Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รวมลงเรือแป๊ะ

รวมลงเรือแป๊ะ

Published by waiyasusri, 2021-02-13 06:22:42

Description: รวมลงเรือแป๊ะ

Search

Read the Text Version

รฐั ธรรมนญู ฉบับชั่วคราว คสช.บริหำรรำชกำรแผ่นดนิ ในฐำนะรัฐบำลและฝำ่ ยนติ -ิ บัญญัติมาได้ราว  ๑  เดือนก็มีดำาริว่าควรจัดให้มีรัฐธรรมนูญฉบับ ชั่วคราวเพือ่ ใช้บงั คบั กอ่ นจะมีการยกรา่ งรฐั ธรรมนญู ฉบบั ถาวรไดแ้ ล้ว  ดำารินี้แปลว่าบัดนี้สถานการณ์เร่ิมจะลดความเข้มงวดทางการเมืองลง  สอ่ื มวลชนใชค้ าำ วา่  คสช.กาำ ลงั จะรอ่ นลง เพราะการมรี ฐั ธรรมนญู ฉบบั   ช่ัวคราวหมายความว่าคณะรักษาความสงบแห่งชาติกำาลังจะยุต ิ ความเป็นรัฏฐาธิปัตย์แล้วเข้ามาอยู่ในกรอบกติกาท่ีเปิดเผย  ถึงแม้  จะเป็นกรอบกติกาท่ีตัวเองมีส่วนกำาหนดก็เถอะ  เพราะก่อนการมี  รัฐธรรมนญู ฉบับช่ัวคราวไมม่ ีกรอบอำานาจใดๆ    รัฏฐาธิปัตย์มาจากคำาว่า “รัฏฐ+อธิปัตย์” ตรงกับคำาในภาษา  องั กฤษวา่  Sovereign แปลวา่ ผเู้ ปน็ ใหญใ่ นแผน่ ดนิ  ใครจะเปน็ รฏั ฐา-  ธิปัตย์ก็ข้ึนอยู่กับกฎระเบียบการปกครองแผ่นดินน้ันๆ  ถ้าเป็นสมัย  สมบูรณาญาสิทธิราชย์  พระราชามหากษัตริย์ทรงเป็นรัฏฐาธิปัตย์  ถ้า  เป็นสมัยประชาธิปไตย  ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่าอธิปไตยเป็นของประชา  ประชาชนจึงเป็นรัฏฐาธิปัตย์  เมื่อมีการปฏิวัติรัฐประหาร  คณะผู้ยึด  51

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม อำานาจรัฐจึงเป็นรัฏฐาธิปัตย์  คำาสั่งของคณะดังกล่าวเป็นกฎหมาย  ของบ้านเมือง เคยมีคำาพิพากษาของศาลฎีกาของไทยรับรองเรื่องน้ีไว ้ แม้จะมีบางคนไม่เห็นด้วยและคัดค้านผลของคำาพิพากษาเช่นว่านั้น  แตห่ ลักนก้ี ็ใชต้ ลอดมา   คสช.มอบหมายให้ผมรับไปยกร่างรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว  โดยใหแ้ นวทางมาสน้ั ๆ ๓-๔ ขอ้  และมคี ณะกรรมการ อาท ิ อาจารยม์ ชี ยั   ฤชุพันธุ์ อาจารย์บวรศักดิ์ อุวรรณโณ อาจารย์พรเพชร  วิชิตชลชัย  อาจารยส์ มคดิ  เลศิ ไพฑรู ย ์ ทาำ หนา้ ทย่ี กรา่ งใหเ้ สรจ็ โดยเรว็  ทง้ั น ้ี มนี าย  ทหารพระธรรมนูญมาคอยจดประเด็นเหมือนฝ่ายเลขานุการด้วย  แต ่ กม็ าบา้ งไม่มาบา้ งลงทา้ ยก็หายหนา้ ไป   การรา่ งรฐั ธรรมนญู ฉบบั ชวั่ คราวใชเ้ วลาราว ๑๐ วนั กแ็ ลว้ เสรจ็   และส่งให้คณะที่ปรึกษาของ  คสช.และฝ่ายกฎหมายของ  คสช.  พิจารณา  ท้ัง  ๒  คณะเสนอความเห็นตรงไปยังหัวหน้า  คสช.ซ่ึงก็ได ้ รับคำาท้วงติงเล็กน้อยและส่งบางคำาถามกลับมา ระหว่างน้ันผมไม่เคย  พบหวั หนา้  คสช.เลย แตก่ ม็ พี ลเอกประวิตรเป็นประธานคณะท่ีปรึกษา  คสช.เป็นสะพานเช่ือมอยู่ตลอดเวลา  จนกระท่ังวันที่  ๑๙  กรกฎาคม  พ.ศ.๒๕๕๗ ผมจงึ ไดร้ บั คาำ สงั่ ใหเ้ ขา้ ชแี้ จงแถลงไขรา่ งรฐั ธรรมนญู ฉบบั   ช่ัวคราวท้ังฉบับต่อที่ประชุม  คสช.เต็มคณะท่ีห้องประชุมกองบัญชา-  การกองทัพบก ถนนราชดาำ เนนิ นอก   การชี้แจงในวันน้ันเป็นคร้ังแรกหลังการยึดอำานาจที่ผมพบ  พลเอกประยุทธ์  และเป็นครั้งแรกที่ผมพบ  คสช.ทั้งคณะ  ซึ่งหลายคน  ผมไม่เคยรู้จักและไม่เคยพบมาก่อน เมื่อผมพบพลเอก  อุดมเดช  สีตบุตร  เลขาธิการ  คสช.มาต้อนรับ  ผมยังไม่รู้เลยว่านายทหารกิริยา  มารยาทเรียบร้อยนุ่มนวลผู้น้ีเป็นใคร  อีกไม่ก่ีเดือนต่อมาท่านผู้น้ีได ้ เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมและ  ผบ.ทบ.    ในการช้ีแจง  วันน้ันบรรยากาศเป็นทางการน่าตื่นเต้นยำาเกรงมากโดยเฉพาะเม่ือ  ตระหนักว่าน่ีคือคณะรัฏฐาธิปัตย์ซ่ึงบันดาลอนาคตประเทศได้  คสช.  ทุกคนจึงทำาการบ้านมาอย่างดี  ซักอย่างละเอียดเพ่ือให้แน่ใจว่าร่าง  52

รัฐธรรมนญู อุดช่องร่องรอยปญั หาทางกฎหมายและการเมืองไดจ้ ริง ŧàÃÍ× á»Ðˆ ::   ผมจาำ ไดแ้ มน่ วา่  เมอ่ื ถงึ มาตรา ๔๔ ซง่ึ เปน็ การใหอ้ าำ นาจพเิ ศษ  แก่  คสช.สำาหรับแก้วิกฤตต่างๆ  ที่เกิดขึ้น  ที่ประชุมใช้เวลาพิจารณา  มาตรานี้นาน  หัวหน้า  คสช.สรุปว่าเราไม่อยากเป็นเผด็จการ  แต่เมื่อ  ยึดอำานาจมาแล้วก็ไม่อยากให้เสียของ  ไม่อยากเห็นบ้านเมืองถอย  หลังกลับไปสู่วิกฤตหรือทางตันอีก  ไม่อยากเห็นความขัดแย้งรุนแรง แบบบ้านเมืองใกล้ล้มละลายกลับมาอีก  จึงจำาเป็นต้องมีอำานาจพิเศษ  นี้เป็นอาวุธหรือเคร่ืองมือ  มิฉะน้ันถ้าถึงทางตันเหมือนท่ีผ่านมาแล้ว  เราจะเสียใจว่าทำาอะไรก็ไม่ได้  หรือช้าไม่ทันการจนเสียของ  แต่ขอให้ ความม่ันใจว่าอำานาจพิเศษน้ีจะไม่ใช้แทรกแซงอำานาจตุลาการ จะไม่ ใชม้ าตรานยี้ งิ เปา้ ใคร จบั เอง สอบสวนเอง ตดั สนิ คดเี องเหมอื นมาตรา  ๑๗  ท่ีผ่านมา  แต่จะทำาให้คนได้เห็นว่าอำานาจพิเศษนี้สามารถใช้เพื่อ  แก้ปญั หาสังคมและสรา้ งสรรค์หรือ constructive purpose ได้   วันหน่ึงจะเห็นว่าแม้ คสช.ไม่อยากใช้อำานาจพิเศษนี้ แต่จะม ี ประชาชนมาคะยน้ั คะยอวา่ ชว่ ยใชอ้ าำ นาจพเิ ศษนแี้ กป้ ญั หาใหเ้ ขาทเี ถดิ   53

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม เพราะไม่รจู้ ะพึ่งทางไหนแล้ว ซ่งึ เรอ่ื งนี้เป็นความจรงิ ในเวลาต่อมา   อกี ประเดน็ ทมี่ กี ำรพดู กนั มำกคอื เมอ่ื กำรยกรำ่ งรฐั ธรรมนญู ฉบับถาวรเสร็จส้ินลงในอนาคต  ซึ่งตกลงกันแล้วว่าจะใช้คณะกรรมา-  ธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ  ๓๖  คนไปยกร่าง  จะควรเปิดให้มีการออก  เสียงประชามติก่อนประกาศใช้เหมือนคราวจัดทำารัฐธรรมนูญ  พ.ศ.  ๒๕๕๐  หรือไม่  คสช.ได้ถามข้อดีข้อเสียของการลงประชามติ   ผมฉายแผ่นใสช้ีแจงว่า ข้อดีคือ ๑. เป็นการสร้างการยอมรับ  จากประชาชน  ต่อไปใครจะแก้ไขหรือหักล้างจะต้องมีเหตุผลพิเศษ  จรงิ ๆ ๒. รฐั ธรรมนญู ฉบบั กอ่ นหนา้ นคี้ อื ฉบบั  พ.ศ.๒๕๕๐ เคยผา่ นการ  ลงประชามติมาแล้ว  ส่วนข้อเสียคือ  ๑.  ทำาให้กระบวนการประกาศใช้  รฐั ธรรมนญู ลา่ ชา้ ออกไปหลายเดอื น ๒. ตอ้ งมคี า่ ใชจ้ า่ ยหลายพนั ลา้ น  บาท  ในท่ีสุด  คสช.ก็เห็นว่าในขณะน้ียังไม่ต้องกำาหนดเร่ืองประชามติ  แต่เมื่อผ่านไประยะหนึ่งแล้วค่อยฟังความเห็นประชาชน หากค่อนไป  ในทางอยากให้มีการลงประชามติก็ให้แก้ไขรัฐธรรมนูญชั่วคราว เปิด  ทางให้มีการลงประชามติซ่ึงต่อมาได้แก้ไขเช่นน้ัน   เม่ือการช้ีแจงสิ้นสุดลงก่อนจะลากลับ พลเอกประยุทธ์นำาผม  เข้าไปในห้องทำางานของท่าน  บอกให้เข้าไปไหว้พระในห้องพระซ่ึงอยู่  ชั้นในของห้องทำางาน  ในนั้นมีพระพุทธรูป  พระธาตุ  หลวงพ่อและ  พระบรมรปู ตา่ งๆ อยหู่ ลายองค ์ ทา่ นบอกดว้ ยวา่ พระในหอ้ งนศ้ี กั ดสิ์ ทิ ธ ์ิ ใครขออะไรมักบันดาลให้สำาเร็จทุกราย  เวลาจะทำาการสำาคัญอันใด  ท่านจะมาน่ังสงบจิตอธิษฐานในห้องน้ีเสมอ  ผมเห็นท่านย้ิมแย้ม  อารมณ์ดีไม่เหมือนตอนออกโทรทัศน์  จึงตอบไปว่าคงศักด์ิสิทธ์ิทั้ง  หอ้ งแหละครบั  เพราะชน้ั นอกเปน็ ถงึ รฏั ฐาธปิ ตั ย ์ ชน้ั ในเปน็ พระสาำ คญั   ยามนี้ชั้นนอกชั้นในบันดาลได้หมด  ท่านหัวเราะย้อนตอบทันทีว่า  กฎหมายท่ีอาจารย์เพิ่งช้ีแจงน่ะกำาลังจะสลายอำานาจรัฏฐาธิปัตย์อยู ่ แล้ว  ต่อไปนี้  คสช.บันดาลอะไรไม่ได้แล้ว  ตัวใครตัวมัน  พ่ึงแต่พระ  เอาเองก็แล้วกัน 54

  เมอื่ เสรจ็ หนา้ ท ่ี ผมกไ็ ปเทย่ี วโปรวองซใ์ นฝรงั่ เศส ไปดทู งุ่ ลาเวน-  ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: เดอร์กับครอบครัว  ทริปน้ีนัดไว้ก่อนเป็นปีแล้ว  หัวหน้า  คสช.รู้เข้ายัง  บอกว่าอิจฉาจัง!  แถมยังบอกว่าเที่ยวให้สนุก พอหายเหน่ือยแล้ว  กลับมาช่วยบ้านเมืองนะ   วนั ท ี่ ๒๒ กรกฎำคม พ.ศ.๒๕๕๗ สองเดอื นเปะ๊ หลงั กำรยดึ   อำ� นำจ จงึ ไดม้ กี ำรประกำศใชร้ ฐั ธรรมนญู แหง่ รำชอำณำจกั รไทย  ฉบับชัว่ ครำว     55

สดุ ทา ยท้ังหมดจะมารวมกนั ดุจแมน าํ้ ทกุ สายไหลลงสูมหาสมทุ ร นัน่ คือความเจริญวฒั นาสถาพร ความสงบสุข และความรรู กั สามคั คีรวมกัน

แมน่ �้า ๕ สาย หลังประกำศใช้รัฐธรรมนูญฉบับชั่วครำวได้วันเดียว หัวหน้า  คสช.ได้ส่ังให้มีการแถลงข่าวเพื่อช้ีแจงเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ  ฉบบั ชวั่ คราวและทศิ ทางการเมอื งในอนาคตตามบทบญั ญตั ริ ฐั ธรรมนญู   นี้ต่อผู้สื่อข่าวไทยและต่างประเทศที่ตึกสันติไมตรี  ทำาเนียบรัฐบาล  และให้ออกอากาศแพร่ภาพทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจด้วยใน  เช้าวันที่  ๒๓  กรกฎาคม  พ.ศ.๒๕๕๗  คณะผู้ช้ีแจงมีพลเอก  ไพบูลย ์ คุ้มฉายา  อาจารย์พรเพชร  วิชิตชลชัย  และผม   เม่ือต้องตั้งโต๊ะอธิบายกลไกการปกครองต่อจากน้ีไปว่าใครจะ  ต้องทำาอะไร  มีบทบาทอย่างไร  เพราะตามรัฐธรรมนูญฉบับช่ัวคราว  มีองค์กรใหม่ๆ  เกิดขึ้นหลายองค์กร  ผู้ส่ือข่าวเกรงว่าจะแย่งงานกัน  ทำาหรือขัดแย้งกันเองจึงซักหนักว่าแต่ละองค์กรจะอยู่กันอย่างไร  เจ ๊ ยุหรือยุวดี  ธัญสิริ  นักข่าวอาวุโสประจำาทำาเนียบรัฐบาล  ซักว่าวาง  กลไกไว้มากเกินไปพะรุงพะรัง  ควรยุบๆ  เสียบ้าง  เปลืองเงิน  ดีไม่ดี  ต่างก็จะพดู มากเปลอื งนาำ้ ลายเปลา่ ๆ   ผมไมร่ จู้ ะอปุ มาอยา่ งไรใหเ้ จแ๊ กฟงั  จงึ ตอบไปวา่ บา้ นเมอื งเวลา  นี้ไม่ใช่ภาวะปกติ  ถ้ามันปกติดีก็คงไม่ต้องยึดอำานาจ  ขณะเดียวกัน  57

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม ภารกิจท่ีจะต้องทำาก็มีหลายอย่าง  ไหนจะต้องร่างรัฐธรรมนูญฉบับ  ใหม่เตรียมรับการเลือกตั้ง  ไหนจะต้องเตรียมการปฏิรูป  ไหนจะต้อง  สร้างความปรองดอง  เรียกความสงบสุขกลับคืนมา  ไหนจะต้องออก  กฎหมายซึ่งอ้ันไว้ต้ังหลายปีไม่ได้คลอดออกมา  ไหนจะต้องบริหาร  ราชการแผ่นดินและพัฒนาประเทศตามแบบรัฐบาลท่ัวไป ถ้าให้ฝ่าย  เดียวทำาภารกิจทุกอย่างก็จะหาว่าเผด็จการรวบอำานาจช้ีเป็นชี้ตาย  อยู่ฝ่ายเดียว  ในท่ีสุดก็ต้องแยกอำานาจแยกหน้าที่จะได้แบ่งกันทำา  แบ่งกันรับผิดชอบ  และเร่ืองจะได้เร็วขึ้น  ในที่สุดแล้วก็จะนำาไปสู่จุด  หมายปลายทางเดียวกันน่ันแหละ   ผมเกรงว่าพูดเทา่ ไร เจแ๊ กจะไม่เขา้ ใจ นึกอะไรไมอ่ อกจงึ อุปมา  ขึ้นสดๆ  ร้อนๆ  ว่า  แต่ละองค์กรท่ีต้ังข้ึนอุปมาเหมือนแม่น้ำา  ๕  สาย  ไหลมาจากท่ีต่างๆ  กันแต่จะไปรวมเป็นมหาชลาสินธุ์สายเดียวกัน  กลายเป็นมหาสมุทรกว้างใหญ่ในที่สุด   แม่น้ำาสายแรกคือคณะรักษาความสงบแห่งชาติหรือ คสช.ม ี จำานวนไม่เกิน  ๑๕  คน  ทำาหน้าที่ดูแลรักษาความสงบท่ัวไป  และใช้  อำานาจพเิ ศษตามมาตรา ๔๔ ในเวลาจาำ เปน็   แม่นำ้าสายที่ ๒ คือสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สมาชิกมาจาก  การแต่งตั้งไม่เกิน  ๒๒๐  คน  ต่อมาแก้ไขเป็นไม่เกิน  ๒๕๐  คน  ทำา  หน้าที่ออกกฎหมายและควบคุมรัฐบาล   แม่นำ้าสายท่ี ๓ คือคณะรัฐมนตรี ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรี  ซึ่งมาจากความเห็นชอบของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ  และรัฐมนตรี  อื่นอีกไม่เกิน  ๓๕  คน  มีหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน  ปฏิรูปประเทศ  และสร้างความสามัคคีปรองดอง   แม่น้ำาสายที่  ๔  คือคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ  ม ี จาำ นวนไม่เกิน ๓๖ คน มหี นา้ ท่ยี กรา่ งรัฐธรรมนญู ฉบบั ใหม ่ (ต่อไปจะ  เปล่ยี นไปเป็นคณะกรรมการรา่ งรฐั ธรรมนูญ)   แม่นำ้าสายที่ ๕ คือสภาปฏิรูปแห่งชาติ มีสมาชิกไม่เกิน ๒๐๐  คน มหี นา้ ทจ่ี ดั ทาำ แผนการปฏริ ปู ดา้ นตา่ งๆ เพอ่ื ใหร้ ฐั บาลรบั ไปดาำ เนนิ   58

การตอ่ ไป (สภานต้ี อ่ ไปจะเปลย่ี นเปน็ สภาขบั เคลอื่ นการปฏริ ปู ประเทศ  ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: และเปล่ียนอีกทเี ปน็ คณะกรรมการปฏริ ูปประเทศดา้ นต่างๆ)   เห็นไหมว่าภารกิจเหล่าน้ีหนักหนาสาหัสและใหญ่หลวงนัก  เกินกว่าจะให้ใครทำาแต่ลำาพัง  เม่ือแยกกันทำาก็จะมีคนหลากหลาย  ความรู้และความคิดเข้ามาเกี่ยวข้องและงานจะเดินได้ไว  แต่สุดท้าย  ท้งั หมดจะมารวมกันดุจแม่นา้ำ ทุกสายไหลลงส่มู หาสมทุ ร น่นั คอื ความ  เจริญวัฒนาสถาพร  ความสงบสุข  และความรู้รักสามัคคีร่วมกัน  ตอน  น้ันผมยังไม่รู้จักคำาว่า  ยุทธศาสตร์ชาติ  ไม่รู้จักคำาว่า  ม่ันคง  ม่ังค่ัง  ยง่ั ยนื  ไมร่ จู้ กั คาำ วา่  ไทยแลนด ์ ๔.๐ จงึ ไมไ่ ดใ้ ชค้ าำ เหลา่ น!้ี  ไหนๆ กช็ กั   แม่น้ำาท้ัง  ๕  กล่อมคนฟังแล้วจึงคิดได้คำาเชยๆ  ว่าแม่นำ้า  ๕  สาย!   สรุปคือเรำจ�ำเป็นต้องมีแม่น้�ำ ๕ สำย! ผมชักแม่น้ำาท้ัง  ๕  จนน่าจะพอเคลิ้มตามได้บ้าง  เพราะไม่เห็น  เจ๊ว่ากระไร  นับแต่น้ันมารู้สึกว่าคำาน้ีจะติดปากผู้คน  อาจจะฟังเข้าใจ  งา่ ย หนงั สอื พมิ พพ์ าดหวั วา่  วษิ ณชุ กั แมน่ าำ้ ทง้ั  ๕ กลอ่ มกลางทาำ เนยี บ    สำานวนชักแม่น้ำาทั้ง ๕ เป็นสำานวนไทยแท้แต่โบราณ เก่ากว่า  ลงเรือแป๊ะเสียอีก  หมายถึงการอ้างสารพัดสารเพเพ่ือให้คล้อยตาม  มาจากเร่อื งมหาเวสสันดรชาดกหรอื มหาชาตคิ ำาหลวง ตอนชูชกไปทลู   ขอสองกุมารจากพระเวสสันดร ตาเฒ่าแกเกรงว่าพระเวสสันดรจะไม ่ ให้ก็ชักแม่น้ำาศักดิ์สิทธ์ิทั้ง  ๕  สายในอินเดียคือ  แม่นำ้าคงคา  แม่นำ้า  ยมุนา  แม่นำ้ามหิ  แม่น้ำาสรภู  และแม่นำ้าอจิรวดีมาอ้าง  เพ่ือกล่อมพระ  เวสสันดร  ซ่ึงความจริงก็อ้างส่งเดชไปงั้นเองไม่เก่ียวกัน  แต่ชูชกนึก  อะไรไมอ่ อก ไมร่ วู้ า่ ทาำ ไมไมย่ กสวรรค ์ ๑๖ ชนั้ ฟา้  ๑๕ ชนั้ ดนิ  ภเู ขาทงั้   ๗  หรือทวีปท้ัง  ๔  มาอ้าง  โบราณาจารย์ท่านพรรณนาความตอนน้ีไว ้ ในมหาชาติคำาหลวงตั้งแต่สมัยอยุธยา  ไพเราะนักว่า   “อันแม่น้�ำท้ังห้ำกระแสชลชลำ ไหลมำจำกห้วงคงคำเป็นห้ำ แถว นองไปด้วยน้�ำแนวเต็มฝง่ั ฝำ นำมชอ่ื คงคำ ยมนุ ำ อจริ วด ี สรภนู ที มหิมหำสำคเรศ จึงแตกเป็นนิเทศกุนทีน้อยๆ ประมำณห้ำร้อยโดย สังขยำ ไหลหล่ังถ่ังมำลบล้น” 59

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม พระเวสสนั ดรฟงั แลว้ กเ็ คลม้ิ  “ปำงนนั้ สมเดจ็ พระบรมนรำพสิ ทุ ธิ์ พุทธำงกูรได้ฟังพรำหมณ์อธิบำยทูลขอสองกุมำร มีน้�ำพระทัยชื่นบำน เอิบอำบ” ความจรงิ แรกๆ พลเอกประยทุ ธไ์ ดย้ นิ คาำ วา่ แมน่ า้ำ  ๕ สาย ทา่ น  ก็ไม่ได้ช่ืนบานเอิบอาบกับสำานวนน้ีนัก  เพราะท่านเคยเปรยกับผมว่า  แม่นำ้า  ๕  สายไม่ได้แยกกันแบบต่างคนต่างไหลมานะ  เพราะ  คสช.  เป็นใหญ่สดุ  เป็นต้นธารของแม่นำ้าทกุ สาย จงึ ควรมแี ค ่ ๔ สายไหลไป  จาก  คสช.ก็พอ  ขอให้แยก  คสช.ไว้ต่างหาก  แต่ผมเรียนว่าก็แม่น้ำา  ๕  สายนั้น  มหาเวสสันดรชาดกยังระบุว่า  “อันแม่น�้ำทั้งห้ำกระแสสำย ชลชลำ ไหลมำจำกหว้ งคงคำเปน็ หำ้ แถว” คอื แมน่ า้ำ ทง้ั  ๔ แยกไปจาก  คงคาทง้ั นน้ั  แตโ่ บราณกย็ งั นบั คงคารวมเขา้ ไวเ้ ปน็  ๑ ใน ๕ แถว คสช. เป็นคงคาต้นน้ำาก็จริง  แต่นับเป็น  ๑  แถว  แถวสำาคัญท่ีสุดเสียด้วย  ถ้ามีแค่  ๔  สายจะเป็นปิง  วัง  ยม  น่านไหลรวมเป็นแม่น้ำาเจ้าพระยา  ดูธรรมดาพ้ืนบ้านไป  ให้เขาเรียกรัฐบาลแม่น้ำา  ๕  สายดีกว่าถูกเขา  ค่อนขอดเรียกว่ารัฐบาลปากนำ้าโพ  ท่านถามว่าเอางั้นเหรอ  หลังๆ  ก ็ เลยตามเลย  ๕  สายก็  ๕  สาย   แม่นำ้า ๕ สายเป็นแม่นำ้าศักด์ิสิทธ์ิ เรียกเป็นทางการว่าปัญจ  มหานที  คติอินเดียโบราณ  จะทำาพิธีอะไรก็ต้องใช้นำ้าจากแม่นำ้าทั้ง  ๕  มาประกอบพิธีจึงจะได้ผล  ในเรื่องรามเกียรติ์ตอนพระลักษมณ์ถูก  หอกโมกขศักด์ิจวนเจียนจะสิ้นชีวิต  พิเภกทูลพระรามว่ามีวิธีแก้  พระ  รามเหน็ ดว้ ย         “จง่ึ มพี ระรำชบรรหำร ตรัสส่งั หนมุ ำนชำญสมร ท่ำนจงไปห้ำมพระทินกร ให้งดกอ่ นอยำ่ เพ่อจรลี แล้วรบี ไปเกบ็ โอสถ โดยกำ� หนดพเิ ภกยักษี อันปญั จมหำนที มีอย่ใู นกรงุ อยุธยำ จงแจง้ ท้ังสองนอ้ งรัก วำ่ พระลกั ษมณต์ อ้ งหอกยกั ษำ จะขอน้ำ� ปัญจคงคำ ประกอบยำแกห้ อกกุมภณั ฑ์” 60

  พระมหากษัตริย์ไทยในสมัยโบราณเวลาทำาพิธีบรมราชาภิเษก  ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: กจ็ ะมกี ารถวายน้ำาสรงมรุ ธาภเิ ษกเจอื ดว้ ยนาำ้ จากแมน่ า้ำ  ๕ สายนี้  คาำ   ว่า  “สรงมุรธาภิเษก”  แปลว่า  อาบนำ้าต้ังแต่ศีรษะ  (มุรธา)  จนตลอด  ทั้งร่าง  ซึ่งระยะหลังใช้วิธีไขสหัสธาราโปรยปรายลงมาจากฝักบัว  (shower)  แต่บางคร้ังการเดินทางไปเอานำ้ามาจากอินเดียทำาได้ยาก  จึงใชน้ ้าำ จากแมน่ ้ำา ๕ สายสาำ คญั ในประเทศไทย คอื  แมน่ าำ้ บางปะกง  แมน่ าำ้ เจา้ พระยา แมน่ าำ้ ปา่ สกั  แมน่ า้ำ ราชบรุ  ี และแมน่ า้ำ เพชรบรุ  ี สมมตุ  ิ เป็นปัญจมหานทีแทนเรียกช่ือว่า  “เบญจสุทธคงคา”    สมัยบรมราชา  ภิเษกรัชกาลที่  ๙  ใน  พ.ศ.  ๒๔๙๓  ได้นำานำ้าจากปัญจมหานทีมาเจือ  เป็นนำ้าสรงมุรธาภิเษก  แต่สมัยบรมราชาภิเษกรัชกาลที่  ๑๐  ได้ใช้  เฉพาะเบญจสุทธคงคา  ๕  สายในประเทศไทยผสมกับนำ้าจากสระ  โบราณ ๔ สระทีส่ พุ รรณบรุ ีเป็นนาำ้ สรงมรุ ธาภเิ ษก   พดู ถงึ  “เจย๊ ”ุ  หรอื ยวุ ดตี อนนท้ี ำ่ นถงึ แกก่ รรมไปแลว้  ทำ่ น มีอายุมากกว่าผม  คุ้นกันมาตั้งแต่ผมเป็นเลขาธิการคณะรัฐมนตร ี อาศัยว่าเจ๊อยู่ทำาเนียบรัฐบาลมานาน  ใครๆ  จึงยกให้เป็นต้ัวเจ๊  เวลา  ซักถามอะไรมักถามสั้นๆ  แต่หนักหน่วง  เจ็บแสบ  ผมได้เจ๊เป็นครูอยู ่ หลายเรื่อง บางทีถูกผู้ส่ือข่าวซักจวนเจยี นจะจนมุม เจแ๊ กกส็ ะกดิ วา่   พอแลว้  เดนิ เลยี่ งไปเถอะ บางทกี ใ็ ชอ้ ทิ ธพิ ลเจใ๊ หญ ่ แกลง้ ถามเปลย่ี น  เรอื่ งแทรกขนึ้ ดอื้ ๆ เพราะแกคิดว่าคำาถามของคนอ่ืนก่อนหน้าน้ีถ้าผม  ตอบจะเพล่ยี งพลา้ำ เปล่าๆ   เวลาวา่ งเจช๊ อบมาคยุ กบั ผมในเรอ่ื งทไ่ี มใ่ ชก่ ารเมอื ง แตเ่ ปน็ การ  แนะนาำ รา้ นอาหารอรอ่ ยหรอื ชวนไปทวั รเ์ มอื งนอก เจไ๊ ปลอสแอนเจลสิ   ก็มาเล่าให้ฟัง  กลับจากฮาวายก็มาเล่าให้ฟัง  ไม่มีวิญญาณนักข่าว  ดุเดือดเลย มีแต่ความเป็นเพื่อน เมอ่ื เจป๊ ว่ ยผมกไ็ ปเยยี่ มทโี่ รงพยาบาล  เม่ือเจ๊ถึงแก่กรรม  ผมก็ใจหายว่าต่อไปน้ีขาดตัวช่วยแล้ว  ท่านนายกฯ  ยงั ไปรดน้าำ ศพและบอกกับญาติเจ๊ว่า เสียดายนะ 61

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม   เพรำะค�ำถำมเจ็บๆ แสบๆ ของเจ๊น่ีแหละถึงได้เกิดแม่น�้ำ ๕ สำยขน้ึ ! แมน่ า้ำ  ๕ สายลว้ นลงเรอื แปะ๊ มาดว้ ยกนั ทง้ั นนั้  แตจ่ ะวา่ ตามใจ  แป๊ะหมดก็คงไม่ได้  ระยะแรกแต่ละฝ่ายยอมรับสภาพกันดีว่าตนเป็น  แม่นำ้าสายหน่ึงในปัญจมหานทีหรือเบญจสุทธคงคา  และมีจุดหมาย  ปลายทางเดียวกันคือมุ่งจะเห็นความสงบเรียบร้อย  ความสามัคคี  ปรองดอง การแกป้ ญั หาเกา่ ๆ และการพฒั นาประเทศตามยทุ ธศาสตร์  ชาติ   แต่อยู่ๆ ไปเร่ืองจะให้พยักหน้าว่าไงว่าตามกันไปหมด เอาเข้า  จริงแลว้ เห็นจะไม่ใช ่ เพราะพอผโู้ ดยสารเรือแปะ๊ มหี ลายฝ่ายหลายคน  มากหมอกเ็ รม่ิ มากความ ยง่ิ บางคนเปน็ ผหู้ ลกั ผใู้ หญ ่ มคี วามคดิ ความ เหน็ เปน็ ของตวั เอง อยไู่ ปสกั พกั ทา่ นกไ็ มย่ อมตามใจแปะ๊ ไดเ้ หมอื นกนั   ดังที่เกิดเหตุมาแล้วหลายเร่ือง  บางคร้ังแป๊ะก็หงุดหงิดเอาบ้าง  บ่อย  ครั้งที่แป๊ะไม่ทันได้ว่าอะไร บางทยี งั บอกวา่  “เอำงนั้ เหรอ เอำงน้ั กไ็ ด”้   แตม่ คี นตงั้ ตวั เปน็  “วปิ ” อา้ งความเปน็ คนใกลช้ ดิ หรอื มขี อ้ มลู พเิ ศษเอา  แปะ๊ ไปอา้ งถกู ๆ ผดิ ๆ จนแป๊ะต้องเดือดร้อนออกมาเอ็ดบ่อยๆ เหมือน  กันว่า  “ซี้ซั้วต่ำ อั๊วป่ำวนำ”  เร่ืองอย่างนี้เจอบ่อยในหมู่  สนช.  คณะ  กรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญหรือที่ต่อมาเปล่ียนเป็นคณะกรรมการ  ร่างรัฐธรรมนูญ  และสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติหรือต่อมาเปลี่ยนเป็น  สมาชกิ สภาขบั เคลอ่ื นการปฏริ ปู ประเทศ มแี ตค่ ณะรฐั มนตรแี ละคณะ  รักษาความสงบแห่งชาติท่ีมีวินัยในการน่ังเรือ  อาจเง่ียหูฟังแป๊ะมาก  หน่อยเพราะนั่งเรืออยู่ใกล้ชิดแป๊ะ  เจอกันทุกวัน  และแป๊ะเป็นผู้บังคับ  บญั ชาสายตรง   แมน่ าำ้  ๕ สายนเ้ี มอ่ื อยไู่ ปถงึ ปลายป ี ๒๕๖๑ กเ็ หลอื แค ่ ๓ สาย  คอื  คสช. ครม.และ สนช. เพราะอกี  ๒ สายคอื  สปท.และ กรธ.ทยอย  สน้ิ สดุ ไปกอ่ นแลว้   บางคร้ังนโยบายและแนวทางของแป๊ะออกมาชัดเจน แต่ลูก  เรือหรือผู้โดยสารเรือแป๊ะหรือแม่นำ้าบางสาย บางคน บางกลุ่มชักฟิต  62

ข้ึนมาเปิดตำาราค้านบ้าง  ดับเครื่องชนบ้าง  โดยแสดงออกทางการ  ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: อภิปรายในท่ีประชุม  การให้สัมภาษณ์หรือการลงมือทำาสวนทางกัน  เกดิ ไขวเ้ ขวสง่ สญั ญาณชว่ งชงิ การนาำ จนสบั สนจบั ตน้ ชนปลายกบั แมน่ าำ้   สายอื่นไมถ่ ูก   ผมเคยหลุดปากตัดพ้อไปว่า  อย่าเหาะเกินลงกากันนักเลย  ร่อนลงตรงเมืองลงกาเสียทีเถิด  คล้ายๆ  จะติงว่าอย่าเลยธงนั้นเอง  สำานวนเหาะเกินลงกามาจากรามเกียรติ์ตอนพระรามใช้ให้หนุมานนำา  แหวนไปถวายนางสีดาซึ่งถูกทศกัณฐ์จับตัวไปไว้ท่ีกรุงลงกา  หนุมาน  ได้ทีก็ร้อนวิชารีบเหาะเหินเดินอากาศ  ตีลังกาพรวดพราดไปโดย  รวดเร็วจนเลยกรุงลงกาไปไกล  ต้องเสียเวลาเหาะย้อนกลับ  เป็นอัน  เสียการเสียงาน   พระราชนิพนธ์ล้นเกล้าฯ รัชกาลท่ี ๑ ในตอนน้ีมีว่า       “ลอยลว่ิ ปลิวมำตำมลมกรด ตกถงึ โสฬสเขำใหญ่ เกินเมืองลงกำลงไป หมำยใจว่ำนิลคีรี”   ส�ำนวนเหำะเกินลงกำจึงเป็นวำทกรรมฮิตฟื้นควำมรู้เรื่อง  รำมเกยี รติอ์ ยู่ระยะหนง่ึ 63

การยดึ อํานาจจะถูกหรือผดิ แตก ล็ ว งเลยมาถงึ ปานนีแ้ ลว และดูผคู นจะตง้ั ความหวงั ไวม ากวา อยากเห็นการแกป ญหาเกาๆ เดิมๆ

ตั้งรฐั บาล หลังจำกประกำศใช้รัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย (ฉบับช่ัวคราว)  พ.ศ.๒๕๕๗  แล้ว  คสช.ก็เร่ิมทำากิจกรรมแรกคือการ  แตง่ ตงั้ สมาชกิ สภานติ บิ ญั ญตั แิ หง่ ชาตหิ รอื  สนช.จาำ นวนไมเ่ กนิ  ๒๕๐  คน  เรื่องนี้ต้องมาก่อนอย่างอื่น  เพราะ  สนช.จะต้องไปให้ความเห็น  ชอบช่ือผู้ท่ีจะเป็นนายกรัฐมนตรี  แล้วนายกฯ  ก็จะไปเสนอแต่งต้ัง  รัฐมนตรีอีกที  กลายเป็นรัฐบาลหรือคณะรัฐมนตรีต่อไป  กิจกรรม  เหล่านี้คือการแตกสาขาแม่น้ำาสายต่างๆ  ออกไปจากแม่นำ้าคงคาซึ่ง  เป็นต้นน้ำาหลัก  แม่นำ้าสายต่างๆ  อีก  ๔  สายกำาลังจะเกิดขึ้นจนครบ  ๕  สาย   การแต่งต้ังสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติซึ่งเป็นแม่นำ้าสายท ่ี ๒  แล้วเสร็จในเดือนสิงหาคม  พ.ศ.๒๕๕๗  สภาฯ  ได้เลือกอาจารย ์ พรเพชร  วิชิตชลชัย  อดีตตุลาการผู้ใหญ่ในศาลฎีกา  และอดีตผู้ตรวจ- การแผน่ ดนิ เปน็ ประธานสภาฯ กอ่ นหนา้ นนั้ หนงั สอื พมิ พล์ งขา่ วทาำ นอง  ว่า  “วิษณุ-พรเพชร ชิงด�ำประธำน สนช.”  ความจริงจะชิงดำาชิงแดง  กันไม่ได้เลยเพราะอาจารย์พรเพชรเป็นสมาชิกสภาฯ  แต่ผมไม่ได้เป็น  65

นายพรเพชร วชิ ิตชลชัย นายชัยเกษม นติ ิสริ ิ

แล้วจะไปชิงหาอะไร!  ประธานสภาฯ  น้ันต้องชิงกันเองในหมู่สมาชิก  ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: เท่าน้ัน  และความจริงก็ไม่น่าจะมีใครชิงกับท่าน  ควรจะพาดหัวว่า “เต็งจ๋ำ” มากกว่าด้วยความเหมาะสมของอาจารย์พรเพชรหลาย  ประการ  ท้ังวัยวุฒิและคุณวุฒิ  นอกจากนั้นท่านก็ช่วยงาน  คสช.มา  อยา่ งแข็งขนั ตงั้ แตต่ ้น   คนท่ัวไปอาจไม่รู้ว่าผมกับอาจารย์พรเพชรหรือที่เพ่ือนๆ  มัก  เรียกท่านว่า  “โกร่ง”  สนิทกันมานานปี  เราเรียนกฎหมายรุ่นเดียวกัน แต่อาจารย์พรเพชรจบคณะนิติศาสตร์  จุฬาฯ  ผมจบคณะนิติศาสตร์  มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  เราทั้งสองสอบได้ทุน  ก.พ.รุ่นเดียวกันไป  เรียนต่อท่ีอเมริกาพร้อมกันในปี  ๒๕๑๖  ขึ้นเรือบินไปด้วยกัน  อีกคนท ี่ จบจุฬาฯ  และเป็นรุ่นพี่ก่อนเราสองคนหลายปีแต่ได้ทุนขึ้นเรือบินไป  เรียนพร้อมกันคืออาจารย์ชัยเกษม  นิติสิริ  อดีตอัยการสูงสุด  รัฐมนตรี  ว่าการกระทรวงยุติธรรมสมัยนายกฯ  ยิ่งลักษณ์  ชินวัตร  และเป็นคนท ่ี พลเอกประยุทธ์ถามกลางที่ประชุม  ณ  สโมสรทหารบกว่าตกลงรัฐบาล  จะลาออกไหม  เม่ือคุณชัยเกษมตอบว่าขณะน้ียังไม่ออก  พลเอกประ-  ยุทธ์จึงสรุปว่าง้ันผมยึดอำานาจ   อาจารยช์ ยั เกษม อาจารยพ์ รเพชรและผมไปเรยี นภาษาองั กฤษ  อยู่หอพักเดียวกันที่มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์  กรุงวอชิงตัน  ดี.ซี.ราว  ๒  เดือนก่อนจะแยกย้ายไปเรียนกันคนละท่ี  อาจารย์ชัยเกษมไป  มหาวิทยาลัยโคลัมเบีย  อาจารย์พรเพชรไปมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด  ผมไปมหาวทิ ยาลยั แคลฟิ อรเ์ นยี  เบริ ค์ เลย ์ ภายหลงั ผมยงั เคยไปเยย่ี ม  อาจารย์พรเพชรท่ฮี าร์วารด์  ไดไ้ ปกนิ ไปนอนอย่ทู ี่บา้ นอาจารยพ์ รเพชร  หลายวนั   ตอนนั้นมีนักศึกษาวัยเดียวกับพวกเราอีกคนได้ทุนอื่นมาเรียน  รฐั ศาสตรอ์ ยทู่ ฮ่ี ารว์ ารด์  เปน็ มสุ ลมิ มาจากเมอื งนครศรธี รรมราช พดู จา  คล่องแคล่วชัดถ้อยชัดคำา  ความรู้ดีลึกซึ้ง  สนใจปัญหาการเมืองและ  การต่างประเทศ  เราท้ังสามรู้ว่าแต่ละคนเรียนจบต้องกลับไปทำาอะไร  67

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม ผมต้องกลับไปเป็นอาจารย์ที่จุฬาฯ  อาจารย์พรเพชรต้องกลับไปเป็น  ผพู้ พิ ากษา นกั ศกึ ษาหนมุ่ ผนู้ น้ั ตอ้ งกลบั ไปเปน็ อาจารยท์ คี่ ณะรฐั ศาสตร ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์  เม่ือคุยกันถูกคอจึงปรารภว่า  ถ้าโชคดีได ้ กลับไปทำางานด้วยกันท้ัง  ๓  คนน่าจะสนุกนะ   นักศึกษำหนุ่มผู้นั้นชื่อสุรินทร์ พิศสุวรรณ! อกี  ๒๐ ปเี ศษตอ่ มาผมไดท้ าำ งานกบั  ดร.สรุ นิ ทรใ์ นคณะรฐั มนตร ี ชุดนายกฯ  ชวน  และอีก  ๒๐  ปีเศษหลังจากน้ันผมได้ทำางานกับ  อาจารยพ์ รเพชรในสมยั รฐั บาลพลเอกประยทุ ธ ์ ทพี่ ระทา่ นวา่  “วสิ สำสะ ปรมำญำติ ควำมคุ้นเคยเป็นญำติอย่ำงย่ิงนั้น”  จริงแท้  เมืองไทยเรา  ก็แคบอยแู่ คน่  ี้ ผูกมติ รกนั ไวด้ ีกว่าอะไรทงั้ น้ัน   ดร.สุรินทร์เป็นสุภาพบุรุษนักวิชาการคนหนึ่ง เคยตกลงกับผม  ว่าจะเขียนหนังสือเกี่ยวกับการเมืองไทยด้วยกันสักเล่ม สมัยรัฐบาล  นายกฯ  ประยุทธ์  แม้จะอยู่พรรคประชาธิปัตย์ก็ได้ช่วยผมในหลาย  เรื่องและยอมจะมาเป็นกรรมการยุทธศาสตร์ชาติให้รัฐบาล  น่าเสีย  ดายท่ีท่านถึงแก่กรรมกะทันหันก่อนวัยอันควร   เมื่อผมไม่ได้เป็นสมำชิกสภำนิติบัญญัติแห่งชำติก็คิดว่ำ ดีไปอย่าง  เพราะจะได้ทำางานเดิมที่ค้างคาอยู่ต่อไป  เช่น  สอนหนังสือ  ออกโทรทัศน์และเท่ียวเตร่ไปตามท่ีต่างๆ    มีคนบอกผมว่า  เขากันเอา  ไวเ้ ปน็ พยาน...เอย๊ ! ไมใ่ ช ่ คงกนั ไวจ้ ะใหเ้ ปน็ รฐั มนตรมี งั้ !  ผมนกึ ในใจ  ว่าตายละวา!  เพราะเมื่อออกมาจากรัฐบาลนายกฯ  ทักษิณแล้วในป ี ๒๕๔๙  ก็ไม่คิดจะหวนกลับคืนสู่การเมืองอีก  อย่างมากถ้าจำาเป็น  และให้เลือกได้จะขอเป็นสมาชิกสภาฯ  ดีกว่าเพราะยังพอทำางานอื่น  ไดด้ ้วยและไม่ตรากตรำาท้ังสุขภาพกายและสุขภาพจิต   ขณะนั้นท่ีปรึกษา คสช.ยังคงทำางานต่อ มีการประชุมตามปกต ิ สัปดาห์ละ  ๒-๓  วัน  ส่วนใหญ่เป็นการพิจารณาร่างกฎหมายภาษ ี มรดกและร่างกฎหมายเก่ียวกับการอำานวยความสะดวกในการ  พิจารณาอนุญาตอนุมัติของเจ้าหน้าท่ี  และมีงานด่วนแทรกเข้ามาอีก  68

เรื่อง  คือการเตรียมสรรหาสมาชิกสภาปฏิรูปแห่งชาติ  ซึ่ง  คสช.มอบ  ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: หมายคณะที่ปรึกษาชว่ ยวางแนวทางและวธิ ีดาำ เนนิ การคัดสรร   เม่ือตั้ง สนช.และได้ตัวประธาน สนช.แล้ว ต่อมาก็ถึงคราวท่ี  สนช.จะต้องเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี การเสนอช่ือนายกรัฐมนตรีไม่ได ้ ยุ่งยากอะไร  เพราะมีการเสนอชื่อคนเดียวคือพลเอก  ประยุทธ์  จันทร์-  โอชา  หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติและผู้บัญชาการทหารบก  เมอื่ โปรดเกลา้ ฯ แตง่ ตงั้ นายกรฐั มนตรคี นท ี่ ๒๙ ในวนั ท ี่ ๒๔ สงิ หาคม  พ.ศ.๒๕๕๗  แล้ว  ข้ันตอนต่อไปคือการจัดต้ังคณะรัฐมนตรีเป็นแม่น้ำา  สายที ่ ๓ ซึ่งรวมทงั้ นายกฯ ด้วยต้องมีจาำ นวนไมเ่ กิน ๓๖ คน   ช่วงน้ันหม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธรเคยกระซิบบอกผมว่า ตอนน ้ี เขากาำ ลงั จดั ตงั้ รฐั บาลอยา่ เพงิ่ หนไี ปเวยี ดนามอีกล่ะ ถ้าเขาชวนไปร่วม  รัฐบาลก็อย่าได้ปฏิเสธ  แต่ถ้าจะปฏิเสธก็หาเหตุผลให้ดี  อย่าให้เขา  รู้สึกว่ารังเกียจหรือเกี่ยงงอน  ผมก็หัวเราะ  แกล้งถามกลับไปว่าจะให ้ แต่งตัวเป็นแม่สายบัวหรือ แล้วถ้าแม่สายบวั แตง่ ตวั เกอ้  เขาไมช่ วน  จะใหท้ าำ อย่างไร คุณชายหัวเราะดังกว่าผมเสียอีกแล้วบอกว่าคุณก ็ โชคดีไป!   ผมไม่ได้แต่งตัวและไม่ได้เตรียมตัว นึกอยู่เหมือนกันว่าไม่รู้จะ  ตอ้ งเผชญิ กบั อะไร เมอื่ ลาออกจากตาำ แหนง่ รองนายกรฐั มนตรใี นสมยั   รัฐบาลทักษิณเม่ือวันท่ี  ๒๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๔๙ คือ ๘ ปีก่อนก็  แนใ่ จวา่ ไมต่ อ้ งกลบั ไปทาำ อะไรทาำ นองนนั้ อกี  ตลอด ๗-๘ ปนี น้ั ผมไมไ่ ด ้ เกยี่ วขอ้ งใดๆ กับรัฐบาลทุกชุดในช่วงน้ัน และว่าไปแล้วไม่เคยย่างเท้า  ก้าวเข้าไปในทำาเนียบรัฐบาลอีกเลยตลอดเวลา  ๘  ปีดังกล่าว  ไม่ว่า  ในสมัยรัฐบาลพลเอกสุรยุทธ์  นายกฯ  สมัคร  นายกฯ  สมชาย  นายกฯ  อภิสิทธ์ิ  หรือนายกฯ  ยิ่งลักษณ์  จึงเป็นข้าราชการบำานาญเต็มขั้น  ม ี ความสขุ กบั งานถนัด ๖ อย่างมาไดถ้ งึ  ๘ ป ี คอื     ๑. งานสอนหนงั สอื  ตอนไปเปน็ รองนายกรฐั มนตรใี นสมยั รฐั บาล  ทักษิณ  ๑  และ  ๒  (พ.ศ.๒๕๔๕-๒๕๔๙)    ผมต้องบอกเลิกการสอน  หนงั สอื หรอื บรรยายไปหลายแหง่  คราวนไ้ี ดก้ ลบั ไปสอนตามเดมิ  อาท ิ 69

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม ทจี่ ฬุ าฯ มหาวทิ ยาลยั อสั สมั ชญั  สถาบนั พระปกเกลา้  เนตบิ ณั ฑติ ยสภา  นอกจากไปสอนแล้วผมยังได้ไปเรียนอีกด้วยท่ีสถาบันวิทยาการตลาด  ทุน  (วตท.)  รุ่นท่ี  ๙  รุ่นเดียวกับคุณพินิจ  จารุสมบัติ  คุณหญิงสุดารัตน ์ เกยุราพันธุ์  คุณอนุทิน  ชาญวีรกูล  ดร.ไตรรงค์  สุวรรณคีรี  นับเป็น  หลักสูตรพิเศษเพียงหลักสูตรเดียวที่ผมสนใจไปเรียน   ๒. งานกรรมการตา่ งๆ ของทางราชการ ซง่ึ ระหวา่ ง พ.ศ.๒๕๔๕-  ๒๕๔๙ ผมตอ้ งลาออกหมด คร้ันมาถึงชว่ ง ๘ ปที ี่วา่ งก็ไดก้ ลบั ไปเปน็   ประธานกรรมการหรอื กรรมการใหม ่ อาท ิ เปน็ นายกสภามหาวทิ ยาลยั   ราชภัฏสงขลา  มหาวิทยาลัยเทคโนโยลีราชมงคลสุวรรณภูมิ  สถาบัน  บัณฑิตพัฒนศิลป์  กรรมการสภามหาวิทยาลัยทักษิณ  มหาวิทยาลัย  ราชภัฏเชียงราย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยมหามกฏุ ราช  วิทยาลัย ในช่วงน้ีผมได้รับปริญญาเอกกิตติมศักด์ิ  และได้รับพระ  บรมราชโองการโปรดเกลา้ ฯ แต่งต้ังเป็นราชบัณฑิต รวมท้ังได้เหรียญ  ดุษฎีมาลา  เข็มศิลปวิทยาด้วย  ซ่ึงหากยังอยู่ในวงการเมืองคงจะไม่ม ี โอกาส   ๓. งานเอกชนซึ่งเป็นเรื่องการทำามาหากินในตำาแหน่งประธาน  บ้าง  กรรมการบริษัทบ้าง  ท่ีปรึกษาบ้าง  รวมแล้วหลายแห่งอยู่เหมือน  กนั   ๔. งานทอ่ งเทยี่ วและหาความสขุ สาำ ราญใสต่ วั ซงึ่ ผมไมม่ โี อกาส  ในระหว่างอยู่ในราชการ  ช่วง  ๘  ปีท่ีว่างผมไปหลายประเทศท่ีอยาก  ไป  เช่น  อียิปต์  โครเอเชีย  ตุรกี  ศรีลังกา  มองโกเลีย  ภูฏาน  ที่ภูฏาน  พระราชาธิบดีจ๊ิกมี่ครั้งยังเป็นเจ้าชายรัชทายาททรงรับเป็นแขกส่วน  พระองค์ ที่สำาคัญคือได้ไปเข้าหลักสูตรเรียนวิชาสมาธิกับพระอาจารย ์ หลวงพ่อวิริยังค์ที่วัดธรรมมงคล  ๒-๓  เดือน  รุ่นน้ีหลวงพ่อเรียกว่า  “รนุ่ รำชสหี ”์  เพอ่ื นรว่ มรนุ่  อาท ิ อาจารยม์ ชี ยั  ฤชพุ นั ธ ์ุ อาจารยบ์ วรศกั ดิ์  อุวรรณโณ  คุณชัช  ชลวร  คุณหญิงทิพาวดี  เมฆสวรรค์  คุณสุชาต ิ ไตรประสิทธ์ิ  และความรู้น้ีได้นำามาใช้ประโยชน์ในการทำางานในเวลา  ตอ่ มา  70

  ๕.  งานด้านที่ ๕ ที่ได้ทำาด้วยใจรักคืองานเขียนหนังสือ ช่วง  ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: เวลาน้ีผมมีเวลาว่างพอจึงเขียนและขัดเกลาหนังสือที่ซุ่มแต่งไว้ก่อน  จนสามารถพิมพ์เป็นเล่มได้หลายเล่มได้แก่  โลกน้ีคือละคร แหวก ม่ำนกำรเมือง บทบำทผู้น�ำ  (๓  เล่มนี้เป็นชุดเก่ียวกับการทำางานและ  สง่ิ ทพี่ บเหน็ ในชว่ งเวลาทอี่ ยใู่ นวงการการเมอื ง ทเี่ ขยี นกเ็ พราะไมค่ ดิ วา่   จะหวนกลบั ไปอกี ) กลบั จากภฏู านผมเขยี นเรอื่ ง ภฏู ำน วมิ ำนปลำยฟำ้   ส่วนเล่มใหญ่ท่ีขัดเกลาและได้พิมพ์ในช่วงน้ีคือ  ข้ำมสมุทร  (เร่ือง  เกย่ี วกบั การยอ้ นกลบั ไปมชี วี ติ สมยั สมเดจ็ พระนารายณ ์ ครง้ั โกษาปาน  เปน็ ราชทตู ไปฝรงั่ เศส คลา้ ยเรอื่ งบพุ เพสนั นวิ ำส โดยไดแ้ รงบนั ดาลใจ  จากเรื่อง  ทวิภพ  ของทมยันตี)  และเรื่อง  ชีวิตของประเทศ  (นวนิยาย  เกี่ยวกับชีวิตผู้คนชั้นล่างจนถึงช้ันกลางสมัยรัชกาลท่ี  ๑  ถึงรัชกาลที่  ๕ ซ่งึ ได้แรงบันดาลใจจากเรอื่ ง ส่แี ผน่ ดิน ของหมอ่ มราชวงศ์ คกึ ฤทธ์ิ  ปราโมช)  ๒  เล่มนี้หนาเกือบคืบ  จนมีคนเอาไปหนุนนอนแต่ก็ได้รับ  รางวลั มาหลายรางวัล   นอกจากน้ัน ผมยังเป็นคอลัมนิสต์เขียนเก่ียวกับประวัติศาสตร ์ และคอลมั นส์ พั เพเหระชอ่ื  “จนั ทรส์ นกุ  ศกุ รส์ นาน” ลงในหนงั สอื พมิ พ์  เดลินิวส์ คอลัมน์เดินดินกินข้าวแกงในหนังสือพิมพ์มติชน  และเป็น  พธิ กี รรายการโทรทศั น์ “อาทติ ย์สโมสร” ทุกคาำ่ วนั อาทติ ย์ทางโทรทศั น ์ ชอ่ งทีเอ็นเอน็   ๖. งานอย่างสดุ ท้าย คือการมชี ีวติ สว่ นตัว ครอบครัวผมมเี รือน  ไทยริมคลองอยู่ท่ีอำาเภอเสนา  อยุธยา  พอครึ้มอกคร้ึมใจก็ชวนกันขับ  รถไปน่ังเล่นนอนเล่นท่ีนั่น บางทีก็ลงไปอยู่กับแม่ที่สงขลา ซ่ึงไม่ได้ทำา  อย่างนี้มาหลายสิบปีแล้ว    บ่อยครั้งที่ชวนเพื่อนฝูงเท่ียวเตร่  ร้องเพลง  คาราโอเกะ  เพื่อนเท่ียวของผมคือ  คุณศักด์ิชัย  ธนบุญชัย  และยังม ี ก๊วนข้าราชการบำานาญ  กินอย่างเดียวเดือนละหนสองหน  ไม่คุยการ  เมือง    ท่ีบ้านคุณชาย  ศรีบัวเลิศหรือเฮียย้ิง  อดีตเถ้าแก่ค่ายเทปเพลง  ขาประจาำ กว๊ นนค้ี อื ทา่ นองคมนตรเี กษม วฒั นชยั  อาจารยม์ ชี ยั  ฤชพุ นั ธ ์ุ พลเอก วโิ รจน ์ แสงสนิท พลเอก สำาเภา ชศู ร ี เปน็ ต้น 71

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม ถ้ำชีวิต ๖ อย่ำงน้ีเรียกว่ำควำมสุขแล้วเรำจะดิ้นรนหำอะไร มำกไปกว่ำนอ้ี ีก!   ๘ ปนี น้ั สงิ่ ทอ่ี าจขาดหายไปบา้ งคอื  การพบและพดู กบั ผสู้ อ่ื ขา่ ว  ทุกวัน  การต้องติดตามข่าวสารแทบ  ๒๔  ช่ัวโมงไม่งั้นตกขบวนรถไฟ  สายการเมืองการปกครอง  การรับเร่ืองร้องเรียนหรือร้องทุกข์  การ  เปิดงาน  ปิดงาน  การเคร่งเครียดกับปัญหาสารพัดท่ีถาโถมเข้ามา  การไปตอบกระทู้และช้ีแจงในสภาฯ  การเป็นจำาเลย  ฯลฯ  ชีวิตอย่างน้ี  เม่ือขาดหายไปก็เหงาเหมือนกัน  แต่สุขภาพจิตและคุณภาพชีวิตดีข้ึน  อย่างประหลาด!   วันหนึ่งเวลำเช้ำปลำยเดือนสิงหำคม พ.ศ.๒๕๕๗ ผม กาำ ลงั ทาำ หนา้ ทปี่ ระธานอนญุ าโตตลุ าการอยทู่ สี่ ถาบนั อนญุ าโตตลุ าการ  สำานักงานศาลยุติธรรม  ถนนรัชดาภิเษก  ในคดีพิพาทระหว่างบริษัท  เอกชนกับบริษัทท่าอากาศยานฯ  เรื่องการก่อสร้างอาคาร  โดยมี  อาจารย์เข็มชัย  ชุติวงศ์  ขณะนั้นเป็นรองอัยการสูงสุด  และอาจารย์  อนันต์  จันทรโอภาวงศร่วมเป็นอนุญาโตตุลาการ   ระหวา่ งกาำ ลงั ฟงั พยานเบกิ ความอยกู่ ม็ โี ทรศพั ทต์ อ่ เขา้ มาต้นทาง  คือพลเอก  ประยุทธ์  จันทร์โอชา  หัวหน้า  คสช.และนายกฯ  หมาดๆ  ทา่ นเรมิ่ ถามโดยไมอ่ ารมั ภบทใหเ้ สยี เวลาตามสไตลข์ องทา่ นวา่  ตกลง พีจ่ ะมาชว่ ยผมไหม ผมตกใจ ถามว่าจะใหท้ ำาอะไรครบั  ทุกวนั นีก้ ช็ ว่ ย ตัวเป็นเกลียวหัวเป็นนอตอยู่แล้ว  ท่านตอบว่า  ช่วยก็แปลว่ามาอยู่ใน  รัฐบาล  แต่ยังไม่รู้ว่าให้เป็นตำาแหน่งอะไรนะ  ก็คงเป็นเรื่องท่ีพ่ีถนัด  นั่นแหละ  ผมตอบว่าในหลักการเห็นความตั้งใจดีของท่านที่จะแก้  ปัญหาบ้านเมืองและน่าจะไม่นานนัก  แต่จะขอเวลาตรวจสอบอีกที  เพราะผมต้องตรวจสอบคุณสมบัติ  ความเหมาะสมและลักษณะต้อง  ห้ามของผมเสียก่อน  เด๋ียวจะทำาให้รัฐบาลของท่านเสียหาย  ที่สำาคัญ  คือยังมีภารกิจค้างคาอยู่หลายเร่ืองซ่ึงจะทำาให้เขาเสียหายด้วยไม่ได ้ 72

เมอ่ื ออกมาจากวงการนแ้ี ลว้ คดิ วา่ จะไมก่ ลบั ไปอกี จงึ ไปกอ่ ภาระผกู พนั   ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: กับผู้คนไวม้ ากมาย   ท่านจึงบอกว่า “ภำรกิจอย่ำงอ่ืนคงไม่ส�ำคัญเท่ำเร่ืองบ้ำนเมือง มั้ง พ่ีลงเรือล�ำเดียวกันแล้วก็คงต้องไปกันต่อกับผมอย่ำงนี้แหละ เขำ้ ใจตรงกันนะ!” ผมร้องว่า  “อ้ำว! เผลอไปลงเรือล�ำเดียวกันต้ังแต่เมื่อไรหว่ำ!” ทา่ นตอบวา่ ก ็ “หมำยถงึ รฐั นำวำไงละ่ ตอนนนั้ ผมยงั ไมไ่ ดน้ กึ ถงึ เรอื แปะ๊ ” ความสุขความทุกข์  ๖  อย่างท่ีว่าข้างต้นเป็นเรื่องส่วนตัวไม ่ ควรท่ีใครมีสิทธ์ินำามาบ่นหรือลำาเลิกเบิกประจานใดๆ  ให้คนหม่ันไส ้ แต่ผมคิดว่าทุกคนที่ถูกท่านนายกฯ  โทร.ไปทาบทามก็คงมีความสุข  ความทุกข์ส่วนตัวและประสบกับทางเลือก  ๓  แพร่งอย่างเดียวกัน  ผมเองใจหายอยู่นานว่าจะต้องหมดโอกาสทำาส่ิงที่ชอบและถนัดถึง  ๖  อยา่ ง ความจรงิ ถา้ เลอื กไดอ้ ยากเปน็  สนช.มากกวา่ เพราะยงั จะทาำ งาน  ๖  อย่างไปพร้อมกันได้  แต่ถ้าเป็นรัฐมนตรีก็ต้องปล่อยวางเกือบหมด  บางคนอาจอิหลักอิเหล่ือมากกว่าผมเสียอีก  เพราะต้องท้ิงเงินเดือน  เป็นแสน  รายได้เป็นล้านๆ  บาท  ในขณะที่กำาลังมีหนี้สินหรืองานการ  กำาลังเดินไปด้วยดี  ไหนจะภาระผูกพันกับท่ีทำางานเดิม  ไปแล้วไม่รู้จะ  ได้กลับมาอีกไหม   ผมเช่ือว่าแม้แต่พลเอกประยุทธ์เองซ่ึงอีกไม่กี่เดือนจะเกษียณ  อายุราชการอยู่แล้วก็คงเผชิญกับทาง  ๓  แพร่งอย่างเดียวกัน  ว่างๆ  ท่านยังเปรยให้ฟังว่าตั้งใจเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าเกษียณแล้วจะพา  ครอบครัวไปเท่ียวเพราะไม่เคยเที่ยวด้วยกันมาหลายปีแล้ว  ตั้งใจจะข ่ี มอเตอรไ์ ซคบ์ กิ๊ ไบกค์ นั ใหญๆ่  ซง่ิ ไปตา่ งจงั หวดั กบั เพอ่ื นฝงู คอเดยี วกนั   ตัง้ ใจจะออกรอบเลน่ กอล์ฟทกุ วนั  ต่อไปนเ้ี ป็นอันต้องงด   ส่ิงท่ีเป็นปัญหาส่วนตัวทำาให้ผมต้องคิดหนักอยู่หลายวันก่อน  จะกลับไปยืนยันหรือบอกปัดกับท่านนายกฯ  คือ  เดิมมีความตั้งใจว่า  ปี  ๒๕๕๗  นี้จะช่วยคุมงานการก่อสร้างบ้านหลังใหม่ให้ลูกชาย  ซึ่ง  73

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม แม่ยายผมยกที่ดินให้และออกเงินสร้างบ้านให้เป็นเรือนหอของหลาน  เวลาเขาจะแยกบ้าน  จนได้ยกเสาเอกและหาช่างก่อสร้างเตรียมการ  ไว้พร้อมแล้ว  ขณะเดียวกันผมก็กำาลังมีปัญหาสุขภาพ  เป็นเบาหวาน  ความดัน  โรคไต  จนผ่ายผอมกินไม่ได้นอนไม่หลับ  ช่วงน้ันเวลาออก  โทรทัศน์มีคนทักหลายคนว่าซูบผอมไป  ซ่ึงเป็นเพราะควบคุมอาหาร  พวกแป้ง นำ้าตาล และโปรตีนมากไป นายกฯ ชวน หลกี ภยั เห็นเข้า  ยังห่วงใย  โทร.มาแนะวิธีควบคุมอาหารที่ถูกหลัก   ปัญหาเฉพาะหน้าที่ผมห่วงมากที่สุดกลับเป็นเรื่องท่ีผมไปรับ  เป็นประธานอนุญาโตตุลาการไว้เร่ืองหนึ่ง  คดีน้ีสืบพยานซึ่งเป็นชาว  ต่างประเทศและต้องบินมาให้การทุกสัปดาห์รวมปีเศษแล้ว  ถ้าการ  ไปรับตำาแหน่งอะไรกต็ ามเปน็ การขดั แยง้ กบั การทาำ หน้าทีห่ รอื คพู่ ิพาท  เกิดหวาดระแวงว่าเมื่อประธานไปอยู่กับรัฐบาลจะทำาให้การพิจารณา  คดีไม่เป็นธรรม  ทุกอย่างก็เป็นอันสูญโญโหตุ  ต้องเซตซีโร่คือเริ่มใหม ่ จากศูนย์  ซึ่งเสียเวลา  เสียค่าใช้จ่าย  และอาจทำาให้ชาวต่างชาติเสีย  ความรสู้ กึ   แต่ข้อน้ีไม่เป็นปัญหาในเวลาต่อมา เม่ือผมได้รับแจ้งว่าหาก  จะทำาหน้าท่ีต่อก็ไม่ผิดระเบียบของทางราชการ  และกฎหมายก็ไม ่ ได้ห้ามนักการเมืองเป็นอนุญาโตตุลาการ  เม่ือสอบถามคู่ความและ  อนญุ าโตตลุ าการรว่ มคณะกไ็ มม่ ใี ครตง้ั ขอ้ รงั เกยี จ กลบั อกสนั่ ขวญั แขวน  กลัวผมจะถอนตัว  ปัญหาจึงหมดไป   ส่วนเร่ืองสร้ำงบ้ำนก็บอกลูกว่ำท�ำกันเองเถอะลูก พ่อจะต้อง ไปรับใช้ชำติ ครำวนี้ก็เหลือแต่เรื่องสุขภำพ ผมได้ยกเรื่องสุขภาพมากราบเรียนกับท่านนายกฯ  ประยุทธ์  เผ่ือท่านจะเวทนาแล้วเปลี่ยนใจบอกว่างั้นก็ให้ไปรักษาตัวเถิด  ท่าน  กลับพยักหน้าเห็นใจแต่ก็ท้ิงท้ายว่า  ถ้ายังไม่ถึงกับล้มหมอนนอนเส่ือ  ก็อยากให้ช่วยๆกันก่อน  ผมจะหาคนมาแบ่งเบาภาระไม่ให้แบกมาก  เกนิ ไป ฟงั แลว้ รู้สึกว่าท่านอยากให้มาช่วยจริงๆ ในที่สุดผมเลยโอเค!    พอโอเค ท่าทางท่านโล่งอก ปลอบผมว่าท่านก็ไม่ได้ต้ังใจจะ  74

อยู่นาน  คล้ายๆ  ขอเวลาอีกไม่นาน  แต่ถ้าพ่ีไม่ไหวเมื่อไรขอให้บอก  ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: ระหว่างนี้ดูแลรักษาตัวต่อไปให้ดีด้วยนะ  ออกกำาลังกายไปด้วยนะ  กุศลผลบุญนี้น่าจะช่วยให้แข็งแรง  สู้งานไหว  หลังจากน้ันพบหน้ากัน  ทีไร  ท่านก็จะถามภรรยาผมถึงสุขภาพของผม  จนคราวหน่ึงแนะให ้ ผมไปตรวจรักษากับแพทย์ผู้เช่ียวชาญท่ีโรงพยาบาลกรุงเทพ  ซึ่งท่าน  ได้ยินกิตติศัพท์ว่าเก่งมาก  ท่านบอกว่าค่าใช้จ่ายจะออกให้หมดไม่  ต้องห่วง  ทั้งยังให้  ทส.นัดแนะจองหมอให้เสร็จ  ผมซาบซ้ึงในความ  ปรารถนาดีของท่านมาก  แต่ก็ปฏิเสธไปเพราะมีแพทย์ประจำาอยู่แล้ว  เม่ือท่านคะย้ันคะยออีก  ผมก็หัวเราะแหะๆ  ตอบว่า  ผมถามแล้วค่า  ตรวจและค่ายาเกิน  ๓,๐๐๐  บาท  ผมรับไม่ได้หรอกครับ  ผมลองต่อ  ราคาให้เหลือ  ๓,๐๐๐  บาทแล้ว  หมอก็ไม่ยอม   หลังจากน้ันผมก็ต้องหม่ันฟิตตัวช่วยตัวเองเพ่ือสู้กับงาน เกิด  มาก็เพ่ิงเคยเข้าฟิตเนสกับเขาหนนี้  ทำาทุกอย่างจนภรรยาผมถามว่า  จะไปแข่งเอเชยี่ นเกมสห์ รอื  บรรดาคนคนุ้ เคย อาท ิ คณุ วกิ รม กรมดษิ ฐ ์ คุณสัณหพิศ  โพธิรัตนังกูร  ลูกสาวท่านผู้หญิงเลอศักด์ิ สมบัติศิร ิ คุณหญิงกอแก้ว  บุณยะจินดา ทราบข่าวก็เป็นหน่วยส่งกำาลังบำารุง  สง่ รงั นกและอาหารอนามยั มาใหโ้ ดป๊ เปน็ ประจาำ  คณุ สมบตั  ิ พานชิ ชวี ะ  ให้ยืมเคร่ืองออกกำาลังกายมาทดลองใช้ท่ีบ้าน  คุณศักดิ์ชัย  ธนบุญชัย  และคุณก่ิงดาวภริยา  พลตำารวจเอก  วิเชียร  โพธิ์ศรีพาไปหาหมอจีน  ให้ฝังเข็ม  ผู้ใหญ่ใจดีท่านหนึ่งซ่ึงผมไม่คุ้นเป็นส่วนตัวมาก่อน  เห็นผม  ไปหาหมอจีนฝังเข็มเจ้าเดียวกันและทำางานหนักจึงแอบปรึกษาหมอ  และส่งยาจีนบำารุงกำาลังมาให้ผ่านทางหมอจีนโดยไม่ให้เปิดเผยว่ามา  จากไหน ทุกคนบอกว่าอยากมีส่วนร่วมบุญในกองผ้าปา่ มหากุศล  ชว่ ยชาติหนนีด้ ว้ ย   เป็นอันว่าเวทีน้ีมีพี่เล้ียง! หลังจากร่วมรัฐบาลได้ ๑ ปี ผมเริ่ม  มีนำ้ามีนวล  แต่ฟิตตัวกินยาหลายขนานเกินไป  จากซูบซีดกลายเป็น  บวมท้ังตัว  แต่เบาหวานลด  ความดันเอาอยู่  ไตคงที่  แม้ไม่ถึงขนาด  หายเจ็บหายป่วยเด็ดขาดหรือมีซิกซ์แพ็กก็ตาม  ท่านนายกฯ  คงแอบ  75

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม สังเกตอยู่ทุกวันอังคาร วันหน่ึงเปรยว่า  คนเราสำาคัญที่ใจจริงๆ  ทุก  อย่างอยู่ท่ีแรงบันดาลใจว่าดูแลรักษาตัวไปเพื่ออะไร สุขภาพอยู่ที่เรา  เงนิ ทองซอื้ หาไมไ่ ด ้ ตอ้ งทาำ เอง ถา้ ใจส ู้ ทย่ี ากกง็ า่ ย ทปี่ ว่ ยกห็ าย สาธ!ุ     ทจี่ รงิ กอ่ นจะตอบรบั กบั ทา่ นนายกฯ ผมปรกึ ษาผทู้ เ่ี คารพนบั ถอื   หลายคน  ซ่ึงก็ได้รับคำาแนะนำาว่าบ้านเมืองกำาลังอาการหนัก  การยึด  อำานาจจะถูกหรือผิดแต่ก็ล่วงเลยมาถึงป่านนี้แล้ว  และดูผู้คนจะต้ัง  ความหวังไว้มากว่าอยากเห็นการแก้ปัญหาเก่าๆ  เดิมๆ  อยากเห็น  การเปลี่ยนแปลงแปลกๆ  ใหม่ๆ  และอยากได้ความสงบเรียบร้อย  กลับคืนมา  ถ้าใครช่วยกันได้ก็ควรช่วย  พลเอกประยุทธ์เป็นคนดี  เป็น  คนจงรักภักดี  และเป็นคนมีความตั้งใจดี  รวมแล้วคือ  ๓  ดี  เป็นความ  หวงั ของบา้ นเมอื ง ในยามหวั เลยี้ วหวั ตอ่ เชน่ น ้ี คนอน่ื ทเ่ี หมาะกวา่ อาจ  มแี ตย่ งั มองไมเ่ หน็  รฐั บาลไมต่ อ้ งทาำ อะไรมาก แคท่ าำ ใหบ้ า้ นเมอื งสงบ  เรียบร้อย  เลิกตีกัน  การพัฒนาอย่างอ่ืนประชาชนทำากันเองก็ได้เพราะ  ทุกคนพร้อมอยู่แลว้   แมแ้ ตห่ มอทดี่ แู ลผมกใ็ หก้ าำ ลงั ใจวา่ เรอื่ งสขุ ภาพ เอาอย!ู่  หมอด ู ก็บอกว่าเอาไหว!  มีผู้ใหญ่ของบ้านเมืองท่านหนึ่งบอกว่าเป็นแฟน  รายการโทรทัศน์อาทิตย์สโมสร  เสียดายอยู่แต่ว่าต่อไปน้ีคงไม่ได้ดูอีก  แลว้ !  ผมกราบเรยี นทา่ นวา่  “ขอเวลำอีกไมน่ ำน” เมื่อพบกับท่านนายกฯ  ในวันหน่ึง  ผมจึงเรียนไปว่าในส่วนของ  ผมไมข่ ัดขอ้ ง แต่ในส่วนของท่านโควตามนี อ้ ย แตต่ ัวเลอื กทา่ นมีเยอะ  ถ้ามีตัวเลือกอ่ืนโผล่เข้ามา  หากคิดว่าอย่างไหนเหมาะ  โปรดอย่าเกรง  ใจว่าเผลอออกปากชวนผมไว้แลว้   ลงท้ำยกเ็ ปน็ อนั ว่ำไดล้ งเรือแป๊ะ! เสรจ็ แป๊ะจนได้! มปี ระกาศพระบรมราชโองการโปรดเกลา้ ฯ แตง่ ตง้ั คณะรฐั มนตร ี ในวันที่  ๓๐  สิงหาคม  พ.ศ.๒๕๕๗  ผมเป็นรองนายกรัฐมนตรี  คร้ังน ี้ เป็นครั้งที่ ๓ ตอนแรกไดร้ หัสเรียกขานในระบบจราจรว่า สร.๖ เพราะ  เป็นเบอร์  ๖  ในทำาเนียบรัฐบาลต่อจากท่านนายกฯ  รองนายกฯ  ประวิตร  รองนายกฯ  หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร  รองนายกฯ  ยงยุทธ  76

รองนายกฯ  ธนะศักดิ์ฯ  ในระยะแรกได้รับมอบหมายให้กำากับราชการ  ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: กระทรวงยุติธรรม  ก.พ.  ก.พ.ร.  กฤษฎีกา  ป.ป.ง.  ป.ป.ท.  สำานักงาน  พระพุทธศาสนาแห่งชาติ และประสานกบั องคก์ รอสิ ระ แตส่ ่อื มวลชน  มักเรียกว่าเป็นรองนายกฯ  ฝ่ายกฎหมาย  ซ่ึงความจริงไม่เคยมีการ  แต่งตั้งมอบหมายเช่นน้ัน  อย่างน้อยการทำางานสายกฎหมายของผม  ก็ขาดวงจรอยู่เพราะไม่ได้เป็นวิปรัฐบาลหรือผู้ประสานงานกับสภา  นิติบัญญัติแห่งชาติ   เมื่อมีการปรับ ครม.ในเวลาต่อมา การมอบหมายงานก็เปล่ียน  แปลงไปบา้ ง เช่น ลดลงไปเป็น สร.๗ บา้ ง ขยับขน้ึ มาเปน็  สร.๕ บา้ ง  และเปลี่ยนไปกำากับหน่วยงานอ่ืนบ้าง   เรอื แปะ๊ ออกจำกทำ่ แลว้  ผโู้ ดยสำรทกุ คนกรณุ ำอยใู่ นอำกำร  อนั สงบ เขำ้ ใจตรงกันนะ! 77

ผลของการใชอ ํานาจพเิ ศษตามมาตรา ๔๔ คอื บรรดาประกาศและคาํ ส่งั ทั้งหลาย ยังคงมผี ลตอ ไปจนกวา จะมกี ารยกเลกิ  

คสช. และ ม.๔๔ คณะรักษำควำมสงบแห่งชำติหรือ คสช.เกิดข้ึนจำกกำร ยดึ อาำ นาจเมอื่ วนั ท ี่ ๒๒ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๗ โดยมที ง้ั อาำ นาจดา้ น  นิติบัญญัติ  บริหาร  และตุลาการ  แต่ในทางปฏิบัติไม่ได้ใช้อำานาจใน  ทางตุลาการเลย  ยกเว้นการวินิจฉัยชี้ขาดทางปกครอง  วินัย  และการ  บังคับบัญชา  ส่วนใหญ่จึงเป็นเรื่องการออกประกาศหรือคำาสั่งที่มีผล  เป็นกฎหมายและการบรหิ ารราชการแผน่ ดิน   ต่อเม่ือประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับช่ัวคราวเม่ือวันท่ี  ๒๒  กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๕๗ คสช.กเ็ ขา้ มาอยใู่ นกรอบของรัฐธรรมนูญและ  ใช้อำานาจได้เพียงเท่าท่ีรัฐธรรมนูญกำาหนด  ได้แก่  การแต่งตั้งบุคคล  ให้ดำารงตำาแหน่งสำาคัญบางตำาแหน่ง  การให้คำาแนะนำาหรือเสนอเร่ือง  ไปยงั คณะรฐั มนตร ี ทสี่ าำ คญั ทส่ี ดุ กค็ อื ยงั คงมอี าำ นาจพเิ ศษตามมาตรา  ๔๔  ในการวินิจฉัยสั่งการหรือมีคำาสั่งที่มีผลในทางนิติบัญญัติ  บริหาร  และตุลาการ  เม่ือมีเหตุกระทบต่อความมั่นคง  ความปลอดภัยของ  ประเทศ หรือต้องการผลในเชงิ ปฏิรปู   ครนั้ ประกาศใชร้ ฐั ธรรมนญู ฉบบั ถาวรแลว้ เมอ่ื วนั ท ่ี ๖ เมษายน  79

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม พ.ศ.๒๕๖๐  รัฐธรรมนูญฉบับนี้ยังให้  คสช.คงอยู่ต่อไป  แต่อำานาจ  หน้าท่ีลดลงเป็นลำาดับ  เหลือแค่การให้คำาปรึกษาและคำาแนะนำาแก ่ คณะรฐั มนตร ี ซง่ึ ในทางปฏบิ ตั กิ เ็ ปน็ เรอ่ื งความมน่ั คง แตอ่ าำ นาจหนา้ ที่  สำาคัญที่ยังคงอยู่คืออำานาจพิเศษตามมาตรา  ๔๔  ซ่ึง  คสช.ยังคงยึด  นโยบายเดิม  คือใช้เท่าที่จำาเป็นท่ีหากล่าช้าจะเกิดความเสียหายหรือ  ไม่ทันต่อการแก้ไขหรือป้องกัน   คสช.และอำานาจพิเศษจะหมดไปเมื่อมีการเลือกตั้งและคณะ  รฐั มนตรชี ดุ ใหมเ่ ขา้ รบั หนา้ ท ่ี แต่ผลของการใช้อำานาจพิเศษตามมาตรา  ๔๔  คือ  บรรดาประกาศและคำาส่ังทั้งหลายยังคงมีผลต่อไปจนกว่าจะ  มีการยกเลิก   คสช.มีจำานวนไม่เกิน ๑๕ คน ประกอบด้วยผู้ดำารงตำาแหน่งมา  แต่เดิมส่วนหน่ึง  และผู้บัญชาการทหารสูงสุด  ผู้บัญชาการทหารบก  ทหารเรือ  ทหารอากาศ  ผู้บัญชาการตำารวจแห่งชาติ  โดยมีพลเรือน  คนเดียวคืออาจารย์มีชัย  ฤชุพันธุ์   คสช.เป็นต้นทางขององค์กรอ่ืนอีก ๔ องค์กรหรือแม่น้ำาอีก ๔  สาย  โดยมี  คสช.เป็นต้นน้ำาหรือแม่นำ้าสายหลักสายหน่ึงด้วยตามท ่ี อุปมาเรียกกันง่ายๆ  ว่าแม่น้ำา  ๕  สาย  เพื่อจะได้ประหยัดเวลาไม่ต้อง  ออกชื่อทีละองค์กรจนครบ  ๕  องค์กร   โดยปกติแล้ว คสช.จะประชุมในเช้าวันอังคารก่อนการประชุม  ครม.ท่ีห้องรับแขกใหญ่หน้าห้องประชุม  ครม.ตึกบัญชาการช้ัน  ๕  ทาำ เนยี บรฐั บาล เพอื่ พจิ ารณาปญั หาดา้ นความมน่ั คงหรอื การพจิ ารณา  ใช้อำานาจพิเศษตามมาตรา  ๔๔  ซึ่งเป็นโอกาสท่ี  คสช.จะได้พบ  ครม.  และไดห้ ารอื กับนายกรฐั มนตรี   พูดถึงอำานาจพิเศษตามมาตรา ๔๔ เร่ืองนี้มีท่ีมาคร้ังแรกจาก  มาตรา  ๑๖  ของรัฐธรรมนูญฝรั่งเศสสมัยประธานาธิบดีเดอโกลล์และ  ยังคงอยู่จนทุกวันน้ี  เมื่อมีการจัดทำาธรรมนูญการปกครองราชอาณา-  จักรของไทยเมื่อ  พ.ศ.๒๕๐๒  จอมพลสฤษดิ์ส่ังการว่าคณะปฏิวัต ิ ของท่านกำาลังจะลดอำานาจและฐานะลงอยู่ภายใต้ธรรมนูญการ  80

ปกครอง  แต่สถานการณ์บ้านเมืองยังไม่ดี  อาจเกิดเหตุแทรกซ้อนข้ึน  ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: มาได ้ จงึ ควรใหน้ ายกรฐั มนตรมี อี าำ นาจพเิ ศษไวแ้ กป้ ญั หาบางอยา่ งได ้ คณะที่ปรึกษากฎหมายในขณะนั้นจึงนำามาตรา  ๑๖  ของรัฐธรรมนูญ  ฝรั่งเศสมาดัดแปลงเป็นมาตรา  ๑๗  ของธรรมนูญการปกครองแต่ไม่  เหมือนเสียทีเดียว  อีกทั้งไทยใช้อำานาจพิเศษนี้บ่อยกว่าฝร่ังเศส  ซึ่ง  นานๆ  จึงจะใช้สักที  เช่น  ใช้เม่ือฝรั่งเศสประสบปัญหาความไม่สงบ  ในแอลจีเรยี   จุดอ่อนท่ีการใช้มาตรา ๑๗ ของไทยถูกตำาหนิมากคือ การนำา  ไปใช้ในทางอำานาจตุลาการจนเป็นที่กล่าวว่าฝ่ายบริหารจับผู้กระทำา  ผิดเอง  สอบสวนเอง  พิจารณาความผิดเอง  และวินิจฉัยชี้ขาดเอง  ม้วนเดียวจบ  ไม่มีอุทธรณ์  ฎีกา  ดังท่ีสมัยก่อนมีการประหารชีวิตโดย  วิธียิงเป้าผู้กระทำาผิดวางเพลิงเผาทรัพย์  หรือต้องข้อหาคอมมิวนิสต ์ และอ่นื ๆ หลายราย   เม่ือมีการยึดอำานาจและประกาศใช้รัฐธรรมนูญฉบับช่ัวคราว  ในเวลาตอ่ มาอกี หลายครงั้  อาำ นาจพเิ ศษนก้ี ลบั มาปรากฏอกี หลายครงั้   เช่นกันในนามของมาตรา  ๒๑  และมาตรา  ๒๗  จนกระท่ังมาถึงรัฐ  ธรรมนูญฉบับชั่วคราวใน  พ.ศ.๒๕๕๗  จึงเปล่ียนมาเป็นมาตรา  ๔๔  ซึ่งนิยมเรียกว่า  “ม.๔๔”  และแม้มีรัฐธรรมนูญฉบับ  พ.ศ.๒๕๖๐  แล้ว  มาตรา ๒๖๕ ยงั คงให ้ คสช.มอี าำ นาจนต้ี อ่ ไปจนกวา่  คสช.จะสนิ้ สดุ ลง   คสช.ยึดนโยบำยว่ำจะใช้ ม.๔๔ ในทำงสร้ำงสรรค์หรือ constructive  purpose  เพื่อแก้ปัญหาทางกฎหมาย  ปัญหาทางการ  ปกครอง ปญั หาเศรษฐกจิ  ปญั หาความมน่ั คง แตไ่ มใ่ ชใ้ นเชงิ ตลุ าการ  คือไม่ใช้วินิจฉัยช้ีขาดความผิดหรือลงโทษใคร  และจะใช้เฉพาะกรณี  จำาเปน็ เร่งด่วนเพอ่ื แกป้ ัญหาของประเทศเทา่ นั้น   ในทางปฏิบัติ เคยใช้อำานาจพิเศษนี้แก้ปัญหาของประเทศมา  แลว้ หลายครง้ั  ซงึ่ การใชอ้ าำ นาจตามปกตจิ ะแกไ้ ขเยยี วยาไดไ้ มท่ นั การ  อาท ิ แกป้ ญั หาแรงงานตา่ งดา้ วผดิ กฎหมาย ปญั หาทตี่ า่ งชาตกิ ลา่ วหา  81

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม ไทยว่าทำาผิดกฎหมาย  ไร้ระเบียบ  ขาดการควบคุม  (IUU)  ในเร่ือง  ประมงจนเขาต่อต้านสินค้าเกษตรของไทย  ปัญหาการบินพลเรือน  ซ่ึงต่างชาติไม่ยอมให้สายการบินไทยไปลงที่ท่าอากาศยานของเขา  ปัญหายาเสพติด  ปัญหาการบุกรุกที่ดินสาธารณะ   กระบวนการใชอ้ าำ นาจพเิ ศษตาม ม.๔๔ คอื  เรม่ิ จากหนว่ ยงาน  ท่ีมีคำาขอหรือเสนอให้ใช้อำานาจนี้จะมีหนังสือรายงานเหตุผล  ความ  จาำ เปน็ อนั มอิ าจหลกี เลยี่ งไดห้ รอื การใชม้ าตรการปกตจิ ะลา่ ชา้  ยงุ่ ยาก  หรือไม่อาจดำาเนินการได้ไปยังหัวหน้า  คสช.พร้อมท้ังยกร่างคำาส่ัง  แนบไปด้วย  ต่อจากน้ันฝ่ายกฎหมายของ  คสช.และฝ่ายกฎหมาย  ของรัฐบาลจะร่วมกันพิจารณากล่ันกรองความจำาเป็นและพิจารณา  วา่ เข้าเกณฑ์การใช้อาำ นาจพิเศษตามที่ ม. ๔๔ บัญญัตหิ รอื ไม่   เปน็ ธรรมดาอยแู่ ลว้ วา่ เมอ่ื หนว่ ยงานตา่ งๆ เหน็ วา่ การใชอ้ าำ นาจ  พเิ ศษรวดเรว็ ทนั ใจวอ่ งไวด ี ทง้ั ไมต่ อ้ งผา่ นสภาฯ การชแ้ี จงหรอื เปดิ เผย  ข้อมูลก็ไม่ต้องทำา  จึงมักเสนอให้ใช้  ม.๔๔  เสมือนใช้ทางลัด  ทางด่วน  หรือมอเตอร์เวย์  ไม่ต้องรถติดกลางถนนเหมือนไปด้วยเส้นทางปกต ิ การตรวจสอบกล่ันกรองจึงเป็นเร่ืองสำาคัญเพราะจะตามใจหน่วยงาน  ของรัฐไมไ่ ด้ จะใช้อาำ นาจพเิ ศษพร่ำาเพรือ่ ไม่ได ้   ในทางปฏิบัติ การตรวจสอบก็พยายามทำาอย่างรอบคอบ โดย  มีการเชิญผู้แทนหน่วยงานต่างๆ  มาพิจารณาร่วมกันทุกคร้ัง  อาทิ  ถ้า  เป็นเร่ืองด้านความมั่นคงก็เชิญสำานักงานสภาความม่ันคงแห่งชาติ  กระทรวงกลาโหม  กระทรวงมหาดไทย  กระทรวงการต่างประเทศ  ถ้า  เป็นเร่ืองเงินๆ  ทองๆ  ก็เชิญกระทรวงการคลัง  สภาพัฒน์  สำานักงบ  ประมาณ  ถ้าเป็นเรื่องกฎบัตรกฎหมายก็เชิญสำานักงานคณะกรรมการ  กฤษฎีกา  กระทรวงยุติธรรม  สำานักงานอัยการสูงสุด  บางเร่ืองก็ฟัง  ความเห็นของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ  องค์กรอิสระ  สนช.  บาง  เร่ืองฟังความเห็นภาคเอกชน  เช่น  หอการค้าไทย  สภาอุตสาหกรรม  นักลงทุน  ผู้ได้รับผลกระทบ  หลายเร่ืองฟังความเห็นของนักวิชาการ  นักวิจัย  และมีเหมือนกันท่ีชาวต่างชาติ  เช่น  กลุ่มผู้ประกอบการใน  82

ต่างประเทศมีหนังสือมาสนับสนุนขอให้ใช้  ม.๔๔ แก้ปัญหาเพราะ  ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: เขารอมาตรการปกติไม่ไหว  ทูตจากประเทศหนึ่งซึ่งรัฐบาลเขาเคย  วจิ ารณก์ ารยดึ อาำ นาจตอนตงั้ รฐั บาลใหมๆ่  ไดม้ าพบผมและยกปญั หา  สำาคัญของนักลงทุนซ่ึงรัฐบาลเขาติดใจมาก  ผมแจ้งว่าติดที่กฎหมาย  การแกก้ ฎหมายใชเ้ วลาเปน็ ป ี เขาตอบวา่ ทปี่ รกึ ษารฐั บาลของเขาเสนอ  ให้ไทยชว่ ยใช้ ม.๔๔ ผมหวั เรำะหๆึ ถำมว่ำเอำงน้ั หรอื ! ไหนว่ำรงั เกียจไงล่ะ   คำาว่ามาตรการปกติซ่ึงควรใช้ก่อนจะใช้ ม.๔๔ หมายถึงมาตร-  การทวั่ ไป อาท ิ การออกคาำ สงั่ ทางบรหิ ารตามอาำ นาจในกฎหมายตา่ งๆ  ที่มีอยู่  การตราเป็นพระราชกำาหนด  และการตราเป็นพระราชบัญญัต ิ ซง่ึ ถา้ จะใชอ้ าำ นาจพเิ ศษตาม ม.๔๔ ตอ้ งมหี ลกั ฐานวา่ ไมอ่ าจใชม้ าตร-  การปกติเช่นว่านั้นได ้ หรอื ถา้ รงั้ รอจะลา่ ชา้ จนเสยี หายไมท่ นั การ เชน่   คราวใช้แก้ปัญหาแรงงานประมง  ปัญหาการบินพลเรือน  ปัญหาช่วย  เหลือผู้ประกอบการโทรทัศน์ดิจิทัล  ปัญหาการเรียกเก็บภาษีของกรม  สรรพากรจนกระทบต่อนักลงทุน  ปัญหาการออกประกาศของ  ป.ป.ช.  ตามกฎหมาย  ป.ป.ช.  เก่ียวกับการย่ืนบัญชีทรัพย์สินจนกระทบต่อ  กรรมการต่างๆ  ของรัฐกว่าร้อยคณะ  ปัญหานักลงทุนต่างชาติย่ืนขอ  จดสิทธิบัตรกัญชา  ปัญหาเก่ียวกับกฎหมายเลือกตั้งและกฎหมาย  พรรคการเมอื ง   เอาเข้าจริงแล้ว ในบรรดาข้อเสนอท่ีขอให้ใช้ ม.๔๔ สัก ๑๐  เรื่องจะผ่านด่านกล่ันกรองได้  ๑-๒  เร่ืองคือประมาณ  ๑๐  เปอร์เซ็นต ์ ต่อจากน้ันก็จะเสนอต่อไปยังหัวหน้า  คสช.หากหัวหน้า  คสช.เห็น  ด้วยก็จะนำาเข้าที่ประชุม  คสช.ซ่ึงในบรรดา  ๑-๒  เรื่องท่ีหลุดไปถึง  ชั้น  คสช.ก็จะได้รับความเห็นชอบบ้าง  ไม่ผ่านการพิจารณาบ้าง  แต ่ ทกุ เรอ่ื งจะมคี าำ แนะนาำ ใหก้ ลบั ไปปรบั แกเ้ รอื่ งโนน้ เรอ่ื งนเ้ี สมอ บางครงั้   ต้องกลับไปฟังความเห็นใหม่หรือตรวจสอบความขัดแย้งกับกฎหมาย  อ่ืน  ตลอดจนถ้อยคำาสำานวนภาษาซึ่งเป็นภาระของสำานักงานคณะ  กรรมการกฤษฎกี า 83

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม   คสช.จะพิจารณาทั้งในมิติทางความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคม  เช่น ผลกระทบต่อประชาชน  การสร้างภาระให้ประชาชน  มิติทาง กฎหมาย  สิทธิมนุษยชนและมิติทางการเมือง  เช่น  ถูกกาลเทศะไหม  ต่อจากน้ันจึงจะเสนอหัวหน้า  คสช.ลงนามประกาศใช้และลงราชกิจ-  จานุเบกษาแล้วแจ้งประธาน  สนช.ทราบ  เฉล่ียแล้วคำาสั่งแต่ละฉบับ จะใช้เวลาในช้ันพิจารณาประมาณ  ๓๐  วัน  ยกเว้นที่เป็นการแต่งต้ัง  โยกย้ายเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยเหตุผลพิเศษท่ีไม่เป็นไปตามกฎเกณฑ์ ปกติอาจใช้เวลา  ๗-๑๐  วัน  และมีบ้างที่บางเรื่องต้องใช้เวลานานถึง  ๓  เดือน  ซ่ึงบางฉบับพอเอาเข้าจริงขนาดใช้ทางด่วนหรือมอเตอร์เวย ์ ก็ยังออกตัวได้ช้า  รถยังติด  คสช.เลยเชิญลงจากทางด่วนกลับไปใช ้ ทางธรรมดาเพราะไหนๆ  ก็ช้าแล้ว  แต่ทุกฉบับ  คสช.จะกำาชับเสมอว่า  ม.๔๔  เป็นมาตรการช่ัวคราว  ไม่มั่นคง  มั่งค่ัง  ย่ังยืน  เปรียบเหมือน  การปฐมพยาบาล  ดังน้ันหน่วยงานเจ้าของเร่ืองต้องกลับไปปรับเข้าส ู่ ระบบกฎหมายปกต ิ แกไ้ ขกฎหมายปกตใิ หค้ รอบคลมุ เรอื่ งนใ้ี นโอกาส  ต่อไป   การใช้อำานาจพิเศษตาม ม. ๔๔ นี้เคยมีมือดีทำาเอกสารปลอม  และเผยแพร่ทางราชกิจจานุเบกษาฉบับปลอมอยู่เหมือนกัน  อาทิ  เมื่อวันที่  ๑๑  กุมภาพันธ์  พ.ศ.๒๕๖๒ ได้มีคำาส่ังหัวหน้า คสช.ท ่ี ๒/๒๕๖๒  เร่ือง  ให้ข้าราชการพ้นจากตำาแหน่ง  มีเน้ือความว่าให้  ผู้ดำารงตำาแหน่งผู้บัญชาการทหารบก  ผู้บัญชาการทหารเรือ  และ  ผู้บัญชาการทหารอากาศพ้นจากตำาแหน่ง  และทำาเป็นเผยแพร่ใน  ราชกิจจานุเบกษา  เล่ม  ๑๓๕  ตอนพิเศษ  ๑๙๕  ง  หน้า  ๒๓  โดยอ้าง  คำาส่ัง  คสช.ตาม  ม.  ๔๔  ผู้ปลอมคงไม่ทราบว่าการจะมีคำาส่ังตาม  ม.  ๔๔  ได้ต้องมีการประชุม  คสช.ซ่ึง  ผบ.ทบ.  ผบ.ทร.  ผบ.ทอ.  เข้าประชุมด้วย  การมีคำาส่ังโดยมติ  คสช.ดังกล่าวจึงไม่อาจเกิดขึ้นได้  เลย   การใช้อำานาจพิเศษไม่ใช่เรื่องดีนัก เป็นดาบสองคมอยู่เหมือน  กัน  ส่ือและนักวิชาการจึงมักติงว่าระวังถ้าใช้บ่อยจะเกิดความเคยชิน  84

ทั้งผู้ใช้อำานาจ หน่วยงานที่เสนอให้ใช้อำานาจ ประชาชนที่เรยี กรอ้ งให ้ ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: ใช้อำานาจ  ตลอดจนประชาชนท่ัวไปจนอาจเกิดอาการเสพติด  ติดอก  ตดิ ใจทง้ั ผใู้ หแ้ ละผรู้ บั สมถวลิ  เป็นกำาลังเลิศพลังอื่นท้ังสิ้น เม่ืออำานาจ  น้ีหมดไปจะว้าเหว่และถวิลหา   ดังนั้น กำรสร้ำงควำมรับรู้ควำมเข้ำใจแก่ประชำชนว่ำ  เร่ืองนี้เป็นเร่ืองพิเศษเฉพำะกิจเฉพำะกำล  เป็นข้อยกเว้น  ไม่ใช่  หลักในระบอบประชำธิปไตย และเป็นกำรใช้เพ่ือรักษำหลักนิติ  ธรรมให้คงอยู่  ไม่ใช่ใช้เพ่ือท�ำลำยหลักนิติธรรมเสียเอง จึงเป็น  สิ่งสำ� คญั 85

พลเอกประยทุ ธเปน คนเดด็ ขาด พดู คําไหนคํานั้น กลา หาญ กลา ไดก ลา เสีย ใครอยาไปทา อะไรเปน อนั ขาด

มาร้จู ักนายกฯ ลุงตู่กนั หน่อย เรอื แป๊ะลำ� นี ้ กปั ตันช่อื  “นำยกฯ ลุงตู่”   ตามข้อมูลประวัตินายกรัฐมนตรีท่ีมีผู้เผยแพร่ทั่วไประบุว่า  พลเอก ประยทุ ธ ์ จนั ทรโ์ อชา เปน็ นายกรฐั มนตรคี นท ี่ ๒๙ ผมนบั นว้ิ ดู  ปรากฏว่าเป็นนายกฯ  คนท่ี  ๘  ท่ีผมมีโอกาสทำางานด้วย  ก่อนหน้านี้  คือนายกฯ  คนที่  ๑๗  (พลเอกชาติชาย)  ๑๘  (นายอานันท์)  ๑๙  (พลเอก  สุจินดา)  ๒๐  (นายชวน)  ๒๑  (นายบรรหาร)  ๒๒  (พลเอก  ชวลิต)  และ  ๒๓  (ดร.ทักษิณ)   พลเอกประยุทธ์ชื่อเล่นว่า “ตู่” เกิดเม่ือวันท่ี ๒๑ มีนาคม พ.ศ.  ๒๔๙๗  ที่จังหวัดนครราชสีมา  เป็นบุตรคนโตในจำานวน  ๔  คน  บิดา  เป็นทหาร  มารดาเป็นครู  ชีวิตวัยเยาว์ย้ายตามบิดาไปเข้าโรงเรียนท่ี  ลพบุรีแลว้ มาตอ่ ทีโ่ รงเรียนวดั นวลนรดศิ ฝง่ั ธนบรุ จี นจบชั้น ม.ศ.๓   มิน่า! เวลาไปเยี่ยมราษฎรที่โคราชก็อ้อนได้จริงๆ ด้วยว่าเป็น  หลานย่าโม และไปลพบุรีกบ็ อกไดเ้ ตม็ ปากเต็มคำาวา่ เปน็ ชาวลพบรุ ี   ท่านเคยต้ังใจอยากเรียนต่อทางวิศวกรรม แต่บิดาเป็นทหาร  จึงอยากให้เป็นทหารเจริญรอยตาม  จึงสอบเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร  87

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม รุ่น  ๑๒  และโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่น  ๒๓  สำาเร็จการ  ศึกษาแล้วเข้ารับราชการทหารและย้ายไปอยู่ที่ต่างๆ  จนได้เป็น  ผ้บู ัญชาการกองพลทหารราบท่ ี ๒ รักษาพระองค ์ รองแม่ทพั ภาคท ่ี ๑  แม่ทัพภาคที่  ๑  เสนาธิการทหารบก  รองผู้บัญชาการทหารบก  และ  ผู้บัญชาการทหารบกใน  พ.ศ.๒๕๕๓  ก่อนเกษียณอายุ  ๔  เดือนเป็น  หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ  และก่อนเกษียณอายุ  ๒  เดือน  ได้เป็นนายกรัฐมนตรี  ในยุคท่ีมีการเรียกขานทหารตามสังกัดและ  การเติบโตในราชการ  ท่านเป็นทหารเสือราชินีและทหารบูรพาพยัคฆ์    ชีวิตครอบครัวสมรสกับอาจารย์นราพร จันทร์โอชา มีบุตร ี ฝาแฝด  ๒  คน   มีข้อมูลว่าสมัยเด็กเป็นคนเรียนเก่ง  ความจำาดี คะแนนดี ม ี ลักษณะความเป็นผู้นำามาโดยตลอด  ชอบคณิตศาสตร์  วิทยาศาสตร์  เป็นคนกล้าพูดกล้าทำา  พูดจาฉาดฉาน  มีระเบียบวินัยและเป็นแบบ  อย่างใหเ้ พอื่ นๆ นอ้ งๆ มาแต่เดก็  ว่ากันวา่ ชอบอ่านนติ ยสารชัยพฤกษ์ และเป็นแฟนประจำาจนชัยพฤกษ์เคยลงข่าวว่าเป็นเด็กเรียนดีมีวินัย  พูดถึงชัยพฤกษ์  คนรุ่นน้ีอาจไม่รู้จัก  ผมเองก็เคยเป็นขาประจำาแฟน  คลับของชัยพฤกษ์ซึ่งเป็นนิตยสารโด่งดังเมื่อ  ๕๐  ปีก่อน  ให้ความรู ้ ความบันเทิงสำาหรับเด็กดีมาก  ผมเป็นตัวเป็นตนมาจนทุกวันนี้เพราะ  ส่วนหน่ึงได้ความรู้พ้ืนฐานจากชัยพฤกษ์  สมัยน้ันหาหนังสือดีๆ  ไม ่ เป็นพิษเป็นภัยแก่เด็กได้ยาก  ถ้าท่านนายกฯ  ประยุทธ์จะเปิดชมรม  ศิษย์เก่าชัยพฤกษ์  ผมจะไปเป็นสมาชิกด้วย   ทีน้ีว่ากันถึงข้อมูลนอกราชการ ตามที่ผมสังเกตเห็นเองและ  จากคำาบอกเล่าของคนใกล้ชิด  พลเอกประยุทธ์เป็นคนเด็ดขาด  พูด  คำาไหนคำานั้น  กล้าหาญ  กล้าได้กล้าเสีย  ใครอย่าไปท้าอะไรเป็นอัน  ขาด  ขณะเดียวกันก็เป็นคนสนุก  ร่าเริง  เปิดเผย  ตรงไปตรงมา  ชอบก ็ บอกวา่ ชอบ ไมช่ อบใครกส็ ามารถบอกผนู้ นั้ ไดต้ รงๆ อยา่ งไมอ่ อ้ มคอ้ ม  ว่าผมไม่ชอบคุณ  ไม่ใช่คนปากปราศรัย  นำ้าใจเชือดคอ  ขณะเดียวกัน  ก็ไมใ่ ช่คนชนิดยอมให้น้าำ ขุ่นอยใู่ น นา้ำ ใสอยนู่ อก เพราะท้งั นำา้ ขนุ่ นา้ำ ใส  88

จะกระฉอกออกมาจนเหน็ ไดช้ ดั  ความเปดิ เผยโปรง่ ใสนกี้ ระมงั ที่ทาำ ให ้ ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: มักเก็บอารมณ์ไม่อยู่  พอขุ่นใจก็จะทำาหน้านิ่วค้ิวขมวด  ออกอาการ  หงุดหงิดอย่างเปิดเผยให้เห็นแต่หายเร็ว โดยเฉพาะเมื่อแสดงอาการ  หงุดหงิดออกไปแล้วก็ดูจะโอ่โถงโล่งแจ้งสบายใจลืมเร่ืองเก่า  ในขณะ  ท่ีคนฟังอาจจะเพง่ิ เริ่มหงดุ หงิด   สมัยเป็น ผบ.ทบ.ท่านเป็นอย่างน้ีหรือเปล่าผมไม่เคยรู้ แต่ถึง  จะเป็นก็คงไม่บ่อยเพราะวงการทหารเขาไม่ถือสาหาความกันและคง  ไม่มีเร่ืองมาตอแยให้ต้องหงุดหงิดขัดเคืองเท่าไรนัก  เพราะลูกน้องไม่  แหย่นายอยู่แล้ว  แม้แต่กับผู้สื่อข่าวก็คงไม่ใคร่ได้พบปะกันมากนัก  แต่เม่ือมาเป็นนายกรัฐมนตรีต้องเผชิญกับกองทัพผู้สื่อข่าววันละ  ๓  เวลาหลังอาหาร  นักข่าวบางคนก็ซักไซ้ไล่เรียงเก่ง  ต้อนหน้าต้อน  หลัง  บางทีก็ต้ังใจย่ัวให้เกิดโทสจริต  เพราะตำาราสอนว่าคนเราพอ  โกรธก็จะออกอาการอย่างใดอย่างหนึ่งในสองอย่าง  ไม่หน้าตึงแล้ว  เงียบไปเลย  ก็ระเบิดคำาพูดเปรี้ยงปร้างเม้งแตก  หรืออธิบายน้ำาไหล  ไฟดับกะเอาให้คนฟังเข็ดไม่อยากถามอีกนาน   ผมเคยเรียนวิชาซักพยานมาจากอาจารย์มารุต บุนนาค ท่าน  สอนว่าเวลาทนายความซักพยานในศาล  หากพยานเป็นคนเปิดเผย  ช่างพูดก็จงอย่าไปขัดคอหรือต้อนมาก  ปล่อยให้เขาพูดไปจนส้ินถ้อย  กระทงความ ความจรงิ จะพรง่ั พรอู อกมาเอง แตถ่ า้ พยานอกึ อกั  เหนยี ม  อาย  ไว้ตัว  ท่าทางเป็นคนรู้เรื่องแต่ถนอมปากถนอมคำาเหมือนเกรงใจ  คนโน้นคนน้ีก็ต้องใช้วิธีถามต้อนหน้าต้อนหลังยั่วให้โกรธ  ประเด๋ียว  ก็ตะบะแตกหลุดออกมาหมด  วิชาซักแหล่งข่าวอาจสอนมาทำานอง  เดียวกันก็ได้  และนักข่าวคงจับทิศทางได้ว่าท่านนายกฯ  จะเข้าประ-  เภทนี้   ซึ่งถ้าเป็นป๋าหรือพลเอกเปรม หรือพลเอกสุรยุทธ์ ท่านจะอยู ่ ในประเภทหน้าตึงแล้วเงียบ อย่างมากก็บุ้ยใบ้ว่า “กลับบ้ำนเถอะลูก”  ส่วนพลเอกชวลิตท่านจะตอบเฉไฉไปไหนมาสามวาสองศอก  ไถลไป  อีกทางจนนักข่าวเหลียวหน้าล่อกแล่กว่าใครเข้าใจบ้าง  เช่น  พอถูก  89

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม ถามว่า  ที่ท่านนายกฯ  ว่ามันกำาลังจ้องเล่นงานรัฐบาลอยู่นั้น  มันท่ีว่า  น่ะใครหรือครับ  ท่านจะทำาหน้าขึงขังตอบว่า  อ้าว!  ไม่รู้หรือ  มันก็คือ  โปเตโต้ไงละลูก!    อนั ทจ่ี รงิ คนใกลช้ ดิ ทา่ นนายกฯ มกั จะรวู้ า่ ทอี่ อกอาการหงดุ หงดิ   นั้นของจริงหรือเจตนากระเซ้าแสร้งทำาเป็นหงุดหงิดไปงั้นเอง  นักข่าว  จะไดต้ กใจแลว้ หยดุ ซกั ตอ่  เชน่  “ถำมอยไู่ ด ้ เดย๋ี วขวำ้ งดว้ ยโพเดยี ม”  ซง่ึ ใครๆ กร็ วู้ า่ จรงิ ๆ แลว้ จะไปยกโพเดยี มขวา้ งไดอ้ ยา่ งไร พอเอด็ ตะโร  เข้าอย่างน้ี  นักข่าวก็ตกใจหยุดสอบปากคำาทันที  บางทีคำาถามเป็น  เร่ืองลับหรือไม่ควรตอบหรือตอบไม่ถูก จะบอกว่ารู้ก็พูดไม่ได้ จะบอก  ว่าไม่รู้ก็เสียรังวัด  สู้เอ็ดตะโรเอาด้ือๆ  ให้วงแตกไม่ได้  มุกอย่างนี้เคย  เห็นผู้นำาทั้งไทยและเทศใช้มาหลายคนแล้ว  ถ้านานๆ  ทีก็อาจเอาตัว  รอดได้  แต่ถ้าบ่อยคนอาจแยกไม่ออกว่าของจริงหรือมุกจึงทำาให้เสีย  บุคลิกได้  คงมีคนเตือนท่านเหมือนกัน   ระยะหลังจึงคูลดาวน์ลง เช่น ครั้งหนึ่งสวมกำาไลหยก พอผู้สื่อ  ข่าวถามว่ากำาไลนี้ท่านได้แต่ใดมา  ก็ตอบว่าใส่แล้วเขาว่าจะใจเย็น  บางครั้งพอออกอาการก็จะพูดตลกแทรกหรือไม่ก็ยักค้ิวหัวเราะ ระยะ  หลังนักข่าวรู้ทัน  พอเห็นท่านโกรธหน้าบ้ึงเสียงเขียวก็พากันชิงหัวเราะ  คิกคักเสียก่อน  ท่านเลยเขินต้องปล่อยก๊ากตามออกมาด้วย   ในการให้สัมภาษณ์ส่ือมวลชนหลังการประชุมคณะรัฐมนตร ี เมื่อวันที่  ๑๒  มีนาคม  พ.ศ.๒๕๖๒  พลเอกประยุทธ์ได้เปิดใจตอน  หนึ่งวา่   “หลำยคนถำ้ รจู้ กั ผม จะรวู้ ำ่ เวลำทำ� งำนจะเปน็ คนเอำจรงิ เอำจงั อำจไม่มีรอยยิ้มบ้ำง แต่เวลำท่ีอิสระอยู่กับเพื่อนฝูง โดยเฉพำะกับ ครอบครัว ผมเป็นคนตลก สำมำรถพูดตลกได้และซีเรียสก็ได้ แต่ ด้วยภำระหน้ำที่บำงคร้ังก็เปล่ียนไม่ทัน ขอควำมเห็นใจบ้ำง ส่ิงท่ีค่อน ข้ำงซีเรียสมีเรื่องเดียวคือกำรท�ำงำนต้องเอำจริงเอำจัง เพรำะอยู่มำ ตั้งแต่ปีแรกจนถึงปีสุดท้ำย ปัญหำยังไม่จบส้ิน”  (มติชน  ๑๓  มีนาคม  พ.ศ.๒๕๖๒  หน้า  ๑๐) 90

  ท่านดูเป็นคนโกรธง่ายหายเร็วอย่างนี้ แม้จะไม่ชอบคนขัดใจ  ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: โดยเฉพาะขดั ใจแบบพาลๆ หรือไร้เหตผุ ล แต่ลุงต่กู ็ไม่ชอบคนประจบ  เอาใจหรือพูดง่ายๆ  ว่า  “สอพลอ”  เคยมีข้าราชการช้ันผู้ใหญ่เข้าไป  กราบแล้วกล่าวมธุรสวาจา  ท่านจ้องหน้าเขม็งรีบชิงถามว่า  คุณจะขอ  อะไร!  บางคนท่านก็ย้อนเอาว่างานไม่ทำา  คนกำาลังเดือดร้อนมัวแต่มา  วิ่งเต้นขอตำาแหน่งอยู่ได้  ตรงกันข้ามบางคนก้มหน้าก้มตาทำางานจะ  ถูกเขาฟ้องศาลอีนุงตุงนัง  เจ้าตัวก็ไม่เคยปริปาก  ไม่บ่น  ไม่เบื่อ  ท่าน  ก็แอบเรียกเอาประวัติมาดูแล้วเสนอแต่งตั้งเป็นกรรมการโน่นน่ีบ้าง  และชมว่าหนักเอาเบาสู้  คนปิดทองหลังพระอย่างนี้ต้องยกย่อง  บาง  คนเคยวิจารณ์รัฐบาลรุนแรง  แต่พอรัฐบาลทำาดีก็ชมเชย  ท่านบอก  ว่าคนอย่างน้ีปากกับใจตรงกันไว้ใจได้  ว่าแล้วก็แต่งต้ังเป็นกรรมการ  ตาำ แหน่งใหญ่โต    พลเอกประยทุ ธเ์ ปน็ คนควำมจำ� ดแี ละเปน็ นกั พดู นกั บรร- ยายคนหนึ่ง  ได้ยินว่าสมัยเป็นแม่ทัพก็บรรยายได้เป็นฉากๆ  ตอนเป็น  นายกฯ  สามารถยืนบรรยายได้เป็นชั่วโมงโดยไม่ต้องดูโพย  บางคร้ัง  นานถึง  ๒-๓  ชั่วโมงเพราะข้อมูลเพียบ  แล้วมีลูกเล่นลูกฮาแทรกด้วย  เสมอ   มุกฮาที่แทรกบ่อยคือทำาเป็นโกรธหน้าน่ิวคิ้วขมวดบ้างแล้วก็  ตีหน้าขำาตัวเอง  บางทีก็บ่นโน่นบ่นน่ี  เช่น  โอ๊ย!  พูดจนเหนื่อย  ว่าแล้ว  ก็ยกแก้วน้ำาข้ึนด่ืมรวดเดียวหมดแก้ว  บางทีก็กระเซ้าคนฟังว่า  “เห็น คนฟังไม่หลับ คนพูดก็เลยมีก�ำลังใจ  เดิมนึกว่ำจะพูดสัก ๓๐ นำที อย่ำงนี้คงต้องฉลองศรัทธำญำติโยม เอำสัก ๒ ชั่วโมงนะจ๊ะ”  บางท ี กเ็ ลน่ กบั คนฟงั  เชน่  “ชอบไหมอยำ่ งน ี้ ถำ้ ชอบทำ� ไมไมป่ รบมอื ” ฟงั แลว้   เหมือนนักร้องเชิญชวนว่า  “ขอเสียงกรี๊ดหน่อย”  บางครั้งก็ใช้มุกโกรธ  ไปอมยมิ้ ไป ในสภาฯ ทา่ นกเ็ คยแถลงงบประมาณแลว้ ยอ้ นถามสมาชกิ   ว่า  “ใครไม่เห็นด้วยยกมือข้ึน” “ท่ีลุกเดินกันพล่ำนน่ะ ไม่เห็นด้วยหรือ 91

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม ไงจะ๊ ” “ใครทหี่ ลบั อยกู่ ลบั ไปหลบั ทบี่ ำ้ น ผมใหค้ นจดชอื่ ไวห้ มดแลว้ นะ”  มกุ ทง้ั หมดทว่ี า่ น้ีเรยี กเสียงฮาไดท้ ุกที   เวลารฐั มนตรชี แี้ จงและบอกวา่ เรอ่ื งนที้ าำ ไปแลว้ ระดบั หนง่ึ  ทา่ น  เคยสวนทันทีว่าระดับหน่ึงมาหลายเดือนแล้ว  เมื่อไรจะได้ระดับสอง  ระดับสามเสียที  ผมรอมานานแล้ว  เจอมุกนี้รัฐมนตรีไปต่อไม่ถูกเลย  ครับ!   เวลาไปเปิดงานหรือก่อนจะขึ้นเวทีกล่าวปราศรัย ระหว่างรอ  หรือฟังคำากล่าวรายงาน  เป็นท่ีรู้กันว่าเจ้าภาพต้องวางกระดาษขาวไว ้ ๓-๔  แผ่น  ดินสอปากกาพร้อมเพราะความคิดจะโลดแล่นตอนนั้นจน  ต้องคว้าดินสอมาขีดเขียนหลักใหญ่ใจความเร่ืองท่ีควรพูดเสมอ  แล้ว  เดินถือข้ึนเวทีบรรยายไปได ้ ๒ ช่ัวโมง   เวลาพูดและเวลาเขียนท่านนายกฯ จะมีอารมณ์เล่ือนไหลไป  ไดร้ วดเรว็ มากเพราะความคดิ จะแลน่ ปรดู๊ ปรา๊ ด หากเจอเครอื่ งเสยี งไม่  ดคี นฟงั อาจจบั ความตามไดไ้ มห่ มด แตถ่ า้ ถอดเทปมาเปน็ ลายลกั ษณ์  อักษรจะได้สาระใจความ  ระยะหลังบางทีพูดไปก็จะหยุดแล้วเตือน  ตัวเองดังๆ  ออกไมค์ด้วยว่า  “พูดช้ำๆ พูดให้เคลียร์ พูดให้เพรำะๆ”  ว่าแล้วกร็ ะวงั ไปไดส้ กั  ๑๐ นาทีก่อนจะวกกลบั เข้าสู่วงโคจรเดิมอย่ดู ี    คราวหน่ึงท่านเคยไปบรรยายเร่ืองการศึกษาท่ีศูนย์การประชุม  แห่งชาติสิริกิติ์ว่า  “คนอื่นคงไม่ทรมำนเหมือนผมทน อึดยิ่งกว่ำยำง มิชลิน เด้งซ้ำยเด้งขวำแต่สู้ได้ ถ้ำมีก�ำลังใจแบบทุกวันน้ีสู้ตำยไม่กลัว ผมสัญญำในใจว่ำจำกวันน้ีไปจะไม่ตอบโต้ใครอีกแล้ว แต่ดันอดไม่ ได้สักที สวดมนต์ก่อนนอน พรุ่งน้ีอย่ำพลำด อย่ำตอบค�ำถำมใคร ค�ำถำมสื่อที่ไม่เข้ำหูอย่ำไปตอบ นึกภำพอดีตนำยกฯ ทุกคน ค�ำว่ำ กลบั บำ้ นเถอะลกู ผมกอ็ ยำกจะพดู แตไ่ มไ่ ดเ้ พรำะวนั นเ้ี รำกำ� ลงั เผชญิ ปัญหำอยู่ ที่ผ่ำนมำหนัก วันนี้ก็หนัก เป็นคนละแบบกัน โลกกว้ำงขึ้น ควำมขัดแย้งจึงมีสูง อีก ๕ ปีหลังกำรเลือกต้ังไทยจะแข็งแกร่งกว่ำน้ี”  (ไทยรฐั ๑๓ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๑ หน้า ๑๓)   ในเวลาเขียน เช่น ส่ังท้ายรายงานหรือหนังสือราชการ ท่าน  92

เป็นนายกฯ  คนเดียวที่ไม่ยอมลงช่ือ  รับรู้แค่ว่า  “ทราบ”  “เห็นชอบ”  ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: “อนุมัติ”  แต่จะตวัดลายมือขยุกขยิกสั่งการหรือความเห็นหวัดๆ  ต่อท้ายทุกครั้ง  เช่น  “ดีมำก ขอให้ปฏิบัติต่อไปและรำยงำนมำสม�่ำ- เสมอ” “ดแู ลใหถ้ กู กฎหมำยและระเบยี บ อยำ่ ประมำท” “เรอ่ื งนแ้ี ปลก ขอดตู ้นเร่ืองประกอบ” “สรำ้ งควำมรับรูค้ วำมเขำ้ ใจแก่ประชำชนด้วย” “อย่ำให้รำษฎรเดือดร้อน”  มีอยู่คราวหน่ึงข้าราชการช้ันผู้ใหญ่ท่าน  หนึ่งเสนอรายงานยืดยาว  ท่านเขียนเพียงเคร่ืองหมายคำาถามว่า  “?” และอกี คราวเขยี นวา่  “เอำอยำ่ งนน้ั เหรอ!” บอ่ ยครง้ั ทท่ี า่ นเขยี นตอ่ ทา้ ย  ยาวกว่าข้อความในรายงานน้ันเสียอีก  เรียกว่ารัก  โลภ  โกรธ  หลง  จะแสดงออกแม้แต่ท้ายหนังสือราชการ นับประสำอะไรกบั เวลำเจอนกั ขำ่ ว!   ความคิดรวดเร็วทำาให้ข้อเขียนสั่งการจะหวัดมาก แทบจะอ่าน  ไม่ออก  ผมเคยพยายามเดาแต่ก็อ่านผิดจนแทบจะปฏิบัติผิดอยู่แล้ว  ดีท่ีถือไปขอให้ผู้ทรงคุณวุฒิทางการอ่านลายมือนายกฯ  ถอดความให้  หลังจากน้ันจะมีผู้ถอดความด้วยดินสอกำากับมาด้วยเสมอ  ซึ่งหลาย  คร้ังผมพยายามอ่านเทียบกับลายมือจริงก็นึกไม่ออกว่าไฉนจึงถอด  ความออกมาไดเ้ ชน่ นนั้  ทฮ่ี ากนั ทง้ั หอ้ งคอื บางทที ่านจดมาอ่านให้ ครม.  ฟัง  อ่านไปอ่านมาก็หยุดเบรกพรืด  พลิกกระดาษไปมาแล้วบ่นว่า  “อ่ำนไม่ออก”  เพราะนอกจากจะหวัดแล้วยังใช้อักษรย่อและภาษา  อังกฤษตวัดหางยาวเฟื้อยแบบไม่มีฟูลสต๊อปอีกด้วย   นอกจากเปน็ คนพดู เรว็ เขยี นเรว็ แลว้  ทา่ นยงั เปน็ คนขยนั ทาำ งาน  ไปทำางานแต่เช้ากว่าจะกลับก็เย็นคำ่า  ใครมีแฟ้มด่วนส่งไปที่บ้านได ้ ตลอดเวลา  รับไลน์ส่งไลน์โต้ตอบได้เกือบตลอด  ๒๔  ชั่วโมง  ผมเคย  ไดร้ บั ไลนจ์ ากทา่ นตอนต ี ๑ ต ี ๒ ทง้ั ทา่ นยงั เปน็ คนคดิ เรว็  คดิ อะไรทลี ะ  มากๆ  เป็นชุดๆ  ไม่รู้จักเหนื่อย  อึดจริงๆ  ถือว่ามีดีเอ็นเอพิเศษ  ราว  เดือนตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๑ ได้ไปประชุมท่ีญ่ีปนุ่  ๒ วัน บินกลับถึง  สุวรรณภูมิตอนเช้าก็เข้าห้องประชุม  ครม.ทันที  เย็นบินไปประชุมต่อ  ที่บาหลีกลับมาเท่ียงคืนอีกวัน  รุ่งข้ึนไปทำาบุญใส่บาตรและร่วมงาน  93

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม พระราชพธิ ที งั้ วนั  เดอื นพฤศจกิ ายน พ.ศ.๒๕๖๑ ไปประชมุ ทเ่ี บลเยยี ม  กลับมาได้  ๒  วันก็ไปปารีส  กลับมาได้ไม่ถึงวันไปประชุมเอเปกท ี่ ปาปัวนวิ กนิ ีต่อ อีกไมก่ ี่วนั ไปเยอรมน ี นับว่าอึดและทรหดมาก    นอกจากนั้นยังเป็นคนเชื่อมั่นตัวเอง เด็ดขาด ตัดสินใจไว แต ่ ถ้าปรากฏภายหลังว่าไม่ถูกต้องก็พร้อมจะแก้ไขเปล่ียนแปลง  ไม่อาย  ท่ีจะบอกว่าผิดหรือไม่รู้  ใครที่เห็นว่าดุดัน  ตัดสินใจไว  ความจริงคือ  ฟังความเห็นที่ทักท้วงอยู่มาก  ข้อสำาคัญคือท้วงให้ถูกกาละและเทศะ  ผมเองแม้จะลงเรือแป๊ะ  ถ้าเร่ืองอะไรที่ผมเองก็ไม่รู้ว่าถูกผิด  เหมาะ  ไมเ่ หมาะ ใชไ่ มใ่ ช ่ ผมกต็ ามใจแปะ๊  เพราะแปะ๊ เปน็ คนรบั ผดิ ชอบและมี  ขอ้ มลู มากกวา่ ผม แตถ่ า้ เรอื่ งใดท่ีผมเช่ือแน่ว่าไม่ถูกไม่เหมาะ ผมก็ไม่  ยอมตามใจ  ไม่งั้นจะตายหมู่  พอทักท้วงด้วยเหตุด้วยผล  แป๊ะก็ยอม  แถมขอบบุญขอบคุณมาอีก  บางทีแป๊ะก็เอาไปเช็กกับคนอื่นอีกที  พอ  ได้ความตรงกันแป๊ะก็กลับลำาถอยเรือ  ไม่เคยเดินเรือไปชนโขดหินเลย    ท่านนายกฯ เป็นคนอ่านหนังสือเร็วและอ่านได้ละเอียด จับ  ประเด็นไว  ฟังใครอธิบายนิดเดียวก็จะสรุปได้เป็นข้อๆ  ทันทีว่า  ใคร  ทาำ อะไร ทไี่ หน เมอื่ ไร อยา่ งไร ทาำ ไม ดงั นน้ั จงึ ไมใ่ ครช่ อบฟงั คาำ อธบิ าย  ยาวๆ  เยิ่นเย้อ  เว้นแต่ผู้น้ันพูดเร็วปร๋ือจนท่านขัดจังหวะไม่ทัน  ท่าน  บอกว่าบรีฟ  แปลว่ากระชับ  ฉะน้ันอย่าอารัมภบท ถ้ามัวแต่เอ้ออ้า  เงื้อง่าราคาแพง เป็นอันว่าตกม้าตาย ถ้าเป็นอธิบดีก็เห็นจะเจริญยาก  เว้นแต่บางคราวตอนอารมณ์ดี  เคยแซวเจ้าหน้าท่ีสาวๆ  ที่บรีฟยาว  เฟอ้ื ยวา่  “นำ้� ทว่ มทงุ่ แตอ่ ำศยั วำ่ หนเู สยี งด ี หนำ้ ตำรบั แขกจงึ ไดค้ ะแนน สงสำรพอเอำตัวรอดได้” ผนู้ ำ� ของเรำหลำยคนมลี กั ษณะเชน่ น ี้ คอื  อดทน อดกลนั้ อดออมกบั การทาำ งานหนกั  เหนอ่ื ยและหนกั เทา่ ไรกท็ นได ้ แตไ่ มอ่ ดทน  อดกลั้นกับการด่าทอ  บิดเบือน  การชักใบให้เรือเสีย  การเล่าเรื่องหรือ  รายงานทเ่ี ยน่ิ เยอ้ ยดื ยาด ใชโ้ วหารมาก หรอื ทาำ เปน็ ถอ่ มตวั  หรอื ยกตน  ข่มท่าน  หรือแม้แต่กับคำาถามนักข่าวที่ย่ัวให้โกรธซ่ึงหม่อมราชวงศ์  94

คึกฤทธิ์เรียกว่า  “นอตหลุด”  นายกฯ  สมัคร  นายกฯ  ทักษิณ  นายกฯ  ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: อานันท์ก็มักเป็นอย่างน้ี  เพียงแต่ลีลาโต้ตอบกลับของแต่ละคนอาจ  ต่างกัน แต่ถ้ากระบวนอดทน  ไม่ตกหลุมพรางตอแยด้วยก็มี  อาท ิ พลเอกเปรม  พลเอกสุรยุทธ์  นายกฯ  ชวน  นายกฯ  บรรหาร  พลเอก  ชวลติ  จนผ้สู ่อื ขา่ วยอมแพ้ไปเอง   เวลาใครเสนอแฟ้มหรือบันทึกอะไร  พลเอกประยุทธ์จะอ่าน  และขีดเส้นใต้บ้าง  วงกลมบ้าง  กาดอกจันทน์บ้างเสมอ  และแฟ้มมัก  จะกลบั ลงมาภายใน ๒๔ ชั่วโมง ไมเ่ คยตอ้ งตามทวง   ที่ว่าเป็นคนคิดเร็วหมายความว่ามักจะคิดปรู๊ดปร๊าดไป ๒ ชั้น  ๓ ชนั้ วา่ เรื่องนมี้ าไมไ้ หน จะไปทางไหนต่อ และจะเกดิ อะไรขนึ้  ผลใน  ทางการเมอื ง กฎหมาย งบประมาณ ภาระตดิ พนั เปน็ อยา่ งไร กระทบ  ใครบ้าง  ถ้ามีผลอย่างนี้ควรแก้ดักทางไว้ก่อนอย่างไร  ดังนั้นทุกวัน  อังคารจะมีข้อสั่งการหรือข้อคิดสะกิดใจมาบอก  ครม.เสมอ  ท่านมัก  บอกว่าคิดได้ตอนนอน  แต่ยังไม่หลับ  เร่งให้เช้าเร็วๆ  จะได้รีบมาเล่า  ให้ฟัง  ทุกวันน้ีคิดเร่ืองโน้นเร่ืองนี้จนเมียบอกว่าละเมออีกแล้ว  ปัญหา  มันเยอะ  เวลามันเหลือน้อย  พระท่านว่าจงเร่งทำาความเพียรตั้งแต ่ วันนี้  ฉะนั้น  ใครอืดอาดยืดยาดเป็นเรือเกลือเห็นจะไปด้วยกันกับเรือ  แป๊ะยาก   โชคดีท่ีสุขภาพท่านนายกฯ ดีไม่เคยเห็นเจ็บป่วย วันพุธเย็นยัง  ลงมาออกกีฬาท่ีสนามหน้าตึกไทยคู่ฟ้าเป็นประจำาจนองค์การอนามัย  โลกยกย่องว่าเป็นนายกฯ  อนามัย  ส่งเสริมสุขภาพ  แต่เหลียวมองคน  นั่งเรือแป๊ะท้ังหลายซ่ึงเป็นฝ่ายขับเคลื่อนเห็นคร่ันเน้ือคร่ันตัวเม่ือยขบ  น่ังก็โอยลุกก็โอยกันอยู่หลายคน  รวมท้ังผมด้วย   ตอนทา่ นเปน็ นายกฯ ใหมๆ่  ทาำ เนยี บรฐั บาลจดั งานวนั เดก็  เดก็ ๆ  มากันเต็ม  มีเด็กคว้าไมค์เรียกท่านว่า  “นำยกฯ ลุงตู่”  ท่านจึงเป็นลุง  ตั้งแต่นั้นมา  ซึ่งส่ือ  เด็กๆ  และชาวบ้านก็มักเรียกท่านว่า  “ลุงตู่”  ท่าน  เปรยว่าฟังดูดีกว่าบ๊ิกตู่เยอะเลย  จนป๋าหรือพลเอกเปรมก็เคยเรียก  ทา่ นในเวลากลา่ วอวยพรปใี หมว่ า่ นายกฯ ลงุ ต ู่ ดารา นกั แสดง นกั รอ้ ง  95

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม มาพบท่านที่ทำาเนียบ  ถ้ามีอายุรุ่นลูกหลานก็เรียกท่านว่านายกฯ  ลุงตู่  พอนักข่าวไปถามว่านายกฯ  เป็นคนอย่างไร  มักจะได้คำาตอบว่า  “สนุก ไม่เห็นน่ำกลัวอย่ำงท่ีพี่ๆ ลงข่ำวเลย”  ดาราเรื่องบุพเพสันนิวาส  มาพบก็ตอบคำาถามทำานองเดียวกันนี้ว่า  “นำยกฯ ตลกดี” เพราะท่าน  กระเซ้าเย้าแหย่ทีเล่นทีจริง  ถ้าใครรับลูกทันกันหรือรับมุกเป็นก็เล่น  เอาหัวเราะกันครืนๆ  ทั้งห้องจนท่านเอะอะเองว่าเอ๊ะ!  นี่ผมเป็นซูเปอร์  โจ๊กหรือนายกฯ กนั แน่   ในที่ประชุม ครม.บ่อยคร้ังท่ีท่านมีอารมณ์ขัน ปล่อยมุกคลาย  เครียดในที่ประชุมบ่อยๆ  เม่ือเห็นว่าชักเครียดไปแล้ว  บางทีก็หันไป  กระเซ้ารองนายกฯ  ประวิตรซึ่งเอาแต่นั่งยิ้มเผล่  แต่  ครม.ขันจนหาย  เครียดไปได้  รัฐมนตรีคนไหนพูดยืดยาว  ท่านเคยขัดว่า  “เอำละ! พอ แลว้ มงั้ เขำจำ่ ย ๑๐๐ บำท คณุ แสดงเสยี ยงั กบั จำ่ ย ๑,๐๐๐ บำท ขอ งบสบิ ลำ้ นยสี่ บิ ลำ้ น อธบิ ำยเสยี รำวกบั จะขอสกั พนั ลำ้ น”  อกี คราวทา่ น  บอกวา่  “ผมวำ่ ผมพดู มำกแลว้ นะ คณุ พดู มำกกวำ่ ผมเสยี อกี เอำอยำ่ ง ใครกันนะเนี่ย”    คราวหนึ่งเอกสารแจกในท่ีประชุมมากจนท่านต้อง  ยกไปกองใตโ้ ตะ๊  ทา่ นดเุ จา้ หนา้ ทว่ี า่  “ทหี ลงั อยำ่ แจกเอกสำรมำก ไหน ว่ำเป็น ๔.๐ นำยกฯ กำ� ลงั จะเปน็ ขอมดำ� ดนิ มดุ ลงไปควำนหำเอกสำร ใต้โต๊ะอยู่แล้ว ผมแก่แลว้ นะ จะแกล้งกนั หรอื ไง” ในการประชมุ อยา่ งอน่ื คราวหนงึ่  คณุ ประพฒั น ์ ปญั ญาชาตริ กั ษ์  ที่มีสมญาในอดีตตามพระเอกหนังฝรั่งยุคหน่ึงว่า  “ไอ้ก้านยาว”  ท่าน  มาประชุมในฐานะประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ  พอคุณประพัฒน์  พูดจบ  ท่านนายกฯ  ก็ขัดข้ึนว่าผมไม่เห็นด้วยกับคุณ  แม้คุณจะชื่อ  เหมือนพ่อผมก็ตาม!  ท่ีประชุมตกตะลึงไปต่อไม่ถูก  แต่คุณประพัฒน์  หัวไวยกมือไหว้ปลกๆ  แล้วพูดว่า  “ขอประทำนโทษครับท่ำนนำยกฯ พ่อแม่ผมคงผิดไปแล้ว ท่ำนคงไม่รู้มำก่อน”  คราวนี้นายกฯ  หัวเราะ  ก๊ากตอบว่า  “หมอน่ีหัวดี พ่อแม่คุณไม่ผิดหรอก คนชื่อประพัฒน์เป็น คนดแี ละเก่งทุกคน” 96

จะว่านายกฯ  เป็นคนดุ  ฉุนเฉียว  อารมณ์เสียตลอดเวลาคงไม ่ ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: ได้  เพราะท่านมีอารมณ์ศิลปินอ่อนไหวอ่อนโยนอยู่มาก  การส่งเสียง  ดังออกอาการล้งเล้งหัวเสียคงเป็นอย่างอารมณ์ศิลปินม้ัง  แต่เป็น  ศิลปินที่เครียดนะ  บุตรีฝาแฝดของท่านก็เป็นศิลปินนักดนตรี  ยาม  อารมณ์ดีท่านก็จะร้องเพลง    ครม.ถูกเกณฑ์ให้ร้องเพลงหลายหนแล้ว  ที่สำาคัญคือชอบแต่งโคลงกลอน  กลอนท่ีท่านแต่งสัมผัสอาจสะดุด  บา้ ง เพราะไมใ่ ชก่ ว ี แตก่ ไ็ ปได ้ และแตง่ ไดเ้ รว็ เสยี ดว้ ย  มผี เู้ ลา่ วา่ ทา่ น  เคยมีโอกาสแต่งกลอนและเพลงเล่นๆ  จนมีผู้นำาขึ้นถวายสมเด็จพระ  นางเจ้าฯ  พระบรมราชินีนาถ  ทรงพอพระทัย  พระราชทานกำาลังใจ  ให้แต่งอีกเร่ือยๆ  และทรงแนะนำาให้หาหนังสือเรื่องจินดำมณีมาอ่าน  ศกึ ษาวธิ แี ตง่ โคลงกลอน เพลงทา่ นกช็ อบแตง่ โดยพฒั นาไปจากกลอน  ท่านเคยแต่งเพลงคืนความสุขให้ประเทศไทย  เพลงที่บอกว่าขอเวลา  อีกไม่นานน่ันแหละ  นอกจากน้ีก็มีเพลงเพราะเธอคือ...ประเทศไทย  เพลงความหวังความศรัทธา  เพลงสะพาน  เพลงใจเพชร  และเพลง  สู้เพ่ือแผ่นดิน  เป็นต้น   สว่ นอาจารยน์ ราพร ภรยิ าของทา่ นนายกฯ เคยเปน็ อาจารยเ์ กา่   ตาำ แหนง่ รองศาสตราจารยท์ างภาษาองั กฤษทจ่ี ฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั   สังคมรู้จักช่ือในนาม  “อำจำรย์น้อง”  โดยมักไม่รู้จักตัวเพราะท่านจะ  ปรากฏตัวก็เฉพาะออกงานราชการคู่กับท่านนายกฯ  เท่านั้น  ไม่เปิด  บ้านพบใครเป็นส่วนตัว  ไม่ออกงานสังคมลำาพัง  ท่านเองและลูกๆ  ไม ่ เป็นข่าวสังคมหรือข่าวใดๆ  ทางหนังสือพิมพ์  ไม่ให้สัมภาษณ์ใดๆ  จึง  ไม่มีข้อให้ถูกครหา  และไม่มีใครอ้างได้ว่าหลังบ้านเข้ามาส่ังการใดๆ   ที่จริงอาจารย์น้องเป็นคนมีเพ่ือนฝูง มีแวดวงนักวิชาการ มีลูก  ศิษย์เต็มบ้านเต็มเมือง  และมีสังคมของตนเอง  แต่ไม่ข้องแวะกับ  ราชการงานเมืองและการแต่งต้ังโยกย้ายหรือการจัดซื้อจัดจ้างและ  โครงการใดๆ  ขณะนี้ทาำ งานโครงการการศกึ ษาทางไกลผา่ นดาวเทยี ม  ถวายสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  รัชกาลท่ี  ๑๐  ตามท่ีทรงพระกรุณาโปรด  97

:: ิวษ ุณ เค ืรองาม เกลา้ ฯ แต่งตั้ง ส่วนสังคมคู่สมรสคณะรัฐมนตรีก็มีบ้างในการทำาบุญ  ทาำ กศุ ลและสงเคราะหป์ ระชาชน แตไ่ มใ่ หอ้ อกขา่ ว เวลาไปตา่ งจงั หวดั   ก็มีคำาแนะนำาล่วงหน้าไปด้วยเสมอ  เช่น  งดการเลี้ยง  งดยกป้าย  งด  การต้อนรับท่ีฟู่ฟ่าเกินเหตุ  งดการให้ของขวัญ  งดการนำาคนโน้นคนน ี้ ที่ไม่เก่ียวกับงานที่จะไปทำามาต้อนรับขับสู้ร่วมวงด้วย  ผู้ใหญ่  เช่น  พลเอกเปรม  ติณสูลานนท์  ท่านผู้หญิงอังกาบ  บุณยัษฐิติเคยชมให ้ คนฟังว่าทา่ นนายกฯ คนนี้ได้เมียด ี   พลเอกประยทุ ธ์เคยเป็นทหำรเสือรำชินมี ำก่อน และเคย รับใช้ใกล้ชิดเบ้ืองพระยุคลบาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  รัชกาล  ท่ี  ๙  และสมเด็จพระนางเจ้าฯ  พระบรมราชินีนาถ  ท่านจะมีความ  จงรักภักดีและเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์อย่างมาก  สำานวนท่ี  นายทหารผู้ใหญ่เคยใช้กับท่านคือ “อยู่อย่ำงจงรัก ตำยอย่ำงภักดี”  เห็นได้จากคำาพูดและการกระทำาทุกอย่างเก่ียวกับสถาบันพระมหา  กษัตริย์  และท่ีจริงท้ังสองพระองค์ก็ทรงไว้วางพระราชหฤทัยและมี  พระมหากรณุ าธคิ ุณแกท่ า่ นอยา่ งหาทส่ี ดุ มิได้   นอกจากนั้นด้วยความท่ีเคยทำางานโครงการต่างๆ ถวายและ  เคยโดยเสด็จพระราชดำาเนินหลายแห่งจึงเป็นผู้เข้าใจขนบธรรมเนียม  ประเพณี  วิธีปฏิบัติในราชสำานัก  และคุ้นเคยกับข้าราชสำานักทั้งหลาย  อย่างดี   ด้วยความที่เคยเป็นผู้บังคับบัญชาทหาร ท่านจึงเป็นคนมีลูก  น้อง  และเป็นธรรมดาที่ย่อมมีน้ำาใจเอาใจใส่ดูแลทุกข์สุขผู้ใต้บังคับ  บัญชา  เร่ืองนี้เม่ือเป็นนายกฯ  ก็เผื่อแผ่มาถึงการปฏิบัติต่อคณะรัฐ  มนตรีและบุคคลใน  คสช.ด้วยการไต่ถามถึงทุกข์สุข  สุขภาพ  ถามถึง  คนในครอบครัวแบบกุ๊กๆ  กิ๊กๆ  เป็นกันเองจึงมีอยู่เสมอ  การกระเซ้า  เย้าแหย่ในยามไม่ใช่ราชการก็มีเป็นประจำา  ผมเคยสังเกตว่าเร่ือง  อยา่ งน ี้ ผนู้ าำ ทเี่ คยเปน็ ผบู้ งั คบั บญั ชาทหารมากอ่ น อาท ิ พลเอกสจุ นิ ดา  พลเอกชวลติ  พลเอกประยทุ ธ ์ จะแสดงออกมากกวา่ ผนู้ าำ ทเ่ี ปน็ พลเรอื น  98

สมยั นายกฯ ชวลติ  เมอื่ คณุ พอ่ ผมถงึ แกก่ รรม ทา่ นไดก้ รณุ าแจง้  ครม.  ŧàÃÍ× á»Ðˆ :: ตอนท้ายประชุมและเชิญ  ครม.ไปร่วมงานศพ  โดยกระเซ้าว่าน่ีเป็น  มต ิ ครม.นะ   สมัยพลเอกประยุทธ์ ถ้าวันประชุม ครม.ตรงกับวันเกิดของ  รฐั มนตรคี นใด ทา่ นกจ็ ะมแี จกนั ดอกไมอ้ วยพรในท่ีประชุมพร้อมพรว่า  “ขอให้แข็งแรง มีแรงท�ำงำนต่อ”    เวลาออกไปเย่ียมราษฎรหรือตรวจ  ราชการก็มักปฏิบัติอย่างเดียวกันและทำามาต้ังแต่เป็นแม่ทัพ  ไม่ใช่  มาทำาเมื่อเป็นนักการเมือง  ซ่ึงถ้าไปหยิบเพียงบางจุดตัดตอนมาย้ำาก ็ อาจด ู “แปลกๆ” อยบู่ า้ ง   เช่น ท่านไปรำาวงเฉิบๆ กับชาวบ้าน ไปประชุม ครม.สัญจรท ่ี อีสาน  เห็นเขาเซ้ิงก็เซ้ิงด้วย  ดูเขาฝึกโยคะก็ไปยกแข้งยกขาดัดตน  เป็นโยคีกับเขา ไปตรวจงานท่สี วนลมุ ฯ เห็นอามา้ อากงรำาไทเ้ ก๊ก แป๊ะ  ของเราก็รำาไท้เก๊กกับเขาบ้าง วงนักร้องวัยรุ่น BNK  48 มาเย่ียมที่  ทำาเนียบ  ท่านก็เต้นท่าคุกก้ีเส่ียงทายด้วย  ไปบุรีรัมย์ก็แต่งชุดสิงห ์ บิ๊กไบก์ควบบิ๊กไบก์ลงสนามแข่งรถ เห็นชาวบ้านขายลูกสุนัขก็ซ้ือเอา  มาอุ้มเล่น  บางทีก็อุ้มแพะพูดกับแพะ  ภาพอย่างน้ีถ้ายามรักนำ้าต้มผัก  ก็ว่าหวานอาจบรรยายใต้ภาพว่า  “เป็นกันเอง”  “ไม่ถือตัว”  แต่ถ้าครั้น  เน่ินนานน้ำาอ้อยก็กร่อยขมอาจพาดหัวให้ยั่วโทสะได้อีกว่า  “นำยกฯ เพี้ยน  พูดกับแพะ” เปน็ อนั วำ่ นำยกรฐั มนตรคี นท ี่ ๒๙ เปน็ คนมที งั้ จดุ แขง็ และ  จุดออ่ น ซึ่งก็เหมือนคนทว่ั ไปแหละครบั      99

การเสนอขา วคลาดเคลือน อาจมที ่มี าจากความต้ังใจบดิ เบือน เพราะนกั ขา วเองบางทีก็รับลกู ถูกเขาวาวานใช ใหมาถาม  


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook