Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รวมPowerPoint

รวมPowerPoint

Published by Jar Wanicha, 2021-10-17 15:24:53

Description: รวมPowerPoint

Search

Read the Text Version

กิจกรรมกำรวำดภำพระบำยสี กจิ กรรมกำรป้ัน 3.1.1 ครูอำจประเมินด้วยกำรวัดกำร 3.2.1 ถ่ำยทอดควำมรู้สึกนกึ คดิ ออกมำ แสดงควำมภำคภูมใิ จในผลงำนของ เป็ นผลงำนและสำมำรถบอกเล่ำเร่ืองรำว ตนเองของเดก็ แต่ละคน 3.1.2 สังเกตจำกกำรถ่ำยทอด ให้ ผู้อ่ืนฟังได้ ควำมรู้สึกนึกคดิ ออกมำเป็ นผลงำน 3.2.2 สังเกตกำรเลือกลงมือป้ันตำม ด้วยตนเองของเดก็ 3.1.3 กำรจัดแสดงผลงำนเดก็ ทุกคน จนิ ตนำกำร และสังเกตควำมก้ำวหน้ำพร้อมกับ และตำมควำมสนใจของเด็กเอง บนั ทกึ รำยละเอียดไว้เป็ นระยะ 3.2.3 สังเกตพฤตกิ รรม และผลงำนจำก กำรประสำนสัมพนั ธ์กนั ระหว่ำงมือและ ตำ ทมี่ า:http://https://www.youngciety.com/article/journal/arts-for-kids.html

กำรสนทนำ การสนทนา เป็ นการวิธีการประเมินอย่างหน่ึงท่ีจะทาํ ใหท้ ราบ ขอ้ มูลเชิงลึกในเร่ืองของ ความรู้สึกนึกคิดของเด็กที่มีต่อผลงาน ของตนเอง และยงั ทาํ ให้เด็กเกิดความไวว้ างใจแก่ครูในขณะทาํ เอกสารประกอบการสอน รายวชิ าศิลปะสาํ หรับเด็กปฐมวยั 127 กิจกรรม เป็นการสร้างความสนิทสนมคุน้ เคยระหว่างครูกบั เด็ก อนั จะทาํ ใหเ้ กิดความสมั พนั ธอ์ นั ดี ส่งผลตอ่ บรรยากาศท่ีดีในการ ทาํ งานศิลปะดว้ ย ทม่ี า:http://https://www.youngciety.com/article/journal/arts-for-kids.html

การรวบรวมผลงาน การรวบรวมผลงาน หรือการทาํ แฟ้มผลงาน (portfolio) เป็นการ รวบรวมผลงานที่แสดงถึงความกา้ วหนา้ ของเด็กในแตล่ ะดา้ นโดยมี การจดั รวบรวมไวเ้ ป็นรายบคุ คล โดยมีจดุ มุ่งหมายทชี่ ดั เจนซ่ึงเป็น วธิ ีการรวบรวมขอ้ มูลดา้ นต่าง ๆ ของเด็ก สามารถแสดงถึงการ เปล่ียนแปลงพฒั นาการในทุกดา้ นเอาไว้ ซ่ึงถือเป็นแหล่งรวบรวม เครื่องมือชนิดต่าง ๆ ทีค่ รูใชแ้ ละไดจ้ ดั ทาํ เอาไว้ เช่น แบบสงั เกต พฤติกรรมเด็กแฟ้มสะสม ผลงาน (portfolio) ควรประกอบดว้ ย ผลงานการวาดและการขดี เขยี นของเดก็ บนั ทึกการอ่านเพอื่ ประเมิน พฒั นาการทางภาษา จาํ นวนเล่มหนงั สือที่อ่าน ขอ้ มูลของเด็กทผ่ี สู้ อน เป็ นผบู้ นั ทกึ พฤติกรรม ต่าง ๆ ซ่ึงจะสะทอ้ นความเจริญงอกงามในตวั เดก็ แต่ละคนจากการประเมินตามสภาพจริงอยา่ งชดั เจน ทม่ี า:http://https://www.youngciety.com/article/journal/arts-for-kids.ht

Thank You

• นำงสำว ภำวณิ ี บำดกระโทก รหัสนักศึกษำ 63121860001 Our Team • นำงสำว อรวรรณ ก้วั ประดับ รหัสนักศึกษำ 63121860015 • นำงสำว กฤตพร เดชพ่มุ รหัสนักศึกษำ 63121860016 • นำงสำว ชุตกิ ำญจน์ ประภยั ภกั ด์ิ รหัสนักศึกษำ 63121860019 • นำงสำว พชั นิดำ อินอุเทน รหัสนักศึกษำ 63121860024 • นำงสำววำสนำ บุญโพธ์ิ รหัสนักศึกษำ 63121860038 • นำงสำวพลอยพมิ ล ศรีหำวตั ร รหัสนักศึกษำ 63121860041 • นำงสำวพำตเี มำะ นินำแว รหัสนักศึกษำ ​63121860046





1. แนวคิดหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ผลจากการใชแ้ นวทางการพฒั นาประเทศไปสคู่ วามทนั สมยั ไดก้ อ่ ใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงแกส่ งั คมไทยอยา่ งมากในทกุ ดา้ น อกี ทงั้ กระบวนการของความ เปลย่ี นแปลงมคี วามสลบั ซบั ซอ้ นจนยากทจ่ี ะอธบิ ายใน เชงิ สาเหตุและผลลพั ธไ์ ด้ เพราะการเปล่ียนแปลงทงั้ หมดต่างเป็นปัจจยั เช่ือมโยงซึ่งกนั และกนั (มลู นิธชิ ยั พฒั นา,2560)

สาหรบั ผลของการพฒั นาในดา้ นบวกนนั้ ไดแ้ ก่ การเพมิ่ ขน้ึ ของอตั ราการเจรญิ เตบิ โตทางเศรษฐกจิ ความเจรญิ ทางวตั ถุ และสาธารณูปโภคตา่ งๆ ระบบสอ่ื สารทท่ี นั สมยั หรอื การขยายปรมิ าณและกระจายการศกึ ษา อยา่ งทวั่ ถงึ มากขน้ึ แตว่ า่ กระบวนการเปลย่ี นแปลงของสงั คมไดเ้ กดิ ผลลบตดิ ตามมาดว้ ย เชน่ การขยายตวั ของรฐั เขา้ ไปในชนบท ไดส้ ง่ ผลใหช้ นบทเกดิ ความอ่อนแอในหลาย ดา้ น ทงั้ การตอ้ งพง่ึ พงิ ตลาดและพอ่ คา้ คนกลางในการสงั่ สนิ คา้ ทนุ (มลู นธิ ชิ ยั พฒั นา,2560)

สง่ิ สาคญั กค็ อื ความพอเพียงในการดารงชีวิต ซง่ึ เป็นเงอ่ื นไขพน้ื ฐานทท่ี าใหค้ นไทยสามารถพง่ึ ตนเอง และดาเนนิ ชวี ติ ไปไดอ้ ยา่ งมศี กั ดศิ์ รภี ายใตอ้ านาจและความมอี สิ ระในการกาหนด ชะตาชวี ติ ของตนเอง ความสามารถในการควบคมุ และ จดั การเพ่อื ใหต้ นเองไดร้ บั การสนองตอบตอ่ ความตอ้ ง การตา่ งๆ (มลู นิธชิ ยั พฒั นา,2560)

พระราชดาริว่าด้วยเศรษฐกิจพอเพยี ง “...การพฒั นาประเทศจาเป็นต้องทาตามลาดบั ขนั้ ต้องสรา้ งพื้นฐานคอื ความพอมี พอกนิ พอใชข้ องประชาชนสว่ น ใหญ่เบอ้ื งตน้ กอ่ น โดยใชว้ ธิ กี ารและอุปกรณท์ ป่ี ระหยดั แตถ่ กู ตอ้ งตามหลกั วชิ าการ เมอ่ื ไดพ้ น้ื ฐานความมนั่ คงพรอ้ มพอสมควร และปฏบิ ตั ไิ ดแ้ ลว้ จงึ คอ่ ยสรา้ งคอ่ ยเสรมิ ความเจรญิ และฐานะทางเศรษฐกจิ ขนั้ ทส่ี งู ขน้ึ โดยลาดบั ตอ่ ไป...” (๑๘ กรกฎาคม ๒๕๑๗) (มลู นธิ ชิ ยั พฒั นา,2560)

เศรษฐกิจพอเพียง “เศรษฐกจิ พอเพยี ง” เป็นปรชั ญาทพ่ี ระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั พระราชทานพระราชดารชิ แ้ี นะแนวทาง การ ดาเนินชวี ติ แกพ่ สกนกิ รชาวไทยมาโดยตลอดนานกวา่ 25 ปี ตงั้ แตก่ ่อนเกดิ วกิ ฤตการณ์ทางเศรษฐกจิ และเม่อื ภายหลงั ได้ ทรงเน้นยา้ แนวทางการแกไ้ ขเพอ่ื ใหร้ อดพน้ และสามารถดารงอยไู่ ดอ้ ยา่ งมนั่ คงและยงั่ ยนื ภายใตก้ ระแสโลกาภวิ ตั น์และ ความ เปลย่ี นแปลงตา่ งๆ (มลู นิธชิ ยั พฒั นา,2560)

ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกจิ พอเพยี ง เป็นปรชั ญาชี้ถงึ แนวการดารงอย่แู ละปฏิบตั ิตนของประชาชนในทุกระดบั ตงั้ แตร่ ะดบั ครอบครวั ระดบั ชุมชน จนถงึ ระดบั รฐั ทงั้ ในการพฒั นาและบรหิ ารประเทศใหด้ าเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพฒั นาเศรษฐกจิ เพอ่ื ใหก้ า้ วทนั ตอ่ โลกยุคโลกาภวิ ตั น์ ทงั้ น้จี ะตอ้ งอาศยั ความรอบรู้ ความรอบคอบ และความระมดั ระวงั อยา่ งยงิ่ ในการนา วชิ าการตา่ งๆ มาใชใ้ นการวางแผนและการดาเนินการ ทกุ ขนั้ ตอน (มลู นิธชิ ยั พฒั นา,2560)

3 ห่วง 2 เงอ่ื นไข 3 หว่ ง หว่ ง 1. ความพอประมาณ หมายถงึ ความพอดที ไ่ี มน่ ้อยเกนิ ไปและไมม่ ากเกนิ ไป โดยไมเ่ บยี ดเบยี นตนเองและผอู้ ่ืน เชน่ การ ผลติ และการบรโิ ภคทอ่ี ยใู่ นระดบั พอประมาณ หว่ ง 2. ความมเี หตุผล หมายถงึ การตดั สนิ ใจเกย่ี วกบั ระดบั ของความพอเพยี งนนั้ จะตอ้ งเป็นไปอยา่ งมเี หตผุ ล โดยพจิ ารณา จากเหตปุ ัจจยั ทเ่ี กย่ี วขอ้ งตลอดจนคานงึ ถงึ ผลทค่ี าดวา่ จะเกดิ ขน้ึ จากการกระทานนั้ ๆ อยา่ งรอบคอบ หว่ ง 3. การมภี มู คิ มุ้ กนั ทด่ี ใี นตวั หมายถงึ การเตรยี มตวั ใหพ้ รอ้ มรบั ผลกระทบ และการเปลย่ี นแปลงดา้ นต่าง ๆ ทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ โดยคานึงถงึ ความเป็นไปไดข้ องสถานการณต์ า่ ง ๆ ทค่ี าดวา่ จะเกดิ ขน้ึ ในอนาคตทงั้ ใกลแ้ ละไกล 2 เงอ่ื นไข 1. เงอ่ื นไข ความรู้ ประกอบดว้ ย ความรอบรเู้ กย่ี วกบั วชิ าการตา่ ง ทเ่ี กย่ี วขอ้ งอยา่ งรอบดา้ น ความรอบคอบทจ่ี ะนาความรู้ เหล่านนั้ มาพจิ ารณาใหเ้ ชอ่ื มโยงกนั เพ่อื ประกอบการวางแผนและความระมดั ระวงั ในขนั้ ปฏบิ ตั ิ 2. เง่อื นไข คณุ ธรรม ทจ่ี ะตอ้ งเสรมิ สรา้ งประกอบดว้ ย มคี วามตระหนกั ในคุณธรรม มคี วามชอ่ื สตั ยส์ จุ รติ และมคี วามอดทน มี ความพากเพยี ร ใชส้ ตปิ ัญญาในการดาเนนิ ชวี ติ (https://project561.wordpress.com/)

สมดลุ 4 มิติ ลดรายจ่าย / เพ่มิ รายได้ / ใชช้ วี ิตอย่างพอควร / คดิ และ วางแผนอย่างรอบคอบ / มภี มู คิ มุ้ กนั / ไม่เส่ยี งเกนิ ไป / ดา้ นเศรษฐกจิ การเผ่อื ทางเลอื กสารอง ดา้ นสงั คม ชว่ ยเหลอื เกอื้ กลู / รูร้ กั สามคั คี / สรา้ งความเขม้ แข็งให้ ดา้ นทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม ครอบครวั และชมุ ชน ดา้ นวฒั นธรรม รูจ้ กั ใชแ้ ละจดั การอย่างฉลาดและรอบคอบ / เลอื กใช้ ทรพั ยากรท่มี ีอย่อู ย่างรูค้ ่าและเกิดประโยชนส์ งู สดุ / ฟื้นฟู ทรพั ยากรเพ่อื ใหเ้ กิดความย่งั ยนื สงู สดุ รกั และเห็นคณุ คา่ ในความเป็นไทย เอกลกั ษณไ์ ทย / เห็น ประโยชนแ์ ละคมุ้ ค่าของภมู ิปัญญาไทย ภมู ปิ ัญญา ทอ้ งถ่นิ / รูจ้ กั แยกแยะและเลอื กรบั วฒั นธรรมอ่ืน ๆ (ศนู ยร์ าชการเฉลมิ พระเกยี รติ ๘๐ พรรษาฯ)

ทฤษฎีใหม่ ปัญหาหลกั ของเกษตรกรในอดตี จนถงึ ปัจจบุ นั ทส่ี าคญั ประการหน่งึ คอื การขาดแคลนน้าเพ่อื เกษตรกรรมโดยเฉพาะ อยา่ งยงิ่ ในเขตพน้ื ทอ่ี าศยั น้าฝน ซง่ึ เป็นพน้ื ทส่ี ว่ นใหญ่ของประเทศ ทอ่ี ยใู่ นเขตทม่ี ฝี นคอ่ นขา้ งน้อย และสว่ นมากเป็นนาขา้ วและ พชื ไร่ เกษตกรยงั คงทาการเพาะปลูกไดป้ ีละครงั้ ในชว่ งฤดฝู นเทา่ นนั้ พระราชดารนิ ้ี ทรงเรยี กวา่ \"ทฤษฎีใหม่\" อนั เป็นแนวทาง หรอื หลกั การในการบรหิ ารจดั การทด่ี นิ และน้าเพอ่ื การเกษตรในทด่ี นิ ขนาดเลก็ ใหเ้ กดิ ประโยชน์สงู สุด

ความสาคญั ของทฤษฎีใหม่ 1. มกี ารบรหิ ารและจดั แบ่งทด่ี นิ แปลงเลก็ ออกเป็นสดั สว่ นทช่ี ดั เจน เพอ่ื ประโยชน์สงู สดุ ของเกษตรกร ซง่ึ ไมเ่ คยมใี ครคดิ มาก่อน 2.. มกี ารคานวณโดยใชห้ ลกั วชิ าการเกย่ี วกบั ปรมิ าณน้าทจ่ี ะกกั เกบ็ ใหพ้ อเพยี งตอ่ การเพาะปลูกไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 3. มกี ารวางแผนทส่ี มบรู ณ์แบบสาหรบั เกษตรกรรายยอ่ ย โดยมถี งึ ๓ ขนั้ ตอน

ทฤษฎีใหมข่ นั้ ต้น ใหแ้ บ่งพน้ื ทอ่ี อกเป็น 4 สว่ น ตามอตั ราสว่ น 30:30:30:10 ซง่ึ หมายถงึ พืน้ ที่ 30 (1) ใหข้ ุดสระเกบ็ กกั น้าเพ่อื ใชเ้ กบ็ กกั น้าฝนในฤดฝู น และใชเ้ สรมิ การปลูกพชื ในฤดแู ลง้ ตลอดจนการเลย้ี งสตั วแ์ ละพชื น้าตา่ งๆ พื้นท่ี 30 (2) ใหป้ ลกู ขา้ วในฤดฝู นเพอ่ื ใชเ้ ป็นอาหารประจาวนั สาหรบั ครอบครวั ใหเ้ พยี งพอตลอดป พื้นที่ 30 (3) ใหป้ ลกู ไมผ้ ล ไมย้ นื ตน้ พชื ผกั พชื ไร่ พชื สมนุ ไพร ฯลฯ เพ่อื ใชเ้ ป็นอาหารประจาวนั พื้นท่ี 10 (4) เป็นทอ่ี ยอู่ าศยั เลย้ี งสตั ว์ ถนนหนทาง และโรงเรอื นอ่นื ๆ (มลู นธิ ชิ ยั พฒั นา,2560)

ทฤษฎีใหมข่ นั้ ท่ีสอง เม่อื เกษตรกรเขา้ ใจในหลกั การและไดป้ ฏบิ ตั ใิ นทด่ี นิ ของตนจนไดผ้ ลแลว้ กต็ อ้ งเรม่ิ ขนั้ ทส่ี อง คอื ใหเ้ กษตรกรรวม พลงั กนั ในรปู กลุ่ม หรอื สหกรณ์ รว่ มแรงรว่ มใจกนั ดาเนนิ การในดา้ น (มลู นิธชิ ยั พฒั นา,2560)

ทฤษฎีใหมข่ นั้ ท่ีสาม เม่อื ดาเนนิ การผา่ นพน้ ขนั้ ทส่ี องแลว้ เกษตรกร หรอื กลุ่มเกษตรกรกค็ วรพฒั นากา้ วหน้าไปสู่ขนั้ ทส่ี ามตอ่ ไป คอื ตดิ ตอ่ ประสานงาน เพ่อื จดั หาทนุ หรอื แหล่งเงนิ เชน่ ธนาคาร หรอื บรษิ ทั หา้ งรา้ นเอกชน มาชว่ ยในการลงทุนและพฒั นา คุณภาพชวี ติ (มลู นธิ ชิ ยั พฒั นา,2560)

เศรษฐกิจพอเพยี งกบั การศกึ ษา ในการขบั เคลื่อนปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี งในภาคการศกึ ษานั้น จะต้องมุ่งพัฒนาทีต่ ัวครูกอ่ นเปน็ อนั ดับแรก เพราะครถู ือวา่ เปน็ ทรัพยากรทีส่ าคัญในการถา่ ยทอดความรู้ และปลูกฝังส่งิ ต่าง ๆ ให้แกเ่ ดก็ ดังนนั้ จงึ ควรสง่ เสริม ครใู หม้ คี วามรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั หลกั เศรษฐกจิ พอเพียงอย่างถ่องแทก้ ่อน เพราะเมือ่ ครูเขา้ ใจ ครกู จ็ ะไดเ้ ปน็ แบบอยา่ งทีดีให้แกเ่ ด็กได้ ครูจะสอนใหเ้ ด็กรูจ้ ักพอเพียง ครูจะตอ้ งรจู้ ักพอเพยี งก่อน โดยอยู่อยา่ งพอเพยี งและ เรียนรไู้ ปพรอ้ ม ๆ กับเด็ก เขียนโดย นายปรชั ญา พลพุฒนิ ันท์ (http://www.bkbr4.com/index.php/suffecotoed)

เปา้ หมายสาคัญของการขับเคล่ือน คือ การทาให้เด็กรจู้ ักความพอเพียง ปลูกฝัง อบรม บ่มเพาะให้เดก็ มคี วาม สมดุลทางเศรษฐกิจ สงั คม ส่งิ แวดลอ้ ม และวัฒนธรรม โดยสอดแทรกแนวคิดปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งให้เขา้ เปน็ สว่ นหนง่ึ ของหลักสูตร สาระเรยี นร้ตู า่ ง ๆ เพ่ือสอนให้เดก็ รจู้ กั การใชช้ ีวติ ไดอ้ ย่างสมดุล เขียนโดย นายปรชั ญา พลพฒุ นิ นั ท์ (http://www.bkbr4.com/index.php/suffecotoed)

สาหรบั มาตรฐานการเรยี นรู้ มวี ตั ถปุ ระสงค์ใหท้ ุกช่วงชนั้ เข้าใจหลกั เศรษฐกิจพอเพยี งและสามารถ ประยุกต์ใช้ได้ จงึ ตอ้ งกาหนดขอบเขตท่ีชัดเจนในการเรยี นการสอนของแต่ละช่วงชน้ั ดงั นี้ ชว่ งชั้นที่ 1 เนน้ ใหเ้ ดก็ พ่งึ ตนเองได้ หรอื ใชช้ ีวติ พอเพียงระดบั บุคคลและครอบครวั เชน่ ช่วยเหลอื คุณ พ่อคณุ แมอ่ าจจะเป็นการชว่ ย ถอื ของ เกบ็ ขยะไปทิ้ง จดั หนังสือ แบ่งปนั สิง่ ของให้เพอื่ น เปน็ ต้น ชว่ งช้นั ที่ 2 ฝกึ ให้เดก็ รจู้ กั ประยุกต์ใช้หลักความพอเพียงในโรงเรียน สามารถวเิ คราะหว์ างแผน และจดั ทาบนั ทึกรายรับ-รายจา่ ยของตนเองและครอบครัวอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ มีส่วนร่วมในการสรา้ งความ พอเพยี งระดบั โรงเรียน เช่น โรงเรยี นมีต้นไมก้ ่ีต้น โรงเรยี นจะตอ้ งจัดการขยะอย่างไร ช่วงชั้นที่ 3 ประยุกต์ใช้หลกั เศรษฐกิจพอเพียงกับชมุ ชน เดก็ สามารถประยกุ ตใ์ ชก้ ับชมุ ชน มสี ่วนร่วมใน กิจกรรมต่าง ๆ ของชุมชน ช่วงชน้ั ท่ี 4 เตรียมคนใหเ้ ป็นคนท่ีดตี ่อประเทศชาติสามารถทาประโยชน์ให้กับสังคมได้ เขียนโดย นายปรัชญา พลพุฒินนั ท์ (http://www.bkbr4.com/index.php/suffecotoed)

2. ความสอดคล้องเกี่ยวกบั เศรษฐกิจพอเพียงกบั สมอง แนวคิดเก่ียวกบั การเล่นการเล่นเป็นหวั ใจสาคญั ของการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ กจิ กรรมของเดก็ ปฐมวยั ซง่ึ มอี ยู่ 6 กจิ กรรมหลกั คอื กิจกรรมเคลื่อนไหวและจงั หวะ สร้างสรรค์ เสรี กลางแจ้ง เกมการศึกษาและเสริมประสบการณ์ สามารถ สอดแทรกรปู ธรรมของปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งเขา้ ไป **การเล่นชว่ ยใหเ้ ดก็ เรยี นรสู้ ง่ิ แวดลอ้ ม และชว่ ยใหเ้ ดก็ มพี ฒั นาการทางดา้ นรา่ งกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คมและสตปิ ัญญา (ครจู ุตพิ ร สขุ สงิ ห,์ 2564)

แนวคิดเก่ียวกบั สงั คมและวฒั นธรรม เศรษฐกจิ พอเพยี งมุง่ ใหเ้ กดิ วฒั นธรรมหรอื วถิ ชี วี ติ ทป่ี ระหยดั อดออม มชี วี ติ ทเ่ี รยี บงา่ ย ไมฟ่ ุ้งเฟ้อ ฟุ่มเฟือย ไมต่ ก เป็นทาสของวตั ถนุ ิยมและบริโภคนิ ยมซง่ึ ทาใหเ้ กดิ การเป็นหน้เี ป็นสนิ บรบิ ทของสงั คม วฒั นธรรมหรอื แวดลอ้ มทเ่ี ดก็ อาศยั อยทู่ าใหเ้ ดก็ แตล่ ะคนแตกตา่ งกนั ไป ครจู าเป็นตอ้ งเขา้ ใจและ ยอมรบั วา่ สงั คมและวฒั นธรรมทแ่ี วดลอ้ มตวั เดก็ มอี ทิ ธพิ ลตอ่ การเรยี นรู้ การพฒั นาศกั ยภาพและพฒั นาการของเดก็ แตล่ ะคน ครคู วรตอ้ งเรยี นรบู้ รบิ ททางสงั คมและวฒั นธรรมของเดก็ ทต่ี นรบั ผดิ ชอบ เพ่อื ชว่ ยใหเ้ ดก็ ไดร้ บั การพฒั นา เกดิ การเรยี นรู้

การทางานของสมอง สมองของเดก็ ปฐมวยั จะอยใู่ นขนั้ ตอนของการพฒั นา สมองมตี าแหน่งรบั รู้ ต่างๆ มากมายเม่อื สมองสว่ นหน่ึงทางาน กม็ ผี ลต่อการทางานของสมองอกี สว่ นหน่ึงดว้ ย การพฒั นาเดก็ ดา้ นการรบั สมั ผสั และการเคลอ่ื นไหวจงึ นบั เป็น การพฒั นาสมองสว่ นต่างๆ ไปพรอ้ มๆ กนั และเสรมิ ซง่ึ กนั และกนั การกระตุน้ โดยสมั ผสั จะช่วยกระตุน้ การทางานประสานกนั ของสว่ นรบั สมั ผสั ของอวยั วะ ต่างๆ ในรา่ งกาย เช่น กจิ กรรมศลิ ปะโดยการใชว้ สั ดธุ รรมชาติ จะไดฝ้ ึกการ ประสานสมั พนั ธก์ นั ระหวา่ งกลา้ มเน้ือมอื และตา ทาใหเ้ ดก็ ไดร้ บั รสู้ มั ผสั ของ จรงิ ทม่ี ขี นาด น้าหนกั ผวิ รปู ทรงต่างๆ ละพฒั นาความคดิ สรา้ งสรรค์

สื่ออปุ กรณ์ การมปี ฏสิ มั พนั ธร์ ะหวา่ งเดก็ กบั ธรรมชาตสิ ง่ิ แวดลอ้ ม เป็นสง่ิ ทม่ี ปี ระโยชน์ตอ่ พฒั นาการของเดก็ ในทุก ๆ ดา้ น ทกุ คน โดยเฉพาะอยา่ งยง่ิ โรงเรยี นและผปู้ กครองควรตระหนักและใช้ธรรมชาติเป็นส่ือให้ เดก็ ไดเ้ รยี นรแู้ ละพฒั นาตนเอง การจดั ธรรมชาตคิ วรใหเ้ ดก็ ไดม้ สี ว่ นรว่ ม ใหเ้ ดก็ ไดม้ โี อกาสไดแ้ สดงความคดิ เหน็ ไดล้ งมอื ปฏบิ ตั จิ รงิ เปิดโอกาสใหเ้ ดก็ ไดเ้ ล่นกบั ธรรมชาติ อยา่ งเสรมี ากขน้ึ ภายใต้ สถานการณท์ ป่ี ลอดภยั (Benyapha Sophon,2016)

ปรชั ญาปฐมวยั การศึกษาปฐมวัยเปน็ การพัฒนาเดก็ ต้ังแตแ่ รกเกิดถึง 6 ปีบริบูรณ์ เปน็ องคร์ วมบนพืน้ ฐานการอบรมเลย้ี งดแู ละการสง่ เสริม กระบวนการเรยี นรูท้ สี่ นองตอ่ ธรรมชาติและพัฒนาการตามวยั ของเดก็ แตล่ ะคน ให้เต็มตามศกั ยภาพ ภายใต้บรบิ ทสังคมและ วัฒนธรรมทเ่ี ด็กอาศยั อยู่ ด้วยความรัก ความเอื้ออาทร และ ความเขา้ ใจของทุกคน เพ่ือสร้างรากฐานคุณภาพชวี ิตให้เดก็ พัฒนาไปสู่ ความเป็นมนษุ ยท์ ีส่ มบูรณ์ เกดิ คณุ ค่าต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน สังคม และประเทศชาติ หลกั สตู รสถานศกึ ษาปฐมวัย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐

3. การประยุกตใ์ ช้เศรษฐกจิ พอเพยี งสาหรับเด็กปฐมวยั บทบาทผปู้ กครอง 1. การอบรมเล้ียงดเู ดก็ - มกี ารปฏิบตั แิ ละอบรมส่ังสอนเดก็ ใหม้ ีความ ขยัน ประหยัด ในการดาเนินชวี ิตของครอบครวั มีความซ่อื สตั ย์สุจริต และมวี ินยั มีความสามคั คแี ละมีน้าใจ ในการดาเนินชีวิตประจาวัน

2. การเปน็ ตัวอยา่ งท่ีดีให้กับเดก็ - การเป็นตวั อย่างท่ดี ีให้กบั เด็ก การใช้ชวี ิตแบบพอเพียงเพอื่ ใหเ้ ดก็ ค่อยๆซึมซบั ความรู้และการใช้ชวี ติ แบบพอเพยี ง เช่น 1. ดาเนนิ ชีวติ ความเป็นอยู่อยา่ งเรยี บงา่ ย 2. ครอบครัวมกี ารออมในรูปแบบตา่ ง ๆ และเป็น ตวั อย่างในการออมเงนิ 3. คดิ ก่อนใช้คิดก่อนซอื้ ไมฟ่ ่มุ เฟอื ย (ทะนุถนอมและดแู ลรักษา) ทรพั ย์สินสงิ่ ของอย่างค้มุ ค่า 4. จดั ทาบญั ชีรายรบั รายจ่ายครวั เรอื น 5. ใช้สง่ิ ของอยา่ งคุม้ ค่า รู้จักนาของท่ีใชแ้ ลว้ กลบั มาใชอ้ กี 6. กนิ อาหารท่มี ปี ระโยชนก์ ินให้หมดไม่เหลอื ท้ิง 7. ร้จู ักใช้นา้ ใชไ้ ฟอย่างประหยัด 8. ไมท่ าลายสิ่งของ

3. การนามาปฏิบตั ิใช้ในชีวติ จริง - การนาหลักการตามแนวเศรษฐกจิ พอเพยี งที่ใช้เปน็ การอบรมเลย้ี งดู นาทักษะนั้นมาทาเปน็ แบบอยา่ งท่ดี ีให้กบั เดก็ และนามาปฏบิ ตั ิไดจ้ รงิ เชน่ 1. ชว่ ยกันทางานบา้ น เช่น ทาอาหาร ทาความสะอาดบ้าน เปน็ ตน้ 2. รู้จกั ใช้จา่ ยเงนิ อย่างประหยัด หรอื มเี งินเกบ็ ออม 3. มเี ปา้ หมายของการใชจ้ า่ ยชัดเจน รูจ้ กั การถนอม ใชท้ รัพยส์ ินอยา่ งคุ้มค่า 4. ปลกู ผักสวนครัวไวใ้ ชป้ ระกอบอาหารเอง - ปฏบิ ตั ิจริงกบั เด็ก โดยอาจจะเปน็ การท่ีใหเ้ ดก็ ได้ ออมเงินในกระปกุ ออมสิน สอนใหเ้ ด็กมเี ป้าหมายทีใ่ ชเ้ งนิ เชน่ ซอ้ื ของท่จี าเปน็ ไม่ฟุ่มเฟอื ย

บทบาทครู 1. ใชเ้ ปน็ หลกั คดิ และหลักปฏบิ ตั ใิ นการจดั กิจกรรมท้งั 6 กิจกรรมหลัก - ในกิจกรรมของนกั เรียนปฐมวัย ซ่ึงมีอยู่ 6 กจิ กรรมหลัก คอื กิจกรรมเคลอ่ื นไหวและจงั หวะ สร้างสรรค์ เสรี กลางแจ้ง เกมการศกึ ษาและเสริมประสบการณ์ การสอดแทรกปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งในกิจกรรม เมอื่ เด็กปฐมวยั ทากิจกรรมทกุ ครัง้ จึงส่งผลให้เด็กปฐมวยั ไดเ้ ผชิญกับปญั หาและไดฝ้ กึ ประสบการณ์การแกป้ ัญหาโดยเด็กมปี ฏิสมั พนั ธ์และการทางาน ร่วมกับผู้อ่ืนผ่านกิจกรรมในชีวิตประจาวัน การเปดิ โอกาสให้เด็กปฐมวยั ได้ลงมือกระทาและคิดดว้ ยตวั เด็กเอง ครสู นับสนุน ให้เด็กควบคุมตนเองในการแกป้ ญั หาในแตล่ ะกิจกรรมโดยการทาซ้า ๆ ตามความพอใจจะช่วยใหเ้ ดก็ ปฐมวยั พฒั นา ความสามารถในการแก้ปญั หาไดด้ ยี งิ่ ข้ึน

2. จดั ประสบการณต์ รงท้งั ในและนอกหอ้ งเรยี น - การจัดประสบการณก์ ารเรียนการสอนโดยสอดแทรกหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงท้งั ในห้องเรยี น เชน่ ครจู ัดกจิ กรรมที่ทาใหเ้ ดก็ ไดร้ ับความรู้ ได้แสดงความคิดเห็นร่วมกนั กับเพ่ือน และไมไ่ ดท้ ากจิ กรรมแค่ในหอ้ งเรียน แตเ่ ปน็ การสอดแทรกเข้าไปในชวี ิตประจาวัน เพื่อให้เด็กคอ่ ยๆซมึ ซับความรู้เกยี่ วกบั เศรษฐกิจพอเพียงและนาไปใช้ ในชีวติ ประจาวนั ได้

3. การเปน็ ตัวอยา่ งทดี่ ีให้กบั เด็ก - การเปน็ แบบอยา่ งในการใชช้ ีวิตแบบพอเพยี งใหก้ บั เด็กดูกอ่ น ครคู วรมีความรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกับหลัก ปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงอย่างแทจ้ ริง เพราะเมอื่ ครูเขา้ ใจ ครูก็จะได้เป็นแบบอย่างทีดีใหแ้ ก่เดก็ ได้ โดยอย่อู ยา่ งพอเพยี งและ เรียนรู้ไปพร้อม ๆ กับเดก็ - ครูควรเป็น ตน้ แบบในการเรียนรู้ให้กับเดก็ มกี ารดารงชวี ติ อย่างพอเพยี ง เป็นต้นแบบในทกุ ๆ ด้าน ครูควรจัดการ เรียนรทู้ ่ียึดเด็กเปน็ ศูนย์กลาง เน้นกระบวนการเรยี นรู้ โดยจัดกจิ กรรมท่หี ลากหลาย เปดิ โอกาสให้เด็ก ได้ทางานเปน็ กลุ่ม มีส่วนรว่ ม เรยี นรจู้ ากสถานทีจ่ ริง จากธรรมชาติ - เน้นการลงมอื ปฏบิ ัตเิ พอื่ ให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง และ นาไปสู่การปฏบิ ัตติ นทเ่ี หมาะสมในชวี ติ ประจาวนั ครตู อ้ ง สอนใหเ้ ด็กมีน้าใจ ต้องมงุ่ ปลูกฝังความดี ตอ้ งอบรมบ่มนิสยั ใหเ้ ป็นพลเมอื งดี ต้องฝึกหดั ให้เดก็ รจู้ ักทางานรว่ มกนั เปน็ กลุ่ม เป็นหมคู่ ณะ จะไดม้ ี ความสามัคครี ูจ้ กั ดูแลชว่ ยเหลือซ่งึ กนั และกนั

4. คุณครรู ่วมมือการจัดกจิ กรรมกับผู้ปกครอง (คณุ ครูมีส่วนร่วมกบั ผ้ปู กครอง) - การมีส่วน รว่ มในกจิ กรรมของครู เด็ก ผปู้ กครอง ความสอดคลอ้ งของกิจกรรมการเรียนรกู้ ับหลกั สูตร การศกึ ษา ปฐมวยั การจดั กิจกรรมการเรียนรู้ทส่ี อดคล้องกับปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง เพื่อเปน็ พัฒนาพฤตกิ รรมด้านคุณธรรมตาม แนวเศรษฐกจิ พอเพยี งของเด็กปฐมวัย มจี ุดเนน้ ส่งเสรมิ ใหผ้ ูป้ กครองเหน็ ความสาคัญของการมสี ่วนรว่ มในการตดั สินใจ การนากจิ กรรม การส่งเสริมทเี่ กยี่ วกับเศรษฐกิจพอเพยี งไปปฏบิ ตั กิ ับบุตรหลานท่บี ้าน มีส่วนร่วมในการ สังเกตพฤตกิ รรม ด้านคุณธรรมตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงของบตุ รหลาน มสี ่วนรว่ ม แลกเปลย่ี นเรียนรู้ระหวา่ งผ้ปู กครองและครู

รปู แบบการเรยี นการสอนเศรษฐกจิ พอเพยี งของเดก็ ปฐมวยั การจดั กจิ กรรมทผ่ี สมผสาน บูรณาการและกจิ กรรมท่ี สอดคลอ้ งใหเ้ ดก็ ไดร้ บั ประสบการณ์ตรง กจิ กรรมตามแนวปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งเป็นกจิ กรรมทเ่ี ดก็ ปฐมวยั สามารถพบได้ ในชวี ติ ประจาวนั และคนุ้ เคยเป็นอยา่ งดี การเปิดโอกาสใหเ้ ดก็ ปฐมวยั ไดล้ งมอื กระทาและคดิ ดว้ ยตวั เดก็ เอง ครสู นบั สนุนให้ เดก็ ควบคมุ ตนเองในการแกป้ ัญหาในแตล่ ะกจิ กรรมโดยการทาซา้ ๆ ตามความพอใจจะชว่ ยใหเ้ ดก็ ปฐมวยั พฒั นา ความสามารถในการแกป้ ัญหาไดด้ ยี งิ่ ขน้ึ (จติ รลดั ดา พนั ธเ์ ครอื ,2560)

บทสรปุ การนาศาสตรพ์ ระราชาหรอื หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาประยุกตใ์ ชใ้ นระดบั ปฐมวยั ครปู ฐมวยั จะตอ้ ง ศกึ ษาทาความเขา้ ใจใหช้ ดั เจนดกี อ่ น สง่ิ ทค่ี รปู ฐมวยั ควรปฏบิ ตั ิ คอื ควรมีการวิเคราะหห์ ลกั สตู ร ออกแบบการจดั การ เรยี นร้ใู ห้เหมาะสมกบั วยั และพฒั นาการของเดก็ มกี ารจดั สภาพแวดลอ้ มทงั้ ภายใน ภายนอก เปิดโอกสใหเ้ ดก็ เรยี นรดู้ ว้ ย ตนเองผา่ นการลงมอื ปฏบิ ตั โิ ดยใชป้ ระสาทสมั ผสั ทงั้ 5 ครเู ป็นเพยี งผคู้ อยสนบั สนุน และอานวยความสะดวกเพ่อื ใหเ้ ดก็ เกดิ การเรยี นรทู้ ด่ี ี (จนิ ดา น้าเจรญิ และ อภญิ ญา มนูญศลิ ป์ ,2562)

4. การจดั กิจกรรมทางศิลปะ ช่อื กจิ กรรม พิมพภ์ าพหรรษา 1. เพ่อื สง่ เสรมิ ใหเ้ ดก็ รจู้ กั การประหยดั รจู้ กั ใชว้ สั ดุอุปกรณ์อยา่ งประหยดั รจู้ กั นาเศษวสั ดุมาใช้ รจู้ กั เกบ็ ของใชเ้ มอ่ื ทางานเสรจ็ 2. เพอ่ื สง่ เสรมิ ใหเ้ ดก็ มคี วามซ่อื สตั ยร์ บั ผดิ ชอบงานทท่ี า, ทากจิ กรรมดว้ ยตนเอง, ทาตามขอ้ ตกลงได้ 3. เพ่อื สง่ เสรมิ ใหเ้ ดก็ มคี วามอดทนเรยี นรวู้ ธิ กี ารแกป้ ัญหา, อดทนตอ่ กจิ กรรมทม่ี าก, ทางานจนสาเรจ็ 4. เพ่อื สง่ เสรมิ ใหเ้ ดก็ มคี วามเพยี รตงั้ ใจในการทางาน, มคี วามกระตอื รอื รน้ , ชว่ ยแนะนาเพอ่ื น 5. เพอ่ื สง่ เสรมิ ใหเ้ ดก็ มสี ตปิ ัญญาเล่าเรอ่ื งและแสดงความคดิ เหน็ มคี วามคดิ เหน็ ของตนเอง , มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ จนิ ตนาการ (สริ มิ าศ กาญจนโอภาส,2557)

สาระการเรยี นรู้ กจิ กรรมการพมิ พภ์ าพ สรา้ งภาพจากแมพ่ มิ พใ์ หเ้ กดิ รปู รา่ งตามจนิ ตนาการ เป็นกจิ กรรมทส่ี ง่ เสรมิ ความคดิ สรา้ งสรรคแ์ ละใหเ้ ดก็ รจู้ กั ความพอประมาณ และ คุณธรรม คอื การประหยดั ความซ่อื สตั ย์ ความ อดทน ความเพยี ร ความมสี ตปิ ัญญา โดยเดก็ สามารถนาแมพ่ มิ พ์ และเศษวสั ดุเหลอื ใชม้ าพมิ พส์ ลี งบนกระดาษ ตามความคดิ สรา้ งสรรค์ จากนนั้ ใหร้ ว่ มกนั คดิ และตดั สนิ ใจวา่ จะพมิ พภ์ าพอะไรต่อเตมิ ตามความคดิ สรา้ งสรรค์ ซง่ึ เดก็ สามารถสรา้ งสรรคผ์ ลงานไดต้ ามพอใจ ขนั้ ตอนในการดาเนินกิจกรรม ขนั้ นา 1. ครสู นทนากบั เดก็ เกย่ี วกบั การพมิ พภ์ าพ

ขนั้ ดาเนินกิจกรรม 1. แนะนาการทากจิ กรรมศลิ ปสรา้ งสรรคต์ ามแนวปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง แนะนาวสั ดุเหลอื ใช้ เช่น หยวกกลว้ ย อธบิ ายขอ้ ตกลงเกย่ี วกบั การปฏบิ ตั กิ จิ กรรม การใชว้ สั ดุ การเกบ็ ของใชก้ ารทากจิ กรรมดว้ ยตนเอง การตงั้ ใจ ทางานจนเสรจ็ การแนะนาเพอ่ื นระหวา่ งการทางาน และเล่าเร่อื งใหเ้ พ่อื นฟังได้ 2. เดก็ ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามขอ้ ตกลง โดยเดก็ ๆ พมิ พภ์ าพลงบนกระดาษ 3. ขณะทเ่ี ดก็ ทากจิ กรรม ครมู บี ทบาทกระตุน้ ใหเ้ ดก็ สนใจทากจิ กรรม และใหแ้ รงเสรมิ ทางบวก ขณะทเ่ี ดก็ ทางาน เพอ่ื สง่ เสรมิ พฤตกิ รรมการจู้ กั แกป้ ัญหา การใชว้ สั ดอุ ยา่ งประหยดั การใชค้ วามคดิ สรา้ งสรรค์

ขนั้ สรปุ ครแู ละเดก็ รว่ มสนทนาซกั ถาม และเปิดโอกาสใหเ้ ดก็ แต่ละคนนาเสนอผลงานใหเ้ พอ่ื นๆฟังพรอ้ มทงั้ แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั ผลงานทส่ี าเรจ็ ดว้ ย สื่อการเรียนการสอน 1. แมพ่ มิ พ์ 2. กระดาษเอ4 3. สนี ้าหรอื สโี ปสเตอร์ การประเมินผล สงั เกตพฤตกิ รรมตามแนวปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง มี 5 ดา้ น การประหยดั ความซ่อื สตั ย์ อดทน ความ เพยี ร สตปิ ัญญา

ช่อื กจิ กรรม การปัน้ แป้งโดว์ 1. เพอ่ื สง่ เสรมิ ใหเ้ ดก็ รจู้ กั การประหยดั รจู้ กั ใชว้ สั ดุอุปกรณ์อยา่ งประหยดั รจู้ กั นาเศษวสั ดมุ าใช้ รจู้ กั เกบ็ ของใชเ้ ม่อื ทางานเสรจ็ 2. เพ่อื สง่ เสรมิ ใหเ้ ดก็ มคี วามซ่อื สตั ยร์ บั ผดิ ชอบงานทท่ี า, ทากจิ กรรมดว้ ยตนเอง, ทาตามขอ้ ตกลงได้ 3. เพ่อื สง่ เสรมิ ใหเ้ ดก็ มคี วามอดทนเรยี นรวู้ ธิ กี ารแกป้ ัญหา, อดทนต่อกจิ กรรมทม่ี าก, ทางานจนสาเรจ็ 4. เพอ่ื สง่ เสรมิ ใหเ้ ดก็ มคี วามเพยี รตงั้ ใจในการทางาน, มคี วามกระตอื รอี รน้ , ช่วยแนะนาเพอ่ื น 5. เพ่อื สง่ เสรมิ ใหเ้ ดก็ มสี ตปิ ัญญา เล่าเรอ่ื งและแสดงความคดิ เหน็ มคี วามคดิ เหน็ ของตนเองมคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ จนิ ตนาการ

สาระการเรียนรู้ กจิ กรรมปัน้ แป้งโดว์ เป็นกจิ กรรมทส่ี ง่ เสรมิ ความคดิ สรา้ งสรรค์ และใหเ้ ดก็ รจู้ กั ความพอประมาณ และคณุ ธรรม คอื การประหยดั ความซ่อื สตั ย์ ความอดทน ความเพยี ร มสี ตปิ ัญญาโดยเดก็ สามารถนาแป้ง โดวห์ รอื นาแป้งอเนกประสงคผ์ สมน้าอนุ่ สที าอาหาร ทาใหเ้ กดิ เป็นแป้งโดว์ มาปัน้ เป็นรปู ตา่ งๆ ขนั้ ตอนในการดาเนินกิจกรรม ขนั้ นา 1. ครนู าเขา้ สกู่ จิ กรรมโดยใหเ้ ดก็ ๆ ดคู ลปิ การปัน้ แป้งโดว์ และรว่ มพดู คยุ แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั การทาแป้ง โดว์ 2. เดก็ ดภู าพสงิ่ ทส่ี นใจจะปัน้ สนทนาเกย่ี วกบั ลกั ษณะ รปู ทรง สสี นั เพอ่ื ปัน้ ใหไ้ ดต้ ามจนิ ตนาการ

ขนั้ ดาเนินกิจกรรม 1. แนะนาการทากจิ กรรมศลิ ปะสรา้ งสรรคต์ ามแนวปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง มกี ารปัน้ ผลไม้ เช่น มะมว่ ง สม้ โดยการปัน้ แป้งโดวเ์ ป็นกอ้ น หรอื รปู ทรง 2. อธบิ ายขอ้ ตกลงเกย่ี วกบั การปฏบิ ตั กิ จิ กรรม การใชว้ สั ดุ การเกบ็ ของใช้ การทากจิ กรรมดว้ ยตนเอง การ ตงั้ ใจทางานจนเสรจ็ การแนะนาเพ่อื น และเล่าเร่อื งใหเ้ พ่อื นฟัง 3. เดก็ ลงมอื ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมอยา่ งอสิ ระตามความคดิ สรา้ งสรรค์ ขณะทเ่ี ดก็ ทากจิ กรรม ครมู บี ทบาทกระตุน้ ใหเ้ ดก็ สนใจทากจิ กรรม และใหแ้ รงเสรมิ ทางบวก ขณะทเ่ี ดก็ ทางาน เพ่อื สง่ เสรมิ พฤตกิ รรมการจู้ กั แกป้ ัญหา การใชว้ สั ดอุ ยา่ งประหยดั การใชค้ วามคดิ สรา้ งสรรคค์ รแู ละเดก็ รว่ มสนทนาซกั ถาม และเปิดโอกาสใหเ้ ดก็ แต่ ละคนเสนอผลงานใหเ้ พอ่ื นๆฟังพรอ้ มทงั้ รว่ มซกั ถาม แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั ผลงานทส่ี าเรจ็

ขนั้ สรปุ ครแู ละเดก็ รว่ มสนทนาซกั ถาม และเปิดโอกาสใหเ้ ดก็ แตล่ ะคนเสนอผลงานใหเ้ พ่อื นๆฟัง ส่ือการเรียนการสอน 1. คลปิ การปัน้ แป้งโดว์ 2. รปู ภาพ เกย่ี วกบั ผลไม้ และผลไมจ้ รงิ 3. กระดาษรองปัน้ 4. แป้งโดว์ การประเมินผล สงั เกตพฤตกิ รรมตามแนวปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง มี 5 ดา้ น การประหยดั ความซ่อื สตั ย์ อดทน ความ เพยี ร สตปิ ัญญา

5.วิจยั ที่เก่ียวข้อง วิจยั เรอื่ ง การพฒั นาทกั ษะพน้ื ฐานเศรษฐกจิ พอเพยี งของเดก็ ปฐมวยั ดว้ ยการจดั กจิ กรรมศลิ ปะ ช่ือผ้วู ิจยั วฒั นา วงษ์สนั ต์ การจดั กจิ กรรมศิลปะมีความอิสระ ไมม่ กี ารบบี บงั คบั ใหเ้ ดก็ ทาแตเ่ ป็นกจิ กรรมทเ่ี ดก็ ทกุ คน สามารถจะทาไดเ้ มอ่ื ตนเองมคี วามตอ้ งการพอใจ และสนใจ โดยใชศ้ ลิ ปะเป็นเคร่อื งมอื ในการทากจิ กรรม (ประพมิ พพ์ กั ตร์ พละพงศ์ 2550 : 23) พฒั นาเดก็ ในดา้ นตา่ งๆ ซง่ึ ไมม่ จี ดุ มุง่ หมายใหเ้ ดก็ ทางาน เพ่อื ความสวยงามเหมอื นจรงิ หรอื ความสนุกสนาน เพลดิ เพลนิ แตเ่ ป็นการพฒั นาเดก็ ในดา้ นสตปิ ัญญา รา่ งกาย อารมณ์ และสงั คม การศกึ ษาทกั ษะพน้ื ฐานเศรษฐกจิ พอเพยี ง ของเดก็ ปฐมวยั โดยการจดั กจิ กรรมศลิ ปะ เพอ่ื พฒั นาทกั ษะพน้ื ฐาน เศรษฐกจิ พอเพยี ง สามารถพฒั นาทกั ษะพน้ื ฐานของเดก็ ปฐมวยั ไดท้ ุกดา้ น เน่อื งจากการจดั กจิ กรรมศลิ ปะเปิดโอกาสใหเ้ ดก็ ได้ แสดงออกทางความคดิ และไดล้ งมอื ปฏบิ ตั จิ รงิ

วิจยั เร่ือง ผลการจดั การเรยี นรตู้ ามแนวปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งทม่ี ตี อ่ ทกั ษะพน้ื ฐานทางวทิ ยาศาสตรข์ องเดก็ ปฐมวยั ช่ือผ้วู ิจยั สารวย สขุ ชยั การจัดการเรียนรเู้ พ่ือมุ่งใหเ้ ด็กไดร้ ับการฝึกฝนและพฒั นาทักษะพน้ื ฐานทางวทิ ยาศาสตรไ์ ด้แกก่ าร จาแนกประเภททกั ษะการสอ่ื ความหมายในลกั ษณะการลงความเห็นโดยจัดการเรียนรหู้ นว่ ยการเรยี นรู้ เรอื่ งร่างกายของฉนั ธรรมชาติใหส้ สี นั ผักและขยะทีส่ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการและความสนใจของเด็ก ภายใต้กรอบแนวคดิ หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งขอบพระความพอประมาณความมีเหตผุ ลของความ มภี มู คิ ้มุ กันและเง่ือนไขความรู้และเงอ่ื นไขคุณธรรม

วิจยั เรือ่ ง ปฐมวยั นอ้ มนาหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งสอดคล้องกบั กลยุทธ์สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน ช่ือผวู้ ิจยั กุลภสั สรณ์ สงา่ งาม เศรษฐกิจพอเพยี ง เป็นปรัชญาท่ีพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยู่หัว ทรงมพี ระราชดารสั ชี้แนะแนวทางการดาเนินชีวติ แก่ พสกนิกรชาวไทย ใหม้ ีการพฒั นาตนตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ซ่ึงตั้งอยู่บนพื้นฐานของทางสายกลางและ ความไม่ประมาท โดยยดึ หลกั ตามแนวทาง 3 ห่วง คือ ความพอประมาณ ความมีเหตุผล การสรา้ งภมู คิ ุ้มกันที่ดี ในตัว ตลอดจนใช้ 2 เง่ือนไข คอื ความรู้ ความรอบคอบ และคุณธรรม มาประกอบการวางแผน การตดั สนิ ใจ และการกระทาต่าง ๆ ท่ีตอ้ งยดึ ตามหลักดังกลา่ ว กระทรวงศกึ ษาธิการ ไดป้ ระกาศนโยบายเร่งรดั การปฏิรปู การศึกษา โดยใหผ้ ้เู รยี นมีความรคู้ วบคูค่ ณุ ธรรม สรา้ งความ ตระหนกั สานึกในคุณคา่ ของหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง โรงเรยี นจงึ ได้เลง็ เหน็ ถงึ ความสาคัญการพฒั นาผ้เู รยี น ปฐมวยั ใหม้ คี วามรูค้ วามเข้าใจพืน้ ฐาน ผ่านประสบการณก์ ิจกรรมทหี่ ลากหลาย และสง่ เสรมิ ความคิดรวบยอดที่ให้ ผู้เรียนมีค่านิยมในการดาเนินชีวติ อยา่ งพอเพียงข้นั พ้นื ฐานที่สามารถฝกึ ปฏิบตั ิไดต้ ามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง จงึ มคี วามจาเปน็ ทจี่ ะตอ้ งดาเนินงานโครงการน้อี ย่างตอ่ เนื่อง

บรรณานุกรรม จติ รลดั ดา พนั ธเ์ ครอื . (2060). การเรยี นการสอนแบบเศรษฐกจิ พอเพยี งของเดก็ ปฐมวยั . (ออนไลน์), เขา้ ถงึ ได้ จาก : http://e- network.amnat-peo.go.th/2017/09/blog-post_79.html?m=0 (2564, 6 กรกฎาคม) จนิ ดา น้าเจรญิ และ อภญิ ญา มนูญศลิ ป์ . (2562). ครปู ฐมวยั กบั การพฒั นาเดก็ ตามศาสตรพ์ ระราชา. (ออนไลน์), เขา้ ถงึ ได้ จาก: file:///C:/Users/watty/Downloads/232730-Article%20Text-786234- 2-10-20191228%20(1).pdf (2564, 5 กรกฎาคม) มลู นิธชิ ยั พฒั นา. (2560). เศรษฐกจิ พอเพยี ง. (ออนไลน์), เขา้ ถงึ ไดจ้ าก: https://www.chaipat.or.th/site_content/item/3579-2010- 10-08-05-24-39.html สุพรรณกิ าร์ ศรสี วุ รรณ. (2560). การออกแบบงานวจิ ยั ตามศาสตรพ์ ระราชาเพอ่ื พฒั นาเดก็ ปฐมวยั ในศตวรรษที 21. (ออนไลน์), เขา้ ถงึ ไดจ้ าก: file:///C:/Users/watty/OneDrive/%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0 %B8%B2%E0%B8%A3/25077301.pdf

คณะผ้จู ดั ทา นางสาวอาทติ ยา สมั มากจิ รหสั นกั ศกึ ษา 63121860004 นางสาวชณญั ญา เดชสุภา รหสั นกั ศกึ ษา 63121860005 นางสาวณชิ า อุฒาธรรม รหสั นกั ศกึ ษา 63121860009 นางสาวลภสั รดา จติ รปี ลม้ื รหสั นกั ศกึ ษา 63121860010 นางสาวเกศนิ ี ภทั รารงุ่ โรจน์ รหสั นกั ศกึ ษา 63121860032 นางสาวสุปรยี า แสนสระ รหสั นกั ศกึ ษา 63121860033 นางสาวชนมน์ ภิ า เงนิ เอย่ี ม รหสั นกั ศกึ ษา 63121860047 นางสาววราภรณ์ แกว้ วจิ ติ ร์ รหสั นกั ศกึ ษา 63121860048


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook