แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชาการเขียนโปรแกรมภาษาคอมพิวเตอร์

เกณฑ์การประเมินคณุ ภาพด้านความรู้ เร่ือง เทคโนโลยใี นชีวิตประจำวนั ดา้ นความรู้ 5 4 ระดับคะแนน 2 1 สามารถบอก สามารถบอก 3 สามารถบอก สามารถบอก บอกความหมาย ความหมาย ความหมาย ความหมาย ความหมาย เทคโนโลยี เทคโนโลยีได้ เทคโนโลยีได้ สามารถบอก เทคโนโลยีได้ เทคโนโลยีได้ ครบทุกขอ้ 4 ข้อ ความหมาย 2 ข้อ 1 ขอ้ อธิบายบทบาท สามารถ สามารถ เทคโนโลยีได้ สามารถ สามารถ ของเทคโนโลยี อธบิ าย อธิบาย 3 ขอ้ อธิบาย อธิบาย ในชวี ิต บทบาทของ บทบาทของ สามารถ บทบาทของ บทบาทของ ประจำวัน เทคโนโลยีใน เทคโนโลยใี น อธิบาย เทคโนโลยีใน เทคโนโลยีใน ชีวิตประจำวัน ชีวติ ประจำวนั บทบาทของ ชีวิตประจำวนั ชวี ติ ประจำวัน ได้ครบทุกข้อ ได้ 4 ข้อ เทคโนโลยีใน ได้ 2 ข้อ ได้ 1 ข้อ ชีวติ ประจำวนั ได้ 3 ข้อ เกณฑ์การประเมิน 9 - 10 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 6 - 8 คะแนน หมายถึง ดี 4 – 5 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0 – 3 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง

แบบบนั ทกึ การประเมนิ ด้านความรู้ เร่อื ง เทคโนโลยีในชวี ติ ประจำวนั เลขที่ สรุปความรู้ ร้อยละ ผลการประเมนิ (10 คะแนน) ผ่าน ไม่ผา่ น หมายเหตุ 1. สรปุ ความรู้ เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 60 (ลงช่ือ)……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน

การประเมนิ ดา้ นทกั ษะกระบวนการ เรื่อง เทคโนโลยใี นชีวิตประจำวนั สบื ค้นความรู้เรือ่ งความหมาย และบทบาทของเทคโนโลยีในชีวิตประจำวนั 1. สบื คน้ และสรุปเนอ้ื หาได้อยา่ งถูกต้องสมบรู ณ์ 2. ลำดับข้ันตอนการสรปุ อยา่ งเปน็ ระบบ เปน็ ขั้นตอน 3. ใช้งานเทคโนโลยี โดยไม่ส่งผลเสยี หรือผลกระทบต่อผูอ้ ่ืน 4. นำความรูท้ ีไ่ ด้มาเสนอในกลมุ่ และมีส่วนร่วมในการตรวจสอบข้อมูลท่ีได้มาของเพื่อนในกล่มุ นำเสนอความหมาย และบทบาทของเทคโนโลยีในชวี ิตประจำวัน 1. ใชภ้ าษาอย่างสุภาพ เหมาะสม 2. เสียงดงั ชดั เจน 3. ลำดบั ขั้นตอนการนำเสนอ อย่างเปน็ ข้นั ตอน 4. มีเทคนิคในการนำเสนอที่นา่ สนใจ

เกณฑ์การประเมินคุณภาพด้านทักษะกระบวนการ เร่อื ง เทคโนโลยใี นชีวติ ประจำวัน ด้านทักษะ ระดับคะแนน กระบวนการ สืบค้นความร้เู รอ่ื ง 4 32 1 ความหมาย และ สามารถสบื คน้ สามารถสบื คน้ บทบาทของ ความร้เู ร่ือง สามารถสบื คน้ สามารถสบื คน้ ความรู้เรอ่ื ง เทคโนโลยีใน ความหมาย และ ความหมาย และ ชวี ิตประจำวนั บทบาทของ ความรูเ้ รื่อง ความรเู้ รอ่ื ง บทบาทของ เทคโนโลยใี น เทคโนโลยใี น นำเสนอความหมาย ชีวิตประจำวัน ความหมาย และ ความหมาย และ ชีวติ ประจำวนั ได้ และบทบาทของ ไดค้ รบทุกข้อ 1 ขอ้ เทคโนโลยใี น สามารถนำเสนอ บทบาทของ บทบาทของ สามารถนำเสนอ ชวี ติ ประจำวนั ความหมาย และ ความหมาย และ บทบาทของ เทคโนโลยีใน เทคโนโลยีใน บทบาทของ เทคโนโลยีใน เทคโนโลยีใน ชีวิตประจำวนั ได้ ชวี ติ ประจำวนั ได้ ชวี ิตประจำวันได้ ชีวิตประจำวันได้ ครบทกุ ขอ้ 1 ข้อ 3 ข้อ 2 ข้อ สามารถนำเสนอ สามารถนำเสนอ ความหมาย และ ความหมาย และ บทบาทของ บทบาทของ เทคโนโลยใี น เทคโนโลยีใน ชีวติ ประจำวนั ได้ ชีวติ ประจำวนั ได้ 3 ขอ้ 2 ข้อ หมายเหตุ ไดร้ ะดับคะแนน 3 ขนึ้ ไปทุกตัวชีว้ ดั ถอื ว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ 9 - 10 คะแนน หมายถึง ดมี าก 6 - 8 คะแนน หมายถึง ดี 4 - 5 คะแนน หมายถึง พอใช้ 0 – 3 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง

แบบประเมินด้านทักษะกระบวนการ เรือ่ ง เทคโนโลยใี นชวี ิตประจำวัน ประเมินด้านทกั ษะกระบวนการ ผลการประเมิน ผ่าน ไม่ผ่าน ที่ สืบค้นความรู้เรอ่ื งความหมาย นำเสนอความหมาย และ และบทบาทของเทคโนโลยีใน บทบาทของเทคโนโลยีใน ชวี ติ ประจำวนั ชีวิตประจำวัน (ลงชื่อ)……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน

การประเมินดา้ นสมรรถนะท่ีสำคัญของผู้เรยี น เรอ่ื ง เทคโนโลยใี นชีวิตประจำวนั ความสามารถในการคิด 1. มคี วามคิดสร้างสรรค์ 2. คดิ อยา่ งมีวจิ ารณญาณมีเหตุผล 3. สามารถแกป้ ญั หาตา่ งๆได้อย่างเปน็ ระบบ 4. สามารถคิดเช่ือมโยงสิง่ ท่ีได้เรยี นรู้ เพื่อนำไปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั ได้ ความสามารถในการสอื่ สาร 1. เลือกรับข้อมูลขา่ วสารอย่างมเี หตผุ ล 2. พดู จาชัดเจนไม่กำกวม 3. พดู โดยคำนงึ ถึงผลกระทบที่มตี ่อตนเอง และสงั คม 4. แลกเปล่ียนข้อมลู ขา่ วสารและประสบการณอ์ ันจะเป็นประโยชน์ต่อการพฒั นาตนเองและสงั คม ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 1. สามารถใช้เทคโนโลยใี นการค้นหาขอ้ มลู ได้อยา่ งหลากหลาย 2. ใช้เทคโนโลยีโดยไมส่ ่งผลกระทบต่อตนเอง และผู้อ่ืน 3. ใช้เทคโนโลยีในการทำงานอย่างเหมะสม 4. ใช้เทคโนโลยเี พือ่ พัฒนาตนเองและสังคม

เกณฑ์การประเมนิ สมรรถนะท่ีสำคญั ของผเู้ รียน เรื่อง เทคโนโลยใี นชวี ิตประจำวัน ด้านสมรรถนะผู้เรียน ระดบั คุณภาพ ความสามารถในการคดิ 4321 ความสามารถในการสอ่ื สาร มคี วามสามารถ มีความสามารถ มีความสามารถ มีความสามารถ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ในการคดิ ครบ ในการคดิ ในการคิด ในการคดิ ทกุ ข้อ 3 ข้อ 2 ข้อ 1 ข้อ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มีความสามารถ มคี วามสามารถ ในการสื่อสาร ในการส่ือสาร ในการส่ือสาร ในการส่อื สาร ครบทุกขอ้ 3 ข้อ 2 ขอ้ 1 ขอ้ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ มีความสามารถ มีความสามารถ ในการใช้ ในการใช้ ในการใช้ ในการใช้ เทคโนโลยี เทคโนโลยี เทคโนโลยี เทคโนโลยี ครบทกุ ข้อ 3 ข้อ 2 ข้อ 1 ข้อ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คะแนน 3 ขึน้ ไปทุกตัวชีว้ ดั ถอื วา่ ผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ 4 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง

แบบประเมินดา้ นสมรรถนะท่สี ำคัญของผเู้ รียน เร่อื ง เทคโนโลยใี นชวี ิตประจำวัน ท่ี การคดิ ประเมินด้านสมรรถนะท่ีสำคัญของผเู้ รยี น ผลการประเมิน ผา่ น ไมผ่ า่ น การสื่อสาร การใช้เทคโนโลยี (ลงชือ่ )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน

การประเมนิ ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ เร่ือง เทคโนโลยใี นชวี ิตประจำวนั ใฝ่เรียนรู้ 1. ศกึ ษาค้นคว้าหาความรจู้ ากหนังสอื เอกสาร ส่งิ พิมพ์ ส่อื เทคโนโลยตี า่ ง ๆ แหล่งเรยี นร้ทู ้งั ภายในและ ภายนอกโรงเรยี น และเลือกใชส้ อื่ ไดอ้ ย่างเหมาะสม 2. ตง้ั ใจเรยี น 3. เอาใจใสแ่ ละมีความเพยี รพยายามในการเรยี นรู้ 4. เข้าร่วมกิจกรรมทางการเรียนรอู้ ย่เู สมอ มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 1. ตัง้ ใจและรับผิดชอบในงานท่ีไดร้ ับมอบหมาย 2. เพียรพยายามในการทำงาน ด้วยความอดทนไม่ท้อแท้ต่ออปุ สรรคทเ่ี กิดขึน้ 3. พัฒนาการทำงานของตนเองใหด้ ีขน้ึ เสมอ 4. เอาใจใส่ต่อหน้าท่ีที่ไดร้ บั มอบหมาย

เกณฑก์ ารดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ เรอ่ื ง เทคโนโลยีในชวี ติ ประจำวนั ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 4 ระดับคณุ ภาพ 1 ใฝเ่ รียนรู้ มีคณุ ลักษณะ 32 มคี ณุ ลกั ษณะ อันพงึ ประสงค์ มคี ณุ ลักษณะ มคี ุณลกั ษณะ อันพึงประสงค์ มุ่งม่ันในการทำงาน ดา้ นใฝ่เรยี นรู้ อนั พงึ ประสงค์ อนั พึงประสงค์ ดา้ นใฝ่เรียนรู้ ครบทุกขอ้ ด้านใฝเ่ รียนรู้ ดา้ นใฝเ่ รียนรู้ 1 ขอ้ มคี ณุ ลกั ษณะ 3 ข้อ 2 ข้อ มคี ุณลกั ษณะ อันพงึ ประสงค์ มคี ุณลักษณะ มีคณุ ลกั ษณะ อันพึงประสงค์ ดา้ นมงุ่ ม่นั ใน อันพงึ ประสงค์ อนั พึงประสงค์ ดา้ นมุ่งมั่นใน การทำงานครบ ด้านมุ่งมน่ั ใน ดา้ นมุ่งม่ันใน การทำงาน ทุกข้อ การทำงาน การทำงาน 1 ข้อ 3 ขอ้ 2 ขอ้ หมายเหตุ ไดร้ ะดบั คะแนน 3 ขึน้ ไปทุกตัวชวี้ ัด ถอื วา่ ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน 4 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรงุ

แบบประเมนิ ด้านคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ เรือ่ ง เทคโนโลยีในชีวิตประจำวัน ประเมนิ ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ผลการประเมนิ ที่ ใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งมั่นในการทำงาน ผ่าน ไม่ผ่าน (ลงชอ่ื )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 กลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2563 เรือ่ ง การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี วนั ท่ี – เดอื น กรกฎาคม พ.ศ. 2563 ใช้เวลา 2 ช่ัวโมง/คาบ 1. มาตรฐานการเรียนรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแกปัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอย่างเป็นขั้นตอนและเปน็ ระบบ ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศและการสือ่ สารในการเรยี นรู้การทำงาน และการแก้ปญั หาไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 2. ตวั ช้วี ดั ว 4.2 ม. 6/1 ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศในการนำเสนอและแบง่ ปนั ข้อมลู อยา่ งปลอดภัย มีจรยิ ธรรม และ วิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีสารสนเทศท่ีมีผลตอ่ การดำเนินชีวิต อาชีพ สังคมและวฒั นธรรม 3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. อธบิ ายสาเหตุหรือปจั จยั ทม่ี ผี ลต่อการเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยี (K) 2. ยกตวั อยา่ งการเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี (K) 3. สืบค้นการแปลงแปลงเทคโนโลยี สาเหตุหรือปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี พรอ้ มยกตวั อย่าง (P) 4. นำเสนอการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี สาเหตุหรือปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี พร้อมยกตัวอยา่ ง (P) 5. มีความใฝ่เรยี นรู้ (A) 6. มีความม่งุ มน่ั ในการทำงาน (A) 4. สาระสำคัญ มนุษย์สร้างหรือพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาเพื่อแก้ปัญหาหรือสนองความต้องการ ซึ่งเทคโนโลยีที่ถูก สร้าง ขึ้นจะมีประโยชน์ ณ ช่วงเวลาใดเวลาหน่ึง เมื่อเวลาผ่านไป มนุษย์อาจพบปัญหาหรือสถานการณ์ใหม่ ทำาให้ ต้องสร้างหรือพัฒนาเทคโนโลยีขึ้นมาเพื่อใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ปัจจัยที่ส่งผลต่อ การ เปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีสาเหตุมาจากหลายด้าน เช่น ปัญหา ความต้องการ ความก้าวหน้าของศาสตร์ต่าง ๆ สภาพเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งความเข้าใจเกี่ยวกับ ปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีเหล่านี้ สามารถใช้เป็นแนวทางเพื่อการพัฒนาต่อยอด เทคโนโลยใี ห้มีประสิทธิภาพและทนั สมัย ตลอดจนสามารถคาดการณเ์ ทคโนโลยีท่อี าจเกดิ ขึ้นในอนาคตได้

5. สาระการเรียนรู้ 1. สาเหตหุ รือปจั จัยของการเปลยี่ นทางเทคโนโลยี สาเหตหุ รอื ปจั จยั ของการเปล่ยี นทางเทคโนโลยี มี 5 ปจั จยั ดังน้ี 1) แก้ปญั หาสนองความต้องการและเพิม่ ความสามารถของมนษุ ย์ 2) ความกา้ วหน้าของศาสตร์ตา่ ง ๆ โดยเฉพาะวิทยาศตรแ์ ละคณติ ศาสตร์ 3) เศรษฐกจิ หรอื ฐานะทางการเงนิ 4) สภาพแวดลอ้ มทางธรรมชาติ 5) สงั คมและวฒั นธรรมความนิยมแพร่หลาย 6. ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รยี นรู้ 2. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน 7. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการสือ่ สาร 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 8. กิจกรรมการเรียนรู้ ขั้นนำเข้าสบู่ ทเรียน (15 นาที) 1. ครกู ลา่ วทกั ทายนกั เรียน 2. ครสู มุ่ สอบถามนกั เรียนจำนวน 3 คน โดยใชค้ ำถามว่า “นักเรียนคดิ ว่าอุปกรณ์ที่แสดงในปัจจุบันมี การเปลี่ยนแปลงอย่างไรบา้ ง” (ดินสอและปากกา, ซดี แี ละแฟลชไดร์ฟ) 3. ครแู จง้ ส่งิ ทีจ่ ะได้เรยี นในคาบเรยี นน้ี ข้ันกิจกรรมการเรยี นการสอน (1 ช่วั โมง 25 นาที) 4. นักเรียนแบ่งกลุ่มแบบคละโดยการนบั เลข กล่มุ ละ 6 คน สืบค้นความรู้เรื่องสาเหตหุ รอื ปัจจัยที่มผี ล ต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ทั้งจากหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หน่วยที่ 1 บทที่ 2 การ เปล่ียนแปลงเทคโนโลยี หรือแหลง่ ความรู้อืน่ ๆ 5. นักเรียนสรุปความรู้เรื่องสาเหตุหรือปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี โดยเขียนลง ในฟลิปชารท์ และนำเสนอหน้าช้นั เรียน 6. ครูอธิบายสาเหตุหรือปัจจัยที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี แบบบรรยายโดยใช้ส่ือ PowerPoint

ขนั้ สรุป (20 นาที) 7. นกั เรยี นและครูรว่ มกันสรุปสาเหตุหรอื ปจั จัยที่มผี ลตอ่ การเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยี สาเหตุหรือปัจจยั ของการเปล่ียนทางเทคโนโลยี สาเหตหุ รอื ปัจจัยของการเปลย่ี นทางเทคโนโลยี มี 5 ปจั จัย ดงั น้ี - แก้ปญั หาสนองความตอ้ งการและเพิม่ ความสามารถของมนุษย์ - ความก้าวหน้าของศาสตร์ตา่ ง ๆ โดยเฉพาะวทิ ยาศตรแ์ ละคณิตศาสตร์ - เศรษฐกิจหรอื ฐานะทางการเงิน - สภาพแวดลอ้ มทางธรรมชาติ - สงั คมและวฒั นธรรมความนยิ มแพร่หลาย 8. ครูมอบให้นักเรียนไปศึกษาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หน่วยที่ 2 บทที่ 1 ขั้นตอนการแก้ปัญหา ลว่ งหนา้ สำหรบั การเรียนในคาบเรียนถัดไป 9. นกั เรียนทำแบบทดสอบทา้ ยบทเรียนที่ 1 9. สอ่ื /แหลง่ การเรียนรู้ 9.1 ส่ือการเรยี นรู้ 1) หนังสอื อเิ ล็กทรอนิกส์ หนว่ ยที่ 1 บทที่ 2 การเปลยี่ นแปลงเทคโนโลยี (ลงิ ค์ https://qrgo.page.link/ 5CgLt) 2) หนังสอื อเิ ล็กทรอนิกส์ หนว่ ยท่ี 2 บทที่ 1 ข้ันตอนการแกป้ ัญหา (ลงิ ค์ https://qrgo.page.link/ 5CgLt) 3) สไลด์ PowerPoint เร่ือง เทคโนโลยีในชวี ติ ประจำวนั 4) แบบทดสอบท้ายบทเรียนที่ 1 9.2 แหลง่ การเรียนรู้ อินเทอร์เน็ต 10. การวดั ผลและประเมนิ ผล 10.1 การวัดผล จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ วิธีการวดั เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารให้คะแนน สรปุ ความรู้ ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 1. อธิบายสาเหตหุ รือ วดั โดยการตรวจสรุป ปัจจยั ทมี่ ีผลต่อ ความรเู้ รอื่ งสาเหตหุ รือ การเปลยี่ นแปลง ปัจจัยของที่มผี ลตอ่ การ ของเทคโนโลยี (K) เปล่ียนของเทคโนโลยี

2. ยกตวั อย่าง วดั โดยการตรวจสรุป สรุปความรู้ ผา่ นเกณฑร์ ้อยละ 60 การเปลี่ยนแปลง ของเทคโนโลยี (K) ความรู้เร่ืองสาเหตหุ รือ 3. สบื คน้ สาเหตุหรือ ปจั จัยที่มีผลต่อการ ปัจจัยที่มีผลต่อการ เปล่ยี นแปลง เปล่ียนของเทคโนโลยี ของเทคโนโลยี พรอ้ มยกตวั อยา่ ง (P) วดั โดยการตรวจสงั เกต แบบประเมินท ั ก ษ ะ ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 4. นำเสนอสาเหตหุ รือ ปจั จัยการเปลี่ยนแปลง การสืบคน้ สาเหตหุ รือ กระบวนการ ของเทคโนโลยี พรอ้ ม ยกตัวอย่าง (P) ปัจจยั ทม่ี ีผลต่อการ 7. มีความใฝ่เรียนรู้ (A) เปล่ียนของเทคโนโลยี 8. มีความมุ่งมน่ั ในการ พร้อมยกตัวอย่าง ทำงาน (A) วดั โดยการสงั เกตการ แบบประเมินท ั ก ษ ะ ระดับคุณภาพ 3 สมรรถนะสำคัญของ ผู้เรียน นำเสนอสาเหตุหรอื กระบวนการ ผ่านเกณฑ์ 1. ความสามารถในการ คดิ ปจั จัยทมี่ ผี ลต่อการ 2. ความสามารถในการ สื่อสาร เปลย่ี นของเทคโนโลยี 3. ความสามารถในการ ใช้เทคโนโลยี พร้อมยกตวั อยา่ ง คุณลกั ษณะอนั พึง ประสงค์ วัดโดยการสังเกตความ แบบประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ 3 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มงุ่ มั่นในการทำงาน ใฝเ่ รียนรู้ คณุ ลักษณะอนั พงึ ผา่ นเกณฑ์ ประสงค์ วัดโดยการสังเกตความ แบบประเมิน ระดบั คณุ ภาพ 3 มุง่ มั่นในการทำงาน คณุ ลักษณะอันพึง ผา่ นเกณฑ์ ประสงค์ วดั โดยการสงั เกต แบบประเมินสมรรถนะ ระดับคุณภาพ 3 สมรรถนะสำคัญของ สำคัญของผู้เรียน ผา่ นเกณฑ์ ผเู้ รียน วัดโดยการสงั เกต แบบประเมนิ ระดับคณุ ภาพ 3 คณุ ลกั ษณะอนั พึง คุณลักษณะอันพงึ ผ่านเกณฑ์ ประสงค์ ประสงค์

แบบทดสอบทา้ ย วัดโดยการตรวจ แบบทดสอบ ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 60 บทเรียนท่ี 1 แบบทดสอบท้าย บทเรียน 1 10.2 เกณฑก์ ารประเมนิ 1) ด้านความรู้ สรุปความรู้ (10 คะแนน) 9 - 10 คะแนน หมายถึง ดีมาก 6 - 8 คะแนน หมายถึง ดี 4 - 5 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0 – 3 คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง หมายเหตุ ด้านความรเู้ กณฑผ์ า่ น ร้อยละ 60 ทุกประเดน็ การประเมิน 2) ด้านทักษะกระบวนการ ไดร้ ะดับคณุ ภาพ 3 ข้ึนไปทกุ ตัวชีว้ ัด ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน 3) ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ไดร้ ะดับคุณภาพ 3 ขึ้นไปทุกตวั ชว้ี ดั ถือวา่ ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ 4) ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ไดร้ ะดับคุณภาพ 3 ขึ้นไปทุกตัวชีว้ ัด ถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน

11. ข้อเสนอแนะ  ใชส้ อนได้  ควรปรบั ปรงุ ………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………..………………………………………………… ………………………………………………………………………………………..…………..…………………………………… ลงช่ือ………..…………………….………………….…….. () ครูพี่เล้ียง วันท.ี่ .......เดือน..................พ.ศ............

12. บนั ทึกหลังการจัดการเรียนรู้ 1) ผลที่เกิดขึ้นแกผ่ ู้เรยี น ด้านความรู้ จำนวนนกั เรยี นท่ผี ่านเกณฑ์......................คน คดิ เปน็ ร้อยละ....................... จำนวนนักเรียนที่ไม่ผา่ นเกณฑ.์ .................คน คิดเป็นร้อยละ....................... ดา้ นทักษะกระบวนการ จำนวนนกั เรยี นทผ่ี า่ นเกณฑ์......................คน คดิ เป็นร้อยละ....................... จำนวนนกั เรียนทไ่ี มผ่ า่ นเกณฑ.์ .................คน คิดเป็นรอ้ ยละ....................... ด้านคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ จำนวนนักเรียนท่ผี ่านเกณฑ.์ .....................คน คิดเป็นรอ้ ยละ....................... จำนวนนักเรียนที่มาผ่านเกณฑ์..................คน คิดเป็นรอ้ ยละ....................... ดา้ นสมรรถนะผเู้ รียน จำนวนนกั เรียนที่ผา่ นเกณฑ์......................คน คิดเปน็ ร้อยละ....................... จำนวนนกั เรียนที่มาผ่านเกณฑ.์ .................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ....................... 2) ปัญหาและอปุ สรรค …………………………………………………………………………………………………………………….……………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 3) แนวทางการแกป้ ญั หา …………………………………………………………………………………………………………………….……………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. (ลงช่ือ)……………………………….……………. (......................................................) ผู้สอน วันท.ี่ .......เดอื น..............พ.ศ............

13. ความเห็นของหัวหนา้ กลมุ่ สาระ/สายชน้ั …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชื่อ)……………………………….……………. (......................................................) หวั หน้ากลมุ่ สาระ/สายชนั้ วนั ท่ี........เดือน..............พ.ศ............ 14. ความเห็นของฝ่ายวิชาการ …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอื่ )……………………………….……………. (......................................................) ฝ่ายวชิ าการ วันที่........เดือน..............พ.ศ............ 15. ความเห็นของผู้อำนวยการโรงเรยี น …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอ่ื )……………………………….……………. (......................................................) ผอู้ ำนวยการโรงเรียน วันที่........เดอื น..............พ.ศ............

การประเมินดา้ นความรู้ เร่อื ง การเปลย่ี นแปลงเทคโนโลยี อธิบายสาเหตุหรือปัจจัยการเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยี 1. แก้ปัญหาสนองความต้องการและเพิ่มความสามารถของมนุษย์ 2. ความกา้ วหน้าของศาสตร์ต่าง ๆ โดยเฉพาะวิทยาศตร์และคณิตศาสตร์ 3. เศรษฐกิจหรอื ฐานะทางการเงิน 4. สภาพแวดลอ้ มทางธรรมชาติ 5. สงั คมและวัฒนธรรมความนิยมแพรห่ ลาย ยกตัวอยา่ งการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี 1. ยกตวั อยา่ งการเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี ที่ชว่ ยตอบสนองความตอ้ งการและเพ่ิมความสามารถของ มนษุ ย์ 2. ยกตวั อย่างการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ที่ชว่ ยสง่ เสรมิ ความกา้ วหนา้ ของศาสตรต์ า่ ง ๆ โดยเฉพาะ วทิ ยาศตร์และคณติ ศาสตร์ 3. ยกตัวอยา่ งการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี ทช่ี ่วยสง่ เสริมเศรษฐกิจหรอื ฐานะทางการเงนิ 4. ยกตวั อยา่ งการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ทชี่ ว่ ยส่งเสรมิ ดา้ นสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติ 5. ยกตัวอย่างการเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี ทช่ี ่วยสง่ เสริมดา้ นสงั คมและวฒั นธรรมความนยิ ม แพรห่ ลาย

เกณฑก์ ารประเมนิ คณุ ภาพด้านความรู้ เรอ่ื ง การเปลยี่ นแปลงเทคโนโลยี ด้านความรู้ 54 ระดับคะแนน 1 สามารถบอก สามารถบอก 32 สามารถบอก อธบิ ายสาเหตุ ความหมาย ความหมาย ความหมาย หรอื ปจั จัยการ เทคโนโลยีได้ เทคโนโลยีได้ สามารถบอก สามารถบอก เทคโนโลยีได้ เปลย่ี นแปลง ครบทกุ ขอ้ 4 ขอ้ ความหมาย ความหมาย 1 ขอ้ ของเทคโนโลยี สามารถ สามารถ เทคโนโลยีได้ เทคโนโลยีได้ สามารถ ยกตัวอย่างการ อธบิ าย อธิบาย 3 ขอ้ 2 ขอ้ อธบิ าย เปลี่ยนแปลง บทบาทของ บทบาทของ สามารถ สามารถ บทบาทของ ของเทคโนโลยี เทคโนโลยีใน เทคโนโลยใี น อธบิ าย อธบิ าย เทคโนโลยใี น ชวี ิตประจำวัน ชีวิตประจำวนั บทบาทของ บทบาทของ ชวี ิตประจำวนั ไดค้ รบทุกข้อ ได้ 4 ข้อ เทคโนโลยใี น เทคโนโลยใี น ได้ 1 ข้อ ชีวิตประจำวนั ชีวิตประจำวัน ได้ 3 ข้อ ได้ 2 ข้อ เกณฑก์ ารประเมนิ 9 - 10 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 6 - 8 คะแนน หมายถึง ดี 4 – 5 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0 – 3 คะแนน หมายถงึ ปรับปรงุ

แบบบนั ทึกการประเมินด้านความรู้ เรอื่ ง การเปลยี่ นแปลงเทคโนโลยี เลขที่ สรุปความรู้ รอ้ ยละ ผลการประเมิน (10 คะแนน) ผา่ น ไมผ่ า่ น หมายเหตุ 1. สรปุ ความรู้ เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 60 (ลงชอื่ )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน

การประเมินด้านทกั ษะกระบวนการ เร่อื ง การเปล่ยี นแปลงเทคโนโลยี สืบค้นการแปลงแปลงเทคโนโลยี สาเหตหุ รอื ปัจจยั ทมี่ ผี ลตอ่ การเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี พรอ้ มยกตัวอยา่ ง 1. สบื ค้น และสรปุ เนื้อหาได้อยา่ งถกู ต้องสมบรู ณ์ 2. ลำดับข้นั ตอนการสรปุ อย่างเป็นระบบ เป็นขน้ั ตอน 3. ใช้งานเทคโนโลยี โดยไม่สง่ ผลเสีย หรือผลกระทบต่อผอู้ น่ื 4. นำความรทู้ ่ีได้มาเสนอในกลุม่ และมสี ่วนรว่ มในการตรวจสอบข้อมูลท่ีได้มาของเพ่ือนในกลุ่ม นำเสนอการเปลย่ี นแปลงเทคโนโลยี สาเหตุหรือปจั จยั ที่มีผลต่อการเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยี พร้อม ยกตัวอย่าง 1. ใช้ภาษาอยา่ งสุภาพ เหมาะสม 2. เสียงดัง ชดั เจน 3. ลำดบั ขั้นตอนการนำเสนอ อย่างเปน็ ขน้ั ตอน 4. มเี ทคนิคในการนำเสนอที่นา่ สนใจ

เกณฑก์ ารประเมินคุณภาพด้านทักษะกระบวนการ เรือ่ ง การเปล่ยี นแปลงเทคโนโลยี ด้านทักษะ ระดับคะแนน กระบวนการ 4 3 2 1 สบื ค้นการแปลง สามารถสืบคน้ การ สามารถสืบค้นการ สามารถสืบคน้ การ สามารถสืบคน้ การ แปลงเทคโนโลยี แปลงแปลง แปลงแปลง แปลงแปลง แปลงแปลง สาเหตหุ รือปจั จยั ท่ีมี เทคโนโลยี สาเหตุ เทคโนโลยี สาเหตุ เทคโนโลยี สาเหตุ เทคโนโลยี สาเหตุ ผลตอ่ การ หรือปจั จยั ท่มี ผี ล หรือปัจจยั ทม่ี ผี ล หรือปจั จยั ที่มีผล หรือปัจจัยท่ีมีผล เปลยี่ นแปลงของ ตอ่ การ ตอ่ การ ต่อการ ตอ่ การ เทคโนโลยี เปลี่ยนแปลงของ เปลี่ยนแปลงของ เปลีย่ นแปลงของ เปลี่ยนแปลงของ พรอ้ มยกตวั อยา่ ง เทคโนโลยี เทคโนโลยี เทคโนโลยี เทคโนโลยี พร้อมยกตัวอยา่ ง พร้อมยกตวั อยา่ ง พรอ้ มยกตวั อย่าง พรอ้ มยกตัวอยา่ ง ไดค้ รบทุกข้อ ได้ 3 ข้อ ได้ 2 ข้อ ได้ 1 ข้อ นำเสนอการ สามารถนำเสนอ สามารถนำเสนอ สามารถนำเสนอ สามารถนำเสนอ เปลย่ี นแปลง การเปลยี่ นแปลง การเปล่ียนแปลง การเปล่ียนแปลง การเปล่ยี นแปลง เทคโนโลยี สาเหตุ เทคโนโลยี สาเหตุ เทคโนโลยี สาเหตุ เทคโนโลยี สาเหตุ เทคโนโลยี สาเหตุ หรอื ปจั จยั ที่มีผลตอ่ หรอื ปจั จัยทมี่ ีผล หรือปัจจัยทมี่ ีผล หรอื ปัจจัยที่มผี ล หรอื ปัจจยั ทม่ี ีผล การเปลย่ี นแปลงของ ต่อการ ตอ่ การ ต่อการ ตอ่ การ เทคโนโลยี พรอ้ ม เปล่ียนแปลงของ เปล่ียนแปลงของ เปล่ยี นแปลงของ เปลี่ยนแปลงของ ยกตวั อยา่ ง เทคโนโลยี พรอ้ ม เทคโนโลยี พร้อม เทคโนโลยี พร้อม เทคโนโลยี พร้อม ยกตัวอย่างไดค้ รบ ยกตัวอย่างได้ 3 ยกตวั อย่างได้ 2 ยกตวั อยา่ งได้ 1 ทุกข้อ ขอ้ ข้อ ขอ้ หมายเหตุ ได้ระดบั คะแนน 3 ขน้ึ ไปทุกตัวชีว้ ัด ถือว่าผ่านเกณฑก์ ารประเมนิ 9 - 10 คะแนน หมายถงึ ดมี าก 6 - 8 คะแนน หมายถึง ดี 4 - 5 คะแนน หมายถึง พอใช้ 0 – 3 คะแนน หมายถึง ปรับปรงุ

แบบประเมินดา้ นทกั ษะกระบวนการ เร่อื ง การเปล่ียนแปลงเทคโนโลยี ประเมนิ ดา้ นทักษะกระบวนการ ผลการประเมิน ท่ี สบื ค้นการแปลงแปลง นำเสนอการเปลยี่ นแปลง ผา่ น ไมผ่ ่าน เทคโนโลยี สาเหตหุ รอื ปจั จัยที่ เทคโนโลยี สาเหตหุ รอื ปจั จยั ทม่ี ี มผี ลต่อการเปลีย่ นแปลงของ ผลตอ่ การเปลยี่ นแปลงของ เทคโนโลยี เทคโนโลยี พร้อมยกตวั อย่าง พรอ้ มยกตัวอยา่ ง (ลงชอ่ื )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน

การประเมินด้านสมรรถนะท่ีสำคญั ของผเู้ รยี น เรื่อง การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี ความสามารถในการคิด 1. มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ 2. คดิ อย่างมีวจิ ารณญาณมเี หตผุ ล 3. สามารถแกป้ ญั หาต่างๆได้อย่างเปน็ ระบบ 4. สามารถคิดเช่อื มโยงส่งิ ทีไ่ ด้เรยี นรู้ เพอื่ นำไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวันได้ ความสามารถในการสื่อสาร 1. เลือกรบั ข้อมูลขา่ วสารอย่างมีเหตุผล 2. พดู จาชดั เจนไม่กำกวม 3. พดู โดยคำนึงถึงผลกระทบท่ีมีต่อตนเอง และสงั คม 4. แลกเปลีย่ นข้อมลู ขา่ วสารและประสบการณ์อนั จะเป็นประโยชน์ตอ่ การพัฒนาตนเองและสงั คม ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 1. สามารถใช้เทคโนโลยีในการค้นหาขอ้ มูลได้อย่างหลากหลาย 2. ใช้เทคโนโลยโี ดยไมส่ ง่ ผลกระทบต่อตนเอง และผู้อ่ืน 3. ใชเ้ ทคโนโลยีในการทำงานอยา่ งเหมะสม 4. ใชเ้ ทคโนโลยีเพ่อื พัฒนาตนเองและสังคม

เกณฑ์การประเมินสมรรถนะทส่ี ำคญั ของผู้เรียน เรอื่ ง การเปล่ยี นแปลงเทคโนโลยี ด้านสมรรถนะผ้เู รียน 4 ระดบั คุณภาพ 1 32 ความสามารถในการคดิ มคี วามสามารถ มีความสามารถ มคี วามสามารถ มีความสามารถ ในการคิดครบ ในการคิด ในการคดิ ในการคดิ ทุกข้อ 3 ข้อ 2 ข้อ 1 ข้อ ความสามารถในการส่อื สาร มคี วามสามารถ มีความสามารถ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ ในการสอื่ สาร ในการสือ่ สาร ในการสื่อสาร ในการสื่อสาร ครบทกุ ข้อ 3 ข้อ 2 ขอ้ 1 ขอ้ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี มีความสามารถ มคี วามสามารถ มีความสามารถ มคี วามสามารถ ในการใช้ ในการใช้ ในการใช้ ในการใช้ เทคโนโลยี เทคโนโลยี เทคโนโลยี เทคโนโลยี ครบทุกข้อ 3 ข้อ 2 ข้อ 1 ข้อ หมายเหตุ ได้ระดับคะแนน 3 ขนึ้ ไปทุกตวั ช้วี ดั ถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมิน 4 คะแนน หมายถึง ดีมาก 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง

แบบประเมนิ ดา้ นสมรรถนะทสี่ ำคญั ของผู้เรียน เร่อื ง การเปลยี่ นแปลงเทคโนโลยี ท่ี การคดิ ประเมินด้านสมรรถนะท่ีสำคญั ของผูเ้ รยี น ผลการประเมิน ผ่าน ไมผ่ า่ น การสื่อสาร การใชเ้ ทคโนโลยี (ลงชอื่ )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน

การประเมินดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ เรือ่ ง การเปลีย่ นแปลงเทคโนโลยี ใฝ่เรียนรู้ 1. ศึกษาคน้ ควา้ หาความรจู้ ากหนังสือ เอกสาร สิ่งพิมพ์ สื่อเทคโนโลยีตา่ ง ๆ แหลง่ เรยี นรู้ทงั้ ภายในและ ภายนอกโรงเรยี น และเลือกใช้สือ่ ไดอ้ ย่างเหมาะสม 2. ต้ังใจเรียน 3. เอาใจใส่และมีความเพียรพยายามในการเรียนรู้ 4. เขา้ ร่วมกิจกรรมทางการเรียนรู้อยเู่ สมอ มงุ่ มนั่ ในการทำงาน 1. ตัง้ ใจและรับผดิ ชอบในงานทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย 2. เพยี รพยายามในการทำงาน ดว้ ยความอดทนไมท่ ้อแท้ต่ออปุ สรรคทเ่ี กิดขึ้น 3. พฒั นาการทำงานของตนเองใหด้ ีขึ้นเสมอ 4. เอาใจใสต่ อ่ หน้าท่ที ่ีไดร้ บั มอบหมาย

เกณฑก์ ารด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ เรื่อง การเปลย่ี นแปลงเทคโนโลยี ด้านคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 4 ระดบั คณุ ภาพ 1 ใฝเ่ รยี นรู้ มีคุณลักษณะ 32 มีคณุ ลักษณะ อนั พงึ ประสงค์ มคี ุณลักษณะ มคี ุณลกั ษณะ อันพงึ ประสงค์ มงุ่ ม่นั ในการทำงาน ด้านใฝ่เรยี นรู้ อันพึงประสงค์ อันพึงประสงค์ ด้านใฝ่เรยี นรู้ ครบทุกขอ้ ดา้ นใฝ่เรยี นรู้ ดา้ นใฝเ่ รียนรู้ 1 ขอ้ มีคณุ ลกั ษณะ 3 ขอ้ 2 ขอ้ มคี ุณลักษณะ อนั พงึ ประสงค์ มีคณุ ลักษณะ มีคุณลกั ษณะ อนั พงึ ประสงค์ ด้านม่งุ มั่นใน อันพงึ ประสงค์ อนั พึงประสงค์ ดา้ นมุ่งม่ันใน การทำงานครบ ด้านมงุ่ ม่ันใน ดา้ นมุง่ มัน่ ใน การทำงาน ทุกข้อ การทำงาน การทำงาน 1 ข้อ 3 ขอ้ 2 ขอ้ หมายเหตุ ได้ระดับคะแนน 3 ขึน้ ไปทุกตวั ชว้ี ดั ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมิน 4 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 3 คะแนน หมายถึง ดี 2 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง

แบบประเมนิ ดา้ นคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ เรอ่ื ง การเปลย่ี นแปลงเทคโนโลยี ประเมนิ ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ผลการประเมนิ ท่ี ใฝเ่ รียนรู้ มุ่งมน่ั ในการทำงาน ผ่าน ไมผ่ ่าน (ลงช่ือ)……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน

แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 3 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้น มัธยมศึกษาปที ่ี 6 ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2563 เรอื่ ง ขน้ั ตอนการแกป้ ัญหา วนั ที่ – เดอื น กรกฎาคม พ.ศ. 2563 ใชเ้ วลา 2 ชั่วโมง/คาบ 1. มาตรฐานการเรยี นรู้ ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการแกปัญหาที่พบในชีวิตจริงอย่างเปน็ ขัน้ ตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศและการส่ือสารในการเรยี นรู้การทำงาน และการแกป้ ญั หาได้อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ 2. ตวั ชี้วดั ว 4.2 ม. 6/1 ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการนำเสนอและแบ่งปนั ข้อมูลอย่างปลอดภัย มีจริยธรรม และ วเิ คราะห์การเปลย่ี นแปลงเทคโนโลยีสารสนเทศที่มผี ลตอ่ การดำเนินชวี ิต อาชพี สังคมและวฒั นธรรม 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. บอกความหมายของการแกป้ ญั หา (K) 2. อธบิ ายข้ันตอนการแก้ปญั หา (K) 3. สบื ค้นความร้เู รื่องความหมาย และขั้นตอนการแกป้ ญั หา (P) 4. วางแผน และเขียนขั้นตอนการแก้ปัญหาท่ีพบในชวี ิตประจำวนั (P) 5. นำเสนอความหมาย และขัน้ ตอนการแก้ปัญหา (P) 6. นำเสนอวิธีการแก้ปัญหาอยา่ งเป็นขนั้ ตอนที่พบในชวี ติ ประจำวัน (P) 7. มคี วามใฝ่เรยี นรู้ (A) 8. มีความมุง่ ม่ันในการทำงาน (A) 4. สาระสำคัญ การแก้ปัญหาเป็นกิจกรรมพื้นฐานในการดำรงชีวิตของมนุษย์ ปัญหาบางปัญหาสามารถหาคำตอบได้ ในทันที ขณะที่บางปัญหาใช้เวลานานในการค้นหาคำตอบ อย่างไรก็ตามทุกคนต่างต้องการหาวิธีการใน การแก้ปัญหาที่ทำให้ได้คำตอบที่ถูกต้องในเวลารวดเร็ว การแก้ปัญหา ประกอบด้วย 4 ขั้นตอน ดังน้ี 1) การวิเคราะห์และกำหนดรายละเอียดของปัญหา 2) การวางแผนในการแก้ปัญหา 3) การดำเนินการแก้ไข ปัญหา และ 4) การตรวจสอบและประเมนิ ผล

5. สาระการเรยี นรู้ 1. ความหมายของการแก้ปัญหา การแก้ปญั หาเปน็ กจิ กรรมพ้ืนฐานในการดำรงชวี ิตของมนุษย์ ในชีวติ ประจำวันทุกคนต้องเคยพบ กับปัญหาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาด้านการเรียน การงาน การเงิน หรือแม้แต่การเล่นเกม ปัญหา บางปัญหาสามารถหาคำตอบได้ในทันทีขณะที่บางปัญหาอาจต้องใช้เวลานานในการค้นหาคำตอบ ซึ่งคำตอบท่ีได้ต้องสามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นคำตอบที่ถูกต้อง น่าเชื่อถือ และสามารถนำไปอ้างอิงต่อ ได้ การแก้ปัญหาของแต่ละบุคคลมีขั้นตอนและใช้เวลาที่แตกต่างกัน ความรู้และประสบการณ์จะ ส่งผลต่อความสามารถในการแก้ญหา อย่างไรก็ตามทุกคนต่างต้องการหาวิธีการในการแก้ปัญหาท่ี ทำใหไ้ ดค้ ำตอบทถ่ี ูกตอ้ ง ในเวลารวดเรว็ นอกจากวิธีการแก้ปญั หาที่ยกตัวอย่างมาซึง่ ได้แก่ วิธีการลองผิดลองถูก การใช้เหตุผล การใช้วิธี ขจัด ยังมีวิธีการแก้ปัญหาอีกมากมายที่ผู้แก้ปัญหาสามารถเลือกใช้ให้เข้ากับตัวปัญหาและ ประสบการณข์ องผู้แกป้ ญั หาเอง แต่อยา่ งไรกต็ ามวิธีการเหลา่ นนั้ ล้วนมีขน้ั ตอนทค่ี ลา้ ยคลงึ กัน 2. ขน้ั ตอนการแก้ปญั หา ขั้นตอนการแกป้ ญั หามีอยู่ 4 ขน้ั ตอนดงั น้ี 1) การวิเคราะห์และกำหนดรายละเอียดของปัญหา เป็นการทำความเข้าใจเกี่ยวกับรายละเอียด เงื่อนไข ข้อกำหนด รวมถึงข้อจำกัดต่างๆ ของปัญหา วิเคราะห์ว่าข้อมูลที่ใดมีความจำเป็นใน การแกป้ ัญหา 2) การวางแผนในการแก้ปัญหา เป็นการคิดค้นกระบวนการต่างๆ ที่เป็นลำดับขั้นตอน ซึ่งต้อง อาศัยประสบการณ์และความรู้ของผู้แก้ปัญหา โดยอาจนำวิธีที่เคยแก้ปัญหา หรือค้นหาวิธีการ อื่นแล้วนำมาประยุกต์เข้ากับปัญหาที่กำลังแก้ไข เครื่องมือที่ใช้ในการวางแผนแก้ไขปัญหา สำหรับการพัฒนาโปรแกรม อาจเลอื กใชร้ หสั ลำลอง หรอื ผงั งาน โดยวิธีการแกป้ ัญหาแบบนี้ เรา เรียนกว่า “ข้นั ตอนวธิ หี รืออลั กอริทึม (algorithm)” 3) การดำเนินการแก้ไขปัญหา เป็นการพฒั นาโปรแกรมตามอลั กอริทึมท่ีไดว้ างไว้ โดยอาจใช้ภาษา โปรแกรมช่วยในการดำเนนิ การ 4) การตรวจสอบและประเมินผล ขั้นตอนนี้ควรทำควบคู่ไปกับขั้นตอนดำเนินการแก้ปัญหา โดย ตรวจสอบผลลัพธ์ที่ได้ หากผลลัพธ์ที่ได้ไม่ถูกต้อง หรือยังมีส่วนที่ต้องแก้ไข ต้องย้อนกลับไป ทำซ้ำต้งั แตข่ น้ั ตอนแรกจนกว่าจะไดผ้ ลลพั ธ์ทถี่ ูกตอ้ ง 6. ดา้ นคุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน

7. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการคดิ 2. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 3. ความสามารถในการสือ่ สาร 4. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ 8. กิจกรรมการเรยี นรู้ ข้นั นำเขา้ สูบ่ ทเรยี น (15 นาที) 1. ครกู ล่าวทกั ทายนักเรยี น 2. ครูสุ่มสอบถามนักเรียนจำนวน 3 คน โดยใช้คำถามว่า “ในชีวิตประจำวันของนักเรียน เคยเจอ ปัญหาอะไรบา้ ง แลว้ ถา้ เจอปัญหามีวิธีการแก้ปัญหาเหล่านน้ั นอย่างไร” 3. ครูแจง้ ส่งิ ท่ีจะไดเ้ รยี นในคาบเรยี นน้ี ข้ันกจิ กรรมการเรียนการสอน (1 ชวั่ โมง 25 นาที) 4. นักเรียนแบ่งกลุ่มแบบคละโดยการนับเลข กลุ่มละ 6 คน สืบค้นความรู้เรื่องความหมาย และ ขน้ั ตอนการแก้ปัญหา ทั้งจากหนงั สืออเิ ล็กทรอนิกส์ หนว่ ยที่ 2 บทท่ี 1 ขนั้ ตอนการแก้ปญั หา หรือ แหลง่ ความรูอ้ ่ืนๆ 5. นักเรียรับโจทย์สถานการณ์ปัญหาจากครูกลุ่มละ 1 ปัญหา (เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมไทย เช่น ปญั หาขยะ ปญั หารถตดิ ปญั หาหมอกควัน และปัญหาแต่งกายไม่สภุ าพ เปน็ ตน้ ) 6. นักเรียนสรุปความรู้เรือ่ งความหมาย และขั้นตอนการแก้ปัญหา และวางแผนการแก้ไขปัญหาจาก โจทย์ที่ครูให้โดยใช้ขั้นตอนการแก้ปัญหาที่สืบค้นได้ แล้วเขียนลงในฟลิปชาร์ท และนำเสนอหน้า ช้ันเรยี น 7. ครูอธิบายความหมาย และขน้ั ตอนการแก้ปญั หา อกี ทง้ั ยกตวั อยา่ งการนำเอาขนั้ ตอนการแก้ปัญหา ไปใช้ในกรแก้ปัญหาที่พบในชีวิตประจำวัน (เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคมไทย เช่นปัญหาขยะ ปัญหารถติด ปัญหาหมอกควัน และปัญหาแต่งกายไม่สุภาพ เป็นต้น) แบบบรรยายโดยใช้สื่อ PowerPoint ขนั้ สรุป (20 นาที) 8. นกั เรียนและครูรว่ มกันสรปุ ความหมาย และข้นั ตอนการแก้ปัญหา 1) ความหมายของการแกป้ ญั หา การแก้ปัญหาเป็นกิจกรรมพื้นฐานในการดำรงชีวิตของมนุษย์ ในชีวิตประจำวันทกุ คน ตอ้ งเคยพบกับปญั หาต่างๆ ไมว่ า่ จะเป็นปัญหาด้านการเรยี น การงาน การเงิน หรือแม้แต่ การเล่นเกม ปัญหาบางปัญหาสามารถหาคำตอบได้ในทันทีขณะที่บางปัญหาอาจต้องใช้ เวลานานในการคน้ หาคำตอบ ซง่ึ คำตอบทีไ่ ดต้ ้องสามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นคำตอบที่ถูกต้อง

น่าเชื่อถือ และสามารถนำไปอ้างอิงต่อได้ การแก้ปัญหาของแต่ละบุคคลมีขั้นตอนและใช้ เวลาที่แตกต่างกัน ความรู้และประสบการณ์จะส่งผลต่อความสามารถในการแก้ญหา อย่างไรก็ตามทุกคนต่างต้องการหาวิธีการในการแก้ปัญหาที่ทำให้ได้คำตอบที่ถูกต้อง ใน เวลารวดเรว็ นอกจากวิธีการแกป้ ญั หาทีย่ กตัวอย่างมาซึ่งได้แก่ วิธีการลองผดิ ลองถูก การใช้เหตุผล การใช้วธิ ีขจัด ยังมีวิธีการแกป้ ัญหาอีกมากมายท่ีผูแ้ ก้ปัญหาสามารถเลือกใชใ้ ห้เข้ากบั ตวั ปัญหาและประสบการณ์ของผู้แก้ปัญหาเอง แต่อย่างไรก็ตามวิธีการเหล่านั้นล้วนมี ขัน้ ตอนทีค่ ล้ายคลงึ กนั 2) ขั้นตอนการแกป้ ญั หา ขัน้ ตอนการแก้ปัญหามอี ยู่ 4 ข้ันตอนดังนี้ - การวิเคราะหแ์ ละกำหนดรายละเอียดของปัญหา เปน็ การทำความเข้าใจเกี่ยวกับ รายละเอียด เงื่อนไข ข้อกำหนด รวมถึงข้อจำกัดต่างๆ ของปัญหา วิเคราะห์ว่า ข้อมูลทใ่ี ดมคี วามจำเป็นในการแก้ปญั หา - การวางแผนในการแก้ปัญหา เป็นการคิดค้นกระบวนการต่างๆ ที่เป็นลำดับ ขั้นตอน ซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์และความรู้ของผู้แก้ปัญหา โดยอาจนำวิธีท่ี เคยแก้ปัญหา หรือค้นหาวิธกี ารอื่นแล้วนำมาประยุกตเ์ ข้ากับปัญหาท่ีกำลังแกไ้ ข เครื่องมือที่ใช้ในการวางแผนแก้ไขปัญหาสำหรับการพัฒนาโปรแกรม อาจ เลือกใช้รหัสลำลอง หรือผังงาน โดยวิธีการแก้ปัญหาแบบนี้ เราเรียนกว่า “ขน้ั ตอนวิธหี รอื อัลกอรทิ มึ (algorithm)” - การดำเนินการแก้ไขปัญหา เป็นการพัฒนาโปรแกรมตามอัลกอริทึมที่ได้วางไว้ โดยอาจใช้ภาษาโปรแกรมชว่ ยในการดำเนินการ - การตรวจสอบและประเมินผล ขั้นตอนนี้ควรทำควบคู่ไปกับขั้นตอนดำเนินการ แก้ปัญหา โดยตรวจสอบผลลัพธ์ที่ได้ หากผลลัพธ์ที่ได้ไม่ถูกต้อง หรือยังมีส่วนท่ี ต้องแกไ้ ข ต้องย้อนกลบั ไปทำซำ้ ต้ังแต่ขัน้ ตอนแรกจนกว่าจะไดผ้ ลลพั ธ์ที่ถกู ตอ้ ง 9. ครูมอบให้นักเรียนไปศึกษาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ หน่วยที่ 2 บทที่ 2 การเรียนรหัสลำลองและ ผังงาน ล่วงหน้าสำหรับการเรยี นในคาบเรยี นถดั ไป 9. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 9.1 ส่ือการเรียนรู้ 1) หนังสืออเิ ลก็ ทรอนิกส์ หน่วยที่ 2 บทที่ 1 ข้นั ตอนการแกป้ ัญหา (ลิงค์ https://qrgo.page.link/ 5CgLt) 2) หนงั สืออิเล็กทรอนิกส์ หน่วยที่ 2 บทท่ี 2 การเขยี นรหัสลำลองและผงั งาน (ลงิ ค์ https://qrgo.page.link/ 5CgLt)

3) สไลด์ PowerPoint เรอ่ื ง ขนั้ ตอนการแก้ปญั หา 9.2 แหล่งการเรยี นรู้ อนิ เทอร์เนต็ 10. การวดั ผลและประเมนิ ผล 10.1 การวัดผล จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ วิธกี ารวดั เคร่อื งมือ เกณฑ์การใหค้ ะแนน 1. บอกความหมายของ วัดโดยการตรวจสรุป สรุปความรู้ ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ 60 การแก้ปัญหา (K) ความรู้เรื่องความหมาย และขั้นตอนการ แกป้ ญั หา 2. อธิบายข้นั ตอนการ วัดโดยการตรวจสรุป สรปุ ความรู้ ผา่ นเกณฑร์ อ้ ยละ 60 แก้ปัญหา (K) ความรู้เรื่องความหมาย และขั้นตอนการ แก้ปัญหา 3. สบื คน้ ความรเู้ ร่ือง วัดโดยการตรวจสังเกต แบบประเมินท ั ก ษ ะ ผ่านเกณฑร์ อ้ ยละ 60 ความหมาย และขน้ั ตอน การสืบค้นความรู้เรื่อง กระบวนการ การแกป้ ัญหา (P) ความหมาย และขั้นตอน การแก้ปญั หา 4. วางแผน และเขียน ว ั ด โ ด ย ก า ร ส ั ง เ ก ต แบบประเมินท ั ก ษ ะ ระดับคุณภาพ 3 ข้นั ตอนการแก้ปญั หาท่ี ว า ง แ ผ น แ ล ะ เ ข ี ย น กระบวนการ ผ่านเกณฑ์ พบในชีวติ ประจำวนั (P) ขั้นตอนการแก้ปัญหาที่ พบในชีวิตประจำวนั 5. นำเสนอความหมาย วัดโดยการสังเกตการ แบบประเมินท ั ก ษ ะ ระดบั คณุ ภาพ 3 และขัน้ ตอนการ แกป้ ัญหา (P) นำเสน อคว ามหม า ย กระบวนการ ผ่านเกณฑ์ และขั้นตอนการ แก้ปญั หา

6. นำเสนอวิธีการ วัดโดยการสังเกตการ แบบประเมินท ั ก ษ ะ ระดบั คณุ ภาพ 3 แกป้ ญั หาอยา่ งเปน็ ข้ันตอนท่ีพบใน นำเสนอวิธีการแกป้ ัญหา กระบวนการ ผา่ นเกณฑ์ ชวี ติ ประจำวนั (P) 7. มคี วามใฝเ่ รียนรู้ (A) อย่างเป็นขั้นตอนที่พบ 8. มคี วามมุ่งมั่นในการ ในชีวิตประจำวนั ทำงาน (A) วัดโดยการสังเกตความ แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 3 สมรรถนะสำคัญของ ผเู้ รยี น ใฝเ่ รียนรู้ คุณลกั ษณะอันพึง ผ่านเกณฑ์ 1. ความสามารถในการ คดิ ประสงค์ 2. ความสามารถในการ แก้ปญั หา วัดโดยการสังเกตความ แบบประเมนิ ระดบั คณุ ภาพ 3 3. ความสามารถในการ สอ่ื สาร มุ่งมนั่ ในการทำงาน คุณลกั ษณะอันพึง ผา่ นเกณฑ์ 4. ความสามารถในการ ใชเ้ ทคโนโลยี ประสงค์ 5. ความสามารถในการ ใช้ทกั ษะชวี ิต วดั โดยการสงั เกต แบบประเมินสมรรถนะ ระดับคุณภาพ 3 คุณลกั ษณะอันพึง ประสงค์ สมรรถนะสำคัญของ สำคญั ของผเู้ รยี น ผา่ นเกณฑ์ 1. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ผู้เรียน 2. มุ่งมัน่ ในการทำงาน 3. รกั ความเป็นไทย วดั โดยการสังเกต แบบประเมนิ ระดับคุณภาพ 3 คณุ ลักษณะอนั พึง คุณลกั ษณะอันพงึ ผ่านเกณฑ์ ประสงค์ ประสงค์

10.2 เกณฑก์ ารประเมิน 1) ด้านความรู้ สรุปความรู้ (10 คะแนน) 9 - 10 คะแนน หมายถงึ ดมี าก 6 - 8 คะแนน หมายถงึ ดี 4 - 5 คะแนน หมายถึง พอใช้ 0 – 3 คะแนน หมายถงึ ปรับปรงุ หมายเหตุ ดา้ นความรู้เกณฑ์ผ่าน รอ้ ยละ 60 ทุกประเดน็ การประเมิน 2) ด้านทกั ษะกระบวนการ ไดร้ ะดับคุณภาพ 3 ขน้ึ ไปทุกตวั ช้ีวัด ถือวา่ ผ่านเกณฑ์การประเมนิ 3) ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ไดร้ ะดบั คณุ ภาพ 3 ขึน้ ไปทุกตัวช้วี ดั ถือว่าผ่านเกณฑ์การประเมนิ 4) ดา้ นสมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน ได้ระดบั คณุ ภาพ 3 ข้ึนไปทกุ ตัวชี้วดั ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์การประเมิน

11. ข้อเสนอแนะ  ใชส้ อนได้  ควรปรบั ปรงุ ………………………………………………………………………………………………………………. ………………………………………………………………………………………..………………………………………………… ………………………………………………………………………………………..…………..…………………………………… ลงช่ือ………..…………………….………………….…….. () ครพู เี่ ล้ียง วันที่........เดือน..................พ.ศ............

12. บันทึกหลังการจดั การเรยี นรู้ 1) ผลทีเ่ กิดขน้ึ แก่ผเู้ รียน ด้านความรู้ จำนวนนักเรยี นทผ่ี ่านเกณฑ์......................คน คิดเป็นร้อยละ....................... จำนวนนักเรยี นท่ีไมผ่ า่ นเกณฑ์..................คน คิดเป็นร้อยละ....................... ดา้ นทักษะกระบวนการ จำนวนนักเรียนท่ผี ่านเกณฑ.์ .....................คน คดิ เปน็ ร้อยละ....................... จำนวนนกั เรยี นที่ไม่ผ่านเกณฑ.์ .................คน คิดเปน็ รอ้ ยละ....................... ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ จำนวนนักเรียนทผี่ า่ นเกณฑ.์ .....................คน คิดเป็นร้อยละ....................... จำนวนนกั เรยี นทีม่ าผา่ นเกณฑ.์ .................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ....................... ด้านสมรรถนะผู้เรยี น จำนวนนักเรยี นที่ผา่ นเกณฑ.์ .....................คน คดิ เป็นรอ้ ยละ....................... จำนวนนกั เรยี นทมี่ าผ่านเกณฑ.์ .................คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ....................... 2) ปัญหาและอปุ สรรค …………………………………………………………………………………………………………………….……………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. 3) แนวทางการแกป้ ัญหา …………………………………………………………………………………………………………………….……………………… …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. …………………………………………………………………………………………………………………………………………………………. (ลงชอื่ )……………………………….……………. (......................................................) ผสู้ อน วนั ท.ี่ .......เดือน..............พ.ศ............

13. ความเห็นของหัวหนา้ กลมุ่ สาระ/สายชน้ั …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชื่อ)……………………………….……………. (......................................................) หวั หน้ากลมุ่ สาระ/สายชนั้ วนั ท่ี........เดือน..............พ.ศ............ 14. ความเห็นของฝ่ายวิชาการ …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอื่ )……………………………….……………. (......................................................) ฝ่ายวชิ าการ วันที่........เดือน..............พ.ศ............ 15. ความเห็นของผู้อำนวยการโรงเรยี น …………………………………………………………………………………………………………………….………………………..… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… (ลงชอ่ื )……………………………….……………. (......................................................) ผอู้ ำนวยการโรงเรียน วันที่........เดอื น..............พ.ศ............

การประเมนิ ดา้ นความรู้ เรอ่ื ง ขั้นตอนการแก้ปัญหา บอกความหมายของการแก้ปญั หา 1. การแกป้ ัญหาเป็นกจิ กรรมพื้นฐานของมนุษย์ 2. ปัญหาบางปัญหาสามารถหาคำตอบได้ทันที แตบ่ างปญั หาใชเ้ วลาในการหาคำตอบ 3. คำตอบทีไ่ ด้จากการแกป้ ญั หา เป็นคำตอบท่ถี กู ตอ้ งน่าเช่อื ถือ และสามารถนำไปอา้ งองิ ต่อได้ 4. การแก้ปัญหาของแตล่ ะบุคคลมีความแตกตา่ งกนั ขน้ึ อย่กู ับความร้แู ละประสบการณ์ 5. ทุกคนต้องการวิธีการแกป้ ัญหาที่ถูกต้องและรวดเร็ว อธบิ ายข้ันตอนการแกป้ ัญหา 1. อธบิ ายการวเิ คราะห์และกำหนดรายละเอียดของปัญหาได้ถูกต้อง 2. อธบิ ายการวางแผนในการแก้ปัญหาได้ถูกต้อง 3. อธิบายการดำเนนิ การแก้ไขปัญหาได้ถูกต้อง 4. อธิบายการตรวจสอบและประเมินผลได้ถูกต้อง 5. เรียงลำดบั ข้ันตอนการแกป้ ัญหาได้ถูกตอ้ ง

เกณฑ์การประเมินคณุ ภาพดา้ นความรู้ เร่ือง ขนั้ ตอนการแกป้ ัญหา ด้านความรู้ 5 4 ระดับคะแนน 1 สามารถ สามารถ บอก 32 สามารถ บอก บอกความหมาย บอก ความหมาย ความหมาย ของการ ความหมาย ของการ สามารถ บอก สามารถ บอก ของการ แกป้ ัญหา ของการ แก้ปัญหาได้ 4 ความหมาย ความหมาย แก้ปัญหาได้ 1 แกป้ ัญหาได้ ข้อ ของการ ของการ ข้อ อธบิ ายขัน้ ตอน ครบทกุ ขอ้ แกป้ ัญหาได้ 3 แก้ปญั หาได้ 2 การแก้ปัญหา สามารถ สามารถ ขอ้ ขอ้ สามารถ อธิบาย อธิบายขั้นตอน อธบิ ายขั้นตอน ขัน้ ตอนการ การแกป้ ัญหา สามารถ สามารถ การแกป้ ัญหา แกป้ ญั หาได้ ได้ 4 ข้อ อธบิ ายข้นั ตอน อธิบายข้ันตอน ได้ 1 ข้อ ครบทกุ ขอ้ การแก้ปัญหา การแกป้ ัญหา ได้ 3 ข้อ ได้ 2 ข้อ เกณฑก์ ารประเมิน 9 - 10 คะแนน หมายถงึ ดมี าก 6 - 8 คะแนน หมายถึง ดี 4 – 5 คะแนน หมายถงึ พอใช้ 0 – 3 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง

แบบบันทกึ การประเมินดา้ นความรู้ เรือ่ ง ขั้นตอนการแก้ปัญหา เลขที่ สรุปความรู้ ร้อยละ ผลการประเมิน (10 คะแนน) ผ่าน ไมผ่ ่าน หมายเหตุ 1. สรุปความรู้ เกณฑ์ผา่ นร้อยละ 60 (ลงชอ่ื )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน

การประเมินดา้ นทักษะกระบวนการ เรอ่ื ง ขั้นตอนการแกป้ ัญหา สืบค้นความรู้เรื่องความหมาย และขั้นตอนการแกป้ ัญหา 1. สบื คน้ และสรปุ เน้ือหาได้อยา่ งถกู ต้องสมบรู ณ์ 2. ลำดับขั้นตอนการสรปุ อยา่ งเป็นระบบ เป็นขน้ั ตอน 3. ใชง้ านเทคโนโลยี โดยไมส่ ่งผลเสยี หรือผลกระทบต่อผอู้ น่ื 4. นำความรทู้ ไี่ ดม้ าเสนอในกลุม่ และมีสว่ นรว่ มในการตรวจสอบข้อมูลที่ได้มาของเพื่อนในกล่มุ วางแผน และเขียนขน้ั ตอนการแกป้ ัญหาทพ่ี บในชวี ิตประจำวัน 1. วางแผนและเขยี นขั้นตอนการแก้ปัญหา ตามข้ันตอนการแกป้ ัญหา 4 ข้นั ตอน 2. เขยี นข้นั ตอนการแก้ปญั หา ทพ่ี บในชีวติ ประจำวันอย่างเปน็ ลำดับ 3. เขยี นขั้นตอนการแก้ปัญหา ท่ีพบในชีวติ ประจำวันแต่ละข้นั ตอนได้อย่างถกู ตอ้ ง 4. แกป้ ญั หาไดอ้ ย่างเหมาะสม นำเสนอความหมาย และข้นั ตอนการแกป้ ัญหา 1. ใชภ้ าษาอย่างสุภาพ เหมาะสม 2. เสยี งดงั ชดั เจน 3. ลำดบั ข้นั ตอนการนำเสนอ อย่างเปน็ ขนั้ ตอน 4. มเี ทคนิคในการนำเสนอทีน่ า่ สนใจ นำเสนอวิธกี ารแก้ปญั หาอย่างเปน็ ขน้ั ตอนที่พบในชวี ติ ประจำวัน 1. ความสนใจของผฟู้ งั 2. ใช้คำพดู และภาษาท่ีสภุ าพ 3. ลำดบั ขัน้ ตอนการนำเสนออย่างเปน็ ข้นั ตอน ตามขน้ั ตอนการแก้ปัญหา 4 ขัน้ ตอน 4. พดู จาชดั เจน ไม่กำวม

เกณฑ์การประเมนิ คณุ ภาพดา้ นทักษะกระบวนการ เร่ือง ขน้ั ตอนการแกป้ ญั หา ดา้ นทกั ษะ 4 ระดับคะแนน 1 กระบวนการ สามารถสืบคน้ 32 สามารถสืบคน้ ได้ ไดค้ รบทุกข้อ สามารถสืบคน้ ได้ สามารถสบื ค้นได้ 1 ขอ้ สบื ค้นความรเู้ รอ่ื ง 3 ข้อ 2 ข้อ ความหมาย และ สามารถวางแผน ขนั้ ตอนการ และเขียน ได้ครบ สามารถวางแผน สามารถวางแผน สามารถวางแผน แก้ปญั หา ทุกข้อ และเขียนได้ 3 ข้อ และเขียนได้ 2 ข้อ และเขียนได้ 1 ข้อ วางแผน และเขยี น ขน้ั ตอนการ สามารถนำเสนอ สามารถนำเสนอ สามารถนำเสนอ สามารถนำเสนอ แกป้ ัญหาที่พบใน ไดค้ รบทุกข้อ ชีวิตประจำวัน ได้ 3 ข้อ ได้ 2 ข้อ ได้ 1 ข้อ นำเสนอความหมาย สามารถนำเสนอ และขนั้ ตอนการ ไดค้ รบทุกข้อ สามารถนำเสนอ สามารถนำเสนอ สามารถนำเสนอ แกป้ ัญหา นำเสนอวิธีการ ได้ 3 ข้อ ได้ 2 ข้อ ได้ 1 ข้อ แก้ปัญหาอย่างเปน็ ขน้ั ตอนที่พบใน ชวี ติ ประจำวนั หมายเหตุ ได้ระดบั คะแนน 3 ขึ้นไปทุกตวั ช้วี ดั ถอื ว่าผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ 17 - 20 คะแนน 4 หมายถงึ ดีมาก 12 – 16 คะแนน 3 หมายถงึ ดี 7 - 11 คะแนน 2 หมายถึง พอใช้ 0 - 6 คะแนน 1 หมายถึง ปรับปรุง

แบบประเมินด้านทกั ษะกระบวนการ เรือ่ ง ข้นั ตอนการแกป้ ญั หา ประเมินด้านทกั ษะกระบวนการ ผลการ ประเมิน ท่ี สบื คน้ ความรู้เรื่อง วางแผน และเขยี น นำเสนอความหมาย นำเสนอวธิ กี าร ความหมาย และ แกป้ ญั หาอย่าง ขนั้ ตอนการแก้ปญั หา และขนั้ ตอนการ เปน็ ขนั้ ตอนทพ่ี บ ผา่ น ไม่ ขั้นตอนการ ผา่ น ที่พบใน แก้ปญั หา แก้ปัญหา ชวี ิตประจำวนั ในชีวติ ประจำวนั (ลงชื่อ)……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน

การประเมินด้านสมรรถนะที่สำคัญของผเู้ รียน เรือ่ ง ขน้ั ตอนการแกป้ ญั หา ความสามารถในการคดิ 1. มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ 2. คิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณมีเหตุผล 3. สามารถแกป้ ญั หาตา่ งๆได้อยา่ งเป็นระบบ 4. สามารถคิดเชอ่ื มโยงสิ่งที่ได้เรยี นรู้ เพอ่ื นำไปใชใ้ นชีวิตประจำวนั ได้ ความสามารถในการแก้ปัญหา 1. แก้ปญั หา และอปุ สรรคที่พบเจอได้ 2. วิเคราะห์สาเหตุของปญั หาท่ีพบเจอได้ 3. แกป้ ัญหาได้อยา่ งมลี ำดบั ขน้ั ตอน 4. ตัดสินใจเลอื กแนวทางการแกป้ ญั หาได้อย่างชดั เจน แน่นอน และไมส่ ง่ ผลเสยี ต่อผู้อ่ืน ความสามารถในการส่ือสาร 1. เลือกรบั ข้อมูลขา่ วสารอย่างมเี หตุผล 2. พูดจาชดั เจนไม่กำกวม 3. พูดโดยคำนึงถึงผลกระทบทีม่ ีตอ่ ตนเอง และสังคม 4. แลกเปลี่ยนขอ้ มูลขา่ วสารและประสบการณอ์ ันจะเปน็ ประโยชนต์ ่อการพัฒนาตนเองและสงั คม ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 1. สามารถใชเ้ ทคโนโลยีในการค้นหาขอ้ มลู ได้อย่างหลากหลาย 2. ใช้เทคโนโลยีโดยไมส่ ่งผลกระทบต่อตนเอง และผู้อื่น 3. ใช้เทคโนโลยใี นการทำงานอย่างเหมะสม 4. ใช้เทคโนโลยีเพ่ือพัฒนาตนเองและสังคม ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ 1. สามารถเรียนรู้ได้ดว้ ยตนเอง 2. ทำงานและอยู่รว่ มกนั ในสังคมด้วยการสร้างเสรมิ ความสัมพันธอ์ ันดรี ะหว่างบุคคล 3. จดั การปญั หาและความขัดแย้งต่างๆ อย่างเหมาะสม 4. หลีกเลย่ี งพฤติกรรมไม่พึงประสงค์ทส่ี ง่ ผลกระทบต่อตนเองและผ้อู ่นื

เกณฑก์ ารประเมินสมรรถนะท่ีสำคญั ของผู้เรียน เรือ่ ง ขน้ั ตอนการแก้ปัญหา ด้านสมรรถนะผเู้ รียน 4 ระดบั คุณภาพ 1 ความสามารถในการคดิ มคี วามสามารถ 32 มีความสามารถ ความสามารถในการแก้ปญั หา ในการคิดครบ มคี วามสามารถ มีความสามารถ ในการคิด ทุกข้อ ในการคิด ในการคดิ 1 ข้อ ความสามารถในการสอ่ื สาร มคี วามสามารถ 3 ข้อ 2 ขอ้ มีความสามารถ ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ในการ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ ในการ แกป้ ญั หาครบ ในการ ในการ แกป้ ัญหา 1 ข้อ ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต ทุกข้อ แก้ปัญหา 3 ข้อ แก้ปญั หา 2 ข้อ มคี วามสามารถ มคี วามสามารถ ในการสือ่ สาร มคี วามสามารถ มีความสามารถ ในการส่ือสาร ครบทุกขอ้ ในการสอ่ื สาร ในการส่อื สาร 1 ขอ้ มคี วามสามารถ 3 ขอ้ 2 ข้อ มีความสามารถ ในการใช้ มีความสามารถ มคี วามสามารถ ในการใช้ เทคโนโลยี ในการใช้ ในการใช้ เทคโนโลยี ครบทกุ ข้อ เทคโนโลยี เทคโนโลยี 1 ขอ้ มคี วามสามารถ 3 ขอ้ 2 ข้อ มีความสามารถ ในการใชท้ ักษะ มคี วามสามารถ มีความสามารถ ในการใชท้ ักษะ ชีวิตครบทุกข้อ ในการใช้ทักษะ ในการใชท้ ักษะ ชีวติ 1 ข้อ ชีวิต 3 ข้อ ชวี ิต 2 ข้อ หมายเหตุ ได้ระดบั คะแนน 3 ขึ้นไปทุกตวั ชวี้ ัด ถอื ว่าผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ 4 คะแนน หมายถงึ ดีมาก 3 คะแนน หมายถงึ ดี 2 คะแนน หมายถึง พอใช้ 1 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง

แบบประเมินดา้ นสมรรถนะที่สำคัญของผูเ้ รยี น เร่อื ง ขั้นตอนการแก้ปญั หา ประเมินดา้ นสมรรถนะท่ีสำคญั ของผเู้ รียน ผลการประเมนิ ท่ี การ การแกป้ ญั หา การส่ือสาร การใช้เทคโนโลยี การใชท้ กั ษะชีวิต ผา่ น ไม่ คิด ผ่าน (ลงชือ่ )……………………………….……………......... (..........................................................) ผสู้ อน