๑๕ ๖) มีศูนย์ประสานงานและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศในกรุงเทพมหานคร ต้ังอยู่ที่ห้องประชุม ๒ ชั้น ๒ สานักส่ิงแวดล้อม อาคารสานักการโยธา ศาลาการกรุงเทพมหานคร ๒ ดินแดง : เพ่อื ตดิ ตามและแกไ้ ขสถานการณ์ปญั หาอย่างใกลช้ ดิ และเป็นเอกภาพ ๗) ศึกษาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ในการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศ กรุงเทพมหานครได้รับการสนับสนุนจากภาคเอกชนได้ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศบริเวณหน้าศูนย์การค้า เซ็นทรัลเวิลด์ ถนนราชดาริ เขตปทุมวัน ตรงข้ามโรงแรมอโนมาแกรนด์ ซ่ึงหากผลการศึกษาพบว่าสามารถ ช่วยแก้ไขปัญหาและลดผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ได้ กรุงเทพมหานครจะขยายผลไปยัง พนื้ ท่ีอ่นื ตอ่ ไป ๘) กรุงเทพมหานครได้รับการประสานงานจากมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อติดต้ังเครื่องบาบัดอากาศที่มีมลพิษและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ต้นแบบ ในพื้นท่ีเปิด ซ่ึงออกแบบโดย ดร.ธงชัย เมธนาวิน ท่ีปรึกษากิตติมศักด์ิ โครงการสร้างเคร่ืองบาบัดฝุ่นละออง ขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ของมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ฯ จานวน ๔ เครื่อง บริเวณอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เกาะพญาไทและเกาะราชวิถีเกาะละ ๒ เครื่อง เขตราชเทวี ต้ังแต่วันที่ ๒๓ มกราคม ๒๕๖๓ เป็นต้นไป จนหมดฤดูหนาว โดยกรมควบคุมมลพิษได้นาเครื่องตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบติดตั้งภายนอกอาคารมาติดตั้ง เพอ่ื ประเมินผลการทางานของเครอ่ื งตอ่ ไป ๙) ประชุมหารือการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และกองบัญชาการ ตารวจนครบาล (บชน.) เพ่ือแก้ไขการจราจรติดขัดตามแนวการก่อสร้างรถไฟฟ้า โดยมีผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานคร เป็นประธานฯ โดยเรง่ รดั ดาเนินการ ๑๒ ขอ้ ดงั น้ี ๑. ปัญหาการวางแนวแบรเิ ออร์ ให้จดั วางให้ตรงตามแนวเส้นทางจราจร ๒. ปัญหาช่องทางกลับรถคับแคบ ให้เปิดช่อง U - Turn ให้กว้าง เพื่อให้รถยนต์ กลับรถไดส้ ะดวกขนึ้ ๓. เสนอให้ขนย้าย กองดนิ เศษหิน เศษปนู ทรายออกจากพ้นื ทกี่ ่อสร้างในทนั ที ๔. เสนอเร่งแก้ไขผวิ จราจรใหเ้ รยี บรอ้ ย ๕. แนวก่อสร้างทย่ี ังไมเ่ ริ่มก่อสรา้ ง แตไ่ ดว้ างแผงแบรเิ ออร์ เสนอใหเ้ ปดิ ช่องทางชั่วคราว ๖. เสนอใหเ้ รง่ ก่อสรา้ งงานฐานราก เพอ่ื แกไ้ ขปญั หาคอขวดทสี่ ะพาน ๗. เสนอให้จัดระเบยี บรถบรรทกุ ในพ้นื ที่ ๘. เสนอปรับผวิ จราจรใหเ้ ปน็ ชอ่ งจราจรช่ัวคราวเพมิ่ ขึ้น ๙. ปัญหาพ้ืนท่ีที่ยังไม่ได้เร่ิมก่อสร้าง แต่ปิดช่องจราจร เสนอเปิดช่องจราจร เป็นคร้ังคราวในพื้นที่ ๑๐. ปัญหาการเปิดแนวแบริเออร์แล้วไม่ปิดให้เรียบร้อย เสนอให้ปิดกั้นให้เรียบร้อย เพอ่ื ความปลอดภัย ๑๑. เสนอติดตัง้ ไฟฟา้ ชั่วคราวตามแนวการกอ่ สรา้ ง ๑๒. เสนอปิดกัน้ พ้ืนที่กอ่ สร้างและจัดทาทางสญั จรอยา่ งปลอดภยั โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) พร้อมดาเนินการ สาหรับจุดกลับรถ กองบัญชาการตารวจนครบาล (บช.น.) รับไปพิจารณา และกาชับให้สานักการโยธา กวดขนั การดาเนินงานของผู้รับเหมาอย่างต่อเน่ือง ซงึ่ มาตรการดังกลา่ วจะสามารถบรรเทาปัญหาการจราจรได้ ๓๐ เปอร์เซน็ ต์ ๑๐) กรงุ เทพมหานครได้กาหนดจัดงานเสวนา “ร่วมมอื ร่วมใจ แกไ้ ขวกิ ฤต PM ๒.๕” เพ่ือสร้างการมีส่วนรว่ มจากทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ เมื่อวันศุกร์ที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๖๒
๑๖ เวลา ๐๙.๐๐ – ๑๑.๓๐ น. ณ ห้องประชุมชั้น ๑ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เขตปทุมวัน โดยมีผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเป็นประธานในพิธีเปิดการเสวนาฯ และได้เชิ ญวิทยากรจากสถาบัน การศึกษา และหน่วยงานภาครัฐ รวมทั้งผู้เข้าร่วมเสวนาประกอบด้วย ผู้ประกอบการขนส่ง ผู้แทนระบบ ขนส่งมวลชนกรุงเทพ ผู้ประกอบการอาคารสูง ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า ผู้แทนชุมชน/ประชาชน ผู้ประกอบการท่ีใช้ หม้อไอน้า ผู้แทนศาสนสถานท่ีมีการจุดธูปเทียน หรือวัดที่มีฌาปนสถาน/เตาเผาศพ ผู้ทรงคุณวุฒิจาก สถาบันการศึกษา นักเรียน นักศึกษา และผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐทั้งภายใน และภายนอก สังกัดกรุงเทพมหานคร เป็นต้น เพื่อระดมความคิดเห็นและหาทางแก้ไขวิกฤตฝุ่นละออง ขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ท่ีเหมาะสมและยั่งยืน โดยเห็นตรงกันว่าจาเป็นต้องแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ท่แี หลง่ กาเนดิ โดยเฉพาะการควบคุมการใช้รถยนตด์ ีเซลเปน็ ลาดบั แรก ๑๑) ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครในฐานะผู้มีอานาจตัดสินใจในการดาเนินมาตรการ เพ่ือลดฝุ่นละอองในพ้ืนท่ีแบบ Single Command ได้เชิญผู้เก่ียวข้องให้ข้อมูลการดาเนินงานเพ่ือลดฝุ่นละออง ขนาดเล็ก (PM ๒.๕) เม่ือวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๓ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันจัดทามาตรการ /แนวทางการดาเนินมาตรการลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) เมอ่ื วนั ที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๓ สาหรับเปน็ แนวทาง ให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ดาเนนิ การตามสถานการณป์ ญั หาฝุ่นละอองต่อไป ๑๒) เผยแพรข่ อ้ มูลคณุ ภาพอากาศ ปัจจุบันกรุงเทพมหานครได้มีการพัฒนาระบบข้อมูลการจัดการคุณภาพอากาศ เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลคุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานครและกรมควบคุมมลพิษเข้าด้วยกัน เป็นข้อมูลคุณภาพ อากาศในภาพรวมของกรุงเทพมหานครท้ังหมด ซ่ึงขณะนี้กาลังอยู่ระหว่างการจัดทาแอปพลิเคชันข้อมูล คุณภาพอากาศของกรุงเทพมหานคร โดยประชาชนสามารถเข้าไปดูข้อมูลและมีการแจ้งเตือนก่อนเข้าพ้ืนที่ และเม่ืออยู่ในพ้ืนที่ที่มีค่ามลพิษเกินมาตรฐาน โดยจะสามารถพร้อมให้ทดทองใช้งานในเดือนธันวาคม ๒๕๖๒ และในอนาคตจะมีการเผยแพร่ข้อมูลคุณภาพอากาศด้วยรถติดต้ังจอแสดงผล Display Board จานวน ๒ คัน โดยเชื่อมต่อกับข้อมูลคุณภาพอากาศจากสถานีตรวจวัดฯ ของกรุงเทพมหานครทั้ง ๕๐ สถานี และรถตรวจวัดฯ จานวน ๔ สถานี ๓. แนวทางการป้องกนั และแก้ไขปญั หาในระยะยาว มาตรการในระยะยาว กรุงเทพมหานครจะประสานหน่วยงานที่เกีย่ วข้องเพ่ือผลักดัน ดังนี้ ๑) ปรับปรุงมาตรฐานการระบายไอเสยี รถยนตแ์ ละคุณภาพนา้ มันเชอื้ เพลงิ ๒) พฒั นาโครงขา่ ยการให้บรกิ ารขนสง่ สาธารณะใหเ้ ช่อื มโยงทกุ ระบบ ๓) รณรงค์ส่งเสริมและจูงใจให้ประชาชนใช้ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ/เพ่ิมทางเลือก การเดนิ ทางแทนการใช้รถยนตส์ ่วนบคุ คล ๔) จดั หาพื้นทจ่ี อดแล้วจร เพื่อสง่ เสรมิ ให้ประชาชนใชร้ ะบบขนส่งสาธารณะ ๕) เพม่ิ พนื้ ทีส่ ีเขียว ๕. กระทรวงสาธารณสุขโดยกรมอนามยั ได้ใหข้ อ้ มลู ตอ่ ท่ปี ระชุม ดังนี้ ๑. ผลกระทบตอ่ สุขภาพจากฝนุ่ ละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) มลพิษทางอากาศเป็นปัญหาและคุกคามสุขภาพของคนท่ัวโลก องค์การอนามัยโลก (WHO) คาดประมาณว่า มีคนเสียชีวิตก่อนวัยอันควรจากการได้รับฝุ่นละอองขนาดเล็ก ถึง ๔.๒ ล้านคนต่อปี โดยเสียชีวิตจากโรคหลอดเลือดหัวใจ โรคระบบทางเดินหายใจ และโรคมะเร็งปอด ซ่ึงร้อยละ ๙๑ ของผ้เู สียชีวติ อาศยั อยใู่ นบริเวณแถบภูมภิ าคท่มี ีระดบั คุณภาพอากาศเกินเกณฑก์ าหนด
๑๗ ในขณะเดียวกันปัญหามลพิษทางอากาศในประเทศไทยก็มีแนวโน้มความรุนแรงมากขึ้น เช่นกัน ระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๕๔ - ๒๕๖๒ กรมควบคุมมลพิษ ได้รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน ๒.๕ ไมครอน (PM ๒.๕) ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและเขตปริมณฑล และพ้ืนท่ีเสี่ยง ๓๓ จังหวัดทั่วประเทศ พบว่าค่า ระดับปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน ๒.๕ ไมครอน (PM ๒.๕) เร่ิมมีแนวโน้มสูงขึ้นจนอยู่ในระดับ เกินมาตรฐาน อย่างต่อเนื่องและมีปริมาณอยู่ในระดับที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน (มาตรฐาน ประเทศไทย ค่าเฉล่ีย ๒๔ ช่ัวโมง ไม่เกิน ๕๐ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร) โดยมีแหล่งกาเนิดท่ีสาคัญ จากยานพาหนะโดยเฉพาะท่ีใช้เครื่องยนต์ดีเซล โรงงานอุตสาหกรรมและการเผาในที่โล่ง ฯลฯ จากปัญหาดังกล่าว กระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องดาเนินการเฝ้าระวังผลกระทบสุขภาพประชาชน เพ่ือให้ได้ รับทราบข้อมูล แนวโน้มสถานการณ์เพ่ือใช้ประโยชน์ในการวางแผนและกาหนดนโยบายในการป้องกันควบคุม และดูแลสุขภาพประชาชน ตามรายละเอียดดังนี้ ๑) การเฝ้าระวังผลกระทบสุขภาพจากปัญหามลพิษอากาศฝุ่นละอองขนาดเล็ก ในพื้นที่ กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จากข้อมูลการเฝ้าระวังผลกระทบสุขภาพจากมลพิษอากาศฝุ่นละอองขนาดเล็ก ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล จากโรงพยาบาลเครือข่าย ๒๒ แห่งของกองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ระหว่างวันท่ี ๑ มกราคม ๒๕๖๒ - ๑๑ มกราคม ๒๕๖๓ พบผู้ป่วยเข้ารับการรักษาพยาบาลด้วยโรคหอบหืด มากท่ีสุด รองลงมาคือ โรคหลอดลมอุดกั้นเรื้อรัง โรคระบบทางเดินหายใจอ่ืน ๆ และโรคหัวใจขาดเลือดเฉียบพลัน ตามลาดับ โดยพบการรายงานผู้ป่วยสูงสุดระหว่างเดือน ธันวาคม - กุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นช่วงท่ีมี ค่าระดับคุณภาพ อากาศฝุ่นละอองขนาดเล็กสูงข้ึนในพ้ืนที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล เม่ือเทียบกับ ชว่ งเวลาอนื่ ๆ และมแี นวโนม้ การรายงานสูงขนึ้ ตามค่าระดับคณุ ภาพอากาศในชว่ งเวลาดังกลา่ ว ๒) การเฝ้าระวังผลกระทบสุขภาพจากมลพิษอากาศฝุ่นละอองขนาดเล็ก ในจังหวัดพ้ืนที่เสี่ยง ในสว่ นภมู ิภาค (ระดบั เขต และจังหวดั ) ๓๓ จงั หวัด จากข้อมูลการเฝ้าระวังผลกระทบสุขภาพจากมลพิษอากาศฝุ่นละอองขนาดเล็ก ในพ้ืนที่เขตสุขภาพที่ ๑ พ้ืนท่ีหมอกควันภาคเหนือ ๙ จังหวัด ระหว่างวันท่ี ๒๙ ธันวาคม ๒๕๖๒ ถึง ๑๘ มกราคม ๒๕๖๓ พบเป็นผู้ป่วยกลุ่มโรคหัวใจและหลอดเลือดทุกชนิด กลุ่มโรคทางเดินหายใจทุกชนิด กลมุ่ โรคปอดอกั เสบเรือ้ รงั และกล่มุ โรค Asthma ๒. มาตรการและวิธกี ารปฏิบัติของกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง ได้เตรียมการรับมือกับฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕ )โดยให้ความสาคัญกับการดูแลคุ้มครองสุขภาพประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก หญิงต้ังครรภ์ ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจาตัว และคนทางานกลางแจ้ง ระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๖๑ - ๒๕๖๓ กระทรวงสาธารณสุขได้กาหนดและดาเนินการตามมาตรการสาคัญเพ่ือการป้องกันและลดผลกระทบ ตอ่ สุขภาพจากฝนุ่ ละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ประกอบดว้ ย ๕ มาตรการสาคัญ ดงั น้ี ๒.๑ มาตรการเฝ้าระวงั และแจ้งเตอื นภัยสุขภาพจากคา่ ระดับคุณภาพอากาศ ๑) จัดทาคาสั่งกระทรวงสาธารณสุข เร่ือง ศูนย์อานวยการตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน ด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีฝุ่นละอองขนาดเล็ก และประชุมทางไกล ( Video conference) การเฝ้าระวังผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน ๒.๕ ไมครอน (PM ๒.๕) เพื่อเตรียมการรับมือ ดา้ นการแพทย์และสาธารณสุขใหก้ ับหนว่ ยงานสาธารณสุขในระดับจังหวดั และเขตสุขภาพ โดยมปี ลดั กระทรวง สาธารณสขุ เป็นประธาน
๑๘ ๒) เปิดศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข (Public Health Emergency Operation Center : PHEOC) กรณีฝุ่นละอองขนาดเล็ก ทั้งในระดับจังหวัด ระดบั เขต และส่วนกลาง ๓) เฝา้ ระวงั ตดิ ตามสถานการณ์ฝนุ่ ละอองขนาดเล็ก ประเมนิ ความเสย่ี งต่อสุขภาพ และสื่อสารแจง้ เตอื นประชาชนทุกวัน ๔) เฝ้าระวังมลพิษทางอากาศในอาคาร เน้นกลุ่มเส่ียง ได้แก่ ศูนย์เด็กเล็ก ศูนย์ดูแล ผ้สู งู อายุ โรงเรยี นและสถานบรกิ ารสาธารณสขุ ๒.๒ มาตรการเฝา้ ระวงั ผลกระทบสขุ ภาพจากมลพิษอากาศ ๑) การเฝ้าระวังการเจ็บป่วยท่ีเกี่ยวข้องกับฝุ่นละอองขนาดเล็ก ในพื้นท่ี กรุงเทพมหานครและเขตปริมณฑลจากเครือข่ายโรงพยาบาล ๒๒ แห่ง และเฝ้าระวังใน ๓๓ จังหวัดพื้นท่ีเส่ียง โดยเฝ้าระวังใน ๔ กลุ่มโรค ได้แก่ โรคระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจและหลอดเลือด ระบบผิวหนัง ระบบตาและอนื่ ๆ รวมทั้งผลกระทบในระยะยาว เช่น โรคมะเร็ง เปน็ ตน้ ๒) ตอบโต้ข่าวและติดตามสอบสวนผู้ป่วยและผู้ได้รับผลกระทบกรณีข่าว และการรายงานเกีย่ วกับผลกระทบสุขภาพจากฝนุ่ ละอองทรี่ ุนแรง ๒.๓ มาตรการดา้ นการสื่อสาร สร้างความเข้าใจและความรอบรูแ้ กป่ ระชาชน ๑) จัดทาชุดความรู้ และส่ือสารชุดความรู้ผ่านช่องทางต่าง ๆ ในทุกระดับ เช่น infographic VTR เสยี งตามสาย ขอ้ ความตัววิ่ง บทความวิทยแุ ละโทรทัศน์ Application อาสาสมคั รสาธารณสุข ประจาหมบู่ ้าน ฯลฯ ๒) สนับสนุนองค์ความรู้และข้อมูล ส่ือประชาสัมพันธ์ เผยแพร่ความรู้เรื่องฝุ่นละออง ขนาดเลก็ และแนวทางการปฏบิ ตั ิงานแกเ่ จา้ หน้าทีส่ าธารณสขุ จังหวัดและองค์กรปกครองสว่ นท้องถ่นิ ๓) สื่อสารความรู้ ทั้งผลกระทบต่อสุขภาพ การป้องกันตนเอง การจัดการ สภาพแวดลอ้ มผา่ นช่องทางต่าง ๆ ๔) ลงพื้นทีใ่ ห้ความรู้เชิงรุกในระดบั ชมุ ชน โดยเฉพาะในกลมุ่ เส่ยี ง ๒.๔ มาตรการด้านการจัดระบบบรกิ ารและตแู ลสขุ ภาพประชาชน ๑) สนับสนุนอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคลแก่ประชาชน เพื่อลดความเส่ียงการสัมผัส มลพษิ อากาศ ไดแ้ ก่ หน้ากากอนามยั หนา้ กาก N๙๕ โดยเฉพาะกลมุ่ เสีย่ งเป็นสาคญั เป็นตน้ ๒) เปิดคลินิกมลพิษให้การรกั ษาผูป้ ่วยในพ้ืนที่เส่ยี ง และเปิดคลินิกมลพิษออนไลน์ เพ่ือใหค้ าปรึกษาแกป่ ระชาชน (www.pollutionclinic.com) ๓) เปดิ หอ้ งปลอดฝุน่ ในสถานพยาบาล ศนู ย์เดก็ เล็ก ชุมชนในพื้นทเ่ี สยี ง เปน็ ตน้ ๔) เตรียมความพร้อมของแพทย์ พยาบาล และเวชภัณฑ์ในสถานบริการ สาธารณสขุ ในพนื้ ทเี่ ส่ียงทกุ แห่ง และทีมหมอครอบครวั ลงเยี่ยมบา้ นกลุ่มเสี่ยงในชว่ งวกิ ฤต ๒.๕ มาตรการดา้ นกฎหมายที่เกย่ี วข้อง และอื่นๆ ๑) สนับสนุนการดาเนินงานตาม พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพ่ิมเติม โดยจัดทาคาแนะนาคณะกรรมการสาธารณสุข เรื่อง ป้องกันควบคุมผลกระทบ ต่อสุขภาพจากฝุ่นละออง พ.ศ. ๒๕๖๒ เพื่อให้ราชการส่วนท้องถิ่นใช้เป็นแนวทางการในควบคุมฝุ่นละออง ท้ังจากสถานประกอบการ การกาจัดมูลฝอย การจัดการเหตุราคาญและการประกาศพ้ืนท่ีควบคุมเหตุราคาญ จากฝนุ่ ละออง ตามมาตรา ๒๘ และ มาตรา ๒๘/๑ ภายใตก้ ฎหมายว่าดว้ ยการสาธารณสุข
๑๙ ๒) สนับสนุนการดาเนินตามมาตรการสาคัญอ่ืน ๆ เช่น ตรวจควันดาของรถยนต์ ราชการและรถยนต์ส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่ การใช้รถยนต์สาธารณะ เพิ่มพ้ืนที่สีเขียวในสถานบริการ สาธารณสุข ฯลฯ ทั้งน้ี มาตรการตา่ ง ๆ จะดาเนินการเข้มข้นตามระดบั ความรนุ แรงของสถานการณ์ ๓. กฎหมายที่เก่ยี วข้องและปัญหาการบังคบั ใช้กฎหมายเพื่อแก้ไขปญั หาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ และท่ีแก้ไขเพิ่มเติม มีเจตนารมณ์ ในการคุ้มครองประชาชนในด้านสุขลักษณะและอนามัยสิ่งแวดล้อม กล่าวคือ ต้องการให้ประชาชนได้อยู่ใน “สภาวะที่เหมาะสมกับการดารงชีพ” โดยกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุข มีหลักการกระจายอานาจให้แก่ องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ในการบังคับใช้กฎหมาย เจ้าพนักงานท้องถิ่นสามารถใช้อานาจตามกฎหมายว่า ด้วยการสาธารณสุขในการควบคุมเหตุเดือดร้อนราคาญ และควบคุมดูแลการประกอบกิจการท่ีเป็นอันตราย ต่อสุขภาพ เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) และการจัดการอนามัยสิ่งแวดล้อม ในด้านต่างๆ ในพื้นท่ี อันจะเป็นประโยชน์ในการคุ้มครองสิทธิ ทางสุขภาพและอนามัย ส่ิงแวดล้อม เพ่ือให้ประชาชนมีสุขภาพดี โดยสามารถบังคับใช้มาตรการทางกฎหมายว่าด้วยการสาธารณสุขในการจัดการ ปัญหาฝุ่นละอองท่สี าคัญ ดงั นี้ แนวทางที่ ๑ การควบคุมแหล่งกาเนิดฝุ่นละออง โดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ออกข้อบัญญัติ ท้องถ่ินควบคุมการประกอบกิจการ ได้แก่ การจัดการสิ่งปฏิกูลและมูลฝอย (มาตรา ๒๐) กิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ (มาตรา ๓๒) ตลาด สถานท่ีจาหน่ายอาหาร สถานที่สะสมอาหาร (มาตรา ๔๐) และการจาหนา่ ยสนิ ค้าใน ทห่ี รือทางสาธารณะ (มาตรา ๔๓) แนวทางท่ี ๒ การควบคมุ เหตรุ าคาญจากฝุ่นละออง โดยให้เจา้ พนกั งานท้องถ่ิน “ประกาศ พ้ืนท่คี วบคุมเหตรุ าคาญ” โดยมีเงือ่ นไขตามทร่ี ฐั มนตรีกาหนดไว้ ดังนี้ ๑. มแี หล่งกาเนดิ เหตุราคาญในพนื้ ทน่ี นั้ ๒. มแี หลง่ กาเนิดเหตุราคาญมากกวา่ ๑ แหลง่ ๓. มีผลกระทบต่อสุขภาพ หรือสภาวะความเป็นอยู่ที่เหมาะสมของประชาชนจานวนมาก และครอบคลมุ พนื้ ท่เี ปน็ บริเวณกวา้ ง โดยมีลักษณะบง่ ชอี้ ย่างใดอย่างหน่ึง ดงั น้ี ๑) มผี ลกระทบรบกวนความเปน็ อยูท่ เี่ หมาะสมที่คาดว่าเป็นผลมาจากเหตรุ าคาญ ๒) มผี ลการตรวจวิเคราะห์คุณภาพส่งิ แวดล้อมไมเ่ ป็นไปตามมาตรฐาน ๓) มผี ลประเมนิ ความเสยี่ งตอ่ สุขภาพทีบ่ ง่ ชผี้ ลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ท้ังน้ี หากฝ่าฝืนคาสั่งของเจ้าพนักงานท้องถิ่นที่อาศัยอานาจตามมาตรา ๒๗ และ ๒๘ หรือฝ่าฝืนหรือไม่ ปฏิบัติตามประกาศที่อาศัยอานาจตามมาตรา ๒๘/๑ มีโทษจาคุก ๓ เดือน ปรับไม่เกิน ๒๕,๐๐๐ บาท หรอื ทง้ั จาทง้ั ปรบั อย่างไรก็ดี แม้ว่าคณะกรรมการสาธารณสุขจังหวัดในบางจังหวัดได้มีมติให้ราชการ ส่วนท้องถ่ิน ออกประกาศพื้นที่ควบคุมเหตุราคาญในพื้นท่ีที่ประสบปัญหา แต่ราชการส่วนท้องถ่ินหลายแห่ง ขาดฐานข้อมูล ทางวิชาการที่บ่งช้ีระดับความรุนแรงของสถานการณ์ในพื้นท่ีของต นเองเพื่อสนับสนุน การออกประกาศดังกล่าวหรือการออกคาส่ังทางปกครองของเจ้าพนักงานท้องถิ่น ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรสนับสนุนให้มีการพัฒนาระบบเฝ้าระวังคุณภาพอากาศในระดับท้องถ่ินสาหรับการบ่งชี้สถานการณ์ ปัญหาดงั กลา่ วในระดับพืน้ ท่ี
๒๐ ๔. ขอ้ เสนอแนะในการแกไ้ ขปัญหาฝ่นุ ละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ๔.๑ การควบคุมมลพิษท่ีแหล่งกาเนิด (Source) โดยให้การควบคุมบังคับใช้กฎหมาย อยา่ งเข้มงวดในทุกแหลง่ กาเนิด ๔.๒ การป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพโดยลดหรือตัดช่องทางการได้รับฝุ่นเข้าไป ในร่างกาย (pathway) . ๑) พัฒนาระบบส่ือสาร แจ้งเตือนประชาชนที่ทันท่วงที เพ่ือให้ประชาชนป้องกัน ตนเองเมอ่ื ตอ้ งเขา้ ไปในพ้นื ที่ท่ีมฝี ่นุ ละอองสูง โดยเฉพาะการประสานความรว่ มมือกับภาคเอกชน เช่น เครือข่าย โทรศัพท์ (แจง้ เตือนผา่ น SMS) โทรทศั น์ ห้างสรรพสินค้า เปน็ ตน้ ๒) สนับสนุนงบประมาณและอุปกรณ์ให้มีการเฝ้าระวังมลพิษทางอากาศในอาคาร ในสถานท่ีเส่ียงสาคัญ เช่น โรงเรียน ศูนย์เด็กเล็ก นอกเหนือจากการเฝ้าระวังและแจ้งเตือนมลพิษทางอากาศ ในบรรยากาศ รวมทงั้ สรา้ งห้องปลอดฝนุ่ ในพ้นื ที่เสย่ี งสูง ๓) ผลักดันให้มีการตรวจสอบประสิทธิภาพการกรองฝุ่นของหน้ากากอนามัย ให้ได้มาตรฐาน ก่อนการนาเข้า เพ่ือเพ่ิมความม่ันใจให้กับประชาชน รวมท้ังควบคุมราคาและการจาหน่าย หนา้ กากอนามยั โดยเฉพาะในช่วงวิกฤต ๔) เร่งความรู้และความตระหนักแก่ประชาชน โดยเฉพาะเด็กและเยาวชน โดยผลกั ดันเปน็ หลักสูตรการเรยี นการสอนในระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ท้ังเรอ่ื งผลกระทบต่อสุขภาพ การป้องกันตนเอง รวมถึงการมีส่วนร่วมในการลดหรือไม่ก่อฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) เพื่อสร้างความรอบรู้ เร่อื งฝุ่นละอองขนาดเลก็ (PM ๒.๕) ตง้ั แต่เด็กและเยาวชน ๕) เพ่ิมพื้นที่สีเขียวหรือการสร้างสภาพแวดล้อมในสถานท่ีเสี่ยงท่ีสาคัญที่มากกว่า มาตรฐานของประเทศ (๙ ตารางเมตร/คน) รวมถึงการกาหนดผังเมือง เช่น สัดส่วนของอาคารต่อพ้ืนที่ หรอื สัดส่วนของความสงู อาคารต่อความกว้างถนน เพ่ือใหเ้ กิดการหมุนเวียนของอากาศ ๔.๓ การดูแลและรักษาประชาชนที่ได้รบั ผลกระทบต่อสขุ ภาพ ๑) พัฒนาระบบเฝ้าระวังการเจ็บป่วยและเสียชีวิตท่ีเกิดจากมลพิษทางอากาศ ในภาพรวม ทั้งจากโรงพยาบาลเอกชนและโรงพยาบาลสังกัดอื่นๆ โดยให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นหลัก เพื่อใหก้ ารประเมินความเสยี่ งและวางแผนแก้ไขปัญหาด้านส่งิ แวดลอ้ มและสุขภาพอย่างเป็นระบบ ๒) สนับสนุนให้ทุกโรงพยาบาลโดยเฉพาะในจังหวัดท่ีเป็นพื้นที่เสี่ยงมลพิษ ทางอากาศ มแี พทย์เช่ียวชาญเฉพาะด้าน เพอ่ื คัดกรอง วินจิ ฉยั และรกั ษาผู้ปว่ ย ๖. กระทรวงกระทรวงดิจิทัลเพ่ือเศรษฐกิจและสังคมโดยกรมอุตุนิยมวิทยา ได้ให้ข้อมูล ต่อท่ปี ระชมุ ดังน้ี ๑. ภารกิจของกรมอตุ นุ ยิ มวิทยา ๑) การตรวจสภาพอากาศและการติดตามสภาพอากาศครอบคลุมพ้ืนที่ท่ัวประเทศ ซ่ึงปัจจุบันมีสถานีตรวจวัดสภาพอากาศ จานวน ๑๒๔ สถานี โดยบางจังหวัดจะมีพ้ืนท่ีให้กรมควบคุมมลพิษ ตดิ ต้ังเครือ่ งมอื การตรวจคณุ ภาพอากาศ ๒) ตรวจชั้นอากาศโดยมีสถานี ๑๒ แห่ง ทั่วประเทศ ซ่ึงกรมอุตุนิยมวิทยาจะให้เจ้าหน้าที่ ทาการตรวจวดั อณุ หภมู ิ ความชนื้ ทศั นวสิ ัย รวมทง้ั ปรากฏการณต์ ามธรรมชาตวิ ันละ ๘ ครั้ง ๓ ช่ัวโมง ๓) ตดิ ต้ังสถานตี รวจสภาพอากาศอตั โนมัติแบบ Real time ๔) พัฒนาแบบจาลองการพยากรณ์อากาศรายละเอียดสูงในเรื่องของลม ฝน อุณหภูมิ ความช้ืน เป็นต้น ในระยะ ๒ กิโลเมตร จะสามารถพยากรณ์อากาศล่วงหน้าได้ ๔๘ ช่ัวโมง ในระยะ ๖ กิโลเมตร
๒๑ จะสามารถพยากรณ์อากาศล่วงหน้าได้ ๗๒ ช่ัวโมง และในระยะ ๑๘ กิโลเมตร จะสามารถพยากรณ์อากาศ ล่วงหนา้ ได้ ๑๐ วัน ๕) เป็นคณะทางานร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ โดยจะสรุปและวิเคราะห์ข้อมูล จากแบบจาลองส่งให้กรมควบคุมมลพิษเพ่ือกาหนดมาตรการปอ้ งกนั และแจง้ เตือนเก่ยี วกับคุณภาพอากาศ ๖) เผยแพร่ข้อมูลบนเว็บไซต์ของกรมอุตุนิยมวิทยา เก่ียวกับการพยากรณ์สภาพอากาศ ล่วงหนา้ ๑๐ วัน ว่าแต่ละชว่ งเวลามีการสะสมของฝุ่นละอองมากน้อยเพยี งใด โดยใช้ข้อมูลการตรวจวดั คุณภาพ อากาศของกรมควบคุมมลพิษ ซ่ึงกรณีที่ค่าฝุ่นละอองอยู่ในเกณฑ์มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน กรม อุตุนิยมวิทยาจะทาเป็น Infographic แจ้งเตือนแก่ประชาชน นอกจากน้ี ในการแจ้งเตือนแก่ประชาชน จะมที างช่องทางข่าวประจาวัน Facebook Line และ Youtube เปน็ ต้น ๗) ติดตามหมอกควันข้ามพรหมแดน โดยประสานงานร่วมกับสถานีอุตุนิยมวิทยา ของประเทศสิงคโปร์ ซึง่ จะวเิ คราะหผ์ ่านดาวเทียม จุดความรอ้ น และทิศทางของลมจากแบบจาลอง ๒. มาตรการและแผนงานในอนาคต ๑) โครงการนาร่อง (PILOT PROJECT) ร่วมกับร่วมกับ CAT และ บริษัท ACER ติดต้ังเคร่ือง ตรวจวัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) และ PM ๑๐ เพื่อใช้ติดตาม รายงาน และสนับสนุนข้อมูลฝุ่นละออง ขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ๒) โครงการติดต้ังสถานีตรวจสภาพอากาศอัตโนมัติครอบคลุมพ้ืนท่ีทุกอาเภอทั่วประเทศ ๙๐๐ แห่ง เพ่ือสนบั สนุนขอ้ มูลในการคาดการณ์สภาวะอากาศ ๓) สร้างการรับรู้แก่ประชาชน โดยให้สถานีอุตุนิยมวิทยาภูมิภาค รวมท้ังวิทยุกระจายเสียง ของกรมอุตุนิยมวทิ ยา ประชาสมั พนั ธใ์ ห้ความรู้เก่ยี วกับการเผา และข้อมูลค่าฝ่นุ ละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ๓. ปัญหาและอุปสรรค แนวทางการแกไ้ ขและขอ้ เสนอแนะ ๑) ขอรับการสนับสนุนงบประมาณ เพ่ือติดตั้งเครื่องตรวจอากาศวัดสภาพอากาศ ใหม้ คี วามถเ่ี พิ่มขน้ึ เพื่อการพยากรณท์ ถี่ กู ต้องแมน่ ยามากขน้ึ ๒) พัฒนาแบบจาลองบรรยากาศเพ่ือการสนับสนุนข้อมูลเพื่อการคาดการณ์ฝุ่นละออง ให้มีประสิทธิภาพมากขนึ้ ๓) สนบั สนนุ งบประมาณเพ่ือเพม่ิ สถานีตรวจวัดอากาศชน้ั บน AWS TOWER (CLIMATE TOWER) WIND PROFIELER ๗. กระทรวงคมนาคม โดย องคก์ ารขนส่งมวลชนกรุงเทพ ได้ให้ขอ้ มูลต่อทีป่ ระชุม ดังนี้ ในปัจจุบันองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพมีรถโดยสารสาธารณะจานวน ๓,๐๐๐ คัน เปน็ รถเครื่องยนต์ดีเซล ๑,๕๐๐ คนั และเปน็ รถเครอื่ งยนต์ NGV จานวน ๑,๕๐๐ คัน โดยองค์การขนส่งมวลชน กรุงเทพมีมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ดังนี้ ๑) เปล่ียนมาใช้น้ามันดีเซล B๒๐ ในรถโดยสารเคร่ืองยนต์ดีเซลทุกคัน ๒) เปล่ียนท่อพักไอเสีย ไส้กรองไอเสีย ไส้กรองอากาศ เปลี่ยนหัวฉีด เปลี่ยนถ่ายน้ามันเครื่อง ๓) ตรวจวัดค่าไอเสียก่อนนารถออกว่ิงให้บริการ โดยรถโดยสารที่มีค่าไอเสีย ไม่เกินเกณฑ์มาตรฐานจะปล่อยว่ิงให้บริการตามปกติ กรณีตรวจพบรถโดยสารมีค่าไอเสียเกินเกณฑ์มาตรฐาน จะงดนารถคันดังกล่าวออกวิ่งให้บริการโดยเด็ดขาดจนกว่าจะปรบั ปรุงแก้ไขใหม้ ีค่าไอเสียอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ๔) ล้างรถและล้างอู่เพ่ือชะล้างฝุ่นละออง ๕) มอบหน้ากากอนามัยให้กับพนักงานประจารถสวมใส่ ขณะปฏิบัติหน้าที่เพ่ือป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) และเพ่ือป้องกันไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ๒๐๑๙ ส่วนมาตรการป้องกันไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ ๒๐๑๙ น้ัน องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพได้รับการสนับสนุน
๒๒ ผลิตภัณฑ์สาหรับฆ่าเชื้อโรค แอล เพียว ๗๐ จากองค์การสุรา กรมสรรพสามิต เพ่ือนาไปทาความสะอาด ภายในรถโดยสาร พร้อมทั้งติดต้ังเจลแอลกอฮอล์สาหรับทาความสะอาดมือบริเวณหน้าประตูทางขึ้นลง รถโดยสาร ในระยะยาวองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพจะทาการเปล่ียนรถโดยสารสาธารณะท้ังหมด เป็นรถใช้พลังงานไฟฟ้า EV (Electric Vehicle) ซ่ึงต้องใช้งบประมาณจานวนมาก แต่ก็เป็นเรื่องที่ต้อง ดาเนินการเพราะการท่ีประชาชนมีคุณภาพชีวิตท่ีดีขึ้น ลดการใช้รถยนต์ส่วนตัว น่ังรถโดยสารสาธารณะ ท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ส่ิงเหล่าน้ันคือการแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) อย่างย่ังยืน กรมการขนส่งทางบก ไดใ้ ห้ข้อมูลต่อท่ปี ระชุม ดังน้ี รถท่ีจดทะเบียนคร้ังแรก กรมการขนส่งทางบกจะทาการตรวจสอบมาตรฐานควันดา ทุกคันให้อยู่ในเกณฑ์มาตรฐานก่อนท่ีจะดาเนินการจดทะเบียน ส่วนรถยนต์ท่ีมีอายุครบ ๗ ปี ก่อนเสียภาษี จะต้องมีการตรวจสภาพรถ โดยสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ซ่ึงในปัจจุบันมีสถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ๓,๐๐๐ แห่งทว่ั ประเทศ และจดั ต้ังศูนยค์ วบคุมระบบตรวจสภาพรถ (Vehicle Inspection Control Center : VICC) เพ่ือควบคุมสถานตรวจสภาพรถเอกชนแบบ Real Time ผ่านกล้อง CCTV นอกจากนี้ยังมีการสุ่มตรวจ สถานตรวจสภาพรถเอกชน (ตรอ.) ทุก ๓ เดือน ส่วนรถบรรทุกต้องตรวจสภาพกับกรมการขนส่งทางบกปีละ ๑ คร้ัง และรถโดยสารขนาดใหญ่ต้องตรวจสภาพกับกรมการขนส่งทางบกปีละ ๒ คร้ัง กรมการขนส่ง ยังได้ตง้ั ดา่ นตรวจจับควันดาในเขตพ้ืนท่ีกรุงเทพมหานครและปริมณฑล และให้สานกั งานขนส่งจังหวัดตรวจวัด ควันดาทุกวันแล้วรายงานผลมายังส่วนกลาง ซ่ึงจากการลงพื้นที่พบรถที่มีควันดาเกินค่ามาตรฐานเพียง ๑ เปอร์เซ็นต์จากจานวนรถท้ังหมด แม้จานวนรถท่ีปล่อยควันดาจะมีน้อย แต่เนื่องจากมีปริมาณรถเป็นจานวนมาก เม่ือรถมาจอดรวมกันในจุดเดียวก็จะเกิดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ( PM ๒.๕) เกินค่ามาตรฐาน จึงมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้สาเหตุของปัญหาควันดา ซ่ึงเกิดจากการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ การไม่บารุงดูแลรักษารถ ดังน้ัน ประชาชนทุกคนต้องมีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาโดยตรวจสภาพรถอย่างสม่าเสมอ และหากประชาชนตรวจพบรถควันดาสามารถแจ้งได้ทีส่ ายดว่ น ๑๕๘๔ กรมเจา้ ท่า ได้ใหข้ อ้ มูลต่อทีป่ ระชมุ ดังน้ี มาตรการการป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ในทางเรือ โดยได้ดาเนินการ ตรวจควันดาท้ังในเรือสินค้าและเรือประมงท้ังในเขตกรุงเทพมหานครและภูมิภาคจานวน ๔๐๓ ลา พบว่า มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) เกินค่ามาตรฐาน จานวน ๖ ลา จึงสั่งห้ามใช้และให้แก้ไข ปรับปรุง หลังจากนั้น ๓๐ วัน ให้นาเรือมาตรวจอีกครั้ง หากพบว่า ยังมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) เกินค่ามาตรฐาน ก็จะดาเนินการส่ังห้ามนาเรือออกมาใช้ หากพบว่า มีการนาเรือออกมาใช้จะดาเนินการปรั บ ๕,๐๐๐ บาท ส่วนมาตรการเร่งด่วน เจ้าหน้าท่ีได้ดาเนินการวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ในแม่น้าเจ้าพระยา และคลองแสนแสบท่ีมีเรือโดยสารหนาแน่น พร้อมทั้งกาชับผู้เดินเรือไม่ให้มีการเร่งเครื่องยนต์ และประชาสัมพันธ์ การเปล่ียนไส้กรองเพ่ือลดการปล่อยควันดา และให้ผู้ประกอบการเรือด่วนเจ้าพระยา และเรือด่วนคลองแสนแสบ เปลยี่ นมาใช้นา้ มันดีเซล B๒๐ ทั้งหมด ๑๗๐ ลา ส่วนเรือขนสนิ ค้าได้มีการกาชับให้มีการปิดล้อมผา้ ใบเพ่ือไม่ให้ มีฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ฟุ้งกระจายรอบบริเวณการขนถ่ายสินค้า นอกจากน้ีในพื้นที่การทางาน ของกรมเจ้าท่าได้มีการติดต้ังเคร่ืองวัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) และสรุปรายงานส่งผู้บังคับบัญชาทุกวนั ส่วนมาตรการในระยะยาวจะดาเนินการรณรงค์ให้เรือต่าง ๆ หันมาใช้น้ามันดีเซล B๒๐ เพื่อลดการปล่อย มลพิษสู่อากาศ การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ให้ขอ้ มูลตอ่ ทีป่ ระชุม ดงั น้ี การรถไฟแห่งประเทศไทยอยู่ระหว่างดาเนินงานตามแผนงานการพัฒนาและกาหนด มาตรการป้องกันและการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ดังน้ี ๑) แผนงานระยะแรกที่อยู่ระหว่าง
๒๓ การดาเนินการ กล่าวคือ การรถไฟแห่งประเทศไทย สนับสนุนการใช้พลังงานเช้ือเพลิงจากน้ามันดีเซล B๒๐ โดยได้ทดลองและเร่ิมใช้น้ามันดีเซล B๒๐ แล้ว และรถประเภทต่าง ๆ ท่ีจัดซื้อใหม่จะรองรับน้ามันดีเซล B๒๐ นอกจากน้ีการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ลงทุนโครงสร้างพื้นฐานเป็นระบบรถไฟฟ้า ซึ่งจะเป็นส่วนสาคัญ ที่จะช่วยลดจานวนยานพาหนะจากรถยนต์ส่วนบุคคล รถขนส่งสินค้า ด้วยการเพิ่มสัดส่วน การใช้ระบบราง ให้สูงข้ึน การรถไฟแห่งประเทศไทยอยู่ระหว่างการศึกษาแผนการเดินรถไฟด้วยระบบรถไฟฟ้า (Electrification) ทดแทนการเดินรถด้วยระบบน้ามันเช้ือเพลิง ตามเส้นทางต่าง ๆ ทั่วประเทศ ขณะนี้อยู่ระหว่างการดาเนินการ ว่าจ้างท่ีปรึกษาศึกษารายละเอียดเพ่ือจัดทาแผนท่ีนาทาง (Roadmap) ของภาพรวมรถไฟฟ้าท้ังประเทศ ในแต่ละเส้นทางที่ควรจัดลาดับความสาคัญ ๒) การพิจารณาศึกษาแนวทางในการติด Filter เพื่อลดการปล่อย มลพิษที่หัวรถจักร โดยนาเทคโนโลยี Diesel Particulate Filter (DPF) ท่ีสามารถกรองปริมาณฝุ่นที่ออกมา จากท่อไอเสียได้มาติดต้ังกับรถจักร ซ่ึงกาลังดาเนินการทาหนังสือสอบถามรายละเอียดความเป็นไปได้ ในการติดต้ังอุปกรณ์ Diesel Particulate Filter (DPF) จากบริษทั ผ้ผู ลิตเครื่องยนต์รถจักร และพิจารณาจัดหา เครอื่ งตรวจวัดควนั ดา (Opacimeter) มาใช้งานตรวจวัดควนั ดารถจักรก่อนนาออกไปใช้เดินรถต่อไป การรถไฟแห่งประเทศไทยได้มีข้อเสนอแนะในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ๒ ประการ คือ ประการแรกขอให้ลดภาษีสรรพสามิตน้ามันทีจ่ าหน่ายให้กับการรถไฟแห่งประเทศไทย เพื่อให้ต้นทุน การดาเนินการลดลง ส่งผลต่อราคาค่าโดยสารลดลงเพ่ือเป็นทางเลือกให้กับประชาชนหันมาใช้การขนส่ง ระบบรางมากขึ้น ประการท่ีสองผลักดันและส่งเสริมแผนการเดินรถไฟด้วยระบบรถไฟฟ้า (Electrification) ทดแทนการเดินรถดว้ ยระบบนา้ มันเชือ้ เพลิงตามเส้นทางตา่ ง ๆ ทั่วประเทศของการรถไฟแห่งประเทศไทย ๘. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมโดยสานักงานการวิจัยแห่งชาติ ได้ใหข้ ้อมลู ต่อทีป่ ระชมุ ดงั น้ี สาเหตุหลักของการเกิดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) มาจาก ๕ สาเหตุหลัก ได้แก่ ๑) การเกิดไฟป่า ๒) กิจกรรมทางการเกษตร ๓) อุตสาหกรรมการทาเหมืองและการแปรรูปหิน ๔) การจราจร ในเขตเมือง และ ๕) หมอกควันข้ามแดน อีกหน่ึงกิจกรรมท่ีได้รับปัญหาหมอกควันอย่างรุนแรง คือ กิจกรรม การท่องเท่ียว จากข้อมูลสถิตินักท่องเท่ียวในช่วงเกิดปัญหาหมอกควันในเมืองเชียงใหม่ ปี พ.ศ. ๒๕๕๖ – ๒๕๕๘ พบว่านักท่องเที่ยวลดลงเฉลี่ย ๑๖,๓๙๙ คน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายราว ๔๘,๒๓๗,๒๑๗ บาท ทั้งนี้ สานักงานการวิจัยแห่งชาติ ได้ร่วมกับเครือข่ายนักวิจัยและหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง วิเคราะห์ปัญหาค่าฝุ่นละออง ขนาดเลก็ (PM ๒.๕) เกินคา่ มาตรฐาน จึงพร้อมหนนุ ๗ มาตรการเผชิญเหตุเร่งผลักดนั การแก้ไขปัญหาฝุ่นควัน ดังน้ี ๑) มาตรการลดฝุ่นจากแหล่งกาเนิดทุกจุดอย่างเป็นระบบ ใช้ผลการศึกษาวิจัยสาเหตุการสะสมของควัน และฝุ่นละอองในอากาศ จากการใช้เชื้อเพลิงในภาคคมนาคม อุตสาหกรรม และการเผาในพื้นท่ีเกษตร และพืน้ ที่ป่าในภมู ิภาคต่าง ๆ ของประเทศไทยและของประเทศเพ่อื นบา้ น เพอื่ หยดุ การเกิดฝุน่ จากแหลง่ กาเนิด ทุกจุดทุกพ้ืนท่ีทั้งในระยะสั้นและระยะยาว ๒) มาตรการระยะส้ันเร่งด่วนเพื่อลดฝุ่นจากการคมนาคม โดยลดการใช้ รถส่วนบุคคล และรถขนส่งที่เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ได้สูง โดยให้สามารถทางานจากบ้าน (Work from Home) เพื่อลดความเสี่ยงในช่วงฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) เกินมาตรฐาน รวมทั้งส่งเสริมสนับสนุน ให้นักเรียน นักศึกษาใช้บริการขนส่งสาธารณะ เช่น รถไฟฟ้าและระบบขนส่งมวลชน และเพ่ิมรถขนส่ง ปลอดควัน เพ่ือลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลให้มากที่สุด โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติและเหลื่อมเวลาการทางาน ของหน่วยงานราชการเพื่อลดความหนาแน่นของการจราจรและการเกิดฝุ่นในช่วงเวลาเร่งด่วน (Peak Load) ๓) มาตรการลดและหยุดการเผาในท่ีโล่ง และบริหารจัดการควบคุมการเผาผ่านระบบสารสนเทศ (IT Management) ให้มีการลงทะเบียนเพ่ือจัดกลุ่มและควบคุมช่วงเวลา/อัตราการเผา/ทิศทางลม เพ่ือลดความหนาแน่น ของฝุ่นควันจากการเผา (Peak Load) ๔) มาตรการเผยแพร่ข้อมูลค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) แบบทันท่วงที
๒๔ (Real-time) ท่ีเข้าใจง่าย เพื่อให้ประชาชนสามารถนาข้อมูลไปใช้ประกอบการตัดสินใจในการดาเนินกิจกรรม ในแต่ละวันได้ และพร้อมรับมือกับสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) โดยสานักงานการวิจัยแห่งชาติ จะแจง้ รายงานผลและคาแนะนาประจาวันจนกวา่ สถานการณจ์ ะคลี่คลายลง และเรง่ ติดตั้งเครื่องวัดปริมาณฝุ่น DustBoy เพิ่มข้ึนให้มีจุดวัด ๘,๐๐๐ จุดท่ัวประเทศ ๕) มาตรการลดผลกระทบสุขภาพของประชาชน โดยเฝ้าระวัง แจ้งเตือน และรณรงค์ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยที่ป้องกันฝุ่นได้ เพื่อป้องกันฝุ่นละออง ขนาดเล็ก (PM ๒.๕) เกินค่ามาตรฐาน รวมท้ังการแจกหน้ากากอนามัยให้แก่ประชาชนลดค่าใช้จ่ายของอุปกรณ์ วัดคุณภาพอากาศ อุปกรณ์ความปลอดภัย หน้ากากอนามัย โดยลดการเก็บภาษีท่ีเก่ียวข้อง เพ่ือให้ประชาชน ได้เข้าถึงอุปกรณ์ ในราคาท่ีเหมาะสมและได้มาตรฐานสาหรับประชาชนกลุ่มเส่ียง อีกท้ังจัดพื้นที่ปลอดภัย (Safe Zone) สาหรับประชากรกลุ่มเสี่ยงโดยติดตั้งเครื่องฟอกอากาศท่ีได้มาตรฐาน โดยเฉพาะในสถานศึกษา โรงพยาบาล และพื้นท่ีบริการสาธารณะ เป็นต้น ๖) มาตรการขับเคลื่อนการวิจัยและใช้ประโยชน์จากการวิจัย อย่างเป็นรูปธรรม โดยสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรม และขยายผลไปสู่การใช้ประโยชน์โดยเฉพาะ ในด้านการพัฒนาเซ็นเซอร์วัดอนุภาคฝุ่น ในอากาศแบบเรียลไทม์ การพัฒนาและใช้เคร่ืองลดฝุ่นในรูปแบบต่าง ๆ และการพัฒนาระบบข้อมูลคุณภาพอากาศแบบเบ็ดเสร็จ (NRCT Air Quality Information Center : NRCT AQIC) การนาวิจัยนวัตกรรมไปจัดการกับวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เพื่อลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) จากการเผา ๗) มาตรการระยะยาว โดยสนับสนุนให้มีการแก้กฎหมายให้มี Thailand Environment Protection Agency ท่ีมีอานาจเบ็ดเสร็จในการแก้ปัญหาเม่ือเกิดภาวะวิกฤติ การแก้ปัญหาหมอกควันข้ามแดน โดยการร่วมหารือและประเมินร่วมกันทุกปีเพื่อแก้ปัญหา ตลอดจนส่งเสริมและควบคุมพัฒนาผังเมือง เพื่อนาไปสู่เมืองรถน้อยและเมืองไร้ควนั โดยคาดว่า หากใช้ทั้ง ๗ มาตรการดังกล่าวแล้วจะบรรเทาความรุนแรง ของปญั หาจากปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ไดอ้ ยา่ งเปน็ รูปธรรม ๙. สานกั งานตารวจแห่งชาติ ได้ใหข้ ้อมูลตอ่ ทป่ี ระชมุ ดังนี้ ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ในส่วนท่ีเก่ียวข้องกับสานักงานตารวจแห่งชาติ ๑) เป็นเร่ืองรถยนต์ปล่อยควันดา เกิดจากเครื่องยนต์เก่าทาให้มีการสันดาปก๊าซที่ไม่สมบูรณ์และปล่อยควนั ดา ออกมา โดยสานักงานตารวจแห่งชาติได้รับแจ้งข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษว่า ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ในกรุงเทพมหานครนั้น ร้อยละ ๗๐ เกิดจากสาเหตุรถยนต์ปล่อยควันดา ซึ่งกองบังคับการตารวจจราจร กองกากับการ ๕ มีหน้าที่รับผิดชอบในการตรวจมลพิษและบังคับใช้กฎหมายกับรถยนต์ท่ีปล่อยควันดา โดยตั้งจุดตรวจรอบกรุงเทพมหานครทุกวัน วันละ ๑๗ จุด ตามทางเข้า - ออก ของเมืองเพื่อคัดกรองรถขนส่งสินค้า ซึ่งใช้เครื่องยนต์ดีเซล โดยมีการออกใบสั่งเฉลี่ยวันละ ๑๐,๐๐๐ ราย เดือนมกราคม ๒๕๖๓ กองบังคับการ ตารวจจราจรไดเ้ ข้มงวดกวดขันจับผขู้ ับข่ีรถยนต์ที่ปลอ่ ยควันดาไปกว่า ๑๐,๐๐๐ ราย นอกจากมาตรการบงั คับใช้ กฎหมายแล้ว กองบังคับการตารวจจราจรยังได้มีการบริการประชาชน โดยต้ังจุดตรวจวัดค่าควันดาซ่ึงได้รับ ความร่วมมือจากภาคประชาชนเป็นอย่างดี และยงั ได้รว่ มมือกับกรมการขนส่งทางบกในการตั้งจุดตรวจควันดา อีก ๑๖ จุด และจัดกาลังรว่ มกบั กรมควบคุมมลพิษในการออกตรวจตามแผนของกรมควบคุมมลพิษในการตรวจรถ ของผู้ประกอบการรายใหญ่ ๒) เปน็ เรอ่ื งการเผาในที่โล่งในพื้นท่ีต่างจังหวัด สานักงานตารวจแห่งชาติได้มีการส่ังการ ใหเ้ จา้ หนา้ ทต่ี ารวจออกตรวจตามพ้ืนที่โล่งต่าง ๆ หากพบการลักลอบเผาก็มีการจับกุมดาเนินคดีต่อไป พร้อมกันน้ี ประธานคณะกรรมาธิการ ได้เชิญตัวแทนจากภาคเอกชนมาชี้แจงต่อที่ประชุม ถึงนวัตกรรมในการลดควันดา สรุปได้ดังนี้ พลตารวจโท ชัยพร พานิชอัตรา และตัวแทนจากภาคเอกชน ได้นาเสนอนวัตกรรมโดยภูมิปัญญาของคนไทยในการลดควันดาในรถยนต์ เป็นผลิตภัณฑ์ท่ีดีมีคุณภาพ มาตรฐานการผลิตสูง สามารถขจัดควันดาในรถยนต์ อีกทั้งยังบารุงรักษาและเพิ่มสมรรถนะเครื่องยนต์
๒๕ ชว่ ยแก้ปญั หารถที่มคี วันดาได้ถงึ ๙๐ เปอรเ์ ซ็นต์ หากมีหนว่ ยงานของรฐั หน่วยงานใดสนใจ ตวั แทนจากภาคเอกชน มีความยินดที ่ีจะนาผลิตภัณฑด์ งั กล่าวให้หน่วยงานของรฐั ได้ทดลองใช้ต่อไป ๑๐. กระทรวงพลังงาน ไดใ้ ห้ขอ้ มูลต่อท่ปี ระชุม ดังน้ี ๑. กระทรวงพลังงานมีมาตรการในการป้องกันแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) แบ่งออกเปน็ ๓ ระยะ ได้แก่ ๑) มาตรการระยะเร่งด่วน คือ การปรับเปลี่ยนมาตรฐานชนิดน้ามันดีเซล โดยยกระดับน้ามัน B๑๐ ให้เป็นน้ามันดีเซลพ้ืนฐานในอนาคต และให้น้ามัน B๒๐ เป็นน้ามันดีเซลทางเลือกสาหรับรถบรรทุก ขนาดใหญ่ ส่วนน้ามัน B๗ เป็นน้ามันที่สามารถเลือกใช้ได้ตามอัธยาศัย ทั้งน้ี เพ่ือไม่ให้เกิดการขาดแคลน น้ามนั ปาลม์ ๒) มาตรการระยะกลาง คือ การจัดทาโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพ่ือเศรษฐกิจฐานราก โดยภาครัฐจะรับซื้อไฟฟ้า ๗๐๐ เมกะวัตต์ จากสิ่งเหลือจากการเกษตรหรือชีวมวล เช่น ชานอ้อย ฟางข้าว เป็นตน้ เพอื่ ลดปญั หาการเผาในท่โี ล่งซงึ่ เปน็ หน่งึ ในแหล่งกาเนดิ ฝนุ่ ละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ทส่ี าคญั ๓) มาตรการระยะยาว คือ การปรับคุณภาพน้ามันให้เป็นมาตรฐาน Euro ๕ ภายในวันท่ี ๑ มกราคม ๒๕๖๗ ๒. เสนอให้มีมาตรการห้ามรถบรรทุกซึ่งมีอายุเกิน ๑๐ ปี และยังคงใช้น้ามันดีเซลมาตรฐาน ต่ากว่า Euro ๔ วิ่งบนท้องถนน หรือให้เปลี่ยนกลับไปใช้ก๊าซ NGV หรือ CNG นอกจากน้ี เสนอให้มีสถานี อดั ประจไุ ฟฟา้ (Charging Station) ในสถานีบรกิ ารน้ามัน ประเด็นที่ ๒ ความตกลงอาเซียนว่าด้วยมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน (ASEAN Agreement on Transboundary Haze Pollution) กระทรวงการต่างประเทศโดยกรมอาเซยี น ไดใ้ หข้ ้อมลู ตอ่ ทปี่ ระชุม ดังนี้ ๑. ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ในระดับระหว่างประเทศ คือ ปัญหาหมอกควัน ข้ามแดน ซ่งึ แบง่ เป็น ๒ พน้ื ที่ คือ ๑) พ้ืนที่ภาคเหนือ ในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้าโขงอันได้แก่ ราชอาณาจักรไทย สาธารณรัฐ แห่งสหภาพเมียนมา สาธารณรฐั สังคมนยิ มเวียดนาม สาธารณรัฐประชาธปิ ไตยประชาชนลาว ๒) พ้ืนที่ภาคใต้ อันได้แก่ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย สาธารณรัฐสิงคโปร์ สหพันธรัฐมาเลเซีย ราชอาณาจักรไทย ซ่ึงมสี าเหตุมาจากการเผาป่าพรุ ๒. กฎหมายทเี่ กีย่ วขอ้ ง ๒.๑ ข้อตกลงอาเซียนว่าด้วยมลพิษจากหมอกควันข้ามแดน (ASEAN Agreement on Transboundary Haze Pollution) ซึ่งทุกประเทศท่ีเป็นสมาชิกได้เข้าเป็นภาคีท้ังหมด โดยมีผลบังคับใช้ ตง้ั แตป่ ี พ.ศ. ๒๕๔๖ ๒.๒ Haze-free ASEAN Road Map โดยมีเปา้ หมายให้อาเซียนปลอดหมอกควนั ในปี ๒๕๖๓ ด้วยการต้ังเป้าหมายลดจานวนพ้ืนที่ที่เกิดจุดความร้อน (Hot spot) ไม่ให้เกิน ๕๐,๐๐๐ จุด ท่ัวท้ังภูมิภาค ซงึ่ ขณะนี้อยู่ในระหว่างการยกรา่ งแผนงานใหม่ ความตกลงทั้ง ๒ ประการน้ีนามาสู่ ๓ กลไกของอาเซียนในการดาเนินความร่วมมือร่วมกัน ไดแ้ ก่ ๑) คณะทางานในระดับรฐั มนตรีเพื่อแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน ซ่ึงมกี ารประชุมทุกปี ปีละ ๓ ครัง้ โดยประกอบด้วยรฐั มนตรีของประเทศสมาชิกทุกประเทศ
๒๖ ๒) คณะทางานในระดับรัฐมนตรีในพ้ืนท่ีลุ่มแม่น้าโขง โดยประกอบด้วยรัฐมนตรี ของประเทศสมาชกิ ท่ไี ดร้ บั ผลกระทบ ๓) คณะทางานในระดับรัฐมนตรีในพ้ืนท่ีภาคใต้ โดยประกอบด้วยรัฐมนตรีของประเทศ สมาชิกที่ไดร้ ับผลกระทบ ๓. มาตรการในการป้องกันและแก้ไข ๓.๑ การเผ้าระวังและติดตามสถานการณ์ โดยอาเซียนจะได้ใช้ข้อมูลจากศูนย์เช่ียวชาญ ด้านอุตุนิยมวิทยาแห่งอาเซียน (ASMC) ซึ่งตั้งอยู่ที่สาธารณรัฐสิงคโปร์ มีหน้าท่ีในการติดตามจุดความร้อน (Hot spot) ในแต่ละพ้ืนที่ของอาเซียน ทั้งนี้ มีการวางแผนตั้งศูนย์ที่ดูแลเรื่องปัญหาหมอกควันข้ามแดน โดยเฉพาะขึ้นอีกแหง่ หน่ึงทส่ี าธารณรฐั อินโดนเี ซีย ๓.๒ ในการดาเนินการเพ่ือป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน ประเทศสมาชิก สามารถมีหนังสือถึงเลขาธิการอาเซียนในฐานะผู้ประสานเพื่อแจ้งเตือนแก่ประเทศท่ีเก่ียวข้อง ซึ่งประเทศไทย เคยมีหนังสือถึงประธานาธิบดีของสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยตรงเพ่ือขอความร่วมมือในกรณีที่มี จุดความร้อนเกิดข้ึนในบริเวณที่อาจมีผลกระทบต่อประเทศไทย และเคยมีหนังสือถึงนายกรัฐมนตรี ของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เพื่อขอความร่วมมือให้เร่งรัดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา หมอกควนั ข้ามแดนมิใหม้ ีผลกระทบถงึ ประเทศไทย ๓.๓ การฟ้ืนฟูและป้องกันปัญหา โดยใช้กลไกของคณะทางานท้ัง ๓ คณะ เพ่ือหารือแนวทาง การดาเนนิ งานร่วมกนั สาหรับความร่วมมืออื่น ๆ ในขณะนี้มีโครงการท่ีอาเซียนร่วมมือกับสหภาพยุโรป เพื่อแก้ไขปัญหาการเผาพ้ืนท่ีป่าพรุ โดยสหภาพยุโรปได้ให้การสนับสนุนด้านการเงิน รวมทั้งได้แลกเปลี่ยน แนวปฏิบัติในการป้องกันแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน นอกจากน้ี มีการเชิญผู้เชี่ยวชาญจากประเทศต่าง ๆ มาให้ความรู้เพ่ือเสริมสร้างศักยภาพให้แก่เจ้าหน้าท่ีที่เก่ียวข้อง และในปีที่ผ่านมาท่ีประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ จัดการประชุมสุดยอดผู้นาอาเซียน ได้มีการผลักดันให้การแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดนเป็นวาระ แห่งอาเซียน ประเด็นที่ ๓ มาตรการและวิธีการปฏิบัติของกระทรวงเก่ียวกับการควบคุมการเผาอ้อย กอ่ นตดั ของเกษตรกรเพ่ือลดปัญหาฝุ่นละอองและมลพษิ ทางอากาศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ใหข้ อ้ มูลตอ่ ทีป่ ระชมุ ดังน้ี กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีศูนย์ติดตามแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านการเกษตร โดยได้จัดทาแผน มาตรการการแก้ไข ติดตามเฝ้าระวังการเผาซากพืชซากสัตว์ โดยพบพื้นท่ีที่มีการเผาทั่วประเทศ ๒,๘๐๐ จุด โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีแผนการส่งเสริมการหยุดเผา โดยมอบหมายให้กรมส่งเสริมการเกษตร ถ่ายทอดความรู้ด้านการเกษตรแก่เกษตรกร และโครงการส่งเสริมการไถกลบ โดยกรมพัฒนาท่ีดิน โครงการ ผลิตปุ๋ยหมักเพ่ือลดมลพิษ โครงการส่งเสริมวนเกษตรในเขตปฏิรูปท่ีดิน โครงการบรรเทาหมอกควันและไฟปา่ โดยกรมฝนหลวง และจากการเก็บสถิติ ๕ ปีย้อนหลัง พบว่าพืชท่ีมีการเผามากท่ีสุด ๓ ชนิด คือ ข้าว อ้อย และข้าวโพด และจากปัญหาที่ประเทศไทยกาลังเผชิญกับฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ที่สูงเกินค่ามาตรฐาน และพบในหลายจังหวัดของพื้นทีภ่ าคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ โดยเฉพาะในพื้นท่ีกรุงเทพมหานคร การแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงจาเป็นต้องดาเนินการอย่างเร่งด่วน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ร่วมกับสานักงาน การวิจัยแห่งชาติ กรุงเทพมหานคร สถาบันการศึกษา และภาคเอกชน ดาเนินโครงการ “ปลูกเพ่ือป(ล)อด ล้านต้น ลด PM ๒.๕” ขึ้น เพ่ือเป็นการลดผลกระทบปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ท่ีสูงเกินมาตรฐานในพื้นที่
๒๗ กรุงเทพมหานคร รวมถึงพื้นที่อ่ืน ๆ ทั่วประเทศ โดยนาร่องดาเนินการในพื้นที่กรุงเทพมหานครและขยายผล ไปในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ซึ่งมีต้นกล้ารวมทั้งสิ้นจานวน ๖ ชนิด ได้แก่ กระดุมทอง ไม้ตระกูลคล้า (คล้าหางนกยูง) ไม้ตระกูลว่าน (เศรษฐีเรือนใน) ไม้ตระกูลเฟิน (เฟินขนนก เฟินเจ้าฟ้า) ไม้เล้ือย (ตีนตุ๊กแก) และต้นสนไซเปรส เตรียมแจกจ่ายให้แก่ประชาชนท่ีอาศัยในพ้ืนท่ีกรุงเทพมหานครเพ่ือปลูกต้นไม้ท้ังบริเวณ ในและนอกบ้าน สถานท่ีทางาน ริมถนน และสวนสาธารณะ เพ่ือเป็นการลดผลกระทบปัญหาฝุ่นละออง ขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ในพื้นท่ีกรุงเทพมหานครอันเป็นการแก้ปัญหาในระยะยาว เพ่ือความยั่งยืนในการสร้าง พ้ืนที่สีเขียวทั่วประเทศ โดยมีการติดตามและส่งเสริมการขยายผลในโครงการระยะยาวโดยแต่งตั้ง คณะกรรมการเพอื่ กากบั ตดิ ตามและขบั เคล่ือนโครงการ ประเด็นท่ี ๔ ข้อกฎหมายและระเบียบท่ีเกี่ยวข้อง มาตรการด้านภาษีในการป้องกันและแก้ไข ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เกษตรกรและกลุ่มเกษตรกร เพอ่ื ส่งเสรมิ และสนบั สนุนให้แกเ่ กษตรกรทาการเกษตรแบบลดการปลอ่ ยฝนุ่ ละอองขนาดเลก็ (PM ๒.๕) กระทรวงการคลังโดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ได้ให้ข้อมูลต่อที่ประชุม ดังน้ี การให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เกษตรกรและกลุ่มเกษตรกรเพื่อส่งเสริมและสนับสนุน ให้เกษตรกรทาการเกษตรแบบลดการปลอ่ ยฝ่นุ ละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ซึ่งเรื่องนี้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ และนโยบายของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรในการที่จะปล่อยสินเชื่อควบคู่ไปกับการดูแล สิ่งแวดล้อมเพ่ือสร้างความยั่งยืนในภาคเกษตร โดยได้ดาเนินการในเรื่องดังกล่าว ๒ แนวทาง แนวทางท่ี ๑ สร้างการรับรู้ให้เกษตรกรท่ีเป็นลูกค้าของธนาคารเพ่ือการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ประมาณ ๔ ล้านครัวเรือน ให้เห็นผลกระทบของการเผาในที่โล่งแจ้งและการเผาในภาคการเกษตร ซ่ึงท่ีผ่านมา ทางธนาคารได้ทางานร่วมกับกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สานักงานคณะกรรมการอ้อย และน้าตาลทราย กระทรวงอุตสาหกรรม และภาคเอกชน โดยจัดทาโครงการ ZERO BURN ลดการเผา ในภาคการเกษตร ซ่ึงได้รับความสนใจจากเกษตรกรเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ยังให้ความรู้ในการนาวัสดุเหลือ ใช้ในภาคการเกษตรกลับมาใช้ใหม่ แนวทางท่ี ๒ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรจะสนับสนุนเงิน ให้แก่เกษตรกรท่ีนาเงินไปเปล่ียนการเกษตรของตนเองให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากข้ึน ลดการปล่อย ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) โดยได้ดาเนินการในรูปแบบของการปล่อยสินเช่ือ ยกตัวอย่างเช่น ๑) สินเช่ือ กรีนเครดิต เป็นสินเชื่อให้ผู้ที่อยู่ในภาคการเกษตรได้ทาการผลิตที่เป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม โดยได้จัดเตรียม วงเงินไว้สาหรับสินเช่ือน้ี จานวน ๕,๐๐๐ ล้านบาท ซึ่งโครงการน้ีได้ดาเนินการมาได้ ๔ ปีแล้ว และอัตราดอกเบี้ย ในสินเช่ือกรีนเครดิตน้ีจะต่ากว่าสินเช่ือท่ัวไปโดยในปัจจุบันอัตราดอกเบี้ยอยู่ท่ีร้อยละ ๕.๘๗๕ ต่อปี ๒) สินเชื่อเพ่ือการเกษตรสู่ความย่ังยืน มุ่งเน้นให้เกษตรกรเปล่ียนการผลิตแบบดั้งเดิม มาใช้รูปแบบการผลิต ที่ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยได้จัดเตรียมวงเงินไว้สาหรับสินเชื่อนี้ จานวน ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท ๓) สินเช่ือเพื่อเพ่ิมประสิทธิภาพการผลิตอ้อยครบวงจร โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ได้ทางานรว่ มกบั สานกั งานคณะกรรมการอ้อยและนา้ ตาลทราย กระทรวงอุตสาหกรรม โดยสนบั สนุนนวตั กรรม การใช้เครื่องจักร เช่น รถตัดอ้อย เคร่ืองสางอ้อย เครื่องอัดใบอ้อย เพื่อแก้ปัญหาลดแรงงานที่ขาดแคลน และลดผลกระทบจากการเผาอ้อย โดยได้จัดเตรียมวงเงินไว้สาหรับสินเชื่อนี้ จานวน ๖,๐๐๐ ล้านบาท ฟอตั ราดอกเบยี้ อยูท่ ่รี ้อยละ ๒ ต่อปี เป็นตน้
๒๘ ประเด็นที่ ๕ การให้ความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) โดยการกาหนดหลกั สูตรการเรียนการสอน กระทรวงศึกษาธกิ าร ได้ใหข้ อ้ มูลต่อทปี่ ระชมุ ดังนี้ กระทรวงศึกษาธิการมีมาตรการการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) โดยต้ังศูนย์ประสานงานเพื่อเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) เพ่ือจัดทา มาตรการในการเตรียมความพร้อม ป้องกัน แก้ไข เฝ้าระวัง และลดผลกระทบจากปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ท้ังในระยะสั้นและระยะยาว โดยให้กลุ่มโรงเรียนอาชีวศึกษาผลิตหน้ากากอนามัยส่งให้โรงเรียน ในสังกัดที่ขอรับการสนับสนุนหน้ากากอนามัย ในโรงเรียนท่ีมีความพร้อมจะมีการติดตั้งเครื่องพ่นละอองน้า และให้มีการจัดการเรียนการสอนในเรื่องการบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม การเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้น โดยศูนย์ประสานงานนี้จะมีหน่วยงานในทุกจังหวัดเพ่ือประสานงานกับส่วนกลาง เช่น ในกรณีท่ีหน้ากากอนามัยไม่เพียงพอ สถานศึกษาก็สามารถขอรับการสนับสนุนจากศูนย์ประสานงานได้ นอกจากน้ียังได้ให้บุคลากรของกระทรวงศึกษาธิการทาการตรวจสภาพรถกับกลุ่มโรงเรียนอาชีวศึกษา หากมีปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) เกินค่ามาตรฐานจนถือว่าเป็นสาธารณภัยอันมีผลกระทบ ต่อประชาชน หัวหน้าสถานศึกษาสามารถส่ังปิดสถานศึกษาได้ไม่เกิน ๗ วัน โดยจะต้องทาการสอนชดเชยภายหลัง ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยปีการศึกษา การเปิดและปิดสถานศึกษา (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๘ ในกรุงเทพมหานคร สถานศึกษาท่ีมีการสั่งปิดส่วนใหญ่อยู่ในเขตดุสติ ราชเทวี และเขตลาดพร้าว ข้อเสนอแนะ ของกระทรวงศึกษาธิการ คือ ให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหา โดยอาจจะได้รับการลดหย่อนภาษี จากการเข้ามามีส่วนร่วม และเสนอให้ภาคประชาชนใช้บรกิ ารขนส่งสาธารณะมากขึ้นเพื่อลดปริมาณ การปล่อยมลพิษสู่อากาศ ประเด็นท่ี ๖ มาตรการและวิธีการควบคุมราคาหน้ากากอนามัยท่ีมีราคาสูง แนวทาง และมาตรการควบคมุ ราคาอ้อยและน้าตาล กระทรวงพาณชิ ย์โดยกรมการค้าภายใน ได้ให้ข้อมลู ต่อท่ปี ระชุม ดังนี้ หน้ากากอนามัยท่ีมีราคาสูงและการบริหารจัดการหน้ากากอนามัย หน้ากากกันฝุ่นละออง ขนาดเล็ก (PM ๒.๕) กับหน้ากากกันโรคติดต่อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ๒๐๑๙ มีความแตกต่างกัน เน่ืองจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) เป็นฝุ่นละอองที่ลอยอยู่ในอากาศได้ด้วยตัวเอง ส่วนไวรัสโคโรนา สายพันธ์ุใหม่ ๒๐๑๙ เป็นโปรตีนซ่ึงไม่สามารถอยู่ในอากาศได้ด้วยตัวเองต้องไปจับกับละอองน้าตา ละอองน้ามูก ด้วยเหตุน้ีจึงสามารถใช้หน้ากาก Surgical mask หรือหน้ากากผ้าได้ ประเทศไทยสามารถผลิตหน้ากาก Surgical mask เดือนละ ๓๐ - ๕๐ ล้านช้ิน ขณะน้ีมีหลายโรงเรียนให้นักเรียนใส่หน้ากาก Surgical mask ซ่ึงสามารถป้องกันไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ๒๐๑๙ ได้ แต่ไม่สามารถป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ได้ การผลิตหน้ากากท่ีกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ได้น้ัน มีกาลังผลิตในประเทศไทยในปริมาณที่ไม่สูงมาก จึงต้องมีการนาเข้าหน้ากากท่ีกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ทาให้มีราคาสูง ต้นทุนอยู่ท่ีประมาณอันละ ๒๐ บาท และเน่ืองจากมีความต้องการหน้ากากอนามัยเป็นจานวนมาก จึงมีการประกาศให้หน้ากากอนามัย เป็นสินค้าควบคุมตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ฉบับที่ ๓ พ.ศ. ๒๕๖๓ เรื่อง การแจ้งข้อมูล การแสดงราคา และการปันส่วนหรือจาหน่ายหน้ากากอนามัย โดยสินค้าที่ ควบคุม มีมาตรการ ๓ เรื่องใหญ่ ๆ คือ ๑) การแจ้งข้อมูล ต้องแจ้งข้อมูลการสต็อคสินค้าทุกเดือน ๒) การขนย้าย หากมีการนาออกนอกประเทศตั้งแต่ ๕๐๐ ชิ้นเป็นต้นไปต้องดาเนินการขออนุญาต ส่วนหน้ากากผ้าไม่อยู่ ในความควบคุมตามประกาศดังกล่าว ๓) การปันส่วน กล่าวคือ กรมการค้าภายในสามารถขอความร่วมมือ
๒๙ ให้ผู้ผลิตหน้ากากอนามัยจาหน่ายหน้ากากแก่บุคคลหรือหน่วยงานที่มีความจาเป็น เช่น โรงพยาบาลของรัฐ มีความจาเป็นต้องใช้หนา้ กากอนามยั วนั ละ ๒๐๐,๐๐๐ ช้ิน บรษิ ัท การบินไทย จากัด (มหาชน) มคี วามตอ้ งการ ใช้วันละ ๑๘,๐๐๐ ชิ้น เป็นต้น ในขณะน้ี ถือว่ากรมการค้าภายในมีปริมาณหน้ากากอนามัยที่เพียงพอ ต่อความตอ้ งการในกลมุ่ บุคคลหรอื หนว่ ยงานทม่ี ีความจาเปน็ ต้องใชห้ น้ากากอนามัย ประเด็นท่ี ๗ มาตรการและวิธีการปฏิบัติเกี่ยวกับการปล่อยฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ในการประกอบพธิ ีทางศาสนาและพธิ ฌี าปนกิจศพ ๑. สานกั งานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้ให้ข้อมลู ตอ่ ทีป่ ระชมุ ดังนี้ ๑) สานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ มีอานาจหน้าท่ีในการรับสนองงาน ประสานงาน และถวายการสนับสนุนกิจการและการบริหารการปกครองคณะสงฆ์ ส่งเสริม ดูแล รักษา และทานุบารุง ศาสนสถานและศาสนวัตถุทางพระพุทธศาสนา โดยคณะสงฆ์ได้มีการปฏิรูปกิจการพระพุทธศาสนา ๖ ด้าน ซึง่ ในการจัดการสง่ิ แวดล้อมจะอยูใ่ นด้านสาธารณปู การ ๒) ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ของศาสนสถาน มีการจัดทา โครงการก่อสร้างปรับปรุงเตาเผาศพปลอดมลพิษ ซึ่งได้รับจัดสรรงบประมาณวัดละ ๑,๘๐๐,๐๐๐ บาท โดยมีวัดท่ีได้รับจัดสรรทั้งสิ้น จานวน ๓๒๗ วัด จาก ๔๑,๓๕๒ วัด เป็นวัดในกรุงเทพมหานคร จานวน ๕ วัด แต่ในปี ๒๕๖๓ มีวัดที่ได้รับจัดสรรงบประมาณจากรัฐบาล จานวน ๑๔ วัด โดยได้งบประมาณวัดละ ๑,๒๐๐,๐๐๐ บาท ๓) สานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติใช้เตาเผาศพปลอดมลพิษตามมาตรฐ าน ของกรุงเทพมหานคร และกรมควบคุมมลพิษ ซ่ึงอยู่ในระดับ ๓ ของ ๔ ระดับ คือ เป็นเตาเผาแบบสองห้องเผา โดยห้องแรกเป็นห้องเผาศพ และห้องท่ีสองเป็นห้องเผาก๊าซและควันก่อนระบายสู่ชั้นบรรยากาศ ซ่ึงกาหนด อุณหภูมิการเผาต้องไม่น้อยกว่า ๘๐๐ – ๑,๐๐๐ องศาเซลเซียส ๔) ในการแก้ไขปัญหาฝนุ่ ละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ทีเ่ กิดจากธปู สานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ได้มกี ารขอความรว่ มมือจากวัดท่ีมีนักท่องเทีย่ วจานวนมากให้กาหนดแนวทางการแก้ไขเพ่ือลดปัญหาทีเ่ กิดจาก การจุดธูปและเทียน ๒. กรมส่งเสรมิ การปกครองทอ้ งถนิ่ ได้ใหข้ อ้ มูลต่อท่ปี ระชุม ดังนี้ ๑) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถ่ิน มีอานาจหน้าท่ีในการส่งเสริม สนับสนุน ให้คาแนะนา แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ทั้งในพื้นท่ีเทศบาล องค์การบริหารส่วนตาบล (อบต.) และองค์การบริหาร ส่วนจังหวัด (อบจ.) โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินในแต่ละพื้นท่ีมีอานาจในการบริหารจัดการป้ องกัน และแก้ไขปญั หาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ๒) วัดท่ีอยู่ในความดูแลขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินในต่างจังหวัด มีจานวนประมาณ ๔๐,๐๐๐ กว่าวัด ซึ่งในการจัดต้ังสุสานและฌาปนสถานจะต้องขออนุญาตจากเทศบาลและอาเภอ โดยการบริหารจัดการจะต้องเป็นไปตามพระราชบัญญัติการสาธารณสุขในหมวดเหตุราคาญ กล่าวคือ จะต้องมีการควบคุมมลพิษทางอากาศไม่ให้มีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ๓) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นได้กาหนดมาตรฐานเกี่ยวกับการก่อสร้างและควบคุม เตาเผาศพ แบ่งออกเป็น ๓ ประเภท ได้แก่ ๑) เตาเผาแบบโบราณหรือแบบเชิงตะกอน ซึ่งพบเป็นจานวนมาก ในบริเวณภาคเหนือ ๒) เตาเผาแบบหน่ึงห้องหรือเตาเผาเดี่ยว ๓) เตาเผาแบบสองห้องซึ่งมีคุณภาพดีท่ีสุด โดยต้องใชง้ บประมาณประมาณ ๑,๘๐๐,๐๐๐ – ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท ในการก่อสรา้ ง นอกจากนี้ไดม้ ีการกาหนด
๓๐ มาตรฐานเช้ือเพลิงที่ใช้กับเตาเผาแต่ละประเภท ได้แก่ ฟืนหรือถ่าน น้ามันดีเซล และก๊าซ LPG ซ่ึงมาตรฐาน สาหรบั อุณหภมู ิจะกาหนดไว้ไมใ่ ห้ตา่ กวา่ ๙๐๐ องศาเซลเซยี ส ๔) มาตรการการควบคุมและกากับดูแลฌาปนสถานในพื้นที่ขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น แบง่ ออกเปน็ ๓ ด้าน ดังนี้ (๑) ด้านสถานที่และสิ่งก่อสร้าง จะประสานหน่วยงานในพื้นที่ เช่น ด้านสาธารณสุข ด้านสิ่งแวดล้อมในการตรวจสอบดูแลสิ่งก่อสร้าง และการใช้สถานที่ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และตามกฎหมาย ทเี่ กยี่ วขอ้ งอย่างน้อยปลี ะ ๑ ครง้ั (๒) ด้านเตาเผาศพ จะประสานกับหน่วยงานที่เก่ียวข้องในพื้นท่ี เช่น สานักงานส่งเสริม คุณภาพสิ่งแวดล้อมจังหวัด สานักงานส่งเสริมคุณภาพส่ิงแวดล้อมภาค สานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ และเจ้าหน้าที่กรมควบคุมมลพิษ ในการตรวจสอบการใช้เตาเผา และตรวจวัดค่าความทึบแสงของเขม่าควัน จากปลอ่ งเผาศพ เพอ่ื จะได้ควบคุมแก้ไขใหเ้ ปน็ ไปตามมาตรฐานท่รี าชการกาหนด (๓) ด้านประชาชนและผู้ใช้บริการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจะต้องจัดเก็บข้อมูล หรือจัดทาระบบให้มีการแสดงความคิดเห็นหรือช่องทางท่ีจะให้ประชาชนแสดงความคิดเห็นในการใช้บริการ หรอื ได้รบั ผลกระทบจากการดาเนินงานของฌาปนสถานในพ้ืนที่ ๕) แนวทางการพัฒนาการบริหารจัดการฌาปนสถานในพื้นที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถน่ิ มี ๔ ประการ ได้แก่ (๑) การออกข้อบัญญัติเกี่ยวกับสุสานและฌาปนสถาน (๒) การจัดให้มีฌาปนสถานกลาง (๓) สนบั สนนุ พฒั นาปรับปรงุ ฌาปนสถานทมี่ อี ยเู่ ดมิ และ (๔) การก่อสร้างเตาที่ไดม้ าตรฐาน ๓. กรุงเทพมหานคร ไดใ้ หข้ อ้ มูลตอ่ ที่ประชุม ดงั นี้ ๑) ในกรุงเทพมหานครมีวัดที่มีเตาเผาศพ จานวน ๓๐๘ วัด โดยการเผาศพเฉล่ียเดือนละ ประมาณ ๒,๕๕๐ ศพ และมกี ารปล่อยมลพิษทางอากาศจากการเผาศพสู่ช้นั บรรยากาศประมาณ ๑๕.๓ ตนั ตอ่ ปี ๒) สานักอนามัยซ่ึงรับผิดชอบในการดูแลสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อมและในฐานะเป็นผู้ดูแลกากับ นโยบายในเรอื่ งของฌาปนสถาน ไดด้ าเนินการ ๓ ประการ ดงั น้ี (๑) ตรวจสอบสภาพเตาเผาศพทุกวัด และพบว่ามีวัดจานวน ๗ วัด ไม่มีเตาเผาศพ เน่ืองจากมีการปิดซ่อมแซม และบางแห่งถูกยกเลิกใบอนุญาต ทาให้ปัจจุบันมีวัดท่ีมีเตาเผาศพ จานวน ๓๐๑ วัด ซ่ึงมีวัดที่มีค่ามลพิษทางอากาศอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน จานวน ๒๘๘ วัด และเกินเกณฑ์ จานวน ๑๓ วัด โดยได้ดาเนินการใหส้ านกั งานเขตปิดปรับปรงุ ชว่ั คราวเพอ่ื ซอ่ มแซมเตาเผาศพ (๒) ประชาสัมพันธ์ให้ควบคุมอุณหภูมิในเตาเผาศพให้มากกว่า ๘๕๐ องศาเซลเซียส รวมท้ังให้งดการบรรจุวัสดุไม่จาเป็นในหีบศพ พร้อมน้ี ได้มีการจัดทาแผ่นพับเก่ียวกับขั้นตอนการเผาศพ อย่างถกู วิธีใหแ้ ก่วดั เพือ่ ปฏิบตั ิตามตอ่ ไป (๓) กาหนดให้สานักงานเขตทุกเขตรายงานผลการตรวจสอบเป็นประจาทุกเดือน เพอ่ื รวบรวมวิเคราะหข์ ้อมูลและจดั ทามาตรการในการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศต่อไป ๓) ในกรุงเทพมหานครมีศาลเจ้า จานวน ๗๑ แห่ง ซึ่งในช่วงเทศกาลตรุษจีนจะมีการตรวจ การใช้ธูปอย่างเข้มงวด โดยมีหนังสือขอความร่วมมือไปยังสานักงานเขตและศาลเจ้าโดยตรง ให้ลด ละ เลิก การจุดธูป และการเผากระดาษเงินกระดาษทอง และได้มีการกาหนดมาตรการเพื่อลดการปล่อยฝุ่นละออง ๙ ประการ ดังนี้ (๑) จัดจานวนกระถางธูปเท่าท่ีจาเป็น( ๒) ให้บริการธูปท่ีมีขนาดเล็กลงหรือมีควันน้อย (๓) กาจัดหรือลดจานวนธูปท่ีใช้ในการประกอบกิจกรรมหรือใช้เท่าที่จาเป็น (๔) การตั้งวางกระถางธูปด้านนอก อาคารหรือบริเวณที่มีการระบายอากาศที่ดี (๕) ในกรณีท่ีจาเป็นต้องวางกระถางธูปในอาคาร ควรจัดระบบ ระบายอากาศที่มีประสิทธิภาพ (๖) จัดเจ้าหน้าท่ีเก็บธูปในกระถางและดับไฟธูปทันทีเม่ือเสร็จสิ้นการไหว้
๓๑ (๗) ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจและตระหนักถึงมลพิษที่เกิดจากการจุดธูปและการเผากระดาษ เงนิ กระดาษทอง (๘) ทาความสะอาดข้ีเถ้าธูปและจัดหาภาชนะรวบรวมขี้เถา้ ธูปและขี้เถา้ จากการเผากระดาษเงิน กระดาษทองไปกาจัดอย่างถูกวิธีเพื่อลดการปนเป้ือนสู่สิ่งแวดล้อม และ (๙) งดเว้นการเผากระดาษเงิน กระดาษทองในที่โล่งแจ้ง ควรรวบรวมไปเผาในเตาเผาที่ได้มาตรฐาน นอกจากน้ี มีการเดินรณรงค์ ในช่วงตรุษจีนตามศาลเจ้าตา่ ง ๆ ซง่ึ ได้รบั ความร่วมมือเปน็ อย่างดี ประเดน็ ท่ี ๘ มาตรการการเก็บภาษเี กย่ี วกับการใชพ้ ลงั งานทดแทน ๑. กรมสรรพากร (ต้นทุนภาษีมูลค่าเพ่ิมน้ามันเชื้อเพลิงและไบโอดีเซล พิกัดอัตราภาษีมูลค่าเพิ่ม และผลิตภณั ฑ์น้ามัน มาตรการลดหย่อนภาษีเพื่อส่งเสริม การใช้พลงั งานทดแทนหรือพลังงานสะอาด) ไดใ้ หข้ ้อมูล ตอ่ ทป่ี ระชมุ ดังนี้ ๑) ในการจัดเกบ็ ภาษีมลู ค่าเพิม่ จะขึ้นอยู่กับภาษสี รรพสามติ โดยจดั เกบ็ ที่ ๗ เปอร์เซน็ ต์ ๒) มาตรการทางภาษีและสิทธิประโยชน์ทางภาษีเพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) มี ๒ มาตรการ ได้แก่ (๑) มาตรการส่งเสริมองค์การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โดยให้สิทธิประโยชน์ แก่ผู้ประกอบการท่ีทาโครงการลดโลกร้อน ซึ่งผู้ประกอบการที่เข้าร่วมจะได้รับใบรับรองว่าเป็นกิจการ ที่ปล่อยคาร์บอนตา่ และสามารถนาไปขายเปน็ คารบ์ อนเครดิตได้ (๒) โครงการปลูกป่าในชุมชน โดยภาคเอกชนท่ีสนใจเข้าร่วมโครงการต้องทาบันทึก ความเขา้ ใจ (MOU) กบั กรมป่าไม้ เพอ่ื นามาขอหกั ลดหยอ่ ยภาษไี ด้ ซึ่งมาตรการนีจ้ ะสน้ิ สดุ ในปี พ.ศ. ๒๕๖๕ ๒. กรมสรรพสามิต (ต้นทุนภาษีสรรพสามิตน้ามันเช้ือเพลิงและไบโอดีเซล พิกัดอัตราภาษี สรรพสามิตและผลิตภัณฑ์น้ามัน มาตรการลดหย่อนภาษีเพื่อส่งเสริม การใช้พลังงานทดแทนหรอื พลังงาน สะอาด) ได้ให้ขอ้ มลู ต่อทป่ี ระชมุ ดงั นี้ ๑) มาตรการภาษีสรรพสามิตน้ามันเชือ้ เพลิงและไบโอดีเซล มี ๒ มาตรการหลกั ไดแ้ ก่ (๑) มาตรการด้านอุปสงค์ (Demand) คือ รถยนต์ เร่ิมตั้งแต่เดือนพฤษภาคม ๒๕๖๒ โดยลดอัตราภาษีสาหรับรถยนต์ที่ใช้น้ามัน B๒๐ ซึ่งในเดือนตุลาคม ๒๕๖๒ - มกราคม ๒๕๖๓ มีรถยนต์ ที่ใช้น้ามัน B๒๐ ประมาณ ๑๔๖,๐๐๐ คัน โดยแบ่งเป็นรถกระบะ Double Cab ๔๐ เปอร์เซ็นต์ และอีก ๖๐ เปอร์เซน็ ต์ เป็นรถปคิ อพั ธรรมดา (๒) มาตรการด้านอุปทาน (Supply) คือ น้ามัน เร่ิมต้ังแต่เดือนมิถุนายน ๒๕๖๒ โดยลดภาษนี า้ มนั ไบโอดีเซลสาหรับ B๗ B๑๐ และ B๒๐ ซึ่งในเดือนมิถนุ ายน ๒๕๖๑ - กันยายน ๒๕๖๒ มกี ารใช้น้ามนั B๒๐ ประมาณ ๔๐๒ ล้านลิตรต่อปี และในเดือนตุลาคม ๒๕๖๒ - มกราคม ๒๕๖๓ มีการใช้น้ามัน B๒๐ เพ่ิมขึ้น ๗ เปอร์เซ็นต์ ประมาณ ๑๕๐ ลา้ นลติ รต่อเดอื น ๒) ปัญหาการใช้น้ามันไบโอดีเซลเกิดจากข้อจากัดในเรื่องของรถยนต์ กล่าวคือ รถยนต์ ที่สามารถใช้น้ามันไบโอดีเซลได้ในปัจจุบัน มี ๒ ประเภทคือ รถยนต์ท่ีผลิตใหม่ และรถยนต์ที่ผลิตมาแล้ว เกิน ๑๐ ปี อีกท้ังปัญหาในเร่ืองจานวนสถานีบริการน้ามันที่มีน้ามัน B๒๐ ในปัจจุบันมีเพียงประมาณ ๑๐ - ๑๕ เปอร์เซ็นต์ ของปริมาณสถานีบริการน้ามันท้ังหมด ซ่ึงไม่เพียงพอต่อความต้องการในตลาด ส่วนเร่ืองราคาน้ามัน B๒๐ ในปัจจุบันอยู่ที่ ๒๒.๖๙ สตางค์ต่อลิตร เม่ือเทียบกับน้ามันดีเซลปกติอยู่ที่ ๒๕.๖๙ สตางค์ ถือว่ามีแรงจูงใจให้แก่ผู้บริโภคพอสมควร
๓๒ ประเด็นที่ ๙ สถานการณ์และมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาการปล่อยมลพิษ รวมทั้ง ปญั หาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ของโรงงานในเขตนิคมอุตสาหกรรม การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ใหข้ ้อมูลตอ่ ท่ีประชมุ ดงั นี้ ๑. การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ ด้านการแก้ไขปัญหามลพิษฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ของกรมควบคุมมลพิษ ซ่ึงกาหนดมาตรการไว้ ๓ มาตรการ ไดแ้ ก่ ๑) มาตรการการเพ่ิมประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเชิงพื้นท่ี ประกอบด้วย ๔ แนวทาง ดงั น้ี (๑) ตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายกับโรงงานอุตสาหกรรมและหม้อน้า หรือแหล่งกาเนิด ความร้อนอย่างเข้มงวด พร้อมท้ังส่ังการให้ผู้ประกอบการดูแลระบบบาบัดมลพิษทางอากาศ ทาความสะอาดปล่อง และทาความสะอาดฝนุ่ ละอองภายในโรงงาน (๒) ตรวจวัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ในบรเิ วณนิคมอุตสาหกรรมดว้ ยการใช้ Filter และนาไปตรวจในห้องแล็บ มิได้ใช้ข้อมูลจาก AirVisual โดยพบว่ามีบริเวณนิคมอุตสาหกรรมบางชัน และนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบังที่มีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) เกินเกณฑ์มาตรฐาน ซึ่งเกิดจากบริเวณดังกล่าว มกี ารจราจรหนาแนน่ (๓) ให้ผู้ประกอบการรายงานผลผ่านระบบออนไลน์ตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม หรือที่เรยี กวา่ CEMS (Continuous Emission Monitoring System) เพือ่ ดาเนนิ การแก้ไขปัญหาตามสาเหตุต่อไป (๔) กาหนดมาตรฐานการระบายมลพิษทางอากาศในรูปแบบ Loading โดยคานึงถึง ความสามารถหรือศักยภาพในการรองรับมลพิษทางอากาศของพ้ืนท่ี เพื่อป้องกันปัญหาค่ามลพิษทางอากาศ ที่แต่ละโรงงานปล่อยออกมาไม่เกินเกณฑ์มาตรฐาน แต่เม่ือรวมกันแล้วค่ามลพิษทางอากาศในบรรยากาศ เกนิ เกณฑ์ ๒) มาตรการการป้องกันและลดการเกิดมลพิษท่ีต้นทาง (แหล่งกาเนิด) ประกอบด้วย ๔ แนวทาง ดังนี้ (๑) ขอความร่วมมือผู้ประกอบการในการปฏบิ ตั ิตามมาตรการและแนวทางเพ่อื การป้องกัน และแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ในกระบวนการผลิต โดยให้ปรับปรุงระบบการเผาไหม้ ของหมอ้ ไอน้า (Boiler) รวมท้งั ให้ความรูแ้ กผ่ ู้ประกอบการเกย่ี วกับขอ้ หา้ มในการเผา (๒) กากับดูแลให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและลดฝุ่นจากดาเนินงาน ก่อสร้างเพื่อมิให้ฝุ่นละอองขนาดใหญ่ลดประสิทธิภาพของต้นไม้ในการดูดซับฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) โดยการฉีดพ่นน้าในพ้ืนทกี่ ่อสร้าง ลา้ งล้อรถเพ่ือลดการกระจายฝุ่น และซ่อมบารุงรักษาเครื่องจักรเพ่ือลดควันเสีย และฝุน่ ละอองท่ีระบายมา (๓) กากับดูแลให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและลดฝุ่นจากการขนส่ง และยานพาหนะ โดยไม่สนับสนุนการจอดรถติดเครื่องยนต์ในบริเวณพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมและโรงงาน อุตสาหกรรม และทาความสะอาดล้อรถบรรทุก เพือ่ ปอ้ งกันเศษดินและทรายและการกระจายของฝุ่นละออง ๓) มาตรการการเพ่ิมประสิทธิภาพการบริหารจัดการมลพิษปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) โดยการจัดทาบัญชีการระบายมลพิษทางอากาศจากแหล่งกาเนิด (Air Emission Inventory) เพ่ือใช้วางแผนบริหารจัดการคุณภาพอากาศ และกาหนดมาตรการควบคุมการระบายมลพิษทางอากาศ ทเ่ี หมาะสม
๓๓ ประเด็นที่ ๑๐ แนวทางการผลักดนั การใช้ก๊าซ NGV และพลังงานทดแทนอ่ืน ๆ ในภาคการขนส่ง ๑. กระทรวงอุตสาหกรรม ไดใ้ ห้ข้อมลู ต่อที่ประชุม ดังนี้ ๑) หน่วยงานสังกัดกระทรวงอุตสาหกรรมท่ีเกี่ยวข้องกับการแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) มีดังน้ี (๑) กรมโรงงานอุตสาหกรรม (๒) สานักงานคณะกรรมการอ้อยและน้าตาลทราย (๓) กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (๔) สานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ๒) กระทรวงอุตสาหกรรมได้ดาเนินการเพ่ือการแก้ปญั หาฝนุ่ ละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ดังนี้ (๑) สานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมได้จัดทาร่างมาตรฐานระบบระบายมลพิษสู่อากาศกับเครื่องยนต์ ยูโร ๕ และเคร่ืองยนต์ยูโร ๖ สาหรับรถยนต์ขนาดเล็ก โดยได้ผ่านความเห็นชอบของคณะกรรมการมาตรฐาน ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเป็นที่เรียบร้อยแล้ว (๒) สานักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมได้จัดทา ร่างมาตรฐานระบบระบายมลพิษสู่อากาศกับเคร่ืองยนต์ยูโร ๔ - ๖ สาหรับรถบรรทุก โดยจะนาเสนอ ต่อคณะกรรมการมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมภายในเดือนพฤษภาคม ๒๕๖๓ (๓) กระทรวงอุตสาหกรรม ได้ดาเนินการประสานงานกับกระทรวงคมนาคม เกี่ยวกับมาตรฐานเคร่ืองยนต์ยูโรในรถยนต์ขนาดเล็ก และรถบรรทุกให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน (๔) ส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าและส่งเสริมการใช้ก๊าซ NGV เปน็ เชอ้ื เพลิงการเผาไหม้ในโรงงานอุตสาหกรรม ๒. กรมการขนสง่ ทางบก ไดใ้ หข้ อ้ มูลตอ่ ทปี่ ระชมุ ดังนี้ ๑) กรมการขนส่งทางบกมีอานาจหน้าท่ีดูแลความปลอดภัยของรถยนต์และอุปกรณ์ส่วนควบ ของรถยนต์ โดยในการจดทะเบยี นรถครัง้ แรก กรมการขนส่งทางบกใช้กฎหมายของกรมควบคุมมลพิษเป็นหลัก ในการควบคุมและกากับดูแลมลพิษที่ปล่อยจากรถยนต์ และมีหลักเกณฑ์สาหรับตรวจสอบมลพิษในรถยนต์ หลังจากมกี ารใช้งานไปเรียบร้อยแลว้ ๒) แนวทางการผลักดันพลังงานทดแทนในภาคการขนส่งนั้น กรมการขนส่งทางบกได้มี การสนับสนุนสิทธิพิเศษทางด้านภาษี กรณีรถยนต์ท่ีใช้ก๊าซ NGV เพียงอย่างเดียว จะเสียภาษีกึ่งหน่ึงของอัตรา ท่ีกาหนดไว้ กรณีรถยนต์ท่ีใช้น้ามันเช้ือเพลิงร่วมกับพลังงานทดแทนอ่ืน ๆ จะเสียภาษี ๓/๔ เท่าของอัตรา ทก่ี าหนดไว้ สว่ นในเรือ่ งความปลอดภัยของรถยนต์ที่ใช้ก๊าซ NGV นน้ั ผู้ประกอบการที่รบั ตดิ ตง้ั ตัวถังก๊าซ NGV ในรถยนต์ รถบรรทุก จะต้องได้รับการอนุมัติจากกรมการขนส่งทางบก โดยมีการประเมินความปลอดภัย หลังจากการติดตั้งโดยวิศวกรด้านความปลอดภัยของกรมการขนส่งทางบก โดยในขณะน้ีมีรถที่ใช้ก๊าซ NGV เพยี งอย่างเดยี ว ๓๖๕,๐๐๐ คัน รถทีใ่ ช้พลังงานไฟฟา้ ๓,๒๐๐ คัน ๓. สานกั งานนโยบายและแผนพลงั งาน ได้ให้ขอ้ มูลตอ่ ท่ปี ระชมุ ดงั นี้ ๑) แนวทางการบรรเทาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ของกระทรวงพลังงาน แบ่งออกเป็น ๓ ระยะ (๑) ระยะสั้น ส่งเสริมการใช้น้ามันไบโอดีเซล เน่ืองจากมีการศึกษาพบว่าการใช้น้ามันไบโอดีเซล ทาให้การปล่อยฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ออกสู่อากาศลดลง (๒) ระยะกลาง จัดต้ังโครงการโรงไฟฟ้า ชุมชน (๓) ระยะยาว จัดทามาตรฐานน้ามันให้เป็นยูโร ๕ เน่ืองจากในปัจจุบันมาตรฐานน้ามันเป็นยูโร ๔ ซึง่ ต้องใช้ระยะเวลาดาเนินการ โดยคาดว่าจะดาเนินการแลว้ เสร็จในปี ๒๕๖๗ เน่อื งจากต้องเจรจากับโรงกล่ันน้ามัน และบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ให้ดาเนินการไปในทิศทางเดียวกัน โดยในทางปฏิบัติมีผู้ค้าน้ามัน เช่น สถานีบริการ นา้ มันบางจาก และ สถานบี ริการนา้ มนั ปตท. ได้เริ่มจาหนา่ ยนา้ มนั มาตรฐานยูโร ๕ ในบางพนื้ ทีข่ องกรงุ เทพมหานคร และปริมณฑล ๒) ในส่วนของยานยนต์ไฟฟ้า สานักงานนโยบายและแผนพลังงานรับผิดชอบในเรื่องการออกแบบ สถานีอัดประจุไฟฟ้าว่าควรมีพ้ืนท่ีเท่าใดเพื่อความเหมาะสมของการประกอบธุรกิจ โดยในเบื้องต้นกาหนดให้ สถานีอัดประจุไฟฟ้าแต่ละสถานีต้องมีระยะห่าง ๕๐ กิโลเมตร ส่วนแนวทางการผลักดันการใช้ก๊าซ NGV น้ัน
๓๔ รัฐบาลได้มีแนวทางการผลักดันการใช้ก๊าซ NGV ตั้งแต่ปี ๒๕๔๕ โดยมีมาตรการจูงใจเพ่ือสนับสนุนให้ ใช้ก๊าซ NGV เป็นจานวนมาก ต่อมาในปี ๒๕๕๗ ปริมาณการใช้ก๊าซ NGV เร่ิมลดลง เนื่องจากไม่มีมาตรการ จูงใจด้านราคา และในปัจจุบันมาตรการส่งเสริมให้ใช้ก๊าซ NGV ได้ปิดโครงการไปทั้งหมดแล้ว ปัจจุบัน กาลังมีการปรับโครงสร้างราคาก๊าซ NGVโดยกาลังพิจารณาทางเลือก ๓ ทางเลือก ได้แก่ (๑) ปรับโครงสร้างราคา เท่ากบั ๕๐ เปอรเ์ ซ็นต์ของราคาน้ามันดีเซล (๒) ปรับขน้ึ ราคาก๊าซ NGV (๓) เปิดเสรีปล่อยราคาก๊าซ NGV ส่วนบัตร สว่ นลดราคากา๊ ซ NGV สาหรับรถโดยสารสาธารณะนนั้ ปัจจุบนั ไดเ้ ปล่ียนรูปแบบเปน็ บัตรพลงั ประชารัฐแทน ๔. สานกั งานกองทนุ นา้ มนั เชือ้ เพลิง ได้ใหข้ อ้ มลู ต่อทีป่ ระชมุ ดังนี้ พระราชบัญญัติกองทุนน้ามันเช้ือเพลิง พ.ศ. ๒๕๖๒ มีผลบังคับใช้เม่ือวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๒ โดยเหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัตฉิ บับน้ีเพื่อเปน็ การรักษาเสถียรภาพของระดับราคานา้ มันเชื้อเพลิง ในประเทศ ให้อยู่ในระดับที่เหมาะสมและป้องกันภาวการณ์ขาดแคลนน้ามันเช้ือเพลิงมิให้เกิดผลกระทบ ต่อเศรษฐกิจ และเพ่ือประโยชน์แห่งความม่ันคงด้านพลังงานและเศรษฐกิจของประเทศ โดยในบทเฉพาะกาล มาตรา ๕๕ ได้กาหนดว่า ในกรณีที่มีการจ่ายเงินชดเชยให้แก่น้ามันเชื้อเพลิงท่ีมีส่วนผสมของเช้ือเพลิงชีวภาพ อยู่ก่อนวันท่ีพระราชบัญญัติน้ีใช้บังคับ ให้ใช้จ่ายเงินกองทุนเพ่ือการดาเนินการดังกล่าวต่อไปได้เป็นระยะเวลา สามปีนับแต่วันท่ีพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ดังนั้น สานักงานกองทุนน้ามันเช้ือเพลิงจึงสามารถจ่ายเงินชดเชย ให้แก่ก๊าซ NGV และพลังงานทดแทนอื่น ๆ อีกเพียงสามปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัติฉบับน้ีใช้บังคับเท่านั้น สานักงานกองทุนน้ามนั เชื้อเพลิงจึงยังไม่มีแนวทางทางการผลกั ดันการใช้ก๊าซ NGV และพลังงานทดแทนอื่น ๆ ในภาคการขนสง่ ๕. สานักงานการวิจัยแห่งชาติ ได้ให้ข้อมูลต่อที่ประชุมถึงแนวทางการผลักดันการใช้ก๊าซ NGV และพลงั งานทดแทนอนื่ ๆ ในภาคการขนสง่ สรปุ สาระสาคัญไดด้ งั นี้ ๑) สาเหตุหลักของการเกิดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) มาจาก ๕ สาเหตุหลัก ได้แก่ (๑) การเกิดไฟป่า (๒) กิจกรรมทางการเกษตร (๓) อุตสาหกรรมการทาเหมืองและการแปรรูปหิน (๔) การจราจรในเขตเมือง และ (๕) หมอกควันข้ามแดน โดยในแต่ละพ้ืนท่ีท่ีประสบปัญหามลพิษทางอากาศนั้น มีต้นตอของปัญหาที่แตกต่างกันไป เม่ือพิจารณาปัญหามลพิษทางอากาศในเขตเมืองพบว่ามาจาก สภาพการจราจรที่คับค่ัง ซง่ึ สารมลพษิ สาคัญท่ที าให้เกดิ ปัญหาหมอกควนั ได้แก่ ฝุน่ ละอองขนาดไม่เกิน ๑๐ ไมครอน (PM ๑๐) ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) และสารระเหยอื่น ๆ เช่น ก๊าซโอโซน คาร์บอนมอนอกไซด์ คาร์บอนไดออกไซด์ ไนโตรเจนไดออกไซด์ ซลั เฟอร์ไดออกไซด์ และสารโพลไี ซคลิกอะโรมาตกิ ไฮโดรคารบ์ อน เป็นตน้ ๒) สานักงานการวิจัยแห่งชาติ ได้สนับสนุนและขับเคลื่อนการวิจัยและนวัตกรรมเก่ียวกับ แผนพลังงานทดแทน ตั้งแต่ปีงบประมาณ ๒๕๕๑ โดยผลงานวิจัยท่ีเก่ียวข้องด้านพลังงานทดแทน เพื่อภาคการขนส่ง ได้แก่ (๑) การผลิตเช้ือเพลิงภาคการขนส่งคุณภาพสูงด้วยกระบวนการไพโรไลซิส เชิงเร่งปฏิกิริยาของชีวมวลตามด้วยไฮโดรดีออกซิจิเนชัน ซึ่งสามารถผลิตไบโอออยล์จากชีวมวล (ใบและยอดอ้อย) ที่ให้ค่าความร้อนและประสิทธิภาพมากข้ึน ซึ่งสามารถนาไปขยายผลสู่การนาไปใช้เป็นเชื้อเพลิงที่มีประสิทธิภาพ เพ่ิมขึ้นในภาคการขนส่งต่อไป (๒) การผลิตไฮโดรเจนจากสาหร่ายขนาดเล็กเพ่ือเป็นเช้ือเพลิงผลิตไฟฟ้า จากเซลล์เช้ือเพลิงแบบเมมเบรนแลกเปล่ียนโปรตรอน ซ่ึงสาหร่ายสีเขียวขนาดเล็ก (Chlamydomonas sp. AARL G๐๓๑) เป็นสาหร่ายที่มีผลผลิตไฮโดรเจนสูงและสามารถเก็บเซลล์ได้ง่าย อีกทั้งสามารถให้ผลผลิต ไฮโดรเจนสูงท่ีสุดและสามารถใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าโดยใช้ก๊าซไฮโดรเจน จากสาหร่ายโดยตรงได้โดยไม่ต้องผ่าน การบาบดั ซ่ึงสามารถศึกษาต่อยอดสู่การนาไปใช้เปน็ พลังงานไฟฟ้าในภาคการขนสง่ ต่อไป ๓) ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ สานักงานการวิจัยแห่งชาติ มุ่งเน้นการพัฒนาพลังงาน ทดแทนด้านนวัตกรรมเชื้อเพลิงทดแทนที่ผลิตจากของเสีย วัสดุเหลือท้ิง และการพัฒนาพลังงานทดแทน
๓๕ ในรูปแบบอ่ืน ๆ เพ่ือนาไปประยุกต์ใช้ และนาไปสู่การลดการใช้พลังงานฟอสซิล ตลอดจนส่งเสริมให้เกิด การใชพ้ ลังงานทเี่ ป็นมิตรกับสิ่งแวดลอ้ ม ๔) ข้อมูลจากการศึกษาแผนงานวิจัยท้าทายไทย ประเทศไทยไร้หมอกควัน โดยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ท่ีได้รับทุนสนับสนุนจากสานักงานการวิจัยแห่งชาติ พบว่า มูลค่าความเสียหายทางเศรษฐศาสตร์จากพื้นที่เผาไหม้ ในเขตพืน้ ท่ี ๑๐ จงั หวัดภาคเหนือตอนบน ดังตาราง ปัจจยั จานวน หนว่ ย จานวนจุดความรอ้ น (Hot Spot) ๒๕๐ จุด ปรมิ าณฝุน่ ละอองขนาดเลก็ ไมเ่ กนิ ๑๐ ไมครอน (PM ๑๐) ๒๑๕.๔๔ ppm พืน้ ท่เี ผาไหม้ (Burn Scar) ๒๐๖,๖๓๑ ไร่ จานวนผ้ปู ่วยทอี่ าจได้รับผลกระทบจากหมอกควนั (SICK) ๒๑,๔๑๙ คน จานวนนกั ท่องเท่ียวทล่ี ดลง (TOUR) ๕๐,๓๐๕ คน ผลการประเมินมูลคา่ ความเสยี หาย ๗๔,๔๙๔,๔๑๑ บาท มูลคา่ การรกั ษาพยาบาลโดยรวม ๗๐,๐๐๙,๕๒๙ บาท มลู ค่าการทอ่ งเท่ยี วทีล่ ดลง ๑๑,๔๘๑,๗๔๓ บาท ตน้ ทุนในการจัดการไฟปา่ ๘๓๙,๗๔๘,๐๐๒ บาท มลู ค่าความเสยี หายต่อดนิ (ความอุดมสมบูรณ์) ๙๙๕,๗๓๓,๙๘๔ บาท รวมมูลคา่ ความเสียหาย ๔,๘๑๘.๙๐ บาท/ไร่ มูลคา่ ความเสียหายเฉลีย่ ๖. การไฟฟ้าฝา่ ยผลติ แหง่ ประเทศไทย ไดใ้ ห้ขอ้ มูลต่อที่ประชุม ดงั นี้ ๑) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้ดาเนินการตามมติของคณะกรรมการนโยบาย พลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อวันท่ี ๑๑ มีนาคม ๒๕๕๙ ซึ่งการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้รับมอบหมาย ให้ดาเนินการ ๓ เรื่อง ๑) การนาร่องการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ๒) เตรียมความพร้อมด้านสาธารณูปโภค ที่เก่ียวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า เช่น สถานีอัดประจุไฟฟ้า ๓) การบริหารจัดการให้โรงไฟฟ้ามีความพร้อมสาหรับ รองรบั การใช้งานยานยนตไ์ ฟฟา้ (EV) ๒) การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยได้เร่ิมดาเนินการตามมติของคณะกรรมการนโยบาย พลังงานแห่งชาติ ( กพช.) โดยนารถโดยสารขนาดเล็กพลังงานไฟฟ้ามาใช้ในกิจการของการไฟฟ้าฝ่ายผลิต แห่งประเทศไทย จานวน ๑๑ คัน และได้เร่ิมมีการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า ๒๓ สถานี ในสานักงานต่าง ๆ ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเพ่ือศึกษาและเก็บข้อมูลการใช้ไฟฟ้าของยานยนต์ไฟฟ้าขณะกาลัง อัดประจุไฟฟ้าเพ่ือนาไปออกแบบระบบการบริหารจัดการไฟฟ้าของสถานีอัดประจุไฟฟ้าต่อไป และได้ประสาน ไปยังหน่วยงานท่ัวประเทศของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยให้ใช้น้ามันไบโอดีเซลบี ๑๐ กับยานยนต์ ของสานักงานเพ่ือเป็นการลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ที่ปล่อยออกสู่อากาศ นอกจากน้ี การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยยังได้ริเร่ิมโครงการรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า เบอร์ ๕ เพื่อนาร่องการใช้งาน ยานยนตไ์ ฟฟ้า (EV) อยา่ งเตม็ รปู แบบ
๓๖ ๗. การไฟฟา้ ส่วนภูมภิ าค ได้ใหข้ ้อมลู ตอ่ ที่ประชุม ดังน้ี แนวทางการผลักดันพลังงานทดแทนในภาคการขนส่งของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มีดังน้ี ๑) ส่งเสริมการใช้น้ามันไบโอดีเซลบี ๑๐ ในรถปฏิบัติการของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคทั่วประเทศประมาณ ๑๕,๐๐๐ คัน ๒) มีแผนเช่ารถในกิจการของหน่วยงานที่เป็นรถยานยนต์ไฟฟ้าทั้งประเทศประมาณ ๓๐๐ คัน ๓) ติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้าสาหรับยานยนต์ไฟฟ้า ๑๑ สถานี และมีแผนติดต้ังเพิ่มเติมทั่วประเทศ ตามถนนเส้นทางหลกั อีกท้ังหมด ๖๒ สถานี ๘. คณะกรรมการกากับกิจการพลังงาน ไดใ้ หข้ ้อมูลต่อทป่ี ระชุม ดังน้ี ๑) คณะกรรมการกากับกิจการพลังงานได้รับมอบหมายให้ส่งเสริมการผลิตและการใช้ ยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทย โดยได้ดาเนินการดังน้ี (๑) ออกระเบียบคณะกรรมการกากับกิจการพลังงาน วา่ ด้วยการขอรบั ใบอนุญาตและการอนุญาตการประกอบกิจการพลงั งาน โดยให้อนุญาตตามขนาดการจาหน่าย ไฟฟ้าของสถานีอัดประจุไฟฟ้า (๒) จัดทามาตรฐานการติดตั้งสถานีอัดประจุไฟฟ้า ตามหลักวิศวกรรม และความปลอดภัย (๓) ในปี ๒๕๖๐ ได้กาหนดอัตราค่าไฟฟ้าสาหรับยานยนต์ไฟฟ้าระยะแรกเป็นการชวั่ คราว (๔) สานักงานคณะกรรมการกากับกิจการพลังงานอยู่ระหวา่ งการดาเนินการศึกษาอัตราค่าไฟฟ้าและการจัดการ ระบบจาหน่ายไฟฟ้าที่เหมาะสมสาหรับสถานีอัดประจุไฟฟ้าของยานยนต์ไฟฟ้า ตามมติคณะกรรมการนโยบาย พลงั งานแหง่ ชาติ (กพช.) เมือ่ วนั ที่ ๑๖ ธนั วาคม ๒๕๖๒ ๒) อัตราค่าไฟฟ้าสาหรับยานยนต์ไฟฟ้าระยะแรกที่กาหนดไว้เป็นการช่ัวคราวน้ัน ผูป้ ระกอบการสถานีอัดประจุไฟฟ้าได้แจ้งว่าเป็นอัตราทส่ี ูงเกินไป ทาใหผ้ ปู้ ระกอบการต้องแบกรับต้นทุนค่าไฟฟ้า ค่าติดต้ังสถานี ประกอบกับในช่วงสองปีที่ผ่านมามีผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าจานวนไม่มาก ทาให้ไม่เกิดความคุ้มทุน ในธรุ กิจสถานอี ัดประจุไฟฟา้ ดงั นน้ั ภาครัฐจงึ จาเปน็ ต้องทบทวนอตั ราค่าไฟฟา้ สาหรับสถานีอัดประจไุ ฟฟ้า ๓) เมื่อวันที่ ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ คณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ได้มีมติ เห็นชอบข้อเสนอแนวทางการกาหนดอัตราค่าไฟฟ้าสาหรับสถานีอัดประจุไฟฟ้าเพ่ือใช้เป็นระยะเวลา ๒ ปี หรือจนกว่าจะมีประกาศโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าใหม่ และมีมติเห็นควรให้เสนอแนวทางดังกล่าวให้ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เพอื่ พจิ ารณาต่อไป โดยเป็นอตั ราค่าไฟฟ้าแบบคงทตี่ ลอดทั้งวัน มีค่าเท่ากับอัตราค่าพลังงานไฟฟ้า ช่วงเวลา Off Peak ของผู้ใช้ไฟฟ้าตามโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าปัจจุบัน ประเภทกิจการขนาดเล็ก อัตราตามช่วงเวลา (Time Of Use (TOU)) หรือเท่ากับ ๒.๖๓๖๙ บาทต่อหน่วย (สาหรับแรงดันไฟฟา้ น้อยกวา่ ๒๒ กโิ ลโวลต)์ ๔) อัตราค่าไฟฟ้าดังกล่าวเป็นอัตราสาหรับผู้ประกอบกิจการสถานีอัดประจุไฟฟ้าซื้อไฟฟ้า จากโรงผลิตไฟฟ้า แต่คณะกรรมการกากับกิจการพลังงานไม่ได้กาหนดอัตราค่าไฟฟ้าสาหรับสถานีอัดประจุไฟฟ้า เพื่อจาหน่ายให้ผู้ใช้ยานยนต์ไฟฟ้าเนื่องจากต้องการส่งเสริมให้เกิดการประกอบกิจการสถานีอัดประจุไฟฟ้า และจูงใจใหส้ ถานกี าหนดราคาค่าบรกิ ารทแ่ี ขง่ ขันกับสถานเี ช้ือเพลิงชนดิ อ่นื ได้ ๙. บริษัท ปตท. จากัด (มหาชน) ไดใ้ หข้ ้อมูลต่อท่ีประชุม ดังน้ี ๑) ภาพรวมธุรกิจก๊าซ NGV ของบริษัท ปตท. จากัด (มหาชน) เร่ิมจากรับก๊าซธรรมชาติ จากทางท่อส่งก๊าซธรรมชาติ นาไปพักที่สถานีหลักคลังก๊าซธรรมชาติซึ่งมีอยู่ ๑๙ แห่ง และรถขนส่งจะมารับ ก๊าซธรรมชาติเพื่อนาไปส่งต่อสถานีให้บริการก๊าซ NGV ท่ัวประเทศ จานวน ๓๐๐ แห่ง นอกจากน้ียังมีสถานี ให้บริการก๊าซ NGV โดยรับก๊าซธรรมชาติจากท่อส่งก๊าซโดยตรง (สถานีแนวท่อ) จานวน ๔๔๒ แห่ง ปัจจุบันมี รถท่ีใช้ก๊าซ NGV ประมาณ ๓๐๐,๐๐๐ คัน โดยที่ผ่านมามีปริมาณรถที่ใช้ก๊าซ NGV บนท้องถนนสูงถึง ๔๕๐,๐๐๐ คัน ดังนัน้ หากหน่วยงานภาครัฐมีการผลักดนั ใหก้ ลับมาใช้ก๊าซ NGV บรษิ ทั ปตท. จากัด (มหาชน) ก็พรอ้ มรองรบั ปรมิ าณความต้องการใช้ก๊าซ NGV ทเ่ี พิม่ ข้ึน
๓๗ ๒) ข้อเสนอแนะของบริษัท ปตท. จากัด (มหาชน) ในการลดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ในภาคขนส่ง มีดังนี้ (๑) ส่งเสริมการผลิตและการใช้รถยนต์ไฟฟ้า โดยพัฒนาสถานีอัดประจุไฟฟ้า และเพิ่มสถานีอัดประจุไฟฟ้าให้มากขึ้นเพื่อรองรับการใช้รถยนต์ไฟฟ้าในอนาคต (๒) ส่งเสริมการใช้น้ามัน ไบโอดีเซล B๑๐ และ B๒๐ โดยมีการจาหน่ายน้ามันไบโอดีเซล B๑๐ ในเดือนมีนาคม ๒๕๖๓ ทั่วประเทศ (๓) เพ่ิมความเข้มงวดของการตรวจวัดควันดาของรถยนต์โดยเฉพาะรถเก่า (๔) ส่งเสริมการตรวจสอบสภาพ เครื่องยนต์รถบรรทุกและรถยนตน์ ั่งส่วนบุคคล โดยอายเุ ฉล่ียของรถบรรทุกสูงขนึ้ จาก ๖.๘ เปน็ ๙.๕ ปี ในช่วง ๑๐ ปีที่ผ่านมาและอายุเฉลี่ยของรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเฉล่ียประมาณ ๘ ปี ซึ่งถ้ามีการตรวจสอบสภาพ เครื่องยนต์รถบรรทุกและรถยนต์นั่งส่วนบุคคลเป็นประจาก็จะช่วยให้ลดการสันดาปเคร่ืองยนต์ที่ไม่สมบูรณ์ อนั เป็นส่วนหนง่ึ ของการเกดิ ฝุน่ ละอองขนาดเลก็ (PM ๒.๕) ได้ ๑๐. ผแู้ ทนการไฟฟา้ นครหลวง ได้ใหข้ อ้ มูลต่อที่ประชุม ดังน้ี ๑) การดาเนินการดา้ นยานยนต์ไฟฟ้า ๑.๑) การไฟฟา้ นครหลวงนารถยนต์ไฟฟ้า (EV) มาใช้ในกจิ การภายในองคก์ รเพื่อลดปัญหา มลพษิ ในอากาศ ต้ังแตป่ ี พ.ศ. ๒๕๕๕ จนถงึ ปจั จบุ นั โดยมรี ถยนต์ไฟฟ้าใช้งาน จานวน ๑๘ คนั และในปลายปี พ.ศ. ๒๕๖๓ จะมีรถยนต์ไฟฟ้าเพ่ิมอีก ๔๐ คัน ท้ังน้ี มีการเก็บข้อมูลเกี่ยวกับรถยนต์ไฟฟ้าควบคู่ไปด้วย เพื่อทาการวิจัยตอ่ ไป ๑.๒) การไฟฟ้านครหลวงมีเครื่องอัดประจไุ ฟฟ้าติดต้ังแลว้ ท้ังหมด ๑๙ เคร่ือง เป็นหัวจ่าย ไฟฟ้าแบบ AC และ DC ซ่ึงแบบ DC จะชาร์จได้เร็วกว่า โดยได้ติดตั้ง ณ การไฟฟ้านครหลวงเขตต่าง ๆ ๑๐ แห่ง รวมทั้งนอกท่ีทาการ จานวน ๒ แห่ง คือ ณ สถานีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา และร้านสะดวกซื้อ ๗ - ๑๑ สาขาบ้านสวนลาซาล นอกจากน้ี มีการวางแผนขยายการติดตั้งสถานีอัดประจุ ไฟฟ้าเพ่ิมมากขึ้น โดยจะติดต้ัง ณ (๑) การไฟฟ้านครหลวง เขตต่าง ๆ ๑๘ สถานี ๒๑ หัวจ่าย (๒) ร้านสะดวกซ้ือ ๗ - ๑๑ สาขาบางขุนนนท์ ๒ หัวจ่าย (๓) สวนลุมพินี ๓ หัวจ่าย (๔) ท่าเรือคลองผดุงกรุงเกษม ๒ หัวจ่าย ซง่ึ อย่รู ะหว่างการดาเนนิ การ ๑.๓) การไฟฟ้านครหลวงได้พัฒนา MEA EV Mobile Application เพื่ออานวยความสะดวก ให้แก่ประชาชนผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า โดยแอปพลิเคชันดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้สาหรับค้นหาสถานี อัดประจุไฟฟ้าของหน่วยงานภาครัฐและสถานีของเอกชนที่เป็นพันธมิตร โดยปัจจุบันมีสถานีอัดประจุไฟฟ้า ที่อยู่บนแอปพลิเคชัน จานวน ๔๓๔ สถานี ซึ่งจะแสดงสถานะแบบ Realtime นอกจากน้ี มีระบบนาทาง ระบบจองใช้งาน และการสงั่ เร่มิ – หยดุ ใช้งานสถานีอดั ประจุไฟฟ้า รวมทั้งมบี ริการชาระค่าบริการผ่านสมาร์ทโฟน มีระบบบันทึกประวัติการชาร์จ ตลอดจนมีการแสดงผลการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ โดยในปัจจุบัน มีจานวนการดาวนโ์ หลดแอปพลิเคชนั จานวน ๕,๐๐๐ ดาวน์โหลด ๑.๔) ปัจจุบันประเทศไทยมีสถานีอัดประจุไฟฟ้า ๕๓๓ แห่ง เป็นแบบ AC จานวน ๗๔๘ หัวจ่าย และแบบ DC จานวน ๖๙ หัวจ่าย รวมทั้งหมดจานวน ๘๑๗ หัวจ่าย (ข้อมูล ณ วันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๓) และมีรถยนต์ไฟฟ้าประเภทไฮบริดจ์ (HEV/PHEV) จานวน ๑๕๓,๑๘๔ คัน เป็นรถยนต์ ๑๔๘,๖๘๘ คัน รถจักรยานยนต์ ๔,๔๙๓ คัน รถโดยสาร ๒ คัน รถบรรทุก ๑ คัน ประเภทแบตเตอร่ี (BEV) ๒,๘๕๔ คัน เป็นรถจักรยานยนต์ ๑,๗๑๖ คัน รถยนต์ ๙๐๖ คัน รถโดยสาร ๑๑๗ คัน รถสามล้อ ๑๑๕ คัน (ข้อมูล ณ วันท่ี ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๒)
๓๘ ๒) อัตราค่าไฟฟา้ สาหรับสถานีอัดประจุไฟฟ้า ขณะน้ีอยู่ระหว่างการเสนอคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) พิจารณา เห็นชอบโครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าประเภท ๒.๒ กิจการขนาดเล็ก อัตราตามช่วงเวลา (Time Of Use (TOU)) โดยใช้ช่วงเวลา Off Peak หรอื เทา่ กบั ๒.๖๓๖๙ บาทต่อหน่วย ๓) การดาเนนิ งานในส่วนอ่นื ๆ ๓.๑) การไฟฟ้านครหลวงได้ร่วมมือกับบริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จากัด (มหาชน) ศึกษา โครงการ “โครงสร้างอัตราค่าไฟฟ้าที่เหมาะสมสาหรับสถานีอัดประจุไฟฟ้า จากพฤติกรรมผู้ใช้ ร่วมกับ การลาดบั ความสาคญั และการควบคุมโหลดไฟฟ้าและแหลง่ ผลติ ไฟฟา้ อย่างเหมาะสม” ใช้ระยะเวลาดาเนนิ การ ๓ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๓ - ๒๕๖๕) โดยมีวัตถุประสงค์เพ่ือ (๑) ทาการศึกษาและวิเคราะห์ เพ่ือการกาหนดราคา ค่าไฟฟ้าสาหรับใช้เติมประจุในยานยนต์ไฟฟ้าท่ีเหมาะสม (๒) เปิดโอกาสให้ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าได้สะท้อน พฤติกรรมการใช้จริง และ (๓) ทดสอบแนวคิดการจัดลาดับความสาคัญของประเภทการใช้ไฟฟ้าควบคู่ กับการใช้ไฟฟ้าจากแหล่งที่มาต่างกันตามความเหมาะสม เพ่ือประสิทธิภาพในการบริหารจัดการการผลิต และจัดจาหน่าย รวมถึงการใช้ไฟฟ้าในต้นทุนที่เป็นประโยชน์กับผู้ซื้อและผู้ขายไฟฟ้า (Load Prioritization & Supply Segmentation) ๓.๒) การไฟฟ้านครหลวงดาเนินการร่วมกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคและการไฟฟ้าฝ่ายผลิต แหง่ ประเทศไทยในการเตรยี มความพร้อมโครงสรา้ งพืน้ ฐานของระบบไฟฟา้ เพ่ือรองรับและเชื่อมตอ่ กับยานยนต์ ไฟฟา้ (EV) ในอนาคต โดยจะศกึ ษาใหแ้ ล้วเสร็จภายในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ ๓.๓) การไฟฟ้านครหลวงได้กาหนดแผนจัดทา Testing Lab เพ่ือทดสอบแบตเตอร่ี และหัวจ่ายไฟฟ้า เพ่ือสร้างความมั่นใจให้กับผู้ใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าอันจะเป็นการกระตุ้นตลาดรถยนต์ไฟฟ้า ใหข้ ยายตวั เพมิ่ มากขนึ้ ประเด็นที่ ๑๑ ข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลเกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง ขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ท่ีได้จากการจดั โครงการเสวนา เรอื่ ง “รวมพลงั ปัญญา แกป้ ญั หา ฝุ่นพษิ ” ผ้แู ทนสภาวศิ วกร ไดใ้ หข้ ้อมลู ต่อทีป่ ระชมุ ดังนี้ ๑. สภาวิศวกรมีบทบาทหน้าท่ีในการควบคุมดูแลวิศวกรทั่วประเทศ รวมทั้งช่วยเหลือ แนะนา และให้บรกิ ารในด้านวชิ าการ ๒. ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) เป็นฝุ่นละอองท่ีมีปริมาณมากท่ีสุดในอากาศและประกอบด้วย สารอันตรายหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นโลหะหนัก สารก่อมะเร็ง สารก่อให้เกิดภูมิแพ้ รวมทั้งเช้ือโรคต่าง ๆ ซ่ึงแหล่งกาหนดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ที่สาคัญ คือ การสันดาปเคร่ืองยนต์ดีเซล น้ามัน ถ่านหิน น้ามันเตา และชีวมวล ทาให้เกิดปฏิกิริยาทางเคมีกับก๊าซที่อยู่ในชั้นบรรยากาศเป็นผลให้อันตรายมากข้ึน เมื่อฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) มีขนาดเล็กกว่า ๑ ใน ๒๕ ส่วนของเส้นผ่าศูนย์กลางของเส้นผมมนุษย์ สามารถผ่านเข้าสู่ปอดได้ ก็อาจก่อให้เกิดโรคทางเดินหายใจ โรคหัวใจ และมะเร็งอันนาไปสู่ความสูญเสียชีวิต ในท่ีสุด ๓. วิธกี ารลดอตั ราการตายก่อนวัยอนั ควรท่ดี ีทสี่ ุด คือ การปรบั มาตรฐานคุณภาพอากาศให้สูงข้ึน ตามคาแนะนาขององค์การอนามัยโลก โดยกาหนดให้ค่ามาตรฐานในบรรยากาศทั่วไปของฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) เฉลี่ย ๒๔ ชั่วโมง อยู่ที่ ๒๕ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ท้ังนี้ ไม่มีระดับค่ามาตรฐานฝุ่นละออง ขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ใด ๆ ทป่ี ลอดภยั ๔. ขอ้ เสนอแนะเสนอเกย่ี วกับการปอ้ งกนั และแกไ้ ขปญั หาฝุน่ ละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕)
๓๙ ๑) พัฒนามาตรฐานของรถยนต์ทุกชนิดไม่จะเป็นขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ ไปสู่ยูโร ๕ และยูโร ๖ โดยเร็ว ๒) เพิม่ ภาษรี ถยนตท์ ีใ่ ชน้ า้ มันดเี ซล ๓) สนับสนนุ ใหร้ ถบรรทุกใชก้ า๊ ซ NGV ๔) ตรวจสอบสภาพรถควันดาอย่างเขม้ งวดและจริงจัง ๕) จัดสรรงบประมาณเพื่อสรา้ งอ่ซู ่อมรถสาหรับผู้ที่มีรายได้นอ้ ย ๖) กาหนดมาตรการจูงใจให้เกษตรกรใช้รถตัดอ้อยแทนการเผา ประเด็นที่ ๑๒ สถานการณ์และมาตรการการป้องกันและการแก้ไขปัญหาไฟป่า การเผาป่า และหมอกควนั ทีก่ อ่ ให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเลก็ (PM ๒.๕) ๑. ผู้แทนจากจังหวัดเชยี งใหม่ ไดใ้ หข้ ้อมูลตอ่ ทป่ี ระชมุ ดังนี้ ๑) จังหวัดเชียงใหม่มีพื้นที่ ๑๒,๕๐๐,๐๐๐ ไร่ โดยที่ผ่านมาในปี ๒๕๖๒ ได้เกิดจุดความร้อน ๕,๕๕๔ จุด ในปี ๒๕๖๓ จนถึงขณะนี้ ได้เกิดจุดความร้อน ๘,๘๙๑ จุด โดยพ้ืนท่ีที่เกิดจุดความร้อนมากที่สุด อยู่ที่อาเภอฮอด ๑,๓๓๐ จุด และตั้งแต่เดือนมกราคม – มีนาคม ๒๕๖๓ พื้นท่ีจังหวัดเชียงใหม่มีปริมาณ ฝนุ่ ละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) เกินค่ามาตรฐาน จานวน ๓๒ วัน ๒) จังหวัดเชียงใหม่ได้สร้างความตระหนักรู้ให้แก่ประชาชน ถึงผลกระทบด้านสุขภาพ จากปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) เกินค่ามาตรฐาน ผ่านทางเสียงตามสายในแต่ละหมู่บ้าน โดยประชาชนในเขตเมืองค่อนข้างมีความต่ืนตัวในเร่ืองผลกระทบจากปัญหาปริมาณฝุ่นละอองขน าดเล็ก (PM ๒.๕) เกนิ ค่ามาตรฐานมากกวา่ ประชาชนในเขตนอกเมือง ๓) การรณรงค์ในเขตเมือง ได้มีการตรวจจับควันดาจากยานพาหนะเป็นหลัก การก่อสร้าง และการเผาในที่ต่าง ๆ โดยผ่านทางวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย มีการจัดทาพื้นท่ี Safety Zone จานวน ๑๑ แห่ง ในพ้ืนท่ีชุมชนเมือง โดยประชาชนสามารถเข้าไปใช้บริการได้ และภาคเอกชนได้มีการติดตั้ง เครื่องพ่นฝอยละอองน้า มีการร่วมกันฉีดล้างถนนในตอนเช้าเพ่ือลดปริมาณฝุ่นละออง นอกจากนี้ยังได้รับ ความอนุเคราะห์จากมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์และกรมอู่ทหารเรือ ติดตั้งเครื่องบาบัด ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) เพ่ือช่วยลดปัญหามลพิษทางอากาศให้กับประชาชน บริเวณประตูท่าแพ อาเภอเมืองเชียงใหม่ จังหวดั เชียงใหม่ ๔) การรณรงค์ในเขตนอกเมือง ต้องทาความเข้าใจกับประชาชนในพื้นท่ี เน่ืองจากประชาชน ในพ้ืนท่ีอ้างว่าการเผาพื้นท่ีการเกษตรนั้นเป็นวิถีชนเผ่าและเป็นวิธีการทาเกษตรในที่สูง จัดหาเครื่องเป่าใบไม้ เพ่ือดับไฟป่ามอบให้แก่เจ้าหน้าท่ีดับไฟป่า และจัดชุดลาดตระเวนประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และทหารออกเดนิ เท้าเวลากลางคืนเพ่ือป้องกนั ผู้ลกั ลอบจุดไฟเผาป่า ๕) จังหวัดเชียงใหม่ได้ออกประกาศจานวน ๓ ฉบับ เพ่ือควบคุมการเผาในที่โล่ง ดังนี้ (๑) ประกาศจังหวัดเชียงใหม่ เรื่องกาหนดเขตควบคุมการเผาในที่โล่งทุกชนิดและมาตรทางกฎหมาย ในการควบคุม (ฉบับที่ ๑) ลงวันท่ี ๑๐ มกราคม ๒๕๖๓ (๒) ประกาศจังหวัดเชียงใหม่ เรื่องกาหนดเขตควบคุม การเผาในท่ีโล่งทุกชนิดและมาตรการทางกฎหมายในการควบคุม (ฉบับที่ ๒) ลงวันท่ี ๓๑ มกราคม ๒๕๖๓ (๓) ประกาศจังหวัดเชียงใหม่ เรื่อง กาหนดช่วงเวลาห้ามเผาในท่ีโล่งทุกชนดิ อย่างเด็ดขาดในพ้ืนท่ีจังหวดั เชยี งใหม่ ลงวันท่ี ๙ มีนาคม ๒๕๖๓ และมีมาตรการกระตุ้นแรงจูงใจด้านรางวัลนาจับ หากพบเห็นผู้ทาการเผาในท่ีโล่ง และแจง้ ตอ่ เจา้ หน้าท่ี จะไดร้ บั รางวลั นาจบั จานวน ๕,๐๐๐ บาท
๔๐ ๒. ผูแ้ ทนจากจงั หวดั เชยี งราย ไดใ้ ห้ข้อมูลต่อท่ีประชุม ดงั นี้ ๑) จังหวัดเชียงรายได้มีการดาเนินการขับเคล่ือนการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษ จากหมอกควันไฟป่าและการเผาในท่ีโล่ง โดยได้ประกาศรณรงค์ขับเคล่ือนการป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษ จากหมอกควันไฟป่าและการเผาในท่ีโล่งจังหวัดเชียงราย และประกาศขอความร่วมมืองดเผาในท่ีโล่งแจ้ง ทุกชนดิ และไดก้ าหนดมาตรการเพือ่ ลดปริมาณฝุน่ ละอองขนาดเลก็ (PM ๒.๕) ในพืน้ ท่จี ังหวัดเชยี งราย ๒) จากการติดตามคุณภาพอากาศของจังหวัดเชียงราย ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ถึง ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๓ พบว่าค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) มีค่าเกินมาตรฐาน โดยสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ อาเภอเมืองเชียงราย ตรวจวัดได้เป็นจานวน ๕ วัน และสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ อาเภอแม่สาย ตรวจวัดได้ เปน็ จานวน ๑๔ วัน และอยูใ่ นระดบั มผี ลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ในท่ีประชมุ ส่วนราชการจังหวัดเชียงราย จึงมีมติกาหนดห้วง “๖๐ วันปลอดการเผาทุกชนิดโดยเด็ดขาด” ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย ระหว่างวันท่ี ๒๒ กุมภาพันธ์ - ๒๑ เมษายน ๒๕๖๓ อาศัยอานาจตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย พ.ศ. ๒๕๕๐ พบเห็นการเผาจะถกู จับกมุ ดาเนนิ คดี และปรับทนั ที ๓) นอกจากน้ี ยังได้หารือในการจัดทาสถานที่ปลอดภัย (Safety Zone) ท่ีโรงพยาบาล สง่ เสริมสุขภาพตาบล องคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ิน ทท่ี าการปกครองอาเภอ สถานศึกษา และห้างสรรพสินค้าทุกแห่ง และการจัดเตรียมวัสดุอุปกรณ์เพ่ือใช้ลดมลพิษและป้องกันสุขภาพ การกาหนดสถานท่ีตั้งศูนย์บัญชาการ เหตุการณ์ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) จังหวัดเชียงราย ปี พ.ศ. ๒๕๖๒ - ๒๕๖๓ ณ ศนู ย์ป้องกนั และบรรเทาสาธารณภัยเขต ๑๕ เชยี งราย การจัดเตรยี มชุดปฏบิ ัติการ ลาดตระเวนประชาสัมพันธ์ป้องปราม และชุดปฏิบัติการดับไฟป่า ให้มีความพร้อมในการเผชิญเหตุอยู่เสมอ เพื่อแก้ไขสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงที อันเป็นการสร้างความเชื่อม่ันต่อมาตรการของจังหวัดเชียงราย ทีจ่ ะดูแลสุขภาพพลานามยั ของประชาชนอยา่ งเต็มที่ ๔) ในขณะน้ีจังหวัดเชียงรายมีปัญหาหมอกควันข้ามแดน โดยในอาเภอแม่สายซ่ึงปรากฏว่า มีจุดความร้อนจานวนน้อยท่ีสุดในจังหวัดเชียงรายแต่กลับมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) แสดงให้เห็นว่า ปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ในพ้ืนที่อาเภอแม่สายมาจากปัญหาหมอกควันข้ามแดนจากประเทศ เพอื่ นบ้าน ๓. ผแู้ ทนจากจังหวดั แพร่ ได้ให้ข้อมลู ตอ่ ท่ีประชุม ดงั น้ี ๑) มาตรการเชิงพื้นที่ โดยแบ่งพื้นที่ดาเนินการ ได้แก่ (๑) พื้นที่ป่าสงวน/ป่าอนุรักษ์ มีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม เป็นหน่วยงานหลัก โดยจัดทาแนวกันไฟ สนธิกาลังเจ้าหน้าท่ี และอาสาสมัครภาคประชาชนเพ่ิมความถ่ีในการลาดตระเวนและเฝ้าระวังไฟป่า รวมถึงกาหนดกติกาชุมชน ห้ามเผาป่า (๒) พ้ืนท่ีเกษตรกรรม มีกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นหน่วยงานหลัก โดยกาหนดช่วงเวลา และจดั ระเบียบการเผา ประกาศเขตหา้ มเผา รวมถึงรณรงค์การไถกลบ การใช้สารย่อยสลายแทนการเผาวัชพืช อีกทั้งจัดอาสาสมัครเฝ้าระวังการลักลอบเผาในพื้นที่การเกษตร (๓) พ้ืนที่ชุมชน/เมือง ให้จังหวัดอาเภอ และองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน กาหนดกติกาชุมชน โดยใช้กลไกประชารัฐในการป้องกันและเฝ้าระวังการเผา พรอ้ มจัดชดุ ปฏิบัติการประจาตาบล/หมูบ่ า้ น ชแ้ี จงมาตรการปอ้ งกันไฟปา่ และหมอกควัน และ (๔) พ้นื ท่รี ิมทาง มีกระทรวงคมนาคม เป็นหน่วยงานหลักในการเฝา้ ระวังและควบคุมการเผา พร้อมกาจัดเศษวัสดุและใบไม้แห้ง บริเวณพ้ืนท่รี มิ ทาง ๒) มาตรการบริหารจัดการ ๕ มาตรการ ได้แก่ มาตรการระบบบัญชาการเหตุการณ์ เพื่อให้ การควบคุมแก้ไขปัญหาเป็นไปอย่างมีเอกภาพ มาตรการสร้างความตระหนักสร้างการรับรู้กับประชาชน มาตรการลดปริมาณเช้ือเพลิง รวมทั้งส่งเสริมการใช้สารหมักชีวภาพเพ่ือย่อยสลายตอซัง และการนาเศษวัสดุ
๔๑ ทางการเกษตรมาทาอาหารสัตว์ มาตรการการบังคับใช้กฎหมาย และมาตรการทีมประชารัฐ โดยบูรณาการ ทุกภาคส่วน ให้มีส่วนร่วมในการสนับสนุนและกาหนดแนวทางมาตรการการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า และหมอกควัน ๓) เมื่อเปรียบเทียบปริมาณจุดความร้อนในช่วงเวลาเดียวกันระหว่างปี พ.ศ. ๒๕๖๒ และปี พ.ศ. ๒๕๖๓ พบว่าปรมิ าณจุดความร้อนในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ มีปรมิ าณลดลงจากเดิม ๔๘๗ จุด จึงถอื ได้ว่า มาตรการเชงิ พืน้ ทีแ่ ละมาตรการบรหิ ารจดั การประสบความสาเร็จในระดับหนึ่ง ๔) จังหวัดแพร่ใช้แนวทางการสร้างความรับรู้และความเข้าใจและการมีส่วนร่วมของประชาชน เป็นพ้ืนฐานในการแก้ปัญหาการเผาในที่โล่ง ซ่ึงมาตรการต่าง ๆ ท่ีกาหนดข้างต้นต้องปฏิบัติตลอดทั้งปี ไม่ใชเ่ พียงปฏบิ ัตเิ ฉพาะชว่ งเวลาท่มี ีการเผาไฟป่าเท่าน้นั ๕) เพ่ือให้การดาเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และเกิดผลสาเร็จ จาเป็นต้องเร่งสร้างความรู้ ความเข้าใจให้กับประชาชนให้เกิดความตระหนักในการลดปัญหา การเผาในพื้นที่ชุมชน สร้างการมีส่วนร่วมของประชาชนในทุกพ้ืนที่ ทุกหมู่บ้าน โดยจังหวัดแพร่ได้จัดต้ัง โครงการธนาคารใบไม้ โดยการนาใบไม้และเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรมาฝากกับธนาคาร เพื่อรวบรวม และนาไปผลิตเป็นปุ๋ยหมัก ซ่ึงมีคุณสมบัติในการช่วยฟ้ืนฟูปรับปรุงบารุงดนิ ช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดิน ซึ่งหากทุกหมู่บ้านดาเนินการตามแนวทางโครงการธนาคารใบไม้ เพื่อแก้ไขปัญหาหมอกควันของจังหวัดแพร่ พื้นท่ีที่เกิดการเผาก็จะลดลง ส่งผลให้การแก้ไขปัญหาหมอกควันในพื้นท่ีจังหวัดแพร่เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม และยั่งยืน ๔. ผู้แทนจากจงั หวดั แมฮ่ อ่ งสอน ไดใ้ หข้ ้อมลู ต่อท่ีประชมุ ดังน้ี ๑) แผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ปี พ.ศ. ๒๕๖๓ กาหนดมาตรการไว้ ๓ ข้ัน ได้แก่ ขั้นเตรียมการ ขั้นรับมือ ขั้นสร้างความร่วมมือ ซ่ึงเนื้อหาของแผนปฏิบัติการ ส่วนใหญ่จะคล้ายกับจังหวัดอื่น โดยมีส่วนท่ีแตกต่างคือ จังหวัดแม่ฮ่องสอนร่วมกับภาคเอกชนในการรับซ้ือ ใบไม้เพ่ือลดการเผา ซ่ึงในปีที่ผ่านมาภาคเอกชนได้รับซื้อใบไม้จานวน ๒๐๐ ตัน ในราคากิโลกรัมละ ๒ บาท โดยนาไปผลิตถา่ นอัดแท่งและน้าส้มควนั ไม้ และนาไปผลิตจานใบไม้ ๒) จังหวัดแม่ฮ่องสอนได้มีการประกาศห้ามเผาเด็ดขาดในพื้นท่ีป่า จัดพ้ืนท่ีห้ามเผาในเขต Blue Sky Zone คือพ้ืนที่รัศมี ๑๐ กิโลเมตรจากสนามบินใน ๓ อาเภอหลัก ในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ พ้ืนท่ีจังหวัด แม่ฮ่องสอน มีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) เกินค่ามาตรฐาน จานวน ๖๒ วัน มีปริมาณจุดความรอ้ น สะสม ๑๖,๓๑๒ จุด ตั้งแต่วันท่ี ๑ มกราคม ๒๕๖๓ เป็นต้นมา พื้นท่ีจังหวัดแม่ฮ่องสอน มีปริมาณฝุ่นละออง ขนาดเลก็ (PM ๒.๕) เกินคา่ มาตรฐาน จานวน ๓๗ วัน มีปรมิ าณจดุ ความรอ้ นสะสม ๗,๙๗๐ จุด ๓) แนวทางการแก้ไขปัญหาไฟป่า จังหวัดแม่ฮ่องสอนได้ให้ประชาชนในพ้ืนท่ีเฝ้าระวัง เขตพ้ืนที่ของตนเอง โดยอ้างอิงจากแผนที่จุดความร้อนท่ีทางจังหวัดจัดทาขึ้น และสนับสนุนค่าดาเนินการ หมูบ่ ้านละ ๑๐,๐๐๐ บาท และหากปรมิ าณจุดความร้อนในเขตพ้ืนทีห่ มูบ่ ้านใดลดลง จะสมทบเงนิ คา่ ดาเนินการ เพม่ิ เตมิ หมู่บ้านละ ๑๕,๐๐๐ บาท ๔) แผนการดาเนินงานระยะยาว ชื่อโครงการ คนอยู่กับป่า ส่งเสริมการปลูกพืชผลท่ีไม่ต้องมี การเผาป่า เช่น ปลูกเมล็ดกาแฟ เป็นต้น
๔๒ ๕. ผูแ้ ทนจากจงั หวัดลาปาง ได้ใหข้ อ้ มูลต่อท่ีประชุม ดงั น้ี ๑) จังหวัดลาปางมีพ้ืนท่ีใหญ่เป็นอันดับ ๑๐ ของประเทศ มีพื้นท่ีประมาณ ๗.๘ ล้านไร่ มีพื้นที่ป่าไม้ ๕.๕ ล้านไร่ จากการศึกษาพบว่าปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ส่วนใหญ่ เกิดในเขตพื้นท่ี ปา่ และพนื้ ทป่ี ่าอนรุ ักษ์ ๒) ระบบการวัดปริมาณจุดความร้อน มี ๒ ระบบ คือ ระบบ Modis ของสหรัฐอเมริกา และระบบ Viirs ของประเทศญ่ีปุ่น โดยระบบ Viirs จะจับได้ในจุดความร้อนท่ีเล็กกว่า ที่ผ่านมาการตรวจวัด ปริมาณจุดความร้อนจะใช้ ระบบ Modis มาตลอด แต่ในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ได้เริ่มมีการตรวจวัดในระบบ Viirs ทาให้ค้นพบปริมาณจุดความร้อนมากขึ้น เนื่องจากสามารถตรวจจับจุดความร้อนได้ละเอียดกว่า จึงทาให้ ประชาชนตนื่ ตระหนกกบั ตัวเลขจดุ ความรอ้ นทีเ่ พม่ิ ข้นึ ๓) แผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ปี พ.ศ. ๒๕๖๓ ของจังหวัดลาปาง มีความคล้ายคลึงกับจังหวัดอื่นที่ได้นาเสนอไปแล้ว โดยมีส่วนท่ีแตกต่างกันคือ ทางจังหวัดลาปางคานึงถึงผลกระทบด้านสุขภาพของประชาชนและการนาเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อแก้ไข ปัญหาไฟป่าและหมอกควัน โดยต้ังเป้าหมายของแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ปี พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยมีจานวนผู้ป่วยเก่ียวกับระบบทางเดินหายใจลดลง ๗๐ เปอร์เซ็นต์ และปริมาณจุดความร้อน ลดลง ๕๐ เปอรเ์ ซน็ ต์ ซ่ึงในขณะนี้ยังสามารถควบคุมให้ต่ากว่าเกณฑ์ของปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ได้ ๔) ในช่วงวิกฤติปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) จังหวัดลาปางได้มีการประชุมเพ่ือประเมิน สถานการณ์ทุกวัน โดยขอความร่วมมือกิจกรรมช่วงเช้าทุกกิจกรรม มอบหมายให้เจ้าหน้าท่ีฝ่ายปกครองวัดค่า ฝุ่นละอองขนาดเลก็ (PM ๒.๕) ทกุ โรงงานในพื้นที่จงั หวดั ลาปาง ๕) หลังจากผ่านช่วงวิกฤติปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) จังหวัดลาปางได้วางแผน ปลูกป่าชดเชยพ้ืนที่ท่ีเสียไป ทาฝายชะลอน้าเพิ่มเติมเพื่อรักษาสภาพส่ิงแวดล้อมให้ดีขึ้น และปลูกจิตสานึก ใหก้ ับประชาชน เปลยี่ นอาชพี ให้กับประชาชนเพ่อื ใหป้ ระชาชนเลิกหาของปา่ ๖) ในส่วนของการดับไฟปา่ ได้มกี ารสัง่ การโดยใช้ระบบ Single Command มีกองบัญชาการ ด้านนโยบายและการวางแผนที่ศาลากลางจังหวัดลาปาง กองบัญชาการด้านการลงพ้ืนท่ี ท่ีอาเภอแม่ทะ จังหวัดลาปาง หากได้รับแจ้งเหตุการณ์เผาไฟป่าเกิดข้ึน จะดาเนินการลงพ้ืนท่ีเพื่อดับไฟป่าทันที โดยท่ีผ่านมา ได้มีการสนธิกาลังของเจ้าหน้าที่และภาคประชาชนจิตอาสา มากกว่า ๑๐๐ คน เดินเท้าเข้าดับไฟในแต่ละจุด รวมถงึ ใชเ้ ฮลคิ อปเตอร์ของกรมทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมข้ึนโปรยนา้ ดับไฟป่าในพ้ืนท่ี ในปี พ.ศ. ๒๕๖๓ ๗) จังหวัดลาปางมีข้อเสนอแนะต่อคณะกรรมาธิการเกี่ยวกับงบประมาณในการลงพ้ืนท่ี เพ่ือจัดสรรให้ส่วนท้องถิ่นในการลาดตระเวนป้องกันและดับไฟป่า ซึ่งแต่เดิมมีงบประมาณในส่วนน้ีทุกปี แต่ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ งบประมาณในการดับไฟป่าไปรวมท่ีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ๖. ผแู้ ทนจากกรงุ เทพมหานคร ไดใ้ หข้ ้อมลู ต่อทีป่ ระชุม ดงั น้ี ๑) ปัญหาการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ส่วนใหญ่เกิดมาจากภาคการขนส่ง จานวน ๗๒ เปอร์เซ็นต์ และพบว่ามาจากการเผาจานวน ๕ เปอร์เซ็นต์ ในพ้ืนที่ที่มีการทานาข้าว ๒) มาตรการการป้องกันการเผามีดังนี้ (๑) กาหนดมาตรการป้องกันการเผาในพื้นท่ีรกร้าง ว่างเปล่า โดยกากับดูแลพ้ืนท่ีรกร้างว่างเปล่า พ้ืนท่ีเส่ียงต่อการเผาและประสานงานสถานีตารวจนครบาลในพ้ืนท่ี เพ่ือจบั กมุ ผู้กระทาผิดลักลอบเผา (๒) ปลูกจติ สานึกในเร่อื งการเผาวชั พืชหลังการเก็บเกยี่ ว (๓) ดาเนนิ การเกี่ยวกับ สายด่วน ๑๙๙ เพ่อื แจง้ เหตกุ ารณ์เผาของสานักป้องกนั และบรรเทาสาธารณภยั กรงุ เทพมหานคร
๔๓ ๓) มาตรการลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ได้แก่ รณรงค์การไม่ขับ ช่วยดับเครื่อง รณรงค์ให้ใช้รถคันเดียวกันต่อหน่ึงครอบครัว จัดสร้างพ้ืนท่ีสีเขียว แจกหน้ากากอนามัยตามชุมชนและโรงเรียน สังกดั กรุงเทพมหานคร ๔) ประเด็นข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการในการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกร ลดการเผาตอซังข้าวโดยใช้วิธีอื่น เช่น การซื้อเคร่ืองอัดตอซังและฟางข้าว ทางผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้น้อมรับและส่ังการให้หน่วยงานที่เก่ียวข้องพิจารณาหาแนวทางลดการเผาตอซังข้าวในพ้ืนที่ที่มีการเพาะปลูก ข้าว ๑๒ เขต ได้แก่ เขตคลองสามวา เขตลาดกระบัง เขตหนองจอก เขตมีนบุรี เขตสายไหม เขตบางเขน เขตทวีวัฒนา เขตสะพานสูง เขตคันนายาว เขตหนองแขม เขตบึงกุ่ม และเขตประเวศ โดยได้ปลูกสร้างจิตสานึก และจัดวันรณรงค์ลดการเผาในพ้ืนท่ีเขตหนองจอก ส่วนการจัดซ้ือเครื่องอัดตอซังและฟางข้าว อยู่ระหว่าง ข้ันตอนการของบประมาณและการลงพื้นท่ีเพ่ือศึกษาว่าการของบประมาณเพื่อจัดซื้อเคร่ืองดังกล่าวเกิดประโยชน์ กบั ประชาชนอยา่ งแท้จริง ๗. ผ้แู ทนจากกระทรวงมหาดไทยและกรมการปกครอง ไดใ้ ห้ขอ้ มลู ตอ่ ทีป่ ระชุม ดังนี้ ๑) การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ของกระทรวงมหาดไทย เป็นการดาเนินการ ตามแผนปฏิบัติการขับเคล่ือนวาระแห่งชาติ ด้านการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ซึ่งทางคณะรัฐมนตรี ได้มีมติเม่ือวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ ให้หน่วยงานที่เก่ียวข้องดาเนินการตามแผนปฏิบัติการดังกล่าว ในส่วนของ กระทรวงมหาดไทยนั้น แผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ ด้านการแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง ได้ระบุให้ใช้ระบบบริหารราชการแบบเบ็ดเสร็จ (Single Command) ในการจัดการปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) โดยดาเนินการ ดังนี้ (๑) ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ไม่เกิน ๕๐ ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ให้หน่วยงานดาเนินการตามสภาวะปกติ (๒) ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ระหว่าง ๕๑ – ๗๕ ไมโครกรัม/ ลูกบาศก์เมตร ให้หน่วยงานดาเนินการมาตรการที่เข้มข้นข้ึน (๓) ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ระหว่าง ๗๖ – ๑๐๐ ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดดาเนินการตามกฎหมายท่ีเก่ียวข้องด้านสาธารณสุข ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยและด้านโรงงานอุตสาหกรรม (๔) ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) มากกว่า ๑๐๐ ไมโครกรัม/ลูกบาศกเ์ มตร จะเสนอให้คณะกรรมการส่ิงแวดล้อมแหง่ ชาติ คณะกรรมการ ดา้ นควบคมุ มลพิษ เสนอเรอ่ื งตอ่ นายกรฐั มนตรีเพื่อดาเนินการในส่วนทเ่ี กี่ยวข้องต่อไป ๒) มาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) จะเน้นการลดการเกิดมลพิษ ที่แหล่งกาเนิด โดยบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดดังนี้ (๑) เข้มงวดกวดขันรถที่ปล่อยควันดา (๒) ควบคุม มลพิษท่ีเกิดจากการเผาไหม้ในที่โล่งโดยห้ามไม่ให้เผาพ้ืนท่ีป่าโดยเด็ดขาด ส่งเสริมการใช้วัสดุการเกษตร (๓) รณรงค์ให้เกิดการรับผิดชอบต่อสังคม ส่งเสริมการก่อสร้างท่ีเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม (๔) ควบคุมมลพิษ จากโรงงานอตุ สาหกรรม (๕) สง่ เสริมใหม้ กี ารใชพ้ ลงั งานสะอาดในครัวเรือน ๓) การประชาสัมพันธ์ดาเนินการในทิศทางเดียวกับที่ส่วนราชการจังหวัดได้รายงานไป คือสร้างความตระหนักรู้ สร้างความรับรู้และให้ประชาชนมีส่วนร่วม โดยมีแอพพลิเคช่ันให้ประชาชนแจ้งจุดการเผา ให้กับทางจังหวัดทราบ ร่วมมือกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแจกหน้ากากอนามัย กวาดล้างทาความสะอาดถนน ดแู ลรถยนตข์ องทางราชการใหม้ ีสภาพพร้อมใช้งาน ลดการปล่อยควนั ดา ๔) ปัญหาท่ีพบคือ (๑) เมื่อพิจารณาแผนปฏิบัติการขับเคล่ือนวาระแห่งชาติ ด้านการแก้ไข ปัญหามลพิษด้านฝุ่นละอองแล้วพบว่า ไม่มีการพูดถึงงบประมาณในการดาเนินการ ทาให้ต้องนางบประมาณ สว่ นอนื่ มาใชด้ าเนินการ ทาให้งบประมาณไมเ่ พียงพอ และไมม่ ีแผนเกี่ยวกับการดาเนนิ งานของกระทรวงสาธารณสุข ในการบูรณาการการทางานร่วมกับส่วนราชการจังหวัด (๒) เม่ือค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) มากกว่า ๑๐๐ ไมโครกรัม/ลกู บาศก์เมตร แผนปฏบิ ัตกิ ารกาหนดให้เสนอต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ คณะกรรมการ
๔๔ ด้านควบคุมมลพิษ เสนอเร่ืองต่อนายกรัฐมนตรีเพ่ือมีข้อส่ังการในส่วนท่ีเก่ียวข้องต่อไปน้ัน แต่ในทางปฏิบัติ เกดิ ปัญหาวา่ หนว่ ยงานใดจะเปน็ ผ้แู จง้ ตอ่ คณะกรรมการดังกล่าว ๘. ผ้แู ทนจากกรมสง่ เสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น ไดใ้ ห้ข้อมูลต่อทีป่ ระชมุ ไดด้ งั นี้ ๑) มาตรการแก้ไขปัญหาและป้องกันปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) มีดังนี้ (๑) มาตรการเพ่ิมประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเชิงพ้ืนท่ี (การแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วนและในช่วงวิกฤต) โดยให้ติดตาม เฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) จัดทาแผนเผชิญเหตุทั้งก่อน/หลังเกิดเหตุ เม่ือปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) เกินค่ามาตรฐาน ให้บูรณาการหน่วยงานที่เก่ียวข้องรณรงค์ ประชาสัมพันธ์และกาหนดสถานที่พักช่ัวคราว (Safety Zone) เม่ือสถานการณ์สิ้นสุด ให้จัดตั้งคณะทางาน เพอ่ื ทบทวน วิเคราะหข์ ้อมูล (๒) มาตรการปอ้ งกันและลดการเกิดมลพิษท่ีต้นทาง (แหลง่ กาเนดิ ) เช่น ตรวจจับ รถควันดา มาตรการควบคุมเผาในที่โล่ง ตรวจสอบฝุ่นจากโรงงานอุตสาหกรรมและควบคุมฝุ่นจากการก่อสร้าง (๓) มาตรการการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการมลพิษ โดยเฝ้าระวัง ติดตาม ตรวจสอบคุณภาพอากาศ จากขอ้ มูลกรมควบคมุ มลพิษ จดั ระเบยี บการเผาตามลักษณะพื้นที่ และปรับพฤตกิ รรมของประชาชนในการเผา ในทีโ่ ล่ง ๒) กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถ่ินมอบหมายให้เจ้าหน้าท่ีองค์กรปกครองส่วนถิ่น ดาเนินการตามอานาจหน้าที่กับผู้กระทาผิดตามกฎหมายท่ีเก่ียวข้อง เช่น พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ ถือว่าการเผาตอซังข้าวหรือพืชไร่และการเผาป่าที่ทาให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก เขม่า เถ้า อาจก่อให้เกิดความเดือดร้อนแก่ผู้อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงหรือผู้ต้องประสบเหตุถือเป็นการก่อเหตุราคาญ โดยพระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ กาหนดให้เจ้าพนักงานท้องถ่ินมีอานาจและหน้าท่ดี าเนินการ ระงับป้องกันเหตุราคาญ โดยหากเปน็ กรณีเหตรุ าคาญท่เี กดิ ข้ึนเป็นบริเวณกวา้ งจนก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ของสาธารณชน เจ้าพนกั งานท้องถ่นิ มีอานาจประกาศกาหนดใหบ้ ริเวณนั้นเป็นพนื้ ทีค่ วบคุมเหตุราคาญ ๓) การบริหารงบประมาณในการแก้ไขปัญหาและป้องกันปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ได้สั่งการให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตั้งงบประมาณรายจ่าย ประเภทเงินสารองจ่ายเพ่ือแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนด้านการป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัย และกรณีมีเหตุจาเป็นเร่งด่วน (เงินสารองจ่ายหมด) องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน สามารถจา่ ยขาดเงินสะสม เพื่อแก้ไขปัญหาด้านป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ๙. ผู้แทนจากกรมปา่ ไม้ ไดใ้ ห้ข้อมูลตอ่ ที่ประชมุ ดังนี้ ๑) จุดความร้อนรวมทั่วประเทศมีจานวน ๑๓๗,๔๐๕ จุด แบ่งเป็น จุดความร้อนในเขตป่า จานวน ๗๔,๗๑๓ จุด คิดเป็นร้อยละ ๕๔ ของจุดความร้อนท้ังหมด และจุดความร้อนนอกเขตป่า จานวน ๖๒,๖๙๒ จดุ คิดเป็นร้อยละ ๔๖ ของจุดความร้อนทง้ั หมด ๒) พ้ืนที่ป่าไม้ในจังหวัดภาคเหนือมีท้ังหมด ๔๓ ล้านไร่ ในขณะน้ีจนถึงวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๓ มีพนื้ ที่ป่าท่ีมีเหตุไฟไหม้ ๙ ล้านไร่ เนอื่ งจากปีน้มี คี วามแห้งแล้งมากกว่าปีที่แลว้ ๓) แผนการป้องกันและควบคุมไฟป่า (๑) เตรียมความพร้อมกาลังพล อุปกรณ์ ยานพาหนะ (๒) สร้างเครือข่ายจิตอาสาดับไฟป่า สนับสนุนการป้องกันและควบคุมไฟป่าพร้อมท้ังเสริมสร้างความเข้มแข็ง และความย่ังยืนของเครือข่ายจิตอาสาดับไฟป่า (๓) ประสานความร่วมมือกับองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน และหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องให้มีการจัดการเชื้อเพลิงตามหลักวิชาการและมีการบังคับใช้กฎหมายที่เคร่งครัด (๔) สนบั สนุนแนวร่วมเครือข่ายภาคธุรกิจและชุมชนเมือง สง่ เสรมิ ชุมชนใกลป้ ่าแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควนั ๔) สภาพปัญหาในการดับไฟป่า มีดังนี้ (๑) ชุมชนติดป่าที่เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา ไฟป่าขาดกองทุนในการจัดการไฟป่า ไม่มีเคร่ืองมือสาหรับปฏิบัติงานดับไฟที่มีประสิทธิภาพ และขาดชุดอุปกรณ์
๔๕ ด้านความปลอดภัย (๒) เจ้าหน้าท่ีปฏิบัติงานดับไฟป่ามีจานวนไม่เพียงพอต่อพื้นที่ ขาดอุปกรณ์ที่มีประสิทธิภาพ (๓) กรณีเกิดเหตุไฟป่าพร้อมกันหลายจุดหรือเกิดเหตุไฟป่าในสถานการณ์รุนแรง การสนธิกาลังพลยังไม่เพียงพอ การสนบั สนุนการดบั ไฟโดยอากาศยานมีไม่เพียงพอ และไมม่ กี ารบัญชาการอย่างเป็นระบบ ๕) ขอ้ เสนอแนวทางแก้ไขปญั หาไฟป่าอยา่ งยั่งยนื แบง่ เป็น ๒ ระยะ คอื ๕.๑) ระยะเร่งด่วน (๑) ควรมีการประกอบกาลังผสมของหน่วยงานท่ีมีกาลังพล เช่น หน่วยงานทหาร ตารวจ ป่าไม้ ฝ่ายปกครองและประชาชนในพื้นที่ ให้มีการเตรียมกาลังพลพร้อมอุปกรณ์ เพ่ือเฝ้าระวังเหตุและระงับเหตุไฟป่าให้ครอบคลุมทุกพ้ืนท่ีป่า (๒) ควรมีการสนับสนุนยุทโธปกรณ์ที่ทันสมัย เช่น เฮลิคอปเตอร์ดับไฟป่าต้องพร้อมสนับสนุนทุกพื้นท่ีท่ีเกิดสถานการณ์รุนแรงทันทีโดยให้มีขั้นตอน การประสานงานสะดวกรวดเร็ว ๕.๒) ระยะยาว (๑) การจัดการไฟป่าโดยชุมชน ซ่ึงจะต้องมีแผนการจัดการท่ีชัดเจน มีระบบกองทุนจัดการท่ีแน่นอน (๒) มีระบบการประสานส่ังการและระบบบัญชาการเหตุการณ์ท่ีทันสมัย ใช้เทคโนโลยีท่ีมีประสิทธิภาพ (๓) สร้างป่าสร้างรายได้อย่างเป็นรูปธรรมเพ่ือลดสาเหตุของการเกิดไฟป่า (๔) ในช่วงฤดูแล้งของทุกปี ขอให้กองทัพสนับสนุนกาลังพลไปลาดตระเวนป้องกันเหตุไฟป่าให้ครอบคลุมทุกพ้ืนที่ ป่า ๑๐. ผแู้ ทนจากกรมอุทยาน สัตวป์ า่ และพันธพุ์ ืช ไดใ้ ห้ข้อมูลต่อทปี่ ระชุม ดังนี้ ๑) การดาเนินการป้องกัน แก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน พื้นท่ีรับผิดชอบของกรมอุทยาน แห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช มีท้ังหมด ๗๓.๓๕ ล้านไร่ ประกอบด้วย อุทยานแห่งชาติ วนอุทยาน เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขตห้ามล่าสัตว์ป่า พ้ืนที่ป่าอนุรักษ์อ่ืน ๆ โดยได้รับงบประมาณดับไฟป่า ๔๒๘ หมู่ดับไฟ งบประมาณสามารถดูแลพ้ืนท่ีได้เพียง ๒๖.๗๕ ล้านไร่ คิดเป็น ๓๖.๓๒ เปอร์เซ็นต์ของพ้ืนท่ีป่าทั้งหมด ในพ้ืนท่ีป่า อนุรักษ์ ๙ จังหวัดภาคเหนือ รับผิดชอบพื้นท่ี ๒๖.๙๗ ล้านไร่ โดยได้รับงบประมาณดับไฟป่า ๑๖๙ หมู่ดับไฟ งบประมาณสามารถดแู ลพ้ืนท่ีได้เพียง ๑๐.๕๖ ลา้ นไร่ คดิ เปน็ ๓๙.๑๕ เปอรเ์ ซน็ ต์ของพื้นทป่ี ่าทั้งหมด ๒) มาตรการการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน แบ่งเป็น ๕ มาตรการ (๑) มาตรการ การป้องกันไฟป่าและหมอกควัน มีการเตรียมความพร้อมของกาลังพลและอุปกรณ์ดับไฟป่า กาหนดพื้นที่เสี่ยง เพ่ือวางแผนการจัดการไฟป่า (๒) มาตรการการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาไฟป่า โดยสร้างและประสาน ความร่วมมือกับเครือข่ายแก้ไขปัญหาไฟป่าอย่างต่อเน่ือง (๓) มาตรการการดับไฟป่า จัดตั้งกองอานวยการ ควบคุมไฟป่าและใช้ระบบ Single Command และมีศูนยส์ ายด่วนพิทักษป์ ่า ๑๓๖๒ เพอื่ รบั แจง้ เหตุไฟไหม้ป่า ตลอด ๒๔ ชั่วโมง (๔) มาตรการการประชาสมั พันธ์ โดยเนน้ การประชาสมั พันธเ์ ชิงรุก (๕) มาตรการการจัดการ เชือ้ เพลงิ โดยจดั ทาแนวกันไฟในพื้นที่ป่าอนุรกั ษ์ ๓) ปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพ้ืนที่ ๙ จังหวัดภาคเหนือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช จึงได้จัดตั้ง ศูนย์สั่งการและติดตามสถานการณ์ไฟป่า ๙ จังหวัดภาคเหนือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธ์ุพืช โดยมีวัตถุประสงค์ (๑) รวบรวม จัดเก็บ วิเคราะห์ ข้อมูลสารสนเทศเก่ียวกับปัญหาไฟป่า และหมอกควัน (๒) ส่ังการ กากับ ติดตาม ตรวจสอบ เร่งรัด การดาเนินการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน (๓) ประสานงาน ร่วมสนบั สนุน และปฏบิ ัตงิ านกับหน่วยงานอ่ืนที่เกย่ี วข้องกับการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควนั ๑๑. ผู้แทนจากกระทรวงคมนาคม ไดใ้ หข้ อ้ มลู ต่อที่ประชุม ดงั น้ี ๑) กระทรวงคมนาคม มีมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก ดังน้ี (๑) การจัดหาเคร่ืองมือ ตรวจวัดควันดา (แบบทึบแสง) เพิ่มเติมให้เพียงพอ (๒) ให้กรมการขนส่งทางบกบูรณาการกับทางตารวจ เพ่ิมความเข้มข้นในการตั้งด่านตรวจควันดาให้ครบทั้ง ๕๐ จุด ใน ๕๐ เขต ท่ัวกรุงเทพฯ และทั่วประเทศ (๓) ตรวจสอบยานพาหนะของส่วนราชการให้อยู่ในสภาพท่ีดี ไม่มีควันดา พิจารณาการปรับการทางาน
๔๖ เหลื่อมเวลาเพื่อบรรเทาปัญหาจราจรและลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลและส่งเสริมสนับสนุนให้ใช้ระบบขนส่ง สาธารณะในการเดนิ ทาง ๒) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมได้ส่ังการให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเพื่อแก้ปัญหา ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ของกระทรวงคมนาคม ซ่ึงจะรับรายงานการปฏิบัติงานของหน่วยงาน ในสังกัดทุกวันพร้อมบูรณาการในการแก้ปัญหา รวมถึงรับฟังความคิดเห็นของประชาชนผ่านช่องทาง การส่ือสารของกระทรวง MOT Channel ทาง YouTube, MOT Public Hearing ทางเว็บไซต์ของกระทรวงคมนาคม และสายด่วนคมนาคม ๑๓๕๖ ๓) กระทรวงคมนาคมได้กาหนดมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ในภาคคมนาคม ระยะส้ัน (ปี พ.ศ. ๒๕๖๓ - ๒๕๖๔) ประกอบด้วย มาตรการการบารุงรักษาเครื่องยนต์ ตรวจสภาพรถของหน่วยงาน รถโดยสาร เรือโดยสาร ยานพาหนะและเครื่องจักรก่อสร้างของผู้รับเหมา เป็นประจาทุกเดือน ให้รถโดยสารสาธารณะ เรือโดยสารสาธารณะ รถไฟ ใช้พลังงานไบโอดีเซล B๒๐ ปรับเปลี่ยนหัวรถจักรรถไฟให้มีคุณภาพ ดาเนินการแก้ปัญหารถติดบริเวณหน้าด่านเก็บค่าผ่านทาง บูรณาการแก้ปัญหาจราจรท่าเรือกรุงเทพ ปรับเวลาวิ่งรถบรรทุก ๑๐ ล้อเข้าเมืองตามพื้นท่ีท่ีมีปริมาณ ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) มากกว่า ๑๐๐ ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ห้ามรถบรรทุกดีเซลวิ่งเข้าพ้ืนท่ีช้ันใน และลดฝุ่นละอองโดยปล่อยละอองน้าดักฝุ่น เข้มงวดผู้รับเหมาฉีดน้ารักษาความสะอาดพ้ืนที่ที่มีการก่อสร้าง ให้เป็นไปตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อม ศึกษาแนวทางการปรับปรุงการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตเพื่อเป็นมาตรการ สาหรบั กาหนดใหร้ ถที่ใชพ้ ลงั งานสะอาดมีราคาถกู ลง ๔) มาตรการระยะกลางถึงระยะยาวประกอบด้วย การส่งเสริมให้มีการใช้ระบบขนส่งสาธารณะ กาหนดอัตราโครงสร้างค่าโดยสารท่ีเหมาะสมให้ประชาชนหันมาใช้บริการมากข้ึน เปล่ียนเครื่องยนต์เป็นพลังงาน สะอาดเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดปริมาณรถบรรทุก เปล่ียนท่าเรือกรุงเทพจากบริการสินค้าคอนเทนเนอร์ เป็นทา่ เรอื สาหรับการท่องเทีย่ วและจากัดการใชเ้ คร่ืองยนตด์ ีเซล ๑๒. ผแู้ ทนจากกรมทางหลวง ได้ใหข้ อ้ มูลตอ่ ทปี่ ระชุม ดงั นี้ ในส่วนของกรมทางหลวงจะเน้นในมาตรการไฟป่าที่เกิดข้ึน โดยได้เน้นการดับไฟป่า ไฟไหม้ ข้างทางที่เกิดขึ้นบริเวณไหล่ทางในพื้นท่ีของกรมทางหลวง เดือนมกราคม – เดือนมีนาคม ๒๕๖๓ ได้มีไฟไหม้ ข้างทางทั้งหมด ๖๐๐ จุด และได้ดาเนินการดับไฟทั้งหมดแล้ว กรมทางหลวงมีท้ังหมด ๕๖๑ หมวดทางหลวง และ ๑๐๔ แขวงทางหลวงที่ดูแลพ้ืนท่ีทั่วประเทศ โดยมาตรการการป้องกันไฟไหม้ข้างทางดาเนินการโดย กรมทางหลวงจะตรวจตราไฟไหม้ข้างทางตามหมวดทางหลวงท่ีรับผิดชอบและให้ประชาชนสามารถโทรศัพท์ แจ้งเหตุไฟไหม้ข้างทางกับกรมทางหลวงได้ท่ีหมายเลข ๑๕๘๖ และมีการติดตั้งเคร่ืองปล่อยฝอยละอองน้า ความดันสูงที่ถนนมอเตอร์เวย์และถนนวิภาวดีรังสิต และถนนพระรามสองซ่ึงเป็นบริเวณการก่อสร้างถนน เพ่อื ลดฝ่นุ ละออง ๑๓. ผแู้ ทนจากกรมทางหลวงชนบท ไดใ้ ห้ข้อมลู ต่อท่ีประชุม ดงั น้ี กรมทางหลวงชนบทได้แบ่งเป็น ๓ มาตรการในการป้องกันไฟไหม้ข้างทาง ดังนี้ ๑) รณรงค์ ประชาสัมพันธ์ตามช่องทางต่าง ๆ ๒) ตัดหญ้าบริเวณข้างทางอันเป็นสาเหตุของเชื้อเพลิง ๓) แจ้งหน่วยงาน กรมทางหลวงท่ัวประเทศให้ดาเนินการกับผู้ก่อเหตุไฟไหม้ข้างทาง โดยแบ่งเป็นกรณีพบผู้กระทาความผิด ใหแ้ จง้ ความดาเนินคดีต่อไปและกรณีไม่พบผู้กระทาความผิด ใหร้ วบรวมหลกั ฐานเพื่อจบั ตัวผู้กระทาความผิดต่อไป
๔๗ ประเด็นที่ ๑๓ การจัดซื้อจัดจ้างรถดับเพลิง วัสดุ ครุภัณฑ์ อุปกรณ์ และการจาหน่ายพัสดุ ตามกฎหมายทีเ่ กย่ี วข้อง ๑. ผแู้ ทนจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ไดใ้ ห้ขอ้ มลู ต่อทีป่ ระชมุ ดงั น้ี ๑) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยมีหน้าท่ีป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงต้องจัดหา เคร่ืองมือต่าง ๆ ให้เพียงพอกับหน่วยงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยท่ัวประเทศ ครุภัณฑ์ที่ทางกรมป้องกัน และบรรเทาสาธารณภัยจัดหามานั้น แบ่งได้เป็น ๔ ประเภท คือ ครุภัณฑ์สาหรับอุทกภัย ครุภัณฑ์ภัยแล้ง ครุภัณฑ์เพื่อการดับเพลิง และครุภัณฑ์เพื่อการบรรเทาสาธารณภัย การจัดหาเครื่องมือเป็นไปตามกฎหมาย ครุภัณฑซ์ ่ึงทาโดยโปรง่ ใส หลกั ในการหาเคร่อื งมอื คือคดิ ว่าทาอย่างไรจึงจะให้เพยี งพอท่วั ประเทศและสนับสนุน หนว่ ยงานตา่ ง ๆ ๒) หลักในการบารุงรักษาครุภัณฑ์คือต้องบารุงรักษาให้ใช้ได้ยาวนานท่ีสุดเท่าท่ีจะทาได้ เพราะเครื่องมือเหล่าน้ีมีราคาสูง หากหน่วยงานรัฐใดต้องการเครื่องมือดังกล่าว ทางกรมป้องกันและบรรเทา สาธารณภัยก็อาจถา่ ยโอนใหไ้ ด้ แต่อย่างไรกต็ าม ยงั ไม่มีข้อมลู วา่ สามารถถ่ายโอนครุภณั ฑใ์ ห้กบั ภาคเอกชนได้ ๒. ผ้แู ทนจากสานกั งบประมาณ ได้ใหข้ อ้ มูลตอ่ ท่ีประชุม ดงั นี้ ๑) ยังไม่เคยมีกรณีภาคเอกชนขอถ่ายโอนครุภัณฑ์ในความครอบครองของหน่วยงานรัฐ ไปเปน็ ของตน ๒) กรณีภาคเอกชนขอจัดสรรงบประมาณจากหน่วยงานภาครัฐ มีเพียงกรณีสภากาชาดไทย ที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณผ่านจุฬาลงกรณมหาวิทยาลัย แต่ปัจจุบันสภากาชาดไทยเป็นหน่วยงานที่ได้รับ งบประมาณเอง ส่วนมูลนิธินั้นยังไม่มีกฎหมายใดรองรับให้สามารถขอรับการจัดสรรงบประมาณได้ โดยปกติ สานกั งบประมาณจะไมจ่ ดั สรรงบประมาณให้เวน้ แต่มีกฎหมายอ่ืนรองรบั ให้จัดสรรได้ ๓) สานักงบประมาณมีหน้าท่ีในด้านการจัดทางบประมาณ ไม่มีหน้าที่เกี่ยวกับการโอนพัสดุ ตามระเบยี บกระทรวงการคลังว่าด้วยการจดั ซอ้ื จัดจ้างและการบริหารพสั ดุภาครฐั พ.ศ. ๒๕๖๐ ๔) หน่วยงานที่เก่ียวข้องสามารถปฏิบัติตามแนวทางการของบประมาณส่วนกลาง แต่ต้องระบุ เหตุผลและความจาเป็น ถ้างบประมาณที่ขอจัดสรรมีจานวนต่ากว่า ๑๐๐ ล้านบาท นายกรัฐมนตรีจะเป็นผู้พิจารณา ถา้ งบประมาณท่ีขอจัดสรรมจี านวนมากกว่า ๑๐๐ ลา้ นบาทจะต้องนาเขา้ พิจารณาในท่ปี ระชุมคณะรฐั มนตรี ๓. ผู้แทนจากกรมบญั ชีกลาง ได้ให้ข้อมูลตอ่ ที่ประชุม ดงั นี้ ๑) การจัดซ้ือจัดจ้างอยู่ภายใต้กฎหมายพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ ภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งวางหลักว่า หน่วยงานของรัฐไม่ว่าจะได้ทรัพย์สินมาในทางใดจะต้องดูแลรักษาทรัพย์สินน้ัน ให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานเสมอ หากเอกชนต้องการจะยืมทรัพย์สินของทางราชการสามารถทาได้ โดยต้องขอยืม เพ่ือประโยชน์ของทางราชการ จะต้องยืมโดยระบุแน่ชัดว่าจะคืนเม่ือใด และหากทรัพย์สินที่ยืมไปเกิดชารุดเสียหาย จะต้องซ่อมแซมให้คืนสู่สภาพเดิม หากทรัพย์สินที่ยืมไปเกิดสญู หายหรือเสยี หายจนไม่สามารถที่จะซ่อมแซมได้ เอกชนจะต้องชดใช้เปน็ จานวนเงนิ ตามราคา ณ วันที่ขอยืม ๒) การจาหน่ายพัสดุน้ัน ตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซ้ือจัดจ้างและการบริหาร พัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ ข้อ ๒๑๕ กาหนดว่าหากใช้พัสดุน้ันต่อไปจะเกิดความสิ้นเปลืองอย่างมาก หรือไม่มี ความจาเป็นที่จะต้องใช้พัสดุน้ันต่อไป ก็ให้หน่วยงานของรัฐจาหน่ายได้ใน ๔ กรณี (๑) ขายทอดตลาด (๒) โอนให้ หนว่ ยงานของรัฐหรือองค์การสถานสาธารณกุศลตามมาตรา ๔๗ (๗) แหง่ ประมวลรษั ฎากร (๓) การแลกเปล่ียน (๔) แปรสภาพหรือทาลาย กล่าวคือ หากพัสดุนั้นใช้ต่อไปจะหมดความจาเป็น หรือหากใช้ต่อไปจะส้ินเปลือง ก็สามารถให้โอนได้ โดยให้โอนแก่หน่วยงานของรัฐหรือองค์การสถานสาธารณกุศลตามมาตรา ๔๗ (๗) แห่งประมวล
๔๘ รัษฎากร โดยให้มีหลักฐานการส่งมอบไว้ต่อกันด้วย หากองค์การสถานสาธาร ณกุศลน้ันไม่เข้าเงื่อนไข ตามมาตรา ๔๗ (๗) แห่งประมวลรัษฎากร ให้หน่วยงานท่ีเป็นเจ้าของทรัพย์สินสามารถทาหนังสือขอยกเว้น ผ่อนผันการปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลังดังกล่าว เสนอต่อคณะกรรมการวินิจฉัยการจัดซ้ือจัดจ้าง และการบรหิ ารพัสดภุ าครัฐได้ โดยระบเุ หตุผลความจาเปน็ เสนอต่อคณะกรรมการเพื่อพจิ ารณาต่อไปได้ ๓) องค์การสถานสาธารณกุศลตามมาตรา ๔๗ (๗) แห่งประมวลรัษฎากร หมายถึงมูลนิธิต่างๆ หรอื วดั ทจ่ี ดทะเบียนกบั กรมสรรพากรตามประมวลรัษฎากรมาตรา ๔๗ (๗) ๔. ผูแ้ ทนจากสานักงานตรวจเงินแผ่นดนิ ไดใ้ ห้ขอ้ มูลต่อทป่ี ระชมุ ดงั นี้ ๑) สานกั งานตรวจเงินแผ่นดินไม่สามารถแก้ไขระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ สานักงานตรวจเงินแผ่นดินเป็นเพียงผู้ตรวจสอบโดยใช้กฎหมาย ดงั กลา่ วเป็นหลักเกณฑ์ในการตรวจสอบเท่านั้น ๒) ครุภัณฑ์ในความครอบครองของหน่วยงานรฐั สามารถอยู่ในความครอบครองของเอกชนได้ มี ๒ กรณี คือ การยืม และการโอน โดยต้องเป็นไปตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซ้ือจัดจ้าง และการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ ข้อ ๒๑๕ (๓) ที่กาหนดให้สามารถโอนครุภัณฑ์แก่หน่วยงานของรัฐ หรอื องคก์ ารสถานสาธารณกศุ ลตามมาตรา ๔๗ (๗) แห่งประมวลรัษฎากรได้ โดยใหม้ ีหลักฐานการส่งมอบไวต้ อ่ กนั ดว้ ย ประเด็นที่ ๑๔ การเปรียบเทียบข้อมูลและการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เก่ียวข้องกับฝุ่นละออง ขนาดเลก็ (PM ๒.๕) และมลพิษทางอากาศ ๑. ผู้แทนจากสานักงานการวจิ ัยแหง่ ชาติ ได้ใหข้ อ้ มลู ต่อท่ีประชุม ดังนี้ ๑) สานักงานการวิจัยแห่งชาติร่วมกับกรมควบคุมมลพิษ สถาบันมาตรวิทยาแห่งชาติ และสานักงานขับเคล่ือนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง สร้างมาตรฐาน เครอื่ งวดั ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ในรปู แบบการสนับสนุนทุนเพื่อสร้าง Low Cost Sensor จากงานวิจัย ได้แก่ เคร่ืองวัดปริมาณคุณภาพอากาศ “Dust Boy” ของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เคร่ืองวัดปริมาณคุณภาพอากาศ “Air Envir” ของสถาบันเทคโนโลยีราชมงคล เครื่องวัดปริมาณคุณภาพอากาศ “QCM” ของสานักงานพัฒนา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ๒) ที่ผ่านมาสานักงานการวิจัยแห่งชาติ ได้นาเครื่องวัดปริมาณคุณภาพอากาศไปติดตั้ง ตามสถานที่ต่าง ๆ พบว่า ค่าที่อ่านไดม้ ีความคลาดเคล่ือนจากเคร่ืองมาตรฐานของกรมควบคุมมลพษิ สานักงาน การวิจัยแห่งชาติจึงได้ดาเนินการปรับค่าอ่านปริมาณคุณภาพอากาศให้เทียบเท่ากับเคร่ืองมาตรฐาน ของกรมควบคุมมลพิษ โดยมีระยะเวลาการดาเนินการภายใน ๑ ปีนับต้ังแต่เดือนมีนาคม ๒๕๖๓ - เดือนมีนาคม ๒๕๖๔ เพือ่ ให้เคร่อื งวัดปริมาณคุณภาพอากาศทุกเคร่ืองสามารถอา่ นค่าปริมาณคุณภาพอากาศได้ใกลเ้ คียงกนั ๒. ผูแ้ ทนจากกระทรวงดจิ ิทัลเพ่อื เศรษฐกิจและสังคม ได้ให้ขอ้ มูลตอ่ ทป่ี ระชุม ดงั น้ี ๑) กรมอุตุนิยมวิทยา เป็นหน่วยงานในสังกัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม มีหน้าที่เฝ้าระวังและเตือนภัยให้กับประชาชนเก่ียวกับสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง กรมอุตุนิยมวิทยา ไม่มีเคร่ืองตรวจวัดปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) และมลพิษทางอากาศจึงต้องอาศัยข้อมูลดังกล่าว จากกรมควบคมุ มลพษิ ๒) ปัจจัยทางอุตุนิยมวิทยา (Meteorology) ที่มีผลต่อฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) คือ ความกดอากาศสูง (High Pressure) ซึ่งเป็นปัจจัยของปรากฏการณ์อุณหภูมิผกผันกลับในช้ันบรรยากาศ (Temperature inversion) ที่ระดับใกล้ผิวพื้น เป็นเหตุให้การลอยตัวข้ึนของอากาศไม่ดี และเม่ือความกดอากาศ มีกาลังอ่อนลง มักจะทาให้ลมมีกาลังอ่อนลงหรือสงบ ซึ่งเป็นอุปสรรคของการแพร่กระจายของฝุ่นละออง
๔๙ โดยเฉพาะพื้นที่กรุงเทพมหานคร ฝุ่นควัน และไอเสียจากยานพาหนะต่าง ๆ จึงเกิดการสะสมและถ้าระดับ อุณหภูมผิ กผนั กลบั ลดระดับลง จะเพ่มิ ความเข้มขน้ ของฝุน่ ละอองในชนั้ บรรยากาศมากขน้ึ ๓) ปัจจัยหลักทางอุตุนิยมวิทยา (Meteorology) ที่มีผลต่อการเพ่ิมขึ้นของฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) คือ ลมสงบหรือลมอ่อน ซึ่งมักเกิดจากชั้นบรรยากาศใกล้ผิวเกิดการผกผันกลับของอุณหภูมิ (Inversion) และการทฝี่ นไมต่ กก็มีผลต่อการเพิ่มขนึ้ ของฝนุ่ ละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) เช่นกนั ๔) ปัจจัยหลักทางอุตุนิยมวิทยา (Meteorology) ที่มีผลต่อการลดลงของฝุ่นละอองขนาดเลก็ (PM ๒.๕) คือลมแรงเพราะทาให้การลอยตัวของฝุ่นละอองทาได้ดีและการมีฝนตกครอบคลุมพื้นท่ีส่วนมาก ก็มีผลตอ่ การลดลงของฝุ่นละอองขนาดเลก็ (PM ๒.๕) เช่นกัน ๕) เม่ือปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) มีค่ามากกว่า ๕๐ ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร (เฉล่ีย ๒๕ ช่ัวโมงต่อเน่ือง) กรมอุตุนิยมวิทยาจะตั้งคณะทางานเฝ้าระวังและติดตามแนวโน้มสภาพอากาศ ท่ีจะส่งผลกระทบต่อปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) พร้อมพยากรณ์แนวโน้มการสะสมฝุ่นละออง และหมอกควนั ในพยากรณ์อากาศประจาวัน เผยแพรท่ างเว็บไซตก์ รมอุตุนยิ มวิทยาทุกวนั ๓. ผแู้ ทนจากกรมการปกครอง ไดใ้ ห้ข้อมูลตอ่ ท่ีประชุม ดังน้ี ๑) กรมการปกครองเป็นหน่วยงานสังกัดกระทรวงมหาดไทย ดาเนินงานเกี่ยวกับการรักษา ความสงบเรยี บร้อยและความมน่ั คงภายใน การบริหารการปกครองทอ้ งที่ในระดับอาเภอ ตาบล และหมู่บา้ น ๒) กรมการปกครองมีมาตรการดาเนินการ ๓ ข้ันตอน คือ (๑) การป้องกันและลดการเกิดมลพิษ ท่ีต้นทาง (๒) การบังคบั ใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด (๓) การบรรเทาและแกไ้ ขปัญหา ๓) กรมการปกครองเผยแพร่ขา่ วสารท่ีเก่ียวข้องกบั ฝนุ่ ละอองขนาดเลก็ (PM ๒.๕) และมลพิษ ทางอากาศผ่านทางเครือข่ายคณะทางานระดับอาเภอและระดับตาบล โดยใช้ข้อมูลปริมาณคุณภาพอากาศ จากกรมควบคุมมลพษิ เปน็ หลกั ๔. ผแู้ ทนจากกรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถ่นิ ได้ให้ขอ้ มลู ตอ่ ท่ีประชุม ดงั นี้ ๑) ช่องทางการประชาสัมพันธ์ สร้างความเข้าใจให้แก่ประชาชนเรื่องฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) และมลพิษทางอากาศตามบทบาทขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ได้แก่ การเผยแพร่ข่าวสาร ตามเสียงตามสาย หอกระจายข่าว โดยในเขตเทศบาลนครจะมีการเผยแพร่ผ่านทางจอแสดงผลตามส่ีแยกไฟแดง เพือ่ เปน็ การประชาสัมพันธอ์ ีกช่องทางหน่งึ ๒) ข้อมูลท่ีเก่ียวข้องกับฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) และมลพิษทางอากาศที่นามา เผยแพร่น้ัน ใช้ข้อมูลจากกรมควบคุมมลพิษเป็นหลัก ประเด็นที่ ๑๕ การแกไ้ ขปัญหาและลดผลกระทบทีเ่ กิดจากปัญหาฝ่นุ ละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) สภาลมหายใจเชียงใหม่ ไดใ้ ห้ขอ้ มูลต่อท่ปี ระชุม ดงั นี้ ๑. สภาลมหายใจเชียงใหม่ เป็นการรวมตัวของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคการศึกษา จานวน ๗ มหาวิทยาลัย ซึ่งมีเป้าหมายเดียวกัน คือ เพื่อทาให้สังคมมีอากาศสะอาดทุกฤดูกาล โดยมุ่งเน้น การแก้ไขปญั หาในระยะยาวอย่างยั่งยืน สว่ นการแก้ไขปญั หาเฉพาะหน้าจะใช้วธิ ีการปรองดอง ๒. การดาเนินการที่ผ่านมาได้มีการลงพ้ืนท่ีพบปะประชาชนใน ๒๕ อาเภอ พบว่าปัญหาฝุ่นควัน ในภาคเหนือเกิดจากไฟป่าและการปลูกพืชหมุนเวียน จึงเกิดแนวความคิดในการปรับเปล่ียนห่วงโซ่อุปทาน ของการทาการเกษตรเพื่อลดจานวนจุดความร้อนและความเสียหายในด้านท่องเที่ยว ด้านสาธารณสุข และด้านอ่ืน ๆ ในพ้ืนท่ีภาคเหนือ โดยเน้นการทาเกษตรท่ีไม่ใช้การเผา เช่น การปลูกกาแฟ ผัก เป็นต้น ซึ่งมีเกษตรกรจานวน ๓๖ ตาบล เข้าร่วมโครงการน้ี โดยมีเป้าหมายเพิ่มพ้ืนที่ท่ีไม่มีการเผา ๑๐ เปอร์เซ็นต์ หรอื ประมาณ ๗,๐๐๐,๐๐๐ ไร่
๕๐ ๓. สภาลมหายใจเชียงใหม่ มีการขยายเครือข่ายครอบคลุม ๑๐ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดน่าน จังหวัดเชียงราย จังหวัดแพร่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดลาพูน จังหวัดลาปาง จังหวัดพะเยา จังหวัดตาก และจังหวัดอุตรดิตถ์ โดยมีมหาวิทยาลัยท้ังหมด ๒๐ แห่ง เพ่ือสร้างพ้ืนที่นาร่อง โดยให้บริษัท ห้างหนุ้ ส่วน รา้ นค้า รวมทั้งโรงเรยี นตา่ ง ๆ มีสว่ นรว่ มโดยการสั่งซอื้ ผักเกษตรทไ่ี มใ่ ชก้ ารเผา ๔. ปัญหาการเผาพื้นท่ีป่าและพืชไร่เกิดจากปัญหาความจนที่จาเป็นต้องใช้เงินหมุนเวียน ทาให้เกษตรกรต้องปลูกพืชหมุนเวียน เช่น ข้าวโพด เพ่ือให้สามารถชาระหน้ีสินได้ ซ่ึงวิธีการแก้ไขปัญหา คือ ให้เกษตรกรเข้ารว่ มโครงการเพอ่ื เปลี่ยนไปปลูกพืชที่ไม่ใชก้ ารเผา ประเด็นที่ ๑๖ การใชเ้ ช้อื เพลงิ หรือพลงั งานสะอาดทไี่ ม่กอ่ มลพิษต่อส่ิงแวดล้อม บรษิ ัท บางจาก คอรป์ อเรช่นั จากัด (มหาชน) ไดใ้ หข้ ้อมลู ตอ่ ท่ปี ระชุมถงึ การกาหนดอัตราภาษี สาหรับเช้ือเพลิงหรือพลังงานสะอาด การพัฒนาคุณภาพเชื้อเพลิงและราคาของผลิตภัณฑ์แต่ละประเภท แนวทางการลดต้นทุนและส่งเสริมการใช้เชื้อเพลิงหรือพลังงานสะอาดท่ีไม่ก่อมลพิษต่อส่ิงแวดล้อม ซ่ึงจะช่วย ลดปัญหาฝ่นุ ละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) สรุปสาระสาคัญได้ดงั นี้ ๑. ในปัจจุบันมีน้ามันดเี ซล ๓ ชนิด ได้แก่ B๗ B๑๐ และ B๒๐ ซ่ึงสถานีบริการน้ามันของบริษทั บางจาก คอร์ปอเรช่ัน จากัด (มหาชน) มีน้ามัน B๒๐ เพียงพอ โดยมีสถานีที่ให้บริการน้ามัน B๒๐ ประมาณ ๖๐๐ แห่ง จากท้ังหมด ๑๒,๐๐๐ แห่ง แต่แรงจูงใจต่อผู้บริโภคลดน้อยลง เนื่องจากถูกปรับราคาลดลงจากส่วนต่าง ๕ บาท เหลือ ๓ บาท สว่ นน้ามัน B๑๐ ก็มีการขยายสถานีท่ีให้บริการเพิ่มมากข้ึน ๒. ในปัจจุบันมาตรฐานน้ามันในประเทศไทยอยู่ในระดับ Euro ๔ กล่าวคือ ปริมาณกามะถัน ในนา้ มันอยู่ท่ี ๕๐ สว่ น ใน ๑,๐๐๐,๐๐๐ สว่ น ซึ่งกระทรวงพลังงานโดยกรมธุรกิจพลังงานกาหนดให้มาตรฐาน น้ามันในประเทศไทยอยู่ในระดับ Euro ๕ ในวันท่ี ๑ มกราคม ๒๕๖๗ อันจะทาให้ปริมาณกามะถัน ในน้ามันลดลงอยู่ที่ ๑๐ ส่วน ใน ๑,๐๐๐,๐๐๐ ส่วน ทั้งนี้ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรช่ัน จากัด (มหาชน) ยังไม่สามารถ ผลิตน้ามัน Euro ๕ ได้ ๑๐๐ เปอร์เซ็นต์ แต่อยู่ระหว่างการดาเนินโครงการเพ่ือปรับเปลี่ยนกระบวนการผลิต น้ามันให้ได้มาตรฐานภายในระยะเวลาตามที่กฎหมายกาหนด อย่างไรก็ตาม ในช่วงวิกฤตฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ในพ้ืนที่กรุงเทพมหานครท่ีผ่านมา บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จากัด (มหาชน) ได้สนับสนุน การแกไ้ ขปญั หาฝุ่นละอองขนาดเลก็ (PM ๒.๕) โดยจดั สง่ นา้ มนั Euro ๕ เพือ่ จาหนา่ ยในเขตพนื้ ท่ีกรงุ เทพมหานคร ๓. เสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพลังงาน กองทุนน้ามันเช้ือเพลิง กาหนดมาตรการ จูงใจสาหรับผู้ประกอบกิจการเพ่ือให้สามารถผลิตน้ามัน Euro ๕ จาหน่ายสู่ตลาดได้อย่างเพียงพอและรวดเร็ว ทส่ี ดุ โดยไมต่ ้องรอให้กฎหมายกาหนดมาตรฐานนา้ มันในปี พ.ศ. ๒๕๖๗ มผี ลบงั คับใชก้ อ่ น ประเด็นที่ ๑๗ การแก้ไขปญั หาการทาลายปา่ ตน้ น้า มูลนิธิแม่ฟ้าหลวง ในพระบรมราชูปถัมภ์ ได้ให้ข้อมูลต่อท่ีประชุมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา การทาลายป่าต้นน้า กระบวนการชุมชนในการป้องกันไฟป่าและการมีส่วนร่วมของชุมชนในการป้องกัน ภัยดังกลา่ ว ปญั หา อปุ สรรค และขอ้ เสนอแนะทีเ่ กยี่ วข้อง สรปุ สาระสาคญั ได้ดงั น้ี ๑. หนึ่งในป่าต้นน้าท่ีสาคัญของประเทศไทยคือจังหวัดน่าน ซ่ึงสถานการณ์ป่าต้นน้าในปัจจุบัน ป่าหายไปเฉล่ียวันละ ๑๙๐ ไร่ เนื่องจากการบุกรุกท่ีป่า จังหวัดน่านมีรายได้เฉล่ียต่อคนต่าเป็นลาดับที่ ๓ ของประเทศ และพบว่าสารกาจัดวชั พืชในนา้ ประปาสูงกวา่ คา่ มาตรฐาน ๒๔.๕ เท่า ซ่ึงนา้ จากแมน่ ้าจังหวดั น่าน คิดเปน็ ร้อยละ ๔๕ ของแม่นา้ เจ้าพระยา
๕๑ ๒. ปัญหาของการเผาป่าเกิดข้ึนจาก สิทธิทากิน เนื่องจากประชาชนในพ้ืนท่ีไม่มีสิทธิทากิน ในพื้นท่ี ทาให้เกษตรกรไม่กล้าปลูกพืชระยะยาวแต่เลือกที่จะปลูกพืชระยะสั้นแทน เช่น ข้าว ข้าวโพด เป็นต้น เป็นต้นเหตใุ หเ้ กิดวัฏจกั รการใช้สารเคมแี ละการเผาปา่ ๓. แนวทางการดาเนนิ งานแก้ไขปัญหาการทาลายปา่ ต้นน้า มีดงั น้ี ๑) ทางานบนข้อมูลจริง คือ การเดินสารวจพื้นท่ีเพื่อจัดทาแผนท่ีแสดงตาแหน่งพื้นที่ ทากนิ แบ่งรายครัวเรอื น ๒) แก้ไขปัญหา ๒.๑) มองภาพปัญหาเชิงพื้นที่ ( Area-based Approach ) โดยมองว่าการแก้ไขปัญหา ป่าต้นนา้ ตอ้ งเริ่มที่คน ซ่ึงตอ้ งบรู ณาการการจดั การในเร่อื งนา้ ดิน เกษตร พลงั งานทดแทน ป่า และส่ิงแวดล้อม ๒.๒) การทางานแบบเป็นข้ันตอนและมีผลลัพธ์ชัดเจน โดยเริ่มท่ีการสร้างความเข้าใจ ให้แก่ชุมชนว่าชุมชนเป็นส่วนหน่ึงของปัญหา หลังจากนั้นจึงเริ่มกระบวนการปลูกคน คือ การแก้ไขปัญหา ปากท้องและจัดให้ชุมชนทางานกันเป็นกลุ่ม โดยจัดให้มีระบบน้าเพื่อการเกษตร เช่น การสร้างฝาย มีการเปลี่ยนสภาพพื้นที่จากภูเขาเปน็ นาขนั้ บนั ได มีการให้กองทนุ สนับสนนุ พันธุ์พืช ปยุ๋ และสัตว์ เพื่อให้ชุมชน มีรายได้เพียงพอก่อนเร่ิมข้ันตอนการปลูกป่าโดยได้กาหนดโมเดลในการบริหารจัดการพ้ืนท่ีป่าให้มีป่าอนุรักษ์ ๖๐ เปอร์เซ็นต์ ป่าเศรษฐกิจ ๒๐ เปอร์เซ็นต์ ป่าใช้สอย ๘ เปอร์เซ็นต์ ที่ทากิน ๑๐ เปอร์เซ็นต์ และท่ีอยู่อาศัย ๒ เปอรเ์ ซ็นต์ ซ่งึ ชมุ ชนจะเป็นผ้รู ับผดิ ชอบดูแล และข้นั ตอนสดุ ท้าย คือ แปรรปู ผลผลติ จากปา่ ต่อไป ๒.๓) ชุมชนเป็นท่ีต้ังและให้ชุมชนมีส่วนร่วม คือ ในการดูแลป่าต้องทาให้ชุมชน ได้รับผลประโยชน์ตอบแทนที่เพียงพอ เช่น การสร้างฝายทาให้ชุมชนมีน้าใช้สาหรับการเกษตรทาให้มีรายได้ เพิ่มจากการท่ปี ลูกพชื ไดม้ ากขึ้น การเปลยี่ นมาปลูกพืชระยะยาวทไ่ี ม่ทาให้ขาดทุน เช่น มะม่วงหมิ พานต์ กาแฟ กล้วย เป็นต้น ท้ังน้ี ให้ชุมชนเป็นผู้จัดการแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง เพ่ือให้เกิดความรู้สึกเป็นเจ้าของและเกิด ความรับผิดชอบต่อพื้นท่ีป่า พร้อมทั้งทาความเข้าใจกับผู้นาชุมชนและชาวบ้านเกี่ยวกับแนวคิดการปลูกป่า และมาตรการในการดูแลรักษาป่า รวมท้ังพัฒนาศักยภาพคนโดยการปลูกสร้างจิตสานึกให้แก่เยาวชน ๒.๔) ชาวบ้าน ชุมชน ดูแลพื้นที่ต่อร่วมกันกับภาครัฐ โดยการต้ังคณะกรรมการ ตั้งกองทุน รวมท้ังกฎเกณฑ์ต่าง ๆ เก่ียวกับการให้รางวัลแก่พื้นที่ท่ีไม่เกิดไฟไหม้ และบทลงโทษในพื้นท่ีที่เกิดไฟป่า เพื่อให้ชุมชนและชาวบ้านมีรายได้จากการไม่บุกรุกพื้นท่ีป่า นอกจากนี้ ได้วางมาตรการในการป้องกันไฟป่า ด้วยการชิงเผา ทาแนวกันไฟ สรา้ งหอเฝ้าระวงั ไฟ และกาหนดช่วงระยะเวลาในการเผา ๔. ผลการดาเนินงานในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ สามารถสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนเพ่ิมข้ึน ๒ เท่า ทาให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ๐.๕ เท่า และหน้ีสินลดลงจาก ๗๐ เปอร์เซ็นต์ เป็น ๒๐ เปอร์เซ็นต์ นอกจากน้ี ทาให้ ไดพ้ ้นื ที่ป่าเพิ่มข้นึ จาก ๔๒ เปอรเ์ ซน็ ต์ เป็น ๘๔ เปอร์เซน็ ต์ และพื้นที่เสยี หายจากไฟปา่ ลดลง ๙๙.๙ เปอร์เซ็นต์ ซ่งึ วธิ กี ารปลกู ปา่ ที่ดีท่สี ดุ คือ การปล่อยใหธ้ รรมชาตฟิ ้นื ฟูตวั เอง โดยมกี ารปลูกพชื เสริมแบบหลากหลาย ๕. เสนอให้มีการทาคาร์บอนเครดิต การจัดเก็บภาษีสิ่งแวดล้อม รวมถึงมาตรการจูงใจ แก่ผู้ประกอบการธุรกิจลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เช่น การลดหย่อนภาษี เพ่ือให้เกิดการไขปัญหา อย่างยั่งยืน ประเด็นท่ี ๑๘ แนวทางการผลักดนั การใชก้ ๊าซ NGV และพลังงานทดแทนอื่น ๆ ในภาคการขนส่ง ๑. สหพนั ธก์ ารขนส่งทางบกแหง่ ประเทศไทย ได้ให้ขอ้ มูลต่อทป่ี ระชุม ดังนี้ ๑) รถขนส่งในไทยปัจจุบันมีจานวน ๑.๑ ล้านคัน แบ่งเป็นรถบรรทุกส่วนบุคคล จานวน ๘๐๐,๐๐๐ คัน รถบรรทุกรับจ้างไม่ประจาทางจานวน ๓๐๐,๐๐๐ คัน
๕๒ ๒) ความเป็นมาของการใช้ก๊าซ NGV ในภาคขนสง่ นั้นเร่ิมขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๔๔ บรษิ ทั ปตท. จากัด (มหาชน) ไดส้ ง่ เสริมให้มีการใชก้ า๊ ซ NGV ในภาคขนส่ง โดยมรี าคา ๘.๕๐ บาทต่อกิโลกรัม ในขณะที่นา้ มนั ดเี ซล มีราคาในขณะน้ัน ๓๐ บาทต่อลิตร และแนะแนวให้ผู้ประกอบการดัดแปลงเคร่ืองยนต์ ติดต้ังถังด้านท้ายรถ ส่วนใหญ่ที่ดัดแปลงไม่ได้มาตรฐานทาให้เครื่องยนต์และการติดตั้งมีปัญหาตามมา ซึ่งต้นทุนการดัดแปลงสูงถึ ง ๔๐๐,๐๐๐ บาท แต่ด้วยราคาก๊าซท่ีต่าในขณะนั้นจึงทาให้ผู้ประกอบการสนใจท่ีจะลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทาให้ ในปี พ.ศ. ๒๕๕๐ บริษัทผู้ผลิตรถบรรทุกได้เริ่มผลิตรถบรรทุกที่เป็นเครื่องยนต์ CNG ออกจาหน่าย แต่ในปัจจุบัน ราคาก๊าซ NGV อยู่ที่ ๑๕.๖๓ บาทต่อกิโลกรัม ทาให้เกิดความไม่คุ้มทุนในการใช้ก๊าซ NGV ในภาคขนส่ง ซ่ึงเม่ือเปรียบเทียบกันระหวา่ งรถบรรทุกท่ีใช้ก๊าซ NGV กับรถบรรทุกที่ใช้น้ามันดีเซล พบว่ารถบรรทุกที่ใช้กา๊ ซ NGV มีอัตราสิ้นเปลืองพลังงานและค่าบารุงรักษาสูงกว่ารถบรรทุกท่ีใช้น้ามันดีเซล แต่ได้น้าหนักบรรทุก ท่นี ้อยกวา่ รถบรรทุกท่ีใช้น้ามนั ดีเซล กลา่ วคอื รถบรรทกุ ท่ใี ช้กา๊ ซ NGV ตอ้ งติดตัง้ ถังกา๊ ซ NGV ปริมาณนา้ หนัก ๔ ตัน ทาให้บรรทุกน้าหนักไดน้ ้อยลง ๓) ประเด็นการผลักดันให้มีการกลับมาใช้ก๊าซ NGV ในภาคขนส่งน้ัน สหพันธ์การขนส่ง ทางบกแห่งประเทศไทยเห็นว่านโยบายภาครัฐต้องมีความชัดเจนเรื่องต้นทุนราคาก๊าซ NGV ให้กับภาคขนส่ง กล่าวคือถ้าหน่วยงานภาครัฐไม่สามารถตรึงราคาก๊าซ NGV ให้อยู่ท่ีราคา ๔๐ เปอร์เซ็นต์ ของราคาน้ามันดีเซลได้ ภาคเอกชนกไ็ มพ่ รอ้ มที่จะกลับมาใช้ก๊าซ NGV ในภาคขนส่ง เน่อื งจากไม่เกิดความคมุ้ ค่าทางธรุ กิจ ๔) ในปัจจุบันได้มีการจากัดเวลาเดินรถของรถบรรทุกเพื่อแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) โดยห้ามเดินรถเข้าพื้นท่ีกรุงเทพมหานครในเวลากลางวัน ซ่ึงภาคการขนส่งรถบรรทุกมีความจาเป็น ต้องเดินรถเข้าพื้นที่กรุงเทพมหานครเพ่ือขนส่งสินค้าท่ัวไป รับขนตู้คอนเทนเนอร์ ขนส่งสินค้าเกษตร ขนส่งน้ามันและวัสดุก่อสร้าง โดยขอยกตัวอย่างภาคการก่อสร้างในส่วนการผลิตคอนกรีตในกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลซ่ึงมีโรงงานผลิตคอนกรีตผสมเสร็จจานวน ๔๐๐ โรงงาน ต้องใช้รถบรรทุกขนวัตถุดิบ เพ่ือผลิตคอนกรีตทั้งสิ้น ๖,๒๖๖ เที่ยวต่อวันซ่ึงใช้เวลา ๑๓ ช่ัวโมงต่อวัน ผลกระทบจากการจากัดเวลา เดินรถดังกล่าวทาให้ต้นทุนด้านขนส่งสูงขึ้น เนื่องจากผู้ประกอบการเปล่ียนการขนส่งจากรถบรรทุกสิบล้อ เป็นรถบรรทุกหกล้อ ภาคอุตสาหกรรมและก่อสร้างจะมีต้นทุนสูงข้ึนจากการจ่ายค่าล่วงเวลาในการทางาน เวลากลางคืน นอกจากน้ียังทาให้ปริมาณการจราจรในกรุงเทพมหานครมีความหนาแน่นมากขึ้นจากจานวน รถบรรทุกหกล้อที่เข้ามาแทนที่รถบรรทุกสิบล้อท่ถี ูกจากัดเวลาการเดินรถ ทาใหม้ กี ารปล่อยมลพิษสู่อากาศมากข้นึ ๕) ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ในกรุงเทพมหานครน้ัน กรมควบคุมมลพิษ ได้ทาการวิจัยว่าแหล่งท่ีมาของฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ๗๒.๕ เปอร์เซ็นต์ มาจากการขนส่งทางถนน ในขณะท่ีบทความวิจัยของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานครระบุว่า แหล่งท่ีมาของฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ๕๐ เปอร์เซ็นต์ มาจากการเผาในที่โล่ง และมาจากการคมนาคมขนส่งเพียง ๑๐ เปอร์เซ็นต์เท่านั้น จึงเป็นการขัดแย้งกันของข้อมูลวิชาการ ดังน้ัน สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยจึงมีข้อสังเกตว่า การแก้ปัญหาฝนุ่ ละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) โดยการจากัดเวลาเดินรถบรรทุกนัน้ เป็นการแก้ปญั หาที่ไม่ตรงจุด และเกดิ ความเสียตอ่ มลู คา่ ทางเศรษฐกจิ ๖) สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทยได้มีข้อเสนอในการแก้ปัญหาฝุ่นละออง ขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ต่อที่ประชุมดังนี้ (๑) ย้ายฐานนาเข้าและส่งออกจากท่าเรือคลองเตย (River Port) ไปแหลมฉบัง มาบตาพุด (Sea Port) เป็นการลดปริมาณการจราจรจากรถบรรทุกวันละ ๓,๐๐๐ เที่ยว (๒) ย้ายจุดรับ - ส่งสินค้าสาหรับร้านค้าปลีกในเขตกรุงเทพชั้นในไปอยู่บริเวณชานเมือง (๓) สนับสนุนนโยบาย พลังงานสะอาดให้ชัดเจน เช่น ตรึงราคาก๊าซ NGV ให้อยู่ท่ี ๔๐ เปอร์เซ็นต์ ของราคาน้ามันดีเซล (๔) สนับสนุน
๕๓ การใช้พลังงานทางเลือกที่ไม่สร้างมลพิษ เช่น น้ามันไบโอดีเซล B๒๐ ให้มีราคาส่วนต่าง ๓ – ๕ บาทต่อลิตร จากราคานา้ มันดีเซลพื้นฐาน (๕) ห้ามรถทไ่ี ม่มีมาตรฐานยูโรวิง่ เขา้ เขตเมือง ๒. เครอื ขา่ ยสหกรณร์ ถแทก็ ซีไ่ ทย ได้ให้ข้อมลู ตอ่ ท่ปี ระชุม ดังน้ี ๑) รถแท็กซ่ีในปัจจุบันมีประมาณ ๘๐,๐๐๐ คัน เป็นรถแท็กซี่ในรูปแบบสหกรณ์แท็กซี่ ๓๕,๐๐๐ คัน รถแท็กซ่ีในรูปแบบรถส่วนบุคคล (แท็กซี่สีเขียว - เหลือง) ๔๕,๐๐๐ คัน โดยมีรถแท็กซี่ท่ีใช้ก๊าซ NGV ประมาณ ๗๐ เปอรเ์ ซน็ ต์ และมีรถแท็กซีท่ ี่ใชก้ า๊ ซ LPG ประมาณ ๓๐ เปอร์เซน็ ต์ ๒) สหกรณ์รถแท็กซ่ีไทยได้ทาการสารวจและพบว่า มีแนวโน้มท่ีรถแท็กซี่จะใช้ก๊าซ NGV ลดลงและหันมาใช้ก๊าซ LPG มากขึ้น ในอนาคตอาจไม่มีการใช้ก๊าซ NGV ในรถแท็กซี่ เนื่องจากภาครัฐมีการ ปรับข้ึนราคาก๊าซ NGV มาโดยตลอด ทาให้ผู้ประกอบการรถแท็กซี่มีภาระค่าใช้จ่ายที่เพ่ิมขึ้น หากหน่วยงาน ภาครัฐต้องการให้มีการหันกลับมาใช้ก๊าซ NGV เป็นเชื้อเพลิงมากขึ้น หน่วยงานภาครัฐควรตรงึ ราคาก๊าซ NGV และไม่ปรับขึ้นตามกลไกตลาด สร้างสถานีบริการก๊าซ NGV ให้เพียงพอต่อการให้บริการ โดยเฉพาะในเขต กรุงเทพช้ันในที่มีจานวนสถานีบริการกา๊ ซ NGV ไมเ่ พียงพอต่อความต้องการ ประเด็นที่ ๑๙ แนวทางการปอ้ งกนั และแก้ไขปญั หาฝนุ่ ละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) อย่างเป็นระบบ ที่เกยี่ วขอ้ งกับภาคการขนส่งทางบก ปญั หาทางดา้ นสุขภาพทเ่ี กดิ จากฝุ่นละอองขนาดเล็กและการเผาพ้ืนท่ี ทางการเกษตร บรษิ ัททิพยประกนั ภยั จากดั (มหาชน) ไดใ้ ห้ข้อมูลต่อทป่ี ระชุม ดงั นี้ ๑. การประกันภัยท่ีเกี่ยวข้องกับการเผาพ้ืนท่ีทางการเกษตรแบ่งได้เป็น ๓ ส่วน ๑) ป่าไม้ ๒) บา้ นเรือนและทรพั ย์สนิ ของประชาชน ๓) สุขภาพของประชาชนในพนื้ ท่ที ม่ี ีการเผาพ้ืนที่ทางการเกษตร ๒. ในต่างประเทศจะมีการคุ้มครองประกันภัยป่า (Forest Insurance) และการคุ้มครอง ประกันภัยพ้ืนท่ีทางการเกษตร (Plantation Insurance) แต่ในประเทศไทย การประกันภัยท้ังสองประเภทนี้ ยังไม่แพร่หลาย มีเพียงการประกันภัยนาข้าวและการประกันภัยไร่ข้าวโพดซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการประกันภัย พ้ืนที่ทางการเกษตร (Plantation Insurance) โดยในปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ทางบริษัทได้จ่ายค่าสินไหมทดแทน ประมาณ ๒,๐๐๐ ลา้ นบาท ๓. การประกันภัยป่าไม้ จะจ่ายค่าสินไหมทดแทนในจานวนท่ีแตกต่างกันตามประเภทอัตรา การเจริญเติบโตของต้นไม้ ต้นไม้ท่ีมีการอัตราการเจริญเติบโตช้า รอบตัดฟันยาว มูลค่าเน้ือไม้สูง เช่น ตะเคียนทอง จันทร์หอม เป็นต้น จะได้ค่าสินไหมทดแทนมากกว่าต้นไม้ท่ีมีอัตราการเจริญเติบโตเร็ว รอบตัดฟันส้ัน มูลคา่ เน้ือไม้ตา่ เช่น กระถนิ นนทรี เป็นตน้ ๔. การประกันภัยที่อยู่อาศัยแบบประหยัดรายย่อย มีเบ้ียประกันและภาษีอากร ๒๐๐ บาท โดยทางบรษิ ัทจะชดเชยค่าสินไหมทดแทนในกรณีท่ีเกิดไฟไหม้ ฟา้ ผา่ ภัยจากธรรมชาติ จานวน ๑๕๐,๐๐๐ บาท ๕. การประกันภัยสุขภาพของประชาชนในโรคที่เกิดจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) เช่น โรคหลอดเลือดในสมอง โรคมะเร็งปอด โรคปอดอดุ กนั้ เร้อื รัง โรคติดเช้ือเรอื้ รงั ในระบบหายใจสว่ นล่าง โรคหัวใจ ขาดเลอื ด เป็นต้น โดยชดเชยคา่ สินไหมทดแทน จานวน ๒๐๐,๐๐๐ บาท
๕๔ ประเด็นท่ี ๒๐ การปล่อยฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ในการประกอบพิธีทางศาสนา และพิธีฌาปนกิจศพ ๑. มหาวทิ ยาลยั มหามกุฏราชวทิ ยาลัย ไดใ้ หข้ ้อมลู ต่อท่ปี ระชุม ดังน้ี ๑) มหาวทิ ยาลยั มหามกุฏราชวทิ ยาลัย อยู่ในสงั กัดของกระทรวงการอุดมศึกษา วทิ ยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ซ่ึงในการดาเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ได้มีการหารือร่วมกัน กับหน่วยงานภาคส่วนต่าง ๆ ในเขตพื้นท่ีจังหวัดนครปฐม ทั้งในระดับอาเภอ ได้แก่ อาเภอพุทธมณฑล และมหาวิทยาลยั เชน่ มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลยั เทคโนโลยรี าชมงคลรตั นโกสินทร์ มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สวนสุนันทา เปน็ ตน้ ๒) ในส่วนการจัดการของวัด มหาเถรสมาคมได้มีการทาบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับกรมควบคุม มลพิษ เพ่ือจัดการสิ่งแวดล้อมและมลภาวะภายในศาสนสถาน ในเร่ืองของการจัดการปัญหาฝุ่นละออง ขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ทเ่ี กิดจากเตาเผาศพ รวมทัง้ สถานท่กี ราบไหวบ้ ูชาซึ่งมกี ารจดุ ธุปและเทยี น ๓) เสนอให้มีการต้ังคณะทางานซ่ึงประกอบดว้ ยสานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ วิทยาลัยสงฆ์ และหน่วยงานภาคสนาม เพื่อให้ได้ข้อมูลครบถ้วนในการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ท่ีเกิดจาก ศาสนสถาน ๒. มหาวิทยาลยั มหาจุฬาลงกรณราชวทิ ยาลยั ได้ให้ขอ้ มูลต่อทีป่ ระชมุ ดังนี้ ๑) มลพิษทางอากาศที่เกิดจากการฌาปนกิจศพ นอกจากการปล่อยฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) แล้ว ยังมีการปล่อยสารไดอ๊อกซิน ซ่ึงเกิดจากกระบวนการเผาไหม้ท่ีไม่สมบูรณ์เพราะอุณหภูมิ ของเตาเผาศพไม่สูงพอต่อการกาจัดมลพิษตลอดการเผา โดยมีคุณสมบัติที่เป็นอันตราย คือ มีขนาดเล็ก ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ไม่มีกล่ิน ไม่มีสี ไม่มีเขม่าหรือควันดา แต่มีความเป็นพิษต่อภูมิคุ้มกัน ระบบประสาท ระบบต่อมไร้ทอ่ และระบบสบื พันธุ์ อกี ท้งั เป็นสารก่อมะเร็ง ๒) มาตรฐานสากลในต่างประเทศกาหนดให้ปล่อยปริมาณไดอ๊อกซินจากเตาเผาได้ไม่เกิน ๐.๑ นาโนกรัมต่อลูกบาศก์เมตร แต่ตามกฎหมายไทยที่เกี่ยวข้องกับการควบคุมมลพิษทางอากาศจากเตาเผา กาหนดให้ปล่อยได้ไม่เกิน ๐.๕ นาโนกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งจากการตรวจสอบวัดท่ีแม้มีการใช้เตาเผาศพ แบบไร้มลพษิ พบว่ามีการปลอ่ ยสารไดออ๊ กซนิ เกินกวา่ ค่ามาตรฐานหลายเท่า ๓) มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกลา้ พระนครเหนือรว่ มกับมหาวทิ ยาลยั มหาจุฬาลงกรณ ราชวิทยาลัยเสนอโครงการวิจัยแก้ไขปัญหาสารไดอ๊อกซินจากการเผาศพด้วยการใช้สารไกอา เอช หรือ สารวิมุตติ ซึ่งเป็นแร่ธรรมชาติภูเขาไฟ (แร่โอลีวีน) ที่มีคุณสมบัติในการสกัดกระบวนการเกิดสารไดอ๊อกซินโดยจะแปรเปล่ียน ให้เป็นสารประกอบใหม่ซึ่งคล้ายแร่ธรรมชาติ และสามารถลดปริมาณสารไดอ๊อกซินให้ต่ากว่าค่าควบคุม ตามมาตรฐานสากลได้ โดยใส่สารไกอา เอช ไว้ในโลงศพ ซ่ึงมีท้ังแบบเป็นก้อน และเป็นผง โดยวิธีการท่ีมี ประสิทธิภาพมากท่ีสุด คือ การโรยผงไว้บนผ้าห่มเพื่อสารสามารถกระจายได้อย่างท่ัวถึง และในปัจจุบันมีวัด ทีน่ าสารไกอา เอช ไปใชแ้ ล้ว คอื วดั สุทธิวราราม ๔) เสนอให้หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะสานักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ กรมควบคุม มลพษิ และกรมอนามยั พจิ ารณาเกยี่ วกับการนานวัตกรรมสารไกอา เอช ไปใชเ้ พื่อยบั ย้งั มลพษิ จากการเผาศพ ๕) ปัจจุบันกาลังทาการศึกษาและวิจัยเกี่ยวกับการออกแบบเตาเผาศพโดยใช้เทคโนโลยี ทเ่ี ป็นมติ รต่อสง่ิ แวดล้อม
๕๕ ประเด็นท่ี ๒๑ การปล่อยมลพิษและการเปรียบเทียบมลพิษ (Emission Comparisons) ที่เกิดจาก เครื่องยนต์ประเภทต่าง ๆ และข้อมูลการรั่วไหลของก๊าซเรือนกระจกจากเช้ือเพลิงประเภทเอทานอล (Fugitive Emission from Ethanol) และปัญหาสาคัญที่เกิดจากสารมลพิษทางอากาศทุติยภูมิ (Secondary Pollutants) ศูนยเ์ ครอื ขา่ ยการจัดการคณุ ภาพอากาศของประเทศไทย ได้ใหข้ ้อมูลตอ่ ทป่ี ระชุม ดงั น้ี ๑. จากการศึกษาการปล่อยมลพิษที่เกิดจากเครื่องยนต์ประเภทต่าง ๆ พบว่า เครื่องยนต์ มาตรฐานยโู ร ๕/๖ ระบายฝุ่นออกมานอ้ ยกวา่ เครอ่ื งยนต์ท่ีไม่มมี าตรฐาน ๑๐๐ เท่า ๒. การติดตั้งอุปกรณ์ลดมลพิษ เช่น Oxidation catalyst, SCR, DPF สามารถลดฝุ่นและมลพิษ ชนดิ ตา่ ง ๆ ได้อย่างมีนยั ยะสาคญั ๓. ก๊าซ CNG และ กา๊ ซ LPG มกี ารระบายฝุน่ ใกลเ้ คียงกบั น้ามันเบนซินแตน่ ้อยกวา่ นา้ มนั ดเี ซล ๔. ก๊าซ CNG และ ก๊าซ LPG มีการระบายไนโตรเจนออกไซด์ (NOx) และไฮโดรคาร์บอน (HC) มากกว่านา้ มนั เบนซนิ และน้ามันดเี ซลซงึ่ อาจสง่ ผลตอ่ ปริมาณสารมลพิษทุตยิ ภมู ใิ นอากาศ ๕. น้ามันท่ีมี ค่าก ามะถันต่า (Low Sulfur Fuel) สามารถลดฝุ่นและมลพิ ษชนิดอื่ น ๆ ได้อย่างมีนัยยะสาคญั ๖. เชอื้ เพลิงเอทานอล (Ethanol) มกี ารระบายฝุ่นใกล้เคียงกบั นา้ มันเบนซนิ แตร่ ะบายไนโตรเจน ออกไซด์ (NOx) น้อยกว่าน้ามันเบนซิน แต่จากการศึกษาในประเทศสหรัฐอเมริกาพบว่าการใช้เช้ือเพลิงเอทานอล (Ethanol) ในสว่ นผสมของน้ามันในภาคการขนสง่ สง่ ผลใหม้ ลพิษทุติยภมู สิ งู ข้นึ ๗. น้ามันไบโอดีเซล มีการระบายฝุ่นและไฮโดรคาร์บอน (HC) ลดลง แต่ระบายไนโตรเจน ออกไซด์ (NOx) เพม่ิ ขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบในทางสาธารณสขุ มากขึ้น ๘. ถังน้ามันในประเทศไทยเป็นถังน้ามันแบบช้ันเดียว (Monolayer) ทาให้มีการร่ัวซึม ของสารประกอบอนิ ทรยี ์ระเหยงา่ ย (VOC) เพิ่มขน้ึ และสง่ ผลให้มลพษิ ทตุ ิยภูมสิ ูงขึน้ ๙. กรมควบคุมมลพิษได้จัดต้ังคณะทางานวิชาการด้านการปรับปรุงมาตรฐานไอเสียรถยนต์ และคณะทางานวิชาการด้านนา้ มนั เชอื้ เพลงิ เพ่ือใหไ้ ด้ขอ้ มูลทางวชิ าการท่ีถกู ตอ้ งประกอบการพจิ ารณานโยบาย ในการพัฒนานา้ มันเชอ้ื เพลิงและเชือ้ เพลิงทางเลือกกับภาคการขนสง่ ตลอดจนปรับปรุงมาตรฐานไอเสียรถยนต์ ทเ่ี ขม้ งวดขึ้น ๑๐. ยังไมม่ หี น่วยงานท่ีดาเนินการศกึ ษาตดิ ตามตรวจวดั ที่เกยี่ วกับปริมาณฝุ่นทตุ ิยภมู ิในประเทศไทย ประเด็นท่ี ๒๒ แนวทางการปรับปรุงโครงสร้างต้นทุนราคาและการปรับโครงสร้างราคาจาหน่าย เชือ้ เพลงิ กา๊ ซ NGV ผ้แู ทนคณบดคี ณะวิศวกรรมศาสตร์ จฬุ าลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย ไดใ้ หข้ ้อมลู ต่อทป่ี ระชมุ ดงั น้ี การลดราคาค่าผา่ นท่อและค่าบริการจดั หาใหเ้ ท่าราคาต้นทุนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศ ไทย (กฟผ. หรือ EGAT) ซึ่งมีราคาถูกที่สุดในตลาด การลดค่าภาษีสถานีบริการก๊าซ NGV และการจากัด ค่าใช้จ่ายที่นามาคิดเป็นต้นทุนให้อยู่บนพื้นฐานความจริง อันได้แก่ ค่าบารุงรักษาและค่าไฟฟ้า จะช่วยลดราคา จาหน่ายกา๊ ซ NGV ได้ โดยจะสง่ เอกสารรายละเอยี ดใหแ้ ก่คณะกรรมาธกิ ารต่อไป
๕๖ ประเด็นที่ ๒๓ การใช้ประโยชน์จากใบอ้อยแทนการเผาเพื่อลดมลพิษทางอากาศ ศาสตราจารย์อัญชริดา สวารชร ภาควิชาจุลชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ มหาวทิ ยาลัย ไดใ้ ห้ข้อมลู ตอ่ ที่ประชมุ ดงั น้ี ๑. ปัจจุบันมีพื้นท่ีปลูกอ้อยประมาณ ๑๑ ล้านไร่ คิดเป็นใบอ้อยจานวน ๒,๗๕๐,๐๐๐ ตัน (หากคิดปริมาณใบอ้อย ๒๕๐ กโิ ลกรมั ตอ่ ไร)่ ๒. ผนังในเซลล์ใบอ้อยมีส่วนท่ีเรียกว่า Lignocellulose ซ่ึงประกอบด้วย ๑) Cellulose ๔๐ เปอร์เซ็นต์ สามารถย่อยได้เป็นกลูโคส (Glucose) ๒) Hemicelluloses ๒๕ เปอร์เซ็นต์ สามารถย่อยได้ เป็นไซโลส (Xylose) และ Lignin ๑๕ เปอร์เซน็ ต์ ๓. ในการทดลองระดับห้องปฏิบัติการ ได้นาใบอ้อยมาย่อยด้วยเอนไซม์ ซ่ึงหากเร่ิมท่ี ๖ เปอร์เซ็นต์ จะได้กลูโคส ๙.๘ กรัมต่อลิตร และไซโลส ๙.๐ กรัมต่อลิตร โดยสามารถนาน้าตาลกลูโคสท่ีได้มาหมัก ด้วยเชื้อยีสต์ Saccharomyces cerevisiae ก็จะได้เอทานอล ๑๐๐ ลิตรต่อตันของใบอ้อย ส่วนน้าตาลไซโลส จะหมักด้วยยีสต์ Pichia stipites และ Kluyveromyces marxianus เพ่ือให้ได้เอทานอล ๔. นอกจากการนาน้าตาลที่ได้จากใบอ้อยมาผลิตเป็นเอทานอลแล้ว ยังได้ยีสต์อุดมน้ามันด้วย ซึ่งปริมาณน้ามันที่ได้จะอยู่ที่ประมาณ ๕๖ กิโลกรัมต่อตัน โดยประกอบด้วยกรดไขมันจาพวกคาร์บอน ๑๖ (C๑๖) และคาร์บอน ๑๘ (C๑๘) สามารถนามาใช้เป็นวัตถุดิบในการผลิตไบโอดีเซลและน้ามันหล่อลื่น อีกท้ัง ยังมีองค์ประกอบของ Palmitoleic acid (Omega ๗) และ Linolenic acid (Omega ๓) ซึ่งเป็นกรดไขมันที่มี ราคาแพง เนื่องจาก Omega ๗ สามารถลดปริมาณคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ในเส้นเลือดได้ รวมท้ัง สามารถรักษาโรคเบาหวานและโรคอ้วน ส่วน Omega ๓ สามารถลดปริมาณคอเลสเตอรอล ลดการอักเสบ นาไปใช้ในอุตสาหกรรมเคร่ืองสาอาง รวมท้ังเพิ่มรสชาติอาหารและทาให้สีน้ามันแห้งเร็วขึ้น ซ่ึงในขณะน้ี อยู่ในระหว่างการดัดแปลงพันธุกรรมเพือ่ ใหไ้ ด้ปริมาณ Palmitoleic acid เพิม่ มากข้ึน ประเดน็ ท่ี ๒๔ การใช้ใบออ้ ยทาแบตเตอรี่ เพ่อื ลดการเผาในที่โล่ง ศาสตราจารย์ธิดารัตน์ บุญมาศ ภาควิชาปรสิตวิทยา คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ไดใ้ หข้ อ้ มลู ต่อทปี่ ระชมุ ดังนี้ ๑. มหาวิทยาลัยขอนแก่นต้องการแก้ไขปัญหาราคาข้าว มันสาปะหลัง อ้อย ที่มีราคาตกต่า ให้มีมูลค่าสูงขึ้น โดยรัฐบาลชุดที่แล้วได้มอบโรงงานต้นแบบแบตเตอรี่ให้แก่ทางมหาวิทยาลัยโดยใช้แกลบ เป็นวัตถุการผลิตขั้วแบตเตอร่ี จากการสารวจพบว่ามีใบอ้อยหลงเหลือจากการเก็บเกี่ยวปริมาณ ๑๓ ล้านตัน ส่วนใหญ่จะกาจัดโดยการเผาเกือบท้ังหมดซึ่งทาให้เกิดการปล่อยฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ออกสู่อากาศ จากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยพบว่าสามารถนาใบอ้อยไปเผาให้ได้สารนาโนซิลิกาเพ่ือไปผลิตเป็นขั้วแบตเตอร่ี สาหรบั รถพลังงานไฟฟ้า นอกจากนีย้ งั นาใบอ้อยมาหมกั เปน็ น้าตาล จากน้าตาลมาหมกั เปน็ ไฮโดรเจนเพื่อใส่เป็น พลังงานเขา้ ไปในแบตเตอรเ่ี ช่นกัน ๒. มหาวิทยาลัยขอนแก่นขอเสนอแนะให้ข้ึนราคารับซื้ออ้อยมากกว่า ๑,๐๐๐ บาทต่อกิโลกรัม เพ่ือเป็นแรงจูงใจให้ชาวบ้านหยุดทาการเผาไร่อ้อย และขอให้รัฐบาลสนับสนุนเคร่ืองจักรสาหรับเก็บซากอ้อย เพื่อหมุนเวียนใช้ในชุมชน เน่ืองจากเคร่ืองดังกล่าวมีราคาแพง หากรัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมเตาเผาเพ่ือให้ได้ นาโนซลิ ิกาเพือ่ ทาแบตเตอร่ีและเครื่องสาอางกจ็ ะสามารถเพ่ิมมลู ค่าได้
๕๗ ประเด็นท่ี ๒๕ การสารวจความคิดเห็นและความรู้ความเข้าใจของประชาชนเกี่ยวกับปัญหา และผลกระทบจากปญั หาฝนุ่ ละอองขนาดเลก็ (PM ๒.๕) สวนดุสิตโพล ได้ให้ขอ้ มลู ตอ่ ท่ีประชุม ดงั น้ี ๑. การสารวจความคิดเห็น ในเบ้ืองต้นสวนดุสิตโพลจะสอบถามผู้มาขอให้สารวจความคิดเห็น ก่อนว่าจะนาผลสารวจความคิดเห็นไปใช้เม่ือใด เน่ืองจากโดยปกติการทาโพลสารวจความคิดเห็นโดยท่ัวไป จะใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ในการทาสารวจ แต่หากมีกลุ่มตัวอย่างมากข้ึน มีคาถามท่ีมีรายละเอียดเชิงลึกมากข้ึน ก็จะต้องใช้เวลามากข้นึ ระยะเวลาประมาณ ๑๕ วนั ถึง ๓๐ วนั ๒. สวนดุสิตโพลได้เคยทาการสารวจความคิดเห็นเกี่ยวกับฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) จากประชาชนจานวน ๑,๓๗๖ คน เม่ือเดือนมกราคม ๒๕๖๓ ประชาชนร้อยละ ๘๔.๓ บอกว่ารู้สาเหตุ ของการเกิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) และประชาชนร้อยละ ๙๔.๕ รู้ผลกระทบของฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ท่ีมีต่อร่างกาย โดยประชาชนมองว่าการแก้ปัญหาคือการพึ่งตนเอง โดยใช้รถยนต์ให้น้อยลง ลดการเผาในท่ีโล่ง และประชาชนอยากให้รัฐบาลมีมาตรการลงโทษอย่างจริงจังเพ่ือให้เกิดเป็นกรณีตัวอย่าง แก่ประชาชน หากคณะกรรมาธิการต้องการให้ทาโพลสารวจความคดิ เหน็ ในประเด็นอ่ืน ๆ ท่ีเกย่ี วกับฝ่นุ ละออง ขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ก็สามารถแจ้งสวนดุสิตโพลเพื่อดาเนินการต่อไปได้ ท้ังนี้การสารวจความคิดเห็น ของสวนดุสติ โพลจะทาในรูปแบบภาคสนามและรปู แบบออนไลน์ ประเด็นท่ี ๒๖ กรอบแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) อยา่ งเปน็ ระบบและย่งั ยนื ๑. ปัญหาหมอกควันในประเทศไทยเกิดจากไฟป่าและการเผาในที่โล่งประมาณ ๗๖ เปอร์เซ็นต์ ปัญหาไฟป่าและการเผาในที่โล่งไม่ได้ทาให้เกิดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) เท่านั้น แต่ยังเกิดการทาลาย ความหลากหลายทางชีวภาพ พันธ์ุพืช จุลินทรีย์และสัตว์ป่าท่ีหายากก็ถูกทาลายไปพร้อมกับไฟป่าและทาให้เกิด การเปลยี่ นแปลงสภาพภูมอิ ากาศ (Climate Change) แตใ่ นบางประเทศ ปญั หาฝนุ่ ละอองอาจเกดิ จากไอทะเล เชน่ ในแคลฟิ อร์เนีย เป็นตน้ ๒. จากการสารวจโดยดาวเทียมพบว่าควันที่เกิดจากการเผาป่าที่เกาะสุมาตรา ประเทศ อินโดนีเซียสามารถลอยข้ามไปถึงประเทศเกาหลีใต้ และในจังหวัดภูเก็ต จังหวัดสงขลา รวมไปถึงประเทศ สิงคโปรท์ ่ีมพี น้ื ท่ีปา่ ไม่มากแต่ก็ยังเกิดปัญหาหมอกควนั ทีล่ อยข้ามแดนมาจากเกาะสุมาตรา ประเทศอินโดนีเซีย พื้นที่เหล่าน้เี ป็นพนื้ ที่ ทีไ่ ด้รบั ผลกระทบจากฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) (Effective Area) ๓. ในจังหวัดเชียงราย จังหวัดลาปาง และจังหวัดเชียงใหม่ เป็นท้ังพ้ืนที่ ท่ีได้รับผลกระทบ และพื้นท่ีแหล่งกาเนิดปัญหาหมอกควัน กล่าวคือ เป็นพ้ืนท่ี ที่มีการเผาป่าและในขณะเดียวก็ได้รับหมอกควัน จากประเทศพม่า ดงั นนั้ ในการแกไ้ ขปัญหาหมอกควนั จงึ ต้องมีการรว่ มมือในระดับนานาชาติด้วย ๔. การเผาในท่ีโล่ง พบว่ากระทรวงมหาดไทยสามารถบริหารจัดการแก้ไขปัญหาได้เป็นอย่างดี ส่วนปัญหาไฟป่าในแหล่งต้นน้า ควรปลูกพืชท่ีมีความหลากหลายทางชีวภาพเพ่ือให้รากไม้เกิดการอุ้มน้า โดยป่าดิบชื้นขนาด ๑ ตารางกิโลเมตรสามารถอุ้มน้าในพ้ืนดินได้ ๔๐,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร ขณะท่ีป่าทั่วไป ขนาด ๑ ตารางกิโลเมตรสามารถอุ้มน้าในพื้นดินได้ ๒๗,๐๐๐ ลูกบาศก์เมตร แต่ที่ผ่านมา เกษตรกรส่วนใหญ่ ปลูกพืชเชิงเด่ียว เช่น ต้นยาง เม่ือฝนตก รากของพืชเชิงเด่ียวไม่สามารถอุ้มน้าได้ ดังน้ัน หน่วยงานราชการ ควรมีการจัดแบ่งเขต (Zoning) และนาเทคโนโลยีมาใช้สารวจพ้ืนท่ี หากพบพ้ืนที่ใดมีปริมาณป่าไม้ลดลง หนว่ ยงานราชการและประชาชนจะตอ้ งร่วมกันเขา้ มาดแู ล
๕๘ ๕. ในเขตเมืองที่มีการจราจรหนาแน่น เช่น กรุงเทพมหานคร ควรแก้ปัญหาด้วยการใช้รถไฟฟ้า ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาท่ีต้นเหตุ และควรมีการจัดแบ่งเขต (Zoning) อาทิ เขตอุตสาหกรรม เขตชุมชน เพ่ือลด การปลอ่ ยควันอนั เป็นสาเหตุของปญั หาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ในเขตเมือง ๖. จากการศึกษาปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) พบว่าการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง ขนาดเล็ก Pm ๒.๕ อย่างย่ังยืน (Sustainability Process) มี ๔ ระดับ ดังน้ี ๖.๑ ระดบั ชมุ ชน (Community Level) แบง่ เปน็ ๑) Education การใหค้ วามรเู้ กีย่ วกบั ปัญหาฝ่นุ ละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ๒) Prevention การปอ้ งกันและเฝา้ ระวงั การเกดิ ไฟป่า ๓) Suppression การประสานความร่วมมือในการเข้าดับไฟระหว่างเจ้าหน้าที่ ชุมชน และองค์กรทอ้ งถิ่นผู้รับผดิ ชอบ ๔) Recovery ยกตัวอย่างเช่น การปลูกต้นไม้ทดแทนในพ้ืนท่ีป่าท่ีถูกไฟไหม้ การเตรียม ความพรอ้ มเพื่อลดฝุ่นละออง เช่น การฉดี พ่นละอองน้า และการจัดเตรยี มระบบวิธีการรกั ษาโรคทางเดินหายใจ ในพื้นท่ีทไ่ี ดร้ บั ผลกระทบ ๖.๒ ระดับชาติ (National Level) ควรมีองค์กรท่ีมีกฎหมายรองรับเพื่อให้มีเจ้าภาพและทางาน ต่อเนื่อง และในพื้นที่ชายแดนติดประเทศเพ่ือนบ้าน ควรมีเจ้าหน้าที่กระทรวงการต่างประเทศและเจ้าหน้าท่ี ท้องถิ่นระดับสูง ทาหน้าที่ประสานงานด้านการให้ความรู้ นาเสนอทางเลือกของการใช้วิถีชีวิตและทางเลือก ในการประกอบอาชีพเพอื่ หลีกเล่ยี งการเปน็ แหลง่ กาเนิดปัญหาฝนุ่ ละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ๖.๓ ระดับภูมิภาค (Regional Level) ในระดับภูมิภาคอาเซียนมีคณะกรรมการไฟป่า (Wild Fire Committee) แต่ในทางปฏิบัติ การแก้ปัญหาหมอกควันข้ามแดนไม่สามารถทาได้เต็มที่เพราะแต่ละประเทศ มปี ญั หาของตนเอง จึงควรผลกั ดนั ปญั หาไฟปา่ เปน็ วาระแหง่ ภมู ภิ าคทีเ่ ข้มแขง็ ๖.๔ ระดับนานาชาติ (International Level) กรณีหมอกควันข้ามภูมิภาค ควรมีคณะกรรมการ หมอกควัน (Smoke Haze Committee) ทาหนา้ ทแ่ี ก้ปัญหาความเปล่ียนแปลงทางสภาพภูมิอากาศและการทาลาย ความหลากหลายทางชวี ภาพ และปญั หาเศรษฐกิจท่ีตามมาจากกรณหี มอกควนั ข้ามภมู ิภาค ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการต่อการดาเนนิ งานของหนว่ ยงานท่ีเก่ียวข้อง จานวน ๑๒๙ ข้อ ๑) ในการตรวจวดั ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ควรใชข้ อ้ มลู แบบ Real time ในการแจง้ เตือน ช่วงเวลาทมี่ คี ่าเกนิ คา่ มาตรฐานและเร่มิ มีผลกระทบตอ่ สุขภาพของประชาชน ๒) หน่วยงานที่เก่ียวข้องควรกาหนดมาตรฐานของเคร่ืองมือหรืออุปกรณ์ท่ีสามารถตรวจวัด ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ได้จริงตรงตามมาตรฐานสากล ซ่ึงหากเครื่องมือหรืออุปกรณ์ใดได้มาตรฐาน แล้ว ควรมีการรับรองให้เป็นท่ีประจักษ์ของประชาชน เพ่ือให้ประชาชนม่ันใจได้ว่าสินค้าน้ัน ๆ มีคุณภาพ ไดม้ าตรฐานตามที่หน่วยงานรบั รอง ๓) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรกาหนดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ที่เป็นมาตรฐาน เดียวกนั เพอ่ื ให้การสอื่ สารระหว่างภาครัฐและประชาชนเป็นทเ่ี ขา้ ใจถูกตอ้ งตรงกนั ๔) การดาเนินกิจกรรมหรือพิธีต่าง ๆ ในศาลเจ้า เช่น การจุดประทัด การจุดธูป เป็นต้น นับว่า เป็นหนึ่งในแหล่งที่มาของฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ท่ีเกินมาตรฐาน หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องควรรณรงค์ ให้ประชาชนปรับเปล่ียนพฤติกรรม ท้ังน้ี ต้องไม่กระทบกับความเช่ือส่วนบุคคล เพ่ือลดปริมาณค่าฝุ่นละออง ขนาดเล็ก (PM ๒.๕)
๕๙ ๕) จังหวัดกาแพงเพชรเป็นจังหวัดท่ีมีจานวนการปลูกไร่อ้อยสูงเป็นอันดับสองของประเทศ ส่งผลให้มีการเผาไร่อ้อยจานวนมากจนค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) เกินค่ามาตรฐาน หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องจึงควรให้สาคัญกับแหล่งกาเนิดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ในแต่ละพ้ืนที่ซึ่งแตกต่างกัน โดยควรกาหนดมาตรการปอ้ งกันและแก้ไขปัญหาฝุน่ ละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ใหเ้ หมาะสมตามแตล่ ะพนื้ ท่ี ๖) ภาครัฐควรพัฒนารูปแบบการส่ือสารหรือการประชาสัมพันธ์ถึงประชาชน ให้มีความรวดเร็ว และแมน่ ยาทดั เทยี มภาคเอกชน ๗) ภาครัฐควรเข้มงวดกับการบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องกันการเผาอย่างจริงจัง แต่ควรแจ้ง ประชาชนให้ทราบล่วงหน้าโดยกาหนดระยะเวลาก่อนท่ีจะเริ่มเข้มงวด เพ่ือให้ประชาชนได้ปรับตัว ท้ังน้ี นอกจากบทลงโทษแลว้ ภาครฐั ควรมมี าตรการส่งเสริมและสนบั สนุนการหยดุ เผาของเกษตรกร ๘) ในระยะเร่งด่วนควรกาหนดมาตรการเด็ดขาดเพ่ือควบคุมปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ให้อยู่ในเกณฑ์ปกติโดยเร็วและเป็นรูปธรรม เช่น ห้ามรถยนต์เก่าหรือควันดาทุกชนิดว่ิงบนท้องถนน หรือในกรณที ่หี นา้ กากอนามยั มีจานวนจากดั ก็ควรแจกให้แกบ่ คุ คลกลมุ่ เสีย่ ง เช่น เด็กก่อน เปน็ ตน้ ๙) การขึ้นราคาค่าแก๊ส NGV เป็นปัจจัยที่สาคัญที่ทาให้ปริมาณการใช้รถยนต์ดีเซลเพิ่มมากขึ้น ซึ่งเป็นสาเหตุหลักท่ีทาให้ค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ในบรรยากาศสูงเกินค่ามาตรฐาน การกาหนด มาตรการส่งเสริมท่ีจูงใจให้ประชาชนกลับมาใช้แก็ส NGV จะทาให้ปริมาณค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ลดลงอยา่ งมีนัยยะสาคญั เช่น การลดราคาคา่ แก๊ส NGV การเพมิ่ สถานเี ตมิ แก๊ส NGV ๑๐) ต้นเหตุท่ีทาให้ประชาชนเลือกท่ีจะเผาไร่อ้อยเนื่องจากขาดแคลนแรงงานตัดอ้อย หากภาครัฐให้การสนับสนุนรถตัดอ้อยให้แก่ท้องถ่ินหรือชุมชน จะเป็นการสนับสนุนให้ประชาชนเลือกใช้วิธี กาจดั ต้นออ้ ยทเ่ี ป็นมิตรกับสิง่ แวดลอ้ ม ๑๑) การชิงเผาเป็นหน่ึงในปัญหาที่เพ่ิมค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) จานวนมาก ซ่ึงส่วนใหญ่เป็นการเผาไหม้ป่าโดยเฉพาะป่าดิบชื้นในเขตสงวนและอนุรักษ์มากกว่าการเผาในภาคการเกษตร อันเป็นการทาลายแหล่งโอโซนท่ีสาคัญจนทาให้เกิดสภาวะอากาศปิดและก่อให้เกิดความเข้มข้นของปริมาณ ฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) เพ่ิมสูงข้ึน ทั้งน้ี หากไม่สามารถงดการเผาได้ ควรจากัดอยู่ในพื้นที่ป่าเต็งรัง และต้องมมี าตรการควบคมุ มิใหก้ ารเผาไหม้ลุกลามไปยังพ้นื ท่ีอน่ื ๆ ข้างเคยี ง ๑๒) มาตรการส่งเสริมให้ประชาชนใช้บริการรถโดยสารสาธารณะ ภาครัฐควรมีมาตรการ ลดภาษีแก่ผปู้ ระกอบการและลดค่าโดยสารใหแ้ ก่ประชาชนเพ่ือเปน็ การสนับสนุนและจงู ใจให้ทุกฝา่ ยมีส่วนร่วม ในการดาเนนิ การตามมาตรการที่วางไว้ ๑๓) การแก้ไขปัญหาจราจรติดขัดด้วยการจัดอาคารจอดรถยนต์ในบริเวณ ส่ีมุมเมือง การเข้มงวดในการพิจารณาให้ความเห็นชอบในการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ของโครงการก่อสร้าง อาคารสูงต่าง ๆ การมีกฎหมายผังเมืองท่ีสามารถใช้บังคับได้จริง การมีสวนสาธารณะในทุกเขตพ้ืนท่ี และการงดตัดต้นไม้สาธารณะ เป็นแนวทางที่จะสามารถแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ในเมือง ได้อยา่ งย่ังยืน ๑๔) ฝนุ่ ละอองขนาดเลก็ (PM ๒.๕) เปน็ เพยี งหน่งึ ในมลพิษทางอากาศ ซึง่ ยังมีสารประกอบอื่น ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน การศึกษาและวิเคราะห์ให้ได้ว่าสารประกอบใดเป็นสาเหตุที่แท้จริง ทที่ าให้เกดิ ปญั หาหมอกควัน จะเป็นการแก้ไขปญั หาให้ตรงจุดท่ีสุด ๑๕) หากกรมโรงงานอุตสาหกรรมมีข้อมลู เกี่ยวกบั กระบวนการและจานวนการผลิต รวมทั้งสารเคมี ที่ใช้ในการผลิต จะทาให้ทราบปริมาณสารมลพิษที่แต่ละโรงงานจะต้องปล่อยได้ ซ่ึงจะสามารถตรวจสอบ
๖๐ ได้ว่าผู้ประกอบการรายงานเท็จหรือปกปิดข้อมูลทาเนียบการปลดปล่อยและเคล่ือนย้ายมลพิษ (Pollutant Release and Transfer Registers : PRTR) หรอื ไม่ ๑๖) การสง่ เสรมิ ให้มีการบาบดั การเผาไหมท้ ไ่ี มส่ มบรู ณ์ของเคร่ืองยนต์ดีเซลจะเป็นอกี ทางเลือกหน่ึง ท่ีสามารถลดการปลอ่ ยมลพิษทางอากาศได้ ๑๗) การเพ่ิมตน้ ทุนทางสง่ิ แวดล้อมให้อยู่ในระบบเศรษฐกิจ จะทาให้ภาคเอกชนและประชาชน ตระหนักท่ีจะร่วมกันดูแลรักษาส่ิงแวดล้อมมากข้ึน โดยภาครัฐควรสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ประชาชน เพือ่ ลดความขัดแย้งในภายหนา้ ๑๘) ปัญหาหมอกควันข้ามพรหมแดน เป็นปัญหาที่ภาครัฐควรให้ความสาคัญและจัดการ โดยเร่งด่วน โดยเฉพาะการแก้ไข้ปัญหาฝุ่นละอองท่ีมาจากการไฟป่าซ่ึงก่อให้เกิดปริมาณฝุ่นละอองจานวน มหาศาลท่ีสามารถลอยตัวข้ามประเทศได้ เนื่องจากตราบใดที่ประเทศไทยยังมีส่วนในการก่อให้เกิดปัญหา หมอกควันข้ามพรหมแดน ประเทศไทยย่อมไม่อาจเรียกร้องให้ประเทศเพ่ือนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงใด ๆ ระหวา่ งประเทศได้ ๑๙) ข้อตกลงอาเซียนเรื่องมลพิษจากหมอกควนั ขา้ มแดน (ASEAN Agreement on Transboundary Haze Pollution: ATHP) มีปัญหาด้านโครงสร้างท่ีมุ่งให้แต่ละประเทศต่างแก้ไขปัญหาเฉพาะแต่ละประเทศน้ัน ๆ โดยมิได้มีการบูรณาการร่วมกัน ภาครัฐจึงควรย่ืนข้อเสนอเพ่ือทาความตกลงระหว่างประเทศฉบับใหม่ โดยไมย่ ดึ หลักการ ASEAN WAY มาเป็นพน้ื ฐาน ๒๐) ภาครัฐควรนามาตรการส่งเสริมมาบังคับใช้เพื่อให้การป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง ขนาดเล็ก (PM ๒.๕) สัมฤทธ์ิผล รวมทั้งต้องสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ประชาชนเกี่ยวกับค่านิยมว่า การกระทาดังกล่าวมิใชก่ ารฉอ้ ราษฎร์บังหลวง ควบคู่ไปด้วยเพอ่ื ลดความอคติ ๒๑) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการจัดซ้ือจัดจ้างของภาครัฐไม่สามารถจัดซื้อเคร่ืองมือ หรืออุปกรณ์สาหรับดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมได้เนื่องจากไม่มีราคากลาง ทาให้ไม่มีหน่วยงานใดเสี่ยงที่จัดสรร งบประมาณเป็นค่าเคร่ืองมือหรืออุปกรณ์ดังกล่าวเพราะเกรงกลัวต่อการถูกตรวจสอบโดยคณะกรรมการ ตรวจเงินแผน่ ดิน ๒๒) ภาครัฐควรจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการที่ประกอบด้วยหน่วยงานด้านต่าง ๆ พร้อมท้ังจัดสรร งบประมาณให้แก่ศูนย์ดังกล่าว เพ่ือเป็นหน่วยงานกลางที่มีหน้าท่ีและอานาจในการป้องกันและแก้ไขปัญหา ฝนุ่ ละอองขนาดเลก็ (PM ๒.๕) โดยเฉพาะ ๒๓) ภาครัฐควรมีการตรวจสอบข้อมูลการปล่อยสารมลพิษของโรงงานว่าตรงตามจานวน การผลิตหรือไม่ เพ่ือให้ทราบว่ามีโรงงานใดบ้างที่ละเลยหรือปกปิดการแจ้งข้อมูลที่มีผลกระทบต่อประชาชน ดงั กลา่ วให้หนว่ ยงานท่ีเกย่ี วขอ้ งทราบและกาหนดมาตรการป้องกันการหลกี เล่ียงกฎหมายดังกล่าวต่อไป ๒๔) การใช้ข้อมูลจากดาวเทียมดวงอ่ืนเพิ่มเติมประกอบกับข้อมูลบนภาคพื้นดินจะทาให้ข้อมูล ทไี่ ดม้ าถูกต้องครบถ้วนท่ีจะใชใ้ นการบัญชาเหตกุ ารณ์ ๒๕) หน่วยงานที่เก่ียวข้องควรดูแลรักษาต้นไม้บนเกาะกลางถนนซ่ึงเป็นส่วนปัจจัยสาคัญ ในการกรองฝุน่ ละอองตามทอ้ งถนน ๒๖) แผนปฏิบัติที่ภาครัฐกาหนดเพ่ือแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ไม่มีการกาหนด มาตรการเสริมรองรับ เช่น รณรงค์ให้ประชาชนใช้รถไฟฟ้าแต่ไม่มีสถานีชาร์จไฟฟ้า เป็นต้น ท้ังนี้ หากสามารถ ดาเนนิ การตามแผนปฏิบัตทิ ภี่ าครฐั กาหนดไว้ไดท้ ั้งหมด ปัญหาฝนุ่ ละอองขนาดเลก็ (PM ๒.๕) ยอ่ มหมดไป
๖๑ ๒๗) หน่วยงานท่ีเก่ียวข้องควรจัดเตรียมยาภูมิคุ้มกัน ยาป้องกันโรคติดต่อ แอลกอฮอล์ล้างมือ รวมท้ังหน้ากากอนามัยให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนและพร้อมจาหน่ายตลอดเวลา ตลอดจน ควรควบคมุ ราคาในทอ้ งตลาดมิให้สงู เกินสมควรและเปน็ ราคาทป่ี ระชาชนทกุ คนสามารถเข้าถึงได้ ๒๘) ภาครัฐควรจัดให้มีการกาหนดตัวชีว้ ัดและประเมินมาตรการต่าง ๆ ท่ีได้ดาเนินการไปแลว้ โดยเฉพาะการฉีดละอองน้าเพ่ือลดฝุ่นละอองว่าได้ผลหรือไม่ คุ้มค่ากับการลงทุนหรือค่าใช้จ่ายท่ีสูญเสียไป หรอื ไม่ ๒๙) ภาครฐั ควรมีมาตรการเพ่ิมมลู คา่ ใบอ้อย เชน่ การส่งเสรมิ รบั ซื้อใบอ้อยแปรรูปเป็นพลังงาน เป็นปุ๋ย เป็นน้าตาล หรืออ่ืน ๆ การกาหนดให้ราคารับซ้ือใบอ้อยที่ไม่เผาสูงกว่าราคาใบอ้อยท่ีเผาแล้ว เป็นต้น เพื่อให้ใบอ้อยมีประโยชน์ต่อเกษตรมากกว่าการเผาทาลาย ท้ังน้ี ภาครัฐก็ควรสนับสนุนให้มีการสร้าง โรงงานผลิตไฟฟ้าในพื้นท่ีที่มีการปลูกไร่อ้อยเป็นจานวนมากและต้องกาหนดเงื่อนไขให้โรงงานผลิตไฟฟ้านั้น ต้องรับซื้อใบอ้อยจากเกษตรกรเป็นหลัก พร้อมทั้ง ต้องให้แรงงานต่างชาติเข้ามามีบทบาทในการชว่ ยเกษตรกร โดยอาจกาหนดระยะเวลาการจ้างเฉพาะในฤดูเกบ็ เกย่ี ว ๓๐) การลดปริมาณมลพิษทางอากาศจากการปล่อยทิ้งของโรงงานควรมีการกรองฝุ่นละออง ท่ีตัวปล่องแทนการกาจัดบนบรรยากาศ นอกจากน้ีภาครัฐควรมีมาตรการส่งเสริมให้แก่ผู้ประกอบการโรงงาน อตุ สาหกรรม เช่น ลดภาษใี ห้แกโ่ รงงานท่ีสรา้ งมลพษิ ทางอากาศน้อย เป็นต้น ๓๑) สาเหตุท่ีเกษตรกรเลือกท่ีจะกาจัดอ้อยด้วยวิธีเผา เน่ืองจากการกาจัดอ้อยด้วยมือมีโอกาส ท่ีจะถูกใบอ้อยบาด อีกทั้งภาครัฐไม่มีมาตรการสนับสนุนการให้ใช้เครื่องจักรอย่างเต็มท่ีเพราะอาจมีผลกระทบ ตอ่ การจ้างแรงงาน แตภ่ าครฐั สามารถส่งเสริมมาตรการอ่นื ๆ ได้ เช่น การแปรรปู ใบอ้อยเปน็ ภาชนะใส่อาหาร ๓๒) กระทรวงการคลังควรจัดสรรงบประมาณรองรับสาหรับกรณีประชาชนประสงค์จะซ้ือรถ ตดั อ้อยโดยใหก้ ูย้ ืมเงินโดยไมค่ ดิ ดอกเบี้ย ๓๓) การสั่งห้ามเผาเป็นไปได้ยาก เพราะผู้ว่าราชการจังหวัดย่อมตกอยู่ในสภาวะจายอม อย่างไรก็ตาม การแก้ไขปัญหาเร่ืองการเผาอ้อยไม่อาจทาได้ในระยะสั้น แต่ต้องมุ่งผลในระยะยาวโดยการวาง มาตรการตา่ ง ๆ รองรบั เชน่ การส่ังห้ามโรงงานไมใ่ ห้รับอ้อยในพ้ืนที่ที่มีการเผา การกาหนดเขตพ้ืนที่ทีส่ ามารถ ปลูกไร่อ้อยไดโ้ ดยตอ้ งอยหู่ า่ งจากตวั เมือง ๕ กโิ ลเมตร เปน็ ต้น ๓๔) การส่ังห้ามเผาไม่ควรห้ามโดยเด็ดขาด แต่ควรจากัดปริมาณการเผาไม่ให้มีค่าฝุ่นละออง ขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ในบรรยากาศเกินค่ามาตรฐาน โดยอาศัยข้อมูลการพยากรณ์สภาพอากาศล่วงหน้า ของกรมอุตุนิยมวิทยาเป็นฐานในการกาหนดชว่ งเวลาปลอดภยั ที่สามารถใหป้ ระชาชนทาการเผาได้ ๓๕) ข้อมูลท่ีแจ้งเตือนเผยแพร่ให้แก่ประชาชนควรมีรายละเอียดชัดเจนครอบคลุมว่าแต่ละพ้ืนที่ มปี ริมาณคา่ มลพิษทางอากาศมากน้อยเพียงใด รวมท้ังตอ้ งใหป้ ระชาชนเข้าถึงข้อมลู ได้โดยง่าย และหากสามารถ คาดการณ์คุณภาพอากาศล่วงหน้าได้อย่างน้อย ๑ เดือน จะเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนการดาเนินกิจวัตร ประจาวันของประชาชน ๓๖) ในการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศประเทศไทยควรศึกษามาตรการต่าง ๆ ของตา่ งประเทศ เพื่อนามาเปน็ ตน้ แบบหรือเทยี บเคยี งและปรับเปลยี่ นใหเ้ หมาะสมกับสภาพประเทศไทย ๓๗) หน่วยงานท่ีควรตรวจวัดค่ามลพิษทางอากาศแทนกรมควบคุมมลพิษ คือ กรมอุตุนิยมวิทยา เน่ืองจากมีสถานีอุตุวิทยาครอบคลุมทุกเขตพื้นที่ ซ่ึงมีมากกว่าจานวนสถานีตรวจวัดของกรมควบคุมมลพิษ อันจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของประเทศ โดยควรเพ่ิมการตรวจวัดคุณภาพอากาศเป็นหน่ึงในภารกิจหลัก ของกรมอุตุนยิ มวิทยาแทนกรมควบคมุ มลพษิ และให้กรมควบคมุ มลพิษทาหนา้ ทีเ่ ปน็ ฝา่ ยปฏิบตั ิ
๖๒ ๓๘) ภาครัฐควรมีหน่วยงานเจ้าภาพท่ีจะรวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลเกี่ยวกับ สภาพอากาศ ข้อมูลเก่ียวกับคุณภาพอากาศ ท่ีอยู่กระจัดกระจายมาวิเคราะห์และประมวลผลเพื่อสามารถ ประเมนิ สถานการณฝ์ ่นุ ละอองได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ ๓๙) หนว่ ยงานที่เกยี่ วข้องควรพิจารณาการติดต้ังเครื่องตรวจวดั คุณภาพอากาศในบริเวณโรงเรียน เพอื่ ประกอบการตดั สินใจของผู้ปกครองว่าควรใหเ้ ด็กหยุดการเรียนหรือไม่ ๔๐) เพ่ือเป็นการส่งเสริมการใช้น้ามันดีเซล B๒๐ ควรมีการลดภาษีสรรพสามิตให้กับผู้ท่ีใช้ นา้ มนั ดีเซล B๒๐ ท้ังในภาครัฐและเอกชน ๔๑) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพควรมีการนา Diesel Particulate Filter (DPF) อุปกรณ์ กรองเขม่าไอเสียในเคร่ืองยนต์ดีเซล ซึ่งมีหน้าท่ีดักจับเขม่าควันต่างๆ โดยเฉพาะฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ท่ีเกิดจากการเผาไหม้ในเคร่ืองยนต์ มาติดต้ังกับรถโดยสารสาธารณะเพื่อลดการปล่อยฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ออกสู่อากาศ ๔๒) การปรับเปล่ียนพฤติกรรมของประชาชนให้หันมาใช้ระบบขนส่งสาธารณะโดยเฉพาะ รถโดยสารสาธารณะนั้นควรเป็นแผนระยะยาวท่ีการดาเนินการต้องคานึงถึงปัจจัยหลายประการ จึงไม่อาจทาได้ ในระยะเวลาอันสัน้ ๔๓) การนาระบบบาบัดมลพิษมาติดท่ีเครื่องยนต์น่าจะเป็นการลดมลพิษท่ีใช้ต้นทุนน้อย กรมการขนส่งทางบกและองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ ควรนาไปใช้กับรถยนต์และรถโดยสารสาธารณะ เพอื่ ลดมลพิษทจี่ ะปล่อยออกมาสูอ่ ากาศ ๔๔) ในระหว่างที่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพกาลังเปลี่ยนผ่านจากรถโดยสารสาธารณะ ทีใ่ ช้นา้ มันมาเปน็ รถโดยสารสาธารณะ EV (Electric Vehicle) ซึ่งใช้เวลาและงบประมาณมากน้นั ขอเสนอให้มี การนารถโดยสารสาธารณะทีใ่ ช้พลงั งานทางเลือกอน่ื มาใช้ไปพลางกอ่ น ๔๕) เพื่อส่งเสริมให้คนหันมาใช้รถโดยสารสาธารณะมากขึ้น ควรมีช่องทางเดินรถสาธารณะ (Bus Lane) จะทาให้รถว่งิ ตรงเวลาและใช้ความเร็วไดม้ ากข้ึน ๔๖) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรควรมีมาตรการจูงใจให้เกษตรกรลดการเผา ในท่ีโลง่ ๔๗) ควรมีการใช้ระบบรถโรงเรียนเพ่ือลดการนารถยนต์ส่วนตัวมาใช้รับ – ส่งนักเรียน เพื่อลดการปล่อยมลพิษออกมาสู่อากาศ และควรมีการรณรงค์ให้มีนักเรียนข่ีจักรยานมาโรงเรียนเพ่ือลดการใช้ รถยนตส์ ่วนตวั ๔๘) เสนอให้คณะกรรมาธิการนาผลการวิจัยของสานกั งานคณะกรรมการส่งเสริมวทิ ยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) เร่ืองฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ในมิติต่าง ๆ มาพิจารณาศึกษาเพิ่มเติม ๔๙) ขอให้สานักงานการวิจัยแห่งชาติประสานงานกับกรมควบคุมมลพิษเพื่อหาทางออก ในการรับรองเคร่ืองวัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) แบบ Real Time เพราะปัจจุบันค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ที่แจ้งในแอปพลิเคชั่นเป็นค่าเฉลี่ยของวันก่อน ๆ ไม่ได้เป็นค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ทว่ี ดั แบบ Real Time ๕๐) ขอให้สานักงานการวิจัยแห่งชาติเป็นหน่วยงานกลางในการรวบรวมข้อมูลงานวิจัย และข้อมูลต่าง ๆ ของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวกับฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) เพ่ือความสะดวกในการ ศึกษาค้นคว้าของนักวิชาการและประชาชนท่ัวไป นอกจากน้ีขอให้สานักงานการวิจัยแห่งชาติทาการวิจัย เร่ืองหน้ากากอนามัย และการจัดพื้นที่ Safety Zone เพ่ือประโยชน์ในการแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) อยา่ งย่ังยืนตอ่ ไป
๖๓ ๕๑) มีงานวิจัยพบว่ารถยนต์ท่ีว่ิงด้วยความเร็ว ๓๐ กิโลเมตรต่อช่ัวโมง ปล่อยมลพิษออกสู่ อากาศน้อยกว่ารถยนต์ที่ว่ิงด้วยความเร็ว ๑๕ กิโลเมตรต่อช่ัวโมง ดังน้ันในช่วงเดือนพฤศจิกายน – เดือนกุมภาพันธ์ ของทุกปี ท่ีมีค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ในอากาศเป็นจานวนมากนั้น หากสานักงานตารวจแห่งชาติ สามารถทาให้การจราจรมีความคล่องตัว ไม่มีปัญหารถติดบนท้องถนนเป็นเวลานานก็จะช่วยลดปัญหา ฝนุ่ ละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) เกินค่ามาตรฐานได้ในบางสว่ น ๕๒) การติดเครื่องพ่นน้าในโรงเรียน ควรติดด้านบนของอาคารเรียนเนื่องจากฝุ่นละออง ขนาดเล็ก (PM ๒.๕) จะลอยข้ึนสู่ท่ีสูง และควรมีการนาร่องติดเคร่ืองพ่นน้าเพื่อลดฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ในโรงเรียนทกุ โรงเรยี นและในอาคารหน่วยงานราชการตา่ ง ๆ ๕๓) ควรมีการบรรจุวิชาสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะเรื่องหมอกและควันในหลักสูตรการเรียนการสอน ของกระทรวงศึกษาธิการเนื่องจากเป็นสถานการณ์ใกล้ตัวท่ีนักเรียนจะต้องเผชิญ ท้ังนี้เพ่ือให้นักเรียนสามารถ ปอ้ งกันตวั เองไดใ้ นเบ้อื งตน้ จากปญั หาฝนุ่ ละอองขนาดเลก็ (PM ๒.๕) ๕๔) ขอเอกสารข้อมูลรายละเอียดจากกระทรวงศึกษาธิการเกี่ยวกับการผลิตหน้ากากอนามัย ของกลุ่มโรงเรยี นอาชีวศกึ ษาและข้อมลู เกี่ยวกับเครอื่ งพน่ ละอองนา้ ตามโรงเรยี น ๕๕) วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ร่วมกับกลุ่มยักษ์ขาว สร้างอุปกรณ์ เซนเซอร์วัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) เพื่อช่วยวิเคราะห์สถานการณ์ในพื้นที่ได้ทันท่วงที พร้อมเปิดอบรม ให้คนท่ัวไปผลิตอุปกรณ์เซนเซอร์ดังกล่าว โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในการอบรม จึงขอเสนอแนะให้กลุ่มโรงเรียน อาชีวศึกษาเข้าอบรมเพ่ือผลิตอุปกรณ์เซนเซอร์วัดค่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ติดตั้งตามสถานศึกษา อันเปน็ การประหยดั คา่ ใช้จา่ ย ๕๖) ประเทศอังกฤษเป็นประเทศท่ีนาร่องในเร่ืองอากาศสะอาด โดยมีการต้ังเป้าหมาย จะเป็นประเทศท่ีมีอากาศสะอาดที่สุดในโลก ในปี ค.ศ. ๒๕๙๓ ซ่ึงการดาเนินการดังกล่าวเร่ิมต้นจากการปลูกต้นไม้ เพื่อเพิ่มพ้ืนท่ีสีเขียวในโรงเรียน จึงขอเสนอให้กระทรวงศึกษาธิการเพ่ิมพ้ืนท่ีสีเขียวโดยการริเริ่มการปลูกต้นไม้ ในโรงเรียนท่วั ประเทศ ๕๗) เสนอแนะให้กรมขนส่งทางบกแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับบริษัทผู้ผลิตรถยนต์เกี่ยวกับ ระบบสตาร์ทและดับเครื่องยนต์อัตโนมัติ โดยจะดับเครื่องยนต์โดยอัตโนมัติเม่ือรถหยุด เช่น เม่ือรถหยุดติดไฟแดง เพ่อื เปน็ การประหยัดพลงั งานและลดการปลอ่ ยฝุน่ ละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ๕๘) ควรมีการรณรงค์การจอดรถแล้วดับเคร่ืองยนต์เพ่ือลดการปล่อยมลพิษสู่อากาศ และควรมมี าตรการการลงโทษสาหรับบุคคลทีจ่ อดรถแล้วไม่ดับเคร่อื งยนต์ โดยอาจลงโทษเป็นโทษปรับ ๕๙) ขอให้สานักงานตารวจแห่งชาติเพิ่มมาตรการตรวจสอบและบังคับใช้กฎหมายกับผู้ประกอบการ โรงงานทมี่ ีลักษณะปลอ่ ยมลพษิ ทางอากาศ ๖๐) ทางเดินในอาคารรัฐสภาไม่มีระบบปรับอากาศ ท้ังท่ีจัดพื้นที่ให้สูบบุหร่ีภายในอาคาร แต่ไม่มีการปิดก้ันหรือแยกส่วนสัดให้ชัดเจน ส่งผลให้ฝุ่นละอองภายนอกอาจดันเข้ามาภายในห้องประชุมได้ จึงเหน็ ควรให้มีการกาหนดพ้ืนทปี่ ลอดบุหรี่ให้ชัดเจนและปรับแรงดันอากาศภายในห้องประชมุ ใหส้ ูงกวา่ ภายนอก ๖๑) หากรัฐสภาขาดเครื่องมืออุปกรณ์ในการตรวจวัดคุณภาพอากาศภายในอาคาร สามารถติดต่อ กรมอนามัยให้มาตรวจสอบคุณภาพอากาศ เพ่ือให้อากาศภายในอาคารรัฐสภาอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานท่ีกฎหมาย กาหนดได้ ๖๒) อุณหภูมิเตาเผาศพควรอยู่ที่ประมาณ ๘๐๐ - ๙๐๐ องศาเซลเซียส เพื่อไม่ให้เกิดมลพิษ ทางอากาศไดออ๊ กซนิ และควรเป็นระบบควบคุมแบบอตั โนมัติ ไมใ่ ชข่ ้นึ อยกู่ บั สัปเหรอ่ แต่ละคน ๖๓) ควรมีการจดั หลกั สูตรอบรมเกยี่ วกับมาตรฐานการเผาศพให้แก่วัด
๖๔ ๖๔) หากทางวัดมีส่วนร่วมในการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเข้าใจและตระหนักถึงปัญหา การจุดธูปท่ีไม่จาเป็น รวมถึงการเผากระดาษเงินกระดาษทอง จะสามารถลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) จากการประกอบพธิ ีกรรมทางศาสนาได้ ๖๕) กรมควบคุมมลพิษควรตรวจสอบประสิทธภิ าพของสารไกอา เอช วา่ สามารถใชเ้ ปน็ มาตรฐาน ไดห้ รือไม่ หรือมีผลขา้ งเคียงใด ๆ หรือไม่ เพอื่ นาเรยี นถวายมหาเถรสมาคมต่อไป ๖๖) ในกรณที ่มี กี ารรบั รองการใช้สารไกอา เอช แลว้ ควรมีการตีพิมพ์ผลงานวิจยั เพ่ือให้ประชาชน ทราบอยา่ งทว่ั ถึง ๖๗) การใช้สารไกอา เอช อาจเปน็ การเพ่ิมภาระค่าใชจ้ ่ายใหแ้ กป่ ระชาชน อีกทงั้ เป็นการแก้ไข ปัญหาที่ปลายเหตุ จึงควรมุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพเตาเผาศพให้ดีขึ้นและได้มาตรฐานตามที่กฎหมายกาหนด อนั เป็นการแกไ้ ขท่ีตน้ เหตเุ พื่อไมต่ อ้ งทาการบาบดั มลพษิ ทางอากาศในภายหลัง ๖๘) ในการซอ่ มแซมบารงุ เตาเผาศพไม่ควรผลักภาระค่าใชจ้ า่ ยให้แก่วดั ๖๙) ชนิดน้ามันท่ีให้บริการมีมากทาให้เกิดปัญหาในเร่ืองการลงทุนน้ามันเพิ่มเติม จึงเสนอให้ กระทรวงพลังงานจากัดชนิดน้ามันในท้องตลาด พร้อมท้ังกาหนดชนิดน้ามันท่ีต้องห้ามในช่วงที่สถานการณ์ฝุ่น อยใู่ นภาวะวิกฤต ๗๐) ในการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศอย่างรอบด้าน ควรให้ความสาคัญในเรื่อง ของก๊าซคาร์บอนด้วย ๗๑) ภาครัฐควรสนับสนุนมาตรการจูงใจ โดยไม่ควรมองว่าเป็นการทาให้รัฐต้องเสียประโยชน์ ทางเศรษฐกจิ ๗๒) ผู้ประกอบการธุรกิจน้ามันให้ความสาคัญกับน้ามันที่ทารายได้ให้มากท่ีสุด ทาให้น้ามัน ทเ่ี ปน็ มิตรต่อส่งิ แวดลอ้ ม เช่น E๘๕ ไมไ่ ด้รบั การสนับสนนุ ในทางการตลาดที่เพียงพอ ๗๓) การลดภาษีน้ามันท่ีปล่อยมลพิษทางอากาศต่าในช่วงฤดูท่ีมีปริมาณฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) เป็นจานวนมาก เป็นอีกหน่ึงมาตรการท่ีจะช่วยแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) เกินเกณฑ์มาตรฐานในภาวะวิกฤตได้ ๗๔) ภาครัฐยังขาดการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ประชาชนเก่ียวกับผลกระทบจากการใช้น้ามัน ไบโอดีเซล ๗๕) มาตรการในการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศนอกจากการให้ความสาคัญในมิติ ส่ิงแวดล้อมแล้วควรคานึงถงึ มติ ดิ า้ นเศรษฐกจิ ควบคูไ่ ปด้วย ๗๖) การลดราคาก๊าซ NGV เปน็ วธิ กี ารแก้ไขปัญหาฝนุ่ ละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) จากแหลง่ กาเนิด ทางระบบคมนาคมขนส่งท่ีดีที่สุด เนื่องจากมีผลการวิจัยยืนยันว่าปล่อยฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) เพียง ๐.๐๑ ๗๗) โรงไฟฟ้าชุมชนสามารถแก้ไขปัญหาการเผาไร่อ้อยได้ ซึ่งภาครัฐควรกาหนดหลักเกณฑ์ เกยี่ วกับการรบั ซอื้ ใหช้ ดั เจน เชน่ ชว่ งเวลารับซือ้ ราคา เป็นตน้ ๗๘) ควรพัฒนาความเร็วในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้เทียบเท่ามาตรฐานต่างประเทศเพื่อจูงใจ ใหป้ ระชาชนเปลย่ี นมาใชพ้ ลงั งานทดแทนดังกลา่ ว ๗๙) เสนอใหเ้ ปิดเสรธี รุ กิจสถานบี ริการกา๊ ซ NGV เพือ่ แก้ไขปญั หาการผูกขาดการขาดทนุ ๘๐) มาตรการห้ามรถบรรทุกเข้าเมืองเพื่อแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM ๒.๕) ควรจากัดเฉพาะรถบรรทกุ ท่ใี ชน้ ้ามันดเี ซล ส่วนรถบรรทุกที่ใช้กา๊ ซ NGV ควรอนญุ าตให้เข้าได้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 633
Pages: