ภาคผนวก ฉ เจ้าหนา้ ที่ประจำกล่มุ คณะกรรมาธกิ ารการคมนาคม
เจา้ หนา้ ทป่ี ระจากลุม่ งานคณะกรรมาธิการการคมนาคม นางสาวจนั ทมิ า ทองชาติ ผู้บังคบั บัญชากลุ่มงานคณะกรรมาธกิ ารการคมนาคม นายพงศพ์ นั ธ์ุ จิตรานกุ ิจ นางปวณี า ศรีสาทร นางสาวมีนา ไพรวลั ย์ วิทยากรเช่ียวชาญ นติ ิกรชานาญการพเิ ศษ วิทยากรชานาญการพเิ ศษ นายประเสริฐ วงษภ์ ธู ร นายธรี พล ประดษิ ฐบรรจง พ.อ.ท. ฤทธิชัย จันทา นางฉตั รกนกวรรณ จนั ทา วิทยากรชานาญการ วทิ ยากรชานาญการ นิติกรชานาญการ นิตกิ รชานาญการ นางสาวณภัทร์ แสงสวา่ ง นายพงศ์สันต์ แซ่ลิ้ม นางสาวเขมภัสสร์ นาคเกิด นางสาววไิ ลลักษณ์ บุญเทยี น เจ้าพนกั งานธรุ การชานาญงาน เจา้ พนักงานธรุ การชานาญงาน เจ้าพนักงานธุรการชานาญงาน เจ้าพนกั งานธรุ การปฏบิ ัติงาน กลมุ่ งานคณะกรรมาธกิ ารการคมนาคม สานักกรรมาธกิ าร ๑ สานักงานเลขาธกิ ารสภาผูแ้ ทนราษฎร โทรศัพท์ : ๐ ๒๒๔๒ ๕๙๐๐ ตอ่ ๖๑๔๑ Email : [email protected]
รายงานผลการพจิ ารณาศกึ ษา ของ คณะกรรมาธิการวสิ ามัญพจิ ารณาศึกษา แนวทางการแก้ไขปัญหาคลน่ื ทะเลกัดเซาะชายฝงั่ และการพฒั นาทรพั ยากรธรรมชาตทิ างทะเล อยา่ งเปน็ ระบบ สภาผู้แทนราษฎร กลมุ่ งานคณะกรรมาธิการการปอ้ งกันและบรรเทา ผลกระทบจากภยั ธรรมชาตแิ ละสาธารณภัย สานกั กรรมาธกิ าร ๓ สานักงานเลขาธกิ ารสภาผแู้ ทนราษฎร
nnii~~wu-aiwq-a nuuaiurau nn?2n nwu. aomoo n i s u n r ~ l ~ ~ ~ i n d u w z r a ~ m ~ ~ i z . l n u d d u a z n i sJWwu\"imnsusiswsu\"1118widwz~a E l i 1 9 [email protected]~PJ'6L1J96796 a b 6 ~ $iRIU~ i d 5 1 y ~ ~ f l l i ~ ~ ~ ~ b' &i l ~ Qb 5f l f d i b& (~PJVU~lfidTz61$ Yci d ~ ~ ~ Y ~ ~ w - L85~Dd~\"UI01Cdkd~RN~znI55QUih~i5 C ~ ; ~ PIS~MMU?~)Y U W ~ M U ~bUdZf i~d M l F l ~b&m ~ ~ ~ai~~~aism1~n~i~u?widni~~i~ijunis~~iii~~~i~1~uwz~a~m rraz6d~u(ui~nialsrw'5wsi3Qqa uazuiuu'spl iiy?n'nd ri'lu@auo) rrazoJ'nZ do4 u d d a n ij o ~ u s i w ~ s ~ ~ m m z n s s u i 3 n i s 3 a i f i ~ ~ a i s m i A n u i J ~ ~ i ~ ~ a ~ w \" m u i w ~ ~ u i n w~~~zrauazaiudauoddsz(~UwIUwU~PI diySYnlj ~ 9 u i r a u o~) a z i i u Z # ~ n s s u i S n i s 3 ~ i f i ~ ~ u m ~ z ~d uu~ ~ ~ o G a i s ~ i Z n w i o u a w i ~ n i s u ~ u i l ~ ~ i n d u w z r a ~ n r ~ i s a i u ~ ~ r w?~\"wulnsasuaiZwi~wz~aa~i~r~nuius~zousuJ\"~TiUnisdsz~uani~~rwWus.PiwI.~g~ b b $8 gd ~ w ~ s u i ~ n i s 3 a i f i ~ ~ m z U \" d s z n o ~ ~ ~ a u a.uidaiaqou\"11~niYuGiu~nia b.u i ~ a i a u w a ?a~ssnr3'sqa m.u i d a i a C ~ i u i f i~ a i ~ ? n u i G ? ~ d.uiuuiuffn Eiuqayms & u i u d s z ~ a h w d dplsyTni b. uiud?ai rrn\"an3aiid 4.u i u 8 u ~ n f i 'q C a I d.uiudfimu'Gu u'm;nd ad.uiuiusssu diys'nd ab.uiu39m dAfi?nqa ad.¶-4lfl~n%uJlmqassd ad.uluusnqn wannBuw5 ad.~ ~ a u n i a n s i ~ i s d ~ u d s iqswn9a6uw2isd bo.uiuauwdd 8 s ~ ' s ~ % l ba.U I P R I ~ R ~ ~ ~ ~ $ ~$R~ ~ ~ n q % i bb.uiuaiCmfircl' q8sssu bm.~ l d ~ l ? ~ ~~ 6~ ~\"t 7I lIWl ~ % % i bd.uiuaFiGu rnvzu9s4aawam96 b&. iauiisaoaan s7t-u a i a l
bV3lY bP/I~aIDElfl rdoiud ba'iiuinu bcsc uidaiauwn?~a=i5aFi?qa i 6 f i u q i n i i ~ ~ P i ~ n ~ s i i d n i 3 l a i Grw~.jizmqaiaen aaahnsi?dszyuani~trwu3iwg3.andbe gd ci n h d c (nliuaiGydlsse0id4n5%dwA wdud)iuvyad c: iiquiuu b c s d~~ ~ ' i z y u r ~ u v a uUI ~I~RkId~UWRYQ assa45qa r~un~suidni~3aiG~Iunmzn~~uidni~SniG~G0i~ai8nvitruawi~ni~rtA m a \" u w z r a n \" m w i a v i u ~ ~ r r a z n i s i ~ u i w ~ w u i n ~ ~ ~ ~ u v i i w i ~ w zttba~a iui ti Qi rur ~~z~~iu~ d i i d Inultin'i~un.iauzraaiGoi~mi8nvilad\"o ?\"u &rri?ird bc:i i a ~ i n uiidiuMd be wqflfiniuu b&bm i a u i n m z n ~ ~ u i d n i ~ l 6 \" 1 1 a \" ~ ~ i ~ ~ ~ u z r a a i<nlui ~auGs0 in~h~ a i ~ n w i nkd n <luau mbo ?YU ~ ~ lo, A ~b~~ wU qM~lqniuubcsm i;q~udb e i j u i n u bcsd P U n&d b <luaunbo ?vU 6h11~iibu~dijuinu b c ~ ididiud bm ngnginu bcsd n k d m huau do i u ~ ~ L L P I ? Y Ub~~ n~nginub h d *naoa,uwA bm qainu b h d n&d d +iu?udo i u i G ~ i % .b~bdqainu b g ~ dn*aoa,uwA md unsinu bcsc n k d c<luaucia TU k-~upiiudbo 4w CPWA do ?UU ,o, L1IWlUU UflJIPIU b&S& tl42UM md LUWIUU b&k& kaZFl&Md 5 <IU?U ~ ~ ; I U B I ? UbMo b h c eo,A oc:n'inginu b h c ' i a u ~ z u z t a a i n i ~ % ~ 3 i ~ asid~on?vYUi w ~XIUM 1714.
ก สารบญั หนา้ สารบญั …………………………..……………………………………………………………………………………………………………..…..ก รายนามคณะกรรมาธิการ……………………………………..………………………………………………………………………….... ข รายนามที่ปรกึ ษาคณะกรรมาธิการ……………………………………………………………………………………………………...ค บทสรุปผู้บรหิ าร……………………………………………………………………………………………………………………………..…. ง ๑. การดาเนนิ งาน………………………………………………………………………………………………………………..……...……. ๑ ๒. ผซู้ ่งึ คณะกรรมาธิการไดเ้ ชญิ มาชแ้ี จงแสดงความคดิ เหน็ .…………………………………………………….….........๑๒ ๓. การพจิ ารณาของคณะกรรมาธกิ าร……………….……………..……………………………………………………….……...๑๖ ๓.๑ สถานการณ์การกดั เซาะชายฝั่งของประเทศไทย…………..……………..…………………………………...…๑๖ ๓.๒ ปญั หาและอปุ สรรคในการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝ่ัง..………………………………………….….….. ๑๘ ๓.๒.๑ สภาพปญั หา………………………………………………………………………………………………………..๑๘ ๑) ปัญหาเก่ียวกบั อานาจหน้าท่ีของหนว่ ยงานรฐั ………………………………………………..……๑๘ ๒) ปญั หาของประชาชนผไู้ ดร้ ับผลกระทบ…………………………….…………………………..…….๔๑ ๓.๒.๒ แนวทางการแกไ้ ข…………………………………………………………………………………………………๔๘ ๑) ปญั หาเกยี่ วกับอานาจหนา้ ที่ของหนว่ ยงานรฐั ……………………………………………….…....๔๘ ๒) ปญั หาของประชาชนผไู้ ดร้ ับผลกระทบ…………………………….………………………….….….๔๙ ๓.๓ การพัฒนาทรพั ยากรธรรมชาติทางทะเลของประเทศไทย……………………………………………..……..๕๑ ๓.๔ ปญั หาและอุปสรรคในการพัฒนาทรพั ยากรธรรมชาติทางทะเล…………………………………………....๕๕ ๔. ผลการพิจารณาศกึ ษาของคณะกรรมาธิการ……………………………………………..........................................๕๘ ๔.๑ การปอ้ งกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝง่ั …………………………………………………………………..๕๘ ๔.๑.๑ การป้องกนั และแก้ไขปัญหาการกดั เซาะชายฝ่ัง……………………………………………………..…๕๘ ๔.๑.๒ ขอ้ เสนอแนะการป้องกนั และแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝ่ัง…………………………………..…๖๐ ๔.๒ การพัฒนาทรพั ยากรธรรมชาติทางทะเล…………………………………………………………………….………๖๗ ๔.๒.๑ การอนรุ ักษ์ทรัพยากรธรรมชาตทิ างทะเล………………………………………………………………..๖๗ ๑) ทรัพยากรป่าชายเลน ปา่ ชายหาด และป่าพรุ……………………………………..……….………๖๗ ๒) ทรัพยากรปะการงั ………………………………………………………………………….................... ๖๗ ๓) ทรัพยากรหญา้ ทะเล………………………………………………………………………....................๖๗ ๔) ทรพั ยากรสตั วท์ ะเลหายาก………………………………………………………………...................๖๘ ๔.๒.๒ การปรับปรุงแกไ้ ขกฎหมายเพ่อื การพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล………….………...๖๙ ๔.๒.๓ ขอ้ เสนอแนะการพฒั นาทรัพยากรธรรมชาตทิ างทะเล……………………………………………...๖๙ ๕. ข้อสังเกตของคณะกรรมาธกิ าร.………………………………………………………..…..……………………..………………๗๑ ภาคผนวก ภาพกจิ กรรม
ข รายนามคณะกรรมาธกิ ารวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาคลื่นทะเล กัดเซาะชายฝง่ั และการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลอยา่ งเปน็ ระบบ สภาผแู้ ทนราษฎร ชดุ ท่ี ๒๕ นางสาวพิมพภ์ ัทรา วิชยั กุล ประธานคณะกรรมาธกิ าร นายสายัณห์ ยตุ ิธรรม นายวชิ ติ ปล่งั ศรสี กลุ นายพรเทพ วสิ ทุ ธวิ์ ฒั นศกั ด์ิ รองประธานกรรมาธกิ ารคนทีส่ อง รองประธานคณะกรรมาธิการ คนท่สี อง รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่หนงึ่ (ตง้ั แตว่ นั ท่ี ๒๘ ส.ค. ๖๓ (ตง้ั แตว่ ันที่ ๑๗ ธ.ค. ๖๓) ถงึ วนั ท่ี ๔ พ.ย. ๖๓) นายประเสรฐิ พงษ์ ศรนุวัตร์ นายอภชิ ัย เตชะนธิ สิ วัสดิ์ นายยงยุทธ สวุ รรณบุตร รองประธานกรรมาธกิ าร รองประธานคณะกรรมาธกิ าร รองประธานคณะกรรมาธิการ คนท่สี าม คนทีส่ ี่ คนทหี่ ้า
ข-๒ นางสาวสุณฐั ชา โลส่ ถาพรพิพธิ นายไพศาล ชโนวรรณ นายภิเศก สายชนะพนั เลขานุการคณะกรรมาธกิ าร ผู้ช่วยเลขานกุ ารคณะกรรมาธิการ ผู้ช่วยเลขานกุ ารคณะกรรมาธกิ าร (ต้ังแตว่ นั ท่ี ๒๘ ส.ค. ๒๕๖๓ (ตัง้ แต่วันท่ี ๑๑ ก.พ. ๖๔) ถงึ วนั ที่ ๑ ก.พ. ๒๕๖๔) นางสาวนิศามาศ เลาหรัตนาหิรัญ นายบัณฑติ อบั ดุลบุตร นายจตุรนต์ เอีย่ มโสภา ผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมาธกิ าร ผชู้ ่วยเลขานุการคณะกรรมาธิการ ผชู้ ว่ ยเลขานกุ ารคณะกรรมาธกิ าร (ตง้ั แตว่ นั ที่ ๒๘ ส.ค. ๒๕๖๓ (ตง้ั แต่วันที่ ๑๑ ก.พ. ๖๔) ถึงวันท่ี ๕ ก.พ. ๒๕๖๔) นางสาวไพลิน เทียนสุวรรณ นางสาวรนิ ทิรา วัฒนวงษภ์ ิญโญ นายปรีชา แก้วกระจ่าง ผู้ช่วยเลขานกุ ารคณะกรรมาธกิ าร โฆษกคณะกรรมาธิการ โฆษกคณะกรรมาธิการ (ตัง้ แต่วนั ท่ี ๒๘ ส.ค. ๒๕๖๓ ถึงวันท่ี ๔ ก.พ. ๒๕๖๔)
ข-๓ รอ้ ยตารวจเอก อรุณ สวัสดี นายพพิ ฒั น์ชัย ไพบูลย์ นางสาวกมลพัฒน์ ปงุ บางกระดี่ โฆษกคณะกรรมาธกิ าร โฆษกคณะกรรมาธกิ าร โฆษกคณะกรรมาธิการ (ตั้งแตว่ นั ท่ี ๒๘ ส.ค. ๖๓ (ตัง้ แต่วนั ท่ี ๑๗ ธ.ค. ๖๓) ถงึ วันที่ ๖ พ.ย.๖๓) นายร่มธรรม ขานรุ ักษ์ นายปน่ิ สกั ก์ สรุ สั วดี ผูช้ ว่ ยศาสตราจารยส์ มปรารถนา ฤทธิพ์ รงิ้ โฆษกคณะกรรมาธิการ ประธานที่ปรกึ ษาคณะกรรมาธิการ ท่ปี รกึ ษาคณะกรรมาธิการ นางสาวจอมขวัญ กลับบ้านเกาะ นางสาวนพสรัญ วรรณศิรกิ ลุ นางสาวมาเรีย เผ่าประทาน กรรมาธกิ าร กรรมาธิการ กรรมาธิการ (ต้งั แต่วนั ที่ ๒๘ ส.ค. ๒๕๖๓ ถึงวนั ที่ ๒๔ ม.ี ค. ๒๕๖๕ และตงั้ แตว่ ันที่ ๘ ม.ิ ย. ๒๕๖๕) ถงึ วนั ที่ ๑๘ ก.ค. ๒๕๖๕
ข-๔ นายศภุ ชยั นาคสวุ รรณ์ นายษรกฤต ผลลูกอนิ ทร์ นายสมพงษ์ จิรศริ ิเลิศ กรรมาธิการ กรรมาธกิ าร กรรมาธกิ าร นางสาวสรัญญ์ภัค ล้ิมแสงสรุ ยี ์ กรรมาธิการ
ค รายนามที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามญั พิจารณาศึกษาแนวทางการแกไ้ ขปัญหา คล่ืนทะเลกัดเซาะชายฝง่ั และการพฒั นาทรพั ยากรธรรมชาตทิ างทะเลอยา่ งเป็นระบบ สภาผแู้ ทนราษฎร ชุดท่ี ๒๕ ๑. นายสมนกึ รุ่งกาจดั ทป่ี รึกษาคณะกรรมาธกิ าร ๒. ผู้ช่วยศาสตราจารยจ์ ันทจริ า เอย่ี มมยุรา ทป่ี รกึ ษาคณะกรรมาธกิ าร ๓. นายวษิ ณุ เขง่ สมุทร ทป่ี รึกษาคณะกรรมาธกิ าร ๔. นายวิชัย ถรี ะปราโมทย์ ทป่ี รึกษาคณะกรรมาธกิ าร ๕. นายอรรถพร พลบุตร ที่ปรกึ ษาคณะกรรมาธกิ าร ๖. นายอภิชาต ศักดเิ ศรษฐ์ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธกิ าร ๗. นายใจพชิ ญ์ สขุ มุ าลจนั ทร์ ที่ปรกึ ษาคณะกรรมาธกิ าร ๘. นายวรรณะ เดชรา ที่ปรึกษาคณะกรรมาธกิ าร ๙. นางสาวผอ่ งศรี ธาราภมู ิ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธกิ าร ๑๐. นายกฤษณะ ทวิ ตั ถส์ ริ ิกลุ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธกิ าร ๑๑. นายสาราญ สนิ ธ์ทอง ท่ีปรึกษาคณะกรรมาธกิ าร ๑๒. นางจุฑามาศ อชั กุล ที่ปรกึ ษาคณะกรรมาธกิ าร ๑๓. พลเรอื เอก นาวี ศานตกิ ะนาวนิ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธกิ าร ๑๔. พลเรือโท วฑิ ูรย์ ตณั ฑกิ ลุ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธกิ าร ๑๕. ผู้ช่วยศาสตราจารยโ์ อฬาร ถน่ิ บางเตียว ทป่ี รกึ ษาคณะกรรมาธกิ าร ๑๖. นางสาวลม้าย มานะการ ทป่ี รึกษาคณะกรรมาธกิ าร ๑๗. รองศาสตราจารย์ทวีศกั ดิ์ เทพพิทกั ษ์ ทีป่ รึกษาคณะกรรมาธกิ าร ๑๘. นายกติ ตภิ ตั ลาภชูรตั ที่ปรกึ ษาคณะกรรมาธกิ าร ๑๙. นายดเิ รก จอมทอง ที่ปรึกษาคณะกรรมาธกิ าร ๒๐. นายวิเชยี ร พทุ ธศรี ที่ปรึกษาคณะกรรมาธกิ าร ๒๑. นายกฤษนัยน์ เจริญจติ ร ที่ปรึกษาคณะกรรมาธกิ าร ๒๒. พลเรือตรี ประวทิ ย์ พิพิธโกศลวงศ์ ทป่ี รึกษาคณะกรรมาธกิ าร ๒๓. นายศักด์ิอนันต์ ปลาทอง ทป่ี รึกษาคณะกรรมาธกิ าร ๒๔. ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์อาทติ ย์ เพชรศศธิ ร ทป่ี รึกษาคณะกรรมาธกิ าร ๒๕. นายชลธศิ สรุ ัสวดี ทป่ี รึกษาคณะกรรมาธกิ าร ๒๖. นางเรวดี ประเสรฐิ เจรญิ สขุ ทป่ี รกึ ษาคณะกรรมาธกิ าร ๒๗. นายวัชรินทร์ จนั ทรเ์ ดช ทป่ี รึกษาคณะกรรมาธกิ าร ๒๘. นายทวศี กั ด์ิ จุลเนียม ทป่ี รึกษาคณะกรรมาธกิ าร ๒๙. รองศาสตราจารยน์ นั ทวัฒน์ จรสั โรจนธ์ นเดช ท่ีปรกึ ษาคณะกรรมาธกิ าร ๓๐. นายคธา รงุ่ โรจนร์ ตั กลุ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธกิ าร ๓๑. นางสาวจฑุ าวรรณ คะชา ที่ปรึกษาคณะกรรมาธกิ าร ๓๒. นางสาวอัจฉรา พงศ์สถาพร ที่ปรึกษาคณะกรรมาธกิ าร ๓๓. นายสหพล รุ่งอนนั ต์ทรัพย์ ที่ปรึกษาคณะกรรมาธกิ าร ๓๔. นายเอกนัฏ พรอ้ มพันธุ์ ทป่ี รกึ ษาคณะกรรมาธกิ าร ๓๕. นายไกลกังวล ทวนประเสรฐิ ที่ปรกึ ษาคณะกรรมาธกิ าร
ง บทสรปุ ผู้บริหาร ชายฝั่งทะเลคือ รอยต่ออันบอบบางระหว่างกระบวนการปฏิสัมพันธ์ของอากาศ ทะเล และผืนดิน เป็นหนึ่งในระบบนิเวศท่ีกาเนิดจากความสมดุลของกระบวนการทางธรรมชาติ รอยต่อน้ี เป็นแหล่งอาหารและท่ีพักพิงของสิ่งมีชีวิตท้ังคนและสัตว์ ชายฝั่งทะเลไทยมีความยาวรวมกันมากกว่า สามพันกิโลเมตร ตลอดแนว ๒๓ จังหวัด พื้นที่ริมชายฝ่ังซึ่งส่วนใหญ่แล้วเป็นพ้ืนที่สาธารณะ จึงเป็นพ้ืนที่ ทม่ี กี ารใชป้ ระโยชน์ท่ีหลากหลาย มีผ้คู นมาเกี่ยวข้องมากมาย เปน็ แรงขับเคล่อื นสาคัญในระบบเศรษฐกิจ การเพ่ิมข้นึ ของประชากรในขณะท่ีทรพั ยากรชายฝ่ังมอี ยู่อย่างจากดั ประกอบกับการดาเนินการ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ทาให้เกิดการบุกรุกแย่งชิงการเข้าถึงพ้ืนท่ีเพ่ือการได้มา ซ่ึงทรัพยากร ส่งผลให้มีการปรับเปล่ียนรูปแบบการใช้พ้ืนที่ชายฝั่งทะเลจากเดิมมาก จะเห็นได้ว่า การพัฒนาพ้ืนที่ชายฝ่ังเป็นท่ีอยู่อาศยั ท่ีประกอบกิจการประมง ท่าเทียบเรือ ตลอดจนสถานท่ีท่องเทย่ี ว ต่าง ๆ เริ่มมีมากขึ้น การเข้าถึงชายหาดง่ายและสะดวกกว่าในอดีตมาก ส่งเสริมให้พื้นท่ีชายฝั่งทะเล มีมูลค่าสูงมากข้ึนเร่ือย ๆ ทุกฝ่ายจึงต้องการหาหนทางใช้ประโยชน์จากพ้ืนที่ชายหาดอย่างเต็มท่ี จึงเป็นเหตุให้พ้ืนที่ชายหาดถูกรุกล้า และถูกใช้จนเกินศักยภาพท่ีจะรองรับได้ ชายหาดจึงเสื่อมโทรมลง อย่างรวดเร็ว ประกอบกับสภาวการณ์ความแปรปรวนของสภาพอากาศ ส่งเสริมให้เกิดภัยธรรมชาติ บรเิ วณชายฝั่งบ่อยครั้งและมีความรุนแรงมากข้ึนอย่างตอ่ เน่ือง เนื่องจากชายหาดมีมิติการใช้ประโยชน์พื้นที่ท่ีหลากหลาย เช่น ประมง เดินเรือ ที่อยู่อาศัย และพักผ่อนหย่อนใจ เป็นต้น จึงทาให้มีหลายหน่วยงานท่ีต้องเข้ามาบริหารจัดการ นอกจากน้ี การที่ชายหาดยาวต่อเน่ืองถึงกัน จึงมีความทับซ้อนกันในเชิงพ้ืนที่อีกด้วย เช่น องค์กรปกครอง ส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานราชการส่วนกลาง ซ่ึงแต่ละหน่วยงานมีภารกิจหน้าที่ตามขอบเขตอานาจ ของตนเอง เข้ามาดูแลเฉพาะทรัพยากรที่หน่วยงานของตนรับผิดชอบ อาจขาดการบูรณาการระหว่าง หน่วยงาน เป็นการแก้ปัญหาโดยมองเฉพาะพ้ืนที่แต่ไม่มององค์รวม และในบางคร้ังมาตรการที่ใช้ เพื่อการแก้ปัญหาน้ันทับซ้อนกัน ก่อให้เกิดความขัดแย้งทั้งภาคประชาชนและองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ในพ้ืนทอี่ ีกดว้ ย และเป็นการใชจ้ า่ ยงบประมาณที่ขาดประสิทธภิ าพ รายงานของคณะกรรมาธิการฉบับนี้ เกิดจากการรวบรวมข้อมูลท้ังปฐมภูมิและทุติยภูมิ จากการลง พื้นที่สารวจภาคสนามและการประชุม ซ่ึงสังเคราะห์จากการสอบถามหน่วยงานที่เก่ียวข้อง ผู้มีส่วนได้ ส่วนเสียท้ังทางตรงและทางอ้อม เอกสาร และข้อมูลท่ีปรากฏหลักฐานในส่ือต่าง ๆ โดยข้อสังเกต และข้อเสนอแนะที่ปรากฏในรายงานฉบับนี้ อยู่บนหลักการพื้นฐานท่ีว่า ชายฝ่ังทะเลถือเป็นทรัพยากร ที่มีพลวัตและความอ่อนไหวตอ่ การเปล่ียนแปลงสูง และมีลักษณะท่ีแตกต่างกันไปตามพื้นท่ีและฤดกู าล การใช้มาตรการใด ๆ เพ่ือการป้องกัน ดูแล อนุรักษ์ จาเป็นอย่างย่ิงที่จะต้องมีความรู้ความเข้าใจ ในกระบวนการตามธรรมชาติของพ้ืนท่ีน้ัน ๆ เป็นการเฉพาะ เพ่ือจะสามารถนาไปวิเคราะห์ ในรายละเอียดเพื่อหามาตรการจัดการ ตลอดจนวางแผนโครงการพัฒนาริมชายฝั่งทะเลได้อย่างถูกต้อง และเหมาะสมตามหลักวิชาการ โดยทิศทางหลักเพื่อการจัดการชายฝ่ังทะเลในอนาคตควรต้องถูกปรับ ให้เป็นการไมร่ ุกล้าชายหาด และถนอมรกั ษาหาดธรรมชาติให้คงสภาพเดมิ มากที่สุด ซ่ึงนับเป็นสว่ นหนง่ึ ของหลกั การการพฒั นาอย่างยง่ั ยนื (Sustainable Development Goal : SDG)
จ ในส่วนของการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลของประเทศไทยมีแนวโน้มไปในทิศทางท่ีดีขึ้น เน่ืองจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ หรือโควิด ๑๙ (Coronavirus Disease 2019 (COVID – 19)) ส่งผลใหก้ ารใช้ทรัพยากรทางทะเลและชายฝง่ั ลดลง โดยเฉพาะจากการท่องเทย่ี ว และการประมง นอกจากน้ียังเป็นผลมาจากนโยบายการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ัง และการมสี ว่ นรว่ มของภาคประชาชนในการอนุรักษ์และฟนื้ ฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง โดยสถานภาพทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ัง มีสัดส่วนปะการัง และสัดส่วนหญ้าทะเล สมบูรณ์ดี-ดีมาก มีการพบเห็นสัตว์ทะเลหายากเพิ่มข้ึน และพบการวางไข่ของเต่าตนุ เต่ากระ และเต่ามะเฟืองเพิ่มข้ึน อย่างไรก็ตามยังมีแนวโน้มการเกยต้ืนของสัตว์ทะเลหายากเพ่ิมขึ้น โดยสาเหตสุ ่วนใหญเ่ กดิ จากการตดิ เครอ่ื งมือประมง และจากการกินขยะทะเล พื้นที่ป่าชายเลนมีจานวนเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากมีการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมที่ทันสมัย ช่วยในการสารวจ และเป็นผลมาจากนโยบายการทวงคืนผืนป่าและการฟ้ืนฟปู า่ ชายเลน ส่วนสถานภาพสิ่งแวดล้อมทางทะเล ได้แก่ คุณภาพน้า ทะเลส่วนใหญ่อยู่ในเกณฑ์ดี ยกเว้นบริเวณปากแม่น้าอ่าวไทยรูปตัว ก ท่ียังมีคุณภาพน้าเส่ือมโทรม เนื่องจากเป็นแหล่งชุมชน และโรงงานหนาแน่น ในส่วนของขยะทะเลพบว่า ปริมาณขยะที่ถูกเก็บได้ในบริเวณปากแม่น้าหลัก ๕ สาย ปริมาณโดยรวมลดลง สว่ นใหญเ่ ปน็ พลาสติกบาง และขยะชายฝัง่ สว่ นใหญ่ยงั คงเป็นถุงพลาสตกิ เช่นกัน จากการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล คณะกรรมาธิการ ได้มีข้อสังเกตในด้านต่าง ๆ ดังน้ี ๑) ด้านการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล การใช้ประโยชน์ ทะเลและส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชน ๒) ด้านการอนุรักษ์สัตว์ทะเลหายาก ๓) ด้านการบริหารจัดการ อทุ ยานแหง่ ชาติทางทะเล และ ๔) ด้านการจดั การมลพิษทางทะเล ทัง้ น้ี เพ่อื ให้การพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ ทางทะเลเปน็ ไปอยา่ งต่อเนื่องและย่งั ยืน
รายงานของคณะกรรมาธิการวิสามัญ พจิ ารณาศกึ ษาแนวทางการแก้ไขปัญหาคล่ืนทะเลกัดเซาะชายฝ่ัง และการพฒั นาทรพั ยากรธรรมชาติทางทะเลอย่างเป็นระบบ สภาผูแ้ ทนราษฎร _______________________ ตามที่ท่ีประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีท่ี ๒ ครั้งท่ี ๒๕ (สมัยสามัญประจาปีคร้ังที่หน่ึง) วันพฤหัสบดีท่ี ๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๓ ท่ีประชุมได้พิจารณาญัตติ เร่ือง ขอให้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามญั พิจารณาศึกษาแนวทางการดาเนินการแก้ปัญหาคล่ืนทะเลกัดเซาะชายฝ่ังอย่างเป็นระบบและยั่งยืน (นางสาวพมิ พ์ภัทรา วชิ ยั กุล และนายนริศ ขานุรักษ์ เปน็ ผู้เสนอ) และญตั ติ เรอ่ื ง ขอใหส้ ภาผ้แู ทนราษฎร ต้ังคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหาและพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลและชายฝ่ัง ของประเทศ (นายนริศ ขานุรักษ์ เป็นผู้เสนอ) และมีมตติ ง้ั กรรมาธกิ ารวสิ ามัญขน้ึ คณะหนึ่งเพื่อพิจารณา ศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาคล่ืนทะเลกัดเซาะชายฝ่ังและการพัฒนา ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล อย่างเป็นระบบ ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๔๙ โดยได้กาหนด ระยะเวลาพิจารณาศึกษาไว้ ๙๐ วัน ต้ังแต่วันท่ี ๒๘ สิงหาคม ๒๕๖๓ ถึงวันท่ี ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ ต่อมาคณะกรรมาธกิ ารได้ขอขยายระยะเวลาการพิจารณาศึกษา จานวน ๖ ครั้ง ครั้งท่ี ๑ จานวน ๑๒๐ วนั ตั้งแต่วันท่ี ๒๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ ถึงวันท่ี ๒๕ มีนาคม ๒๕๖๔ ครั้งที่ ๒ จานวน ๑๒๐ วัน ตั้งแต่วันท่ี ๒๖ มีนาคม ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๒๓ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ครั้งท่ี ๓ จานวน ๙๐ วัน ต้ังแต่วันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ถึงวันท่ี ๒๑ ตุลาคม ๒๕๖๔ คร้ังท่ี ๔ จานวน ๙๐ วัน ตั้งแต่วันท่ี ๒๒ ตุลาคม ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๑๙ มกราคม ๒๕๖๕ ครั้งที่ ๕ จานวน ๙๐ วัน ต้ังแต่วันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๖๕ ถึงวันที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๕ และคร้ังท่ี ๖ จานวน ๙๐ วัน ตั้งแต่วันท่ี ๒๐ เมษายน ๒๕๖๕ ถึงวันท่ี ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๕ รวมระยะเวลาการพจิ ารณาศกึ ษา ๖๙๐ วนั น้ัน บัดนี้ คณะกรรมาธิการวสิ ามัญ ได้ดาเนินการพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาคล่ืนทะเล กัดเซาะชายฝ่ังและการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลอย่างเป็นระบบ เสร็จเรียบร้อยแล้ว ซ่งึ ปรากฏผล ดังนี้ ๑. การดาเนินงาน ๑.๑ คณะกรรมาธกิ ารวสิ ามัญได้มีมตเิ ลอื กตงั้ ๑) นางสาวพมิ พภ์ ทั รา วิชยั กุล เปน็ ประธานคณะกรรมาธกิ าร ๒) นายสายัณห์ ยุตธิ รรม เปน็ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนทห่ี น่งึ ๓) นายวิชติ ปล่งั ศรสี กุล เป็นรองประธานคณะกรรมาธิการ คนท่สี อง ๔) นายประเสรฐิ พงษ์ ศรนวุ ตั ร์ เปน็ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนท่สี าม ๕) นายอภิชัย เตชะนธิ สิ วสั ด์ิ เปน็ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่สี่ ๖) นายยงยทุ ธ สวุ รรณบุตร เป็นรองประธานคณะกรรมาธกิ าร คนทห่ี า้ ๗) นางสาวสุณฐั ชา โล่สถาพรพิพิธ เปน็ เลขานุการคณะกรรมาธกิ าร ๘) นายไพศาล ชโนวรรณ เปน็ ผู้ชว่ ยเลขานกุ ารคณะกรรมาธกิ าร
๒ ๙) นางสาวนศิ ามาศ เลาหรตั นาหริ ญั เปน็ ผู้ชว่ ยเลขานกุ ารคณะกรรมาธกิ าร ๑๐) นายบัณฑติ อับดุลบตุ ร เป็นผูช้ ว่ ยเลขานกุ ารคณะกรรมาธกิ าร ๑๑) นางสาวไพลิน เทยี นสวุ รรณ เป็นผชู้ ว่ ยเลขานุการคณะกรรมาธิการ ๑๒) นางสาวรินทิรา วฒั นวงษภ์ ญิ โญ เป็นโฆษกคณะกรรมาธิการ ๑๓) นายปรชี า แกว้ กระจา่ ง เป็นโฆษกคณะกรรมาธิการ ๑๔) รอ้ ยตารวจเอก อรุณ สวสั ดี เปน็ โฆษกคณะกรรมาธกิ าร ๑๕) นายพิพฒั น์ชยั ไพบลู ย์ เป็นโฆษกคณะกรรมาธกิ าร ๑๖) นายรม่ ธรรม ขานรุ ักษ์ เป็นโฆษกคณะกรรมาธิการ ๑๗) นายปนิ่ สักก์ สรุ สั วดี เป็นประธานท่ปี รกึ ษาคณะกรรมาธิการ ๑๘) ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์สมปรารถนา ฤทธิพ์ ร้งิ เป็นทป่ี รึกษาคณะกรรมาธกิ าร อน่ึง เม่ือวันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ นายวิชิต ปล่ังศรีสกุล ได้พ้นจากตาแหน่ง กรรมาธิการวิสามัญ เพราะเหตุลาออก และเม่ือวันท่ี ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ นายพิพัฒน์ชัย ไพบูลย์ ได้พ้นจากตาแหน่งกรรมาธิการวิสามัญ เพราะเหตุลาออก และในคราวประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีท่ี ๒ ครั้งท่ี ๑๐ (สมัยสามัญประจาปีครั้งที่สอง) วันพฤหัสบดีท่ี ๑๗ ธันวาคม ๒๕๖๓ ที่ประชุมเห็นชอบให้ตั้ง นายพรเทพ วิสุทธ์ิวัฒนศักด์ิ และนางสาวกมลพัฒน์ ปุงบางกะดี่ เป็นกรรมาธิการวิสามัญในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาคลื่นทะเล กัดเซาะชายฝั่งและการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลอย่างเป็นระบบ แทนตาแหน่งท่ีว่าง ตามลาดับ โดยที่ประชุมคณะกรรมาธิการมีมติแต่งตั้งให้นายพรเทพ วิสุทธ์ิวัฒนศักดิ์ เป็นรองประธาน คณะกรรมาธิการ คนท่ีสอง แทนนายวิชิต ปลั่งศรีสกุล และนางสาวกมลพัฒน์ ปุงบางกะดี่ เป็นโฆษกคณะกรรมาธกิ าร แทนนายพพิ ัฒน์ชยั ไพบูลย์ เมื่อวันท่ี ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ นายไพศาล ชโนวรรณ ได้พ้นจากตาแหน่งกรรมาธิการ วิสามัญ เพราะเหตุลาออก และเมื่อวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ นายบัณฑิต อับดุลบุตร ได้พ้นจาก ตาแหน่งกรรมาธิการวิสามัญ เพราะเหตุลาออก และในคราวประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดท่ี ๒๕ ปีที่ ๒ ครง้ั ท่ี ๒๒ (สมัยสามัญประจาปคี รงั้ ทีส่ อง) วนั พฤหสั บดที ี่ ๑๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ ทีป่ ระชมุ เหน็ ชอบใหต้ ง้ั นายภิเศก สายชนะพัน และนายจตุรนต์ เอ่ียมโสภา เป็นกรรมาธิการวิสามัญในคณะกรรมาธิการ วิ ส า มั ญ พิ จ า ร ณ า ศึ ก ษ า แ น ว ท า ง ก า ร แ ก้ ไ ข ปั ญ ห า ค ลื่ น ท ะ เ ล กั ด เ ซ า ะ ช า ย ฝ่ั ง แ ล ะ ก า ร พั ฒ น า ทรพั ยากรธรรมชาตทิ างทะเลอย่างเป็นระบบแทนตาแหนง่ ทวี่ า่ งตามลาดบั โดยท่ีประชุมคณะกรรมาธิการ มมี ติแตง่ ตัง้ ให้ นายจตรุ นต์ เอย่ี มโสภา เป็นผู้ชว่ ยเลขานกุ ารคณะกรรมาธิการ แทนนายบัณฑติ อับดลุ บุตร และนายภิเศก สายชนะพนั เป็นผชู้ ่วยเลขานกุ ารคณะกรรมาธิการ แทนนายไพศาล ชโนวรรณ เมือ่ วนั ที่ ๔ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๖๔ นายปรชี า แกว้ กระจา่ ง ได้พ้นจากตาแหนง่ กรรมาธกิ าร วิสามญั เพราะเหตุลาออก เม่ือวันที่ ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๕ นางสาวนพสรัญ วรรณศิริกุล ได้พ้นจากตาแหน่ง กรรมาธิการวิสามัญ เพราะเหตุลาออก และในคราวประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีท่ี ๔ ครั้งที่ ๕ (สมัยสามัญประจาปีคร้ังท่ีหน่ึง) วันพุธท่ี ๘ มิถุนายน ๒๕๖๕ ท่ีประชุมเห็นชอบให้ต้ัง นางสาวนพสรัญ วรรณศิริกุล เป็นกรรมาธิการวสิ ามัญในคณะกรรมาธกิ ารวิสามญั พิจารณาศึกษาแนวทางการแกไ้ ขปัญหา คล่ืนทะเลกดั เซาะชายฝ่งั และการพฒั นาทรพั ยากรธรรมชาตทิ างทะเลอย่างเปน็ ระบบ แทนตาแหนง่ ทวี่ า่ ง
๓ ๑.๒ คณะกรรมาธิการวิสามัญได้มีมติแต่งต้ัง นายปุณญพัฒน์ ม่ังมี นิติกรชานาญการ กลุ่มงานคณะกรรมาธิการการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัย สานักกรรมาธิการ ๓ ปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ช่วยเลขานุการในคณะกรรมาธิการวิสามัญ ตามข้อบังคับ การประชมุ สภาผแู้ ทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๙๓ วรรคส่ี ๑.๓ การเดินทางไปศึกษาดงู านของคณะกรรมาธิการ ครั้งท่ี ๑ จงั หวดั ฉะเชงิ เทราและจังหวดั สมทุ รปราการ เมื่อวันจันทร์ท่ี ๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ คณะกรรมาธิการได้เดินทางไปรับฟังปัญหา ความเดือดร้อนจากประชาชนในพื้นท่ี และรับฟังการบรรยายสรุปจากหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง รวมท้ัง ตรวจสภาพพ้ืนที่ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาคล่ืนทะเลกัดเซาะชายฝ่ัง ณ วัดหงษ์ทอง ตาบลสองคลอง อาเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา โดยได้ข้อสรุปว่า ประชาชนในพื้นท่ีต้องการโครงสร้างท่ีมีรูปแบบ การวางหินทิ้งหรือหินเรียงเท่าน้ัน เนื่องจากองค์การบริหารส่วนตาบลสองคลองได้ดาเนินการทดลอง วิธีการป้องกันและแกไ้ ขปัญหาการกัดเซาะชายฝ่งั ในหลายรปู แบบ เช่น การทาไสก้ รอกทรายของกรมเจ้าท่า และการปักไม้ไผ่ชะลอคล่ืนของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เป็นต้น แต่พบว่า การวางหินท้ิง หรือหินเรียงเป็นวิธีการที่สามารถปอ้ งกันและแกไ้ ขปัญหาได้ดี รวมถึงเป็นการใช้งบประมาณอย่างคุ้มคา่ หากเปรียบเทียบกับวิธีการอืน่ ๆ ตอ่ มาคณะกรรมาธิการ ไดเ้ ดนิ ทางไปพ้นื ทต่ี าบลคลองด่าน อาเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ เพ่ือรับฟังปัญหาความเดือดร้อนจากประชาชน ซ่ึงได้รับทราบข้อมูลว่า ประชาชน ในพื้นที่ไม่ต้องการวิธีการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝ่ังโดยใช้การปักไม้ไผ่ชะลอคล่ืน แต่ต้องการโครงสร้างป้องกันการกัดเซาะชายฝ่ังในรูปแบบเข่ือนหินท้ิง โดยใช้การปลูกป่าชายเลน เสริมด้านหลงั แนวเข่อื น จากนั้นได้เดินทางไปตาบลบางปู อาเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ เนื่องจาก ได้รับทราบว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินในพ้ืนที่ตาบลบางปู อาเภอเมือง จังหวัดสมุทรปราการ มีงบประมาณในการบริหารจัดการเป็นจานวนมาก โดยพ้ืนที่ดังกล่าวไมต่ ้องการวธิ ีการป้องกนั และแก้ไข ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งโดยการปักไม้ไผ่ชะลอคล่ืน จึงมีการสร้างกาแพงป้องกันคลื่น ซ่ึงบริเวณ ด้านหน้าโครงสร้างมีกล่องกระชุหิน (Gabion box) และบริเวณด้านในทาเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ คือ สามารถทาเป็นทางจักรยานหรือพื้นท่ีสาธารณะสาหรับประชาชนในการเดินและว่ิง รวมระยะทาง ประมาณ ๑๐ กิโลเมตร ทั้งน้ี การดาเนินการดังกล่าวถือว่ามีการใช้งบประมาณจานวนมาก สาหรับการสร้างกาแพงป้องกันคล่ืนของประเทศไทย คือ ๑๗๕ ล้านบาทต่อกิโลเมตร และคณะกรรมาธิการได้เดินทางไปพ้ืนที่ตาบลแหลมฟ้าผ่า อาเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ เนื่องจากได้รับทราบปัญหาคลื่นทะเลกัดเซาะชายฝั่งในพ้ืนที่ตาบลแหลมฟ้าผ่า อาเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ ส่งผลให้ชาวบ้านเกิดการสูญเสียท่ีดินเป็นจานวนมาก ซ่ึงในอดีต ๓๐-๔๐ ปี ที่ผ่านมา วัดขุนสมุทรจีนมีระยะทางอยู่ห่างจากทะเลประมาณ ๑ กิโลเมตร แต่ปัจจุบันวัดขุนสมุทรจีน ถูกกัดเซาะและรอบล้อมไปด้วยน้าทะเลที่เข้ามาอยู่ด้านในบริเวณวัดประมาณ ๑ กิโลเมตร แสดงให้เห็นวา่ พื้นท่ีดังกล่าวถูกกัดเซาะประมาณ ๒ กิโลเมตร ซึ่งชาวบ้านในพ้ืนท่ีต้องการโครงสร้างป้องกันและแก้ไข ปัญหาการกัดเซาะชายฝ่ังในรูปแบบเดิมที่ดาเนินการ คือ การปักไม้ไผ่ชะลอคล่ืนของกรมทรัพยากร ทางทะเลและชายฝั่ง และการวางหินระหว่างโครงสร้างไม้ไผ่ โดยมีการปักไม้ไผ่ชะลอคลื่นอยู่บริเวณ ดา้ นนอกทะเลอกี ๒ ชั้น เนอื่ งจากพื้นทตี่ าบลแหลมฟ้าผา่ ไม่มที ่ีดักตะกอน
๔ คร้งั ท่ี ๒ กรุงเทพมหานคร จงั หวัดสมุทรสาคร และจงั หวดั สมทุ รสงคราม เม่ือวันศุกร์ที่ ๑๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ คณะกรรมาธิการได้เดินทางไปเขตบางขุนเทียน กรุงเทพมหานคร เพ่ือรับทราบแนวทางการป้องกันและแกไ้ ขปัญหาการกัดเซาะชายฝ่ัง โดยการปลูกปา่ และการปักไม้ไผ่ชะลอคล่ืน ซึ่งได้รับงบประมาณจากมูลนิธิปลูกป่าในใจคน ตามศาสตร์พระราชา และใช้งบประมาณในการปลูกป่าประมาณปีละ ๔๐-๕๐ ล้านบาท เน่ืองจากกรุงเทพมหานคร มีงบประมาณในการบริหารจัดการเป็นของตนเอง ประกอบกับมีการทา CSR หรือ Corporate Social Responsibility ร่วมกบั บรษิ ัทตา่ ง ๆ จึงยงั มนี โยบายในการปลูกปา่ และปกั ไมไ้ ผ่ชะลอคล่ืนตอ่ ไป จากน้ัน ได้เดินทางไปพื้นที่ตาบลบางกระเจ้า อาเภอเมืองสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสาคร ซ่ึงมีเข่ือนหินเพ่ือป้องกนั การกัดเซาะชายฝั่งอยู่บริเวณด้านใน และบางส่วนพังทลายแล้ว แต่พ้ืนท่ีบริเวณนี้อยู่ในเขตป่าชายเลน ตามมติคณะรัฐมนตรีที่เก่ียวข้อง ดังนั้น การดาเนินการส่ิงใดค่อนข้างเป็นไปด้วยความลาบาก อีกทั้งยังประสบปัญหาในช่วงน้าข้ึน คือ น้าท่วมพื้นท่ีเพราะเป็นพ้ืนที่ลุ่มต่า รวมถึงคล่ืนและกระแสน้า ค่อนข้างแรง ประชาชนในพ้ืนที่จึงต้องการท้ังเข่ือนหนิ บริเวณดา้ นหน้าเพ่ือป้องกันไม่ให้น้าเข้ามาในพื้นท่ี และไม้ไผ่ชะลอคล่ืนบริเวณด้านนอก จากนั้นคณะกรรมาธิการได้เดินทางไปยังพ้ืนท่ีตาบลคลองโคน อาเภอเมืองสมุทรสงคราม จังหวัดสมุทรสงคราม ซึ่งมีลักษณะเป็นพ้ืนท่ีปากแมน่ า้ ท่ีไม่ค่อยมีปัญหาการ กัดเซาะชายฝ่ัง และไม่มีปัญหากรณีที่ดินตกน้า แต่ยังคงมีนโยบายในการนางบประมาณส่วนหนึ่งไปใช้ ในการปลูกป่าชายเลนและการปักไม้ไผ่ชะลอคลื่นเป็นระยะ โดยในปี ๒๕๖๒ พื้นที่ดังกล่าวมีการปักไม้ไผ่ ชะลอคลื่นประมาณ ๖๐ คร้ังต่อปี ซึ่งถือว่ามีการปักไม้ไผ่ชะลอคลื่นมากกว่า ๑ ครั้งต่อสัปดาห์ เพอ่ื ป้องกันและแกไ้ ขปัญหาการกดั เซาะชายฝั่ง ครงั้ ท่ี ๓ จังหวัดตรงั เม่ือวันอังคารท่ี ๓๐ ถึงวันพุธท่ี ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๔ คณะกรรมาธิการได้เดินทางไป ศึกษาดูงานและรับฟังปัญหาเก่ียวกับสถานการณ์การกัดเซาะชายฝั่งบริเวณหาดแตงโม หมู่ที่ ๒ ตาบลเกาะสุกร อาเภอปะเหลียน จังหวัดตรัง ซ่ึงกรมโยธาธิการและผังเมืองได้ให้ข้อมูลว่า พื้นที่บริเวณดังกล่าวได้มีการดาเนินการก่อสร้างเข่ือนป้องกันการกัดเซาะชายฝ่ังแล้ว แต่เน่ืองจาก ยังมีพ้ืนท่ีต่อเน่ืองท่ียังได้รับผลกระทบจากน้าทะเลกัดเซาะชายฝั่ง ซ่ึงหากยังไม่ได้รับการป้องกัน หรือแกไ้ ขปญั หาอาจส่งผลกระทบต่อประชาชนได้ จึงจาเป็นต้องไดร้ บั งบประมาณเพอ่ื ดาเนนิ งานเพมิ่ เตมิ และคณะกรรมาธิการได้เดินทางไปยังบ้านหลังเขา หมู่ที่ ๕ ตาบลเกาะลิบง อาเภอกันตัง จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นพื้นทีท่ ่ีมกี ารแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝงั่ โดยใช้โครงสรา้ งประเภทเข่อื นหินทิ้ง กาแพงกนั คล่นื และการปักเสาไม้มาก่อน แต่ปัจจุบันมีสภาพชารุดทรุดโทรม ไม่สามารถรักษาเส้นแนวชายฝั่งไว้ได้ และโครงสร้างดงั กลา่ วยังกอ่ ใหเ้ กดิ การกดั เซาะชายฝ่ังบรเิ วณถดั จากพื้นทท่ี ่ีมีโครงสรา้ ง โดยพน้ื ทดี่ ังกล่าว อยู่ในเขตหา้ มลา่ สตั ว์ปา่ หมู่เกาะลิบง ซึ่งเป็นพื้นทเ่ี ขตอนุรักษ์ จงึ ต้องขออนุญาตตามกฎหมายเสยี กอ่ น คร้ังที่ ๔ จังหวดั นครศรธี รรมราช เม่อื วนั จันทรท์ ่ี ๒๙ ถงึ วันองั คารที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ คณะกรรมาธิการได้เดินทาง ไปยังพ้ืนท่ีท่ีได้รับผลกระทบจากปัญหาคล่ืนทะเลกัดเซาะชายฝ่ัง และการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ ทางทะเล ดังนี้
๕ ๑) ชายหาดบา้ นหนา้ สตน ตาบลหน้าสตน อาเภอหัวไทร จงั หวดั นครศรธี รรมราช พื้นที่ดังกล่าวกรมโยธาธิการและผังเมืองได้ชี้แจงว่า อยู่ระหว่างดาเนินการสร้าง โครงสร้างช่ัวคราว เพ่ือบรรเทาผลกระทบและความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่ ซึ่งข้ันตอน การขออนุมัติงบประมาณในปี ๒๕๖๕ อาจต้องใช้ระยะเวลา เน่ืองจากต้องผ่านการพิจารณา จากคณะกรรมการที่เก่ียวข้อง ท้ังนี้ กรมโยธาธิการและผังเมืองจะได้เร่งแก้ไขปัญหาให้ แก่ประชาชน ในพ้นื ทต่ี อ่ ไป ๒) ชายหาดบา้ นหน้าศาล ตาบลหนา้ สตน อาเภอหวั ไทร จงั หวัดนครศรีธรรมราช เนื่องจากคณะกรรมาธิการได้รับทราบจากประชาชนในพื้นที่ว่า ต้องการให้กรมเจ้าท่า ปรับระยะห่างโครงสร้างป้องกันการกัดเซาะชายฝ่ังให้ใกล้กันมากย่ิงข้ึน เพื่อไม่ให้คล่ืนที่เข้ามากระทบ โครงสร้างเกิดเป็นน้าวน ซึ่งส่งผลให้ตะกอนทรายไหลออก โดยการออกแบบโครงสร้างแต่ละรูปแบบ ของกรมเจ้าท่าจะมีการเก็บข้อมูลและออกแบบมาเป็นโมเดล ท้ังนี้ ช่วงที่เกิดปัญหาอาจเกิดจากมรสุม แต่กรมเจ้าท่าจะดาเนินการเสริมทรายชายหาดเพิ่มเป็นระยะ เพ่ือป้องกันปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น ในอนาคต ๓) ชายหาดแหลมตะลุมพุก ตาบลแหลมตะลุมพกุ อาเภอปากพนงั จงั หวัดนครศรธี รรมราช คณะกรรมาธิการได้รับทราบข้อมูลและข้อเท็จจริงจากประชาชนในพื้นท่ีว่า ต้องการให้ เสริมโครงสร้างป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งให้สูงข้ึนกว่าเดิมและทาให้ฐานมีความกว้างมากขึ้น เน่ืองจาก โครงสร้างเกิดการทรุดตัว ซึ่งในส่วนที่ไม่มีโครงสร้างกรมเจ้าท่าสามารถดาเนินการได้ แต่โครงสร้างเดิม ผทู้ ่ีรับผดิ ชอบโครงการไว้กอ่ นแล้วจะต้องดาเนนิ การแกไ้ ขปรังปรงุ โดยใช้งบประมาณของตนเอง ๔) ชายหาดเทพา ตาบลท่งุ ปรัง อาเภอสิชล จังหวดั นครศรธี รรมราช พ้ืนที่บริเวณหาดเทพา ตาบลทุ่งปรัง มีคล่ืนพัดตะกอนทรายมาปิดทางเข้าออกของเรอื ประมง ซ่ึงกรมเจ้าท่ารับไปดาเนินการขุดลอกร่องน้า กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งรับไปศึกษาการสร้างเข่ือน กันทรายและคลื่นปากร่องน้า และกรมโยธาธิการและผังเมืองรับไปศึกษาโครงการพัฒนาเมือง เพื่อเป็นแหล่งท่องเท่ียว โดยให้ประชาชนในพ้ืนท่ีใช้ประโยชน์ ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชน ในพนื้ ทต่ี อ่ ไป ๕) บา้ นในถุ้ง หมทู่ ี่ ๕ ตาบลทา่ ศาลา อาเภอท่าศาลา จงั หวัดนครศรีธรรมราช การพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลในพื้นที่ดังกล่าว ได้แก่ การดาเนินกิจกรรม ธนาคารปมู ้า ซึ่งเปน็ ต้นแบบการฟ้ืนฟูทรพั ยากรชายฝ่งั แบบบูรณาการ เพ่ือการอนุรักษ์ทรัพยากรสตั วน์ ้า และสรา้ งรายได้ใหแ้ ก่ประชาชนในพ้ืนท่ไี ด้อย่างยงั่ ยืน คร้ังท่ี ๕ จงั หวัดสงขลา เมื่อวันจันทร์ที่ ๑๓ ถึงวันอังคารท่ี ๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๔ คณะกรรมาธิการได้เดินทาง ไปยังพืน้ ทีท่ ีไ่ ดร้ บั ผลกระทบจากปญั หาคลื่นทะเลกัดเซาะชายฝง่ั ดงั น้ี ๑) บ้านนาทบั อาเภอจะนะ จังหวัดสงขลา คณะกรรมาธิการได้รับทราบข้อมูลจากประชาชนในพ้ืนท่ีเก่ียวกับกรณีท่ีดินงอก เนื่องจากมีการกัดเซาะชายฝั่งในพ้ืนที่อื่น จึงทาให้เกิดที่ดินงอก ซึ่งหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงาน
๖ ที่ร่วมเดินทางไปศึกษาดูงานกับคณะกรรมาธิการได้ช้ีแจงข้อมูล ซึ่งคณะกรรมาธิการรับทราบ และขอให้หน่วยงานทเ่ี ก่ยี วข้องรบั ไปดาเนินการเพือ่ แก้ไขปญั หาต่อไป ๒) ชายหาดชลาทัศน์ อาเภอเมอื ง จงั หวดั สงขลา พ้ืนที่ดังกล่าว เป็นพื้นท่ีที่กรมเจ้าท่าได้จ้างผู้รับเหมาดาเนินการเสริมทรายชายหาด กาหนดแล้วเสร็จตามสัญญาภายในวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๑ เมื่อครบกาหนด ปรากฏว่า ผู้รับจ้าง ดาเนินการไมแ่ ล้วเสร็จ มีค่าปรับเกนิ กว่ารอ้ ยละสิบของวงเงนิ ค่าจ้าง ผู้รับจ้างมิไดด้ าเนินการก่อสรา้ งตอ่ และมิได้ชาระค่าปรับ กรมเจ้าท่าจึงแจ้งบอกเลิกสัญญาต่อผู้รับจ้างเม่ือวันที่ ๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๔ อย่างไรกต็ าม กรมเจา้ ทา่ จะได้หารือกับส่วนราชการและเอกชนที่เกี่ยวข้องในจังหวดั สงขลาเพ่อื เรง่ รดั หา แนวทางการแกไ้ ขปญั หาให้แก่ประชาชนตอ่ ไป ๓) ชายหาดชิงโค อาเภอสิงหนคร จงั หวัดสงขลา ชายหาดดังกล่าวมีโครงสร้างป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งของกรมโยธาธิการและผังเมือง ซง่ึ ส่งผลให้สง่ิ ปลูกสรา้ งหลงั โครงสรา้ งที่เปน็ ทางจักรยานพงั ทลาย โดยกรมโยธาธกิ ารและผงั เมืองได้ชแี้ จง ตอ่ คณะกรรมาธิการวา่ มีงบประมาณบารงุ รักษาในส่วนน้ี และจะเร่งสอบหาขอ้ เทจ็ จริงเกี่ยวกบั การพังทลาย ของโครงสรา้ งปอ้ งกนั การกดั เซาะชายฝั่ง เพ่อื ปอ้ งกันปญั หาทอ่ี าจจะเกิดขึ้นในอนาคตตอ่ ไป ๔) ชายหาดตาบลทา่ บอน อาเภอระโนด จังหวดั สงขลา ประชาชนในพื้นท่ีมีความพึงพอใจกับการแก้ไขปัญหาคลื่นทะเลกัดเซาะชายฝั่ง ซ่ึงมีการแก้ไขปัญหาโดยใช้เขื่อนหินเรียงและเข่ือนหินท้ิงของกรมเจ้าท่า และประชาชนยังต้องการให้ ดาเนินการต่อเนื่องไปจนสุดชายหาด เน่ืองจากประชาชนมีความเห็นว่าสามารถแก้ไขปัญหาคลื่นทะเล กดั เซาะชายฝ่งั ได้อยา่ งเป็นรปู ธรรม ๕) ชายหาดมหาราช อาเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา กรมโยธาธิการและผังเมืองได้ช้ีแจงต่อคณะกรรมาธิการเกี่ยวกับการก่อสร้างโครงสร้าง ป้องกันการกัดเซาะชายฝ่ังรูปแบบเขื่อนคอนกรีตขั้นบันได ระยะที่ ๑ และระยะที่ ๒ แต่เม่ือดาเนินการ ระยะที่ ๓ ได้มีประชาชนในพ้ืนท่ีมาคัดค้าน เนื่องจากไม่สามารถนาเรือประมงเข้าออกได้ ดังนั้น กรมโยธาธิการและผังเมืองจึงชะลอโครงการเพ่ือทาการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน ซง่ึ หากการรับฟงั แลว้ เสร็จจะไดเ้ ร่งรัดดาเนินการต่อไป ๖) ชายหาดมว่ งงาม อาเภอสงิ หนคร จังหวดั สงขลา กรมโยธาธิการและผังเมืองชี้แจงว่า ในพ้ืนท่ีดังกล่าวได้มีการฟ้องร้องคดีความต่อศาล และศาลได้ส่ังระงับการก่อสร้างโครงสร้างป้องกันการกัดเซาะชายฝ่ัง ซ่ึงกรมโยธาธิการและผังเมืองได้ยุติ การก่อสร้างแล้ว และจะดาเนินการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนว่าต้องการโครงสร้างป้องกัน การกดั เซาะชายฝง่ั รปู แบบใด เพื่อป้องกนั ปญั หาคลนื่ ทะเลกัดเซาะชายฝัง่ ท่อี าจเกดิ ขน้ึ ในอนาคต คร้งั ท่ี ๖ จงั หวดั เพชรบรุ ีและจงั หวัดประจวบครี ีขันธ์ เม่อื วันจนั ทร์ที่ ๗ ถึงวันองั คารท่ี ๘ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๕ คณะกรรมาธกิ ารไดเ้ ดนิ ทางไปยงั พ้ืนที่ ท่ไี ดร้ ับผลกระทบจากปญั หาคลื่นทะเลกดั เซาะชายฝง่ั ดงั นี้
๗ ๑) ชายหาดชะอา อาเภอชะอา จงั หวดั เพชรบุรี กรมโยธาธิการและผังเมืองดาเนินการสร้างโครงสร้างป้องกันการกัดเซาะชายฝ่ังรูปแบบ เข่ือนคอนกรีตขั้นบันไดตามท่ีองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินร้องขอ ซ่ึงหลังจากดาเนินก่อสร้างเสร็จเรียบร้อย จะมีการเก็บเศษวัสดุจากการก่อสร้างออก โดยกรมเจ้าท่าอยู่ระหว่างดาเนินการศึกษาการเสริมทราย ชายหาด ๒) พระราชนิเวศน์มฤคทายวนั อาเภอชะอา จังหวัดเพชรบรุ ี เจ้าหน้าที่ผดู้ ูแลพระราชนเิ วศน์มฤคทายวันไม่เหน็ ดว้ ยกับการก่อสร้างโครงสร้างปอ้ งกนั การกัดเซาะชายฝ่ัง เน่ืองจากระบบหาดมีสภาวะสมดุลพลวัต ประกอบกับโครงสร้างดังกล่าวไม่ก่อให้เกิด ประโยชน์ และส่งผลให้เกิดการแทรกตัวของนา้ เค็มเข้ามาในพ้ืนท่ี จึงต้องการใหร้ ื้อถอนโครงสร้างดังกล่าว โดยกรมเจ้าทา่ ไดต้ ัง้ งบประมาณในปี ๒๕๖๖ เพ่ือรื้อถอนรอดักทรายจานวน ๒ ตวั ด้านหนา้ พระราชนิเวศน์ มฤคทายวนั ด้วยงบประมาณ ๑๐ ล้านบาท ๓) สวนเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เฉลิมพระชนมพรรษา ๘๐ พรรษา ตาบลปากน้าปราณ อาเภอปราณบรุ ี จังหวัดประจวบคีรขี ันธ์ โดยมีความเห็นแตกต่างกันระหว่างประชาชนท่ีต้องการโครงสร้าง ซ่ึงเห็นว่า ควรปรับเปลี่ยนรูปแบบโครงสร้างให้กระทบพ้ืนที่ชายฝ่ังน้อยลง โดยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รั บไปด าเนินการ จั ด ป ระ ชุ ม เพื่ อ พิ จ า ร ณ า ร่ วม กัน ร ะห ว่า ง หน่ วย ง า น ท่ี เก่ียวข้องในการแก้ไขปัญหา เก่ียวกับความคิดเห็นที่แตกต่างในการก่อสร้างโครงสร้างป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง ๔) หาดสามร้อยยอด อาเภอสามรอ้ ยยอด จงั หวัดประจวบคีรขี นั ธ์ บรเิ วณหมู่ท่ี ๒ บ้านหนองขา้ วเหนยี ว มกี ารกอ่ สรา้ งโครงสร้างปอ้ งกันการกัดเซาะชายฝงั่ แบบหินทิ้งโดยใช้งบประมาณกลุ่มจังหวัด ซึ่งเหลือพ้ืนที่ที่ยังไม่ก่อสร้างอีก ๑๒๐ เมตร จึงต้องการขอให้ กรมโยธาธิการและผังเมืองดาเนินการต่อให้แล้วเสร็จ รวมท้ังขอให้กรมเจ้าท่าเสริมความยาวของเขื่อน กันทรายและคลน่ื ปากรอ่ งนา้ (Jetty) ประมาณ ๕๐ เมตร เพ่ือเปน็ ทางเขา้ ออกของเรือประมง ๕) หาดคลองวาฬ อาเภอเมืองประจวบครี ขี ันธ์ จังหวัดประจวบครี ีขนั ธ์ เน่ืองจากในอดีตท่ีผ่านมาพ้ืนท่ีชายฝั่งทะเลบ้านคลองวาฬเกิดปัญหาการกัดเซาะ เทศบาลตาบลคลองวาฬและองค์การบริหารส่วนตาบลคลองวาฬจึงแก้ไขปัญหาด้วยการวางแนวหินทิ้ง เพื่อป้องกันชายฝ่ัง แต่เมื่อระยะเวลาผ่านไปก็ก่อให้เกิดความเสียหายมากข้ึน เทศบาลตาบลคลองวาฬ จึงทาหนังสอื ไปยงั กรมโยธาธิการและผังเมอื งเพ่ือขอความอนุเคราะห์ดาเนินการแก้ไขปญั หา อันเป็นทีม่ า ของการจัดกิจกรรมประชมุ รบั ฟังความคดิ เหน็ และขอ้ เสนอแนะต่อแนวทางการพฒั นาโครงการออกแบบ และศึกษาผลกระทบส่ิงแวดล้อม เข่ือนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเล ซ่ึงก่อนดาเนินการประชุม รับฟังความคิดเห็นหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องควรมีกระบวนการสร้างความรู้และความเข้าใจให้แก่ประชาชน ในพ้นื ที่ เพ่ือให้ประชาชนมคี วามรูค้ วามเขา้ ใจและสามารถแสดงความคดิ เหน็ ได้อย่างถกู ต้อง ๖) ปากร่องน้าคลองทับสะแก หมู่ที่ ๓ และปากร่องน้าเขาไม้รวก ตาบลอ่างทอง อาเภอทบั สะแก จงั หวดั ประจวบครี ขี นั ธ์ พื้นท่ดี ังกล่าวประสบปัญหาทรายปิดปากรอ่ งนา้ ไมส่ ามารถนาเรือเขา้ ออกได้ จงึ ตอ้ งการ ให้กรมเจ้าท่าขุดลอกร่องน้าและทาเข่ือนกันทรายและคล่ืนปากร่องน้า โดยกรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งได้มีข้อห่วงกังวลเกี่ยวกับผลกระทบทอ่ี าจเกดิ ขนึ้ ตอ่ พนื้ ที่ทางด้านทศิ เหนอื ของปากรอ่ งน้า
๘ ๗) หาดแม่ราพงึ อาเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรขี นั ธ์ เนื่องจากเกิดปัญหาการใช้พ้ืนท่ีสาธารณะบริเวณชายหาดแม่ราพึง บ้านป่าสน หมู่ท่ี ๒ ตาบลแม่ราพึง อาเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยจังหวัดประจวบคีรีขันธจ์ ะจัดประชุมหารอื และบูรณาการกบั หน่วยงานที่เกยี่ วข้อง เพ่อื ร่วมกนั หาแนวทางดาเนนิ การแกไ้ ขปัญหาการใช้พื้นทช่ี ายฝั่ง ทะเลบริเวณดงั กลา่ วให้แก่ประชาชนในพนื้ ที่ ครงั้ ที่ ๗ จงั หวัดสุราษฎร์ธานี จังหวดั ชมุ พรและจงั หวัดระนอง เม่ือวันอาทิตย์ที่ ๑๓ ถึงวันจันทร์ที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕ คณะกรรมาธิการได้เดินทาง ไปยังพื้นที่ท่ีได้รับผลกระทบจากปัญหาคล่ืนทะเลกัดเซาะชายฝั่ง และการพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ ทางทะเล ดงั น้ี ๑) ตาบลชลคราม อาเภอดอนสัก จังหวดั สรุ าษฎรธ์ านี องคก์ รปกครองส่วนท้องถนิ่ ตอ้ งการโครงสร้างปอ้ งกนั การกดั เซาะชายฝง่ั ทส่ี ามารถชะลอ คลนื่ ทะเลไมใ่ ห้กระทบเขา้ มาบริเวณถนน ซ่งึ บริเวณดงั กลา่ วไมไ่ ดม้ ีปัญหาการกดั เซาะชายฝ่ังโดยตรง ๒) หาดทรายรี ตาบลหาดทรายรี อาเภอเมืองชุมพร จังหวดั ชุมพร ชาวบ้านในพื้นท่ีตอ้ งการให้มีการปรับความสูงของสันโครงสรา้ งปอ้ งกันการกัดเซาะชายฝั่ง แบบเขือ่ นคอนกรีตขั้นบนั ได เพอ่ื สะดวกตอ่ การขน้ึ ลงชายหาด ๓) บ้านอ่าวเคย ตาบลม่วงกลวง อาเภอกะเปอร์ จงั หวดั ระนอง เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นท่ีของอุทยานแห่งชาติแหลมสน การดาเนินการก่อสร้าง โครงการจึงจาเป็นต้องขออนุญาตจากกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์ุพืช ดังนั้น จังหวัดระนอง จึงเชิญหน่วยงานที่เก่ียวข้องมาประชุมหารือร่วมกับจังหวัด เพื่อร่วมกันหาแนวทางและแก้ไขปัญหา การกดั เซาะชายฝั่งบรเิ วณดงั กลา่ วตอ่ ไป ๔) พื้นทีส่ งวนชวี มณฑลระนอง ณ ศูนยว์ จิ ัยทรัพยากรป่าชายที่ ๓ (ระนอง) เป็นพื้นท่ีระบบนิเวศบนบก ชายฝ่ัง/ทะเลหรือพื้นที่ท่ีมีทั้งระบบนิเวศบนบกและชายฝ่ัง /ทะเล ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติภายใต้โครงการมนุษย์และชีวมณฑลขององค์การยูเนสโก ซ่ึงพื้นท่ีสงวนชีวมณฑลระนองส่วนใหญ่มีสภาพเป็นป่าชายเลน มีเนื้อที่ ๑๘๙,๔๓๑ ไร่ โดยป่าชายเลน ยังคงสภาพความอุดมสมบูรณ์สูงแห่งหนึ่งของประเทศ มีความหลากหลายทางชีวภาพสูง และมีการศึกษาวจิ ยั อย่างตอ่ เน่อื งในรูปแบบของความร่วมมอื กับต่างประเทศ คร้ังที่ ๘ จงั หวัดภูเก็ต จังหวดั พงั งาและจงั หวัดกระบ่ี เม่ือวันจันทร์ท่ี ๗ ถึงวันพุธที่ ๙ มีนาคม ๒๕๖๕ คณะกรรมาธิการได้เดินทางไปยังพ้ืนท่ี ทไ่ี ดร้ ับผลกระทบจากปญั หาคลนื่ ทะเลกัดเซาะชายฝงั่ และการพฒั นาทรพั ยากรธรรมชาติทางทะเล ดงั นี้ ๑) วดั เทสก์ธรรมนาวา (วดั ทา่ ไทร) ตาบลทา้ ยเหมือง อาเภอท้ายเหมือง จังหวดั พังงา ในปี ๒๕๖๒ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ังมีการทดลองติดต้ังรั้วดักทราย (Sand Fence) บริเวณหาดทา้ ยเหมอื งเปน็ ระยะทาง ๒๑๐ เมตร เพอ่ื ฟื้นฟเู นินทรายชายฝ่งั
๙ ๒) หาดทรายแกว้ ตาบลไมข้ าว อาเภอถลาง จงั หวดั ภูเก็ต กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้ดาเนินการติดต้ังรั้วดักทราย (Sand Fence) เพือ่ แกไ้ ขปญั หาคลน่ื ทะเลกัดเซาะชายฝง่ั ๓) หาดสุรนิ ทร์ ตาบลเชงิ ทะเล อาเภอถลาง จงั หวดั ภูเกต็ ในปี ๒๕๖๐ เคยมีโครงการสร้างเขื่อนกันคล่ืนริมฝ่ังทะเล ซึ่งกรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝ่ังได้รับเรื่องร้องเรียนจากกลุ่มอนุรักษ์ จึงเสนอให้ระงับการก่อสร้างและกาหนดแนวถอยร่น และพัฒนาสง่ิ กอ่ สร้างด้านหลังแนวถอยรน่ ตามแนวเนินทรายเดิมที่ถูกทาลาย เพ่อื รกั ษาสภาพชายหาด ๔) หาดกะรน ตาบลกะรน อาเภอเมืองภเู ก็ต จงั หวัดภูเก็ต เป็นพื้นท่ีท่ีมีการก่อสร้างโครงสร้างกาแพงกันดินแบบดูราโฮลด์ โดยเข่ือนดังกล่าวสร้างไว้ เพือ่ กนั ดนิ บริเวณหนา้ หาดกะรน ซ่ึงหาดดังกลา่ วมีลกั ษณะเป็นหาดสมดลุ ไมม่ ีร่องรอยการกดั เซาะชายฝงั่ ๕) สถานที่ดูแลและเพาะพันธุ์สัตว์น้า และสถานพยาบาลสัตว์น้า ตาบลวิชิต อาเภอเมือง ภเู กต็ จังหวดั ภเู กต็ จากการดาเนินการของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ังและหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง ทาให้สถานการณ์ด้านทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ังมีแนวโน้มของปริมาณทรัพยากรที่เพิ่มขึ้น มีพ้ืนท่ี แหลง่ หญา้ ทะเล มพี ้นื ทแ่ี นวปะการงั มสี ัตว์ทะเลหายากท่ีพบในประเทศไทย แบ่งออกเปน็ ๓ กลุ่ม ได้แก่ เตา่ ทะเล พะยนู โลมาและวาฬ โดยพบว่า การวางไข่ของเต่าทะเลและการพบเห็นเตา่ ทะเล พะยนู โลมา และวาฬในธรรมชาติมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น รวมถึงมีการจัดวางปะการังเทียม ซึ่งปะการังมีแนวโน้ม เพิ่มขนึ้ อย่างต่อเนือ่ งในทุก ๆ ปี ทั้งนี้ ประเทศไทยมีโรงพยาบาลหรือศูนย์ช่วยชีวิตสัตว์จานวนน้อย อีกทั้งอุปกรณ์ และเคร่ืองมอื ทจี่ าเป็นในการช่วยเหลือสัตว์แตล่ ะชนิดก็มคี วามเฉพาะ สัตว์หลายชนดิ ไม่สามารถรักษาได้ หรืออาจจะรักษาได้ไม่ทันท่วงที ยิ่งหากเป็นสัตว์ทะเลหายากท่ีเหลือจานวนน้อย จึงต้องทาทุกวิถีทาง ที่จะรักษาไวใ้ หไ้ ด้ ศูนย์ชว่ ยชวี ติ สตั วท์ ะเลหายากสิรีธาร จังหวดั ภเู ก็ต จงึ ถกู ตง้ั ข้ึนเพ่อื ดาเนนิ งานดังกล่าว ๖) อา่ วกงุ้ ตาบลปา่ คลอก อาเภอถลาง จังหวดั ภเู ก็ต พื้นที่ดังกล่าวมีข้อพิพาทระหว่างประชาชนที่เห็นต่างต่อโครงการการก่อสร้างท่าเทียบเรือ สาราญอ่าวกงุ้ มารนี า่ หากมีการขดุ ลอกร่องนา้ เพ่อื ให้เรอื เข้าออกโครงการ ๗) หาดนพรตั นธ์ ารา-หมเู่ กาะพพี ี จงั หวดั กระบี่ คณะกรรมาธกิ ารได้เดินทางไปศึกษาดงู านเกย่ี วกับการบรหิ ารจดั การพ้ืนทบี่ รเิ วณอ่าวมาหยา เกาะพีพีเล ชายหาดนพรัตน์ธารา-หม่เู กาะพีพี โดยกรมอทุ ยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธพ์ุ ืช มีแนวทาง การแกไ้ ขปัญหา โดยใชว้ ธิ ธี รรมชาติเปน็ หลกั เชน่ การฟ้ืนฟปู ะการังและเนนิ ทรายชายหาด เปน็ ต้น ครง้ั ท่ี ๙ จังหวดั ชลบุรี เม่ือวันจันทร์ที่ ๒๑ มีนาคม ๒๕๖๕ คณะกรรมาธิการได้เดินทางไปยังพ้ืนที่ที่ได้รับผลกระทบ จากปัญหาคล่ืนทะเลกัดเซาะชายฝ่ัง ซึ่งจากการรายงานการศึกษาและจัดทาแผนแม่บทการแก้ไขปัญหา การกัดเซาะชายฝ่ังพื้นที่อ่าวไทยฝั่งตะวันออก โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ปี ๒๕๕๒ พบวา่ ปจั จุบันชายหาดจอมเทยี นประสบปัญหาการกดั เซาะอย่างรุนแรงและตอ่ เนือ่ งเชน่ เดยี วกบั ชายหาดพทั ยา ส่งผลให้ชายหาดถดถอยและลดขนาดลงไปเรื่อย ๆ จนเหลือพ้ืนท่ีทรายไมเ่ พียงพอท่ีจะรองรับกบั จานวน
๑๐ นักท่องเท่ียวท่ีมาพักผ่อนบริเวณชายหาด ในบางช่วงของชายหาดเม่ือน้าข้ึนชายหาดจะจมอยู่ใต้ ระดับนา้ ทะเลทัง้ หมด ไม่เหลอื ชายหาด ซ่งึ อาจส่งผลต่อจานวนนักท่องเทยี่ วใหม้ แี นวโน้มลดลงในอนาคต หากปล่อยทิ้งไว้ภายในไม่ถงึ ๑๐ ปี ชายหาดจอมเทยี นจะไม่มที รายเหลืออยู่ ดังน้ัน จึงได้มีนโยบายเร่งดว่ น เพื่อทาการเสริมทรายป้องกันการกัดเซาะชายฝ่ังบริเวณชายหาดจอมเทียนเช่นเดียวกับชายหาดพัทยา โดยโครงการระยะที่ ๑ มีระยะทางประมาณ ๓.๕ กิโลเมตร ทั้งน้ี จากความสาเร็จของโครงการเสริมทราย ชายหาดพัทยา ระยะทาง ๒.๘ กิโลเมตร ตั้งแต่ชายหาดพัทยาเหนือจนถึงชายหาดพัทยาใต้ ซ่ึงได้รับ กระแสตอบรับท่ีดีจากนักท่องเที่ยว ประชาชน และผู้ประกอบการในพ้ืนที่ ทาให้กรมเจ้าท่า ซ่ึงเป็นหน่วยงานที่มีหนา้ ที่รับผิดชอบโดยตรงต่อการพัฒนาขนส่งทางน้าและดูแลรักษาร่องนา้ และชายหาด ของประเทศ ได้จัดหางบประมาณเพื่อทาการเสริมทรายชายหาดจอมเทียนเป็นโครงการที่ ๒ ต่อจาก ชายหาดพัทยา เพื่อเป็นการฟื้นฟูและพัฒนาพ้ืนที่แหล่งท่องเท่ียว โดยได้รับการจัดสรรงบประมาณ ๕๘๖,๐๔๗,๐๐๐ บาท มีระยะเวลาการดาเนินงานต้ังแต่ ๒๙ พฤษภาคม ๒๕๖๓ ถึง ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ แหล่งทรายนามาจากบริเวณทิศตะวันตกของเกาะรางเกวียน อยู่ห่างจากชายหาดจอมเทียน ออกไป ๑๕ กิโลเมตร ซึ่งเป็นแหล่งเดียวกับท่ีใช้เสริมทรายชายหาดพัทยา ใช้ปริมาณทราย ๖๔๐,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร มีขอบเขตการทางาน แบ่งเป็น ๘ ประเภท ได้แก่ ๑) งานเสริมทรายชายหาด ความยาว ๓,๕๗๕ เมตร ๒) งานกอ่ สรา้ งแหล่งสารองทรายชายหาด ความยาว ๒๒๕ เมตร ๓) งานตดิ ตงั้ ระบบป้องกันชายหาดแห้งด้วยวิธีระบายน้าลงสู่ช้ันน้าใต้ดิน ๒,๑๐๕ เมตร ๔) งานติดตั้งท่อระบายน้า เชื่อมท่อระบายน้าเดิม ความยาว ๕๑ เมตร ๕) งานก่อสร้างบันไดคอนกรีตข้ึน-ลง ชายหาด ๖๗ จุด ๖) งานติดตั้งป้ายประตมิ ากรรมและป้ายมาตรฐาน รวม ๒ จดุ ๗) งานมาตรการตดิ ตามตรวจสอบผลกระทบ ส่ิงแวดล้อม และ ๘) งานประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจกบั ประชาชน ท้ังน้ี หลังจากการฟื้นฟูบรู ณะ ชายหาดเสร็จส้ิน ชายหาดจะมีความกว้างเฉล่ีย ๕๐ เมตร มีความสวยงามและใช้เป็นพื้นที่สันทนาการ ได้มากกว่าเดิม ซ่ึงจากผลการศึกษา พบว่า การดาเนินโครงการดังกล่าวมีความคุ้มค่า เงิน ๑ บาท ทล่ี งทุนไป สรา้ งมลู ค่าคนื ระบบเศรษฐกิจ ๓.๒๐ บาท ครัง้ ที่ ๑๐ จังหวดั สงขลา จงั หวดั ปตั ตานีและจงั หวัดนราธวิ าส เม่ือวันจันทร์ที่ ๑๘ ถึงวันอังคารที่ ๑๙ เมษายน ๒๕๖๕ คณะกรรมาธิการได้เดินทางไปยัง พ้ืนท่ที ไ่ี ด้รบั ผลกระทบจากปญั หาคล่นื ทะเลกัดเซาะชายฝงั่ ดงั น้ี ๑) หาดสร้อยสวรรค์ ตาบลเทพา อาเภอเทพา จงั หวดั สงขลา เน่ืองจากคณะกรรมาธิการได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับปัญหาคล่ืนทะเลกัดเซาะชายฝั่ง ในพ้ืนท่ีดังกล่าว ซ่ึงหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องได้ชี้แจงและให้ข้อมูลต่อคณะกรรมาธิการวา่ ได้ขอรับงบประมาณ ในการกอ่ สร้างโครงสร้างป้องกนั ปัญหาคลนื่ ทะเลกดั เซาะชายฝัง่ และอยใู่ นระหวา่ งเร่งรัดในขน้ั ตอนต่อไป ๒) หาดปะนาเระ ตาบลปะนาเระ อาเภอปะนาเระ หาดตะโละกาโปร์ ตาบลตะโละกาโปร์ อาเภอยะหรง่ิ และหาดบ้านบางเกา่ ตาบลบางเก่า อาเภอสายบุรี จงั หวัดปัตตานี ชายหาดดังกล่าว ได้รับผลกระทบจากปัญหาคล่ืนทะเลกัดเซาะชายฝั่ง ซ่ึงหน่วยงาน ท่ีเกี่ยวข้องได้ช้ีแจงและให้ข้อมูลแก่คณะกรรมาธิการเกี่ยวกับแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยคณะกรรมาธิการได้รับทราบแนวทางการแก้ไขปัญหาและได้ให้ข้อเสนอแนะและข้อสังเกต ในการดาเนินการ รวมทั้งขอให้หน่วยงานต่าง ๆ ได้พิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหาที่ตรงกับ
๑๑ ความต้องการของประชาชน รวมทั้งไม่ส่งผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อม สภาพชายหาด และระบบนิเวศ ท้ังนี้ เพือ่ เปน็ การแกไ้ ขปญั หาไดอ้ ยา่ งย่งั ยืน ๓) หาดนราทัศน์ ตาบลบางนาค อาเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส และชายหาด บ้านโคกเคียน ตาบลโคกเคียน อาเภอเมอื งนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส คณะกรรมาธิการได้รับทราบข้อมูลคล่ืนทะเลกัดเซาะชายฝ่ังในพ้ืนท่ีท้ังสองชายหาด ข้างต้น จึงได้เดินทางไปตรวจสภาพพื้นท่ีดังกล่าว โดยได้รับทราบข้อมูลจากหน่วยงานที่เก่ียวข้อง และขอให้หน่วยงานรับไปดาเนินการแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชน ท้ังน้ี ต้องคานึงถึงความต้องการ ของประชาชนและผลกระทบท่ีอาจเกิดข้นึ จากการก่อสร้างโครงสรา้ งแขง็ ด้วย ครั้งท่ี ๑๑ จังหวดั จันทบรุ แี ละจังหวัดระยอง เมื่อวันพุธที่ ๔ ถึงวันพฤหัสบดีท่ี ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๕ คณะกรรมาธิการได้เดินทางไปยัง พ้นื ท่ที ไ่ี ดร้ บั ผลกระทบจากปัญหาคลน่ื ทะเลกดั เซาะชายฝัง่ ดงั น้ี ๑) หาดคงุ้ วิมาน อาเภอนายายอาม และอ่าวคุ้งกระเบน อาเภอท่าใหม่ จงั หวัดจนั ทบรุ ี คณะกรรมาธิการได้เดินทางไปศึกษาดูงานและตรวจสภาพพื้นท่ี เนื่องจากพื้นท่ีดังกล่าว เป็นพ้ืนที่ที่ได้รับผลกระทบจากคลื่นทะเลกัดเซาะชายฝ่ัง โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองได้ก่อสร้าง โครงสร้างปอ้ งกันการกัดเซาะชายฝั่ง และไดร้ บั ทราบขอ้ มูลจากกรมโยธาธกิ ารและผังเมอื งและหน่วยงาน ที่เก่ียวข้อง ซึ่งคณะกรรมาธิการมีข้อห่วงกังวลเกย่ี วกับผลกระทบทอ่ี าจเกิดขึ้นจากการก่อสรา้ งโครงสรา้ งแข็ง เพอ่ื ให้กรมโยธาธิการและผังเมอื งรบั ไปดาเนินการในส่วนทเ่ี กย่ี วขอ้ งตอ่ ไป ๒) ปากน้าประแส อาเภอแกลง และหาดดวงตะวนั หาดสวนสน หาดแสงจันทร์ อาเภอเมอื ง ระยอง จังหวัดระยอง พ้นื ทด่ี งั กลา่ วขา้ งต้นเป็นพ้นื ทท่ี เ่ี กดิ การกัดเซาะชายฝ่งั โดยพื้นทีป่ ากน้าประแส ได้มกี ารนา ไมไ้ ผม่ าปักเพื่อชะลอคลื่น ซ่ึงได้ผลคอ่ นขา้ งดี ประชาชนในพ้ืนที่จงึ ขอให้หน่วยงานทเี่ กี่ยวข้องดาเนนิ การ เพ่ิมเติมเพื่อให้ไม้ไผ่มีความแข็งแรงมากข้ึน รวมทั้งเพิ่มพ้ืนท่ีปักไม้ไผ่เพื่อป้องกันปัญหาดังกล่าวในพ้ืนท่ี ต่อเน่ือง ในส่วนของหาดดวงตะวัน หาดสวนสน หาดแสงจันทร์ เป็นพ้ืนที่ที่มีการกัดเซาะเช่นเดียวกัน โดยมกี ารกอ่ สรา้ งโครงสร้างของกรมเจ้าทา่ ซงึ่ ท่ผี ่านมาโครงสร้างสามารถปอ้ งกันและแก้ไขปัญหาได้ดี ครัง้ ท่ี ๑๒ จังหวัดนครศรธี รรมราชและจังหวัดสรุ าษฎรธ์ านี เมื่อวันจันทร์ท่ี ๖ ถึงวันอังคารที่ ๗ มิถุนายน ๒๕๖๕ คณะกรรมาธิการได้เดินทางไป อ่าวท้องโหนด ตาบลท้องเนียน อาเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อนั่งเรือชมโลมาสีชมพู ซึ่งเป็นทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลท่ีสาคัญ และได้รับฟังขอ้ มลู จากหนว่ ยงานท่ีเก่ียวขอ้ งกับการพัฒนา ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล ซ่ึงคณะกรรมาธิการได้รับทราบและขอให้หน่วยงานต่าง ๆ บูรณาการ การทางานร่วมกันในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ รวมท้ังช่ืนชมการรวมกลุ่มของประชาชนในพ้ืนท่ี ท่ีร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติอย่างเข้มแข็ง จากนั้นคณะกรรมาธิการได้เดินทางไปยังอาเภอ เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี และได้ประชุมร่วมกับหัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เก่ียวข้อง กับการแก้ไขปัญหาคลื่นทะเลกัดเซาะชายฝ่ังในพ้ืนท่ีอาเภอเกาะสมุย โดยได้รับทราบว่า ชายทะเลหมู่ ๑ ตาบลแม่น้า และชายทะเลหมู่ ๕ ตาบลอ่างทอง เป็นพ้ืนท่ีท่ีได้รับผลกระทบ ซึ่งองค์กรปกครอง
๑๒ ส่วนท้องถิ่นได้ให้ข้อมูลว่า ขาดงบประมาณและองค์ความรู้ในการดาเนินกา รแก้ไขปัญหา คณะกรรมาธิการจึงขอให้หนว่ ยงานทเ่ี กีย่ วขอ้ งรับไปบูรณาการเพือ่ ร่วมกนั แกไ้ ขปัญหาตอ่ ไป คร้งั ท่ี ๑๓ จงั หวัดสตูล เม่ือวันเสาร์ที่ ๙ ถึงวันอาทิตย์ท่ี ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๖๕ คณะกรรมาธิการได้เดินทางไป ท่ีทาการอุทยานแห่งชาติตะรุเตา เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปจากเจ้าหน้าท่ีของอุทยานเก่ียวกับ การบริหารจัดการและพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล การจัดการขยะ และน้าเสีย ในพ้ืนท่ี ของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จากนั้นได้เดินทางไปยังที่ทาการอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา เพ่ือรับฟัง การบรรยายสรุปจากเจ้าหน้าที่ของอุทยานเก่ียวกับการบริหารจัดการและพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติ ทางทะเล การจัดการขยะ น้าเสีย ในพื้นท่ีของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา รวมท้ังตรวจสภาพพ้ืนที่ บริเวณสะพานขา้ มกาลเวลาและเขตข้ามกาลเวลา นอกจากนีค้ ณะกรรมาธิการได้เดินทางไปเกาะลดิ ีเลก็ ในพ้ืนท่ีของอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตราเพ่ือตรวจสภาพพ้ืนท่ีเก่ียวกับการบริหารจัดการและพัฒนา ทรพั ยากรธรรมชาติทางทะเล ต่อมาคณะกรรมาธิการได้เดินทางไปหาดปากบารา ตาบลปากน้า อาเภอละงู จังหวัดสตูล เพ่ือตรวจสภาพพื้นท่ีเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝ่ัง ซึ่งมีการวางโครงสร้าง เตตราพอดส์ (Tetrapods) บนชายหาด และได้เดินทางไปยังหาดบางศิลา ตาบลละงู อาเภอละงู จังหวัดสตูล เพื่อตรวจสภาพพ้ืนท่ีเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝ่ัง ซึ่งมีการก่อสร้างโครงสร้างแข็งกันคลื่นทะเลและการเรียงหิน ท้ังนี้ ได้รับทราบข้อมูลจากหน่วยงาน ทเี่ กี่ยวขอ้ ง เพอ่ื นามาใช้เปน็ ข้อมูลประกอบการพจิ ารณาของคณะกรรมาธิการต่อไป ๒. ผซู้ ึง่ คณะกรรมาธกิ ารวสิ ามญั ไดเ้ ชญิ มาชแี้ จงแสดงความคิดเหน็ ๑) กระทรวงมหาดไทย กรมทีด่ ิน (๑) นายณรงค์ สืบตระกลู รองอธบิ ดกี รมทด่ี นิ (๒) นายอนนั ต์ หนปู าน นกั วชิ าการทด่ี นิ ชานาญการพิเศษ (๓) นางสาวขนิษฐา วงศส์ วสั ดิ์ ผู้อานวยการสว่ นจดั การทด่ี นิ ของรัฐ (๔) นายขวัญชยั อรญั เวช ผู้เชีย่ วชาญเฉพาะดา้ นการจดั การทด่ี นิ ของรัฐ กรงุ เทพมหานคร (๑) นายขจติ ชัชวานชิ ย์ รองปลดั กรุงเทพมหานคร (๒) นายสมศกั ด์ิ มอี ดุ มศกั ด์ิ รองผอู้ านวยการสานกั การระบายนา้ (๓) นายพลเฉลิม ศรมณี ผอู้ านวยการเขตบางขุนเทียน (๔) นายวษิ ณุ เจรญิ ผอู้ านวยการสว่ นวิชาและแผน (๕) นางสาวชตุ ิมา เจง๋ ที่ วิศวกรโยธา กรมโยธาธกิ ารและผงั เมอื ง (๑) นายพงษน์ รา เยน็ ยิ่ง รองอธบิ ดกี รมโยธาธกิ ารและผงั เมอื ง (๒) นายจาตรุ นต์ โรจนห์ ิรญั หวั หนา้ กลุ่มงานพัฒนาพื้นทต่ี ลงิ่ รมิ นา้ และรมิ ทะเลท่วั ประเทศ
๑๓ (๓) นายไพโรจน์ เทศอ่า วศิ วกรโยธาชานาญการพเิ ศษ (๔) นายธนากร ยันตรกิจ วศิ วกรโยธา (๕) นายจริ กร มสุ ิกะพนั ธ์ วิศวกร (๖) นายอุทัย อุพันทา นักทรพั ยากรบคุ คลชานาญการ (๗) นางสาวลัดดาวลั ย์ จริ ะมติ รชัย ผู้ประสานงานกรมโยธาธกิ ารและผงั เมอื ง (๘) นางสาวเยาวลักษณ์ จรัสเอย่ี ม (๙) นายไมตรี ประทปี ณ ถลาง โยธาธิการและผังเมืองจงั หวดั สงขลา จงั หวดั สงขลา ผอู้ านวยการสานกั การชา่ ง นายผดงุ เดช ลอื ปยิ ะพาณชิ ย์ ผอู้ านวยการสว่ นวิศวกรรมกอ่ สรา้ งเมืองพัทยา เมอื งพัทยา (๑) นายบุญเทียน จันสุข รองผ้วู า่ ราชการจงั หวัดประจวบครี ีขนั ธ์ (๒) นายณัฐพงศ์ แสนทวสี ขุ จังหวดั ประจวบครี ีขนั ธ์ ปลดั องค์การบริหารสว่ นตาบลแมร่ าพงึ นายคมกรชิ เจริญพฒั นสมบัติ องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตาบลแม่ราพงึ นายเจรญิ ออมสนิ ๒) กระทรวงคมนาคม กรมเจา้ ท่า (๑) นายสมพงษ์ จิรศริ ิเลศิ รองอธบิ ดีกรมเจ้าท่า (๒) นายวรรณชยั บตุ รทองดี ผอู้ านวยการกองวศิ วกรรม (๓) นายอนนั ต์ แกว้ วเิ ชยี ร ผูอ้ านวยการสานักงานพฒั นา และบารุงรักษาทางนา้ ที่ ๔ (๔) นายอภสิ ิทธิ์ คาภิโร ผู้อานวยการสานกั งานเจา้ ทา่ ภูมิภาค สาขาประจวบครี ขี นั ธ์ (๕) นายกติ ตริ ัศมิ์ เมธกี ลุ วิศวกรโยธาชานาญการพเิ ศษ (๖) นางจฑุ ามาศ อชั กลุ วศิ วกรโยธาชานาญการ (๗) นายบลั ลงั ก์ เมี่ยงบวั วศิ วกรโยธาชานาญการ (๘) ศาสตราจารยธ์ นวฒั น์ จารพุ งษส์ กลุ ท่ปี รกึ ษากรมเจ้าท่า (๙) นายสมเจน รกั ขประเสริฐ นกั วชิ าการขนสง่ ชานาญการ รักษาการในตาแหนง่ ผู้อานวยการสานกั งาน เจา้ ท่าภูมภิ าค สาขานครศรธี รรมราช (๑๐) นายจตพุ ร เคว็จดา เจ้าพนกั งานตรวจท่าชานาญการ (๑๑) นายอสิ รยี ์กร แกว้ ประเสรฐิ นิตกิ รปฏิบตั ิการ (๑๒) นางสาวอารีรตั น์ จุย้ ฮก นกั วชิ าการขนส่งปฏิบตั ิการ (๑๓) นางสาวอรณชิ า แผ่พร ผปู้ ระสานงานโครงการ
๑๔ ๓) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อม กรมทรพั ยากรทางทะเลและชายฝัง่ (๑) นางสาวพรศรี สทุ ธนารกั ษ์ รองอธบิ ดกี รมทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ัง (๒) นายปรานต์ ดิลกคุณากลุ ผู้อานวยการกองอนรุ กั ษท์ รพั ยากรชายฝัง่ (๓) นายอกุ กฤต สตภมู ินทร์ ผู้อานวยการกองอนรุ ักษท์ รพั ยากรทางทะเล (๔) นางสาวนวพร สุญาณเศรษฐกร ผอู้ านวยการสว่ นนโยบาย และแผนการบรหิ ารจดั การพ้นื ทีช่ ายฝ่ัง (๕) นายณรงค์ หมดั สุข ผ้อู านวยการสว่ นอนรุ กั ษแ์ ละฟ้ืนฟูพื้นท่ีชายฝงั่ (๖) นางสาวจนั ทร์เพญ็ จนั ทรท์ มิ นักวเิ คราะหน์ โยบายและแผนชานาญการ (๗) นางสาวพลู ศรี จนั ทรค์ ลี่ นกั วเิ คราะหน์ โยบายและแผนชานาญการ (๘) นายพรี ะวฒั น์ บญุ ขจรกุล นกั วเิ คราะหน์ โยบายและแผน (๙) นายภคอากร วพิ ัฒน์ครุฑ นักวเิ คราะหน์ โยบายและแผน (๑๐) นายปรญิ ญา ต้องกระโทก วิศวกรโยธาปฏบิ ัตกิ าร (๑๑) นายหาญณรงค์ แกว้ ประเสรฐิ วศิ วกรโยธาปฏบิ ตั กิ าร (๑๒) นางสุรสั วดี พรหมยอด นิติกรชานาญการ (๑๓) นายยุทธภมู ิ พฤกษชาติ นิตกิ ร (๑๔) นายปฏพิ ัทธ์ มาโพธ์ิชัย นติ ิกร (๑๕) นางสาวเลศิ กลั ยา แกว้ มงคล นติ ิกร (๑๖) นายยุทธภมู ิ พฤกษชาติ นิตกิ ร (๑๗) นายกติ ตริ ชั อนิ ทรศริ ิ นักธรณีวิทยาปฏบิ ตั ิการ (๑๘) นายศุภกิจ เกตุแกว้ นักธรณีวทิ ยาปฏิบตั กิ าร (๑๙) นางสาวรัชดาภรณ์ พัฒนโภครตั นา นกั วชิ าการส่ิงแวดลอ้ มปฏิบตั กิ าร (๒๐) นายพงษว์ ิทติ จอื เหลียง นกั วชิ าการสิง่ แวดล้อม (๒๑) นางสาวปวณี า พร้อมมงคล เจา้ หนา้ ที่ภมู สิ ารสนเทศ (๒๒) นางสาวอรธีรา ศรสี วสั ด์ิ นกั ธรณีวทิ ยา (๒๓) ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์ อทิ ธพิ ล ศรเี สาวลกั ษณ์ กรมอุทยานแหง่ ชาติ สตั วป์ ่า และพนั ธพ์ุ ืช (๑) นายประกติ วงศ์ศรีวฒั นกลุ รองอธบิ ดีกรมอทุ ยานแห่งชาติ สตั ว์ป่า และพนั ธ์พุ ืช (๒) นายจตรุ เทพ โกสนิ ทวงศ์ ผ้อู านวยการสว่ นจดั การ อุทยานแหง่ ชาตทิ างทะเล (๓) นายสุกฤติ กระต่ายจนั ทร์ หวั หนา้ อทุ ยานแหง่ ชาติแหลมสน (๔) นายชยั ณรงค์ เรอื งทอง หวั หนา้ ศูนย์ปฏิบตั ิการอทุ ยานแหง่ ชาติ ทางทะเลท่ี ๓ จังหวดั ตรงั (๕) นายปรญิ ญา ภศู กั ดสิ์ าย นักวชิ าการป่าไมช้ านาญการ (๖) นายธรี ภทั ร ซาซุม นกั วชิ าการปา่ ไม้ปฏบิ ตั กิ าร
๑๕ (๗) นางสาววนิษา ทองช่ืน นกั วชิ าการป่าไมป้ ฏบิ ัตกิ าร (๘) นายฉตั รบดนิ ทร์ อนิ ทรสมบตั ิ นติ ิกรปฏบิ ตั ิการ (๙) นายธรรมนญู สวุ รรณมณี เจา้ พนักงานปา่ ไมช้ านาญงาน กรมประมง (๑) นายเฉลมิ ชัย สวุ รรณรกั ษ์ รองอธบิ ดกี รมประมง (๒) นาวาโท พรชัย สงิ หบญุ ผู้เชย่ี วชาญดา้ นเครือ่ งมือประมง (๓) นางกฤษณา จันทร์แกว้ นกั วชิ าการประมงชานาญการพิเศษ (๔) นายยานยนต์ สราญรมย์ นิตกิ รชานาญการพเิ ศษ (๕) นางสาวอุไรวรรณ ชานาญเวช นักวชิ าการประมงชานาญการ สานกั งานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (๑) นายประเสรฐิ ศริ นิ ภาพร รองเลขาธกิ ารสานกั งานนโยบายและแผน ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม (๒) นางเสาวภา หญิ ชรี ะนนั ทน์ ผู้อานวยการกองพัฒนาระบบ การวเิ คราะหผ์ ลกระทบสงิ่ แวดลอ้ ม (๓) นายอศิ รพนั ธ์ กาญจนเรขา ผ้อู านวยการกองสงิ่ แวดล้อมชมุ ชน และพน้ื ทเี่ ฉพาะ (๔) นายพงษ์ศักดิ์ เออื้ สวุ รรณา นักวชิ าการสิ่งแวดล้อมชานาญการพิเศษ (๕) นางภทั รนิ ทร์ ทองสมิ า นกั วชิ าการสิ่งแวดล้อมชานาญการพิเศษ (๖) นายวุฑฒิ ศรคี าภา นกั วชิ าการสง่ิ แวดล้อมชานาญการ (๗) นางภาสพชิ ญ์ มโนมยิทธกิ าญจน์ นักวชิ าการส่งิ แวดล้อมชานาญการ (๘) นางสาวสุจติ รา อยทู่ อง นกั วชิ าการสิ่งแวดล้อมชานาญการพเิ ศษ (๙) นางสาวมนัสธยา แตงโสภา นกั วชิ าการสิง่ แวดลอ้ มชานาญการ (๑๐) นางสาวตวงพร ประเสรฐิ สนิ ธ์ุ นักวชิ าการสงิ่ แวดล้อมชานาญการ ๔) คณะกรรมการสทิ ธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาติ รองเลขาธกิ ารคณะกรรมการ (๑) นายอัญญะรัฐ เอ่งฉว้ น สทิ ธมิ นุษยชนแหง่ ชาติ ผ้อู านวยการกลุ่มงานตรวจสอบการละเมดิ (๒) นายภาณุพนั ธ์ สมสกุล สิทธมิ นษุ ยชน ๔ นักวชิ าการสิทธมิ นุษยชนชานาญการ (๓) นางสาวกมลชนก วรี ะนาวนิ นกั วชิ าการสิทธมิ นุษยชนชานาญการ (๔) นางสาวศริ ิลดา ผวิ หอม นิตกิ ร (๕) นายชาครติ รว่ มทวี ๕) ผูเ้ สนอเร่ือง และคณะ (๑) นายพงศ์ชิณศกั ด์ิ พลายดว้ ง (๒) นายดลวา้ หาบ คงสดุ
๑๖ (๓) นายประภาส พัฒนช์ ูชพี (๔) นายนธิ วิ ฒั น์ ชนิ พงศ์ (๕) นายอภิศักดิ์ ทศั นี (๖) นางสาวเฉลมิ ศรี ประเสรฐิ ศรี (๗) นายวิชยั แกว้ นพรตั น์ (๘) นางสาวกรรณกิ าร์ แพแก้ว (๙) นายพนู ศกั ดิ์ สิทธโิ ชคธนา (๑๐) นางศรีประภา สทิ ธโิ ชคธนา (๑๑) นายเฉลมิ ศักดิ์ ทองเสน (๑๒) นางพชั รีย์ สมพืช (๑๓) นายทตั พงศ์ ทองเสน (๑๔) นายมุสตารซีดนี วาบา (๑๕) นายประทีป อบเชย (๑๖) นายนนั ทชยั สขุ เก้ือ ๓. การพจิ ารณาของคณะกรรมาธิการ ๓.๑ สถานการณก์ ารกดั เซาะชายฝ่งั ของประเทศไทย ชายฝ่ังคือบริเวณเชื่อมต่อกันระหว่างพ้ืนดินและพ้ืนทะเล ดังน้ัน พื้นท่ีชายฝั่งจึงเป็น บริเวณทไ่ี ด้รับอิทธพิ ลทง้ั จากแผ่นดินและทะเล ทาให้ชายฝ่งั มกี ารเปลีย่ นแปลงตลอดเวลาตามธรรมชาติ และส่วนใหญ่สามารถฟื้นตัวหรือปรับสภาพเข้าสู่สมดลุ ไดเ้ อง แต่ปัจจุบันการใช้ประโยชน์จากทรัพยากร ชายฝั่งและการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจ ทาให้ชายฝ่ังเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างถาวร และยังทาให้ การเปล่ียนแปลงท่ีเกิดตามธรรมชาติน้ันทวีความรุนแรงมากย่ิงขึ้นจนไม่สามารถปรับเข้าสู่สมดุลได้ โดยเฉพาะปัญหาการกัดเซาะชายฝ่ัง ในการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝ่ังจาเป็นต้องเข้าใจสาเหตุ ของการกัดเซาะทั้งจากกระบวนการทางธรรมชาติ และกิจกรรมของมนุษย์ และจาเป็นต้องศึกษา วิเคราะหส์ ถานภาพการเปลีย่ นแปลงชายฝัง่ อย่างสม่าเสมอเพ่อื ใหเ้ กดิ การแกไ้ ขปัญหาการกัดเซาะชายฝ่ัง อยา่ งเปน็ ระบบและยงั่ ยนื ประเทศไทยมีความยาวชายฝั่งทะเล ๓,๑๕๑.๑๓ กิโลเมตร แบ่งออกเป็นชายฝั่งทะเล ด้านอ่าวไทย ๒,๐๓๙.๗๘ กิโลเมตร และชายฝั่งทะเลอันดามัน ๑,๑๑๑.๓๕ กิโลเมตร จากการสารวจ วิเคราะหข์ ้อมูลการเปลี่ยนแปลงชายฝั่งทะเลโดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พบว่า พ้ืนที่ชายฝ่งั ท่ีประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝ่ัง มีความยาวประมาณ ๗๙๔.๓๗ กิโลเมตร แบ่งออกเปน็ พื้นทีก่ ดั เซาะ ท่ียังไม่ดาเนินการแก้ไข ระยะทาง ๙๑.๖๙ กิโลเมตร (พื้นท่ีกัดเซาะรุนแรง ระยะทาง ๑๒.๘๗ กิโลเมตร พนื้ ท่ีกัดเซาะปานกลาง ระยะทาง ๒๘.๖๔ กิโลเมตร และพ้นื ท่ีกัดเซาะนอ้ ย ระยะทาง ๕๐.๑๘ กโิ ลเมตร) และพื้นที่ชายฝั่งท่ีไม่มีการกัดเซาะ ระยะทาง ๒,๓๕๖.๗๖ กิโลเมตร (พื้นท่ีชายฝั่งสมดุล ระยะทาง ๑,๖๑๒.๒๘ กิโลเมตร พ้ืนที่หาดหินหรือหน้าผา ระยะทาง ๔๘๘.๓๓ กิโลเมตร พื้นท่ีชายฝั่งท่ีมีการสะสมตวั ของตะกอน ระยะทาง ๓๑.๕๐ กิโลเมตร พ้ืนที่ก่อสร้างรุกล้าแนวชายฝ่ัง ระยะทาง ๗๐.๙๐ กิโลเมตร และพืน้ ที่ปากแม่น้าหรอื ปากคลอง ระยะทาง ๑๕๓.๗๖ กโิ ลเมตร)
๑๗ จากสถานการณ์ดังกล่าว เนื่องจากเกิดการเปลี่ยนแปลงสภาพพ้ืนท่ีแนวชายฝั่งทะเล หลายจังหวัดในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นจังหวัดตราด จังหวัดจันทบุรี จัดหวัดระยอง จังหวัดชลบุรี จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดสมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร จังหวัดสมุทรสาคร จังหวัดสมุทรสงคราม จังหวัดเพชรบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดชุมพร จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดนครศรีธรรมราช จังหวัดสงขลา จังหวัดปัตตานี จังหวัดนราธิวาส จังหวัดระนอง จังหวัดพังงา จังหวัดภูเก็ต จังหวัดกระบี่ จังหวัดตรัง และจังหวัดสตูล ได้ประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝ่ังเป็นอย่างมาก ทาให้ที่ดินที่เป็นของรัฐ และของประชาชนเกิดความเสียหาย ส่งผลกระทบโดยตรงต่อประชาชนที่อยู่อาศัยในพ้ืนท่ีชายฝ่ัง ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่าแต่ละพ้ืนที่มีขีดความสามารถในด้านต่าง ๆ แตกต่างกันไป และประการสาคัญ มีผลกระทบต่อท่ีอยู่อาศัยของพ่ีน้องประชาชน ดังน้ัน หากไม่เร่งศึกษาเพ่ือหาทางแก้ไขอย่างเป็นระบบ และย่ังยืน ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ในเร่ืองที่อยู่อาศัย วิถีชีวิตของพ่ีน้องประชาชนในพื้นที่ มีผลกระทบต่อศักยภาพในการพัฒนาของประเทศในด้านต่าง ๆ และท้ายที่สุดก็จะก่อให้เกิดปัญหา ทางด้านอื่น ๆ ตามมาอีกมากมาย ดังนั้น จึงมีการเสนอญัตติด่วนเพื่อขอให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ต้ังคณะกรรมาธิการพิจารณาศึกษาแนวทางการแก้ไขปัญหาคลื่นทะเลกัดเซาะชายฝ่ังและการพัฒนา ทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลอย่างเป็นระบบขึ้น เพื่อ พิจารณาศึกษาและหาแนวทางแก้ไข ในเรื่องดังกลา่ วต่อไป สาเหตุของปัญหาการกดั เซาะชายฝ่งั ทะเล ๑) การทาลายแนวป้องกันการกัดเซาะตามธรรมชาติ เช่น การทาลายป่าชายเลน ป่าชายหาดแนวสันทราย หาดทราย และปะการัง เป็นต้น โดยการบุกรุกทาลายพ้ืนที่ป่าชายเลน มักพบในบริเวณชายฝั่งที่เป็นหาดโคลนและใกล้ปากแม่น้า ซ่ึงโดยปกติแนวป่าชายเลนจะทาหน้าที่ เป็นแนวป้องกันคลื่นลม ดักตะกอนเลน รักษาแนวชายฝั่งไว้ตามธรรมชาติ เมื่อเกิดการบุกรุก ทาลาย หรือเปลยี่ นแปลงสภาพแนวปา่ ชายเลนเพ่ือการใช้ประโยชนพ์ ้นื ท่ี เช่น เป็นที่อยอู่ าศยั และทาบอ่ เล้ยี งกุ้ง เป็นต้น จึงส่งผลให้เสถียรภาพของชายฝ่ังเปราะบางลง ชายฝ่ังพังทลายได้ง่ายข้ึน โดยเฉพาะบริเวณ คันบ่อเลี้ยงกุ้งเมื่อเกิดการพังทลายลงจะทาใหเ้ กิดการกัดเซาะเขา้ มาในแนวชายฝั่งตามความยาวของบอ่ อย่างรุนแรง สาหรับประเทศไทยพบว่า มีการกัดเซาะเน่ืองจากการบุกรุกทาลายพื้นท่ีป่าชายเลน มาตั้งแต่อดีตในหลายพืน้ ท่ี ไดแ้ ก่ พืน้ ท่ีอ่าวไทยฝั่งตะวนั ออก เชน่ จังหวัดตราด จงั หวดั จันทบรุ ี และพ้นื ที่ อ่าวไทยตอนบน เช่น จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดสมุทรปราการ กรุงเทพมหานคร จังหวัดสมุทรสาคร และจงั หวดั สมทุ รสงคราม เป็นตน้ ๒) การกัดเซาะจากการรบกวนหรือเปล่ียนแปลงสภาพตามธรรมชาติ อาทิ กิจกรรม หรือการก่อสร้างที่ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการพัดพาของตะกอนหรือการเคลื่อนท่ีของคล่ืน การพฒั นาและการก่อสร้างทัง้ บริเวณริมชายฝั่งและบนแผ่นดนิ พบว่า ในหลายพื้นที่ได้มีการพฒั นาพ้ืนท่ี ชายฝั่งเป็นที่อยู่อาศัย สิ่งก่อสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งถนนเลียบชายฝ่ังท่ีมีการก่อสร้างบนแนวสันทราย (Sand Dune) ซึ่งเป็นแหล่งสะสมและกักเก็บทรายของระบบการเปล่ียนแปลงสมดุลชายฝั่ง เม่ือมีการก่อสร้างหรือเปล่ียนแปลงสภาพในบริเวณดังกล่าวทาให้แนวชายฝั่งมีแนวโน้มท่ีจะประสบ ปัญหาการกัดเซาะ จึงนาไปสู่การแก้ไขปัญหาการกัดเซาะในรูปแบบต่าง ๆ โดยเฉพาะการใช้โครงสร้าง ทางวิศวกรรมในหลายพ้ืนที่ยิ่งเป็นตัวเร่งให้ปัญหาการกัดเซาะเกิดขึ้นต่อเน่ืองลุกลามไปยังพื้นที่ถัดไป โดยพบวา่ การก่อสรา้ งทางวศิ วกรรมบรเิ วณชายฝั่ง แบง่ ไดเ้ ป็น ๒ กลุ่ม ไดแ้ ก่
๑๘ ๒.๑) การกัดเซาะเน่ืองจากการเล้ียวเบนของกระแสน้าเมื่อส้ินสุดแนวโครงสร้าง ทางวิศวกรรม เช่น กาแพงกันคลนื่ เขือ่ นปอ้ งกันตลง่ิ ริมทะเล ท่าเทียบเรือ หรอื สิง่ กอ่ สรา้ งบริเวณชายฝั่ง ทสี่ ร้างรุกลา้ ลงไปในชายฝ่ังทไ่ี ดร้ ับอิทธพิ ลของการเปล่ียนแปลงชายฝง่ั ตามธรรมชาติ เปน็ ต้น ซึ่งจะส่งผล ให้เกิดการเลี้ยวเบนของคล่ืนและกระแสน้า ส่งผลต่อการพัดพาตะกอน และเป็นตัวกระตุ้นให้ชายหาด ข้างเคียงมีความเส่ียงที่จะประสบปัญหาการกัดเซาะเกิดขึ้น จึงนาไปสู่การก่อสร้างโครงสร้างแข็ง ต่อเน่ืองกนั ไปเรอื่ ย ๆ ๒.๒) การกัดเซาะชายฝั่งที่เร่ิมต้นจากการก่อสร้างโครงสร้างท่ีต้งั ฉากกับแนวชายฝง่ั เช่น รอดักทราย เข่ือนกันทรายและคลื่นปากร่องน้า และท่าเทียบเรือ เป็นต้น โครงสร้างดังกล่าว จะกีดขวางการเคลื่อนท่ีของตะกอนแนวชายฝ่ังตามธรรมชาติ ส่งผลให้ด้านเหนือน้าเกิดการสะสมตัว ของตะกอน ในขณะที่ด้านท้ายน้าจะเกิดการกัดเซาะข้ึน จึงนาไปสู่การก่อสร้างโครงสร้างทางวิศวกรรม เพื่อป้องกนั ชายฝง่ั ทาให้เกิดปัญหาการกดั เซาะลุกลามตอ่ เนอื่ งไปยังพืน้ ท่ถี ดั ไป ๓) การกัดเซาะเนื่องจากสาเหตุอื่น ๆ เช่น การเปลี่ยนแปลงบริเวณปากแม่น้า การปรับตัวเข้าสู่สมดุลใหม่จากการสะสมตัวของทรายตามธรรมชาติ การเปลี่ยนแปลงของธรณีสัณฐาน ชายฝัง่ และการกัดเซาะเน่ืองจากเหตกุ ารณ์ลมพายทุ รี่ ุนแรงผิดปกติ เป็นต้น ๓.๒ ปญั หาและอปุ สรรคในการแก้ไขปัญหาการกดั เซาะชายฝ่ัง ๑) ดา้ นองค์ความรู้ คอื ใช้วิธกี ารแก้ไขปัญหาท่ีไม่เหมาะสม ไม่ทนั ตอ่ ปัญหาความเดือดร้อน ของประชาชน และยงั มอี งค์ความรแู้ ละนวตั กรรมทีไ่ มเ่ พียงพอ ๒) ด้านงบประมาณ คือ ระบบกล่ันกรองงบประมาณขาดประสิทธิภาพ ประกอบกับ ช่องทางการของบประมาณไม่ชดั เจนและขาดการบรู ณาการ ๓) ด้านความรับผิดชอบและการบูรณาการ คือ หน่วยงานที่แก้ไขปัญหาไม่ทราบข้อมูล ทแี่ ทจ้ ริงและมกี ารทางานท่ีซา้ ซ้อนกัน ๓.๒.๑ สภาพปัญหา ๑) ปัญหาเกย่ี วกบั อานาจหน้าท่ีของหน่วยงานรัฐ ตามท่ีประชาชนผู้เสนอเรื่องได้มีหนังสือมายังคณะกรรมาธิการเพ่ือขอให้ ดาเนินการในส่วนที่เกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาคลื่นทะเลกัดเซาะชายฝั่ง ซ่ึงคณะกรรมาธิการได้เชิญ หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องมาให้ข้อมูลและข้อเท็จจริงประกอบการพิจารณา เพ่ือรับฟังปัญหาและร่วมกัน หาแนวทางแก้ไข สรุปสาระสาคญั ได้ ดงั น้ี (๑) กรณีขอให้หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องร่วมกันพิจารณาศึกษาแนวทาง การก่อสร้างโครงสร้างการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง บริเวณบ้านอ่าวเคย ตาบลม่วงกลวง อาเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง กรณีดังกล่าวคณะกรรมาธิการได้รับทราบข้อเท็จจริงและข้อมูล จากหนว่ ยงานทีเ่ กี่ยวข้อง ดังนี้ - กรมเจา้ ทา่ กรมเจ้าท่าได้รับการร้องเรียนจากประชาชนในพื้นท่ีเกี่ยวกับการแก้ไข ปัญหาการกัดเซาะชายฝ่ังบริเวณบ้านอ่าวเคย ตาบลม่วงกลวง อาเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง จึงได้ว่าจ้าง
๑๙ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์เป็นท่ีปรึกษาดาเนินโครงการศึกษาผลกระทบส่ิงแวดล้อมและสารวจออกแบบ โครงสร้างป้องกันการกดั เซาะชายฝัง่ ซึ่งผลการศกึ ษาพบวา่ พืน้ ท่โี ครงการบริเวณบ้านอา่ วเคยเปน็ ชายฝั่ง ทะเลซึ่งมีลักษณะโค้งเป็นอ่าว ระยะทางตามแนวชายฝั่งยาวประมาณ ๔ กิโลเมตร ประสบปัญหา การกัดเซาะท่ีรุนแรงและส่ิงปลูกสร้างริมชายฝั่งได้รับความเสียหาย อัตราการกัดเซาะสูงสุดประมาณ ๗ เมตรต่อปี จงึ ได้ศึกษารูปแบบโครงสร้างปอ้ งกันการกดั เซาะชายฝง่ั ทม่ี ีความเหมาะสม คือ ๑) การก่อสรา้ ง เขื่อนกันคล่ืน ๑ ตัว ยาว ๓๐๐ เมตร ยื่นต้ังฉากกับเขาอ่าวเคย ด้านทิศตะวันตก ๒) การก่อสร้าง รอดักทราย ๑ ตัว ยาว ๑๐๐ เมตร บริเวณเขาบางเบน ด้านทิศตะวนั ออก ๓) การก่อสรา้ งกาแพงหินทง้ิ (Revetment) บริเวณริมชายฝ่ังความยาวประมาณ ๑,๗๐๐ เมตร และ ๔) การเสริมทรายด้านหลัง กาแพงหินท้ิง โดยวันท่ี ๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๙ กรมเจ้าท่าได้นาส่งรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบ สงิ่ แวดลอ้ ม (Environmental Impact Assessment : EIA) ให้สานกั งานนโยบายและแผนทรพั ยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดลอ้ ม ซ่งึ มกี ารพจิ ารณาเมื่อวนั ท่ี ๒๒ สิงหาคม ๒๕๕๙ และมมี ติให้ปรับปรุงแกไ้ ข จากนนั้ วันท่ี ๓ มกราคม ๒๕๖๒ ได้นาส่งรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment : EIA) (รายงานช้ีแจงขอ้ มูลเพม่ิ เตมิ ครง้ั ที่ ๑) ให้สานกั งานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติ และส่ิงแวดล้อม โดยมีการพิจารณาเม่ือวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๒ และมีมติให้ปรับปรุงแก้ไข ซ่ึงกรมเจ้าท่าได้ทบทวนปรับรูปแบบโครงการโดยยกเลิกงานก่อสร้างเข่ือนกันคลื่นด้านทิศตะวันตก และรอดักทรายด้านทิศตะวันออก และก่อสร้างเฉพาะกาแพงหินท้ิงรมิ ชายฝั่ง (Revetment) ความยาว ประมาณ ๑,๗๐๐ เมตร และมีการเสริมทรายหลงั เขอื่ นหินท้งิ ดงั กล่าว เนื่องจากรูปแบบท่ีปรับปรุงแก้ไขไม่เข้าข่ายต้องจัดทารายงานงาน การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (Environmental Impact Assessment : EIA) และพ้ืนที่โครงการ อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติแหลมสน สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์ุพืช กรมเจ้าท่า จึงได้มีหนงั สือขอจดั ทาโครงการก่อสร้างกาแพงปอ้ งกนั การกดั เซาะชายฝัง่ รว่ มกนั กบั กรมอทุ ยานแหง่ ชาติ สัตว์ป่า และพันธพ์ุ ชื และได้สอบถามกรมทรพั ยากรทางทะเลและชายฝัง่ ว่า รูปแบบกาแพงหนิ รมิ ชายฝ่ัง ท่ีจะดาเนินการแก้ไขปัญหามีความเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งอุทยานแห่งชาติแหลมสน ได้มีหนังสือ ท่ี มส ๐๙๑๔.๕๐๙/๒๘๐ ลงวันท่ี ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๓ แจ้งวา่ กาแพงหนิ ทิง้ รมิ ชายฝงั่ เปน็ โครงสรา้ งแขง็ มีผลทาใหส้ ภาพชายหาดอ่าวเคยเปล่ียนแปลงไปจากเดิมอยา่ งถาวร จึงไม่เหน็ ดว้ ยกับการดาเนนิ โครงการ ดังกล่าว และขอให้ปรับเปล่ียนเป็นโครงสร้างชั่วคราว เช่น รั้วไม้ดักตะกอน เป็นต้น และกรมทรัพยากร ทางทะเลและชายฝั่ง ได้มีหนังสือ ที่ ทส ๐๔๐๔/๑๓๙๓ ลงวันที่ ๑๓ เมษายน ๒๕๖๓ แจ้งว่า ชายหาด บ้านอ่าวเคยมีลักษณะเป็นชายหาดสมดุล แนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ทเ่ี หมาะสม คอื การปรบั สมดุลชายฝงั่ โดยธรรมชาติ ท้ังน้ี กรมเจ้าท่าเห็นว่า ชายฝ่ังบริเวณบ้านอ่าวเคยประสบปัญหา การกัดเซาะ สมควรได้รับการแก้ไข โดยรูปแบบท่ีเหมาะสมทางด้านวิชาการแ ละเป็นที่ยอมรับ ของประชาชนในพ้ืนที่ คือ การก่อสร้างกาแพงหนิ ทง้ิ ริมชายฝั่ง อย่างไรก็ตาม อุทยานแห่งชาติแหลมสน ซึ่งเป็นผู้ดูแลพื้นที่ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ังซ่ึงเป็นหน่วยงานที่พิจารณาภาพรวมปัญหา การกัดเซาะชายฝั่งของประเทศเห็นว่า การดาเนินโครงการของกรมเจ้าท่าไม่มีความเหมาะสม และไมเ่ หน็ ดว้ ยกบั โครงการดังกล่าว กรมเจา้ ทา่ จึงได้ยุติโครงการไวเ้ พยี งเทา่ น้ี
๒๐ - กรมทรพั ยากรทางทะเลและชายฝงั่ สถานภาพชายฝ่ังจังหวัดระนอง พ.ศ. ๒๕๖๒ มีระยะทาง ๑๗๒.๕๔ กิโลเมตร ประกอบด้วย พื้นท่ีสมดุลระยะทาง ๑๖๑ กิโลเมตร และพ้ืนท่ีกัดเซาะระยะทาง ๑๑.๕๔ กิโลเมตร โดยมีระยะทางท่ีดาเนินการแก้ไขปัญหาแล้ว ๖.๑๑ กิโลเมตร และระยะทางท่ียังไม่มี การดาเนินการแก้ไข ๕.๔๓ กิโลเมตร ด้านสถานภาพชายฝ่ังระบบหาดอ่าวเคย (T7B168) มีความยาว ประมาณ ๒.๕๓ กิโลเมตร ซึ่งสาเหตุของการกัดเซาะชายฝั่งเกิดจากการกระทาของคล่ืนลมในฤดูมรสุม และจากเหตุการณ์ภัยพิบัติสึนามิ เมื่อวันท่ี ๒๖ ธันวาคม ๒๕๔๗ เนื่องจากอ่าวเคยเป็นหาดเปิดโล่ง ไม่มแี นวเกาะปอ้ งกนั คลืน่ ลม ทาใหค้ ล่ืนเข้ามาปะทะไดโ้ ดยตรง เป็นผลให้เกดิ การกดั เซาะชายฝ่ัง แ น ว ท า ง ก า ร ป้ อ ง กั น แ ล ะ แ ก้ ไ ข ปั ญ ห า ก า ร กั ด เ ซ า ะ ช า ย ฝ่ั ง ต า ม ม ติ คณะรัฐมนตรี เม่ือวันท่ี ๑๖ มกราคม ๒๕๖๑ สามารถจาแนกออกเป็น ๔ แนวทาง ๓ มาตรการ ซ่ึงมีการกาหนดรูปแบบการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝ่ังตามมาตรการสีขาว สีเขียว และสีเทา อันได้แก่ การกาหนดพื้นที่ถอยร่น การปลูกป่า การฟื้นฟูชายหาด การปักเสาดักตะกอน เพือ่ ปลูกป่าชายเลน เขอ่ื นกันคลืน่ นอกชายฝัง่ รอดกั ทราย เข่อื นปอ้ งกนั ตลิ่งริมทะเล และกาแพงป้องกนั คล่ืนริมชายหาด ให้เหมาะสมกับสภาพพนื้ ท่ีชายฝ่งั แต่ละแหง่ แนวทางท่ี ๑ การปรับสมดุลชายฝ่ังโดยธรรมชาติ คือ การคงไว้ซ่ึงสภาวะ สมดุลพลวัตหรือกระบวนการชายฝั่งตามธรรมชาติ เพ่ือปล่อยให้ชายฝั่งท่ีเกิดการกัดเซาะได้มีการปรับ สมดลุ และฟน้ื คนื สภาพธรรมชาติด้วยตนเอง แนวทางที่ ๒ การฟ้ืนฟูเสถียรภาพชายฝั่ง คือ การดาเนินการใด ๆ เพื่อให้ชายฝั่งท่ีถูกกัดเซาะไปแล้วฟ้ืนคืนสภาพเดิมตามธรรมชาติ และสามารถกลับมาให้บริการ ของระบบนิเวศไดต้ ามธรรมชาติ แนวทางที่ ๓ การป้องกนั ปัญหาการกัดเซาะชายฝ่ัง คือ การดาเนินกจิ กรรม ใด ๆ เพอ่ื ใหพ้ ้ืนทีท่ ปี่ ระสบปัญหาการกดั เซาะชายฝง่ั มอี ัตราการกดั เซาะชายฝ่งั ลดลง แนวทางท่ี ๔ การแกไ้ ขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง คือ การดาเนนิ กิจกรรม ใด ๆ เพื่อแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝ่ังในพ้ืนท่ีท่ีประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง ตลอดจนการแก้ไข ทีต่ น้ เหตุของปัญหาการกัดเซาะชายฝัง่ ปัจจุบันกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ังได้จัดทาหลักเกณฑ์ประกอบ การจัดทาแผนงานและโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝ่ัง ซึ่งหน่วยงาน ที่ จ ะ เ ส น อ โ ค ร ง ก า ร ป้ อ ง กั น แ ล ะ แ ก้ ไ ข ปั ญ ห า ก า ร กั ด เ ซ า ะ ช า ย ฝั่ ง จ ะ ต้ อ ง ไ ด้ รั บ ค ว า ม เ ห็ น ช อ บ จากคณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งแห่งชาติ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ัง พ .ศ. ๒๕๕๘ ซึ่งเป็นกฎหมายเก่ียวกับการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง โดยมา ตรา ๑๗ ได้กาหนดบทบาท ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในการระงับการกระทาที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากร ทางทะเลและชายฝ่ัง รวมท้ังแก้ไขหรือบรรเทาความเสียหายที่เกิดข้ึน และมาตรา ๒๑ กาหนดให้มี การออกกฎกระทรวงเพ่อื กาหนดเขตพ้ืนท่ีทจี่ ะใชม้ าตรการในการปอ้ งกนั การกดั เซาะชายฝ่ัง ทั้งน้ี แนวทางการดาเนินกิจกรรมที่เหมาะสมในพ้ืนที่ชายฝั่งระบบหาด อ่าวเคย คือ การปรับสมดุลชายฝั่งโดยธรรมชาติ เนื่องจากพ้ืนท่ีมีสภาพสมดุล ศักยภาพด้านการพัฒนา
๒๑ เป็นแหล่งท่องเท่ียวสูง และเป็นพ้ืนท่ีป่าอนุรักษ์ (อุทยานแห่งชาติแหลมสน) แต่หากต้องการป้องกัน การกัดเซาะชายฝ่ังในพื้นที่ สามารถใช้มาตรการชั่วคราวในรูปแบบการปักร้ัวไม้ชะลอคลื่น เพื่อลดความรนุ แรงของคลืน่ ท่เี ข้าปะทะชายฝ่ังได้ - กรมอุทยานแหง่ ชาติ สตั ว์ป่า และพันธุพ์ ชื ตามท่ีกรมเจ้าท่าได้ขอจัดทาโครงการร่วมกับอุทยานแห่งชาติแหลม สน เพื่อก่อสร้างโครงสร้างป้องกันการกัดเซาะชายฝ่ังบริเวณบ้านอ่าวเคย ตาบลม่วงกลวง อาเภอกะเปอร์ จังหวัดระนอง ซึ่งจะมีการก่อสร้างกาแพงหินทิ้ง และรอดักทรายน้ัน ตามประกาศกระทรวง ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดลอ้ ม เรื่อง กาหนดโครงการ กิจการ หรอื การดาเนินการ ซึ่งต้องจดั ทารายงาน การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขในการจัดทารายงาน การประเมินผลกระทบส่ิงแวดล้อม กาหนดว่าการก่อสร้างกาแพงหินทิ้ง และรอดักทรายจะต้องจัดทา รายงาน การ วิเคร าะห์ ผลกร ะทบสิ่งแ วด ล้อม (Environmental Impact Assessment : EIA) ซ่ึงกรมอทุ ยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธพ์ุ ืชพิจารณาแล้วเหน็ ว่า การก่อสรา้ งโครงสร้างในพ้ืนที่ดงั กล่าว เป็นรปู แบบท่ีไม่เหมาะสม เน่อื งจากจะสง่ ผลกระทบตอ่ ระบบนเิ วศในพนื้ ทใี่ กล้เคียง ทั้งน้ี มีวิธีการจานวนมากที่จะช่วยลดแรงของคลื่นท่ีจะเข้ามากระทบ ชายหาด โดยรปู แบบทีก่ รมอุทยานแหง่ ชาติ สตั วป์ ่า และพนั ธ์ุพืช เห็นว่าเหมาะสม คือ การนาโครงสร้าง คอนกรีตปะการังเทียมรูปโดมวางไว้ในทะเล ซ่ึงจะช่วยลดแรงคลื่นที่เข้ามากัดเซาะชายฝั่ง เป็นการใช้ งบประมาณอย่างคุ้มค่า และสามารถเป็นแหล่งอนบุ าลพันธุ์สัตว์น้าทะเล โดยมหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์ ไดด้ าเนินการศึกษาในหลายพน้ื ท่แี ละพบวา่ ได้ผลจรงิ สง่ ผลให้ทรายกลับเข้ามาในพนื้ ที่โดยธรรมชาติ ด้านมาตรการและแนวทางการให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับ ผลกระทบจากปัญหาคลื่นทะเลกัดเซาะชายฝั่ง กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์ุพืช ได้ทาการ สารวจพ้ืนที่ที่ถูกกัดเซาะชายฝ่ังร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ัง เพื่อให้ความช่วยเหลือ ประชาชน โดยใช้โครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งท่ีไม่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ เพื่อให้เกิดการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรทางทะเลในอนาคต อย่างไรก็ตาม หากชุมชนบ้านอ่าวเคย ต้องการพื้นที่สาหรับนาเรอื ขน้ึ และลงก็สามารถออกแบบโครงสร้าง เพ่ือให้ชาวประมงสามารถใช้วิถีชวี ติ ไดต้ ามปกติ โดยไม่จาเป็นต้องทาร้ัวไมด้ ักตะกอนทรายตลอดแนวระยะทาง ๑,๗๐๐ เมตร (๒) กรณีขอให้ระงับการดาเนินโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตล่ิงริมทะเล พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ พ้ืนท่ีชายฝั่งหาดมหาราช อาเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ระยะที่ ๒ และระยะท่ี ๓ ของกรมโยธาธกิ ารและผังเมอื ง กรณีดังกล่าวคณะกรรมาธิการได้รับทราบข้อเท็จจริงและข้อมูล จากหน่วยงานที่เกยี่ วขอ้ ง ดังนี้ - กรมโยธาธกิ ารและผงั เมือง ขั้นตอนการดาเนินโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลของกรมโยธาธกิ าร และผังเมอื ง ๑) สานกั งานโยธาธกิ ารและผังเมอื งจังหวดั รับคาขอโครงการและงบประมาณ จากองค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ ๒) สารวจพ้ืนท่ีและตรวจสอบสภาพความรุนแรงของปัญหาท่ีส่งผลกระทบ ต่อประชาชน เพ่ือคัดเลอื กพ้ืนทด่ี าเนนิ โครงการ ๓) ตรวจสอบข้อมูลการกัดเซาะโดยพิจารณาความสอดคล้องกับรายงาน สถานการณ์การกัดเซาะของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมทั้งวิเคราะห์การกัดเซาะชายฝ่ัง
๒๒ โดยภาพถา่ ยดาวเทียมความละเอียดสงู และภาพถา่ ยทางอากาศ ปปี จั จุบนั และปยี อ้ นหลัง และวเิ คราะห์ สภาพความเสียหายท่เี กดิ ขึ้น เช่น ถนน และบา้ นเรอื นของประชาชน เปน็ ตน้ ๔) จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะในพื้นท่ี คร้ังท่ี ๑ โดยเชิญ กลุ่มเป้าหมายท่ีเก่ียวข้อง ประกอบด้วย ผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการ ผู้นาชุมชนหรือผู้แทนชุมชน หน่วยงานราชการในระดบั ตา่ ง ๆ องค์กรเอกชนด้านส่ิงแวดล้อม องคก์ รพัฒนาเอกชน สถาบันการศึกษา นักวิชาการอิสระ ส่ือมวลชน และประชาชนท่ัวไปท่ีสนใจ ๕) ดาเนินการออกแบบโดยวิเคราะห์ข้อมูลลมและคลื่น ตรวจวัดระดับ น้าขึ้นน้าลง สารวจสภาพภูมิประเทศ หยั่งน้าเพ่ือหาความลึกพื้นท้องน้า และเจาะสารวจชั้นดิน รวมทั้งวิเคราะห์รูปแบบเขื่อนท่เี หมาะสม ๖) จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นสาธารณะในพ้ืนที่ ครั้งที่ ๒ เพื่อรับฟัง ความคิดเหน็ การเสนอแบบกอ่ สร้างเบอ้ื งตน้ และปรับแบบให้สอดคล้องกบั ความตอ้ งการของประชาชน ๗) จัดทารายงานผลกระทบสง่ิ แวดลอ้ มเบ้อื งตน้ (Initial Environmental Examination : IEE) ๘) จัดทาคาของบประมาณเพ่ือดาเนินโครงการก่อสร้าง ๙) ขออนุญาตและดาเนนิ การตามกฎหมายท่ีเกีย่ วขอ้ ง โครงการก่อสร้างเข่ือนป้องกันตล่ิงริมทะเล พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ พนื้ ที่ชายฝ่ังหาดมหาราช เทศบาลตาบลสทิงพระ อาเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา เทศบาลตาบลสทิงพระได้ส่งหนังสือขอรับการสนับสนุนงบประมาณ จากกรมโยธาธิการและผังเมือง เม่ือวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ เพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝ่ัง และป้องกันความเสียหายต่อถนนเลียบชายฝั่ง โดยกรมโยธาธิการและผังเมืองได้ทาการสารวจ สภาพพ้ืนที่และพบว่า ประสบปัญหากัดเซาะตามที่แจ้งในหนงั สือ และมีผลกระทบต่อโครงสร้างพ้ืนฐาน เช่น ถนน และบ้านเรือนของประชาชน เป็นต้น ซ่ึงจากข้อมูลการกัดเซาะชายฝ่ัง พ .ศ. ๒๕๕๔ ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ระบุว่า พ้ืนที่ตาบลสทิงพระ อาเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา จัดเป็นพ้ืนท่ีประสบปัญหาการกัดเซาะชายฝ่ังระดับพื้นที่เร่งด่วน ประกอบกับข้อมูลกัดเซาะชายฝ่ัง ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ังเก่ียวกับผลการสารวจโครงสร้างป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง พ.ศ. ๒๕๕๘ ระบุว่า เป็นพื้นท่ีท่ีมีผลกระทบ ท้ังนี้ ตามมาตรการป้องกันและแก้ไขการกัดเซาะชายฝ่ัง ของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ัง กาหนดให้พื้นที่โครงการหาดมหาราช โรงเรียนสทิงพระวิทยา และตลาดสดเทศบาลสทิงพระ เป็นบริเวณพ้ืนที่โครงการท่ีใช้มาตรการสีขาว สีเขียว และสีเทา โดยกาหนดพ้ืนที่ถอยร่น การฟื้นฟูชายหาด การถ่ายเททราย และให้มีโครงสร้างป้องกัน นอกจากน้ี ยงั มีการจัดประชุมรับฟังความคิดเหน็ จากกล่มุ เป้าหมายที่เกยี่ วข้อง จานวน ๓ คร้งั มาตรการและแนวทางการให้ความช่วยเหลือราษฎรที่ได้รับผลกระทบ จากปัญหาคลน่ื ทะเลกดั เซาะชายฝง่ั บรเิ วณชายฝงั่ หาดมหาราช อาเภอสทงิ พระ จงั หวดั สงขลา ๑) ดาเนนิ การก่อสรา้ งโครงสร้างป้องกันชายฝั่งตามทีเ่ ทศบาลตาบลสทิงพระ ทาหนังสอื ของบประมาณสนับสนุนมายงั กรมโยธาธกิ ารและผงั เมอื ง ๒) ลดระยะทางในการก่อสร้างไม่ให้ถึงบริเวณพื้นที่หมู่บ้านชาวประมง ซ่ึงจะไม่ทาให้กระทบตอ่ การประกอบอาชีพของชาวประมง ๓) กาหนดมาตรการป้องกันและลดผลกระทบที่อาจเกิดจากการกัดเซาะ ชายฝ่ังเพ่ิมขึ้นบริเวณจุดสิ้นสุดโครงสร้าง โดยดาเนินการแก้ไขปัญหาบูรณาการร่วมกับกรมทรัพยากร
๒๓ ทางทะเลและชายฝ่ังในการแก้ไขปัญหากัดเซาะท้ายเขื่อนด้วยวิธีการปักไม้สนท้ายเขื่อน ตามแนวทาง แก้ไขปญั หาของกรมทรพั ยากรทางทะเลและชายฝงั่ ๔) กรมโยธาธิการและผังเมืองอยู่ระหว่างดาเนินการศึกษาโครงการ ประเมินผลและติดตามผลกระทบจากการก่อสรา้ งเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝ่ังทะเล เพื่อนาผลการศึกษา มาปรับปรุงการดาเนินการแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งของประเทศไทยให้มีประสิทธิภาพ และลดผลกระทบจากการแกไ้ ขปัญหาการกัดเซาะชายฝงั่ ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะในการดาเนินการ ๑) กรมโยธาธิการและผังเมืองไม่สามารถดาเนินการจัดต้ังงบประมาณ ก่อสร้างให้เสร็จสิ้นในปีงบประมาณเดียวกันหรือครอบคลุมพื้นที่ชายฝ่ังท้ังหมด ซึ่งพ้ืนท่ีประสบปัญหา กัดเซาะจาเปน็ ต้องไดร้ ับการแกไ้ ขปัญหาอย่างเร่งดว่ นและครอบคลมุ ๒) การดาเนินการก่อสร้างช่วงฤดูมรสุมมีความล่าช้า ไม่สามารถป้องกัน การกดั เซาะชายฝ่งั ได้อยา่ งทนั ท่วงที ๓) การคัดค้านโครงการ ส่งผลให้การก่อสร้างโครงการเพื่อป้องกัน และแก้ไขปัญหากดั เซาะชายฝัง่ ชะงักหรอื ลา่ ช้าออกไป ๔) แนวทางและมาตรการการป้องกนั และแกไ้ ขปญั หาการกัดเซาะชายฝั่ง ไม่สอดคล้องกับสภาพปัญหาการกัดเซาะชายฝ่ังของพ้ืนท่ีริมชายฝั่งบางบริเวณ กรมโยธาธิการและผังเมือง จงึ ไมส่ ามารถดาเนินการแกไ้ ขปัญหาการกดั เซาะชายฝง่ั ทป่ี ระสบปัญหาไดอ้ ย่างถาวรและยั่งยืน ประเด็นอ่ืน ๆ ทเ่ี ก่ียวข้อง ๑) ประชาชนมีการใช้ประโยชน์บนพ้ืนที่สันเข่ือนป้องกันตล่ิงริมทะเล บริเวณชายฝัง่ หาดมหาราช ระยะที่ ๑ ระยะทาง ๙๒ เมตร ซึ่งก่อสรา้ งเสรจ็ แล้ว ๒) ประชาชนบางกลุม่ เป็นผู้สนับสนุนให้มีการก่อสร้างโครงการเขื่อนป้องกัน ตลง่ิ รมิ ทะเล พร้อมปรับปรุงภูมทิ ศั น์ พ้นื ที่ชายฝัง่ หาดมหาราช ๓) การคดั คา้ นโครงการ (๑) เครือข่ายประชาชนรักษ์หาดสทิงพระ ได้มีหนังสือถึงอธิบดี กรมโยธาธิการและผังเมือง ท่ี ๐๕/๒๕๖๓ ลงวันท่ี ๑๓ มกราคม ๒๕๖๓ ขอให้ระงับการดาเนินการ โครงการก่อสร้างเข่ือนป้องกันตล่ิงริมทะเลพร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ พ้ืนที่ชายฝั่งหาดมหาราช อาเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา และเม่ือเดือนมีนาคม ๒๕๖๓ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ได้รบั การร้องเรยี นจากเครือขา่ ยประชาชนรักษ์หาดสทงิ พระ กรณีกรมโยธาธิการและผังเมืองกาหนดใหม้ ี โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝ่ังทะเลพร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์พ้ืนที่ชายฝั่งหาดมหาราช อาเภอสทงิ พระ จังหวัดสงขลา เน่อื งจากผู้เสนอเรอ่ื งเหน็ วา่ พืน้ ทช่ี ายหาดมหาราชไมม่ ีปญั หาการกดั เซาะ ชายฝั่งอย่างรุนแรง และหากมีกาแพงกันคลื่นอาจทาให้เกิดการสะท้อนกลับของคล่ืน ส่งผลให้มี การกัดเซาะชายฝ่งั มากขึน้ (๒) เมื่อวันท่ี ๑๐ มิถุนายน ๒๕๖๓ ผู้แทนคณะกรรมการสิทธิ มนุษยชนแห่งชาติได้เข้าพบโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสงขลา เพ่ือรับทราบข้อเท็จจริงเกี่ยวกับ โครงการ กระบวนการรับฟังความคิดเห็น รวมทั้งข้อมูลอ่ืน ๆ ท่ีเป็นประโยชน์ จากนั้นกรมโยธาธิการ และผงั เมืองจงึ ไดเ้ ขา้ รว่ มประชุมช้ีแจงตอ่ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนเม่อื วันที่ ๒๙ มิถนุ ายน ๒๕๖๓
๒๔ (๓) ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน เม่ือวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๖๓ คือ เห็นควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองชะลอโครงการก่อสร้าง เข่ือนป้องกันตลิ่งริมทะเลหาดมหาราช ระยะที่ ๒ และหารือร่วมกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ส่วนการดาเนินโครงการในระยะท่ี ๓ และโครงการในลักษณะเดียวกันในพ้ืนที่อื่น ควรชะลอไปก่อน จนกวา่ จะมีกฎกระทรวงกาหนดเขตพ้ืนท่ีใช้มาตรการในการป้องกันการกดั เซาะชายฝงั่ (๔) ประชาชนในอาเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ย่ืนฟ้องคดีต่อศาลปกครอง สงขลา ขอให้ศาลพิพากษาเพิกถอนโครงการก่อสร้างเข่ือนป้องกันตล่ิงริมชายฝั่งทะเล พร้อมปรับปรุง ภูมิทัศน์พื้นท่ีชายฝ่ังหาดมหาราช ตาบลจะท้ิงพระ อาเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา พร้อมย่ืนคาร้องขอให้ มีการกาหนดมาตรการชว่ั คราว ดว้ ยการชะลอโครงการไปจนกวา่ ศาลจะมีคาพิพากษา พรอ้ มนาส่งรายชอ่ื ผู้สนับสนุนให้มีการฟ้องคดี รวม ๒๑๘ ราย ซ่ึงผู้ฟ้องคดีเห็นว่า โครงการดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากหาดมหาราชไม่มีปัญหากัดเซาะชายฝั่ง ดังน้ัน โครงการไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ ในการป้องกันการกัดเซาะชายฝ่ังอย่างแท้จริง แต่จะก่อให้เกิดความเสียหายโดยทาให้เกิดการกัดเซาะ ชายฝงั่ เพ่ิมขึ้นในพนื้ ที่ถดั ไปจากโครงการ (๕) ศาลมีคาส่ังยกคาร้องขอไต่สวนคาร้องกาหนดมาตรการช่ัวคราว เป็นกรณีฉุกเฉิน โดยเห็นว่า การท่ีศาลจะมีคาสั่งกาหนดวิธีการช่ัวคราวตามคาขอของผู้ฟ้องคดี ศาลต้องรับฟังข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานจากคู่กรณีฝ่ายผู้ถูกฟ้องคดี จึงไม่มีเหตุท่ีศาลจะมีคาส่ัง ไต่สวนฉุกเฉินตามคาร้องของผู้ฟ้องคดี ส่วนคาขอวิธีการชั่วคราวและคาร้องอื่นศ าลจะได้พิจารณา มคี าส่ังต่อไป - กรมทรพั ยากรทางทะเลและชายฝ่ัง สถานการณ์ชายฝั่งจังหวัดสงขลา พ.ศ. ๒๕๖๒ มีระยะทางประมาณ ๑๕๘.๕๓ กิโลเมตร ประกอบด้วย พื้นที่สมดุลระยะทาง ๙๖.๖๓ กิโลเมตร และพื้นท่ีกัดเซาะระยะทาง ๖๑.๙๑ กิโลเมตร โดยมรี ะยะทางทดี่ าเนนิ การแก้ไขปัญหาแลว้ ๕๐.๗๔ กิโลเมตร และระยะทางท่ยี งั ไม่มี การดาเนินการแก้ไข ๑๑.๑๖ กิโลเมตร ด้านสถานการณช์ ายฝ่ังระบบหาดแหลมตะลุมพุก-แหลมสมหิ ลา (T6B151) มรี ะยะทางประมาณ ๘๘.๐๘ กิโลเมตร แนวทางการป้องกนั และแกไ้ ขปญั หาการกดั เซาะชายฝัง่ ตามมติคณะรฐั มนตรี เม่อื วันท่ี ๑๖ มกราคม ๒๕๖๑ สามารถจาแนกออกเป็น ๔ แนวทาง ๓ มาตรการ ซงึ่ มกี ารกาหนดรปู แบบ การป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งตามมาตรการสีขาว สีเขียว และสีเทา อันได้แก่ การกาหนดพ้ืนที่ถอยร่น การปลูกป่า การฟ้ืนฟูชายหาด การปักเสาดักตะกอนเพ่ือปลูกป่าชายเลน เขื่อนกันคลื่นนอกชายฝ่ัง รอดักทราย เขื่อนป้องกันตล่ิงริมทะเล และกาแพงป้องกันคลื่นริมชายหาด ให้เหมาะสมกับสภาพพน้ื ทชี่ ายฝ่ังแตล่ ะแห่ง แนวทางที่ ๑ การปรับสมดลุ ชายฝัง่ โดยธรรมชาติ แนวทางที่ ๒ การป้องกันปัญหาการกดั เซาะชายฝั่ง แนวทางที่ ๓ การแก้ไขปัญหาการกดั เซาะชายฝั่ง แนวทางท่ี ๔ การฟนื้ ฟเู สถยี รภาพชายฝ่งั คณะกรรมการนโยบายและแผนการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเล และชายฝ่ังแห่งชาติ ได้มีมติเห็นชอบเกยี่ วกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝัง่ จานวน ๓ เรือ่ ง
๒๕ ได้แก่ ๑) ระบบกลุ่มหาดประเทศไทย ๒) หลักเกณฑ์ประกอบการจัดทาแผนงานและโครงการป้องกัน และแก้ไขปัญหาการกดั เซาะชายฝัง่ และ ๓) ร่างกฎกระทรวงกาหนดเขตพื้นท่ใี ช้มาตรการในการปอ้ งกัน การกัดเซาะชายฝั่ง สาหรับการดาเนินโครงการก่อสรา้ งกาแพงป้องกันคลน่ื ริมชายหาดและเขอื่ นปอ้ งกัน ตลงิ่ ริมทะเล พ.ศ. .... ตามมาตรา ๒๑ ของพระราชบัญญัติส่งเสรมิ การบรหิ ารจัดการทรพั ยากรทางทะเล และชายฝง่ั พ.ศ. ๒๕๕๘ ท้งั นี้ กรมทรพั ยากรทางทะเลและชายฝงั่ มคี วามเห็นวา่ การปรับสมดลุ ชายฝง่ั โดยธรรมชาติ เป็นแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝ่ังท่ีเหมาะสมต่อพื้นที่ชายฝั่ง หาดมหาราช อาเภอสทิงพระ จังหวดั สงขลา - คณะกรรมการสิทธมิ นษุ ยชนแหง่ ชาติ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีมติเกี่ยวกบั เร่อื งดังกลา่ ว ดังน้ี ๑) มาตรการหรือแนวทางที่เหมาะสมในการป้องกันหรือแก้ไขการละเมดิ สิทธิมนุษยชน คือ กรมโยธาธิการและผังเมือง ควรชะลอโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตล่ิงริมทะเล พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์หาดมหาราช อาเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา เพ่ือปรึกษาหารือร่วมกับ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ัง ในการประเมินผลกระทบจากโครงการดังกล่าวว่า มีความเหมาะสม กับสภาพปัญหาในพื้นท่ีและควรดาเนินการต่อไปหรือไม่ ซึ่งการดาเนินการดังกล่าวจะต้องส่งเสริม ให้ประชาชนที่ใช้ประโยชน์โดยตรงจากหาดมหาราชมีส่วนร่วมในการดาเนนิ การและแสดงความคิดเหน็ อย่างครบถว้ น โดยใหด้ าเนนิ การภายใน ๑๒๐ วนั นับแตว่ ันทไี่ ด้รบั รายงาน ๒) ข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิ มนษุ ยชน และข้อเสนอแนะในการแกไ้ ขปรับปรงุ กฎหมายเพอ่ื ให้สอดคล้องกับหลกั สทิ ธิมนษุ ยชน (๑) คณะรฐั มนตรีควรพิจารณามอบหมายให้กระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมดาเนินการปรับปรุงแก้ไขประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม เร่ือง กาหนดโครงการ กิจการ หรือการดาเนินการ ซึ่งต้องจัดทารายงานการประเมินผลกระทบ ส่ิงแวดล้อม และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขในการจดั ทารายงานการประเมินผลกระทบส่งิ แวดล้อม เพ่ือพิจารณาความจาเป็นต่อการก่อสร้างหรือขยายสิ่งก่อสร้างบรเิ วณหรือในทะเล ได้แก่ กาแพงริมชายฝั่ง หรือโครงการ กิจกรรม ที่มีลักษณะเดียวกัน ให้ต้องจัดทารายงานการประเมินผลกระทบส่ิงแวดล้อม (EIA) ตามขนาดหรือระยะทางท่ีใช้ข้อมูลในทางวิชาการซึ่งสามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า เพื่อป้องกัน และแกไ้ ขปัญหาผลกระทบทีอ่ าจเกดิ ข้นึ จากการดาเนนิ โครงการในลักษณะดงั กล่าว (๒) คณะรัฐมนตรคี วรพจิ ารณามอบหมายใหก้ ระทรวงทรพั ยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดลอ้ ม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงคมนาคม ร่วมกันพจิ ารณากาหนดแนวทางการดาเนนิ โ ค ร ง ก า ร ท่ี เ ก่ี ย ว ข้ อ ง กั บ ก า ร ป้ อ ง กั น แ ล ะ แ ก้ ไ ข ก า ร กั ด เ ซ า ะ ช า ย ฝ่ั ง ใ ห้ เ กิ ด ก ล ไ ก ก า ร ป ฏิ บั ติ ง า น แบบบูรณาการร่วมกนั อย่างเป็นรูปธรรม เพ่ือให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์และกลไกตามพระราชบญั ญัติ ส่งเสริมการบริหารจัดการทรพั ยากรทางทะเลและชายฝ่งั พ.ศ. ๒๕๕๘ ทม่ี ุ่งหวงั ใหเ้ กดิ ความเปน็ เอกภาพ ในการบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมท้ังการบูรณาการและส่งเสริมการมีส่วนร่วม ของประชาชนและชมุ ชนในทอ้ งถ่นิ
๒๖ - จงั หวดั สงขลา พ้ืนท่ีชายฝั่งหาดมหาราช อาเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ในช่วงฤดูมรสมุ พบว่า มีปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งในบางช่วง และเมื่อเกิดปัญหาการกัดเซาะชายฝ่ัง ย่อมส่งผลให้ ประชาชนในพื้นที่เดอื ดร้อน ซึ่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาและผู้เก่ียวขอ้ งจะเดนิ ทางไปตรวจสภาพพ้นื ท่ี และประสานกับกรมโยธาธิการและผังเมือง โดยมีการจัดเวทีประชุมรับฟังความคิดเห็น และเผยแพร่ ข้อมูลให้ประชาชนได้รับทราบ ทั้งน้ี การได้รับการจัดสรรงบประมาณจากการจัดทาคาของบประมาณ เพ่ือดาเนินโครงการก่อสร้างจะใช้ระยะเวลาประมาณ ๓-๔ ปี ซึ่งหากจะมีการคัดค้านโครงการก่อสร้าง เขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ พื้นท่ีชายฝั่งหาดมหาราช อาเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา ควรคัดค้านตั้งแต่ข้ันตอนการศึกษาการดาเนินโครงการ และไม่ควรคัดค้านหลังจาก ทหี่ นว่ ยงานได้รบั การจดั สรรงบประมาณแล้ว เพราะจะกอ่ ให้เกดิ ความเสียหายต่องบประมาณแผน่ ดิน (๓) กรณีเก่ียวกับโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตล่ิงริมหาดสาเร็จ และหาดสมบูรณ์ ในพืน้ ทอ่ี าเภอท่าชนะ จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี ของกรมโยธาธกิ ารและผงั เมือง กรณีดังกล่าวคณะกรรมาธิการได้รับทราบข้อเท็จจริงและข้อมูล จากหน่วยงานทเ่ี กย่ี วข้อง ดงั น้ี - กรมโยธาธกิ ารและผังเมือง ความเป็นมาของโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตล่ิงริมทะเลหาดสมบูรณ์ หมู่ ๓ ตาบลวงั อาเภอท่าชนะ จงั หวดั สรุ าษฎรธ์ านี องค์การบริหารส่วนตาบลวัง ได้มีหนังสือ ที่ สฎ ๗๗๐๐๑/๔๘๕ ลงวันท่ี ๑๗ ธันวาคม ๒๕๕๘ ไปยงั สานกั งานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสุราษฎรธ์ านี เพอ่ื ขอความอนุเคราะห์ สารวจและก่อสร้างเขื่อนป้องกันตล่ิงริมทะเล กรมโยธาธิการและผังเมืองจึงได้ดาเนินการวิเคราะห์ การกัดเซาะชายฝ่ังบริเวณพื้นท่ีโครงการและใกล้เคียงระหว่างปี ๒๕๑๘-๒๕๕๙ (๔๑ ปี) พบว่า เกิดการกัดเซาะรุนแรงสูงสุด ๑.๙๕ เมตรต่อปี ซึ่งปัญหาดังกล่าวได้สร้างความเดือดร้อนและส่งผลกระทบ ต่อประชาชนในพื้นท่ี เนื่องจากพ้ืนท่ีด้านหลังเป็นบ้านเรือน พื้นท่ีทาการเกษตร และเส้นทางคมนาคม ท่ีประชาชนใช้ในการสัญจร โดยองค์การบริหารส่วนตาบลวังได้แก้ไขปัญหาความเดือดร้อนในเบื้องต้น ด้วยการวางแนวหินท้ิงสาหรับป้องกันตล่ิงริมทะเลหาดสมบูรณ์ เพื่อป้องกันชายฝั่งและบรรเทา ความเดือดร้อนของประชาชน และจากการศึกษาสภาพชายหาด พบว่า โครงสร้างเข่ือนหินใหญ่ เรียงเป็นแนวทางและรูปแบบการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะที่ผ่านกระบวนการการมีส่วนร่วม และได้รับการยอมรบั ของผู้มสี ่วนไดส้ ่วนเสียแล้วและสอดคลอ้ งกับหลกั เกณฑ์ประกอบการจดั ทาแผนงาน หรือโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝ่ังจัดทาข้ึน ในปี ๒๕๖๓ ซ่ึงกาหนดให้บริเวณพ้ืนท่ีชายฝ่ังทะเลหมู่ ๓ ตาบลวัง อาเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี สามารถใช้แนวทางการป้องกันปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งได้ โดยรูปแบบของโครงการมีระยะทาง ๙๒๐ เมตร โครงสร้างหลักเป็นเขื่อนหินเรียงประชิดแนวเข่ือนหินท้ิงเดิม มีทางลาดและบันไดข้ึน-ลง ชายหาด แนวเขือ่ นวางยาวต่อเน่ืองไปตามแนวชายฝ่ัง ไมล่ า้ เข้าไปในท่ีดินของประชาชน ท้ังนี้ กรมโยธาธิการและผังเมืองได้มีการประชุมรับฟังความคิดเห็น ของประชาชนระหว่างการออกแบบและศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม จานวน ๒ ครั้ง คือ ครั้งที่ ๑ วันพุธที่ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๐ จานวนผู้เข้าประชุม ๑๙๐ คน เห็นด้วยร้อยละ ๙๘.๕๐ และครั้งที่ ๒
๒๗ วันศุกร์ท่ี ๑๕ กันยายน ๒๕๖๐ จานวนผู้เข้าประชุม ๙๔ คน เห็นด้วยร้อยละ ๙๓.๒๐ โดยภายหลัง ได้รับงบประมาณก่อนดาเนินการก่อสร้าง ได้ดาเนินการขอใบอนุญาตให้ปลูกสร้างส่ิงล่วงล้าลาน้า จากกรมเจ้าท่า ซ่ึงได้รับใบอนุญาตเลขที่ ๑/๖๓ ลงวันที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๓ ปัจจุบันความคืบหน้า ในงานก่อสร้างช้ากว่าแผนร้อยละ ๒๑.๖๖ เนื่องจากได้รับการร้องเรียนจากกลุ่มอนุรักษ์ในพื้นที่ให้ยุติ การก่อสร้าง ทาให้การดาเนินงานในช่วงแรกล่าช้า หลังจากนั้นจึงได้มีการจัดประชุมเพื่อชี้แจง รายละเอียดโครงการ แผนงานการก่อสร้าง และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในระยะก่อสร้าง โครงการ (ภายหลงั ผู้คดั ค้าน ๑ ทา่ น ขอถอนเรื่องรอ้ งเรยี นเพอื่ ลดความขดั แยง้ ในชมุ ชน) พบวา่ ผู้เข้ารว่ ม ประชุมที่ตอบแบบสอบถามท้ังหมดมีความต้องการเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเล พื้นที่ชายฝ่ัง ทะเล หมู่ ๓ ตาบลวัง อาเภอทา่ ชนะ จงั หวัดสรุ าษฏรธ์ านี ดังน้ัน จากความเดือดร้อนและการร้องขอความช่วยเหลือของประชาชน ผ่านหนังสือของหน่วยงานท้องถ่ินต่าง ๆ ที่มีความต้องการให้มีการดาเนินการแก้ไขปัญหาน้าทะเล กัดเซาะ กรมโยธาธิการและผังเมืองท่ีมีหน้าท่ีในการป้องกัน บรรเทา และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ของประชาชน จึงต้องดาเนินการก่อสร้างเขือ่ นป้องกันการกัดเซาะชายฝ่ังทะเล สาหรับป้องกันทรพั ย์สิน ของราชการและของประชาชนมิให้คลื่นกดั เซาะ และเพือ่ แก้ไขปญั หาความเดอื ดรอ้ นของประชาชนตอ่ ไป โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตล่ิงริมทะเลหาดสาเร็จ ตาบลท่าชนะ อาเภอท่าชนะ จังหวดั สรุ าษฎรธ์ านี องค์การบริหารส่วนตาบลท่าชนะ ได้มีหนังสือ ท่ี สฎ ๗๖๘๐๕/๑๐๙ ลงวันท่ี ๑๘ มีนาคม ๒๕๖๓ ไปยังสานักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพ่ือขอรับ การสนับสนุนงบประมาณก่อสรา้ งโครงสร้างปอ้ งกันการกดั เซาะชายฝั่งทะเล ซึ่งสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ ประกอบการจัดทาแผนงานหรือโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งของกรมทรัพยากร ทางทะเลและชายฝ่ังท่ีระบุให้พ้ืนท่ีอาเภอท่าชนะสามารถใช้มาตรการสีขาว สีเขียว และสีเทา และสามารถใช้แนวทางการป้องกันปัญหาการกัดเซาะชายฝ่ังได้ โดยการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็น ครั้งที่ ๑ ได้นาเสนอข้อมูลทางเลือกรูปแบบเขื่อนป้องกันตล่ิงริมทะเล พร้อมทั้งข้อดีและข้อเสีย จานวน ๖ รูปแบบ ได้แก่ การเสริมทรายชายหาด เข่ือนถุงทราย เข่ือนหินใหญ่เรียง เขื่อนหินเกเบียน เขื่อนกาแพงคอนกรีตกันคล่ืน และเข่ือนคอนกรีตขั้นบันได และได้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าร่วมประชุม ท่ีมีข้อสงสัย หรือข้อเสนอแนะได้มีโอกาสซักถามและแสดงความคิดเห็น โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมท้ัง ส้ิน จานวน ๑๖๑ คน เห็นด้วยกับรูปแบบเขื่อนหินใหญ่เรียงมากสุดร้อยละ ๗๙.๓๐ ผู้เข้าร่วมประชุม สว่ นใหญ่เหน็ ด้วยกับโครงการรอ้ ยละ ๘๖ และเห็นดว้ ยแต่มีความวิตกกงั วลรอ้ ยละ ๑๐.๗๐ ท้ังนี้ รูปแบบ ของโครงการมีระยะทาง ๑,๐๐๐ เมตร โครงสร้างหลักเป็นเข่ือนหินเรียงประชิดแนวเขื่อนหินทิ้งเดิม มีทางลาดและบันไดขึน้ -ลงชายหาด แนวเข่อื นวางยาวต่อเนอื่ งไปตามแนวชายฝงั่ และขนานไปตามแนวถนน - กรมทรพั ยากรทางทะเลและชายฝง่ั จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประกอบด้วย ๒ ระบบกลุ่มหาด ได้แก่ ระบบกลุ่ม หาดสวี-ไชยา และระบบกลุ่มหาดอ่าวบ้านดอน ชายฝ่ังทะเลมีระยะทางประมาณ ๑๕๗.๑๗ กิโลเมตร โดยมีพืน้ ทก่ี ัดเซาะ ระยะทาง ๑๙.๕๔ กโิ ลเมตร
๒๘ โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลพื้นที่อาเภอท่าชนะ จงั หวัดสุราษฎร์ธานี มีจานวน ๒ โครงการ ดังน้ี ๑) โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตล่ิงริมทะเล พ้ืนท่ีชายฝั่งทะเล หมู่ ๕ ตาบลทา่ ชนะ อาเภอท่าชนะ จงั หวัดสุราษฎรธ์ านี ความยาว ๑,๐๐๐ เมตร (หาดสาเร็จ) โดยมโี ครงสร้าง เขื่อนหนิ ท้ิงรมิ ชายฝ่ังระยะทาง ๑๓๑ เมตร ๒) โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเล พ้ืนท่ีชายฝั่งทะเล หมู่ ๓ ตาบลวัง อาเภอท่าชนะ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ความยาว ๙๒๐ เมตร (หาดสมบูรณ์) ซ่ึงจากการเปรียบเทียบ ภาพถ่ายดาวเทียม ปี ๒๕๕๙-๒๕๖๒ พบว่า พืน้ ทีช่ ายฝ่งั บรเิ วณทีจ่ ะดาเนนิ โครงการมตี ะกอนทรายสะสม ตามพลวัต โดยมโี ครงสรา้ งเขือ่ นหินทง้ิ รมิ ชายฝั่งระยะทาง ๘๕๖ เมตร ขอ้ สังเกตท่ีมตี ่อโครงการ ๑) พื้นที่โครงการอาจมีการเปลี่ยนแปลงของชายฝั่งในช่วงมรสุม และจะเข้าสู่สมดุลในช่วงหลังมรสุม ซึ่งเป็นการเปล่ียนแปลงตามธรรมชาติ ไม่ใช่การกัดเซาะชายฝ่ัง อยา่ งรุนแรง จนเป็นเหตใุ ห้ตอ้ งมีการก่อสร้างโดยใชโ้ ครงสรา้ งถาวร ๒) เจ้าของโครงการต้องปรับปรุงรูปแบบในการก่อสร้างให้เหมาะสม กับรูปแบบการเคล่ือนท่ีของตะกอนชายฝ่ัง เพื่อลดผลกระทบต่อการเปล่ียนแปลงแนวชายฝ่ังและพื้นที่ ข้างเคียง พร้อมทั้งจัดทาแนวทาง มาตรการ และวิธีการเพื่อป้องกันผลกระทบดังกล่าวไม่ให้เกิด การกัดเซาะอย่างต่อเนื่อง ๓) ควรเปิดโอกาสให้มีการรับฟังความคิดเห็นในแต่ละพ้ืนท่ีอย่างครอบคลุม ทกุ กล่มุ เป้าหมาย และพจิ ารณาขอ้ มูลอย่างรอบดา้ น เพอื่ ลดปญั หาขอ้ ขดั แยง้ (๔) กรณีเก่ียวกับโครงการก่อสร้างเข่ือนป้องกันการกัดเซาะชายฝ่ังทะเล ในพ้ืนที่หม่ทู ่ี ๕ ตาบลหน้าสตน อาเภอหัวไทร จังหวดั นครศรธี รรมราช (ระยะที่ ๒) กรณีดังกล่าวคณะกรรมาธิการได้รับทราบข้อเท็จจริงและข้อมูล จากหน่วยงานทเ่ี ก่ยี วข้อง ดงั น้ี - กรมโยธาธิการและผังเมือง ความเป็นมาของโครงการ เทศบาลตาบลหน้าสตน ได้มีหนังสือ ท่ี นศ ๕๖๖๐๓/๓๑๓ ลงวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๘ ถึงกรมโยธาธกิ ารและผังเมอื ง เพื่อขอสนบั สนนุ งบประมาณโครงการจัดเรียงหนิ ป้องกัน การกัดเซาะบริเวณชายหาด และต่อมาเทศบาลตาบลหน้าสตน ได้มีหนังสือ ท่ี นศ ๕๖๖๐๗/๖๔๐ ลงวนั ท่ี ๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๑ ถงึ โยธาธิการและผงั เมืองจงั หวดั นครศรธี รรมราช เพอ่ื ขอรบั การสนับสนนุ งบ ประมาณก่อสร้างเขอื่ นป้องกันตล่งิ รมิ ทะเลบรเิ วณ หมูท่ ี่ ๕ หม่ทู ี่ ๖ และหมู่ท่ี ๙ ตาบลหน้าสตน ต่อเน่ือง จากเขื่อนเดมิ เพื่อบรรเทาความเดือดรอ้ นให้แกป่ ระชาชนพื้นท่ี โดยพื้นท่ีชายฝ่ังเทศบาลตาบลหน้าสตน อาเภอหัวไทร มีโครงสร้างป้องกันนอกชายฝ่ังของกรมเจ้าท่าระยะทาง ๘.๕๐ กิโลเมตร มีโครงสร้างป้องกันเข่ือนหินใหญ่เรียงของกรมโยธาธิการและผังเมืองระยะทาง ๓.๗๙ กิโลเมตร (พ้ืนท่ี หม่ทู ่ี ๕) และยังไม่มโี ครงสร้างป้องกันระยะทาง ๕.๗๐ กิโลเมตร (พ้นื ที่หมู่ท่ี ๖ และหมู่ท่ี ๙) สถานภาพโครงการ มคี วามยาวรวม ๓,๗๙๐ เมตร ระยะท่ี ๑ งบกอ่ สร้างปี ๒๕๕๙ ความยาว ๖๒๕ เมตร ก่อสรา้ งแล้วเสร็จ
๒๙ ระยะที่ ๒ งบก่อสรา้ งปี ๒๕๖๑ ความยาว ๑,๐๙๙ เมตร ก่อสร้างแลว้ เสร็จ ระยะท่ี ๓ งบก่อสร้างปี ๒๕๖๒ ความยาว ๑,๓๘๐ เมตร อยู่ระหว่าง การก่อสร้าง ผลงานร้อยละ ๖๓.๔๐ และงบก่อสร้างปี ๒๕๖๔ ความยาว ๓๕๐ เมตร อยู่ระหว่าง ดาเนินการจัดซ้อื จัดจา้ ง สภาพการกัดเซาะชายฝ่ังตาบลหน้าสตน พิจารณาจากข้อมูลต่าง ๆ ดังนี้ ๑) ข้อมูลการกัดเซาะกรมทรพั ยากรทางทะเลและชายฝง่ั พ.ศ. ๒๔๙๕-๒๕๕๑ พบวา่ พ้นื ทีถ่ กู กัดเซาะรนุ แรง ๒) ข้อมูลการกัดเซาะกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. ๒๕๕๔ มแี นวชายฝั่งท่ีถูกกดั เซาะรนุ แรงเป็นระยะทาง ๗,๗๙๔ เมตร ๓) ข้อมูลการกัดเซาะกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. ๒๕๕๗ มีแนวชายฝัง่ ท่ถี ูกกดั เซาะรุนแรงมากกวา่ ๕ เมตรตอ่ ปี ๔) ข้อมูลการกัดเซาะกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง พ.ศ. ๒๕๕๘ มีแนวชายฝั่งที่ถูกกัดเซาะอยใู่ นระดับพ้ืนทเี่ ฝ้าระวัง ท้งั น้ี การดาเนินการมคี วามสอดคล้องตามมาตรการและรูปแบบการป้องกัน และแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝ่ัง จาแนกตามระบบหาด ซึ่งพ้ืนที่ชายฝ่ังตาบลหน้าสตนได้กาหนด แนวทางเป็นการปรับสมดุลชายฝ่ังโดยธรรมชาติ การฟื้นฟูเสถียรภาพชายฝ่ัง และการป้องกันปัญหา การกัดเซาะชายฝั่ง โดยผลการวิเคราะห์อัตราการกัดเซาะชายฝ่ัง พ.ศ. ๒๕๔๙-๒๕๕๖ พบว่า บริเวณ ตาบลหน้าสตน เกิดการกัดเซาะอัตรา ๐.๘๕ เมตรต่อปี และบริเวณตาบลคลองแดนเกิดการกัดเซาะ สูงสดุ ๑.๑๔ เมตรต่อปี การจดั ประชมุ รบั ฟังความคดิ เหน็ กรมโยธาธิการและผังเมืองดาเนินการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็น ในพ.ศ. ๒๕๕๗-๒๕๕๘ จานวน ๒ ครั้ง คือ คร้ังที่ ๑ วันท่ี ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๕๗ จานวนผู้เข้าประชุม ๑๔๑ คน เห็นด้วยกับโครงการร้อยละ ๗๖.๘๐ และ ครั้งท่ี ๒ วันที่ ๕ มิถุนายน ๒๕๕๘ จานวนผู้เข้าประชุม ๑๓๕ คน เห็นด้วยกับโครงการร้อยละ ๘๓.๕๐ โดยมีการสารวจความคิดเห็นต่อรูปแบบโครงการ เช่น เข่อื นหินท้งิ เขอื่ นหนิ ใหญเ่ รยี ง และเข่อื นเกเบียน เป็นตน้ ปัญหาและการแก้ไขปญั หาข้อรอ้ งเรียนระหว่างกอ่ สร้าง เทศบาลตาบลหน้าสตนได้มีหนังสือ ที่ นศ ๕๖๖๐๑/๑๙๓ ลงวันท่ี ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ รายงานความเสียหายที่เกิดจากการก่อสร้างเขื่อนท่ียังไม่มีแนวเขื่อนป้องกันตล่ิง ทาให้เกิดคล่ืนน้าวนบริเวณจุดสิ้นสุด จนกัดเซาะตล่ิงเป็นบริเวณกว้าง ทาให้ทรัพย์สินชาวบ้านเสียหาย ซ่ึงในช่วงมรสุมท่ีผ่านมากรมโยธาธิการและผังเมืองได้ดาเนินการทาแนวหินป้องกันช่ัวคราวที่มีลักษณะ โค้งบริเวณจุดสิ้นสุดโครงการระยะท่ี ๒ ความยาว ๑,๓๘๐ เมตร ซึ่งเป็นช่วงรอยต่อกบั โครงการเข่ือนป้องกนั ตล่ิงริมทะเล ระยะ ๓๕๐ เมตร ที่เหลือในพื้นที่หมู่ที่ ๕ โดยทาการออกแบบแนวหินป้องกันต่อเน่ือง ตามแนวเข่ือนเดิม ซึ่งปัจจุบันได้ดาเนินการร้ือถอนแนวหินช่ัวคราวออกและวางแนวหินป้องกันโค้ง เข้าหาชายฝัง่
๓๐ มาตรการลดผลกระทบจากโครงการในระยะท่ี ๓ ๑) ปักไม้สนระยะ ๕๐ เมตร เพื่อป้องกันผลกระทบบริเวณจุดส้ินสุด ในพ้ืนทโี่ ครงการระยะที่ ๓ ซง่ึ เป็นแนวทางท่ีกรมโยธาธิการและผังเมืองดาเนินการร่วมกบั กรมทรัพยากร ทางทะเลและชายฝั่ง ๒) วางแนวหนิ ปอ้ งกันดา้ นในเพ่ือลดผลกระทบในระยะกอ่ สรา้ งระยะท่ี ๓ ทั้งนี้ โครงการเขื่อนป้องกันตล่ิงริมทะเลไม่เข้าข่ายตามกฎหมายที่ต้อง จัดทารายงานการประเมินผลกระทบส่ิงแวดล้อม (EIA) โดยประกาศยกเลิกตั้งแต่วันท่ี ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ แต่กรมโยธาธิการและผังเมืองไดจ้ ัดทารายงานผลกระทบส่ิงแวดล้อมเบ้ืองต้น (IEE) ควบคู่ไปกับ การสารวจออกแบบรายละเอียดเขือ่ นปอ้ งกันการกัดเซาะชายฝ่ัง และไดผ้ ่านการอนญุ าตส่ิงล่วงล้าลาน้า โดยกรมเจ้าทา่ มอบหมายให้องคก์ รปกครองสว่ นท้องถนิ่ เป็นผู้อนุญาตเมอื่ วันท่ี ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๒ - จงั หวัดนครศรธี รรมราช พื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชมีปัญหาการกัดเซาะชายฝ่ังอย่างรุนแรง จานวน ๓ พ้ืนท่ี ได้แก่ ๑) อาเภอปากพนัง ๒) อาเภอหัวไทร และ ๓) อาเภอท่าศาลา ซึ่งความเป็นมา ของโครงการป้องกันการกัดเซาะชายฝ่ังเกิดจากประชาชนในพ้ืนที่ร้องขอองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน และองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินจึงมีคาขอไปยังหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องให้ดาเนินการแก้ไขปัญหา โดยบริเวณอาเภอปากพนัง กรมโยธาธิการและผังเมืองได้มีการก่อสร้างเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่ง จานวนหลายโครงการ ซึ่งมีทั้งก่อสร้างแล้วเสร็จและอยู่ระหว่างการก่อสร้าง และโดยส่วนใหญ่ประชาชน ในพ้ืนที่มีความพึงพอใจเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตาม หากประชาชนในพ้ืนท่ีได้รับความเดือดร้อน จากการดาเนินการก็ขอให้กรมโยธาธิการและผังเมืองช่วยแก้ไขปัญหาและบรรเทาความเดือดร้อน ใหแ้ ก่ประชาชนในพนื้ ท่ดี ้วย (๕) กรณีข้อพิพาทที่ดินงอกริมตลิ่งระหว่างกรมเจ้าท่ากับประชาชน บ้านบ่อนนท์ หมทู่ ี่ ๑๐ ตาบลทา่ ศาลา อาเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช กรณีดังกล่าวคณะกรรมาธิการได้รับทราบข้อเท็จจริงและข้อมูล จากหน่วยงานทเ่ี ก่ยี วข้อง ดงั น้ี - กรมเจา้ ท่า ด้วยประชาชนในพ้ืนที่ได้มีหนังสือ ที่ ๗๔๓๗๘-๘๕๓๕/๒๕๖๔ ลงวันท่ี ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๔ มายังกรมเจ้าท่า เพ่ือขอให้ตรวจสอบการก่อสร้างร้านค้าและท่ีพัก บริเวณริมชายหาด บ่อนนท์ หมู่ที่ ๑๐ ตาบลท่าศาลา อาเภอท่าศาลา จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยจากข้อมูลและข้อเท็จจริง ในเบื้องต้น พ้ืนที่ที่ผู้ประกอบการเข้าบุกรุก ยึดถือ ครอบครอง เพ่ือประโยชน์ส่วนตน เป็นพื้นท่ี สาธารณสมบัติของแผ่นดิน ซึ่งใช้เพ่ือสาธารณประโยชน์หรือสงวนไว้เพ่ือใช้ประโยชน์ร่วมกัน ตามมาตรา ๑๓๐๔ (๒) แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และเป็นพ้ืนท่ีที่อยู่ในความดูแล ของเจ้าท่า ตามมาตรา ๑๑๗ พระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้าไทย พุทธศักราช ๒๔๕๖ และแก้ไข เพิ่มเติม กาหนดว่า ห้ามมิให้ผู้ใดปลูกสร้างอาคารหรือส่ิงอ่ืนใดล่วงล้าเข้าไปเหนือน้า ในน้า และใต้น้า ของแม่น้า ลาคลอง บึง อ่างเก็บน้า ทะเลสาบ อันเป็นทางสัญจรของประชาชนหรือที่ประชาชน ใช้ประโยชน์ร่วมกัน หรือทะเลภายในน่านน้าไทยหรือบนชายหาดของทะเลดังกล่าว เว้นแต่จะได้รับ อนุญาตจากเจ้าท่า สานักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขานครศรีธรรมราช จึงได้มีคาส่ัง ที่ ๓๘/๒๕๖๔ ลงวันท่ี
๓๑ ๒๗ กันยายน ๒๕๖๔ จัดชุดเจ้าหน้าท่ีปฏิบัติการทวงคืนพื้นท่ีชายหาดบ่อนนท์ เพื่อออกตรวจตรา ปราบปรามผู้กระทาผิดเก่ียวกับพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้าไทย พุทธศักราช ๒๔๕๖ และแก้ไขเพ่ิมเติม นอกจากน้ีเจ้าหน้าที่จากสานักงานท่ีดินจังหวัดนครศรีธรรมราช สาขาท่าศาลา ได้ให้ความอนุเคราะห์คัดสาเนาระวางที่ดิน พร้อมระวางภาพถ่ายทางอากาศ เพื่อตรวจสอบว่าผู้บุกรุก มีกรรมสิทธ์ิในท่ีดินดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งผลปรากฏว่า การก่อสร้างดังกล่าวตั้งอยู่บนชายหาดของทะเล อ่าวไทย ไม่ไดต้ ง้ั อยบู่ นท่ีกรรมสิทธห์ิ รอื สทิ ธคิ รอบครองตามประมวลกฎหมายทีด่ นิ แต่อย่างใด ประกอบกบั เม่ือวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๔ เจ้าหน้าที่จากองค์การบริหารส่วนตาบลท่าศาลาได้ทาการติดประกาศ คาสั่งให้ระงับการก่อสร้าง ดัดแปลง การรื้อถอน หรือการเคลื่อนย้ายอาคารตามพระราชบัญญัติ ควบคุมอาคาร มาตรา ๔๐ (๑) ตามแบบ ค.๓ และได้มีคาสั่งห้ามใช้หรือเข้าไปในส่วนใด ๆ ของอาคาร หรือบริเวณที่มีการก่อสร้าง การดัดแปลง การรื้อถอน หรือการเคลื่อนย้ายอาคารตามมาตรา ๔๐ (๒) ตามแบบ ค.๔ จานวน ๑๕ ราย แต่ยังพบว่า ลักษณะอาคารที่องค์การบริหารส่วนตาบลท่าศาลา ได้ส่ังระงับการก่อสร้างนั้น เป็นสิ่งก่อสร้างที่ไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ แต่ผู้ประกอบการ ไมไ่ ดห้ ยดุ ระงบั การก่อสรา้ งแต่อย่างใดและยงั ดาเนนิ การก่อสรา้ งเพิ่มมากขึน้ เมอื่ วันท่ี ๔ ตลุ าคม ๒๕๖๔ สานกั งานเจา้ ท่าภูมิภาคสาขานครศรีธรรมราช พรอ้ มด้วยคณะเจา้ หน้าท่ีจึงไดจ้ ดั ทาบันทึกการตรวจสอบ เพ่ือรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นเชื่อได้ว่า การยึดถือครอบครองที่ดิน บริเวณชายหาดบ่อนนท์ อันเป็นที่สาธารณประโยชน์ที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันเป็นการครอบครอง โดยมิชอบด้วยกฎหมาย และไม่ได้รับอนญุ าตจากกรมเจ้าท่าหรือจากองค์การบริหารส่วนตาบลท่าศาลา แต่อย่างใด ซึ่งเป็นการแสดงเจตนาในการยึดถือครอบครองพื้นที่ชายหาดบ่อนนท์ เพ่ือประกอบกิจการ ร้านค้า รา้ นอาหาร อันเป็นการประกอบกิจการเพอื่ การพาณิชย์สว่ นตน ดังนั้น เมือ่ วนั ที่ ๕ ตลุ าคม ๒๕๖๔ สานักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขานครศรีธรรมราช จึงมีคาสั่งให้รื้อถอนส่ิงปลูกสร้างล่วงล้าลาแม่น้า จานวน ๑๒ ราย โดยมีระยะเวลาในการดาเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลา ๓๕ วัน นับตั้งแต่วันท่ีได้รับแจ้งคาสั่งน้ี แต่หากผู้ร้ือถอนมีเหตุจาเป็นสามารถยื่นอุทธรณ์ต่อสานักงาน เจ้าท่าภูมิภาคสาขานครศรีธรรมราช เพื่อขอผ่อนผันการร้ือถอนสิง่ ปลูกสร้างได้ โดยปัจจุบันมีจานวน ๗ ราย ที่ดาเนนิ การรือ้ ถอนแล้ว และจานวน ๕ ราย ท่ียังไม่ไดด้ าเนนิ การร้ือถอน ท้ังน้ี กรมเจา้ ทา่ มคี วามเหน็ ว่า ผู้ได้รับผลกระทบควรหารือร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่เกี่ยวกับทิศทางและแนวทางการพัฒนาพื้นที่ ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อทัศนียภาพชายหาดบ่อนนท์ และไม่ก่อให้เกิดมลภาวะด้านอ่ืน ๆ ตามมา แต่ในด้านกฎหมายการบุกรุกทส่ี าธารณะก่อนไดร้ บั อนญุ าตถือเป็นคนละกรณี อย่างไรก็ตาม กรมเจา้ ทา่ ได้ดาเนนิ การจดั ทาแผนงานและโครงการบรหิ าร จัดการส่ิงล่วงล้าลาแม่น้า โดยใช้การวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมและภาพถ่ายทางอากาศจากหนว่ ยงาน ท่ีเชื่อถือได้ เพื่อเป็นการรวบรวมฐานข้อมูลในการบริหารจัดการสิ่งล่วงล้าลาแม่น้าตั้งแต่อดีตจนถึง ปัจจุบัน ซึ่งจะแล้วเสร็จในปี ๒๕๖๗ ทาให้สามารถตรวจสอบสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหรือหลังจากท่ีกฎหมาย บังคบั ใช้ รวมทง้ั สามารถติดตามดาเนินคดีเกยี่ วกบั การลักลอบกอ่ สรา้ งโดยไม่ไดร้ ับอนุญาตได้ - กรมที่ดิน กรณีปัญหาการโต้แย้งกันในการถือครองที่ดินระหว่างรัฐและประชาชน เกิดขึ้นในหลายพ้ืนที่ท่ัวประเทศ ซ่ึงต้องทาความเข้าใจว่า ท่ีดินในประเทศถ้าไม่ใช่ที่ดินที่ประชาชน หรือเอกชนมีสิทธิถือครองย่อมเป็นท่ีดินของรัฐ ดังนั้น ความชัดเจนจึงขึ้นอยู่กับสภาพพ้ืนท่ีและแนวเขต
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 643
- 644
- 645
- 646
- 647
- 648
- 649
- 650
- 651
- 652
- 653
- 654
- 655
- 656
- 657
- 658
- 659
- 660
- 661
- 662
- 663
- 664
- 665
- 666
- 667
- 668
- 669
- 670
- 671
- 672
- 673
- 674
- 675
- 676
- 677
- 678
- 679
- 680
- 681
- 682
- 683
- 684
- 685
- 686
- 687
- 688
- 689
- 690
- 691
- 692
- 693
- 694
- 695
- 696
- 697
- 698
- 699
- 700
- 701
- 702
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 650
- 651 - 700
- 701 - 702
Pages: