Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore อ.2 เทอม1

อ.2 เทอม1

Description: อ.2 เทอม1

Search

Read the Text Version

223 4.4.3 ครใู ห้เดก็ ได้เล่นกลางแจง้ อย่างอสิ ระ 5 – 10 นาที เม่ือได้เวลาพอสมควร จงึ ใหเ้ ดก็ ไปทาความสะอาดร่างกาย ล้างหน้า ล้างมอื ทาธรุ ะส่วนตวั กลบั เข้าห้องเรยี น เพ่ือ เตรียมตวั ไปรับประทานอาหารกลางวนั 4.5 กิจกรรมเกมกำรศกึ ษำ (20 นำที) 4.5.1 เดก็ และครูสนทนาร่วมกนั เก่ยี วกับการเล่นเกมภาพตัดต่อแม่และลกู โดยครูแนะนา วธิ กี ารเลน่ ใหฟ้ งั 4.5.2 แบ่งเด็กเปน็ กลุ่มใหเ้ ล่นเกมชุดใหม่ เกมทเ่ี คยเลน่ มาแลว้ หรอื เครือ่ งเล่นสมั ผัส 4.5.3 เมือ่ เด็กเลกิ เล่นแลว้ ครูแนะนาใหช้ ่วยกันทาความสะอาดบรเิ วณ และเก็บส่ิงของ ต่าง ๆ เข้าที่ใหเ้ รยี บร้อย 5. สอื่ กำรเรียน / แหล่งกำรเรียนรู้ 5.1 สเี ทียน 5.2 เกมวง่ิ เปีย้ ว 5.3 เกมภาพตัดตอ่ แมแ่ ละลกู 6. กำรวดั ผลและประเมินผล 6.1 วธิ ีวัดผลและประเมินผล 6.1.1 สังเกตการปฏบิ ตั ิตามสญั ญาณ และข้อตกลง 6.1.2 สงั เกตความกล้าในการแสดงออก และการตอบคาถาม 6.1.3 ตรวจผลงานการวาดภาพ 6.2 เครอ่ื งมือวัดผล 6.2.1 แบบประเมินผลการจดั ประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการวาดภาพ 6.3 เกณฑ์กำรวดั ผลและประเมินผล ระดับ 3 ดี ระดบั 2 พอใช้ ระดบั 1 ปรบั ปรงุ

224 แผนกำรจัดประสบกำรณ์ที่ 58 ชนั้ อนุบำลปีท่ี 2 สำระที่ควรเรียนรู้ที่ 2 เร่อื งรำวเกยี่ วกับบุคคลและสถำนทีแ่ วดล้อมเด็ก หนว่ ย ฉนั รกั ชาติไทย เรอ่ื ง แมข่ องฉัน สัปดำหท์ ี่ 12 ลำดบั วันที่ 58 ครูผ้สู อน คุณครโู ชตกิ า เสอื พิณ โรงเรยี น วดั ท่าบญุ มี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคญั แม่ คือผมู้ ีพระคณุ สาหรบั เราเปน็ อย่างมาก เป็นผูใ้ ห้กาเนิด ใหก้ ารเลีย้ งดูและให้การศึกษา เราควร เคารพและเช่อื ฟงั คาสง่ั สอนของแม่ และปฏิบัตติ ามคาแนะนาต่างๆ การจัดกจิ กรรมในวันนจี้ งึ มีความสาคัญ มากที่ทุกคนควรแสดงออกอย่างเหมาะสม 2. จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ 2.1 เพื่อใหเ้ ด็กมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกบั วันสาคัญของชาติ และสามารถรว่ มกจิ กรรมต่าง ๆ อย่างถูกต้อง เหมาะสม 2.2 เพือ่ ให้เด็กสามารถปฏิบตั ิตามสญั ญาณและคาส่ังได้ 2.3 เพอ่ื ใหเ้ ด็กสามารถสร้างผลงานได้อยา่ งสรา้ งสรรคแ์ ละเสรี 2.4 เพื่อให้เด็กสามารถแสดงความคิดเห็นและตอบคาถามเกย่ี วกบั เรอื่ งท่ีสนทนาได้ 2.5 เพ่ือพฒั นากลา้ มเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเลก็ 2.6 เพ่ือใหเ้ ดก็ สามารถนาชนิ้ ส่วนของภาพมาตอ่ ใหเ้ ปน็ ภาพท่ีสมบรู ณ์ได้ 3. สำระกำรเรยี นรู้ 3.1 แมข่ องฉนั 3.2 ประสบกำรณส์ ำคัญ 3.2.1 การแสดงความรสู้ ึกดว้ ยคาพดู 3.2.2 การอธิบายเกี่ยวกับสิง่ ของ เหตกุ ารณ์ และความสมั พนั ธ์ของสิ่งต่าง ๆ 3.2.3 การพูดกับผู้อื่นเกย่ี วกบั ประสบการณ์ของตนเอง หรือเล่าเรื่องเกยี่ วกับตนเอง 3.2.4 การสารวจและอธิบายความเหมือนความต่างขอสิ่งของตา่ ง ๆ 4. กจิ กรรมกำรเรียนรู้ 4.1 กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ (20 นำที) 4.1.1 กิจกรรมพืน้ ฐาน ใหเ้ ดก็ เคลื่อนไหวร่างกายไปท่ัว ๆ บรเิ วณอย่างอสิ ระตามจงั หวะ เม่ือไดย้ นิ สญั ญาณหยุดให้หยุดเคลือ่ นไหวในทา่ น้นั ทนั ที 4.1.2 เด็กและครูสนทนา ตกลงคาสั่งที่จะปฏบิ ตั ิร่วมกนั เชน่

225 - กอดคณุ แม่ - กราบคุณแม่ - ย่ืนช่อดอกมะลิให้คณุ แม่ ฯลฯ - กอดคณุ แม่ ฯลฯ 4.1.3 ใหเ้ ดก็ เคลื่อนไหวร่างกายและอิสระ เม่ือได้ยินสญั ญาณหยดุ ให้เด็กปฏบิ ัติตามคาส่งั ทไี่ ด้ตกลงรว่ มกนั ไว้ 4.1.4 เดก็ และครูร่วมกันตกลงคาส่งั ข้นึ ใหม่ แลว้ ปฏิบัตกิ ิจกรรมตามข้อ 4.1.3 ซา้ อีก 4.2 กจิ กรรมสรำ้ งสรรคแ์ ละกิจกรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เด็กและครชู ่วยกนั จัดโต๊ะเพ่อื ใชฝ้ ึกกจิ กรรมการวาดภาพดว้ ยสีน้า โดยครูอธิบาย ขน้ั ตอนการปฏิบตั ใิ หเ้ ด็กดู เสรจ็ แลว้ ครูแจกใบงานให้เด็กคนละ 1 แผ่น สนทนา รว่ มกันเก่ียวกับรายละเอยี ดในใบงาน และให้เด็กลงมือปฏิบัตกิ ิจกรรมตามคาสง่ั ใน ใบงาน และสร้างผลงานอย่างอิสระตามความคดิ และจนิ ตนาการของตนเอง 4.2.2 เด็กคนใดทาเสร็จแล้ว ใหน้ าผลงานมาให้ครดู ูพรอ้ มกบั บอกชอ่ื ผลงาน วธิ ีการทา ให้ ครทู ราบดว้ ย ถา้ ผลงานใดเหมาะสมนา่ เกบ็ สะสมไวก้ ็แนะนาใหเ้ ดก็ เกบ็ ไวใ้ นกลอ่ ง ผลงานของตนเอง โดยครเู ขียนชอื่ เด็ก ช่ือผลงาน ความหมาย และวันเดอื นปีทีท่ าให้ ด้วย 4.2.3 เด็กท่ีปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเสรจ็ แล้วให้เลน่ ตามมมุ อยา่ งอิสระ รอเพ่ือน 4.2.4 เมอ่ื เด็กปฏบิ ัตกิ ิจกรรมเสรจ็ ทุกคนแล้ว ครแู นะนาให้เด็กช่วยกนั ทาความสะอาดพืน้ ที และชว่ ยกันเกบ็ สิง่ ของต่าง ๆ 4.3 กิจกรรมเสริมประสบกำรณ์ (15 นำที) 4.3.1 ครูเล่านิทานเรอ่ื ง “ความรักของแม่” ให้เด็กฟงั เสร็จแล้ว สนทนา และสรปุ ร่วมกนั เกยี่ วกบั เนือ้ หาในนทิ าน โดยครูต้ังคาถามนา ให้เด็กชว่ ยกันตอบ เชน่ - ทาไมแม่นกจึงร้องไห้ - ใครมาขโมยลูกนกไป - ทาไมป่านจงึ นาลกู นกมาคนื - แม่นกร้สู ึกอย่างไรเมื่อได้ลูกคืน 4.3.2 เดก็ และครสู นทนาถึงความรักของแมท่ ีม่ ีต่อลูกและรว่ มกนั สรปุ วา่ ลกู ทีด่ ตี ้องรักแม่ และตอบแทนพระคุณแม่ โดยครตู ั้งคาถามให้เด็กช่วยกนั ตอบ เชน่ - เวลาแม่ไม่สบาย เราทาอะไรให้แมบ่ า้ ง - ใครเคยโดนแม่ตีบา้ ง และตเี ร่ืองอะไร - เราจะทาตัวอยา่ งไรจึงจะไม่โดนแมต่ ี ฯลฯ 4.3.3 เดก็ และครสู นทนา และสรุปร่วมกนั เกยี่ วกบั ความสาคญั ของแม่ และร่วมกนั กาหนด แนวทางในการปฏบิ ตั ติ ่อแมเ่ พ่อื นาไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ฯลฯ

226 4.4 กจิ กรรมกลำงแจง้ (45 นำที) 4.4.1 ใหเ้ ด็กจัดแถวตอนเรยี งสอง จับมือกนั เปน็ คู่ ๆ ลงสนาม (เด็กทไี่ มม่ ีคู่ใหจ้ บั มือกบั คร)ู เมื่อถงึ สนามให้เด็กอบอุน่ รา่ งกายโดยการวงิ่ เหยาะ ๆ อยกู่ บั ท่ี 2 – 3 นาที 4.4.2 ครูใหเ้ ด็กได้เล่นเกมไอเ้ ข้ ไอ้โขง และเล่นกลางแจ้งอย่างอิสระ โดยครูคอยดูแลเร่ือง ความปลอดภัยอย่างใกลช้ ิด 4.4.3 เมอ่ื ได้เวลาพอสมควรครูใหเ้ ด็กไปทาความสะอาดร่างกาย ล้างหน้า ลา้ งมือ ทาธรุ ะ ส่วนตัว กลยั เข้าหอ้ งเรยี น เพ่ือเตรยี มตวั ไปรับประทานอาหารกลางวนั 4.5 กจิ กรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำท)ี 4.5.1 เด็กและครูสนทนารว่ มกนั เกี่ยวกับเกมจบั คู่ภาพสตั ว์ส่วนบน สว่ นลา่ ง โดยครู แนะนาและอธบิ ายวธิ ีการเลน่ ใหเ้ ด็กฟัง 4.5.2 แบ่งเด็กเปน็ กลมุ่ ตามความเหมาะสม ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ เล่นเกมชุดใหมท่ คี่ รูแนะนา และ เกมทเ่ี คยเลน่ มาแล้ว หรอื เคร่อื งเล่นสมั ผสั 4.5.3 เมื่อเด็ก ๆ เลน่ เกมเสร็จแลว้ ครูชว่ ยกนั จดั เก็บของเล่นต่าง ๆ เข้าทใ่ี หเ้ รยี บร้อย 5. ส่อื กำรเรยี น / แหล่งกำรเรียนรู้ 5.1 สนี า้ พู่กนั 5.2 นทิ านเรอื่ งความรกั ของแม่ 5.3 เกมไอ้เข้ ไอโ้ ขง 5.4 เกมจับคู่ภาพสตั ว์สว่ นบน สว่ นล่าง 6. กำรวดั ผลและประเมินผล 6.1 วิธวี ดั ผลและประเมินผล 6.1.1 สังเกตการปฏบิ ัตติ ามสญั ญาณ และคาสั่ง 6.1.2 สังเกตการแสดงความคดิ เหน็ และการตอบคาถาม 6.1.3 ตรวจผลงานการวาดภาพ 6.2 เครื่องมอื วัดผล 6.2.1 แบบประเมินผลการจัดประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการวาดภาพ 6.3 เกณฑก์ ำรวัดผลและประเมินผล ระดบั 3 ดี ระดบั 2 พอใช้ ระดบั 1 ปรบั ปรุง

227 แผนกำรจัดประสบกำรณท์ ่ี 59 ช้นั อนบุ ำลปีที่ 2 สำระทีค่ วรเรียนรู้ท่ี 2 เรอื่ งรำวเกย่ี วกับบุคคลและสถำนท่แี วดลอ้ มเด็ก หน่วย ฉนั รักชาติไทย เร่ือง พระคณุ ของแม่ สปั ดำห์ท่ี 12 ลำดับวันที่ 59 ครผู สู้ อน คณุ ครโู ชตกิ า เสือพิณ โรงเรียน วัดท่าบญุ มี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคญั แม่เป็นผใู้ ห้กาเนิด เลี้ยงดูเราจนเติบโต เป็นผู้ให้ให้การศึกษา แม่มพี ระคุณต่อเรามากท่ีสุด ไมม่ ีอะไร มาเปรียบได้ เม่ือเราเตบิ โตขึ้น มงี านทา แมแ่ กช่ ราลงเราตอ้ งตอบแทนพระคุณของแม่และเลย้ี งดทู ่านถือเป็น ความกตัญญูในบาฯท่เี ราเปน็ ลูก 2. จุดประสงค์กำรเรยี นรู้ 2.1 เพ่ือให้เด็กมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกบั วนั สาคญั ของชาติ และสามารถร่วมกจิ กรรมต่าง ๆ อย่างถูกต้อง เหมาะสม 2.2 เพื่อใหเ้ ด็กสามารถปฏบิ ัติตามสัญญาณและคาสง่ั ได้ 2.3 เพื่อใหเ้ ด็กสามารถสร้างผลงานไดอ้ ยา่ งสรา้ งสรรคแ์ ละเสรี 2.4 เพ่ือใหเ้ ด็กสามารถแสดงความคิดเหน็ และตอบคาถามเก่ยี วกบั เร่ืองทีส่ นทนาได้ 2.5 เพ่ือพฒั นากลา้ มเนอื้ ใหญ่และกล้ามเนื้อเล็ก 2.6 เพือ่ ใหเ้ ด็กสามารถนาช้นิ สว่ นของภาพมาตอ่ ใหเ้ ป็นภาพทส่ี มบรู ณ์ได้ 3. สำระกำรเรยี นรู้ 3.1 พระคุณแม่ 3.2 ประสบกำรณส์ ำคัญ 3.2.1 การพูดกบั ผ้อู นื่ เกีย่ วกับประสบการณข์ องตนเอง หรือเลา่ เรื่องเก่ยี วกับตนเอง 3.2.2 การรบั รทู้ ่ไี วต่อความรสู้ ึก ความสนใจและความต้องการของผู้อ่ืน 3.2.3 การแสดงความร้สู ึกด้วยคาพูด 3.2.4 การเล่นบทบาทสมมุติ 4. กิจกรรมกำรเรียนรู้ 4.1 กิจกรรมเคลอ่ื นไหวและจัวหวะ (20 นำท)ี 4.1.1 กจิ กรรมพื้นฐาน ให้เด็กเคลอื่ นไหวรา่ งกายไปทัว่ บรเิ วณ อย่างอสิ ระตามจังหวะ เม่ือ ไดย้ ินสญั ญาณหยุดใหห้ ยดุ เคลอ่ื นทใี่ นท่านั้นทนั ที

228 4.1.2 เด็กและครสู นทนาร่วมกนั เก่ยี วกบั เพลงพระคุณแม่ ทีเ่ ด็กชอบและเป็นเพลงทไ่ี ด้ยนิ ทัว่ ไปและเด็กสามารถร้องได้ เสรจ็ แลว้ เลอื กมา 1 เพลง 4.1.3 เด็กและครรู ่วมกนั ร้องเพลงทีเ่ ลอื กร่วมกนั 1 เทยี่ ว โดยทาท่ากายบริหารประกอบ เพลงอย่างอสิ ระ 4.1.4 เดก็ และครูรว่ มกนั หาอาสาสมัตร 3 – 5 คน ให้ทาทา่ กายบริหารประกอบเพลงตาม ข้อ 4.1.3 โดยใหเ้ พ่ือน ๆ ทีเ่ หลือท้ังหมดเป็นผ้รู ้อง และปรบมือเปน็ จังหวะประกอบ 4.1.5 เปลีย่ นอาสาสมคั รหมนุ เวยี นใหค้ นอ่ืนได้ออกมาเป็นบ้าง เพ่ือสรา้ งความเชื่อม่ันและ กลา้ แสดงออกให้กบั เด็กทุกคน จนสมควรแก่เวลา 4.2 กจิ กรรมสร้ำงสรรค์และกิจกรรมเสรี (60 นำท)ี 4.2.1 เดก็ และครชู ่วยกนั จัดโตะ๊ เพือ่ ใชฝ้ กึ กจิ กรรมการตดั ฉีก ปะ กระดาษ โดยครูอธบิ าย ขนั้ ตอน วิธกี ารทา ใหเ้ ดก็ ดู เสร็จแล้งลงมือปฏบิ ัตติ ามความคดิ และจินตนาการของ ตนเองอยา่ งอสิ ระ โดยครคู อยใหค้ าแนะนาอยหู่ ่าง ๆ 4.2.2 เดก็ คนใดทป่ี ฏบิ ัติกจิ กรรมเสร็จแลว้ นาผลงานมาให้ครูดูพร้อมกบั บอกชื่อผลงาน วิธกี ารทา ให้ครทู ราบด้วย ถา้ ผลงาใดเหมาะสมนา่ เก็บไวก้ ็แนะนาใหเ้ ด็กเก็บไว้ใน กล่องผลงานของตนเอง โดยครูเขียนชอ่ื เดก็ ชื่อผลงาน ความหมาย และวนั เดือนปที ่ี ทาใหเ้ ด็กดว้ ย 4.2.3 สาหรับเด็กท่ีทาเสรจ็ แล้ว หรือกาลังรอโต๊ะว่างให้เล่นตามมุมอย่างอิสระรอเพ่ือน ๆ 4.2.4 เมอ่ื เด็กปฏบิ ตั กิ ิจกรรมเสรจ็ แลว้ ทกุ คน ครูแนะนาให้เด็กชว่ ยกนั ทาความสะอาด พ้ืนที่และช่วยกันเกบ็ ส่ิงของต่าง ๆเขา้ ที่ให้เรยี บรอ้ ย 4.3 กจิ กรรมเสริมประสบกำรณ์ (15 นำท)ี 4.3.1 เด็กและครสู นทนารว่ มกันเก่ยี วกับพระคณุ แม่ โดยครเู ล่านิทานเร่อื ง “แมโ่ พสพ” ให้ เดก็ ฟงั เสรจ็ แลว้ สนทนารว่ มกันเก่ียวกบั เรื่องในนิทาน โดยครูตง้ั คาถามและช่วยกนั ตอบ เช่น - หนา้ ทข่ี องแม่ - ความรกั ของแม่ ฯลฯ 4.3.2 เด็กและครรู ่วมกันหาอาสาสมัครออกามาเล่าถงึ แมข่ องตนเอง วา่ แม่ทาหน้าทขี่ องแม่ อย่างไรบ้าง - เด็ก ๆ ช่วยกนั สรุปถึงความรักของแม่ท่ีมีต่อลูก ๆ ว่ามีมากมายเพยี งใด 4.3.3 เด็กและครูรว่ มกนั หากอาสาสมัครออกมาเลา่ ถึงแมข่ องตนเอง ว่าแม่ทาหน้าทข่ี อง แมอ่ ยา่ งไรบ้าง 4.4 กจิ กรรมกลำงแจ้ง (45 นำที) 4.4.1 ให้เดก็ จดั แถวตอนเรยี งหนงึ่ ทาท่าเดินเปด็ ลงสนาม เมอ่ื ถึงสนามแล้วให้อบอุ่น รา่ งกายโดยการวิ่งเหยาะ ๆ อยกู่ ับที่ 2 – 3 นาที

229 4.4.2 เดก็ และครูสนทนาร่วมกนั เกย่ี วกบั เกมสวัสดคี ุณแม่ โคยครูอธิบายวธิ ีเล่นเกมให้ เด็กฟังตามขั้นตอนนี้ - เลือกอาสาสมัคร 1 คน เอาผ้าผกู ตามนง่ั อยบู่ นเก้าอ้ี สมมุติว่าเป็นแม่ - เดก็ คนหน่งึ เดินเขา้ ไปหาแม่แลว้ ยกมอื ไหว้พรอ้ มกบั พูดวา่ สวัสดคี รับคุณแม่ - คนที่เป็นแม่จะต้องทายช่ือเด็กคนน้นั ใหถ้ ูก ถา้ ทายผดิ ให้เด็กคนใหม่มาสวสั ดีคุณ แม่ ถ้าทายถกู ให้เดก็ คนนัน้ เป็นแมแ่ ทน 4.4.3 ครใู หเ้ ด็กไดเ้ ล่นเกมทแี่ นะนาจนครบทุกคน 4.4.4 ใหเ้ ด็กได้เลน่ อย่างอิสระ 5 – 10 นาที กอ่ นท่ีจะใหเ้ ดก็ ไปทาความสะอาดรา่ งกาย ลา้ งหนา้ ลา้ งมอื ทาธรุ ะส่วนตวั กลับเขา้ หอ้ งเรยี น เพ่ือเตรียนมตัวไปรับประทาน อาหารกลางวนั 4.5 กจิ กรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำที) 4.5.1 เดก็ และครูสนทนาร่วมกันเกี่ยวกับเกมพื้นฐานการบวก 1 – 6 โดยครแู นะนา และ อธบิ ายวธิ ีการเลน่ ให้เด็กฟงั 4.5.2 แบง่ เด็กเปน็ กลุ่มตามความเหมาะสม ให้แตล่ ะกลนุ่ เลน่ เกมชุดใหม่ และเกมทเี่ คย เล่นมาแล้ว หรือเครื่องเลน่ สัมผสั 4.5.3 เมอ่ื เด็ก ๆเลิกเล่นเกมแล้ว ครแู นะนาให้ช่วยกนั เกบ็ สง่ิ ของตา่ ง ๆ เขา้ ทีใ่ หเ้ รยี บรอ้ ย 5. สอ่ื กำรเรียน / แหล่งกำรเรยี นรู้ 5.1 กาว กรรไกร กระดาษ 5.2 นิทานเร่อื ง แม่โพสพ 5.3 เกมสวัสดคี ุณแม่ 5.4 เกมพน้ื ฐานการบวก 1 – 6 6. กำรวัดผลและประเมินผล 6.1 วิธวี ดั ผลและประเมินผล 6.1.1 สังเกตการปฏิบัตติ ามสัญญาณ และการทาท่าทางประกอบเพลง 6.1.2 สงั เกตการพดู แสดงความคิดเหน็ และการตอบคาถาม 6.1.3 ตรวนผลงานการตดั ฉกี ปะ กระดาษ 6.2 เคร่อื งมือวัดผล 6.2.1 แบบประเมนิ ผลการจดั ประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการตดั ฉกี ปะ กระดาษ

230 6.3 เกณฑก์ ำรวดั ผลและประเมินผล ดี ระดบั 3 พอใช้ ระดับ 2 ปรับปรงุ ระดบั 1

231 แผนกำรจดั ประสบกำรณ์ท่ี 60 ชั้นอนบุ ำลปีท่ี 2 สำระท่ีควรเรียนรู้ท่ี 2 เรอ่ื งรำวเก่ยี วกับบุคคลและสถำนทแ่ี วดลอ้ มเดก็ หนว่ ย ฉนั รักชาติไทย เร่อื ง ความกตัญญูต่อแม่ สัปดำหท์ ่ี 12 ลำดับวันท่ี 60 ครผู สู้ อน คณุ ครโู ชตกิ า เสอื พิณ โรงเรียน วดั ทา่ บุญมี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคัญ แม่ เป็นผู้มีพระคุณย่ิงใหญ่หาท่ีเปรียบมไิ ด้ เราต้องรู้จกั ตอบแทนพระคุณของแม่ โดยการเช่อื ฟงั และ ปฏิบัตติ ามคาส่งั สอน การต้ังใจศกึ ษาเลา่ เรียนซงึ่ ควรปฏิบัติอยา่ งสมา่ เสมอทุกวนั ไมเ่ ลือกเฉพาะวนั แม่ แห่งชาตเิ ทา่ นนั้ 2. จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ 2.1 เพ่ือใหเ้ ด็กมคี วามรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับวนั สาคัญของชาติ และสามารถรว่ มกจิ กรรมตา่ ง ๆ อยา่ งถูกต้อง เหมาะสม 2.2 เพื่อให้เด็กสามารถปฏิบัติตามสัญญาณและคาสั่งได้ 2.3 เพ่ือให้เด็กสามารถสร้างผลงานไดอ้ ย่างสร้างสรรคแ์ ละเสรี 2.4 เพือ่ ใหเ้ ด็กสามารถแสดงความคิดเห็นและตอบคาถามเกยี่ วกับเร่อื งท่ีสนทนาได้ 2.5 เพ่ือพฒั นากลา้ มเนอื้ ใหญ่และกลา้ มเน้ือเลก็ 2.6 เพ่อื ใหเ้ ด็กสามารถนาช้ินสว่ นของภาพมาตอ่ ให้เปน็ ภาพทส่ี มบูรณ์ได้ 3. สำระกำรเรยี นรู้ 3.1 กำรตอบแทนพระคุณแม่ 3.2 ประสบกำรณส์ ำคัญ 3.2.1 การพดู กบั ผู้อนื่ เกี่ยวกับประสบการณข์ องตนเอง หรือเลา่ เรื่องเก่ียวกับตนเอง 3.2.2 การเช่ือมโยงภาพ ภาพถา่ ยและรูปแบบต่าง ๆ กบั สิ่งของหรอื สถานทีจ่ รงิ 3.2.3 การสรา้ งความสัมพันธก์ ับเด็กและผู้ใหญ่ 3.2.4 การรับรทู้ ไ่ี วต่อความรู้สึก ความสนใจและความตอ้ งการของผ้อู น่ื 4. กจิ กรรมกำรเรียนรู้ 4.1 กจิ กรรมเคลอ่ื นไหวและจัวหวะ (20 นำท)ี 4.1.1 กจิ กรรมพ้นื ฐาน ใหเ้ ด็กเคลอื่ นไหวร่างกายไปท่วั ๆ บริเวณอย่างอสิ ระตามจังหวะ เมือ่ ได้ยินสญั ญาณหยุดใหห้ ยุดเคล่ือนไหวในทา่ นัน้ ทนั ที

232 4.1.2 เด็กและครูสนทนารว่ มกนั เกีย่ วกบั ทาทา่ ทางตามจินตนาการ โดยฟงั คาบรรยายจาก ครู “คุณแม่ใหเ้ ด็กไปซือ้ ของใหแ้ ม่ เด็กวง่ิ ออกจากบา้ น ซ้ือของมาค่อย ๆ เดนิ คุณ แมส่ ่งตะกร้าให้ บอกให้ซื้อของมาเพ่ิมอีกหลายอยา่ ง เด็กไปซอ้ื ของมามากมาย หิว้ ตะกรา้ เดนิ จนตัวเอยี ง เอยี งไปทางซ้ายที เอียงไปทางขวาที จนเดินมาถงึ บาน เอา ตะกร้าใหค้ ณุ แม่ นั่งลงพกั เหนื่อย” เป็นตน้ 4.1.3 เด็กและครรู ่วมกนั กาหนดคาบรรยายข้ึนใหม่ แล้วปฏิบัติกิจกรรมในลักษณะนซี้ ้าอีก 4.2 กิจกรรมสรำ้ งสรรคแ์ ละกจิ กรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เดก็ และครูช่วยกนั จดั โต๊ะเพอื่ ใช้ฝกึ กจิ กรรมการร้อยลูกปดั สี เสรจ็ แลว้ ครูอ้ ธิบาย ขนั้ ตอน การปฏบิ ัตใิ หเ้ ดก็ ฟงั แลว้ ให้ลงมอื ปฏบิ ตั ติ ามความคิดและจนิ ตนาการของ ตนเอง อย่างอสิ ระโดยครคู อยดแู ลความปลอดภยั จากเข็มร้อยอยา่ งใกลช้ ิด 4.2.2 เด็กคนใดท่ีทาเสรจ็ แล้ว ให้นาผลงานมาใหค้ รูดูพรอ้ มกบั บอกชอ่ื ผลงาน วิธีการทา ให้ครูทราบดว้ ย ถา้ ผลงานใดเหมาะสมน่าเก็บไว้กแ็ นะนาให้เดก็ เกบ็ ไว้ในกล่อง ผลงานของตนเองโดยครูเขยี นช่ือเดก็ ชอื่ ผลงาน ความหมาย และวนั เดือนปีท่ีทาให้ เด็กด้วย 4.2.3 เด็กที่ทาเสร็จแลว้ หรอื กาลงั รอโตะ๊ วา่ ง ใหเ้ ลน่ ตามมุมอยา่ งอิสระรอเพ่ือน ๆ 4.2.4 เมอ่ื เด็กปฏบิ ัตกิ จิ กรรมเสรจ็ ทุกคนแล้ว ครูแนะนาใหเ้ ด็กช่วยกนั ทาความสะอาด พ้ืนท่แี ละชว่ ยกันเกบ็ สิ่งของต่าง ๆ เข้าทใ่ี ห้เรยี บร้อย 4.3 กิจกรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำท)ี 4.3.1 เดก็ และครูร่วมกันร้องเพลง “ใครหนอ” โดยครูร้องใหเ้ ด็กฟงั หรือเปิดเทปเพลงให้ ฟงั แล้วใหเ้ ดก็ ฝึกร้องตาม จนสามารถร้องได้ แลว้ สนทนาร่วมกันเกีย่ วกบั เน้ือหาใน บทเพลง 4.3.2 ครเู ลา่ นทิ านเร่อื ง “แม่ไก่” ให้เด็กฟัง เสร็จแลว้ สนทนาสรุปรว่ มกันเกี่ยวกบั เรื่องใน นทิ าน และต้งั คาถามใหเ้ ด็กชว่ ยกันตอบ 4.3.3 เดก็ และครสู นทนาร่วมกนั เกีย่ วกบั การตอบแทนพระคุณแม่ เสรจ็ แลว้ ครูตงั้ คาถาม ให้เด็กช่วยกันตอบ เชน่ - ในวันแมเ่ ราให้อะไรแม่ไกบ่ า้ ง - สัญลักษณข์ องวนั แม่คืออะไร 4.3.4 เดก็ และครูสนทนาร่วมกนั เกย่ี วกบั ดอกมะลิท่ีครเู ตรียมมา เกยี่ วกบั ลกั ษณะของดอก สี กล่นิ และการนาดอกมะลิมาเปรียบกบั แม่ โดยครอู ธิบายใหเ้ ดก็ ฟงั อย่างง่าย ๆ 4.3.5 ครหู าอาสาสมัตรออกมาเล่าประสบการณ์ท่ไี ดป้ ฏบิ ัติเพื่อชว่ ยเหลืองานของแม่ โดย ครชู ่วยเสรมิ เรือ่ งราวให้ชดั เจน 4.3.6 ครูหาอาสาสมัครออกมาเลา่ ประสบการณ์ทไี่ ดป้ ฏบิ ัตเิ พื่อช่วยเหลืองานของแม่ โดย ครูชว่ ยเสริมเรอื่ งราวให้ชัดเจน เสร็จแลว้ ร่วมกนั กาหนดแนวทางในการปฏบิ ัตติ น

233 เก่ยี วกับการตอบแทนพระคุณแมต่ ามความเหมาะสมของวัย เพ่ือนาไปปฏิบัติในชวี ติ จรงิ 4.4. กจิ กรรมกลำงแจ้ง (45 นำที) 4.4.1. เด็กจัดแถวตอนเรยี งสอง จับมอื กนั เป็นคู่ ๆ เดนิ ลงสนามอย่างเป็นระเบยี บ (เดก็ ท่ีไม่ มคี ู่ให้จับกบั ครู) เม่ือถึงสนามแลว้ ใหเ้ ด็กอบอุ่นรา่ งกายโดยการวง่ิ เหยาะ ๆ อยูก่ ับที่ เสรจ็ แลว้ ทาทา่ นนกบิน รอบ ๆ สนาม 2 – 3 นาที 4.4.2. ครูใหเ้ ดก็ เลน่ กฬี ากลางแจง้ อย่างอสิ ระ โดยครคู อยดูแลความปลอดภัยอย่างใกล้ชดิ 4.4.3. เมอ่ื ได้เวลาพอสมควาร ให้เด็กไปทาความสะอาดรา่ งกาย ลา้ งหนา้ ลา้ งมือ ทาธรุ ะ สว่ นตวั กลับเขา้ ห้องเรียน เพ่ือเตรยี มตวั ไปรับประทานอาหารกลางวัน 4.5 กิจกรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำที) 4.5.1 เดก็ และครสู นทนารว่ มกันเกีย่ วกบั เกมหาความสัมพนั ธ์ภาพแบบอปุ มา อปุ ไมย โดยครูแนะนาอธิบายวิธีการเล่นใหเ้ ดก็ ฟงั 4.5.2 แบ่งเด็กเปน็ กลุ่มตามความเหมาะสม ให้แตล่ ะกลุม่ เล่นเกมชดุ ใหมท่ ี่ครแู นะนา และ เกมที่เคยเล่นมาแลว้ หรือเครอื่ งเล่นสัมผัส 4.5.3 เมอื่ เด็กเลน่ เกมเสร็จแล้ว ครูแนะนาใหเ้ ด็ก ช่วยกนั จดั เกบ็ สิง่ ของตา่ ง ๆ เขา้ ที่ให้ เรียบรอ้ ย 5. สื่อกำรเรยี น / แหล่งกำรเรยี นรู้ 5.1 ลูกปัดสี เข็ม ด้าย 5.2 เพลงใครหนอ 5.3 นิทานเร่ืองแม่ไก่ 5.4 เกมเรยี งลาดบั ภาพการบานของดอกมะลิ 6. กำรวดั ผลและประเมินผล 6.1 วิธีวดั ผลและประเมินผล 6.1.1 สังเกตการปฏิบัติตามสัญญาณ และคาบรรยาย 6.1.2 สงั เกตการตอบคาถาม การแสดงความคดิ เหน็ 6.1.3 ตรวจผลงานการร้อยลกู ปัดสี 6.2 เครอ่ื งมือวัดผล 6.2.1 แบบประเมินผลการจดั ประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการร้อยลกู ปัดสี

234 6.3 เกณฑก์ ำรวดั ผลและประเมินผล ดี ระดบั 3 พอใช้ ระดับ 2 ปรับปรงุ ระดบั 1

235 ภาคผนวก เพลงถวำยพระพร เด็ก ๆ ของชาติน้อมใจถวายพระพร (เตอื นใจ ศรีมำรตุ ) องค์มิ่งขวัญนิกรปวงประชา ของจงทรงพระเจรญิ เหลา่ ข้าพระบาท เฉลมิ พระชนมพ์ รรษาสถาพร ของจงทรงพระเจรญิ (ซ้า) มพี ระชนมายยุ ิ่งยืนนาน เพลงใครหนอ ใครหนอปราณไี ม่มเี ส่อื มคลาย (สุรพล โทณวณกิ ) รกั เขาไม่หน่าย มิคดิ ทาลายใครหนอ ใครหนอเอาใจปลอบเราเร่ือยมา ใครหนอรักเราเทา่ ชวี ี รักเขายิง่ กว่าพืน้ พสุธานนภากาศ ใครหนอ รกั เราใชเ้ พียงรูปกาย แล้วเอานภามาแทนกระดาษ ใครหนอเหน็ เราเห็นเราเศรา้ ทรวงใน ประกาศพระคุณไม่พอ ใครหนอรักเราดังดวงแก้วตา ใครหนอใครกันให้เราขค่ี อ (คุณพ่อคุณแม)่ จะเอาโลกมาแทนปากกา ร้แู ล้วละก็อยา่ มวั ร้ังรอทดแทนบญุ คณุ เอานา้ หมดมหาสมทุ รแทนหมึกวาด ใครหนอรักเราเท่าชวี นั ใครหนอชกั ชวนดหู นงั สจ่ี อ

236 นิทำนเรื่อง ควำมรักของแม่ (บุญสม เอรวำรพ) คร้ังหนงึ่ ยังมีแมน่ กและลกู นกอาศยั และทารงั อยบู่ นต้นไม้ แม่นกจะกกลกู เพ่ือให้ความอบอุ่นทกุ วันทุก เช้าแมน่ กจะหาหนอนตวั เลก็ ๆ หรอื เมลด็ ข้าวเปลือกมาให้ลกู นกกนิ แมน่ กจะคอยระมัดระวงั และปกป้องลูก น้อยของตนเสมอ มเี ด็กชายคนหนึง่ ชื่อ ปา่ น เขาเป็นเด็กซน เขาปีนตน้ ไม้ขึ้นไปเห็นลกู นกตัวน้ันและจับมันมา เมือ่ แม่น กกลับมาจากหาอาหารกนิ มันดีใจมากทจ่ี ะได้พบลูก ลูกน้อยกาลงั คอยมนั อยแู่ น่เลย แมน่ กคดิ เมื่อแมน่ ก มาถึงรังไม่พบลกู จงึ ส่งเสียงร้องเรยี กลกู แม่นกใจหายน้าตาตก คดิ ถึงลูกมาก และร้องว่า “ลกู เอย๋ ลูกเอย๋ ลกู ไปไหน ใครเอาลูกของแม่ไป” และบินไปบินมาอยบู่ รเิ วณรัง เม่อื ป่านเดนิ กลบั มาที่ต้นไม้ เขาไดย้ ินเสยี งแม่น กร้องและบินไปมาเหมือนกับว่ามนั จะตาทหาลูก ป่านเห็นแลว้ เกิดความสงสารและคิดได้ว่าถา้ ตนเป็นเหมือน ลูกนกทห่ี ายไป แม่ของเขาก็คงจะหว่ งใยและรอ้ งไห้เสียใจเป็นอย่างมาก เหมือนแม่นกตัวนีเ้ ป็นแน่ ดังนันปา่ น จงึ วงิ่ กลับบ้านไปเอาลูกนกมาคนื แกแ่ ม่ของมนั และบอกลูกนกวา่ “ฉันจะพาไปส่งนะจ๊ะ” เม่ือแม่นกเหน็ ป่านนา ลกู นกมาคืนรงั มนั รอ้ งด้วยความดีใจเพราะได้พบกับลูกแล้ว แมน่ กรบี บนิ เขา้ มาหาและกกลกู นกไวก้ บั อกของ มนั ดว้ ยความรักและหว่ งใย

237 นิทำนเร่ืองแมโ่ พสพ (ไม่ทรำบนำมผู้แต่ง) นานมาแลว้ มคี รอบครวั ยากจนครอบครัวหนงึ่ ซึ่งแมม่ ีลกู หลายคน ลกู ตอ้ งอดอยากเสมอ ดว้ ยความ สงสารลูก แมจ่ งึ ต้งั จติ อธิษฐานวา่ หากตนจะต้องตายไปก็ไม่ว่า ขอเพียงได้ช่วยใหล้ กู ได้กินอยา่ งอ่ิมหมีพมี นั ต่อมาเมอื่ แมต่ ายลงได้เกดิ เป็นต้นข้าว ช่วยใหล้ ูกมอี าหารได้เพียงพอทีจ่ ะรบั ประทาน ตอ่ มานานเขา้ ลกู เร่ิมลมื ความหิวโหย ก็เริ่มกนิ ทิ้งกนิ ขวา้ ง ไมป่ ระหยัดทาให้แมโ่ พสพเสยี ใจมาก ใน เวลาดึกสงัด หากใครเดนิ ไปตามยงุ้ ฉางจะไดย้ ินเสียงแมโ่ พสพสะอน้ื ให้ เด็ก ๆ ก็เชน่ เดียวกนั หากรับประทานข้าวไม่หมด ปล่อยให้ตกหลน่ ทิง้ ขวา้ งแม่โพสพก็จะรอ้ งให้ เชน่ เดียวกนั นทิ ำนเร่อื ง แม่ไก่ (ไมท่ รำบนำมผแู้ ต่ง) มแี ม่ไก่อยูต่ วั หน่ึง อาศัยอย่ใู นบ้านหลงั หนงึ่ ทุก ๆ วัน แม่ไกต่ ัวนจี้ ะนอนฟักไขข่ องมันอยู่ในรังรอ คอยว่าจะมใี ครเม่ือไรลกู ไกต่ วั นอ้ ย ๆ จะออกจากไข่ อยู่มาวันหนึง่ ไข่ทแ่ี มไ่ ก่กาลังกกอยู่นนั้ ก็เริม่ แตกออกจา กนั และลกู ไก่ตัวน้อย ๆ กโ็ ผล่ออกมาจากไข่ แมไ่ ก่ดใี จมากมันกางปีกเขา้ โอบลูกไกไ่ วเ้ พื่อใหล้ กู ไก่อบอุ่น หลงั จากนั้น แมก่ ็จะพาลูกไก่ออกไปหาอาหาร แม่ไก่จะหาอาหารมาป้อนให้ลกู ไก่ทกุ ๆ วัน สอนให้ลกู ไก่หา อาหาร และการระวงั อนั ตรายจากสตั ว์ใหญ่กวา่ ซงึ่ จะมาทาอันตรายได้ กำรละเล่นมอญซ่อนผำ้ วธิ กี าร การละเลน่ แสนสนกุ ท่ีทาให้ผูเ้ ลน่ ไดล้ นุ้ ไปดว้ ย โดยใชอ้ ปุ กรณ์เพียงแค่ผ้าผนื เดยี วเท่านัน้ แล้ว ให้ผู้เล่นเสย่ี งทาย ใครแพ้คนน้ันต้องเปน็ \"มอญ\" สว่ นคนอ่นื ๆ มานงั่ ลอ้ มวง คนท่ีเปน็ \"มอญ\" จะต้องถือผา้ ไว้ ในมอื แลว้ เดินวนอยนู่ อกวง จากน้นั คนนง่ั ในวงจะรอ้ งเพลงว่า \"มอญซ่อนผ้ำ ต๊กุ ตำอยู่ข้ำงหลงั ไว้โน่นไว้นี่ ฉันจะตีก้นเธอ\" ระหว่างเพลงรอ้ งอยู่ คนทเี่ ปน็ \"มอญ\" จะแอบทง้ิ ผ้าไวข้ ้างหลงั ผเู้ ล่นคนใดคนหน่งึ แตเ่ มอื่ ทงิ้ ผา้ แล้ว จะแกล้งทาเป็นยังไมท่ ้ิง โดยเดนิ วนไปอีก 1 รอบ หากผู้ที่ถูกทิง้ ผา้ ไม่ร้ตู วั \"มอญ\" จะหยบิ ผา้ มาตีหลังผู้เล่นคน นนั้ แลว้ ตอ้ งกลายเป็น \"มอญ\" แทน แต่หากผู้เลน่ รตู้ ัววา่ มีผ้าอยู่ข้างหลัง กจ็ ะหยบิ ผ้ามาว่ิงไล่ตี \"มอญ\" รอบวง \"มอญ\" ต้องรบี กลบั มานงั่ แทนทผี่ ู้เล่นคนน้ัน แลว้ ผู้ทวี่ ่งิ ไลต่ อ้ งเปล่ยี นเป็น \"มอญ\" แทน

238 แผนกำรจดั ประสบกำรณท์ ่ี 61 ชน้ั อนุบำลปีท่ี 2 สำระที่ควรเรยี นรทู้ ่ี 1 เร่ืองรำวเกี่ยวกับตวั เดก็ หนว่ ย ประสาทสัมผัส เรอื่ ง ดวงตาของฉัน สัปดำห์ท่ี 13 ลำดับวนั ท่ี 61 ครผู สู้ อน คณุ ครโู ชติกา เสือพิณ โรงเรียน วดั ท่าบญุ มี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคญั ตาเป็นอวยั วะสาหรับใชใ้ นการดู การมองเห็นส่งิ ต่างๆ ถา้ เราไมร่ จู้ ดั ดูแลรักษาอาจจะทาใหต้ าของเรา มองไม่เหน็ หรอื บอดได้ ดังนัน้ เราควรปฏบิ ัติ ดแู ลดวงตาให้ถกู วิธี 2. จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ 2.1 เพอื่ ใหเ้ ด็กมีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกบั ตา และการดูแลรกั ษาสามารถนาไปใชใ้ นชวี ิตประจาวัน ได้ 2.2 เพอื่ ให้เด็กสามารถปฏิบัตติ ามสญั ญาณ และข้อตกลงได้ 2.3 เพ่ือใหเ้ ด็กสามารถใชค้ วามคิดสรา้ งสรรค์ ในการปฏิบัติกิจกรรม ที่กาหนดให้ได้ 2.4 เพื่อให้เดก็ สามารถแสดงความคดิ เหน็ และตอบคาถาม เกี่ยวกับเร่ืองทสี่ นทนาได้ 2.5 เพือ่ พัฒนากล้ามเนอ้ื ใหญ่และกล้ามเน้ือเล็ก 2.6 เพอ่ื ให้เดก็ สามารถเลน่ เกมท่กี าหนดใหไ้ ด้ 3. สำระกำรเรยี นรู้ 3.1 ควำมสำคญั ของดวงตำ 3.2 ประสบกำรณ์สำคัญ 3.2.1 การรจู้ ักสง่ิ ตา่ ง ๆ ด้วยการมอง ฟงั สมั ผสั ชิมรส และดมกลิ่น 3.2.2 การพดู กับผอู้ น่ื เกี่ยวกับประสบการณ์ของตนเอง หรือเลา่ เรื่องเก่ยี วกับตนเอง 3.2.3 การสร้างแบบจาลองตา่ ง ๆ ด้วยดนิ เหนยี ว ดินน้ามัน แท่งไม้ ฯลฯ 3.2.4 การแสดงความคิดสรา้ งสรรค์ผา่ นการเคลื่อนไหว 4. กจิ กรรมกำรเรียนรู้ 4.1 กจิ กรรมเคลอื่ นไหวและจัวหวะ (20 นำที) 4.1.1 กจิ กรรมพืน้ ฐาน ใหเ้ ดก็ เคลื่อนไหวรา่ งกายไปทวั่ บริเวณอย่างอสิ ระตามจังหวะ เม่ือ ไดย้ ินสัญญาณหยุดให้หยุดเคลือ่ นที่ในท่าน้ันทนั ที

239 4.1.2 เด็กและครรู ่วมกันแบ่งกลมุ่ เด็กเป็น 3 กลมุ่ ดังนี้ กลมุ่ ท่ี 1 ปดิ ตาด้วยผา้ หนา ๆ (ใหม้ องไมเ่ หน็ ) กลุม่ ท่ี 2 ปิดตาด้วยผา้ บาง ๆ (มองเห็นราง ๆ ) กลมุ่ ที่ 3 ไม่ปิดตา 4.1.3 ให้เดก็ เคลื่อนไหวอยา่ งอสิ ระ เม่ือได้ยนิ สัญญาณหยุด ใหเ้ ด็กจับกลุม่ ตามที่ไดแ้ บง่ ร่วมกนั ไว้ 4.1.4 เดก็ และครูตรวจสอบว่ากลมุ่ ใดจับกลุม่ ได้ถูกต้อง และบอกความรูส้ ึกของตนเองได้ ขณะจับกลุ่ม 4.1.5 ใหเ้ ด็กเปล่ยี นกลมุ่ กันและปฏิบัตกิ ิจกรรมในข้อ 4.1.3 ซา้ อีก 4.2 กิจกรรมสรำ้ งสรรค์และกจิ กรรมเสรี (60 นำท)ี 4.2.1 เด็กและครชู ว่ ยกันจดั โต๊ะเพือ้ ใชฝ้ กึ กจิ กรรมการปั้นดนิ นา้ มัน โดยครูอธิบายข้นั ตอน การทาให้เด็กดู เสรจ็ แล้วให้เด็กลงมือสรา้ งผลงานตามความคิด และจินตนาการของ ตนเอง อย่างอิสระ โดยครูคอยดแู ล และใหค้ าแนะนาอยู่ห่าง ๆ 4.2.2 เดก็ คนใดเม่อื ทาเสรจ็ แล้วนาผลงานมาให้ครูดู พร้อมกับเลา่ ใหค้ รูฟังด้วยวา่ ทาอะไร อย่างไร ครเู ขยี นช่ือเดก็ ความหมายของภาพ และวันเดือนปี ที่ทา แลว้ นาภาพขน้ึ แสดงให้เพ่ือน ๆ ดูจนครบทกุ คน 4.2.3 เด็กทปี่ ฎิบัตกิ จิ กรรมเสรจ็ แล้วหรือกาลังรอโตะ๊ กิจกรรมวา่ ง ครูให้เลน่ ตามมุมอยา่ ง อิสระเพ่อื ฝึกการรอโอกาส 4.2.4 เม่อื ปฏบิ ตั ิเรียบร้อยแลว้ ครแู นะนาใหเ้ ด็กช่วยกันทาความสะอาดบริเวณ และ จัดเก็บอปุ กรณ์ตา่ ง ๆ เขา้ ท่ีให้เรียบรอ้ ย 4.3 กจิ กรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำท)ี 4.3.1 เด็กและครูร่วมกนั ร้องเพลง ตา หู มือ โดยครูรอ้ งให้เด็กฟงั ก่อน แล้วจงึ ใหเ้ ดก็ ร้อง ตามจนสามารถร้องได้ พรอ้ มกับทาท่าทางประกอบเพลงด้วย 4.3.2 เดก็ และครูสนทนารว่ มกนั เก่ียวกับการมองเห็น โดยครใู หเ้ ด็กทุกคนเอามอื ปิดตา ตวั เองแลว้ ตอบคาถามของครูเชน่ - เดก็ ๆ มองเหน็ อะไร - ถ้าเด็ก ๆ อยากมองเห็นจะทาอย่างไร 4.3.3 เดก็ และครูร่วมกันหาเด็กอาสาสมคั ร 2 – 3 คน ออกมาด้านหน้า ครเู อาผา้ ปดิ ตา แล้วใหเ้ ด็กเดินไปรอบ ๆ และครูถามเด็กวา่ - เด็ก ๆ ร้สู กึ อยา่ งไรเมอื่ ต้องเดินไปโดยท่ีมองไม่เห็น - เดก็ ๆ รสู้ ึกอย่างไรถ้ามองไมเ่ ห็นอะไรเลย - เราควรรกั ษาดวงตาของเราให้ปลอดภัยได้อยา่ งไร

240 4.3.4 ครูใหเ้ ด็ก ๆ เล่นเกม “ของที่หายไป” เสรจ็ แลว้ สนทนา สรปุ รว่ มกนั เกีย่ วกับดแู ล รกั ษาดวงตาเพอ่ื ให้มองเหน็ และใช้การได้ยาวนาน 4.3.5 เดก็ และครสู นทนา สรุป และร่วมกนั กาหนดแนวทางเพื่อนไปใช้ปฎิบตั ิตนใน ชวี ติ ประจาวันตอ่ ไป 4.4 กจิ กรรมกลำงแจง้ (45 นำที) 4.4.1 เด็กจัดแถวตอนเรียงหนึ่ง เดินลงสนามอย่างเป็นระเบยี บ เมือ่ ถึงสนามแล้ว ครใู ห้ เด็กอบอ่นุ ร่างกายโดยการว่งิ เหยาะ ๆ อยู่กบั ที 2 – 3 นาที 4.4.2 เดก็ และครูสนทนาร่วมกนั เกย่ี วกบั การเลน่ เกมนา้ ขึน้ นา้ ลง ซง่ึ เคยเลน่ มาแล้ว เสร็จแล้วครูใหเ้ ด็กไดเ้ ลน่ อยา่ งอิสระ 4.4.3 เมื่อได้เวลาพอสมควรแลว้ ครูใหเ้ ดก็ ไปทาความสะอาดรา่ งกาย ล้างหน้า ล้างมือ ทาธรุ ะสว่ นตัว กลับเขา้ ห้องเรียน เพอื่ เตรยี มตวั ไปรบั ประทานอาหารกลางวัน 4.5 กจิ กรรมเกมศกึ ษำ (20 นำที) 4.5.1 เดก็ และครูสนทนารว่ มกันเกี่ยวกบั เกมโดมิโนเครื่องใชใ้ นบ้าน โดยครแู นะนาวิธีการ เลน่ เกมให้ฟงั 4.5.2 แบ่งเด็กเป็นกล่มุ ตามความเหมาะสม ให้แต่ละกลม่ เลน่ เกมชดุ ใหมท่ ีค่ รูแนะนา สลับ กับเกมทีเ่ คยเลน่ มาแล้ว หรือเครอื่ งเล่นสัมผสั 4.5.3 เมอ่ื เด็กเลิกเลน่ เกมแลว้ ครูแนะนาใหเ้ ด็กช่วยกันเกบ็ สง่ิ ของต่าง ๆ เขา้ ท่ีใหเ้ รียบร้อย 5. สื่อกำรเรยี น / แหล่งกำรเรียนรู้ 5.1 ดินน้ามนั และแผน่ รองปน้ั 5.2 เพลง หู ตา มือ 5.3 เกม ของทีห่ ายไป 5.4 เกมนา้ ข้นึ น้าลง 5.5 เกมโดมโิ นเคร่ืองใช้ในบ้าน 6. กำรวดั ผลและประเมนิ ผล 6.1 วิธีวดั ผลและประเมินผล 6.1.1 สงั เกตการปฏบิ ัติตามสญั ญาณ และข้อตกลง 6.1.2 สังเกตการตอบคาถาม และการแสดงความคิดเหน็ 6.1.3 ตรวจผลงานการปัน้ 6.2 เคร่ืองมือวัดผล 6.2.1 แบบประเมนิ ผลการจัดประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการปน้ั

241 6.3 เกณฑก์ ำรวดั ผลและประเมินผล ดี ระดบั 3 พอใช้ ระดับ 2 ปรับปรงุ ระดบั 1

242 แผนกำรจัดประสบกำรณ์ที่ 62 ช้ันอนุบำลปีท่ี 2 สำระท่คี วรเรียนรู้ท่ี 1 เรื่องรำวเกย่ี วกับตัวเดก็ หนว่ ย ประสาทสมั ผัส เรอ่ื ง จมูกบอกกล่ิน ลำดบั วันท่ี 62 สปั ดำหท์ ่ี 13 ครผู สู้ อน คณุ ครูโชตกิ า เสือพิณ โรงเรยี น วัดทา่ บญุ มี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคญั จมูกของเรามีไวส้ าหรับหายใจและดมกลิ่น เราต้องดูแล รักษาจมกู ใหป้ ลอดภยั สะอาด อยูเ่ สมอ จงึ จะทาให้เราสามารถดมกล่นิ ได้ ดงั นั้นเราควรปฏบิ ัติตอ่ จมูกใหถ้ ูกวธิ ี 2. จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ 2.1 เพ่อื ใหเ้ ด็กมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับประสาทสมั ผัส และการดูแลรักษาสามารถนาไปใชใ้ น ชีวติ ประจาวนั ได้ 2.2 เพอื่ ใหเ้ ด็กสามารถปฏบิ ัตติ ามสัญญาณ และข้อตกลงได้ 2.3 เพอื่ ให้เดก็ สามารถใชค้ วามคดิ สร้างสรรค์ ในการปฏบิ ตั ิกิจกรรม ที่กาหนดให้ได้ 2.4 เพอ่ื ให้เด็กสามารถแสดงความคดิ เหน็ และตอบคาถาม เก่ยี วกบั เรื่องทส่ี นทนาได้ 2.5 เพอ่ื พัฒนากลา้ มเนอ้ื ใหญ่และกลา้ มเน้ือเล็ก 2.6 เพอื่ ใหเ้ ดก็ สามารถเล่นเกมทกี่ าหนดให้ได้ 3. สำระกำรเรียนรู้ 3.1 กำรดมกลน่ิ 3.2 ประสบกำรณส์ ำคญั 3.2.1 การรูจ้ กั สิ่งต่าง ๆ ดว้ ยการมอง ฟงั สัมผัส ชมิ รส และดมกลิ่น 3.2.2 การแสดงความคิดสร้างสรรค์ผ่านการเคลื่อนไหว 3.2.3 การรบั รทู้ ่ไี วต่อความรู้สึก ความสนใจและความต้องการของผูอ้ ื่น 4. กิจกรรมกำรเรยี นรู้ 4.1 กจิ กรรมเคล่ือนไหวและจัวหวะ (20 นำที) 4.1.1 กิจกรรมพื้นฐาน ให้เด็กเคลอ่ื นไหวรา่ งกายไปทั่ว ๆ บริเวณอย่างอสิ ระ เม่ือไดย้ ิน สญั ญาณหยุดใหห้ ยดุ เคล่อื นไหวในทา่ น้นั ทันที 4.1.2 เด็กและครรู ว่ มกันท่องจาคาคล้องจอง “จมกู ของฉนั ” โดยครูทอ่ งให้เดก็ ฟงั ก่อน แลว้ จึงให้ฝึกทอ้ งตามจนสามารถทอ่ งได้ พรอ้ มทาท่าการบริหารประกอบด้วย 4.1.3 ครูใหเ้ ดก็ แบง่ เป็น 2 กล่มุ ให้แต่ละกลุม่ ปฏิบตั ิ ดังนี้ กลมุ่ ท่ี 1 ท่องคาคล้องจองจมูกของฉนั

243 กลมุ่ ท่ี 2 ทาท่ากายบริหารประกอบ 4.1.4 ให้เด็กเคล่ือนไหวรา่ งกายอย่างอิสระ เม่ือไดย้ ินสญั ญาณหยุด และปฏิบัติตาม ข้อตกลงทไ่ี ด้ทาร่วมกันไวา้ เสร็จแลว้ สลบั กลุม่ กันและปฏิบัติกิจกรรมในข้อ 4.1.3 ซ้าอกี 4.2 กจิ กรรมสร้ำงสรรคแ์ ละกจิ กรรมเสรี (60 นำท)ี 4.2.1 เด็กและครชู ่วยกันจัดโต๊ะเพื่อใช้ฝึกกจิ กรรมการวาดภาพด้วยสีเทยี น โดยครูอธิบาย วิธกี าร ขั้นตอนใหเ้ ด็กดู เสรจ็ แล้วใหเ้ ด็กลงมือปฏบิ ัตติ ามความคิด และจนิ ตนาการ ของตนเอง อย่างอสิ ระ โดยครูคอยดูแล และใหค้ าแนะนาอยหู่ ่าง ๆ 4.2.2 เด็กคนใดสรา้ งผลงานเสร็จ นาผลงานมาใหค้ รูดู พร้อมกับเลา่ ให้ครูฟงั วา่ ทาอะไร อย่างไร ครเู ขียนชื่อเด็ก ความหมายของภาพ และวัน เดอื น ปี ท่ีทาและนาภาพข้นึ แสดงใหเ้ พ่ือน ๆ ดจู นครบทกุ คน 4.2.3 เด็กทป่ี ฏบิ ตั กิ จิ กรรมเสรจ็ แล้วหรอื กาลังรอโต๊ะกจิ กรรมวา่ ง ครใู หเ้ ลน่ ตามมุมอยา่ ง อิสระเพอ่ื ฝกึ การรอโอกาส 4.2.4 เม่ือเด็กทุกคนปฏบิ ตั ิเรียบรอ้ ยแลว้ ครูแนะนาใหเ้ ด็กช่วยกันทาความสะอาดบริเวณ และจัดเก็บอุปกรณต์ ่าง ๆ 4.3 กิจกรรมเสริมประสบกำรณ์ (15 นำท)ี 4.3.1 เด็กและครรู ว่ มกันร้องเพลง สว่ นประกอบของรา่ งกาย โดยครูร้องให้เด็กฟังก่อนแลว้ จึงให้เด็กร้องตามอยา่ งถูกต้อ 4.3.2 เดก็ และครูสนทนารว่ มกันเก่ียวกับกล่ินต่าง ๆ โดยครูนาน้าหอม แอมโมเนยี และ กระเทยี ม มาให้เด็กดม 4.3.3 เดก็ และครรู ่วมกันหาเด็กอาสาสมคั ร 1 คน เอาผา้ ปิดตาแลว้ ให้ลองดมกลิ่นที่ครู เตรียมมาโดยไม่ใหเ้ พื่อน ๆ บอก แล้วให้เดก็ ที่ทดลองนั้นบอกวา่ เป็นกลน่ิ ของอะไร เสร็จแล้วเด็กและครูร่วมกันสรปุ ให้ได้ว่า จมกู ชว่ ยบอกให้เรารู้จักกลน่ิ ตา่ ง ๆ ได้ อย่างไร 4.3.4 เดก็ และครรู ว่ มกันทดลองการดมกลนิ่ โดยให้เดก็ ปิดจมูกและดมกลนิ่ เดก็ จะบอกไม่ ถกู วา่ เป็นกลิน่ อะไร 4.3.5 เดก็ และครรู ่วมกนั ร้องเพลง “สว่ นประกอบของร่างกาย” อีกครงั้ เป็นการทบทวน 4.4 กจิ กรรมกลำงแจ้ง (45 นำที) 4.4.1 ใหเ้ ด็กจัดแถวตอนเรียงหนงึ่ เดนิ ตามกันลงสนามอย่างเป็นระเบียบ เม่ือถงึ สนามแล้ว ใหเ้ ดก็ อบอนุ่ ร่างกายโดยการวิ่งเหยาะ ๆ รอบ ๆ บรเิ วณ 2 – 3 นาที) 4.4.2 แบง่ เด็กเป็นกลมุ่ ชาย หญงิ หรอื คละกัน ใหเ้ แขง่ ขนั กนั วิ่งเปี้ยว เหมือนที่เคยเลน่ มาแลว้

244 4.4.3 ครปู ลอ่ ยใหเ้ ด็กไดเ้ ล่นอย่างอิสระ 5 – 10 นาที เมื่อไดเ้ วลาพอสมควรจีงให้เดก็ ไปทา ความสะอาดรา่ งกาย ล้างหน้า ล้างมือ ทาธรุ ะส่วนตวั กลับเขา้ หอ้ งเรยี น เพื่อ เตรียมตัวไปรบั ประทานอาหารกลางวนั 4.5 กจิ กรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำท)ี 4.5.1 เดก็ และครสู นทนารว่ มกันเก่ยี วกับเกมเรียงลาดับขนาดผลไม้ ใหญ่ เลก็ โดยครู อธบิ ายวธิ กี ารเล่นใหเ้ ดก็ ฟงั 4.5.2 แบง่ เดก็ เปน็ กลุ่มตามความเหมาะสม ให้แต่ละกลุม่ เล่นเกมชุดใหม่ที่ครูแนะนา สลบั กบั เกมทเ่ี คยเลน่ มาแล้ว หรือเครอ่ื งเล่นสมั ผสั 4.5.3 เมอ่ื เด็กเลกิ เล่นแล้ว ครูแนะนาใหช้ ่วยกันทาความสะอาดบรเิ วณ และเก็บสิ่งของ ต่าง ๆ เขา้ ท่ใี ห้เรยี บร้อย 5. สอื่ กำรเรียน / แหล่งกำรเรยี นรู้ 5.1 สีเทยี น 5.2 คาคล้องจอง จมูกของฉนั 5.3 เพลงส่วนประกอบของร่างกาย 5.4 เกมโยงภาพจับคู่ประสาทสัมผสั 6. กำรวัดผลและประเมนิ ผล 6.1 วิธีวัดผลและประเมนิ ผล 6.1.1 สังเกตการปฎบิ ตั ติ ามสญั ญาณ และข้อตกลง 6.1.2 สงั เกตความกลา้ ในการแสดงออก และการตอบคาถาม 6.1.3 ตรวจผลงานการวาดภาพ 6.2 เครอ่ื งมอื วดั ผล 6.2.1 แบบประเมินผลการจัดประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการวาดภาพ 9.3 เกณฑ์กำรวัดผลและประเมินผล ระดับ 3 ดี ระดบั 2 พอใช้ ระดับ 1 ปรบั ปรงุ

แผนกำรจดั ประสบกำรณ์ท่ี 63 ชัน้ อนุบำลปีที่ 2 245 สำระท่ีควรเรยี นรู้ท่ี 1 เรอื่ งรำวเกีย่ วกับตัวเด็ก เร่ือง หูรับรู้เสียง ลำดบั วนั ท่ี 63 หน่วย ประสาทสมั ผสั สัปดำหท์ ี่ 13 ครูผู้สอน คุณครูโชติกา เสือพิณ โรงเรียน วัดทา่ บุญมี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคญั หู เปน็ อวัยวะสาหรับฟงั เสียง เป็นอวัยวะท่สี าคัญ เราต้องดูแลรักษาเป็นอยา่ งดี เพราะถา้ หากเราหู หนวก ไมส่ ามารฟังเสียงได้จะทาใหก้ ารดาเนินชวี ติ เปน็ ไปด้วยความยากลาบาก ดังน้ันเราควรปฏิบตั ติ อ่ หูใหถ้ ูก วธิ ี 2. จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ 2.1 เพ่อื ใหเ้ ดก็ มีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกับประสาทสมั ผัสและการดแู ลรักษาสามารถนาไปใช้ใน ชีวิตประจาวนั ได้ 2.2 เพื่อใหเ้ ด็กสามารถปฏบิ ตั ติ ามสญั ญาณ และข้อตกลงได้ 2.3 เพอ่ื ให้เด็กสามารถใชค้ วามคดิ สรา้ งสรรค์ ในการปฏบิ ัติกิจกรรม ท่ีกาหนดให้ได้ 2.4 เพอื่ ใหเ้ ดก็ สามารถแสดงความคดิ เห็น และตอบคาถาม เกยี่ วกับเร่ืองที่สนทนาได้ 2.5 เพ่อื พฒั นากลา้ มเน้อื ใหญ่และกล้ามเนื้อเลก็ 2.6 เพอื่ ให้เด็กสามารถเลน่ เกมทกี่ าหนดใหไ้ ด้ 3. สาระการเรยี นรู้ 3.1 กำรฟังเสียง 3.2 ประสบกำรณ์สำคญั 3.2.1 การรจู้ กั สง่ิ ตา่ ง ๆ ดว้ ยการมอง ฟงั สัมผสั ชิมรส และดมกลิน่ 3.2.2 การสารวจและอธิบายความเหมอื น ความตา่ งของสิ่งตา่ ง ๆ 3.2.3 การพดู กับผ้อู ่ืนเก่ียวกับประสบการณข์ องตนเอง หรือเล่าเร่ืองเก่ยี วกับตนเอง 4. กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ 4.1 กิจกรรมเคลือ่ นไหวและจังหวะ (20 นำที) 4.1.1 กจิ กรรมพื้นฐาน ใหเ้ ดก็ เคลอ่ื นไหวร่างกายไปทัว่ ๆ บริเวณอยา่ งอสิ ระ เมื่อได้ยิน สัญญาณหยดุ ให้หยุดเคลือ่ นไหวในทา่ นัน้ ทันที 4.1.2 เด็กและครูตกลงร่วมกันเก่ียวกับคาบรรยายท่ีจะใหป้ ฏิบตั ิกิจกรรม เช่น เด็กเดินทาง เขา้ ไปในป่า ไปพบเสือเดินอยูห่ ลายตัว เด็ก ๆ ตกใจมาก รอ้ งให้คนช่วย และว่งิ หนี

246 ไปพบชายคนหนึ่งกาลงั เดินอยขู่ ้างหน้า เด็ก ๆ บอกให้ชายคนนั้นชว่ ย ชายคนนั้นก็ ไม่ตอบ เพราะเขาหูหนวกไม่ได้ยนิ เสยี งท่ีเด็กพูด วงิ่ ตอ่ ไป จนเหนอื่ ย จงึ หนี ออกมาได้ 4.1.3 ให้เดก็ เคลื่อนไหวรา่ งกายอย่างอิสระ เม่ือไดย้ นิ สญั ญาณหยุดใหห้ ยุดฟังคาบรรยาย และปฏิบตั ติ าม 4.1.4 เด็กและครรู ่วมกันกาหนดคาบรรยายขึ้นมาใหม่และปฏิบตั ิกิจกรรมตามข้อ 4.1.3 ซ้าอีก 4.2 กิจกรรมสร้ำงสรรคแ์ ละกิจกรรมเสรี (60 นำท)ี 4.2.1 เดก็ และครชู ่วยกนั จัดโต๊ะเพือ่ ใชฝ้ ึกกจิ กรรมการวาดภาพด้วยสีนา้ เสรจ็ แลว้ ครู อธบิ ายขัน้ ตอน วิธกี ารปฏิบัตใิ ห้เด็กฟงั แล้วแจกใบงานให้เด็กคนละ 1 แผ่น สนทนาร่วมกันเก่ียวกบั รายละเอียดในใบงาน เสรจ็ แล้วให้เดก็ ลงมือปฏิบัตติ าม คาสง่ั ในใบงาน และตามความคิด และจนิ ตนาการของตนเอง อยา่ งอิสระ โดยครู คอยดแู ล และให้คาแนะนาอยู่ห่าง ๆ 4.2.2 เดก็ คนใดทาเสร็จแลว้ นาภาพผลงานมาให้ครดู ู พรอ้ มกับเล่าใหค้ รฟู ังว่าทาอะไร อย่างไร ครเู ขียนช่ือเด็ก ความหมายของภาพ และวัน เดือน ปี ท่ีทา แล้วนาภาพขึ้น แสดงใหเ้ พ่ือน ๆ ดู จนครบทุกคน 4.2.3 เมือ่ ปฏบิ ตั ิเรยี บร้อยแล้ว ครูแนะนาใหเ้ ด็กช่วยกันทาความสะอาดบรเิ วณ และ จัดเกบ็ อุปกรณต์ ่าง ๆ เขา้ ท่ีให้เรียบรอ้ ย 4.3 กจิ กรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำท)ี 4.3.1 เดก็ และครูรว่ มกันร้องเพลง “เสยี งอะไร” โดยครูร้องใหเ้ ด็กฟังก่อน เสรจ็ แล้วจึงให้ เด็กรอ้ งตาม จนสามารถรอ้ งไดค้ ล่อง 4.3.2 เด็กและครูร่วมกันหาเด็กอาสาสมคั รออกมาปดิ ตาทายเสยี ง เช่น เสียงเคาะเหล็ก เสยี งเคาะแกว้ เสยี งชอ้ นสอ้ ม ฯลฯ แลว้ สนทนาอภิปรายและแสดงความคิดเห็นวา่ เมือ่ ปิดตาแล้วทาไมจึงทายถูก 4.3.3 ครใู หเ้ ดก็ ลองเอามือปดิ หทู ุกคน แล้วฟังคาสัง่ ของครู ดูวา่ เด็กปฎบิ ตั ิกิจกรรมได้ ถกู ต้องหรอื ไม่ หรือฟังเสียงครเู คาะสง่ิ ของ แล้วถามว่าเป็นเสียงอะไร 4.3.4 เด็กและครูสนทนาแล้วสรปุ ร่วมกนั วา่ หูของเราเปน็ อวยั วะสาคัญสาหรับชว่ ยวฟัง เสยี ง และชว่ ยใหเ้ ราไดย้ ินเสียงต่าง ๆ เดก็ ๆ ตอ้ งร้จู ักระมัดระวังรักษาไม่ใชห้ ูของ เราเปน็ อันตรายได้ 4.3.5 เดก็ และครูรว่ มกันร้องเพลง “เสยี งอะไร”อกี ครัง้ เสร็จแลว้ ร่วมกนั กาหนดแนวทาง ในการนาไปปฏิบัติในชีวิตประจาวนั เก่ยี วกบั การรักษาหใู ห้ใชง้ านไดน้ านและ ปลอดภยั

247 4.4 กิจกรรมกลำงแจ้ง (45 นำที) 4.4.1 เดก็ จดั แถวตอนเรยี งสอง เดินลงสนามอยา่ งเป็นระเบยี บ เม่อื ถึงสนามแลว้ เปล่ยี นเป็นวง่ิ เหยาะ ๆ เป็นวงกลม 2 – 3 นาที เปน็ การอบอนุ่ ร่างกาย 4.4.2 เดก็ และครูสนทนารว่ มกันเกี่ยวกับการเล่นเกมลิงชิงหลกั ซ่ึงเดก็ เคยเลน่ มาแล้ว และปล่อยให้เด็กไดเ้ ล่นอยา่ งอิสระ โดยครคู อยดูแลอยา่ งใกลช้ ิด 4.4.3 เม่ือไดเ้ วลาพอสมควร ครูให้เด็กไปทาความสะอาดรา่ งกาย ลา้ งหน้า ล้างมือ ทา ธุระสว่ นตัว กลับเข้าห้องเรียน เพอ่ื เตรียมตัวไปรบั ประทานอาหรกลางวนั 4.5 กจิ กรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำท)ี 4.5.1 เดก็ และครสู นทนาร่วมกันเก่ียวกับเกมจัดหมวดหมภู่ าพกบั สัญลกั ษณ์อวยั วะตา่ ง ๆ โดยครูแนะนาวธิ ีการเล่นใหเ้ ด็กฟัง 4.5.2 แบ่งเด็กเปน็ กลมุ่ ตามความเหมาะสม ให้แต่ละกลุม่ เลน่ เกมชดุ ใหมท่ คี่ รแู นะนา สลบั กบั เกมทีเ่ คยเล่นมาแลว้ หรือเคร่ืองเลน่ สมั ผสั 4.5.3 เมือ่ เด็กเลกิ เล่นเกมแลว้ ครูแนะนาให้ช่วยกนั เกบ็ ข้าวของเขา้ ท่ใี หเ้ รยี บร้อย 5. ส่ือกำรเรียน / แหล่งกำรเรียนรู้ 5.1 สีนา้ พู่กัน 5.2 เพลงเสียงอะไร 5.3 เกมลิงชงิ หลัก 5.4 เกมจดั หมวดหมภู่ าพกับสัญลักษณ์อวัยวะตา่ ง ๆ 6. กำรวดั ผลและประเมินผล 6.1 วธิ วี ดั ผลและประเมนิ ผล 6.1.1 สังเกตการปฎิบตั ิตามสญั ญาณ และคาบรรยาย 6.1.2 สังเกตการแสดงความคิดเห็น และการตอบคาถาม 6.1.3 ตรวจผลงานการวาดภาพ 6.2 เครอื่ งมอื วดั ผล 6.2.1 แบบประเมินผลการจดั ประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการวาดภาพ 6.3 เกณฑ์กำรวดั ผลและประเมินผล ระดบั 3 ดี ระดับ 2 พอใช้ ระดบั 1 ปรบั ปรุง

แผนกำรจดั ประสบกำรณท์ ่ี 64 ช้ันอนุบำลปีที่ 2 248 สำระทีค่ วรเรยี นรู้ท่ี 1 เรอ่ื งรำวเก่ยี วกับตวั เด็ก เรื่อง ลิน้ ชมิ รส ลำดบั วันท่ี 64 หนว่ ย ประสาทสมั ผัส สปั ดำหท์ ่ี 13 ครผู ู้สอน คณุ ครูโชตกิ า เสือพิณ โรงเรยี น วดั ท่าบญุ มี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคัญ ลนิ้ เปน็ อวัยวะท่ีอยู่ภายในปาก ซง่ึ ปากที่ใช้ในการรบั ประทานอาหาร ลน้ิ ใช้ในการชมิ รสอาหาร นอกจากน้ันปากกับลนิ้ ยงั เปน็ อวัยวะท่ีในการพูด ถ้าหากปากและลิน้ ของเราไม่ได้รบั การดูแล เราอาจจะไม่ สามารถรบั ประทานอาหารได้อกี และพดู ได้ไมช่ ัดเจน ดงั นน้ั เราควรปฏบิ ตั ติ ่อปากและลิน้ ใหถ้ ูกวิธี 2. จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 2.1 เพอ่ื ใหเ้ ดก็ มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับประสาทสัมผัสและการดูแลรักษาสามารถนาไปใช้ใน ชีวติ ประจาวันได้ 2.2 เพอื่ ใหเ้ ด็กสามารถปฏบิ ตั ิตามสัญญาณ และข้อตกลงได้ 2.3 เพอื่ ใหเ้ ด็กสามารถใชค้ วามคดิ สรา้ งสรรค์ ในการปฏบิ ัติกจิ กรรม ท่ีกาหนดให้ได้ 2.4 เพือ่ ใหเ้ ด็กสามารถแสดงความคดิ เหน็ และตอบคาถาม เก่ยี วกบั เรอ่ื งทีส่ นทนาได้ 2.5 เพอื่ พัฒนากล้ามเนอ้ื ใหญ่และกลา้ มเนื้อเลก็ 2.6 เพื่อให้เด็กสามารถเลน่ เกมทกี่ าหนดให้ได้ 3. สำระกำรเรียนรู้ 3.1 กำรชมิ รส 3.2 ประสบกำรณส์ ำคญั 3.2.1 การรจู้ กั ส่ิงต่าง ๆ ดว้ ยการมอง ฟัง สัมผสั ชมิ รส และดมกลน่ิ 3.2.2 การสารวจและอธบิ ายความเหมือน ความต่างของส่งิ ต่าง ๆ 3.2.3 การรับรูแ้ ละแสดงความรสู้ กึ ด้วยการเคลื่อนไหวกบั จังหวะ 3.2.4 การเลยี บแบบการกระทาและเสยี งต่าง ๆ 4. กิจกรรมกำรเรยี นรู้ 4.1 กจิ กรรมเคลือ่ นไหวและจัวหวะ (20 นำท)ี 4.1.1 กิจกรรมพนื้ ฐาน ให้เด็กเคลอื่ นไหวรา่ งกายไปท่วั ๆ บริเวณอย่างอสิ ระ เมื่อไดย้ ิน สญั ญาณหยุดให้หยดุ เคล่ือนไหวในท่านน้ั ทนั ที

249 4.1.2 เด็กและครสู นทนาร่วมกันเกีย่ วกับการเป็นผ้นู า ผ้ตู าม โดยให้เด็ก ๆ แบง่ กลุ่มเป็น 2 กลมุ่ แต่ละกลมุ่ ยนื เขา้ แถวเป็นวงกลม และหนั หนา้ เข้ากลางวง 4.1.3 แต่ละกลมุ่ หาเด็กอาสาสมคั รออกมาเป็นผูน้ าในการเคลือ่ นไหว โดยใหเ้ พือ่ น ๆ ทา ตาม และเมื่อไดย้ ินสญั ญาณหยุด ใหเ้ ปลีย่ นผ้นู าออกมาปฏิบัติกจิ กรรมบ้าง โดย พยายามทาท่าทางไม่ใหซ้ า้ กับคนอื่น ๆ 4.1.4 ใหเ้ ดก็ เปลย่ี นคนอนื่ ออกมาเป็นผนู้ าบ้าง จนครบทุกคน หรือจนสมควรแกเ่ วลา 4.2 กจิ กรรมสรำ้ งสรรคแ์ ละกิจกรรมเสรี (60 นำท)ี 4.2.1 เด็กและครูชว่ ยกนั จดั โตะ๊ เพือ่ ใชฝ้ ึกกจิ กรรมการฉีก ปะ กระดาษ โดยครูอธิบาย ข้นั ตอนและวิธีการทาใหเ้ ดก็ ฟัง เสร็จแล้สใหเ้ ด็กลงมือปฏบิ ัตติ ามความคิด และ จินตนาการของตนเอง อย่างอิสระ โดยครคู อยดูแลอันตรายจากอปุ กรณข์ องมคี ม อย่างใกลช้ ิด 4.2.2 เดก็ คนใดท่ีทาเสร็จแลว้ นาผลงานมาใหค้ รูดู พร้อมกับเลา่ ให้ครูฟังว่าทาอะไร อย่างไร ครูเขยี นช่ือเด็ก ความหมายของภาพ และวัน เดือน ปี ทท่ี าและนาภาพขน้ึ แสดงใหเ้ พ่ือน ๆ จนครบทุกคน 4.2.3 เดก็ ที่ปฎบิ ตั กิ จิ กรรมเสรจ็ แล้วหรือกาลังรอโตะ๊ กจิ กรรมว่าง ครูให้เล่นตามมุมอยา่ ง อสิ ระเพือ่ ฝึกการรอโอกาส 4.2.4 เมื่อเด็กปฏิบัตเิ รยี บรอ้ ยทุกคนแล้ว ครแู นะนาให้เด็กชว่ ยกนั ทาความสะอาดบริเวณ ท่ีจดั เก็บอปุ กรณ์ตา่ ง ๆ เขา้ ท่ใี ห้เรียบร้อย 4.3 กิจกรรมเสริมประสบกำรณ์ (15 นำท)ี 4.3.1 เดก็ และครูร่วมกนั ร้องเพลงน่ีของฉัน โดยครรู ้องให้เดก็ ฟังก่อน แลว้ จึงให้รอ้ งตาม เสรจ็ แล้ว สนทนาร่วมกนั เก่ียวกับเน้ือหาของเพลง 4.3.2 เดก็ และครูสนทนารว่ มกันเกีย่ วกบั การรับประทานอาหารในแต่ละวัน ว่าเดก็ ๆ มี ความรู้สกึ อย่างไรเมอื่ อาหารเขา้ ถึงปาก โดยครูนาน้าหวาน น้าส้ม นา้ เกลือ ใส่ถว้ ย มาวางไว้แล้วใหเ้ ดก็ ออกมาช้มิ นา้ ต่าง ๆ ทคี่ รูนามาโดยเอาผ้าปิดตาเดก็ ท่ีจะชมิ นน้ั เสยี ก่อน แล้วใหบ้ อกว่ามรี สชาติอยา่ งไร 4.3.3 เมอื่ เด็กชิมครบทุกคนแล้ว ครใู ห้เดก็ ๆ ไปยืนรวมกลมุ่ รสชาติเดียวกัน และสนทนา รว่ มกันว่า เราสามารถทราบไดอ้ ยา่ งไรวา่ อาหารเหลา่ นนั้ มรี สชาติอยา่ งไร 4.3.4 เด็กและครสู นทนารว่ มกนั เกยี่ วกบั ความสาคัญของลิน้ และอธิบายให้เดก็ ทราบว่าถา้ เราไมม่ ลี ิ้นจะเป็นอย่างไร พร้อมทั้งอธิบายเพิ่มเติมอีกวา่ ลน้ิ ของเรานอกจากใชช้ ิม รสแลว้ ยังใช้สาหรับการพูดอีกด้วย เสร็จแล้วรว่ มกนั กาหนดขอ้ ควรปฎบิ ัตเิ ก่ยี วกับ การดูแลรกั ษาลนิ้ เพอื่ นาไปปฏิบตั ใิ นชวี ติ ประจาวัน

250 4.4 กิจกรรมกลำงแจ้ง (45 นำที) 4.4.1 เดก็ จดั แถวตอนเรียงสอง ให้ว่งิ เหยาะ ๆ ลงสนาม เม่ือถึงสนามแลว้ ให้เดก็ เดินไป 3 กา้ ว กระโดด 1 ครั้ง เสร็จแล้วครใู หเ้ ด็กอบอ่นุ รา่ งกายโดยการกระโดดอยูก่ ับที่ 2 – 3 นาที 4.4.2 เดก็ และครูสนทนารว่ มกนั เก่ยี วกับการเล่นเกมแขง่ สวมถงุ เท้า โดยครอู ธิบาย ทบทวน วิธกี ารเล่นให้เด็กฟัง แล้วใหเ้ ลน่ แข่งกนั จนไดผ้ ูช้ นะ 4.4.3 ครปู ล่อยใหเ้ ด็กเลน่ โดยอสิ ระ 5 – 10 นาที ก่อนทจี่ ะให้เด็กไปทาความสะอาด รา่ งกาย ลา้ งหน้า ล้างมือ ทาธุระส่วนตัว กลบั เขา้ หอ้ งเรียน เพอื่ เตรยี มตวั ไป รบั ประทานอาหารกลางวัน 4.5 กจิ กรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำที) 4.5.1 เดก็ และครสู นทนาร่วมกันเกย่ี วกบั เกมจบั ค่ภู าพสิ่งทส่ี ัมพันธ์กนั โดยครูแนะนา วธิ ีการเลน่ เกมให้เด็กฟัง 4.5.2 แบง่ กลุ่มเด็กตามความเหมาะสม ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มเลน่ เกมชดุ ใหม่ท่ีครูแนะนา สลบั กับ เกมทีเ่ คยเลน่ มาแลว้ หรอื เครอื่ งเลน่ สัมผสั 4.5.3 เมอื่ เด็กเลกิ เลน่ เกมแล้ว ครูแนะนาให้ชว่ ยทาความสะอาดบรเิ วณและจัดเก็บสิง่ ของ ตา่ ง ๆ เขา้ ทีใ่ ห้เรยี บร้อย 5. สือ่ กำรเรยี น / แหล่งกำรเรยี นรู้ 5.1 กาว กรรไกร กระดาษ 5.2 เพลงนข่ี องฉัน 5.3 เกมภาพตัดต่อการใชป้ ระสาทสมั ผสั 6. กำรวดั ผลและประเมนิ ผล 6.1 วธิ วี ดั ผลและประเมนิ ผล 6.1.1 สงั เกตการปฎิบัตติ ามสญั ญาณและการเป็นผนู้ า ผู้ตาม 6.1.2 สงั เกตการพดู แสดงความคดิ เหน็ และการตอบคาถาม 6.1.3 ตรวจผลงานการตัด ฉกี ปะ กระดาษ 6.2 เครอื่ งมือวัดผล 6.2.1 แบบประเมนิ ผลการจดั ประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการตดั ฉกี ปะ กระดาษ 6.3 เกณฑ์กำรวดั ผลและประเมินผล ระดบั 3 ดี ระดบั 2 พอใช้ ระดับ 1 ปรบั ปรุง

251 แผนกำรจัดประสบกำรณ์ที่ 65 ชั้นอนบุ ำลปีที่ 2 สำระท่คี วรเรียนร้ทู ี่ 1 เรอ่ื งรำวเกี่ยวกับตัวเด็ก หน่วย ประสาทสัมผสั เรอื่ ง ผิวหนังรับความรู้สกึ สัปดำห์ท่ี 13 ลำดับวนั ที่ 65 ครผู ู้สอน คณุ ครโู ชติกา เสอื พิณ โรงเรยี น วดั ท่าบญุ มี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคัญ ผิวหนังและมือ เปน็ ประสาทสัมผัสท่รี บั รู้ความรู้สึกต่าง ความร้อน เยน็ หนาว พ้ืนผวิ ของสิง่ ต่าง ๆ เช่น ขรขุ ระ เรยี บ เปน็ ตน้ ดังนั้นเราควรดูแลผวิ หนงั ใหถ้ ูกวิธี 2. จุดประสงค์กำรเรยี นรู้ 2.1 เพื่อให้เดก็ มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกับประสาทสัมผัส และการดูแลรักษาสามารถนาไปใชใ้ น ชวี ติ ประจาวนั ได้ 2.2 เพอ่ื ให้เด็กสามารถปฏบิ ตั ิตามสัญญาณ และข้อตกลงได้ 2.3 เพอ่ื ใหเ้ ดก็ สามารถใช้ความคิดสร้างสรรค์ ในการปฏบิ ัติกจิ กรรม ท่ีกาหนดให้ได้ 2.4 เพื่อให้เดก็ สามารถแสดงความคิดเห็น และตอบคาถาม เกย่ี วกบั เรื่องที่สนทนาได้ 2.5 เพือ่ พัฒนากล้ามเนือ้ ใหญ่และกลา้ มเนื้อเลก็ 2.6 เพื่อใหเ้ ดก็ สามารถเลน่ เกมทก่ี าหนดให้ได้ 3. สำระกำรเรียนรู้ 3.1 กำรสัมผสั 3.2 ประสบกำรณส์ ำคญั 3.2.1 การรู้จักสิง่ ต่าง ๆ ด้วยการมอง ฟัง สมั ผัส ชมิ รส และดมกล่ิน 3.2.2 การอธบิ ายเก่ยี วกับส่ิงของ เหตกุ ารณ์ และความสมั พันธข์ องสิ่งตา่ ง ๆ 3.2.3 การพูดกบั ผอู้ ืน่ เกี่ยวกับประสบการณข์ องตนเอง หรือเล่าเรื่องเกีย่ วกับตนเอง 3.2.4 การแสดงความรสู้ ึกดว้ ยคาพูด 4. กจิ กรรมกำรเรียนรู้ 4.1 กจิ กรรมเคล่อื นไหวและจังหวะ (20 นำที) 4.1.1 กิจกรรมขั้นพื้นฐาน ใหเ้ ด็กเคลอ่ื นไหวร่างกายไปทว่ั ๆ บรเิ วณอย่างอิสระตาม จังหวะเมอ่ื ได้ยนิ สญั ญาณหยุดใหห้ ยดุ เคล่อื นไหวในท่าน้นั ทันที 4.1.2 เด็กและครสู นทนารว่ มกนั เก่ียวกบั คาบรรยายท่จี ะให้ปฏบิ ตั ิกิจกรรม ดงั นี้ เดก็ ๆ เดนิ ไปท่งุ นาในหน้าหนาว อากาศเย็นมากจนรสู้ ึกหนา้ ชา เม่อื มาถึงท้องนา เด็ก ๆ

252 เดนิ เขา้ ไปผงิ ไฟท่ีพอ่ กอ่ เอาไว้ รู้สึกอบอ่นุ และยนื่ มอื เขา้ ไปใกล้ ๆ จนรู้สกึ รอ้ น จึง เอามือออก 4.1.3 ใหเ้ ดก็ เคล่ือนไหวร่างกายอย่างอิสระ เมื่อได้ยินสัญญาณหยุด ให้หยดุ และปฏบิ ตั ิตาม คาบรรยาย 4.1.4 เดก็ และครรู ่วมกนั กาหนดคาบรรยายข้ึนใหม่และปฎิบตั ิกจิ กรรมในข้อ 4.1.3 ซ้าอีก 4.2 กิจกรรมสร้ำงสรรค์และกิจกรรมเสรี (60 นำท)ี 4.2.1 เดก็ และครชู ว่ ยกนั จัดโต๊ะเพ่ือฝึกกิจกรรมการพับสี โดยครอู ธบิ ายขน้ั ตอนการปฏบิ ัติ ใหเ้ ด็กดู ดงั น้ี - พบั กระดาษเข้าหากนั แลว้ กางกระดาษออก หยดสตี รงรอยพับหลาย ๆ สี - พับกระดาษตามรอยพับเดิม แล้วใช้น้ิวมือกรีดรอบพบั ด้านนอก - กางกระดาษออกจะปรากฎรูปทม่ี สี ีสันตา่ ง ๆ แลว้ นามาผ่ึงลมใหแ้ หง่ 4.2.2 ครใู ห้เดก็ ลงมอื ปฏิบัติกจิ กรรมตามความคดิ และจนิ ตนาการของตนเอง อย่างอสิ ระ โดยครคู อยดูแลอยูห่ า่ ง ๆ 4.2.3 เดก็ คนใดท่ที าเสรจ็ แลว้ นาผลงานมาให้ครูดู พร้อมกับเล่าให้ครฟู งั ว่าทาอะไร อย่างไร ครเู ขยี นช่อื เด็ก วนั เดอื น ปี ท่ีทาตดิ ไวท้ ่ผี ลงานของเด็กด้วย และ แนะนาใหเ้ ก็บไวใ้ นกลอ่ งสะสมผลงานของตนเอง 4.2.4 เดก็ คนใดท่ปี ฎิบัติเสรจ็ แลว้ หรอื กาลังรอโตะ๊ ว่างให้เล่นตามมุมอยา่ งอสิ ระรอเพ่ือน 4.2.5 เมอื่ เด็กปฏบิ ตั ิเรยี บร้อยทุกคนแล้ว ครูแนะนาให้เด็กชว่ ยกนั ทาความสะอาดบริเวณ และจดั เก็บอปุ กรณ์ตา่ ง ๆ เข้าท่ีให้เรียบร้อย 4.3 กจิ กรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำที) 4.3.1 เดก็ และครู สนทนาร่วมกันเกี่ยวกับผิวหนัง และร่างกายของเราว่าสามารถรบั รูส้ ่งิ ตา่ ง ๆ ไดด้ ว้ ย โดยการสัมผสั เชน่ ร้อน หนาว เยน็ หยาบ ขรุขระ โดยครใู หเ้ ด็ก ๆ ออกไปเก็บส่งิ ของอะไรก็ได้มาคนละ 1 ชิน้ 4.3.2 เด็กและครสู นทนาร่วมกันเก่ยี วกบั สี่งของท่เี ด็กเกบ็ มาได้ โดยครูถามเด็กวา่ สงิ่ ของ นน้ั มีลกั ษณะอย่างไร (หยาบ เรียบ ขรขุ ระ) 4.3.3 ครนู าฟองนา้ กระดาษทราย เปลือกไม้ มาให้เด็กลองสมั ผัสดู และถามเด็ก ๆ วา่ มี ความรสู้ กึ อย่างไร (นมุ่ หยาบ ขรุขระ) 4.3.4 ครนู ากลอ่ งกระดาษทภ่ี ายในบรรจสุ ่งิ ของทีมผี วิ ต่าง ๆ กนั ไว้ เช่น แขง็ น่ิม หยาบ ฯลฯ แลว้ รว่ มกันหาเดก็ อาสาสมัครออกมาลว้ งดูส่งิ ของขา้ งในวา่ มลี ักษณะอยา่ งไร และบอกไดห้ รือไม่วา่ เปน็ อะไร 4.3.5 เดก็ และครูสนทนาร่วมกนั เก่ยี วกับการสัมผสั พื้นผวิ ว่าสามารถบอกได้วา่ ส่ิงท่สี ัมผัส นนั้ เป็นอะไร ถงึ แม้จะมองไม่เหน็ แล้วร่วมกนั ร้องเพลง “มือของฉัน” โดยครูรอ้ ง

253 ใหเ้ ดก็ ฟังก่อนแล้วจึงใหร้ อ้ งตาม พร้อมกบั ทาท่าทางประกอบ จนสามารถร้องได้ อยา่ งถูกต้อง 4.4 กจิ กรรมกลำงแจง้ (45 นำที) 4.4.1 เด็กจดั แถวตอนเรยี งสอง เดนิ ตามกนั ลงสนาม เม่ือถึงสนามแลว้ ครูใหเ้ ด็กอบอ่นุ รา่ งกายโดยการวิง่ เหยาะ ๆ รอบ ๆ บรเิ วณ 2 – 3 นาที 4.4.2 เดก็ และครูสนทนารว่ มกนั เกย่ี วกบั การเลน่ เคร่ืองเลน่ สนามทผี่ า่ นๆ มาวา่ ใครได้รับ อนั ตรายจากการเลน่ บ้าง มากน้อยเพียงใด แลว้ ใหเ้ ด็กเล่นอยา่ งอสิ ระดว้ ยความ ระมัดระวงั เพ่ือป้องกันอบุ ตั ิเหตุหรอื อันตรายทจ่ี ะเกดิ ขึ้น 4.4.3 เมื่อได้เวลาพอสมควร จึงให้เด็กไปทาความสะอาดรา่ งกาย ล้างหน้า ล้างมือ ทา ธรุ ะส่วนตวั กลบั เข้าหอ้ งเรียน เพอ่ื เตรยี มตัวรบั ประทานอาหารกลางวัน 4.5 กิจกรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำที) 4.5.1 เด็กและครูสนทนารว่ มกันเกี่ยวกบั เกมจับคู่แบบอนุกรม โดยครแู นะนาวธิ ีการเล่นให้ เด็กฟัง 4.5.2 แบง่ กลุ่มเด็กตามความเหมาะสมให้เล่นเกมชุดใหม่ทค่ี รแู นะนา สลบั กับเกมทเ่ี คยเล่น มาแล้ว หรอื เครอื่ งเลน่ สมั ผสั 4.5.3 เมือ่ เด็กเลิกเล่นแล้ว ครูแนะนาให้ชว่ ยกันเกบ็ สงิ่ ของต่าง ๆ เขา้ ท่ีให้เรียบร้อย 5. สอ่ื กำรเรยี น / แหล่งกำรเรยี นรู้ 5.1 สีน้า 5.2 เพลงมือของฉัน 5.3 เกมจบั คู่แบบอนุกรม 6. กำรวัดผลและประเมนิ ผล 6.1 วธิ ีวดั ผลและประเมินผล 6.1.1 สังเกตการปฏบิ ัติตามสญั ญาณ และคาบรรยาย 6.1.2 สังเกตความกลา้ ในการแสดงออก การตอบคาถาม 6.1.3 ตรวจผลงานการพับสี 6.2 เครือ่ งมอื วดั ผล 6.2.1 แบบประเมินผลการจดั ประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการพับสี 6.3 เกณฑ์กำรวดั ผลและประเมนิ ผล ระดบั 3 ดี ระดบั 2 พอใช้ ระดับ 1 ปรบั ปรงุ

254 ภำคผนวก เพลง ตำ หู มือ มี 2 ตา มี 2 ตา (ไม่ทรำบนำมผแู้ ต่ง) เอาไวด้ ู ดี ดี มี 2 หู มี 2 หู ตำของฉันนนั้ มี 2 ตา เอาไว้ฟงั ดี ดี ตาของฉันนัน้ มี 2 ตา มี 2 มือ มี 2 มือ หูของฉนั นน้ั มี 2 หู เอาไวถ้ ือ ดี ดี หูของฉนั นน้ั มี 2 หู มือของฉันน้นั มี 2 มือ มอื ของฉนั น้นั มี 2 มอื (เปลยี่ นเป็นอวยั วะอนื่ ๆ ได้ตามความเหมาะสม) เพลงส่วนประกอบของร่ำงกำย หูเรามไี ว้ฟงั (สเุ ทพ โชคสกุล) เอาไวจ้ บั ถือทางานทั่วไป ไปไหน ๆ ดว้ ยขาของเรา ตาเรามีไว้ดู มอื เรามสี องมือ ส่วนขาพาเราเดนิ ได้ เพลงมือขอฉัน น่ีมือซา้ ย น่มี ือขวา (ศรีนวล รัตนสุวรรณ) กอ้ ย นาง กลาง ชี้ และหวั แม่มอื มอื ของฉนั นน้ั มีสองมือ มอื ของฉนั มีท้งั หา้ เพลงนข่ี องฉนั (ล้วน ควนั ธรรม) นี่มอื ของฉัน นี่ผมของฉนั น่ีหวั ของฉนั นจ่ี มกู ของฉนั น่ีตาของฉนั นีห่ ขู องฉัน นแ่ี ขนของฉนั และนีข่ าของฉนั

255 เพลงเสียง……อะไร (ประชำ พงศส์ ุพัฒน)์ เดนิ ไป ฟงั ไป เสียงอะไรตอ่ อะไร เสียงเลก็ เสยี งใหญ่ แวบ่ ไป แวบ่ มา เดินไป ฟังไป เสยี งอะไรหนักหนา ใครกร็ บู้ อกมา ทายมาได้เลย ฟงั นะ (ซา้ 4 เทยี่ ว) (เสียงโทรศัพท์ / นกร้อง / เสียงรถไฟ / หวั เราะ / เสยี งนาฬิกา / หมาเห่า ฯลฯ ) หมายเหตุ จากเทปเพลง ชุด ก.ไก่ ร็อกเก้ คำคลอ้ งจอง จมกู ของฉัน จมกู น้มี สี าหรับหายใจ (นรำธิป จันทรเนตร) หอมเหม็นรู้ไดด้ ้วยจมูกฉันเอง จมูกฉันเป็นสนั โด่งดี นอกจากนี่ยังดมกล่ินได้

256 เรื่อง ใบงำน จุดประสงค์ ประสาทสมั ผัส 1. เพื่อพฒั นาความคิดสร้างสรรค์ คำสั่ง 2. เพ่อื ให้เด็กสรา้ งผลงานได้อย่างอสิ ระ ให้เด็กวาดภาพอวัยวะหู ตา จมกู ปาก ผวิ กาย ตามความคดิ ดและจนิ ตนาการของตนเอง แล้วระบายสีให้สวยงาม ผปู้ ระเมนิ ครู ผู้ประเมนิ ผู้ปกครอง เกณฑ์กำรประเมิน เกณฑก์ ำรประเมนิ ดี ดี พอใช้ พอใช้ ปรบั ปรุง ปรับปรงุ ผปู้ ระเมิน ตนเอง ผ้ปู ระเมิน เพื่อน เกณฑ์กำรประเมนิ เกณฑ์กำรประเมิน ดี ดี พอใช้ พอใช้ ปรับปรงุ ปรับปรงุ

257 แผนกำรจดั ประสบกำรณท์ ี่ 66 ชั้นอนุบำลปีที่ 2 สำระทค่ี วรเรยี นร้ทู ี่ 2 เร่ืองรำวเกยี่ วกับบุคคลและสถำนทแี วดล้อมตวั เดก็ หนว่ ย บา้ นของฉนั เรอื่ ง ความสาคัญของบ้าน สปั ดำห์ที่ 14 ลำดบั วนั ที่ 66 ครูผสู้ อน คุณครูโชติกา เสือพิณ โรงเรียน วดั ท่าบญุ มี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคญั บ้านเปน็ สถานท่ีอยูอ่ าศยั ของคนหลายคนจงึ รวมกันเปน็ บ้าน มกี ารปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตา่ ง ๆ รว่ มกัน บา้ นจงึ เปน็ สถานที่สาคญั สาหรบั คนทุกคนในบ้าน 2. จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ 2.1 เพ่อื ใหเ้ ด็กมีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ความหมายและความสาคัญของบ้าน 2.2 เพอื่ ใหเ้ ด็กสามารถปฏบิ ตั ติ ามสญั ญาณ และคาส่ังได้ 2.3 เพ่อื ใหเ้ ด็กสามารถสรา้ งผลงานไดอ้ ยา่ งสร้างสรรค์และเสรี 2.4 เพื่อให้เดก็ สามารถแสดงความคดิ เหน็ และตอบคาถามเก่ยี วกับเรือ่ งทีส่ นทนาได้ 2.5 เพอ่ื พฒั นากล้ามเน้ือใหญ่ กล้ามเนอื้ เล็ก และการปรับตวั ในการเลน่ ร่วมกบั เพอื่ น 2.6 เพือ่ ให้เด็กสามารถนาภาพที่เหมือนกนั มาจดั เข้าคกู่ ันได้ 3. สำระกำรเรยี นรู้ 3.1 ควำมสำคัญของบำ้ น 3.2 ประสบกำรณ์สำคญั 3.2.1 การสรา้ งแบบจาลองต่าง ๆ ด้วยดนิ เหนียว ดินนา้ มัน แท่งไม้ ฯลฯ 3.2.2 การอธิบายเก่ยี วกับส่งิ ของ เหตุการณ์ และความสมั พันธข์ องส่งิ ต่าง ๆ 3.2.3 การเช่อื มโยงภาพ ภาพถ่ายและรูปแบบต่าง ๆ กบั ส่ิงของหรือสถานท่ีจรงิ 3.2.4 การสารวจและอธิบายความเหมอื น ความตา่ งของสิ่งตา่ ง ๆ 4. กิจกรรมกำรเรียนรู้ 4.1 กิจกรรมเคลือ่ นไหวและจังหวะ (20 นำที) 4.1.1 กิจกรรมพื้นฐาน ใหเ้ ดก็ เคลอ่ื นไหวรา่ งกายไปท่วั ๆ บริเวณอย่างอสิ ระ เม่ือได้ยิน สญั ญาณ หยุดให้หยดุ เคล่ือนไหวในทา่ นั้นทันที 4.1.2 เดก็ และครูร่วมกาหนดมุมในห้องเรยี นเปน็ 3 มมุ คือ มุมบ้านสวน มมุ บ้านบา้ น ตึก มุมบา้ นไม้

258 4.1.3 ครใู ห้เด็กเคลือนไหวร่างกายอย่างอสิ ระ เม่ือได้ยนิ สัญญาณหยุดให้ปฏบิ ตั ติ ามคาส่ัง เชน่ - ครูบอกมตี น้ ไม้ ให้ไปทีม่ มุ บา้ นสวน - ครูบอกว่าบ้านปูน ใหไ้ ปที่บ้านมมุ ตึก - ครูบอกวา่ บา้ นทาด้วยไม้ ให้ไปที่มมุ บา้ นตึก 4.1.4 เดก็ และครรู ว่ มกนั กาหนดคาสัง่ ขึน้ ใหม่และปฏิบัติกิจกรรมในขอ้ 4.1.3 ซา้ อกี 4.2 กจิ กรรมสร้ำงสรรค์และกิจกรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เด็กและครรู ว่ มกนั จัดโต๊ะเพื่อปฏบิ ตั ิกจิ กรรมการป้ันดนิ นา้ มัน เสร็จแลว้ ครแู จกดิน น้ามนั และแผ่นรองปนั้ ให้เด็กคนละ 1 ชดุ อธิบายขัน้ ตอนวธิ กี ารปฏิบตั ใิ หเ้ ดก็ ดู แลว้ ใหล้ งมอื สร้างผลงานตามความคดิ และจนิ ตนาการของตนเอง อย่างอสิ ระ 4.2.2 เด็กคนใดปฏบิ ตั ิกิจกรรมเสรจ็ แล้วให้นาผลงานมาใหค้ รูดูพร้อมกับบอกชอื่ ผลงานวิธ การทาให้ครูทราบครูแนะนาใหเ้ ด็ก ๆ เก็บผลงานของตนเองไวใ้ นกล่องสะสมผลงาน ของเด็กเองโดยครูเขยี นช่ือเด็ก ชื่อผลงาน วนั เดือนปีทที่ าใหเ้ ด็กดว้ ย 4.2.3 เม่ือทุกคนปฏบิ ัติกิจกรรมครบแล้ว ครแู นะนาให้ช่วยกันทาความสะอาดพ้นื ที่ และ เกบ็ วสั ดอุ ปุ กรณต์ า่ ง ๆ เข้าทใ่ี หเ้ รยี บรอ้ ย 4.3 กิจกรรมเสริมประสบกำรณ์ (15 นำที) 4.3.1 เดก็ และครูสนทนารว่ มกนั เก่ียวกบั ความหมายและความสาคัญของบ้าน โดยครนู า ภาพบา้ นแบบต่าง ๆ มาให้เด็ก ๆ ดู เช่น ภาพบา้ นไทย ภาพบา้ นตึก ภาพ บ้านเรือนแพ มาให้เด็กดปู ระกอบ 4.3.2 ครใู หเ้ ด็กวาดภาพท่เี ด็กสนใจหรือภาพบ้านของตนเองตามความคิดและจนิ ตนาการ ของเด็ก พร้อมกับระบายสีให้สวยงาม 4.3.3 เด็กและครูสนทนารว่ มกนั เกีย่ วกับภาพบา้ นท่เี ด็ก ๆ วาด โดยครูถามเด็กแต่ละคนว่า ส่ิงท่ีเด็กวาดน้นั คืออะไร ถา้ เปน็ บา้ นจะเป็นบา้ นในลักษณะใด 4.3.4 เด็กและครูสนทนารว่ มกนั เก่ียวกับภาพบ้านโดยถามเดก็ วา่ บ้านแบบใดที่คิดว่า แข็งแรงทีส่ ดุ และเพราะเหตุใด 4.3.5 เดก็ และครรู ว่ มกันร้องเพลง “บ้านอย่ไู หน” โดยครูร้องใหเ้ ดก็ ฟังก่อน แล้วจงึ ให้ฝึก ร้องตาม จนสามารถรอ้ งได้พร้อมกับทาทา่ ทางประกอบ 4.4 กจิ กรรมกลำงแจ้ง (45 นำท)ี 4.4.1 เดก็ จดั แถวตอนเรยี งหนึง่ ทาท่านกบินลงสสู่ นาม เมอ่ื ถงึ สนามแล้วให้เดก็ อบอุ่น รา่ งกายโดยการวงิ่ เหยาะ ๆ รอบ ๆ บริเวณ 2 – 3 นาที 4.4.2 เดก็ และครูสนทนารว่ มกนั เก่ียวกับลักษณะของนก เสียงร้องและการบิน แล้วให้ เดก็ ทาท่านกบนิ เคลื่อนที่ไปตามอิสระโดยอาจวง่ิ กระโดดก็ได้

259 4.4.3 เด็กและครูร่วมกันร้องเพลง “นกน้อย” โดยครูร้องให้เด็กฟังกอ่ น แล้วจึงให้ร้องตาม พรอ้ มทาทา่ ทางประกอบดว้ ย 4.4.4 ใหเ้ ดก็ เลน่ เกมนกบนิ หรือเคร่ืองเลน่ สนามอยา่ งอิสระ จนได้เวลาพอสมควรจงึ ให้ไป ทาความสะอาดร่างกาย ล้างหน้า ทาธรุ ะส่วนตัว กลับเขา้ หอ้ งเรยี น เพ่ือเตรยี มตวั ไปรบั ประทานอาหารกลางวนั 4.5 กจิ กรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำที) 4.5.1 เดก็ และครสู นทนาร่วมกนั เก่ียวกบั เกมจบั คูภ่ าพบา้ นท่ีเหมือนกนั โดยครูแนะนา วิธีการเลน่ ให้เดก็ ฟงั 4.5.2 แบ่งเดก็ เปน็ กลุ่มตามความเหมาะสม ใหแ้ ต่ละกลมุ่ เลน่ เกมชดุ ใหม่ท่คี รแู นะนา กรื อเกมทีเ่ คยเลน่ มาแล้ว 4.5.3 เม่ือเลกิ เลน่ เกมแลว้ ครแู นะนาให้เด็ก ๆ ช่วยกันเก็บสิ่งของตา่ ง ๆ เขา้ ท่ีให้เรยี บร้อย 5. สือ่ กำรเรยี น / แหล่งกำรเรียนรู้ 5.1 ดนิ นา้ มัน และแผน่ รองปนั้ 5.2 เพลงบ้านอยู่ไหน 5.3 เพลงนกน้อย 5.4 เกมจบั คภู่ าพบา้ นทีเหมือนกนั 6. กำรวัดผลและประเมินผล 6.1 วิธีวดั ผลและประเมินผล 6.1.1 สังเกตการปฏิบตั ิตามสญั ญาณ และคาสัง่ 6.1.2 สงั เกตการตอบคาถามและการแสดงความคิดเหน็ 6.1.3 ตรวจผลงานการปน้ั 6.2 เครอื่ งมอื วดั ผล 6.2.1 แบบประเมนิ ผลการจัดประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการป้ัน 6.3 เกณฑ์กำรวดั ผลและประเมินผล ระดบั 3 ดี ระดบั 2 พอใช้ ระดบั 1 ปรบั ปรุง

260 แผนกำรจดั ประสบกำรณ์ท่ี 67 ช้นั อนุบำลปีที่ 2 สำระที่ควรเรียนรู้ท่ี 2 เรื่องรำวเกย่ี วกับบคุ คลและสถำนทีแวดลอ้ มตัวเดก็ หน่วย บ้านของฉัน เรื่อง สมาชกิ ในบา้ น สัปดำหท์ ่ี 14 ลำดบั วันท่ี 67 ครูผสู้ อน คุณครโู ชติกา เสือพิณ โรงเรยี น วัดท่าบุญมี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคญั บ้านจะประกอบด้วยสมาชิกหลายคน เช่น พอ่ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ลูก หลาน บางบ้านก็มีสมาชิก จานวนมาก เปน็ บ้านใหญ่ บางบ้านก็มสี มาชิกนอ้ ย เป็นบ้านขนาดเลก็ 2. จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 2.1 เพือ่ ใหเ้ ดก็ มีความรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกบั ความหมายและความสาคญั ของบา้ น 2.2 เพอื่ ใหเ้ ด็กสามารถปฏบิ ัตติ ามสัญญาณ และคาส่งั ได้ 2.3 เพอ่ื ใหเ้ ด็กสามารถสรา้ งผลงานไดอ้ ยา่ งสรา้ งสรรคแ์ ละเสรี 2.4 เพื่อให้เด็กสามารถแสดงความคิดเห็น และตอบคาถามเกี่ยวกบั เร่ืองทีส่ นทนาได้ 2.5 เพือ่ พัฒนากล้ามเน้อื ใหญ่ กล้ามเน้อื เล็ก และการปรับตัวในการเล่นร่วมกบั เพอ่ื น 2.6 เพื่อให้เดก็ สามารถนาภาพท่ีเหมือนกนั มาจดั เข้าค่กู นั ได้ 3. สำระกำรเรียนรู้ 3.1 สมำชกิ ในบ้ำน 3.2 ประสบกำรณ์สำคัญ 3.2.1 การเขยี นภาพและระบายสีอิสระ 3.2.2 การเชอื่ มโยงภาพ ภาพถา่ ยและรปู แบบต่าง ๆ กับส่งิ ของหรอื สถานทจี่ ริง 3.2.3 การอธบิ ายเก่ียวกับสงิ่ ของ เหตุการณ์ และความสัมพนั ธข์ องส่งิ ต่าง ๆ 4. กจิ กรรมกำรเรยี นรู้ 4.1 กจิ กรรมเคล่อื นไหวและจังหวะ (20 นำท)ี 4.1.1 กิจกรรมพนื้ ฐาน ใหเ้ ดก็ เคลอ่ื นไหวร่างกายไปทว่ั ๆ บริเวณอยา่ งอิสระตามจังหวะ เมือ่ ได้ยินสญั ญาณ หยดุ ใหห้ ยุดเคลือ่ นไหวในทา่ นน้ั ทนั ที 4.1.2 แบ่งเด็กเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 4 – 5 คน เขา้ แถวเป็นวงกลม หนั หน้าเขา้ กลางวง แต่ ละกลุ่มเลือกเด็กอาสาสมัครออกมาเป็นผู้นาในการเคล่อื นไหว ใหเ้ พ่อื น ๆ ทาตาม 4.1.3 ครูใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ หมุนเวียนผนู้ าออกมาปฏิบัติฝึกการเป็นผนู้ า และความกล้าในการ แสดงออก

261 4.1.4 ใหเ้ ดก็ ปฏบิ ัตกิ จิ กรรมนีจ้ นครบทุกคน หรือจนสมควรแก่เวลา 4.2 กิจกรรมสร้ำงสรรคแ์ ละกิจกรรมเสรี (60 นำท)ี 4.2.1 เดก็ และครรู ว่ มกนั จดั โต๊ะเพ่ือใช้ฝึกกิจกรรมการวาดภาพดว้ ยสเี ทยี น เสร็จแลว้ ครู อธิบายขนั้ ตอน วิธีการทาให้เด็กดู และแจกใบงานใหเ้ ด็กคนละ 1 แผ่น สนทนา ร่วมกันเกยี่ วกบั รายละเอยี ดในใบงาน เสร็จแลว้ ให้เด็กลงมือปฏิบตั กิ ิจกรรมตาม คาสง่ั ในใบงาน และเลือกปฏิบตั ิกิจกรรมตามความคิด และจินตนาการของตนเอง อย่างอิสระ 4.2.2 เดก็ คนใดปฏิบตั กิ จิ กรรมเสร็จแลว้ ใหน้ าผลงานมาให้ครดู ูพร้อมกับบอกชือ่ ผลงาน วธิ ีการทาให้ครทู ราบ 4.2.3 ครแู นะนาให้เดก็ ๆ เก็บผลงานของตนเองไวใ้ นกล่องสะสมผลงาน ของเด็กเอง โดย ครูเขียนชอื่ เด็ก ช่อื ผลงาน วันเดอื นปีที่ทาใหเ้ ด็กด้วย 4.2.4 เม่ือทุกคนปฏบิ ัติกิจกรรมครบแลว้ ครแู นะนาใหช้ ่วยกันทาความสะอาดพน้ื ท่ี และ เกบ็ วัสดุอปุ กรณต์ า่ งๆ เข้าที่ให้เรยี บรอ้ ย 4.3 กิจกรรมเสรมิ ประสบกำรณ์(15 นำที) 4.3.1 เด็กและครรู ว่ มกันร้องเพลง “บ้านของฉัน” โดยครรู ้องให้เด็กฟงั กอ่ น แลว้ จงึ ใหฝ้ กึ ร้องตาม พรอ้ มทาท่าทางประกอบ เสรจ็ แล้วสนทนาร่วมกันเก่ียวกับเนอื้ หาของบท เพลง โดยครูอาจจะตัง้ คาถามให้เด็กตอบใหไ้ ด้ 4.3.2 เดก็ และครูร่วมกันหาอาสาสมัครออกมาเลา่ ความสมั พันธ์ของคนในบ้านวา่ มีใครบ้าง และมีก่ีคน เสรจ็ แลว้ ให้เดก็ ๆ วาดภาพคนในบา้ นตามความคิดและจนิ ตนาการของ เดก็ ๆ เองและระบายสใี ห้สวยงาม 4.3.3 เดก็ และครสู นทนาร่วมกันเกี่ยวกบั ภาพวาดของเดก็ ๆ วา่ ทีเ่ ด็กวาดนน้ั มใี ครบ้าง และแต่ละคนมหี นา้ ที่อะไรในบา้ น 4.3.4 เด็กและครรู ว่ มกันร้องเพลง “บ้านของฉัน” และสนทนา สรปุ เก่ยี วกับสมาชิกในบา้ น อีกครั้ง 4.4 กจิ กรรมกลำงแจง้ (45 นำที) 4.4.1 เด็กจัดแถวตอนเรียงหน่งึ เดนิ ปรบมือเป็นจัวหวะลงสนาม เมอื่ ถึงสนามแลว้ ให้ กระโดดอยู่กับท่ี 2 – 3 นาที เป็นการอบอุ่นร่างกาย 4.4.2 เดก็ และครูสนทนารว่ มกันเกีย่ วกบั การเล่นเครื่องเลน่ สนามท่ีปลอดภยั โดยครู แนะนาให้เด็กใช้ความระมัดระวังในการเลน่ 4.4.3 ครใู หเ้ ด็กเลน่ ได้อย่างอสิ ระ โดยคอยดูแลความปลอดภยั อยู่ห่าง ๆ 4.4.4 เมอ่ื ไดเ้ วลาพอสมควร ครูทาใหเ้ ด็กไปทาความสะอาดรา่ งกาย ล้างมือ ทาธรุ ะ ส่วนตวั กลับเขา้ หอ้ งเรยี น เพ่ือเตรยี มตวั รับประทานอาหารกลางวนั

262 4.5 กิจกรรมเกมกำรศกึ ษำ (20 นำที) 4.5.1 เด็กและครสู นทนาร่วมกันเกี่ยวกบั เกมภาพตัดต่อบา้ นเรอื นแพ โดยครูแนะนา วิธีการเล่นใหเ้ ดก็ ฟังแบ่งเด็กเปน็ กลมุ่ ตามความเหมาะสม 4.5.2 ให้แต่ละกลุ่มเล่นเกมชดุ ใหม่ที่ครูแนะนา สลบั กบั เกมทเ่ี คยเลน่ มาแล้ว หรือเครื่อง เลน่ สมั ผัส 4.5.3 เม่อื เลกิ เล่นเกมแลว้ ครูแนะนาใหเ้ ด็ก ๆ ช่วยกันเกบ็ ส่งิ ของตา่ ง ๆ เข้าท่ีให้เรียนรอ้ ย 5. ส่อื กำรเรยี น / แหล่งกำรเรยี นรู้ 5.1 สีเทียน 5.2 เพลง บ้านของฉัน 5.3 เกมภาพตัดต่อบ้านเรือนแพ 6. กำรวัดผลและประเมนิ ผล 6.1 วิธวี ัดผลและประเมินผล 6.1.1 สังเกตการปฏบิ ัตติ ามสัญญาณและการเป็นผู้นา ผู้ตาม 6.1.2 สงั เกตการตอบคาถาม และการแสดงความคิดเหน็ 6.1.3 ตรวจผลงานการวาดภาพ 6.2 เครื่องมอื วัดผล 6.2.1 แบบประเมินผลการจัดประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการวาดภาพ 6.3 เกณฑก์ ำรวดั ผลและประเมนิ ผล ระดับ 3 ดี ระดับ 2 พอใช้ ระดบั 1 ปรับปรงุ

263 แผนกำรจัดประสบกำรณ์ที่ 68 ชั้นอนุบำลปีท่ี 2 สำระท่ีควรเรียนรทู้ ่ี 2 เร่ืองรำวเกยี่ วกับบคุ คลและสถำนทแี วดลอ้ มตัวเดก็ หนว่ ย บา้ นของฉนั เรื่อง ตกแตง่ บา้ น สปั ดำหท์ ่ี 14 ลำดบั วันท่ี 68 ครผู สู้ อน คุณครูโชติกา เสอื พิณ โรงเรียน วดั ทา่ บญุ มี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคัญ บา้ นเปน็ สถานที่พกั อาศยั ของคนทกุ คนเปน็ ที่นอน ท่ีพักผ่อน ท่ที ากิจกรรมต่างๆ การตกแตง่ บา้ นให้ สวยงามและรักษาความสะอาดอย่เู สมอจะชว่ ยให้บา้ นมีน่าอยมู่ ากขึ้น 2. จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ 2.1 เพื่อใหเ้ ด็กมีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั ความหมายและความสาคัญของบา้ น 2.2 เพ่ือให้เด็กสามารถปฏบิ ตั ิตามสญั ญาณ และคาสัง่ ได้ 2.3 เพือ่ ใหเ้ ด็กสามารถสร้างผลงานได้อย่างสรา้ งสรรค์และเสรี 2.4 เพ่ือใหเ้ ด็กสามารถแสดงความคดิ เห็น และตอบคาถามเก่ียวกบั เรอ่ื งที่สนทนาได้ 2.5 เพื่อพฒั นากลา้ มเนอื้ ใหญ่ กล้ามเนื้อเล็ก และการปรับตัวในการเลน่ รว่ มกับเพ่อื น 2.6 เพื่อใหเ้ ด็กสามารถนาภาพท่เี หมือนกันมาจัดเข้าค่กู ันได้ 3. สำระกำรเรียนรู้ 3.1 กำรจัดตกแตง่ บำ้ น 3.2 ประสบกำรสำคัญ 3.2.1 การอธบิ ายเกยี่ วกับส่งิ ของ เหตุการณ์ และความสัมพันธข์ องส่งิ ตา่ ง ๆ 3.2.2 การเชอื่ มโยงภาพ ภาพถา่ ยและรปู แบบตา่ ง ๆ กับสง่ิ ของหรอื สถานทจ่ี ริง 3.2.3 การสนุกกับการเขียนในหลายรปู แบบผ่านประสบการณ์ทสี่ ่ือความหมายต่อเดก็ ตาม ธรรมชาติ เขียนภาพ เขยี นขีดเขีย่ เขยี นเหมือน สัญลักษณ์ 4. กิจกรรมกำรเรียนรู้ 4.1 กจิ กรรมเคลื่อนไหวและจัวหวะ (20 นำที) 4.1.1 กิจกรรมพื้นฐาน ให้เดก็ เคลอ่ื นไหวร่างกายไปทั่ว ๆ บริเวณอยา่ งอสิ ระ เม่ือได้ยิน สญั ญาณหยดุ ใหห้ ยุดเคลื่อนไหวในท่านนั้ ทนั ที 4.1.2 เด็กและครสู นทนาร่วมกนั เกยี่ วกับรปู โดยครูแจกกระดาษ รูป ใหเ้ ด็ก ๆ คนละแผน่ 4.1.3 ใหเ้ ดก็ เคลื่อนไหวร่างกายไปทั่วบริเวณพรอ้ มกระดาษที่ครแู จกให้ เมื่อได้ยนิ สญั ญาณ หยดุ ให้เดก็ ร่วมกลุ่มกันตามรูปที่ตนเองถอื อยู่

264 4.1.4 ให้เด็กเปลี่ยนรูปกนั แล้วปฏบิ ัติกจิ กรรมในข้อ 4.1.3 นี้ซา้ อีก 4.2 กจิ กรรมสร้ำงสรรค์และกิจกรรมเสรี (60 นำท)ี 4.2.1 เดก็ และครรู ่วมกันจัดโต๊ะเพื่อปฏบิ ตั ิการวาดภาพดว้ ยสีน้า เสร็จแลว้ ครอู ธบิ าย ขนั้ ตอนการปฏิบตั ิให้เด็กดู และแจกใบงานให้เด็กคนละ 1 แผน่ สนทนารว่ มกัน เกย่ี วกับรายละเอยี ดในใบงาน เสร็จแลว้ ให้เด็กลงมอื ปฏิบัติกจิ กรรมตามคาสัง่ ในใบ งาน และใหเ้ ลอื กปฏิบตั กิ จิ กรรมตามควาาคดิ และจนิ ตนาการของตนเองโดยอสิ ระ ตามความสนใจของเดก็ โดยครูคอยดูแลอยู่หา่ ง ๆ 4.2.2 เดก็ คนใดปฏบิ ตั ิกจิ กรรมเสรจ็ แลว้ ให้นาผลงานมาให้ครดู ูแลพรอ้ มกบั บอกช่อื ผลงานวิธีการทาให้ครทู ราบและแนะนาให้เด็ก ๆ เกบ็ ผลงานของตนเองไว้ในกล่อง สะสมผลงานของเด็กเองโดยครูเขยี นชอ่ื เดก็ ชอ่ื ผลงาน วันเดือนปที ีท่ าใหเ้ ดก็ ดว้ ย 4.2.3 เม่ือทุกคนปฏบิ ัติตามกิจกรรมครบแลว้ ครูแนะนาให้ช่วยกันทาความสะอาดพน้ื ที่ และเกบ็ วสั ดอุ ุปกรณ์ตา่ ง ๆ เขา้ ท่ีให้เรยี บร้อย 4.3 กิจกรรมเสริมประสบกำรณ์ (15 นำท)ี 4.3.1 เดก็ และครสู นทนาร่วมกันเกยี่ วกับบ้านทีน่ ่าอยู่วา่ ตอ้ งรู้จกั ตกแต่งท้ังภายในและ บรเิ วณบ้าน โดยครนู าภาพบ้านทตี่ ้งั อยู่โดดเดย่ี ว ไม่มีการตกแตง่ บา้ นและบริเวณ บา้ น กบั ภาพบ้านทีม่ กี ารจัดตกแต่งอย่างเหมาะสม มีไมด้ อกไม้ประดบั มีท่ีนงั่ เลน่ มาใหเ้ ดก็ ดูเพื่อเปรยี บเทียบความแตกตา่ ง 4.3.2 เดก็ และครู สนทนาแสดงความคิดเห็นรว่ มกนั ว่าบา้ นหลงั ใดน่าอยูม่ ากกว่ากนั 4.3.3 เด็กและครรู ว่ มกนั หาอาสาสมัครออกมาเลน่ เกยี่ วกบั บ้านของตนเองวา่ มีการตกแตง่ บริเวณบ้านอย่างไรบา้ ง 4.3.4 เดก็ และครูสนทนา สรปุ รว่ มกันเก่ยี วกับการตกแต่บา้ นว่าไม่ควรจะใช้เงนิ ทอง มากมายแตค่ วรทาแบบประหยดั เรียบงา่ ย ดเู หมาะกบั สภาพท้องถน่ิ และ สถานะภาพของตนเอง เปน็ การฝกึ ให้เดก็ รูจ้ ักการประหยัดด้วย 4.4 กจิ กรรมกลำงแจง้ (45 นำที) 4.4.1 ให้เด็กวงิ่ เหยาะ ๆ ตามกันลงสนาม เมือถึงสนามแลว้ เดก็ และครูสนทนาร่วมกนั เก่ยี วกับมา้ รปู ร่าง ลักษณะ เสยี งร้องและท่าทางการวิ่ง โดยครแู สดงทา่ ทางให้ดู เปน็ ตัวอยา่ ง เสรจ็ แล้วร่วมกันร้องเพลง “มา้ วง่ิ ” โดยครูร้องเพลงใหเ้ ด็กฟงั กอ่ น แลว้ จงึ ใหร้ ้องตาม และทาท่าประกอบเพลง 4.4.2 เดก็ และครรู ่วมกนั ลองทาทา่ ม้าวง่ิ พร้อมกับร้องเพลงประกอบ 4.4.3 ใหเ้ ดก็ ทาท่าม้าว่งิ อาจจะวิง่ เปน็ กลุ่มหรอื วิง่ พรอ้ มกนั พรอ้ มกบั รอ้ งเพลง ม้าวิ่ง ประกอบไปด้วยความสนุกสนาน

265 4.4.4 ครปู ล่อยใหเ้ ด็กได้เลน่ อยา่ งเสรี 5 – 10 นาที ก่อนท่ีจะให้เด็กไปทาความสะอาด ร่างกาย ล้างหน้า ล้างมือ ทาธุระส่วนตัว กลบั เขา้ หอ้ งเรยี นเพอ่ื เตรยี มตวั ไป รับประทานอาหารกลางวัน 4.5 กิจกรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำที) 4.5.1 เดก็ และครูสนทนารว่ มกันเก่ยี วกบั เกมจับคู่ภาพทส่ี มบรู ณ์กับภาพท่แี ยกสว่ นโดยครู แนะนาวิธกี ารเลน่ เกมให้เด็กฟัง 4.5.2 แบง่ เด็กเปน็ กลุ่มตามความเหมาะสม ใหแ้ ตล่ ะกลุ่มแลน่ เกมชุดใหม่ เกมท่ีเคยเล่น มาแลว้ หรือเครือ่ งเล่นสมั ผัส 4.5.3 เมอ่ื เด็กเล่นเสร็แลว้ ครูแนะนาให้ช่วยกนั จดั เก็บส่ิงของต่าง ๆ เขา้ ให้เรยี บรอ้ ย 5. ส่อื กำรเรยี นรู้ / แหล่งกำรเรียนรู้ 5.1 สีนา้ 5.2 เพลงม้าวงิ่ 5.3 เกมจับคู่ภาพทีส่ มบูรณ์กบั ภาพที่แยกสว่ น 6. กำรวดั ผลและประเมินผล 6.1 วิธีวดั ผลและประเมนิ ผล 6.1.1 สงั เกตการปฏิบตั ิตามสัญญาณ และคาส่ัง 6.1.2 สังเกตการตอบคาถาม และการแสดงความคิดเหน็ 6.1.3 ตรวจผลงานการวาดภาพ 6.2 เครือ่ งมือวัดผล 6.2.1 แบบประเมนิ ผลการจดั ประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการวาดภาพ 6.3 เกณฑก์ ำรวดั ผลและประเมนิ ผล ระดับ 3 ดี ระดับ 2 พอใช้ ระดบั 1 ปรับปรุง

266 แผนกำรจัดประสบกำรณท์ ่ี 69 ช้ันอนุบำลปีท่ี 2 สำระทีค่ วรเรียนรู้ท่ี 2 เรือ่ งรำวเก่ยี วกับบคุ คลและสถำนทีแวดลอ้ มตัวเด็ก หน่วย บา้ นของฉนั เรอื่ ง ห้องต่าง ๆ ในบ้าน สปั ดำหท์ ี่ 14 ลำดับวนั ที่ 69 ครูผูส้ อน คุณครโู ชติกา เสือพิณ โรงเรยี น วัดท่าบุญมี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคัญ บา้ นของเรามหี ้องตา่ ง ๆ มากมาย เชน่ ห้องครัว หอ้ งนอน ห้องน่งั เลน่ หอ้ งนา้ หอ้ งส้วม แต่ละ หอ้ งมีความสาคญั ทแ่ี ตกต่างกันไป เราต้องรจู้ ักรกั ษาความสะอาดของห้องต่าง ๆ ภายในบ้านด้วย จึงจะทาให้ บ้านน่าอยู่ 2. จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ 2.1 เพ่อื ใหเ้ ด็กมีความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกบั ความหมายและความสาคัญของบ้าน 2.2 เพือ่ ให้เด็กสามารถปฏิบัตติ ามสัญญาณ และคาส่ังได้ 2.3 เพื่อให้เด็กสามารถสรา้ งผลงานได้อย่างสรา้ งสรรคแ์ ละเสรี 2.4 เพ่ือใหเ้ ดก็ สามารถแสดงความคิดเหน็ และตอบคาถามเก่ียวกบั เรอื่ งท่สี นทนาได้ 2.5 เพือ่ พัฒนากลา้ มเนอื้ ใหญ่ กล้ามเนือ้ เล็ก และการปรบั ตวั ในการเล่นร่วมกบั เพ่อื น 2.6 เพื่อให้เด็กสามารถนาภาพท่เี หมือนกันมาจัดเข้าค่กู ันได้ 3. สำระกำรเรียนรู้ 3.1 หอ้ งตำ่ ง ๆ ในบำ้ น 3.2 ประสบกำรณ์สำคญั 3.2.1 การอธิบายเก่ยี วกบั สง่ิ ของ เหตกุ ารณ์ และความสัมพนั ธข์ องส่ิงต่าง ๆ 3.2.2 การเชือ่ มโยงภาพ ภาพถ่ายและรปู แบบต่าง ๆ กับสง่ิ ของหรือสถานทจ่ี รงิ 3.2.3 การจับคู่ การจาแนก และการจัดกลุ่ม 3.2.4 การสารวจและอธบิ ายความเหมอื น ความตา่ งของสิง่ ตา่ ง ๆ 4. กิจกรรมกำรเรยี นรู้ 4.1 กิจกรรมเคลื่อนไหวและจวั หวะ (20 นำที) 4.1.1 กจิ กรรมพ้นื ฐาน ให้เดก็ เคลือ่ นไหวร่าวกายไปทว่ั ๆ บรเิ วณอยา่ งอสิ ระ เมื่อไดย้ ิน สัญญาณ หยดุ ให้หยุดเคล่ือนไหวในท่านนั้ ทนั ที 4.1.2 เด็กและครูสนทนาตกลงร่วมกันเก่ยี วกับคาบรรยายท่จี ะใหป้ ฏบิ ตั กิ จิ กรรม เช่น เด็ก ๆ เหน็ คุณแม่กาลังทาอาหารในครัว เลยเดินเขา้ ไปช่วยคณุ แมห่ ั่นผัก เมือ่ ทาอาหาร

267 เสรจ็ แล้วคณุ แมบ่ อกให้ไปแปรงฟนั ลา้ งหปาก แล้วเตรยี มตัวเข้านอน อากาศหนาว มากต้องห่มผ้าจึงรู้สกึ ไม่หนาว 4.1.3 ใหเ้ ดก็ เคลื่นไหวรา่ งกายอย่างอิสระ เมื่อได้ยนิ สญั ญาณหยดุ ใหห้ ยดุ และปฏบิ ัติตาม คาบรรยายของครู 4.1.4 เดก็ และครรู ่วมกนั กาหนดคาบรรยายข้นึ ใหม่ แลว้ ใหเ้ ดก็ ปฏิบตั กิ จิ กรรในข้อ 4.1.3 ซา้ อกี 4.2 กจิ กรรมสร้ำงสรรค์และกิจกรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เด็กและครรู ่วมกันจัดโต๊ะเพื่อปฏบิ ตั ิกิจกรรมการเปา่ สี เสรจ็ แลว้ ครูอธบิ ายข้ันตอน การทาใหเ้ ด็กดู เสรจ็ แล้วใหเ้ ด็กลงมือปฏบิ ตั ิกิจกรรมตามความคิดสรา้ งสรรคข์ อง ตนเองอย่างอิสระ โดยครูคอยดูแลอยู่หา่ ง ๆ 4.2.2 เด็กคนใดปฏบิ ตั ิกิจกรรมเสรจ็ แลว้ ใหน้ าผลงานมาให้ครดู ูพร้อมกบั บอกชือ่ ผลงาน วธิ ีการทาให้ครูทราบ ครแู นะนาให้เดก็ ๆ เกบ็ ผลงานของตนเองไว้ในกล่องสะสม ผลงานของเด็กเองโดยครูเขียนชอ่ื เดก็ ช่ือผลงาน วนั เดอื นปีท่ที าใหเ้ ด็กด้วย 4.2.3 เด็กคนใดทีป่ ฏิบตั ิกจิ กรรมเสร็จแล้ว ให้เลน่ ตามมมุ อิสระรอเพอ่ื น 4.2.4 เม่ือเด็กทกุ คนปฏิบตั ิกิจกรรมครบแลว้ ครแู นะนาให้ชว่ ยกันทาความสะอาดพน้ื ท่ี และเกบ็ วัสดอุ ุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าทใ่ี ห้เรียบร้อย 4.3 กิจกรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำที) 4.3.1 เด็กและครสู นทนารว่ มกนั เกี่ยวกับหอ้ งตา่ ง ๆภายในบ้าน โดยครใู ห้เดก็ ดู ภาพประกอบ เช่น หอ้ งนอน ห้องน้า หอ้ งครวั ห้องน่ังเลน่ ห้องรบั แขก 4.3.2 ครูตั้งคาถามให้เด็กตอบเกยี่ วกับภาพหอ้ งต่าง ๆ ให้ครูช้ที ลี ะภาพและใหเ้ ด็กช่วยกนั ตอนว่าภาพที่ครูชน้ี ั้นได้คือห้องอะไร 4.3.3 เด็กและครสู นทนาร่วมกนั เกยี่ วกับประโยชน์ของห้องต่าง ๆ ว่ามปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร บา้ ง และเด็กใช้หอ้ งตา่ ง ๆ เหลา่ น้นั ไดถ้ กู ต้องหรือไม่ 4.3.4 เด็กและครสู นทนาสรุปรว่ มกันเกีย่ วกบั การใชห้ อ้ งตา่ ง ๆ ใหถ้ ูกต้อง เช่น ไม่ควรนา อาหารไปรบั ประทานท่ีห้องนอน หรอื ไม่ควรไปว่งิ เลน่ ในห้องครวั หรือห้องน้า เพราะอาจจะทาใหเ้ กดิ อนั ตรายได้ 4.3.5 เดก็ และครรู ่วมกนั กาหนดแนวทางเพื่อนาไปปฏบิ ัติใหถ้ กู ต้องในชวี ิตประจาวัน 4.4 กิจกรรมกลำงแจง้ (45 นำท)ี 4.4.1 เด็กจัดแถวตอนเรยี งสองเดินปรบมอื เป็นจวั หวะ เดนิ ตามกนั ลงสนาม เมื่อถึงสนาม แลว้ ใหเ้ ด็กอบอนุ่ รา่ งกายโดยการวง่ิ เหยาะ ๆ อยู่กับท่ี 2 – 3 นาที 4.4.2 เดก็ และครสู นทนาร่วมกันเก่ียวกบั เกมนา้ ข้นึ น้าลง โดยครอู ธบิ ายวธิ ีการเลน่ ตาม ขั้นตอน ดงั น้ี

268 - แบ่งเด็กเปน็ กลุ่ม ๆ ละ 10 คน เล่นทีละกล่มุ โดยใหเ้ ดก็ ยืนเป็นวงกลม ครู อยู่ตรงกลางวง - ครสู ง่ั วา่ นา้ ขน้ึ ทกุ คนวิ่งเข้าหาครู - ครูส่ังว่า น้าลง ทกุ คนวงิ่ หนีออกจากครู - ครูสงั่ ว่า นา้ นิ่ง ทกุ คนอย่กู บั ที่ และน่งั ลงอย่างรวดเรว็ ใครทาชา้ จะถกู ตดั ออกจนเหลือผู้ชนะ 1 คน 4.4.3 ครูปล่อยใหเ้ ด็กได้เล่นอย่างอิสระ 5 – 10 นาที ก่อนท่ีจะให้เด็กไปทาความสะอาด รา่ งกาย ลา้ งมือ ลา้ งหน้า ทาธรุ ะสว่ นตัว กลบั เขา้ หอ้ งเรียน เพื่อเตรยี มตัวไป รับประทานอาหารกลางวนั 4.5 กจิ กรรมเกมกำรศกึ ษำ (20 นำท)ี 4.5.1 เด็กและครสู นทนารว่ มกันเก่ียวกบั เกมจัดหมวดหมู่ภาพซ้อนของใช้ในบ้าน โดยครู แนะนาวธิ กี ารเล่นเกมให้เด็กฟัง 4.5.2 แบง่ เดก็ เปน็ กล่มุ ใหแ้ ต่ละกลุ่มแล่นเกมชดุ ใหม่ที่ครูแนะนา และเกมทเ่ี คยเลน่ มาแล้ว 4.5.3 เมอ่ื เด็กเลกิ เล่นแล้ว ครแู นะนาให้ชว่ ยกันเกบ็ ส่งิ ของตา่ ง ๆ เข้าท่ีใหเ้ รียบร้อย 5. ส่อื กำรเรยี น / แหล่งกำรเรียนรู้ 5.1 สนี า้ หลอดกาแฟ 5.2 เกมนา้ ข้นึ น้าลง 5.3 เกมจัดหมวดหม่ภู าพซ้อนของใชใ้ นบา้ น 6. กำรวดั ผลและประเมินผล 6.1 วิธวี ัดผลและประเมนิ ผล 6.1.1 สงั เกตการปฏบิ ตั ติ ามสญั ญาณ และคาบรรยาย 6.1.2 สังเกตการตอบคาถาม และการแสดงความคิดเหน็ 6.1.3 ตรวจผลงานการเปา่ สี 6.2 เคร่อื งมือวดั ผล 6.2.1 แบบประเมนิ ผลการจดั ประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการเป่าสี 6.3 เกณฑก์ ำรวดั ผลและประเมินผล ระดับ 3 ดี ระดับ 2 พอใช้ ระดบั 1 ปรับปรุง

269 แผนกำรจดั ประสบกำรณท์ ่ี 70 ช้ันอนุบำลปีที่ 2 สำระที่ควรเรียนรทู้ ี่ 2 เรอ่ื งรำวเกย่ี วกับบุคคลและสถำนทแี วดล้อมตวั เด็ก หนว่ ย บา้ นของฉนั เรื่อง เครื่องใชบ้ า้ น สัปดำห์ท่ี 14 ลำดับวันท่ี 70 ครูผู้สอน คุณครโู ชตกิ า เสือพิณ โรงเรยี น วดั ทา่ บุญมี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคัญ บา้ นของเรามีส่ิงของเครื่องใช้ประจาบ้านมากมาย เชน่ ตู้ เตยี ง หมอ้ หุงข้าว จาน ช้อน ฯลฯ เรา ตอ้ งดแู ลรักษาให้น่าใชอ้ ยเู่ สมอ 2. จุดประสงค์กำรเรียนรู้ 2.1 เพือ่ ใหเ้ ด็กมีความรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกบั ความหมายและความสาคญั ของบ้าน 2.2 เพ่อื ใหเ้ ด็กสามารถปฏบิ ัตติ ามสัญญาณ และคาส่งั ได้ 2.3 เพอ่ื ให้เด็กสามารถสร้างผลงานไดอ้ ย่างสร้างสรรคแ์ ละเสรี 2.4 เพอ่ื ให้เด็กสามารถแสดงความคดิ เหน็ และตอบคาถามเกี่ยวกับเรอ่ื งท่สี นทนาได้ 2.5 เพอ่ื พัฒนากลา้ มเนอื้ ใหญ่ กล้ามเน้ือเล็ก และการปรบั ตวั ในการเล่นร่วมกับเพอ่ื น 2.6 เพือ่ ใหเ้ ดก็ สามารถนาภาพทเี่ หมือนกันมาจดั เข้าคกู่ ันได้ 3. สำระกำรเรยี นรู้ 3.1 เคร่อื งใช้ในบำ้ น 3.2 ประสบกำรณส์ ำคัญ 3.2.1 การอธบิ ายเกย่ี วกบั สง่ิ ของ เหตุการณ์ และความสัมพนั ธ์ของสงิ่ ตา่ ง ๆ 3.2.2 การเชื่อมโยงภาพ ภาพถา่ ยและรปู แบบต่าง ๆ กบั สง่ิ ของหรอื สถานทจี่ รงิ 3.2.3 การใช้หรืออธิบายส่งิ ต่าง ๆ ด้วยวิธกี ารท่ีหลากหลาย 3.2.4 การจบั คู่ การจาแนก และการจัดกลมุ่ 4. กิจกรรมกำรเรียนรู้ 4.1 กิจกรรมเคลอื่ นไหวและจัวหวะ (20 นำท)ี 4.1.1 กจิ กรรมพนื้ ,ฐาน ใหเ้ ดก็ เคล่ือนไหวรา่ งกายไปทวั่ ๆ บริเวณอย่างอสิ ระ เมื่อได้ยนิ สญั ญาณ หยดุ ใหห้ ยดุ เคล่ือนไหวในท่านนั้ ทันที 4.1.2 เด็กและครูรว่ มกันแบ่งกลุ่มเป็น 3 กลุ่มคอื กลุ่มท่ี 1 ทาทา่ ทางเล่นดนตรี กลุม่ ท่ี 2 รอ้ งเพลงบา้ นของฉัน กลุม่ ที่ 3 ทาทา่ กายบริหารประกอบเพลง

270 4.1.3 ให้เคล่อื นไหวร่างการอยา่ งอสิ ระ เมอ่ื ไดย้ นิ สญั ญาณหยุดให้ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมในขอ้ 4.1.3 พร้อมกนั 4.1.4 ใหเ้ ด็กเปลี่ยนกล่มุ กันแล้วปฏบิ ัตกิ ิจกรรมในข้อ 4.1.2 และ 4.1.3 ซ้าอกี 4.2 กิจกรรมสร้ำงสรรคแ์ ละกิจกรรมเสรี (60 นำท)ี 4.2.1 เดก็ และครรู ่วมกันจดั โต๊ะเพื่อใชฝ้ ึกกิจกรรมการพิมพ์ภาพจากวสั ดุ หลาย ๆ อยา่ ง โดยครสู าธิตวธิ กี ารพิมพ์ให้เด็กดู เช่น จากใบไม้ กิง่ ไม้ เชอื ก กา้ นกลว้ ย ฯลฯ ให้ เป็นภาพต่างๆ ตามขน้ั ตอน โดยทบทวนความรเู้ กย่ี วกบั การพิมพ์ภาพโดยใชอ้ วยั วะ ต่าง ๆ ของร่างกาย ซ่ึงไดป้ ฏิบตั มิ าแล้วใหด้ ูเป็นตัวอย่าง 4.2.2 ใหเ้ ด็กปฏิบัตกิ ิจกรรมตามความคิด และจนิ ตนาการของตนเอง อย่างอิสระ โดยครู คอยดแู ลอยหู่ ่าง ๆ 4.2.3 เดก็ คนใดท่ปี ฏิบัติเสรจ็ แล้ว ใหน้ าผลงานมาให้ครูดูพร้อมกับบอกชอ่ื ผลงาน วธิ ีการ ทาใหค้ รทู ราบ ครูแนะนาให้เดก็ ๆ เก็บผลงานของตนเองไว้ในกลอ่ งสะสมผลงาน ของเด็กเอง โดยครเู ขียนชื่อเด็ก ช่อื ผลงาน วนั เดือนปีที่ทาให้เดก็ ด้วย 4.2.4 เมอ่ื ทุกคนปฏบิ ัติกิจกรรมครบแลว้ ครูแนะนาใหช้ ่วยกันทาความสะอาดพ้นื ท่ี และ เกบ็ วสั ดุอุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าทใ่ี หเ้ รยี บร้อย 4.3 กิจกรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำท)ี 4.3.1 เดก็ และครูสนทนารว่ มกันเกี่ยวกบั หอ้ งต่าง ๆ โดยให้เด็กดูภาพห้องภายในบา้ นที่ เคยดูมาแลว้ 4.3.2 เดก็ และครูร่วมกันนาภาพหอ้ งตา่ ง ๆ เหลา่ นั้นไปปดิ ไวท้ ก่ี ระดาน โดยใหก้ ระจายกัน อยู่ทั่วกระดานดา 4.3.3 ครูแจกภาพอปุ กรณเ์ ครื่องใช้ประจาหอ้ ง เชน่ หมอน โทรศพั ท์ ชดุ รบั แขก หม้อ ชอ้ น จาน ฯลฯ ใหเ้ ด็กคนละ 1 ภาพ และสนทนาร่วมกันกับครวู า่ ภาพอปุ กรณ์ท่ี ถอื ควรจะวางไวใ้ นห้องใด 4.3.4 ครูชี้ไปท่หี ้องรบั แขก ให้เด็กท่ีถอื ภาพอปุ กรณใ์ นห้องรบั แขกออกมาแสดงภาพ ถ้า ถกู ต้องใหต้ ิดไว้ท่หี ้องรบั แขก 4.3.5 ครชู ้ไี ปท่ีภาพห้องตา่ ง ๆ จนครบทกุ หอ้ ง และเมื่อครูชี้ทีห่ ้องใด กใ็ ห้เดก็ ที่มภี าพ อุปกรณ์ประจาห้องตา่ ง ๆ เหล่านัน้ ออกมาแสดงภาพแลถ้าถูกต้องก็ให้นาไปติดไว้ ประจาตามห้องนั้น ๆ เสรจ็ แลว้ สนทนาและสรปุ ร่วมกัน เกี่ยวกับอปุ กรณ์ เครื่องใช้ ประจาหอ้ งต่าง ๆ 4.4 กจิ กรรมกลำงแจ้ง (45 นำที) 4.4.1 ให้เด็กลงส่สู นามโดยการว่ิงอย่างอสิ ระ พอถึงสนามแล้ว วิ่งเหยาะ ๆ เปน็ การอบอุน่ ร่างกาย

271 4.4.2 เดก็ และครสู นทนาร่วมกนั เกยี่ วกับการเล่นเกมแย่งหาของใช้ โดยครูแนะนาวธิ ีการ เลน่ ให้เด็กฟัง 4.4.3 แบ่งเด็กเป็นกลมุ่ เท่ากับจานวนภาพหอ้ งตา่ ง ๆ ภายในบ้าน ตามกิจกรรมเสริม ประสบการณ์ท่ีเรยี นมาแลว้ แจกภาพให้หัวหน้ากลุ่ม ๆ ละ 1 ภาพ และใหแ้ ยกไป อยตู่ ามมุมต่าง ๆ ของสนาม 4.4.4 ครูนาภาพของใชป้ ระจาหอ้ งไปวางคว่าไวท้ ว่ั ๆ สนาม ให้สญั ญาณเด็ก ๆ จะเลือก ภาพของใชไ้ ดแ้ ลว้ รบี วงิ่ ไปหาหวั หนา้ กล่มุ ใดสมาชิกครบถือวา่ ชนะ 4.4.5 ใหเ้ ด็กแลกเปลี่ยนภาพกัน แล้วเล่นอกี 1 – 2 รอบ เม่ือได้เวลาพอสมควารแลว้ ครูให้ เดก็ ไปทาความสะอาดรา่ งกาย เพ่ือเตรยี มตัวไปรบั ประทานอาหารกลางวนั 4.5 กิจกรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำท)ี 4.5.1 เด็กและครูสนทนาร่วมกันเกีย่ วกับเกมตารางสมั พนั ธส์ ี โดยครอู ธบิ ายวธิ กี ารเล่นให้ เดก็ ฟงั 4.5.2 แบ่งเดก็ เป็นกลุ่มใหเ้ ลน่ เกมชุดใหมท่ ่ีครูแนะนา สลับกบั เกมท่ีเคยเล่นมาแล้ว หรือ เครื่องเลน่ สมั ผัส 4.5.3 เมื่อเด็กเลน่ เกมเสร็จแลว้ ครูแนะนาให้เด็ก ๆ ชว่ ยกันจัดเก็บสิ่งของต่างๆ เขา้ ที่ให้ เรียบรอ้ ย 5. สอ่ื กำรเรยี น / แหล่งกำรเรียนรู้ 5.1 สนี ้า เศษวัสดตุ า่ งๆ 5.2 เกยแย่งหาของใช้ 5.3 เกมตารางสัมพนั ธส์ ี 6. กำรวดั ผลและประเมนิ ผล 6.1 วิธวี ัดผลและประเมินผล 6.1.1 สงั เกตการปฏิบัติตามสญั ญาณ และข้อตกลง 6.1.2 สังเกตการตอบคาถาม และการแสดงความคิดเห็น 6.1.3 ตรวจผลงานการพมิ พ์ภาพ 6.2 เคร่อื งมอื วดั ผล 6.2.1 แบบประเมินผลการจดั ประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการพมิ พ์ภาพ 6.3 เกณฑ์กำรวัดผลและประเมนิ ผล ระดบั 3 ดี ระดับ 2 พอใช้ ระดบั 1 ปรับปรุง

272 ภาคผนวก อยู่ดว้ ยกนั มากหลาย ปู่ย่าตายาย เพลงบำ้ นของฉนั พแี่ ละน้องมากมาย (ศรนี วล รัตนสุวรณ) เราเปน็ พี่นอ้ งกนั บา้ นของฉัน โอ้เธอคนดี พอ่ แม่ลุงปา้ บ้านฉนั ั้นอยู่ไม่ใกล อีกท้ังนา้ อา ไม่ไกลหรอกหนา้ ทุกคนสุขสบาย (ซา้ 3 ครั้ง) เพลงบ้ำนอยูไ่ หน เจ้าคอ่ ย ๆ เคล่ือนคล้อยมา (ศรีนวล รัตนสุวรรณ) มาเถิดมาขอให้ขา้ ชม บินลอยตามสายลม โอ้เธอคนดี ลอยตามลมระเรงิ ใจ บอกท่ีซบิ า้ นอยู่ไหน บินลอยตามลมไป มันทาด้วยไม้ แมห้ า่ งไกลฉันยังคานงึ ยู้ ฮู ฮู ทรา ลา ลา ลา ลา ลา อู้ ฮู เดย๋ี วเดียวลับตาเราไม่ เร็วทนั ใจควบกบั กับ เพลง นกน้อย ดซู ีหายไปว่งิ ไว ควบ กับ กับ กับ นกเอยนกนอ้ ยน้อย พวกเรานเ้ี ฝา้ คอยหา นกเอยนกนอ้ ยน้อย ปีกหางกางสวยสม นกเอยนกน้อยน้อย บอกวา่ แมด่ วงใจ เพลงม้ำว่ิง มา้ วิง่ กับ กับ มา้ วง่ิ เร็วไว ม้าวิ่งเร็วรี่


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook