Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หลักสูตรโรงเรียนบ้านหลวงหัวสวย 2565

หลักสูตรโรงเรียนบ้านหลวงหัวสวย 2565

Published by Narumon Phowiang, 2022-09-18 04:52:43

Description: หลักสูตรโรงเรียนบ้านหลวงหัวสวย 2565

Search

Read the Text Version

หลกั สูตรสถานศึกษา โรงเรียนบ้านหลวงหัวสวย พทุ ธศักราช ๒๕๕๓ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๕) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ (ระดับประถมศึกษา/มัธยมศึกษา) สานักงานเขตพืน้ ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาอดุ รธานี เขต ๑ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

หลกั สตู รสถานศกึ ษา โรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ ปี การศกึ ษา ๒๕๖๕ ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรบั ปรุง ๒๕๖๕) โรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย อาเภอเพญ็ จงั หวดั อดุ รธานี สานกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๑ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร

หลกั สูตร สถานศกึ ษา

ประกาศโรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย เรื่อง ใหใ้ ชห้ ลกั สูตรโรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย พุทธศกั ราช ๒๕๕๓(ฉบบั ปรับปรุง ๒๕๖๕) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ โดยท่ี กระทรวงศึกษาธิ การได้ประกาศให้ใช้หลักสู ตรแกนกลางการศึกษาข้ ันพ้ื นฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ตามคาส่ังกระทรวงศึกษาธิการ ท่ี สพฐ. ๒๓๙ / ๒๕๕๑ ลงวนั ท่ี ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๑ เร่ือง ให้ใชห้ ลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ และกระจายอานาจให้ สถานศึกษากาหนดหลกั สูตรสถานศึกษาข้ึนใช้เองน้นั โรงเรียนบา้ นหลวงหัวสวย จึงได้จดั ทาหลกั สูตร สถานศึกษา พุทธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบบั ปรับปรุง ๒๕๖๕) ข้ึน ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ เพอ่ื เป็ นกรอบและทิศทางในการจดั การศึกษาระดบั ประถมศึกษาและระดบั มธั ยมศึกษา ตอนตน้ ซ่ึงไดน้ าเสนอร่างหลกั สูตรสถานศึกษาต่อคณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พ้ืนฐาน และไดร้ ับ การอนุมตั ิใหใ้ ชห้ ลกั สูตรแลว้ เมื่อวนั ที่ ๑๙ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ดงั น้ันโรงเรียนจึงประกาศให้ใช้หลกั สูตรโรงเรียนบา้ นหลวงหัวสวย พุทธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบบั ปรับปรุง ๒๕๖๒) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ เงื่อนไขและ ระยะเวลาการใชห้ ลกั สูตรใหเ้ ป็นไปดงั น้ี ๑. ปี การศึกษา ๒๕๕๓ ใหใ้ ชห้ ลกั สูตรโรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย พุทธศกั ราช ๒๕๕๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ในช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๑ – ๖ และช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ ๑ ๒. ปี การศึกษา ๒๕๕๔ ใหห้ ลกั สูตรโรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย พุทธศกั ราช ๒๕๕๓ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ในช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๑ – ๖ และช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ ๑ และ ๒ ๓. ต้งั แตป่ ี การศึกษา ๒๕๕๕ เป็นตน้ ไป ใหห้ ลกั สูตรโรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย พุทธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบบั ปรับปรุง ๒๕๕๕) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ทุกช้นั เรียน ๔. ปี การศึกษา ๒๕๕๗ ใหห้ ลกั สูตรโรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย พุทธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบบั ปรับปรุง ๒๕๕๗) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ ๑ – ๓ ๕. ปี การศึกษา ๒๕๕๗ ใหห้ ลกั สูตรโรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบบั ปรับปรุง ๒๕๕๗/๒) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ ๑ – ๓

๖. ปี การศึกษา ๒๕๕๘ ใหห้ ลกั สูตรโรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย พุทธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบบั ปรับปรุง ๒๕๕๘) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๑ – ๓ ๗. ปี การศึกษา ๒๕๕๙ ใหห้ ลกั สูตรโรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบบั ปรับปรุง ๒๕๕๙) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๑ – ๖ และช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๑ – ๓ ๘. ปี การศึกษา ๒๕๖๐ ใหห้ ลกั สูตรโรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย พุทธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบบั ปรับปรุง ๒๕๖๐) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๑ – ๖ และช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๑ – ๓ ๙. ปี การศึกษา ๒๕๖๑ ใหห้ ลกั สูตรโรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย พุทธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบบั ปรับปรุง ๒๕๖๑) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๑ ประถมศึกษาปี ท่ี ๔ และช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๑ ๑๐. ปี การศึกษา ๒๕๖๒ ใหห้ ลกั สูตรโรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบบั ปรับปรุง ๒๕๖๒) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๑ ประถมศึกษาปี ท่ี ๒ ประถมศึกษาปี ท่ี ๔ ประถมศึกษาปี ที่ ๕ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๑ และช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๒ ๑๐. ปี การศึกษา ๒๕๖๔ ใหห้ ลกั สูตรโรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย พุทธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบบั ปรับปรุง ๒๕๖๔) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ประถมศึกษาปี ท่ี ๔ – ๖ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ ๑ – ๓ ๑๑. ปี การศึกษา ๒๕๖๕ ใหห้ ลกั สูตรโรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย พุทธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบบั ปรับปรุง ๒๕๖๕) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ประถมศึกษาปี ท่ี ๑ – ๖ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๑ – ๓ ใหผ้ บู้ ริหารสถานศึกษาโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พ้นื ฐาน มีอานาจในการยกเลิก เพิม่ เติม เปลี่ยนแปลงหลกั สูตรโรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบบั ปรับปรุง ๒๕๖๔) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๙ พฤษภาคม พ. ศ . ๒๕๖๕ (นายดิรักษ์ หล่อนจาปา) (นายสุริยา สมโชค) ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ผอู้ านวยการโรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย

ประกาศโรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย เรื่อง ใหใ้ ชห้ ลกั สูตรโรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย พุทธศกั ราช ๒๕๕๓(ฉบบั ปรับปรุง ๒๕๖๕) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ อาศยั อานาจตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการวา่ ดว้ ยคณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๓ และคาสั่งกระทรวงศึกษาท่ี สพฐ. ๒๓๙ / ๒๕๕๑ ลงวนั ท่ี ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๑ เรื่อง ให้ใชห้ ลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ คณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พ้ืนฐาน โรงเรียนบา้ นหลวงหัวสวย โดยมติท่ีประชุมคร้ังท่ี ๒ / ๒๕๖๕ วนั ที่ ๑๑ เดือน มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ อนุมตั ิให้ใช้หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นหลวงหัวสวย พุทธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๒) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ได้ เปลี่ยนแปลงวิชาเพิ่มเติมเพ่ือให้สอดคลอ้ งรับกบั นโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล เพ่ือให้ผูเ้ รียนพฒั นาทกั ษะ กระบวนการคิด วเิ คราะห์ มีเวลาในการทากิจกรรมเพ่ือพฒั นาความรู้ ความสามารถและทกั ษะ การปลูกฝัง คุณธรรมจริยธรรม การสร้างวินัย การมีจิตสานึกรับผิดชอบต่อสังคม ยึดม่ัน ในสถาบันชาติศาสนา พระมหากษตั ริย์ และมีความภาคภูมิใจในความเป็ นไทย ตลอดจนการเรียนการสอนในกลุ่มการเรียนรู้ ตา่ งประเทศ และหลกั สูตรต่อตา้ นทุจริต ไดด้ าเนินการจดั ทาหลกั สูตรโรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย พุทธศกั ราช ๒๕๕๓(ฉบับปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๕) สอดคล้องตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการเม่ือวนั ท่ี ๙ กมุ ภาพนั ธ์ ๑๕๖๕ “วถิ ีอนาคต วถิ ีคุณภาพ”และ นโยบาย ๔ ดา้ น จุดเนน้ ๙ ขอ้ เป็นท่ีเรียบร้อยแลว้ ท้งั น้ี หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย ไดร้ ับความเห็นชอบจากคณะกรรมการ สถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน เม่ือวนั ที่ ๑๘ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ จึงประกาศให้ใช้หลักสูตร สถานศึกษาโรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย พุทธศกั ราช ๒๕๕๓(ฉบบั ปรับปรุง ๒๕๖๕) ตามหลกั สูตรแกนกลาง การศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ต้งั แต่บดั น้ีเป็นตน้ ไป ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๙ เดือน พฤษภาคม พ. ศ . ๒๕๖๕ (นายดิรักษ์ หล่อนจาปา) (นายสุริยา สมโชค) ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พ้นื ฐาน ผอู้ านวยการโรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย

 สว่ นนา สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ได้ทบทวน หลกั สูตรการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๔ เพ่ือเป็นการพฒั นาไปสู่หลกั สูตรแกนกลางการศึกษา ข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ โดยนาขอ้ มูลท่ีไดจ้ ากการศึกษาวิจยั และจากแผนพฒั นาเศรษฐกิจและ สงั คมแห่งชาติ ฉบบั ที่ ๑๐ (พ.ศ. ๒๕๕๐ – ๒๕๕๔) มาใชใ้ นการพฒั นาหลกั สูตรให้มีความชดั เจนยงิ่ ข้ึน ต้งั เป้าหมายในการพฒั นาคุณภาพผูเ้ รียน กระบวนการนาหลกั สูตรไปสู่การปฏิบตั ิในระดับเขตพ้ืนที่ การศึกษาและสถานศึกษา พร้อมท้งั ไดจ้ ดั ทาสาระการเรียนรู้แกนกลางของกลุ่มสาระการเรียนรู้ ๘ กลุ่ม สาระการเรียนรู้ และเฉพาะกลุ่มสาระการเรียนรู้ต่างประเทศ(ภาษาองั กฤษ) เพ่ิมชวั่ โมงเรียนและเปิ ดเป็ น วิชาเพิ่มเติมระดบั ประถมศึกษา เป็ นการพฒั นา ปรับปรุงหลกั สูตรสถานศึกษาการจดั การเรียนการสอน ตามบริบท โรงเรียนบ้านหลวงหัวสวย จึงได้จดั ทาหลักสูตรสถานศึกษา พุทธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบบั ปรับปรุง ๒๕๖๔)ประถมศึกษาปี ท่ี ๔ – ๖ ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๑ – ๓ ตามหลกั สูตรแกนกลาง การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ได้รับความอนุเคราะห์อย่างยิ่งจากบุคคลหลายฝ่ าย อาทิ คณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ผูบ้ ริหารโรงเรียน คณะครู ศึกษานิเทศก์ นกั เรียน และผูป้ กครอง นกั เรียน ตลอดจนบุคลากรท่ีมีส่วนเก่ียวขอ้ งทางการศึกษาทุกท่านที่ทาใหห้ ลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียน บา้ นหลวงหวั สวยมีความเหมาะสม ถูกตอ้ ง สมบูรณ์มากที่สุด ขอขอบคุณมา ณ โอกาสน้ีเป็นอยา่ งสูง โรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๖๕

 คานา กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศใช้มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ช้ีวดั กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ และสาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และ วฒั นธรรม (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๒) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ตามคาส่ังกระทรวงศึกษาธิการที่ สพฐ. ๑๒๓๙/๒๕๖๐ ลงวนั ท่ี ๗ สิงหาคม ๒๕๖๐ และคาสั่ง สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ที่ ๓๐/๒๕๖๑ ลงวันที่ ๕ มกราคม ๒๕๖๑ ให้ เปล่ียนแปลงมาตรฐานการเรียนรู้และตวั ช้ีวดั กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี (ฉบบั ปรับปรุง พ.ศ.๒๕๖๕) โดยมีคาส่ังให้โรงเรียนดาเนินการใชห้ ลกั สูตรในปี การศึกษา ๒๕๖๕ โดยให้ใชใ้ นช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๔ – ๖ ช้นั มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๑ – ๓ ปี การศึกษา ๒๕๖๕ เป็ น ตน้ โดยกาหนดจุดหมาย และมาตรฐานการเรียนรู้เป็ นเป้าหมายและกรอบทิศทางในการพฒั นาคุณภาพ ผเู้ รียนมีพฒั นาการเต็มตามศกั ยภาพ มีคุณภาพและมีทกั ษะการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑และนอ้ มนาหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง เพื่อให้สอดคล้องกบั นโยบายและเป้าหมายของสานักงานคณะกรรมการ การศึกษาข้นั พ้ืนฐาน “วถิ ีอนาคต วถิ ีคุณภาพ” โรงเรียนบ้านหลวงหัวสวย จึงได้ทาการปรับปรุงหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศักราช๒๕๕๑(ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๕) ในกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิ ตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี สาระภูมิศาสตร์ในกลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม เพื่อนาไปใชป้ ระโยชน์และเป็ นกรอบในการวางแผน พฒั นาหลกั สูตรของสถานศึกษา จดั การเรียนการ สอน โดยมีเป้าหมายในการพฒั นาคุณภาพผูเ้ รียน ให้มีกระบวนการนาหลกั สูตรไปสู่การปฏิบตั ิ โดยมี การกาหนดวิสัยทศั น์ จุดหมาย สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ มาตรฐานการ เรียนรู้และตวั ช้ีวดั โครงสร้างเวลาเรียน ตลอดจนเกณฑ์การวดั ประเมินผลให้มีความสอดคล้องกับ มาตรฐานการเรียนรู้ เปิ ดโอกาสให้โรงเรียนสามารถกาหนดทิศทางในการจดั ทาหลกั สูตรการ เรียนการสอนในแตล่ ะระดบั ตามความพร้อมและจุดเนน้ โดยมีกรอบแกนกลางเป็นแนวทางที่ชดั เจนเพ่ือ ตอบสนองนโยบายไทยแลนด์ ๔.๐ มีความพร้อมในการกา้ วสู่สังคมคุณภาพ มีความรู้อยา่ งแทจ้ ริง และ มีทกั ษะในศตวรรษที่ ๒๑ มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ช้ีวดั ที่กาหนดไวใ้ นเอกสารน้ี ช่วยทาให้หน่วยงานท่ีเก่ียวขอ้ ง ใน ทุกระดบั เห็นผลคาดหวงั ที่ตอ้ งการในการพฒั นาการเรียนรู้ของผเู้ รี ยนที่ชดั เจนตลอดแนว ซ่ึงจะสามารถ ช่วยให้หน่วยงานท่ีเก่ียวขอ้ งในระดบั ทอ้ งถ่ินและสถานศึกษาร่วมกนั พฒั นาหลกั สูตรไดอ้ ยา่ งมน่ั ใจ ทา ใหก้ ารจดั ทาหลกั สูตรในระดบั สถานศึกษามีคุณภาพและมีความเป็ นเอกภาพยิ่งข้ึน อีกท้งั ยงั ช่วยให้เกิด ความชดั เจนเรื่องการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ และช่วยแกป้ ัญหาการเทียบโอนระหวา่ งสถานศึกษา

ดังน้ันในการพฒั นาหลักสูตรในทุกระดบั ต้งั แต่ระดับชาติจนกระทัง่ ถึงสถานศึกษา จะต้องสะท้อน คุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้และตวั ช้ีวดั ที่กาหนดไวใ้ นหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน รวมท้งั เป็ นกรอบทิศทางในการจดั การศึกษาทุกรูปแบบ และครอบคลุมผเู้ รียนทุกกลุ่มเป้าหมายในระดบั การศึกษาข้นั พ้นื ฐาน การจดั หลกั สูตรการศึกษาข้นั พ้ืนฐานจะประสบความสาเร็จตามเป้าหมายท่ีคาดหวงั ได้ ทุกฝ่ าย ท่ีเกี่ยวขอ้ งท้งั ระดบั ชาติ ชุมชน ครอบครัว และบุคคลตอ้ งร่วมรับผิดชอบ โดยร่วมกนั ทางานอย่างเป็ น ระบบ และต่อเนื่อง ในการวางแผน ดาเนินการ ส่งเสริมสนบั สนุน ตรวจสอบ ตลอดจนปรับปรุงแกไ้ ข เพื่อพฒั นาเยาวชนของชาติไปสู่คุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ท่ีกาหนดไว้ ขอขอบคุณคณะวิทยากรจากสานกั วิชาการและมาตรฐานการศึกษา วิทยากรจากสานกั งานเขต พ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ ศึกษานิเทศก์ คณะครูโรงเรียนบ้านหลวงหัวสวย คณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พ้ืนฐานชุมชน ผูป้ กครอง ตลอดจนนักเรียนทุกคน ซ่ึงช่วยให้หลกั สูตร สถานศึกษาฉบบั น้ี มีความสมบูรณ์และเหมาะสมตอ่ การจดั การศึกษาเพ่ือการพฒั นาผเู้ รียนต่อไป (นายสุริยา สมโชค) ผอู้ านวยการโรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย

 สารบญั ประกาศ ห น้ คานา า N สารบญั N N ส่ วนนา N ความนา ๒ จุดเนน้ /เป้าหมายของสานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ ๔ พนั ธกิจ /เป้าประสงคข์ องโรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย ๕ วสิ ยั ทศั น์ อตั ลกั ษณ์ เอกลกั ษณ์โรงเรียน ๖ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน ๗ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ๘ มาตรฐานการเรียนรู้ ๑๐ สาระการเรียนรู้ ๑๒ คุณลกั ษณ ๑๔ สาระการเรียนรู้และมาตรฐาน ๘ กลุ่มสาระ ฯ มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ช้ีวดั ๒๕ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ๖๐ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ๗๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ๘๐ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ๘๓ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ๑๐๑ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ(ภาษาองั กฤษ) ๑๑๘ โครงสร้างเวลาเรียนโรงเรียนบ้านหลวงหัวสวย ๑๓๓ โครงสร้างหลกั สูตรสถานศึกษาระดบั ประถมศึกษา /ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ โครงสร้างกลุ่มสาระการเรียนรู้ระดบั ประถมศึกษา /ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้

คาอธิบายรายวชิ า ๑๗๐ ๑๙๑ ระดบั ประถมศึกษา / มัธยมศึกษา ๒๐๗ ๒๒๑ รายวชิ าพืน้ ฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ๒๗๗ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๒๙๔ กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คม ศาสนา และวฒั นธรรม ๓๐๖ กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ๓๐๙ กลุ่มสาระการเรียนรู้สงั คม ทศั นศิลป์ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ รายวชิ าเพม่ิ เติม ระดบั ประถม ฯ มธั ยมศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคม ศาสนา และวฒั นธรรม(หนา้ ท่ีพลเมือง) กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนกั เรียน - กิจกรรมลูกเสือ - เนตรนารี - กิจกรรมชุมนุม กิจกรรมเพ่อื สังคมและสาธารณประโยชน์ เกณฑ์การจบหลกั สูตร ระดบั ประถมศึกษา ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ เอกสารอ้างองิ ภาคผนวก คาส่งั แตง่ ต้งั การปรับปรุงหลกั สูตรสถานศึกษา และประกาศท่ีเก่ียวขอ้ ง

 สว่ นนา

 ความนา กระทรวงศึกษาธิการไดป้ ระกาศใชห้ ลกั สูตรการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๔๔ ให้เป็ นหลกั สูตรแกนกลางของประเทศ โดยกาหนดจุดหมาย และมาตรฐานการเรียนรู้เป็ นเป้าหมายและ กรอบทิศทางในการพฒั นาคุณภาพผเู้ รียนให้เป็ นคนดี มีปัญญา มีคุณภาพชีวติ ที่ดีและมีขีดความสามารถ ในการแข่งขนั ในเวทีระดบั โลก (กระทรวงศึกษาธิการ, ๒๕๔๔) พร้อมกนั น้ีไดป้ รับกระบวนการพฒั นา หลกั สูตรให้มีความสอดคลอ้ งกบั เจตนารมณ์แห่งพระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ และท่ี แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ ที่มุ่งเน้นการกระจายอานาจทางการศึกษาให้ท้องถิ่นและ สถานศึกษาได้มีบทบาทและมีส่วนร่วมในการพฒั นาหลกั สูตร เพื่อให้สอดคลอ้ งกบั สภาพ และความ ตอ้ งการของทอ้ งถ่ิน (สานกั นายกรัฐมนตรี, ๒๕๔๒) หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ มุ่งพฒั นาผเู้ รียนทุกคน ซ่ึงเป็ น กาลงั ของชาติใหเ้ ป็นมนุษยท์ ี่มีความสมดุลท้งั ดา้ นร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสานึกในความเป็ นพลเมือง ไทยและเป็ นพลโลก ยึดมน่ั ในการปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็ นประมุข มีความรู้และทกั ษะพ้ืนฐาน รวมท้งั เจตคติ ที่จาเป็ นต่อการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพและการศึกษาตลอด ชีวติ โดยมุ่งเนน้ ผูเ้ รียนเป็ นสาคญั บนพ้ืนฐานความเช่ือวา่ ทุกคนสามารถเรียนรู้และพฒั นาตนเองไดเ้ ต็ม ตามศกั ยภาพ (กระทรวงศึกษาธิการ, ๒๕๕๑) กรอบหลักสูตรระดับทอ้ งถ่ิน สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ มุ่งให้ผูเ้ รียนไดม้ ีโอกาสเรียนรู้เร่ืองราวของชุมชน ทอ้ งถิ่น ซ่ึงเป็ นสภาพแวดลอ้ มในชีวิตจริงของตนเอง ทาให้เกิดความรักความผูกพนั กบั ทอ้ งถ่ิน มีความภาคภูมิใจในบา้ นเกิดเมืองนอน เป็ นสมาชิกที่ดีของ ชุมชน ตลอดจนสามารถแกป้ ัญหา พฒั นาชีวติ ตนเอง พฒั นาอาชีพและสังคมของตนเองได้ (สานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาอุดรธานี เขต ๑, ๒๕๕๒) โรงเรียนบ้านหลวงหัวสวยเป็ นโรงเรียนต้นแบบโรงเรียนวิถีพุทธ และโรงเรียนตน้ แบบ คุณธรรมช้นั นา ไดน้ อ้ มนาปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงสู่การปฏิบตั ิ มุ่งพฒั นาผูเ้ รียนให้เป็ นบุคคลแห่งการ เรียนรู้ คิดวเิ คราะห์ มีทกั ษะในการดารงชีวติ มนั่ ใจในตนเอง มีความเป็นไทย รักและภูมิใจในทอ้ งถ่ิน ของตนเอง เอกสารหลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย พุทธศกั ราช ๒๕๕๓(ฉบบั ปรับปรุง ๒๕๖๕) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ น้ี จดั ทาข้ึนตามหลกั สูตร แกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ กรอบหลกั สูตรระดบั ทอ้ งถิ่น และจุดเน้น ความ ตอ้ งการของโรงเรียน สาหรับ ครูผูส้ อนนาไปใช้ในการจดั การเรียนการสอน เพ่ือพฒั นาผูเ้ รียนให้มี คุณภาพดา้ นความรู้ และทกั ษะท่ีจาเป็ นสาหรับการดารงชีวิตในสังคมที่มีการเปลี่ยนแปลงและแสวงหา

ความรู้เพื่อพฒั นาตนเองอยา่ งต่อเนื่องตลอดชีวิต และดาเนินงานตามนโยบาย วิถีใหม่ วถิ ีคุณภาพ เด็กอุดร ๑ ของเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานีเขต ๑ คาอธิบายรายวิชาท่ีกาหนดไว้ในเอกสารน้ี ช่วยทาให้ผู้บริหารโรงเรียน ครูผู้สอน และ ผเู้ ก่ียวขอ้ งไดเ้ ห็นผลคาดหวงั ท่ีตอ้ งการพฒั นาการเรียนรู้ของผเู้ รียนท่ีชดั เจนมากข้ึน ทาใหก้ ารนาหลกั สูตร สถานศึกษาไปใชใ้ นการจดั การเรียนการสอน การจดั ทาโครงสร้างรายวิชา การออกแบบหน่วยการเรียนรู้ สะทอ้ นคุณภาพตามมาตรฐานตวั ช้ีวดั ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน กรอบหลกั สูตรระดบั ทอ้ งถิ่น และจุดเนน้ ของโรงเรียน การพฒั นาหลกั สูตรสถานศึกษา การนาหลกั สูตรไปใชใ้ นระดบั ช้นั เรียนจะประสบความสาเร็จ ตามเป้าหมายที่คาดหวงั ได้ โดยทุกฝ่ ายท่ีเก่ียวขอ้ ง ระดบั ชาติ ระดบั เขตพ้ืนที่ ระดบั สถานศึกษา ชุมชน และผูป้ กครองได้ร่วมกันทางานอย่างเป็ นระบบและต่อเน่ืองในการวางแผนการดาเนินงาน ส่งเสริม สนบั สนุน ตรวจสอบ ตลอดจนปรับปรุงแกไ้ ข เพื่อพฒั นาผเู้ รียนไปสู่คุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ที่ กาหนดไว้

จดุ เนน้ / เป้ าหมาย สานกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาอดุ รธานี เขต ๑ สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต ๑ ได้จดั ทากรอบหลกั สูตรระดบั ท้องถิ่นข้ึนสาหรับสถานศึกษาใช้เป็ นแนวทางในการจดั การเรียนการสอน เพ่ือให้ผูเ้ รียนมีความรู้ ความสามารถและคุณลกั ษณะ ดงั น้ี ๑. พฒั นาผเู้ รียนใหม้ ีความรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ทอ้ งถ่ินของตนในทุก ๆ ดา้ น ๒. พฒั นาผเู้ รียนใหม้ ีความสานึกท่ีดี มีความรักและหวงแหนทอ้ งถิ่น ๓. ส่งเสริมผเู้ รียนใหส้ ามารถนาหลกั ปรัชญาและภูมิปัญญาของทอ้ งถิ่นมาประยกุ ตใ์ ชใ้ น ชีวติ ประจาวนั ได้ ๔. พฒั นาผเู้ รียนใหม้ ีคุณธรรม จริยธรรม ๕. มีทกั ษะการดารงชีวติ อยใู่ นสังคมอยา่ งมีความสุข ๖. พฒั นาผเู้ รียนใหม้ ีความสุขจากการลดเวลาเรียน เพ่ิมเวลารู้ นอกจากน้ียงั มีนโยบาย วถิ ีใหม่ วถิ ีคุณภาพ เด็กอุดร ๑ เพ่ือใชเ้ ป็นแนวทางในการพฒั นาการ จดั การเรียนการสอนกาหนดแนวทางใหช้ ดั เจตนข้ึนใน เป้าหมาย ๔ ดา้ นคือ ๑. ดา้ นโอกาส ๒. ดา้ น คุณภาพ ๓. ดา้ นประสิทธิภาพ และ ๔. ดา้ นความปลอดภยั

พนั ธกจิ / เป้ าประสงค์ โรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย พนั ธกจิ หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย พุทธศกั ราช ๒๕๕๓ (ฉบบั ปับปรุง ๒๕๖๕) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ มุ่งพฒั นาผูเ้ รียนตามนโยบาย วิถี ใหม่ วิถีคุณภาพ เด็กอุดร ๑ และมุ่งให้เป็ นคนดี มีปัญญา มีความสุข มีศกั ยภาพในการศึกษาต่อ และ ประกอบอาชีพ จึงกาหนดเป็นจุดเนน้ / เป้าหมายเพอ่ื ใหเ้ กิดกบั ผเู้ รียน เม่ือจบการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ดงั น้ี ๑. พฒั นาการเรียนรู้เพอ่ื ยกระดบั ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนมี ๒. ส่งเสริมคุณธรรม และแก้ไขพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม สอบวินัยเชิงบวก และระบบ ช่วยเหลือนกั เรียน ๓. พฒั นาระบบประกนั คุณภาพภายในสถานศึกษาอยา่ งเนื่อง ๔. สร้างภาคีเครือขา่ ยใหเ้ ขม็ แขง็ โดยใชโ้ รงเรียนเป็นฐานและบริหารจดั การ ๕. ส่งเสริม สนบั สนุนครูสู่ครูมืออาชีพ ๖. ปรับปรุงแหล่งเรียนรู้ สภาพแวดลอ้ มใหม้ ีความปลอดภยั สวยงาม ๗. พฒั นาระบบเทคโนโลยใี หเ้ หมาะสม และมีคุณภาพตอ่ การจดั การศึกษา ๘. ระดมทรัพยากร เพือ่ ใชใ้ นการจดั การศึกษา เป้าประสงค์ ๑. นกั เรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา ๒. ผปู้ กครอง ชุมชน เชื่อมน่ั ศรัทธา ๓. โรงเรียนดาเนินนโยบาย วถิ ีใหม่ วถิ ีคุณภาพ เดก็ อุดร ๑ ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ

วิสยั ทศั น์ หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓(ฉบบั ปรับปรุง ๒๕๖๔) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ “ ภายในปี การศึกษา ๒๕๖๖ นกั เรียนมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา มีภาคีเรือข่ายท่ีเข็มแข็ง และศรัทธานอ้ มนาหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง สู่การปฏิบตั ิเด่นชดั คุณธรรม ” *********************************** อตั ลกั ษณโ์ รงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย นอ้ มไหว้ ทกั ทายดี มีทกั ษะชวี ิต เอกลกั ษณโ์ รงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย รกั ษว์ ่ิงแวดลอ้ ม

สมรรถนะสาคญั ของผูเ้ รียน หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนบ้านหลวงหัวสวย พุทธศักราช ๒๕๕๓ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๔) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ มุ่งใหผ้ ูเ้ รียนเกิดสมรรถนะสาคญั ๕ ประการ ดงั น้ี ๑. ความสามารถในการสื่อสาร เป็ นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวฒั นธรรมในการใช้ ภาษาถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเขา้ ใจ ความรู้สึก และทศั นะของตนเองเพ่ือแลกเปลี่ยนขอ้ มูลข่าวสาร และประสบการณ์อนั จะเป็ นประโยชน์ต่อการพฒั นาตนเองและสังคม รวมท้งั การเจรจาต่อรองเพ่ือขจดั และลดปัญหาความขดั แยง้ ต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับขอ้ มูลข่าวสารดว้ ยหลกั เหตุผลและความถูกตอ้ ง ตลอดจนการเลือกใชว้ ธิ ีการสื่อสารท่ีมีประสิทธิภาพโดยคานึงถึงผลกระทบที่มีต่อตนเองและสังคม ๒. ความสามารถในการคิด เป็ นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด อยา่ งสร้างสรรค์ การคิดอยา่ งมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนาไปสู่การสร้างองคค์ วามรู้หรือ สารสนเทศเพ่อื การตดั สินใจเก่ียวกบั ตนเองและสังคมไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็ นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญได้อย่างถูกตอ้ งเหมาะสมบนพ้ืนฐานของหลกั เหตุผล คุณธรรมและขอ้ มูลสารสนเทศ เขา้ ใจ ความสัมพนั ธ์และการเปล่ียนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยกุ ตค์ วามรู้มาใช้ ในการป้องกนั และแกไ้ ขปัญหา และมีการตดั สินใจท่ีมีประสิทธิภาพโดยคานึงถึงผลกระทบท่ีเกิดข้ึนต่อ ตนเอง สังคมและสิ่งแวดลอ้ ม ๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ เป็ นความสามารถในการนากระบวนการต่าง ๆ ไปใชใ้ น การดาเนินชีวติ ประจาวนั การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง การเรียนรู้อยา่ งตอ่ เน่ือง การทางาน และการอยรู่ ่วมกนั ในสังคมดว้ ยการสร้างเสริมความสัมพนั ธ์อนั ดีระหวา่ งบุคคล การจดั การปัญหาและความขดั แยง้ ต่าง ๆ อย่างเหมาะสม การปรับตวั ให้ทนั กับการเปล่ียนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จกั หลีกเลี่ยงพฤติกรรมไมพ่ งึ ประสงคท์ ี่ส่งผลกระทบต่อตนเองและผอู้ ื่น ๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็ นความสามารถในการเลือก และใช้ เทคโนโลยีดา้ น ต่าง ๆ และมีทกั ษะกระบวนการทางเทคโนโลยเี พื่อการพฒั นาตนเองและสังคมในดา้ นการเรียนรู้ การ ส่ือสาร การทางาน การแกป้ ัญหาอยา่ งสร้างสรรค์ ถูกตอ้ ง เหมาะสมและมีคุณธรรม

คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนบา้ นหลวงหวั สวย พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๓(ฉบบั ปรับปรุง ๒๕๖๔) ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ มุ่งพฒั นาผเู้ รียนใหม้ ีคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เพ่ือให้สามารถอยู่ร่วมกบั ผอู้ ่ืนในสังคมไดอ้ ยา่ งมีความสุข ในฐานะเป็ นพลเมืองไทยและ พลโลก ดงั น้ี ๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หมายถึงการปฏิบตั ิตนเป็นคนดีในสังคม มีความรักชาติ ศาสนา และ พระมหากษตั ริย์ ๒. ซ่ือสัตย์สุจริต หมายถึงปฏิบตั ิตนอยา่ งตรงไปตรงมาท้งั กาย วาจา ใจ ๓. มวี นิ ัย หมายถึงปฏิบตั ิตนตามกฎเกณฑข์ องโรงเรียน ครอบครัว ชุมชน และสงั คมกิจกรรม ในทอ้ งถ่ินเช่นสมุดงาน ชิ้นงาน จากความสะอาด ความเรียบร้อย ปฏิบตั ิตนอยใู่ นขอ้ ตกลงที่กติกาท่ี ร่วมกนั กาหนดข้ึนทุกคร้ัง ๔. ใฝ่ เรียนรู้ หมายถึงลกั ษณะของบุคคลที่มีความกระตือรือร้นในการเรียนรู้ เขา้ ใจรู้จกั การใช้ เวลาวา่ งใหเ้ กิดประโยชน์ แสวงหาความรู้จากแหล่งเรียนรู้ท่ีหลากหลาย และสามารถถ่ายทอดเผยแพร่ ตามองคค์ วามรู้ใหก้ บั ผอู้ ื่นได้ ๕. อย่อู ย่างพอเพยี ง หมายถึงมีความเป็นอยอู่ ยา่ งพอเพยี ง รู้จกั การดารงชีวิตใหม้ ีคุณคา่ ๖. มุ่งมนั่ ในการทางาน หมายถึงมุง่ มนั่ ทางานอยา่ งรอบครอบจนประสบความสาเร็จ ๗. รักความเป็ นไทย หมายถึงมีความตระหนกั เห็นคุณค่าของความเป็ นไทย และมีเจตคติท่ีดี รักษาเอกลกั ษณ์ไทย ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย ๘. มีจิตสาธารณะ หมายถึงมีความสานึกและมุง่ มน่ั ทาประโยชน์ สร้างส่ิงท่ีดีงามใหก้ บั ตนเอง ครอบครัว และสงั คมอยรู่ ่วมกนั อยา่ งมีความสุข ค่านิยมหลกั ของคนไทย ๑๒ ประการตามนโยบายของ คสช. ๑. มีความรักชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ ๒. ซ่ือสตั ย์ เสียสระ อดทน มีอุดมการณ์ในสิ่งที่ดีงามเพ่ือส่วนรวม ๓. กตญั ญูต่อพอ่ แม่ ผปู้ กครอง ครูบาอาจารย์ ๔. ใฝ่ หาความรู้ หมนั่ ศึกษาเล่าเรียนท้งั ทางตรง และทางออ้ ม ๕. รักษาวฒั นธรรมประเพณีไทยอนั ดีงาม ๖. มีศีลธรรม รักษาสตั ย์ หวงั ดีต่อผอู้ ื่น เผอ่ื แผแ่ ละแบ่งปัน ๗. เขา้ ใจเรียนการเป็ นประชาธิปไตย อนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็นประมุขท่ีถูกตอ้ ง

๘. มีระเบียบวนิ ยั เคารพกฎหมาย ผนู้ อ้ ยรู้จกั การเคารพผใู้ หญ่ ๙. มีสติรู้ตวั รู้คิด รู้ทา รู้ปฏิบตั ิตามพระราชดารัสของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ๑๐. รู้จกั ดารงตนอยโู่ ดยใชห้ ลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดารัสของพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รู้จดั อดออมไวใ้ ชเ้ ม่ือยามจาเป็ น มีไวพ้ อกินพอใชถ้ า้ เหลือก็แจกจ่ายจาหน่าย และพร้อมที่จะขยายกิจการเม่ือมีความพร้อม เมื่อมีภูมิคุม้ กนั ที่ดี ๑๑. มีความเขม้ แขง็ ท้งั ร่างกายและจิตใจ ไมย่ อมแพต้ ่ออานาจฝ่ ายต่างๆหรือกิเลส มีความละอาย เกรงกลวั ตอ่ บาปตามหลกั ของศาสนา ๑๒. คานึงถึงผลประโยชน์ของส่วนรวมและประเทศชาติมากกวา่ ผลประโยชนข์ องตนเอง หลกั การ หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ มีหลกั การที่สาคญั ดงั น้ี ๑. เป็ นหลกั สูตรการศึกษาเพื่อความเป็ นเอกภาพของชาติ มีจุดหมายและมาตรฐานการเรียนรู้ เป็ นเป้าหมายสาหรับพัฒนาเด็กและเยาวชนให้มีความรู้ ทักษะ เจตคติ และคุณธรรมบนพ้ืนฐาน ของความเป็นไทยควบคูก่ บั ความเป็นสากล ๒. เป็ นหลกั สูตรการศึกษาเพื่อปวงชน ที่ประชาชนทุกคนมีโอกาสไดร้ ับการศึกษาอย่างเสมอภาค และมีคุณภาพ ๓. เป็ นหลกั สูตรการศึกษาที่สนองการกระจายอานาจ ให้สังคมมีส่วนร่วมในการจดั การศึกษา ใหส้ อดคลอ้ งกบั สภาพและความตอ้ งการของทอ้ งถิ่น ๔. เป็ นหลักสูตรการศึกษาที่มีโครงสร้างยืดหยุ่นท้ังด้านสาระการเรียนรู้ เวลาและการจดั การเรียนรู้ ๕. เป็นหลกั สูตรการศึกษาที่เนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคญั ๖. เป็ นหลกั สูตรการศึกษาสาหรับการศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอธั ยาศยั ครอบคลุม ทุกกลุ่มเป้าหมาย สามารถเทียบโอนผลการเรียนรู้ และประสบการณ์ จุดหมาย หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน มุ่งพฒั นาผูเ้ รียนให้เป็ นคนดี มีปัญญา มีความสุข มีศกั ยภาพในการศึกษาต่อ และประกอบอาชีพ จึงกาหนดเป็ นจุดหมายเพ่ือให้เกิดกบั ผูเ้ รียน เม่ือจบ การศึกษาข้นั พ้นื ฐาน ดงั น้ี ๑. มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมที่พึงประสงค์ เห็นคุณค่าของตนเอง มีวนิ ยั และปฏิบตั ิตน ตามหลกั ธรรมของพระพุทธศาสนา หรือศาสนาท่ีตนนบั ถือ ยดึ หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๒. มีความรู้ความสามารถในการสื่อสาร การคิดการแกป้ ัญหาการใชเ้ ทคโนโลยแี ละมีทกั ษะชีวติ ๓. มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตท่ีดี มีสุขนิสยั และรักการออกกาลงั กาย ๔. มีความรักชาติ มีจิตสานึกในความเป็ นพลเมืองไทยและพลโลก ยึดมนั่ ในวิถีชีวิตและ การปกครองตามระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็ นประมุข

๕. มีจิตสานึกในการอนุรักษว์ ฒั นธรรมและภูมิปัญญาไทย การอนุรักษแ์ ละพฒั นาสิ่งแวดลอ้ ม มีจิตสาธารณะท่ีมุง่ ทาประโยชน์และสร้างส่ิงท่ีดีงามในสงั คม และอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมอยา่ งมีความสุข

มาตรฐานการเรียนรู ้ การพฒั นาผูเ้ รียนให้เกิดความสมดุล ตอ้ งคานึงถึงหลักพฒั นาการทางสมองและพหุปัญญา หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ จึงกาหนดให้ผูเ้ รียนเรียนรู้ ๘ กลุ่มสาระ การเรียนรู้ ดงั น้ี ๑. กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ๒. กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ๓. กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๔. กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ๕. กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา ๖. กลุ่มสาระการเรียนรู้ทศั นศิลป์ ๗. กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพ ๘. กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ในแต่ละกลุ่มสาระการเรียนรู้ไดก้ าหนดมาตรฐานการเรียนรู้เป็ นเป้าหมายสาคญั ของการพฒั นา คุณภาพผูเ้ รียน มาตรฐานการเรียนรู้ระบุสิ่งที่ผูเ้ รียนพึงรู้ ปฏิบตั ิได้ มีคุณธรรมจริยธรรม และค่านิยม ที่พึงประสงค์เมื่อจบการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน นอกจากน้ันมาตรฐานการเรียนรู้ยงั เป็ นกลไกสาคัญ ในการขบั เคลื่อนพฒั นาการศึกษาท้งั ระบบ เพราะมาตรฐานการเรียนรู้จะสะทอ้ นให้ทราบว่าตอ้ งการ อะไร จะสอนอย่างไร และประเมินอย่างไร รวมท้ังเป็ นเครื่องมือในการตรวจสอบเพื่อการประกัน คุณภาพการศึกษาโดยใช้ระบบการประเมินคุณภาพภายในและการประเมินคุณภาพภายนอก ซ่ึงรวมถึง การทดสอบระดบั เขตพ้ืนที่การศึกษา และการทดสอบระดับชาติ ระบบการตรวจสอบเพ่ือประกัน คุณภาพดงั กล่าวเป็ นสิ่งสาคญั ที่ช่วยสะทอ้ นภาพการจดั การศึกษาวา่ สามารถพฒั นาผูเ้ รียนให้มีคุณภาพ ตามท่ีมาตรฐานการเรียนรู้กาหนดเพยี งใด ตวั ชี้วดั ตวั ช้ีวดั ระบุส่ิงท่ีนกั เรีียนพึงรู้และปฏิบตั ิได้ รวมท้งั คุณลกั ษณะของผูเ้ รียนในแต่ละระดบั ช้ัน ซ่ึ งสะท้อนถึ งมาตรฐานการเรี ยนรู้ มีความเฉพาะเจาะจงและมีความเป็ นรู ปธรรม น าไปใช้ ในการกาหนดเน้ือหา จดั ทาหน่วยการเรียนรู้ จดั การเรียนการสอน และเป็ นเกณฑ์สาคญั สาหรับการวดั ประเมินผลเพ่ือตรวจสอบคุณภาพผเู้ รียน ๑. ตวั ช้ีวดั ช้ันปี เป็ นเป้าหมายในการพฒั นาผูเ้ รียนแต่ละช้ันปี ในระดบั การศึกษาภาคบงั คบั (ระดบั ประถมศึกษาปี ที่ ๑ – ระดบั มธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓)

๒. ตวั ช้ีวดั ช่วงช้นั เป็นเป้าหมายในการพฒั นาผเู้ รียนในระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย (ระดบั มธั ยมศึกษาปี ที่ ๔- ๖) หลกั สูตรไดม้ ีการกาหนดรหสั กากบั มาตรฐานการเรียนรู้และตวั ช้ีวดั เพ่ือความเขา้ ใจและให้ ส่ือสารตรงกนั ดงั น้ี ว ๑.๑ ป. ๑/๒ ตวั ช้ีวดั ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๑ ขอ้ ท่ี ๒ สาระที่ ๑ มาตรฐานขอ้ ท่ี ๑ ป.๑/๒ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๑.๑ ว ต ๒.๒ ม.๔-๖/ ๓ ม.๔-๖/๓ ตวั ช้ีวดั ช้นั มธั ยมศึกษาตอนปลาย ขอ้ ท่ี ๓ ๒.๓ สาระที่ ๒ มาตรฐานขอ้ ที่ ๒ ต กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ

สาระการเรียนรู ้ สาระการเรียนรู้ ประกอบดว้ ย องค์ความรู้ ทกั ษะหรือกระบวนการเรี ยนรู้ และคุณลักษณะ อนั พึงประสงค์ ซ่ึงกาหนดใหผ้ ูเ้ รียนทุกคนในระดบั การศึกษาข้นั พ้ืนฐานจาเป็ นตอ้ งเรียนรู้ โดยแบ่งเป็ น ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ดงั น้ี ภาษาไทย : ความรู้ ทกั ษะ คณิตศาสตร์ : การนาความรู้ วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี : การนา และวฒั นธรรมการใชภ้ าษา ทกั ษะและกระบวนการทาง ความรู้และกระบวนการทาง เพือ่ การส่ือสาร ความชื่นชม คณิตศาสตร์ไปใชใ้ น วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ไปใชใ้ น การเห็นคุณค่าภมู ิปัญญาไทย การแกป้ ัญหา การดาเนินชีวติ การศึกษา คน้ ควา้ หาความรู้ และ และภูมใิ จในภาษาประจาชาติ และศึกษาต่อ การมีเหตมุ ีผล แกป้ ัญหาอยา่ งเป็ นระบบ การคิดอยา่ ง มีเจตคติท่ีดีตอ่ คณิตศาสตร์ เป็ นเหตเุ ป็นผล คิดวเิ คราะห์ คิด พฒั นาการคิดอยา่ งเป็ นระบบและ สร้างสรรค์ และจิตวทิ ยาศาสตร์ สร้างสรรค์ ภาษาต่างประเทศ : ความรู้ องค์ความรู้ ทกั ษะสาคญั สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม : ทกั ษะ เจตคติ และวฒั นธรรม และคณุ ลกั ษณะ การอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมไทยและสงั คมโลก การใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการ อยา่ งสนั ติสุข การเป็ นพลเมืองดี สื่อสาร การแสวงหาความรู้ ในหลกั สูตรแกนกลางการศึกษา และการประกอบอาชีพ ข้นั พืน้ ฐาน ๒๕๕๑ ศรัทธาในหลกั ธรรมของศาสนา การเห็นคุณคา่ ของทรัพยากรและ ส่ิงแวดลอ้ ม ความรักชาติ และภูมิใจใน ความเป็ นไทย การงานอาชีพ : ทศั นศิลป์ : ความรู้และทกั ษะ สุขศึกษาและพลศึกษา : ความรู้ ความรู้ ทกั ษะ และเจตคติ ในการคิดริเร่ิม จินตนาการ ทกั ษะและเจตคตใิ นการสร้างเสริม ในการทางาน การจดั การ สร้างสรรคง์ านศิลปะ สุขภาพพลานามยั ของตนเองและผอู้ ื่น การดารงชีวติ การประกอบอาชีพ สุนทรียภาพและการเห็นคุณค่า การป้องกนั และปฏิบตั ิต่อ ทางศิลปะ สิ่งต่าง ๆ ที่มีผลต่อสุขภาพอยา่ ง ถกู วธิ ีและทกั ษะในการดาเนินชีวติ

ความสัมพนั ธ์ของการพฒั นาคุณภาพผ้เู รียนตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษา ข้นัวสิ พัยทืน้ ัศฐนา์ น หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน ม่งุ พฒั นาผเู้ รียนทุกคน ซ่ึงเป็ นกาลงั ของชาติใหเ้ ป็ นมนุษยท์ ี่มีความ สมดุลท้งั ดา้ นร่างกาย ความรู้ คุณธรรม มีจิตสานึกในความเป็ นพลเมืองไทยและเป็ นพลโลก ยดึ มน่ั ในการปกครองตาม ระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็ นประมุข มีความรู้และทกั ษะพ้นื ฐาน รวมท้งั เจตคติ ท่ีจาเป็ นตอ่ การศึกษาต่อ การประกอบอาชีพและการศึกษาตลอดชีวติ โดยมงุ่ เนน้ ผเู้ รียนเป็ นสาคญั บนพ้นื ฐานความเชื่อวา่ ทุกคน สามารถเรียนรู้และพฒั นาตนเองไดเ้ ตม็ ตามศกั ยภาพ จุดหมาย ๑. มีคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยมท่ีพึงประสงค์ เห็นคุณคา่ ของตนเอง มีวนิ ยั และปฏิบตั ิตนตามหลกั ธรรมของ พระพทุ ธศาสนา หรือศาสนาที่ตนนบั ถือ ยดึ หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ๒. มีความรู้อนั เป็ นสากลและมีความสามารถในการส่ือสาร การคิด การแกป้ ัญหา การใชเ้ ทคโนโลยแี ละ มีทกั ษะชีวติ ๓. มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตท่ีดี มีสุขนิสยั และรักการออกกาลงั กาย ๔. มีความรักชาติ มีจิตสานึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก ยดึ มน่ั ในวถิ ีชีวติ และการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็ นประมขุ ๕. มีจิตสานึกในการอนุรักษว์ ฒั นธรรมและภูมิปัญญาไทย การอนุรักษแ์ ละพฒั นาส่ิงแวดลอ้ ม มีจิตสาธารณะที่ มงุ่ ทาประโยชนแ์ ละสร้างส่ิงท่ีดีงามในสงั คม และอยรู่ ่วมกนั ในสงั คมอยา่ งมีความสุข สมรรถนะสาคญั ของผู้เรียน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ๑. ความสามารถในการสื่อสาร ๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์ ๒. ความสามารถในการคิด ๒. ซ่ือสตั ยส์ ุจริต ๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๓. มีวนิ ยั ๔. ความสามารถในการใชท้ กั ษะชีวิต ๔. ใฝ่เรียนรู้ ๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ๕. อยอู่ ยา่ งพอเพียง ๖. มุง่ มน่ั ในการทางาน ๗. รักความเป็ นไทย ๘. มีจิตสาธารณะ มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วดั ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน ๑. ภาษาไทย ๒. คณิตศาสตร์ ๓. วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๑.กิจกรรมแนะแนว ๒.กิจกรรมนกั เรียน ๔. สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๕. สุขศึกษาและพลศึกษา ๖. ทศั นศิลป์ ๓. กิจกรรมเพ่ือสงั คมและ ๗. การงานอาชีพ ๘. ภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) สาธารณประโยชน์ คุณภาพของผู้เรียนระดับการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน

สาระการเรียนรู้และมาตรฐานการเรียนรู้ หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐานกาหนดมาตรฐานการเรียนรู้ใน ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ จานวน ๖๗ มาตรฐาน ดงั น้ี กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สาระท่ี ๑ การอ่าน มาตรฐาน ท ๑.๑ ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคิดเพือ่ นาไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ัญหา ในการดาเนินชีวติ และมีนิสยั รักการอ่าน สาระที่ ๒ การเขียน มาตรฐาน ท ๒.๑ ใชก้ ระบวนการเขียน เขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ยอ่ ความ และเขียนเรื่องราว ในรูปแบบตา่ งๆ เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ ควา้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ สาระท่ี ๓ การฟัง การดู และการพูด มาตรฐาน ท ๓.๑ สามารถเลือกฟังและดูอยา่ งมีวจิ ารณญาณ และพดู แสดงความรู้ ความคิด ความรู้สึกในโอกาสต่างๆ อยา่ งมีวจิ ารณญาณ และสร้างสรรค์ สาระที่ ๔ หลกั การใช้ภาษาไทย มาตรฐาน ท ๔.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของภาษาและหลกั ภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษา ภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ิของชาติ สาระท่ี ๕ วรรณคดแี ละวรรณกรรม มาตรฐาน ท ๕.๑ เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็น วจิ ารณ์วรรณคดี และวรรณกรรมไทยอยา่ ง เห็นคุณค่าและนามาประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง กลุ่มสาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ สาระท่ี ๑ จานวนและพชี คณติ มาตรฐาน ค ๑.๑ เขา้ ใจถึงความหลากหลายของการแสดงจานวนระบบจานวน การดาเนินงานของ จานวน ผลท่ีเกิดจากาการดาเนินการ สมบตั ิของดาเนินการ และนาไปใช้ มาตรฐาน ค ๑.๒ เขา้ ใจและวเิ คราะห์แบบรูป ความสัมพนั ธ์ ฟังกช์ นั ลาดบั และอนุกรม และ นาไปใช้ มาตรฐาน ค ๑.๓ ใชน้ ิพจน์ สมการ และอสมการ อธิบายความสมั พธั ์หรือช่วยแกป้ ัญหาท่ี กาหนดให้ สาระท่ี ๒ การวดั และเลขาคณติ

มาตรฐาน ค ๒.๑ เขา้ ใจพ้ืนฐานเก่ียวกบั การวดั วดั และคาดคะเนขนาดของส่ิงท่ีตอ้ งการวดั และ นาไปใช้ มาตรฐาน ค ๒.๒ เข้าใจและวิเคราะห์รูปเรขาคณิต สมบัติของรูปเรขาคณิต ความสัมพันธ์ ระหวา่ งรูปเรขาคณิต และทฤษฏีบททางเรขาคณิต และนาไปใช้ สาระที่ ๓ สถติ ิและความน่าจะเป็ น มาตรฐาน ค ๓.๑ เขา้ ใจกระบวนการทางสถิติ และใชค้ วามรู้ทางสถิติในการแกป้ ัญหา มาตรฐาน ค ๓.๒ เขา้ ใจหลกั การนบั เบ้ืองตน้ ความน่าจะเป็น และนาไปใช้ กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี สาระท่ี ๑ วทิ ยาศาสตร์ชีวภาพ มาตรฐาน ว ๑.๑ เขา้ ใจความหลากหลายของระบบนิเวศ ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสิ่งไมม่ ีชีวิต กบั สิ่งมีชีวติ และความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสิ่งมีชีวิตกบั สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ ในระบบนิเวศ การถ่ายทอด พลงั งาน การเปลี่ยนแปลงแทนที่ในระบบนิเวศ ความหมายของ ประชากร ปัญหาและ ผลกระทบท่ีมีต่อทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม แนวทางในการอนุรักษ์ ทรัพยากรธรรมชาติและการแก้ไขปัญหาส่ิ งแวดล้อม รวมท้ังนาความรู้ไปใช้ ประโยชน์ มาตรฐาน ว ๑.๒ เขา้ ใจสมบตั ิของส่ิงมีชีวติ หน่วยพ้นื ฐานของส่ิงมีชีวติ การลาเลียงสารเขา้ และออกจาก เซลล์ความสัมพนั ธ์ของโครงสร้าง และหนา้ ท่ีของระบบต่าง ๆ ของสัตวแ์ ละมนุษยท์ ี่ ทางานสัมพนั ธ์กนั ความสัมพนั ธ์ของโครงสร้าง และหนา้ ท่ี ของอวยั วะต่างๆ ของพืช ที่ทางานสัมพนั ธ์กนั รวมท้งั นาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐาน ว ๑.๓ เข้าใจกระบวนการและความสาคญั ของการถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม สาร พนั ธุกรรม การเปลี่ยนแปลงทางพนั ธุกรรมท่ีมีผลต่อสิ่งมีชีวิต ความหลากหลาย ทาง ชีวภาพและววิ ฒั นาการของส่ิงมีชีวติ รวมท้งั นาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ สาระที่ ๒ วทิ ยาศาสตร์กายภาพ มาตรฐาน ว ๒.๑ เขา้ ใจสมบตั ิของสสาร องคป์ ระกอบของสสาร ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสมบตั ิของ สสาร กับโครงสร้างและแรงยึดเหนี่ยวระหว่างอนุภาค หลักและธรรมชาติ ของการ เปลี่ยนแปลงสถานะของสสาร การเกิดสารละลาย และการเกิด ปฏิกิริยาเคมี มาตรฐาน ว ๒.๒ เขา้ ใจธรรมชาติของแรงในชีวิตประจาวนั ผลของแรงที่กระทาต่อวตั ถุ ลกั ษณะ การ เคล่ือนท่ีแบบต่าง ๆ ของวตั ถุรวมท้งั นาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ มาตรฐาน ว ๒.๓ เขา้ ใจความหมายของพลงั งาน การเปลี่ยนแปลงและการถ่ายโอนพลงั งาน ปฏิสมั พนั ธ์ ระหว่างสสารและพลังงาน พลังงานในชีวิตประจาวัน ธรรมชาติของ คล่ืน

ปรากฏการณ์ที่เก่ียวขอ้ งกบั เสียง แสง และคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้า รวมท้งั นาความรู้ไปใช้ ประโยชน์ สาระท่ี ๓ วทิ ยาศาสตร์โลก และอวกาศ มาตรฐาน ว ๓.๑ เขา้ ใจองคป์ ระกอบ ลกั ษณะ กระบวนการเกิด และวิวฒั นาการของเอกภพ กาแล็กซีดาว ฤกษแ์ ละระบบสุริยะ รวมท้งั ปฏิสัมพนั ธ์ภายในระบบสุริยะ ที่ส่งผลต่อสิ่งมีชีวติ และ การประยกุ ตใ์ ชเ้ ทคโนโลยอี วกาศ มาตรฐาน ว ๓.๒ เขา้ ใจองคป์ ระกอบและความสัมพนั ธ์ของระบบโลก กระบวนการเปลี่ยนแปลง ภายใน โลก และบนผิวโลก ธรณีพิบัติภัย กระบวนการเปล่ียนแปลงลมฟ้า อากาศและ ภูมิอากาศโลก รวมท้งั ผลตอ่ สิ่งมีชีวติ และสิ่งแวดลอ้ ม สาระที่ ๔ เทคโนโลยี มาตรฐาน ว ๔.๑ เขา้ ใจแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยเี พ่ือการดารงชีวติ ในสังคมท่ีมีการเปลี่ยนแปลง อยา่ ง รวดเร็ว ใชค้ วามรู้และทกั ษะทางดา้ นวทิ ยาศาสตร์คณิตศาสตร์และ ศาสตร์อื่น ๆ เพื่อ แก้ปัญหาหรือพฒั นางานอย่างมีความคิดสร้างสรรค์ ด้วยกระบวนการออกแบบเชิง วิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอยา่ งเหมาะสม โดยคานึงถึงผลกระทบต่อชีวิต สังคม และสิ่งแวดลอ้ ม มาตรฐาน ว ๔.๒ เขา้ ใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแกป้ ัญหาที่พบในชีวิตจริงอยา่ งเป็ น ข้นั ตอน และเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารในการเรียนรู้ การทางาน และ การแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ รู้เทา่ ทนั และมีจริยธรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม สาระที่ ๑ ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม มาตรฐาน ส ๑.๑ รู้ และเขา้ ใจประวตั ิ ความสาคญั ศาสดา หลกั ธรรมของพระพุทธศาสนาหรือ ศาสนาท่ีตนนับถือและศาสนาอ่ืน มีศรัทธาท่ีถูกต้อง ยึดมน่ั และปฏิบตั ิตาม หลกั ธรรม เพื่ออยรู่ ่วมกนั อยา่ งสนั ติสุข มาตรฐาน ส ๑.๒ เข้าใจ ตระหนักและปฏิ บัติตน เป็ น ศาส นิ กชนท่ี ดี และธารงรักษา พระพุทธศาสนาหรือศาสนาท่ีตนนบั ถือ สาระท่ี ๒ หน้าทพ่ี ลเมือง วฒั นธรรม และการดาเนินชีวติ ในสังคม มาตรฐาน ส ๒.๑ เขา้ ใจและปฏิบตั ิตนตามหนา้ ท่ีของการเป็นพลเมืองดี มีคา่ นิยมที่ดีงาม และ ธารงรักษาประเพณีและวฒั นธรรมไทย ดารงชีวติ อยูร่ ่วมกนั ในสังคมไทย และ สังคมโลกอยา่ งสนั ติสุข

มาตรฐาน ส ๒.๒ เขา้ ใจระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบนั ยดึ มนั่ ศรัทธา และธารง รักษาไวซ้ ่ึงการปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รงเป็ น ประมุข สาระท่ี ๓ เศรษฐศาสตร์ มาตรฐาน ส ๓.๑ เขา้ ใจและสามารถบริหารจดั การทรัพยากรในการผลิตและการบริโภค การใช้ ทรัพยากรที่มีอยจู่ ากดั ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพและคุม้ ค่า รวมท้งั เขา้ ใจหลกั การ ของเศรษฐกิจพอเพียง เพ่ือการดารงชีวติ อยา่ งมีดุลยภาพ มาตรฐาน ส ๓.๒ เขา้ ใจระบบ และสถาบนั ทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ความสัมพนั ธ์ทางเศรษฐกิจ และ ความจาเป็นของการร่วมมือกนั ทางเศรษฐกิจในสังคมโลก สาระท่ี ๔ ประวตั ิศาสตร์ มาตรฐาน ส ๔.๑ เขา้ ใจความหมาย ความสาคญั ของเวลาและยุคสมยั ทางประวตั ิศาสตร์ สามารถ ใชว้ ธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์มาวเิ คราะห์เหตุการณ์ต่างๆ อยา่ งเป็นระบบ มาตรฐาน ส ๔.๒ เขา้ ใจพฒั นาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบนั ในดา้ นความสัมพนั ธ์และ การเปล่ียนแปลงของเหตุการณ์อย่างต่อเนื่อง ตระหนักถึงความสาคัญและ สามารถวเิ คราะห์ผลกระทบท่ีเกิดข้ึน มาตรฐาน ส ๔.๓ เข้าใจความเป็ นมาของชาติไทย วัฒนธรรม ภูมิปั ญญาไทย มีความรัก ความภูมิใจและธารงความเป็ นไทย สาระท่ี ๕ ภูมศิ าสตร์ มาตรฐาน ส ๕.๑ เขา้ ใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพนั ธ์ของสรรพส่ิงซ่ึงมีผล ต่อ กนั และกนั ในระบบของธรรมชาติ ใชแ้ ผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ ในการ คน้ หา วเิ คราะห์ สรุป และใชข้ อ้ มูลภูมิสารสนเทศอยา่ งมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ส ๕.๒ เข้าใจปฏิสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับสภาพแวดล้อมทางกายภาพที่ก่อให้เกิด การสร้างสรรค์วฒั นธรรม มีจิตสานึก และมีส่วนร่วมในการอนุรักษท์ รัพยากร และส่ิงแวดลอ้ ม เพอื่ การพฒั นาที่ยง่ั ยนื จุดเน้นและขอบข่ายรายวชิ าเพม่ิ เติมหน้าทพี่ ลเมือง จุดเน้นที่ ๑ ความเป็ นไทย ๑. ลกั ษณะท่ีดีของคนไทย (มารยาทไทย กตญั ญูกตเวที เอ้ือเฟ้ื อเผอ่ื แผ่ เสียสละ) ๒. ศิลปวฒั นธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีไทย (การแต่งกาย ภาษา ภูมิปัญญา ประเพณี)

จุดเน้นที่ ๒ รักชาติ ยดึ ม่ันในศาสนาและเทดิ ทูนสถาบันพระมหากษตั ริย์ การเห็นคุณค่าและการแสดงออกถึงความรักชาติ ยึดม่ันในศาสนาและเทิดทูนสถาบัน พระมหากษตั ริย์ จุดเน้นที่ ๓ ความเป็ นพลเมืองดใี นระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษัตริย์ทรงเป็ นประมุข ๑. การดาเนินชีวติ ตามวถิ ีประชาธิปไตย ๒. การมีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษตั ริยท์ รง เป็ นประมุข จุดเน้นที่ ๔ ความปรองดองสมานฉันท์ ๑. การอยรู่ ่วมกนั ในสังคมแห่งความหลากหลาย ๒. การจดั การความขดั แยง้ และสนั ติวธิ ี จุดเน้นที่ ๕ ความมีวนิ ัยในตนเอง ซื่อสัตย์ สุจริตขยนั หมน่ั เพียร อดทน ใฝ่ หาความรู้ ต้งั ใจปฏิบตั ิหน้าที่ ยอมรับผลที่เกิดจากการ กระทาของตนเอง จุดเน้นและขอบข่ายรายวชิ าเพมิ่ เตมิ ต้านทุจริต กล่มุ สาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา สาระที่ ๑ การเจริญเติบโตและพฒั นาการของมนุษย์ มาตรฐาน พ ๑.๑ เขา้ ใจธรรมชาติของการเจริญเติบโตและพฒั นาการของมนุษย์ สาระที่ ๒ ชีวติ และครอบครัว มาตรฐาน พ ๒.๑ เขา้ ใจและเห็นคุณคา่ ตนเอง ครอบครัว เพศศึกษา และมีทกั ษะในการดาเนินชีวติ สาระท่ี ๓ การเคล่ือนไหว การออกกาลงั กาย การเล่นเกม กฬี าไทย และกฬี าสากล มาตรฐาน พ ๓.๑ เขา้ ใจ มีทกั ษะในการเคล่ือนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม และกีฬา มาตรฐาน พ ๓.๒ รักการออกกาลงั กาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบตั ิเป็ นประจาอย่าง สม่าเสมอ มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้ าใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณใน การแขง่ ขนั และชื่นชมในสุนทรียภาพของการกีฬา สาระที่ ๔ การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการป้องกนั โรค มาตรฐาน พ ๔.๑ เห็นคุณค่าและมีทกั ษะในการสร้างเสริมสุขภาพ การดารงสุขภาพ การป้องกนั โรคและการสร้างเสริมสมรรถภาพเพื่อสุขภาพ สาระที่ ๕ ความปลอดภัยในชีวติ มาตรฐาน พ ๕.๑ ป้องกนั และหลีกเลี่ยงปัจจยั เสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ อุบตั ิเหตุ การใช้ ยาสารเสพติด และความรุนแรง กลุ่มสาระการเรียนรู้ทัศนศิลป์

สาระที่ ๑ ทศั นศิลป์ สร้างสรรค์งานทศั นศิลป์ ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์ วิเคราะห์ มาตรฐาน ศ ๑.๑ วพิ ากษ์ วจิ ารณ์คุณค่างานทศั นศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องานศิลปะ อยา่ งอิสระ ชื่นชม และประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ ประจาวนั มาตรฐาน ศ ๑.๒ เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ระหวา่ งทศั นศิลป์ ประวตั ิศาสตร์ และวฒั นธรรม เห็นคุณค่า สาระท่ี ๒ ดนตรี งานทศั นศิลป์ ที่เป็นมรดกทางวฒั นธรรมภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน ภูมิปัญญาไทยสากล มาตรฐาน ศ ๒.๑ เขา้ ใจและแสดงออกทางดนตรีอยา่ งสร้างสรรค์ วเิ คราะห์ วพิ ากษว์ จิ ารณ์คุณค่า มาตรฐาน ศ ๒.๒ ดนตรี ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่อดนตรีอยา่ งอิสระ ชื่นชม และประยุกต์ สาระที่ ๓ นาฏศิลป์ ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั มาตรฐาน ศ ๓.๑ เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ระหว่างดนตรี ประวตั ิศาสตร์ และวฒั นธรรม เห็นคุณค่า ของดนตรีท่ีเป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน ภูมิปัญญาไทย สากล มาตรฐาน ศ ๓.๒ เขา้ ใจ และแสดงออกทางนาฏศิลป์ อยา่ งสร้างสรรค์ วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์ คุณค่านาฏศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดอยา่ งอิสระ ชื่นชม และประยกุ ตใ์ ช้ ในชีวติ ประจาวนั เขา้ ใจความสมั พนั ธ์ระหวา่ งนาฏศิลป์ ประวตั ิศาสตร์และวฒั นธรรม เห็นคุณคา่ ของนาฏศิลป์ ท่ีเป็นมรดกทางวฒั นธรรม ภูมิปัญญาทอ้ งถ่ิน ภมู ิปัญญาไทย สากล กล่มุ สารการเรียนรู้การงานอาชีพ สาระท่ี ๑ การดารงชีวติ และครอบครัว มาตรฐาน ง ๑.๑ เขา้ ใจการทางาน มีความคิดสร้างสรรค์ มีทกั ษะกระบวนการทางาน ทกั ษะ การจดั การ ทกั ษะกระบวนการแกป้ ัญหา ทกั ษะการทางานร่วมกนั และทกั ษะ การแสวงหาความรู้ มีคุณธรรม และลกั ษณะนิสัยในการทางาน มีจิตสานึก ในการใชพ้ ลงั งาน ทรัพยากร และส่ิงแวดลอ้ ม เพอ่ื การดารงชีวติ และครอบครัว สาระท่ี ๒ การอาชีพ มาตรฐาน ง ๒.๑ เขา้ ใจมีทกั ษะท่ีจาเป็ น มีประสบการณ์ เห็นแนวทางในการประกอบอาชีพ ใช้ เทคโนโลยเี พื่อพฒั นาอาชีพ มีคุณธรรม และมีเจคคติท่ีดีตอ่ อาชีพ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ)

สาระท่ี ๑ ภาษาเพ่ือการสื่อสาร มาตรฐาน ต ๑.๑ เขา้ ใจและตีความเรอ่ื งท่ีฟังและอา่ นจากส่อื ประเภทตา่ งๆ และแสดง ความคิดเห็นอยา่ งมเี หตผุ ล มาตรฐาน ต ๑.๒ มีทกั ษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนขอ้ มูลขา่ วสาร แสดงความรู้สึก และความคิดเห็นอยา่ งมีประสิทธิภาพ มาตรฐาน ต ๑.๓ นาเสนอขอ้ มูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูดและการเขียน สาระท่ี ๒ ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต ๒.๑ เขา้ ใจความสมั พนั ธ์ระหวา่ งภาษากบั วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา และนาไปใช้ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ มาตรฐาน ต ๒.๒ เขา้ ใจความเหมือนและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรมของเจา้ ของ ภาษากบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนามาใชอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม สาระที่ ๓ ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น มาตรฐาน ต ๓.๑ ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กบั กลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน และเป็ น พ้นื ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิ ดโลกทศั นข์ องตน สาระท่ี ๔ ภาษากบั ความสัมพนั ธ์กบั ชุมชนและโลก มาตรฐาน ต ๔.๑ ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ตา่ งๆ ท้งั ในสถานศึกษา ชุมชน และสงั คม มาตรฐาน ต ๔.๒ ใชภ้ าษาต่างประเทศเป็ นเคร่ืองมือพ้ืนฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และการแลกเปล่ียนเรียนรู้กบั สงั คมโลก กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน มุ่งใหผ้ เู้ รียนไดพ้ ฒั นาตนเองตามศกั ยภาพ พฒั นาอยา่ งรอบดา้ นเพื่อความ เป็นมนุษยท์ ี่สมบูรณ์ ท้งั ร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ และสงั คม เสริมสร้างใหเ้ ป็นผูม้ ีศีลธรรม จริยธรรม มี ระเบียบวนิ ยั ปลูกฝังและสร้างจิตสานึกของการทาประโยชน์เพ่ือสังคม สามารถจดั การตนเองได้ และอยู่ ร่วมกบั ผอู้ ่ืนอยา่ งมีความสุข กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน แบง่ เป็น ๓ ลกั ษณะ ดงั น้ี

๑. กจิ กรรมแนะแนว เป็ นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาผูเ้ รียนให้รู้จักตนเอง รู้รักษ์สิ่งแวดล้อม สามารถคิด ตดั สินใจ คิดแก้ปัญหา กาหนดเป้าหมาย วางแผนชีวิตท้งั ดา้ นการเรียน และอาชีพ สามารถปรับตนได้ อย่างเหมาะสม นอกจากน้ียงั ช่วยให้ครูรู้จกั และเข้าใจผูเ้ รียน ท้ังยงั เป็ นกิจกรรมท่ีช่วยเหลือและให้ คาปรึกษาแก่ผปู้ กครองในการมีส่วนร่วมพฒั นาผเู้ รียน ๒. กจิ กรรมนักเรียน เป็ นกิจกรรมที่มุ่งพัฒนาความมีระเบียบวินัย ความเป็ นผูน้ าผูต้ ามท่ีดี ความรับผิดชอบ การทางานร่วมกนั การรู้จกั แกป้ ัญหา การตดั สินใจที่เหมาะสม ความมีเหตุผล การช่วยเหลือแบ่งปันกนั เอ้ืออาทร และสมานฉนั ท์ โดยจดั ให้สอดคลอ้ งกบั ความสามารถ ความถนดั และความสนใจของผูเ้ รียน ให้ไดป้ ฏิบตั ิดว้ ยตนเองในทุกข้นั ตอน ไดแ้ ก่ การศึกษาวิเคราะห์วางแผน ปฏิบตั ิตามแผน ประเมินและ ปรับปรุงการทางาน เนน้ การทางานร่วมกนั เป็ นกลุ่ม ตามความเหมาะสมและสอดคลอ้ งกบั วุฒิภาวะของ ผเู้ รียน บริบทของสถานศึกษาและทอ้ งถ่ิน กิจกรรมนกั เรียนประกอบดว้ ย ๒.๑ กิจกรรมลูกเสือ สารอง สามญั และลูกเสือสามญั รุ่นใหญ่ เนตรนารี ๒.๒ กิจกรรมชุมนุม ชมรม ๓. กจิ กรรมเพ่ือสังคมและสาธารณประโยชน์ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมใหผ้ เู้ รียนบาเพญ็ ตนใหเ้ ป็ นประโยชนต์ ่อสังคม ชุมชน และทอ้ งถิ่น ตามความสนใจในลกั ษณะอาสาสมคั ร เพ่อื แสดงถึงความรับผดิ ชอบ ความดีงาม ความเสียสละตอ่ สังคม มีจิตสาธารณะ เช่น กิจกรรมอาสาพฒั นาต่าง ๆ กิจกรรมสร้างสรรคส์ งั คม ระดบั การศึกษา หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน จดั ระดบั การศึกษาเป็น ๓ ระดบั ดงั น้ี ๑. ระดับประถมศึกษา (ช้นั ประถมศึกษาปี ที่ ๑ – ๖) การศึกษาระดบั น้ีเป็นช่วงแรกของการศึกษา ภาคบังคับ มุ่งเน้นทักษะพ้ืนฐานด้านการอ่าน การเขียน การคิดคานวณ ทักษะการคิดพ้ืนฐาน การติดต่อสื่อสาร กระบวนการเรียนรู้ทางสังคม และพ้ืนฐานความเป็ นมนุษย์ การพฒั นาคุณภาพชีวิต อย่างสมบูรณ์และสมดุลท้ังในด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ สังคม และวฒั นธรรม โดยเน้น จดั การเรียนรู้แบบบูรณาการ ๒. ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น (ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ ๑ – ๓) เป็ นช่วงสุดทา้ ยของการศึกษาภาค บงั คบั มุ่งเนน้ ให้ผเู้ รียนไดส้ ารวจความถนดั และความสนใจของตนเอง ส่งเสริมการพฒั นาบุคลิกภาพส่วน ตน มีทกั ษะในการคิดวิจารณญาณ คิดสร้างสรรค์ และคิดแก้ปัญหา มีทกั ษะในการดาเนินชีวิต มีทกั ษะ การใชเ้ ทคโนโลยเี พ่ือเป็ นเครื่องมือในการเรียนรู้ มีความรับผดิ ชอบต่อสงั คม มีความสมดุลท้งั ดา้ นความรู้ ความคิด ความดีงาม และมีความภูมิใจในความเป็ นไทย ตลอดจนใชเ้ ป็ นพ้ืนฐานในการประกอบอาชีพ หรือการศึกษาต่อ

การจัดเวลาเรียน หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ไดก้ าหนดกรอบโครงสร้างเวลาเรียน ข้นั ต่าสาหรับกลุ่มสาระการเรียนรู้ ๘ กลุ่มสาระการเรียนรู้ และกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน ซ่ึงสถานศึกษา สามารถเพิ่มเติมไดต้ ามความพร้อมและจุดเนน้ โดยสามารถปรับให้เหมาะสมตามบริบทของสถานศึกษา และสภาพของผเู้ รียน ดงั น้ี ๑. ระดบั ช้นั ประถมศึกษา (ช้นั ประถมศึกษาปี ท่ี ๑ – ๖) ใหจ้ ดั เวลาเรียนเป็นรายปี โดยมีเวลาเรียน วนั ละ ไมเ่ กิน ๖ ชว่ั โมง ๒. ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาตอนตน้ (ช้นั มธั ยมศึกษาปี ที่ ๑ – ๓) ใหจ้ ดั เวลาเรียนเป็นรายภาค มีเวลาเรียน วนั ละไม่เกิน ๖ ชั่วโมง คิดน้าหนักของรายวิชาที่เรียนเป็ นหน่วยกิต ใช้เกณฑ์ ๔๐ ช่ัวโมงต่อภาคเรียน มีค่าน้าหนกั วชิ า เท่ากบั ๑ หน่วยกิต

โครงสร้างเวลาเรียน หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน กาหนดกรอบโครงสร้างเวลาเรียน ดงั น้ี เวลาเรียน กล่มุ สาระการเรียนรู้/ กจิ กรรม ระดบั ประถมศึกษา ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น  กล่มุ สาระการเรียนรู้ ป.๑ ป.๒ ป.๓ ป.๔ ป.๕ ป.๖ ม.๑ ม.๒ ม.๓ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๒๐๐ ๒๐๐ ๒๐๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๖๐ ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.)  ประวตั ิศาสตร์ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๖๐ (๔ นก.) ๑๖๐ (๔ นก.) ๑๖๐ (๔ นก.)  ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม (๔๐) (๔๐) (๔๐) (๔๐) (๔๐) (๔๐) ๔๐(๑ นก.) ๔๐(๑ นก.) ๔๐(๑ นก.)  หนา้ ที่พลเมือง วฒั นธรรมและ (๘๐) (๘๐) (๘๐) (๘๐) (๘๐) (๘๐) ๑๒๐(๓ นก.) ๑๒๐(๓ นก.) ๑๒๐(๓ นก.) การดาเนินชีวิตในสงั คม  เศรษฐศาสตร์ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ (๒ นก.) ๘๐ (๒ นก.) ๘๐ (๒ นก.)  ภมู ิศาสตร์ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ (๒ นก.) ๘๐ (๒ นก.) ๘๐ (๒ นก.) สุขศึกษาและพลศึกษา ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๔๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.) ทศั นศิลป์ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๘๐ ๘๐ ๘๐ ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) ๑๒๐ (๓ นก.) การงานอาชีพ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๔๐ ๘๘๐ (๒๒ นก.) ๘๘๐ (๒๒ นก.) ๘๘๐ (๒๒ นก.) ภาษาตา่ งประเทศ - - - - - - ๔๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.) รวมเวลาเรียน (พ้นื ฐาน) - - - - - - ๔๐ (๑ นก.) ๑๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.)  รายวชิ า / กจิ กรรมเพม่ิ เตมิ - - - - - - ๔๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.) - - - - - - ๔๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.) ภาษาไทย - - - - - - ๔๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.) ๔๐ (๑ นก.) คณิตศาสตร์ - - - - - - ๒๐๐ (๕ นก.) ๒๐๐ (๕ นก.) ๒๐๐ (๕ นก.) เทคโนโลยี คอมพวิ เตอร์ ภาษาต่างประเทศ (ภาษาองั กฤษ) ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ หนา้ ที่พลเมือง รวมเวลาเรียน(เพมิ่ เติม) ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐ ๔๐  กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๓๐ ๒๕ ๒๕ ๒๕ กิจกรรมแนะแนว กิจกรรมนกั เรียน ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๐ ๑๕ ๑๕ ๑๕  ลูกเสือ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐  ชุมนุม กิจกรรมเพือ่ สงั คมและ ๑,๐๐๐ ชว่ั โมง/ปี ๑,๒๐๐ ชว่ั โมง/ปี (๘๑ นก.) สาธารณประโยชน์ รวมเวลากิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน รวมเวลาเรียนท้งั หมด

มาตรฐานการเรียนรูแ้ ละตวั ช้วี ดั

กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย ทาไมต้องเรียนภาษาไทย ภาษาไทยเป็ นเอกลกั ษณ์ของชาติเป็ นสมบตั ิทางวฒั นธรรมอนั ก่อให้เกิดความเป็ นเอกภาพและ เสริมสร้างบุคลิกภาพของคนในชาติให้มีความเป็ นไทย เป็ นเคร่ืองมือในการติดต่อสื่อสารเพื่อสร้าง ความเขา้ ใจและความสัมพนั ธ์ที่ดีต่อกนั ทาให้สามารถประกอบกิจธุระ การงาน และดารงชีวิตร่วมกนั ในสังคมประชาธิปไตยได้อย่างสันติสุข และเป็ นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ ประสบการณ์จาก แหล่งขอ้ มูลสารสนเทศต่างๆ เพ่ือพฒั นาความรู้ พฒั นากระบวนการคิดวิเคราะห์ วจิ ารณ์ และสร้างสรรค์ ให้ทนั ต่อการเปล่ียนแปลงทางสังคม และความกา้ วหนา้ ทางวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี ตลอดจนนาไปใช้ ในการพฒั นาอาชีพให้มีความมนั่ คงทางเศรษฐกิจ นอกจากน้ียงั เป็ นสื่อแสดงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษ ดา้ นวฒั นธรรม ประเพณี และสุนทรียภาพ เป็ นสมบตั ิล้าค่าควรแก่การเรียนรู้ อนุรักษ์ และสืบสาน ใหค้ งอยคู่ ูช่ าติไทยตลอดไป เรียนรู้อะไรในภาษาไทย ภาษาไทยเป็ นทกั ษะที่ตอ้ งฝึ กฝนจนเกิดความชานาญในการใชภ้ าษาเพื่อการส่ือสาร การเรียนรู้ อยา่ งมีประสิทธิภาพ และเพื่อนาไปใชใ้ นชีวติ จริง  การอ่าน การอ่านออกเสียงคา ประโยค การอ่านบทร้อยแก้ว คาประพนั ธ์ชนิดต่างๆ การอ่านในใจเพื่อสร้างความเขา้ ใจ และการคิดวิเคราะห์ สังเคราะห์ความรู้จากส่ิงที่อ่าน เพื่อนาไป ปรับใชใ้ นชีวติ ประจาวนั  การเขียน การเขียนสะกดตามอกั ขรวิธี การเขียนสื่อสาร โดยใช้ถ้อยคาและรูปแบบต่างๆ ของการเขียน ซ่ึงรวมถึงการเขียนเรียงความ ย่อความ รายงานชนิดต่างๆ การเขียนตามจินตนาการ วเิ คราะห์วจิ ารณ์ และเขียนเชิงสร้างสรรค์  การฟัง การดู และการพูด การฟังและดูอย่างมีวิจารณญาณ การพูดแสดงความคิดเห็น ความรู้สึก พูดลาดบั เรื่องราวต่างๆ อยา่ งเป็ นเหตุเป็ นผล การพูดในโอกาสต่างๆ ท้งั เป็ นทางการและ ไมเ่ ป็นทางการ และการพดู เพอื่ โนม้ นา้ วใจ  หลักการใช้ ภาษาไทย ธรรมชาติและกฎเกณฑ์ของภาษาไทย การใช้ภาษาให้ถูกต้อง เหมาะสมกบั โอกาสและบุคคล การแต่งบทประพนั ธ์ประเภทต่างๆ และอิทธิพลของภาษาต่างประเทศใน ภาษาไทย  วรรณคดีและวรรณกรรม วิเคราะห์วรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อศึกษาขอ้ มูล แนวความคิด คุณค่าของงานประพนั ธ์ และความเพลิดเพลิน การเรียนรู้และทาความเขา้ ใจบทเห่ บทร้องเล่นของเด็ก เพลงพ้ืนบา้ นที่เป็ นภูมิปัญญาที่มีคุณค่าของไทย ซ่ึงไดถ้ ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด ค่านิยม ขนบธรรมเนียม ประเพณี เรื่องราวของสังคมในอดีต และความงดงามของภาษา เพ่ือให้เกิดความซาบซ้ึงและภูมิใจ ในบรรพบุรุษที่ไดส้ ่งั สมสืบทอดมาจนถึงปัจจุบนั  คณุ ภาพผ้เู รียน

จบช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๓  อ่านออกเสียงคา คาคล้องจอง ข้อความ เรื่องส้ันๆ และบทร้อยกรองง่ายๆ ได้ถูกตอ้ ง คล่องแคล่ว เข้าใจความหมายของคาและข้อความที่อ่าน ต้ังคาถามเชิงเหตุผล ลาดับเหตุการณ์ คาดคะเนเหตุการณ์ สรุปความรู้ขอ้ คิดจากเรื่องท่ีอ่าน ปฏิบตั ิตามคาสั่ง คาอธิบายจากเร่ืองที่อ่านได้ เขา้ ใจความหมายของข้อมูลจากแผนภาพ แผนท่ี และแผนภูมิ อ่านหนังสืออย่างสม่าเสมอ และ มีมารยาทในการอ่าน  มีทกั ษะในการคดั ลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทัด เขียนบรรยาย บนั ทึกประจาวัน เขียน จดหมายลาครู เขียนเรื่องเก่ียวกบั ประสบการณ์ เขียนเรื่องตามจินตนาการและมีมารยาทในการเขียน  เล่ารายละเอียดและบอกสาระสาคญั ต้งั คาถาม ตอบคาถาม รวมท้งั พูดแสดงความคิด ความรู้สึกเกี่ยวกบั เร่ืองท่ีฟังและดู พูดสื่อสารเล่าประสบการณ์และพูดแนะนา หรือพูดเชิญชวนให้ผอู้ ื่น ปฏิบตั ิตาม และมีมารยาทในการฟัง ดู และพูด  สะกดคาและเข้าใจความหมายของคา ความแตกต่างของคาและพยางค์ หน้าที่ของคา ในประโยค มีทกั ษะการใช้พจนานุกรมในการคน้ หาความหมายของคา แต่งประโยคง่ายๆ แต่งคาคลอ้ งจอง แต่งคาขวญั และเลือกใชภ้ าษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่นไดเ้ หมาะสมกบั กาลเทศะ  เขา้ ใจและสามารถสรุปขอ้ คิดที่ได้จากการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรมเพื่อนาไปใช้ใน ชีวิตประจาวนั แสดงความคิดเห็นจากวรรณคดีที่อ่าน รู้จักเพลงพ้ืนบ้าน เพลงกล่อมเด็ก ซ่ึงเป็ น วฒั นธรรมของท้องถิ่น ร้องบทร้องเล่นสาหรับเด็กในท้องถ่ิน ท่องจาบทอาขยานและบทร้อยกรอง ที่มีคุณค่าตามความสนใจได้ จบช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๖  อา่ นออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรองเป็ นทานองเสนาะไดถ้ ูกตอ้ ง อธิบายความหมาย โดยตรงและความหมายโดยนัยของคา ประโยค ข้อความ สานวนโวหาร จากเรื่องที่อ่าน เขา้ ใจ คาแนะนา คาอธิบายในคู่มือต่างๆ แยกแยะขอ้ คิดเห็นและขอ้ เท็จจริง รวมท้งั จบั ใจความสาคญั ของ เรื่ องที่อ่านและนาความรู้ความคิดจากเร่ื องที่อ่านไปตัดสิ นใจแก้ปั ญหาในการดาเนินชีวิตได้ มีมารยาทและมีนิสยั รักการอา่ น และเห็นคุณคา่ ส่ิงที่อ่าน  มีทกั ษะในการคดั ลายมือตวั บรรจงเต็มบรรทดั และคร่ึงบรรทดั เขียนสะกดคา แต่งประโยค และเขียนขอ้ ความ ตลอดจนเขียนส่ือสารโดยใช้ถอ้ ยคาชดั เจนเหมาะสม ใช้แผนภาพ โครงเร่ืองและ แผนภาพความคิด เพ่ือพฒั นางานเขียน เขียนเรียงความ ยอ่ ความ จดหมายส่วนตวั กรอกแบบรายการ ต่างๆ เขียนแสดงความรู้สึกและความคิดเห็น เขียนเรื่องตามจินตนาการอยา่ งสร้างสรรค์ และมีมารยาท ในการเขียน  พูดแสดงความรู้ ความคิดเกี่ยวกบั เรื่องที่ฟังและดู เล่าเรื่องย่อหรือสรุปจากเร่ืองที่ฟังและดู ต้งั คาถาม ตอบคาถามจากเรื่องที่ฟังและดู รวมท้งั ประเมินความน่าเชื่อถือจากการฟังและดูโฆษณา อยา่ งมีเหตุผล พูดตามลาดบั ข้นั ตอนเร่ืองต่างๆ อยา่ งชดั เจน พูดรายงานหรือประเด็นคน้ ควา้ จากการฟัง การดู การสนทนา และพูดโนม้ นา้ วไดอ้ ยา่ งมีเหตุผล รวมท้งั มีมารยาทในการดูและพดู

 สะกดคาและเขา้ ใจความหมายของคา สานวน คาพงั เพยและสุภาษิต รู้และเขา้ ใจ ชนิดและ หน้าที่ของคาในประโยค ชนิดของประโยค และคาภาษาต่างประเทศในภาษาไทย ใช้คาราชาศพั ท์และคา สุภาพไดอ้ ยา่ งเหมาะสม แต่งประโยค แต่งบทร้อยกรองประเภทกลอนสี่ กลอนสุภาพ และกาพยย์ านี ๑๑  เขา้ ใจและเห็นคุณคา่ วรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอา่ นเล่านิทานพ้ืนบา้ น ร้องเพลงพ้ืนบา้ นของ ทอ้ งถ่ิน นาขอ้ คิดเห็นจากเร่ืองที่อ่านไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวติ จริง และทอ่ งจาบทอาขยานตามท่ีกาหนดได้ จบช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓  อ่านออกเสียงบทร้อยแกว้ และบทร้อยกรองเป็ นทานองเสนาะไดถ้ ูกตอ้ ง เขา้ ใจความหมาย โดยตรงและความหมายโดยนยั จบั ใจความสาคญั และรายละเอียดของสิ่งที่อ่าน แสดงความคิดเห็นและ ขอ้ โตแ้ ยง้ เก่ียวกบั เรื่องที่อ่าน และเขียนกรอบแนวคิด ผงั ความคิด ยอ่ ความ เขียนรายงานจากสิ่งท่ีอ่านได้ วเิ คราะห์ วจิ ารณ์ อยา่ งมีเหตุผล ลาดบั ความอยา่ งมีข้นั ตอนและความเป็ นไปไดข้ องเรื่องท่ีอา่ น รวมท้งั ประเมินความถูกตอ้ งของขอ้ มูลท่ีใชส้ นบั สนุนจากเร่ืองท่ีอ่าน  เขียนสื่อสารดว้ ยลายมือท่ีอ่านง่ายชดั เจน ใชถ้ อ้ ยคาไดถ้ ูกตอ้ งเหมาะสมตามระดบั ภาษาเขียน คาขวญั คาคม คาอวยพรในโอกาสต่างๆโฆษณาคติพจน์ สุนทรพจน์ ชีวประวตั ิ อตั ชีวประวตั ิและ ประสบการณ์ต่างๆ เขียนย่อความ จดหมายกิจธุระ แบบกรอกสมคั รงาน เขียนวิเคราะห์ วิจารณ์ และ แสดงความรู้ความคิดหรือโต้แยง้ อย่างมีเหตุผล ตลอดจนเขียนรายงานการศึกษาค้นควา้ และเขียน โครงงาน  พูดแสดงความคิดเห็น วิเคราะห์ วิจารณ์ ประเมินสิ่งที่ได้จากการฟังและดู นาขอ้ คิดไป ประยุกต์ใช้ในชีวิตประจาวนั พูดรายงานเร่ืองหรือประเด็นที่ได้จากการศึกษาค้นควา้ อย่างเป็ นระบบ มีศิลปะในการพูด พูดในโอกาสต่างๆ ไดต้ รงตามวตั ถุประสงค์ และพูดโน้มน้าวอย่างมีเหตุผลน่าเชื่อถือ รวมท้งั มีมารยาทในการฟัง ดู และพูด  เขา้ ใจและใช้คาราชาศพั ท์ คาบาลีสันสกฤต คาภาษาต่างประเทศอ่ืนๆ คาทบั ศพั ท์ และ ศพั ท์บญั ญตั ิในภาษาไทย วิเคราะห์ความแตกต่างในภาษาพูด ภาษาเขียน โครงสร้างของประโยครวม ประโยคซ้อน ลกั ษณะภาษาท่ีเป็ นทางการ ก่ึงทางการและไม่เป็ นทางการ และแต่งบทร้อยกรองประเภท กลอนสุภาพ กาพย์ และโคลงสี่สุภาพ  สรุปเน้ือหาวรรณคดีและวรรณกรรมท่ีอา่ น วเิ คราะห์ตวั ละครสาคญั วถิ ีชีวิตไทย และคุณค่า ท่ีไดร้ ับจากวรรณคดีวรรณกรรมและบทอาขยาน พร้อมท้งั สรุปความรู้ขอ้ คิดเพ่ือนาไปประยุกตใ์ ช้ใน ชีวติ จริง

กล่มุ สาระการเรียนรู้คณติ ศาสตร์ ทาไมต้องเรียนคณติ ศาสตร์ คณิตศาสตร์มีบทบาทสาคญั ย่งิ ต่อการพฒั นาความคิดมนุษย์ ทาให้มนุษยม์ ีความคิดสร้างสรรค์ คิดอยา่ งมีเหตุผล เป็ นระบบ มีแบบแผน สามารถวิเคราะห์ปัญหาหรือสถานการณ์ไดอ้ ย่างถี่ถว้ น รอบคอบ ช่วยใหค้ าดการณ์ วางแผน ตดั สินใจ แกป้ ัญหา และนาไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง เหมาะสม นอกจากน้ีคณิตศาสตร์ยงั เป็ นเครื่องมือในการศึกษาทางดา้ นวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและศาสตร์อื่น ๆ คณิตศาสตร์จึงมีประโยชน์ต่อการดาเนินชีวิต ช่วยพฒั นาคุณภาพชีวิตให้ดีข้ึน และสามารถอยู่ร่วมกบั ผอู้ ่ืนไดอ้ ยา่ งมีความสุข เรียนรู้อะไรในคณติ ศาสตร์ กลุ่ มส าระการเรี ยน รู้คณิ ตศาสตร์ มุ่งให้เยาวชน ทุ กคนได้เรี ยน รู้ คณิ ตศาส ตร์ อย่างต่อเนื่ อง ตามศกั ยภาพ โดยกาหนดสาระหลกั ที่จาเป็นสาหรับผเู้ รียนทุกคนดงั น้ี  จานวนและการดาเนินการ ความคิดรวบยอดและความรู้สึกเชิงจานวน ระบบจานวนจริง สมบตั ิเกี่ยวกบั จานวนจริง การดาเนินการของจานวน อตั ราส่วน ร้อยละ การแก้ปัญหาเก่ียวกบั จานวน และการใชจ้ านวนในชีวติ จริง  การวัด ความยาว ระยะทาง น้าหนกั พ้ืนท่ี ปริมาตรและความจุ เงินและเวลา หน่วยวดั ระบบ ตา่ ง ๆ การคาดคะเนเกี่ยวกบั การวดั อตั ราส่วนตรีโกณมิติ การแกป้ ัญหาเก่ียวกบั การวดั และการนาความรู้ เกี่ยวกบั การวดั ไปใชใ้ นสถานการณ์ต่าง ๆ  เรขาคณิต รูปเรขาคณิตและสมบตั ิของรูปเรขาคณิตหน่ึงมิติ สองมิติ และสามมิติ การนึกภาพ แบบจาลองทางเรขาคณิต ทฤษฎีบททางเรขาคณิต การแปลงทางเรขาคณิต (geometric transformation) ในเรื่องการเล่ือนขนาน (translation) การสะทอ้ น (reflection) และการหมุน (rotation)  พีชคณิต แบบรูป (pattern) ความสัมพนั ธ์ ฟังก์ชนั เซตและการดาเนินการของเซต การให้ เหตุผล นิพจน์ สมการ ระบบสมการ อสมการ กราฟ ลาดบั เลขคณิต ลาดบั เรขาคณิต อนุกรมเลขคณิต และอนุกรมเรขาคณิต  การวเิ คราะห์ข้อมูลและความน่าจะเป็ น การกาหนดประเด็น การเขียนขอ้ คาถาม การกาหนด วธิ ีการศึกษา การเก็บรวบรวมขอ้ มูล การจดั ระบบขอ้ มูล การนาเสนอขอ้ มูล ค่ากลางและการกระจายของ ขอ้ มูล การวิเคราะห์และการแปลความขอ้ มูล การสารวจความคิดเห็น ความน่าจะเป็ น การใชค้ วามรู้ เกี่ยวกบั สถิติและความน่าจะเป็ นในการอธิบายเหตุการณ์ต่างๆ และช่วยในการตดั สินใจในการดาเนิน ชีวติ ประจาวนั  ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ การแกป้ ัญหาดว้ ยวธิ ีการที่หลากหลาย การใหเ้ หตุผล การส่ือสาร การสื่อความหมายทางคณิ ตศาสตร์และการนาเสนอ การเช่ือมโยงความรู้ต่างๆ ทาง คณิตศาสตร์ และการเชื่อมโยงคณิตศาสตร์กบั ศาสตร์อื่นๆ และความคิดริเริ่มสร้างสรรค์

คณุ ภาพผ้เู รียน จบช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๓  มีความรู้ความเขา้ ใจและความรู้สึกเชิงจานวนเกี่ยวกบั จานวนนบั ไม่เกินหน่ึงแสนและศูนย์ และการดาเนินการของจานวน สามารถแกป้ ัญหาเก่ียวกบั การบวก การลบ การคูณ และการหาร พร้อมท้งั ตระหนกั ถึงความสมเหตุสมผลของคาตอบท่ีได้  มีความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั ความยาว ระยะทาง น้าหนัก ปริมาตร ความจุ เวลาและเงิน สามารถวดั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม และนาความรู้เก่ียวกบั การวดั ไปใชแ้ กป้ ัญหาในสถานการณ์ ตา่ ง ๆ ได้  มีความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั รูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม รูปวงกลม รูปวงรี ทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก รวมท้งั จุด ส่วนของเส้นตรง รังสี เส้นตรง และมุม  มีความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั แบบรูป และอธิบายความสมั พนั ธ์ได้  รวบรวมข้อมูล และจาแนกข้อมูลเกี่ยวกับตนเองและส่ิงแวดล้อมใกล้ตัวท่ีพบเห็นใน ชีวติ ประจาวนั และอภิปรายประเด็นต่าง ๆ จากแผนภูมิรูปภาพและแผนภูมิแท่งได้  ใชว้ ิธีการที่หลากหลายแกป้ ัญหา ใชค้ วามรู้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ในการ แกป้ ัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ใหเ้ หตุผลประกอบการตดั สินใจ และสรุปผลไดอ้ ยา่ ง เหมาะสม ใชภ้ าษาและสัญลกั ษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการส่ือสาร การส่ือความหมาย และการนาเสนอได้ อย่างถูกต้อง เช่ือมโยงความรู้ต่างๆ ในคณิ ตศาสตร์และเชื่อมโยงคณิ ตศาสตร์กับศาสตร์อ่ืนๆ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ จบช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๖  มีความรู้ความเขา้ ใจและความรู้สึกเชิงจานวนเก่ียวกบั จานวนนบั และศูนย์ เศษส่วน ทศนิยม ไม่เกินสามตาแหน่ง ร้อยละ การดาเนินการของจานวน สมบตั ิเก่ียวกบั จานวน สามารถแกป้ ัญหาเกี่ยวกบั การบวก การลบ การคูณ และการหารจานวนนับ เศษส่วน ทศนิยมไม่เกินสามตาแหน่ง และร้อยละ พร้อมท้งั ตระหนักถึงความสมเหตุสมผลของคาตอบท่ีได้ สามารถหาค่าประมาณของจานวนนับและ ทศนิยมไมเ่ กินสามตาแหน่งได้  มีความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกบั ความยาว ระยะทาง น้าหนกั พ้ืนท่ี ปริมาตร ความจุ เวลา เงิน ทิศ แผนผงั และขนาดของมุม สามารถวดั ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสม และนาความรู้เกี่ยวกบั การวดั ไป ใชแ้ กป้ ัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้  มีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ลกั ษณะและสมบตั ิของรูปสามเหลี่ยม รูปส่ีเหล่ียม รูปวงกลม ทรงส่ีเหลี่ยมมุมฉาก ทรงกระบอก กรวย ปริซึม พรี ะมิด มุม และเส้นขนาน

 มีความรู้ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั แบบรูปและอธิบายความสัมพนั ธ์ได้ แกป้ ัญหาเก่ียวกบั แบบรูป สามารถวเิ คราะห์สถานการณ์หรือปัญหาพร้อมท้งั เขียนให้อยใู่ นรูปของสมการเชิงเส้นท่ีมีตวั ไม่ทราบค่า หน่ึงตวั และแกส้ มการน้นั ได้  รวบรวมขอ้ มูล อภิปรายประเด็นต่าง ๆ จากแผนภูมิรูปภาพ แผนภูมิแท่ง แผนภูมิแท่ง เปรียบเทียบ แผนภูมิรูปวงกลม กราฟเส้น และตาราง และนาเสนอข้อมูลในรูปของแผนภูมิรูปภาพ แผนภูมิแท่ง แผนภูมิแท่งเปรียบเทียบ และกราฟเส้น ใช้ความรู้เกี่ยวกบั ความน่าจะเป็ นเบ้ืองตน้ ในการ คาดคะเนการเกิดข้ึนของเหตุการณ์ตา่ ง ๆ ได้  ใชว้ ิธีการที่หลากหลายแกป้ ัญหา ใช้ความรู้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์และ เทคโนโลยีในการแกป้ ัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ให้เหตุผลประกอบการตดั สินใจและ สรุปผลได้อยา่ งเหมาะสม ใช้ภาษาและสัญลกั ษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการสื่อสาร การสื่อความหมาย และการนาเสนอได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม เชื่อมโยงความรู้ต่าง ๆ ในคณิตศาสตร์และเชื่อมโยง คณิตศาสตร์กบั ศาสตร์อื่น ๆ และมีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์ จบช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี ๓  มีความคิดรวบยอดเกี่ยวกบั จานวนจริง มีความเขา้ ใจเก่ียวกบั อตั ราส่วน สัดส่วน ร้อยละ เลขยกกาลงั ที่มีเลขช้ีกาลงั เป็ นจานวนเต็ม รากที่สองและรากท่ีสามของจานวนจริง สามารถดาเนินการ เก่ียวกับจานวนเต็ม เศษส่วน ทศนิยม เลขยกกาลงั รากท่ีสองและรากที่สามของจานวนจริง ใช้การ ประมาณคา่ ในการดาเนินการและแกป้ ัญหา และนาความรู้เกี่ยวกบั จานวนไปใชใ้ นชีวติ จริงได้  มีความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับพ้ืนที่ผิวของปริซึม ทรงกระบอก และปริมาตรของปริซึม ทรงกระบอก พีระมิด กรวย และทรงกลม เลือกใชห้ น่วยการวดั ในระบบต่าง ๆ เกี่ยวกบั ความยาว พ้ืนท่ี และปริมาตรไดอ้ ยา่ งเหมาะสม พร้อมท้งั สามารถนาความรู้เก่ียวกบั การวดั ไปใชใ้ นชีวติ จริงได้  สามารถสร้างและอธิบายข้นั ตอนการสร้างรูปเรขาคณิตสองมิติโดยใช้วงเวียนและสันตรง อธิบายลกั ษณะและสมบตั ิของรูปเรขาคณิตสามมิติซ่ึงได้แก่ ปริซึม พีระมิด ทรงกระบอก กรวย และ ทรงกลมได้  มีความเขา้ ใจเก่ียวกบั สมบตั ิของความเท่ากนั ทุกประการและความคลา้ ยของรูปสามเหล่ียม เส้นขนาน ทฤษฎีบทพีทาโกรัสและบทกลบั และสามารถนาสมบตั ิเหล่าน้นั ไปใช้ในการให้เหตุผลและ แกป้ ัญหาได้ มีความเขา้ ใจเก่ียวกบั การแปลงทางเรขาคณิต(geometric transformation)ในเร่ืองการเล่ือน ขนาน(translation) การสะทอ้ น (reflection) และการหมุน (rotation) และนาไปใชไ้ ด้  สามารถนึกภาพและอธิบายลกั ษณะของรูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติ

 สามารถวิเคราะห์และอธิบายความสัมพนั ธ์ของแบบรูป สถานการณ์หรือปัญหา และ สามารถใช้สมการเชิงเส้นตวั แปรเดียว ระบบสมการเชิงเส้นสองตวั แปร อสมการเชิงเส้นตัวแปรเดียว และกราฟในการแกป้ ัญหาได้  สามารถกาหนดประเด็น เขียนขอ้ คาถามเก่ียวกับปัญหาหรือสถานการณ์ กาหนดวิธีการ ศึกษา เกบ็ รวบรวมขอ้ มูลและนาเสนอขอ้ มูลโดยใชแ้ ผนภูมิรูปวงกลม หรือรูปแบบอ่ืนท่ีเหมาะสมได้  เข้าใจค่ากลางของข้อมูลในเร่ืองค่าเฉลี่ยเลขคณิต มธั ยฐาน และฐานนิยมของข้อมูลที่ยงั ไม่ไดแ้ จกแจงความถี่ และเลือกใชไ้ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม รวมท้งั ใชค้ วามรู้ในการพิจารณาขอ้ มูลข่าวสารทาง สถิติ  เข้าใจเกี่ยวกับการทดลองสุ่ม เหตุการณ์ และความน่าจะเป็ นของเหตุการณ์ สามารถใช้ ความรู้เก่ียวกบั ความน่าจะเป็นในการคาดการณ์และประกอบการตดั สินใจในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้  ใช้วิธีการท่ีหลากหลายแกป้ ัญหา ใช้ความรู้ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ และ เทคโนโลยีในการแกป้ ัญหาในสถานการณ์ ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ให้เหตุผลประกอบการตดั สินใจ และสรุปผลไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ใชภ้ าษาและสัญลกั ษณ์ทางคณิตศาสตร์ในการสื่อสาร การสื่อความหมาย และการนาเสนอ ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง และชดั เจน เช่ือมโยงความรู้ต่าง ๆ ในคณิตศาสตร์ และนาความรู้ หลกั การ กระบวนการทางคณิตศาสตร์ไปเช่ือมโยงกบั ศาสตร์อื่น ๆ และมีความคิดริเร่ิมสร้างสรรค์

กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทาไมต้องเรียนวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี วิทยาศาสตร์มีบทบาทสาคญั ยิง่ ในสังคมโลกปัจจุบนั และอนาคต เพราะวิทยาศาสตร์เกี่ยวขอ้ ง กบั ทุกคนท้งั ในชีวิตประจาวนั และการงานอาชีพต่าง ๆ ตลอดจนเทคโนโลยี เครื่องมือเครื่องใช้และ ผลผลิตต่าง ๆ ท่ีมนุษยไ์ ด้ใช้เพ่ืออานวยความสะดวกในชีวิตและการทางาน เหล่าน้ีลว้ นเป็ นผลของ ความรู้วิทยาศาสตร์ ผสมผสานกับความคิดสร้างสรรค์และศาสตร์อื่น ๆ วิทยาศาสตร์ช่วยให้มนุษย์ ไดพ้ ฒั นาวธิ ีคิด ท้งั ความคิดเป็ นเหตุเป็ นผล คิดสร้างสรรค์ คิดวิเคราะห์ วจิ ารณ์ มีทกั ษะสาคญั ในการ ค้นควา้ หาความรู้ มีความสามารถในการแก้ปัญหาอย่างเป็ นระบบ สามารถตดั สินใจโดยใช้ขอ้ มูล ท่ีหลากหลายและมีประจกั ษพ์ ยานที่ตรวจสอบได้ วิทยาศาสตร์เป็ นวฒั นธรรมของโลกสมยั ใหม่ซ่ึงเป็ น สังคมแห่ งการเรี ยนรู้ (knowledge-based society) ดังน้ันทุกคนจึงจาเป็ นต้องได้รับการพัฒนาให้รู้ วทิ ยาศาสตร์ เพ่ือท่ีจะมีความรู้ความเขา้ ใจในธรรมชาติและเทคโนโลยที ี่มนุษยส์ ร้างสรรคข์ ้ึน สามารถนา ความรู้ไปใชอ้ ยา่ งมีเหตุผล สร้างสรรค์ และมีคุณธรรม เรียนรู้อะไรในวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์มุ่งหวงั ให้ผูเ้ รียนได้เรียนรู้วิทยาศาสตร์ท่ีเน้นการเช่ือมโยง ความรู้กบั กระบวนการ มีทกั ษะสาคญั ในการคน้ ควา้ และสร้างองคค์ วามรู้ โดยใชก้ ระบวนการในการสืบ เสาะหาความรู้ และการแกป้ ัญหาท่ีหลากหลาย ให้ผูเ้ รียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้ทุกข้นั ตอน มีการทา กิจกรรมดว้ ยการลงมือปฏิบตั ิจริงอย่างหลากหลาย เหมาะสมกบั ระดบั ช้นั โดยได้กาหนดสาระสาคญั ไวด้ งั น้ี  ส่ิงมีชีวิตกับกระบวนการดารงชีวิต สิ่งมีชีวติ หน่วยพ้ืนฐานของสิ่งมีชีวิต โครงสร้างและ หน้าท่ีของระบบต่าง ๆ ของสิ่ งมีชีวิต และกระบวนการดารงชีวิต ความหลากหลายทางชีวภาพ การถ่ายทอดทางพนั ธุกรรม การทางานของระบบต่าง ๆ ของสิ่งมีชีวติ ววิ ฒั นาการและความหลากหลาย ของสิ่งมีชีวติ และเทคโนโลยชี ีวภาพ  ชีวิตกับสิ่งแวดล้อม ส่ิงมีชีวิตท่ีหลากหลายรอบตวั ความสัมพนั ธ์ระหว่างสิ่งมีชีวิตกับ ส่ิงแวดลอ้ ม ความสัมพนั ธ์ของส่ิงมีชีวติ ต่าง ๆ ในระบบนิเวศ ความสาคญั ของทรัพยากรธรรมชาติ การใช้ และจดั การทรัพยากรธรรมชาติ ในระดบั ท้องถ่ิน ประเทศ และโลก ปัจจยั ที่มีผลต่อการอยู่รอดของ สิ่งมีชีวติ ในสภาพแวดลอ้ มตา่ ง ๆ  สารและสมบัติของสาร สมบตั ิของวสั ดุและสาร แรงยดึ เหน่ียวระหว่างอนุภาค การเปล่ียน สถานะ การเกิดสารละลายและการเกิดปฏิกิริยาเคมีของสาร สมการเคมี และการแยกสาร

 แรงและการเคล่ือนท่ี ธรรมชาติของแรงแม่เหล็กไฟฟ้า แรงโน้มถ่วง แรงนิวเคลียร์ การออกแรงกระทาต่อวตั ถุ การเคล่ือนที่ของวตั ถุ แรงเสียดทาน โมเมนต์การเคลื่อนที่แบบต่าง ๆ ใน ชีวติ ประจาวนั  พลังงาน พลงั งานกบั การดารงชีวิต การเปล่ียนรูปพลงั งาน สมบตั ิและปรากฏการณ์ของ แสง เสียง และวงจรไฟฟ้า คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า กัมมนั ตภาพรังสีและปฏิกิริยานิวเคลียร์ ปฏิสัมพนั ธ์ ระหวา่ งสารและพลงั งานการอนุรักษพ์ ลงั งาน ผลของการใชพ้ ลงั งานต่อชีวติ และส่ิงแวดลอ้ ม  กระบวนการเปลยี่ นแปลงของโลก โครงสร้างและองคป์ ระกอบของโลก ทรัพยากรทางธรณี สมบตั ิทางกายภาพของดิน หิน น้า อากาศ สมบตั ิของผวิ โลก และบรรยากาศ กระบวนการเปลี่ยนแปลง ของเปลือกโลก ปรากฏการณ์ทางธรณี ปัจจยั ที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศ  ดาราศาสตร์และอวกาศ วิวฒั นาการของระบบสุริยะ กาแล็กซี เอกภพ ปฏิสัมพนั ธ์และผล ต่อส่ิงมีชีวิตบนโลก ความสัมพนั ธ์ของดวงอาทิตย์ ดวงจนั ทร์ และโลก ความสาคญั ของเทคโนโลยี อวกาศ  ธรรมชาติของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระบวนการทางวิทยาศาสตร์ การสืบเสาะหา ความรู้ การแกป้ ัญหา และจิตวทิ ยาศาสตร์ คณุ ภาพผ้เู รียน จบช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๓  เข้าใจลักษณะท่ัวไปของส่ิ งมีชีวิต และการดารงชีวิตของส่ิ งมีชีวิตท่ีหลากหลาย ในสิ่งแวดลอ้ มทอ้ งถิ่น  เขา้ ใจลกั ษณะที่ปรากฏและการเปล่ียนแปลงของวสั ดุรอบตวั แรงในธรรมชาติ รูปของ พลงั งาน  เขา้ ใจสมบตั ิทางกายภาพของดิน หิน น้า อากาศ ดวงอาทิตย์ และดวงดาว  ต้งั คาถามเกี่ยวกบั สิ่งมีชีวติ วสั ดุและส่ิงของ และปรากฏการณ์ต่างๆ รอบตวั สังเกต สารวจ ตรวจสอบโดยใช้เครื่องมืออย่างง่าย และสื่อสารส่ิงท่ีเรียนรู้ด้วยการเล่าเรื่อง เขียน หรือ วาดภาพ  ใชค้ วามรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ในการดารงชีวิต การศึกษาหาความรู้เพิ่มเติม ทาโครงงานหรือชิ้นงานตามที่กาหนดให้ หรือตามความสนใจ  แสดงความกระตือรือร้น สนใจที่จะเรียนรู้ และแสดงความซาบซ้ึงต่อสิ่งแวดลอ้ มรอบตวั แสดงถึงความมีเมตตา ความระมดั ระวงั ต่อสิ่งมีชีวติ อ่ืน

 ทางานที่ไดร้ ับมอบหมายดว้ ยความมุง่ มน่ั รอบคอบ ประหยดั ซื่อสัตย์ จนเป็ นผลสาเร็จ และ ทางานร่วมกบั ผอู้ ่ืนอยา่ งมีความสุข จบช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๖  เข้าใจโครงสร้างและการทางานของระบบต่างๆ ของส่ิงมีชีวิต และ ความสัมพนั ธ์ของสิ่งมีชีวติ ท่ีหลากหลายในสิ่งแวดลอ้ มท่ีแตกต่างกนั  เขา้ ใจสมบตั ิและการจาแนกกลุ่มของวสั ดุ สถานะของสาร สมบตั ิของสาร และการทาใหส้ ารเกิดการเปลี่ยนแปลง สารในชีวติ ประจาวนั การแยกสารอยา่ งง่าย  เขา้ ใจผลที่เกิดจากการออกแรงกระทากบั วตั ถุ ความดนั หลกั การเบ้ืองตน้ ของแรงลอยตวั สมบตั ิและปรากฏการณ์เบ้ืองตน้ ของแสง เสียง และวงจรไฟฟ้า  เข้าใจลักษณ ะ องค์ประกอบ สมบัติของผิวโลก และบรรยากาศ ความสัมพนั ธ์ของดวงอาทิตย์ โลก และดวงจนั ทร์ที่มีผลตอ่ การเกิดปรากฎการณ์ธรรมชาติ  ต้งั คาถามเกี่ยวกบั ส่ิงท่ีจะเรียนรู้ คาดคะเนคาตอบหลายแนวทาง วางแผน และสารวจตรวจสอบโดยใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ วิเคราะห์ขอ้ มูล และสื่อสารความรู้จากผล การสารวจตรวจสอบ  ใช้ความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ในการดารงชีวิต และ การศึกษาความรู้เพิ่มเติม ทาโครงงานหรือชิ้นงานตามที่กาหนดใหห้ รือตามความสนใจ  แสดงถึงความสนใจ มุ่งมนั่ รับผิดชอบ รอบคอบและซ่ือสัตยใ์ นการสืบ เสาะหาความรู้  ตระหนกั ในคุณค่าของความรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี แสดงความชื่น ชม ยกยอ่ ง และเคารพสิทธิในผลงานของผคู้ ิดคน้  แสดงถึงความซาบซ้ึง ห่วงใย แสดงพฤติกรรมเกี่ยวกบั การใช้การดูแล รักษาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มอยา่ งรู้คุณคา่  ทางานร่วมกบั ผูอ้ ื่นอย่างสร้างสรรค์ แสดงความคิดเห็นของตนเองและ ยอมรับฟังความคิดเห็นของผอู้ ่ืน จบช้ันมธั ยมศึกษาปี ท่ี ๓  เขา้ ใจลกั ษณะและองค์ประกอบที่สาคญั ของเซลล์ส่ิงมีชีวติ ความสัมพนั ธ์ ของการทางานของระบบต่างๆ การถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม เทคโนโลยีชีวภาพ ความหลากหลายของส่ิงมีชีวิต พฤติกรรมและการตอบสนองต่อสิ่งเร้าของสิ่งมีชีวิต ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งสิ่งมีชีวติ ในสิ่งแวดลอ้ ม

 เข้าใจองค์ประกอบและสมบัติของสารละลาย สารบริ สุ ทธ์ิ การ เปลี่ยนแปลงของสารในรูปแบบของการเปลี่ยนสถานะ การเกิดสารละลายและการ เกิดปฏิกิริยาเคมี  เข้าใจแรงเสี ยดทาน โมเมนต์ของแรง การเคล่ือนท่ีแบบต่างๆ ใน ชีวติ ประจาวนั กฎการอนุรักษพ์ ลงั งาน การถ่ายโอนพลงั งาน สมดุลความร้อน การสะทอ้ น การหกั เหและความเขม้ ของแสง  เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ระหวา่ งปริมาณทางไฟฟ้า หลกั การต่อวงจรไฟฟ้าใน บา้ น พลงั งานไฟฟ้าและหลกั การเบ้ืองตน้ ของวงจรอิเลก็ ทรอนิกส์  เข้าใจกระบวนการเปลี่ยนแปลงของเปลือกโลก แหล่งทรัพยากรธรณี ปัจจยั ท่ีมีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของบรรยากาศ ปฏิสัมพนั ธ์ภายในระบบสุริยะ และผลท่ีมี ต่อสิ่งต่างๆ บนโลก ความสาคญั ของเทคโนโลยอี วกาศ  เขา้ ใจความสัมพนั ธ์ระหวา่ งวทิ ยาศาสตร์กบั เทคโนโลยี การพฒั นาและผล ของการพฒั นาเทคโนโลยตี ่อคุณภาพชีวติ และส่ิงแวดลอ้ ม  ต้งั คาถามท่ีมีการกาหนดและควบคุมตวั แปร คิดคาดคะเนคาตอบหลาย แนวทาง วางแผนและลงมือสารวจตรวจสอบ วิเคราะห์และประเมินความสอดคลอ้ งของ ขอ้ มูล และสร้าง องคค์ วามรู้  ส่ือสารความคิด ความรู้จากผลการสารวจตรวจสอบโดยการพูด เขียน จดั แสดง หรือใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ  ใช้ความรู้และกระบวนการทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการ ดารงชีวิต การศึกษา หาความรู้เพิ่มเติม ทาโครงงานหรือสร้างชิ้นงานตามความ สนใจ  แสดงถึงความสนใจ มุ่งมนั่ รับผิดชอบ รอบคอบ และซื่อสัตยใ์ นการสืบ เสาะหาความรู้ โดยใช้ เคร่ืองมือและวธิ ีการท่ีใหไ้ ดผ้ ลถูกตอ้ งเช่ือถือได้  ตระหนักในคุณค่าของความรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีท่ีใช้ใน ชีวิตประจาวนั และการประกอบอาชีพ แสดงความช่ืนชม ยกยอ่ งและเคารพสิทธิในผลงาน ของผคู้ ิดคน้  แสดงถึงความซาบซ้ึง ห่วงใย มีพฤติกรรมเก่ียวกับการใช้และรักษา ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิ งแวดล้อมอย่างรู้คุณค่า มีส่ วนร่วมในการพิทักษ์ ดูแล ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มในทอ้ งถิ่น  ทางานร่วมกับผูอ้ ื่นอย่างสร้างสรรค์ แสดงความคิดเห็นของตนเองและ ยอมรับฟังความคิดเห็นของผอู้ ื่น

กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม ทาไมต้องเรียนสังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช่วยให้ผูเ้ รียนมีความรู้ ความเขา้ ใจ การดารงชีวิตของมนุษยท์ ้งั ในฐานะปัจเจกบุคคลและการอยูร่ ่วมกนั ในสังคม การปรับตวั ตามสภาพแวดลอ้ ม การจัดการทรัพยากรที่มีอยู่อย่างจากัด เข้าใจถึงการพัฒนา เปล่ียนแปลงตามยุคสมัย กาลเวลา ตามเหตุปัจจยั ต่างๆ เกิดความเขา้ ใจในตนเอง และผอู้ ื่น มีความอดทน อดกล้นั ยอมรับในความแตกต่าง และมีคุณธรรม สามารถนาความรู้ไปปรับใช้ในการดาเนินชีวิต เป็ นพลเมืองดีของประเทศชาติ และ สังคมโลก เรียนรู้อะไรในสังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรมวา่ ดว้ ยการอยรู่ ่วมกนั ในสังคม ที่มีความ เช่ือมสัมพนั ธ์กนั และมีความแตกต่างกันอย่างหลากหลาย เพื่อช่วยให้สามารถปรับตนเองกบั บริบท สภาพแวดลอ้ ม เป็ นพลเมืองดี มีความรับผิดชอบ มีความรู้ ทกั ษะ คุณธรรม และค่านิยมที่เหมาะสม โดยไดก้ าหนดสาระตา่ งๆไว้ ดงั น้ี  ศาสนา ศีลธรรมและจริยธรรม แนวคิดพ้ืนฐานเก่ียวกบั ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หลกั ธรรม ของพระพทุ ธศาสนาหรือศาสนาที่ตนนบั ถือ การนาหลกั ธรรมคาสอนไปปฏิบตั ิในการพฒั นาตนเอง และ การอยูร่ ่วมกนั อย่างสันติสุข เป็ นผูก้ ระทาความดี มีค่านิยมที่ดีงาม พฒั นาตนเองอยูเ่ สมอ รวมท้งั บาเพญ็ ประโยชนต์ ่อสังคมและส่วนรวม  หน้าท่ีพลเมือง วัฒนธรรม และการดาเนินชีวิต ระบบการเมืองการปกครองในสังคมปัจจุบนั การปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็ นประมุข ลักษณะและความสาคญั การเป็ นพลเมืองดี ความแตกต่างและความหลากหลายทางวฒั นธรรม ค่านิยม ความเช่ือ ปลูกฝังค่านิยม ด้านประชาธิปไตยอนั มีพระมหากษัตริยท์ รงเป็ นประมุข สิทธิ หน้าที่ เสรีภาพการดาเนินชีวิตอย่าง สนั ติสุขในสังคมไทยและสงั คมโลก  เศรษฐศาสตร์ การผลิต การแจกจ่าย และการบริโภคสินคา้ และบริการ การบริหารจดั การ ทรัพยากรที่มีอยูอ่ ยา่ งจากดั อยา่ งมีประสิทธิภาพ การดารงชีวติ อยา่ งมีดุลยภาพ และการนาหลกั เศรษฐกิจ พอเพียงไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั  ประวัติศาสตร์ เวลาและยุคสมยั ทางประวตั ิศาสตร์ วิธีการทางประวตั ิศาสตร์ พฒั นาการของ มนุษยชาติจากอดีตถึงปัจจุบนั ความสัมพนั ธ์และเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่างๆ ผลกระทบที่เกิดจาก

เหตุการณ์สาคญั ในอดีต บุคคลสาคญั ที่มีอิทธิพลต่อการเปล่ียนแปลงต่างๆในอดีต ความเป็ นมาของ ชาติไทย วฒั นธรรมและภูมิปัญญาไทย แหล่งอารยธรรมที่สาคญั ของโลก  ภูมิศาสตร์ ลกั ษณะของโลกทางกายภาพ ลกั ษณะทางกายภาพ แหล่งทรัพยากร และภูมิอากาศ ของประเทศไทย และภูมิภาคตา่ งๆ ของโลก การใชแ้ ผนที่และเครื่องมือทางภูมิศาสตร์ ความสัมพนั ธ์กนั ของส่ิงต่างๆ ในระบบธรรมชาติ ความสัมพนั ธ์ของมนุษยก์ บั สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ และส่ิงที่ มนุษยส์ ร้างข้ึน การนาเสนอขอ้ มูลภูมิสารสนเทศ การอนุรักษส์ ิ่งแวดลอ้ มเพ่ือการพฒั นาที่ยงั่ ยนื คณุ ภาพผ้เู รียน จบช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๓  มีความรู้เร่ืองเก่ียวกบั ตนเองและผทู้ ี่อยรู่ อบขา้ ง ตลอดจนสภาพแวดลอ้ มในทอ้ งถ่ิน ที่อยอู่ าศยั และเช่ืองโยงประสบการณ์ไปสู่โลกกวา้ ง  มีทักษะกระบวนการ และมีข้อมูลที่จาเป็ นต่อการพัฒนาให้เป็ นผูม้ ีคุณธรรม จริยธรรม ประพฤติปฏิบตั ิตามหลักคาสอนของศาสนาที่ตนนับถือ มีความเป็ นพลเมืองดี มีความรับผิดชอบ การอยู่ร่วมกันและการทางานกับผู้อ่ืน มีส่วนร่วมในกิจกรรมของห้องเรี ยน และได้ฝึ กหัดใน การตดั สินใจ  มีความรู้เรื่องราวเก่ียวกบั ตนเอง ครอบครัว โรงเรียน และชุมชนในลกั ษณะการบูรณาการ ผูเ้ รียนได้เข้าใจแนวคิดเก่ียวกับปัจจุบนั และอดีต มีความรู้พ้ืนฐานทางเศรษฐกิจ ได้ข้อคิดเก่ียวกับ รายรับ-รายจ่ายของครอบครัว เขา้ ใจถึงการเป็ นผผู้ ลิต ผบู้ ริโภค รู้จกั การออมข้นั ตน้ และวธิ ีการเศรษฐกิจ พอเพียง  รู้และเขา้ ใจในแนวคิดพ้ืนฐานเก่ียวกบั ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หนา้ ที่พลเมือง เศรษฐศาสตร์ ประวตั ิศาสตร์ และภูมิศาสตร์ เพ่อื เป็นพ้นื ฐานในการทาความเขา้ ใจในข้นั ท่ีสูงตอ่ ไป จบช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๖  มีความรู้เร่ืองของจงั หวดั ภาค และประทศของตนเอง ท้งั เชิงประวตั ิศาสตร์ ลกั ษณะทางกายภาพ สังคมประเพณี และวฒั นธรรม รวมท้งั การเมือง การปกครอง และสภาพเศรษฐกิจโดยเน้นความเป็ น ประเทศไทย  มีความรู้และความเขา้ ใจในเร่ืองศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม ปฏิบตั ิตนตามหลกั ธรรมคาสอนของ ศาสนาที่ตนนบั ถือ รวมท้งั มีส่วนร่วมศาสนพธิ ี และพธิ ีกรรมทางศาสนามากยงิ่ ข้ึน  ปฏิบตั ิตนตามสถานภาพ บทบาท สิทธิหน้าท่ีในฐานะพลเมืองดีของทอ้ งถ่ิน จงั หวดั ภาค และ ประเทศ รวมท้งั ไดม้ ีส่วนร่วมในกิจกรรมตามขนบธรรมเนียมประเพณี และวฒั นธรรมของท้องถิ่น ตนเอง มากยง่ิ ข้ึน

 สามารถเปรียบเทียบเร่ืองราวของจงั หวดั และภาคต่างๆของประเทศไทยกบั ประเทศเพื่อนบา้ น ได้รับการพัฒนาแนวคิดทางสังคมศาสตร์ เกี่ยวกับศาสนา ศีลธรรม จริ ยธรรม หน้าท่ีพลเมือง เศรษฐศาสตร์ ประวตั ิศาสตร์ และภูมิศาสตร์ เพ่ือขยายประสบการณ์ไปสู่การทาความเขา้ ใจในภูมิภาค ซีกโลกตะวนั ออกและตะวนั ตกเกี่ยวกบั ศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม ความเช่ือ ขนบธรรมเนียม ประเพณี วฒั นธรรม การดาเนินชีวติ การจดั ระเบียบทางสังคม และการเปลี่ยนแปลงทางสังคมจากอดีต สู่ปัจจุบนั จบช้ันมัธยมศึกษาปี ท่ี ๓  มีความรู้เกี่ยวกับความเป็ นไปของโลก โดยการศึกษาประเทศไทยเปรียบเทียบกับประเทศ ในภูมิภาคต่างๆในโลก เพ่ือพฒั นาแนวคิด เรื่องการอยรู่ ่วมกนั อยา่ งสนั ติสุข  มีทักษะท่ีจาเป็ นต่อการเป็ นนักคิดอย่างมีวิจารณญาณได้รับการพัฒนาแนวคิด และขยาย ประสบการณ์ เปรียบเทียบระหว่างประเทศไทยกับประเทศในภูมิภาคต่าง ๆ ในโลก ได้แก่ เอเชีย ออสเตรเลีย โอเชียเนีย แอฟริกา ยุโรป อเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ ในด้านศาสนา คุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม ความเชื่อ ขนบธรรมเนียม ประเพณี วฒั นธรรม การเมืองการปกครอง ประวตั ิศาสตร์และ ภูมิศาสตร์ ดว้ ยวธิ ีการทางประวตั ิศาสตร์ และสังคมศาสตร์  รู้และเขา้ ใจแนวคิดและวเิ คราะห์เหตุการณ์ในอนาคต สามารถนามาใชเ้ ป็นประโยชน์ ในการ ดาเนินชีวติ และวางแผนการดาเนินงานไดอ้ ยา่ งเหมาะสม


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook