การประเมนิ ด้านความรู้ เรอ่ื ง ชนดิ ข้อมลู ตัวแปร คา่ คงท่ี และตัวดำเนินการ อธบิ ายเกย่ี วกับชนิดข้อมูล ตัวแปร ค่าคงที่ ตวั ดำเนนิ การได้ 1. อธิบายชนิดขอ้ มลู แบบ Value Types Reference Types ได้ 2. อธบิ ายชนิดขอ้ มูลแบบ Reference Types ได้ 3. อธบิ ายความหมายของตัวแปรได้ 4. อธบิ ายความหมายของค่าคงทไี่ ด้ 5. อธิบายความหมายของตวั ดำเนินการได้ อธิบายการกำหนดชนดิ ข้อมูล ตัวแปร ค่าคงที่ ตัวดำเนนิ การในการเขียนโปรแกรมภาษา C# 1. อธบิ ายการกำหนดชนิดข้อมลู แบบ Value Types Reference Types ได้ 2. อธบิ ายการกำหนดชนิดข้อมลู แบบ Reference Types ได้ 3. อธบิ ายการกำหนดตัวแปรได้ 4. อธบิ ายการกำหนดค่าคงที่ได้ 5. อธิบายการกำหนดตัวดำเนินการได้
เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพด้านความรู้ เรือ่ ง ชนิดข้อมูล ตวั แปร คา่ คงที่ และตัวดำเนินการ ดา้ นความรู้ 54 ระดับคะแนน 1 สามารถ สามารถ 32 สามารถ อธบิ ายเกยี่ วกบั อธบิ าย อธบิ าย อธิบาย ชนิดข้อมูล ตัว เกี่ยวกับ เกยี่ วกับชนดิ สามารถ สามารถ เกีย่ วกับชนิด แปร ค่าคงที่ ตวั ชนดิ ขอ้ มลู ข้อมลู ตัวแปร อธบิ าย อธบิ าย ขอ้ มูล ตวั แปร ดำเนนิ การได้ ตัวแปร คา่ คงที่ ตวั เก่ยี วกับชนดิ เกีย่ วกบั ชนดิ ค่าคงที่ ตัว ค่าคงท่ี ตวั ดำเนนิ การได้ ขอ้ มลู ตวั แปร ขอ้ มูล ตัวแปร ดำเนนิ การได้ อธบิ ายการ ดำเนินการ ได้ 4 ข้อ ค่าคงท่ี ตวั คา่ คงที่ ตัว ได้ 1 ข้อ กำหนดชนิด ไดไ้ ด้ครบทุก ดำเนินการได้ ดำเนนิ การได้ ข้อมูล ตวั แปร ขอ้ ได้ 3 ข้อ ได้ 2 ข้อ สามารถ ค่าคงที่ ตัว สามารถ สามารถ อธิบายการ ดำเนนิ การใน อธบิ ายการ อธิบายการ สามารถ สามารถ กำหนดชนดิ การเขียน กำหนดชนิด กำหนดชนดิ อธบิ ายการ อธบิ ายการ ข้อมูล ตวั แปร โปรแกรมภาษา ข้อมูล ตัว ขอ้ มลู ตวั แปร กำหนดชนิด กำหนดชนิด คา่ คงท่ี ตวั C# แปร ค่าคงท่ี ค่าคงท่ี ตวั ขอ้ มลู ตวั แปร ขอ้ มูล ตัวแปร ดำเนนิ การใน ตวั ดำเนนิ การใน ค่าคงท่ี ตวั ค่าคงที่ ตัว การเขยี น ดำเนินการ การเขียน ดำเนินการใน ดำเนินการใน โปรแกรม ในการเขียน โปรแกรม การเขียน การเขยี น ภาษา C#ได้ 1 โปรแกรม ภาษา C#ได้ 4 โปรแกรม โปรแกรม ขอ้ ภาษา C#ได้ ข้อ ภาษา C#ได้ 3 ภาษา C#ได้ 2 ครบทุกข้อ ขอ้ ข้อ เกณฑ์การประเมนิ 9 - 10 คะแนน หมายถึง ดีมาก 6 - 8 คะแนน หมายถงึ ดี 4 - 5 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0 – 3 คะแนน หมายถงึ ปรับปรงุ
แบบบันทกึ การประเมินด้านความรู้ เรอื่ ง ชนิดข้อมลู ตวั แปร ค่าคงที่ และตัวดำเนินการ เลขที่ ใบกจิ กรรม รอ้ ยละ ผลการประเมิน (10 คะแนน) ผ่าน ไม่ผา่ น หมายเหตุ 1. ใบกิจกรรม เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 60 (ลงชอื่ )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน
การประเมินด้านทักษะกระบวนการ เร่ือง ชนิดข้อมูล ตวั แปร ค่าคงที่ และตวั ดำเนินการ เลือกใชช้ นดิ ข้อมูล ตวั แปร ค่าคงท่ี ตัวดำเนินการในการเขียนโปรแกรมภาษา C# 1. เลือกใช้ชนดิ ข้อมูลได้อยา่ งถกู ตอ้ ง เหมาะสม 2. เลอื กใช้ตวั แปรได้อย่างถกู ต้อง เหมาะสม 3. เลอื กใช้ค่าคงท่ีได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม 4. เลอื กใช้ตวั ดำเนนิ การได้อย่างถกู ต้อง เหมาะสม เขยี นคำสั่งภาษา C# เพื่อประกาศใชง้ านชนิดขอ้ มูล ตัวแปร คา่ คงที่ และตัวดำเนนิ การ 1. เขียนโปรแกรมคำสง่ั ภาษา C# เพอ่ื ประกาศใช้ชนดิ ข้อมูลไดอ้ ยา่ งถูกต้อง เหมาะสม 2. เขียนโปรแกรมคำสัง่ ภาษา C# เพอ่ื ประกาศใช้ตวั แปรได้อยา่ งถูกต้อง เหมาะสม 3. เขียนโปรแกรมคำสั่งภาษา C# เพ่ือประกาศใช้ค่าคงทไ่ี ดอ้ ย่างถูกต้อง เหมาะสม 4. เขยี นโปรแกรมคำสั่งภาษา C# เพื่อประกาศใช้ตวั ดำเนนิ การได้อย่างถกู ต้อง เหมาะสม
เกณฑก์ ารประเมนิ คุณภาพด้านทกั ษะกระบวนการ เร่ือง ชนิดข้อมลู ตัวแปร คา่ คงที่ และตัวดำเนนิ การ ดา้ นทกั ษะ ระดบั คะแนน กระบวนการ 4 32 1 เลอื กใช้ชนิดข้อมูล สามารถแก้ปัญหา สามารถแก้ปัญหา ตัวแปร ค่าคงท่ี ตัว ไดค้ รบทุกข้อ สามารถแก้ปญั หา สามารถแก้ปญั หา ได้ 1 ข้อ ดำเนนิ การในการ เขยี นโปรแกรมภาษา สามารถนำเสนอ ได้ 3 ข้อ ได้ 2 ข้อ สามารถนำเสนอ C# ไดค้ รบทุกข้อ ได้ 1 ข้อ เขียนคำส่งั ภาษา C# สามารถนำเสนอ สามารถนำเสนอ เพือ่ ประกาศใช้งาน ชนิดข้อมูล ตัวแปร ได้ 3 ข้อ ได้ 2 ข้อ ค่าคงที่ และตวั ดำเนินการ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คะแนน 3 ข้ึนไปทุกตวั ชวี้ ัด ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน 9 - 10 คะแนน 4 หมายถงึ ดมี าก 6 – 8 คะแนน 3 หมายถึง ดี 4 - 5 คะแนน 2 หมายถงึ พอใช้ 0 - 3 คะแนน 1 หมายถึง ปรับปรงุ
แบบประเมนิ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ เรอื่ ง ชนดิ ข้อมลู ตัวแปร ค่าคงที่ และตวั ดำเนนิ การ ประเมนิ ด้านทักษะกระบวนการ ผลการประเมนิ ท่ี เลือกใชช้ นดิ ข้อมูล ตวั แปร เขียนคำสง่ั ภาษา C# เพอ่ื ผ่าน ไมผ่ ่าน ค่าคงท่ี ตัวดำเนินการในการ ประกาศใช้งานชนิดขอ้ มูล ตัว เขยี นโปรแกรมภาษา C# แปร ค่าคงที่ และตัวดำเนนิ การ (ลงชือ่ )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน
การประเมินดา้ นสมรรถนะที่สำคัญของผเู้ รยี น เร่อื ง ชนิดข้อมลู ตวั แปร ค่าคงท่ี และตัวดำเนินการ ความสามารถในการคดิ 1. มีความคดิ สร้างสรรค์ 2. คดิ อยา่ งมวี จิ ารณญาณมีเหตุผล 3. สามารถแกป้ ัญหาตา่ งๆได้อย่างเปน็ ระบบ 4. สามารถคดิ เชื่อมโยงสิง่ ท่ีได้เรยี นรู้ เพ่ือนำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวันได้ ความสามารถในการแกป้ ัญหา 1. แก้ปัญหา และอุปสรรคที่พบเจอได้ 2. วเิ คราะห์สาเหตุของปญั หาทพ่ี บเจอได้ 3. แกป้ ญั หาได้อย่างมีลำดบั ขนั้ ตอน 4. ตดั สนิ ใจเลือกแนวทางการแก้ปัญหาไดอ้ ยา่ งชดั เจน แนน่ อน และไม่ส่งผลเสียต่อผู้อน่ื ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 1. สามารถใช้เทคโนโลยใี นการค้นหาขอ้ มลู ได้อย่างหลากหลาย 2. ใช้เทคโนโลยโี ดยไม่ส่งผลกระทบต่อตนเอง และผู้อน่ื 3. ใชเ้ ทคโนโลยีในการทำงานอยา่ งเหมะสม 4. ใชเ้ ทคโนโลยเี พือ่ พฒั นาตนเองและสังคม
เกณฑ์การประเมนิ สมรรถนะที่สำคัญของผูเ้ รยี น เรอ่ื ง ชนดิ ข้อมูล ตวั แปร ค่าคงท่ี และตัวดำเนนิ การ ดา้ นสมรรถนะผู้เรียน ระดับคณุ ภาพ ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแก้ปญั หา 4321 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มีความสามารถ ในการคดิ ครบ ในการคดิ ในการคิด ในการคดิ ทกุ ข้อ 3 ขอ้ 2 ขอ้ 1 ข้อ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มีความสามารถ ในการ ในการ ในการ ในการ แก้ปญั หาครบ แก้ปัญหา 3 ข้อ แก้ปัญหา 2 ข้อ แกป้ ญั หา 1 ข้อ ทุกข้อ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มีความสามารถ ในการใช้ ในการใช้ ในการใช้ ในการใช้ เทคโนโลยีครบ เทคโนโลยี 3 เทคโนโลยี 2 เทคโนโลยี 1 ทกุ ข้อ ขอ้ ข้อ ข้อ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คะแนน 3 ขนึ้ ไปทุกตวั ชี้วัด ถือวา่ ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ 4 คะแนน หมายถึง ดีมาก 3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรงุ
แบบประเมินดา้ นสมรรถนะท่ีสำคัญของผูเ้ รียน เรื่อง ชนิดข้อมูล ตวั แปร คา่ คงท่ี และตวั ดำเนนิ การ ที่ การคดิ ประเมินดา้ นสมรรถนะที่สำคัญของผู้เรียน ผลการประเมิน ผ่าน ไมผ่ า่ น การแกป้ ัญหา การใช้เทคโนโลยี (ลงชอื่ )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน
การประเมินดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เรอ่ื ง ชนดิ ข้อมลู ตัวแปร คา่ คงที่ และตัวดำเนินการ ใฝเ่ รยี นรู้ 1. ศกึ ษาค้นคว้าหาความร้จู ากหนังสอื เอกสาร สิง่ พิมพ์ สือ่ เทคโนโลยตี า่ ง ๆ แหล่งเรียนรู้ท้ังภายในและ ภายนอกโรงเรียน และเลือกใช้สอื่ ได้อย่างเหมาะสม 2. ต้งั ใจเรยี น 3. เอาใจใส่และมีความเพียรพยายามในการเรียนรู้ 4. เข้าร่วมกิจกรรมทางการเรียนรอู้ ยู่เสมอ มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 1. ตั้งใจและรับผดิ ชอบในงานท่ีไดร้ บั มอบหมาย 2. เพยี รพยายามในการทำงาน ด้วยความอดทนไม่ท้อแทต้ ่ออปุ สรรคท่เี กิดขนึ้ 3. พัฒนาการทำงานของตนเองให้ดีข้ึนเสมอ 4. เอาใจใสต่ ่อหน้าท่ีที่ได้รบั มอบหมาย
เกณฑก์ ารดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ เร่ือง ชนดิ ข้อมลู ตัวแปร ค่าคงท่ี และตัวดำเนนิ การ ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 4 ระดบั คุณภาพ 1 ใฝเ่ รียนรู้ มีคุณลกั ษณะ 32 มีคุณลักษณะ อนั พงึ ประสงค์ มีคณุ ลักษณะ มีคณุ ลกั ษณะ อนั พึงประสงค์ มงุ่ ม่นั ในการทำงาน ดา้ นใฝ่เรียนรู้ อันพงึ ประสงค์ อันพงึ ประสงค์ ดา้ นใฝ่เรยี นรู้ ครบทุกขอ้ ดา้ นใฝ่เรยี นรู้ ด้านใฝ่เรียนรู้ 1 ขอ้ มคี ณุ ลักษณะ 3 ขอ้ 2 ข้อ มีคณุ ลักษณะ อันพึงประสงค์ มีคณุ ลกั ษณะ มคี ุณลักษณะ อันพงึ ประสงค์ ด้านมงุ่ ม่ันใน อันพึงประสงค์ อันพึงประสงค์ ดา้ นมงุ่ มนั่ ใน การทำงานครบ ดา้ นมุง่ มน่ั ใน ดา้ นมุง่ มัน่ ใน การทำงาน ทกุ ข้อ การทำงาน การทำงาน 1 ขอ้ 3 ข้อ 2 ข้อ หมายเหตุ ได้ระดบั คะแนน 3 ขึ้นไปทุกตัวช้ีวัด ถือว่าผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน 4 คะแนน หมายถึง ดีมาก 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรงุ
แบบประเมนิ ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ เร่ือง ชนิดข้อมูล ตวั แปร ค่าคงท่ี และตัวดำเนนิ การ ประเมินดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ผลการประเมิน ท่ี ใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมนั่ ในการทำงาน ผา่ น ไมผ่ า่ น (ลงชือ่ )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 9 กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2563 เร่ือง การแปลงชนดิ ขอ้ มลู และฟงั กช์ ันสำเรจ็ รปู วันท่ี – เดอื น กนั ยายน พ.ศ. 2563 ใช้เวลา 2 ช่ัวโมง/คาบ 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแกปัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอย่างเป็นขัน้ ตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สารในการเรยี นรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. ตวั ชว้ี ัด ว 4.2 ม. 6/1 ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอและแบง่ ปนั ข้อมูลอยา่ งปลอดภัย มจี รยิ ธรรม และ วเิ คราะหก์ ารเปล่ยี นแปลงเทคโนโลยีสารสนเทศท่มี ผี ลตอ่ การดำเนินชีวิต อาชพี สังคมและวัฒนธรรม 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายเก่ยี วกับการแปลงชนิดขอ้ มลู (K) 2. อธบิ ายฟังกช์ ันสำเส็จรูป (K) 3. สบื ค้นเกี่ยวกับคำสงั่ ภาษา C# เพ่อื แปลงชนดิ ขอ้ มูลและเรยี กใชง้ านฟังก์ชันสำเรจ็ รูป (P) 4. เขยี นคำสงั่ ภาษา C# เพ่ือแปลงชนดิ ข้อมูลและเรยี กใช้งานฟังก์ชนั สำเร็จรปู (P) 5. มคี วามใฝ่เรียนรู้ (A) 6. มีความมุง่ มัน่ ในการทำงาน (A) 4. สาระสำคญั การแปลงชนิดข้อมลู ในภาษา C# หากขอ้ มูลไม่ใชช่ นดิ เดียวกันจะไม่สามารถนำมากระทำการใดๆ กันได้ จึงต้องมีการแปลงชนิดข้อมูลให้เป็นชนิดเดียวกันก่อน ซึ่งมีรูปแบบการแปลงชนิดข้อมูล ดังนี้ implicit type conversion, explicit type conversion, การใช้ เมธอด Parse และ การใช้ เมธอด ToString การแปลง ชนิดข้อมูลแต่ละรูปแบบจะมีหน้าที่ของแต่ละตัวแตกต่างกัน ซึ่งแต่ละรูปแบบก็มีความสำคัญต่อการเขียน โปรแกรมไม่ตา่ งกัน ฟังก์ชันสำเร็จรูปในภาษา C# เป็นฟังก์ชันที่สามารถเขียนเรียกใช้งานได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องมาเขียน ฟังก์ชันเองทำให้ผู้ใช้งานสะดวกในการนำมาใช้งาน ได้แก่ ฟังก์ชันทางคณิตศาสตร์ ฟังก์ชันเกี่ยวกับข้อความ เป็นต้น
5. สาระการเรียนรู้ 1. การแปลงชนิดข้อมูลในภาษา C# การแปลงชนดิ ข้อมูลในภาษา c# หากขอ้ มูลไม่ใช่ชนดิ เดยี วกนั จะไม่สามารถนำมากระทำการใดๆ กนั ได้ จงึ ตอ้ งมีการแปลงชนดิ ขอ้ มูลใหเ้ ปน็ ชนิดเดียวกนั ก่อน ซ่ึงมรี ปู แบบการแปลงชนดิ ข้อมลู ดงั นี้ - implicit type conversion - explicit type conversion - การใช้ เมธอด Parse - การใช้ เมธอด ToString 2. ฟงั กช์ ันสำเรจ็ รูป เป็นฟังก์ชันที่สามารถเขียนเรียกใช้งานได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องมาเขียนฟังก์ชันเองทำให้ผู้ใช้งาน สะดวกในการนำมาใชง้ าน ดงั น้ี - ฟงั กช์ นั ทางคณิตศาสตร์ - ฟงั ก์ชนั เกี่ยวกับ String - ฟงั กช์ นั เกี่ยวกบั เวลา 3. การเขียนคำสัง่ ภาษา C# เพือ่ แปลงชนดิ ขอ้ มูลและเรยี กใชง้ านฟังก์ชันสำเร็จรูป 6. ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 7. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ ขัน้ นำเขา้ ส่บู ทเรียน (15 นาที) 1. ครูกล่าวทักทายนักเรียน 2. ครูสุ่มถามนักเรียน จำนวน 3 คน เพอ่ื ให้เก่ยี วกับสิ่งทีเ่ รยี นในคาบเรยี นก่อนหน้า 3. ครูแจง้ สิ่งท่ีจะไดเ้ รยี นในคาบเรยี นนี้ ขนั้ กจิ กรรมการเรียนการสอน (1 ชั่วโมง 25 นาที) 4. นักเรียนศกึ ษาหนงั สืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ หน่วยท่ี 4 ข้นั ตอนการแก้ปญั หา บทที่ 3 เรื่องการแปลงชนดิ ขอ้ มูลและฟังก์ชนั สำเรจ็ รูป หรอื แหลง่ ข้อมูลอ่ืนๆตามความสนใจ
5. ครูใช้คำถามเพ่ือสอบถามสิ่งท่ีนักเรยี นได้ศกึ ษามา เกย่ี วกบั การแปลงชนิดข้อมลู และฟังก์ชัน สำเรจ็ รปู 6. ครูอธิบายประกอบการสาธติ เกีย่ วกบั การแปลงชนิดข้อมูลและฟังกช์ ันสำเร็จรูป โดยใช้ส่อื PowerPoint ในการบรรยาย และโปรแกรม Visual C# 2015 ในการสาธิต 7. นกั เรยี นทำใบกจิ กรรมท่ี 4.3 เรื่องการแปลงชนิดข้อมลู และฟังกช์ ันสำเร็จรูป ลงในสมุด ขนั้ สรุป (20 นาที) 8. นกั เรยี นและครรู ว่ มกนั สรุปการแปลงชนดิ ขอ้ มลู และฟงั กช์ นั สำเร็จรปู 1) การแปลงชนิดขอ้ มลู ในภาษา C# การแปลงชนดิ ขอ้ มลู ในภาษา c# หากขอ้ มูลไม่ใชช่ นดิ เดยี วกนั จะไม่สามารถนำมากระทำการใดๆ กันได้ จึงต้องมีการแปลงชนิดข้อมลู ให้เป็นชนิดเดียวกนั ก่อน ซึง่ มีรปู แบบการแปลงชนดิ ข้อมูล ดงั น้ี - implicit type conversion - explicit type conversion - การใช้ เมธอด Parse - การใช้ เมธอด ToString 2) ฟงั ก์ชนั สำเร็จรปู เป็นฟังก์ชันที่สามารถเขียนเรียกใช้งานได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องมาเขียนฟังก์ชันเองทำให้ผู้ใช้งาน สะดวกในการนำมาใช้งาน ดงั น้ี - ฟังก์ชนั ทางคณติ ศาสตร์ - ฟังก์ชันเก่ยี วกับ String - ฟังก์ชนั เก่ียวกับเวลา 9. ครูมอบให้นักเรียนไปศึกษาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หน่วยที่ 5 บทที่ 1 ประพจน์ ค่าความจริงและ การกำหนดเง่อื นไข ลว่ งหนา้ สำหรับการเรียนในคาบเรยี นถัดไป 10. นักเรยี นทำแบบทดสอบทา้ ยบทเรยี นท่ี 4 9. สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ 9.1 ส่อื การเรียนรู้ 1) ใบกจิ กรรมท่ี 4.3 การแปลงชนดิ ข้อมูลและฟงั กช์ ันสำเรจ็ รปู 2) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หน่วยที่ 4 ขั้นตอนการแก้ปัญหา บทที่ 3 เรื่องการแปลงชนิดข้อมูลและ ฟังก์ชนั สำเรจ็ รปู (ลิงค์ https://qrgo.page.link/5CgLt) 3) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หน่วยที่ 5 บทที่ 1 ประพจน์ ค่าความจริงและการกำหนดเงื่อนไข (ลิงค์ https://qrgo.page.link/5CgLt) 4) โปรแกรม Visual C# 2015
5) แบบทดสอบทา้ ยบทเรียนที่ 4 9.2 แหลง่ การเรยี นรู้ อนิ เทอรเ์ น็ต 10. การวัดผลและประเมนิ ผล 10.1 การวดั ผล จุดประสงค์การเรียนรู้ วิธีการวัด เคร่ืองมอื เกณฑก์ ารให้คะแนน 1. อธิบายเกี่ยวกับการ ว ั ด โ ด ย ก า ร ต ร ว จ ใบกิจกรรม ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 60 แปลงชนิดข้อมลู (K) ใบกิจกรรมที่ 4.3 การ แปลงชนิดข้อมูลและ ฟงั ก์ชันสำเรจ็ รูป 2. อธิบายฟังก์ชันสำเส็จ ว ั ด โ ด ย ก า ร ต ร ว จ ใบกจิ กรรม ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ 60 รูป (K) ใบกิจกรรมที่ 4.3 การ แปลงชนิดข้อมูลและ ฟงั ก์ชันสำเรจ็ รูป 3. สืบค้นเกี่ยวกับคำสั่ง วัดโดยการสังเกตการ และแบบประเมินทักษะ ระดับคุณภาพ 3 ภาษา C# เพื่อแปลงชนดิ สืบค้นเกี่ยวกับคำสั่ง กระบวนการ ผ่านเกณฑ์ ข้อมูลและเรียกใช้งาน ภาษา C# เพ่ือแปลงชนดิ ฟงั ก์ชันสำเร็จรปู (P) ข้อมูลและเรียกใช้งาน ฟงั กช์ นั สำเร็จรูป 4. เขียนคำสั่งภาษา C# วัดโดยการสังเกตการ แบบประเมินท ั ก ษ ะ ระดับคุณภาพ 3 เพื่อแปลงชนิดข้อมูล เขียนคำสั่งภาษา C# กระบวนการ ผ่านเกณฑ์ และเรียกใช้งานฟังก์ชัน เพื่อแปลงชนิดข้อมูล สำเร็จรปู (P) และเรียกใช้งานฟังก์ชัน สำเรจ็ รูป 5. มคี วามใฝ่เรียนรู้ (A) วัดโดยการสังเกตความ แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 3 ใฝ่เรยี นรู้ คุณลกั ษณะอันพงึ ผ่านเกณฑ์ ประสงค์ 6. มีความมุ่งมั่นในการ วัดโดยการสังเกตความ แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 3 ทำงาน (A) มงุ่ มนั่ ในการทำงาน คุณลักษณะอนั พึง ผา่ นเกณฑ์ ประสงค์
สมรรถนะสำคัญของ วัดโดยการสังเกต แบบประเมนิ สมรรถนะ ระดับคณุ ภาพ 3 ผเู้ รยี น สมรรถนะสำคัญของ 1. ความสามารถในการ ผู้เรยี น สำคัญของผเู้ รียน ผ่านเกณฑ์ คดิ 2. ความสามารถในการ วัดโดยการสงั เกต แบบประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ 3 แกป้ ัญหา คณุ ลกั ษณะอันพึง คณุ ลกั ษณะอันพึง ผ่านเกณฑ์ 3. ความสามารถในการ ประสงค์ ประสงค์ ใช้เทคโนโลยี ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ 60 คุณลักษณะอนั พงึ วัดโดยการตรวจ แบบทดสอบ ประสงค์ แบบทดสอบท้าย 1. ใฝเ่ รียนรู้ บทเรยี นท่ี 4 2. มุ่งม่ันในการทำงาน แบบทดสอบทา้ ย บทเรยี น 10.2 เกณฑก์ ารประเมนิ 1) ด้านความรู้ ใบกจิ กรรม แบบทดสอบ (10 คะแนน) (15 คะแนน) 9 - 10 คะแนน หมายถึง ดีมาก 12 - 15 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 6 - 8 คะแนน หมายถงึ ดี 9 – 11 คะแนน หมายถึง ดี 4 - 5 คะแนน หมายถึง พอใช้ 6 - 8 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0 – 3 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรงุ 0 – 5 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรงุ หมายเหตุ ด้านความรู้เกณฑ์ผา่ น รอ้ ยละ 60 ทุกประเด็นการประเมิน 2) ดา้ นทกั ษะกระบวนการ ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 3 ข้นึ ไปทกุ ตัวชีว้ ัด ถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน 3) ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ได้ระดับคุณภาพ 3 ข้ึนไปทุกตัวชี้วัด ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน 4) ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น ไดร้ ะดบั คุณภาพ 3 ขึ้นไปทกุ ตัวชีว้ ัด ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมิน
11. ข้อเสนอแนะ ใชส้ อนได้ ควรปรบั ปรงุ ………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………..………………………………………………… ………………………………………………………………………………………..…………..…………………………………… ลงช่ือ………..…………………….………………….…….. () ครพู เี่ ล้ียง วันที่........เดือน..................พ.ศ............
12. บันทึกหลังการจัดการเรยี นรู้ 1) ผลท่ีเกิดขึ้นแก่ผเู้ รยี น ดา้ นความรู้ จำนวนนกั เรียนทผี่ า่ นเกณฑ์......................คน คดิ เปน็ ร้อยละ....................... จำนวนนักเรยี นท่ีไมผ่ ่านเกณฑ์..................คน คิดเป็นรอ้ ยละ....................... ดา้ นทักษะกระบวนการ จำนวนนกั เรยี นที่ผ่านเกณฑ.์ .....................คน คดิ เปน็ ร้อยละ....................... จำนวนนกั เรียนทไ่ี ม่ผา่ นเกณฑ.์ .................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ....................... ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ จำนวนนักเรียนที่ผา่ นเกณฑ.์ .....................คน คิดเป็นรอ้ ยละ....................... จำนวนนกั เรียนที่มาผ่านเกณฑ์..................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ....................... ด้านสมรรถนะผูเ้ รยี น จำนวนนักเรยี นทผ่ี า่ นเกณฑ.์ .....................คน คิดเป็นร้อยละ....................... จำนวนนกั เรยี นที่มาผ่านเกณฑ์..................คน คดิ เปน็ ร้อยละ....................... 2) ปัญหาและอุปสรรค …………………………………………………………………………………………………………………….……………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 3) แนวทางการแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………….……………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. (ลงชื่อ)……………………………….……………. (......................................................) ผู้สอน
13. ความเห็นของหัวหนา้ กลมุ่ สาระ/สายชน้ั …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชื่อ)……………………………….……………. (......................................................) หวั หน้ากลมุ่ สาระ/สายชนั้ วนั ท่ี........เดือน..............พ.ศ............ 14. ความเห็นของฝ่ายวิชาการ …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอื่ )……………………………….……………. (......................................................) ฝ่ายวชิ าการ วันที่........เดือน..............พ.ศ............ 15. ความเห็นของผู้อำนวยการโรงเรยี น …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอ่ื )……………………………….……………. (......................................................) ผอู้ ำนวยการโรงเรียน วันที่........เดอื น..............พ.ศ............
การประเมนิ ด้านความรู้ เรอื่ ง การแปลงชนดิ ขอ้ มลู และฟงั ก์ชนั สำเรจ็ รปู อธบิ ายเก่ียวกับการแปลงชนิดข้อมูล 1. อธบิ ายการแปลงชนดิ ขอ้ มลู แบบ implicit type conversion ไดถ้ กู ตอ้ ง 2. อธบิ ายการแปลงชนดิ ข้อมลู แบบ explicit type conversion ไดถ้ ูกตอ้ ง 3. อธบิ ายการแปลงชนิดข้อมูลแบบ implicit type conversion ได้ถกู ตอ้ ง 4. อธบิ ายการแปลงชนิดขอ้ มูลแบบการใช้ เมธอด Parse ได้ถูกต้อง 5. อธบิ ายการแปลงชนดิ ขอ้ มลู แบบการใช้ เมธอด ToString ไดถ้ กู ต้อง อธิบายฟังกช์ นั สำเสจ็ รูป 1. อธบิ ายฟงั ก์ชนั ทางคณติ ศาสตร์ 2. อธิบายฟงั ก์ชันเกย่ี วกบั String 3. อธบิ ายฟงั ก์ชนั เกี่ยวกบั เวลา 4. ยกตัวอยา่ งฟังก์ชนั ทางคณติ ศาสตร์ 5. ยกตวั อย่างฟังกช์ ันทาง String
เกณฑ์การประเมนิ คณุ ภาพดา้ นความรู้ เรื่อง การแปลงชนิดข้อมลู และฟังก์ชนั สำเร็จรูป ด้านความรู้ ระดับคะแนน อธิบายเก่ยี วกับ 54 3 2 1 การแปลงชนิด ขอ้ มูล สามารถ สามารถ สามารถ สามารถ สามารถ อธิบายฟังก์ชนั อธิบาย อธบิ าย อธิบาย อธิบาย อธบิ าย สำเส็จรูป เกยี่ วกับการ เกย่ี วกับการ เกยี่ วกับการ เกยี่ วกบั การ เกีย่ วกบั การ แปลงชนดิ แปลงชนดิ แปลงชนดิ แปลงชนิด แปลงชนิด ขอ้ มูลได้ ขอ้ มลู ได้ 4 ข้อ ขอ้ มูลได้ 3 ข้อ ข้อมูลได้ 2 ข้อ ข้อมลู ได้ 1 ข้อ ครบทุกข้อ สามารถ สามารถ สามารถ สามารถ สามารถ อธิบาย อธบิ ายฟงั กช์ ัน อธบิ ายฟงั กช์ นั อธบิ ายฟงั ก์ชนั อธิบายฟงั กช์ ัน ฟงั กช์ นั สำ สำเส็จรปู ได้ 4 สำเส็จรปู ได้ 3 สำเส็จรูปได้ 2 สำเส็จรปู ได้ 1 เสจ็ รปู ได้ ขอ้ ข้อ ขอ้ ข้อ ครบทกุ ข้อ เกณฑ์การประเมนิ 9 - 10 คะแนน หมายถงึ ดมี าก 6 - 8 คะแนน หมายถงึ ดี 4 - 5 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0 – 3 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง
แบบบนั ทกึ การประเมินดา้ นความรู้ เรอ่ื ง การแปลงชนิดข้อมูลและฟงั ก์ชันสำเรจ็ รปู เลขที่ ใบกจิ กรรม รอ้ ยละ ผลการประเมนิ (10 คะแนน) ผา่ น ไม่ผา่ น หมายเหตุ 1. ใบกิจกรรม เกณฑผ์ ่านร้อยละ 60 (ลงช่ือ)……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน
การประเมินด้านทักษะกระบวนการ เรือ่ ง การแปลงชนดิ ขอ้ มูลและฟงั ก์ชนั สำเร็จรูป สบื คน้ เกีย่ วกบั คำสั่งภาษา C# เพอ่ื แปลงชนดิ ข้อมูลและเรยี กใชง้ านฟงั ก์ชันสำเรจ็ รปู 1. สบื ค้น และสรุปเนื้อหาได้อย่างถกู ต้องสมบรู ณ์ 2. แหลง่ ที่มาน่าเช่ือถือ 3. ใชง้ านเทคโนโลยี โดยไมส่ ่งผลเสีย หรือผลกระทบต่อผู้อืน่ 4. ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลอย่างรอบคอบ เขยี นคำสัง่ ภาษา C# เพื่อแปลงชนิดข้อมูลและเรียกใช้งานฟังกช์ ันสำเร็จรปู 1. เขียนคำสงั่ ภาษา C# เพ่อื แปลงชนดิ ข้อมลู และเรยี กใช้งานฟงั ก์ชนั สำเรจ็ รูปไดถ้ ูกต้อง 2 ขอ้ ข้ึนไป 2. เขียนคำสั่งภาษา C# เพอ่ื แปลงชนดิ ขอ้ มลู และเรยี กใชง้ านฟงั ก์ชันสำเร็จรูปได้ถกู ตอ้ ง 4 ข้อขน้ึ ไป 3. เขยี นคำสง่ั ภาษา C# เพ่ือแปลงชนดิ ขอ้ มูลและเรยี กใชง้ านฟงั ก์ชันสำเร็จรปู ได้ถูกตอ้ ง 6 ข้อขึ้นไป 4. เขียนคำสง่ั ภาษา C# เพอ่ื แปลงชนดิ ขอ้ มลู และเรียกใชง้ านฟงั ก์ชนั สำเร็จรปู ไดถ้ กู ตอ้ ง มากกวา่ 8 ข้อ ขน้ึ ไป
เกณฑ์การประเมินคณุ ภาพด้านทักษะกระบวนการ เรอ่ื ง การแปลงชนดิ ข้อมูลและฟงั ก์ชนั สำเรจ็ รปู ด้านทักษะ ระดบั คะแนน กระบวนการ สืบค้นเกี่ยวกบั คำส่งั 4 32 1 ภาษา C# เพื่อแปลง สามารถสืบคน้ สามารถสบื ค้น ชนิดขอ้ มลู และ เกี่ยวกบั คำสัง่ สามารถสืบคน้ สามารถสืบค้น เกย่ี วกับคำสั่ง เรยี กใชง้ านฟังก์ชัน ภาษา C# เพือ่ ภาษา C# เพ่ือ สำเรจ็ รปู แปลงชนิดขอ้ มูล เก่ียวกบั คำส่ัง เกยี่ วกับคำสั่ง แปลงชนดิ ข้อมลู และเรียกใชง้ าน และเรยี กใชง้ าน เขียนคำสั่งภาษา C# ฟงั ก์ชนั สำเร็จรปู ภาษา C# เพื่อ ภาษา C# เพื่อ ฟงั กช์ ันสำเรจ็ รปู เพอ่ื แปลงชนดิ ข้อมูล ได้ ครบทุกข้อ ได้ 1 ข้อ และเรยี กใชง้ าน สามารถเขยี น แปลงชนิดข้อมูล แปลงชนดิ ข้อมลู สามารถเขียน ฟงั กช์ นั สำเร็จรูป คำสั่งภาษา C# คำสั่งภาษา C# เพอ่ื แปลงชนิด และเรยี กใชง้ าน และเรียกใชง้ าน เพ่อื แปลงชนิด ข้อมูลและเรียกใช้ ขอ้ มูลและเรยี กใช้ งานฟังกช์ นั ฟังก์ชันสำเร็จรูป ฟงั กช์ ันสำเรจ็ รูป งานฟังก์ชนั สำเร็จรปู ไดค้ รบ สำเรจ็ รปู ได้ 1 ข้อ ทกุ ข้อ ได้ 3 ข้อ ได้ 2 ข้อ สามารถเขียน สามารถเขียน คำส่ังภาษา C# คำสงั่ ภาษา C# เพ่อื แปลงชนิด เพือ่ แปลงชนิด ข้อมูลและเรียกใช้ ขอ้ มลู และเรียกใช้ งานฟงั กช์ นั งานฟงั กช์ ัน สำเรจ็ รูปได้ 3 ขอ้ สำเรจ็ รูปได้ 2 ขอ้ หมายเหตุ ได้ระดับคะแนน 3 ขึน้ ไปทุกตวั ชวี้ ัด ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ 9 - 10 คะแนน 4 หมายถึง ดีมาก 6 – 8 คะแนน 3 หมายถงึ ดี 4 - 5 คะแนน 2 หมายถึง พอใช้ 0 - 3 คะแนน 1 หมายถงึ ปรบั ปรงุ
แบบประเมินด้านทกั ษะกระบวนการ เรอื่ ง การแปลงชนิดขอ้ มลู และฟงั ก์ชนั สำเรจ็ รปู ประเมินดา้ นทกั ษะกระบวนการ ผลการประเมนิ ที่ สบื ค้นเก่ียวกับคำสั่งภาษา C# แก้ปัญหาโดยใชป้ ระพจนแ์ ละการเชอ่ื ม ผา่ น ไมผ่ า่ น เพ่อื แปลงชนดิ ข้อมูลและ ประพจน์ เรยี กใช้งานฟงั ก์ชนั สำเรจ็ รปู (ลงชอ่ื )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน
การประเมินดา้ นสมรรถนะที่สำคญั ของผเู้ รียน เรอ่ื ง การแปลงชนิดข้อมลู และฟงั ก์ชันสำเร็จรปู ความสามารถในการคดิ 1. มีความคิดสร้างสรรค์ 2. คดิ อย่างมีวิจารณญาณมีเหตผุ ล 3. สามารถแกป้ ญั หาตา่ งๆได้อยา่ งเป็นระบบ 4. สามารถคดิ เชอ่ื มโยงสงิ่ ทไ่ี ด้เรยี นรู้ เพอ่ื นำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวันได้ ความสามารถในการแก้ปัญหา 1. แกป้ ัญหา และอปุ สรรคที่พบเจอได้ 2. วิเคราะห์สาเหตุของปัญหาท่พี บเจอได้ 3. แกป้ ัญหาได้อย่างมีลำดบั ขัน้ ตอน 4. ตดั สนิ ใจเลอื กแนวทางการแก้ปัญหาไดอ้ ยา่ งชัดเจน แนน่ อน และไมส่ ่งผลเสยี ตอ่ ผู้อนื่ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 1. สามารถใช้เทคโนโลยีในการค้นหาขอ้ มลู ได้อยา่ งหลากหลาย 2. ใชเ้ ทคโนโลยีโดยไมส่ ่งผลกระทบต่อตนเอง และผู้อื่น 3. ใชเ้ ทคโนโลยใี นการทำงานอย่างเหมะสม 4. ใชเ้ ทคโนโลยีเพอื่ พฒั นาตนเองและสังคม
เกณฑ์การประเมินสมรรถนะทสี่ ำคัญของผู้เรียน เรอื่ ง การแปลงชนิดข้อมูลและฟงั ก์ชันสำเรจ็ รูป ด้านสมรรถนะผู้เรยี น ระดับคณุ ภาพ ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4321 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มีความสามารถ มีความสามารถ ในการคิดครบ ในการคดิ ในการคดิ ในการคดิ ทุกข้อ 3 ขอ้ 2 ขอ้ 1 ขอ้ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มีความสามารถ มคี วามสามารถ ในการ ในการ ในการ ในการ แกป้ ญั หาครบ แกป้ ญั หา 3 ข้อ แก้ปัญหา 2 ข้อ แกป้ ญั หา 1 ข้อ ทุกข้อ มคี วามสามารถ มีความสามารถ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ ในการใช้ ในการใช้ ในการใช้ ในการใช้ เทคโนโลยีครบ เทคโนโลยี 3 เทคโนโลยี 2 เทคโนโลยี 1 ทกุ ข้อ ข้อ ข้อ ขอ้ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คะแนน 3 ขน้ึ ไปทุกตวั ช้วี ัด ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์การประเมนิ 4 คะแนน หมายถึง ดีมาก 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรงุ
แบบประเมินด้านสมรรถนะท่ีสำคญั ของผเู้ รียน เรื่อง การแปลงชนดิ ข้อมูลและฟังก์ชันสำเรจ็ รปู ท่ี การคิด ประเมนิ ดา้ นสมรรถนะที่สำคัญของผเู้ รยี น ผลการประเมิน ผา่ น ไมผ่ า่ น การแก้ปญั หา การใช้เทคโนโลยี (ลงช่อื )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน
การประเมินด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ เร่ือง การแปลงชนดิ ขอ้ มูลและฟงั ก์ชนั สำเรจ็ รูป ใฝ่เรยี นรู้ 1. ศกึ ษาคน้ ควา้ หาความรจู้ ากหนังสือ เอกสาร สง่ิ พิมพ์ ส่ือเทคโนโลยีต่าง ๆ แหล่งเรียนรูท้ ้ังภายในและ ภายนอกโรงเรยี น และเลือกใชส้ ่อื ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 2. ต้ังใจเรยี น 3. เอาใจใส่และมคี วามเพยี รพยายามในการเรียนรู้ 4. เขา้ ร่วมกิจกรรมทางการเรียนรู้อยู่เสมอ มุ่งม่ันในการทำงาน 1. ตง้ั ใจและรับผิดชอบในงานทไี่ ด้รับมอบหมาย 2. เพยี รพยายามในการทำงาน ด้วยความอดทนไมท่ ้อแทต้ ่ออุปสรรคท่เี กดิ ขน้ึ 3. พัฒนาการทำงานของตนเองให้ดีขน้ึ เสมอ 4. เอาใจใส่ต่อหน้าทีท่ ่ีได้รับมอบหมาย
เกณฑก์ ารด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เร่ือง การแปลงชนิดขอ้ มูลและฟังก์ชันสำเรจ็ รูป ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 4 ระดับคณุ ภาพ 1 ใฝ่เรียนรู้ มีคณุ ลกั ษณะ 32 มคี ณุ ลกั ษณะ อนั พึงประสงค์ มีคุณลักษณะ มคี ณุ ลักษณะ อันพงึ ประสงค์ มงุ่ ม่นั ในการทำงาน ดา้ นใฝเ่ รียนรู้ อนั พึงประสงค์ อันพงึ ประสงค์ ดา้ นใฝเ่ รยี นรู้ ครบทุกขอ้ ดา้ นใฝ่เรียนรู้ ดา้ นใฝ่เรยี นรู้ 1 ขอ้ มีคณุ ลักษณะ 3 ข้อ 2 ข้อ มคี ุณลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์ มคี ุณลักษณะ มคี ุณลกั ษณะ อนั พึงประสงค์ ดา้ นมุง่ มน่ั ใน อันพงึ ประสงค์ อันพงึ ประสงค์ ด้านม่งุ ม่ันใน การทำงานครบ ดา้ นมุ่งมั่นใน ด้านมงุ่ มน่ั ใน การทำงาน ทกุ ข้อ การทำงาน การทำงาน 1 ขอ้ 3 ขอ้ 2 ขอ้ หมายเหตุ ได้ระดับคะแนน 3 ข้ึนไปทุกตัวชวี้ ดั ถือวา่ ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน 4 คะแนน หมายถึง ดีมาก 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง
แบบประเมนิ ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ เรอื่ ง การแปลงชนดิ ข้อมลู และฟังก์ชนั สำเร็จรปู ประเมินด้านคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ผลการประเมิน ที่ ใฝ่เรียนรู้ มุง่ ม่ันในการทำงาน ผา่ น ไมผ่ ่าน (ลงช่ือ)……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 10 กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ัน มัธยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2563 เรอ่ื ง ประพจน์ คา่ ความจรงิ และการกำหนดเงื่อนไข วันที่ – เดอื น กนั ยายน พ.ศ. 2563 ใช้เวลา 2 ช่ัวโมง/คาบ 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแกปัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเปน็ ระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่อื สารในการเรยี นรู้การทำงาน และการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสทิ ธภิ าพ 2. ตัวชวี้ ดั ว 4.2 ม. 6/1 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอและแบง่ ปันข้อมูลอยา่ งปลอดภัย มจี รยิ ธรรม และ วิเคราะห์การเปล่ียนแปลงเทคโนโลยสี ารสนเทศทม่ี ีผลตอ่ การดำเนนิ ชวี ิต อาชพี สังคมและวฒั นธรรม 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกค่าความจริงของประพจน์ (K) 2. วิเคราะห์คา่ ความจรงิ ของปัญหาต่างๆ โดยใช้ประพจน์และการเชื่อมประพจน์ (K) 3. อธบิ ายความหมายของการกำหนดเง่อื นไข (K) 4. เขยี นเงอื่ นไขจากปัญหาตา่ งๆ โดยใช้ประพจนแ์ ละการเช่อื มประพจน์ (P) 5. แก้ปัญหาโดยใช้ประพจน์และการเชื่อมประพจน์ (P) 6. มวี ินยั (A) 7. มีความใฝเ่ รียนรู้ (A) 8. มคี วามมงุ่ ม่ันในการทำงาน (A) 4. สาระสำคัญ ประพจน์ ข้อความหรือประโยคที่มีค่าความจริง (T) หรือเท็จ (F) อย่างใดอย่างหนึ่ง ส่วนข้อความรูป คำสั่ง คำขอร้อง คำอุทาน คำปฏิเสธ ซึ่งไม่อยู่ในรูปของประโยคบอกเล่า จะเป็นข้อความที่ไม่เป็นประพจน์ สำหรับข้อความบอกเล่าแต่มีตัวแปรอยู่ด้วย ไม่สามารถบอกว่าเป็นจริงหรือเท็จจะไม่เป็นประพจน์ เรียกว่า ประโยคเปิด ประโยคที่มีค่าความจริงไม่แน่นอนหรอื ไม่อาจระบุไดว้ ่ามีคา่ ความจรงิ เป็นจริงหรือเป็นเท็จได้ ไม่ เป็นประพจน์ โดยปกติเมื่อกล่าวถึงข้อความหรือประโยคนั้นมักจะมีกริยามากกว่าหนึ่งตัว แสดงว่าได้นำ ประโยคมาเชื่อมกัน มากกว่าหนึ่งประโยค ดังนั้นถ้านำประพจน์มาเชื่อมกัน ก็จะได้ประพจน์ใหม่ ซึ่งสามารถ บอกได้ว่าเป็นจริงหรือเป็นเท็จ ตัวเชื่อมประพจน์ที่นิยมนำมาช่วยในการเขียนโปรแกรมได้แก่ ตัวเชื่อมและ, ตัวเช่อื มหรอื
5. สาระการเรยี นรู้ 1. ประพจน์ 1.1 ความหมายของประพจน์ ประพจน์ คือ ข้อความหรือประโยคที่มีค่าความจริงเป็นจริง(T) หรือเท็จ(F) อย่างใดอย่างหน่ึง เทา่ น้ัน ตัวอยา่ ง - จำนวนค่ไู ดแ้ ก่ 2,4,6 มคี า่ ความจรงิ เปน็ จรงิ - 0 มีคา่ นอ้ ยกว่า 8 มีคา่ ความจรงิ เป็นจริง - เลข 1 เปน็ จำนวนคู่ มคี ่าความจรงิ เปน็ เทจ็ - 3 มคี ่ามากกวา่ 7 มคี า่ ความจรงิ เป็นเท็จ 1.2 การเช่อื มประพจน์ เป็นการนำประพจนม์ าเชื่อมกนั มากกวา่ 1 ประพจน์ ซึง่ สามารถบอกไดว้ า่ เปน็ จรงิ หรอื เปน็ เท็จได้ ในการเขียนโปรแกรม กน็ ำเอาตวั เชื่อมประพจน์มาใช้ในเงื่อนไขตา่ งๆ เช่นกนั เพอื่ ช่วยในการตัดสินใจ ของโปรแกรม และตัวเชอ่ื มประพจนท์ น่ี ิยมนำมาใชใ้ นการเขียนโปรแกรม คือ “และ , หรือ” 2. การกำหนดเงื่อนไข ในชีวิตประจำวันของมนุษย์มักต้องประสบกับปัญหาต่างๆ มากมาย ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นนี้มี แนวทางในการแกป้ ัญหาไดห้ ลาก หลายวธิ ี ขึน้ อยกู่ บั เงื่อนไขต่างๆ ของปญั หา การเขียนโปรแกรมก็ เช่นเดยี วกนั ในการแก้ปัญหาก็จะต้องมีเงื่อนไขต่างๆ เข้ามาเกี่ยวข้อง มกี ารตดั สินใจเลือกได้ว่าจะ ทำหรอื ไมท่ ำตามคำสัง่ โดยข้นึ อยูก่ ับเง่ือนไขทเ่ี รากำหนดขน้ึ มา การกำหนดเงื่อนไขสำหรับเขียนโปรแกรม จะต้องอาศัยตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์ เข้ามา ช่วยในการกำหนดเงื่อนไขเพื่อนำไปสร้างเป็นเงื่อนไขในคำสั่งควบคุมทิศทางการทำงานของ โปรแกรม เชน่ If…else, for, switch…case เปน็ ต้น 3. การแก้ปัญหาโดยใช้ประพจน์และการเชื่อมประพจน์ 6. ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. ม่งุ มนั่ ในการทำงาน 7. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 3. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ิต
8. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นนำเขา้ สู่บทเรียน (15 นาที) 1. ครูกล่าวทักทายนกั เรียน 2. ครสู ่มุ ถามนักเรียน จำนวน 3 คน เพอ่ื ให้เกี่ยวกบั ส่งิ ทเ่ี รยี นในคาบเรียนก่อนหน้า 3. ครแู จ้งส่งิ ทีจ่ ะไดเ้ รยี นในคาบเรียนนี้ ขั้นกจิ กรรมการเรยี นการสอน (1 ชัว่ โมง 25 นาที) 4. นกั เรยี นศกึ ษาหนงั สอื อเิ ล็กทรอนิกส์ หน่วยท่ี 5 ขัน้ ตอนการแก้ปัญหา บทที่ 1 เรอื่ งประพจน์ คา่ ความจรงิ และการกำหนดเงือ่ นไข หรือแหล่งขอ้ มูลอนื่ ๆตามความสนใจ 5. ครูใชค้ ำถามเพื่อสอบถามสิง่ ท่ีนกั เรยี นได้ศกึ ษามา เก่ียวกบั ประพจน์ คา่ ความจริงและการกำหนด เงือ่ นไข 6. ครูอธบิ ายประกอบการสาธติ เกี่ยวกับประพจน์ ค่าความจริงและการกำหนดเง่ือนไข โดยใชส้ อื่ PowerPoint ในการบรรยาย และโปรแกรม Visual C# 2015 ในการสาธติ 7. นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์ประพจน์และค่าความจริง และตัวเชื่อมประพจน์ จากสถานการณ์ที่ครู กำหนดให้ 8. ครูอธิบายความหมายของการกำหนดเงื่อนไข โดยวิธกี ารบรรยาย 9. นักเรียนทำใบกิจกรรมที่ 5.1 ประพจน์แลค่าความจริง ตัวเชื่อมประพจน์ และการกำหนดเงื่อนไข ลงในสมุด ขนั้ สรุป (20 นาที) 10. นกั เรยี นและครรู ่วมกันสรปุ ประพจนแ์ ละค่าความจริง และตวั เชือ่ มประพจน์ 1) ประพจน์ ประพจน์ คือ ข้อความหรือประโยคที่มีค่าความจริงเป็นจริง(T) หรือเท็จ(F) อย่างใดอย่างหนึ่ง เทา่ นน้ั 2) การเช่อื มประพจน์ เป็นการนำประพจนม์ าเชือ่ มกันมากกว่า 1 ประพจน์ ซึง่ สามารถบอกได้ว่าเป็นจริงหรือเปน็ เท็จได้ ในการเขียนโปรแกรม กน็ ำเอาตัวเชือ่ มประพจน์มาใช้ในเงอ่ื นไขตา่ งๆ เช่นกันเพ่ือช่วยในการตดั สนิ ใจ ของโปรแกรม และตัวเชอื่ มประพจน์ทน่ี ิยมนำมาใชใ้ นการเขียนโปรแกรม คือ “และ , หรอื ” 3) การกำหนดเงื่อนไข ในชีวิตประจำวันของมนุษย์มักต้องประสบกับปัญหาต่างๆ มากมาย ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นนี้มี แนวทางในการแก้ปัญหาได้หลาก หลายวธิ ี ข้ึนอยกู่ บั เงื่อนไขต่างๆ ของปัญหา การเขยี นโปรแกรมก็ เชน่ เดยี วกัน ในการแกป้ ัญหาก็จะต้องมีเง่ือนไขตา่ งๆ เข้ามาเกีย่ วข้อง มกี ารตัดสินใจเลือกได้ว่าจะ ทำหรอื ไมท่ ำตามคำส่งั โดยขนึ้ อยูก่ ับเง่ือนไขทเ่ี รากำหนดข้นึ มา
การกำหนดเงื่อนไขสำหรับเขียนโปรแกรม จะต้องอาศัยตัวดำเนินการทางคณิตศาสตร์ เข้ามา ช่วยในการกำหนดเงื่อนไขเพื่อนำไปสร้างเป็นเงื่อนไขในคำสั่งควบคุมทิศทางการทำงานของ โปรแกรม เช่น If…else, for, switch…case เปน็ ต้น 11. ครูมอบให้นักเรียนไปศึกษาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หน่วยที่ 5 บทที่ 2 การเขียนโปรแกรมแบบมี เง่ือนไขดว้ ยคำส่งั If…else ลว่ งหน้าสำหรับการเรียนในคาบเรียนถดั ไป 9. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 9.1 สอื่ การเรียนรู้ 1) โปรแกรม Visual C# 2015 2) ใบกจิ กรรมท่ี 5.1 ประพจน์แลคา่ ความจรงิ ตัวเช่ือมประพจน์ และการกำหนดเง่ือนไข 3) หนังสอื อเิ ล็กทรอนิกส์ หน่วยที่ 5 บทที่ 1 ประพจน์ คา่ ความจรงิ และการกำหนดเงอ่ื นไข (ลิงค์ https://qrgo.page.link/5CgLt) 4) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หน่วยที่ 5 บทที่ 2 การเขียนโปรแกรมแบบมีเงื่อนไขด้วยคำสั่ง If…else (ลงิ ค์ https://qrgo.page.link/5CgLt) 9.2 แหล่งการเรียนรู้ อินเทอรเ์ น็ต 10. การวัดผลและประเมนิ ผล 10.1 การวดั ผล จุดประสงค์การเรยี นรู้ วิธีการวดั เคร่อื งมือ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 60 1. บอกค่าความจริงของ ว ั ด โ ด ย ก า ร ต ร ว จ ใบกิจกรรม ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 ประพจน์ (K) ใ บ ก ิ จ ก ร ร ม ท ี ่ 5. 1 ประพจน์แลค่าความจริง ตัวเชื่อมประพจน์ และ การกำหนดเง่ือนไข และตัวแปลภาษา โปรแกรม 2. วิเคราะห์ค่าความจริง ว ั ด โ ด ย ก า ร ต ร ว จ ใบกิจกรรม ของปัญหาต่างๆ โดยใช้ ใ บ ก ิ จ ก ร ร ม ท ี ่ 5. 1 ประพจน์และการเชื่อม ประพจน์แลค่าความจริง ประพจน์ (K) ตัวเชื่อมประพจน์ และ การกำหนดเงอ่ื นไข
และตัวแปลภาษา โปรแกรม 3. อธิบายความหมาย ว ั ด โ ด ย ก า ร ต ร ว จ ใบกิจกรรม ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 60 ของการกำหนดเงื่อนไข ใ บ ก ิ จ ก ร ร ม ท ี ่ 5. 1 (K) ประพจน์แลค่าความจริง ตัวเชื่อมประพจน์ และ การกำหนดเงอ่ื นไข และตัวแปลภาษา โปรแกรม 4. เขียนเงื่อนไขจาก วัดโดยการสังเกตการ แบบประเมินท ั ก ษ ะ ระดับคณุ ภาพ 3 ปัญหาต่างๆ โดยใช้ เขียนเงื่อนไขจากปัญหา กระบวนการ ผา่ นเกณฑ์ ประพจน์และการเชื่อม ต่างๆ โดยใช้ประพจน์ ประพจน์ (P) และการเชอ่ื มประพจน์ 5. แก้ปัญหาโ ดยใช้ วัดโดยการสังเกตการ และแบบประเมินทักษะ ระดบั คุณภาพ 3 ประพจน์และการเชื่อม แ ก ้ ป ั ญ ห า โ ด ย ใ ช้ กระบวนการ ผ่านเกณฑ์ ประพจน์ (P) ประพจน์และการเชื่อม ประพจน์ 6. มวี นิ ยั (A) วัดโดยการสังเกตความมี แบบประเมนิ ระดับคณุ ภาพ 3 วินัย คุณลักษณะอนั พงึ ผา่ นเกณฑ์ ประสงค์ 7. มีความใฝ่เรียนรู้ (A) วัดโดยการสังเกตความ แบบประเมนิ ระดบั คุณภาพ 3 ใฝ่เรยี นรู้ คุณลักษณะอันพึง ผ่านเกณฑ์ ประสงค์ 8. มีความมงุ่ มนั่ ในการ วัดโดยการสังเกตความ แบบประเมิน ระดบั คุณภาพ 3 ทำงาน (A) ม่งุ ม่ันในการทำงาน คุณลักษณะอันพงึ ผา่ นเกณฑ์ ประสงค์ สมรรถนะสำคัญของ วดั โดยการสงั เกต แบบประเมินสมรรถนะ ระดับคุณภาพ 3 ผเู้ รียน สมรรถนะสำคัญของ สำคญั ของผู้เรยี น ผา่ นเกณฑ์ 1. ความสามารถในการ ผู้เรยี น คดิ 2. ความสามารถในการ แกป้ ัญหา
3. ความสามารถในการ วดั โดยการสงั เกต แบบประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ 3 ใชท้ กั ษะชวี ติ คณุ ลักษณะอันพงึ คณุ ลักษณะอันพงึ ผ่านเกณฑ์ คณุ ลักษณะอนั พึง ประสงค์ ประสงค์ ประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งมนั่ ในการทำงาน 10.2 เกณฑก์ ารประเมิน 1) ด้านความรู้ ใบกิจกรรม (15 คะแนน) 12 - 15 คะแนน หมายถงึ ดมี าก 9 – 11 คะแนน หมายถึง ดี 6 - 8 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0 – 5 คะแนน หมายถงึ ปรบั ปรุง หมายเหตุ ด้านความรู้เกณฑผ์ า่ น รอ้ ยละ 60 ทุกประเด็นการประเมิน 2) ด้านทกั ษะกระบวนการ ได้ระดบั คุณภาพ 3 ข้นึ ไปทุกตวั ชวี้ ัด ถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ 3) ด้านคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ได้ระดับคุณภาพ 3 ขน้ึ ไปทุกตวั ชีว้ ดั ถือว่าผา่ นเกณฑ์การประเมิน 4) ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น ไดร้ ะดับคุณภาพ 3 ขนึ้ ไปทกุ ตวั ช้วี ดั ถือว่าผา่ นเกณฑ์การประเมิน
11. ข้อเสนอแนะ ใชส้ อนได้ ควรปรบั ปรงุ ………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………..………………………………………………… ………………………………………………………………………………………..…………..…………………………………… ลงช่ือ………..…………………….………………….…….. () ครูพี่เล้ียง วันท.ี่ .......เดือน..................พ.ศ............
12. บันทึกหลังการจัดการเรยี นรู้ 1) ผลท่ีเกิดขึน้ แกผ่ เู้ รยี น ดา้ นความรู้ จำนวนนกั เรียนทผี่ า่ นเกณฑ์......................คน คิดเป็นร้อยละ....................... จำนวนนักเรยี นท่ีไมผ่ ่านเกณฑ์..................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ....................... ดา้ นทักษะกระบวนการ จำนวนนกั เรยี นที่ผ่านเกณฑ.์ .....................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ....................... จำนวนนกั เรียนทไ่ี ม่ผา่ นเกณฑ.์ .................คน คดิ เป็นร้อยละ....................... ด้านคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ จำนวนนักเรียนที่ผา่ นเกณฑ.์ .....................คน คิดเป็นร้อยละ....................... จำนวนนกั เรียนที่มาผ่านเกณฑ์..................คน คิดเป็นรอ้ ยละ....................... ด้านสมรรถนะผู้เรียน จำนวนนักเรยี นทผ่ี า่ นเกณฑ.์ .....................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ....................... จำนวนนกั เรยี นที่มาผ่านเกณฑ์..................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ....................... 2) ปัญหาและอุปสรรค …………………………………………………………………………………………………………………….……………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 3) แนวทางการแก้ปัญหา …………………………………………………………………………………………………………………….……………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. (ลงชื่อ)……………………………….……………. (......................................................) ผูส้ อน
13. ความเห็นของหัวหนา้ กลมุ่ สาระ/สายชน้ั …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชื่อ)……………………………….……………. (......................................................) หวั หน้ากลมุ่ สาระ/สายชนั้ วนั ท่ี........เดือน..............พ.ศ............ 14. ความเห็นของฝ่ายวิชาการ …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอื่ )……………………………….……………. (......................................................) ฝ่ายวชิ าการ วันที่........เดือน..............พ.ศ............ 15. ความเห็นของผู้อำนวยการโรงเรยี น …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอ่ื )……………………………….……………. (......................................................) ผอู้ ำนวยการโรงเรียน วันที่........เดอื น..............พ.ศ............
การประเมินด้านความรู้ เรื่อง ประพจน์ ค่าความจรงิ และการกำหนดเง่ือนไข บอกคา่ ความจริงของประพจน์ 1. บอกคา่ ความจริงของ และ ได้ถกู ต้อง 2. บอกคา่ ความจริงของ หรอื ได้ถกู ต้อง 3. บอกค่าความจรงิ ของ ไม่ ไดถ้ ูกตอ้ ง 4. บอกการดำเนินการ และ แบบ short-circuit 5. บอกการดำเนินการ หรอื แบบ short-circuit วิเคราะหค์ า่ ความจริงของปัญหาตา่ งๆ โดยใช้ประพจนแ์ ละการเช่ือมประพจน์ 1. วิเคราะหค์ ่าความจรงิ ของปัญหาตา่ งๆ โดยใช้ประพจน์และการเช่อื มประพจน์ ได้ 1 ปัญหา 2. วิเคราะหค์ า่ ความจริงของปัญหาต่างๆ โดยใช้ประพจน์และการเชอื่ มประพจน์ ได้ 2 ปญั หา 3. วิเคราะห์คา่ ความจรงิ ของปัญหาตา่ งๆ โดยใชป้ ระพจน์และการเช่อื มประพจน์ ได้ 3 ปญั หา 4. วเิ คราะหค์ า่ ความจรงิ ของปัญหาต่างๆ โดยใช้ประพจน์และการเชอ่ื มประพจน์ ได้ 4 ปัญหา 5. วเิ คราะห์ค่าความจริงของปัญหาต่างๆ โดยใชป้ ระพจน์และการเชือ่ มประพจน์ ได้ 5 ปัญหา อธิบายความหมายของการกำหนดเง่อื นไข 1. ในชีวิตประจำวนั ของมนษุ ยม์ ักต้องประสบกับปญั หาต่างๆ มากมาย ปญั หาตา่ งๆ ทเี่ กดิ ข้ึนนีม้ แี นวทาง ในการแกป้ ญั หาไดห้ ลาก หลายวิธี ข้ึนอยู่กับเงื่อนไขต่างๆ ของปญั หา 2. การแก้ปัญหาก็จะตอ้ งมีเง่ือนไขต่างๆ เขา้ มาเกย่ี วขอ้ ง มีการตัดสนิ ใจเลือกได้ว่าจะทำหรือไม่ทำตาม คำสงั่ โดยขึน้ อยู่กบั เง่ือนไขทีเ่ รากำหนดขน้ึ มา 3. การกำหนดเงื่อนไขสำหรบั เขียนโปรแกรม จะต้องอาศัยตวั ดำเนินการทางคณิตศาสตร์ 4. การกำหนดเงื่อนไขเพือ่ นำไปสร้างเป็นเงอื่ นไขในคำสัง่ ควบคมุ ทศิ ทางการทำงานของโปรแกรม 5. เงือ่ นไขตวั อย่างเชน่ If…else, for, switch…case เปน็ ต้น
เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพดา้ นความรู้ เรอ่ื ง ประพจน์ คา่ ความจริงและการกำหนดเงื่อนไข ดา้ นความรู้ ระดับคะแนน 54 3 2 1 บอกค่าความจรงิ สามารถ สามารถบอก สามารถบอก สามารถบอก สามารถบอก ของประพจน์ บอกค่า คา่ ความจริง ค่าความจรงิ คา่ ความจรงิ ค่าความจริง ความจรงิ ของประพจน์ ของประพจน์ ของประพจน์ ของประพจน์ ของ ได้ 4 ข้อ ได้ 3 ข้อ ได้ 2 ข้อ ได้ 1 ข้อ ประพจน์ได้ ครบทุกขอ้ วิเคราะหค์ ่า สามารถ สามารถ สามารถ สามารถ สามารถ ความจริงของ วิเคราะห์คา่ วิเคราะห์คา่ วิเคราะห์คา่ วเิ คราะหค์ า่ วิเคราะห์ค่า ปญั หาตา่ งๆ โดย ความจรงิ ความจรงิ ของ ความจริงของ ความจรงิ ของ ความจรงิ ของ ใชป้ ระพจนแ์ ละ ของปญั หา ปญั หาต่างๆ ปญั หาต่างๆ ปญั หาตา่ งๆ ปัญหาตา่ งๆ การเชอ่ื ม ตา่ งๆ โดยใช้ โดยใช้ โดยใช้ โดยใช้ โดยใช้ ประพจน์ ประพจน์ ประพจน์และ ประพจน์และ ประพจนแ์ ละ ประพจนแ์ ละ และการ การเชอ่ื ม การเช่อื ม การเช่อื ม การเชือ่ ม เช่ือม ประพจน์ได้ 4 ประพจน์ได้ 3 ประพจน์ได้ 2 ประพจน์ได้ 1 ประพจน์ได้ ขอ้ ขอ้ ขอ้ ข้อ ครบทกุ ข้อ อธิบาย สามารถ สามารถ สามารถ สามารถ สามารถ ความหมายของ อธบิ าย อธบิ าย อธบิ าย อธิบาย อธบิ าย การกำหนด ความหมาย ความหมาย ความหมาย ความหมาย ความหมาย เง่ือนไข ของการ ของการ ของการ ของการ ของการ กำหนด กำหนดเง่ือนไข กำหนดเงื่อนไข กำหนดเง่ือนไข กำหนดเงื่อนไข เงื่อนไขได้ ได้ 4 ข้อ ได้ 3 ข้อ ได้ 2 ข้อ ได้ 1 ข้อ ครบทุกขอ้ เกณฑก์ ารประเมนิ 12 - 15 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 9 – 11 คะแนน หมายถึง ดี 6 - 8 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0 – 5 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง
แบบบันทึกการประเมินด้านความรู้ เรอื่ ง ประพจน์ คา่ ความจรงิ และการกำหนดเงื่อนไข เลขที่ ใบกจิ กรรม รอ้ ยละ ผลการประเมนิ (15 คะแนน) ผา่ น ไมผ่ ่าน หมายเหตุ 1. ใบกิจกรรม เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 60 (ลงชือ่ )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน
การประเมินด้านทกั ษะกระบวนการ เรื่อง ประพจน์ ค่าความจริงและการกำหนดเงอ่ื นไข เขียนเงื่อนไขจากปญั หาต่างๆ โดยใช้ประพจนแ์ ละการเช่ือมประพจน์ 1. เขยี นเงอ่ื นไขจากปญั หาต่างๆ โดยใช้การเชื่อมประพจน์ และ ได้ถูกต้อง 2. เขยี นเงอื่ นไขจากปญั หาตา่ งๆ โดยใช้การเชอ่ื มประพจน์ หรือ ได้ถูกต้อง 3. เขียนเงื่อนไขจากปญั หาต่างๆ โดยใช้การเชื่อมประพจน์ และ หรอื ได้ถูกต้อง 4. เขยี นเง่อื นไขจากปัญหาตา่ งๆ โดยใช้การเชอ่ื มประพจน์ไดถ้ ูกต้อง แก้ปัญหาโดยใชป้ ระพจน์และการเช่อื มประพจน์ 1. แก้ปญั หาโดยใช้ประพจนแ์ ละการเชอ่ื มประพจน์ได้ถูกต้อง 1 ปญั หา 2. แก้ปัญหาโดยใชป้ ระพจน์และการเช่ือมประพจน์ไดถ้ ูกต้อง 2 ปญั หา 3. แกป้ ญั หาโดยใช้ประพจนแ์ ละการเชือ่ มประพจน์ได้ถูกต้อง 2 ปัญหา 4. แก้ปัญหาโดยใชป้ ระพจนแ์ ละการเชอื่ มประพจน์ไดถ้ ูกต้องมากกว่า 3 ปัญหา
เกณฑก์ ารประเมนิ คุณภาพด้านทกั ษะกระบวนการ เร่อื ง ประพจน์ คา่ ความจรงิ และการกำหนดเงื่อนไข ด้านทักษะ ระดับคะแนน กระบวนการ เขียนเง่อื นไขจาก 4321 ปัญหาต่างๆ โดยใช้ ประพจนแ์ ละการ สามารถเขยี น สามารถเขยี น สามารถเขียน สามารถเขยี น เช่อื มประพจน์ เงือ่ นไขจากปัญหา เงอ่ื นไขจากปัญหา เงือ่ นไขจากปัญหา เงอ่ื นไขจากปัญหา แกป้ ญั หาโดยใช้ ประพจน์และการ ต่างๆ โดยใช้ ต่างๆ โดยใช้ ต่างๆ โดยใช้ ต่างๆ โดยใช้ เชือ่ มประพจน์ ประพจน์และการ ประพจน์และการ ประพจนแ์ ละการ ประพจน์และการ เชื่อมประพจน์ได้ เชอ่ื มประพจน์ได้ เชื่อมประพจน์ได้ เช่อื มประพจน์ได้ ครบทกุ ขอ้ 3 ข้อ 2 ขอ้ 1 ข้อ สามารถแก้ปญั หา สามารถแก้ปญั หา สามารถแก้ปัญหา สามารถแก้ปัญหา โดยใชป้ ระพจน์ โดยใชป้ ระพจน์ โดยใช้ประพจน์ โดยใช้ประพจน์ และการเช่ือม และการเช่ือม และการเช่ือม และการเช่ือม ประพจน์ได้ ครบ ประพจน์ได้ 3 ข้อ ประพจน์ได้ 2 ข้อ ประพจน์ได้ 1 ข้อ ทุกข้อ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คะแนน 3 ข้ึนไปทุกตวั ชีว้ ัด ถอื ว่าผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน 9 - 10 คะแนน 4 หมายถึง ดีมาก 6 – 8 คะแนน 3 หมายถงึ ดี 4 - 5 คะแนน 2 หมายถึง พอใช้ 0 - 3 คะแนน 1 หมายถึง ปรับปรุง
แบบประเมินด้านทกั ษะกระบวนการ เรื่อง ประพจน์ ค่าความจรงิ และการกำหนดเงอ่ื นไข ประเมินดา้ นทักษะกระบวนการ ผลการประเมิน ท่ี เขยี นเงอื่ นไขจากปญั หาตา่ งๆ แกป้ ัญหาโดยใชป้ ระพจนแ์ ละการเช่ือม ผา่ น ไม่ผ่าน โดยใชป้ ระพจน์และการเชอ่ื ม ประพจน์ ประพจน์ (ลงชือ่ )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน
การประเมนิ ดา้ นสมรรถนะท่ีสำคัญของผเู้ รียน เร่อื ง ประพจน์ คา่ ความจริงและการกำหนดเง่ือนไข ความสามารถในการคดิ 1. มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ 2. คดิ อย่างมีวจิ ารณญาณมีเหตผุ ล 3. สามารถแก้ปัญหาต่างๆได้อย่างเปน็ ระบบ 4. สามารถคิดเช่ือมโยงสิ่งที่ได้เรยี นรู้ เพอ่ื นำไปใช้ในชีวติ ประจำวนั ได้ ความสามารถในการแก้ปญั หา 1. แกป้ ญั หา และอปุ สรรคท่ีพบเจอได้ 2. วเิ คราะหส์ าเหตขุ องปัญหาที่พบเจอได้ 3. แกป้ ัญหาได้อยา่ งมลี ำดบั ข้ันตอน 4. ตดั สินใจเลือกแนวทางการแกป้ ญั หาไดอ้ ย่างชัดเจน แน่นอน และไม่สง่ ผลเสียตอ่ ผู้อืน่ ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 1. สามารถใช้เทคโนโลยีในการคน้ หาข้อมลู ได้อย่างหลากหลาย 2. ใช้เทคโนโลยีโดยไมส่ ง่ ผลกระทบต่อตนเอง และผู้อืน่ 3. ใชเ้ ทคโนโลยีในการทำงานอย่างเหมะสม 4. ใช้เทคโนโลยเี พ่อื พัฒนาตนเองและสงั คม
เกณฑ์การประเมนิ สมรรถนะทสี่ ำคัญของผ้เู รยี น เรือ่ ง ประพจน์ ค่าความจริงและการกำหนดเงือ่ นไข ด้านสมรรถนะผูเ้ รียน ระดับคุณภาพ ความสามารถในการคดิ ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4321 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี มีความสามารถ มีความสามารถ มีความสามารถ มคี วามสามารถ ในการคิดครบ ในการคิด ในการคิด ในการคดิ ทุกข้อ 3 ข้อ 2 ขอ้ 1 ข้อ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ ในการ ในการ ในการ ในการ แกป้ ญั หาครบ แกป้ ัญหา 3 ข้อ แก้ปัญหา 2 ข้อ แก้ปัญหา 1 ข้อ ทุกข้อ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มีความสามารถ มีความสามารถ ในการใช้ ในการใช้ ในการใช้ ในการใช้ เทคโนโลยคี รบ เทคโนโลยี 3 เทคโนโลยี 2 เทคโนโลยี 1 ทุกข้อ ข้อ ข้อ ขอ้ หมายเหตุ ไดร้ ะดับคะแนน 3 ขน้ึ ไปทุกตวั ช้ีวัด ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์การประเมิน 4 คะแนน หมายถึง ดีมาก 3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง
แบบประเมินด้านสมรรถนะท่สี ำคญั ของผูเ้ รยี น เรื่อง ประพจน์ ค่าความจรงิ และการกำหนดเง่ือนไข ที่ การคดิ ประเมินดา้ นสมรรถนะท่ีสำคัญของผเู้ รยี น ผลการประเมิน ผ่าน ไมผ่ า่ น การแก้ปญั หา การใช้เทคโนโลยี (ลงชอ่ื )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443