กรอบวงเงิน วันทีม่ มี ติ ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 วงเงินอนมุ ตั ิ ไตรมาส 4 รวมทั้งสิ้น การดําเนนิ การ หนว ยงานรับจัดสรร กลุม ตาม พ.ร.บ.60 เงิน % เงิน % ไตรมาส 3 เงนิ % เงนิ % ปปส. ก.ยตุ ิธรรม คา ใชจ า ย เงนิ % โครงการเสริมสรา งและยกระดบั ความรว มมอื ดาน 38.01 38.01 บําบดั รักษาและฟน ฟูสมรรถภาพผตู ิดยาเสพติดกบั 9.1 26-ก.ย.-60 ประเทศกมั พูชา โดยสนับสนนุ งบประมาณใหแก 77.53 หนว ยงานกลางดา นยาเสพตดิ ของกัมพูชา (National 3 24.72 Authority for Combating Drugs-NACD) จํานวน 9.6 38,011,400 บาท สําหรบั การกอสรา งศูนยบ าํ บดั และ ฝก อาชีพสําหรบั ผตู ิดยาเสพตดิ แหงชาติ ณ อาํ เภอสตึง ฮาว จังหวดั พระสีหนุ รวมถึงการฝก อบรมและศึกษาดู งานดา นการบาํ บดั รกั ษาใหก ับเจา หนาท่ที เี่ ก่ยี วขอ งของ กมั พชู า 26-ก.ย.-60 77.53 โครงการสาํ คัญภายใตแ ผนงานพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ ก.เกษตร 26-ก.ย.-60 ภาคตะวนั ออก (พ.ศ 2560-2564) 24.72 คาใชจายในการจดั รถรบั สง ผโู ดยสาร กรณีการจัดเดินรถ องคก ารขนสง มวลชนกรงุ เทพ เช่ือมตอ ขยายโครงการจัดระเบยี บรถตูโดยสารสาธารณะ (บขส.) เขา ใชสถานีขนสง ผูโดยสารกรุงเทพ 3 สถานี [สถานขี นสง ผูโดยสารสายใตใหม (ปน เกลา) สถานี จตุจักร และสถานีเอกมัย] ตัง้ แตวนั ท่ี 25 ตุลาคม 2559 ถงึ วันที่ 31 กรกฎาคม 2560 10 397
กรอบวงเงิน วันทม่ี ีมติ ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 วงเงินอนมุ ตั ิ ไตรมาส 4 รวมทัง้ สิ้น การดาํ เนินการ หนว ยงานรับจดั สรร กลุม ตาม พ.ร.บ.60 เงิน % เงิน % ไตรมาส 3 เงิน % เงนิ % คาใชจ าย เงนิ % 500.00 500.00 9.6 3-ต.ค.-60 573.08 573.08 ดําเนินมาตรการเพ่ิมขีดความสามารถและสงเสรมิ ความรู ก.อตุ สาหกรรม 124.68 124.68 ใหกับวิสาหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอมในการปองกนั 9.6 10-ต.ค.-60 ความเสยี่ งจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน 9.2 31-ต.ค.-60 ภายใตมาตรการเพ่มิ ขีดความสามารถและสง เสริมความรู ใหก ับ SMEs ในการปอ งกันความเสย่ี งจากอัตรา แลกเปล่ยี น เนื่องจากมีรายละเอียดเน้อื หาบางสว นท่ี อาจกอ ใหเกิดความสับสนและความเขาใจผิดในการ ตีความได โดยปรับปรงุ รายละเอยี ดขอ 4.3.3 การทาํ ธรุ กรรม FX Options เปนดงั นี้ ผูป ระกอบการ SMEs สามารถใชค ปู องเพ่อื การซ้อื FX Options ซง่ึ เปนการซอื้ สทิ ธท์ิ จ่ี ะซ้อื หรือขายเงินตรา ตา งประเทศ (หามใชเ พื่อการขาย FX Options) โดย สามารถซอ้ื ไดเฉพาะ FX Options ขนั้ พน้ื ฐาน ซง่ึ เปน ธุรกรรมทไี่ มมคี วามซับซอ น (Plain Vanilla Options) และสามารถใชส ทิ ธเ์ิ ม่อื ใดก็ไดใ นชว งเวลาทก่ี าํ หนด จดั หาเครอ่ื งตรวจจบั ความเร็วแบบพกพา จาํ นวน 849 ก.มหาดไทย คา ใ่ชจ ายในการจดั นทิ รรศการหลังงานพระราชพธิ ถี วาย ก.วัฒนธรรม โดยกรมศิลปากร พระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเดจ็ พระปรมินทรมหา ภมู ิพลอดุลยเดช บรมนาถบพติ ร 11 398
กรอบวงเงิน วนั ทม่ี มี ติ ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 วงเงินอนมุ ัติ ไตรมาส 4 รวมทั้งส้นิ การดําเนินการ หนวยงานรบั จดั สรร กลมุ ตาม พ.ร.บ.60 เงิน % เงนิ % ไตรมาส 3 เงิน % เงนิ % คา ใชจา ย เงิน % 444.84 444.84 9.3 21-พ.ย.-60 488.15 488.15 เปน คา ใชจายในการดาํ เนินโครงการดานสง่ิ แวดลอ ม ก.มหาดไทย 1,643.15 เมอื งในพ้ืนที่จังหวดั ระยองและจังหวดั ชลบุรี ภายใต 1 แผนงานพัฒนาระเบียงเศรษฐกจิ ภาคตะวันออก (พ.ศ. 1 2560-2564) จาํ นวน 4 โครงการ โดยใหเ บิกจา ยในงบ เงนิ อุดหนุน ประเภทเงินอุดหนนุ เฉพาะกิจ ดงั นี้ 1. องคก ารบรหิ ารสวนจังหวัดระยอง จงั หวดั ระยอง จํานวน 3 โครงการ วงเงนิ ทงั้ ส้ิน 440,361,100 บาท ไดแก (1) โครงการกอสรางระบบหมักกาซชวี ภาพ วงเงิน 253,000,000 บาท (2) โครงการบรหิ ารจัดการขยะมูล ฝอยตกคางสะสมจงั หวดั ระยอง แบบบูรณาการ วงเงนิ 94,361,100 บาท และ (3) โครงการเพิม่ ประสิทธิภาพ การบรหิ ารจดั การขยะเกาะเสมด็ วงเงิน 93,000,000 บาท 2. เทศบาลนครแหลมฉบงั จงั หวัดชลบุรี จํานวน 1 โครงการ ไดแก โครงการจัดซื้อกงั หันนาํ้ ชัยพัฒนาเพ่ือ บําบัดนาํ้ เสียในสวนเฉลมิ พระเกียรติ 80 พรรษา วงเงนิ 21-พ.ย.-60 โครงการปรบั เปลี่ยนพื้นทีก่ ารปลกู พืชใหเ หมาะสม ก.เกษตร 12-ธ.ค.-60 ภายใตแ ผนการผลติ และการตลาดขาวครบวงจร ป 2560/61 (ดานการผลติ ) จาํ นวน 2 โครงการ ไดแ ก (1) โครงการสง เสริมการปลูกพชื หลากหลาย ฤดนู าปรัง ป 2561 วงเงิน 300 ลานบาท และ (2) โครงการปลูกพชื ปยุ สด ฤดนู าปรงั ป 2561 วงเงนิ 188.15 ลานบาท 1,643.15 โครงการปรบั พ้นื ทปี่ ลกู พืชทดแทนการปลูกขา วรอบที่ 2 ก.เกษตร ภายใตแผนการผลติ และการตลาดขา วครบวงจร ป 2560/61 (ดานการผลิต) จาํ นวน 3 โครงการ ไดแก โครงการขยายการสง เสรมิ การปลกู พืชหลากหลาย ฤดู นาปรงั ป 2561 โครงการขยายการปลกู พืชปุยสด ฤดู นาปรัง ป 2561 และโครงการสงเสริมการปลูกพชื ั ป ั ป 2561 12 399
กรอบวงเงนิ วนั ที่มีมติ ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 วงเงนิ อนมุ ัติ ไตรมาส 4 รวมท้ังสิน้ การดําเนินการ หนว ยงานรบั จัดสรร กลมุ ตาม พ.ร.บ.60 เงนิ % เงนิ % ไตรมาส 3 เงนิ % เงิน % คา ใชจา ย เงิน % 364.26 364.26 9.5 3-ม.ค.-61 8.90 8.90 คาใชจา ยในการดําเนินงานของศนู ยบ ัญชาการแกไข ศูนยบญั ชาการแกไขปญ หาการ 239.27 239.27 ปญหาการทาํ การประมงผิดกฎหมาย ระหวางวันที่ 1 ทําการประมงผิดกฎหมาย 2 ตลุ าคม 2560-31 มนี าคม 2561 9.1 4.34 4.34 30-ม.ค.-61 คาใชจ ายในการชวยเหลอื ฟน ฟโู รงเรยี นเอกชนทป่ี ระสบ สาํ นักงานปลัดกระทรวง 9.6 6-ก.พ.-61 31.86 31.86 อทุ กภยั ในพนื้ ทภ่ี าคใต จํานวน 59 โรงเรยี น ศกึ ษาธิการ 9.6 2,338.63 2,338.63 คา ใชจา ยโครงการพฒั นาท่อี ยูอ าศยั ชดุ ที่ 1 ป 2559 กระทรวงการพฒั นาสังคมและ 1 โดยใหเ บกิ จา ยในงบรายจา ยอนื่ ประเภทเงนิ อดุ หนุน ความมั่นคงของมนุษย โดย กคช. เฉพาะกจิ รายการคา กอ สรา งทอ่ี ยอู าศัยโครงการเคหะ ชมุ ชนและบริการชมุ ชนผมู ีรายไดนอยถงึ ปานกลาง 13-ก.พ.-61 ดําเนินการเชารถยนตป ระจาํ ตําแหนง จาํ นวน 18 คนั สํานกั เลขาธกิ ารนายกรัฐมนตรี 13-ก.พ.-61 ในลักษณะกอ หนี้ผกู พันขามปงบประมาณ พ.ศ. 2561- สํานักงาน ปปง. 24-เม.ย.-61 พ.ศ. 2566 ระยะเวลา 60 เดือน (มิถุนายน 2561- โครงการเพิม่ ประสทิ ธิภาพระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ และบรหิ ารจัดการความม่นั คงปลอดภัยดา นสารสนเทศ ของสํานกั งาน ปปง. ดําเนนิ การสนับสนนุ การใชยางพาราในหนวยงานภาครัฐ กลาโหม ตามนโยบายของรัฐบาลและคณะรกั ษาความสงบ แหงชาติ ตามทีก่ ระทรวงกลาโหมเสนอ ท้งั นี้ ให กระทรวงกลาโหม โดยกองบญั ชาการกองทัพไทยและ กองทัพบกดําเนินการตามมติคณะรฐั มนตรีเมอื่ วนั ที่ 27 กมุ ภาพนั ธ 2561 (เรอื่ ง การเตรยี มการเพ่อื ดาํ เนิน นโยบายสาํ คัญของทางราชการ) โดยจัดซ้ือวัตถดุ บิ จาก นา้ํ ยางพาราจากการยางแหง ประเทศไทย หรอื สถาบนั เกษตรกร กลุมเกษตรกรชาวสวนยาง และวสิ าหกจิ ชุมชนที่ไดร ับการรับรองจากการยางแหงประเทศไทย เทา น้ัน 13 400
กรอบวงเงิน วันที่มมี ติ ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 วงเงนิ อนุมัติ ไตรมาส 4 รวมทัง้ สิ้น การดาํ เนนิ การ หนว ยงานรบั จัดสรร กลมุ ตาม พ.ร.บ.60 เงนิ % เงิน % ไตรมาส 3 เงิน % เงนิ % คาใชจ าย เงิน % 1,437.95 1,437.95 5-มิ.ย.-61 390.48 390.48 คาใชจ ายในการเลี้ยงดูเดก็ แรกเกดิ สําหรับผมู สี ิทธทิ จี่ ะ ก.พัฒนาสงั คม 3 9.6 ไดร ับเงนิ ตอ เนื่อง 6 เดือน (เมษายน-กันยายน 2561) ที่ สูงกวาเปา หมายทต่ี ้ังงบประมาณไว ซ่ึงไดรวมผูมสี ิทธิท่ี ลงทะเบยี นไวแ ละรอรบั สทิ ธิเมื่อมีกําหนดคลอดระหวาง เดือนกุมภาพนั ธ-กันยายน 2561 และผูมีสทิ ธิท่ี ลงทะเบียน และพิสูจนสิทธผิ า นในเดอื นเมษายน 2561 17-ก.ค.-61 โปคร งกาื รเรงดวน ภายใตแ ผนปฏิบตั ิการการพฒั นา รวม 4 กระทรวง 8 หนวยงาน บุคลากร การศึกษา การวิจยั และเทคโนโลยี รวมทง้ั สน้ิ ประกอบดวย กระทรวงคมนาคม 14 โครงการ (สถาบนั การบินพลเรือน) กระทรวงดจิ ทิ ลั เพอื่ เศรษฐกิจ และสังคม (สาํ นักงานสงเสริม เศรษฐกจิ ดจิ ทิ ลั ) กระทรวงวิทยาศาสตรและ เทคโนโลยี (สาํ นกั งานพัฒนา วิทยาศาสตรแ ละเทคโนโลยี แหงชาติ) และ กระทรวงศกึ ษาธิการ (สํานักงาน ปลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร สํานักงานคณะกรรมการ การศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน สํานักงาน คณะกรรมการการอาชีวศึกษา มหาวทิ ยาลัยราชภฏั ราชนครินทร มหาวทิ ยาลัยบูรพา) 14 401
กรอบวงเงนิ วนั ท่ีมีมติ ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 วงเงินอนุมตั ิ ไตรมาส 4 รวมทั้งสิ้น การดําเนินการ หนว ยงานรับจัดสรร กลมุ ตาม พ.ร.บ.60 เงิน % เงนิ % ไตรมาส 3 เงนิ % เงิน % คา ใชจ า ย เงนิ % 3,136.74 3,136.74 2 17-ก.ค.-61 1,248.11 1,248.11 ชว ยเหลอื เกษตรกรทไ่ี ดรบั ผลกระทบจากอทุ กภัยป ก.เกษตร 2560 ท่ยี งั ไมไดร บั การชว ยเหลอื ครัวเรอื นละ 3,000 2 24-ก.ค.-61 บาท รวม 3 ชวงภัย ไดแ ก (1) ชวงภัยวันที่ 5 กรกฎาคม ถึง 15 สิงหาคม 2560 (พายุตาลสั และเซนิ กา) วงเงิน 210.2950 ลบ จํานวน 1,829,318 ครัวเรอื น (2) ชว งภัย วนั ท่ี 16 สิงหาคม ถงึ 31 ตุลาคม 2560 (พายทุ กซรู ี หยอ มความกดอากาศ และรอ งมรสมุ ) วงเงิน 1,074.3930 ลบ. จํานวน 608,131 ครวั เรอื น และ (3) ชฟวน งฟภโู ยั ควรันงสทร่ี 1า งพพฤ้นื ศฐจากินาทยี่ไนดร ถบั งึ ค3ว1ามธเันสยีวาหคามยจ2า5ก6อ0ุทกภยั ก.คมนาคม ระหวางเดอื นตุลาคม-ธนั วาคม 2560 จาํ นวน 123 แหง ของกระทรวงคมนาคม โดยแยกเปน กรมทางหลวง จํานวน 63 แหง วงเงนิ 684,661,500 บาท และกรม ทางหลวงชนบท จํานวน 60 แหง วงเงนิ 563,449,000 15 402
กรอบวงเงิน วันทม่ี มี ติ ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 วงเงินอนุมัติ ไตรมาส 4 รวมทง้ั สนิ้ การดําเนนิ การ หนว ยงานรับจัดสรร กลมุ ตาม พ.ร.บ.60 เงนิ % เงิน % ไตรมาส 3 เงนิ % เงนิ % คาใชจา ย เงิน % 468.91 468.91 2 31-ก.ค.-61 คาใชจายในการดาํ เนินโครงการปรบั ปรุงฟน ฟูแหลง นํา้ ก.กลาโหม ประจําปงบประมาณ พ.ศ. 2561 (ความรวมมอื กองทัพบก-มูลนธิ ิอทุ กพัฒน ในพระบรมราชูปถัมภ) จาํ นวน 47 โครงการ ในพ้นื ท่ี 9 จังหวดั (ไดแก จงั หวดั แพร พะเยา พิจิตร สโุ ขทัย เพชรบรู ณ นครสวรรค บุรีรมั ย ปราจีนบรุ ี และพทั ลงุ ) เพอ่ื เพิ่มประสทิ ธิภาพ การระบายนํา้ การเก็บกกั น้ํา รวมทัง้ เพิม่ ประสิทธภิ าพ การบริหารจดั การทรัพยากรน้ําชุมชน ตามท่ี กระทรวงกลาโหมเสนอ ท้ังน้ี ใหก ระทรวงกลาโหม โดย กองทพั บกรบั ความเห็นของสาํ นักงานทรพั ยากรน้ํา แหง ชาติเกี่ยวกบั กรณที ี่กรมสงเสริมการปกครองทองถิ่น ไดเ สนอคําของบประมาณจากสํานกั งานทรัพยากรนํา้ แหงชาตเิ พ่ือดําเนนิ โครงการขดุ ลอกสระเกบ็ นา้ํ สาธารณะบงึ หญา ตําบลหนองจิก อําเภอคีรีมาศ จังหวัด สโุ ขทยั ซ่งึ เปนโครงการที่ดาํ เนินการในพน้ื ทีเ่ ดยี วกันกับ โครงการทกี่ รมสง เสริมการปกครองทอ งถน่ิ ขอรับการ สนับสนุนจากกองทัพบก 21-ส.ค.-61 373.83 373.83 ดาํ เนินงาน (1) โครงการสงเสรมิ สุขภาพและสงิ่ แวดลอ ม ก.สาธารณสุข 7 28-ส.ค.-61 292.56 292.56 ชุมชนเพื่อประชาชนสขุ ภาพดี จํานวน 179,664,300 8 บาท (2) โครงการรวมพลงั สรางชุมชนสขุ ภาพดี จํานวน 16 53,260,200 บาท และโครงการพัฒนาคณุ ภาพและ ความพรอ มของโรงพยาบาลสง เสริมสุขภาพตําบลเพอ่ื การพัฒนาอยางยง่ั ยืน จาํ นวน 140,910,000 บาท ดําเนินการจดั หาสะพานเคร่ืองหนนุ ม่ัน (Modular Fast ก.กลาโหม Bridge) สนับสนุนหนว ยบัญชาการทหารพฒั นา จาํ นวน 2 ชดุ เปนเงนิ 8,760,000 ดอลลารส หรัฐ หรือคดิ เปน เงินไทยประมาณ 292,562,976 บาท เม่อื คิดอัตรา แลกเปลย่ี น 1 ดอลลารสหรัฐ เทา กับ 33.3976 บาท 403
กรอบวงเงิน วนั ที่มมี ติ ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 วงเงินอนุมตั ิ ไตรมาส 4 รวมทง้ั ส้นิ การดาํ เนินการ หนวยงานรับจดั สรร กลุม ตาม พ.ร.บ.60 เงิน % เงิน % ไตรมาส 3 เงิน % เงนิ % คา ใชจาย เงนิ % 1,730.71 1,730.71 210.00 210.00 9.4 28-ส.ค.-61 113.84 113.84 ชาํ ระหนี้คา วสั ดุอาหารผตู อ งขัง ผูตอ งกกั ขงั และผเู ขา กระทรวงยุติธรรม โดยกรม 9.6 รบั การตรวจพสิ ูจน ประจาํ ปงบประมาณ พ.ศ. 2559 ราชทัณฑ 9.6 14.70 14.70 5 28-ส.ค.-61 186.30 คา ตอบแทนผเู สียหายและคาทดแทนและคาใชจ า ยแก กระทรวงยตุ ิธรรม โดยกรม 4-ก.ย.-61 186.30 3 450.00 จําเลยในคดอี าญา ใหเ พียงพอจนถึงสน้ิ ปง บประมาณ คุมครองสทิ ธแิ ละเสรภี าพ คาใชจา ยโครงการบรหิ ารกิจการโครงขา ยและส่งิ อํานวย กรมประชาสัมพันธ สาํ นักนายก ความสะดวกดา นกระจายเสียงและโทรทศั น รฐั มตร 18-ก.ย.-61 คา ใชจายในการแตงตง้ั และบรรจขุ า ราชการใหมจํานวน สาํ นกั งานอัยการสูงสดุ 705 อัตรา จาํ แนกเปน นติ กิ รปฏบิ ตั ิการจํานวน 205 อัตรา และตาํ แหนง เจา หนาที่ธุรการปฏิบตั งาน จํานวน 500 อตั รา 20-พ.ย.-61 คา ใชจา ยในการดาํ เนนิ โครงการจัดทาํ บตั รสวัสดกิ ารแหง รัฐใหแกผมู ีสทิ ธติ ามโครงการลงทะเบยี นเพอื่ สวัสดกิ าร แหง รัฐเพ่ิมเตมิ ภายใตโ ครงการไทยนิยม ย่งั ยนื ในกลุมผู พกิ าร ผูสงู อายุ ผปู วยติดเตยี ง หรอื ผทู ่ไี มสามารถ เดนิ ทางมาลงทะเบยี นไดเ องในป 2560 ในกรอบวงเงนิ 186,299,500 บาท ประกอบดวย (1) คา ใชจา ยในการ ผลิตบัตรสวัสดกิ ารแหง รัฐ จํานวน 3,802,309 ใบ จาํ นวนเงนิ 162,687,200 บาท (2) คา ใชจายในการ จดั สง บตั รสวัสดกิ ารแหงรฐั จํานวน 3,802,309 ใบ จํานวนเงนิ 798,450 บาท และ (3) คา ธรรมเนยี มใน การบรหิ ารจดั การรายป รวมคา บริหารจดั การโครงการ คาควบคุมงาน และบริหารระบบตาง ๆ รวมถงึ การ บริหารฐานขอมูลและจดั ทาํ Dashboard & Data Analytics จํานวนเงิน 22,813,850 บาท 20-พ.ย.-61 450.00 คา ใชจ า ยสมทบใหก องทุนออ ยและนา้ํ ตาลทรายนาํ ไปใช ก.อตุ สาหกรรม กองทนุ ออย 1 ชาํ ระเงนิ กูสว นตางราคาออยข้ันตํา่ ฤดกู ารผลิตป 2549/2550 17 404
กรอบวงเงนิ วนั ทมี่ มี ติ ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 วงเงินอนมุ ัติ ไตรมาส 4 รวมทั้งสน้ิ การดําเนินการ หนวยงานรับจดั สรร กลุม ตาม พ.ร.บ.60 เงิน % เงิน % ไตรมาส 3 เงิน % เงนิ % คา ใชจ าย เงิน % 103.98 103.98 26-พ.ย.-61 74.31 74.31 ชําระหน้ีคา สาธารณูปโภคคางจา ยตามทไ่ี ดจายจรงิ กระทรวงยตุ ธิ รรม (กรมราชทณั ฑ) 9.4 รวมท้ังใหกรมราชทณั ฑด ําเนินการตามแนวทางและ 2 29-ม.ค.-62 10.00 10.00 มาตรการแกไขปญ หาหนค้ี า สาธารณูปโภคคางชําระของ 9.1 26-มี.ค.-62 สว นราชการ ตามนัยมติคณะรฐั มนตรีเม่อื วนั ที่ 27 กมุ ภาพันธ 2561 ชว ยเหลอื เกษตรกรท่ีไดร บั ผลกระทบจากอุทกภัยภาคใต ก.เกษตร ป 2560 ครัวเรือนละ 3,000 บาท เพม่ิ เติมจากทอี่ นุมตั ิ เมอ่ื วันที่ 17 กรกฎาคม 2561จาํ นวน 3,136.735 ลบ. เปน 3,211.048 การปรับปรงุ อาคารสาํ นกั งานและอาคารหอประชุมของ ก.คมนาคม สาํ นักงานภมู ิภาคเอเชียและแปซิฟก ขององคการการบิน พลเรอื นระหวา งประเทศ (International Civil Aviation Organization : ICAO) ณ กรงุ เทพฯ โดยดวน (ระยะท่ี 1) 18 405
มติคณะรัฐมนตรที ี่เกย่ี วขอ งกับการอนมุ ตั ิงบกลางปง บประมาณ พ.ศ. 2561 รายการเงนิ สาํ รองจายเพ่ือกรณีฉกุ เฉนิ หรือจาํ เปน กรอบวงเงิน วงเงนิ อนุมตั ิ กลุม ตาม พ.ร.บ.61 คา ใชจ า ย วนั ที่มีมติ ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 รวมทั้งส้ิน การดาํ เนินการ หนวยงานรบั จดั สรร เงิน % เงิน % 9.2 6,876.08 6.78 เงิน % เงิน % เงิน % 4,546.39 4.48 2 101,423.53 203.73 1,267.71 1.25 80,347.02 79.22 93,037.20 91.73 10-ต.ค.-60 203.73 เพือ่ เปน คา ใชจ า ยในการกอ สรางที่เผาดอกไมจ ันทน งานพระ กระทรวงมหาดไทย โดยสํานกั งาน ราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเดจ็ พระ ปลดั กระทรวงมหาดไทย กรมการปกครอง ปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช จํานวน 852 แหง คาอุปกรณ และกรุงเทพมหานคร ตกแตง ทีเ่ ผาดอกไมจ ันทน สําหรับ 878 อําเภอ และคา ถุง บรรจุเถา ดอกไมจนั ทน พรอมคาขนสง จํานวน 5,000 ใบ ตามความเห็นของสํานกั งบประมาณ 7-พ.ย.-60 4,342.66 4,342.66 ใหค วามชวยเหลือฟนฟูเกษตรกรผูประสบอทุ กภัยหลังนา้ํ ลด กระทรวงเกษตรและสหกรณ 2 โครงการ 1) การชวยเหลอื เกษตรกรท่ไี ดรบั ผลกระทบจากอทุ กภัย ครวั เรือนละ 3,000 บาท เนือ่ งจากพายตุ าลสั และเซนิ กา กรอบวงเงิน 3,592.6590 ลานบาท เพอ่ื ชวยเหลือเกษตรกร ทไี่ ดรับผลกระทบจากอุทกภัยท่ียงั ไมไ ดร บั การชว ยเหลอื จาก กรอบวงเงิน ตามมตคิ ณะรัฐมนตรเี มื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2560 2) การชวยเหลือเกษตรกรท่ไี ดรบั ผลกระทบจากอุทกภัย ครวั เรอื นละ 3,000 บาท เน่อื งจากพายทุ กซรู ี หยอ มความ กดอากาศต่ํา และรองมรสมุ กรอบวงเงิน 750 ลานบาท เพือ่ ชวยเหลือเกษตรกรที่ไดรับผลกระทบจากอุทกภัย ประมาณการเบอ้ื งตน จํานวน 250,000 ครัวเรอื น 19 406
กรอบวงเงนิ วันทีม่ มี ติ ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 วงเงนิ อนุมตั ิ ไตรมาส 4 รวมทง้ั ส้นิ การดําเนินการ หนวยงานรับจดั สรร กลุม ตาม พ.ร.บ.61 เงนิ % เงนิ % ไตรมาส 3 เงนิ % เงนิ % กระทรวงสาธารณสุข คาใชจ า ย 5,186.13 เงิน % 5,186.13 เพ่อื ชดเชยคา ใชจ ายในการบรกิ ารสาธารณสุขและเพื่อลด ปญหาการขาดสภาพคลองของหนว ยบริการ จํานวน 2 7 6-มี.ค.-61 รายการ ประกอบดวย (1) คาใชจ า ยบริการสาํ หรบั ผูปว ยใน สําหรบั หนว ยบริการทกุ สงั กัด ภายใตกองทนุ หลกั ประกัน 9.6 สุขภาพแหง ชาติ จํานวน 4,186.13 ลานบาท และ (2) 1 คา ตอบแทนกาํ ลงั คนดานสาธารณสุข ของสาํ นักงาน ปลัดกระทรวงสาธารณสขุ จาํ นวน 1,000 ลา นบาท ตามที่ 9.6 กระทรวงสาธารณสขุ เสนอ 20-มี.ค.-61 289.95 289.95 เพื่อเปนคา ใชจา ยในการดาํ เนินงานตามอาํ นาจหนาที่และ สาํ นักงานทรพั ยากรนํ้าแหงชาติ 27-มี.ค.-61 1,400.00 ภารกจิ ในระยะเรม่ิ แรกของสํานักงานทรัพยากรนํา้ แหง ชาติ 1,400.00 โครงการสงเสรมิ การปลกู ขาวโพดเลี้ยงสัตวฤ ดแู ลงหลงั นา ป กระทรวงเกษตรและสหกรณ ๒๕๖๐/๖๑ ภายใตมาตรการรักษาเสถยี รภาพสนิ คา เกษตร และรายไดเกษตรกร : ขาวโพดเลี้ยงสัตว โดยการสง เสริมให เกษตรกรในพน้ื ท่ี 31 จงั หวัด พน้ื ที่ 700,000 ไร ปลกู ขา วโพดเลย้ี งสตั วทดแทนการปลกู ขา วนาปรังเพือ่ เพิม่ ผลผลิตขาวโพดเลี้ยงสตั วใหเ พยี งพอกับความตอ งการใช ภายในประเทศ กระจายผลผลิตใหอ อกสตู ลาดสม่ําเสมอ เกษตรกรมรี ายไดเพ่ิมขนึ้ จากการปลูกขาวโพดเลย้ี งสัตว ทดแทนการปลกู ขา วทีใ่ หผ ลตอบแทนตํา่ กวา และชว ยให เกษตรกรผปู ลกู ขาวมรี ายไดที่มน่ั คง ยั่งยืน จากการปลกู ขาวโพดเลี้ยงสตั วห มุนเวียนในระบบปลกู ขา ว โดยรัฐ ถายทอดความรูใ หเกษตรกร รวมท้ังสนบั สนนุ เงินอุดหนนุ ใน อตั ราไรละ 2,000 บาท (รายละไมเกนิ 15 ไร) 17-เม.ย.-61 300.00 300.00 เพื่อแกไขปญหาการระบายนาํ้ บนถนนวภิ าวดีรงั สิตของกรม กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวง) ทางหลวง 20 407
กรอบวงเงิน วันท่ีมมี ติ ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 วงเงนิ อนมุ ตั ิ ไตรมาส 4 รวมทั้งสิ้น การดาํ เนินการ หนว ยงานรับจัดสรร กลุม ตาม พ.ร.บ.61 เงิน % เงิน % ไตรมาส 3 เงิน % เงนิ % คาใชจา ย เงิน % 241.65 1-พ.ค.-61 241.65 เพ่ือเปน คา ใชจา ยในการปฏิบัตงิ านของสํานกั งาน กระทรวงพาณิชย (คณะกรรมการการ 9.6 340.82 คณะกรรมการการแขง ขันทางการคาและคณะกรรมการที่ แขงขนั ทางการคา) เก่ยี วขอ ง 8 385.24 3 19-มิ.ย.-61 340.82 เพอ่ื เปนคา ใชจ า ยในการแกไ ขปญ หาความไมสงบในจงั หวดั กองอาํ นวยการรักษาความมนั่ คงภายใน 6 27-มิ.ย.-61 385.24 636.00 10-ก.ค.-61 ชายแดนภาคใต ราชอาณาจกั ร (กอ.รมน.) เพ่ือเปนคา ใชจ า ยของสาํ นักงานคณะกรรมการนโยบายเขต สํานกั งานคณะกรรมการนโยบายเขตพฒั นา พฒั นาพเิ ศษภาคตะวันออก (สกพอ.) พิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) 636.00 กองทนุ เพ่อื ความเสมอภาคทางการศึกษา เน่ืองจากกองทุน กองทุนเพอ่ื ความเสมอภาคทางการศกึ ษา เพอื่ ความเสมอภาคทางการศึกษาเปนหนว ยงานของรัฐท่ี จัดต้ังขนึ้ ใหม ยงั ไมเ คยไดรบั การจัดสรรงบประมาณ รวมท้งั เงินและทรัพยส นิ ท่ไี ดร ับโอนมากจากสาํ นกั งานสง เสรมิ สงั คมแหงการเรยี นรูแ ละคุณภาพเยาวชน จํานวน ๒๔ ลาน บาท ไมเพยี งพอตอ การดาํ เนินภารกจิ ตามวตั ถปุ ระสงค และ แผนงานตามแผนแมบทและแผนปฏบิ ตั กิ ารของกองทุนเพ่ือ ความเสมอภาคทางการศกึ ษา ปงบประมาณ ๒๕๖๑-๒๕๖๒ 17-ก.ค.-61 343.29 343.29 ใหก องทพั เรอื เพ่ือเปน คาใชจา ยในการปรับปรงุ หอประชมุ กระทรวงกลาโหม (กองทพั เรอื ) 9.1 31-ก.ค.-61 กองทัพเรือ ตามนโยบายรฐั บาล ระยะแรก (สวนที่เหลือ) 429.18 429.18 ตามแผนปฏบิ ัติงานและแผนการใชจา ยงบประมาณทจ่ี ะ ศูนยบัญชาการแกไขปญ หาการทําการ 9.5 2,724.85 2,724.85 ดาํ เนินการในปงบประมาณ พ.ศ. 2561 ตอ ไป ตามท่ี ประมงผดิ กฎหมาย (ศปมผ.) 1 กระทรวงกลาโหมเสนอ กระทรวงการคลัง (ธ.ก.ส.) คาใชจายในการดาํ เนินงานของศูนยบญั ชาการแกไขปญ หา การทําการประมงผดิ กฎหมาย (ศปมผ.) ระหวางวนั ที่ 1 เมษายน 2561 ถึงวันที่ 30 กนั ยายน 2561 ธ.ก.ส. ดาํ เนนิ โครงการลดดอกเบี้ยเงินกูใ หแ กเ กษตรกรราย ยอ ย สาํ หรับคาใชจ า ยในการดําเนินโครงการฯ ใน ปงบประมาณ พ.ศ. 2561 21 408
กรอบวงเงิน วนั ท่ีมมี ติ ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 วงเงินอนมุ ัติ ไตรมาส 4 รวมทั้งส้ิน การดําเนินการ หนว ยงานรบั จัดสรร กลมุ ตาม พ.ร.บ.61 เงิน % เงิน % ไตรมาส 3 เงนิ % เงนิ % คาใชจ า ย เงนิ % 6,500.00 6,500.00 1 โครงการเงนิ ชวยเหลอื เกษตรกรชาวไรอ อยเพื่อซื้อปจ จัยการ กระทรวงอตุ สาหกรรม (สํานกั งาน 10-ต.ค.-61 ผลิต โดยจายเงินชว ยเหลือแกเกษตรกรชาวไรออ ยเพือ่ นาํ ไป คณะกรรมการออยและนํา้ ตาลทราย) 8-ม.ค.-62 จัดหาปจ จัยการผลิตที่จาํ เปน ซง่ึ เปน เกษตรกรท่ไี ดข น้ึ 29-ม.ค.-62 ทะเบียนเปน ชาวไรอ อ ยกับสํานกั งานคณะกรรมการออ ยและ นาํ้ ตาลทราย และเปนคูสญั ญากบั โรงงาน หรอื มกี ารลงออ ย 26-ก.พ.-62 ผานหวั หนา กลุมชาวไรอ อ ย จํานวนประมาณ 340,000 ราย 5-มี.ค.-62 ในอตั ราตันออยละไมเกนิ 50 บาท รายละไมเกิน 5,000 ตนั ออย 512.97 512.97 คา ใชจายในการดําเนนิ งานของศูนยบ ญั ชาการแกไขปญ หา ศูนยบ ัญชาการแกไ ขปญ หาการทําการ 9.5 959.90 การทาํ การประมงผดิ กฎหมาย ระหวางวนั ท่ี 1 ตลุ าคม 2561 ประมงผดิ กฎหมาย (ศปมผ.) 857.67 400.24 ถงึ วันท่ี 31 มีนาคม 2562 959.90 โครงการสนับสนนุ คา ใชจายในการจัดการศกึ ษาต้งั แตร ะดับ จาํ นวน ๒ หนว ยงานหลกั ไดแ ก (๑) 6 อนบุ าลจนจบการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน รายการคาหนงั สือเรยี น สํานักงานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร ประจาํ ปการศกึ ษา 2561 ของหนวยงานในสังกดั (สํานักงานคณะกรรมการสง เสรมิ การศึกษา กระทรวงศึกษาธกิ าร เอกชน) จํานวน 455,657,700 บาท และ (2) สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน จาํ นวน 504,241,100 บาท 857.67 เพอื่ เปนคา ใชจ า ยสาํ หรบั โครงการผลิตบณั ฑิตพนั ธุใหม เพือ่ สาํ นักงานคณะกรรมการการอุดมศกึ ษา 6 สรา งกําลงั คนท่ีมีสมรรถนะสูง สําหรบั อุตสาหกรรม New Growth Engine ตามนโยบาย Thailand 4.0 และการ ปฏิรปู การอุดมศกึ ษาไทย 400.24 โครงการความรว มมอื ระหวา งกระทรวงมหาดไทย โดยกรม กระทรวงมหาดไทย 9.6 ปองกนั และบรรเทาสาธารณภัยกบั กองทัพบกในการจัดหา อากาศยานปกหมุน (Helicopter) เพ่มิ ประสิทธภิ าพในการ แกไขปญหาสาธารณภัย จํานวน 2 ลํา (สาํ หรับจา ยเงนิ ลวงหนา และคางานงวดท่ี 1 ในปงบประมาณ พ.ศ. 2562) 22 409
กรอบวงเงนิ วันที่มีมติ ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 วงเงินอนมุ ตั ิ ไตรมาส 4 รวมทั้งสน้ิ การดําเนินการ หนว ยงานรับจัดสรร กลุม ตาม พ.ร.บ.61 เงนิ % เงิน % ไตรมาส 3 เงิน % เงนิ % คา ใชจ าย เงิน % 469.60 469.60 โครงการนําเรือประมงออกนอกระบบเพ่อื การจดั การ กระทรวงเกษตรและสหกรณ และหนว ยงาน ทรพั ยากรประมงทะเลทยี่ ัง่ ยืน ระยะท่ี 1 (ระยะเรงดว น) ท่เี ก่ียวของ 9.3 การชดเชยเยียวยาเจา ของเรอื ท่ีไดร บั ผลกระทบจาก มาตรการของรฐั ป 2558 เพือ่ เปนเงินคาชดเชยเรือประมง จาํ นวน 252 ลาํ 12-มี.ค.-62 356.20 356.20 เพื่อเปน คา ใชจายในการดําเนินโครงการชดเชยดอกเบี้ยให กระทรวงพาณชิ ย โดยกรมการคาภายใน 1 19-มี.ค.-62 37,900.00 37,900.00 ผปู ระกอบการคาขาวในการเกบ็ สตอ็ ก 3 เพอื่ เปน คาใชจ ายของกองทุนประชารัฐสวสั ดกิ ารเพอื่ กองทุนประชารฐั สวสั ดิการเพ่อื เศรษฐกิจฐาน เศรษฐกิจฐานรากและสงั คม สาํ หรบั ดาํ เนนิ การตาม รากและสังคม มาตรการชว ยเหลือผมู ีรายไดน อ ยเพิ่มเติมผา นบัตรสวัสดิการ แหง รัฐ และมาตรการพัฒนาคณุ ภาพชีวิตผูม บี ตั รสวสั ดกิ าร แหง รัฐ ระยะท่ี ๒ 24.68 24.68 กอ สรา งอาคารจอดรถของกองทัพภาคที่ 1 วงเงนิ กองทพั บก 9.1 123,384,000 บาท ในลักษณะกอ หนีผ้ กู พันขาม ปงบประมาณ พ.ศ. 2562-2563 และยกเวน ไมน ําขอกําหนด ในพระราชบัญญัติควบคมุ อาคาร พ.ศ. 2522 ประเด็นการ กอ สรางอาคารสูงเกนิ ขอกําหนดมาใชกับการกอสรางอาคาร จอดรถของกองทพั ภาคท่ี 1 2,922.00 2,922.00 โครงการชว ยเหลอื เกษตรกรผปู ลูกพืชหลังนา ป 2561/62 กระทรวงเกษตรและสหกรณ 1 ในสวนของเกษตรกรผูป ลูกพืชหลังฤดูกาลทาํ นา (พืชไร และ พชื ผกั ) จํานวน 4.87 ลา นไร ชวยเหลอื ตามพื้นท่ปี ลูกจริงใน อตั ราไรละ 600 บาท ครวั เรอื นละไมเกิน 15 ไร 123.07 123.07 เพือ่ นาํ ไปชําระใหแ กผ ูรอ งตามคําพิพากษาศาลฎีกา (กรณี กระทรวงเกษตรและสหกรณ 1 ตนกลา ยางชําถงุ ) ใหครบถว นโดยเบกิ จายในงบรายจายอนื่ 17-เม.ย.-62 875.17 875.17 เพื่อเปน คา ใชจ า ยในการดาํ เนินงานการปฏิบัติงานพธิ ีการ สํานกั งานปลดั กระทรวงวัฒนธรรม 9.2 ศพทีไ่ ดร บั พระราชทาน 23 410
กรอบวงเงนิ วันทีม่ มี ติ ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 วงเงนิ อนมุ ตั ิ ไตรมาส 4 รวมท้งั ส้นิ การดาํ เนนิ การ หนวยงานรบั จัดสรร กลุม ตาม พ.ร.บ.61 เงนิ % เงิน % ไตรมาส 3 เงิน % เงนิ % คา ใชจ าย เงนิ % 1,226.05 1,226.05 2 30-เม.ย.-62 เพอื่ เปนคาใชจ า ยในการดาํ เนินโครงการเพม่ิ แหลงเกบ็ กกั นํ้า กระทรวงมหาดไทยรวมกับหนวยงานท่ี และเพิ่มนํ้าตน ทุน จาํ นวน ๑๔๔ โครงการ เพือ่ แกไ ขและ เก่ยี วขอ ง 2 บรรเทาปญหาภัยแลว รวมทงั้ เปน การเตรยี มการเพอ่ื เพิม่ ขดี 9.6 ความสามารถในการเก็บกกั น้ํารองรับปริมาณนา้ํ ในฤดฝู นได อยา งรวดเรว็ ทันตอสถานการณ 1 2 7-พ.ค.-62 3,000.00 3,000.00 เปน คาใชจ ายในโครงการพัฒนาและสงเสริมการสรา งฝาย กระทรวงมหาดไทย โดยกรมสงเสริมการ 9.4 21-พ.ค.-62 104.51 104.51 9.6 ชะลอนํา้ เพอ่ื ปอ งกันและบรรเทาปญหาภัยแลง ปกครองสว นทองถิ่น 28-พ.ค.-62 987.44 987.44 18-มิ.ย.-62 259.63 259.63 คา ทดแทนอสังหารมิ ทรพั ยท ่ถี ูกเวนคืนเพือ่ การจดั หาที่ดิน กระทรวงคมนาคม 25-มิ.ย.-62 653.71 653.71 สําหรบั งานตอเติมความยาวทางวิ่ง ทาอากาศยานแมสอด 2-ก.ค.-62 112.74 112.74 ของกรมทา อากาศยาน เพือ่ เปนคา ใชจายโครงการจัดหายานพาหนะเพอ่ื การขนยาย กระทรวงเกษตรและสหกรณ โดยกรม เครอ่ื งจักรกล ชลประทาน เพื่อเปนคา ใชจ ายในการบรู ณะและฟน ฟทู างหลวงท่ีไดร บั กระทรวงคมนาคม (กรมทางหลวง) ความเสียหายจากอุทกภยั ของกรมทางหลวง ชําระหนค้ี า วสั ดุ อาหารผตู องขงั ผูต องกกั ขงั และผูเขา รับ กระทรวงยตุ ธิ รรม โดยกรมราชทัณฑ การตรวจพิสูจน ปง บประมาณ พ.ศ. 2561 เพ่อื ดําเนนิ การจางทป่ี รกึ ษาเพอ่ื ออกแบบรายละเอียดงาน กระทรวงคมนาคม โดย รฟท. โยธาโครงการความรวมมอื ระหวา งรัฐบาลแหงราชอาณาจักร ไทยกบั รัฐบาลแหง สาธารณรัฐประชาชนจีน ในการพฒั นา ระบบรถไฟฟาความเร็วสูงเพ่ือการเชือ่ มโยงภมู ิภาค ชวง กรงุ เทพมหานคร-หนองคาย ระยะท่ี 2 (ชวงนครราชสมี า- หนองคาย) ระยะเวลาดาํ เนินการ 19 เดอื น 9-ก.ค.-62 1,645.22 1,645.22 โครงการสนบั สนนุ การใชย างพาราในหนว ยงานภาครฐั เปน กระทรวงกลาโหม โดยกองบัญชาการกองทัพ 1 จํานวน 670 เสนทาง ระยะทางรวม 1,744,138 กิโลเมตร ไทยและกองทพั บก ปริมาณการใชย างพารา จํานวน 17,435,040 ตัน 24 411
กรอบวงเงิน วนั ทม่ี ีมติ ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 วงเงนิ อนมุ ตั ิ ไตรมาส 4 รวมทั้งสน้ิ การดําเนินการ หนวยงานรบั จดั สรร กลุม ตาม พ.ร.บ.61 เงิน % เงิน % ไตรมาส 3 เงิน % เงิน % คาใชจา ย เงนิ % 663.48 663.48 6 20-ส.ค.-62 326.65 เพ่ือชําระเงนิ ตามสญั ญาจา งโครงการจดั หาระบบดาวเทียม กระทรวงการอมุ ดศกึ ษา วิทยาศาสตร วิจัย สาํ รวจเพอ่ื การพฒั นา (THEOS-2) รายการคา จดั หาระบบ และนวตั กรรม 9.5 176.79 ดาวเทียมสาํ รวจ ระบบภาคพ้ืนดนิ และระบบแอพพลิเคชัน 559.04 ภูมิสารสนเทศ งวดงานท่ี 2 9.6 5 27-ส.ค.-62 326.65 แกไ ขปญ หาการทําการประมงผิดกฎหมายไดรับยกเวนการ ศนู ยบญั ชาการแกไ ขปญ หาการทําการ ปฏิบัติตามมตคิ ณะรฐั มนตรเี มอ่ื วันที่ 24 พฤศจกิ ายน 2558 ประมงผิดกฎหมาย 17-ก.ย.-62 176.79 (เร่ือง การเสนอเรือ่ งเรง ดวนตอ คณะรัฐมนตร)ี 24-ก.ย.-62 559.04 เพ่อื เปน คา ตอบแทนผเู สยี หาย และคาทดแทนและคาใชจา ย กระทรวงยุทติธรรม แกจําเลยในคดอี าญา เพอ่ื เปน คา ใชจา ยบคุ ลากรภายใตแ ผนงานบคุ ลากรภาครฐั กระทรวงมหาดไทย สําหรับเปนคาตอบแทนสมาชิกกองอาสารักษาดนิ แดน จาํ นวน 120,000,000 บาท คา ตอบแทนพิเศษรายเดอื น สมาชิกกองอาสารักษาดนิ แดนทป่ี ฏบิ ัติงานในเขตพื้นท่ีพิเศษ จาํ นวน 46,060,800 บาท และคา ตอบแทนตําแหนง กาํ นัน ผใู หญบา น ฯลฯ จาํ นวน 392,983,000 บาท 5,100.00 5,100.00 จัดสรรเงินงบประมาณสาํ หรบั รายการงบกลางทอี่ ยูในความ กระทรวงการคลงั 5 5,550.00 5,550.00 รบั ผดิ ชอบของกรมบัญชกี ลางท่ีมีการจา ยเงนิ สงู กวาวงเงนิ 2 งบประมาณท่ีไดรบั จัดสรรในปง บประมาณ พ.ศ. 2562 รายการคา ใชจายในการรกั ษาพยาบาลขาราชการ ลกู จา ง และพนกั งานของรัฐ เพอื่ เปน คา ใชจา ยในการดาํ เนินการโครงการแกไ ขและ กระทรวงมหาดไทย บรรเทาปญหาความเดือดรอ นของประชาชนในพ้ืนทอ่ี ัน เนื่องมาจากสาธารณภัย (กรณอี ทุ กภัย) 25 412
กรอบวงเงนิ วนั ท่ีมมี ติ ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 วงเงินอนมุ ัติ ไตรมาส 4 รวมทง้ั สิ้น การดําเนนิ การ หนว ยงานรับจัดสรร กลุม ตาม พ.ร.บ.61 เงนิ % เงนิ % ไตรมาส 3 เงนิ % เงิน % คา ใชจ า ย เงิน % 2,092.40 2,092.40 2 เพ่อื จายเงนิ ชวยเหลอื แกผปู ระสบภัยครัวเรือนละ 5,000 ธนาคารออมสนิ บาท จํานวน 418,480 ครวั เรือน ตามขอมูลครวั เรอื น ผูประสบภัยเบ้ืองตน ซึ่งเปน จํานวนครวั เรือนจากการสาํ รวจ เบ้อื งตนใน 29 จงั หวัด ท่ีอยใู นพื้นทไ่ี ดป ระกาศเขตพื้นท่ี ประสบสาธารณภัยหรอื ประกาศเขตการใหความชว ยเหลอื ผปู ระสบภยั พิบตั กิ รณีฉกุ เฉิน 1,806.74 1,806.74 โครงการเงนิ อุดหนนุ เพ่อื การเลี้ยงดูเดก็ แรกเกดิ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคง 3 47.80 47.80 ของมนษุ ย 3 เพื่อเปนคาใชจ ายของสํานกั งานคณะกรรมการนโยบายเขต พัฒนาพิเศษภาคตะวนั ออก (สกพอ.) สาํ นักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนา พิเศษภาคตะวนั ออก (สกพอ.) 26 413
มติคณะรัฐมนตรที เ่ี กยี่ วขอ งกับการอนมุ ตั งิ บกลางปง บประมาณ พ.ศ. 2562 รายการเงนิ สํารองจา ยเพอื่ กรณีฉกุ เฉนิ หรอื จําเปน กรอบวงเงนิ วงเงินอนมุ ัติ กลุม ตาม พ.ร.บ.62 คาใชจาย วนั ท่ีมมี ติ ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 รวมท้ังสิ้น การดําเนนิ การ หนวยงานรับจัดสรร เงนิ % เงนิ % 7 เงิน % เงิน % เงิน % 2,016.76 2.04 1,000.00 1.01 7 99,000.00 921.82 - 653.58 0.66 73,861.53 74.61 77,531.87 78.32 1 4-ธ.ค.-61 9.1 - - 921.82 เพือ่ เปน คา ใชจ ายในการจดั สรรงบประมาณรายการกอสรา งและ 1) สาํ นกั งานปลัดกระทรวงสาธารณสขุ 9.2 1 ปรบั ปรุงซอมแซมทีพ่ กั อาศัยของหนว ยงานสงั กดั กระทรวง 873.73 ลบ. 1 2 สาธารณสุข 2) กรมการแพทย 13.28 ลบ. 2 3) กรมสุขภาพจติ 13.57 ลบ. 4) กรมอนามยั 9.24 ลบ. 5) กรมควบคมุ โรค 12.00 ลบ. 763.54 -- - 763.54 เพ่ือดําเนนิ โครงการพัฒนาคณุ ภาพบรกิ ารโรงพยาบาลสง เสรมิ กระทรวงสาธารณสุข 159.59 -- - 159.59 สขุ ภาพตาํ บล ระยะเรงดว น ปง บประมาณ พ.ศ. 2562 กระทรวงการคลัง (การยาสบู แหง ประเทศ ไทย) 13-ธ.ค.-61 171.81 - - - 171.81 โครงการใหความชวยเหลอื เกษตรกรผูปลกู ยาสบู ทีไ่ ดร ับ สาํ นักงานศาลยตุ ิธรรม 1,000.00 - - 1,000.00 ผลกระทบจากการลดปรมิ าณการรบั ซ้ือใบยาสูบ เฉพาะฤดกู าร สวนราชการท่เี กีย่ วขอ ง 15-ม.ค.-62 - 53.60 - ผลติ 2561/2562 ของการยาสูบแหง ประเทศไทย กระทรวงเกษตรและสหกรณ - 53.60 9-เม.ย.-62 - - เพือ่ เปน คา กอสรางและคาควบคมุ งานกอ สรางอาคารท่ที าํ การ กระทรวงเกษตรและสหกรณ 15,800.00 599.97 ศาลอุทธรณภ าค 5 พรอ มท่ีพักอาศยั และสิ่งกอสรา งประกอบ กระทรวงมหาดไทย 27-ส.ค.-62 - - 599.97 15,800.00 - -- 261.53 เพือ่ เปนคา ใชจา ยในการจดั งานพระราชพธิ บี รมราชาภิเษก สาํ นกั งานทรัพยากรน้ําแหงชาติ 261.53 (อนุมัติหลักการ) 10-ก.ย.-62 - -- แผนเตรยี มความพรอ มรับมอื โรคอหิวาตแ อฟรกิ าในสุกรของ ประเทศไทย การดําเนนิ การเฝาระวัง ปอ งกนั และควบคุมโรค เรง ดวน ในปง บประมาณ พ.ศ. 2562 การจายคาชดเชยเพือ่ แกไขปญ หาผลกระทบจากโครงการฝาย ราศไี ศล ในทองท่ี จ.ศรีสะเกษ และ จ.รอยเอ็ด เพ่อื แกไ ขและบรรเทาปญ หาความเดอื ดรอนของประชาชนใน พน้ื ที่อันเนือ่ งมาจากปญหาภัยแลง และอทุ กภยั ในจังหวัดทัว่ ประเทศ โครงการแกไขและบรรเทาปญ หาความเดือดรอ นของประชาชน เนอ่ื งจากเหตอุ ุทกภัยในพืน้ ท่ภี าคเหนอื 27 414
กรอบวงเงนิ วันทีม่ มี ติ ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 วงเงนิ อนุมัติ ไตรมาส 4 รวมท้งั สนิ้ การดําเนินการ หนว ยงานรบั จดั สรร กลมุ ตาม พ.ร.บ.62 เงนิ % เงนิ % ไตรมาส 3 เงนิ % เงนิ % คา ใชจ าย เงิน % 37,800.00 37,800.00 24-ก.ย.-62 - - เปนการจดั สรรงบประมาณสาํ หรับรายการงบกลางทีอ่ ยูใ นความ รายการงบกลางในการดแู ลของ 5 - รบั ผิดชอบของกรมบญั ชีกลางที่มีการจายเงินสงู กวาวงเงนิ กรมบัญชกี ลาง งบประมาณท่ีไดร บั จัดสรรในปงบประมาณ พ.ศ. 2562 ปะกอบ ดวย รายการเบี้ยหวัด บําเหน็จ บํานาญ จาํ นวน 37,800 ลาน บาท (หมายเหตุ มี 2 รายการใชเงนิ จากงบกลางป 61 ดว ย) - - - 10,000.00 10,000.00 เพ่อื ลดลกู หนรี้ อการชดเชยของรฐั บาล ตามมาตรการชวยเหลือ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ 1 เกษตรกรผูป ลูกขา ว ปการผลติ 2559/60 ดานการเงินของ ธ.ก.ส. การเกษตร (ธ.ก.ส.) - - - 10,000.00 10,000.00 เพื่อจัดสรรใหแกกองทนุ ประชารฐั สวสั ดิการเพือ่ เศรษฐกิจฐาน กองทนุ ประชารฐั สวสั ดกิ ารเพื่อเศรษฐกจิ 3 รากและสังคม เพอื่ ใหก ารดําเนนิ มาตรการใหค วามชวยเหลอื ผาน ฐานรากและสงั คม บัตรสวัสดกิ ารแหง รัฐเปน ไปอยางตอ เนอื่ งและสามารถรองรับ การดาํ เนินงานสําหรบั มาตรการท่เี ก่ยี วของกบั บัตรสวสั ดิการแหง รฐั ในอนาคต 28 415
มตคิ ณะรัฐมนตรที ีเ่ กี่ยวของกับการอนมุ ตั ิงบกลางปงบประมาณ พ.ศ. 2563 รายการเงินสาํ รองจายเพือ่ กรณฉี กุ เฉินหรือจาํ เปน กรอบวงเงิน วันทอ่ี นมุ ตั ิ ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 วงเงนิ อนมุ ตั ิ ไตรมาส 4 รวมทั้งสิ้น การดาํ เนนิ การ หนวยงานรบั จดั สรร กลมุ ตาม พ.ร.บ.63 เงิน % เงนิ % ไตรมาส 3 เงิน % เงนิ % คาใชจาย รวมท้ังส้นิ 4,828.24 2.62 98,394.93 53.34 เงนิ % 60,279.20 32.68 164,303.43 89.08 กระทรวงเกษตรและสหกรณ 184,452.60 24-ก.ย.-62 248.45 801.07 0.43 ก.คมนาคม (กรมทางหลวง กรมทาง 1 1-ต.ค.-62 2,282.98 - - หลวงชนบท) 2 - - - 248.45 ดําเนินโครงการปองกนั และกาํ จัดโรคใบดางมันสาํ ปะหลงั 116.00 - 3 2,000.00 - - 2,282.98 เพอ่ื ฟน ฟูโครงสรางพน้ื ฐานท่ไี ดรับความเสยี จากอุทกภัยในพนื้ ท่ีภาคเหนือ 3 - - - 5 180.81 - - - และภาคตะวันออกเฉยี งเหนือ จาํ นวน 24 จังหวัด - 9.6 - 46.48 - 116.00 โครงการสง เสรมิ การทองเทย่ี ว \"ถงึ เวลาทัวร ใหท ว่ั ไทย\" ก.การทอ งเท่ยี วและกีฬา (ททท.) - 22-ต.ค.-62 2,000.00 เพือ่ เปน คาใชจา ยในการดําเนินโครงการชมิ ชอ ป ใช เฟส2 ก.การคลัง 29-ต.ค.-62 180.81 สาํ นกั งานสภาเกษตรกรแหง ชาติ เพ่ือเปน คาใชจา ยบคุ ลากร (เงินเดอื นพนักงานและลกู จาง) และคาใชจาย 2-ม.ค.-63 ดําเนนิ งาน 46.48 เพื่อเปน คา ใชจ ายในการสนับสนนุ การจัดเท่ียวบนิ พเิ ศษของบริษัท การบินไทย ก.คมนาคม (สป.กระทรวงฯ โดย บ. จาํ กดั (มหาชน) สําหรับผูเดนิ ทางไปประกอบพธิ ฮี จั ย ประจาํ ป พ.ศ. 2562 การบินไทย จํากดั (มหาชน)) 7-ม.ค.-63 - 3,079.47 - - 3,079.47 เพือ่ ใชเ ปน คาใชจ ายในโครงการปฏบิ ตั ิการแกไ ขปญหาการขาดแคลนน้าํ สาํ นักงานทรพั ยากรนาํ้ แหงชาติ 2 21-ม.ค.-63 - 881.72 - 11-ก.พ.-63 - - ในชวงฤดแู ลง ป 2562/63 24-ก.พ.-63 - 2,056.52 - 3-ม.ี ค.-63 - 2,967.50 - - 881.72 เพื่อเปน คาใชจ า ยในโครงการกาํ กบั ดแู ลความปลอดภยั ในการเดินเรอื ปอ งกนั ก.คมนาคม (กรมเจา ทา) 9.6 225.00 - อุบัติเหตทุ างทะเล 1,233.27 - 2,056.52 เพื่อจา ยเงินอุดหนนุ เฉพาะกจิ โครงการเงินอุดหนุนเพื่อการเล้ียงดเู ดก็ แรกเกดิ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความ 3 มน่ั คงของมนุษย - 2,967.50 เพื่อใชใ นโครงการภายใตแผนปฏิบัตกิ ารฟน ฟู เยียวยา เกษตรกรผูประสบภยั ก.เกษตรฯ 2 ฝนท้งิ ชว งและอุทกภัย ป 2562 - 225.00 เพื่อเปน คาวสั ดุ อุปกรณในการจัดทําหนา กากอนามัยในโครงการพลงั คนไทย องคกรปกครองสว นทอ งถนิ่ จํานวน 4 รวมใจปองกนั ไวรสั โคโรนา (COVID-19) 7,774 แหง (เทศบาลและองคก าร บริหารสว นตาํ บล) - - 1,233.27 โครงการเตรยี มความพรอมปองกันและแกไ ขปญหาโรคติดตออุบตั ิใหม : กรณี ก.สาธารณสุข 4 โรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)ระยะระบาดในวงจํากดั (ระยะที่ 2) 10-มี.ค.-63 - 691.12 - - 691.12 เพ่ือฟนฟูโครงสรางพื้นฐานท่ีไดรับความเสียจากอุทกภยั ในพ้นื ทภี่ าคเหนอื ก.คมนาคม (กรมทางหลวง กรมทาง 2 - 20,000.00 - และภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื จาํ นวน 17 จงั หวดั หลวงชนบท) - 20,000.00 ชว ยเหลอื ผูไดร บั ผลกระทบจากสถานการณก ารระบาดของโรคติดเช่ือไวรสั โค ก.การคลัง 4 โรนา 2019 (COVID-19) ระยะท่ี 1 29 416
กรอบวงเงนิ วนั ทอ่ี นมุ ตั ิ ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 วงเงินอนมุ ัติ ไตรมาส 4 รวมทัง้ สิ้น การดําเนินการ หนว ยงานรบั จัดสรร กลมุ ตาม พ.ร.บ.63 17-มี.ค.-63 เงิน % เงนิ % ไตรมาส 3 เงนิ % เงิน % คา ใชจ า ย 9,002.31 เงนิ % 9,002.31 - 8,308.14 - 8,308.14 เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณก ารระบาดของโรคติดเชอ่ื ไวรัสโคโรนา 11 กระทรวง 4 - 2019 (COVID-19) จาํ นวน 9,002.4253 ลา นบาท 2 523.24 523.24 1 49,380.16 49,380.16 บรรเทาผลกระทบจากสถานการณภยั แลง จาํ นวน 8,308.1444 ลานบาท 4 24-ม.ี ค.-63 - - -- 801.07 เพอ่ื ปองกนั โรคอหวิ าตแ อฟรกิ าในสกุ ร ก.เกษตรฯ 4 - - -- 506.67 2 1) มาตรการชดเชยรายไดแ กลกู จางของสถานประกอบการที่ไดรบั ผลกระทบ 1) ก.การคลัง - 171.60 9.5 - 435.29 หรอื ผไู ดร บั ผลกระทบอนื่ ๆ ของการแพรระบาดของไวรสั โคโรนา 2) ธ.ออมสิน ธ.พฒั นาวิสาหกิจขนาด 9.3 - 11,892.87 (COVID-19) จาํ นวน 45,000 ลา นบาท (ก.การคลัง) กลางและขนาดยอมแหงประเทศไทย 2 - 315.00 2) มาตรการเสรมิ ความรู จาํ นวน 4,380.16 ลานบาท (ธ.ออมสนิ 2 - 1,000.00 ธ.พฒั นาวิสาหกจิ ขนาดกลางและขนาดยอ มแหงประเทศไทย) 4 7-เม.ย.-63 - 801.07 - เพอ่ื ดาํ เนินโครงการบรหิ ารจดั การหนากากอนามัยในสถานการณการระบาด ก.พาณชิ ย 8-ก.ค.-63 - - 506.67 ของโรคตดิ เชอ่ื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) - 171.60 เพอ่ื ดาํ เนนิ การเตรยี มการรองรับปรมิ าณน้ําในฤดฝู นป 2563 ปอ งกนั ความ สาํ นกั งานทรัพยากรนาํ้ แหงชาติ - 435.29 เสียหายและผลกระทบเปน วงกวา ง และเพ่ือเปน คาใชจ ายสนับสนุนการ ดาํ เนนิ งานของคณะอนุกรรมการทรพั ยากรน้าํ จังหวดั และคณะทาํ งานภายใต คณะอนกุ รรมการทรัพยากรน้ําจังหวัด ทั้ง 76 จงั หวัด 29-ก.ค.-63 - เพื่อดําเนินการโครงการการแกไขปญ หาการทําประมงผิดกฎหมาย กระทรวงเกษตรและสหกรณ 4-ส.ค.-63 - เพอ่ื แกไขปญหาความเดือดรอนของประชาชนและลดผลกระทบจากสัตวปา กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละ รวมถงึ การแกไ ขปญหาการดแู ลสัตวป าของกลางตามหลกั สวสั ดิภาพสตั ว ส่งิ แวดลอม (กรมอุทยานฯ) จํานวน 3 โครงการ ไดแ ก โครงการแกไขปญหาชางปาออกหากนิ นอกพ้นื ท่ี ปา อนุรกั ษแบบบรู ณาการ โครงการแกไขปญ หาและลดผลกระทบของลิงใน ชมุ ชน โครงการเพิม่ ประสิทธภิ าพการับสตั วป าของกลางและสตั วปากรณี แกไขปญ หาตามหลกั สวสั ดิภาพสัตวใ นกรงสัตว 13-ส.ค.-63 - - 11,892.87 เพ่ือใชใ นการดําเนนิ โครงการบรรเทาปญหาภัยแลง และน้ําทวมในพนื้ ท่ี 76 กรมชลประทาน กระทรวงมหาดไทย - 315.00 จงั หวดั ท่ัวประเทศ กองทัพบก กรมทรัพยากรนํ้าบาดาล 18-ส.ค.-63 - - 1,000.00 และกรมเจา ทา (เสนอโดยสาํ นกั งาน 25-ส.ค.-63 - เพ่ือจัดซื้อรถสูบนํา้ ไมนอ ยกวา 35,000 ลิตร/นาที และสง น้าํ ระยะไกลไม ทรพั ยากรนํา้ แหง ชาต)ิ นอยกวา 10 กิโลเมตร พรอ มอุปกรณ จํานวน 7 คัน สําหรับแกไขปญหาภัย แลง ในป 2563 กระทรวงมหาดไทย (กรมปองกนั เปนเงนิ อดุ หนุนใหสถาบันวคั ซีนแหงชาติ เพือ่ ใหก ารสนับสนุนหนว ยงาน และบรรเทาสาธารณภยั ) เครือขา ยการพฒั นางานดานวคั ซนี ของประเทศในการเพ่มิ ศักยภาพการผลิต วัคซนี ใหพรอมรบั การถา ยทอดเทคโนโลยกี ารผลติ วคั ซีนโควดิ 19 และการ กระทรวงสาธารณสขุ (ใหสถาบันวคั สรา งขดี ความสามารถของประเทศโดยการผลิตวคั ซีนตง้ั แตต น นา้ํ ซรี แหงชาต)ิ 30 417
กรอบวงเงนิ วนั ทอ่ี นมุ ตั ิ ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 วงเงินอนมุ ตั ิ ไตรมาส 4 รวมทั้งส้ิน การดําเนนิ การ หนว ยงานรับจัดสรร กลุม ตาม พ.ร.บ.63 เงิน % เงนิ % ไตรมาส 3 เงนิ % เงนิ % คาใชจ า ย เงนิ % 2,771.18 2,771.18 - - 2,899.65 เพือ่ ปรบั ปรงุ เพ่มิ ความปลอดภยั ทางถนน และชวยยกระดบั ราคายางพารา กรมททางหลวง 1,719.1008 ลาน 1 - 5,082.76 ระบายผลผลิตยางพารา บาท กรมทางหลวงชนบท 3 1,052.0776 ลา นบาท 2 284.86 2 - - - 2,899.65 810.00 เพอื่ จายเงินอดุ หนนุ เฉพาะกิจ โครงการเงินอุดหนุนเพ่ือการเลยี้ งดเู ด็กแรกเกดิ กระทรวงการพฒั นาสงั คมและความ 2 2,521.27 มั่นคงของมนุษย (กรมกจิ การเดก็ และ 4 20,000.00 เยาวชน) 1 10,000.00 3 15-ก.ย.-63 - - - 5,082.76 227.51 เพ่อื ดาํ เนินโครงการเพอ่ื เตรียมการรับมอื บรรเทาปญหานํ้าทว ม และเพิ่ม สํานักงานทรัพยากรนํา้ แหงชาติ 9.3 - - - 284.86 ประสิทธิภาพการเกบ็ กกั นํา้ ในฤดฝู น ป 2563 - - - 810.00 158.13 9.3 เพ่ือเปน คาใชจ า ยในการจัดหาเครอ่ื งจักรกลเพอื่ การเตรียมความพรอมแกไ ข กระทรวงเกษตรและสหกรณ (กรม 204.46 4 257.53 และบรรเทาอุทกภัย ชลประทาน) 9.4 เพอ่ื จัดซอื้ รถสูบนาํ้ ไมน อ ยกวา 35,000 ลติ ร/นาที และสง นา้ํ ระยะไกลไม กระทรวงมหาดไทย (กรมปอ งกัน นอ ยกวา 10 กิโลเมตร พรอ มอปุ กรณ จํานวน 18 คนั สาํ หรับแกไขปญหาภัย และบรรเทาสาธารณภยั ) แลงในป 2563 22-ก.ย.-63 - - - 2,521.27 เปนคาใชจ ายในการแกไขสถานการณฉ กุ เฉินดา นความมน่ั คง เพ่อื บรรเทา สาํ นกั งานตํารวจแหงชาติ - - - 20,000.00 ผลกระทบจากสถานการณการระบาดของโรคตดิ เช้ือไวรัสโคโรนา 2019 - - - 10,000.00 1.เพ่อื ลดยอดหนีร้ อการชดเชยของรัฐบาลของโครงการชว ยเหลือคาเกบ็ เก่ียว กระทรวงการคลัง (สาํ นกั งาน ใหแกเกษตรกรผปู ลกู ขาวนาป ปการผลติ 2559/2560 ใหแ ก ธ.ก.ส. 20,000 เศรษฐกจิ การคลงั ) 2. โครงการลงทะเบยี นฯ รอบใหมและการจัดสรรสวสั ดิการผา นบตั รฯ 10,000 ลานบาท ใหแ กกองทนุ ประชารัฐสวัสดิการเพอ่ื เศรษฐกิจฐานรากและ สงั คม - - - 227.51 1.โครงการปรบั ปรงุ และเพิม่ ประสทิ ธภิ าพเครอ่ื งจักรและอปุ กรณใ นระบบ กระทรวงมหาดไทย (เมอื งพัทยา) บาํ บัดนา้ํ เสยี พ้นื ท่ีพทั ยานาเกลือ อ.บางละมงุ จ.ชลบุรี จาํ นวน 157.7250 ลา นบาท 2.โครงการเพ่มิ ประสิทธิภาพสถานสี ูบปอ งกนั นาํ้ ทว ม ถ.สขุ ุมวิท และ ถ.เลียบ ทางรถไฟ อ.บางละมุง จ.ชลบรุ ี จาํ นวน 69.7878 ลา นบาท - - - 158.13 เปนเงนิ อดุ หนนุ เฉพาะกจิ ใหอ งคการบริหารสว นจงั หวัดระยอง (เนอ่ื งจาก งป ก.มหาดไทย (องคการบรหิ ารสว น ม.ไมพอ) เพอ่ื ดําเนนิ โครงการปาชายเลนในเมืองระยอง ปา ชายเลน พระเจดยี จงั หวัดระยอง) กลางนา้ํ อญั มณีหนึ่งเดียวในระยอง (ระยะท่ี 3) จาํ นวน 81.7036 ลา นบาท และโครงการปรับปรุงภูมิทศั นภ ายในศูนยบรกิ ารการพัฒนาปลวกแดงตาม พระราชดาํ ริจงั หวัดระยะยอง ระยะท่ี 3 จาํ นวน 94.0000 ลานบาท - - - 204.46 เพอ่ื เตรียมความพรอ มปองกนั และแกไ ขปญ หาโรคตดิ ตอโควิด 2019 ระยะ ก.สาธารณสขุ - - - 257.53 การระบาดระลอก 2 ก.ทรวงยุติธรรม (กรมราชทณั ฑ) เพอื่ ชาํ ระหนีค้ า สาธารณูปโภค ปง บประมาณ พ.ศ. 2562 31 418
กรอบวงเงนิ วันทอ่ี นมุ ตั ิ ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 วงเงินอนมุ ตั ิ ไตรมาส 4 รวมทัง้ สนิ้ การดาํ เนินการ หนวยงานรบั จัดสรร กลมุ ตาม พ.ร.บ.63 เงิน % เงนิ % ไตรมาส 3 เงนิ % เงิน % คาใชจ าย เงิน % 29-ก.ย.-63 - - 677.79 677.79 เพ่อื เบกิ จา ยเปนเงนิ เพ่มิ พเิ ศษรายเดอื น จํานวน 7 เดือน (ม.ี ค.-ก.ย.63) ใหแก ก.มหาดไทย (กรมการปกครอง) 5 - - - 52.62 52.62 กาํ นัน ผใู หญบาน ฯลฯ - - 10.00 10.00 9.4 - เพอื่ ชําระหนีค้ าวัสดอุ าหารผเู ขา รบั การตรวจพิสูจนคางจายตามทเ่ี กดิ ข้ึนจรงิ ก.ทรวงยุตธิ รรม (กรมราชทณั ฑ) ปงบประมาณ พ.ศ. 2562 1 - ให ธ.ก.ส. เพ่ือใชใ นการลดยอดลูกหน้ีรอการชดเชยของรัฐบาล 2 โครงการ 1) ก.การคลงั (ธ.ก.ส.) โครงการสรา งความเขม แข็งใหแกเกษตรกรชาวสวนยาง จาํ นวน 5.0000 ลาน บาท 2) โครงการสนบั สนุนเงินชวยตน ทุนการผลติ ใหแกเ กษตรกรผูปลูกขา ว ปก ารผลติ 2559/2560 จํานวน 5.0000 ลานบาท 32 419
มติคณะรัฐมนตรีท่เี กี่ยวของกับการอนมุ ัตงิ บกลางปงบประมาณ พ.ศ. 2564 รายการเงนิ สาํ รองจา ยเพื่อกรณีฉุกเฉนิ หรอื จาํ เปน กรอบวงเงนิ วงเงินอนมุ ัติ กลุม ตาม พ.ร.บ.62 คา ใชจ า ย วนั ท่มี ีมติ ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ไตรมาส 3 ไตรมาส 4 รวมท้ังสิ้น การดําเนินการ หนวยงานรับจัดสรร 99,000.00 12-ม.ค.-64 เงนิ % เงิน % เงนิ % เงิน % เงิน % -- 3,180.94 3.21 -- 1,477.76 - --- 3,180.94 3.21 1,477.76 โครงการเยยี วยาเกษตรกรผูเล้ยี งโคนมและผปู ระกอบการ ใหก บั หนว ยงานที่รบั ผิดชอบจัดซื้อนมโรงเรยี น ดังนี้ 1 1) องคกรปกครองสวนรทอ งถ่ิน จํานวน 1,098.0864 ลา นบาท ผลติ ภณั ฑน ม พลกิ ฟน เศรษฐกจิ ภาคการเล้ียงโคนมและ 2) กระทรวงศกึ ษาธิการ จาํ นวน 326.3969 ลานบาท 3) กรงุ เทพมหานคร จํานวน 50.8225 ลา นบาท ผลิตภัณฑน ม โดยจายงบประมาณเพ่อื จดั ซือ้ นมโรงเรยี นชนดิ ยู 4) เทศบาลเมอื งพัทยา จาํ นวน 2.4526 ลานบาท เอช ที ใหเด็กนักเรียนดม่ื เพ่ิมเตมิ 2-ก.พ.-64 279.78 279.78 พือ่ เปน คาใชจ า ยในการปองกนั โรคอหวิ าตแอฟรกิ าในสกุ ร กระทรวงเกษตรและสหกรณ (กรมปศสุ ัตว) 1 9-ม.ี ค.-64 985.32 985.32 สาํ หรบั คาชดใชราคาสุกรที่ถูกทาํ ลาย ตามมาตรา 13 (4) แหง กระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวง กรมทางหลวงชนบท 2 16-ม.ี ค.-64 438.08 438.08 พระราชบญั ญัติโรคระบาดสัตว พ.ศ. 2558 สํานักงานตาํ รวจแหง ชาติ 9.6 เพ่ือฟน ฟโู ครงสรา งพนื้ ฐานท่ีไดร ับความเสียหายจากอุทกภยั ใน พ้ืนที่ภาคใต 5 จังหวดั (ตรงั นครศรธี รรมชาช นราธิวาส พทั ลงุ และสุราษฎรธาน)ี โครงการ Organizational Quarantine (OQ) สําหรับแรงงาน ตา งดาวและผูลกั ลอบหลบหนีเขาเมอื ง 33 420
มตคิ ณะรัฐมนตรที ่ีเกี่ยวขอ งกับการอนุมตั ิงบกลางปงบประมาณ พ.ศ. 2564 รายการคาใชจ ายในการบรรเทา แกไขปญหา และเยยี วยาผทู ไี่ ดร ับผลกระทบจากการระบาดของโรคตดิ เชอ้ื ไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กรอบวงเงนิ วนั ทีม่ ีมติ ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 วงเงินอนมุ ัติ ไตรมาส 4 รวมทัง้ สิน้ การดําเนินการ หนว ยงานรับจัดสรร ตาม พ.ร.บ.62 เงนิ % เงิน % ไตรมาส 3 เงนิ % เงนิ % เงนิ % 2,379.43 5.90 13,956.27 34.61 -- 40,325.63 2,379.43 - - -- 16,335.70 40.51 17-พ.ย.-63 2,379.43 เปนคาใชจายในการจดั หาวคั ซนี โดยการจองลวงหนา ผา น กระทรวงสาธารณสขุ โดยสถาบัน ความรวมมือแบบทวภิ าคกี ับบรษิ ัท AstraZeneca ภายใต วัคซีนแหง ชาติ โครงการจดั หาวัคซีนปองกนั โรคตดิ เชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) สําหรับประชาชนไทย โดยการจองลวงหนา (AstraZeneca) จากบรษิ ัท AstraZeneca (Thailand) และ บริษัท AstraZeneca UK จํากัด โดยมวี งเงนิ รวม 6,049.72 ลา นบาท 5-ม.ค.-64 4,661.12 4,661.12 โครงการเตรยี มความพรอมรับมอื และแกไ ขปญหาโรคติดตอ กระทรวงสาธารณสขุ อบุ ัตใิ หม : กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระยะการระบาดระลอกใหม ประจําปง บประมาณ พ.ศ. 2564 19-ม.ค.-64 166.53 166.53 เพอ่ื เปน คาภาษีมลู คา เพิม่ ในโครงการจัดหาวคั ซนี ปองกนั โรค กระทรวงสาธารณสขุ 2-ก.พ.-64 2,741.34 2,741.34 ติดเชอ้ื ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID-19) สําหรับประชาชนไทย 2-ม.ี ค.-64 6,387.29 6,387.29 โดยการจองลวงหนา ทาํ ใหวงเงนิ โครงการเพม่ิ ขน้ึ จาก 6,049.72 ลานบาท เปน 6,216.25 ลา นบาท - ภายใตโ ครงการจัดหาวคั ซีนปอ งกนั โรคติดเช้ือไวรัสโคโรนา กระทรวงสาธารณสขุ โดยกรม 2019 (COVID-19) สําหรับประชาชนไทย โดยการจอง ควบคมุ โรค ลว งหนา กบั บรษิ ทั AstraZeneca ในสวนทก่ี รมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสขุ เกย่ี วของ โครงการจดั หาวัคซีนปอ งกนั โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กระทรวงสาธารณสขุ โดยกรม (COVID-19) สาํ หรบั บริการประชากรในประเทศไทย เพิ่มเตมิ ควบคุมโรค จํานวน 35 ลา นโดส 421
สำนักงบประมำณของรฐั สภำ สำนักงำนเลขำธิกำรสภำผแู้ ทนรำษฎร www.parliament.go.th/pbo 422
ความเหล่อื มล้าของจงั หวดั กบั การจดั สรรงบประมาณของไทย (ปี 2552 – 2564) : เศรษฐกจิ สงั คม และการพฒั นาคน 423
ความเหลอ่ื มลำ้ ของจังหวดั กบั การจัดสรรงบประมาณของไทย (ปี 2552-2564) : เศรษฐกจิ สังคม และการพัฒนาคน 424
เรอ่ื ง ความเหล่อื มล้ำของจังหวดั กบั การจดั สรรงบประมาณของไทย (ปี 2552-2564) ฉบบั ที่ : เศรษฐกจิ สงั คม และการพัฒนาคน จัดพมิ พค์ ร้ังที่ จำนวนหนา้ 4/2564 จำนวนพมิ พ์ จัดทำโดย 1/2564 ที่ปรกึ ษา 136 หนา้ คณะผจู้ ัดทำ 750 เลม่ พิมพ์ท่ี สำนกั งบประมาณของรัฐสภา สำนักงานเลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎร 1111 ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสติ กรุงเทพมหานคร 10300 นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นายศิโรจน์ แพทย์พนั ธ์ุ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร นายนพรัตน์ ทวี ผบู้ ังคบั บญั ชากลุม่ งานวเิ คราะห์งบประมาณ 2 นางสาวอุมาพร บึงมมุ นกั วิเคราะหง์ บประมาณชำนาญการพิเศษ นายภเู บต เส็นบัตร นักวิเคราะหง์ บประมาณปฏิบัตกิ าร ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ ดร.มีชยั ออสุวรรณ อาจารย์ประจำคณะศึกษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยเกษตรศาสตร์ สำนักการพมิ พ์ สำนักงานเลขาธิการสภาผ้แู ทนราษฎร 1111 ถนนสามเสน แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กรงุ เทพมหานคร 10300 โทรศัพท์ 02-242-5900 ตอ่ 5421 แบบประเมินความพึงพอใจเอกสารวชิ าการ ของสำนกั งบประมาณของรัฐสภา (PBO) สำนักงานเลขาธกิ ารสภาผูแ้ ทนราษฎร 425
ก คำนำ การพฒั นาประเทศให้เติบโตอย่างมั่นคง ม่ังคั่ง ยั่งยืน จะต้องมีการบริหารจัดการทรัพยากรท่ี มีอยู่อย่างจากัดให้มีประสิทธิภาพสูงสุด โดยรัฐบาลใช้ “ระบบกำรจัดสรรงบประมำณของรัฐ” เป็น เครื่องมือในการจัดสรรทรัพยากรเพ่ือผลิตสินค้า/บริการสาธารณะ (Public goods and services) ตามหลกั อดุ มคติ ท่เี ศรษฐกจิ ของประเทศควรเติบโตไปพรอ้ มๆ กับโอกาสท่ีเทา่ เทียมกันของประชาชน ทุกคนในการเข้าถึงประโยชน์จากทรัพยากร ภายใต้หลักความเสมอภาค หรือ ความเท่ียงธรรม (Equity) ตามกรอบแนวคิดการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างทั่วถึง (Inclusive growth) และแนวคิด \"การไลก่ วดทางเศรษฐกิจ” (catching-up hypothesis) สานักงบประมาณของรัฐสภาจึงได้จัดทารายงานการวิเคราะห์ เร่ือง ควำมเหลื่อมลำของ จังหวัดกบั กำรจัดสรรงบประมำณของไทย (ปี 2552-2564) : เศรษฐกิจ สังคม และกำรพัฒนำคน โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือการวิเคราะห์พลวัตของ 77 จังหวัดในรอบ 13 ปี เพื่อสังเกต การเปลยี่ นแปลงและการกระจายของงบประมาณลงพื้นทีจ่ ังหวัด นอกจากนยี้ งั วิเคราะห์ความสัมพนั ธ์ ระหว่างงบประมาณในส่วนนกี้ ับสถานการณ์ความเหลื่อมลา้ ในระดับจังหวดั เพ่ือนาไปสู่การเสนอแนะ แนวทางในการจัดสรรงบประมาณภาครัฐท่ีจัดสรรให้กับแต่ละจังหวัดเพื่อลดความยากจนและความ เหลื่อมล้าเชิงพื้นที่ของจังหวัด ทั้งน้ีเพ่ือเป็นข้อมูลเชิงวิชาการในการสนับสนุนการพิจารณา งบประมาณของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจาปี สมาชิกรัฐสภา หนว่ ยงานท่ีเกี่ยวขอ้ ง และประชาชนผสู้ นใจ งานวิจัยช้ินนี้เกิดจากวิสัยทัศน์และนโยบายการทางานเชิงรุกของผู้บังคับบัญชาของสานัก งบประมาณของรัฐสภาท่ีต้องการพัฒนาคุณภาพงานวิชาการท่ีสามารถสะท้อนให้เห็นถึงแนวโน้มของ การจัดสรรงบประมาณท่ีส่งผลกระทบต่อความเหล่ือมล้าของจังหวัดต่างๆ ในขณะเดียวกันยังเป็นการ พัฒนาศักยภาพของบุคลากรให้มีทักษะในการเป็นนักวิจัยด้านงบประมาณ โดยไม่ต้องจ้าง บคุ คลภายนอก (Outsource) ในการทาวิจัย ดว้ ยการสร้างความร่วมมือทางวิชาการระหว่างบุคลากร ของสานักงบประมาณของรัฐสภากับอาจารย์ประจาคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ท่ีมี ความเชี่ยวชาญด้านระเบียบวิธีวิจัยจนทาให้เกิดงานวิจัยช้ินนี้ขึ้นมา นอกจากนี้งานวิจัยชิ้นนี้จะไม่ สามารถเกิดข้ึนไดถ้ ้าไม่มีข้อมูลพ้ืนที่ (Area-based data) ท่ีมีคุณค่า น่าสนใจและเชือ่ ถือไดจ้ ากสานัก งบประมาณ สานักงานสถิติแห่งชาติ สานักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมไปถึง หน่วยงานภาครัฐและเอกชนทุกแห่งท่ีรวบรวมข้อมูลรายบุคคลและรายครัวเรือนจนสามารถนามา ประมวลเป็นข้อมูลระดับจังหวดั คณะนักวจิ ยั ขอขอบคณุ ทุกหนว่ ยงานเหลา่ นี้เป็นอยา่ งย่ิง สานักงบประมาณของรัฐสภา พฤษภาคม 2564 426
ข บทสรปุ ผ้บู ริหำร งานวิจัยเล่มนี้เป็นการศึกษาแนวโน้มการจัดสรรงบประมาณที่ส่งผลกระทบต่อพลวัตการเติบโต ของจังหวัดในด้านเศรษฐกิจ สังคมและการพัฒนาคน รวมถึงการศึกษาความเหล่ือมล้าระหวา่ งจังหวัด เพ่ือตรวจสอบข้อสันนิษฐานเก่ียวกับแนวคิด \"การไล่กวดทางเศรษฐกิจ” (catching-up hypothesis) ภายใต้มุมมองการจัดสรรงบประมาณในอุดมคติท่ีต้องการให้ “จังหวัดจน” หรือด้อยความเจริญ สามารถไล่กวด “จังหวัดรวย” ได้ทันในระยะยาว ตามปฏิญญาสากลและแนวทางในการปฏิรูป ประเทศทีจ่ ะ “ไมท่ ง้ิ ใครไวข้ า้ งหลงั สร้างสงั คมเปน็ ธรรมและเข้มแข็ง” การศึกษาในคร้ังน้ีมวี ัตถปุ ระสงค์หลักคือ การวิเคราะห์พลวตั ของ 77 จังหวดั ในรอบ 13 ปี เพ่ือ สังเกตการเปลี่ยนแปลงและการกระจายของงบประมาณลงพ้ืนท่ีจังหวัด นอกจากน้ียังวิเคราะห์ ความสัมพันธร์ ะหวา่ งงบประมาณในส่วนนี้กับสถานการณ์ความเหล่ือมล้าในระดบั จังหวัด เพ่ือนาไปสู่ การเสนอแนะแนวทางในการจัดสรรงบประมาณภาครัฐเพื่อลดความยากจนและความเหลื่อมล้าเชิง พื้นที่ของจังหวัด โดยได้รวบรวมข้อมูลจากหน่วยงานรัฐที่เก่ียวข้องจากสานักงบประมาณ สานักงาน สถิติแห่งชาติ และสานักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จัดทาเป็นฐานข้อมูลแบบ ตัดขวางทางตามเวลา (panel data) ท้ังน้ีเพ่ือเป็นข้อมูลเชิงวิชาการที่สนับสนุนการพิจารณา งบประมาณของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจาปี สมาชิกรัฐสภา หนว่ ยงานที่เกย่ี วขอ้ ง และประชาชนผสู้ นใจ โดยภาพรวมแล้ว การศึกษาครั้งนี้พบว่าการจัดสรรงบประมาณในรอบ 13 ปี แสดงให้เห็นถึง ความพยายามของรฐั บาลท้ังในอดีตและปจั จบุ นั ในการจัดสรรงบประมาณและทรพั ยากรในการพฒั นา และเปลี่ยนแปลงประเทศไปในทิศทางที่ดีขึ้น ซ่ึงดูจากสัดส่วนและกระจายของงบประมาณท่ีมีการ เปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน และกระจายตัวท่ัวถึงมากข้ึนกว่าในอดีต แม้ว่างบประมาณส่วนใหญ่ยังคง อยู่ที่กรุงเทพมหานครและส่วนกลางก็ตาม สาหรับภาพรวมของปัญหาความเหล่ือมล้าด้านเศรษฐกิจ สังคมและการพฒั นาคนมีการเปล่ียนแปลงไปในทิศทางท่ีดขี ้ึน อย่างไรก็ตามปัญหาความเหลี่ยมล้าทั้ง 3 ด้านยังอยู่ในระดับท่ีรุนแรงและจาเป็นอย่างย่ิงจะต้องได้รับการแก้ไขต่อไป การกระจายอานาจ ทางการคลังและกระจายทรพั ยากรไปยงั “จงั หวัดจน” ทีม่ ากข้ึนจะทาให้จงั หวัดเหล่าน้สี ามารถพัฒนา และเติบโตได้ใกล้เคียงกับ “จังหวัดรวย” และเป็นเครื่องยนต์ตัวใหม่สาหรับการขับเคล่ือนการเติบโต ทางเศรษฐกิจของประเทศ ท่ีร่วมกันผลักดันให้ประเทศก้าวข้ามกับดักรายได้ปานกลาง ที่เติบโตอย่าง ม่ันคง ม่ังค่ังและย่ังยืนอย่างแท้จริง นอกจากนี้การลดความเหลื่อมล้าในระดับจังหวัดยังเป็นบันได ข้ันแรกในการแก้ไขปญั หาความเหลื่อมล้าในระดับท้องถิ่น ครัวเรือน และปัจเจกบุคคลไดใ้ นระยะยาว โดยสรุปผลการศกึ ษาได้ดงั น้ี 427
ค 1) กำรจัดสรรงบประมำณลงพืนทจ่ี งั หวดั ในช่วงปี 2552-2564 จากการศึกษาการจัดสรรงบประมาณของไทยย้อนหลัง 13 ปี ต้งั แตป่ ีงบประมาณ 2552-2564 พบว่าในภำพรวมกำรจัดสรรงบประมำณยังคงมีลักษณะของการรวมศูนย์อานาจ มีการกระจุกตัว เน้นการบริหารงานจากส่วนกลาง และกรุงเทพมหานคร คิดรวมเป็นค่าเฉลี่ยรวมสูงถึงร้อยละ 81.24 ของงบประมาณเฉล่ียท้ังหมด คงเหลืองบประมาณลงพ้ืนท่ีจังหวัดเพียงร้อยละ 18.58 ซึ่งขาดการ กระจายงบประมาณและอานาจแก่ส่วนต่างๆ ของประเทศ เช่น ส่วนภูมิภาค จังหวัด หรือท้องถ่ิน ในส่วนกำรจัดสรรงบประมำณลงพืนท่ีจังหวัด พบว่ามีแนวโน้มการจัดสรรดีข้ึนกว่า 13 ปีที่แล้ว (ไม่รวมกรุงเทพมหานคร) อย่างไรก็ตามการจัดสรรงบประมาณยังคงมีการกระจุกตัวตามหัวเมือง ใหญ่ๆ เช่นกัน โดยในชว่ งระยะเวลา 13 ปี จังหวดั ส่วนใหญ่ (45 จังหวดั ) ได้รับจัดสรรงบประมาณต่า กว่าค่าเฉล่ียของประเทศ (7,349 บ./คน) และหากนากรุงเทพมาร่วมพิจารณาพบวา่ 60 จังหวัดได้รับ จัดสรรงบประมาณต่ากว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ (8,348 บ./คน) นอกจากนี้ยังพบว่าจังหวัดที่ได้รับ จัดสรรงบประมาณต่อหัวต่าเฉลี่ยต่าที่สุด ไดร้ ับจัดสรรงบประมาณเฉล่ียน้อยกวา่ ค่าเฉล่ียของประเทศ 4 เท่า และน้อยกว่าจังหวัดที่ได้รับจัดสรรงบประมาณต่อหัวเฉล่ียสูงที่สุด 39 เท่า ยิ่งไปกว่าน้ัน งบประมาณท่ีจัดสรรให้กับจังหวัดที่ได้รับงบประมาณต่อหัวสูงเป็นอันดับต้นๆ มีแนวโน้มที่สูงข้ึน ในช่วงปี 2552-2562 และนนทบุรีและกรุงเทพมหานครยังคงได้รับได้งบประมาณในสัดส่วนขนาด ใหญ่กว่าสัดส่วนของงบประมาณท่ีจัดสรรให้กับ 75 จังหวัดรวมกัน นอกจากนี้ นนทบุรีและ กรุงเทพมหานครยังมีอัตราการเพิ่มขึ้นของงบประมาณเฉล่ีย (13 ปี) สูงท่ีสุด ถึงร้อยละ 115.06 และ 58.06 ต่อปี ในขณะที่จังหวัดที่มีอัตราการเพ่ิมขึ้นของงบประมาณเฉลี่ยต่าที่สุด คือ เชียงใหม่ และ สงขลา มีเพียงร้อยละ 8.96 และ 9.89 ต่อปี เมื่อพิจารณางบประมาณเฉลี่ยต่อหัวประชากร พบว่า จังหวัดท่ีได้รับงบประมาณเฉลี่ยต่อหัวสูงท่ีสุดยังคงเป็นกรุงเทพฯ และนนทบุรี จานวน 84,275 บาท และ 41,710 บาท และจังหวัดได้รับงบประมาณต่อหัวเฉลี่ยต่าที่สุด คือ สมุทรปราการ และ สมุทรสาคร จานวน 2,134 บาท และ 2,373 บาท ดังนั้นจึงเป็นท่ีประจักษ์ว่าการจัดสรรงบประมาณ ของไทยที่ผา่ นมายงั มีความเหล่ือมลา้ ดา้ นการจัดสรรงบประมาณใหก้ ับแต่ละระดบั จังหวดั นอกจากนี้ ลักษณะกำรจัดสรรงบประมำณจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ก็ยังพบความกระจุกตัว อยู่ตามหัวเมืองใหญ่เช่นกัน เห็นได้จากจังหวัดหัวเมืองใหญห่ ลายจังหวัดมสี ัดสว่ นงบประมาณสูงสุดใน ปี 2561 และ 2564 ซึ่งเป็นผลมาจากหลักเกณฑ์การจัดสรรงบประมาณจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ท่ีให้ น้าหนักการจัดสรรเฉลี่ยเท่ากันทุกจังหวัด นอกจากนี้ยังมีการจัดสรรตามผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด (GPP) และผลิตภัณฑ์มวลรวมกลุ่มจังหวัดอีก จึงทาให้จังหวัดหัวเมืองใหญ่ที่มีความเจริญและมี 428
ง ผลิตภัณฑ์มวลรวมสูง ย่อมได้รับงบประมาณในสัดส่วนท่ีสูงตาม จึงส่งผลต่อสัดส่วนงบประมาณของ จังหวดั ทม่ี ผี ลติ ภณั ฑ์มวลรวมขนาดเล็กท่ีจะได้รบั จัดสรรงบประมาณลดลงเหมือนเช่นเดิม ดังน้ัน ผลของการจัดสรรงบประมาณตามหลักเกณฑ์ท่ีผ่านมาทาให้ระยะห่างของความ เหลื่อมล้าระหว่างจังหวัดท่ีเจริญแล้วหรือเรียกว่า “จังหวัดรวย” มีความกว้างและห่างกันขึ้นเร่ือยๆ เม่อื เปรยี บเทยี บกับจังหวัดทอ่ี ย่หู ่างไกลความเจรญิ หรือเรยี กว่า “จงั หวดั จน” ซ่งึ ในระยะยาวโอกาสที่ เกิดการไล่กวดทางเศรษฐกิจเพื่อการเติบโตท่ีย่ังยืนแบบไม่ท้ิงใครไว้ข้างหลังตามนโยบายรัฐบาล จึงมี โอกาสเป็นไปไดย้ าก 2) สถำนกำรณ์ควำมเหลือ่ มลำเชิงพืนท่ีดำ้ นเศรษฐกิจของจังหวัด ต้ังแต่ปี 2552–2562 ผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) ขยายตัวเฉล่ียร้อยละ 3.25 ต่อปี อย่างไรก็ดีเมื่อพิจารณาผลิตภัณฑ์มวลรวม (GPP) ในระดับจังหวัดกลับพบว่าขนาดทางเศรษฐกิจของ แต่ละจังหวัดมีความแตกต่างกันอย่างมาก เห็นได้จากจังหวัดโดยส่วนใหญ่มีผลิตภัณฑ์มวลรวมไม่เกิน รอ้ ยละ 6 ของผลิตภัณฑม์ วลรวมภายในประเทศ แสดงใหว้ า่ เศรษฐกจิ ของจงั หวดั โดยส่วนใหญ่ยังไม่ได้ มีส่วนร่วมในการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศมากนัก โดยจังหวัดท่ีมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ 10 อันดับ สูงสุดได้แก่ กรุงเทพ ชลบุรี ระยอง สมุทรปราการ ปทุมธานี สมุทรสาคร พระนครศรีอยุธยา ฉะเชิงเทรา นครปฐม และปราจีนบุรี มีผลิตภัณฑ์มวลรวมรวมกันเท่ากับร้อยละ 64.29 ของประเทศ แต่จังหวัดที่มีขนาดเศรษฐกิจเล็ก 10 อันดับสุดท้าย ได้แก่ แม่ฮ่องสอน อานาจเจริญ สมุทรสงคราม มุกดาหาร ระนอง สิงห์บุรี อุทัยธานี ยโสธร นครนายก และหนองบัวลาภู ผลิตภัณฑ์มวลรวมรวมกัน เพยี งร้อยละ 1.56 ของเศรษฐกจิ ประเทศ เมื่อพิจารณาผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดหัวประชากร (GPP per Capita) ของประเทศ พบว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดต่อหัวประชากรเพิ่มขึ้นเฉล่ียร้อยละ 5.20 ต่อปี ซึ่งถือว่าในภาพรวม ประชาชนมีรายได้ดีขึ้น แต่เม่ือพิจารณาการเตบิ โตของผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดต่อหัวของประชากร ของแต่ละจังหวัด กลับพบความแตกต่างกันในระดับจังหวัดอย่างชัดเจน โดยจังหวัดท่ีมีฐานะทาง เศรษฐกิจสูงหรือ 10 จังหวดั ท่ีมีรายได้ต่อหัวสูงที่สุดในปี 2562 โดยส่วนใหญ่ยังคงเปน็ จังหวดั ท่ีอยู่บน หัวตารางของปี 2552 อาทิ เชน่ ระยอง สมทุ รสาคร กรงุ เทพ สมุทรปราการ ชลบรุ ี อยธุ ยา ปราจีนบุรี ฉะเชิงเทรา และสระบุรี 3) สถำนกำรณ์ควำมเหลือ่ มลำเชิงพนื ที่ด้ำนสังคม โดยภาพรวมแล้วสถานการณ์ความเหล่ือมล้าเชิงมิติด้านสังคมมีแนวโน้มท่ีดีขึ้น สถานการณ์ความ ยากจนของทุกจังหวัดดีขึ้น โดยในปี 2562 ทุกจังหวัดมีสัดส่วนคนจนลดลงอย่างเห็นได้ชัดเม่ือเทียบ 429
จ กับปี 2552 โดยเฉพาะจงั หวัดแม่ฮ่องสอน ศรีสะเกษ นราธวิ าส และกาฬสินธุ์ ซงึ่ มีสดั สว่ นคนจนลดลง จากร้อยละ 74.39 58.73 54.94 และ 51.18 เปน็ 25.26 6.99 25.53 และ 20.21 ตามลาดบั อย่างไรก็ดีสถาณการณ์ความยากจนรายจังหวัด พบว่ายังมีหลายจังหวัดท่ียังคงมีความยากจน เรื้อรังมาอย่างต่อเนื่องเหมือนในอดีตที่ผ่านมา เช่น แม่ฮ่องสอน ปัตตานี นราธิวาส และกาฬสินธุ์ เป็นต้น จังหวัดเหล่านี้มีสัดส่วนคนจนสูงติด 1 ใน 5 ต่อเน่ืองกันหลายปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าถึงแม้ ภาพรวมสถานการณ์ยากจนในประเทศไทยมีแนวโน้มดีข้ึน คนจนมีจานวนน้อยลง แต่เมื่อพิจารณา ความยากจนเป็นรายจังหวดั กลับพบว่า บางจังหวัดมีความ “จนมาก” และ “จนตอ่ เนื่อง” โดยเฉพาะ จังหวดั ที่อย่หู ่างไกลความเจรญิ มเี ขตพ้ืนท่ตี ิดต่อกับชายแดน นอกจากน้ีคณะผู้วิจัยทาการเปรียบเทียบค่าสัมประสิทธิ์จีนี (Gini Coefficient) ซึ่งเป็นตัวชี้วัด ความเหลอ่ื มล้าด้านรายได้รายจงั หวัด พบว่าสถานการณค์ วามเหลื่อมลา้ ดา้ นรายได้ของประเทศไทยใน ภาพรวมระหว่างปี พ.ศ. 2552-2562 ลดลงจาก 0.4899 ใน ปี 2552 เหลือเพยี ง 0.4301 ในปี 2562 อย่างไรก็ดีเมื่อพจิ ารณาความเหลื่อมล้าดา้ นรายได้ของแต่ละจังหวัดพบว่าหลายจังหวัดมีความเหล่ือม ล้าทางรายได้แย่ลงหรือมีค่าสัมประสิทธ์ิจีน่ีเพ่ิมสูงข้ึน ส่วนใหญ่คือจังหวัดที่มีการเจริญเติบโตทาง เศรษฐกิจจังหวัดสูง เช่น สมุทรสงคราม ปทุมธานี ระยอง เป็นต้น เน่ืองจากการเจริญเติบโตทาง เศรษฐกิจที่มีสูงข้ึนของแต่ละจังหวัด ทาให้ประชาชนถูกแบ่งออกเป็นสองกลุ่มอย่างชัดเจน คือกลุ่มที่ ได้รับประโยชน์จากการเติบโตทางเศรษฐกิจสูงและกลุ่มที่ได้รับประโยชน์จากการเจริญเติบโตของ เศรษฐกิจต่า ส่งผลให้รายได้ของประชาชนท้ังสองกลุ่มมีความห่างขึ้น ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหน่ึงที่ทาให้ ช่องวา่ งของความเหลื่อมล้าทางรายไดเ้ พ่มิ สูงขน้ึ 4) สถำนกำรณ์ควำมเหลอ่ื มลำเชิงพนื ทดี่ ้ำนกำรพัฒนำคน คณะผู้วิจัยได้เปรียบเทียบดัชนีรวมและดัชนีย่อยรายด้านเพื่อวัดระดับการพัฒนาคน ความก้าวหน้าของคน (Human Achievement Index: HAI) โดยเป็นการเปรียบค่าดัชนีของปี 2552 กับปี 2562 เพ่ือวิเคราะห์ระดับความก้าวหน้าของคนรายจังหวัดในช่วงเวลาดังกล่าว พบว่าในช่วง ระยะเวลา 11 ปี ท่ีผ่านมา ความก้าวหน้าของคนรายจังหวดั ไม่เปลี่ยนแปลงมากเท่าที่ควร เม่ือวัดจาก ดชั นีรวม กล่าวคือจังหวดั ท่ีมีค่าความก้าวหน้าของคนต่าในปี 2552 ก็ยังคงมีความหน้าของคนต่าในปี 2562 เมอื่ เทยี บกับจงั หวัดอืน่ ๆ และเมื่อเราพิจาณาดัชนีย่อยของการพัฒนาคนในจังหวัดด้านการศึกษา ด้านสาธารณสุข ด้านรายได้ ด้านอาชีพการงาน ดา้ นทอ่ี ยู่อาศยั และดา้ นคมนาคม การสอ่ื สาร จะเห็นถึงความเหลื่อมล้า อยา่ งชดั เจน เชน่ 430
ฉ จังหวัดใหญ่ท่ีมีความเจรญิ และมีอันดบั การพัฒนาคนด้านการศึกษา การงานและรายไดอ้ ยูใ่ น ระดับสูง กลับมีระดับการพัฒนาคนด้านที่อยู่อาศัยในระดับท่ีต่า และจังหวัดในภาคอีสานมี ระดับการพัฒนาคนด้านคมนาคมและการส่ือสารอย่ใู นอนั ดบั ท้ายๆ ของประเทศในปี 2562 จังหวัดแม่ฮ่องสอนแม้จะมีอันดับในดัชนีพัฒนาคนโดยรวมอยู่ในอันดับที่ต่าอย่างต่อเนื่องมา ตลอด แต่เมื่อพิจารณาดัชนีการพัฒนาคนด้านสาธารณสุข การงาน และท่ีอยู่อาศัย พบว่ามี ระดับการพัฒนาท่สี ูงกว่าหลายจังหวัดในปี 2562 การวิเคราะห์ระดับการพัฒนาคนควรพิจารณาตามรายด้าน เพื่อให้สามารถทราบความ ตอ้ งการการพัฒนาในดา้ นต่างๆ ของแต่ละจังหวดั ท่ีแตกต่างกันในแตล่ ะด้าน ซ่ึงจะทาให้เห็น ภาพทช่ี ดั เจนกว่าการวเิ คราะห์ดัชนีการพฒั นาคนโดยภาพรวมเพยี งอยา่ งเดียว ดงั นั้นในการจัดสรรงบประมาณควรพจิ ารณาถึงระดับการพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในจังหวัด ต้องพิจารณาแยกตามมิติรายด้าน เพื่อให้ภาครัฐสามารถช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสได้ตามความต้องการ หรือตรงกับปัญหาท่ีเกิดขึ้น และสามารถนาไปจัดทาข้อเสนอแนะเชิงนโยบายที่เหมาะสมกับปัญหา เฉพาะของแตล่ ะจังหวัดได้ 5) ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงกำรจัดสรรงบประมำณภำครัฐที่ลงพืนที่จังหวัดกับควำม เหลื่อมลำเชิงพืนทีด่ ำ้ นเศรษฐกจิ สงั คม และกำรพัฒนำคน ควำมสมั พันธร์ ะหวำ่ งงบประมำณลงพนื ท่จี งั หวดั กบั ควำมเหล่ือมลำทำงเศรษฐกจิ งบประมาณลงพ้ืนที่จังหวัดมีความสัมพันธ์กับขนาดเศรษฐกิจของจังหวัดในทิศทางเดียวกันแม้ จะไม่ได้สูงมากนัก กล่าวคือ หากภาครัฐจัดสรรงบประมาณลงพ้ืนท่ีจังหวัดใดๆ เพิ่มขึ้น จะส่งผลให้ จังหวัดนั้นมีการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจท่ีดีข้ึนอย่างมีนัยสาคัญ อย่างไรก็ตามค่าสัมประสิทธิ์ สหสัมพนั ธ์ (Correlation Coefficient) ไม่ไดร้ ะบุว่าตวั ไหนเป็นเหตุและผล ทาให้อาจจะแปลความได้ อีกทางหนึ่งว่ารัฐบาลจัดสรรงบประมาณให้กับจังหวัดท่ีมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่สูงกว่าจังหวัดท่ีมีขนาด เศรษฐกิจเล็ก ควำมสัมพนั ธร์ ะหวำ่ งงบประมำณลงพืนที่จังหวดั กับควำมเหล่อื มลำทำงสงั คม งบประมาณลงพื้นที่จงั หวัดไม่มคี วามสมั พันธ์กบั สดั ส่วนคนจนและความเหลือ่ มลา้ ดา้ นรายได้ แต่งบจังหวัดและกลุ่มจังหวัดกลับมีความสัมพันธ์กับความเหลื่อมล้าด้านรายได้ และความสัมพันธ์นี้ เป็นไปในทิศทางตรงกันข้าม หรืออีกนัยหนึ่งก็คือเม่ืองบจังหวัดและกลุ่มจังหวัดเพิ่มขึ้นทาให้ความ เหลื่อมล้าด้านรายได้ลดลง และแปลความได้ว่างบจังหวัดและกลุ่มจังหวัดอาจเป็นยาแก้ของความ เหล่อื มล้าด้านรายได้ (แมว้ ่าค่าสัมประสทิ ธ์ิจะไม่ได้ระบุว่าส่ิงไหนเป็นเหตุและผล) 431
ช ควำมสมั พนั ธร์ ะหว่ำงงบประมำณลงพืนทจ่ี งั หวดั กับควำมเหลอ่ื มลำดำ้ นกำรพฒั นำคน งบประมาณลงพ้ืนที่จังหวัดมีความสัมพันธ์กับการพัฒนาคนของจังหวัดเชิงบวกกับการพัฒนา คนในภาพรวม ทั้งนี้งบประมาณลงพื้นที่จังหวัดมีความสัมพันธ์กับการพัฒนาคนด้านการศึกษา ด้านสาธารณสุข และด้านคมนาคมและส่ือสาร อย่างไรก็ตามคณะนักวิจัยพบว่างบประมาณลงพ้ืนที่ จังหวัดมีความสัมพันธ์กับการพัฒนาคนของจังหวัดในทิศทางตรงกันข้ามกับการพัฒนาคนด้านรายได้ อาจจะเนื่องมาจากดัชนีย่อยที่ใช้ในการสร้างดัชนีด้านรายได้ประกอบด้วยสัดส่วนคนจนกับค่า สัมประสิทธิ์ความไม่เสมอภาค (งานวิจัยในอดีตพบว่าตัวแปรสองตัวนี้มีความสัมพันธ์เชิงลบกับ งบประมาณอยูแ่ ลว้ ) อาจกล่าวไดว้ ่าการจดั สรรงบประมาณลงพน้ื ที่จงั หวัดเพม่ิ ขนึ้ ยอ่ มทาใหร้ ะดับการ พฒั นาคนของจงั หวดั ในภาพรวมดีขนึ้ ซ่ึงจะสง่ ผลดตี อ่ การพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมของจงั หวัดตอ่ ไป ควำมสมั พนั ธร์ ะหว่ำงเศรษฐกิจจงั หวดั กบั ควำมเหลอ่ื มลำเชงิ พืนทด่ี ำ้ นสังคมและดำ้ นกำร พัฒนำคน ขนาดเศรษฐกิจจังหวัดกับปัญหาความยากจน ความเหลื่อมล้าและการพัฒนาคนในระดับ จงั หวัด โดยภาพรวมแล้วจงั หวดั ทม่ี ีเศรษฐกิจดี จะมรี ะดบั ปญั หาความยากจนและความเหล่อื มทล่ี ดลง โดยสัดส่วนความยากจนกับขนาดเศรษฐกิจจังหวัดมีความสัมพันธ์เชิงลบกันอย่างมีนัยทางสติถิ และเศรษฐกิจจงั หวัดกับความเหลือ่ มลา้ ด้านรายได้ (Gini) มคี วามสัมพนั ธ์เชงิ ลบกันอย่างมีนัยทางสติถิ นอกจากนี้ขนาดเศรษฐกิจของจังหวัดยังมีความสัมพันธ์เชิงบวกอย่างมีนัยทางสถิติกับระดับ การพัฒนาคนในภาพรวม และระดับการพัฒนาคนด้านการศึกษา สาธารณสุข รายได้ ที่อยู่อาศัยและ การงาน และด้านคมนาคมและการสื่อสาร ซึ่งอาจตีความได้ 2 กรณี คือ กรณีท่ี 1 จังหวัดรวยจะมี ระดับการพัฒนาคนท่ีสูง หรือกรณีที่ 2 การที่จังหวัดมีระดับการพัฒนาคนที่สูง จะกลายเป็นจังหวัดที่ มงั่ ค่ัง มีการขยายตวั ทางเศรษฐกจิ ที่ดี ควำมสมั พนั ธร์ ะหวำ่ งงบประมำณลงพืนจังหวดั (Area) กบั งบจงั หวัดและกลุ่มจงั หวดั งบประมาณลงพ้ืนที่จังหวัด (Area) และงบจังหวัดและกลุ่มจังหวัด พบว่ามีความสัมพันธ์ไปใน ทิศทางเดียวกัน แต่มีความสัมพนั ธน์ ี้อยู่ในระดับที่ต่า ทาให้แปลความได้ว่างบประมาณลงพื้นท่ีจังหวัด และงบจังหวดั และกล่มุ จังหวดั อาจจะไม่ค่อยสอดคล้องกนั มากนกั เม่ือพิจารณาความสัมพันธ์กับเศรษฐกิจจังหวัด พบว่างบประมาณจังหวัดและกลุ่มจังหวัดเป็น งบประมาณทมี่ คี วามสาคญั ตอ่ การพัฒนาเศรษฐกจิ ของจังหวดั เป็นอยา่ งยงิ่ ทง้ั ทบี่ างคร้งั ถกู มองว่าเป็น เม็ดเงินท่ีน้อย ไม่เพียงพอต่อการขับเคล่ือนหรือพัฒนาจังหวัดได้ แต่เม่ือคณะผู้วิจัยวิเคราะห์ ความสัมพันธ์ของงบประมาณส่วนดังกล่าวกับตัวแปรต่างๆ กลับพบว่างบประมาณจังหวัด มีความสัมพันธ์ในทิศทางเดียวกับสัดส่วนผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดต่อผลิตภณั ฑ์มวลรวมของประเทศ 432
ซ ค่อนข้างสูงอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติ ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างย่ิง เนื่องจากขนาดของงบจังหวดั และกลุ่มจังหวดั (จัดสรรตรง) มขี นาดเล็กมากเมื่อเปรียบเทียบกับงบประมาณลงพื้นทจ่ี ังหวดั (จัดสรร ผา่ นกระทรวง/กรม) ยกตวั อยา่ งเช่น ในปงี บประมาณปี 2564 งบจังหวดั และกลุ่มจังหวดั (จดั สรรตรง) มีสัดส่วนเพียงร้อยละ 2.66 ในขณะที่งบประมาณลงพื้นท่ีจังหวัด (จัดสรรผ่านกระทรวง/กรม) มีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 97.34 นอกจากนี้ค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ (Correlation Coefficient) ของ งบลงพ้ืนท่ีจังหวัดกับขนาดของเศรษฐกิจ (r=0.238) ยังมีค่าต่ากว่าค่าสัมประสิทธิ์สหสัมพันธ์ของ งบจังหวัดและกลุ่มจังหวัดกับขนาดเศรษฐกิจของจังหวัด (r=.697) เสียอีก ซึ่งอาจให้ความหมายได้วา่ งบประมาณจังหวัดและกลุ่มจังหวัด แม้จะมีขนาดเล็กมากแต่กลับมีความสาคัญกับขนาดเศรษฐกิจ จังหวัดมาก ท้ังน้ีอาจจะเป็นเพราะว่างบจังหวัดและกลุ่มจังหวัด เป็นการขอรับจัดสรรงบประมาณ โดยตรง ซึ่งจังหวัดรู้ความต้องการของประชาชนในพื้นท่ี ในจุดน้ีทาให้เห็นถึงความสาคัญของ การกระจายอานาจทางงบประมาณ จากการศึกษาลักษณะการจัดสรรงบประมาณในภาพรวม และงบประมาณลงพ้ืนท่ีจังหวัด (Area) ท่ียังคงมีลักษณะของการกระจุกตัว เน้นการบริหารงานจากส่วนกลาง กรุงเทพมหานคร และ หวั เมืองใหญๆ่ ซึ่งขาดการกระจายงบประมาณและอานาจแกส่ ่วนต่างๆ ของประเทศ เชน่ ส่วนภูมภิ าค จังหวัด หรือท้องถ่ิน จากลักษณะดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าประเทศไทยมีลักษณะการจัดสรร งบประมาณแบบรวมศูนย์ ส่งผลต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมในภาพรวมท่ีมกี ารกระจุกตัว จนทา ใหเ้ กดิ ภาวะ “รวยกระจุกจนกระจาย” และเป็นสาเหตขุ องความเหลื่อมลา้ ดา้ นตา่ งๆ ในสงั คมตามมา เม่ือพิจารณาลกั ษณะการจัดสรรงบประมาณจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ก็ยังพบความกระจุกตวั อยู่ ตามเมืองใหญ่เช่นกัน ซึ่งผลของการจัดสรรงบประมาณตามลักษณะข้างต้นส่งผลทาให้ระยะห่างของ ความเหลื่อมล้าเชิงพ้ืนท่ีระหว่างจังหวัดที่เจริญแล้วหรือเรียกว่า “จังหวัดรวย” มีความกว้างและห่าง กันขึ้นเร่ือยๆ เม่ือเปรียบเทียบกับจังหวัดท่ีอยู่ห่างไกลความเจริญหรือเรียกว่า “จังหวัดจน” ซึ่งใน ระยะยาวโอกาสที่เกิดการไล่กวดทางเศรษฐกิจเพ่ือการเติบโตท่ียั่งยืนแบบไม่ท้ิงใครไว้ข้างหลัง ตามนโยบายรัฐบาลจงึ เป็นไปไดย้ าก และไมส่ อดคล้องตามแนวคดิ Inclusive growth นอกจากน้ีความสัมพนั ธ์ระหวา่ งงบประมาณลงพ้ืนท่ีจังหวดั ของกระทรวง/กรมได้รับจัดสรรกับ งบจังหวัดและกลุ่มจังหวัด กลับพบว่ามีความสัมพันธ์กันในระดับท่ีค่อนข้างต่า ซึ่งไม่สอดคล้องตาม หลักการสาคัญของระบบงบประมาณแบบมุ่งเน้นผลงานตามยุทธศาสตร์ท่ีกาหนดให้การดาเนินงาน ของหน่วยงานต้องบูรณาการทั้ง 3 มิติเข้าด้วยกัน มิติ Agenda มิติ Function และ Area โดยการ ดาเนินงานต้องมีความสอดคล้องเช่ือมโยงระหว่างผู้รับผิดชอบในการดาเนินงาน 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น โดยมีจุดมุ่งหมายสุดท้ายร่วมกัน คือ การบรรลุผลสาเร็จตาม ยทุ ธศาสตร์ชาตขิ องรฐั บาล 433
ฌ ขอ้ เสนอแนะเชิงนโยบำย 1. ควรทบทวนโครงสร้ำงกำรจัดสรรงบประมำณในภำพรวม โดยเน้นกระจายงบประมาณ จากภารกิจพ้ืนที่ส่วนกลาง และกรุงเทพมหานครไปยังภารกิจในพ้ืนท่ีจังหวัดให้มากขึ้น ทั้งนี้เพ่ือให้ เป็นไปตามนโยบายและแนวทางการจัดสรรงบประมาณท่ีให้ความสาคัญกับการสนับสนุนงบประมาณ เพ่ือการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์พัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด รวมถึงการส่งเสริมการกระจายอานาจสู่ ท้องถ่ิน ซึ่งนาไปสู่การกระจายอานาจด้านการคลังและงบประมาณใหก้ บั หนว่ ยงานในสว่ นภมู ิภาคและ ทอ้ งถิน่ อยา่ งเป็นรูปธรรม 2. กำรเพิ่มประสทิ ธิภำพในกำรจัดสรรงบประมำณลงพืนท่ีจังหวัด ควรมีกลไกเพ่ือส่งเสรมิ ให้ เกิดการบูรณาการงบประมาณระหว่างกระทรวง/กรม (Function) กับจังหวัดและกลุ่มจังหวัด (Area) โดยการกาหนดระเบียบ/แนวทางการปฏิบัติท่ีชัดเจน รวมถึงควรกาหนดให้มีคณะกรรมการเพื่อทา หน้าท่ีขับเคล่ือนการดาเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้องให้บรรลุผลอย่างเป็นรูปธรรม ท้ังนี้เพื่อเพิ่ม ประสิทธิภาพในการจัดสรรงบประมาณลงพื้นท่ี “แบบพุ่งเป้า” เป็นรายพื้นที่และจังหวัด และเพื่อให้ การจดั สรรงบประมาณเป็นไปตามแนวทางและนโยบายการจัดทางบประมาณรายจา่ ยในปจั จุบัน 3. กำรกระจำยควำมเจริญสู่จังหวัดที่มีระดับกำรพัฒนำต่ำ โดยภาครัฐควรมีนโยบายหรือ มาตรการในการดาเนินงานรวมถึงนโยบายการจัดสรรงบประมาณท่ีเน้นแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้า เชิงพื้นที่มากกว่าที่ดาเนินมาในระยะเวลา 13 ปีที่ผ่านมา และควรมีการกาหนดแนวทางท่ีชัดเจน เพ่ือให้เกิดการขับเคลื่อนนโยบายนาไปสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้เพ่ือให้เศรษฐกิจจังหวัด เติบโตไปพร้อมๆ กัน โดยเฉพาะจงั หวัดทีม่ ขี นาดเศรษฐกิจเล็กควรได้รับงบประมาณสูงขึน้ เพ่ือเป็นการ เพิ่มปัจจยั ทุนของจงั หวัดนน้ั ๆ ในการขบั เคลอ่ื นเศรษฐกิจจงั หวัด 4. ควรมีกำรติดตำมประเมินผลกระทบของนโยบำย มำตรกำรและโครงกำรภำครัฐท่ีใช้ใน กำรแก้ไขปัญหำควำมยำกจนและควำมเหล่ือมลำ เพ่ือให้ทราบว่าแต่ละนโยบาย มาตรการและ โครงการเม่ือใช้จ่ายงบประมาณไปแล้วมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลหรือไม่ ควรดาเนินโครงการ ต่อเนื่อง ปรับปรุง หยุดดาเนินการ หรือเปลี่ยนไปใช้วิธีการแก้ไขปัญหาในรูปแบบอื่น เช่น โครงการ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ มาตรการบรรเทาค่าครองชีพเกษตรกร การจัดสรรท่ีดินทากินและท่ีอยู่อาศัย เพื่อผู้มีรายได้น้อย การดาเนินงานภายใต้กองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (กสศ.) และ มาตรการที่ดาเนินการผ่านกองทุนประชารัฐและกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เป็นต้น ท้ังน้ีเพ่ือให้ เกิดประโยชนส์ ูงสุดตอ่ ประชาชนทเ่ี ดอื ดร้อนและต้องการความช่วยเหลอื จากภาครฐั อย่างแท้จริง 434
ญ ขอ้ เสนอแนะเชิงปฏบิ ัติ 1. เพิ่มประสิทธิภำพในกำรจัดสรรงบประมำณลงพืนที่ ควรกาหนดให้มีการบูรณาการการ ดาเนินงานร่วมกันของกระทรวง/หน่วยงาน (Function) กับจังหวัดและกลุ่มจังหวัด และท้องถ่ิน (Area) โดยควรมีการจัดทาแผนยุทธศาสตร์ หรือแผนปฏิบัติงานร่วมกัน เพื่อให้การดาเนินงานของ หน่วยงานมีความสอดคล้องเชื่อมโยงกัน มีเป้าหมายในการดาเนินงานให้บรรลุผลสาเร็จในทิศทาง เดยี วกนั เพอื่ เสริมสรา้ งพลังในการขับเคลอ่ื นความสาเรจ็ ตามยุทธศาสตร์ท่รี ฐั บาลกาหนด 2. กำรกำหนดตัวชีวัดร่วม (Joint KPIs) เพื่อให้การดาเนินงานของรัฐเป็นการพัฒนาพื้นที่ จังหวัดอย่างมีประสิทธิภาพ หน่วยงานที่เก่ียวข้องท้ังกระทรวง/กรม (Function) และจังหวัด/กลุ่ม จังหวดั ควรมีการกาหนดตัวช้ีวดั การดาเนินงานร่วมกัน ท้ังน้ีเพื่อให้แผนและแนวทาง รวมถึงเป้าหมาย ในการดาเนินงานสอดคลอ้ งเชอ่ื มโยงกนั อย่างเป็นรปู ธรรม 3. กำรเพิ่มประสิทธิภำพกำรจัดทำแผนยุทธศำสตร์พัฒนำจังหวัดและกลุ่มจังหวัด ควรเน้น ให้ความสาคัญกับกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชน และสอดคล้องกับความต้องการของประชา ชนในพ้ืนท่ี ท้ังในระดับหมู่บ้าน ตาบล อาเภอ จังหวัดและกลุ่มจังหวัด โดยต้องคานึงถึงความ สอดคล้องกับวิถีชีวิตของคนในพ้ืนท่ี ท้ังน้ีเพ่ือให้เกิดการพัฒนาท่ียั่งยืน และเป็นไปตามนโยบายและ แนวทางการจดั ทางบประมาณรายจา่ ยปี 2565 ภายใต้แนวทางที่ 3 อย่างแทจ้ ริง 4. กำรทบทวนหลักเกณฑก์ ำรจดั สรรงบประมำณจังหวัดและกลมุ่ จังหวดั ในสว่ นทใี่ ห้น้าหนกั การจัดสรรเฉล่ียเท่ากันทุกจังหวัด โดยควรกาหนดให้มีความผกผันตามระดับการพัฒนาของแต่ละ จังหวัดในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการพัฒนาคน ซ่ึงควรพิจารณาให้ผกผันตามขนาดผลิตภัณฑ์มวล รวมจังหวดั สัดส่วนคนจน ความเหล่ือมล้าด้านรายได้ และระดับความก้าวหน้าของคนในจังหวัด ทั้งน้ี เพ่ือใหเ้ กดิ การพัฒนาทเ่ี สมอภาคตามแนวทางการพัฒนาที่ยัง่ ยนื ของรัฐบาลอย่างแท้จรงิ 5. ควรมกี ำรเพ่ิมประสิทธิภำพกำรติดตำมประเมินผลกำรดำเนินงำนในพืนที่จังหวัด รวมถึง เพ่ือให้สามารถติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานและการใช้จ่ายงบประมาณเป็ นไปอย่างมี ประสทิ ธภิ าพและเกิดความค้มุ ค่าตอ่ ประชาชนในพ้ืนท่ี 435
ฎ สำรบัญ ก ข คานา ฎ บทสรุปผูบ้ ริหาร ฐ สารบัญ ฑ สารบญั ตาราง 1 สารบญั แผนภาพ 1 บทที่ 1 บทนา 5 5 1.1 ความเป็นมาและความสาคัญของปัญหา 6 1.2 วัตถปุ ระสงค์ของการศึกษา 7 1.3 ขอบเขตของการวจิ ยั 7 1.4 ขอ้ จากัดของการศกึ ษา 8 1.5 นิยามศัพท์เฉพาะ 8 1.6 กรอบแนวคดิ ในการศึกษา 10 บทที่ 2 แนวคิด ทฤษฎี และงานวจิ ยั ท่เี กีย่ วขอ้ ง 12 2.1 แนวคดิ ในเรื่องการเติบโตแบบท่วั ถึง (Inclusive growth) 23 2.2 นิยามความเหล่อื มล้าเชิงพื้นที่ 2.3 พฒั นาการของการจดั สรรงบประมาณของไทย 30 2.4 โครงสร้างการจดั สรรงบประมาณของไทย 2.5 ข้อมูลความเหลอ่ื มล้าเชงิ พื้นที่ดา้ นเศรษฐกจิ : ผลิตภณั ฑม์ วลรวมจงั หวัด 31 ในชว่ งปี 2552-2562 35 2.6 ขอ้ มลู ความเหลอื่ มลา้ เชงิ พ้นื ท่ดี ้านสังคม : สัดส่วนคนจนและความเหลื่อมลา้ 38 ด้านรายไดข้ องจงั หวดั ในชว่ งปี 2552-2562 2.7 ขอ้ มลู ความเหลื่อมล้าเชงิ พืน้ ท่ดี า้ นการพัฒนาคน: ดชั นีความกา้ วหนา้ ของคน ในจังหวดั ในชว่ งปี 2552-2562 2.8 งานวจิ ัยทเี่ กี่ยวขอ้ ง 436
ฏ บทท่ี 3 ระเบียบวธิ วี ิจัย 43 3.1 วธิ กี ารศึกษา 43 3.2 ประชากรท่ีใชใ้ นการศึกษา 44 3.3 เครอื่ งมอื ทใ่ี ช้ในการวิจัยและการวิเคราะหข์ ้อมลู 44 3.4 กระบวนการจัดทาข้อมลู ทใ่ี ชใ้ นการศกึ ษา 45 3.5 การวิเคราะหข์ อ้ มลู 49 บทท่ี 4 ผลการศึกษา 52 4.1 แนวโนม้ การจดั สรรงบประมาณลงพืน้ ทจ่ี งั หวัด (Area) ในช่วงปี 2552-2564 (13 ป)ี 52 4.2 ความเหลื่อมล้าเชิงพ้ืนทีด่ ้านเศรษฐกจิ : เศรษฐกิจจงั หวัด (GPP) ในชว่ งปี 2552-2562 (11 ป)ี 62 4.3 ความเหล่ือมล้าเชิงพื้นทดี่ า้ นสังคม: สัดสว่ นคนจนและความเหลอื่ มล้าด้านรายได้ ในช่วงปี 2552-2562 (11 ป)ี 69 4.4 ความเหลอื่ มลา้ เชงิ พืน้ ที่ด้านการพฒั นาคน: ความก้าวหนา้ ของคนในจังหวัด ในช่วงปี 2552-2562 (11 ป)ี 74 4.5 ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งงบประมาณลงพื้นทจี่ ังหวดั (Area) และความเหลอ่ื มลา้ ด้านเศรษฐกจิ สังคม และการพัฒนาคนของจังหวัด 80 4.6 ความสมั พนั ธ์ทางสถิตริ ะหวา่ งงบประมาณลงพน้ื ท่ีจงั หวัด (Area) และความเหลอื่ มล้าด้านเศรษฐกจิ สงั คมและการพัฒนาคนของจงั หวดั ในช่วงปี 2552-2562 (11 ป)ี 92 บทที่ 5 บทสรุปและขอ้ เสนอแนะ 96 5.1 ขอ้ ค้นพบ 96 5.2 อภปิ รายผล 103 5.3 ขอ้ เสนอแนะ 104 บรรณานุกรม 106 ภาคผนวก 109 437
ฐ สำรบญั ตำรำง ตารางที่ 1 หลักเกณฑ์การจัดสรรงบประมาณจงั หวัด/กลมุ่ จังหวัด 2560-2564 19 ตารางท่ี 2 อันดับพน้ื ทจี่ ังหวดั ทีไ่ ดร้ ับงบประมาณสงู สดุ ปี 2564 (รวมกรงุ เทพมหานคร) 25 ตารางท่ี 3 ภาพรวมงบประมาณรายจ่ายจาแนกตามภารกิจพ้นื ท่ีดาเนนิ การ ปี 2552-2564 26 ตารางที่ 4 ดชั นีความกา้ วหน้าของคน (Human Achievement Index: HAI) 37 ตารางที่ 5 จงั หวดั ที่มีการเปล่ียนแปลงเฉล่ียของความเหล่ือมลา้ ดา้ นรายไดส้ ูงทสี่ ดุ 10 อันดบั แรก 74 ตารางท่ี 6 ดชั นีความกา้ วหนา้ ของคนในแตล่ ะจงั หวัดของปี 2552 และ 2562 76 ตารางท่ี 7 ดัชนคี วามกา้ วหนา้ ของคนรายด้านระดับจงั หวดั ของปี 2562 78 ตารางที่ 8 ค่าสหสมั พันธร์ ะหวา่ งงบประมาณลงพน้ื ทจ่ี งั หวัด (Area) กบั ระดับความเหล่อื มลา้ ด้านเศรษฐกจิ สงั คม และการพัฒนาคนในจงั หวดั ปี 2562 93 ตารางที่ 9 ความสมั พันธร์ ะหวา่ งการจัดสรรงบประมาณภาครัฐทลี่ งพ้นื ทจี่ งั หวัดกบั ระดบั ความเหลือ่ มลา้ เชิงพ้ืนที่ดา้ นเศรษฐกจิ สังคม และการพัฒนาคน 100 438
ฑ สำรบัญแผนภำพ 7 15 แผนภาพที่ 1 กรอบแนวคดิ ในการศึกษา 16 แผนภาพที่ 2 การบรู ณาการงบประมาณในมิติยทุ ธศาสตร์ (Agenda Function และ Area) แผนภาพที่ 3 พัฒนาการการจัดสรรงบประมาณจังหวัด/กลุ่มจังหวัด 24 แผนภาพท่ี 4 โครงสรา้ งงบประมาณรายจา่ ยจาแนกตามภารกิจในพื้นทด่ี าเนินการ 27 ปี 2564 28 แผนภาพท่ี 5 โครงสรา้ งงบประมาณลงพนื้ ทีจ่ งั หวดั ปี 2564 29 แผนภาพที่ 6 สัดสว่ นงบประมาณจงั หวดั และกลุม่ จงั หวดั ตอ่ งบประมาณลงพ้ีนทีจ่ ังหวดั ของ 29 31 กระทรวง/กรม/หนว่ ยงาน/องค์การปกครองส่วนท้องถ่ิน ปี 2552-2564 32 แผนภาพที่ 7 การเปลยี่ นแปลงของการจดั สรรงบประมาณลงพน้ื ท่ีจังหวดั 33 แผนภาพท่ี 8 เปรียบเทียบงบประมาณทไี่ ดท้ ่ไี ด้รับสงู สุดและต่าสุดปี 2552 และ 2564 34 แผนภาพท่ี 9 ผลิตภัณฑม์ วลรวมจงั หวดั (GPP) ตงั้ แต่ปี 2552 – 2562 38 แผนภาพที่ 10 สถานการณค์ วามยากจนของประเทศไทยปี 2552 – 2562 45 แผนภาพท่ี 11 จงั หวดั ทมี่ สี ถานการณ์ความยากจนเร้ือรงั ตงั้ แตป่ ี 2552 – 2562 47 แผนภาพท่ี 12 Lorenz Curve ปี 2554 และ 2562 แผนภาพที่ 13 ดชั นีความกา้ วหน้าของคน (Human Achievement Index: HAI) 53 แผนภาพท่ี 14 กระบวนการจัดทาข้อมูลท่ใี ชใ้ นการศกึ ษา 55 แผนภาพท่ี 15 ขน้ั ตอนการบันทกึ และการทาความสะอาดข้อมูล (Data Cleaning) แผนภาพที่ 16 โครงสรา้ งงบประมาณรายจ่ายจาแนกตามภารกิจในพ้นื ท่ดี าเนินการ 56 57 ปี 2552 - 2564 59 แผนภาพท่ี 17 งบประมาณรายจังหวดั ต่อหัวประชากรเฉลี่ย 11 ปี (ปี 2552 – 2562) แผนภาพท่ี 18 เปรียบเทยี บอตั ราการเตบิ โตของงบประมาณลงพืน้ ท่ีจังหวัด 61 63 เฉลี่ยตอ่ ปี 5 อนั ดบั สงู สุด-ตา่ สุด ปี 2552-2564 แผนภาพที่ 19 อตั ราการเพ่ิมขน้ึ ของงบประมาณลงพน้ื ทจ่ี งั หวดั เฉลี่ย ปี 2552 - 2564 64 แผนภาพท่ี 20 สดั ส่วนงบประมาณรายจังหวดั ตอ่ งบประมาณลงพ้ืนที่ทั้ง 77 จงั หวดั แผนภาพที่ 21 การเปรยี บเทียบสัดส่วนงบประมาณจังหวัดและกลุ่มจังหวดั (จดั สรรตรง) 66 68 ปี 2561 และ 2564 แผนภาพท่ี 22 ผลติ ภณั ฑ์มวลรวมจังหวัดตอ่ หวั (GPP Per Capita) ช่วงปี 2552-2562 แผนภาพท่ี 23 การอัตราการเตบิ โตผลติ ภณั ฑม์ วลรวมจังหวดั ตอ่ หัว (GPP Per Capita) เฉลี่ยรายปี ชว่ งปี 2552-2562 แผนภาพท่ี 24 การเปรยี บเทียบอตั ราการเติบโตผลิตภัณฑม์ วลรวมจงั หวัด (GPP) เฉล่ยี รายปี ช่วงปี 2552-2562 แผนภาพท่ี 25 สดั ส่วน GPP รายจงั หวัดตอ่ GDP ประเทศ ปี 2552 และ 2562 439
สำรบญั แผนภำพ (ต่อ) ฒ แผนภาพท่ี 26 จัดอันดับสดั สว่ นคนจนรายจงั หวัดในปี 2552 และปี 2562 70 แผนภาพที่ 27 เปรียบเทียบสัดส่วนคนจนรายจังหวดั ในปี 2552 และปี 2562 71 แผนภาพท่ี 28 ภาพรวมความเหล่อื มลา้ ด้านรายได้ของประเทศไทยต้ังแต่ปี 2552-2562 72 แผนภาพที่ 29 สถานการณค์ วามเหล่อื มลา้ ทางรายได้ ปี 2562 73 แผนภาพท่ี 30 ระดบั ความพฒั นาคนรายจังหวดั HAI ในปี 2552 - 2562 75 แผนภาพที่ 31 ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งงบประมาณลงพื้นทจ่ี ังหวดั (Area) 80 กับความเหลื่อมลา้ ทางเศรษฐกจิ ปี 2562 แผนภาพท่ี 32 ความสัมพันธ์ระหวา่ งงบประมาณลงพ้นื ที่จังหวดั (Area) 81 82 กับความเหลอื่ มลา้ ดา้ นรายได้ปี 2562 แผนภาพท่ี 33 ความสัมพันธร์ ะหวา่ งงบประมาณลงพนื้ ทีจ่ งั หวดั (Area) กบั สัดส่วนคนจน 83 แผนภาพที่ 34 ความสัมพนั ธร์ ะหว่างงบประมาณลงพน้ื ทีจ่ งั หวดั (Area) 84 กับความเหลื่อมลา้ ดา้ นการพัฒนาคนปี 2562 แผนภาพท่ี 35 ระดับความสัมพันธร์ ะหว่างบประมาณรายจังหวัด (Area) 84 และการพฒั นาคนรายจงั หวดั ปี 2552 (รวมกรงุ เทพ) 85 แผนภาพท่ี 36 ระดับความสัมพันธ์ระหวา่ งบประมาณรายจงั หวดั 86 และการพฒั นาคนรายจังหวัดปี 2562 (รวมกรุงเทพ) แผนภาพท่ี 37 ระดบั ความสัมพันธร์ ะหว่างงบประมาณลงพ้ืนที่ (Area) 87 87 และการพฒั นาคนรายจงั หวัดปี 2552 (ไมร่ วมกรุงเทพ) 88 แผนภาพที่ 38 ระดบั ความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งงบประมาณลงพน้ื ท่ี (Area) 88 และการพฒั นาคนรายจังหวัดปี 2562 (ไม่รวมกรงุ เทพ) 89 แผนภาพที่ 39 ระดับความสมั พนั ธร์ ะหว่างผลติ ภัณฑ์มวลรวมจงั หวดั 90 และความเหลื่อมลา้ ดา้ นรายไดป้ ี 2562 แผนภาพท่ี 40 ระดบั ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งผลติ ภณั ฑ์มวลรวมจังหวดั กบั สดั สว่ นคนจนปี 2562 90 แผนภาพที่ 41 ระดบั ความสัมพันธ์ระหว่างผลติ ภัณฑม์ วลรวมจงั หวดั การพัฒนาคนปี 2562 แผนภาพท่ี 41 ระดับความสมั พันธ์ระหว่างผลติ ภัณฑม์ วลรวมจงั หวดั การพฒั นาคนปี 2562 91 แผนภาพท่ี 42 ระดบั ความสมั พันธร์ ะหวา่ งผลติ ภณั ฑ์มวลรวมจังหวดั 92 กบั การพฒั นาคนรายจงั หวัดปี 2552 (รวมกรงุ เทพ) แผนภาพที่ 43 ระดับความสัมพนั ธร์ ะหว่างผลิตภัณฑม์ วลรวมจังหวดั กบั การพฒั นาคนรายจงั หวดั ปี 2562 (รวมกรงุ เทพ) แผนภาพที่ 44 ระดับความสมั พนั ธ์ระหวา่ งผลิตภณั ฑ์มวลรวมจังหวดั กบั การพัฒนาคนรายจงั หวัดปี 2552 (ไมร่ วมกรงุ เทพ) แผนภาพท่ี 45 ระดบั ความสมั พนั ธ์ระหว่างผลติ ภัณฑม์ วลรวมจังหวดั กบั การพัฒนาคนรายจงั หวดั ปี 2562 (ไม่รวมกรงุ เทพ) แผนภาพท่ี 46 ระดบั ความสมั พันธร์ ะหว่างงบประมาณลงพน้ื ท่ี (Area) กบั งบประมาณจังหวดั และกลมุ่ จงั หวดั 440
1 บทท่ี 1 บทนำ 1.1 ควำมเปน็ มำและควำมสำคญั ของปญั หำ ก่อนท่ีผู้อ่านจะเร่ิมอ่านงานวิจัยช้ินน้ี ทางคณะนักวิจัยอยากให้ผู้อ่านได้ทาความเข้า ใจความแตกต่างระหว่างคา 2 คา คือ คาว่า “Equality” และ “Equity” โดยคาว่า “Equality” ซงึ่ แปลเป็นไทยว่า “ความเทา่ เทยี ม” แบบรปู ภาพทางซ้ายมอื ซึง่ มีคน 3 คนที่มสี ่วนสงู ไมเ่ ทา่ กนั กาลัง ยืนบนกล่องไม้ท่ีมีขนาดเท่ากันเพื่อดูการแข่งขันฟุตบอล คนตัวสูงท่ีสุดไม่มีความจาเป็นต้องใช้กล่องก็ สามารถดูฟุตบอลได้ ในขณะท่ีคนตัวเล็กท่ีสุดถึงแม้จะยืนบนกล่องไม้แล้วแต่ก็ยังมองไม่เห็น สุดท้าย การแจกกล่องไมใ้ ห้ทกุ คนเทา่ กนั ไม่สามารถชว่ ยให้ทุกคนมองเห็นเทา่ กันได้อยดู่ ี “ความไมเ่ ท่าเทยี ม” จึงยังปรากฎอยู่ ส่วนรูปทางขวามือคือคาว่า “Equity” ซึ่งแปลเป็นไทยว่า “ความเสมอภาค” “ความเที่ยงธรรม” แบบรูปทางขวามือคนที่ตัวเล็กท่ีสุด ได้ยืนบนกล่อง 2 อัน จึงมีโอกาสได้มองเห็น เกมส์ฟตุ บอลเท่าคนอน่ื คนท่ีสูงปานกลางได้ยืนบนกล่อง 1 อนั ส่วนคนท่ีสูงที่สุดสามารถดฟู ุตบอลได้ โดยไม่ต้องใช้กล่อง แบบนี้“ความเสมอภาค” จึงเกิดขึ้น ดังนั้นคาว่า “ควำมเท่ำเทียม” กับ “ควำมเสมอภำค” จึงมีความแตกต่างกันตรงที่ความเสมอภาคจะต้องคู่กับความเท่ียงธรรม สาหรับการแก้ปัญหาความเหลื่อมล้าเชิงพื้นที่ (Spatial Inequality) ก็เช่นกัน ที่รัฐบาลต้องพิจารณา ถึงจานวนทรพั ยากรและงบประมาณตามความจาเปน็ ที่แตกต่างกนั ของแต่ละจงั หวดั เพื่อไมใ่ ห้เกดิ การ กระจุกตัวอยู่เฉพาะบางพื้นท่ี อันเป็นที่มาของคาว่า “ควำมเหลื่อมลำของจังหวัดกับกำรจัดสรร งบประมำณของไทย” วาดโดยจกั รกฤษ ทิพยอ์ าสน์ 441
2 งานวิจัยช้ินน้ีจัดทาขึ้นเพ่ือศึกษาถึงพัฒนาการของการจัดสรรงบประมาณลงพื้นท่ีจังหวัด (Area) ในช่วงปี 2552-2564 (13 ปี) และวิเคราะห์ให้เห็นถึงความสาคัญของนโยบายการกระจาย อานาจด้านการคลังและงบประมาณจากส่วนกลางไปยังส่วนภูมิภาค โดยวิเคราะห์ให้เห็นว่า การจดั สรรงบประมาณมีความสอดคลอ้ งกับความเหลื่อมล้าระหว่าง “จังหวัดรวย” และ “จงั หวัดจน” หรือไม่ อย่างไร เน่ืองจากการพัฒนาประเทศภายใต้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจากัดย่อมทาให้เกิดภาวะ ความเหลื่อมล้า ซ่ึงอาจเป็นผลข้างเคียงท่ีภาครัฐไม่ได้เจตนาให้เกิดข้ึน ดังน้ันในการวิจัยครั้งน้ีทีม นักวิจัยกาหนดให้ “จังหวัด” เปน็ หนว่ ยวเิ คราะหข์ องงานวจิ ยั ในอดีตความเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศถูกใช้เป็นดัชนีช้ีวัดความก้าวหน้าของประเทศ รัฐบาลจึงเน้นให้ความสาคัญกับตัวเลขด้านรายได้ประชาชาติและผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ โดย กาหนดเน้นนโยบายที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างมีเสถียรภาพ เน้นการขยายตวั ของการลงทุน การส่งออกและการท่องเที่ยว ซึ่งการดาเนินนโยบายดังกล่าวทาให้ดัชนีทางด้านเศรษฐกิจปรับตัวใน ทิศทางท่ีดีข้ึนอย่างต่อเนื่องในช่วงระยะเวลาท่ีผ่านมา การที่เศรษฐกิจในระดับจังหวัดและ ระดับประเทศเติบโตขึ้นส่งผลให้เกิดข้อดีหลายประการ เช่น ประชาชนมีงานทา จังหวัดมีระดับการ พัฒนาทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ความยากจนลดลง และประเทศมีรายได้จากการจัดเก็บภาษีมากข้ึน เป็นต้น สถานการณ์ดังกล่าวสะท้อนให้เห็นเพียงการเติบโตทางเศรษฐกิจ แต่ไม่ได้สะท้อนให้เห็นถึง การพัฒนาสังคมโดยรวมของประเทศ ทาให้เกิดข้อสงสัยว่า “ทำไมเศรษฐกิจของประเทศดีขึน แต่ ควำมเป็นอยู่ของคนในประเทศกลับไมด่ ีขนึ ตำม?” คาตอบกค็ อื มคี นเพียงสว่ นน้อยทไี่ ดร้ ับประโยชน์ จากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ ในขณะที่คนโดยส่วนใหญ่ของประเทศยังคงประสบปัญหาในการ ดาเนินชวี ิต ซึ่งปัญหาดังกล่าวเกิดจาก “ความแตกตา่ ง” หรือ “ควำมเหลอ่ื มลำ” ซ่ึงหมายถึงความไม่ เท่าเทียมกันระหว่างผู้มีโอกาสและผู้ด้อยโอกาสในการเข้าถึง ต่อรอง และจัดการทรัพยากรต่างๆ ซึ่ง เป็นปญั หาและอุปสรรคในการพัฒนาประเทศให้เตบิ โตอย่างย่ังยืน โดยเฉพาะความเหลอ่ื มลา้ เชิงพน้ื ที่ ที่ส่งผลต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอย่างมีนัยสาคัญ (ธนาคารแห่งประเทศไทย ,2562) ความเหล่ือมล้านับเป็นปญั หาระดับโลกท่ีต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ซึ่งประเทศไทยได้ เข้าร่วมลงนามรับรองวาระการพัฒนาของโลก โดยกาหนดให้มีเป้าหมายการพัฒนาท่ียั่งยืน (Sustainable Development Goals: SDGs) ประกอบด้วย 17 เป้าหมาย เพื่อร่วมกันบรรลุการ พัฒนาทางสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลังภายในปี ค.ศ. 2030 ท่ีเน้นให้ความสาคัญกับเป้ำหมำยท่ี 10: ลดควำมเหลื่อมลำ เนื่องจากเป็นเป้าหมายท่ีมีระดับการ พัฒนาต่ากว่ามาตรฐานในภาพรวมของภูมิภาคระดับอาเซียน (สานักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ) นอกจากนร้ี ฐั ธรรมนญู 2560 มาตรา 75 ระบุวา่ รัฐพงึ จดั ระบบเศรษฐกิจใหป้ ระชาชน มีโอกาสได้รับประโยชน์จากความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจไปพร้อมกันอย่างท่ัวถึง เป็นธรรมและ 442
3 ยั่งยืน ดังน้ันนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจควรให้ประชาชนทุกคนมีโอกาสได้รับประโยชน์จากการ เติบโตทางเศรษฐกิจอย่างท่ัวถึงและเท่าเทียม และไม่ทาให้เกิดความเหล่ือมล้าระหว่างกลุ่มประชากร ผู้ได้รับผลประโยชน์ด้วย จากเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนและบทบัญญัติตามรัฐธรรมนูญดังกล่าว ทาให้รัฐบาลนามาเป็นกรอบแนวทางการจัดทายุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561-2580) เพ่ือให้ \"ประเทศไทยมีความมั่นคง ม่ังค่ัง ยั่งยืน เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว” โดยได้ให้ความสาคัญกับ ยุทธศำสตร์ด้ำนกำรสร้ำงโอกำสและควำมเสมอภำคทำงสังคม เพ่ือสร้างความเป็นธรรมและลด ความเหลื่อมล้าในทุกมิติ ท้ังนี้เพ่ือให้การขับเคล่ือนและการพัฒนาประเทศมีการเติบโตที่ยั่งยืน โดย เน้นให้ทุกคนได้รับประโยชน์อย่างท่ัวถึงและเป็นธรรมโดยไม่ท้ิงใครไว้ข้างหลัง สอดคล้องกับ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 12 (พ.ศ. 2560-2564) ภายใต้ยุทธศาสตร์การสร้าง ความเป็นธรรมและลดความเหล่ือมล้าในสังคม ท่ีมุ่งเน้นกระจายผลประโยชน์จากการพัฒนาให้เป็น ธรรมมากข้ึน ตั้งเป้าในการลดความเหล่ือมล้าด้วยการกระจายรายได้ และการเข้าถึงสิทธิข้ันพื้นฐาน การเข้าถึงการบรกิ ารทางสังคมที่มีคณุ ภาพ การสร้างโอกาสการเข้าถงึ ทรัพยากรในการประกอบอาชีพ อย่างทั่วถึงและเป็นธรรม รวมถึงการสร้างงานภายใต้กรอบแนวคิดกำรพัฒนำเศรษฐกิจอย่ำงท่ัวถึง Inclusive growth หรือ “กำรเติบโตที่ไม่ทิงใครไว้ข้ำงหลัง” คือ การเติบโตที่ก่อให้เกิดการแบง่ ปัน ผลประโยชน์ร่วมกัน และสร้างโอกาสอย่างเสมอภาคกันระหว่างคนทุกกลุ่มในสังคมที่ดีขึ้น การสร้าง ผลประโยชน์ร่วมกนั จะรับประกันให้เกิดการกระจายตัวของผลประโยชน์จากการเตบิ โต และการสรา้ ง โอกาสอย่างเสมอภาคจะรับประกันจุดเร่ิมต้นท่ีเท่าเทียมกันเพื่อให้การพัฒนาประเทศสู่การพัฒนาท่ีมี ความสมดุลและย่ังยืน โดยตลอดระยะเวลาทผี่ า่ นมา จะเห็นได้วา่ รฐั บาลไดใ้ หค้ วามสาคัญกับการสร้างความเปน็ ธรรม และลดความเหลื่อมล้าในสังคมมาอย่างต่อเนื่องต้ังแตใ่ นสมัยอดตี เร่ิมตั้งแตแ่ ผนพัฒนาเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี 4 จนถึงปัจจุบัน แต่เนื่องจากประเทศไทยอยู่ในภาวะการบริหารทรัพยากรท่ีมี อยู่อย่างจากัด เพ่ือดาเนินงานตามนโยบายการพัฒนาประเทศทาให้เกิดช่องว่างทางนโยบาย (Policy gaps) ที่ส่งผลทาให้ปัญหาความเหลื่อมล้าด้านต่างๆ ยังคงไม่หมดส้ินไปจากสังคมไทย แม้ว่าปัญหา เร่ืองความเหลื่อมล้าจะลดลงกว่าในอดีต แต่นักวชิ าการหลายท่านมองว่าปญั หานี้ยังเป็นสาเหตุสาคัญ ที่ทาใหป้ ระเทศไทยตดิ กบั ดกั รายไดป้ านกลาง และยังไมส่ ามารถกา้ วไปส่กู ารเป็นประเทศทพี่ ัฒนาแล้ว ได้ ปัจจุบนั ปญั หาความเหลอ่ื มลา้ ของไทยอยูใ่ นระดบั ท่คี อ่ นข้างรนุ แรง มกี ารกระจุกตัวของรายได้และ ทรัพย์สินสูงมาก โดยกลุ่มคนรวยท่ีสุด 20 % มีส่วนแบ่งรายได้ 56 % และมีส่วนแบง่ ทรัพย์สิน 70 % มีค่าสัมประสิทธ์ิจีน่ี (Gini coefficient) ซึ่งสูงพอๆ กับกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา (นลิตรา ไทยประเสริฐ, 2554) เมื่อพิจารณาถึงปัญหาความเหล่ือมล้าในระดับจังหวดั งานวิจัยของธนาคารแห่งประเทศไทย ในปี พ.ศ. 2562 พบว่าความเหลื่อมล้าของไทยเกิดจากการกระจุกตัวของงบประมาณและทรัพยากร 443
4 ในกรงุ เทพมหานครเปน็ หลัก โดยกรงุ เทพฯ มขี นาดเศรษฐกิจใหญ่กว่าจงั หวัดทมี่ ีขนาดรองลงมา ไดแ้ ก่ ชลบุรี สมุทรปราการ ระยอง พระนครศรีอยุธยา และสมุทรสาคร ถึง 6-13 เท่า สอดคล้องกับงาน ศึกษาของ วรรณวิภางค์ มานะโชติพงษ์ (2563) และ อริสาและจิรัฐ (2561) ที่พบว่า การกระจายตัว ของขนาดเมอื งในประเทศไทยขาดความสมดลุ โดยมีลกั ษณะเปน็ เอกนครคือ กรุงเทพฯ มีขนาดเมอื งที่ ใหญ่ที่สุดเมืองเดียว รวมถึงงานศึกษาด้านรัฐศาสตร์ของ วัชรพล ว่องนิยมเกษตร (2557) ได้ศึกษา ความเหล่ือมล้าเชิงพ้ืนที่ของไทยในช่วงท่ีผ่านมาเพิ่มขึ้นจากการมุ่งพัฒนาเศรษฐกิจด้านอุตสาหกรรม และการลงทุนในโครงสร้างพ้ืนฐานท่ีกระจุกตัวในบางพ้ืนท่ีเป็นหลัก รวมถึงโครงสร้างอานาจการ กาหนดนโยบายการพัฒนาในพ้ืนท่ีจากส่วนกลาง เกิดเป็นหัวเมืองขนาดใหญ่ที่รายล้อมไปด้วยจังหวัด ท่ีด้อยกว่า ส่งผลให้แต่ละจังหวัดมีระดับการพัฒนาท่ีแตกต่างกันหรือที่เรามักจะได้ยินว่าความเหลื่อม ล้าซึ่งมีอยู่หลายมิติ และแต่ละมิติก็กลายเป็นท้ังผลลัพธ์และสาเหตุของความเหลื่อมล้าในมิติอื่นๆ ไป พร้อมกัน เนื่องจากความเหล่ือมล้าประเภทหน่ึงส่งผลกระทบต่อความเหลื่อมล้าอีกประเภทหนึ่ง และ ก่อใหเ้ กิดความเหลื่อมล้าประเภทอ่ืนอยา่ งต่อเน่ืองเปน็ ลูกโซ่ ล่าสดุ สานักงานสภาพัฒนาเศรษฐกิจและ สงั คมแห่งชาติ (2562) ได้รายงานสถานการณ์ความยากจนและความเหล่ือมล้าของประเทศไทย พบวา่ ประเทศไทยมีความเหลื่อมล้าอยู่หลายประเภท อาทิ ความเหลื่อมล้าด้านรายได้ ความเหลื่อมล้าดา้ น รายจา่ ย ความเหลอ่ื มล้าด้านการถอื ครองทรพั ยส์ ิน และความเหลอื่ มลา้ ดา้ นโอกาสทางการศึกษา เปน็ ตน้ ความเจริญเติบโตของผลิตภัณฑ์มวลรวมของประเทศ (GDP) เป็นผลมาจากการเติบโตของ ผลิตภัณฑ์มวลรวมของจังหวัด (GPP) ซ่ึงหากต้องการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตอย่าง ย่ังยืน จาเป็นอย่างย่ิงที่จะต้องพัฒนาเศรษฐกิจในระดับจังหวัดให้เติบโตอย่างเสมอภาคกัน เพ่ือแก้ไข ปัญหาความเหลื่อมล้า ขจัดความยากจน การว่างงาน การกระจายรายได้ควบคู่ไปกับการพัฒนา คณุ ภาพชวี ิตดา้ นต่างๆ ใหด้ ีขน้ึ โดยในอดีตท่ผี า่ นมาผลติ ภณั ฑ์มวลรวมภายในจงั หวดั (GPP) ถกู ใช้เป็น ดัชนีช้ีวัดการพัฒนาจังหวัดเช่นเดียวกับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ท่ีวัดระดับการพัฒนา ประเทศ โดยนักเศรษฐศาสตร์บางท่านได้กล่าวไว้ว่าการพัฒนาจังหวัดใช้โมเดลเดียวกับการพัฒนา ประเทศ คือ การมุ่งเน้นการเติบโตของเศรษฐกิจจังหวัด เพ่ือให้เศรษฐกิจที่เติบโตนั้นผลิตงานและ รายไดอ้ อกมาใหก้ ับประชาชน งานวิจัยเล่มนี้มีความสาคัญอยู่ 3 ประการ คือ ประการแรก รัฐบาลได้ให้ความสาคัญกับการ ดาเนินนโยบายเพื่อแก้ปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้าในสังคมเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของ ประชาชน เน่ืองจากรัฐบาลได้พยายามใช้เคร่ืองมือทางการเงินและการคลังในการออกนโยบายและ ส่งเสริมโครงการภาครัฐเพ่ือลดความเหล่อื มลา้ ในช่วงเวลาท่ีผ่านมา ประการท่ีสอง ศาสตราจารย์ ดร. ดิเรก ปัทมสิริวัฒน์และทีมงาน (2564) ได้เขียนไว้ใน หนังสือเรอื่ ง “อัตราการเจริญโตบโตของจังหวัดและความเหลอื่ มล้าในประเทศไทย” วา่ การศกึ ษาวิจัย 444
5 เรื่องงบประมาณ เศรษฐกิจและความเหลื่อมล้าในระดับจังหวัดยังมีอยู่น้อยมากในประเทศไทย งานวิจัยในหัวข้อดังกล่าวจะทาให้เกิดองค์ความรู้ที่ทาให้เกิดข้อเสนอแนะในการจัดสรรงบประมาณ ของประเทศท่ีช่วยลดความเหล่ือมล้าระหว่างจังหวัดรวย/จนในระยะยาว และความสาคัญประการ สุดท้าย คือ ความเหลื่อมล้า ถือว่าเป็น “วาระโลก” หรือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (Universal Declaration of Human Rights) ท่ีประเทศสมาชิกในองค์การสหประชาชาติปฏิญาน ตกลงรว่ มกันว่าจะสร้างความเปน็ ธรรม ลดความเหล่ือมลา้ ในทกุ มติ ิ กระจายศนู ย์กลางความเจริญและ “ไมท่ ง้ิ ใครไวข้ า้ งหลงั ” งานวิจยั ช้ินนี้มีวัตถปุ ระสงค์เพ่ือศึกษาลกั ษณะการจดั สรรงบประมาณลงพนื้ ทจ่ี ังหวัด ในชว่ งปี 2552-2564 (13 ปี) เพ่ือสังเกตการณ์เปล่ียนแปลงและการกระจายของงบประมาณ รวมถึงศึกษา สถานการณ์ความเหลื่อมล้าเชิงพื้นท่ีด้านเศรษฐกิจ สังคมและการพัฒนาคนในระดับจังหวัด รวมท้ัง วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างการจัดสรรงบประมาณภาครัฐท่ีลงพื้นที่จังหวัดกับระดับความ เหล่ือมล้าเชิงพื้นท่ีท้ัง 3 ด้าน เพ่ือให้ได้องค์ความรู้ที่นาไปสู่การเสนอแนะแนวทางในการจัดสรร งบประมาณภาครัฐที่จัดสรรให้กับแตล่ ะจังหวัดเพ่ือลดความยากจนและความเหล่ือมล้าเชิงพน้ื ท่ี และ เพ่อื เปน็ ข้อมลู ในการสนบั สนุนการพจิ ารณางบประมาณรายจ่ายประจาปงี บประมาณในอนาคตตอ่ ไป 1.2 วตั ถุประสงคข์ องกำรศึกษำ 1.2.1 เพอ่ื ศึกษาแนวโน้มและลกั ษณะการจัดสรรงบประมาณลงพน้ื ท่ีจังหวัดในชว่ งปี 2552-2564 (13 ปี) 1.2.2 เพื่อศึกษาสถานการณ์ความเหล่ือมล้าเชิงพื้นที่ในสังคมไทย โดยพิจารณาจากความ เหลอื่ มล้าดา้ นเศรษฐกจิ สังคม และการพัฒนาคนในระดบั จังหวดั ในช่วงปี 2552-2562 (11 ปี) 1.2.3 เพ่ือศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างการจัดสรรงบประมาณภาครัฐลงพื้นที่จังหวัดกับความ เหล่อื มล้าเชิงพนื้ ท่ดี ้านเศรษฐกจิ สังคม และการพัฒนาคน ในช่วงปี 2552-2562 (11 ป)ี 1.2.4 เพ่ือเสนอแนะแนวทางในการจัดสรรงบประมาณลงพื้นท่ีจังหวัด เพื่อลดความเหล่ือมล้า เชงิ พ้นื ทใ่ี นสงั คมไทย 1.3 ขอบเขตของกำรศกึ ษำ การศึกษาคร้ังนี้ใช้ข้อมูลทุติยภูมิจากสานักงบประมาณ สานักงานสถิติแห่งชาติ และ สานักงานสภาพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ สามารถกาหนดขอบเขตการศกึ ษาได้ ดังน้ี ขอบเขตการวิจยั : เป็นการเปรยี บเทียบแนวโน้มและพัฒนาการของจังหวดั โดยเปน็ การศกึ ษา ระยะยาว (longitudinal study) ที่ศึกษาสังเกตการเปล่ียนแปลงของตัวแปรเดียวกันเป็นระยะเวลายาว ท้ังน้ีจะเป็นการเปรียบเทียบข้อมูลของจังหวัดตัวเองในอดีตที่ผ่านมาเพ่ือดูว่าในช่วงเวลาตั้งแตป่ ี 2552 445
6 ถึงปี 2562 จงั หวดั นน้ั ๆ มีการเปลีย่ นแปลงไปอยา่ งไร และการเปรียบเทียบขอ้ มลู ระหว่างจงั หวดั เพอื่ ดู การเปลยี่ นแปลงของแตล่ ะจงั หวัด ขอบเขตเชิงพื้นท่ี : เป็นการศึกษาจังหวัด 77 จังหวัดในประเทศไทย จังหวัด (Province) จึง เป็นหน่วยวิเคราะห์ (Units of Analysis) ของงานวิจัยเล่มนี้ เป็นการเปรียบเทียบข้อมูลของจังหวัด เช่น งบประมาณที่ได้รับจัดสรร งบประมาณต่อหัวประชากร ระดับการพัฒนาและการเติบโตทาง เศรษฐกจิ และสังคมของแตล่ ะจังหวดั เปน็ ต้น ขอบเขตเชิงเวลา : ระยะเวลา 11 ปี ตั้งแต่ปี 2552–2562 โดยอาศัยข้อมูลระดับจังหวัดรายปี ประกอบด้วย งบประมาณรายจ่ายประจาปี การเติบโตทางเศรษฐกิจ สถานการณ์ความยากจน ความเหลื่อมล้าด้านรายได้ และระดับการพัฒนาคน ในการศึกษาคร้ังนี้ยังได้นาข้อมูลการจัดสรร งบประมาณรายจ่ายประจาปงี บประมาณในปลี ่าสดุ (ปี 2552-2564) มาใชใ้ นการวเิ คราะหด์ ว้ ย 1.4 ขอ้ จำกดั ของกำรศึกษำ 1.4.1 ในงานวจิ ยั เล่มนี้ตงั้ สมมุติฐานวา่ งบประมาณมคี วามสมั พันธก์ ับความเหลื่อมล้าในระดับ จังหวัด ในความเป็นจริงแล้ว ยังมีปัจจัยหรือตัวแปรอื่นท่ีส่งผลต่อความเหล่ือมล้าแต่ทีมนักวิจัยไม่ได้ นามาใช้เป็นตัวแปรในการวิเคราะห์ เช่น โรงงานอุตสาหกรรม แหล่งท่องเที่ยว การลงทุนจาก ภาคเอกชน และมหาวทิ ยาลยั เป็นต้น 1.4.2 ข้อมูลงบประมาณลงพื้นท่ีจังหวัดไม่สามารถจาแนกงบรายจ่ายประจาหรือรายจ่าย ลงทุนได้ เนื่องจากรายจ่ายลงทุนเป็นรายจ่ายท่ีช่วยให้เกิดการกระตุ้นเศรษฐกิจและการพัฒนาด้าน ตา่ งๆ ของจังหวดั การแยกรายจ่ายลงทุนออกจากงบประมาณลงพื้นที่จังหวัดจะทาให้สามารถสรุปได้ ว่างบจังหวัดเฉพาะในส่วนของรายจ่ายลงทุนมีความสาคัญต่อการพัฒนาจังหวัด โดยไม่เหมารวมว่า งบประมาณลงพื้นท่ีจังหวัด (รวมท้ังงบรายจ่ายประจา) ท้ังก้อนส่งผลต่อการพัฒนาหรือ ความเหล่อื มล้าในระดบั จังหวดั 1.4.3 บางบทวิเคราะห์มีข้อมูลเก่ียวกับเศรฐกิจ สังคม และการพัฒนาคนในระดับจังหวัดถึง ปี 2562 และดชั นีบางตัวไม่ไดม้ ีการจดั เกบ็ ทกุ ปี 1.4.4 ตัวเลขงบประมาณลงพื้นที่จังหวัดในบางปีมีขนาดมากกว่าท่ีระบุไว้ในฐานข้อมูล เน่ืองจากการศึกษาคร้ังน้ีไม่ได้รวมงบประมาณรายจ่ายตามพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย เพิ่มเติม ได้แก่ ปี 2552 (เพิ่มเติม 116,700 ล้านบาท), ปี 2554 (เพิ่มเติม 99,967.5 ล้านบาท) ปี 2559 (เพ่ิมเติม 56,000 ล้านบาท) และปี 2560 (เพ่ิมเตมิ 115,000 ล้านบาท) 1.4.5 การวิเคราะห์งบประมาณจังหวัดและกลุ่มจังหวัดปี 2561–2564 กาหนดให้ทุกจังหวัด ได้รับงบประมาณในส่วนกลุ่มจังหวัดเฉลี่ยเท่ากันทุกจังหวัด เนื่องจากไม่สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูล จานวนงบประมาณท่ีแต่ละจังหวัดได้รับจัดสรรจริงในปีดังกล่าว รวมถึงในช่วงท่ีผ่านมาระหว่างปี 446
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 577
Pages: