Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 1116 เด็กหญิงสุภาวดี จันทร์ต๊ะวงค์

1116 เด็กหญิงสุภาวดี จันทร์ต๊ะวงค์

Published by kwunpirom.beer, 2023-04-20 01:48:28

Description: 1116 เด็กหญิงสุภาวดี จันทร์ต๊ะวงค์

Search

Read the Text Version

70 ๖. เกณฑ์การวัดและประเมินผล ผเู้ รยี นสามารถปฏบิ ตั ิตนตามกตกิ าของห้องเรียน ได้ ๒ ข้อ นาน ๕ วัน ตดิ ตอ่ กนั ๔ หมายถึง ปฏบิ ัตติ นตามกติกาของห้องเรยี น ได้ ๒ ข้อ นาน ๕ วนั ตดิ ตอ่ กัน ๓ หมายถึง ปฏิบตั ติ นตามกติกาของหอ้ งเรยี น ได้ ๒ ข้อ นาน ๔ วัน ติดต่อกัน ๒ หมายถงึ ปฏิบัติตนตามกติกาของหอ้ งเรยี น ได้ ๒ ข้อ นาน ๓ วัน ติดต่อกัน ๑ หมายถึง ใหค้ วามรว่ มมือ ๐ หมายถึง ไม่ให้ความรว่ มมือ ลงชือ่ ...........................................................ครผู ู้สอน (นางสาวขวัญภิรมณ์ อดุ บา้ นไร่) ความคิดเหน็ ฝา่ ยวิชาการ / ผ้แู ทน ( ) เป็นแผนการสอนทีด่ ีใชส้ อนได้ ( ) ควรปรับแก้ ........................................................................... ลงชอื่ ................................................. (นายจักรพงศ์ หมืน่ ส)ุ หัวหน้างานใหบ้ ริการช่วยเหลอื ระยะแรกเรมิ่ พฒั นาศกั ยภาพ และเตรยี มความพรอ้ ม วันที่/เดอื น/พ.ศ.................................... ความคิดเห็นของผูบ้ ริหาร หรอื ผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมาย ( ) เปน็ แผนการสอนที่ดีใชส้ อนได้ ( ) ควรปรบั แก้ .............................................................................. ลงช่ือ................................................. (นายนภสนิ ธุ์ ดวงประภา) ผชู้ ่วยผอู้ านวยการกลุ่มบริหารงานวิชาการ วันท่ี/เดือน/พ.ศ....................................

71 แบบบันทึกการวิเคราะหง์ าน ทกั ษะจาเปน็ เฉพาะความบกพรอ่ งทางสติปัญญา จุดประสงค์ ภายในเดือนธันวาคม ๒๕๖๕เม่ือกาหนดให้ปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรียน เด็กหญิงสุภาวดี จันทร์ต๊ะวงค์สามารถให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรียน ได้ ๒ ข้อ นาน ๕ วนั ตดิ ตอ่ กัน งาน (Task) การปฏบิ ตั ติ นตามกติกาของหอ้ งเรยี น ได้ ๒ ข้อ นาน ๕ วนั ช่อื นักเรยี น เดก็ หญงิ สภุ าวดี จนั ทร์ต๊ะวงค์ ลาดบั รายละเอยี ด ผลการประเมิน Forward Backward วัน เดือน ที่ ได้ ไมไ่ ด้ Chaining Chaining ปี ๑ เ ก็ บ ข อ ง เ ล่ น เ ข้ า ที่ เ ป็ น  ๑ กรกฎาคม ระเบียบ ๒๕๖๕  ๒ ไมแ่ กลง้ ผู้อ่ืน ๓ กันยายน  ๒๕๖๕ ๓ ไ ม่ ส่ ง เ สี ย ง ดั ง ข ณ ะ ท า กิจกรรม  ๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ๔ หยุดเล่นเมอื่ หมดเวลา  ๔ มกราคม ๕ แบ่งของเล่นให้เพอื่ น ๒๕๖๖ ๕ มนี าคม ๒๕๖๖ ลงชือ่ ............................................ ผูบ้ นั ทกึ (นางสาวขวัญภริ มณ์ อุดบา้ นไร่) พนักงานราชการ

72 บันทกึ ผลหลงั การสอน ทักษะจาเป็นเฉพาะความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา มาตรฐาน ๑๓ มีการพฒั นาทักษะจาเป็นเฉพาะความพกิ ารแต่ละประเภท ตัวบ่งชท้ี ี่ ๓ ทักษะการควบควบคุมตนเองในสถานการณ์ต่างๆ การนบั ถือตนเอง และสานกึ รผู้ ิดชอบช่วั ดี สภาพที่พึงประสงค์/พัฒนาการท่ีคาดหวัง : สภาพที่พึงประสงค์ที่ ๒ สามารถปฏิบัติตนตามกติกาของ ห้องเรยี นได้ โครงการ/กิจกรรมที่สอดคล้อง โครงการพาน้องท่องแหลง่ เรยี นร้นู ครลาปางเมืองแหง่ ความสุข เป้าหมายระยะยาว ๑ ปี ภายในเดือนมีนาคม ๒๕๖๖เด็กหญิงสุภาวดี จันทร์ต๊ะวงค์สามารถปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรียน ได้ จานวน ๕ ข้อ นาน ๕ วนั ตดิ ต่อกนั จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรมข้อท่ี ๑ ภายในเดอื นธันวาคม ๒๕๖๕เมือ่ กาหนดให้ปฏบิ ตั ิตนตามกติกาของห้องเรยี น เด็กหญิงสภุ าวดี จันทร์ ต๊ะวงคส์ ามารถใหค้ วามรว่ มมอื ในการปฏบิ ัติตนตามกติกาของห้องเรยี น ได้ ๒ ขอ้ นาน ๕ วัน ติดต่อกัน วันที่ ๑ ๒ ๓ ๗ ๘ ๙ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๒๐ ๒๑ ๒๒ ๒๓ ๒๔ ๒๗ ๒๘ ๒๙ ๓๐ สอน ระดบั ๑ ๑ ๑ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๔ ๔ ๔ คุณภาพ ทไี่ ด้ ภายในเดือนธันวาคม ๒๕๖๕เด็กหญงิ สุภาวดี จนั ทรต์ ๊ะวงค์สามารถใหค้ วามรว่ มมอื ในการปฏิบตั ิตนตามกติกา ของห้องเรยี น ได้ ๒ ข้อ นาน ๕ วนั ตดิ ต่อกนั ระดบั คุณภาพ ผู้เรียนสามารถปฏิบตั ติ นตามกติกาของห้องเรยี น ได้ ๒ ขอ้ นาน ๕ วัน ติดตอ่ กนั ๔ หมายถงึ ปฏิบตั ิตนตามกติกาของหอ้ งเรียน ได้ ๒ ข้อ นาน ๕ วัน ติดต่อกัน ๓ หมายถึง ปฏิบตั ิตนตามกติกาของห้องเรยี น ได้ ๒ ข้อ นาน ๔ วนั ติดตอ่ กนั ๒ หมายถึง ปฏบิ ัตติ นตามกติกาของหอ้ งเรียน ได้ ๒ ข้อ นาน ๓ วนั ตดิ ตอ่ กัน ๑ หมายถึง ใหค้ วามร่วมมือ ๐ หมายถงึ ไม่ให้ความร่วมมือ หมายเหตุ ๑ สงั เกตจากการปฏบิ ัติตามข้ันตอนตามท่ีกาหนดไว้ ๒ สงั เกตจากความสาเรจ็ ของงาน สงั เกตจากพฒั นาการของผ้เู รยี นท่ที าได้อยา่ งตอ่ เน่ือง

73 หมายเหตุ ๑. สังเกตจากการปฏบิ ตั ิตามข้ันตอนตามที่กาหนดไว้ ๒. สังเกตจากความสาเร็จของงาน สังเกตจากพัฒนาการของผูเ้ รยี นทท่ี าได้อยา่ งต่อเนื่อง ลงชื่อ...........................................................ครผู สู้ อน (นางสาวขวญั ภริ มณ์ อดุ บา้ นไร่) วันท/่ี เดือน/พ.ศ.....๓๐ ธ.ค. ๖๕........ ความคิดเห็นฝ่ายวิชาการ / ผแู้ ทน ( ) สอนตามแผนการสอนข้นั ตอนต่อไป ( ) ควรปรับแก้ ........................................................................... ลงช่อื ................................................. (นายจักรพงศ์ หมื่นส)ุ หวั หนา้ งานให้บรกิ ารช่วยเหลอื ระยะแรกเรม่ิ พัฒนาศกั ยภาพ และเตรยี มความพรอ้ ม วันท่ี/เดอื น/พ.ศ......๓๐ ธ.ค. ๖๕........ ความคิดเหน็ ของผ้บู รหิ าร หรอื ผทู้ ่ีได้รับมอบหมาย ( ) สอนตามแผนการสอนข้นั ตอนต่อไป ( ) ควรปรับแก้ .............................................................................. ลงชือ่ ................................................. (นายนภสินธ์ุ ดวงประภา) ผู้ช่วยผอู้ านวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ วนั ท/่ี เดอื น/พ.ศ.....๓๐ ธ.ค. ๖๕........

74 แผนการสอนเฉพาะบคุ คล (Individual Implementation Plan : IIP) ช่อื -สกลุ เดก็ หญิงสภุ าวดี จันทร์ต๊ะวงค์ ประเภทความพิการ บกพร่องทางสติปัญญา ปกี ารศึกษา ๒๕๖๕ ทักษะจาเปน็ เฉพาะความบกพรอ่ งทางสติปัญญา มาตรฐาน ๑๓ มกี ารพฒั นาทักษะจาเป็นเฉพาะความพิการแต่ละประเภท ตัวบ่งชที้ ่ี ๓ ทักษะการควบควบคมุ ตนเองในสถานการณต์ ่างๆ การนับถือตนเอง และสานกึ รผู้ ดิ ชอบชัว่ ดี สภาพที่พึงประสงค์/พัฒนาการที่คาดหวัง : สภาพที่พึงประสงค์ท่ี ๒ สามารถปฏิบัติตนตามกติกาของ หอ้ งเรยี นได้ โครงการ/กจิ กรรมทส่ี อดคล้อง โครงการพาน้องทอ่ งแหลง่ เรยี นรู้นครลาปางเมืองแหง่ ความสขุ เป้าหมายระยะยาว ๑ ปี ภายในเดือนมีนาคม ๒๕๖๖เด็กหญิงสุภาวดี จันทร์ต๊ะวงค์สามารถปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรียน ได้ จานวน ๕ ข้อ นาน ๕ วนั ตดิ ตอ่ กัน จุดประสงคเ์ ชิงพฤติกรรมข้อท่ี ๑ ภายในเดือนมกราคม ๒๕๖๖ เม่ือกาหนดให้ปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรียน เด็กหญิงสุภาวดี จนั ทรต์ ะ๊ วงคส์ ามารถใหค้ วามรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั ิตนตามกติกาของห้องเรียน ได้ ๓ ขอ้ นาน ๕ วนั ตดิ ตอ่ กนั แผนท่ี ๑ เร่มิ ใช้แผนวันท่ี ๓ มกราคม ๒๕๖๖ ส้ินสุดแผนวนั ท่ี ๓๑ มกราคม ๒๕๖๖ ใชเ้ วลาสอนคาบละ ๒๐ นาที ๑. เน้อื หา ปฏิบตั ิตนตามกติกาของห้องเรียนได้ ๒. จุดประสงค์ ปลายทาง ผู้เรยี นสามารถปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรยี นได้ จานวน ๕ ขอ้ ปฏบิ ัตไิ ดอ้ ยา่ งถูกต้อง มัน่ ใจ

75 ๓. กิจกรรมการสอน 1) ขัน้ เตรียมการสอน สถานท่ี ห้องเรียนแสงตะวนั ฉาย สอื่ ครู นักเรยี น กฎ กตกิ าในห้องเรยี น แบบประเมิน วางบนโต๊ะขา้ งครูผู้สอน พร้อมปากกา ผเู้ รียน ยืนขา้ งครูผสู้ อน 2) ขน้ั นาเสนองาน ทักทาย ผ้สู อนทกั ทายผูเ้ รยี นโดยการกลา่ วสวสั ดี และบอกผูเ้ รียนวา่ “นา้ ม้นิ วนั น้ีครจู ะให้ นา้ ม้นิ ปฏิบตั ิตนตามกติกาของห้องเรียนนะคะ” ประเมินความสามารถพนื้ ฐาน ผู้สอนใหผ้ ู้เรียนปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรยี นจานวน ๑ ขอ้ ให้ดู โดยใช้คาส่ัง “น้าม้นิ ไมส่ ง่ เสียงดังขณะทากจิ กรรมนะคะ” 3) ขนั้ สอน ๑. ผู้สอนบอกผู้เรยี นว่า ““น้าม้นิ วันนี้ครูจะให้นา้ มน้ิ ปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรียน จานวน ๑ ขอ้ นะคะ ” พร้อมสาธิตการเกบ็ ของเล่นเข้าท่ีให้น้าม้นิ ดู ๑.๑ ผสู้ อนกอดอก นง่ั บนเก้าของตนเอง ๑.๒ ผ้สู อนตง้ั ใจทากิจกรรม คาสง่ั “นา้ มิ้นไมส่ ่งเสยี งดังขณะทากิจกรรมนะคะ” ใช้เทคนิคการสอนอะไร - การสาธิต - ทาตามแบบ - กระตนุ้ เตือน - ตะลอ่ มกล่อมเกลา ใหแ้ รงเสริม/รางวลั ผสู้ อนพูดวา่ “เก่งมากค่ะ” 4) ข้นั ประเมนิ บนั ทึกลงในแบบบนั ทึกผลการเรียนรตู้ ามแผนการสอนเฉพาะบุคคล ๔. การวดั และประเมนิ ผล ๑) วิธวี ดั และประเมนิ ผล - การสังเกต - การทดสอบ - การฝกึ ปฏิบตั ิจริง ๒) เครอื่ งมอื วดั และประเมนิ ผล - แบบบนั ทึกผลการเรยี นรตู้ ามแผนการสอนเฉพาะบุคคล

76 ๖. เกณฑก์ ารวัดและประเมินผล ผู้เรยี นสามารถปฏิบตั ิตนตามกตกิ าของห้องเรยี น ได้ ๓ ข้อ นาน ๕ วนั ติดตอ่ กัน ๔ หมายถึง ปฏบิ ัติตนตามกติกาของหอ้ งเรียน ได้ ๓ ข้อ นาน ๕ วัน ติดตอ่ กัน ๓ หมายถึง ปฏบิ ตั ิตนตามกติกาของห้องเรยี น ได้ ๓ ข้อ นาน ๔ วนั ตดิ ต่อกัน ๒ หมายถงึ ปฏบิ ัตติ นตามกติกาของหอ้ งเรยี น ได้ ๓ ข้อ นาน ๓ วนั ติดตอ่ กัน ๑ หมายถงึ ให้ความร่วมมือ ๐ หมายถึง ไม่ใหค้ วามร่วมมือ ลงช่อื ...........................................................ครูผ้สู อน (นางสาวขวญั ภริ มณ์ อดุ บ้านไร่) ความคดิ เหน็ ฝ่ายวิชาการ / ผูแ้ ทน (  ) เปน็ แผนการสอนทด่ี ีใช้สอนได้ ( ) ควรปรับแก้ ........................................................................... ลงช่อื ................................................. (นายจักรพงศ์ หมนื่ สุ) หัวหน้างานใหบ้ รกิ ารชว่ ยเหลอื ระยะแรกเริ่ม พฒั นาศกั ยภาพ และเตรยี มความพร้อม วนั ท/ี่ เดือน/พ.ศ................................ ความคิดเหน็ ของผบู้ รหิ าร หรอื ผ้ทู ่ีไดร้ บั มอบหมาย (  ) เป็นแผนการสอนทด่ี ีใช้สอนได้ ( ) ควรปรบั แก้ .............................................................................. ลงชื่อ................................................. (นายนภสนิ ธุ์ ดวงประภา) ผ้ชู ่วยผูอ้ านวยการกลุ่มบริหารงานวชิ าการ วันท/่ี เดือน/พ.ศ................................

77 แบบบันทกึ การวเิ คราะห์งาน ทักษะจาเปน็ เฉพาะความบกพรอ่ งทางสติปัญญา จุดประสงค์ ภายในเดือนมกราคม ๒๕๖๖ เมื่อกาหนดให้ปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรียน เด็กหญิง สุภาวดี จันทร์ต๊ะวงค์สามารถให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรียน ได้ ๓ ข้อ นาน ๕ วัน ตดิ ตอ่ กนั งาน (Task) การปฏบิ ัตติ นตามกตกิ าของหอ้ งเรียน ได้ ๓ ข้อ นาน ๕ วนั ชื่อนักเรยี น เด็กหญิงสภุ าวดี จันทร์ต๊ะวงค์ ลาดบั รายละเอียด ผลการประเมนิ Forward Backward วนั เดือน ที่ ได้ ไม่ได้ Chaining Chaining ปี ๑ เ ก็ บ ข อ ง เ ล่ น เ ข้ า ท่ี เ ป็ น  ๑ กรกฎาคม ระเบยี บ ๒๕๖๕  ๒ ไมแ่ กล้งผ้อู ่นื ๓ กนั ยายน  ๒๕๖๕ ๓ ไ ม่ ส่ ง เ สี ย ง ดั ง ข ณ ะ ท า กิจกรรม  ๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ๔ หยดุ เลน่ เม่อื หมดเวลา  ๔ มกราคม ๕ แบง่ ของเล่นให้เพ่อื น ๒๕๖๖ ๕ มีนาคม ๒๕๖๖ ลงชื่อ............................................ ผูบ้ ันทึก (นางสาวขวญั ภริ มณ์ อุดบา้ นไร่) พนกั งานราชการ

78 บันทึกผลหลงั การสอน ทักษะจาเป็นเฉพาะความบกพรอ่ งทางสติปัญญา มาตรฐาน ๑๓ มีการพัฒนาทักษะจาเปน็ เฉพาะความพกิ ารแต่ละประเภท ตัวบ่งช้ีที่ ๓ ทักษะการควบควบคุมตนเองในสถานการณ์ต่างๆ การนบั ถือตนเอง และสานกึ รูผ้ ิดชอบช่วั ดี สภาพท่ีพึงประสงค์/พัฒนาการท่ีคาดหวัง : สภาพท่ีพึงประสงค์ที่ ๒ สามารถปฏิบัติตนตามกติกาของ ห้องเรยี นได้ โครงการ/กิจกรรมที่สอดคล้อง โครงการพาน้องทอ่ งแหล่งเรยี นรนู้ ครลาปางเมืองแห่งความสขุ เป้าหมายระยะยาว ๑ ปี ภายในเดือนมีนาคม ๒๕๖๖เด็กหญิงสุภาวดี จันทร์ต๊ะวงค์สามารถปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรียน ได้ จานวน ๕ ข้อ นาน ๕ วันตดิ ต่อกัน จดุ ประสงค์เชงิ พฤติกรรมข้อท่ี ๑ ภายในเดือนมกราคม ๒๕๖๖ เมื่อกาหนดให้ปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรียน เด็กหญิงสุภาวดี จนั ทรต์ ๊ะวงคส์ ามารถใหค้ วามร่วมมอื ในการปฏบิ ตั ิตนตามกตกิ าของห้องเรียน ได้ ๓ ขอ้ นาน ๕ วัน ติดตอ่ กัน วนั ท่ี ๓ ๔ ๕ ๖ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ๒๓ ๑๔ ๒๕ ๒๖ ๒๗ ๓๑ สอน ระดับ ๑ ๑ ๑ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๔ ๔ ๔ คุณภาพ ทีไ่ ด้ ภายในเดอื นมกราคม ๒๕๖๖ เดก็ หญงิ สุภาวดี จันทรต์ ๊ะวงค์สามารถให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตนตามกติกา ของห้องเรียน ได้ ๓ ข้อ นาน ๕ วัน ติดตอ่ กัน ระดบั คณุ ภาพ ผู้เรยี นสามารถปฏิบตั ติ นตามกติกาของห้องเรยี น ได้ ๓ ขอ้ นาน ๕ วนั ติดตอ่ กัน ๔ หมายถงึ ปฏิบตั ิตนตามกติกาของห้องเรยี น ได้ ๓ ข้อ นาน ๕ วัน ติดตอ่ กัน ๓ หมายถงึ ปฏิบตั ติ นตามกติกาของหอ้ งเรียน ได้ ๓ ข้อ นาน ๔ วนั ตดิ ตอ่ กัน ๒ หมายถึง ปฏิบัตติ นตามกติกาของหอ้ งเรยี น ได้ ๓ ข้อ นาน ๓ วนั ติดตอ่ กนั ๑ หมายถงึ ใหค้ วามร่วมมือ ๐ หมายถึง ไม่ใหค้ วามร่วมมือ หมายเหตุ ๑ สงั เกตจากการปฏบิ ตั ิตามข้ันตอนตามทีก่ าหนดไว้ ๒ สังเกตจากความสาเร็จของงาน สังเกตจากพฒั นาการของผเู้ รยี นท่ที าได้อย่างต่อเนื่อง

79 หมายเหตุ ๑. สังเกตจากการปฏบิ ตั ิตามข้ันตอนตามที่กาหนดไว้ ๒. สังเกตจากความสาเร็จของงาน สังเกตจากพัฒนาการของผูเ้ รยี นทท่ี าได้อยา่ งตอ่ เนื่อง ลงชื่อ...........................................................ครผู สู้ อน (นางสาวขวญั ภริ มณ์ อดุ บ้านไร่) วันท/่ี เดือน/พ.ศ.....๓๑ ม.ค. ๖๖........ ความคิดเห็นฝ่ายวิชาการ / ผแู้ ทน ( ) สอนตามแผนการสอนข้นั ตอนต่อไป ( ) ควรปรับแก้ ........................................................................... ลงช่อื ................................................. (นายจักรพงศ์ หม่นื ส)ุ หวั หนา้ งานให้บรกิ ารช่วยเหลอื ระยะแรกเรมิ่ พัฒนาศกั ยภาพ และเตรียมความพรอ้ ม วันท่ี/เดอื น/พ.ศ......๓๑ ม.ค. ๖๖........ ความคิดเหน็ ของผ้บู รหิ าร หรอื ผทู้ ่ีได้รับมอบหมาย ( ) สอนตามแผนการสอนข้นั ตอนต่อไป ( ) ควรปรับแก้ .............................................................................. ลงชือ่ ................................................. (นายนภสินธ์ุ ดวงประภา) ผู้ช่วยผอู้ านวยการกลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ วนั ท/่ี เดอื น/พ.ศ.....๓๑ ม.ค. ๖๖........

80 แผนการสอนเฉพาะบุคคล (Individual Implementation Plan : IIP) ชอื่ -สกลุ เด็กหญิงสุภาวดี จนั ทร์ตะ๊ วงค์ ประเภทความพิการ บกพร่องทางสตปิ ัญญา ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ทกั ษะจาเปน็ เฉพาะความบกพรอ่ งทางสติปัญญา มาตรฐาน ๑๓ มีการพัฒนาทักษะจาเปน็ เฉพาะความพิการแต่ละประเภท ตวั บง่ ช้ีท่ี ๓ ทักษะการควบควบคุมตนเองในสถานการณต์ ่างๆ การนบั ถือตนเอง และสานกึ รผู้ ิดชอบชวั่ ดี สภาพท่ีพึงประสงค์/พัฒนาการที่คาดหวัง : สภาพท่ีพึงประสงค์ที่ ๒ สามารถปฏิบัติตนตามกติกาของ หอ้ งเรยี นได้ โครงการ/กิจกรรมที่สอดคล้อง โครงการพาน้องท่องแหลง่ เรียนรู้นครลาปางเมืองแหง่ ความสุข เปา้ หมายระยะยาว ๑ ปี ภายในเดือนมนี าคม ๒๕๖๖ เด็กหญิงสุภาวดี จันทร์ต๊ะวงค์สามารถปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรียน ได้ จานวน ๕ ข้อ นาน ๕ วนั ตดิ ต่อกัน จดุ ประสงค์เชงิ พฤตกิ รรมขอ้ ท่ี ๑ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ เมื่อกาหนดให้ปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรียน เด็กหญิงสุภาวดี จันทร์ตะ๊ วงคส์ ามารถใหค้ วามรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั ติ นตามกตกิ าของห้องเรียน ได้ ๔ ข้อ นาน ๕ วัน ติดต่อกัน แผนท่ี ๑ เร่มิ ใชแ้ ผนวันที่ ๑ กมุ ภาพันธ์ ๒๕๖๖ สนิ้ สดุ แผนวนั ที่ ๒๘ กุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๖ ใชเ้ วลาสอนคาบละ ๒๐ นาที ๑. เนอื้ หา ปฏิบัตติ นตามกติกาของห้องเรยี นได้ ๒. จุดประสงค์ ปลายทาง ผู้เรยี นสามารถปฏบิ ัติตนตามกติกาของห้องเรียนได้ จานวน ๕ ขอ้ ปฏบิ ัติไดอ้ ย่างถูกต้อง มน่ั ใจ

81 ๓. กิจกรรมการสอน 1) ขนั้ เตรยี มการสอน สถานที่ ห้องเรยี นแสงตะวันฉาย สื่อ ครู นักเรียน กฎ กติกาในห้องเรียน แบบประเมิน วางบนโต๊ะข้างครูผสู้ อน พร้อมปากกา ผู้เรียน ยืนขา้ งครูผสู้ อน 2) ขน้ั นาเสนองาน ทกั ทาย ผสู้ อนทักทายผูเ้ รยี นโดยการกลา่ วสวัสดี และบอกผู้เรียนว่า “น้ามิน้ วนั นค้ี รจู ะให้ น้ามน้ิ ปฏิบตั ติ นตามกติกาของหอ้ งเรยี นนะคะ” ประเมินความสามารถพ้ืนฐาน ผู้สอนใหผ้ ู้เรยี นปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรยี นจานวน ๑ ขอ้ ใหด้ ู โดยใชค้ าส่ัง “นา้ มนิ้ หมดเวลาแลว้ นะคะ” 3) ขน้ั สอน ๑. ผู้สอนบอกผู้เรียนว่า ““น้าม้ินวันนีค้ รูจะให้น้ามนิ้ ปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรยี น จานวน ๑ ข้อนะคะ ” พร้อมสาธิตการเกบ็ ของเลน่ เข้าท่ีให้น้ามน้ิ ดู ๑.๑ ผูส้ อนหยุดเลน่ เม่ือหมดเวลาเล่น ๑.๒ ผูส้ อนเก็บของเล่นใส่กล่อง คาสัง่ “น้าม้ินหมดเวลาแลว้ นะคะ” ใช้เทคนคิ การสอนอะไร - การสาธิต - ทาตามแบบ - กระต้นุ เตือน - ตะล่อมกล่อมเกลา ให้แรงเสริม/รางวลั ผู้สอนพูดว่า “เก่งมากค่ะ” 4) ข้นั ประเมนิ บันทึกลงในแบบบนั ทึกผลการเรยี นรูต้ ามแผนการสอนเฉพาะบุคคล ๔. การวัดและประเมินผล ๑) วิธวี ัดและประเมินผล - การสังเกต - การทดสอบ - การฝึกปฏบิ ัตจิ รงิ ๒) เครอื่ งมอื วัดและประเมินผล - แบบบนั ทึกผลการเรยี นรู้ตามแผนการสอนเฉพาะบุคคล

82 ๖. เกณฑ์การวดั และประเมินผล ผู้เรียนสามารถปฏิบัติตนตามกตกิ าของห้องเรียน ได้ ๔ ขอ้ นาน ๕ วนั ติดตอ่ กัน ๔ หมายถงึ ปฏิบตั ติ นตามกติกาของห้องเรยี น ได้ ๔ ข้อ นาน ๕ วนั ตดิ ต่อกนั ๓ หมายถึง ปฏิบตั ิตนตามกติกาของหอ้ งเรียน ได้ ๔ ข้อ นาน ๔ วนั ตดิ ต่อกนั ๒ หมายถึง ปฏบิ ตั ิตนตามกติกาของหอ้ งเรียน ได้ ๔ ข้อ นาน ๓ วัน ติดตอ่ กัน ๑ หมายถงึ ให้ความร่วมมอื ๐ หมายถึง ไม่ใหค้ วามร่วมมือ ลงช่อื ...........................................................ครูผู้สอน (นางสาวขวญั ภิรมณ์ อุดบา้ นไร่) ความคิดเหน็ ฝ่ายวิชาการ / ผ้แู ทน ( ) เปน็ แผนการสอนทีด่ ีใชส้ อนได้ ( ) ควรปรับแก้ ........................................................................... ลงช่ือ................................................. (นายจักรพงศ์ หมน่ื ส)ุ หัวหนา้ งานใหบ้ ริการช่วยเหลือระยะแรกเร่มิ พัฒนาศกั ยภาพ และเตรยี มความพรอ้ ม วนั ท/่ี เดอื น/พ.ศ. .................................. ความคิดเห็นของผู้บรหิ าร หรือผู้ทีไ่ ด้รบั มอบหมาย ( ) เปน็ แผนการสอนทีด่ ีใช้สอนได้ ( ) ควรปรับแก้ .............................................................................. ลงช่อื ................................................. (นายนภสินธ์ุ ดวงประภา) ผ้ชู ่วยผูอ้ านวยการกลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ วันที/่ เดือน/พ.ศ. ..................................

83 แบบบันทึกการวเิ คราะห์งาน ทกั ษะจาเปน็ เฉพาะความบกพรอ่ งทางสตปิ ัญญา จุดประสงค์ ภายในเดือนกุมภาพนั ธ์ ๒๕๖๖ เมื่อกาหนดใหป้ ฏบิ ัติตนตามกติกาของหอ้ งเรียน เดก็ หญิง สุภาวดี จันทร์ต๊ะวงค์สามารถให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรียน ได้ ๔ ข้อ นาน ๕ วัน ติดต่อกนั งาน (Task) การปฏิบัตติ นตามกติกาของหอ้ งเรยี น ได้ ๔ ข้อ นาน ๕ วนั ชอื่ นักเรียน เด็กหญงิ สุภาวดี จนั ทร์ต๊ะวงค์ ลาดับ รายละเอยี ด ผลการประเมิน Forward Backward วัน เดือน ท่ี ได้ ไม่ได้ Chaining Chaining ปี  ๑ เ ก็ บ ข อ ง เ ล่ น เ ข้ า ท่ี เ ป็ น ๑ กรกฎาคม ระเบียบ  ๒๕๖๕ ๒ ไม่แกล้งผู้อื่น  ๓ กันยายน ๒๕๖๕ ๓ ไ ม่ ส่ ง เ สี ย ง ดั ง ข ณ ะ ท า  กจิ กรรม ๒ พฤศจิกายน  ๒๕๖๕ ๔ หยุดเลน่ เมอ่ื หมดเวลา ๔ มกราคม ๕ แบง่ ของเลน่ ให้เพอื่ น ๒๕๖๖ ๕ มนี าคม ๒๕๖๖ ลงช่อื ............................................ ผ้บู ันทกึ (นางสาวขวญั ภิรมณ์ อุดบา้ นไร่) พนักงานราชการ

84 บนั ทกึ ผลหลงั การสอน ทักษะจาเปน็ เฉพาะความบกพร่องทางสตปิ ัญญา มาตรฐาน ๑๓ มกี ารพฒั นาทักษะจาเปน็ เฉพาะความพิการแตล่ ะประเภท ตัวบ่งชที้ ่ี ๓ ทักษะการควบควบคุมตนเองในสถานการณต์ ่างๆ การนบั ถือตนเอง และสานกึ รผู้ ิดชอบชวั่ ดี สภาพท่ีพึงประสงค์/พัฒนาการท่ีคาดหวัง : สภาพที่พึงประสงค์ที่ ๒ สามารถปฏิบัติตนตามกติกาของ ห้องเรียนได้ โครงการ/กิจกรรมที่สอดคล้อง โครงการพาน้องทอ่ งแหลง่ เรียนรู้นครลาปางเมืองแห่งความสขุ เปา้ หมายระยะยาว ๑ ปี ภายในเดือนมนี าคม ๒๕๖๖ เด็กหญงิ สุภาวดี จันทร์ต๊ะวงค์สามารถปฏิบตั ิตนตามกติกาของห้องเรียน ได้ จานวน ๕ ข้อ นาน ๕ วันตดิ ต่อกนั จุดประสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรมขอ้ ที่ ๑ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ เม่ือกาหนดให้ปฏิบัติตนตามกติกาของห้องเรียน เด็กหญิงสุภาวดี จันทรต์ ะ๊ วงคส์ ามารถใหค้ วามรว่ มมอื ในการปฏบิ ตั ิตนตามกติกาของห้องเรยี น ได้ ๔ ขอ้ นาน ๕ วนั ตดิ ตอ่ กัน วนั ท่ี ๑ ๒ ๓ ๔ ๗ ๘ ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๔ ๑๕ ๑๗ ๑๘ ๒๑ ๒๒ ๒๓ ๒๔ ๒๕ ๒๘ สอน ระดับ ๑ ๑ ๑ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๒ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๓ ๔ ๔ ๔ คณุ ภาพ ที่ได้ ภายในเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ เด็กหญิงสภุ าวดี จนั ทร์ตะ๊ วงค์สามารถให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตนตาม กติกาของห้องเรยี น ได้ ๔ ข้อ นาน ๕ วนั ตดิ ต่อกัน ระดับคุณภาพ ผู้เรยี นสามารถปฏบิ ัตติ นตามกติกาของห้องเรียน ได้ ๔ ขอ้ นาน ๕ วัน ติดต่อกนั ๔ หมายถึง ปฏบิ ัตติ นตามกติกาของห้องเรียน ได้ ๔ ข้อ นาน ๕ วัน ติดตอ่ กนั ๓ หมายถงึ ปฏบิ ตั ติ นตามกติกาของห้องเรยี น ได้ ๔ ข้อ นาน ๔ วนั ติดตอ่ กัน ๒ หมายถงึ ปฏบิ ตั ิตนตามกติกาของหอ้ งเรียน ได้ ๔ ข้อ นาน ๓ วนั ตดิ ต่อกนั ๑ หมายถึง ให้ความรว่ มมือ ๐ หมายถงึ ไม่ใหค้ วามรว่ มมือ หมายเหตุ ๑ สังเกตจากการปฏิบัติตามข้ันตอนตามทกี่ าหนดไว้ ๒ สงั เกตจากความสาเร็จของงาน สังเกตจากพฒั นาการของผเู้ รยี นทที่ าได้อย่างต่อเนื่อง

85 หมายเหตุ ๑. สังเกตจากการปฏบิ ตั ิตามข้ันตอนตามที่กาหนดไว้ ๒. สังเกตจากความสาเร็จของงาน สังเกตจากพัฒนาการของผูเ้ รยี นท่ที าได้อย่างตอ่ เนื่อง ลงชื่อ...........................................................ครผู สู้ อน (นางสาวขวญั ภริ มณ์ อดุ บา้ นไร่) วันท/่ี เดือน/พ.ศ.....๒๘ ก.พ. ๖๖........ ความคิดเห็นฝ่ายวิชาการ / ผแู้ ทน ( ) สอนตามแผนการสอนข้นั ตอนต่อไป ( ) ควรปรับแก้ ........................................................................... ลงช่อื ................................................. (นายจักรพงศ์ หมน่ื ส)ุ หวั หนา้ งานให้บรกิ ารช่วยเหลือระยะแรกเรมิ่ พัฒนาศกั ยภาพ และเตรยี มความพร้อม วันท่ี/เดอื น/พ.ศ......๒๘ ก.พ. ๖๖........ ความคิดเหน็ ของผ้บู รหิ าร หรอื ผทู้ ่ีได้รับมอบหมาย ( ) สอนตามแผนการสอนข้นั ตอนต่อไป ( ) ควรปรับแก้ .............................................................................. ลงชือ่ ................................................. (นายนภสินธ์ุ ดวงประภา) ผู้ช่วยผอู้ านวยการกลมุ่ บริหารงานวชิ าการ วนั ท/่ี เดอื น/พ.ศ.....๒๘ ก.พ. ๖๖........

86

87

88

89

90

91

92

93

94

95

96

97

98

99

100 ขอมลู นักเรียนรายบคุ คล หอ งเรยี น......................... ปก ารศึกษา .......................... ๑. ขอ มูลดานนักเรยี น ๑.๑ ขอ มลู สวนตัวนกั เรยี น ชอ่ื -นามสกุล (ด.ช/ด.ญ/นาย/น.ส)................................................................................... ชอ่ื เลน ............................. ประเภทความพิการ.................................................................................................................................................... เกดิ วนั ท.่ี ......เดือน ……............ พ.ศ. ............. อายุ ...........ป เชื้อชาติ ............... สญั ชาต.ิ .............. ศาสนา.............. เลขบตั รประจาํ ตัวประชาชน.............................................................หมูโลหติ ........................................................... การจดทะเบยี นคนพิการ  ไมต อ งการจดทะเบียน  ยงั ไมจดทะเบยี น  จดทะเบยี นแลว ที่อยปู จ จบุ นั บา นเลขท.่ี ...............ตรอก/ซอย...............หมทู .่ี ..........ชอ่ื หมบู า น/ถนน................................................. ตําบล/แขวง.............................. อําเภอ/เขต............................ จงั หวดั .......................... รหสั ไปรษณีย. ..................... ๑.๒ ดา นสุขภาพ ๑) สุขภาพกาย  มสี ุขภาพรางกายสมบูรณแข็งแรง  เจ็บปว ยบอ ย (ระบุ)............................................................................  มีโรคประจําตัว (ระบ)ุ .........................................................................  ปวยเปน โรครายแรง/เรอื้ รัง (วณั โรค โรคอว น โรคทางเดินหายใจเรื้อรงั (หอบหืด) โรคหวั ใจและหลอดเลอื ด โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตวายเร้ือรงั โรคมะเร็ง ภาวะภูมคิ มุ กันตํ่า โรคเบาหวาน ภาวะบกพรองทางระบบประสาทอยา งรนุ แรง ลมชัก ฯลฯ ระบโุ รค)............................................................... นาํ้ หนัก..........................กโิ ลกรมั สว นสงู ...............................เซนตเิ มตร  นํ้าหนกั ผิดปกตไิ มสัมพนั ธกบั สว นสงู หรืออายุ  นอนติดเตียง ๒) สุขภาพจติ /อารมณ/พฤติกรรม  อารมณด ี ยม้ิ งาย  มีปฏสิ มั พนั ธท เ่ี หมาะสมกับผอู น่ื  อารมณหงดุ หงิดงา ย/โมโหงา ย  ไมมปี ฏสิ มั พันธก ับผอู นื่ เชน เฉยเมย ไมส บตา  ไมมกี ารตอบสนอง/แสดงออกทางอารมณ  ซมึ เศรา  แยกตัวออกจากกลุม  หวาดระแวง  ไมพ บพฤติกรรมที่ไมพึงประสงค  พบพฤติกรรมท่ีไมพึงประสงคทสี่ ง ผลกระทบไมร นุ แรงตอตนเอง/ผอู ่นื /ส่ิงของ  พบพฤติกรรมที่ไมพงึ ประสงคท ีส่ ง ผลกระทบรนุ แรงตอตนเอง/ผูอ ืน่ /ส่ิงของ

101 ๑.๓ ดา นการเรยี นรู ๑) พฒั นาการ/ความสามารถ  พฒั นาการ/ความสามารถเทียบเทา กับอายุจรงิ  พฒั นาการ/ความสามารถลาชา กวา อายจุ ริง ๑ – ๓ ป  พฒั นาการ/ความสามารถลาชา กวาอายจุ ริง ๓ ป ข้นึ ไป ๒) การชว ยเหลือตนเอง  สามารถชวยเหลอื ตนเองได  สามารถชวยเหลือตนเองไดบ า ง  ไมสามารถชว ยเหลอื ตนเองได ๑.๔ ดา นสิทธิคนพิการ/สนบั สนุนชว ยเหลือจากองคก รภาครฐั หรอื เอกชน ๑) เบยี้ ยังชีพคนพกิ าร  ไดรับ จาํ นวน.......................บาท/เดือน  ไมไ ดร บั เน่ืองจาก................................................................................................................ ๒) บรกิ ารฟน ฟูทางการแพทย  ไดรบั (ระบโุ รงพยาบาล)......................................................................................................  ไมไ ดร บั เน่ืองจาก................................................................................................................ ๓) บรกิ ารเทคโนโลยี สือ่ ส่ิงอํานวยความสะดวก  ไดรบั (ระบสุ ิง่ ท่ีไดร บั ).......................................................................................................... (ระบุหนวยงานทีไ่ ดร บั )........................................................................................................  ไมไ ดร บั เน่ืองจาก............................................................................................................... ๔) ทุนการศึกษา/เงนิ ชว ยเหลืออนื่ ๆ  ไดรบั (ระบุชอื่ ทุนการศกึ ษา/เงนิ ชว ยเหลืออื่น ๆ)................................................................ จาํ นวน.......................บาท/เดอื น  ไมไดรบั เนื่องจาก................................................................................................................ ๕) รับบริการสวัสดิการทางสังคม  ไดร บั (สงิ่ ทไี่ ดร ับ เชน บริการเคสเมเนเจอร บรกิ ารรบั สงไปโรงพยาบาล ฯลฯ ระบ)ุ .......... (หนว ยงานทีไ่ ดร บั เชน พมจ. กสศ. ฯลฯ ระบุ )..................................................................  ไมไ ดร ับ เน่ืองจาก...............................................................................................................

102 ๑.๕ ดา นการเดนิ ทางในชวี ิตประจําวนั ๑) ยานพาหนะทีใ่ ชใ นครอบครวั  ไมม ยี านหนะใชภายในครอบครวั  มียานพาหนะ โปรดระบุประเภท  จักรยาน  จกั รยานยนต  จักรยานยนตพว ง  รถเกง  รถกระบะ ๒ ประตู  รถกระบะ ๔ ประตู (นัง่ ๒ ตอนทา ยบรรทุก)  รถกระบะ ๔ ประตู (น่ัง ๒ ตอนทายบรรทุกมหี ลังคา)  รถกระบะ ๔ ประตู (นั่ง ๒ ตอนแวน)  รถตูสว นบุคคล ๒) วธิ กี ารเดินทางในชีวิตประจําวัน  เดนิ  ใชย านพาหนะ โปรดระบุประเภท  จักรยาน  จักรยานยนต  จกั รยานยนตพว ง  รถเกง  รถกระบะ ๒ ประตู  รถกระบะ ๔ ประตู (นั่ง ๒ ตอนทายบรรทุก)  รถกระบะ ๔ ประตู (น่ัง ๒ ตอนทา ยบรรทุกมหี ลังคา)  รถกระบะ ๔ ประตู (นั่ง ๒ ตอนแวน)  รถรับจา ง / รถรบั -สง นกั เรยี น  รถโดยสารประจาํ ทาง  รถตูส วนบุคคล ๓) ระยะทางจากที่พกั อาศัยมายังสถานศกึ ษา (ระบุระยะทาง)........................กโิ ลเมตร

103 ๒. ขอ มูลดา นครอบครวั ๒.๑ ขอ มลู บิดา  มีชีวติ อยู  ถงึ แกก รรม  ไมม ีขอมูล ชอ่ื -นามสกุล บดิ า.........................................................................อาย.ุ ...........ป เชอื้ ชาต.ิ ........................... สัญชาติ............................. ศาสนา.........................  ไมม งี านทํา  มีงานทาํ อาชีพ...................................................รายได. ............................บาท/เดือน ระดบั การศึกษา  ไมไดรับการศึกษา  ประถมศึกษา  มัธยมศึกษา/ปวช  ปวส/อนุปรญิ ญา  ปรญิ ญา ที่อยปู จ จุบัน  ทีอ่ ยูเดียวกับนกั เรยี น  ท่ีอยูตางจากนกั เรยี น (โปรดกรอกขอมลู ) บา นเลขที.่ ....................ตรอก/ซอย...............หมทู ่.ี ..........ชอ่ื หมบู า น/ถนน................................................... ตําบล/แขวง....................................อําเภอ/เขต................................... จงั หวัด............................................ รหัสไปรษณีย..............................................เบอรโ ทรศัพท............................................................................ ๒.๒ ขอมลู มารดา  มีชวี ิตอยู  ถงึ แกกรรม  ไมม ีขอมูล ช่ือ-นามสกลุ มารดา.......................................................................อาย.ุ ...........ป เชื้อชาต.ิ ........................... สัญชาติ............................. ศาสนา.........................  ไมม ีงานทํา  มีงานทาํ อาชีพ...................................................รายได.............................บาท/เดอื น ระดบั การศกึ ษา  ไมไ ดรับการศึกษา  ประถมศึกษา  มธั ยมศกึ ษา/ปวช  ปวส/อนุปริญญา  ปรญิ ญา ท่ีอยปู จ จุบัน  ที่อยูเดยี วกบั นักเรยี น  ที่อยตู า งจากนักเรยี น (โปรดกรอกขอมูล) บา นเลขท.่ี ....................ตรอก/ซอย...............หมทู .ี่ ..........ชื่อหมูบา น/ถนน................................................... ตาํ บล/แขวง....................................อําเภอ/เขต................................... จงั หวดั ............................................ รหสั ไปรษณีย..............................................เบอรโ ทรศัพท............................................................................ ๒.๓ ขอ มูลผปู กครอง  บิดา  มารดา  ผูปกครองไมใชบ ดิ า/มารดา (โปรดกรอกขอมลู ) ช่อื -นามสกลุ ผูปกครอง.......................................................................อายุ............ป เชือ้ ชาต.ิ ....................... สัญชาต.ิ ............................ ศาสนา.........................  ไมมีงานทํา  มงี านทํา อาชีพ...................................................รายได.............................บาท/เดือน ระดับการศึกษา  ไมไ ดรับการศึกษา  ประถมศึกษา  มธั ยมศกึ ษา/ปวช  ปวส/อนุปริญญา  ปริญญา

104 ท่อี ยูป จ จบุ นั  ท่ีอยเู ดยี วกับนกั เรียน  ทีอ่ ยตู างจากนักเรียน (โปรดกรอกขอมูล) บา นเลขท่ี.....................ตรอก/ซอย...............หมทู ี.่ ..........ชอ่ื หมบู า น/ถนน................................................... ตําบล/แขวง....................................อําเภอ/เขต................................... จงั หวัด............................................ รหสั ไปรษณยี ..............................................เบอรโทรศัพท............................................................................ รายไดครอบครัว  ๑๐๐,๐๐๐ บาท/ป ขนึ้ ไป  ๔๐,๐๐๑ – ๙๙,๙๙๙ บาท/ป  ไมเกนิ 40,000 บาท/ป สภาพความเปน อยใู นครอบครัว  อยรู ว มกบั บดิ ามารดา  อยูกับบิดา  อยูกับมารดา  อยูก ับผอู ่ืน (ระบ)ุ ....................................................................... สถานภาพของบดิ ามารดา  อยูดวยกัน  หยารา ง  แยกกนั อยู  บิดาถงึ แกกรรม  มารดาถงึ แกกรรม  บิดา มารดาถงึ แกกรรม ครอบครัวของนักเรียนมีสมาชิกทั้งหมด..................คน ประกอบดวย.......................................................... บุคคลในครอบครวั มีการใชส ารเสพติด  มี  ไมม ี เก่ยี วขอ งเปน...............................กับนกั เรียน ประเภทสารเสพตดิ ทีใ่ ชค ือ  บหุ ร่ี  สุรา  ยาบา  อนื่ ๆ ระบ.ุ ............................ ความถี่ในการใชสารเสพติดของบคุ คลในครอบครวั  เปนประจํา  บางครงั้ บุคคลในครอบครวั เกยี่ วขอ งกับการเลนการพนนั  มี  ไมมี ความถใี่ นการเลนการพนนั ของบคุ คลในครอบครวั  เปน ประจาํ  บางครั้ง ภายในครอบครวั มีความขัดแยงและมีการใชค วามรนุ แรง  มี  ไมม ี บุคคลในครอบครวั เจ็บปว ยดวยโรครนุ แรง/เรอ้ื รงั  มี  ไมม ี อาชีพบดิ า/มารดา/ผูปกครองเส่ยี งตอ กฎหมาย  มี  ไมมี ๒.๔ ดา นเศรษฐกิจครอบครัว  มีรายไดเ พยี งพอสาํ หรับเลย้ี งดูครอบครวั ไดอยางดี  มรี ายไดเ พยี งพอสําหรบั เล้ียงดคู รอบครวั เฉพาะทีจ่ าํ เปน  มีหนี้สิน  มรี ายไดเ พยี งเล็กนอย ไมเพยี งพอสําหรบั ครอบครวั  ไมม รี ายไดเลย ตองพง่ึ พาผูอ นื่ ทัง้ หมด และมีหนส้ี นิ

105 ๒.๕ ดานการคมุ ครองนักเรยี น ๑) การดแู ลเอาใจใสนักเรยี น  สมาชกิ ทกุ คนในครอบครัวชว ยกันดแู ลเอาใจใสนักเรียนเปนประจาํ สมํา่ เสมอ  ขาดการดแู ลเอาใจใส/ ปลอยปละละเลยนกั เรยี นเปนบางครง้ั  ขาดการดูแลเอาใจใส/ ปลอยปละละเลยนกั เรยี น/ไมม ผี ูดูแล  นกั เรยี นถกู ลวงละเมิดทางเพศ  นกั เรียนถกู ทํารายทารุณ ๒) การชวยเหลือในการพฒั นานักเรยี น  สมาชกิ ทกุ คนในครอบครัวเขา ใจ/รว มมือในการชว ยเหลือในการพัฒนานักเรียนเปน อยา งดี  สมาชกิ ในครอบครัวบางคนไมมีความเขาใจ/รว มมอื ในการชวยเหลอื ในการพฒั นานักเรยี น  สมาชิกทกุ คนในครอบครัวขาดความเขา ใจ/รว มมือในการชว ยเหลือในการพัฒนานักเรยี น ๒.๖ ดา นเจตคติตอ นักเรยี น ครอบครวั มีความคาดหวังในการพฒั นานักเรียน  นักเรียนสามารถพฒั นาไดและมีการแสวงหาความรูในการพฒั นานักเรียนอยเู สมอ  มีความคาดหวงั ในการพัฒนานกั เรยี นแตไมม ีการแสวงหาความรูเพ่ือนาํ มาพฒั นานักเรียน  ไมมีความคาดหวงั ในการพัฒนานกั เรียนและนกั เรยี นเปนภาระของครอบครัว ๒.๗ ดานความรู ความเขาใจ ทักษะของผูปกครองในการพฒั นานักเรียน ๑) ความรู ความเขา ใจ ทักษะของผูปกครองในการจัดกิจกรรมเพ่อื พัฒนานกั เรียน  มีการจัดกิจกรรมเพื่อพฒั นานกั เรยี นเปนประจําทุกวัน  มีการจดั กิจกรรมเพื่อพฒั นานักเรียนเปนบางครัง้  ไมเ คยมีการจดั กิจกรรมเพื่อพฒั นานกั เรียน ๒) ความรู ความเขาใจ ทกั ษะของผูปกครองในการฝกดวยเทคนคิ /กิจกรรม  มกี ารฝก ดว ยเทคนิค/กจิ กรรมทห่ี ลากหลายเปน ประจําทกุ วัน  มีการฝก ดวยเทคนิค/กจิ กรรมเปนบางครั้ง  ไมเคยฝกดวยเทคนิค/กิจกรรม

106 ๓. ขอมูลดานสภาพแวดลอ ม ๓.๑ สภาพแวดลอ มภายในศนู ยก ารศกึ ษาพเิ ศษประจาํ จังหวดั ลาํ ปาง/หนวยบริการ ๑) บรเิ วณภายในหองเรยี นอาคารเรียน  สภาพแวดลอมในหอ งเรียน/อาคารเรยี นมคี วามเหมาะสมกับความตองการจําเปน พเิ ศษของ นักเรียนและปลอดภัยตอ การดาํ รงชีวติ  สภาพแวดลอ มในหอ งเรยี น/อาคารเรยี นบางอยา งขาดความเหมาะสมกับความตองการจาํ เปน พเิ ศษของนักเรียนแตยงั สามารถใชไดอยางปลอดภยั ตอ การดาํ รงชีวิต  สภาพแวดลอมในหองเรยี น/อาคารเรยี นบางอยา งขาดความเหมาะสมกบั ความตอ งการจําเปน พิเศษของนกั เรยี นและไมปลอดภัยตอ การดํารงชีวิต  สภาพแวดลอมในหองเรยี น/อาคารเรยี นทุกอยางไมมีความเหมาะสมกับความตอ งการจาํ เปน พเิ ศษของนกั เรียนและไมป ลอดภยั ตอการดํารงชวี ิต ระบุรายละเอยี ดเพ่มิ เตมิ ........................................................................................................................................... ๒) บรเิ วณภายนอกอาคารเรยี น  สภาพแวดลอ มนอกอาคารเรยี นมีความเหมาะสมกบั ความตอ งการจาํ เปนพิเศษของนักเรียน และปลอดภยั ตอการดํารงชีวติ  สภาพแวดลอ มนอกอาคารเรยี นบางอยา งขาดความเหมาะสมกบั ความตองการจําเปน พิเศษของ นักเรยี นแตยงั สามารถใชไ ดอยางปลอดภัยตอ การดาํ รงชวี ติ  สภาพแวดลอ มนอกอาคารเรียนบางอยา งขาดความเหมาะสมกับความตองการจําเปนพิเศษของ นกั เรยี นและไมปลอดภัยตอ การดาํ รงชวี ิต  สภาพแวดลอ มนอกอาคารเรียนทกุ อยางไมม ีความเหมาะสมกับความตองการจาํ เปนพิเศษของ นกั เรียนและไมปลอดภัยตอการดํารงชีวิต ระบุรายละเอียดเพมิ่ เตมิ ........................................................................................................................................... นักเรยี น ๓) ผูเก่ียวของ  ครู/ผูปกครอง/พเ่ี ลี้ยงเด็กพิการ/ผปู ฏิบัตงิ านใหร าชการทกุ คนพรอมใหก ารชวยเหลือนักเรียน  ครู/ผปู กครอง/พเ่ี ลยี้ งเด็กพกิ าร/ผูปฏบิ ตั งิ านใหราชการบางคนละเวน ไมใ หการชวยเหลือ  คร/ู ผูปกครอง/พเ่ี ล้ียงเด็กพกิ าร/ผูปฏบิ ัตงิ านใหร าชการบางคนรังเกียจนักเรยี น  เพือ่ นหรือสมาชกิ ในครอบครัวทุกคนยอมรับ/ใหเขากลมุ ทํากจิ กรรม  เพ่ือนหรือสมาชิกในครอบครัวบางคนไมย อมรับ/ไมใหเขา กลุมทํากจิ กรรม  เพื่อนหรอื สมาชกิ ในครอบครวั ทุกคนไมย อมรบั /ไมใ หเ ขา กลุมทํากจิ กรรม

107 ๓.๒ สภาพแวดลอมภายในบาน ๑) บรเิ วณภายในบาน  สะอาดปลอดภัยเอือ้ ตอ การพัฒนาศักยภาพนักเรียน  สะอาดปลอดภยั แตไ มเอ้ือตอ การพฒั นาศกั ยภาพนกั เรียน  ไมส ะอาดและไมปลอดภัย ๒) บริเวณภายนอกบา น  สะอาดปลอดภยั เออื้ ตอการพฒั นาศักยภาพนักเรียน  สะอาดปลอดภยั แตไ มเอ้ือตอการพฒั นาศกั ยภาพนกั เรียน  ไมสะอาดและไมป ลอดภัย ๓.๓ สภาพแวดลอ มภายในชุมชน ๑) เจตคติของชุมชนทม่ี ตี อนักเรียนและครอบครวั  เปน ภาระของสังคม  พรอ มใหความชว ยเหลอื  ความเช่ือเรือ่ งเวรกรรม  มสี ทิ ธเิ ทาเทยี มกับคนทว่ั ไป  นารังเกยี จ  คนพกิ ารสามารถพัฒนาได  ไมสนใจ ๒) ความสัมพันธข องนักเรียนกบั ชุมชน  เปนท่ีรจู ักในชุมชน  มสี ว นรว มในชุมชน  เปนที่รักของคนในชมุ ชน  ชมุ ชนใหค วามชว ยเหลือ  ไมมคี นในชมุ ชนรจู ัก  ไมสนใจ  สรา งความเดือดรอนใหค นในชุมชน

108 ๔. ขอมูลดานความปลอดภยั สถานศกึ ษา ๔.๑ ภัยที่เกิดจากการใชความรนุ แรงของมนุษย ๑) การลว งละเมดิ ทางเพศ  นักเรยี นมผี ดู แู ลใกลช ดิ ตลอดเวลา  นกั เรยี นมีผูดูแลใกลช ดิ เปนบางเวลา  นกั เรียนมักถูกทง้ิ ใหอยตู ามลําพงั หรือไมมผี ดู ูแล  นกั เรียนมปี ฏิสมั พนั ธทางสงั คมโดยมีระยะหางกบั ผอู ืน่  นกั เรยี นมพี ฤตกิ รรมกอดหรอื หอมแกม เพศตรงขามท่ีไมใ ชญาตหิ รอื คนรูจกั  นักเรียนมพี ฤตกิ รรมลว งหรือจับอวัยวะเพศของตนเอง  นักเรียนมพี ฤตกิ รรมลวงหรอื จับอวยั วะเพศของผูอืน่  นกั เรียนมีพฤตกิ รรมกระตุน ตนเองทางเพศเปนบางครั้ง  นกั เรยี นมพี ฤตกิ รรมกระตนุ ตนเองทางเพศบอยครั้ง/เปน ประจาํ  นักเรยี นมีพฤตกิ รรมการเขาใชส ื่อเทคโนโลยโี ดยไมมีการควบคุมดูแล  นกั เรยี นมีพฤตกิ รรมชอบดูสือ่ อนาจารลามก ๒) การทะเลาะววิ าท  นกั เรียนมผี ดู ูแลใกลช ดิ ตลอดเวลา  นักเรียนมีผูดแู ลใกลชดิ เปนบางเวลา  นักเรยี นมักถูกทิ้งใหอยูตามลาํ พงั หรือไมมีผดู แู ล  นกั เรียนมกี ริยาทาทางเรียบรอย สภุ าพ ไมกาวรา ว ไมมพี ฤติกรรมทํารา ยตนเองหรือผูอ น่ื  นักเรยี นมีพฤติกรรมเลน ไมเ ปน หรือแยงสงิ่ ของ ของเพ่ือนหรือผอู ื่นเปน บางคร้ัง  นักเรยี นมีพฤตกิ รรมชอบแยงของ ของผูอ ืน่ หรือเพ่ือนบอยครัง้ /เปน ประจาํ  นักเรียนมพี ฤตกิ รรมชอบดสู ือ่ หรือใหความสนใจสื่อทมี่ ีความรนุ แรงในสงั คม  นักเรยี นมพี ฤตกิ รรมเลยี นแบบการกระทําหรือคาํ พดู ทีก่ าวราวรนุ แรงเม่อื เห็นผอู ่ืนทําหรอื จาก การเสพส่อื  นักเรียนมกั แสดงพฤติกรรมหรอื คําพูดที่กาวรา วรนุ แรงตอผูอ่นื  นักเรียนไดรบั ยาที่มีฤทธใ์ิ นการปรบั พฤติกรรม (ยากลมุ จติ เวช) แตท านยาไมสมา่ํ เสมอ ๓) การกลั่นแกลง รงั แก  นักเรียนมผี ูด ูแลใกลชดิ ตลอดเวลา  นกั เรยี นมีผูด ูแลใกลช ิดเปนบางเวลา  นักเรยี นมกั ถูกทง้ิ ใหอยูตามลาํ พงั หรือไมมีผดู ูแล  นักเรยี นมกี รยิ าทา ทางเรียบรอย สุภาพ ไมกาวราว ไมมีพฤติกรรมทํารายตนเองหรอื ผอู ืน่

109  นักเรยี นมพี ฤตกิ รรมเลนไมเ ปนหรือแยงสิง่ ของ ของเพื่อนหรอื ผอู ่ืนเปน บางคร้ัง  นกั เรียนมพี ฤติกรรมชอบแยงของ ของผอู น่ื หรือเพ่ือนบอยๆ/เปน ประจาํ  นักเรยี นมีพฤตกิ รรมชอบดสู ่ือหรือใหความสนใจส่อื ทีม่ ีความรุนแรงในสงั คม  นกั เรียนมีพฤติกรรมเลียนแบบการกระทําหรือคาํ พูดท่ีแสดงถึงการกล่ันแกลง รังแก เชน พูดแซว พดู คาํ หยาบคาย ดึงผมผูอืน่ กัดหยิกหรือตผี ูอื่น เม่ือเห็นผอู นื่ ทําหรือจากการเสพสื่อ  นักเรยี นมักแสดงพฤติกรรมหรือคาํ พูดท่ีแสดงถงึ การกลนั่ แกลง รังแก เชน พูดแซว พูดคํา หยาบคาย ดึงผมผูอน่ื กัดหยิกหรอื ตีผอู ่นื อยเู สมอ ๔) การชมุ นุมประทวงและการจลาจล  นกั เรียนมีผูดแู ลใกลชดิ ตลอดเวลา  นักเรียนมีผูดแู ลใกลชิดเปนบางเวลา  นักเรียนมักถูกทิง้ ใหอ ยูต ามลําพงั หรือไมมผี ูดูแล  นกั เรยี นมกี ริยาทา ทางเรียบรอ ย สภุ าพ ไมมีพฤติกรรม กา วรา ว กอ กวน ทาํ รายตนเองหรือ ผูอ่นื และไมม ีการแสดงพฤติกรรมที่กอใหเกดิ การชุมนุม ชกั จูงผูอื่น หรือการประทวง  นักเรียนมพี ฤตกิ รรมชอบดูส่อื หรอื ใหความสนใจสื่อท่ีเกี่ยวกับการชุมนุมประทว งและ การจลาจลในสงั คม  นักเรยี นเส่ียงตอการถูกชักชวนจากผูอ นื่ ไปรว มหรือกอการชมุ นมุ ประทว งและการจลาจล  นกั เรยี นถูกชักชวนไปรวมการชมุ นุมประทวงและการจลาจล ๕) การกอวินาศกรรม  นกั เรยี นมีผูดแู ลใกลชดิ ตลอดเวลา  นักเรยี นมผี ดู แู ลใกลชิดเปนบางเวลา  นักเรียนมกั ถูกทิ้งใหอยูตามลาํ พังหรือไมมผี ดู ูแล  นักเรยี นมีกริยาทาทางเรียบรอ ย สุภาพ ไมมีพฤตกิ รรม กา วรา ว กอ กวน ทาํ รายตนเองหรอื ผูอ น่ื และไมม ีการแสดงพฤติกรรมทเก่ยี วกับ ทํารายผูอน่ื ทําลายสาธารณะสมบตั ิในสังคม เปน ตน  นักเรยี นมีพฤตกิ รรมชอบดูสอ่ื หรือใหความสนใจส่อื ท่เี กี่ยวกบั ทํารายผูอื่น ทําลายสาธารณะ สมบตั ใิ นสังคม เปนตน  นักเรียนเสยี่ งตอ การถูกชักชวนจากผูอ่ืนไปรว มหรือกอการชุมนมุ ประทวงและการจลาจล  นักเรยี นถกู ชักชวนไปรวม ทาํ รายผอู นื่ ทาํ ลายสาธารณะสมบัตใิ นสงั คม เปน ตน

110 ๖) การระเบดิ  นกั เรียนมผี ดู ูแลใกลช ดิ ตลอดเวลา  นักเรียนมีผูด ูแลใกลช ิดเปนบางเวลา  นกั เรียนมักถูกทิ้งใหอ ยูตามลําพงั หรือไมมผี ูดูแล  นักเรยี นไมม ีแนวโนม ทจี่ ะแสดงพฤตกิ รรม การพกพาหรือเลน สารเคมีหรือวัตถทุ ี่อาจกอใหเ กิด ระเบิด  บุคคลในครอบครวั นักเรยี นมกี ารใชสารเคมหี รือวัตถุที่อาจกอ ใหเ กิดระเบดิ ในครอบครวั หรือ ในการประกอบอาชีพของครอบครวั เชน ยาฆาแมลงวชั พืช หรือสารประกอบในปยุ เคมี หรือสารเคมีทําประทัด พลุ หรือบัง้ ไฟ หรือมีวัตถุอันตราย เชน กระปอ งสเปรย นาํ้ มัน ไมขดี ไฟ ไฟแชค็ ในบาน  นกั เรยี นคลกุ คลกี ับบุคคลมีการใชส ารเคมีหรือใชว ัตถุอัตรายในการประกอบอาชีพท่ีอาจ กอใหเ กิดระเบดิ  นักเรียนคลกุ คลีกับบุคคลมกี ารใชสารเคมีหรือใชว ตั ถุอัตรายในการทาํ ประทัด พลุ หรือบั้งไฟ  นกั เรียนเสี่ยงตอ การถกู ชักชวนจากผูอนื่ ในการพกพาหรือเลน สารเคมหี รือใชวัตถทุ ี่อาจ กอใหเ กดิ ระเบดิ  นักเรียนมีพฤตกิ รรมพกพาหรือนําสารเคมีหรือวัตถุท่ีอาจกอ ใหเ กดิ ระเบดิ เชน ยาฆาแมลง วชั พชื หรอื สารประกอบในปุยเคมี หรอื สารเคมที ําประทดั พลุ หรือบัง้ ไฟ หรอื มีวัตถุอันตราย เชน กระปองสเปรย นา้ํ มนั ไมขีดไฟ ไฟแชค็ ๗) สารเคมแี ละวตั ถุอันตราย  นักเรยี นมผี ูดแู ลใกลช ิดตลอดเวลา  นกั เรียนมผี ดู ูแลใกลชดิ เปนบางเวลา  นกั เรียนมกั ถูกทิ้งใหอ ยตู ามลาํ พังหรือไมมผี ดู ูแล  นักเรยี นไมมีแนวโนมท่ีจะแสดงพฤตกิ รรม การพกพาหรือเลนสารเคมหี รือวัตถุอนั ตราย  บุคคลในครอบครัวนักเรียนมีการใชสารเคมีหรือวัตถุอันตราย ในครอบครัวหรือใน การประกอบอาชีพของครอบครัว เชน นํ้ายาลางจาน น้ํายาลางหองนํ้า น้ําสมสายชู ยาฆาแมลง ผงซักฟอก นาํ้ ยาซกั ฟอก กระปองสเปรย นํ้ามนั ไมขีดไฟ ไฟแชค็ เปน ตน  นกั เรยี นคลกุ คลกี ับบคุ คลมีการใชส ารเคมีหรอื ใชวัตถอุ ตั รายในการประกอบอาชีพ  นักเรยี นคลกุ คลกี ับบคุ คลมีการใชสารเคมหี รือใชว ตั ถุอัตรายในการทําประทัด พลุ หรือบั้งไฟ  นกั เรียนเส่ียงตอการถูกชักชวนจากผูอน่ื ในการพกพาหรือเลนสารเคมหี รือใชว ตั ถอุ ันตราย  นักเรียนมพี ฤติกรรมพกพาหรอื นาํ สารเคมีหรือวตั ถุอัตรายนา้ํ ยาลา งจาน นา้ํ ยาลา งหองน้ํา น้ําสม สายชู ยาฆา แมลง ผงซักฟอก น้ํายาซักฟอก กระปองสเปรย นาํ้ มนั ไมขดี ไฟ ไฟแชค็ เปนตน

111 ๘) การลอลวง ลกั พาตัว  นกั เรยี นมผี ูดแู ลใกลช ิดตลอดเวลา  นกั เรยี นถูกทิ้งอยูตามลาํ พังในหองเรยี นหรือท่ีบานหรือสถานทส่ี าธารณะในชุมชนเปนบางครง้ั  นกั เรยี นถกู ทิ้งอยูตามลําพังในหองเรยี นหรอื ทีบ่ า นหรือสถานท่สี าธารณะในชุมชนบอยครั้ง หรอื เปนประจํา  นักเรยี นสามารถแสดงอาการหรือพดู ปฏิเสธเมื่อถูกชักชวนจากผูอ นื่ หรอื คนแปลกหนา  นักเรยี นสามารถแสดงอาการหรอื พดู ปฏเิ สธเมอ่ื ถูกชกั ชวนจากผูอืน่ หรอื คนแปลกหนาเปน บางครง้ั  นกั เรยี นสามารถแสดงอาการหรอื พูดปฏิเสธหรอื ไมรับของจากผอู ่ืนหรือคนแปลกหนาทใี่ ห ส่ิงของ/ขนม  นกั เรยี นไมสามารถแสดงอาการหรือพูดปฏเิ สธเมื่อถูกชกั ชวนจากผอู ืน่ หรือคนแปลกหนา  นักเรียนสามารถแสดงอาการหรอื พูดปฏเิ สธในการรับของจากผูอนื่ หรือคนแปลกหนาทีใ่ ห ส่งิ ของ/ขนมเปนบางครงั้  นกั เรียนไมสามารถแสดงอาการหรือพดู ปฏเิ สธในการรับของจากผอู ่นื หรือคนแปลกหนา ท่ีให สง่ิ ของ/ขนม ๔.๒ ภัยที่เกิดจากอบุ ตั เิ หตุ ๑) ภัยธรรมชาติ ๑.๑) ภัยจากนํา้ ทว ม (จมนํ้า/ไฟดูด/สตั วม ีพิษ)  นักเรยี นมีผดู แู ลใกลช ิดตลอดเวลา  นกั เรยี นมีผูดแู ลใกลช ดิ เปนบางเวลา  นักเรียนบอกสถานการณ คาํ เตือนภัยหรือภาพสญั ลกั ษณใ นการเตือนภยั ท่เี กิดขน้ึ ได  นกั เรียนไมสามารถบอกสถานการณคาํ เตือนภัยหรือภาพสัญลักษณในการเตือนภัยทีเ่ กิดขึน้ ได  นักเรยี นสามารถดแู ลตวั เองเมื่อเกิดเหตกุ ารณไ ด  นกั เรยี นไมส ามารถดูแลตัวเองเมื่อเกิดเหตุการณได  นักเรียนมพี ฤตกิ รรม ชอบเลนนํ้า ชอบเอานว้ิ ไปแหย ชอบไปจบั ชอบเอาของหรือมือใสปาก  นักเรียนบอกไมไดเหตุการณที่เกิดข้ึนได ไมสามารถดูแลตัวเองเมื่อเกิดเหตุการณได และมีพฤติกรรม ชอบเลนนํ้า ชอบเอาน้ิวไปแหย ชอบไปจับ ชอบเอาของหรือมือใสปาก และถูกท้ิงใหอยูตามลําพัง หรือไมมผี ดู ูแล

112 ๑.๒) ไฟไหมปาหรอื ไฟไหมท ่ีลุกลามในสถานทต่ี าง ๆ  นกั เรียนมีผูดแู ลใกลช ดิ ตลอดเวลา  เรยี นมีผดู แู ลใกลชดิ เปนบางเวลา  นกั เรียนสามารถบอกสถานการณ คําเตือนภยั หรอื ภาพสัญลักษณใ นการเตือนภัยท่เี กิดขึน้ ได  นักเรยี นไมส ามารถบอกสถานการณคําเตือนภัยหรอื ภาพสญั ลกั ษณใ นการเตอื นภัยที่เกิดข้นึ ได  นกั เรียนสามารถดูแลตัวเองเม่ือเกดิ เหตุการณไ ด  นกั เรียนไมสามารถดูแลตัวเองเม่ือเกิดเหตุการณได  นักเรียนมพี ฤติกรรมชอบเลนวตั ถไุ วไฟ วตั ถุทก่ี อใหเ กดิ ไฟหรือเชอ้ื เพลงิ  นักเรยี นไมส ามารถบอกเหตกุ ารณท ่เี กิดข้ึน ไมสามารถดูแลตัวเองเม่ือเกิดเหตกุ ารณไ ด และมี พฤติกรรม ชอบเลน วตั ถุไวไฟ วัตถุท่กี อใหเ กิดไฟหรอื เชื้อเพลิง และถกู ทง้ิ ใหอยตู ามลําพังหรอื ไมมีผูดแู ล ๑.๓) พายุ  นกั เรียนมีผดู ูแลใกลชดิ ตลอดเวลา  เรียนมีผดู แู ลใกลชิดเปนบางเวลา  นกั เรยี นสามารถบอกสถานการณ คําเตือนภัยหรอื ภาพสญั ลกั ษณในการเตือนภยั ทเี่ กิดข้นึ ได  นักเรียนไมสามารถบอกสถานการณ คําเตือนภยั หรอื ภาพสัญลักษณใ นการเตอื นภัยท่ีเกดิ ขึน้ ได  นกั เรยี นสามารถดูแลตัวเองเมื่อเกดิ เหตุการณได  นักเรียนไมสามารถดูแลตัวเองเมื่อเกิดเหตุการณได  นกั เรยี นไมสามารถบอกเหตุการณทเ่ี กดิ ขนึ้ ไมสามารถดูแลตัวเองเม่ือเกิดเหตุการณไ ด และถูก ทงิ้ ใหอยูตามลาํ พังหรอื ไมม ผี ดู ูแล ๑.๔) แผนดินไหว  นกั เรยี นมีผูดแู ลใกลช ิดตลอดเวลา  เรียนมีผูดูแลใกลช ดิ เปน บางเวลา  นกั เรยี นสามารถบอกสถานการณ คาํ เตือนภยั หรือภาพสัญลักษณใ นการเตือนภัยที่เกิดขนึ้ ได  นกั เรียนไมสามารถบอกสถานการณคําเตือนภัยหรือภาพสัญลักษณใ นการเตือนภยั ทีเ่ กดิ ขน้ึ ได  นกั เรยี นสามารถดแู ลตัวเองเม่ือเกิดเหตกุ ารณได  นกั เรียนไมสามารถดูแลตัวเองเม่ือเกดิ เหตุการณได  นกั เรียนไมส ามารถบอกเหตุการณท เี่ กิดขน้ึ ไมสามารถดูแลตวั เองเมื่อเกิดเหตกุ ารณไ ด และถูก ทิ้งใหอยูตามลาํ พงั หรือไมม ีผูดูแล

113 ๑.๕) ภยั ธรรมชาตใิ นชว งฤดูหนาว  นกั เรยี นมีผดู ูแลใกลช ดิ ตลอดเวลา  เรยี นมผี ูดแู ลใกลชิดเปนบางเวลา  นกั เรียนสามารถบอกสถานการณ คาํ เตือนภยั หรือภาพสญั ลักษณในการเตือนภัยท่ีเกิดข้นึ ได  นกั เรยี นไมสามารถบอกสถานการณคาํ เตือนภัยหรือภาพสัญลักษณในการเตือนภัยท่ีเกิดข้นึ ได  นกั เรียนสามารถดูแลตวั เองเม่ือเกิดเหตกุ ารณไ ด  นักเรยี นไมสามารถดูแลตัวเองเม่ือเกิดเหตุการณได  นกั เรียนไมสามารถบอกเหตกุ ารณท ่ีเกิดข้นึ ไมสามารถดูแลตวั เองเมื่อเกิดเหตุการณไ ด และถูก ท้ิงใหอยตู ามลาํ พงั หรือไมมผี ดู ูแล ๒) ภยั จากอาคารเรียน สิง่ กอสรา ง  นักเรียนมผี ูดูแลใกลชดิ ตลอดเวลา  เรียนมีผดู แู ลใกลช ิดเปน บางเวลา  นักเรยี นสามารถบอกสถานการณ คาํ เตือนภยั หรอื ภาพสญั ลักษณใ นการเตือนภัยทเี่ กิดขึน้ ได  นกั เรียนไมสามารถบอกสถานการณคําเตือนภัยหรอื ภาพสญั ลักษณในการเตอื นภยั ทีเ่ กดิ ข้นึ ได  นกั เรยี นสามารถดูแลตวั เองเมื่อเกิดเหตกุ ารณไ ด  นักเรยี นไมส ามารถดแู ลตัวเองเม่ือเกดิ เหตุการณได  นกั เรียนไมส ามารถบอกเหตุการณท ่เี กิดขน้ึ ไมส ามารถดูแลตัวเองเม่ือเกิดเหตกุ ารณไ ด และถูก ทิง้ ใหอยตู ามลําพังหรอื ไมมีผูด ูแล ๓) ภัยจากยานพาหนะ  นกั เรยี นมีผูดูแลใกลช ิดตลอดเวลา  นักเรียนมีผดู ูแลใกลชดิ เปนบางเวลา  นักเรยี นสามารถปฏิบัตติ นเม่ือใชหรอื โดยสารยานพาหนะทีจ่ ําเปน ในชวี ติ ประจาํ วนั ได เชน รถจักรยาน รถจกั รยานยนต รถยนต เปนตน  นกั เรียนไมสามารถปฏบิ ตั ิตนเม่ือใชห รือโดยสารยานพาหนะท่จี าํ เปนในชวี ติ ประจําวนั ได เชน รถจกั รยาน รถจกั รยานยนต รถยนต เปนตน  นกั เรยี นสามารถปฏบิ ัติตนในการปอ งกนั อนั ตรายท่ีอาจเกดิ จากยานพาหนะในชีวิตประจาํ วัน  นักเรียนไมส ามารถปฏบิ ัติตนในการปองกันอันตรายท่ีอาจเกิดจากยานพาหนะใน ชวี ติ ประจาํ วันได  นักเรียนไมสามารถปฏิบัติตนเมื่อใชหรือโดยสารยานพาหนะและไมสามารถปฏิบัติตนใน การปองกนั อนั ตรายทีอ่ าจเกิดจากยานพาหนะในชีวิตประจาํ วนั ได รวมถึงมักถูกทิ้งใหอ ยตู ามลําพังหรอื ไมมีผดู ูแล

114 ๔) ภยั จากการจัดกิจกรรม  นกั เรยี นมผี ูดูแลใกลชดิ ตลอดเวลา  นกั เรียนมีผูดูแลใกลชิดเปนบางเวลา  นักเรียนสามารถปฏบิ ตั ิตามกฎ กตกิ า ขอตกลงได  นกั เรยี นปฏบิ ตั ิตามกฎ กตกิ า ขอตกลงไดเปนบางครัง้  นกั เรยี นไมสามารถปฏบิ ตั ิตามกฎ กติกา ขอตกลงได และ มกั ถกู ทิ้งใหอ ยูตามลําพังหรือไมมี ผดู ูแล ๕) ภัยจากเครอ่ื งมือ อุปกรณ  นกั เรยี นมผี ูดแู ลใกลชิดตลอดเวลา  นกั เรยี นมีผดู แู ลใกลช ิดเปนบางเวลา  นักเรยี นสามารถใชเ ครื่องมือ อุปกรณ เชน กรรไกร/กาว/ดินสอแหลม/มีดครวั /เคร่อื งใชไ ฟฟา/ เครือ่ งมือชา งในบา นหรือสถานศึกษา ไดด ว ยตนเองอยางปลอดภยั  นักเรียนไมสามารถใชเคร่ืองมือ อุปกรณ เชน กรรไกร/กาว/ดินสอแหลม/มีดครัว/ เคร่ืองใชไฟฟา/เครื่องมือชางในบานหรือสถานศึกษา ไดดว ยตนเองอยา งปลอดภยั  นักเรียนไมสามารถใชเครื่องมือ อุปกรณ เชน กรรไกร/กาว/ดินสอแหลม/มีดครัว/ เคร่ืองใชไฟฟา/เครื่องมือชางในบานหรือสถานศึกษา ไดดวยตนเองอยางปลอดภัย และมักถูกทิ้งใหอยูตามลําพัง หรือไมมผี ดู แู ล ๔.๓ ภยั ที่เกดิ จากการถกู ละเมิดสิทธ์ิ ๑) การถูกปลอยปละ ละเลย ทอดท้ิง  นักเรยี นไดร ับการดูแลเล้ยี งดูจากผูปกครองและผูดูแลเปนอยา งดี  นกั เรียนถกู ปลอยปละ ละเลย ทอดทิง้ เปน บางคร้งั  นักเรยี นถกู ปลอยปละ ละเลย ทอดทง้ิ เปนบอยครัง้ ๒) การคุกคามทางเพศ  นักเรยี นรูวิธีการเอาตัวรอดจากการคุกคามทางเพศ  นกั เรียนไดร บั การดูแลเล้ียงดจู ากผปู กครองและผดู แู ลเปน อยา งดี  นกั เรียนถูกทิ้งใหอ ยบู านเพียงลําพังเปนบางครงั้  นักเรยี นถกู ทิ้งใหอ ยบู านเพยี งลาํ พังเปนประจํา  บานนักเรยี นอยใู นพนื้ ทห่ี างไกลชุมชน  บานนักเรียนอยใู นพื้นทห่ี างไกลชุมชน เม่ือมเี หตุสดุ วิสัยไมสามารถขอความชว ยเหลือจากผูอื่น หรอื หนว ยงานตาง ๆ ไดทันที

115  บา นนกั เรียนอยใู นพืน้ ที่ท่ีมีการมั่วสมุ เชน ยาเสพตดิ สุรา การพนนั  บานนักเรียนอยูใ นพนื้ ทีท่ ี่มีการมัว่ สมุ เชน ยาเสพติด สุรา การพนนั เม่ือมเี หตสุ ดุ วิสัยไม สามารถขอความชวยเหลอื จากผูอน่ื หรือหนวยงานตาง ๆ ไดท นั ที ๓) การไมไ ดร บั ความเปนธรรมจากระบบการศึกษา  นักเรียนไดรบั การศกึ ษาและการพัฒนาตนเองจากหนวยงานทีเ่ กี่ยวของกับระบบการศกึ ษา  ครอบครวั นักเรยี นขาดการรบั ขอมูลขา วสารจากหนว ยงานตา ง ๆ เนอื่ งจากอยูใ นพน้ื ที่หางไกล บนเขา ติดชายแดน หรอื พน้ื ทีเ่ สย่ี งภัย  ผูปกครองกลัวลูกถกู รังแกหรือกล่ันแกลงหรือไมไดรบั การดูแลเทา ทค่ี วรเหมาะสม  ผปู กครองขาดความรูความเขาใจเกยี่ วกับระบบการศึกษา เพราะคิดวาเด็กพิการไมตองเขา ระบบการศกึ ษา  การคมนาคมและระบการตดิ ตอ สือ่ สารไมสะดวก  การสื่อสารดานภาษา เชน กลมุ ชาติพันธ กลมุ ชนกลุม นอย ๔.๔ ภัยที่เกิดจากผลกระทบตอสุขภาวะทางกายและจิตใจ ๑) ภาวะจติ เวช  นกั เรียนไดร บั การดูแลเลี้ยงดจู ากผปู กครองและผดู ูแลเปนอยางดี  นกั เรียนมีพฤตกิ รรม อารมณ รางเรงิ แจมใส หรอื สามารถแสดงพฤติกรรม อารมณไดอยาง เหมาะสมและสอดคลองตามสถานการณ  นกั เรียนมีพฤติกรรม อารมณไมเ หมาะสมบางสถานการณ  นักเรียนปญ หาดา นครอบครัวสงผลกระทบตอจิตใจ  นักเรยี นมีปญ หาดานสภาพแวดลอมในชุมชน ทส่ี งผลตอพฤตกิ รรม  นกั เรียนมภี าวะอาการโรคซึมเศรา  นักเรียนมปี ญ หาทางดา นพฤติกรรมและอารมณทร่ี นุ แรง ๒) ติดเกม  นักเรียนไดร บั การดูแลเลยี้ งดูจากผูปกครองและผดู แู ลเปน อยางดี  นักเรียนสามารถแบงเวลาในการเลน เกมและทํากิจกรรมอืน่ ๆ โดยไมมีภาวะพฤติกรรมตอ ตาน  นกั เรียนถูกปลอ ยปละละเลยใหเ ลนโทรศพั ทห รือเลนคอมพวิ เตอรโ ดยไมม ีการควบคุม ดแู ล เปน บางคร้ัง  นกั เรยี นถูกปลอยปละละเลยใหเ ลนโทรศพั ทห รือเลน คอมพิวเตอรโดยไมม ีการควบคุม ดูแล บอ ยครงั้  สภาพแวดลอมทใ่ี กลช ดิ ทําใหน ักเรยี นมีพฤติกรรมเลยี นแบบ เชน ผดู แู ลเลนเกมคอมพิวเตอร หรือมอื ถืออยางไมระมดั ระวงั

116  นกั เรยี นแสดงพฤตกิ รรมหรืออารมณที่กาวราวรนุ แรง เม่อื ถูกหาม ยดึ หรือจํากัดเวลาใน การเลนเกม  ผูดูแลขาดความเขาใจในสอ่ื ออนไลนไมส ามารถแนะนําใหน กั เรยี นเลนเกมอยา งระมัดระวังได ๓) ยาเสพติด  นักเรยี นไดรบั การดูแลเลี้ยงดูจากผูปกครองและผดู แู ลเปน อยา งดี  นกั เรยี นสามารถรับรูถงึ โทษของยาเสพตดิ  นกั เรยี นอยใู นสภาพแวดลอม ครอบครัวหรอื ชุมชน ทีม่ กี ารใชสารเสพตดิ หรือมีความเก่ียวของ กับยาเสพติด และการกระทาํ ผดิ กฎหมาย  นกั เรยี นถูกชกั ชวนจากผูอืน่ ไดงาย  นกั เรยี นมีพฤติกรรม เลียนแบบหรือทาํ ตามผอู ื่น  นักเรยี นเคยทดลองใชยาเสพตดิ  นักเรียนใชยาเสพติด  นกั เรยี นถูกหลอกใชใ หเปนผูส ง -รบั ยาเสพตดิ  นักเรียนเปน ผขู ายหรอื ผูซื้อยาเสพติด ๔) โรคระบาดในมนุษย  นกั เรียนไดรบั การดูแลเลีย้ งดจู ากผูปกครองและผูดแู ลเปน อยา งดี  นกั เรยี นมผี ูดแู ลใกลชิดเปนบางเวลา  นกั เรียนมกั ถูกทง้ิ ใหอ ยูต ามลาํ พังหรือไมมผี ดู แู ล  นกั เรียนรูจ ักวิธีการปองกนั และสามารถดแู ลตนเองใหปลอดภยั จากโรคระบาดได รางกาย  นักเรียนไมสามารถดูแลตนเองจากโรคระบาดได เชน การใสแ มส ลา งมอื ทําความสะอาด  นกั เรียนอาศยั หรือใชช ีวติ อยูใ นสภาพแวดลอมท่ีเปน แหลงแพรเ ช้อื โรค  นกั เรียนอยูใกลชดิ กับผูป วย เชน บคุ คลในครอบครวั เพ่ือน  ผูใกลช ดิ หรอื บุคคลในครอบครัวเปนโรคระบาดและนักเรียนไมสามารถปองกันตัวเองได  นกั เรยี นปวยเปน โรคระบาดและไมสามารถปองกนั การแพรกระจายเชือ้ จากตนเองไปสูผอู ื่นได ๕) ภยั ไซเบอร  นกั เรียนไดรบั การดูแลเลี้ยงดูจากผปู กครองและผูดแู ลเปนอยา งดี  นกั เรียนสามารถแบงเวลาในใชส ่อื เครือขา ยสงั คมออนไลนแ ละทํากิจกรรมอน่ื ๆ โดยไมม ีภาวะ พฤติกรรมตอตา น  นักเรียนถกู ปลอ ยปละละเลยใหเ ลน โทรศัพทหรือเลนคอมพิวเตอรโ ดยไมมีการควบคุม ดแู ล เปนบางครง้ั  สภาพแวดลอมท่ีใกลชดิ ทําใหเ ดก็ มีพฤติกรรมเลียนแบบ เชน ผดู ูแลใชส่อื เครือขายสงั คม ออนไลนอ ยา งไมร ะมดั ระวงั

117 ระมัดระวังได  ผดู ูแลขาดความเขา ใจในใชส อื่ เครือขายสงั คมออนไลน ไมส ามารถแนะนาํ ใหเ ด็กใชอ ยา ง บอยคร้ัง  นกั เรียนถกู ปลอ ยปละละเลยใหเลน โทรศัพทห รือเลนคอมพิวเตอรโดยไมมีการควบคุม ดแู ล นักเรยี นแสดงพฤติกรรมหรอื อารมณท ่ีกาวรา วรุนแรง เม่ือถูกหาม ยดึ หรอื จาํ กดั เวลาในใชส ือ่ เครอื ขายสงั คมออนไลนและทํากิจกรรมอื่น ๆ ๖) การพนนั  นกั เรียนไดร ับการดูแลเลีย้ งดจู ากผปู กครองและผูดูแลเปน อยางดี  นกั เรยี นสามารถรบั รถู ึงโทษของการเลนการพนัน  นักเรยี นอยูในครอบครวั ชมุ ชนหรือสภาพแวดลอม ท่ีมีการเลนพนัน  นกั เรียนถูกชกั ชวนจากเพ่ือนหรือผใู กลชดิ ใหเลนการพนัน  นกั เรียนมพี ฤตกิ รรมอยากทดลอง เลยี นแบบการเลน การพนันตามเพ่ือนหรอื ผูท่ีอยใู กลชดิ  นกั เรยี นมพี ฤติกรรมสอไปทางการเลน หรือตดิ การพนัน ๗) มลภาวะเปนพิษ  นกั เรียนไดรับการดูแลเลี้ยงดจู ากผปู กครองและผดู แู ลเปนอยา งดี  นักเรียนรจู ักวธิ ีการปอ งกันและสามารถดูแลตนเองใหป ลอดภัยจากมลภาวะตา ง ๆ ได  นักเรยี นอยใู นสภาพแวดลอ มทีเ่ ปน แหลงมลภาวะ ทางอากาศ ทางเสยี ง ทางดนิ ทางน้ํา  นกั เรียนไมสามารถดแู ลตนเองจากมลภาวะได เชน การใสแมสเพื่อปองกันมลภาวะทางอากาศ  นกั เรียนปวยหรอื เปนโรคท่เี กดิ จากมลภาวะ ทางอากาศ ทางเสยี ง ทางดนิ ทางนํ้า เชน โรคระบบทางเดินหายใจ โรคท่ีเกย่ี วกับการไดยินเสียง โรคทางระบบทางเดินอาหาร และสขุ ภาวะทางกายอืน่ ๆ ที่ เกิดจากมลภาวะเปนพิษ ๘) โรคระบาดในสตั ว  นักเรียนไดรบั การดูแลเลีย้ งดจู ากผปู กครองและผูด ูแลเปน อยา งดี  ครอบครัวนกั เรยี นรูจ กั วธิ ีการปองกนั และสามารถดูแลสัตวเ ล้ยี งและคนในครอบครวั ให ปลอดภยั จากโรคระบาดหรือโรคติดตอ จากสัตวไ ด  ครอบครัวนักเรยี นไมมีความรใู นการดูแล ปอ งกันโรคตาง ๆ จากสตั วเ ลี้ยง  นกั เรยี นอยใู นสภาพแวดลอ มหรือชุมชนที่มีการเลย้ี งสัตว ทาํ การปศุสัตว  นกั เรยี นอยูในสภาพแวดลอมหรือชมุ ชนท่ีมีการเกดิ โรคระบาดสัตว  นักเรยี นปวยหรอื ตดิ เช้ือจากโรคตา ง ๆ จากสัตวเลีย้ ง หรือโรคระบาดในสัตว เชน โรคพิษสุนัข บา โรคไขเ ลอื ดออก ไขห วดั นก โรคฉี่หนู โรคอหิวาในสตั ว โรคเชื้อราผิวหนงั โรคเกย่ี วกับพยาธใิ นสัตว เปนตน ๙) โรคภาวะทุพโภชนาการ  นักเรียนสามารถรับประทานอาหารท่ีมีประโยชน ถกู ตองตามหลักโภชนาการ ครบ 5 หมู

118  นักเรียนรจู กั โทษของอาหารทไี่ มมปี ระโยชนตอ รา งกาย  นกั เรยี นสามารถออกกาํ ลังกายไดอยางสมํา่ เสมอ  ผูป กครองดูแลและมีความรูค วามเขาใจดานโภชนาการอยางถูกตอง  นกั เรียนรับประทานทไี่ มมีประโยชน ไมถ ูกตองตามหลักโภชนาการ  ผูปกครองขาดความรูและไมม ีเวลาในการดูแลจดั อาหารใหถูกตองตามหลักโภชนาการ  นกั เรยี นมนี ้ําหนกั ผิดปกติไมส มั พนั ธก ับสว นสงู หรืออายุ  นกั เรียนปวยเปน โรคขาดสารอาหาร  นกั เรยี นปว ยเปนโรคขาดสารอาหารหรอื มีปญ หาทางดานสุขภาพตงั้ แตกําเนิด ๔.๕ ภยั สังคมในเทศกาลตาง ๆ ๑) ถูกจ้ปี ลน /ถกู วงิ่ ราวทรัพย/ ถูกลว งกระเปา  นักเรียนรจู กั วิธกี ารปอ งกันตนเองตอการถูกจีป้ ลน/ถูกวิ่งราวทรพั ย/ ถูกลว งกระเปา และผปู กครองดูแลอยา งใกลช ิด  นักเรยี นไมรูจ กั วิธีการปองกนั ตนเองตอ การถูกจ้ปี ลน /ถูกว่ิงราวทรพั ย/ ถูกลวงกระเปา แตผปู กครองดูแลอยางใกลชดิ  นกั เรียนรูจักวธิ กี ารปอ งกันตนเองตอการถกู จ้ีปลน/ถูกวิ่งราวทรัพย/ ถูกลวงกระเปา และมผี ดู แู ลใกลชิดบางเวลา  นกั เรยี นไมร ูจักวิธีการปองกนั ตนเองตอ การถูกจี้ปลน /ถูกวิง่ ราวทรพั ย/ ถูกลวงกระเปา และมีผูดแู ลใกลช ิดบางเวลา  รูนักเรียนจกั วิธกี ารปอ งกันตนเองตอการถกู จ้ีปลน/ถูกว่ิงราวทรัพย/ ถูกลว งกระเปา แตถ ูกทงิ้ ใหอยูตามลําพงั หรอื ไมม ีผดู แู ล  นักเรียนไมรจู กั วธิ กี ารปองกันตนเองตอ การถูกจ้ีปลน/ถูกวิง่ ราวทรัพย/ถูกลว งกระเปา และถูกทิ้งใหอยูตามลาํ พังหรือไมมผี ดู แู ล ๒) ถูกลอ ลวง/ถกู หลอก  นกั เรยี นรจู กั วธิ ีการปอ งกันตนเองตอการถกู ลอลวง/ถกู หลอก และผปู กครองดูแลอยางใกลช ิด  นักเรียนไมรูจักวิธกี ารปองกนั ตนเองตอการถูกลอลวง/ถูกหลอก แตผูปกครองดูแลอยา ง ใกลชดิ  นักเรยี นรจู กั วิธีการปอ งกันตนเองตอการถูกลอลวง/ถูกหลอกและมผี ูดูแลใกลชดิ บางเวลา  นกั เรยี นไมร ูจกั วธิ ีการปองกันตนเองตอการถูกลอ ลวง/ถูกหลอกและมีผดู ูแลใกลชิดบางเวลา  นักเรียนรูจักวธิ ีการปองกันตนเองตอการถกู ลอลวง/ถกู หลอกแตถูกท้ิงใหอ ยูตามลําพังหรือไมมี ผูดแู ล

119  นกั เรียนไมรูจกั วธิ กี ารปองกนั ตนเองตอ การถูกลอลวง/ถกู หลอก และถกู ท้ิงใหอ ยูตามลําพัง หรือไมมีผดู ูแล ๓) ถูกลักพาตัว  นกั เรียนรจู กั วธิ ีการปองกันตนเองตอการถูกลกั พาตวั และผูป กครองดแู ลอยา งใกลชิด  นักเรยี นไมรจู กั วธิ ีการปองกนั ตนเองตอการถูกลกั พาตวั แตผูปกครองดูแลอยางใกลช ิด  นกั เรยี นรูจกั วธิ ีการปองกันตนเองตอการถูกลักพาตัวและมีผูด แู ลใกลชิดบางเวลา  นักเรียนไมร ูจ ักวธิ กี ารปองกนั ตนเองตอการถูกลกั พาตัวและมีผูดูแลใกลช ิดบางเวลา  นักเรยี นรูจกั วธิ ีการปอ งกันตนเองตอการถูกลกั พาตัว แตถ กู ทิ้งใหอ ยตู ามลาํ พังหรือไมมีผูดแู ล  นกั เรยี นไมร ูจกั วธิ ีการปองกันตนเองตอการถูกลกั พาตวั และถกู ทิ้งใหอยูต ามลําพังหรือไมมี ผูดูแล ๔) ถูกวางยาดวยวิธีการตาง ๆ  นักเรยี นรูจกั วิธีการปองกันตนเองตอการถูกวางยาดว ยวิธกี ารตา ง ๆ และผูปกครองดูแลอยาง ใกลชิด  นกั เรยี นไมร จู ักวธิ ีการปองกันตนเองตอการถูกวางยาดวยวธิ กี ารตาง ๆ แตผูปกครองดูแลอยาง ใกลช ิด  นกั เรียนรูจกั วธิ ีการปอ งกันตนเองตอการถกู วางยาดวยวิธกี ารตาง ๆ และมีผูด แู ลใกลชิดบาง เวลา  นกั เรียนไมรูจกั วิธีการปองกันตนเองตอการถูกวางยาดวยวิธีการตาง ๆ และมผี ดู ูแลใกลชดิ บาง เวลา  นกั เรยี นรจู กั วิธีการปองกันตนเองตอการถูกวางยาดวยวิธีการตาง ๆ แตถูกท้ิงใหอยูตามลําพงั หรือไมมีผดู ูแล  นกั เรียนไมร ูจกั วิธีการปองกันตนเองตอ การถูกวางยาดวยวิธกี ารตา ง ๆ และถูกทิง้ ใหอยูต าม ลําพงั หรอื ไมม ีผูดูแล ๕) อนาจารขมขืนกระทําชาํ เรา  นักเรยี นรูจกั วิธกี ารปอ งกันตนเองตอการอนาจารขมขนื กระทาํ ชาํ เรา และผูป กครองดูแลอยาง ใกลชดิ  นักเรียนไมรจู กั วธิ ีการปองกนั ตนเองตอ การอนาจารขมขนื กระทาํ ชําเรา แตผูปกครองดูแล อยางใกลช ิด  นักเรยี นรูจักวิธีการปองกันตนเองตอการอนาจารขมขืนกระทาํ ชาํ เราและมผี ูดูแลใกลชิดบาง เวลา


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook