การออกแบบกจิ กรรมศลิ ปะสาหรับเดก็ ปฐมวยั ใน อดตี และปัจจบุ นั มีลักษณะกิจกรรมที่นา่ สนใจ ทนั สมยั ทนั ต่อการเปลี่ยนแปลงโดยทางานร่วมกบั กบั ผปู้ กครองและครอบครวั ชุมชนทอ้ งถิ่น
กจิ กรรมการเลน่ สี สาหรับเด็กปฐมวัย
การใชส้ ีในอดตี ความเปน็ มาของสีในอดตี มนษุ ย์เร่มิ มีการใชน้ สตี ้งั แตส่ มัยก่อนประวัติศาสตร์ มีท้งั การเขียนสีลงบนผนงั ถ้า ผนังหิน บนพ้นื ผวิ เครื่องปน้ั ดินเผา ในประเทศไทย กรมศิลปากรได้ส้ารวจพบภาพเขียนสสี มัยกอ่ น ประวัติศาสตรบ์ นผนังถ้า และ เพงิ หนิ ในทตี่ า่ งๆ จะมอี ายุระหว่าง 1500 - 4000 ปี เป็นสมยั หินใหม่และยุคโลหะ อ้างองิ ( สบื คน้ จาก http://colortheory.com, 2558 )
การใช้สีในยุคสมัยต่าง ๆ ได้คน้ พบตั้งแตป่ ี พ.ศ.2465 ครัง้ แรกพบบนผนังถ้าในอ่าว พงั งา ตอ่ มาก็คน้ พบอีกซ่งึ มอี ยทู่ ่ัวไป เชน่ จงั หวดั กาญจนบุรี อุทยั ธานี เปน็ ตน้ สที เี่ ขียนบนผนงั ถา้ ส่วนใหญ่เป็นสแี ดง นอกน้ันจะมีสีส้ม สเี ลอื ด หมู สีเหลอื ง สนี ้าตาล และสีด้าสบี นเคร่ืองปั้นดินเผา ไดค้ น้ พบการเขียนลายครั้งแรกท่บี า้ นเชยี งจังหวัดอุดรธานีเมือ่ ปี พ.ศ.2510 สีท่เี ขยี นเปน็ สีแดงเป็นรูปลายก้านขดจิตกรรมฝาผนงั ตามวดั ต่างๆ สมยั สโุ ขทยั และอยุธยามหี ลักฐานวา่ ใชส้ ใี นการเขียนภาพหลายสี แต่ก็อยใู่ นวงจ้ากดั เพียง 4 สี คือ สีด้า สีขาว สีดนิ แดง และสีเหลอื ง อา้ งอิง ( สืบคน้ จาก http://colortheory.com, 2558 )
สจี ากธรรมชาติในอดตี สีที่มนุษยส์ ามารถสัมผสั ได้จากธรรมชาติ สีท่เี รียกกนั อยใู่ นปัจจุบนั นวี้ ่า สเี ขียว, สสี ้ม, สแี ดง, สเี หลือง, สีชมพู, สฟี า้ และอ่นื ๆ แท้จรงิ แล้วก็มจี ดุ เริม่ ตน้ มาจากธรรมชาตทิ ี่เห็นอยดู่ ว้ ยกันทั้งสน้ิ อย่างสีธรรมชาติทีเ่ ราสมั ผัส ได้อยา่ งใกลช้ ิดทส่ี ดุ ก็เชน่ สเี ขยี วจากใบไม้, สีฟา้ จากท้องฟ้า, สนี า้ ตาลจากตน้ ไม้, สขี องรุ้งกนิ น้าทเ่ี ห็น 7 สี, สีของท้องฟา้ ยามเย็นท่อี าจมีสแี ดงปนส้ม เป็นต้น อ้างองิ ( สบื ค้นจาก : https://pbwatercolor.org/, 2560 )
สีที่เกิดจากธรรมชาติอย่างแทจ้ ริง สปี ระเภทหน่ึงท่ใี นอดีตเคยเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติของจรงิ ไม่ได้มกี ารแต่งแตม้ หรือใช้ หลักการทางวทิ ยาศาสตรใ์ ด ๆ ท้ังสน้ิ น่ันคือ สฝี ่นุ ทถี่ อื ว่าเป็นสใี นยคุ เรมิ่ ต้นของมนษุ ยท์ ี่ ได้มาจากธรรมชาติจา้ พวก ดิน หนิ แรธ่ าตุ สัตว์ พชื มกี ารน้ามาทา้ ให้เกิดความละเอียด เปน็ ผง ๆ จากนั้นกม็ กี ารผสมกาวและน้ากาวท่ไี ด้มาจากหนงั สัตวก์ ับกระดกู สตั ว์ เป็นสีจาก ธรรมชาตทิ ี่มนษุ ยไ์ ดใ้ ชง้ านของจริง อา้ งอิง ( สืบคน้ จาก : https://pbwatercolor.org/, 2560 )
ประเภทของสสี าหรับเดก็ ปฐมวัย การเลือกกิจกรรมทีเ่ หมาะสมกับเดก็ เป็นสงิ่ ทค่ี วรใหค้ วามส้าคัญ เพอื่ การพัฒนาการ ท่ดี ีของเดก็ ปฐมวยั การวาดรูประบายสสี ้าหรบั เดก็ น้ันก็เปน็ กจิ กรรมที่เด็กหลาย ๆ คนชื่นชอบ และคุณครูนยิ มให้เด็ก ๆ ไดท้ า้ กจิ กรรมวาดรปู ระบายสสี ้าหรบั เด็กเพราะในวยั เด็กการวาดรูป ระบายสโี ดยจะมีสแี ตล่ ะประเภท ดังน้ี 1. สีเทยี น 2. สีไม้ 3. สเี มจกิ 4. สนี ้า 5. สชี อลก์ อา้ งอิง ( สืบคน้ จาก : https://masterart.co.th/, 2562 )
การเลอื กใชส้ ีตามวยั เดก็ แต่ละวยั มพี ัฒนาการทีแ่ ตกต่างกัน หากเลือกประเภทสี และขนาดของแท่งสี ใหเ้ หมาะสมกบั วัยของเดก็ ก็จะเป็นการชว่ ยส่งเสริมการเรียนรู้ และส่งเสรมิ กลา้ มเนอ้ื มดั เล็ก ไดด้ ี การเลือกซ้อื สีประเภทต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับชว่ งอายุของเดก็ ทงั้ 3 ชว่ งอายุ มีดังน้ี เดก็ วัย 1-2 ปี เด็กวยั นจี้ ะเรม่ิ มพี ัฒนาการกล้ามเน้ือมัดเลก็ มอื และนิว้ ของเดก็ จะมีขนาดเลก็ ยังไม่สามารถจับ ดินสอสไี ด้ ฉะน้ันสีทเ่ี หมาะสมคือ “สีเทียน” ( สืบคน้ จาก : https://www.youngciety.com/, 2562 )
เดก็ วยั 2-3 ปี วยั น้ีเป็นวยั ก่อนเรียน เร่ิมมีพฒั นาการกลา้ มเน้ือมดั เลก็ ท่ีแขง็ แรงข้ึนมาก และเป็นช่วง สาํ คญั ท่ีตอ้ งเรียนรู้การขีดเขียนบนกระดาษ วาดรูประบายสีไดอ้ ยา่ งอิสระเพ่ือใหเ้ ดก็ ไดส้ นุกสนามกบั การขีดเขียน ดงั น้นั ประเภทสีทเี่ หมาะสมก็คือ “สีไม”้ เดก็ วยั 4 ปี ข้ึนไป ในวยั น้ีเป็นวยั ที่สามารถเร่ิมจบั แทง่ สีขนาดต่าง ๆ ไดค้ ล่อง สามารถควบคุมน้าํ หนกั มือ ไดด้ ีแลว้ เดก็ จะมีความคิดสร้างสรรคแ์ ละจินตนาการสูง ช่ืนชอบในการวาดรูประบาย สีอยา่ งมาก เพราะเดก็ จะวาดส่ิงท่ีตวั เองคิดหรือสิ่งทเ่ี ดก็ เหน็ และรู้สึก เพราะฉะน้นั เพอ่ื เป็นการเพ่มิ ประสบการณ์ท่ีแปลกใหม่ใหก้ บั เดก็ อาจจะเปล่ียนมาใช้ “สีเมจิก” อา้ งอิง ( สืบคน้ จาก : https://www.youngciety.com/, 2562 )
การสอนเรอื่ งสีช่วยกระตนุ้ พฒั นาการรอบดา้ น การสอนเรื่องสจี ะชว่ ยกระตนุ้ พฒั นาการรอบดา้ นกบั เดก็ ปฐมวยั ดงั น้ี 1. ชว่ ยใหเ้ ด็กเข้าใจโลกและส่งิ ทอี่ ยรู่ อบตัว คอื สีเป็นคณุ สมบัติข้อหนึง่ ของวัตถุและสีจะเกย่ี วข้องกับตวั เด็ก 2. สชี ว่ ยกระตุน้ การทา้ งานของสมอง เดก็ มคี วามรู้สกึ ตอ่ สีหรือสีสร้างความรสู้ กึ ใหแ้ ก่เด็กได้ โดยเฉพาะหาก เดก็ อยใู่ นส่ิงแวดลอ้ มทเี่ หมาะสมและหลากหลาย 3. สชี ว่ ยกระตนุ้ ประสาทสัมผสั ทง้ั 5 คือ การเห็น การได้ยิน การไดก้ ล่ิน การสัมผสั รสชาติทง้ั หลาย ในการใช้ ประสาทสัมผัสอยา่ งใดอย่างหนง่ึ หรอื หลายอย่างรวมกันเข้าไปสัมผสั กับวตั ถหุ รือเหตกุ ารณ์ 4. การสงั เกตสเี ป็นพนื้ ฐานขอ้ มลู สา้ หรับเด็ก การมปี ระสบการณก์ ารเรยี นรู้เกยี่ วกบั สิ่งตา่ ง ๆ รอบตวั วา่ มสี ี หลากหลาย ท้ังเหมอื นกันและแตกตา่ งกนั 5. การเรียนรูเ้ รอื่ งสมี ผี ลต่อการพฒั นาภาษาของเด็ก เม่อื เด็กไดเ้ ห็นสี ได้ยนิ คา้ ศพั ท์เก่ียวกบั สี ได้สมั ผสั สี มอี ารมณแ์ ละความรสู้ กึ เก่ยี วกบั สี 6. น้าไปใชใ้ นชวี ติ ประจา้ วนั ความรู้เร่อื งสีทีเ่ ด็กเรยี นรูจ้ ะเปน็ ขอ้ มลู ท่ีเป็นประโยชนต์ อ่ การนา้ ไปใช้ใน ชีวิตประจา้ วนั อา้ งอิง ( ม่ิงขวญั ลิรุจประภากร, 2564 )
สตี กแตง่ ห้องกระตุ้นพฒั นาการสาหรับเดก็ สีช่วยสง่ เสรมิ พฒั นาการทีด่ ีให้สา้ หรบั กบั ตวั เดก็ ซ่งึ ควรมีการกระตุน้ ระบบ ประสาทด้านการมองเห็น และความคดิ สร้างสรรค์ของเด็ก ด้วยการใชแ้ ม่สีต่าง ๆ ไม่วา่ จะ เป็นสจี ากของเล่น หรือการจัดตกแตง่ หอ้ งส้าหรบั เจา้ ตัวเด็ก ด้วยสีทด่ี งึ ดดู ความสนใจจาก เด็ก - สขี าว - สฟี ้า - สีเขยี ว - สชี มพู สีมว่ ง และสเี หลอื ง - สนี ้าตาล และสเี ทาออ่ น - สีส้ม และสแี ดง อา้ งอิง ( สืบคน้ จาก : https://www.wazzadu.com/article/180, 2559 )
เทคนิคการเล่นสสี าหรบั เด็กอนุบาล 3 เทคนิการเลน่ สีชว่ ยให้มสี มาธิ โดยใชอ้ ุปกรณต์ า่ งกนั เรม่ิ เลน่ ไดต้ งั้ แต่เดก็ เลก็ ต้งั แต่วัยท่ีเรมิ่ จบั ปากกา ดินสี ขดี เขยี นได้ ในเด็กเลก็ เดก็ จะระบายสี จะขดี เส้น ละเลงสีอยา่ งอสิ ระ จะไม่เป็น แบบระบายสตี ามรูปได้เลย Q Tip Art กจิ กรรมนีส้ ามารถสอนเด็กปฐมวยั ใหเ้ รยี นรูเ้ รอื่ งสี ใหจ้ ดุ ลงในชอ่ ง ให้ตรงหรอื ถูกสี สอนคณติ ศาสตร์ จดุ สตี ามจ้านวนทก่ี า้ หนดสอน ตัวอักษร โดยการจดุ สจี นกลายเปน็ ตงั อักษร สอนรูปรา่ ง Shape จุด สเี ปน็ รูปรา่ งตา่ ง ๆ อา้ งอิง ( รัฐกุล, 2562 )
Do a Dot Do a Dot ใชแ้ ทง่ สีปลายเปน็ วงกลม นิยมเล่นกับเดก็ วยั เรม่ิ จบั ปากกา เพียงแค่จับสีแล้วปั๊มลงบนกระดาษ เป็นกิจกรรมทส่ี อนให้ เด็กได้ฝกึ กะระยะให้พอดีชอ่ ง ฝึกการใช้มือ กล้ามเน้อื มดั เล็ก และ สายตาให้ดีข้ึน Finger Print Finger Print ใชน้ ว้ิ มอื ปมั๊ สี ให้เด็กได้สนุกกบั การท้ารูปร่าง รปู ภาพตา่ ง ๆ ผา่ นนิว้ มือของตนเอง เปน็ กิจกรรมที่ช่วยเสรมิ สรา้ ง พัฒนาการความคดิ จนิ ตนาการ และสามารถน้าไปตอ่ ยอดเป็น กิจกรรมท่หี ลากหลายได้แบบ อา้ งอิง ( รัฐกุล, 2562 )
การระบายสีดว้ ยอุปกรณ์อเิ ล็กทรอนิกสส์ าหรบั เดก็ ปฐมวัย เกมสร้างสรรค์และการศึกษาส้าหรบั เด็ก ทจ่ี ะชว่ ยให้เ้ ดก็ ได้ใช้เวลากับอปุ กรณอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ ใหเ้ ด็กรู้สกึ เหมือนวา่ ตนเอง เป็นจติ รกรจริง ๆ โดยแอพน้ีประกอบดว้ ยกจิ กรรมระบายสซี งึ่ เป็นมิตรกบั เด็ก เชน่ เดียวกบั บทเรยี นวาดภาพทมี่ ุ่งเน้นพัฒนา ทักษะการใช้กล้ามเนือ้ มัดเล็ก นอกจากนน้ั แอพน้ียังประกอบดว้ ยภาพในหวั ขอ้ ต่าง ๆ ทีจ่ ะชว่ ยให้เดก็ เพลิดเพลนิ ดว้ ยเสยี งชวน หลงใหลและตัวละครชวนขบขนั โดยจะได้พบรายการดังที่ระบุไว้ดา้ นล่าง ดงั นี้ - แพค็ 9 หัวข้อกับ 135 หนา้ - การระบายสแี บบงา่ ยส้าหรบั เด็ก ๆ - บทเรยี นวาดภาพ - พัฒนาความคิดสร้างสรรค์ แอพน้ีได้รบั การออกแบบส้าหรับเดก็ ๆ ในวัยกอ่ นเขา้ เรยี นและยงั เหมาะสา้ หรับทัง้ เดก็ ชายและเด็กหญงิ ในวัย 2-4 ขวบ ทุกกจิ กรรมไดร้ บั การพฒั นาด้วยความร่วมมอื จากผเู้ ชย่ี วชาญในสาขาการศึกษาเด็กและรวมทง้ั องค์ประกอบทางการศึกษาอาทิ เชน่ พัฒนาทักษะการใช้กลา้ มเนอ้ื มัดเล็ก
กจิ กรรมการปั้น สาหรบั เดก็ ปฐมวยั
“ศิลปะการปั้น” เป็นการส่งเสริมพฒั นาการในดา้ น “มติ ิสมั พนั ธ์” และกล้ามเนื้อมอื ใหก้ ับเดก็ เปน็ อยา่ งดี เช่น มีการหยบิ จับได้คลอ่ ง เขยี นหนงั สือไดด้ ขี ้นึ โดยเฉพาะความแขง็ แรงของกลา้ มเน้ือมือ น้ันมคี วามส้าคญั กบั เดก็ มาก การปั้น หมายถึง การน้าเอาวสั ดทุ ีม่ เี นือ้ ออ่ น เช่น ขผ้ี ้งึ ดนิ เหนยี ว ดนิ นา้ มมี นั ทส่ี ามารถ เปลี่ยนรูปได้ มาผ่านกระบวนการในการเพิ่มวัสดใุ ห้เกิดเปน็ รปู ทรงตามต้องการ โดยใชม้ อื และวัสดุ อปุ กรณช์ นดิ ตา่ ง ๆ ชว่ ยในการสร้างงานปนั้ การปัน้ ช่วยพฒั นาทักษะทั้ง 2 ด้าน คอื ดา้ นกายภาพ เปน็ การพัฒนากล้ามเน้อื มือ กล้ามเนอื้ มดั เลก็ และนิ้วมือ ในการนวด คลงึ และป้นั ส่วนด้านที่ 2 คืออารมณ์ กิจกรรมปัน้ จะ ชว่ ยฝึกสมาธิท้าใหเ้ ด็กซนสามารถนั่งและจดจ่ออยูก่ บั สง่ิ ท่ที า้ ได้นานขน้ึ นอกจากน้ยี งั จะช่วยในเรื่อง ของมติ ิสมั พนั ธ์ ท้าใหเ้ ด็กสามารถมองภาพทเ่ี ป็น 3 มติ ิ ไดด้ ีขนึ้ อา้ งอิง : จิตรขี นั ธ์(2556),https://sites.google.com/site/pratimakrrm1124/bth-thi-2-kar-pan มูลนิธชิ ว่ ยคนตาบอดแหง่ ประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมภจ์ ติ รีขนั ธ์.(2561),HTTPS://WWW.BLIND.OR.TH/CENTRE/INTOPRODUCT/1/?ID=77
การปัน้ ในอดีต ในสมยั กอ่ นทผ่ี ู้ปกครองไมไ่ ด้มที นุ ทรัพย์ในการซ้ือหาของสา้ หรับให้เดก็ ป้ัน ของทใ่ี ชส้ า้ หรับปนั้ สว่ น ใหญจ่ ะเป็นพวกดินเหนยี ว ต่อมาเรมิ่ มีการพัฒนาเป็นดนิ นา้ มันเกิดขึ้น แต่ดินน้ามนั นนั้ ก็ยังมีความอนั ตราย ของสารเคมอี ยูบ่ ้างท่ยี ังเหลืออยใู่ นดนิ น้ามัน ดนิ เหนียว ดินนา้ มัน อา้ งองิ : TrueID,(2560).https://intrend.trueid.net/article
ชุดอุปกรณเ์ ครือ่ งมือ สาหรับใช้ในการปนั้ 1. เขม็ เจาะแทง่ อลูมเิ นยี ม: ตัดแถบดนิ ออกแบบเคร่ืองป้ันดนิ เผา และสามารถใช้เจาะรูในลูกปัดเครือ่ งปน้ั ดนิ เผา 2. มีดลวดแบนขนาดใหญ่: ตัดรปู รา่ งของดินควบคมุ ความหนา ของผนังดิน 3. มดี แบน: ตดั ละเอียดและตดั แตง่ ดินเพิ่มการออกแบบ รายละเอียดบางอยา่ ง 4. เศษไม้: ใชส้ ้าหรบั การเปดิ และการสร้างดนิ เหนียวเพอ่ื ใหเ้ รยี บ 5. ลวดตดั โคลน: ตัดช้นิ สว่ นขนาดใหญ่ของดินเหนยี วและตัด หมอ้ ดนิ จากล้อ 6. ฟองนา: เติมนา้ หรอื น้าลงไปในดินในระหว่างการป้ันหรอื ขัด เครือ่ งปัน้ ดินเผาทอ่ี บพอประมาณ 7. มดี ไม้พลาสติก: สองดา้ นทต่ี างกันสามารถปั้นดนิ ให้มรี ปู รา่ งที่ สวยงาม 8. มีดโกนเหลก็ สแตนเลส: ตดั รปู ร่างดินเหนยี วใหเ้ รยี บดิน อ้างอิง : Shopee
ดินเหนียว เป็นดนิ ทมี่ เี น้ือละเอียด ในสภาพดินแห้งจะแตก ออกเป็นกอ้ นแขง็ มาก เป็นดินทแี่ ห้งแขง็ ตวั เองตาม สภาพอากาศ แตแ่ ห้งช้า เมื่อเปยี กน้าแลว้ จะมีความ ยืดหยุ่น สามารถปั้นเป็นกอ้ นหรือคลงึ เป็นเส้นยาวได้ เหนยี วเหนอะหนะตดิ มอื อ้างองิ : สา้ นกั ส้ารวจและวจิ ยั ทรัพยากรดนิ (2560),http://oss101.ldd.go.th
ดินนามัน ปั้นข้ึนรปู ง่าย ไม่แห้งเมอ่ื สัมผัสอากาศเพราะเปน็ น้ามนั ไมล่ ะลายใน น้า ใช้งานได้นาน แถมยงั เก็บรักษาไดน้ านและน้ากลับมาปัน้ ได้อกี หลาย คร้งั ขอ้ เสยี คือตดิ ไฟได้ และหลอมเมื่อไดร้ บั ความรอ้ น อา้ งองิ : ร้านสมใจเครื่องเขยี นและอุปกรณศ์ ลิ ป.์ (2561),https://www.facebook.com/SomjaiStore/photos/
ภาพตัวอยา่ งผลงานการปั้นดนิ นามนั ระดับชนั อนบุ าล
การป้ันในปจั จบุ นั ในสมัยก่อนเราเรียกการปน้ั ดว้ ยวัสดชุ นิดหนง่ึ ท่เี รียกว่า \"ดินน้ามัน\" แตเ่ มือ่ ยุคสมยั เปลยี่ นไปคนเร่มิ ใส่ใจเรอ่ื ง วัตถดุ บิ และสนิ คา้ ท่ดี ที ่ีสดุ เพ่อื เด็ก จึงได้คดิ คน้ วิธีการทไี่ ดม้ าซงึ่ เปน็ แป้งปัน้ ข้ึนทีป่ ลอดสารเคมที ีเ่ รียกกนั ว่า “แป้งโดว์” แปง้ โดว์ • ปลอดภยั จากสารเคมี • มีความยดื หยนุ สงู มากกวา่ ดินนา้ มัน • ผลิตจากสง่ิ ท่ีไม่เป็นอันตรายแกเ่ ดก็ ๆ เชน่ แปง้ น้ามนั พชื สผี สมอาหาร และอนื่ ๆ อา้ งองิ : KisdszaShop.(2563),https://www.kidsza.com
ดินเบา ● เนอ้ื มีนา้ หนักเบา ตกไม่แตก เนอ้ื ดนิ ละเอยี ดเนียนนุม่ และมีความแข็งแรงตกไมแ่ ตก ไม่มกี ลน่ิ ● สามารถขน้ึ รปู ทรงง่ายและมคี วามยดื หยุน่ น้อย สามารถเปลยี่ นรปู ทรงไดง้ า่ ยและเร็ว ● แหง้ เองไดเ้ พียงแค่ท้งิ ไว้ในอณุ หภมู หิ ้อง เม่ือแหง้ แล้วน้าหนกั เบามากๆ ลักษณะคลา้ ยโฟม อ้างองิ : LNWSHOP(2562),http://www.kidartshop.com
โฟมพตั ตี
การปั้นท่ที นั สมยั กิจกรรมการปั้น ช่วยพัฒนาการในดา้ นต่าง ๆ สมัยกอ่ นกจ็ ะมเี ครื่องปั้นดนิ เผา ท่เี ป็นเคร่อื งชว่ ยในการป้นั แตใ่ นสมัยปจั จบุ นั มดี ินหลากหลายประเภททใ่ี ช้ในการป้นั ได้มีการทาชุดของเล่น ทเ่ี ด็กสามารถเลน่ ได้และปลอดภยั เพื่ออานวยความสะดวก และทนั สมัย สามารถหาซือได้ตามร้านขายของเลน่ ห้างสรรพสนิ ค้า และส่งั ซอื ทาง ออนไลน์ ชุดเครื่องป้นั ก็จะมหี ลายแบบ ได้แก่ โคลนเมจกิ เครอ่ื งป้ันดิน DIY ชดุ ดนิ เบาพรอ้ มอุปกรณ์ป้ัน ชดุ แปง้ โดวท์ าขนม อาหาร ฯลฯ
ชดุ ทาเคร่อื งป้นั ดินเผา
ชดุ แป้งโดวพ์ ร้อม อุปกรณ์
ทรายมหัศจรรย์
กจิ กรรมการฉกี ปะ ตดิ สาหรบั เด็กปฐมวัย
การปะตดิ อาจารย์อารี สุทธิพันธ์ุ (2526: ศิลปะนิยม) การปะติด คือการสร้างสรรค์ ภาพปะติดเป็นการน้าเอาวสั ดแุ ผน่ บางๆ เช่น กระดาษสี หนงั สอื พิมพ์ พลาสติก ใบไม้ ท้ัง วสั ดุ ที่มนุษย์สร้างสรรค์ข้ึนหรือวัสดุจากธรรมชาติน้ามาปะติดบนพื้นระนาบ เช่น กระดาษ กระดาษแขง็ แผน่ ไมอ้ ัด เพ่ือให้เกดิ เป็นงานศลิ ปะท่ีสวยงามตามจนิ ตนาการ อา้ งอิง : MGROnline(2551), https://mgronline.com/live/detail/
การฉกี ประตดิ ในอดีต 1. การฉกี ปะตดิ ดว้ ยเศษวัสดุธรรมชาติ การฉกี ปะติดเศษวสั ดุธรรมชาตทิ ห่ี ลากหลายรูปแบบให้มารวมอยู่ในทเ่ี ดยี วกนั เกดิ เปน็ งานศลิ ปะรปู แบบใหม่ทีแ่ ปลกแตกตา่ งจากการเห็นงานศลิ ปะในรูปแบบอ่ืนๆ เศษวสั ดธุ รรมชาติ ที่จะน้ามาใช้สรา้ งเปน็ กิจกรรมฉีกปะตดิ นน้ั จะสามารถใช้ วัสดธุ รรมชาตแิ บบสด และเศษวัสดุ ธรรมชาตแิ บบแห้ง ทม่ี ขี นาดไม่เลก็ จนเกินไป และไมเ่ ป็นอันตรายตอ่ การน้ามาใช้ ไม่ควรเลือกเศษ วสั ดุท่แี หลมคม และแตกงา่ ย และไมค่ วรเลอื กเศษวัสดุที่มนี ้าหนักมาก อ้างองิ : bankhailearn(2558), https://sites.google.com
การฉีกปะตดิ จากเศษวัสดุธรรมชาติ 1.1 การฉกี ปะติดดว้ ยเศษวัสดธุ รรมชาติแบบสด เศษวัสดุธรรมชาตแิ บบสด เช่น ใบไม้ ดอกไม้ เปน็ ตน้ และการเลือกใบไม้และดอกไม้ หลายชนิด จะช่วยให้ผลงานมีความสวยทม่ี ากข้ึนงาน อา้ งองิ : งานศิลปะภาพปะตดิ จากวัสดธุ รรมชาติ(2563),https://youtu.be/UpKGNk99wpg
1.2 การฉกี ปะติดด้วยเศษวัสดธุ รรมชาติแบบแห้ง เศษวัสดุธรรมชาติแบบแหง้ เช่น ใบไมแ้ หง้ เมลด็ พชื เปลอื กไม้ ดอกหญ้า และดอกไม้แหง้ เปน็ ตน้ มารวมกันทา้ ใหเ้ กิดเปน็ งานศิลปะท่ีสวยงามข้นึ ตวั อยา่ ง รปู การฉีกปะติดดว้ ยเศษวสั ดธุ รรมชาติแบบ แหง้ อ้างอิง : comsci.srru.ac.th(2559),https://sites.google.com
2. การฉีกปะติดจากเศษวัสดุสงั เคราะห์ วสั ดสุ ังเคราะหท์ ี่จะน้ามาสร้างภาพปะติดน้ัน ควรเปน็ วัสดทุ ย่ี ดึ ตดิ กาวได้ไม่เปน็ อันตรายตอ่ การนา้ มาใช้ เช่น กระดุม คลิป ฝาขวด เปน็ ตน้ อ้างอิง : comsci.srru.ac.th(2559),https://sites.google.com/
การปะติด ดว้ ยผา้ (ผา้ ปะตดิ ) เป็นการนา้ เศษผา้ หรือเส้ือผา้ ท่ีไมไ่ ด้ใช้แล้วมาตัดออกเป็นช้นิ หลังจากทเี่ ราไดต้ ดั ผ้าออกมาแลว้ เอาดา้ ยเอาเข็มมาพร้อม เริม่ จากเลอื กผ้าชิ้นมากอ่ นแลว้ เลือกเศษผา้ มาวางแปะลงบนผ้าตามแต่ ที่ตอ้ งการ เลอื กอย่างอิสระไม่ตอ้ งตดิ กรอบ เมื่อวางเศษผา้ ลงบนผา้ ได้แล้วกเ็ รมิ่ เย็บด้วยมือ และเราสามารถออกแบบไดอ้ ย่างอิสระตามใจชอบ ที่มา : http://www.annasakid.com/articles
การฉกี ปะติดในปัจจุบนั กจิ กรรมศลิ ปะฉกี ปะตดิ ในปจั จบุ นั ผา่ นการฉกี กระดาษสีหรือเศษวัสดุ ทากาวแล้วน้าไปปะ ตดิ บนกระดาษ ให้เกดิ เปน็ ภาพหรือรูปรา่ งต่างๆ ตามจินตนาการ ช่วยใหเ้ ดก็ ๆ มกี ล้ามเน้อื มอื ทแี่ ขง็ แรงและสามารถบงั คบั กล้ามเน้อื มือไปในทศิ ทางตา่ ง ๆ ได้อย่างคลอ่ งแคลว่ สามารถ นา้ ไปใชใ้ นชวี ติ ประจา้ วันไดเ้ ป็นอย่างดี นอกจากน้ียังจะชว่ ยใหเ้ ด็กๆ ได้ฝกึ การประสานสมั พนั ธ์ ของตากบั มือ เพิม่ สมาธิ และกระตุ้นความคิดสรา้ งสรรค์ (อ้างอิง : พณิ พริ ุณ วภิ าพ 2562)
ฉกี ปะ ติด เรขาคณิต ฉีกรปู กระดาษรูปรา่ งรปู ทรงงา่ ยๆแลว้ นา้ มาปะติเป็นรูปให้เกิดเราขาคณิต เชน่ สีเหล่ยี ม วงกลม วงรี สามเหลีย่ ม สเ่ี หลยี่ มจัตรุ ัส สเี หลย่ี มดา้ นขนาด และหกเหล่ียม ( อ้างองิ : เนื้อออ่ น ขรวั ทองเขยี ว.(2556),siters.google.com )
ฉกี กระดาษเป็นรปู ทรงงา่ ยๆ นา้ มาปะติดลงบนวสั ดุอืน่ หรอื รปู ภาพอน่ื ตามใจชอบ ให้เกิดเป็นภาพสามารถน้าไปบรรยายได้ เช่น ภาพธรรมชาติ ภาพสิง่ ของ ภาพมนษุ ย์ ( อ้างองิ : เน้อื ออ่ น ขรัวทองเขยี ว.(2556)siters.google.com )
ทนั สมยั เป็นชุดของเลน่ สรา้ งจินตนาการ และสร้างสรรค์สมองไดเ้ ช่นกนั มีสีสันสวยงาม ท้าให้มีความนา่ สนใจ สมยั ก่อนจะมฉี กี ปะติดดว้ ยเศษวัสดธุ รรมชาติ และวสั ดุ สงั เคราะห์ แต่สมัยปจั จุบันเริม่ เป็นการฉีกกระดาษและไดม้ ีการท้าชดุ ของเล่นขึน้ มา ที่ เด็กสามารถเล่นไดอ้ ยา่ งปลอดภัย เพอ่ื อ้านวยความสะดวกและทันสมัย สามารถหาซื้อ ได้ตามร้านของเลน่ ท่วั ไปหรือสามารถส่ังออนไลนไ์ ด้ (อา้ งองิ : shoppee 2562)
ชดุ ภาพปะติดกระดาษสี
งานประดษิ ฐ์ DIY โฟม EVA
ชดุ ศลิ ปะภาพสตกิ เกอร์ ขยากระดาษ DIY (อ้างอิง : shoppee 2563)
รปู 3 มติ ิ
กจิ กรรมการรอ้ ย สาหรบั เดก็ ปฐมวยั
การรอ้ ยในอดตี ลกู ปัดโบราณ วตั ถุทม่ี ลี กั ษณะเป็นเม็ด มหี ลายรูปทรง เจาะรูเพอ่ื ใชร้ ้อยเข้าไปในเส้นด้ายหรอื เชอื ก ซึ่งเปน็ วสั ดทุ ท่ี นและไม่ ขาดงา่ ย ลูกปดั เปน็ สิง่ ที่มนุษยท์ า้ ขน้ึ และใชเ้ มื่อหลายพนั และหลายหมื่นปมี าแล้ว มนษุ ย์ในสมัยแรกๆ ท้าลูกปัดจาก วัตถดุ บิ จากธรรมชาติ เชน่ กระดกู สตั ว์ เข้ียว เปลือกหอย เมลด็ พชื เปลอื กไม้ ยางไม้ ตอ่ มามนุษยท์ ้าลกู ปดั จาก วัสดทุ ่ีท้าขึน้ เอง เชน่ ดินเผา แก้ว สา้ รดิ ทอง เปน็ ตน้ ลกู ปดั ถกู ใชเ้ ป็นหลักฐานทางโบราณคดตี ั้งแต่ ยุคกอ่ น ประวัตศิ าสตร์ เนื่องจากมกี ารขดุ พบลกู ปัดมากมายในแหล่งอารยธรรมเก่าแก่ทง้ั หลาย ลกู โบราณที่ขดุ พบนัน้ ทา้ มาจากวัสดตุ ่างๆ อาทิ 1. ลกู ปัดหนิ และแรห่ นิ 2. ลูกปัดดนิ เผา 3. ลูกปดั กระดกู สัตว์ เปลือกหอย 4. ลกู ปัดจากโลหะและแรต่ า่ งๆ 5. ลกู ปัดแกว้ (อา้ งอิง : janthima, 2013)
การร้อยมาลยั ดอกไม้ประดษิ ฐ์แบบไทยลกั ษณะหนงึ่ โดยการนา้ ดอกไม้ กลีบดอกไม้ ใบไม้ และสว่ น ตา่ งๆ ของดอกไมท้ ่รี อ้ ยได้ มารอ้ ยเปน็ พวง มีลักษณะตา่ งๆ กนั มากมายหลายแบบ ตงั้ แต่ แบบดง้ั เดมิ จนถงึ แบบสมยั ใหม่ ซ่ึงกด็ ัดแปลงมาจากแบบดั้งเดมิ น่ันเอง แบง่ เปน็ 3 ประเภทใหญ่ ๆ ดังนี้ 1.แบ่งตามหน้าที่ใช้สอย (อา้ งองิ : ทศิ นา เหมอื นวงค,์ 2551)
2.แบง่ ตามรูปแบบของการร้อย (อา้ งองิ : ทศิ นา เหมอื นวงค,์ 2551)
3.แบ่งตามลักษณะโครงรา่ ง (อา้ งองิ : ทศิ นา เหมอื นวงค
การร้อยตาข่าย ตาข่ายดอกไม้สดใช้แขวนตามสถานท่ตี า่ งๆ เชน่ ประตู หนา้ ตา่ ง เป็นตน้ เพ่อื ใช้ ประดบั ตกแต่งสถานทีใ่ ห้ดูสวยงามเมอ่ื มกี ารจัดงานทง้ั งานมงคลและงานอวมงคล (อา้ งองิ :นภิ าภรณ์ ชุมศรี, 2554)
โมบาย/มูล่กี ระดาษ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437