เกณฑ์การประเมินคุณภาพด้านทักษะกระบวนการ เรื่อง การเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้ ที่ทำงานร่วมกับคำส่ังเง่ือนไข ด้านทักษะ ระดับคะแนน กระบวนการ 4 32 1 สามารถออกแบบ ออกแบบจอภาพโดย สามารถออกแบบ สามารถออกแบบ สามารถออกแบบ จอภาพโดยใช้ control ต่างๆ ใช้ control ตา่ งๆ จอภาพโดยใช้ จอภาพโดยใช้ จอภาพโดยใช้ ดว้ ยโปรแกรม Visual C# 2015 ด้วยโปรแกรม control ต่างๆ control ต่างๆ control ตา่ งๆ ได้ 1 ข้อ สามารถเขียน Visual C# 2015 ด้วยโปรแกรม ดว้ ยโปรแกรม ด้วยโปรแกรม แผนผงั ลำดบั งาน แบบวนรอบได้ 1 Visual C# 2015 Visual C# 2015 Visual C# 2015 ขอ้ สามารถเขียน ไดค้ รบทุกข้อ ได้ 3 ข้อ ได้ 2 ข้อ โปรแกรมแบบ วนรอบได้ 1 ข้อ เขยี นแผนผงั ลำดบั สามารถเขียน สามารถเขียน สามารถเขยี น สามารถเขยี น งานแบบวนรอบ แผนผงั ลำดับงาน แผนผังลำดับงาน แผนผังลำดบั งาน ผลลัพธจ์ ากการ แสดงการทำงาน แบบวนรอบได้ แบบวนรอบได้ 3 แบบวนรอบได้ 2 โปรแกรมแบบ วนรอบได้ 1 ข้อ ครบทกุ ขอ้ ขอ้ ข้อ เขยี นโปรแกรมแบบ สามารถเขยี น สามารถเขยี น สามารถเขียน วนรอบ โปรแกรมแบบ โปรแกรมแบบ โปรแกรมแบบ วนรอบไดค้ รบทกุ วนรอบได้ 3 ข้อ วนรอบได้ 2 ข้อ ขอ้ เขยี นผลลพั ธ์จากการ สามารถเขียน สามารถเขยี น สามารถเขยี น ผลลพั ธจ์ ากการ ผลลัพธจ์ ากการ แสดงการทำงาน ผลลพั ธ์จากการ แสดงการทำงาน แสดงการทำงาน โปรแกรมแบบ โปรแกรมแบบ โปรแกรมแบบ แสดงการทำงาน วนรอบได้ 3 ข้อ วนรอบได้ 2 ข้อ วนรอบ โปรแกรมแบบ วนรอบไดค้ รบทุก ขอ้ หมายเหตุ ไดร้ ะดับคะแนน 3 ขึน้ ไปทุกตวั ช้วี ดั ถอื วา่ ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน 17 - 20 คะแนน 4 หมายถึง ดมี าก 12 - 16 คะแนน 3 หมายถึง ดี 7 - 11 คะแนน 2 หมายถงึ พอใช้ ต่ำกว่า 6 คะแนน 1 หมายถึง ปรบั ปรุง
แบบประเมนิ ด้านทักษะกระบวนการ เรอ่ื ง การเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้ ท่ีทำงานร่วมกับคำส่ังเงือ่ นไข ประเมนิ ด้านทักษะกระบวนการ ผลการประเมิน ผา่ น ไมผ่ ่าน ท่ี ออกแบบจอภาพโดยใช้ เขยี นแผนผัง เขียน เขยี นผลลพั ธ์จาก control ตา่ งๆ ดว้ ย ลำดับงานแบบ โปรแกรม การแสดงการ โปรแกรม Visual C# ทำงานโปรแกรม วนรอบ แบบ แบบวนรอบ 2015 วนรอบ (ลงชอ่ื )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน
การประเมินดา้ นสมรรถนะที่สำคญั ของผ้เู รยี น เรอื่ ง การเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำท่ีทำงานร่วมกบั คำสั่งเง่อื นไข ความสามารถในการคิด 1. มีความคดิ สรา้ งสรรค์ 2. คดิ อย่างมีวจิ ารณญาณมีเหตผุ ล 3. สามารถแก้ปญั หาต่างๆได้อยา่ งเป็นระบบ 4. สามารถคิดเช่ือมโยงสิ่งท่ไี ด้เรียนรู้ เพื่อนำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้ ความสามารถในการแก้ปัญหา 1. แก้ปญั หา และอุปสรรคที่พบเจอได้ 2. วิเคราะหส์ าเหตุของปญั หาทพ่ี บเจอได้ 3. แก้ปัญหาได้อยา่ งมีลำดบั ขน้ั ตอน 4. ตดั สินใจเลอื กแนวทางการแกป้ ัญหาได้อย่างชัดเจน แนน่ อน และไมส่ ่งผลเสียต่อผู้อนื่ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 1. สามารถใชเ้ ทคโนโลยใี นการคน้ หาข้อมลู ได้อยา่ งหลากหลาย 2. ใชเ้ ทคโนโลยีโดยไม่ส่งผลกระทบต่อตนเอง และผู้อน่ื 3. ใช้เทคโนโลยใี นการทำงานอย่างเหมะสม 4. ใช้เทคโนโลยเี พอ่ื พฒั นาตนเองและสงั คม
เกณฑ์การประเมินสมรรถนะที่สำคัญของผ้เู รยี น เรื่อง การเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำท่ีทำงานรว่ มกับคำสั่งเงอ่ื นไข ดา้ นสมรรถนะผู้เรยี น ระดับคณุ ภาพ ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4321 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี มคี วามสามารถ มีความสามารถ มีความสามารถ มคี วามสามารถ ในการคดิ ครบ ในการคดิ ในการคดิ ในการคดิ ทุกข้อ 3 ขอ้ 2 ข้อ 1 ขอ้ มีความสามารถ มีความสามารถ มีความสามารถ มีความสามารถ ในการ ในการ ในการ ในการ แก้ปญั หาครบ แกป้ ญั หา 3 ข้อ แกป้ ญั หา 2 ข้อ แก้ปญั หา 1 ข้อ ทุกข้อ มคี วามสามารถ มีความสามารถ มีความสามารถ มีความสามารถ ในการใช้ ในการใช้ ในการใช้ ในการใช้ เทคโนโลยีครบ เทคโนโลยี 3 เทคโนโลยี 2 เทคโนโลยี 1 ทกุ ข้อ ขอ้ ข้อ ข้อ หมายเหตุ ได้ระดบั คะแนน 3 ข้ึนไปทุกตัวชว้ี ดั ถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ 4 คะแนน หมายถึง ดีมาก 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง
แบบประเมนิ ดา้ นสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรยี น เรือ่ ง การเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้ ที่ทำงานรว่ มกบั คำส่ังเงอ่ื นไข ที่ การคดิ ประเมินด้านสมรรถนะท่ีสำคัญของผ้เู รยี น ผลการประเมิน ผ่าน ไม่ผ่าน การแก้ปัญหา การใชเ้ ทคโนโลยี (ลงชือ่ )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน
การประเมินดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ เร่ือง การเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำท่ีทำงานร่วมกับคำส่ังเงื่อนไข ใฝเ่ รยี นรู้ 1. ศกึ ษาคน้ ควา้ หาความรูจ้ ากหนงั สือ เอกสาร สิ่งพิมพ์ สอื่ เทคโนโลยตี า่ ง ๆ แหลง่ เรียนรทู้ ั้งภายในและ ภายนอกโรงเรยี น และเลือกใช้ส่อื ได้อยา่ งเหมาะสม 2. ต้งั ใจเรยี น 3. เอาใจใส่และมีความเพียรพยายามในการเรียนรู้ 4. เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางการเรียนรอู้ ยเู่ สมอ มุง่ มน่ั ในการทำงาน 1. ตั้งใจและรับผดิ ชอบในงานทีไ่ ด้รบั มอบหมาย 2. เพยี รพยายามในการทำงาน ดว้ ยความอดทนไมท่ ้อแทต้ ่ออุปสรรคท่เี กิดขน้ึ 3. พัฒนาการทำงานของตนเองใหด้ ีขนึ้ เสมอ 4. เอาใจใสต่ ่อหน้าท่ที ่ีได้รับมอบหมาย
เกณฑก์ ารดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ เรือ่ ง การเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำท่ีทำงานร่วมกบั คำสั่งเงอ่ื นไข ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 4 ระดบั คณุ ภาพ 1 ใฝเ่ รยี นรู้ มคี ุณลกั ษณะ 32 มีคุณลกั ษณะ อนั พึงประสงค์ มคี ณุ ลกั ษณะ มคี ณุ ลกั ษณะ อันพึงประสงค์ มุง่ มั่นในการทำงาน ด้านใฝ่เรียนรู้ อนั พงึ ประสงค์ อันพึงประสงค์ ด้านใฝเ่ รียนรู้ ครบทกุ ขอ้ ด้านใฝ่เรยี นรู้ ดา้ นใฝเ่ รยี นรู้ 1 ข้อ มคี ณุ ลกั ษณะ 3 ข้อ 2 ขอ้ มีคุณลกั ษณะ อันพึงประสงค์ มคี ุณลกั ษณะ มคี ณุ ลักษณะ อันพึงประสงค์ ด้านมุง่ ม่ันใน อันพงึ ประสงค์ อันพึงประสงค์ ดา้ นมุ่งม่นั ใน การทำงานครบ ดา้ นมุ่งม่นั ใน ด้านม่งุ ม่ันใน การทำงาน ทกุ ข้อ การทำงาน การทำงาน 1 ขอ้ 3 ข้อ 2 ขอ้ หมายเหตุ ได้ระดบั คะแนน 3 ข้ึนไปทุกตัวชว้ี ัด ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน 4 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรุง
แบบประเมินด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เร่อื ง การเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้ ท่ีทำงานรว่ มกบั คำสั่งเงื่อนไข ประเมนิ ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ผลการประเมิน ท่ี ใฝเ่ รยี นรู้ ม่งุ มัน่ ในการทำงาน ผ่าน ไม่ผา่ น (ลงช่อื )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 16 กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2563 เรือ่ ง การเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้ โดยใช้ตัวแปรแถวลำดับ วนั ท่ี – เดอื น ตุลาคม พ.ศ. 2563 ใช้เวลา 2 ชั่วโมง/คาบ 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแกปัญหาท่ีพบในชีวิตจรงิ อย่างเปน็ ขัน้ ตอนและเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารในการเรยี นรูก้ ารทำงาน และการแกป้ ญั หาไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ 2. ตัวชีว้ ัด ว 4.2 ม. 6/1 ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอและแบ่งปนั ข้อมลู อย่างปลอดภัย มจี ริยธรรม และ วิเคราะห์การเปล่ยี นแปลงเทคโนโลยสี ารสนเทศท่ีมีผลต่อการดำเนินชีวติ อาชีพ สงั คมและวฒั นธรรม 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายโครงสร้างตวั แปรแถวลำดับ (K) 2. บอกประเภทตัวแปรแถวลำดบั (K) 3. อธบิ ายการเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำโดยใชต้ วั แปรแถวลำดบั (K) 4. ออกแบบจอภาพโดยใช้ control ต่างๆ ดว้ ยโปรแกรม Visual C# 2015 (P) 5. เขยี นแผนผงั ลำดับงานแบบวนซำ้ โดยใช้ตัวแปรแถวลำดบั (P) 6. เขียนโปรแกรมแบบแบบแบบวนซำ้ โดยใช้ตวั แปรแถวลำดบั (P) 7. เขยี นผลลพั ธ์จากการแสดงการทำงานโปรแกรมแบบวนซ้ำโดยใช้ตวั แปรแถวลำดบั (P) 8. มีความใฝเ่ รยี นรู้ (A) 9. มคี วามมุ่งม่ันในการทำงาน (A) 4. สาระสำคญั การวนซำ้ เป็นการกำหนดให้มีการประมวลผลคำส่ังซ้ำ ๆ กัน ตงั้ แต่ 1 ครง้ั ขน้ึ ไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับเงื่อนไข ในการทำงาน ซึ่งจะช่วยให้การเขียนโปรแกรมได้ง่าย สะดวก ไม่ต้องเขียนข้อความคำสั่งเดิมหลายครั้ง ทำให้ โปรแกรมมคี วามกระชับ สามารถตรวจสอบความผิดพลาดได้งา่ ย แถวลำดบั (Array) เปน็ โครงสร้างข้อมลู ท่ปี ระกอบไปด้วยสมาชิกหรือตัวแปรทม่ี ชี นิดเดียวกนั เรียงต่อกัน เป็นชดุ โดยสมาชิกแต่ละตัวจะมีหมายเลขอ้างอิงบอกลำดบั ของสมาชิก ท่ีเรียกว่า ดชั นี (Index) ซงึ่ ในการทำงานรว่ มกันของโปรแกรมแบบวนซ้ำท่ีสามารถชว่ ยเขยี นคำสั่งใหจ้ ัดเก็บข้อมูลในตัวแปรแถว ลำดับที่มีการเก็บข้อมูลได้เป็นชุด จะทำให้โปรแกรมมีประสิทธิภาพมากขึ้น คำสั่งสั้นลง และสามารถเรียกค้น ข้อมูลกอ่ นหนา้ ท่เี ก็บในตัวแปรแถวลำดับข้ึนมาแสดงได้ด้วย
5. สาระการเรยี นรู้ 1. โครงสร้างตัวแปรแถวลำดับ อารเ์ รย์เปน็ โครงสร้างข้อมูลแบบหน่ึงทผี่ ู้ใช้ตอ้ งกำหนดคุณสมบัติข้ึนมากอ่ น โดยที่อาร์เรย์ ประกอบด้วยสมาชิกจำนวนหนงึ่ ที่เรยี กต่อรวมกนั ตามลำดับที่ถกู มองเป็นตาราง สมาชกิ ทกุ ตวั จะมี ชนิดข้อมูลที่เปน็ แบบเดียวกนั ในการใช้อารเ์ รย์เปน็ การเข้าถึงแบบสุม่ หรือโดยตรง เป็นการอา้ งไปยงั แตล่ ะสมาชิกทต่ี อ้ งการได้โดยตรง ซง่ึ มีตัวชีใ้ ชอ้ า้ งไปยังแตล่ ะสมาชกิ เรยี กวา่ ดชั นี หรือ Subscriptและ ต้องเป็นเลขจำนวนเต็ม การกำหนดชว่ งหรอื จำนวนของสมาชิกจะใช้ขอบเขตลา่ ง ซง่ึ มีค่าน้อยทีส่ ุด และขอบเขตบน ซ่ึงมคี ่ามากที่สดุ อาร์เรย์เป็นโครงสรา้ งข้อมูลท่ีคงที่ เปลยี่ นแปลงจำนวนสมาชิกไม่ได้ ขณะทำงาน และเนือ่ งจากข้อมูลอาร์เรยถ์ ูกมองเปน็ ตารางในการใช้งาน จึงมีการกำหนดลักษณะของ อาร์เรยอ์ อกเปน็ มติ ติ า่ ง ๆ 2. ประเภทตวั แปรแถวลำดบั - อารเ์ รย์หน่ึงมติ ิ - อาร์เรย์สองมิติ - อารเ์ รย์สามมิติ 3. การเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้ โดยใช้ตัวแปรแถวลำดับ 6. ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. มุ่งมน่ั ในการทำงาน 7. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแก้ปญั หา 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. กจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั นำเข้าสู่บทเรยี น (15 นาที) 1. ครูกลา่ วทกั ทายนกั เรียน 2. ครูสุ่มถามนกั เรยี น จำนวน 3 คน เพอ่ื ให้เกี่ยวกับสงิ่ ทเี่ รียนในคาบเรยี นก่อนหน้า 3. ครูนำปัญหาที่มีลักษณะเชิงเงื่อนไขที่พบเจอในชีวิตประจำวัน มาให้นักเรียนช่วยกันคิดและแก้ไข เช่นปัญหา อ่านหนังสือเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์จึงสอบผ่านเฉพาะวิชาคณิตศาสตร์ เป็นต้น เพอ่ื กระตนุ้ ให้นกั เรยี นเกิดการคดิ เชิงเง่ือนไข ก่อนเขา้ สู่ขน้ั กจิ กรรมการเรยี นการสอน
4. ครแู จ้งสิ่งท่จี ะไดเ้ รยี นในคาบเรียนนี้ ขน้ั กจิ กรรมการเรียนการสอน (1 ช่ัวโมง 25 นาที) 5. นกั เรยี นศึกษาหนังสอื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ หน่วยที่ 5 บทที่ 7 เรื่องการเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้ โดยใช้ ตัวแปรแถวลำดบั หรอื แหล่งข้อมลู อนื่ ๆตามความสนใจ 6. ครูใชค้ ำถามเพ่ือสอบถามสิง่ ท่ีนักเรยี นได้ศกึ ษามา เกีย่ วกับการเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้ โดยใชต้ ัว แปรแถวลำดบั 7. ครอู ธิบายประกอบการสาธิตเกยี่ วกับการเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำโดยใช้ตวั แปรแถวลำดบั โดยใช้ สือ่ PowerPoint ในการบรรยาย และโปรแกรม Visual C# 2015 ในการสาธิต 8. นักเรียนทำใบกจิ กรรมที่ 5.7 เรื่องการเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำโดยใชต้ ัวแปรแถวลำดับ ลงในสมดุ ขน้ั สรปุ (20 นาที) 9. นักเรยี นและครรู ่วมกนั สรุปการเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำโดยใชต้ วั แปรแถวลำดับ อารเ์ รยเ์ ปน็ โครงสร้างข้อมูลแบบหน่ึงท่ีผูใ้ ชต้ ้องกำหนดคุณสมบตั ขิ ้ึนมาก่อน โดยที่อาร์เรย์ ประกอบดว้ ยสมาชกิ จำนวนหน่ึงทีเ่ รยี กต่อรวมกนั ตามลำดับท่ีถกู มองเป็นตาราง สมาชกิ ทกุ ตวั จะมี ชนดิ ขอ้ มูลท่ีเป็นแบบเดียวกนั ในการใช้อารเ์ รยเ์ ป็นการเข้าถงึ แบบสุ่ม หรอื โดยตรง เป็นการอ้าง ไปยังแต่ละสมาชิกท่ีต้องการได้โดยตรง ซ่งึ มตี วั ช้ใี ชอ้ ้างไปยังแตล่ ะสมาชกิ เรยี กวา่ ดชั นี หรือ Subscriptและต้องเปน็ เลขจำนวนเตม็ การกำหนดชว่ งหรือจำนวนของสมาชิกจะใชข้ อบเขตลา่ ง ซ่ึงมีค่าน้อยท่สี ุด และขอบเขตบน ซึ่งมคี า่ มากท่ีสุดอารเ์ รย์เปน็ โครงสรา้ งขอ้ มลู ที่คงที่ เปลีย่ นแปลง จำนวนสมาชกิ ไม่ได้ขณะทำงาน และเนอ่ื งจากข้อมลู อารเ์ รย์ถกู มองเป็นตารางในการใช้งาน จึงมี การกำหนดลกั ษณะของอาร์เรย์ออกเป็นมติ ติ ่าง ๆ ทง้ั หนึง่ สอง และสาม 10. นกั เรยี นทำแบบทดสอบท้ายบทเรียนท่ี 5 11. ครูมอบใหน้ กั เรียนไปศึกษาหนงั สอื อิเล็กทรอนิกส์ หนว่ ยที่ 6 บทท่ี 1 การพฒั นาโครงงาน ล่วงหน้า สำหรับการเรยี นในคาบเรียนถดั ไป 9. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ 9.1 ส่ือการเรยี นรู้ 1) ใบกิจกรรมที่ 5.7 เรื่องการเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำโดยใช้ตัวแปรแถวลำดบั 2) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หน่วยที่ 5 บทที่ 7 การเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำโดยใช้ตัวแปรแถวลำดับ (ลิงค์ https://qrgo.page.link/5CgLt) 3) หนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ หน่วยท่ี 6 บทท่ี 1 การพัฒนาโครงงาน (ลิงค์ https://qrgo.page.link/5CgLt) 4) โปรแกรม Visual C# 2015
5) แบบทดสอบท้ายบทเรยี นท่ี 5 9.2 แหลง่ การเรยี นรู้ อนิ เทอรเ์ นต็ 10. การวัดผลและประเมินผล 10.1 การวัดผล จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ วิธีการวดั เครื่องมือ เกณฑ์การใหค้ ะแนน 1. อธิบายโครงสร้างตัว ว ั ด โ ด ย ก า ร ต ร ว จ ใบกจิ กรรม ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 60 แปรแถวลำดบั (K) ใบกิจกรรมที่ 5.7 เรื่อง การเขียนโปรแกรมแบบ วนซ้ำโดยใช้ตัวแปรแถว ลำดับ 2. บอกประเภทตัวแปร ว ั ด โ ด ย ก า ร ต ร ว จ ใบกจิ กรรม ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 60 แถวลำดบั (K) ใบกิจกรรมที่ 5.7 เรื่อง การเขียนโปรแกรมแบบ วนซ้ำโดยใช้ตัวแปรแถว ลำดบั 3 . อ ธ ิ บ า ย ก า ร เ ข ี ย น ว ั ด โ ด ย ก า ร ต ร ว จ ใบกิจกรรม ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ 60 โปรแกรมแบบวนซ้ำโดย ใบกิจกรรมที่ 5.7 เรื่อง ใช้ตัวแปรแถวลำดับ (K) การเขียนโปรแกรมแบบ วนซ้ำโดยใช้ตัวแปรแถว ลำดบั 4. ออกแบบจอภาพโดย วัดโดยการสังเกตการ แบบประเมินท ั ก ษ ะ ระดับคุณภาพ 3 ใช้ control ต่างๆ ด้วย ออกแบบจอภาพโดยใช้ กระบวนการ ผา่ นเกณฑ์ โ ป ร แ ก ร ม Visual C# control ต ่ า ง ๆ ด ้ ว ย 2015 (P) โ ป ร แ ก ร ม Visual C# 2015 5. เขียนแผนผังลำดับ วัดโดยการสังเกตการ แบบประเมินท ั ก ษ ะ ระดบั คณุ ภาพ 3 งานแบบวนซ้ำโดยใช้ตัว เขียนแผนผังลำดับงาน กระบวนการ ผ่านเกณฑ์ แปรแถวลำดบั (P) แบบวนซ้ำโดยใช้ตัวแปร แถวลำดบั
6. เขียนโปรแกรมแบบ วัดโดยการสังเกตการ แบบประเมินท ั ก ษ ะ ระดับคณุ ภาพ 3 แบบแบบวนซ้ำโดยใช้ตัว เขยี นโปรแกรมแบบแบบ กระบวนการ ผา่ นเกณฑ์ แปรแถวลำดับ (P) แบบวนซ้ำโดยใช้ตัวแปร แถวลำดบั 7. เขียนผลลัพธ์จากการ วัดโดยการสังเกตการ แบบประเมินท ั ก ษ ะ ระดับคุณภาพ 3 แ ส ด ง ก า ร ท ำ ง า น เขียนผลลัพธ์จากการ กระบวนการ ผา่ นเกณฑ์ โปรแกรมแบบวนซ้ำโดย แ ส ด ง ก า ร ท ำ ง า น ใช้ตัวแปรแถวลำดบั (P) โปรแกรมแบบวนซ้ำโดย ใช้ตวั แปรแถวลำดับ 8. มีความใฝเ่ รียนรู้ (A) วัดโดยการสังเกตความ แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 3 ใฝ่เรียนรู้ คณุ ลักษณะอันพึง ผ่านเกณฑ์ ประสงค์ 9. มีความมุง่ มัน่ ในการ วัดโดยการสังเกตความ แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 3 ทำงาน (A) มุ่งมั่นในการทำงาน คณุ ลกั ษณะอนั พึง ผา่ นเกณฑ์ ประสงค์ สมรรถนะสำคัญของ วดั โดยการสังเกต แบบประเมินสมรรถนะ ระดับคุณภาพ 3 ผเู้ รยี น สมรรถนะสำคัญของ สำคัญของผเู้ รียน ผา่ นเกณฑ์ 1. ความสามารถในการ ผเู้ รยี น คิด 2. ความสามารถในการ แก้ปญั หา 3. ความสามารถในการ ใชเ้ ทคโนโลยี คุณลักษณะอันพงึ วัดโดยการสังเกต แบบประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ 3 ประสงค์ คุณลกั ษณะอันพึง คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ผ่านเกณฑ์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ ประสงค์ ประสงค์ 2. ม่งุ มนั่ ในการทำงาน แบบทดสอบท้าย วัดโดยการตรวจ แบบทดสอบ ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 60 บทเรียนที่ 5 แบบทดสอบทา้ ย บทเรยี นที่ 5
10.2 เกณฑก์ ารประเมิน 1) ด้านความรู้ ใบกิจกรรม แบบทดสอบท้ายบทเรยี น (10 คะแนน) (20 คะแนน) 12 - 15 คะแนน หมายถึง ดีมาก 17 - 20 คะแนน หมายถึง ดมี าก 9 - 11 คะแนน หมายถึง ดี 12 - 16 คะแนน หมายถึง ดี 6 - 8 คะแนน หมายถึง พอใช้ 7 - 11 คะแนน หมายถึง พอใช้ 0 - 5 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรงุ 0 - 6 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรุง หมายเหตุ ด้านความรู้เกณฑผ์ ่าน ร้อยละ 60 ทุกประเด็นการประเมิน 2) ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ได้ระดบั คุณภาพ 3 ขึ้นไปทกุ ตัวชว้ี ัด ถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ 3) ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 3 ข้นึ ไปทกุ ตัวชว้ี ัด ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน 4) ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น ได้ระดับคุณภาพ 3 ขน้ึ ไปทุกตัวชวี้ ัด ถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ
11. ข้อเสนอแนะ ใชส้ อนได้ ควรปรบั ปรงุ ………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………..………………………………………………… ………………………………………………………………………………………..…………..…………………………………… ลงช่ือ………..…………………….………………….…….. () ครพู เี่ ล้ียง วันที่........เดือน..................พ.ศ............
12. บันทึกหลังการจัดการเรยี นรู้ 1) ผลท่ีเกิดขึน้ แก่ผเู้ รยี น ดา้ นความรู้ จำนวนนกั เรยี นทผี่ า่ นเกณฑ์......................คน คดิ เป็นร้อยละ....................... จำนวนนักเรยี นท่ีไมผ่ า่ นเกณฑ์..................คน คิดเป็นรอ้ ยละ....................... ดา้ นทักษะกระบวนการ จำนวนนกั เรยี นที่ผ่านเกณฑ.์ .....................คน คดิ เป็นร้อยละ....................... จำนวนนกั เรยี นทไ่ี ม่ผา่ นเกณฑ.์ .................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ....................... ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ จำนวนนักเรียนที่ผา่ นเกณฑ.์ .....................คน คิดเป็นรอ้ ยละ....................... จำนวนนกั เรียนที่มาผ่านเกณฑ์..................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ....................... ด้านสมรรถนะผูเ้ รยี น จำนวนนักเรียนทผ่ี า่ นเกณฑ.์ .....................คน คิดเป็นร้อยละ....................... จำนวนนกั เรยี นที่มาผ่านเกณฑ์..................คน คดิ เป็นร้อยละ....................... 2) ปัญหาและอุปสรรค …………………………………………………………………………………………………………………….……………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 3) แนวทางการแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………….……………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. (ลงชื่อ)……………………………….……………. (......................................................) ผสู้ อน
13. ความเห็นของหัวหนา้ กลมุ่ สาระ/สายชน้ั …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชื่อ)……………………………….……………. (......................................................) หวั หน้ากลมุ่ สาระ/สายชนั้ วนั ท่ี........เดือน..............พ.ศ............ 14. ความเห็นของฝ่ายวิชาการ …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอื่ )……………………………….……………. (......................................................) ฝ่ายวชิ าการ วันที่........เดือน..............พ.ศ............ 15. ความเห็นของผู้อำนวยการโรงเรยี น …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอ่ื )……………………………….……………. (......................................................) ผอู้ ำนวยการโรงเรียน วันที่........เดอื น..............พ.ศ............
การประเมินดา้ นความรู้ เร่ือง การเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำโดยใชต้ ัวแปรแถวลำดับ อธิบายโครงสร้างตัวแปรแถวลำดับ 1. โครงสร้างขอ้ มูลแบบหนึ่งทีผ่ ูใ้ ชต้ ้องกำหนดคณุ สมบัติขนึ้ มาก่อน 2. อาร์เรย์ประกอบด้วยสมาชกิ จำนวนหนึ่งทีเ่ รียกต่อรวมกนั ตามลำดับท่ีถูกมองเป็นตาราง 3. สมาชกิ ทกุ ตัวจะมชี นิดข้อมลู ท่เี ปน็ แบบเดยี วกัน การใช้อาร์เรย์เป็นการเข้าถึงแบบสมุ่ หรอื โดยตรง เป็นการอ้างไปยังแตล่ ะสมาชกิ ที่ต้องการได้โดยตรง 4. ต้องเป็นเลขจำนวนเต็ม การกำหนดช่วงหรือจำนวนของสมาชิกจะใชข้ อบเขตลา่ ง ซึ่งมีค่านอ้ ยท่ีสุด และขอบเขตบน ซ่ึงมคี ่ามากที่สดุ 5. อาร์เรย์เป็นโครงสร้างข้อมลู ที่คงท่ี เปล่ียนแปลงจำนวนสมาชกิ ไม่ได้ขณะทำงาน บอกประเภทตัวแปรแถวลำดับ 1. ตัวแปรแถวลำดบั หรืออาร์เรย์มีท้งั หมด 3 ประเภท 2. บอกรูปแบบการเขยี นอารเ์ รย์ 1 มติ ิได้ 3. อารเ์ รยห์ น่ึงมติ จิ ะมีดชั นเี พียงตัวเดยี วใชอ้ ้างไปยังตำแหน่งของแตล่ ะสมาชิกในอาร์เรย์ซง่ึ มีค่าเป็น ลำดับ สมาชกิ แตล่ ะตัวจะถกู แยกแยะตัวชือ่ อารเ์ รย์ตามด้วยดัชนที ่อี ย่ใู นวงเลบ็ 4. บอกรปู แบบการเขียนอารเ์ รย์ 2 มิตไิ ด้ 5. บอกรปู แบบการเขียนอาร์เรย์ 3 มิติได้ อธิบายการเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้ โดยใชต้ ัวแปรแถวลำดับ 1. อธิบายการเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้ for โดยใชต้ ัวแปรแถวลำดับได้ 2. อธบิ ายการเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้ while โดยใชต้ วั แปรแถวลำดับได้ 3. อธบิ ายการเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำ do…while โดยใช้ตัวแปรแถวลำดับได้ 4. อธิบายประโยชนก์ ารเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้ โดยใชต้ วั แปรแถวลำดับได้ 5. อธิบายความแตกตา่ งของการเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้ แต่ละตวั โดยใชต้ ัวแปรแถวลำดับได้
เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพดา้ นความรู้ เรอื่ ง การเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้ โดยใชต้ ัวแปรแถวลำดบั ดา้ นความรู้ 5 4 ระดับคะแนน 1 อธบิ าย สามารถ สามารถ 32 สามารถ โครงสรา้ งตวั อธิบาย อธิบาย อธบิ าย แปรแถวลำดบั โครงสร้างตัว โครงสร้างตัว สามารถ สามารถ โครงสร้างตัว แปรแถว แปรแถวลำดับ อธิบาย อธิบาย แปรแถวลำดบั บอกประเภทตัว ลำดับได้ ได้ 4 ข้อ โครงสรา้ งตวั โครงสรา้ งตวั ได้ 1 ข้อ แปรแถวลำดบั ครบทกุ ขอ้ แปรแถวลำดบั แปรแถวลำดบั สามารถ สามารถ บอก ได้ 3 ข้อ ได้ 2 ข้อ สามารถ บอก อธิบายการเขียน บอก ประเภทตัว ประเภทตัว โปรแกรมแบบ ประเภทตัว แปรแถวลำดับ สามารถ บอก สามารถ บอก แปรแถวลำดบั วนซำ้ โดยใชต้ ัว แปรแถว ได้ 4 ข้อ ประเภทตัว ประเภทตวั ได้ 1 ข้อ แปรแถวลำดับ ลำดับได้ แปรแถวลำดบั แปรแถวลำดบั ครบทุกข้อ สามารถ ได้ 3 ข้อ ได้ 2 ข้อ สามารถ สามารถ อธิบายการ อธิบายการ อธบิ ายการ เขียนโปรแกรม สามารถ สามารถ เขยี นโปรแกรม เขยี น แบบวนซำ้ โดย อธบิ ายการ อธบิ ายการ แบบวนซ้ำโดย โปรแกรม ใชต้ วั แปรแถว เขียนโปรแกรม เขยี นโปรแกรม ใช้ตวั แปรแถว แบบวนซำ้ ลำดบั ได้ 4 ข้อ แบบวนซำ้ โดย แบบวนซำ้ โดย ลำดบั ได้ 1 ข้อ โดยใช้ตวั ใช้ตวั แปรแถว ใช้ตวั แปรแถว แปรแถว ลำดับได้ 3 ข้อ ลำดบั ได้ 2 ข้อ ลำดบั ได้ ครบทุกขอ้ เกณฑก์ ารประเมิน 12 - 15 คะแนน หมายถึง ดีมาก 9 - 11 คะแนน หมายถึง ดี 6 - 8 คะแนน หมายถึง พอใช้ 0 - 5 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง
แบบบนั ทกึ การประเมนิ ดา้ นความรู้ เรอ่ื ง การเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้ โดยใชต้ ัวแปรแถวลำดบั เลขที่ ใบกจิ กรรม แบบทดสอบ รอ้ ยละ ผลการประเมิน (15 คะแนน) (20 คะแนน) ผ่าน ไม่ผา่ น หมายเหตุ 1. สรุปความรู้ เกณฑผ์ า่ นร้อยละ 60 (ลงช่อื )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน
การประเมินด้านทักษะกระบวนการ เร่อื ง การเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้ โดยใช้ตัวแปรแถวลำดับ ออกแบบจอภาพโดยใช้ control ต่างๆ ด้วยโปรแกรม Visual C# 2015 1. ออกแบบจอภาพโดยใช้ control ตา่ งๆดว้ ยโปรแกรม VisualC# 2015 ได้ถูกต้องและเหมาะสม 1 ข้อ 2. ออกแบบจอภาพโดยใช้ control ตา่ งๆด้วยโปรแกรม VisualC# 2015 ไดถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสม 2 ข้อ 3. ออกแบบจอภาพโดยใช้ control ต่างๆด้วยโปรแกรม VisualC# 2015 ไดถ้ ูกต้องและเหมาะสม 3 ข้อ 4. ออกแบบจอภาพโดยใช้ control ตา่ งๆดว้ ยโปรแกรม VisualC# 2015 ไดถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสม 4 ข้อ 5. ออกแบบจอภาพโดยใช้ control ตา่ งๆดว้ ยโปรแกรม VisualC# 2015 ไดถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสม 5 ข้อ เขยี นแผนผังลำดบั งานแบบวนซ้ำโดยใช้ตวั แปรแถวลำดับ 1. เขยี นแผนผังลำดับงานแบบวนซำ้ โดยใชต้ วั แปรแถวลำดบั ไดถ้ ูกต้องและเหมาะสม 1 ข้อ 2. เขยี นแผนผังลำดบั งานแบบวนซ้ำโดยใช้ตัวแปรแถวลำดบั ไดถ้ ูกต้องและเหมาะสม 2 ข้อ 3. เขียนแผนผังลำดับงานแบบวนซ้ำโดยใช้ตัวแปรแถวลำดับ ได้ถกู ต้องและเหมาะสม 3 ข้อ 4. เขียนแผนผงั ลำดับงานแบบวนซ้ำโดยใช้ตัวแปรแถวลำดบั ไดถ้ ูกต้องและเหมาะสม 4 ข้อ 5. เขียนแผนผงั ลำดบั งานแบบวนซ้ำโดยใชต้ วั แปรแถวลำดับ ไดถ้ ูกต้องและเหมาะสม 5 ข้อ เขยี นโปรแกรมแบบแบบแบบวนซำ้ โดยใชต้ ัวแปรแถวลำดบั 1. เขียนโปรแกรมแบบแบบแบบวนซ้ำโดยใชต้ วั แปรแถวลำดบั ไดถ้ ูกต้องและเหมาะสม 1 ข้อ 2. เขียนโปรแกรมแบบแบบแบบวนซำ้ โดยใชต้ ัวแปรแถวลำดับ ได้ถูกต้องและเหมาะสม 2 ข้อ 3. เขียนโปรแกรมแบบแบบแบบวนซ้ำโดยใช้ตัวแปรแถวลำดบั ได้ถูกต้องและเหมาะสม 3 ข้อ 4. เขยี นโปรแกรมแบบแบบแบบวนซำ้ โดยใช้ตวั แปรแถวลำดบั ไดถ้ ูกต้องและเหมาะสม 4 ข้อ 5. เขียนโปรแกรมแบบแบบแบบวนซำ้ โดยใชต้ ัวแปรแถวลำดับ ได้ถกู ต้องและเหมาะสม 5 ข้อ เขยี นผลลัพธ์จากการแสดงการทำงานโปรแกรมแบบวนซ้ำโดยใช้ตวั แปรแถวลำดบั 1. เขยี นผลลัพธจ์ ากการแสดงการทำงานโปรแกรมแบบวนซ้ำโดยใชต้ วั แปรแถวลำดับ ได้ถกู ตอ้ ง 1 ข้อ 2. เขยี นผลลพั ธจ์ ากการแสดงการทำงานโปรแกรมแบบวนซำ้ โดยใช้ตัวแปรแถวลำดบั ได้ถูกต้อง 2 ข้อ 3. เขียนผลลัพธ์จากการแสดงการทำงานโปรแกรมแบบวนซำ้ โดยใช้ตัวแปรแถวลำดบั ได้ถกู ต้อง 3 ข้อ 4. เขียนผลลพั ธ์จากการแสดงการทำงานโปรแกรมแบบวนซ้ำโดยใชต้ วั แปรแถวลำดบั ได้ถกู ตอ้ ง 4 ข้อ 5. เขียนผลลัพธจ์ ากการแสดงการทำงานโปรแกรมแบบวนซ้ำโดยใช้ตวั แปรแถวลำดบั ได้ถูกต้อง 5 ข้อ
เกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ภาพด้านทักษะกระบวนการ เร่อื ง การเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำโดยใช้ตัวแปรแถวลำดบั ดา้ นทกั ษะ ระดบั คะแนน กระบวนการ 4 32 1 สามารถออกแบบ ออกแบบจอภาพโดย สามารถออกแบบ สามารถออกแบบ สามารถออกแบบ จอภาพโดยใช้ control ตา่ งๆ ใช้ control ตา่ งๆ จอภาพโดยใช้ จอภาพโดยใช้ จอภาพโดยใช้ ดว้ ยโปรแกรม Visual C# 2015 ด้วยโปรแกรม control ตา่ งๆ control ตา่ งๆ control ต่างๆ ได้ 1 ข้อ สามารถเขียน Visual C# 2015 ด้วยโปรแกรม ดว้ ยโปรแกรม ด้วยโปรแกรม แผนผังลำดบั งาน แบบวนซำ้ โดยใช้ Visual C# 2015 Visual C# 2015 Visual C# 2015 ตวั แปรแถวลำดบั ได้ 1 ข้อ ไดค้ รบทุกข้อ ได้ 3 ข้อ ได้ 2 ข้อ สามารถเขยี น โปรแกรมแบบ เขียนแผนผงั ลำดบั สามารถเขยี น สามารถเขยี น สามารถเขียน แบบแบบวนซำ้ โดยใช้ตัวแปรแถว งานแบบวนซำ้ โดยใช้ แผนผงั ลำดบั งาน แผนผังลำดบั งาน แผนผังลำดับงาน ลำดับได้ 1 ข้อ ตัวแปรแถวลำดับ แบบวนซำ้ โดยใช้ แบบวนซำ้ โดยใช้ แบบวนซำ้ โดยใช้ ตัวแปรแถวลำดบั ตวั แปรแถวลำดบั ตวั แปรแถวลำดับ ไดค้ รบทุกข้อ ได้ 3 ข้อ ได้ 2 ข้อ เขยี นโปรแกรมแบบ สามารถเขียน สามารถเขยี น สามารถเขยี น แบบแบบวนซำ้ โดย โปรแกรมแบบ โปรแกรมแบบ โปรแกรมแบบ ใชต้ วั แปรแถวลำดับ แบบแบบวนซ้ำ แบบแบบวนซ้ำ แบบแบบวนซำ้ โดยใชต้ ัวแปรแถว โดยใชต้ ัวแปรแถว โดยใชต้ วั แปรแถว ลำดบั ไดค้ รบทกุ ลำดบั ได้ 3 ข้อ ลำดบั ได้ 2 ข้อ ขอ้ เขยี นผลลพั ธจ์ ากการ สามารถเขยี น สามารถเขยี น สามารถเขียน สามารถเขยี น ผลลพั ธ์จากการ ผลลัพธ์จากการ ผลลพั ธ์จากการ แสดงการทำงาน ผลลพั ธ์จากการ แสดงการทำงาน แสดงการทำงาน แสดงการทำงาน โปรแกรมแบบวน โปรแกรมแบบวน โปรแกรมแบบวน โปรแกรมแบบวนซำ้ แสดงการทำงาน ซำ้ โดยใชต้ ัวแปร ซ้ำโดยใชต้ ัวแปร ซ้ำโดยใช้ตวั แปร แถวลำดับได้ 3 ข้อ แถวลำดบั ได้ 2 ข้อ แถวลำดบั ได้ 1 ข้อ โดยใชต้ วั แปรแถว โปรแกรมแบบวน ลำดบั ซำ้ โดยใช้ตวั แปร แถวลำดบั ได้ครบ ทกุ ข้อ
หมายเหตุ ไดร้ ะดับคะแนน 3 ขึ้นไปทุกตวั ช้วี ดั ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน 17 - 20 คะแนน 4 หมายถงึ ดีมาก 12 - 16 คะแนน 3 หมายถึง ดี 6 - 11 คะแนน 2 หมายถงึ พอใช้ 0 - 5 คะแนน 1 หมายถงึ ปรับปรงุ
แบบประเมินดา้ นทกั ษะกระบวนการ เรือ่ ง การเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำโดยใช้ตัวแปรแถวลำดบั ประเมินด้านทกั ษะกระบวนการ ผลการประเมนิ ท่ี ออกแบบจอภาพ เขียนแผนผัง เขยี นโปรแกรม เขียนผลลพั ธ์จาก ผ่าน ไม่ผา่ น โดยใช้ control ลำดับงานแบบ แบบแบบแบบ การแสดงการ วนซำ้ โดยใชต้ วั วนซำ้ โดยใชต้ วั ทำงานโปรแกรม ต่างๆ ดว้ ย แปรแถวลำดับ แปรแถวลำดบั แบบวนซ้ำโดยใช้ โปรแกรม Visual ตวั แปรแถวลำดับ C# 2015 (ลงชอื่ )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน
การประเมินดา้ นสมรรถนะที่สำคญั ของผเู้ รยี น เรอ่ื ง การเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้ โดยใช้ตัวแปรแถวลำดับ ความสามารถในการคดิ 1. มคี วามคิดสร้างสรรค์ 2. คิดอยา่ งมีวจิ ารณญาณมเี หตุผล 3. สามารถแกป้ ัญหาตา่ งๆได้อยา่ งเป็นระบบ 4. สามารถคดิ เช่อื มโยงสิง่ ท่ไี ด้เรียนรู้ เพือ่ นำไปใช้ในชวี ติ ประจำวันได้ ความสามารถในการแก้ปญั หา 1. แกป้ ญั หา และอุปสรรคท่ีพบเจอได้ 2. วเิ คราะหส์ าเหตุของปญั หาทีพ่ บเจอได้ 3. แกป้ ญั หาได้อยา่ งมีลำดบั ข้นั ตอน 4. ตัดสินใจเลอื กแนวทางการแก้ปญั หาไดอ้ ย่างชดั เจน แน่นอน และไม่สง่ ผลเสียตอ่ ผู้อ่นื ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 1. สามารถใช้เทคโนโลยใี นการค้นหาข้อมลู ได้อย่างหลากหลาย 2. ใช้เทคโนโลยโี ดยไม่ส่งผลกระทบต่อตนเอง และผู้อื่น 3. ใช้เทคโนโลยใี นการทำงานอย่างเหมะสม 4. ใชเ้ ทคโนโลยเี พอื่ พัฒนาตนเองและสงั คม
เกณฑก์ ารประเมินสมรรถนะท่ีสำคัญของผูเ้ รยี น เร่อื ง การเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำโดยใช้ตัวแปรแถวลำดบั ด้านสมรรถนะผู้เรยี น ระดับคุณภาพ ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4321 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี มีความสามารถ มคี วามสามารถ มีความสามารถ มคี วามสามารถ ในการคดิ ครบ ในการคดิ ในการคดิ ในการคดิ ทกุ ข้อ 3 ขอ้ 2 ข้อ 1 ขอ้ มีความสามารถ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มีความสามารถ ในการ ในการ ในการ ในการ แก้ปญั หาครบ แกป้ ญั หา 3 ข้อ แกป้ ัญหา 2 ข้อ แกป้ ญั หา 1 ข้อ ทกุ ข้อ มคี วามสามารถ มีความสามารถ มีความสามารถ มคี วามสามารถ ในการใช้ ในการใช้ ในการใช้ ในการใช้ เทคโนโลยคี รบ เทคโนโลยี 3 เทคโนโลยี 2 เทคโนโลยี 1 ทกุ ข้อ ขอ้ ข้อ ข้อ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คะแนน 3 ขึน้ ไปทุกตัวชี้วัด ถือว่าผ่านเกณฑก์ ารประเมิน 4 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง
แบบประเมนิ ดา้ นสมรรถนะทส่ี ำคญั ของผเู้ รียน เรื่อง การเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำโดยใชต้ ัวแปรแถวลำดบั ที่ การคดิ ประเมินด้านสมรรถนะที่สำคัญของผ้เู รียน ผลการประเมิน ผา่ น ไม่ผ่าน การแก้ปญั หา การใช้เทคโนโลยี (ลงชือ่ )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน
การประเมินดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ เร่ือง การเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้ โดยใชต้ ัวแปรแถวลำดับ ใฝเ่ รยี นรู้ 1. ศกึ ษาค้นคว้าหาความรจู้ ากหนงั สือ เอกสาร สิ่งพิมพ์ ส่ือเทคโนโลยีต่าง ๆ แหล่งเรียนร้ทู ัง้ ภายในและ ภายนอกโรงเรยี น และเลือกใชส้ อ่ื ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 2. ตั้งใจเรยี น 3. เอาใจใสแ่ ละมีความเพียรพยายามในการเรียนรู้ 4. เข้าร่วมกิจกรรมทางการเรียนรู้อย่เู สมอ มุ่งมัน่ ในการทำงาน 1. ตงั้ ใจและรับผิดชอบในงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย 2. เพียรพยายามในการทำงาน ด้วยความอดทนไม่ท้อแท้ต่ออุปสรรคท่เี กดิ ขึ้น 3. พัฒนาการทำงานของตนเองให้ดีขนึ้ เสมอ 4. เอาใจใสต่ ่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
เกณฑก์ ารด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ เร่อื ง การเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้ โดยใช้ตัวแปรแถวลำดับ ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 4 ระดับคุณภาพ 1 ใฝเ่ รยี นรู้ มคี ณุ ลกั ษณะ 32 มคี ณุ ลักษณะ อนั พึงประสงค์ มคี ุณลักษณะ มคี ุณลักษณะ อนั พึงประสงค์ มุ่งมั่นในการทำงาน ดา้ นใฝ่เรียนรู้ อนั พงึ ประสงค์ อันพงึ ประสงค์ ดา้ นใฝเ่ รยี นรู้ ครบทกุ ขอ้ ด้านใฝ่เรยี นรู้ ดา้ นใฝ่เรยี นรู้ 1 ข้อ มคี ณุ ลกั ษณะ 3 ข้อ 2 ขอ้ มีคุณลักษณะ อนั พงึ ประสงค์ มีคณุ ลักษณะ มคี ุณลักษณะ อันพงึ ประสงค์ ด้านม่งุ ม่ันใน อนั พึงประสงค์ อันพงึ ประสงค์ ดา้ นมุง่ ม่ันใน การทำงานครบ ดา้ นมุ่งมน่ั ใน ด้านมุ่งม่ันใน การทำงาน ทกุ ข้อ การทำงาน การทำงาน 1 ข้อ 3 ขอ้ 2 ข้อ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คะแนน 3 ขึน้ ไปทุกตวั ชวี้ ดั ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน 4 คะแนน หมายถึง ดีมาก 3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง
แบบประเมินดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ เร่ือง การเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำโดยใช้ตัวแปรแถวลำดบั ประเมินด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ผลการประเมิน ที่ ใฝ่เรียนรู้ ม่งุ ม่ันในการทำงาน ผ่าน ไม่ผา่ น (ลงช่ือ)……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 17 กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2563 เร่ือง การพฒั นาโครงานคอมพวิ เตอร์ วันท่ี – เดอื น พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2563 ใชเ้ วลา 2 ช่ัวโมง/คาบ 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแกปัญหาที่พบในชีวิตจรงิ อย่างเป็นขัน้ ตอนและเป็นระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สารในการเรยี นรกู้ ารทำงาน และการแกป้ ัญหาได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 2. ตวั ชีว้ ัด ว 4.2 ม. 6/1 ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในการนำเสนอและแบ่งปนั ข้อมลู อยา่ งปลอดภยั มีจรยิ ธรรม และ วิเคราะห์การเปล่ยี นแปลงเทคโนโลยีสารสนเทศทมี่ ผี ลต่อการดำเนนิ ชีวิต อาชีพ สังคมและวฒั นธรรม 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. บอกความหมายของโครงงานคอมพวิ เตอร์ (K) 2. อธิบายประเภทของโครงงานพวิ เตอร์ (K) 3. อธิบายขนั้ ตอนการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ (K) 4. สืบคน้ ตวั อย่างโครงงานคอมพิวเตอรท์ ่ีสนใจ (P) 5. นำเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ที่สนใจ ควบคู่กับการนำเสนอแนวคิดการพัฒนาโครงงานของตนเอง โดยประยุกตก์ ารเขียนโปรแกรมภาษา C# (P) 6. มีวินัย (A) 7. มคี วามใฝเ่ รียนรู้ (A) 8. มคี วามมุง่ ม่นั ในการทำงาน (A) 4. สาระสำคญั โครงงานคอมพิวเตอร์ เป็นกิจกรรมการเรียนที่นักเีรียนมีอิสระในการเลือกศึกษาปัญหาที่ตนเองสนใจ โดยจะต้องวางแผนการดำเนนิ งาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรม โดยใชค้ วามรู้ทางกระบวนการวศิ วกรรมซอฟต์แวร์ เคร่ืองคอมพิวเตอรแ์ ละอปุ กรณท์ ี่เกยี่ วข้อง ตลอดจนทกั ษะพ้ืนฐานในการพฒั นาโครงงาน 5. สาระการเรยี นรู้ 1. ความหมายของโรงงานคอมพิวเตอร์ โครงงานคอมพิวเตอร์ หมายถึง กิจกรรมการเรียนที่นักเีรียนมีอิสระในการเลือกศึกษาปัญหาท่ี ตนเองสนใจ โดยจะต้องวางแผนการดำเนินงาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรม โดยใช้ความรู้ทาง
กระบวนการวศิ วกรรมซอฟต์แวร์ เคร่อื งคอมพวิ เตอร์และอุปกรณ์ทเ่ี กี่ยวข้อง ตลอดจนทักษะพื้นฐาน ในการพัฒนาโครงงาน เรือ่ งที่นักเรียนสนใจและคิดจะทำโครงงาน ซ่ึงอาจมผี ศู้ ึกษามาก่อน หรือเป็น เร่ืองที่นักพัฒนาโปรแกรมได้เคยค้นคว้าและพัฒนาแล้ว นกั เรียนสามารถทำโครงงานเรื่องดังกล่าวได้ แต่ต้องคิดดัดแปลงแนวทางในการศึกษา การวิเคราะห์ข้อมูล การพัฒนาโปรแกรม หรือศึกษา เพิ่มเติมจากผลงานเดิมท่ีมีผู้รายงานไว้ จุดมุ่งหมายสำคัญของการทำโครงงานเป็นการเปิดโอกาสให้ นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรงในการใช้ระบบคอมพิวเตอร์แก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้า หาความรู้ต่างๆ ใช้คอมพิวเตอร์ในการพัฒนาสื่อการเรียนรู้เพื่อการศึกษา ประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ พัฒนาโปรแกรมประยุกต์ต่างๆ ตลอดจนการพัฒนาเกม คอมพิวเตอร์ เพื่อฝึกให้นักเรียนเป็นบุคคลที่ใฝ่เรียนใฝ่รู้ การพัฒนาความคิดใหม่ๆ ความมีคุณธรรม จรยิ ธรรม เออ้ื เฟ้ือเผ่ือแผ่ ให้กบั เพอื่ นมนุษย์ และอย่ใู นสงั คมอยา่ งมคี วามสขุ 2. ประเภทของโครงงานคอมพวิ เตอร์ คอมพิวเตอร์ เป็นเครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัยในทุก ๆ สาขาวิชา ดังนั้นโครงงานคอมพิวเตอร์จึงมี ความหลากหลายเป็นอย่างมาก ทั้งในลักษณะของเนื้อหา กิจกรรม และลักษณะของประโยชน์หรือ ผลงานทไ่ี ด้ ซ่ึงอาจแบ่งเปน็ ประเภทใหญ่ ๆ ได้ 5 ประเภท คอื 1) โครงงานพัฒนาสื่อเพือ่ การศึกษา (Educational Media) 2) โครงงานพัฒนาเคร่อื งมือ (Tools Development) 3) โครงงานประเภทจำลองทฤษฎี (Theory Experiment) 4) โครงงานประเภทการประยุกต์ใชง้ าน (Application) 5) โครงงานพฒั นาเกม (Game Development) 3. ขนั้ ตอนการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ โครงงานคอมพิวเตอร์เป็นกิจกรรมที่ต้องทำอย่างต่อเนื่องหลายขั้นตอน และแต่ละขั้นตอนจะมี ความสำคัญตอ่ โครงงานน้ันๆ โดยขัน้ ตอนของการทำโครงงานแบ่งได้ 6 ข้ันตอน ดังน้ี 1) การคดั เลอื กหัวขอ้ ทส่ี นใจ 2) การศกึ ษาคน้ คว้าเอกสาร 3) การจดั ทำข้อเสนอโครงงาน 4) การพฒั นาโครงงาน 5) การจดั ทำรายงาน 6) การนำเสนอและเผยแพร่ 6. ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มุ่งม่ันในการทำงาน
7. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นำเขา้ สู่บทเรียน (15 นาที) 1. ครูกล่าวทักทายนกั เรยี น 2. ครูส่มุ ถามนกั เรียน จำนวน 3 คน เพอื่ ใหบ้ อกเรอื่ งที่เรียนมาในคาบเรยี นท่ผี ่านมา 3. ครแู จง้ ส่งิ ทจี่ ะได้เรยี นในคาบเรียนน้ี ขั้นกิจกรรมการเรียนการสอน (1 ช่วั โมง 25 นาที) 4. นักเรียนแบ่งกลุ่มแบบคละโดยการนบั เลข กลุ่มละ 4 คน สืบค้นความหมาย ประเภท ขั้นตอนการ พัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ และตัวอย่างโครงงานคอมพิวเตอร์ทีสนใจ ทั้งจากหนังสือ อิเลก็ ทรอนิกส์ หนว่ ยที่ 6 บทท่ี 1 การพฒั นาโครงงานคอมพิวเตอร์ หรอื แหลง่ ความรู้อืน่ ๆ 5. นักเรียนสรุปความหมาย ประเภท ขั้นตอนการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ และโครงงาน คอมพิวเตอร์ท่ีสนใจ ควบคู่กับการนำเสนอแนวคิดการพัฒนาโครงงานของตนเองโดยประยกุ ต์การ เขยี นโปรแกรมภาษา C# ลงในฟลิปชารท์ และนำเสนอหน้าชั้นเรยี น 6. ครูอธิบายความหมาย ประเภท และขั้นตอนการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ แบบบรรยายโดยใช้ สอ่ื PowerPoint ขนั้ สรุป (20 นาที) 7. นักเรยี นและครูร่วมกนั สรปุ สง่ิ ท่ไี ดเ้ รียนในคาบเรียนน้ี 1) ความหมายของโรงงานคอมพิวเตอร์ โครงงานคอมพิวเตอร์ หมายถึง กิจกรรมการเรียนที่นักเีรียนมีอิสระในการเลือกศึกษา ปัญหาที่ตนเองสนใจ โดยจะต้องวางแผนการดำเนินงาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรม โดยใช้ความรู้ ทางกระบวนการวิศวกรรมซอฟต์แวร์ เครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตลอดจน ทักษะพื้นฐานในการพัฒนาโครงงาน เรื่องที่นักเรียนสนใจและคิดจะทำโครงงาน ซึ่งอาจมีผู้ ศึกษามาก่อน หรือเป็นเรื่องที่นักพัฒนาโปรแกรมได้เคยค้นคว้าและพัฒนาแล้ว นักเรียน สามารถทำโครงงานเรื่องดังกล่าวได้ แต่ต้องคิดดัดแปลงแนวทางในการศึกษา การวิเคราะห์ ข้อมูล การพัฒนาโปรแกรม หรือศึกษาเพิ่มเติมจากผลงานเดิมที่มีผู้รายงานไว้ จุดมุ่งหมาย สำคญั ของการทำโครงงานเปน็ การเปดิ โอกาสให้นักเรียนไดร้ ับประสบการณ์ตรงในการใช้ระบบ คอมพิวเตอร์แก้ปัญหา ประดิษฐ์คิดค้น หรือค้นคว้าหาความรู้ต่างๆ ใช้คอมพิวเตอร์ในการ พัฒนาสื่อการเรียนรู้เพื่อการศึกษา ประดิษฐ์ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรืออุปกรณ์ใช้สอยต่างๆ พัฒนาโปรแกรมประยุกต์ต่างๆ ตลอดจนการพัฒนาเกมคอมพิวเตอร์ เพื่อฝึกให้นักเรียนเป็น
บุคคลทใ่ี ฝ่เรียนใฝ่รู้ การพฒั นาความคิดใหม่ๆ ความมคี ณุ ธรรมจริยธรรม เออื้ เฟ้อื เผ่ือแผ่ ให้กับ เพอ่ื นมนุษย์ และอยู่ในสังคมอยา่ งมีความสขุ 2) ประเภทของโครงงานคอมพิวเตอร์ คอมพวิ เตอร์ เปน็ เครือ่ งมือท่ีใช้ในงานวิจัยในทุก ๆ สาขาวชิ า ดังนั้นโครงงานคอมพิวเตอร์ จึงมีความหลากหลายเป็นอย่างมาก ทั้งในลักษณะของเนื้อหา กิจกรรม และลักษณะของ ประโยชน์หรอื ผลงานท่ไี ด้ ซงึ่ อาจแบง่ เป็นประเภทใหญ่ ๆ ได้ 5 ประเภท คอื - โครงงานพฒั นาส่ือเพ่อื การศกึ ษา (Educational Media) - โครงงานพฒั นาเครื่องมือ (Tools Development) - โครงงานประเภทจำลองทฤษฎี (Theory Experiment) - โครงงานประเภทการประยกุ ต์ใช้งาน (Application) - โครงงานพฒั นาเกม (Game Development) 3) ขนั้ ตอนการพฒั นาโครงงานคอมพวิ เตอร์ โครงงานคอมพิวเตอรเ์ ป็นกิจกรรมทตี่ ้องทำอย่างต่อเน่ืองหลายขั้นตอน และแต่ละข้ันตอน จะมคี วามสำคญั ต่อโครงงานนน้ั ๆ โดยข้นั ตอนของการทำโครงงานแบง่ ได้ 6 ขน้ั ตอน ดังน้ี - การคัดเลอื กหวั ข้อท่สี นใจ - การศึกษาค้นคว้าเอกสาร - การจัดทำขอ้ เสนอโครงงาน - การพฒั นาโครงงาน - การจดั ทำรายงาน - การนำเสนอและเผยแพร่ 9. สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ 9.1 สือ่ การเรยี นรู้ 1) หนังสอื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ หน่วยที่ 6 บทที่ 1 การพฒั นาโครงงานคอมพิวเตอร์ (ลิงค์ https://qrgo.page.link/5CgLt) 2) สไลด์ PowerPoint เรอ่ื ง ความหมาย ประเภท และข้นั ตอนการพฒั นาโครงงานคอมพวิ เตอร์ 9.2 แหล่งการเรยี นรู้ อนิ เทอรเ์ น็ต
10. การวดั ผลและประเมินผล 10.1 การวดั ผล จุดประสงค์การเรยี นรู้ วิธกี ารวดั เครื่องมือ เกณฑก์ ารให้คะแนน 1. บอกความหมายของ วัดโดยการตรวจสรุป สรุปความรู้ ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 60 โครงงานคอมพวิ เตอร์ ความรู้เรื่องความหมาย (K) ข อ ง โ ค ร ง ง า น คอมพิวเตอร์ 2. อธิบายประเภทของ วัดโดยการตรวจสรุป สรปุ ความรู้ ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 60 โครงงานพวิ เตอร์ (K) ความรู้เรื่องความหมาย ของโครงงาน คอมพวิ เตอร์ 3. อธิบายข้ันตอนการ วัดโดยการตรวจสรุป สรปุ ความรู้ ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 60 พฒั นาโครงงาน ความรู้เรื่องความหมาย คอมพิวเตอร์ (K) ของโครงงาน คอมพวิ เตอร์ 4. สืบค้นตัวอย่าง วัดโดยการสังเกตการ แบบประเมินท ั ก ษ ะ ระดบั คุณภาพ 3 โครงงานคอมพวิ เตอร์ที่ สืบค้นตัวอย่างโครงงาน กระบวนการ ผา่ นเกณฑ์ สนใจ (P) คอมพวิ เตอร์ท่สี นใจ 5. นำเสนอโครงงาน วัดโดยการสังเกตการ แบบประเมินท ั ก ษ ะ ระดบั คณุ ภาพ 3 คอมพวิ เตอร์ที่สนใจ ควบคู่กับการนำเสนอ น ำ เ ส น อ โ ค ร ง ง า น กระบวนการ ผา่ นเกณฑ์ แนวคิดการพฒั นา โครงงานของตนเองโดย คอมพิวเตอร์ที่สนใจ ประยุกต์การเขียน โปรแกรมภาษา C# (P) ควบคู่กับการนำเสนอ 6. มีวนิ ัย (A) แนวคิดการพัฒนา โครงงานของตนเองโดย ประยุกต์การเขียน โปรแกรมภาษา C# วัดโดยการสังเกตความมี แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 3 วินยั คณุ ลักษณะอนั พงึ ผ่านเกณฑ์ ประสงค์
7. มีความใฝเ่ รียนรู้ (A) วัดโดยการสังเกตความ แบบประเมนิ ระดับคณุ ภาพ 3 ผา่ นเกณฑ์ 8. มีความมุ่งมั่นในการ ใฝเ่ รยี นรู้ คุณลกั ษณะอนั พึง ทำงาน (A) ระดับคุณภาพ 3 ประสงค์ ผ่านเกณฑ์ สมรรถนะสำคัญของ ผูเ้ รยี น วัดโดยการสังเกตความ แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 3 1. ความสามารถในการ ผา่ นเกณฑ์ คดิ ม่งุ ม่นั ในการทำงาน คณุ ลกั ษณะอันพงึ 2. ความสามารถในการ แกป้ ัญหา ประสงค์ 3. ความสามารถในการ ใชเ้ ทคโนโลยี วดั โดยการสงั เกต แบบประเมินสมรรถนะ สมรรถนะสำคัญของ สำคญั ของผเู้ รยี น ผ้เู รียน คณุ ลกั ษณะอนั พึง วดั โดยการสงั เกต แบบประเมิน ระดบั คณุ ภาพ 3 ประสงค์ คุณลกั ษณะอนั พึง คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ผา่ นเกณฑ์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ ประสงค์ ประสงค์ 2. มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 10.2 เกณฑก์ ารประเมนิ 1) ด้านความรู้ สรุปความรู้ (15 คะแนน) 12 - 15 คะแนน หมายถงึ ดมี าก 9 – 11 คะแนน หมายถึง ดี 6 - 8 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0 – 5 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง หมายเหตุ ด้านความรเู้ กณฑผ์ า่ น ร้อยละ 60 ทุกประเด็นการประเมิน
2) ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ได้ระดบั คุณภาพ 3 ขึ้นไปทุกตัวชว้ี ดั ถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน 3) ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 3 ขึ้นไปทุกตัวชวี้ ัด ถือว่าผา่ นเกณฑ์การประเมิน 4) ด้านสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 3 ขึ้นไปทุกตวั ชว้ี ัด ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ
11. ข้อเสนอแนะ ใชส้ อนได้ ควรปรบั ปรงุ ………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………..………………………………………………… ………………………………………………………………………………………..…………..…………………………………… ลงช่ือ………..…………………….………………….…….. () ครูพี่เล้ียง วันท.ี่ .......เดือน..................พ.ศ............
12. บันทึกหลังการจดั การเรยี นรู้ 1) ผลท่ีเกดิ ขึ้นแก่ผูเ้ รยี น ดา้ นความรู้ จำนวนนกั เรยี นทผ่ี ่านเกณฑ์......................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ....................... จำนวนนกั เรียนที่ไมผ่ ่านเกณฑ.์ .................คน คิดเปน็ ร้อยละ....................... ดา้ นทักษะกระบวนการ จำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ.์ .....................คน คดิ เปน็ ร้อยละ....................... จำนวนนกั เรียนทีไ่ ม่ผา่ นเกณฑ.์ .................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ....................... ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ จำนวนนักเรียนที่ผ่านเกณฑ.์ .....................คน คิดเป็นร้อยละ....................... จำนวนนกั เรียนที่มาผ่านเกณฑ์..................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ....................... ด้านสมรรถนะผูเ้ รยี น จำนวนนักเรยี นท่ีผา่ นเกณฑ์......................คน คดิ เปน็ ร้อยละ....................... จำนวนนักเรยี นท่มี าผ่านเกณฑ์..................คน คิดเป็นร้อยละ....................... 2) ปัญหาและอปุ สรรค …………………………………………………………………………………………………………………….……………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 3) แนวทางการแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………….……………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. (ลงชือ่ )……………………………….……………. (......................................................) ผู้สอน
13. ความเห็นของหัวหนา้ กลมุ่ สาระ/สายชน้ั …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชื่อ)……………………………….……………. (......................................................) หวั หน้ากลมุ่ สาระ/สายชนั้ วนั ท่ี........เดือน..............พ.ศ............ 14. ความเห็นของฝ่ายวิชาการ …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอื่ )……………………………….……………. (......................................................) ฝ่ายวชิ าการ วันที่........เดือน..............พ.ศ............ 15. ความเห็นของผู้อำนวยการโรงเรยี น …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอ่ื )……………………………….……………. (......................................................) ผอู้ ำนวยการโรงเรียน วันที่........เดอื น..............พ.ศ............
การประเมนิ ดา้ นความรู้ เรื่อง การพัฒนาโครงานคอมพวิ เตอร์ บอกความหมายของโครงงานคอมพิวเตอร์ 1. กจิ กรรมการเรยี นทน่ี ักเรี ยี นมีอิสระในการเลือกศึกษาปญั หาท่ีตนเองสนใจ 2. ต้องวางแผนการดำเนินงาน ศึกษา พัฒนาโปรแกรม โดยใช้ความรูท้ างกระบวนการวศิ วกรรม ซอฟตแ์ วร์ เครื่องคอมพวิ เตอรแ์ ละอุปกรณ์ท่เี ก่ียวข้อง ตลอดจนทักษะพ้ืนฐานในการพฒั นาโครงงาน 3. เป็นเรื่องทีน่ ักเรยี นสนใจและคดิ จะทำโครงงาน ซ่ึงอาจมผี ศู้ ึกษามาก่อน หรอื เปน็ เรื่องทน่ี ักพัฒนา โปรแกรมไดเ้ คยคน้ ควา้ และพัฒนาแล้ว 4. การทำโครงงานเป็นการเปิดโอกาสให้ได้รบั ประสบการณ์ตรงในการใช้ระบบคอมพวิ เตอรแ์ ก้ปญั หา ประดิษฐ์คดิ คน้ หรอื ค้นคว้าหาความรูต้ า่ งๆ 5. เปน็ การใช้คอมพวิ เตอรใ์ นการพฒั นาสอื่ การเรยี นรูเ้ พื่อการศึกษา ประดษิ ฐฮ์ าร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรอื อปุ กรณ์ใช้สอยต่างๆ พฒั นาโปรแกรมประยกุ ตต์ ่างๆ ตลอดจนการพฒั นาเกมคอมพิวเตอร์ อธิบายประเภทของโครงงานพวิ เตอร์ 1. อธิบายโครงงานพฒั นาส่อื เพือ่ การศึกษาได้ 2. อธิบายโครงงานพฒั นาเคร่ืองมือได้ 3. อธบิ ายโครงงานประเภทจำลองทฤษฎีได้ 4. อธิบายโครงงานประเภทการประยกุ ตใ์ ชง้ านได้ 5. อธบิ ายโครงงานพฒั นาเกมได้ อธบิ ายข้ันตอนการพัฒนาโครงงานคอมพิวเตอร์ 1. อธบิ ายการคัดเลือกหัวข้อทส่ี นใจได้ 2. อธิบายการศึกษาค้นควา้ เอกสารได้ 3. อธบิ ายการจดั ทำข้อเสนอโครงงานได้ 4. อธิบายการพัฒนาโครงงานได้ 5. อธบิ ายการจัดทำรายงาน นำเสนอ และเผยแพร่ได้
เกณฑ์การประเมินคุณภาพดา้ นความรู้ เรอ่ื ง การพัฒนาโครงานคอมพิวเตอร์ ด้านความรู้ 5 4 ระดบั คะแนน 1 บอกความหมาย สามารถ สามารถ บอก 32 สามารถ บอก ของโครงงาน บอก ความหมาย ความหมาย คอมพิวเตอร์ ความหมาย ของโครงงาน สามารถ บอก สามารถ บอก ของโครงงาน ของ คอมพิวเตอร์ ความหมาย ความหมาย คอมพวิ เตอร์ อธบิ ายประเภท โครงงาน ได้ 4 ข้อ ของโครงงาน ของโครงงาน ได้ 1 ข้อ ของโครงงานพิว คอมพิวเตอร์ คอมพิวเตอร์ คอมพวิ เตอร์ เตอร์ ได้ครบทุก สามารถ ได้ 3 ข้อ ได้ 2 ข้อ สามารถ ขอ้ อธบิ าย อธบิ าย อธิบายขน้ั ตอน สามารถ ประเภทของ สามารถ สามารถ ประเภทของ การพฒั นา อธบิ าย โครงงานพวิ อธบิ าย อธบิ าย โครงงานพิว โครงงาน ประเภทของ เตอร์ได้ 4 ขอ้ ประเภทของ ประเภทของ เตอร์ได้ 1 ข้อ คอมพิวเตอร์ โครงงานพิว โครงงานพิว โครงงานพิว เตอร์ได้ครบ สามารถ เตอร์ได้ 3 ขอ้ เตอร์ได้ 2 ข้อ สามารถ ทุกข้อ อธิบายขนั้ ตอน อธิบายข้นั ตอน สามารถ การพฒั นา สามารถ สามารถ การพฒั นา อธิบาย โครงงาน อธิบายขัน้ ตอน อธิบายขนั้ ตอน โครงงาน ขัน้ ตอนการ คอมพิวเตอร์ การพัฒนา การพฒั นา คอมพิวเตอร์ พัฒนา ได้ 4 ข้อ โครงงาน โครงงาน ได้ 1 ข้อ โครงงาน คอมพวิ เตอร์ คอมพวิ เตอร์ คอมพวิ เตอร์ ได้ 3 ข้อ ได้ 2 ข้อ ได้ครบทุก ข้อ เกณฑก์ ารประเมิน 12 - 15 คะแนน หมายถงึ ดมี าก 9 – 11 คะแนน หมายถึง ดี 6 - 8 คะแนน หมายถงึ พอใช้ ต่ำกว่า 6 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรงุ
แบบบันทึกการประเมนิ ดา้ นความรู้ เรอื่ ง การพฒั นาโครงานคอมพิวเตอร์ เลขที่ สรปุ ความรู้ ร้อยละ ผลการประเมนิ (15 คะแนน) ผ่าน ไม่ผ่าน หมายเหตุ 1. สรุปความรู้ เกณฑผ์ ่านร้อยละ 60 (ลงชอ่ื )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน
การประเมนิ ด้านทักษะกระบวนการ เร่อื ง การพฒั นาโครงานคอมพวิ เตอร์ สืบค้นตัวอย่างโครงงานคอมพวิ เตอรท์ ีส่ นใจ 1. สืบค้น และสรปุ เน้อื หาได้อย่างถกู ต้องสมบูรณ์ 2. ลำดับข้นั ตอนการสรปุ อย่างเป็นระบบ เปน็ ข้นั ตอน 3. ใชง้ านเทคโนโลยี โดยไม่สง่ ผลเสีย หรือผลกระทบต่อผูอ้ ่ืน 4. นำความรู้ท่ีได้มาเสนอในกล่มุ และมสี ว่ นร่วมในการตรวจสอบขอ้ มลู ทไ่ี ดม้ าของเพื่อนในกลมุ่ นำเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ที่สนใจ ควบคกู่ ับการนำเสนอแนวคิดการพฒั นาโครงงานของตนเองโดย ประยกุ ตก์ ารเขียนโปรแกรมภาษา C# 1. โครงงานคอมพิวเตอรท์ ี่นำเสนอมคี วามน่าสนใจ เหมาะสมกับผเู้ รยี น 2. โครงงานของตนเองมีความเปน็ ไปได้ในการพัฒนา 3. คำนงึ ถงึ ความสามารถของโปรแกรม ตอ่ การพฒั นาโครงงานของตนเอง 4. โครงการทส่ี นใจมคี วามคล้าย หรือสอดคลา้ ยสอด สำหรับเปน็ ประโยชน์ตอ่ การพัฒนาโครงงานของ ตนเอง
เกณฑก์ ารประเมินคณุ ภาพดา้ นทกั ษะกระบวนการ เรอ่ื ง การพัฒนาโครงานคอมพิวเตอร์ ด้านทกั ษะ 4 ระดับคะแนน 1 กระบวนการ สามารถสืบค้น 32 สามารถสืบค้น สืบคน้ ตวั อย่าง ตัวอย่างโครงงาน สามารถสืบคน้ สามารถสืบคน้ ตัวอยา่ งโครงงาน โครงงาน คอมพิวเตอร์ที่ ตวั อยา่ งโครงงาน ตัวอย่างโครงงาน คอมพวิ เตอร์ที่ คอมพวิ เตอร์ทีส่ นใจ สนใจได้ ครบทุก คอมพวิ เตอร์ท่ี คอมพิวเตอร์ท่ี สนใจได้ 1 ข้อ ข้อ สนใจได้ 3 ข้อ สนใจได้ 2 ข้อ นำเสนอโครงงาน สามารถนำเสนอ สามารถนำเสนอ คอมพิวเตอร์ทสี่ นใจ โครงงาน สามารถนำเสนอ สามารถนำเสนอ โครงงาน ควบค่กู ับการ คอมพวิ เตอร์ท่ี คอมพิวเตอร์ท่ี นำเสนอแนวคดิ การ สนใจ ควบค่กู ับ โครงงาน โครงงาน สนใจ ควบค่กู ับ พฒั นาโครงงานของ การนำเสนอ การนำเสนอ ตนเองโดยประยุกต์ แนวคิดการพัฒนา คอมพวิ เตอร์ท่ี คอมพิวเตอร์ที่ แนวคิดการพฒั นา การเขียนโปรแกรม โครงงานของ โครงงานของ ภาษา C# ตนเองโดย สนใจ ควบคูก่ ับ สนใจ ควบคกู่ ับ ตนเองโดย ประยุกต์การเขียน ประยกุ ต์การเขียน โปรแกรมภาษา การนำเสนอ การนำเสนอ โปรแกรมภาษา C# ได้ ครบทกุ ขอ้ C# ได้ 1 ขอ้ แนวคดิ การพัฒนา แนวคดิ การพฒั นา โครงงานของ โครงงานของ ตนเองโดย ตนเองโดย ประยุกต์การเขยี น ประยกุ ต์การเขียน โปรแกรมภาษา โปรแกรมภาษา C# ได้ 3 ข้อ C# ได้ 2 ข้อ หมายเหตุ ไดร้ ะดับคะแนน 3 ขน้ึ ไปทุกตัวช้วี ดั ถอื วา่ ผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ 9 - 10 คะแนน 4 หมายถงึ ดีมาก 6 – 8 คะแนน 3 หมายถึง ดี 4 - 5 คะแนน 2 หมายถงึ พอใช้ 0 - 3 คะแนน 1 หมายถึง ปรับปรุง
แบบประเมนิ ดา้ นทักษะกระบวนการ เรือ่ ง การพัฒนาโครงานคอมพวิ เตอร์ ประเมินดา้ นทกั ษะกระบวนการ ผลการประเมนิ ผ่าน ไมผ่ า่ น นำเสนอโครงงานคอมพิวเตอร์ท่ี ท่ี สบื คน้ ตวั อย่างโครงงานคอมพิวเตอร์ สนใจ ควบคู่กับการนำเสนอ ทส่ี นใจ แนวคดิ การพฒั นาโครงงานของ ตนเองโดยประยกุ ตก์ ารเขยี น โปรแกรมภาษา C# (ลงช่อื )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน
การประเมนิ ด้านสมรรถนะที่สำคัญของผูเ้ รยี น เรื่อง การพัฒนาโครงานคอมพิวเตอร์ ความสามารถในการคิด 1. มีความคิดสร้างสรรค์ 2. คิดอยา่ งมวี ิจารณญาณมเี หตผุ ล 3. สามารถแกป้ ญั หาต่างๆได้อยา่ งเป็นระบบ 4. สามารถคิดเช่อื มโยงสิ่งทไ่ี ด้เรยี นรู้ เพื่อนำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั ได้ ความสามารถในการแก้ปญั หา 1. แก้ปัญหา และอุปสรรคท่ีพบเจอได้ 2. วเิ คราะห์สาเหตุของปัญหาทพ่ี บเจอได้ 3. แก้ปญั หาได้อย่างมีลำดับ ขนั้ ตอน 4. ตัดสนิ ใจเลือกแนวทางการแกป้ ัญหาไดอ้ ย่างชดั เจน แนน่ อน และไม่สง่ ผลเสยี ต่อผู้อ่ืน ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 1. สามารถใชเ้ ทคโนโลยใี นการคน้ หาข้อมลู ได้อย่างหลากหลาย 2. ใช้เทคโนโลยโี ดยไม่สง่ ผลกระทบต่อตนเอง และผู้อ่นื 3. ใช้เทคโนโลยใี นการทำงานอยา่ งเหมะสม 4. ใชเ้ ทคโนโลยเี พื่อพฒั นาตนเองและสังคม
เกณฑ์การประเมนิ สมรรถนะที่สำคัญของผ้เู รยี น เร่ือง การพัฒนาโครงานคอมพวิ เตอร์ ดา้ นสมรรถนะผู้เรียน ระดบั คณุ ภาพ ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแกป้ ัญหา 4321 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี มีความสามารถ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ ในการคิดครบ ในการคดิ ในการคดิ ในการคิด ทุกข้อ 3 ขอ้ 2 ขอ้ 1 ขอ้ มคี วามสามารถ มีความสามารถ มีความสามารถ มีความสามารถ ในการ ในการ ในการ ในการ แก้ปัญหา ครบ แก้ปญั หา แก้ปัญหา แกป้ ัญหา ทกุ ข้อ 3 ขอ้ 2 ขอ้ 1 ขอ้ มคี วามสามารถ มีความสามารถ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ ในการใช้ ในการใช้ ในการใช้ ในการใช้ เทคโนโลยี เทคโนโลยี เทคโนโลยี เทคโนโลยี ครบทกุ ข้อ 3 ขอ้ 2 ข้อ 1 ข้อ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คะแนน 3 ขน้ึ ไปทุกตัวช้ีวัด ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน 4 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง
แบบประเมินดา้ นสมรรถนะท่ีสำคัญของผ้เู รยี น เรือ่ ง การพฒั นาโครงานคอมพวิ เตอร์ ท่ี การคดิ ประเมนิ ด้านสมรรถนะท่ีสำคัญของผเู้ รยี น ผลการประเมนิ การสอื่ สาร การใช้เทคโนโลยี ผา่ น ไม่ผ่าน (ลงช่อื )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน
การประเมินดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เรื่อง การพัฒนาโครงานคอมพิวเตอร์ มวี นิ ัย 1. ปฏิบตั ิตนตามกฎระเบียบของครอบครัวโรงเรยี น ชุมชน และสงั คม 2. ตรงตอ่ เวลา และรูจ้ กั กาลเทศะ 3. เคารพในสิทธขิ องผู้อ่นื 4. ยอมรบั การกระทำของตนเอง ใฝเ่ รยี นรู้ 1. ศกึ ษาคน้ คว้าหาความรู้จากหนังสอื เอกสาร สง่ิ พิมพ์ ส่อื เทคโนโลยีต่าง ๆ แหล่งเรยี นรทู้ ัง้ ภายในและ ภายนอกโรงเรียน และเลือกใชส้ ่ือไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 2. ตงั้ ใจเรยี น 3. เอาใจใสแ่ ละมคี วามเพียรพยายามในการเรียนรู้ 4. เขา้ รว่ มกิจกรรมทางการเรียนรอู้ ยู่เสมอ มุ่งม่ันในการทำงาน 1. ตั้งใจและรบั ผิดชอบในงานทีไ่ ด้รับมอบหมาย 2. เพียรพยายามในการทำงาน ด้วยความอดทนไม่ท้อแทต้ ่ออปุ สรรคทเี่ กดิ ข้ึน 3. พัฒนาการทำงานของตนเองให้ดีขน้ึ เสมอ 4. เอาใจใส่ต่อหน้าทท่ี ่ีไดร้ ับมอบหมาย
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443