบบประเมนิ ผลการจัดประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการพิมพ์ภาพ 6.3 เกณฑก์ ำรวัดผลและประเมนิ ผล ระดบั 3 ดี ระดบั 2 พอใช้ ระดบั 1 ปรับปรุง

309 ภาคผนวก เพลงงำนส่งิ ใด (บณั ฑิต บุญยำคม) แม้ใครละเลยทิ้งปล่อย งานสิ่งใด งานส่ิงใด หวังคอนแต่เก่ยี งโยนกลอง จาไวท้ ุกคนต้อง มวั แตค่ อย เฝ้าแต่คอย ชว่ ยกนั ช่วยกัน ชว่ ยกัน ไม่มเี สรจ็ ไม่มีเสรจ็ รบั รอง ทางาน เราตอ้ งช่วยกนั เพลงสัตวเ์ ล้ียง (อรำ่ ม ขำวสะอำด) ไกเ่ อย๋ ไก่ เล้ียงไว้กินไขเ่ รื่อยมา ววั ควายไถนา ปลกุ ขา้ วมากินได้ อกี หมาตวั ใหญ่ เอาไว้ไล่ขโมยเอย ลา้ ลา ลา้ ลา ลา้ ลา ลา ล้า ลา ลา ลา ลา (2 ครั้ง) เพลงไก่ (ไม่ทรำบนำมผู้แต่ง) ตวั เลก็ ตัวใหญ่ ไก่ ไก่ ไก่ บางก็ว่ิงบา้ งก็บนิ ชวนกนั ไปค้ยุ เขย่ี หากนิ ชงิ กนั กินจนตัวมันใหญ่ นทิ ำนเรื่อง ครอบครวั ของฉัน (จนิ ตนำ คำอำจ) วนั น้ีเปน็ วนั ทค่ี ุณครูมอบรางวัลชนะเลศิ การเขยี นเรยี งความของนักเรียนชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 4 เด็กหญงิ ปเู ป้ไดร้ บั รางวัลน้ี เมอ่ื เลกิ เรียนแลว้ เธอรบี ว่ิงกลบั บา้ นไปอวดคุณพ่อ คุณแม่ และคุณยาย คณุ พอ่ จึง บอกใหเ้ ธออา่ นเรยี งความให้ฟัง ในเรียวความเขยี นไว้ว่า ครอบครวั ของฉันมีอยู่ 4 คน คือ คุณพ่อ คณุ แม่ คุณยาย และฉัน ในทุกวันคณุ พ่อจะต้องออกไป ทางานตัง้ แต่เชา้ เพราะคุณพ่อเปน็ ตารวจ คอยดแู ลประชาชน จับโจรผรู้ ้าย ส่วนคุณแมเ่ ป็นแมบ่ ้าน ดแู ลบา้ น ทาความสะอาดบ้าน และทาอาหารใหฉ้ นั รับประทานทุกวนั เมือ่ ฉนั กลบั มาจากโรงเรียน คุณยายจะทาขนมให้ รบั ประทานทุกวัน ทงั้ ขนมเทียน ขนมบัวลอย ฉนั จะช่วยคุณยายทาขนมบ้าง เช่น ขนมบัวลอย เวลาท่ที าขนม เสรจ็ แลว้ คณุ ยายจะบกใหฉ้ ันนาขนมไปใหค้ ุณปา้ ขา้ งบา้ นด้วย พรอ้ มกบั บอกวา่ เราอยู่บ้านใกลก้ นั ต้องรจู้ กั แบ่งปัน เป็นคนมนี า้ ใจ เออ้ื เฟอื้ เผ่ือแผ่ หลังจากทรี่ ับประทานอาหารเสร็จแล้วฉันจะช่วยคุณแม่ทาคงาท สะอาด ลา้ งจาน เพราะคณุ แมบ่ อกว่า การเป็นเดก็ ดตี อ้ งรู้จักรกั ษาความสะอาดของตนเอง และบา้ นเรอื น ฉัน จงึ ชว่ ยคุณแม่ทุกวนั หลังเลิกเรียน ก่อนเขา้ นอนคณุ พ่อจะสอนฉันทาการบา้ นทุกคนื และบอกทุกครั้งว่า เด็กดที ่ี นา่ รักต้องรจู้ ักหนา้ ที่ของตน ฉนั เป็นนกั เรียนต้องเรียนหนังสือ ทาการบา้ นไม่ต้องบอกก็ต้องทาทกุ วัน และสง่ิ

310 ทฉี่ ันชอบทสี่ ดุ คือเวลาทค่ี ุณพ่อเล่านทิ านให้ฟงั ฉันมีความสุขมาก เพราะทกุ คนในบ้านรักฉนั มาก ฉันจึงทา ตามที่คุณพ่อ คุณแม่ คุณยาย บอก โตขึ้นจะไดเ้ ป็นคนดขี องประเทศ เมือ่ เด็กหญงิ ปูเป้อ่านเรียงความจบ คณุ พ่อ คุณแม่ คุณยาย ปรบมอื ให้ และชมเชยว่า เด็กหญิงปเู ป้ เป็นคนเกง่ ตั้งใจเรียน เชื่อฟัง คณุ พ่อ คุณแม่ คุณยาย ซงึ่ การเปน็ คนดีของเด็กหญงิ ปเู ป้นไี้ ด้รีบผลตอบแทนคือ ได้รางวัลชนะเลศิ การเขียนเรียงความ เดก็ หญิงปเู ป้ย้มิ อย่างมีความสุข

311 แผนกำรจัดประสบกำรณ์ท่ี 81 ชนั้ อนุบำลปีท่ี 2 สำระทีค่ วรเรยี นรู้ท่ี 2 เรื่องรำวเกย่ี วกับบคุ คลและสถำนทีแวดล้อมตัวเดก็ หนว่ ย ชุมชนของฉัน เร่ือง ความสามารถของบคุ คล สัปดำห์ท่ี 17 ลำดบั วันที่ 81 ครูผู้สอน คุณครูโชตกิ า เสอื พิณ โรงเรียน วดั ท่าบุญมี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคญั ในชนุ ชนมีบคุ คลหลากหลายอาชีพซงึ่ แต่ละคนย่อมคี วามสามารถ มอี าชีพทีแ่ ตกต่างกนั เราตอ้ ง ยอมรับในความสามารถของบุคคลเหลา่ นน้ั ด้วยความเต็มใจ 2. จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 2.1 เพอ่ื ใหเ้ ด็กมีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั ความแตกตา่ งของบุคคลในชุมชน อาชีพ ความสามารถของบคุ คล การทากิจกรรมและดาเนินชวี ิตได้อย่างมีความสุข 2.2 เพื่อให้เด็กสามารถปฏิบตั ิตามสญั ญาณท่ีกาหนดใหไ้ ด้ 2.3 เพอ่ื ให้เด็กสามารถปฏบิ ตั ิจนเปน็ ผนู้ า ผูต้ ามได้เพื่อใหเ้ ด็กสามารถสร้างผลงานได้อย่าสรา้ งสรรค์ และเสรี 2.4 เพอ่ื ใหเ้ ดก็ สามารถแสดงความคิดเห็น และตอบคาถามเก่ียวกับเรอ่ื งทสี่ นทนาได้ 2.5 เพอ่ื ให้เด็กสามาปรบั ตวั ในการเล่นรว่ มกบั คนอืน่ ได้ 2.6 เพื่อใหเ้ ด็กสามารถนาชนิ ส่วนของภาพที่สัมพนั ธ์กนั มาจัดเขา้ คู่กนั ได้ 3. สำระกำรเรียนรู้ 3.1 ควำมสำมำรถของบคุ คล 3.2 ประสบกำรณ์สำคัญ 3.2.1 การพดู กับผูอ้ นื่ เกยี่ วกับประสบการณข์ องตนเอง หรือเลา่ เรื่องเกย่ี วกับตนเอง 3.2.2 การแสดงความรสู้ ึกดว้ ยคาพูด 3.2.3 การสารวจและอธบิ ายความเหมอื น ความต่างของส่งิ ต่าง ๆ 3.2.4 การรบั ร้ทู ไ่ี วต้ ่อความรู้สึก ความสนใจและความต้องการของผู้อ่นื 4. กิจกรรมกำรเรยี นรู้ 4.1 กิจกรรมเคล่ือนไหวและจังหวะ (20 นำที) 4.1.1 กิจกรรมพน้ื ฐาน ใหเ้ ดก็ เคล่ือนไหวร่างกายไปท่ัว ๆ บรเิ วณอย่างอิสระตามจังหวะ เม่ือไดย้ นิ สัญญาณหยุดให้หยุดเคลอื่ นไหวในทา่ นน้ั ทันที

312 4.1.2 เดก็ และครูสนทนาร่วมกนั เกีย่ วกบั การเปน็ ผ้นู า ผู้ตาม เสรจ็ แลว้ แบง่ เดก็ เป็น 2 กล่มุ เข้าแถวเปน็ วงกลม หันหน้าเข้ากลางวง 4.1.3 แต่ละกล่มุ เลือกอาสาสมัครของออกมายืนตรงกลาง ให้เป็นผนู้ าทาทา่ ทางตาม จังหวะทค่ี รเู คาะ ใหเ้ ด็กคนอื่นทาตาม เมื่อไดย้ นิ สัญญาณหยุดให้ผูน้ ากลับไปที่เดิม 4.1.4 หมนุ เวยี นให้คนอนื่ ออกมาเป็นผู้นาทาทา่ ทางบ้าง โดยใหโ้ อกาสทุกคนไดท้ าหน้าที่ ผนู้ า จนสมควรแก่เวลา 4.2 กจิ กรรมสร้ำงสรรค์และกิจกรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เดก็ และครูรว่ มกันจัดโต๊ะเพื่อใชฝ้ ึกกจิ กรรมการปนั้ ดนิ นา้ มัน เสร็จแลว้ ครูแจกดิน น้ามนั และแผ่นรองป้นั ใหเ้ ด็กคนละ 1 ชดุ โดยครอู ธิบายข้นั ตอนการปฏบิ ัติใหเ้ ด็ก ดู และให้ลงมือปฏิบตั ิตามความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ อย่างอสิ ระ โดยครู คอยดแู ลอยู่ห่าง ๆ 4.2.2 เมอ่ื เด็กปฏิบัตกิ ิจกรรมเสรจ็ แลว้ นาผลงานมาใหค้ รดู ู โดยบอกชอ่ื ผลงานและวิธีการ ทา ผลงานใดทเี่ หมาะสมจะจัดเกบ็ ให้เกบ็ ไวใ้ นกล่องผลงานของเด็กเอง โดยครู เขียนช่ือผลงาน ชื่อเดก็ วนั เดือนปีที่ทากากบั ไว้ด้วย 4.2.3 สาหรับเด็กทป่ี ฏบิ ัติกจิ กรรมเสร็จแลว้ หรือรอโตะ๊ วา่ งใหเ้ ลน่ ตามมมุ อยา่ งอสิ ระ เปน็ การฝกึ รอโอกาส 4.2.4 เมอ่ื เด็กปฏิบัตกิ ิจกรรมครบทุกคนแล้ว ครูแนะนาใหเ้ ดก็ ช่วยกนั ทาความสะอาดบริ เวิณ และช่วยกนั จดั เก็บส่ิงของ อปุ กรณ์ต่าง ๆ เข้าทใ่ี หเ้ รียบรอ้ ย 4.3 กจิ กรรมเสริมประสบกำรณ์ (15 นำท)ี 4.3.1 เด็กและครสู นทนารว่ มกันเกย่ี วกับความรู้ ความสามารถของแตล่ ะคน วา่ แตล่ ะคน ก็มีความรู้ ความสามารถที่แตกต่างกันออกไป โดยครเู ล่านิทานเร่อื ง “มอื ของฉัน” ให้เดก็ ฟัง เสร็จแล้วสนทนารว่ มกนั เก่ยี วกบั เร่ืองในนิทาน โดยครูตง้ั คาถามให้เด็ก ช่วยกนั ตอบ 4.3.2 เดก็ และครสู นทนา และสรุปร่วมกนั วา่ การที่จะมคี วามรู้ ความสามารถได้น้ันต้อง หมั่นศกึ ษาหาความรู้ ขยนั และรูจ้ ักรับผิดชอบ เพราะไม่มีใครเกง่ มาแต่กาเนิด 4.3.3 เดก็ และครรู ่วมกนั กาหนดแนวทางในการนาไปปฏบิ ัตใิ นชวี ติ ประจาวัน เพ่ือใหเ้ ป็น เดก็ ที่มีความรู้ความสามารถ นา่ ภาคภมู ิใจ 4.4 กิจกรรมกลำงแจง้ (45 นำที) 4.4.1 ให้เดก็ ตั้งแถวตอนเรยี งสี่ เดนิ ปรบมือลงสนาม เมอ่ื ถึงสนามแลว้ ให้เดก็ ว่งิ เหยาะ ๆ รอบ ๆ บริเวณ เพ่ือเปน็ การอบอนุ่ ร่างกาย 2 – 3 นาที 4.4.2 เดก็ และครูสนทนารว่ มกนั เกย่ี วกับการเลน่ เกมสาลิกาป้อนเหยอื่ โดยครูแนะนา วิธกี ารเล่นให้เดก็ ฟงั ดังน้ี - สมมตุ ใิ หห้ ลอดกาแฟเปน็ ปากนกสาลิกา ให้ยางวงเป็นเหยื่อ

313 - เดก็ จับคู่กันฝกึ โดยแตล่ ะคนจะคาบหลอดกาแฟไว้ คนแรกมยี างคลอ้ งทห่ี ลอด กาแฟ ใช้ความพยายามใหย้ างวงเขา้ ไปคลอ้ งทหี่ ลอดกาแฟของค่เู ลน่ โดยไม่ใช้ มือช่วย 4.4.3 แบ่งเดก็ เปน็ กล่มุ ๆ ละ 5 คน ทกุ กลมุ่ เขา้ แถวตอนลกึ ครใู ห้สัญญาณเลน่ คนแรก ป้อนเหยอ่ื คนที่ 2 คนที่ 2 ปอ้ นเหยอื่ คนท่ี 3 จนถึงคนสุดท้ายใครถึงก่อนเป็นผู้ ชนะ 4.4.4 ใหเ้ ดก็ ได้เล่นอยา่ งอสิ ระ 5 – 10 นาที กอ่ นที่จะใหเ้ ด็กไปทาความสะอาดรา่ งกาย ลา้ งหน้า กลบั เข้าห้องเรียน เพ่อื เตรยี มตวั ไปรับประทานอาหารกลางวนั 4.5 กจิ กรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำที) 4.5.1 เดก็ และครูสนทนารว่ มกนั เก่ยี วกับเกมจบั คู่ภาพสตั วก์ บั ลาย โดยครอู ธบิ ายวิธกี าร เลน่ ใหเ้ ด็กฟัง 4.5.2 แบ่งเดก็ ให้เปน็ กลมุ่ ให้เล่นเกมชดุ ใหม่ ทค่ี รแู นะนา สลับกบั เกมทเี่ คยเลน่ มาแลว้ 4.5.3 เมือ่ เด็กเลิกเลน่ เกมแล้ว ครูแนะนาใหช้ ว่ ยกนั จัดเก็บสง่ิ ของต่าง ๆ เข้าท่ใี หเ้ รยี บรอ้ ย 5. ส่อื กำรเรียน / แหล่งกำรเรียนรู้ 5.1 ดินน้ามัน และแผน่ รองปัน้ 5.2 นทิ านเรื่องมือของฉนั 5.3 เกมนกสาลิกา 5.4 เกมจบั คูภ่ าพสตั วก์ บั ลาย 6. กำรวดั ผลและประเมนิ ผล 6.1 วิธีวัดผลและประเมนิ ผล 6.1.1 สังเกตการปฏบิ ตั ิตามสญั ญาณ 6.1.2 สังเกตการเปน็ ผู้นา ผ้ตู าม 6.1.3 สงั เกตการตอบคาถาม และการแสดงความคิดเห็น 6.1.4 ตรวจผลงานการปัน้ 6.2 เครอ่ื งมือวดั ผล 6.2.1 แบบประเมินผลการจดั ประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการปั้น 6.3 เกณฑ์กำรวัดผลและประเมินผล ระดับ 3 ดี ระดับ 2 พอใช้ ระดับ 1 ปรับปรงุ

314 แผนกำรจัดประสบกำรณท์ ่ี 82 ชน้ั อนบุ ำลปีท่ี 2 สำระทค่ี วรเรียนรทู้ ่ี 2 เรื่องรำวเกีย่ วกับบุคคลและสถำนทีแวดลอ้ มตวั เดก็ หนว่ ย ชมุ ชนของฉัน เรือ่ ง ตา่ งคนต่างคิด สปั ดำห์ท่ี 17 ลำดบั วนั ท่ี 82 ครูผสู้ อน คณุ ครโู ชตกิ า เสอื พิณ โรงเรยี น วัดทา่ บุญมี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคัญ ในชุนชนมีบคุ คลหลากหลายอาชีพซ่ึงแตล่ ะคนย่อมคี วามสามารถ มีอาชีพทแ่ี ตกตา่ งกนั การยอมรบั ความรู้ ความสามารถ และอาชพี ของบุคคลเปน็ สง่ิ ท่ีพึงกระทาเพราะอาชพี ทท่ี ุกคนทาล้วนเปน็ อาชีพท่ีสุจริต การยอมรับความคิดของบคุ คลอ่นื ย่อมทาให้ชุมชนอยู่อย่างมคี วามสขุ 2. จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ 2.1 เพอื่ ให้เดก็ มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกับความแตกตา่ งของบุคคลในชมุ ชน อาชีพ ความสามารถของบุคคล การทากจิ กรรมและดาเนนิ ชีวิตได้อย่างมีความสขุ 2.2 เพื่อให้เด็กสามารถปฏบิ ัติตามสญั ญาณที่กาหนดให้ได้ 2.3 เพอ่ื ใหเ้ ด็กสามารถปฏบิ ัติจนเป็นผนู้ า ผูต้ ามไดเ้ พื่อใหเ้ ด็กสามารถสร้างผลงานได้อย่าสร้างสรรค์ และเสรี 2.4 เพื่อใหเ้ ดก็ สามารถแสดงความคิดเห็น และตอบคาถามเก่ยี วกับเรอ่ื งทสี่ นทนาได้ 2.5 เพ่ือใหเ้ ดก็ สามาปรบั ตัวในการเล่นรว่ มกับคนอนื่ ได้ 2.6 เพ่อื ให้เดก็ สามารถนาชินส่วนของภาพที่สัมพันธ์กันมาจัดเขา้ คู่กันได้ 3. สำระกำรเรยี นรู้ 3.1 ยอมรับควำมคดิ เหน็ ของผูอ้ ื่น 3.2 ประสบกำรณ์สำคญั 3.2.1 การสารวจและอธิบายความเหมือน ความตา่ งของสิง่ ต่าง ๆ 3.2.2 การพดู กบั ผอู้ ่ืนเก่ยี วกับประสบการณข์ องตนเอง หรือเลา่ เรือ่ งเก่ยี วกบั ตนเอง 3.2.3 การมปี ระสบการณ์ทางการเล่นสร้างสรรค์ร่วมกบั ผู้อ่ืน 4. กิจกรรมกำรเรยี นรู้ 4.1 กจิ กรรมเคลือ่ นไหวและจัวหวะ (20 นำที) 4.1.1 กจิ กรรมพน้ื ฐาน ให้เดก็ เคล่ือนไหวร่างกายไปทวั่ ๆ บริเวรอย่างอสิ ระตามจังหวะเมื่อ ไดย้ ินสญั ญาณหยุดใหห้ ยุดเคล่อื นไหวในทา่ นัน้ ทันที

315 4.1.2 เด็กและครรู ว่ มกนั ร้องเพลงกายบริหาร โดยครูรอ้ งใหเ้ ด็กฟังก่อน แล้วจงึ ให้ฝึกร้อง ตาม เสร็จแลว้ สนทนาร่วมกันเก่ียวกับการทาท่าการบรหิ ารประกอบเพลงเสร็จแล้ว แบ่งเด็กเปน็ 2 กลมุ่ ดังนี้ กลมุ่ ที่ 1 ร้องเพลงกายบรหิ าร กลุม่ ที่ 2 ทาทา่ ทางประกอบเพลง 4.1.3 ครใู หส้ ญั ญาณเร่ิม ทั้ง 2 กลุ่มปฏิบัตกิ จิ กรรมตามทตี่ กลงกนั ไวพ้ ร้อมกัน 4.1.4 หมนุ เวยี นทากิจกรรมในข้อ 2 – 3 อกี ครง้ั โดยเปลย่ี นกลุ่มกันทา 4.2 กจิ กรรมสรำ้ งสรรคแ์ ละกิจกรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เดก็ และครูร่วมกันจดั เพ่อื ใชฝ้ ึกกจิ กรรมการวาดภาพด้วยสเี ทยี น เสร็จแล้วอธบิ าย ขั้นตอน วธิ กี ารปฏบิ ัตใิ ห้เด็ก แลว้ ใหเ้ ด็กลงมือปฏิบตั ิตามความคิด และจินตนาการ ของตนเอง อยา่ งอสิ ระโดยครูคอยดแู ลอยู่หา่ ง ๆ 4.2.2 เมอ่ื เด็กปฏิบัติกจิ กรรมเสร็จแลว้ นาผลงานมาใหค้ รูดู โดยบอกชื่อผลงานและวธี ี การทา ผลงานใดทเ่ี หมาะสมจะจดั เก็บ ใหเ้ กบ็ ไวใ้ นกล่องผลงานของเด็กเอง โดย ครูเขยี นช่อื ผลงาน ชอื่ เด็ก วันเดือนปีที่ทากากับไวด้ ว้ ย 4.2.3 เมอ่ื ปฏิบตั ิกิจกรรมครบทุกคนแล้ว ครแู นะนาให้เด็กช่วยกนั ทาความสะอาดบรเิ วณ และช่วยกันจดั เก็บสงิ่ ของ อุปกรณ์ต่างๆ เขา้ ท่ใี ห้เรียบร้อย 4.3 กิจกรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำท)ี 4.3.1 เด็กและครูสนทนาร่วมกนั เก่ียวกบั ความสามารถเฉพาะตวั ของแต่ละคน โดยครูจดั ให้เดก็ ท่ีมีความสามารถเด่น ๆ และแปลก ๆ จากเพ่ือน ออกมาแสดงความสามารถ ให้เพ่ือนดู เชน่ ร้องเพลงเพราะ แสดงท่าทางประกอบเพลงได้ดี วาดภาพสวยงาน เป็นตน้ 4.3.2 เด็กและครสู นทนารว่ มกัน และหาขอ้ สรุปว่าทาไมแต่ะลคนมีความสามารถทงั้ เหมอื นกนั และต่างกนั - ครูสรุปให้เดก็ ฟังว่า เพราะแตล่ ะคนมีองค์ประกอบท่ีแตกต่างกนั และเป็นเรื่อง ปกติของคน ดังน้ันแตล่ ะคนจงึ ตอ้ งสนับสนนุ ความสามารถของตนที่มีอยู่ ให้ เกดิ ประโยชน์ต่อตนเองมากท่ีสุด นอกจากนี้เรายังชื่นชมและยอมรับความ คดิ เหน็ ของเพ่ือน ๆ คนอ่นื ดว้ ย 4.3.3 เดก็ และครูสนทนา สรปุ ร่วมกันเก่ยี วกบั ความแตกตา่ งของแต่ละคน 4.4 กจิ กรรมกลำงแจ้ง (45 นำที) 4.4.1 ใหเ้ ดก็ เดินเลยี นแบบเป็ด ไก่ พรอ้ มกับกระพือปีก ส่งเสียงรอ้ งประกอบทา่ ทาง ใน การลงสสู่ นาม 4.4.2 เมือ่ ถึงสนามแล้วใหเ้ ด็กอบอนุ่ รา่ งกายโดยการวิ่งเหยาะ ๆ อยู่กับท่ี 2 – 3 นาที

316 4.4.3 เด็กและครูสนทนาร่วมกนั เกย่ี วกบั เกมต่าง ๆ ทเี่ ด็กเคยเล่นมาแล้ว โดยครูใหเ้ ด็ก ๆ ชว่ ยกันเลือกวา่ อยากเล่นเกมอะไรอีก เสร็จแลว้ ครูจัดให้เด็กได้เล่นตามความ ต้องการของเด็ก 4.4.4 ปล่อยให้เด็กไดเ้ ลน่ อย่างอสิ ระ 5 – 10 นาที ก่อนท่ีจะให้เดก็ ไปทาความสะอาด รา่ งกาย ล้างหนา้ ล้างมือ ทาธุระส่วนตวั กลบั เขา้ หอ้ งเรียน เพือ่ เตรียมตวั ไป รบั ประทานอาหารกลางวัน 4.5 กิจกรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำที) 4.5.1 เด็กและครสู นทนาร่วมกันเกยี่ วกบั เกมจบั คภู่ าพจานวนทเ่ี พ่ิมขน้ึ ทีละหน่ึง โดยครู แนะนาวิธีการเล่นให้เด็กฟัง 4.5.2 แบง่ เดก็ เป็นกลุม่ ตามความเหมาะสม ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มเลน่ เกมชดุ ใหมท่ ่ีครแู นะนา สลบั กบั เกมทีเ่ คยเลน่ มาแล้ว หรือเครอ่ื งเลน่ สมั ผัส 4.5.3 เมื่อเด็กเล่นเสรจ็ แล้ว ครูแนะนาใหเ้ ด็กชว่ ยกันเก็บส่ิงของต่าง ๆ เขา้ ท่ใี ห้เรียบร้อย 5. สอ่ื กำรเรียน / แหล่งกำรเรียนรู้ 5.1 สีเทียน 5.2 เพลงกายบริหาร 5.3 เกมจับคู่ภาพจานวนทีเ่ พ่ิมข้ึนทลี ะหนง่ึ 6. กำรวัดผลและประเมินผล 6.1 วิธวี ดั ผลและประเมนิ ผล 6.1.1 สังเกตการปฏิบัตติ ามสญั ญาณ และคาสั่ง 6.1.2 สังเกตการตอบคาถาม และการแสดงความคิดเหน็ 6.1.3 ตรวจผลงานการวาดภาพ 6.2 เครอ่ื งมอื วดั ผล 6.2.1 แบบประเมินผลการจัดประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการวาดภาพ 6.3 เกณฑก์ ำรวดั ผลและประเมินผล ระดบั 3 ดี ระดบั 2 พอใช้ ระดับ 1 ปรบั ปรงุ

317 แผนกำรจดั ประสบกำรณ์ที่ 83 ช้นั อนุบำลปีที่ 2 สำระท่ีควรเรยี นรทู้ ่ี 2 เร่ืองรำวเกย่ี วกับบคุ คลและสถำนทีแวดล้อมตัวเด็ก หน่วย ชมุ ชนของฉัน เรื่อง อาชพี ในชุมชน สปั ดำหท์ ่ี 17 ลำดบั วันท่ี 83 ครูผู้สอน คุณครูโชติกา เสือพิณ โรงเรยี น วดั ท่าบญุ มี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคัญ ในชุนชนมีบคุ คลหลากหลายอาชีพซงึ่ แต่ละคนย่อมีความสามารถ มีอาชีพท่ีแตกต่างกัน เราต้อง ยอมรับในความสามารถของบุคคลเหลา่ นนั้ ดว้ ยความเตม็ ใจ 2. จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ 2.1 เพ่ือใหเ้ ดก็ มีความรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกับความแตกตา่ งของบุคคลในชมุ ชน อาชีพ ความสามารถของบุคคล การทากจิ กรรมและดาเนนิ ชวี ิตได้อยา่ งมีความสขุ 2.2 เพ่ือใหเ้ ดก็ สามารถปฏบิ ตั ิตามสญั ญาณที่กาหนดใหไ้ ด้ 2.3 เพอื่ ใหเ้ ด็กสามารถปฏิบัติจนเปน็ ผู้นา ผตู้ ามไดเ้ พ่ือให้เดก็ สามารถสรา้ งผลงานได้อย่าสรา้ งสรรค์ และเสรี 2.4 เพอื่ ใหเ้ ดก็ สามารถแสดงความคิดเหน็ และตอบคาถามเกีย่ วกบั เร่ืองทสี่ นทนาได้ 2.5 เพอ่ื ให้เด็กสามาปรบั ตัวในการเลน่ รว่ มกับคนอื่นได้ 2.6 เพ่อื ให้เด็กสามารถนาชินส่วนของภาพทสี่ ัมพนั ธก์ นั มาจดั เข้าคู่กนั ได้ 3. สำระกำรเรียนรู้ 3.1 อำชพี ต่ำง ๆ 3.2 ประสบกำรณส์ ำคัญ 3.2.1 การมีประสบการณ์ทางการเลน่ สรา้ งสรรคร์ ่วมกับผอู้ ืน่ 3.2.2 การอธิบายเกย่ี วกับสง่ิ ของ เหตกุ ารณ์ และความสมั พันธข์ องส่ิงตา่ ง ๆ 3.2.3 การพดู กับผ้อู ่นื เกย่ี วกับประสบการณ์ของตนเอง หรือเลา่ เรื่องเกย่ี วกับตนเอง 3.2.4 การสารวจและอธิบายความเหมอื น ความตา่ ง ๆ ของสิ่งตา่ ง ๆ 4. กจิ กรรมกำรเรียนรู้ 4.1 กิจกรรมเคล่ือนไหวและจังหวะ (20 นำที) 4.1.1 กิจกรรมพี้นฐาน ใหเ้ ด็กเคล่ือนไหวร่างกายไปทว่ั ๆ บริเวณอย่างอิสระตามจงั หวะ เมือ่ ได้ยินสัญญาณหยุดให้หยุดเคลอ่ื นไหวในท่านั้นทนั ที 4.1.2 เดก็ และครสู นทนาและตกลงร่วมกนั เกีย่ วกบั คาสั่งที่จะปฏิบัติ เช่น

318 - ถ้าครตู บมือ 1 ครั้ง ใหน้ ั่งลง - ถ้าครูใช้มือจบั ใบหู ใหเ้ งียบ - ถ้าครูใชม้ ือแตะปาก ใหท้ กุ คนรอ้ งเพลง 4.1.3 ให้เด็กเคล่ือนไหวอย่างอิสระ ตามจงั หวะ เม่อื ได้ยนิ สญั ญาณหยดุ ให้หยดุ เคลื่อนไหวและฟังคาสั่งและปฏบิ ตั ิตามท่ไี ด้ตกลงกนั ไว้ 4.1.4 เด็กและครูรว่ มกนั กาหนดคาสัง่ ขึ้นใหม่ และปฏบิ ตั ิกิจกรรมน้ซี ้าอีก 2 – 3 เทยี่ ว 4.2 กจิ กรรมสร้ำงสรรค์และกจิ กรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เด็กและครูร่วมกันจดั โต๊ะเพื่อใช้ฝกึ กิจกรรมการวาดภาพด้วยสนี ้า เสรจ็ แล้วครู อธบิ ายข้ันตอน การปฏิบัติกิจกรรม ใหเ้ ด็กดู แล้วใหล้ งมือปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตาม ความคิด และจินตนาการของตนเอง อย่างอิสระ โดยครคู อยดแู ลอยูห่ ่าง ๆ 4.2.2 เมื่อเด็กปฏิบตั กิ ิจกรรมเสรจ็ แลว้ นาผลงานมาให้ครดู ู โดยบอกชอ่ื ผลงาและวธิ ีการ ทา ผลงานใดทเี่ หมาะสมจะจดั เกบ็ ใหเ้ กบ็ ไวใ้ นกล่องผลงานของเด็กเอง โดยครู เขยี นชื่อผลงาน ชื่อเดก็ วนั เดือนปีทท่ี ากากบั ไว้ดว้ ย 4.2.3 เมื่อเด็กปฏิบตั กิ ิจกรรมครบทุกคนแลว้ ครแู นะนาให้เด็กช่วยกันทาความสะอาด บริเวณและชว่ ยกนั จัดเก็บสิ่งของ อปุ กรณต์ ่าง ๆ เข้าท่ีใหเ้ รียบร้อย 4.3 กจิ กรรมเสริมประสบกำรณ์ (15 นำที) 4.3.1 เด็กและครสู นทนารว่ มกนั เกีย่ วกับเร่ืองอาชพี ต่าง ๆ ของคนในชุมชน ว่ามแี ตกตา่ ง หลากหลาย ข้นึ อยู่กับความรู้ ความสามารถและความรัก ความถนดั โดยครูอธบิ าย ใหเ้ ดก็ ฟังว่า การศึกษาเปน็ พื้นฐานในการประกอบอาชีพที่ดี เด็กทุกคนตอ้ งศึกษา ให้มาจึงจะสามารถหาอาชีพท่ีดีทาได้ เสร็จแลว้ ครูเลา่ นิทานเรอ่ื ง ผู้กลา้ หาญ ใหเ้ ด็ก ฟัง 4.3.2 เดก็ และครสู นทนารว่ มกันเก่ียวกับเน้อื หาในนิทาน และอาชีพต่าง ๆ โดยครตู ้ัง คาถามให้เด็กช่วยกนั ตอบ เช่น - อาชพี อะไรที่เด็กคดิ วา่ ทางา่ ยทสี่ ดุ - เดก็ คดิ ว่าคนท่ีมงี านทาดีหรือไม่ 4.3.3 เด็กและครสู นทนา และสรุปรว่ มกันเกยี่ วกบั อาชีพของคนว่าเป็นอาชพี ที่มเี กยี รติ และทุกคนยอมรบั ทัง้ น้นั ถ้าเป็นอาชพี ทส่ี ุจริต 4.3.4 เด็กและครสู นทนา และสรุปร่วมกนั เกย่ี วกับอาชีพของคนว่าเป็นอาชีพที่มเี กียรติ และทุกคนยอมรบั ท้ังน้นั ถา้ เป็นอาชีพที่สุจริต 4.4 กิจกรรมกลำงแจ้ง (45 นำที) 4.4.1 ให้เดก็ ทาทา่ เลียนแบบกระตา่ ยกระโดด ลงสู่สนาม เมื่อถึงสนามแล้วให้เดก็ อบอุ่น ร่างกายโดยการวงิ่ เหยาะ ๆ รอบ ๆ บรเิ วณ 2 – 3 นาที

319 4.4.2 เดก็ และครูสนทนาร่วมกนั เกี่ยวกบั การเลน่ เกม ว่องไวตามสงั่ โดยครแู นะนาวธิ กี าร เล่นเกมใหเ้ ด็กฟงั - เดก็ ทุกคนยนื เป็นวงกลม โดยครยู ืนอยู่ตรงกลาง - ครอู อกคาสงั่ ต่าง ๆ ใหเ้ ด็กปฏบิ ัตติ าม เชน่ หวั เราะ ร้องเพลง จับจมูก นงั่ ยอง ๆ ฯลฯ 4.4.3 ให้เด็ก ๆ เลน่ เกมตามขน้ั ตอน คนใดทาผดิ บ่อย ๆ ใหม้ าเป็นผู้ออกคาสั่งแทนครกู ็ได้ ทาความสะอาดร่างกาย ล้างหน้า ล้างมือ ทาธุระสว่ นตวั กลับเขา้ ห้องเรียน เพ่อื เตรยี มตวั ไปรับประทานอาหารกลางวนั 4.5 กจิ กรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำที) 4.5.1 เดก็ และครสู นทนาร่วมกนั เกย่ี วกบั เกมจัดหมวดหมู่ภาพซ้อน โดยครูแนะนาวีธกี าร เลน่ เกมให้เด็กฟัง 4.5.2 แบง่ เด็กเปน็ กลุม่ ตามความเหมาะสม ให้แตล่ ะกลมุ่ เล่นเกมชดุ ใหม่ และเกมทีเ่ คยเลน่ มาแลว้ 4.5.3 เมือ่ เด็กเลิกเล่นแลว้ ครูแนะนาให้ชว่ ยกันเกบ็ สง่ิ ของต่าง ๆ เข้าที่ให้เรยี บร้อย 5. สอ่ื กำรเรียน / แหล่งกำรเรยี นรู้ 5.1 สีนา้ พู่กนั 5.2 นทิ านเร่ือง ผู้กล้าหาญ 5.3 เกมวอ่ งไวตามคาสง่ั 5.4 เกมจัดหมวดหม่ภู าพซ้อน 6. กำรวัดผลและประเมินผล 6.1 วธิ วี ดั ผลและประเมินผล 6.1.1 สังเกตการปฏิบัติตามสัญญาณ และคาสั่ง 6.1.2 สงั เกตการตอบคาถาม และการแสดงความคิดเห็น 6.1.3 ตรวจผลงานการวาดภาพ 6.2 เครอื่ งมือวัดผล 6.2.1 แบบประเมินผลการจดั ประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการวาดภาพ 6.3 เกณฑ์กำรวัดผลและประเมินผล ระดับ 3 ดี ระดับ 2 พอใช้ ระดบั 1 ปรับปรุง

320 แผนกำรจดั ประสบกำรณ์ที่ 84 ชนั้ อนบุ ำลปีที่ 2 สำระที่ควรเรียนรู้ท่ี 2 เร่อื งรำวเกี่ยวกับบคุ คลและสถำนทแี วดลอ้ มตวั เดก็ หนว่ ย ชุมชนของฉัน เรือ่ ง อาชีพทีน่ ่าช่นื ชม สัปดำหท์ ่ี 17 ลำดับวันที่ 84 ครผู ้สู อน คณุ ครูโชตกิ า เสือพิณ โรงเรียน วดั ท่าบุญมี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคญั อาชีพท่สี ุจริตทุกอาชีพ ลว้ นเป็นส่ิงทนี่ า่ ชน่ื ชมและเชิดชูไว้ ไม่วา่ จะเป็นอาชพี ที่ทาในร่ม ในตึกสูง ใหญห่ รอื ทากลางแจ้ง ถ้าไม่เบียดเบียนคนอ่ืนหรือทาความเดือนรอ้ นใหใ้ ครกเ็ ป็นอาชีพที่น่าชนื่ ชมได้ 2. จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ 2.1 เพื่อใหเ้ ด็กมีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกับความแตกต่างของบุคคลในชมุ ชน อาชีพ ความสามารถของบุคคล การทากจิ กรรมและดาเนนิ ชวี ิตได้อย่างมีความสขุ 2.2 เพ่อื ให้เด็กสามารถปฏิบตั ิตามสัญญาณทีก่ าหนดให้ได้ 2.3 เพ่ือให้เดก็ สามารถปฏิบตั ิจนเป็นผูน้ า ผ้ตู ามได้เพื่อให้เด็กสามารถสรา้ งผลงานได้อย่าสร้างสรรค์ และเสรี 2.4 เพอื่ ให้เด็กสามารถแสดงความคิดเหน็ และตอบคาถามเกย่ี วกับเร่ืองทสี่ นทนาได้ 2.5 เพ่ือให้เดก็ สามาปรบั ตวั ในการเลน่ รว่ มกับคนอ่นื ได้ 2.6 เพื่อใหเ้ ด็กสามารถนาชนิ ส่วนของภาพทส่ี ัมพนั ธก์ ันมาจัดเข้าคู่กันได้ 3. สำระกำรเรียนรู้ 3.1 อำชพี ที่น่ำชนื่ ชม 3.2 ประสบกำรณ์สำคญั 3.2.1 การวางแผบตดั สนิ ใจเลอื ก ลงมือปฏบิ ตั ิ 3.2.2 การสารวจและอธิบายความเหมอื น ความตา่ งของสงิ่ ตา่ ง ๆ 3.2.3 การเชือ่ มโยงภาพ ภาพถ่ายและรูปแบบต่าง ๆ กบั สงิ่ ของหรอื สถานท่จี รงิ 4. กิจกรรมกำรเรยี นรู้ 4.1 กจิ กรรมเคลอื่ นไหวและจังหวะ (20 นำที) 4.1.1 กจิ กรรมพน้ื ฐาน ใหเ้ ดก็ เคล่ือนไหวรา่ งกายไปท่ัว ๆ บรเิ วณอยา่ งอิสระ เม่ือได้ยนิ สัญญาณหยดุ ใหห้ ยดุ เคลอ่ื นไหวในทา่ นัน้ ทนั ที 4.1.2 เดก็ และครสู นทนาร่วมกันเกย่ี วกับคาบรรยายท่จี ะให้ปฏิบัติกจิ กรรมเชน่ “คุณพ่อ ของแดง เปน็ ตารวจจราจร กาลงั โบกรถอยู่ที่สีแ่ ยก คุณแม่ของดาเป็นครสู อน

321 หนงั สอื คุณแมข่ องขาวเป็นแมค่ า้ อยู่ท่ีตลาดกาลังขายผัก คุณตาของนดิ เปน็ ชาวนา กาลังเกีย่ วข้าว 4.1.3 ครูให้เด็กเคลื่อนไหวร่างกายอยา่ งอสิ ระ เม่ือไดย้ นิ สญั ญาณหยุด ใหห้ ยดุ และปฏบิ ัติ ตามทไ่ี ดต้ กลงกันไว้ 4.1.4 เด็กและครูร่วมกันกาหนดคาบรรยายข้ึนใหม่ เสร็จแลว้ ปฏิบัตกิ จิ กรรมตามข้อ 4.1.3 ซ้าอีก 4.2 กจิ กรรมสรำ้ งสรรคแ์ ละกิจกรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เดก็ และครรู ว่ มกันจัดโต๊ะเพ่ือใชฝ้ ึกกิจกรรมการรอ้ ยลูกปดั สี โดยครูทบทวนวิธีการ ทาให้เดก็ ดู แล้วให้เด็กปฏบิ ตั ิกิจกรรมโดยอสิ ระ ตามความคดิ สร้างสรรคข์ องเด็ก โดยครูคอยดแู ลความปลอดภัย และอันตรายท่จี ะเกิดขน้ึ จากเขม็ ร้อยอยา่ งใกลช้ ิด 4.2.2 เม่ือเด็กปฏบิ ัติกจิ กรรมเสรจ็ แล้ว นาผลงานมาใหค้ รดู ู โดยบอกชื่อผลงานและวิธการ ทา ผลงานใดทีเ่ หมาะสมจะจัดเก็บ ให้เก็บไว้ในกล่องผลงานของเด็กเอง โดยครู เขียนชอ่ื ผลงาน ชอื่ เด็ก วันเดือนปที ี่ทากากับไวด้ ว้ ย 4.2.3 เมื่อเด็กปฏบิ ตั กิ จิ กรรมครบทุกคนแล้ว ครแู นะนาใหเ้ ด็กช่วยกนั ทาความสะอาด บริเวณและชว่ ยกันจัดเก็บส่งิ ของ อุปกรณต์ ่าง ๆ เข้าที่ให้เรียบรอ้ ย 4.3 กิจกรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำที) 4.3.1 เด็กและครูสนทนาร่วมกันเกยี่ วกับอาชพี ตา่ ง ๆ ท่ีมีในชุมชนของเด็กซง่ึ เป็นอาชีพท่ี น่าชืน่ ชม โดยครูเล่าเร่ืองราวการต่อสขู้ องคนในรายการทีวี สูแ้ ลว้ รวยให้เดก็ ๆ ฟงั และสนทนารว่ มกนั ว่าเด็ก ๆ อยากรวยหรือไม่ และถ้าอยากรวยต้องทาอย่างไร 4.3.2 เดก็ และครสู นทนาร่วมกนั เกย่ี วกับอาชพี ตา่ ง ๆ ทีม่ ีอยู่ทั่ว ๆ ไปวา่ อาชีพทุกอาชพี ล้วนมีเกียรติและน่าช่ืนชม แต่ต้องเปน็ อาชพี ทส่ี จุ รติ และถ้าหากทุกคนอยากมี อาชพี ที่ทกุ คนชน่ื ชมก็ตอ้ งตั้งใจเรยี นและขยันหมั่นเพยี รในการประกอบอาชีพ 4.3.3 เด็กและครสู นทนารว่ มกนั เกี่ยวกบั อาชพี ตา่ ง ๆ และรว่ มกันกาหนดแนวทางในการ นาปฏบิ ัติในชีวิตประจาวัน 4.4 กิจกรรมกลำงแจ้ง (45 นำที) 4.4.1 เด็กร้องจดั แถวตอนเรยี งหน่ึง เดินจับไหล่กันลงสนาม เม่ือถึงสนามแล้วใหว้ ่งิ เหยาะ ๆ อยูก่ ับท่ี 2 – 3 นาที เป็นการอบอุน่ รา่ งกาย 4.4.2 เด็กและครสู นทนารว่ มกันเกยี่ วกับเกมกระต่ายขาเดียว โดยครแู นะนาวธิ ีการเล่นให้ เดก็ ฟงั ตามขั้นตอนดงั นี้ - ให้เดก็ ยนื ขาเดียว เอามือขา้ งหน่งึ จับขาข้างที่ยกข้นึ - ครใู หก้ ระโดดไปรอบ ๆ บริเวณ (ไม่ควรใหก้ ระโดดนาน) - ใครเอาเท้าลงก่อนต้องออกจากเกม - ผูท้ ี่ยืนขาเดยี ว และกระโดดได้นานเป็นผชู้ นะ

322 4.4.3 ครใู หเ้ ด็กเลน่ เกมเพอื่ ให้ได้ผู้ชนะ 1 – 2 รอบ 4.4.4 ปล่อยใหเ้ ดก็ ไดเ้ ลน่ กลางแจง้ อย่างอสิ ระ 5 – 10 นาที ก่อนทจ่ี ะให้เด็กไปทาความ สะอาดรา่ งกาย ลา้ งมือ ล้างหนา้ ทาธรุ ะส่วนตัว กลับเข้าห้องเรียน เพ่ือเตรยี มตวั ไป รบั ประทานอาหารกลางวัน 4.5 กจิ กรรมเกมกำรศกึ ษำ (20 นำที) 4.5.1 เด็กและครูสนทนารว่ มกันเก่ยี วกับเกมจบั คภู่ าพซ่อน โดยครูแนะนาวิธกี ารเล่นให้ เด็กฟัง 4.5.2 แบ่งกลมุ่ นักเรยี นตามความเหมาะสม ให้แต่ละกลมุ่ เล่นเกมชุดใหม่ท่ีครแู นะสลับกบั เกมท่ีเคยเลน่ มาแลว้ หรือเครื่องเลน่ สมั ผสั 4.5.3 เมื่อเด็กเลิกเล่นแลว้ ครูแนะนาใหช้ ว่ ยกนั จัดเก็บสง่ิ ของต่าง ๆ เข้าที่ใหเ้ รียบร้อย 5. สื่อกำรเรยี น / แหล่งกำรเรียนรู้ 5.1 ลกู ปัดสี เข็ม ดา้ ย 5.2 นิทานเรื่อง มานะยอดนักสู้ 5.3 เกมกระต่ายขาเดียว 5.4 เกมจบั คู่ภาพกบั สญั ลักษณ์ 6. กำรวัดผลและประเมนิ ผล 6.1 วิธวี ดั ผลและประเมินผล 6.1.1 สงั เกตการปฏบิ ัติตามสญั ญาณ และจินตนาการ 6.1.2 สงั เกตการพูดแสดงความคิดเหน็ และการตอบคาถาม 6.1.3 ตรวจผลงานการรอ้ ยลูกปัดสี 6.2 เครือ่ งมือวัดผล 6.2.1 แบบประเมินผลการจดั ประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการรอ้ ยลกู ปัดสี 6.3 เกณฑก์ ำรวดั ผลและประเมินผล ระดับ 3 ดี ระดับ 2 พอใช้ ระดบั 1 ปรับปรุง