นักการเมืองถิ่นจังหวัดอุดรธานี มีบุตร 4 คน คือ จารุภรณ์ ไชยสาส์น, จักรพรรดิ ไชยสาส์น, ต่อพงษ์ ไชยสาส์น, จิราภรณ์ ไชยสาส์น ต่อมาได้หย่าและ สมรสกับ นางทับทิม ไชยสาส์น มีบุตรด้วยกัน 3 คน คือ วชิระ ไชยสาส์น, อัจฉรา ไชยสาส์น และสุดารัตน์ ไชยสาส์น อาชีพข้าราชการตำแหน่งปลัดอำเภอ บทบาททางการเมือง เข้าสู่การเมืองโดยการสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎร จังหวัดอุดรธานี หลายสมัย และได้รับการแต่งตั้ง เป็นรัฐมนตรีครั้งแรกในรัฐบาลของพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ ในปี พ.ศ. 2529 ในตำแหน่ง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง พาณิชย์ ต่อมาได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี หลายกระทรวง อาทิ กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและ สิ่งแวดล้อม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และทบวงมหาวิทยาลัย นายประจวบ ไชยสาส์น เคยดำรงตำแหน่งสำคัญใน พรรคการเมืองหลายพรรค อาทิ รองเลขาธิการพรรค แนวประชาธิปไตย อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตเลขาธิการพรรคชาติพัฒนา อดีตหัวหน้าพรรคเสรีธรรม และต่อมาได้ตัดสินใจยุบพรรคเสรีธรรม รวมเข้ากับพรรค ไทยรักไทย ของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร และรับตำแหน่ง กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ในปี 2549 นายประจวบ ไชยสาส์น ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี เนื่องจากเป็น กรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ที่ถูกยุบในคดียุบพรรค การเมือง พ.ศ. 2549 นายประจวบ ไชยสาส์น ใช้เวลาใน 286
ข้อมูลการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระหว่างถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง (พ.ศ. 2553) เข้ารับการศึกษา หลักสูตรผู้บริหารระดับสูง ของสถาบันวิทยาการตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในรุ่นที่ 11 และเป็น รุ่นเดียวกันกับนักการเมืองชื่อดังอีกหลายคน อาทิ นายสรอรรถ กลิ่นประทุม นางสาวนริศรา ชวาลตันพิพัทธ์ ร้อยตรีหญิง ระนองรักษ์ สุวรรณฉวี นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ นายแพทย ์ บุรณัชย์ สมุทรักษ์ ฯลฯ นายประจวบ ไชยสาส์น ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎร (7 สมัย) มีรายละเอียด ดังต่อไปนี้ 1. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี เขต 3 แบบ แบ่งเขต สังกัดพรรคชาติไทย พ.ศ. 2526 พื้นที่ อำเภอกุมภวาปี อำเภอโนนสัง อำเภอโนนสะอาด อำเภอหนองวัวซอ อำเภอ ศรีธาตุ และกิ่งอำเภอหนองแสง 2. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี เขต 3 แบบ แบ่งเขต สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ พ.ศ. 2529 พื้นที่ อำเภอ กุมภวาปี อำเภอศรีธาตุ อำเภอวังสามหมอ อำเภอหนองหาน อำเภอบ้านดุง กิ่งอำเภอทุ่งฝน และกิ่งอำเภอ ไชยวาน 3. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี เขต 4 แบบ แบ่งเขต สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ พ.ศ. 2531 พื้นที่ อำเภอ กุมภวาปี อำเภอศรีบุญเรือง อำเภอกุดจับ อำเภอโนนสัง อำเภอโนนสะอาด อำเภอหนองวัวซอ และอำเภอหนองแสง 4. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี เขต 4 แบบ แบ่งเขต สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ เมือ มีนาคม พ.ศ. 2535 287
นักการเมืองถ่ินจังหวัดอุดรธานี พื้นที่ อำเภอกุมภวาปี อำเภอศรีบุญเรือง อำเภอกุดจับ อำเภอ โนนสัง อำเภอโนนสะอาด อำเภอหนองวัวซอ และอำเภอ หนองแสง 5. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี เขต 4 แบบแบ่งเขต สังกัดพรรคชาติพัฒนา (พ.ศ. 2535) เมื่อ กันยายน พ.ศ. 2535 พื้นที่ อำเภอกุมภวาปี อำเภอศรีบุญเรือง อำเภอ กุดจับ อำเภอโนนสัง อำเภอโนนสะอาด อำเภอหนองวัวซอ และอำเภอหนองแสง 6. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี เขต 4 แบบแบ่งเขต สังกัดพรรคชาติพัฒนา (พ.ศ. 2535) เมือ พ.ศ. 2538 พื้นที่อำเภอกุมภวาปี อำเภอโนนสะอาด อำเภอหนองแสง และอำเภอศรีธาตุ 7. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี เขต 4 แบบแบ่งเขต สังกัดพรรคชาติพัฒนา (พ.ศ. 2535) เมือ พ.ศ. 2539 พื้นที่อำเภอกุมภวาปี อำเภอโนนสะอาด อำเภอ หนองแสง และอำเภอศรีธาตุ 34. นายรักเกียรติ สุขธนะ เกิดเมื่อ 4 เมษายน พ.ศ. 2497 สมรสกับนางสุรกัญญา สุขธนะ ลูกชาย นายสุวิชชา สุขธนะ การศึกษาปริญญาตรี นิติศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง รุ่น 3 มัธยมศึกษา ตอนปลาย โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย อดีตสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี 7 สมัย และอดีตรัฐมนตรี 5 สมัย เมื่อ พ.ศ. 2541 ระหว่างที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวง สาธารณสุข ในสมัยรัฐบาลชวน หลีกภัย ถูกกล่าวหาว่า 288
ข้อมูลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร รับสินบน 5 ล้านบาทจากบริษัทยา และมีพฤติการณ์ร่ำรวย ผิดปกติ ศาลมีคำพิพากษาใน พ.ศ. 2546 ให้จำคุกและ ยดึ ทรพั ย ์ นายรกั เกยี รตไิ ดอ้ ปุ สมบทเปน็ พระภกิ ษใุ นพทุ ธศาสนา โดยได้รับฉายาว่า “รกฺขิตธมฺโม” จำพรรษาและปฏิบัติธรรมอยู่ ณ ศูนย์ปฏิบัติธรรมวังพญานาค วัดใหม่สุขธนะศรีนคราราม บ้านวังชัย ตำบลเวียงคำ อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเคยเป็นสำนักงานเก่าเมื่อสมัยเป็นนักการเมือง มีบทบาทใน การเทศนาและให้ข้อเตือนใจนักการเมืองทั้งหลาย และได้ลา สิกขาบท เมื่อวันที่ 9 มกราคม พ.ศ. 2556 รวมระยะเวลาบวช ทั้งสิ้น 3 พรรษา 2 เดือน บทบาททางการเมือง 1. สมาชิกสภาจังหวัดอุดรธานี (ส.จ.) เมื่อ พ.ศ. 2523 2. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานีเขตเลือกตั้ง ที่ 3 สังกัดพรรคกิจสังคม พ.ศ. 2526 พื้นที่อำเภอกุมภวาปี อำเภอโนนสัง อำเภอโนนสะอาด อำเภอหนองวัวซอ อำเภอ ศรีธาตุ และกิ่งอำเภอหนองแสง 3. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี เขต เลือกตั้งที่ 4 สังกัดพรรคกิจสังคม พ.ศ.2529 พื้นที่อำเภอ ศรีบุญเรือง อำเภอโนนสัง อำเภอโนนสะอาด อำเภอ หนองวัวซอ และกิ่งอำเภอหนองแสง 4. เลขานุการรัฐมนตรี พ.ศ. 2529 5. เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและการพลังงาน เมือวันที่16 สิงหาคม พ.ศ. 2531 289
นักการเมืองถิ่นจังหวัดอุดรธานี 6. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี เขต เลือกตั้งที่ 4 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ พ.ศ. 2531 พื้นที่ อำเภอ กุมภวาปี อำเภอศรีบุญเรือง อำเภอกุดจับ อำเภอโนนสัง อำเภอโนนสะอาด อำเภอหนองวัวซอ และอำเภอหนองแสง 7. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี เขต เลือกตั้งที่ 4 สังกัดพรรคกิจสังคม เมื่อวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2535 พื้นที่อำเภอกุมภวาปี อำเภอศรีบุญเรือง อำเภอ กุดจับ อำเภอโนนสัง อำเภอโนนสะอาด อำเภอหนองวัวซอ และอำเภอหนองแสง 8. ร ั ฐ ม น ต ร ี ช ่ ว ย ว ่ า ก า ร ก ร ะ ท ร ว ง ส า ธ า ร ณ ส ุ ข 29 กันยายน พ.ศ. 2535 9. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี เขต เลือกตั้งที่ 4 สังกัดพรรคกิจสังคม เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม 2538 พื้นที่อำเภอกุมภวาปี อำเภอโนนสะอาด อำเภอหนองแสง และ อำเภอศรีธาตุ 10. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 11. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2539 และรักษาการอยู่จนถึง วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 (ยุบสภา 27 ก.ย.2539) 12. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอุดรธานี เขต 4 พรรค กิจสังคม เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 (ลาออก) พื้นที่ อำเภอกุมภวาปี อำเภอโนนสะอาด อำเภอหนองแสง และ อำเภอศรีธาตุ 290
ข้อมูลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 13. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 29 พฤศจิกายน พ.ศ.2539 (พ้นจากตำแหน่ง 7 พ.ย. 2540 เนื่องจากนายกฯ ลาออก) 14. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2540 (ลาออก 15 ก.ย. 2541) คดที ุจริตรับสนิ บน นายรักเกียรติ (รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข 14 พฤศจิกายน 2540 ลาออก 15 ก.ย. 2541)) เป็นรัฐมนตรี คนแรกที่ต้องโทษจำคุกในคดีทุจริตรับสินบน ตามการชี้มูล ความผิดของคณะกรรมการป้องกัน และปราบปรามการทุจริต แห่งชาติ (ป.ป.ช.) ฐานทุจริตรับเงินสินบน 5 ล้านบาทจาก บริษัทยา ทำให้สาธารณสุขจังหวัดต้องจัดซื้อยาในราคาแพง กว่าปกติตั้งแต่ 50 % ถึงกว่า 300% ในพื้นที่ 34 จังหวัด ทั่วประเทศ ความเสียหายโดยประมาณ 181.7 ล้านบาท โดยเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2546 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นายรักเกียรติยังเป็นจำเลยในคดีร่ำรวยผิดปกติอีกด้วย โดยวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2546 ศาลฎีกาแผนกคดีอาญา ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้มีคำพิพากษาให้ทรัพย์สินของ นายรักเกียรติ จำนวน 233.88 ล้านบาท ตกเป็นของแผ่นดิน อนึ่งระหว่างที่ดำเนินกระบวนพิจารณานั้นได้มีการเคลื่อนย้าย เงินสดออกจากบัญชีที่เกี่ยวข้อง ทำให้ในที่สุดกรมบังคับคดีต้อง ยึดอสังหาริมทรัพย์ของนายรักเกียรติแทน นอกจากนี้มีโทษ จำคุกตามคดีเช็ค อีก 30 เดือน รวมทั้งสิ้นเป็น 17 ปี 6 เดือน 291
นักการเมืองถ่ินจังหวัดอุดรธานี การหลบหนแี ละการรบั โทษ นายรักเกียรติหลบหนีไม่มาฟังคำพิพากษา จนกระทั่ง มีผู้พบเห็นนายรักเกียรติออกกำลังกายในสวนสาธารณะ ย่านปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี จึงถูกตำรวจจับกุมตัวมารับโทษ ตามคำพิพากษาตั้งแต่วันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2547 ภายหลัง ที่เข้ารับโทษที่เรือนจำคลองเปรม นายรักเกียรติ ได้รับ การลดโทษเหลือ 9 ปี 2 เดือน และ 7 ปี 6 เดือน ตามลำดับ นายรักเกียรติได้รับโทษจำคุกนานกว่า 5 ปี เหลือโทษจำคุกจริง อีก 2 ปี 6 เดือน หรือประมาณ 1 ใน 3 จึงเป็นคุณสมบัติตาม เกณฑ์การขอพักการลงโทษ คณะกรรมการพิจารณา 35. นายเกียรติชัย ชัยเชาวรัตน์ เกิดเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2481 เป็นบุตรของ นายเตี่ยเซ้ง กับนางหงษ์ ชัยเชาวรัตน์ สำเร็จการศึกษา ปริญญาตรีสาขาบริหารธุรกิจ จาก Pacific Southern University บทบาททางการเมือง 1. ลงรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัด อุดรธานี และได้รับเลือกตั้งเป็นครั้งแรกใน พ.ศ. 2526 ได้รับ เลือกตั้ง จนถึง พ.ศ. 2539 2. ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง อุตสาหกรรม ในรัฐบาลนายชวน หลีกภัย 3. เปน็ รฐั มนตรชี ว่ ยวา่ การกระทรวงมหาดไทย ในรฐั บาล นายบรรหาร ศิลปอาชา 292
ข้อมูลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 4. เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในรัฐบาลพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ เกียรติชัย ชัยเชาวรัตน์ ได้รับการเลือกตั้งเป็นสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว 6 สมัย คือ 1. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการ ทั่วไป พ.ศ. 2526 จังหวัดอุดรธานี สังกัดพรรคกิจสังคม เขตเลือกตั้งที่ 4 อำเภอหนองหาน อำเภอวังสามหมอ อำเภอ บ้านดุง กิ่งอำเภอสร้างคอม กิ่งอำเภอไชยวาน และกิ่งอำเภอ ทุ่งฝน 2. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการ ทั่วไป พ.ศ. 2529 จังหวัดอุดรธานี สังกัดพรรครวมไทย (พ.ศ. 2529) เขตเลือกตั้งที่ 4 อำเภอศรีบุญเรือง อำเภอโนนสัง อำเภอ โนนสะอาด อำเภอหนองวัวซอ และกิ่งอำเภอหนองแสง 3. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการ ทั่วไป มีนาคม พ.ศ. 2535 จังหวัดอุดรธานี สังกัดพรรคความ หวังใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 3 อำเภอบ้านดุง,อำเภอหนองหาน, อำเภอไชยวาน, อำเภอศรีธาตุ, อำเภอวังสามหมอ, อำเภอ ทุ่งฝน และอำเภอสร้างคอม 4. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการ ทั่วไป กันยายน พ.ศ. 2535 จังหวัดอุดรธานี สังกัดพรรค ความหวังใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 3 อำเภอบ้านดุง อำเภอ หนองหาน อำเภอไชยวาน อำเภอศรีธาตุ อำเภอวังสามหมอ อำเภอทุ่งฝน อำเภอสร้างคอม และ กิ่งอำเภอพิบูลย์รักษ์ 293
นักการเมืองถ่ินจังหวัดอุดรธานี 5. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการ ทั่วไป พ.ศ. 2538 จังหวัดอุดรธานี สังกัดพรรคความหวังใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 2 อำเภอหนองหาน อำเภอสร้างคอม อำเภอ บ้านดุง อำเภอทุ่งฝน อำเภอไชยวาน อำเภอวังสามหมอ กิ่งอำเภอพิบลู ย์รักษ์ และกิ่งอำเภอกู่แก้ว 6. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการ ทั่วไป พ.ศ. 2539 จังหวัดอุดรธานี สังกัดพรรคความหวังใหม่ เขตเลือกตั้งที่ 2 อำเภอหนองหาน อำเภอสร้างคอม อำเภอ บ้านดุง อำเภอทุ่งฝนอำเภอไชยวาน อำเภอวังสามหมอ กิ่งอำเภอพิบูลย์รักษ์ และกิ่งอำเภอกู่แก้ว 36. นายประสพ บุษราคัม เกิดเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2484 เป็นบุตรของ นายบุญแปลง กับนางคุณ บุษราคัม สำเร็จการศึกษา นิติศาสตร์บัณฑิต จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง สถานที่เกิด บ้านเลขที่ 125 ตำบลวังชัย อำเภอน้ำพอง จังหวัดขอนแก่น ที่อยู่ปัจจุบันบ้านเลขที่ 122 ต. ผักตบ อ. หนองหาน จังหวัด อุดรธานี บทบาททางการเมือง ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัด อุดรธานี ครั้งแรก ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2522 และได้รับเลือก เรื่อยมา จนถึง พ.ศ. 2538 รวม 6 สมัย คือ 1. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2522 จังหวัดอุดรธานี สังกัดพรรคกิจสังคม เขต 2 แบบ แบ่งเขต บริเวณพื้นที่ อำเภอกุมภวาปี อำเภอโนนสะอาด 294
ข้อมูลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อำเภอศรีธาตุ อำเภอหนองหานอำเภอบ้านดุง กิ่งอำเภอ สร้างคอม กิ่งอำเภอวังสามหมอ กิ่งอำเภอไชยวาน กิ่งอำเภอ ทุ่งฝน 2. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2526 จังหวัดอุดรธานี สังกัดพรรคกิจสังคม เขต 4 แบบ แบ่งเขต บริเวณพื้นที่ อำเภอหนองหาน อำเภอวังสามหมอ อำเภอบ้านดุง กิ่งอำเภอสร้างคอม กิ่งอำเภอไชยวาน และ กิ่งอำเภอทุ่งฝน 3. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2529 จังหวัดอุดรธานี สังกัดพรรคกิจสังคม เขต 3 แบบ แบ่งเขต บริเวณพื้นที่ อำเภอกุมภวาปี อำเภอศรีธาตุ อำเภอ วังสามหมอ อำเภอหนองหาน อำเภอบ้านดุง กิ่งอำเภอทุ่งฝน และกิ่งอำเภอไชยวาน 4. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2531 จังหวัดอุดรธานี สังกัดพรรคกิจสังคม เขต 3 แบบ แบ่งเขต บริเวณพื้นที่ อำเภอบ้านดุง อำเภอหนองหาน อำเภอ ไชยวาน อำเภอศรีธาตุ อำเภอวังสามหมอ กิ่งอำเภอทุ่งฝน และ กิ่งอำเภอสร้างคอม 5. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป กันยายน พ.ศ. 2535 จังหวัดอุดรธานี สังกัดพรรคชาติพัฒนา (พ.ศ. 2535) เขต 3 แบบแบ่งเขต บริเวณพื้นที่ อำเภอบ้านดุง อำเภอหนองหาน อำเภอไชยวาน อำเภอศรีธาตุ อำเภอ วังสามหมอ อำเภอทุ่งฝน อำเภอสร้างคอม และกิ่งอำเภอ พิบูลย์รักษ์ 295
นักการเมืองถิ่นจังหวัดอุดรธานี 6. การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการ ทั่วไป พ.ศ. 2538 จังหวัดอุดรธานี สังกัดพรรคชาติพัฒนา (พ.ศ. 2535) เขต 2 แบบแบ่งเขต บริเวณพื้นที่อำเภอหนองหาน อำเภอสร้างคอม อำเภอบ้านดุง อำเภอทุ่งฝน อำเภอไชยวาน อำเภอวังสามหมอ กิ่งอำเภอพิบูลย์รักษ์ และกิ่งอำเภอกู่แก้ว 7. ลงรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัด อุดรธานี เขตเลือกตั้งที่ 3 (แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง) ได้แก่ อำเภอ เพ็ญ บ้านดุง สร้างคอม ทุ่งฝน พิบูลย์รักษ์ สังกัดพรรค พลังประชาชน เมื่อ พ.ศ. 2550 แต่โดนใบแดง และลงรับสมัคร เลือกตั้งอีกครั้งแบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรคเพื่อไทย เมื่อ พ.ศ. 2554 แต่ไม่ได้รับเลือกตั้ง 8. ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เมื่อ พ.ศ. 2526 ในรัฐบาลพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ (ครม.43) แทนที่นายผัน บุญชิต ที่ถูกปรับ ออกจากตำแหน่ง 9. ดำรงตำแหน่งประธานคณะกรรมการปรับปรุงและ พัฒนากฎหมายฯ เมื่อ พ.ศ. 2555 37. นายทองสวย สหัสทัศน์ นายทองสวย สหัสทัศน์ อดีตนักธุรกิจผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท SLOT (The Skill Labour of Thailand) ร่วมกับนายประจวบ ไชยสาสน์ อดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานีหลาย สมัย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี (ชุดที่ 15) เขต 1 เมื่อ พ.ศ. 2529 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ พื้นที่อำเภอเมือง อุดรธานี อำเภอเพ็ญ และกิ่งอำเภอสร้างคอม 296
ข้อมูลการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 38. นายสมภาพ ศรีวรขาน อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดหลายจังหวัดและเคยเป็น ผวู้ า่ ราชการจงั หวดั อดุ รธานรี ะหวา่ ง 1 ต.ค. 2523 - 30 ก.ย. 2527 บทบาททางการเมอื ง 1. ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ.2521 – กันยายน พ.ศ. 2522 2. ผู้ว่าราชการจังหวัดมหาสารคาม เมื่อ พ.ศ. 2522 – พ.ศ. 2523 3. ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี เมื่อ 1 ตุลาคม พ.ศ.2523 – 30 กันยายน พ.ศ.2527 4. เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี (ชุดที่ 15) เขต 2 สังกัดพรรคราษฎร เมื่อ พ.ศ. 2529 พื้นที่ อำเภอ หนองบัวลำภู, อำเภอกุดจับ, อำเภอน้ำโสม, อำเภอบ้านผือ, อำเภอนากลาง และอำเภอสุวรรณคูหา 39. นายไตรภพ เมาะราศี ข้าราชการครู ได้รับฉายา “วีรชนคนนักสู้ครูประชาบาล” เนื่องจากเป็นหนึ่งในการเรียกร้องต่อสู่เพื่อสิทธิของครู เมื่อช่วง วันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2520 ประกาศคณะปฏิวัติฉบับที่ 7 โดย พลเอกเกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ เรื่องการจ่ายเงินเพิ่มค่าครองชีพ ชั่วคราวให้กับข้าราชการพลเรือน แต่ในส่วนของครูประชาบาล ไม่ได้รับสิทธิดังกล่าว เพราะเป็นเสมือนข้าราชการส่วนจังหวัด ต่อมาเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2520 ครูประชาบาลส่วนหนึ่ง 297
นักการเมืองถิ่นจังหวัดอุดรธานี ได้ออกหนังสือนัดพลพรรคประมาณ 50 จังหวัดไปเจอกันที่ คุรุสภาในวันที่ 7 มกราคม พ.ศ. 2521 และใช้ ยุทธศาสตร์วันครู 16 มกราคม พ.ศ. 2521 เป็นวันเคลื่อนกำลังพลและยื่นข้อ เรียกร้อง จากนั้นเป็นต้นมาครูประชาบาลไม่เคยใช้ยุทธศาสตร์ วันครูในการต่อสู้และเรียกร้องเพื่อพัฒนาและยกระดับวิชาชีพ ครูอีกเลยทั้งๆ ที่วันครูคือวันแห่งอำนาจ คือวันแห่งพลังของครู ตำนานประวัติศาสตร์ของการต่อสู้ของนักรบประชาบาล ได้กล่าวถึงครูเหล่านี้อย่างชื่นชมและควรยกย่องให้เป็น “วีรชน คนนักสู้ครูประชาบาล” ประกอบด้วย ครูวิวัฒนไชย ณ กาฬสินธุ์, ครูบุญ แก้วบุดดา, ครูนิพนธ์ ชื่นตา, ครูเจริญ การุญ, ครูประมวล ณ อุบล, ครูอารี อุทัยพร, ครูวัสการ ช่วยชูวงศ์, ครูดี ชัยวรรณ, ครูประเวศ วินิจม, ครูไตรภพ เมาะราษี, ครูคำ พันธ์ ป้องปาน,ครูปรีดา บุญเพลิง, ครูอุตสาห์ พาสกุล, ครูวิทยา จันทเนตร, ครูสุชน ชาลีเครือ, ครูกิตติชัย เตียสกุลม ครูชิงชัย มงคลธรรม, ครูสังข์ทอง ศรีธเรศ, ครูผดุง สาโยธา, และพ่อครูแม่ครูอีกจำนวนมากที่ประวัติศาสตร์หน้านี้ไม่อาจ กล่าวถึงได้ในข้อกำจัดของตำนานบทนี้ การต่อสู้ครั้งนั้นนำ ไปสู่การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ ครูประชาบาล กล่าวคือการโอนครูประชาบาลทั้งหมด มาสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ ในปี พ.ศ. 2523 บริหารจัดการศึกษาโดยคณะกรรมการตั้งแต่ระดับ กรม ระดับจังหวัด ระดับอำเภอ และระดับกลุ่มโรงเรียน กอบกู้ เกียรติยศและศักดิ์ศรีคืนมา “มิติใหม่ของครูบ้านนอก” การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นเพราะวีรชนนักสู้ครูประชาบาล เหล่านั้นได้เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของครูประชาบาล ไปสู่ชีวิต 298
ข้อมูลการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ครูประถมศึกษาในด้านต่างๆ ได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจยิ่ง ถึงคุณูปการของการต่อสู้ การไม่ยอมกับอธรรมใดๆ ทั้งสิ้น เช่น ด้านเกียรติยศและศักดิ์ศรี ได้ถูกกอบกู้คืนกลับมาอย่างเต็ม ภาคภูมิใจทั้งในสังคม ในชุมชน ในหมู่บ้านหรือในงานพิธีกรรม ต่างๆ ครูประถมศึกษาคือแบบอย่าง คือผู้นำ สังคม ด้าน สวัสดิการและสวัสดิภาพ กล่าวกันว่าวันนี้ข้าราชการครูสังกัด สปช.มีสิทธิในสวัสดิภาพ และสวัสดิการเทียบเท่าข้าราชการ ในสังกัดกระทรวงทบวงกรมอื่นๆ บางครั้ง บางกรณีอาจจะได้ มากกว่าด้วยซ้ำ ไปเช่นมีวันหยุดวันปิดเทอม กองทุนสวัสดิการ มีเงินประจำตำแหน่ง เป็นต้น ด้านขวัญและกำลังใจ อาจจะ กล่าวได้ว่ามีเพียงกรมเดียวเท่านั้นที่ข้าราชการมีพลังฮึกเหิม กล้าวิพากษ์วิจารณ์ต่อนโยบายของรัฐบาล รัฐมนตรี อธิบดีหรือ ผู้บังคับบัญชาระดับจังหวัดได้ ด้านการพัฒนาวิชาชีพ สามารถ พัฒนาวิชาชีพของครูประถมศึกษาให้ก้าวไปข้างหน้าทัดเทียม กับข้าราชการครูในสังกัดกรมอื่นๆ และมีการเชื่อมโยงกับครูใน ต่างประเทศด้วย ด้านอำนาจในการต่อรองกับผู้บังคับบัญชา เพราะการบรหิ ารจดั การศกึ ษาของ สปช.เปน็ ระบบคณะกรรมการ ทุกระดับจึงทำให้อำนาจของผู้บังคับบัญชาไม่ผูกขาด มีการ ถ่วงดุลจากผู้แทนครูอยู่ตลอดเวลา ด้านอิสระทางจิตวิญญาณ ของคำว่าครู ไม่มีอิทธิพลอื่นใดมาครอบงำครูประถมศึกษาได้ มีการจัดตั้ง ชมรม สมาคม ครูและเครือข่ายครูทั่วประเทศขึ้นมา ต่อรองในเรื่องของวิชาชีพ ประเด็นปัญหาสาธารณะด้าน การศึกษาสังคมชาติ นับจากวันที่ครูประชาบาลได้มาสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติเป็นต้นมา แนวทางการต่อสู้ของครูประถมศึกษาได้เริ่มเปลี่ยนแปลงไปจาก 299
นักการเมืองถ่ินจังหวัดอุดรธานี เดินขบวน ประท้วง เรียกร้อง กดดัน เจรจาต่อรองใช้กำลังคน มาสู่การสร้างเวทีทางปัญญา หาทางออกบนเหตุผลและ หลักการ มีหลักทาง วิชาการมากยิ่งขึ้นนานๆ ครั้งใช้กำลังคน มาเจรจา ต่อรองเพื่อกดดัน สมาพันธ์สมาคมครูประถมศึกษา แห่งประเทศไทย ชมรมครูประชาบาลภาคตะวันออกเฉียงเหนือ สมาคมครูจังหวัดต่างๆ คือการพัฒนาการต่อสู้ระหว่าง “การกดดันกับการเสนอ แนวคิดหรือปัญญาเพื่อหาทางออก” โดยใช้เวทีสัมมนา ประชุมสัมมนา การเชื่อมโยงกับเครือข่าย องค์การครูนานาชาติ การเชื่อมโยง ประสานกับฝ่ายการเมือง ฝ่ายรัฐบาล นักวิชาการ ฝ่ายค้าน ทำให้กระบวนการต่อสู้ของ ครูประถมศึกษาเริ่มเป็นรูปแบบ มีการกำหนดยุทธศาสตร์ ยุทธวิธีมากยิ่งขึ้น แม้ครู สปช.หรือครูประถมศึกษาจะ ปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ในการต่อสู้ไปก็ตาม แต่การเปลี่ยนแปลง ครั้งใหญ่ครั้งสำคัญก็มาถึง แทบจะเรียกได้ว่า พลิกฟ้าพลิก แผ่นดินทีเดียว พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 คือแผนการเปลี่ยนแปลงใหญ่ครั้งสำคัญของการศึกษาไทย โดยเฉพาะต่อครูประถมศึกษา ซึ่งเป็นหนึ่งในจำนวนขององค์กร ที่ถูกเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ด้วย จากครูประถมศึกษาสู่คร ู การศึกษาขั้นพื้นฐาน เมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2545 คือวันเปลี่ยน ผ่าน วันเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ครั้งสำคัญของวงการ ศึกษา ไทย ตามบทบัญญัติในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พุทธศักราช 2542 ในบทเฉพาะกาล เพราะหมายถึงการยุบ กระทรวงศึกษาธิการ ยุบทบวงมหาวิทยาลัย ยุบ 14 กรม 1 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติมาเป็นรูปแบบ การบริหารกระทรวงใหม่ที่อยู่อาศัยองค์คณะกรรมการตั้งแต่ 300
ข้อมูลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระดับกระทรวงฯ ลงมาถึงระดับเขตพื้นที่และ ระดับสถานศึกษา ภายใต้โครงสร้างใหม่ 178 เขต และเพิ่มเป็น 185 เขต ทั่วประเทศ หากมองภาพรวมเค้าโครงภายนอก จะพบว่า การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ไม่แตกต่างจากการเปลี่ยนแปลงจาก ครูประชาบาลมาเป็นครูประถมศึกษา เพราะรูปแบบการบริหาร จัดการใช้ “คณะกรรมการ” ตั้งแต่ระดับกระทรวงฯ ลงมาถึง ระดับโรงเรียนเช่นกัน ต่างกันตรงที่คราวนี้ไม่ เฉพาะ ครูประชาบาลที่จะต้องถูกเปลี่ยนแปลง มันเปลี่ยนแปลงทั้ง กระทรวง เปลี่ยนแปลงตำแหน่งเปลี่ยนแปลงอำนาจ และผู้ใช้ อำนาจ ล่าสุดอาจจะมีการแยกครูประถมครูมัธยมให้อยู่คนละ เขต เหมือนเคยเป็นครูสามัญ ครูประถม ได้แต่ฝากความหวัง และอนาคตของเยาวชนไทยครูจะอยู่เขตไหน ขอให้สร้าง เยาวชนไทยให้เป็นคนดี มีความรู้รักษาความเป็นไทยให้คงอยู่ ตลอดไป 40. นายดิเรก หลักคำ บทบาททางการเมอื ง 1. เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี (ชุดที่ 12) เขต 3 สังกัดพรรคกิจสังคม เมื่อ พ.ศ. 2519 พื้นที่ อำเภอ กุมภวาปี อำเภอหนองบัวลำภู อำเภอโนนสัง อำเภอศรีบุญเรือง อำเภอหนองวัวซอ และกิ่งอำเภอโนนสะอาด 2. เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี (ชุดที่ 13) เขต 3 สังกัดพรรคกิจสังคม เมื่อ พ.ศ. 2522 พื้นที่ อำเภอ กุมภวาปี อำเภอหนองบัวลำภู อำเภอโนนสัง อำเภอศรีบุญเรือง อำเภอหนองวัวซอ และกิ่งอำเภอโนนสะอาด 301
นักการเมืองถ่ินจังหวัดอุดรธานี 3. เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี (ชุดที่ 15) เขต 2 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อ พ.ศ.2529 พื้นที่ อำเภอ หนองบัวลำภู, อำเภอกุดจับ, อำเภอน้ำโสม, อำเภอบ้านผือ, อำเภอนากลาง และอำเภอสุวรรณคูหา 41. นายจำรัส มัฆนาโส เกิดเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธุ์ พ.ศ. 2482 การศึกษา ปริญญาตรีนิติศาสตร์บัณฑิต สาขากฎหมาย มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ บทบาททางการเมอื ง ดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี (ชุดที่ 15) เขต 3 สังกัดพรรคชาติประชาธิปไตย พ.ศ.2529 พื้นที่ อำเภอกุมภวาปี, อำเภอศรีธาตุ, อำเภอวังสามหมอ, อำเภอ หนองหาน, อำเภอบ้านดุง, กิ่งอำเภอทุ่งฝน และกิ่งอำเภอ ไชยวาน 42. นายพูลศักด์ิ อยู่ประเสริฐ เกิดเมื่อวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2497 การศึกษา นิติศาสตร์บัณฑิต (ม.ธรรมศาสตร์) เนติบัณฑิตไทย สำนัก อบรมศึกษากฎหมายแห่งเนติบัณฑิตยสภา ที่อยู่ปัจจุบัน 289/2 ถ.หมากแข้ง ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี อาชีพทนายความ บทบาททางการเมอื ง 1. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี พ.ศ.2531 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ เขตเลือกตั้งที่ 1 พื้นที่อำเภอเมือง อุดรธานี และอำเภอเพ็ญ 302
ข้อมูลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2538 สังกัดพรรคเสรีธรรม เขตเลือกตั้งที่ 1 พื้นที่อำเภอเมืองอุดรธานี และอำเภอเพ็ญ 3. ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งสมาชิกสภานิติบัญญัต ิ แห่งชาติ ตามมาตรา 5 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2549 4. รองนายก อบจ.อุดรธานี (ปัจจุบัน) ซึ่งมีนายวิเชียร ขาวขำ เป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด 43. นายวิเชียร ขาวขำ เกิดเมื่อวันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2499 ที่อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี เป็นบุตรของนายแพ ขาวขำกับนางวันดี ขาวขำ จบการศึกษาศิลปะศาสตร์บัณฑิต สถาบันราชภัฏ มหาสารคาม คู่สมรสนางเทียบจุฬา ขาวขำ บทบาททางการเมือง เคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัด อุดรธานี สังกัดพรรคปวงชนชาวไทย เมื่อปี 2531 เป็น ส.ส. สมัยแรกโดยเกาะกระแส พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก เข้าสภาฯ ปี และเป็นผู้สมัครโนเนมลงสมัคร ส.ส.แบบไม่คาดหวัง แต่กระแส คนอีสานสงสาร พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก เลยได้เป็น ส.ส.แบบ โชคช่วย ต่อมาได้ย้ายมาสังกัดพรรคชาติไทย และพรรค ชาติพัฒนา จากนั้นในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2538 ได้ย้ายมาสังกัด พรรคกิจสังคม ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2550 ได้รับเลือกตั้งเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี สังกัดพรรค 303
นักการเมืองถ่ินจังหวัดอุดรธานี พลังประชาชน และการเลือกตั้ง พ.ศ. 2554 ได้รับเลือกตั้งเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระบบบัญชีรายชื่อ สังกัดพรรค เพื่อไทย ต่อมาได้ลาออกเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งนายกองค์การ บริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ในวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2555 และได้รับเลือกตั้งเป็นนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด นายวิเชียร ขาวขำ เป็นหนึ่งในจำเลยในข้อหาก่อการร้าย ที่พนักงานสอบสวน กรมสอบสวนคดีพิเศษ ได้ฟ้องร้องเอาไว้ และเป็นหนึ่งในรายชื่อที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ ออกหมายเรียก ตามพระราชบัญญัติต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร มาตรา 8 พ.ศ. 2551 ในข้อหาความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ ไทย การดำรงตำแหน่งทางการเมือง 1. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี เขต 2 เมื่อ พ.ศ. 2531 พื้นที่อำเภอหนองบัวลำภู อำเภอนากลาง อำเภอ สุวรรณคูหา อำเภอบ้านผือ อำเภอน้ำโสม และกิ่งอำเภอนายูง สังกัดพรรคปวงชนชาวไทย 2. กรรมาธกิ ารการแรงงาน เมอ่ื 24 สงิ หาคม พ.ศ. 2531 3. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี เขต 2 เมื่อ มีนาคม พ.ศ. 2535 พื้นที่อำเภอหนองบัวลำภู อำเภอนากลาง อำเภอสุวรรณคูหา อำเภอบ้านผือ อำเภอน้ำโสม และกิ่งอำเภอ นายูง สังกัดพรรคชาติไทย 4. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี เขต 2 เมื่อ กันยายน พ.ศ. 2535 พื้นที่อำเภอหนองบัวลำภู อำเภอนากลาง 304
ข้อมูลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อำเภอสุวรรณคูหา อำเภอบ้านผือ อำเภอน้ำโสม และกิ่งอำเภอ นายูง สังกัดพรรคชาติพัฒนา 5. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี เขต 3 เมื่อ กันยายน พ.ศ. 2538 พื้นที่อำเภอ กุดจับ อำเภอบ้านผือ อำเภอ หนองวัวซอ อำเภอน้ำโสม และกิ่งอำเภอนายูง สังกัดพรรค 6. กรรมาธิการการแรงงานและสวัสดิการสังคม เมื่อ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2538 7. กรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2539 เมื่อวันที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2538 8. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี เขต 4 เมื่อ กันยายน พ.ศ. 2550 พื้นที่อำเภอบ้านผือ นำโสม นายูง หนองวัวซอ กุดจับ สังกัดพรรคพลังประชาชน 9. นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2555 – ปัจจุบัน 44. นายวิชัย เอี่ยมวงศ์ เกิดเมื่อวันที่ 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2486 จบการศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้นโรงเรียนบางปะอินราชานุเคราะห์1 ที่อยู่ 26ภ หมู่ 13 ต.หนองหาน อ.หนองหาน จ.อุดรธานี อาชีพ นักการเมืองสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคความหวังใหม่ 305
นักการเมืองถ่ินจังหวัดอุดรธานี บทบาททางการเมอื ง 1. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2531 สังกัดพรรค ประชาธิปัตย์ เขต 3 บริเวณพื้นที่อำเภอบ้านดุง อำเภอ หนองหาน อำเภอไชยวาน อำเภอศรีธาตุ อำเภอวังสามหมอ กิ่งอำเภอทุ่งฝน และกิ่งอำเภอสร้างคอม 2. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2539 สังกัดพรรค ความหวังใหม่ เขต 2 บริเวณพื้นที่อำเภอหนองหาน อำเภอ สร้างคอม อำเภอบ้านดุง อำเภอทุ่งฝน อำเภอไชยวาน อำเภอ วังสามหมอ กิ่งอำเภอพิบลู ย์รักษ์ และกิ่งอำเภอกู่แก้ว 45. นายอารมณ์ ศิริสุวรรณ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ของไทย ชุดที่ 16 เขต 4 จังหวัดอุดรธานี เมื่อ พ.ศ. 2531 พื้นที่อำเภอกุมภวาปี, อำเภอ ศรีบุญเรือง, อำเภอกุดจับ, อำเภอโนนสัง, อำเภอโนนสะอาด, อำเภอหนองวัวซอ, และอำเภอหนองแสง 46. ศ. ดร นพ.สมศักดิ์ วรคามิน ประวตั ิการศกึ ษา 1. สาธารณสุขศาสตร์ดุษฎีบัณฑิต (Dr.P.H) Tulane University, ประเทศสหรัฐอเมริกา 2. สาธารณสุขศาสตร์มหาบัณฑิต (M.B.H.)Tulane University, ประเทศสหรัฐอเมริกา 3. สาธารณสุขศาสตร์มหาบัณฑิต (ส.ม.) มหาวิทยาลัย มหิดล 306
ข้อมูลการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 4. แ พ ท ย ์ ศ า ส ต ร ์ บ ั ณ ฑ ิ ต ค ณ ะ แ พ ท ย ์ ศ า ส ต ร ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย 5. นิติศาสตร์รุ่น 02 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ 6. มัธยมศึกษา วชิราวุธวิทยาลัย อำนวยศิลป์ เตรียมอุดมฯ วัฒนศิลป์ ประวตั กิ ารทำงานและบทบาททางการเมือง 1. อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 2. อธิบดีกรมอนามัย 3. ผู้อำนวยการโครงการวางแผนครอบครัวแห่งชาติ กระทรวงสาธารณสุข 4. ปลัดกระทรวงสาธารณสุข 5. วุฒิสมาชิก 6. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังวัดอุดรธานี พรรค ความหวังใหม่ จังหวัดอุดรธานี 1 สมัย (ชุดที่17) พ.ศ. 2535 พรรคความหวังใหม่ เขต 1 พื้นที่ อำเภอเมืองอุดรธานี และ อำเภอเพ็ญ 7. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อพรรค ความหวังใหม่ 1 สมัย 8. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บัญชีรายชื่อไทยรักไทย 1 สมัย 9. ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ) 307
นักการเมืองถ่ินจังหวัดอุดรธานี 10. ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย (พลเอก ชวลิต ยงใจยุทธ) 11. ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (ดร.อำนวย วีรวรรณ) 12. กรรมาธกิ าร การคมุ้ ครองผบู้ รโิ ภค สภาผแู้ ทนราษฎร 13. กรรมการคณะสาธารณสขุ มหาวทิ ยาลยั มหาสารคาม 14. บอร์ด สำนักงานประกัน สังคม กระทรวงแรงงาน 2 สมัย 47. นายไพรัช นุชิต นายไพรัช นุชิต เดิมเป็นนักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่ม ี ชื่อเสียงคนหนึ่งในพื้นที่ ไม่เคยคิดว่าจะเล่นการเมืองมาก่อน แต่ด้วยความเป็นคนชอบความท้าทายและกล้าได้กล้าเสีย จึงลองสมัครรับเลือกตั้งตามคำชักชวนจากญาติซึ่งเป็น นักการเมืองท้องถิ่น ให้มาลองมาสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภา จังหวัดอุดรธานี ใน พ.ศ. 2523 ชีวิตการเมืองของนายไพรัช จึงเริ่มต้นขึ้น จนกระทั่งเขาพ่ายแพ้การเลือกตั้งในระดับท้องถิ่น ใน พ.ศ.2534 และในปีเดียวกันก็เกิดเหตุการณ์ทางการเมือง ในระดับชาติจากการรัฐประหารยึดอำนาจทางการเมืองโดย คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ หรือ รสช. หลังจากนั้น คณะรฐั ประหารไดเ้ ชญิ นายอานนั ท์ ปนั ยารชนุ มาดำรงตำแหนง่ นายกรัฐมนตรีเพื่อทำการร่างรัฐธรรมนญู แห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. 2534 และจัดการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2535 ในการเลือกตั้งครั้งนี้นายไพรัช ก็อยากลองสมัคร รับเลือกตั้งระดับชาติเป็นครั้งแรกดูบ้าง หลังจากได้รับ 308
ข้อมูลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร การชกั ชวนจาก นายรกั เกยี รติ สขุ ธนะ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร อุดรธานี ซึ่งทั้งสองเคยรู้จักกันมาก่อนจากการเป็นสมาชิกสภา จังหวัดอุดรธานีด้วยกัน จากการชักชวนดังกล่าว นายไพรัช ก็ตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็น ครั้งแรกในสังกัดพรรคกิจสังคม ในเขตเลือกตั้งที่ 2 จังหวัด อุดรธานี แต่เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งนี้นายไพรัชไม่ค่อยมีเวลา เตรียมตัวและเป็นสนามเลือกตั้งที่มีขนาดพื้นที่ค่อนข้างกว้าง ใหญ่กว่าสนามการเมืองท้องถิ่นที่เคยประสบมา ทำให้ นายไพรัชจึงแพ้ในครั้งนี้ แต่ต่อมาไม่นานก็เกิดเหตุการณ์ ทางการเมืองในระดับชาติขึ้นอีกเรียกกันว่า “เหตุการณ์พฤษภา ทมิฬ” ในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2535 อันสงบลงด้วยการให้มี การเลือกตั้งทั่วไปใหม่ ในวันที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2535 อีกครั้ง ในการเลือกตั้งครั้งนี้นายไพรัช ได้มีการเตรียมตัวระดับหนึ่ง หลังจากมีประสบการณ์มาบ้างเมื่อการเลือกตั้งก่อนนี้และได้รับ การสนับสนุนทรัพยากรทางการเมืองทั้ง เงินส่วนตัว ชื่อเสียง ญาติพี่น้อง หัวคะแนน และการสนับสนุนของพรรคกิจสังคม ส่วนหนึ่งในการใช้ระดมหาเสียงเลือกตั้งครั้งนี้เริ่มรู้จุดแข็งและ จุดอ่อนทางการเมืองของคู่แข่งและพื้นที่เลือกตั้งมากขึ้น โดยเฉพาะมีการใช้เครือข่ายญาติพี่น้องที่เป็นคนจีนในแถบพื้นที่ ที่นายไพรัชมีคะแนนเสียงตามคู่แข่งคนอื่นๆ ในการเลือกตั้ง ครั้งที่ผ่านมา ส่วนในพื้นที่จุดแข็งหรือฐานเสียงใหญ่ของ นายไพรัช เพราะอาศัยชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันดีในหมู่ชาวบ้าน ทั่วไป และเป็นผู้ประมูลรับเหมางานก่อสร้างต่างๆ ในพื้นที่มา อย่างต่อเนื่องจึงพอมีเครือข่ายจากบรรดากำนัน ผู้ใหญ่บ้าน หรือคนที่พอรู้จักช่วยเป็นหัวคะแนนและให้การสนับสนุนในการ 309
นักการเมืองถิ่นจังหวัดอุดรธานี เลือกตั้งครั้งนี้ จนทำให้นายไพรัช นุชิต ผู้สมัครรับเลือกตั้งจาก พรรคกิจสังคม ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัด อุดรธานี เขต 2 เป็นผลสำเร็จ และการเลือกตั้งครั้งต่อมา เมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ.2538 และถือเป็นการเลือกตั้งครั้ง แรกภายหลังการประกาศใช้พระราชบัญญัติจัดตั้งจังหวัด หนองบัวลำภูเรียบร้อยแล้ว นายไพรัชในฐานะเป็นผู้สมัครฯ ที่มี ภูมิลำเนาในเขตอำเภอหนองบัวลำภูมาตั้งแต่เกิดจึงลงสมัคร รับเลือกตั้งสังกัดพรรคกิจสังคม ทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ นายไพรัชอาศัยผลงานการพัฒนาพื้นที่อย่างต่อเนื่องตั้งแต่เป็น สมาชิกสภาท้องถิ่นและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาแล้ว หนึ่งสมัย ซึ่งสมัยนั้นจะมีงบพัฒนาจังหวัดหรือเรียกกันว่า “งบสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร” เพราะจะมีการตั้งงบประมาณ ให้แก่ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทุกคนๆ ละ 20 ล้านบาท สำหรับนำไปใช้พัฒนาพื้นที่เลือกตั้งของตน นายไพรัชก็ได้นำงบ ประมาณดังกล่าวมาทำการก่อสร้างถนนหนทางสร้างสะพาน คอนกรีตเสริมเหล็ก ขยายไฟฟ้าไปยังหมู่บ้านต่างๆ ซึ่งถือว่า เป็นผู้แทนฯ ที่มีผลงานการพัฒนาจนเป็นที่ประจักษ์คนหนึ่ง และที่สิ่งที่ขาดมิได้สำหรับการเลือกตั้งแต่ละครั้ง คือ การซื้อเสียงจากชาวบ้าน ซึ่งการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ.2538 นายไพรัชหมดเงินไปกับการซื้อเสียงชาวบ้านหัวละ 100 บาท เป็นเงินทั้งหมดประมาณ 20 ล้านบาทจึงทำให้เขา สามารถเอาชนะคู่แข่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ มีคะแนนเป็นอันดับ 1 ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดบ้านเกิดสมความ ปรารถนา (นพพล อัคฮาด, 2555) 310
ข้อมูลการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บทบาททางการเมอื ง 1. เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี (ชุดที่ 18) เมื่อ พ.ศ. 2535 สังกัดพรรคพรรคกิจสังคม เขต 2 พื้นที่ อำเภอหนองบัวลำภู, อำเภอนากลาง, อำเภอสุวรรณคูหา, อำเภอบ้านผือ, อำเภอน้ำโสม และกิ่งอำเภอนายงู 2. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดหนองบัวลำภ ู เขตเลือกตั้งที่ 1 ทั้งจังหวัด เมื่อ พ.ศ. 2535 (หนองบัวลำภู แยกตัวออกมาจากอุดรธานีเมื่อ พ.ศ. 2536) ถือว่าเป็น สมาชิก สภาผู้แทนราษฎร ชุดแรกนับตั้งแยกจังหวัดออกมาเป็นทางการ 3. มีบทบาทสำคัญในจังหวัดหนองบัวลำภู คือ นายไพรัช นุชิต สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหนองบัวลำภู ได้เสนอ ร่างพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลจังหวัดหนองบัวลำภูต่อสภา ผู้แทนราษฎร โดยมีเขตอำนาจตลอดท้องที่อำเภอเมือง อำเภอ โนนสัง อำเภอนากลาง อำเภอนาวัง อำเภอศรีบุญเรือง และ อำเภอสุวรรณคูหา และขออนุมัติจัดตั้งเรือนจำจังหวัด หนองบัวลำภู โดยใช้พื้นที่สาธารณะโคกคำโกนโก บ้าน โนนหวาย ตำบลหนองภัยศูนย์ อำเภอเมือง จังหวัด หนองบัวลำภู เนื้อที่ 100 ไร่ ซึ่งกรมราชทัณฑ์ได้ดำเนินการ ก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมแต่งตั้งเจ้าหน้าที่เข้าปฏิบัติ ตั้งแต่วันที่ 16 ธันวาคม 2540 โนฐานะเป็นหน่วยราชการหนึ่งของ กรมราชทัณฑ์ ซึ่งเป็นเรือนจำที่กระทรวงมหาดไทยได้ประกาศ ในราชกิจจานุเบกษา ฉบับประกาศทั่วไป เล่ม 114 ตอนพิเศษ 49 ข ลงวันที่ 24 มิถุนายน 2540 311
นักการเมืองถ่ินจังหวัดอุดรธานี 4. ที่ปรึกษานายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด หนองบัวลำภู 5. รองประธานสภาวทิ ยาชมุ ชนหนองบวั ลำภู พ.ศ. 2557 48. นายไชยยศ จิรเมธากร เกิดเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2503 เป็นบุตรของ นายวีระ กับนางเล็กน้อย จิรเมธากร สำเร็จการศึกษาระดับ ปริญญาตรี สาขานิติศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยรามคำแหง เมื่อปี พ.ศ. 2526 และระดับปริญญาโท สาขากฎหมาย เศรษฐกิจ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย นอกจากนี้ยังเคยเข้า รับการศึกษาอบรมในหลักสูตรต่างๆ อาทิ 1. ประกาศนียบัตรชั้นสูง สาขากฎหมายมหาชน สถาบันพระปกเกล้า 2. ประกาศนียบัตรชั้นสูง สาขาการเมืองการปกครองฯ (ปปร.) สถาบันพระปกเกล้า 3. ปริญญาบัตร สาขาการป้องกันประเทศ วิทยาลัย ป้องกันราชอาณาจักร บทบาททางการเมือง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 5 สมัย 1. ได้รับเลือกตั้งครั้งแรกในการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2531 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ 2. ได้รับเลือกตั้งอีก 2 สมัยต่อเนื่องในสังกัดพรรค ประชาธิปัตย์เช่นเดิม คือการเลือกตั้งใน พ.ศ. 2535 (ซึ่งทั้ง 312
ข้อมูลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 3 สมัยแรกนั้นเป็นสมาชิกสภาผู้แทนจังหวัดอุดรธานีในเขต 3 มีจำนวน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจำนวนเขต ละ 3 คน บริเวณพื้นที่ อำเภอบ้านดุง อำเภอหนองหาน อำเภอไชยวาน อำเภอศรีธาตุ อำเภอวังสามหมอ อำเภอทุ่งฝน อำเภอ สร้างคอม และกิ่งอำเภอพิบลู ย์รักษ์) 3. นายไชยยศ สอบตก 2 สมยั ในการเลอื กตง้ั พ.ศ. 2538 และ พ.ศ. 2539 และเป็นช่วงที่พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่มีสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรในจังหวัดอุดรธานี 4. จนกระทั่งในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2544 นายไชยยศ ได้รับเลือกตั้งอีกครั้ง (ในเขตที่ 5 เขตละ 1 คน บริเวณพื้นที่ อำเภอกุมภวาปี (เฉพาะตำบลผาสุก ตำบลเชียงแหว และ ตำบลแชแล) อำเภอหนองหาน อำเภอประจักษ์ศิลปาคม และ อำเภอพบิ ลู ย์รักษ์ (เฉพาะตำบลดอนกลอย) ในนามพรรคประชา ธปิ ตั ย์ เช่น และนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา พรรคประชาธิปัตย์ก็ไม่มี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในจังหวัดอุดรธานีอีกเลย 5. ต่อมาเมื่อ พ.ศ. 2550 ในการเลือกตั้งซ่อมแทน นายประสพ บษุ ราคมั ทถ่ี กู ใบแดง (เขตเลอื กตง้ั ท่ี 3 (แบบแบง่ เขต เลือกตั้ง) บริเวณอำเภอเพ็ญ บ้านดุง สร้างคอม ทุ่งฝน พิบลู ย์รักษ์) นายไชยยศ ได้ลงสมัครในนามพรรคพลังประชาชน 6. ต่อมาย้ายมาสังกัดพรรคเพื่อแผ่นดิน และร่วม กิจกรรมกับพรรคภูมิใจไทย แม้ว่าในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2554 นายไชยยศ จะย้ายกลับลงสมัคร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อีกครั้งในนามพรรคประชาธิปัตย์ แต่ก็ไม่ได้รับเลือกตั้ง 313
นักการเมืองถิ่นจังหวัดอุดรธานี 7. ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการดำรงตำแหน่ง 6 มิถุนายน พ.ศ. 2553 - 8 สิงหาคม พ.ศ. 2554 ในรัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ (ครม.อภิสิทธิ์ 5) สืบต่อจากนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ซึ่งย้ายไปเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม โดยเป็น โควตารัฐมนตรีของพรรคเพื่อแผ่นดิน 49. นายไชยยา พรหมา เกิดเมื่อวันที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2503 ที่อำเภอภูเวียง จังหวัดขอนแก่น เป็นบุตรของนายพิจิตร กับนางบัวไหล พรหมา สมรสกับนางอัญชลี พรหมา (สกุลเดิม เทือกต๊ะ) สำเร็จ การศกึ ษาระดบั ปรญิ ญาตรี สาขาบรหิ ารธรุ กจิ จากมหาวทิ ยาลยั รามคำแหง และปริญญาโท สาขาพัฒนาสังคม จากสถาบัน บัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดอุดรธานี 2 สมัย และเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดหนองบัวลำภูอีก 2 สมัย (จังหวัดหนองบัวลำภูแยกตัว ออกมาจากอุดรธานีเมื่อ พ.ศ. 2536) นายไชยา พรหมา ได้เข้าสู่สนามการเมืองครั้งแรก ด้วยการเป็นกรรมการสุขาภิบาลโนนสูงเปลือย อำเภอ ศรีบุญเรือง จังหวัดอุดรธานี หลังจากนั้นก็ลาออกเพื่อลงสมัคร สมาชิกสภาจังหวัดอุดรธานี (ส.จ.) เขตอำเภอศรีบุญเรือง ใน พ.ศ. 2534 ซึ่งการตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งท้องถิ่น ครั้งนั้น นายไชยาต้องการปูฐานเสียงทางการเมืองในระดับ ท้องถิ่น สร้างผลงาน สร้างชื่อสียงให้ชาวบ้านในเขตอำเภอ ศรีบุญเรืองรู้จักตนเสียก่อน และต้องการให้สนามการเมือง 314
ข้อมูลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ท้องถิ่นเป็นที่พึ่งของชาวบ้านในท้องถิ่นจริงๆ มากกว่าการเป็น แหล่งแสวงหาผลประโยชน์ของกลุ่มผู้รับเหมาหรือพวกพ่อค้า ที่ต้องการเข้าไปกอบโกยผลประโยชน์จากการรับสัมปทานหรือ การประมูลงานในเขตพื้นที่ ซึ่งผลการเลือกตั้งปรากฏว่า นายไชยาไม่ได้รับการเลือกตั้งในครั้งนั้น หลังจากแพ้ดังกล่าว แล้ว นายไชยาก็ตัดสินใจที่จะยุติบทบาททางการเมืองของตน และตั้งใจจะประกอบธุรกิจร้านค้าในตลาดสุขาภิบาล ศรีบุญเรือง ในนาม “ห้างหุ้นส่วนจำกัด ศรีบุญเรืองวัฒนา” ทำธุรกิจเกี่ยวกับเครื่องเขียน สังฆภัณฑ์และของเบ็ดเตล็ดทั่วไป แ ต ่ ด ้ ว ย เ ห ต ุ ก า ร ณ ์ ท า ง ก า ร เ ม ื อ ง ใ น ร ะ ด ั บ ช า ต ิ พ ล ิ ก ผ ั น เกิดเหตุการณ์ยึดอำนาจทางการเมืองใน พ.ศ. 2534 โดย คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ หรือ รสช. ขึ้นมีการ ดำเนินคดีและยึดทรัพย์รัฐมนตรีในคณะรัฐบาลพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ หลายคน บางคนหนีไปยังต่างประเทศชั่วคราว เพื่อรอจังหวะทางการเมืองที่คิดว่าปลอดภัยแล้วจึงกลับประเทศ หลังจากนั้นคณะรัฐประหารก็เชิญนายอานันท์ ปันยารชุน มาเป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อร่างรัฐธรรมนูญฉบับ พ.ศ. 2534 และ ได้จัดให้มีการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นในเดือนมีนาคม พ.ศ. 2535 การเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นการพลิกเกมทางการเมืองครั้งสำคัญ ระหว่างนักการเมืองที่นิยมฝ่ายทหารกับฝ่ายที่ไม่ชอบการยึด อำนาจของทหาร ซึ่งนายไชยาเองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ไม่นิยม ชมชอบในการยึดอำนาจของฝ่ายทหารมาตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ที่ มหาวิทยาลัยรามคำแหงแล้ว สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ นายไชยาซึ่งเพิ่งพลาดจากลงสมัครรับเลือกตั้งในสนาม การเมืองท้องถิ่นมาในปี พ.ศ. 2534 แต่ด้วยโชคชะตาหรือ 315
นักการเมืองถ่ินจังหวัดอุดรธานี พรหมลิขิตที่จะทำให้นายไชยาได้เป็นผู้แทนราษฎรในระดับชาติ หรืออย่างไรก็ไม่ทราบ ปรากฏว่ามีคนรู้จักคนหนึ่งมาทาบทาม ติดต่อให้นายไชยาลองลงสมัครรับเลือกตั้งในครั้งนี้เพื่อประกบ ผู้สมัครรับเลือกตั้งชื่อดังของจังหวัดอุดรธานีรายหนึ่งชื่อ “นายประจวบ ไชยสาส์น” ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะรัฐมนตรีที่ถูก คำสั่งของคณะ รสช. ยึดทรัพย์และได้หลบหนีไปต่างประเทศ ชั่วคราว และเพิ่งกลับมาหลังประกาศให้มีการเลือกตั้งทั่วไป เพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งในสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งเป็นพรรค ฝ่ายตรงข้ามพรรคการเมืองที่ฝ่ายทหารให้การสนับสนุนในสมัย นั้นคือ พรรคสามัคคีธรรม ในเขตเลือกตั้งที่ 4 จังหวัดอุดรธานี ซึ่งเหตุผลที่นายประจวบ เลือกนายไชยาลงสมัครประกบตัวเอง ในเขตนี้ เพราะฐานคะแนนเสียงสำคัญของนายประจวบ ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่อำเภอกุมภวาปีซึ่งเป็นอำเภอใหญ่ที่เพิ่งถูก พ่วงมาอยู่ในเขตพื้นที่เขตนี้ ในการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นครั้งแรก ทำให้นายประจวบซึ่งเป็นนักการเมืองที่มีประสบการณ์และ ฐานเสียงเฉพาะอำเภอกุมภวาปี จำเป็นต้องหาพันธมิตรที่จะลง สมัครรับเลือกตั้งในเขตอำเภออื่น โดยเฉพาะเขตอำเภอ ศรีบุญเรืองและอำเภอโนนสัง ที่ไม่เคยมีนักการเมืองคนใด ที่สามารถกอบโกยคะแนนจากคนแถบนี้ได้เลย ทำให้ นายประจวบต้องหาผู้สมัครที่พอจะมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของ ชาวบ้านในอำเภอศรีบุญเรืองและอำเภอโนนสังซึ่งในสมัยนั้นได้ รับการยอมรับจากนักการเมืองในจังหวัดอุดรธานีว่ามีความเป็น “ถิ่นนิยมสูง” ดังนั้นนายประจวบจึงมีความจำเป็นที่ต้องอาศัย นายไชยา ในการช่วยดึงคะแนนเสียงในเขตอำเภอดังกล่าวให้ แก่ตนด้วย ในการเลือกตั้งของนายไชยาครั้งนี้ได้รับการวางแผน 316
ข้อมูลการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และมอบหมายจากนายประจวบหัวหน้าทีมให้เดินสายปราศรัย พบปะชาวบ้านในหมู่บ้านต่างๆ ทั้ง 7 อำเภอในเขตเลือกตั้ง เพื่อให้ความรู้ทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยแก่ชาวบ้าน ให้เห็นแก่สิทธิของตนในการลงคะแนนเสียงให้ผู้สมัครรับ เลือกตั้งคนใด ไม่ใช่เห็นแก่อามิสสินจ้างหรือการให้เงินซื้อเสียง ดังที่เกิดขึ้นพร้อมกล่าวโจมตีระบอบทหารที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับ การเมืองในระบอบประชาธิปไตยของประชาชน เพื่อให้ชาวบ้าน ที่ได้ฟังการปราศรัยเกิดความสำนึกทางการเมืองในฐานะ พลเมืองในระบอบประชาธิปไตยที่ได้แสดงผ่านการลงคะแนน เลือกตั้ง ซึ่งวิธีการหาเสียงลักษณะนี้นายไชยามีทักษะมาจาก การเป็นสมาชิกชมรมโต้วาทีของมหาวิทยาลัยรามคำแหง ซึ่งจากความขยันขันแข็งในการหาเสียงกับชาวบ้านในพื้นที่และ บารมีของนายประจวบที่ถือเป็นผู้สมัครที่ชาวบ้านเลือกเพราะ มีผลงานและชื่อเสียง และพร้อมที่จะพ่วงคะแนนให้กับ นายไชยาในฐานะผู้สมัครในสังกัดพรรคเดียวกันเพราะการลง คะแนนเลือกนั้นผู้มีสิทธิสามารถเลือกได้เท่าจำนวนผู้แทน ราษฎรที่พึงมีได้ในเขตนั้นซึ่งมีสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้จำนวน 3 คน ผลปรากฏว่า นายไชยาเข้ามาเป็นลำดับที่ 3 ได้เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกในชีวิตและเป็นคนสร้าง ประวัติศาสตร์ให้แก่คนศรีบุญเรืองด้วยการเป็นผู้แทนฯ คนแรก ของอำเภออีกด้วย (นพพล อัคฮาด, 2555) บทบาททางการเมอื ง 1. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี ในการ เลือกตั้ง มีนาคม พ.ศ. 2535 สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ เขต 4 317
นักการเมืองถ่ินจังหวัดอุดรธานี พื้นที่อำเภอกุมภวาปี อำเภอศรีบุญเรือง อำเภอกุดจับ, อำเภอ โนนสัง อำเภอโนนสะอาด อำเภอหนองวัวซอ และอำเภอ หนองแสง 2. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี ในการ เลือกตั้งกันยายน พ.ศ. 2535 สังกัด พรรคชาติพัฒนา เขต 4 พื้นที่อำเภอกุมภวาปี อำเภอศรีบุญเรือง อำเภอกุดจับ อำเภอ โนนสัง อำเภอโนนสะอาด อำเภอหนองวัวซอ และอำเภอ หนองแสง 3. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดหนองบัวลำภู สังกัด พรรคชาติพัฒนา เมื่อ พ.ศ.2538 4. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดหนองบัวลำภู สังกัด พรรคเสรีธรรม ในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2544 5. ย้ายมาร่วมงานกับพรรคไทยรักไทย และได้รับ เลือกตั้งในการเลือกตั้ง พ.ศ. 2548 การเลือกตั้ง พ.ศ. 2550 (สังกัดพรรคพลังประชาชน) และการเลือกตั้ง พ.ศ. 2554 ในสังกัดพรรคเพื่อไทย 6. ได้รับแต่งตั้งเป็นประธานกรรมาธิการการเงิน การคลัง การธนาคารและสถาบันการเงิน สภาผู้แทนราษฎร เมื่อ พ.ศ. 2554 50. พ.ต.ท. สุรทิน พิมานเมฆินทร์ พ.ต.ท. สุรทิน เกิดเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2494 มีภูมิลำเดิมอยู่ที่ อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด เป็นบุตรของ นายทองอินทร์ กับนางบุญชู ชีวิตในวัยเด็กต้องอาศัยอยู่กับ 318
ข้อมูลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ญาติพี่น้องคืออาศัยอยู่กับคุณลุง เนื่องจากพ่อกับแม่เสียชีวิต ทำให้ต้องใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก ซึ่งในสมัยเด็กต้องเรียน หนังสือ และต้องทำงานช่วยครอบครัวของคุณลุงไปด้วย ช่วยทำการเกษตร เลี้ยงสัตว์ ทุกวันเป็นประจำ เป็นคนที่ตั้งใจ เรียน ขยัน และมีความรับผิดชอบจึงทำให้สอบเขารับราชการ ตำรวจได้ที่โรงเรียนพลตำรวจ ต่อมาได้มีโอกาสเข้าศึกษาต่อ โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ในช่วงที่เรียนนายร้อยตำรวจอยู่นั้น ได้รู้จักนักการเมืองคนสำคัญ คือ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ซึ่งขณะนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ เรียนอยู่ชั้นปีที่ 4 ส่วน พ.ต.ท.สุรทิน อยู่ชั้นปีที่ 1 ถือว่าเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องกัน ต่อมาหลังจากจบ การศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ได้ใช้การทำงาน ข้าราชการตำรวจบรรจุครั้งแรกที่ สน.หัวหมาก ต่อมาได้ย้ายไป รบั ราชการอยทู่ ี่ 3 จงั หวัดชายแดนภาคใต้ ได้เรยี นรคู้ วามเป็นอยู่ วัฒนธรรมของพี่น้องชาว 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มาก พอสมควร ต่อมาได้ย้ายมาดำรงตำแหน่งที่อำเภอเมือง จังหวัด อุดรธานี เป็นที่รู้จักของหน่วยงานราชการ สังคม ชุมชน ชาวจังหวัดอุดรธานีในสมัยนั้น รวมไปถึงนักการเมืองที่เป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในพื้นที่จังหวัดอุดรธานีด้วย พ.ต.ท. สุรทิน จึงเกิดแรงบันดาลใจคิดอยากจะเป็นนักการเมืองขึ้นมา เพราะว่า มีแนวคิดที่ว่า “นักการเมืองในฐานะผู้แทนราษฎร มีหน้าที่อย่างไร ทำอะไร อยากจะทำ อยากจะเป็นบ้าง” และ อีกหนึ่งเหตุผลที่สำคัญ คือ นักการเมืองในยุคนั้นใช้อำนาจ โดยมิชอบทำให้ พ.ต.ท. สุรทิน คิดอยากจะก้าวเข้าสู่เส้นทาง การเมืองเพื่อต่อสู้กับความไม่ยุติธรรม ต่อมาได้ลาออกจาก ราชการตำรวจ เพื่อมาทำงานการเมืองและได้รับเลือกตั้ง 319
นักการเมืองถ่ินจังหวัดอุดรธานี เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานีสังกัดพรรค ความหวังใหม่ในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทย เป็นการทั่วไป พ.ศ. 2539 เขตเลือกตั้งที่ 1 อำเภอเมืองอุดรธานี และอำเภอเพ็ญ ต่อมาทางการประเทศลาวจับกุมและคุมขัง ในเรือนจำโพนต้อง นครเวียงจันทน์ ประเทศลาว ในข้อหาเป็น จารชนของฝ่ายรัฐบาลไทย เพื่อสอดแนมหาข่าวกรองภายใน สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว เมื่อวันที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2543 และได้ออกจากเรือนจำเมื่อเดือนธันวาคม พ.ศ. 2545 ชีวิตหลังจากออกจากเรือนจำเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านเป็นอย่างมาก โดย พ.ต.ท. เล่าว่ากว่าจะกับเข้ามาสู่เส้นทางการเมืองอีกครั้ง นั้นต้องมีการต่อสู้ ต่อรองกับนักการเมืองพรรคไทยรักไทย ที่มีอิทธิพลมากในเขตภาคอีสาน หมายถึงในช่วงนั้น นายเนวิน ชิดชอบ ซึ่งเป็นกรรมการบริหารพรรคคนสำคัญที่หน้าที่ดูแล โควตาการเข้ามาเป็นสมาชิกพรรคหรือการลงสมัครเป็นสภา ผู้แทนราษฎร ในช่วงแรกที่พ.ต.ท.สุรทิน ขอสมัครเป็นสมาชิก พรรคเองแต่รายชื่อได้ตกไป แต่ครั้งที่สองสามารถเข้าเป็น สมาชิกพรรคได้จากการขอร้องจากหัวหน้าพรรคไทยรักไทย คือ พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร (ซึ่งรู้จักและถือเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องในสมัย โรงเรียนนายร้อยตำรวจ) ทำให้ พ.ต.ท. สุรทินได้ก้าวเข้ามาสู่ เส้นทางการเมืองอีกครั้งในนามสมาชิกพรรคไทยรักไทย แต่ยัง ไม่ได้ลงสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งเมื่อปี 2548 ต ่ อ ม า ไ ด ้ ล ง ส ม ั ค ร ร ั บ เ ล ื อ ก ต ั ้ ง เ ป ็ น ส ม า ช ิ ก ส ภ า ผู้แทนราษฎรเป็นสมัยที่ 2 ในการเลือกตั้งสมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2550 (ลักษณะการ แบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเลือกตั้งที่ 1 พื้นที่จังหวัดอุดรธานี ได้แก่ 320
ข้อมูลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร อำเภอเมือง อำเภอหนองแสง อำเภอประจักษ์ศิลปาคม) ได้รับ เลือกตั้งในสังกัดพรรคพลังประชาชน และในปี พ.ศ. 2554 ได้รับ เลือกตั้งเป็นสมัยที่ 3 (เขตเลือกตั้งที่ 1 พื้นที่ อำเภอเมือง อุดรธานี เฉพาะเขตเทศบาลเมืองนครอุดรธานี ยกเว้นชุมชน บา้ นนาดี ชมุ ชนบา้ นหนองหนิ ชมุ ชนบา้ นชา้ ง ชมุ ชนบา้ นโพนบก ชุมชนบ้านหนองตูม และชุมชนบางหนองใหญ่) สังกัดพรรค เพื่อไทย วิธีการหาเสยี ง วิธีการหาเสียงของ พ.ต.ท. สุรทิน ในสมัยแรกๆ ใช้วิธี การเดินเข้าถึงประชาชนให้มากที่สุดในเขตพื้นที่ ยกมือไหว้ สัมผัสมือ พูดคุยถามสารทุกข์สุขดิบต่างๆ เพื่อสร้างความเป็น กันเองกับพี่น้องประชาชน มีการแจกบัตรแนะนำตัวผู้สมัคร ติดป้ายหาเสียงตามหมู่บ้าน ใช้รถหาเสียงขนาดเล็กๆ วิธีการ ปราศรัยย่อยตามพื้นที่หมู่บ้านซึ่งจะปราศรัยร่วมกับผู้สมัคร พรรคเดียวกันทั้ง 3 คน คือ การหาเสียงด้วยการปราศรัยย่อย ตามหมู่บ้านหรือชุมชน พร้อมกันกับทีมงานผู้สมัครรับเลือกตั้ง ในเขตพื้นที่เดียวกันที่สังกัดพรรคพลังประชาชน ซึ่งในช่วง การเลือกตั้ง พ.ศ. 2550 นั้นเป็นการเลือกตั้งแบบ 1 เขตสามารถ เลือกได้ 3 คน มีผู้สมัครสังกัดพรรคเดียวกันในขณะนั้น ได้แก่ 1. นายอนันต์ ศรีพันธุ์ 2. พ.ต.ท.สุรทิน พิมานเมฆินทร์ และ 3. นายเชิดชัย วิเชียรวรรณ มีวิธีการปราศรัยแบบแนะนำตัว ผสู้ มคั ร ประวตั กิ ารศกึ ษา ประวตั กิ ารทำงาน ความรคู้ วามสามารถ และให้ผู้สมัครพูดคุยปราศรัยกับพี่น้องประชาชน การชูนโยบาย พรรคที่สามารถทำได้จริง นโยบายที่สามารถช่วยประชาชน 321
นักการเมืองถ่ินจังหวัดอุดรธานี ในพื้นที่ และบอกว่าประชาชนจะได้รับผลประโยชน์อะไรจาก ผลของนโยบาย การชูหัวหน้าพรรคที่ถือว่าเป็นบุคคลสำคัญ ที่จะดำรงตำแหน่งทางการเมืองในระดับสูง หรือผู้ที่มีบทบาท สำคัญในพรรคที่ประชาชนรู้จัก ชื่นชอบในการเมืองระดับชาติ ต่อมาเมื่อได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร การวางตัวเป็นสิ่งที่สำคัญ พ.ต.ท. สุรทิน นั้นมีการวางตัวแบบ ง่ายๆ สบายๆ หมายถึง เวลาในการลงพื้นที่ชุมชนส่วนใหญ่ของ นักการเมืองหรือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรคือ การเป็นประธาน เปิดงานบุญประเพณีต่างๆ การวางตัวของ พ.ต.ท. สุรทิน ยิ้มแย้ม ร่าเริง พูดคุยเป็นกันเองกับประชาชน และปรับตัว เสมือนเป็นหนึ่งกับพี่น้องประชาชน จนได้ฉายาเรียกแทนตัวเอง ว่าเป็น “สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร คลุกฝุ่น” วิธีการหาเสียงในสมัยต่อมาช่วงการเลือกตั้งในปี พ.ศ. 2554 มีการใช้รถหาเสียงขนาดใหญ่ที่เป็นเอกลักษณ์ เฉพาะของ พ.ต.ท. สุรทิน (รถหกล้อ ที่ดัดแปลงให้เป็น รถหาเสียงปราศรัยโดยเฉพาะ) การใช้รถหาเสียงที่เป็นของ ตนเองเป็นที่น่าประทับใจ และทำให้พี่น้องประชาชนนั้นชื่นชอบ เพราะเปรียบเสมือนความพร้อมเพียงของตัวผู้สมัครและทีมงาน นอกจากนี้ยังใช้รถหาเสียงนี้ในการปราศรัยใหญ่ที่มีนักการเมือง คนสำคัญของพรรคลงมาช่วยในการหาเสียงระดับจังหวัด อีกด้วย วิธีการเช็คคะแนนเสียงนั้นจะใช้วิธีการขับรถตะเวนรอบ พื้นที่ชุมชน เพื่อเช็คคะแนนจากหัวคะแนน และยามที่เข้าเวร ยามตอนกลางคืนว่าฐานคะแนนเสียงเป็นอย่างไรบ้าง มีการ เคลื่อนไหวของคู่แข่งที่ลงสมัครอย่างไรบ้าง ส่วนใหญ่จะใช้ วิธีเช็คคะแนนเสียงในช่วงคืนใกล้วันเลือกตั้ง 322
ข้อมูลการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร บทบาททางการเมอื ง 1. ในปี พ.ศ. 2555 มีการสนับสนุนบุตรสาว นางสาว กีรติกานต์ พิมานเมฆินทร์ อดีต สจ.อุดรธานี ลงสมัครรับ เลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี แข่งขันกับ นายวิเชียร ขาวขำ อดีต สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทย แต่เป็นฝ่ายแพ้การเลือกตั้ง 2. มีบทบาทเป็นแกนนำในกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตย ต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ 3. รองประธานคณะกรรมาธกิ ารปอ้ งกนั และปราบปราม การฟอกเงินและยาเสพติด พ.ศ. 255 4. แกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง (นปช.) 51. นายโชคสมาน สีลาวงษ์ เกิดเมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2490 จบการศึกษา ชั้นมัธยมปลายจาก กศน. เป็นนักการเมืองท้องถิ่นในจังหวัด อุดรธานี เข้าสู่งานการเมืองระดับชาติโดยได้รับเลือกตั้งเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี ในการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2539 สังกัด พรรคกิจสังคม เขตเลือกตั้งที่ 3 พื้นที่ อำเภอกุดจับ อำเภอ บ้านผือ อำเภอหนองวัวซอ อำเภอน้ำโสม และอำเภอนายู และนับเป็นสมัยเดียวที่ได้รับการเลือกตั้ง แต่แม้ว่าจะได้รับ เลอื กตง้ั เปน็ สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎรสมยั แรก แตน่ ายโชคสมาน กลับได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ดำรงตำแหน่ง 5 ตุลาคม พ.ศ.2541 – 24 มิถุนายน พ.ศ. 2542 ในรัฐบาลนายชวน หลีกภัย (ชวน.1) 323
นักการเมืองถ่ินจังหวัดอุดรธานี 52. นายอรรถพล สนิทวงศ์ชัย เกิดเมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2510 อายุ 34 ปี (เสียชีวิต) เป็นบุตรของ นายเฉลิมพล สนิทวงศ์ชัย และ นางบังอร สนิทวงศ์ชัย สถานที่เกิด บ้านเลขที่ 240/4 ถนน ประจักษ์ศิลปาคม ต.หมากแข้ง อ.เมือง จังหวัดอุดรธานี อาชีพ ธุรกิจส่วนตัว วุฒิการศึกษาปริญญาตรี สาขาการตลาด มหาวิทยาลัยเกริก สำเร็จการศึกษาเมื่อ พ.ศ. 2539 บทบาททางการเมือง ดำรงตำแหน่งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัด อดุ รธานี เขต 2 เมอ่ื พ.ศ. 2544 และ 2548 (เสยี ชวี ติ ในปดี งั กลา่ ว) พื้นที่อำเภอเมืองอุดรธานี (เฉพาะในเขตเทศบาลนครอุดรธานี (เฉพาะ ชุมชนบ้านนาดี ชุมชนบ้านหนองหิน ชุมชนบ้านช้าง ช ุ ม ช น บ ้ า น โ พ น บ ก ช ุ ม ช น บ ้ า น ห น อ ง ตู ม แ ล ะ ช ุ ม ช น บ้านหนองใหญ่) ตำบลนาข่า ตำบลหนองบัว (นอกเขตเทศบาล นครอุดรธานี) ตำบลหมูม่น ตำบลเชียงยืน ตำบลหนองนาคำ ตำบลกุดสระ ตำบลนาดี ตำบลบ้านเลื่อม ตำบลเชียงพิณ ตำบลสามพร้าว ตำบลบ้านจั่น และตำบลหนองขอนกว้าง (นอกเขตเทศบาลนครอุดรธานี) 53. นางสาวธิรดา สนิทวงศ์ชัย เกิดเมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2508 (เสียชีวิต สิริอายุ 42 ปี) ที่บ้านเลขที่ 240/4 ถนนประจักษ์ศิลปาคม ตำบล หมากแขง้ อำเภอเมอื ง จงั หวดั อดุ รธานี เปน็ บตุ รของ นายเฉลมิ พล สนิทวงศ์ชัย และนางบังอร สนิทวงศ์ชัย พี่สาวคนโตตระกูล นักการเมืองเมืองอุดรฯ “สนิทวงศ์ชัย” มีน้องชาย คือ 324
ข้อมูลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร นายเฉลิมพล สนิทวงศ์ชัย และนายณัฐพล สนิทวงศ์ชัย ธิรดา สนิทวงศ์ชัยจบการศึกษาปริญญาตรี บริหารการตลาด มหาวิทยาลัยเกริก บทบาททางการเมือง 1. เป็นอดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง มหาดไทย (นายประชา มาลีนนท์) 2. ผู้ช่วยอดีตเลขานุการกรรมาธิการกระทรวงคมนาคม 3. กรรมาธิการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 4. ลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในการ เลือกตั้งซ่อมแทน นายอรรถพล สนิทวงศ์ชัย น้องชายที่ประสบ อุบัติเหตุตกจากคอนโดมิเนียมเสียชีวิต และลงสมัครสมาชิก สภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานีเขต 2 ได้รับชัยชนะเมื่อวันที่ 24 ก.ค. 2548 แต่ศาลมีคำพิพากษาให้เลือกตั้งเป็นโมฆะ 54. นายศราวุธ เพชรพนมพร เกิดเมื่อวันที่ 25 เมษายน พ.ศ. 2513 เป็นบุตรของ นาย สุวิทย์-นางวิไล เพชรพนมพร มีพี่น้อง 5 คน สำเร็จ การศึกษาระดับมัธยมจากโรงเรียนดอสบอสโกวิทยา จังหวัด อุดรธานี จบปริญญาตรีจากคณะบริหารธุรกิจ สาขาการเงิน การคลัง และการธนาคาร จากมหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ และ ปริญญาโทสาขาสังคมสงเคราะห์ในกระบวนการยุติธรรม จาก มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ สมรสกับนางนุดีพร เพชรพนมพร (พรหมนอก) บุตรสาวคนที่ 3 ของ พลตำรวจเอก ประชา พรหมนอก อดีตรองนายกรัฐมนตรี 325
นักการเมืองถ่ินจังหวัดอุดรธานี เส้นทางการเมือง อดีตเคยดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาองค์การบริหาร ส่วนจังหวัดอุดรธานี (ส.จ.) และได้รับเลือกให้เป็นรองประธาน สภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ต่อมาในปี พ.ศ. 2544 ได้ลงสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรก เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2544 สังกัดพรรคชาติพัฒนา ได้รับการเลือกตั้ง เป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรก ในขณะเดียวกันที่ยังทำ หน้าที่สมาชิกรัฐสภา นายศราวุธ เพชรพนมพรยังดำรงตำแหน่ง ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นางสุดารัตน์ เกยุราพันธ์) ทำหน้าที่เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง สาธารณสุข (พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก) โดยได้ทำหน้าที่ควบคู่ กันไปในขณะนั้น จนอยู่จนครบวาระ 4 ปี ต่อมาการเมืองในยุค นั้นเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้นว่าการเลือกตั้งครั้งต่อไป จะเป็นการต่อสู้ชิงชัยกันเหลือแค่ 2 พรรคการเมืองใหญ่ คือ พรรคไทยรักไทยและพรรคประชาธิปัตย์ นายศราวุธ เพชรพนม พร จึงได้ย้ายไปอยู่ พรรคไทยรักไทย พ.ศ. 2548 และลงสมัคร เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่สองเมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2548 ได้รับการเลือกตั้งเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 2 อยู่ในตำแหน่ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้ประมาณ 1 ปีกับ อีกไม่กี่วัน ถึงวันที่ 24 กุมภาพันธ์พ.ศ. 2549 ได้มีการประกาศ ยุบสภาผู้แทนราษฎร และจัดให้มีการเลือกตั้งใหม่เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2549 นายศราวุธ เพชรพนมพร ได้ลงสมัครเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่สาม ก็ได้รับการเลือกตั้งเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่ 3 แต่ครั้งนี้ไม่นับ เพราะว่า ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำสั่งให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นโมฆะ 326
ข้อมูลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั่วประเทศ และสั่งให้มีการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 15 ตุลาคม 2549 แต่ยังไม่ถึงวันนั้นก็เกิดการปฏิวัติรัฐประหาร 19 กันยายน 2549 พรรคไทยรักไทยถูกยุบพรรค เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2550 และเปลี่ยนไปเป็นพรรคพลังประชาชน นายศราวุธ เพชรพนมพร จึงได้ทำการย้ายพรรคไปอยู่ที่พรรคเพื่อแผ่นดิน และเป็นรองเลขาธิการพรรค เมื่อปี 2551 และลงสมัครรับ เลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งที่สี่ ใน พ.ศ. 2551 แต่ ไม่ได้รับการเลือกตั้งเข้ามา (ในการเลือกตั้งครั้งนี้มีการแก้ไข เขตเลือกตั้งจากเขตเดียวเบอร์เดียวเป็นแบบเขตใหญ่แบบ เรียงเบอรฺ์) แต่ได้ไปทำหน้าที่ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการ กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เมื่อวันที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 สมัยนายมั่น พัธโนทัย เป็นรัฐมนตรี ว่าการ โดยมีรัฐบาลที่มาจากการนำของพรรคพลังประชาชน โดยมีนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงษ์สวัสดิ์ เป็น นายกรัฐมนตรี ต่อมาพรรคพลังประชาชนถูกยุบ และ เปลี่ยนเป็นพรรคเพื่อไทย รัฐบาลเปลี่ยนผ่านไปเป็นการนำโดย พรรคประชาธิปัตย์ โดยมีนาย อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายก รัฐมนตรี นายศราวุธ เพชรพนมพร จึงได้ย้ายเข้าพรรคเพื่อไทย และลงสมัครเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งห้า ในปี พ.ศ. 2554 และได้รับเลือกเป็น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสมัยที่ 3 และปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสโมสรฟุตบอล อุดรธานี เอฟชี ตำแหน่งดา้ นการเมอื ง 1. สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี เขต อำเภอเมือง (พ.ศ. 2538-2542) 327
นักการเมืองถ่ินจังหวัดอุดรธานี 2. รองประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี (พ.ศ. 2541 - 2542) สมัยนายสมเกียรติ สุขธนะ เป็นนายก องค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี 3. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดอุดรธานี เขต 1 (พ.ศ. 2544 - พ.ศ. 2548) พื้นที่อำเภอเมืองอุดรธานี (เฉพาะ ในเขตเทศบาลนครอุดรธานี (ยกเว้น ชุมชนบ้านนาดี ชุมชน บ้านหนองหิน ชุมชนบ้านช้าง ชุมชนบ้านโพนบก ชุมชน บ้านหนองตูม และชุมชนบ้านหนองใหญ่) สังกัดพรรค ชาติพัฒนา สมัยนายกร ทัพพะรังสี เป็นหัวหน้าพรรค และ รองนายกรัฐมนตรีในขณะนั้น 4. ผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (พ.ศ. 2545-2548) สมัยนางสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ เป็นรัฐมนตรี ว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในขณะนั้นทำหน้าที่เลขานุการ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข สมัย พลตำรวจเอก ประชา พรหมนอก เปน็ รฐั มนตรชี ว่ ยวา่ การกระทรวงสาธารณสขุ ในขณะนั้น ซึ่งมี พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ในขณะนั้น 5. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี เขต 1 (พ.ศ. 2548-2549) พื้นที่อำเภอเมืองอุดรธานี (เฉพาะในเขต เทศบาลนครอุดรธานี (ยกเว้น ชุมชนบ้านนาดี ชุมชนบ้าน หนองหิน ชุมชนบ้านช้าง ชุมชนบ้านโพนบก ชุมชนบ้านหนอง ตูม และ ชุมชนบ้านหนองใหญ่)) สังกัดพรรคไทยรักไทย สมัยพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรค และ นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น 328
ข้อมูลการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 6. รองเลขาธิการพรรคเพื่อแผ่นดิน (พ.ศ. 2551-2552) สมัยพลตำรวจเอกประชา พรหมนอก เป็นหัวหน้าพรรค และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมในขณะนั้น 7. เลขานุการรัฐมนตรีรัฐมนตรีว่าการกระทรวง เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (พ.ศ. 2551-2552) สมัย นายมั่น พัธโนทัย เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลย ี สารสนเทศและการสื่อสาร ซึ่งมีนายสมัคร สุนทรเวช เป็น นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น 8. เลขานุการคณะกรรมาธิการการป้องกันปราบปราม การฟอกเงินและยาเสพติด พ.ศ. 2554 9. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จังหวัดอุดรธานี เขต 1 (พ.ศ. 2554-2556) พื้นที่อำเภอเมืองอุดรธานี(เฉพาะในเขต เทศบาลนครอุดรธานี เทศบาลเมืองหนองสำโรง เทศบาลตำบล บ้านจั่น และตำบลบ้านเลื่อม) สังกัดพรรคเพื่อไทย โดยมี นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นอดีตนายกรัฐมนตรี บทบาทท่ีสำคัญต่อจงั หวัดอดุ รธานี นายศราวุธ เพชรพนม มีบทบาทสำคัญยิ่งในปี 2544- 2545 ที่ได้ยื่นกระทู้อภิปรายในสภาผู้แทนราษฎร ถามไปยัง นายวัน มูหะหมัดนอร์มะทา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในสมัยนั้น เกี่ยวกับการเร่งแก้ไขปัญหาในการก่อสร้าง ถนนนิตโย ซึ่งเป็นถนนคมนาคมสายหลักของจังหวัดอุดรธานี ที่เชื่อมต่อระหว่างถนนโพธิ์ศรี (ถนนใจกลางเมือง) กับ ถนนอุดรธานี-สกลนคร (ถนนเชื่อมเส้นรอบเมือง) มีความยาว 329
นักการเมืองถิ่นจังหวัดอุดรธานี ประมาณ 5 กิโลเมตร ที่กระทรวงคมนาคมในขณะนั้นก่อสร้าง ยังไม่แล้วเสร็จ ประชาชนที่อาศัยอยู่สองฝั่งถนนได้รับความ เดือดร้อนเป็นจำนวนมาก จนได้รับการแก้ไขและก่อสร้างแล้ว เสร็จในเวลาต่อมาไม่นานภายหลังจากการอภิปรายในสภา 55. นายวิชัย ชัยจิตวณิชกุล เกิดเมื่อวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2498 สำเร็จการศึกษา ระดับปริญญาตรี ด้านวิทยาศาสตร์ จากคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล และแพทยศาสตร์ จากคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดล สมรสกับนางจารุวรรณ ชัยจิตวณิชกุล อดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัด อุดรธานี และมีอาชีพหลักเป็นแพทย์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลอำเภอเพ็ญ จังหวัดอุดรธานี บทบาททางการเมอื ง 1. ไดร้ บั เลอื กตง้ั ในการเลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร ไทยเป็นการทั่วไป เขต 1 เมื่อ มีนาคม พ.ศ. 2535 สังกัดพรรค ความหวังใหม่ เป็นสมัยแรก เขตพื้นที่ อำเภอเมืองอุดรธานี และอำเภอเพ็ญ 2. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อกันยายน พ.ศ. 2535 เขต 1 พื้นที่อำเภอเมืองอุดรธานี และอำเภอเพ็ญ สังกัดพรรค ความหวังใหม่ 3. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อ พ.ศ. 2538 เขต 1 (1 เขตเลือกได้เขตละ 3 คน) พื้นที่อำเภอเมืองอุดรธานี และ อำเภอเพ็ญ สังกัดพรรคความหวังใหม่ 330
ข้อมูลการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 4. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อ พ.ศ. 2539 เขต 1 (1 เขตเลือกได้เขตละ 3 คน) พื้นที่อำเภอเมืองอุดรธานี และ อำเภอเพ็ญ สังกัดพรรคความหวังใหม่ 5. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร เมื่อ พ.ศ. 2544 ได้รับ เลือกตั้งในนามพรรคชาติพัฒนา 6. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคไทยรักไทยในการ เลือกตั้ง พ.ศ. 2548 เขต 3 พื้นที่อำเภอเมืองอุดรธานี (เฉพาะ ตำบลบ้านขาว และตำบลนากว้าง) อำเภอเพ็ญ และอำเภอ สร้างคอม ในครั้งนั้นเขาได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการบริหารพรรค และถกู ตัดสิทธิ์ทางการเมืองพร้อมกับสมาชิกบ้านเลขที่ 111 7. ในปี พ.ศ. 2540 นายแพทย์วิชัย ชัยจิตวณิชกุลได้รับ แต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในรัฐบาล พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ 56. นายธีระยุทธ วานิชชัง เกิดเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2498 เป็นบุตร นายทองคำ วานิชชัง และนางจำเนียร วานิชชัง สถานที่เกิด บ้านเลขที่ 30 ถนนสุขาภิบาล 2 ต.โนนสะอาด อ.โนนสะอาด จ.อุดรธานี สถานที่ติดต่อ สำนักงานทนายความธีระยุทธ วานิชชัง อาชีพนักกฎหมาย จบการศึกษาปริญญาตรี สาขา นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง สำเร็จการศึกษา พ.ศ. 2522 331
นักการเมืองถิ่นจังหวัดอุดรธานี บทบาททางการเมอื ง 1. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี เขต 4 พ.ศ. 2548 พื้นที่อำเภอเมืองอุดรธานี (เฉพาะตำบลบ้านตาด ตำบลหนองไฮ ตำบลโคกสะอาด ตำบลนิคมสงเคราะห์ ตำบล โนนสงู และตำบลหนองไผ่) อำเภอโนนสะอาด อำเภอหนองแสง และอำเภอหนองวัวซอ (เฉพาะตำบลหนองบัวบาน) 2. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี เขต 4 พ.ศ. 2544 พื้นที่อำเภอเมืองอุดรธานี (เฉพาะตำบลบ้านตาด ตำบลหนองไฮ ตำบลโคกสะอาด ตำบลนิคมสงเคราะห์ ตำบล โนนสูง และตำบลหนองไผ่) อำเภอโนนสะอาด อำเภอหนองแสง และอำเภอหนองวัวซอ (เฉพาะตำบลหนองบัวบาน) 57. นางสาวรสพิมล จิรเมธากร บทบาททางการเมือง 1. ได้รับเลือกเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัด อุดรธานี (ชดุ ท่ี 22) เขต 5 เมอ่ื พ.ศ. 2548 สงั กัดพรรคไทยรกั ไทย พื้นที่อำเภอกุมภวาปี (เฉพาะ ตำบลผาสุก ตำบลเชียงแหว และ ตำบลแชแล) อำเภอหนองหาน อำเภอประจักษ์ศิลปาคม และ อำเภอพิบูลย์รักษ์ (เฉพาะตำบลดอนกลอย) 2. เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรและ สิ่งแวดล้อม เมื่อ พ.ศ. 2552 332
ข้อมูลการเลือกต้ังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 58. นายทองดี มนิสสาร เกิดเมื่อ 6 พฤศจิกายน 2488 (สิริอายุ 68 ปีเสียชีวิตแล้ว ดว้ ยโรคมะเรง็ กระดกู ) สำเรจ็ การศกึ ษาประกาศวชิ าการปกครอง ท้องที่ (ปปท.) มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช รัฐศาสตร์ บัณฑิต สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช รัฐประศาสนศาสตร์มหาบัณฑิต สาขารัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัย รามคำแหง อดีตกำนัน ต.โพนงาม และเป็นประธานชมรม กำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน อ.หนองหาน ก่อนลงสมัคร สมาชิกสภา ผู้แทนราษฎรครั้งแรกในนามพรรคไทยรักไทย ได้รับการเลือกตั้ง เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี 4 สมัยสมรสกับ นางไหม มนิสสาร มีบุตรธิดา ด้วยกัน 5 คน เสียชีวิต 1 คน ยังมีชีวิตอยู่ 4 คน คือนางวัชรีย์ มนิสสาร ปัจจุบันทำงาน ที่ ธกส.หนองหาน นางเมที ชัยธรรม นายสมยศ มนิสสาร ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 10 ว่าที่ร้อยตรีหญิง เอมอร มนิสสาร ทำงาน ที่ อบต.โพนงาม ตำแหน่งหัวหน้าสำนักงานปลัด (ไทยรัฐ ออนไลน์, 2557) บทบาททางการเมือง 1. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2554 เขต 5 พื้นที่อำเภอกุมภาปี (เฉพาะตำบลผาสุก ตำบลเชียงแหว ตำบลแชแล) อำเภอหนองหาน อำเภอประจักษ์ศิลปาคม และ อำเภอพบิ ลู ยร์ กั ษ์ (เฉพาะตำบลดอนกลอย) สงั กดั พรรคเพอ่ื ไทย 2. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2550 เขต 2 (แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเดียวเลือกได้ 3 คน) พื้นที่ อำเภอกุมภวาปี หนองหาน วังสามหมอ ศรีธาตุ โนนสะอาด 333
นักการเมืองถ่ินจังหวัดอุดรธานี ไชยวาน กู่แก้ว สังกัดพรรคพลังประชาชน 3. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2548 เขต 6 พื้นที่อำเภอหนองหาน,อำเภอพิบูลย์รักษ์ และกิ่งอำเภอ กู่แก้ว (เฉพาะตำบลโนนทองอินทร์ และตำบลค้อใหญ่) สังกัด พรรคไทยรักไทย 4. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2544 เขต 6 พื้นที่อำเภอหนองหาน, อำเภอพิบูลย์รักษ์ และกิ่งอำเภอ กู่แก้ว (เฉพาะตำบลโนนทองอินทร์ และตำบลค้อใหญ่) สังกัด พรรคไทยรักไทย 5. เลขาธิการคณะกรรมาธิการการแรงงาน 6. กรรมการประสานงานรัฐบาล 7. ผู้ช่วยเลขานุการกรรมาธิการการแรงงาน 8. กรรมาธิการวิสามัญงบประมาณเพิ่มเติม พ.ศ. 2547 9. กรรมาธิการวิสามัญกฎหมายองค์การบริหาร ส่วนตำบล 10. กรรมาธิการวิสามัญกฎหมายรถยนต์ และ กรรมาธิการวิสามัญ พรบ. 2475 ลักษณะปกครองท้องถิ่น พ.ศ. 2541 59. นายธีระชัย แสนแก้ว เกิดเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2500 เป็นบุตรของ นายปราโมทย์ กับนางทองหงวน แสนแก้ว สำเร็จการศึกษา วิทยาศาสตร์บัณฑิต จากสถาบันราชภัฏอุดรธานี และระดับ 334
ข้อมูลการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ปริญญาโท สาขาสังคมสงเคราะห์ในกระบวนการยุติธรรม จากคณะสังคมสงเคราะห์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มีบุตร 4 คน คือสุธีรา แสนแก้ว, ประชาชาติ แสนแก้ว, มินธิรา แสนแก้ว และเศรษฐศาสตร์ แสนแก้ว บทบาททางการเมือง/การทำงาน 1. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2550 เขต 2 (แบบแบ่งเขตเลือกตั้ง เขตเดียวเลือกได้ 3 คน) พื้นที่ อำเภอกุมภวาปี หนองหาน วังสามหมอ ศรีธาตุ โนนสะอาด ไชยวาน กแู่ กว้ สงั กดั พรรคพลงั ประชาชน พ.ศ. 2551 ถกู ตดั สทิ ธ์ิ ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี (มีนายเกียรติ์อุดม เมนะสวัสดิ์ ได้รับเลือกตั้งแทน) เนื่องจากเป็นกรรมการบริหารพรรค พลังประชาชน 2. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2548 เขต 7 พื้นที่ อำเภอวังสามหมอ อำเภอศรีธาตุ อำเภอไชยวาน และกิ่งอำเภอกู่แก้ว (ยกเว้น ตำบลโนนทองอินทร์ และตำบล ค้อใหญ่) 3. สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดอุดรธานี พ.ศ. 2544 เขต 7 พื้นที่ อำเภอวังสามหมอ อำเภอศรีธาตุ อำเภอไชยวาน และกิ่งอำเภอกู่แก้ว (ยกเว้น ตำบลโนนทองอินทร์ และตำบล ค้อใหญ่) 4. เคยได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง เกษตรและสหกรณ์ ในรัฐบาลของนายสมัคร สุนทรเวช และ รัฐบาลของนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ 335
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 460
Pages: