รายงานการพจิ ารณาศกึ ษา เรอ่ื ง “ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทาให้บคุ คลสญู หาย พ.ศ. ...” ของ คณะกรรมาธกิ ารการกฎหมาย การยตุ ธิ รรมและสิทธิมนุษยชน สภาผ้แู ทนราษฎร กลมุ่ งานคณะกรรมาธกิ ารการกฎหมาย การยตุ ิธรรมและสทิ ธิมนษุ ยชน สานักกรรมาธิการ ๒ สานักงานเลขาธิการสภาผแู้ ทนราษฎร
ก รายนามคณะกรรมาธกิ าร รายนามคณะกรรมาธกิ ารการกฎหมาย การยตุ ธิ รรมและสิทธิมนุษยชน ดังนี้ ๑. นายสิระ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธิการ ๒. นายสุทศั น์ เงนิ หมืน่ ประธานท่ปี รึกษาคณะกรรมาธิการ ๓. นายชวลติ วชิ ยสุทธ์ิ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนท่หี นึง่ ๔. นางศรสี มร รศั มฤี กษ์เศรษฐ์ รองประธานคณะกรรมาธกิ าร คนทสี่ อง ๕. นายชัยวฒั น์ เปา้ เป่ียมทรพั ย์ รองประธานคณะกรรมาธกิ าร คนทีส่ าม ๖. นายวิสทิ ธิ์ พิทยาภรณ์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนทส่ี ่ี ๗. รอ้ ยตารวจเอก อรุณ สวสั ดี รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่ห้า ๘. นายคมเดช ไชยศวิ ามงคล รองประธานคณะกรรมาธิการ คนทหี่ ก ๙. นายศาสตรา ศรีปาน โฆษกคณะกรรมาธกิ าร ๑๐. นายรงั สิมนั ต์ โรม โฆษกคณะกรรมาธกิ าร ๑๑. นายนิรมิต สจุ ารี โฆษกคณะกรรมาธกิ าร ๑2. นายกมลศักด์ิ ลีวาเมาะ เลขานุการคณะกรรมาธกิ าร ๑3. นายอาดิลัน อาลีอิสเฮาะ กรรมาธกิ าร ๑4. นายชัยยนั ต์ ผลสวุ รรณ์ กรรมาธกิ าร ๑5. นายสิงหภณ ดีนาง กรรมาธกิ าร
ข รายนามคณะอนกุ รรมาธกิ าร คณะอนกุ รรมาธิการศกึ ษาการปฏิรูปกระบวนการยตุ ธิ รรม ดงั นี้ ๑. นายอาดลิ ัน อาลีอสิ เลาะ ประธานคณะอนกุ รรมาธกิ าร ๒. นายศาสตรา ศรปี าน รองประธานคณะอนกุ รรมาธกิ าร คนที่หนง่ึ ๓. นายวิสิทธิพ์ ทิ ยาภรณ์ รองประธานคณะอนุกรรมาธิการ คนทส่ี อง ๔. ร้อยตารวจเอก อรณุ สวัสดี รองประธานคณะอนกุ รรมาธกิ าร คนที่สาม ๕. นายวรเทพ สกุลพชิ ัยรตั น์ รองประธานคณะอนกุ รรมาธกิ าร คนที่ส่ี ๖. พนั ตารวจเอก วิรตุ มศ์ ิริสวัสดิบุตร อนุกรรมาธิการ ๗. นายพิชญ์ปกรณ์ ศรีปรางค์ อนกุ รรมาธิการ ๘. นายปกรณ์ อารกี ุล อนกุ รรมาธิการ ๙. นายสมชาย วชริ สกลุ ชัย อนกุ รรมาธิการ ๑๐. นายสุรจติ บุญยุบล อนุกรรมาธิการ ทปี่ รึกษาประจาคณะอนุกรรมาธกิ าร ๑. นายสุทศั น์ เงินหมืน่ ๒. พนั ตารวจเอก วิรตุ ม์ ศริ ิสวัสดิบุตร ๓. นายนาแท้ มีบุญสล้าง ๔. นายกิตติเดช กจิ มโนมัย ๕. นางสาวพรเพญ็ คงขจรเกยี รติ ๖. นางสาวศยามล ไกยูรวงศ์ ๗. นายประจวบ ชใู หม่ ๘. นายกมล อรชร ๙. พนั ตารวจเอก วจิ ติ ร นนั ทวงศ์ ๑๐. นางสลิลโรจน์ รงุ่ สมบูรณ์ ๑๑. พันตารวจโท ปัญจวฒุ ิ ดาวล้อมจนั ทร์ ๑๒. นายรัชฏะ สมรทันกร ๑๓. นายทีปกร โกมลพนั ธ์พร ๑๔. นายสามารถ เจนชยั จติ รวนชิ ๑๕. นายภากร ชชั วาลวงศ์ ๑๖. นายพรชยั ชลวาณิชกลุ ๑๗. นายมนตรี ชนกนาชยั
ค บทสรปุ ผู้บริหาร คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน มีหน้าที่และอานาจตาม ข้อบังคับการประชุมสภาผแู้ ทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๙๐ (๑) กระทากิจการ พจิ ารณาสอบหาขอ้ เท็จจริง หรือ ศึกษาเรื่องใด ๆ ท่ีเกี่ยวกับการดาเนินการตามแนวนโยบายด้านกฎหมาย การยุติธรรม สิทธิมนุษยชน สทิ ธิชุมชน สิทธิในกระบวนการยุตธิ รรม และความเป็นธรรมในระยะเปล่ยี นผ่าน ดังน้ัน การพิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง หรือศึกษาเรื่องใด ๆ ที่เก่ียวกับการดาเนินการ ตามแนวนโยบายด้านกฎหมาย และการยุติธรรมจึงเป็นหน่ึงในภารกิจสาคัญของคณะกรรมาธิการ ซึ่งการทรมาน และการกระทาให้บุคคลสูญหาย เป็นปัญหาสาคัญประการหน่ึงในสังคมไทยเนื่องจาก ไม่สามารถสบื เสาะหลกั ฐานทจ่ี ะเอาผิดผกู้ ระทาได้ รวมทง้ั ต้องใชท้ รพั ยากรและผ้ปู ฎิบัติหนา้ ที่จานวนมาก เช่น กรณีทนายสมชาย นีละไพจิตร และนายพอละจี รักจงเจริญ เป็นต้น ซ่ึงเหตุการณ์ท่ีปรากฏมาตั้งแต่อดีตล้วน แลว้ แต่เกยี่ วขอ้ งกบั การละเมิดต่อสิทธิมนุษยชนรปู แบบหนงึ่ ดังนั้น ประเทศไทยจงึ จาเป็นอย่างยงิ่ ต้องขจัดการ กระทาดงั กลา่ วให้หมดไป และหาทางป้องกนั ไมใ่ หม้ ีการกระทาเชน่ น้เี กิดข้ึน คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน จึงได้มอบหมายเร่ืองดังกล่าว ให้คณะอนุกรรมาธิการศึกษาการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมดาเนินการพิจารณาศึกษา ประกอบกับการ นาหลักการการอนุวัติกฎหมายให้สอดรับพันธกรณีระหวา่ งประเทศ โดยการศึกษากฎหมายว่าด้วยการป้องกัน และปราบปรามการทรมานและการกระทาให้บุคคลสูญหาย เพ่ือให้สอดรับกับอนุสัญญาต่อต้านการทรมาน และการประติบัติหรือการลงโทษอ่ืนที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ายีศักด์ิศรี (Convention against Torture and Other Cruel, Inhuman or Degrading Treatment or Punishing) และอนุสัญญาระหว่างประเทศ ว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ (International Convention for the Protection of all Persons from Enforced disappearance) รวมท้ัง การให้ความสาคัญกับการดาเนินคดีแก่ผู้กระทา ความผิดอย่างจริงจัง รวดเร็ว และมีการลงโทษทางอาญาอย่างเคร่งครัด รวมถึงโทษทางวินัยด้วย ในขณะเดียวกัน ผู้เสียหายในคดีทรมาน หรือทายาทของผู้ที่ถูกกระทาให้สูญหายจะต้องได้รับการคุ้มครอง ความปลอดภัย หรือได้รับค่าเสียหายที่เพียงพอและเหมาะสมด้วย ซึ่งการดาเนินการดังกล่าว ควรได้รับ การเร่งรัดและดาเนินการโดยมบี ทบญั ญัตขิ องกฎหมายทีช่ ดั เจน จากการศึกษากฎหมาย และรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องในทุกมิติแล้ว คณะกรรมาธิการมีความเห็นว่า มีความจาเป็นอย่างเร่งด่วนในการตรากฎหมายป้องกันและปราบปราม การทรมานและการกระทาให้บุคคลสญู หายเพ่ือประโยชน์แก่ประชาชน และหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องในการปฺฏบิ ัติหนา้ ท่ี โดยมีบทบัญญัติแห่งกฎหมายรองรับซ่ึงจะเป็นการยกระดับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ให้เทียบเท่าสากล และสอดรับกับหลักการของรัฐธรรมนูญ คณะกรรมาธิการจึงจาเป็นอย่างย่ิงต้องจัดทา รายงานการพจิ ารณาศกึ ษาเร่ืองดงั กลา่ ว พรอ้ มแนบรา่ งพระราชบัญญตั ิปอ้ งกนั และปราบปรามการทรมานและ การกระทาให้บคุ คลสญู หาย พ.ศ. .... ของคณะกรรมาธกิ าร เพ่อื เสนอสภาผแู้ ทนราษฎรพจิ ารณาตอ่ ไป
สารบญั หนา้ ก รายนามคณะกรรมาธกิ าร ข รายนามคณะอนุกรรมาธิการ ค บทสรุปผู้บรหิ าร จ สารบัญ ๒ 4 ๑. การดาเนนิ การ 4 ๒. วิธีการพิจารณาศึกษา 4 ๓. หนว่ ยงานและเอกสารท่ีเก่ียวขอ้ ง 4 4 ๓.๑ หนว่ ยงานที่เกยี่ วข้อง 4 ๓.๒ เอกสารท่ีเกี่ยวข้อง 5 ๔. ผลการพิจารณา 12 ๔.๑ ความเป็นมาและสภาพปัญหา ๔.๒ ประเด็นการพจิ ารณา ๕. ขอ้ สังเกตและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการ ภาคผนวก ภาคผนวก ก รา่ งพระราชบัญญตั ปิ ้องกันและปราบปรามการทรมานและการบงั คบั ใหบ้ ุคคลสญู หาย พ.ศ. .... (นายรังสมิ นั ต์ โรม ผูเ้ สนอ) ภาคผนวก ข รา่ งพระราชบญั ญัตปิ ้องกนั และปราบปรามการทรมานและการกระทาใหบ้ คุ คลสูญหาย พ.ศ. .... (ฉบบั ประชาชน) ภาคผนวก ค ร่างพระราชบญั ญตั ปิ อ้ งกันและปราบปรามการทรมานและการกระทาให้บคุ คลสูญหาย พ.ศ. .... (กระทรวงยุติธรรม)
รายงานการพิจารณาศึกษาเรอ่ื ง “ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและ การกระทาให้บคุ คลสญู หาย พ.ศ. ....” ของ คณะกรรมาธกิ ารการกฎหมาย การยุติธรรมและสทิ ธิมนษุ ยชน สภาผแู้ ทนราษฎร --------------------------------------- ตามท่ีที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดท่ี ๒๕ ปีที่ ๑ คร้ังท่ี ๒๑ (สมัยสามัญประจาปีครั้งที่หนึ่ง) วันพุธท่ี ๑๑ กันยายน ๒๕๖๒ ท่ีประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติตั้งคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและ สิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อให้มีหน้าที่และอานาจตามข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรพ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๙๐ (๑) คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน มีหน้าท่ีและอานาจกระทากิจการ พิจารณาสอบหาข้อเท็จจริง หรือศึกษาเรื่องใด ๆ ที่เกี่ยวกับการดาเนินการตามแนวนโยบายด้านกฎหมาย การยุติธรรม สิทธิมนุษยชน สิทธิชุมชน สิทธิในกระบวนการยุติธรรม และความเป็นธรรมในระยะเปล่ียนผ่าน นั้น คณะกรรมาธิการฯ คณะนี้ ประกอบด้วย ๑. นายปยิ บตุ ร แสงกนกกุล ประธานคณะกรรมาธิการ ๒. นายสุทศั น์ เงนิ หมนื่ รองประธานคณะกรรมาธกิ าร คนท่หี นึง่ ๓. นายชวลิต วชิ ยสทุ ธ์ิ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนทส่ี อง ๔. นายสิระ เจนจาคะ รองประธานคณะกรรมาธกิ าร คนท่สี าม ๕. นางสาวพรรณกิ าร์ วานิช รองประธานคณะกรรมาธิการ คนที่ส่ี ๖. นายวสิ ิทธ์ิ พิทยาภรณ์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนทีห่ ้า ๗. นายคมเดช ไชยศวิ ามงคล รองประธานคณะกรรมาธิการ คนทหี่ ก ๘. นายพีระพนั ธุ์ สาลรี ัฐวิภาค ที่ปรกึ ษาคณะกรรมาธิการ ๙. นายศาสตรา ศรีปาน โฆษกคณะกรรมาธิการ ๑๐. นายรังสิมันต์ โรม โฆษกคณะกรรมาธิการ ๑๑. รอ้ ยตารวจเอก อรณุ สวัสดี โฆษกคณะกรรมาธกิ าร ๑๒. นายนริ มติ สจุ ารี โฆษกคณะกรรมาธกิ าร ๑๓. นายจุลพนั ธ์ อมรววิ ัฒน์ กรรมาธิการ ๑๔. นายอาดลิ นั อาลอี ิสเฮาะ กรรมาธกิ าร ๑๕. นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ เลขานกุ ารคณะกรรมาธิการ ต่อมานายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ได้ขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งแต่วันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๖๒ ทาให้ความเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและความเป็นกรรมาธิการฯ สิ้นสุดลง ต่อมาในคราวประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดท่ี ๒๕ ปีที่ ๑ คร้ังที่ ๑๘ (สมัยสามัญประจาปีคร้ังที่สอง) วันท่ี ๑๕ มกราคม ๒๕๖๓ ที่ประชุมเห็นชอบให้ตั้ง นางศรีสมร รัศมีฤกษ์เศรษฐ์ เป็นกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน แทนนายพรี ะพันธ์ุ สาลีรฐั วิภาค หลงั จากน้นั นายปยิ บุตร แสงกนกกุล และนางสาวพรรณกิ าร์ วานิช ได้พน้ จากตาแหนง่ เม่ือวันศุกร์ที่ ๒๑ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๓ ตอ่ มานายจลุ พันธ์ อมรววิ ฒั น์ ไดข้ อลาออกจากการเป็นกรรมาธกิ ารในวันที่ 12 มถิ นุ ายน 2563
๒ หลังจากนั้น ในคราวประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีท่ี ๒ คร้ังที่ ๖ (สมัยสามัญประจาปี คร้ังที่หน่ึง) เป็นพิเศษ ในวันพฤหัสบดีท่ี ๑๘ มิถุนายน ๒๕๖๓ ที่ประชุมเห็นชอบให้ตั้งนายชยั วัฒน์ เป้าเป่ียมทรพั ย์ นายชัยยันต์ ผลสุวรรณ์ และนายสิงหภณ ดีนาง เป็นกรรมาธิการในคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน แทน และในคราวการประชุมคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ครงั้ ที่ ๓๓ วันพุธท่ี ๒๔ มถิ ุนายน ๒๕๖๓ ที่ประชมุ มีมติแตง่ ต้ังตาแหน่งต่าง ๆ ของคณะกรรมาธิการ ดังน้ี ๑. นายสริ ะ เจนจาคะ ประธานคณะกรรมาธกิ าร ๒. นายสุทัศน์ เงินหมืน่ ประธานทปี่ รึกษาคณะกรรมาธิการ ๓. นายชวลิต วชิ ยสทุ ธิ์ รองประธานคณะกรรมาธกิ าร คนที่หนึ่ง ๔. นางศรสี มร รัศมฤี กษเ์ ศรษฐ์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนทส่ี อง ๕. นายชยั วัฒน์ เปา้ เปี่ยมทรพั ย์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนทส่ี าม ๖. นายวิสทิ ธ์ิ พทิ ยาภรณ์ รองประธานคณะกรรมาธิการ คนทสี่ ี่ ๗. รอ้ ยตารวจเอก อรุณ สวัสดี รองประธานคณะกรรมาธิการ คนทห่ี ้า ๘. นายคมเดช ไชยศิวามงคล รองประธานคณะกรรมาธกิ าร คนที่หก ๙. นายศาสตรา ศรปี าน โฆษกคณะกรรมาธกิ าร ๑๐. นายรังสมิ ันต์ โรม โฆษกคณะกรรมาธิการ ๑๑. นายนริ มติ สุจารี โฆษกคณะกรรมาธิการ ๑2. นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ เลขานุการคณะกรรมาธิการ ๑3. นายอาดิลัน อาลอี สิ เฮาะ กรรมาธิการ ๑4. นายสิงหภณ ดนี าง กรรมาธิการ ๑5. นายชยั ยนั ต์ ผลสวุ รรณ์ กรรมาธกิ าร บัดนี้ คณะกรรมาธิการฯ ได้ดาเนินการพิจารณาศึกษารายงาน เร่ือง “ร่างพระราชบัญญัติป้องกัน และปราบปรามการทรมานและการกระทาให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. ....” เสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงขอรายงาน ผลการศึกษาเรอื่ งดงั กล่าวต่อสภาผแู้ ทนราษฎร ดงั นี้ ๑. การดาเนนิ การ คณะกรรมาธิการฯ ได้มีมติตั้งคณะอนุกรรมาธิการศึกษาการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม เพื่อทาหน้าที่ พิจารณาปัญหาอันอยู่ในหน้าท่ีและอานาจของคณะกรรมาธิการฯ หรือกิจการอ่ืนท่ีคณะกรรมาธิการฯมอบหมาย ท้ังน้ี ตามขอ้ บงั คบั การประชมุ สภาผแู้ ทนราษฎร พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๙๖ ซึ่งอนุกรรมาธิการฯ คณะน้ี ประกอบดว้ ย ๑. นายอาดลิ ัน อาลอี สิ เลาะ ประธานคณะอนกุ รรมาธกิ าร ๒. นายศาสตรา ศรีปาน รองประธานคณะอนกุ รรมาธกิ าร คนทห่ี นงึ่ ๓. นายวสิ ิทธิ์ พิทยาภรณ์ รองประธานคณะอนกุ รรมาธิการ คนทส่ี อง ๔. รอ้ ยตารวจเอก อรุณ สวัสดี รองประธานคณะอนกุ รรมาธกิ าร คนท่ีสาม ๕. นายวรเทพ สกลุ พิชัยรตั น์ รองประธานคณะอนกุ รรมาธกิ าร คนท่สี ี่ 6. นายสรุ จติ บุญยุบล เลขานกุ ารคณะอนกุ รรมาธิการ 7. พนั ตารวจเอก วิรุตม์ ศิรสิ วสั ดิบุตร อนกุ รรมาธิการ 8. นายพชิ ญ์ปกรณ์ ศรปี รางค์ อนกุ รรมาธกิ าร 9. นายปกรณ์ อารีกลุ อนกุ รรมาธิการ 10. นายสมชาย วชิรสกลุ ชยั อนุกรรมาธกิ าร
๓ ท่ปี รึกษาประจาคณะอนุกรรมาธกิ ารฯ ๑. นายสุทัศน์ เงินหม่นื ๒. พนั ตารวจเอก วริ ตุ ม์ ศิริสวสั ดิบตุ ร ๓. นายน้าแท้ มีบุญสลา้ ง ๔. นายกิตตเิ ดช กจิ มโนมัย ๕. นางสาวพรเพญ็ คงขจรเกยี รติ ๖. นางสาวศยามล ไกยรู วงศ์ ๗. นายประจวบ ชใู หม่ ๘. นายกมล อรชร ๙. พนั ตารวจเอก วิจติ ร นนั ทวงศ์ ๑๐. นางสลลิ โรจน์ รงุ่ สมบูรณ์ ๑๑. พันตารวจโท ปญั จวฒุ ิ ดาวลอ้ มจนั ทร์ ๑๒. นายรัชฏะ สมรทนั กร ๑๓. นายทปี กร โกมลพันธพ์ ร ๑๔. นายสามารถ เจนชัยจติ รวนิช ๑๕. นายภากร ชัชวาลวงศ์ ๑๖. นายพรชยั ชลวาณชิ กลุ ๑๗. นายมนตรี ชนกนาชยั ในการน้ี คณะกรรมาธิการฯ เหน็ ควรเสนอรายงานการพจิ ารณาศกึ ษา “รา่ งพระราชบัญญตั ิป้องกัน และปราบปรามการทรมานและการกระทาให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. ....” ซ่ึงเป็นเร่ืองสาคัญและมีความจาเป็นเรง่ ด่วน เนื่องจาก การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม จาเป็นอย่างยิ่งต้องมีการศึกษากฎหมายที่มีผลกระทบต่อชีวิติและ ทรัพย์สินของประชาชน โดยปัญหาการซ้อมทรมานและการกระทาให้บุคคลสูญหายเป็นเร่ืองสาคัญที่มีอยู่ ในสงั คมไทยเปน็ ระยะเวลานาน และยงั ขาดบทบญั ญัติในการการบงั คับใช้กฎหมายท่ีชัดเจน ดงั นนั้ คณะกรรมาธิการ จึงได้เล็งเห็นถึงความสาคัญในการตรากฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการ กระทาให้ บุคคลสูญหายโดยได้นาร่างพระราชบัญญัติที่เก่ียวข้อง จานวน ๓ ร่าง ประกอบด้วย ๑) ร่างพระราชบัญญัติป้องกัน และปราบปรามการทรมานและการบังคับให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. .... (นายรังสิมันต์ โรม ผู้เสนอ) ๒) ร่างพระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทาให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. .... (ฉบับประชาชน) และ๓) ร่างพระราชบัญญัติ ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทาให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. .... (กระทรวงยุติธรรม) มาใช้เป็นแนวทาง ในการพิจารณา โดยได้พิจารณาศึกษา วิเคราะห์ รวบรวม และบูรณาการสาระสาคัญของร่างพระราชบัญญัติข้างตน้ เพื่อให้สอดคล้องกับอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอ่ืนที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรมหรือ ทย่ี า่ ยศี ักดศิ์ รี (CAT) และอนุสญั ญาระหวา่ งประเทศว่าดว้ ยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ (CED) บัดนี้ คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชนโดยคณะอนุกรรมาธิการศึกษา การปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ได้ดาเนินการพิจารณาศึกษา “ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการ ทรมานและการกระทาให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. ....” ของคณะกรรมาธิการ เสร็จแล้ว เพ่ือเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพจิ ารณาตอ่ ไป
๔ ๒. วธิ ีการพจิ ารณาศกึ ษา ค ณ ะ อ นุ ก ร ร ม า ธิ ก า ร ศึ ก ษ า ก า ร ป ฏิ รู ป ก ร ะ บ ว น ก า ร ยุ ติ ธ ร ร ม ใ น ค ณ ะ ก ร ร ม า ธิ ก า ร ก า ร ก ฎ ห ม า ย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ได้พิจารณาศึกษา “ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและ การกระทาให้บคุ คลสญู หาย พ.ศ. ....” โดยมีการประชมุ ของคณะอนุกรรมาธิการฯ จานวน ๔ ครั้ง ดงั น้ี ครั้งท่ี ๑ วนั พุธท่ี 17 มถิ ุนายน 2563 ครง้ั ท่ี ๒ วันพฤหัสบดที ่ี 18 มิถนุ ายน 2563 ครง้ั ท่ี ๓ วนั พุธที่ 24 มิถุนายน 2563 ครัง้ ท่ี ๔ วันพฤหัสบดีท่ี 25 มถิ นุ ายน 2563 ๓. หนว่ ยงานและเอกสารทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง คณะอนุ ก รร ม าธิ ก าร ศึ ก ษา ก าร ปฏิ รู ป ก ร ะบว น ก ารยุ ติ ธ รร ม ใ นค ณ ะ ก รร ม าธิ กา ร ก า ร ก ฎ ห ม า ย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน ได้ดาเนินการโดยเชิญผู้แทนหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องมาให้ข้อมูล ข้อเท็จจริงและ ประกอบการพจิ ารณา ดงั นี้ ๓.๑ หนว่ ยงานท่เี กย่ี วข้อง ๑) กรมคมุ้ ครองสทิ ธิและเสรภี าพ กระทรวงยตุ ิธรรม ๑. นางนงภรณ์ รุ่งเพ็ชรวงศ์ ท่ีปรกึ ษาด้านสง่ เสรมิ สิทธแิ ละเสรีภาพ (กฎหมาย) ๒. นางสาวนรีลักษณ์ แพไชยภมู ิ ผอู้ านวยการกองสิทธมิ นุษยชนระหว่างประเทศ ๓. นางธัญสุดา หนอ่ แก้ว นักวชิ าการยตุ ธิ รรมชานาญการ ๔. นางนธิ วิ ดี พรหมอาจ นกั วชิ าการยุตธิ รรมปฏบิ ัติการ ๒) มูลนิธิผสานวฒั นธรรม - นายสมชาย หอมลออ ท่ปี รึกษาอาวุโส มลู นธิ ผิ สานวฒั นธรรม ๓.๒ เอกสารท่ีเกย่ี วขอ้ ง ๑) ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. .... (นายรงั สมิ ันต์ โรม ผู้เสนอ) ๒) ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทาให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. .... (ฉบบั ประชาชน) ๓) ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทาให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. .... (กระทรวงยตุ ิธรรม) ๔. ผลการพิจารณา คณะกรรมาธิการฯ ได้จัดทารายงานผลการพิจารณาศึกษา เร่ือง ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและ ปราบปรามการทรมานและการกระทาใหบ้ คุ คลสญู หาย พ.ศ. .... ปรากฏผลการดาเนินการ ซึง่ สรุปไดด้ ังน้ี ๔.๑ ความเปน็ มาและสภาพปัญหา การทรมาน และการบังคับให้บุคคลสูญหาย เป็นปัญหาสาคัญประการหนึ่งในสังคมไทยเน่ืองจาก ไม่สามารถสืบเสาะหลักฐานที่จะเอาผิดผู้กระทาได้ รวมทั้ง ต้องใช้ทรัพยากรและผู้ปฎิบัติหน้าที่จานวนมาก เช่น กรณีทนายสมชาย นีละไพจิตร และนายพอละจี รักจงเจริญ เป็นต้น ซ่ึงเหตุการณ์ท่ีปรากฏมาต้ังแต่อดีตล้วน แล้วแต่เกี่ยวข้องกับการละเมิดต่อสิทธิมนุษยชนรูปแบบหน่ึง ดังนั้น ประเทศไทยจึงจาเป็นอย่างย่ิงต้องขจัด การกระทาดังกลา่ วให้หมดไป และหาทางป้องกันไม่ใหม้ ีการกระทาเชน่ น้เี กิดข้ึน
๕ อย่างไรก็ตาม การอนุวัติกฎหมายให้สอดรับพันธกรณีระหว่างประเทศเป็นส่ิงหน่ึงท่ีประเทศไทย ต้องดาเนินการ คณะกรรมาธกิ ารการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธมิ นษุ ยชน สภาผู้แทนราษฎร จึงจาเป็นท่ีจะตอ้ งศึกษา กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทาให้บุคคลสญู หาย เพ่ือให้สอดรับกับอนุสัญญา ต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอ่ืนท่ีโหดร้ายไร้มนุษยธรรม หรือท่ีย่ายีศักดิ์ศรี (Convention against Torture and Other Cruel, Inhuman or Degrading Treatment or Punishing) และอนุสัญญาระหว่างประเทศ ว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ (International Convention for the Protection of all Persons from Enforced disappearance) โดยให้ความสาคัญกับการดาเนินคดีแก่ผู้กระทาความผิด อย่างจริงจัง รวดเร็ว และมีการลงโทษทางอาญาอย่างเคร่งครัด รวมถึงโทษทางวินัยด้วย ในขณะเดียวกัน ผู้เสียหาย ในคดีทรมาน หรือทายาทของผู้ท่ีถูกบังคับให้สูญหายจะต้องได้รับการคุ้มครองความปลอดภัย หรือได้รับค่าเสียหาย ที่เพียงพอ เหมาะสมด้วย ซ่ึงการดาเนินการดังกล่าว ควรได้รับการเร่งรัดและดาเนินการโดยมีบทบัญญัติของ กฎหมายท่ชี ดั เจน แม้ว่าในปัจ จุ บันจ ะมี ค ณ ะกรร ม การจั ดก ารเร่ื องร าว ร้ อง ทุก ข์ กรณี ถู กทร มาน แล ะถู ก บั ง คั บ ใหห้ ายสาบสญู ทต่ี ้องดาเนินการในเรื่องดงั กล่าวแต่คณะกรรมการดังกล่าว ก็มหี น้าทีเ่ พยี งรับเร่ืองราวร้องทกุ ข์ต่อเม่ือ เกิดเหตุกระทาความผิดแล้ว ผลสัมฤทธ์ิท่ีปรากฏจึงยังไม่เป็นที่ประจักษ์ โดยยังพบเหตุการณ์เจ้าหน้าท่ีรัฐใช้อานาจ โดยมิชอบในการจับและควบคุมตัวประชาชนไปทาร้ายร่างกาย หรือกระทาให้ผู้ถูกควบคุมเป็นบุคคลสูญหาย อย่างไร้ร่องรอยและไม่สามารถดาเนินคดีผู้กระทาความผิดได้ เนื่องจากประเทศไทยยังปราศจากมาตรการคุ้มครอง ประชาชนผู้ถูกจับอย่างรวดเร็วและเท่าทันต่อสถานการณ์ และเพ่ือป้องกันเหตุการณ์ซ้อมทรมานอย่าง มีประสิทธิภาพ คณะกรรมาธิการจึงเห็นว่า การแก้ปัญหาการทรมาน และการกระทาให้บุคคลสูญหายต้องมีการ ปฏิรูปอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรม เพื่อกาหนดบทบาทของเจ้าหน้าท่ีรัฐ และทุกภาคส่วนท่ีเกี่ยวข้องให้ชัดเจน การตรากฎหมายว่าด้วยป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทาให้บุคคลสูญหาย จึงถือเป็นประโยชน์ ตอ่ ประชาชน และความสงบเรยี บร้อยตอ่ สังคม ตามหลกั สทิ ธมิ นษุ ยชนและมาตรฐานสากล ดังนนั้ คณะกรรมาธิการฯ จึงเห็นควรใหม้ ีการพจิ ารณาศึกษา เรอ่ื ง รา่ งพระราชบัญญัติป้องกันและ ปราบปรามการทรมานและการกระทาให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. .... โดยได้กาหนดกรอบและแนวทางในการพิจารณา โดยให้นาร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. .... (นายรังสิมันต์ โรม ผู้เสนอ) มาเป็นหลักในการพิจารณา และให้นาหลักการและสาระสาคัญแห่งบทบัญญัติของ ร่างพระราชบัญญัติฉบับประชาชน และกระทรวงยุติธรรมใช้ประกอบการพิจารณาเพ่ือปรับปรุงยกร่าง พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทาให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. .... ของคณะกรรมาธิการ ท่ีคานึงถึงการบูรณาการสาระสาคัญเก่ียวกับการซ้อมทรมานและการกระทาให้บุคคลสูญหาย ที่สอดรับกับ เจตนารมณข์ องภาคประชาชน ภาครัฐ และผู้แทนปวงชนชาวไทย ๔.๒ ประเด็นการพจิ ารณา ๔.๒.๑ รา่ งพระราชบัญญตั ิทีเ่ ก่ยี วข้อง (๑) บทวิเคราะห์ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทาให้ บุคคลสูญหาย พ.ศ. .... (ฉบับประชาชน) รา่ งพระราชบญั ญตั ิปอ้ งกันและปราบปรามการทรมานและการกระทาให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. .... (ฉบับประชาชน) สรุปสาระสาคญั ได้ดังน้ี 1.1 ให้การทรมานและอมุ้ หายโดยเจ้าหนา้ ทร่ี ัฐเปน็ อาชญากรรม เจา้ หน้าที่ทีก่ ระทาผิด รวมท้ังผูบ้ งั คับบัญชาที่รู้เหน็ เปน็ ใจหรือละเลยต้องถูกลงโทษ เพอื่ ขจดั วัฒนธรรมจ้าหนา้ ทีท่ าผิดลอยนวล (impunity) รวมท้ังกาหนดความผิดฐานกระทาให้บุคคลสูญหาย ฐานกระทาทรมาน ฐานกระทาหรือลงโท ษที่โหดร้าย
๖ ไร้มนุษยธรรมหรือที่ย่ายีศักดิ์ศรี รวมท้ังเหตุเพ่ิมโทษ ความรับผิดของผู้สมคบ ผู้ใช้ ผู้สนับสนุน ความรับผิดของ ผบู้ งั คับบญั ชา เหตุลดโทษจากการใหค้ วามชว่ ยเหลือรว่ มมอื เพ่ือให้สอดคล้องกับหลักการของอนสุ ญั ญา 1.2 กาหนดเรื่องการนับอายุความ โดยให้การกระทาความผิดฐานกระทาให้บุคคลสูญหาย เป็นความผิดต่อเน่ืองตลอดเวลาจนกว่าจะเปิดเผยชะตากรรมหรือปล่อยตัวบุคคลท่ีถูกควบคุมตัว และการสืบสวน สอบสวนต้องดาเนินการอย่างต่อเนื่องจนกว่าจะพบบุคคลที่ถูกกระทาให้สูญหายหรือปรากฏหลักฐานน่าเช่ือว่าบุคคลน้ัน ถึงแก่ความตายและกาหนดให้ความผิดฐานกระทาให้บุคคลสูญหายและฐานกระทาทรมานเป็นความผิดที่ไม่มีอายุความ 1.3 ให้มีกลไกและมาตรการตรวจสอบความโปร่งใสและความรับผิดชอบ (accountability) ซึ่งรวมท้ังการป้องกันเยียวยาการอุ้มทรมานและอุ้มหาย หน้าที่คุ้มครองสวัสดิภาพความปลอดภัยและสนับสนุน ช่วยเหลือผู้ได้รับความเสียหายอย่างเร่งด่วน เพ่ือคืนความเป็นธรรมให้แก่ผู้ได้รับความเสียหาย และสุดท้าย รัฐต้องดาเนินมาตรการที่เหมาะสมเพ่ือป้องกันไม่ให้เกิดการละเมิดข้ึนซ้าอีก รวมทั้งการติดตามตรวจสอบ ข้อร้องเรียนเพ่ือนาตัวผู้กระทาความผิดมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทางอาญา การสามารถเข้าถึงการชดเชยและ เยียวยาความเสียหายทั้งทางร่างกายและจิตใจ เช่น การให้ผู้ถูกควบคุมตัวมีสิทธิได้รับการเยี่ยมจากญาติหรือ กรรมการท่ีเป็นอิสระโดยไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า พบและปรึกษาทนายความ ตรวจโดยแพทย์ บันทึกรายละเอียดเกี่ยวกับ การจับกุมและควบคุมตัว กลไกการร้องเรียน ฯลฯ ท้ังน้ี ไม่ว่าบุคคลน้ันจะถูกคุมขังโดยเจ้าหน้าที่หน่วยใดหรือ ภายใต้กฎหมายฉบับใดกต็ าม 1.4 กาหนดบทบาทองค์กรฝ่ายตุลาการในการตรวจสอบถ่วงดุลการใช้อานาจ โดยเจ้าหน้าท่ีของรัฐสงสัยว่าผู้ใดถูกทรมานหรือถูกอุ้มหาย บุคคลใด ๆ สามารถร้องต่อศาลให้สั่งให้เจ้าหน้าท่ีนาตัว ผูน้ นั้ มาศาลเพ่ือให้ศาลสง่ั แก้ไขเยียวยาโดยพลันไดใ้ หศ้ าลมีคาส่ังระงับหรือเพิกถอนการกระทาซ่งึ กระทบต่อสิทธิและ เสรีภาพในชีวิตและร่างกายเช่นว่าน้ันทันที และศาลยังมีอานาจหน้าท่ีกาหนดวิธีการตามสมควรเพื่อคุ้มครอง ชดเชยและเยยี วยาความเสียหายทีเ่ กิดขนึ้ ผ่านการสนับสนนุ ชว่ ยเหลอื จากคณะกรรมการ 1.5 กาหนดให้คดีความผิดตามพระราชบัญญัตินี้เป็นคดีพิเศษตามกฎหมายว่าด้วย คดีพิเศษ โดยมีพนักงานอัยการเป็นผู้รับผิดชอบสานวนการสอบสวน และไม่ให้การดาเนินคดีต้องอยู่ในอานาจของ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ท้ังน้ี เพื่อป้องกันการทับซ้อนให้อัยการควบคุมดูแลการสอบสวน โดยตัดอานาจการสวบสวน/ไต่สวน โดยคณะกรรมการ ปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจรติ แหง่ ชาติ หรอื คณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทจุ รติ ในภาครฐั ให้คดีพิจารณาโดยศาลพลเรือน โดยใช้ระบบไต่สวน แม้เจ้าหน้าท่ีที่ถูกกล่าวหาว่ากระทาผิด จะเป็นทหาร และกาหนดเร่อื งการส่ังคดี และช้ขี าดกรณมี ีคาสงั่ ไมฟ่ ้องคดีโดยให้เป็นอานาจหนา้ ที่ของอัยการสูงสุด 1.6 กาหนดให้ผู้มีหน้าท่ีควบคุมตัวบุคคลต้องรับรองสิทธิของผู้ถูกควบคุมตัวเพ่ือ ป้องกันการควบคุมตัวมิชอบด้วยกฎหมาย โดยให้รับทราบถึงข้อมูลที่จาเป็น สามารถติดต่อกับญาติหรือบุคคล ท่ีผู้ถูกควบคุมตัวไว้วางใจ สามารถพบและปรึกษาทนายความ ได้รับการตรวจร่างกายและรักษาพยาบาล เป็นต้น นอกจากน้ี ยังต้องมีการจัดทาบันทึกเก่ียวกับการควบคุมตัวโดยมีรายละเอียดอย่างน้อยตามรายการท่ีกฎหมายกาหนด เพอ่ื ให้เกดิ ความโปร่งใสและสามารถตรวจสอบได้ 1.7 รับรองความเป็นผู้เสียหายในคดีอาญา เพื่อให้สามี ภริยา คู่ชีวิต ผู้บุพการี ผู้สืบสันดาน และผู้อยู่ในอุปการะ ทั้งโดยนิตินัยและพฤตินัย สามารถมีส่วนร่วมในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ไดร้ บั ทราบความเป็นจรงิ และเขา้ ถึงความเป็นธรรมไดแ้ ละกาหนดรบั รองสทิ ธิของผู้ได้รับความเสียหายให้ได้รับทราบ ถงึ ผลความคบื หนา้ ของคดีอยา่ งตอ่ เนื่อง
๗ 1.8 ญาติหรือพลเมืองดีท่ีแจ้งหรือร้องเรียนกรณีอุ้มทรมานหรืออุ้มหาย หากกระทา โดยสุจริตได้รับการคุ้มครอง โดยกาหนดคุ้มครองผู้ใช้สิทธิร้องเรียนโดยสุจริตเพื่อป้องกันไม่ให้ต้องแบกรับภาระ จากการถูกกล่นั แกล้งดาเนินคดี 1.9 ยนื ยนั หลักการในร่างกฎหมายเดิมในเร่ืองหลักความรับผิดสากล (Universal jurisdiction) หลักกฎหมายว่าด้วยการสง่ ผู้ร้ายข้ามแดนและความร่วมมือระหว่างประเทศในทางอาญาหลักสิทธเิ ด็ดขาด (Non-derogation) หลักการไม่ส่งตัวกลับไปเผชิญอันตราย (Non - refoulement) เพ่ือให้สอดคล้องกับหลักการของอนุสัญญา และ เป็นหลกั ประกันในการป้องปรามการทรมานและการกระทาให้บุคคลสญู หายทีม่ ีประสทิ ธผิ ลและกาหนดบทต้องห้าม รับฟังพยานหลักฐานท่ีได้มาโดยอาศัยข้อมูลท่ีเกิดขึ้นหรือได้มาเน่ืองจากการกระทาความผิดตามพระราชบัญญัติน้ี โดยเดด็ ขาด (๒) บทวิเคราะห์ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทา ใหบ้ ุคคลสูญหาย พ.ศ. ..... (กระทรวงยตุ ธิ รรม) ร่างพระราชบญั ญตั ปิ ้องกนั และปราบปรามการทรมานและการกระทาให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. .... (กระทรวงยุติธรรม) ได้กาหนดความผิดฐานกระทาทรมานและความผิดฐานกระทาให้บุคคลสูญหาย มาตรการป้องกันการทรมานและการกระทาให้บุคคลสูญหาย การเยียวยาผู้เสียหายและการดาเนินคดีสาหรับ ความผิดดังกล่าวเพ่ือให้เป็นไปตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือการลงโทษอ่ืนที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรมหรือที่ย่ายีศักด์ิศรี (Convention against Torture and Other Cruel, Inhuman or Degrading Treatment or Punishing) และอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ (International Convention for the Protection of all Persons from Enforced disappearance) สรปุ สาระสาคญั ไดด้ งั นี้ 2.1 กาหนดบทนิยาม “การทรมาน” “การกระทาให้บุคคลสูญหาย” “เจ้าหน้าท่ีของรัฐ” “ผไู้ ดร้ ับความเสียหาย” และ “คณะกรรมการ” 2.2 กาหนดฐานความผิดการกระทาทรมานและการกระทาให้บุคคลสูญหายการกาหนด ให้ไม่เป็นความผิดทางการเมือง กาหนดให้สามี ภริยา บุพการีผู้สืบสันดานของผู้เสียหายในกรณีกระทาให้บุคคลสูญหาย เปน็ ผู้เสยี หายทส่ี ามารถดาเนนิ การฟ้องรอ้ งคดไี ด้ 2.3 ให้มคี ณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทาใหบ้ ุคคลสูญหาย ซ่ึงมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธาน ปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นรองประธาน และมีอธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิ และเสรีภาพเป็นเลขานุการ รวมท้ังสมาชิกจากหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องพร้อมกับผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านสิทธิมนุษยชน ทางด้านการแพทย์ และทางด้านจิตวิทยา รวมท้ังส้ิน 19 คน โดยมีอานาจหน้าที่เชิงนโยบายเพ่ือวางแผนเกี่ยวกับ การป้องกันและการเยียวยาการทรมานและการกระทาให้บุคคลสูญหาย นอกจากนี้ได้กาหนดให้กรมคุ้มครองสิทธิ และเสรภี าพเปน็ สานกั งานเลขานกุ ารของคณะกรรมการฯ 2.4 กาหนดให้ทุกหน่วยงานท่ีมีการจากัดเสรีภาพบุคคลต้องจัดทาบันทึกข้อมูล เก่ียวกับผู้ถูกจากัดเสรีภาพกาหนดเกี่ยวกับเกณฑ์ในการเปิดเผยข้อมูลของผู้ถูกจากัดเสรีภาพและกาหนดให้มี มาตรการระงบั การทรมานและเยียวยาความเสยี หายเบ้ืองตน้ 2.5 กาหนดให้ความผิดตามพระราชบัญญัติในเร่ืองน้ีเป็นคดีพิเศษตามกฎหมายว่าด้วย การสอบสวนคดีพิเศษ และให้เจ้าหน้าท่ีกรมสอบสวนคดีพิเศษมีอานาจหนา้ ท่ีสบื สวนสอบสวนเป็นหลกั ยกเว้นกรณี เจ้าหน้าท่ีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตกเป็นผู้ต้องหาให้ตารวจเป็นผู้มีอานาจสืบสวนสอบสวนแทนและหากเจ้าหน้าท่ี กรมสอบสวนคดีพิเศษและตารวจตกเป็นผู้ต้องหาให้อัยการสูงสุดเป็นผู้มีอานาจสืบสวนสอบสวนแทน รวมท้ังกาหนดให้ ศาลอาญาคดีทจุ รติ และประพฤติมิชอบเปน็ ศาลทีม่ ีเขตอานาจ
๘ 2.6 กาหนดระวางโทษความผิดฐานกระทาทรมาน และกระทาให้บุคคลสูญหาย กาหนดเหตุบรรเทาโทษ กาหนดความผิดฐานสมคบคิดและฐานผู้มีส่วนร่วมในการกระทาผิดรวมท้ัง กาหนดโทษแก่ ผู้บงั คบั บญั ชาท่ีทราบการกระทาความผิดฐานกระทาให้บุคคลสูญหายของผู้ใตบ้ ังคับบญั ชาแลว้ ไม่ดาเนินการป้องกัน หรอื ระงับการกระทาความผดิ น้ัน ๔.๒.๒ ผลการพิจารณา บทวเิ คราะห์สรุปสาระสาคญั ของร่างพระราชบัญญัติป้องกนั และปราบปรามการทรมาน และการกระทาให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. .... ของคณะกรรมาธกิ าร คณะกรรมาธิการฯ ได้พิจารณาร่างพระราชบญั ญัติที่เกี่ยวข้องรวมถึงรับฟังความคิดเห็นจาก หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เหน็ ควรมกี ารยกร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทา ให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. .... การบูรณาการสาระสาคัญเพ่ือให้เป็นไปตามอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติหรือ การลงโทษอ่ืนที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ายีศักดิ์ศรี (Convention against Torture and Other Cruel, Inhuman or Degrading Treatment or Punishing) และอนุสัญญาระหว่างประเทศวา่ ด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจาก การบงั คบั ให้หาย สาบสูญ (International Convention for the Protection of all Persons from Enforced disappearance) การซ้อมทรมานและการบังคับให้บุคคลสูญหาย และสอดรับกับเจตนารมณ์ของภาคประชาชน ภาครัฐ และ ผูแ้ ทนปวงชนชาวไทย โดยมีบทวิเคราะห์สรปุ สาระสาคญั ของ ดังน้ี ๑. เหตผุ ลและความจาเปน็ ในการเสนอรา่ งพระราชบญั ญัติ ให้มีกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทาให้บุคคลสูญหาย โดยกาหนดให้การค้นตัว จับ คุมขัง หรือกระทาการใดอันกระทบกระเทือนต่อเสรีภาพในร่างกายของบุคคลจะต้องมี การแจ้งสิทธิ และจัดทาบันทึกการควบคุมตัวตามท่ีกฎหมายน้ีกาหนดโดยไม่เลือกปฏิบัติ รวมทั้งกาหนดให้ศาลยุติธรรม เป็นกลไกสาคัญในการตรวจสอบการใช้อานาจของเจ้าหน้าที่ของรัฐอันกระทบกระเทือนต่อเสรีภาพในร่างกายของบุคคล สร้างระบบความพร้อมรับผิด (accountability) และลบล้างวัฒนธรรมปล่อยให้คนผิดลอยนวล (impunity) ตลอดจน มีกลไกสนับสนุนช่วยเหลือให้ผู้ได้รับความเสียหายได้รับความเป็นธรรม ผ่านการช่วยเหลือทางกฎหมายเพื่อติดตาม ตรวจสอบและนาตัวผู้ท่ีเก่ียวข้องมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทางอาญา และมาตรการชดเชยฟื้นฟูและเยียวยา ความเสียหายทางร่างกาย จิตใจและสังคม และการป้องกันไม่ให้การละเมิดเกิดขึ้นซ้าอีกซ่ึงสอดคล้องกับประเทศไทย ได้เข้าเป็นภาคีของอนุสัญญาต่อต้านการทรมานและการประติบัติ หรือการลงโทษอ่ืนท่ีโหดร้าย ไร้มนุษยธรรมหรือ ที่ย่ายีศักด์ิศรี และได้ลงนามอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ จึงต้องมีบทบัญญัติที่กาหนดฐานความผิดเป็นการเฉพาะ ตลอดจนมีมาตรการป้องกันและปราบปราม มาตรการเยียวยา ผู้ได้รับความเสียหาย และมาตรการอ่ืนที่เกี่ยวข้อง เพ่ือให้สามารถปฏิบัติตามข้อบทในอนุสัญญาดังกล่าวได้อย่าง มีประสิทธิภาพ ซ่ึงจะเป็นการยกระดับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยให้เทียบเท่าสากล และสอดรับกับ หลกั การของรฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย จงึ จาเป็นตอ้ งตราพระราชบัญญตั ินี้ ๒. สาระสาคญั ของร่างพระราชบัญญตั ิ ๒.๑ บทนยิ าม ๑. “การทรมาน” หมายความว่า การกระทาโดยเจตนาไม่ว่าด้วยประการใดอันก่อให้เกิด ความเจ็บปวดหรือความทุกข์ทรมานอย่างร้ายแรงแก่กายหรือจิตใจต่อบุคคลหนึ่งบุคคลใดเพื่อวัตถุประสงค์ เช่น (๑) ให้ได้มาซึ่งข้อมูลหรือคารับสารภาพจากบุคคลน้ันหรือบุคคลท่ีสาม (๒) ลงโทษบุคคลนั้นสาหรับการกระทา ซ่ึงบุคคลนั้นหรือบุคคลที่สามได้กระทาหรือถูกสงสัยว่าได้กระทา (๓) ข่มขู่หรือขู่เข็ญบุคคลน้ันหรอื บุคคลทส่ี าม หรือ (๔) เพราะเหตุผลอื่นใดบนพื้นฐานของการเลือกปฏิบัติไม่ว่ารูปแบบใด ท้ังนี้ ไม่รวมถึงความเจ็บปวดหรือความทุกข์ ทรมานอันเปน็ ผลปกติจาก หรือสบื เนอ่ื งจากการลงโทษทงั้ ปวงทช่ี อบดว้ ยกฎหมาย
๙ ๒. “การกระทาทีโ่ หดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือทย่ี ่ายีศักดิ์ศรีความเปน็ มนุษย์” หมายความว่า การกระทาโดยเจตนาไม่ว่าด้วยประการใดอันก่อให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจต่อบุคคลหน่ึงบุคคลใดที่มิใช่การทรมาน ท้งั น้ี ไม่รวมถึงอันตรายอันเป็นผลปกตจิ าก หรือสบื เนื่องจากการลงโทษทั้งปวงท่ชี อบดว้ ยกฎหมาย ๓. “ควบคุมตัว” หมายความรวมถึง การจับ คุม ขัง ลักพา กักตัว คุมขัง กักขัง เรียกตัว หรอื เชิญตัวบุคคลไปสอบถามหรือซักถาม หรอื กระทาด้วยประการอน่ื ใดในทานองเดียวกนั อันเป็นการจากัดเสรีภาพ ในร่างกาย ๔. “การกระทาให้บุคคลสูญหาย” หมายความว่า การควบคุมตัวหรือการกระทาด้วย ประการใด โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ หรือโดยบุคคลหรือคณะบุคคลที่ได้รับคาสั่ง การสนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจจาก เจ้าหนา้ ทขี่ องรัฐ และได้มีการปฏเิ สธว่ามิได้กระทาการดังกลา่ ว หรือปกปิดชะตากรรมหรือท่ีอยู่ของบุคคลน้นั หรือกระทา ด้วยประการอื่นใดในทานองเดยี วกนั ๒.๒ หมวด ๑ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทา ใหบ้ คุ คลสูญหาย ๑. กาหนดให้มีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทา ให้บุคคลสูญหายคณะหนึ่ง ประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานกรรมการคนหนึ่งและ กรรมการอ่นื อีกสิบคน ๒. กาหนดให้คณะกรรมการสรรหากรรมการ ซึ่งประกอบด้วย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานโดยตาแหน่ง อัยการสูงสุด ผู้แทนองค์การเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนซ่ึงเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทย และมีการดาเนินกิจการเก่ียวข้องโดยตรงกับการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนโดยมิได้มีวัตถุประสงค์ในทาง การเมืองหรอื ม่งุ ค้าหากาไรจากการดาเนนิ กจิ การดังกลา่ วแห่งละหนึ่งคนซึง่ เลอื กกันเองใหเ้ หลือหา้ คน ผู้แทนพรรคการเมือง ทุกพรรคท่ีมีสมาชิกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคละหนึ่งคนซึ่งเลือกกันเองให้เหลือเก้าคนโดยมาจาก พรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลจานวนสี่คน และพรรคการเมืองฝ่ายค้านจานวนห้าคน ผู้แทนส่ือมวลชนในกิจการ หนงั สือพมิ พ์ วทิ ยกุ ระจายเสยี งและวิทยุโทรทัศน์ ซึง่ เลือกกันเองกจิ การละหน่ึงคนรวมเป็นสามคน และใหเ้ ลขาธิการ สภาผู้แทนราษฎรเป็นเลขานุการ และให้คณะกรรมการสรรหามีหน้าที่สรรหาบุคคลท่ีเหมาะสมจะเป็นกรรมการ จานวนสิบคน โดยต้องคานึงถึงการมีส่วนร่วมของทุกเพศเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยเส นอพร้อม ความยินยอมของผู้ได้รับการเสนอช่ือนั้น รวมทั้งเอกสารหรือหลักฐานท่ีแสดงให้เห็นว่าผู้ได้รับการเสนอช่ือเป็น ผู้ท่ีเหมาะสมกับการเป็นกรรมการ และมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๗ ทั้งนี้ ภายในหกสิบวัน นบั แตว่ นั ท่มี เี หตทุ าใหต้ ้องมกี ารเลือกให้บุคคลดารงตาแหน่งดังกล่าว เพอื่ เสนอให้นายกรฐั มนตรีแตง่ ต้งั มติในการเสนอชื่อ ต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจานวนกรรมการสรรหาท้ังหมดเท่าท่ีมีอยู่ ซ่ึงถือเป็นกลไกสนับสนุน ช่วยเหลือให้ผู้ได้รับความเสียหายได้รับความเป็นธรรม ผ่านการช่วยเหลือทางกฎหมายเพ่ือติดตามตรวจสอบและ นาตัวผู้ท่ีเก่ียวข้องมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมทางอาญา และมาตรการชดเชยฟื้นฟูและเยียวยาความเสียหาย ทางร่างกาย จิตใจและสังคม และการป้องกันไม่ให้การละเมิดเกิดขึ้นซ้าอีก เพ่ือให้สอดคล้องกับหลักการของ รฐั ธรรมนญู แห่งราชอาณาจกั รไทยและพนั ธกรณรี ะหว่างประเทศ ๒.๓ หมวด ๒ การปอ้ งกนั และปราบปรามการทรมานและการกระทาให้บคุ คลสญู หาย สว่ นท่ี ๑ บทท่ัวไป ๑. กาหนดกรอบแนวคิดของการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทา ให้บุคคลสูญหายในหมวด ๑ บทท่ัวไป เพ่ือให้เกิดความกระจ่างชัดเก่ียวกับหน้าที่ของรัฐ ซึ่งหมายรวมถึงเจ้าหน้าที่ ของรัฐทั้งฝ่ายบริหาร ตุลาการและนิติบัญญัติ (มาตรา ๑๖) และยืนยันหลักการท่ีรัฐจะต้องคุ้มครองศักด์ิศรีความเป็นมนษุ ย์ สิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกายของบุคคลโดยไม่เลือกปฏิบัติ การทรมาน การกระทาหรือลงโทษที่โหดร้าย
๑๐ ไร้มนุษยธรรม หรือท่ีย่ายีศักดิ์ศรี และการกระทาให้บุคคลสูญหายจะกระทามิได้ ซึ่งหมายรวมถึงรัฐต้องดาเนิน มาตรการป้องกันและปราบปรามอย่างมีประสิทธิผล ชดเชยเยียวยา เพ่ือคืนความเป็นธรรมให้แก่ผู้ได้รับความเสียหาย และสดุ ทา้ ยรฐั ต้องดาเนนิ มาตรการท่ีเหมาะสมเพื่อปอ้ งกันไมใ่ หเ้ กิดการละเมิดขึ้นซ้าอกี (มาตรา ๑๗) ๒. กาหนดบทบาทองค์กรฝ่ายตุลาการในการตรวจสอบถ่วงดุลการใช้อานาจ โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐ ให้มีคาสั่งระงับหรือเพิกถอนการกระทาซึ่งกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย เช่นว่านั้นทันที และศาลยังมีอานาจหน้าที่กาหนดวิธีการตามสมควรเพื่อคุ้มครอง ชดเชยและเยียวยาความเสียหาย ทีเ่ กิดขนึ้ ผ่านการสนบั สนุนชว่ ยเหลอื จากคณะกรรมการ ส่วนที่ ๒ การปราบปรามการทรมานและการกระทาให้บคุ คลสูญหาย ๑. กาหนดความผิดฐานกระทาให้บุคคลสูญหาย (มาตรา ๑๘) ฐานกระทาทรมาน (มาตรา ๑๙) ฐานกระทาในลักษณะที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรมหรือที่ย่ายีศักดิ์ศรี (มาตรา ๒๐) รวมท้ังเหตุเพิ่มโทษ (มาตรา ๒๑) ความรับผิดของผู้สมคบ ผู้ใช้ ผู้สนับสนุน (มาตรา ๒๒) ความรับผิดของผู้บังคับบัญชา (มาตรา ๒๓) เหตุลดโทษ จากการใหค้ วามชว่ ยเหลอื รว่ มมือ (มาตรา ๒๔) เพอื่ ใหส้ อดคลอ้ งกบั หลกั การสากลของอนสุ ญั ญาฯ ๒. กาหนดและยืนยันหลักการในเรื่องหลักความรับผิดสากล (Universal jurisdiction) (มาตรา ๒๕) หลกั กฎหมายว่าด้วยการส่งผู้รา้ ยข้ามแดนและความรว่ มมือระหวา่ งประเทศในทางอาญา (มาตรา ๒๖) หลักสิทธิเด็ดขาด (Non-derogation) (มาตรา ๒๗) หลักการไม่ส่งตัวกลับไปเผชิญอันตราย (Non-refoulement) (มาตรา ๒๘) เพ่ือให้สอดคล้องกับหลักการสากล (ของอนุสัญญาฯ) และเป็นหลักประกันในการป้องปรามการทรมานและ การกระทาให้บุคคลสญู หายทม่ี ปี ระสทิ ธิผล สว่ นที่ ๓ การปอ้ งกันการทรมานและการกระทาให้บุคคลสญู หาย ๑. กาหนดให้ผู้มีหน้าที่ควบคุมตัวบุคคลต้องให้สิทธิของผู้ถูกควบคุมตัวและได้รับแจ้งสิทธิ โดยใหร้ ับทราบถึงขอ้ มลู ท่จี าเป็น สามารถตดิ ต่อกบั ญาติหรือบคุ คลทีผ่ ้ถู ูกควบคุมตัวไวว้ างใจ สามารถพบและปรึกษา ทนายความ ได้รับการตรวจร่างกายและรักษาพยาบาล เป็นต้น นอกจากนี้ ยังต้องมีการจัดทาบันทึกเก่ียวกับ การควบคุมตัวโดยมีรายละเอียดอย่างน้อยตามรายการที่กฎหมายกาหนดเพ่ือให้เกิดความโปร่งใสและสามารถ ตรวจสอบได้ (มาตรา ๒๙) กาหนดให้เจ้าหน้าท่ีของรัฐผู้มีหน้าที่รับผิดชอบต้องแจ้งการควบคุมต่อนายอาเภอและ พนักงานอัยการแห่งท้องท่ีท่ี (มาตรา ๓๐) กาหนดให้ญาติหรือบุคคลเพ่ือประโยชน์ของผู้ถูกควบคุมตัว คณะกรรมการและ เจ้าหน้าที่ที่เก่ียวข้องมีสิทธิร้องขอให้เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการควบคุมตัวได้ หากถูกปฏิเสธในการให้ข้อมูล ให้ศาลอาญาในทอ้ งที่ท่ีมเี ขตอานาจสัง่ ใหเ้ ปดิ เผยข้อมูลได้ (มาตรา ๒๙ มาตรา ๓๐ และมาตรา ๓๑) ๒. กาหนดให้ศาลยุติธรรมเป็นกลไกสาคัญในการตรวจสอบการใช้อานาจของ เจ้าหน้าท่ีของรัฐอันกระทบกระเทือนต่อเสรีภาพในร่างกายของบุคคล เพื่อสร้างระบบความพร้อมรับผิด (accountability) และลบล้างวัฒนธรรมปล่อยให้คนผดิ ลอยนวล (impunity) กาหนดให้ผู้เสียหาย พนักงานอัยการ พนักงานสอบสวน คดีพเิ ศษ พนกั งานฝ่ายปกครอง คณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ หรือบุคคลอ่ืนใดเพื่อประโยชน์ของผู้ถูกควบคุมตัว มีสทิ ธยิ ื่นคาร้องต่อศาลอาญาหรือศาลยตุ ธิ รรมให้ยตุ ิการกระทาผิดตามกฎหมายนี้ได้ (มาตรา ๓๒) ๓. คาส่ังไม่เปิดเผยข้อมูลต้องเป็นกรณีที่ศาลได้เรียกผู้ถูกควบคุมตัวมาสอบถาม ต่อหน้าศาลแล้วและมีเหตุยกเว้นให้ไม่เปิดเผยข้อมูลตามท่ีกฎหมายกาหนด (มาตรา ๓๒) กาหนดให้ศาลอาญา แห่งท้องที่มีอานาจตรวจสอบการใช้อานาจควบคุมตัวว่าชอบหรือปรากฏข้อร้องเรียนเก่ียวกับการทรมาน (มาตรา ๓๓) โดยดาเนินการไต่สวนฝ่ายเดียวและมีคาสั่งเพื่อให้ยุติการกระทาท่ีขัดต่อพระราชบัญญัตินี้และกาหนดมาตรการ ท่ีเหมาะสมเพื่อประโยชน์ในการป้องกัน และฟ้ืนฟูเยียวยาเบ้ืองต้นแก่ผู้ได้รับความเสียหายโดยการสนับสนุน ช่วยเหลอื จากคณะกรรมการ (มาตรา ๓๔ และมาตรา ๓๕)
๑๑ ๔. กาหนดบทต้องหา้ มรบั ฟังพยานหลักฐานท่ีไดม้ าโดยอาศัยข้อมลู ทเี่ กิดขน้ึ หรือได้มา เนื่องจากการกระทาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ท้ังน้ี แม้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญารับรอง หลักต้องห้ามรับฟังพยานหลักฐาน แต่ก็ยังคงเปิดช่องให้ศาลรับฟังพยานหลักฐานนั้นได้ ซ่ึงขัดต่อหลักการของ อนุสัญญาท่ีไม่ประสงค์ให้รับฟังพยานหลักฐานท่ีได้มาเน่ืองจากการทรมาน (มาตรา ๓๗) กาหนดให้ผู้ใดพบเห็นหรือ ทราบการทรมานต้องแจ้งพนักงานฝ่ายปกครอง หรือพนักงานสอบสวน คณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการฯ โดยไม่ชักช้า โดยคุ้มครองผู้แจ้งและผู้ใช้สิทธิร้องเรียนโดยสุจริตเพ่ือป้องกันไม่ให้ต้องแบกรับภาระจากการถูกกล่ันแกล้ง ดาเนนิ คดี (มาตรา ๓๘) ๒.๔ หมวด ๓ การดาเนินคดี ๑. รับรองความเป็นผู้เสียหายในคดีอาญา เพื่อให้สามี ภริยา คู่ชีวิต ผู้บุพการี ผู้สืบสันดาน และผู้อยู่ในอุปการะ ทั้งโดยนิตินัยและพฤตินัย สามารถมีส่วนร่วมในกระบวนการยุติธรรมทางอาญา ได้รบั ทราบความเป็นจริง และเขา้ ถงึ ความเปน็ ธรรมได้ (มาตรา ๔๐) ประกอบ มาตรา ๔ นยิ ามผเู้ สยี หาย ๒. กาหนดเร่ืองการนับอายุความ โดยให้การกระทาความผิดฐานกระทาให้บุคคลสูญหาย เป็นความผิดต่อเนื่องตลอดเวลาจนกว่าจะเปิดเผยชะตากรรมหรือปล่อยตัวบุคคลท่ีถูกควบคุมตัว และการสืบสวน สอบสวนต้องดาเนนิ การอยา่ งต่อเน่ืองจนกวา่ จะพบบุคคลท่ีถูกกระทาใหส้ ูญหายหรือปรากฏหลักฐานน่าเชื่อวา่ บุคคล น้ันถึงแกค่ วามตาย ๓. กาหนดให้ความผิดฐานกระทาให้บุคคลสูญหายและฐานกระทาทรมานให้ ไม่มีอายุความ (มาตรา ๔๑ และมาตรา ๔๒) กาหนดให้พนักงานอัยการมีอานาจสอบสวนดาเนินคดีความผิด ตามพระราชบัญญัตินี้ และการดาเนินคดีไม่ให้การดาเนินคดีต้องอยู่ในอานาจของคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามการทจุ รติ แห่งชาติหรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทจุ รติ ในภาครัฐ (มาตรา ๔๓) ๔. กาหนดเร่ืองการส่ังคดี และช้ีขาดกรณีมีคาส่ังไม่ฟ้องคดีโดยให้เป็นอานาจหน้าที่ ของอยั การสงู สุด (มาตรา ๔๔) ๕. กาหนดรับรองสิทธิของผู้ได้รับความเสียหายให้ได้รับทราบถึงผลความคืบหน้าของ คดีอย่างต่อเนื่อง โดยคณะกรรมการมีหน้าท่ีร่วมติดตามความคืบหน้าของคดี และดาเนินมาตรการเพื่อคุ้มครอง เสรีภาพและความปลอดภัย ชดเชยและฟื้นฟูเยียวยาความเสียหายทางร่างกายและจิตใจ ให้คาปรกึ ษาด้านกฎหมาย และช่วยเหลือด้านการดาเนินคดี เพื่อให้เป็นกลไกสาคัญในการสนับสนุนช่วยเหลือและชดเชยฟ้ืนฟูเยียวยาผู้ได้รับ ความเสยี หายใหไ้ ดร้ ับความเป็นธรรม (มาตรา ๔๕ มาตรา ๔๕) เม่ือศาลมีคาพิพากษาถึงทีกาหนดให้พนักงานอัยการ รว่ มกับคณะกรรมการเรยี กร้องค่าสนิ ไหมทดแทนจากผู้กระทาความผดิ ใหแ้ กผ่ ไู้ ดร้ บั ความเสียหาย (มาตรา ๔๖) ๖. กาหนดอย่างชัดแจ้งให้ศาลที่มีเขตอานาจพิจารณาพิพากษาคดีความผิดตาม พระราชบญั ญัตินี้อยใู่ นเขตอานาจการพิจารณาคดีของศาลอาญาคดีทจุ รติ และประพฤตมิ ิชอบ (มาตรา ๔๗) ๒.๕ หมวด ๔ บทกาหนดโทษ - ยืนยันหลักการกาหนดอัตราโทษที่ได้สัดส่วนกับความร้ายแรงของความผิด กาหนดอัตราโทษท่ีได้สัดส่วนกับความร้ายแรงของความผิด (มาตรา ๕๐ มาตรา ๕๑ และมาตรา ๕๒) และกาหนด ความผิดและโทษเพื่อประสิทธิผลในการป้องปรามการทรมานและการกระทาให้บุคคลสูญหายกรณีเจ้าหน้าท่ีรัฐ ไม่ดาเนินการเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้ถูกควบคุมตัวโดยมีวัตถุประสงค์ขั ดขวางการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ (มาตรา ๕๓)
๑๒ ๕. ข้อสังเกตและขอ้ เสนอแนะของคณะกรรมาธิการ จากการศึกษากฎหมาย และรับฟังความคิดเห็นจากหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องในทุกมิติแล้ว เห็นว่ามีความจาเป็น อย่างเร่งด่วนในการตรากฎหมายป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทาให้บุคคลสูญหาย เพ่ือประโยชน์ แก่ประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปฺฏิบัติหน้าท่ีโดยมีบทบัญญัติแห่งกฎหมายรองรับ ซ่ึงจะเป็นการ ยกระดับการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยให้เทียบเท่าสากล และสอดรับกับหลักการของรัฐธรรมนูญ คณะกรรมาธิการจึงจาเป็นอย่างย่ิงต้องยกร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการ กระทาให้ บุคคลสูญหาย พ.ศ. .... ของคณะกรรมาธิการ ซึ่งเป็นการบูรณาการสาระสาคัญแห่งร่างพระราชบัญญัติของ ภาคประชาชน และกระทรวงยตุ ธิ รรม เพอ่ื เปน็ แนวทางสาคัญในการตรากฎหมายวา่ ด้วยการปอ้ งกันและปราบปราม การทรมานและการกระทาให้บคุ คลสูญหายของประเทศไทยต่อไป คณะกรรมาธิการฯ จึงได้จัดทารายงานการพิจารณาศึกษา เร่ือง “ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและ ปราบปรามการทรมานและการกระทาให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. ....” พร้อมแนบร่างพระราชบัญญัติป้องกันและ ปราบปรามการทรมานและการกระทาใหบ้ ุคคลสูญหาย พ.ศ. .... เพื่อเสนอสภาผ้แู ทนราษฎรพิจารณาตอ่ ไป กมลศกั ด์ิ ลวี าเมาะ (นายกมลศักดิ์ ลีวาเมาะ) เลขานุการคณะกรรมาธกิ าร
๑ รา่ ง พระราชบัญญตั ิ ป้องกนั และปราบปรามการทรมานและการกระทาให้บุคคลสญู หาย พ.ศ. .... ............................................................................................................................. ...................... .................................................................................................................................................... .......................... โดยที่เปน็ การสมควรมีกฎหมายวา่ ด้วยการปอ้ งกันและปราบปรามการทรมานและการกระทา ใหบ้ คุ คลสูญหาย พระราชบัญญัติน้ีมีบทบัญญัติบางประการเกี่ยวกับการจากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซ่ึงมาตรา ๒๖ ประกอบกับมาตรา ๒๗ มาตรา ๒๘ และมาตรา ๓๒ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย บญั ญัติใหก้ ระทาไดโ้ ยอาศยั อานาจตามบทบัญญตั แิ ห่งกฎหมาย เหตุผลและความจาเป็นในการจากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตามพระราชบัญญัติน้ีเพื่อให้ ความคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการทรมานและการกระทาให้บุคคลสูญหายซึ่งกระทาโดยเจ้าหน้าท่ีของรัฐ ตลอดจนเพ่ิมประสิทธิภาพในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องกันปราบปรามและเยียวยาผู้เสียหายจากการ กระทาลักษณะดังกล่าว ซึ่งการตราพระราชบัญญัติน้ีสอดคล้องกับเง่ือนไขที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒๖ ของ รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทยแล้ว ............................................................................................................................. ...................... ..................................................................................................................................................................... ......... มาตรา ๑ พระราชบัญญัตินี้เรียกว่า “พระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทาใหบ้ คุ คลสูญหาย พ.ศ. ....” มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกาหนดหนึ่งร้อยยี่สิบวันนับแต่วันประกาศ ในราชกิจจานเุ บกษาเป็นต้นไป มาตรา ๓ บรรดากฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ และคาสั่งอื่นในส่วนที่ได้ บัญญัติไว้แล้วในพระราชบัญญัตินี้ หรือซึ่งขัดหรือแย้งกับบทบัญญัติแห่งพระราชบัญ ญัตินี้ ให้ใช้ พระราชบัญญัตินี้แทน เว้นแต่ในกรณีที่กฎหมายใดกาหนดเรื่องการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพในชีวิต และร่างกายของบุคคลไว้โดยเฉพาะซึ่งให้ความคุ้มครองบุคคลมา กกว่าที่กาหนดในพระราชบัญญัตินี้ ให้ บังคับตามกฎหมายนั้น คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุตธิ รรมและสทิ ธมิ นษุ ยชน สภาผูแ้ ทนราษฎร
๒ มาตรา ๔ ในพระราชบัญญตั นิ ี้ “การทรมาน” หมายความว่า การกระทาไม่ว่าดว้ ยประการใดอนั ก่อใหเ้ กิดความเจ็บปวดหรือความ ทุกขท์ รมานอย่างรา้ ยแรงแก่กายหรือจติ ใจตอ่ บุคคลหน่งึ บุคคลใดเพ่ือ (๑) ใหไ้ ดม้ าซึง่ ข้อมูลหรอื คารบั สารภาพจากบุคคลนัน้ หรอื บุคคลทส่ี าม หรือ (๒) ลงโทษบุคคลนั้นสาหรับการกระทาซงึ่ บคุ คลนั้นหรือบุคคลที่สามได้กระทาหรือถูกสงสัยว่า ไดก้ ระทา หรอื (๓) ข่มข่หู รือขเู่ ข็ญบคุ คลน้ันหรอื บคุ คลท่ีสาม หรือ (๔) เพราะเหตุผลอ่ืนใดบนพนื้ ฐานของการเลอื กปฏิบตั ไิ ม่ว่ารูปแบบใด ท้ังนี้ไม่รวมถึงความเจ็บปวดหรือความทุกข์ทรมานอันเป็นผลปกติจาก หรือสืบเน่ืองจากการ ลงโทษทงั้ ปวงท่ชี อบดว้ ยกฎหมาย “การกระทาที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือที่ย่ายีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์” หมายความว่า การกระทาไม่ว่าด้วยประการใดอันก่อให้เกิดอันตรายแก่กาย จิตใจ หรือลดคุณค่าความเป็นมนุษย์ของบุคคล หน่ึงบุคคลใดที่มิใช่การทรมาน ทั้งนี้ไม่รวมถึงอันตรายอนั เป็นผลปกติจาก หรอื สืบเนอื่ งจากการลงโทษทั้งปวงที่ ชอบดว้ ยกฎหมาย “ควบคุมตัว” หมายความรวมถึง การจับ คุม ขัง ลักพา กักตัว คุมขัง กักขัง เรียกตัว หรือเชิญตัวบุคคลไปสอบถามหรือซักถาม หรือกระทาด้วยประการอ่ืนใดในทานองเดียวกันอันเป็นการจากัด เสรีภาพในรา่ งกาย “การกระทาให้บุคคลสูญหาย” หมายความว่า การควบคุมตัวหรือการกระทาด้วยประการใด โดย เจ้าหน้าที่ของรัฐ หรอื โดยบุคคลหรือคณะบุคคลท่ีได้รับคาสั่ง การสนับสนุน หรือรู้เห็นเป็นใจจากเจ้าหน้าท่ีของ รัฐ และได้มีการปฏิเสธว่ามิได้กระทาการดังกล่าว หรือปกปิดชะตากรรมหรือที่อยู่ของบุคคลนั้น หรือกระทาด้วย ประการอืน่ ใดในทานองเดียวกนั “เจ้าหน้าท่ีของรัฐ” หมายความว่า ผู้ดารงตาแหน่งทางการเมือง ข้าราชการ หรือพนักงาน ส่วนท้องถิ่นซ่ึงมีตาแหน่งหรือเงินเดือนประจา พนักงานหรือบุคคลผู้ปฏิบัติงานในรัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงาน ของรัฐ ผู้บริหารท้องถิ่นและสมาชิกสภาท้องถิ่นซึ่งมิใช่ผู้ดารงตาแหน่งทางการเมือง เจ้าพนักงานตามกฎหมาย ว่าด้วยลักษณะปกครองท้องท่ี และให้หมายความรวมถึงกรรมการ อนุกรรมการ ลูกจ้างของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ และบุคคลหรือคณะบุคคลซ่ึงใช้อานาจหรือได้รับมอบให้ใช้อานาจทางการ ปกครองของรฐั ในการดาเนินการอย่างหนงึ่ อย่างใดตามกฎหมาย ไม่ว่าจะจัดตั้งขึ้นในระบบราชการ รัฐวิสาหกิจ หรอื กิจการอ่ืนของรฐั หรอื ไม่ก็ตาม “ผเู้ สียหาย” หมายความว่า บุคคลที่ได้รับความเสยี หายจากการทรมาน การกระทาที่โหดรา้ ย ไร้มนุษยธรรมหรือท่ีย่ายีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หรือการกระทาให้บุคคลสูญหาย และให้หมายความรวมถึง สามีภริยา คชู่ ีวติ ผ้บู พุ การี ผสู้ บื สนั ดาน และผู้อยใู่ นอุปการะ ท้ังโดยนิตินัยและพฤตนิ ัยของบุคคลดงั กลา่ ว “คณะกรรมการ” หมายความว่า คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมาน และการกระทาใหบ้ คุ คลสูญหาย คณะกรรมาธกิ ารการกฎหมาย การยตุ ิธรรมและสทิ ธมิ นุษยชน สภาผ้แู ทนราษฎร
๓ มาตรา ๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมรักษาการตามพระราชบัญญัติน้ี และให้มี อานาจออกระเบยี บหรอื ประกาศเพื่อปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติน้ี ระเบยี บหรอื ประกาศน้ัน เมอื่ ไดป้ ระกาศในราชกิจจานุเบกษาแลว้ ให้ใชบ้ ังคบั ได้ หมวด ๑ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทาให้บุคคลสญู หาย มาตรา ๖ ให้มีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทาให้บุคคล สูญหายคณะหน่ึง ประกอบด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานกรรมการคนหน่ึงและกรรมการอื่น อกี สบิ คน ซ่ึงแต่งตง้ั โดยนายกรฐั มนตรโี ดยการเสนอของคณะกรรมการสรรหา ประกอบด้วย (๑) ผู้ซ่ึงมีความรู้หรือประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ด้านการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพในชีวิต และร่างกายของบุคคลจากการทรมาน การกระทาท่ีโหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือที่ย่ายศี ักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หรือ การกระทาให้บุคคลสูญหายจานวนสองคน (๒) ผู้เสียหายหรือผู้แทนผู้เสียหายจากการทรมาน การกระทาที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือ ทยี่ ่ายศี ักดศิ์ รีความเปน็ มนุษย์ หรือการกระทาให้บคุ คลสญู หายจานวนสองคน (๓) ผู้แทนองค์กรภาคประชาสังคมซึ่งมีวัตถุประสงค์ท่ีมิใช่เป็นการแสวงหาผลกาไรและดาเนิน กิจกรรมด้านการปกป้ องคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกายของบุ คคลจา กการทรมาน การกระทาทีโ่ หดรา้ ยไร้มนษุ ยธรรมหรือทีย่ า่ ยีศักดิ์ศรีความเปน็ มนษุ ย์ หรอื การกระทาใหบ้ คุ คลสญู หายจานวนสองคน (๔) ผู้ทรงคุณวุฒิโดยพิจารณาจากผู้มีความรู้ ความเช่ียวชาญ และประสบการณ์เป็นที่ประจักษ์ ในดา้ นกฎหมาย ดา้ นการตรวจพิสจู น์หลักฐาน ดา้ นนติ เิ วชศาสตร์ จานวนสามคน ภายใต้บทบัญญัติในวรรคหน่ึง ให้อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพเป็นหนึ่งในกรรมการ และเลขานุการ และให้อธบิ ดีกรมคุ้มครองสทิ ธิและเสรภี าพแตง่ ตั้งขา้ ราชการของกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ จานวนไมเ่ กินสองคนเปน็ ผู้ช่วยเลขานกุ าร การสรรหาคณะกรรมการตามมาตรานี้ต้องคานึงถึงการมีส่วนร่วมของผู้แทนจากองค์การเอกชน ดา้ นสทิ ธิมนษุ ยชนดว้ ย มาตรา ๗ กรรมการตามมาตรา ๖ ต้องมีคณุ สมบตั ิ และไมม่ ีลกั ษณะตอ้ งหา้ มดังต่อไปนี้ (๑) มสี ัญชาติไทย (๒) ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย หรอื เคยเปน็ บุคคลลม้ ละลายทจุ ริต (๓) ไม่เป็นคนไร้ความสามารถ หรือคนเสมอื นไรค้ วามสามารถ (๔) ไม่เป็นผู้ดารงตาแหน่งทางการเมือง สมาชิกสภาท้องถ่ิน ผู้บริหารท้องถ่ิน กรรมการ หรอื ผู้ดารงตาแหนง่ บริหารในพรรคการเมือง (๕) ไมเ่ ป็นผอู้ ยู่ระหวา่ งถกู ส่งั ให้พกั ราชการ หรือถกู สงั่ ใหอ้ อกจากราชการ คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสทิ ธมิ นุษยชน สภาผแู้ ทนราษฎร
๔ (๖) ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หน่วยงานของรัฐ หรือรัฐวิสาหกิจ เพราะกระทาผดิ วนิ ัย (๗) ไม่เคยได้รบั โทษจาคกุ โดยคาพิพากษาถึงที่สุดให้จาคกุ รวมทง้ั คาพิพากษาถงึ ที่สดุ ให้จาคุก แตใ่ หร้ อการลงโทษ หรือรอการกาหนดโทษ เว้นแต่เป็นโทษสาหรับความผิดทีก่ ระทาโดยประมาท ความผิดฐาน หมนิ่ ประมาท หรือความผดิ ลหโุ ทษ (๘) ไม่เคยต้องคาพิพากษาหรือคาส่ังของศาลให้ทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพราะร่ารวย ผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพ่ิมขึ้นผิดปกติ หรือเพราะเป็นทรัพย์ที่ได้มาจากการกระทาความผิดมูลฐาน ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยการฟอกเงนิ (๙) ไม่เคยถูกคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแหง่ ชาติตรวจสอบแล้วเห็นว่าได้กระทาการอันเป็น การละเมดิ สิทธิมนษุ ยชนมากอ่ น มาตรา ๘ ให้มีคณะกรรมการสรรหาและการเลือกกรรมการแต่ละครั้งให้ดาเนินการ คณะกรรมการสรรหากรรมการ ประกอบดว้ ย (๑) ประธานสภาผู้แทนราษฎร เปน็ ประธาน (๒) อยั การสูงสดุ (3) ผู้แทนองค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนซึ่งเป็นนิติบุคคลตามกฎหมายไทยและมีการ ดาเนนิ กิจการเกี่ยวขอ้ งโดยตรงกับการสง่ เสริมและคุ้มครองสิทธมิ นุษยชนโดยมไิ ด้มีวัตถปุ ระสงค์ในทางการเมอื ง หรอื มุ่งคา้ หากาไรจากการดาเนินกจิ การดงั กล่าวแหง่ ละหนง่ึ คนซ่ึงเลือกกนั เองใหเ้ หลือห้าคน (4) ผู้แทนพรรคการเมืองทุกพรรคท่ีมีสมาชิกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคละหนึ่ง คนซ่งึ เลอื กกนั เองให้เหลอื เก้าคนโดยมาจากพรรคการเมืองฝ่ายรฐั บาลจานวนสี่คน และพรรคการเมืองฝ่ายค้าน จานวนห้าคน (5) ผู้แทนสื่อมวลชนในกิจการหนังสือพิมพ์ วิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ซึ่งเลือกกันเอง กจิ การละหนึง่ คนรวมเป็นสามคน (๓) ให้เลขาธกิ ารสภาผู้แทนราษฎรเป็นเลขานกุ าร ให้คณะกรรมการสรรหามีหน้าที่สรรหาบุคคลท่ีเหมาะสมจะเป็นกรรมการตามมาตรา ๖ จานวนสิบคน โดยต้องคานึงถึงการมีส่วนร่วมของทุกเพศเสนอต่อประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยเสนอ พร้อมความยินยอมของผู้ได้รับการเสนอช่ือน้ัน รวมทั้งเอกสารหรือหลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าผู้ได้รับการเสนอ ช่ือเป็นผู้ที่เหมาะสมกับการเป็นกรรมการ และมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๗ ทั้งนี้ ภายในหกสิบวันนับแต่วันที่มีเหตุทาให้ต้องมีการเลือกบุคคลให้ดารงตาแหน่งดังกล่าว เพื่อเสนอให้ นายกรัฐมนตรีแต่งตั้ง มติในการเสนอช่ือต้องมีคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าสองในสามของจานวนกรรมการสรรหา ท้งั หมดเท่าทม่ี อี ยู่ มาตรา ๙ กรรมการตามมาตรา ๖ มีวาระการดารงตาแหน่งคราวละส่ีปี และดารงตาแหน่ง ติดตอ่ กันเกนิ สองวาระไมไ่ ด้ ให้กรรมการซ่ึงพ้นจากตาแห น่งตามวาระอยู่ในตาแหน่งเพ่ื อปฏิบั ติหน้าที่ต่ อไปจนกว่า กรรมการซ่งึ ได้รับการแต่งตั้งใหม่เข้ารบั หน้าท่ี แตไ่ มเ่ กินหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแตพ่ ้นจากตาแหนง่ คณะกรรมาธกิ ารการกฎหมาย การยุตธิ รรมและสทิ ธมิ นุษยชน สภาผแู้ ทนราษฎร
๕ มาตรา ๑๐ นอกจากการพ้นจากตาแหน่งตามวาระ กรรมการตามมาตรา ๖ (๑) (๒) (๓) และ (๔) พ้นจากตาแหน่งเมื่อ (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) ขาดคุณสมบตั ิ หรือมลี กั ษณะต้องห้ามตามมาตรา ๗ (๔) คณะกรรมการมีมติสองในสามให้ออก เพราะมีความประพฤติเสื่อมเสีย บกพร่อง หรือไม่สุจรติ ต่อหนา้ ท่ี หรือหยอ่ นความสามารถ มาตรา ๑๑ เมื่อตาแหน่งกรรมการตามมาตรา ๖ (๑) (๒) (๓) และ (๔) ว่างลงก่อนวาระ ให้ดาเนินการแต่งต้ังกรรมการข้ึนใหม่ภายในหกสิบวัน เว้นแต่วาระของกรรมการเหลือไม่ถึงเก้าสิบวัน จะไมแ่ ต่งตง้ั กรรมการก็ได้ กรรมการซ่ึงได้รับแต่งตั้งแทนตาแหน่งท่ีว่าง ให้มีวาระการดารงตาแหน่งเท่ากับเวลา ท่เี หลอื อยู่ของกรรมการที่ยงั อยใู่ นตาแหนง่ ในระหว่างที่ยังมิได้แต่งตั้งกรรมการแทนตาแหน่งท่ีว่าง ให้กรรมการท่ีเหลืออยู่ปฏิบัติหน้าท่ี ตอ่ ไปได้ มาตรา ๑๒ ใหค้ ณะกรรมการประชุมอย่างน้อยเดือนละหน่งึ ครง้ั การประชุมคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุมไม่น้อยกว่าก่ึงหน่ึงของจานวนกรรมการ ทงั้ หมดจึงครบเปน็ องค์ประชมุ ในการประชุมคณะกรรมการ ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุม หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้รองประธานกรรมการเปน็ ประธานในท่ีประชุม ถ้าประธานกรรมการและรองประธานกรรมการไมม่ าประชุม หรอื ไมอ่ าจปฏิบัตหิ นา้ ทไ่ี ด้ ให้กรรมการซึง่ มาประชมุ เลอื กกรรมการคนหนึ่งเปน็ ประธานในทีป่ ระชุม ในการปฏิบัติหน้าที่ ประธานกรรมการหรือกรรมการผู้ใดมีส่วนได้เสียโดยตรง หรือโดยอ้อม ในเรื่องท่ีคณะกรรมการพิจารณา ให้ประธานหรือกรรมการผู้นั้นแจ้งให้ที่ประชุมทราบ และให้ท่ีประชุม พิจารณาว่าคณะกรรมการผู้นั้นสมควรอยู่ในที่ประชุม และมีมติในเร่ืองนั้นได้หรือไม่ ท้ังน้ี ตามระเบียบ ท่ีคณะกรรมการกาหนด การวินิจฉัยชี้ขาดของท่ีประชุมให้ถือเสียงข้างมาก กรรมการคนหน่ึงให้มีเสียงหนึ่ง ในการลงคะแนน ถ้ามีคะแนนเสียงเท่ากันให้ประธานในที่ประชุมออกเสียงเพิ่มข้ึนอีกเสียงหน่ึงเป็นเสียงช้ีขาด ในการประชุม มาตรา ๑๓ คณะกรรมการมหี น้าท่ีและอานาจ ดงั ต่อไปน้ี (๑) เสนอความเห็นต่อคณะรัฐมนตรี หรือหน่วยงานของรัฐให้มีการปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบยี บ หรอื มาตรการทีจ่ าเป็นตามพระราชบัญญตั นิ ้ี (๒) กาหนดนโยบาย แผนงาน และมาตรการเพ่ือป้องกันและปราบปรามการทรมาน การกระทาท่ีโหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือท่ีย่ายีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และการกระทาให้บุคคลสูญหาย คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสทิ ธมิ นุษยชน สภาผแู้ ทนราษฎร
๖ และสง่ เสริมให้เจ้าหน้าท่ขี องรัฐตระหนักถงึ ความสาคญั ของศักดิ์ศรคี วามเป็นมนษุ ย์ และการป้องกันการทรมาน การกระทาทีโ่ หดร้ายไรม้ นุษยธรรมหรือทยี่ ่ายศี ักดิ์ศรีความเปน็ มนุษย์ หรือการกระทาใหบ้ คุ คลสูญหาย (๓) กาหนดนโยบาย และมาตรการฟื้นฟูและเยียวยาด้านร่างกายและจิตใจแก่ผู้เสียหายอย่าง ครอบคลุม ซ่ึงหมายรวมถึงการทาให้กลับสู่สภาพเดิม การชดใช้ค่าสินไหมทดแทนที่เพียงพอ การบาบัดและ ฟ้นื ฟูสภาพร่างกายและจติ ใจใหส้ มบรู ณ์ท่สี ุดเท่าทจี่ ะเปน็ ไปได้ (๔) กาหนดหลักเกณฑ์ และวิธีการช่วยเหลือและเยียวยาผู้เสียหายท้ังทางการเงิน และทางจิตใจ ตลอดรวมถึงการฟ้ืนฟูระยะยาวทางการแพทย์ให้กับผู้เสียหาย โดยได้รับความเห็นชอบจาก กระทรวงการคลงั (๕) กาหนดมาตรการเพ่ือป้องกันมิให้เกิดการละเมิดซ้า มาตรการป้องกันมิให้มีการปกปิด การควบคุมตัวบุคคล และมาตรการคุ้มครองพยานให้กับผู้แจ้งข้อมูลในคดีที่เก่ียวข้องกับการกระทาความผิด ตามพระราชบญั ญัตนิ ้ี (๖) ติดตามตรวจสอบข้อร้องเรียนเก่ียวกับการทรมาน การกระทาที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรม หรือที่ย่ายีศักด์ิศรีความเป็นมนุษย์ และการกระทาให้บุคคลสูญหาย สนับสนุนช่วยเหลือผู้เสียหาย ด้วยการให้คาปรึกษาแนะนาทางกฎหมาย ด้านทนายความ ด้านการตรวจทางการแพทย์เพื่อประโยชน์ทางคดี ด้านการติดตามความคืบหน้าของคดี ด้านการฟ้ืนฟูเยียวยาความเสียหายทางร่างกายและจิตใจ และป้องกัน ไมใ่ หเ้ กดิ ขึ้นซ้า (๗) ติดตามดูแล อานวยการและประสานงานกับหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องเพ่ือให้เกิดการสืบสวน สอบสวนท่ีรวดเร็วและเป็นธรรม ขอให้เปล่ียนตัวพนักงานสอบสวนผู้รับผิดชอบเพื่อประโยชน์แห่ง ความยุติธรรม รวมถึงมีอานาจร้องขอให้มีการยุติการทรมานตามนัยพระราชบัญญัติน้ีและร้องขอให้มีการ ปลอ่ ยตวั ผ้ถู ูกคุมขงั โดยมิชอบดว้ ยกฎหมายตามนยั ประมวลกฎหมายวิธีพจิ ารณาความอาญา (๘) แจ้งให้หน่วยงานหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลรายงานช้ีแจงส่งข้อมูลหรือเอกสาร พยานหลักฐานท่ีเกี่ยวข้องกับการกระทาความผิดตามกฎหมายน้ี เพื่อประโยชน์ในการป้องกันปราบปราม การทรมานและการกระทาใหบ้ ุคคลสูญหาย (๙) ตรวจเยี่ยมหน่วยงานหรือสถานท่ีที่เก่ียวข้องกับการควบคุมตัวได้โดยไม่จาต้องแจ้ง ให้ทราบล่วงหนา้ รวมถงึ ให้คาแนะนาแก่หนว่ ยงานทรี่ บั ผดิ ชอบเพื่อประโยชนใ์ นการปฏบิ ตั ิตามพระราชบัญญตั ินี้ (๑๐) ติดตามตรวจสอบการทรมาน การกระทาท่ีโหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือที่ย่ายีศักดิ์ศรี ความเป็นมนุษย์ และการกระทาให้บุคคลสูญหายได้เองแม้ไม่มีผู้ร้องเรียน และสามารถรับเร่ืองร้องเรียน ทไ่ี ม่ระบุช่ือผรู้ ้องได้ (๑๑) รวมรวมข้อมูลสถิติคดี จัดทารายงานสถานการณ์ รายงานผลการดาเนินการประจาปี เก่ียวกับการทรมาน การกระทาที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือท่ีย่ายีศักด์ิศรีความเป็นมนุษย์ และการกระทาให้ บุคคลสูญหาย พร้อมทง้ั แนวทางแกไ้ ขปัญหา เสนอต่อคณะรัฐมนตรี รฐั สภา และเผยแพรต่ ่อสาธารณชน (๑๒) แต่งต้ังที่ปรึกษา อนุกรรมการ หรอื เจ้าหน้าท่ี เพอ่ื ปฏิบตั ติ ามที่คณะกรรมการมอบหมาย คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยตุ ธิ รรมและสทิ ธมิ นษุ ยชน สภาผแู้ ทนราษฎร
๗ (๑๓) วางระเบียบหรือประกาศเก่ียวกับค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติหน้าท่ี รวมท้ังค่าใช้จ่ายอื่น โดยไดร้ ับความเหน็ ชอบจากกระทรวงการคลัง (๑๔) วางระเบยี บอน่ื เพ่ือปฏิบตั ติ ามพระราชบัญญัตนิ ้ี (๑๕) ปฏิบัติหน้าที่อื่นตามท่ีกฎหมายกาหนดให้เป็นอานาจหน้าที่ของคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทรมานและการกระทาให้บุคคลสูญหาย มาตรา ๑๔ ให้กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพทาหน้าท่ีเป็นสานักงานเลขานุการของคณะกรรมการ โดยใหม้ หี นา้ ท่ีและอานาจ ดังตอ่ ไปนี้ (๑) ปฏิบัติงานธุรการสนับสนุน และอานวยความสะดวกในการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ ที่ปรึกษา หรือเจ้าหน้าที่ท่คี ณะกรรมการแตง่ ต้ัง (๒) ศกึ ษา รวบรวม วเิ คราะหข์ ้อมูลทเ่ี กี่ยวข้องกับการทางานของคณะกรรมการ (๓) เผยแพร่ความรู้ทางวิชาการแก่ประชาชน และเจ้าหน้าที่ของรัฐในเรื่องท่ีเก่ียวกับการทรมาน การกระทาที่โหดรา้ ยไรม้ นุษยธรรมหรือทยี่ า่ ยีศักดิศ์ รีความเป็นมนุษย์ และการกระทาใหบ้ คุ คลสญู หาย (๔) ประสานงานกับส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อประโยชนใ์ นการปฏิบตั ิงานของคณะกรรมการ (๕) ปฏบิ ตั ิการอน่ื ตามทค่ี ณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการมอบหมาย มาตรา ๑๕ ในการปฏิบัตหิ น้าที่ตามพระราชบัญญัตินี้ให้กรรมการ อนุกรรมการ และเจ้าหน้าที่ที่ คณะกรรมการแตง่ ต้ังเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา หมวด ๒ การป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทาให้บคุ คลสญู หาย สว่ นท่ี ๑ บทท่ัวไป มาตรา ๑๖ บุคคลย่อมมีสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย และศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ การทรมาน การกระทาที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือที่ย่ายีศักด์ิศรีความเป็นมนุษย์ และการกระทาให้บุคคล สญู หายจะกระทามิได้ ในกรณีท่ีมีการกระทาซ่ึงกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพตามวรรคหนึ่ง ผู้เสียหายมีสิทธิร้องทุกข์ ร้องเรียน และเข้าถึงความเป็นธรรมโดยได้รับความคุ้มครอง และการสนับสนุนช่วยเหลือจากรัฐ ผู้เสียหาย มีสิทธิได้รับการชดเชย และเยียวยาความเสียหายอย่างรวดเร็วและเพียงพอรวมถึงมาตรการการป้องกัน มิใหเ้ กดิ การละเมดิ ซา้ คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุตธิ รรมและสทิ ธมิ นุษยชน สภาผูแ้ ทนราษฎร
๘ ผู้เสียหาย พนักงานอัยการ หรือบุคคลอ่ืนใดหากกระทาเพ่ือประโยชน์ของผู้เสียหาย ชอบที่จะ เสนอคาร้องต่อศาลเพ่ือให้ศาลมีคาสั่งยุติหรือเพิกถอนการกระทาซึ่งกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพตามวรรคหน่ึง ทันที ทงั้ นี้ศาลอาจกาหนดวิธีการที่เหมาะสมเพ่ือคุ้มครอง ชดเชย และเยียวยาความเสียหายท่ีเกิดขน้ึ มาตรา ๑๗ รัฐมีหน้าท่ีคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพในชีวิตและร่างกาย และศักดิ์ศรีความ เป็นมนษุ ยข์ องบคุ คลทกุ คนโดยไม่เลอื กปฏบิ ตั ิ รัฐมีหน้าท่ีกาหนดมาตรการเพื่อป้องกันและปราบปรามการทรมาน การกระทาท่ีโหดร้าย ไรม้ นุษยธรรมหรือที่ย่ายีศกั ดิศ์ รีความเป็นมนุษย์ และการกระทาให้บคุ คลสญู หาย ในกรณีที่ปรากฏข้อร้องเรียนเก่ียวกับการกระทาซ่ึงกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพตามวรรคหน่ึง รัฐมีหน้าท่ีติดตามตรวจสอบข้อร้องเรียนเพ่ือนาตัวผู้กระทาความผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม และดาเนินการ อย่างเร่งด่วนเพ่ือช่วยเหลือ คุ้มครองสวัสดิภาพ และความปลอดภัย รวมถึงชดเชย เยียวยา และฟ้ืนฟูร่างกาย และจติ ใจของผ้เู สยี หาย สว่ นท่ี ๒ การปราบปรามการทรมานและการกระทาใหบ้ คุ คลสญู หาย มาตรา ๑๘ ผู้ใดเป็นเจ้าหน้าท่ีของรัฐกระทาด้วยประการใดต่อผู้อ่ืนอันเป็นการกระทา ในลักษณะการทรมานตามกฎหมายน้ี ผนู้ ้ันกระทาความผิดฐานกระทาทรมาน มาตรา ๑๙ ผู้ใดเป็นเจ้าหน้าท่ีของรัฐกระทาการด้วยประการใดต่อผู้อื่นอันเป็นการกระทา ในลักษณะการกระทาให้บคุ คลสูญหายตามกฎหมายน้ี ผู้นัน้ กระทาความผิดฐานกระทาให้บคุ คลสญู หาย มาตรา ๒๐ ผู้ใดเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทาการด้วยประการใดต่อผู้อื่นอันเป็นการกระทา ในลักษณะโหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือที่ย่ายีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ผู้น้ันกระทาความผิดฐานกระทาการ ที่โหดร้ายไร้มนษุ ยธรรมหรอื ท่ยี า่ ยศี ักดศิ์ รีความเป็นมนษุ ย์ มาตรา ๒๑ ถ้าการกระทาความผิดตามมาตรา ๑๘ มาตรา ๑๙ และมาตรา ๒๐ เป็นการ กระทาแก่บุคคลอายุไม่เกินสิบแปดปี หญิงมีครรภ์ ผู้พิการทางร่างกายหรือจิตใจ หรือผู้ซึ่งพึ่งตนเองมิได้เพราะ อายุหรอื ความป่วยเจบ็ ผู้กระทาตอ้ งระวางโทษหนกั กวา่ ที่บญั ญตั ไิ วส้ าหรับความผิดนนั้ กึ่งหน่งึ มาตรา ๒๒ ผู้ใดไม่ได้เป็นเจ้าหน้าท่ีของรัฐ กระทาการยุยง ส่งเสริม รู้เห็นเป็นใจ ให้ความยินยอม ในลักษณะเป็นผู้สมคบ ผู้ใช้ ผู้สนับสนุนตามประมวลกฎหมายอาญาแก่เจ้าหน้าท่ีของรัฐ หรือกระทาการ ตามคาส่ังของเจ้าหน้าท่ีของรัฐ หรือกระทาการอ่ืนใดในทานองเดียวกันเพื่อให้เกิดความผิดตามมาตรา ๑๘ มาตรา ๑๙ หรือมาตรา ๒๐ แล้วแต่กรณี ต้องระวางโทษเช่นเดียวกับตวั การในความผิดนั้น มาตรา ๒๓ ผู้ใดเป็นผู้บังคับบัญชาของผู้กระทาความผิดตามมาตรา ๑๘ มาตรา ๑๙ หรือ มาตรา ๒๐ และไม่ดาเนินการที่จาเปน็ และเหมาะสมตามอานาจของตน เพอื่ ป้องกันหรือยุติการกระทาความผิด คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยตุ ิธรรมและสิทธมิ นุษยชน สภาผแู้ ทนราษฎร
๙ หรือไม่ดาเนินการ หรือส่งเร่ืองให้ดาเนินการสอบสวนและดาเนินคดีอาญาตามกฎหมายต้องระวางโทษกึ่งหน่ึง ของโทษทกี่ าหนดไวส้ าหรับความผดิ นั้น ผู้บังคับบัญชาตามวรรคหน่ึงจะต้องเป็นผู้ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบ และมีอานาจควบคุมดูแล การกระทาซึง่ เกย่ี วข้องกบั การควบคุมตัวบคุ คล ผู้บังคับบัญชาตามวรรคหนึ่ง ไม่ต้องรับผิด หากพิสูจน์ได้ว่าตนไม่ทราบหรือควรจะทราบ หรือมไิ ดล้ ะเลยเพกิ เฉยต่อการกระทาความผดิ ของผู้อยู่ใต้อานาจบังคบั บญั ชาของตน มาตรา ๒๔ ถ้าผู้กระทาความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ช่วยให้มีการค้นพบผู้ถูกบังคับ ให้สูญหาย โดยผู้นั้นมิได้รับอันตรายสาหัสหรือตกอยู่ในภาวะอันใกล้จะเป็นอันตรายต่อชีวิต หรือให้ข้อมูล ที่สาคัญและเป็นประโยชน์ในการดาเนินคดี ให้ลงโทษผู้กระทาความผดิ น้อยกว่าทก่ี ฎหมายกาหนดไว้ แต่ไม่น้อยกว่า กง่ึ หนง่ึ มาตรา ๒๕ ผู้ใดกระทาความผิดฐานกระทาทรมาน ความผิดฐานกระทาการท่ีโหดร้าย ไร้มนุษยธรรมหรือท่ยี ่ายีศักด์ิศรีความเป็นมนุษย์ หรือความผิดฐานกระทาให้บุคคลสูญหายตามพระราชบัญญัติ น้ีนอกราชอาณาจักร ผู้นั้นต้องรับโทษในราชอาณาจักรตามท่ีกาหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ โดยให้นา มาตรา ๑๐ แหง่ ประมวลกฎหมายอาญา มาใช้บังคบั โดยอนโุ ลม มาตรา ๒๖ การกระทาความผิดฐานกระทาทรมาน ความผิดฐานกระทาการที่โหดร้าย ไร้มนุษยธรรมหรือที่ย่ายีศักด์ิศรีความเป็นมนุษย์ และความผิดฐานกระทาให้บุคคลสูญหายตามพระราชบัญญัตินี้ มิให้ถือว่าเป็นความผิดทางการเมืองตามกฎหมายว่าด้วยการส่งผู้ร้ายข้ามแดน และกฎหมายว่าด้วย ความรว่ มมือระหว่างประเทศในเรื่องทางอาญา มาตรา ๒๗ สถานการณ์ฉุกเฉิน สงคราม ความไม่มั่นคงของรัฐ หรือสถานการณ์พิเศษใด ไมอ่ าจนามาอา้ งเพื่อใหก้ ารกระทาความผดิ ตามพระราชบญั ญตั ินเี้ ปน็ การกระทาทชี่ อบด้วยกฎหมาย มาตรา ๒๘ ห้ามมิให้หน่วยงานของรัฐหรือเจ้าหน้าท่ีของรัฐส่งตัวบุคคลใดออกไปนอก ราชอาณาจักร หากมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าการส่งบุคคลดังกล่าวออกไปจะส่งผลให้บุคคลน้ันต้องตกอยู่ใน ความเสี่ยงจากการถูกทรมาน ถูกกระทาการที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือท่ีย่ายีศักด์ิศรีความเป็นมนุษย์ หรอื ถูกกระทาให้สญู หาย สว่ นที่ ๓ การปอ้ งกันการทรมานและการกระทาใหบ้ คุ คลสญู หาย มาตรา ๒๙ ในการควบคุมตัวบุคคล เจ้าหน้าท่ีของรัฐผู้มีหน้าที่ในการควบคุมตัวบุคคล ตอ้ งจัดให้มีบันทึกข้อมูลเกย่ี วกับผู้ถูกควบคุมตัวตามมาตรา ๓๐ และใหผ้ ู้ถูกควบคุมตัวมีสทิ ธิและได้รับแจ้งสิทธิ ดงั ต่อไปนี้ คณะกรรมาธกิ ารการกฎหมาย การยตุ ธิ รรมและสิทธมิ นษุ ยชน สภาผแู้ ทนราษฎร
๑๐ (๑) แจ้งให้ผู้ถูกควบคุมตัว และญาติหรือบุคคลท่ีผู้ถูกควบคุมตัวไว้วางใจทราบถึงวัน เวลา และสถานที่ของการถูกควบคุมตัว คาสั่งและเหตุแห่งการออกคาส่ังที่ให้มีการควบคุมตัว และข้อมูลหรือ รายละเอยี ดเก่ยี วกับผู้ใช้อานาจควบคมุ ตวั (๒) แจ้งให้ญาติหรือบุคคลที่ผู้ถูกควบคุมตัวไว้วางใจทราบถึงข้อมูลและรายละเอียดเก่ียวกับ วิธกี ารเคลอื่ นยา้ ยและสถานทีป่ ลายทางท่ีรบั ตัว ในกรณีทม่ี กี ารยา้ ยสถานที่ควบคุมตวั (๓) แจ้งให้ญาติหรือบุคคลที่ผู้ถูกควบคุมตัวไว้วางใจทราบถึงข้อมูลเบ้ืองต้นเกี่ยวกับสภาพ ร่างกายหรือจิตใจของผู้ถูกควบคุมตัว และรายละเอียดเก่ียวกับการปฐมพยาบาลและสถานพยาบาลที่รับตัว ในทันที กรณีทผี่ ู้ถูกควบคมุ ตวั เจบ็ ป่วยหรือบาดเจบ็ (๔) ไดร้ บั การเย่ยี มและตดิ ตอ่ กับญาติหรือบคุ คลที่ผถู้ ูกควบคุมตัวไวว้ างใจตามสมควร (๕) พบและปรึกษาผู้ซึ่งจะเป็นทนายความท่ีตนเลือกเป็นการเฉพาะตัว และมีสิทธิได้รับความ ชว่ ยเหลือทางกฎหมาย (๖) มีทนายความเข้าร่วมการสอบปากคา การสอบถามหรือซักถามโดยก่อนเริ่มการสอบปากคา การสอบถามหรือซักถามทุกครั้ง ต้องมีการระบุตัวตนของผู้ท่ีเข้าร่วมทุกคนและมีการบันทึกภาพและเสียง อย่างตอ่ เนือ่ งซึง่ สามารถเขา้ ถงึ และนากลับมาใช้ไดโ้ ดยความหมายไมเ่ ปลย่ี นแปลง (๗) ได้รบั การตรวจรา่ งกาย และการรักษาพยาบาลโดยเร็วโดยแพทย์ เมือ่ บาดเจ็บหรือเจบ็ ปว่ ย (๘) กรณผี ถู้ กู ควบคมุ ตวั เปน็ ชาวตา่ งชาติ ตอ้ งไดร้ บั อนญุ าตให้ตดิ ต่อกับเจ้าหนา้ ท่ีกงสลุ และล่าม (๙) ในกรณีท่ีผู้ถูกควบคุมตัวถึงแก่ความตายหรือได้รับบาดเจ็บจนไม่สามารถจัดการเองได้ ผู้เสยี หายมสี ิทธเิ ข้าไปมสี ่วนร่วมในการค้นหาความจรงิ เกีย่ วกับการตายหรอื บาดเจ็บของผู้ถูกควบคุมตวั ให้เจ้าหน้าท่ีของรัฐที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่แจ้งให้ผู้ถูกควบคุมตัวทราบในโอกาสแรกถึงสิทธิ ตามวรรคหน่ึง และมีหนา้ ท่อี านวยความสะดวกให้ผู้ถกู ควบคมุ ตวั เข้าถึงสทิ ธดิ งั กล่าว มาตรา ๓๐ ในการควบคุมตัวบุคคล เจ้าหน้าท่ีของรฐั ผู้มีหนา้ ที่รบั ผิดชอบต้องแจ้งการควบคุม ดังกล่าวต่อนายอาเภอและพนกั งานอัยการแหง่ ท้องทีท่ ่ีมีการควบคมุ ตัวทราบทันทโี ดยใหน้ าตัวบคุ คลดังกล่าวไป ยังท่ีทาการของผู้ควบคุมตัวทันที และจัดให้มีการบันทึกข้อมูลเก่ียวกับผู้ถูกควบคุมตัว โดยอย่างน้อยต้องมี รายละเอียด ดงั ตอ่ ไปนี้ (๑) ช่ือ นามสกุล รูปถ่าย ตาหนิรูปพรรณ รวมทั้งข้อมูลอ่ืนที่ใช้ระบุตัวบุคคล และสภาพ ร่างกายของผู้ถูกควบคุมตวั (๒) วัน เวลา และสถานที่ของการถูกควบคุมตัว และข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ทาการ ควบคมุ ตัว ในกรณีทีม่ ีการยา้ ยสถานที่ดังกลา่ ว จะต้องมีการระบถุ งึ สถานท่ีปลายทางทีร่ บั ตวั และเจ้าหน้าที่ของ รัฐผรู้ บั ผดิ ชอบการยา้ ยสถานท่ีควบคุมตวั น้ัน (๓) คาสง่ั ทีใ่ ห้มกี ารควบคุมตวั และเหตแุ ห่งการออกคาสัง่ นน้ั (๔) เจา้ หนา้ ที่ของรัฐผู้ออกคาส่ังให้มกี ารควบคุมตวั (๕) วัน เวลา และสถานที่ของการปล่อยตัว ผู้รบั ผิดชอบในการปล่อยตัว และญาติหรือบุคคล ท่ีมารับตัว หรอื พยานในการปล่อยตัว คณะกรรมาธกิ ารการกฎหมาย การยตุ ิธรรมและสทิ ธมิ นษุ ยชน สภาผแู้ ทนราษฎร
๑๑ (๖) ข้อมูลเก่ียวกับสภาพร่างกายของบุคคลผู้ถูกควบคุมตัว ทั้งก่อนควบคุมตัวและก่อน การปลอ่ ยตวั ในกรณีทีผ่ ู้ถกู ควบคมุ ตวั ถึงแก่ความตายจะต้องระบถุ ึงข้อมูลสาเหตุแห่งการตายและสถานทีเ่ กบ็ ศพ (๗) ข้อมลู เพ่อื ใช้ในการติดต่อญาติหรือบุคคลทผ่ี ู้ถูกควบคุมตัวไวว้ างใจ และทนายความ (หากม)ี (๘) ขอ้ มูลเกยี่ วกบั การดาเนินการเพอ่ื รบั ประกันสิทธิของผ้ถู ูกควบคมุ ตัวตามมาตรา ๒๙ (๙) ข้อมูลอื่น ๆ ที่คณะกรรมการกาหนดเพ่ือป้องกันการทรมาน การกระทาท่ีโหดร้าย ไรม้ นษุ ยธรรมหรอื ทย่ี า่ ยศี ักด์ศิ รีความเปน็ มนุษย์ หรือการกระทาใหบ้ ุคคลสญู หาย การแจง้ ตามวรรคหนึง่ จะใชว้ ิธีการทางอิเล็กทรอนิกสก์ ็ได้ ในการปล่อยตัวตาม (๕) ก่อนปล่อยตัวให้ผู้มีหน้าท่ีในการควบคุมตัวตามวรรคหนึ่งแจ้งญาติ หรือบุคคลท่ีผู้ถูกควบคุมตัวไว้วางใจให้ทราบถึงการปล่อยตัวและให้บันทึกไว้ด้วยว่ ามีผู้ใดมารับตัวไป หากไม่สามารถติดต่อญาติได้หรือไม่มีบุคคลใดมารับตัว ให้บันทึกวิธีการติดต่อญาติหรือบุคคลที่ผู้ถูกควบคุมตัว ไว้วางใจไว้ และให้ผู้รับผิดชอบในการปล่อยตัวจัดหาพยานในการปล่อยตัว พร้อมท้ังบันทึกชื่อ ท่ีอยู่ของพยาน น้ันไว้เพือ่ เป็นหลักฐานในการปลอ่ ยตัว มาตรา ๓๑ เพื่อประโยชน์ของผู้ถูกควบคุมตัว ญาติ บุคคล หรือคณะกรรมการ หรือ คณะอนุกรรมการ หรือเจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการ มีสิทธิร้องขอต่อเจ้าหน้าท่ีของรัฐให้ เปดิ เผยข้อมูลเกย่ี วกบั ผถู้ ูกควบคุมตวั ตามท่บี ัญญตั ไิ วใ้ นมาตรา ๓๐ หากเจา้ หนา้ ท่ีของรัฐตามวรรคหนงึ่ ปฏิเสธทีจ่ ะเปดิ เผยขอ้ มลู เกีย่ วกบั ผู้ถกู ควบคุมตวั ญาตหิ รือ บุคคลอื่นใดเพ่ือประโยชน์ของผู้ถูกควบคุมตัว คณะกรรมการ หรือคณะอนุกรรมการหรือเจ้าหน้าท่ี ท่ีได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการมีสิทธิร้องขอต่อศาลอาญาแห่งท้องที่ที่มีอานาจพิจารณาคดีอาญา เพือ่ ให้ศาลสงั่ เปิดเผยขอ้ มูลดงั กล่าวได้ ศาลมีอานาจสง่ั ให้เจ้าหนา้ ที่ของรัฐตามวรรคหน่ึง เปิดเผยข้อมูลตามทบ่ี ัญญัติไวใ้ นมาตรา ๒๙ ให้แก่ญาติหรือบุคคลอ่ืนใดเพื่อประโยชน์ของผู้ถูกควบคุมตัว คณะกรรมการ หรือคณะอนุกรรมการ หรือเจ้าหน้าท่ีที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการได้ คาสั่งศาลดังกล่าวให้อุทธรณ์ไปยังศาลช้ันอุทธรณ์ และให้คาสัง่ ศาลช้ันอุทธรณ์เปน็ ทสี่ ดุ มาตรา ๓๒ คาสั่งไม่เปิดเผยข้อมูลจะทาได้เฉพาะกรณีที่ศาลได้เรียกผู้ถูกควบคุมตัว มาสอบถามต่อหน้าศาล และมีหลักประกันว่าผู้ถูกควบคุมตัวจะไม่ถูกทรมาน หรือถูกกระทาการท่ีโหดร้าย ไร้มนุษยธรรมหรือท่ีย่ายีศักด์ิศรีความเป็นมนุษย์ หรือถูกกระทาให้สูญหาย และการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว อาจก่อให้เกิดอันตราย หรือละเมิดความเป็นส่วนตัวของผู้ถูกควบคุมตัว หรือเป็นอุปสรรคต่อการสืบสวน สอบสวนคดีอาญา มาตรา ๓๓ เมื่อมีการอ้างว่าบุคคลใดต้องถูกควบคุมตัว หรือปรากฏข้อร้องเรียนเกี่ยวกับ การทรมาน การกระทาที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือที่ย่ายีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หรือการกระทาให้ บุคคลสูญหาย บุคคลดังต่อไปน้ี มีสิทธิยื่นคาร้องต่อศาลอาญาหรือศาลยุติธรรมแห่งท้องท่ีที่มีอานาจพิจารณา คดอี าญา เพือ่ ให้มคี าสัง่ ยุติการกระทาเชน่ น้ันทนั ที (๑) ผู้เสียหาย คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธมิ นุษยชน สภาผู้แทนราษฎร
๑๒ (๒) พนกั งานอัยการ (๓) พนกั งานสอบสวนหรือพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ (๔) พนักงานฝ่ายปกครอง (๔) คณะกรรมการ หรือคณะอนกุ รรมการหรือเจา้ หนา้ ท่ีที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการ (๕) บุคคลอน่ื ใดเพอื่ ประโยชน์ของผ้ถู กู ควบคุมตวั ผู้มีสิทธิย่ืนคาร้องตามวรรคหนึ่งซึ่งใช้สิทธิโดยสุจริตเพ่ือประโยชน์ตามพระราชบัญญัตินี้ ย่อมได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย มาตรา ๓๔ เม่ือได้รับคาร้องตามมาตรา ๓๓ หรือเมื่อความปรากฏต่อศาลว่ามีการทรมาน การกระทาที่โหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือท่ีย่ายีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ หรือการกระทาให้บุคคลสูญหาย ให้ศาลดาเนินการไต่สวนฝา่ ยเดียวโดยทนั ที มาตรา ๓๕ เพื่อประโยชน์ในการยุติการทรมาน และเยียวยาความเสียหายเบื้องต้น หากศาลท่ีทาหน้าท่ีไต่สวนตามมาตรา ๓๔ เห็นว่าคาร้องนั้นมีมูล ศาลมีอานาจส่ังให้เจ้าหน้าท่ีของรัฐนาตัว ผู้ถูกควบคุมตัวมาศาลโดยพลัน หากปรากฏว่าการควบคุมตัวเป็นไปโดยมิชอบด้วยกฎหมาย หรือเกิด การทรมาน การกระทาที่โหดร้ายไรม้ นุษยธรรมหรือที่ยา่ ยีศักด์ิศรคี วามเป็นมนุษย์ หรือการกระทาให้บุคคลสูญหาย ในระหวา่ งการควบคมุ ตัว ศาลอาจมคี าส่ัง ดงั ต่อไปน้ี (๑) ปลอ่ ยผู้ถูกควบคุมตัวทันที (๒) ใหย้ ุตกิ ารทรมาน หรอื การกระทาท่โี หดร้ายไร้มนุษยธรรมหรอื ทย่ี ่ายีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ (๓) เปลีย่ นสถานที่ควบคุมตัว (๔) ใหผ้ ้เู สยี หายไดพ้ บญาติ ทนายความ หรอื บคุ คลอนื่ ทไี่ ว้วางใจเป็นการส่วนตวั (๕) ใหม้ ีการรักษาพยาบาลรวมทง้ั การฟนื้ ฟูร่างกายและจติ ใจ (๖) ให้เปดิ เผยเอกสารบันทกึ หรือขอ้ มลู อ่นื ใด (๗) เยยี วยาเบอื้ งต้นทางด้านการเงนิ (๘) กาหนดมาตรการอื่นใดท่ีเหมาะสมเพื่อประโยชน์ในการระงับการกระทาหรือเยียวยา เบอ้ื งตน้ กับผู้เสยี หาย เมื่อศาลมีคาส่ังตามวรรคหน่ึงอย่างไรแล้ว ให้ผู้ร้องแจ้งคาส่ังศาลดังกล่าวไปยังคณะกรรมการ เพ่อื ดาเนินการตามอานาจหน้าทต่ี ่อไป ให้คณะกรรมการ หรือคณะอนุกรรมการหรือเจ้าหน้าท่ีที่ได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการ มีอานาจหน้าทีย่ ่ืนคาร้องให้ศาลกาหนดมาตรการที่เหมาะสมเพื่อประโยชนใ์ นการป้องกัน และการฟืน้ ฟเู ยยี วยา เบื้องตน้ แก่ผเู้ สยี หาย ซึง่ รวมทั้งการรกั ษาพยาบาล การฟ้นื ฟูสภาพรา่ งกายและจิตใจ และการเงิน คาสัง่ ศาลตามมาตรานี้ อาจอุทธรณ์ไปยงั ศาลช้นั อุทธรณ์กไ็ ด้ คาสัง่ ศาลช้ันอุทธรณ์ถือเป็นที่สดุ มาตรา ๓๖ ในกรณีที่ผู้ถูกควบคุมตัวถึงแก่ความตาย เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบจะต้องประสานงาน อย่างเร่งด่วนเพื่อจัดทาสานวนชันสูตรพลิกศพตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาว่าด้วยการ ชนั สตู รพลิกศพ และต้องดาเนนิ การดังต่อไปน้ีด้วย คณะกรรมาธกิ ารการกฎหมาย การยตุ ธิ รรมและสทิ ธมิ นษุ ยชน สภาผู้แทนราษฎร
๑๓ (๑) เก็บรักษาสถานที่เกิดเหตุเพื่อป้องกันไม่ให้บุคคลเข้าไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน และประสานงานกับหน่วยงานที่มีอานาจหน้าที่ตรวจพิสูจน์หลักฐานเพื่อเก็บและรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิด เหตุ (๒) ติดต่อครอบครัวหรือญาติของผู้ตายเพ่ือให้มีส่วนร่วมในการค้นหาความจริงเก่ียวกับการตาย (๓) ประสานงานกับคณะกรรมการหรือสานักงานเพื่อให้มีส่วนร่วมในการติดตามตรวจสอบ ข้อมลู ขอ้ เท็จจรงิ เกย่ี วกับการทรมานในระหวา่ งควบคุมตัว มาตรา ๓๗ ในกรณีท่ีปรากฏต่อศาลว่าพยานหลักฐานใดเป็นพยานหลักฐานท่ีได้มาโดย อาศัยข้อมูลท่ีเกิดข้ึน หรือได้มาเนื่องจากการทรมาน การกระทาท่ีโหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือท่ีย่ายีศักด์ิศรี ความเป็นมนุษย์ หรือการกระทาให้บุคคลสูญหาย ห้ามมิให้ศาลรับฟังพยานหลักฐานน้ัน เว้นแต่เป็นการรับฟัง พยานหลกั ฐานเพอื่ ดาเนนิ คดกี ับผู้กระทาความผดิ ตามพระราชบัญญตั ินี้ มาตรา ๓๘ ผู้ใดพบเห็น หรือทราบการทรมาน การกระทาท่ีโหดร้ายไร้มนุษยธรรมหรือที่ ย่ายศี กั ด์ศิ รีความเปน็ มนุษย์ หรือการกระทาใหบ้ ุคคลสูญหาย ให้แจ้งพนกั งานฝ่ายปกครอง หรือพนักงานสอบสวน คณะกรรมการ หรอื คณะอนุกรรมการที่ได้รบั มอบหมายโดยไม่ชักช้า ให้พนักงานฝ่ายปกครอง หรือพนักงานสอบสวน หรือเจ้าหน้าท่ีที่ได้รับมอบหมายจาก คณะกรรมการ หรือ คณะอนุกรรมการที่ได้รับแจ้งตามวรรคหนึ่งส่งเร่ืองให้คณะกรรมการ หรือคณะอนุกรรมการท่ี ได้รับมอบหมายโดยทันที เพ่ือให้คณะกรรมการ หรือคณะอนุกรรมการดาเนินการติดตาม สืบหา ช่วยเหลือ ผู้เสียหาย ดาเนินการระงับการกระทาความผิด ดาเนินคดีกบั ผู้ถูกกลา่ วหาว่ากระทาความผิด และเยียวยาผู้เสยี หาย ตามพระราชบัญญตั ิน้ี ทง้ั น้ี การแจ้งนนั้ จะใชว้ ิธกี ารทางอิเล็กทรอนกิ ส์กไ็ ด้ บุคคลซ่ึงใช้สิทธิโดยสุจริตในการแจ้งความหรือร้องเรียนต่อคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ หรือหน่วยงานของรัฐตามวรรคหนึ่ง เพื่อประโยชน์ในการป้องกันและปราบปรามการทรมาน การกระทา ทโี่ หดรา้ ยไร้มนุษยธรรมหรือทยี่ า่ ยีศกั ด์ิศรคี วามเป็นมนุษย์ หรอื การกระทาให้บุคคลสูญหาย ย่อมได้รบั ความคุ้มครอง ภายใต้มาตรการซึ่งคณะกรรมการกาหนดตามพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้รวมถึงจากการถูกดาเนินคดีอาญา คดแี พง่ หรือคดปี กครอง แมห้ ากภายหลังปรากฏว่าไมม่ กี ารกระทาความผิดท่ีไดร้ ับแจง้ ดว้ ย มาตรา ๓๙ ให้พนักงานสอบสวนดาเนินการสืบสวนสอบสวนคดีความผิดเกี่ยวกับ การกระทาให้บุคคลสูญหายอย่างต่อเน่ืองจนกว่าจะพบบุคคลท่ีถูกกระทาให้สูญหาย หรือปรากฏหลักฐานน่า เช่ือว่าบคุ คลนน้ั ถงึ แก่ความตาย ความในวรรคหนึ่งให้ใช้กบั บคุ คลทีถ่ กู กระทาให้สญู หายไปก่อนพระราชบัญญัตินมี้ ผี ลใช้บงั คบั ดว้ ย หมวด ๓ การดาเนินคดี คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุตธิ รรมและสิทธมิ นษุ ยชน สภาผ้แู ทนราษฎร
๑๔ มาตรา ๔๐ ให้ผู้เสียหายในคดีความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ เป็นผู้เสียหายตามประมวล กฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๔๑ ให้การกระทาความผิดฐานกระทาให้บุคคลสูญหายตามพระราชบัญญัตินี้ เป็นความผิดต่อเนื่องตลอดเวลาจนกว่าจะเปิดเผยชะตากรรมหรือปล่อยตัวบุคคลที่ถูกควบคุมตัว และมิให้ เร่ิมนับอายุความจนกว่าจะพบบุคคลท่ีถูกกระทาให้สูญหาย หรือปรากฏหลักฐานน่าเชื่อว่าบุคคลนั้นถึง แกค่ วามตาย และใหด้ าเนินการสืบสวนสอบสวนจนกว่าจะพบบุคคลทีถ่ ูกกระทาใหส้ ญู หายหรือปรากฏหลักฐาน นา่ เชื่อว่าบคุ คลน้นั ถึงแก่ความตาย มาตรา ๔๒ ความผดิ ตามพระราชบัญญัตนิ ี้ ไมม่ ีอายุความ มาตรา ๔๓ ให้พนักงานอัยการมีอานาจสอบสวนดาเนินคดีความผิดตามพระราชบัญญัติน้ี รวมทงั้ มีอานาจเข้าตรวจสอบควบคมุ การสอบสวนซ่งึ ดาเนินการโดยพนักงานสอบสวนทุกหน่วยทันที การดาเนินคดีตามพระราชบัญญัตินี้ ไม่อยู่ในอานาจของคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ และบทบัญญัติ มาตรา ๒๑/๑ ตามกฎหมายว่าดว้ ยการสอบสวนคดีพเิ ศษไม่นามาใช้บงั คบั กบั ความผดิ ตามพระราชบญั ญตั นิ ้ี มาตรา 44 ในกรณีท่ีพนักงานอัยการมีคาส่ังไม่ฟ้อง ให้ส่งสานวนการสอบสวนพรอ้ มกับคาส่ัง ใหอ้ ยั การสูงสุดเพื่อชขี้ าดโดยเร็ว มาตรา 45 ให้หน่วยงานที่มีอานาจสืบสวนสอบสวนในคดีความผิดตามพระราชบัญญัติน้ี รายงานใหผ้ ู้เสียหายทราบถึงผลความคืบหน้าของคดีอย่างต่อเน่ือง และให้คณะกรรมการ หรอื คณะอนุกรรมการ หรือเจ้าหน้ าที่ ท่ีได้รับมอบหมายจากคณะกรรมการมีอานาจหน้าที่ติดตามผลความคืบหน้ าของคดี และดาเนิ น มาตรการต่าง ๆ เพ่ือคุ้มครองสวัสดิภาพและความปลอดภัย ชดเชย เยียวยา และฟ้ืนฟูความเสียหายทางร่างกาย และจิตใจ ให้คาปรึกษาแนะนาด้านกฎหมาย และสนับสนุนช่วยเหลือด้านการดาเนินคดี โดยการมีส่วนร่วมจาก ผเู้ สยี หาย มาตรา ๔๖ เม่ือศาลมีคาพิพากษาถึงที่สุดว่าจาเลยกระทาความผิดตามกฎหมายน้ี ให้คณะกรรมการมีหน้าท่ีพิจารณากาหนดค่าเสียหาย รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการเยียวยาและฟื้นฟูร่างกายและ จิตใจของผู้เสียหายทั้งหมดแจ้งให้หน่วยงานของรัฐผู้รับผิดชอบทราบ และดาเนินการจ่ายเงินค่าเสียหายตามที่ คณะกรรมการกาหนดภายในสามสบิ วัน นับแตว่ นั ที่ไดร้ ับแจ้งจากคณะกรรมการ มาตรา 47 ให้คดีความผิดตามพระราชบัญญัติน้ี อยู่ในเขตอานาจการพิจารณาพิพากษาคดี ของศาลอาญาคดีทจุ ริตและประพฤตมิ ชิ อบ หมวด ๔ บทกาหนดโทษ คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุตธิ รรมและสิทธมิ นุษยชน สภาผู้แทนราษฎร
๑๕ มาตรา 48 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๑๘ และมาตรา ๑๙ ต้องระวางโทษจาคุกตั้งแต่ห้าปีถึงสิบห้าปี และปรบั ตง้ั แต่หน่ึงแสนบาทถึงสามแสนบาท ถา้ การกระทาความผิดตามวรรคหนง่ึ เป็นเหตุใหผ้ ู้ถูกกระทาได้รับอันตรายสาหัส ผกู้ ระทาต้อง ระวางโทษจาคุกต้ังแต่สบิ ปีถงึ ย่สี ิบหา้ ปี และปรบั ตัง้ แตส่ องแสนบาทถึงหา้ แสนบาท ถ้าการกระทาความผิดตามวรรคหน่ึงเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทาถึงแก่ความตาย ผู้กระทาต้อง ระวางโทษจาคกุ ตงั้ แตส่ บิ หา้ ปีถึงสามสบิ ปีหรือจาคุกตลอดชีวิต และปรับตง้ั แต่สามแสนบาทถึงหน่งึ ล้านบาท มาตรา 49 ผู้ใดกระทาความผิดตามมาตรา ๒๐ ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินห้าปี และปรับ ไมเ่ กนิ หนง่ึ แสนบาท มาตรา 50 ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา ๑๓ (๘) (๙) ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสามเดือน หรือ ปรับไมเ่ กินหกหมน่ื บาท มาตรา ๕๑ ผู้ใดเป็นเจ้าหน้าท่ีของรัฐไม่ดาเนินการเพื่อคุ้มครองสิทธิของผู้ถูกควบคุมตัวตาม มาตรา ๒๙ หรือจัดการบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับการควบคุมตัวตามมาตรา ๓๐ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อขัดขวาง การคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของผู้ถูกควบคุมตัว ผู้น้ันต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหน่ึงปี หรือปรับไม่เกิน สองหมืน่ บาท หรอื ท้ังจาทง้ั ปรบั ............................................... ............................................... คณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยตุ ธิ รรมและสทิ ธมิ นษุ ยชน สภาผู้แทนราษฎร
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 633
Pages: