Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 3. แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาชีววิทยา2 (ว30252)

3. แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาชีววิทยา2 (ว30252)

Published by Rawat Yukerd, 2021-07-17 09:23:14

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาชีววิทยา2 (ว30252) โดย ครูเรวัตร อยู่เกิด กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสรรพยาวิทยา

Search

Read the Text Version

50 มการเรยี นรู้ ส่ือการเรยี นรู้ การประเมินผลการเรยี นรู้ 1. PowerPoint 1. นักเรียนมีส่วนร่วมใน ดลักษณะทางพันธุกรรมที่พิจารณา 2. แ บ บ บ ั น ทึ ก การตอบคำถามในชัน้ เรยี น brid cross) ระหว่างต้นถั่วลันเตาต้น ก ิ จ ก ร ร ม เ ร ื ่ อ ง 2. นักเรียนมีส่วนร่วมใน “แ ม ล ง ห ว ี ่ ม ี ดี การทำกิจกรรมกลุ่มอย่าง RrYy) กับถั่วลันเตาต้นแม่ที่มีเมล็ด อะไร?” ตั้งใจ ดให้ R คือยีนที่ควบคุมลักษณะเมล็ด 3. ชุดกิจกรรมเร่อื ง 3. นักเรียนจดบันทึกข้อมลู ณะเมล็ดขรุขระ, Y คือยีนที่ควบคุม “แมลงหว่มี ีดอี ะไร” ได้ครบถ้วนและถูกต้อง คอื ยนี ทคี่ วบคมุ ลกั ษณะเมล็ดสีเขยี ว) 4. สื่อวีดิทัศน์เรื่อง ตงั้ แตร่ ้อยละ 80 ขึน้ ไป หรือสุ่มนักเรียนออกมาเขียนแสดง การแบ่งเซลล์แบบ 4. คะแนนความร่วมมือ องรุ่น P หาจีโนไทป์และอัตราส่วน ไมโอซิส ร่วมใจในการทำงานเป็น หน้าชั้นเรียน (ถั่วลันเตาต้นพ่อจะสร้าง กลมุ่ อยู่ในเกณฑ์ดีขน้ึ ไป Y, ½Ry, ½rY และ ½ry ส่วนถั่วลันเตาต้น ดียวคือ ry เมื่อผสมกันแล้วจะได้ลูกรุ่น F1 rYy และ ½rryy และมีอัตราส่วนของฟีโน ลมสีเขียว : เมล็ดขรุขระสีเหลือง : เมล็ด 1) ดการถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธุกรรม ษณะโดยใช้ภาพและ PowerPoint ยีนท่ีควบคุมลักษณะรูปรา่ งของเมล็ด ครโมโซมคนละคกู่ ัน และถกู ถา่ ยทอด รวมกลุ่มอย่างอิสระจนได้โอกาสใน

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เนื้อหาสาระ กิจกรรม การเกิดลูกรุ่น F1 ที่มีจีโนไทป ไดแ้ สดงวิธีทำไปแลว้ ” ภาพที่ 1 การสรา้ งเซลล์สืบพ 3. ครูใช้คำถามเพือ่ กระตุ้นความค การถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธ รูปแบบในการถ่ายทอดแบบ นักเรียนเข้าสู่กิจกรรมในข้ันถัด ขนั้ สอน (35 นาที) 1. ครูแบ่งนักเรยี นออกเป็นกลุ่มแ ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมารับช เร่อื ง “แมลงหว่มี ดี ีอะไร” ภาย

51 มการเรียนรู้ สอ่ื การเรียนรู้ การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ป์และฟีโนไทป์ต่าง ๆ ตามที่นักเรียน พนั ธข์ุ องตน้ ถัว่ ลันเตาท่ีมจี ีโนไทป์ RrYy คดิ ของนักเรยี นว่า “แล้วสิง่ มีชีวิตที่มี ธกุ รรมสองลักษณะพรอ้ ม ๆ กัน จะมี บเดียวกันหรือไม่?” จากนั้นครูนำ ดไป แบบสมุ่ กล่มุ ละ 3 คน จากนั้นให้แต่ ชุดกิจกรรมและแบบบันทึกกิจกรรม ยในชุดกิจกรรมประกอบดว้ ย

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เน้อื หาสาระ กจิ กรรม 1) กระดาษแข็งตัดเป็นรูปโ โครโมโซมจะมียีน B (คว (ควบคุมลกั ษณะสีดำ) ยีน c (ควบคมุ ลักษณะปีกโค้ง โครโมโซมเดียวกัน บาง เท่านั้น (รายละเอียดเพมิ่ เ 2) รูปภาพแมลงหวี่ท่ีมฟี ีโนไท 3 ตัว, ตวั สนี ำ้ ตาลปกี โคง้ สดี ำปีกโคง้ 1 ตัว รวมทง้ั ส 3) กระดาษสถานการณ์ตัวอ เป็นหญิงสาววัยกลางคน ผสมพันธุ์แมลงหวี่เพศผู แมลงหวี่เพศเมียทม่ี ีลักษณ ได้ปรากฏลักษณะตัวสีน้ำ อัตราส่วน 1 : 1 ปิยพรส แบบสอบถามมายังนักวิท นนทรีวิทยา เพื่อหาคำตอ ตามแบบสอบถามท่เี ธอได 2. เมื่อนักเรียนทำกิจกรรมเร ความหมายของลิงค์เกจอีกค

52 มการเรียนรู้ ส่อื การเรียนรู้ การประเมินผลการเรยี นรู้ โครโมโซมที่มี 1 โครมาทิด โดยบน วบคุมลักษณะตัวสีน้ำตาล) ยีน b น C (ควบคุมลกั ษณะปกี ตรง) และยีน ง) ซงึ่ บางโครโมโซมพบทั้งสองยีนบน งโครโมโซมพบเพียงยีนใดยีนหน่ึง เตมิ สามารถดูได้จากชุดกิจกรรม) ทป์ 4 แบบไดแ้ ก่ ตัวสนี ำ้ ตาลปีกตรง 3 ตวั , ตวั สีดำปกี ตรง 1 ตวั และตัว สิ้น 8 ตัว อย่างซึ่งมีรายละเอียดดังน้ี “ปิยพร นที่ชอบแมลงหวี่มาก ปิยพรจึงลอง ้ที่มีลักษณะตัวสีน้ำตาลปีกตรงกับ ณะตัวสีดำปีกโค้ง พบวา่ ลูกรุ่น F1 ที่ ำตาลปีกตรงและตัวสีดำปีกโค้ง ใน สงสัยกับส่ิงที่เกิดขึ้นมาก ปิยพรจึงส่ง ทยาศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญ ณ โรงเรียน อบของข้อสงสัยต่าง ๆ ให้กับปิยพร ด้แนบมาแล้ว” ร ี ย บ ร ้ อ ย แ ล ้ ว ค ร ู น ำ น ั ก เ ร ี ย น ส รุ ป ครั้งหนึ่งว่าเป็นยีนจำนวนตั้งแต่ 2

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เน้อื หาสาระ กิจกรรม โลคัสขึ้นไป อยู่บนโครโมโซ ด้วยกันพร้อม ๆ กัน ซึ่งทำให อสิ ระในการแบง่ เซลลแ์ บบไมโ 3. ครแู สดงผลการทดลองเพิ่มเติม ทดลองพบว่า “นักวิทยาศาสต เดียวกับปิยพร แต่เขากลับได โค้ง และตวั สีดำปีกตรง ซึง่ เป็น parental phenotype) แต่พ ถามเพื่อให้นักเรียนคิดว่าลักษ เกดิ ขึน้ ได้อยา่ งไร? 4. ครูเปิดวีดิทัศนแ์ สดงข้ันตอนก รเฟส I ท่ีมีการแลกเปลี่ยนช้ินส ไขวเ้ ปลีย่ น (crossing over) เ a. เกดิ อะไรขนึ้ กับฮอมอโลก ชนิ้ ส่วนของโครโมโซม) b. กระบวนการแลกเปลี่ยน วีดิทัศน์นั้นเรียกว่ากระบ หรอื crossing over) c. กระบวนการ crossing o หวี่ที่มลี ักษณะตัวสีนำ้ ตา

53 มการเรียนรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมินผลการเรยี นรู้ ซมเดียวกัน และจะถูกถ่ายทอดไป ห้ยีนเหล่านั้นไม่เกดิ การแยกกันอย่าง โอซสิ เพอื่ สรา้ งเซลลส์ บื พันธุ์ มท่นี กั วิทยาศาสตร์ท่านอ่ืนได้ทำการ ตร์ท่านนั้นได้ผสมพนั ธุ์แมลงหวีแ่ บบ ด้แมลงหวี่ที่มีลักษณะตัวสีน้ำตาลปีก นลกั ษณะทไ่ี มพ่ บในรนุ่ พอ่ แม่ (non- พบในจำนวนน้อยมาก” จากนั้นครู ษณะเหล่านี้ไม่ควรจะเกิดขึ้น แต่มัน การแบง่ เซลล์แบบไมโอซิส I ระยะโพ ส่วนของโครโมโซมด้วยกระบวนการ เมือ่ ดูจบแลว้ ครูใชค้ ำถามดงั น้ี กัสโครโมโซมคูน่ น้ั ? (เกิดการแลกเปล่ียน นชิ้นส่วนโครโมโซมที่นักเรียนเห็นใน บวนการอะไร? (กระบวนการไขว้เปลีย่ น over สามารถอธิบายการเกิดแมลง าลปีกโค้ง และตัวสีดำปีกตรง ซึ่งเป็น

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เนื้อหาสาระ กิจกรรม ลักษณะที่ไม่พบในรุ่นพ ไดห้ รือไม่ อย่างไร? จากนั้นครูนำอภิปรายเก ที่มีผลทำให้เกิดการ recombination) ใ ห ้ ก PowerPoint ประกอบค ทางพันธุกรรมที่ไม่พ phenotype) เกิดจากกา ชิ้นส่วนกันในการแบ่งเซ ให้ยีนที่อยู่บนโครโมโซม (genetic recombinatio เซลล์สืบพันธุ์ที่เกิด (recombinant gamete รุ่นพ่อแม่ได้นั่นเอง แต่ม crossing over มีโอกาสเ ภาพท่ี 2 การแลกเปล่ียนชน้ิ

54 มการเรียนรู้ ส่อื การเรียนรู้ การประเมินผลการเรยี นรู้ ่อแม่ (non-parental phenotype) กี่ยวกับกระบวนการ crossing over รวมกลุ่มใหม่ของยีน (genetic ับนักเรียน โดยใช้ภาพและ คำบรรยาย ดังน้ี “การเกิดลักษณะ พบในรุ่นพ่อแม่ (non-parental ารที่โครโมโซมเกิดการแลกเปลี่ยน ซลล์แบบไมโอซิส ระยะโพรเฟส I ทำ มเกิดการรวมกันใหม่ทางพันธุกรรม on) เมื่อแบง่ เซลล์สืบพันธ์ุต่อไปจึงได้ ดจาก ก าร ร ว มก ัน ใหม่ของยีน e) ทำให้เกิดลักษณะใหม่ที่ไม่พบใน มักจะพบน้อยมากเนื่องจากการเกิด เกดิ น้อย” นส่วนโครโมโซมโดยการเกดิ crossing over

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เน้อื หาสาระ กจิ กรรม ขั้นสรปุ (5 นาที) 1. ครูใช้ผังมโนทัศน์สรุปการถ รูปแบบที่เปน็ linkage รวมถึง ในลูกรุ่น F1 ที่จะเกิดขึ้นเนื่อ โครโมโซม โดยใช้สอ่ื PowerP

55 มการเรียนรู้ สอ่ื การเรียนรู้ การประเมินผลการเรยี นรู้ ถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรมใน งอตั ราส่วนของจีโนไทปแ์ ละฟีโนไทป์ องจากการเกิด crossing over ของ Point ประกอบคำอธิบาย

โรงเรยี นสรร กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทย แผนการจดั การเรียนรู้ เรอ่ื ง ลกั ษณะทางพ (หัวขอ้ ยีนบนโครโมโซมเพศ ลักษณะทีอ่ ยภู่ ายใตอ้ ภาคการศึกษาปลาย ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4/พ และ 4/1 สาระชวี วิทยา 2. เขา้ ใจการถ่ายทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรม การถา่ ยทอดยนี บนโคร ดเี อ็นเอ หลกั ฐานข้อมูล และแนวคิดเกย่ี วกับววิ ัฒนาการของสิ่งมชี วี ติ กำเนดิ ของสงิ่ มีชวี ติ ความหลากหลายของสง่ิ มีชีวติ และอนุกรมวธิ าน ผลการเรยี นรู้ ม.4/5 อธบิ ายการถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม และยกตัวอยา่ งลกั ษณะ

56 รพยาวทิ ยา ยาศาสตร์และเทคโนโลยี พันธุกรรมที่เป็นส่วนขยายของเมนเดล IV อิทธิพลของเพศ และลักษณะที่ปรากฏจำเพาะเพศ) รายวิชา ชวี วิทยา2 ว30252 ผ้สู อน นายเรวตั ร อยู่เกิด รโมโซม สมบตั ิ และหนา้ ทขี่ องสารพนั ธุกรรม การเกดิ มวิ เทชนั เทคโนโลยที าง ต ภาวะสมดุลของฮาร์ดี-ไวน์เบริ ก์ การเกดิ สปชี สี ใ์ หม่ ความหลากหลายทางชีวภาพ น รวมทัง้ นำความร้ไู ปใช้ประโยชน์ ะทางพนั ธุกรรมท่ีถกู ควบคุมด้วยยีนบนออโตโซม และยีนบนโครโมโซมเพศ

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เนอื้ หาสาระ กิจกรรม เ ม ื ่ อ จ บ ค า บ เ ร ี ย น การถ่ายทอดยีนที่อยู่บน ขั้นนำ (10 นาที) นักเรยี นสามารถ โครโมโซมเพศจะปรากฏ 1. ครูทบทวนเกี่ยวกับลักษณะทาง 1. อ ธ ิ บ า ย แ ล ะ ลกั ษณะในเพศหนึ่งมากกว่า บนออโตโซม โดยยกตัวอยา่ งลกั ย ก ต ั ว อ ย ่ า ง ก า ร อกี เพศหนึ่ง มีท้ังยีนที่อยบู่ น ถ่ายทอดลักษณะทาง X และยีนที่อยู่บน Y ผิวเผือก โรคธาลัสซีเมีย หมู่เลือ พันธุกรรมที่ไม่เป็นไป ล ั ก ษ ณ ะ ท ี ่อ ย ู ่ภา ย ใ ต้ ใชภ้ าพและสอ่ื PowerPoint ปร ตามกฎของเมนเดลใน อ ิ ท ธ ิ พ ล ข อ ง เ พ ศ เ ป็น รูปแบบการถ่ายทอด ลักษณะที่แสดงออกมาได้ ยนี บนโครโมโซมเพศได้ แตกตา่ งกันในแตล่ ะเพศ ซง่ึ (K) จะถูกควบคุมดว้ ยยีนเด่นใน 2. เปรียบเทียบความ เพศหนึ่งและยีนด้อยในอีก แตกต่างระหว่าง เพศหนึ่งอันเนื่องมาจาก ลักษณะที่อยู่ภายใต้ อิทธิพลของฮอร์โมนเพศ ภาพที่ 1 โค อิทธิพลของเพศและ และลักษณะที่ปรากฏ ล ั ก ษ ณ ะ ท ี ่ ป ร า ก ฏ จำเพาะเพศเป็นลักษณะท่ี จำเพาะเพศได้ (K) ปรากฏในเพศใดเพศหนึ่ง 3. แก้โจทย์ปัญหาการ เท่าน้นั เนือ่ งมาจากอิทธิพล ถ่ายทอดของยีนบน ของฮอร์โมนเพศ โครโมโซมเพศได้ (P) ภาพท่ี

57 มการเรยี นรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. PowerPoint 1. นักเรียนมีส่วนร่วมใน การตอบคำถามในชน้ั เรียน งพันธุกรรมที่ถูกควบคุมด้วยยีนที่อยู่ (ประเมินจากการตอบ คำถามของนักเรียนในช้ัน กษณะทางพันธกุ รรมตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ โรค เรยี น) 2. นักเรียนสามารถแก้ อดระบบ ABO และลักษณะสีตา โดย โจทย์ปัญหาได้ (ประเมิน จากชิ้นงานการแก้โจทย์ ระกอบคำบรรยาย ปัญหาในกิจกรรมที่ 15.4 และคำถามทา้ ยบท) ครโมโซมของมนุษย์ 2 โรคผวิ เผือก

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เนื้อหาสาระ กจิ กรรม ภาพท่ี 3 ภาพท่ี 4 ห ภาพท่ี

มการเรยี นรู้ 58 ส่อื การเรยี นรู้ การประเมนิ ผลการเรียนรู้ 3 โรคธาลสั ซเี มยี หมเู่ ลอื ดระบบ ABO 5 ลักษณะสตี า

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เนื้อหาสาระ กิจกรรม 2. ครูใช้คำถามเพื่อกระตุ้นให้น ถ่ายทอดยีนที่อยู่บนโครโมโซม บนออโตโซมอยา่ งไร?” จากนนั้ ข้นั สอน (75 นาที) 1. ครอู ธบิ ายการทดลองการผสมแม ซ่งึ เมอื่ ผสมรุน่ F1 ไปหลายช่ัวรนุ่ ทั้งหมด ไม่พบลกั ษณะตาสขี าวเ สีแดงต่อตาสีขาวในอัตราส่วน 1 ตาสีขาวน่าจะมีความเก่ียวข้อง ลักษณะสีตาของแมลงหวี่ถูกค ควบคุมสีตาอยู่บนโครโมโซม X ความเข้าใจของผู้เรยี นดังน้ี ภาพท่ี 6 การทดลองข a. นักเรียนคดิ ว่าแมลงหวท่ี ง้ั ส สขี าวซ่งึ เป็นลักษณะด้อยได

59 มการเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมนิ ผลการเรียนรู้ นักเรียนคิดว่า “นักเรียนคิดว่าการ มเพศแตกต่างจาการถ่ายทอดยนี ที่อยู่ นครูนำเข้าสู่บทเรียนในขน้ั ถดั ไป มลงหวขี่ อง Thomas Hunt Morgan นพบว่าเพศเมียแสดงลกั ษณะตาสีแดง เลย ในขณะที่เพศผ้นู ั้นพบลักษณะตา 1 : 1 เขาจึงตั้งสมมติฐานว่าลักษณะ งกับโครโมโซมเพศ แล้วจึงค้นพบว่า ควบคุมด้วยโครโมโซมเพศ โดยยีน X จากนั้นครูใช้คำถามเพื่อตรวจสอบ ของ Thomas Hunt Morgan สองเพศมโี อกาสท่จี ะแสดงลักษณะตา ดเ้ ท่ากนั หรือไม่ อยา่ งไร?

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เนื้อหาสาระ กิจกรรม b. ครูนำอภิปรายสรุปกับนัก โครโมโซมเพศจะปรากฏ หนง่ึ ” ภาพที่ 7 การถ่ายทอดยนี ควบค 2. ครูอธิบายเพ่ิมเติมเกีย่ วกับยีนบ ไดแ้ ก่ ยนี บนโครโมโซม X และย

60 มการเรยี นรู้ ส่ือการเรยี นรู้ การประเมินผลการเรยี นรู้ กเรียนว่า “การถ่ายทอดยีนที่อยู่บน ลักษณะในเพศหนึ่งมากกว่าอีกเพศ คมุ ลักษณะสตี าของแมลงหวบ่ี นโครโมโซมเพศ บนโครโมโซมเพศ แบ่งได้สองรูปแบบ ยนี บนโครโมโซม Y

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เนื้อหาสาระ กจิ กรรม a. ยีนบนโครโมโซม X (โรคต ยีนดอ้ ยบนโครโมโซม X ซ่งึ รูปกรวย ทำให้ไมส่ ามารถม ภาพที่ 8 b. ยนี บนโครโมโซม X (โรคฮโี โรคเลือดไหลไม่หยุด เป็น โครโมโซม X ทำให้ร่างกา แข็งตวั ของเลอื ด

61 มการเรยี นรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมินผลการเรยี นรู้ ตาบอดสี) เป็นลักษณะที่ควบคุมด้วย งจะทำให้เกิดความบกพรอ่ งของเซลล์ มองเหน็ สีของวตั ถุทถี่ กู ต้องได้ 8 แผ่นทดสอบตาบอดสี โมฟเี ลีย) หรอื โรคเลือดแข็งตวั ช้าหรือ นลักษณะที่ถูกควบคุมด้วยยีนด้อยบน ายขาดโปรตีนบางชนิดที่ช่วยในการ

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เน้อื หาสาระ กจิ กรรม ภาพที่ 9 กลไกในก c. ยีนบนโครโมโซม X (โ (Glucose-6-phosphate จากการขาดเอนไซม์ G-6 โลหิตจาง ตัวเหลืองซีด บางอย่างอาจแสดงอากา มาลาเรีย (ไพรมาควีน) ย อาหารบางชนิดเช่น ถว่ั ปาก d. ยีนบนโครโมโซม X (มนุษ บน่ โครโมโซม X ซึ่งมักจะพ

มการเรยี นรู้ 62 สื่อการเรยี นรู้ การประเมินผลการเรียนรู้ การหยุดเลือดของรา่ งกายคนปกติ รคภาวะพร่องเอนไซม์ G-6-PD e dehydrogenase deficiency) เกิด 6-PD อาการที่ปรากฏไม่ชัดเจน เช่น เป็นต้น นอกจากนี้เมื่อได้รับสาร ารผิดปกติ เช่น ได้รับยารักษาโรค ยาปฏิชีวนะ ยาแก้ปวดลดไข้ อาจแพ้ กอา้ เปน็ ตน้ ษย์หมาป่า) เป็นโรคที่เกิดจากยีนเด่น พบไดน้ ้อย

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เนื้อหาสาระ กิจกรรม ภาพที่ 9 ลกั ษณ e. ยนี บนโครโมโซม Y โครโมโ น้อย อาการผิดปกติต่าง เชน่ การมขี นที่หู เป็นต้น ภาพที่ 1 3. ครูอธิบายเพ่ิมเติมเกี่ยวกับกา ในครอบครัวเดียวกันหลาย ๆ โรคทางพันธุกรรม ประกอบด

มการเรียนรู้ 63 ส่ือการเรยี นรู้ การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ณะคนท่ีเป็นโรคมนษุ ยห์ มาปา่ โซม Y มีขนาดเล็ก จึงมียนี ควบคุมอยู่ ๆ ก็จะเกิดเฉพาะในเพศชายเท่าน้ัน 10 ลักษณะคนท่ีขนที่หู ารใช้พันธปุ ระวัติเพื่อนำข้อมูลจากคน ๆ ชั่วรุ่นมาวิเคราะห์โอกาสในการเกดิ ด้วยสญั ลกั ษณ์ต่าง ๆ ดงั ภาพ

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ เน้อื หาสาระ กจิ กรรม ภาพที่ 11 สัญลัก 4. ครูยกตวั อยา่ งการวิเคราะห์พนั ภาพท่ี 1 5. ครูอธิบายเกี่ยวกับลักษณะท influenced traits) ว่าเป็นลัก ในแตล่ ะเพศ ซงึ่ จะถูกควบคมุ อีกเพศหนึ่ง อันเนื่องมาจากอ เช่นลกั ษณะศีรษะลา้ น และกา ภาพท่ี 13

มการเรียนรู้ 64 สื่อการเรียนรู้ การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ กษณ์ทีพ่ บในพนั ธปุ ระวตั ิ นธปุ ระวตั ดิ งั ภาพ 12 พันธปุ ระวัติ ที่อยู่ภายใต้อิทธิพลของเพศ (Sex- กษณะที่แสดงออกมาได้แตกต่างกัน มด้วยยีนเดน่ ในเพศหนึง่ และยนี ดอ้ ยใน อิทธิพลของฮอร์โมนเพศ ยกตัวอย่าง ารมหี นวดในเพศหญงิ และเพศชาย ลกั ษณะศรี ษะลา้ น

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ เน้อื หาสาระ กิจกรรม 6. ครูอธิบายเกี่ยวกับลักษณะท traits) ว่าเป็นลักษณะที่ป เนื่องมาจากอิทธิพลของฮอร์โ ของไก่เพศผูแ้ ละไกเ่ พศเมยี กา เพศชาย เปน็ ตน้ ภาพท่ี 14 ขัน้ สรปุ (15 นาที) 1. ครูสุ่มนักเรียนประมาณ 1-2 ค ถ่ายทอดยีนบนโครโมโซมเพศ ด 1.1 หญงิ คนหนึง่ ตาปกตมิ ีพอ่ ปกติ แต่มีพ่อเป็นโรคตา ตาบอดสี 1.2 หญิงคนหนึ่งตาปกติมีพ่อ ปกติ แต่มีพ่อเป็นโรคตา ตาบอดสี

65 มการเรยี นรู้ ส่ือการเรยี นรู้ การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ที่ปรากฏจำเพาะเพศ (Sex-limited ป ร า ก ฏ ใ น เ พ ศ ใ ด เ พ ศ ห น ึ ่ ง เ ท ่ า น้ั น โมนเพศ ยกตัวอย่างเช่นลักษณะขน ารมหี นา้ อกในเพศหญงิ การมีเคราใน ลกั ษณะขนหางไก่ คน ออกมาแก้โจทย์ปัญหาเรื่องการ ดงั น้ี อเปน็ โรคตาบอดสี แตง่ งานกับชายตา าบอดสี จงหาร้อยละของลูกท่ีเป็นโรค อเป็นโรคตาบอดสี แต่งงานกับชายตา าบอดสี จงหาร้อยละของลูกที่เปน็ โรค

โรงเรยี นสรร กล่มุ สาระการเรยี นร้วู ิทย แผนการจดั การเรยี นรู้ เรอื่ ง ก ภาคการศกึ ษาปลาย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/พ และ 4/1 สาระชีววทิ ยา 2. เข้าใจการถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม การถา่ ยทอดยนี บนโคร ดเี อ็นเอ หลกั ฐานข้อมลู และแนวคดิ เกย่ี วกบั วิวฒั นาการของส่ิงมชี วี ติ กำเนดิ ของสิง่ มชี ีวิต ความหลากหลายของสิ่งมชี ีวติ และอนุกรมวิธาน ผลการเรยี นรู้ ม.4/6 สบื ค้นขอ้ มูล อธิบายสมบัติ และหน้าท่ีของสารพันธกุ รรม โคร

66 รพยาวทิ ยา ยาศาสตร์และเทคโนโลยี การถ่ายทอดยนี และโครโมโซม รายวิชา ชวี วทิ ยา2 ว30252 ผสู้ อน นายเรวัตร อยู่เกดิ รโมโซม สมบัติ และหนา้ ทขี่ องสารพันธกุ รรม การเกิดมิวเทชัน เทคโนโลยที าง ต ภาวะสมดุลของฮารด์ ี-ไวนเ์ บิร์ก การเกดิ สปชี สี ์ใหม่ ความหลากหลายทางชวี ภาพ น รวมทงั้ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ รงสร้าง และองคป์ ระกอบทางเคมีของ DNA และสรปุ การจำลองDNA

จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมการเ เ ม ื ่ อ จ บ ค า บ เ ร ี ย น ทฤษฎีโครโมโซมในการ ขั้นตง้ั คำถาม (5 นาท)ี นักเรียนสามารถ ถ ่ า ย ท อ ด ล ั ก ษ ณ ะ 1. ครูให้ตัวแทนนักเรียน 2 คนท 1. อ ธ ิ บ า ย ท ฤ ษ ฎี ท า ง พ ั น ธ ุ ก ร ร ม ภายนอกแตกตา่ งกัน เช่น สีผวิ ล จากน้นั ครถู ามคำถามเพ่ือใหน้ กั เ โ ค ร โ ม โ ซ ม ใ น ก า ร (chromosome theory สองคนนีม้ ีลักษณะใดแตกตา่ งก ถ่ายทอดลักษณะทาง of inheritance) ถู ก ได้คำตอบเป็นสีผิว ส่วนสูง เป็น พนั ธุกรรมได้ (K) เสนอโดยวอลเทอร์ ซัตตัน เพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นให้นักเรียน (Walter Sutton) มี ควบคุมทำให้ลักษณะทางพันธกุ ใจความวา่ ยีนเปน็ สว่ นหนึ่ง ของโครโมโซม สมรรถนะการเรียนรู้ มีความแตกต่างกัน?” โดยคา 1. ความสามารถในการ พันธุกรรมหรือยีน สุดท้ายครูถ สื่อสาร (การพูด การอ่าน การเขียน) สงสัยและสรา้ งสมมติฐานว่า “น 2. ความสามารถในการคิด ขั้นแสวงหาความรู้ (5 นาท)ี (คิดวิเคราะห)์ 1. ครูให้นักเรียนอ่านข้อมูลในหนัง 3. ความสามารถในการ ชีววิทยา เล่ม 4 หัวข้อที่ 16 แก้ปญั หา (-) โครโมโซม ในหน้าท่ี 46-47 4. ความสามารถในการใช้ ขั้นสรา้ งความรู้ (30 นาที) ท ั ก ษ ะ ช ี ว ิ ต ( ก า ร ท ำ 1. ครูใช้รูปภาพและสื่อ PowerPo กจิ กรรมกลมุ่ ) เพื่อให้นักเรียนได้ข้อสรุปขอ 5. ความสามารถในการใช้ ถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม เทคโนโลยี (การสืบค้น Karyotype ของสิง่ มชี วี ติ ขอ้ มูลโดยใชแ้ ท็บเลต)

67 เรียนรู้ สอ่ื การเรียนรู้ การประเมินผลการเรยี นรู้ 1. PowerPoint 1. นักเรียนบอกเหตุผลของ ที่มีเพศเดียวกัน ลักษณะ 2. รายงานการทดลอง ก า ร ท ี ่ DNA เ ป ็ น ส า ร ลักษณะผม สว่ นสูง เป็นต้น ของเฟรดริช มิเชอร์ พ ั น ธ ุ ก ร ร ม ไ ด ้ ถ ู ก ต ้ อ ง (Friedrich Miescher) (ประเมินจากการตอบ เรียนได้สงั เกตว่า “นกั เรียน 3. รายงานการทดลอง คำถามของนักเรียนในชั้น กนั บ้าง?” โดยคาดว่าอาจจะ ของโรเบิร์ต ฟอยล์เกน เรียน และใบงานสรุปองค์ นต้น จากนั้นครูถามคำถาม (Robert Feulgen) ความรู)้ นสงสัยว่า “ปัจจัยใดเป็นตัว 4. รายงานการทดลอง 2. นักเรียนบันทึกความรู้ กรรมของนักเรียนทั้งสองคน ของเฟรเดอริก กริฟฟิท จากการศึกษาบทความได้ าดว่าอาจจะได้คำตอบคือ (Frederick Griffith) คร บถ้ว น สมบูร ณ์ และ ถามคำถามเพื่อให้นักเรียน 5. รายงานการทดลอง ถูกต้อง (ประเมินจากแบบ ของออสวอลด์ ที แอเวอ บนั ทกึ กจิ กรรม) นกั เรียนคดิ ว่ายีนอยทู่ ่ใี ด?” ร ี ( Oswald T. Avery), 3. คะแนนความร่วมมือรว่ ม งสือเรียน รายวิชาเพิ่มเติม คอลิน แมคลอยด์ (Colin ใจในการทำงานเป็นกลุ่มอยู่ 6.1 การถ่ายทอดยีนและ MacLeod) และแมคลิน ในเกณฑ์ดีขึ้นไป (ประเมิน แ ม ค ค า ร ์ ท ี ( Maclyn จากเกณฑ์การให้คะแนนใน McCarty) การทำงานกลุ่ม) 6. แบบบันทึกกิจกรรม oint ประกอบการใช้คำถาม เรื่องการค้นพ บ สาร องทฤษฎีโครโมโซมในการ พันธุกรรม ดงั น้ี

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเ กิจกรรมในคาบเรียนน้ี ภาพท่ี 1 โครโม ส่งเสริมให้นักเรียนมีวินัย (รักษาเวลาในการศึกษา 1.1โครโมโซมของมนษุ ยม์ คน้ คว้า) และมีความมุ่งม่ัน 1.2โครโมโซมของมนุษย์ม ในการทำงาน 1.3โครโมโซมของมนุษยม์ (กระตือรือร้นที่จะค้นคว้า หาความรู้) ภาพท่ี 2 โคร 2.1 โครโมโซมของหนมู ที ง้ั 2.2 โครโมโซมของหนูมีทง้ั 2.3 โครโมโซมของหนมู ีท้ัง

68 เรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมินผลการเรยี นรู้ มโซมของมนษุ ย์ มีทั้งหมดกแ่ี ทง่ (46 แท่ง) มีทัง้ หมดก่คี ู่ (2 ค)ู่ มที ง้ั หมดกชี่ ดุ (2 ชุด หรือ 2n) รโมโซมของหนู งหมดกแ่ี ทง่ (40 แท่ง) งหมดกีค่ ู่ (2 คู่) งหมดกี่ชุด (2 ชดุ หรอื 2n)

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเ ภาพที่ 3 โครโ 3.1 โครโมโซมของแพะมีท 3.2 โครโมโซมของแพะมที 3.3 โครโมโซมของแพะมีท ภาพที่ 4 ชดุ ของยีนบน 4.1 ยีนบนโครโมโซมมที ั้งห 4.2 ชดุ ของยีนแตล่ ะยีนมีท

69 เรียนรู้ ส่อื การเรยี นรู้ การประเมนิ ผลการเรียนรู้ โมโซมของแพะ ทัง้ หมดกี่แทง่ (60 แทง่ ) ทง้ั หมดก่คี ู่ (2 ค)ู่ ทงั้ หมดก่ีชดุ (2 ชุด หรือ 2n) นฮอมอโลกสั โครโมโซม หมดกค่ี ู่ (6 ค)ู่ ทัง้ หมดก่ชี ดุ (2 ชดุ )

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเ ภาพที่ 5 จโี นไทปข์ องย 4.3 ยีนควบคมุ ลกั ษณะสผี 4.4 ชุดของยีนควบคุมลัก ชุด) จากนั้นครูสรุปเหตุการณ โครโมโซมมี 2 ชดุ เทา่ กนั ” การปฏสิ นธิ ภาพท่ี 6 ก 1.5สเปิร์ม เซลล์ไข่ และไ (สเปิรม์ และเซลลไ์ ขม่ ีท้ังห 2 ชุด)

70 เรยี นรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ยนี ทค่ี วบคุมลกั ษณะสผี วิ ผวิ มที ัง้ หมดกี่คู่ (6 คู)่ กษณะสีผิวมีทั้งหมดกี่ชุด (2 ณ์ที่ 1 ว่า “จำนวนยีนและ ” การปฏสิ นธิ ไซโกต มีโครโซมกี่ชุด (กี่ n) หมด 1 ชดุ ส่วนไซโกตมีทั้งหมด

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเ 2.5ไซโกตได้รับโครโมโซม และแม่) ภาพท่ี 7 การถ่ายทอ 3.5ลูกที่มีลักยิ้มจีโนไทป สืบพันธุ์ใดบา้ ง (ได้รบั A จากนั้นครูสรุปเหตุการณ์ท สามารถถ่ายทอดไปสู่รนุ่ ลูก ภาพที่ 8 จำนวนโครโมโซมในเซล 1.4 โครโมโซมของลูกได เท่าใด (ไดม้ าจากพอ่ 3

เรียนรู้ สือ่ การเรียนรู้ 71 มมาจากที่ใดบ้าง (มาจากพ่อ การประเมนิ ผลการเรียนรู้ อดลักษณะการมีลกั ย้มิ ป์ Aa ได้รับยีนมาจากเซลล์ A มาจากพ่อ และ a มาจากแม่) ที่ 2 ว่า “ยีนและโครโมโซม กหลาน” ลล์สบื พนั ธุ์/ไซโกต ด้มาจากพ่อและแม่คนละ แท่ง และแม่ 3 แทง่ )

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเ ภาพที่ 9 ยีนบนเซล 1.5 ถ้าลกู มีจีโนไทป์ AAB ไข่ท่ีมเี ซลลส์ บื พันธ์แุ บ จากนั้นครูสรุปเหตุการณ์ท จากไซโกตจะมีโครโมโซมค ครึ่งหนึ่งจากแม่ ซึ่งยีนคร ครึ่งหนึ่งก็มาจากแม่เช่น ลักษณะแปรผันไปจากพอ่ แ ภาพที่ 10 กา 1.6 จากภาพมสี เปิรม์ กีต่ ัว

72 เรียนรู้ ส่อื การเรยี นรู้ การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ลล์สืบพนั ธแุ์ ละไซโกต BB แสดงวา่ เกดิ จากอสุจิและ บบใด (AB และ AB) ที่ 3 ว่า “ทุกเซลล์ที่เกิดมา ครึ่งหนึ่งมาจากพ่อและอีก รึ่งหนึ่งก็มาจากพ่อและอีก นกัน ทำให้ลูกที่เกิดมามี แม่” ารปฏสิ นธใิ นคน ว (มากมายหลายตัว)

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเ ภาพที่ 11 กา 1.7 จากภาพมไี ขก่ ่ีฟอง (ม 1.8 การปฏิสนธิมีการกำ รวมกันไดแ้ นช่ ัดหรอื ไม่ (ไม ภาพ 12 การรวมกลมุ่ 1.9 การรวมกลุ่มกันใหม ความแน่นอนหรือไม่ (ไม่ อสิ ระแบบสุ่ม) จากนั้นครูสรุปเหตุการณ สืบพันธุ์ การรวมของเซล โกตเป็นไปอย่างสุ่ม ทำให

73 เรยี นรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ารปฏิสนธใิ นกบ มากมายหลายตัว) ำหนดสเปิร์มและไข่ที่จะมา มแ่ นช่ ัด จะเกดิ อยา่ งสุม่ ) มของยีนในเซลล์สืบพนั ธ์ุ ม่ของยีนในเซลล์สืบพันธุ์มี แน่นอน เกิดการรวมกันอย่าง ณ์ที่ 4 ว่า “ขณะเกิดการ ลล์ไข่และสเปิร์มเกิดเป็นไซ ห้เกิดการรวมกันระหว่างชุด

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมการเ ของโครโมโซมจากเซลล์ไข ด้วย ซึ่งเหมือนกับการที่ช เซลล์สืบพันธุข์ องพอ่ กลับม ในเซลล์สืบพันธุ์ของแม่ เ อยา่ งสมุ่ เช่นกัน” การแบ่งเซลล์แบบไมโอซสิ ภาพท่ี 13 การแบ ระยะ anaphase I 1.1 เกิดอะไรขึ้นในระย Anaphase II (เกิดกา chromosome และ sis 1.2 ในการสร้างเซลลส์ ืบพ เปน็ อย่างไร (เกิดการแ

เรียนรู้ สื่อการเรียนรู้ 74 ข่และสเปิรม์ เป็นไปอย่างสุม่ ชุดของแอลลีลที่เกิดขึ้นใน การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ มารวมกันอีกครั้งกับแอลลีล เมื่อมีการสืบพันธุ์ก็เป็นไป ส บง่ เซลลแ์ บบไมโอซิส I และ anaphase II ยะ Anaphase I และระยะ ารแยกกันของ homologous ster chromatid ตามลำดบั ) พันธ์ุยีนที่เคยอยคู่ ูก่ นั มสี ภาพ แยกกนั ของยีน)

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเ ภาพที่ 14 การแบ ระยะ telophase จากนั้นครูสรุปเหตุการณ์ท เซลล์แบบไมโอซิส โครโม แยกจากกันไปยังเซลล์ลูก ลักษณะเดียวกันนี้ก็เกิดขึ้น ของแอลลลี ท้ังสองไปยังเซล 1.3 ในการแบ่งเซลล์แบบ I และ Telophase II ไปในแตล่ ะเซลล์ลูกใน จากกันอยา่ งอสิ ระ ไม่มกี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook