Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ภาษากับการสื่อสาร

ภาษากับการสื่อสาร

Description: ศึกษาความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับภาษากับการสื่อสาร การฟัง พูด อ่านและเขียนภาษาไทยเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน การอ่านคำร้อยแก้ว คำร้อยกรอง อ่านประกาศ แถลงการณ์ การเขียนจดหมาย ย่อความ เรียงความ โวหารต่าง ๆ การพูด การสนทนา บรรยาย อภิปราย มารยาทการพูด การฟัง

Search

Read the Text Version

ของการพูด (ต่อ) ะดับภาษาใหถ้ ูกตอ้ ง เหมาะสม อนสาหรบั อ่านไวด้ ว้ ย ะซอ้ มอา่ นล่วงหน้าหลายๆครงั ยะทเ่ี หมาะสม นจบ

๖.๒.๔ ประเภทข ๑) แบ่งตามวธิ ีพูด ๑.๓) การพูดโดยการทอ่ การพดู โดยการท่องจาคล อา่ นจากต้นฉบบั คอื ต้องเต ท่องจาใหห้ มด จากนันจงึ พูด แบบนมี ีข้อดคี อื ผ้พู ดู สามารถ และสามารถใช้ภาษาใหร้ าบร

ของการพดู (ต่อ) องจาเนอื้ หา ล้ายคลึงกบั การพูดโดยการ ตรียมเขยี นต้นฉบับไวแ้ ล้ว ดจากทีท่ ่องจาเอาไว้ วธิ ีพดู ถถ่ายทอดเนือหาทังหมดได้ ร่นื

๖.๒.๔ ประเภทข การพูดโดยการ ๑) ผพู้ ดู ควรสนใจ ๒) ผพู้ ดู ควร เรื่องการใช้ภาษา ความเปน็ ธร ฝึกฝนการใชท้ า่ ทาง การพูดให้ม ประกอบการพดู

ของการพดู (ต่อ) รทอ่ งจาเนอื้ หา รคานึงถึง ๓) หากผู้พูดไม่แนใ่ จ รรมชาตใิ น วา่ จะจาเนือหาได้ มากทสี่ ดุ ทังหมด ควรเขียน ประโยคหลักหรอื ประโยคเรม่ิ ต้นไว้เผอ่ื จาเป็น จะไดด้ ไู ด้ ทันที

๖.๒.๔ ประเภทข ๑) แบ่งตามวิธพี ดู ๑.๔) การพดู โดยการจาโ การพดู โดยการจาโครงเร ทีส่ ุดในการพดู แบบตา่ งๆ เพ แท้จรงิ มคี วามเป็นธรรมชาต เนอื หาสาระและแสดงท่าทาง กังวลว่าตอ้ งพดู ใหเ้ หมอื นต้น

ของการพดู (ตอ่ ) โครงเรื่อง ร่อื ง เป็นวธิ กี ารพูดท่ถี ือว่าดี พราะจะเปน็ การพดู อย่าง ติ ผู้พูดสามารถถ่ายทอด งประกอบการพูดไดโ้ ดยไม่ตอ้ ง นฉบับทกุ คาพูด

๖.๒.๔ ประเภทข ๑) ศึกษาหวั ข้ออย่างละเอียด และทา ๒) วิเคราะห์ผฟู้ ังในด้าน เพศ วยั การ ๓) วางโครงเรอื่ ง โดยเขียนหวั ข้อให้ต ๔) ขยายหวั ข้อเรื่อง โดยใชต้ วั อยา่ งหร ๕) เรยี บเรียงเนอื เรอ่ื งโดยกาหนด ส่ว ๖) เขยี นเฉพาะโครงเรอ่ื งท่ปี ระกอบด้ว ซ้อมพดู

ของการพดู (ต่อ) าความเข้าใจเนอื หา รศกึ ษา ความสนใจเฉพาะกล่มุ ตอ่ เน่ืองตามลาดบั รืออปุ กรณ์ประกอบ วนนา สว่ นเนือเรอื่ ง และส่วนสรุป วยหัวข้อของสว่ นตา่ งๆและทดลอง

๖.๒.๔ ประเภทข ๒) แบง่ ตามจานวนผฟู้ ัง การพดู ท่แี บ่งตามจานวนผู้ฟงั ๑) การพดู รายบุคคล เปน็ การพ ในชีวิตประจาวัน เชน่ การสนทน การแนะนาตัว เป็นต้น ๒) การพดู ในท่ีชุมนุมชน เป็นก เปน็ การพูดท่มี ีแบบแผนตอ้ งมีกา ความชานาญ การพดู ประเภทน การปาฐกถา การแสดงสนุ ทรพจ

ของการพดู (ตอ่ ) มี ๒ ประเภท คอื พดู ตวั ต่อตวั ได้แก่ การพดู ที่ใชอ้ ยู่ นา การสัมภาษณ์ การเลา่ เรอื่ ง การพดู ทมี่ ีผูฟ้ ังเปน็ จานวนมาก ารเตรียมตัว และฝึกฝนใหเ้ กิด นีไดแ้ ก่ การบรรยาย การอภิปราย จน์ เป็นต้น

๖.๒.๕ จุดมุ่งหม การพดู แตล่ ะครง้ั มีจุดมุ่งห จดุ มุ่งหมายท่ีพูดไดอ้ ย่างถกู ต้อ นกั พูดที่ดจี ะตอ้ งศกึ ษาวิเคราะห วตั ถปุ ระสงค์ท่จี ะพูดแตล่ ะคร้ัง หมายทว่ี างไว้ ซ่งึ สามารถแบ่ง

มายของการพูด หมายต่างกันผูพ้ ูดจะตอ้ งรู้จกั อง ตรงกับความต้องการของผู้ฟัง หใ์ หเ้ ข้าใจความมุ่งหมายและ งให้ชัดเจนและพูดตรงกับความมงุ่ งออกเป็น 5 ประการ คอื

๑. การพดู เพ หรือข้อ ๕. การพดู เพื่อแนะนา จุดมุง่ ห และชีแนะเรื่องต่างๆ การพ ๔. การพูดเพอื่ หาทาง แกป้ ัญหาหรือคาตอบ ตา่ งๆ

พอื่ ใหค้ วามรู้ อเท็จจรงิ ๒. การพดู เพื่อโน้มนา้ ว หมาย จติ ใจผูฟ้ ัง พดู ๓. การพดู เพื่อให้เกิด ความเพลดิ เพลนิ หรอื เพ่อื จรรโลงใจแกผ่ ฟู้ ัง

๖.๓ การพฒั นาทักษ นักพูดทปี่ ระสบความสาเร็จใน เกดิ แต่ทวา่ เขาไดฝ้ ึกฝนการพดู มาด ปรับปรงุ ทกั ษะการพดู ของตนเองให การพูด ประกอบด้วย การสะสมควา ภาษา ตลอดการใชอ้ ากปั กริ ยิ าทา่ ทา ดงั กล่าว มรี ายละเอยี ดท่นี ่าสนใจดัง ๑. การสะสมความร้แู ละประสบการ ๒. การพฒั นาความสามารถในการพ ๓. การพัฒนาอากปั กริ ิยาท่าทาง

ษะพ้ืนฐานในการพดู นการพูดนัน มไิ ดม้ พี รสวรรคม์ าตังแต่ ด้วยการสงั เกตการพดู ของคนอน่ื และ ห้ดยี ่งิ ขนึ การพัฒนาทักษะพืนฐานใน ามรแู้ ละประสบการณ์การใชถ้ อ้ ยคา างและทว่ งทใี นการพูด ทกั ษะพืนฐาน งตอ่ ไปนี รณ์ พดู

๖.๓.๑ การพัฒนาทกั ษะ พื้นฐานทางความคิด

๑.การคดิ ฝัน ๒.การคิดวินิจฉัย ๓.การคิดสรา้ งสรรค์ ๔.การคดิ แกป้ ญั หา

๖.๓.๒ การสะสมความ ๑.๑) การอา่ น • เป็นวิธ เพราะ ๑.๒) การฟัง ตีพิมพ ๑.๓) การสงั เกต และการกระทา • เป็นกา อกี ทาง • คนท่เี ป ฝกึ ฝน มือกระ

มรแู้ ละประสบการณ์ ธที ่เี หมาะแก่การแสวงหาความรู้ ะความรูส้ ว่ นใหญม่ กั จะอย่ใู นสงิ่ พต์ ่างๆ ารเพม่ิ สตปิ ญั ญา และความรใู้ ห้มาก งหน่ึง ป็นนักพูดท่ดี ไี ด้นนั ควรจะต้องมีการ นตนเองให้เปน็ คนช่างสังเกตและลง ะทาดว้ ยตนเอง

๖.๓.๓ การพฒั นาคว การพฒั นาทักษะพืนฐานใน เพ่อื พฒั นาการออกเสยี ง การใชเ้ สยี ๒.๑ การใช้เสียง เป็นการป เสียงสงู ตา่ และคุณภาพของเสยี ง ๒.๒ การใช้ถ้อยคา เปน็ ทกั จะต้องฝกึ ฝนอยูเ่ สมอ เพอ่ื ปรบั ปรงุ ชัดเจนและเหมาะสมกบั บุคลิกภาพ

วามสามารถในการพดู นการพูดในประเดน็ นมี ีจดุ มุ่งหมาย ยง การใชถ้ อ้ ยคา ปรับระดบั ความดังของเสยี ง ระดบั กษะพนื ฐานของการพดู ทีผ่ ู้พดู งคาพดู ให้ถกู ต้อง สือ่ ความหมายได้ พของผู้พูด

การใชถ้ อ้ ยคา ๑) ใชค้ ๒) ออ ๓) ใชค้ ๔) พูดป ๕) การ ๖) ใช้ค ๗) ใช้ค ๘) ไมใ่ ๙) ไม่ค ๑๐) ใช

คาให้ถูกตอ้ งตามหลักภาษาไทย อกเสียงคาให้ถกู ตอ้ งชดั เจน คาสภุ าพ ประโยคส้นั กะทดั รดั แตก่ ินความกว้าง รประหยัดคาทาให้การพูดไม่เย่นิ เย้อ คาให้ตรงความหมาย คาง่ายๆทคี่ นส่วนมากเขา้ ใจไดท้ นั ที ใช่คาตา่ งประเทศปนกบั คาไทย ควรใช้สานวนตา่ งประเทศ ช้คาขยายใหถ้ กู ตอ้ งหลักภาษา

๖.๓.๔ การพัฒนา การพัฒนาสมรรถภาพการพ เช่นเดยี วกบั การสงั่ สมความร้แู ละป ภาษา เป็นการพัฒนาช่องทาง หรอื อากปั กิริยา สีหนา้ แววตา และท่าท เชงิ อวัจนภาษาการสอ่ื สารโดยไมใ่ ช จะต้องอาศยั ทังการส่ือสารเชิงวจั นภ

าอากัปกิรยิ าทา่ ทาง พูดประการสดุ ท้ายมีความสาคัญ ประสบการณ์ และการใช้ถอ้ ยคา อตัวนาสารสูผ่ ู้ฟงั ไดแ้ ก่ ทาง เปน็ ตน้ เปน็ การสอ่ื สาร ช้คาพูด ผพู้ ูดทมี่ ีประสิทธิภาพ ภาษาและอวจั นภาษา

การพฒั นาอาก ๑) การใชด้ วง ๒) การมีสีหนา้ ๓) การยนื หรือ ๔) การแสดงท ๕) การเคล่ือน ๖) การใช้เวลา ๗) การสร้างค

กัปกริ ยิ าท่าทาง งตา ายม้ิ แยม้ แจ่มใส อการทรงตัว ทา่ ทาง นไหว า ความเชอ่ื มน่ั

๖.๔ การวางตวั และ ๑.๑) ก่อนการพดู • หากมีผู้พูด ๑.๒) เมื่อเริม่ พดู คนพดู คนแ มารยาทใน ๑.๓) ระหว่างการพดู ๑.๔) หลังจากจบการ • เมื่อประธา อาการสงบ พดู สภุ าพ และ • ผู้พูดต้องส ตัวเองวา่ ท ควรคิดแต • เวลาพูดจ ขนึ มาพูด เล็กน้อยให

ะมารยาทในการพดู ดหลายคน ผ้พู ดู หลักควรนาคณะไปยงั เวที ถ้าเป็น แรก เม่อื พูดเสรจ็ แล้วไมค่ วรลกุ ไปไหน ควรมี นการฟัง สนใจฟงั การพดู ผอู้ ื่น านเร่ิมแนะนาใหล้ กุ ขึนอย่างกระฉบั กระเฉง อยู่ใน บและก้าวเดนิ ไปยังผ้พู ดู ผู้พูดควรมที า่ ทีเปน็ มิตร ะรจู้ กั ให้เกียรติผูฟ้ งั สนใจอยู่ท่ีความคดิ และผูฟ้ ัง ไม่ต้องสนใจกับ ทา่ ทางเปน็ อย่างไร คนปรบมอื ใหห้ รอื ไม่ แค่ ต่เรือ่ งทจ่ี ะพดู ใหด้ ที ี่สดุ เทา่ นัน จบไม่ควรพูดคาวา่ “ขอบคุณ”เว้นแตเ่ ปน็ คนขอ เมือ่ พูดเสร็จแล้วกห็ ยุดนิดหน่งึ กม้ ศรี ษะ ห้แก่คนฟงั หรอื อาจกล่าว “สวสั ดี”

๖.๕ การพดู ป การพูดตามโอกาสต่างๆ อาจจา ๑. การพูดอยา่ งไมเ่ ป็นทางการ การพดู อย่างไมเ่ ป็นทางการ ในชีวิตประจาวนั เป็นการพูดทไ่ี สหาย ญาติ พนี่ ้อง การสังสรรค์ใ ใกล้ชดิ สนิทสนมกัน เป็นการพูด ทางการมากนัก ๒. การพดู อยา่ งเปน็ ทางการ

ประเภทตา่ งๆ าแนกได้ ๒ ประเภท ดงั นี ร ได้แก่ การพดู การสนทนาทง่ั ไป ไมม่ ีพิธรี ตี องนกั พดู ในหมมู่ ติ ร ในสงั คมหรือชมุ ชนทม่ี ีความ ดท่ไี ม่จาเป็นตอ้ งใช้ภาษาแบบ

๖.๕.๑ การพูดอย่าง การสนทนา ในชวี ิตประจาวนั ของมนษุ ย์ยอ่ มม เสมอ การสนทนาเป็นการแลกเปล่ียนควา สร้างความพึงพอใจให้เกิดแก่ผู้อ่ืน ดังนัน สรา้ งและกระชบั มิตร ลกั ษณะการสนทนาทด่ี ี การสนทนาเป็นเคร่ืองมือในกา ความเข้าใจระหว่างคู่สนทนา ปรียา หิรัญ สรุปไดด้ งั นี

งไมเ่ ป็นทางการ (ต่อ) มีโอกาสได้พบปะและพูดจาสนทนากันอยู่ ามคิดเห็นในส่ิงท่ีมีความสนใจร่วมกันและ จุดมุ่งหมายของการสนทนาจึงเป็นไปเพื่อ ารสร้างมนุษยสัมพันธ์และช่วยทาให้เกิด ญ ให้ข้อเสนอแนะในการเป็นคู่สนทนาท่ีดี

ลักษณะการ ๑) มคี ณุ สมบ สนทนาที่ดี ๒) พูดแต่เรื่อ ๓) เมื่อมีการข ๔) อย่าขัดคอค ๕) อย่าผูกขา ๖) ถา้ ต้องฟงั เ ๗) การสนทน ๘) มีมารยาท ๙) การแนะน

บัตเิ ปน็ นักฟังที่ดี องทที่ าใหค้ สู่ นทนาสบายใจ ขดั แย้งในระหวา่ งการสนทนา คูส่ นทนา าดการสนทนาแต่ผเู้ ดยี ว เร่อื งทไี่ ม่สบอารมณ์ นาไมค่ วรนินทาผอู้ น่ื ทสุภาพ นาผู้ท่ไี มร่ ู้จกั กันให้สนทนากัน

๖.๕.๑.๒ การ ๑) ผโู้ ทรศัพท์ตดิ พูดโทรศพั ท์ ๑.๑ ทักทาย “ ๑.๒ บอกชือ่ ผู้ท ๑.๓ ถา้ ไม่อยู่ ๑.๔ เมอื่ ฝากข ๑.๕ ควรมีมา ๑.๖ การติดต

ดตอ่ ไป “สวัสด”ี ทตี่ ้องการคุยด้วย กค็ วรจะฝากขอ้ ความไว้ ขอ้ ความแลว้ กค็ วรสอบถามชื่อคนรบั ารยาทในการสนทนา ต่อผิดหมายเลข ก็ควรกล่าวคาขอโทษ

๖.๕.๑.๓ ๑) ต้องทาเปน็ การกล่าวปฏเิ สธ ๒) ต้องมีเหต ๓) ไมก่ ลา่ วค

นไม่สนใจ เม่ือได้รบั คาขอรอ้ ง ตุผลทชี่ ดั เจน เมอื่ ตอ้ งปฏิเสธ คาปฏิเสธดว้ ยทา่ ที ทีแ่ สดงความไมพ่ อใจ

๖.๕.๒ การพดู อ การพูดอย่างเป็นทางการ ได้แ ชีวิตประจาวัน เป็นการพูดในสถาน ระมัดระวังในเรื่องของการใช้ถ้อยคาภ การพูดอยา่ งถกู ตอ้ ง การพูดอย่างเป็นทางการหรือก เป็นการพูดในโอกาสต่างเพื่อจุดมุ่งหมา ต น เ อ ง ก า ร เ ล่ า เ ร่ื อ ง ก า ร บ ร ร ย การประชุมสัมมนา การกล่าวสุนทรพ นามาแสดงไว้เพยี งบางประเภทเท่านัน

อยา่ งเปน็ ทางการ แก่ การพูดในกรณีที่นอกเหนือไปจาก นการณ์ที่เป็นพิธีการ ซึ่งผู้พูดจะต้อง ภาษา บุคลิกภาพ ตลอดจนหลักเกณฑ์ การพูดในท่ีชุมชน (Public Speaking) ายที่แตกต่างกัน ได้แก่ การพูดแนะนา ย า ย ก า ร อ ธิ บ า ย ก า ร อ ภิ ป ร า ย พจน์ และการโต้วาที เป็นต้น ในที่นีจะ

๖.๕.๒ การพดู อยา่ ๖.๕.๒.๑ การพดู แนะนาตนเอง การพูดแนะนาตนเอง มักเป็นบ การพูดในส่ิงที่ตนเองรู้ดีท่ีสุด ช่วยให้ผู้พ อาการประหม่าของผพู้ ูด จุดหมายของการแนะนาตนเอง น้ัน รู้จักประวัติความเป็นมา มีความถ ควมเป็นอยู่ในปัจจุบันเป็นอย่างไร มีคว ทางการดาเนนิ ชวี ิตอย่างไร

างเปน็ ทางการ (ต่อ) บทฝึกบทแรกของการฝึกพูดในที่ชุมชน พูดเกิดความเชื่อมั่นในตนเองและช่วยลด งเพื่อให้ท่ีประชุมหรือเพ่ือนสมาชิกในท่ี นัดหรือความสามารถพิเศษอะไร ชีวิต วามมุ่งหวังในอนาคต มีอุดมคติหรือแนว

๖.๕.๒ การพูดอยา่ ๖.๕.๒.๑ การพูดแนะนาตนเอง ๑)การเตรยี มเนื้อเรื่อง การเตรียมเน้ือเร่ือง ในการพูด ขอ้ มลู ท่มี ีความเกย่ี วข้องกับตัวผู้พดู ใน ๑.ช่ือและนามสกลุ ถ่ินฐานบา้ ๒.ความสนใจ ความคิดเหน็ แ

างเป็นทางการ (ต่อ) ดแนะนาตนเองนั้น ควรประกอบด้วย นด้านต่างๆดังน้ี านเกิดเมือนอน หรอื รายละเอยี ดอ่ืนๆ และโลกทัศนข์ องตนเอง

๖.๕.๒ การพูดอย่า ๒) การพูด -ทักทป่ี ระชุมใหถ้ กู ตอ้ ง -กล่าวแสดงความยนิ ดที ่ไี ด -แนะนาตนเอง -กลา่ วแสดงความเป็นมิตร -ระวงั อย่าพดู ล้อเลยี นผพู้ ูด

างเป็นทางการ (ต่อ) ด้มาพบผฟู้ ัง รกบั ผู้ฟัง ดคนอน่ื ๆ

๖.๕.๒ การพูดอย่า ๖.๕.๒.๒ การพูดเล่าเรอ่ื ง ๑.การเตรียมเนื้อเร่อื ง ๑.๑ เลือกเหตกุ ารณ ๑.๒ เรยี งลาดับเหต ๒.การเลา่ ๒.๑ เตรียมตัวและ ๒.๒ ไมน่ าบทท่เี ตร ๒.๓ ไม่เล่าโดยวิธีท ๒.๔ สรา้ งความร้สู


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook