Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาการเขียนโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์

แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาการเขียนโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์

Published by nopparat_suayworks, 2020-06-27 22:27:54

Description: -

Search

Read the Text Version

2) ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ได้ระดบั คุณภาพ 3 ขึ้นไปทุกตัวชว้ี ัด ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ 3) ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 3 ขึ้นไปทุกตัวชว้ี ัด ถือว่าผา่ นเกณฑ์การประเมนิ 4) ด้านสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 3 ขึ้นไปทุกตวั ชว้ี ัด ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน

11. ข้อเสนอแนะ  ใชส้ อนได้  ควรปรบั ปรงุ ………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………..………………………………………………… ………………………………………………………………………………………..…………..…………………………………… ลงช่ือ………..…………………….………………….…….. () ครพู เี่ ล้ียง วันที่........เดือน..................พ.ศ............

12. บันทึกหลังการจัดการเรยี นรู้ 1) ผลท่ีเกิดขึน้ แก่ผเู้ รยี น ดา้ นความรู้ จำนวนนกั เรยี นทผี่ า่ นเกณฑ์......................คน คดิ เป็นร้อยละ....................... จำนวนนักเรยี นท่ีไมผ่ า่ นเกณฑ์..................คน คิดเป็นรอ้ ยละ....................... ดา้ นทักษะกระบวนการ จำนวนนกั เรยี นที่ผ่านเกณฑ.์ .....................คน คดิ เป็นร้อยละ....................... จำนวนนกั เรยี นทไ่ี ม่ผา่ นเกณฑ.์ .................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ....................... ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ จำนวนนักเรียนที่ผา่ นเกณฑ.์ .....................คน คิดเป็นรอ้ ยละ....................... จำนวนนกั เรียนที่มาผ่านเกณฑ์..................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ....................... ด้านสมรรถนะผูเ้ รยี น จำนวนนักเรียนทผ่ี า่ นเกณฑ.์ .....................คน คิดเป็นร้อยละ....................... จำนวนนกั เรยี นที่มาผ่านเกณฑ์..................คน คดิ เป็นร้อยละ....................... 2) ปัญหาและอุปสรรค …………………………………………………………………………………………………………………….……………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 3) แนวทางการแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………….……………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. (ลงชื่อ)……………………………….……………. (......................................................) ผสู้ อน

13. ความเห็นของหัวหนา้ กลมุ่ สาระ/สายชน้ั …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชื่อ)……………………………….……………. (......................................................) หวั หน้ากลมุ่ สาระ/สายชนั้ วนั ท่ี........เดือน..............พ.ศ............ 14. ความเห็นของฝ่ายวิชาการ …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอื่ )……………………………….……………. (......................................................) ฝ่ายวชิ าการ วันที่........เดือน..............พ.ศ............ 15. ความเห็นของผู้อำนวยการโรงเรยี น …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอ่ื )……………………………….……………. (......................................................) ผอู้ ำนวยการโรงเรียน วันที่........เดอื น..............พ.ศ............

การประเมนิ ดา้ นความรู้ เรื่อง การเขยี นโปรแกรมแบบมีเงื่อนไขดว้ ยคำสั่ง for อธิบายความหมาย และรูปแบบการเขยี นโปรแกรมแบบมีเงอื่ นไข (for) 1. คำสง่ั for เป็นคำส่ังทีส่ ่งั ให้ประมวลผลคำส่ัง หรอื ชดุ คำสงั่ วนซำ้ ได้หลายรอบ 2. กำหนดจำนวนรอบให้การวนซำ้ ท่แี นน่ อน 3. นิพจน์แรกใช้กำหนดคา่ เริ่มต้นใหก้ ับตวั แปรทจี่ ะใช้วนลปู 4. นิพจน์สองใช้ทดสอบเง่ือนไข ซ่งึ จะมีค่าจรงิ หรอื เท็จอย่างใดอย่างหนงึ่ เท่านัน้ 5. นิพจน์สามใช้เพ่ิมหรอื ลดคา่ ตัวแปรทจ่ี ะใชว้ นลปู วเิ คราะหโ์ จทย์ปัญหาท่ีมีเงื่อนไข (for) 1. วิเคราะห์โจทย์ปญั หาท่ีมีเงื่อนไขได้ถูกตอ้ งเหมาะสม 1 ข้อ 2. วิเคราะห์โจทย์ปัญหาที่มเี ง่ือนไขได้ถูกตอ้ งเหมาะสม 2 ข้อ 3. วิเคราะห์โจทยป์ ญั หาที่มเี ง่ือนไขได้ถูกต้องเหมาะสม 3 ข้อ 4. วเิ คราะห์โจทยป์ ัญหาท่ีมเี ง่ือนไขไดถ้ กู ต้องเหมาะสม 4 ข้อ 5. วิเคราะห์โจทยป์ ัญหาท่ีมีเง่ือนไขไดถ้ กู ต้องเหมาะสม 5 ข้อ

เกณฑ์การประเมนิ คุณภาพด้านความรู้ เรื่อง การเขียนโปรแกรมแบบมีเง่ือนไขด้วยคำสง่ั for ด้านความรู้ ระดับคะแนน 54 3 2 1 อธิบาย สามารถ สามารถ สามารถ สามารถ สามารถ ความหมาย และ อธบิ าย อธิบาย อธบิ าย อธิบาย อธบิ าย รปู แบบการเขียน โครงสร้าง โครงสร้างการ โครงสร้างการ โครงสรา้ งการ โครงสร้างการ โปรแกรมแบบมี การเขยี น เขยี นโปรแกรม เขียนโปรแกรม เขยี นโปรแกรม เขียนโปรแกรม เงื่อนไข (for) โปรแกรม แบบมเ้ี ง่ือนไข แบบมเ้ี งื่อนไข แบบมเี้ ง่ือนไข แบบมีเ้ งื่อนไข แบบม้ี (for) ได้ 4 ขอ้ (for) ได้ 3 ขอ้ (for) ได้ 2 ข้อ (for) ได้ 1 ขอ้ เงอื่ นไข (for) ได้ครบ ทกุ ข้อ วเิ คราะหโ์ จทย์ สามารถ สามารถ สามารถ สามารถ สามารถ ปัญหาที่มี วเิ คราะห์ วิเคราะห์โจทย์ วิเคราะห์โจทย์ วิเคราะหโ์ จทย์ วเิ คราะหโ์ จทย์ เง่ือนไข (for) โจทยป์ ญั หา ปญั หาทมี่ ี ปญั หาทม่ี ี ปัญหาทมี่ ี ปญั หาท่ีมี ทมี่ ีเงื่อนไข เงือ่ นไข (for) เงือ่ นไข (for) เง่อื นไข (for) เงือ่ นไข (for) (for) ไดค้ รบ ได้ 4 ข้อ ได้ 3 ข้อ ได้ 2 ข้อ ได้ 1 ข้อ ทุกข้อ เกณฑก์ ารประเมิน 9 - 10 คะแนน หมายถึง ดมี าก 6 - 8 คะแนน หมายถึง ดี 4 - 5 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0 – 3 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง

แบบบันทึกการประเมินดา้ นความรู้ เร่อื ง การเขียนโปรแกรมแบบมเี งื่อนไขดว้ ยคำสัง่ for เลขที่ ใบกิจกรรม รอ้ ยละ ผลการประเมนิ (10 คะแนน) ผ่าน ไม่ผา่ น หมายเหตุ 1. ใบกจิ กรรม เกณฑผ์ า่ นร้อยละ 60 (ลงชื่อ)……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน

การประเมนิ ดา้ นทักษะกระบวนการ เร่อื ง การเขยี นโปรแกรมแบบมเี งื่อนไขด้วยคำส่งั for ออกแบบจอภาพโดยใช้ control ต่างๆ ด้วยโปรแกรม Visual C# 2015 1. ออกแบบจอภาพโดยใช้ control ตา่ งๆด้วยโปรแกรม VisualC# 2015 ได้ถูกต้องและเหมาะสม 1 ข้อ 2. ออกแบบจอภาพโดยใช้ control ตา่ งๆด้วยโปรแกรม VisualC# 2015 ได้ถูกต้องและเหมาะสม 2 ข้อ 3. ออกแบบจอภาพโดยใช้ control ต่างๆดว้ ยโปรแกรม VisualC# 2015 ได้ถูกต้องและเหมาะสม 3 ข้อ 4. ออกแบบจอภาพโดยใช้ control ตา่ งๆดว้ ยโปรแกรม VisualC# 2015 ได้ถูกตอ้ งและเหมาะสม 4 ข้อ 5. ออกแบบจอภาพโดยใช้ control ต่างๆดว้ ยโปรแกรม VisualC# 2015 ไดถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสม 5 ข้อ เขียนโปรแกรมแบบมีเง่ือนไข (for) 1. เขยี นโปรแกรมแบบมเี งื่อนไข (for) ได้ถกู ตอ้ งและเหมาะสม 1 ขอ้ 2. เขียนโปรแกรมแบบมีเง่ือนไข (for) ได้ถกู ต้องและเหมาะสม 2 ขอ้ 3. เขียนโปรแกรมแบบมเี ง่ือนไข (for) ไดถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสม 3 ข้อ 4. เขียนโปรแกรมแบบมเี งื่อนไข (for) ไดถ้ ูกต้องและเหมาะสม 4 ข้อ 5. เขียนโปรแกรมแบบมีเงื่อนไข (for) ได้ถูกต้องและเหมาะสม 5 ขอ้ เขยี นผลลัพธท์ ไี่ ดจ้ ากการแสดงการทำงานโปรแกรมแบบมเี งอ่ื นไข (for) 1. เขยี นผลลพั ธท์ ่ีไดจ้ ากการแสดงการทำงานโปรแกรมแบบมีเงอื่ นไข (for) ได้ถกู ต้อง 1 ข้อ 2. เขียนผลลพั ธ์ที่ไดจ้ ากการแสดงการทำงานโปรแกรมแบบมเี งอ่ื นไข (for) ได้ถกู ต้อง 2 ข้อ 3. เขียนผลลพั ธ์ทไ่ี ด้จากการแสดงการทำงานโปรแกรมแบบมีเงอ่ื นไข (for) ได้ถูกต้อง 3 ข้อ 4. เขียนผลลัพธ์ที่ไดจ้ ากการแสดงการทำงานโปรแกรมแบบมเี งื่อนไข (for) ได้ถูกต้อง 4 ข้อ 5. เขียนผลลัพธท์ ีไ่ ด้จากการแสดงการทำงานโปรแกรมแบบมีเงื่อนไข (for) ได้ถูกต้อง 5 ข้อ

เกณฑ์การประเมนิ คณุ ภาพดา้ นทักษะกระบวนการ เรอ่ื ง การเขียนโปรแกรมแบบมเี ง่ือนไขดว้ ยคำสง่ั for ด้านทกั ษะ ระดบั คะแนน กระบวนการ 4 3 2 1 ออกแบบจอภาพโดย สามารถออกแบบ สามารถออกแบบ สามารถออกแบบ สามารถออกแบบ ใช้ control ตา่ งๆ จอภาพโดยใช้ จอภาพโดยใช้ จอภาพโดยใช้ จอภาพโดยใช้ ดว้ ยโปรแกรม control ต่างๆ control ต่างๆ control ต่างๆ control ต่างๆ Visual C# 2015 ด้วยโปรแกรม ดว้ ยโปรแกรม ดว้ ยโปรแกรม ด้วยโปรแกรม Visual C# 2015 Visual C# 2015 Visual C# 2015 Visual C# 2015 ไดค้ รบทุกข้อ ได้ 3 ข้อ ได้ 2 ข้อ ได้ 1 ข้อ เขยี นโปรแกรมแบบ สามารถเขียน สามารถเขียน สามารถเขียน สามารถเขียน มเี งอื่ นไข (for) โปรแกรมแบบมี โปรแกรมแบบมี โปรแกรมแบบมี โปรแกรมแบบมี เงือ่ นไข (for) ได้ เง่อื นไข (for) ได้ 3 เงื่อนไข (for) ได้ 2 เง่อื นไข (for) ได้ 1 ครบทกุ ขอ้ ขอ้ ขอ้ ข้อ เขยี นผลลพั ธ์ทีไ่ ด้ สามารถเขยี น สามารถเขียน สามารถเขยี น สามารถเขยี น จากการแสดงการ ผลลัพธท์ ีไ่ ด้จาก ผลลพั ธ์ท่ไี ด้จาก ผลลัพธ์ท่ีได้จาก ผลลพั ธ์ทไี่ ดจ้ าก ทำงานโปรแกรม การแสดงการ การแสดงการ การแสดงการ การแสดงการ แบบมเี งื่อนไข (for) ทำงานโปรแกรม ทำงานโปรแกรม ทำงานโปรแกรม ทำงานโปรแกรม แบบมีเงื่อนไข แบบมเี งื่อนไข แบบมีเง่ือนไข แบบมเี งื่อนไข (for) ได้ครบทุกข้อ (for) ได้ 3 ข้อ (for) ได้ 2 ข้อ (for) ได้ 1 ขอ้ หมายเหตุ ได้ระดับคะแนน 3 ขนึ้ ไปทุกตวั ชี้วัด ถือว่าผ่านเกณฑก์ ารประเมิน 12 - 15 คะแนน 4 หมายถงึ ดีมาก 9 – 11 คะแนน 3 หมายถึง ดี 6 - 8 คะแนน 2 หมายถึง พอใช้ 0 - 5 คะแนน 1 หมายถึง ปรับปรุง

แบบประเมนิ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ เรอื่ ง การเขยี นโปรแกรมแบบมเี ง่ือนไขดว้ ยคำสั่ง for ประเมนิ ด้านทกั ษะกระบวนการ ผลการประเมนิ ออกแบบจอภาพโดยใช้ เขียนโปรแกรม เขยี นผลลัพธ์ท่ีไดจ้ าก ผ่าน ไมผ่ ่าน ที่ control ตา่ งๆ ด้วย แบบมเี ง่ือนไข การแสดงการทำงาน โปรแกรมแบบมีเง่ือนไข โปรแกรม Visual C# (for) 2015 (for) (ลงช่อื )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน

การประเมินดา้ นสมรรถนะที่สำคญั ของผเู้ รียน เรอ่ื ง การเขียนโปรแกรมแบบมเี งื่อนไขด้วยคำสั่ง for ความสามารถในการคิด 1. มีความคิดสร้างสรรค์ 2. คดิ อย่างมีวิจารณญาณมีเหตุผล 3. สามารถแกป้ ญั หาตา่ งๆได้อยา่ งเป็นระบบ 4. สามารถคดิ เชอ่ื มโยงสง่ิ ท่ไี ด้เรียนรู้ เพ่อื นำไปใช้ในชวี ิตประจำวนั ได้ ความสามารถในการแก้ปญั หา 1. แกป้ ญั หา และอปุ สรรคท่ีพบเจอได้ 2. วเิ คราะห์สาเหตขุ องปัญหาทพ่ี บเจอได้ 3. แก้ปัญหาได้อย่างมลี ำดบั ข้นั ตอน 4. ตัดสินใจเลือกแนวทางการแกป้ ัญหาไดอ้ ยา่ งชดั เจน แน่นอน และไมส่ ง่ ผลเสียตอ่ ผู้อ่ืน ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 1. สามารถใช้เทคโนโลยีในการคน้ หาข้อมลู ได้อย่างหลากหลาย 2. ใช้เทคโนโลยโี ดยไมส่ ง่ ผลกระทบต่อตนเอง และผู้อื่น 3. ใชเ้ ทคโนโลยีในการทำงานอยา่ งเหมะสม 4. ใชเ้ ทคโนโลยเี พ่ือพฒั นาตนเองและสังคม

เกณฑ์การประเมินสมรรถนะท่ีสำคญั ของผ้เู รียน เร่อื ง การเขยี นโปรแกรมแบบมเี งื่อนไขด้วยคำสัง่ for ด้านสมรรถนะผเู้ รยี น ระดบั คุณภาพ ความสามารถในการคิด ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4321 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี มีความสามารถ มีความสามารถ มคี วามสามารถ มีความสามารถ ในการคดิ ครบ ในการคิด ในการคดิ ในการคดิ ทกุ ข้อ 3 ข้อ 2 ขอ้ 1 ข้อ มีความสามารถ มีความสามารถ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ ในการ ในการ ในการ ในการ แก้ปญั หาครบ แกป้ ัญหา 3 ข้อ แก้ปญั หา 2 ข้อ แก้ปญั หา 1 ข้อ ทกุ ข้อ มีความสามารถ มีความสามารถ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ ในการใช้ ในการใช้ ในการใช้ ในการใช้ เทคโนโลยีครบ เทคโนโลยี 3 เทคโนโลยี 2 เทคโนโลยี 1 ทกุ ข้อ ข้อ ข้อ ข้อ หมายเหตุ ได้ระดับคะแนน 3 ข้ึนไปทุกตัวชวี้ ัด ถอื วา่ ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ 4 คะแนน หมายถึง ดีมาก 3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรงุ

แบบประเมนิ ดา้ นสมรรถนะท่สี ำคญั ของผเู้ รียน เรื่อง การเขยี นโปรแกรมแบบมีเง่ือนไขด้วยคำส่งั for ที่ การคดิ ประเมนิ ด้านสมรรถนะที่สำคัญของผเู้ รียน ผลการประเมิน ผ่าน ไม่ผ่าน การแก้ปญั หา การใชเ้ ทคโนโลยี (ลงชอ่ื )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน

การประเมนิ ด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ เร่อื ง การเขยี นโปรแกรมแบบมเี ง่ือนไขดว้ ยคำสง่ั for ใฝ่เรียนรู้ 1. ศกึ ษาค้นคว้าหาความรู้จากหนังสอื เอกสาร สิง่ พิมพ์ สือ่ เทคโนโลยีต่าง ๆ แหล่งเรียนรูท้ งั้ ภายในและ ภายนอกโรงเรยี น และเลือกใช้สอ่ื ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 2. ตั้งใจเรียน 3. เอาใจใสแ่ ละมีความเพยี รพยายามในการเรียนรู้ 4. เขา้ รว่ มกิจกรรมทางการเรียนรอู้ ยู่เสมอ ม่งุ มัน่ ในการทำงาน 1. ตง้ั ใจและรับผิดชอบในงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย 2. เพยี รพยายามในการทำงาน ด้วยความอดทนไมท่ ้อแท้ต่ออปุ สรรคทเี่ กิดข้นึ 3. พฒั นาการทำงานของตนเองใหด้ ีขน้ึ เสมอ 4. เอาใจใส่ต่อหน้าท่ีท่ีได้รับมอบหมาย

เกณฑ์การด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ เรื่อง การเขียนโปรแกรมแบบมีเงื่อนไขดว้ ยคำสงั่ for ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 4 ระดบั คุณภาพ 1 ใฝเ่ รียนรู้ มีคุณลักษณะ 32 มีคุณลกั ษณะ อันพงึ ประสงค์ มคี ณุ ลกั ษณะ มีคณุ ลักษณะ อนั พงึ ประสงค์ มงุ่ ม่นั ในการทำงาน ดา้ นใฝเ่ รยี นรู้ อันพงึ ประสงค์ อันพึงประสงค์ ด้านใฝ่เรียนรู้ ครบทุกข้อ ด้านใฝ่เรียนรู้ ดา้ นใฝเ่ รยี นรู้ 1 ขอ้ มคี ณุ ลกั ษณะ 3 ข้อ 2 ข้อ มคี ณุ ลักษณะ อนั พงึ ประสงค์ มคี ุณลักษณะ มคี ณุ ลกั ษณะ อันพงึ ประสงค์ ด้านม่งุ มนั่ ใน อนั พงึ ประสงค์ อนั พงึ ประสงค์ ดา้ นมงุ่ มน่ั ใน การทำงานครบ ดา้ นมงุ่ ม่ันใน ด้านมุง่ มัน่ ใน การทำงาน ทุกข้อ การทำงาน การทำงาน 1 ข้อ 3 ข้อ 2 ขอ้ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คะแนน 3 ขึน้ ไปทุกตวั ช้วี ดั ถือวา่ ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ 4 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ปรับปรงุ

แบบประเมนิ ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เรอ่ื ง การเขยี นโปรแกรมแบบมีเง่ือนไขดว้ ยคำส่งั for ประเมนิ ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ผลการประเมิน ที่ ใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ มนั่ ในการทำงาน ผา่ น ไม่ผา่ น (ลงชือ่ )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 14 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 เรอ่ื ง การเขียนโปรแกรมแบบมีเง่ือนไขด้วยคำส่งั while และ do…while วันท่ี – เดอื น กรกฎาคม พ.ศ. 2563 ใช้เวลา 2 ช่ัวโมง/คาบ 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแกปัญหาที่พบในชีวิตจรงิ อย่างเป็นขัน้ ตอนและเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สารในการเรยี นรกู้ ารทำงาน และการแก้ปญั หาไดอ้ ยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ 2. ตัวชว้ี ดั ว 4.2 ม. 6/1 ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในการนำเสนอและแบ่งปนั ข้อมูลอยา่ งปลอดภัย มีจริยธรรม และ วิเคราะหก์ ารเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยสี ารสนเทศทม่ี ผี ลตอ่ การดำเนนิ ชีวติ อาชพี สังคมและวัฒนธรรม 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความหมาย และรปู แบบการเขยี นโปรแกรมแบบมเี งอื่ นไข while และ do…while (K) 2. วิเคราะหโ์ จทยป์ ัญหาท่ีมีเง่ือนไข (K) 3. ออกแบบจอภาพโดยใช้ control ต่างๆ ดว้ ยโปรแกรม Visual C# 2015 (P) 4. เขียนโปรแกรมแบบมีเง่ือนไข while และ do…while (P) 5. เขยี นผลลพั ธท์ ี่ไดจ้ ากการแสดงการทำงานโปรแกรมแบบมีเง่ือนไข while และ do…while (P) 6. มีความใฝ่เรียนรู้ (A) 7. มคี วามมงุ่ มัน่ ในการทำงาน (A) 4. สาระสำคัญ การวนซ้ำ เป็นการกำหนดให้มีการประมวลผลคำสั่งซ้ำ ๆ กัน ตั้งแต่ 1 ครั้งขึ้นไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับ เงื่อนไขในการทำงาน ซึ่งจะช่วยให้การเขียนโปรแกรมไดง้ ่าย สะดวก ไม่ต้องเขียนข้อความคำสั่งเดิมหลายครัง้ ทำให้โปรแกรมมีความกระชบั สามารถตรวจสอบความผิดพลาดได้งา่ ย โครงสรา้ งควบคุมแบบวนซำ้ (repetition control structure) ประกอบดว้ ย • คำสัง่ for • คำสง่ั while • คำส่งั do-while โดยแต่ละโครงสรา้ งคำสง่ั มีรูปแบบและวิธีการใช้งานท่แี ตกตา่ งกัน นักเขยี นโปรแกรมสามารถเลือกใช้ ได้ตามความเหมาะสมกับลักษณะการใชง้ านในโปรแกรม

คำสัง่ while จะมแี ต่การเช็คเงื่อนไขเพียงอย่างเดียว การกำหนดค่าเริ่มตน้ จะทำกอ่ นที่จะเข้าเง่ือนไข และการอัพเดทค่าจะทำอยูภ่ ายในเง่ือนไข คำสั่ง do while จากปัญหาที่ว่า ถ้าเงื่อนไขเป็นเท็จก่อนที่จะเริ่มลูป คำสั่งในนั้นจะไม่ทำงานเลย ก็ เลยมี do while ออกมาเพื่อทำให้โปรแกรมในส่วนนั้นทำงานอย่างน้อยที่สุด 1 ครั้ง ไม่ว่าเงื่อนไขจะเป็นจริง หรอื เทจ็ กต็ าม ทำใหก้ ารตรวจสอบเง่อื นไข ถกู ย้ายไปไว้ด้านลา่ งสดุ ของลูป 5. สาระการเรียนรู้ 1. ความหมาย และรปู แบบการเขยี นโปรแกรมแบบมีเง่อื นไข while และ do…while การทำซ้ำด้วยคำสั่ง while เป็นคำสั่งทำซ้ำแบบหนึ่งในภาษา C ที่นิยมใช้ในกรณีที่ใช้ตรวจสอบ เง่อื นไขวา่ เป็นจริงกจ็ ะทำซำ้ แต่ถา้ เงือ่ นไขเปน็ เท็จกจ็ ะหลดุ ออกจาการทำซ้ำ ซ่ึงเงอื่ นไขท่ีตรวจสอบ นี้อาจจะใช้ในกรณีที่รู้จำนวนรอบแน่นอน เช่น ตั้งแต่ X=1 ถึง X=10 หรือไม่รู้จำนวนรอบแน่นอน เช่น ทำซ้ำในขณะที่ตัวแปร X = ‘y’ ลักษณะเด่นอย่างหนึ่งของคำสั่ง while คือ จะตรวจสอบ เงื่อนไขก่อนว่าเป็นจริงหรือเท็จ ซึ่งในการตรวจสอบครั้งแรก ถ้าเงื่อนไขตรวจสอบเป็นเท็จ ก็จะไม่ เข้าไปกระทำในวนรอบของการทำซำ้ เลยกไ็ ด้ แต่ในทำนองเดยี วกนั ถ้าตวั ตรวจสอบเงื่อนไขเป็นจริง ตลอด ก็จะทำซ้ำไปไม่สิ้นสุดก็ได้ ซึ่งผู้เขียนโปรแกรมจะต้องระมัดระวงั จะต้องเขียนโปรแกรมให้มี โอกาสออกจากการวนรอบทำซ้ำใหไ้ ด้ โดยคำสงั่ while มรี ปู แบบการเขยี น ดงั นี้ while(เงอ่ื นไข) { คำสั่ง 1 ; คำสง่ั 2 ; คำสง่ั เพ่ิมคา่ หรอื ลดคา่ ; } คำสั่ง do -while เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของคำสั่งที่ใช้ควบคุมโปรแกรม โดยให้โปรแกรมจะ ตรวจสอบเงื่อนไข หลังจากมีการเขา้ ไปทำในวงรอบ ของการทำซ้ำแล้วอย่างน้อย 1 รอบ ถ้าเงื่อนไข เป็นจรงิ ก็จะโปรแกรมซ้ำอกี ต่อไป จนกระทงั่ เงอื่ นไขทเ่ี ปรยี บเทียบน้ันเปน็ เท็จ จงึ หยดุ การทำซำ้ โดย มรี ปู แบบดังน้ี Do { คำสั่งท่ี 1 ; คำสัง่ ที่ 2 ; คำส่ังเพ่ิมค่าหรอื ลดคา่ ; } while(เงื่อนไข);

2. วเิ คราะห์โจทยป์ ัญหา และเขยี นโปรแกรมแบบมเี งือ่ นไข while และ do…while 6. ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มงุ่ ม่ันในการทำงาน 7. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 1. ความการในการคิด 2. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 8. กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้นั นำเข้าสู่บทเรียน (15 นาที) 1. ครกู ล่าวทักทายนกั เรยี น 2. ครูส่มุ ถามนกั เรยี น จำนวน 3 คน เพ่ือสอบถามเก่ยี วกบั ส่ิงทเี่ รียนในคาบเรียนกอ่ นหน้า 3. ครูนำปัญหาที่มีลักษณะเชิงเงื่อนไขที่พบเจอในชีวิตประจำวัน มาให้นักเรียนช่วยกันคิดและแก้ไข เชน่ ปัญหา เวลาอ่านหนงั สือแลว้ ไม่เขา้ ใจ, หนีเรียนโดนหักคะแนน เปน็ ต้น เพ่ือกระตุ้นให้นักเรียน เกิดการคิดเชิงเงอ่ื นไข กอ่ นเข้าสู่ขนั้ กจิ กรรมการเรยี นการสอน 4. ครแู จง้ สง่ิ ที่จะไดเ้ รยี นในคาบเรยี นนี้ ขั้นกิจกรรมการเรียนการสอน (1 ชว่ั โมง 25 นาที) 5. นักเรยี นศึกษาหนงั สอื อเิ ลก็ ทรอนิกส์ หนว่ ยท่ี 5 บทที่ 5 เร่ืองการเขียนโปรแกรมแบบมีเง่อื นไขด้วย คำสงั่ while และ do…while หรือแหล่งข้อมลู อ่ืนๆตามความสนใจ 6. ครูใช้คำถามเพ่ือสอบถามสิ่งท่ีนกั เรยี นได้ศกึ ษามา เก่ยี วกบั การเขยี นโปรแกรมแบบมีเง่อื นไขดว้ ย คำสงั่ while และ do…while 7. ครอู ธิบายประกอบการสาธติ เกี่ยวกับการเขยี นโปรแกรมแบบมีเงื่อนไขดว้ ยคำสงั่ while และ do…while โดยใชส้ อ่ื PowerPoint ในการบรรยาย และโปรแกรม Visual C# 2015 ในการสาธติ 8. นักเรยี นทำใบกจิ กรรมที่ 5.5 เรอื่ งการเขียนโปรแกรมแบบมีเง่อื นไขด้วยคำส่ัง while และ do…while ลงในสมดุ 9. ขนั้ สรุป (20 นาที) 10. นักเรียนและครรู ว่ มกันสรุปการเขยี นโปรแกรมแบบมีเง่อื นไขด้วยคำส่งั while และ do…while การทำซ้ำด้วยคำสั่ง while เป็นคำสั่งทำซ้ำแบบหนึ่งในภาษา C ที่นิยมใช้ในกรณีที่ใช้ ตรวจสอบเงอ่ื นไขว่าเปน็ จริงก็จะทำซำ้ แต่ถ้าเง่ือนไขเปน็ เท็จก็จะหลุดออกจาการทำซ้ำ ซ่ึงเงื่อนไข ที่ตรวจสอบน้ีอาจจะใช้ในกรณีที่รู้จำนวนรอบแน่นอน เช่น ตั้งแต่ X=1 ถึง X=10 หรือไม่รู้จำนวน

รอบแน่นอน เช่น ทำซ้ำในขณะที่ตัวแปร X = ‘y’ ลักษณะเด่นอย่างหนึ่งของคำสั่ง while คือ จะ ตรวจสอบเงื่อนไขก่อนว่าเป็นจริงหรือเท็จ ซึ่งในการตรวจสอบครั้งแรก ถ้าเงื่อนไขตรวจสอบเป็น เท็จ ก็จะไม่เข้าไปกระทำในวนรอบของการทำซ้ำเลยก็ได้ แต่ในทำนองเดียวกัน ถ้าตัวตรวจสอบ เงื่อนไขเป็นจริงตลอด ก็จะทำซ้ำไปไม่สิ้นสุดก็ได้ ซึ่งผู้เขียนโปรแกรมจะต้องระมัดระวัง จะต้อง เขียนโปรแกรมให้มโี อกาสออกจากการวนรอบทำซ้ำให้ได้ โดยคำส่งั while คำสั่ง do -while เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของคำสั่งที่ใช้ควบคุมโปรแกรม โดยให้โปรแกรมจะ ตรวจสอบเงื่อนไข หลังจากมีการเข้าไปทำในวงรอบ ของการทำซ้ำแล้วอย่างน้อย 1 รอบ ถ้า เง่ือนไขเปน็ จรงิ ก็จะโปรแกรมซ้ำอีกต่อไป จนกระทงั่ เงื่อนไขท่ีเปรยี บเทยี บนั้นเป็นเท็จ จึงหยุดการ ทำซ้ำ 11. ครูมอบใหน้ ักเรียนไปศึกษาหนงั สืออเิ ล็กทรอนิกส์ หนว่ ยท่ี 5 บทท่ี 6 การเขียนโปรแกรมแบบวน ซ้ำทที่ ำงานรว่ มกับคำส่ังเงอ่ื นไข ล่วงหน้าสำหรับการเรยี นในคาบเรียนถัดไป 9. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ 9.1 ส่อื การเรยี นรู้ 1) ใบกจิ กรรมที่ 5.5 เรื่องการเขียนโปรแกรมแบบมีเง่อื นไขด้วยคำสั่ง while และ do…while 2) หนงั สอื อิเลก็ ทรอนิกส์ หน่วยท่ี 5 บทที่ 5 การเขียนโปรแกรมแบบมเี ง่ือนไขด้วยคำส่งั while และ do…while (ลิงค์ https://qrgo.page.link/5CgLt) 3) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หน่วยที่ 5 บทที่ 6 การเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำที่ทำงานร่วมกับคำสั่ง เงื่อนไข (ลิงค์ https://qrgo.page.link/5CgLt) 4) โปรแกรม Visual C# 2015 9.2 แหลง่ การเรียนรู้ อนิ เทอร์เน็ต 10. การวัดผลและประเมินผล 10.1 การวดั ผล จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ วิธกี ารวดั เครอ่ื งมือ เกณฑก์ ารให้คะแนน ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 60 1. อธิบายโครงสร้างการ ว ั ด โ ด ย ก า ร ต ร ว จ ใบกจิ กรรม เขียนโปรแกรมแบบมี้ ใบกิจกรรมที่ 5.5 เรื่อง เ ง ื ่ อ น ไ ข while แ ล ะ การเขียนโปรแกรมแบบ do…while (K) มีเงื่อนไขด้วย คำสั่ง while และ do…while

2. วิเคราะห์โจทย์ปัญหา ว ั ด โ ด ย ก า ร ต ร ว จ ใบกิจกรรม ผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 60 ที่มีเงื่อนไข while และ ใบกิจกรรมที่ 5.5 เรื่อง do…while (K) การเขียนโปรแกรมแบบ มีเงื่อนไขด้วย คำสั่ง while และ do…while 3. ออกแบบจอภาพโดย วัดโดยการสังเกตการ แบบประเมินท ั ก ษ ะ ระดับคณุ ภาพ 3 ใช้ control ต่างๆ ด้วย ออกแบบจอภาพโดยใช้ กระบวนการ ผา่ นเกณฑ์ โ ป ร แ ก ร ม Visual C# control ต ่ า ง ๆ ด ้ ว ย 2015 (P) โ ป ร แ ก ร ม Visual C# 2015 4. เขียนโปรแกรมแบบมี วัดโดยการสังเกตการ แบบประเมินท ั ก ษ ะ ระดับคุณภาพ 3 เ ง ื ่ อ น ไ ข while แ ล ะ เขียนโปรแกรมแบบมี กระบวนการ ผา่ นเกณฑ์ do…while (P) เ ง ื ่ อ น ไ ข while แ ล ะ do…while 5. เขียนผลลัพธ์ที่ได้จาก วัดโดยการสังเกตการ แบบประเมินท ั ก ษ ะ ระดับคณุ ภาพ 3 การแสดงการทำงาน เขียนผลลัพธ์ที่ได้จาก กระบวนการ ผา่ นเกณฑ์ โปรแกรมแบบมีเงื่อนไข การแสดงการทำงาน while และ do…while โปรแกรมแบบมีเงื่อนไข (P) while และ do…while 6. มคี วามใฝเ่ รียนรู้ (A) วัดโดยการสังเกตความ แบบประเมนิ ระดับคณุ ภาพ 3 ใฝ่เรยี นรู้ คุณลักษณะอันพึง ผา่ นเกณฑ์ ประสงค์ 7. มีความมงุ่ ม่นั ในการ วัดโดยการสังเกตความ แบบประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ 3 ทำงาน (A) มุง่ ม่ันในการทำงาน คุณลกั ษณะอนั พึง ผ่านเกณฑ์ ประสงค์ สมรรถนะสำคัญของ วัดโดยการสังเกต แบบประเมินสมรรถนะ ระดบั คณุ ภาพ 3 ผเู้ รยี น สมรรถนะสำคัญของ สำคญั ของผเู้ รียน ผ่านเกณฑ์ 1. ความสามารถในการ ผู้เรยี น คิด 2. ความสามารถในการ แก้ปญั หา 3. ความสามารถในการ ใชเ้ ทคโนโลยี

คุณลักษณะอันพึง วัดโดยการสงั เกต แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 3 ประสงค์ คณุ ลักษณะอนั พงึ คณุ ลักษณะอันพงึ ผา่ นเกณฑ์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ ประสงค์ ประสงค์ 2. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 10.2 เกณฑก์ ารประเมิน 1) ด้านความรู้ ใบกจิ กรรม (10 คะแนน) 9 - 10 คะแนน หมายถงึ ดมี าก 6 - 8 คะแนน หมายถึง ดี 4 - 5 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0 – 3 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรงุ หมายเหตุ ดา้ นความรู้เกณฑ์ผา่ น รอ้ ยละ 60 ทุกประเด็นการประเมิน 2) ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 3 ข้ึนไปทกุ ตวั ชี้วดั ถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ 3) ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ได้ระดบั คุณภาพ 3 ขน้ึ ไปทกุ ตัวช้วี ัด ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ 4) ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 3 ขน้ึ ไปทุกตวั ช้วี ดั ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์การประเมนิ

11. ข้อเสนอแนะ  ใชส้ อนได้  ควรปรบั ปรงุ ………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………..………………………………………………… ………………………………………………………………………………………..…………..…………………………………… ลงช่ือ………..…………………….………………….…….. () ครูพี่เล้ียง วันท.ี่ .......เดือน..................พ.ศ............

12. บันทึกหลังการจัดการเรยี นรู้ 1) ผลท่ีเกิดขึ้นแก่ผเู้ รยี น ดา้ นความรู้ จำนวนนกั เรียนทผี่ า่ นเกณฑ์......................คน คิดเปน็ ร้อยละ....................... จำนวนนักเรยี นท่ีไมผ่ ่านเกณฑ์..................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ....................... ดา้ นทักษะกระบวนการ จำนวนนกั เรยี นที่ผ่านเกณฑ.์ .....................คน คดิ เปน็ ร้อยละ....................... จำนวนนกั เรียนทไ่ี ม่ผา่ นเกณฑ.์ .................คน คิดเป็นรอ้ ยละ....................... ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ จำนวนนักเรียนที่ผา่ นเกณฑ.์ .....................คน คิดเป็นรอ้ ยละ....................... จำนวนนกั เรียนที่มาผ่านเกณฑ์..................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ....................... ด้านสมรรถนะผูเ้ รยี น จำนวนนักเรยี นทผ่ี า่ นเกณฑ.์ .....................คน คิดเป็นร้อยละ....................... จำนวนนกั เรยี นที่มาผ่านเกณฑ์..................คน คดิ เปน็ ร้อยละ....................... 2) ปัญหาและอุปสรรค …………………………………………………………………………………………………………………….……………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 3) แนวทางการแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………….……………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. (ลงชอ่ื )……………………………….……………. (......................................................) ผู้สอน

13. ความเห็นของหัวหนา้ กลมุ่ สาระ/สายชน้ั …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชื่อ)……………………………….……………. (......................................................) หวั หน้ากลมุ่ สาระ/สายชนั้ วนั ท่ี........เดือน..............พ.ศ............ 14. ความเห็นของฝ่ายวิชาการ …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอื่ )……………………………….……………. (......................................................) ฝ่ายวชิ าการ วันที่........เดือน..............พ.ศ............ 15. ความเห็นของผู้อำนวยการโรงเรยี น …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอ่ื )……………………………….……………. (......................................................) ผอู้ ำนวยการโรงเรียน วันที่........เดอื น..............พ.ศ............

การประเมนิ ด้านความรู้ เรื่อง การเขยี นโปรแกรมแบบมีเงื่อนไขดว้ ยคำสั่ง while และ do…while อธิบายความหมาย และรปู แบบการเขยี นโปรแกรมแบบมีเงือ่ นไข while และ do…while 1. คำส่ัง while และ do…while เป็นคำสง่ั ที่สงั่ ให้ประมวลผลคำส่ัง หรอื ชดุ คำส่ัง วนซำ้ ได้หลายรอบ 2. กำหนดจำนวนรอบให้การวนซ้ำทแี่ นน่ อน 3. นิพจน์แรกใช้กำหนดคา่ เริ่มต้นใหก้ ับตวั แปรทจ่ี ะใชว้ นลูป 4. นิพจน์สองใชท้ ดสอบเงื่อนไข ซงึ่ จะมคี ่าจรงิ หรอื เทจ็ อยา่ งใดอย่างหน่ึงเทา่ นนั้ 5. นพิ จน์สามใช้เพ่ิมหรอื ลดค่าตัวแปรทีจ่ ะใช้วนลูป วเิ คราะห์โจทยป์ ัญหาที่มีเงื่อนไข while และ do…while 1. วิเคราะห์โจทย์ปัญหาที่มีเง่ือนไขไดถ้ ูกตอ้ งเหมาะสม 1 ข้อ 2. วิเคราะห์โจทยป์ ัญหาท่ีมีเง่ือนไขได้ถูกต้องเหมาะสม 2 ข้อ 3. วเิ คราะห์โจทยป์ ญั หาที่มเี งื่อนไขได้ถูกตอ้ งเหมาะสม 3 ข้อ 4. วิเคราะห์โจทยป์ ัญหาที่มเี ง่ือนไขได้ถูกต้องเหมาะสม 4 ข้อ 5. วเิ คราะห์โจทย์ปญั หาที่มีเงื่อนไขได้ถูกต้องเหมาะสม 5 ข้อ

เกณฑก์ ารประเมนิ คุณภาพดา้ นความรู้ เรอ่ื ง การเขยี นโปรแกรมแบบมีเง่ือนไขดว้ ยคำสั่ง while และ do…while ดา้ นความรู้ ระดับคะแนน 5 4321 อธบิ าย สามารถ สามารถ สามารถ สามารถ สามารถ ความหมาย และ อธิบาย อธบิ าย อธิบาย อธบิ าย อธิบาย รปู แบบการเขียน โครงสรา้ ง โครงสร้างการ โครงสรา้ งการ โครงสร้างการ โครงสร้างการ โปรแกรมแบบมี การเขยี น เขียนโปรแกรม เขยี นโปรแกรม เขยี นโปรแกรม เขียนโปรแกรม เงอ่ื นไข while โปรแกรม แบบมีเ้ งื่อนไข แบบมเ้ี งื่อนไข แบบมเี้ ง่ือนไข แบบมเี้ งื่อนไข และ do…while แบบม้ี while และ while และ while และ while และ เงื่อนไข do…while ได้ do…while ได้ do…while ได้ do…while ได้ while และ 4 ขอ้ 3 ข้อ 2 ขอ้ 1 ขอ้ do…while ได้ครบทุก ข้อ วิเคราะหโ์ จทย์ สามารถ สามารถ สามารถ สามารถ สามารถ วิเคราะห์โจทย์ วิเคราะหโ์ จทย์ วเิ คราะหโ์ จทย์ วเิ คราะหโ์ จทย์ ปญั หาทมี่ ี วิเคราะห์ ปัญหาที่มี ปัญหาทม่ี ี ปัญหาที่มี ปญั หาทีม่ ี เงือ่ นไข while เงื่อนไข while เงือ่ นไข while เงื่อนไข while เง่ือนไข while โจทย์ปญั หา และ และ และ และ do…while ได้ do…while ได้ do…while ได้ do…while ได้ และ do…while ทม่ี เี งื่อนไข 4 ขอ้ 3 ข้อ 2 ขอ้ 1 ขอ้ while และ do…while ได้ครบทุก ขอ้ เกณฑ์การประเมิน 9 - 10 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 6 - 8 คะแนน หมายถงึ ดี 4 - 5 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0 – 3 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรุง

แบบบันทึกการประเมนิ ด้านความรู้ เร่อื ง การเขยี นโปรแกรมแบบมเี งื่อนไขดว้ ยคำส่ัง while และ do…while เลขท่ี ใบกิจกรรม ร้อยละ ผลการประเมนิ (10 คะแนน) ผา่ น ไมผ่ า่ น หมายเหตุ 1. ใบกิจกรรม เกณฑ์ผ่านร้อยละ 60 (ลงชื่อ)……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน

การประเมนิ ด้านทกั ษะกระบวนการ เร่ือง การเขียนโปรแกรมแบบมีเงื่อนไขดว้ ยคำสั่ง while และ do…while ออกแบบจอภาพโดยใช้ control ต่างๆ ด้วยโปรแกรม Visual C# 2015 1. ออกแบบจอภาพโดยใช้ control ตา่ งๆดว้ ยโปรแกรม VisualC# 2015 ได้ถูกตอ้ งและเหมาะสม 1 ข้อ 2. ออกแบบจอภาพโดยใช้ control ต่างๆดว้ ยโปรแกรม VisualC# 2015 ไดถ้ ูกต้องและเหมาะสม 2 ข้อ 3. ออกแบบจอภาพโดยใช้ control ตา่ งๆดว้ ยโปรแกรม VisualC# 2015 ไดถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสม 3 ข้อ 4. ออกแบบจอภาพโดยใช้ control ตา่ งๆด้วยโปรแกรม VisualC# 2015 ไดถ้ ูกต้องและเหมาะสม 4 ข้อ 5. ออกแบบจอภาพโดยใช้ control ต่างๆดว้ ยโปรแกรม VisualC# 2015 ได้ถูกตอ้ งและเหมาะสม 5 ข้อ เขียนโปรแกรมแบบมีเง่ือนไข while และ do…while 1. เขยี นโปรแกรมแบบมีเงื่อนไข while และ do…while ได้ถกู ตอ้ งและเหมาะสม 1 ข้อ 2. เขยี นโปรแกรมแบบมเี ง่ือนไข while และ do…while ได้ถูกตอ้ งและเหมาะสม 2 ข้อ 3. เขยี นโปรแกรมแบบมเี งื่อนไข while และ do…while ได้ถูกต้องและเหมาะสม 3 ข้อ 4. เขยี นโปรแกรมแบบมเี ง่ือนไข while และ do…while ไดถ้ กู ตอ้ งและเหมาะสม 4 ข้อ 5. เขียนโปรแกรมแบบมีเง่ือนไข while และ do…while ได้ถกู ต้องและเหมาะสม 5 ข้อ เขียนผลลพั ธ์ที่ไดจ้ ากการแสดงการทำงานโปรแกรมแบบมีเง่ือนไข while และ do…while 1. เขียนผลลัพธ์ทไ่ี ด้จากการแสดงการทำงานโปรแกรมแบบมเี งอ่ื นไข while และ do…while ไดถ้ กู ต้อง 1 ข้อ 2. เขยี นผลลพั ธท์ ไี่ ด้จากการแสดงการทำงานโปรแกรมแบบมีเง่อื นไข while และ do…while ไดถ้ ูกต้อง 2 ขอ้ 3. เขยี นผลลัพธ์ท่ีได้จากการแสดงการทำงานโปรแกรมแบบมเี งอ่ื นไข while และ do…while ได้ถูกต้อง 3 ขอ้ 4. เขียนผลลัพธท์ ี่ไดจ้ ากการแสดงการทำงานโปรแกรมแบบมีเง่อื นไข while และ do…while ไดถ้ กู ต้อง 4 ข้อ 5. เขียนผลลัพธท์ ี่ไดจ้ ากการแสดงการทำงานโปรแกรมแบบมีเงอ่ื นไข while และ do…while ได้ถกู ต้อง 5 ขอ้

เกณฑ์การประเมินคุณภาพดา้ นทกั ษะกระบวนการ เร่ือง การเขยี นโปรแกรมแบบมีเงื่อนไขด้วยคำสงั่ while และ do…while ด้านทักษะ ระดับคะแนน กระบวนการ 4 32 1 สามารถออกแบบ ออกแบบจอภาพโดย สามารถออกแบบ สามารถออกแบบ สามารถออกแบบ จอภาพโดยใช้ control ตา่ งๆ ใช้ control ตา่ งๆ จอภาพโดยใช้ จอภาพโดยใช้ จอภาพโดยใช้ ดว้ ยโปรแกรม Visual C# 2015 ด้วยโปรแกรม control ต่างๆ control ต่างๆ control ต่างๆ ได้ 1 ข้อ สามารถเขยี น Visual C# 2015 ดว้ ยโปรแกรม ดว้ ยโปรแกรม ด้วยโปรแกรม โปรแกรมแบบมี เงือ่ นไข while Visual C# 2015 Visual C# 2015 Visual C# 2015 และ do…while ได้ 1 ข้อ ไดค้ รบทุกข้อ ได้ 3 ข้อ ได้ 2 ข้อ สามารถเขียน ผลลัพธ์ท่ไี ดจ้ าก เขยี นโปรแกรมแบบ สามารถเขียน สามารถเขยี น สามารถเขยี น การแสดงการ ทำงานโปรแกรม มีเงอ่ื นไข while โปรแกรมแบบมี โปรแกรมแบบมี โปรแกรมแบบมี แบบมีเง่ือนไข while และ และ do…while เงอื่ นไข while เงอื่ นไข while เงื่อนไข while do…while ได้ 1 ขอ้ และ do…while และ do…while และ do…while ไดค้ รบทุกข้อ ได้ 3 ข้อ ได้ 2 ข้อ เขียนผลลัพธท์ ไ่ี ด้ สามารถเขยี น สามารถเขยี น สามารถเขียน จากการแสดงการ ผลลัพธ์ท่ไี ด้จาก ผลลพั ธ์ท่ไี ดจ้ าก ผลลัพธท์ ่ไี ด้จาก ทำงานโปรแกรม การแสดงการ การแสดงการ การแสดงการ แบบมีเง่ือนไข while ทำงานโปรแกรม ทำงานโปรแกรม ทำงานโปรแกรม และ do…while แบบมเี ง่ือนไข แบบมเี ง่ือนไข แบบมีเง่ือนไข while และ while และ while และ do…while ได้ do…while ได้ 3 do…while ได้ 2 ครบทุกขอ้ ข้อ ขอ้ หมายเหตุ ไดร้ ะดับคะแนน 3 ขึน้ ไปทุกตวั ช้ีวดั ถือว่าผ่านเกณฑก์ ารประเมิน 12 - 15 คะแนน 4 หมายถึง ดีมาก 9 – 11 คะแนน 3 หมายถงึ ดี 6 -8 คะแนน 2 หมายถงึ พอใช้ ต่ำกวา่ 6 คะแนน 1 หมายถึง ปรบั ปรงุ

แบบประเมินดา้ นทักษะกระบวนการ เรือ่ ง การเขยี นโปรแกรมแบบมเี งื่อนไขด้วยคำส่ัง while และ do…while ประเมนิ ดา้ นทักษะกระบวนการ ผลการประเมิน ออกแบบจอภาพโดยใช้ เขียนโปรแกรม เขียนผลลัพธ์ท่ีได้จาก ที่ control ต่างๆ ดว้ ย แบบมีเงื่อนไข การแสดงการทำงาน ผ่าน ไมผ่ า่ น โปรแกรม Visual C# while และ โปรแกรมแบบมีเง่ือนไข 2015 do…while while และ do…while (ลงชอื่ )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน

การประเมินดา้ นสมรรถนะที่สำคัญของผเู้ รียน เรือ่ ง การเขยี นโปรแกรมแบบมีเงื่อนไขดว้ ยคำส่งั while และ do…while ความสามารถในการคิด 1. มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ 2. คดิ อยา่ งมีวิจารณญาณมีเหตุผล 3. สามารถแกป้ ัญหาตา่ งๆได้อยา่ งเป็นระบบ 4. สามารถคิดเชื่อมโยงสิง่ ทไ่ี ด้เรยี นรู้ เพอ่ื นำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั ได้ ความสามารถในการแกป้ ญั หา 1. แกป้ ัญหา และอปุ สรรคที่พบเจอได้ 2. วเิ คราะหส์ าเหตุของปัญหาท่ีพบเจอได้ 3. แก้ปญั หาได้อยา่ งมลี ำดับ ข้นั ตอน 4. ตดั สินใจเลือกแนวทางการแกป้ ัญหาได้อยา่ งชดั เจน แน่นอน และไม่ส่งผลเสยี ต่อผู้อน่ื ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 1. สามารถใชเ้ ทคโนโลยีในการค้นหาขอ้ มลู ได้อย่างหลากหลาย 2. ใช้เทคโนโลยีโดยไม่สง่ ผลกระทบต่อตนเอง และผู้อ่นื 3. ใชเ้ ทคโนโลยีในการทำงานอยา่ งเหมะสม 4. ใช้เทคโนโลยเี พอื่ พัฒนาตนเองและสังคม

เกณฑ์การประเมินสมรรถนะทส่ี ำคญั ของผูเ้ รียน เรอื่ ง การเขยี นโปรแกรมแบบมเี ง่ือนไขด้วยคำสัง่ while และ do…while ด้านสมรรถนะผเู้ รยี น ระดบั คุณภาพ ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแก้ปัญหา 4321 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี มคี วามสามารถ มีความสามารถ มีความสามารถ มคี วามสามารถ ในการคิดครบ ในการคดิ ในการคดิ ในการคดิ ทุกข้อ 3 ข้อ 2 ขอ้ 1 ขอ้ มคี วามสามารถ มีความสามารถ มีความสามารถ มคี วามสามารถ ในการ ในการ ในการ ในการ แกป้ ัญหาครบ แกป้ ญั หา 3 ข้อ แก้ปัญหา 2 ข้อ แก้ปญั หา 1 ข้อ ทุกข้อ มคี วามสามารถ มีความสามารถ มีความสามารถ มีความสามารถ ในการใช้ ในการใช้ ในการใช้ ในการใช้ เทคโนโลยีครบ เทคโนโลยี 3 เทคโนโลยี 2 เทคโนโลยี 1 ทกุ ข้อ ข้อ ขอ้ ข้อ หมายเหตุ ได้ระดบั คะแนน 3 ขึ้นไปทุกตวั ช้ีวดั ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์การประเมนิ 4 คะแนน หมายถึง ดีมาก 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรุง

แบบประเมนิ ด้านสมรรถนะทส่ี ำคัญของผเู้ รียน เร่อื ง การเขยี นโปรแกรมแบบมีเงื่อนไขด้วยคำสัง่ while และ do…while ท่ี การคดิ ประเมินด้านสมรรถนะที่สำคัญของผ้เู รยี น ผลการประเมนิ ผ่าน ไมผ่ ่าน การแกป้ ญั หา การใชเ้ ทคโนโลยี (ลงชอ่ื )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน

การประเมินด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เรื่อง การเขียนโปรแกรมแบบมเี ง่ือนไขด้วยคำสง่ั while และ do…while ใฝเ่ รยี นรู้ 1. ศึกษาค้นควา้ หาความรู้จากหนังสือ เอกสาร สิ่งพิมพ์ สอื่ เทคโนโลยีตา่ ง ๆ แหล่งเรยี นรทู้ ้งั ภายในและ ภายนอกโรงเรยี น และเลือกใชส้ ่อื ไดอ้ ย่างเหมาะสม 2. ตงั้ ใจเรียน 3. เอาใจใสแ่ ละมคี วามเพยี รพยายามในการเรยี นรู้ 4. เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางการเรียนรู้อยเู่ สมอ ม่งุ มั่นในการทำงาน 1. ตง้ั ใจและรับผิดชอบในงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย 2. เพียรพยายามในการทำงาน ด้วยความอดทนไมท่ ้อแท้ต่ออปุ สรรคทเ่ี กิดขนึ้ 3. พฒั นาการทำงานของตนเองใหด้ ีขนึ้ เสมอ 4. เอาใจใส่ตอ่ หน้าทีท่ ี่ได้รับมอบหมาย

เกณฑก์ ารดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ เรื่อง การเขียนโปรแกรมแบบมเี งื่อนไขดว้ ยคำสง่ั while และ do…while ด้านคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 4 ระดบั คุณภาพ 1 ใฝ่เรยี นรู้ มีคุณลักษณะ 32 มีคุณลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์ มีคณุ ลักษณะ มคี ุณลกั ษณะ อันพึงประสงค์ มงุ่ มนั่ ในการทำงาน ดา้ นใฝเ่ รยี นรู้ อนั พงึ ประสงค์ อนั พึงประสงค์ ด้านใฝ่เรยี นรู้ ครบทกุ ข้อ ด้านใฝเ่ รียนรู้ ด้านใฝเ่ รียนรู้ 1 ข้อ มีคณุ ลักษณะ 3 ขอ้ 2 ขอ้ มีคณุ ลกั ษณะ อนั พึงประสงค์ มีคณุ ลักษณะ มคี ณุ ลักษณะ อนั พงึ ประสงค์ ดา้ นมงุ่ ม่ันใน อันพงึ ประสงค์ อันพึงประสงค์ ด้านมงุ่ มัน่ ใน การทำงานครบ ดา้ นมุง่ มัน่ ใน ดา้ นมุ่งมนั่ ใน การทำงาน ทุกข้อ การทำงาน การทำงาน 1 ขอ้ 3 ข้อ 2 ข้อ หมายเหตุ ได้ระดับคะแนน 3 ขึน้ ไปทุกตวั ช้วี ดั ถอื ว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ 4 คะแนน หมายถึง ดีมาก 3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ปรับปรงุ

แบบประเมินด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ เรอ่ื ง การเขียนโปรแกรมแบบมเี ง่ือนไขดว้ ยคำสง่ั while และ do…while ประเมนิ ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ ผลการประเมนิ ที่ ใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน ผา่ น ไม่ผา่ น (ลงชื่อ)……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน

แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 15 กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ัน มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2563 เรอ่ื ง การเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำท่ที ำงานรว่ มกบั คำสั่งเงือ่ นไข วนั ท่ี – เดือน ตลุ าคม พ.ศ. 2563 ใชเ้ วลา 2 ชั่วโมง/คาบ 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแกปัญหาที่พบในชีวิตจรงิ อย่างเปน็ ขั้นตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สารในการเรยี นร้กู ารทำงาน และการแก้ปญั หาได้อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ 2. ตัวชว้ี ัด ว 4.2 ม. 6/1 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอและแบง่ ปนั ข้อมูลอย่างปลอดภัย มจี ริยธรรม และ วเิ คราะหก์ ารเปลย่ี นแปลงเทคโนโลยสี ารสนเทศทม่ี ผี ลตอ่ การดำเนินชวี ติ อาชีพ สังคมและวฒั นธรรม 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายการเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำที่ทำงานรว่ มกับคำสงั่ เงือ่ นไข (K) 2. บอกความสำคญั การเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำที่ทำงานร่วมกับคำสัง่ เง่ือนไข (K) 3. ออกแบบจอภาพโดยใช้ control ต่างๆ ด้วยโปรแกรม Visual C# 2015 (P) 4. เขยี นแผนผงั ลำดับงานแบบวนรอบ (P) 5. เขียนโปรแกรมแบบวนรอบ (P) 6. เขียนผลลัพธจ์ ากการแสดงการทำงานโปรแกรมแบบวนรอบ (P) 7. มคี วามใฝเ่ รยี นรู้ (A) 8. มคี วามม่งุ มั่นในการทำงาน (A) 4. สาระสำคัญ การวนซ้ำ เปน็ การกำหนดให้มกี ารประมวลผลคำส่ังซำ้ ๆ กัน ต้ังแต่ 1 ครงั้ ขน้ึ ไป ทงั้ นขี้ ้ึนอยูก่ บั เงื่อนไข ในการทำงาน ซ่ึงจะชว่ ยให้การเขยี นโปรแกรมได้ง่าย สะดวก ไมต่ ้องเขยี นข้อความคำสั่งเดมิ หลายครั้ง ทำให้ โปรแกรมมคี วามกระชับ สามารถตรวจสอบความผดิ พลาดไดง้ ่าย โครงสรา้ งควบคมุ แบบวนซ้ำ (repetition control structure) ประกอบดว้ ย • คำส่ัง for • คำสง่ั while • คำสง่ั do-while โดยแตล่ ะโครงสรา้ งคำส่งั มีรูปแบบและวธิ ีการใช้งานทแ่ี ตกตา่ งกนั นักเขยี นโปรแกรมสามารถเลือกใช้ ได้ตามความเหมาะสมกับลกั ษณะการใชง้ านในโปรแกรม

คำสง่ั for เป็นคำสง่ั ท่สี ง่ั ให้ประมวลผลคำสั่ง หรือชุดคำสง่ั วนซำ้ ได้หลายรอบ โดยต้องกำหนดจำนวน รอบให้การวนซ้ำท่แี น่นอน 5. สาระการเรยี นรู้ 1. อธิบายการเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำที่ทำงานรว่ มกับคำส่งั เง่อื นไข การวนซำ้ เป็นการกำหนดให้มีการประมวลผลคำส่ังซ้ำ ๆ กนั ตง้ั แต่ 1 คร้ังขึน้ ไป ทงั้ น้ขี ึ้นอยู่กับ เงอื่ นไขในการทำงาน ซึ่งจะช่วยให้การเขียนโปรแกรมไดง้ ่าย สะดวก ไม่ต้องเขียนข้อความคำส่ังเดมิ หลายคร้ัง ทำให้โปรแกรมมคี วามกระชับ สามารถตรวจสอบความผดิ พลาดไดง้ า่ ย โครงสรา้ งควบคุมแบบวนซ้ำ (repetition control structure) ประกอบด้วย • คำส่งั for • คำสั่ง while • คำส่งั do-while โดยแต่ละโครงสร้างคำสั่ง มีรูปแบบและวิธีการใช้งานที่แตกต่างกัน นักเขียนโปรแกรมสามารถ เลือกใช้ได้ตามความเหมาะสมกับลักษณะการใช้งานในโปรแกรม คำสั่ง whileจะมีแต่การเช็คเงื่อนไขเพียงอย่างเดียว การกำหนดค่าเริ่มต้น จะทำก่อนที่จะเข้า เงอ่ื นไข และการอัพเดทค่าจะทำอยู่ภายในเงื่อนไข คำส่ัง do while จากปญั หาท่วี ่า ถา้ เง่ือนไขเป็นเท็จก่อนที่จะเร่ิมลูป คำส่งั ในนนั้ จะไม่ทำงานเลย ก็เลยมี do while ออกมาเพื่อทำให้โปรแกรมในส่วนนั้นทำงานอย่างน้อยที่สุด 1 ครั้ง ไม่ว่าเงื่อนไข จะเปน็ จรงิ หรือเท็จกต็ าม ทำให้การตรวจสอบเง่ือนไข ถกู ยา้ ยไปไวด้ ้านล่างสดุ ของลูป 2. บอกความสำคญั การเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำท่ีทำงานร่วมกบั คำสัง่ เงือ่ นไข 6. ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 7. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการคิด 2. ความสามารถในการแก้ปัญหา 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี

8. กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้ันนำเขา้ สบู่ ทเรยี น (15 นาที) 1. ครูกล่าวทักทายนกั เรียน 2. ครสู ุ่มถามนักเรียน จำนวน 3 คน เพอ่ื ให้เก่ียวกบั สิง่ ทเ่ี รยี นในคาบเรียนก่อนหน้า 3. ครูนำปัญหาที่มีลักษณะเชิงเงื่อนไขที่พบเจอในชีวิตประจำวัน มาให้นักเรียนช่วยกันคิดและแก้ไข เช่นปัญหา อ่านหนังสือมากจึงสอบผ่าน, หนีเรียนโดยหักคะแนน เป็นต้น เพื่อกระตุ้นให้นักเรียน เกดิ การคดิ เชิงเง่ือนไข กอ่ นเขา้ สู่ขน้ั กิจกรรมการเรยี นการสอน 4. ครแู จง้ สิ่งที่จะไดเ้ รียนในคาบเรียนน้ี ขั้นกิจกรรมการเรียนการสอน (1 ช่วั โมง 25 นาที) 5. นักเรยี นศกึ ษาหนงั สอื อิเลก็ ทรอนกิ ส์ หนว่ ยท่ี 5 บทท่ี 6 เร่ืองการเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำที่ ทำงานร่วมกับคำสัง่ เง่ือนไข หรือแหลง่ ข้อมูลอื่นๆตามความสนใจ 6. ครูใช้คำถามเพ่ือสอบถามส่ิงที่นกั เรียนได้ศึกษามา เกีย่ วกับการเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้ ทที่ ำงาน รว่ มกบั คำสงั่ เง่ือนไข 7. ครอู ธิบายประกอบการสาธิตเกีย่ วกับการเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำทที่ ำงานร่วมกบั คำส่งั เงื่อนไข โดยใชส้ ่อื PowerPoint ในการบรรยาย และโปรแกรม Visual C# 2015 ในการสาธิต 8. นักเรียนทำใบกิจกรรมท่ี 5.6 การเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้ ท่ที ำงานร่วมกับคำสัง่ เง่ือนไข ลงใน สมดุ ขน้ั สรุป (20 นาที) 9. นกั เรยี นและครูรว่ มกนั สรปุ การเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้ ที่ทำงานรว่ มกับคำส่งั เง่ือนไข การวนซำ้ เป็นการกำหนดให้มกี ารประมวลผลคำสั่งซำ้ ๆ กัน ต้งั แต่ 1 คร้ังขึ้นไป ทงั้ น้ขี ้ึนอยกู่ บั เง่อื นไขในการทำงาน ซึ่งจะช่วยใหก้ ารเขยี นโปรแกรมได้ง่าย สะดวก ไมต่ ้องเขยี นข้อความคำสงั่ เดมิ หลายครงั้ ทำใหโ้ ปรแกรมมีความกระชบั สามารถตรวจสอบความผดิ พลาดได้ง่าย โครงสร้างควบคุมแบบวนซ้ำ (repetition control structure) ประกอบดว้ ย • คำสง่ั for • คำสั่ง while • คำสั่ง do-while โดยแต่ละโครงสร้างคำสั่ง มีรูปแบบและวิธีการใช้งานที่แตกต่างกัน นักเขียนโปรแกรมสามารถ เลอื กใชไ้ ด้ตามความเหมาะสมกับลักษณะการใช้งานในโปรแกรม คำสั่ง whileจะมีแต่การเช็คเงื่อนไขเพียงอย่างเดียว การกำหนดค่าเริ่มต้น จะทำก่อนที่จะเข้า เง่ือนไข และการอัพเดทคา่ จะทำอยู่ภายในเง่ือนไข

คำสง่ั do while จากปญั หาท่วี า่ ถ้าเงือ่ นไขเป็นเท็จก่อนทีจ่ ะเรม่ิ ลูป คำสั่งในน้ันจะไม่ทำงานเลย ก็เลยมี do while ออกมาเพื่อทำให้โปรแกรมในส่วนนั้นทำงานอย่างน้อยที่สุด 1 ครั้ง ไม่ว่าเงื่อนไข จะเป็นจรงิ หรอื เท็จก็ตาม ทำใหก้ ารตรวจสอบเงือ่ นไข ถูกย้ายไปไว้ด้านล่างสดุ ของลปู 10. ครมู อบใหน้ กั เรียนไปศึกษาหนงั สืออิเล็กทรอนิกส์ หนว่ ยที่ 5 บทท่ี 7 การเขยี นโปรแกรมแบบวน ซำ้ โดยใช้ตัวแปรแถวลำดบั ลว่ งหนา้ สำหรบั การเรยี นในคาบเรียนถัดไป 9. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ 9.1 สอื่ การเรยี นรู้ 1) ใบกิจกรรมที่ 5.6 เรอื่ งการเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำทท่ี ำงานรว่ มกับคำสัง่ เงื่อนไข 2) หนังสืออเิ ลก็ ทรอนิกส์ หนว่ ยที่ 5 ขั้นตอนการแก้ปญั หา บทที่ 6 เรือ่ งการเขยี นโปรแกรมแบบวน ซ้ำท่ีทำงานร่วมกับคำสง่ั เงอื่ นไข (ลิงค์ https://qrgo.page.link/5CgLt) 3) หนังสอื อิเล็กทรอนิกส์ หนว่ ยที่ 5 บทที่ 7 การเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้ โดยใชต้ วั แปรแถวลำดับ (ลงิ ค์ https://qrgo.page.link/5CgLt) 4) โปรแกรม Visual C# 2015 9.2 แหลง่ การเรยี นรู้ อินเทอรเ์ นต็ 10. การวดั ผลและประเมนิ ผล 10.1 การวดั ผล จุดประสงค์การเรยี นรู้ วิธกี ารวัด เครื่องมือ เกณฑก์ ารให้คะแนน ผา่ นเกณฑ์ร้อยละ 60 1. อ ธ ิ บ า ย ก า ร เ ข ี ย น ว ั ด โ ด ย ก า ร ต ร ว จ ใบกิจกรรม ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ 60 โปรแกรมแบบวนซ้ำที่ ใบกิจกรรมที่ 5.6 เรื่อง ทำงานร่วมกับคำส่ัง การเขียนโปรแกรมแบบ เง่อื นไข (K) วนซ้ำที่ทำงานร่วมกับ คำส่ังเงอ่ื นไข 2. บอกความสำคัญการ ว ั ด โ ด ย ก า ร ต ร ว จ ใบกจิ กรรม เขียนโปรแกรมแบบวน ใบกิจกรรมที่ 5.6 เรื่อง ซ้ำที่ทำงานร่วมกับคำส่ัง การเขียนโปรแกรมแบบ เงอื่ นไข (K) วนซ้ำที่ทำงานร่วมกับ คำสั่งเง่ือนไข

3. ออกแบบจอภาพโดย วัดโดยการสังเกตการ แบบประเมินท ั ก ษ ะ ระดบั คณุ ภาพ 3 ใช้ control ต่างๆ ด้วย ออกแบบจอภาพโดยใช้ กระบวนการ ผ่านเกณฑ์ โ ป ร แ ก ร ม Visual C# control ต ่ า ง ๆ ด ้ ว ย 2015 (P) โ ป ร แ ก ร ม Visual C# 2015 4. เขียนโปรแกรมแบบ วัดโดยการสังเกตการ แบบประเมินท ั ก ษ ะ ระดบั คุณภาพ 3 วนรอบ (P) เขียนโปรแกรมแบบ กระบวนการ ผ่านเกณฑ์ วนรอบ 5. เขียนผลลัพธ์จากการ วัดโดยการสังเกตการ แบบประเมินท ั ก ษ ะ ระดับคณุ ภาพ 3 แ ส ด ง ก า ร ท ำ ง า น เขียนผลลัพธ์จากการ กระบวนการ ผ่านเกณฑ์ โปรแกรมแบบวนรอบ แ ส ด ง ก า ร ท ำ ง า น (P) โปรแกรมแบบวนรอบ 6. มีความใฝเ่ รียนรู้ (A) วัดโดยการสังเกตความ แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 3 ใฝ่เรียนรู้ คณุ ลกั ษณะอนั พึง ผา่ นเกณฑ์ ประสงค์ 7. มคี วามมุง่ มน่ั ในการ วัดโดยการสังเกตความ แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 3 ทำงาน (A) มงุ่ ม่ันในการทำงาน คณุ ลักษณะอนั พงึ ผ่านเกณฑ์ ประสงค์ สมรรถนะสำคัญของ วดั โดยการสังเกต แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดบั คุณภาพ 3 ผู้เรียน สมรรถนะสำคัญของ สำคัญของผ้เู รยี น ผ่านเกณฑ์ 1. ความสามารถในการ ผูเ้ รียน คิด 2. ความสามารถในการ แก้ปัญหา 3. ความสามารถในการ ใชเ้ ทคโนโลยี คณุ ลักษณะอนั พงึ วัดโดยการสงั เกต แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 3 ประสงค์ คุณลักษณะอนั พงึ คุณลักษณะอนั พงึ ผา่ นเกณฑ์ 1. ใฝ่เรียนรู้ ประสงค์ ประสงค์ 2. ม่งุ มั่นในการทำงาน

10.2 เกณฑ์การประเมนิ 1) ด้านความรู้ ใบกจิ กรรม (10 คะแนน) 9 - 10 คะแนน หมายถึง ดมี าก 6 - 8 คะแนน หมายถงึ ดี 4 - 5 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0 – 3 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง หมายเหตุ ด้านความรเู้ กณฑ์ผา่ น รอ้ ยละ 60 ทุกประเดน็ การประเมิน 2) ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ไดร้ ะดบั คุณภาพ 3 ขน้ึ ไปทุกตัวชี้วัด ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์การประเมนิ 3) ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ได้ระดบั คุณภาพ 3 ขึ้นไปทุกตวั ชี้วัด ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ 4) ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ได้ระดบั คุณภาพ 3 ขึน้ ไปทกุ ตัวชี้วดั ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน

11. ข้อเสนอแนะ  ใชส้ อนได้  ควรปรบั ปรงุ ………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………..………………………………………………… ………………………………………………………………………………………..…………..…………………………………… ลงช่ือ………..…………………….………………….…….. () ครพู เี่ ล้ียง วันที่........เดือน..................พ.ศ............

12. บันทึกหลังการจัดการเรยี นรู้ 1) ผลท่ีเกิดขึ้นแก่ผเู้ รยี น ดา้ นความรู้ จำนวนนกั เรียนทผี่ า่ นเกณฑ์......................คน คิดเปน็ ร้อยละ....................... จำนวนนักเรยี นท่ีไมผ่ ่านเกณฑ์..................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ....................... ดา้ นทักษะกระบวนการ จำนวนนกั เรยี นที่ผ่านเกณฑ.์ .....................คน คดิ เปน็ ร้อยละ....................... จำนวนนกั เรียนทไ่ี ม่ผา่ นเกณฑ.์ .................คน คิดเป็นรอ้ ยละ....................... ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ จำนวนนักเรียนที่ผา่ นเกณฑ.์ .....................คน คิดเป็นรอ้ ยละ....................... จำนวนนกั เรียนที่มาผ่านเกณฑ์..................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ....................... ด้านสมรรถนะผูเ้ รยี น จำนวนนักเรยี นทผ่ี า่ นเกณฑ.์ .....................คน คิดเป็นร้อยละ....................... จำนวนนกั เรยี นที่มาผ่านเกณฑ์..................คน คดิ เปน็ ร้อยละ....................... 2) ปัญหาและอุปสรรค …………………………………………………………………………………………………………………….……………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 3) แนวทางการแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………….……………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. (ลงชอ่ื )……………………………….……………. (......................................................) ผู้สอน

13. ความเห็นของหัวหนา้ กลมุ่ สาระ/สายชน้ั …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชื่อ)……………………………….……………. (......................................................) หวั หน้ากลมุ่ สาระ/สายชนั้ วนั ท่ี........เดือน..............พ.ศ............ 14. ความเห็นของฝ่ายวิชาการ …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอื่ )……………………………….……………. (......................................................) ฝ่ายวชิ าการ วันที่........เดือน..............พ.ศ............ 15. ความเห็นของผู้อำนวยการโรงเรยี น …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอ่ื )……………………………….……………. (......................................................) ผอู้ ำนวยการโรงเรียน วันที่........เดอื น..............พ.ศ............

การประเมนิ ดา้ นความรู้ เรือ่ ง การเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้ ที่ทำงานร่วมกบั คำสั่งเง่ือนไข อธบิ ายการเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้ ท่ีทำงานร่วมกบั คำสงั่ เง่ือนไข 1. อธิบายการเขียนโปรแกรมแบบ for ได้ 2. อธิบายการเขยี นโปรแกรมแบบ while ได้ 3. อธิบายการเขยี นโปรแกรมแบบ do…while ได้ 4. อธิบายการเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำท่ีทำงานร่วมกับคำส่ังเงือ่ นไข (for, while และ do…while) ได้ 5. อธิบายความแตกตา่ งของรูปแบบและวิธกี ารใชง้ านระหวา่ ง for, while และ do…while ได้ บอกคำสำคญั การเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้ ทที่ ำงานรว่ มกับคำส่งั เงือ่ นไข 1. บอกคำสำคญั การเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำทท่ี ำงานร่วมกับคำสัง่ เงอ่ื นไขได้ 1 ข้อ 2. บอกคำสำคัญการเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำทท่ี ำงานรว่ มกบั คำสงั่ เงอ่ื นไขได้ 2 ข้อ 3. บอกคำสำคัญการเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำท่ีทำงานร่วมกบั คำส่ังเง่ือนไขได้ 3 ข้อ 4. บอกคำสำคัญการเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำที่ทำงานรว่ มกบั คำสง่ั เงื่อนไขได้ 4 ข้อ 5. บอกคำสำคัญการเขยี นโปรแกรมแบบวนซ้ำทีท่ ำงานร่วมกับคำสง่ั เงอ่ื นไขได้ 5 ข้อ

เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพด้านความรู้ เร่ือง การเขียนโปรแกรมแบบวนซำ้ ที่ทำงานร่วมกบั คำส่ังเงอ่ื นไข ดา้ นความรู้ ระดบั คะแนน 54 3 2 1 อธิบายการเขียน สามารถ สามารถ สามารถ สามารถ สามารถ โปรแกรมแบบ อธิบายการ อธิบายการ อธิบายการ อธบิ ายการ อธบิ ายการ วนซ้ำที่ทำงาน เขียน เขียนโปรแกรม เขียนโปรแกรม เขียนโปรแกรม เขียนโปรแกรม รว่ มกบั คำสัง่ โปรแกรม แบบวนซ้ำที่ แบบวนซำ้ ที่ แบบวนซ้ำท่ี แบบวนซ้ำที่ เง่อื นไข แบบวนซ้ำท่ี ทำงานร่วมกับ ทำงานร่วมกบั ทำงานร่วมกับ ทำงานรว่ มกบั ทำงาน คำสง่ั เง่ือนไข คำสั่งเงือ่ นไข คำส่ังเง่อื นไข คำสง่ั เงอื่ นไข ร่วมกับคำสัง่ ได้ 4 ข้อ ได้ 3 ข้อ ได้ 2 ข้อ ได้ 1 ข้อ เงอ่ื นไขได้ ครบทุกข้อ บอกความสำคัญ สามารถ สามารถ บอก สามารถ บอก สามารถ บอก สามารถ บอก การเขยี น บอก ความสำคญั ความสำคญั ความสำคญั ความสำคัญ โปรแกรมแบบ ความสำคัญ การเขียน การเขียน การเขยี น การเขียน วนซ้ำทีท่ ำงาน การเขียน โปรแกรมแบบ โปรแกรมแบบ โปรแกรมแบบ โปรแกรมแบบ รว่ มกับคำสง่ั โปรแกรม วนซำ้ ที่ทำงาน วนซ้ำทที่ ำงาน วนซำ้ ทท่ี ำงาน วนซำ้ ที่ทำงาน เงื่อนไข แบบวนซ้ำที่ ร่วมกบั คำสงั่ ร่วมกบั คำส่งั รว่ มกับคำส่งั รว่ มกับคำส่งั ทำงาน เงือ่ นไขได้ 4 เงอ่ื นไขได้ 3 เงอื่ นไขได้ 2 เงื่อนไขได้ 1 รว่ มกับคำสั่ง ข้อ ขอ้ ข้อ ข้อ เงือ่ นไขได้ ครบทุกข้อ เกณฑก์ ารประเมิน 9 - 10 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 6 - 8 คะแนน หมายถงึ ดี 4 - 5 คะแนน หมายถึง พอใช้ 0 – 3 คะแนน หมายถึง ปรับปรงุ

แบบบันทกึ การประเมินดา้ นความรู้ เร่อื ง การเขียนโปรแกรมแบบวนซ้ำท่ีทำงานรว่ มกับคำส่ังเงอ่ื นไข เลขท่ี ใบกจิ กรรม รอ้ ยละ ผลการประเมนิ (10 คะแนน) ผ่าน ไมผ่ ่าน หมายเหตุ 1. ใบกิจกรรม เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 60 (ลงชอ่ื )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน

การประเมินด้านทกั ษะกระบวนการ เร่อื ง การเขยี นโปรแกรมแบบวนซำ้ ที่ทำงานรว่ มกับคำส่ังเงื่อนไข ออกแบบจอภาพโดยใช้ control ตา่ งๆ ด้วยโปรแกรม Visual C# 2015 1. ออกแบบจอภาพโดยใช้ control ต่างๆด้วยโปรแกรม VisualC# 2015 ได้ถูกตอ้ งและเหมาะสม 1 ข้อ 2. ออกแบบจอภาพโดยใช้ control ตา่ งๆดว้ ยโปรแกรม VisualC# 2015 ไดถ้ ูกต้องและเหมาะสม 2 ข้อ 3. ออกแบบจอภาพโดยใช้ control ตา่ งๆดว้ ยโปรแกรม VisualC# 2015 ได้ถูกตอ้ งและเหมาะสม 3 ข้อ 4. ออกแบบจอภาพโดยใช้ control ต่างๆดว้ ยโปรแกรม VisualC# 2015 ไดถ้ ูกต้องและเหมาะสม 4 ข้อ 5. ออกแบบจอภาพโดยใช้ control ต่างๆดว้ ยโปรแกรม VisualC# 2015 ไดถ้ ูกตอ้ งและเหมาะสม 5 ข้อ เขียนแผนผงั ลำดบั งานแบบวนรอบ 1. เขยี นแผนผงั ลำดับงานแบบวนรอบ ไดถ้ ูกต้องและเหมาะสม 1 ขอ้ 2. เขียนแผนผงั ลำดับงานแบบวนรอบ ไดถ้ ูกต้องและเหมาะสม 2 ข้อ 3. เขียนแผนผังลำดบั งานแบบวนรอบ ได้ถูกต้องและเหมาะสม 3 ข้อ 4. เขียนแผนผังลำดับงานแบบวนรอบ ได้ถูกต้องและเหมาะสม 4 ขอ้ 5. เขยี นแผนผงั ลำดับงานแบบวนรอบ ไดถ้ ูกต้องและเหมาะสม 5 ข้อ เขียนโปรแกรมแบบวนรอบ 1. เขียนโปรแกรมแบบวนรอบ ไดถ้ กู ต้องและเหมาะสม 1 ข้อ 2. เขยี นโปรแกรมแบบวนรอบ ได้ถกู ต้องและเหมาะสม 2 ข้อ 3. เขยี นโปรแกรมแบบวนรอบ ไดถ้ กู ต้องและเหมาะสม 3 ข้อ 4. เขียนโปรแกรมแบบวนรอบ ไดถ้ ูกต้องและเหมาะสม 4 ข้อ 5. เขยี นโปรแกรมแบบวนรอบ ไดถ้ กู ต้องและเหมาะสม 5 ข้อ เขยี นผลลัพธจ์ ากการแสดงการทำงานโปรแกรมแบบวนรอบ 1. เขียนผลลพั ธ์จากการแสดงการทำงานโปรแกรมแบบวนรอบ ได้ถูกต้อง 1 ขอ้ 2. เขยี นผลลัพธจ์ ากการแสดงการทำงานโปรแกรมแบบวนรอบ ได้ถกู ต้อง 2 ขอ้ 3. เขียนผลลพั ธจ์ ากการแสดงการทำงานโปรแกรมแบบวนรอบ ไดถ้ ูกต้อง 3 ข้อ 4. เขยี นผลลพั ธจ์ ากการแสดงการทำงานโปรแกรมแบบวนรอบ ได้ถูกต้อง 4 ข้อ 5. เขียนผลลพั ธจ์ ากการแสดงการทำงานโปรแกรมแบบวนรอบ ไดถ้ กู ต้อง 5 ข้อ