การเรียนรู้ 175 งลายพิมพ์ DNA เพอื่ หาความสัมพนั ธ์ สื่อการเรยี นรู้ การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ครอบครวั งลายพิมพ์ DNA เพื่อหาบุตรบญุ ธรรม ายพิมพ์ DNA และทราบตัวของ รยี นแต่ละกล่มุ เขยี นคำตอบลงใน ตัวแทนกลมุ่ มาส่งคำตอบท่ีหนา้ ตอบถกู เปน็ กลมุ่ แรกของแตล่ ะ ลไป ทำกิจกรรมตามที่ครูได้อธิบาย กกิจกรรมในตอนที่ 1 ก่อน เม่ือ รรมในตอนที่ 2 ตอ่ ไป
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมก ข้ันสรา้ งความรู้ (30 นาที) 1. ครูและนักเรยี นรว่ มกันอภิป ศึกษาค้นคว้าหาความรู้ โด ดงั น้ี กิจกรรมที่ 1 การประยุกต การแพทย์และเภสัชกรรม พนั ธศุ าสตร์เพอื่ ศกึ ษาค้นคว ตอนที่ 1 การประยุกต์ใช้เ เภสชั กรรม 1) เทคนิค PCR ใช้ในกา เทคนิค PCR ใช้ตรวจส ติดเชือ้ ตา่ ง ๆ เช่น เชอ้ื ไวร ว่ามจี โี นมของไวรัสอยู่ในสงิ่ 2) การวินิจฉยั โรคนน้ั เหมา อย่างไร (โรคที่เกี่ยวข้อง นำไปใช้ในการตรวจวินจิ ฉัย ของโรคหรือเป็นเพียงพ ถ่ายทอดลักษณะดงั กลา่ วไ 3) วิธีการบำบัดด้วยยีน (g ใช้ไวรัสชนิดหนึง่ เป็นตัวนำ นำยนี ทต่ี อ้ งการรกั ษาโรคถ
176 การเรียนรู้ สือ่ การเรียนรู้ การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ปรายคำตอบของการทำกจิ กรรม ดยใช้สื่อ PowerPoint ประกอบ ต์ใช้เทคโนโลยีทาง DNA ในเชิง ม, เชิงการเกษตร และการใช้ ว้าหายีนและหนา้ ที่ของยีน เทคโนโลยีในเชิงการแพทย์และ ารวินิจฉัยโรคประเภทใด และ สอบสิ่งใด (วินิจฉัยโรคที่เกิดจากการ รสั โดยใชเ้ ทคนิค PCR เพื่อตรวจสอบ งมีชีวติ น้ันหรือไม่) าะกบั โรคแบบใด และมีประโยชน์ งกับพันธุกรรม ประโยชน์คือสามารถ ยโรคทางพันธกุ รรมกอ่ นท่ีจะมีอาการ พาหะ ซึ่งทำให้สามารถป้องกันการ ไดอ้ ย่างถูกต้อง) gene therapy) คืออะไร (คือการ ำยีนที่ต้องการถ่ายเขา้ สู่เซลลค์ น เพื่อ ถ่ายฝากเข้าส่จู ีโนมของคน)
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมก 4) จงยกตัวอย่างโรคและ รักษาด้วยวิธีการบำบัด Immunodefiency Disor พันธุกรรม ผู้ที่เป็นโรคนี้ไ เสียชีวติ จากการตดิ เชื้อเพยี 5) การสร้างผลิตภัณฑ์ทา ทาง DNA รูปแบบใด ( บิแนนท)์ 6) จงยกตัวอย่างผลิตภัณ พรอ้ มท้งั บอกวา่ ผลิตภัณ (1) การสร้างฮอร์โมนอินซ สร้างโปรตีนตัวรับเพื่อเลีย ช่วยลดการทำลายเซลล์เ ต้นแบบของโรคแทนการใช ตอนท่ี 2 การประยกุ ตใ์ ชใ้ น 1) การใช้เทคโนโลยีทาง D และพืชมีเป้าหมายอย่า ลักษณะทดี่ ีขึ้นตามตอ้ งการ 2) ตัวอย่างการสร้างฟาร สารเพื่อนำไปใช้รักษาโ จากสตั ว์ชนิดนนั้ (โรคซ
177 การเรยี นรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ะลักษณะอาการของโรคที่มีการ ดด้วยยีน (โรค Severe Combined rder (SCID) ซึ่งโรคนี้เป็นโรคทาง ไม่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ และมัก ยงเล็กนอ้ ย) างเภสัชกรรมนิยมใช้เทคโนโลยี (พันธุวิศวกรรมเพื่อสร้าง DNA รีคอม ณฑ์ทางเภสัชกรรมมา 1 ชนิด ณฑ์นน้ั ใช้ในการรกั ษาโรคใด ซูลินเพื่อรักษาโรคเบาหวาน 2) การ ยนแบบโปรตีนในร่างกาย ใช้ในการ เม็ดเลือดขาวจาก HIV 3) ตัดต่อยีน ช้วคั ซนี เพอื่ สร้างภมู ิคมุ้ กนั ตอ่ โรค) นเชิงการเกษตร DNA เพื่อการปรับปรุงพันธุ์สัตว์ างไร (ปรับปรุงพันธุ์สัตว์และพชื ให้มี ร) ร์มสัตว์ที่เสมือนเป็นโรงงานผลิต โรคใด และมีการใช้ผลผลิตอะไร ซิสตกิ ไฟโบรซสิ (Cystic fibrosis) โดย
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมก ใช้ผลผลิตจากน้ำนมแกะท ทำลายเซลล์ปอด) 3) ขั้นตอนการสร้างสัตว animal) เปน็ อยา่ งไรบ เมีย และฉีดยีนที่ต้องกา (microinjection) ซึ่งจะม แทรกเข้าในจีโนมของนิว การผสมพันธใ์ุ นหลอดทดล ฝากเข้าในตัวแม่ผู้รับ เพื่อ ตอ้ งการอยู่โดยไมจ่ ำเป็นตอ้ 4) จงเตมิ ตารางต่อไปนใ้ี หส้ แบบบันทึกกิจกรรมที่แ ฉบบั นี้) ตอนที่ 3 การใช้พันธุศาส หน้าท่ีของยีน 1) ความผดิ ปกติของลักษณ กับการทำงานของโปร กจิ กรรมตา่ ง ๆ เปน็ หลกั ด ทำให้เกิดการทำงานผิดป ลักษณะของสง่ิ มชี วี ิตนน้ั ๆ 2) การเปลี่ยนแปลงข เปลี่ยนแปลงของสงิ่ ใด
178 การเรยี นรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมินผลการเรียนรู้ ทม่ี ีโปรตีนยับยงั้ เอนไซม์ทีท่ ำให้เกดิ การ ว์ดัดแปรพันธุกรรม (transgenic บ้าง (เรมิ่ จากแยกเซลลไ์ ขอ่ อกจากเพศ ารเข้าไปในนิวเคลียสของเซลล์ไข่ มีเซลล์ไข่บางเซลล์ยอมให้ยีนดังกล่าว เคลียสและแสดงออกได้ จากนั้นทำ ลอง (in vitro fertilization) แล้วถ่าย อให้เจริญเป็นลูกตัวใหม่ซึ่งจะมียีนท่ี องมาจากสปีชสี ์เดียวกัน) สมบรู ณ์ (แนวคำตอบอยู่ในเฉลย แนบมากับแผนการจัดการเรยี นรู้ สตร์เพื่อศึกษาค้นคว้าหายีนและ ณะของส่งิ มีชีวิตมคี วามเก่ียวข้อง รตีนอย่างไร (โปรตีน เป็นต้นดำเนิน ดังน้ันหากมีการทำงานของโปรตีนหรือ ปกติของโปรตีนดังกล่าว จะมีผลต่อ ๆ ได้) ของโปรตีนเกิดขึ้นจากการ (ยีน)
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมก 3) นักเรียนจะทราบหน้าท เปลี่ยนแปลงดังกลา่ วเกิดข ของยนี น้ัน ๆ ได้) 4) มิวแทนต์ (mutant) ค เทชันในส่ิงมีชีวติ ท่ีมีการเป เกิดจากการเปลี่ยนแปล ลักษณะบางประการในส่งิ ม 5) ยีนควบคุมความหอมข และยีนนั้นมีชื่อว่าอ Os2AP) 6) หากนักเรียนต้องการท ทำได้อย่างไร (ยับยั้งก เนื่องจากยีนชนิดนี้จะควบ ของข้าว) ตอนที่ 2 การประยุกต์ใช้เ วิทยาศาสตร์ แผนภาพลายพมิ พ์ DNA ท หาตัวคนร้าย 1) บุคคลหมายเลข 4 ถูก จะตัดสินว่าเขาเป็นฆา เหตุใด (บุคคลหมายเลข พมิ พ์ DNA ไม่ตรงกับหลัก
179 การเรียนรู้ ส่อื การเรยี นรู้ การประเมินผลการเรียนรู้ ที่ของยีนหนึ่ง ๆ ได้อย่างไร (การ ข้ึนที่โปรตีนใด ยนี ใด ก็ทราบถึงหน้าท่ี คืออะไร เกิดขึ้นได้อย่างไร (คือมิว ปลี่ยนแปลงของฟโี นไทป์บางประการ ลงการทำงานของโปรตีนที่ควบคุม มชี ีวิตนั้น ๆ) ของข้าวอยู่บนโครโมโซมแท่งใด ะไร (โครโมโซมแท่งที่ 8 มีชื่อว่า ทำให้ข้าวมีกลิ่นหอม จะสามารถ การทำงานของยีน Os2AP ในข้าว บคุมไม่ใหข้ ้าวผลิตสารทีใ่ หค้ วามหอม เทคโนโลยีทาง DNA ในเชิงนิติ ท่ี 1 : การใชล้ ายพิมพ์ DNA เพื่อ กกล่าวหาว่าเป็นฆาตกร นักเรียน าตรกรหรือเป็นผู้บริสุทธิ์ เพราะ ข 4 เป็นผู้บริสุทธิ์ เนื่องจากแถบลาย กฐานในทเี่ กดิ เหต)ุ
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมก 2) ผูต้ ้องสงสัยหมายเลขใด หลกั ฐานท่พี บในที่เกิดเห 3) นักเรียนสรุปได้ว่าใครเ หมายเลข 3 เน่อื งจากมลี า ทีพ่ บในที่เกิดเหต)ุ แผนภาพลายพิมพ์ DNA ท หาความสัมพันธ์ทางสายเลอื 1) จากการตรวจลายพิมพ และ ข นักเรียนบอกได ความสัมพันธ์กันในลัก ใดไม่มีความสัมพันธ์กัน พ่อ-แม่-ลูกกัน พิจารณาจ กับพ่อแม่ ส่วนครอบครัว กบั ของพอ่ และแม่เป็นส่วน แผนภาพลายพิมพ์ DNA ท หาบตุ รบุญธรรม 1) สามีภรรยาคู่หนึ่งมีลูก คน และลูกชาย 2 คน สามีภรรยาคู่นี้ ลูกคนใ ติดพ่อและคนใดเป็นลูก คนที่ 1 และลูกชายคนที่ ของลูกที่ตรงกับพ่อแม่, ล
180 การเรยี นรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมินผลการเรียนรู้ ดที่มีลายพิมพ์ DNA ใกล้เคียงกับ หตุ (บุคคลหมายเลข 3) เป็นคนร้าย เพราะเหตุใด (บุคคล ายพิมพ์ DNA ท่ีใกล้เคยี งกับหลักฐาน ท่ี 2 : การใช้ลายพมิ พ์ DNA เพ่ือ อด พ์ DNA ของคนในครอบครัว ก ด้หรือไม่ว่าคนในครอบครัวใดมี กษณะพ่อ-แม่-ลูก และครอบครัว น เพราะเหตุใด (ครอบครัว ก เป็น จากแถบลายพิมพ์ DNA ของลูกที่ตรง ข แถบลายพิมพ์ DNA ของลูกไม่ตรง นใหญ)่ ท่ี 3 : การใช้ลายพิมพ์ DNA เพ่ือ ก 4 คน ในจำนวนนี้มีลูกสาว 2 จงวิเคราะห์ว่าลูกทั้ง 4 คนของ ใดเป็นลูกที่แท้จริง คนใดเป็นลูก กบุญธรรม (ลูกที่แท้จริงคือลูกสาว 1 พิจารณาจากแถบลายพิมพ์ DNA ลูกติดพ่อคือลูกสาวคนที่ 2 พิจารณา
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมก จากแถบลายพิมพ์ DNA ข ของแม่, ลูกบุญธรรมคือล พิมพ์ DNA ของลกู ท่ีไม่ตรง ข้นั สื่อสาร (5 นาท)ี 1. ครูสุ่มนักเรียนเพื่อมาอธิบา ทง้ั 3 แผนภาพให้ครแู ละนัก การทบทวนและย้ำในวิธกี าร ในเชิงนติ ิวทิ ยาศาสตร์ ขน้ั ตอบแทนสงั คม 1. ให้นักเรียนนำความรู้เรื่อง DNA ท่ีไดเ้ รยี นไปทกุ ๆ ด้าน เรียนอื่น ๆ ที่ไม่เน้นวิทยาศ เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีท ใช้ประโยชนจ์ ากเทคโนโลยที เลา่ เร่อื งราวมารายงานให้คร
181 การเรียนรู้ สอื่ การเรียนรู้ การประเมินผลการเรียนรู้ ของลูกที่ตรงกับของพ่อแต่ไม่ตรงกับ ลูกชายคนที่ 2 พิจารณาจากแถบลาย งกับของพอ่ และแม)่ ายและวิเคราะห์ลายพิมพ์ DNA กเรยี นคนอื่นฟงั อีกคร้ัง เพ่ือเป็น รประยกุ ตใ์ ช้เทคโนโลยีทาง DNA งการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีทาง น ไปเล่าใหเ้ พ่ือนทีเ่ รียนแผนการ ศาสตร์ หรือบุคคลที่ยังไม่ทราบ ทาง DNA ในปัจจุบันให้เข้าใจการ ทาง DNA แล้วนำสงิ่ ท่ีไดจ้ ากการ รูทราบ
โรงเรยี นสรร กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทย แผนการจดั การเรียนรู้ เรือ่ ง ภาคการศึกษาปลาย ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4/พ และ 4/1 สาระชีววทิ ยา 2. เข้าใจการถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม การถ่ายทอดยีนบนโคร ดเี อ็นเอ หลกั ฐานข้อมลู และแนวคดิ เก่ยี วกับวิวัฒนาการของสิ่งมชี ีวติ กำเนิดของสง่ิ มีชีวิต ความหลากหลายของส่งิ มชี ีวติ และอนุกรมวิธาน ผลการเรยี นรู้ ม.4/12 สบื ค้นข้อมลู และอธบิ ายเก่ียวกบั หลักฐานท่สี นับสนุน และ ม.4/13 อธิบาย และเปรียบเทียบแนวคิดเกี่ยวกบั ววิ ฒั นาการของส่ิง ชาลส์ ดาร์วิน
182 รพยาวิทยา ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ง หลกั ฐานทางวิวฒั นาการ รายวิชา ชวี วิทยา2 ว30252 ผูส้ อน นายเรวัตร อย่เู กิด รโมโซม สมบัติ และหน้าทข่ี องสารพันธกุ รรม การเกิดมิวเทชัน เทคโนโลยที าง ต ภาวะสมดุลของฮาร์ดี-ไวน์เบิรก์ การเกดิ สปชี ีสใ์ หม่ ความหลากหลายทางชวี ภาพ น รวมทง้ั นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ะข้อมูลท่ีใช้อธบิ ายการเกิดววิ ัฒนาการของสิ่งมชี ีวิต งมชี ีวติ ของฌอง ลามารก์ และทฤษฎเี กยี่ วกบั ววิ ัฒนาการของส่งิ มีขวี ติ ของ
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรม เ ม ื ่ อ จ บ ค า บ เ ร ี ย น ด้านความรู้ (K) ข้นั ต้ังคำถาม (5 นาท)ี นกั เรยี นสามารถ หลักฐานทางวิวัฒนาการคือ 1. ครูกล่าวเพื่อนำเข้าสูบ่ ทเร 1. บอกความหมายของ แหล่ง ข้อ มูลที่บ่ง บอ ก ถึ ง เรยี นรู้เกยี่ วกบั เรือ่ งของลัก หลักฐานทางวิวัฒนาการ วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิ ต เป็นปัจจัยในการควบค ได้ (K) หลักฐานทางวิวัฒนาการแบ่ง ส่งิ มีชวี ติ ” จากนน้ั ครใู ช้คำถ 2. ยกตัวอย่างประเภท ออกเปน็ 5 ประเภทได้แก่ มาว่า “หาก DNA มีความ ข อ ง ห ล ั ก ฐ า น ท า ง 1) ห ล ั ก ฐ า น จ า ก ซ า ก - ไป จะส่งผลต่อลักษณะทา วิวฒั นาการได้ (K) ดึกดำบรรพ์ของสิ่งมีชีวิต เวลานกั เรยี นคาดคะเนคำต 3. เปรียบเทียบหลักฐาน คือหลักฐานที่เป็นซากหรือ ลักษณะทางพันธุกรรมเปลี่ย ทางวิวัฒนาการ เพื่อ ร่องรอยของสิ่งมีชีวิตใน เพื่อให้นักเรียนคิดสืบสอบ อธิบายวิวัฒนาการของ อดีต ที่เรียกว่าซากดึกดำ จะถ่ายทอดไปยังรุ่นลูกห สิ่งมชี ีวติ ได้ (P) บรรพ์ (fossil) โดยส่ิงมีชีวิต คาดคะเนคำตอบสักครู่ (แน 4. มีความมุ่งมั่นในการ ทยี่ งั มีชวี ิตอยูแ่ ละมีลักษณะ ทำงาน (A) คลา้ ยกับซากดึกดำบรรพ์ใน 5. ทำงานเป็นกลุ่มได้ อดีตจะเรียกว่าซากดึกดำ อยา่ งมีประสิทธภิ าพ (A) บรรพ์ที่ยังมีชีวิต (living- ภาพที่ 1 ตัวอย fossil) 2. ครูใหค้ วามรู้เพมิ่ เติมกับนัก 2) หลักฐานจากกายวิภาค ที่แตกต่างจากบรรพบุรษุ แ เปรียบเทียบ คือหลักฐาน สภาพแวดล้อมที่ต่างกันใ ในการพิจารณากายวิภาค วิวัฒนาการ (evolution)”
183 มการเรียนรู้ ส่อื การเรียนรู้ การประเมินผลการเรยี นรู้ 1. PowerPoint 1. นักเรียนบอกความหมาย รียนว่า “ในบทเรียนที่ผ่านมาเราได้ 2. แ บ บ บ ั น ทึ ก ข อ ง ห ล ั ก ฐ า น ท า ง กษณะทางพนั ธกุ รรม และ DNA ซง่ึ ก ิ จ ก ร ร ม เ ร ื ่ อ ง ว ิว ัฒ น าก าร ไ ด้ถูกต้อง คุมลักษณะทางพันธุกรรมของ ห ล ั ก ฐ า น ท า ง (ประเมนิ จากแบบสอบ) ถามเชอื่ มโยงเขา้ กับบทเรียนท่ีผ่าน ววิ ัฒนาการ 2. นักเรียนยกตัวอย่าง มผิดปกติหรือเกิดการเปลี่ยนแปลง 3. ใบความรู้เรื่อง ประเภทของหลักฐานทาง างพันธุกรรมหรือไม่ อย่างไร” ให้ ห ล ั ก ฐ า น ท า ง วิวัฒนาการได้ทุกประเภท ตอบสกั ครู่ (แนวคำตอบคอื สง่ ผลทำให้ วิวัฒนาการ (ประเมินจากแบบสังเกต ยนแปลงไป) จากนั้นครูใช้คำถาม 4. แบบจำลองช้ันหิน และแบบสอบ) บว่า “ลักษณะที่เปลี่ยนแปลงไปนน้ั ตะกอนเพื่อศึกษา 3. นักเรียนเปรียบเทียบ หลานได้หรือไม่” ให้เวลานักเรียน ซากดึกดำบรรพ์ หลักฐานทางวิวัฒนาการ นวคำตอบคอื ได)้ 5. ชุดทดลองการขุด เพื่ออธิบายวิวัฒนาการของ หาฟอสซิล สิ่งมีชีวิตได้ (ประเมินจาก 6. ชุดภาพสิ่งมีชีวิต แบบสังเกตและแบบบันทึก เพื่อใช้ในการศึกษา กิจกรรม) ยา่ งววิ ัฒนาการในสิ่งมีชีวติ โครงสร้างของ กเรียนว่า “ลักษณะของรนุ่ ลูกหลาน ส่งิ มชี วี ติ และถกู คัดเลือกให้มีชีวิตอยู่รอดใน 4. นักเรียนมีความมุ่งมั่นใน ในระยะเวลาที่ยาวนาน เรียกว่า การศึกษาหาความรู้จาก ” จากนั้นครูใช้คำถามเพื่อกระตุ้น แบบเรียน (ประเมินจาก
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรม เปรียบเทียบของโครงสร้าง ให้นักเรียนสงสัยว่า “แล้ว ร ่าง ก ายของ สิ่ง มีช ี วิ ต วิวัฒนาการมาอย่างไรจน โดยโครงสร้างที่มีต้นกำเนิด จากนั้นครูเปิดวีดีทัศน์วิวัฒ เดียวกันแต่อาจทำหน้าที่ ศึกษา ต่างกันเพ่อื การดำรงชีวิตอยู่ ในสภาพแวดลอ้ มท่ีแตกต่าง กันเรียกว่าโครงสร้าง ฮอมอโลกัส (homologous structure) ส่วนโครงสรา้ งที่ ท ำ ห น ้ า ท ี ่ เ ด ี ย ว ก ั น ห รื อ คล้ายกันแต่มีต้นกำเนิด ภาพที่ 2 ว ต่างกันเรียกว่าโครงสร้าง 3. ครูกล่าวถามเพื่อนำเข้าสู่ก อะนาโลกัส (analogous มาอยา่ งยาวนาน แล้วนักเร นั้นมีวิวฒั นาการมาจากบร structure) 3) ห ล ั ก ฐ า น จ า ก ว ิ ท ย า ยนื ยันสมมติฐานนน้ั ” เอ็มบริโอเปรียบเทียบ คือ ขน้ั แสวงหาความรู้ (50 นาท หลักฐานในการพิจารณา 2. ครูแบ่งนักเรียนออกเป็นก เอ็มบริโอเปรียบเทียบใน ขั้นตอนการทำกิจกรรมน สิ่งมีชีวิต โดยจะพิจารณา เรียนนี้จะให้นักเรียนแต ความสัมพันธ์ของสิ่งมีชีวิต ฐานความรู้ในแตล่ ะฐาน ซ่ึง ฐานที่ 1 หลักฐานจากซาก
184 มการเรยี นรู้ สือ่ การเรียนรู้ การประเมนิ ผลการเรียนรู้ วนักเรียนทราบหรือไม่ว่ามนุษย์มี เกณฑ์การให้คะแนนความ นมีลักษณะเหมือนในปัจจุบัน” มุ่งมั่นในการทำงาน โดย ฒนาการของมนุษย์ให้นักเรียนได้ สังเกตจากความตั้งใจใน ศึกษาการทดลองเสมือนจริง วิวัฒนาการของมนษุ ย์ โดยสังเกตจากพฤติกรรมที่ จดจ่ออยู่กับบทเรียน ไม่ กิจกรรมว่า “สิ่งมชี ีวติ มีวิวัฒนาการ วอกแวกหรอื คยุ กับเพ่อื น) รยี นจะทราบได้อย่างไรว่าสิ่งมีชีวิต 5. นักเรียนทำงานร่วมกับ รรพบุรุษใด และมีสิ่งใดที่ใช้ในการ ผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธภิ าพ (ประเมินจากเกณฑ์การให้ คะแนนการทำงานร่วมกับ ผู้อื่น) ท)ี กลุ่ม กลุ่มละ 3 คน จากนั้นอธิบาย นักเรียนได้ทราบ กิจกรรมในคาบ ต่ละกลุ่มแยกศึกษาข้อมูลตาม งมที ้งั หมด 5 ฐานความรู้ ไดแ้ ก่ กดึกดำบรรพ์ของสิ่งมชี ีวติ
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรม แ ต ่ ล ะ ช น ิ ด จ า ก ค ว า ม ฐานที่ 2 หลกั ฐานจากกาย คล้ายคลึงกันของอวัยวะ ฐานท่ี 3 หลักฐานจากวิทย บางประการ เช่น การพบ ฐานท่ี 4 หลกั ฐานด้านชวี ว ช่องเหงือก (pharyngeal- ฐานท่ี 5 หลักฐานทางชีวภ pouch) และหาง เปน็ ต้น โดยให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม 4) หลักฐานด้านชีววิทยา แล้วตอบคำถามลงในแบบบ ระดับโมเลกุล คือหลักฐาน เวลาในการศึกษาความร ใ น ร ะ ด ั บ DNA โ ด ย จ ะ ทำเช่นน้ีไปจนครบทกุ ฐานค เ ป ร ี ย บ เ ท ี ย บ จ ำ น ว น ขนั้ สรา้ งความรู้ (30 นาท)ี ตำแหน่งของกรดอะมิโนใน 1. ครูและนักเรียนร่วมกันอภ สายพอลีเพปไทด์ที่มีความ ศึกษาค้นคว้าหาความรู้ โ แตกต่างกัน เพื่อใช้บอก ดงั น้ี ความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกัน ฐานที่ 1 หลกั ฐานจากซา ท า ง ว ิ ว ั ฒ น า ก า ร ข อ ง 1. ซากดึกดำบรรพ์ที่พ สงิ่ มชี วี ติ ได้ ส่งิ มชี วี ิตชนิดใด มีลกั ษณะ 5) หลักฐานทางชีวภูมิศาสตร์ แข็ง) คือหลักฐานที่ศึกษาการ 2. ซากดึกดำบรรพ์ที่พบ แพร่กระจายของสิง่ มีชวี ติ ใน ไดโนเสาร์ รอยเท้าสัตว์ รอยพ พื้นที่ต่าง ๆ เพื่อหา แมลงในอำพนั ) ความสัมพันธ์ทาง
มการเรยี นรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ 185 ยวภิ าคเปรียบเทียบ ยาเอม็ บริโอเปรยี บเทียบ การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ วทิ ยาระดบั โมเลกุล ภมู ศิ าสตร์ มศึกษาความรู้ในแต่ละฐานความรู้ บนั ทึกกิจกรรมท่ีครูแจกให้ โดยให้ รู้ในแต่ละฐาน ฐานละ 10 นาที ความรู้ ภิปรายคำตอบของการทำกิจกรรม โดยใช้สื่อ PowerPoint ประกอบ ากดึกดำบรรพ์ของสิง่ มชี วี ิต พบในฐานคือซากดึกดำบรรพ์ของ ะอยา่ งไร (หอย มีลักษณะเป็นโครงรา่ ง บในฐานนี้ มีอะไรบ้าง (โครงกระดูก- พมิ พ์ใบไมต้ น้ ไม้ทก่ี ลายเป็นหิน และซาก
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรม วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต 3. ซากดึกดำบรรพ์ของ ในสปีชีส์นั้น ๆ โดยการ ปัจจุบันมลี ักษณะเหมอื นห ววิ ฒั นาการของสงิ่ มีชีวิตเกดิ จากสภาพทางภูมิศาสตร์ท่ี เหมอื นกันคอ่ นขา้ งมาก) แตกตา่ งกนั 4. จากแบบจำลองชั้นหนิ ดา้ นทกั ษะ (P) ชนิดใดที่น่าจะมีอายุมาก 1. ความสามารถในการสื่อสาร (การพดู การอา่ น การเขียน) และ K เพราะเปน็ ซากดกึ ดำบ 2. ความสามารถในการคิด เกิดการทบั ถมกันมาเปน็ เวลาน (การวิเคราะห์) 3. ค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น ก า ร 5. จากแบบจำลองชัน้ หิน แกป้ ัญหา (-) ชนิดใดที่น่าจะมีลักษณะ 4. ความสามารถในการ ใช้ ที่สุด เพราะเหตุใด (หอย ทกั ษะชวี ิต (การทำงานกลุ่ม) 5. ความสามารถในการ ใช้ บรรพท์ ่ีพบในชนั้ หินตะกอนช เทคโนโลยี (การใช้แท็บเลตเพื่อ สืบค้นข้อมลู ) 6. จงบอกข้อจำกัดของก ของส่ิงมีชีวติ (ซากดึกดำบร ถูกทำลายจากปรากฏการณ์ธ ชวี ิตอกี หลายชนดิ ท่ีไมม่ ีโอกาส ฐานท่ี 2 หลักฐานจากกา 1. จากตารางบันทึกผล โครงสร้างของสิ่งมีชีว พร้อมท้งั บอกด้วยว่าจ กำเนิดเดียวกันหรือ รยางค์คู่หน้าของวาฬ โด
มการเรียนรู้ สอ่ื การเรียนรู้ 186 งแมงดาทะเลกับแมงดาทะเลใน หรือแตกต่างกนั อย่างไร (มลี กั ษณะท่ี การประเมินผลการเรยี นรู้ นตะกอน ซากดกึ ดำบรรพข์ องหอย กที่สุด เพราะเหตุใด (หอยชนิด I, J บรรพ์ท่พี บในชั้นหินตะกอนช้ันล่างสุดที่ นาน) นตะกอน ซากดึกดำบรรพ์ของหอย คล้ายคลึงกับหอยในปัจจุบันมาก ยชนิด A และ B เพราะเป็นซากดึกดำ ัน้ บนสุดท่เี พง่ิ เกดิ การทับถมได้ไมน่ าน) การใชห้ ลักฐานจากซากดึกดำบรรพ์ รรพท์ ีค่ ้นพบมกั ไม่ครบสมบูรณ์หรืออาจ ธรรมชาติหรือยังไม่ถูกค้นพบและมีส่ิง สเกิดซากดกึ ดำบรรพไ์ ด)้ ายวภิ าคเปรยี บเทียบ ลการทำกิจกรรม จงยกตัวอย่าง วิตที่ทำหน้าที่แตกต่างกันมา 1 คู่ จดุ กำเนิดของโครงสร้างน้ันเป็นจุด ไม่ (ตัวอย่างคำตอบเช่น ปีกนกและ ดยมจี ดุ กำเนดิ ของโครงสร้างเดียวกนั )
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรม คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A) 2. จากตารางบันทึกผล กิจกรรมในคาบเรียนนี้ส่งเสริม โครงสร้างของสิ่งมีชีวิตที่ท ให้นักเรียนมีความมุ่งมั่นในการ ทั้งบอกด้วยว่าจุดกำเนิด ทำงาน (ตั้งใจศึกษาการทดลอง เดียวกันหรือไม่ (ตัวอย่างค เสมือนจริงโดยสังเกตจาก พ ฤติก ร ร มที่จดจ่ออ ยู่กับ จุดกำเนิดของโครงสร้างเดียว บทเรียน ไม่วอกแวกหรือคุยกบั กำเนดิ ของโครงสรา้ งต่างกนั ) เพื่อน) และการทำงานร่วมกับ ผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ ฐานท่ี 3 หลักฐานจากวทิ (โดยสังเกตจากพฤติกรรมการ 1. จากตารางบนั ทึกผลก พูดคุยเพื่ออภิปรายกันภายใน กลุ่มและการช่วยเหลือกันใน มีกระดูกสันหลังชนิ การทำงานกล่มุ ) ร่วมกัน เพราะเหตุใ เนือ่ งจากพบช่องเหงอื กแ และสัตวเ์ ลยี้ งลูกด้วยน้ำน หางเหมือนกนั ) 2. จากระยะเอม็ บริโอข มอี วยั วะใดบ้างทพี่ บเห 3. จากการศึกษาในระย กระดูกสันหลังชนิด รว่ มกนั เพราะเหตใุ ด อวยั วะท่เี ป็นข่องเหงือกแ
มการเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้ 187 ลการทำกิจกรรม จงยกตัวอย่าง ทำหน้าที่ในการบนิ มา 2 คู่ พร้อม การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ดของโครงสร้างนั้นเป็นจุดกำเนิด คำตอบเช่น ปีกนกกับปีกคา้ งคาว โดยมี วกัน หรือ ปีกนกกับปีกผีเสื้อ โดยมีจุด ทยาเอ็มบรโิ อเปรยี บเทยี บ การทำกิจกรรม นักเรยี นคิดว่าสัตว์ ดใดบ้างที่น่าจะมีวิวัฒนาการมา ใด (กลุ่มของปลาและซาลาแมนเดอร์ และหางเหมือนกนั และกลุ่มของเตา่ นก นม เน่อื งจากไม่พบชอ่ งเหงือกและไม่มี องสัตว์มีกระดกู สันหลังแต่ละชนิด หมอื นกนั (ชอ่ งเหงือกและหาง) ยะเอ็มบริโอ นักเรียนคิดว่าสัตว์มี ดใดบ้างที่น่าจะมีวิวัฒนาการมา (ทุกชนดิ เนือ่ งจากในระยะเอ็มบริโอพบ และหางเหมือนกนั ทัง้ สิน้ )
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรม ฐานที่ 4 หลกั ฐานดา้ นชีว 1. มนุษย์น่าจะมีความส ชนิดใดมากที่สุด เพร แตกต่างของกรดอะมิโนใ 2. เพราะเหตุใดหลักฐ ความสัมพันธ์ของส สิ่งมีชีวิตมีกลไกการสัง เดียวกัน โดยใช้รหัสพ เช่นเดยี วกนั และมีโครงส 3. นกั เรียนคดิ วา่ การใช้ห มีข้อดีอย่างไร (เป็นห ทางด้านอื่นๆ และสาม สัตวม์ กี ระดกู สันหลัง แล ศึกษาจากกายวิภาคเปร เอ็มบรโิ อได)้ ฐานท่ี 5 หลักฐานทางชวี 1. จากการศึกษาแผนภ ถิ่นกำเนิดของนกฟนิ ซ บริเวณใด (มีถิ่นกำ แพรก่ ระจายตัวไปที่หมเู่ ก
มการเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้ 188 ววิทยาระดับโมเลกุล สัมพันธ์ทางวิวัฒนาการกับไพรเมท การประเมินผลการเรียนรู้ ราะเหตุใด (กอริล่า เนื่องจากมีความ ในสายพอลเี พปไทด์น้อยท่สี ดุ ) านจาก DNA จึงใช้เปรียบเทียบ ิ่งมีชีวิตต่างชนิดกันได้ (เนื่องจาก งเคราะห์ DNA RNA และโปรตีนแบบ พันธุกรรมในการสังเคราะห์โปรตีน สร้างของ DNA เหมอื นกัน) หลักฐานทางววิ ัฒนาการประเภทน้ี หลักฐานสำคัญที่ใช้สนับสนุนหลักฐาน มารถศึกษาข้ามกลุ่มของสิ่งมีชีวิต เช่น ละสัตวไ์ ม่มีกระดูกสันหลังซึ่งไม่สามารถ รียบเทียบหรือการเจริญเติบโตในระยะ วภมู ิศาสตร์ ภาพการแพร่กระจายของนกฟินซ์ ซอ์ ยู่ท่ใี ด และมีการกระจายตัวไปท่ี ำเนิดที่ทวีปอเมริกาใต้ และมีการ กาะกาลาปากอส)
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรม 2. นกฟินซ์ในแต่ละเก อยา่ งไร เพราะเหตุใด สภาพแวดล้อมในแตล่ ะห 3. ลักษณะของนกฟินซ์ใ ทางภมู ิศาสตร์ไดห้ รอื สิ่งมีชีวิตจะมีการปรับตัว ๆ เพื่อความอยู่รอด จึงส วเิ คราะห์สภาพทางภูมิศ ขน้ั สื่อสาร (5 นาที) 1. ครูสุ่มตัวแทนนักเรียนมา ลักษณะของหลักฐานทา ศึกษาไปแล้วในวันนี้ โดย ประเภทนั้น ข้อดีข้อเสีย ววิ ฒั นาการในการวเิ คราะ ขน้ั ตอบแทนสงั คม 1. ให้นกั เรียนนำความร้แู ละค ทางววิ ัฒนาการเพือ่ ใชศ้ กึ ษ บุคคลในครอบครัวหรือเพ ฟัง แลว้ ใหน้ กั เรียนมาราย
มการเรียนรู้ ส่ือการเรยี นรู้ 189 าะมีลักษณะเหมือนหรือต่างกัน ดจึงเป็นเชน่ นนั้ (แตกตา่ งกนั เนือ่ งจาก การประเมนิ ผลการเรียนรู้ หมเู่ กาะมคี วามแตกต่างกนั ) ในแต่ละเกาะสามารถบอกลักษณะ อไม่ อย่างไร (สามารถบอกได้เน่ืองจาก วให้เข้ากบั สภาพแวดล้อมในบริเวณนน้ั สามารถใช้ลักษณะของสิ่งมีชีวิตในการ ศาสตร์ในบรเิ วณน้นั ได)้ าทั้งหมด 5 กลุ่ม แล้วให้อธิบาย างวิวัฒนาการแต่ละประเภทที่ได้ ยให้อธิบายถึงลักษณะของหลักฐาน และตัวอย่างการใช้หลักฐานทาง ะห์ความสัมพันธ์ทางววิ ัฒนาการ ความสำคัญของการศึกษาหลกั ฐาน ษาวิวัฒนาการในสิ่งมีชวี ติ ไปเล่าให้ พื่อนที่ไม่ได้เรียนสายวิทยาศาสตร์ ยงานผลให้ครทู ราบ
โรงเรียนสรร กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ิทย แผนการจัดการเรยี นรู้ เรื่อง พันธุศาสตรป์ ระชากร (ค ภาคการศึกษาปลาย ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4/พ และ 4/1 สาระชีววิทยา 2. เข้าใจการถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธุกรรม การถา่ ยทอดยนี บนโคร ดเี อ็นเอ หลักฐานขอ้ มลู และแนวคดิ เกีย่ วกับวิวฒั นาการของสิง่ มชี ีวิต กำเนิดของส่ิงมีชวี ิต ความหลากหลายของสิง่ มชี ีวติ และอนกุ รมวิธาน ผลการเรียนรู้ ม.4/14 ระบุสาระสำคัญ และอธิบายเงื่อนไขของภาวะสมดุลของ พร้อมท้งั คำนวณหาความถีข่ องแอลลีล และจีโนไทปข์ องประชากรโด
190 รพยาวิทยา ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ความถ่ขี องแอลลีและทฤษฎีของของฮารด์ ไี วนเ์ บิร์ก) รายวชิ า ชีววิทยา2 ว30252 ผูส้ อน นายเรวัตร อยู่เกดิ รโมโซม สมบตั ิ และหนา้ ทขี่ องสารพนั ธุกรรม การเกิดมิวเทชนั เทคโนโลยีทาง ต ภาวะสมดลุ ของฮารด์ ี-ไวน์เบริ ์ก การเกดิ สปีชสี ์ใหม่ ความหลากหลายทางชีวภาพ น รวมทง้ั นำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ งฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความถี่ของแอลลีลในประชากร ดยใชห้ ลกั ของฮารด์ ี-ไวน์เบริ ์ก
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรม เ ม ื ่ อ จ บ ค า บ เ ร ี ย น ด้านความรู้ (K) ขน้ั ตั้งคำถาม (5 นาที) นกั เรียนสามารถ ความถี่ของแอลลีล (allele 4. ครูใช้คำถามเพื่อตรวจ 1. คำนวณความถี่ของ frequency) เป็นค่าที่แสดง “ววิ ัฒนาการคอื อะไร” (คอื แอลลลี ได้ (P) ความถี่ของยีนใด ๆ ที่มีอยู่ใน บรรพบุรุษและถกู คัดเลือกให้ม 2. คำนวณความถี่ของ ประชากรในช่วงเวลาหน่ึง ในระยะเวลาที่ยาวนาน) จา จีโนไทป์ได้ (P) สามารถคำนวณได้จากสตู ร นักเรียนคิดว่า “ถ้าหากวิว ลักษณะตั้งแต่รุ่นบรรพบุร 3. อธิบายทฤษฎีของ ความถี่ของแอลลีล = จำนวน กับพันธุศาสตร์หรือไม่ อย ฮารด์ ี-ไวน์เบิร์กได้ (K) แอลลีลที่พบในประชากร/ จำนวนแอลลีลท้ังหมด คำตอบสกั ครู่ (อาจไดค้ ำตอบ ค ว า ม ถ ี ่ ข อ ง จ ี โ น ไ ท ป์ (genotype frequency) เป็น หรือโครงสร้างต่าง ๆ เปล เปล่ยี นแปลงของยนี ) ค่าที่แสดงความถี่ของจีโนไทป์ ใด ๆ ที่มีอยู่ในประชากรใน ช่วงเวลาหนึ่ง สามารถคำนวณ ได้จากสตู ร ความถ่ีของจีโนไทป์ = จำนวนจี ภาพท่ี 1 ภาพตัวอ โนไทป์ที่พบในประชากร/ จำนวนประชากรทั้งหมด ท ฤ ษ ฎ ี ข อ ง ฮ า ร ์ ดี - ไ ว น ์ เ บ ิ ร์ ก หรือ ภาวะสมดุลของฮาร์ดี-
191 มการเรยี นรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมินผลการเรยี นรู้ 1. PowerPoint 1. นักเรียนคำนวณความถี่ จสอบความรู้ของนักเรียนว่า 2. แ บ บ บ ั น ทึ ก ขอ ง แอ ลลีลไ ด้ถูก ต ้ อ ง อลักษณะของรุ่นลกู หลานที่แตกต่างจาก กิจกรรมเรื่องพันธุ ทั้งหมด (ประเมินจากแบบ มชี ีวติ อย่รู อดในสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน ศาสตร์ประชากร I สอบ) ากนั้นครูใช้คำถามเพื่อกระตุ้นให้ (ความถี่ของแอลลีล 2. นักเรียนคำนวณความถี่ วัฒนาการคือการเปลี่ยนแปลงของ ใ น ป ร ะ ช า ก ร แ ล ะ ของจีโนไทป์ได้ถูกต้อง รุษ นักเรียนคิดว่ามีความเกี่ยวข้อง ทฤษฎีของฮาร์ดีไวน์ ทั้งหมด (ประเมินจากแบบ ย่างไร” ให้เวลานักเรียนคาดคะเน เบิรก์ ) สังเกต) บวา่ มีความเกี่ยวข้อง โดยการที่ลักษณะ 3. ชดุ อุปกรณ์สำหรับ 3. นักเรียนอธิบายทฤษฎี ี่ยนแปลงไปนั้น เป็นผลมาจากการ แสดงบทบาทสมมติ ข อ ง ฮ า ร ์ ดี -ไ ว น ์ เ บ ิ ร์ ก (ประเมนิ จากแบบสอบ แบบ บันทึกกิจกรรม และ แบบสังเกต) อย่างววิ ฒั นาการของเสอื ชีตาร์
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรม ไวนเ์ บิร์ก (Hardy Weinberg ข้ันแสวงหาความรู้ (15 นาท Equilibrium : HWE) จะต้อง ตอนท่ี 1 ความถ่ขี องแอลลลี มเี งอื่ นไขดงั นี้ 3. ครแู จกไม้ไอศกรีมและป้าย 1. ประชากรมขี นาดใหญ่ นักเรยี นกอ่ นเร่ิมคาบเรียน) 2. ไม่มีการถ่ายเทเคล่ือนย้าย 1.1ไมไ้ อศกรีมสเี นื้อแทนแ ยนี ระหวา่ งกลุ่มประชากร 1.2ไมไ้ อศกรีมสีน้ำเงินแทน 3. ไม่เกิดมิวเทชัน ซึ่งจะทำ 1.3ป้ายแขวนคอสเี ทาแทน ให้เกิดการเปลี่ยนแปลง 1.4ป้ายแขวนคอสฟี ้าแทน ของแอลลีลในประชากร 4. ให้นักเรยี นทำกิจกรรมในต 4. สมาชิกทกุ ตัวมโี อกาสผสม ไทป์ (สีของป้ายที่แขวนคอ พนั ธุไ์ ดเ้ ทา่ กนั และมีฟีโนไทป์รูปแบบต่า 5. ไม่เกิดการคัดเลือกโดย กิจกรรมตารางที่ 1 แล้วให ธรรมชาติ โดยสงิ่ มชี ีวิตทุก โนไทป์แต่ละรูปแบบให ตัวมีโอกาสอยู่รอด และ คำนวณหาความถี่ของแอ ประสบความสำเร็จในการ กิจกรรมตารางที่ 2 และต สืบพนั ธไ์ุ ด้เทา่ ๆ กัน 3 ด้านทกั ษะ (P) 5. เมื่อทำกิจกรรมในตอนที่ 1. ความสามารถในการสื่อสาร ร่วมกันอภิปรายผลกา (การพดู การเขียน) รายละเอียดในขั้นสร้างค บันทกึ ความรใู้ นชว่ งท่คี รบู ร
มการเรียนรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ 192 ท)ี การประเมินผลการเรียนรู้ ยสีแขวนคอใหก้ ับนกั เรียน (แจกให้ ) โดยมีเงือ่ นไขดงั น้ี แอลลลี A ทนแอลลีล a นคนที่มจี ีโนไทป์ AA และ Aa นคนทมี่ ีจโี นไทป์ aa ตอนที่ 1 โดยใหน้ กั เรยี นบนั ทึกฟีโน อ) จีโนไทป์ จำนวนคนที่มีจีโนไทป์ าง ๆ ลงในตารางบันทึกผลการทำ ห้นักเรียนคำนวณหาความถี่ของจี ห้เรียบร้อย จากนั้นให้นักเรียน อลลีลลงในตารางบันทึกผลการทำ ตอบคำถามหลังทำกิจกรรมในข้อท่ี 1 เรียบร้อยแล้ว ครูและนักเรียน ารทำกิจกรรมในตอนที่ 1 (ดู ความรู้) โดยข้อ 1 และข้อ 2 ให้ รรยายให้ความรู้
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรม 2. ความสามารถในการคิด ตอนที่ 2 ทฤษฎีของฮาร์ดไี วน (การวิเคราะห)์ 1. ให้นักเรียนคำนวณหาจีโน 3. ค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น ก า ร ประชากรรุ่นถัดไป โดยมีเ แก้ปัญหา (การแก้โจทย์ปัญหา ในกิจกรรมแรกในการคำน เกย่ี วกบั พันธศุ าสตรป์ ระชากร) และเป็นคำใบ้ให้กับนักเร 4. ความสามารถในการ ใช้ เซลล์สืบพันธุ์เป็นไปตามก ทกั ษะชีวิต (-) คูณ) บันทึกข้อมูลที่ได้ลงใน 5. ความสามารถในการ ใช้ ตารางที่ 3 เทคโนโลยี (-) 2. เมื่อนักเรียนบันทึกข้อมูล คำถามลงหลงั ทำกจิ กรรมข ความรูใ้ นช่วงทีค่ รบู รรยายใ 3. เมื่อทำกิจกรรมในตอนที่ ร่วมกันอภิปรายผลกา รายละเอยี ดในขนั้ สรา้ งควา ข้นั สรา้ งความรู้ (20 นาท)ี 2. ครูและนักเรียนร่วมกันอภ ใชภ้ าพและสือ่ PowerPo ตอนที่ 1 ความถ่ีของแอลลลี 2.1ยีนพูล (gene pool) ประชากรในชว่ งเวลาหน
มการเรยี นรู้ สือ่ การเรยี นรู้ 193 นเ์ บิร์ก การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ นไทป์และความถี่ของจีโนไทป์ใน เงื่อนไขว่าให้ใช้ความถี่ของแอลลีล นวณ และครูใช้คำถามเพื่อทบทวน รียนเล็กน้อยว่า “การรวมกันของ กฎข้อใดทางคณิตศาสตร์” (กฎการ นตารางบันทึกผลการทำกิจกรรม ลเรียบร้อยแล้ว ให้นักเรียนตอบ ขอ้ 1 ถึงขอ้ 3 โดยขอ้ 4 ให้บันทึก ใหค้ วามรู้ 2 เรียบร้อยแล้ว ครูและนักเรียน ารทำกิจกรรมในตอนที่ 2 (ดู ามร)ู้ ภปิ รายคำตอบหลังทำกิจกรรมโดย oint ประกอบการอภิปราย ดงั น้ี หมายถึงอะไร (ยีนทั้งหมดที่มีอยู่ใน น่ึง)
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรม 2.2ประชากรหมายถึงอะ เดียวกันที่อาศัยอยู่รวมก หนึ่ง ส่วนประชากรในเช ในประชากรของสิ่งมีชีว และใหล้ กู ทีไ่ ม่เปน็ หมนั ) 2.3ถ้าให้ p แทนความถี แอลลีล a จงเขียนส ประชากร (p+q=1) ตอนท่ี 2 ทฤษฎขี องฮาร์ดไี วน 1.1ความถี่ของจีโนไทป์แ (ขน้ึ อยู่กบั ผลการทดลองข 1.2ถ้าให้ p แทนความถี่ข แอลลีล a จงเขียนสม ประชากร (p2+2pq+q 1.3การทราบความถข่ี องแ ประโยชน์ในการคาดคะเ ทางพนั ธกุ รรมในยีนพลู ข เคิลเซลล์ ถ้าทราบจำนว ด้วยจะสามารถประมาณ ทำให้เกิดโรคนไี้ ด้)
มการเรียนรู้ สื่อการเรยี นรู้ 194 ะไร (ประชากรหมายถึง สิ่งมีชีวิตชนิด การประเมินผลการเรียนรู้ กันในพื้นที่หนึ่ง ๆ ในช่วงเวลาใดเวลา ชงิ วิวัฒนาการจะหมายถึงการท่ีสมาชิก วิตนั้นสามารถผสมพันธุ์ระหว่างกันได้ ่ของแอลลลี A, q แทนความถี่ของ สมการผลรวมแอลลีลสุทธิที่พบใน น์เบิร์ก แต่ละรูปแบบมีค่าเป็นเท่าใดบ้าง ของหอ้ งเรยี นนน้ั ) ของแอลลีล A, q แทนความถี่ของ มการความถี่จีโนไทป์สุทธิที่พบใน q2=1 หรอื (p+q)2=1) แอลลลี มีประโยชน์อยา่ งไร (นำมาใช้ เนความถ่ีของแอลลีลท่ีเก่ียวข้องกับโรค ของประชากร เชน่ โรคโลหติ จางชนดิ ซิก วนคนที่เป็นโรคนี้ซึ่งถูกควบคุมด้วนยีน ณจำนวนประชากรทีเ่ ปน็ พาหะของยนี ที่
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรม 1.4ประชากรจะอยู่ในสมด เงื่อนไขอย่างไรบ้าง ( เคลื่อนย้ายยีนระหว่างก ใหเ้ กิดการเปลยี่ นแปลงข โอกาสผสมพนั ธุ์ไดเ้ ท่ากัน โดยสิ่งมีชีวิตทุกตัวมีโอก การสบื พันธไ์ุ ดเ้ ทา่ ๆ กนั ) ข้ันสอ่ื สาร (10 นาที) 2. ครสู ุ่มนกั เรียนในชั้นเรยี นอ เรียน โดยให้เพ่อื ท้งั ชนั้ เรยี คำตอบท่ีถกู ต้อง ขน้ั ตอบแทนสังคม 2. ให้นักเรียนกลับไปสืบค้น เงื่อนไขที่ส่งผลต่อภาวะส 1 เงือ่ นไข แล้วสรุปความร รายงานครใู นคาบเรียนถดั
มการเรียนรู้ สอื่ การเรยี นรู้ 195 ดุลของฮาร์ดี-ไวน์เบิรก์ ได้จะต้องมี การประเมินผลการเรียนรู้ (ประชากรมีขนาดใหญ่, ไม่มีการถ่ายเท กลุ่มประชากร, ไม่เกิดมิวเทชัน ซึ่งจะทำ ของแอลลีลในประชากร, สมาชกิ ทกุ ตัวมี น และ ไม่เกิดการคัดเลอื กโดยธรรมชาติ กาสอยู่รอด และประสบความสำเร็จใน ) ออกมาทำโจทย์แบบฝกึ หัดหน้าช้ัน ยนรว่ มกันชว่ ยแกโ้ จทย์ปัญหาให้ได้ นข้อมูลเกี่ยวกับตัวอย่างเกี่ยวกับ สมดุลของฮาร์ดี-ไวน์เบิร์กมาคนละ รู้ท่ไี ด้ลงในบันทกึ สว่ นตวั แล้วนำมา ดไป
โรงเรียนสรร กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ิทย แผนการจดั การเรียนรู้ เรือ่ ง ปจั จยั ทท่ี ำให ภาคการศกึ ษาปลาย ชัน้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4/พ และ 4/1 สาระชีววทิ ยา 2. เขา้ ใจการถา่ ยทอดลกั ษณะทางพันธกุ รรม การถา่ ยทอดยีนบนโคร ดเี อ็นเอ หลักฐานขอ้ มลู และแนวคดิ เก่ยี วกบั วิวัฒนาการของสง่ิ มีชีวิต กำเนดิ ของสิ่งมีชวี ิต ความหลากหลายของสง่ิ มีชีวิต และอนกุ รมวธิ าน ผลการเรยี นรู้ ม.4/14 ระบุสาระสำคัญ และอธิบายเงื่อนไขของภาวะสมดุลของ พรอ้ มทง้ั คำนวณหาความถขี่ องแอลลลี และจโี นไทป์ของประชากรโด
196 รพยาวิทยา ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห้เกดิ การเปลย่ี นแปลงความถขี่ องแอลลลี รายวิชา ชวี วทิ ยา2 ว30252 ผู้สอน นายเรวัตร อยู่เกิด รโมโซม สมบัติ และหน้าทีข่ องสารพนั ธุกรรม การเกิดมวิ เทชัน เทคโนโลยที าง ต ภาวะสมดุลของฮารด์ ี-ไวนเ์ บริ ์ก การเกดิ สปชี ีส์ใหม่ ความหลากหลายทางชีวภาพ น รวมท้ังนำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์ ฮาร์ดี-ไวน์เบิร์ก ปัจจัยที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงความถี่ของแอลลีลในประชากร ดยใช้หลกั ของฮารด์ ี-ไวน์เบริ ก์
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรม เมื่อจบคาบเรียน นักเรียน ด้านความรู้ (K) ขั้นตงั้ คำถาม (5 นาท)ี สามารถ ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง 5. ครูทบทวนความหมายขอ 1. อธิบายปัจจัยที่ทำให้ ว ิ ว ั ฒ น า ก า ร ใ น เ ชิ ง หมายถึงลกั ษณะของรุ่นลกู ห เกิดการเปลี่ยน แป ลง พันธุศาสตร์ หมายถึงการ ถูกคัดเลือกให้มีชีวิตอยู่รอ ความถี่ของแอลลีลทุก เปลี่ยนแปลงความถี่ของ ระยะเวลาที่ยาวนาน” ปัจจัยได้ (K) แอลลีลในประชากรในหลาย 6. ใช้คำถามเพื่อทบทวนความ 2. สรุปความหมายของ ๆ ชว่ั รนุ่ แลว้ นัน้ ภาวะสมดลุ ของฮารด์ ว ิ ว ั ฒ น า ก า ร ใ น เ ชิ ง ปัจจัยที่ทำให้เกิดการ บ้าง” ให้เวลานักเรียนคาดค พนั ธุศาสตรไ์ ด้ (P) เปลี่ยนแปลงความถี่ของ ประชากรมีขนาดใหญ่, ไม่มีกา 3. มีความมุ่งมั่นในการ แอลลีล มีทั้งหมด 5 ปัจจัย ประชากร, ไม่เกดิ มิวเทชัน ซึง่ จะ ทำงาน (A) ไดแ้ ก่ ในประชากร, สมาชกิ ทุกตวั มีโอก 4. มคี วามตรงตอ่ เวลา (A) 1. การเปลี่ยนแปลงความถ่ี คัดเลือกโดยธรรมชาติ โดยสิ่งมชี ยีนอย่างไม่เจาะจง ความสำเร็จในการสืบพันธุ์ได้เท 2. การถ่ายเทเคลื่อนย้าย กระตนุ้ ให้นกั เรียนคิดวา่ “ถ้า ยีน จริงแล้ว นักเรียนคิดว่าประ 3. การเลือกคู่ผสมพันธ์ุ ไวน์เบิร์กหรือไม่” (คาดวา่ นักเ 4. มวิ เทชัน 7. ครูใช้คำถามเพื่อให้นักเรียนห 5. ก า ร ค ั ด เ ล ื อ ก โ ด ย อยู่ในสมดุลของฮาร์ดี-ไวน อย่างไรในประชากร” ให้เวล ธรรมชาติ ด้านทกั ษะ (P) (อาจได้แนวคำตอบว่าความถี่ข ววิ ฒั นาการ)
197 มการเรยี นรู้ สื่อการเรียนรู้ การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. PowerPoint 1. นักเรียนอธิบายปัจจัยท่ี องวิวัฒนาการว่า “วิวัฒนาการ 2. แ บ บ บั น ทึ ก ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง หลานที่แตกตา่ งจากบรรพบุรุษและ กิจกรรมเรื่องพันธุ ความถี่ของแอลลีลทกุ ปัจจยั อดในสภาพแวดล้อมที่ต่างกันใน ศาสตร์ประชากร II ได้ถูกต้องทั้งหมด (ประเมิน (ปัจจัยที่ทำให้เกิด จากแบบบันทกึ กจิ กรรมและ มรู้ของผู้เรียนว่า “จากคาบเรียนที่ การเปลี่ยน แ ปลง แบบสังเกต) ดี-ไวนเ์ บริ ก์ จะต้องมเี งอ่ื นไขอย่างไร ความถี่ของแอลลลี ) 2. น ั ก เ ร ี ย น เ ข ี ย น ส รุ ป คะเนคำตอบสักครู่ (แนวคำตอบคือ 3. ชุดอปุ กรณ์สำหรับ ความหมายของวิวัฒนาการ ารถ่ายเทเคลื่อนย้ายยีนระหว่างกลุ่ม สถานการณจ์ ำลอง ในเชิงพันธุศาสตร์ได้ถูกต้อง ะทำให้เกดิ การเปลี่ยนแปลงของแอลลีล (ประเมนิ จากแบบสงั เกต) กาสผสมพันธุไ์ ด้เท่ากัน และ ไม่เกิดการ 3. นักเรียนมีความมุ่งมั่นใน ชีวิตทุกตัวมีโอกาสอยู่รอด และประสบ การทำกิจกรรมและตอบ คำถามหลังทำกิจกรรม ท่า ๆ กัน) จากนั้นครูใช้คำถามเพ่ือ (ประเมินจากเกณฑ์การให้ าหากเงอ่ื นไขต่าง ๆ เหล่าน้ีไม่เป็น คะแนนความม่งุ ม่ันในการ) ะชากรจะยังอยู่ในสมดุลของฮาร์ดี- เรยี นจะตอบว่าไม่) หาเหตุผลวา่ “ถ้าหากประชากรไม่ 4. นักเรียนมีความตรงต่อ น์เบิร์ก จะเกิดการเปลี่ยนแปลง เวลา (ประเมินจากเกณฑ์ ลานักเรียนคาดคะเนคำตอบสักครู่ การให้คะแนนความตรงต่อ เวลา โดยสังเกตจากการ ของแอลลีลเปลี่ยนแปลงไป ทำให้เกิด
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรม 1. ความสามารถในการ 8. ครูใช้คำถามเพ่ือนำเขา้ สูบ่ ท ส่ือสาร (การพดู การเขยี น) มีปัจจัยใดบ้างที่ทำให้ประช 2. ความสามารถในการคิด เบิรก์ ” (การวิเคราะห)์ ขนั้ แสวงหาความรู้ (40 นาที) 3. ความสามารถในการ 1. ครูแบง่ นักเรียนออกเปน็ กลุ่ม แก้ปัญหา (การคำนวณ การทดลองซ่ึงประกอบด้วยก ความถข่ี องแอลลลี ) ทำการทดลองร่วมกนั ไปทลี ะ 4. ความสามารถในการใช้ ตอนท่ี 1 ผลกระทบจากผูก้ ่อตงั้ ทกั ษะชวี ิต (-) 6. ครูกำหนดใหเ้ รมิ่ แรกมดี อกไม 5. ความสามารถในการใช้ ดอกสีขาวจำนวน 2 ดอก ใ เ ท ค โ น โ ล ย ี ( ก า ร ใ ช้ ตารางบันทึกผลการทดลอง คอมพิวเตอร์เพื่อศึกษา ใหเ้ รยี บรอ้ ย ขอ้ มลู ) 7. ครูกำหนดสถานการณ์ให้ดอ ไปอยู่บนเกาะ B แล้วประชา ดอกสีม่วง 10 ดอก ให้นัก บันทึกผลการทดลองและค เรยี บร้อย ตอนท่ี 2 ปรากฏการณค์ อขวด ( 1. ให้ตัวแทนนักเรียนนับจำนว พลาสติก (ครูกำหนดให้มีเ
198 มการเรียนรู้ สือ่ การเรียนรู้ การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ทเรียนว่า “นักเรียนทราบหรือไม่วา่ นำส่งชิ้นงานทันตาม ชากรไม่อยู่ในสมดุลของฮาร์ดี-ไวน์ กำหนดเวลา) ม กล่มุ ละ 4 คน และใหน้ ักเรียนทำ การทดลองทงั้ หมด 6 ตอน โดยจะ ะตอนทงั้ ชน้ั เรยี นดงั นี้ (Founder effect) ม้สีม่วงบนเกาะ A จำนวน 8 ดอก ให้นักเรียนจดบันทึกข้อมูลลงใน และคำนวณหาความถี่ของแอลลลี อกไม้สีม่วงจำนวน 2 ดอก ได้ย้าย ากรของดอกไม้ได้ขยายพนั ธุ์จนได้ เรียนจดบันทึกข้อมูลลงในตาราง คำนวณหาความถี่ของแอลลีลให้ (Bottleneck effect) วนเมล็ดถ่ัวแบบต่าง ๆ ที่อยู่ในขวด เมล็ดถั่วแดง 50 เมล็ด เมล็ดถ่ัว
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ เหลือง 50 เมล็ด และเมล็ด (A) นักเรียนนับจำนวนเมล็ดถั่ว กิจกรรมในคาบเรียนน้ี ตารางบันทึกผลการทดลอง ส่งเสริมให้นักเรียนมีความ ให้เรียบร้อย มุ่งมั่นในการทำงาน (ตั้งใจ 2. จากนัน้ ใหต้ วั แทนนักเรยี นจำ ศกึ ษาการทดลองเสมือนจริง โดยเปิดฝาขวดและเทเมล็ดถ โดยสังเกตจากพฤติกรรมท่ี วนิ าที จากนัน้ ให้นกั เรยี นจด จดจ่ออยู่กับบทเรียน ไม่ การทดลองและคำนวณหาคว วอกแวกหรือคุยกับเพื่อน) ตอนท่ี 3 การถ่ายเทเคลอ่ื นยา้ ยย และมีความตรงต่อเวลา 1. ครูกำหนดใหเ้ ริม่ แรกมีดอกไม (โดยสังเกตจากการนำ ดอกสีขาวจำนวน 3 ดอก ช ิ ้ น ง า น ม า ส ่ ง ต า ม จำนวน 4 ดอก ดอกสีขาวจ กำหนดเวลา) นับจำนวนดอกไม้ ให้นักเร บันทึกผลการทดลองและค เรียบรอ้ ย 2. ครูกำหนดสถานการณ์ให้ละอ สามารถปลิวไปผสมพันธก์ุ บั ด ของดอกไม้สีม่วงบนเกาะ A ดอก ดอกสขี าวเพิ่มจำนวนเป เกาะ B เพิ่มจำนวนเป็น 9 ด
มการเรยี นรู้ สื่อการเรียนรู้ 199 ดถั่วเขียว 100 เมล็ด) ให้ตัวแทน ว ให้นักเรียนจดบันทึกข้อมูลลงใน การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ และคำนวณหาความถี่ของแอลลีล ำลองการเกิดภัยพบิ ัติทางธรรมชาติ ถั่วลงไปในบีกเกอร์ภายในเวลา 1 ดบนั ทึกข้อมูลลงในตารางบันทึกผล วามถ่ขี องแอลลลี ให้เรยี บร้อย ยนี (Random Genetic Drift) ม้สีมว่ งบนเกาะ A จำนวน 7 ดอก ก และมีดอกไม้สีม่วงบนเกาะ B จำนวน 6 ดอก ให้ตัวแทนนักเรียน รียนจดบันทึกข้อมูลลงในตาราง คำนวณหาความถี่ของแอลลีลให้ อองเรณูของดอกสีม่วงจากเกาะ A ดอกไมบ้ นเกาะ B ได้ ทำให้จำนวน A ในรุ่นถัดมาลดจำนวนลงเหลือ 3 ป็น 7 ดอก และมีดอกไม้สีม่วงบน ดอก ดอกสีขาวจำนวน 1 ดอก ให้
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรม นักเรียนจดบันทึกข้อมูลลงใ คำนวณหาความถี่ของแอลลีล ตอนที่ 4 การเลือกคู่ผสมพนั ธ์ุ (N 1. ครูกำหนดให้ “เกาะ A มีกา ขาวจำนวน 4 ตัว และมีผ สว่ นบนเกาะ B มกี ารเลือกค นำ้ ตาล จึงทำใหม้ ีผีเสอื้ ปีกสขี 3 ตัว” ให้นักเรียนจดบันท ทดลองและคำนวณหาความถ ตอนที่ 5 มิวเทชัน (Mutation) 1. ครูกำหนดให้ “บรเิ วณหน่งึ ม เวลาผ่านไปผเี สอ้ื เกิดมวิ เทช และมีผเี ส้ือปีกสีน้ำตาลทีเ่ กดิ จดบันทึกข้อมูลลงในตา คำนวณหาความถ่ีของแอลล ตอนท่ี 6 การคัดเลือกโดยธรรมช 1. ครูให้ตัวแทนนักเรียนออกม การคัดเลือกโดยธรรมชาติ ในตารางบันทึกผลการทดลอ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416