- ๖๗ - ส่วนท่ี ๒ การเพิ่มบทนิยามและบทลงโทษของการกระทาคุกคามทางเพศในประมวล กฎหมายอาญา ข้อเท็จจริงในปัจจุบันแม้มีบทบัญญัติเก่ียวกับการกระทาคุกคามทางเพศตามประมวล กฎหมายอาญาและกฎหมายอ่ืนที่เกีย่ วข้อง แต่ก็ไม่สามารถเอาผิดผกู้ ระทาการคุกคามทางเพศหรือผู้ถกู กระทา ไม่ได้รับการคุ้มครอง จึงนาไปสู่การพิจารณาบทนิยามและบทลงโทษเกี่ยวกับลักษณะความผิดคุกคามทางเพศ โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญได้ตั้งข้อสังเกตเก่ียวกับการขอเพ่ิมบทนยิ ามและบทลงโทษของการกระทาคุกคาม ทางเพศในประมวลกฎหมายอาญา เพื่อจะทาให้มีกฎหมายคุ้มครองลักษณะของการคุกคามทางเพศท่ีสามารถ เข้าสู่กระบวนการยุติธรรมและปิดช่องวา่ งทางกฎหมายได้ ดังนี้ ๑) เพิ่มบทนิยามคาว่า คุกคามทางเพศ ในมาตรา ๑ แห่งประมวลกฎหมายอาญา ดงั น้ี “มาตรา ๑ (๑๙) “การคุกคามทางเพศ” หมายความว่า การกระทาหรือพฤติการณ์อ่ืนใด ไม่ว่าจะเป็นการกระทาโดยทางกาย วาจา การส่งเสียง การแสดงอากัปกิริยาท่าทาง การแสดงหรือส่ือสาร ด้วยวิธกี ารใด ๆ ไมว่ ่าจะกระทาตอ่ หน้า หรือกระทาโดยการส่ือสารในช่องทางใด ที่ส่อไปในทางเพศ เป็นเหตใุ ห้ เดือดร้อนราคาญ อับอาย หรือถูกเหยียดหยาม และรวมถึงการติดตามรังควาน หรือกระทาการใดที่ตามวิสัย และพฤติการณ์อาจก่อให้เกิดความไมป่ ลอดภัยในทางเพศ” ๒) เพิ่มลักษณะความผิดและบทลงโทษของการกระทาความผิดฐานคุกคามทางเพศ ในประมวลกฎหมายอาญา โดยมแี นวทางการกาหนดบทลงโทษของการกระทาความผดิ ฐานคกุ คามทางเพศ ดังนี้ (๑) บทลงโทษมีอัตราสูงกว่าการกระทาความผิดลหุโทษ โดยอัตราโทษความผิดฐาน คุกคามทางเพศจะอยู่ระหว่างความผิดลหุโทษกับความผิดฐานอนาจาร (มำตรำ ๓๙๗ วรรคสอง กำรกระทำ อันมีลักษณะส่อไปในทำงท่ีจะล่วงเกินทำงเพศ ต้องระวำงโทษจำคุกไม่เกินหน่ึงเดือน หรือปรับไม่เกินหน่ึงหม่ืนบำท หรอื ทงั จำทงั ปรับ) (๒) บทลงโทษมีอัตรากึ่งหนึ่งของความผิดฐานอนาจาร (มำตรำ ๒๗๘ ควำมผิดฐำน อนำจำร ระวำงโทษจำคุกไม่เกินสิบปี หรือปรบั ไม่เกนิ สองแสนบำท หรือทังจำทงั ปรบั ) (๓) บทลงโทษมีอัตราโทษเท่ากับการดาเนินคดีต่อศาลแขวง (คดีอำญำที่มีโทษจำคุก ไมเ่ กินสำมปี หรือปรับไม่เกนิ หกหม่ืนบำท) ส่วนที่ ๓ การตีความพฤติการณ์ความผิดเกี่ยวกับเพศ กรณีผู้กระทากับผู้ถูกกระทา เป็นบุคคลอายุไม่เกนิ ๑๘ ปี มีความสัมพันธใ์ นเชิงชสู้ าว การตีความพฤติการณ์ความผิดเก่ียวกับเพศ กรณีผู้กระทากับผู้ถูกกระทาเป็นบุคคลอายุ ไม่เกิน ๑๘ ปี มคี วามสมั พนั ธใ์ นเชิงชสู้ าว ดงั นี้ ๑) การดาเนินคดีความผิดเก่ียวกับเพศควรพิจารณาพฤติการณ์ของผู้กระทากับผู้ถูกกระทา โดยมีเพศสมั พันธ์กนั ในลักษณะที่เป็นคู่รักกับการกระทาความผิดทางอาญา รวมถึงนาเร่ืองระยะห่างช่วงอายุของเด็ก หรอื ผ้เู ยาว์ มาประกอบการพจิ ารณาสืบสวน สอบสวนและพจิ ารณาดาเนนิ คดี ๒) กรณีเด็กหรือผู้เยาว์มีเพศสัมพันธ์ระหว่างเป็นคู่รัก และบิดามารดา ผู้ปกครอง หรือผู้ดูแล แจ้งความดาเนินคดีความผิดต่อเสรีภาพ ในความผิดฐานพรากเด็กหรือพรากผู้เยาว์ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓๑๗ และมาตรา ๓๑๙ ซึ่งผู้ต้องหาอาจไม่ได้มีพฤติการณ์ในการกระทาความผิดอาญาแต่เป็นการ มีเพศสัมพันธ์โดยการสมยอมระหว่างคู่รัก ดังนั้น กระบวนการของการดาเนินคดีต่อผู้ต้องหาที่มีพฤติการณ์ดังกล่าว ควรนาถ้อยคาตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๒๗๗ วรรคห้า และวรรคหก
- ๖๘ - “มำตรำ ๒๗๗... ควำมผดิ ตำมทบ่ี ัญญัติไว้ในวรรคหนึ่ง ถ้ำเป็นกำรกระทำโดยบุคคลอำยุไม่เกินสิบแปดปี กระทำต่อเด็กซึ่งมีอำยุกว่ำสิบสำมปีแต่ยังไม่เกินสิบห้ำปี โดยเด็กนันยินยอม ศำลท่ีมีอำนำจพิจำรณำ คดีเยำวชนและครอบครัวจะพิจำรณำให้มีกำรคุ้มครองสวัสดิภำพของเด็กผู้ถูกกระทำหรือผู้กระทำควำมผิด ตำมกฎหมำยว่ำด้วยกำรคุ้มครองเด็กแทนกำรลงโทษก็ได้ ในกำรพิจำรณำของศำล ให้คำนึงถึงอำยุ ประวัติ ควำมประพฤติ สติปัญญำ กำรศึกษำอบรม สุขภำพ ภำวะแห่งจิต นิสัย อำชีพ สิ่งแวดล้อมของผู้กระทำควำมผิด และเด็กผู้ถูกกระทำ ควำมสัมพันธ์ระหว่ำงผู้กระทำควำมผิดกับเด็กผู้ถูกกระทำ หรือเหตุอื่นอันควรเพ่ือประโยชน์ ของเดก็ ผถู้ ูกกระทำดว้ ย ในกรณีท่ีได้มีกำรดำเนินกำรคุ้มครองสวัสดิภำพของเด็กผู้ถูกกระทำหรือผู้กระทำควำมผิด ตำมกฎหมำยวำ่ ดว้ ยกำรค้มุ ครองเดก็ แล้ว ผู้กระทำควำมผิดไม่ต้องรับโทษ แต่ถ้ำกำรคุ้มครองสวัสดิภำพดงั กลำ่ ว ไม่สำเร็จ ศำลจะลงโทษผู้กระทำควำมผิดน้อยกว่ำท่ีกฎหมำยกำหนดไว้สำหรับควำมผิดนันเพียงใดก็ได้ ในกำรพิจำรณำของศำล ใหค้ ำนงึ ถงึ เหตตุ ำมวรรคหำ้ ดว้ ย” ปรับใช้ในการพิจารณาดาเนินคดีโดยให้คานึงถึงอายุ ประวัติ ความประพฤติ สติปัญญา การศึกษาอบรม สุขภาพ ภาวะแห่งจิต นิสัย อาชีพ ส่ิงแวดล้อมของผู้ต้องหาและเด็กผู้ถูกกระทา ความสัมพันธ์ ระหว่างผู้ต้องหาและเด็กผู้ถูกกระทา หรือเหตุอ่ืนอันควรเพ่ือประโยชน์ของเด็กผู้ถูกกระทาและผู้ต้องหา โดยปรับใช้ ในการตคี วามของกระบวนการสืบสวน สอบสวน และการพจิ ารณาคดี ได้แก่ ๑) มาตรา ๒๗๙ ความผิดฐานพาเดก็ ไปเพือ่ อนาจาร ๒) มาตรา ๒๘๓ ทวิ ความผิดฐานพาไปเพื่ออนาจาร ๓) มาตรา ๓๑๗ ความผดิ ฐานพรากเด็ก ๔) มาตรา ๓๑๙ ความผดิ ฐานพรากผูเ้ ยาว์ ส่วนท่ี ๔ การกาหนดให้บทบัญญัติในประมวลกฎหมายอาญา ลักษณะ ๙ ความผิด เก่ียวกบั เพศ เป็นคดแี พ่งท่เี กย่ี วเนือ่ งกบั คดีอาญา ตามประมวลกฎหมายวิธพี ิจารณาความอาญา ถึงแม้ว่ากฎหมายจะได้มีการกาหนดสิทธิของผู้เสียหายในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน จากผกู้ ระทาความผิดเอาไว้แลว้ แต่ข้อเท็จจริงกลับปรากฏวา่ มีผู้เสียหายท่ีทราบถึงสิทธดิ ังกล่าวอยู่นอ้ ยมาก ดังน้ัน จึงควรมีการพิจารณาแนวทางการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายและการเข้าถึงกระบวนการ ยุติธรรม ในการแจ้งสิทธิให้ผู้เสียหายได้รับทราบถึงสิทธิในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากจาเลย (หมายถึงผู้กระทา ความผิดเม่ือถูกฟ้องคดี) และการจัดหาทนายอาสาเพ่ือให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายในการย่ืนคาร้องต่อศาล เพ่ือเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน เนื่องจากผู้เสียหายบางส่วนไม่ทราบว่าตนมีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน จากจาเลย และบางส่วนไม่มีทุนทรัพย์ที่จะจา้ งทนายความเพ่ือดาเนินการ ดังน้ัน ควรจัดทาคู่มือเพื่อเผยแพร่ความรู้ให้แก่ประชาชนทราบถึงสิทธิในการเรียกร้อง ค่าสินไหมทดแทนจากการกระทาความผิดเก่ียวกับเพศ และสิทธิที่จะได้รับความช่วยเหลือทางกฎหมาย นอกจากน้ี ควรแจ้งสิทธิให้ผู้เสียหายได้รับทราบถึงสิทธิในการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากจาเลย และการจัดหาทนายอาสา เพ่ือให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายในการย่ืนคาร้องต่อศาลเพื่อเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน โดยกาหนดให้เป็นหน้าที่ พนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการแจ้งให้ผู้เสียหายทราบในโอกาสแรกถึงสิทธิท่ีจะเรียกค่าสินไหมทดแทน อันเน่ืองมาจากการกระทาความผิดเก่ียวกับเพศ และสิทธิท่ีจะได้รับความช่วยเหลือทางกฎหมาย โดยอ้างอิงจาก การแจ้งสิทธิให้ผู้เสียหายทราบ ตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการคา้ มนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๓๔ ท่ีมีการกาหนดไว้ว่า “เพื่อประโยชน์ในการช่วยเหลือผู้เสียหาย ให้พนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการแจ้งให้ ผู้เสียหายทราบในโอกาสแรกถึงสิทธิท่ีจะเรียกค่าสินไหมทดแทนอันเนื่องมาจากการกระทาความผิดฐานค้ามนุษย์
- ๖๙ - และสิทธิท่ีจะได้รับความช่วยเหลือทางกฎหมาย” ซึ่งเห็นว่าสามารถนาไปปรับใช้กับความผิดเก่ียวกับเพศ ตามประมวลกฎหมายอาญา โดยให้พนักงานสอบสวนหรือพนักงานอัยการมีหน้าที่แจ้งให้ผู้เสียหายทราบถึงสิทธิ ที่จะเรยี กรอ้ งคา่ สนิ ไหมทดแทนจากจาเลยได้ อีกกรณีหนึ่งในความผิดเกี่ยวกับเพศ ลักษณะ ๙ ของประมวลกฎหมายอาญา ฐานความผิดดังกล่าว เมื่อพนักงานอัยการย่ืนฟ้องคดีอาญา ให้ผู้เสียหายมีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๔๔/๑ โดยขอให้เพิ่มเติมมาตรา ๔๔/๑ ดังกล่าว เป็นวรรคท้ายว่า “ในกรณีความผิดเกี่ยวกับเพศ ตามประมวลกฎหมายอาญา ให้พนักงานสอบสวน หรือพนักงานอัยการ แจ้งให้ผู้เสียหายทราบในโอกาสแรกถึงสิทธิที่จะเรียกค่าสินไหมทดแทนอันเนื่องมาจาก การกระทาความผดิ และสิทธทิ ่จี ะได้รบั ความชว่ ยเหลือทางกฎหมาย” สว่ นที่ ๕ การสืบพยานไว้ก่อนตามมาตรา ๒๓๗ ทวิ แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา ความอาญา คณะกรรมาธิการวิสามัญได้พิจารณาเก่ียวกับการสืบพยานไว้ก่อนตามมาตรา ๒๓๗ ทวิ ทั้งในกรณีท่ีเป็นมุมมองด้านสภาพจิตใจของผู้เสียหายหรือพยาน และข้อกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดจาก การสืบพยานไวก้ อ่ น ซง่ึ จะทาให้เกดิ การได้เปรยี บเสียเปรียบในรูปคดีของคู่ความ โดยไดต้ ั้งข้อสงั เกต ดงั นี้ ๑) การสืบพยานไว้ก่อนจาเป็นต้องคานึงถึงสภาพจิตใจของเด็กหรือผู้เสียหายที่ต้องมา นาสืบพยานในช้ันศาลด้วยว่ามีความพร้อมหรือไม่ นอกจากนี้ การสืบพยานเด็กในคดีความผิดเกี่ยวกับเพศนั้น กฎหมายกาหนดใหต้ ้องมีนักจติ วิทยา หรือนักสงั คมสงเคราะห์ บคุ คลท่ีเดก็ ร้องขอ และพนักงานอัยการร่วมอยู่ ดว้ ยเสมอ ๒) การสืบพยานต้องไม่ลืมว่าผู้เสียหายที่เป็นเด็กในฐานะพยาน จะต้องถูกทนายความ ฝ่ายจาเลยถามค้าน ซ่ึงหากเร่งนาเด็กมาสืบพยานในช้ันศาลโดยท่ีเด็กไม่มีความพร้อม จะทาให้เด็กยิ่งต่ืนกลัว ไม่เป็นผลดีต่อรูปคดีของเด็ก และยังเปน็ การเปิดโอกาสให้ทนายความฝา่ ยจาเลยเตรียมข้อมูลเพื่อนามาซักค้าน ในช้ันการพิจารณาคดีในภายหลัง ซึ่งจะทาให้ฝ่ายจาเลยได้เปรียบมากกว่า จึงควรให้เป็นไปตามข้ันตอน ของการดาเนินกระบวนการทางอาญาในรูปแบบเดิม หรือหากจะให้มีการดาเนินการเร็วที่สุดก็ควรรอให้ พนักงานสอบสวนจัดทาสานวนการสอบสวนใหแ้ ลว้ เสร็จเสยี ก่อน ๓) การนาสืบพยานไว้ก่อนจะมีผลทาให้การคุ้มครองผู้ต้องหาหรือจาเลยมีข้อจากัด ไปโดยปริยาย โดยเฉพาะในกรณีท่ีผู้ต้องหาหรือจาเลยหลบหนี อาจย่ิงทาให้การนาสืบข้อเท็จจริงหรือข้อต่อสู้ ของฝ่ายจาเลยไม่สามารถทาได้อย่างครบถ้วนแน่นอน อย่างไรก็ตาม การสืบพยานไว้ก่อนมีข้อดีคือ ผู้เสียหาย เพ่ิงผ่านเหตุการณ์มาไม่นาน ทาให้ยังจาเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ดี ซ่ึงหากปล่อยท้ิงไว้นานจะทาใหค้ วามทรงจาเลือนราง และอาจถูกฝ่ายจาเลยย่ืนข้อเสนอหรือทาการยุ่งเหยิงกับพยาน ดังนั้น หากจะนาการสืบพยานไว้ก่อนมาใช้กับ การสืบพยานเด็กในคดีความผิดเก่ียวกับเพศจะต้องมีการชั่งน้าหนักระหว่างข้อดีและข้อเสียท่ีจะให้มีการสืบพยาน ไวก้ ่อนดว้ ยเชน่ กนั ๔) การสืบพยานไวก้ ่อนควรเป็นเรื่องที่ผู้เสียหายให้ความยินยอมพร้อมใจหรอื ความประสงค์ ของผ้เู สยี หายเอง โดยต้องมกี ารเตรียมความพร้อมของผู้เสียหาย และซกั ซ้อมให้ผ้เู สียหายมคี วามเข้าใจเก่ียวกับ กระบวนการในการสบื พยานและการดาเนนิ คดีในชนั้ ศาล ส่วนที่ ๖ การฟ้องรอ้ งเรยี กค่าเสียหายทางแพ่งในคดีความผดิ เกี่ยวกับเพศ การพิจารณาให้มีการแก้ไขกฎหมายให้การฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายทางแพ่งในคดีความผิด เก่ยี วกบั เพศไม่ควรมีอายุความ และในการพิจารณาคดีควรกาหนดคา่ เสยี หายในลักษณะที่เป็นคา่ เสยี หายเชิงลงโทษ
- ๗๐ - ๖.๕ ประเด็นสาคัญเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมกับการป้องกันและแก้ไขปัญหา การขม่ ขืนกระทาชาเราและการล่วงละเมดิ ทางเพศ ส่วนท่ี ๑ การนาเสนอส่ือข่าวหรือส่ือบันเทิงในรูปแบบต่าง ๆ เก่ียวกับการข่มขืน กระทาชาเรา หรือการล่วงละเมิดทางเพศ ควรมีการจดั ทาคูม่ ือมาตรฐานและแนวทางทีเ่ หมาะสมในการนาเสนอขา่ วเก่ียวกับการข่มขืน กระทาชาเรา และการล่วงละเมดิ ทางเพศของสอื่ มวลชน ดงั นี้ ๑) การนาเสนอข่าวเก่ียวกับการข่มขืนกระทาชาเรา หรือการล่วงละเมิดทางเพศ ไม่ควรใช้ คาว่า “เหยื่อ” แทนตวั “ผเู้ สียหาย” ๒) ควรมกี ารคุ้มครองผู้เสียหายและญาติผูเ้ สียหายในการนาเสนอขา่ วโดยไม่เปิดเผยใบหน้า และรายละเอยี ดข้อมูลสว่ นตัว เชน่ ชอ่ื และท่อี ยู่ เปน็ ตน้ ๓) ควรมีมาตรการหรือข้อกฎหมายที่จะดาเนินคดีกับบุคคลที่เกี่ยวข้องที่นาเสนอข่าว เพ่ือคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหาย โดยเฉพาะการนาเสนอข่าวเกี่ยวกับเด็ก หรือผู้ถูกกระทาด้วยความรุนแรง ในครอบครัว ท่ีอยู่ในการคุ้มครองดูแลของพนักงานเจ้าหน้าท่ีตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖ หรือพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ถูกกระทาด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ หรือตามกฎหมายอื่น ที่เกี่ยวข้อง พนักงานเจ้าหน้าท่ีตามกฎหมายดังกล่าวควรเข้าไปยุติการนาเสนอข่าวหรือดาเนินการอ่ืนใดเพื่อเป็น การปกป้องคุ้มครองสิทธิและป้องกันไม่ให้เกิดการละเมิดแก่เด็กหรือผู้ถูกกระทาด้วยความรุนแรงในครอบครัว ที่อย่ใู นความดูแลโดยทันที ๔) การนาเสนอขา่ วเก่ยี วกับเพศไมค่ วรลงรายละเอยี ดมากเกินไป ๕) การนาเสนอข่าวเกี่ยวกับการข่มขืน กระทาชาเรา หรือการล่วงละเมิดทางเพศ โดยไม่ได้ กล่นั กรอง ควรมมี าตรการในการควบคมุ สอ่ื ออนไลน์ท่ีจดั ตง้ั เพจข่าวเอง หรือส่อื ทอ้ งถิ่น ๖) การเผยแพร่ผลการกระทาของผู้กระทาผิดคดีทางเพศ ควรมีหน่วยงานเผยแพร่ว่า ผกู้ ระทาผิดจะได้รบั การลงโทษในเร่ืองใดบ้าง เพื่อป้องกนั พฤติกรรมการลอกเลยี นแบบและการเกรงกลัวท่ีจะกระทา ความผิด ๗) การนาเสนอส่ือบันเทิงในรูปแบบภาพยนตร์ ละคร รายการทั่วไปในส่ือทุกประเภท ควรควบคุมการผลิต การนาเสนอเนื้อหาท่ีไม่เป็นการส่งเสริมการล่วงละเมิดหรือการคุกคามทางเพศ หรอื การมองเรื่องการคุกคามทางเพศเป็นเรื่องปกติ โดยการจัดทาเน้ือหาภายในคู่มือมาตรฐานและแนวทางการนาเสนอข่าวเกี่ยวกับการข่มขืน กระทาชาเราและการล่วงละเมิดทางเพศของส่ือมวลชน จะต้องนากฎหมายและมาตรการอื่นท่ีเก่ียวข้องกับ การนาเสนอข่าวของสื่อมวลชนที่เป็นการละเมิดสิทธิผู้เสียหายจากการกระทาความผิดเกี่ยวกับเพศ มาพิจารณา เปน็ แนวทางในการจดั ทา ส่วนที่ ๒ ข้อกฎหมายเกี่ยวกับการจัดเก็บตัวอย่างสารพันธุกรรม (DNA) และ การลงทะเบยี นขอ้ มูลของผ้ตู อ้ งขังคดีความผิดเกย่ี วกบั เพศ ควรพิจารณาศึกษาถึงข้อดีและข้อเสียในทางปฏิบัติอย่างละเอียดรอบคอบ ในประเด็น ดงั ตอ่ ไปน้ี ๑) การจัดเก็บตัวอย่างสารพันธุกรรม หรือ DNA ของผู้ต้องขังคดีความผิดเกี่ยวกับเพศ ได้เสนอให้มีการจัดเก็บตัวอย่าง DNA ของผู้ต้องขังในคดีความผิดเกี่ยวกับเพศทุกคน เพ่ือเป็นฐานข้อมูล ในการติดตามและเฝ้าระวังไม่ให้เกิดการกระทาความผิดซ้าหลังจากที่ได้รับการปล่อยตัวเมื่อพ้นโทษ รวมถึง ควรผลักดันให้มีการพิจารณาออกกฎหมายรบั รองการจัดเก็บ DNA ของผู้ต้องขังเพื่อให้มีผลบังคับใช้ในทางปฏิบัติ อย่างจริงจัง และเพ่ือเป็นการป้องกันการกระทาความผิดซ้า ท้ังน้ี หน่วยงานที่จะเป็นผู้จัดเก็บ เช่น สานักงาน นิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยตุ ิธรรม เปน็ ต้น
- ๗๑ - ๒) การลงทะเบียนและการเปิดเผยข้อมูลของผู้ต้องขังคดีความผิดเก่ียวกับเพศที่ได้รับ การปล่อยตัวหลังจากการพ้นโทษ โดยเฉพาะประเด็นท่ีเก่ียวกับการละเมิดสิทธิส่วนบุคคล การโยกย้ายถิ่นท่ีอยู่ ของอดตี ผู้ต้องขังท่คี าดหมายได้วา่ จะเกดิ ขน้ึ ในอนาคต และความพรอ้ มของหน่วยงานท่ีเป็นผปู้ ฏิบตั ิ ส่วนที่ ๓ มาตรการเกี่ยวกับการดาเนินการทางวินัยแก่ข้าราชการครู บุคลากร ทางการศกึ ษา และเจ้าหน้าท่ขี องรัฐ กรณีการล่วงละเมิดทางเพศต่อนักเรียนและผอู้ ยูใ่ นความดูแล ๑) แนวทางการพิจารณาโทษข้าราชการครูกระทาผิดวินัย กรณีประพฤติช่ัวทางเพศ ซ่ึงคู่กรณีเป็นครูชายโสดกับสตรีโสด โดยมีพฤติกรรมคือ ร่วมประเวณีโดยข่มขืนแล้วจดทะเบียนสมรส แนวทาง พจิ ารณาโทษข้าราชการครูกระทาผิดวินัยโดยกาหนดระดับความผิดไว้ว่าไม่ร้ายแรง ซ่ึงการพิจารณาปรับความผิด ในพฤติกรรมดังกล่าว ควรปรับระดับความผิดเป็นร้ายแรง ตามประมวลกฎหมายอาญาท่ีถือเป็นความผิด อาญาแผ่นดินที่ไม่สามารถยอมความได้ ดังน้ัน กระทรวงศึกษาธิการควรปรับปรุงแนวทางการพิจารณาโทษ ข้าราชการครกู ระทาผิดวินัยในพฤติการณ์ดังกล่าวใหถ้ ือวา่ มีระดับความผิดร้ายแรงและระดับโทษเป็นปลดออก หรือไล่ออก โดยให้นาแนวทางพิจารณาดังกล่าวไปใช้กับหน่วยงานราชการทุกหน่วยงาน โดยปรับบทความผิด ตามประมวลกฎหมายอาญา ๒) กระบวนการดาเนินการทางวินัยแก่ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาในสานักงาน เขตพ้ืนที่การศึกษา ซ่ึงจะมีการสืบสวนหรือพิจารณาเบื้องต้น หากกรณีอันมีมูลที่ควรกล่าวหาว่ากระทาผิดวินัย โดยจะมีการแต่งต้ังคณะกรรมการสอบสวนวินัยในกรณีกระทาผิดวินัยไม่ร้ายแรงตามมาตรา ๒๔ และมาตรา ๙๘ วรรคหนึ่ง และกรณกี ระทาผดิ วินยั อย่างร้ายแรงตามมาตรา ๕๓ แห่งพระราชบัญญัตริ ะเบียบข้าราชการครูและบคุ ลากร ทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๗ ดังน้ัน การพิจารณาแต่งตั้งบุคคลเพ่ือเป็นคณะกรรมการสอบสวน ควรมีการออก ระเบียบหรือกฎเพื่อเป็นหลักเกณฑ์การแต่งตั้งบุคคลเป็นคณะกรรมการ โดยคานึงถึงสัดส่วนกรรมการสอบสวนวินัย ให้มนี กั จติ วทิ ยา นกั สังคมสงเคราะห์ หรอื ครูแนะแนว เข้าร่วมเป็นกรรมการในการพจิ ารณาสอบสวนดว้ ย ๓) ควรมกี ารเผยแพร่บทสรุปของผลการดาเนนิ การทางวนิ ยั ในการกระทาความผิดเกย่ี วกับเพศ ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ประชาชนได้รับทราบ เพื่อเป็นกรณีตัวอย่างให้สังคมได้รับทราบ และตระหนักถงึ ผลกระทบทจ่ี ะเกดิ ข้ึน ส่วนท่ี ๔ การให้ความช่วยเหลือและเยียวยาแก่ผู้เสียหายจากการกระทาความผิด เก่ียวกบั เพศ คณะกรรมาธิการวิสามัญมีข้อสังเกตเกย่ี วกับการให้ความช่วยเหลือและเยียวยาแก่ผูเ้ สียหาย จากการกระทาความผิดเก่ยี วกบั เพศต่อกรมคมุ้ ครองสทิ ธิและเสรีภาพ กระทรวงยตุ ิธรรม ดงั นี้ ๑) ควรพิจารณากาหนดเพ่ิมเติมประเภทค่าตอบแทนของผู้เสียหายในคดีอาญา อีก ๒ ประเภท ได้แก่ ค่าใช้จ่ายในการดาเนินการของผู้ปกครองกรณีท่ีผู้เสียหายเป็นผู้เยาว์ โดยให้นาข้อกฎหมาย เร่ืองค่าสินไหมทดแทนกรณีละเมิดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์มาปรับใช้ในการพิจารณา ได้แก่ ค่าเสียหายอันจะพึงบังคับให้ใช้เพื่อความเสียหายอยา่ งใด ๆ อันได้ก่อขนึ้ น้ันด้วย และค่าใชจ้ ่ายท่เี กินจากข้ันต่า ของค่าใช้จา่ ยที่กฎหมายกาหนดไว้ ๒) ควรพิจารณาแก้ไขหลักเกณฑ์ในการยื่นคาร้องโดยอานวยความสะดวกในกรณีที่เป็น เอกสารที่ต้องออกจากหน่วยงานของรัฐ และกรณีที่ผู้ร้องไม่สามารถย่ืนเอกสารได้เน่ืองจากมีหลายขั้นตอน โดยควรพิจารณาทบทวนการออกระเบียบของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ เพื่ออานวยความสะดวกแก่ ผู้ย่ืนคาร้องในคดีอาญา กรณีวิธีการย่ืนคาร้องขอรับค่าตอบแทน โดยเพิ่มช่องทางในการยื่นคาร้อง เช่น การส่งเอกสารทางจดหมายอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ เปน็ ต้น
- ๗๒ - นอกจากนี้ คณะกรรมาธิการวิสามัญได้มีข้อสังเกตเก่ียวกับแนวทางการเรียกร้อง ค่าเสยี หายของแรงงานต่างด้าวทีต่ กเป็นผเู้ สียหายในคดีอาญา ดงั น้ี ๑) คณะกรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย และค่าทดแทนและค่าใช้จ่ายแก่จาเลย ในคดอี าญา ในส่วนของกรมคุม้ ครองสิทธิและเสรีภาพ ควรมีการพิจารณาทบทวนแก้ไขระเบียบเก่ียวกับหลักเกณฑ์ และวิธีการจ่ายเงินให้แก่ผู้เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายที่ต้องตกเป็นผู้เสียหายในคดีอาญา ที่ผู้เสียหายดังกล่าว พึงได้รับการคุ้มครองและเยียวยาตามสิทธิของผู้เสียหาย ไม่วา่ ขณะนน้ั ผู้เสียหายจะตกอยู่ในสถานะใด จะมีการ เข้าเมืองท่ีถูกกฎหมายหรือไม่ เน่ืองจากกระบวนการเรียกร้องเงินเยียวยาตามสิทธิของผู้เสียหายในคดีอาญา กับการดาเนินคดีต่อผู้เสียหายท่ีเป็นผู้กระทาความผิดฐานเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเป็นการดาเนินการ คนละสว่ นกนั ๒) กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ ควรช้ีแจงถึงเหตุผลและความจาเป็นเพ่ือขอให้สานัก งบประมาณจัดสรรงบให้ครอบคลุมจานวนเงินเยียวยาที่ค้างจ่ายให้แก่ผู้เสียหายท้ังหมด รวมถึงขอเงินสารอง เผื่อเหลือเผ่ือขาดไว้ใช้ในการสนับสนุนการดาเนินงาน เพื่อท่ีจะได้ไม่กระทบต่อวงเงนิ งบประมาณในการบริหาร จัดการในแตล่ ะปี และเพ่ือให้การบรรเทาความเดือดร้อนให้แกผ่ ้เู สยี หายเปน็ ไปอยา่ งมีประสิทธิภาพ ๓) กระทรวงมหาดไทย ควรมีการศึกษาหาแนวทางผ่อนผันการดาเนินคดีแก่ผู้เสียหาย ตามกฎหมายว่าดว้ ยคนเข้าเมือง เพื่อให้ผู้เสียหายสามารถจัดการให้สถานะความเป็นผู้เสยี หายน้ันสิ้นสดุ ลงก่อนที่จะ ถูกดาเนินคดที างกฎหมายในสถานะของผู้กระทาความผดิ ฐานเข้าเมอื งโดยผดิ กฎหมายต่อไป ส่วนท่ี ๕ ขอบเขตของกฎหมายเกี่ยวกับอปุ กรณ์เซก็ สท์ อย (Sex Toy) และส่ือลามก อนาจาร ประเด็นขอบเขตของกฎหมายเก่ียวกับการซื้อขายอุปกรณ์เซ็กส์ทอย (Sex Toy) และส่ือลามกอนาจาร คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาว่า ยังไม่มีงานวิจัยใดที่สนับสนุนผลอย่างเป็นทางการว่า การใช้อุปกรณ์เซ็กสท์ อย (Sex Toy) และส่ือลามกอนาจาร จะช่วยป้องกันหรือแก้ไขปัญหาการข่มขืนกระทาชาเรา หรือการล่วงละเมิดทางเพศได้โดยตรง ประกอบกับข้อเท็จจริงท่ีเกิดข้ึนในคดีความผิดเกี่ยวกับเพศท่ีผู้กระทา ความผดิ มกั จะลงมอื กระทาผิดด้วยตนเองโดยไมม่ ีการใช้อุปกรณด์ งั กลา่ ว ส่วนที่ ๖ แนวทางการให้ความช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ผู้เสียหายในความผิด เกยี่ วกับเพศ รวมถึงมาตรการดาเนนิ การกับทนายความทที่ อดท้ิงผ้เู สยี หายในระหว่างการดาเนนิ คดี ควรต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบโดยทั่วถึงกันเก่ียวกับการติดต่อขอรับ ความช่วยเหลือทางกฎหมาย โดยช่องทางในการติดต่อขอรับความช่วยเหลือได้ เช่น สานักงานยุติธรรมจังหวัด สานักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน สานักงานอัยการสูงสุด หรือสภาทนายความ ประจาจังหวัด และกรณีหากทนายความทอดท้ิงคดีสามารถร้องเรียนได้ที่สภาทนายความประจาจังหวัด หรือสภาทนายความแหง่ ประเทศไทย ส่วนที่ ๗ สภาพปัญหาและอุปสรรคของผู้เสียหายในคดีความผิดเกี่ยวกับเพศ ในช้ันพนกั งานสอบสวน คณะกรรมาธิการวิสามัญได้มีข้อสังเกตในการดาเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับ การสอบสวนคดีความผิดเก่ยี วกับเพศในช้นั พนกั งานสอบสวน ดังน้ี ๑) ให้มีการจัดหรือปรับปรุงห้องสอบสวนผู้เสียหายในคดีความผิดเกี่ยวกับเพศ ไวเ้ ปน็ การเฉพาะ
รายงาน ของ คณะกรรมาธกิ ารวิสามัญ พจิ ารณามมี ตใิ หร้ ับฟังความคดิ เหน็ ของ นกั เรียน นิสติ นกั ศกึ ษา เยาวชน และประชาชน สภาผ้แู ทนราษฎร กลมุ่ งานคณะกรรมาธกิ ารการปกครอง สานกั กรรมาธิการ ๒ สานักงานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร
ก บทสรปุ ผู้บริหาร สถานการณ์ปัจจุบันมีการชุมนุมของนักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชน และประชาชน เพ่ือแสดงความคิดเห็นและข้อเรียกร้องในประเด็นทางด้านสังคม การเมือง การปกครองกันอย่างกว้างขวาง ผ่านการชุมนุมและผ่านช่องทางการสื่อสารในรูปแบบต่าง ๆ ซ่ึงถือว่าเป็นเร่ืองท่ีแสดงให้เห็นการต่ืนตัว ของประชาชนในการใช้สิทธิและเสรีภาพ อย่างไรก็ตามในการชุมนุมของนักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชน และประชาชนเพื่อแสดงความคิดเห็นและข้อเรียกร้องต้องเป็นการชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ และควรได้รับ การปกปอ้ งคุ้มครองความปลอดภัยจากรฐั คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณามีมติให้รับฟังความคิดเห็นของนักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชน และประชาชนได้กาหนดกรอบการพิจารณา ดงั นี้ ๑. คณะกรรมาธิการเชิญบุคคลที่มีประสบการณ์ด้านการชุมนุมมาให้คาปรึกษาหรือ แสดงความคดิ เหน็ เพอื่ ใหข้ อ้ เสนอแนะด้านประสบการณ์และด้านวชิ าการ ๒. คณะกรรมาธิการเชิญตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมมาร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการ เพอื่ แสดงความคดิ เหน็ ๓. คณะกรรมาธิการเดนิ ทางไปรับฟงั ความคิดเห็นและสังเกตการณ์ในพน้ื ท่ีการชมุ นุม จานวน 7 เวทกี ารชมุ นุม ๔. คณะกรรมาธิการรับฟังความคิดเห็นผ่านระบบออนไลน์โดยมีการรับฟงั ผ่านระบบออนไลน์ เป็น ๓ แนวทาง คือ ๑) คณะกรรมาธิการรับฟังความคิดเห็นผ่านระบบออนไลน์โดยการรวบรวมความคิดเห็น ผ่านระบบออนไลน์ลักษณะเป็นการท่ัวไปเพื่อนามาประกอบการพิจารณา จานวน ๑๙๒ กลุ่ม ๒) คณะกรรมาธิการ ได้รับฟังความคิดเห็นโดยการสารวจความคิดเห็นผ่านระบบออนไลน์ในรูปแบบของการตอบคาถามโดยได้รับ ความร่วมมือจากสถาบันพระปกเกล้า จานวน ๒,๕๐๕ คน และ ๓) คณะกรรมาธิการรับฟังความคิดเห็นผ่าน ระบบออนไลน์โดยรูปแบบของการจัดทาแบบการสารวจทัศนคติของประชาชนต่อการแสดงความคิด ทางการเมอื ง โดยไดร้ บั ความร่วมมือจากกระทรวงดจิ ทิ ัลเพ่ือเศรษฐกจิ และสงั คม จานวน ๑๙ เวทกี ารชมุ นุม ผลการพิจารณาศึกษาของคณะกรรมาธิการ พบว่าการชุมนุมเพ่ือแสดงความคิดเห็น ของนักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชน และประชาชนนั้น เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยมีวัตถุประสงค์ เพ่ือให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางด้านสังคม ด้านการเมือง และด้านเศรษฐกิจ คณะกรรมาธิการได้รับฟังข้อมูล ข้อเท็จจริง และความคิดเห็นจากผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมแล้ว ทราบว่ามีการปฏิบัติ ตามกฎหมายและสถานศึกษามีการเปิดพ้ืนที่ให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชน และประชาชน มีโอกาส แสดงความคิดเห็นมากขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทุกภาคส่วนมีความรู้ ความเข้าใจว่าการใช้สิทธิและเสรีภาพ เป็นสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานท่ีรัฐธรรมนูญรับรองไว้ ดังน้ัน เพ่ือเป็นการสนับสนุนการแสดงความคิดเห็น ของนกั เรียน นิสติ นกั ศกึ ษา เยาวชน และประชาชน จึงมคี วามจาเปน็ ทคี่ วรเปดิ พืน้ ทใี่ ห้นักเรยี น นสิ ติ นกั ศึกษา เยาวชน และประชาชนได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็น ท้ังนี้ ต้องเป็นการแสดงความคิดเห็นและการชุมนุม โดยสงบและปราศจากอาวุธ นอกจากน้ี คณะกรรมาธิการมีข้อเสนอแนะ และขอ้ สังเกตของคณะกรรมาธกิ าร เพื่อคณะรัฐมนตรี และหน่วยงานทีเ่ ก่ยี วข้องควรทราบหรือควรปฏบิ ตั มิ ดี งั นี้ คณะกรรมาธิการสามัญประจาสภาผู้แทนราษฎรและคณะกรรมาธิการวิสามัญท่ีมีหน้าที่ และอานาจท่เี กยี่ วข้องควรเปิดโอกาสและรับฟังความคิดเห็นจากนักเรยี น นสิ ิต นกั ศึกษาและประชาชน เพอื่ นา ข้อมูลไปประกอบการพิจารณา เช่น คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา หลักเกณฑ์ และแนวทาง การแก้ไขเพ่ิมเติมรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน และคณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การส่ือสารมวลชน และการมีส่วนร่วม ของประชาชน เป็นตน้
ข คณะรัฐมนตรีในฐานะที่มีหน้าท่ีในการบริหารราชการแผ่นดินตามกฎหมายว่าด้วยระเบีย บ บริหารราชการแผ่นดิน กฎหมายอื่นท่ีเก่ียวข้อง และตามนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภา จึงมีความจาเป็นอย่างยิ่ง ที่คณะรัฐมนตรีควรเปิดพื้นท่ีให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชน และประชาชน เพ่ือแสดงความคิดเห็น อย่างอิสระ สร้างสรรค์ และอยภู่ ายใต้บทบญั ญตั ขิ องกฎหมาย กระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมในฐานะท่ีมี หน้าท่ีในการกากับและดูแลโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา ซึ่งมีบทบาทในการส่งเสริมสนับสนุนให้นักเรียน นักศึกษา และบคุ ลากรในโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาจัดกิจกรรมการชุมนุมเพ่ือแสดงความคิดเห็น ตลอดทั้ง รูปแบบการจัดกิจกรรมภายในโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษาได้อย่างอิสระ สร้างสรรค์ และอยู่ภายใต้ บทบัญญัติของกฎหมาย จึงควรเปิดพ้ืนที่ให้นักเรียน นักศึกษา และบุคลากรในโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา เพื่อแสดงความคิดเห็นในโรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา สร้างความรู้ ความเข้าใจด้านการเมืองการปกครอง ในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข หน้าที่ความเป็นพลเมือง ตลอดท้ังคุณธรรม และจริยธรรม กาหนดมาตรการความปลอดภัยให้กับนักเรียน นิสิต นักศึกษาในการคัดกรองบุคคลภายนอก ที่เข้า – ออก โรงเรยี นหรอื สถาบันการศกึ ษาเพือ่ ความปลอดภยั และป้องกนั การแทรกแซงจากบุคคลภายนอก สานักงานตารวจแห่งชาติ ควรปฏบิ ตั ิตามหลกั เกณฑ์ และขั้นตอนการชุมนุมที่กฎหมายกาหนด และการบังคับใช้กับผู้ชุมนุม ต้องไม่ใช้ความรุนแรง และไม่มีการคุกคามหรือข่มขู่ผู้ชุมนุมหรือการกระทา ท่ีมีลักษณะเป็นการคุกคามหรือข่มขู่ผู้ชุมนุม ตลอดท้ังการรักษาความปลอดภัยหรืออานวยความสะดวก แก่ผู้ชุมนุมในสถานที่ชุมนุม และการดาเนินคดีต่อผู้ชุมนุมควรคานึงถึงหลักรัฐศาสตร์มาประกอบการพิจารณา กบั หลักนิตศิ าสตรด์ ว้ ย
ค สารบญั บทสรปุ ผบู้ ริหาร หนา้ สารบญั ก สารบัญภาพ ค รายงานของคณะกรรมาธกิ ารวสิ ามญั พิจารณา ง มมี ตใิ ห้รบั ฟังความคดิ เห็นของนักเรยี น นิสิต นกั ศึกษา เยาวชน และประชาชน ๑ ๑. การดาเนินงาน 2 ๒. วิธีการพิจารณา 2 ๓. ผลการพิจารณา 5 5 ๓.๑ ความเปน็ มา 6 ๓.๒ ผลการพจิ ารณา 54 ๔. บทสรปุ ขอ้ เสนอแนะ 57 ๕. ข้อสงั เกตของคณะกรรมาธิการ ภาคผนวก ภาคผนวก ก. สาเนาหนังสือสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน (สพฐ.) ภาคผนวก ข. สาเนาหนังสอื ของคณะกรรมาธิการถึงหน่วยงานท่ีเกยี่ วข้อง ภาคผนวก ค. แบบสอบถาม ภาคผนวก ง. แผนภาพสรุปทศั นคตขิ องประชาชนที่มีต่อ การชมุ นุมทางการเมืองกลุ่มต่าง ๆ ภาคผนวก จ. ข้อเสนอของกลุ่ม คน GEN กลา้ รุน่ ท่ี ๑
ง หนา้ สารบญั ภาพ 49 49 แผนภาพที่ ๑ แผนภาพข้อมูลทว่ั ไปของผู้ตอบแบบสอบถาม 50 แผนภาพที่ ๒ แผนภาพการติดตามข่าวการชมุ นุมทางการเมืองของกล่มุ นักเรยี น แผนภาพที่ ๓ ความเหน็ ต่อเรื่องต่าง ๆ ในสถานการณก์ ารชุมนมุ ทางการเมือง
รายงานของคณะกรรมาธกิ ารวสิ ามญั พจิ ารณามีมติให้รับฟังความคดิ เห็นของนักเรียน นสิ ติ นักศกึ ษา เยาวชน และประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ตามท่ีที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดท่ี 25 ปีที่ 2 คร้ังท่ี 15 (สมัยสามัญประจาปีครั้งท่ีหน่ึง) เป็นพิเศษ วันพฤหัสบดีท่ี 23 กรกฎาคม 2563 ที่ประชุมได้พิจารณาญัตติ เร่ือง ขอให้สภาผู้แทนราษฎร ต้ังคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเปิดพ้ืนที่ให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา เข้ามามีส่วนร่วมโดยตรงกับ สภาผู้แทนราษฎรในการแก้ไขปัญหาความไม่เป็นธรรมในสังคม (นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ เป็นผู้เสนอ) และญัตติด่วน เรื่อง ขอให้คณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วม ของประชาชนพิจารณาให้มีการรับฟังความคิดเห็นของนักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชน และประชาชน (นายภราดร ปริศนานันทกุล กับคณะ เป็นผู้เสนอ) และลงมติต้ังคณะกรรมาธิการวิสามัญข้ึนคณะหน่ึง เพ่ือพิจารณามีมติให้รับฟังความคิดเห็นของนักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชน และประชาชน โดยได้กาหนด ระยะเวลาพิจารณาศกึ ษาไว้ 90 วนั โดยสนิ้ สดุ ในวันท่ี 21 ตลุ าคม 2563 น้ัน กรรมาธิการคณะนี้ ประกอบดว้ ย ๑. นายภราดร ปริศนานันทกลุ ประธานคณะกรรมาธกิ าร ๒. รองศาตราจารยร์ งค์ บญุ สวยขวัญ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนทหี่ นึ่ง ๓. นายอิสระ เสรวี ัฒนวุฒิ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนทีส่ อง ๔. นางสาวธณกิ านต์ พรพงษาโรจน์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนทส่ี าม ๕. นางสาวสณุ ฐั ชา โลส่ ถาพรพพิ ธิ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนท่ีสี่ ๖. นายคณวัฒน์ จนั ทรลาวณั ย์ โฆษกคณะกรรมาธกิ าร ๗. นายกรวรี ์ ปริศนานันทกลุ โฆษกคณะกรรมาธิการ ๘. นางเกศทพิ ย์ ศภุ วานชิ กรรมาธกิ าร ๙. นายคารณ ชเู ดชา กรรมาธกิ าร ๑๐. นายจกั รพนั ธ์ พรนิมิตร กรรมาธกิ าร ๑๑. นายจุลพนั ธ์ โนนศรชี ยั กรรมาธิการ ๑๒. นายชยั วุฒิ ธนาคมานุสรณ์ กรรมาธกิ าร ๑๓. นายชาดา ไทยเศรษฐ์ กรรมาธิการ ๑๔. นายณัฐศักดิ์ จันทร์สวา่ ง กรรมาธกิ าร ๑๕. นางสาวทิพานนั ศริ ิชนะ กรรมาธกิ าร ๑๖. พลโท นชุ ติ ศรบี ญุ ส่ง กรรมาธิการ ๑๗. นายบรรลือ วิศิษฎอนพุ งษ์ กรรมาธิการ ๑๘. นายปรดี า บญุ เพลงิ กรรมาธกิ าร ๑๙. พลตารวจโท ปิยะ อทุ าโย กรรมาธิการ ๒๐. นายวรศษิ ฎ์ เลยี งประสิทธ์ิ กรรมาธิการ ๒๑. ผ้ชู ว่ ยศาสตราจารย์ รอ้ ยตารวจเอก วิเชยี ร ตนั ศิริคงคล กรรมาธิการ ๒๒. นายสพุ ล ฟองงาม กรรมาธกิ าร ๒๓. พลตรี สรุ พงษ์ อยู่พร้อม กรรมาธกิ าร ๒๔. นายสริ ิพงศ์ อังคสกุลเกียรติ เลขานุการคณะกรรมาธกิ าร ๒๕. นายพรพรหม ณ.ส. วิกติ เศรษฐ์ ผู้ช่วยเลขานกุ ารคณะกรรมาธิการ
๒ อน่ึง คณะกรรมาธิการวิสามัญได้มีมติแต่งต้ัง นายอัครเดช คนซ่ือ นิติกรชานาญการพิเศษ ปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้ช่วยเลขานุการ ในคณะกรรมาธิการ ตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2562 ข้อ 93 วรรคส่ี 1. การดาเนนิ งาน ในคราวการประชุมคณะกรรมาธิการ เมื่อวันศุกร์ที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๓ และเม่ือวันศุกร์ที่ ๑๔ สิงหาคม ๒๕๖๓ ที่ประชมุ ไดม้ มี ติให้แตง่ ตง้ั ทปี่ รึกษาคณะกรรมาธิการวิสามญั คอื ๑. นางสาวจุฑาฑัตต เหล่าธรรมทัศน์ ๒. นายเขตรฐั เหล่าธรรมทัศน์ ๓. นายณฏั ฐช์ นน ศรีกอ่ เกื้อ ๔. นายพรี พร สวุ รรณฉวี ๕. ร้อยตารวจเอก พงศกร ขวัญเมอื ง ๖. นายภูมิสิทธิ์ มาประจง ๗. นายอรรถวัฒน์ มณพี นั ธ์ุ ๘. นายวุฒิพงษ์ สภุ าวงษ์ ๙. รองศาสตราจารย์อนุชยั รามวรังกู ๑๐. ศาสตราจารย์วุฒิสาร ตนั ไชย ๑๑. นายชอบเรยี น วงศ์ศริ ิ ๑๒. นางดรุณวรรณ ชาญพพิ ัฒนชัย ๑๓. นายธนยศ ทมิ สวุ รรณ ๑๔. นายรัฐชยุตม์ รงุ่ จารุพันธ์ ๑๕. นายเชวงศกั ดิ์ พลลาภ ๒. วธิ กี ารพิจารณา ๒.๑ คณะกรรมาธิการวิสามัญได้ประชุมพิจารณามีมติให้รับฟังความคิดเห็น ของนักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชน และประชาชน โดยเชิญหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องมาร่วมประชุมเพ่ือให้ข้อมูล ข้อเท็จจริง ตลอดจนช้ีแจง แสดงความคิดเห็นจานวน ๖ ครั้ง ดงั นี้ ๒.๑.๑ ครง้ั ท่ี 1 วนั ศกุ รท์ ี่ 31 กรกฎาคม 2563 ๒.๑.๒ ครั้งที่ 2 วนั ศุกรท์ ี่ 7 สงิ หาคม 2563 ๒.1.๓ คร้งั ที่ 3 วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม 2563 ๒.1.๔ คร้ังที่ ๔ วนั พฤหัสบดีที่ ๒๐ สงิ หาคม ๒๕๖๓ ๒.1.๕ คร้ังที่ ๕ วนั ศุกรท์ ่ี ๒๑ สงิ หาคม 2563 2.1.6 ครง้ั ที่ ๖ วันจนั ทรท์ ่ี ๒๔ สงิ หาคม 2563 2.2 ผู้ซง่ึ คณะรฐั มนตรีได้มอบหมายให้มาชี้แจงแสดงความคิดเห็น (๑) นางสาวกญั ญญ์ านันท์ รตชรทวีกลุ ผู้อานวยการกลุ่มงานสง่ เสริมและปอ้ งกนั การกระทรวงผิดทางคอมพวิ เตอร์ (๒) นายภชุ พงค์ โนดไธสง กระทรวงดิจิทลั เพ่อื เศรษฐกิจและสงั คม (๓) นางสาวธนิสสรา ลิ้นสุวรรณ กระทรวงดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกจิ และสังคม (๔) นางสาวภาตะวนั ภากรศิลป์ กระทรวงดจิ ทิ ัลเพื่อเศรษฐกจิ และสังคม (๕) นายสันติภาพ เพม่ิ มงคล กระทรวงดิจิทลั เพื่อเศรษฐกิจและสังคม
๓ ๒.3 คณะกรรมาธกิ ารไดด้ าเนินการโดยเชญิ หนว่ ยงานมาให้ขอ้ มลู ขอ้ เทจ็ จรงิ ประกอบการพจิ ารณา ดังน้ี ๒.3.๑ สานักงานอยั การสูงสดุ - นายสรุ เชษฐ์ งามวงศ์ อัยการพเิ ศษฝา่ ยคดีอาญา ๔ ๒.๓.2 สานกั งานตารวจแห่งชาติ (1) พลตารวจตรี เมธี รักษ์พันธ์ ผบู้ ังคับการตารวจนครบาล ๖ กองบัญชาการตารวจนครบาล (๒) พลตารวจตรี ภาคภูมภิ ภิ ัทฒ์ สจั จพนั ธ์ รองผู้บัญชาการ สานกั งานยุทธศาสตร์ตารวจ (3) พันตารวจเอก จรญู ไพลดา รองผู้บงั คับการตารวจสันตบิ าล ๑ กองบัญชาการตารวจสนั ติบาล (4) พนั ตารวจเอก สถิตย์ วชิ ยั กุล ผกู้ ากับการฝ่ายอานวยการ กองบังคบั การตรวจคนเข้าเมอื ง ๓ (5) พนั ตารวจเอก สหสั ชยั โลจายะ รองผูบ้ งั คบั การแผนงานความม่ันคง (6) รอ้ ยตารวจโทหญิง กญั ญว์ รา เลิศไธสง รองสารวัตรฝ่ายอานวยการ ๓ กองบังคบั การอานวยการ กองบัญชาการตารวจนครบาล ปฏบิ ัติราชการ กองบงั คบั การ ตารวจนครบาล ๖ (๗) พันตารวจโท กฤษดา มานะวงศ์สกลุ นายเวร ผชู้ ว่ ยผบู้ ญั ชาการ สานกั งานตารวจแหง่ ชาติ ๒.3.๓ กระทรวงศกึ ษาธิการ (1) นายสนิท แย้มเกสร รองเลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน (๒) นายชนะ สุ่มมาตย์ ผู้อานวยการศนู ยเ์ ฉพาะกจิ คมุ้ ครอง และช่วยเหลอื เด็กนกั เรยี น สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน (3) วา่ ที่รอ้ ยตรีหญงิ วรินทร์ เกดิ ผล เจา้ หนา้ ท่ศี นู ย์ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน (5) นายธรรมรงค์ เสนจันทร์ ผู้อานวยการโรงเรยี นหอวงั (6) นางสาวณัทรนิ คมุ้ วงศ์ เจา้ หนา้ ที่ สานกั งานผู้อานวยการโรงเรยี นหอวงั ๒.3.๔ สถาบนั พระปกเกลา้ (๑) นายสติธร ธนานิธโิ ชติ ผูอ้ านวยการสานักนวัตกรรม เพ่ือประชาธปิ ไตย (๒) นางสาวธีรพรรณ ใจมั่น รกั ษาการผูอ้ านวยการ สานักสง่ เสริมวชิ าการรัฐสภา (๓) นายเลศิ พร อุดมพงษ์ นกั วชิ าการผ้ชู านาญการ สานักส่งเสริมวิชาการรัฐสภา
๔ (๔) นางสาวขวัญขา้ ว คงเดชา นกั วชิ าการ สานกั นวัตกรรมเพ่อื ประชาธปิ ไตย (๕) นายกฎิ าพล ภทั รธรรมา พนักงานฝึกอบรม และบรหิ ารโครงการ ๒.3.๕ ศนู ยท์ นายความเพอื่ สิทธิมนุษยชน สานักสง่ เสรมิ วชิ าการรฐั สภา (1) นางสาวพนู สุข พูนสขุ เจริญ (2) นายนพพล อาชามาส ฝา่ ยวิจัยและกฎหมาย ฝ่ายข้อมลู ๒.3.๖ มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ - รองศาสตราจารยอ์ นสุ รณ์ อณุ โณ คณบดีคณะสงั คมวทิ ยาและมานุษยวิทยา ๒.3.๗ กลมุ่ คน GEN กลา้ ประธาน กลุม่ คน GEN กลา้ ร่นุ ท่ี 1 (1) นายอัครชยั ชยั มณีการเกษ สมาชกิ (2) นายจักรกฤษณ์ จวี ะระพุทธ สมาชกิ (3) นางสาวดวงพร มนี ่นุ สมาชิก (4) นายธิปก สกุลณะมรรคา สมาชิก (5) นายเมธสิ โลหเตปานนท์ สมาชกิ (6) นาย ปยิ พล บุนนาค สมาชิก (๗) นายพรี เดช มขุ ยางกูร สมาชกิ (8) นายภูมิ กลุ จรรยาววิ ัฒน์ สมาชิก (9) นางสาววลิ าสินี คุปตน์ ริ ัตศิ ัยกุล สมาชกิ (10) นายธนสรณ์ จันทร์กระพ้อ สมาชกิ (11) นายพรภวิษย์ ศิริโรจน์ สมาชกิ (12) นางสาวธัญชนก ผมู้ ีสทิ ธิ์ ผ้อู านวยการกองสรรพกาลัง ๒.3.๘ ผู้ติดตามกรรมาธกิ าร สานักงานนโยบายและยุทธศาสตร์กลาโหม (1) นาวาอากาศเอก วิศลั ย์ ธรรมประสทิ ธิ์ ผตู้ ดิ ตาม พลโท นุชติ ศรบี ญุ ส่ง ผอู้ านวยการกองปฏิบตั ิการศูนย์อานวยการ (2) นาวาอากาศเอก ฐิตนนท์ แก้ววิเชียรพี ประสานงานข่าวกรอง สานกั งานนโยบายและแผนกลาโหม (3) พนั ตารวจตรี อาชวนิ บญุ ลอื ผู้ตดิ ตาม พลโท นชุ ิต ศรีบุญส่ง (๔) นายจริ ะ แนบสนทิ ผู้ติดตาม พลตารวจโท ปิยะ อทุ าโย นกั วิชาการศกึ ษาอานวยการ สานักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วทิ ยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ผตู้ ิดตาม นายบรรลือ วศิ ิษฎอนพุ งษ์
๕ (๕) นางสาวสิรนิ ภา ปญั ญาธกิ วฒั น์ นักทรพั ยากรบุคคลปฏิบตั ิการ (๖) นายวรี นนั ท์ มนตรพี ศิ ทุ ธิ์ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (๗) นายพุฒพิ งศ์ พจน์จาเนียน ชว่ ยราชการสานกั งานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ผตู้ ดิ ตามนางเกศทิพย์ ศุภวานิช ผ้ตู ิดตามนายพรพรหม ณ.ส. วกิ ิตเศรษฐ์ ผูต้ ิดตามนายพรพรหม ณ.ส. วกิ ติ เศรษฐ์ (๘) นายเขมชาติ กิจค้า ผตู้ ิดตามนางสาวสุณัฐชา โล่สถาพรพิพธิ ๒.3.๙ สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร - นางกันตวรรณ ตันเถียร กลุ จรรยาวิวัฒน์ สมาชิกสภาผูแ้ ทนราษฎรจังหวดั พังงา ๒.๔ กรอบการพจิ ารณา ๒.๔.๑ คณะกรรมาธิการเชิญบุคคลที่มีประสบการณ์ด้านการชุมนุมมาให้คาปรึกษาหรือ แสดงความคิดเหน็ เพอื่ ใหข้ ้อเสนอแนะด้านประสบการณ์และดา้ นวชิ าการ ๒.๔.๒ คณะกรรมาธิการเชิญตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมมาร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการเพ่ือ แสดงความคิดเหน็ ๒.4.3 คณะกรรมาธิการเดินทางไปรับฟังความคิดเห็นและสังเกตการณ์ในพ้ืนที่การชุมนุม จานวน ๗ เวทกี ารชมุ นมุ ๒.4.4 คณะกรรมาธิการรับฟงั ความคิดเหน็ ผ่านระบบออนไลน์ คณะกรรมาธิการไดม้ กี ารรับฟงั ความคดิ เหน็ ผา่ นระบบออนไลน์ แบ่งเป็น ๓ แนวทาง คือ ๒.๔.๔.๑ คณะกรรมาธิการได้มีการรับฟังความคิดเห็นผ่านระบบออนไลน์โดยการรวบรวม ความคดิ เหน็ ผ่านระบบออนไลนล์ กั ษณะเปน็ การทว่ั ไปเพื่อนามาประกอบการพจิ ารณา จานวน ๑๙๒ กลมุ่ ๒.๔.๔.๒ คณะกรรมาธิการได้มีการรับฟังความคิดเห็นผ่านระบบออนไลน์โดยรูปแบบของ การตอบคาถาม ๒.๔.๔.๓ คณะกรรมาธิการได้มีการรับฟังความคิดเห็นผ่านระบบออนไลน์โดยรูปแบบของ การจัดทาแบบสารวจทัศนคติของประชาชนท่ีมตี อ่ สถานการณ์ทางการเมือง ๓. ผลการพจิ ารณา คณะกรรมาธิการวิสามัญได้จัดทารายงานผลการพิจารณาศึกษามีมติให้รับฟังความคิดเห็น ของนักเรียน นิสิต นกั ศึกษา เยาวชน และประชาชน ปรากฏผลการดาเนินการ ดงั นี้ ๓.๑ ความเปน็ มา สถานการณ์ปัจจุบันมีการชุมนุมของนักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชน และประชาชนเพ่ือ แสดงความคิดเห็นและข้อเรียกร้องในประเด็นทางด้านสังคม การเมือง เศรษฐกิจอย่างกว้างขวางผ่านการชุมนุม และผ่านสื่อมวลชนทุกรูปแบบ โดยมีวัตถุประสงค์การแสดงความคิดเห็นและข้อเรียกร้องเพื่อให้เกิด การเปลย่ี นแปลงทางด้านสังคม ดา้ นการเมือง ถอื เป็นการแสดงให้เหน็ ถึงการต่นื ตัวทางการเมืองของนักเรยี น นิสติ นักศึกษา เยาวชน และประชาชน ทต่ี ื่นรู้ในสิทธิและเสรีภาพ การเคารพกฎหมาย การรหู้ นา้ ที่ อันเปน็ การยกระดับ ประชาชนสู่ความเป็นพลเมือง อย่างไรก็ตามในการชุมนมุ ของนักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชน และประชาชนเพื่อ แสดงความคิดเห็นและข้อเรียกร้องต้องเป็นการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวุธ และผู้ชุมนุมต้องเคารพสิทธิ และเสรีภาพบุคคลอ่ืน รวมทั้งผู้ชุมนุมต้องได้รับการปกป้องคุ้มครองความปลอดภัยจากรัฐด้วย จึงมีความจาเป็น อย่างยิ่งที่ทุกภาคส่วน ควรเปิดพ้ืนท่ีหรือเปิดโอกาสให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชน และประชาชนสามารถ มีส่วนแสดงความคิดเห็นทกุ รูปแบบการชุมนุมโดยสงบและปราศจากอาวธุ และปราศจากความรุนแรงทุกรูปแบบ
๖ สภาผู้แทนราษฎร จึงได้พิจารณาญัตติ เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ พิจารณาเปิดพื้นที่ให้นักเรียน นิสิต นักศึกษา เข้ามามีส่วนร่วมโดยตรงกับสภาผู้แทนราษฎรในการแก้ไขปัญหา ความไม่เป็นธรรมในสังคม (นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ เป็นผู้เสนอ) และญัตติด่วน เรื่อง ขอให้คณะกรรมาธิการ การพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชนพิจารณาให้มีการรับฟังความคิดเห็น ของนักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชน และประชาชน (นายภราดร ปริศนานันทกุล กับคณะ เป็นผู้เสนอ) และได้มีมติต้ังคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณามีมติให้รับฟังความคิดเห็น ของนักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชน และประชาชน ขึ้นเพื่อทาหน้าที่ในการรับฟังการแสดงความคิดเห็นของนักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชน และ ประชาชนแล้วรายงานผลการพจิ ารณาเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาต่อไป ๓.๒ ผลการพจิ ารณา คณะกรรมาธิการขอนาเสนอผลการพิจารณาโดยแบ่งการนาเสนอออกเป็น ๔ ส่วน ปรากฏ ผลการพิจารณา ดงั นี้ ๓.๒.๑ คณะกรรมาธิการเชิญบุคคลท่ีมีประสบการณ์ด้านการชุมนุมมาให้คาปรึกษาหรือ แสดงความคดิ เหน็ เพื่อใหข้ ้อเสนอแนะด้านประสบการณ์และด้านวชิ าการ คณะกรรมาธิการได้เชิญผู้แทนหน่วยงานที่รับผิดชอบกากับดูแลและเจ้าหน้าท่ีผู้บังคับใช้ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุมมาร่วมประชุมเพ่ือชี้แจงแสดงความคิดเห็น และเพื่อรับทราบถึงแนวทาง การปฏิบตั ติ ่อผชู้ ุมนุม พร้อมเสนอแนะหนว่ ยงานเพื่อนาไปประกอบการดาเนินการ สรปุ ได้ ดังนี้ 3.2.1.1 หนว่ ยงานทีร่ ับผิดชอบกากับดูแลและผบู้ ังคับใช้กฎหมาย (๑) กระทรวงศกึ ษาธกิ าร สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐานไม่มีนโยบายหรือคาสั่งห้ามครู หรอื นกั เรียนแสดงออกทางความคิดเห็น เพียงแต่ให้แนวทางครูและบุคลากรทางการศึกษาว่าการแสดงความคิดเห็น ของนักเรียนนั้นต้องอยู่บนพื้นฐานความถูกต้อง และได้รับต่อท่ีประชุมว่าขอรับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการ เพื่อแจ้งเวียนไปยังโรงเรียนในสังกัดสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ท่ีจะมีการจัดกิจกรรม ของนักเรียนว่าทางสานักงานการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่มีนโยบายห้าม แต่ทางโรงเรียนมีหน้าที่ดูแลความปลอดภัย และสนับสนนุ ในการจัดกจิ กรรม ข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการมีข้อเสนอแนะว่า กระทรวงศึกษาธิการควรดาเนินการส่ือสาร แนวทางการปฏบิ ัตเิ ก่ียวกับการชมุ นุมของนักเรียน นิสิต และนกั ศึกษาในสถานการศึกษา ดงั น้ี ๑. สร้างความรู้ ความเขา้ ใจดา้ นการเมอื งการปกครองในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ความเป็นพลเมือง ตลอดทั้งคุณธรรมและจริยธรรมแก่นักเรียน นิสิต นกั ศึกษาอยา่ งถกู ต้อง ๒. เปิดพื้นที่ทุกช่องทางเพ่ือสนับสนุนให้นักเรียน นิสิต นักศึกษาจัดกิจกรรม การชุมนมุ เพอ่ื แสดงความคดิ เห็นภายในสถานศึกษาได้อย่างอิสระ สร้างสรรค์ ท่อี ยู่ภายใต้บทบัญญตั ขิ องกฎหมาย ๓. กาหนดมาตรการความปลอดภัยให้กับนักเรียน นิสิต นักศึกษาในการคัดกรอง บุคคลภายนอกท่ีเข้า – ออก สถานศึกษาและประสานงานกับสถานีตารวจในพ้ืนท่ีเพื่อดูแลความปลอดภัย และปอ้ งกนั การแทรกแซงจากบุคคลภายนอก ๔. ให้คาแนะนาแก่นักเรียน นิสิต นักศึกษาท่ีเข้าร่วมกิจกรรมการชุมนุมท่ีมี การรวมตัวคนจานวนมากมีความเข้าใจถึงผลกระทบท่ีเกิดจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID – 19)
๗ จากข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการ สานักงานคณะกรรมการการศึกษา ข้ันพ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ได้มีหนังสือด่วนท่ีสุดที่ ศธ ๐๔๒๗๗/๘๘๕ เร่ือง การชุมนุมของนักเรียน ในสถานศึกษา ลงวันท่ี ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๓ มีสาระสาคัญว่า ตามที่ คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณามีมติให้รบั ฟังความเห็นของนักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชน และประชาชน สภาผู้แทนราษฎร ได้จัดประชุมเมื่อวันศุกร์ท่ี ๗ สิงหาคม ๒๕๖๓ ซ่ึงที่ประชุมเห็นว่าเพื่อเป็นการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นตามบทบัญญัติ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ รับรองไว้ จึงขอความอนุเคราะห์พิจารณาสั่งการ ให้สถานศึกษาในสังกัดคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน เปิดพ้ืนท่ีให้สถานศึกษาดาเนินกิจกรรม ในการแสดงความคิดเห็นภายใต้หลักการและเงื่อนไขที่กฎหมายกาหนด โดยขอให้ผู้บริหารโรงเรียนคานึงถึง การใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและความปลอดภัยของนักเรียนโดยไม่ให้บุคคลภายนอกเข้าร่วมชุมนุม ในการน้ี สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน ขอให้สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาดาเนินการให้โรงเรียน ในสังกัด เปิดพื้นที่ให้สถานศึกษาดาเนินกิจกรรมในการแสดงความคิดเห็นภายใต้หลักการและเงื่อนไขที่กฎหมาย กาหนด โดยขอให้ผู้บริหารโรงเรียนคานึงถึงการใช้สิทธิเสรีภาพในการแสดงออกและความปลอดภัยของนักเรียน โดยไม่ให้มบี ุคคลภายนอกเข้ารว่ มชุมนมุ (๒) สานักงานตารวจแห่งชาติ ๑. ทัศนคติที่ดีต่อการชุมนุมและผู้ชุมนุม ผู้แทนสานักงานตารวจแห่งชาติ ได้ให้ความเห็น แนวทางการปฏิบัติงาน หลักการสาคัญท่ีสานักงานตารวจแห่งชาติ ถือปฏิบัติเป็นหลัก ในการปฏิบัติหน้าท่ี คือ การมีทัศนคติท่ีดีต่อการชุมนุมและผู้ชุมนุม การให้ความสะดวกกับผู้ชุมนุม เช่น ความสะดวกด้านความปลอดภัย ด้านการจราจร เป็นต้น เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติตระหนักเสมอว่าการปฏิบัติ ของเจ้าหน้าที่ต้องไม่เป็นการสร้างเง่ือนไขความขัดแย้งใหม่กับผู้ชุมนุม แต่ควรปฏิบัติหน้าที่เพ่ือสร้าง ความพอใจให้เกิดข้ึนกับทุกฝ่าย และการปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมต้องปฏิบัติโดยปราศจากความรุนแรงปฏิบัติด้วย ความนุ่มนวล สุภาพอ่อนโยน และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติได้ผ่านการฝึกความอดทนมาแล้ว ดังนั้น ทัศนคติ ของผู้ปฏิบัติงานจึงเป็นเร่ืองสาคัญท่ีผู้ปฏิบัติจะต้องมีการปรับเปล่ียนเพ่ือให้เท่าทันต่อความเปล่ียนแปลง ของสภาพการณท์ างสงั คม ๒. การปฏิบัติต่อผู้ชุมนุม ในช่วงของการบังคับใช้พระราชกาหนด ว่าด้วยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ เน่ืองจากสถานการณ์ของประเทศไทย มีความจาเป็นต้องควบคุมและป้องกันการระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID – 19) ซึ่งสถานการณ์ การระบาดในขณะนั้นยังมีแนวโน้มการระบาดในระดับรุนแรงและจานวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูง สานักนายกรัฐมนตรีจึงได้ประกาศแถลงการณ์ เรื่อง การประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินตามพระราชกาหนด ว่าด้วยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ โดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ในการประชุมเมื่อวันท่ี ๒๔ มีนาคม ๒๕๖๓ และตามคาแนะนาของผู้บริหารและนักวิชาการด้านการแพทย์และ สาธารณสุข โดยอาศัยอานาจตามความในมาตรา ๕ แห่งพระราชกาหนดว่าด้วยการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในทุกเขตท้องที่ทั่วราชอาณาจักร ต้ังแต่ วันท่ี ๒๖ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ จนถึงวันท่ี ๓๐ เมษายน ๒๕๖๓ ระหว่างที่มีการประกาศบังคับใช้ พระราชกาหนดว่าด้วยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ เพ่ือการควบคุมและป้องกัน การระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID – 19) ได้มีการชุมนุมของนักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชน และประชาชนข้นึ ดงั น้ี - เม่ือวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๓ กลุ่มสหภาพนักเรียน นิสิต นักศึกษา แห่งประเทศไทย (สนท.) เริ่มมีการจัดกิจกรรมต้ังแต่เวลา ๑๖.๕๐ นาฬิกา ถึง ๑๙.๐๐ นาฬิกา ณ บริเวณ สกายวอล์ค
๘ - เม่ือวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๓ กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตยใหม่ (DRG) เริ่มมีการจัดกิจกรรมต้ังแต่เวลา ๐๔.๔๕ นาฬิกา ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยมีวัตถุประสงค์การชุมนุม นัดหมายมวลชน จัดกิจกรรม “ลบยังไง ก็ไม่ลืม” มาร่วมกันแสดงเจตนารมณ์ให้เผด็จการตระหนักว่าเราจะไม่ลืม ในสิ่งทีพ่ วกเขาอยากใหล้ มื ประวตั ิศาสตร์อันรุ่งโรจน์จะต้องถูกจดจาไปจนชว่ั ลกู ชั่วหลาน - เม่ือวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๖๓ มีกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตยใหม่ ได้มีการจัดกิจกรรมในเวลา ๑๘.๐๐ นาฬิกา ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซ่ึงก่อนการจัดกิจกรรมได้มีเจ้าหน้าที่ เข้าไปช้ีแจงเพื่อสร้างความเข้าใจในเร่ืองเก่ียวกับการชุมนุมว่าการชุมนุมต้องไม่เป็นการชุมนุมที่ขัดต่อบทบัญญัติ ของกฎหมาย พรอ้ มน้ีเจา้ หน้าท่ีได้มีการจดั เก็บภาพไว้เปน็ หลกั ฐานด้วย - เมื่อวันท่ี ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ได้มีกลุ่มเยาวชนปลดแอก (Free Youth) เริ่มจัดกิจกรรมเวลา ๑๖.๓๐ นาฬิกา ณ อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เนื่องจากมีผู้เข้าร่วมชุมนุม จานวนมาก ทาให้กลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนได้เข้ามาในพื้นผิวการจราจรโดยปริยาย ในการชุมนุมในครั้งน้ี ไดม้ ีการจดั กิจกรรมถงึ เวลาเทย่ี งคืนจงึ ได้มีการยตุ กิ จิ กรรม - เมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ได้มีกลุ่มเกรียนอุดมไม่ยอมก้มหัว ให้เผด็จการ ซ่ึงได้มีการจัดกิจกรรมภายในโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา ต้ังแต่เวลา ๑๔.๐๐ นาฬิกา โดยมีวัตถุประสงค์การชุมนุม คือ รัฐบาลต้องยุบสภา รัฐบาลต้องหยุดคุกคามประชาชน และรัฐบาลต้องจัดให้มี การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดยให้ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง ซึ่งในวันดังกล่าวได้มีการส่งเจ้าหน้าท่ีเข้าไป ประสานงานกับผู้บริหารโรงเรียนเตรียมอุดม เพื่อสร้างความเข้าใจเก่ียวกับการชุมนุมโดยแจ้งกับผู้บรหิ ารโรงเรยี น ว่าการชุมนุมนั้นสามารถกระทาได้แต่ต้องไม่ขัดต่อกฎหมาย ซ่ึงในการชุมนุมวันดังกล่าวไม่มีเหตุการณ์รุนแรง แต่อย่างใด - เม่ือวันท่ี ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๓ กลุ่ม มศว. คนรุ่นเปล่ียน ได้มีการจัด กิจกรรม ต้งั แต่เวลา ๑๒.๐๐ นาฬกิ า ณ บริเวณสกายวอลค์ โดยมวี ัตถุประสงค์ คือ ยบุ สภา หยดุ คุกคามประชาชน และร่างรฐั ธรรมนญู ใหม่ จากกรณีการชุมนุมดังกล่าว เจ้าหน้าท่ีได้เจรจาเพื่อสร้างความเข้าใจกับ ผู้ชุมนุมเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการจัดการชุมนุมเพื่อไม่ให้การชุมนุมเป็นการชุมนุมที่ ขัดต่อกฎหมาย พร้อมนี้ได้ชี้แจงทาความเข้าใจเก่ียวกับเร่ืองการป้องกันการเผยแพร่โรคระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID – 19) ๓. การปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมในช่วงของการยกเลิกบังคับใช้ความในมาตรา ๙ ของพระราชกาหนดว่าด้วยการบรหิ ารราชการในสถานการณฉ์ ุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ เมื่อวนั ท่ี ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๓ นายกรัฐมนตรีได้ลงนามในข้อกาหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกาหนดการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๑๓) เพื่อยกเว้นความในมาตรา ๙ ของพระราชกาหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ จึงส่งผลให้การชุมนุมสามารถกระทาได้แต่ต้องอยู่ ในบังคับพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. ๒๕๕๘ ซึ่งพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าวได้กาหนดหลักเกณฑ์ และขั้นตอนเกี่ยวกับการชุมนุมไว้ เช่น การแจ้งวัตถุประสงค์ของการชุมนุมต่อเจ้าหน้าที่ก่อนอย่างน้อย ๔๘ ช่ัวโมง เป็นต้น สาหรับการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าท่ีเป็นลักษณะการดูแลและอานวยความสะดวกให้แก่ผู้ชุมนุม ตลอดท้ังการให้คาแนะนาเก่ียวกับการกระทาที่อาจขัดต่อกฎหมาย เช่น การกระทาที่อาจขัดต่อบทบัญญัติ ของประมวลกฎหมายอาญา กฎหมายเกี่ยวกับการจราจร กฎหมายว่าด้วยการใช้เคร่ืองขยายเสียง หรือข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เป็นต้น นอกจากนี้ เจ้าหน้าท่ีผู้ปฏิบัติยังต้องเฝ้าระวังเพ่ือไม่ให้ผู้ไม่หวังดี เข้ามาสร้างสถานการณ์ ในขณะเดียวกันผู้ชุมนุมเองก็สามารถตรวจสอบการปฏิบัติหน้าท่ีของเจ้าหน้าท่ีได้ด้วย การรอ้ งขอให้ศาลปกครองพจิ ารณาตรวจสอบการกระทาของเจ้าหนา้ ที่ว่าเป็นการกระทาโดยชอบด้วยหรอื ไม่
๙ การปฏิบัตติ ่อผู้ชมุ นุมตามหลักเกณฑ์และวธิ ีการที่กาหนดไว้ในพระราชบัญญัติ การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. ๒๕๕๘ น้ัน ไม่ใช้บังคับในพื้นท่ีสถาบันการศึกษา แต่อย่างไรก็ตามผู้บริหารสถานศึกษา สามารถขอรับการสนับสนุนเจ้าหน้าท่ีเพื่อให้ดูแลรักษาความสงบภายในสถาบันการศึกษาได้ จากรายงานเก่ียวกับการชุมนุมในพ้ืนท่ีจังหวัดต่าง ๆ เริ่มต้ังแต่ วันท่ี ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ถึงวันท่ี ๔ สิงหาคม ๒๕๖๓ มีท้ังหมด ๔๖ จังหวัด ๙๘ กิจกรรม ๖๗ กลุ่ม รวมผู้ชุมนุม จานวน ๑๖,๐๐๐ คน โดยแยกรายละเอียด ดังน้ี ภาคเหนือ ๑๐ จังหวัด ภาคกลาง ๑๗ จังหวัด ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๑๓ จังหวัด และภาคใต้ ๗ จังหวัด จากการประเมินกลุ่มผู้ชุมนุมท่ีมีศักยภาพ ที่สามารถรวบรวมผู้ชุมนุมได้มากกว่า ๑,๐๐๐ คนขึ้นไป คือ พื้นที่กรุงเทพมหานคร จังหวัดมหาสารคาม และจังหวัดขอนแก่น ขอ้ เสนอแนะของคณะกรรมาธกิ าร คณะกรรมาธิการมีข้อเสนอแนะว่า สานักงานตารวจแห่งชาติ ควรมีแนวทาง การปฏบิ ัติต่อผชู้ ุมนุม ดังน้ี ๑. การนามาตรการตามพระราชกาหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ ซ่ึง มีวัตถุประสงค์เพื่อการป้องกันการแพร่โรคระบาดโรคติดเช้อื ไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID – 19) แต่ปรากฏว่าในทางปฏิบัติเจ้าหน้าท่ีตารวจได้นามาตรการดังกล่าวไปใช้กับกลุ่มผู้ชุมนุมซ่ึงเป็นการบังคับใช้ กฎหมายทผ่ี ิดวัตถปุ ระสงค์ ๒. ควรสร้างความเข้าใจกับประชาชนเก่ียวกับหลักเกณฑ์และวิธีการชุมนุม ในช่วงการบังคับใช้พระราชกาหนดว่าดว้ ยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ เจ้าหน้าท่จี ะต้อง ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ีกาหนดไว้ในพระราชกาหนดว่าด้วยการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ เท่าน้ัน ๓. ควรสร้างความเข้าใจกับประชาชนเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการชุมนุม ภายหลังวันที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๖๓ ได้มีการประกาศข้อกาหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกาหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๑๓) เพื่อยกเว้นความในมาตรา ๙ ของพระราชกาหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ จึงส่งผลให้การชุมนุมสามารถกระทาได้แต่ต้องอยู่ในบังคับ พระราชบัญญตั ิการชมุ นุมสาธารณะ พ.ศ. ๒๕๕๘ ๔. การให้คาแนะนาเกี่ยวกับเส้นทางการจราจรหรือระบบการขนส่งสาธารณะ เพอ่ื ใหป้ ระชาชนได้รับผลกระทบจากการชุมนุมนอ้ ยทีส่ ุด ๕. การรักษาความปลอดภยั หรืออานวยความสะดวกแก่ผชู้ มุ นุมในสถานทชี่ ุมนมุ ๖. ต้องไม่ใช้ความรุนแรง ไม่มีการคุกคามหรือข่มขู่ผู้ชุมนุม หรือการกระทา ทมี่ ีลักษณะเป็นการคกุ คามหรือข่มขู่ผชู้ มุ นุม ๗. ควรมีการสื่อสารทัศนคติเชิงบวกของผู้บังคับบัญชาที่มีต่อผู้ชุมนุมว่า การปฏิบัติต่อผู้ชุมนุมไปยังเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติว่าต้องไม่ใช้ความรุนแรง ปฏิบัติด้วยความนุ่มนวล สุภาพอ่อนโยน เพื่อให้การปฏบิ ตั มิ ีแนวทางเดียวกัน ๘. การปฏิบตั หิ นา้ ท่ขี องเจ้าหน้าที่นอกเครือ่ งแบบควรมกี ารแสดงบัตรเจ้าหน้าทด่ี ว้ ย ๙. เจ้าหน้าที่ตารวจควรชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับหลักเกณฑ์ และวิธีการชุมนุมว่าปัจจุบันการชุมนุมในท่ีสาธารณะนั้นจะต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์และวิธีการท่ีกาหนดไว้ ในพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. ๒๕๕๘ และต้องสร้างความเข้าใจถึงการปฏิบัติต่อผู้ชุมนุม
๑๐ การชุมนุมก่อนวันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๓ ซึ่งเป็นการปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กาหนดไว้ตามพระราชกาหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ และต้องไม่ใช้ความรุนแรง คุกคามหรือข่มขู่ผู้ชุมนุม หรือการกระทาที่มีลักษณะเป็นการคุกคามหรือข่มขู่ผู้ชุมนุม ตลอดท้ัง การรักษาความปลอดภัยหรืออานวย ความสะดวกแก่ผชู้ มุ นมุ ในสถานทช่ี ุมนมุ จากข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการข้างต้น ผู้แทนสานักงานตารวจแห่งชาติ ได้รับขอ้ เสนอแนะไปเพอื่ เป็นแนวทางการปฏบิ ัติงานต่อไป (๓) สานกั งานอัยการสงู สดุ ผู้แทนสานักงานอัยการสูงสุด ให้ข้อมูลว่า คดีท่ีอยู่ในระหว่างการพิจารณา ของพนักงานอัยการ จานวน 6 คดี แบ่งเป็นอยู่ในระหว่างการพิจารณาของพนักงานอัยการ จานวน 4 คดี ซงึ่ สงั่ ฟอ้ งดาเนินคดีไปแลว้ จานวน 1 คดี และอยู่ระหวา่ งการขออนญุ าตฟ้อง จานวน 1 คดี นอกจากนอ้ี ยูร่ ะหว่าง การสอบสวนเพม่ิ เตมิ ของพนกั งานสอบสวน จานวน 2 คดี สาหรับการใช้ดุลพินิจสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องของพนักงาน อัยการ พนักงานอัยการจะต้องพิจารณาจากข้อเท็จจริงแล ะข้อกฎหมายประกอบกันและหากพนักงานอัยการ มีคาสั่งไม่ฟ้องคดีโดยเห็นว่าไม่เป็นประโยชน์สาธารณะ พนักงานอัยการจะต้องคานึงถึงหลักนิติรัฐ เพราะถ้าใช้ หลักรัฐศาสตร์มากเกินไปอาจส่งผลขัดต่อกฎหมายได้ ทั้งน้ี ต้องเคารพหลักความเป็นอิสระของพนักงานอัยการ ในการใช้ดุลพินิจ ขอยกตัวอย่างกรณีพนักงานอัยการใช้ดุลพินิจในการพิจารณาคดีทางการเมืองเรื่องหนึ่ง พนักงานอัยการบางส่วนเห็นว่าการกระทาของผู้ต้องหาไม่เป็นความผิดจึงสั่งไม่ฟ้อง แต่เมื่อเสนอตาม ลาดับชั้นแล้วอาจมีความเห็นที่แตกต่างกันไป คือพนักงานอัยการเจ้าของคดีอาจมีความเห็นอย่าง หนึ่ง แต่พนกั งานอัยการผกู้ ล่นั กรองอาจมีความเห็นอีกอย่างหน่ึง 3.2.1.2 ภาคประชาสงั คม ศนู ย์ทนายความเพ่อื สิทธิมนษุ ยชน ศูนย์ทนายความเพ่ือสิทธิมนุษยชน เป็นองค์กรท่ีให้ความช่วยเหลือทางกฎหมาย แก่ผู้ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าท่ีของรัฐ เช่น การให้คาแนะนาและคาปรึกษาเบ้ืองต้น หากกรณีท่ีประชาชนถูกเรียกตัวหรือกักตัว เพื่อให้ประชาชนสามารถช่วยเหลือตนเองในการรวบรวมข้อมูล แก้ไขปัญหา และติดตามสถานการณ์ และลงพ้ืนท่ีเพ่ือให้ความช่วยเหลือและสร้างความมั่นใจกับประชาชน ซ่ึงจากการชี้แจงผู้แทนศูนย์ทนายความเพ่ือสิทธิมนุษยชน ทราบว่าจานวนคดีที่นักเรียน นิสิต นักศึกษา เยาวชน และประชาชน ที่แสดงออกทางการเมืองและตกเป็นผู้ต้องหาคดีตามพระราชกาหนดการบริหารราชการ ในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ปัจจุบันมีทั้งสิ้น 13 คดี และตกเป็นผู้ต้องหา 32 คน ในช่วง เดือนพฤษภาคม – มิถุนายน เช่น - กรณีการดาเนินคดีกบั กล่มุ คนเสื้อแดงจัดกจิ กรรมราลกึ การครบรอบ จานวน 2 คดี - กรณีการชุมนุมเรียกร้องความเป็นธรรมให้ผ้ลู ้ภี ัยที่สูญหาย (นายวันเฉลิม สัตย์ศักดิ์สิทธ์ิ) จานวน 2 คดี - กรณรี าลกึ เหตกุ ารณ์ 24 มถิ ุนายน 2475 การเปลยี่ นแปลงการปกครอง จานวน 1 คดี - กรณชี ูปา้ ยที่จังหวดั ระยอง จานวน 1 คดี - กรณีการชุมนมุ ของกลุม่ เยาวชนปลดแอก จานวน 5 คดี เปน็ ต้น โ ด ย ก ร ณี ดั ง ก ล่ า ว เ ป็ น ก า ร ด า เ นิ น ค ดี ร ะ ห ว่ า ง ก า ร บั ง คั บ ใ ช้ พ ร ะ ร า ช ก า ห น ด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 กล่าวคือ ก่อนวันท่ี 1 สิงหาคม 2563 และจานวน 13 คดี
๑๑ ดังกล่าวอยู่ในระหว่างการพิจารณาของพนักงานอัยการ 6 คดี และอยู่ในระหว่างการพิจารณาของพนักงาน สอบสวน 7 คดี ซง่ึ ยังไมม่ กี รณสี ่งคาฟอ้ งไปชนั้ พิจารณาของศาล สาหรับการดาเนินคดีตามพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. ๒๕๕๘ กล่าวคือ หลังจากวันท่ี 1 สิงหาคม 2563 ยังไม่พบการดาเนินคดี ทั้งนี้ การชุมนุมเมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2563 ณ มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ คาดว่าอาจมีแนวโน้มท่ีผชู้ มุ นุมจะถกู ดาเนนิ คดีเพม่ิ ขึ้นอีก นอกจากน้ีทาง ศูนย์ทนายคว ามเพื่อสิทธิมนุษยช น ได้ติดตามผล กรณี ท่ีผู้ชุมนุมถูกคุกคามจากเจ้าหน้าท่ีของรัฐอย่างน้อยจานวน 76 ราย ซ่ึงเป็นการคุกคามจากท้ังเจ้าหน้าที่ของรัฐ และจากทางโรงเรียน ครู และอาจารย์ พร้อมนี้ ทางศูนย์ทนายความเพ่ือสิทธิมนุษยชนได้มีข้อเสนอแนะว่า ควรให้เปิดพื้นท่ีให้นักเรียน นักศึกษามาพูดคุยหรือแสดงความคิดเห็นต่อคณะกรรมาธิการ หรือควรให้โรงเรียน หรือสถานศึกษาซ่ึงเป็นพื้นท่ีที่ปลอดภัยสาหรับนักเรียน นักศึกษา และเห็นว่าพนักงานอัยการสามารถยุติ การดาเนินคดไี ดโ้ ดยใชด้ ลุ พินิจในการสั่งไมฟ่ ้องคดที ี่ไมเ่ ป็นประโยชน์สาธารณะ ขอ้ เสนอแนะของคณะกรรมาธกิ าร คณะกรรมาธิการมีข้อเสนอแนะว่า ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนมีบทบาท สาคัญในการช่วยเหลือทางกฎหมายให้กับผ้ชู ุมนมุ และขอให้แสดงอีกบทบาทที่ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนษุ ยชน คือ ประสานงานระหว่างคณะกรรมาธิการกับผู้แทนกลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อร่วมแสดงความคิดเห็นในพ้ืนท่ีท่ีผู้ชุมนุมกาหนด ทงั้ นี้ เพ่ือหาแนวทางการแกไ้ ขปัญหาต่อไป จากข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการ ผู้แทนศูนย์ทนายความเพ่ือสิทธิมนุษยชน รับว่าจะขอไปประสานงานกับผู้แทนกลุ่มผู้ชุมนุมว่ามีความประสงค์เข้าร่วมแสดงความคิดเห็นหรือไม่ ท้ังนี้ เพือ่ หาแนวทางการแกไ้ ขปัญหารว่ มกนั ต่อไป 3.2.1.3 คณาจารย์ (๑) ผแู้ ทนโรงเรียนหอวงั จากกรณีมีข้อความปรากฏผ่านแอปพลิเคชั่นไลน์ อ้างว่า โรงเรียนหอวัง หรือสถานศึกษาได้ขู่นักเรียนว่า “หากใครไปร่วมกิจกรรมจะถ่ายรูป แล้วเรียกผู้ปกครองมาเขียนใบลาออก” น้ัน ได้รับการยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการข่มขู่หรือคุกคามแต่เป็นความรักของผู้ปกครองที่มีต่อนักเรียนหรือบุตรหลาน ท่ีไม่ต้องการให้บุตรหลานไปกระทาในส่ิงท่ีไม่ถูกต้อง สรุปโรงเรียนหอวังไม่ได้มีการปิดก้ันการแสดงออก ทางการเมืองและโรงเรียนหอวังอนุญาตให้ใช้สถานท่ีเพื่อการแสดงออกทางการเมืองด้วย พร้อมนี้ได้ประสาน ไปยงั กองบังคับการตารวจสันติบาลและสถานตี ารวจนครบาลพหลโยธนิ เพอ่ื ดูแลความปลอดภยั นกั เรียนแล้ว ขอ้ เสนอแนะของคณะกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการมีขอ้ เสนอแนะ ดังน้ี ๑. สถานศึกษาเป็นสถานท่ีที่มีความปลอดภัยสาหรับนักเรียน นิสิต และนักศึกษา อีกทั้งสถานศึกษาไม่อยู่ในบังคับพระราชบัญญัติการชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. 2558 หากผู้บริหาร สถานศึกษาไม่อนุญาตให้ใช้สถานที่แล้วจะส่งผลให้นักเรียน นิสิต และนักศึกษาต้องออกไปชุมนุมนอกสถานศึกษา ซง่ึ อาจส่งผลใหเ้ กดิ ความไมป่ ลอดภัยได้ ๒. โรงเรียนมีบทบาทในการส่งเสริมสนับสนุนให้นักเรียน และบุคลากร ในสถานศึกษาจัดกิจกรรมการชุมนุมเพ่ือแสดงความคิดเห็น ตลอดทั้งรูปแบบการจัดกิจกรรมภายในสถานศึกษา ได้อย่างอิสระ สร้างสรรค์ และอยู่ภายใต้บทบัญญัติของกฎหมาย จึงควรเปิดพ้ืนท่ีให้นักเรียน และบุคลากร ในสถานศกึ ษา เพอ่ื แสดงความคดิ เหน็ ในสถานการศกึ ษาได้
๑๒ ๓. ควรกาหนดมาตรการความปลอดภัยให้กับนักเรียน นิสิต นักศึกษา ในการคัดกรองบุคคลภายนอกที่เข้า – ออก สถานศึกษาและประสานงานกับสถานีตารวจในพื้นที่เพ่ือดูแล ความปลอดภยั และปอ้ งกันการแทรกแซงจากบุคคลภายนอก ๔. ให้คาแนะนาแก่นักเรียน ที่เข้าร่วมกิจกรรมการชุมนุมที่มีการรวมตัว คนจานวนมากมีความเข้าใจถึงผลกระทบท่ีเกิดจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID - 19) และแนวทางการปอ้ งกันดว้ ย จากข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการดังกล่าวข้างต้น ผู้แทนโรงเรียนหอวัง รบั ขอ้ เสนอแนะของคณะกรรมาธิการเพ่ือไปกาหนดแนวทางการเปดิ พืน้ ท่ีให้กบั นักเรียนเพื่อการแสดงความคิดเห็น และกาหนดมาตรการความปลอดภยั (๒) มหาวทิ ยาลัยธรรมศาสตร์ รองศาสตราจารย์อนุสรณ์ อุณโณ คณบดีคณะสังคมวิทยาและมานุษยวิทยา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ แสดงความคดิ เหน็ สรปุ สาระสาคัญ ดงั น้ี ประเด็นที่หนง่ึ การหยดุ คกุ คามประชาชน บทเรียนจากการชุมนุมนับแต่ในอดีต โดยเฉพาะกรณีการรัฐประหารปี ๒๕๔๙ และปี ๒๕๕๗ ส่ิงที่สังคมไทยได้รับ คือ การสูญเสียหลักการของระบอบประชาธิปไตย กล่าวคือ ผลกระทบที่เกิดข้ึน สงั คมเห็นวา่ เปน็ การทาลายระบบหลักนิติธรรมและหลักนติ ิรฐั ซ่งึ ทาให้ประชาชนไม่เช่อื ถอื หรอื ศรัทธาในระบบ กรณกี ารชุมนมุ ของนักเรยี น นิสติ นกั ศึกษา เยาวชน และประชาชน มีจดุ เร่ิมต้น มาจากกลุ่มนักศึกษาจานวนหนึ่ง ต้ังแต่กลุ่มเยาวชนปลดแอกและเริ่มขยายเป็นวงกว้างมากขึ้น จากนั้นจึงได้มี บุคคลอื่น ๆ เข้ามามีบทบาทในการชุมนุมร่วมกับนักเรียน นักศึกษา เน่ืองจากนักศึกษาท่ีทาการชุมนุมมีข้อจากัด ดา้ นประสบการณ์ ทาใหบ้ คุ คลที่มีทักษะและประสบการณ์ในการชุมนุม และมีความสามารถในการควบคุมมวลชน เข้ามามีบทบาทในการชุมนุมมากข้ึน รวมท้ังมีส่วนร่วมในการกาหนดประเด็นเน้ือหาการชุมนุมแทนกลุ่มนักศึกษา บางส่วน ดังนั้น ในการดาเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมต่าง ๆ จึงควรมีการจาแนกแยกแยะว่า แต่ละคนมีส่วนเกี่ยวข้อง หรือมีบทบาทหน้าท่ใี นเวทีการชุมนุมน้ันอย่างไรและเพียงใด ข้อสังเกตประการหน่ึงท่ีกลุ่มเด็กนักเรียน นักศึกษา หรือผู้ชุมนุม มีความรู้สึก ต่อภาครัฐหรือเจ้าหน้าท่ีของรัฐ คือ กลุ่มผู้ชุมนุมส่วนใหญ่มีข้อกังวลใจและไม่มีความเชื่อม่ันต่อความจริงใจ ในการแก้ไขปัญหาของภาครัฐ รวมถึงการถูกข่มขู่คุกคามจากภาครัฐซึ่งถือว่ามีเหตุการณ์เกิดข้ึนมาก่อนการชุมนุม มาเป็นระยะเวลาหน่ึงแล้ว ดังจะเห็นได้จากกรณีท่ีมีเจ้าหน้าที่ตารวจทั้งในและนอกเคร่ืองแบบเรียกบุคคล ไปปรับทัศนคติโดยอ้างว่าชวนไปด่ืมกาแฟเพื่อพูดคุยสนทนากัน ซึ่งการคุกคามประชาชนน้ันมีหลากหลายรูปแบบ และเกิดข้ึนอยู่เร่ือย ๆ เป็นระยะ รวมทั้งกรณีล่าสุดที่มีกลุ่มชายหัวเกรียนมาสอดส่อง สังเกตการณ์บริเวณสถานที่ พักของกลุ่มนักศึกษาที่มีความเคลื่อนไหวกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งก่อให้เกิดความหวาดกลัวต่อนักเรียน หรอื กรณที ่ีผ้ใู หญบ่ ้านเรียกผปู้ กครองของนักเรยี นไปคุยดว้ ย การที่นักเรียนไม่มาให้ข้อมูลหรือเข้าสู่กระบวนการของคณะกรรมาธิการ อาจเห็นว่าเปน็ เรอ่ื งที่เปลา่ ประโยชน์เน่อื งจากผู้มอี านาจตัดสนิ ใจในการยุบสภาคือนายกรัฐมนตรี นอกจากนี้ กรณีความไม่ชอบธรรมท่ีเกิดข้ึนในสังคมจากบุคคลที่ดารงตาแหน่ง สาคัญทาให้เขาเห็นว่าต้องออกมาเรียกร้องในสิ่งที่ตนเห็นว่าถูกต้องและควรมีการเปล่ียนแปลง โดยกลุ่มนักเรียน ที่ออกมาเคล่ือนไหวและทากิจกรรมทางการเมืองน้ี มีข้อเรียกร้องที่สาคัญที่นักเรียน นักศึกษามี ความประสงค์ให้แก้ไข คือ การไม่ลิดรอนสิทธิเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมือง และเป็นอีกเหตุผลหน่ึง ทที่ าให้กลมุ่ นกั เรียน นสิ ิต นักศึกษา เยาวชน ออกมาเรยี กร้อง
๑๓ ดังน้ัน แนวทางหนึ่งในการคล่ีคลายสถานการณ์เพื่อลดระดับความรู้สึกของ กลุ่มผู้ชุมนุม คือ ภาครัฐหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะต้องปฏิบัติต่อกลุ่มผู้ชุมนุมโดยเปิดเผย แบบตรงไปตรงมา เพื่อเพ่ิมระดับความเชื่อถือและความไว้เน้ือเช่ือใจต่อกลุ่มผู้ชุมนุม ซึ่งข้อนี้ถือเป็นโจทย์ใหญ่หรือปัญหาท่ีสาคัญ ท่ีจะต้องแก้ไขเป็นลาดับแรก ก่อนท่ีจะดาเนินการตามข้อเรียกร้องในประเด็นอ่ืน ๆ โดยการยุบสภาหรือ การแกไ้ ขรฐั ธรรมนูญ สาหรับกรณีที่สถาบันการศึกษาในระดับมัธยมศึกษาและประถมศึกษา ที่มลี กั ษณะของการใชค้ วามสัมพันธ์เชิงอานาจปฏิบัตติ ่อนักเรียนท่ีอยภู่ ายใต้การปกครอง โดยการเข้าไปดาเนินการ ต่าง ๆ ต่อกลุ่มนักเรียนที่แสดงออกทางการเมือง เช่น กรณีการชูน้ิว หรือการใช้สัญลักษณ์ผูกโบว์ เป็นต้น ก็จะมีการเข้าไปตักเตือน หรือข่มขู่ด้วยการหักคะแนนความประพฤติ หรือการเชิญเข้าพบกับฝ่ายปกครอง เห็นว่า หากเป็นกรณีท่ีมีกฎ ระเบียบ กาหนดวินัยของนักเรียนไว้อย่างชัดเจน แบบนี้เห็นว่าสามารถดาเนินการ ทางวินัยแก่นักเรียนที่ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามได้ แต่การแสดงออกทางการเมืองน้ี ไม่ถือว่าเป็นเร่ืองท่ีเกี่ยวกับ กฎ ระเบียบวินัยภายในสถานศึกษา ดังนั้น ครูหรืออาจารย์จึงไม่สามารถท่ีจะใช้กระบวนการทางวินัยดาเนินการใด ๆ แก่นักเรียนท่ีแสดงออกหรือมีความเห็นต่างในทางการเมืองได้ สถานศึกษาต้องมีแนวทางปฏิบัติในการแยกแยะ เรอ่ื งนอี้ ยา่ งชัดเจน สถาบันการศึกษาไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัย ควรเป็นพื้นที่ ของความปลอดภัยและพ้ืนท่ีแห่งเสรีภาพในการแสดงออกทางการเมือง โดยไม่ควรถูกแทรกแซงจากผู้บริหาร ของสถาบนั การศึกษา เชน่ ไมค่ วรมีการเรียกนักศึกษาไปพูดคุยเพื่อห้ามการแสดงออกต่าง ๆ หรือการหา้ มอาจารย์ ในมหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์และลงชื่อสนับสนุนใน การจัดทากิจกรรมทางการเมืองท่ีมีลักษณะ เป็นการแสดงความคิดเห็นโดยสุจริตและสงบภายในมหาวิทยาลัย และการห้ามอาจารย์ลงช่ือสนับสนุน ความคิดเห็นทางการเมือง โดยข่มขู่ว่าการออกมาเคล่ือนไหวในการแสดงความคิดเห็นทางการเมืองอาจส่ง ผลกระทบต่อตาแหน่งต่าง ๆ ที่อาจได้รับในอนาคต ซึ่งกรณีดังกล่าวถือเป็นกระบวนการแทรกแซงความคิดเห็น หรือการแสดงออกทางการเมอื ง สาหรับกรณีท่ีคณะกรรมาธิการ ได้มีหนังสือขอความอนุเคราะห์ให้ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน (สพฐ.) พจิ ารณาสงั่ การใหส้ ถานศึกษาใน สพฐ. เปดิ พนื้ ทใี่ ห้นักเรียน ดาเนินการกิจกรรมในการแสดงความคิดเห็นภายในสถาบันการศึกษาได้น้ัน ถือว่าเป็นข้อปฏิบัติที่ดียิ่ง และทาให้ผ่อนคลายความตึงเครียดและข้อกังวลของสังคมท่ีมีต่อสถานการณ์การชุมนุมนั้นลดระดับลงได้มาก อย่างไรก็ตาม ยังมีข้อสังเกตว่า ยังไม่เกิดผลสัมฤทธ์ิในทางปฏิบัติอย่างแท้จริง เนื่องจา กในช้ันมัธยม และประถมศึกษามลี ักษณะของวัฒนธรรมอานาจนยิ มทมี่ คี วามแข็งแกรง่ ซ่งึ เปน็ ปัญหาสาคัญทต่ี อ้ งแกไ้ ข นอกจากนี้ เห็นว่ากลไกรัฐท่ีผ่านมายังไม่ได้ทาหน้าที่ที่ดีพอเพ่ือลดความขัดแย้ง ในสังคม โดยการสร้างกระบวนหรือพื้นท่ีแห่งการแสดงออกและการรับฟังให้มีขึ้น เพ่ือให้กลุ่มคนท่ีมีความคิดเห็น แตกต่างกันได้แสดงออกอย่างเป็นวิชาการ ข้อบกพร่องน้ีทาให้เกิดการสั่งสมและนาไปสู่การเผชิญหน้า ทไ่ี ม่พึงประสงค์ ทง้ั น้ี มขี ้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหา ดังนี้ ๑. โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษา ควรเป็นพ้ืนท่ีแห่งเสรีภาพในการแสดง ความคิดเห็นและการแสดงออกทางการเมือง ไม่ควรมีการควบคุมทางร่างกาย ความคิด จิตใจ โดยไม่มีเหตุผล มารองรบั
๑๔ ๒. การแก้ไขปัญหากรณีคุกคามน้ัน ควรมีการกาหนดนโยบายการปฏิบัติ ท่ีชัดเจนนับต้ังแตร่ ะดับกระทรวงโดยรัฐมนตรี รวมท้ังผู้บริหารในสถาบันการศึกษาทุกระดับชน้ั โดยการแสดงออก ทีช่ ัดเจนเพ่อื ให้กลมุ่ นกั เรียน นกั ศกึ ษาปราศจากขอ้ กังวลในการถูกคกุ คามในรปู แบบต่าง ๆ ๓. การแสดงออกทางการเมืองระหว่างกลุ่มนักเรียน นักศึกษา เยาวชน ควรให้ความเคารพในความคิดเห็นที่แตกต่างของแต่ละฝ่าย ไม่ควรมีพฤติกรรมที่ความก้าวร้าว ความรุนแรง การกลั่นแกล้ง หรอื ลอ้ เลยี นผู้ที่มคี วามคดิ เห็นทแ่ี ตกตา่ ง ๔. สาหรับกรณีการแสดงออกระหว่างกลุ่มนักเรียนท่ีมีความคิดเห็น แตกตา่ งกัน และมกี ารปฏบิ ัตติ อ่ กันอย่างไมเ่ หมาะสมนน้ั เหน็ วา่ เปน็ กระบวนการทางสังคมท่กี ลุ่มนกั เรยี นเหล่านั้น ควรจะต้องเรียนรถู้ ึงแนวทางที่ถูกต้องของวิถีทางการแสดงออกในระบอบประชาธิปไตยที่ต้องมีการให้ความเคารพ ความคดิ เห็นท่ีแตกตา่ งกัน และแบง่ ปันพืน้ ทแ่ี ห่งการรบั ฟังตอ่ กัน อยา่ งไรก็ตาม ด้วยวุฒิภาวะของวัย ประสบการณ์ และการเรียนรู้อาจมีข้อจากัดในการรับมือความขัดแย้ง ซ่ึงเป็นปัจจัยและมีผลต่อการเปิดพื้นท่ีในการรับฟัง ความคิดเห็นที่แตกต่างกัน ๕. ควรมีเวทีหรือพ้ืนท่ีแห่งการพูดคุย เพื่อเปิดโอกาสให้กับทุกฝ่าย เน่ืองจาก สังคมมีความแตกแยกทางความคดิ กนั มากขึ้น ๖. ภาครัฐและส่วนท่ีเก่ียวข้องควรเปิดช่องทางและสนับสนุนในการให้มีพื้นท่ี การแสดงออกทางความคดิ เห็น โดยสงบ ปราศจากการคุกคามหรือถูกดาเนินคดีใด ๆ ประเด็นที่สอง การแกไ้ ขรัฐธรรมนูญ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถือเป็นประเด็นข้อเรียกร้องท่ีชัดเจน ซ่ึงกลุ่มผู้ชุมนุม ส่วนใหญ่มีความคิดเห็นตรงกันว่า ควรดาเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนมีการยุบสภา โดยมีข้อสังเกตเกี่ยวกับ แนวทางการแก้ไขรฐั ธรรมนูญ ดงั น้ี ๑. กระบวนการแก้ไขจะต้องมีการเปิดโอกาสให้ประชาชนทุกภาคส่วน มีสว่ นรว่ มตั้งแต่ต้น ๒. กระบวนการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่น้ัน ควรดาเนินการโดยสมาชิก สภารา่ งรฐั ธรรมนูญ (ส.ส.ร.) ๓. หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องควรร่วมกันหาวิธีการให้ได้มาซ่ึง ส.ส.ร. โดยมีท่ี มาจากการเลือกต้ังของประชาชนอย่างแท้จริง เน่ืองจาก กระบวนการคัดเลือกที่ดีหรือเลือกต้ัง ส .ส.ร. ที่มาจาก ประชาชน ย่อมทาใหร้ ฐั ธรรมนญู ฉบับใหมม่ คี วามชอบธรรมและได้รับการยอมรบั จากภาคประชาชน ๔. ในขั้นตอนการร่างรัฐธรรมนูญ ควรมีช่องทางในการเปิดโอกาสให้มี การรับฟังความคิดเห็นของประชาชนจากทุกภาคสว่ นอยา่ งทั่วถึง จึงจะเป็นการรับฟังความคดิ เห็นอย่างแท้จริงด้วย ๕. กรอบระยะเวลาในการจัดทาร่างรัฐธรรมนูญของ ส.ส.ร. ที่เหมาะสม ควรอยู่ในระยะเวลา ๑ ปี ภายใต้เงื่อนไขว่า ตอ้ งมโี อกาสให้สังคมได้เรียนรู้ ศกึ ษา รัฐธรรมนญู ในชอ่ งทางการรับฟัง ความคดิ เหน็ อย่างเพียงพอดว้ ย ๖. การปฏิรูปในด้านต่าง ๆ อาจต้องอาศัยเวลาเป็นเครื่องมือ ซึ่งบางกรณีไม่มี ความจาเป็นต้องเขียนรายละเอียดให้ปรากฏชัดในรัฐธรรมนูญ เช่น กรณีข้อเรียกร้ องของกลุ่มผู้ชุมนุม ในเรื่องของ “ความฝัน” แต่ส่ิงเหล่านี้ อาจต้องมีช่องทางหรือกลไกที่เปิดโอกาสให้มีเวทีในการพูดอภิปรายภายใต้ ข้อเท็จจริงและด้วยเหตุผลที่เหมาะสม โดยยึดถือประโยชน์ของสังคม ประชาชน และประเทศเป็นหลัก ทั้งนี้ หากอยู่ภายใต้เงือ่ นไขนเี้ ช่ือวา่ เปน็ สิ่งทกี่ ลุ่มผู้ชมุ นุมสามารถรับได้
๑๕ ประเดน็ ทส่ี าม การยบุ สภา การยุบสภานั้น แต่เดิมเป็นข้อเรียกร้องที่กลุ่มผู้ชุมนุมเห็นว่าเป็น เร่ืองเร่งด่วน อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ชุมนุมได้มีการติดตามกระแสตอบรับทางสังคม ทาให้มีการทบทวน ข้อเรียกร้องและเห็นว่า แนวทางท่ีเหมาะสม คือ ควรมีการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ให้แล้วเสร็จ เพ่ือให้ ได้รัฐธรรมนูญฉบับประชาชนอย่างแท้จริง จากน้ันจึงดาเนินการยุบสภาคืนอานาจให้กับประชาชน เพื่อดาเนินการต่อไปภายใต้หลักเกณฑ์และกติกาใหม่ที่สังคมให้การยอมรับ ท้ังนี้ กลุ่มผู้ชุมนุมโดยส่วนใหญ่ มีความเห็นว่า ก่อนจะเดินมาถึงข้อเรียกร้องสุดท้ายน้ี จะต้องไม่มีการคุกคามเกินขอบเขตของกฎหมาย รวมท้ังภาครัฐควรสนับสนุนโดยการเปิดช่องทางให้มีการแสดงความคิดเห็นและการแสดงออกทางการเมือง ได้ตามสทิ ธิของกฎหมายและโดยปราศจากการคุกคาม 3.2.1.๔ นักเรยี น นกั ศึกษา (๑) กลมุ่ คน GEN กลา้ ผู้แทนกลุ่ม GEN กล้า รุ่นที่ 1 ให้ความเห็นว่า กลุ่มคน GEN กล้า เชื่อว่า สิทธิเสรีภาพท่ีผู้ชุมนุมเรียกร้องโดยสันติวิธี เป็นสิทธิท่ีพึงมีตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาตรา 34 ทั้งนี้ รัฐบาลต้องมาร่วมกันคิดและร่วมรับฟังความคิดเห็นของผู้ชุมนุม และได้นาเสนอปัญหา วิธกี ารแก้ไขปัญหา ขอ้ เสนอแนะ และนโยบายในการพัฒนาประเทศตอ่ คณะกรรมาธิการ จานวน 5 ประเด็น ดงั นี้ ประเด็นที่หน่ึง การศึกษาที่เท่าเทียมเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาประเทศ ทีแ่ ท้จริง สามารถแบ่งปัญหาได้เป็นสองประเภท คือ 1) ปัญหาเชิงคุณภาพ และ 2) ปัญหาเชิงปริมาณ แล้วจึงกระจายการศึกษาท่ีมีประสิทธิภาพและประโยชน์โดยระยะท่ี 1 การแก้ปัญหา เชิงคุณภาพ จะต้องจัดต้ังศูนย์วิจัยเพ่ือทดลองและเก็บข้อมูลเกี่ยวกับหลักสูตร เพื่อสร้างหลักสูตรและระบบ การเรียนการสอนที่เหมาะสมท่ีสุด โดยอาศัยบุคลากร 4 กลุ่มในการพัฒนาหลักสูตร ได้แก่ 1) ผู้เชี่ยวชาญ ด้านหลกั สตู ร 2) ผูส้ อนและผู้เรยี นทหี่ ลากหลายในดา้ นประสบการณ์และความรู้ เพือ่ รวบรวมมมุ มองที่หลากหลาย 3) นักวิจัยมืออาชีพ มีหน้าท่ีเก็บเเละวิเคราะห์ข้อมูลติดตามผลต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด โดยใช้เทคโนโลยีการวิจัย อย่าง Big Data ในการรวบรวมข้อมูลเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ท่ีดีท่ีสุด และ 4) นักจิตวิทยาเด็ก มีหน้าท่ีติดตาม และประเมินพัฒนาการของเด็กในเชิงจิตวิทยา เพื่อดูการตอบสนองของเด็กต่อหลักสูตร และในระยะท่ี 2 เป็นการแกป้ ัญหาเชิงปริมาณ หลงั จากสามารถพฒั นาหลักสูตรทีเ่ หมาะสมกับผเู้ รยี นทีส่ ามารถพิสจู นผ์ ลลัพธไ์ ด้แล้ว จึงตอ่ ยอดส่กู ารเผยแพร่สู่ผเู้ รียนท่ัวประเทศอย่างท่ัวถึง ประเด็นที่สอง การกระจายอานาจโดยเลือกต้ังผู้ว่าราชการจังหวัด เพ่ือชู ศักยภาพท้องถิ่น ปัญหาการรวมศูนย์อานาจในระบบราชการไทยไว้ท่ีส่วนกลาง มีผลเสีย 3 ประการ 1) เกิดความล่าช้า การทางานไม่มีประสิทธิภาพ (red tape) 2) ข้าราชการส่วนภูมิภาคและส่วนกลาง ไม่เข้าใจถงึ ปัญหาภายในท้องถ่นิ 3) ราชการส่วนภูมิภาคและสว่ นทอ้ งถน่ิ มีอานาจหน้าที่ทที่ บั ซอ้ นกนั ในเชิงพฤตนิ ัย ประเด็นทสี่ าม เที่ยวทัว่ ไทยสนับสนนุ การทอ่ งเทยี่ วภายในประเทศ ปัญหาการท่องเท่ียวภายในประเทศ คือ ความไม่ภาคภูมิใจในความเป็นไทย ของคนไทย ทาใหส้ นิ ค้าและบรกิ ารไทยมกี ารให้ความสาคัญกับมูลคา่ น้อย นาไปสกู่ ารบรหิ ารจดั การที่ไม่มมี าตรฐาน และไม่เป็นระบบ สาหรับวิธีการแก้ไขปัญหา คือ ต้องแก้ไขจากภาพรวมแบบครบวงจร สร้างแรงจูงใจ และ ความประทับใจในความเปน็ ไทยผ่านการท่องเที่ยวไทย ท้ังนี้ ควรกาหนดนโยบาย 2 ประเภท คือ 1) นโยบายเพ่ิม
๑๖ ความต้องการในการเที่ยวเมืองไทย (demand side policy) และ 2) นโยบายด้านอุปทานเพื่อเพ่ิมคุณภาพ ในแหล่งทอ่ งเทย่ี ว (supply side policy) ประเด็นที่ส่ี Startups ไทยประสบความสาเรจ็ ได้ ถ้าพวกเราลงมอื ทา ปัจจุบัน Startups ในประเทศไทยพัฒนาได้ยากเม่ือเทียบกับประเทศเพื่อนบ้าน อย่างสาธารณรัฐสิงคโปร์ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ซึ่งประเทศไทยยังสามารถ พฒั นาโครงสร้างระบบ (Ecosystem) ใหด้ ขี ึ้นไดอ้ ีก อยา่ งไรก็ตามได้มีอุปสรรคท่ีขดั ขวางการเติบโต ของ Startups ประเทศไทยอยู่ 2 ประการ คือ 1) ขาดพื้นท่ีพัฒนาให้ผู้ประกอบการอย่างจริงจัง ท้ังในเร่ืองของกรอบความคิด (Mindset) และทักษะที่จาเป็น (Skill Set) 2) ขาดการช่วยเหลือสนับสนุนลงทุนใน Startups ทางออก ในการแกไ้ ขปัญหา ประเด็นทห่ี ้า การแกไ้ ขปัญหาแรงงานและผลู้ ี้ภัยในประเทศ ปัญหาแรงงานในประเทศไทยท่ีสาคัญ คือ ระเบียบสานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการคัดกรองคนต่างด้าวท่ีเข้ามาในราชอาณาจักรและไม่สามารถเดินทางกลับประเทศอันเป็นภูมิลาเนาได้ พ.ศ. 2562 ระเบียบดังกล่าวถูกร่างขึ้นเพ่ือแก้ไขปัญหาคนต่างด้าวรวมถึงผู้ลี้ภัยในประเทศไทยที่ไม่สามารถ เดินทางกลับประเทศอันเป็นภูมิลาเนาได้ เน่ืองจากมีเหตุอันควรเช่ือได้ว่า หากถูกส่งกลับไปยังประเทศอันเป็น ภูมิลาเนาจะได้รับอันตรายจากการถูกประหัตประหาร ซึ่งได้สร้างกลไกบริหารจัดการคนต่างด้าวและผู้ลี้ภัยท่ี อาศัยอยู่ในประเทศไทย อย่างไรก็ตามระเบียบดังกล่าวมีปัญหาอยู่หลายประการ ซ่ึงเป็นผลให้กฎหมายฉบับน้ี ไม่สามารถจัดการบริหารคนต่างด้าวและผู้ลี้ภัยได้อย่างย่ังยืน โดยปัญหาสาคัญมีดังน้ี คือ 1) ปัญหาก่อนเข้า กระบวนการคัดกรองสถานะ (Pre-screening stage) 2) ปัญหาระหว่างคัดกรองสถานะ (Screening stage) นิยาม “ประหัตประหาร” ภายใต้ ข้อ 3 ของระเบียบสานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการคัดกรองคนต่างด้าวท่ีเข้ามา ในราชอาณาจักรและไม่สามารถเดินทางกลับประเทศอันเป็นภูมิลาเนาได้ พ.ศ. 2562 ยังไม่มีความชัดเจน และมีความคลุมเครือ รวมทั้ง ไม่สอดคล้องกับกฎเกณฑ์และหลักการสากล 3) ปัญหาหลังจากคณะกรรมการ พิจารณาคัดกรองผู้ได้รับการคุ้มครองได้ออกมติให้หรือไม่ให้สถานะ ในกรณีที่คณะกรรมการไม่ให้สถานะ กับผู้ขอลภี้ ยั ทาให้ผู้ขอล้ีภยั ไม่มีสิทธอิ ุทธรณ์ ข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการ คณะกรรมาธิการมขี ้อเสนอแนะว่า ขอ้ มลู ท่ีผู้แทนกลุม่ GEN กลา้ นาเสนอเป็น ข้อมลู ทีด่ ีและเปน็ ประโยชน์ที่สภาผแู้ ทนราษฎรจะได้นาไปใชป้ ระกอบในการพจิ ารณาเรื่องที่เก่ยี วขอ้ งตอ่ ไป ๓.๒.๒ คณะกรรมาธิการ เชิญตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมมาร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการ เพ่ือแสดงความคดิ เห็น คณะกรรมาธิการได้ประสานงานผ่านผู้แทนศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เพื่อเชิญ ตัวแทนกลุ่มผู้ชุมนุมมาร่วมประชุมกับคณะกรรมาธิการเพ่ือแสดงความคิดเห็น ซึ่งได้รับแจ้งจากผู้แทน ศนู ยท์ นายความเพ่อื สทิ ธมิ นษุ ยชนว่าผ้แู ทนกลุ่มผ้ชู ุมนุมไม่ประสงค์จะเข้าร่วมประชมุ กับคณะกรรมาธิการ ๓.๒.๓ คณะกรรมาธกิ ารเดนิ ทางไปรบั ฟังความคดิ เห็นและสังเกตการณ์ในพ้ืนทกี่ ารชมุ นมุ คณะกรรมาธิการได้มีการรับฟัง โดยมีกรรมาธิการได้ไปร่วมสังเกตการณ์ในพ้ืนที่การชุมนุม การรบั ฟังความคิดเหน็ จานวน 7 เวทกี ารชมุ นมุ ดังนี้ 3.2.3.1 เวทกี ารชมุ นมุ ของกลมุ่ ศรสี ะเกษจะไม่ทน จังหวัดศรีสะเกษ สถานที่ บริเวณลานจอดรถด้านหน้าศาลากลางจังหวดั ศรีสะเกษ เมื่อวันท่ี ๒ สงิ หาคม ๒๕๖๓ ประเดน็ ขอ้ เรยี กรอ้ ง มดี งั น้ี
๑๗ 1. ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน เป็นรัฐธรรมนูญที่เอื้อต่อ การสบื ทอดอานาจของรัฐบาลเผดจ็ การ เพอื่ รกั ษาประชาธปิ ไตยรฐั ธรรมนูญจะต้องคานึงถงึ หลักการสิทธิมนุษยชน มคี วามยดึ โยงกบั ประชาชนเปน็ หลัก ๒. ขอให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตาแหน่ง รับผิดชอบกับความตกต่าย่าแย่ ของประเทศทต่ี อ้ งเผชิญอยู่ ๓. หยุดคุกคามประชาชน รัฐบาลมีเครื่องมือหลายอย่าง เช่น พระราชกาหนด การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 และกฎหมายอื่น ๆ ที่รัฐบาลใช้เป็นเครอ่ื งมือปิดกั้นเสรภี าพ การแสดงออก ให้ยกเลกิ กฎหมายที่ละเมดิ เสรภี าพในการชุมนุม ๔. ยุบสภาผู้แทนราษฎร รัฐบาลสืบทอดอานาจเผด็จการภายใต้การนาของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา เนื่องจากล้มเหลวในการบริหารเศรษฐกิจ ไม่สามารถแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ของประชาชนได้ ท้ังนี้ ข้อเรียกร้องดังกล่าวมีกรอบร ะยะเวลาที่รัฐบาลต้องดาเนินการภายใน 9o วัน ตามข้อเรยี กรอ้ งนบั แต่วนั ออกแถลงการณ์ของกลุม่ ศรีสะเกษจะไม่ทนฉบับน้ี 3.2.3.2 เวทีการชุมนุมกลุ่มมหานครเพ่ือประชาธิปไตย (MDG) และกลุ่มมอกะเสด (KU Daily) สถานที่ บริเวณอนุสาวรียป์ ระชาธิปไตย เม่ือวันท่ี 3 สงิ หาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านเพ่ือแถลงการณ์จุดยืนต่อต้านอานาจเผด็จการ โดยกลุ่มฯ ไดเ้ รยี กรอ้ งใหร้ ัฐบาลเรง่ ปฏบิ ตั ิตามข้อเรียกรอ้ ง ๓ ประการ 3.2.3.3 เวทีการชุมนุมของกลุ่มแนวร่วม Free Youth และกลุ่ม สนท. สถานีตารวจ นครบาลบางเขน กรุงเทพมหานคร สถานที่ บรเิ วณสถานีตารวจนครบาลบางเขน เม่ือวนั ที่ ๗ สิงหาคม ๒๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านเพื่อให้กาลังใจนายอานนท์ นาภา และนายภานุพงศ์ จาดนอก และนายพรษิ ฐ์ ชิวารักษ์ 3.2.3.๔ เวทกี ารชมุ นมุ กลมุ่ ประชาชนปลดแอก สถานที่ สกายวอลค์ แยกปทุมวนั หน้า MBK Center เมือ่ วนั ท่ี 8 สงิ หาคม ๒๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง รณรงค์ไม่เข้ารับปริญญา ต่อต้านเพ่ือแสดงพลังอย่ายอม อย่ากลวั จงออกมาทวงคืน รวมพลัง Flash Mob 3.2.3.5 เวทีการชมุ นมุ ของกล่มุ ธรรมศาสตร์และการชมุ นุม สถานที่ บริเวณลานพญานาค มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์รงั สติ เมอื่ วนั ท่ี ๑๐ สิงหาคม ๒๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ตามท่ีปรากฏเหตุการณ์การชุมนุมเคล่ือนไหวทางการเมือง ของนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และประชาชน เม่ือวันท่ี 10 สิงหาคม 2563 โดยมีประเด็นข้อเรียกร้อง ๓ ข้อ ได้แก่ ๑. การหยุดคุกคามประชาชน ๒. การเสนอให้นายกรัฐมนตรียุบสภา ๓. การเสนอให้มีการแก้ไข รัฐธรรมนูญ และมีการพูดถึงประเด็นการออกหมายจับนายอานนท์ นาภา และนายภาณุพงศ์ จาดนอก ว่ามีความเหมาะสม หรือไม่ การแสดงออกในการอ่านประกาศกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ฉบับท่ี 1 ซึ่งมีข้อเรียกร้องเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ 10 ข้อ ที่เก่ียวข้องกับประเด็นต่าง ๆ เช่น กฎหมายท่ีเกี่ยวข้อง พระราชอานาจ โครงสรา้ งและระบบการบริหารราชการแผ่นดนิ ตลอดจนการจัดสรรงบประมาณ เปน็ ต้น
๑๘ 3.2.3.6 เวทีการชุมนมุ ของกล่มุ Spring Movement (ศษิ ยเ์ กา่ - ศษิ ยป์ จั จบุ นั ) สถานท่ี บริเวณโถงใต้อาคารมหาจักรีสิรินธร คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวทิ ยาลัย เม่ือวนั ที่ 14 สงิ หาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านเพื่อแสดงพลังในฐานะประชาชนไม่ยอมถูกคุกคาม ขม่ ขู่ จากอานาจเผดจ็ การ 3.2.3.7 เวทีการชมุ นมุ ของคณะประชาชนปลดแอก สถานที่ บรเิ วณอนสุ าวรีย์ประชาธิปไตย เม่ือวนั ท่ี 16 สิงหาคม 2๕๖๓ ประเดน็ ขอ้ เรยี กรอ้ ง มกี ารปราศรยั ของ สมาชิกกลมุ่ ฯ มเี นอ้ื หาหลัก 3 ข้อ คือ 1. ยบุ สภา 2. หยุดคุกคามประชาชน 3. ร่างรฐั ธรรมนญู ใหม่ พร้อมกบั 2 จดุ ยนื คอื 1. ต้องไมม่ กี ารทารัฐประหาร 2. ต้องไม่มีการจดั ตั้งรัฐบาลแหง่ ชาติ และ 1 ความฝัน คือ การมีระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็น ประมุขอยู่ใต้รัฐธรรมนูญอย่างแท้จริง และมีการกล่าวโจมตีรัฐบาลในด้านการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ การเยียวยา จากโรค (COVID – 19) ปญั หาการตกงานของประชาชน และการใช้กฎหมายเพื่อปิดปากประชาชน ๓.๒.4 คณะกรรมาธิการรบั ฟงั ความคดิ เห็นผ่านระบบออนไลน์ คณะกรรมาธิการได้มีการรับฟังความคิดเห็นผ่านระบบออนไลน์ แบ่งออกเป็น ๓ แนวทาง คือ แนวทางท่ีหนึ่ง รวบรวมความคิดเห็นผ่านระบบออนไลน์ลักษณะเป็นการท่ัวไปเพื่อนามาประกอบการพิจารณา แนวทางที่สอง การรับฟังผ่านระบบออนไลน์โดยรูปแบบของการตอบคาถาม และแนวทางท่ีสาม รับฟังความคิดเห็น ผ่านระบบออนไลน์โดยรูปแบบการจัดทาแบบสารวจทัศนคติของประชาชนที่มีต่อสถานการณ์ทางการเมือง สรุปสาระสาคัญ ดงั นี้ 3.2.4.1 คณะกรรมการได้มีการการรับฟังความคิดเห็นผ่านระบบออนไลน์โดยการรวบรวม ความคิดเหน็ ผ่านระบบออนไลน์ลักษณะเป็นการทว่ั ไป คณะกรรมาธิการรับฟังความคิดเห็นโดยการรวบรวมความคิดเห็นของกลุ่มผู้ชุมนุม ผา่ นระบบออนไลน์ลักษณะเป็นการท่ัวไปเพอื่ นามาประกอบการพิจารณา จานวน ๑๙๒ กลมุ่ สรุปไดด้ ังน้ี (๑) กลมุ่ สหภาพนกั เรยี น นิสิต นักศกึ ษาแห่งประเทศไทย (สนท.) สถานท่ี บริเวณเวทีการชุมนุมสถานที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย กรงุ เทพมหานคร เม่ือวันท่ี ๑๘ กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ให้รัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออก ภายใต้คอนเซปต์ “ไม่ทนอีกต่อไป” รูปแบบกิจกรรมเป็นการชุมนุมทางการเมือง โดยเรียกร้องให้รัฐบาล พลเอก ประยทุ ธ์ จันทรโ์ อชา ลาออก (2) กลมุ่ เห็นตา่ งจากรฐั บาลในพื้นทจ่ี ังหวดั เชยี งใหม่ สถานท่ี บริเวณลานอนุสาวรีย์สามกษัตริย์ อาเภอเมอื ง จังหวดั เชียงใหม่
๑๙ เม่อื วันที่ ๑๘ กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเดน็ ขอ้ เรียกร้อง ชู ๓ นวิ้ และชูป้ายขอความโจมตรี ฐั บาล (3) กลุ่มชมรมประชาธิปไตย สโมสรนักศึกษามหาวิทยาลัยเชียงใหม่ สถานที่ ประตู ทา่ แพ อาเภอเมอื ง จังหวัดเชยี งใหม่ เมอ่ื วันท่ี ๑9 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเดน็ ขอ้ เรยี กร้อง โจมตตี อ่ ต้านรฐั บาล (4) กลุ่มเยาวชนปลดแอก เฟซบุก๊ เยาวชนปลดแอก - Free YOUTH สถานท่ี เฟซบุ๊ก เยาวชนปลดแอก - Free YOUTH เม่อื วันที่ ๑9 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง โพสต์แถลงการณ์ข้อเรียกร้อง ๓ ประการ ท่ีมีต่อรัฐบาล 1) ยบุ สภา 2) การหยดุ คุกคามประชาชน และ3) การร่างรฐั ธรรมนูญฉบบั ใหม่ (5) กลุ่มพลเมอื งโตก้ ลบั (Resistant Citizen) สถานท่ี กองบญั ชาการกองทพั บก (บก.ทบ.) เม่ือวันที่ 20 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ปราศรัยโจมตีกรณีที่พันเอก หญิง นุสรา วรภัทราทร นายทหารประจากรมยุทธการทหารบก ซึ่งเป็นอดีตรองโฆษกกองทัพบก โพสต์แสดงความเห็นในเฟซบุ๊กเกี่ยวกับ การชุมนุมเมอ่ื วันท่ี 17 กรกฎาคม ๒๕๖3 ท่ีอนุสาวรยี ป์ ระชาธปิ ไตยว่าเปน็ มอ็ บมุ้งม้งิ (6) กล่มุ วงิ่ ไล่ลงุ อบุ ลราชธานี สถานที่ บรเิ วณศาลหลักเมืองสวนสาธารณะทงุ่ ศรเี มือง เมอ่ื วันที่ 20 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นขอ้ เรียกร้อง ขอให้ พลเอก ประยทุ ธ์ จนั ทรโ์ อชา ลาออกหรือยุบสภา (7) กลมุ่ นกั ศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครนิ ทรวิโรฒ (มศว.) คนรุ่นเปล่ียน สถานที่ บริเวณอนสุ าวรยี ป์ ระชาธิปไตย เมือ่ วันที่ 21 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเดน็ ขอ้ เรียกร้อง ให้มีการยบุ สภาพร้อมตะโกนยบุ สภา ๑๐ ครั้ง (8) กลมุ่ เยาวชนภาคตะวันออกเพ่ือประชาธิปไตย สถานที่ บริเวณแหลมแท่นจังหวัดชลบรุ ี เมอ่ื วันท่ี 22 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง โจมตีการบรหิ ารงานของรัฐบาลถึงมาตรการแก้ไขปญั หา การแพร่ระบาดเชือ้ ไวรสั โคโรนา 2019 (COVID – 19) (9) กลุ่ม nolongerslavesth สถานท่ี บรเิ วณสวนสุขภาพจังหวัดแพร่ เม่อื วันท่ี 22 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง เรียกร้องประชาธิปไตยโดยมีการถือป้ายข้อความ อาทิ “ถ้าเด็กไมค่ วรยงุ่ การเมอื ง ผ้ใู หญ่กไ็ มค่ วรอยใู่ นสภา ประเทศทบี่ อกเสรี แตด่ ันไม่มีสทิ ธิ์เลือก” (10) กลมุ่ นกั เรยี น นกั ศึกษา และประชาชน ในพืน้ ท่ี อาเภอเมอื ง จงั หวดั ชลบรุ ี สถานท่ี บรเิ วณแหลมแทน่ ตาบลแสนสขุ อาเภอเมือง จงั หวดั ชลบรุ ี เมื่อวนั ท่ี 22 กรกฎาคม 2๕๖๓
๒๐ ประเด็นข้อเรียกร้อง โจมตรีการบริหารงานของรัฐบาลและเร่งดาเนินการ ๓ ขอ้ คือ ๑) ยบุ สภา ๒) หยุดคกุ คามประชาชน ๓) รา่ งรฐั ธรรมนญู ใหม่ (11) กลมุ่ เยาวชนในพนื้ ทีจ่ ังหวดั สงขลา สถานท่ี บริเวณศาลานางเงือกหาดสมหิ ลา อาเภอเมอื ง จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง แสดงสัญลักษณ์ชู ๓ นิ้ว และตะโกนว่า “เผด็จการ จงออกไป ๓ ครง้ั ” (12) กลมุ่ เยาวชนปลดแอกจงั หวัดสงขลา สถานที่ บรเิ วณรปู ปนั้ นางเงอื กทอง จังหวัดสงขลา เมือ่ วนั ที่ 22 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง แสดงสัญลักษณ์ชู ๓ นิ้ว และตะโกนว่า “เผด็จการ จงออกไป ๓ คร้งั ” (13) แนวร่วมกลมุ่ เยาวชนปลดแอก สถานที่ บรเิ วณหนา้ ที่วา่ การอาเภอหนองไผ่ จังหวดั เพชรบูรณ์ เมื่อวนั ที่ 22 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นขอ้ เรยี กร้อง ระบวุ า่ เพชรบูรณไ์ ม่รับใชเ้ ผด็จการ (14) แนวรว่ มนสิ ิต มมส. เพื่อประชาธปิ ไตย สถานที่ บรเิ วณลานแปดเหลยี่ มจงั หวัดมหาสารคาม เมอ่ื วนั ที่ 22 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง เพ่ือขับไล่พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงจากตาแหน่ง (15) กลุ่มขอนแก่นพอกันที สถานท่ี สวนรชั ดานสุ รณ์ ตรงขา้ มศาลากลางจังหวดั ขอนแกน่ เมื่อวนั ท่ี 23 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเดน็ ข้อเรยี กร้อง เพือ่ ขบั ไลน่ ายกรฐั มนตรีลงจากตาแหนง่ (16) กล่มุ ผูเ้ ห็นต่างทางการเมืองในพืน้ ท่ีจงั หวดั อุดรธานี สถานท่ี บริเวณดา้ นหนา้ วิทยาลยั อาชีวศกึ ษาอุดรธานี จังหวดั อดุ รธานี เมอ่ื วันที่ 23 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเดน็ ข้อเรยี กร้อง โจมตเี ผด็จการ (17) กลุ่มพะยอมเก๋าร่วมกับภาคีกลุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยกรุงเทพ และ กลุ่มเครอื ข่ายราชมงคล สถานท่ี บรเิ วณท่ารถตโู้ ดยสารตรงขา้ มศนู ยก์ ารค้าฟิวเจอร์พาร์ครังสติ เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเดน็ ขอ้ เรยี กร้อง ประทว้ งขับไลร่ ฐั บาล (18) กลุ่มเยาวชนเพอ่ื อยุธยา เพื่อประชาธปิ ไตย สถานที่ บรเิ วณลานนา้ พุสวนสาธารณะบงึ พระราม เมอ่ื วันที่ 23 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเดน็ ขอ้ เรยี กรอ้ ง เพือ่ ขบั ไล่รัฐบาล พลเอก ประยทุ ธ์ จันทร์โอชา เรียกรอ้ ง ให้มีการยุบสภา จัดเลอื กต้ังใหม่ และแกไ้ ขรฐั ธรรมนูญ
๒๑ (19) กลมุ่ ศิลปากรเสรปี ระชาธิปไตย สถานท่ี มหาวทิ ยาลยั ศลิ ปากร วทิ ยาเขตพระราชวังสนามจนั ทร์ จงั หวดั นครปฐม เมื่อวนั ท่ี 23 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นขอ้ เรียกรอ้ ง แสดงจุดยืนตา้ นรฐั บาล (20) กลุ่มกระบีไ่ ม่ทน สถานที่ บริเวณลานประติมากรรมปูดารมิ เข่อื นแม่นา้ กระบี่ จังหวดั กระบี่ เมื่อวนั ท่ี 24 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ขอให้พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ดาเนินการจานวน 3 ข้อ 1) ต้องการให้มีการยุบสภาให้มีการเลือกต้ังใหม่อย่างเป็นธรรม 2) ต้องการให้มีการร่าง รฐั ธรรมนูญใหม่ และ 3) ตอ้ งการใหร้ ฐั บาลเลิกคกุ คามประชาชนท่เี หน็ ตา่ ง (21) กลุ่มนักเรียน และนักศึกษา ในนามเยาวชนปลดแอก สถานท่ี สวนสาธารณะกาญจนาภิเษก (สวนสาธารณะท่ามิหรา) เมอ่ื วนั ท่ี 24 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเดน็ ขอ้ เรยี กรอ้ ง โจมตีการทางานรัฐบาล (22) กล่มุ นักเรยี นและศษิ ยเ์ กา่ โรงเรียนเตรยี มอุดมศกึ ษา สถานที่ บริเวณลาน 70 ป ภายในโรงเรยี นเตรียมอุดมศกึ ษา เมือ่ วันท่ี 24 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเดน็ ข้อเรยี กร้อง เปิดไฟมือถือไล่เผดจ็ การ ย่นื ขอ้ เรียกร้องให้ยุบสภา (23) กลมุ่ แฟนเพจ มอกะเสด (KU Daily) สถานที่ หอประชุมใหญ่ มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์ เมื่อวนั ที่ 24 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง เรียกร้อง 3 ข้อ คือ 1) รัฐบาลประกาศยุบสภา 2) หยุดคุกคามประชาชน และ 3) จัดทารา่ งรฐั ธรรมนญู ใหม่ (24) กลมุ่ เยาวชนต่อต้านรฐั บาล สถานท่ี ลานอนสุ าวรียพระนางจามเทวี เมือ่ วนั ท่ี 24 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง โจมตีการบริหารงานของรัฐบาล เรียกร้องให้ยุบสภา เพ่ือเลอื กตั้ง แกไขรฐั ธรรมนูญ และหยุดคกุ คามประชาชน (25) กลุ่มเยาวชนต่อตา้ นรัฐบาล สถานที่ ลานหนาคณะนติ ิศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั สงขลานครนิ ทร เมอ่ื วนั ท่ี 24 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นขอ้ เรียกรอ้ ง ชูป้าย “ท. ทหารอดทน ต. คนอดตาย” (26) กลุ่มเสรีประชาธิปไตย นิสติ นกั ศกึ ษา อดุ รธานี สถานท่ี บริเวณลานนา้ พุสนามทุงศรเี มอื ง จงั หวดั อุดรธานี เม่อื วันท่ี 24 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเดน็ ขอ้ เรยี กร้อง โจมตีการบรหิ ารงานของรัฐบาล (27) กลุ่มภาคนี ักศึกษาศาลายา และกลุ่มแนวรว่ มนวชีวิน สถานท่ี บรเิ วณหน้าทาเนยี บรฐั บาล
๒๒ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นขอ้ เรยี กร้อง ใหพ้ ลเอก ประยทุ ธ์ จนั ทรโ์ อชา นายกรฐั มนตรี ลาออก (28) กลมุ่ เห็นตา่ งทางการเมอื ง สถานท่ี บริเวณลานอนุสาวรยี ์ทาวสุรนารี (ลานยาโม) เมื่อวนั ท่ี 24 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง โจมตีการบริหารงานของรัฐบาล, กองทัพ, ผู้บัญชาการ ทหารบก และการแสดงดนตรี (29) กลุม่ คนเพชรบูรณ์ไมร่ ับใชเ้ ผดจ็ การ สถานที่ บริเวณวงเวียนนาฬิกา ถนนคนเดินไทหล่ม (หล่มสัก) ตาบลตาลเดี่ยว อาเภอหล่มสกั จังหวดั เพชรบรู ณ์ เมื่อวนั ที่ 25 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเดน็ ข้อเรียกรอ้ ง โจมตีนายกรฐั มนตรี (30) กลุ่มนักเรียน นักศึกษาในพ้ืนท่ีจังหวัดนครศรีธรรมราช (ส่วนใหญ่เป็น นกั เรยี นระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษา) สถานท่ี บริเวณสวนสาธารณะสนามหน้าเมือง จงั หวดั นครศรธี รรมราช เมอ่ื วันท่ี 25 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ขับไล่รัฐบาลตามการประกาศเชิญชวนของ นายชญานิน คงสง แกนนากลุ่มเสรีใต้ และนายพนธกร พานทอง ผู้ประสานการจัดกิจกรรมฯ พร้อมชูป้าย รอยลั ลสิ ตม์ ารเ์ ก็ตเพลส @ นครศรธี รรมราช (31) กลุม่ นักศึกษาในนาม “กลมุ่ เสรีเทยพลัส” สถานท่ี บรเิ วณอนุสาวรยี ป์ ระชาธปิ ไตย เมอ่ื วันที่ 25 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง 3 ข้อ 1) รัฐบาลประกาศยุบสภา 2) หยุดคุกคาม ประชาชน และ 3) จดั ทาร่างรฐั ธรรมนญู ใหม่ (32) กล่มุ นกั ศึกษา รว่ มกบั กล่มุ นักเคล่อื นไหวเพ่ือประชาธิปไตย สถานที่ บริเวณหน้าโรงเรียนอนุบาลบึงกาฬวิศิษฐ์อานวยศิลป์ ถนนข้าวเม่า ตาบลวศิ ิษฐ์ อาเภอเมอื ง จงั หวดั บงึ กาฬ เมอ่ื วันท่ี 25 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นขอ้ เรยี กรอ้ ง ใหร้ ฐั บาลยุบสภา ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และหยดุ คุกคามประชาชน (33) กลุ่มนักศกึ ษาในพน้ื ท่ี สถานท่ี บริเวณศาลากลางจังหวดั สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง สู้เพื่ออนาคตของเราประชาธิปไตยเป็นของทุกคน เราไม่เอาเผด็จการ (34) กลมุ่ นกั ศึกษาและเยาวชนในพน้ื ท่ี สถานท่ี บริเวณหอนาฬิกาเชียงราย เมอ่ื วนั ที่ 25 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง เรียกร้อง ๔ ข้อหลักให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาปากท้อง
๒๓ พ่ีน้องชาวไทย คือ 1) ยุบสภา 2) หยุดคุกคามประชาชน 3) แก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อประชาชน และ 4) เร่งแก้ไข ราคาพืชผลทางการเกษตร (35) กลุ่มเยาวชนปลดแอก จังหวัดกาญจนบุรี สถานที่ บรเิ วณศาลาขนุ แผน ตรงขา้ มโรงเรยี นกาญจนานเุ คราะห์ เมื่อวันที่ 25 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ให้รัฐบาลยุบสภาเพ่ือพัฒนาเศรษฐกิจ หยุดคุกคาม ประชาชน และแก้ไขรฐั ธรรมนญู (36) กลมุ่ เลือกข้างประชาธปิ ไตย สถานที่ ตามเส้นทางถนนราชดาริ – ถนนราชปรารภ – ถนนราชวิถี ถึง จดุ หมายปลายทางที่เกาะพญาไท – อนุสาวรีย์ชัยสมรภมู ิ เมื่อวนั ที่ 25 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ให้รัฐบาลลาออก และเปล่งเสียงว่า “เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ” (37) กลมุ่ แนวร่วมนวชวี ิน สถานท่ี อนสุ าวรยี ป์ ระชาธิปไตย เมื่อวนั ท่ี 26 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ชูป้าย ตะโกน ยุบสภา และว่ิงวนรอบอนุสาวรีย์ ประชาธปิ ไตย (38) กลมุ่ นักเรยี น นักศึกษา และกลุ่มดาวดนิ สามัญชน สถานท่ี สนามสามเหลีย่ มทุ่งนาเชย เมือ่ วันที่ 26 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเดน็ ข้อเรียกรอ้ ง โจมตีรัฐบาล (39) กลุ่มนกั เรยี นนักศึกษา และกลมุ่ ปลดแอกภเู ก็ต สถานที่ บริเวณวงเวียนสะพานหิน ตาบลตลาดใหญ่ อาเภอเมืองภเู ก็ต เมื่อวนั ท่ี 26 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง เพื่อยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล ๓ ข้อ คือ ๑) รัฐบาล ประกาศยบุ สภา ๒) หยุดคกุ คามประชาชน และ๓) จัดทาร่างรัฐธรรมนญู ใหม่ (40) กลุ่มนกั ศกึ ษามหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ และนักศกึ ษา มธ.ศูนย์ลาปาง สถานท่ี บรเิ วณสวนสาธารณะห้าแยกหอนาฬิกา ตาบลสวนดอก เมือ่ วันที่ 26 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง แสดงเชิงสัญลักษณ์ชู ๓ น้ิว แสดงถึงเสนอให้ยุบสภา เลกิ คกุ คามประชาชน และใหร้ ่างรฐั ธรรมนูญฉบับใหม่ (41) กลมุ่ หนองคายตา้ นเผดจ็ การ การเมอื งสรา้ งสรรค์ สถานท่ี บริเวณลานนา้ พุปราบฮ่อ ศาลากลางจงั หวดั หนองคายหลังเกา่ เมอ่ื วันท่ี 26 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง โจมตีรัฐบาลการบริหารงานภายใต้ พลเอก ประยุทธ์ จันทรโ์ อชา นายกรัฐมนตรี
๒๔ (42) กลมุ่ ประชาธิปไตยใหม่ (NDM) สถานที่ รา้ นแมคโดนลั ด์ สาขาราชดาเนนิ ตรงขา้ มอนสุ าวรยี ป์ ระชาธิปไตย เมอื่ วนั ที่ 26 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรยี กรอ้ ง ขอใหร้ ฐั บาลยุบสภา (43) กลุ่มเยาวชน จังหวดั ฉะเชงิ เทรา สถานท่ี บริเวณลานกิจกรรมหน้าโรงพยาบาลพุทธโสธร ตาบลหน้าเมือง อาเภอเมอื งฉะเชิงเทรา จงั หวัดฉะเชิงเทรา เม่อื วันท่ี 27 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง เพื่อโจมตีรัฐบาล และกินส้มโอที่เขียนข้อความว่า ยุบสภา, หยดุ คุกคามประชาชน, สว. 250 คน, ความเป็นธรรม, งบประมาณ, แก้รฐั ธรรมนูญ, บังคับความศรัทธา, พระราชบญั ญัติคชู่ ีวติ (44) กลมุ่ เยาวชนคนรุ่นใหม่รวมตวั ประกาศเจตนารมณ์ คนสระแกว้ ทนไม่ไหว สถานท่ี ลานพระสยามเทวาธริ าช อาเภออรัญประเทศ จงั หวดั สระแก้ว เมื่อวนั ที่ 27 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง เพ่ือแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ในการต่อต้านรัฐบาลและ เรยี กร้องทางการเมอื ง (45) กลุม่ เห็นตา่ ง สถานที่ บรเิ วณหนา้ ป้ายมหาวทิ ยาลัยพะเยา เม่อื วันที่ 27 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเดน็ ขอ้ เรยี กร้อง โจมตีรฐั บาล (46) ตวั แทนกลุ่มเยาวชนเด็กนนท์พรอ้ มชนเผด็จการ สถานท่ี เดินทางไปท่ี สถานีตารวจภูธรเมอื งนนทบุรี เม่อื วันที่ 27 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเดน็ ข้อเรยี กรอ้ ง ขบั ไล่รฐั บาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (47) กล่มุ นกั เรยี นเลว สถานที่ กระทรวงศึกษาธกิ าร เมื่อวนั ท่ี 28 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง เพื่อย่ืนหนังสือถึง ผู้กากับการสถานีตารวจภูธร เมอื งนนทบรุ ีขออนุญาตใช้พนื้ ทจ่ี ดั กิจกรรมชุมนมุ “เด็กนนทพ์ ร้อมชนเผด็จการ” (48) กลุ่มเยาวชนเด็กนนทพ์ รอ้ มชนเผด็จการ สถานที่ บรเิ วณทา่ นา้ นนทบุรี อาเภอเมือง จังหวดั นนทบุรี เมอ่ื วันท่ี 29 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง เพ่ือยื่นหนังสือถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ เรยี กร้องในสิทธิ 4 ด้าน คอื 1) ด้านทรงผม 2) ด้านการแตง่ กาย 3) ความเขา้ ใจท่ีถูกต้อง และ 4) การไม่ถกู เลือกปฏิบัติ (49) กลุ่มภาคีนักเรยี นแหง่ ประเทศไทย สถานท่ี บรเิ วณดา้ นหนา้ ศาลากลางจังหวดั สุพรรณบุรี เมื่อวนั ที่ 29 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเดน็ ข้อเรยี กรอ้ ง ขับไลร่ ัฐบาล เรียกรอ้ งใหย้ บุ สภา แก้รัฐธรรมนูญ
๒๕ (50) กลุ่มแนวร่วมนิสิตมหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์ เพ่ือประชาธิปไตย และ เครอื ขา่ ยคนรุ่นใหม่ สถานท่ี บริเวณลานโรงบาบัดน้าเสียต้นนา้ เจ้าพระยา จงั หวดั นครสวรรค์ เมอ่ื วันท่ี 29 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นขอ้ เรียกร้อง ต่อตา้ นรัฐบาล และเรียกรอ้ งประชาธปิ ไตย (51) กลุ่มผรู้ ักประชาธปิ ไตยเชียงใหม่ สถานที่ บริเวณประตทู ่าแพ อาเภอเมือง จงั หวัดเชียงใหม่ เมอ่ื วนั ท่ี 29 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง เพ่ือเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภา หยุดคุกคามประชาชน และรา่ งรัฐธรรมนูญใหม่ (52) กลุ่มแนวร่วมนวชีวนิ สถานที่ บรเิ วณลานปาลม์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยพี ระจอมเกลา้ พระนครเหนอื เมื่อวนั ท่ี 30 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านโจมตีรัฐบาลเก่ียวกับการบังคับใช้กฎหมาย ขอใหน้ ายกรัฐมนตรีเร่งปฏิบตั ิตามข้อเรียกรอ้ ง 3 ประการ (53) กลมุ่ สทิ ธิเสรภี าพพระนครเหนอื สถานที่ บริเวณลานปาลม์ มหาวทิ ยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ เมอ่ื วันท่ี 30 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านเพ่ือแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ให้รัฐบาลทาตาม ข้อเรียกร้องของกลุ่มเยาวชนปลดแอกทั้ง ๓ ข้อ คือ ๑) ขอให้มีการยุบสภา ๒) ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญ และ ๓) หยุดคุกคามประชาชน (54) กลมุ่ ฝั่งธนแต่เราไม่ทน สถานท่ี บรเิ วณอนุสาวรีย์พระเจ้าตากสิน ฝ่ังหน้าหา้ งสรรพสินค้านาปา้ เมื่อวันท่ี 30 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านโจมตีรัฐบาลพร้อมเรียกร้องให้ยุบสภา เลือกต้ังใหม่ และแกร้ ฐั ธรรมนญู และยกเลิกสมาชกิ วฒุ สิ ภา (55) กลุ่มสิทธิเสรีภาพพระนครเหนือ สถานท่ี บริเวณลานเฉลมิ พระเกียรติ (ขา้ งตกึ ศิลปศาสตร์) เมื่อวันท่ี 30 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านเพื่อแสดงจุดยืนในฐานะเยาวชน ท่ีถูกรัฐบาล ลิดรอนสิทธิเสรภี าพ (56) นักศึกษามหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ ในนาม “กลุ่มศิลปากร เสรปี ระชาธปิ ไตย” สถานท่ี หนา้ ตลาดนัดอินด้ี อาเภอเมอื ง จังหวดั นครปฐม เมื่อวันท่ี 30 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านเพื่อแสดงจุดยืนทางการเมืองด้วยการชู ๓ น้ิว และ ผลัดเปลี่ยน กันปราศรัยโจมตรี ฐั บาล
๒๖ (57) กลุ่มนิสิต นกั ศกึ ษา เยาวชน เพ่อื ประชาธปิ ไตย สถานที่ อนุสาวรยี ์เจา้ พอ่ พญาแล เมอ่ื วันท่ี 30 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านโจมตีรัฐบาลพร้อมกับแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ดว้ ยการชู ๓ นว้ิ (58) กลุ่ม มศว. คนรุ่นเปล่ียน ร่วมกับทีม มศว. ไม่มีจุด และกลุ่มประชาคม มศว. เพอื่ เสรภี าพ สถานท่ี Sky Walk แยกปทุมวัน เมือ่ วนั ท่ี 31 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านยืนชูกระดาษเปล่า จากน้ันร่วมกันตะโกน พรอ้ มกนั ว่า “ชีวติ ดี ๆ ท่ีลงตัว” และ “กระดาษขาวจริง ๆ” (59) กลุ่มเกยี มอดุ มไม่ก้มหวั ใหเ้ ผด็จการ สถานทบี่ รเิ วณ ลานอเนกประสงค์ 70 ปี โรงเรยี นเตรยี มอุดมศึกษา เมอ่ื วันท่ี 31 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านปราศรัยใต้หัวข้อ “การศึกษาไทย” ท่ีเช่ือว่า ความล้มเหลวทางการเมืองส่งผลต่อประชาชน และคุณภาพการศึกษา ทาให้เวลาการสอนของครูลดลง และการเสนอให้แกร้ ัฐธรรมนญู คืนสิทธเิ สรีภาพให้ประชาชน (60) กล่มุ องคก์ รนักเรยี นเลว สถานที่ หนา้ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร เมอื่ วนั ที่ 31 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านเรียกร้อง ๓ ข้อ ประกอบด้วย ๑) คุณครูต้อง ไม่ทารุณนักเรียน ๒) กฎระเบียบต้องไม่ละเมิดสิทธิ และ ๓) นักเรียนคิดเห็นได้อย่างเสรีภาพ พร้อมกับปราศรัย เก่ียวกับปัญหาการศึกษาไทย อาทิ เร่ืองทรงผม การไม่เท่าเทียมเร่ืองเพศ กฎระเบียบที่นักเรียนถูกลงโทษ เกนิ กวา่ เหตุ สทิ ธคิ วามเปน็ มนุษย์ทน่ี กั เรยี นได้รับ และขอสทิ ธิของนกั เรยี นคืน (61) กลุ่มสหภาพนักเรียนนิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนท.) และเครือข่าย นักเรียนนสิ ติ นกั ศกึ ษาเคียงข้างประชาชนเพือ่ ประชาธปิ ไตย (คนป.) สถานที่ บรเิ วณหนา้ อาคารไปรษณยี ก์ ลาง เขตบางรัก เมอื่ วันท่ี 31 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านเพ่ือบันทึกเหตุการณ์และความใฝ่ฝัน ในอนาคตโดยการเขียนข้อความแสดงความรู้สึกและจดหมายซึ่งจะเก็บไว้ที่พิพิธภัณฑ์สามัญชน แล้วเปิด ต่อสาธารณะในอีก ๑๐ ปี ข้างหน้า ยุบสภา อยากได้ประชาธิปไตย, ๑๐ ปีผ่านไป ได้ประชาธิปไตยหรือยัง และภาษี คอื ของอรอ่ ยท่สี ุดในโลก (62) กลมุ่ แนวร่วมนวชีวิน สถานที่ บริเวณสวนป่าเฉลิมพระเกียรติ ใตส้ ะพานสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ถนนเจริญนคร เมอ่ื วนั ท่ี 31 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านเรียกร้องให้รัฐบาลทาตามข้อเรียกร้อง คือ ๑) ประกาศยุบสภา ๒) หยุดคุกคามประชาชน และ ๓) แก้ไขรัฐธรรมนูญใหม่ รวมถึงให้นักศึกษา
๒๗ และประชาชนทั่วไป เขียนป้ายผ้าขาว ยาวกว่า ๑๐ เมตร โดยส่วนใหญ่ได้เขียนโจมตีการทางานของรัฐบาล พรอ้ มเรยี กร้องให้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศยบุ สภา และลาออกจากตาแหนง่ (63) กลุ่มเคลื่อนไหวเพ่ือเยาวชนภาคเหนือตอนล่าง ( Nu - Movement) มหาวิทยาลัยนเรศวร และกลุม่ เพื่อนพิษณโุ ลก สถานที่ บริเวณลานสนามหญ้าหน้าคณะสังคมศาสตร์และนิติศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั นเรศวร เมื่อวันท่ี 31 กรกฎาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านเพ่ือสนับสนุนข้อเรียกร้องของกลุ่มเยาวชน ปลดแอก ๓ ข้อ คอื ๑) หยดุ คกุ คามประชาชน ๒) ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และ ๓) ยบุ สภา (64) กลุ่มแดงผัดไทย สถานท่ี บริเวณลานพระบรมรูป ร.5 หน้าศาลากลางเก่า ตาบลหน้าเมือง อาเภอเมอื ง จังหวัดปราจีนบรุ ี เมื่อวนั ที่ 1 สงิ หาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านรัฐบาลพร้อมท้ังตะโกนว่า “ตู่ออกไป” จานวน หลายครัง้ จากน้นั ไดถ้ า่ ยรปู รว่ มกัน โดยไมม่ ีผู้ใดแสดงตวั เป็นแกนนา หรอื ขน้ึ ปราศรยั แต่อย่างใด ใช้เวลาทากจิ กรรม ประมาณ ๑๐ นาที (65) กลุม่ ชุมนุมเยาวชนปลดแอกราชบุรี สถานท่ี บรเิ วณริมเข่ือนรฐั ประชาพัฒนา เมื่อวนั ที่ 1 สิงหาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านโจมตีรัฐบาล แสดงออกเชิงสัญลักษณ์ ด้วยการปราศรัย การชูสามน้ิว และการยืนสงบน่ิงแสดงความไว้อาลัยให้กับการบริหารประเทศล้มเหลว 6 ปี ของรฐั บาลคณะรกั ษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) (66) กล่มุ คนอุบลรวมพลไม่ทนเผด็จการ กล่มุ คบเพลิง และคนอุบลรวมพลทุกชนช้นั สถานท่ี บริเวณหนา้ ศาลหลกั เมืองจงั หวดั อบุ ลราชธานี เมื่อวนั ท่ี 1 สิงหาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านรัฐบาลมีการตั้งเวทีปราศรัยขนาด ๑๒ x ๘ เมตร พร้อมตั้งเครื่องขยายเสียง, นาเต้นท์มากางเพ่ือกันฝน จานวน ๓ หลัง, แผ่นฟิวเจอร์บอร์ดมาให้ผู้ร่วมงานเขียน แสดงความคดิ เห็น และมีการจาหนา่ ยเสอื้ “กลมุ่ คนอบุ ลรวมพลไมท่ นเผดจ็ การ” ราคาตวั ละ ๑๕๐ บาท (67) กลมุ่ เยาวชนนกั เรียนนกั ศกึ ษาในพืน้ ท่ีจงั หวัดสรุ าษฎรธ์ านี สถานท่ี บรเิ วณสะพานนริศ ตลาดบ้านดอน อาเภอเมอื ง จงั หวดั สุราษฎรธ์ านี เมอ่ื วนั ท่ี 1 สงิ หาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อตา้ นเรียกร้องให้รฐั บาลประกาศยุบสภา จดั เลอื กตั้งใหม่ และรา่ งรฐั ธรรมนูญใหม่ (68) นายสมบัติ บญุ งามอนงค์ (หรือ บก. ลายจุด) สถานที่ บรเิ วณประตทู า่ แพ อาเภอเมือง จังหวดั เชยี งใหม่ เม่อื วันท่ี 2 สิงหาคม 2๕๖๓ ประเดน็ ขอ้ เรียกร้อง ตอ่ ตา้ นชูปา้ ยโจมตีนายกรฐั มนตรี
๒๘ (69) กลุ่มศรีสะเกษจะไม่ทน สถานที่ บรเิ วณลานจอดรถด้านหนา้ ศาลากลางจังหวดั ศรีสะเกษ เมอ่ื วนั ที่ 2 สงิ หาคม 2๕๖๓ ประเดน็ ขอ้ เรยี กรอ้ ง ต่อต้านโจมตีรฐั บาลเกีย่ วกับการบริหารงานในด้านต่าง ๆ และการบังคับใช้กฎหมายท่ีกระทบต่อประชาชน, สนับสนุนข้อเรียกร้องคณะปลดแอก, แถลงการณ์เรียกร้องให้ รา่ งรัฐธรรมนูญ, นายกรัฐมนตรีลาออก, หยดุ คุกคามประชาชน, พ.ร.ก.ฉุกเฉนิ ยกเลกิ กฎหมายละเมิดสิทธ์ิ และยุบสภา (70) กลมุ่ เยาวชนปาตานี สถานที่ มัสยิดกรือเซะ อาเภอเมือง จังหวดั ปตั ตานี เมอ่ื วนั ที่ 2 สิงหาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรียุบสภา หยุดการคุกคาม ประชาชน และร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ (71) กล่มุ สหภาพร้อยเอ็ด ปลดแอก สถานที่ บรเิ วณลานด้านหนา้ บึงพลาญชัย อาเภอเมอื ง เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านเชิญชวนให้ประชาชนออกมาเคล่ือนไหวต่อต้าน รัฐบาล โดยระบถุ ึงความชอบธรรมในการแสดงออกตามหลกั สทิ ธเิ สรีภาพ และโจมตเี ผดจ็ การและตามหาคนหาย (72) กลุม่ เยาวชนภาคตะวันออกเพอ่ื ประชาธิปไตย สถานท่ี หอนาฬกิ า เทศบนั เทิงพลาซา่ จงั หวดั ระยอง เม่ือวันที่ 2 สงิ หาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านโจมตีรัฐบาล เก่ียวกับการใช้จ่ายงบประมาณ การบงั คบั ใชก้ ฎหมาย และการแก้ไขปัญหาเศรษฐกจิ (73) คณะประชาชนเพอ่ื อิสรภาพ (คปอ.) สถานที่ บริเวณห้องประชุมอนุสรณ์สถาน ๑๔ ตุลา ถนนราชดาเนินกลาง กจิ กรรมปั่นจักรยานใชเ้ สน้ ทาง ถนนราชดาเนิน เรม่ิ ปนั่ จากอนสุ รณส์ ถาน 14 ตุลา ไปยังทาเนียบรฐั บาล เมอ่ื วันที่ 2 สิงหาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ตอ่ ตา้ นเพอ่ื ทวงถามถงึ ผูล้ ีภ้ ัยท่ีสญู หาย (74) ไมป่ รากฏช่ือกลุ่ม สถานท่ี บริเวณวัดพระธาตุพนม เมอ่ื วันท่ี 2 สิงหาคม 2๕๖๓ ประเด็นขอ้ เรียกร้อง ต่อตา้ นเขียนปา้ ย ทาไดเ้ พยี งชู 3 นว้ิ ถ่ายรูป (75) กลุ่มนักเรียนโรงเรียนบา้ นมว่ งพิทยาคม สถานท่ี หนา้ ที่ว่าการอาเภอบ้านมว่ ง จงั หวัดสกลนคร เมื่อวนั ท่ี 3 สงิ หาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านเพ่ือเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรียุบสภา และ คืนอานาจให้แก่ประชาชน โดยมีการชูป้ายข้อความต่อต้านเผด็จการ รวมท้ังกล่าวสนับสนุนการชุมนุมเคล่ือนไหว ของกลุ่มนักเรียน นิสิต และนักศึกษา ทุกรูปแบบและชูป้ายแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ เช่น save นักเรียน, ไม่เอา เผด็จการ, พวกเราจะไมท่ น และป้ายสัญลกั ษณ์ชู ๓ นวิ้
๒๙ (76) กลุม่ สมุทรสาครปลดแอก สถานที่ บรเิ วณดา้ นหน้าศาลเจา้ พ่อหลักเมือง อาเภอเมือง จงั หวัดสมุทรปราการ เมื่อวันที่ 3 สงิ หาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภา และกลา่ วปราศรยั โจมตีรัฐบาลเกย่ี วกบั การบริหารงานและการบงั คับใชก้ ฎหมาย (77) กลมุ่ มหานครเพอื่ ประชาธิปไตย (MDG) และกลุ่มมอกะเสด (KU Daily) สถานท่ี บรเิ วณอนสุ าวรยี ป์ ระชาธปิ ไตย เมอ่ื วันที่ 3 สงิ หาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านเพ่ือแถลงการณ์จุดยืนต่อต้านอานาจเผด็จการ โดยกลุ่มฯ ได้เรยี กร้องใหร้ ฐั บาลเรง่ ปฏิบัตติ ามขอ้ เรียกร้อง ๓ ประการ ของประชาชน (78) กลมุ่ นกั ศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ วทิ ยาเขตหาดใหญ่ สถานที่ บริเวณลานคณะนิตศิ าสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครนิ ทร์ วทิ ยาเขตหาดใหญ่ เมื่อวนั ที่ 4 สิงหาคม 2๕๖๓ ประเดน็ ขอ้ เรยี กรอ้ ง ต่อต้านเขยี นปา้ ยผา้ เปดิ แฟลซมือถอื (79) เฟซบกุ๊ พษิ ณโุ ลกคนกลา้ ไมก่ ม้ หนา้ ให้เผดจ็ การ สถานท่ี เฟซบุก๊ พิษณุโลกคนกลา้ ไมก่ ้มหนา้ ใหเ้ ผดจ็ การ เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านประกาศจุดยืน 4 ข้อ คือ 1) หยุดใช้สถาบัน พระมหากษัตริย์มาใช้สร้างความขัดแย้งทางการเมือง 2) ให้รัฐหยุดคุกคามประชาชน 3) ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ และ 4) ยุบสภาคนื อานาจใหป้ ระชาชน (80) กลมุ มศว. คนรุนเปลี่ยน สถานท่ี บรเิ วณรัฐสภา เมอ่ื วนั ที่ 6 สงิ หาคม ๒๕๖๓ ประเด็นขอ้ เรียกร้อง ตอ่ ตา้ นยนื มอง เป็นเวลา ๒๐ นาที พร้อมกบั แสดงสญั ลักษณ โดยการชู ๓ นว้ิ (81) กลุ่มเยาวชนจากโรงเรียนมัธยมแหง่ หนึ่งในจังหวัดนครพนม สถานที่ บริเวณลานตะวนั เบิกฟ้ารมิ ฝั่งแม่น้าโขง ถนนสนุ ทรวจิ ติ ร เขตเทศบาลเมือง จงั หวดั นครพนม เม่อื วนั ท่ี 6 สงิ หาคม 2๕๖๓ ประเดน็ ข้อเรยี กร้อง ตอ่ ต้านเพอ่ื เรียกรอ้ งประชาธปิ ไตย ชูป้ายขับไล่รัฐบาล (82) คณะประชาชนปลดแอก – Free People สถานที่ บรเิ วณอนสุ าวรีย์ประชาธิปไตย เมอ่ื วนั ที่ 7 สงิ หาคม 2๕๖๓ ประเดน็ ข้อเรยี กร้อง ต่อต้านแถลงการณ์โดยมีข้อเรียกร้อง จานวน ๓ ขอ้ ดงั น้ี ๑) รัฐบาลต้องหยุดคุกคามประชาชนท่ีออกมาเคล่ือนไหวตามสิทธิ ๒) รัฐบาลและรัฐสภาต้องร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และ ๓) รัฐบาลตอ้ งยบุ สภา รวมทั้ง การดาเนินการท้ัง ๓ เรือ่ งตอ้ งอยู่บนหลักการ จานวน ๒ เร่อื ง ดงั นี้ ๑) จะตอ้ ง ไม่มีการรัฐประหารเกิดข้ึนอีก และ ๒) จะต้องไม่มีรัฐบาลแห่งชาติ ทั้งน้ี กลุ่มฯ จะมีการจัดกิจกรรมชุมนุมใหญ่ ในวนั ท่ี ๑๖ สิงหาคม 25๖๓ เวลา ๑๕.๐๐ นาฬิกา ที่อนุสาวรยี ป์ ระชาธิปไตย
๓๐ (83) กลุม่ นกั กจิ กรรมและนกั ศึกษา สถานที่ บริเวณอนุสาวรยี ป์ ระชาธปิ ไตย เม่อื วันท่ี 7 สิงหาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านเพ่ือเรียกร้องให้รัฐบาลรับฟังความเห็น ของประชาชนโดยมีข้อเรียกร้อง ๓ ข้อ ได้แก่ ๑) หยุดคุกคามประชาชน ๒) ต้องร่างรัฐธรรมนูญใหม่ท่ีมาจาก เจตจานงค์ของประชาชนอยา่ งแทจ้ รงิ และ ๓) ต้องยุบสภาหลงั จากดาเนินการตามขอ้ ๑) และ ๒) ลุลว่ งแลว้ (84) กลุ่มนกั กิจกรรมและนกั ศกึ ษา สถานที่ สถานีตารวจนครบาลสาราญราษฎร์ เมือ่ วนั ท่ี 7 สงิ หาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านเพ่ือให้กาลังใจนายอานนท์ นาภา ทนายความ ด้านสิทธิมนุษยชน และนายภานุพงศ์ จาดนอก นักกิจกรรมซึ่งถูกต้ังข้อหาว่ากระทาความผดิ ฐานร่วมกันกระทาให้ ปรากฏแก่ประชาชนด้วยวาจา หนังสือหรือวิธีอ่ืนใดอันมิใช่เป็นการกระทาภายในความมุ่งหมายแห่งรัฐธรรมนูญ หรือมิใช่เพื่อแสดงความคิดเห็นหรือติชมโดยสุจริต เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนหรือกระด้างกระเด่ืองในหมู่ประชาชน โดยได้มีการไลฟ์สดผ่านส่ือออนไลน์แจ้งให้มวลชนเดินทางไปให้กาลังใจต่อที่ สน.บางเขน หลังจากที่เจ้าหน้าท่ี ตารวจได้ชี้แจงขั้นตอนดาเนินการโดยได้นาตัวทั้ง ๒ คน ไปที่ สถานีตารวจบางเขน ในการทาเร่ืองฟ้องศาล เพ่ือฝากขงั ตามขั้นตอนตอ่ ไป (85) กลุ่มแนวรว่ ม Free Youth และกลุม่ สนท. สถานท่ี สถานีตารวจนครบาลบางเขน เมื่อวันท่ี 7 สงิ หาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านเพ่ือให้กาลังใจนายอานนท์ นาภา และ นายภานุพงศ์ จาดนอก และนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ (86) กลุ่มแนวรว่ ม Free Youth และกลมุ่ สนท. สถานที่ สถานตี ารวจนครบาลหว้ ยขวาง เมื่อวนั ท่ี 7 สิงหาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้าน นท.ตร. ได้นาตัวทั้งสองคนไปฝากขังตอ่ (87) กลุ่มนักเรียนโรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย อาเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา (ส่วนใหญ่เป็นนกั เรียนระดับชัน้ มัธยมศึกษา) สถานที่ บรเิ วณหน้าโรงเรียนหาดใหญว่ ทิ ยาลัย เมื่อวนั ที่ 7 สงิ หาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านรัฐบาล กิจกรรมไม่มีการปราศรัย ผู้เข้าร่วม กิจกรรมพรอ้ มกนั ยืนชูกระดาษเปลา่ เพ่ือแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ (88) กลมุ่ นกั กฎหมายอาสา มหาวทิ ยาลัยสงขลานครินทร์ สถานที่ บริเวณใต้ตึกคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อาเภอหาดใหญ่ จังหวดั สงขลา เม่ือวนั ท่ี 7 สงิ หาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ตั้งโต๊ะเข้าช่ือเสนอร่างรัฐธรรมนูญใหม่ โดยรวบรวม รายชอ่ื มกี าหนดระยะเวลา 7 วัน
๓๑ (89) กลุ่มนกั เรียน นิสิต นักศึกษา มหาวทิ ยาลยั วลยั ลกั ษณ์ ในนามสหภาพนักเรียน นิสติ นกั ศกึ ษาแหง่ ประเทศไทย (สนท.) สถานท่ี บริเวณลานเพลินตา อาคารไทยบุรี มหาวิทยาลยั วลัยลักษณ์ เมอ่ื วันที่ 7 สงิ หาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านจัดกิจกรรม “มาเถิดชาวประชามาร่วมกันไล่ล่า เผด็จการกบั เมาคลี” (90) กลุ่มเหน็ ตา่ งจังหวัดเชยี งราย สถานท่ี ลานอนุสาวรีย์ ร.5 จังหวัดเชยี งราย เมือ่ วันที่ 7 สิงหาคม 2๕๖๓ ประเดน็ ขอ้ เรียกรอ้ ง ต่อต้านรัฐบาล (91) กลมุ่ ประชาชนปลดแอก สถานที่ ศาลอาญา ถนนรชั ดาภเิ ษก เม่อื วันที่ 8 สิงหาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านกรณีเจ้าหน้าที่ตารวจควบคุมตัวนายอานนท์ นาภา และนายภาณพุ งศ์ จาดนอก ขออนญุ าตฝากขงั ต่อศาลอาญา ในคดียุยงปลุกป่ันตามประมวลกฎหมายอาญา พ.ศ. 2499 มาตรา 116 และขอ้ หาอื่น ๆ รวม 7 ข้อหา (92) กลมุ่ ประชาชนปลดแอก สถานที่ สกายวอลค์ แยกปทมุ วนั หนา้ MBK Center เม่ือวันท่ี 8 สิงหาคม 2563 ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านเพ่ือแสดงพลังอย่ายอม อย่ากลัว จงออกมาทวงคืน รวมพลงั Flash Mob (93) กล่มุ สมทุ รสงครามปลดแอก สถานที่ บรเิ วณดา้ นหน้าธนาคารออมสิน อาเภอเมือง จงั หวดั สมุทรสงคราม เมื่อวันที่ 8 สงิ หาคม 2๕๖๓ ประเดน็ ข้อเรียกร้อง ตอ่ ต้านปราศรยั โจมตีรฐั บาล อาทิ การใช้จ่ายงบประมาณ แกไ้ ขปัญหาเศรษฐกิจ และการบงั คับใช้กฎหมาย (94) กล่มุ นกั กฎหมายอาสา (Law Long Beach) มหาวทิ ยาลยั สงขลานครินทร์ สถานท่ี บรเิ วณใต้ตึกคณะนิตศิ าสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เมอ่ื วนั ที่ 8 สงิ หาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านพร้อมประกาศเชิญชวนผ่านเฟซบุ๊ก law long beach – นกั กฎหมายอาสา ใหม้ ารว่ มลงชอื่ โดยใชป้ ระเดน็ การรณรงค์ “50,000 ช่ือ รว่ มรอ้ื ร่วมสร้าง ร่วมรา่ งรัฐธรรมนูญ” (95) เครือข่ายประชาธิปไตยมหาสารคาม สถานที่ บริเวณลานศาลเจา้ พ่อหลักเมืองมหาสารคาม เมอ่ื วนั ที่ 9 สิงหาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านโจมตีรัฐบาล เรียกร้องให้รัฐบาลลาออก จัดเลือกต้ังใหม่ แก้ไขรัฐธรรมนูญปี 60 และไม่ให้ใช้ความรุนแรงกับกลุ่มผู้ชุมนุมโดยเฉพาะนักศึกษาที่แสดงออก ทางสิทธเิ สรภี าพ
๓๒ (96) กล่มุ เลือกข้างประชาธปิ ไตย สถานท่ี อนุสาวรยี ป์ ระชาธิปไตย เมือ่ วันที่ 9 สิงหาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านโจมตีการบริหารงานของรัฐบาลที่ทาให้เศรษฐกจิ ตกต่า เอ้ือประโยชน์ให้พวกพ้อง และจ้องแต่จะจับผู้มีความคดิ เห็นต่าง โดยเรยี กร้องใหย้ ุบสภาร่างรฐั ธรรมนูญใหม่ และหยดุ ใช้กฎหมายคุกคามประชาชน (97) แนวร่วมประชาชนปลดแอกเชยี งใหม่ สถานที่ บริเวณลานประตทู ่าแพ ตาบลวดั เกต อาเภอเมอื ง จงั หวดั เชียงใหม่ เมอ่ื วันท่ี 9 สงิ หาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านบรรยากาศกิจกรรมพบการแจกจ่าย “หนังสือ สถาบันพระมหากษัตริย์กับสังคมไทย 4 ประเด็นกฎหมาย” โดยมีเน้ือหาท่ีถอดเทปคาปราศรัยของนายอานนท์ นาภา เมอื่ วันท่ี ๓ สิงหาคม 25๖๓ ณ อนุสาวรียป์ ระชาธิปไตย จานวน 100 เล่ม แกนนาวพิ ากษว์ ิจารณร์ ะบอบยุตธิ รรม ท่ีมีลักษณะสองมาตรฐานและประเด็นกระแสข่าวกรณีการควบคุมแกนนานักศึกษาที่จังหวัดพิษณุโลก และมี การเปิดล่ารายชื่อเพ่อื เรยี กรอ้ งใหม้ ีการแก้ไขรัฐธรรมนญู (98) กลุ่มพษิ ณโุ ลกคนกล้าไม่ก้มหนา้ ใหเ้ ผดจ็ การ สถานท่ี บรเิ วณริมแมน่ า้ นา่ น หนา้ วัดใหญ่ จงั หวดั พิษณโุ ลก เมอ่ื วันท่ี 9 สงิ หาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านเพ่ือเรียกร้อง 3 ข้อ คือ 1) ขอให้รัฐหยุดคุกคาม ประชาชน 2) ขอให้ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และ 3) ขอให้ยุบสภา และเลือกตั้งใหม่ภายใต้กติกาที่เป็นประชาธิปไตย จากนั้น เวลา 18.30 - 19.50 นาฬิกา เดินทางไปแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ที่วงเวียนหอนาฬิกา อาเภอเมือง จังหวัดพิษณุโลก (99) กลุ่มแฟนเพจเฟซบุ๊กวิ่งไลล่ ุงอุบลราชธานี สถานท่ี บริเวณหน้าศาลหลกั เมอื ง อบุ ลราชธานี เม่อื วนั ที่ 9 สิงหาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านมีจุดมุ่งหมาย คือ สะท้อนว่าเสียงของประชาชน ไม่มีค่า บรรยากาศกิจกรรมไม่มีแกนนา ผู้เข้าร่วมชุมนุมชูแผ่นกระดาษประท้วงรัฐบาล มีการจัดโต๊ะล่ารายชื่อ เพอื่ แก้ไขรัฐธรรมนูญ (100) แนวร่วมกลมุ่ เหน็ ตา่ งทางการเมือง สถานท่ี สวนสาธารณะหนองประจักษ์ อาเภอเมอื ง จงั หวัดอดุ รธานี เมือ่ วันท่ี 9 สงิ หาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านเพ่ือให้กาลังใจ นายอานนท์ นาภา และ นายภานพุ งศ์ จาดนอก กรณถี ูกควบคมุ ตัวท่ีศาลอาญา (101) กลุ่มอสิ านสิบ่ทน! สถานท่ี บรเิ วณลานศาลเจา้ พอ่ หลักเมอื ง จงั หวัดมหาสารคาม เม่อื วนั ที่ 9 สงิ หาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านเรียกร้องให้มีการแก้ไขหรือร่างรัฐธรรมนูญขึ้นใหม่ ให้มีบทบัญญัติท่ีเป็นประชาธิปไตยโดยสมบูรณ์แบบยึดโยงประชาชน ล้างอยุติธรรมทั้งปวงและวางหลักการ
๓๓ ประชาธิปไตย โดยดาเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อคืนอานาจแก่ประชาชน เพ่ือการเลือกตั้งใหม่ ภายใต้กติกา ของรฐั ธรรมนญู ฉบบั ใหม่ ทป่ี ระชาชนทุกฝ่ายยอมรับเพอ่ื มีรัฐบาลใหม่ (102) กลุ่มคณะรณรงค์เพื่อรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน (ครช.) และกลุ่มฟื้นฟู ประชาธิปไตย\" สถานที่ รฐั สภา เม่อื วันที่ 10 สิงหาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านเชิญชวนประชาชนยื่นร่าง พ.ร.บ.ประชามติฯ แก้ไขรัฐธรรมนูญ ยืนยันหลักการ “ไม่แก้ไข..เขียนใหม่เท่าน้ัน” กิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ชูสามนิ้วและร้องเพลง ปณธิ านแห่งเสรีชน (103) กลุ่ม 24 มถิ ุนาประชาธิปไตย สถานท่ี บริเวณด้านหน้าสัปปายะสภาสถาน รฐั สภา เมอ่ื วนั ที่ 10 สิงหาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านปราศรัยโจมตีรัฐบาลจัดกิจกรรมพิธี “เผากงเต๊ก...ส่งรัฐธรรมนูญกลับไปให้ท่านไปใช้เอง...” ร่วมตะโกน “เผด็จการจงพินาศ ประชาธิปไตยจงเจริญ” 3 ครั้ง และนาอุปกรณ์ในการเผากงเต๊กทาจากกระดาษรูปนาฬิกา เครื่องบิน เรือดาน้า เปรียบเสมือนเป็นภาษี ของประชาชน เผาลงในถงั ที่เตรียมไว้ (104) นายกรกช แสงแยน็ พนั ธ์ และนายอานนท์ นาภา สถานที่ ไม่ปรากฏ เมอ่ื วันท่ี 10 สงิ หาคม 2๕๖๓ ประเด็นขอ้ เรยี กรอ้ ง ต่อตา้ นเขา้ รบั ฟังคาสั่งฟอ้ งกรณีจัดกิจกรรม “ลบยังไงกไ็ มล่ ืม” ฉายโฮโลแกรมการอา่ นประกาศคณะราษฎรท่อี นสุ าวรยี ป์ ระชาธิปไตย เมือ่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๓ (105) พรรคโดมปฏวิ ตั ิ (Dome Revolution) ในนามกล่มุ ธรรมศาสตร์และการชุมนุม สถานท่ี บรเิ วณลานพญานาค มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ ศูนยร์ ังสติ เมื่อวนั ที่ 10 สงิ หาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านเรยี กร้องใหป้ ระชาชนร่วมกันกดดนั ให้มกี ารแก้ไข รัฐธรรมนูญ โดยไม่มีการประนีประนอม เพื่อไม่ให้มีการสืบทอดอานาจเผด็จการ รัฐบาลกู้เงินจานวนมาก เพื่อใช้แก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ทาให้ประเทศมีหนี้สินมาก โจมตีรัฐบาลไม่รักษาคาม่ันสัญญาท่ีจะข้ึนค่าแรงขั้นต่า เป็นวันละ 400 - 425 บาท ทาใหแ้ รงงานต้องทางานหนักโดยไม่ได้รบั ความเปน็ ธรรม จงึ พร้อมจะนาผู้ใช้แรงงาน ร่วมการชุมนุมใหญ่ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ในวันท่ี 16 สิงหาคม ๒๕63 เชิญชวนมวลชนต่อต้านเผด็จการ และกาหนดเส้นตายให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญมีข้ึนภายในวันที่ 1 ธันวาคม ๒๕63 จัดกิจกรรม “ธรรมศาสตร์ จะไม่ทน” เพอื่ ประชาสมั พนั ธ์การรวบรวม 5 หมน่ื รายชื่อเพ่ือเสนอแก้รฐั ธรรมนูญ (106) กลุ่มสหภาพร้อยเอ็ดปลดแอก นักเรียนโรงเรียนมัธยมสตรีศึกษา อาเภอเมือง จงั หวดั ร้อยเอด็ สถานที่ โรงเรยี นมัธยมสตรีศกึ ษา อาเภอเมือง จังหวัดร้อยเอ็ด เม่อื วนั ที่ 10 สงิ หาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านยืนชูกระดาษเปล่าสีขาว ภายในโรงเรียน จดั กิจกรรม “สศ. ไม่ขอทนเผด็จการ”
๓๔ (107) กลุม่ เยาวชนสุรนิ ทร์เพอ่ื ประชาธิปไตย สถานท่ี หอประชมุ โดม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตสรุ นิ ทร์ เมอื่ วนั ท่ี 10 สิงหาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านเพื่อเรียกร้อง 3 ข้อหลักใหญ่ คือ ๑) แก้รัฐธรรมนูญ ๒) ใหร้ ฐั บาลยุบสภา และ ๓) หยุดคุกคามประชาชน จดั กจิ กรรม โครงการ “ดหู นงั ฟงั เพลง บรรเลงประชาธปิ ไตย” (108) กลมุ่ พิราบขาวเพอื่ มวลชน สถานที่ บริเวณลานโพธ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนยล์ าปาง เมอ่ื วนั ที่ 10 สงิ หาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านรัฐบาล และให้กาลังใจเพ่ือนนักศึกษา และมี การชกู ระดาษเปล่า “ธรรมศาสตร์จังข้ีหนา้ เผดจ็ การ หรือเกลียดหนา้ เผด็จการ” (109) กลุ่มนกั ศึกษา มทส. (มทส. เพ่ือเสร)ี สถานที่ ประตมู หาวิทยาลยั เทคโนโลยสี ุรนารี (ประตู 1 ) เมอ่ื วันที่ 10 สิงหาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านพร้อมระบุข้อความเชิญชวนในโพสต์ตอนหนึ่งว่า “ทุกคนคือแกนนาด้วยตัวคุณเองอยู่แล้ว” กิจกรรม นักศึกษาและประชาชนที่มาเข้าร่วมชุมนุมได้ชูป้ายแสดงออก เชงิ สญั ลักษณ์ และรว่ มกันสง่ กาลงั ใจไปยงั มหาวทิ ยาลยั ธรรมศาสตร์ (110) กลุ่มนักเรียนโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยขอนแก่น ฝ่ายมัธยมศึกษา (ศึกษาศาสตร์) มหาวิทยาลยั ขอนแกน่ สถานที่ บริเวณลานหน้าอาคารโรงเรยี นสาธิตมหาวทิ ยาลยั ขอนแก่น เมอื่ วนั ท่ี 11 สงิ หาคม 2๕๖๓ ประเด็นขอ้ เรยี กรอ้ ง ตอ่ ตา้ นเพือ่ เรยี กรอ้ งสิทธขิ องกล่มุ ฯ เกี่ยวกบั การแต่งกาย ทรงผม และการแสดงออกทางความคิดเหน็ ในเรื่องตา่ ง ๆ จัดกจิ กรรมแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ “ลาขาดเผดจ็ การ” โดยการชกู ระดาษเปลา่ (111) กลุม่ นกั ศึกษาและเยาวชนใน จังหวัดกาฬสนิ ธุ์ สถานท่ี บรเิ วณสวนสาธารณะกดุ นา้ กนิ เทศบาลเมืองกาฬสินธ์ุ เมื่อวนั ท่ี 11 สงิ หาคม 2๕๖๓ ประเด็นขอ้ เรียกร้อง ตอ่ ตา้ นโจมตรี ัฐบาล ภายใต้การนาของ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีการชู ๓ น้ิว พร้อมกับร้องตะโกนขับไล่รัฐบาล และยืนยันข้อเรียกร้อง ๓ ข้อ คือ ๑) หยุดคุกคามประชาชน ๒) รา่ งรฐั ธรรมนญู ฉบบั ใหม่ และ ๓) ยุบสภา เลือกตั้งใหม่ จัดกิจกรรม “กาฬสนิ ธุสบิ ทน” (112) กลุ่มภาคี นศ. มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (UTCC) สถานที่ สนามหญ้าหน้าตึก 24 (ตึกเรือใบ) มหาวิทยาลยั หอการคา้ ไทย เมอื่ วันที่ 11 สิงหาคม 2๕๖๓ ประเด็นข้อเรียกร้อง ต่อต้านมีการชูป้าย เปิดแฟลชโทรศัพท์มือถือ แสดงพลัง เรียกร้อง 3 ข้อ ของกลุ่มเยาวชนปลดแอก คือ ๑) หยุดคุกคามประชาชน ๒) ร่างรัฐธรรมนูญใหม่ และ ๓) ยุบสภา ภายใตเ้ งอื่ นไขว่าจะตอ้ งไม่มีการรัฐประหารและไมเ่ อารฐั บาลแห่งชาติ จัดกจิ กรรม “ไดเ้ วลาออกเรือไล่ทรราช” (113) นางสาวสติ านนั สิตยศ์ กั ดิส์ ิทธิ สถานที่ สถานทูตกมั พูชา เมือ่ วนั ท่ี 11 สิงหาคม 2๕๖๓
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 633
Pages: