ผแพ1เ1IIพาณากาาไแงใขฒปแฑฃ?เพ ขางฃง่ม าหฌส่าII ฌ ฌทุกป!ะขูท0?เาาาส่ านที่ ๒๗ เบๆ^ภาคม ๒๕๖๘
ฌ ฌทุ'กแระยูาาง?เาาๅส่ วนที่ ๒๗ 1111]ษ-ภาคม ๒๕0๘
* *1?เตขห^ 2รี4-41ต# * * ฉเเ&ซ'ห*เป็?เข ©00263
ค0าน0า นายชน วรรณสาย มาแจ้งแก่ข้าพเจ่าว่า ในงานฉกปนกชศพ นางองุ่น วรรณสาย ผู้ภรรยา ณ เมรุวิดประยูรวงศาวๅส จ้งหวิดธนบุร ประสงค์จะต่พิมพ์หก้งส่อเรองกามน้ตทํ้งสองภาค เพิอเบนบรรณาก ท่านทเคารพ ชงมเมตตามาช่วยงานฌๅปนก่จศพ และกล่าวต่อไปว่าหนํง์ส่อ เรองกามนิตเบนบทประก้นธ์ท่ให้ทํ้งความรู้และความเพลิน สมควรจะจ้ พิมพ์ไอ้แพร่หลายยิงข็น ข้าพเจ้ามความยินดอนุญาตให้ตพิมพ์เนองใ นิได้ตามประสงค์ หนํงืส้อเรองกามนิตนข้าพเจ้าและนาคะประท่ปร่วมกินทำ โดย ข้าพเจ้าเบนผู้ถ่ายจากภาษาอิงกฤษมาเบนภาษาไทย และนาคะประท่ปเมน ผู้ตรวจแก้สำนวน กล่าวเพิยงนิก็พอ เพราะข้าพเจ้าเคยเขยนอธบายไนฉบ’บ ตพิมพ์คร8งก่อน ๆ อยู่มากครง และท่านผู้อ่านส่วนมากก็ย่อมทราบก้นอยู่แก้ว ก้ๅจะกล่าวในท่นิว่า กามนิดเบนเรองสอนคนให้ร้เรองพุทธศาสนาทางอ้อม คนในท่นิ ข้าพเจาหมายถงประชาชนส่วนใหญ่ แต่ไม'รวมกงคนท่เบีนช8น บญญาชน ชงกอหลักธรรมแต่เฉพาะท่เบนแก่นของศาสนา เบนไปในทาง บญญา ส่วนประชาชนส่วนใหญ่ถอศาสนาด้วยศรํท่ธา เบนไปทางอารมณ์ ความรู้สํก จ่งเท่าก้บเบนส่วนหุ้มนอกของศาสนา ด้นไม้ใดมแต่แ มกะพิและเปลิอกหุ้มแก่นไว้ ด้นไมไา8นจะมช่วิดอยู่ไม่ได้ อ้าด้นไม ก
แด่กะพและเปลอก ไม่มแก่น ก็จะเบนสินไม้ใหญ่มความถาวรไม่ได้ คดในเรองน เรองกามนตก็ม่ขิอความในพระพุทธศาสนา ซงม่ทงแก่นกะพ และเปลอกเหม่อนก“บเบนสินไม้ใหญ่ เรองกามนิตจงยํงม่ผู้นิยมอ ไม่ตายไปง่าย ๆ เหม่อนหนํง์สิอเรองอนในจำพวกเด้ยวกํน ด้วยอำนาจแห่งกองบุญทนายชน วรรณสาย พรอมด้วยบุต ได้บำเพ็ญเบนกุศลบิกษณๅนุประทาน ขอจงอำนวยผลดลบินดาลให่นาวองุ ารรณสาย ประสบแต่ความสุขเกษมสำราญในสํบิปรายภพตลอดไป กาลนาน เทอญ. ราชVณขตยสถา11 ๑6 พ.ค. ไ®ปิ๔๐๘ ข
หน*ง์ลึอที่ระลึกในงานฒาปนกิจ นางองุ่น วรรณสาย เล่มนั ได้รบอนุญาต1ให้ตีพิมพ์จาก ท่านเจาคุณอนุมานราชธน ในนาม *'เสฐยรโกเฅศ” เพื่อเบ็่นบรรณาการแก่ท่านทงหลายที่ได้ให้เก มาประชุมเพลิงศพ'ใน'วํนนั้ ( ๒๗ พฤษภาคม ๒๕๐๘ ) นอกจากนน ท่านยงได้กรุณาสละเวลาเขียนคำนำให้อีกท่วย ขำพเจาและบุตรธิดา จึงขอขอบพระคุณท่านเจ็าคุณอนุมานราชธนเบนอย่างสูง ไว้ณที่นํ และขอขอบพระคุณแด่ท่านที่ได้ให้เกียรติมาในงานกรงน หากมีส็ง่ไ ขาดดกบกพร่อง ขอได้โปรดประทานอภํยดํวย นายชน ารรณสาย ไชใ} พใโ}ษเไากิไช๕0๘ ค
นา3อาน วรรณสาย พ.ศ. ๒๔๔๔ — พ.ศ. ๒๔0๓1
.33 Iฒ I Vจ (ะะ
ประว*ต นางองุ่น วรรณสาย เกิดเมื่อวนพฤหสบดี ขํ้น ๘ กํ่า เดือน' ๖ บี่ฉล พ.ศ.๒๔๔๔ ณ ตำบลสำเภาล่ม อำเภอกรุงเก่า จงหวดพระนคร ศรีอยุธยา เบ็๋นบุตร นายเหม็ง นางเล็ก มีน่องชายร่วมบิดาเดียวกน ©คน คือนายนกุล พ'ฌนจ*นทร์ นางองุ่นได้ทำการสมรสก*บนาย ชน วรรณสาย เมื่อบื่ พ.ศ. ๒๔๖๙ เกิดบุฅรและธิดาดำยก*น ๔ คน กอ ๑. แพทย์หญิงประชุมพโอรชสานนท์พ.บ. ๒. นางประเทือง ผลาภิรมย์ ๓. นายส*ญิชํย วรรณสาย พศ.บ. ๔. นางสาวสนี วรรณสาย ภ.บ. ฅามปกติ นางองุ่น วรรณสาย มีใจเมตตากรณา ผกใผืใน การบุญกุศล และเข็าว'ดพงธรรมเสมอ แต่ไค้เรื่มบืวยกระเสาะ กระแสะมาเบึนเวลาประมาณ©๐บื่ ในบี!หล*งๆนิไม่ได้ออกนอก บำนไปไหนเลย เพราะสุขภาพ'ไม่สมบูรณ์ ต่อมาในคืนว'นที่ ©๕ กนยายน ๒๕๐๗ เกิดมีอาการชา ตามแขน ขา ครึ่งซีกขวา พูดไม่ชด และกลายเบี่นอมพาดครึ่งซีก ไปรำษาตำอยู่ณตึกธนาการ’ไทยพานิชย์ โรงพยาบาลคิริราช นายแพทย์ได้วินิจฉยว่า เบนโรคเล่นเลือดในสมอง จ
อุดตน รวมรกษาฅํวอยู่ ๕๒ วน และไค้ถึงแก่กรรมด้วยอาการระบบ การไหลเวียนเลือดลไ)เหลว เมื่อวนเสาร์ที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕ เวลา ๑๑.๔๕ น. ท่ามกลางความเศรำสลดเสียใจของลูกหลาน และ ญาติมิตรที่ใกล้ชิด คิริรวมอายุได้ ๖๓ บื่ ขออำนาจแห่งอานิสงส์ผลบุญทงหลายที่นางองุ่ว5^ น รวมท8งที่ขาพเจาและบุตรธิดา ตลอดจนญาติมิตร ได้ฅํ้ง์ใจบ ให้ จงเบนผลส่งให้วิญญานของ นางองุ่น วรรณสาย ได สุคติในสไปรายภพด้วยเทอญ. ชน วรรณสาย ๒๖ พฤษภาคม ๒๕0๘ ฉ
ภาคหนึ^ ขนดฆ หนื้ง พระพุทธเฑ้เสด็จกลํบเบญจครนคร “ขาพเจาได้สด'บมาอย่างนึ่ ะ สมยหนึ่งเมื่อพระผ้มีพระภ พุทธเจาเสด็จลงมาฅรํส1นมนุษยโลกแล่ว์ และถึงวาระอนควรจะเสด็จ เข’าสู่ปรินิพพาน, พระองค์ได้เสด็จสู่ที่จารึกไปในคามน ราชธานีต่าง ๆ แห่งแกวนมคธ จนบรรลุกรุงราชคฤหมหานคร.” ขอความในพระสูตรเบี่นดงนึ่. ©©© ขณะพระองค์เสด็จมาใกล้เบญจคีรีนคร คือ ราชคฤหเบนเวลา จวนสํ้นทิวาวาร. แดดในยามเย็นกำล'งอ่อนลงสู่สมยใกล้วิกาล ทอแสง แผ่ซ่านไปยงศาลีเกษตร แลละลี่วเห็นเบ็๋นทางสว่างไปทวประเทศสุด สายตา ดูประหนึ่งมีหฅถ์ทิพย์มาปกแผ่อำนวยสวสดี เบองบนมีกลุ่ม เมฆเบนคลื่นซอน'ซบสลบกนเบนทิวแถว ตองแสงแดดจบเบ็่นสีระยํบ วะว'บแววประหนึ่งเอาทรายทองไปโปรยปราย เลื่อนลอยลื่ว ๆ เรี่ย ๆ รายลงจดขอบพา. ชาวนาและโคก็เมื่อยล็าคํวยฅรากตรำทำงาน ต่าง พากนคุ่ม ๆ เดินกลบเคหสถานเห็นไร ๆ. เงาหมู่ไม้อนโดดเคี่ยวอย่ ๑
กอเคียว ก็ยืดยาวออกทกที ๆ มีขอบปริมณฑลเบ็นรศมีแห่งส อ,นกำแพงเชิงเทินบอมปราการที่ลอมกรุง รวมท1ง์ทวารบถทาง นครเล่า มองคุในขณะนน เห็นรูปเกไได้ชดถนคแช่งค”ง้ว่านิ มีสุมทุมพุ่มไม้คอกออกดกโอบอือมลอมแน่นเบ็1นขนด. ถดไป เขาสงตระหง่าน มีสีในเวลาตะวนยอแสง ปานจะฉายเอาไว้เพื่อแข ก”บแสงสีมณีวิเศษ มีบษยวาคบ,ณฑรวรรณและก่องแกวโกเมน แม รวมกน'ให้พ่ายแพ้ฉะน8น. พระตถาคตเจาทอดพระเนตรภูมิประเทศดํ่งนิ พลางรอ บาทยุคลทยุดเสด็จพระดำเนิน มีพระหฤท,ยืเบี่ยมค่วย่โส ในภูมิภาพที่ทรงจำมาได้แต่กาลก่อน เช่น ยอดเขากาหกฏ ไวยุเลย บรรพต อิสีคิลิ และคิชฌกฏ ซึ่งสุงตระหง่านกว่ายอดอื่น. ยี ทรงทอดท,ศนาเห็นเขาเวภาระ อํนมีกระแสธารนารอน, ก็ทรงระลึก ถึงคูหาใต้ล้นสตตบรรณ ยินอยู่เชิงเขานน, ว่าเมื่อพระองค์ สิญจรร่อนเร่แต่โดยเคียว แสวงหาพระอภิสมโพธิญาณ ไค้เกยป สำราญพระอิริยาบถอยู่ในที่น*นํ้เบ็่นกรํ้ง์แรก ก่อนที่จะเสด็จอ สิงสารวฏฏ เช่าสู่แคนศิวโมกษปรินิพพาน. สมไ!เมื่อล่วงแสิวิแต่ปางหล่ง กรง์ยํงมีพระชนมา พระเยาวกาล เมื่อพระเกคายงดำเบนม่น่ขสิบ เสวยอิชารมณ์ผงม ความบไแทิงสุขโดยอุดม อ*นควรแก่ผู้อยู่ในวยหนุ่ม'นํ้น, พระอง ทรงสละสรรพสุขศฤงคารเสียได้แล้ว เสด็จออกจากพระราชสกลวง
แห่งศากยชนบทในอุดรประเทศ เช่าสู่เขตลุ่มนาแม่คงคา บรรลุถึง เชิงเวภารบรรพตอนสูงด็ว ไค้เสด็จประทบอยู่ที่นํ้นเบ็่นป^ม ฅลอคเวลาไค้ชำนาน และเสด็จภิกขาจารในกรุงราชคฤหทุกบุพพ*ณห เวลา. สม'ยนน และในคหาน8น พระเจ่าพิมพิสารทำวพญาแห่งมคธ ราษฎร์ ไค้เสด็จมาเผาเยี่ยมพระองค์ ทรงช่อนวอนอ*ญเชิญเสด็จ กลบคนแกวนศากยะ เพ^ือเสวยความสุขแเ^ห่-งโลก. แI ตพระตถาคต มิทรงหวนไหว กล*บประทานพระธรรมเทศนา, จนพระเช่าพิมพิสาร บงเกิดความเลื่อมใสศร'ทธาในพระส*ทธรรม ต่อมาไค้เบนอุบาสกสำก*ญ ของพระพุทธองค์เจา. น'บแด่นไเมา จนถึงเวลาที่กล่าวนํ้ ล่วงไค้ ๕๐ บี!บริบูรณ์ ระวาง ๕๐ บี! นน มิใช่จะเพียงทรงเปลี่ยนแปลงพระองค์ จากความ เบ็1นผู้แสวงหาความจริง จนได้ตริสร้พระสมโพธิญาณ, ย*งทรงบนดาล ให้ความมีความเบ็1นแห่งสงสารโลกเปลี่ยนแปลงไปคิวย. อคีฅกาลเมื่อ เสด็จประท*บอาศไเอยู่ในถา ใต้คินส*ฅตบรรณคร8งกระโนน ถาเทียบ ก*บครํ้ง์กระนื คูผิดกนห่างไกลนกหนา. กร8งกระโนน พระองค์เบ็๋น ผู้แสวงหากวามหลุดพนทุกข์, ตองต่อสู้ก*บกิเลสมารอํนหนาแน่น, คิองกระทำทุกรกิริยา ซึงมนุษย์อื่นที่แกคิวกลำสามารถก็ย่อห่อทำ ไม่ไค้, จนภายหล*งทรงเห็นแช่งซึ่งสงสารทุกข์ เสด็จออกจากทุ ได้ดรสเบนพระสมมาสมพุทธเจ้า. อ*นความเบนไปของพระองค์กรํ้ง ๐า
กระโน่นตลอดมาจนกรงกระนํ้ ก็เหมือนด'งกลางวนในฤดูฝน พ เชำมีแสงแดดแผดจา, แล่วินภากาศพะย*บอบแสง, เกิดพายุแรง คะนองก็องสะ'ทำนซ่านดำยเม็ดฝน ; กรนแล่วิ ทองพากหายมืดม กล*บสว่างสงบเงียบ, มีวิเวกเหมือนภูมิประเทศในยามเย็นที่กล จนกว่าพระอาทิฅย์จะอ*สดงดึงหาย’ใปในขอบพา. อินว่าพระอาทิตย์จะอิสคงลงฉ'นใด, สำหริบพระตถาคต ขณะนั้ก็มีฉินน1น พระองค์ได้, ทรงล่งสอนเวไนยล่ตว์ให้เ กองทุกข็, ทรงแสดงพระธรรมอินแท้-จริง'ให้แจงประจกษ์, และป หล'กกวามหลุดพนจากทุกข์แก่มนุษยนิกรที่วิโลกธาตุ ; ม เบนผู้ศสาืสโบนวาท เผยแผ่พระธรรมของพระองค์ให้แพร่ และประพฤติปฎิบํตล่วิยกายวาจาใจ ริกษาไว้ตลอดจิรกาลาวสาน. แม้เมื่อพระองค์เสด็จประที่บยืนอยู่ขณะนน, ก็ได้ทรงจ การ อินเกิดขนดวิยพระปริวิตกถึงที่ได้เสด็จมาโดดเดี่ยวตลอ “ถึงเวลาแลวิ ในไม่ชำเราก็จะละสงสารนืไป คือ ล่งสาระ ถ่ายถอนตนหลุดพนแล่วิ ตลอดจนยิงผู้ที่มาในภายหล่งให้หลุดพนค แล่วิเข*าส่กวามคบสนิทด*วิยอำนาจแห่งปรินิพพานธาต.” พระตถาคตทอดทรรศนาการภูมิประเทศอินแผ่ไพศาลอยู่ เฉพาะพระพกฅร์ แลวฅรสว่า “ดูก่อนราชกฤหอนเบนนครแห เบญจคีรี มีปริมณฑลงดงามตระการ อุคมด1วิยนาศาลีและมหาศิงฃร อินน่าเบิกบานหฤทย เราได้แลดในกรง์นเบ็๋นบิจฉิมทรรกีนา ๔
ฅรํสแล่วก็!]งประท'บอยู่ ณ ที่น1น,, จนภูมิประเทศที่ค่อยเลือน ๆ ลง ในยามเย็น คงเหลือให้เห็นเด่นชคแต่อคมสถานอยู่สองแห่ง ที่ตอง แสงแดดด*งคาดคำยทองคำ. แห่งหนึ่งคือ ปราสาทของพระเจา พิมพิสาร, เมื่อพระพุทธองค์ยงทรงอยู่ในวไแบ็'นภิกษุหนุ่ม ซึ่งยงไม่มี ใ กรเจก ด้เกยเสด็จผ่านไปทางนน, พระเจาแห่งแควนมคธ คือ พญาพิมพิสาร ทอดพระเนตรเห็นพระองค์เบ็!นครงแรก โดยเหตุที พระองค์มีพระลํกษณาการก่งสีหดำเนิน. สถานที่อีกแห่งหนึ่ง ยอดหลงคาเทวสถาน ซึ่งแด่ก่อนๆมา เมื่อพระองค์ยํงมิไค้ประทาน พระธรรมเทศนาแก่มนุษยนิกรให้พนจากทารุณพิธี เกยเบนสถานที่พลี ชีวิตส*ตว์อไเหาความผิดมิได้ น'บจำนวนเบ็!นพ*นๆ เพื่อบูชาย*ญเทวรูป ที่ในที่น. บ*คเดี๋ยวใจยอดปราสาทและยอดหล*งกาเทวสถาน ก็เลือน หายเข้าสู่ความมืดแห่งสายณหสนธยา. ขณะน1น ได้ทอดพระเนตร เห็นสถานที่ซึ่งพระองค์กำล่งจะเสด็จไปอยู่นึ่ กล่าวคือทางยอดแท่งพุ ไม้อยู่ลิบ ๆ เบองพระพกฅร์โพน เบ็นบามะม่วงที่หมอชีวกแพทย์หลวง ชองพญาพิมพิสาร อุททิศถวายเบนที่ประท*บชองพระตถาคต. ณ บามะม่วงน็ พระตถาคตตรสให้พระอานนท์พุทธอุป^าก นำพระสาวกประมาณ ๒ว๐ ล่วงหนำโปก่อน ดำยพระองค์มีพระพุทธ ประสงค์จะแสวงหากวามวิเวกในวนนน, แล่ว่จึ่งจะเสด็จคำเนินตาม ไปภายหล'ง. พระองค์ทรงทราบอยู่ว่า ยงมีพระภิกษุหมู่หนึ่งจากเบอ ตะวนตก มีพระศารีบุตรอครสาวกเบนประธาน ก็จะมาสู่บามะม่วง ๔
ในเวลาเย็นวนน1นควย. โคยเหตุที,มีพระพุทธประสงค์ปวิเวกธ จึ่งต่ง์พระหฤทยจะไม่เสด็จกลบไปให้ถึงบามะม่วงในเย็นวนน ทรงแสวงหาที่แรมในชวราฅรี ตามละแวกปานแถวนนก่อน. ระวางนํ้น ขอบพาทางเบองตะวนตกเปลี่ยนจากสีทองเ สีคำหล'วขมุกขม่วลง, ภูมิประเทศโคยรอบมืดตามลงทุกที. กำงคาว เกี่ยวเกาะบนกํนร้งเห็นดำถมืนทึน ตกใจดำยได้ยินเสียงผี1เทาคนเดิน มา, ก็ปล่อยเท่าที่เกาะแลวิ กางบ!กบินถารํองเสียงแหลมหายไ สวนผลไม้ในแถวน8น. เมื่อพระตถาคตเสด็จบทจรมากว่าจะถึงละแวกพระนคร ก กำลงแกํวิ ด้วยประการฉะน็. ® ๑© สอง พบ พระตถาคตเจามีพระพุทธประสงค์จะทรงแรมคืนในปา ที่เสด็จไปถึง ซึ่งในที่น คือบานตงอยู่ในบริเวณสวน มีช่องไม้ให้ แลเห็นผ่าผนํงของปานเบนสีเขียว. ขณะพระองค์ทรงย่างพร เช่าใปถึงประตุปาน, ทอคพระเนตรเห็นข่ายด้กนก หอยอย จึ่งเสด็จผ่านเลยไปเสียมิได้รํ้งรอ, เพราะปานนํ้นเบ็่นที่อยู นก. ในตอนนมีปานตงอยู่ห่าง ๆ กน เพราะเบ็!นชายพระน ๖
เกิดเพลิงไหม้บานเรือนเสียหลายหลํง ในเวลาไม่สู้ชำนิก- เพราะ ฉะนไเกว่าจะทรงพบปานอีกลิ'กิทลิงหนึ่งก็เบ็่นเวลานาน. บานหล เบนโรงนาของพราหมณ์ผู้มีอไเจะกิน. พอพระพุทธเขาเสด็จคลอย เข่าไปในประตูรว, ก็ทรงได้ยินเสียงหญิงผู้ภริยาทง์สองของพราห กำลิงทะเลาะว่วาทด่าทอกน, พระองค์จึ่งทรงหไเกลิบออกจากประตู เสด็จพระพุทธด่าเนินต่อไป. Iบริเวณสวนของพราหมณ์ผู้มือ” เจะกินนึ่ มีเนึ่อที่ย ฅามถนนมาก จนพระองค์ทรงรู้สึกลำบากพระกริชกายเหนื่อยลิาใน ทาง เพราะเสด็จด่าเนินมาไกล, ทํ้งพระบาทขวาสะคุคหินอ'นแหลมกม กระทำให้บงเกิดทุกขเวทนาอกเสบเจ็บปวด. เมื่อพระฅถาคฅเสด็จมา ถึงบานอีกหล'งหนึ่ง, ก็มีพระอาการด่งข็างด่นินึ่. ปานที่เสด็จ แลเห็นได้แด่ไกล เพราะแสงไฟที่จุดไว้ในบานลอดช่องตาข่ายและ ช่องประตูพุ่งออกมาสว่างถึงถนน. ปานนึ่ แม้กนจ'กิษบอดผ่ ก็ด่องทราบว่าเบนบานมีคนอยู่ เพราะได้ยินเสียงเลยงตูกไเสนกสนาน เฮฮา, เสียงตบมือกระทืบเทากไเโกรมคราม, และเสียงพิณดงไม่ขาดสาย หญิงงามนางหนึ่งทรงพสตราภรณ์แพรลิวน ศอสวมมาลยมะลิพว ยืนพิงอยู่กบเสาประตู. นางแยมรายพนอนแดงด่วยหมากเกยว ยมยว หำเราะร่า อ'ญเชิญผู้เดินทาง คือพระตถาคตเจาให้เสด็จเข่าไปใ โดยกล่าววาจาว่า “ เชิญท่านผู้เบ็1นแขกแปลกหนา, เชิญเข่ บกินนึ่เบ็'นที่สนุกสำราญร่าเริง.” แด่พระตถากตเจำเสด็จผ่า
น8น’ไปเสีย, และในระวางที่เสด็จเลยมาน*น ทรงระลึกถึงถอชคำข พระองค์ที่เกยฅรส คือ “ต้าจะดโศกาดูรในหมู่สงฆ ก็!นการรองขบ ทำเพลง ; กำจะดูความบาโนหมู่สงฆ์ ก็ในการเต้นรำ ; ถาจ ความเบนเด็ก'ในหม่สงฆ์ ก็ในอาการยงพนหิวเราะ.” ต้านที่อยู่ถดไป ไม่สู้ไกลน,ก็ แต่ไค้ยืนเสียงพิณและเสียงร่าเริงล่องมาตามล ไกล. พระองค์จึ่งผ่านอีกต้านหนึ่ง, ทอดพระเนฅรเห็ กำล่งชำแหละโกซึ่งเพ็งฆ่าใหม่ ๆในตอนเย็นต้นน1น, ก็เส ผู้ขายเนอโค'ใป. ต้านอยู่ต้ดไป ตรงลานหต้าต้านมีหม่อและชามดิ เสร็จใหม่ ๆ วางอยู่เรียงราย อ*นเบนการงานแห่งเจ็าขอ พากเพียรลงแรงทำเบนสไ)มาอาชีพไค้ในต้นน1น. เครื่องบันห วางอยู่ใต้ต้นมะขามใหญ่. ขณะ!แนกุมภการช่างบนห,ต้อก ดินดิบออกจากเครื่องบน ขนเอามาวางเรียงรวมต้นไว้. พระองค์เสด็จเต้าไปหาชายบันหม่อ แต้ว“ตครูิกส,่วอ่าน ท่านผู้เม่าภคะ, ตถาคตจะขออาต้ยต้กแรมคืนที่ห่อง จะมีต้อขดต้องอย่างไรต้างหรือไม่ ? ” ชายบันหต้อตอบว่า “ขำแต่ท่านผู้เจริญ, ไม่ แต่ทว่าในขณะนึ่มีอากนไฅคุ้กะ รบความเมือยต้าเพวาะ เดินทางไกล มาขออาศยแรมคืนอยู่แต้วก.ำไม่มีกวามรํงเกียจ, ก็ เชิญท่านผู้เจริญเถิด.” ๘
พระตถาคตตริสทรงรำพึงว่า “ แท้จริงความวิเวกเบนสหาย อินวิเศษกว่าสหายอื่น ๆ-. แต่อากนตุกะที่มาพกอยู่ก่อน เดินทาง เมื่อยลำมาอย่างเรา, ได้ผ่านเลยบานแห่งชนที่ประกอบมิจฉาชีพแล ม่บริสุทธิ้ จนถึงห่านชายบนหม่อจึ่งได้หยดขออาศโ]. คนเห็นปานนํ เราอาจร่วมสมาคมแรมคืนอยู่ต่วิยกนได้.” กรนแลํวิ เสด็จเขาไปในห่องโถง, ทอดพระเนตรเห็นชาย หนุ่มคนหนึ่ง มีล่กษณะเบ็่นผู้ดีมีตระกูล นงอยู่บนเสื่อฟ้างมมห่อง. พระตถาคตตริสปราศรโ]ควยว่า “คก่อนอาคนฅกะ ลำท่าน ไม่ริงเกียจ, ตถาคตจะขออาศโ]แรมราตรีในห่องโถงนึ่.” ชายคนน8นตอบว่า “ขาแต่ท่านผู้เจริญ, เชิญท่านตามความ พอใจเถิด เพราะห่องโถงของกุมภการกวางขวางพอ.” พระตถาคตเจ่าทรงลาดพระนิสีทนสนถตลงใกล้ฝา, ลดองค์ ลงประทบดํวยสมาธิบล้ลงๆ มีพระกายฅํ้ง์ฅรง ดำรงพระสตินนสิิ// มปชญญ สงบนึ่ง ตลอดยามตนแห่งราตรีนน. ส่วนชายหนุ่มก็นํงนึ่ง ยามตนเหมือนก่น. ต่อมา พระตถาคตเจ่าทอดพระเนตรเห็นชายหนุ่มมีอาการ สงบนึ่งเช่นนน, ก็ทรงรำพึงว่า ‘กุลบุตรผู้นึ่เบ็่นผู้แสวงหา'โมกษธรร กระม่งหนอ ไ อนเราควรถามคู,” ทรงจินตนาการคํง้นึ่แลํว่ ห พระพกฅร์ไปทางชายหนุ่มแยมพระโอษ,ฐ์ฅริสถามว่า 6
41 ดุก่อนอาค้นตกะ, ท่านมาถอเพศเบ๘!ึนผู&้'ละเคหสถาน เพราะ เหตุเบ็๋นไฉน ? ” ชายหน่มตอบว่า 44ขำแก่ท่านผู้เจริญ, เวลานี ถ*าท่านไม่ร'งเกียจ, ขำพเจ*าจะ'ใต้เล่าถึงเหตุทีขาพเจาละเกหาสถ ถือเพศเย้นขํงน.” พระพุทธเจาประทานพระอนุญาต โดยพระกีรวิญญฅ,ใ อาการอไแย้นมิตรภาพ. ชายหนุ่มจึ่งเรึมเล่าเรื่องของตนต่อไ ๑๑๑ สาม สู่ผงแม่คงคา ขำพเจาชื่อกามนิฅ เกิดที่กรุงอชเชนี ขํนเย้นนครมี ขํอมรอบ อย่ไกล'ใปทาง'โต้ในแกว'นอ,ว*นตี. บิดาเบนพ่อขำ ตระกูลไม่สูงศกดื้เย้นพิเศษ แต่ก็เย้นเศรษฐีม\"งมีมาก. ท่านบ ให้ขำพเขำไค้ขํบการศึกษาอบรมในศิลปวิทยาเย้นอย่างดี มีอายอนควรแลว ก็เขำพิธีสวมยชโญปวีฅสายธร'ไ)มงคลพราหมณ์ ลทธิ เวลานน ขำพเขำมีวิชาความรู้อ*นควรแก่กุลบุตรอย่างเชี ที่สุค จนคนทะงหลายเชื่อว่า ขำพเขำกงได้ศึกษามาจากมหาวิทย ต*กกสิลาเบนแน่แท้. ขำพเขำสามารถในมวยปลาและพ้นคาพ, ๑๐
ก็ไพเราะ เพราะได้รำ)การผึกฝนในกนธรรพศาสตร์อย่างชำนาญ, ทงสามารถดีดพิณ'ใต้แคล่วกล่องเท่ากบนกคนฅรีที่ลือชื่อ ; บรรดา โศลกในมหากาพย์ภารฅะและกาพย์อื่น ๆ ขำพเจ่าสาธยายไค้เจนใจ ; ซาการประพ*นํธฉํนทพฤตฅิวิธี ก็อาจรอ์ยกรองได้รวดเร็ว และมีขํอ ความไพเราะลึกซ็ง ะ ตกว่าวิชาใด ๆ อนควรแก่กุลบุตรจะตองรู้ ขำพเจาย่อมทราบได้อย่างดีเบนที่สด. คูก่อนท่านอาคนตุกะ, อนวิชา ความรู้ของขำพเจ่านึ่น เบนที่พคกนติดปากของประชาชนชาวธุชเชนี ว่า “เชี่ยวชาญเหมือนมาณพกามนิตเทียว.” อยู่มาวนหนึ่ง เมื่อขำพเจ่ามีอายุได้ ๒๐ บี่, บิดาได้เรียกตำ ไปห า, แลวพูดวา ะ- “ลูกรกเอย, บํคนึ่การศึกษาของเจ่าก็สำเร็จบริบูรณ์แลิว, เวลาที่'จะต*องคูสึงต่าง ๆ ในโลกให้หตากจ่างออกไแปลบำา,จงึง,เรี่ม ประกอบการพาณิชย์เบ็่นอาชีพต่อไป. เวลานึ่พอดีประจวบเหมาะ, เพราะใน ๒ —๓ ว่นนึ่พระเจ่าแผ่นดินของเรา ตรสให้แต่งราชทูตไป เจริญทางพระราชไมตรีกบพระเจ่าอเทนแห่งกรุง'โกส*มืพี ซึ่งอยู่ไกล ไปทางเหนือ. พ่อมีสหายอยู่ในเมืองนนกนหนึ่ง ชื่อประณาท, เคย ไปมาหาสู่กนเสมอ. เขาไค้บอกํแก่พ่อไว้นานแลำว่า ลำเอาสินกำ เมืองเรา มีแกำหิน ไม้จ*นทนผง เกชื่องจ่ก่สาน และลำไปขายที่กรุง โกสไ)พี จะได้กำไรงาม. ที่พ่อไม่อยากนำสินกำ!ปขาย เพราะหนทาง ไกล ไปตามทางก็มีโจรผู้จ่ายชุกชุม เบ็่นที่ร่งเกียจกํนฅรายมากอย 6)©
■'แต่ทว่าลิาได้ไปในพวกราชทฅแลิว เบ็'นอนปลอคภ'ย. ลูกเอ๋ จงเตรียมตำเถิด, เขำไปเลือกสินคำในโรงเก็บบรรทุกเกวียนโกไป ๑๒ เล่ม, สมทบกระบวนท่านราชทฅไป. ของที่เอาไปนั้ เมี ให้ซอกาสิกพ*สตร์ (ผาบางพาราณสี) และขาวชนิดที่ดีกลิบมา. นี่แห จะเบึนบทเรียนการคำขายของเรำ'ในชนี่ต่'น ซึ่งพ่อหริงว่าจะเบน แก่เจาอย่างงาม. อีกอย่างหนึ่ง เจำจะได้เห็นประเทศต่าง ลกษณะพื่นภูมิแปลก ๆ ผิดกว่าประเทศของเรา, ตลอดจนได้รู้ดูเห็น ขนบธรรมเนียม และได้สมาคมกบคนชนสูง คือพวกท่านราชท ได้ทุก'ว”น, จะได้จำกิริยาท่าทางของผู้ดี เพี่มคุณสมบิตขน' ดงนี่ พ่อจึงถือว่าได้ริบประโยชน์อย่างใหญ่ เพราะพ่อคำ คนมีทูตาสว่างจึงจะใช้ได้ ” ขำพเจาขอบคุณในความกรุณาชองท่าน ดีใจจนนาตาไห และต่อมาอีก ๒—๓ ริน ขำพเจาได้รํ่าลาบิดามา,รดา และละเคหส เรมออกเดนทาง. ขณะออกจากประดูเมึอง รู้สึกว่าได้เบนหำหนาควบคมเกวียน สินคำ, หำใจขำพเจาเตน่เริาคํวยกวามอี่มเอิบใจ คิดนึก นานาอย่างร่าเริง. การเดินทางล่วงไปรินหนึ่ง ๆ ก็เท่าริบโ มหกรรมอย่างสนุกสุดใจ. ตกเวลากลางคืนหยุดพเกเดินทาง กองใหญ่เพื่อบองรินเสือ ขำพเจำนํปลอมวงอยู่ขำงท่า ๑!๑)
กนนอกน1นก็ลำนเบ็๋นผู้สงอายและมีล้กด กระทำให้ข้าพเข้าร กบว่าอยู่ในเทวสมาคม ณ แดนสวรรค์. เดินทางผ่านบา'ใหญ่ในแดน เวทิส, แล้วขามยอดเขาแห่งทิ วินธํย จนบรรลุทุ่งกว่างใหญ่ผืายเหนือ กระทํ าให้รู้สึก'ว่า'ใต โลกใหม่อยู่ตรงหนำ, เพราะแต่ก่อน ๆ มาไม่เกยคิดว่าโลกเรานืจะแผ่ ไปกว่างขวางมหึมาถึงปานฉะนื. ล่วงประมาณหนึ่งเดือน น์บแต่ออกเดินทางมา. เย็นวนหนึ่ง มองคูทางยอดดงตาล เห็นเบี่นแถบทองขนาดใหญ่สองแถบ คู ประหนึ่งว่าคลี่คลายออกจากล้นอยู่ตรงขอบพ้า ซึ่งแลเห็นเบ็นหมอก อยู่หลำ ๆ และแล่นขนานกนมาเบนเล้นํบนภูมิภาคอนเขียวชอุ่มคำย ตฤณชาติ, แล้วค่อย ๆ เข้าใกล้ล้น จนที่สุดรวมล้นเบนสายเดียวมี ขนาดกว่างใหญ่. ข้าพเข้ารู้สึกว่ามีใครมาตบไหล่, เหลียวไปคูก็เห็นท่านราชทฅ. ข้าพเข้าไม่ทินรู้สึกตำเมื่อท่านเดินเข้ามา. ท่านไต้พูดว่า “ กามนิต, ที่เห็น เบน แถบ ทองโน่นคือแม่นายมนา และแม่ คงคาอนศกดีสิทธ. กวะแสนาท8ง์สองมารวมล้นตรงหนำเราอยู่นึ่.” ข้าพเข้ายกมือขั้นจบบูชา. ท่านราชทูตกล่าวต่อาไปว่“ที่เข้าแสดงเคารพเช่นนนเบ็่น I การดีแลำ เพราะแม่กงกามาจากแคนแห่งทวยเทพ อํนอยู่ในกลางเขา ซึ่งมีหิมะปกคลุมทางอุดรประเทศ แล้วไหลดุจกล่าวว่า มาจากแคน
สวรรค์. ส่วนแม่นายมุนานํ้นเล่า ไทลมาจากแดนอ'นขจรนา ไกลสมยมหาภารคะ. นาแห่งแม่นายมุนาย่อม'ล่นไหลผ่านห,สดิ ซึ่งปรกหกพิงแล่ว, และท่วมลบทุ่งกุรุ ซึ่งปาณฑพพี่นอง ก เการพ ได้ทำสงครามเพี่อชิงชไ)ในกวามเบนใหญ่. ณ ที พระกฤษณเบนสารถีชิบรถรบให้พระอรชุน และพระกรรณกำล่ พิโรธอยู่ในค่าย.* แต่เรื่องเหล่านไม่จำเบ็1นต่องเล่าก เพราะเห็นว่าเจำเปรื่องโปร่งเจนใจอยู่แล่ว. ตำเราเกยยืนอ บนแหลมที่เห็นอยู่โน*น มองดนํ้าแม่ยมุนาอินมีสีเขียว'ให ระลอกลดหล่น แข่งไปกบนำแม่คงคาซึ่งมีสีเหลือง. ต่างสีต่างไหล ไม่รวมล่นเขียวและเหลือง. ได้แก่กษไาริย์และพราหมณ์ อนอยู่ร่วม ในมหาสมุทร คือวรรณะคำยล่น, ต่างจรร่วมทางไปสู่แดนแห่งพรหม, บางคราวเขำมาใกล้ชิดล่น, บางคราวห่างล่น, และบางกราวก็ร่วมล เบ็่นดงนํ้นิรํนคร ; เปรียบเหมือนแม่นาทํ้ง์สองที่เห็นอยู่น เรารู้สึกว่าใจลอย, แว่วกล่ายได้ยินเสียงรบ, เสียงศํสฅราวธกระทบล่น เสียงเบาเขาเร่าเร่งพล, เสียงมำริอง, เสียงชำงแปร๋แปริน ะ หำใจของ เราก็ฅั้กตกเตนถี่เขำ เพราะรู้สึกว่าบรรพบุรุษของเราก็มาอยู่ และโลหิตของท่านเหล่านํ้นก็ไหลนองซึมไปในทรายแห่งท่ ขำพเจำรู้สึกปลาบปลํ้มในท่านราชทูต, เงยหนำขนดท่านซึ เบ็่นผู้อยู่ใน'วรรณะกษ*ตริย์สืบตระกูลนกรบเบนทายาทมา. คเรื่อง'ในภากผนวกทำยพระราชนิพนธ์บทละกรศกนฅลา 6)
ขณะนุน ท่านราชทฅจูงมือขำพ1.จำ พลางกล่าววาจาว่า มาทางน, ลูก, มาดูภูมิประเทศที่เราจะไปถึง.” ท่านพาขำพเจำเดิน ออมไปทางสุมทุมไม้พ,นออกไปเพียง ๒ —๓ กำวเท่านึ่น ก็เห็นภูมิ ประเทศนนอยู่ทางเบองตะว*นออก. พอขำพเจำเห็น ก็ออกอทาน, เพราะมองไปทางหำเลยวแม่ คงกา ก็เห็นกรุงโกสไเพีดงคงามมาก. เห็นกำแพงปราการ บานเรือน สล*บสลางดูเบนลตหลน มีเชิงเทิน ท่าน1า ท่าเรือ ตองแสงแดดในเวลา อ*สดง คูประหนึ่งว่าเบนเมืองทอง. ส่วนยอดปราสาทที่เบนทองแท้ ก็ส่งแสงคคํงว่ามีอาทิตย์อยู่หลายควง. กวํนไฟสีดำแดงพลุ่ง ๆ ขั้นจาก ลานเทวสถาน. ล่คลงไปขำงล่างริมผงนา เห็นคว*นสีเขียวอ่อนลอย ขั้นมาจากอสุภที่กำล่งเผา. ในลำนาอนล่กดสิทธ ซึ่งฉายเงาแห่งสถาน ต่าง ๆ ล งไป เห็นกระเพื่อมๆ, มีเรือนอย'ใหญ่นบไม่ถ้วน มีใบและ ธงทิวสีต่างๆแลดูงามฅา. ตรงท่านาเห็นอย่ไกล ประชาชนอาบนา อยู่มากมาย. นานๆได้ยินเสียงคนพูดต*งหึ่งๆกล่ายเสียงผง. ขอให้ท่านผู้เจริญคิดดูเถิด. ขำพเจำรู้สึกกล่ายก”บว่าได้มอง เห็นเทวโลก ย็่งกว่าได้เห็นเมืองมนุษย์. แท้จริงลุ่มนาแม่คงคาทํ้งหมด นึ่ มืกวามงามคูเบี่นสรวงสวรรค์อนปรากฏให้เห็นขั้นแก่ตาขำพเจำ. ในคืนนนเอง ขำพเจำไปถึงเมือง และทนัาอยู่ที่บานท่าน ประณาท ผู้สหายเก่าแก่แห่งบิดา. ๑๕
ร่งเชิาฅร่ ขำพเจำรีบ'ไปยงท่านำ'ที่ใกล้ทีสุด. เม บนได รู้สึกเบิกบานใจ ไม่ทราบว่าจะอธิบายได้อย่างไร เพราะ โอกาสมาสนานกายในนํ้าอํนศํกคิ้สิทธ ซึ่งมิใช่แต่จะชำระ ติดต่องต่ำเพราะไปเดินทางมาเท่านน, ยิงเบ็1นา'เาทื่สามา มลทินให้หมดสนไปได้ดำย. ขำพเจาจึงไม่แต่จะอาบอย่างเดียว, ไ เอาขวดไปบรรจุนํ้าศํกดสิทธสำหรบไปฝากท่านบิดาดำย. ขวดนานํ้หาไค้ไปถึงท่านไม่, ดำยเหตุไร จะได้ทราบในภายหล' ถดจากอาบน่าแลำ ท่านผู้เฒ่าประณาทศีรษะหงอก ม น่านไ]ถือ ได้พาขำพเจำไปเที่ยวตลาดในเมือง. และอาศยกว ช่วยเหลือของท่าน เพียง ๒ —๓ ว'นิเท่าน4น ขำพเจาขายสิน บรรทุกมาได้หมด มีกำไรอย่างงาม, และกวานซอสินกำพีนประเ สะสมไว้เบนจำนวนมากที่ชาวเมืองของขำพเจำนิยมให้ราคาสง. เมื่อการคำขายของขำพเจำได้ผลดีอย่างเร็วว“น มีเวลาว่า เหลืออยู่มาก กว่าท่านราชทูตจะกลไ] ดงน ขำพเจำรู้สึกดีใจมาก จ ได้เที่ยวชมบานเมืองหากวามสนุกสำราญตามอำเภอใจได้บริบ ความจริงก็เป็นเช่นนน เพราะได้โสมท์ฅต์บุตรท่านประณา นำเที่ยว. ๏๏ ® ดไ)
ส์ 1 สาวนอยผู้เดาะคล เวลางามยามบ่ายวไเหนึ่ง โสมทไฅ์กบขทีพเช้าพากนไปเที่ยวที อุทยานนอกเมือง. อุทยานนึ่งดงามมาก ต5งอยู่ริมผึงอไเสูงของแม่คงคา มีฅนไม้ใหญ่ใบครื่ม มีสระบำขนาดใหญ่ มีศาลาที่พกอาศย และซุ้ม มลิเลอย, ซึ่ง'ในเวลาน5น ประชาชนพาบ่นไปเที่ยวหาความสำราญใจ กนเกลื่อนกล่น. ช้าพเพ้บ่บ่โสมทิตฅนํงบนชิงช้า มีกนกอยรบใช้ แกว่งไกวให้, รู้สึกเบิกบานใจไม่น็อย ในขณะที่ได้ยินเสียงนกโกกิลา ปะหรอฅเทศร2องระงม. ทินใดนะนไค้ยินเสียงกำไลขํอเทำกระทบบ่น, โสมทิตต็สหายช้าพเช้าก็ผลุนผล'นลุกชนออกจากชิงช้า พลางเรียก ช้าพเช้าว่า “ดูทางนึ่, กามนิด, ดูพวกนางงามที่สดของกรุงโกสไ]พ กำล่งเดินมาเบ็่นหมู่.” สตรีเหล่านึ่ลำนเบ็่นพรหมจาริณี เลือกสรร เอามาจากพวกมํง้มีและช8นสูงทํ้ง์นึ่น สำหริบ่มาเล่นคลีบชาพระล เทวีแห่งเขาวินธย. น์บ่ว่าเกิราะห็ดีมาก, สหายเอ๋ย ! ที่ได้มาเห็น นางงามในเวลาเดาะคลี เพราะจะดูไค้เต็มดาไม่มีใครหวงห่าม. มา เกิด ! อย่าให้เสียเที่ยวเลย.” เบนธรรมดาอยู่เอง ในเรื่องเช่นนึ่ ไม่ตองกอยให้เดา ือนซึ่ ช้าพเช้าลุกขั้นตาม'โสมทิตฅ์ฅิด ๆ ไปโดยเร็ว. ถึงทีแห่งหนึ่ง สรางเบน เวท้ขนาดใหญ่ ประคบประดาดวยแทิวหินต่างๆ เห็นเหล่านางงาม ดดา)
รวมกนอยู่บนน,นกำล่งจะลงมือเล่น. ล่าพเล่าล่องยอมร เห็นนางแน่งนอย แต่ละกนทรงโฉมควรพิศวง สวมพสตราภรณลวน แพรพรรณ พรื่งเพราล่วยเครื่องถนิมอล่งการแลลานฅาค่งน เบนสงที่จะ’ได้ดบ่อย ๆ; บืวยกล่าวไปใย ถึงกิริยาท่าทางที่เรี ท่าอินงอนงามในยามไขว่กว่าลูกคล, เพียง'ใต้เห็นอย่นเบ็!นแต่ชน ต่ อน่นิไปเทล่านางผู้มีเนครค'งตาทรายก็อิกยายท่าทางต่าง ๆ ใน โยนแย่งกลีกไเ ให้เห็นเบนขว*ญตาขำพเล่าเบ็่นเวลาชำนาน. กร นางเหล่าน1นิก็ถอยออก คงเหลืออยู่กลางรํฅนเวทีแต่นางเดียว, อย กลางร*ตนเวที—และก็อยู่ในกลางดวง'ใจของขำพเจ้าควย. ดก่อนท่านมาริสะ, ขำพเล่าพึงกล่าวได้ควยล่อยกำเบ ล่าจะพูดถึงกวามงามของนาง ก็เกรงว่าล่อยกำของขำพเล่าอาจห ส*กหน่อย, เพราะล่าจะกล่าวให้ท่านรู้สึกซึมทราบได้ล่งหล่บต ล่าพเล่าจะล่องเบึนมหากวีภรตเสียก่อน, และถึงจะมีความสามา ป่านนน ท่านก็จะเห็นความงามได้เพียงราง ๆ เท่าน1น. รวมก ล่าพ'เล่าพอจะ!เอกไค้เลา ๆ ว่าสาวน็อยที่อยู่กลางเวที มีดวงหนำ ประหนึ่งแสงล่นทร์อนอ่อนๆ รประหงทรงอรชรหาตำหนิมิได ทรามวยอย่ท่วสรรพางค์, จนทำให้ล่าพเล่าเผลอสติค พระล่กษมีเทวีอวตารมลา่.งเกิดความยินดีซาบซ่านล่นทีที่ได้มาเห ทนใคนน นางเรื่มเดาะคลีบูชาพระศรีเทวี มีกิริยาท่ ทคเทียมไค้ ก็แต่ผู้สามารถเบนพิเศษ. นางโยนลูกกลีลงบ ๑๘
กรนเมื่อลูกกลีค่อย ๆ กระดอนกลบ, นางเอาห์ฅค์ค'งกลีบดอกไม้ ฅบรไ]ไว้ ให้ลูกคลีกระท่อนขั้น แกํวก็เอาหล'งห่ตถ์ชนร'บ, และโยน กล'บผล'คเปลี่ยนเวียนท่า ตบตอนลูกคลีดำยห์ตถ์ซ็ายและห่ฅถ์ชวา'Iห้ กระท่อนขั้นลงเร็วและชาวงไปจนตลอดกำนเวกำทที่. านเบนผู้รู้คู ชำนาญในการคลี, ซึ่งขำพเจิาสํงเกดคูในกิริยาของท่าน ก็กํองเกำใจ ว่ามีความร้ดี, และไค้ไปเห็นกํวยตาเอง ก็คงบอกว่าจะหาผ้ที่ชำนาญ ยอดเยี่ยมเสมอนางเบ็่นไม่มี. กรนแกํวนางได้แสดงการเล่นอย่างหนึ่ง ซึ่งขำพเจายิงไม่เคย เห็นและท่งยิงไม่เกยไค้ยินการเล่นชนิดนึ่คํว่ข. กล่าวคือได้โยนลูกกลี ทองหนึ่งคู่ แกํว่เดาะให้ขั้นลงอย่างรวดเร็วจนคูเบนสายทอง พนเวทีตลอดขั้นไปในอากาศ, ส่วนบาทก็ย่างยํ่าเขำจงหวะกไ]เสียง อาภรณ์ที่ประดไ]กาย. กำจะเปรียบความเร็วของคลีก็คือ เห็นเบ็่น สายคกำยซี่กรงทอง และ-นางนนคือนก ซึ่งกระโดดเกํนไปมาอยู่ใน กรงทองปานเดียวกํน. ถึงตรงนึ่ตานางและกำพเกำก็ประสพกน ! คูก่อนท่านอากํนฅุกะผู้เจริญ, นบแด่น1นมากระท่งถึงบ ขำพเจำสงสยกํงเขไใจไม่ไค้ว่า ทำไมกำพเจไจึ่งไม่แดยนลมลงขาดใจ ตาย เพราะสายตานางเสียแด่ในขณะน1น จะได้ไปเกิดในสวรรค์? หรือบางทีเบนเพราะวิบากกรรม'ในชาติก่อนยิงชะลออยู่ กำพเกำจึ่ ไม่ตายลงไปในขณะนน สู้มีชีวิตรอดพนภไ]ด่าง ๆ มาไค้ถึงบ'คน? (5) ^
ก็เห็นจะเบนดำยบุญกรรมยิงหน่วงเหนี่ยวไว้ และกว่าจะหม ก็คงจะอีกชานาน. จะขอยิอนเล่าต่อไป ถึงตอนนี่คลีลกหนึ่งพลาดห กระเค็นออกจากกลางเวทีลงมาขางนอก บรรดาชายหนุ่มในที่น หลายคนต่างวี่งยินเขาไปแย่งเก็บลูกคลี ; ขาพเจาดำยผู้หนึ่งที่ว แย่งยิบเขาควย และไปถึงลูกกลีก่อน. แต่ในทนทียินนน ชายหนุ กนหนึ่งแต่งตำดำยเสํ้อผายินงามมีราคาแพง กรากเขาไปแย่ ต่างผืายไม่ติองการให้ใครได้ลูกคลีเอาไป. แต่อาคำขาพเจามีค นวิชากลเม็ดมวยปลาชำนาญ จึ่งควาลกคลีไว้ได้, ส่วนชายก ควาหลง รงขาพเจาไว้มิให้ไป, แต่ไปกวาถูกสรอยคอทำคำยแกำม เครื่องรางรอย. สรอยคอของขาพเจาขาดทํนที, กระทำให้ชายค ลมลง ; ขาพเจาก็ได้ลกคลีมา. ชายคนน่นโกรธกระโดดลูกขน, หยิบสร็อยที่ฅกขาดอยู่ขวางเทาชาพเจา. เครื่องรางที่ทำเบนตาเ เบนของไม่สู้มีราคาอะไร แต่เบ็่นเครื่องคุ้มยินภ'ย, เวลาน8นไม่อย ในกายขาพเจา. แต่ช่างเถิด, เพราะได้ลูกคลียินเมื่อยิกคร่ได้ถกห์ตถ์ ด้งดอกบำของนางตบติอง มาอยู่ในกำมือขาพเจาแลำ. และ'Iนท นี่น ดำยความชำนาญในการโยนกลีมาก่อน ขาพเจาได้โยนลกคลีขน '\"ปที่หนาเวทีตรงมุมขางหนึ่ง. ลูกคลีค่อยกระทอนเขา'ไปหา ซึ๋งในขณะนนยิงกงตบลูกกลีที่เหลืออยู่อีกลูกหนึ่ง. นาง กระทำให้คนดูแสดงกวามพอใจออกเซงแซ่, เมื่อการเล่นเพ
พระลิกษมีเทวีสุดลงแลำ, นางงามทํ้ง์หลายก็หายหไท้าไป, ส่วนขำพเข ก0บ^ ‘โๆ' สมทจ’^ฅฅ^ ก๘กลชิบ^บ^า' น. ขณะเดินทางกล*บ สหายขำพเวิาพูดขนว่า ขำพเขำเบนคน โชคดีที่ไม่ ไค้ร*บราชการอยู่ในกรุงน เพราะชายหนุ่มซึ่งเขำม ลูกกลีกบขำพเขำ ไม่ใช่คนอื่น''[กล เบนบตรของประธานมนตรี. ใครๆ ที่ได้เห็นเหตุการณ์ในเวลาที่แลิวมา, รู้สึกว่าชายหนุ่มคนนน แสดงกิริยาอาฆาฅมาดร่ายขำพเขำ เบั้นที่สุด กวามขอนไม่ทำไห้ ขำพเขำรู้สึกวิตกเดือดขํอนเลย. ที่เดือดร*อน่ใจอยู่ในขณะนํ้น์ ก็ตรง จะตองการทราบว่า สาวนอยคนนนคือใคร, แต่ก็กระตากปากไม่อาจ ซกถาม. ผายโสมทํฅฅ์ก็เดาความในใจขำพเขำไค้ แกลิงพูดชมเชย นางในการเล่นคลีต่าง ๆ นานา. ขำพเขำทำเบ็่นไม่รู้สึก และว่าหญิง ที่เมืองขำพเขำมีถมไปที่สามารถในการเล่นคลีไม่แพ้. แท้จริงใน น่นหำใจขำพเขำบั้นบวน ดำยรู้สึกว่าตนได้กล่าวความเท็จ ควรที่จะ ติองขอโทษนางผู้หาที่เปรียบในความงามมิได้. ขำพเขำ'ไม่จำเบั้นติองกล่าวว่า คืนน,นขำพเขำนอนไม่หล เลย, ที่ทนนอนหลบดาก็เพี่อให้เห็นภาพที่ฅ*องการเห็นเท่านน วน รุ่งขํ้นขำพเขำไปสงบอารมณ์อยู่ที่มุมสวนของท่านเขำขำนที พกอยู่ เพราะที่นนอยู่ห่างไกลจากเสียงพลุกพล่าน, และตรงที่ดิน ทรายใต้ตินมะม่วงอนร่มรื่น กระทำให้ร่างกายที่ผ่าวคำยรุ ระงบกวามรอนรนไว้ได้ขำง กำเได้อาศ*ยพิณเจ็ดสายเบั้ฉสหายสิ'เหร*บ ไ®!)๑
บอกเล่ากวามรํกในใจ. พอตะวนบ่ายกลายแดดรอนลงไปบาง ขาพเจ ชวน'โสมทํฅต์ให้นํ่งรถ'ไปเที่ยวที่อุทยานอีก. โสมทตต์ขด ด้วย. ที่จริงโสมทฅฅ์ตองการไปดูการดีนกพนน แต่ตองเวนไปในวน นํ้น. ขำพเล่าเดินฅหรดตุเหร่อยู่ในสวนจนตลอด ก็ไม่ มุ่งหมาย. จริงอยู่ มีนางงามเล่นกลีอยู่หลายกน ดูประหนึ่ ให้ขำพเล่าหลงเขาไปหา, กรนเมื่อเขาไปแล่ว ก็หาพานพบนางผู้ทร โฉม คือ พระศรีเทวีไม่ ขำพเล่าเสียใจเบนที่สุด เลิกไปเที่ยวในอทยาน, หน ทางแม่คงคา ได้ไปยิงท่านาหลายแห่ง. ในที่สด ลงเรือเท ละล่องไปตามกระแสธารล่นศกด็สิทธื้ จนแสงอาทิตย์ในเวลาอ\"สด ลบหายไป, เห็นแสงคบและแสงตะเกียงเรี่ยรายอยู่แวม ๆ ต่องพนน ซึ่งดูด'งกระจกให้เตนฉะน8น ขำพเล่า-จำเบ็่นต่องเลิกความห'ล่งล แรงกล่า แต่.ว่าเงียบๆอยู่ในใจ, บอกคนเรือให้พายมาส่งยิง ใกล้. เมื่อนอนไม่หลบตลอดคืน ดื่นขนตงแต่เชำก็อย่แต่ เพื่อพกม่อนอารมณ์ซึ่งหมกมุ่นม่วหมอง เห็นอยู่แ ห้บรรเทา จะได้มีกำล่งวงชา สามารถไปเที่ยวอทยานในตอนบ่ อีก. เพื่อให้หายรำคาญใจ หนไปพึ่งพู่ล่นและสี เอามาว ในเวลาตบลูกคลี. พูดถึงอาหาร ขำพเล่าไม่สามารถจะกินได กำเดียว. อนว่านกเขาไฟซึ่งมีเสียงเพราะอ่อนหวาน ยืนชีพ 1๑)1๑)
/ ดำยแสงจ่นํทร์ฉนใด, ขำพเจายืนชีพต่อมาได้ ก็ดำยแสง'จนทรแห่ง ควงหนำของนางฉนนน ซึ่งขำพเจ่าจำได้เบนเงา ๆ, แต่หว้งว่าจะได้ เห็น เพื่อพื่นความจำให้แม่นขนอีก ก็ที่ในอทยานตอนเย็น. อนิ ความหว*งที่มีไว้นื่ ในที่สุดกลายเบนความเสียใจ เพราะ'ใปแลว์ก็มิได พบ. ภายหล*งโสมทตฅ์ชวนไปเที่ยวทอดสะกา เพราะโสมท*ตต่ติด สะกาแทบเบนนำ อย่างพระนลซึ่งถูกกลีเขำสิงฉะนน. ขำพเจ่าขอกำ '''มีไปดำย บอกว่าเหนื่อย, ซึ่งที่ถูก นำเหนื่อยก็ควรกล*บนำน แต่ ขำพเจ่าไม่ยกกล*บ ไพล่ไปที่ท่านำ แล่ว่ลงเรือเที่ยวอีก. ในคราวนื่ ขำพเจ่ามีความเสียใจไม่แพ้คราวก่อน เพราะมิได้วี่แววอะไรเลย. ©®© หา’ รูปวิเศษ ขำพเจ่าย่อมทราบได้ดีสำหรบฅวเองว่า การนอน'ให้หล*บเบึน อ*นไม่น่านึกถึง, จึ่งไม่เปลี่ยนเสือผำตลอดเวลาเย็นวนนน, เบนแต น่งลงที่ห่วนอน บนเสื่อหอ]าซึ่งเบึ่นอาสนะสำหรบกราบไหว้พระ, นงท่าบชาสงบนื่งอยู่อย่างนนฅลอดคืน, ในใจก็นึกภาวนาถึงพระ ล่กษมีเทวีผู้มีกำเนิดจากกอกบว. รุ่งรางสว่างแล่วก็เรื่มวาดรูปที่ล่างไว้ ต่อไป. ไ^๓
เวลาล่วงไปรวดเร็ว โนขณะทีขาพเจาวาดรูปอยู, โสมท*ฅต์เขำมาหา. ขำพเจำได้ยินเสียงเขาเดินมา กตะลีตะลานเอาร และเครื่องเ ขียนเสือกซ่อนไว้ใต้ที่นอนท*นที โดยไม่รู้สึกตว ต ในการที่ทำเช่นนน. โสมท\"ฅฅน่งลงบนเก*าอเตยขำงคิวขำพเจำ มองดูขาพ ก็ยํ้ม, พูดว่า ะ — “ ขำพเจำออกจะเห็นเบนกวามจริงแล่ว่ว่า ในบานเราเวลา ออกจะมีเกียรติยศอยู่ ที่ไต้เบนที่เกิดของอริยบุคคล เพ มิใช่จะบำเพ็ญตบะในการอดอาหารอย่างทรหดที่สุดแล*ว, ยิ การนอนบนที่นอนอ\"นอ่อนนุ่มเพ็มขนด*วจยง.ดูหมอนและที่นอนซิ ม่มีรอยชอกชาแม้เล็กน*อย, ผาปก็ยํงขาวสะอาด’ไม่มีมลทินเลย แต่ ว่าร่างกายของท่าน ถูกบำเพ็ญตบะอดอาหาร ดูออกจะซบ ๆไปแ แต่ย*งมีนํ้าหน*กิอยู่ เพราะที่เสื่อเบนรอยบุมแสดงว่า ส บนนนตลอดคืน. สำหร*บท่านผู้แน่วแน่ในการภาวนาบณยํ ห’อง คุย\"งไม่เทมาะ, เพราะออกจะเบ็๋นโลกๆอยู่หน่อย ด*ว่ยบนโต๊ ยิงมีโถนามน แม้จะไม่ได้แตะต*องก็จริงอยู่ และยิงมีโถผ โถนาหอม และจานวางเปลือกตนล่มและหมากอยู่คิวย. ที่ผ่ พวงมาลาดอกอมลาน* และพิณแขวน. เอ๊ะ ! ฉากที่เกยแข ที่ขอนน หายไปไหน?” * อไ]ลาน แปลว่าซึ่งไม่เหี่ยวแห1ง วะเบนบานไม่ร้โรยกระมง, ฝรืงแปลว่ ส!!131’แบ01 (00!ก;บ111’แ011แ 0ไ0๖0ธ&)
ขำพเจำอึกอกกำลำนึกแก้ตำไม่ท่น. โสมท่ฅฅ์เหลือบไปเห็น ซุกอยู่ใต้ที่นอน, ก็ไปลากเอาออกมา และพูดว่า : — “คูค! มดถ่อหมอผีที่ไหนนี่? ช'วแท้ๆ มาทำฉากเปล่า ที่แขวนอยู่ตรงนน ให้เกิดมีภาพสาวนอยแสนสวยกำล่งเล่นคลีขั้น’ได้. นี่ไม่มีอื่น, คงมีอะไรประสงค์รำยต่อท่านผู้เรี่มเบนฤษีมีฌานแก่กลำ หนอยแน่ ! ยิงมิท่นไรก็จํดการเขียนรูปเขียนรอยเบนมารมากระทำ ทีเดียว ล่องกาวจะทำลายตบะเสียแต่ตนมือ! หรือมิใช่เช่นนน จะ เบ็!นเทพองค์ใดองค์หนึ่งมานิรมิตรปไว้ให้ก็ใม่รู้, เพราะเราท ย่อมทราบยินอยู่ดีว่า ทวยเทพย่อมกลำเดชของมหาฤษีผ้บำเพ็ญตบะ อย่างแก่กล่า. สำหรบสท่าน เมือเรื่มล่นทรมานกายได้ถึงเพียงนี่ ใน ไม่ชำเขาวินธยคงพ่นไฟออกมาแน่ เพราะรอนตบะของสูท่านที่แรง กล่า. มิใช่เท่านี่น เดชบารมีที่มีสะสมไว้ บานนี่ทวยเทพในเทวโลก จะมิตำสนระรำไปตามยินแล่วหรือ ? และบดนี่ขำพเจำคูเหมือนจะรู้ว่าเทพองค์ที่มานิรมิตรูปไว้ คือ เทพองค์ไร. ไม่มีอื่นไกลแลว คงเบ็่นเทพองค์ที่มีสมญาว่า “ไม่แพ้ ใคร” ทรงดอกไม้เบ็!นลูกธน และมีธงเบ็นรูปปลาม*งกร. ออ! นึก ออกแลำ ! คือกามเทพนนเอง โอ๊ย ! ทวยเทพเจำขำ ! นี่รูปใคร ? รปวาสิฏฐี ธิดาเศรษฐีช่างทองทีเดียวนี่นา ! ” ขำพเจำได้ยินและรู้จกชื่อนางผู้ซึ่งขำพเจำได้หลงใหลแล่วเบ็่น กรงแรกนี่เอง, รู้สึกว่าหำใจเล่นแรงเขา หนำชํกชาซีดคำขอํกอ่วนใจ. 1®)
1 โสมทำฅ์นกเยํย่กล่าวต่อ'ไป'ว่า สหายเอ๋ย ! ออกจะเหนแลว ว่าอำนาจโยคะของกามเทพทำให้ท่านกระวนกระวายใจมาก, จะตอ บครางควานเสียบาง พอให้กามเทพหายพิโรธ. ในเรืองเช่นนี ว่าฅํองอาศํยบึ้ญญาผู้หญิงจึ่งจ ะได้. ขำพเจา'จะเอารูปวิ เมทินีกู่รกขำพเจาค, เพราะเมื่อเล่นคลีคราวนน นางก็ไปเ ดำย, และซานางก็เบ็๋นลูกเรียงพี่เรียงนำ)งกํบวาสิฏ!.” โสมทำต่พคแลำก็ลุกขั้นจะไป และจะเอารูปไปดำย. ขำพเจ เห็นเช่นน และรู้สึกอยู่ว่าโสมทำฅ์เบ็่นคนชอบลำไม่ใช่เล่น, จึ ให้รอก่อน เพราะรปนนยำขาดกำจารึก. ขำพเจำขมีขมนเอาสีแด อนงามมาผสม แลำเขียนอกษรตำบรรจงอย่างงามไว้ในฉากรูป เบน กาพย์สี่บาท มีขำความอย่างง่าย ๆ กล่าวถึงเรื่องนางเมื่อเล่ กาพย์ที่เขียนนเบ็๋นกลบท ถ,าอ่านถอยหลำ จะได้ความว่าลูก เดาะตี คือดวงใจของขำพเจา ซึ่งขำพเจาขอส่งคืนมายำนาง หวน ๆ ว่านางจะมิรบไว้ ; ลำอ่านกลบทนนตรงลงมาจากอำษรใน บรรทำตำจนถึงอกษรในบรรทำปลายเบนลำดำ)ก้นไป จะได้ความ กล่าวถึงความระทมโศกสาหำที่ตองพรากจากนางมา ; หรือถำจะอ่า ยำนขั้นแต่ล่างไปหาบน ผู้อ่านจะทราบได้ว่า ขำพเจำยำมีความหวำอ ที่ผูกกาพย์ยอกยำนซ่อนเงื่อนไว้ดํงนํ้ ขำพเจำไม่แ ทราบเกำ, เพราะฉะนน โสมทำกํจึ่งไม่รู้สึกว่ากาพย์ที่ขำพ!,จำผกไว้น จะดีวิเศษเพียงไร, คงเขำใจแต่ว่า เบนถำยกำคาด ๆ ตามธรรมคา1 ไ®)
จึ่งเผยอแนะนำว่า ทำจะให้เทำทีขํ้นอีก ควรกล่าวเสียควยว่า กามเ ฅระหนกฅก่1จเบ็๋นกำลิง,ในความแก่กล่าแห่งตบะที่ขำพเจาบำเพ็ญ กบนิรมิตรูปนมาทำลายตบะ จนขำพเจาต็องพ่ายแพ้แก่ทำวกามเทพ อย่างราบคาบ. เมื่อโสมทํฅตนำรปไปแทํว, ทำพเทํรู้สึกเบิกบานอย่างไร ไม่ทราบ เพราะเห็นว่าบทํนึ่นบว่าได้กาวบนไคแห่งความหทํงชนไป ได้หนึ่งขนหนึ่งแทํว, อาจทํงเกิดผลให้ไปสู่ความสุขวิเศษย็่งกว่ สุขท4งหลาย ให้สมด้งที่ได้มุ่งหมายไว้. เวลานึ่ทำพเทำอาจกินอ ได้แทํว ได้จํตแจงกินอาหารว่างทำงเล็กด้อย, แลวปลดพิณที่แขวน อยู่ทำงฝา เอามาดีดเบ็่นเพลงพอให้เพลินคอยเวลาอยู่เรื่อย ; จน โสมทํฅฅ์กล'บิมา และถือรูปมาด้วย. โลมทํฅฅ์พดว่า “นางผู้เล่นคลี ผู้ทำลายทํนติภาพของท อตริแต่งกาพย์ขนทำงแทํว. แต่ทํอความที่กล่าว บอกรไม่ถกว่ามีอะไ อย่ทำง, ร้เพียงลายมือที่เขียนไว้ อาจกล่าว’ได้,ว่าสวยผิดปกติ.” แท้จริงลายมือก็สวยอย่างเช่นว่า ทำพเทำได้เห็นอยู่ตรงหนำ แสนดีใจจนใจด้น พูคไม่ถูก- ถอยกำที่เขียนเบ็่นกาพย์ต่อจากของ ทำพเทำ มีสี่บาทเหมือนกน, ด้วิอํกิษรงามราวกบช่อดอกไม้ที่เพ่งตูม ต8ง ตองลมอ่อน ๆ ในฤดูรอนโบกสะบด ดูประหนึ่งว่าพดมาติดอยู่ที่ รบปฉ^ะทนํน.เน. โสมเสทมด7ฅ1V์นย่ายอมยจมะขไม#/่เทมรเานบคเบวกามย่ หเมมทามยที่แฝงอยู่ในกาพย์นึ่ เพราะเบนถอยกำที'ตอบความแฝงของทำพ^ทำ- ทะงนะก๘แสดงอยI ูวIา
นางงามของขำพเจำอ่านกลอกษรในกาพย์ขำพเจ่าได้ถกต่องท อยู่, กระทำ'1ห้ขำพเจ่าอ็่มเอิบคิวยบี!ติ ที่เห็นว่านางมีค ฉลาดไม่แพ้ความเบนผู้มีใจสูงอยู่ในตำ. เพราะถอยกำที่ นางรู้สึกว่าขํอความอ'นิแสดงความรกของขำพเจา เบ็่นแต่ชนิดเผิน ๆ ไม่บ'งควรที่นางจะถือเบ็!นอารมณ์นก. เมื่อขำพเจาไค้อ่านแล,ว ก็เพียรอ่านยอนถอยและตามตร อย่างวิธีทีขาพเจาแต่ง โดยหวงว่าจะได้พบขอความที,จะแสดง หรือนคพบอย่างไรบางนน แต่ก็ไม่พบเลย. แต่ความไม่สมประสงค พอดีได้บรร เทาลง ด้วยโสมท'ฅต์กล่าวว่า: — “แต่นางสาวนอยผ้มีค์วอนงาม ถึงจะไม่ใช่เบนกวีวิเศษ ใจแท้, เพราะนางได้บอกว่า ขำเจา (โส มท'ตต์ม่)ได้พบเมทินี คู่รกของขำเจ่า และเบี!นญาติของนางสนเวลาชำนานแล่:V1วIีค,^ พบกนก็ในที่ประชุมชน ซึ่งจะโอภาปราศร'ย่กนได้ก็เพียงนยน์ กระนํ้นก็ได้แต่ชำเลืองแลดูก*นิ. เพราะฉะนน นางจะจดแจงให้ไ พบกนในคืนพรุ่งนี ทีบนลานในบริเวณปราสาทของบิดาน ที่จะไปพบกนกืนนไม่ได้ เพราะบิดาของนางมีงานเลํ้ยงดแขก ตองทนทุกขทรมานไปจนถึงพรุ่งน. บางทีท่านตองการไปเผชิ บ^างก๘ VIเค^. 55 โสมท'ติค์พูดแล่วีก็หํวเราะเบ็่นเชิง ซึ่งกระทำให้ขำพเจา ทำเราะไปด้วย, แล่วีรบรองแก่เขา เบื่นอ'นิว่าขำพเจำตกลง
ควย. กำลำเบิกบานใจ เราสองคนก็ลากกระดานหมากรุกซึ่งอยู่ขำง ฝา เอามาเล่นเพี่อกินรำคาญใจ. พอดีกนใช้เข้ามา และบอกว่า ใครอยากจะพบกิ'บข้าพเจ้า. ข้าพเจำลุกออกไปที่ห็องนอก พบคนใช้ของท่านราชทูฅ ซึง มาบอกข่าวให้ทราบว่าข้าพเจำต่องเฅรียมดำกล*บ, ให้จดเฅรียมเกวียน ไปรอคอยไว้ที่ลานว่งในคืนนนทีเดียว เพื่อจะได้ออกเดินทางใน รุ่งขั้นแต่เช่าตรู่. ข้าพเจำใจหายวาบพูดไม่ออก รู้สึกว่าต่องเบนการถูกเทพบาป เคราะห์องค์ใดองค์หนึ่งลงโทษ โดยที่ข้าพเจำไปทำผิดคิดรายอะไร อย่างหนึ่งที่ไม่ทราบ ซึ่งทำให้ท่านพิโรธ. พอข้าพเจำไค้สติขั ก็บึ'งบงวีงอ่าวไปหาท่านราชทด กล่าวความเท็จแก่ท่านเสียยกให โดยบอกว่าข้าพเจ้าเตรียมดำไปไม่ท่น เพราะธุระยำไม่สดสํ้นลง ควยมีเวลาจํคการน้อยเต็มที. ข้าพเจ้ารำ]งไห้อ่อนวอน ขอให้ท่าน เลื่อนเวลากลบ ให้ยืดไปเพียงวนเดียวเท่านน. ท่านราชทดพูดว่า “ก็ไหน เมื่อแปดว*นที่ส่วงมาน เจ้าบอก ว่าเสร็จธุระแล่ว อย่างไรเล่า?” ข้าพเจ้าแก้ตำว่า ต่อจากวนที่ไค้เรียนท่านแลำ เกิดมีธระ สำค'ญโดยไม่ได้นึกกาด ซึ่งหวำว่าจะไค้โชคกำไรอย่างงามที่ส ข้าพเจ้าได้กล่าวนึ่ ไม่ได้กล่าวกำเท็จเลย เพราะโชคกำไรช
สำหรืบข้าพเจำ จึ่งจะวีเศษไปกว่าที่จะได้ช'ยชนะต่อนาง มิได้. ท่านราชทตเสียออนวอนไม่ได้ ยอมเลื่อนวนกลบ ยืด!ป อีกว’นหนึ่ง. วไแวลาในว*นร่งขั้นได้ล่วงไปโดยเร็ว ตลอดเวลานนขำพเจๆ0 ^06 4 ๖\\ I 0 เ^ง ๘ เ'ๆ) 0 บ-ม เศา) V I เว! ๘ บ 6 .เ-ม เ) ใ เบะ. ง ๘ * I 01 น I 10 * ได้จํดเตรียมสีงของขั้นบรรทุกเกวียนเสียให้เสร็จท’นเวลา เบ็๋นห่วงเกิดก*งวล, พอถึงเวลาเย็นกิจ\"ดเสร็จ ให่เอาเกวียนไป ที่ลานว*ง, ส่วนโคก็ให้เขำเครื่องไว้, กำพอขำพเจำไปถึงในเ ตรู่ ก็จะได้เอาโคเขำเทียมเคลื่อนได้ท*นที. ®® © หก บนลานอโศก ตกกลางคืนอากาศมืดแลว ฃาพเจาก’บโสมท’ต,ต์น่งห่มกํว ผ่าสีดำ มีเข็มขํดกาดรดกุม มือถือดาพมุ่งตรงไปทางกำนฅะวนต แห่งปราสาทอ*นมโหฬารของนายช่างทอง. ที่ตรงนนอยู่เชิงเขา ล่างเบนซอกเขาลึกมาก, ถดสูงขั้นไปคือ ลานที่เราจะลอบข ขาพเจากบโสมทฅฅใช้ลำไม้ไผ่ซึ่งเตรียมเอามากํวย พาดโยนฅว่ ได้. ตอนนนมืดจด จึงไต่กำแพงขั้นไปอีกชนหนึ่งได้ง่าย. พ้นก ๓อ
เขาไปถึงลานกวางใหญ่ ประค'บประคาดีวยกนปาล'มและต*นอ'โศก ขนดคำยทํนไม้ดอกต่างๆ ซึ่งในขณะนนตำงแสงเดือน แลคูเห็นขาว เบนทาง ๆ. ถำเขำไปไม่สู้ไกลนำ นางสาวตางามผู้เล่นคลียอดหำใจ ขำพเจา น'งอยู่บนมำยาวเกียงขำงหญิงสาวอีกคนหนึ่ง คูคํง้พระล เสด็จลงมาจากสรวงสวรรค์ พอเห็นได้ ขำพเจำก็เรี่มตำสํนสะทำน ตองเขำไปพิงเสมากำแพงย์นตำไว้ รู้สึกว่าหินอ่อนที่ขำพเจาไปเกาะ สมผำเย็นชื่น ช่วยแก้ให้หำใจที่สํนสะทำนค่อยทเลาลง. ระวางนน โสมทํฅฅ์ตรงรี่เขำไปหาคู่รำของตน. ส่วนนางคู่ ก็ลุกขํ้นมาตอนรบ ออกเลียงอุทานแต่เบา ๆ. ขำพเจำเห็นเขาเบนเช่นน1น ก็เตรียมฅำสงบใจให้หายอธำ เพื่อเขำไปหานางผ้หาที่เปรียบมิ ได้ของขำพเจาบำง. เมึ๋อนางเห็นคน แปลกหนำเช่ามาหา ก็ลุกขั้นทำกิริยารวนเร ว่านาง-จะควรอยู่ที่น’น หรือว่าควรระไปเสีย. ส่วนดวงฅาคูราวกํบตากวางเมื่อตกใจ เหลือบ ชะม่ายดูขำพเจำไม่หยุด กายก็สํนดงลดาชาติที่ถูกลมอ่อน ๆ โบกฉะน8น ว่าถึงตำขำพเจำ ยืนจำงำ ผมยุ่งเหยิง ตาก็เหม่อมอง, พยายามพค หลดปากออกมาได้๒—๓ คำ ว่าขำพเจำรู้สึกเบนบุณย์ที่มีหวำมาไค้พบ. นางสำเกตเห็นกิริยาขำพเจำมีสะทกสะทำน ก็ค่อยสงบความรวนเรใจ ทรดลงนํง้บนมำอีก, แลวยกหฅถคํงคธกบวขึนนอย ๆ ชีที่ฅรงขำงที่ นางน'ง เชิญให้ขำพเจำนํง, กล่าววาจาดำยเสียงอ่อนหวานว่า นางมี ๓6)
ความพอใจที่สามารถไล่แสดงความขอบใจช้าพเช้า ที่ได้โ กล*บขนมา'ให้ไล่อย่างชำนาญมาก โดยนางไม่จำเบนล่องหยุดเล ระวาง, เพราะล่ามีเหตุขดช้องล่องหยุดเล่นในกลางคนแล่ว ที่นางจะไค้จากการเล่นถวาย ก็จะไม่ ^2 ซาเทวีที่เคารพก็จะ พิโรธควย อย่างนอยอาจศาปนางไม่ให้ได้รบความสุขใจเลย. ขำพเจำ ตอบกำแสคงว่า นางไม่จำเบนล่องขอบคุณ เพราะที่ ไล แล่วน1น ก็เพื่อใช้โทษในความผิด. ขำพเจำส่งเกตว่า นางยํงไม่เขำ,ใจความหมาย'ในกำพู ขาพเจา. จึงหาญอธิบายว่า เพราะควยประสพคากน จึ่งทำให5นาง ลกกลีพลาดกระเด็นออกมานอกเวที ล่นเบนความผิดของขำพเจำ แท้ๆ. นางมีพิกตร์แดงควยโลหิตขํ้น ไม่ยอมริบ'ในข*อที่'ว่า ขำพ ได้ทำความผิด เพราะช้อนนหาเบ็1นเหตุให์น่างฅีลูกกลีพลาดไม่. ช้าพเจำตอบว่า ช้าพเจำเช้าใจว่าดวงตาของตนทีเพ่ง งาม และความชำนาญของนางล่วยอาการตะลึง บางทีจะเบนเห ลกกลีกระดอนออกมานอกเวที. นางตอบว่า พูดอะไรเช่นนน เพร ช้าพเจำคงไล่เคยเห็นนางงามที่เล่นคลีชำนาญยอดเยี่ยมกว่านาง เมืองของช้าพเจำมาแล่วมากต่อมาก. ตามที่นางกล่าวน แสดงว่าล่อยคำของช้าพเช้าท โสมท*ฅฅ์'ไว้ ร่ว้มาเช้าหูนางแล้'ว. เมือทีกลึงที่ได้พูด ชำนาญเล่นคลีในเมืองช้าพเจำมีถมไป อนเบ็!นวาจาที่ข่มอยู ๓ไสู)
ทำ'1ห้รู้สึกสะทำนริอนสะทำนหนาว, ดองรีบแก้ตำรบรองว่า ถ่อยคำท ได้กล่าวไว้กำ]โสมทฅต์น1น ไม่เบ็่นความจริงแมแต่นอย, ที่พูดออกไป เช่นนน ก็คำยไม่อยากจะให้โสมทํฅต่ทราบกวามจริงในใจขำพเจำ ขอ แก้ตำน นางไม่เชื่อหรือแกลำไม่เชื่อ. ขำพเจำในเวลานนหายอุธำแลำ พล่อยปากแสดงกวามรกใหญ่, ไถ่บอกว่า ในวนแรกที่ได้เห็น ดวงใจ ราว ดำยตองศรคอกไมของกามเทพแผลงมาคงห่าฝน. ขำพเจำเชื่อ แน่ว่า เราที่งสองคงมีบุพเพส้นนิวาสดำยกนมาในชาติก่อน ควา รู้สึกแต่วนแรกที่พบกน จึ่งเบนได้ถึงเพียงนั้. ขำพเจำไดกล่าววาจาแสดงความรำดำยชะล่าใจเสียยกใหญ่, จน ที่สุดนางใจอ่อน ซบหนำลงรองไห้อยู่กิบอกขำพเจำ ออกวาจากะออม กะแอมพ้งไม่ได้ชด, แต่ก็ทราบได้ในกิริยาว่ารบรกของขำพเจำ แล ยอมรำ!ว่านางก็มีความรำขำพ1.จำแต่วนที่ได้พบกิน, ถ่าหากเมทินี ไม่ นำรูปมา'1หำทนกน บานนํ้นางคงสินใจตายเพราะดำยกวามรำเสียแลำ เราได้พรื่าแสดงความรำกนโดยมิรู้เบื่อ รู้สึกว่าแทบจะสด สวาทขาดใจลงดำยกวามรำซึ่งมีอย่แก่กน. ทนใดน8น ระลึกถึงเรื่องที่ จะต1อ; งจากก0น^ าไ/) ป.ดใ^นวน/ รIุ่2^ ง^เชาข๘็ต น ก็ใจ2ห^ ายคล0^ายIๆ/ะกจ บว^่าม(เ/ีเงามึดเขำม กนขวางกวามสุขของเรา, คิดแล่วก็ฅํใ•เดน ทอดถอนหายใจยาว. วาสิฏฐีเห็นขำพเจำถอนหายใจก็ตกใจชำถาม. กรนขำพเจำเล่า เหตุให้พง, นางก็ทรุดตำลงบนเกำอกลายจะเบื่นลม แลำรองไห้สะอั้ มิหยุด. ขำพเจำพยายามเลำโลมใวิใหกลายกวามโทมนำสำเท่า ๘ ก ๓๓
ไม่บรรเทา, รไ]รองว่าพอสํ้นฤคูฝนก็จะรีบกลบมาโกส'มพี แ จะไม่พรากจากไปอีก ถึงแม้ว่าจะท่องเบ็นคนงานได้รไตรากตรำลำ อยู่ในเมืองนตลอดชีพก็ตาม ก็เต็ม'ใจอยู่ด้วยกวามยินดี. จะรบร อย่างนั้และอย่างอื่นสกเท่าไร ดเหมือนรบรองกบลม เพรา นางหายโศกสขํอยได้, แทํจริงกวามร่นทดของขำพเจาก็ไม่นไเยไป พอนางสะอึกสะอื่นนอยลง ก็ถามท1งนํ้าตาว่า มีความจำเบ็่น จึ่งท่องไปแฅ่เขำ ? พอพบปะกไเไม่ทนไร ก็จะไปเลียดิงน. ขำพเจ พยายามอธิบายถึงความจำเบ็!นที่จะตองจากไปอย่างละเอียด นางดเหมือนไม่ยอมพ้ง หรือพีงไม่เขำใจ, เบนแต่บอกว่า ที่ขำ จะรีบกลไ]ไปนนนางเห็นแล้ว ว่าขำพเขำกงคดถึงบาน. คิดถึงบร นางงามที่ชำนาญเล่นคลี ดิงที่ขำพเขำได้เคยพคไว้แต่ก่อน ขำพเขำจะรไรองดิดขำนหรือสาบานอย่างไรก็ตามทีเถิ ขํงยึคความเขำ'ใจผิดของนาง’ไว้ นาตากลืบไหลออกมากขน. ใกรบาง ที่จ ะไม่รู้สึกปร ะหลาดใจในกิริยาของขำพเขำ ซึ่งต่อมามิขำ ขำพ ถึงขํบทรุดตำลงที่บาทนาง. พลางยกแขนที่เรียวงามขนจุมพิ ก็ร่วง ปากก็กล่าวว่า ขำพเขำให้สญญาว่าจะไม่จากไปแล้ว. วาส โผลงโอบกอขำพเขำไว้ จุมพิตขำพเขำเสียยกใหญ่ จน มาได้. ดิงน้จะมีชายไรอีกเล่า ที่มืกวามสุขเบิกบานใจไปยี่งกว ในขณะนน นางได้พูดว่า หรือ“คูที ขำจำเบ็!นจริงๆก็กงอยู่ต่อ ม่ได้? นี่ก็แสดงว่าเรื่องที่จะไปไม่สู้สำขํญนก.” ขำพเข ๓ (X
ความจำเบ็๋นอย่างละเอียดให้พงอีก แค่นางเอามึอบี่ดปากขาพเจาเสีย บอกว่านางได้ทราบแลว ว่าขำพเจำมีกวามรกนางเพียงไร ที่ได้พูด ถึงผู้หญิงในเมืองของขำพเจำนน เบ็๋นการพคเยำเล่น ไม่หมายความ จะให์เบนจริงดอก. กวามร*กอ,นดูดดื่มของเราที่งสอง กระทำให้รู้ส เวลาที่ล่วงไปคลำยเวลาในความผึ้น. และคงจะไม่สั้นสุดความสุขวิเศษ ไปได้ หากไม่มีโสมท่ตต์และเมทินีที่สุกขั้นมาบอกว่าดึกมากแลํว ควร กลํบเสียที. เมื่อกลไ]มา เห็นสี่งของที่จํคเตรียมไว้อยู่พร็อม ณ ลานบาน ของโสมทํฅฅ์แลํว, ขำพเจาเรียกหำหนาคุมเกวียนเข่ามาหา ส่งว่าให้ รีบไปหาท่านราชทูตโดยเร็วที่สุค เรียนท่านว่าขำพเจาเสียใจดํ ธุระยงไม่เสร็จ จะต,องวออยู่ก่อน, เพราะฉะน1น จะตองเลิกความคิด ออกเดินทางไปกไ]ท่านราชทูต. ขอแค่ให้ท่านราชทูตกรุณาส่งข่าว ความเคารพของขำพเจำให้บิดามารดาทราบดํว่ย. การย์นอกนํ้ แลํวแต่ท่านจะโปรด. ขำพเจ*าเอนตำลงนอน เพี่อผ่อนกายพ'กหล'บิเสียลํกคร่, พอ ลมฅวลงนอนก็พอดีท่านราชทูตมาหา. ขำพเจำตกใจเหลือประมาณ ออกไปตอนรบท่าน กมลงเคารพอย่างสูง. ส่วนท่านราชทฅพดเบน เสียงบ่งกบซึ่งแต่ก่อนร่อนชะไรมา ขำพเจำไม่เคยได้ยิน สงให้ ตามท่านไปทนที.
ขำพเจำตอบละลาละลกว่า ธระสำคญยงไม่ทนเสร็จ. แต่พูด ยงไม่ทนหมดประโยก ท่านก็บํงทิบ่ให้หยุด. ท่านบริภาษว่า “เหลวไหล เหลวใหญ่เสียแลำ ธุระอะไร เรื่องกล่าวเท็จขอใหํพอกนที. นี่เจำเขาใจว่าเราไม่รู้เรื่องธระบ ชองเจาหรือ ไ ที่อำยเด็กหำดอแก้ทิวว่ายำไปไม่ได้ในทินท ถึงขำไม่ไคให้นเกวียนของเจำที่เกรียมบรรทุกของไวใสร็จแลำขำก็ ตองร้ว่าเองโกหก.” เบนธรรมดาอยู่เอง ที่ขำพเจำจะต่องยืนฅำสํนเลือด ดำยกวามอาย เพราะความจริงใจมํน,ก็เบ็๋นอย่างเช่นที่ท่านกล ในเรื่องที่บ่งคบให้ไปทิปท่านโดยทินทีนไเ ท่านถกขำพเจำยืน ขํกขืนไม่ปฏิบ*กตาม กระทำให้ท่านผิดคาด ไม่นึกว่าจะเบนไ เมื่อท่านเห็นบํงทิบ่ไม่ได้ ก็เปลี่ยนเบนขู่, ที่สุดเห็นว่าไ กลายเบนปลอบ เตือนสติว่า ที่บิดามารดาของขำพเจำทิดใจให้ขำพเจ มาเมืองนึ ก็เพราะเชื่อว่า ขำพเจำต่องได้รบความคุ้มกรองจา เพราะฉะนํ้ใน การกล*บ่ก็กงต่องกลบ่ทิบ่ท่าน. มิใยท่านจะพูด ก็คงไม่สมประสงค์ เพราะขำพเจำร้อยู่ว่ กล'บ่)ไปแลว กว่าจะไดกลบมาเห็นหนาคู่รกอีก ก็ต่องรอจนกว่ บานเมืองของขำพเจำจะส่งราชทดมาคร8งหลง ซึ่งคงเบนเวลาอ ขำนาน, เบนอนไปไม่ได้. ต่องแสดงกวามสามารถของขำพเจาให้ ดว'๖
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360