Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 5

แผนการจัดการเรียนรู้ชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 5

Published by สิรินทิพย์ ความสุข, 2021-09-29 11:01:41

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ชั้นประถมศึกษาชั้นปีที่ 5

Search

Read the Text Version

แบบประเมินด้านสมรรถนะผู้เรียน 12 เรื่อง รปู แบบผังงาน ผลการประเมนิ ผ่าน ไมผ่ า่ น สมรรถนะผเู้ รียน เลขที่ ความสามารถ ความสามารถ ความสามารถ ในการส่อื สาร ในการคิด ในการคิดแก้ปัญหา 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 หมายเหตุ ไดร้ ะดับคุณภาพ 2 ขน้ึ ไปทุกตัวชวี้ ดั ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ลงช่ือ ครผู ู้สอน (นางสาวสิรนิ ทิพย์ ความสุข)

13 แบบบันทกึ การประเมินด้านคุณลกั ษณะ อันพงึ ประสงค์ เรอื่ ง รปู แบบผังงาน มีวนิ ัย 1. ปฏิบัติตามข้อตกลงอยา่ งเครง่ ครัด 2. ควบคุมตนเองได้ในระหว่างการทำงาน 3. ทำงานท่ีไดม้ อบหมายดว้ ยตนเองอย่างตั้งใจ 4. ทำงานเสร็จตามเวลาที่กำหนด ใฝเ่ รยี นรู้ 1. มคี วามมุง่ ม่ันต้ังใจในการเรียน 2. มีความสนใจในกจิ กรรมการเรียนรู้ตา่ ง ๆ 3. มีความกระตือรอื รน้ ในกจิ กรรมและงานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย 4. ศึกษาหาความรู้เพมิ่ เติมหลงั เรยี นเสมอ มุ่งม่งั ในการทำงาน 1. ต้ังใจทำงานทไี่ ด้รับมอบหมาย 2. อดทน ไม่ยอ่ ทอ้ ต่ออุปสรรคในการทำงาน 3. สนุกสนาน รา่ งเรงิ และทำงานด้วยความเตม็ ใจ 4. มีสมาธิในการทำงานที่ไดร้ บั มอบหมาย ดา้ นคณุ ลักษณะ ระดบั คุณภาพ อันพึงประสงค์ มวี นิ ัย 4 (ดมี าก) 3 (ด)ี 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) ใฝ่เรยี นรู้ มีคณุ ลกั ษณะอันพึง มีคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคด์ ้านวินยั ได้ มคี ณุ ลักษณะอนั พงึ มคี ุณลักษณะอนั พึง ประสงคด์ ้านวินยั ได้ 1 ม่งุ ม่งั ในการทำงาน ครบทกุ ขอ้ ขอ้ มีคณุ ลักษณะอันพึง ประสงคด์ ้านวนิ ยั ได้ 3 ประสงคด์ า้ นวนิ ัยได้ 2 มคี ณุ ลกั ษณะอันพึง ประสงคด์ ้านใฝ่เรยี นรู้ ประสงคด์ ้านใฝ่เรียนรู้ ได้ครบทุกข้อ ขอ้ ข้อ ได้ 1 ข้อ มีคุณลกั ษณะอันพึง มีคุณลักษณะอนั พงึ ประสงคด์ า้ นมุ่งม่ันใน มีคณุ ลักษณะอันพึง มีคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคด์ า้ นมุง่ ม่นั ใน การทำงานได้ครบทุก การทำงานได้ 1 ขอ้ ขอ้ ประสงคด์ า้ นใฝ่เรียนรู้ ประสงคด์ า้ นใฝ่เรียนรู้ ได้ 3 ข้อ ได้ 2 ข้อ มีคุณลกั ษณะอันพึง มคี ณุ ลักษณะอันพึง ประสงคด์ า้ นมุง่ มน่ั ใน ประสงคด์ ้านมงุ่ มั่นใน การทำงานได้ 3 ขอ้ การทำงานได้ 2 ข้อ

14 หมายเหตุ ได้ระดบั คุณภาพ 2 ขึน้ ไปทุกตัวชี้วัด ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์การประเมิน ได้ระดับคณุ ภาพ 4 หมายถงึ ดมี าก ได้ระดับคณุ ภาพ 3 หมายถงึ ดี ได้ระดบั คณุ ภาพ 2 หมายถึง พอใช้ ได้ระดับคณุ ภาพ 1 หมายถึง ปรบั ปรุง

15 แบบบนั ทกึ การประเมนิ ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ เร่อื ง รปู แบบผังงาน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ผลการประเมิน ผา่ น ไมผ่ า่ น เลขท่ี มวี ินัย ใฝ่เรียนรู้ มุง่ ม่นั ใน การทำงาน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คุณภาพ 2 ข้ึนไปทุกตวั ชี้วดั ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ ลงช่อื ครูผู้สอน (นางสาวสริ นิ ทิพย์ ความสุข)

1 แผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 11 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 2 การเขียนโปรแกรมโดยใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะ เวลา 10 ชั่วโมง เรื่อง การเขียนโปรแกรมโดยใช้ภาษา Scratch เวลา 1 ช่ัวโมง รายวชิ า วิทยาการคำนวณ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 5 1. มาตรฐาน/ตัวชีว้ ัด/ ผลการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคดิ เชิงคำนวณในการแก้ปัญหาทพ่ี บในชีวติ จรงิ อยา่ งเป็นข้ันตอน และเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแกป้ ัญหา ได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ รู้เทา่ ทันและมจี รยิ ธรรม ตัวช้วี ดั ป.5/2 ออกแบบ และเขยี นโปรแกรมท่ีมีการใชเ้ หตผุ ลเชิงตรรกะอย่างงา่ ย ตรวจหา ขอ้ ผิดพลาดและแก้ไข 2. สาระสำคัญ การเขียนโปรแกรมโดยใช้ภาษา Scratch คือ การเขยี นคำสง่ั เพ่อื ควบคมุ การทำงานให้กับตวั ละคร แตล่ ะตัวที่สร้างขึ้นโดยใช้คำส่งั ท่เี ขา้ ใจงา่ ยในการสงั่ ให้ตัวละครทำงาน สำหรับข้นั ตอนในการเขียน โปรแกรม จะประกอบด้วยการวิเคราะห์ปญั หา ออกแบบวธิ ีการแกป้ ัญหา และการเขยี นโปรแกรม 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ ดา้ นความรู้ 1. บอกข้ันตอนในการเขยี นโปรแกรมไดถ้ กู ต้อง 2. อธบิ ายวิธีการเขยี นโปรแกรมโดยใชภ้ าษา Scratch ไดถ้ ูกตอ้ ง ดา้ นทกั ษะกระบวนการ 1. เขยี นโปรแกรมโดยใช้ภาษา Scratch ได้ ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุง่ มง่ั ในการทำงาน สมรรถนะที่สำคัญของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา

2 4. สาระการเรียนรู้ - การออกแบบและเขยี นโปรแกรมที่มีการตรวจสอบเงือ่ นไขท่ีครอบคลุมทกุ กรณีเพอ่ื ให้ไดผ้ ลลพั ธ์ ทีถ่ กู ต้องตรงตามความตอ้ งการ - ซอฟต์แวรท์ ี่ใชใ้ นการเขียนโปรแกรม เชน่ Scratch, logo 5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นำ (10 นาที) 1. ครูทบทวนความรเู้ ดิมของนกั เรยี นเก่ยี วกับการออกแบบโปรแกรมดว้ ยการเขียนข้อความและ การ เขยี นผงั งาน โดยครถู ามกระตุ้นความสนใจของนักเรียนวา่ “นักเรยี นคดิ วา่ การออกแบบโปรแกรม ด้วยการเขยี นข้อความหรือการออกแบบโปรแกรมด้วยการเขยี นผังงานสามารถนำมาเขยี น โปรแกรมได้หรือไม่ และมโี ปรแกรมใดบ้างท่ใี ช้ในการเขยี นโปรแกรม” (แนวตอบ : นักเรยี นตอบตามความคิดเห็นของตนเอง โดยคำตอบขน้ึ อยกู่ บั ดลุ ยพินจิ ของครูผูส้ อน เชน่ Scratch logo เป็นต้น) 2. ครอู ธบิ ายเพ่ือเช่ือมโยงเข้าสู่บทเรยี นว่า“เมอ่ื มีการออกแบบโปรแกรมดว้ ยวธิ กี ารตา่ ง ๆ แลว้ สิง่ ท่คี วรทำข้ันตอนต่อไป คอื การเขยี นโปรแกรม โดยการเขียนโปรแกรมเปน็ การเขยี นคำสง่ั ให้อปุ กรณ์เทคโนโลยีต่าง ๆ ทำงานตามความตอ้ งการของผู้ใช้งาน” ขนั้ สอน (40 นาที) 1. ครูนำตัวอยา่ งโปรแกรมการคำนวณหาพนื้ ท่วี งกลมท่สี รา้ งจากโปรแกรม Scratch ใหน้ กั เรียนดแู ละให้นักเรยี นในชั้นเรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเห็นว่านักเรียนอยากเขียน โปรแกรมแบบน้ีเปน็ บา้ งหรือไม่ 2. ครูอธิบายกบั นักเรียนว่า“โปรแกรมภาษา Scratch เป็นการเขยี นคำสั่งควบคุมการทำงาน ให้กับตัวละครทส่ี ร้างขนึ้ ” จากนน้ั เปิดโอกาสให้นกั เรียนสืบคน้ ข้ันตอนการเข้าใช้งานโปรแกรม Scratch โดยใช้เครอ่ื งคอมพิวเตอร์ของตนเอง 3. จากน้นั ครใู หน้ ักเรยี นท่ีสืบคน้ ขอ้ มลู ไดก้ ่อนออกมาอภปิ รายกบั เพ่ือนรว่ มชัน้ บรเิ วณหนา้ ชนั้ เรยี น 4. ครอู ธบิ ายเหตผุ ลและความสำคัญของการเขยี นโปรแกรมโดยใช้โปรแกรมภาษา Scratch ก่อนลงมือปฏบิ ตั จิ รงิ ว่า“การเขียนโปรแกรมโดยใช้โปรแกรมภาษา Scratch เป็นการฝกึ ใหน้ กั เรยี นฝึกทักษะการคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณ ฝกึ การแก้ปญั หาอย่างง่ายแบบเป็นระบบ หรอื ฝึกทักษะการคดิ เชิงคำนวณ” 5. ครอู ธิบายวิธกี ารดาวนโ์ หลดโปรแกรม Scratch จากเว็บไซต์ Scratch.mit.com และอธิบาย วธิ ีการตดิ ตัง้ โปรแกรม Scratch อย่างละเอียด พร้อมอธบิ ายสว่ นประกอบต่าง ๆ ภายใน โปรแกรม

3 6. ครใู หน้ กั เรียนทำความเข้าใจกับตวั อย่างการเขียนโปรแกรมในหนงั สือเรยี นรายวชิ าพืน้ ฐาน เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.5 หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 2 การเขยี นโปรแกรมโดยใช้เหตุผล เชงิ ตรรกะ โดยใหน้ ักเรียนสงั เกตและพิจารณาสถานการณ์ทโี่ ปต้ อ้ งการเขียนโปรแกรมแสดง ปริมาณยาและเง่ือนไขทไ่ี ด้กำหนดให้ 7. ครูใหน้ กั เรยี นศึกษาขั้นตอนการเขยี นโปรแกรมโดยใชโ้ ปรแกรม Scratch จากหนังสอื เรยี น ซ่ึง ขั้นตอนการเขียนโปรแกรมประกอบด้วย 3 ส่วน คือ การวิเคราะห์ปัญหา ออกแบบวิธีการ แก้ปัญหาและการเขยี นโปรแกรม 8. ครใู หน้ ักเรยี นประยุกต์ใช้ข้ันตอนการเขยี นโปรแกรมกับสถานการณ์ท่ี 1 ในหนังสือเรียน โดยเริ่มตงั้ แตก่ ารวเิ คราะห์ปัญหา การออกแบบวิธีการแก้ปัญหาดว้ ยผังงาน และการเขียน โปรแกรมตามผังงานทีไ่ ด้ออกแบบไว้ 9. ครูใหน้ ักเรยี นลงมือปฏบิ ัติการเขียนโปรแกรมตามขั้นตอนในหนงั สอื เรียนต้ังแต่การลบตัวละครเดมิ ออกการเลือกตวั ละคร การเลือกพนื้ หลงั การเขียนคำสัง่ ควบคุมการทำงาน และการตรวจสอบการ ทำงานของโปรแกรม 10. ครใู หน้ กั เรยี นทำความเขา้ ใจกับตวั อย่างการเขยี นโปรแกรมกับสถานการณ์ที่ 2 โดยพิจารณา สถานการณ์ท่ีปูตอ้ งการเขียนโปรแกรมคำนวณหาดชั นมี วลกาย และใหผ้ ใู้ ช้ป้อนข้อมลู ต่าง ๆ ไมว่ ่าจะเปน็ ขอ้ มลู น้ำหนกั และข้อมูลส่วนสงู จากนั้นนำไปหาค่าดชั นีมวลกายและจงึ แสดงผล ทางหน้าจอ 11. ครูใหน้ กั เรียนลงมือปฏบิ ัติการเขียนโปรแกรมตามขั้นตอนในหนังสือเรียน และตรวจสอบ ผลลัพธ์จากการปฏิบตั ิตามขนั้ ตอนการเขยี นโปรแกรมวา่ ถูกต้องหรอื ไม่ ขั้นสรุป (10 นาที) 1. ครูประเมินผลนักเรียนจากการสังเกตการตอบคำถาม การทำใบงาน และสมุดประจำตวั 2. ครูใหน้ กั เรยี นกลบั ไปทบทวนให้ดเี พราะคาบหนา้ จะใหน้ ักเรียนทำใบงานเก็บคะแนน 6. ส่ือ/แหลง่ การเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรียนรายวชิ าพ้ืนฐานเทคโนโลยี (วิทยาการคำนวณ) ป.5 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 2 เรื่อง การเขยี นโปรแกรมโดยใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะ 2. เครือ่ งคอมพิวเตอร์ 3. ตัวอยา่ งโปรแกรมการคำนวณหาพน้ื ทว่ี งกลมทสี่ ร้างจากโปรแกรม Scratch

4 7. การวัดผลและประเมินผล 7.1 การวัดผล จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ วธิ ีการวดั เคร่ืองมอื ดา้ นความรู้ 1.ใหน้ กั เรยี นทำใบงาน เรอ่ื ง การเขียน ใบงาน เรื่อง การเขยี น โปรแกรมโดยใชภ้ าษา Scratch ขอ้ ใด โปรแกรมโดยใช้ภาษา ถกู ต้อง 1 คะแนน ข้อให้ตอบผดิ 0 คะแนน Scratch ดา้ นทักษะกระบวนการ วดั โดยการประเมินทักษะกระบวนการใน แบบประเมนิ ด้านทักษะ ด้านคณุ ลกั ษณะ ประเดน็ เกีย่ วกับ เร่ือง การเขียนโปรแกรม กระบวนการ อนั พึงประสงค์ โดยใชภ้ าษา Scratch วดั โดยสงั เกตคณุ ลกั ษณะอันพง่ึ ประสงคข์ อง แบบประเมินด้าน ผูเ้ รยี นใน 3 ดา้ น คุณลกั ษณะ 1.มวี ินยั อันพึงประสงค์ 2.ใฝเ่ รียนรู้ 3.มุ่งม่ังในการทำงาน สมรรถนะทส่ี ำคัญ วัดโดยการสังเกตความสามารถของผเู้ รียน แบบประเมินสมรรถนะ ของผู้เรยี น ใน 3 ดา้ น ได้แก่ ของผ้เู รยี น 1.ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 2.ความสามารถในการคิด 3.ความสามารถในการแกป้ ญั หา

5 7.2 เกณฑ์การประเมินผล 1) ดา้ นความรู้ 1.ใบงาน 10 คะแนน (เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 80) คะแนน 10 คะแนน หมายถึง ดีมาก คะแนน 8 - 9 คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน 6 - 7 คะแนน หมายถึง พอใช้ คะแนน 0 - 5 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรงุ หมายเหตุ ดา้ นความรู้เกณฑ์ผ่าน ร้อยละ 80 ทุกประเดน็ การประเมนิ 2) ดา้ นทกั ษะกระบวนการ 10 คะแนน หมายถึง ดีมาก 8-9 คะแนน หมายถงึ ดี 5-7 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0-4 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง หมายเหตุ ไดร้ ะดับ 4 ขึ้นไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน 3) ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ได้ระดบั 2 ขน้ึ ไป ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ 4) ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น ได้ระดบั 2 ขึน้ ไป ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน 8. กจิ กรรมเสนอแนะ (บอกรายละเอียดหรือข้อเสนอแนะอื่น ๆ ที่จะชว่ ยพัฒนากระบวนการเรยี นร้ขู องผ้เู รยี น) 1. นกั เรยี นควรมกี ารทบทวนความร้หู ลังเรยี นเสมอ 2. นกั เรยี นควรมีศึกษาหาความรู้เพ่ิมเติมหลังเรยี น 3. นกั เรยี นควรนำความรไู้ ปประยุคใช้ในชวี ติ ประจำวันหลังเรียน

6 9. ข้อเสนอแนะ  ใชส้ อนได้  ควรปรับปรงุ ………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………..………………………………………………… ………………………………………………………………………………………..…………..…………………………………… ลงชอื่ ………..…………………….………………….…….. ( นายนพดล วังซา้ ย ) ครูพี่เลี้ยง วันที่ 1 เดอื น มถิ นุ ายน พ.ศ. 2564 10. บันทึกหลงั การจัดการเรยี นรู้ ผลที่เกิดข้ึนแก่ผ้เู รยี น ด้านความรู้ จำนวนนกั เรียนท่ผี ่านเกณฑ.์ .....................คน คดิ เป็นร้อยละ....................... จำนวนนักเรียนทีไ่ มผ่ า่ นเกณฑ์..................คน คิดเปน็ ร้อยละ....................... ด้านทกั ษะกระบวนการ จำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ์......................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ....................... จำนวนนักเรียนที่ไมผ่ า่ นเกณฑ์..................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ....................... ด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ จำนวนนกั เรยี นท่ีผ่านเกณฑ์......................คน คิดเป็นร้อยละ....................... จำนวนนกั เรียนทมี่ าผา่ นเกณฑ์..................คน คิดเป็นรอ้ ยละ....................... ดา้ นสมรรถนะผู้เรียน จำนวนนักเรียนท่ผี า่ นเกณฑ.์ .....................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ....................... จำนวนนักเรียนท่ีมาผ่านเกณฑ์..................คน คิดเป็นรอ้ ยละ....................... 11. ปญั หาและอปุ สรรค 1.แผนการจดั การเรยี นรู้นี้ ไมไ่ ดใ้ ชส้ อนในภาคเรียนท่ี 1 เนื่องจากสถานการณ์โควดิ – 19 แลว้ แผนการจดั การเรยี นร้นู จ้ี ะต้องมีการลงมือปฏิบัติ จึงไม่สามารถนำไปใชส้ อนได้

7 12. แนวทางการแกป้ ัญหา 1.แผนการจดั การเรียนรู้นี้ นำไปใชส้ อนในภาคเรยี นที่ 2 แทน (ลงช่อื ) สริ ินทพิ ย์ ความสุข (นางสาวสริ นิ ทิพย์ ความสุข) ผสู้ อน

8 แบบบันทกึ การประเมินดา้ นความรู้ เรือ่ ง การเขยี นโปรแกรมโดยใช้ภาษา Scratch เลขที่ ใบงาน ร้อยล่ะ ผลการประเมนิ (10 คะแนน) ผา่ น ไมผ่ า่ น 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 หมายเหตุ 1. คะแนนจากใบงานเกณฑ์ผ่านร้อยละ 80 ลงชอื่ ครผู สู้ อน (นางสาวสริ นิ ทิพย์ ความสุข)

9 แบบบันทกึ การประเมนิ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ เรอื่ ง การเขยี นโปรแกรมโดยใช้ภาษา Scratch สามารถเขียนโปรแกรมโดยใชภ้ าษา Scratch ได้ 1.สามารถแกป้ ัญหาและอปุ สรรคต่าง ๆ ที่เผชิญได้ 2.ออกแบบผลงานอยา่ งสรา้ งสรรค์ 3.ประยุกตค์ วามรมู้ าใชใ้ นการเขียนโปรแกรม 4.สามารถตดั สินใจได้เหมาะสม 5.ใช้หลกั การในการเขยี นโปรแกรม เกณฑ์การประเมนิ คุณภาพด้านทักษะกระบวนการ เรอื่ ง การเขยี นโปรแกรมโดยใช้ภาษา Scratch ด้านทักษะ 5 (ดเี ย่ียม) 4 (ดีมาก) ระดบั คณุ ภาพ 1 (ปรับปรงุ ) กระบวนการ เขียน เขยี น 3 (ดี) 2 (พอใช้) เขียน สามารถเขยี น โปรแกรม โปรแกรม โปรแกรมได้ โปรแกรมโดย ไดค้ รบทุก ได้ 4 ข้อ เขียน เขยี น 1 ข้อ ใชภ้ าษา ขอ้ โปรแกรมได้ โปรแกรมได้ Scratch ได้ 3 ขอ้ 2 ข้อ หมายเหตุ ได้ระดับคุณภาพ 2 ขึน้ ไปทุกตัวชีว้ ดั ถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน

10 แบบประเมินดา้ นทกั ษะกระบวนการ เรอื่ ง การเขียนโปรแกรมโดยใชภ้ าษา Scratch ทักษะกระบวนการ ผลการประเมิน เลขท่ี สามารถเขียนโปรแกรมโดยใช้ ผา่ น ไม่ผา่ น ภาษา Scratch ได้ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 หมายเหตุ ได้ระดบั คุณภาพ 2 ขึน้ ไปทุกตัวช้วี ดั ถอื ว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ ลงชอ่ื ครผู ้สู อน (นางสาวสิรนิ ทพิ ย์ ความสุข)

11 แบบประเมินดา้ นสมรรถนะผูเ้ รียน เร่อื ง การเขียนโปรแกรมโดยใช้ภาษา Scratch ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 1. ใช้เทคโนโลยใี นการแก้ปัญหาอย่างสร้างสรรค์ 2. มีคุณธรรม จรยิ ธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยี 3. เลือกและใชเ้ ทคโนโลยีได้เหมาะสม 4. ใช้ทกั ษะทางเทคโนโลยใี นชีวติ ได้ ความสามารถในการคดิ 1. มีความสามารถในการคดิ วิเคราะห์ 2. มที ักษะในการคิดออกแบบอย่างสร้างสรรค์ 3. มคี วามสามารถในการคิดอยา่ งมรี ะบบ 4. ตัดสินใจแก้ปญั หาเกย่ี วกบั ตนเองได้ ความสามารถในการแกป้ ญั หา 1. สามารถแก้ปญั หาและอุปสรรคตา่ ง ๆ ทเี่ ผชิญได้ 2. ใชเ้ หตุผลในการแกป้ ัญหา 3. ประยุกต์ความรมู้ าใชใ้ นแก้ไขปัญหา 4. สามารถตัดสนิ ใจได้เหมาะสม ด้านสมรรถนะ 4 (ดีมาก) ระดับคุณภาพ 1 (ปรับปรุง) ผู้เรียน ความสามารถใน 3 (ดี) 2 (พอใช้) ความสามารถใน การใชเ้ ทคโนโลยี ความสามารถใน ความสามารถใน การใชเ้ ทคโนโลยี ความสามารถใน ครบทกุ ข้อ การใช้เทคโนโลยี การใช้เทคโนโลยี 1 ข้อ การใช้เทคโนโลยี ความสามารถใน 3 ข้อ 2 ขอ้ ความสามารถ การคิดครบทกุ ขอ้ ความสามารถ ความสามารถ ในการคิด 1 ขอ้ ความสามารถใน ความสามารถใน ในการคิด 3 ขอ้ ในการคดิ 2 ขอ้ ความสามารถใน การคิด การแกป้ ัญหา ความสามารถใน ความสามารถใน การแกป้ ัญหา1 ข้อ ความสามารถใน ครบทุกข้อ การแกป้ ัญหา3 ข้อ การแกป้ ัญหา2 ข้อ การแกป้ ญั หา

12 หมายเหตุ ได้ระดบั คุณภาพ 2 ขึน้ ไปทุกตัวชี้วัด ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์การประเมิน ได้ระดับคณุ ภาพ 4 หมายถงึ ดมี าก ได้ระดับคณุ ภาพ 3 หมายถงึ ดี ได้ระดบั คณุ ภาพ 2 หมายถึง พอใช้ ได้ระดับคณุ ภาพ 1 หมายถึง ปรบั ปรุง

แบบประเมินดา้ นสมรรถนะผู้เรยี น 13 เรอ่ื ง การเขียนโปรแกรมโดยใช้ภาษา Scratch ผลการประเมนิ ผ่าน ไมผ่ า่ น สมรรถนะผู้เรียน เลขที่ ความสามารถ ความสามารถ ความสามารถ ในการส่อื สาร ในการคิด ในการคิดแกป้ ัญหา 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 หมายเหตุ ไดร้ ะดับคุณภาพ 2 ข้ึนไปทุกตัวช้วี ดั ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ ลงช่ือ ครผู ู้สอน (นางสาวสริ ินทพิ ย์ ความสุข)

14 แบบบนั ทึกการประเมนิ ด้านคณุ ลกั ษณะ อนั พึงประสงค์ เรือ่ ง การเขียนโปรแกรมโดยใช้ภาษา Scratch มีวนิ ัย 1. ปฏิบัตติ ามข้อตกลงอยา่ งเครง่ ครดั 2. ควบคมุ ตนเองไดใ้ นระหว่างการทำงาน 3. ทำงานท่ีได้มอบหมายดว้ ยตนเองอย่างต้งั ใจ 4. ทำงานเสร็จตามเวลาท่ีกำหนด ใฝเ่ รยี นรู้ 1. มีความมงุ่ มน่ั ตง้ั ใจในการเรยี น 2. มีความสนใจในกจิ กรรมการเรียนรู้ตา่ ง ๆ 3. มีความกระตือรอื ร้นในกจิ กรรมและงานทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย 4. ศึกษาหาความรู้เพม่ิ เติมหลังเรียนเสมอ ม่งุ มง่ั ในการทำงาน 1. ตงั้ ใจทำงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย 2. อดทน ไม่ยอ่ ทอ้ ต่ออปุ สรรคในการทำงาน 3. สนกุ สนาน ร่างเริงและทำงานดว้ ยความเต็มใจ 4. มีสมาธิในการทำงานท่ีได้รบั มอบหมาย ด้านคุณลกั ษณะ ระดบั คุณภาพ อันพงึ ประสงค์ 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) มีวนิ ัย มีคุณลกั ษณะอนั พึง มีคณุ ลกั ษณะอันพงึ มคี ุณลักษณะอนั พงึ มคี ุณลกั ษณะอนั พึง ประสงค์ดา้ นวนิ ยั ได้ ประสงคด์ ้านวนิ ยั ได้ ประสงค์ด้านวนิ ยั ได้ ประสงคด์ า้ นวนิ ัยได้ ครบทุกขอ้ 3 ขอ้ 2 ข้อ 1 ขอ้ ใฝ่เรียนรู้ มีคณุ ลกั ษณะอนั พงึ มีคณุ ลกั ษณะอนั พึง มีคุณลกั ษณะอันพงึ มีคุณลกั ษณะอันพึง ประสงคด์ า้ นใฝ่ ประสงค์ด้านใฝ่ ประสงคด์ า้ นใฝ่ ประสงคด์ า้ นใฝ่ เรียนร้ไู ด้ครบทุกข้อ เรียนรู้ได้ 3 ข้อ เรยี นรู้ได้ 2 ขอ้ เรียนรู้ได้ 1 ขอ้ มีคุณลักษณะอันพึง มคี ุณลักษณะอันพึง มีคุณลกั ษณะอนั พึง มคี ุณลกั ษณะอนั พึง มุ่งมั่งในการทำงาน ประสงค์ด้านมุ่งมั่น ประสงคด์ า้ นมงุ่ มั่น ประสงคด์ ้านมงุ่ มั่น ประสงค์ด้านมุ่งมนั่ ในการทำงานได้ ในการทำงานได้ 3 ในการทำงานได้ 2 ในการทำงานได้ 1 ครบทุกขอ้ ขอ้ ข้อ ข้อ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คุณภาพ 2 ขึน้ ไปทุกตัวช้วี ัด ถือว่าผา่ นเกณฑ์การประเมิน

15 ไดร้ ะดับคุณภาพ 4 หมายถงึ ดมี าก ไดร้ ะดบั คุณภาพ 3 หมายถงึ ดี ได้ระดบั คณุ ภาพ 2 หมายถึง พอใช้ ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 1 หมายถงึ ปรับปรงุ

16 แบบบันทึกการประเมนิ ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ เร่อื ง การเขียนโปรแกรมโดยใช้ภาษา Scratch คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ ผลการประเมิน ผ่าน ไมผ่ า่ น เลขท่ี มวี นิ ัย ใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มนั่ ใน การทำงาน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คุณภาพ 2 ขนึ้ ไปทุกตวั ชว้ี ัด ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ ลงชื่อ ครูผู้สอน (นางสาวสิรินทพิ ย์ ความสุข)

1 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 12 หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 2 การเขียนโปรแกรมโดยใช้เหตุผลเชิงตรรกะ เวลา 10 ชว่ั โมง เรอื่ ง ภาษา Scratch เวลา 1 ชั่วโมง รายวชิ า วิทยาการคำนวณ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี 5 1. มาตรฐาน/ตวั ชี้วดั / ผลการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใชแ้ นวคดิ เชิงคำนวณในการแก้ปญั หาทีพ่ บในชีวติ จริงอยา่ งเป็นขนั้ ตอน และเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารในการเรยี นรู้ การทำงาน และการแกป้ ญั หา ไดอ้ ย่างมปี ระสิทธิภาพ รเู้ ทา่ ทันและมีจริยธรรม ตวั ชวี้ ัด ป.5/2 ออกแบบ และเขยี นโปรแกรมทม่ี ีการใช้เหตผุ ลเชงิ ตรรกะอย่างงา่ ย ตรวจหา ขอ้ ผดิ พลาดและแก้ไข 2. สาระสำคัญ การเขยี นโปรแกรมโดยใช้ภาษา Scratch คือ การเขยี นคำสัง่ เพ่อื ควบคุมการทำงานใหก้ ับตวั ละคร แตล่ ะตวั ท่สี ร้างขนึ้ โดยใช้คำส่ังท่เี ขา้ ใจงา่ ยในการสงั่ ใหต้ วั ละครทำงาน สำหรบั ขัน้ ตอนในการเขยี น โปรแกรม จะประกอบด้วยการวเิ คราะหป์ ัญหา ออกแบบวิธีการแกป้ ัญหา และการเขยี นโปรแกรม 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ด้านความรู้ 1. บอกขัน้ ตอนในการเขยี นโปรแกรมไดถ้ กู ต้อง 2. อธบิ ายวธิ กี ารเขยี นโปรแกรมโดยใช้ภาษา Scratch ได้ถูกต้อง ดา้ นทกั ษะกระบวนการ 1. เขยี นโปรแกรมโดยใช้ภาษา Scratch ได้ ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ มง่ั ในการทำงาน สมรรถนะที่สำคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา

2 4. สาระการเรียนรู้ - การออกแบบและเขยี นโปรแกรมที่มีการตรวจสอบเงอื่ นไขท่คี รอบคลมุ ทกุ กรณีเพ่อื ให้ไดผ้ ลลัพธ์ ท่ีถกู ต้องตรงตามความต้องการ - ซอฟตแ์ วร์ที่ใชใ้ นการเขียนโปรแกรม เช่น Scratch, logo 5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นำ (10 นาที) 1. ครทู บทวนความร้เู ดิมของนักเรียนเก่ียวกับการออกแบบโปรแกรมดว้ ยการเขียนข้อความและ ทบทวนความร้เู มื่อชวั่ โมงทแ่ี ล้ว 2. ครอู ธิบายเพิ่มเติมเกย่ี วกับการเขียนโปรแกรมโดยใชภ้ าษา Scratch เพอ่ื นำนักเรยี นเข้าสู่บทเรยี น และเตรียมตัวทำแบบฝกึ หัดท่ีได้บอกนกั เรียนเมอ่ื ช่ัวโมงท่ีผ่านมาแล้ว ขน้ั สอน (40 นาที) 1. ครใู ห้นักเรยี นจบั คู่กบั เพอื่ นท่ีน่งั ขา้ ง ๆ และรว่ มกันทำกจิ กรรมฝกึ ทักษะการเขียนโปรแกรม โดยให้นักเรียนพิจารณาสถานการณ์ทป่ี ตู ้องการเขยี นโปรแกรมและตรวจสอบชนิดของมุมตาม เง่อื นไขที่กำหนด จากนั้นให้นักเรยี นออกแบบผังงานวิธกี ารแกป้ ัญหาของสถานการณ์และ เขยี นโปรแกรมตรวจสอบชนดิ ของมุม 2. ครใู ห้นกั เรียนแต่ละคู่ลงมือทำใบงานที่ 2.3 เรื่อง การเขียนโปรแกรมโดยใชภ้ าษา Scratch เพอื่ ขยายความเข้าใจมากย่ิงขึ้น และสง่ ตัวแทนออกมานำเสนอผลงานหน้าชัน้ เรียน โดยครูคอยให้ คำแนะนำตามความเหมาะสม ข้นั สรปุ (10 นาที) 1. ครปู ระเมินผลนกั เรียน จากการสังเกตการตอบคำถาม การทำใบงาน และการบนั ทึกใน สมดุ ประจำตัว 2. ครตู รวจสอบความถูกต้องของผลงานการทำใบงานท่ี 2.3 และกิจกรรมฝึกทักษะ 3. นกั เรยี นและครรู ว่ มกันสรปุ เกี่ยวกบั การใช้งานโปรแกรม Scratch ขน้ั ตอนการเขยี นโปรแกรม และการตรวจสอบความถูกต้องของการเขียนโปรแกรม 6. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรยี นรายวชิ าพ้ืนฐานเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.5 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การเขยี นโปรแกรมโดยใชเ้ หตุผลเชิงตรรกะ 2. เครอื่ งคอมพิวเตอร์ 3. ตวั อยา่ งโปรแกรมการคำนวณหาพนื้ ท่ีวงกลมที่สร้างจากโปรแกรม Scratch

3 7. การวัดผลและประเมินผล 7.1 การวดั ผล จุดประสงค์การเรยี นรู้ วธิ ีการวัด เคร่อื งมอื ดา้ นความรู้ 1.ให้นักเรยี นทำใบงาน เรื่อง การเขียน ใบงาน เรอื่ ง การเขยี น โปรแกรมโดยใชภ้ าษา Scratch ข้อใด โปรแกรมโดยใชภ้ าษา ถูกต้อง 1 คะแนน ข้อใหต้ อบผิด 0 คะแนน Scratch ด้านทกั ษะกระบวนการ วดั โดยการประเมนิ ทักษะกระบวนการใน แบบประเมินดา้ นทักษะ ด้านคุณลกั ษณะ ประเด็นเกย่ี วกับ เร่อื ง การเขียนโปรแกรม กระบวนการ อันพงึ ประสงค์ โดยใชภ้ าษา Scratch วดั โดยสงั เกตคณุ ลกั ษณะอันพ่ึงประสงคข์ อง แบบประเมินดา้ น ผู้เรยี นใน 3 ดา้ น คณุ ลกั ษณะ 1.มีวนิ ัย อันพงึ ประสงค์ 2.ใฝเ่ รยี นรู้ 3.มงุ่ ม่ังในการทำงาน สมรรถนะท่ีสำคัญ วัดโดยการสงั เกตความสามารถของผู้เรียน แบบประเมินสมรรถนะ ของผเู้ รยี น ใน 3 ด้าน ไดแ้ ก่ ของผ้เู รยี น 1.ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 2.ความสามารถในการคิด 3.ความสามารถในการแก้ปัญหา 7.2 เกณฑ์การประเมินผล 1) ดา้ นความรู้ 1.ใบงาน 10 คะแนน (เกณฑ์ผ่านร้อยละ 80) คะแนน 10 คะแนน หมายถึง ดมี าก คะแนน 8 - 9 คะแนน หมายถงึ ดี คะแนน 6 - 7 คะแนน หมายถงึ พอใช้ คะแนน 0 - 5 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรงุ หมายเหตุ ด้านความร้เู กณฑผ์ ่าน ร้อยละ 80 ทุกประเด็นการประเมิน

4 2) ดา้ นทักษะกระบวนการ 10 คะแนน หมายถึง ดีมาก 8-9 คะแนน หมายถึง ดี 5-7 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0-4 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง หมายเหตุ ไดร้ ะดับ 4 ขึ้นไป ถอื วา่ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน 3) ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ไดร้ ะดับ 2 ข้นึ ไป ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน 4) ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผูเ้ รียน ไดร้ ะดบั 2 ข้นึ ไป ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน 8. กจิ กรรมเสนอแนะ (บอกรายละเอียดหรือข้อเสนอแนะอ่ืน ๆ ท่ีจะช่วยพัฒนากระบวนการเรียนรู้ของผเู้ รียน) 1. นักเรียนควรมีการทบทวนความรหู้ ลังเรียนเสมอ 2. นกั เรยี นควรมีศึกษาหาความร้เู พ่มิ เติมหลังเรยี น 3. นกั เรยี นควรนำความรไู้ ปประยุคใช้ในชวี ติ ประจำวันหลงั เรียน 9. ขอ้ เสนอแนะ  ใชส้ อนได้  ควรปรับปรงุ ………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………..………………………………………………… ………………………………………………………………………………………..…………..…………………………………… ลงชอื่ ………..…………………….………………….…….. ( นายนพดล วังซา้ ย ) ครูพเี่ ลีย้ ง วนั ที่ 1 เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2564

5 10. บนั ทกึ หลังการจัดการเรียนรู้ ผลท่เี กดิ ข้นึ แกผ่ ู้เรยี น ด้านความรู้ จำนวนนักเรยี นทผ่ี า่ นเกณฑ์......................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ....................... จำนวนนักเรียนที่ไม่ผา่ นเกณฑ์..................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ....................... ด้านทักษะกระบวนการ จำนวนนกั เรยี นท่ีผา่ นเกณฑ์......................คน คดิ เป็นร้อยละ....................... จำนวนนกั เรยี นที่ไม่ผ่านเกณฑ์..................คน คิดเปน็ ร้อยละ....................... ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ จำนวนนกั เรยี นที่ผา่ นเกณฑ.์ .....................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ....................... จำนวนนกั เรยี นทม่ี าผา่ นเกณฑ์..................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ....................... ด้านสมรรถนะผ้เู รยี น จำนวนนักเรยี นท่ีผ่านเกณฑ์......................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ....................... จำนวนนกั เรยี นทีม่ าผา่ นเกณฑ์..................คน คดิ เป็นร้อยละ....................... 11. ปญั หาและอปุ สรรค 1.แผนการจดั การเรยี นร้นู ี้ ไม่ไดใ้ ช้สอนในภาคเรียนท่ี 1 เน่ืองจากสถานการณโ์ ควิด – 19 แลว้ แผนการจัดการเรียนรู้นี้จะตอ้ งมกี ารลงมือปฏิบัติ จึงไมส่ ามารถนำไปใชส้ อนได้ 12. แนวทางการแก้ปญั หา 1.แผนการจดั การเรยี นรูน้ ้ี นำไปใช้สอนในภาคเรียนที่ 2 แทน (ลงชื่อ) สิรินทพิ ย์ ความสขุ (นางสาวสิรนิ ทพิ ย์ ความสุข) ผสู้ อน

6 แบบบันทึกการประเมนิ ด้านความรู้ เรอื่ ง ภาษา Scratch เลขที่ ใบงาน ร้อยละ่ ผลการประเมนิ (10 คะแนน) ผา่ น ไม่ผา่ น 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 หมายเหตุ 1. คะแนนจากใบงานเกณฑ์ผา่ นรอ้ ยละ 80 ลงชือ่ ครูผสู้ อน ((นางสาวสิรินทพิ ย์ ความสขุ )

7 แบบบนั ทึกการประเมนิ ด้านทกั ษะกระบวนการ เร่ือง ภาษา Scratch สามารถเขียนโปรแกรมโดยใชภ้ าษา Scratch ได้ 1.สามารถแกป้ ัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ทีเ่ ผชิญได้ 2.ออกแบบผลงานอย่างสร้างสรรค์ 3.ประยุกตค์ วามรูม้ าใชใ้ นการเขียนโปรแกรม 4.สามารถตดั สนิ ใจได้เหมาะสม 5.ใช้หลักการในการเขียนโปรแกรม เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพดา้ นทักษะกระบวนการ เรื่อง ภาษา Scratch ดา้ นทักษะ 5 (ดเี ย่ียม) 4 (ดีมาก) ระดบั คุณภาพ 1 (ปรับปรงุ ) กระบวนการ เขียน เขยี น 3 (ดี) 2 (พอใช้) เขียน สามารถเขยี น โปรแกรม โปรแกรม โปรแกรมได้ โปรแกรมโดย ไดค้ รบทุก ได้ 4 ข้อ เขียน เขยี น 1 ข้อ ใช้ภาษา ขอ้ โปรแกรมได้ โปรแกรมได้ Scratch ได้ 3 ข้อ 2 ข้อ หมายเหตุ ไดร้ ะดับคุณภาพ 2 ข้นึ ไปทุกตัวชี้วดั ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ

8 แบบประเมนิ ด้านทักษะกระบวนการ เรื่อง ภาษา Scratch ทักษะกระบวนการ ผลการประเมนิ เลขที่ สามารถเขียนโปรแกรมโดยใช้ ผา่ น ไมผ่ ่าน ภาษา Scratch ได้ 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 หมายเหตุ ได้ระดบั คุณภาพ 2 ขึน้ ไปทุกตวั ชว้ี ดั ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ลงชอื่ ครูผูส้ อน ((นางสาวสริ ินทพิ ย์ ความสุข)

9 แบบประเมนิ ดา้ นสมรรถนะผูเ้ รยี น เรอื่ ง ภาษา Scratch ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 1. ใช้เทคโนโลยใี นการแก้ปัญหาอยา่ งสรา้ งสรรค์ 2. มีคุณธรรม จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยี 3. เลอื กและใช้เทคโนโลยไี ดเ้ หมาะสม 4. ใช้ทักษะทางเทคโนโลยใี นชวี ติ ได้ ความสามารถในการคิด 1. มคี วามสามารถในการคิดวเิ คราะห์ 2. มีทกั ษะในการคิดออกแบบอย่างสร้างสรรค์ 3. มีความสามารถในการคดิ อย่างมีระบบ 4. ตัดสนิ ใจแกป้ ญั หาเกยี่ วกับตนเองได้ ความสามารถในการแกป้ ัญหา 1. สามารถแก้ปญั หาและอปุ สรรคต่าง ๆ ท่ีเผชญิ ได้ 2. ใชเ้ หตผุ ลในการแกป้ ัญหา 3. ประยุกต์ความรู้มาใช้ในแก้ไขปญั หา 4. สามารถตัดสินใจไดเ้ หมาะสม ดา้ นสมรรถนะ ระดับคณุ ภาพ ผู้เรียน 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน การใช้เทคโนโลยี การใชเ้ ทคโนโลยี การใช้เทคโนโลยี การใช้เทคโนโลยี การใชเ้ ทคโนโลยี 1 ข้อ ครบทุกข้อ 3 ขอ้ 2 ขอ้ ความสามารถ ในการคิด 1 ข้อ ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถ ความสามารถ ความสามารถใน การแกป้ ัญหา1 ข้อ การคดิ การคดิ ครบทุกขอ้ ในการคดิ 3 ข้อ ในการคิด 2 ขอ้ ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน ความสามารถใน การแกป้ ัญหา การแก้ปัญหา การแกป้ ัญหา3 ข้อ การแก้ปัญหา2 ข้อ ครบทกุ ขอ้

10 หมายเหตุ ได้ระดบั คุณภาพ 2 ขึน้ ไปทุกตัวชี้วัด ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์การประเมิน ได้ระดับคณุ ภาพ 4 หมายถงึ ดมี าก ได้ระดับคณุ ภาพ 3 หมายถงึ ดี ได้ระดบั คณุ ภาพ 2 หมายถึง พอใช้ ได้ระดับคณุ ภาพ 1 หมายถึง ปรบั ปรุง

แบบประเมินดา้ นสมรรถนะผเู้ รียน 11 เรอื่ ง ภาษา Scratch ผลการประเมิน ผา่ น ไม่ผ่าน สมรรถนะผเู้ รยี น เลขท่ี ความสามารถ ความสามารถ ความสามารถ ในการส่ือสาร ในการคิด ในการคิดแกป้ ญั หา 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 หมายเหตุ ได้ระดับคุณภาพ 2 ข้นึ ไปทุกตวั ชี้วัด ถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน ลงชอื่ ครผู ูส้ อน ((นางสาวสริ นิ ทิพย์ ความสขุ )

12 แบบบนั ทกึ การประเมินดา้ นคุณลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์ เรอ่ื ง ภาษา Scratch มีวินยั 1. ปฏิบตั ติ ามข้อตกลงอย่างเครง่ ครัด 2. ควบคมุ ตนเองได้ในระหวา่ งการทำงาน 3. ทำงานท่ีได้มอบหมายดว้ ยตนเองอย่างตั้งใจ 4. ทำงานเสร็จตามเวลาท่ีกำหนด ใฝเ่ รยี นรู้ 1. มคี วามม่งุ มัน่ ตั้งใจในการเรยี น 2. มคี วามสนใจในกจิ กรรมการเรียนรู้ต่าง ๆ 3. มคี วามกระตือรอื ร้นในกจิ กรรมและงานที่ได้รบั มอบหมาย 4. ศกึ ษาหาความรู้เพ่ิมเติมหลังเรยี นเสมอ มงุ่ มัง่ ในการทำงาน 1. ตัง้ ใจทำงานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 2. อดทน ไมย่ อ่ ท้อต่ออุปสรรคในการทำงาน 3. สนกุ สนาน รา่ งเริงและทำงานด้วยความเตม็ ใจ 4. มีสมาธิในการทำงานท่ีได้รับมอบหมาย ดา้ นคณุ ลักษณะ ระดับคณุ ภาพ อันพึงประสงค์ 4 (ดีมาก) 3 (ดี) 2 (พอใช้) 1 (ปรับปรุง) มีวนิ ัย มีคณุ ลักษณะอันพึง มคี ณุ ลักษณะอันพงึ มคี ุณลกั ษณะอนั พึง มคี ณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคด์ า้ นวินัยได้ ประสงค์ดา้ นวนิ ัยได้ ประสงคด์ า้ นวินัยได้ ประสงคด์ า้ นวินยั ได้ ครบทกุ ข้อ 3 ข้อ 2 ขอ้ 1 ขอ้ ใฝ่เรยี นรู้ มีคณุ ลกั ษณะอันพึง มีคณุ ลักษณะอันพึง มคี ุณลกั ษณะอนั พึง มคี ุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ด้านใฝ่ ประสงคด์ ้านใฝ่ ประสงคด์ า้ นใฝ่ ประสงค์ดา้ นใฝ่ เรียนรูไ้ ด้ครบทุกข้อ เรียนรู้ได้ 3 ข้อ เรียนรไู้ ด้ 2 ข้อ เรยี นร้ไู ด้ 1 ข้อ มคี ุณลักษณะอันพึง มีคณุ ลักษณะอันพงึ มีคุณลักษณะอนั พึง มคี ุณลกั ษณะอันพงึ ม่งุ ม่ังในการทำงาน ประสงคด์ ้านมุง่ มัน่ ประสงค์ดา้ นม่งุ ม่ัน ประสงค์ด้านมุ่งมนั่ ประสงค์ด้านมุ่งมัน่ ในการทำงานได้ ในการทำงานได้ 3 ในการทำงานได้ 2 ในการทำงานได้ 1 ครบทุกข้อ ขอ้ ขอ้ ขอ้

13 หมายเหตุ ได้ระดบั คุณภาพ 2 ขึ้นไปทุกตัวชี้วัด ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์การประเมิน ได้ระดับคุณภาพ 4 หมายถงึ ดมี าก ได้ระดบั คณุ ภาพ 3 หมายถงึ ดี ได้ระดบั คุณภาพ 2 หมายถึง พอใช้ ได้ระดับคณุ ภาพ 1 หมายถึง ปรบั ปรุง

14 แบบบนั ทกึ การประเมินด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ เร่ือง ภาษา Scratch คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ผลการประเมิน ผ่าน ไมผ่ า่ น เลขท่ี มีวนิ ัย ใฝเ่ รียนรู้ มงุ่ มนั่ ใน การทำงาน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 11 12 13 14 15 หมายเหตุ ได้ระดบั คุณภาพ 2 ขึ้นไปทุกตัวชีว้ ดั ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ลงชอ่ื ครูผู้สอน ((นางสาวสริ ินทิพย์ ความสุข)

หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 3 หนว่ ยการเรียนรู้ ข้อมลู สารสนเทศ รหสั – ชอ่ื รายวชิ า เทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) กลุ่มสาระการเรียนรู้ วทิ ยาศาสตร์ ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 เวลา 4 ชวั่ โมง ผสู้ อน : นางสาวสริ ินทพิ ย์ ความสุข โรงเรียนอนบุ าลแม่เมาะ (ชุมชน 1 ) มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคดิ เชิงคำนวณในการแกป้ ัญหาท่ีพบในชวี ติ จรงิ อยา่ งเปน็ ขั้นตอนและเป็น ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแกป้ ัญหา ได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ รเู้ ท่าทันและมจี รยิ ธรรม ตัวชว้ี ดั /ผลการเรยี นรู้ ป.5/3 ใชอ้ นิ เทอร์เนต็ คน้ หาข้อมูล ตดิ ตอ่ สือ่ สารและทำงานรว่ มกัน ประเมิน ความน่าเชื่อถือของข้อมลู สาระสำคัญ ขอ้ มลู คือ ข้อเทจ็ จริงทเ่ี กย่ี วข้องกบั ส่งิ ต่าง ๆ สามารถแบง่ ออกเป็น 5 ประเภท คือ ขอ้ มูล ตวั อกั ขระ ข้อมูลภาพ ข้อมลู ตัวเลข ขอ้ มูลเสียง และขอ้ มลู อ่ืน ๆ การค้นหาข้อมลู เพื่อทำการสิง่ ใดสิง่ หน่ึง ตอ้ งพจิ ารณาข้อมูลท่ดี ีทีส่ ุด ซ่ึงข้อมลู ที่อยู่รอบตวั เรามีจำนวนมาก ข้อมลู บางอยา่ งสามารถนำมาใช้ไดท้ นั ที และข้อมูลบางอยา่ งจะต้องนำไปประมวลผลให้เป็นสารสนเทศก่อนนำมาใช้งาน เพื่อให้นำข้อมลู ไปใชไ้ ด้ อย่างสะดวกและเกิดประโยชน์สูงสดุ ปจั จุบนั ไดม้ กี ารคน้ หาขอ้ มูลท่รี วดเร็วโดยใชเ้ ว็บไซต์ท่เี รียกวา่ Search Engine ในการสืบคน้ ขอ้ มูลจากแหล่งข้อมูลตา่ ง ๆ จะต้องมีการประเมินความถกู ต้อง ความนา่ เชอ่ื ถือของ ขอ้ มูลเพ่อื ให้ได้ขอ้ มูลที่ตรงตามความต้องการ สาระการเรยี นรู้ 1) การค้นหาข้อมลู ในอนิ เทอร์เน็ต และการพิจารณาผลการค้นหา 2) การประเมินความน่าเช่ือถือของข้อมูล เชน่ เปรียบเทียบความสอดคล้อง สมบรู ณ์ของข้อมูล จากหลายแหล่ง แหล่งตน้ ตอของขอ้ มูล ผู้เขยี น วนั ทเี่ ผยแพรข่ ้อมูล 3) ขอ้ มลู ที่ดตี อ้ งมีรายละเอยี ดครบทกุ ดา้ น เชน่ ข้อดีและขอ้ เสีย ประโยชนแ์ ละโทษ 4) การรวบรวมขอ้ มลู ประมวลผล สร้างทางเลอื กประเมนิ ผลจะทำให้ไดส้ ารสนเทศเพ่ือใชใ้ น การแก้ปัญหาหรอื การตัดสินใจได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ 5) การใชซ้ อฟตแ์ วร์หรือบริการบนอนิ เทอรเ์ น็ตที่หลากหลายในการรวบรวม ประมวลผล สรา้ งทางเลอื ก ประเมินผล นำเสนอ จะช่วยให้การแก้ปญั หาทำได้อยา่ งรวดเรว็ ถกู ต้อง และแม่นยำ

6. ตวั อย่างปญั หา เชน่ ถา่ ยภาพ และสำรวจแผนทีใ่ นท้องถิ่นเพอื่ นำเสนอแนวทางในการจดั การ พน้ื ทีว่ า่ งให้เกิดประโยชน์ ทำแบบสำรวจความคิดเห็นออนไลน์ และวิเคราะหข์ ้อมลู นำเสนอข้อมูลโดยใช้ blog หรือ web page จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ ความรู้ 1. อธบิ ายความหมายของข้อมลู ไดถ้ กู ต้อง 2. บอกประเภทของข้อมลู ได้ถูกตอ้ ง 3. บอกลกั ษณะของข้อมลู ท่ดี ไี ด้ถกู ต้อง 4. อธิบายประโยชนท์ ี่ไดร้ ับจากการนำขอ้ มูลมาใชง้ านได้ 5. อธิบายประเภทของแหลง่ ข้อมูลไดถ้ ูกตอ้ ง 6. จำแนกข้อมลู ตามแหล่งข้อมูลไดอ้ ย่างถูกต้อง 7. อธิบายข้ันตอนการรวบรวมข้อมลู ได้ถกู ต้อง 8. บอกวธิ กี ารรวบรวมข้อมูลได้ 9. อธิบายความหมายของการประมวลผลข้อมูลได้ 10. บอกวธิ ีการประมวลผลขอ้ มลู ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง 11. อธบิ ายวิธีการสบื คน้ ข้อมูลโดยใช้อนิ เทอรเ์ นต็ ได้ 12. บอกหลักในการประเมนิ ความนา่ เชือ่ ถือของข้อมลู จากการสืบคน้ ได้ ทักษะกระบวนการ 1. เขียนสรุปการจำแนกข้อมลู ตามประเภทของขอ้ มูลในรูปแบบผงั มโนทศั นไ์ ด้อย่างถกู ต้อง 2. สืบค้นขอ้ มลู เกีย่ วกับลักษณะของขอ้ มลู ท่ดี แี ละประโยชน์ท่ีไดจ้ ากการนำข้อมลู มาใช้งาน 3. เขยี นสรปุ องค์ความร้ใู นรูปแบบผงั มโนทัศน์ เรอ่ื ง แหลง่ ข้อมูล ไดถ้ ูกต้อง 4. เขยี นการวางแผนรวบรวมข้อมูลตามขนั้ ตอนต่าง ๆ ได้ 5. สร้างทางเลือกในการประมวลผลข้อมูลได้ 6. สืบคน้ ขอ้ มลู โดยใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตตามวธิ ีการตา่ ง ๆ ได้ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุง่ มัง่ ในการทำงาน

สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแก้ปญั หา 3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 4. ความสามารถในการสื่อสาร 5. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต การประเมนิ ผลรวบยอด ชิน้ งาน 1. ใบงานที่ 5 เรื่อง ข้อมูล (รูปแบบผังมโนทศั น์) 2. ใบงานท่ี 6 เรือ่ ง ลกั ษณะของขอ้ มลู ที่ดี 3. ใบงานท่ี 7 เรอ่ื ง การรวบรวมข้อมูล 4. ใบงานท่ี 8 เรอื่ ง การประมวลผลขอ้ มูล 5. ใบงานท่ี 9 เรื่อง การสบื คน้ ข้อมูลด้วยอนิ เทอร์เน็ต การประเมินผล ระดับคณุ ภาพ น้ำหนกั ประเดน็ การประเมิน ดี (3) พอใช้ (2) คะแนน ดมี าก (4) ปรบั ปรุง 6 (1) 6 ใบงานที่ 5 เร่อื ง ข้อมูล (รปู แบบผัง 10 คะแนน 8-9 คะแนน 5-7 คะแนน 6 มโนทัศน์) 0-4 คะแนน 5 ใบงานท่ี 6 เรอ่ื ง ลักษณะของขอ้ มูลที่ดี 10 คะแนน 8-9 คะแนน 5-7 คะแนน 8-9 คะแนน 5-7 คะแนน 0-4 คะแนน 5 ใบงานที่ 7 เรอ่ื ง การรวบรวมขอ้ มูล 10 คะแนน 8-9 คะแนน 5-7 คะแนน 0-4 คะแนน 10 0-4 คะแนน 38 ใบงานที่ 8 เร่ือง การประมวลผลข้อมลู 10 คะแนน ใบงานท่ี 9 เรอ่ื ง การสืบคน้ ข้อมลู ด้วย 10 คะแนน 8-9 คะแนน 5-7 คะแนน 0-4 คะแนน อินเทอร์เนต็ 5-7 คะแนน 0-4 คะแนน แบบทดสอบทา้ ยหน่วยการเรียนรู้ 10 คะแนน 8-9 คะแนน รวม

กิจกรรมการเรียนรู้ ชว่ั โมงท่ี 1 กิจกรรมหลักของครู 1. ครเู ชค็ ชอ่ื เพ่ือเตรยี มความพร้อมในการเรยี น ในGoogle Meet 2. ครใู ห้นักเรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรียนหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 เร่ือง ข้อมลู สารสนเทศ เพ่ือวัด ความรู้เดิมของนักเรียนผ่านGoogle form 3. ครถู ามคำถามกระตุ้นความคิดของนักเรียนวา่ “ข้อมูลที่อย่รู อบ ๆ ตวั นักเรียนมีอะไรบ้าง” 4. ครอู ธิบายกบั นักเรยี นเพอ่ื เชอื่ มโยงเข้าสูบ่ ทเรยี น 5. ครูถามคำถามประจำหัวข้อว่า“นกั เรยี นคิดว่าข้อมูลท่ีดีควรมลี ักษณะอยา่ งไร 6. ครูเปิดสอ่ื การสอน Power point เรื่อง ข้อมลู 7. ครูอธิบายข้อสรุปกบั นักเรยี นเกี่ยวกบั ความหมายของข้อมลู จากสอ่ื การสอน Power point เรอ่ื ง ขอ้ มลู 8. ครใู ห้นักเรยี นสงั เกตและศึกษาการจดบนั ทึกเรือ่ งราวการไปทอ่ งเที่ยวจากตวั อยา่ งในสอ่ื การสอน Power point 9. ครูถามนักเรยี นวา่ “จากการศึกษาตัวอย่างสถานการณ์นักเรียนพบข้อมูลใดบา้ ง” 10. ครใู หน้ ักเรยี นทำ ใบงานที่ 5 เรอ่ื ง ข้อมลู โดยใหท้ ำในรูปแบบผังมโนทัศน์ 11. ครูสรปุ เนื้อหาท่เี รยี นในวันนีท้ ั้งหมดและให้นักเรียนกลบั ไปทบทวนเพ่ือใชใ้ นการเรยี นคาบตอ่ ไป 12. ครอู ธบิ ายข้อสรุปกับนักเรยี นเก่ยี วกบั ความหมายของข้อมลู และประเภทของข้อมูล ภาระงานของนักเรยี น 1. นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี นหนว่ ยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง ข้อมูลสารสนเทศ เพ่ือวัดความร้เู ดิม ของนักเรียนผา่ นGoogle form 2. นักเรียนสังเกตและศึกษาการจดบนั ทึกเร่ืองราวการไปท่องเทีย่ วจากตัวอย่างในสื่อการสอน Power point 3. นักเรียนทำ ใบงานที่ 5 เรอื่ ง ข้อมูล โดยให้ทำในรปู แบบผงั มโนทัศน์ ชัว่ โมงที่ 2 กจิ กรรมหลกั ของครู 1. ครูเชค็ ช่อื เพื่อเตรียมความพร้อมในการเรยี น ใน Google Meet 2. ครูทบทวนความรเู้ ดิมของนักเรยี นเก่ยี วกบั ความหมายและประเภทของข้อมูล พร้อมให้นักเรยี น ยกตวั อยา่ งขอ้ มูลท่ีอยู่บรเิ วณบ้านของตนเอง 3. ครูเปดิ สถานการณต์ ัวอยา่ งให้นกั เรียนดู แลว้ ตัง้ คำถามว่า“นกั เรียนคิดวา่ ข้อมูลท่ีแสดงมีความ สมบูรณห์ รือไม่ ถา้ ยงั ไมส่ มบูรณ์ และนำข้อมูลเหล่านี้ไปใชจ้ ะเกิดผลอย่างไร” 4. ครูถามคำถามประจำหัวข้อว่า“นักเรียนคิดว่าข้อมูลทด่ี ีควรมลี ักษณะอย่างไร 5. ครูเปดิ สือ่ การสอน Power point เรอ่ื ง ลกั ษณะของขอ้ มูลท่ดี ี

6. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับประโยชน์ของข้อมูล 7. ครใู หน้ ักเรยี นทำกิจกรรมฝกึ ทักษะในหนงั สือเรยี น 8. ครใู ห้นักเรยี นทำ ใบงานท่ี 6 เรอ่ื ง ลกั ษณะของขอ้ มลู ทด่ี ี ภาระงานของนกั เรยี น 1. นักเรยี นทำกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะในหนังสอื เรียน 2. นักเรยี นทำ ใบงานท่ี 6 เร่ือง ลักษณะของข้อมูลที่ดี ชวั่ โมงท่ี 3 กจิ กรรมหลักของครู 1. ครเู ช็คช่ือเพ่ือเตรียมความพร้อมในการเรยี น ใน Google Meet 2. ครูใหน้ กั เรียนเลน่ เกม Warm up เพ่อื กระตนุ้ ผูเ้ รยี นก่อนเข้าสบู่ ทเรยี น 3. ครทู บทวนความรเู้ ดิมของนักเรยี นเกย่ี วกับลักษณะของข้อมูลท่ดี ีและประโยชน์ของข้อมูล 4. ครถู ามคำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรยี นวา่ “ถ้าต้องการข้อมลู ตา่ ง ๆ มาจัดทำรายงานจะ สามารถสืบคน้ ข้อมลู จากท่ีใดได้บ้าง” 5. ครูเปดิ สื่อการสอน Power point เรื่อง แหลง่ ขอ้ มลู 6. ครชู ้ีแจงกับนกั เรยี นว่า “คำท่ีมักจะมีคนอ่านผิดอยู่เสมอ ได้แก่คำว่า ปฐมภูมิ ดงั นัน้ การอ่านท่ี ถูกต้อง จะต้องอ่านวา่ ปะ-ถม-มะ-พูม” 7. ครูใหน้ ักเรยี นทำกิจกรรมฝึกทักษะ 8. ครมู อบหมายงานใหน้ ักเรยี นทำใบงานท่ี 6 เรื่อง แหล่งขอ้ มลู พรอ้ มอธิบายใบงาน 9. ครสู รุปเน้ือหาที่เรยี นในวันน้ที ้ังหมดและใหน้ ักเรยี นกลบั ไปทบทวนเพื่อใช้ในการเรยี นคาบตอ่ ไป 10. ครูอธิบายข้อสรปุ กบั นักเรียนเกีย่ วกับแหล่งข้อมลู ภาระงานของนักเรยี น 1. นกั เรยี นเล่นเกม Warm up เพ่อื กระตนุ้ ผเู้ รียนกอ่ นเข้าสบู่ ทเรยี น 2. นักเรยี นทำกจิ กรรมฝกึ ทกั ษะ 3. นักเรียนทำใบงานที่ 6 เร่ือง แหลง่ ขอ้ มลู พร้อมอธิบายใบงาน ชวั่ โมงที่ 4 กิจกรรมหลักของครู 1. ครเู ชค็ ช่ือเพ่ือเตรียมความพร้อมในการเรยี น ใน Google Meet 2. ครใู ห้นักเรียนเล่นเกม Warm up เพอื่ กระตนุ้ ผู้เรยี นก่อนเข้าสบู่ ทเรียน 3. ครูทบทวนความรู้เดิมของนกั เรยี นเกีย่ วกบั แหลง่ ข้อมูล 4. ครทู บทวนความรเู้ ดิมเกย่ี วกับแหล่งข้อมลู 5. ครใู หน้ กั เรียนพมิ พข์ ้อความมาทางการสนทนาใน Google Meet โดยให้นกั เรียนพิมพ์แหลง่ ข้อมูล คนละ 1 ตัวอย่าง 6. ครถู ามนักเรยี นว่า“ข้อมูลทนี่ ักเรียนแตล่ ะคนมานำเสนอหนา้ ชัน้ เรียนนั้น นักเรียนไดม้ าดว้ ยวิธใี ด”

7. ครถู ามคำถามประจำหวั ข้อกับนกั เรียนว่า“ถ้านักเรียนต้องการทำรายงานนักเรยี นจะมวี ธิ ีการ รวบรวมขอ้ มูลอย่างไร” 8. ครูเปิดสือ่ การสอน Power point เรื่อง การรวบรวมขอ้ มลู 9. ครอู ธิบายเพิ่มเติมเก่ียวกบั วธิ กี ารรวบรวมข้อมูล 10. ครถู ามคำถามทา้ ทายการคิดขั้นสูงว่า“ในการรวบรวมข้อมูล ถ้าขาดขัน้ ตอนการวางแผนและ พจิ ารณาเลือกแหลง่ ขอ้ มลู จะส่งผลอยา่ งไรบา้ ง 11. ครมู อบหมายงานใหน้ ักเรียนทำใบงานที่ 7 เรอื่ ง การรวบรวมข้อมูล 12. ครูสรปุ เน้ือหาท่ีเรียนในวนั นท้ี ั้งหมดและให้นักเรียนกลบั ไปทบทวนเพ่ือใช้ในการเรยี นคาบต่อไป 13. ครูอธบิ ายข้อสรุปกับนักเรียนเกยี่ วกบั การรวบรวมข้อมูล ภาระงานของนักเรยี น 1. นกั เรียนเลน่ เกม Warm up เพื่อกระตุ้นผเู้ รยี นกอ่ นเข้าส่บู ทเรียน 2. นักเรยี นพมิ พ์ข้อความมาทางการสนทนาใน Google Meet โดยให้นกั เรยี นพมิ พแ์ หลง่ ข้อมลู คน ละ 1 ตวั อย่าง 3. นกั เรยี นทำใบงานท่ี 7 เรื่อง การรวบรวมขอ้ มูล ชวั่ โมงที่ 5 กิจกรรมหลกั ของครู 1. ครเู ช็คช่อื เพ่ือเตรียมความพร้อมในการเรยี น ใน Google Meet 2. ครใู หน้ ักเรียนเลน่ เกม Warm up เพอ่ื กระตุ้นผเู้ รียนก่อนเข้าสูบ่ ทเรียน 3. ครทู บทวนความรูเ้ ดิมของนักเรียนเก่ยี วกบั การรวบรวมข้อมูล 4. ครูเปิดโอกาสให้นักเรียนแตล่ ะคนนำเสนอผลการจัดทำแบบสำรวจความคดิ เหน็ ของเพื่อนๆจาก ใบงานที่ 7 เร่อื ง การรวบรวมขอ้ มลู 5. ครใู ชค้ ำถามกระตุ้นความสนใจของนักเรยี นว่า“การเลือกรับประทานอาหารกลางวันในโรงอาหาร นกั เรียนจะต้องมีข้อมลู ใดบา้ งเพ่อื ช่วยในการตดั สินใจ” 6. ครูอธบิ ายเพ่ือเชอื่ มโยงเขา้ สู่บทเรียน 7. ครเู ปิดส่ือการสอน Power point เรือ่ ง การประมวลผลข้อมลู 8. ครอู ธิบายกับนักเรียนวา่ “ในการดำเนินชีวติ ประจำวันของนักเรยี น บางคร้งั นักเรยี นอาจจะพบ ปญั หาที่ตอ้ งเลอื กส่ิงใดส่ิงหน่ึง อย่างใดอย่างหนึง่ ดงั นัน้ เพื่อการเลือกทีถ่ ูกตอ้ ง นกั เรยี นจะต้องมี การประมวลผลจากทางเลอื กทม่ี ีอยา่ งละเอยี ด” 9. ครมู อบหมายให้นักเรยี นแต่ละคนทำใบงานที่ 8 เรือ่ ง การประมวลผลขอ้ มลู 10. ครูสรุปเนอื้ หาท่ีเรียนในวันน้ที ้ังหมดและใหน้ ักเรียนกลับไปทบทวนเพื่อใช้ในการเรยี นคาบต่อไป 11. ครูอธิบายข้อสรปุ กับนักเรียนเกีย่ วกับการประมวลผลขอ้ มูล

ภาระงานของนักเรียน 1. นกั เรียนเล่นเกม Warm up เพ่ือกระตุ้นผู้เรยี นก่อนเขา้ สู่บทเรยี น 2. นักเรียนแตล่ ะคนนำเสนอผลการจดั ทำแบบสำรวจความคิดเห็นของเพ่ือนๆจากใบงานท่ี 7 เร่ือง การรวบรวมข้อมลู 3. นกั เรยี นแตล่ ะคนทำใบงานที่ 8 เร่อื ง การประมวลผลขอ้ มูล ชว่ั โมงที่ 6 กิจกรรมหลักของครู 1. ครูเช็คชือ่ เพ่ือเตรียมความพร้อมในการเรยี น ใน Google Meet 2. ครใู หน้ กั เรียนเลน่ เกม Warm up เพ่ือกระตนุ้ ผ้เู รยี นกอ่ นเข้าส่บู ทเรียน 3. ครทู บทวนความร้เู ดิมของนักเรยี นเก่ยี วกบั การประมวลผลข้อมูล 4. ครูถามกระตุน้ ความสนใจของนกั เรียนวา่ “โดยปกตแิ ล้วถา้ นักเรียนต้องการจัดทำรายงาน หรือ ตอ้ งการสบื ค้นข้อมูล นกั เรียนสามารถหาข้อมูลได้จากทใี่ ดบ้าง” 5. ครูอธิบายเพ่ือเช่ือมโยงเขา้ สูบ่ ทเรียน 6. ครูเปดิ ส่อื การสอน Power point เรอื่ ง การสืบค้นขอ้ มลู โดยใช้อินเทอร์เนต็ 7. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกบั การสบื คน้ ข้อมูล 8. ครูอธบิ ายกับนักเรียนถึงข้อควรพิจารณาในการประเมนิ ความน่าเช่ือถือของข้อมูล 9. ครูมอบหมายให้นกั เรยี นทำใบงานที่ 9 เร่ือง การสบื ค้นข้อมูลดว้ ยอนิ เทอรเ์ นต็ 10. ครใู หน้ กั เรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรยี นหน่วยการเรียนรทู้ ่ี 3 เรื่อง ข้อมูลสารสนเทศ 11. ครูสรปุ เน้อื หาท่เี รยี นในวนั น้ที ั้งหมดและให้นักเรียนกลับไปทบทวนเพื่อใช้ในการเรียนคาบต่อไป 12. ครูอธิบายข้อสรุปกบั นักเรียนเกีย่ วกับการสบื ค้นข้อมูลโดยใชอ้ ินเทอร์เนต็

1 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 13 (On line) หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 2 ข้อมูลสารสนเทศ เวลา 4 ช่ัวโมง เรื่อง รู้จักข้อมลู เวลา 1 ช่ัวโมง รายวชิ า วิทยาการคำนวณ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 5 1. มาตรฐาน/ตวั ช้ีวดั / ผลการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคดิ เชงิ คำนวณในการแก้ปัญหาทพี่ บในชีวติ จรงิ อย่างเป็นข้ันตอน และเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอ่ื สารในการเรียนรู้ การทำงาน และการแกป้ ญั หา ได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ รู้เท่าทันและมีจริยธรรม ตวั ชวี้ ัด ป. 5/3 ใช้อนิ เทอร์เน็ตคน้ หาขอ้ มูล ตดิ ตอ่ สอ่ื สารและทำงานร่วมกันประเมินความนา่ เช่ือถือ ของขอ้ มูล 2. สาระสำคญั ข้อมูล คือ ข้อเท็จจริงท่ีเกย่ี วข้องกับสงิ่ ต่าง ๆ ไมว่ ่าจะเป็นคน สัตว์ สงิ่ ของ หรือเหตกุ ารณ์ โดยอาจจะ เกดิ ขน้ึ จากการสงั เกต การจดบันทึก การสมั ภาษณ์ การสอบถาม นอกจากนั้นข้อมูลยงั แบง่ ออกเปน็ 5 ประเภทคือ ขอ้ มลู ตัวอักขระ ข้อมูลภาพ ขอ้ มูลตัวเลข ข้อมูลเสียง และขอ้ มลู อนื่ ๆ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ด้านความรู้ 1. อธบิ ายความหมายของข้อมูลไดถ้ ูกต้อง 2. บอกประเภทของข้อมูลได้ถูกต้อง ด้านทักษะกระบวนการ 1. เขยี นสรปุ การจำแนกข้อมูลตามประเภทของขอ้ มลู ในรูปแบบผงั มโนทศั น์ได้อย่างถูกต้อง ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มุ่งมั่งในการทำงาน สมรรถนะทส่ี ำคัญของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา

2 4. สาระการเรยี นรู้ - การประเมินความน่าเชอ่ื ถือของขอ้ มูล เช่น เปรยี บเทียบความสอดคล้อง สมบรู ณ์ของข้อมูล จากหลายแหล่ง แหลง่ ตน้ ตอของข้อมลู ผู้เขยี น วันท่เี ผยแพรข่ ้อมูล - ขอ้ มูลทด่ี ตี ้องมรี ายละเอียดครบทกุ ดา้ น เชน่ ข้อดี และข้อเสีย ประโยชนแ์ ละโทษ 5. กิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ นำ (10 นาที) 1. ครเู ชค็ ชือ่ เพ่ือเตรยี มความพร้อมในการเรยี น ในGoogle Meet 2. ครูใหน้ กั เรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยการเรยี นรู้ที่ 3 เรือ่ ง ข้อมูลสารสนเทศ เพื่อวัด ความรเู้ ดิมของนักเรยี นผา่ นGoogle form 3. ครถู ามคำถามกระตุ้นความคิดของนักเรียนวา่ “ข้อมูลที่อยู่รอบ ๆ ตวั นกั เรียนมีอะไรบา้ ง” 4. ครอู ธบิ ายกับนักเรยี นเพอื่ เชื่อมโยงเขา้ สบู่ ทเรยี นวา่ “นักเรยี นจะเป็นไดว้ ่าในการดำรงชีวิต ประจำวนั ของมนษุ ย์จะต้องเกี่ยวข้องกับขอ้ มูลตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็น ชือ่ -นามสกุล น้ำหนัก สว่ นสูง ทอี่ ยู่ ภาพถ่าย ภาพจากโทรทศั น์ ข่าวสารจากวิทยุ” ขัน้ สอน (40 นาที) 1. ครถู ามคำถามประจำหัวข้อวา่ “นักเรียนคดิ ว่าข้อมูลที่ดคี วรมีลักษณะอย่างไร 2. ครูเปดิ แอปพลเิ คชนั เพ่ือการเรยี นรู้ เรอ่ื ง ขอ้ มูลสารสนเทศ

3 3. ครอู ธบิ ายข้อสรุปกับนักเรียนเก่ียวกบั ความหมายของข้อมูลจากแอปพลเิ คชนั เพื่อการเรียนรู้ เรอ่ื ง ข้อมลู สารสนเทศว่า “ข้อมลู คือ ขอ้ เทจ็ จรงิ ท่ีเกย่ี วข้องกับส่งิ ต่าง ๆ ไม่วา่ จะเป็นคน สตั ว์ สง่ิ ของ หรือเหตกุ ารณ์ ตา่ ง ๆโดยอาจจะเกดิ ขึ้นจากการสงั เกต การจดบนั ทกึ การสัมภาษณ์ การสอบถาม และมีการรวบรวมไว้” 4. ครใู หน้ กั เรยี นสงั เกตและศึกษาการจดบนั ทึกเรื่องราวการไปท่องเที่ยวจากตวั อยา่ งในหนังสือเรยี น 5. ครถู ามนักเรียนวา่ “จากการศึกษาตัวอย่างสถานการณน์ ักเรียนพบข้อมลู ใดบา้ ง” 6. ครใู หน้ กั เรยี นทำ ใบงานที่ 5 เรือ่ ง ข้อมูล โดยใหท้ ำในรูปแบบผงั มโนทัศน์ ข้นั สรปุ (10 นาที) 1. ครสู รุปเน้ือหาที่เรียนในวันนท้ี ั้งหมดและให้นกั เรยี นกลับไปทบทวนเพ่ือใช้ในการเรยี นคาบต่อไป 2. ครอู ธิบายข้อสรปุ กบั นักเรียนเก่ียวกบั ความหมายของข้อมลู และประเภทของข้อมูล 6. ส่อื /แหลง่ การเรียนรู้ 1. หนงั สอื เรียนรายวชิ าพื้นฐานเทคโนโลยี (วทิ ยาการคำนวณ) ป.5 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 เรอ่ื ง ข้อมลู สารสนเทศ 2. เครื่องคอมพิวเตอร์ 3. แอปพลเิ คชันเพื่อการเรยี นรู้ เรอ่ื ง ข้อมลู สารสนเทศ 7. การวัดผลและประเมินผล 7.1 การวดั ผล จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ วิธกี ารวัด เครอื่ งมือ ด้านความรู้ 1.ใบงาน โดยการตรวจคะแนนที่ไดจ้ ากการ -ใบงาน ทำใบงาน ดา้ นทักษะกระบวนการ วดั โดยการประเมินทักษะกระบวนการใน แบบประเมินดา้ นทักษะ ด้านคุณลกั ษณะ ประเด็นเกย่ี วกับการเขยี นสรุปการจำแนก กระบวนการ อันพึงประสงค์ ขอ้ มลู ตามประเภทของข้อมลู ในรูปแบบผัง สมรรถนะท่สี ำคญั ของผเู้ รยี น มโนทศั นไ์ ด้อยา่ งถูกต้อง วัดโดยสงั เกตคณุ ลกั ษณะอันพึง่ ประสงค์ของ แบบประเมนิ ดา้ น ผู้เรียนใน 3 ดา้ น คุณลักษณะ 1.มีวนิ ัย อันพงึ ประสงค์ 2.ใฝ่เรยี นรู้ 3.มงุ่ มง่ั ในการทำงาน วดั โดยการสงั เกตความสามารถของผเู้ รยี น แบบประเมนิ สมรรถนะ ใน 3 ด้าน ไดแ้ ก่ ของผู้เรียน 1.ความสามารถในการสื่อสาร

4 2.ความสามารถในการคิด 3.ความสามารถในการแกป้ ัญหา 7.2 เกณฑ์การประเมินผล 1) ดา้ นความรู้ 1.ใบงาน 10 คะแนน (เกณฑ์ผา่ นรอ้ ยละ 80) คะแนน 10 คะแนน หมายถึง ดมี าก คะแนน 8 - 9 คะแนน หมายถึง ดี คะแนน 6 - 7 คะแนน หมายถงึ พอใช้ คะแนน 0 - 5 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรงุ หมายเหตุ ดา้ นความรู้เกณฑ์ผา่ น ร้อยละ 80 ทุกประเดน็ การประเมนิ 2) ด้านทกั ษะกระบวนการ 10 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 8-9 คะแนน หมายถงึ ดี 5-7 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0-4 คะแนน หมายถึง ปรับปรงุ หมายเหตุ ไดร้ ะดับ 4 ข้ึนไป ถอื ว่าผ่านเกณฑก์ ารประเมิน 3) ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ไดร้ ะดับ 2 ขึ้นไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ 4) ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ได้ระดับ 2 ขนึ้ ไป ถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน 8. กิจกรรมเสนอแนะ (บอกรายละเอยี ดหรือข้อเสนอแนะอื่น ๆ ทจี่ ะชว่ ยพัฒนากระบวนการเรียนรูข้ องผู้เรยี น) ………………………………………………………………………………………………………………. …………………………… …………………………………………………………..……………………………………………………………………………………………… …………………………………………..…………..……………………………………

5 9. ข้อเสนอแนะ  ใช้สอนได้  ควรปรบั ปรงุ ………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………..………………………………………………… ………………………………………………………………………………………..…………..…………………………………… ลงชอ่ื ………..…………………….………………….…….. (นายนพดล วังซ้าย ) ครูพเ่ี ล้ยี ง วนั ท่ี 1 เดอื น มถิ นุ ายน พ.ศ. 2564 10. บันทึกหลงั การจัดการเรยี นรู้ ผลท่ีเกิดขนึ้ แกผ่ ้เู รียน ด้านความรู้ จำนวนนกั เรยี นที่ผ่านเกณฑ์ 176 คน คิดเป็นร้อยละ 100 จำนวนนักเรยี นทไ่ี มผ่ า่ นเกณฑ์ 0 คน คิดเป็นร้อยละ 0 ดา้ นทกั ษะกระบวนการ จำนวนนกั เรียนทผ่ี า่ นเกณฑ์ 176 คน คิดเป็นร้อยละ 100 จำนวนนกั เรียนที่ไม่ผ่านเกณฑ์ 0 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 0 ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ จำนวนนกั เรยี นท่ผี ่านเกณฑ์ 176 คน คิดเปน็ ร้อยละ 100 จำนวนนกั เรียนทม่ี าผ่านเกณฑ์ 0 คน คิดเปน็ ร้อยละ 0 ด้านสมรรถนะผ้เู รยี น จำนวนนกั เรียนทผ่ี ่านเกณฑ์ 176 คน คดิ เป็นร้อยละ 100 จำนวนนกั เรยี นที่ไมผ่ ่านเกณฑ์ 0 คน คดิ เปน็ ร้อยละ 0 11. ปญั หาและอปุ สรรค 1.เวลาในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนไม่เพยี งพอ 2.แผนการสอนไม่บรรลุวตั ถุประสงค์ เนอ่ื งจากสถานการณโ์ ควดิ – 19 ทางโรงเรยี นได้มกี ารสลับกลมุ่ เรยี นโดยไดแ้ บง่ เป็น 2 กลุ่มสลบั วนั มาเรยี น จึงทำให้ 1 แผนการเรียนรูใ้ ชส้ อน 2 ชั่วโมงต่อ 1 แผน

6 12. แนวทางการแก้ปญั หา 1.ปรบั เปล่ยี นวธิ ีในการสอนและกระชบั เวลาในการสอน 2.บนั ทึกวิดโี อการสอนใหก้ ับกลุ่มท่ีไม่ได้มาเรยี นในแต่ละสัปดาห์ และให้ใบงาน On hand (ลงชอื่ ) สิรินทิพย์ ความสุข (นางสาวสริ ินทิพย์ ความสุข) ผสู้ อน

7 แบบบนั ทกึ การประเมนิ ด้านความรู้ เร่อื ง รู้จักข้อมลู เลขที่ ชอ่ื - สกุล ใบงาน ร้อยละ ผลการประเมิน (10 คะแนน) ผ่าน ไม่ผา่ น ✓ 1 เด็กชายอภิวัฒน์ กุศยั 8 80 ✓ ✓ 2 เด็กหญิงกรวรินท์ กนั ทา 9 90 ✓ ✓ 3 เด็กชายณฐั ฐกติ ติ์ น้อยเปยี ง 8 80 ✓ ✓ 4 เดก็ ชายธรี ภทั ร กนั อูป 8 80 ✓ ✓ 5 เด็กชายพฒุ เิ มธ แรกข้าว 8 80 ✓ ✓ 6 เด็กชายศุภกิจ ทาหลี 9 90 ✓ ✓ 7 เด็กหญงิ อริศยา ขวาทอน 9 90 ✓ ✓ 8 เด็กหญิงดวงกมล ผิวแก้ว 9 90 ✓ ✓ 9 เด็กหญิงหงษ์ฟ้า วงค์หน่อแก้ว 9 90 ✓ ✓ 10 เด็กชายพชรดนยั หอมเยน็ 8 80 ✓ ✓ 11 เด็กหญงิ ภูริชญา อินภา 8 80 ✓ ✓ 12 เด็กชายกิติพงค์ พรมจันทร์ 8 80 ✓ ✓ 13 เด็กชายณฐั กรณ์ อดุ สม 8 80 ✓ ✓ 14 เดก็ ชายพรี วชิ ญ์ ไชยสาร 8 80 ✓ 15 เดก็ ชายธนวัฒน์ วงค์ปาลยี ์ 8 80 16 เดก็ ชายธีรภทั ร เกษมราช 8 80 17 เดก็ ชายบุญฤทธิ์ วงค์ปัน 8 80 18 เดก็ ชายภเู บศวร์ มาแดงสาย 8 80 19 เดก็ ชายวชั รินทร์ ไทยเจริญ 8 80 20 เดก็ ชายอรรณาวนิ ทร์ วงค์วงั 9 90 21 เดก็ หญิงชดุ าภา ประกอบการ 8 80 22 เดก็ หญิงณฐั มณกานต์ อ่นุ มีศรี 9 90 23 เดก็ หญงิ นนั ท์นภัส พายัพ 8 80 24 เดก็ หญิงประภาภร หลา้ วงค์ 8 80 25 เดก็ หญงิ พลอยปภสั ปนั สบื 9 90 26 เดก็ หญิงพมิ พกานต์ กิ่งก้ำ 9 90 27 เดก็ หญิงแพรพชิ า ยอดแย้ม 8 80 28 เด็กหญิงวนิดา หน่อแกว้ 8 80

8 29 เดก็ หญิงอคัมย์สริ ิ แสนคำ 8 80 ✓ 30 เดก็ หญงิ อพชิ ชนนั ท์ ณ นนั วี 8 80 ✓ 31 เดก็ หญิงกัญญาภัค พรมฤทธิ์ 9 90 ✓ 32 เดก็ ชายอัศวเทพ สรอ้ ยแกว้ 9 90 ✓ 33 เดก็ ชายดนุเดช สริ ศิ าสตรก์ ุล 8 80 ✓ 34 เดก็ หญิงดมสิ า สอนเต็ม 8 80 ✓ 35 เดก็ ชายอภิวิชญ์ ธแิ กว้ 9 90 ✓ 36 เดก็ ชายกวี มนตรีนำชยั 9 90 ✓ เฉล่ีย หมายเหตุ 1. คะแนนจากใบงานเกณฑ์ผ่านรอ้ ยละ 80 ลงช่อื สริ นิ ทพิ ย์ ความสุข ครูผูส้ อน (นางสาวสริ ินทพิ ย์ ความสุข)

9 แบบบนั ทึกการประเมินด้านความรู้ เรอ่ื ง ร้จู ักข้อมูล (ป.5/2) เลขท่ี ใบงาน ร้อยละ ผลการประเมิน ผ่าน ไม่ผา่ น ช่ือ - สกุล (10 ✓ คะแนน) ✓ ✓ 1 เด็กชายนธิ กิ ร แก้วประเทศ 8 80 ✓ ✓ 2 เด็กชายพีรพัฒน์ คำบุญแดง 9 90 ✓ ✓ 3 เดก็ หญงิ น้ำหวาน อนิ ทรส์ อาด 8 80 ✓ ✓ 4 เดก็ หญงิ อรไท อินยะสงค์ 8 80 ✓ ✓ 5 เด็กชายวชิรวิทย์ ใจคำลอื 8 80 ✓ ✓ 6 เด็กชายทพิ ากรณ์ วงศช์ นื่ ใจ 9 90 ✓ ✓ 7 เดก็ ชายสิริชาติ จนั ทรห์ อม 9 90 ✓ ✓ 8 เดก็ หญงิ กัญญาณัฐ หมน่ื ยศ 9 90 ✓ ✓ 9 เดก็ หญงิ ณชั ริญา วงค์กฎุ 9 90 ✓ ✓ 10 เดก็ หญิงพิชญ์สดุ า สับปะ 8 80 ✓ ✓ 11 เด็กชายญาณวฒุ ิ บพุ ชาติ 8 80 ✓ ✓ 12 เด็กชายเทวฤทธ์ิ ขบั ร้อง 8 80 ✓ ✓ 13 เด็กชายธนพล แก้วสาย 8 80 14 เด็กชายธนากรณ์ ดอนประดิษฐกลุ 8 80 15 เดก็ ชายนันทกร ขดั ตหิ ริ ัญกุล 8 80 16 เดก็ ชายยศสรพัศ พรหมมนิ ทร์ 8 80 17 เด็กชายวรวฒั สุขประเสรฐิ 8 80 18 เด็กชายศิวนนท์ สุยะสืบ 8 80 19 เด็กชายสุทธพิ งศ์ เกยี๋ งแก้ว 8 80 20 เด็กชายอธิษฐ์ ปางทอง 9 90 21 เด็กหญิงฑิตฐติ า ขับร้อง 8 80 22 เด็กหญิงธนญั ชนก กองพล 9 90 23 เดก็ หญิงเบญญาภา วงศ์ชุมภู 8 80 24 เด็กหญงิ ปยิ ธิดา ชนื่ ชม 8 80 25 เดก็ หญิงพชั ราภา หมืน่ ตะ๊ บุตร 9 90 26 เดก็ หญิงพิมพพ์ าดา วงคแ์ กว้ มูล 9 90 27 เดก็ หญงิ ภัทกา เปี้ยสืบ 8 80