Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ภาษากับการสื่อสาร

ภาษากับการสื่อสาร

Description: ศึกษาความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับภาษากับการสื่อสาร การฟัง พูด อ่านและเขียนภาษาไทยเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน การอ่านคำร้อยแก้ว คำร้อยกรอง อ่านประกาศ แถลงการณ์ การเขียนจดหมาย ย่อความ เรียงความ โวหารต่าง ๆ การพูด การสนทนา บรรยาย อภิปราย มารยาทการพูด การฟัง

Search

Read the Text Version

างเป็นทางการ (ต่อ) ณ์ที่ประทบั ใจผูเ้ ล่า ตุการณ์ตามเวลา ะทบทวนเนอื้ เรื่อง รียมไวอ้ อกไปดู ท่องจา สกึ และอารมณ์

๖.๕.๒ การพดู อย่า ๖.๕.๒.๒ การพดู เลา่ เรอ่ื ง ๒.การเล่า ๒.๕ มคี วามรูส้ กึ จร ๒.๖ อาจแทรกบท ๒.๗ พยายามรกั ษา

างเป็นทางการ (ต่อ) ริงใจและมอี ารมณ์ ทสนทนาเข้าไปในการเล่า าเวลาในการพดู

๖.๕.๒ การพดู อย่า ๖.๕.๒.๓ การอธบิ าย ๑.ลกั ษณะการอธิบาย ๒.หลกั การอธิบาย ๑.เตรียมเนอื้ เรอ่ื ง ๒.เตรียมอุปกรณ์ ๓.พิจารณาเลอื กวธิ

างเป็นทางการ (ต่อ) ธกี ารอธบิ าย

๖.๕.๒ การพูดอยา่ ๖.๕.๒.๔ การพดู สาธิต ๑.หลักการพดู สาธติ ๑.กาหนดขอบเขตเน ๒.จัดลาดับของเนอื้ ห ๓.ใช้ภาษาท่งี ่าย ๔.เตรียมเคร่ืองมอื หร ๕.พดู อธิบายใหค้ วาม ๖.สนใจผ้ฟู งั ๗.ผู้ฟังต้องมองเหน็ ท ๘.ใหค้ วามสนใจเมือ่ ผ

างเป็นทางการ (ต่อ) นื้อหา หา รอื อุปกรณ์ มรู้ก่อน ทุกคน ผฟู้ ังลงมือปฏิบัติ

๖.๕.๒ การพูดอยา่ ๖.๕.๒.๔ การพูดสาธติ ๑.เครื่องมือท่ใี ช้ในการสาธ ๑.เครอ่ื งมือจริง ๒.เครื่องมือแทน ๓.เครื่องมือบุคคล

างเปน็ ทางการ (ต่อ) ธติ

๖.๕.๒ การพูดอยา่ ๖.๕.๒.๕ การสมั ภาษณ์ ๑.ประเภทสัมภาษณ์ ๑.ไม่เปน็ ทางการ ๒.เปน็ ทางการ ๒.วิธีสัมภาษณ์ ๑.ตวั ตอ่ ตวั ๒.แบบสอบถาม ๓.การใช้โทรศพั ท์ ๔.ทางวทิ ยุ ๕.ทางทีวี

างเปน็ ทางการ (ต่อ)

๖.๕.๒ การพดู อย่า ๖.๕.๒.๕ การสัมภาษณ์ ๓.องคป์ ระกอบการสัมภาษ ๑.ผู้สัมภาษณ์ -มมี นษุ ยสัม -มมี ารยาท -มคี วามรดู้ -มบี คุ ลิกภา -มีไหวพรบิ -ตรงตอ่ เวล

างเป็นทางการ (ต่อ) ษณ์ มพันธท์ ีด่ ี ทที่ดี ดี าพดี บและปฏภิ าณ ลา

๖.๕.๒ การพดู อย่า ๖.๕.๒.๕ การสัมภาษณ์ ๓.องคป์ ระกอบการสมั ภาษ ๒.ผใู้ ห้สัมภาษณ์ -บคุ คลสาคญั -กิจกรรมเพ่ือ -ประสบความ -มีชอ่ื เสยี งใน -ผปู้ ระสบภัย -แขกเมือง -ผลู้ ภ้ี ยั ทางกา

างเปน็ ทางการ (ต่อ) ษณ์ ญทางการเมือง อสงั คม มสาเร็จในการงาน นสังคม ยพบิ ัตติ ่างๆ ารเมอื ง

๖.๕.๒ การพดู อย่า ๖.๕.๒.๕ การสมั ภาษณ์ ๓.องคป์ ระกอบการสัมภาษ ๓.สถานทส่ี ัมภาษณ ๔.เวลาสมั ภาษณ์ ๕.การเตรียมการสมั

างเป็นทางการ (ต่อ) ษณ์ ณ์ มภาษณ์

๖.๕.๒ การพูดอย่า ๖.๕.๒.๕ การสมั ภาษณ์ ๔.การเตรียมการสมั ภาษณ ๑.นัดหมายผใู้ ห้สมั ภ ๒.ศึกษาผูใ้ หส้ มั ภาษ ๓.กาหนดหัวขอ้ ๔.จดั หาอุปกรณ์ที่จ

างเป็นทางการ (ต่อ) ณ์ ภาษณ์ ษณ์ จาเปน็ ตอ้ งใช้

๖.๕.๒ การพดู อย่า ๖.๕.๒.๖ การอภปิ ราย ๑.ประเภทการอภิปราย ๑.๑ การอภปิ รายก ๑.๒ การอภิปรายใน ๑.เปน็ คณะ ๒.แบบปาฐ ๒.บทบาทและหน้าที่ ๒.๑ การเริ่มตน้ ๒.๒ การกล่าวแนะ

างเป็นทางการ (ต่อ) กล่มุ นทีช่ มุ ชน ะ ฐกถา ะนา

๖.๕.๒ การพดู อยา่ ๖.๕.๒.๖ การอภปิ ราย ๒.บทบาทและหนา้ ท่ี ๒.๓ การกลา่ วถงึ วิธ ๒.๔ การเชญิ ผอู้ ภปิ ๒.๕ การสรุปในแต ๒.๖ การสรุปสาระส ๒.๗ การเชิญใหแ้ ส ๒.๘ การเฉลย่ี เวลา ๒.๙ การพดู สรปุ

างเป็นทางการ (ต่อ) ธีการอภปิ ราย ปราย ตล่ ะตอน สาคัญ สดงความคิดเหน็ าให้ผอู้ ภิปราย

๖.๕.๒ การพูดอยา่ ๖.๕.๒.๗ การโต้วาที ๑.องคป์ ระกอบของการโต้วาที ๑.๑ ญัตติ คือ หัวข้อเรื่องส ๑.๒ คณะโตวาที ๑.ประธาน ๒.ผโู้ ตว้ าที ๓.คณะกรรมการให ๔.ผรู้ กั ษาเวลา ๕.ผฟู้ ัง

างเปน็ ทางการ (ต่อ) สาหรับโตวาที ห้คะแนน

๖.๕.๒ การพูดอยา่ ๖.๕.๒.๗ การโต้วาที ๒.บทบาทและหน้าทีข่ องประธานก ๒.๑ กลา่ วทกั ทายผู้ฟงั เกร และแนะนาบญั ญัต ๒.๒ กล่าวแนะนาผูโ้ ต้วาทที ๒.๓ เชิญผูโ้ ต้วาทีพดู ตามล

างเปน็ ทางการ (ต่อ) การโต้วาที ริน่ นาการโต้วาที ตติ ทงั้ ๒ ฝา่ ย ลาดบั

๖.๕.๒ การพดู อย่า ข้นั ตอนการโตว้ าที ๑.เชิญหวั หน้าฝา่ ยเสนอพูด ๒.เชิญหัวหน้าฝ่ายค้านพูด ๓.เชิญผสู้ นับสนุนฝา่ ยเสนอ ๔.เชิญหวั หนา้ ฝ่ายคา้ นสรปุ ๕.เชญิ หวั หนา้ ฝา่ ยเสนอสร

างเป็นทางการ (ต่อ) ดในรอบแรก 5-7 นาที ดในรอบแรก อ ป รุป

๖.๕.๒ การพดู อย่า ขน้ั ตอนการโตว้ าที ๓.มารยาทในการโต้วาที ๑.ต้องพดู ไม่เกนิ เวลาที่กาห ๒.ตอ้ งไม่เอย่ ชอ่ื จรงิ หรือตา ๓.ไม่พาดพิงเร่ืองส่วนตวั ๔.ตอ้ งควบคุมอารมณใ์ ห้ได ๕.ต้องไมพ่ ดู เสยี งดงั ในลักษ

างเป็นทางการ (ต่อ) หนดไว้ าแหนง่ อ่ืนใด ด้ ษณะตะโกน

สรปุ ท การพูดเป็นสิ่งที่มีความจาเป เพื่อส่ือสาร ถ่ายทอดความรู้สึกนึกค ใหแ้ กค่ นต่างๆไดฟ้ ัง ทุกคนพูดได้ แต่มีคนอยู่ส่ว ท่ีถูกต้องกาลเทสะ หลักการและส พระพุทธศษาสนาจาแนกประเภทคนพดู ๑.คูถภาณี พูดไรส้ าระ แถมกอ่ ๒.ปปุ ผาณี พดู จาไพเราะ สภุ าพ ๓.มธรุ ภาณี พดู จากินใจ ชวนให

ทา้ ยบท ป็ น ต่ อ ก า ร เ ป็ น อ ยู่ ใ น ชี วิ ต ป ร ะ จ า วั น คิด ตลอดจนประสบการณ์ของเรา นน้อยท่ีพูดเป็น เพราะการเป็นพูด สิ่งที่เป็นคุณมีประโยชน์ต่อส่วนรวม ดไว้ ๓ คือ อความแตกแยก พ มีสาระ ห้คลอ้ ยตามและปฏบิ ัติ

บทที่ ๗ การอ่า

๗ าน

ความหมายและ ความสาคัญ การอา่ นในใจ บทท และออกเสียง การอ การอ่านรอ้ ย แกว้ ร้อยกรอง ลกั ษณะการอ่านท การวินจั สาร

องค์ประกอบและ จดุ มุ่งหมาย ที่ ๗ อ่าน ประเภท ทกั ษะ การพัฒนาทกั ษะ ทดี่ ี

๗.๑ ค ต้ังแต่มนุษยค์ ิดคน้ ตัวหนงั สอื ได เพราะสามารถบันทึกความรคู้ วามคิด เพ่อื ถ่ายทอดความรู้ความคิดนั้นใหแ้ การอ่านเปน็ ทักษะในการรบั สา การฟัง การอ่านเป็นการรับรคู้ วามห ทเ่ี ป็นรายลกั ษณ์อกั ษร การอา่ นเป็นส่ิงจาเป็นสาหรบั ค นกั ศกึ ษา เพราะความสาเรจ็ และสัม ความสามารถทางการอ่านของผู้เรยี

คานา ด้แล้ว โลกกก็ ้าวหนา้ ไปอย่างรวดเร็ว ด และเร่อื งราวลงไว้เป็นตวั หนงั สือ แกค่ นชน้ั หลังๆต่อมาได้ ารท่สี าคัญอีกทักษะหนึ่งนอกจาก หมายและเขา้ ใจความหมายจากสาร คนทั่วไป โดยเฉพาะนกั เรยี นและ มฤทธผิ์ ลของการศกึ ษาขน้ึ อยกู่ ับ ยนเป็นสาคญั

๗.๒ ความหมา การอ่าน เป็นคากรยิ า หมายถึง เรยี กวา่ อ่านออกเสียง ถา้ ไม่อา่ นออก สนทิ ต้งั ทวี การอา่ น หมายถึง ก เปน็ ถอ้ ยคาและความคดิ แลว้ นาความ เปน็ เพยี งเคร่ืองหมายแทนคาพูดและ ทอดหนึง่ หัวใจของการอา่ นจึงอยูท่ กี่ ในความน้ัน

ายของการอ่าน ง ว่าตามตวั หนงั สอื ถ้าออกเสยี งด้วย กเสียง เรยี กว่า อ่านในใจ การแปลความหมายของตวั อกั ษรออกมา มคดิ น้นั ไปใชใ้ ห้เกิดประโยชน์ ตวั อักษร ะคาพูดเป็นเพียงเสียงท่ีใช้แทนของจริงอกี การเข้าใจความหมายของคาทีป่ รากฏอยู่

๗.๒ ความหมายข สรปุ การอา่ น คือ การรับรู้ การ เครอ่ื งหมาย สัญลักษณ์ เครอ่ื งสอ่ื ควา เข้าใจ ออกมาเปน็ ความคิด ความเขา้ ความคิด ความเขา้ ใจน้ันไปใชใ้ หเ้ กิดป เหตุการณ์ รเู้ ทา่ ทันคนในสงั คม และส

ของการอ่าน (ตอ่ ) รแปลความหมายของตัวอักษร ามหมายต่างๆ ทป่ี รากฏและสร้างความ าใจเชงิ สื่อสาร แล้วผอู้ ่านสามารถนา ประโยชน์ ทาใหเ้ ป็นคนทันสมยั ทัน สรา้ งสรรค์สิง่ ใหม่ๆได้

๗.๓ ความสาค การอา่ นเปน็ กจิ กรรมสาคญั ประ ขอ้ ความหรอื หนงั สอื ต่างๆอย่เู สมอ ท มากหรอื น้อย และสามารถนาความร เพยี งใดน้นั ขนึ้ กับสภาพการศกึ ษา อ ความสามารถในการอา่ นจะดี ห โดยตรงต่อประสทิ ธภิ าพและผลสัมฤท เยาวชนในวยั เรียน ควรม่ันฝกึ ฝนตนเ คุณภาพ ซง่ึ จะทาใหเ้ ปน็ คนที่มคี ณุ ภา ดงั ที่ พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย หนังสือเป็นเสมือนคลังทรี่ วบรวมเรือ่ งราว

คัญของการอา่ น ะจาวันสาหรบั มนุษย์ เพราะต้องอ่าน ทงั้ ท่ตี ้งั ใจและไมไ่ ด้ต้งั ใจ สว่ นจะอา่ นได้ ร้ไู ปใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชนไ์ ด้มากหรอื น้อย อาชีพ โอกาส เพศและวยั ของแต่ละคน หรอื ไมด่ ี อา่ นช้าหรือเร็ว ย่อมมีผลกระทบ ทธทิ์ างการศึกษาของนิสิต นักศึกษา เองให้มนี ิสัยรกั การอ่านและเป็นนกั อา่ นท่ี าพของสังคมด้วย ยหู่ วั ภูมพิ ลอดุลยเดชมหาราช ว ความรู้ ความคิดวทิ ยาการทกุ ด้าน

๗.๓ ความสาค หนงั สอื มมี นาดวงจิต เริง ใหค้ วามรู้ สา ฉันจึงใฝ่ ใจส มวี ชิ า หล ลว้ นสะดวก คน้ วชิ าการ สร ชว่ั ชวี นั ฉัน

คญั ของการอ่าน มากมาย หลายชนิด งรืน่ ชื่นสดใส าเริง บนั เทงิ ใจ สมาน อา่ นทกุ วัน ลายอยา่ ง ต่างจาพวก นได้ ใหส้ ุขสนั ต์ รรมา สารพัน นอา่ นได้ ไม่เบ่ือเลยฯ

๗.๓ ๗.๓.๑ องคป์ ระ องคป์ ระกอบ ผูอ้ า่ น สาร ความห และ จดุ มงุ่ หมาย ๗.๓.๒ จุดมงุ่ หม การอ่าน ๑ ๒ ๓

ะกอบของการอ่าน หมาย การเลือกความหมาย การนาไปใช้ มายของการอา่ น ๑.เพ่อื ศกึ ษาหาความรู้ ๒.เพอ่ื ความบันเทงิ ใจ ๓.หาคาตอบในสงิ่ ท่ีต้องการ ๔.ฝึกทกั ษะในการอ่านออกเสยี ง

๗.๔ ๑) การอา่ นแบบ ประเภท ๒) การอา่ นแบ ๓) การอ่านอย่า ของ การอา่ น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook