Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รวมลงเรือแป๊ะ

รวมลงเรือแป๊ะ

Published by waiyasusri, 2021-02-13 06:22:42

Description: รวมลงเรือแป๊ะ

Search

Read the Text Version

รฐั บาลกบั สอื่ อำรมณ์หงุดหงิดของนำยกฯ หรือท่ีภำษำพระเรียกว่ำ “อนฏิ ฐารมณ”์  ภาษาวยั รนุ่ เรยี กวา่  “อารมณบ์ จ่ อย” นนั้  มกั จะเกดิ หลงั รับรู้หรือได้รับรายงานเร่ืองที่ชวนให้ปวดเศียรเวียนเกล้า  สั่งไปแล้วไม่  เปน็ ไปตามทสี่ งั่  หนว่ ยงานทาำ งานชา้  หรอื กาำ ชบั แลว้ ยงั มเี รอื่ งรอ้ งเรยี น  ข้ึนมาอีก  ผู้มีหน้าที่ไม่ไปดูแล  เช่น  จู่ๆ  ก็มีภาพข่าวคนนุ่งกระโจมอก  ตักน้ำาอาบกลางถนน  ประชดว่าทางการไม่ยอมซ่อมถนนเสียที  อีก  กรณีหน่ึงคือมีเรื่องย่ัวเย้าตอแย  บางทีก็ไปยกคำาพูดคนโน้นคนนี้มา  ถามเหมอื นจะเสยี้ มใหช้ นกนั  ยงิ่ ถา้ เหน็ วา่ เปน็ การบดิ เบอื น หรอื อธบิ าย  เท่าไรก็ไม่ฟัง  ถ้าเป็นคนอ่ืนเจอแบบนี้คงเลิกพูดด้วย  หรือไม่ก็เดินหนี  เสียบ้าง ยมิ้ แก้เกอ้ บา้ ง ทาำ ตาดใุ สแ่ ตไ่ ม่พูดไมจ่ าบ้าง   บางคน เชน่  นายกฯ เปรมจะตอบสนั้ ๆ เพยี งวา่  “กลบั บำ้ นเถอะ ลูก” นายกฯ ชวลิตจะขยับกรอบแว่นตาถามกลับว่า  “เหรอ! เอ้อ! วำ่ ไงนะลกู ! เอำให้สบำยใจนะลูก” นายกฯ สมัครอาจใช้วิธีลูกล่อลูก  ชนยอ้ นกลบั เอาแรงๆ หรอื ตอ้ นกลบั ถงึ ลกู ถงึ คน เชน่  “แลว้ ไง ทำ� แบบ นี้แล้วไง ใครเดือดร้อนอะไร ใครจะเป็นจะตำยข้ึนมำ ผมไม่เห็นหนัก 101

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม หัวใคร ถ้ำไม่ผิดไม่ต้องเดือดร้อน” ถ้าเป็นอาจารย์คึกฤทธิ์ก็จะทำา  เหมอื นบนิ ขน้ึ เหนอื เมฆแลว้ เปรยวา่  “จะดำ่ อะไรกด็ ำ่ ไป ผมมันเหมือน ภูเขำทอง หมำเย่ียวรดบ้ำงอะไรบ้ำง ไม่สะทกสะท้ำนสะเทือนหรอก”  ส่วนนายกฯ  ชาติชายเคยยิ้มกร่ิมตอบส้ันๆ  ว่า  “พระสอนว่ำใครเอำ อะไรมำให้ ถำ้ เรำไมร่ บั เขำกต็ อ้ งเอำกลับไปเอง เรื่องนผ้ี มไมร่ บั หรอก โนพร็อบเบลม็ ใครว่ำกเ็ อำคืนไปเอง” แต่พลเอกประยุทธ์เป็นคนข้ีรำาคาญและไม่ชอบการพิรี้พิไร ผัด  วันประกันพรุ่ง  หรือการทำางานแบบไม่สะเด็ดนำ้า  ผักชีโรยหน้า  น้ำาท่วม  ทงุ่ ผกั บงุ้ โหรงเหรง เมอื่ ผสมกบั ความเปน็ คนตรง พดู จาโผงผาง อนฏิ ฐา-  รมณ์จึงเกิดได้ง่าย  ท่านไม่ยอมอดทนอดกล้ันกับเรื่องเหล่านี้  ถือว่า  เป็นการขาดระเบียบวินัย  หรือไม่ก็เป็นการดูหมิ่นเหยียดหยามขาด  สัมมาคารวะ  ไม่ให้เกียรติตำาแหน่งหน้าท่ี  อีตอนนี้แหละท่ีโกรธจริง  พอโกรธก็เกิดอนิฏฐารมณ์  หน้าแดง  ขมวดคิ้ว  เสียงดัง  โพล่งออกไป  แรงๆ  แต่โพล่งแล้วก็มักเสียงอ่อยลง  เพราะฉะน้ันจะสังเกตว่าหาก  ประโยคแรกๆ  แรง  ประโยคท้ายๆ  มักจะเบาลงเหมือนรู้ตัว  เช่น  “ผม น้อยใจบำ้ งเป็นธรรมดำ แต่ไม่โกรธนะ โกรธไม่ได้อยู่แล้ว เป็นนำยกฯ ต้องรับไว้ท้ังหมด แต่อย่ำแหย่บ่อยนักนะจ๊ะ เข้ำใจตรงกันนะ” แต่คน  ฟังอาจยงั ไมเ่ ขา้ ใจและเร่มิ จะโกรธตอบแลว้ กไ็ ด้   ที่ท่านมักจะ “ฉุน” บ่อยคร้ังคือการใช้ศัพท์สื่อมวลชนพาดหัว  ข่าวหวือหวา  เรื่องนี้ส่ือจะรู้หรือไม่ก็ไม่ทราบว่าเมื่อใครโดนเข้าบ้างจะ ฉุนอยู่หลายคนเหมือนกัน  ยิ่งคำากริยาหรือเวิร์บในภาษาไทยมีหลาก หลายชวนให้เห็นภาพต่างๆ  กันอยู่ด้วย  เช่น  โกรธ  เกร้ียวกราด  พลุ่ง  พล่าน  ระเบิด  อาละวาด  เม้งแตก  โมโห  ว้าก  ฉุน  ภาษาอังกฤษอาจ มีคำาเดียวว่า  angry  แต่ภาษาไทยมีคำาแสดงระดับอารมณ์หลายคำา  อย่างเชน่  กิน ก็ยังมีรับประทาน ยัด สวาปาม แดก ฯลฯ   ผมก็เคยเคืองผู้สื่อข่าว เพราะบางทีคำาท่ีใช้ดูจะออกไปทาง  ดูแคลน  ส่อเสียด  หรือโน้มน้าวสร้างกระแสความรู้สึกในหมู่คนอ่าน ให้เขม่นโดยไม่ตรงต่อความจริง  เช่น  ใช้คำาว่า  “ฟุ้ง”  “เพ้อ”  “พล่าม”  102

“โว”  “ว้าก”  “ดัน”  คำาว่า  “ดัน”  เป็นคำาที่สื่อชอบใช้พาดหัว  ท่ีจริงเป็น  ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: คาำ หลายแงห่ ลายงา่ ม อยา่ งพาดหวั วา่  “ตดู่ นั ” นยั หนงึ่ อาจเปน็ ผลกั ดนั   ซ่ึงฟังดูดี  แต่อาจชวนให้เข้าใจว่าดึงดันหรือดันทุรังทั้งท่ีคนคัดค้าน  ซ่ึงฟังไม่ค่อยดีนักก็ได้  ไม่อีกทีก็เป็นคำาแทรกเข้ามาเฉยๆ  เช่น  “อยู่ดี ไมว่ ำ่ ด ี ดน๊ั ไปหยิบมำทำ� ” ภายหลังผมทำาใจได้แล้วไมน่ กึ เคอื งอะไร นึกเสยี วา่ นเี่ ป็นความ  งอกงามรุ่มรวยของภาษาไทยอย่างหน่ึง  ซ่ึงมีคำาแสดงอารมณ์และ  ภาพพจน์ได้หลากหลาย  ส่ือมีเวลาน้อย  พ้ืนที่ข่าวน้อยก็ต้องนำาเสนอ  ไปอย่างนั้น  บางคร้ังนักข่าวเป็นคนคาดคั้นถามแท้ๆ  พอเราปฏิเสธก็  คะยั้นคะยอว่าช่วยให้ความรู้หน่อยเถอะค่ะอาจารย์  ไอ้เราก็บ้ายอ  พยายามชแี้ จงไปอยา่ งสภุ าพกะจะใหค้ วามร ู้ แตพ่ าดหวั ขา่ ววา่  “วิษณุ ปัดพัลวัน” “วิษณุฟุ้งไม่หยุด” “วิษณุพล่ำม”  พอเราบอกว่าอีกฝ่าย  เข้าใจผิดซึ่งอุตส่าห์ช้ีแจงด้วยเหตุด้วยผลแต่ก็ไปพาดหัวว่า  “วิษณุ ตอกหน้ำเพ่ือไทย” “วิษณุอัด” “วิษณุเย้ยมำร์ค” ใครได้อ่านก็คงนึกว่า  ผมเอะอะมะเทิ่งอะไรทำานองนั้น อีกฝ่ายจึงย่อมเกิดอารมณ์โต้กลับมา  บา้ ง คราวนสี้ อ่ื พาดหวั ขา่ ว “เพอื่ ไทยตอกหนำ้ วษิ ณหุ งำย” “ปชป.สวน วิษณุอยู่หมัด”  คือเอาให้โกรธกันจนได้  ครั้นผมไม่อยากต่อความยาว  สาวความยืด ใครมาถามต่อก็ไม่ตอบ คราวนี้รุ่งขึ้นพาดหัวว่า  “วิษณุ ใบก้ นิ ” “วิษณจุ ๋อย” “วิษณหุ ุบปำก” “วิษณยุ กธงขำว” “วษิ ณุเงิบ” พ่ีแถมสิน  รัตนพันธุ์  และพี่มานิจ  สุขสมจิตร  ผู้ใหญ่ในวงการ  สื่อที่ผมเคารพมากเคยสอนผมว่า  “ยุทธกำรบ่ำงช่ำงยุมันมีเยอะในทุก วงกำร สื่อก็มี อย่ำไปโกรธ อย่ำไปหลวมตัวต่อล้อต่อเถียงเด็ดขำด เถียงก็ไม่มีทำงชนะ เพรำะเรำพูดไดว้ ันเดยี ว แตเ่ ขำพูดได้ทุกวนั วนั ละ ๔-๕ คอลัมน์ ถ้ำไม่จริงก็ปฏิเสธและช้ีแจง ถ้ำผิดกฎหมำยก็ฟ้อง ถ้ำไม่ผิดกฎหมำยก็จงอดกลั้นและท�ำเป็นข�ำตำมเข้ำไว้ พรุ่งนี้ก็ไม่มี ข่ำวลงต่ออยู่แล้ว มิฉะนั้นจะเข้ำทำงเขำกลำยเป็นตัวตลกเปล่ำๆ เขำ ใช้ค�ำเหล่ำนั้นยั่วเย้ำเพ่ือให้ดูว่ำเรำเป็นตัวตลกอยู่แล้ว ท�ำไมเรำจะ ต้องไปท�ำตนเป็นตัวตลกให้สมจรงิ ตำมท่เี ขำปูเรอื่ งนำ� ไว้” 103

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม นอกจากน้ันบ่อยครั้งท่ี  “ฟุ้ง”  “เพ้อ”  “พล่าม”  เป็นภาษาของ  รีไรเตอร์ในโรงพิมพ์ นักข่าวเขารายงานไปดีๆ ตามข่าว แต่การใส่สีใส ่ ไขห่ าคาำ กระชับๆ พาดหัวเรียกความรู้สกึ คนอ่านเป็นฝมี อื จากโรงพิมพ์  ฉะนั้น  “ไปว่ำเด็กเขำไม่ได้”  ผู้สื่อข่าวเคยควักสมุดโน้ตบันทึกส่ิงท่ีผม  ให้สัมภาษณ์ชนิดจดคำาต่อคำา  หรือเคยเปิดเทปอัดเสียงผมท่ีส่งต่อให้  โรงพิมพ์ให้ผมฟังแล้วบอกว่าคอยดูวิธีพาดหัวข่าวนี้พรุ่งนี้นะคะ  พอ รุ่งข้ึน  ข้อความไหนท่ีผมพูดยาว  ละเอียด  หวังจะให้คนฟังเข้าใจตาม  สไตลอ์ าจารย ์ เขาพาดหวั ว่า “วษิ ณพุ ลำ่ ม” อีกฉบบั พาดหัวว่า “วิษณุ ฟงุ้ ” วนั ไหนผมพดู สนั้ ๆ กะวา่ ไมฟ่ งุ้ แลว้ โวย้  เขากลบั พาดหวั วา่  “วษิ ณุ อบุ ไต๋” “วิษณเุ งบิ ” “วษิ ณเุ มิน” “วษิ ณใุ บ้กนิ ” เอาให้สบายใจเถอะครับ!  ผมปลงได้นานแล้ว  ไม่คิดจะถือสา  หาความอีกต่อไป  คิดอย่างพระพยอมว่าโกรธคือโง่  โมโหคือบ้า  ว่า  แลว้ กส็ บายใจ และอนั ทจ่ี รงิ คาำ พวกนกี้ ไ็ มไ่ ดท้ าำ ใหผ้ อู้ า่ นคดิ อะไรลกึ ซงึ้   หนกั หนา เขาดูเนอ้ื ข่าวมากกว่าพาดหวั  อีกอย่างหน่งึ มีอะไรพูดกบั ทวี  ี ให้คนเห็นภาพได้ยินเสียงดูจะเข้าทีกว่า  แต่บังเอิญยุคน้ีเกิดมีโซเชียล  มีเดียเข้ามาอีก  พวกน้ีแหละครับท่ีตัดทอนหรือใช้ตัวย่อเพื่อให้กระชับ  จนชักนำาความรู้สึกสร้างกระแสย่ิงกว่าสื่อส่ิงพิมพ์แถมไปได้รวดเร็ว  กว่าเสียอีก  ซึ่งหมดปัญญาจะไปตามโกรธ  เอาว่าถ้าผิดก็ต้องงัด  พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์มาว่ากัน  ถ้าไม่ผิดก็ขำาเสียก็แล้วกัน  พรุ่งน้ีทุกคน  ก็ลืม  นายกฯ ประยทุ ธเ์ คยเปิดความในใจในคราวหน่ึงวา่   “ข่ำวโซเชียลมีเดียออกมำติติง ใครพูดก่อนเช่ือก่อน แต่เวลำ เรำพูดยังไงก็ไม่เชื่อ ต้องช้ีแจงให้ได้ ปีหน้ำไม่รู้จะได้พูดอยู่หรือเปล่ำ คงไมไ่ ดพ้ ดู เพรำะมรี ฐั บำลใหมแ่ ลว้ ...ผมเปน็ คนอำรมณร์ อ้ น แต่วันนี้พูด ด้วยอำรมณ์ปกติ ผมก็พูดเสียงดังอย่ำงนี้ ถ้ำโมโหก็อีกเร่ืองหน่ึง อยู่ กับทหำรอีกแบบหนึ่ง ทุกวันนี้ประคับประคองจิตใจมำกที่สุดแล้ว แต่ ไม่ขออดทนต่อกำรย่ัวยุ เป็นนำยกฯ แล้วพูดจำไพเรำะแล้วท�ำอะไร ได้ไหมล่ะ พูดแต่ครับๆ ดีๆ หรือท�ำโน่นท�ำนี่ให้แล้วท�ำให้ไหมล่ะ” (ไทยรฐั  ๒๕ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๑ หนา้  ๑๑) 104

  อีกคราวท่านนายกฯ บรรยายในท่ปี ระชมุ ตอนหน่งึ วา่ ŧàÃÍ× á»Ðˆ ::   “วันนี้ผมคิดว่ำผมต้องด�ำเนินกำรแล้วเหมือนที่คนด่ำพวกท่ำน ท่ำนก็ใช้กฎหมำยหมิ่นประมำท หน่วยงำนเขำก็ต้องรักษำศักด์ิศรี ถ้ำ เขำไม่ได้ท�ำแบบน้ันแล้วไปว่ำเขำ เขำก็มีสิทธิ์ในกำรป้องกันตัวของ เขำเหมือนกัน สื่อเองก็ต้องระวังตัว ผมไม่ได้ขู่สื่อ เด๋ียวกลำยเป็นกำร ขู่สื่ออีกทุกเรื่อง อย่ำงใช้ค�ำว่ำ ‘ปัด’ เหมือนกับว่ำปฏิเสธควำมจริง พอช้ีแจงดีขึ้นก็บอกว่ำ ‘ฟุ้ง’ ส่ือคือตัวช้ีน�ำ วันน้ีก็บอกว่ำนำยกฯ เป็น คนใจร้อน พูดไม่เข้ำหูใคร อำทิตย์ไหนถ้ำผมไม่อ่ำนหนังสือพิมพ์เลย น่ำจะมีควำมสุขดี ตอนน้ีก�ำลังคัดออกว่ำฉบับไหนผมไม่อ่ำน ไม่เคย สร้ำงประโยชน์ให้กับประเทศเลย น้อยมำกทุกคอลัมน์ เด๋ียวจะถำม ประชำชนว่ำหนังสือพิมพ์ฉบับไหนเช่ือมั่นมำกที่สุดแล้วขอให้ตอบมำ ด้วย...ถ้ำผมใช้อ�ำนำจผมจริงๆ ไม่มีหรอกไอ้เรื่องพวกน้ี ยังไม่เคยท�ำ แบบนี้สักคร้ัง พูดไปก็เสียอำรมณ์ ส่วนสื่อดีๆ นักกำรเมืองดีๆ ที่มีอยู่ กต็ ้องขอขอบคณุ ” (มตชิ น ๒๕ สงิ หาคม พ.ศ.๒๕๖๑ หน้า ๑๐)   นักข่ำวเป็นอีกวงกำรหน่ึงที่ไม่เหมือนคอลัมนิสต์หรือผู้ บรหิ ารสอ่ื ทวั่ ไป การทาำ งานจะแบง่ เปน็ สายๆ เชน่  นกั ขา่ วสายทาำ เนยี บ  สายสภาฯ  สายทหาร  สายเศรษฐกิจ  สายบันเทิง  สายกีฬา  บรรดานัก  การเมืองในทำาเนียบรัฐบาลจะชินกับนักข่าวสายทำาเนียบและสาย  สภาฯ  เพราะพบกันทุกวัน  ผมเองนั้นพอรถจอดเทียบบันไดตึกบัญชา-  การอันเป็นที่ทำางาน  น้องๆ  นักข่าวก็กรูกันเข้ามา  พอเย็นจะกลับบ้าน  ก็กรูมาอีกรอบ  จะไม่พูดอะไรด้วยก็ใช่ที่  ยิ่งวันศุกร์แล้วเห็นใจว่า  เสาร์-อาทิตย์น้องๆ  จะไม่มีข่าวเพราะเป็นวันหยุด   นอ้ งๆ ลกู ๆ หลานๆ สมยั นม้ี คี วามรดู้ มี าก แมบ้ างคนวนิ ยั จรรยา  จะด้อยกว่านักข่าวรุ่นก่อน  พวกนี้มีน้ำาอดน้ำาทนในการหาข่าว  บางท ี เกาะบันไดตึกไทยคู่ฟ้า  ตึกบัญชาการอยู่จนคำ่ามืด  บางคนก็เก่งทาง  ออดอ้อน บางทีกฉ็ ะเราเอาแรงๆ ตงั้ คาำ ถามเหมอื นวา่  “ฮนั่ แน!่ จบั เทจ็ ได้แล้ว”  ราวกับจะต้อนให้จนมุม  แต่ไปๆ  มาๆ  สักพักก็ดีกัน  ไม่มีใคร  105

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม ถือสางอนใส่กันได้นานเพราะข่าวใหม่  ข่าวดี  ข่าวร้ายสลับกันเข้ามา  เรื่อยๆ  นักข่าวหลายคนมีแววเก่ง  บางคนต่อไปอาจได้เป็นรัฐมนตร ี เสียเอง  หลายคนออกจากวงการไปทำางานอ่ืนได้ดิบได้ดีมีอนาคตไกล  พวกน้ีแหละครับที่ต้ังฉายาประจำาปีให้รัฐมนตรี   อันที่จริงนักการเมืองกับนักข่าวเป็นคู่กรณีกันมาแต่ไหนแต่ไร  ท้ังในเชิงเก้ือกูลและในเชิงไม้เบ่ือไม้เมา  เพราะธรรมชาติของส่ือก็ต้อง  พยายามหาข่าว  เจาะข่าว  ในหมู่นักข่าวเองก็แย่งข่าวกัน  เพ่ือให้ได ้ มาซงึ่ ขา่ วทล่ี กึ  ละเอยี ดและแปลกกวา่ คนอนื่  อยา่ งนถี้ งึ ไดม้ ปี าปารซั ซ่ี  คอยสะกดรอยซุ่มถ่ายรูปคนดัง  แต่ถ่ายรูปนั้นเรื่องหน่ึงเพราะนักข่าว  ทำาเองฝ่ายเดียว  ส่วนการเสนอข่าวเป็นอีกเรื่องเพราะต้องมี  ๒  ฝ่าย  ถ้าฝ่ายการเมืองเงียบเสีย  พูดไปสองไพเบ้ีย  น่ิงเสียตำาลึงทอง  ก็จะไม่  มีเร่ือง  ถ้าพูดออกไปก็ต้องระวัง  แม้พูดเล่นและนักข่าวก็รู้ว่าพูดเล่น  แต่พอเอาไปพาดหัวต่างกรรมต่างวาระและโซเชียลมีเดียเอาไปแชร์  รัวๆ  ต่อๆ  กันเข้าก็งานเข้าเกิดเร่ืองได้  ผมเองก็เคยพลาดเร่ืองอย่างนี้  มาแลว้   ในบางกรณ ี จรรยามารยาทหรอื กฎหมายอาจเขา้ มาชว่ ยจดั สรร  ความพอเหมาะพอด ี อยา่ งนกี้ พ็ อจะวางระยะหา่ งการเสนอขา่ วได ้ เชน่   เร่ืองในราชสำานัก  เร่ืองที่เป็นความลับหรือความมั่นคงปลอดภัยของ  ชาติ  หรือกรณีเด็ก  ๑๓  คนทีมหมูป่าอะคาเดมีที่ช่วยออกมาจากถ้ำา  หลวงฯ  ความจริงสื่อไทยส่ือเทศอยากสัมภาษณ์ใจจะขาด  แต่เพราะ  มีกฎหมายคุ้มครองเด็ก  มีนักจิตวิทยาและมีสังคมคอยระวังระยะ  ห่างไว้ให้  จึงระมัดระวังกันดี  ไม่งั้นก็คงจะมีคำาถามแปลกๆ  มีคำาตอบ  ประหลาดๆ  มีการใช้คำาที่หวาดเสียวหลุดออกมาพาดหัวข่าวกันแล้ว   นักการเมืองไม่ว่ารัฐบาลหรือฝ่ายค้านจำาเป็นต้อง “เป็นข่าว”  และหลีกไม่พ้น  ถ้าหลีกก็แปลว่าไม่โปร่งใส  ความจริงเร่ืองอย่างน ้ี เหมือนน้ำาพึ่งเรือ  เสือพ่ึงป่า  ถ้าต่างใช้หลักความพอเพียงก็น่าจะได้  ประโยชน์ทั้ง  ๒  ฝ่าย  นักการเมืองต้องให้ข่าวเพ่ือให้สังคมรับรู้อยู่แล้ว  และเป็นการแสดงความสุจริตโปร่งใสด้วย  ได้การมีส่วนร่วมด้วยอัน  106

เป็นหัวใจของธรรมาภิบาล  ถ้าว่าตามศาสตร์พระราชาก็คือต้องสร้าง  ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: ความรับรู้เพ่ือนำาไปสู่ความเข้าใจ  และเปิดให้คนเข้าถึงข้อมูล  จะได ้ รว่ มมอื รว่ มใจพฒั นา นกั การเมอื งจงึ หนนี กั ขา่ วไมไ่ ด ้ อยา่ งนอ้ ยกด็ กี วา่   ปล่อยให้นักข่าวไปคลำาผิดคลำาถูก  หรือเต้าข่าว  ปล่อยข่าว  บิดเบือน  ข่าว  แต่นักข่าวเองก็ควรมีจรรยามารยาทและวินัยในการหาข่าวและ  การเสนอขา่ วด้วยเชน่ กัน   ขณะเดียวกันประชาชนก็ควรมีความรู้ในการรู้ทันส่ือ ไม่ว่าสื่อ  โซเชียลมีเดีย  สื่อส่ิงพิมพ์หรือส่ือโทรทัศน์ก็ตาม  ทฤษฎีท่ีว่า  “ไม่มีไฟ ย่อมไม่มีควัน” “ไม่มีมูลฝอยสุนัขไม่ข้ี” “ถ้ำไม่จริง สื่อจะไปเอำท่ีไหน มำลง”  น่าจะใช้ได้ไม่  ๑๐๐  เปอร์เซ็นต์ในยุคดิจิทัลเช่นทุกวันนี้  ซึ่งไม ่ ทนั มีไฟก็มคี วนั ได ้ ไม่มีมลู สุนขั กถ็ ่ายได้   การระมัดระวังระยะห่างระหว่างนักการเมืองกับนักข่าวไม่ม ี กฎหมายและวนิ ยั มาตเี สน้ กน้ั มากนกั  แมบ้ างครงั้ ฝา่ ยการเมอื งมคี วาม  พยายามตีเส้นสร้างกฎระเบียบ  แต่ก็ไม่เป็นที่ยอมรับนับถือ  แถมยัง  เห็นเป็นเรื่องเจ้ายศเจ้าอย่างไร้สาระ  เช่น  การตั้งโพเดียมให้ถามตอบ  เป็นจุดตายตัว  ไม่ให้วิ่งไล่ตามหรือล้อมหน้าล้อมหลัง  การกำาหนดให้  นักข่าวแต่งกายเรียบร้อย  หรือติดปลอกแขนจะได้รู้ว่าเป็นนักข่าวมา  จากส่ือใด  การให้ส่งคำาถามล่วงหน้าผ่านโฆษกไม่ให้ถามตรง  การ  เปิดให้สัมภาษณ์อาทิตย์ละหน  กติกาเหล่าน้ีดูจะดี  แต่เป็นที่ยอมรับ กันยาก  เพราะชินกับความอิสรเสรี  วิ่งไล่ตามนักการเมืองกันมานาน  แล้ว  ภาพที่ออกมาบางทีจึงเป็นภาพไมโครโฟนโขกหัวนายกฯ  บ้าง  สายไฟโทรทัศน์ลากพันแข้งพันขารัฐมนตรีจนแทบล้มคว่ำาคะมำาหงาย บ้าง  รัฐมนตรีกำาลังก้าวขาข้างหนึ่งขึ้นรถ  อีกขาอยู่กับพ้ืน  แต่ต้องมา  ตอบคำาถามท่ีจ่อไมค์แทรกผ่านประตูรถ  จะก้าวขึ้นก็ไม่ดีจะก้าวลงก็  ไมไ่ ด้บ้าง เปน็ ต้น   ผู้ใหญ่ในวงการสื่อท่านหนึ่งเคยบอกเมื่อนานมาแล้วว่า  นัก  การเมืองคนใดท่ีไม่ใคร่เป็นข่าวจะมีความหมาย  ๓  อย่างคือ  ๑.  เจ้า  ตัวไม่ทำาอะไรจึงไม่มีผลงานให้เป็นข่าว  จัดอยู่ในประเภทรัฐมนตรีโลก  107

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม ลืม  ๒.  เจ้าตัวเป็นท่ีชื่นชอบของสื่อและท่ีทำาก็ดีอยู่แล้วจะเอาอะไรกัน  หนกั หนา ฉะนนั้ ถา้ ไมด่ า่ กแ็ ปลวา่ ชม ถ้าไม่ติก็แปลว่าผ่าน จัดอยู่ใน  ประเภทรฐั มนตรที อ่ี ยใู่ นสายตาแตไ่ มเ่ ปน็ ขป้ี าก และ ๓. เจา้ ตวั ถกู สอ่ื แอนต้ีรวมหัวกันไม่ให้ความสำาคัญ  จัดอยู่ในประเภทรัฐมนตรีด้อยค่า  เด๋ียวนย้ี งั คดิ กันอย่างนหี้ รอื เปลา่ ไม่รู!้     นักการเมืองกับนักข่าวไม่ได้เป็นคู่กรณีกันไปหมดทุกคน บาง  คนมีสันถวไมตรีอันดีต่อกัน  ยามเสนอข่าวหรือมีข่าวพาดพิงถึงก ็ พยายามประคับประคองถ้อยทีถ้อยอาศัยไม่ให้ช้ำาจนเกินไป  พูดผิด  เขายังช่วยแก้ให้  ผมเองก็เคยได้รับเมตตาอย่างนี้จากนักข่าว  แต่นัก  การเมืองบางคนไปไกลกว่าน้ัน เวลาไปเมืองนอกไปต่างจังหวัดก็หอบ  ห้ิวนักข่าวตามไปด้วยเพื่อความสะดวกในการช่วยประชาสัมพันธ์จน  สนิทกัน  แม้นักข่าวจะระวังตัวไม่ให้ได้ช่ือว่า  “ถูกซื้อ”  แต่น้ำาจิตมา  นาำ้ ใจกส็ นองตอบทำาให้มมี ติ รไมตรีต่อกนั   แต่นักการเมืองก็พึงระวังว่าแม้การให้ข่าวบ้างตามควรชนิดไม ่ ถงึ ขนาดเปดิ เผยความลบั ราชการหรอื การยอมใหส้ มั ภาษณแ์ บบเฉพาะ  รายหรือเอ็กซ์คลซู ีฟจะเป็นมาตรการนำ้าพ่ึงเรอื  เสอื พึง่ ป่า แตส่ อ่ื แต่ละ  สำานักก็ไม่ชอบขา่ วโหล ขา่ วแจก ลว้ นอยากไดข้ า่ วเอก็ ซค์ ลซู ฟี กันท้ังนั้น  จงึ ตอ้ งระวงั วา่ สอ่ื ทไี่ มไ่ ดข้ า่ วไป เขาจะเกลยี ดเอา เพราะฝนตกไมท่ วั่ ฟา้   ๒ มาตรฐาน และพงึ ระวงั คาำ วา่  “ขอเปน็ สว่ นตวั เปน็ กำรภำยในนะหนู รู้แล้วเหยียบไว้ท่ีนี่”  เห็นจะใช้ไม่ได้กับวงการนักข่าวรุ่นเด็กแต่ยังขาด ประสบการณ์  เพราะรุ่งข้ึนเขาอาจพาดหัวว่า  “...แฉ”  เลยเสียคนไป  บางทีเขาไม่ลงในฉบับของเขาแต่เอาไปให้ฉบับอื่นลง เรียกว่าไม่เสีย  คาำ พดู  เอาเป็นว่าระวังกันเองกแ็ ลว้ กนั   ความพอเพียงน้ันไม่ได้ใช้กับเศรษฐกิจอย่างเดียว แต่ใช้ได้กับ  ทุกเรอื่ งในชีวติ ประจาำ วัน   กระบวนพร้อมเผชิญนักข่าวไม่กลัวนักข่าวต้องยกให้นายกฯ  สมัครและนายกฯ  อานันท์    คุณอานันท์เคยแนะ  ครม.ว่า  เขาจะถาม  อะไรก็ช่าง  เราอยากพูดหรือให้ข่าวอะไรก็พูดไปไม่ต้องสนใจคำาถาม  108

ท่ีเซ้าซี้กวนใจ  เพราะนักข่าวไม่เคยรายงานคำาถามอยู่แล้วจึงไม่ต้อง  ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: กลัวว่าจะตอบไม่ตรงคำาถาม  วิธีนี้อาจไม่ได้ผลในปัจจุบันเพราะส่ือ  เริ่มลงคำาถามก่อนแล้วจึงจะรายงานคำาตอบ  ถ้าตอบไม่ตรงคำาถามก็  จะรู้กันว่าใครผิดใครถูก   การเสนอข่าวคลาดเคล่ือนอาจมีท่ีมาจากความตั้งใจบิดเบือน  เพราะนักข่าวเองบางทีก็รับลูกถูกเขาว่าวานใช้ให้มาถาม  เมื่อคำาตอบ  ไม่เป็นไปตามธงท่ีตั้งไว้ก็เลยบิดให้เข้ากับธงเสียเลยจนผู้ให้ข่าวตกใจ  ว่าไม่ได้พูดอย่างนั้น  บางคร้ังพอยิงคำาถามออกไป  ผมตอบให้กำากวม  กะให้ซักต่อกลับยิงคำาถามรัวต่อเป็นชุดเหมือนว่าใครใช้มาถามโปรด  รู้ว่าถามให้แล้วนะ  แสดงว่าไม่สนใจอยากรู้จริงจัง  ต่อจากน้ันคน  เรียบเรียงข่าวในโรงพิมพ์ก็จะลงมือเรียบเรียงปะติดปะต่อกันให้เป็น  ตุเป็นตะ  แต่บางทีความคลาดเคล่ือนก็เป็นการเข้าใจผิดของนักข่าว  เหมือนกันคือไม่ได้ต้ังใจจะบิดเบือน  แต่เพราะขาดความรู้ความเข้าใจ  ในเรื่องนั้นโดยสุจริตจึงจับประเด็นผิด  นักการเมืองบางคนจึงให ้ สัมภาษณ์ไป แบง่ ประเดน็ เป็นขอ้ ๆ ไป แถมสรปุ ให้เสรจ็ จะไดไ้ ม่งง   สมัยก่อนคุณบัญญัติ  บรรทัดฐานมักเริ่มต้นว่า  เร่ืองนี้มี  ๔  ประการ  แล้วไล่ประการที่  ๑  ท่ี  ๒  ไปจนจบ  อย่างนี้นักข่าวจดตาม  ได้ง่าย  จนมีคนต้ังสมญาให้ท่านว่า  บัญญัติ  ๑๐  ประการ  คราวหนึ่ง  นักข่าวย้อนว่าไหนว่า  ๔  ประการ  ผมนับได้  ๖  ประการ  ท่านหัวเราะ  อย่างเมตตาตอบกลับไปว่า  ประการท่ี  ๔  แบ่งออกเป็น  ๔.๑  และ  ๔.๒ นกั การเมืองบางคนติดนสิ ยั ครูเกา่  พดู ไปก็ถามซำ้าๆ ไปว่า เขา้ ใจ  ไหมหนู  นายกฯ  ประยุทธ์เองก็ชอบสรุปว่า  “เข้ำใจตรงกันนะ” “แล้ว ใช่ไหมล่ะ”  ซึ่งไม่เคยเห็นใครปฏิเสธว่า  “ไม่เข้ำใจครับ” “ไม่ใช่ค่ะ”  นักการเมืองบางคนไมพ่ ดู ไมจ่ า พอถกู นกั ขา่ วถามกค็ วกั คาำ ชแ้ี จงทพี่ มิ พ์  เตรียมไว้ล่วงหน้าแจกเลย  บางทีจึงไม่ตรงคำาถาม   เรื่องนักข่ำวเข้ำใจผิดๆ นี้ถ้ำแชร์ต่อทำงโซเชียลมีเดีย  จะยิ่งผิดเตลิดเปิดเปิงเข้าป่าไปใหญ่  อย่างที่เคยแชร์ข่าวว่าพลเอก  109

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม ประยทุ ธเ์ ปน็ มสุ ลมิ เพราะมภี าพทา่ นไปรว่ มงานเมาลดิ กลางของมสุ ลมิ   แชร์ข่าวว่า  รัฐมนตรีออมสินซึ่งดูแลสำานักพุทธฯ  เป็นฮินดูเพราะเห็น จบจากอินเดีย  รัฐมนตรีสุวพันธุ์เป็นพราหมณ์เพราะเห็นสูงโปร่งผม ขาวเหมอื นพราหมณ ์ เวลาโฆษกรฐั บาลแถลงวา่  ครม.รบั หลกั การรา่ ง  กฎหมายเรอ่ื งน ้ี กไ็ ปแชรก์ นั วา่ จะมกี ารออกกฎหมายเรอ่ื งนน้ั จนตน่ื เตน้ ไปทวั่ วา่ จะบงั คบั ใชพ้ รงุ่ น ี้ มะรนื น ้ี ทงั้ ทต่ี อ้ งไปตรวจสอบกนั ทก่ี ฤษฎกี า  อกี  ๖ เดอื น เขา้ สภาอีก ๓ เดือน กว่าจะบงั คับใชค้ งราวอีก ๒ ปี   ย่ิงในช่วงเลือกต้ังมีการใช้โซเชียลมีเดียกันมากทุกฝ่ายจนไม่ร ู้ ว่าอะไรจริง  อะไรเท็จ  บางทีเป็นภาพและข่าวเก่า  ๔-๕  ปีก่อนก็นำามา  ปรุงจนนึกว่าเป็นข่าวใหม่  บางทีก็ตัดทอนจับแพะชนแกะ  บางครั้งก ็ ปล่อยข่าวให้ลือกัน  เช่นคนนั้นตาย  คนน้ีเจ็บหนัก   ผมเองกเ็ คยถกู เอาไปแชรว์ า่ จะลาออกจนถงึ ขนั้ เกบ็ ขา้ วของแลว้   ขอ้ สาำ คญั จงึ อยทู่ ว่ี า่ เมอ่ื นกั การเมอื งพบวา่ มกี ารเสนอขา่ วผดิ พลาดหรอื บิดเบือน  ต้องชี้แจงให้สื่อน้ันและประชาชนทราบ  จะชี้แจงเองหรือใช้ โฆษกสว่ นตวั  หรอื โฆษกรฐั บาลหรอื โฆษกกระทรวงกต็ าม แตพ่ ดู กพ็ ดู   เถอะถ้ารัฐบาลหรือนักการเมือง  “ถูกล้อมกรอบ”  คือส่ือทั้งหลายรวม  หัวกันต่อต้านและจงใจประโคมด้วยคำาช้นี าำ ว่า “โว” “พล่ำม” “แสยะ ยิ้ม” “หน้ำมุ่ย” “เกร้ียวกรำด” “ว้ำก” “พ่น”  เวลาขอแก้ข่าวก็ไม่ลงให้  นานเขา้ บคุ ลกิ และภาพลกั ษณต์ ลอดจนความนา่ เชอื่ ถอื กเ็ สยี เอาไดด้ อื้ ๆ  ผิดกับถ้าส่ือจะโปรโมตใครชนิดอะไรก็ดีไปหมด  เวลาลงรูปก็ลงแต่รูป  ทก่ี บ๊ิ เกไ๋ มใ่ ชร่ ปู เกา่ หนา้ นว่ิ ควิ้ ขมวด พาดหวั กใ็ ชค้ าำ วา่  “ไมถ่ อื ตวั ” “เปน็ กันเอง” “หวำนใส่” “หยอดยำหอม”  อะไรท่ีไม่ดีก็กลับมีราคาข้ึนมาได้  มีคนบอกว่าเป็นการสร้าง  Perception  หรือภาพฝังใจให้คิดว่าคนน ี้ เป็นอยา่ งน้ันอยา่ งนี้   พลเอกประยทุ ธเ์ คยประสบเหตกุ ารณท์ าำ นองนเ้ี หมอื นกนั จงึ เคย  เปรยวา่   “ไมก่ ลวั แรงเสยี ดทำนเพรำะไดส้ มู้ ำตลอด พรอ้ มยอมรบั ในชว่ ง ๔ ปีท่ีผ่ำนมำอำจมีอำรมณ์หงุดหงิดซ่ึงเป็นธรรมดำของมนุษย์ แต่ได้ 110

พยำยำมปรับตัวโดย ๔ ปีได้พัฒนำไปมำก เพรำะมีน�้ำเสียงนุ่มนวล ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: ไม่ดุเดือด และต้องพยำยำมคุมอำรมณ์ไม่ให้เครียด  เพรำะเจอรุมคน เดียว แต่รับได”้  (เดลินวิ ส ์ วนั ที ่ ๒๖ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๑ หน้า ๒)   เรอ่ื งอยา่ งนเี้ ปน็ ศาสตรแ์ ละศลิ ปท์ ท่ี กุ ฝา่ ยไมว่ า่ นกั การเมอื งและ  ประชาชนผู้บริโภคสื่อควรรู้อารมณ์ของส่ือและรู้เท่าทันส่ือ  พ่ีมานิจ  สุขสมจิตรเคยบอกผมว่า  โรงเรียนไทยรัฐวิทยาท่ีมีอยู่นับร้อยแห่งทั่ว  ประเทศของมลู นธิ ไิ ทยรฐั  ตงั้ ใจสอนเดก็ นกั เรยี นอยวู่ ชิ าหนง่ึ โดยเฉพาะ  คอื ใหร้ จู้ กั วชิ าวา่ ดว้ ยการรทู้ นั สอ่ื  และบดั นกี้ ารรเู้ ทา่ ทนั สอื่ กเ็ ปน็ ประเดน็   สำาคัญในการปฏิรปู สอื่ ลำาดับแรกๆ ของประเทศไทยเสยี ดว้ ย   ผมเคยกราบเรียนถามสมเด็จฯ วัดชนะสงครามว่า ถ้าเจอแรง  เสยี ดทานจากนกั ขา่ วเขา้ อยา่ งนค้ี วรทาำ อยา่ งไรด ี ทา่ นตอบวา่  อยกู่ ลาง  ฝนต้องไม่กลัวเปียก  อยู่กลางแจ้งต้องไม่กลัวแดด  คนทำางานสำาคัญ ต้องอดทนอดกล้ันต่อแรงเสียดทาน  ขุนเขาไม่สะเทือนเพราะแรงลม ฉันใด  บัณฑิตก็ไม่หวั่นไหวเพราะนินทาหรือสรรเสริญฉันนั้น  ว่าแล้ว ทา่ นกถ็ ามวา่ เคยสวดพาหงุ ไหม พาหงุ บทท ่ี ๒ วา่ ดว้ ยวธิ ที พ่ี ระพทุ ธเจา้   ทรงเอาชนะอาฬวกยักษ์ผู้ดุดันจนเป็นแรงเสียดทานที่น่าอึดอัด เคล็ด ลับคือ  พระพุทธเจ้าไม่โต้ไม่เถียงไม่สวนปากสวนคำา  อาฬวกยักษ์ให้ ทำาอะไร  ก็ทรงทำาตามยอมอนุโลมตามแรงเสียดทานย่ัวเย้าหรือกดดัน  จนยักษ์ได้ใจว่านึกว่าจะแน่แค่ไหน  พอยักษ์คลายทิฐิอารมณ์ดียอม  เปดิ ใจแล้วจึงทรงอธบิ ายช้ีแจงจนยกั ษย์ อมฟงั และคลอ้ ยตาม   พุทธวิธีน้ีคือ “ขันติ” ถ้ำตอนนั้นเถียงกันสน่ัน อำฬวกยักษ์  ไม่มที ำงยอมฟงั เพรำะต่ำงก็มีทฐิ  ิ ผมกลบั บำ้ นไปค้นเร่ืองอำฬวก  ยกั ษใ์ นบทสวดพำหงุ อำ่ นอกี ทจี งึ ไดเ้ ขำ้ ใจเทคนคิ นขี้ องพระพทุ ธ  เจ้ำ 111

พลเอกประยุทธนา จะเปน นายกรฐั มนตรี ที่บริหารงานดว ยขอ มลู ขาวสาร ท้ังในและนอกระบบมากทส่ี ุดคนหนึ่ง

โซเชียลมเี ดยี แม้พลเอกประยุทธ์จะไม่เคยผ่ำนกำรทดลองงำนด้ำน บริหารราชการแผ่นดินในระดับรัฐมนตรีมาก่อน  พ.ศ.๒๕๕๗  แต่ก้าว  พรวดเดียวเป็นนายกรัฐมนตรีเลย  แม้กระน้ันก็ต้องถือว่าเรียนรู้การ บริหารราชการแผน่ ดนิ ไดเ้ รว็   ความจรงิ  “การเปน็ ใหเ้ ปน็ ” นนั้ ทาำ ไดย้ าก  ไม่งั้นคงต้องงกๆ  เง่ินๆ  เคอะๆ  เขินๆ  มะงุมมะงาหราอยู่พักใหญ่กว่า  จะต้ังตัวติด  ดีไม่ดีลูกน้องเห็นนายเรรวนก็จะพลอยรวนเรตาม   ปัจจัยเก้ือหนุนการเรียนรู้งานไวอยู่ที่ว่าพลเอกประยุทธ์เคยเป็น  ผู้บัญชาการทหารบก  เคยผ่านการเป็นแม่ทัพนายกองมาแล้ว  ทหาร สมัยนี้ไม่ได้เอาแต่ถือปืนหรือเดินจากยอดดอยลงมาสู่ดิน แต่ผ่านการ  ช่วยพัฒนาชนบท  การช่วยรัฐบาลแก้ปัญหามวลชน  ปัญหาราคา ผลผลิตการเกษตร  ปัญหาภัยธรรมชาติ  เคยลงไปทำางานพัฒนาตาม โครงการอันเน่ืองมาจากพระราชดำาริ  เคยโดยเสด็จพระราชดำาเนินไป เยี่ยมราษฎรในถ่ินทุรกันดารซ่ึงต้องรับฟังปัญหาจากชาวบ้านระดับ  รากหญา้ และชว่ ยแกป้ ญั หาใหช้ าวบา้ นเหลา่ นนั้  แมแ้ ตป่ ญั หาการเมอื ง การปกครอง ปญั หากฎบตั รกฎหมาย บางครงั้ รฐั บาลกต็ อ้ งปรกึ ษาดว้ ย  113

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม บางคร้ังต้องศึกษาหาความร้เู ตรียมคำาตอบเอาไว้ลว่ งหน้า   เหลา่ นเี้ ปน็ การเตรยี มความพรอ้ มหรอื ศกั ยภาพไดท้ งั้ สนิ้  แมอ้ าจ  ไม่ลงลึกขนาดรู้แจ้งแทงตลอดก็ตาม   อกี ประการหนง่ึ  กอ่ นทพ่ี ลเอกประยทุ ธจ์ ะเปน็ นายกรฐั มนตรนี น้ั   อย่าลืมว่าได้เป็นหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ  คสช.อยู่  ราว  ๓  เดือนซึ่งเท่ากับเป็นหัวหน้ารัฐบาลนั่นเอง  การบริหารราชการ แผ่นดินในช่วงเวลา  ๓  เดือนเป็นอำานาจรัฏฐาธิปัตย์ของ  คสช.ช่วงนั้น ตอ้ งแสดงฝไี มล้ ายมอื และใชอ้ าำ นาจแกป้ ญั หาความแตกแยกในสงั คม  ปัญหาราคาข้าว  ยาง  ปัญหายาเสพติด  เด็กแว้น  รถตู้ผิดกฎหมาย  วิทยุชุมชนผิดกฎหมาย  ขายสลากเกินราคา  ปัญหาการทุจริตในวง ราชการ  ปัญหาอุปสรรคในการลงทุนและการพัฒนาประเทศ  ปัญหา การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการและผู้ดำารงตำาแหน่งในองค์กรต่างๆ  ตลอดจนสารพัดปัญหาท่ีโถมทับเข้ามา  จะว่าช่วงน้ันเป็นช่วงเวลา  สกุ ดบิ ทดลองและเรยี นรู้การบรหิ ารราชการแผ่นดินกว็ ่าได้   คณุ สมบตั สิ าำ คญั ประการหนง่ึ ของผนู้ าำ ไมว่ า่ ในวงการใดๆ กต็ าม  คือการเป็นผู้รู้ข้อมูลข่าวสารความเคล่ือนไหวต่างๆ  ที่เป็นประโยชน ์ ตอ่ การตดั สนิ ใจและการพจิ ารณาสง่ั การ อาท ิ ผนู้ าำ ดา้ นธรุ กจิ ตอ้ งรอบร ู้ ข่าวสารทางธุรกิจ  เศรษฐกิจ  การเงินการคลัง  ตลาดหุ้น  และอาจเลย ไปถงึ ขา่ วสารการบ้านการเมืองท่จี ะทาำ ใหย้ อดขายเปลย่ี นแปลง ราคา หุ้นถูกกระทบกระเทือน แม้แต่พระสงฆ์องค์เจ้า นักพูดในที่สาธารณะ และตลกคาเฟ่  ตลกทางโทรทัศน์ก็ต้องรอบรู้ความเคลื่อนไหวรอบตัว  แม้จะไม่ได้ตัดสินใจอะไร แต่ก็เป็นประโยชน์ต่อการนำามายกตัวอย่าง หรือประยุกต์ให้เข้ากับคำาสอนและเรื่องราวที่ต้องการส่ือ  ดูได้จาก  หลวงพ่อพระพยอม  พระมหาสมปอง  พระอาจารย์  ว.วชิรเมธี  เป็นต้น  ยงิ่ นกั การเมอื งนกั ปกครองแลว้  การรคู้ วามเคลอ่ื นไหวตา่ งๆ ยง่ิ จาำ เปน็   เพอ่ื วา่     ๑. ใชเ้ ป็นเครอ่ื งประกอบการตดั สินใจ   ๒. ใช้โต้ตอบหรือให้สัมภาษณ์เวลาถูกสื่อถาม สมัยก่อนราว  114

ยุค พ.ศ.๒๕๐๐-๒๕๓๐  ถ้าสื่อถามอะไร แล้วนักการเมืองตอบว่า  ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: “พ้มยังไม่ได้รับรำยงำน”  ดูจะเป็นเร่ืองธรรมดา  ชาวบ้านเองก็เห็นใจ  โถๆ  จะให้ท่านรอบรู้หูทิพย์ไปหมดได้อย่างไร    หลังยุค  พ.ศ.๒๕๓๐  อาจวางมาดให้ขรึมเข้าไว้แล้วพยักหน้าหงึกๆ  ทำานองว่ารู้แล้ว  (ความ  จริงไม่รู้)  และพอตอบเลี่ยงได้บ้างว่า  “ได้รับรำยงำนเบื้องต้นแล้ว แต่ก�ำลังรอยืนยันรำยละเอียด ตอนน้ีขอยังไม่ตอบ  เกรงตอบไปจะ สับสน”  แค่นี้ก็เอาอยู่  แต่พอถึงยุค  พ.ศ.๒๕๔๐  เป็นต้นมา  ทุกคนใช้  ส่ือออนไลน์กันหมดแล้ว  ถ้ายังงึมงำาๆ เห็นจะตกยุคและเสียคนได้   ๓.  ใช้ประกอบคำาบรรยาย อธิบาย แสดงปาฐกถา ซึ่งจำาเป็น  ต้องยกตัวอย่างให้ทันสมัยเข้ากับเหตุการณ์   อปุ มาอปุ ไมยใหแ้ ยบคาย จะไปยกชาดกหรอื พงศาวดารทกุ ทคี ง  ไม่ได้  สมัยก่อน  อาจารย์คึกฤทธ์ิเคยตอบนักข่าวโดยใช้คำาว่า  “ขับรถ สองแถวส่งแอ๋วเรียนรำมฯ”  ในยุคที่เพลงน้ีดังเมื่อท่านต้องการอธิบาย  ว่ายุคน้ีต้องไม่เกี่ยงงาน  มีอะไรทำาได้ให้ทำา  นายกฯ  ประยุทธ์ท่านมี  รายการโทรทัศน์ศาสตร์พระราชาทุกคืนวันศุกร์  ก็ต้องอิงข่าวบางเรื่อง  เอามาเป็นมุกบ้างเป็นธรรมดา  เช่น  ยุคบุพเพสันนิวาสดัง  ท่านก็ต้อง  พลอยออเจ้าไปกับเขาด้วย  ยุคเมีย  ๒๐๑๘  ดัง  ท่านก็ต้องเข้าเร่ือง  บอสวศินบ้าง  เมียน้อยเมียหลวงบ้าง   ทฟี่ รานซสิ  เบคอน นกั ปราชญช์ าวองั กฤษบอกวา่  ความรทู้ าำ ให้ มอี าำ นาจ หรอื ทเ่ี ขาวา่ ความรทู้ าำ ใหอ้ งอาจ วดั กนั ตอนผนู้ าำ รไู้ มร่ นู้ แี่ หละ   พลเอกประยทุ ธน์ า่ จะเปน็ นายกรฐั มนตรที บ่ี รหิ ารงานดว้ ยขอ้ มลู   ข่าวสารท้ังในและนอกระบบมากท่ีสุดคนหนึ่ง  อาจเพราะยุคสมัยมา  ถึงเข้าพอดี    อันดับแรกในฐานะเป็นนายทหารเก่าและหัวหน้า  คสช.  ท่านจงึ มีสายงานการขา่ วมาก มีเครอื ข่ายโยงใยเกือบท่ัวประเทศ ขา่ ว  เหล่านี้มาจากทั้งทหาร  ตำารวจ  และพลเรือน  อาทิ  ฝ่ายข่าวของทหาร  สนั ตบิ าล สาำ นกั ขา่ วกรองแหง่ ชาต ิ สาำ นกั งานสภาความมน่ั คงแหง่ ชาต ิ และ  คสช.ตลอดจนผู้คนจากเกือบทุกกระทรวง  ท่ีจริงนายกรัฐมนตรี 115

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม ทุกคนมีสายงานการข่าวเช่นน้ี แต่ออกจะเป็นทางการเกนิ ไปและไม่  ลกึ  บางทหี นว่ ยขา่ วมกั เกรงวา่ จะผา่ นตาหลายคนจงึ ขยกั ๆ  เอาไว้บ้าง   อันดับต่อมาคือ พลเอกประยุทธ์เป็นคนขยันอ่านหนังสือ แทบ  จะเรียกว่าอ่านทุกเล่มที่ผ่านเข้ามาแม้แต่ถุงกล้วยแขก เพราะเป็นคน  อา่ นหนงั สอื เรว็  จบั ประเดน็ ไดไ้ ว ลา่ สดุ เคยแนะนาำ ให ้ ครม.อา่ นหนงั สอื เร่ือง แอนิมอลฟำร์ม  ท่านเคยเล่าว่าที่บ้านต้องต่อเติมห้องไว้เก็บ  หนังสือและเอกสาร  เล่มไหนติดอกติดใจก็ออกสตางค์เองซ้ือมาแจก  ครม.หรือกลุ่มเป้าหมาย  แจกไปได้อาทิตย์สองอาทิตย์เจอหน้าผู้รับ  แจกก็จะเลียบเคียงถามเหมือนจะทดสอบว่าอ่านแล้วหรือยัง  ขนาด  นิยายที่ผมแต่งท่านก็ยังอ่าน  อาจจะไม่ตลอดเล่ม  แต่ก็จับประเด็นได ้ ว่าเค้าโครงเร่ืองเป็นอย่างไร  ใครเป็นพระเอก  นางเอก  และยังแนะให้  ไปสร้างเป็นละคร  บอกให้เสร็จสรรพว่าควรให้ดาราคนไหนเล่นเป็น  ตัวอะไร แสดงว่าอ่านมาจรงิ   รายการโทรทัศน์ท่านกด็ ไู ม่ว่าข่าว สารคด ี ละคร โฆษณา หรือ  ภาพยนตร์  บางคร้ังก็มาเล่าให้คณะรัฐมนตรีฟังเป็นตุเป็นตะ  และชี ้ ประเดน็ ทาำ นองว่านิทานเรอ่ื งนี้สอนให้ร้วู ่าอย่างไร   หนังสือพิมพ์ท่านก็อ่าน อ่านหลายฉบับและหลายคอลัมน์เสีย  ด้วย  อ่านเองไม่ใช่มีคนตัดข่าวเสนอ  อ่านแล้วก็เก็บเอาไปคิดต่อ  บาง  คอลัมน์ท่านถ่ายเอกสารแจกรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง  ผมเองเคยได้รับ  เอกสารทำานองนี้หลายครั้ง  มีลายมือขยุกขยิกข้างข้อเขียนบางวรรค  บางทีก็วงกลม  กาดอกจันทน์  ใส่เคร่ืองหมายคำาถาม  ใส่เคร่ืองหมาย  อศั เจรีย ์ ทำานองตกใจ แปลกใจ   หนังสือร้องทุกข์หรือร้องเรียนจากชาวบ้านที่ส่งผ่านศูนย์ดำารง-  ธรรมหรือส่งตรงถึง  ท่านก็อ่าน  ถ้าวกวนโยกโย้ก็อ่านผ่านๆ  ไปพอให้รู ้ แต่ถ้ามีสาระ  ช้ีเบาะแส  ชี้แนะอย่างสร้างสรรค์  ท่านจะถ่ายรูปส่งไลน์ ไปถึงผู้เกี่ยวข้องเสมอ  ซึ่งแน่นอนว่าผู้นั้นต้องไลน์ตอบในชั่วโมงต่อมา และในอกี ไมน่ านคณะรฐั มนตรกี จ็ ะรบั รกู้ ารตดั สนิ ใจหรอื ขอ้ สง่ั การจาก  ไลนห์ ม ู่ ไม่ต้องรอถงึ วันอังคาร 116

  ท่ีสำาคัญจนถือว่าเปน็ จดุ เด่น แต่บางคนเคยแอบวิจารณ์ว่าอาจ  ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: จะเปน็ จดุ ออ่ นได ้ เพราะทาำ ใหเ้ ครยี ดหรอื หงดุ หงดิ ไดง้ า่ ยๆ คอื ทา่ นเปดิ   เฟซบุ๊ก  เว็บไซต์และเล่นอินสตาแกรม  แรกๆ  ก็ไม่มีเวลาเล่น  แต่ภาย  หลังตอนปลายปี  ๒๕๖๑  มีผู้แนะนำาว่าน่าจะเป็นช่องทางพบปะผู้คน  อกี สงั คมเชน่ คนรนุ่ ใหมไ่ ด ้ เพยี งแตต่ อ้ งทาำ ใจวา่ ใครชอบใครชงั ชา่ งเถดิ   ใครเชิดใครชูช่างเขา  จึงหันมาเล่นบ้าง  มีการโต้ตอบกับผู้คนวันละ  หลายรายจนกลายเป็น  “ตู่ดิจิทัล”  ส่วนท่ีเล่นประจำาอยู่ก่อนแล้วคือ  เล่นไลน ์ ทำาให้รบั รู้ข้อมลู ขา่ วสารมากและเร็ว   เน่ืองจากคณะรัฐมนตรี ผู้ร่วมงานและเครือข่ายทุกคนสามารถ  เข้าถึงด้วยการส่งไลน์ถึงได้ตลอดเวลา จะวา่ ทา่ นบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ แบบ ๔.๐ คอื สง่ั ราชการ สอบถามขอ้ ราชการ และตดิ ตามงาน ติดตาม ข้อมูลข่าวสารความเคล่ือนไหวที่เกิดขึ้นทั่วราชอาณาจักรหรือทั่วโลก  ทางโซเชียลมีเดียหรือสื่อออนไลน์ก็วา่ ได ้ จงึ ทราบขา่ วตา่ งๆ ไดไ้ วโดย  ไม่ต้องรอฝ่ายข่าวกรอง  สันติบาล  ศูนย์รักษาความปลอดภัย  (ศรภ.)  หรอื รายงานขอ้ ราชการใดๆ แตไ่ มใ่ ชค่ นเสพตดิ ชนดิ ขาดไมไ่ ดห้ รอื นง่ั ปบุ๊   เปดิ โซเชยี ลมเี ดยี ปบ๊ั  เพยี งแตด่ ผู า่ นๆ ถา้ ไมม่ สี าระกผ็ า่ นไป ถา้ นา่ สนใจ  ก็เช็กข่าวโดยละเอียดอีกที   พลเอกประยทุ ธส์ ง่ั กำรในคณะรฐั มนตรหี ลำยครง้ั ใหห้ นว่ ย งานของรัฐทุกหน่วยจัดทำาแอพพลิเคชั่นไลน์ผ่านทางโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ความรู้หรือแจ้งข่าวกิจกรรมสำาคัญๆ  ท่ีประชาชนควรรู้  หรือแก ้ ขา่ วความคลาดเคลอ่ื นหรอื ขา่ วเทจ็  ขา่ วลวง ขา่ วดรามา่  ขา่ วบดิ เบอื น  โดยถือว่าเป็นช่องทางหน่ึงในการให้ประชาชนรับรู้ข้อมูลข่าวสารของ ราชการโดยไมต่ อ้ งใหเ้ ขามารอ้ งขอกอ่ น ขอ้ มลู ใดทจ่ี าำ เปน็ ตอ่ การครอง ชพี  การทาำ มาหากนิ  การตดั สนิ ใจ และการเตรยี มรบั ภยนั ตรายอนั ใกล้ จะถึง  หน่วยงานของรัฐต้องเร่งให้ประชาชนรู้ทางไลน์หรือคิวอาร์โค้ด  ซึ่งเป็นการดี เพราะเป็นคร้ังแรกท่ีทางราชการเข้ามาประชาสมั พนั ธ ์ และตดิ ต่อกบั ประชาชนโดยตรงทางโซเชียลมีเดีย  117

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม   ทำาเนียบรัฐบาลเองก็เปิดไลน์ ออฟฟิเชียล  แอกเคานต์  เว็บ-  ไซต์ไทยคู่ฟ้า  เพจเฟซบุ๊กไทยคู่ฟ้าไว้ส่ือสารกับประชาชน  หลายกระ-  ทรวงเปดิ ไลนแ์ จง้ ขา่ วขนั้ ตอนการตดิ ตอ่ กบั ทางราชการ โดยประชาชน ทั่วไปสามารถรับรู้ได้ทางโทรศัพท์มือถือ  เช่น  ขั้นตอนการขออนุญาต สรา้ งบา้ น การตงั้ โรงงานอตุ สาหกรรม การขอรบั การสง่ เสรมิ การลงทนุ   การรกั ษาพยาบาลเบอ้ื งตน้ โรคบางชนดิ  การใชจ้ า่ ยของรฐั  ภาษมี าจาก  ไหน  ภาษีนำาไปใช้จ่ายทางไหน  สวัสดิการท่ีรัฐช่วยคนจนมีอะไรบ้าง  วิธีสมัครเป็นสมาชิกบัตรผู้มีรายได้น้อยทำาอย่างไร  กระทรวงพาณิชย ์ ใช้ไลน์แจ้งข่าวราคาสินค้าประจำาวันตั้งแต่ต้นหอม  ผักชี  ยันราคาหม ู เห็ด  เป็ด  ไก่  บางกระทรวงแจ้งข่าวการพยากรณ์อากาศ  ราคานำ้ามัน  ขา่ วการจราจร ขา่ วอาชญากรรม ข่าวอบุ ัติภัย   แอพพลิเคช่ันไลน์เหล่านี้ นายกฯ กดดูทุกวัน ถ้าถูกใจก็ชมเชย  ถ้ายงั ไม่ดีพอกจ็ ะแนะนำาให้ร้ือหรอื แกไ้ ขโดยเรว็   คณะรัฐมนตรีเองก็มักได้รับการบ้าน ข้อส่ังการ คำาแนะนำาทาง  ไลน์บุคคล  ไลน์กลุ่ม  หรือไลน์หมู่ทั้งคณะแทบทุกวัน  ทั้งสามารถตอบ หรือช้ีแจงระหว่างกันเองหรือแจ้งกลับไปยังนายกรัฐมนตรีได้ทันท่วงที  โลกทุกวันน้ีเป็นเรื่องของโซเชียลมีเดียซ่ึงมีทั้งคุณและโทษ  ข่าวจริง  ข่าวเท็จ ข่าวบิดเบือน จึงกระจายผ่านโซเชียลมีเดียว่อนไปทั่วอย่าง ง่ายดาย  จึงต้องแยกแยะให้ดี  ตั้งสติให้มั่น  ในส่วนของข้อดีก็นำามาใช ้ ในการทำางานได้ ทำาให้การบริหารราชการเดินหน้าไปได้รวดเร็วและ  คล่องตัวมาก  แต่ก็เสี่ยงแก่ผู้ปฏิบัติตามเหมือนกันเพราะหาหลักฐาน  ข้อส่ังการได้ยาก  ในส่วนของรัฐบาล  นายกรัฐมนตรีกลายเป็นศูนย ์ กลางข้อมูลที่รับรู้ข่าวได้มากท่ีสุด  ซ่ึงแน่นอนว่าข่าวที่หลั่งไหลเข้ามา  มีท้ังข่าวดี  ข่าวร้าย  ข่าวจริง  ข่าวลวง  หัวข้อข่าว  และข่าวละเอียดเชิง  ลึก  เรียกว่าแค่เริ่มจะลือเท่านั้น  นายกรัฐมนตรีก็รับทราบแล้ว   ขอ้ นจ้ี งึ ทาำ ใหบ้ อ่ ยครง้ั ทท่ี า่ นจะหงดุ หงดิ กบั บางขา่ วจนแสดงออก  ในเวลาให้สัมภาษณ ์ หรือปาฐกถา โดยที่ผู้ฟังไม่ทราบว่าอนิฏฐารมณ ์ นีต้ ดิ มาจากการไดย้ นิ ไดร้ ้เู ร่ืองทีน่ า่ หงดุ หงิดเม่อื  ๒-๓ นาทีก่อน บางที  118

กห็ งดุ หงดิ วา่ เปน็ ขา่ วเทจ็  ขา่ วบดิ เบอื น ขา่ วเกา่ เอามาแปลงใหม ่ ทา่ น ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: ไม่ได้หงุดหงิดเน้ือข่าวว่าจริงหรือเท็จ  แต่หงุดหงิดว่าทำาไมจึงไม่มี  รฐั มนตรคี นใดหรอื หนว่ ยงานใดออกมาชแ้ี จงหรอื ปฏเิ สธ ปลอ่ ยใหข้ า่ ว กระพือแชร์กนั อยไู่ ด้ตง้ั วันสองวัน   เมอ่ื มคี นแนะนาำ วา่ อยา่ ไปเปดิ ดสู อ่ื เหลา่ นเี้ หมอื นกบั อยา่ ไปอา่ น  หนังสือพิมพ์  ท่านจะตอบกลับว่า  “คนเรำรู้ ดีกว่ำไม่รู้ ยิ่งคนอ่ืนที่รับ ผิดชอบโดยตรงไม่ยอมรับรู้ ผมรับผิดชอบมำกกว่ำย่ิงต้องรู้แทน แต่ ผมแยกแยะไดว้ ำ่ อะไรจรงิ ไมจ่ รงิ อยำ่ งนอ้ ยตรำบใดทม่ี ขี ำ่ วอยำ่ งน ี้ แม้ จะไมจ่ รงิ แตก่ แ็ สดงวำ่ สงั คมไทยผคู้ นกำ� ลงั คดิ อะไร” จงึ ยากจะปลอ่ ย วางได้  เพราะท่านถือเป็นหน้าท่ีความรับผิดชอบที่ต้องแบกรับอยู่แล้ว    ดังนนั้ แม้ขอ้ มูลที่มอี ยจู่ ะอดั แน่น แต่บำงครัง้ อนิฏฐำรมณ์  ก็สมุ แน่นอยู่ด้วยเช่นกัน     119

พลเอกประยุทธช แ้ี จงในสภาฯ แตแ รกเลยวา นโยบายทจ่ี ะแถลงอยูในเอกสารทีแ่ จก โปรดอา นเอาเอง

เริม่ งาน ในคณะรฐั มนตรชี ดุ แรกของพลเอกประยทุ ธ ์ ซงึ่ สอื่ พรอ้ ม ใจกันเรียกว่า  “ประยุทธ์  ๑”  ประหน่ึงเช่ือว่าจะมีประยุทธ์  ๒-๓-๔  ต่อ ไป  แต่ผมเห็นว่าควรจะเรียกว่า  “ประยุทธ์  ๑/๑”  เพราะต่อไปจะปรับ  ครม.อีกก่ีคร้ัง  นายกฯ  ก็ยังช่ือนี้  ครม.ชุดแรกน้ีมีผู้นำาทางทหารตำารวจ  ใน  คสช.และคณะที่ปรึกษา  คสช.อยู่หลายคนรวมท้ังผม  และเป็นคน  นอกวงการ  คสช.อีกจำานวนหน่ึง  อาทิ  คุณสมหมาย  ภาษี  หมอรัชตะ  รัชตะนาวิน  คุณปีติพงษ์  พึ่งบุญ  ณ  อยุธยา  คุณวิสุทธ์ิ  ศรีสุพรรณ  แต่ก็มีนายทหารอยู่หลายคนจนบางคนค่อนขอดว่าเป็นรัฐบาลท็อปบู๊ต  ตามรัฐธรรมนูญฉบับช่ัวคราวในขณะน้ัน  ข้าราชการประจำาดำารง  ตำาแหนง่ ทางการเมืองควบค่กู ันได้ จึงมีขา้ ราชการประจำาเปน็ รฐั มนตรี  อยดู่ ว้ ย   เม่ือโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ครม.แล้ว ยังเข้าทำางานไม่ได้จนกว่า  จะเข้าเฝ้าฯ  ถวายสัตย์ปฏิญาณและแถลงนโยบายต่อสภาฯ  ขณะน้ัน  พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  รัชกาลที่  ๙  เสด็จฯ  กลับจากวังไกล  กังวล  หัวหิน  มาประทับรักษาพระองค์ที่โรงพยาบาลศิริราชแล้วแต ่ 121

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม ยงั ไม่ทรงพระสาำ ราญนกั  การถวายสตั ย์ปฏิญาณจงึ รงั้ รออยแู่ ต่ก็ได้รับ  สญั ญาณจากในวงั วา่ ขอใหท้ กุ คนเตรยี มพรอ้ มตลอดเวลา ทา่ นนายกฯ  กำาชับว่าห้ามไปต่างประเทศและต่างจังหวัด เมื่อทรงพระสำาราญและ  คณะแพทย์เห็นว่าเสด็จออกให้เข้าเฝ้าฯ  ได้จะแจ้งภายในไม่ก่ีช่ัวโมง  และคร้ังน้ีเห็นจะเป็นครั้งแรกท่ีคณะรัฐมนตรีจะเข้าเฝ้าฯ  ถวายสัตย ์ ปฏญิ าณนอกพระตำาหนกั  แต่ก็ไม่มีข้อขัดข้องใดๆ ท้ังในทางกฎหมาย  และประเพณ ี เพราะขณะนนั้ ไดส้ มมตุ ใิ หต้ กึ เฉลมิ พระเกยี รต ิ โรงพยา-  บาลศิริราชเป็นท่ีประทับแล้วดังท่ีชักธงมหาราชข้ึน  ณ  ท่ีนั้น   ครม.รออยู่ ๒-๓ วัน คนอื่นจะเตรียมตัวอย่างไรไม่ทราบ แต ่ ผมนำาชุดปกติขาวใส่รถตะลอนไปประชุมท่ีโน่นที่น่ีทุกวัน  วันที่  ๔  กนั ยายน พ.ศ.๒๕๕๗ ตอนบา่ ย ผมไปประชมุ คณะกรรมการกฤษฎกี า ตามปกติ  กำาลังประชุมอยู่ก็มีโทรศัพท์แจ้งจากสำานักเลขาธิการคณะ  รฐั มนตรวี า่ โปรดเกลา้ ฯ ใหเ้ ขา้ เฝา้ ฯ ถวายสตั ยป์ ฏญิ าณเวลา ๑๗.๓๐ น.  วันน้ีท่ีห้องประชุมโรงพยาบาลศิริราช  ผมดีใจท่ีชุดปกติขาวอยู่ในรถ  นึกห่วงคนอื่นเหมือนกันเพราะมีเวลาเตรียมตัวไม่ถึง  ๒  ช่ัวโมง   เมอื่ ถงึ เวลา ทกุ คนกไ็ ปถงึ ศริ ริ าชโดยพรอ้ มเพรยี งกนั  อาจจะลา่   ชา้ ชวนใหต้ กใจบา้ ง ๓-๔ คน แตท่ ใี่ จหายใจควาำ่ ทส่ี ดุ คอื จน ๑๗.๑๕ น.  จวนตั้งแถวแล้ว  หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธรรองนายกรัฐมนตรียังไป  ไม่ถึง  โทร.ตามก็ไม่มีสัญญาณตอบรับ  ผมเคยมีประสบการณ์พบ  เห็นเหตุการณ์เช่นนี้แล้วในอดีต  แต่สมัยก่อนคนที่มาไม่ทันขอพระ-  ราชทานเฝ้าฯ  อีกหนได้ไม่ยาก  ครั้งนี้อาจหาเวลาที่ทรงพระสำาราญ  ไม่ง่ายนัก  ทันทีท่ีเริ่มต้ังแถว  คุณชายก็มาถึงและเปิดเผยเบื้องหลัง  อันน่าระทึกใจว่า  ขณะทราบกำาหนดเวลาเฝ้าฯ  คุณชายกำาลังประชุม  อยู่ที่สาทรจึงส่งคนไปบ้านเพื่อนำาชุดปกติขาวมาให้  พอได้มาก็จวน  เจียน  เห็นว่าถ้าน่ังรถมาศิริราชในเวลา  ๔-๕  โมงเย็นคงไม่ทันแน่  จึงตัดสินใจเรียกรถวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างซ้อนท้ายมาทั้งชุดปกติขาว  รถติดไฟแดงเจอจราจรจำาได้ตะเบ๊ะให้  ท่านรองนายกรัฐมนตรีนั่งซ้อน  ท้ายมอเตอร์ไซค์ก็ตะเบ๊ะตอบ  ลงท้ายก็ถึงศิริราชได้ถวายสัตย ์ 122

ปฏิญาณทัน ŧàÃÍ× á»Ðˆ ::   ออกจากศิริราช ท่านนายกฯ ให้ ครม.ไปทำาเนียบรัฐบาลทันที  เพ่ือถ่ายรูปหมู่และประชุมเตรียมการทำางาน  ท่านได้เตือนว่าสถาน-  การณ์ยังไม่ปกติ  ปัญหาเก่าปัญหาใหม่รอการแก้ไขอยู่มาก  ทุกคน  จึงต้องเร่งทำางาน  ครม.อาจอยู่ส้ันหรือยาวแล้วแต่สถานการณ์และ ประชาชน เราตอ้ งทาำ ใหป้ ระชาชนมนั่ ใจและวางใจ รฐั บาลนจ้ี ะกม้ หนา้   ก้มตาทำางานอย่างเดียวไม่ได้  แต่ต้องช่วยกันพูดช่วยกันชี้แจง  เรียก  ว่าสร้างการรับรู้ความเข้าใจ  เมื่อเราพูด  คนจึงจะฟัง  เม่ือฟังแล้วจะ  เชื่อถือ  ถ้าเราไม่พูด  เขาจะเข้าใจได้อย่างไร  เมื่อเราลงมือทำา  คนจึง  จะเห็น  ฉะน้ันถ้าเราไม่ทำา  มัวแต่เงื้อง่าราคาแพง  คนจะไม่เห็นผลงาน  ความสำาเร็จอยทู่ ่กี ารมนี โยบายชัดเจน มงี บประมาณ มบี คุ ลากร และ มีอำานาจตามกฎหมาย  ถ้าติดขัดอะไรขอให้บอก  จะแก้ไขให้  เราทุก  คนลงเรือลำาเดียวกนั แลว้ ตอ้ งช่วยกนั  อยา่ ขดั แยง้ แตกแยกกนั   งำนใหญห่ ลงั จำกนน้ั คอื กำรแถลงนโยบำย เมอื่ เจำ้ หนำ้ ที่ ยกร่างเสร็จ  ท่านนายกฯ  ก็นัดคณะท่ีปรึกษา  คสช.มาตรวจแก้  โดย ท่านมานั่งเป็นประธานเองถึง  ๒  วัน  ผมได้เห็นความตั้งใจจริงและ  ม่ันคงแน่วแน่ในการทำางานในเวลานั้นเอง  ท่านอ่านนโยบายอย่าง ละเอียดและปรับแก้ด้วยตนเองทุกหน้า  อาทิ  ขอให้เพ่ิมนโยบายด้าน  ดิจิทัล  การทะนุบำารุงวัฒนธรรม  ส่งเสริมภาษาถ่ิน  การจัดทำาโครงการ เศรษฐกิจขนาดใหญ่  โครงการกองทุนยุติธรรมเพ่ือช่วยผู้ยากไร้ด้าน อรรถคดี  โดยมีหม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธรในฐานะที่ปรึกษา  คสช.เป็น  อีกคนทมี่ ีบทบาทสาำ คญั ในการตรวจแก้รา่ งนโยบาย   ในการแถลงนโยบายต่อ สนช.ในวันท่ี ๑๒ กันยายน พ.ศ.  ๒๕๕๗  พลเอกประยุทธ์ได้โชว์ลีลาการแถลงนโยบายที่แหวกกรอบ  เดิมเป็นครั้งแรกและน่าจะเป็นแบบธรรมเนียมสืบไป สมัยก่อนเวลา แถลงนโยบาย  นายกฯ  จะลุกข้ึนอ่านกลางสภาฯ  ตามท่ีพิมพ์มาอย่าง  ดีและแจกจ่ายแก่สมาชิกสภาฯ  ท่ัวกัน  จนเคยมีสมาชิกบางคน  123

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม ท้วงนายกฯ  เพ่ือทำาลายสมาธิมาแล้ว เช่น “ท่ำนประธำนที่เคำรพ ท่ำนนำยกฯ อ่ำนผิดไม่ตรงกับท่ีพิมพ์แจก” “ท่ำนประธำนตกลงว่ำ กำรแถลงนโยบำยจะยึดตำมท่ีพิมพ์หรือที่นำยกฯ อ่ำน เพรำะอ่ำนตก ไปบรรทัดหน่ึงครับ” มาคราวนี้พลเอกประยุทธ์ชี้แจงในสภาฯ แต่แรกเลยว่า นโยบาย  ที่จะแถลงอยู่ในเอกสารท่ีแจก  โปรดอ่านเอาเอง  ส่ิงที่จะพูดต่อไปน ้ี เป็นภาคผนวกขยายความเพิ่มเติม  ผมไม่อยากก้มหน้าก้มตาอ่าน  ภาษาไทยทั้งนั้นท่านอ่านเองก็ได้  ว่าแล้วท่านก็ลงมือเลกเชอร์กลอน  สดอยา่ งรวดเรว็ และยาวนานรว่ ม ๒ ชว่ั โมง เรยี กเสยี งฮาไดเ้ ปน็ ระยะๆ  เพราะทา่ นพดู ไปดไุ ป พอเหนอ่ื ยกข็ อเวลานอกดม่ื นา้ำ  สมาชกิ เงยี บกรบิ   ตลอด  ๒  ชั่วโมง  ไม่มีใครกล้าลุกออกจากท่ีน่ัง  บางตอนท่านก็กวาด  สายตาไปทั่วพลางถามว่าใครไม่เห็นด้วยบอกมา  หลังจากแถลงจบ  กต็ บท้ายด้วยวลเี ด็ดประจำารฐั บาล “เข้ำใจตรงกนั นะ” เม่ือแถลงนโยบำยเสร็จ รัฐบำลก็ลงมือท�ำงำนได้ เรือแป๊ะออก จำกท่ำแล้ว! เม่ือเริ่มงานตรงกับวันเกิดผมพอดี  ผมไปทำาบุญเลี้ยงพระที่วัด  ราชบพธิ  เจา้ ประคณุ สมเดจ็ พระมหามนุ วี งศเ์ จา้ อาวาสซงึ่ เมตตาผมมา  โดยตลอดและผมเคยทาำ งานถวายในฐานะกรรมการสภามหาวทิ ยาลยั   มหามกุฏราชวิทยาลัย  ซึ่งเจ้าประคุณสมเด็จฯ  เป็นนายกสภาฯ  ได ้ เป็นประธานสงฆ์เปิดพระวิหารให้ในพิธีทำาบุญ  และเมตตามอบพระ  พุทธรูปปางนาคปรกประจำาวันเกิดสูงคืบหนึ่งให้ผมองค์หนึ่ง  ท่าน  แนะนำาวา่ เอาไปไวบ้ ชู าทหี่ อ้ งทาำ งานนะจะไดเ้ ปน็ สริ มิ งคลแคลว้ คลาด  ปราศจากอุปสรรคเหมือนมีนาคมาปรกคุ้มกัน  และสอนด้วยว่า  เมื่อ  สมเดจ็ พระสงั ฆราช (วาสน ์ วาสนมหาเถร) อดตี เจา้ อาวาสวดั ราชบพธิ   ได้รับเลื่อนสมณศักดิ์  ท่านวางหัวโขนเล็กๆ  ไว้  ๓  หัวใกล้ท่ีนั่งและ  แตง่ กลอนวางไว้ว่า   124

    “หัวโขนสวมหวั คนเตน้ หมำยเป็นลงิ ยกั ษ์สกั ครู่ ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: ถอดโขนแลว้ คนเดมิ ดู หำใชย่ กั ษ์ลิงสงิ่ ลวง”   อกี  ๒ ปเี ศษตอ่ มา พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั  รชั กาลท ่ี ๑๐  โปรดใหส้ ถาปนาเจา้ ประคณุ สมเดจ็ พระมหามนุ วี งศร์ ปู นข้ี นึ้ เปน็ สมเดจ็   พระอริยวงศาคตญาณ  สมเด็จพระสังฆราช   อกี  ๑ เดอื นตอ่ มาในวนั ท ่ี ๕ ตลุ าคม พ.ศ.๒๕๕๗ พระอาจารย ์ หลวงพ่อวิริยังค์  วัดธรรมมงคล  ซึ่งผมเคยไปเรียนวิชาสมาธิกับท่าน  ใหผ้ มไปพบทตี่ กึ ไอ-ทาวเวอร ์ ถนนวภิ าวดรี งั สติ  และใหศ้ ลี ใหพ้ รพรอ้ ม  กบั เมตตามอบแจกนั ดอกไมใ้ ห ้ ทา่ นยงั พดู เขนิ ๆ วา่  ธรรมเนยี มชาวโลก อยา่ งนหี้ ลวงพอ่ ไมเ่ คยทาำ นะ แต่เห็นเขาทำากัน รับแล้วเอาไปไหว้พระ ก็แล้วกัน  อย่าลืมวิชาสมาธินะ  เวลาเครียด  โกรธหรือคับขัน  คิดอะไร  ไม่ออกหรือจิตขุ่นมัว  ขอให้ทำาสมาธิแล้วจะเห็นพลังแห่งจิตตานุภาพ    ผมเครยี ด โกรธ ขนุ่ มวั  และมเี รอ่ื งคดิ ไมอ่ อกเปน็ ประจำ� จงึ   ได้ใช้วิชำน้ีแทบทุกวันเลยครับหลวงพ่อ! บำงทีท�ำแล้วหลับไป  ต่นื มำกห็ ำยพอดี 125

ในการประชุม นายกฯ จะซกั เองเกอื บทุกเรือง สังเกตจากคาํ ถามกร็ ูไดว าทาํ การบานมาดี  

การประชุม ครม. ครม.ตกลงกนั วำ่ จะประชมุ ทกุ เชำ้ วนั องั คำร เวลำ ๐๙.๐๐ น. ซ่ึงก็เป็นกำาหนดเวลาตามปกติเหมือนชุดก่อนๆ  การเลือกวันอังคาร  เปน็ ความสะดวกมาแตโ่ บราณ เพราะถา้ ประชมุ วนั จนั ทรก์ จ็ ะไมส่ ะดวก แกร่ ฐั มนตรที ไ่ี ปราชการตา่ งจงั หวดั วนั เสาร-์ อาทติ ย ์ สมยั มกี ารเลอื กตงั้   รัฐมนตรีเป็น  ส.ส.มักกลับไปเย่ียมพื้นที่ในวันเสาร์-อาทิตย์  วัน  จันทร์จึงจะกลับเข้ากระทรวง  มาถึงใหม่ๆ  ยังเตรียมตัวเตรียมข้อมูล ประชมุ  ครม.ไมท่ นั  วนั องั คารจงึ กาำ ลงั เหมาะ พธุ -พฤหสั ฯ กใ็ หป้ ระชมุ   สภาผู้แทนราษฎร  ศุกร์ประชุมวุฒิสภา  รัฐบาลชุดพลเอกประยุทธ์จึง  อนุโลมตามอย่างเช่นกนั   สถานท่ีประชุมนั้น ครม.สมัยนายกฯ เปรม นายกฯ ชาติชาย  นายกฯ อานนั ท ์ นายกฯ ชวน นายกฯ บรรหาร นายกฯ ชวลิต ใช้ห้อง ประชุม  ครม.ที่ตึกบัญชาการชั้น  ๕  ซ่ึงใหญ่โตโอ่โถงโล่งแจ้งดี  พอถึง  สมัยนายกฯ  ทักษิณก็ย้ายไปใช้ห้องประชุมอาคารสำานักเลขาธิการ  คณะรัฐมนตรีหลังใหม่ซึ่งสร้างในสมัยผมเป็นเลขาธิการฯ  สมเด็จ  พระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราชทรงวางศิลาฤกษ์ เมอ่ื สรา้ งเสรจ็   127

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม สมเด็จพระพุฒาจารย์  (เก่ียว  อุปเสโณ)  เป็นผู้ทำาพิธีเปิด  และใช้ห้อง  น้ีเรื่อยมาจนถึงสมัยนายกฯ  สุรยุทธ์  นายกฯ  สมัคร  นายกฯ  สมชาย  นายกฯ  อภิสิทธ์ิ  และนายกฯ  ยิ่งลักษณ์  ครั้นถึงสมัยนายกฯ  ประยุทธ์  ก็มีเสียงติว่าห้องประชุมนี้เล็ก  เพดานเตี้ยเพราะถูกจำากัดความสูง  ของอาคาร  และอยู่ห่างตึกไทยคู่ฟ้าที่นายกฯ  นั่งทำางาน  จึงย้ายกลับ  มาใชห้ ้องประชุมช้นั  ๕ ตกึ บัญชาการอยา่ งเดิม   ความที่ห้องประชุมนี้ไม่ได้ใช้ออกงานสำาคัญมานานกว่าสิบป ี จึงต้องติดตั้งระบบเสียงใหม่  ใช้ไมโครโฟนอย่างดีตัวละแพงๆ  ตอน  ทดลองใชง้ านมกี ารนาำ คณะผสู้ อ่ื ขา่ วไปชมหวงั จะใหต้ นื่ เตน้ กบั เทคโน-  โลยี  แต่กลับกันจึงเกิดเสียงฮือฮาต่ืนเต้นว่าไมค์ราคาแพงจนถูกนำา  ไปแซวว่าท่าจะเป็นไมค์ทองคำา  เลียนแบบชื่อรายการประกวดร้อง  เพลงไมค์ทองคำาทางโทรทัศน์จนต้องยกเลิกการติดต้ัง  กลับมาใช้ไมค ์ ราคาธรรมดา   สมัย ครม.พลเอกประยุทธ์เกิดธรรมเนียมใหม่ๆ ในการประชุม  ครม.หลายเร่ือง  เรื่องแรกคือราว  ๓๐-๔๕  นาทีก่อนการประชุม  มักม ี การจัดมินินิทรรศการที่ช้ัน  ๑  ของตึกบัญชาการ  โดยแต่ละกระทรวง  มกั จดั เพอื่ แสดงผลงาน นวตั กรรม หรอื เชญิ นายกฯ เปดิ งานตา่ งๆ ทกุ   วันอังคาร  ซึ่งนายกฯ  เปรยเหมือนกันว่าบางทีก็ไม่มีอะไรแปลกใหม ่ ไมเ่ หน็ จะตอ้ งโชว ์ แตก่ อ็ ยากใหก้ าำ ลงั ใจเจา้ หนา้ ทเ่ี พราะตา่ งกพ็ ยายาม เต็มท่ี  ถ้างานไหนดี  นายกฯ  ก็นำาไปโฆษณาเชิญชวนต่อ  ถ้าไม่ดีก็  ทว้ งตงิ บ้าง บางครั้งก็จะมแี ขกมารอพบทหี่ ้องรบั แขกช้นั  ๑   คราวคณะดาราจากละครโทรทัศน์เรื่องบุพเพสันนิวาสมาพบ  ทา่ นกข็ อบอกขอบใจทป่ี ลกุ กระแสนงุ่ โจงกระเบน หม่ สไบ มกี ารกระเซา้ เย้าแหย่ถ่ายรูปกันเป็นท่ีครึกครื้น  คุยไปคุยมาเหมือนท่านจะรู้ว่าควร  แบง่ ปนั ความสขุ ให ้ ครม.สมั ผสั กบั ออเจา้ ทงั้ หลายดว้ ย ทา่ นกอ็ นญุ าต ให้ศิลปินผู้แสดงท้ังพระเอก  นางเอก  ผู้ร้ายขึ้นไปชมห้องประชุม  ครม. ช้ัน  ๕  ซ่ึงรัฐมนตรีน่ังรอประชุมอยู่  แถมอนุญาตให้ดาราลองนั่งเก้าอี้  นายกฯ  ด้วย  โดยบอกว่าอยากน่ังก็เชิญ  วันเด็กก็เปิดให้น่ังอยู่แล้ว  128

น่ังแล้วจะรู้ว่าใครตกที่น่ังนายกฯ  มีแต่ความทุกข์  ทีน้ีเลยไม่มีใครกล้า  ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: นงั่ ! บางคนยงั บอกว่าทุกวันน้หี นกู ส็ ุขดอี ย่แู ล้วค่ะ   ออ้ ! การแตง่ กายเขา้ ประชมุ  ครม.กเ็ ปน็ ประเดน็ สาำ คญั  รฐั บาล  บางคณะตกลงกันว่าให้แต่งชุดสากล  สมัยรัฐบาลนายกฯ  ทักษิณ  ให้แต่งผ้าไทยแขนสั้นซ่ึงเป็นชุดซาฟารีบ้าง  ชุดไทยนิยมอย่างท่ีเรียก  ว่าชุดพระราชทานบ้าง  มาสมัยพลเอกประยุทธ์ให้แต่งผ้าไทยแขน ยาวสีตามความสะดวก  แต่มีช่วงที่แต่งดำาไว้ทุกข์ถวายพระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  รัชกาลที่  ๙  นาน  ๑  ปี  ถ้าเป็นเดือนสำาคัญ  เช่น  กรกฎาคมก็แต่งเหลืองตามสีวันพระราชสมภพของรัชกาลท่ี  ๑๐  พอ ถึงเดือนสิงหาคมแต่งฟ้าตามสีวันพระราชสมภพของสมเด็จพระบรม  ราชินีนาถในรัชกาลที ่ ๙    บางวันอังคารจะมีการประชุม คสช.ก่อนการประชุม ครม.ซ่ึง  ก็ใช้ห้องโถงใหญ่หน้าห้องประชุม  ครม.นั่นเองเป็นท่ีประชุม  คสช.  ประกอบด้วย  คณะผู้ก่อการชุดเดิมยืนพื้นได้แก่  พลเอกประยุทธ ์ พลเอกธนะศักด์ิ  พลเรือเอกณรงค์  พลอากาศเอกประจิน  พลตำารวจ  เอกอดุลย์  พลเอกอุดมเดช  สมทบด้วยพลเอกประวิตร  พลเอกอนุพงษ์  อาจารย์มีชัย  และ  ผบ.เหล่าทัพ  กับ  ผบ.ตร.ท่ีหมุนเวียนเข้ามาตาม ตำาแหน่ง  ใครเกษียณก็พ้นไป  ส่วนผมไม่ได้เป็น  คสช.แต่ถ้ามีการ  ประชมุ เพอื่ พิจารณาการใช้มาตรา ๔๔ กจ็ ะเข้าชีแ้ จงเปน็ ครั้งคราว   กลบั เขำ้ มำยงั กำรประชมุ  ครม. มธี รรมเนยี มใหมอ่ กี อยำ่ ง ว่าก่อนเข้าสู่ระเบียบปกติ  กระทรวงมักนำาวิดีโอผลงานที่ควรรู้ทั่วกัน  มาเปิดฉาย  แต่ละกระทรวงมักทำากันสุดฝีมือโดยจำากัดเวลากระทรวง ละไม่เกิน  ๕  นาที  ปะเหมาะเคราะห์ดีนายกฯ  ก็ชมเชย  สั่งให้นำาไป  เผยแพร่ต่อทางโทรทัศน์  ปะเหมาะเคราะห์ร้ายท่านก็ดุเอาว่า  สั้นไป  ยาวไป  ข้อมูลไม่ชัด  สคริปต์ไม่ดี  คนบรรยายเสียงแสบแก้วหู  เพลง  ประกอบดังไป  ลงทุนเท่าไร  แพงไป  กระบวนได้รับคำาชมเชยบ่อยยก  ให้กระทรวงวัฒนธรรมซึ่งมืออาชีพจริงๆ 129

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม   จบวาระวิดีโอ พรีเซนเตชั่นก็เป็นวาระเพื่อทราบ สมัยก่อนที่ผม  จะเปน็ เลขาฯ รฐั มนตรเี จา้ ของเรอ่ื งตอ้ งนาำ เสนอเอง มาถงึ สมยั ผมเปน็ เลขาฯ  เปล่ียนมาให้เลขาฯ  นำาเสนอเพ่ือความรวดเร็ว  ซ่ึงก็ยังปฏิบัติ  มาจนทุกวันนี้  แต่สมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์  วาระเพ่ือทราบจะไม ่ ต่างจากวาระพิจารณาเท่าไรนัก  เพราะนายกฯ  ทำาการบ้านมาดี  ท่าน จะซักและเสนอแนะประกอบแทบทุกเรื่อง จึงใช้เวลาอภิปรายนานพอ  กบั วาระเพอื่ พจิ ารณา ดงั นนั้ พอจบวาระเพอื่ ทราบจงึ มกั จะเหนอ่ื ยออ่ น ไปตามๆ  กัน  ทีน้ีก็เกิดธรรมเนียมพักการประชุมราว  ๑๐-๑๕  นาท ี นายกฯ  จะออกไปพักที่ห้องทำางานซ่ึงอยู่ติดกัน  ถ้ารัฐมนตรีมีเร่ืองขอ  หารือนอกรอบก็จะวา่ กันในตอนนนั้   พูดถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรีซึ่งเป็นเลขานุการของที่ประชุม  มีหน้าที่จัดทำาเอกสารการประชุม  ออกระเบียบวาระ  จดมติที่ประชุม เรียกว่ามติ  ครม.  และแจ้งมติไปยังผู้เก่ียวข้อง  ผมเคยดำารงตำาแหน่ง  น้ีอยู่ ๙ ปีเศษ ตอนเร่ิมตั้งรัฐบาลพลเอกประยุทธ์  เลขาฯ ครม.คือ  “เลขาฯ กบ” คณุ อำาพน กติ ติอาำ พน ซ่ึงแคลว่ คล่องไหวพรบิ ปฏิภาณดี  และเป็นอยู่หลายปี  พอเกษียณลง  คุณธีระพงษ์  วงศ์ศิวะวิลาสก็ได้  ดำารงตำาแหน่งแทน  เลขาฯ  ธีระพงษ์หรือก๊ิกเคยเป็นสตาฟฟ์หน้าห้อง  สมัยผมเป็นเลขาฯ  เป็นคนใจเย็น  ละเอียดรอบคอบและทำางานเรียบ  ร้อย  จนผมเคยเขียนในหนังสือเรื่อง  โลกนี้คือละคร  เมื่อ  ๑๐  ปีก่อน  วา่ วันหนึง่ น่าจะไดเ้ ป็นเลขาฯ ครม.   ส่วนเลขาฯ กบ “คุณอำาพน” น้ันเกษียณแล้ว ท่านนายกฯ ก ็ มอบหมายให้ช่วยเป็นพี่เลี้ยงเลขาฯ  กิ๊กอยู่ระยะหน่ึง  เวลาอยู่ในห้อง  ประชุมนายกฯ  จะเรียกว่า  “บ๊ิกเลขาฯ”  ต่อมาได้รับโปรดเกล้าฯ  ให้  เป็นองคมนตรี   พอการประชุม ครม.เริ่มยกสองก็กลับเข้ามาว่ากันต่อในวาระ  พิจารณา  ซึ่งมักจะลงรายละเอียดกันมาก  ในการประชุมนายกฯ  จะ ซกั เองเกอื บทกุ เรอื่ ง สงั เกตจากคาำ ถามกร็ ไู้ ดว้ า่ ทาำ การบา้ นมาด ี ขอ้ มลู   แน่น  บางเร่ืองตัวเลข  ข้อมูลในแฟ้มไม่เห็นมี  แต่นายกฯ  ก็ล้วงเบื้อง  130

หน้าเบ้ืองหลังออกมาซักจนได้  แล้วยังตามด้วยคำาสั่งแตกแขนงบาน ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: ปลายตอ่ ยอดไปยงั เรื่องอนื่ ๆ อกี ด้วย   พอจบวาระนก้ี จ็ ะมธี รรมเนยี มใหมท่ ผี่ มไมเ่ คยเหน็ คอื  วาระรอง  นายกรัฐมนตรี  รายงานสรุปเร่ืองของกระทรวงตามสายงานท่ีตนดูแล  และตามด้วยวาระข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี  มีคนบอกว่ามาจาก ธรรมเนยี มการประชมุ ของทหาร เมอื่ จบเรอื่ งในระเบยี บวาระ ผบ.เหลา่   ทัพมักจะมีข้อส่ังการเป็นข้อๆ  เพ่ิมเติม  ที่จริงก็คือวาระอื่นๆ  บวกกับ วาระประธานแจ้งเพ่ือทราบนั่นเอง  แต่ท่ีสำาคัญคือข้อส่ังการน้ีมีท้ัง  การสั่งเรื่องใหม่และติดตามงานเก่าที่เคยสั่ง  โดยเลขาธิการ ครม.  จะตอ้ งจดเรอื่ งในวาระขอ้ สั่งการเป็นมต ิ ครม.ด้วย   มเี หมอื นกนั ทนี่ ายกฯ ไปสง่ั การไวใ้ นทป่ี ระชมุ อนื่  เชน่  ทปี่ ระชมุ   ปลัดกระทรวงซึ่งมีทุกเดือนและที่ประชุมคณะกรรมการต่างๆ  แล้ว ทา่ นมาทวงถามตดิ ตามงานใน ครม. ซง่ึ บางครงั้ รฐั มนตรกี ร็ บั ลกู ไมท่ นั   เพราะไม่ทราบต้นสายปลายเหตุ  บ่อยคร้ังนายกฯ  จะแจกเอกสารท ่ี ท่านเขียนเองด้วยลายมือหวัดๆ  หรือท่านตัดข่าวจากหนังสือพิมพ ์ บ้าง  มีผู้เสนอไปให้พิจารณาบ้าง  โดยจะแจกจ่ายแก่ผู้เก่ียวข้องหรือ  ทุกคนใหต้ รวจสอบหรือพิจารณา   ปกติแล้วในห้องประชุมจะมีแต่ ครม.และข้าราชการตำาแหน่ง  สาำ คญั ทเ่ี กยี่ วกบั การประชมุ  อาท ิ เลขาฯ ครม. เลขาฯ นายกฯ เลขาฯ  กฤษฎีกา  ผู้อำานวยการสำานักงบประมาณ  เลขาฯ  สภาพัฒน์  และเจ้า หน้าท่ีจดรายงานการประชุมไม่ก่ีคน  สมัยนายกฯ  ชาติชายเคยดำาริ  จะให้  ผบ.เหล่าทัพเข้าร่วมประชุมด้วย  ก็มีเสียงคัดค้านจากประชาชน  ว่าเรื่องใน  ครม.ไม่ควรจะให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องเข้าประชุมจึงต้องงดเสีย  แตใ่ นสมยั รฐั บาลนมี้ ผี คู้ นเขา้ ประชมุ มากหนา้ หลายตา อาท ิ ทปี่ รกึ ษา  นายกฯ ทมี งานโฆษก และเจ้าหน้าทีฝ่ ่ายต่างๆ   ผมเคยกราบเรียนท่านในระยะต้นๆ ว่าปกติจะไม่อนุญาตให้  ผไู้ มเ่ กย่ี วขอ้ งกบั การจดบนั ทกึ และใหข้ อ้ มลู แก ่ ครม.เขา้ ฟงั การประชมุ   ท่านถามว่าเพราะเหตุใด  ผมเรียนว่าเพื่อรักษาความลับ  ท่านหัวเราะ 131

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม ตอบว่าสมัยรัฐบาลเลือกต้ังความลับมันมากและมีหลายพรรค  แต ่ ละพรรคต้องระวังกันเองจึงต้องจำากัดคนเข้าประชุม  รัฐบาลเรือแป๊ะ  ลงเรอื ลาำ เดยี วกนั และไมม่ ลี บั ลมคมใน ชว่ ยกนั ฟงั กด็ แี ลว้ จะไดโ้ ปรง่ ใส และช่วยกันจดจำานำาไปปฏิบัติได้ถูกต้อง  แต่อย่าไปพูดต่อขยายความ ต่อก็แล้วกัน  นี่ก็อาจเป็นธรรมเนียมใหม่  และผมสังเกตว่าดูทุกคนจะ  มีวนิ ยั  อะไรท่ลี ะเอยี ดออ่ นก็ไมเ่ คยหลดุ ไปลงหนงั สือพมิ พ์เลย   อ้อ! โฆษกรัฐบาลน้ีในช่วงแรกคือคุณยงยุทธ มัยลาภ ต่อมา  เปลี่ยนเป็น “ไก่อู” พลโท สรรเสริญ แก้วกำาเนิด และมนี ายทหารอกี   คนเป็นรองโฆษกช่ือ พลโท  วีรชน สุคนธปฏิภาค และทำาหน้าที่ล่าม  ภาษาองั กฤษประจาำ ตวั ทา่ นนายกฯ ด้วย หลังจากไก่อูไปดำารงตำาแหน่ง  อื่นก็ได้คุณพุทธิพงษ์  ปุณณกันต์มาทำาหน้าท่ีโฆษกแทน  แต่พอใกล้  จะเลือกตั้งท่านก็ลาออกไปสมัครเป็น  ส.ส.   ราวเที่ยงการประชุมยุติ มีการรับประทานอาหารร่วมกันแล้ว  แยกยา้ ยกนั กลบั  นายกฯ จะลงไปแถลงขา่ วทช่ี นั้  ๑ หลงั จากนนั้ โฆษก  รัฐบาลก็แถลงรายละเอียดต่อท่ีตึกนารีสโมสร   พูดถึงตึกบัญชาการทำาเนียบรัฐบาลแล้วต้องอธิบายว่าเป็น ๑  ใน  ๕  อาคารสำาคัญภายในทำาเนียบรัฐบาล  อาคาร  ๕  หลังน้ีได้แก ่ ตกึ ไทยคฟู่ า้ ซงึ่ เปน็ ทน่ี งั่ ทาำ งานของนายกรฐั มนตรมี าตง้ั แตส่ มยั จอมพล  ป.  พิบูลสงคราม  นายกรัฐมนตรีท่ีไม่เคยเข้าทำางานในตึกนี้คือนายกฯ  สมชาย  วงศ์สวัสดิ์  เพราะขณะน้ันมีการประท้วงรัฐบาลและม็อบล้อม  ทาำ เนียบรัฐบาลอยู่นาน อาคารท่ ี ๒ คอื ตกึ สนั ตไิ มตร ี ซง่ึ ประกอบดว้ ย  หลังนอกและหลังในรวม  ๒  หลัง  เป็นท่ีต้อนรับคณะบุคคลที่มาเยือน  จัดประชุมและจัดเล้ียง ตลอดจนจัดงานสโมสรสันนิบาต หากมิได้จัด  กลางสนาม อาคารท ่ี ๓ คอื ตกึ นารสี โมสรซง่ึ เปน็ ทแี่ ถลงขา่ วของรฐั บาล  อาคารท่ี  ๔  คือตึกบัญชาการสูง  ๕  ช้ัน  เป็นที่ทำางานของรองนายก  รัฐมนตรี  รัฐมนตรีประจำาสำานักนายกรัฐมนตรี  ห้องประชุมคณะ  รัฐมนตรี  และห้องประชุมขนาดกลางขนาดเล็กอีกหลายห้อง 132

  ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์  มีการดัดแปลงภายนอกของ  ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: ตึกบัญชาการซ่ึงเดิมผนังด้านนอกจะเรียบๆ  เลี่ยนๆ  ฉาบปูนทาสีแบบ  สมยั ใหมด่ ไู มเ่ ขา้ กบั อาคารแบบเวเนเชย่ี นของตกึ ไทยคฟู่ า้  สมยั รฐั บาล  นายกฯ  ทักษิณเคยคิดจะร้ือสร้างใหม่เพราะอาคารมีอายุมากแล้ว  มาถึงสมัยพลเอกประยุทธ์เห็นว่าถ้าร้ือจะส้ินเปลืองมากควรซ่อมแซม  และดัดแปลง  จึงให้  “สวมหน้ากาก”  คือตกแต่งภายนอกให้ดูเป็น  แบบเวเนเชี่ยนคล้ายๆ  ทำาหน้ากากเวเนเชี่ยนไปสวมครอบตึกเก่าซึ่ง  ก็กลมกลืนกับตึกไทยคู่ฟ้าสวยงามดี   อำคำรอีกหลังท่ีสร้ำงใหม่ในสมัยนี้เป็นหลังที่ ๕ คือ ตึก  ภกั ดบี ดนิ ทร ์ อยหู่ ลงั ตกึ ไทยคฟู่ ำ้  เป็นอำคำรชั้นเดียวศิลปะแบบ  เวเนเช่ียนกลมกลืนกับตึกไทยคู่ฟ้ำ ใช้จัดประชุมและจัดเลี้ยง  รบั รองแขกในกรณมี ีแขกมำกจนล้นมำจำกตกึ สันติไมตรี     133

นายกฯ ประยทุ ธ ทานออกตางจงั หวดั เปนประจาํ อยูแลว ตั้งแตเ ปน นายทหาร และดูจะมคี วามสขุ มาก ประชาชนก็พอใจท่ีไดพ บนายกรฐั มนตรี  

ครม.สญั จร โดยปกติแล้วคณะรฐั มนตรีประชมุ กนั ทีก่ รุงเทพมหำนคร สถานที่ประชุมคือภายในทำาเนียบรัฐบาล  ได้กล่าวแล้วว่าบางสมัยใช ้ ตกึ ไทยคฟู่ า้  บางสมยั ใชต้ กึ บญั ชาการ บางสมยั ใชต้ กึ สาำ นกั เลขาธกิ าร  คณะรัฐมนตรี  แต่จะใช้อาคารหลังใดก็แล้วแต่ล้วนอยู่ในทำาเนียบ  รัฐบาล  ณ  กรุงเทพมหานครทั้งสิ้น    เม่ือราว ๓๐ ปีมาแล้ว มีเสียงทักท้วงข้ึนว่าทำาไม ครม.จึงต้อง  ประชุมอยู่แต่เฉพาะในกรุงเทพฯ  ทำาไมไม่ออกไปประชุมตามต่าง  จงั หวดั บา้ ง เรอ่ื งนไ้ี มใ่ ชใ่ หไ้ ปปกิ นกิ หรอื ตากอากาศหรอื เปลยี่ นบรรยา-  กาศเหมือนท่ีประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเคยออกไป  “รีทรีต”  แถบ  แคมป์เดวิสทุกปี  แต่เป็นการได้ประโยชน์หลายสถาน  เช่น  ลงไป  สัมผัสกับชาวบ้าน  ลงไปดูท่ีเกิดเหตุหรือแหล่งต้นตอของปัญหา  ลง  ไปรับฟังข้อร้องเรียนของประชาชนก่อนจะนำามาถกแถลงในที่ประชุม  ครม.   ถ้าให้ดีคือนำาเอาเร่ืองของท้องถิ่น จังหวัด หรือภูมิภาคนั้นๆ  มาพิจารณาในการประชุม  ณ  ที่น้ัน  ผลพลอยได้อีกอย่างคือ  ครม.  135

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม เปรียบไปแล้วก็เหมือนช้างเหมือนพญา  เวลาช้างเหยียบนา  พญา  เหยียบเมืองแต่ละทีจะเกิดการต่ืนตัว  มีการพัฒนาเล็กบ้างใหญ่บ้าง  ตามมา ชาวบา้ นจะคกึ คกั ตนื่ เตน้  นกั ทอ่ งเทย่ี วนกั เดนิ ทางพลอยทราบ  ไปด้วยวา่ บา้ นนนั้ เมืองนั้นมีอะไรทั้งทีร่ จู้ ักกันแล้ว และท่เี ปน็  Unseen  ความเจริญจะได้กระจายออกไปสู่หัวบ้านหัวเมืองนั้นๆ    สิ่งเหล่าน ี้ แม้จะเป็นต้นหอมผักชีโรยหน้าบ้าง  เป็นตั้งฉ่าย  พริกไทย  ใบมะกรูด  ซอย เปน็ ใบโหระพาบา้ งก็เอาเถดิ   เสียงทักท้วงเหลา่ น้ีมาจากนกั วชิ าการ นักการเมอื งทอ้ งถน่ิ และ  ชาวบ้าน  แต่การจะอพยพ  ครม.ออกไปประชุมตามต่างจังหวัดก็ม ี จุดอ่อนอยู่เหมือนกันในเรื่องโลจิสติกส์และซีเคียวริตี้  ไหนจะการขน  ย้ายผู้คน  คณะทำางาน  เอกสาร  ไหนจะต้องเตรียมท่ีพัก  ห้องประชุม  ขนาดใหญ่  อาหารการกิน  การรักษาความปลอดภัย  นับว่าสิ้นเปลือง  งบประมาณ ดไี มด่ จี ะเปน็ การไปรบกวนกอ่ ภาระแกจ่ งั หวดั เสยี เปลา่ ๆ    เพราะช่ังนำ้าหนักได้เสียอย่างนี้เอง รัฐบาลในอดีตจึงไม่ได้จัด  การประชมุ  ครม.ตามจงั หวดั  จะมกี เ็ ปน็ เพยี งการประชมุ ยอ่ ยๆ ระหวา่ ง  นายกฯ  หรือรัฐมนตรีไม่ก่ีคนกับส่วนราชการที่เก่ียวข้อง  เช่น  การ  ประชุมกรรมการร่วมภาครัฐ  และเอกชน  (กรอ.)  จึงไม่เรียกว่าการ  ประชุม  ครม.นอกสถานที่   ครั้นถึงสมัยรัฐบาล พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ ดร.ชัยอนันต์  สมุทวณิชเคยเสนอให้ต้ังรัฐมนตรีรับผิดชอบพ้ืนที่ภาคต่างๆ  อาทิ  รัฐมนตรีภาคเหนือ  รัฐมนตรีภาคใต้  และเสนอว่าเพ่ือให้ได้ผลจริงๆ  ควรมอบอำานาจให้รัฐมนตรีเหล่าน้ันบริหารจัดการพ้ืนที่ได้เองโดยจัด  งบประมาณให้ดูแลบางส่วน    ในบางประเทศ  เช่น  ศรีลังกา  ก็มีการ  กระทำาในลักษณะนี้  ความคิดน้ีเป็นท่ีมาของการมอบอำานาจให้รอง  นายกรัฐมนตรี  และรัฐมนตรีประจำาสำานักนายกรัฐมนตรีเป็นผู้กำากับ  ดูแลการพัฒนาในแต่ละภาคในเวลาต่อมา  แต่ก็ไม่ถึงกับมอบอำานาจ  บริหารแบบเด็ดขาด หนักไปในทางช่วยสนับสนุนมากกวา่ อยา่ งอ่นื   จนถึงสมัยนายกฯ ประยุทธ์ก็ยังจัดเช่นน ้ี แต่ตอนปลายรัฐบาล  136

ไดแ้ บง่ พน้ื ทอี่ อกเปน็  ๖ ภาคแทนท่ีจะเป็น ๔ ภาค คือ เหนือ กลาง  ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: ใต้  ออก  อย่างเดิม  ท่ีเพ่ิมมาใหม่อีก  ๒  ภาค  คือ  แบ่งภาคตะวันออก  เป็นภาคอีสาน  และภาคชายฝั่งทะเลตะวันออก  หรือ  EEC  และแบ่ง  ภาคใต้เป็นภาคใต้ทั่วไปกับภาคใต้จังหวัดชายแดน  ซ่ึงต้องการการ  พัฒนาอีกแบบหนงึ่ ดงั ที่ม ี ศอบต.ชว่ ยดแู ลอย่แู ลว้   พร้อมกันนั้นในสมัยนายกฯ ชาติชายก็เกิดธรรมเนียมการจัด  ประชุม  ครม.นอกสถานที่ข้ึนเป็นครั้งแรก  เรียกกันอย่างไม่เป็นทาง  การว่า  “ครม.สัญจร”  แต่ก็ไม่ได้จัดบ่อยนัก  มาถึงสมัยรัฐบาลพลเอก  ชวลติ จึงมีการฟนื้ ฟู ครม.สัญจรขึ้นใหม ่ โดยกำาหนดปฏิทินลว่ งหน้าวา่   วนั ไหน เดอื นไหน จะสญั จรไปประชมุ ทไี่ หน ตอนนน้ั ผมเปน็ เลขาธกิ าร  ครม.มีหน้าท่ีสำารวจเส้นทาง  พาหนะ  ท่ีพัก  อาหารการกิน  สถานที่ ประชุม  การเตรียมระเบียบวาระประชุมที่เก่ียวข้องกับสถานที่  ส่วน  การรักษาความปลอดภยั ยกให้ตาำ รวจ-ทหารเป็นผู้รบั ผดิ ชอบ   คราวหนึ่งมีกำาหนดจะไปจัดที่แม่ฮ่องสอน ผมไปเซอร์เวย์ล่วง  หน้า ปรากฏว่าหมอกจัดเครื่องบินลงไม่ได ้ ชาวบ้านฟ้องว่าเรื่องแบบ น้ีมีบ่อย  บางทีเครื่องบินต้องไปลงเชียงใหม่แล้วจัดรถเดินทางต่อไป เอง ผมจงึ คดิ วา่ การจดั ประชมุ ทแ่ี มฮ่ อ่ งสอนนา่ จะไมเ่ วริ ก์  ถา้ ขน ครม.  มา  ๓๐-๔๐  คนแล้วเครื่องบินลงไม่ได้ต้องกลับไปต่อรถท่ีเชียงใหม่ แลว้ ทำาอยา่ งไร ถา้ ขามาสามารถมาได ้ ประชมุ เสรจ็ หมอกหนาจดั  ฟ้า  ไม่เปิดกลับไม่ได้  เราจะจัดการกับ  ครม.และรี้พลสกลไกรเป็นร้อยท่ี ตกค้างอยูอ่ ยา่ งไร   สมยั รฐั บำลนำยกฯ ทกั ษณิ  กำรประชมุ  ครม.นอกกรงุ เทพ มหานครดูจะเป็นเรื่องเป็นราวมากข้ึน  ผมต้องตั้งทีมมืออาชีพด้าน  ครม.สัญจรไว้เป็นการเฉพาะเพื่อสำารวจสถานท่ีและโลจิสติกส์    สมัย  รฐั บาลนายกฯ ทกั ษณิ  ครม.สญั จรพฒั นาไปไกลอกี ขนั้ ถงึ ขนั้ จดั ประชมุ บนรถไฟขณะเดินทางไปศรีสะเกษ  และยังลอยเรือไปจัดประชุมท ี่ เกาะชา้ งอกี หน ตอ่ มากย็ งั สญั จรไปประชมุ ในตา่ งประเทศ เชน่  ประชมุ   137

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม ครม.ไทยร่วมกับ  ครม.มาเลเซียท่ีหาดใหญ่ตอนกลางวันแล้วไปร่วม  งานเลยี้ งทฝ่ี ง่ั มาเลเซยี ตอนกลางคนื  เสรจ็ แลว้ กลบั มานอนทหี่ าดใหญ ่ อีกคราวจัดประชุมร่วมกับ  ครม.กัมพูชาโดยเดินทางไปประชุมท ี่ พนมเปญ  ทุกคนใฝ่ฝันว่าเม่ือไรหนอจะสัญจรไปโตเกียว  ปารีส  วอชิงตัน  ลอนดอนบ้าง 138

  เร่ือง ครม.สัญจรแตกต่างจากทัวร์นกขมิ้น  คำ่าไหนนอนน่ัน  ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: ซึ่งรัฐบาลชุดท่านนายกฯ  ทักษิณดำาริข้ึน  ทัวร์นกขม้ินไม่ใช่การประชุม  ครม.เต็มคณะ  แต่เป็นเรื่องนายกฯ  นำารัฐมนตรีบางคนและผู้รับผิด ชอบการเบิกจ่ายงบประมาณสัญจรไปดูงานและรับฟังปัญหาตาม จงั หวดั ตา่ งๆ แบบไมม่ วี าระประชมุ  เปน็ การไปพบชาวบา้ น ใครอยาก  ขออะไร  เสนออะไร  พูดอะไรก็ว่ามา  ถ้าจัดให้ได้ก็จัดให้  คำ่าไหนนอน  นั่น  จึงเรียกว่า  “ทัวร์นกขมิ้น”  แต่ภายหลังเห็นมีคนไปแซวว่าไม ่ ยักใช่นกขม้ินเหลืองอ่อน  แต่เป็นนกขมิ้นแดงแจ๋!    สมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ยังคงมี ครม.สัญจรแต่เรียกเต็ม  ยศว่า  “กำรประชุมคณะรัฐมนตรีอย่ำงเป็นทำงกำรนอกสถำนท่ี”  ส่ิงท่ีเพิ่มเข้ามาคือมีข้อส่ังการของนายกรัฐมนตรีด้วยว่า  ทุกคร้ังท่ีมี  การจัดประชุมเช่นน้ีให้จัดวันพิเศษไว้วันหน่ึงก่อนวันประชุมเพื่อให้  นายกฯ และ ครม.แยกยา้ ยกนั ลงพนื้ ทใี่ นจงั หวดั ใกลเ้ คยี ง ทาำ กจิ กรรม ต่างๆ  อันเป็นประโยชน์สาธารณะ  เรียกว่าเป็นการตรวจราชการไป  ในตัวก็ได้  ในทางปฏิบัติจึงมักจัดกิจกรรมคู่แฝดไว้ให้นายกฯ  และ  รัฐมนตรีแต่ละคนทำารวมแล้วเกือบร้อยกิจกรรม  เช่น  ถ้าประชุม  ครม. 139

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม สัญจรท่ีสงขลา  ครม.จะแยกย้ายกันลงพื้นท่ีปัตตานี  ถ้าจัดประชุมท ่ี ชุมพรลงพื้นท่ีที่ระนอง จัดประชุมท่ีนครสวรรค์ลงพื้นที่ที่พิจิตร  ถ้า  จัดประชุมที่บุรีรัมย์ลงพ้ืนที่ท่ีนครราชสีมา  จัดประชุมท่ีเพชรบูรณ ์ แยกไปตรวจราชการท่ีเลย   การออกตรวจราชการต่างจังหวัดหรือการลงพื้นที่เยี่ยมราษฎร  เป็นการสร้างขวัญและกำาลังใจแก่ข้าราชการและราษฎรในพื้นที่  นับ  ว่าได้ผลดีทางการปกครองและการเมือง  สมัยรัฐบาลนายกฯ  อานันท์  คร้ังแรกๆ  ท่านไม่ค่อยชอบออกต่างจังหวัด  เพราะถือว่าเวลาทำางาน  มีน้อย  จึงขอทำางานในส่วนกลาง  วันเสาร์-อาทิตย์ท่านก็ทำางาน   วันหนึ่งเม่ือมีโอกาสเข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  รัชกาลท่ี  ๙  ทรงพระเมตตามีพระราชกระแสแนะนำาว่า  นายกฯ  ควร  หาเวลาออกไปตรวจราชการและเยี่ยมราษฎรในต่างจังหวัดบ้างให ้ เห็นกับตาให้ได้ยินกับหู  สมัยน้ีจะใช้คนต่างพระเนตรพระกรรณไป  หมดคงไม่พอ  เวลาเห็นสายตาของเขา  ฟังความทุกข์และปัญหาของ  เขาจะรู้ว่าเขาลำาบากเดือดร้อนจริงๆ  เขาพ่ึงพาเราจริงๆ  ถ้าได้เห็น  ความทุกข์ของราษฎรแล้วจะมีกำาลังใจ  และความคิดอยากทำางานให ้ เขา  ท้ังจะได้สัมผัสความรู้สึกดีๆ  ท่ีเขามีต่อทางการ    คนต่างจังหวัด  ไม่ได้เป็นศัตรูกับทางการ  แต่เขาเดือดร้อนจริงๆ  ไม่มีการเสแสร้ง  ท ่ี เขาบ่นบ้างตำาหนิบ้างก็เพราะไม่รู้จะทำาอย่างไร  หลังจากนั้นนายกฯ  อานันท์ก็ออกตรวจราชการต่างจังหวัดแล้วกลับมาด้วยความรู้สึก  สบายใจปลื้มใจที่ได้ช่วยราษฎร รวมท้ังเกิดความคิดดีๆ  ว่าควรทำา  อะไร  อย่างไรต่อไป   นายกฯ ประยุทธ์ท่านออกต่างจังหวัดเป็นประจำาอยู่แล้วตั้งแต ่ เปน็ นายทหาร และดจู ะมคี วามสขุ มาก ประชาชนกพ็ อใจทไ่ี ดพ้ บนายก รัฐมนตรี  แต่รัฐมนตรีคนอ่ืนๆ  อาจลงพ้ืนท่ีน้อย  เมื่อมี  ครม.สัญจรจึง  เปน็ โอกาสไปดงู าน ตรวจงาน เยยี่ มราษฎร เยยี่ มขา้ ราชการ งานทไ่ี ปดู  ไปตรวจได้ผลอย่างไรต้องนำากลับมารายงานในที่ประชุม  ครม.สัญจร  140

ในวันรุ่งข้ึนเพื่อช่วยกันต่อเติมเสริมเร่ืองที่ชาวบ้านร้องขอความช่วย  ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: เหลอื   นอกจากน้ันก่อนจะเร่ิมการประชุม ครม.นายกฯ จะให้มีการ  ประชุมพื้นที่ก่อนเสมอโดยเชิญผู้ว่าราชการจังหวัดในละแวกน้ัน  หอการค้า  สภาอุตสาหกรรมและท้องถ่ินมารายงานความต้องการ  ถ้า  เป็นเร่ืองเล็กน้อย  ครม.ตัดสินใจได้ก็จะตัดสินใจ  แต่ถ้าเป็นเรื่องใหญ่  กร็ บั มาศกึ ษาความเปน็ ไปไดก้ อ่ น โครงการหลายอยา่ ง อาท ิ สนามบนิ   เบตง  การสร้างถนนหนทาง  สะพาน  การเปิดด่าน  การพัฒนาสนาม  กีฬา  การเปิดเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษบางแห่ง   กำรเปดิ แหลง่ ทอ่ งเทย่ี วใหมๆ่  เกดิ ขนึ้ จำกกำรประชมุ  ครม.  สัญจร ซงึ่ เมื่อศึกษำแลว้ เหน็ วำ่ เปน็ ไปได้จงึ ให้ดำ� เนินกำรน่เี อง   141

น่ีไมใชค มู อื การเปน รัฐมนตรี แตข อเลา เปน ความรงู ๆู ปลาๆ ความจรงิ ผมกไ็ มเ คยเหน็ ใคร ทพี่ อไดเ ปน เขา แลว จะทาํ ไมเ ปน อาจเงอะๆ งะๆ มะงุมมะงาหราบาง สกั พักแลวกเ็ ขาท่ีไปโลด!

ว่าดว้ ยการเปน็ รัฐมนตรี     มคี นเคยถำมวำ่  อยำกเปน็ รฐั มนตรกี บั เขำบำ้ ง จะตอ้ งทำ� อย่างไร   ฟังแล้วเหมือนท่ีมีคนเคยถามว่าอยากเด่น อยากดี อยากดัง  อยากเกง่  อยากเปน็ โนน่ เปน็ น ี่ ต้องทำาอย่างไร เรื่องอย่างนี้คงไม่มีใคร  เขียนหนังสือ  How  to  ไว้บอกเคล็ดลับ  ผมเองก็ไม่รู้ว่าเขาต้ังโต๊ะรับ  สมัคร หรอื รับกวดวชิ าทไ่ี หนบา้ ง   ถ้าให้เดาเทคนิควิธีก็น่าจะเป็นว่า ๑. ลงสมัคร ส.ส. พอได้เป็น  ส.ส.กท็ าำ ตวั ใหเ้ ขา้ ตาหวั หนา้ พรรค ถา้ พรรคไดต้ ง้ั หรอื รว่ มตง้ั รฐั บาล เขา คงคดั เอาไปเปน็ รฐั มนตร ี บางพรรคจะเลอื กคนพดู เกง่  บางพรรคเลอื ก  คนด ี เสยี สละเพอ่ื พรรค มอี าวโุ ส เปน็  ส.ส.มาหลายป ี บางพรรคเลอื ก คนดงั  และบางพรรคเลอื กคนทาำ งานเกง่  เขา้ ใจปญั หา  ๒. อาจตอ้ งมี  ทุนเยอะๆ  อุดหนุนพรรคสักพรรค  หา  ส.ส.ในสังกัดไว้เชียร์จำานวน  หน่ึง  อย่างนี้เรียกว่าสร้างบารมี  ถึงโอกาสเหมาะคงได้รับเชิญไปเป็น  ๓.  เป็นคนนอกหรือคนกลางก็ได้  แต่ต้องให้ภาพลักษณ์ดี  ช่ือเสียงด ี ทำางานดี มีประสบการณ์ และความชาำ นาญตรงกบั ความตอ้ งการของ พรรคหรอื สถานการณใ์ นขณะนนั้  และ ๔. หาหมอด ู หมนั่ สวดมนตเ์ ขา้ ไว้ 143

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม   วา่ แตจ่ ะเปน็ ไปทาำ ไม ทาำ ไมจงึ อยากเปน็  เพราะตอ้ งเขา้ ใจวา่ การ  เป็นรัฐมนตรีน้ันเป็นทุกขลาภ  คือถ้าเป็นลาภก็ลาภท่ีมีทุกข์  ต้องลา  ออกจากอะไรต่ออะไรหลายอย่าง  อาทิ  ธุรกิจ  ราชการ  ต้องย่ืนบัญชี ทรัพย์สินของตนและคู่สมรสตลอดจนบุตรที่เป็นผู้เยาว์  ต้องย่ืนอีกหน ตอนพน้ ตำาแหนง่  หลายคนอาจไมร่ วู้ ่าเวลาไปเชญิ ใครมาเปน็ รัฐมนตรี  มีอยู่ไม่น้อยที่ตอบรับ  แต่พอรู้ภายหลังว่าต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินของ ตนและลูกเมีย  มีอะไรต้องนำาออกมาตีแผ่ให้คนเห็นให้หมด  เลยตอบ ปฏเิ สธคนื คาำ เชญิ  แถมบางคนกระฟดั กระเฟยี ดกลบั มาอกี ดว้ ยวา่  “เมยี บอกวำ่ เรอื่ งอะไร อยดู่ ไี มว่ ำ่ ดเี อำมอื ไปซกุ หบี เอำเทำ้ ไปแหยค่ กุ ตะรำง เขำเลยรู้หมดวำ่ เรำจนแคน่ ี ้ รวยแคน่ ้ัน เป็นหน้บี ำนตะไทเท่ำโนน้ ” ตงั้ แตป่ ลายป ี ๒๕๖๑ กฎหมาย ป.ป.ช.ฉบบั ใหมใ่ หย้ น่ื บญั ชขี อง  เมียน้อย  ก๊ิก  หรือผู้อยู่กินออกงานสังคมด้วยกันด้วย  แม้ไม่ได้จด  ทะเบียนสมรสก็ตาม  บัญชีเหล่านี้ต้องเปิดเผยและแสดงท่ีมาที่ไปให้ โปร่งใส  ต้องเสี่ยงต่อการถูกตรวจสอบหรือเอ็กซเรย์คุณสมบัติและ ลกั ษณะตอ้ งหา้ ม ตอ้ งทาำ งานหนกั  ไหนจะงานประชมุ  งานรบั เรอ่ื งรอ้ ง เรียน  งานแก้ปัญหา  ไหนจะต้องมาน่ังคิดวิธีแก้ปัญหาและวิธีพัฒนา จนอาจกินไม่ได้นอนไม่หลับ  ต้องทำางานกับคนซ่ึงอาจมีปัญหากับเรา  เช่น เพ่อื นร่วมรัฐบาล ข้าราชการในกระทรวง ส่ือมวลชน ประชาชน   ต้องเดินทางขึ้นเหนือล่องใต้หรือไปต่างประเทศบ่อย ต้องพูด  หรือทนฟังส่ิงซ่ึงบางเร่ืองไม่ควรพูดหรือไม่น่าฟัง  ต้องเผชิญข้อห้าม  หลายอยา่ ง ทเ่ี คยทาำ ไดก้ ต็ อ้ งเวน้ เพราะจะผดิ กฎหมาย หรอื ไมส่ มควร  ทำา  ไม่สมควรพูด  ต้องชี้แจง  ให้สัมภาษณ์นักข่าว  แก้ข่าว  บางทีต้อง ปล่อยข่าวด้วย  ต้องบรรเทาเบาบางภารกิจส่วนตัว  ภารกิจครอบครัว เพราะงานหลวงสำาคัญกว่างานราษฎร์  พ้นจากตำาแหน่งแล้วอาจไป  ทำางานบางอยา่ งไม่ไดอ้ กี  ๒ ปี บางทีอาจตอ้ งเป็นผูต้ อ้ งหาหรอื จำาเลย ต่อไปอีกหลายปี  ต้องถูกจับผิด  ค่อนขอด  ด่าทอ  สิ่งเหล่านี้เป็นทุกข ์ ทง้ั น้นั   ถ้าจะพูดถึงลาภ ยศ สรรเสริญก็พอมีอยู่บ้างแต่คุ้มไหมไม่รู ้ 144

บางคนไดห้ นา้ ไดต้ าเพราะไดเ้ ปน็ ถงึ เสนาบดเี ปน็ เกยี รตแิ กต่ นและวงศ ์ ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: ตระกูล  บางคนได้เหรียญตราสายสะพายตามเกณฑ์ซึ่งปกติอยู่จน  ตายก็จะไมไ่ ด้ บางคนถือวา่ เขา้ ไปชว่ ยรัฐบาลใหท้ ำางานไดไ้ ม่งั้นจะแก้ ปัญหาไม่ตก  บ้านเมืองอาจลำาบาก  บางคนภูมิใจท่ีได้ทำางานเพื่อชาติ  เพื่อส่วนรวม  ได้ผลักดันงบประมาณและเร่ืองสำาคัญอันเป็นประโยชน์ ใหแ้ กจ่ งั หวดั หรอื สว่ นรวมและใฝฝ่ นั อยากเหน็ การแกป้ ญั หาอยา่ งนมี้ า  นานแลว้  ลาภอยา่ งนเี้ ปน็ ลาภอนั ประเสรฐิ ควรอนโุ มทนา และมคี นไม่ น้อยทต่ี อ้ งการโอกาสเช่นนี้   แต่บางคนคิดว่าทำาให้ได้โอกาสช่วยเหลือเกื้อหนุนพรรคพวก  ได้แต่งต้ังโยกย้ายข้าราชการ  บางคนอยากเป็นเพราะต้องการสร้าง บารมีคุ้มกันตน  ครอบครัวของตนและธุรกิจของตน  ไปทางไหนแม ้ พน้ ตาำ แหนง่ ไปแลว้ คนกเ็ กรงใจ เคารพนบนอบ บางคนอยากไดอ้ ดเิ รก ลาภท่ีไม่ถูกกฎหมาย  อาทิ ทรัพย์สิน เงินทอง เงินทอน ส่วนแบ่ง  เปอร์เซ็นต์  คอมมิชชั่น  ค่านายหน้า  ลาภอย่างน้ีเป็นโทษเข้าข่าย  “ซื่อ กนิ ไมห่ มด คดกนิ ไมน่ ำน” และเสย่ี งตอ่ การถกู จบั ไดไ้ ลท่ นั  วงการธรุ กจิ   กพ็ อรู้อยวู่ ่าใครเปน็ ใคร ความลับไมม่ ีในโลก   นายกฯ มเี งนิ เดอื น ๗๕,๕๙๐ บาท บวกเงนิ ประจาำ ตาำ แหนง่ อกี   ๕๐,๐๐๐ บาท รวมเปน็ เงิน ๑๒๕,๕๙๐ บาท   รองนายกฯ มเี งนิ เดอื น ๗๔,๔๒๐ บาท บวกเงนิ ประจาำ ตาำ แหนง่   ๔๕,๕๐๐ บาท รวมเปน็  ๑๑๙,๙๒๐ บาท   รัฐมนตรีมีเงินเดือน ๗๓,๒๔๐ บาท บวกเงินประจำาตำาแหน่ง  ๔๒,๕๐๐  บาท  รวมเป็น  ๑๑๕,๗๔๐  บาท  (ส.ส.และ  ส.ว.ได้เดือนละ  ๑๑๓,๕๖๐  บาท)   คราวน้ีอยู่ที่ว่าต้องการเป็นรัฐมนตรีไปทำาไม ต้องเข้าใจด้วยว่า  เงินเดือน  เงินประจำาตำาแหน่งเหล่าน้ี  หักภาษีแล้วเหลือไม่กี่หมื่น  ถ้า เปน็ นานหลายปกี อ็ าจสะสมเวลามบี าำ นาญบา้ งเลก็ นอ้ ย ระหวา่ งดาำ รง  ตำาแหน่งมีเลขานุการ  ที่ปรึกษา  รถประจำาตำาแหน่ง  และสิ่งอำานวย ความสะดวกตามควรแกต่ าำ แหนง่  แตพ่ อเสรจ็ ภาระก็ตอ้ งคนื หมด 145

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม   สมมุติว่าได้เป็นแล้วจะต้องทำาอย่างไร เตรียมตัวอย่างไร น่ีไม่  ใช่คู่มือการเป็นรัฐมนตรี  แต่ขอเล่าเป็นความรู้งูๆ  ปลาๆ  ความจริง  ผมก็ไม่เคยเห็นใครท่ีพอได้เป็นเข้าแล้วจะทำาไม่เป็น  อาจเงอะๆ  งะๆ  มะงมุ มะงาหราบ้าง สกั พกั แล้วกเ็ ข้าท่ไี ปโลด!   เริ่มต้นก็ต้องไปลำออกจำกอะไรต่ออะไรท่ีเขำห้ำมไว้ไม่ ให้เป็นไม่ให้ทำา  เช่น  การเป็นลูกจ้าง  ที่ปรึกษา  กรรมการ  ประธาน  กรรมการในบริษัทห้างร้านธุรกิจต่างๆ  ส่วนใหญ่ความลับว่าใครจะได ้ เป็นรัฐมนตรีในช่วงเขาจะต้ังรัฐบาลหรือปรับ  ครม.มักหลุดตอนไป  ลาออกกันนี่แหละ  เพราะรู้กันท่ัวท้ังบริษัท  และต้องแจ้งกระทรวง  พาณิชย์  ตลาดหลักทรัพย์ด้วย  ทั้งต้องไม่เป็นเจ้าของหรือถือหุ้นใน  ส่ือมวลชนเพราะเกรงจะใช้อิทธิพลส่ือ  ต้องไม่ถือหุ้นท่ีมีสัมปทานกับ  รัฐหรือทาำ กจิ การผูกขาดตัดตอนกับรัฐ   ในเวลาปกติ เช่น หลังเลือกต้ังรัฐมนตรีต้องลาออกจากการ  เป็นข้าราชการ  พนักงานรัฐวิสาหกิจ  องค์การมหาชน  และการเป็น  กรรมการต่างๆ  ในภาคราชการ  แต่ในช่วงรัฐบาล  คสช.มีรัฐธรรมนูญ 146

ยกเวน้ ใหเ้ ปน็ พเิ ศษจงึ ดาำ รงตาำ แหนง่ ในภาครฐั ได ้ พลเอกประยทุ ธต์ อน ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: เปน็ นายกฯ ใหมๆ่  ทา่ นกค็ วบตาำ แหนง่  ผบ.ทบ. ขอ้ ยกเวน้ นยี้ งั มตี อ่ ไป จนมีการเลือกตั้งและตั้งรัฐบาลใหม่ ผมเคยถูกร้องเรียนต่อ กกต.และ  ป.ป.ช.วา่ ระหวา่ งเปน็ รองนายกฯ ไปนงั่ เปน็ นายกสภามหาวทิ ยาลยั บาง แหง่  เปน็ กรรมการในภาครฐั บางตาำ แหนง่  ซง่ึ ตอ่ มาองคก์ รตรวจสอบได้ วนิ จิ ฉยั วา่ ถา้ ในยามปกตเิ ปน็ ไมไ่ ด ้ แตน่ ม่ี บี ทเฉพาะกาลในรฐั ธรรมนญู   ยกเว้นไวจ้ งึ เป็นได้   ข้ันตอนต่อไปคือ ต้องเตรียมตัวย่ืนบัญชีทรัพย์สินหนี้สินของ  ตนและคู่สมรส  เร่ืองอย่างนี้บางทีก็หายหกตกหล่นเหมือนกัน  นายกฯ  ชวนเคยลืมยื่นบัญชีการถือหุ้นสหกรณ์ธรรมศาสตร์ไม่ก่ีบาทซึ่งถือมา ตง้ั แตเ่ รยี นธรรมศาสตรจ์ นลมื ไปแลว้ เพราะไมเ่ คยไปมนี ติ สิ มั พนั ธด์ ว้ ย  ป.ป.ช.ก็เก่งไปขุดมาจนได้  พอท้วงมาเราก็ชี้แจงไป  เขาก็ไม่ว่าอะไร  เพราะเหน็ ไดว้ า่ ไมไ่ ดต้ ง้ั ใจปกปดิ อาำ พราง รฐั มนตรอี กี คนเคยเปดิ บญั ช ี ออมสินไว้เม่ือ  ๒๐  ปีก่อนจนลืมไปแล้ว  เงินติดบัญชีอยู่  ๑๐๐  บาท  พอเขาท้วงมาก็รีบสารภาพโดยดี  ไม่มีปัญหาอะไร   กรณีไม่จดทะเบียนสมรสแต่เป็นกิ๊กหรือสามีภริยาโดยพฤตินัย  คืออยู่กินกันก็ต้องย่ืนด้วย  ถ้ามีบุตรที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะก็ย่ืนบัญช ี ของบตุ รด้วย   การเตรยี มตวั ตอ่ ไปคอื  ตอ้ งไปตดั เครอ่ื งแบบชดุ ขาวไวแ้ ตง่ เวลา  บัตรหมายระบุให้แต่งปกติขาว  คร่ึงยศ  และเต็มยศ  และชุดกากีแขน ยาว เครื่องแต่งกายข้าราชการซ่ึงรัฐบาลนี้ให้แต่งทุกวันจนั ทร ์ นายกฯ  กแ็ ตง่  ขณะเดยี วกนั กต็ อ้ งตดั ชดุ ไทยพระราชทานหรอื ไทยพระราชนยิ ม  แขนสน้ั บา้ งยาวบา้ งเพราะต้องแต่งเข้าประชุม ครม.ทุกวันอังคาร ส่วน  ใหญ่เห็นเดินซื้อกันแถวดิโอลด์สยาม   ในเรื่องทีมงานก็ต้องเตรียมหาคนไว้ใจได้และคนมีฝีมือมาช่วย  งาน  ถ้าเป็นนายกฯ  ต้องมีเลขาธิการนายกรัฐมนตรี  รองเลขาธิการ นายกรัฐมนตรี  ที่ปรึกษา  โฆษกรัฐบาล  ฝ่ายพิธีการ  ฝ่ายสุนทรพจน์  ถ้าเป็นรองนายกฯ  หรือรัฐมนตรีคนอ่ืนๆ  ก็ต้องมีเลขานุการ  ท่ีปรึกษา  147

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม และทมี งานหนา้ หอ้ งคอยตรวจแฟม้  กลน่ั กรองเรอ่ื ง รบั แขก นดั ประชมุ   เตอื นให้เข้าประชมุ   สมยั รฐั บาลน ้ี เลขาธกิ ารนายกฯ ชอ่ื  พลเอก วลิ าศ อรณุ ศร ี เปน็   นายทหารเก่า  เป็นฝ่ายการเมือง  ต่างจากตำาแหน่งเลขาธิการคณะ รัฐมนตรีซึ่งเป็นฝ่ายประจำา  เลขาธิการนายกฯ  ท่านน้ีเป็นคนตรง  มือ  สะอาด  มองการณ์ไกลและกล้าท้วงติง  ท่านคุ้นเคยและรู้ใจนายกฯ  ดี  ต้องทำางานวิชาการ  งานเอกสาร  งานการเมือง  งานนโยบาย  งาน  มวลชน งานประสานกบั สภาฯ และนกั การเมือง งานตา่ งประเทศ นบั เปน็ คนเกง่ คลอ่ งแคลว่ วอ่ งไว อา่ นเกมการเมอื งไดด้ แี ละเปน็ ทไ่ี วว้ างใจ ของนายกรัฐมนตรี  ย่ิงนายกฯ  พูดเร็ว  คิดเร็ว  เลขาฯ  ต้องทำาเร็วตาม  ให้ทัน  และขณะเดียวกันต้องละเอียดรอบคอบไม่ปล่อยให้นายพลาด  และตอ้ งทาำ งานชนิดลงรายละเอียดให้หมดทุกเมด็   ผมเองโชคดีได้คุณสุรชัย  ภู่ประเสริฐ  อดีตเลขาธิการคณะ  รัฐมนตรีและเคยเป็นรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีอยู่กับรองนายกฯ  ชุมพล  ศิลปอาชา  มาเป็นเลขาฯ  ให้ผม  เลขานุการของรองนายก  รัฐมนตรีทุกคนเรียกว่า  “รองเลขำธิกำรนำยกรัฐมนตรี”  คือ ยกให้  เลขาธิการนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้า  คุณสุรชัยเรียนกฎหมายรุ่นเดียว กับผมท่ีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  สมัยผมเป็นเลขาธิการ  ครม.  คุณ  สรุ ชยั กเ็ ปน็ รองเลขาฯ ครม.อยกู่ บั ผม เปน็ คนละเอยี ดรอบคอบ แมน่ ยาำ กฎหมาย   ส่วนท่ีปรึกษารองนายกฯ ผมได้ พลตำารวจโท พิจาร จิตติรัตน ์ มาช่วย  คุณพิจารเป็นนายตำารวจเก่า  รู้จักคนมาก  ช่วยประสานกับ  ฝ่ายความม่ันคงให้ผมได้อย่างดี  โดยเฉพาะช่วงที่ผมดูแลกระทรวง ยุติธรรม  ป.ป.ส.  ปปง.  ปปท.  ข้อสำาคัญคือผมไม่ใคร่มีเวลาออกตรวจ  ราชการต่างจังหวัดดูพ้ืนท่ีจังหวัดในความรับผิดชอบก็ได้คุณพิจารไป ตรวจงานให้แทน   นายกรัฐมนตรีมอบโควตาผู้ช่วยรัฐมนตรีมาให้ผมคนหนึ่ง ผม  เสนอแต่งต้ังศาสตราจารย์  ดร.ไชยา  ย้ิมวิไลมาทำาหน้าท่ีน้ี  ช่วย  148

ประสานงานด้านการสร้างความรับรู้ความเข้าใจและการไปบรรยาย  ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: ประชุม  สัมมนาแทนผม  อีกตำาแหน่งท่ีผมได้รับจัดสรรมาคือตำาแหน่ง ประจำาสำานักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี  ซ่ึงผมเสนอแต่งตั้งนายรณภพ  ปัทมะดิษ  เดิมเป็นแพทย์  แต่ถนัดและสนใจงานปฏิรูประบบราชการ  ระเบียบราชการ  มีความละเอียดรอบคอบและมีความคิดสร้างสรรค์ แปลกใหม่แบบ  ๔.๐  หลายเร่ือง  ช่วยงานมาตั้งแต่ผมอยู่ในรัฐบาล รอบก่อนโน้น  ผู้ร่วมงานอื่นคือยืมตัว  ดร.เศรษฐศาสตร์ช่ือ  ศุภฤกษ ์ ภู่พงษ์ศักดิ์จากสำานักงาน  ก.พ.ร.ซ่ึงเป็นศิษย์เก่าหลักสูตรนักบริหาร การเปลย่ี นแปลงภาครฐั ยคุ ใหมร่ นุ่ แรกๆ มาชว่ ยตรวจแฟม้ และหนงั สอื   เขา้ ออก   คุณภาณุมาศ บุญชูช่วยจากสำานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี  และคุณนรุตม์  ธัญวงษ์  ผู้อำานวยการสำานักนิติธรรม  สำานักเลขาธิการ  คณะรัฐมนตรี  คุณกิตตินันต์  เข็มกาญจน์  “เบิร์ด”  ซึ่งเป็นเจ้าหน้าท ี่ ผู้น้อยอยู่กับผมมาต้ังแต่ผมเป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตรีใหม่ๆ ซึ่งรู้ใจ และทำางานได้ต้ังแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ  คุณจรีรัตน์  เข็มกาญจน์จาก  สาำ นกั งานปลดั สาำ นกั นายกรฐั มนตร ี และยงั มเี จา้ หนา้ ทแ่ี ละผมู้ าฝกึ งาน อีก  ๔-๕  คน  ส่วนทีมรักษาความปลอดภัยคร้ังแรกคือนายตำารวจชื่อ  เพลิน  กล่ินพยอม  พออาวุโสข้ึนก็ต้องกลับไปเจริญเติบโตทางราชการ ตำารวจ  ได้นายตำารวจรุ่นเยาว์หน่อยช่ือคุณชัยณรงค์  บูรณศรีมาแทน    ไหนๆ กจ็ ารกึ ความดคี วามชอบใหป้ รากฏแลว้  ตอ้ งมกี ติ ตกิ รรม  ประกาศถงึ คณุ พงษส์ วาท กายอรณุ สทุ ธ ์ิ สตรผี เู้ ปน็ รองเลขาธกิ ารคณะ กรรมการกฤษฎีกา  และคุณพีรพิชญ์  วงศ์วัฒนศานต์  นักกฎหมาย  หนุ่มอนาคตไกลจากสำานักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา  ลูกชายคุณ  ชัยวัฒน์  วงศ์วัฒนศานต์  อดีตเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาซ่ึง  เข้ามาช่วยงานท่านนายกฯ แต่ข้ามฝั่งมาช่วยผมบ้างเป็นครั้งคราวใน  ส่วนท่ีเก่ียวกับการออกคำาส่ัง  คสช.  และคำาส่ังต่างๆ  ของทางราชการ    ทำ่ นเหลำ่ นคี้ วรได้รบั อนโุ มทนำบตั รโดยทั่วกัน! 149

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม กำรเตรยี มตวั ทงั้ หมดท่วี ำ่ มำนี้เป็นเร่อื งธุรกำรและสภำพ แวดลอ้ มการทาำ งาน มเี รอื่ งแปลกวา่ เมอื่ ตอ้ งเลอื กหอ้ งทาำ งาน ผมเลอื ก  หลังคนอื่นให้เขาเลือกก่อน  ลงท้ายผมได้ห้องช้ัน  ๒  ตึกบัญชาการ  ห้องเดียวและห้องเดิมที่ผมเคยใช้เม่ือเป็นรองนายกรัฐมนตรีหนก่อน  หลังจากวา่ งเวน้ หายหนา้ ไป ๘ ปี   ลงทำ้ ยกห็ อ้ งเกำ่ โต๊ะตัวเกำ่ เรยี กวำ่ ทเ่ี กำ่ แตค่ นละเวลำ! การเตรียมเรื่องงานการท่ีจะต้องทำาก็เป็นสิ่งจำาเป็น  เร่ิมต้นต้อง  กางตารางทีน่ ายกฯ แบ่งงาน  ท่านนายกฯ เคยบอกผมแลว้ ว่าไม่ต้อง  กลัว  ไม่ให้ไปดูงานกลาโหมหรือสาธารณสุขหรืออะไรท่ีไม่ถนัด  ผม  จึงได้กำากับราชการด้านกฎหมายเป็นส่วนใหญ่  มีงานด้านสำานักงาน พระพทุ ธศาสนาแหง่ ชาต ิ และกระทรวงวฒั นธรรมพลดั หลงเขา้ มาบา้ ง ในบางครั้งพอให้ต่นื เต้นบ้าง   งานท่ีผมเจอบ่อยคือ การลงนามเป็นจำาเลยทุกเร่ืองแทนนายก  รัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเมื่อถูกฟ้องศาลปกครอง และการไปตอบ กระทู้หรือเสนอร่างกฎหมายต่อสภาฯ  แทนท่านนายกฯ  บางครั้งก็  เป็นงานเปิดประชุม  ปิดประชุม  ปาฐกถา  บรรยาย  ให้โอวาท  ให้ศีล  ให้พรไปตามเร่อื ง   การเป็นรัฐมนตรีน้ันเขาไม่ให้รับของขวัญหรือทรัพย์สินเกิน  ๓,๐๐๐ บาท ซึ่งต้องระวัง จะหลงหหู ลงตาบา้ งกต็ รงทไ่ี มร่ วู้ า่ ของนน้ั   ก่ีบาท  บางทีห่อมามิดชิดกลับมาเปิดที่บ้านถึงรู้ว่าเกิน  ๓,๐๐๐  บาท  นายกฯ  อภิสิทธิ์เคยรับแหวนทองเกล้ียงๆ  จากป้าคนหน่ึง  มีคนเอะอะ  โวยวายจับผิดว่าเกิน  ๓,๐๐๐  บาท  ซึ่งท่านก็รับพอเป็นบุญกิริยาแล้ว  คืนไป  นายกฯ  ประยุทธ์ไปตรวจราชการเจอเขานำาสุนัขพันธุ์บางแก้ว  มาโชว์  ก็เอ็นดูสุนัขและสงสารชาวบ้านจึงขอซ้ือและแสดงเจตนาจะ  ให้รัฐมนตรีมหาดไทยแบ่งเอาไปเลี้ยงเอาบุญ  ผู้ส่ือข่าวก็โวยวายว่า  เกิน ๓,๐๐๐ บาท รัฐมนตรอี นุพงษ์รทู้ ันจึงรบี ตอบกลบั วา่ ใหก้ ็ไมเ่ อา   ตอนผมเป็นรองนายกฯ ได้ไม่กี่วัน มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งเชิญ  150


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook