Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 3. แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาชีววิทยา2 (ว30252)

3. แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาชีววิทยา2 (ว30252)

Published by Rawat Yukerd, 2021-07-17 09:23:14

Description: แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาชีววิทยา2 (ว30252) โดย ครูเรวัตร อยู่เกิด กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสรรพยาวิทยา

Search

Read the Text Version

100 การเรยี นรู้ ส่ือการเรียนรู้ การประเมินผลการเรยี นรู้ 1. PowerPoint 1. นักเรียนบอกหน้าทีข่ อง องสารพนั ธุกรรมโดยใช้ภาพและ 2. ชุดดินน้ำมันแสดง เอนไซม์ในกระบวนการ บว่า “DNA เป็นสารพันธุกรรมใน หน้าที่ของเอนไซม์ที่ สังเคราะห์ DNA ไดถ้ กู ต้อง สำคัญในการ ทง้ั หมด (ประเมนิ จากแบบ มาแล้วว่า DNA ประกอบขึ้นจาก สังเคราะห์ DNA 7 สอบ) กว่านิวคลีโอไทด์ ซึ่งมีของน้ำตาล ชนดิ 2. นักเรยี นอธิบายขน้ั ตอน องโมเลกุลและมีหมู่ฟอสเฟตกับ 3. ใบความรู้เรื่อง การสังเคราะห์ DNA ได้ นโมเลกุลของน้ำตาล โดยการมา หน้าที่ของเอนไซม์ที่ ถูกต้องสมบูรณ์ (ประเมิน ด์ท่มี ีเบสแตกตา่ งกนั (A, G, C, T) ส ำ ค ั ญ ใ น จากแบบสอบ) เองที่ทำให้เกิดความหลากหลาย ก ร ะ บ ว น ก า ร 3. นักเรียนบันทึกความรู้ ม ดังนั้น DNA จึงมีความสามารถ สังเคราะห์ DNA จ า ก ก า ร ศ ึ ก ษ า แ ห ล่ ง 4. แ บ บ บ ั น ทึ ก สารสนเทศและวีดีทัศน์ได้ ดลกั ษณะทางพันธุกรรม” กิจกรรมเรื่องการ ครบถ้วนสมบูรณ์และ สงั เคราะห์ DNA ถูกต้อง (ประเมินจากแบบ บันทึกกิจกรรม) 4. คะแนนความร่วมมือ ร่วมใจในการทำงานเป็น กลุ่มอยู่ในเกณฑ์ดีขึ้นไป (ประเมินจากเกณฑ์การให้ คะแนนในการทำงานกลมุ่ ) ระกอบของนิวคลโี อไทด์ 5. นักเรียนมีวินัย ทำงาน เสรจ็ ในเวลาทีก่ ำหนดให้ได้

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมก 3. DNA polymerase III ภาพท่ี 2 โค (DNA Pol III) ทำหนา้ ที่ใน การสังเคราะห์สาย DNA 2. ครูใช้คำถามเพื่อกระตุ้นให สายใหม่ ซึ่งจะใช้สาย สมบัตขิ องสารพันธกุ รรมดงั DNA สายเก่าเป็นแม่แบบ 2.1DNA พบอย่บู นโครงสร โดยมีทิศทางการ 2.2โครโมโซมพบที่บริเวณใ สังเคราะห์ DNA สายใหม่ 2.3เมื่อร่างกายเจรญิ เติบโ จากทิศ 5’ ไป 3’ เสมอ เพ่มิ จำนวนของเซลลใ์ น 4. RNA Primase ทำหน้าที่ 2.4กระบวนการแบ่งเซล ในการสร้าง RNA primer เหมือนกับเซลล์ต้นแบ ส า ย ส ั ้ น ๆ เ พ ื ่ อ เ ป็ น จ ุ ด เ ร ิ ่ ม ต ้ น ใ ห ้ DNA mitosis) Polymerase มาจับเพ่ือ สร้างพอลีนิวคลีโอไทด์ 2.5เมื่อ DNA อยู่ในนิวเค สายยาวตอ่ ไป กระบวนการแบ่งเซลล 5. DNA Polymerase I ลกั ษณะเหมือนเดิมทุกป (DNA Pol I) ทำหน้าที่ใน นนั้ นา่ จะมคี ุณสมบัติอย ก า ร แ ป ล ง ส า ย RNA primer ใหก้ ลายเปน็ DNA โดยมีทิศทางในการ

101 การเรียนรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมินผลการเรียนรู้ ครงสร้างของ DNA (ประเมินจากเกณฑก์ ารให้ ห้นักเรียนตั้งสมมติฐานเกี่ยวกับ คะแนนความตรงตอ่ เวลา) งน้ี 6. นักเรียนมีความมุ่งมั่น ร้างใด (โครโมโซม) ในการศึกษาหาความรู้จาก ใดภายในเซลล์ (นิวเคลยี ส) แหล่งข้อมูลที่ครูจัดไว้ให้ โต เซลล์ใช้กระบวนการใดในการ (ประเมินจากเกณฑ์การให้ นร่างกาย (กระบวนการแบ่งเซลล์) ล ล ์ แ บ บ ใ ด ท ี ่ ท ำ ใ ห ้ ไ ด ้ เ ซ ล ล ์ ลู ก คะแนนความมุ่งมั่นในการ บบทุกประการ (การแบ่งเซลล์แบบ ทำงาน) 7. นักเรียนมจี ิตสาธารณะ รู้จักแบ่งปันสิ่งของที่เป็น ส่วนรวมให้ผู้อื่นได้เข้าถึง อ ย ่ า ง เ ท ่ า เ ท ี ย ม กั น (ประเมินจากเกณฑ์การให้ ค ะ แ น น ก า ร ม ี จิ ต สาธารณะ) คลียสภายในเซลล์ และเซลล์มี ล์เพื่อเพิ่มจำนวนของเซลล์ที่มี ประการแล้ว นักเรียนคิดว่า DNA ย่างไร (สามารถเพม่ิ จำนวนตวั เองได้)

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมก สังเคราะห์จากทิศ 5’ ไป 2.6นกั เรียนคิดว่า DNA มีว 3’ เสมอ 6. DNA ligase ทำหน้าที่ใน (ใหเ้ วลานักเรยี นคาดเด การเชื่อมติดสายพอลีนิ สกู่ ิจกรรม) วคลีโอไทด์ ข้ันแสวงหาความรู้ (20 นาท)ี ข ั ้ น ต อ น ใ น ก า ร ส ั ง เ ค ร า ะ ห์ 1. ครูชี้แจงขั้นตอนในการทำก DNA มี 7 ข้นั ตอนดังนี้ 2 ตอนคือ “เอนไซม์ที่สำ 1. เอนไซม์ Helicase คลาย DNA” และ “ขั้นตอนในก เ ก ล ี ย ว ข อ ง ส า ย DNA นักเรียนทำกิจกรรมร่วมก ออกเป็นสองสาย กิจกรรมในตอนที่ 1 ซึ่งเป 2. Single-straded binding หน้าที่ของเอนไซม์ที่สำคัญ proteins เข้ามาจับที่สาย โดยให้นักเรียนใช้วิธีการใน DNA และตรึงสาย DNA สารสนเทศที่ครูจัดเตรียมไ ไว้ไม่ให้กลับไปพันกันเป็น DNA ที่แสดงให้เห็นการท เกลียวในระหว่างการ โมเดลดินน้ำมันแสดงการส สงั เคราะห์ DNA การทำงานของเอนไซม์ช 3. สาย DNA แม่แบบที่มี นักเรยี นในการสบื ค้นข้อมลู ทศิ ทางจากด้าน 5’ ไป 3’ 2. ครูให้นักเรียนจับคู่กัน แล เ อ น ไ ซ ม ์ DNA แบบบันทึกกิจกรรมและ Polymerase III เขา้ มาจับ กิจกรรมในตอนท่ี 1 ตามทคี่ และสังเคราะห์ DNA สาย

102 การเรยี นรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมนิ ผลการเรียนรู้ วธิ ีการในการเพมิ่ จำนวนอย่างไร? ดาคำตอบสักครู่ จากนน้ั จึงนำเข้า กิจกรรม โดยกิจกรรมจะแบง่ เปน็ ำคัญในกระบวนการสังเคราะห์ การสังเคราะห์ DNA” โดยให้ กันเป็นคู่ ครูจะให้แต่ละคู่ทำ ป็นกิจกรรมสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับ ญในกระบวนการสังเคราะห์ DNA นการสืบค้นข้อมูล อันได้แก่ สื่อ ว้ให้ (ภาพโมเดลการสังเคราะห์ ทำงานของเอนไซม์ในภาพรวม, สังเคราะห์ DNA ที่แสดงให้เห็น ชนิดต่าง ๆ) และแท็บเลตของ ลออนไลน์ ล้วให้ตัวแทนนักเรียนออกมารับ ะให้นักเรียนแต่ละกลุ่มดำเนิน ครูได้ชแ้ี จงรายละเอียดไวแ้ ลว้

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมก ใหม่ในทิศ 5’ ไป 3’ อย่าง ต่อเนื่อง เรียกสาย DNA ภาพที่ 3 ภาพการสงั เคราะห์ DNA สายใหม่ที่ถูกสร้างอย่าง ต่อเนื่องนี้ว่า leading ภาพที่ 4 ภาพการสังเคราะห์ DNA strand 4. สาย DNA แม่แบบที่มี ขัน้ สร้างความรู้ (50 นาท)ี ทศิ ทางจากดา้ น 3’ ไป 5’ 1. ครูและนักเรียนร่วมกันอภปิ ( lagging strand template) เอนไซม์ RNA 1 โดยสุ่มใหน้ ักเรยี นแต่ละค Primase เข้ามาจับและ ในกระบวนการสงั เคราะห์ D สร้าง RNA Primer สาย ครูนำสรุปหน้าที่ของเอนไ สน้ั ๆ PowerPoint 5. เ อ น ไ ซ ม ์ DNA Polymerase III จึงเข้ามา สร้างสาย DNA สายใหม่ จากทิศทางจากด้าน 5’ ไ ป 3’ โ ด ย ใ ช ้ RNA Primer ที่สร้างขึ้นเป็น จุดเริ่มต้น สาย DNA ที่ สร้างขึ้นใหม่นั้นจะสร้าง

การเรยี นรู้ 103 สื่อการเรยี นรู้ การประเมินผลการเรียนรู้ A และการทำงานของเอนไซมช์ นิดต่าง ๆ A และการทำงานของเอนไซม์ชนิดต่าง ๆ ปรายคำตอบของกิจกรรมตอนที่ คูบ่ อกหนา้ ท่ีของเอนไซม์ท่ีสำคัญ DNA จนครบท้ัง 7 ชนิด จากนั้น ไซม์แต่ละชนิดอีกครั้งโดยใช้ส่ือ

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมก เป็นสายสั้น ๆ ไม่ยาว 2. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรมต ต่อเนื่องเหมือนในด้าน leading strand เ ร ี ย ก จับไว้แล้ว โดยกิจกรรมใน DNA สายสนั้ ๆ ที่สร้างต่อ สังเคราะห์ DNA ครูจะให้น จาก RNA Primer ในสาย สังเคราะห์ DNA ทมี่ ีความย น้ีวา่ Okazaki fragment ให้นักเรียนศึกษาวีดีทัศน 6. เ อ น ไ ซ ม ์ DNA จุดประสงค์ดงั นี้ Polymerase I เข้ามาจับ ครัง้ ที่ 1 ให้นักเรยี นศกึ ษาต บรเิ วณ RNA primer แลว้ หยดุ ให้ เพ่อื ให้เห็นภาพรวม แปลงสาย RNA primer ครั้งที่ 2 ให้นักเรียนศึกษา ให้กลายเปน็ DNA สงั เกตข้ันตอนสำคญั ทง้ั 7 7. เอนไซม์ DNA ligase เข้า การสังเกตในแต่ละขั้นตอน ม า เ ช ื ่ อ ม ต ิ ด Okazaki จับหลักการสำคัญในการสัง fragment แต่ละชิ้นส่วน ไดอ้ ยา่ งละเอยี ด เข้าด้วยกัน จนกลายเป็น ครงั้ ท่ี 3 ให้นกั เรยี นศกึ ษาต สาย DNA สายยาว เรียก หยุดให้อีกครั้งหนึ่ง เพื่อให สาย DNA สายใหม่นี้ว่า และทบทวนขั้นตอนการสัง lagging strand ได้วเิ คราะหอ์ อก ด้านทกั ษะ (P) 3. ครูให้นักเรียนรวมกลุ่มกลุ่ม การสังเคราะห์ DNA ที่แต่ล ขอ้ สรปุ ของกลมุ่ ท่มี ีความถูก

104 การเรยี นรู้ ส่ือการเรยี นรู้ การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ตอนที่ 2 ตามคู่เดิมที่นักเรียนได้ นตอนที่ 2 เรื่องขั้นตอนในการ นักเรียนศึกษาวีดีทัศน์เรื่องการ ยาวประมาณ 2 นาที โดยจะแบ่ง น์ทั้งหมด 3 ครั้ง แต่ละครั้งมี ตลอดความยาวของวดี ที ศั นโ์ ดยไม่ มของขนั้ ตอนการสังเคราะห์ DNA าวีดีทัศน์โดยครูหยุดให้นักเรียน ขัน้ ตอนยอ่ ย (ครูแนะแนวทางใน นให้กับนักเรียน) เพื่อให้นักเรียน งเคราะห์ DNA ในแต่ละขั้นตอน ตลอดความยาวของวดี ีทศั นโ์ ดยไม่ ห้นักเรียนตรวจสอบความถูกต้อง งเคราะห์ DNA ทั้งหมดที่นกั เรียน มละ 6 คน เพื่ออภิปรายขั้นตอน ละคู่ได้สรุปออกมาได้ เพื่อให้ได้ กตอ้ งมากยงิ่ ขึน้

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมก 4. ครูและนักเรียนทั้งหมดร 1. ค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น ก า ร สงั เคราะห์ DNA จนได้ข้อส ส่อื สาร (การพูด การอ่าน การ ขัน้ สอ่ื สาร เขียน) 1. ครูสุ่มนักเรียนออกมา 7 2. ความสามารถในการคิด (การวิเคราะห์ การลำดับ สังเคราะห์ DNA ใหเ้ พื่อนใน ข้นั ตอน) ทศั นท์ นี่ ักเรียนได้ศกึ ษาประ 2. ครูใหน้ ักเรยี นทำแบบสอบร 3. ค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น ก า ร วตั ถุประสงค์ แกป้ ญั หา (-) ขั้นตอบแทนสงั คม 4. ความสามารถในการใช้ 1. ใหน้ ักเรียนท่ีได้คะแนนสอบ ทักษะชีวิต (การทำกิจกรรม จับคู่กับเพื่อนที่ได้คะแนน กลุ่ม) เกณฑ์ แล้วอธิบายเนื้อหาใ 5. ความสามารถในการใช้ แล้วให้เพื่อนคนที่สอบไม เทคโนโลยี (การใช้แท็บเลต คู่ขนานอีกครั้ง (โดยคาดว เพอ่ื สืบค้นข้อมูล) ความรู้เพิ่มเติมกับนักเรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ สามารถทำแบบสอบให้ได (A) ได)้ หรอื ให้นักเรยี นท่ไี ด้คะ กิจกรรมในคาบเรียนน้สี ่งเสริม ไปให้ความรู้เพ่ิมเตมิ กบั เพ ให้นักเรียนมีวินัย (รักษาเวลา อื่น ๆ ทีเ่ รยี นเร่อื งเดียวกัน ในการศึกษาค้นคว้า) มีความ งชอ่ื ยืนยันและเขยี นผลจาก มุ่งมั่นในการทำงาน (กระตือรือร้นที่จะค้นคว้าหา ความรู้) และมีจิตสาธารณะ (แบ่งปันแหล่งสารสนเทศให้

105 การเรียนรู้ ส่ือการเรียนรู้ การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ร่วมกันอภิปรายขั้นตอนการ สรปุ ทถ่ี ูกต้อง 7 คนเพื่ออธิบายขั้นตอนการ นชนั้ เรียนได้ฟงั อีกครั้ง โดยใช้วีดี ะกอบคำอธบิ ายของนักเรียน รายบคุ คลเพือ่ ประเมนิ ความรู้ตาม บวัดความรู้ท้ายคาบที่ผ่านเกณฑ์ นสอบวัดความรู้ท้ายคาบไม่ผ่าน ในคาบเรียนน้ีให้เพื่อนฟังอกี คร้ัง ม่ผ่านเกณฑ์กลับมาทำแบบสอบ ่าหลังจากที่นักเรยี นที่เก่งช่วยให้ นที่อ่อนแล้ว นักเรียนที่อ่อนจะ ด้คะแนนผ่านเกณฑ์การประเมิน ะแนนสอบผ่านเกณฑก์ ารประเมิน พ่ือนที่อ่อนหรือไม่เข้าใจที่อยูห่ ้อง แล้วใหเ้ พอ่ื นคนท่ีได้รับการติวล กการติวมาใหค้ รไู ดร้ บั ทราบ

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมก เพื่อนได้ศึกษาอย่างเท่าเทียม กัน)

การเรยี นรู้ 106 สอ่ื การเรียนรู้ การประเมนิ ผลการเรียนรู้

โรงเรยี นสรร กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทย แผนการจัดการเรียนรู้ เรอ่ื ง การสังเคราะห ภาคการศึกษาปลาย ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 4/พ และ 4/1 สาระชวี วิทยา 2. เข้าใจการถา่ ยทอดลักษณะทางพันธุกรรม การถา่ ยทอดยนี บนโคร ดเี อ็นเอ หลักฐานขอ้ มูล และแนวคิดเกี่ยวกับวิวัฒนาการของสิ่งมชี ีวิต กำเนิดของสงิ่ มีชวี ิต ความหลากหลายของส่งิ มชี ีวิต และอนุกรมวิธาน ผลการเรยี นรู้ ม.4/7 อธิบาย และระบขุ ั้นตอนในกระบวนการสงั เคราะหโ์ ปรตีน แล ม.4/8 สรุปความสมั พนั ธ์ระหวา่ งสารพันธุกรรม แอลลีล โปรตีน ลกั ษ

107 รพยาวิทยา ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี หโ์ ปรตีน I (การถอดรหสั : Transcription) รายวิชา ชวี วทิ ยา2 ว30252 ผ้สู อน นายเรวตั ร อยเู่ กดิ รโมโซม สมบัติ และหน้าทข่ี องสารพันธกุ รรม การเกิดมวิ เทชนั เทคโนโลยที าง ต ภาวะสมดลุ ของฮาร์ดี-ไวน์เบิรก์ การเกดิ สปชี ีส์ใหม่ ความหลากหลายทางชีวภาพ น รวมทัง้ นำความรู้ไปใช้ประโยชน์ ละหน้าท่ีของ DNA และRNA แตล่ ะชนดิ ในกระบวนการสงั เคราะห์โปรตีน ษณะทางพันธุกรรม และเช่ือมโยงกบั ความรู้ทางพนั ธุศาสตร์เมนเดล

จุดประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมก เ ม ื ่ อ จ บ ค า บ เ ร ี ย น ด้านความรู้ (K) ขั้นตงั้ คำถาม (5 นาท)ี นกั เรยี นสามารถ RNA คือกรดนิวคลีอิกชนิด 1. ครูใช้คำถามเพื่อกระตุ้นใหน้ 1. บอกความแตกต่าง หนึ่งที่พบในโครโมโซม มี PowerPoint ดงั น้ี ของ DNA และ RNA ได้ ความแตกต่างจาก DNA 4 (K) ประการคอื 2. บอกความหมายของ 1. มีน้ำตาล ribose เป็นแกน ภาพที่ 1 บ mRNA ได้ (K) 2. ไม่พบเบสไทมีน (T) เป็น 1.1เวลาที่นักเรียนซื้อของต 3. อธิบายขั้นตอนใน องค์ประกอบ แต่จะพบเบส eleven นักเรียนเห็นแ การสังเคราะห์ mRNA ยรู าซิล (U) แทน ได้ 3. RNA มักเป็นสายเดี่ยว ของสินค้านั้นได้อย่างไร 4. แก้โจทย์ปัญหาใน ในขณะที่ DNA มักเปน็ สายคู่ และราคาของสินคา้ นั้น ๆ) การถอดรหัส DNA ได้ 4. DNA พบแค่ในนิวเคลียส 1.2นักเรียนพบบาร์โค้ดบ (P) แต่ RNA พบได้ทัง้ ในนิวเคลียส 5. ทำงานเป็นกลุ่มได้ และไซโทพลาซมึ คำตอบที่หลากหลาย เช สำนักงาน ปากกา ฯลฯ แล อย่างมีประสิทธิภาพ mRNA (messenger RNA) ทกุ ประเภท) (A) คือ RNA ชนิดหนึ่งที่ทำหนา้ ท่ี 6. มีวินัยในการรักษา ในการนำข้อมูลทางพันธุกรรม เวลา (A) จาก DNA ที่อยู่ในนิวเคลียส 7. มีวินยั ในการเข้าแถว ไปยังไซโทพลาซึม และให้เกียรติผู้ที่มา ขั้นตอนในการสังเคราะห์ ก่อน (A) mRNA มี 3 ขัน้ ตอน ดงั น้ี ภาพที่ 2 ไนโตรจนี สั เบ

108 การเรียนรู้ ส่ือการเรยี นรู้ การประเมนิ ผลการเรียนรู้ 1. PowerPoint 1. นักเรียนบอกความ นักเรียนสงสัย โดยใช้ภาพและสื่อ 2. ว ี ด ี ท ั ศ น ์ เ ร ื่อ ง แตกต่างของ DNA และ “mRNA synthesis” RNA ได้ถูกต้องทั้งหมด 3. แ บ บ บ ั น ทึ ก (ประเมินจากแบบสอบ) กิจกรรมเรื่อง “การ 2. น ั ก เ ร ี ย น บ อ ก บาร์โคด้ ของสินคา้ สงั เคราะหโ์ ปรตนี I” ความหมายของ mRNA ได้ 4. ชุดกจิ กรรม ถูกต้อง (ประเมินจากแบบ ตามห้างสรรพสินค้าหรือร้าน 7- Who’s that Pokemon สอบ) แคชเชียร์ตรวจสอบราคาและช่ือ (ประกอบด้วย DNA 3. นักเรียนอธบิ ายขั้นตอน ร? (สแกนบารโ์ คด้ เพื่อแสดงข้อมูลช่ือ สายคู่ 30 รูปแบบ ในการสังเคราะห์ mRNA และตุ๊กตาโปเกม่อน ไ ด ้ ถ ู ก ต ้ อ ง ส ม บ ู ร ณ์ บนสินค้าประเภทใดบ้าง (อาจได้ 3 ชนดิ ) (ประเมนิ จากแบบสอบ) ช่น อาหาร ขนม หนังสือ โต๊ะเก้าอ้ี 4. นกั เรยี นแก้โจทย์ปญั หา ล้วครูจึงช่วยนำสรุปว่าพบได้ในสินค้า ในการถอดรหัส DNA ได้ (ประเมินจากแบบสอบ และแบบบนั ทกึ กจิ กรรม) 5. คะแนนความร่วมมือ ร่วมใจในการทำงานเป็น กลุ่มอยู่ในเกณฑ์ดีขึ้นไป (ประเมินจากเกณฑก์ ารให้ บสทง้ั 4 ชนิดใน DNA ของส่งิ มีชวี ิต คะแนนในการทำงานกล่มุ )

จุดประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมก 8. มีความมุ่งมั่นในการ ขั้นที่ 1 ขั้นเริ่มต้น เอนไซม์ 1.3จากการที่นักเรียนศึกษ ทำงาน (A) RNA polymerase จะเข้าไป DNA ไนโตรจีนสั เบสอะ จับกับ DNA ตรงบริเวณที่จะ และไซโทซีน (C) พบใน สังเคราะห์ mRNA ทำให้ หลากหลาย เช่น คน แมลง พันธะไฮโดรเจนระหว่างคูเ่ บส ได้ในสงิ่ มีชวี ิตทกุ ชนิด) สลาย พอลีนิวคลีโอไทด์ 2 สายของ DNA จะคลายเกลียว แยกออกจากกัน โดยมีสาย หนง่ึ เป็น DNA แมแ่ บบ ขั้นที่ 2 ขั้นการต่อสายยาว ไรโบนิวคลโี อไทด์ทีม่ ีเบสเข้าคู่ กับนิวคลีโอไทด์ของ DNA แม่แบบคือ C เข้าคู่กับ G, G เขา้ คกู่ ับ C, U เขา้ คูก่ ับ A และ ภาพที่ 3 การเรยี A เข้าคู่กับ T จะเข้ามาจับกับ 2. ครูอธิบายเปรยี บเทียบให้นัก น ิ ว ค ล ี โ อ ไ ท ด ์ ข อ ง DNA เบสใน DNA ต่างก็ทำหน้ แ ม ่ แ บ บ เ อ น ไ ซ ม ์ RNA polymerase จะเชื่อมไรโบนิ เหมอื นกัน ในบาร์โคด้ กจ็ ะมีโ ได้ข้อมูลทีเ่ ปน็ ช่ือสินค้าและ วคลีโอไทด์อิสระของ mRNA เพื่อให้นักเรียนสงสัยว่า “แ มาต่อกนั เปน็ สายยาวโดยมีทิศ การดงึ ข้อมลู จากลำดบั เบสใน ทางการสังเคราะห์สาย mRNA จากปลาย 5’ ไปยัง ปลาย 3’ และการสร้างสาย

109 การเรยี นรู้ ส่ือการเรียนรู้ การประเมินผลการเรียนรู้ ษาเรื่ององค์ประกอบทางเคมีของ 6. นักเรียนมีวินัย ทำงาน ะดีนนี (A) กวานีน (G) ไทมีน (T) เสรจ็ ในเวลาที่กำหนดให้ได้ (ประเมินจากเกณฑ์การให้ นสิ่งมีชีวิตใดบ้าง (อาจได้คำตอบท่ี คะแนนความตรงตอ่ เวลา) 7. นักเรียนมีวินัยในการ งหว่ี ฯลฯ แล้วครจู งึ ช่วยนำสรปุ ว่าพบ เข้าแถว ไม่แซงคิด รู้จักให้ เ ก ี ย ร ต ิ ผู้ ท ี ่ ม า ก ่ อ น (ประเมินจากเกณฑ์การให้ คะแนนความมีวินัยในการ เขา้ แถวต่อคิว) ยงลำดับของเบสบนสาย DNA 8. นักเรียนมีความมุ่งม่ัน ในการศกึ ษาหาความรู้จาก กเรยี นคิดว่า “บาร์โคด้ และลำดบั าที่บรรจุข้อมูลต่าง ๆ เอาไว้ แหล่งข้อมูลที่ครูจัดไว้ให้ โปรแกรมสำหรับอา่ นบาร์โค้ดจน (ประเมินจากเกณฑก์ ารให้ ะราคาออกมาได้” จากนั้นครูถาม คะแนนความมุ่งมั่นในการ แล้วในสิ่งมีชีวิตมีกระบวนการใน น DNA อยา่ งไร” ทำงาน)

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมก mRNA นั้นจะเรียงสลับทิศกบั ภาพที่ 4 โครงสรา้ งข สาย DNA ท่ีเปน็ แมแ่ บบ 3. ครูแสดงภาพการศึกษาโปร ขั้นที่ 3 ขั้นสิ้นสุด เอนไซม์ ภาพในสอื่ PowerPoint จาก RNA polymerase ห ยุ ด คนเราประกอบไปด้วยโปรตนี ทำงานและแยกตัวออกจาก คนเราประกอบไปดว้ ยโปรต DNA สายแม่แบบ สาย mRNA เลอื ดแดงก็ประกอบด้วยโปร ครูแสดงรปู ภาพเซลล์เม็ดเลือ ที่สังเคราะห์ได้จะแยกออก โรคโลหติ จางชนดิ ซิกเคลิ เซล จาก DNA ไปยังไซโทพลาซึม ส่วน DNA 2 สายจะจับคู่กัน และบิดเกลียวเหมือนเดมิ ดา้ นทักษะ (P) 1. ค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น ก า ร ส่ือสาร (การพูด การอ่าน การ เขียน) 2. ความสามารถในการคิด (การวิเคราะห์ การลำดับ ขนั้ ตอน) 3. ค ว า ม ส า ม า ร ถ ใ น ก า ร แก้ปัญหา (การแก้โจทย์การ ถอดรหัส DNA) 4. ความสามารถในการใช้ ทักษะชีวิต (การทำกิจกรรม กลุ่ม)

การเรียนรู้ 110 ส่อื การเรยี นรู้ การประเมินผลการเรียนรู้ ของกล้ามเนอื้ ในรา่ งกายคน รตีนในร่างกายคน โดยครูแสดง กนัน้ ครกู ล่าวว่า “ในรา่ งกายของ นจำนวนมาก เชน่ กลา้ มเนื้อของ ตีนแอคตินและไมโอซิน เซลล์เม็ด รตนี ทมี่ ีชอื่ ว่าฮโี มโกลบนิ ” จากนน้ั อดแดงของคนปกติและคนที่เป็น ลล์ (sickle cell anemia)

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมก 5. ความสามารถในการใช้ ภาพท่ี 5 เปรียบเทยี บโครงสรา้ งข คนปกติกับคนที่เปน็ โรค เทคโนโลยี (-) คุณลักษณะอันพึงประสงค์ (A) กจิ กรรมในคาบเรยี นนีส้ ่งเสริม ให้นักเรียนมีวินัย (รักษาเวลา ในการศึกษาค้นคว้า) มีความ มุ่งมั่นในการทำงาน (กระตือรือร้นที่จะค้นคว้าหา ความรู้) และมีจิตสาธารณะ (แบ่งปันแหล่งสารสนเทศให้ เพื่อนได้ศึกษาอย่างเท่าเทียม กัน) ภาพที่ 6 เปรียบเทียบระบบหมุน โลหติ จางแ

การเรียนรู้ 111 สือ่ การเรียนรู้ การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ของฮโี มโกลบินในเซลลเ์ มด็ เลอื ดแดงของ คโลหิตจางแบบซิกเคิลเซลล์ นเวียนโลหติ ของคนปกตกิ บั คนท่ีเปน็ โรค แบบซกิ เคิลเซลล์

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมก ภาพท่ี 7 เปรยี บเทียบลำดบั กร โลหติ จางแ จากนนั้ ครูใช้คำถามเพ่ือใหน้ ัก โนของคนปกติกับคนที่เป็น แตกต่างกันหรือไม่? อย่า ตำแหน่งท่ี 6 ของคนปกตจิ ะเปน็ เป็น Valine) โดยเมื่อได้คำต “แสดงวา่ โปรตนี ก็เป็นปัจจยั ต่าง ๆ ในสิ่งมีชีวิต ถ้าหาก รา่ งกาย ลกั ษณะทางพันธกุ ร แล้ว DNA มีความเกี่ยวข้องอ เพ่อื ควบคุมลักษณะทางพันธ

การเรียนรู้ 112 สื่อการเรยี นรู้ การประเมนิ ผลการเรียนรู้ รดอะมโิ นของคนปกตกิ บั คนท่ีเป็นโรค แบบซกิ เคิลเซลล์ กเรียนสงั เกตว่า “ลำดบั กรดอะมิ นโรคโลหิตจางแบบซิกเคิลเซลล์ งไร?” (แตกต่างกันที่กรดอะมิโน น Glutamine แตข่ องคนท่ีเปน็ โรคจะ ตอบแล้วครูจึงกล่าวเชื่อมโยงว่า ยท่ีควบคุมลกั ษณะทางพันธุกรรม กไม่มีการสังเคราะห์โปรตีนใน รรมตา่ ง ๆ กอ็ าจจะผิดปกติไปได้ อย่างไรกับการสังเคราะห์โปรตีน ธุกรรม?”

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมก ข้ันแสวงหาความรู้ (20 นาที) 1. นักเรียนศึกษาเรื่อง “คว RNA” จาก ก าร ฟ ัง คำบ PowerPoint ของครู และ บนั ทึกกจิ กรรมทค่ี รแู จกให้ เปรียบเทียบโครงสร้างของ ภาพที่ 8 ความแตกต 1.1จากนั้นครูใช้คำถามว่า และ RNA แตกต่างกัน RNA มเี พยี งสายเดียว, เบส จะพบเบส U แทน)

113 การเรยี นรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมินผลการเรียนรู้ ามแตกต่างระหว่าง DNA และ บร ร ยายปร ะ ก อ บก าร ใ ช ้ สื่ อ บันทึกข้อความรู้ที่ได้ลงในแบบ โดยครจู ะเปดิ รปู ภาพให้นักเรียน DNA และ RNA ดังนี้ ต่างระหว่าง DNA และ RNA า “จากภาพที่นักเรียนเห็น DNA นอย่างไร?” (DNA มีสายเกลียวคู่ แต่ ส T จะพบใน DNA ในขณะทใี่ น RNA

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมก ภาพท่ี 9 ความแตกต 1.2จากนั้นครูใช้คำถามว่า และ RNA แตกตา่ งกันอ จากน้ำตาลชนิด Deoxyri ธาตุ O จะหายไปหน่งึ ตวั ส ชนดิ Ribose โดยทค่ี าร์บอ 2. นักเรียนศึกษาเรื่อง “หน้า บรรยายประกอบการใช้ บันทึกข้อความรู้ที่ได้ลงในแ ดงั น้ี

การเรียนรู้ 114 สื่อการเรียนรู้ การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ตา่ งระหว่าง DNA และ RNA า “จากภาพที่นักเรียนเห็น DNA อย่างไร?” (ใบ DNA จะประกอบขึ้น ibose โดยที่คาร์บอนตำแหน่งที่สอง สว่ น RNA จะประกอบขน้ึ จากน้ำตาล อนตำแหนง่ ทสี่ องจะมีธาตุ OH) าที่ของ mRNA” จากการฟังคำ สื่อ PowerPoint ของครู และ แบบบันทึกกิจกรรมที่ครูแจกให้

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมก ภาพที่ 10 กา ภาพท่ี 11 ตำแหนง่ 2.1ครูกลา่ วถึงหน้าทีข่ อง m RNA) คือ RNA ชนิดห ทางพันธุกรรมจาก D โทพลาซึม”

การเรยี นรู้ 115 สื่อการเรยี นรู้ การประเมินผลการเรียนรู้ ารสังเคราะห์ mRNA งของ mRNA ภายในเซลล์ mRNA ว่า “mRNA (messenger หนึ่งที่ทำหน้าที่ในการนำข้อมูล DNA ที่อยู่ในนิวเคลียสไปยังไซ

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมก 3. นกั เรียนศึกษาเรือ่ ง “การสงั บรรยายประกอบการใช้วีด และสื่อ PowerPoint ของค ในแบบบันทึกกิจกรรมท่คี รแู ภาพท่ี 12 กา 3.1ครูกล่าวนำนักเรียนสร หลังจากศึกษาวดี ที ัศนเ์ สังเคราะห์ mRNA แบ่ง ขั้นที่ 1 ขั้นเริ่มต้น เอน ไปจับกับ DNA ตรงบร ให้พันธะไฮโดรเจนระ ไทด์ 2 สายของ DNA โดยมสี ายหน่งึ เปน็ DNA

116 การเรียนรู้ ส่อื การเรยี นรู้ การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ งเคราะห์ mRNA” จากการฟังคำ ดีทัศน์เรื่อง “mRNA synthesis” ครู และบันทึกข้อความรู้ที่ได้ลง แจกให้ ดังนี้ ารสงั เคราะห์ mRNA รุปขั้นตอนการสังเคราะห์ DNA เรยี บร้อยแล้วว่า “ข้ันตอนในการ งได้ 3 ข้ันตอน ดังน้ี นไซม์ RNA polymerase จะเข้า ริเวณที่จะสังเคราะห์ mRNA ทำ ะหว่างคู่เบสสลาย พอลีนิวคลีโอ จะคลายเกลียวแยกออกจากกัน A แมแ่ บบ

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมก ขน้ั ที่ 2 ขัน้ การต่อสายย คู่กับนิวคลีโอไทด์ของ G เข้าคู่กับ C, U เข้าค มาจับกับนิวคลีโอไทดข์ polymerase จะเชื่อม mRNA มาต่อกันเป็น สังเคราะห์สาย mRNA การสร้างสาย mRNA น ขั้นที่ 3 ขั้นสิ้นสุด เอ ทำงานและแยกตัวออ mRNA ที่สังเคราะห์ไ ไซโทพลาซึม สว่ น DNA ภาพท่ี 13 sense s

117 การเรยี นรู้ สือ่ การเรยี นรู้ การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ยาว ไรโบนวิ คลโี อไทดท์ ีม่ เี บสเข้า DNA แม่แบบคือ C เข้าคู่กับ G, คู่กับ A และ A เข้าคู่กับ T จะเข้า ของ DNA แม่แบบ เอนไซม์ RNA มไรโบนิวคลีโอไทด์อิสระของ นสายยาวโดยมีทิศทางการ A จากปลาย 5’ ไปยังปลาย 3’ น้ันสลับทิศกับสาย DNA แมแ่ บบ อนไซม์ RNA polymerase หยุด อกจาก DNA สายแม่แบบ สาย ได้จะแยกออกจาก DNA ไปยัง A 2 สายจะจับคูก่ ันเหมือนเดมิ ” strand และ antisense strand

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมก 3.2ครูให้ความรู้นักเรียน mRNA จะใช้เอนไซม์ R mRNA ที่เกิดขึ้นจะมีท จึงต้องใช้สาย DNA แม ยัง 5’ ซึ่งสายแม่แบบ antisense strand แต mRNA และสาย DNA ด้าน 5’ ไป 3’ จะล แตกต่างกันเพียงแค่เป เบส U ใน RNA เท่านนั้ มีทศิ ทางจากดา้ น 5’ ไ ขนั้ สรา้ งความรู้ (20 นาที) 1. ครใู ห้นักเรยี นทำกจิ กรรม “ กิจกรรมจะเป็นการฝึกฝน DNA ใหก้ ำหนดให้ อาจแบง่ 1.1ครูจะมีสาย DNA สาย ประมาณ 30 แบบ ให ให้เป็น mRNA จากนั้น เป็นประโยคภาษาอังก ตามทป่ี ระโยคบอกใหถ้

118 การเรยี นรู้ สื่อการเรยี นรู้ การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ นเพิ่มเติมว่า “การสังเคราะห์ RNA polymerase โดยสายของ ทิศทางจากด้าน 5’ ไป 3’ ดังนั้น ม่แบบที่มีทิศทางจากด้าน 3’ ไป บที่มีทิศทางดังกล่าวจะเรียกว่า ต ่ ถ ้ า ห า ก ล อ ง ส ั ง เ ก ต จ ะ พ บ ว่ า A ที่ไม่ใช่แม่แบบที่มีทิศทางจาก ำดับนิวคลีโอไทด์เหมือนกัน ปลี่ยนจากเบส T ใน DNA ให้เป็น น เราจงึ เรยี กสายทไ่ี มใ่ ช่แมแ่ บบท่ี ไป 3’ นว้ี ่า sense strand” “Who’s that Pokemon?” โดย นให้มีการถอดรหัส mRNA จาก งเปน็ ขัน้ ตอนไดด้ ังนี้ ยคู่ให้นักเรียน โดยจะเตรียมไว้ ห้นักเรียนจับคู่กันถอดรหัส DNA นใช้ตารางแปลรหัส mRNA ให้ กฤษแล้วไปหยิบตุ๊กตาโปเกม่อน ถูกต้องไปสง่ ทค่ี รูหน้าชั้นเรียน

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมก 1.2หากนกั เรียนนำตุ๊กตาม ไดถ้ ูกตอ้ ง จะได้รบั คะแ DNA ทมี่ คี วามยาว 12 (สำหรบั สาย DNA ท่มี คี 1.3นักเรียนจะมีเวลาทำก ให้นักเรียนทำทีละสาย ในสายนั้นมาส่งเรียบร สายใหม่ไปทำได้ 1.4ครูแนะนำชื่อของตุ๊กต ตุ๊กตา และตั้งกตกิ าเพิ่ม ตกุ๊ ตาตัวนั้นขน้ึ มาเป็นค ตัวนนั้ มาสง่ ครกู อ่ น คู่ท ตัวนั้นให้เป็นระเบียบ ก่อนก็จะมีสิทธิ์ส่งตุ๊กต ต่อแถวให้เป็นระเบียบ รวดเร็วและถูกต้องก็จ คะแนนไปก่อน 1.5ส่งิ ทน่ี กั เรยี นจะตอ้ งนำม เลือกมาส่ง สาย DNA

119 การเรียนรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมินผลการเรยี นรู้ มาให้ครูถกู ตอ้ ง และแปลประโยค แนนคูล่ ะ 1 คะแนน (สำหรับสาย 2 นวิ คลโี อไทด)์ และ 1.5 คะแนน ความยาว 20 นิวคลีโอไทด์) ิจกรรมทั้งหมด 15 นาที โดยจะ ย DNA เมื่อทำเสร็จแล้วนำตุ๊กตา ร้อย จึงจะสามารถรับสาย DNA ตาแต่ละตัว และตำแหน่งที่วาง มเติมให้นักเรียนว่าหากคู่ใดหยิบ คู่แรก ค่นู ัน้ จะได้รับสิทธ์ินำตุ๊กตา ทีม่ าทหี ลงั ตอ้ งต่อแถวรอรับตุ๊กตา และใครที่เดินมาถึงหน้าโต๊ะครู ตาตัวนั้นก่อน คู่ที่มาทีหลังก็ต้อง บเช่นกัน ดังนั้นใครที่ถอดรหัสได้ จะมีโอกาสนำตุ๊กตามาส่งเพื่อรับ มาส่งครูทุกครง้ั จะต้องมี ตุ๊กตาท่ี A ที่ได้รับไปตอนแรก และแบบ

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมก บันทึกกิจกรรม (จะป ออกมาได้ และประโยค 1.6นักเรียนคู่ใดที่ได้คะแ ไดร้ ับรางวัลจากครผู ู้สอ 2. ครูให้นักเรียนจับคู่กัน แล เอาไวแ้ ลว้ ขน้ั สอ่ื สาร 1. ครูให้นักเรียนเขียนภาพส ขั้นตอน และให้นักเรียนล ยาวประมาณ 20 นิวคลโี อไ เป็น sense strand และ a ถอดรหัสจาก mRNA สาย กระดาษรายงานหรอื กระดา ขั้นตอบแทนสงั คม 2. ใหน้ กั เรียนท่ีไดค้ ะแนนสอบ จับคู่กับเพื่อนที่ได้คะแนน เกณฑ์ แล้วอธิบายเนื้อหาใ แล้วให้เพื่อนคนที่สอบไม คู่ขนานอีกคร้ัง (โดยคาดว ความรู้เพิ่มเติมกับนักเรียน สามารถทำแบบสอบให้ได้ค

120 การเรยี นรู้ สอ่ื การเรียนรู้ การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ระกอบด้วยสาย mRNA ที่แปล คภาษาองั กฤษทไ่ี ด)้ แนนมากที่สุดจะเป็นผู้ชนะและ อน ล้วเริ่มทำกิจกรรมตามที่ได้ชี้แจง สรุปการสังเคราะห์ DNA ทั้ง 3 ลองสร้างสาย DNA สายคู่ ความ ไทด์ขน้ึ มาหนงึ่ สาย (ใหร้ ะบสุ ายท่ี antisense strand ด้วย) แล้วให้ ยนั้นออกมาด้วย โดยทำลงใน าษ A4 บวัดความรู้ท้ายคาบท่ีผ่านเกณฑ์ นสอบวัดความรู้ท้ายคาบไม่ผ่าน ในคาบเรียนนี้ให้เพื่อนฟงั อีกคร้งั ม่ผ่านเกณฑ์กลับมาทำแบบสอบ ่าหลังจากที่นักเรียนที่เก่งช่วยให้ นที่อ่อนแล้ว นักเรียนที่อ่อนจะ คะแนนผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ )

โรงเรยี นสรร กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทย แผนการจดั การเรียนรู้ เร่ือง การสังเคราะห ภาคการศึกษาปลาย ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 4/พ และ 4/1 สาระชีววทิ ยา 2. เข้าใจการถา่ ยทอดลักษณะทางพันธุกรรม การถา่ ยทอดยนี บนโคร ดเี อ็นเอ หลักฐานข้อมูล และแนวคิดเกยี่ วกับวิวฒั นาการของสิ่งมชี ีวติ กำเนดิ ของสงิ่ มชี วี ิต ความหลากหลายของสงิ่ มชี ีวิต และอนกุ รมวิธาน ผลการเรียนรู้ ม.4/7 อธิบาย และระบขุ ้นั ตอนในกระบวนการสงั เคราะหโ์ ปรตนี แล ม.4/8 สรุปความสมั พันธ์ระหว่างสารพนั ธกุ รรม แอลลีล โปรตนี ลัก

121 รพยาวทิ ยา ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ห์โปรตีน II (การแปลรหัส : Translation) รายวิชา ชวี วทิ ยา2 ว30252 ผสู้ อน นายเรวตั ร อยเู่ กดิ รโมโซม สมบัติ และหน้าทข่ี องสารพันธุกรรม การเกดิ มวิ เทชนั เทคโนโลยที าง ต ภาวะสมดุลของฮารด์ ี-ไวน์เบิรก์ การเกดิ สปชี ีสใ์ หม่ ความหลากหลายทางชีวภาพ น รวมทั้งนำความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ ละหนา้ ทีข่ อง DNA และRNA แต่ละชนิดในกระบวนการสงั เคราะหโ์ ปรตีน กษณะทางพนั ธกุ รรม และเชื่อมโยงกับความรทู้ างพนั ธุศาสตรเ์ มนเดล

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมก เ ม ื ่ อ จ บ ค า บ เ ร ี ย น ด้านความรู้ (K) ขนั้ ตงั้ คำถาม (5 นาท)ี นักเรยี นสามารถ RNA ท่พี บในไซโทพลาซึมแบง่ 1. ครแู สดงภาพ mRNA ให้นักเ 1. บอกความหมายและ ได้ 2 ชนดิ คือ หน้าที่ของ tRNA และ 1. tRNA (transfer RNA) rRNA ได้ (K) เป็นโมเลกุล RNA ที่มีขนาด 2. อธิบายกระบวนการ เล็ก ทำหน้าทนี่ ำกรดอะมิโนท่ี แปลรหสั ได้ (K) สอดคล้องกับรหัสการสร้าง 3. แก้โจทย์ปัญหาใน โปรตีนบนสาย mRNA มาต่อ การถอดรหัสและแปล กันเป็นสายพอลีเพปไทด์ โดย รหัสได้ (P) รหัสพันธุกรรมที่เป็นรหัส 4. ทำงานเป็นกลุ่มได้ ส า ม ต ั ว (triplet code) ซึ่ง อย่างมีประสิทธิภาพ ประกอบด้วย 3 นิวคลีโอไทด์ ภาพที่ 1 m (A) เรียงกันตามลำดับใน mRNA 1.1จากคาบเรียนท่แี ลว้ mR 5. มีวินัยในการรักษา เป็น 1 รหัสเรียกว่าโคดอน นั้นจะออกไปทำหน้าท เวลา (A) (codon) ส่วนลำดับเบสของ 6. มวี นิ ัยในการเขา้ แถว tRNA ที่เข้าคู่กับลำดับเบส สร้างโปรตีน) และให้เกียรติผู้ที่มา ของ โ คดอ น ใน mRNA ซ่ึง 1.2การสังเคราะห์โปรตีน ก่อน (A) ประกอบด้วย 3 นิวคลีโอไทด์ (ไซโทพลาซึม cytopla 7. มีความมุ่งมั่นในการ เช่นกัน เรียกว่าแอนติโคดอน 1.3ออร์แกเนลล์ใดในไซ สงั เคราะห์โปรตีน? (ไรโบ ทำงาน (A) (anticodon) 1.4นักเรียนทราบหรือไม่ว 2. rRNA (ribosomal RNA) กระบวนการควบคมุ กา เป็นองค์ประกอบของของ ไรโบโซม ซึ่งเป็นออร์แกเนลล์

122 การเรียนรู้ สอ่ื การเรยี นรู้ การประเมินผลการเรยี นรู้ 1. PowerPoint 1. น ั ก เ ร ี ย น บ อ ก เรียนดูแล้วใช้คำถามดังตอ่ ไปน้ี 2. วัสดอุ ปุ กรณใ์ น ความหมายและหน้าที่ของ การจดั กิจกรรมเร่ือง tRNA แ ล ะ rRNA ไ ด้ การสงั เคราะห์โปรตนี ถูกต้องทั้งหมด (ประเมิน ได้แก่ จากแบบสอบ) 2.1 โมเลกุล DNA 2. น ั ก เ ร ี ย น อ ธ ิ บ า ย จำนวน 10 แผ่น กระบวนการแปลรหัสได้ 2.2 การ์ด tRNA ไ ด ้ ถ ู ก ต ้ อ ง ส ม บ ู ร ณ์ จำนวน 64 ใบ (ประเมนิ จากแบบสอบ) 2.3 แผน่ ปา้ ยคำวา่ 3. นักเรียนแก้โจทยป์ ัญหา นวิ เคลียส, ในการถอดรหัสและแปล mRNA ภายในเซลล์ ไซโทพลาสซมึ และ รหัสได้ (ประเมินจากแบบ ส อ บ แ ล ะ แ บ บ บ ั น ทึ ก RNA ท่ีถอดรหสั มาจากสาย DNA ไรโบโซม กจิ กรรม) ที่อะไรต่อไป? (สังเคราะห์โปรตีน/ 3. แ บ บ บ ั น ทึ ก 4. คะแนนความร่วมมือ กิจกรรมเรื่องการ ร่วมใจในการทำงานเป็น นเกิดขึ้นที่บริเวณใดของเซลล์? สังเคราะห์โปรตีน กลุ่มอยู่ในเกณฑ์ดีขึ้นไป asm) และกระดาษ mRNA (ประเมินจากเกณฑก์ ารให้ คะแนนในการทำงานกลมุ่ ) ซโทพลาซึมที่ทำหน้าที่ในการ 5. นักเรียนมีวินัย ทำงาน เสรจ็ ในเวลาที่กำหนดให้ได้ บโซม ribosome) (ประเมินจากเกณฑก์ ารให้ ว่า mRNA ที่เป็นเส้นสายนี้ จะมี คะแนนความตรงตอ่ เวลา) ารสังเคราะห์โปรตีนอย่างไร และ

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมก มีสิ่งใดที่จำเป็นในกระบ ที่ทำหน้าที่ในกระบวนการ บ้าง? ขั้นแสวงหาความรู้ (30 นาที) สังเคราะหโ์ ปรตีน 1. นักเรียนศึกษาเรื่อง “โครง ก ร ะ บ ว น ก า ร แ ป ล ร หั ส rRNA” จาก ก าร ฟ ังคำบ (translation) คอื การทำงาน PowerPoint ของครู และ ของไรโบโซมในไซโทพลาซึม บันทึกกิจกรรมที่ครูแจกให ร่วมกับ tRNA ที่ทำหน้าที่นำ คำบรรยายให้นักเรียนฟงั แล กรดอะมิโนมาเรียงต่อกันตาม ภาพที่ 2 โครงส รหสั พนั ธกุ รรมของ mRNA ได้ เปน็ สายพอลีเพปไทด์ ก ร ะ บว น ก าร แปลร ห ั ส มี กระบวนการสำคัญ 3 กระบวนการ ดังน้ี ก ร ะ บ ว น ก า ร ที่ 1 ก ร ะ บ ว น ก า ร เ ร ิ ่ ม ต้ น (Initiation) ไรโบโซมหน่วยย่อยขนาดเล็ก มาจบั กบั mRNA ทำให้ tRNA ตัวแรกจะนำกรดอะมิโน ต ั ว แ ร ก ม า ย ั ง ร ห ั ส เ ร ิ ่ ม ต้ น (start codon) น ั ่ น ค ื อ 5’ AUG 3’ จากนั้นไรโบโซม ข น า ด ใ ห ญ ่ จ ะ เ ข ้ า ม า จ ั บ กั บ ไรโบโซมขนาดเล็ก จึงทำให้

123 การเรียนรู้ สอื่ การเรียนรู้ การประเมินผลการเรยี นรู้ บวนการการสังเคราะห์โปรตีนน้ี 6. นักเรียนมีวินัยในการ งสร้างและหน้าที่ของ tRNA และ บร รยายประก อบก ารใช้ส่ือ เข้าแถว ไม่แซงคิด รู้จักให้ บันทึกข้อความรู้ที่ได้ลงในแบบ เกียรติผู้ที่มาก่อน ห้ โดยครูจะเปิดรูปภาพประกอบ (ประเมินจากเกณฑก์ ารให้ ละจดบันทกึ ข้อความรู้ ดังน้ี คะแนนความมีวินัยในการ เข้าแถวตอ่ ควิ ) 7. นักเรียนมีความมุ่งมั่น ในการศกึ ษาหาความรู้จาก แหล่งข้อมูลที่ครูจัดไว้ให้ (ประเมินจากเกณฑก์ ารให้ คะแนนความมุ่งมั่นในการ ทำงาน) สร้าง 3 มิติของ tRNA

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมก ไรโบโซมพร้อมจะทำหน้าท่ี ภาพท่ี 3 โคร ภาพท่ี 4 การ ตอ่ ไป ก ร ะ บ ว น ก า ร ท่ี 2 กระบวนการต่อสาย (Elongation) tRNA โมเลกุลที่สอง ที่มี แ อ น ต ิ โ ค ด อ น เ ป ็ น ค ู ่ ส ม กั บ โคดอนถัดไปของ mRNA นำ กรดอะมิโนตัวที่สองเข้ามา เรียงต่อกับกรดอะมิโนตัวแรก แล้วสร้างพันธะเพปไทด์เชื่อม ระหว่างกรดอะมิโนทั้งสอง จากนั้นไรโบโซมจะเคลื่อนที่ ไปยังโคดอนถัดไปในทิศทาง จากปลาย 5’ ไปยังปลาย 3’ ซึ่ง tRNA โมเลกุลแรกจะหลุด ออกไปจากไรโบโซมและสาย mRNA แล้ว tRNA โมเลกุลท่ี สาม ที่มีแอนติโคดอนเป็น คู่สมกับโคดอนถัดไปของ mRNA นำกรดอะมิโนตัวที่ สามเข้ามาเรียงต่อกับกรด

การเรียนรู้ 124 สื่อการเรียนรู้ การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ รงสร้างของ tRNA รทำงานของ tRNA

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ กิจกรรมก 1.1ครูกล่าวถึงโครงสร้างแ อะมิโนที่สอง แล้วสร้างพันธะ (transfer RNA) เป็นโม เพปไทด์เชื่อมระหว่างกรดอะ หน้าที่นำกรดอะมิโน มิโนตวั ท่สี องกบั กรดอะมิโนตวั โปรตีนบนสาย mRNA ที่สาม จากนั้นไรโบโซมจะ โดยรหัสพันธุกรรมทเี่ ป็น เคลื่อนที่ต่อไปทีละโคดอน ประกอบด้วย 3 นิวค ตามลำดับ และกระบวนการ mRNA เปน็ 1 รหัสเรีย เบสของ tRNA ที่เข้า ต่าง ๆ จะดำเนินต่อไป mRNA ซึง่ ประกอบดว้ ย เช่นเดียวกับที่กล่าวมาข้างต้น แอนตโิ คดอน (anticod จะได้สายที่มีกรดอะมิโนต่อ กันเป็นสายยาวเรียกว่าพอลิ ภาพท่ี 5 โครงส เพปไทด์ ก ร ะ บ ว น ก า ร ที่ 3 ก ร ะ บ ว น ก า ร ส ิ ้ น สุ ด (Termination) เมื่อไรโบโซมเคลื่อนที่ต่อไป บน mRNA จนพบกับรหัส หยุดรหัสใดรหัสหนึ่ง ได้แก่ UAA UAG หรือ UGA จะไม่มี tRNA เข้ามาจับกับรหัสหยุด ทำให้หยุดการแปลรหัส แล้ว พอลีเพปไทด์ตัวสุดท้ายจะถูก ตัดออกไปและแยกออกจาก กัน ไรโบโซมหน่วยย่อยขนาด


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook