Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารวัดประเมินผล IEP ระยะแรกเริ่ม

เอกสารวัดประเมินผล IEP ระยะแรกเริ่ม

Published by special_lp, 2018-05-29 08:49:30

Description: IEP

Search

Read the Text Version

๒๕๖ ระดบั ความทักษะ ทกั ษะยอ่ ย/ ศักยภาพของผเู้ รียน ความสามารถ ขอ้ สังเกต เนื้อหา กอ่ นการพัฒนา ทาได้ ทาไม่ได้ ๒) อา่ นวลที ม่ี ีภาพประกอบได้ เช่น อ่านหนงั สือ กินข้าว ๓) อ่านประโยคง่าย ๆ ที่มี ภาพประกอบได้ ๑.๖ ความ ๑) สรุปใจความสาคญั จาก เข้าใจใน การอา่ นเรื่องที่มี การ ภาพประกอบได้ อ่าน ๒) สรปุ ใจความสาคัญจาก การอา่ นได้๒. การเขยี น ๒.๑ การ ๑) จบั ดินสอไดถ้ ูกต้อง เตรียมความ ๒) ลากเสน้ อิสระได้ พรอ้ มดา้ น ๓) ลากเสน้ พืน้ ฐาน ๑๓ เสน้ การเขียน ได้ ๔) ลากเสน้ รปู เรขาคณิตได้ ๕) เขยี นพยัญชนะ ก – ฮ ตามรอยประได้ ๖) เขียนสระตามรอยประได้ ๗) เขียนวรรณยุกต์ตามรอย ประได้ ๘) เขียนตัวเลขตามรอยประ ได้ ๒.๒ การจา ๑) การเขยี นพยัญชนะให้ตรง จากการมอง กับรปู ภาพ เช่น รูปไก่ กบั พยัญชนะ ก ๒) การเขยี นสระให้ตรงกบั รูปภาพ เช่น รูปปู กบั สระอู

๒๕๗ทกั ษะ ทักษะย่อย/ ศกั ยภาพของผู้เรียน ระดบั ความ ข้อสงั เกต เน้ือหา ความสามารถ ก่อนการพัฒนา ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ๓) การเขียนวรรณยุกต์ใหต้ รง กับรปู ภาพ เช่น รูปมา้ กับ ไมโ้ ท ๔) เขียนตวั เลขไทย ๐ – ๙ ๒.๓ การ ๑) แยกภาพวัตถุ สิ่งของที่ แยก กาหนดให้ ซงึ่ อยู่บนพน้ื ภาพกบั พื้น ฉากหลังต่าง ๆ โดยการ ระบายสหี รอื ทาสัญลักษณ์ แสดงความแตกตา่ งได้ ๒) แยกภาพพยญั ชนะที่ กาหนด ให้ซงึ่ อยู่บนพน้ื ฉากหลังตา่ ง ๆ โดยการ ระบายสีหรือทาสัญลักษณ์ แสดงความแตกต่างได้ ๓) แยกภาพสระที่กาหนดให้ ซ่งึ อย่บู นพนื้ ฉากหลังตา่ ง ๆ โดยการระบายสีหรอื ทา สญั ลกั ษณ์ แสดงความ แตกตา่ งได้ ๔) แยกภาพวรรณยกุ ต์ท่ี กาหนดให้ ซง่ึ อยู่บนพื้น ฉากหลังตา่ ง ๆ โดยการ ระบายสีหรือทาสัญลกั ษณ์ แสดงความแตกต่างได้ ๒.๔ การ ๑) เขยี นพยัญชนะท่มี ีลักษณะ รบั รู้ คล้ายกนั เช่น ก ภ ถ, ฎ ฏ รปู แบบ ,

๒๕๘ ระดบั ความทกั ษะ ทักษะยอ่ ย/ ศกั ยภาพของผูเ้ รยี น ความสามารถ ขอ้ สังเกต เนอ้ื หา กอ่ นการพัฒนา ทาได้ ทาไม่ได้ ข ช ซ, ค ด ศ ต, จ ง, ฐ ธ ร, น ม ฆ ฉ, ญ ณ ฒ, ท ฑ ห, ผ ฝ ย, พ ฟ ฬ, บ ป ษ , ล ส, ว อ ฮ ได้ ๒) ตวั เลขท่ีมลี ักษณะ คลา้ ยกนั เชน่ ๙ ๖, ๒ ๕, ๓๘ ๒.๕ การ ๑) เขยี นพยัญชนะ ก – ฮ ได้ เขียน พยัญชนะ ๒) เขยี นสระ ๓๒ ตัวได้ ไทย สระ ๓) เขียนวรรณยกุ ต์ได้ วรรณยุกต์ และตวั เลข ๔) เขยี นตวั เลขไทย และ ตวั เลขอารบิกได้ ๒.๖ การ ๑) เขยี นคาทม่ี ีภาพประกอบ เขยี น ได้ คา ๒) เขยี นวลีท่ีมภี าพประกอบ ได้ เช่น อ่านหนงั สือ กิน ขา้ ว ๓) เขยี นคาตามคาบอกได้ ๗. การ ๑) เขียนบรรยายส้นั ๆ จาก เขยี น ภาพ คาตามคา ท่ีกาหนดให้ได้ บอก ได้ ๒) เขียนบรรยายจากภาพ

๒๕๙ ทกั ษะ ทักษะย่อย/ ศักยภาพของผเู้ รียน ระดบั ความ ขอ้ สงั เกต เนอ้ื หา ความสามารถ๓. การคิด ตามลาดบั เหตกุ ารณ์ได้ กอ่ นการพัฒนาคานวณ ๓.๑ การ ๓) เขียนประโยคสนั้ ๆ ได้ ทาได้ ทาไม่ได้ จาแนก ประเภท ๔) เขยี นเร่ืองราวให้ได้ ใจความ ๓.๒ การจัด ๑) จาแนกวตั ถุหรอื ภาพ หมวดหมู่ ส่งิ ของตามรปู รา่ ง ขนาด สี ๓.๓ การ หรือวตั ถุ เรยี ง ต่าง ๆ ได้ ลาดบั ๒) จาแนกรปู เรขาคณติ หรือ รูปทรงเรขาคณิต เช่น วงกลม สามเหลย่ี ม สี่เหลีย่ มได้ ๑) จัดหมวดหมวู่ ตั ถุส่งิ ของ ภาพหรือของจาลองตามท่ี กาหนดให้ เชน่ ของใช้ สตั ว์ ผลไม้ ผัก ได้ ๑) เรียงลาดับตวั เลข ๑ – ๑๐ จากภาพที่กาหนดให้ได้ ๒) เรยี งลาดบั วันใน ๑ สัปดาห์ จากภาพท่ี กาหนดใหไ้ ด้ ๓) เรียงลาดบั เดอื นใน ๑ ปี จากภาพที่กาหนดให้ได้ ๔) เรียงลาดับกิจกรรมหรือ กจิ วตั รในแตล่ ะวัน จาก ภาพ

๒๖๐ ระดับความทกั ษะ ทกั ษะย่อย/ ศกั ยภาพของผเู้ รยี น ความสามารถ ขอ้ สังเกต เนื้อหา ก่อนการพัฒนา ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ทีก่ าหนดใหไ้ ด้ ๓.๔ การ ๑) เปรียบเทยี บ ขนาดของ เปรียบเทีย วตั ถหุ รือสิง่ ของที่มีความ บ สนั้ –ยาว, เลก็ -ใหญ่, สงู -ตา่ ได้ ๒) เปรยี บเทยี บ ความกวา้ ง – ความแคบจากรูปภาพที่ กาหนดให้ได้ ๓) เปรียบเทียบ ระยะทาง ใกล้ - ไกล จากรูปภาพ หรอื สถานการณ์ท่ี กาหนดให้ได้ ๓.๕ รปู รา่ ง ๑) บอกชื่อสง่ิ ของท่ีมีรูปร่าง รูปทรง หรอื รปู ทรงเรขาคณติ ตามท่ีกาหนดให้ได้ ๒) เขียนรปู เรขาคณิตตามท่ี กาหนดให้ได้ ๓.๖ การวัด ๑) ช่งั วตั ถหุ รอื ส่ิงของ และ บอกน้าหนัก หนกั - เบา ตามท่กี าหนดให้ได้ ๒) เปรยี บเทยี บความสั้น – ยาวของวัตถุหรือสงิ่ ของ หรือรูปภาพท่ีกาหนดให้ได้ ๓.๗ การนบั ๑) นับจานวน ๑ – ๑๐ ด้วย ส่ิงของหรอื บตั รภาพ ตามท่ี กาหนดให้ได้

๒๖๑ ระดบั ความทกั ษะ ทักษะยอ่ ย/ ศักยภาพของผู้เรยี น ความสามารถ ขอ้ สงั เกต เนื้อหา กอ่ นการพฒั นา ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ๓.๘ รู้จัก ๑) ชี้หรอื บอกตวั เลข ๑ - ๑๐ ตัวเลข จากสิง่ ของ วัตถหุ รือ รูปภาพ ท่ีกาหนดให้ได้ ๒) จาแนกตัวเลขทีค่ ลา้ ยกัน จากภาพที่กาหนดให้ได้ เชน่ ๓ กับ ๗ , ๔ กับ ๕ , ๖ กับ ๙ , 2 กบั 5, 6 กับ 9 เปน็ ตน้ ๓.๙ รจู้ ัก ๑) ชี้หรอื บอกค่าของจานวน ความสมั พัน นับ ธร์ ะหวา่ ง ๑ - ๑๐ จากวตั ถุหรือ ส่งิ ของ ทกี่ าหนดให้ได้ จานวนกบั ๒) จบั คู่ตัวเลข ๑ - ๑๐ กับ ตวั เลข จานวนของวัตถหุ รือสงิ่ ของ ท่กี าหนดใหไ้ ด้ ๓) หยิบวัตถุหรือส่งิ ของตาม จานวนท่ีกาหนดให้ ตั้งแต่ ๑ - ๑๐ ได้ ๓.๑๐ เวลา ๑) ช้หี รือบอกชว่ งเวลาในแต่ ละวนั จากภาพจาลองหรือ จากสถานการณต์ ่าง ๆ ท่ี กาหนดให้ได้ เช่น กลางวัน กลางคนื , เช้า เทยี่ ง เยน็ ๓.๑๑ การ ๑) นับเพิ่มทีละ ๑ ไมเ่ กนิ ๑๐ เพมิ่ และลด จากสง่ิ ของหรอื วัตถุที่

๒๖๒ ทักษะ ทักษะย่อย/ ศกั ยภาพของผู้เรียน ระดับความ ขอ้ สังเกต เนอ้ื หา ความสามารถ๔. กาหนดใหไ้ ด้ ก่อนการพัฒนาพฤติกรรม จานวน ๒) นับลดทีละ ๑ ต้ังแต่ ๑๐ ทาได้ ทาไม่ได้ ๓.๑๒ การ บวก ลงมา จากส่ิงของหรือวตั ถุ การลบเลข ทก่ี าหนดให้ได้ ๑) บอกความหมาย หรือ ๓.๑๓ เงิน สญั ลักษณท์ างคณติ ศาสตร์ เชน่ +, - ได้ ๔.๑ ดา้ น ๒) บวกเลข ๑ หลัก โดยมี สมาธิ ผลลพั ธไ์ มเ่ กนิ ๑๐ ได้ ๓) ลบเลข ๑ หลกั โดยมี ผลลัพธไ์ มเ่ กนิ ๑๐ ได้ ๔) แกโ้ จทยป์ ญั หาการบวก จานวนไมเ่ กิน ๑๐ ได้ ๕) แกโ้ จทยป์ ัญหาการลบ จานวนไมเ่ กนิ ๑๐ ได้ ๑) ชห้ี รือบอกชนิดของเงนิ โดยใช้เหรยี ญ ธนบตั ร หรือบตั รภาพจาลองได้ ๒) บอกคา่ ของเงินเหรยี ญได้ เช่น ๑ บาท, ๒ บาท, ๕ บาท, ๑๐ บาท เปน็ ต้น ๓) บอกคา่ ของเงนิ ธนบัตรได้ เช่น ๒๐ บาท, ๕๐ บาท, ๑๐๐ บาท เป็นต้น ๑) ทากิจกรรมตามคาสง่ั ที่ กาหนดได้

๒๖๓ ทกั ษะ ทกั ษะยอ่ ย/ ศกั ยภาพของผเู้ รียน ระดับความ ข้อสงั เกตทั่วไป เนื้อหา ความสามารถ ๒) ทางานเสรจ็ ตาม กอ่ นการพัฒนา ๔.๒ ดา้ น กาหนดเวลาได้ ทาได้ ทาไม่ได้ การ รบั รู้การเห็น ๑) บอกรายละเอียดจากสง่ิ ท่ี เหน็ ตามที่กาหนดให้ได้ ๒) ตอ่ เติมภาพถ่ายตามแบบ ใหเ้ ปน็ ภาพทีส่ มบูรณ์ได้ ถูกต้อง ๓) ตอ่ เติมภาพวาดตามแบบ ให้เปน็ ภาพที่สมบรู ณ์ได้ ถกู ตอ้ ง ๔) ตอ่ เติมรูปทรงตามแบบที่ กาหนดใหไ้ ดถ้ กู ต้อง ๕) ต่อเติมพยญั ชนะ เป็นภาพ ตัวพยัญชนะที่ถกู ต้อง สมบูรณไ์ ด้ ๖) เติมตวั อักษรในคาท่ี หายไป ไดถ้ ูกต้อง ๗) จาแนกภาพเต็มท่เี หน็ ได้ ๘) ระบายสรี ปู ภาพตามความ แตกต่างของสีทกี่ าหนดให้ โดยใช้หมายเลขแทนสีได้ ๙) จาแนกภาพฉากหลงั ได้ ถกู ต้อง ๑๐) จดั กลุม่ พยัญชนะตัว ท่ีกาหนดได้

๒๖๔ ระดบั ความทกั ษะ ทักษะย่อย/ ศกั ยภาพของผู้เรยี น ความสามารถ ข้อสังเกต เน้อื หา ก่อนการพฒั นา ทาได้ ทาไมไ่ ด้ ๑๑) จาแนกพยญั ชนะที่ คล้ายกนั ได้ ๑๒) จาแนกพยัญชนะจาก กล่มุ ที่กาหนดให้ได้ ๑๓) เรยี งลาดบั เหตกุ ารณ์ ก่อน – หลังจากภาพท่ี กาหนดได้ ๔.๓ ดา้ น ๑) บอกเสียงที่คนุ้ เคยได้ เช่น การ เสียงสตั ว์ เสยี งรถยนต์ รบั รู้ทางการ ได้ยิน ๒) จาแนกเสียงคาทใี่ กลเ้ คยี ง กันได้ ๔.๔ ดา้ น ๑) เคลอื่ นไหวมือให้สัมพันธ์ การ กันตามตัวอย่างท่ีกาหนด ประสาน ได้ สัมพนั ธ์ ระหวา่ ง ๒) เคลื่อนไหวอวยั วะให้ สายตา สมั พันธก์ ันตามตวั อยา่ ง กบั มอื และ ท่าทางท่ีกาหนดให้ได้ การ เคลอ่ื นไหว

๒๖๕บนั ทกึ ขอ้ สังเกตอ่ืน ๆ ทพ่ี บจากการประเมิน........................................................................................................................................................................................................................................................ ........................................................ ......................................................................................................... .......................................................................... ลงชอ่ื .............................................ผูป้ ระเมิน (..............................................)ตาแหน่ง........................................ลงชือ่ .............................................ผ้ปู ระเมนิ ลงช่ือ.............................................ผูป้ ระเมิน(..............................................) (..............................................)ตาแหนง่ ...................................... ตาแหน่ง......................................

๒๖๖ แบบประเมนิ ความสามารถพ้ืนฐาน กลมุ่ ทกั ษะจาเป็นสาหรับบคุ คลท่ีมคี วามบกพรอ่ งทางการพดู และภาษาตามหลกั สูตรสถานศึกษาสาหรบั เดก็ ท่มี คี วามตอ้ งการจาเปน็ พเิ ศษระยะแรกเรมิ่ของศนู ย์การศึกษาพิเศษประจาจงั หวัดลาปาง ฉบบั ปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ และหลักสตู รสถานศึกษาการพัฒนาทักษะการดารงชวี ติ สาหรับเด็ก ทม่ี คี วามตอ้ งการจาเป็นพิเศษ ของศูนย์การศึกษาพเิ ศษประจาจังหวัดลาปาง ฉบับปรับปรงุ พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๑ช่ือ-สกุล ...........................................................................................................................................วนั /เดอื น/ปี เกดิ ............/...................../.................วันทปี่ ระเมิน.........../..................../....................อายุ...............ปี...............เดอื นเกณฑก์ ารประเมินความสามารถพน้ื ฐานก่อนการ เกณฑก์ ารประเมนิ ผลหลังพัฒนาพฒั นา เป็นไปตามเกณฑ์ทร่ี ะบุไว้ในแผนการจัด๔ หมายถึง ถูกต้อง/ไม่ต้องชว่ ยเหลือ การศึกษาเฉพาะบคุ คล หรอื แผนให้บรกิ าร๓ หมายถึง ด/ี กระตนุ้ เตอื นดว้ ยวาจา ชว่ ยเหลอื เฉพาะครอบครวั๒ หมายถึง ใช้ได/้ กระตุ้นเตือนด้วยท่าทาง๑ หมายถึง ทาบ้างเลก็ น้อย/กระตนุ้ เตอื นทางกาย๐ หมายถึง ตอบสนองผิดหรือไม่มีการตอบสนอง

๒๖๗ทกั ษะ ทักษะย่อย/เนอื้ หา พฒั นาการ ระดบั ข้อสงั เกต หรอื ศกั ยภาพ ความสามารถ ก่อนการพฒั นา ทาได้ ทาไม่ได้๑. ทกั ษะ ๑.๑ การใช้อวัยวะ สามารถควบคุมการควบคมุ ทีใ่ ชใ้ นการออกเสยี ง อวยั วะในการพูดอวยั วะใน ตามคาส่ังไดถ้ ูกต้องการออกเสยี ง๒. ทักษะการ ๒.๑ การใชห้ น่วย สามารถออกเสยี งแปรเสยี ง เสยี งแทนกนั ได้ชดั เจน ๒.๒ การใช้เสยี ง สามารถออกเสียงคา บางส่วนของคาขาด ที่ขาดหายไปได้ หายไป เชน่ “ความ” เป็น “คาม” เปน็ ต้น๓. ทกั ษะ ๓.๑ ระดบั เสยี ง สามารถเปล่งเสียงการเปล่งเสยี ง เชน่ เสยี งสงู หรือตา่ ให้เหมาะกับ ตลอดเวลา หรือ ธรรมชาติของแตล่ ะ เสียงทพ่ี ูดอยูใ่ น บคุ คลทีท่ าให้ผอู้ น่ื ฟัง ระดับเดียวตลอด ได้ เสียงผดิ เพศ ผิดวยั ๓.๒ ความดังเสยี ง สามารถเปล่งเสยี งพูด เช่น ดัง เบา ได้ดงั หรือ ใชเ้ ครอื่ งขยายเสียงให้ มีความดงั ในระดบั ทีฟ่ ังแล้วเขา้ ใจได้๔. ทักษะ ๔.๑ อตั ราการพดู สามารถควบคุมการควบคมุ จงั หวะการพูดได้จงั หวะการพูด เปน็ จังหวะปกติ (ขั้นตา่ ๗๐-๑๐๐

๒๖๘ทกั ษะ ทักษะยอ่ ย/เนื้อหา พัฒนาการ ระดับ ขอ้ สงั เกต หรือศกั ยภาพ ความสามารถ กอ่ นการพัฒนา ทาได้ ทาไม่ได้ คา ต่อนาที) อา้ งองิ จาก แนวทาง การประเมิน การสญู เสีย สมรรถภาพ ทางกายและจิต ๔.๒ พูดตะกุกตะกัก ลดความรุนแรง หรอื ของสภาวะติด พดู ติดอา่ ง อา่ งจนสามารถ พดู ได้คลอ่ ง ๔.๓ การเว้นวรรค สามารถพดู ตอนไม่ถูกตอ้ ง เชน่ เวน้ วรรคตอน “ผ้าสเี ขยี วข้.ี ..ม้า” ไดถ้ ูกตอ้ ง เป็นตน้๕. ทกั ษะการ ๕.๑ พดู ไม่ถูกลาดบั ๑) สามารถพูดใชภ้ าษาพูด ขัน้ ตอน ไม่เป็นไป ตามลาดับของ ตามโครงสร้างของ คาในประโยคท่ี ภาษา เชน่ กาหนดใหไ้ ด้ ฉนั ตลาดไป ๒) สามารถพดู ข้าวกินฉนั เปน็ ต้น ประโยคที่ กาหนดไว้ ๕.๒ บกพร่องใน ๑) สามารถฟงั คาสัง่ เรอ่ื งความเขา้ ใจ และปฏิบัติได้ หรอื การใชภ้ าษาพดู ถกู ต้อง หรอื ภาษา ๒) สามารถฟงั เขียน หรือ คาถามและ

๒๖๙ ทักษะ ทกั ษะยอ่ ย/เน้ือหา พัฒนาการ ระดับ ขอ้ สังเกต หรอื ศกั ยภาพ ความสามารถ๖. ทกั ษะ กอ่ นการพัฒนาการใชส้ ่ือ ทาได้ ทาไมไ่ ด้เทคโนโลยีส่อื ทางเลือก ระบบสญั ลกั ษณ์ ตอบคาถาม ไดถ้ ูกต้อง ๖.๑ การใช้สอื่ ๓) สามารถเขยี น เทคโนโลยี ตอบคาถาม สือ่ ทางเลือก และบอก ความต้องการ ของตนเอง ๔) สามารถอ่าน เรื่องแลว้ ตอบคาถาม (การพูด การเขยี น) จากเรือ่ งที่อ่าน ไดถ้ ูกต้อง ๑) สามารถใช้ ส่งิ อานวย ความสะดวก สอื่ บรกิ ารและ ความช่วยเหลอื อื่นใดทาง การศกึ ษา แทนการพดู ได้

๒๗๐ ระดับทกั ษะ ทกั ษะยอ่ ย/เนือ้ หา พัฒนาการ ความสามารถ ข้อสังเกต หรอื ศักยภาพ ก่อนการพฒั นา ทาได้ ทาไม่ได้ ๒) สามารถใช้ สิง่ อานวย ความสะดวก สื่อ บรกิ ารและ ความชว่ ยเหลอื อืน่ ใดทาง การศกึ ษา แทนการรบั และ สง่ สารได้บันทึกขอ้ สังเกตอน่ื ๆ ท่พี บจากการประเมิน....................................................................................... ................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................ ......................................................................... ลงชือ่ .............................................ผ้ปู ระเมนิ (..............................................) ตาแหนง่ ......................................ลงชอ่ื .............................................ผู้ประเมิน ลงชือ่ .............................................ผ้ปู ระเมิน(..............................................) (..............................................)ตาแหน่ง...................................... ตาแหนง่ .................................

๒๗๑ แบบประเมนิ ความสามารถพ้นื ฐาน กลุ่มทกั ษะจาเปน็ สาหรบั บุคคลท่มี ีความบกพรอ่ งทางพฤตกิ รรมหรอื อารมณ์ตามหลักสูตรสถานศกึ ษาสาหรบั เด็กทีม่ คี วามต้องการจาเปน็ พิเศษระยะแรกเริ่มของศูนยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจาจังหวดั ลาปาง ฉบบั ปรับปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๑ และหลกั สตู รสถานศึกษาการพฒั นาทกั ษะการดารงชีวติ สาหรบั เดก็ ทม่ี ีความตอ้ งการจาเป็นพเิ ศษ ของศนู ย์การศึกษาพิเศษประจาจังหวัดลาปาง ฉบับปรบั ปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๑ชอื่ -สกุล ........................................................................................................................................วนั /เดอื น/ปี เกิด............/..................../................วันทป่ี ระเมนิ .........../..................../...................อาย.ุ ..............ป.ี ..............เดอื นเกณฑ์การประเมินความสามารถพืน้ ฐานกอ่ นการ เกณฑก์ ารประเมินผลหลงั พัฒนาพฒั นา เป็นไปตามเกณฑท์ ่รี ะบไุ วใ้ นแผนการจัด๔ หมายถึง ถูกต้อง/ไม่ต้องช่วยเหลือ การศึกษาเฉพาะบุคคล หรอื แผนให้บรกิ าร๓ หมายถึง ดี/กระตุ้นเตือนด้วยวาจา ชว่ ยเหลอื เฉพาะครอบครวั๒ หมายถึง ใช้ได้/กระตนุ้ เตอื นดว้ ยท่าทาง๑ หมายถึง ทาบ้างเลก็ นอ้ ย/กระตนุ้ เตือนทางกาย๐ หมายถึง ตอบสนองผิดหรือไม่มีการตอบสนอง

๒๗๒ ทกั ษะ เน้อื หา พัฒนาการหรือศักยภาพ ระดบั ความสามารถ ข้อสังเกต ท่คี าดหวงั ก่อนการพฒั นา๑.การจดั การ ทาได้ ทาไม่ได้อารมณ์โกรธ/หงุดหงิด และ ๑.๑ การรับรู้ ผู้ เรี ย น ส าม า ร ถ แ ส ด งการแสดงออกทางพฤตกิ รรม อารมณ์โกรธ/ ปฏิกิริยาตอบสนองตรง หงุดหงดิ ตามอารมณโ์ กรธ/หงดุ หงิด ๑ .๒ ก า ร แ ส ด ง ผู้เรียนสามารถแสดงออก ออกทางกายเมื่อ ทางกายเม่ือเกิดอารมณ์ เกิดอารมณ์โกรธ/ โกรธ/หงุดหงิด (กามือ กัด หงุดหงดิ (ท่าทาง สี ฟั น ค้ิวขมวด ตาขวาง หน้า) ห า ย ใจ แ ร ง ชั ก สี ห น้ า กระทืบเท้า ทุบโต๊ะ พูด เสียงแขง็ ฯลฯ ) ๑ .๓ ก า ร แ ส ด ง ผู้เรียนสามารถบอกได้ว่า ทางการพูดเม่ือเกิด โกรธ/หงุดหงิด เมื่อเกิด อ า ร ม ณ์ โ ก ร ธ / อารมณ์โกรธ/หงุดหงิด หงุดหงดิ ๑ .๔ ก า ร แ ส ด ง ผู้เรียนสามารถเลือกวิธี ออกทางพฤติกรรม แสดงพฤติกรรมเมื่อเกิด ได้อย่างเหมาะสม อารมณ์โกรธ /หงุดหงิด เมื่ อ เกิ ด อ า ร ม ณ์ โดยการขอความช่วยเหลือ โกรธ /หงุดหงิด / หลีกเล่ียงปัญหา /เผชิญ สถานการณ์ ตามความ เห ม าะ ส ม (ไม่ ท า ร้ า ย ต น เอ ง ผู้ อ่ื น แ ล ะ ไม่ ทาลายสง่ิ ของ)

๒๗๓ทกั ษะ เน้อื หา พัฒนาการหรอื ศกั ยภาพ ระดบั ความสามารถ ขอ้ สังเกต ที่คาดหวัง กอ่ นการพัฒนา ทาได้ ทาไมไ่ ด้๒ .การจัดการ ๒.๑ การรับรู้ ผู้ เรี ย น ส าม า ร ถ แ ส ด งอารมณ์เครียด/ อารมณเ์ ครียด/วติ ก ปฏิกิริยาตอบสนองตรงวิ ต ก กั ง ว ล / กงั วล/อาย/กลวั / ตามอารมณ์เครียด/วิตกอ า ย / ก ลั ว / หวาดระแวง กั ง ว ล / อ า ย / ก ลั ว /หวาดระแวง หวาดระแวงและการแสดง ๒.๒ การแสดง ผู้เรียนสามารถแสดงออกออกทาง ออกทางกาย ทางกายเมื่อเกิดอารมณ์พฤติกรรม (ท่าทาง สหี นา้ )เมื่อ เครียด/วิตกกังวล/อาย/ เกดิ อารมณ์เครยี ด/ กลัว/หวาดระแวง (ก้ม วิตกกงั วล/อาย/ ห น้ า ห ล บ ต า ห่ อ ไห ล่ กลัว/หวาดระแวง ร้องไห้ วิ่งหนี ส่ัน กัดเล็บ ก ร ะ สั บ ก ร ะ ส่ า ย พู ด ตะกุกตะกัก ฯลฯ) ๒.๓ การแสดง ผู้เรียนสามารถแสดงออก ออกโดยการพูดเม่ือ โดยการพูดได้ว่า เครียด/ เกดิ อารมณเ์ ครียด/ วิต กกั งวล/อ าย/กลั ว/ วติ กกงั วล/อาย/ หวาดระแวงเช่น ไม่ ไม่ กลัว/หวาดระแวง ชอบ ไม่เอา ไม่ทา เป็นต้น ๒.๔ การแสดง ผู้เรียนสามารถเลือกวิธี ออกทางพฤติกรรม แสดงพฤติกรรมเม่ือเกิด ได้อยา่ งเหมาะสม อ า ร ม ณ์ เค รี ย ด /วิ ต ก เม่ือเกิดอารมณ์ กั ง ว ล / อ า ย / ก ลั ว / เครยี ด/วิตกกงั วล/ หวาดระแวงโดยการขอ อาย/กลวั / ค ว า ม ช่ ว ย เ ห ลื อ /

๒๗๔ทกั ษะ เนือ้ หา พัฒนาการหรือศกั ยภาพ ระดบั ความสามารถ ขอ้ สงั เกต ที่คาดหวัง กอ่ นการพฒั นา ทาได้ ทาไม่ได้ หวาดระแวง หลีกเลี่ยงปัญหา /เผชิญ สถานการณ์ ตามความ เหมาะสม๓.การจัดการ ๓.๑ การรับรู้ ผู้ เรี ย น ส าม า ร ถ แ ส ด งอารมณเ์ สียใจ/ อารมณเ์ สยี ใจ/ ปฏิกิริยาตอบสนองตรงซมึ เศร้า/เบ่ือ ซึมเศร้า/เบื่อ ต า ม อ า ร ม ณ์ เสี ย ใ จ /หนา่ ย/โดดเด่ียว หนา่ ย/โดดเดีย่ ว ซึมเศร้า/เบื่อหน่าย/โดดและการแสดง เดย่ี วออกทาง การแสดงออกทาง ผู้เรียนสามารถแสดงออกพฤติกรรม กาย(ท่าทาง สหี น้า) ทางกายเม่ือเกิดอารมณ์ เมอ่ื เกิดอารมณ์ เสี ย ใจ / ซึ ม เศ ร้ า /เบื่ อ เสียใจ/ซึมเศรา้ / หน่าย/โดดเด่ียว(ร้องไห้ เบอ่ื หนา่ ย/โดด หน้าเศร้า น้าตาซึม เหม่อ เด่ียวการแสดงออก ลอย แยกตัว พูดเสียงเบา โดยการพดู เมื่อเกิด ไ ม่ พู ด ฯ ล ฯ )ผู้ เรี ย น อารมณ์เสียใจ/ สามารถบอกได้ว่าเสียใจ ซึมเศร้า/เบื่อ เศร้า สงสาร เหงา ท้อแท้ หน่าย/โดดเดย่ี ว เบื่อ ๓.๔ การแสดง ผู้ เรี ย น ส าม า ร ถ แ ส ด ง ออกทางพฤติกรรม พฤติกรรมเม่ือเกิดอารมณ์ ได้อย่างเหมาะสม เสี ย ใจ / ซึ ม เศ ร้ า /เบ่ื อ เมอื่ เกิดอารมณ์ หน่าย/โดดเดี่ยวโดยการ เสยี ใจ/ซมึ เศรา้ / ข อ ค ว า ม ช่ ว ย เห ลื อ / เบื่อหน่าย/โดด หลีกเลี่ยงปัญหา /เผชิญ

๒๗๕ทักษะ เนื้อหา พัฒนาการหรือศกั ยภาพ ระดับความสามารถ ข้อสงั เกต ทคี่ าดหวัง กอ่ นการพัฒนา ทาได้ ทาไมไ่ ด้ เด่ียว สถานการณ์ ตามความ เหมาะสมบันทึกข้อสังเกตอื่น ๆ ทีพ่ บจากการประเมนิ............................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................... ลงชอื่ .............................................ผู้ประเมิน (..............................................) ตาแหน่ง......................................ลงชื่อ.............................................ผูป้ ระเมนิ ลงช่อื .............................................ผปู้ ระเมนิ(..............................................) (..............................................)ตาแหนง่ ...................................... ตาแหน่ง......................................

๒๗๖ แบบประเมินความสามารถพน้ื ฐาน กลมุ่ ทกั ษะจาเป็นสาหรบั เด็กออทสิ ติกตามหลกั สูตรสถานศกึ ษาสาหรับเดก็ ทีม่ ีความต้องการจาเปน็ พเิ ศษระยะแรกเริม่ของศูนย์การศกึ ษาพเิ ศษประจาจังหวัดลาปาง ฉบบั ปรับปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๑ และหลกั สูตรสถานศกึ ษาการพฒั นาทักษะการดารงชวี ิตสาหรบั เด็ก ทม่ี คี วามต้องการจาเป็นพิเศษ ของศูนย์การศึกษาพิเศษประจาจงั หวดั ลาปาง ฉบับปรับปรุง พทุ ธศักราช ๒๕๖๑ช่ือ-สกลุ ...........................................................................................................................................วัน/เดือน/ปี เกิด............/...................../.................วันท่ปี ระเมนิ .........../..................../....................อาย.ุ ..............ปี...............เดอื นเกณฑ์การประเมินความสามารถพนื้ ฐานก่อนการ เกณฑ์การประเมนิ ผลหลังพัฒนาพฒั นา เปน็ ไปตามเกณฑ์ท่รี ะบไุ วใ้ นแผนการจดั๔ หมายถึง ถูกตอ้ ง/ไมต่ อ้ งชว่ ยเหลือ การศกึ ษาเฉพาะบคุ คล หรือแผนใหบ้ ริการ๓ หมายถึง ด/ี กระตุน้ เตือนด้วยวาจา ช่วยเหลือเฉพาะครอบครัว๒ หมายถึง ใช้ได้/กระตนุ้ เตือนดว้ ยท่าทาง๑ หมายถึง ทาบา้ งเล็กนอ้ ย/กระตุ้นเตอื นทางกาย๐ หมายถึง ตอบสนองผิดหรอื ไม่มกี ารตอบสนอง ปรับปรุงครง้ั ท่ี ๒ วันที่ ๙ เมษายน ๒๕๖๑ ศูนยก์ ารศึกษาพเิ ศษประจาจังหวดั ลาปาง ปกี ารศึกษา 256๑

๒๗๗ทักษะ เนอื้ หา พัฒนาการทคี่ าดหวงั ความสามารถ ข้อสังเกตย่อย พืน้ ฐานก่อนพฒั นา ทาได้ ทาไมไ่ ด้๑. ความ ๑.๑ การ ๑.๑.๑ สามารถควบคุมสนใจ ควบคมุ ตนเองให้ยนื ใน ตนเองใน สถานการณต์ ่าง ๆ ได้ การทา ๑.๑.๒ สามารถควบคุม กิจกรรม ตนเองให้นั่งใน สถานการณต์ ่าง ๆ ได้ ๑.๑.๓ สามารถควบคุม ตนเองในการปฏบิ ตั ิ กิจกรรมจนสาเรจ็ ได้๒. การ ๒.๑ การ ๒.๑.๑ สามารถปรบั การตอบสนอง ตอบสนองตอ่ ตอบสนองตอ่ ส่ิงเรา้ ได้ตอ่ สิ่งเร้า สิง่ เรา้ อย่างเหมาะสม๓. การ ๓.๑ การ ๓.๑.๑ สามารถปฏิบัติเขา้ ใจ เขา้ ใจภาษา ตามคาส่ังง่าย ๆ ได้ภาษา ๓.๑.๒ สามารถปฏบิ ตั ิ ตามคาสง่ั ที่ซับซอ้ นได้๔. การ ๔.๑ การ ๔.๑.๑ สามารถบอกแสดงออก แสดงออก ความต้องการของตนเองทางภาษา ทางภาษา ได้ ๔.๑.๒ สามารถตอบ คาถามอย่างง่ายได้ ๔.๑.๓ สามารถบอก ประสบการณ์ที่พบเหน็ ได้๕. การ ๕.๑ การ ๕.๑.๑ สามารถแสดงออก แสดงออกทาง แสดงออกทางอารมณ์ ปรับปรุงคร้ังที่ ๒ วันท่ี ๙ เมษายน ๒๕๖๑ ศนู ย์การศึกษาพเิ ศษประจาจังหวดั ลาปาง ปีการศึกษา 256๑

๒๗๘ทกั ษะ เน้ือหา พฒั นาการทคี่ าดหวงั ความสามารถ ข้อสงั เกตย่อย พื้นฐานกอ่ นพัฒนา ทาได้ ทาไม่ได้ทาง อารมณ์ และความร้สู กึ ตอ่ บุคคลอารมณ์ ความรู้สกึ และสถานการณ์อย่างความร้สู กึ เหมาะสมได้๖. การลด ๖.๑ การลด ๖.๑.๑ สามารถลดพฤติกรรม พฤติกรรมที่ พฤติกรรมทไ่ี ม่พงึ ไมพ่ ึง ที่ไม่พงึ ประสงค์ได้ประสงค์ ประสงค์๗. การ ๗.๑ การ ๗.๑.๑ สามารถปฏิบตั ิปฏบิ ตั ิ ปฏิบัตติ าม ตามกติกาของห้องเรยี นตามกติกา กตกิ าของ ได้ของสังคม หอ้ งเรียน๘. การ ๘.๑ การ ๘.๑.๑ สามารถเลยี นแบบ เลียนแบบ เลยี นแบบการ เคลอ่ื นไหวได้ ๘.๑.๒ สามารถ เลียนแบบพฤติกรรมท่ี พึงประสงคไ์ ด้๙. การ ๙.๑ การ ๙.๑.๑ สามารถหลกี หนีหลีกหนี หลกี หนจี าก จากอนั ตรายในการใช้จาก อันตราย ชีวิตประจาวนั ได้อันตราย ปรับปรุงครงั้ ที่ ๒ วนั ที่ ๙ เมษายน ๒๕๖๑ ศนู ยก์ ารศึกษาพเิ ศษประจาจงั หวดั ลาปาง ปกี ารศึกษา 256๑

๒๗๙บันทึกขอ้ สังเกตอ่ืนๆ ทพี่ บจากการประเมิน.......................................................................................................................... .................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................................... ..........................................ลงชือ่ ....................................ผปู้ ระเมิน ลงช่ือ....................................ผปู้ ระเมิน(..............................................) (..............................................)............/..................../................. ............/..................../.................ลงชอื่ ....................................ผปู้ ระเมิน (..............................................) ............/..................../................. ปรบั ปรงุ คร้ังท่ี ๒ วันที่ ๙ เมษายน ๒๕๖๑ ศนู ย์การศึกษาพเิ ศษประจาจังหวดั ลาปาง ปกี ารศึกษา 256๑

๒๘๐ แบบประเมนิ ความสามารถพ้ืนฐาน กลมุ่ ทกั ษะจาเปน็ สาหรบั บคุ คลพิการซอ้ น ตามหลกั สูตรสถานศึกษาสาหรับบุคคลพกิ ารซ้อนของศูนย์การศกึ ษาพิเศษประจาจังหวัดลาปาง ฉบบั ปรบั ปรุง พุทธศกั ราช ๒๕๖๑ และหลักสตู รสถานศกึ ษาการพัฒนาทกั ษะการดารงชวี ติ สาหรับเดก็ ทีม่ ีความต้องการจาเป็นพเิ ศษ ของศูนยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจาจังหวดั ลาปาง ฉบับปรบั ปรงุ พุทธศกั ราช ๒๕๖๑ชอ่ื -สกลุ .........................................................................................................................................วนั /เดอื น/ปี เกิด............/..................../.................วันที่ประเมิน.........../..................../...................อาย.ุ ..............ปี...............เดอื นเกณฑก์ ารประเมินความสามารถพืน้ ฐานก่อนการ เกณฑ์การประเมินผลหลงั พัฒนาพัฒนา เป็นไปตามเกณฑท์ รี่ ะบไุ วใ้ นแผนการจัด๔ หมายถึง ถูกต้อง/ไมต่ ้องช่วยเหลือ การศึกษาเฉพาะบคุ คล หรอื แผนให้บรกิ าร๓ หมายถึง ด/ี กระต้นุ เตือนด้วยวาจา ชว่ ยเหลอื เฉพาะครอบครัว๒ หมายถึง ใช้ได/้ กระตุ้นเตอื นด้วยทา่ ทาง๑ หมายถึง ทาบา้ งเลก็ นอ้ ย/กระตุ้นเตือนทางกาย๐ หมายถึง ตอบสนองผดิ หรือไม่มีการตอบสนอง

๒๘๑๑. ทักษะการใช้ประสาทสัมผัสทักษะ ทกั ษะย่อย/ พัฒนาการหรือศักยภาพท่ี ระดบั ความ ข้อสงั เกต เนอื้ หา คาดหวงั ความสามารถ กอ่ นการพฒั นา ทาได้ ทาไม่ได้๑.๑ การ ๑.๑.๑ การรบั รู้ สามารถตอบสนองการมองเห็น ร่างกายตนเอง รบั รู้รา่ งกายตนเองโดย การกระพริบตา/ ๑.๑.๒ การรับรู้ เคลือ่ นไหวรา่ งกาย/แสดง บุคคลทีค่ นุ้ เคย ท่าทาง/สง่ เสยี งหรือพดู ๑.๑.๓ การรับรู้ สามารถตอบสนองการ สว่ นต่างๆและ รบั รู้เมอื่ มองเหน็ พอ่ แม่ สงิ่ ของทใ่ี ชใ้ นแต่ หรอื บคุ คลในครอบครัว ละส่วนของบ้าน ตนเองโดยการกระพริบ ตา/เคล่ือนไหวรา่ งกาย/ ๑.๑.๔ การรบั รู้ แสดงท่าทาง/สง่ เสียงหรอื สภาพแวดลอ้ ม พดู ในชมุ ชน สามารถรบั รู้สว่ นต่างๆ และสงิ่ ของท่ีใช้ในแตล่ ะ สว่ นของบา้ นและ ตอบสนองโดยการ กระพริบตา/เคล่ือนไหว รา่ งกาย/แสดงทา่ ทาง/ส่ง เสยี งหรือพูด เพ่อื บอก เกย่ี วกับสิ่งของและส่วน ต่างๆของบ้าน เช่น ห้องนอนกับทน่ี อน/ หอ้ งนา้ กบั โอง่ / หอ้ งครัว กับจาน/ห้องน่ังเล่นกับ โทรทศั น์ เปน็ ต้น สามารถการรบั รู้ สภาพแวดล้อมในชุมชน และตอบสนองโดยการ กระพรบิ ตา/เคล่ือนไหว รา่ งกาย/แสดงทา่ ทาง/ส่ง

๒๘๒ ทกั ษะ ทักษะยอ่ ย/ พัฒนาการหรือศักยภาพที่ ระดับความ ข้อสังเกต เนอื้ หา คาดหวงั ความสามารถ๑.๒ การ กอ่ นการพฒั นาฟัง/การ ๑.๑.๕ การรับรู้ เสยี งหรอื พูด เพ่อื บอก ทาได้ ทาไม่ได้ได้ยิน สถานทที่ ค่ี นุ้ เคย เกยี่ วกบั สภาพแวดล้อม และสงิ่ ของท่ีอย่ใู น ๑.๒.๑ การรบั รู้ สภาพแวดล้อมนน้ั เช่น เสยี งในบ้าน โรงเรียนกับชุดนักเรยี น / สวนสาธารณะหรือสนาม ๑.๒.๒ การรบั รู้ เดก็ เล่นกับลกู ฟตุ บอล / เสยี งใน โรงพยาบาลกบั เครอื่ ง สภาพแวดล้อม หมายกาชาด/วดั กบั ภาพ อ่นื คนไหวพ้ ระ เป็นตน้ สามารถรบั รูส้ ถานที่ที่ คุ้นเคยและตอบสนอง โดยการกระพริบตา/ เคลือ่ นไหวร่างกาย/แสดง ท่าทาง/ส่งเสียงหรือพดู เพือ่ บอกเก่ียวกับสถานทีท่ ่ี คนุ้ เคย เช่น รา้ นค้าหรอื ร้านสะดวกซ้ือกับขนม เป็นต้น สามารถรบั รู้และ ตอบสนองต่อเสยี งในบ้าน เช่น เสยี งพูด การสนทนา เสยี งกิจกรรมตา่ งๆ ใน ครอบครวั โดยการ กระพริบตา/เคลื่อนไหว ร่างกาย/แสดงท่าทาง/สง่ เสียงหรอื พูด สามารถรับรู้และ ตอบสนองต่อเสียงใน สภาพแวดลอ้ มอน่ื เชน่ เสยี งพูด การสนทนา

๒๘๓ ทักษะ ทักษะยอ่ ย/ พฒั นาการหรือศักยภาพที่ ระดบั ความ ขอ้ สงั เกต เน้อื หา คาดหวัง ความสามารถ๑.๓ การ ก่อนการพัฒนาสัมผัส ทาได้ ทาไม่ได้ ๑.๓.๑ การ เสยี งกจิ กรรมตา่ งๆ ใน ยอมรับการ โรงเรียน วดั โรงพยาบาล สัมผัสจากบคุ คล โดยการกระพรบิ ตา/ เคล่ือนไหวรา่ งกาย/แสดง ๑.๓.๒ การรับรู้ ท่าทาง/สง่ เสียงหรือพูด ระดบั การสัมผัส จากบคุ คล สามารถยอมรับหรือ ปฏิเสธตอ่ การรับรูก้ าร ๑.๓.๓ การรบั รู้ สัมผัส เช่น การแตะมือ การสมั ผัสจาก แตะไหล่ การโอบกอด สภาพ เปน็ ตน้ โดยการกระพริบ สงิ่ แวดล้อม ตา/เคลื่อนไหวร่างกาย/ แสดงท่าทาง/ส่งเสยี งหรือ พดู เมื่อมกี ารสัมผสั จาก พ่อ แม่ หรือบคุ คลใน ครอบครัวตนเอง สามารถตอบสนองต่อการ รับรรู้ ะดับการสมั ผัสท่ี หลากหลาย เช่น แบบ แผ่วเบา (Light Touch) แบบลกึ (Deep Sense) โดยการกระพรบิ ตา/ เคลอื่ นไหวรา่ งกาย/แสดง ท่าทาง/ส่งเสียงหรือพูด เม่อื มีการสมั ผสั จากพอ่ แม่ หรอื บคุ คลใน ครอบครวั ตนเอง สามารถตอบสนองต่อการ รบั ร้กู ารสมั ผัสจากสภาพ สิง่ แวดลอ้ ม ท่ีหลากหลาย เชน่ รปู รา่ ง รูปทรง พื้นผวิ อณุ หภูมิ ความช้ืน โดย

๒๘๔ ระดับความทกั ษะ ทักษะยอ่ ย/ พัฒนาการหรือศักยภาพที่ ความสามารถ ข้อสังเกต เนอ้ื หา คาดหวัง ก่อนการพัฒนา ทาได้ ทาไม่ได้ การกระพริบตา/ เคลื่อนไหวร่างกาย/แสดง ท่าทาง/สง่ เสยี งหรือพดู เมอ่ื มีการสมั ผัสกบั สิ่งแวดล้อมนั้น ๑.๓.๔ การ สามารถสัมผสั บคุ คลท่ี สมั ผัสบุคคลที่ ค้นุ เคยและตอบสนอง ค้นุ เคย โดยการกระพริบตา/ เคลอ่ื นไหวรา่ งกาย/แสดง ทา่ ทาง/สง่ เสียงหรือพูด เมื่อมีการสมั ผัสบุคคลที่ คนุ้ เคย ๑.๓.๕ การ สามารถสัมผสั บุคคลอืน่ สัมผัสบคุ คลอืน่ และตอบสนอง โดยการ กระพรบิ ตา/เคล่ือนไหว รา่ งกาย/แสดงท่าทาง/สง่ เสียงหรอื พูด เม่ือมีการ สัมผสั บคุ คลอืน่ ๑.๓.๖ การ สามารถสัมผัสสว่ นตา่ งๆ สัมผัสสว่ นตา่ งๆ และส่ิงของที่ใชใ้ นแตล่ ะ และสิง่ ของท่ใี ช้ สว่ นของบ้านและ ในแตล่ ะส่วนของ ตอบสนองโดยการ บา้ น กระพริบตา/เคล่ือนไหว ร่างกาย/แสดงทา่ ทาง/สง่ เสยี งหรอื พดู เพื่อบอก เกย่ี วกับสิ่งของและสว่ น ตา่ งๆของบ้าน เช่น ห้องนอนกับทีน่ อน/ ห้องนา้ กับโอ่ง/ ห้องครัว กบั จาน/หอ้ งนั่งเลน่ กับ โทรทศั น์ เปน็ ต้น

๒๘๕๑.๔ การ ๑.๓.๗ การ สามารถสมั ผัสรับกลิ่น สมั ผัส สภาพแวดล้อมในชมุ ชน สภาพแวดลอ้ ม และตอบสนองโดยการ ในชุมชน กระพริบตา/เคล่ือนไหว รา่ งกาย/แสดงท่าทาง/ส่ง ๑.๔.๑ การรบั รู้ เสียงหรือพูด เพอ่ื บอก กลิ่นตา่ งๆ ใน เกยี่ วกับสภาพแวดลอ้ ม ชวี ิตประจาวัน และส่งิ ของท่ีอยู่ใน สภาพแวดล้อมนัน้ เช่น ๑.๔.๒ การ โรงเรยี นกบั ชุดนกั เรียน / แยกแยะกลน่ิ สวนสาธารณะหรอื สนาม ต่างๆ ใน เด็กเล่นกับลูกฟุตบอล / ชีวิตประจาวนั โรงพยาบาลกับ เครอื่ งหมายกาชาด/วดั กับ ภาพคนไหว้พระ เป็นตน้ สามารถรับกลนิ่ และ ตอบสนองตอ่ กลิ่นอาหาร กลน่ิ ของใช้ (สบู่ แชมพู ยาสีฟนั แป้ง) กลิน่ เหม็น (ขยะ นา้ เน่า) กลิ่นไหม้ โดยการกระพรบิ ตา/ เคลือ่ นไหวรา่ งกาย/แสดง ทา่ ทาง/ส่งเสยี งหรือพูด เพือ่ รบั รู้กลิ่นตา่ งๆ ใน ชวี ิตประจาวนั ได้ สามารถตอบสนองต่อ กลนิ่ ได้อย่างเหมาะสม โดยการกระพรบิ ตา/ เคลอื่ นไหวร่างกาย/แสดง ท่าทาง/ส่งเสยี งหรือพูด เพือ่ แยกแยะกลิน่ ตา่ งๆ ในชวี ิตประจาวนั ได้

๒๘๖๑.๕ การ ๑.๕.๑ การรบั รู้ สามารถรับรสและรบั รส รสชาติต่างๆ ใน ตอบสนองตอ่ รสอาหาร ชวี ิตประจาวนั ผลไม้ รสของใช้ (ยาสีฟัน)๑.๖ การ โดยการกระพริบตา/ทรงตัว ๑.๕.๒ การ เคลือ่ นไหวรา่ งกาย/แสดง แยกแยะรสชาติ ทา่ ทาง/สง่ เสียงหรือพูด ต่างๆ ใน เพื่อรับรู้รสชาติต่างๆ ใน ชีวติ ประจาวัน ชวี ติ ประจาวนั ได้ ๑.๖.๑ การจัด สามารถตอบสนองต่อ ท่าในการนอน รสชาตไิ ดอ้ ยา่ งเหมาะสม นัง่ ยืน เดนิ โดยการกระพริบตา/ เคล่อื นไหวร่างกาย/แสดง ๑.๖.๒ การทรง ทา่ ทาง/ส่งเสียงหรือพูด ทา่ ในการนอน เพ่ือแยกแยะรสชาติต่างๆ นง่ั ยนื เดิน ในชีวิตประจาวนั ได้ ๑.๖.๓ การ สามารถยอมรับหรอื เคลื่อนไหวในทา่ ปฏิเสธต่อการจดั ทา่ ได้ เดิน ยืน วง่ิ อย่างสมดุลในท่านอน ยนื เดิน นัง่ ได้ โดยการใช/้ ไม่ ใชอ้ ปุ กรณช์ ่วยในการจดั ท่านอน การจดั ทา่ นั่ง การ จดั ทา่ ยนื การจัดทา่ เดิน เป็นตน้ สามารถทรงท่าได้อยา่ ง สมดุลในท่านอน ยนื เดนิ น่ัง ได้ โดยการใช/้ ไม่ใช้ อปุ กรณ์ช่วยในการทรงท่า นอน ยืน เดิน น่ัง สามารถเคล่ือนไหวได้ อยา่ งสมดลุ ในท่านอน ยืน เดนิ นง่ั ได้ โดยการใช้/ ไม่ใช้อุปกรณช์ ่วยในการ ทรงท่านอน ยืน เดิน น่งั

๒๘๗๑.๗ การ ๑.๗.๑ การรบั รู้ สามารถรับรู้การรับรูส้ ว่ น การเคลื่อนไหว เคลือ่ นไหวในทา่ ต่าง เช่นตา่ งๆ ของ ในท่าตา่ งๆ ทา่ พลิกตะแคง ทา่ ลุกนงั่รา่ งกาย ลุกยนื เดิน วงิ่ โดยการผ่าน ใช้/ไม่ใช้อุปกรณ์ชว่ ยในกล้ามเนื้อ การเคล่ือนไหวในทา่ ต่างๆเอน็ และข้อต่อ ๑.๗.๒ การ สามารถเลียนแบบการ เลียนแบบการ เคลือ่ นไหวในท่าต่าง เชน่ เคลื่อนไหวในท่า ทา่ พลิกตะแคง ท่าลุกนั่ง ตา่ งๆ ลกุ ยนื เดนิ วิง่ โดยการ ใช/้ ไมใ่ ช้อุปกรณ์ช่วยใน การเคลือ่ นไหวในทา่ ต่างๆ ๑.๗.๓ การ สามารถเคล่ือนไหวได้ วางแผนการ โดยการหลบหลกี ส่ิงกดี เคลอ่ื นไหว ขวาง ๑.๗.๔ การ สามารถควบคุมการ ควบคุมการ เคลื่อนไหวในท่าพลิก เคลอื่ นไหว ตะแคง ทา่ ลุกนงั่ ลุกยนื เดนิ วิ่ง ได้อย่างเหมาะสม ตามศกั ยภาพ๑.๘ ๑.๘.๑ การ สามารถใช้ประสาทสัมผัสการบูรณา บูรณาการการใช้ รว่ มกนั ในการใช้การ ประสาทสัมผสั ชวี ติ ประจาวนั เช่น การการใช้ ในชวี ิตประจาวัน รับประทานอาหาร การประสาท ทาความสะอาดร่างกายสัมผสั การเลน่ เป็นตน้ โดยการ ใช/้ ไม่ใช้อปุ กรณช์ ว่ ยใน การใช้ประสาทสัมผสั ใน ชวี ติ ประจาวนั

๒๘๘ ๑.๘.๒ การ สามารถใช้ประสาทสมั ผัส บูรณาการการใช้ ร่วมกนั ในการเรียนรู้ เชน่ ประสาทสัมผัส เขา้ แถวเคารพธงชาติ ในการเรยี นรู้ กจิ กรรมกลมุ่ สัมพันธ์ การ เลน่ อย่างอิสระ เปน็ ตน้ โดย การใช้/ไมใ่ ช้อุปกรณ์ ช่วยในการใชป้ ระสาท สมั ผสั ในการเรียนรู้๒. ทกั ษะการส่ือสารทกั ษะ ทักษะย่อย/ พฒั นาการหรือศกั ยภาพ ระดับความ ข้อสงั เกต เน้ือหา ท่ีคาดหวงั ความสามารถ ก่อนการพฒั นา ทาได้ ทาไม่ได้๒.๑ ความ ๒.๑.๑ ความ สามารถแสดงความสนใจสนใจ สนใจตอ่ ตนเอง ต่อตนเอง บคุ คล สัตว์ บคุ คล สตั ว์เลย้ี ง เลย้ี งทรี่ ้จู กั สิ่งของใน ที่รูจ้ ัก ส่ิงของใน สถานการณ์การดาเนิน สถานการณ์การ ชวี ิตประจาวันทีบ่ า้ น โดย ดาเนิน การแสดงอกทางสหี น้า ชีวติ ประจาวันท่ี ทา่ ทาง และคาพูดได้ หรอื บ้าน ใชเ้ ครอื่ งมือการสอื่ สาร ทางเลอื กได้ ๒.๑.๒ ความ สามารถแสดงความสนใจ สนใจตอ่ ตนเอง ตอ่ ตนเอง บุคคล สตั ว์ บุคคล สัตวเ์ ลย้ี ง เล้ียงท่รี จู้ ัก สงิ่ ของท่ี ที่ร้จู ัก สิง่ ของท่ี ศูนยฯ์ โดยการแสดงออก ศนู ยฯ์ ทางสหี นา้ ท่าทาง และ คาพดู ได้ หรือใช้เคร่ืองมือ การสอื่ สารทางเลอื กได้

๒๘๙ ๒.๑.๓ ความ สามารถแสดงความสนใจ สนใจตอ่ ตนเอง ต่อตนเอง บคุ คล สัตว์ บุคคล สตั ว์เลี้ยง เลี้ยงที่รู้จกั สิ่งของใน ท่รี ูจ้ กั สิง่ ของใน สังคมชุมชน (รา้ นค้า รพ. สังคมชมุ ชน วดั สนามเด็กเล่น ฯลฯ ) (รา้ นค้า รพ. วดั โดยการแสดงออกทางสี สนามเดก็ เล่น หนา้ ทา่ ทาง และคาพดู ได้ ฯลฯ ) หรอื ใชเ้ คร่ืองมือการ ส่อื สารทางเลือกได้๒.๒ การมี ๒.๒.๑ การมี สามารถมีปฏสิ ัมพันธ์แบบปฏิสมั พนั ธ์ ปฏิสัม พนั ธแ์ บบ ผลดั เปล่ยี น (Take turns) ผลัดเปล่ยี น (Take ต่อบุคคล สัตวเ์ ลย้ี งท่รี จู้ ัก turns) ต่อบุคคล ในสถานการณ์การดาเนิน สัตว์เลย้ี งทรี่ ้จู กั ใน ชีวติ ประจาวันทบ่ี ้าน โดย สถานการณ์การ การแสดงออกทางสีหนา้ ดาเนินชวี ติ ประจา ทา่ ทาง และคาพดู ได้ หรอื วันท่บี า้ น หรอื ใช้ ใช้เครื่องมือการส่อื สาร เครอื่ งมอื การ ทางเลือกได้ สอ่ื สารทางเลอื กได้ ๒.๒.๒ การมี สามารถมีปฏิสมั พันธ์แบบ ปฏิสมั พันธแ์ บบ ผลัดเปลี่ยน (Take turns) ผลัดเปลีย่ น ตอ่ บคุ คล บุคคล สตั ว์ (Take turns) เลยี้ งทร่ี ู้จกั ที่ศนู ย์ฯ โดย ต่อบุคคล บคุ คล การแสดงออกทางสีหน้า สตั วเ์ ล้ยี งทีร่ ูจ้ กั ท่ี ท่าทาง และคาพูดได้ หรือ ศูนยฯ์ หรือใช้ ใชเ้ ครอ่ื งมือการส่อื สาร เครือ่ งมอื การ ทางเลอื กได้ สอ่ื สารทางเลอื ก ได้

๒๙๐ ทกั ษะ ทักษะยอ่ ย/ พัฒนาการหรือศักยภาพ ระดับความ ขอ้ สังเกต เนือ้ หา ท่คี าดหวัง ความสามารถ๒.๓ การ ก่อนการพฒั นารบั รทู้ าง ๒.๒.๓ การมี สามารถมปี ฏิสมั พนั ธแ์ บบ ทาได้ ทาไมไ่ ด้ภาษา ปฏสิ ัมพันธแ์ บบ ผลัดเปลย่ี น (Take turns) ผลัดเปลย่ี น ตอ่ บุคคล สตั ว์เลย้ี งท่รี จู้ กั (Take turns) ในสังคมชมุ ชน (ร้านคา้ ตอ่ บุคคล สัตว์ รพ. วัด สนามเดก็ เล่น เลย้ี งท่ีรูจ้ กั ใน ฯลฯ) โดยการแสดงออก สังคมชุมชน ทางสีหน้า ท่าทาง และ (ร้านค้า รพ. วัด คาพดู ได้ หรือใชเ้ ครื่องมอื สนามเดก็ เลน่ การส่ือสารทางเลอื กได้ ฯลฯ) หรอื ใช้ เครอ่ื งมือการ สือ่ สารทางเลือก ได้ ๒.๓.๑ การรับรู้ สามารถรับรทู้ างภาษาใน ทางภาษาใน สถานการณ์การดาเนิน สถานการณ์การ ชวี ิตประจาวนั ท่บี า้ น โดย ดาเนนิ ชีวติ ประจา การแสดงออกทางสหี นา้ วนั ทบี่ า้ นหรือใช้ ทา่ ทาง และคาพูดได้ หรอื เครอื่ งมอื การสือ่ ใช้เครือ่ งมือการส่ือสาร สารทางเลือกได้ ทางเลือกได้ ๒.๓.๒ การรับรู้ สามารถรบั ร้ทู างภาษาใน ทางภาษาใน สถานการณ์การดาเนิน สถานการณ์ การ ชีวิตประจาวันทีศ่ ูนย์ฯ ดาเนนิ โดยการแสดงออกทางสี ชีวติ ประจาวนั ท่ี หนา้ ท่าทาง และคาพดู ได้ ศนู ยฯ์ หรือใช้ หรอื ใช้เครื่องมือการ เครอ่ื งมอื การสอ่ื สือ่ สารทางเลือกได้ สารทางเลือกได้

๒๙๑๒.๓.๓ การรบั รู้ สามารถรบั รู้ทางภาษาในทางภาษาใน สถานการณ์การดาเนินสถานการณ์การ ชีวติ ประจาวันในสังคมดาเนนิ ชวี ติ ประจา ชมุ ชน (รา้ นคา้ รพ. วัดวันในสังคมชุมชน สนามเดก็ เล่น ฯลฯ) โดย(ร้านค้า รพ. วดั การแสดงออกทางสีหน้าสนามเดก็ เลน่ ท่าทาง และคาพดู ได้ หรือฯลฯ) หรือใช้ ใชเ้ ครอ่ื งมือการสื่อสารเครอ่ื งมือการ ทางเลอื กได้ส่ือสารทางเลือก๒.๔ การ ๒.๔.๑ การ สามารถแสดงออกทางแสดงออก แสดงออกทาง ภาษาในสถานการณก์ ารทางภาษา ภาษาใน ดาเนินชีวิตประจาวันท่ีสถานการณ์การ บา้ น โดยการแสดงออกดาเนินชีวิต ทางสีหนา้ ท่าทาง และประจาวันทบี่ ้าน คาพูดได้ หรอื ใช้เคร่อื งมอืหรอื ใช้เครื่องมือ การสื่อสารทางเลอื กได้การส่อื สารทางเลอื กได้๒.๔.๒ การ สามารถแสดงออกทางแสดงออกทาง ภาษาในสถานการณก์ ารภาษาใน ดาเนนิ ชีวติ ประจาวนั ที่สถานการณ์การ ศูนย์ฯ โดยการแสดงออกดาเนินชีวิตประจา ทางสหี น้า ท่าทาง และวันทศ่ี นู ย์ฯหรือใช้ คาพดู ได้ หรือใช้เครอ่ื งมือเครอื่ งมอื การสอ่ื การสอ่ื สารทางเลือกได้สารทางเลอื กได้

๒๙๒ ๒.๔.๓ การ สามารถแสดงออกทาง แสดงออกทาง ภาษาในสถานการณ์การ ภาษาใน ดาเนินชีวิตประจาวันใน สถานการณ์การ สงั คม ชุมชน (ร้านคา้ รพ. ดาเนินชีวติ ประจา วดั สนามเดก็ เลน่ ฯลฯ) วนั ในสังคมชมุ ชน โดยการแสดงออกทางสี (รา้ นค้า รพ. วดั หน้า ท่าทาง และคาพูดได้ สนามเดก็ เลน่ หรอื ใชเ้ ครอ่ื งมือการ ฯลฯ)หรือใช้ สือ่ สารทางเลอื กได้ เครือ่ งมือการสือ่ สารทางเลอื กได้๓. ทกั ษะการมปี ฏิสมั พนั ธ์ทางสงั คมทกั ษะ ทักษะย่อย/ พัฒนาการหรอื ศักยภาพ ระดบั ความ ขอ้ สงั เกต เนื้อหา ทค่ี าดหวัง ความสามารถ กอ่ นการพัฒนา ทาได้ ทาไม่ได้๓.๑ การ ๓.๑.๑ ยอมรับ ๑) สามารถแสดงเลน่ การมปี ฏิสมั พันธ์ พฤติกรรมที่บง่ บอก กบั บคุ คลใน การยอมรับการมี ครอบครวั บคุ คล ปฏิสัมพันธก์ ับบุคคล ในสถานศกึ ษา ในครอบครัวได้ ส่งิ ของต่าง ๆ ๒) สามารถแสดง และบคุ คลใน พฤติกรรมท่ีบง่ บอก ชมุ ชน การยอมรับการมี ปฏสิ ัมพันธก์ บั บคุ คล ในสถานศกึ ษาได้ ๓) สามารถแสดง พฤติกรรมท่บี ่งบอก การยอมรบั การมี ปฏิสัมพนั ธ์กบั บคุ คล ในชมุ ชนได้

๒๙๓๓.๑.๒ การ ๑) สามารถแสดงทา่ ทาง /ตอบสนองตอ่ สหี นา้ /คาพูดต่อการการมีปฏิสมั พนั ธ์ มีปฏิสัมพนั ธข์ องของบุคคลใน บคุ คลในครอบครวัครอบครวั บุคคลอนื่ ในสถานบุคคลใน ศึกษา บุคคลในชมุ ชนสถานศึกษา ได้ เชน่ การยมิ้ การบุคคลในชุมชน ทักทาย การโอบกอด การเลน่ เปน็ ต้น ๒) สามารถตอบสนองต่อ การกระตุ้น การ ช่วยเหลือด้วยวิธกี าร ตา่ ง ๆท่ีนาไปสกู่ าร เลน่ รว่ มกนั ได้๓.๑.๓ การเล่น ๑) สามารถใชร้ า่ งกายในของเล่น ท่ีมีเสียง การสัมผสั ของเล่นตามแสง สสี ัน บทบาท วิธีการเลน่ผวิ สัมผัสที่ ของของเล่นประเภทต่างกันเพื่อความ น้นั ๆ ได้ เชน่ ของเล่นเพลิดเพลนิ ท่มี ีเสียงใช้เคาะ ตี เป่า เปน็ ตน้ ๒) สามารถมสี ว่ นรว่ มใน การเลน่ ของเลน่ ท่ีมี แสง สสี นั ผิวสัมผสั ที่ ตา่ งกนั ได้๓.๑.๔ การเลน่ ๑) สามารถเลน่ กบั ของของเล่นกับ เล่นท่มี ีขนาดตา่ งกันบคุ คลอ่นื และ วธิ ีการเลน่ ง่ายๆ ที่การเลน่ ท่ีมีการ แตกตา่ งกัน กับคนในผลัดเปลี่ยน ครอบครวั กับเพื่อน และกับคนรจู้ กั ใน สถานศึกษาได้

๒๙๔ ๒) สามารถทาตามวิธกี าร เล่นทม่ี กี าร ผลัดเปลย่ี นกนั ระหวา่ งตนเองกับผูอ้ น่ื ได้ เช่น ผใู้ หญ่ท่ี ใกล้ชิด คนใน ครอบครวั เพื่อน และ คนรู้จกั ในสถานศึกษา เป็นต้น๓.๑.๕ การเล่น ๑) สามารถปฏบิ ัตติ ามท่มี กี ติกา การ กตกิ าของการเลน่เลน่ ตามลาดับ งา่ ยๆ รว่ มกับบุคคลและการแบง่ ปนั อ่นื ได้การเล่น ๒) สามารถแบ่งปันของ เลน่ ร่วมกับผู้อื่นหรอื เพ่อื น ในการเล่น ร่วมกนั ๓) สามารถเลน่ เกมส์ทีม่ ี ลาดับข้นั ตอน เกมที่ สลับบทบาทกบั บุคคล อ่นื ได้ ๔) สามารถแสดงความ สนกุ /พอใจขณะเลน่ กับบคุ คลอืน่ ได้๓.๒ การมี ๓.๒.๑ การร่วม ๑) สามารถอยู่ร่วมสว่ นรว่ ม กิจกรรมยามวา่ ง กจิ กรรมยามว่างและทางสังคม และกจิ กรรม กจิ กรรมนนั ทนาการนนั ทนาการ ภายในครอบครวั แตย่ ังภายในครอบครวั ไม่ทากจิ กรรมรว่ มได้ ๒) สามารถรว่ มทา กจิ กรรมยามว่างและ กิจกรรมนนั ทนาการ ภายในครอบครวั ได้ บางสว่ น

๒๙๕๓.๒.๒ การร่วม ๓) สามารถรว่ มทากิจกรรมใน กจิ กรรมยามว่างและหอ้ งเรยี นและ กิจกรรมนันทนาการนอกห้องเรียน ภายในครอบครัวได้จน สาเรจ็ อย่างนอ้ ย ๑ กจิ กรรม ๑) สามารถอยู่รว่ ม กิจกรรมตา่ ง ๆ ใน ห้องเรยี น ได้ เช่น การเล่นเกมส์ การทา กิจกรรมกลมุ่ กิจกรรมนันทนาการ และการทัศนศึกษา เป็นต้น ๒) สามารถร่วมทา กิจกรรมในห้องเรยี น ไดบ้ างสว่ น เชน่ การ เลน่ เกมส์ การทา กจิ กรรมกลมุ่ กจิ กรรมนนั ทนาการ และการทศั นศึกษา เปน็ ต้น ๓) สามารถรว่ มทา กิจกรรมในห้องเรยี น จนสาเรจ็ อยา่ งนอ้ ย ๑ กจิ กรรม เชน่ การเลน่ เกมส์ การทากิจกรรม กลุ่ม กจิ กรรม นันทนาการ และการ ทัศนศึกษา เป็นตน้

๒๙๖๓.๒.๓ การร่วม ๑) สามารถใหค้ วามกิจกรรมกบั ผู้อ่นื รว่ มมอื ในการทากบั บุคคลแปลก กิจกรรมกับผูอ้ ่นื ซ่งึหนา้ แตม่ คี วาม เป็นคนแปลกหน้าทม่ี ีเก่ยี วข้องกนั ความเกยี่ วข้องกันได้ เชน่ ตรวจสุขภาพ ตดั ผม เป็นต้น ๒) สามารถร่วมกิจกรรม กับผู้อนื่ ซึ่งเป็นคน แปลกหน้าทีม่ ีความ เก่ยี วข้องกนั ไดจ้ น สาเร็จในสว่ นกิจกรรม ของตนเอง เช่น ตรวจ สขุ ภาพ ตดั ผมเป็นต้น๓.๒.๔ การรว่ ม ๑) สามารถเขา้ ร่วมกิจกรรมในชมุ ชน กิจกรรมทางสังคม เช่น กิจกรรมใน หมูบ่ า้ น แหล่งเรียนรู้ ในชุมชน วัด ตลาด เป็นต้นได้ ๒) สามารถมีส่วนร่วมใน การทากิจกรรมทาง สงั คม เชน่ กิจกรรม ในหมบู่ ้าน เป็นตน้ ได้ ๓) สามารถร่วมกจิ กรรม ทางสงั คมกบั ผู้อ่ืน ได้ สาเรจ็ บางกจิ กรรม เช่น กิจกรรมงานบญุ งานประเพณี เป็นต้น

๒๙๗๓.๒.๕ สมาชกิ ใน ๑) สามารถแสดงการรจู้ ักครอบครัว สมาชกิ ในครอบครวั เมอ่ื พบบุคคล หรอื พบ สัญลักษณ์ หรือเม่อื กลา่ วถงึ ๒) สามารถแสดงทา่ ทาง หรือการกระทาทบ่ี ง่ บอกการเป็นสมาชิก ของครอบครวั๓.๒.๖ การแสดง ๑) สามารถแสดงสหี น้า/ความคดิ เห็นหรือ ทา่ ทาง/ใช้คาพดู /ยอมรบั ความ วธิ กี ารอืน่ ใดแสดงการคดิ เหน็ ของผู้อื่น ยอมรบั หรอื ปฏเิ สธหรือบคุ คลแปลก ความคดิ เห็นของผู้อ่ืนหนา้ หรอื บุคคลแปลกหน้า ได้ ๒) สามารถแสดงสีหน้า/ ท่าทาง/ใชค้ าพดู / วิธีการอื่นใดแสดงเพ่ือ แสดงความคิดเหน็ ใน เร่ืองท่ีถามหรอื ต้องการคาตอบ

๒๙๘๓.๒.๗ การยอม ๑) สามารถแสดงสีหนา้รบั คาตชิ มจาก ท่าทางหรือวิธีการอนื่บุคคลใน ทางบวก เม่ือไดร้ ับคาครอบครวั ตชิ มจากบุคคลในสถานศึกษา ครอบครวับุคคลทเี่ ก่ยี วข้อง สถานศกึ ษา บุคคลท่ีและบุคคลอืน่ ใน เกี่ยวข้องและบุคคลสงั คม อน่ื ในสังคมได้ ๒) สามารถแสดงสีหน้า ท่าทาง หรอื วธิ กี ารอนื่ ทต่ี รงตอ่ คาตชิ มแก่ บคุ คลในครอบครวั สถานศึกษา บุคคลที่ เกี่ยวข้องและบุคคล อืน่ ในสงั คมได้ เหมาะสมกบั สถานการณ์และ ศกั ยภาพของตน๓.๒.๘ ทา/ ๑) สามารถแสดงทา่ ทางตอบสนองต่อ หรอื วธิ ีการอืน่ ใดในคาพดู /ท่าทาง การทักทายได้เม่อื พบเจอและ เหมาะสมตามจากลา ศกั ยภาพของตนเอง ๒) สามารถแสดงทา่ ทาง หรอื วธิ ีการอ่นื ใดใน การกลา่ วลาได้ เหมาะสมตาม ศักยภาพของตนเอง

๒๙๙๓.๒.๙ การ ๑) สามารถแสดงสีหนา้ /แสดงมารยาทที่ ทา่ ทางหรือวิธีการอนื่ ที่เหมาะสมเมือ่ บ่งบอกว่ายนิ ดีท่ีได้ผู้อื่นแนะนาตน รู้จกั ผอู้ ื่นให้นักเรยี นรจู้ กั ๒) สามารถแสดงสีหนา้ /และการแนะนา ทา่ ทางหรือวิธกี ารอืน่ตนเองใหผ้ ู้อน่ื ในการแนะนาตนเองร้จู กั ใหผ้ ู้อ่นื รจู้ ักได้๓.๓ การ ๓.๓.๑ การ สามารถแสดงสีหนา้ /ปรับตัวให้ แสดงออกทาง ท่าทาง/ คาพดู /ภาษามือเหมาะสม อารมณ์ใน หรือวธิ กี ารอืน่ ใดที่บง่กับการมี สถานการณ์ บอกอารมณ์ทเ่ี หมาะสมปฏสิ มั พันธ์ รว่ มกบั กบั สถานการณ์ทางสังคม ครอบครัว๓.๓.๒ ปรับตวั ๑) สามารถแสดงในการร่วม พฤติกรรมตามกจิ กรรมการ ข้อตกลงในการเรียนเรียนกับเพื่อน รว่ มกบั กลมุ่ครแู ละพี่เล้ยี ง ๒) สามารถปฏบิ ตั ติ าม กิจกรรมการเรยี นได้ เหมาะสม๓.๓.๓ การ สามารถแสดงความเหน็ ใจแสดงความเหน็ ตอ่ บคุ คลในครอบครวั ในใจต่อบคุ คลใน สถานศึกษา บคุ คลที่ครอบครัว เกย่ี วขอ้ งและบุคคลอนื่ ในสถานศกึ ษา สงั คมได้เหมาะสม เชน่บุคคลที่ บุคคลในครอบครวั หรือเก่ียวขอ้ งและ เพ่อื นไมส่ บาย บคุ คลในบุคคลอ่นื ใน ครอบครัวหรอื เพ่ือนประสบสงั คม อุบัติเหตุ เปน็ ต้น

๓๐๐๓.๓.๔ เพิกเฉย สามารถควบคุมตนเองใหม้ ีต่อพฤตกิ รรมที่ พฤติกรรมทเี่ หมาะสมเมื่อไมพ่ ึงประสงค์ ผ้อู ่นื แสดงพฤตกิ รรมไมพ่ งึของบุคคลอ่ืน ประสงค์ เชน่ เม่ือเพ่ือนใน ห้องกรีดร้องโวยวายจะ- สามารถควบคุมตนเองให้ อยู่นิง่ ได้ เปน็ ตน้๓.๓.๕ ยอมรับ สามารถปฏิบัติตามการปฏบิ ัติตาม กฎระเบยี บของการใช้กฎ ระเบยี บ หอ้ งเรยี น ห้องอาหาร ทั้งในของห้องเรียน และนอกสถานที่ เช่นห้องอาหาร ปฏบิ ัติตามข้อตกลงในและนอก หอ้ งเรยี น เกบ็ ภาชนะเม่อืสถานที่ รับประทานเสรจ็ ไมท่ ง้ิ ขยะ เรี่ยราด รจู้ ักการเข้าแถว รจู้ ักรอ ปฏบิ ัติตามคาสั่ง ปา้ ยประกาศตา่ ง ๆ เป็นต้น๓.๓.๖ การ สามารถแสดงพฤติกรรมท่ีเคารพความเปน็ แสดงถงึ เคารพความเปน็สว่ นตวั ของ ส่วนตวั ของผู้อืน่ เช่น ไม่บคุ คลอื่น กอ่ กวนเพื่อนในขณะทา กจิ กรรม ไม่รบกวนครูขณะ สอนนักเรียนคนอ่ืน ไมท่ า ร้ายผอู้ นื่ เป็นต้น๓.๔ การ ๓.๔.๑ การมี ๑) สามารถแสดงสรา้ งและ สมั พนั ธภาพท่ดี ี พฤติกรรมทีเ่ หมาะสมรักษาความ กบั คนใน กับบทบาท ขอบเขตสัมพนั ธ์ ครอบครวั ความรับผดิ ชอบของ ตนเอง ในครอบครัว ๒) สามารถรว่ มกิจกรรม ของครอบครัวได้

๓๐๑ ๓.๔.๒ การมี ๑) สามารถแสดงพฤติกรรม สัมพนั ธภาพท่ีดี ท่ีเหมาะสมกับบทบาท กบั เพ่ือน ครู การเปน็ สมาชิกท่ีดีของ บุคคลอนื่ ใน หอ้ งเรียน สถานศกึ ษา ๒) สามารถรว่ มกิจกรรมกับ ๓.๔.๓ การมี เพ่ือนในหอ้ งเรยี นหรือ สมั พนั ธภาพท่ดี ี บคุ คลอ่ืนในสถาน กบั ญาติ บุคคล ศึกษาหรือบุคคลอนื่ ท่ี ในชมุ ชน เขา้ มาในสถานศึกษา ๓.๔.๔ การ สามารถแสดงพฤติกรรมที่ รกั ษา เหมาะสมกบั บทบาทการ ความสัมพนั ธท์ ่ี เป็นเพือ่ นบ้านและสมาชกิ ดีกับผ้อู ื่น ของชุมชนเม่ือร่วมกิจกรรม ในชมุ ชนได้ สามารถทากจิ กรรมร่วมกับ ผู้อื่นอย่างต่อเนื่อง และไม่ สรา้ งความเดือดร้อนแก่ ผอู้ ่นื๔. ทักษะการจดั การและการควบคุมตนเองทกั ษะ ทกั ษะย่อย/ พฒั นาการหรอื ศักยภาพ ระดบั ความ ขอ้ สังเกต เนอ้ื หา ทีค่ าดหวงั ความสามารถ กอ่ นการพัฒนา ทาได้ ทาไมไ่ ด้การจดั การ ๔.๑ ระบคุ วาม สามารถแสดงท่าทาง/และการ ตอ้ งการการทา บอก/วิธีการอนื่ ระบุสิ่งที่ควบคมุ กิจกรรม ตอ้ งการจะทาได้ เช่น สง่ิตนเอง ทชี่ อบ/ไมช่ อบทา กิจกรรมต้องการทา/ไม่ ต้องการ กจิ กรรมที่ สนใจ/ไม่สนใจ เปน็ ต้น

๓๐๒๔.๒ เลือกส่งิ ที่ ๔.๒.๑ สามารถเลือกสิง่ ท่ีตอ้ งการและ ต้องการจะทาได้ เชน่สามารถทาได้ เลือกของเล่น เลือก เกมส์การละเล่น๔.๓ ปฏิบตั ติ าม เลือกแหลง่ เรียนรู้ท่ีไปข้ันตอน/ตาราง เปน็ ตน้กจิ กรรม ๔.๒.๒ สามารถทา๔.๔ ปรบั ตัวใน กจิ กรรมท่เี ลือกได้การร่วม เช่น เล่นอสิ ระ ทากจิ กรรมใหม่ กจิ กรรมกล่มุ ๔.๓.๑ สามารถปฏบิ ตั ิ ตามข้ันตอนของ กจิ กรรมได้ เชน่ การ เลน่ การปฏบิ ัติ กิจกรรมประจาวนั ของผูเ้ รียนที่บ้าน เป็นตน้ ๔.๓.๒ สามารถแสดง การรบั รู้และปฏบิ ตั ิ ตามตารางกจิ กรรม ของตนได้ เชน่ ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตาม ตารางประจาวนั ส่วน บุคคล ตารางชนั้ เรยี น เป็นตน้ สามารถแสดงการยอมรบั เม่ือให้ร่วมทากจิ กรรมที่ แตกต่างจากเดมิ ได้ เชน่ เปลย่ี นจากตบมือเปน็ ตกี ลอง เปลี่ยนจากการ เป็นคนเล่น เป็นคนดู เปล่ยี นจากทากจิ กรรมที่ ชอบตอนเช้าเปน็ ตอนบ่าย เปน็ ตน้

๓๐๓ ๔.๕ การรว่ มทา สามารถรว่ มทากิจกรรม กิจกรรมตง้ั แต่ ต้งั แต่เร่ิมตน้ จนสาเร็จโดย เริ่มต้นจนจบ ใช้หรอื ไม่ใช้เครอื่ งชว่ ยได้ เชน่ ทากจิ กรรมการเรยี น การสอน กิจกรรม นันทนาการ กิจกรรมนอก สถานศกึ ษา เปน็ ตน้ ๔.๖ การเลือก สามารถตัดสนิ ใจเลือกวิธี วิธีการแก้ปญั หา ในการแกป้ ญั หาโดยใช้ หรอื ไม่ใชเ้ ครื่องช่วยได้ เช่น เลอื กเล่นของเล่นที่ ไม่ซา้ กับเพื่อน เลือก รายการอาหาร เลือก อุปกรณ์การทางาน เปน็ ตน้บันทกึ ข้อสงั เกตอื่นๆ ทพี่ บจากการประเมิน............................................................................................................................. ................................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................................ .................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................. .................................... ลงชอื่ .............................................ผปู้ ระเมิน (..........................................) ตาแหนง่ ...........................................ลงชือ่ .............................................ผู้ประเมิน ลงช่อื .............................................ผู้ประเมิน (..............................................) (..............................................)ตาแหน่ง...................................... ตาแหน่ง..........................................

๓๐๖ แบบบันทึก - การประเมินรางวลั แบบจัดรางวัลให้เลือกหลาย ๆ ตวั เลือกนกั เรียน...........................................................................................................................................................ครู – ผฝู้ ึก.......................................................................................................................................................รางวัลท่ีกาหนด ก)...............................................ข).............................................ค)........................................ รางวลั ที่นกั เรยี น ตาแหนง่ ที่วาง ความเห็นอ่ืนๆลาดบั ทีม่ คี วามตอ้ งการจาเป็น ซ้าย กลาง ขวา พเิ ศษระดับรุนแรงชอบการประเมนิ พบว่ารางวลั ทีน่ ักเรยี นชอบ ได้แก่................................................................................................กลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ ศูนย์การศกึ ษาพิเศษประจาจงั หวัดลาปาง

วันทบ่ี นั ทึกข้อมลู ......../.............../............ การตรวจประเมินทางกายภาพบาบัดขอ้ มูลผูร้ ับบริการชื่อ………………………………………………………ชื่อเล่น ................................ เพศ ชาย หญิงวนั เดือน ปีเกดิ .................................... อายุ ..............ป.ี .........เดอื น โรคประจาตวั ...............................การวนิ จิ ฉยั ทางการแพทย์…………………....................................................................................................อาการสาคัญ Chief complaint ………………………………………………………………………………………..………ข้อควรระวัง ............................................................................................................................................ .บิดาช่อื ……………………………………………………………………….……………อาชีพ………………….…………………..มารดาชอ่ื ...........................................................................................อาชีพ.............................................ทีอ่ ยู่ ………………………………………………………………………………………………………………………..………………การตรวจรา่ งกาย Subjective and Objective examination๒. ขอ้ มูลสาคัญทางกายภาพบาบัดการวนิ จิ ฉยั ทางกายภาพบบาบัด ……………………………………………………………..................…………………การรักษาทางกายภาพบาบดั (ระบุไว้ในแผน)………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….……………………………………การสังเกต อาการ การสงั เกต อาการ ปกติ ผิดปกติ ปกติ ผิดปกติลักษณะสีผิว เทา้ ปุกหลงั โก่ง เท้าแบนหลังคด แผลกดทบัหลังแอน่ การหายใจเข่าชิด การพดูเขา่ โกง่ การมองเหน็ระดบั ข้อสะโพก การเคี้ยวความยาวขาทง้ั สองข้าง การกลนืกลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ การตรวจประเมนิ ทางกายภาพบาบดั ปรบั ปรงุ คร้งั ที่ ๑ วนั ที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๖๐


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook