อ.2 เทอม1

373 4.4.3 ครใู หเ้ ดก็ ได้เล่นอย่าอิสระ โดยครคู อยดูแลความปลอดภยั อย่างใกล้ชิดเม่ือสมควรแก่ เวลาครูให้เด็กไปทาความสะอาดสขุ ภาพ ล้างหน้า ทาธรุ ะส่วนตวั กลบั เขา้ หอ้ งเรียน เพ่ือเตรียมตัวไปรบั ประทานอาหารกลางวัน 4.5 กิจกรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำที) 4.5.1 เดก็ และครูสนทนารว่ มกนั เกย่ี วกบั เกมจับคภู่ าพทลี่ ดลงที่ละหนึ่ง โดยครแู นะนา และอธิบายวิธกี ารเลน่ ให้เด็กฟงั 4.5.2 แบ่งเดก็ เปน็ กลุม่ ตามความเหมาะสม ใหแ้ ต่ละกลุ่มเลน่ เกมชุดใหม่ และเกมทเ่ี คย เลน่ มาแลว้ 4.5.3 เมือ่ เด็กเลิกเล่นเกมแลว้ ครแู นะนาใหเ้ ด็กชว่ ยกันเกบ็ ส่งิ ของต่าง ๆ เข้าที่ให้ เรียบรอ้ ย 5. สอ่ื กำรเรยี น / แหล่งกำรเรยี นรู้ 5.1 สเี ทียน 5.2 เกมลงิ ชิงบอล 5.3 เกมจบั คภู่ าพที่ลดลงทลี ะหนึ่ง 6. กำรวัดผลและประเมนิ ผล 6.1 วธิ ีวดั ผลและประเมินผล 6.1.1 สังเกตการปฏิบัตติ ามสัญญาณและข้อตกลง 6.1.2 สังเกตการตอบคาถาม และการแสดงความคิดเห็น 6.1.3 ตรวจผลงานการวาดภาพ 6.2 เคร่ืองมอื วัดผล 6.2.1 แบบประเมนิ ผลการจัดประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการวาดภพ 6.3 เกณฑ์กำรวัดผลและประเมนิ ผล ระดับ 3 ดี ระดับ 2 พอใช้ ระดบั 1 ปรบั ปรุง

374 แผนกำรจดั ประสบกำรณ์ที่ 98 ช้ันอนุบำลปีท่ี 2 สำระทคี่ วรเรยี นรทู้ ี่ 1 เรือ่ งรำวเกี่ยวกับตวั เดก็ หนว่ ย สุขภาพของเรา เรอ่ื ง การเล่นคนเดยี ว สัปดำห์ที่ 20 ลำดบั วันที่ 98 ครูผสู้ อน คุณครโู ชตกิ า เสอื พิณ โรงเรยี น วัดทา่ บุญมี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคัญ สขุ ภาพของเราจะเจริญเติบโตไดต้ ้องอาศยั อาหาร และการออกาลงั กาย การกออกกาลงั การ กลางแจง้ อย่างสม่าเสมอ ยงั มีการเลน่ คนเดียวที่ถอื เป็นการพกั ผ่อนอยา่ งหน่ึงแลว้ ยงั เปน็ การฝึกสมาธิ และ ฝกึ การคิดแก้ปญั หาให้ตนเองได้และยงั ช่วยใหจ้ ติ ใจแจ่มใสได้อกี ดว้ ย 2. จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ 2.1 เพ่อื ให้เดก็ มีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกับการดูแลสขุ ภาพ การเล่น การออกกาลังกายกลางแจ้ง และสามารถนาไปใช้ในชวี ิตประจาวันได้ 2.2 เพอื่ ให้เดก็ สามารถปฏบิ ัติตามสญั ญา และขอ้ ตกลงได้ 2.3 เพ่อื ใหเ้ ด็กสามารถสรา้ งผลงานได้อย่างสร้างสรรค์และเสรี 2.4 เพอ่ื ให้เด็กสามารถแสดงความคิดเห็น และตอบคาถามเกี่ยวกบั เรื่องทส่ี นทนาได้ 2.5 เพ่ือใหเ้ ดก็ สามารถปรบั ตัวในการเลน่ รว่ มกบั คนอ่นื ได้ 2.6 เพอื่ ใหเ้ ดก็ สามารถเลน่ เกมทกี่ าหนดใหไ้ ด้ 3. สำระกำรเรยี นรู้ 3.1 กำรเลน่ คนเดยี ว 3.2 ประสบกำรณส์ ำคัญ 3.2.1 การแกป้ ัญหาในการเล่น 3.2.2 การใช้หรอื อธิบายสิ่งตา่ ง ๆ ด้วยวิธกี ารทีห่ ลากหลาย 3.2.3 การเคลอื่ นไหวจากทหี่ นึ่งไปท่ีหน่งึ 3.2.4 การหยดุ และการเร่มิ ต้นการกระทาโดยใชส้ ัญญาณ 4. กิจกรรมกำรเรียนรู้ 4.1 กจิ กรรมเคล่ือนไหวและจังหวะ (20 นำที) 4.1.1 กจิ กรรมพนื้ ฐาน ให้เดก็ เคลอ่ื นไหวสุขภาพไปทัว่ ๆ บริเวณอยา่ อสิ ระ เม่ือได้ยนิ สัญญาณหยุดให้หยุดเคลอ่ื นไหวในท่านั้นทนั ที

375 4.1.2 เดก็ และครรู ่วมกันกาหนดคาสง่ั และคาบรรยายท่จี ะปฏบิ ัติร่วมกนั เชน่ “วันน้ีเปน็ วันหยุด เลน่ คนเดยี วท่ีบา้ น คุณแมเ่ อาขนมมาให้กิน กนิ เสรจ็ เอาจานไปลา้ งและ เกบ็ เข้าท่ี ออกมาเลน่ ตอ่ แต่ไม่นานกเ็ หน่ือยเลยนอนพกั ผ่อนในหอ้ งนัง่ เล่นนนั้ เอง 4.1.3 ให้เดก็ เคลื่อนไหวสขุ ภาพอยา่ งอิสระ เมื่อไดย้ ินสัญญาณหยุด ใหป้ ฏบิ ัติตามคา บรรยาย 4.1.4 เดก็ และครูกาหนดคาบรรยายขึ้นใหม่ เสร็จแลว้ ให้ปฏิบตั กิ ิจกรรมตามขอ้ 4.1.3 ซา้ อีก 4.2 กจิ กรรมสรำ้ งสรรค์และกิจกรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เดก็ และครรู ่วมกันจัดโต๊ะเพ่ือฝึกใชก้ จิ กรรมการวาดภาพดว้ ยสนี ้า เสร็จแลว้ ครู อธบิ ายขั้นตอน การปฏบิ ตั ิกิจกรรม ใหเ้ ดก็ ดู แลว้ ให้ลงมือปฏิบัตติ ามความคดิ และจนิ ตนาการของตนเองอย่างอิสระ โดยครูคอยดูแลอยูห่ ่าง ๆ 4.2.2 เม่อื เด็กปฏิบตั ิกิจกรรมเสร็จแลว้ นาผลงานมาใหค้ รูดู โดยบอกช่อื ผลงานและ วธิ กี ารทา ผลงานใดเหมาะท่ีจะจดั เกบ็ ให้เก็บไว้ในกลอ่ งสะสมผลงานของเดก็ เอง โดยครเู ขยี นชื่อผลงาน ชือ่ เด็ก วันเดือนปที ที่ ากากบั ไวด้ ว้ ย 4.2.3 เมอื่ เด็กปฏบิ ตั กิ ิจกรรมครบทุกคนแลว้ ครแู นะนาใหเ้ ด็กช่วยกวันทาความสะอาด บรเิ วณและช่วยกนั จดั เกบ็ สิ่งของอปุ กรณ์ต่าง ๆ เขา้ ท่ใี ห้เรียบรอ้ ย 4.3 กิจกรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำที) 4.3.1 เดก็ และครูสนทนารว่ มกันเกีย่ วกบั การเล่นของเล่นคนเดียว โดยครอู ธิบายใหเ้ ด็กฟงั วา่ การเล่นคนเดียวมปี ระโยชนส์ าหรับการฝกึ ความคิดและสมาธิ เพราะทาให้เรา สามารถสรา้ งสรรค์การเล่นได้โดยไมม่ ีใครรบกวน 4.3.2 เด็กและครสู นทนารว่ มกันเก่ียวกับการเลน่ คนเดียว โดยครูตงั้ คาถามให้เด็กตอบเช่น - เดก็ เล่นคนเดียวเมื่อไรบ้าง - เพราะอะไรจงึ ต้องเล่นคนเดียว - การเลน่ คนเดยี วมีใครแย่งของเลน่ หรือไม่ และรูส้ ึกอย่างไร ฯลฯ 4.3.3 เดก็ และครูสนทนา สรุปร่วมกันเกี่ยวกับการเล่นคนเดยี ว โดยครูแนะนาว่าหลงั จาก เลิกเลน่ แลว้ ต้องรู้จักเกบ็ สิ่งของต่าง ๆ เข้าที่ดว้ ย 4.4 กิจกรรมกลำงแจ้ง (45 นำที) 4.4.1 เด็กจัดแถงตอนเรียงหน่ึง เดินตามกันอยา่ งเป็นระเบยี บลงสนาม เม่ือถงึ สนามแลว้ ให้เดก็ อบอ่นุ สุขภาพโดยการวิ่งเหยาะ ๆ อยู่กบั ท่ี 2 – 3 นาที 4.4.2 เด็กและครสู นทนารว่ มกันเกย่ี วกับการเล่นวิง่ เปีย้ ว ซึ่งเดก็ เคยเล่นมาแลว้ 4.4.3 เด็กและครูร่วมกันแบ่งกลมุ่ ชาย 2 กล่มุ หญิง 2 กลมุ่ เสรจ็ แล้วใหแ้ ตล่ ะกลุ่ม วง่ิ เปย้ี วแขง่ กนั โดยให้ชายวงิ่ แข่งกับชาย หญงิ ว่ิงแข่งกบั หญิง จนได้ผลแพช้ นะ

376 4.4.4 ครปู ล่อยใหเ้ ด็กได้เลน่ กลางแจง้ อยา่ งอสิ ระ 5 – 10 นาที ก่อนที่จะให้เด็กไปทา ความสะอาดสขุ ภาพ ล้างหน้า ล้างมือ ทาธุระสว่ นตวั กลบั เข้าหอ้ งเรยี น เพ่ือเต เรียนตวั ไปรบั ประทานอาหารกลางวนั 4.5 กจิ กรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำท)ี 4.5.1 เด็กและครสู นทนารว่ มกันเกยี่ วกบั เกมจับค่ภู าพสว่ นของสัตว์ที่ซอ่ นกับภาพเต็มโดย ครแู นะนา และอธบิ ายวธิ ีการเล่นให้เด็กฟัง 4.5.2 แบ่งเดก็ เปน็ กลมุ่ ตามความเหมาะสม ให้แตล่ ะกลมุ่ เลน่ เกมชดุ ใหม่ที่ครแู นะนา สลบั กับทเ่ี คยเล่นมาแล้ว หรือเคร่ืองเล่นสัมผัส 4.5.3 เมือ่ เด็กเลกิ เลน่ แลว้ ครูแนะนาให้เดก็ ชว่ ยกันเกบ็ ส่งิ ของต่าง ๆ เข้าท่ใี หเ้ รียบร้อย 5. สอ่ื กำรเรียน / แหล่งกำรเรยี นรู้ 5.1 สนี ้า พกู่ นั 5.2 เกมว่ิงเปีย้ ว 5.3 เกมจบั ภาพส่วนของสตั วท์ ่ีซ่อนกบั ภาพเต็ม 6. กำรวดั ผลและประเมินผล 6.1 วิธวี ดั ผลและประเมินผล 6.1.1 สงั เกตการปฏิบัติตามสญั ญาณและคาบรรยาย 6.1.2 สังเกตการตอบคาถาม และการแสดงความคิดเห็น 6.1.3 ตรวจผลงานการวาดภาพ 6.2 เครื่องมอื วดั ผล 6.2.1 แบบประเมนิ ผลการจัดประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการวาดภาพ 6.3 เกณฑก์ ำรวัดผลและประเมนิ ผล ระดับ 3 ดี ระดบั 2 พอใช้ ระดบั 1 ปรับปรุง

377 แผนกำรจัดประสบกำรณ์ท่ี 99 ชนั้ อนบุ ำลปีท่ี 2 สำระท่คี วรเรียนรูท้ ี่ 1 เร่ืองรำวเกี่ยวกับตัวเดก็ หนว่ ย สุขภาพของเรา เรื่อง การเล่นร่วมกบั ผู้อ่ืน สัปดำหท์ ่ี 20 ลำดับวันที่ 99 ครผู ู้สอน คณุ ครูโชติกา เสือพิณ โรงเรียน วดั ท่าบญุ มี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคัญ สขุ ภาพของเราจะเจริญเตบิ โตไดต้ ้องอาศัยอาหาร และการออกาลังกาย และการกออกกาลงั การ กลางแจ้งอย่างสม่าเสมอ การเลน่ ร่วมกับบคุ คลอน่ื ถือว่าเป็นการพักผอ่ นแลว้ ยงั เป็นการฝึกกระบวนการกลมุ่ ฝกึ การปรับตัว และฝึกแก้ปัญหาในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมและยงั ช่วยให้จติ ใจแจม่ ใสสนุกสนานดว้ ย 2. จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ 2.1 เพอ่ื ใหเ้ ด็กมีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั การดูแลสขุ ภาพ การเล่น การออกกาลังกายกลางแจ้ง และสามารถนาไปใช้ในชีวิตประจาวนั ได้ 2.2 เพอื่ ให้เดก็ สามารถปฏบิ ัติตามสญั ญา และขอ้ ตกลงได้ 2.3 เพือ่ ให้เด็กสามารถสร้างผลงานได้อย่างสรา้ งสรรค์และเสรี 2.4 เพอ่ื ใหเ้ ดก็ สามารถแสดงความคิดเหน็ และตอบคาถามเก่ียวกบั เร่ืองที่สนทนาได้ 2.5 เพื่อใหเ้ ด็กสามารถปรับตัวในการเล่นร่วมกบั คนอืน่ ได้ 2.6 เพอ่ื ให้เดก็ สามารถเล่นเกมที่กาหนดให้ได้ 3. สำระกำรเรยี นรู้ 3.1 กำรเลน่ รว่ มกบั ผู้อ่นื 3.2 ประสบกำรณส์ ำคัญ 3.2.1 การอธิบายเกยี่ วกบั สงิ่ ของ เหตุการณ์และความสมั พนั ธข์ องสง่ิ ต่าง ๆ 3.2.2 การรว่ มปฏบิ ัติกิจวตั รประจาวันของกลุ่ม 3.2.3 การรบั รทู้ ไ่ี วต่อความรสู้ ึก ความสนใจและความต้องการของผอู้ นื่ 3.2.4 การมปี ระสบการณ์ทางการเล่นสรา้ งสรรคร์ ่วมกบั ผอู้ ืน่ 4. กิจกรรมกำรเรยี นรู้ 4.1 กจิ กรรมเคลอ่ื นไหวและจังหวะ (20 นำท)ี 4.1.1 กจิ กรรมพื้นฐาน ใหเ้ ด็กเคลือ่ นไหวสขุ ภาพไปทว่ั ๆ บริเวณอย่างอสิ ระ เม่ือไดย้ ิน สัญญาณหยดุ ใหห้ ยุดเคลื่อนไหวในทา่ นั้นทันที

378 4.1.2 เด็กและครสู นทนารว่ มกันเกีย่ วกับคาบรรยายที่จะใหป้ ฏบิ ตั ิกิจกรรม เชน่ “ฉนั ไป เล่นกบั เพื่อน ฉนั เลน่ ของเลน่ กับเพ่ือน ฉันแบง่ ของเล่นให้เพ่อื นเล่นด้วย ฉนั และ เพือ่ นช่วยกันเกบ็ ของเล่นเมื่อเลน่ เสรจ็ แล้ว ฉันเดินกลับบ้านอย่างมีความสุข 4.1.3 ให้เด็กเคลื่อนไหวสุขภาพอยา่ งอสิ ระ เมื่อได้ยินสญั ญาณหยุดใหห้ ยุดเคล่อื นไหว ฟงั คาบรรยายและปฏบิ ัตติ าม 4.1.4 เด็กและครรู ่วมกนั กาหนดคาบรรยายขนึ้ ใหม่ และปฏบิ ัติข้อ 4.1.3 ซ้าอีก 4.2 กจิ กรรมสร้ำงสรรค์และกิจกรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เด็กและครรู ่วมกันจัดโต๊ะเพื่อใช้ฝกึ กิจกรรมการตัด ฉีก ปะ กระดาษ โดยครู ทบทวนวธิ ีการทาให้เด็กดู แล้วให้เด็กปฏบิ ัตกิ ิจกรรมโดยอิสระ ตามความคิด สรา้ งสรรค์ของเด็ก โดยครูคอยดูแลความปลอดภยั อย่หู ่าง ๆ 4.2.2 เม่อื เด็กปฏิบตั กิ จิ กรรมเสร็จแลว้ นาผลงานมาใหค้ รูดู โดยบอกชื่อผลงานและ วิธีการทา ผลงานใดทีเ่ หมาะสมจะจัดเก็บ ใหเ้ ก็บไว้ในกล่องผลงานของเด็กเอง โดยครเู ขยี นช่อื ผลงาน ชือ่ เด็ก วันเดอื นปีที่ทากากับไว้ดว้ ย 4.2.3 เม่อื เด็กปฏิบัตกิ จิ กรรมครบทุกคนแลว้ ครแู นะนาใหเ้ ดก็ ช่วยกันทาความสะอาด บริเวณและชว่ ยกันจัดเก็บสง่ ของ อปุ กรณต์ ่าง ๆ เขา้ ท่ีใหเ้ รียบรอ้ ย 4.3 กิจกรรมเสรมิ ประสบกำรณ์ (15 นำที) 4.3.1 เดก็ และครสู นทนารว่ มกันเกยี่ วกบั การเล่นร่วมกับคนอ่นื และการเลน่ เป็นกลุ่ม โดยครอู ธบิ ายให้เด็กฟังวา่ เราไม่ไดอ้ ยู่คนเดียว เรามีเพ่ือน ๆ ทงั้ ที่โรงเรียนและ เพอ่ื นบ้าน การเลน่ และทากิจกรรมร่วมกันจึงเป็นสิ่งทเี่ ดก็ ๆ ตอ้ งรูจ้ กั มารยา และ กตกิ าในการเล่น จงึ จะสนกุ 4.3.2 ครเู ล่านทิ านเรอ่ื ง “สามสหาย” ใหเ้ ดก็ ๆ ฟัง เสร็จแล้วสนทนารว่ มกนั เกี่ยวกบั เรื่อง ในนทิ าน 4.3.3 เด็กและครสู นทนาร่วมกนั เก่ยี วกบั มารยาทในการเลน่ และทากจิ กรรมรว่ มกบั คนอน่ื โดยครแู นะนาใหเ้ ดก็ ทราบว่า การรู้จักแบง่ ปนั การขอโทษ และการให้อภัย ทาให้ เกดิ ความรักและสามัคคี ถ้าเป็นนักกฬี าทเี่ ลน่ กันเป็นทมี ต้องใหค้ วามร่วมมือกัน จึง จะชนะในการแข่งขนั นอกจากน้ันการละเลน่ ต่าง ๆ ยงั ถือเปน็ การออกกาลังกาย และการพกั ผ่อนทางด้านจิตใจด้วย 4.3.4 เด็กและครูร่วมกันกาหนดแนวทางเพ่ือการปฏบิ ตั ิตนในชีวติ ประจาวันเก่ียวกบั การ เลน่ รว่ มกบั ผอู้ ่ืน 4.4 กจิ กรรมกลำงแจง้ (45 นำที) 4.4.1 ให้เดก็ ว่ิงลงสนามอย่างอิสระ เมื่อถงึ สนามแล้วให้เด็กอบอุ่นสุขภาพโดยการวงิ่ เหยาะ ๆ อยู่กบั ที่ 2 – 3 นาที

379 4.4.2 ครูปลอ่ ยใหเ้ ด็กไดเ้ ล่นกลางแจง้ และเคร่ืองเล่นสนามอย่างอิสระ โดยครูคอยดแู ล ความปลอดภยั อย่างใกลช้ ดิ 4.4.3 เมอ่ื ได้เวลาพอสมควรแลว้ ให้เด็กไปทาความสะอาดสุขภาพ ล้างหนา้ ทาธุระ สว่ นตวั กลับเขา้ ห้องเรียน เพื่อเตรียมตวั ไปรบั ประทานอาหารกลางวนั 4.5 กิจกรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำที) 4.5.1 เดก็ และครูสนทนารว่ มกนั เก่ยี วกบั เกมจับคู่ภาพผลไม้กับเงา โดยครูอธิบายวิธีการ เลน่ ให้เดก็ ฟัง 4.5.2 แบ่งเด็กเป็นกลุ่มตามความเหมาะสม ใหแ้ ตล่ ะกล่มุ เล่นเกมชดุ ใหม่ทคี่ รูแนะนา สลับ กบั เกมที่เคยเลน่ มาแล้ว หรอื เครอื่ งเลน่ สมั ผัส 4.5.3 เมอื่ เด็กเลิกเล่นแลว้ ครแู นะนาให้เด็กชว่ ยกันเก็บสง่ิ ของต่าง ๆ เข้าท่ีให้เรยี บร้อย 5. สื่อกำรเรยี น / แหล่งกำรเรยี นรู้ 5.1 กาว กรรไกร กระดาษ 5.2 นทิ านเรื่องสามสหาย 5.3 เกมจับคู่ภาพผลไม้กับเงา 6. กำรวัดผลและประเมินผล 6.1 วธิ วี ัดผลและประเมนิ ผล 6.1.1 สงั เกตการปฏิบัตติ ามสญั ญาณ และคาบรรยาย 6.1.2 สังเกตการพูดแสดงความคิดเห็น และการตอบคาถาม 6.1.3 ตรวจผลงานการตัด ฉีก ปะ กระดาษ 6.2 เครอ่ื งมือวดั ผล 6.2.1 แบบประเมนิ ผลการจัดประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการตดั ฉีก ปะ กระดาษ 6.3 เกณฑก์ ำรวัดผลและประเมินผล ระดบั 3 ดี ระดบั 2 พอใช้ ระดับ 1 ปรับปรุง

380 แผนกำรจัดประสบกำรณ์ท่ี 100 ชนั้ อนบุ ำลปที ่ี 2 สำระท่คี วรเรียนรู้ที่ 1 เร่ืองรำวเกีย่ วกับตวั เดก็ หนว่ ย สุขภาพของเรา เรื่อง กติกาในการเล่น สปั ดำห์ที่ 20 ลำดับวนั ที่ 100 ครูผูส้ อน คุณครูโชติกา เสอื พิณ โรงเรียน วดั ทา่ บุญมี สพป. ชบ. 2 1. สำระสำคัญ การเลน่ หรือการปฏิบตั กิ จิ กรรมต่างๆ ร่วมกับคนอน่ื จาเป็นต้องมี กตกิ า ทง้ั นีก้ ็เพอื่ ความเรยี บร้อย ในการเล่น และเล่นได้อย่างสนุกสนาน ยงั ชว่ ยให้จติ ใจแจม่ ใสได้อีกดว้ ย 2. จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ 2.1 เพือ่ ให้เดก็ มีความรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกับการดูแลสุขภาพ การเล่น การออกกาลังกายกลางแจ้ง และสามารถนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้ 2.2 เพ่อื ใหเ้ ด็กสามารถปฏบิ ัติตามสัญญา และข้อตกลงได้ 2.3 เพ่อื ใหเ้ ด็กสามารถสร้างผลงานไดอ้ ย่างสร้างสรรค์และเสรี 2.4 เพ่ือให้เด็กสามารถแสดงความคดิ เห็น และตอบคาถามเก่ยี วกับเรื่องท่สี นทนาได้ 2.5 เพื่อให้เดก็ สามารถปรบั ตัวในการเล่นรว่ มกบั คนอื่นได้ 2.6 เพอ่ื ใหเ้ ด็กสามารถเล่นเกมที่กาหนดใหไ้ ด้ 3. สำระกำรเรียนรู้ 3.1 กติกำในกำรเลน่ 3.2 ประสบกำรณส์ ำคัญ 3.2.1 การรว่ มปฏบิ ัตกิ จิ วตั รประจาวันของกลมุ่ 3.2.2 การมปี ระสบการณ์ทางการเล่นสรา้ งสรรค์ 3.2.3 การหยุดและการเริม่ ตน้ การกระทาโดยใชส้ ญั ญาณ 3.2.4 การวางแผนตดั สนิ ใจเลอื ก ลงมอื ปฏบิ ัติ 4. กิจกรรมกำรเรยี นรู้ 4.1 กจิ กรรมกำรเคล่ือนไหวและจงั หวะ (20 นำที) 4.1.1 กจิ กรรมพ้ืนฐาน ใหเ้ ดก็ เคลอ่ื นไหวสุขภาพไปท่ัว ๆ บรเิ วณอยา่ งอสิ ระ เมื่อได้ยนิ สัญญาณหยดุ ให้หยดุ เคลื่อนไหวในท่านนั้ ทันที 4.1.2 เดก็ และครรู ว่ มกันกาหนดคาส่ังทจ่ี ะปฏบิ ตั ิร่วมกนั เชน่ - ครสู ่ังใหน้ งั่ ลง เด็กต้องยนื ข้นึ - ครูสั่งใหจ้ บั แขนขวา เด็กต้องจบั แขนซ้าย

381 - ครสู งั่ ให้ยกมือซ้าย เด็กตอ้ งยกมอื ขวา เป็นตน้ 4.1.3 ให้เด็กเคล่ือนไหวสุขภาพอยา่ งอิสระ เม่ือไดย้ ินสัญญาณหยุดใหห้ ยดุ เคล่อื นไหว ฟัง คาส่งั และปฏิบตั ติ าม 4.1.4 เด็กและครูรว่ มกนั กาหนดคาสงั่ ข้นึ ใหม่ แล้วปฏบิ ัติกจิ กรรมตามข้อ 4.1.3 ซา้ อีก 4.2 กจิ กรรมสร้ำงสรรคแ์ ละกจิ กรรมเสรี (60 นำที) 4.2.1 เด็กและครูร่วมกนั จดั โต๊ะเพื่อใชก้ ิจกรรมการพบั กระดาษ เสร็จแล้วครอู ธิบาย ขนั้ ตอนการปฏบิ ตั ิกิจกรรม ให้เด็กดู แล้วใหล้ งมอื ปฏบิ ตั ติ ามแบบที่ครูแนะนาอยา่ ง อสิ ระ โดยครคู อยดูแลอยหู่ ่าง ๆ 4.2.2 เม่อื เด็กปฏิบัติกิจกรรมเสรจ็ แล้ว นาผลงานมาให้ครดู ู โดยบอกชือ่ ผลงานและ วิธกี ารทา ผลงานใดท่ีเหมาะสมจะจัดเกบ็ ใหเ้ ก็บไว้ในกล่องผลงานของเด็กเอง โดยครเู ขยี นช่ือผลงาน ชอื่ เด็ก วนั เดือนปที ่ที ากากบั ไวด้ ว้ ย 4.2.3 เม่ือเด็กปฏิบตั ิกิจกรรมครบทุกคนแลว้ ครูแนะนาให้เดก็ ช่วยกันทาความสะอาด บริเวณและชว่ ยกนั จัดเก็บสิง่ ของ อุปกรณ์ต่าง ๆ เข้าท่ีให้เรียบร้อย 4.3 กิจกรรมเสริมประสบกำรณ์ (15 นำท)ี 4.3.1 เด็กและครูสนทนาร่วมกันเกยี่ วกับกติกาและข้อห้ามต่าง ๆ ในการเลน่ หรอื การทา กิจกรรม โดยครูอธิบายใหเ้ ด็กฟังวา่ การเล่นหรอื การทากิจกรรมตา่ งๆ บางครง้ั จาเป็นตอ้ งมีกติกาหรอื ข้อหา้ ม กเ็ พื่อความถูกต้องและความเปน็ ระเบยี บ ซ่ึงเม่อื มี กตกิ าเราก็ต้องปฏบิ ตั ิตามจงึ จะถูกตอ้ ง 4.3.2 ครูเลา่ นทิ านเร่ือง “จอมเกเร” ใหเ้ ด็กฟงั เสรจ็ แล้วสนทนารว่ มกันเกี่ยวกับเรื่องใน นทิ าน 4.3.3 ครตู ้ังคาถามให้เด็กตอบเช่น - การแขง่ กีฬาทาไมจึงมีกรรมการ - ถ้านกั กีฬาไม่ฟังคาตดั สินของกรรมการหรือไม่ เปน็ ต้น - ถา้ เดก็ เลน่ กฬี า เด็กจะฟังคาตัดสินของกรรมการหรือไม่ เปน็ ต้น 4.4 กจิ กรรมกลำงแจง้ (45 นำท)ี 4.4.1 เดก็ จดั แถวตอนเรยี งหน่ึง เดนิ จับเอวคนขา้ งหน้าลงสนาม เมอื่ ถึงสนามแล้วให้เด็ก อบอ่นุ สุขภาพโดยการกระโดดอยกู่ บั ท่ี 2 – 3 นาที 4.4.2 เด็กและครสู นทนาร่วมกนั เก่ียวกบั การเล่นเกมต่าง ๆ ทผี่ า่ นมา และบอกเด็ก ๆวา่ วนั นีเ้ ปน็ วันสดุ ทา้ ยของภาคเรียนท่ี 1 เด็ก ๆ ตอ้ งหยุดพักหลายวนั การเลน่ และการ พักผอ่ นในวนั หยดุ เรยี น เด็ก ๆต้องเลน่ อยา่ งระมัดระวัง ถา้ มีกฎ ข้อหา้ มในการเลน่ กค็ วรยดึ ถือและปฏบิ ตั ติ ามอย่างเครง่ ครดั 4.4.3 ครใู ห้เด็กได้เล่นเกมลงิ ชิงหลกั ซ่ึงเดก็ ไมเ่ คยได้เลน่ มาแลว้ เพือ่ ฝึกความแข็งแรง ของกลา้ มเนื้อขา และความคลอ่ งตัวในการเคลือ่ นไหว

382 4.4.4 ครใู ห้เด็กไดเ้ ลน่ กลางแจง้ และเครอ่ื งเลน่ สนามอยา่ งอสิ ระ 5 – 10 นาที โดยครูคอย ดแู ลความปลอดภัยอย่หู ่าง ๆ 4.4.5 เมอื่ ไดเ้ วลาพอสมควรครูให้เด็กไปทาความสะอาดสุขภาพ กลบั เข้าห้องเรยี น เพื่อ เตรียมตวั ไปรบั ประทานอาหารกลางวัน 4.5 กิจกรรมเกมกำรศึกษำ (20 นำท)ี 4.5.1 เดก็ และครสู นทนาร่วมกันเกี่ยวกบั เกมจัดหมวดหมู่ภาพผลไมผ้ า่ ตามขวางและผา่ ตามยาว โดยครูอธบิ ายวิธกี ารเล่นใหเ้ ด็กฟัง 4.5.2 แบง่ กลุม่ เด็กให้เล่นเกมชดุ ใหม่ที่ครูแนะนา และสนทนากับเด็กว่าวันน้ีเป็นวนั สุดทา้ ยของภาคเรียนท่ี 1 เมื่อเลิกเล่นเกมแลว้ เดก็ ต้องช่วยกันเก็บสงิ่ ของต่างๆ เข้าท่ใี หเ้ รียบร้อยเพราะโรงเรียนหยดุ หลายวัน เม่ือปดิ ภาคเรยี นใหมเ่ ดก็ ๆ จะได้มี ของเล่นอีก 5. สอื่ กำรเรยี น / แหล่งกำรเรียนรู้ 5.1 กระดาษสสี าหรับพบั 5.2 นทิ านเร่ือง จอมเกเร 5.3 เกมลงิ ชิงหลกั 5.4 เกมจัดหมวดหมูภ่ าพผลไม้ผา่ ตามขวางและผ่าตามยาว 6. กำรวัดผลและประเมนิ ผล 6.1 วธิ ีวดั ผลและประเมินผล 6.1.1 สงั เกตการปฏิบัตติ ามสัญญาณ และคาบรรยาย 6.1.2 สงั เกตการตอบคาถาม การแสดงความคดิ เหน็ 6.1.3 ตรวจผลงานการพับกระดาษ 6.2 เครอ่ื งมือวดั ผล 6.2.1 แบบประเมนิ ผลการจัดประสบการณ์ 6.2.2 ผลงานการพบั กระดาษ 6.3 เกณฑก์ ำรวัดผลและประเมินผล ระดบั 3 ดี ระดับ 2 พอใช้ ระดบั 1 ปรบั ปรงุ

383 ภาคผนวก นทิ ำนเร่ืองสำมสหำย (นรำธปิ จันทรเนตร) ตม้ั โตง้ และต่อเปน็ เพ่ือนรักกันมากอาศัยอยู่ในหมบู่ ้านเดียวกัน หลงั เลกิ เรียนในตอนเยน็ ทง้ั สามจะพา กันไปเลน่ ฟุตบอลทส่ี นามโรงเรียนใกล้บา้ น และท่ีสนามแห่งนนั้ จะมเี ด็กๆ กลุ่มอน่ื มาเล่นกนั เยอะแยะ แตท่ ุก คนเลน่ รว่ มกนั ได้ เพราะต่างก็ชว่ ยกนั ตั้งกฎ กตกิ าในการเล่นขึ้นมา และทส่ี าคัญทุกคนก็ปฏบิ ตั ติ ามกฎ กติกา น้ันเป็นอยา่ งดี จึงไมม่ ีการทะเลาะกนั เหมือนกับท่ีอื่น ๆ ซงึ่ ท่เี ปน็ เชน่ น้ีก็เพราะวา่ เดก็ ทม่ี าเลน่ น้ันได้รบั การ อบรมสง่ั สอนมาจากทเี่ ดยี วกันทุกคนจึงมีความคิดเหมือนกันว่า ถา้ มกี ฎระเบยี บแลว้ การเล่นกจ็ ะสนุก และไม่ ทะเลาะกัน เพ่ือนรักท้ังสามคนเคยไปเลน่ ฟตุ บอลที่สนามหนา้ วดั แต่ก็เล่นได้ไม่นานเน่ืองจากทนี่ ่ันไม่มีใครปฏิบตั ิ ตามกฎ กติกาทีต่ ง้ั ข้นึ มหิ นาซ้ายงั ไม่มมี ารยาททีด่ ีในการเล่นอีกดว้ ย ทั้งสามจงึ มาเล่นท่ีสนามหน้าโรงเรียน ซง่ึ เล่นได้อย่างสนกุ และปลอดภัยด้วย ตัม้ โต้ง และต่อ ได้ฉายาวา่ สุภาพบรุ ษุ ตัว ต. เพราะท้ังสามมีช่อื เล่นทีข่ ึน้ ต้นด้วย ต. เหมือนกนั และที่ สาคญั ทุกคนยึดถือกฎกติกาการเล่นอย่างเครง่ ครัด และมีมารยาททีด่ ีในการเล่น คุณครบู อกเด็ก ๆ ทกุ คนวา่ ควรที่จะเอาแบบอยา่ งเพ่อื นรักท้งั สามคนนี้ เพราะส่ิงท่ที าให้การอย่รู ่วมกันในสงั คมมคี วามสุขได้คือ ทุกคน ตอ้ งปฏิบตั ติ ามกฎ กติกา ของสงั คมนนั่ เอง

384 นิทำนเร่อื ง จอมเกเร (นรำธิป จันทรเนตร) ในการแข่งขันกีฬาฟุตบอลชายรายการหนึง่ ในหมู่บ้าน หลายหมู่บ้านไดส้ ่งทีมเข้าร่วมกันแขง่ ขนั และ ทกุ คนที่เปน็ นักกีฬากป็ ฏบิ ตั ิตนตามกฎ ระเบียบอย่างเคร่งครัด ยกเว้นทีมหมูบ่ ้านจอมเกเร ท่นี ักฟุตบอลใน ทีมไมค่ ่อยจะปฏิบัตเิ ท่าไร ในขณะท่เี กมการแขง่ ขนั กาลงั แขง่ กนั น้นั นกั ฟุตบอลจอมเกเรคนหนึ่งไดพ้ ยายามเลน่ ไม่คอ่ ยถูกกติกา เชน่ เล่นแรงบ้าง เตะคู่ต่อสู้บ้าง และเถียงกรรมการบ้าง จนกรรมการต้องตักเตือนอยบู่ ่อย ๆ คร้งั หนง่ึ เขาเตะคู่ ต่อสลู้ ม้ ไป กรรมการเป่าหยุดเกมและใหใ้ บเหลืองเขา เขาไมพ่ อใจและต่อว่ากรรมการ จนเพอ่ื น ๆ ต้องมา ห้ามเขาจงึ ออกไปเล่นต่อ แต่ไม่นานเขาก็เตะคู่ต่อส้ลู ม้ ลงไปอกี คราวน้ีกรรมการให้ใบแดงไลน่ กั ฟุตบอลเกเรคน น้ันออกไปจากสนาม เขาโวยวายพยายามไลช่ กผูต้ ัดสิน จนเจา้ หน้าที่และชาวบา้ นต้องเข้ามาจับเขาเอาไว้ และ พาออกจากสนาม คณะกรรมการตัดสินไม่ใหเ้ ขาเลน่ ฟุตบอลในหมู่บ้านอีกเลยเพราะเขาเป็นคนเกเรไมเ่ คารพ กติกาการเล่น และไมม่ ีใครอย่าเล่นกบั เขาด้วย เพราะกลัวได้รับบาดเจ็บ นอกจากนย้ี งั ไม่มีใครอยากเป็นเพ่ือน กบั เขาด้วย กรรมการผู้ตดั สินบอกวา่ การเล่นฟุตบอลเปน็ การออกกาลังกายอย่างหนึ่ง ควรเลน่ ให้อยู่ในกฎ กติกา มารยาทจงึ จะเกดิ ประโยชน์ เพราะหากเลน่ เกเรแลว้ จะมโี ทษมากกว่าประโยชน์ ดังท่จี อมเกเรได้รับนน่ั ไง จน กลายเปน็ คนที่นา่ รังเกียจของเพือ่ น และคนในหมบู่ ้าน กำรละเลน่ กำฟักไข่ เป็นอกี หนงึ่ การละเล่นทเี่ คยได้ยินชื่อ แต่หลายคนไมท่ ราบกติกา โดยวธิ ีการเลน่ กค็ อื ใช้อะไรก็ได้ ลกั ษณะกลม ๆ เท่าจานวนคนเล่น ยกเวน้ ผ้ทู ่เี ป็นกา 1 คน มาสมมติว่าเปน็ \"ไข\"่ แล้วเขียนวงกลมลงบนพืน้ 2 วง วงแรกเสน้ ผ่าศนู ย์กลางประมาณ 4 ฟุต และอีกวงหน่งึ อยู่ข้างในวงแรก ขนาดเสน้ ผ่าศูนย์กลาง 1 ฟตุ วาง \"ไข\"่ ทั้งหมดไว้ในวงกลมเลก็ ใหค้ นใดคนหนง่ึ เปน็ กา ยืนในวงกลมวงใหญ่ หรือนั่งคร่อมวงกลมเลก็ นอกน้ันทุก คนยืนรอบนอกวงกลมวงใหญ่ คอยแย่งไข่ คนเปน็ กามีหน้าทปี่ ้องกันไข่ ไม่ใหถ้ ูกแยง่ ไป กตกิ าของกาฟักไข่ ก็คือคนข้างนอกต้องแย่งไขม่ าให้ได้ โดยใช้แขนหรือมอื เอ้อื มเขา้ ไป แต่ห้ามนาตัว เข้าไปในวงกลม และตอ้ งระวังไม่ให้อีกาถกู มือหรือแขนได้ด้วย หากแย่งไข่ออกมาไดห้ มดแลว้ ใหป้ ดิ ตากา แล้ว นาไขท่ ้ังหมดไปซ่อน เพ่ือให้กาตามหาไข่ หากพบไข่ที่ผู้เล่นคนใดนาไปซ่อน ผู้นั้นจะต้องเปลย่ี นมาเปน็ กาแทน

385 เรอ่ื ง ใบงำน จดุ ประสงค์ สุขภาพแขง็ แรง 1. เพ่ือใหเ้ ด็กรูค้ วามหายของการพักผอ่ น คำสงั่ 2. เพอื่ ให้เด็กเกิดความคิดสร้างสรรค์ในการวาดภาพ ใหเ้ ด็กวาดภาพการพักผ่อน ตามความคิด และจนิ ตนาการของตนเอง แล้วระบายสีให้ สวยงาม ผปู้ ระเมนิ ครู ผู้ประเมิน ผูป้ กครอง เกณฑ์กำรประเมนิ เกณฑก์ ำรประเมนิ ดี ดี พอใช้ พอใช้ ปรบั ปรุง ปรบั ปรงุ ผูป้ ระเมิน ตนเอง ผู้ประเมิน เพื่อน เกณฑ์กำรประเมิน เกณฑ์กำรประเมนิ ดี ดี พอใช้ พอใช้ ปรับปรงุ ปรับปรงุ

386