Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ภาษากับการสื่อสาร

ภาษากับการสื่อสาร

Description: ศึกษาความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับภาษากับการสื่อสาร การฟัง พูด อ่านและเขียนภาษาไทยเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน การอ่านคำร้อยแก้ว คำร้อยกรอง อ่านประกาศ แถลงการณ์ การเขียนจดหมาย ย่อความ เรียงความ โวหารต่าง ๆ การพูด การสนทนา บรรยาย อภิปราย มารยาทการพูด การฟัง

Search

Read the Text Version

อธิบายความหมายของการส่ือสารได้ อธิบายความสาคญั ของสื่อสารได้ บอกประเภทของการสือ่ สารได้ ายองค์ประกอบของการสอ่ื สารได้ ฎแี ละแนวคดิ ทางการสือ่ สารได้

๒.๑ ความ การส่ือสารเป็นการสร้างควา ดว้ ยกัน การส่ือสารจึงทาหน้าที่เป็นเค มนษุ ย์ ช่วยใหเ้ กดิ การตดิ ตอ่ ระหว่างม ภาษาและการสื่อสาร จึงเป็น ของมนุษยชาติ ในบทนี้จะได้กล่าว ความหมาย ความเป็นมาอย่างไร จา ศึกษา รวมไปถึงอย่างไรท่ีเรียกว่าก ทฤษฎตี ่างๆ ทไี่ ดก้ ารศึกษามาไดศ้ ึกษา

มนา ามเข้าใจระหว่างเพ่ือนมนุษย์ ครื่องมอื ในการดาเนินชีวิตของ มนุษยก์ บั มนษุ ย์ นวัฒนธรรมและมรดกอันล้าค่า วถึงการส่ือสารของมนุษย์ มี าเป็นมาก-น้อยอย่างไร ท่ีต้อง การสื่อสาร โดยอาศัยแนวคิด ากนั ต่อไป

๒.๒ ความหมายและสาค การส่ือสารของมนษุ ย์เกดิ ข้ึนม ติดตอ่ สื่อสารซง่ึ กันและกนั เกิดข้นึ และ จากสมัยเร่ิมแรกจนกระท่ังถึงปจั จบุ ัน สมยั ปจั จุบนั มิได้แตกต่างกันในดา้ นจดุ กันกเ็ พื่อสร้างความเขา้ ใจใหเ้ กิดขน้ึ ระ การสือ่ สารเปน็ ส่อื ความคดิ ขอ กลุม่ หนึ่ง รู้ว่าตอ้ งการอะไร วิธีการสอ่ื มคี วามยงุ่ ยากซับซอ้ นมากข้นึ โดยเฉพ

คัญของการสื่อสาร มาพรอ้ มๆกับชวี ิตมนษุ ย์ การ ะไดร้ ับการพฒั นามาตลอดเวลา การสอ่ื สารในสมัยโลกโบราณหรือ ดหมายเลย กล่าวคือ คนเราส่ือสาร ะหว่างกัน องคนหนง่ึ เพอื่ จะให้อกี คนหรืออีก อสารได้รบั การพฒั นามาตลอดและ พาะในสังคมปัจจบุ ัน

ความหมายของการสอ่ื สาร อริสโตเตลิ การศึกษาวิชาวาทศ แสวงหา “วธิ ีการชักจงู ในท่ีพึงมอี ยู่ทุกร วาร์เรน ดับเบิลยู วีเวอร์ “กา หนึ่ง อาจมีผลต่อจิตใจของคนอีกคนห แต่เพียงการเขียนและการพูดเท่าน การแสดง บลั เลต์ และพฤติกรรมทุกอย เอ็ดเวิร์ด การตคี วามโดยสัญช โดยไม่รตู้ ัว ตอ่ ความคดิ และพฤตกิ รรมข จอร์จ เกิร์บเนอร์ การแสด สญั ญลกั ษณแ์ ละระบบสาร

ศลิ ป์หรอื การส่อื สาร วา่ คือ การ รปู แบบ” ารบวนการทุกอย่างท่ีจิตใจของคนๆ หน่ึง การสื่อสาร จึงไม่ได้หมายความ น้ัน หากยังรวมไปถึง ดนตรี ภาพ ยา่ งของมนษุ ย์อกี ด้วย ชาตญาณต่อท่าทางท่ีแสดงสัญลักษณ์ ของวัฒนธรรมบุคคล ดงกิริยาสัมพันธ์ทางสังคม โดยใช้

ความสาคญั เปน็ ของการ เ สอื่ สาร เป เ

นเอกลกั ษณข์ องชาติ เป็นพลังของการสรา้ งความสามัคคี เปน็ ส่ือกลางในการสื่อสาร เปน็ ส่ือกลางความเปน็ วิชาการ ป็นส่ือในการถา่ ยทอดวัฒนธรรม เป็นสอื่ ในการสรา้ งสรรคว์ รรณกรรม

๒.๓ ววิ ฒั นาการ ๑.ววิ ัฒน์ หมายถึง ความเจรญิ รงุ่ เรือง ๒.วิวฒั นาการ หมายถึง กระบวนการเป ทีด่ ขี ึ้นหรือเจรญิ ขึน้ ๓.ลายลักษณ์ เปน็ เครอื่ งมือสื่อความหม รปู ทรงของคน สัตว์ สิ่งของ เครื่องใช้ แ ๔.ลายสือ มีลกั ษณะเปน็ ลายเส้นสมมตทิ ครบถ้วน สามารถบอกความหมายท้งั ส่ว ละเอียดมากย่ิงข้ึน ๕.อักษร เครื่องมือสาหรบั ใช้บันทึกเสยี ง ตัวหนงั สือ คา พยางค์ สระ พยัญชนะ

รทางภาษา ความคล่คี ลายไปในทางเจริญ ปล่ียนแปลง หรอื คล่ีคลายไปสู่ภาวะ มายในยคุ แรกๆโดยถ่ายแบบมาจาก และธรรมชาตทิ ีล่ ้อมรอบตวั มนษุ ย์ ทีบ่ ่งถงึ การถา่ ยทอดเสียงคาพูดไว้ให้ วนท่เี ปน็ รปู ธรรมและนามธรรมได้ งคาพดู ไวม้ ใิ ห้สูญ หมายถงึ เสียง

๒.๔ ความรเู้ บ้อื งตน้ เกีย่ การสือ่ สาร หมายถงึ การติดต จะทาให้ฝ่ายหนึ่งรบั รคู้ วามหมายของอีก ส่ือสารเป็นสิง่ สาคัญตอ่ การดารงชีวิตขอ ตามลาพงั ไมไ่ ด้ ต้องอยู่รว่ มกันกับผอู้ ่นื ใ การส่ือสาร คือ การที่มนุษ ประสบการณ์ของตน ไปยังบุคคลอ่ืนแล อื่น มาปรับพฤติกรรมของตนเอง โด ลกั ษณะ

ยวกบั การส่อื สาร ตอ่ ระหว่างมนุษย์ดว้ ยวิธกี ารตา่ งๆ ซึง่ กฝา่ ยหนง่ึ แล้วเกิดผลตอบสนอง การ องมนษุ ย์ เพราะมนษุ ยจ์ ะอย่คู นเดยี ว ในชุมชนในสงั คม ษย์ถ่ายทอดความรู้ ความคิด หรือ ละการรับความรู้ความคิดจากบุคคล ดยกระบวนการของการส่ือสาร ๓

๒.๔ ความรเู้ บื้องต้นเกี่ย ๑.การใชร้ หสั สญั ญาณโดยตรง สัญลักษณ์ ภาษาเขียน ภาษาทา่ ทาง ตล ๒.การใชเ้ คร่อื งมือในการถ่ายท เครอื่ งมอื เช่น การใช้โสตทัศนปู กรณ์ ว ๓.การถา่ ยทอดโดยกระบวนกา ทางประเพณี ศาสนา วฒั นธรรม และร

ยวกบั การสอ่ื สาร ง เช่น การใช้สัญญาณเสียง ภาษาพดู ลอดจนรหัสสัญญาณอื่นๆ ทอด เปน็ การสอื่ สารโดยผา่ นทาง วทิ ยุกระจายเสยี ง ารทางสงั คม เชน่ การปฏบิ ตั ิสบื ทอด ระบบอน่ื ๆของสงั คม

ภาษาที่ไม่ใช้ถ้อยคาหรืออวจั นภาษา สามาร ๒.๑) เทศภาษา หมายถึง อวจั นภ ที่บคุ คลทาการสื่อสารกนั อยู่ ๒.๒) กาลภาษา หมายถงึ อวจั น หนึ่งของการสือ่ สารเพื่อแสดงเจตนาของผู้ส่ง ผู้สง่ สาร ๒.๓) เนตร หมายถงึ อวจั นภาษา อารมณ์ ความรู้สึกนึกคดิ ความประสงค์ แ ๒.๔) สมั ผัสภาษา หมายถงึ อวจั เพื่อความรู้สึกและอารมณ์ตลอดจนความปรา ผู้รับสาร ๒.๕) อาการภาษา หมายถงึ อวจั นภ เพื่อการสือ่ สารอันได้แก่การเคลื่อนไหวร่างกายเพ แขน ขา และลาตัว เปน็ ต้น

รถแบ่งออกได้เปน็ ๗ ประเภทดงั ต่อไปนี้ ภาษาทีป่ รากฏขึ้นจากลกั ษณข์ องสถานที่ นภาษาท่เี กิดจากการใช้เวลาให้เปน็ ส่วน งสารทีก่ ่อให้เกิดความหมายบางอย่างแก่ าทเ่ี กิดจากการใช้ดวงตาเพือ่ สือ่ สาร และทัศนคติบางประการในตัวผู้สง่ สาร จนภาษาที่เกดิ จากการใช้อาการสมั ผสั ารถนาทีฝ่ ังลึกอยู่ในใจของผู้ส่งสารไปยัง ภาษาที่อยู่ในรูปของการเคลื่อนไหวร่างกาย พือ่ การสอื่ สารอันไดแ้ กก่ ารเคลื่อนไหวศีรษะ

๒.๖) วัตถภุ าษา หมายถงึ อวจั นภา มาใช้เพื่อแสดงความหมายบางประการให้ปรากฏ ทกุ ลกั ษณะที่สามารถใช้ส่งสารบางประการได้ ร เครือ่ งประดบั และของใช้ติดตวั ก็ถือเป็นวตั ถุภ ๒.๗)ปริภาษา หมายถงึ อวจั นภาษา ถอ้ ยคาที่พูดออกไป

าษาทีเ่ กดิ จากการใช้และการเลือกวัตถุ ฏ วตั ถใุ นที่นี้หมายถงึ สิง่ ของทุกขนาด รวมท้ังเครือ่ งแต่งกาย ได้แก่ เสื้อผ้า ภาษาทั้งสนิ้ าที่เกิดจากการใช้น้าเสยี งประกอบ

๒.๓ ทกั ษะพ้นื ฐา

านทางภาษา

๒.๓ ทักษะพื้นฐานทางภาษา กระบวนการใช้ภาษาเพื่อการติดตอ่ สือ่ เกีย่ วขอ้ งกับทักษะพื้นฐานทางภาษาทงั้ ๔ ประก ๑)การฟงั การฟงั เป็นการรบั สารทีส่ าคญั และ มนุษย์ใช้การฟงั เพื่อการอยู่ร่วมกนั ในสังคม เพื่อ สมรรถภาพการพดู ๒)การพดู การพดู เป็นพฤติกรรมการสื่อสาร โ เปน็ ผู้กาหนดจุดมงุ่ หมายในการพดู ไว้แนน่ อน ผู้พ จึงจะสามารถถา่ ยทอดสารให้ผรู้ ับรู้และตอบสนอ

อสารของมนษุ ย์ มคี วามสมั พันธ์ การ ดงั ต่อไปนี้ ะเปน็ ประโยชน์ตอ่ ตนเองและสังคม อพฒั นาสติปญั ญา และเพื่อพฒั นา โดยที่ผพู้ ดู ซึ่งทาหนา้ ทีเ่ ปน็ ผสู้ ง่ สารจะ พูดจึงต้องใช้ศาสตรแ์ ละศลิ ป์ในการพดู องได้ตามจุดมุ่งหมายที่กาหนดไว้

๓)การอ่าน การอ่าน เปน็ กระบวนการทาความเข จะต้องมีความพร้อมทีจ่ ะอ่าน และมคี วามสามา พื้นฐานของสารด้วย กระบวนการอ่านจงึ ประกอ ความหมายของสาร การมปี ฏิกิรยิ าต่อสาร และ ๔)การเขียน การเขียน เปน็ วิธีการหนึง่ ในการสื่อส สื่อสารด้วยคาพูด เพราะการเขียนเป็นการสื่อสา สือ่ แนวคิดหรือขอ้ มลู ทั้งหมดของผู้เขยี นต้องถ่ายท ตัวอักษร

ข้าใจสาร ผู้ที่จะอ่านสารได้เขา้ ใจ ารถในการพิจารณาองค์ประกอบ อบด้วยการรู้จกั คา การเข้าใจ ะการรวบรวมความคดิ สาร มลี ักษณะแตกต่างไปจากการ ารที่มบี นั ทกึ เปน็ ลายลักษณ์อักษร การ ทอดออกมาโดยผ่านสัญลกั ษณ์ คือ

๒.๔ พระพุทธศาสนา

ากบั การส่อื สาร

๒.๔ พระพุทธศาสนากบั การสื่อสาร ปรชั ญาพื้นฐานทางพระพทุ ธศาสนาถือว่า อย่างแน่นอน ไมว่ ่ามนษุ ย์จะต้องการหรืไม่ก็ตาม ทา หากมนุษย์ต้องการจะหลดุ พ้นจากปัญหาชวี ิตเหล่านี้ก เผชญิ หน้าหาวิธกี ารแก้ปญั หาทเ่ี กดิ ขนึ้ นีใ้ ห้แยบคายท หน้าทข่ี องพทุ ธวิธกี ารสือ่ สารกค็ ือการช่วย แกป้ ัญหาด้วยตนเอง แต่การที่จะใหผ้ ู้รับสารเชื่อถือแ หน้าที่ส่งสารที่ดีต้องเพียบพร้อมสมบรู ณ์ทง้ั คุณสมบัต ภายนอก (ปรหติ สมบัติ) จงึ จะสามารถสร้างความเช ธรรมเรียกผู้ส่งสารเช่นนวี้ ่ากลั ยาณมติ ร (ปรโต โฆส พุทธวิธีการสือ่ สาร เป็นการสือ่ สารท้ังระ ทางพระพทุ ธศาสนาที่เริม่ ด้วยการเรียนรู้ (ปริยัติ) ป เพื่อใหช้ วี ิตมีอิสรภาพ (ปฎิเวธ) ซึง่ ลว้ นอยู่ในระบบก การสื่อสารทางพระพุทธศาสนาทีม่ าใชก้ ับ แสดงธรรมะที่มขี ้อมูลโดยการยกเอาธรรมะจากพระไ กลมกลืน

า “ปัญหาชีวติ ” ที่มนุษย์จะต้องประสบ างพระพทุ ธศาสนาเรียกว่า “ความทุกข์” ก็ยอมรบั ความจริงข้อนี้ และพร้อมที่จะ ทีส่ ุด เพื่อชีวติ จะไดเ้ ปน็ อิสระ ยใหม้ นุษย์รู้จักปญั หาและรวู้ ิธกี าร และยินดจี ะปฏิบัติตามหรือไม่นั้น ผู้ทา ติภายใน(อัตตหติ สมบัติ)ทั้งคุณสมบตั ิ ชื่อถือใหเ้ กดิ แก่ผู้รบั สารได้ ซึ่งในพทุ ธ ส) ของผู้รบั สาร ะบบโดยจะสังเกตไดจ้ ากข้ันตอนการศึกษา ปญั หาชวี ิตสู่วธิ ีการแกป้ ัญหา (ปฏิบตั ิ) การสื่อสารทั้งสนิ้ บพระสงฆ์จึงหมายถึง การเทศน์ การ ไตรปิฎก และชาดกมาแสดงอยา่ ง

พุทธวิธีการสือ่ สาร เป็นการสือ่ สารท การศึกษาทางพระพทุ ธศาสนาที่เริม่ ด้วยการเรียน แกป้ ญั หา (ปฏิบัติ) เพื่อให้ชีวิตมีอิสรภาพ (ปฎิเ ท้ังสิ้น การสือ่ สารทางพระพทุ ธศาสนาทมี่ าใ การแสดงธรรมะที่มีข้อมลู โดยการยกเอาธรรมะจ อย่างกลมกลืน

ทั้งระบบโดยจะสงั เกตไดจ้ ากขั้นตอน นรู้ (ปริยัติ) ปัญหาชีวติ สู่วิธกี าร เวธ) ซึ่งล้วนอยใู่ นระบบการสื่อสาร ใช้กับพระสงฆ์จงึ หมายถงึ การเทศน์ จากพระไตรปิฎก และชาดกมาแสดง

ขอบขา่ ย ของการ สื่อสารเชงิ พทุ ธ

ผู้สอนหรอื ผูน้ าเสนอ สง่ิ ทีส่ อนหรือสิ่งท่เี สนอ การสอนหรอื ลลี าการสอน ผ้รู ับสารหรอื ผบู้ ริโภค วิธกี ารสอนแบบตา่ งๆ จรยิ ธรรมหรอื จรรยาบรรณ

๒.๔.๒ บทบาทของการสื่อสารเชิงพุทธ การสือ่ สารมคี วามสาคญั และจาเป็นต การปกครอง การศึกษา วฒั นธรรมและกระบว สังคมกรณ์ การสือ่ สารเปน็ ท้ังศาสตร์และศิลปะท อย่างถ่องแท้ศาสตร์และศิลป์แห่งการสอื่ สารนี้ ท อัจฉริยภาพทีม่ ีอยู่ในตน เพื่อพัฒนาให้มศี กั ยภาพ ติดต่อสื่อสารท้ังกับตนเองและผอู้ ื่นโดยอาศัยสือ่ ต จึงมีความจาเป็นอย่างยิ่งทีผ่ ู้ประกอบการด้านกา ด้านนี้อย่างจริงจงั

ธ ต่อตนเอง เศรษฐกจิ สังคม การเมือง วนการทางสังคมบางท่าน เรียกว่า ทีผ่ ปู้ ระกอบการจะต้องเรียนรู้ให้เข้าใจ ทาให้ผเู้ รียนรู้จักวธิ ีค้นหาใหพ้ บ พสูงสดุ แลว้ นาออกมาใช้ในการ ต่างๆ ได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ ฉะนั้น ารสอื่ สารจะตอ้ งเรยี นรู้ศาสตร์และศิลป์

๒.๔.๓ องคป์ ระกอบผ้สู ง่ สารเชิงพทุ ๑) การสื่อสารภายในตนเอง เปน็ เป็นทั้งผู้สง่ สารและผู้รบั สาร มีระบบประสาท ภายในตนเอง เมื่อมีข้อมลู ข่าวสารมากระทบ ตา หู จมกู ลิ้น และกาย ประสารทและ ภาพและบันทกึ ไว้ในหมวดความจา เพื่อสื่อส ๒) การสื่อสารระหว่างบุคคล เปน็ ส่ง-รบั สารกนั โดยตรงหรือแบบตัวต่อตัว ๓) การสือ่ สารกลุ่มใหญ่ เปน็ การ โอกาสแลกเปลย่ี นสารกบั กลุ่มใหญไ่ ด้ยาก ๔) การสื่อสารในองคก์ ร เป็นการ ๕) การสื่อสารมวลชน เปน็ กระบว มากท่อี ยู่หา่ งไกลกันคนละท่ี พร้อมกันในเวล

ทธ นการสือ่ สารของบคุ คลเพยี งคนเดยี ว ทส่วนกลางทาหน้าท่ที ั้งรบั ทงั้ ส่ง บกับระบบประสาทท้ัง ๕ คือ ทาง ะสมองจะทาหน้าทร่ี บั วิเคราะห์เกดิ สารต่อไป นการสือ่ สารระหว่างสองคนขึ้นไป รสือ่ สารกับคนหมู่มาก ผู้ส่งสารมี รสื่อสารของคนในองค์กรเดียวกัน วนการสือ่ สารกบั ประชาชนจานวน ลาเดยี วกัน ผา่ นสื่อตา่ ง ๆ

กระบวนการสือ่ สารทีเ่ ราจามาจากต ทีน่ ิยมใช้กันมาก ได้แก่ แบบจาลอง S. คือ Sender ได้แก่ ผ้สู ่ง M. คือ Message ได้แก่ ข C. คือ Channel ได้แก่ ช่อ R. คือ Receivers ผ้รู บั สาร

ตะวนั ตกจะมีแบบจาลองต่างๆ ง S.M.C.R งสาร ข่าวสาร องทาง ร

บทบาทหนา้ ที่ของผู้สง่ สาร บทบาท หนา้ ทข่ี อง ผ้สู ่งสาร

รตามท่นี กั วิชาการตะวันตก ใหข้ อ้ มูลขา่ วสาร ใหค้ วามรู้ ใหก้ ารศกึ ษา โนม้ นา้ ว ใหค้ วามบันเทิง และอ่ืนๆ อกี ตามสถานการณ์

๒.๔.๕ คุณสมบัติของผสู้ ง่ สาร คุณสมบัติของผู้ส่งสารตามแนวตะวันตกนน้ั พอ ๑)มที กั ษะในการสื่อสาร คุณสมบตั ิใน David K. Berlo ได้แก่ ผู้ส่งสารต้องมคี วามชาน การอ่าน และการคิดหรือการให้เหตุผล ๒)มที ัศนคติทีด่ ี คือ มที ศั นคติทีด่ ีตอ่ ผู้รับสาร ๓)มคี วามรู้ ผสู้ ่งสารต้องมีความรู้อย ๓.๑) ความรเู้ กี่ยวกบั เรือ่ ง ๓.๒)ความรู้ในวิธีการทีจ่ ะส ๓.๓)ความรู้ในเรือ่ งกระบว รวมไปถงึ ความรู้เรือ่ ง ผู้รบั สาร ระบบสังคมแล

อสรุปได้ดงั นี้ นเรือ่ งทักษะการสือ่ สารตามแนวของ นาญในการพดู การเขียน การฟัง อตนเอง ต่อเรื่องทีจ่ ะสื่อสาร และต่อ ยา่ งน้อย ๓ เรื่อง คือ งทีจ่ ะสือ่ สารอย่างลึกซ้งึ สื่อสาร วนการ หรือเทคนิควิธใี นการสื่อสาร ละวัฒนธรรม

ธัมมญั ญตุ า เปน็ ผูร้ ธู้ รรมะ อัต สา คณุ สมบัติของผู้ มัต สง่ สารทีพ่ ึง ประสงคต์ าม แนวทางแห่ง พทุ ธะ ปุคคลปโรปรัญญุตา เป็นผูร้ ู้จ

ตถัญญุตา เปน็ ผ้รู ูจ้ กั เนื้อหา าระ อัตตญั ญุตา เปน็ ผรู้ ู้จกั ตนเอง ตตญั ญุตา เปน็ ผ้รู ู้จกั ความพอดี กาลัญญตุ า เป็นผ้รู ู้จกั เวลา ปรสิ ญั ญุตา เป็นผ้รู ูจ้ ักชมุ ชน จกั ความแตกต่าง

สรุป การใชภ้ าษาเพอ่ื การส่ือสารเปน็ เครอ่ื ง นับตั้งแตร่ ะดบั ครอบครวั ไปจนถงึ องคก์ เศรษฐกจิ สงั คม การเผยแผ่ศาสนา ล เพือ่ การติดต่อสือ่ สารกนั ทง้ั วัน

งมือท่สี าคญั อย่างมากในสังคม กรขนาดใหญ่ ไมว่ ่าจะเปน็ ดา้ น ลว้ นแลว้ จาตอ้ งมีการใช้ภาษา

ภาษากับ ผู้ช่วยศ

บทที่ ๓ บการสื่อสารยคุ ปจั จุบนั ศาสตราจารย์ ดร.ทิพย์ ขันแก้ว

วตั ถปุ ร • อธิบายความสมั พันธร์ ะหว่างภาษ • บอกทักษะการใช้ภาษาเพอ่ื การสื่อ • อธิบายกระบวนการเปลีย่ นแปลงท • วิเคราะห์สภาพการใชภ้ าษากบั กา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook