การประเมินดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ เรื่อง ขัน้ ตอนการแกป้ ัญหา ใฝ่เรยี นรู้ 1. ศกึ ษาคน้ คว้าหาความรจู้ ากหนังสอื เอกสาร สง่ิ พิมพ์ สื่อเทคโนโลยีต่าง ๆ แหลง่ เรียนรู้ทั้งภายในและ ภายนอกโรงเรยี น และเลือกใชส้ อื่ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 2. ตั้งใจเรียน 3. เอาใจใส่และมีความเพยี รพยายามในการเรยี นรู้ 4. เข้ารว่ มกิจกรรมทางการเรียนร้อู ยเู่ สมอ มงุ่ ม่นั ในการทำงาน 1. ตั้งใจและรบั ผิดชอบในงานทไ่ี ด้รับมอบหมาย 2. เพยี รพยายามในการทำงาน ด้วยความอดทนไมท่ ้อแท้ต่ออปุ สรรคท่เี กิดข้นึ 3. พัฒนาการทำงานของตนเองให้ดีขนึ้ เสมอ 4. เอาใจใส่ต่อหน้าทีท่ ่ีได้รับมอบหมาย
เกณฑ์การด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ เรื่อง ข้นั ตอนการแกป้ ญั หา ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 4 ระดบั คณุ ภาพ 1 ใฝ่เรยี นรู้ มีคณุ ลักษณะ 32 มีคณุ ลักษณะ อนั พึงประสงค์ มีคุณลกั ษณะ มีคุณลกั ษณะ อันพงึ ประสงค์ มงุ่ มน่ั ในการทำงาน ดา้ นใฝเ่ รียนรู้ อันพงึ ประสงค์ อนั พงึ ประสงค์ ด้านใฝ่เรยี นรู้ ครบทุกขอ้ ดา้ นใฝเ่ รยี นรู้ ด้านใฝเ่ รียนรู้ 1 ขอ้ มคี ุณลักษณะ 3 ข้อ 2 ขอ้ มคี ุณลักษณะ อันพงึ ประสงค์ มคี ุณลักษณะ มคี ุณลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์ ดา้ นมุง่ มน่ั ใน อนั พึงประสงค์ อันพงึ ประสงค์ ดา้ นมุ่งม่ันใน การทำงานครบ ด้านม่งุ ม่ันใน ด้านมุง่ มัน่ ใน การทำงาน ทกุ ข้อ การทำงาน การทำงาน 1 ข้อ 3 ข้อ 2 ขอ้ หมายเหตุ ไดร้ ะดับคะแนน 3 ขนึ้ ไปทุกตัวชว้ี ดั ถอื วา่ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ 4 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง
แบบประเมินด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ เรอ่ื ง ข้นั ตอนการแกป้ ัญหา ประเมินด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ผลการประเมิน ที่ ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งม่ันในการทำงาน ผ่าน ไมผ่ า่ น (ลงช่ือ)……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 4 กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ัน มธั ยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2563 เรือ่ ง การเขยี นรหัสลำลองและผงั งาน วนั ที่ – เดอื น กรกฎาคม พ.ศ. 2563 ใช้เวลา 2 ช่ัวโมง/คาบ 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแกปัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอย่างเปน็ ขั้นตอนและเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สารในการเรยี นรกู้ ารทำงาน และการแกป้ ัญหาไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ 2. ตวั ชีว้ ดั ว 4.2 ม. 6/1 ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในการนำเสนอและแบ่งปนั ข้อมูลอย่างปลอดภัย มีจรยิ ธรรม และ วเิ คราะห์การเปลย่ี นแปลงเทคโนโลยสี ารสนเทศที่มผี ลตอ่ การดำเนินชีวติ อาชพี สงั คมและวฒั นธรรม 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายความหมาย และหลักการเขยี นรหัสลำลอง (K) 2. อธิบายความหมาย และหลักการเขยี นผงั งาน (K) 3. แก้ปญั หาทพี่ บในชีวติ ประจำวนั โดยใชร้ หสั ลำลองและผงั งาน (P) 4. นำเสนอวิธีการแกป้ ัญหาที่พบในชวี ิตประจำวัน โดยใช้รหัสลำลองและผงั งาน (P) 5. มีวืนัย (A) 6. มีความใฝเ่ รยี นรู้ (A) 7. มคี วามมุ่งมั่นในการทำงาน (A) 4. สาระสำคญั เม่ือเราทำความเข้าใจกับปัญหาและความต้องการแล้ว สง่ิ ต่อไปคอื การคิดอย่างมีเหตุผลเพ่ือหาแนวทาง ในการแก้ปัญหา โดยกระบวนการในการออกแบบแนวทางการแก้ปัญหานั้น จะต้องถ่ายทอดความคิดและ ความเข้าใจไปสู่การนำไปปฏิบัติได้ การถ่ายทอดความคิดจะต้องมีจุดเริ่มต้น จุดสิ้นสุด และลำดับก่อนหลังที่ ชัดเจน อาจอยู่ในรูปของข้อความที่เรียงกันเป็นลำดับซึ่งเรียกว่ารหัสลำลอง (pseudocode) หรืออยู่ในรูป ผังงาน (flowchart) ที่ประกอบไปด้วยสัญลักษณ์ ข้อความ และเส้นเชื่อมโยง ทำให้เห็นคำสั่งที่ต้องปฏิบัติ ลักษณะการทำงาน และลำดับในการปฏิบัติงาน การถ่ายทอดความคิดเป็นเครื่องมือที่จะช่วยให้สามารถวาง แผนการแก้ปัญหา และพัฒนาโปรแกรมได้อย่างถูกต้อง ครบถ้วน และตรวจสอบได้ โดยเฉพาะปัญหา หรือโปรแกรมที่ซบั ซ้อน
5. สาระการเรยี นรู้ 1. รหัสลำลอง การเขียนรหัสลำลองเป็นการใช้คำบรรยายอธิบายขั้นตอนอย่างชัดเจนในการแก้ปัญหาหรือการ ทำงานของโปรแกรมซึ่งรูปแบบการเขียนจะขึ้นอยู่กับประสบการณ์ และความถนัดของผู้เขียน โดย อาจเขยี นเป็นภาษาพดู ทำใหเ้ ขยี นง่ายไมต่ ้องกงั วลรปู แบบขน้ั ตอนการแก้ปัญหา 2. ผงั งาน ผังานเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช้ในกาวางแผนหรือออแบบการแญหาเพื่อให้สมารถนำไปปฏิบัติตาม หรือเขียนโปรแกรมเพื่อสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานได้ง่าย สถาบันมาตรฐานแห่งชาติอเมริกา (The American National Standard Institute: ANS) ได้กำหนดสัญลัษณ์ที่เป็นมาตรฐานในการ เขียนผังงานไว้ 5 สัญลักษณ์พื้นฐาน ได้แก่ 1) เริ่มต้นและจบ 2) การนำข้อมูลเข้า-ออก แบบทวั่ ไป 3) การปฏบิ ตั ิงาน 4) การตดั สินใจ และ 5) ทิศทาง 3. แก้ปญั หาทพ่ี บในชีวติ ประจำวนั โดยใช้รหัสลำลองและผังงาน 6. ด้านคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. มุ่งมั่นในการทำงาน 7. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 3. ความสามารถในการสอ่ื สาร 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั นำเข้าสู่บทเรียน (15 นาที) 1. ครูกล่าวทักทายนักเรียน 2. ครูสมุ่ ถามนักเรียนจำนวน 3 คน เพอ่ื ถามสง่ิ ทไี่ ด้เรียนในคาบเรียนก่อนหน้า 3. ครูใช้คำถามสอบถามนักเรียน “นักเรียนจำได้ไหมว่าในขั้นของการวางแผนการแก้ปัญหา สำหรับ การพฒั นาโปรแกรมมเี ครื่องมอื อะไรบา้ ง?” 4. ครแู จง้ ส่ิงทีจ่ ะไดเ้ รยี นในคาบเรยี นนี้ ขั้นกจิ กรรมการเรียนการสอน (1 ช่ัวโมง 25 นาที) 5. ครูอธิบายความหมาย และหลักการเขียนรหัสลำลอง และผังงาน แบบบรรยายโดยใช้สื่อ PowerPoint
6. นักเรียนเล่นเกมเพื่อการศึกษา เกมเรียนรู้ผังงาน ที่ครูจัดเตรียมไว้ให้บนเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือ ดาวนโ์ หลดที่ http://oho.ipst.ac.th/wp-content/uploads/sites/3/2015/01/ FlowDiagram.swf 7. นักเรียนแบ่งกลุ่มแบบคละกลุ่มละ 6 คน โดยการนับเลข แล้วเลือกปัญหาที่พบเจอใน ชีวิตประจำวันมา 1 ปัญหา จากนั้นเขียนรหัสลำลองและผังงานเพื่อแก้ปัญหานั้น แล้วเขียนลงใน ฟลิปชาร์ทและนำเสนอหนา้ ช้นั เรียน ขน้ั สรปุ (20 นาที) 8. นักเรียนและครูรว่ มกนั สรุปความหมาย และหลกั การเขยี นรหัสลำลอง และผงั งาน 1) รหสั ลำลอง การเขียนรหัสลำลองเป็นการใช้คำบรรยายอธิบายขั้นตอนอย่างชัดเจนในการแก้ปัญหาหรือการ ทำงานของโปรแกรมซึ่งรูปแบบการเขียนจะขึ้นอยู่กับประสบการณ์ และความถนัดของผู้เขียน โดย อาจเขียนเป็นภาษาพูด ทำใหเ้ ขียนงา่ ยไม่ตอ้ งกงั วลรปู แบบขนั้ ตอนการแกป้ ัญหา ถ้าผู้เขียนมีความชำนาญแล้ว สามารถเขียนรหัสลำลองคล้ายรูปแบบภาษาโปรแกรม ซึ่งจะ สามารถนำไปดัดแปลงเป็นภาษาโปรแกรมได้ง่าย การใช้รหัสลำลองถ่ายทอดความคิดแสดงดัง ตัวอย่างการเขียนรหัสลำลองคำนวณพื้นท่ีสามเหลยี่ ม ต่อไปน้ี เริ่มต้น 1. รับคา่ ความยาวฐาน 2. รบั คา่ ความสงู 3. คำนวณพน้ ท่สี ามเหล่ียม จากสตู ร ½ x ความยาวฐาน x สูง จบ และมหี ลกั การเขยี นดังนี้ 1. ต้องมีการเรมิ่ ต้น (Start/Begin) ตามด้วยชอ่ื ของกิจกรรมน้นั และต้องมี จุดส้นิ สุด (End) เสมอ 2. ใช้คำหรือประโยคส้ันๆ ทสี่ ื่อความหมายไดช้ ดั เจนและเขา้ ใจง่าย 3. รปู แบบการเขยี นเป็นได้ทัง้ ภาษาไทยและภาษาองั กฤษ 4. ลกั ษณะการเขียน เรมิ่ ต้นจากบนลงล่าง โดยมที างเขา้ หนงึ่ ทาง ทางออกหนงึ่ ทาง 5. การเขยี นแตล่ ะคำสงั่ ควรแยกเป็นบรรทัด ไมค่ วรเขียนหลายคำส่ังในบรรทดั เดยี ว 6. การเขยี นคำส่งั ควรมีการย่อหน้าหรอื เว้นวรรค เพอื่ ให้เกิดความสวยงามเขา้ ใจงา่ ย 2) ผงั งาน ผังานเป็นเครื่องมือหนึ่งที่ช้ในกาวางแผนหรือออแบบการแญหาเพื่อให้สมารถนำไปปฏิบัติตาม หรือเขียนโปรแกรมเพื่อสั่งให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทำงานได้ง่าย สถาบันมาตรฐานแห่งชาติอเมริกา (The American National Standard Institute: ANS) ได้กำหนดสัญลัษณ์ที่เปน็ มาตรฐานในการ เขียนผังงานไว้ 5 สัญลกั ษณพ์ ้ืนฐาน ดงั นี้
สญั ลักษณ์ ชือ่ เรยี ก ความหมาย เริ่มตน้ และจบ จดุ เรม่ิ ต้นและส้นิ สดุ ของผัง งาน การนำข้อมลู เข้า-ออก จุดทนี่ ำข้อมลู เข้าจากภายนอก แบบทว่ั ไป หรือส่งออกสู่ภายนอก โดยไม่ ระบชุ นิดของอุปกรณ์ การปฏิบัตงิ าน จุดท่มี กี ารปฏิบัตงิ านอยา่ งใด อย่างหนง่ึ การตัดสินใจ จดุ ท่ตี ้องเลือกปฏบิ ตั ิอย่างใด อย่างหนึง่ ทิศทาง ทศิ ทางขน้ั ตอนการดำเนนิ งาน ซง่ึ จะปฏบิ ตั ิต่อเนือ่ งตามหัว ลกู ศรช้ี การเขยี นผังงาน(Flowchart) มีหลักการงา่ ยๆท่ีควรคำนงึ ดงั น้ี 1. ผังงาน (Flowchart) จะตอ้ งมีจุดเร่ิมตน้ และจดุ สน้ิ สุดเสมอ 2. เลือกใช้สญั ลกั ษณ์เพือ่ ส่อื ความหมายให้ถูกตอ้ ง 3. ใช้ลูกศรเป็นตัวกำหนดทิศทางการทำงานของโปรแกรมจากบนลงล่าง จากซ้ายไปขวา โดยเรียงตามลำดับ 4. รูปสัญลักษณ์ทุกตัวตอ้ งมีลูกศรเข้าและออก ยกเว้นจุดเริ่มต้นจะมีเฉพาะออก จุดสิ้นสุด จะมีเฉพาะเข้าเทา่ นั้น 5. ลกู ศรทกุ ตวั จะชีอ้ อกจากรูปสัญลกั ษณต์ ัวหน่งึ ไปยังรูปสัญลักษณ์อีกตวั หน่ึงเสมอ 6. คำอธิบายภายในรูปสญั ลกั ษณ์ ควรสน้ั ๆเข้าใจง่าย 7. ไมค่ วามใช้ลูกศรชไ้ี ปไกลมากเกนิ ไป หากจำเป็นให้ใช้จดุ เช่อื มแทน 9. ครูมอบใบกิจกรรมที่ 2.1 เรื่องความหมาย และหลักการเขียนรหัสลำลองและผังงานโดยทำลงใน สมุด และใหน้ กั เรยี นนำมาสง่ ในสปั ดาหถ์ ดั ไป 10. นักเรยี นทำแบบทดสอบท้ายบทเรยี นที่ 2
9. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ 9.1 สือ่ การเรียนรู้ 1) ใบกิจกรรมที่ 2.1 เรื่องความหมาย และหลกั การเขียนรหัสลำลองและผังงาน 2) สไลด์ PowerPoint เร่ือง การเขียนรหสั ลำลอง และผงั งาน 9.2 แหล่งการเรียนรู้ อินเทอร์เนต็ 10. การวดั ผลและประเมินผล 10.1 การวัดผล จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วิธีการวดั เครื่องมอื เกณฑ์การใหค้ ะแนน 1. อธบิ ายความหมาย วดั โดยการตรวจ ใบกิจกรรม ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ 60 และหลกั การเขยี นรหัส ใบกิจกรรมที่ 2.1 เรื่อง ลำลอง (K) ความหมาย และ ห ล ั ก ก า ร เ ข ี ย น ร หั ส ลำลองและผังงาน 2. อธบิ ายความหมาย วัดโดยการตรวจ ใบกจิ กรรม ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ 60 และหลกั การเขียนผงั ใบกิจกรรมที่ 2.1 เรื่อง งาน (K) ความหมาย และ ห ล ั ก ก า ร เ ข ี ย น ร หั ส ลำลองและผงั งาน 3. แกป้ ัญหาที่พบใน วัดโดยการตรวจฟลิป แบบประเมินท ั ก ษ ะ ระดับคุณภาพ 3 ชีวติ ประจำวัน โดยใช้ ชาร์ท (เขียนรหัสลำลอง กระบวนการ ผา่ นเกณฑ์ รหสั ลำลองและผงั งาน แ ล ะ ผ ั ง ง า น เ พื่ อ (P) แก้ปัญหา) 4. นำเสนอวธิ ีการ ว ั ด โ ด ย ก า ร น ำ เ ส น อ แบบประเมินท ั ก ษ ะ ระดบั คุณภาพ 3 แก้ปญั หาที่พบใน วิธีการแก้ปัญหาที่พบใน กระบวนการ ผ่านเกณฑ์ ชีวิตประจำวัน โดยใช้ ชีวิตประจำวัน โดยใช้ รหสั ลำลองและผงั งาน รหัสลำลองและผังงาน (P) 5. มีวินยั (A) วัดโดยการสังเกตความมี แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 3 วนิ ัย คณุ ลกั ษณะอันพงึ ผ่านเกณฑ์ ประสงค์
6. มีความใฝ่เรยี นรู้ (A) วัดโดยการสังเกตความ แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 3 ผ่านเกณฑ์ 7. มคี วามมุ่งมัน่ ในการ ใฝเ่ รยี นรู้ คณุ ลักษณะอันพึง ระดับคณุ ภาพ 3 ทำงาน (A) ผ่านเกณฑ์ ประสงค์ ระดับคุณภาพ 3 สมรรถนะสำคัญของ ผา่ นเกณฑ์ ผู้เรียน วัดโดยการสังเกตความ แบบประเมนิ 1. ความสามารถในการ ระดับคณุ ภาพ 3 คดิ มงุ่ ม่ันในการทำงาน คุณลกั ษณะอันพงึ ผา่ นเกณฑ์ 2. ความสามารถในการ แกป้ ญั หา ประสงค์ ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ 60 3. ความสามารถในการ ส่อื สาร วัดโดยการสงั เกต แบบประเมนิ สมรรถนะ 4. ความสามารถในการ ใช้เทคโนโลยี สมรรถนะสำคัญของ สำคัญของผเู้ รียน คุณลกั ษณะอันพึง ประสงค์ ผู้เรยี น 1. มีวนิ ัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ วดั โดยการสงั เกต แบบประเมิน 3. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน คุณลกั ษณะอันพงึ คุณลักษณะอนั พึง แบบทดสอบท้าย ประสงค์ ประสงค์ บทเรยี นท่ี 2 วดั โดยการตรวจ แบบทดสอบท้าย แบบทดสอบทา้ นบท บทเรยี น เรยี น
10.2 เกณฑ์การประเมิน 1) ดา้ นความรู้ ใบกิจกรรม แบบทดสอบ (10 คะแนน) (10 คะแนน) 9 - 10 คะแนน หมายถึง ดมี าก 9 - 10 คะแนน หมายถึง ดีมาก 6 - 8 คะแนน หมายถึง ดี 6 - 8 คะแนน หมายถึง ดี 4 - 5 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 4 - 5 คะแนน หมายถึง พอใช้ 0 – 3 คะแนน หมายถึง ปรับปรงุ 0 – 3 คะแนน หมายถึง ปรับปรงุ หมายเหตุ ด้านความรู้เกณฑ์ผา่ น ร้อยละ 60 ทุกประเดน็ การประเมิน 2) ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ไดร้ ะดับคุณภาพ 3 ขึน้ ไปทกุ ตวั ชวี้ ัด ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์การประเมิน 3) ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ได้ระดับคณุ ภาพ 3 ข้ึนไปทุกตวั ชว้ี ดั ถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ 4) ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 3 ขนึ้ ไปทุกตวั ชวี้ ดั ถอื ว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน
11. ข้อเสนอแนะ ใชส้ อนได้ ควรปรบั ปรงุ ………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………..………………………………………………… ………………………………………………………………………………………..…………..…………………………………… ลงช่ือ………..…………………….………………….…….. () ครูพี่เล้ียง วันท.ี่ .......เดือน..................พ.ศ............
12. บันทึกหลังการจัดการเรยี นรู้ 1) ผลท่ีเกิดขึน้ แกผ่ เู้ รยี น ดา้ นความรู้ จำนวนนกั เรียนทผี่ า่ นเกณฑ์......................คน คิดเป็นร้อยละ....................... จำนวนนักเรยี นท่ีไมผ่ ่านเกณฑ์..................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ....................... ดา้ นทักษะกระบวนการ จำนวนนกั เรยี นที่ผ่านเกณฑ.์ .....................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ....................... จำนวนนกั เรียนทไ่ี ม่ผา่ นเกณฑ.์ .................คน คดิ เป็นร้อยละ....................... ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ จำนวนนักเรียนที่ผา่ นเกณฑ.์ .....................คน คิดเป็นร้อยละ....................... จำนวนนกั เรียนที่มาผ่านเกณฑ์..................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ....................... ด้านสมรรถนะผู้เรียน จำนวนนักเรยี นทผ่ี า่ นเกณฑ.์ .....................คน คดิ เป็นร้อยละ....................... จำนวนนกั เรยี นที่มาผ่านเกณฑ์..................คน คดิ เป็นร้อยละ....................... 2) ปัญหาและอุปสรรค …………………………………………………………………………………………………………………….……………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 3) แนวทางการแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………….……………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. (ลงชื่อ)……………………………….……………. (......................................................) ผู้สอน
13. ความเห็นของหัวหนา้ กลมุ่ สาระ/สายชน้ั …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชื่อ)……………………………….……………. (......................................................) หวั หน้ากลมุ่ สาระ/สายชนั้ วนั ท่ี........เดือน..............พ.ศ............ 14. ความเห็นของฝ่ายวิชาการ …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอื่ )……………………………….……………. (......................................................) ฝ่ายวชิ าการ วันที่........เดือน..............พ.ศ............ 15. ความเห็นของผู้อำนวยการโรงเรยี น …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอ่ื )……………………………….……………. (......................................................) ผอู้ ำนวยการโรงเรียน วันที่........เดอื น..............พ.ศ............
การประเมนิ ดา้ นความรู้ เร่ือง การเขยี นรหสั ลำลองและผงั งาน อธบิ ายความหมาย และหลักการเขยี นรหสั จำลอง 1. การใช้คำบรรยายอธิบายข้ันตอนการแก้ปญั หา 2. รปู แบบของรหสั จำลองขนึ้ อยู่กบั ประสบการณ์ และความถนัดของผเู้ ขยี น 3. บอกหลักการเขยี นรหัสลำลองได้ 3 ข้อขน้ั ไป 4. บอกหลักการเขียนรหสั ลำลองได้ 2 ข้อ 5. บอกหลกั การเขียนลำลองได้ 1 ขอ้ อธิบายความหมาย และหลกั การเขยี นผังงาน 1. เคร่อื งมือท่ีใช้วางแผนหรือออกแบบการแก้ปัญหา 2. นำไปเขียนโปรแกรมเพ่อื สั่งให้คอมพิวเตอร์คอมพวิ เตอร์ทำงานได้ง่ายขึ้น 3. บอกหลักการเขยี นผงั งานได้ 3 ข้อข้นั ไป 4. บอกหลกั การเขยี นผังงานได้ 2 ขอ้ 5. บอกหลกั การเขียนผังงานได้ 1 ข้อ
เกณฑ์การประเมินคุณภาพดา้ นความรู้ เรื่อง การเขียนรหัสลำลองและผงั งาน ด้านความรู้ 5 4 ระดับคะแนน 1 สามารถ สามารถ 32 สามารถ อธิบาย อธิบาย อธิบาย อธิบาย ความหมาย และ ความหมาย ความหมาย สามารถ สามารถ ความหมาย หลักการเขยี น และ และหลักการ อธิบาย อธิบาย และหลักการ รหสั จำลอง หลักการ เขยี นรหสั ความหมาย ความหมาย เขยี นรหสั เขยี นรหสั จำลองได้ 4 และหลกั การ และหลกั การ จำลองได้ 1 อธิบาย จำลองได้ ข้อ เขียนรหัส เขียนรหสั ขอ้ ความหมาย และ ครบทุกขอ้ จำลองได้ 3 จำลองได้ 2 หลักการเขยี นผัง สามารถ สามารถ ขอ้ ข้อ สามารถ งาน อธิบาย อธบิ าย อธิบาย ความหมาย ความหมาย สามารถ สามารถ ความหมาย และ และหลักการ อธิบาย อธบิ าย และหลกั การ หลักการ เขยี นผังงานได้ ความหมาย ความหมาย เขยี นผังงานได้ เขยี นผังงาน 4 ขอ้ และหลกั การ และหลกั การ 1 ข้อ ได้ครบทุก เขียนผงั งานได้ เขยี นผงั งานได้ ข้อ 3 ขอ้ 2 ข้อ เกณฑก์ ารประเมิน 9 - 10 คะแนน หมายถงึ ดมี าก 6 - 8 คะแนน หมายถงึ ดี 4 - 5 คะแนน หมายถึง พอใช้ 0 – 3 คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง
แบบบนั ทึกการประเมินดา้ นความรู้ เรอ่ื ง การเขยี นรหัสลำลองและผังงาน เลขที่ ใบกิจกรรม รอ้ ยละ ผลการประเมนิ (10 คะแนน) ผ่าน ไมผ่ า่ น หมายเหตุ 1. ใบกิจกกรรม เกณฑ์ผ่านรอ้ ยละ 60 (ลงชอ่ื )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน
การประเมนิ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ เรอ่ื ง การเขียนรหัสลำลองและผงั งาน แกป้ ญั หาทพี่ บในชวี ติ ประจำวนั โดยใช้รหัสลำลองและผังงาน 1. แก้ปญั หาได้อย่างเหมาะสม 2. เขยี นรหสั จำลองไดอ้ ย่างถกู ต้อง เหมาะสม 3. เขียนผังงานได้อย่างถกู ต้อง เหมาะสม 4. นำข้ันตอนการแก้ปญั หามาใช้เป็นแนวทางในการแก้ปัญหา นำเสนอวธิ กี ารแก้ปญั หาทพี่ บในชวี ติ ประจำวนั โดยใชร้ หัสลำลองและผังงาน 1. เชื่อมโยงขั้นตอนการแกป้ ญั หามาใชใ้ นการแก้ปญั หา 2. นำเสนอวิธกี ารแก้ปัญหาที่พบในชวี ิตประจำวัน โดยใชร้ หสั ลำลองอย่างเป็นข้ันตอน 3. นำเสนอวธิ ีการแกป้ ัญหาที่พบในชวี ติ ประจำวนั โดยใช้ผังงานอย่างเป็นขนั้ ตอน 4. พดู จา ชัดเจน สามารถทำใหผ้ ู้ฟังเข้าใจถึงปัญหา และแนวทางการแก้ปญั หาได้ง่าย
เกณฑ์การประเมินคณุ ภาพดา้ นทกั ษะกระบวนการ เรอ่ื ง การเขียนรหัสลำลองและผงั งาน ด้านทักษะ ระดับคะแนน กระบวนการ 4 32 1 แกป้ ัญหาท่ีพบใน สามารถแก้ปัญหา สามารถแก้ปัญหา ชีวติ ประจำวัน โดย ไดค้ รบทุกข้อ สามารถแก้ปญั หา สามารถแก้ปัญหา ได้ 1 ข้อ ใช้รหัสลำลองและผัง งาน สามารถนำเสนอ ได้ 3 ข้อ ได้ 2 ข้อ สามารถนำเสนอ นำเสนอวิธีการ ไดค้ รบทุกข้อ ได้ 1 ข้อ แกป้ ญั หาที่พบใน สามารถนำเสนอ สามารถนำเสนอ ชีวิตประจำวัน โดย ใชร้ หัสลำลองและผงั ได้ 3 ข้อ ได้ 2 ข้อ งาน หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คะแนน 3 ขึ้นไปทุกตัวชีว้ ัด ถอื วา่ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน 9 - 10 คะแนน 4 หมายถึง ดมี าก 6 – 8 คะแนน 3 หมายถึง ดี 4 - 5 คะแนน 2 หมายถึง พอใช้ 0 - 3 คะแนน 1 หมายถึง ปรับปรุง
แบบประเมินดา้ นทักษะกระบวนการ เรอ่ื ง การเขยี นรหสั ลำลองและผงั งาน ประเมินด้านทกั ษะกระบวนการ ผลการประเมนิ ท่ี แก้ปญั หาทพี่ บใน นำเสนอวธิ กี ารแกป้ ัญหาท่ีพบ ชวี ติ ประจำวัน โดยใชร้ หสั ในชีวติ ประจำวัน โดยใช้รหัส ผา่ น ไมผ่ ่าน ลำลองและผังงาน ลำลองและผังงาน (ลงชอื่ )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน
การประเมินดา้ นสมรรถนะที่สำคญั ของผ้เู รียน เร่ือง การเขียนรหัสลำลองและผงั งาน ความสามารถในการคดิ 1. มีความคิดสรา้ งสรรค์ 2. คิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณมีเหตผุ ล 3. สามารถแก้ปัญหาตา่ งๆได้อยา่ งเป็นระบบ 4. สามารถคิดเชอื่ มโยงส่งิ ท่ไี ด้เรยี นรู้ เพือ่ นำไปใช้ในชีวติ ประจำวนั ได้ ความสามารถในการแก้ปญั หา 1. แกป้ ัญหา และอปุ สรรคที่พบเจอได้ 2. วิเคราะหส์ าเหตุของปญั หาท่พี บเจอได้ 3. แกป้ ัญหาได้อย่างมีลำดบั ข้ันตอน 4. ตัดสนิ ใจเลือกแนวทางการแก้ปัญหาได้อยา่ งชัดเจน แน่นอน และไมส่ ง่ ผลเสยี ตอ่ ผู้อ่ืน ความสามารถในการส่อื สาร 1. เลือกรบั ข้อมูลข่าวสารอย่างมีเหตุผล 2. พดู จาชัดเจนไม่กำกวม 3. พดู โดยคำนงึ ถึงผลกระทบทมี่ ีตอ่ ตนเอง และสังคม 4. แลกเปลีย่ นขอ้ มลู ข่าวสารและประสบการณ์อนั จะเปน็ ประโยชน์ต่อการพฒั นาตนเองและสงั คม
เกณฑก์ ารประเมินสมรรถนะทสี่ ำคัญของผเู้ รยี น เร่อื ง การเขยี นรหสั ลำลองและผงั งาน ดา้ นสมรรถนะผู้เรียน ระดบั คุณภาพ ความสามารถในการคิด 4321 ความสามารถในการแกป้ ัญหา มีความสามารถ มคี วามสามารถ มีความสามารถ มีความสามารถ ในการคิดครบ ในการคิด ในการคดิ ในการคดิ ความสามารถในการสอ่ื สาร ทุกข้อ 3 ขอ้ 2 ขอ้ 1 ข้อ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มีความสามารถ มีความสามารถ ในการ ในการ ในการ ในการ แกป้ ัญหาครบ แก้ปัญหา 3 ข้อ แกป้ ญั หา 2 ข้อ แก้ปญั หา 1 ข้อ ทกุ ข้อ มีความสามารถ มคี วามสามารถ มีความสามารถ มคี วามสามารถ ในการสื่อสาร ในการสื่อสาร ในการส่ือสาร ในการสื่อสาร ครบทุกข้อ 3 ขอ้ 2 ขอ้ 1 ข้อ หมายเหตุ ได้ระดับคะแนน 3 ข้นึ ไปทุกตัวชวี้ ดั ถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน 4 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถงึ ปรับปรงุ
แบบประเมนิ ด้านสมรรถนะที่สำคญั ของผู้เรยี น เรื่อง การเขยี นรหัสลำลองและผงั งาน ท่ี การคดิ ประเมินด้านสมรรถนะที่สำคัญของผ้เู รียน ผลการประเมนิ ผา่ น ไมผ่ ่าน การแกป้ ญั หา การสื่อสาร (ลงช่ือ)……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน
การประเมินดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ เรือ่ ง การเขยี นรหสั ลำลองและผังงาน ใฝเ่ รียนรู้ 1. ศกึ ษาค้นคว้าหาความรู้จากหนงั สือ เอกสาร ส่ิงพิมพ์ สื่อเทคโนโลยีต่าง ๆ แหล่งเรยี นรูท้ ั้งภายในและ ภายนอกโรงเรียน และเลือกใช้สอื่ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 2. ตัง้ ใจเรยี น 3. เอาใจใส่และมีความเพยี รพยายามในการเรยี นรู้ 4. เข้ารว่ มกจิ กรรมทางการเรียนรอู้ ย่เู สมอ มงุ่ ม่นั ในการทำงาน 1. ตง้ั ใจและรับผดิ ชอบในงานท่ไี ด้รบั มอบหมาย 2. เพยี รพยายามในการทำงาน ด้วยความอดทนไม่ท้อแท้ต่ออปุ สรรคที่เกิดขึน้ 3. พฒั นาการทำงานของตนเองให้ดีข้นึ เสมอ 4. เอาใจใส่ต่อหน้าท่ที ่ีไดร้ ับมอบหมาย
เกณฑ์การด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ เรอื่ ง การเขียนรหสั ลำลองและผังงาน ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 4 ระดบั คณุ ภาพ 1 ใฝ่เรยี นรู้ มคี ณุ ลกั ษณะ 32 มคี ณุ ลักษณะ อันพงึ ประสงค์ มีคุณลักษณะ มคี ณุ ลกั ษณะ อนั พึงประสงค์ มุ่งมั่นในการทำงาน ดา้ นใฝเ่ รยี นรู้ อนั พึงประสงค์ อนั พงึ ประสงค์ ดา้ นใฝเ่ รยี นรู้ ครบทุกข้อ ดา้ นใฝ่เรียนรู้ ดา้ นใฝ่เรียนรู้ 1 ขอ้ มีคุณลกั ษณะ 3 ข้อ 2 ข้อ มคี ณุ ลักษณะ อนั พงึ ประสงค์ มคี ุณลักษณะ มคี ุณลักษณะ อนั พึงประสงค์ ด้านมุ่งม่นั ใน อันพงึ ประสงค์ อันพึงประสงค์ ด้านมุง่ ม่นั ใน การทำงานครบ ดา้ นมงุ่ มนั่ ใน ดา้ นมุ่งมั่นใน การทำงาน ทกุ ข้อ การทำงาน การทำงาน 1 ขอ้ 3 ข้อ 2 ข้อ หมายเหตุ ได้ระดับคะแนน 3 ขน้ึ ไปทุกตัวชีว้ ดั ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน 4 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรงุ
แบบประเมนิ ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เรือ่ ง การเขียนรหัสลำลองและผงั งาน ประเมินดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ผลการประเมิน ที่ ใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งมน่ั ในการทำงาน ผา่ น ไมผ่ ่าน (ลงชอื่ )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้น มัธยมศึกษาปที ี่ 6 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2563 เรอ่ื ง รูจ้ กั และเร่ิมตน้ ใช้งานภาษา C# และโปรแกรม Visual Studio วันที่ – เดอื น กรกฎาคม พ.ศ. 2563 ใช้เวลา 2 ช่ัวโมง/คาบ 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแกปัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอย่างเปน็ ขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สารในการเรยี นร้กู ารทำงาน และการแกป้ ญั หาได้อยา่ งมีประสทิ ธิภาพ 2. ตวั ช้ีวดั ว 4.2 ม. 6/1 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอและแบง่ ปนั ข้อมูลอยา่ งปลอดภัย มจี รยิ ธรรม และ วิเคราะหก์ ารเปลย่ี นแปลงเทคโนโลยสี ารสนเทศที่มผี ลตอ่ การดำเนินชวี ติ อาชีพ สงั คมและวฒั นธรรม 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายความเป็นมาของภาษา C# (K) 2. อธบิ ายลกั ษณะของโปรแกรม Visual Studio (K) 3. บอกขั้นตอนการติดตงั้ โปรแกรม Visual C# 2015 (K) 4. บอกส่วนประกอบของหน้าตา่ งโปรแกรม Visual C# 2015 (K) 5. บอกขั้นตอนการสร้างโปรเจกต์ใหม่ บันทึกโปรเจกต์ เปิดโปรเจกต์ และปิดโปรแกรม Visual C# 2015 (K) 6. ติดตัง้ โปรแกรม Visual C# 2015 (P) 7. สร้างโปรเจกตใ์ หม่ บันทกึ โปรเจกต์ เปิดโปรเจกต์ และปดิ โปรแกรม Visual C# 2015 (P) 8. มีวินยั (A) 9. มคี วามใฝเ่ รียนรู้ (A) 10.มีความมงุ่ มั่นในการทำงาน (A) 4. สาระสำคญั ภาษา C# เป็นภาษาโปรแกรมเชิงวัตถุพัฒนาโดยบริษัทไมโครซอฟท์ โดยมีรากฐานมาจากภาษา C++ และภาษาอื่นๆ ซึ่งได้พัฒนาและปรับรูปแบบของภาษาอยู่ตลอดเวลา โดยทาง Microsoft ได้นำภาษา C# ไปอยู่ในชุดพัฒนาซอฟต์แวร์อย่าง Visual Studio ซึ่งเป็นชุดพัฒนาโปรแกรมที่ประกอบด้วยโปรแกรมหลายๆ ตัวที่ใช้ในการสร้างโปรแกรมสำเร็จรูปบนระบบปฏิบัติการวนิ โดวส์ หรือใช้สร้างเว็บโปรแกรม สร้างเว็บบริการ จดั การฐานขอ้ มลู และอนื่ ๆ อกี มากมาย
การติดตั้งโปรแกรม Visual C# 2015 สามารถเลือกติดตั้งแบบ Community ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่ายแต่ สามารถใช้งานได้เหมือนกัน เพื่อที่จะใช้งาน Visual C# 2015 ได้ เราต้องติดตั้งโปรแกรมก่อน นอกจาก โปรแกรม Visual C#2015 แล้วยังตอ้ งใช้ framework ร่วมในการทำงานของโปรแกรม Visual C#2015 ด้วย หากเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้ง framework แล้ว ก็สามารถติดตั้งโปรแกรม Visual C#2015 ลงเครื่อง คอมพิวเตอรไ์ ดท้ ันที 5. สาระการเรียนรู้ 1. ความเป็นมาของภาษา C# และ โปรแกรม Visual Studio สมัยที่ภาษาจาวาได้รับความนิยมใหม่ๆ ทางไมโครชอฟท์ได้รวมภาษาจาวาไว้ในผลิตภัณฑ์ด้วย โดย พัฒนาเปน็ Visual J++ ออกมา เพ่ือใหเ้ ปน็ ภาษาจาวาทสี่ ามารถเข้ากันได้กับระบบปฏิบัติการวินโดวส์ แต่โค้ดโปรแกรมที่ได้ออกมาไม่สามารถนำไปทำงานกับแพลตฟอร์มอื่นๆ ได้ และต่อมาภายหลังทางไม โครชอฟท์ก็ได้ถูกทางชันยื่นฟ้องเรื่อง Visual J++ แล้วก็แพ้คดีไป ไมโครชอฟท์จึงพัฒนาแพลตฟอร์ม .NET ขน้ึ มา ภาษา C# (C-Shap) โดยมีรากฐานมาจากภาษา C++, Pascal และ Java เป็นภาษาใหม่ที่ ทางไมโครซอฟท์ได้พัฒนาข้ึนเพอ่ื ใหเ้ ป็นภาษาเชิงวตั ถุ (Object-Oriented) ซ่งึ มีคลาสพื้นฐานให้เรียกใช้ ได้ (C# ทำงานภายใต้ NET Framework โดยตรงจึงใช้คลาสพื้นฐานที่มีใน NET Framework ได้ จะ กลา่ วในหัวข้อตอ่ ไป) และ เป็นภาษาแบบออบเจก็ ต์อยา่ งสมบูรณ์ โครงสรา้ งของภาษาจะคลา้ ยกับภาษา จาวา แต่มีความสามารถในการทำงานกับหน่วยความจำ สามารถกระทำกับระบบคอมพวิ เตอร์ระดับลึก ได้ดีกว่า คุณสมบัติเด่นอีกอย่างหนึ่งก็คือภาษา C# มีการทำงานแบบ Multi-thread ที่สามารถทำงาน หลายๆ งานในเวลาเดยี วกนั ได้ Visual Studio เป็นชุดพัฒนาโปรแกรม ซึ่งประกอบด้วยโปรแกรมหลายๆตัวไม่ว่าจะเป็น Visual Basic, Visual C++, Visual C# ฯลฯ ที่ใช้ในการสร้างโปรแกรมสำเร็จรูปบนระบบปฏิบัติการวินโดวส์ หรือใช้สร้างเว็บโปรแกรม สร้างเว็บบริการ จัดการฐานข้อมูลและอื่นๆ อีกมากมาย Visual Studio ได้ รวบรวมเครอ่ื งมือพฒั นาตา่ งๆ ทใ่ี ชใ้ นการพัฒนาโปรแกรมต้ังแต่ หน้าจอทใี่ ช้พฒั นาโปรแกรม, เครื่องมือ ในการตรวจหาจุดผิดในโปรแกรม, ตัวช่วยอัตโนมัติใชใ้ นการเขียนโปรแกรม, ตัวจัดการฐานข้อมูล และ ส่วนประกอบอื่นๆที่จำเป็นในการพัฒนาโปรกรม น้ำมาประกอบรวมกันเป็นชุด ซึ่งเราจะรวมเรียกชุดน้ี ว่า ชดุ พัฒนาโปรแกรม 2. ขั้นตอนการติดตง้ั โปรแกรม Visual C# 2015 การติดตั้งโปรแกรม Visual C# 2015 สามารถเลือกติดตั้งแบบ Community ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่ายแต่ สามารถใชง้ านได้เหมอื นกัน เพื่อท่จี ะใช้งาน Visual C# 2015 ได้ เราต้องติดตงั้ โปรแกรมก่อน นอกจาก โปรแกรม Visual C#2015 แล้วยังต้องใช้ framework ร่วมในการทำงานของโปรแกรม Visual C#2015 ด้วย หากเครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้ง framework แล้ว ก็สามารถติดตั้งโปรแกรม Visual C#2015 ลงเครือ่ งคอมพิวเตอร์ไดเ้ ลย หากยังสามารถติดต้ังได้ตามข้ันตอนดงั น้ี
1) ตดิ ตงั้ framework 2) ตดิ ต้ังโปรแกรม Microsoft Visual C# 2015 3. ส่วนประกอบของหน้าตา่ งโปรแกรม Visual C# 2015 โปรแกรม Visual C# 2015 มีสว่ นประกอบของหนา้ ต่าง ดังนี้ 1) Title bar บอกชอื่ โปรแกรมและชื่อโปรเจ็กต์ 2) Menu bar แถบแสดงรายการคำสงั่ ตา่ งๆ 3) Work area ส่วนของพนื้ ทีใ่ ช้สำหรบั การเขยี นโปรแกรมและการออกแบบ 4) Solution Explorer แสดงส่วนประกอบของโปรเจกต์ต์ รวมทั้งควบคุมการทำงาน ของ Work area 5) Properties Window กำหนดคุณสมบัติของวัตถุในขั้นตอนของการออกแบบโปร เจกตต์ ์ 6) Error List แสดงขอ้ ผิดพลาดจากการรนั โปรแกรม 7) ToolBox กล่องเครื่องมือที่มี Control ต่างๆ ใช้สำหรับการออกแบบวัตถุ ต่างๆ ลงบน Form ใน Work area 4. ข้นั ตอนการสรา้ งโปรเจกต์ใหม่ บนั ทกึ โปรเจกต์ เปิดโปรเจกต์ และปดิ โปรแกรม Visual C# 2015 1) สร้างโปรเจกต์ คลิกทเ่ี มนู File --> New --> Project 2) บันทกึ โปรเจกต์ คลิกท่เี มนู File --> Save All 3) เปิดโปรเจกต์ ให้เปดิ โปรแกรม Visual C# 2015 คลกิ Open Project/Solution ทหี่ นา้ Start Page หรือ ใชเ้ มนู File --> Open --> Project/Solution 4) ปิดโปรเจกต์ คลิกที่เมนู File --> Close Solution (เป็นการปิดโปรเจกต์ แต่ไม่ปิดโปรแกรม และจะกลับมาที่หน้า Start Page) หรือ File --> Exit (เป็นการปิดโปรเจกต์และปิดโปรแกรม ดว้ ย) 6. ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุง่ มน่ั ในการทำงาน 7. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการสือ่ สาร 3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
8. กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั นำเข้าส่บู ทเรยี น (15 นาที) 1. ครูกลา่ วทักทายนกั เรียน 2. ครสู ุ่มถามนกั เรียน จำนวน 3 คน เพ่ือใหบ้ อกภาษาโปรแกรมทตี่ นเองร้จู กั 3. ครูสุ่มสอบถามนกั เรียนจำนวน 3 คน เกี่ยวกับโปรแกรมที่รู้จักในชีวิตประจำวันที่ถูกพัฒนาขึน้ จาก การเขยี นโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ 4. ครูยกตัวอย่างภาษาโปรแกรม และโปรแกรมที่รู้จักในชีวิตประจำวันที่ถูกพัฒนาขึ้นจากการเขียน โปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์ 5. ครูแจ้งส่งิ ท่ีจะไดเ้ รยี นในคาบเรียนน้ี ขน้ั กิจกรรมการเรียนการสอน (1 ชัว่ โมง 25 นาที) 6. นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ แบบคละโดยการนบั เลข กล่มุ ละ 6 คน สบื คน้ ความรเู้ ร่ืองความเปน็ มา ของภาษา C# แ ล ะ ล ั ก ษ ณ ะ ข อ ง โ ป ร แ ก ร ม Visual Studio ท ั ้ ง จ า ก ห น ั ง ส ื อ อ ิ เ ล ็ ก ท ร อ น ิ ก ส์ หน่วยที่ 3 บทที่ 1 รู้จักและเริ่มต้นใช้งานภาษา C# และโปรแกรม Visual Studio หรือแหล่ง ความรูอ้ ่นื ๆ 7. ครูอธิบายความเป็นมา และข้อดีของภาษา C# และลักษณะโปรแกรม Visual Studio แบบ บรรยายโดยใชส้ ือ่ PowerPoint 8. ครูสาธติ วธิ กี ารดาวน์โหลดและติดตงั้ โปรแกรม Visual C# 2015 (ลิงค์ : https://my.visualstudio.com/Downloads) 9. นกั เรียนดำเนินการดาวนโ์ หลดและติดตง้ั โปรแกรม Visual C# 2015 10. ครอู ธิบายสว่ นประกอบของหนา้ ต่างโปรแกรม Visual C# 2015 11. ครูสาธิตวิธีการสร้างโปรเจกต์ใหม่ บันทึกโปรเจกต์ เปิดโปรเจกต์ และปิดโปรแกรม Visual C# 2015 12. นกั เรยี นดำเนนิ การสรา้ งโปรเจกต์ใหม่ บนั ทกึ โปรเจกต์ เปิดโปรเจกต์ และปิดโปรแกรม Visual C# 2015 13. นักเรียนทำใบกิจกรรมที่ 3.1 เรื่องความเป็นมาภาษา C# และ ลักษณะของโปรแกรม Visual Studio ลงในสมุด ขนั้ สรุป (20 นาที) 14. นักเรียนและครูร่วมกันสรุปความเป็นมาของภาษา C# ลักษณะของโปรแกรม Visual Studio รวมถงึ ขน้ั ตอนการติดตั้งและใช้งานโปรแกรม Visual C# 2015 สมัยที่ภาษาจาวาได้รับความนิยมใหม่ๆ ทางไมโครชอฟท์ได้รวมภาษาจาวาไว้ในผลิตภัณฑ์ ด้วย โดยพัฒนาเป็น Visual J++ ออกมา เพื่อให้เป็นภาษาจาวาที่สามารถเข้ากันได้กับ ระบบปฏบิ ตั กิ ารวินโดวส์ แต่โคด้ โปรแกรมท่ีได้ออกมาไม่สามารถนำไปทำงานกับแพลตฟอร์มอื่นๆ ได้ และตอ่ มาภายหลงั ทางไมโครชอฟท์กไ็ ด้ถูกทางชนั ย่ืนฟ้องเรื่อง Visual J++ แล้วก็แพ้คดีไป ไม
โครชอฟท์จึงพัฒนาแพลตฟอร์ม .NET ขึ้นมา ภาษา C# (C-Shap) โดยมีรากฐานมาจากภาษา C++, Pascal และ Java เป็นภาษาใหม่ที่ทางไมโครซอฟท์ได้พัฒนาขึ้นเพื่อให้เป็นภาษาเชิงวัตถุ (Object-Oriented) ซึ่งมีคลาสพื้นฐานให้เรียกใช้ได้ (C# ทำงานภายใต้ NET Framework โดยตรงจึงใช้คลาสพื้นฐานที่มีใน NET Framework ได้ จะกล่าวในหัวข้อต่อไป) และ เป็นภาษา แบบออบเจก็ ต์อยา่ งสมบูรณ์ โครงสรา้ งของภาษาจะคลา้ ยกับภาษาจาวา แตม่ คี วามสามารถในการ ทำงานกบั หน่วยความจำ สามารถกระทำกับระบบคอมพวิ เตอร์ระดับลึกไดด้ ีกวา่ คณุ สมบัติเด่นอีก อย่างหนึ่งก็คือภาษา C# มีการทำงานแบบ Multi-thread ที่สามารถทำงานหลายๆ งานในเวลา เดียวกนั ได้ Visual Studio เป็นชุดพัฒนาโปรแกรม ซึ่งประกอบด้วยโปรแกรมหลายๆตัวไม่ว่าจะเป็น Visual Basic, Visual C++, Visual C# ฯลฯ ที่ใช้ในการสร้างโปรแกรมสำเร็จรูปบน ระบบปฏิบัติการวินโดวส์ หรือใช้สร้างเว็บโปรแกรม สร้างเว็บบริการ จัดการฐานข้อมูลและอื่นๆ อีกมากมาย Visual Studio ได้รวบรวมเครื่องมือพัฒนาต่างๆ ที่ใช้ในการพัฒนาโปรแกรมตั้งแต่ หน้าจอที่ใช้พัฒนาโปรแกรม, เครื่องมือในการตรวจหาจุดผิดในโปรแกรม, ตัวช่วยอัตโนมัติใช้ใน การเขยี นโปรแกรม, ตวั จัดการฐานข้อมูล และส่วนประกอบอ่ืนๆที่จำเป็นในการพัฒนาโปรกรม น้ำ มาประกอบรวมกันเปน็ ชดุ ซึง่ เราจะรวมเรยี กชุดนวี้ า่ ชดุ พฒั นาโปรแกรม ขน้ั ตอนการตดิ ตัง้ โปรแกรม Visual C# 2015 การตดิ ตงั้ โปรแกรม Visual C# 2015 สามารถเลอื กติดตงั้ แบบ Community ซ่ึงไม่มีค่าใช้จ่าย แต่สามารถใช้งานได้เหมือนกัน เพื่อที่จะใช้งาน Visual C# 2015 ได้ เราต้องติดตั้งโปรแกรมก่อน นอกจากโปรแกรม Visual C#2015 แล้วยังต้องใช้ framework ร่วมในการทำงานของโปรแกรม Visual C#2015 ดว้ ย หากเครือ่ งคอมพิวเตอร์ทีต่ ดิ ตง้ั framework แลว้ ก็สามารถติดตงั้ โปรแกรม Visual C#2015 ลงเครื่องคอมพวิ เตอร์ไดเ้ ลย หากยงั สามารถติดตัง้ ได้ตามขั้นตอนดังนี้ - ตดิ ตงั้ framework - ติดตงั้ โปรแกรม Microsoft Visual C# 2015 1) สว่ นประกอบของหนา้ ตา่ งโปรแกรม Visual C# 2015 โปรแกรม Visual C# 2015 มีส่วนประกอบของหน้าต่าง ดงั นี้ - Title bar บอกช่อื โปรแกรมและช่ือโปรเจก็ ต์ - Menu bar แถบแสดงรายการคำสัง่ ตา่ งๆ - Work area ส่วนของพ้นื ทใ่ี ชส้ ำหรบั การเขียนโปรแกรมและการออกแบบ - Solution Explorer แสดงส่วนประกอบของโปรเจกต์ต์ รวมทั้งควบคุมการทำงาน ของ Work area - Properties Window กำหนดคุณสมบัติของวัตถุในขั้นตอนของการออกแบบโปร เจกต์ต์
- Error List แสดงข้อผดิ พลาดจากการรนั โปรแกรม - ToolBox กล่องเครื่องมือที่มี Control ต่างๆ ใช้สำหรับการออกแบบวัตถุ ตา่ งๆ ลงบน Form ใน Work area ข้นั ตอนการสร้างโปรเจกตใ์ หม่ บันทึกโปรเจกต์ เปดิ โปรเจกต์ และปิดโปรแกรม Visual C# 2015 - สร้างโปรเจกต์ คลกิ ท่ีเมนู File --> New --> Project - บันทกึ โปรเจกต์ คลกิ ที่เมนู File --> Save All - เปิดโปรเจกต์ ให้เปิดโปรแกรม Visual C# 2015 คลิก Open Project/Solution ทีห่ น้า Start Page หรือ ใช้เมนู File --> Open --> Project/Solution - ปิดโปรเจกต์ คลิกที่เมนู File --> Close Solution (เป็นการปิดโปรเจกต์ แต่ไม่ปิด โปรแกรมและจะกลบั มาทห่ี นา้ Start Page) หรือ File --> Exit (เป็นการปิดโปรเจกต์ และปดิ โปรแกรมดว้ ย) 15. ครูมอบให้นักเรียนไปศึกษาหนงั สอื อเิ ล็กทรอนิกส์ หน่วยที่ 3 บทท่ี 2 การใช้งานสว่ นติดตอ่ กับ ผู้ใชง้ านด้วยคอนโทรลในโปรแกรม Visual C# 2015โปรแกรม Visual C# 2015 ลว่ งหนา้ สำหรับ การเรยี นในคาบเรยี นถัดไป 9. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ 15.1 สื่อการเรยี นรู้ 1) ใบกจิ กรรมท่ี 3.1 เรอื่ งความเปน็ มาภาษา C# และ ลักษณะของโปรแกรม Visual Studio 2) หนงั สืออเิ ล็กทรอนกิ ส์ หน่วยที่ 3 บทท่ี 1 รู้จกั ภาษา C# และโปรแกรม Visual Studio 3) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หน่วยที่ 3 บทที่ 2 ติดตั้งและเริ่มต้นใช้งานโปรแกรม Visual C# 2015 (ลิงค์ https://qrgo.page.link/5CgLt) 4) สไลด์ PowerPoint เรื่อง ความเป็นมา และข้อดีของภาษา C# และ และลักษณะของโปรแกรม Visual Studio 9.2 แหล่งการเรียนรู้ อนิ เทอร์เนต็ 10. การวดั ผลและประเมินผล 10.1 การวดั ผล จุดประสงค์การเรยี นรู้ วธิ กี ารวดั เครือ่ งมอื เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน สรุปความรู้ ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 60 1. อธบิ ายความเปน็ มา วัดโดยการตรวจใบ ของภาษา C# (K) กิจกรรมที่ 3.1 เร่ือง ความเป็นมาภาษา C#
2. อธิบายลักษณะของ และ ลกั ษณะของ สรปุ ความรู้ ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 60 โปรแกรม Visual โปรแกรม Visual Studio (K) Studio สรปุ ความรู้ ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 60 วัดโดยการตรวจใบ 3. บอกขั้นตอนการ กิจกรรมที่ 3.1 เรื่อง สรุปความรู้ ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 60 ตดิ ตั้งโปรแกรม Visual ความเป็นมาภาษา C# C# 2015 (K) และ ลักษณะของ สรุปความรู้ ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 60 โปรแกรม Visual 4. บอกส่วนประกอบ Studio แบบประเมินท ั ก ษ ะ ระดบั คุณภาพ 3 ของหนา้ ต่างโปรแกรม วดั โดยการตรวจใบ Visual C# 2015 (K) กิจกรรมที่ 3.1 เรื่อง กระบวนการ ผ่านเกณฑ์ ความเปน็ มาภาษา C# 5. บอกขั้นตอนการสรา้ ง และ ลักษณะของ โปรเจกต์ใหม่ บันทกึ โปร โปรแกรม Visual เจกต์ เปดิ โปรเจกต์ และ Studio ปดิ โปรแกรม Visual C# วัดโดยการตรวจใบ 2015 (K) กิจกรรมที่ 3.1 เรื่อง ความเป็นมาภาษา C# 4. สบื คน้ ความเปน็ มา และ ลกั ษณะของ ข้อดีของภาษา C# และ โปรแกรม Visual ลกั ษณะของโปรแกรม Studio Visual Studio (P) วัดโดยการตรวจใบ กิจกรรมท่ี 3.1 เร่ือง ความเปน็ มาภาษา C# และ ลักษณะของ โปรแกรม Visual Studio วดั โดยการสังเกตการ สืบค้นความเปน็ มา และ ข้อดีของภาษา C# และ โปรแกรม Visual Studio
5. นำเสนอความเป็นมา วัดโดยการสงั เกตการ แบบประเมินท ั ก ษ ะ ระดบั คุณภาพ 3 และข้อดีของภาษา C# และ โปรแกรม Visual นำเสนอความเป็นมา กระบวนการ ผา่ นเกณฑ์ Studio (P) และข้อดขี องภาษา C# 6. มีวนิ ัย (A) และ โปรแกรม Visual 7. มีความใฝ่เรียนรู้ (A) Studio 8. มคี วามมุง่ ม่ันในการ ทำงาน (A) วัดโดยการสังเกตความมี แบบประเมิน ระดบั คณุ ภาพ 3 สมรรถนะสำคัญของ วินยั คณุ ลักษณะอนั พึง ผา่ นเกณฑ์ ผู้เรียน 1. ความสามารถในการ ประสงค์ คิด 2. ความสามารถในการ วัดโดยการสังเกตความ แบบประเมนิ ระดับคณุ ภาพ 3 ส่อื สาร 3. ความสามารถในการ ใฝ่เรยี นรู้ คณุ ลักษณะอนั พึง ผ่านเกณฑ์ ใชเ้ ทคโนโลยี คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ ประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ วัดโดยการสังเกตความ แบบประเมิน ระดบั คณุ ภาพ 3 2. ม่งุ ม่ันในการทำงาน มงุ่ ม่นั ในการทำงาน คุณลักษณะอนั พึง ผา่ นเกณฑ์ ประสงค์ วัดโดยการสังเกต แบบประเมินสมรรถนะ ระดับคุณภาพ 3 สมรรถนะสำคัญของ สำคัญของผเู้ รียน ผ่านเกณฑ์ ผเู้ รียน วัดโดยการสงั เกต แบบประเมิน ระดบั คณุ ภาพ 3 คณุ ลักษณะอันพึง คุณลักษณะอนั พึง ผ่านเกณฑ์ ประสงค์ ประสงค์
10.2 เกณฑ์การประเมิน 1) ดา้ นความรู้ สรปุ ความรู้ (25 คะแนน) 21 - 25 คะแนน หมายถึง ดมี าก 15 – 20 คะแนน หมายถึง ดี 7 - 14 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0 – 6 คะแนน หมายถึง ปรับปรงุ หมายเหตุ ดา้ นความรู้เกณฑ์ผ่าน รอ้ ยละ 60 ทุกประเด็นการประเมิน 2) ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ได้ระดับคณุ ภาพ 3 ขน้ึ ไปทุกตัวชีว้ ดั ถือว่าผา่ นเกณฑ์การประเมนิ 3) ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 3 ขนึ้ ไปทกุ ตัวชีว้ ดั ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน 4) ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ได้ระดบั คุณภาพ 3 ขน้ึ ไปทกุ ตัวช้ีวดั ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน
11. ข้อเสนอแนะ ใชส้ อนได้ ควรปรบั ปรงุ ………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………..………………………………………………… ………………………………………………………………………………………..…………..…………………………………… ลงช่ือ………..…………………….………………….…….. () ครพู เี่ ล้ียง วันที่........เดือน..................พ.ศ............
12. บันทึกหลังการจัดการเรยี นรู้ 1) ผลท่ีเกิดขึน้ แกผ่ เู้ รยี น ดา้ นความรู้ จำนวนนกั เรียนทผี่ า่ นเกณฑ์......................คน คิดเป็นร้อยละ....................... จำนวนนักเรยี นท่ีไมผ่ ่านเกณฑ์..................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ....................... ดา้ นทักษะกระบวนการ จำนวนนกั เรยี นที่ผ่านเกณฑ.์ .....................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ....................... จำนวนนกั เรียนทไ่ี ม่ผา่ นเกณฑ.์ .................คน คดิ เป็นร้อยละ....................... ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ จำนวนนักเรียนที่ผา่ นเกณฑ.์ .....................คน คิดเป็นร้อยละ....................... จำนวนนกั เรียนที่มาผ่านเกณฑ์..................คน คิดเป็นรอ้ ยละ....................... ด้านสมรรถนะผู้เรียน จำนวนนักเรยี นทผ่ี า่ นเกณฑ.์ .....................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ....................... จำนวนนกั เรยี นที่มาผ่านเกณฑ์..................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ....................... 2) ปัญหาและอุปสรรค …………………………………………………………………………………………………………………….……………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 3) แนวทางการแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………….……………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. (ลงชื่อ)……………………………….……………. (......................................................) ผูส้ อน
13. ความเห็นของหัวหนา้ กลมุ่ สาระ/สายชน้ั …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชื่อ)……………………………….……………. (......................................................) หวั หน้ากลมุ่ สาระ/สายชนั้ วนั ท่ี........เดือน..............พ.ศ............ 14. ความเห็นของฝ่ายวิชาการ …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอื่ )……………………………….……………. (......................................................) ฝ่ายวชิ าการ วันที่........เดือน..............พ.ศ............ 15. ความเห็นของผู้อำนวยการโรงเรยี น …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอ่ื )……………………………….……………. (......................................................) ผอู้ ำนวยการโรงเรียน วันที่........เดอื น..............พ.ศ............
การประเมนิ ดา้ นความรู้ เรือ่ ง รู้จักภาษา C# และโปรแกรม Visual Studio อธบิ ายความเปน็ มาของภาษา C# 1. ภาษา C# ไดถ้ กู พฒั นาข้ึนโดยบรษิ ัท Microsoft 2. บริษัท Microsoft ถกู ยนื่ ฟ้องจากซันเร่อื งการละเมดิ ข้อตกลงในการใช้ภาษา Java ท้ังการปรบั เปล่ยี น ใหส้ ามารถทำงานได้เฉพาะ Windows และโฆษณาวา่ ภาษา Java สามารถใชง้ านได้ดีบน Windows 3. ภาษา C# มีรากฐานมาจากภาษา C++, Pascal และ Java 4. ภาษา C# ทำงานภายใต้ .NET Framework 5. โครงสรา้ งทางภาษาของภาษา C# คลา้ ยกับภาษา Java อธบิ ายลกั ษณะของโปรแกรม Visual Studio 1. โปรแกรม Visual Studio เปน็ โปรแกรมสำเร็จรปู บนระบบปฏบิ ัตกิ ารวินโดวส์ ใชส้ รา้ งเวบ็ โปรแกรม สรา้ งเวบ็ บริการ และจัดการฐานขอ้ มลู เปน็ ต้น 2. มีหน้าจอท่ีใชใ้ นการพฒั นาโปรแกรม 3. มเี ครอื่ งมอื ในการตรวจหาจดุ ผดิ ในโปรแกรม 4. มตี วั ช่วยอตั โนมตั ิในการเขยี นโปรแกรม 5. มตี วั จดั การข้อมูล 1. อธิบายความเป็นมาของภาษา C# (K) 2. อธบิ ายลักษณะของโปรแกรม Visual Studio (K) 3. บอกขนั้ ตอนการติดตงั้ โปรแกรม Visual C# 2015 (K) 4. บอกส่วนประกอบของหนา้ ตา่ งโปรแกรม Visual C# 2015 (K) 5. บอกขั้นตอนการสร้างโปรเจกต์ใหม่ บันทึกโปรเจกต์ เปิดโปรเจกต์ และปิดโปรแกรม Visual C# 2015 (K)
เกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ภาพดา้ นความรู้ เร่อื ง รจู้ ักภาษา C# และโปรแกรม Visual Studio ดา้ นความรู้ ระดับคะแนน 54 3 2 1 อธิบายความ สามารถ สามารถ สามารถ สามารถ สามารถ เป็นมาของภาษา อธบิ ายความ อธบิ ายความ อธบิ ายความ อธบิ ายความ อธิบายความ C# เปน็ มาของ เป็นมาของ เปน็ มาของ เปน็ มาของ เป็นมาของ ภาษา C# ภาษา C# ได้ ภาษา C# ได้ ภาษา C# ได้ ภาษา C# ได้ ไดค้ รบทุก 4 ข้อ 3 ข้อ 2 ขอ้ 1 ขอ้ ข้อ อธิบายลกั ษณะ สามารถ สามารถ สามารถ สามารถ สามารถ ของโปรแกรม อธบิ าย อธิบาย อธิบาย อธิบาย อธบิ าย Visual Studio ลักษณะของ ลกั ษณะของ ลกั ษณะของ ลักษณะของ ลักษณะของ โปรแกรม โปรแกรม โปรแกรม โปรแกรม โปรแกรม Visual Visual Studio Visual Studio Visual Studio Visual Studio Studio ได้ ได้ 4 ข้อ ได้ 3 ข้อ ได้ 2 ข้อ ได้ 1 ข้อ ครบทกุ ขอ้ บอกขอ้ ดีของ สามารถ สามารถบอก สามารถบอก สามารถบอก สามารถบอก ภาษา C# และ บอกขอ้ ดี ขอ้ ดีของภาษา ข้อดีของภาษา ขอ้ ดีของภาษา ขอ้ ดีของภาษา โปรแกรม ของภาษา C# และ C# และ C# และ C# และ Visual Studio C# และ โปรแกรม โปรแกรม โปรแกรม โปรแกรม 2015 โปรแกรม Visual Studio Visual Studio Visual Studio Visual Studio Visual 2015 ได้ 4 ขอ้ 2015 ได้ 3 ขอ้ 2015 ได้ 2 ขอ้ 2015 ได้ 1 ข้อ Studio 2015 ได้ ครบทกุ ข้อ เกณฑก์ ารประเมิน 12 - 15 คะแนน หมายถงึ ดมี าก 9 – 11 คะแนน หมายถึง ดี 6 - 8 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0 – 5 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรุง
แบบบนั ทึกการประเมินดา้ นความรู้ เรอื่ ง ร้จู ักภาษา C# และโปรแกรม Visual Studio เลขท่ี สรุปความรู้ รอ้ ยละ ผลการประเมิน (15 คะแนน) ผ่าน ไมผ่ า่ น หมายเหตุ 1. สรุปความรู้ เกณฑ์ผ่านร้อยละ 60 (ลงช่ือ)……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน
การประเมนิ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ เรือ่ ง รู้จักภาษา C# และโปรแกรม Visual Studio สืบคน้ ความเป็นมา ขอ้ ดขี องภาษา C# และลกั ษณะของโปรแกรม Visual Studio 1. สืบคน้ และสรปุ เน้อื หาไดอ้ ย่างถูกต้องสมบูรณ์ 2. ลำดบั ขั้นตอนการสรปุ อย่างเปน็ ระบบ เป็นขน้ั ตอน 3. ใช้งานเทคโนโลยี โดยไม่สง่ ผลเสีย หรือผลกระทบต่อผู้อื่น 4. นำความร้ทู ่ีได้มาเสนอในกล่มุ และมสี ว่ นรว่ มในการตรวจสอบขอ้ มลู ท่ไี ดม้ าของเพ่ือนในกลุ่ม นำเสนอความเป็นมา และขอ้ ดขี องภาษา C# และ โปรแกรม Visual Studio 1. ใช้ภาษาอยา่ งสุภาพ เหมาะสม 2. เสยี งดงั ชดั เจน 3. ลำดับขน้ั ตอนการนำเสนอ อย่างเป็นขน้ั ตอน 4. มีเทคนคิ ในการนำเสนอทีน่ ่าสนใจ
เกณฑ์การประเมินคณุ ภาพดา้ นทักษะกระบวนการ เร่ือง ร้จู ักภาษา C# และโปรแกรม Visual Studio ด้านทกั ษะ ระดับคะแนน 32 กระบวนการ 4 สามารถสบื คน้ ได้ สามารถสืบค้นได้ 1 3 ขอ้ 2 ข้อ สามารถสืบคน้ ได้ สืบค้นความเป็นมา สามารถสืบคน้ ได้ 1 ขอ้ ข้อดีของภาษา C# ครบทกุ ข้อ สามารถนำเสนอ ได้ 1 ข้อ และลักษณะของ โปรแกรม Visual Studio นำเสนอความเป็นมา สามารถนำเสนอ สามารถนำเสนอ สามารถนำเสนอ และข้อดขี องภาษา ได้ ครบทุกข้อ ได้ 3 ข้อ ได้ 2 ข้อ C# และ โปรแกรม Visual Studio หมายเหตุ ได้ระดับคะแนน 3 ขนึ้ ไปทุกตวั ชีว้ ดั ถือวา่ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน 9 - 10 คะแนน 4 หมายถงึ ดมี าก 6 – 8 คะแนน 3 หมายถึง ดี 4 - 5 คะแนน 2 หมายถึง พอใช้ 0 - 3 คะแนน 1 หมายถงึ ปรับปรุง
แบบประเมินด้านทักษะกระบวนการ เรือ่ ง ร้จู ักภาษา C# และโปรแกรม Visual Studio ประเมินด้านทกั ษะกระบวนการ ผลการประเมนิ ท่ี สืบค้นความเปน็ มา ข้อดขี องภาษา นำเสนอความเปน็ มา และข้อดีของ ผา่ น ไม่ผ่าน C# และลักษณะของโปรแกรม ภาษา C# และ โปรแกรม Visual Visual Studio Studio (ลงช่ือ)……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน
การประเมนิ ด้านสมรรถนะท่ีสำคัญของผู้เรยี น เรอื่ ง รู้จกั ภาษา C# และโปรแกรม Visual Studio ความสามารถในการคิด 1. มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ 2. คดิ อย่างมีวจิ ารณญาณมีเหตผุ ล 3. สามารถแก้ปัญหาต่างๆได้อย่างเปน็ ระบบ 4. สามารถคิดเช่ือมโยงส่งิ ท่ีได้เรียนรู้ เพ่อื นำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวนั ได้ ความสามารถในการสอื่ สาร 1. เลอื กรบั ข้อมลู ข่าวสารอย่างมีเหตผุ ล 2. พดู จาชดั เจนไม่กำกวม 3. พูดโดยคำนึงถึงผลกระทบทมี่ ีต่อตนเอง และสงั คม 4. แลกเปลี่ยนข้อมูลขา่ วสารและประสบการณ์อันจะเปน็ ประโยชนต์ ่อการพฒั นาตนเองและสังคม ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 1. สามารถใช้เทคโนโลยีในการคน้ หาขอ้ มูลได้อย่างหลากหลาย 2. ใชเ้ ทคโนโลยีโดยไมส่ ่งผลกระทบต่อตนเอง และผู้อืน่ 3. ใชเ้ ทคโนโลยใี นการทำงานอยา่ งเหมะสม 4. ใช้เทคโนโลยีเพอื่ พฒั นาตนเองและสงั คม
เกณฑ์การประเมินสมรรถนะท่สี ำคญั ของผเู้ รียน เรื่อง รู้จกั ภาษา C# และโปรแกรม Visual Studio ด้านสมรรถนะผู้เรยี น ระดับคณุ ภาพ ความสามารถในการคิด 4321 ความสามารถในการส่อื สาร มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มีความสามารถ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ในการคดิ ครบ ในการคิด ในการคดิ ในการคิด ทกุ ข้อ 3 ขอ้ 2 ข้อ 1 ขอ้ มีความสามารถ มีความสามารถ มีความสามารถ มคี วามสามารถ ในการสอ่ื สาร ในการส่อื สาร ในการสอ่ื สาร ในการส่ือสาร ครบทุกขอ้ 3 ขอ้ 2 ข้อ 1 ข้อ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มีความสามารถ มคี วามสามารถ ในการใช้ ในการใช้ ในการใช้ ในการใช้ เทคโนโลยี เทคโนโลยี เทคโนโลยี เทคโนโลยี ครบทุกขอ้ 3 ข้อ 2 ข้อ 1 ข้อ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คะแนน 3 ขึน้ ไปทุกตวั ชว้ี ดั ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน 4 คะแนน หมายถึง ดีมาก 3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง
แบบประเมินดา้ นสมรรถนะทสี่ ำคญั ของผู้เรียน เร่ือง รู้จักภาษา C# และโปรแกรม Visual Studio ที่ การคิด ประเมนิ ด้านสมรรถนะท่ีสำคัญของผเู้ รียน ผลการประเมิน การสื่อสาร การใช้เทคโนโลยี ผ่าน ไมผ่ ่าน 1 2 3 4 5 6 7 8 9 10 (ลงชื่อ)……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน
การประเมนิ ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ เรอ่ื ง ร้จู กั ภาษา C# และโปรแกรม Visual Studio มีวินัย 1. ปฏบิ ัตติ นตามกฎระเบยี บของครอบครวั โรงเรียน ชมุ ชน และสังคม 2. ตรงตอ่ เวลา และรู้จกั กาลเทศะ 3. เคารพในสทิ ธิของผู้อ่นื 4. ยอมรบั การกระทำของตนเอง ใฝเ่ รียนรู้ 1. ศกึ ษาคน้ คว้าหาความร้จู ากหนังสือ เอกสาร ส่ิงพิมพ์ ส่ือเทคโนโลยีต่าง ๆ แหล่งเรียนรูท้ งั้ ภายในและ ภายนอกโรงเรียน และเลือกใช้ส่อื ได้อย่างเหมาะสม 2. ตงั้ ใจเรียน 3. เอาใจใสแ่ ละมคี วามเพียรพยายามในการเรยี นรู้ 4. เขา้ รว่ มกิจกรรมทางการเรียนรอู้ ยู่เสมอ มุ่งมัน่ ในการทำงาน 1. ตัง้ ใจและรบั ผดิ ชอบในงานท่ไี ดร้ บั มอบหมาย 2. เพียรพยายามในการทำงาน ด้วยความอดทนไม่ท้อแทต้ ่ออุปสรรคทีเ่ กดิ ขน้ึ 3. พฒั นาการทำงานของตนเองให้ดีขน้ึ เสมอ 4. เอาใจใส่ต่อหน้าทท่ี ่ีไดร้ ับมอบหมาย
เกณฑก์ ารด้านคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ เร่ือง รจู้ กั ภาษา C# และโปรแกรม Visual Studio ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ มวี นิ ยั 432 1 ใฝเ่ รยี นรู้ มคี ณุ ลกั ษณะ มคี ุณลกั ษณะ มคี ุณลักษณะ มีคุณลักษณะ อันพงึ ประสงค์ มงุ่ มน่ั ในการทำงาน ด้านวนิ ัย อันพงึ ประสงค์ อันพงึ ประสงค์ อันพึงประสงค์ 1 ขอ้ มคี ณุ ลกั ษณะ ด้านวนิ ยั ครบ ดา้ นวนิ ยั ดา้ นวินยั อันพงึ ประสงค์ ดา้ นใฝ่เรยี นรู้ ทุกข้อ 3 ขอ้ 2 ขอ้ 1 ข้อ มคี ณุ ลกั ษณะ มคี ุณลกั ษณะ มีคุณลักษณะ มคี ุณลกั ษณะ อนั พึงประสงค์ ด้านมุง่ มนั่ ใน อันพึงประสงค์ อันพึงประสงค์ อันพงึ ประสงค์ การทำงาน 1 ข้อ ด้านใฝ่เรยี นรู้ ดา้ นใฝ่เรยี นรู้ ดา้ นใฝ่เรยี นรู้ ครบทุกข้อ 3 ข้อ 2 ขอ้ มีคุณลกั ษณะ มคี ณุ ลักษณะ มคี ุณลกั ษณะ อนั พึงประสงค์ อนั พึงประสงค์ อันพึงประสงค์ ดา้ นมุ่งมั่นใน ด้านมุ่งม่นั ใน ดา้ นมงุ่ มน่ั ใน การทำงานครบ การทำงาน การทำงาน ทุกข้อ 3 ขอ้ 2 ข้อ หมายเหตุ ได้ระดับคะแนน 3 ขึ้นไปทุกตัวชี้วัด ถอื ว่าผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน 4 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง
แบบประเมนิ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เรือ่ ง ร้จู กั ภาษา C# และโปรแกรม Visual Studio ท่ี มวี ินัย ประเมินด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ผลการประเมิน ใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ มั่นในการทำงาน ผา่ น ไม่ผา่ น (ลงชื่อ)……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 6 กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชั้น มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2563 เรื่อง การใช้งานสว่ นติดต่อกบั ผู้ใช้งานดว้ ยคอนโทรลในโปรแกรม Visual C# 2015 วนั ที่ – เดอื น สงิ หาคม พ.ศ. 2563 ใช้เวลา 2 ชั่วโมง/คาบ 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแกปัญหาท่ีพบในชีวิตจรงิ อย่างเปน็ ขั้นตอนและเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สารในการเรียนรู้การทำงาน และการแกป้ ญั หาไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ 2. ตวั ชี้วดั ว 4.2 ม. 6/1 ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในการนำเสนอและแบ่งปนั ข้อมูลอย่างปลอดภยั มีจริยธรรม และ วิเคราะหก์ ารเปลย่ี นแปลงเทคโนโลยสี ารสนเทศที่มผี ลต่อการดำเนนิ ชีวิต อาชีพ สงั คมและวฒั นธรรม 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกหนา้ ทีข่ องคอนโทรลพ้นื ฐาน (K) 2. เปรยี บเทียบขอ้ แตกตา่ งของคอนโทรลตา่ งๆ (K) 3. สร้างฟอรม์ ดว้ ยคอนโทรลต่างๆ (P) 4. ออกแบบฟอร์มด้วยคอนโทรลตา่ งๆ (P) 5. มีวินยั (A) 6. มคี วามใฝ่เรียนรู้ (A) 7. มีความมุ่งม่ันในการทำงาน (A) 4. สาระสำคัญ Control เป็นเครื่องมือที่อยู่ใน Toolbox ซึ่งเราสามารถนำมาช่วยในการออกแบบหน้าจอโปรแกรมที่ เราต้องการพัฒนา ซึ่งทำให้การเขียนโปรแกรมง่ายขึ้นและสวยงามขึ้นด้วย ในการใช้งานคอนโทรล จะต้องใช้ ร่วมกับ ฟอร์มซึ่งถือว่าเป็นคอนโทรลตัวหนึ่ง แต่จะทำหน้าที่คล้ายกับเป็นที่วางของคอนโทรลตัวอื่นๆ นอกจากนี้แล้วยังจะต้องเรียนรูว้ ิธีกำหนดคา่ ต่างๆ ใน Properties ของคอนโทรลแตล่ ะตัวดว้ ย คอนโทรลที่ถกู ใช้งาน บ่อยๆ ได้แก่ 1) เป็นเครื่องมือที่ช่วยนักพัฒนาซอฟต์แวร์พัฒนาโปรแกรมได้หลากหลาย 2) สามารถใช้ ภาษาโปรแกรมที่เป็นภาษาดอตเน็ต ในโปรแกรมเดียวกันได้ และ 3) รองรับการใช้งานหลายแพลตฟอรม์
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443