Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ม.ต้น

ม.ต้น

Published by titirat.boontip1990, 2021-12-02 04:28:12

Description: ม.ต้น

Search

Read the Text Version

แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรูร ายวิชาออนไลน รายวชิ า สุขศกึ ษา พลศึกษา ทช21002 จำนวน 2 หนว ยกติ ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน จำนวน 80 ชว่ั โมง บทเรียน หัวเรื่อง วตั ถปุ ระสงคเชิง กิจกรรมการเรยี นรู จำนวน สอื่ การเรยี นรู การวัดและ กศน.4 ผลการเรียนรทู ี่ ออนไลนที่ พฤติกรรม ชว่ั โมง ประเมนิ ผล คาดหวงั 4 บทที่ 5 ยาแผน 1. ผูเรยี นบอกหลัก - ผเู รยี นทำ 6 ชวั่ โมง 1. บทเรียนออนไลนท ่ี 4 บทเรยี น ชอ งที่ 3 1.ผเู รยี นบอก โบราณและ และวิธีการใชย าได แบบทดสอบกอนเรียน Google site ออนไลนท ่ี 4 - กิจกรรมที่ 4 หลกั และ สมุนไพร อยางถูกตอ ง - ผเู รียนศึกษาเรยี นรจู ากสอื่ วิชา สุขศกึ ษา (5 คะแนน) วิธีการใชยาได เรอื่ งท่ี 1 หลกั 2. ผูเรียนอธบิ าย บทเรียนออนไลนท ี่ 4 Google พลศกึ ษา ทช21002 - แบบทดสอบ อยา งถูกตอ ง 148 และวธิ ีการใชยา อันตรายจากการใช site วชิ า สขุ ศกึ ษา พลศกึ ษา หลังเรยี น 2.ผูเรยี นอธิบาย เรอ่ื งที่ 2 อนั ตราย ยาประเภทตางๆได ทช21002 (5 คะแนน) อันตรายจากการ จากการใชยา อยา งถกู ตอ ง - ผเู รยี นทำกจิ กรรมที่ 4 ใชยาประเภท - ผูเรยี นทำแบบทดสอบ ตางๆไดอยา ง หลงั เรยี น ถูกตอง

แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรรู ายวชิ าออนไลน รายวิชา สุขศึกษา พลศกึ ษา ทช21002 จำนวน 2 หนวยกติ ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน จำนวน 80 ชว่ั โมง บทเรยี น หัวเรอ่ื ง วัตถุประสงคเ ชงิ กจิ กรรมการเรียนรู จำนวน สอ่ื การเรียนรู การวัดและ กศน.4 ผลการเรยี นรทู ี่ ออนไลนท ่ี พฤตกิ รรม ชวั่ โมง ประเมนิ ผล คาดหวัง 4 บทท่ี 6 การปอ งกัน 1.ผเู รียนอธบิ าย 6 ช่ัวโมง 1.ผูเรียนอธบิ าย ปญหา สาเหตุ สารเสพตดิ ปญ หา สาเหตุ ประเภทและชนิด ของสารเสพตดิ เรอ่ื งท่ี 1 ปญหา ประเภทและชนดิ และการปอ งกนั แกไขได สาเหตุ ประเภทและ ของสารเสพตดิ 2.ผูเ รียนอธิบาย 149 อนั ตราย วิธกี าร ชนดิ ของสารเสพติด และการปอ งกัน ปองกันและ หลกี เลยี่ ง และการปอ งกนั แกไข แกไข พฤติกรรมเสยี่ ง ตอสารเสพตดิ ได เร่อื งท่ี 2 ลกั ษณะ 2.ผูเรยี นอธบิ าย อาการของผูติดสาร อนั ตราย วธิ ีการ เสพติด ปอ งกันและ เร่ืองท่ี 3 อนั ตราย หลีกเลย่ี งพฤตกิ รรม การปอ งกันและการ เส่ียงตอ สารเสพตดิ หลกี เลี่ยงพฤติกรรม ได เสย่ี งตอสารเสพตดิ

แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรูรายวิชาออนไลน รายวชิ า สุขศกึ ษา พลศึกษา ทช21002 จำนวน 2 หนวยกติ ระดับมัธยมศึกษาตอนตน จำนวน 80 ชว่ั โมง บทเรยี น หัวเรอื่ ง วตั ถปุ ระสงคเ ชงิ กิจกรรมการเรยี นรู จำนวน สอ่ื การเรยี นรู การวัดและ กศน.4 ผลการเรียนรู ออนไลนท ่ี พฤตกิ รรม ช่ัวโมง ประเมินผล ทคี่ าดหวัง 5 บทท่ี 7 1.ผูเ รยี นอธิบาย - ผเู รียนทำ 12 ช่ัวโมง 1. บทเรยี นออนไลนท่ี 5 บทเรียน ชอ งท่ี 4 1.ผเู รยี นอธบิ าย อุบัติเหตุ อบุ ัติภัย ปญหา สาเหตขุ อง แบบทดสอบกอ นเรยี น Google site ออนไลนท ี่ 5 - กจิ กรรมท่ี 5 ปญ หาสาเหตุ เรอื่ งท่ี 1 ปญ หาสาเหตุ การเกิดอบุ ตั เิ หตุ - ผเู รยี นศึกษาเรยี นรจู ากสื่อ วิชา สุขศกึ ษา (5 คะแนน) ของการเกิด บทเรยี นออนไลนท ี่ 5 พลศกึ ษา ทช21002 - แบบทดสอบ อบุ ตั เิ หตุ ของการเกดิ อบุ ัติเหตุ อุบตั ิภยั และภยั Google site วชิ า สุขศกึ ษา หลงั เรียน อบุ ัตภิ ัยและ 150 พลศึกษา ทช21002 (5 คะแนน) ภัยธรรมชาติ อุบตั ิภัยและภยั ธรรมชาติ ธรรมชาติ 2.ผเู รยี นอธบิ าย เรอื่ งท่ี 2 การปอ งกัน วธิ กี ารปฐมพยาบาล - ผเู รียนทำกจิ กรรมที่ 5 2.ผเู รยี นอธบิ าย อนั ตรายและหลกี เลย่ี ง เมอ่ื ไดร บั อันตราย - ผูเรียนทำแบบทดสอบ วธิ ีการปฐม พฤติกรรมเสนี่ ยงทจี่ ะ จากอบุ ัตเิ หตุ หลงั เรยี น พยาบาลเมื่อ นำไปสคู วามไม อุบัตภิ ัยไดอ ยา ง ไดรบั อนั ตราย ปลอดภัยจากอบุ ตั เิ หตุ ถูกตอ ง จากอบุ ตั เิ หตุ อุบัติภยั และภยั อบุ ตั ิภยั ไดอ ยา ง ธรรมชาติ ถูกตอง

แผนการจดั กิจกรรมการเรียนรรู ายวิชาออนไลน รายวิชา สุขศึกษา พลศกึ ษา ทช21002 จำนวน 2 หนวยกติ ระดับมัธยมศึกษาตอนตน จำนวน 80 ชวั่ โมง บทเรยี น หัวเรื่อง วัตถุประสงคเ ชิง กิจกรรมการเรยี นรู จำนวน ส่อื การเรียนรู การวัดและ กศน.4 ผลการเรยี นรู ออนไลนที่ พฤตกิ รรม ชัว่ โมง ประเมนิ ผล ทคี่ าดหวงั 5 เรอ่ื งที่ 3 เทคนคิ 3.ผูเรียนบอกเทคนิค 3.ผูเรียน 151 วิธกี ารขอความ วิธกี ารขอความ สามารถบอก ชวยเหลอื และการ ชวยเหลอื และการ เทคนิค วธิ ีการ เอาชวี ิตรอดเมอ่ื เอาชีวิตรอดเมอ่ื ขอความ เผชญิ อนั ตรายและ เผชญิ อนั ตรายได ชวยเหลือและ สภานการณคับขัน การเอาชวี ิต เรอื่ งที่ 4 การปฐม รอดเมอ่ื เผชิญ พยาบาลเมือ่ ไดร บั อนั ตรายได อันตรายจากอบุ ั ตั ิ เหตุ อบุ ตั ิภยั และ ภยั ธรรมชาติ

บทเรียนออนไลนท์ ี่ 1 152 วชิ าสขุ ศกึ ษา พลศกึ ษา (ทช21002) ม.ตน้ ใบงาน คำส่งั ใหผ เู รียนศึกษาความรู ในบทเรียนออนไลนที่ 1 โดยสแกนควิ อารโ คดท่กี ำหนดใหต อ ไปนี้ 1. ใหผ เู รยี นศกึ ษาความรูจากใบความรู เร่อื ง พฒั นาการของรางกาย และทกั ษะชีวติ เพอ่ื การสอ่ื สาร 2. ใหผ เู รยี นศกึ ษาความรูจากคลปิ วีดีโอ เรอื่ ง พัฒนาการของรา งกาย และทักษะชวี ิตเพื่อการสือ่ สาร 3. ใหผเู รยี นบนั ทกึ ความรทู ไ่ี ดล งในสมดุ บันทกึ การเรยี นรู บทเรียนออนไลนท่ี 1 Google site วชิ า สุขศกึ ษา พลศึกษา ทช21002

บทเรียนออนไลน์ท่ี 1 153 วชิ าสขุ ศึกษา พลศึกษา (ทช21002) ม.ต้น ใบความรู้ เร่อื ง พัฒนาการของร่างกาย และทักษะชีวิตเพ่ือการสอื่ สาร โครงสรา้ ง หน้าท่ีการทำงาน และการดูแลรักษาระบบต่าง ๆ ทส่ี ำคัญของร่างกาย 5 ระบบ การทำงานของระบบอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย ประกอบด้วยโครงสร้างท่ีสลับซับซ้อน จำแนกได้เป็น 10 ระบบ ซ่ึงแต่ละระบบก็จะทำงานไปตามหน้าท่ี และมีความสัมพันธ์ต่อกันในการ ทำงาน ในท่ีน้ีจะกล่าวถึงการทำงานของระบบอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย 5 ระบบ คือ ระบบผิวหนัง ระบบกล้ามเนอื้ ระบบกระดกู ระบบไหลเวยี นโลหติ และระบบหายใจ รายละเอยี ดดังน้ี 1. ระบบผวิ หนงั ผิวหนงั เปน็ อวยั วะทห่ี ่อหมุ้ รา่ งกาย ประกอบดว้ ย 2 ส่วน คอื หนังกำพรา้ และหนังแท้ 2. ระบบกล้ามเนื้อ กล้ามเนื้อเป็นแหลง่ พลงั งานท่ีทำใหเ้ กิดการเคลือ่ นไหว ในส่วนตา่ ง ๆของ ร่างกาย มีกลา้ มเนื้ออยู่ในร่างกาย 656 มัด เราสามารถสรา้ งเสรมิ กล้ามเน้ือใหใ้ หญโ่ ต แขง็ แรงได้ 3. ระบบโครงกระดูก กระดูกจะเจริญทั้งด้านยาวและด้านกว้าง กระดูกจะยาวข้ึนโดยเฉพาะ ในวัยเด็ก กระดูกจะยาวขึ้นเร่ือย ๆ จนอายุ 18 ปีในหญิง และ 20 ปีในชาย แล้วจึงหยุดเจริญเติบโต และกลายเป็นกระดูกแข็งแรงท้ังหมด ส่วนการขยายใหญย่ ังมีอยู่เนื่องจากยังมีเซลลก์ ระดูกใหม่งอกขึ้น เป็นเยอื่ หุ้มรอบ ๆ กระดูก กระดูกเปน็ อวัยวะสำคัญในการชว่ ยพยุงร่างกายและประกอบเป็นโครงร่าง เป็นที่ยึดเกาะของกล้ามเน้ือ และป้องกันการกระทบกระเทือนต่ออวัยวะภายในของร่างกาย เมื่อเจริญเตบิ โตเตม็ ท่จี ะมกี ระดกู 206 ชน้ิ แบ่งเปน็ กระดกู แกน 80 ช้นิ และกระดกู ระยางค์ 126 ช้ิน 4. ระบบไหลเวียนโลหิตระบบไหลเวียนเลือดเปรียบเสมือนระบบการขนส่ง มีเลือดทำหน้าที่ ลำเลียงอาหารที่ย่อยสลายแล้ว น้ำ ก๊าซ ไปเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกาย และเวลาไหลเวียนกลับ กน็ ำเอาของเสยี ต่างๆออกมานอกรา่ งกายด้วย 5. ระบบหายใจ การหายใจ เปน็ กระบวนการนำออกซิเจนในอากาศเข้าสู่ปอด โดยออกซเิ จน จะไปสลายสารอาหารและได้พลังงานออกมา รวมถึงการกำจัดคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเป็นของเสีย ออกจากรา่ งกาย พฒั นาการและการเปล่ียนแปลงตามวัย ดา้ นร่างกาย อารมณ์ สงั คม และสติปญั ญา 1. วัยทารก การแบ่งช่วงอายุของวัยทารกจะแบ่งออกได้ 2 ระยะ คือ วัยทารกแรกเกิด อายตุ ั้งแตแ่ รกเกิดถงึ 2 สปั ดาห์ วัยทารกอายตุ ้ังแต่ 2 สปั ดาห์ถึง 2 ปี 2. วัยเด็ก การแบ่งช่วงอายุของวัยเด็ก โดยประมาณแบ่งได้เป็น 3 ระยะ ได้แก่ วัยเด็กตอนต้น อายตุ ้ังแต่ 2 - 5 ปี วัยเดก็ ตอนกลาง อายุต้ังแต่ 5 - 9 ปี วยั เดก็ ตอนปลาย อายุตั้งแต่ 9 - 12 ปี 3. วัยรุ่น การแบ่งช่วงอายุของวยั รุ่นอยู่ระหว่าง 11-20 ปี โดยประมาณ การเจริญเติบโตทาง ร่างกายของเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง เป็นช่วงระยะของการเข้าสู่วัยหนุ่มวัยสาว เด็กผู้หญิงจะเข้าสู่ วยั ร่นุ เมอ่ื อายุประมาณ 11 ปขี ึ้นไป เดก็ ผ้ชู ายจะเข้าสู่วัยรุ่นเม่ืออายปุ ระมาณ 13 ปี วยั รุ่นเป็นช่วงของ

บทเรียนออนไลนท์ ่ี 1 154 วิชาสุขศกึ ษา พลศกึ ษา (ทช21002) ม.ต้น การปรับตัวจากวัยเด็กไปสู่วัยผู้ใหญ่ ทำให้มีความเครียด ความขัดแย้งในความคิด อารมณ์ และจิตใจ หากเด็กวัยรุ่นได้รับรู้ เข้าใจกระบวนการพัฒนาท้ังในด้านร่างกายและจิตใจ จะไม่วิตกกังวลกับการ เปลี่ยนแปลงท่ีจะเกิดขึ้นกับตัวของเขาเอง อีกทั้งยังสามารถช่วยให้พวกเขารู้จักวิธีปรับตัวให้เข้ากับ สังคม ไม่กอ่ ปัญหาให้เกิดเป็นเรอื่ งวุ่นวาย รวมถึงการดูแลรักษา และป้องกันตนเองจากโรคติดต่อทาง เพศสมั พนั ธ์ชนิดตา่ ง ๆ 4. วยั ผูใ้ หญ่ ระยะของช่วงเวลาทเ่ี รียกว่า ผู้ใหญ่ นนั้ มีความยาวนานและมีความสำคญั ต่อชีวิต อย่างมาก เป็นระยะเวลาการเลือกประกอบอาชีพที่ม่ันคง มีเพื่อน คู่ครอง ในวัยนี้ยังมีการ เปล่ียนแปลงทางรา่ งกาย และความเส่ือมในด้านความสามารถอีกด้วย จะแบ่งช่วงอายุได้เป็น 2ระยะ คือ วยั ผู้ใหญ่ อายตุ ง้ั แต่ 21 - 40 ปี วยั กลางคน อายตุ งั้ แต่ 40 - 60 ปี ลกั ษณะโดยท่วั ไปของวยั ผู้ใหญ่ บคุ คลย่างเขา้ สวู่ ัยผู้ใหญ่ ต้องปรบั ตวั ให้เข้ากฎเกณฑ์ตา่ ง ๆ ของสงั คม ยอมรบั ความเป็นจรงิ ของชวี ติ 5. วัยชรา ความชราจะมีความแตกต่างของบุคคลเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยในวัยที่มีอายุเท่ากัน สมรรถภาพอาจแตกต่างกัน บางคนอายุ 50 ปี แต่ความชราทางกายภาพมีมาก ในเวลาเดียวกันคนอายุ 60 ปี ความชราทางกายภาพยังไมม่ ากนกั เราจงึ กำหนดอายวุ ัยชราโดยประมาณ คอื วยั 60 ปขี ึ้นไป ทักษะชวี ิต หมายถึง คณุ ลักษณะหรือความสามารถเชิงสังคมจิตวิทยา ทเ่ี ป็นทักษะภายในจะ ช่วยให้บุคคลสามารถเผชิญสถานการณ์ต่างๆ ท่ีเกดิ ขึ้นในชวี ิตประจำวันไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพ และมี ความสามารถที่จะปรับตัวได้ในอนาคต ทักษะชีวิตจะมีส่วนช่วยให้วัยรุ่นสามารถนำความรู้ในเรื่อง ต่างๆ มาเชื่อมโยงกับทัศนคติ ผ่านการคิดวิเคราะห์ไตร่ตรองถึงผลท่ีจะเกิดข้ึน และตัดสินใจปฏิบัติใน สิ่งที่เหมาะสมได้ ซ่ึงจำเป็นอย่างมากในเรื่องของการดูแลสุขภาพ การป้องกันการติดเชื้อเอชไอวี ยาเสพติด การท้องไมพ่ ร้อม ความปลอดภัย คุณธรรมจริยธรรม ฯลฯ เพ่อื ใหส้ ามารถมีชีวติ อยใู่ นสังคม ได้อย่างมีความสุข และรับมือกับปัญหาและความเปล่ียนแปลงต่างๆได้ องค์ประกอบของทักษะชีวิต จะมีความแตกต่างกนั ตามวัฒนธรรม และสถานท่แี ตท่ ักษะชีวติ ทีจ่ ำเปน็ ท่สี ดุ ท่ีทกุ คนควรมี ซ่ึงองค์การ อนามยั โลกได้สรปุ ไว้ และถือเปน็ หัวใจสำคัญในการดำรงชวี ติ คอื 1. ทักษะการตัดสินใจ เป็นความสามารถในการตัดสินใจเก่ียวกับเร่ืองราวต่างๆในชีวิตได้ อย่างมีระบบ เช่น ถ้าบุคคลสามารถตัดสินใจเก่ียวกับการกระทำของตนเองท่ีเก่ียวกับพฤติกรรม ด้านสุขภาพ หรือความปลอดภัยในชีวติ โดยประเมินทางเลือกและผลท่ีไดจ้ ากการตัดสินใจเลือกทางท่ี ถูกตอ้ งเหมาะสม กจ็ ะมผี ลตอ่ การมีสขุ ภาพทด่ี ีทั้งรา่ งกาย และจิตใจ 2. ทักษะการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการจัดการกับปัญหาที่เกิดขึ้นในชีวิตได้อย่างมี ระบบ ไมเ่ กดิ ความเครียดทางกาย และจิตใจ จนอาจลุกลามเปน็ ปญั หาใหญโ่ ตเกินแก้ไข 3. ทักษะการคิดสร้างสรรค์ เป็นความสามารถในการคิดท่ีจะเป็นส่วนช่วยในการตัดสินใจ และแก้ไขปัญหาโดยการคิดสร้างสรรค์ เพ่ือค้นหาทางเลือกต่าง ๆ รวมท้ังผลที่จะเกิดข้ึนในแต่ละ ทางเลือก และสามารถนำประสบการณ์มาปรับใช้ในชวี ติ ประจำวันไดอ้ ย่างเหมาะสม

บทเรยี นออนไลน์ท่ี 1 155 วิชาสุขศึกษา พลศึกษา (ทช21002) ม.ตน้ 4. ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ และประเมินปญั หา หรือสถานการณ์ทอี่ ยู่รอบตัวเราทีม่ ผี ลต่อการดำเนินชวี ิต 5. ทักษะการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นความสามารถในการใช้คำพูด และท่าทาง เพ่ือแสดงออกถึงความรู้สึกนึกคิดของตนเองได้อย่างเหมาะสมกับวัฒนธรรม และสถานการณ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงความคิดเห็น การแสดงความต้องการ การแสดงความชื่นชม การขอร้อง การเจรจาตอ่ รอง การตักเตอื น การช่วยเหลือ การปฏเิ สธ ฯลฯ 6. ทกั ษะการสร้างสมั พนั ธภาพระหว่างบุคคล เปน็ ความสามารถในการสรา้ งความสมั พนั ธท์ ี่ ดีระหว่างกันและกนั และสามารถรกั ษาสัมพันธภาพไว้ได้ยืนยาว 7. ทักษะการตระหนักรู้ในตน เป็นความสามารถในการค้นหารู้จัก และเข้าใจตนเอง เช่น รู้ข้อดี ข้อเสียของตนเอง รู้ความต้องการและสิ่งที่ไม่ต้องการของตนเอง ซึ่งจะช่วยให้เรารู้ตัวเองเวลา เผชิญกับความเครียด หรือสถานการณ์ต่าง ๆ และทักษะนี้ยังเป็นพ้ืนฐานของการพัฒนาทักษะอ่ืน ๆ เช่น การสอื่ สาร การสรา้ งสัมพันธภาพ การตดั สนิ ใจ ความเหน็ ใจผอู้ ื่น 8. ทักษะการเข้าใจผู้อื่น เป็นความสามารถในการเข้าใจความเหมือน หรือความแตกต่าง ระหว่างบุคคล ในด้านความสามารถ เพศ วัย ระดับการศึกษา ศาสนา ความเช่ือ สีผิว อาชีพ ฯลฯ ช่วยให้สามารถยอมรับบุคคลอื่นที่ต่างจากเรา เกิดการช่วยเหลือบุคคลอื่นที่ด้อยกว่า หรือได้รับ ความเดือดร้อน เช่น ผู้ติดยาเสพติด ผูต้ ิดเชือ้ เอดส์ 9. ทักษะการจัดการกับอารมณ์ เป็นความสามารถในการรับรู้อารมณ์ของตนเองและผู้อื่น รู้ว่าอารมณ์มีผลต่อการแสดงพฤติกรรมอย่างไร รวู้ ิธีการจัดการกับอารมณ์โกรธ และความเศร้าโศก ท่ี ส่งผลทางลบต่อร่างกายและจติ ใจได้อยา่ งเหมาะสม 10. ทักษะการจัดการกับความเครียด เป็นความสามารถในการรับรู้ถึงสาเหตุของ ความเครียด รู้วิธีผ่อนคลายความเครียดและแนวทางในการควบคุมระดับความเครียด เพ่ือให้เกิด การเบ่ยี งเบนพฤตกิ รรมไปในทางทีถ่ ูกตอ้ ง เหมาะสม และไมเ่ กดิ ปญั หาดา้ นสขุ ภาพ

บทเรียนออนไลนท์ ่ี 2 156 วิชาสขุ ศึกษา พลศกึ ษา (ทช21002) ม.ตน้ ใบงาน คำส่งั 1. ให้ผ้เู รียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี นบทเรียนออนไลน์ที่ 2 เร่ือง การดแู ลรักษาสุขภาพ จำนวน 5 ขอ้ 2. ให้ผเู้ รียนศึกษาใบความรบู้ ทเรียนออนไลน์ที่ 2 เรื่องการดูแลรักษาสุขภาพ 3. ให้ผู้เรียนทำกิจกรรมท่ี 2 เรอ่ื งการดูแลรกั ษาสุขภาพ จำนวน 5 ข้อ 4. ให้ผูเ้ รยี นทำแบบทดสอบหลังเรยี น เรื่อง การดูแลรักษาสุขภาพ จำนวน 5 ข้อ สแกนคิวอาร์โคด้ บทเรยี นออนไลน์ท่ี 2 วชิ า สขุ ศึกษา พลศึกษา ทช21002

บทเรียนออนไลน์ท่ี 2 157 วชิ าสขุ ศึกษา พลศึกษา (ทช21002) ม.ต้น แบบทดสอบกอ่ นเรียน เรอ่ื ง การดูแลรักษาสขุ ภาพ ชือ่ -นามสกุล..............................................................รหสั นกั ศึกษา...................................................... คำชีแ้ จง ใหน้ ักศึกษาเลอื กคำตอบท่ีถูกต้องท่ีสดุ เพียงคำตอบเดยี ว จำนวน 5 ขอ้ (5 คะแนน) 1. วยั รุน่ คนใดปฏิบตั ิตนในการดูแลอนามยั เพศได้ 3. ข้อใดคือการดูแลรกั ษากลา้ มเนอื้ ท่ีถกู ต้อง เหมาะสม ก. นวดตัวทกุ วนั ก. สมใจลงวา่ ยน้ำทะเลขณะมีประจำเดือน ข. นอนพักผ่อนใหเ้ พยี งพอ ข. หน่งึ เปลยี่ นผ้าอนามัยบ่อยครงั้ ขณะมี ค. กินอาหารราคาแพง ประจำเดือน ง. ออกกำลงั กายทุกวัน ค. สมชายชอบออกกำลงั กายจนเหง่ือท่วม ตวั อย่เู สมอ 4. จดุ หมายปลายทางของการวางแผนดแู ล ง. สมนึกมคี วามคิดวา่ สวิ เป็นเรอื่ งธรรมชาติ สขุ ภาพคืออะไร ไมต่ ้องใสใ่ จ ก. การมชี วี ิตท่ียนื ยาว ข. การกนิ ดีอยดู่ ี 2. ข้อใดคือวิธีการคมุ กำเนิดเพื่อป้องกันการ ค. การมสี ขุ ภาพและคุณภาพชีวิตท่ีดี ตงั้ ครรภท์ ด่ี ีท่ีสดุ ง. การมกี ารดแู ลสุขภาพตามสุขบัญญัติ ก. ใชถ้ งุ ยางอนามยั ข. กนิ ยาเมด็ คุมกำเนิด 5.. หลักและวิธีการออกกำลังกายข้อใด ค. การนับวนั มีรอบเดือน ถูกตอ้ งที่สดุ ง. มเี พศสัมพนั ธุ์ระหว่างมรี อบประจำเดือน ก. สามารถออกกำลังกายไดต้ ามตอ้ งการ ข. การออกกำลังกายควรใช้เวลาอย่าง น้อย 20-30 นาที ค. การออกกำลงั กายควรออกไม่น้อยกว่า 2 วันและไมเ่ กนิ 4 วนั ในหน่งึ สปั ดาห์ ง. การออกกำลงั กายควรมีวันพกั ผอ่ น สปั ดาห์ละไม่น้อยกวา่ 4 วัน

บทเรียนออนไลน์ท่ี 2 158 วชิ าสขุ ศึกษา พลศกึ ษา (ทช21002) ม.ตน้ เฉลยแบบทดสอบกอนเรยี น เรื่อง การดูแลรกั ษาสขุ ภาพ 1.ข 2.ก 3.ข 4.ค 5.ข

บทเรยี นออนไลนท์ ่ี 2 159 วชิ าสขุ ศกึ ษา พลศกึ ษา (ทช21002) ม.ตน้ ใบความรู เร่อื ง การดแู ลรกั ษาสขุ ภาพ หลักการดแู ลสุขภาพเบือ้ งต้น การดูแลสขุ ภาพตามหลัก 5 อ. ชีวิตท่มี ีความสุข คอื ชีวิตทมี่ ีความสะดวกสบาย นึกอยากจะทำอะไร อยากได้อะไรกส็ ามารถ ทำได้หรือหาซ้ือมาได้ แต่น่ันคงจะไม่ใช่ความสุขท่ีแท้จริง เพราะหากจิตใจไม่สบายร่างกายอ่อนแอ เจ็บไข้ได้ปว่ ยกระเสาะกระแสะ ก็คงไม่มีความสุข ดังน้ัน ปัจจยั หลกั ที่ทำให้คนมีความสุขกต็ ้องเปน็ ผู้ท่ี มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีคำแนะนำทางการแพทย์ว่า คนเราจะมีสุขภาพดี ต้องประกอบด้วย 5 อ. คือ อาหาร อากาศ อารมณ์ อุจจาระ และออกกำลังกาย ซ่งึ สามารถแยกแยะได้ ดังนี้ อาหาร ควรเป็นอาหารที่เหมาะสมกับร่างกาย กินแล้วให้ประโยชน์ต่อร่างกาย ไม่มีโทษหรือ พิษภยั หรอื มผี ลข้างเคยี งให้เกดิ โรคภยั ภายหลัง อากาศ ที่ใช้หายใจเข้าออก ต้องเป็นอากาศท่ีบริสุทธ์ิ ปราศจากมลพิษใดๆ เพราะหัวใจของ คนต้องการอากาศเข้าไปเพื่อสูบฉีดโลหิตไปหล่อเลี้ยงอวัยวะต่างๆ ให้ทำงานตลอดเวลา อากาศ บรสิ ทุ ธิ์ทำใหร้ ้สู ึกสดชืน่ มีความสขุ อารมณ์ ผู้ที่มีอารมณ์แจ่มใส ร่าเริง จะมีความสุขกว่าคนที่มีอารมณ์ขุ่นมัว หงุดหงิดฉุนเฉียว นอกจากน้ันแลว้ ยงั มีผลต่อระบบการทำงานของอวัยวะต่างๆ ภายในรา่ งกายอีกดว้ ย อุจจาระ คือ กากอาหาร หรือของเสียท่ีร่างกายย่อยแล้วนำส่วนท่ีดีไปใช้ หลังจากน้ันก็จะ ขับถ่ายออกมา หากตกค้างอยู่ในร่างกายนานเกินไปจะทำให้เกิดโรคภัยไข้เจ็บได้ คนที่มีระบบขับถ่าย ที่ดจี ะมีหน้าตาสดใส มีน้ำมีนวล ตรงกันข้ามกบั คนทีไ่ ม่ค่อยขับถา่ ย หรอื ทีเ่ รียกว่าท้องผูก ออกกำลังกาย เปน็ การบริหารอวยั วะทงั้ ภายในและภายนอก ทำใหไ้ ด้รบั การเคล่ือนไหว ช่วย ให้เกิดการเสริมสร้างส่วนที่ขาดหรือลดส่วนที่เกิน ช่วยในการทำงานของหัวใจปอด ฯลฯ คนท่ีไม่ออก กำลังกายจะเป็นคนอ่อนแอ ขาดภูมิต้านทาน เจ็บป่วย เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายการเจริญเติบโต และพัฒนาการของมนุษยน์ ้ัน หมายถึง การเจริญเติบโตและพัฒนาการทางร่างกายและจิตใจควบค่กู ัน ไปตลอด เริ่มต้ังแต่ วัยเด็ก วัยแรกรุ่น วัยผู้ใหญ่ตามลำดับโดยทั่วไปแล้ว การเจริญเติบโตและ พัฒนาการทางร่างกายของคนเราจะสิ้นสุดลงเมื่อมีอายุประมาณ 25 ปี จากวัยน้ีอวัยวะต่าง ๆ ของ ร่างกายเริ่มเส่ือมลงจนย่างเข้าสู่วัยชราและตายในที่สุด ส่วนการเจริญเติบโตและพัฒนาการทางจิตใจ น้ันไมม่ ขี ดี จำกัด จะเจริญเตบิ โตและพฒั นาเจริญงอกงามข้ึนเรอ่ื ย ๆ จนกระทงั่ เข้าสวู่ ัยชรา

บทเรียนออนไลนท์ ี่ 2 160 วชิ าสุขศึกษา พลศกึ ษา (ทช21002) ม.ต้น การเปลย่ี นแปลงเม่ือเข้าสู่วัยหนุ่มสาว พัฒนาการทางเพศและการปรับตัวเมื่อเข้าสู่วัยรุ่น วัยรุ่นจะมีการเปล่ียนแปลงทางร่างกาย อยา่ งรวดเรว็ และมพี ัฒนาการทางเพศควบคู่กนั ไปด้วย โดยเพศชายและเพศหญิงจะมีความแตกตา่ งกัน การเปล่ียนแปลงทางร่างกายของเพศหญิง การเข้าสู่ช่วงวัยรุ่นของเด็กหญิงจะเกิดข้ึนเร็ว กว่าเด็กชาย คือ จะเริ่มข้ึนเมื่ออายุประมาณ 11-13 ปี ต่อมใต้สมองจะผลิตฮอร์โมนท่ีไปกระตุ้น การเจริญเติบโต และกระตุ้นการทำงานของรังไข่ให้สร้างเซลล์สืบพันธ์ุและผลิตฮอร์โมนเพศหญิง ในช่วงนี้วยั รุ่นหญิงจะมีการเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ส่วนสูงและน้ำหนกั เพิ่มมากขึน้ อวยั วะเพศโตขึ้น มีขนขึ้นบริเวณหัวเหน่าและรักแร้ เอวคอดสะโพกผายออก เต้านมโตข้ึนอาจมีสิวขึ้นตามใบหน้า ส่วน มดลูก รังไข่ และอวัยวะที่เกี่ยวข้องเจริญเติบโตข้ึน เร่ิมมีประจำเดือนซ่ึงลักษณะการมีประจำเดือน ในเพศหญิงจะเปน็ การบ่งบอกว่า วัยรนุ่ หญิงได้บรรลุวฒุ ิภาวะทางเพศแลว้ และสามารถต้งั ครรภไ์ ด้ การเปล่ียนแปลงทางร่างกายของเพศชาย เด็กชายจะเร่ิมเข้าสู่วัยรุ่นเมื่ออายุประมาณ 13-15 ปี ต่อมใต้สมองจะผลิตฮอร์โมนท่ีไปกระตุ้นให้ร่างกายเจริญเติบโตและกระตุ้นให้อัณฑะผลิต เซลล์สืบพันธ์ุและฮอร์โมน เพศชายมีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายท่ีเห็นได้ชัดโดยเฉพาะความสูงและ น้ำหนักตัวที่เพิ่มข้ึน แขนขายาวเก้งก้างไหล่กว้างออก กระดูกและกล้ามเน้ือแข็งแรงขึ้นและมีกำลัง มากขึ้น เสียงแตก นมแตกพาน มีหนวดเครา มขี นข้ึนท่หี นา้ แข้ง รักแร้ และบรเิ วณอวยั วะเพศ บางคน อาจมีสิวขึ้นบริเวณใบหน้า หน้าอก หรือหลังอวยั วะเพศโตข้ึนและแข็งตัวเมื่อมีความรู้สึกทางเพศหรือ ถูกสัมผัส และมีการหล่ังน้ำอสุจิหรือน้ำกามออกมาในขณะหลับ (ฝันเปียก) ซึ่งเป็นอาการท่ีบ่งบอกว่า ไดบ้ รรลวุ ฒุ ิภาวะทางเพศแล้ว และยงั หมายถงึ การมีความสามารถท่ีจะทำใหเ้ พศหญิงเกดิ การตงั้ ครรภไ์ ดอ้ กี แนวทางการปฏิบัติเพ่ือระงับอารมณ์ทางเพศ หมายถงึ ความพยายามในการที่จะหลีกเล่ียง ตอ่ สง่ิ เร้าภายนอกท่มี ากระตุ้นให้อารมณ์ทางเพศมีเพ่มิ มากขึ้นโดยมแี นวทางในการปฏิบตั ิ ดงั นี้ 1. หลีกเลี่ยงการดูหรืออ่านข้อความจากสื่อต่าง ๆ ท่ีมีภาพหรือข้อความที่สามารถยั่วยุให้เกิด อารมณ์ทางเพศ เช่น การดูหนังสือ หรือภาพยนตร์ หรือส่ืออินเทอร์เน็ตท่ีมีภาพหรือข้อความท่ี แสดงออกทางเพศ ซ่งึ เป็นการยั่วยใุ ห้เกิดอารมณท์ างเพศ 2. หลีกเล่ียงการปฏิบัติหรือการทำตัวให้ว่างหรือปล่อยตัวให้มีความสบายเกินไป เช่น การนอนเล่น ๆ โดยไม่หลับ การนั่งฝันกลางวันหรือน่ังจิตนาการที่เก่ียวข้องกับเรื่องเพศ การอยู่ใน สภาพของบรรยากาศทม่ี ีแสงสเี สียงท่ีกอ่ หรอื ปลกุ เร้าใหเ้ กิดอารมณ์ทางเพศ

บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 2 161 วชิ าสขุ ศึกษา พลศกึ ษา (ทช21002) ม.ต้น กิจกรรม/แบบทดสอบที่ 2 เร่อื ง การดแู ลรกั ษาสุขภาพ ชื่อ-นามสกุล............................................................................รหสั นักศกึ ษา.................................. คำชแ้ี จง จงตอบคำถามตอ่ ไปน้ใี หถ้ กู ต้อง จำนวน 5 ข้อ (5 คะแนน) 1. ใหผ้ เู้ รียนอธิบายหลักการดูแลสุขภาพเบ้อื งต้นตามหลัก 5 อ. ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... 2. ใหผ้ ู้เรียนอธบิ าย ประโยชน์ของการออกกำลังกาย ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... 3. ใหผู้เรียนอธบิ าย ยกตัวอยา ง วิธกี ารออกกำลงั กายมา 2 รูปแบบ ............................................................................................................................................................. ... ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ 4. ใหผ้ ู้เรยี นอธิบายวิธีการปอ้ งกันและหลีกเลยี่ งพฤติกรรมเสยี่ งต่อการล่วงละเมดิ ทางเพศ และการ ตั้งครรภ์ทไี่ ม่พึงประสงค์ ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ 5. ให้ผู้เรียนอธบิ าย พฤติกรรมใดบ้างที่เสยี่ งในการตดิ เช้ือเอชไอวี (HIVS) ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................................................ .... ............................................................................................................................. ...................................

บทเรยี นออนไลน์ที่ 2 162 วิชาสขุ ศกึ ษา พลศกึ ษา (ทช21002) ม.ตน้ เฉลยกิจกรรมท่ี 2 เรอ่ื ง การดูแลรกั ษาสุขภาพ ช่อื -นามสกุล............................................................................รหสั นกั ศึกษา.................................. คำชี้แจง จงตอบคำถามตอ่ ไปน้ีให้ถกู ต้อง จำนวน 5 ข้อ (5 คะแนน) 1. ให้ผู้เรยี นอธิบายหลกั การดูแลสขุ ภาพเบอ้ื งตน้ ตามหลกั 5 อ. ตอบ 1. อาหาร ทานอาหารท่ีมีประโยชน์ 2. อากาศ อยู่ในที่ที่มีอากาศบริสุทธ์ิ หลกี เล่ยี งสถานทที่ มี่ มี ลพิษ 3. อารมณ์ ทำจติ ใจให้ผ่อนคลาย ไมเ่ ครียด 4. อจุ จาระ คือ รบั ประทานอาหารทีม่ กี ากใย ด่มื นำ้ ใหม้ ากๆ 5. ออกกำลงั อยา่ งสมำ่ เสมอ 2. ใหผ้ เู้ รยี นอธิบาย ประโยชน์ของการออกกำลงั กาย ตอบ 1. ทางด้านร่างกาย ช่วยเสริมสร้างสมรรถภาพทางด้านร่างกายให้เป็นผู้ที่แข็งแรง มี ประสทิ ธิภาพในการทำงาน สร้างความแข็งแกรง่ ของกลา้ มเนื้อ ฯลฯ ก 2. ทางด้านอารมณ์ ช่วยสามารถควบคมุ อารมณ์ได้เป็นอยา่ งดไี มว่ ่าจะอยู่ในสภาพเช่นไร ช่วยให้ คนทม่ี ีอารมณเ์ บิกบาน ยิ้มแยม้ แจ่มใส ฯลฯ 3. ทางด้านสังคม เป็นผู้ท่ีมีระเบียบวินัย สามารถอยู่ในสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้เป็นผู้ที่เข้ากับ สังคม เพอื่ นฝูง และบุคคลทวั่ ไปได้เป็นอย่างดี ไม่ประหมา่ หรือเคอะเขิน 3. ให้ผ้เู รยี นอธิบาย ยกตวั อยา่ ง วธิ ีการออกกำลงั กายมา 2 รูปแบบ ตอบ 1) การออกกำลังกายแบบแอโรบิค เป็นกจิ กรรมที่ไดร้ บั การยอมรับ และเป็นทน่ี ยิ มกันอย่างแพร หลายทัว่ โลก 2) การวา่ ยน้ำทําให้เกิดความปลอดภยั แล้วการวา่ ยน้ำเปน็ กจิ กรรมสำหรบั การพักผ่อนหยอ่ นใจ สนกุ สนานเหมาะสมสำหรับสมาชกิ ทกุ คนในครอบครัว 4. ให้ผู้เรียนอธิบายวิธีการป้องกันและหลีกเล่ียงพฤติกรรมเส่ียงต่อการล่วงละเมิดทางเพศ และการ ตง้ั ครรภ์ที่ไมพ่ งึ ประสงค์ ตอบ ต้องระมัดระวังในเร่ืองการแต่งกาย ควรหลีกเล่ียงการเดินทางตามลำพังในยามวิกาลหรือใน เสน้ ทางทเี่ ปลี่ยว อยา่ ไวใ้ จคนแปลกหน้าเปน็ อันขาด โดยเฉพาะถา้ พบกนั ในสถานบนั เทงิ ฯลฯ 5. ให้ผู้เรียนอธิบาย พฤติกรรมใดบา้ งทีเ่ สย่ี งในการติดเช้อื เอชไอวี (HIVS) ตอบ การมเี พศสมั พันธ์ การใชเ้ ข็มรว่ มกัน การคลอดบุตรจากมารดาทตี่ ิดเชื้อเอชไอวี

บทเรยี นออนไลน์ท่ี 2 163 วิชาสุขศกึ ษา พลศกึ ษา (ทช21002) ม.ตน้ แบบทดสอบหลังเรยี น เรื่อง การดแู ลรกั ษาสขุ ภาพ ช่ือ-นามสกุล..............................................................รหัสนกั ศกึ ษา...................................................... คำช้แี จง ใหน้ ักศกึ ษาเลอื กคำตอบที่ถกู ต้องทส่ี ุดเพียงคำตอบเดียว จำนวน 5 ขอ้ (5 คะแนน) 1. วัยร่นุ คนใดปฏิบตั ิตนในการดแู ลอนามัยเพศได้ 3. ขอ้ ใดคือการดูแลรกั ษากลา้ มเนือ้ ท่ีถกู ต้อง เหมาะสม ก. นวดตวั ทกุ วัน ก. สมใจลงวา่ ยนำ้ ทะเลขณะมีประจำเดือน ข. นอนพกั ผ่อนใหเ้ พียงพอ ข. หน่งึ เปลย่ี นผ้าอนามัยบ่อยครงั้ ขณะมี ค. กินอาหารราคาแพง ประจำเดือน ง. ออกกำลังกายทกุ วัน ค. สมชายชอบออกกำลงั กายจนเหง่ือท่วม ตวั อยูเ่ สมอ 4. จดุ หมายปลายทางของการวางแผนดแู ล ง. สมนกึ มีความคิดวา่ สิวเป็นเร่อื งธรรมชาติ สขุ ภาพคืออะไร ไมต่ ้องใสใ่ จ ก. การมีชวี ิตที่ยนื ยาว ข. การกินดีอยู่ดี 2. ขอ้ ใดคือวธิ กี ารคุมกำเนดิ เพอ่ื ป้องกันการ ค. การมีสุขภาพและคุณภาพชีวติ ทีด่ ี ต้ังครรภท์ ่ีดที สี่ ุด ง. การดแู ลสขุ ภาพตามสุขบญั ญตั ิ ก. ใชถ้ งุ ยางอนามัย ข. กนิ ยาเม็ดคุมกำเนิด 5.. หลักและวิธีการออกกำลังกายข้อใด ค. การนับวนั มีรอบเดือน ถกู ต้องทส่ี ุด ง. มีเพศสมั พนั ธ์ระหวา่ งมีรอบประจำเดือน ก. สามารถออกกำลังกายไดต้ ามต้องการ ข. การออกกำลังกายควรใช้เวลาอย่าง น้อย 20-30 นาที ค. การออกกำลังกายควรออกไม่นอ้ ยกว่า 2 วันและไม่เกิน 4 วนั ในหน่งึ สัปดาห์ ง. การออกกำลังกายควรมีวันพกั ผอ่ น สปั ดาหล์ ะไมน่ ้อยกวา่ 4 วัน

บทเรียนออนไลน์ที่ 2 164 วชิ าสขุ ศึกษา พลศกึ ษา (ทช21002) ม.ตน้ เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง การดแู ลรกั ษาสขุ ภาพ 1.ข 2.ก 3.ข 4.ค 5.ข

บทเรียนออนไลน์ที่ 3 165 วชิ าสุขศกึ ษา พลศกึ ษา (ทช21002) ม.ตน้ ใบงาน คำสง่ั 1. ใหผ ูเรียนทำแบบทดสอบกอ นเรียนบทเรียนออนไลนที่ 3 เรอ่ื ง สารอาหารและโรคระบาด จำนวน 5 ขอ 2. ใหผ เู รยี นศกึ ษาใบความรบู ทเรยี นออนไลนท่ี 3 เรอ่ื ง สารอาหารและโรคระบาด 3. ใหผ เู รยี นทำกจิ กรรมท่ี 3 เร่ือง สารอาหารและโรคระบาด จำนวน 2 ขอ 4. ใหผ ูเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียนบทเรยี นออนไลนท่ี 3 เรอื่ ง สารอาหารและโรคระบาด จำนวน 5 ขอ สแกนควิ อารโ คด บทเรียนออนไลนท่ี 3 วชิ า สุขศกึ ษา พลศึกษา ทช21002

บทเรยี นออนไลน์ที่ 3 166 วชิ าสขุ ศึกษา พลศกึ ษา (ทช21002) ม.ตน้ แบบทดสอบกอนเรยี น เรือ่ ง สารอาหารและโรคระบาด ช่ือ-นามสกุล..............................................................รหัสนกั ศกึ ษา...................................................... คำชแี้ จง ใหน กั ศึกษาเลอื กคำตอบท่ีถูกตอ งที่สดุ เพียงคำตอบเดยี ว จำนวน 5 ขอ (5 คะแนน) 1. ผูทป่ี วยเปน โรคเกย่ี วกบั กระดกู ควรบรโิ ภค 4. ส่ิงสำคัญที่สุดในการควบคุมและปองกัน สารอาหารประเภทใด โรคคอื ขอใด ก. วิตามนิ ดี ก. ความรวมมือระหวา งหนวยงานของรัฐ ข. แคลเซียม และเอกชน ค. ธาตุเหล็ก ข. การใหบรกิ ารสขุ ภาพจากหนว ยงาน ง. นม ของรฐั และเอกชน ค. การวางแผนการดำเนินงานการบริการ 2. ความรเู กี่ยวกบั หลักโภชนาการเร่อื งอาหาร สุขภาพที่ชัดเจนของรฐั หลัก 5 หมู มปี ระโยชนต อ นักศึกษาอยา งไร ง. ความรว มมอื รวมใจและการสนบั สนุน ก. สามารถเลอื กอาหารไดตามรสนิยม อยา งจริงจงั ระหวา งประชาชน และ ข. สามารถเลือกใชส ารอาหารไดถ กู ใจ หนวยงานของรัฐและเอกชน ค. สามารถเลือกซ้อื อาหารไดร าคาถกู ง. เปลย่ี นแปลงรายการอาหารไดโดยไม 5.. โรคไขหวัดนกท่ีเกิดในประเทศไทยเปน เกดิ ผลเสยี ไวรสั ชนิดใด ก. ชนิดท่ีไมต ิดตอถงึ กนั 3. เราควรเลอื กบรโิ ภคอาหารอยา งไร ข. ชนิดรนุ แรงปานกลาง ก. สกุ ๆ ดิบ ค. ชนิดรนุ แรงมาก ข. สด สะอาด ง. ชนดิ รนุ แรงนอ ย ค. อาหารคางคืน ง. อาหารรสจดั

บทเรียนออนไลน์ท่ี 3 167 วชิ าสุขศกึ ษา พลศกึ ษา (ทช21002) ม.ตน้ เฉลยแบบทดสอบกอนเรียน เรอื่ ง สารอาหารและโรคระบาด 1.ข 2.ง 3.ข 4.ง 5.ค

บทเรียนออนไลน์ที่ 3 168 วชิ าสุขศกึ ษา พลศกึ ษา (ทช21002) ม.ต้น ใบความรู้ เรื่อง สารอาหาร และโรคระบาด อาหาร หมายถงึ สิ่งทเ่ี รากนิ ไดแ้ ละมปี ระโยชนต์ ่อร่างกาย ส่ิงที่กนิ ได้แต่ไมเ่ ป็นประโยชน์หรือ ใหโ้ ทษแกร่ ่างกาย อาทิ สุรา เห็ดเมา เราก็ไม่เรยี กสิง่ น้นั วา่ เปน็ อาหาร โภชนาการ หมายถึง เรื่องต่างๆ ที่ว่าด้วยอาหาร อาทิ การจัดแบ่งประเภทสารอาหาร ประโยชน์ของอาหาร การย่อยอาหาร โรคขาดสารอาหาร เป็นต้น โภชนาการเป็นวิชาสาขาหนึ่งซ่ึงมี ลักษณะเป็นวิทยาศาสตร์ประยุกต์ ที่กล่าวถึงการเปล่ียนแปลงต่าง ๆ ของอาหารท่ีเรารับประทาน เข้าไปเพ่ือใช้ประโยชน์ในด้านการเจรญิ เตบิ โตและซ่อมแซมส่วนตา่ งๆ ของร่างกาย สารอาหาร หมายถึง สารเคมีท่ีเป็นส่วนประกอบสำคัญในอาหาร สารเคมีเหล่าน้ีมี ความสำคัญและจำเป็นต่อร่างกาย อาทิ เป็นตัวทำให้เกิดพลังงานและความอบอุ่นต่อร่างกายช่วยใน การเจริญเติบโต ช่วยซ่อมแซมส่วนท่ีสึกหรอทำให้ร่างกายทำงานได้ตามปกติ เมื่อนำอาหารมา วเิ คราะห์จะพบวา่ มสี ารประกอบอยู่มากมายหลายชนิด ถา้ แยกโดยอาศัยหลักคณุ คา่ ทางโภชนาการจะ แบง่ ออกเปน็ 6 ประเภท ไดแ้ ก่ โปรตีน คารโ์ บไฮเดรต ไขมัน วิตามนิ เกลือแร่ และน้ำ พลังงานและแคลอรี่ ไขมัน คาร์โบไฮเดรต และโปรตีน ให้ประโยชน์แก่ร่างกายหลายอย่างที่ สำคัญ คือ การใช้พลังงานแก่ร่างกาย พลังงานในที่น้ีหมายถึงพลังงานท่ีร่างกายจำเป็นต้องมีต้องใช้ และสะสมไว้ เพื่อใช้ในการทำงานของอวยั วะทัง้ ภายในและภายนอกรา่ งกาย อาหารหลัก 5 หมู่ อาหารเป็นส่ิงจำเป็นย่ิงสำหรับการเจริญเติบโต การบำรุงเล้ียงส่วนต่างๆ ของร่างกาย มักพบว่าบางคนเลือกท่ีจะกินและไม่กินอาหารอย่างหน่ึงอย่างใด ซึ่งเป็นการกระทำท่ีไม่ ถูกต้อง หากไม่กินอาหารตามความต้องการของร่างกาย การกินอาหารต้องคำนึงถึงคุณค่าของ สารอาหารมากกวา่ ความชอบหรอื ไม่ชอบ การเลอื กกินหรอื ไม่กินอาหาร เกิดจากสาเหตุหลายประการ วิธกี ารประกอบอาหารเพอ่ื คงคุณค่าของสารอาหาร หลักการปรงุ อาหารทถ่ี ูกสขุ ลักษณะ เพอ่ื ให้ได้อาหารทส่ี ะอาด ปลอดภยั และมีคณุ ค่าทางโภชนาการ มีหลกั การปรงุ อาหารที่ถกู สุขลกั ษณะ โดยคำนงึ ถึงหลัก 3 ส คือ สงวนคุณค่า สุกเสมอ สะอาดปลอดภัย สงวนคุณค่า คือ การปรุงอาหารจะต้องปรุงด้วยวิธีการปรุงประกอบเพื่อสงวนคุณค่าของ อาหารให้มปี ระโยชนเ์ ต็มท่ี เช่น การลา้ งให้ผกั สะอาดก่อนหนั่ ผกั การเลือกใชเ้ กลอื เสริมไอโอดีน สุกเสมอ คือ ต้องใช้ความร้อนในการปรุงอาหารให้สุกโดยเฉพาะอาหารประเภทเนื้อสัตว์ ทง้ั นเ้ี พื่อตอ้ งการจะทำลายเช้ือโรคทีอ่ าจปนเปื้อนมากับอาหาร การใช้ความรอ้ นจะต้องใช้ความร้อนใน ระดับที่สูง ในระยะเวลานานเพียงพอที่ความร้อนจะกระจายเข้าถึงทุกส่วนของอาหาร ทำให้สามารถ ทำลายเช้ือโรคไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ

บทเรยี นออนไลนท์ ่ี 3 169 วิชาสุขศกึ ษา พลศึกษา (ทช21002) ม.ตน้ สะอาดปลอดภัย คือ จะตองมีการตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานของอาหารกอนการปรุง ประกอบวาอยใู นสภาพท่สี ะอาด ปลอดภัย ไดมาตรฐาน เชน เน้ือหมสู ด ตองไมมีเม็ดสาคู (ตัวออน พยาธติ วั ตืด) น้ำปลา จะตอ งมีเครอ่ื งหมาย อย.รับรอง เปนตน และจะตองมกี รรมวิธขี นั้ ตอนการปรุง ประกอบอาหารที่สะอาด ปลอดภัยและถกู สขุ ลกั ษณะ มผี ูปรุง ผูเสิรฟอาหารทม่ี ีสุขวิทยาสวนบุคคลท่ี ดี รูจักวิธีการใชภาชนะอุปกรณและสารปรุงแตงรสอาหารที่ถูกตอง เชน มกี ารลดปริมาณสารพิษ กำจัดศตั รพู ชื ท่ตี กคางในผกั สด การใชช อนชมิ อาหารเฉพาะในการชมิ อาหารระหวา งการปรุงอาหาร โรคติดตอ หมายถึง โรคทเ่ี กดิ จากเชอ้ื โรคแลวสามารถตดิ ตอจากคนไปสบู ุคคลอื่นไดห รืออาจ ติดตอระหวา งคนสูคน หรือสัตวสูคนได หรือติดตอระหวางสัตวดวยกันเองได โดยมีพาหะ เชน คน สัตว หรือมีตัวกลางนำเชอ้ื โรค เปน ตน โรคทเ่ี ปน ปญหาสาธารณสขุ ของประเทศ 1. โรคไขเลอื ดออก โรคไขเลือดออก คือ โรคติดเช้ือซึ่งมสี าเหตุมาจาก ไวรสั เดงก่ี (Dengue virus) อาการของโรคน้มี คี วามคลา ยคลงึ กบั โรคไขหวดั ในชวงแรก จงึ ทำใหผูปวยเขาใจคลาดเคล่ือนได วาตนเปนเพียงโรคไขห วดั และทำใหไมไดรับการรกั ษาทถี่ กู ตอ งในทนั ที โรคไขเ ลือดออกมี อาการและ ความรนุ แรงของโรคหลายระดบั ตั้งแตไ มม ีอาการหรือมีอาการเล็กนอยไปจนถงึ เกิดภาวะช็อก ซ่งึ เปน สาเหตุที่ทำใหผูป วยเสยี ชีวติ อาการของโรคนค้ี ลายคลึงกบั โรคไขหวัด กลาวคือ มีอาการไข ออ นเพลีย ปวดเมอ่ื ยกลามเน้อื แตแตกตางกนั ทีไ่ ขจะสูงกวา มาก โดยอาจมีไขสูงกวา 40 องศาเซลเซยี ส 2. โรคมาลาเรยี ไขมาลาเรยี หรอื ไขจ บั สั่น เปนโรคตดิ ตอ ทีเ่ กิดจากเช้ือปรสิตจำพวกโปรโตซวั ชือ่ พลาสโมเดียม ซึ่งเกิดจากยุงกนปลองเปนพาหะนำโรคมาสูคน และเปนโรคท่ีมีสถิติการระบาด สูงมาก โดยเฉพาะในภาคใตและในจังหวดั ที่เปนปาเขาที่มีฝนตกชุกอยูบ อย ๆอาการผูท่ีไดรับเช้ือไข มาลาเรียจะมอี าการวงิ เวียนศรี ษะ ออนเพลีย มีไขสูง หนาวสนั่ อาเจียน และมีเหง่ือมาก บางรายท่ีเปน ชนิดรุนแรงมีไขส ูงขึ้นสมอง อาจมีอาการเพอ ชักหมดสติหรือตายในที่สดุ บางรายไมต ายแตเพอคล่ัง เสยี สติ และความจำเสอ่ื ม 3. โรคไขหวัดนก เดิมเช้ือไขหวัดนกเปนเช้ือไวรัสโดยธรรมชาติจะติดตอในนกเทานั้น โดยเฉพาะนกปา นกเปด น้ำ จะเปนพาหะของโรค เช้ือจะอยูใ นลำไสนก โดยท่ีตัวนกไมมีอาการ แต เม่ือนกเหลา น้ีอพยพไปตามแหลงตาง ๆ ทัว่ โลก ก็จะนำเชื้อน้ันไปดว ย เม่ือสัตวอ่ืน เชน ไก เปด หมู หรือสัตวเล้ียงอื่น ๆ ไดรับเชื้อไขหวัดนกก็จะเกิดอาการ 2 แบบ คืออาการผูปวยมีอาการคลายไขหวัดใหญ ไขส งู หนาวสั่น ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกลามเน้อื ออนเพลีย เจบ็ คอ ไอ ผปู วยเดก็ เล็ก ผสู ูงอายุ หรือผทู ี่ มีโรคประจำตัว หากมีภูมิคุมกันไมดี อาจมีอาการรุนแรงได โดยจะมีอาการหอบ หายใจลำบาก เนอื่ งจากปอดอักเสบรุนแรง

บทเรียนออนไลน์ที่ 3 170 วชิ าสขุ ศกึ ษา พลศกึ ษา (ทช21002) ม.ตน้ กิจกรรม/แบบทดสอบท่ี 3 เรือ่ ง สารอาหารและโรคระบาด ชือ่ -นามสกลุ ............................................................................รหสั นกั ศกึ ษา.................................. คำชแี้ จง จงตอบคำถามตอ ไปนี้ใหถ กู ตอ ง จำนวน 2 ขอ (5 คะแนน) 1. ใหผ เู รยี นบอกปรมิ าณความตอ งการสารอาหารตามเพศ วัย และสภาพรางกาย ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ .............................................................................................................................................. ............................................................................................................................................................. . 2. ใหผูเ รยี นอธิบาย สาเหตุ อาการ การปอ งกันและการรกั ษาโรคไขเ ลือดออก ...................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................. ...................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................. ......................................................................................................................................................

บทเรยี นออนไลน์ที่ 3 171 วิชาสขุ ศกึ ษา พลศกึ ษา (ทช21002) ม.ต้น เฉลยกจิ กรรมท่ี 3 เรือ่ ง สารอาหารและโรคระบาด ชื่อ-นามสกุล............................................................................รหสั นักศกึ ษา.................................. คำชแี้ จง จงตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถกู ต้อง จำนวน 2 ขอ้ (5 คะแนน) 1. ให้ผูเ้ รียนบอกปริมาณความตอ้ งการสารอาหารตามเพศ วยั และสภาพร่างกาย ตอบ 1) ความตอ้ งการสารอาหารในวยั เด็ก อาหารที่ให้โปรตีน อาหารที่ให้พลังงานอาหารที่ให้วิตามิน และเกลือแร่ ฯลฯ 2) ความต้องการสารอาหารของเด็กวัยเรียน นมสด 1 กล่อง ข้าวหรือขนมปัง ไข่อาจจะเป็น ไขด่ าว ไข่ลวกหรือไขเ่ จียว ผลไม้ท่ีหาไดง้ า่ ย เชน่ กลว้ ยน้ำวา้ มะละกอ หรอื สม้ ฯลฯ 3) ความต้องการสารอาหารในวยั รุ่น อาหารท่ีใหโ้ ปรตีน พลงั งาน และวิตามินต้องเพยี งพอสำหรับ วยั รนุ่ วติ ามินต้องเหมาะสมและโดยเฉพาะอย่างยง่ิ อาหารทีม่ ีเกลอื แร่ประเภทแคลเซียมและเหล็ก ตอ้ งเพยี งพอ 4) ความต้องการสารอาหารในวัยผู้ใหญ่ให้บริโภคอาหารหลายชนิด บริโภคอาหารในปริมาณที่ พอเหมาะ หลกี เล่ยี งการรับประทานท่มี ไี ขมันมากเกินไป ฯลฯ 5) ความต้องการสารอาหารของวัยชรา โปรตีน ไขมัน คาร์โบไฮเดรต คนสูงอายุควรรับประทาน ข้าวลดลงและไม่ควรรับประทานน้ำตาลในปริมาณท่ีมาก ใยอาหาร คนสูงอายุควรรับประทาน อาหารท่เี ปน็ พวกใยอาหารมากขน้ึ กกกก 2. ให้ผ้เู รียนอธิบาย สาเหตุ อาการ การป้องกันและการรักษาโรคไขเ้ ลือดออก ตอบ โรคไข้เลือดออก คือ โรคติดเช้ือซ่ึงมีสาเหตุมาจาก ไวรัสเดงก่ี มีอาการไข้ อ่อนเพลียปวดเมื่อ กล้ามเน้อื ไข้จะสูงกว่ามาก โดยอาจมีไข้สูงกว่า 40 องศาเซลเซียส ผู้ป่วยจะมีหน้าแดง และปวดเมื่อย กล้ามเน้ือค่อนข้างมากกว่า หากทำการทดสอบโดยการรัดต้นแขนด้วยสายรัด จะพบจุดเลือดออก การรักษาทานยาลดไข้ การป้องกัน ปิดภาชนะเก็บน้ำด้วยฝาปิด เช่น มีฝาปิดปากโอ่งน้ำ ตุ่มน้ำ ถงั เกบ็ นำ้ หรือถ้าไมม่ ีฝาปดิ ก็วางคว่ำลงหากยังไม่ต้องการใช้

บทเรียนออนไลนท์ ี่ 3 172 วชิ าสุขศึกษา พลศกึ ษา (ทช21002) ม.ตน้ แบบทดสอบหลังเรยี น เรือ่ ง สารอาหารและโรคระบาด ชอื่ -นามสกลุ ..............................................................รหสั นกั ศึกษา...................................................... คำชแ้ี จง ใหน ักศกึ ษาเลือกคำตอบทถี่ กู ตอ งทีส่ ดุ เพียงคำตอบเดยี ว จำนวน 5 ขอ (5 คะแนน) 1. ผูท ปี่ วยเปนโรคเก่ยี วกบั กระดูกควรบรโิ ภค 4. สิ่งสำคัญที่สุดในการควบคุมและปองกัน สารอาหารประเภทใด โรคคอื ขอใด ก. วติ ามนิ ดี ก. ความรวมมือระหวา งหนวยงานของรัฐ ข. แคลเซยี ม และเอกชน ค. ธาตุเหลก็ ข. การใหบรกิ ารสขุ ภาพจากหนว ยงาน ง. นม ของรฐั และเอกชน ค. การวางแผนการดำเนินงานการบริการ 2. ความรูเกย่ี วกบั หลกั โภชนาการเร่ืองอาหาร สุขภาพทีช่ ัดเจนของรฐั หลกั 5 หมู มปี ระโยชนต อ นกั ศึกษาอยา งไร ง. ความรว มมอื รวมใจและการสนบั สนุน ก. สามารถเลอื กอาหารไดต ามรสนิยม อยา งจริงจงั ระหวา งประชาชน และ ข. สามารถเลือกใชส ารอาหารไดถ ูกใจ หนวยงานของรัฐและเอกชน ค. สามารถเลือกซื้ออาหารไดร าคาถูก ง. เปลีย่ นแปลงรายการอาหารไดโ ดยไม 5.. โรคไขหวัดนกท่ีเกิดในประเทศไทยเปน เกิดผลเสยี ไวรัสชนิดใด ก. ชนิดที่ไมต ิดตอถงึ กนั 3. เราควรเลอื กบริโภคอาหารอยา งไร ข. ชนดิ รนุ แรงปานกลาง ก. สุก ๆ ดบิ ค. ชนิดรนุ แรงมาก ข. สด สะอาด ง. ชนดิ รุนแรงนอ ย ค. อาหารคา งคนื ง. อาหารรสจัด

บทเรียนออนไลน์ท่ี 3 173 วชิ าสุขศกึ ษา พลศกึ ษา (ทช21002) ม.ตน้ เฉลยแบบทดสอบหลังเรียน เร่อื ง สารอาหารและโรคระบาด 1.ข 2.ง 3.ข 4.ง 5.ค

บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 4 174 วิชาสุขศึกษา พลศกึ ษา (ทช21002) ม.ตน้ ใบงาน คำสงั่ 1. ใหผเู รียนทำแบบทดสอบกอนเรยี นบทเรียนออนไลนท ี่ 4 เร่อื ง ยาแผนโบราณและสมุนไพร และการปองกนั สารเสพติด จำนวน 5 ขอ 2. ใหผ เู รียนศึกษาใบความรบู ทเรยี นออนไลนท่ี 4 เร่อื ง ยาแผนโบราณและสมนุ ไพร และการปองกันสารเสพติด 3. ใหผเู รียนทำกจิ กรรมท่ี 4 เรื่อง ยาแผนโบราณและสมนุ ไพร และการปองกันสารเสพติด จำนวน 5 ขอ 4. ใหผูเ รยี นทำแบบทดสอบหลงั เรียน เร่อื ง ยาแผนโบราณและสมุนไพร และการปองกนั สารเสพตดิ จำนวน 5 ขอ สแกนคิวอารโ คด บทเรยี นออนไลนท ่ี 4 วิชา สขุ ศกึ ษา พลศึกษา ทช21002

บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 4 175 วชิ าสขุ ศึกษา พลศกึ ษา (ทช21002) ม.ตน้ แบบทดสอบกอนเรียน เร่อื ง ยาแผนโบราณและสมุนไพร และการปองกนั สารเสพติด ชือ่ -นามสกลุ ..............................................................รหัสนกั ศึกษา...................................................... คำชแี้ จง ใหน กั ศึกษาเลอื กคำตอบท่ีถูกตอ งทส่ี ุดเพยี งคำตอบเดยี ว จำนวน 5 ขอ (5 คะแนน) 1. ยาเม็ดพาราเซตามอล 500 มลิ ลิกรมั 3. ฝน ออกฤทธิ์ตอ รางกายอยางไร ขนาดบรรจุ 10 เมด็ เปน ยาท่อี ยใู นกลมุ ใด ก. กดประสาท ก. ยาอนั ตราย ข. กระตุน ประสาท ข. ยาใชภ ายนอก ค. หลอนประสาท ค. วัตถอุ อกฤทธ์ติ อ จิตประสาท ง. หลอนประสาทและกระตนุ ง. ยาแผนปจ จบุ นั บรรจุเสรจ็ ทมี่ ิใชยา อนั ตราย 4. สารเสพติดประเภทออกฤทธิ์กดประสาท จะกอ ใหเกดิ อาการแบบใด 2. ขอ ใดคอื ผลเสยี ทีเ่ กิดจากการเสพ ก. เกิดภาพหลอน สารเสพตดิ มากทส่ี ดุ ข. รมิ ฝป ากแหง ก. ช่ือเสยี ง เพ่ือน ค. สมองมอี าการมนึ งง ข. ทรัพยส นิ ชอ่ื เสียง ง. ควบคุมตนเองไมไ ด ค. ทรพั ยส นิ สขุ ภาพ ง. เศรษฐกจิ สุขภาพกาย และสขุ ภาพใจ 5.. สิง่ สำคัญประการแรกในการปอ งกนั ตนเอง จากสารเสพตดิ คือขอใด ก. ไมทดลองเสพ ข. ไมค บหาสมาคมกบั ผูเ สพติด ค. ศึกษาความรูถึงโทษและอันตรายของ สารเสพติด ง. ไมเขา ไปใกลแ หลง ทมี่ ีการระบาดของ สารเสพตดิ

บทเรยี นออนไลน์ท่ี 4 176 วิชาสขุ ศึกษา พลศกึ ษา (ทช21002) ม.ตน้ เฉลยแบบทดสอบกอนเรยี น เร่อื ง ยาแผนโบราณและสมนุ ไพร และการปองกันสารเสพตดิ 1.ง 2.ง 3.ก 4.ค 5.ก

บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 4 177 วิชาสุขศึกษา พลศึกษา (ทช21002) ม.ตน้ ใบความรู เรอ่ื ง ยาแผนโบราณสมนุ ไพร และการปอ งกนั สารเสพตดิ หลกั และวธิ ีการใชยาแผนโบราณ ความหมายของยาแผนโบราณ ยาแผนโบราณ คือ ยาท่ีมุงหมายสำหรับใชในการประกอบโรคศิลปแผนโบราณซึ่งเปนยาที่ อาศัยความรูจากตำราหรือเรียนสืบตอกันมา อันมิใชการศึกษาตามหลักวิทยาศาสตรและยาแผนโบราณ ที่ยอมรับของกฎหมายยาจะตองปรากฏในตำรายาที่รัฐมนตรีประกาศหรือเปน ยาทีร่ ฐั มนตรปี ระกาศ หรอื รบั ขึน้ ทะเบยี นเทานัน้ อนั ตรายจากการรับประทานยาแผนโบราณทไ่ี มไ ดข ึ้นทะเบยี นหรอื ยาปลอม ในปจจุบันพบวา มียาแผนโบราณท่ีไมไดขึ้นทะเบียนหรือยาปลอมกอใหเกิดอันตรายตอ ผูบริโภคได เชน มีการปนเปอนของจุลินทรียที่กอใหเกิดโรค หรือการนำสารเคมีท่ีไมปลอดภัยตอ ผบู ริโภคมาใสในยาแผนโบราณ เชน เมธิลแอลกอฮอล คลอโรฟอรม การใสยาแกปวด แผนปจจุบัน เชน อินโดเมทาซิน หรือแมแตการนำยาเฟนิลบิวตาโวนและสเตียรอยดซึ่งเปนยาควบคุมพเิ ศษ ซึ่งมี ผลขางเคียงสูงผสมลงในยาแผนโบราณ เพื่อใหเกิดผลในการรักษาที่รวดเร็ว แตจะทำใหเกิดอนั ตรายตอ ผูบ ริโภค คอื ทำใหเกิดโรคกระดูกผุ โรคความดนั โลหิตสูง โรคเบาหวาน และโรคกระเพาะได เปนตน หลักและวิธีการใชยาสมนุ ไพร สมุนไพรตามพระราชบญั ญัตยิ าหมายถึง ยาที่ไดจากพชื สตั ว หรอื แรธ าตุ ซงึ่ ยงั ไมไ ดผสมปรุง หรือ แปรสภาพแตในทางการคาสมุนไพรมกั จะถูกดัดแปลงสภาพไป เชน หนั่ เปนชิ้นใหเล็กลงบดเปนผงให ละเอียด นำผงท่ีบดมาอัดเปนเม็ดหรือนำมาใสแคปซูลในปจจุบันไดมีการนำสมุนไพรมาใชอยาง กวางขวาง เชน ใชเปนอาหาร อาหารเสริม เคร่ืองด่ืม ยารักษาโรค เครื่องสำอาง สวนประกอบใน เครอ่ื งสำอาง ใชแ ตงกลน่ิ และสีอาหาร ตลอดจนใชเ ปน ยาฆา แมลง อันตรายจากยาแผนโบราณ 1. ทำใหเกดิ แผลในกระเพาะอาหาร อาจถงึ ข้ันทำใหกระเพาะทะลุ ซง่ึ พบในผทู ่ีรับประทาน ยากลุมนี้หลายรายที่กระเพาะอาหารทะลุ ทำใหหนามืด หมดสติ และอาจอันตรายถึงชีวิตได โดยเฉพาะในผสู งู อายุ หรอื ผทู ี่มโี รคประจำตวั อยูแลว 2. ทำใหเ กดิ การบวม (ตงึ ) ทไ่ี มใชอว น 3. ทำใหก ระดูกผุกรอนและเปราะงาย นำไปสคู วามทุพพลภาพได 4. ทำใหความดันโลหิตสูง และระดับน้ำตาลในเลือดสูงพบในบางรายท่ีสูงจนถึงข้ันเปน อนั ตรายมาก 5. ทำใหภูมิคุมกันรางกายต่ำ มีโอกาสติดเชื้อไดงายนำไปสูความเส่ียงท่ีจะติดเช้ือและอาจ รุนแรงถึงขัน้ เสียชีวติ ได

บทเรียนออนไลนท์ ี่ 4 178 วิชาสุขศกึ ษา พลศกึ ษา (ทช21002) ม.ตน้ ปัญหา สาเหตุ ประเภทและชนดิ ของสารเสพตดิ และการปอ้ งกนั แก้ไข สถานการณ์ปัจจุบัน พบว่า การใช้สารเสพติดได้แพร่ระบาดเข้าไปถึงทุกเพศทุกวัยทุกกลุ่มอายุ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพพลานามัยของบุคคลกลุ่มนั้น ๆ โดยเฉพาะการใช้ยาเสพติดในทางที่ผิดของกลุ่ม เยาวชนทีก่ ำลงั ศึกษาเลา่ เรยี นในสถานศกึ ษาหรอื นอกสถานศึกษาหรือกลมุ่ เยาวชนนอกระบบการศกึ ษา ประเภทของสารเสพติด ยาเสพตดิ ให้โทษแบ่งได้ 5 ประเภท ดงั น้ี 1. ยาเสพติดให้โทษประเภท 1 เช่น เฮโรอีน เมทแอมเฟตามีน เอ็มดีเอ็มเอ(ยาอี) ยาเสพติด ให้โทษประเภทนีไ้ ม่ใชป่ ระโยชน์ทางการแพทย์ 2. ยาเสพติดใหโ้ ทษประเภท 2 เช่น มอรฟ์ ีน โคเคอีน เพทิดีน เมทาโดน และฝ่นิ ยาเสพตดิ ให้ โทษประเภทน้ีมีประโยชน์ทางการแพทย์ แต่ก็มีโทษมาก จึงต้องใช้ภายใต้ความควบคุมของแพทย์ และใชเ้ ฉพาะในกรณที ่ีจำเป็นเทา่ น้ัน 3. ยาเสพติดให้โทษประเภท 3 เป็นยาสำเร็จรูปที่ผลิตข้ึนตามทะเบียนตำรับท่ีได้รับอนุญาตจาก กระทรวงสาธารณสุขแล้ว มีจำหน่ายตามร้านขายยา ได้แก่ ยาแก้ไอ ที่มีตัวยาโคเคอีน หรือยาแก้ท้องเสียที่มีตัว ยาไดเฟนอกซนิ เป็นต้น ยาเสพตดิ ประเภทน้มี ีประโยชนท์ างการแพทยแ์ ละมีโทษน้อยกว่ายาเสพตดิ ใหโ้ ทษอน่ื ๆ 4. ยาเสพติดให้โทษประเภท 4 เป็นน้ำยาเคมีที่นำมาใช้ในการผลิตยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไดแ้ ก่ น้ำยาเคมี อาซิติกแอนไฮไดรด์ อาซิติลคลอไรด์ เอทลิ ิดีน ไดอาเซเตทสารเออรโ์ กเมทรนี และคลอซูโด อเี ฟดรีน ยาเสพติดใหโ้ ทษประเภทนไ้ี มม่ ีประโยชน์ในการบำบดั รักษาอาการของโรคแต่อย่างใด 5. ยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ได้แก่ พืชกัญชา พืชกระท่อม พืชฝ่ิน และพืชเห็ดขี้ควาย ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษประเภทนไ้ี มม่ ีประโยชนท์ างการแพทย์ การป้องกนั และหลีกเล่ยี งการตดิ สารเสพตดิ 1. ป้องกันตนเอง ไม่ใช้ยาโดยมิได้รับคำแนะนำจากแพทย์ และจงอย่าทดลองเสพยาเสพติด ทกุ ชนิดโดยเดด็ ขาด เพราะติดงา่ ยหายยาก 2. ป้องกันครอบครัว ควรสอดส่องดูแลเด็กและบุคคลในครอบครัวท่ีอยู่ร่วมกันอย่าให้ เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ต้องคอยอบรมส่ังสอนให้รู้จักโทษและภัยของยาเสพติด หากมีผู้เสพยาเสพติด ในครอบครวั 3. ป้องกันเพ่ือนบ้าน โดยช่วยช้ีแจงให้เพื่อนบ้านเข้าใจถึงโทษและภัยของยาเสพติดโดยมิให้ เพ่ือนบ้านรู้เท่าไม่ถึงการณ์ต้องถูกหลอกลวง และหากพบว่าเพื่อนบ้านติดยาเสพติดต้องแนะนำให้ไป รกั ษาตวั ทโี่ รงพยาบาล 4. ป้องกันโดยให้ความร่วมมือกับทางราชการ เมื่อทราบว่าบ้านใด ตำบลใด มียาเสพติด แพร่ระบาดขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกแห่งทุกท้องที่ทราบ หรือที่ศูนย์ปราบปรามยาเสพติดให้โทษ เชน่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โทร. 02-2527962 สำนกั งาน ป.ส.ส. โทร.02-2459350-9

บทเรยี นออนไลน์ท่ี 4 179 วชิ าสุขศกึ ษา พลศึกษา (ทช21002) ม.ตน้ กิจกรรม/แบบทดสอบท่ี 4 เรอ่ื ง ยาแผนโบราณสมนุ ไพรและการปอ งกันสารเสพตดิ ชื่อ-นามสกลุ ............................................................................รหสั นักศึกษา.................................. คำช้ีแจง จงตอบคำถามตอ ไปนใ้ี หถ ูกตอ ง จำนวน 5 ขอ (5 คะแนน) 1. ใหผูเรยี นบอกหลกั และวธิ กี ารใชย าแผนโบราณอยา งปลอดภยั ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 2. ใหผูเรียนบอกหลกั และวิธกี ารใชยาสมุนไพรอยา งปลอดภัย ................................................................................................................................................................ .............................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................ 3. ใหผ เู รียนอธบิ ายอันตรายจากการใชยาประเภทแผนโบราณ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 4. ใหผ เู รยี นอธบิ าย สาเหตกุ ารตดิ ยาเสพติด และอาการของผูต ดิ สารเสพตดิ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 5. ใหผเู รยี นบอกวธิ กี ารปองกนั และหลกี เลยี่ งการตดิ สารเสพตดิ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................

บทเรยี นออนไลน์ที่ 4 180 วชิ าสุขศกึ ษา พลศกึ ษา (ทช21002) ม.ต้น เฉลยกจิ กรรมที่ 4 เรือ่ ง ยาแผนโบราณสมุนไพรและการปอ้ งกันสารเสพติด ช่ือ-นามสกุล............................................................................รหสั นักศกึ ษา.................................. คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนใี้ หถ้ กู ต้อง จำนวน 5 ขอ้ (5 คะแนน) 1. ใหผ้ เู้ รียนบอกหลกั และวธิ กี ารใช้ยาแผนโบราณอยา่ งปลอดภัย ตอบ การเลือกซื้อยาแผนโบราณ ควรซื้อยาแผนโบราณจากร้านขายยาท่ีมีใบอนุญาตและมีเลข ทะเบยี นตำรบั ยา ไม่ควรซื้อยาแผนโบราณจากรถเร่ขาย เพราะอาจได้รับยาที่ผลิตขึ้นโดยผู้ผลิตท่ีไม่ได้ มาตรฐาน ซึ่งอาจมีการปนเป้ือนของจุลินทรยี ์ในระหวา่ งการผลติ อาจทำให้เกิดอนั ตรายต่อผู้บริโภคได้ กอ่ นซื้อยาแผนโบราณ ควรตรวจดูฉลากยาทุกครัง้ ว่ามขี อ้ ความดงั กลา่ วนี้หรือไม่ ฯลฯ 2. ให้ผู้เรยี นบอกหลกั และวิธีการใช้ยาสมนุ ไพรอยา่ งปลอดภยั ตอบ หลักการใช้ยาสมุนไพร สมุนไพรที่มีการนำมาใช้ในปัจจุบันน้ีมักนำมาปรุงเป็นยาเพ่ือใช้รักษา ป้องกัน และสร้างเสริมสุขภาพ แต่ส่วนมากจะเป็นการรักษาโรค ท่ีพบมากมีดังน้ียาต้ม ยาผง ยาชง ยาลกู กลอน ยาเมด็ ยาดอง นำมาใชส้ ด ๆ 3. ให้ผ้เู รยี นอธบิ ายอันตรายจากการใช้ยาประเภทแผนโบราณ ตอบ อันตรายจากการใช้ยาแผนโบราณ ทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร ทำให้เกิดการบวม (ตึง) ที่ไมใ่ ช่อ้วน ทำใหก้ ระดกู ผุกรอ่ น และเปราะงา่ ย นำไปสู่ความทพุ พลภาพได้ 4. ใหผ้ เู้ รียนอธบิ าย สาเหตุการตดิ ยาเสพตดิ และอาการของผตู้ ิดสารเสพติด ตอบ สาเหตุของการติดสารเสพตดิ เช่น อยากทดลอง ความคกึ คะนอง การชักชวนของคนอนื่ ฯลฯ ลักษณะการตดิ ยาเสพตดิ ตาโรยขาดความกระปรีก้ ระเปรา่ นำ้ มูกไหล นำ้ ตาไหล รมิ ฝีปาก เขยี วคล้ำ แห้ง แตก เหงอ่ื ออกมาก กล่นิ ตวั แรง พดู จาไม่สัมพนั ธ์กบั ความจริง 5. ใหผ้ ูเ้ รยี นบอกวิธกี ารป้องกนั และหลีกเล่ยี งการติดสารเสพตดิ ตอบ 1) ศกึ ษาหาความรู้เพื่อใหร้ ูเ้ ท่าทนั โทษพษิ ภยั ของยาเสพติด 2) ไม่ทดลองใช้ยาเสพตดิ ทุกชนิดและปฏิเสธเมื่อถูกชักชวน ระมัดระวงั เรื่องการใช้ยา เพราะยาบาง ชนิดอาจทำให้เสพตดิ ได้ 3) ใชเ้ วลาว่างให้เปน็ ประโยชน์ เมอ่ื มปี ัญหาชวี ิต ควรหาหนทางแกไ้ ขที่ไม่ข้องเกีย่ วกบั ยาเสพติดหาก แก้ไขไมไ่ ด้ควรปรึกษาผู้ใหญ่ 4) เลือกคบเพอ่ื นดี ทช่ี กั ชวนกันไปในทางสรา้ งสรรค์

บทเรียนออนไลน์ท่ี 4 181 วิชาสขุ ศกึ ษา พลศกึ ษา (ทช21002) ม.ตน้ แบบทดสอบหลงั เรยี น เรอื่ ง ยาแผนโบราณและสมนุ ไพร และการปอ งกันสารเสพตดิ ช่ือ-นามสกลุ ..............................................................รหสั นกั ศกึ ษา...................................................... คำชแ้ี จง ใหนกั ศึกษาเลือกคำตอบท่ีถกู ตอ งที่สดุ เพยี งคำตอบเดยี ว จำนวน 5 ขอ (5 คะแนน) 1. ยาเม็ดพาราเซตามอล 500 มลิ ลกิ รมั 4. สารเสพติดประเภทออกฤทธิ์กดประสาท ขนาดบรรจุ 10 เม็ด เปนยาท่อี ยใู นกลมุ ใด จะกอใหเ กดิ อาการแบบใด ก. ยาอนั ตราย ก. เกิดภาพหลอน ข. ยาใชภายนอก ข. ริมฝป ากแหง ค. วัตถอุ อกฤทธต์ิ อ จิตประสาท ค. สมองมอี าการมนึ งง ง. ยาแผนปจ จบุ ันบรรจเุ สรจ็ ทม่ี ใิ ชยา ง. ควบคุมตนเองไมได อนั ตราย 5.. สงิ่ สำคญั ประการแรกในการปอ งกนั ตนเอง 2. ขอ ใดคือผลเสียท่เี กิดจากการเสพ จากสารเสพตดิ คอื ขอ ใด สารเสพตดิ มากทสี่ ุด ก. ไมท ดลองเสพ ก. ชอ่ื เสียง เพ่ือน ข. ไมค บหาสมาคมกับผเู สพติด ข. ทรพั ยสิน ชอ่ื เสยี ง ค. ศึกษาความรูถึงโทษและอันตรายของ ค. ทรพั ยสิน สุขภาพ สารเสพตดิ ง. เศรษฐกจิ สขุ ภาพกาย และสุขภาพใจ ง. ไมเ ขา ไปใกลแหลง ทมี่ กี ารระบาดของ สารเสพติด 3. ฝนออกฤทธต์ิ อรางกายอยา งไร ก. กดประสาท ข. กระตุน ประสาท ค. หลอนประสาท ง. หลอนประสาทและกระตุน

บทเรยี นออนไลน์ท่ี 4 182 วิชาสขุ ศึกษา พลศกึ ษา (ทช21002) ม.ตน้ เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น เร่อื ง ยาแผนโบราณและสมนุ ไพร และการปองกันสารเสพตดิ 1.ง 2.ง 3.ก 4.ค 5.ก

บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 5 183 วชิ าสขุ ศึกษา พลศึกษา (ทช21002) ม.ตน้ ใบงาน คำสั่ง 1. ใหผ ูเรียนทำแบบทดสอบกอนเรียนบทเรียนออนไลนท่ี 5 เรือ่ ง อบุ ตั เิ หตุ อุบัติภัย จำนวน 5 ขอ 2. ใหผ ูเรียนศึกษาใบความรบู ทเรยี นออนไลนท ่ี 5 เร่อื ง อุบตั เิ หตุ อบุ ตั ภิ ยั 3. ใหผูเรยี นทำกจิ กรรมที่ 5 เร่ือง อุบตั เิ หตุ อุบตั ิภยั จำนวน 2 ขอ 4. ใหผูเ รียนทำแบบทดสอบหลงั เรียน เรื่อง อบุ ัติเหตุ อุบตั ภิ ยั จำนวน 5 ขอ สแกนควิ อารโ คด บทเรยี นออนไลนท ี่ 5 วชิ า สุขศกึ ษา พลศกึ ษา ทช21002

บทเรยี นออนไลน์ที่ 5 184 วชิ าสุขศกึ ษา พลศึกษา (ทช21002) ม.ต้น แบบทดสอบก่อนเรียน เรอ่ื ง อบุ ัติเหตุ อบุ ตั ิภยั ชอ่ื -นามสกลุ ..............................................................รหัสนักศกึ ษา...................................................... คำช้แี จง ให้นกั ศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดยี ว จำนวน 5 ขอ้ (5 คะแนน) 1. ขอ้ ใดเป็นสาเหตทุ ่ีสำคัญที่สดุ ของการเกิด 3. ขอ้ ใดคือวิธีการปฐมพยาบาลผู้ปว่ ยท่ีมี อบุ ตั ิเหตุ บาดแผลชำ้ ก. ภาวะเส่ยี งของงานท่ีทำ ก. ประคบบริเวณแผลดว้ ยผ้าเยน็ กอ่ น ข. จากภัยธรรมชาติ ข. ประคบบรเิ วณแผลด้วยกระเป๋านำ้ ร้อน ค. ความประมาท ค. ล้างด้วยน้ำสบูแ่ ละน้ำยาฆ่าเชอื้ โรค ง. รู้เท่าไมถ่ ึงการณ์ ง. พนั แผลทนั ที 2. ข้อใดคือจุดมงุ่ หมายหลักของ 4. ข้ อ ใด คื อ ก ารก ระ ท ำที่ ไม่ ป ล อ ด ภั ย การปฐมพยาบาล อาจนำไปส่กู ารเกดิ อบุ ัตเิ หตุ ก. ลดความเจบ็ ปวด ก. ใช้เครอื่ งมืออปุ กรณ์ตามที่กำหนด ข. ปอ้ งกันการบาดเจบ็ ไมใ่ หร้ ุนแรงมากข้ึน ข. มีนำ้ ใจชว่ ยงานเพ่ือนโดยไม่ต้องร้องขอ ค. ยดื ชีวติ ผ้บู าดเจบ็ ค. ซ่อมบำรงุ เครอ่ื งจักรตามกำหนด ง. ถกู ทุกข้อ ง. ปฏบิ ัตงิ านตามหน้าที่ 5.. ข้อใดต่อไปน้ีไม่ใช่ปัจจัยการปฐมพยาบาล ทีจ่ ำเป็น ก. ยานอนหลับ ข. ถ้วยตวงยา ค. กรรไกร ง. ปรอทวัดไข้

บทเรียนออนไลน์ที่ 5 185 วิชาสขุ ศกึ ษา พลศกึ ษา (ทช21002) ม.ตน้ เฉลยแบบทดสอบกอ นเรยี น เรอ่ื ง อุบัตเิ หตุ อุบัติภัย 1.ค 2.ง 3.ก 4.ข 5.ก

บทเรียนออนไลนท์ ่ี 5 186 วชิ าสุขศกึ ษา พลศึกษา (ทช21002) ม.ต้น ใบความรู้ เรื่อง อุบัตเิ หตุ อุบตั ิภยั สาเหตทุ ท่ี ำให้เกดิ อบุ ัติเหตแุ ละอบุ ตั ภิ ัย กกกกกกกกอุบัติเหตุหรืออุบัติภัย (Accident) หมายถึง เหตุการณ์อันตรายที่เกิดข้ึนโดยไม่ได้ต้ังใจ หรือคาดคิดมาก่อน ทำให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สิน บุคคลได้รับอันตรายทั้งร่างกายและจิตใจ อาจบาดเจ็บ พิการ หรือรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้การเกิดอุบัติเหตุหรืออุบัติภัยในชีวิตประจำวัน อาจเกิดขนึ้ ได้จากสาเหตุ ดงั นี้ 1. สาเหตทุ เี่ กิดจากบุคคล คนอาจเปน็ สาเหตุทำให้เกิดอุบัตเิ หตุหรืออุบตั ภิ ัยในลักษณะต่าง ๆ ดังน้ี 1) สภาพร่างกายและจิตใจไม่อยู่ในภาวะปกติ ผู้ที่ร่างกายทรุดโทรม เช่น อ่อนเพลีย เหน็ดเหนื่อย เจ็บป่วย หรือผู้ที่มึนเมาจากการดื่มสุราหรือยากระตุ้นประสาท เป็นต้น จะมีผลทำให้ ควบคุมสตขิ องตนเองไดไ้ มด่ ี จะมโี อกาสเกิดอบุ ัตเิ หตุ อุบัติภัยไดง้ ่าย 2) เกิดจากคนขาดความรู้และความชำนาญหรือประสบการณ์ ผู้ที่ใช้เครื่องจักรเคร่ืองยนต์ ในขณะทำงานน้ัน ถ้าหากขาดความรู้ความชำนาญหรือมีประสบการณ์ไม่เพียงพอจะเป็นเหตุให้เกิด อุบัติเหตุ อุบตั ภิ ยั ไดง้ า่ ย 3) เกิดจากคนมีความประมาท คนส่วนใหญ่มีนิสัยรักความสะดวกสบาย หากอันตราย ยังไม่ เกิดขึน้ มกั จะคดิ ว่า \"ไม่เป็นไร\" และบางคนมีนสิ ัยชอบความเส่ยี ง เช่น ชอบเผอเรอ สะเพร่า ขาดความรอบคอบ เหล่าน้ีเป็นเหตใุ หเ้ กิดอบุ ัตเิ หตุ อุบตั ิภยั ได้ 4) เกิดจากคนไม่ปฏิบัติตามคำเตือน กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ คนบางคนไม่เห็นความสำคัญ ของกฎระเบียบ ข้อบังคบั หรือคำเตอื นต่างๆ มกั จะเปน็ เหตใุ หเ้ กดิ อบุ ัติเหตุ อุบตั ภิ ัยได้ 5) เกิดจากคนมคี วามรู้เทา่ ไมถ่ งึ การณ์ มกั เนื่องมาจากการคาดคะเนผิดโดยไม่รู้ว่าอะไรเกดิ ข้ึน จะเปน็ เหตใุ ห้เกิดอบุ ัตเิ หตุ อุบัติภัยได้ 6) เกิดจากความเชื่อในทางท่ีผิด บางคนเช่ือว่าอุบัติเหตุ อุบัติภัย เกิดข้ึนเพราะโชคชะตาหรือ เคราะห์กรรมไมส่ ามารถจะหลีกเล่ยี งได้ ทำให้ขาดความระมัดระวงั จนเป็นเหตุให้เกิดอุบัตเิ หตุ อบุ ตั ิภยั ได้ เทคนิค วิธีการขอความชว่ ยเหลอื และการเอาชีวิตรอดเมอ่ื เผชญิ อันตรายและสถานการณ์คบั ขัน เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตและความปลอดภัยควรคำนึงถึงขั้นตอนการสื่อสาร เพ่อื ขอความชว่ ยเหลอื ดว้ ย เพราะในบางคร้งั เราจะชว่ ยเหลือตวั เองไมไ่ ดแ้ ลว้ คือ 1) การโทรศัพทข์ อความช่วยเหลือ 2) การตะโกนรอ้ งขอความช่วยเหลอื 3) การเขียนจดหมายขอความช่วยเหลือ 4) การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า

บทเรียนออนไลน์ท่ี 5 187 วชิ าสขุ ศกึ ษา พลศึกษา (ทช21002) ม.ตน้ การเอาชวี ิตรอดเมื่อเผชิญอันตรายและสถานการณคับขันในสังคมปจจุบันนี้ มสี ถานการณที่ อาจเปนอนั ตรายตอชีวติ และความปลอดภยั ของคนเรามากมาย ตัวอยางดงั นี้ 1) การถูกคนรายจ้ีหรอื ปลน มักเกดิ ขึ้นในท่ีเปล่ียว ควรต้ังสติใหมั่น พยายามจดจำลักษณะ รปู ราง หนา ตา บุคลิก ลกั ษณะ สว นสูง อายุ นำ้ เสียง เพ่ือแจงแกต ำรวจ 2) การถูกคนรา ยจีบ้ งั คับขมขนื มักเกิดในทีเ่ ปลีย่ วในยามวกิ าล ตอนดกึ หรอื เชามืด ควรตั้งสติ ใหม่ัน พยายามจดจำรูปพรรณของคนรา ย เพือ่ แจงเจา หนาทต่ี ำรวจ 3) การอยทู ามกลางคนทะเลาะวิวาทหรือยกพวกตีกัน อาจเกิดในงานเล้ียงท่ีมคี นดื่มสุราจน มนึ เมา การดูคอนเสิรต 4) การถกู หาเรื่อง มักเกดิ จากนกั เรียน นักศกึ ษาตา งสถาบันหรือวยั รุน ทช่ี อบเที่ยว เม่ือถูกหา เร่ืองใหพยายามพูดกับคนรายดีๆ อยาโตเถียงใหคนรายโกรธ และพยายามตีจากกลุมคนรายใหเร็ว ในกรณีท่ีคิดวาตองถูกทำรายใหว ่ิงหนีเขา หาฝูงชน 5) การถกู สุนขั ไลก ดั ใหอยูนิง่ ๆ ใชของในมอื ปองกนั ตัว หรือรองขอความชว ยเหลือ 6) รถชนกนั หรอื ถูกรถชน ใหพยายามชว ยตัวเอง เพอื่ ออกจากสถานการณนน้ั 7) เรอื ลม ขณะโดยสารเรอื ถา วา ยน้ำไมเปน ควรใสเสื้อชูชีพเตรยี มไว 8) เมือ่ เกดิ ไฟไหม ควรหนอี อกจากทน่ี ัน่ โดยเร็ว ใหหวงชวี ิตมากกวาหวงทรพั ยส นิ 9) เม่อื เกดิ อุทกภัย ใหรีบหนไี ปหาสถานท่ีสงู ทค่ี ดิ วาปลอดภัย เชน ภเู ขา อาคารสงู เปน ตน การปฐมพยาบาล เมอ่ื ไดร บั อันตรายจากอุบตั ิเหตุ อบุ ตั ภิ ยั จากภยั ธรรมชาติ การปฐมพยาบาล คือ การใหการชวยเหลือเบ้ืองตนตอผูป ระสบอันตราย หรือเจ็บปวย ณ สถานทเี่ กิดเหตุกอนที่จะถึงมือแพทย หรือโรงพยาบาล เพื่อปองกันมใิ หเ กิดอันตรายแกชีวิตหรือเกิด ความพกิ ารโดยไมสมควร หลกั ทว่ั ไปในการปฐมพยาบาล 1) อยาต่นื เตนตกใจ และอยาใหคนมุง เพราะจะแยงผูบาดเจ็บหายใจ 2) ตรวจดูวา ผบู าดเจบ็ ยงั รูส กึ ตัวหรือหมดสติ 3) อยา กรอกยาหรือน้ำใหแ กผบู าดเจบ็ ในขณะทีไ่ มร สู กึ ตวั 4) รีบใหการปฐมพยาบาลตอการบาดเจ็บที่อาจทำใหเกิดอันตรายถึงแกชีวิต โดยเร็วกอน สวนการบาดเจบ็ อ่ืน ๆ ทไ่ี มร ุนแรงมากใหด ำเนนิ การปฐมพยาบาลในลำดับถัดมา

บทเรียนออนไลนท์ ี่ 5 188 วชิ าสุขศึกษา พลศกึ ษา (ทช21002) ม.ตน้ กจิ กรรม/แบบทดสอบที่ 5 เร่ือง อุบัติเหตุ อบุ ตั ภิ ัย ชือ่ -นามสกลุ ............................................................................รหสั นักศึกษา.................................. คำชีแ้ จง จงตอบคำถามตอไปนใ้ี หถูกตอ ง จำนวน 2 ขอ (5 คะแนน) 1. ใหผ ูเ รยี นอธิบายสาเหตุท่ีทำใหเกิดอบุ ตั ิเหตุ อุบัติภัย ไดแก อะไรบา ง ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 2. เมื่อผเู รยี นพบเห็นคนหนามดื เปนลมหมดสติ จะมีวธิ กี ารปฐมพยาบาลอยา งไร ................................................................................................................................................................ .............................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................

บทเรียนออนไลน์ที่ 5 189 วชิ าสขุ ศึกษา พลศึกษา (ทช21002) ม.ตน้ เฉลยกจิ กรรมที่ 5 เร่อื ง อุบตั เิ หตุ อบุ ัตภิ ัย ชือ่ -นามสกลุ ............................................................................รหสั นักศกึ ษา.................................. คำชี้แจง จงตอบคำถามตอ ไปนใี้ หถกู ตอง จำนวน 2 ขอ (5 คะแนน) 1. ใหผ ูเ รียนอธิบายสาเหตทุ ท่ี ําใหเ กดิ อุบัตเิ หตุ อุบัติภัย ไดแ ก อะไรบา ง 1) สาเหตุที่เกดิ จากบคุ คล 2) สาเหตุท่ีเกิดจากเครอื่ งจักรและอปุ กรณห รือยานพาหนะในการทาํ งาน 3) สาเหตุจากสภาพแวดลอ ม 2. เมอื่ ผูเรยี นพบเห็นคนหนามดื เปน ลมหมดสติ จะมีวิธีการปฐมพยาบาลอยา งไร 1) ควรใหผ ูปวยนอนราบลงพน้ื ยกปลายเทาสูงเพอ่ื ใหเ ลือดไหลไปเลี้ยงสมอง 2) คลายเส้อื ผา ใหห ลวม 3) อยูในที่อากาศถา ยเท 4) ดมแอมโมเนียหรอื ยาหมอ ง

บทเรียนออนไลนท์ ่ี 5 190 วิชาสุขศกึ ษา พลศึกษา (ทช21002) ม.ตน้ แบบทดสอบหลงั เรียน เรื่อง อุบัตเิ หตุ อบุ ตั ิภยั ชื่อ-นามสกุล..............................................................รหัสนกั ศึกษา...................................................... คำช้ีแจง ใหน ักศกึ ษาเลอื กคำตอบที่ถกู ตองท่ีสดุ เพียงคำตอบเดียว จำนวน 5 ขอ (5 คะแนน) 1. ขอ ใดเปน สาเหตทุ สี่ ำคญั ทส่ี ุดของการเกิด 4. ขอใดคือการกระทำท่ีไมปลอดภัย อาจ อบุ ัติเหตุ ก. ภาวะเสย่ี งของงานท่ีทำ นำไปสูการเกิดอุบตั ิเหตุ ข. จากภัยธรรมชาติ ก. ใชเครือ่ งมืออปุ กรณต ามทีก่ ําหนด ค. ความประมาท ข. มีน้าํ ใจชว ยงานเพื่อนโดยไมตองรอ งขอ ง. รูเทาไมถึงการณ ค. ซอ มบาํ รุงเครอ่ื งจกั รตามกาํ หนด ง. ปฏบิ ัติงานตามหนา ท่ี 2. ขอใดคือจุดมงุ หมายหลกั ของ การปฐมพยาบาล ่ 5.. ขอใดตอ ไปน้ีไมใชปจจัยการปฐมพยาบาล ก. ลดความเจบ็ ปวด ข. ปองกนั การบาดเจบ็ ไมใ หร นุ แรงมากข้ึน ทีจ่ ำเปน ค. ยืดชวี ิตผูบาดเจ็บ ง. ถกู ทกุ ขอ ก. ยานอนหลบั ข. ถว ยตวงยา ค. กรรไกร ง. ปรอทวัดไข 3. ขอใดคอื วิธกี ารปฐมพยาบาลผูปว ยทม่ี ี บาดแผลชำ้ ก. ประคบบริเวณแผลดว ยผา เย็นกอ น ข. ประคบบรเิ วณแผลดวยกระเปา น้ำรอน ค. ลางดว ยนำ้ สบูแ ละน้ำยาฆาเชอ้ื โรค ง. พันแผลทันที่

บทเรียนออนไลน์ที่ 5 191 วิชาสขุ ศกึ ษา พลศกึ ษา (ทช21002) ม.ตน้ เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น เรอ่ื ง อุบัตเิ หตุ อุบตั ิภัย 1.ค 2.ง 3.ก 4.ข 5.ก

192 ตารางวเิ คราะหเนือ้ หารายวิชา ศลิ ปศึกษา 2 ทช21003 ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน จำนวน 2 หนวยกิต จำนวน 83 ชั่วโมง จำนวน ระดบั การเรียนรู ท่ี หัวเรอื่ ง (ชัว่ โมง) งาย ปาน ยาก 1 บทท่ี 1 ทศั นศิลปไ ทย 5 กลาง เรอื่ งท่ี 1 จดุ เสน สี แสง เงา รูปรา ง และรูปทรงทใี่ ช 5  ในทัศนศลิ ปไทย เรอ่ื งที่ 2 ความหมายและเปน มาของทศั นศลิ ปไ ทย 5  5 ดา นจิตรกรรมไทย ประตมิ ากรรมไทย สถาปตยกรรมไทย  ภาพพมิ พ 5  เรอ่ื งที่ 3 ความงามและคุณคาของทศั นศลิ ปไ ทย 5  เรอื่ งที่ 4 การนําความงามของธรรมชาติมาสรา งสรรค ผลงาน 5  เร่ืองที่ 5 ความคิดสรา งสรรค ในการนาํ เอาวสั ดุและ 5 สิง่ ของ ตา ง ๆ มาตกแตงรา งกายและสถานที่ 5  เรอื่ งที่ 6 คุณคาของความซาบซ้งึ ของวฒั นธรรมของ  ชาติ 5  2 บทที่ 2 ดนตรีไทย เรอื่ งที่ 1 ประวัตดิ นตรไี ทย 8  เร่อื งท่ี 2 เทคนิคและวิธกี ารเลนของเครอ่ื งดนตรไี ทย 8 เรอื่ งที่ 3 คุณคา ความงามความไพเราะของเพลงและ 7  เครอ่ื งดนตรไี ทย 7  เร่ืองที่ 4 ประวตั ิคณุ คาภมู ิปญญาของดนตรไี ทย  3 บทท่ี 3 นาฏศลิ ปไ ทย  เร่ืองท่ี 1 ความเปนมาของนาฏศิลปไ ทย เรอ่ื งท่ี 2 ประวัตินาฏศิลปไ ทย เร่ืองที่ 3 ประเภทของนาฏศลิ ปไทย เรอ่ื งที่ 4 นาฏยศัพท

193 ตารางวิเคราะหเ นอื้ หารายวิชา ศิลปศึกษา 2 ทช21003 ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน จำนวน 2 หนวยกิต จำนวน 83 ช่ัวโมง ที่ หวั เร่ือง จำนวน ระดับการเรียนรู (ชวั่ โมง) งาย ปาน ยาก เรื่องที่ 5 ราํ วงมาตรฐาน เรื่องที่ 6 การอนรุ ักษน าฏศิลปไทย 1 กลาง 4 บทท่ี 4 นาฏศลิ ปไ ทยกับการประกอบอาชพี 2  เร่อื งที่ 1คุณสมบตั ิของอาชีพนักแสดงทด่ี ี 83  เรือ่ งท่ี 2 คณุ ลักษณะของผูป ระกอบอาชพี การแสดง - อาชพี การแสดงหนังตะลงุ  - อาชพี การแสดงลเิ ก  - อาชพี การแสดงหมอลํา รวม

194 การวัดผลประเมนิ ผล บทเรยี น กจิ กรรม คะแนน ออนไลนท์ ่ี 1 ใหผ้ เู้ รยี นศึกษาจากบทเรยี นออนไลนท์ ่ี 1 เรื่อง ความสาํ คัญทัศนศิลปไ์ ทย - คณุ ค่าของดนตรีไทย และสรุปความรู้ที่ไดล้ งในสมุดบันทกึ 2 กิจกรรมท่ี 2 เร่อื ง ทัศนศิลป์ ไทย (5คะแนน) และทาํ แบบทดสอบหลังเรียน 10 (5 คะแนน) 3 กิจกรรมท่ี 3 เร่อื ง ดนตรไี ทย (5คะแนน) และแบบทดสอบหลังเรียน 10 (5คะแนน) 4 กจิ กรรมที่ 4 เรอ่ื ง นาฏศลิ ป์ไทย (5คะแนน) และทาํ แบบทดสอบหลงั เรยี น 10 (5 คะแนน) 5 กจิ กรรมที่ 5 เรอื่ ง นาฏศิลป์ไทยกับการประกอบอาชีพ (5คะแนน) และทํา 10 แบบทดสอบหลังเรยี น (5 คะแนน) รวมคะแนนเกบ็ ระหวา่ งภาค 40 สอบระหว่างภาค 20 สอบปลายภาค 40 รวมท้ังสิ้น 100

แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้รายวิชาออนไลน์ รายวชิ า ศิลปศกึ ษา ทช21003 จานวน 2 หน่วยกิต ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น จานวน 83 ชว่ั โมง บทเรียน หัวเรอื่ ง วัตถุประสงคเ์ ชงิ กิจกรรมการเรียนรู้ จานวน ส่ือการเรยี นรู้ การวัดและ กศน.4 ผลการเรียนรทู้ ี่ ออนไลน์ พฤตกิ รรม ชวั่ โมง ประเมนิ ผล คาดหวัง ท่ี 1 บทที่ 1 ผเู้ รยี นมีความรู้ -ผู้เรียนทาํ 9 ชั่วโมง 1.บทเรียนออนไลน์ท่ี 1 บทเรยี น - ผเู้ รียนบอก ทัศนศลิ ป์ ความเข้าใจ แบบทดสอบกอ่ นเรียน Google site วิชาศลิ ปศกึ ษา ออนไลนท์ ่ี 1 ความสาํ คัญ ไทย ความสําคญั ทัศนศิลป์ - ผู้เรียนศึกษาเรยี นรู้ ทช 21003 ความหมาย -ความสําคัญ ไทย จากสื่อบทเรยี น เรื่อง ทศั นศิลป์ ความงาม ทศั นศิลป์ ออนไลน์ท่ี 1 Google คุณค่าของ 195 ไทย site วชิ าศิลปศกึ ษา ทัศนศิลป์ บทท่ี 2 ทช 21003 และการ ดนตรีไทย เร่ือง ทศั นศลิ ปไ์ ทย shorturl.asia/XT8RM สร้างสรรค์งาน -คณุ ค่าของ ผู้เรียนทาํ กิจกรรมที่ 1 ทศั น์ศิลป์ไทยได้ ดนตรีไทย เร่อื ง ทัศนศลิ ปไ์ ทย -ผเู้ รียนทํา แบบทดสอบหลงั เรียน https://youtu.be/49_9T52jYIQ

แผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้รายวิชาออนไลน์ รายวชิ า ศลิ ปศึกษา ทช21003 จานวน 2 หน่วยกิต ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้ จานวน 83 ช่ัวโมง บทเรียน หัวเรื่อง วตั ถุประสงคเ์ ชิง กจิ กรรมการเรยี นรู้ จานวน ส่อื การเรียนรู้ การวัดและ กศน.4 ผลการเรียนรู้ที่ ออนไลน์ คาดหวัง พฤตกิ รรม ชัว่ โมง ประเมินผล ชอ่ งที่ 1 ท่ี ผู้เรยี นสามารถ 2 บทท่ี 1 ผู้เรยี นมคี วามรู้ -ผเู้ รียนทําแบบทดสอบ 25 ชว่ั โมง 1.บทเรียนออนไลนท์ ่ี 2 Google บทเรยี น -กจิ กรรมท่ี 2 บอกถึง ออนไลน์ท่ี 2 (10คะแนน) ความสาํ คัญ ทัศนศิลป์ ความเข้าใจ ก่อนเรยี น site -แบบทดสอบ ความหมาย ไทย หลังเรยี น ความงาม ความหมาย - ผูเ้ รียนศึกษาเรียนรู้ วิชาศิลปศึกษา ทช 21003 (10 คะแนน) คุณค่าของ ทัศนศลิ ป์และ ความงาม จากส่ือบทเรยี นออนไลน์ เรื่อง ทัศนศิลป์ การสรา้ งสรรค์ งานทศั น์ศลิ ป์ คณุ ค่าของ ที่ 2 Google site วิชา ไทยได้ 196 ทศั นศลิ ป์ ศิลปศึกษา ทช 21003 และการสรา้ งสรรค์ เร่ือง ทัศนศลิ ปไ์ ทย งานทัศนศ์ ลิ ป์ไทย ผเู้ รยี นทํากจิ กรรมท่ี 2 เร่ือง ทศั นศลิ ปไ์ ทย -ผ้เู รียนทําแบบทดสอบ https://1th.me/4AvCf หลังเรียน

แผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้รายวิชาออนไลน์ รายวิชา ศิลปศกึ ษา ทช21003 จานวน 2 หนว่ ยกิต ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ จานวน 83 ชว่ั โมง บทเรยี น หัวเรอ่ื ง วตั ถุประสงคเ์ ชงิ กิจกรรมการเรยี นรู้ จานวน สือ่ การเรยี นรู้ การวดั และ กศน.4 ผลการเรยี นรทู้ ่ี ออนไลนท์ ่ี คาดหวังผู้เรียน พฤติกรรม ชว่ั โมง ประเมนิ ผล ช่องที่ 1 ผูเ้ รยี นมีความรู้ 3 บทที่ 3 ความเข้าใจ ดนตรไี ทย ผ้เู รยี นมีความรู้ -ผู้เรียนทาํ 16 1.บทเรียนออนไลนท์ ี่ 3 Google บทเรยี น -กจิ กรรมท่ี 3 ประวตั ิความ ความเขา้ ใจ แบบทดสอบกอ่ น (5 คะแนน) เปน็ มา ชั่วโมง site ออนไลน์ท่ี 3 -แบบทดสอบ ววิ ฒั นาการ หลังเรยี น เทคนคิ การเล่น ประวัติความเป็นมา เรยี น วิชาศิลปศกึ ษา ทช 21003 (5 คะแนน) และกระบวน การถา่ ยทอด วิวฒั นาการ - ผเู้ รยี นศึกษาเรยี นรู้ เรอื่ ง ดนตรีไทย ของภูมิปัญญา ทางด้านเพลง เทคนคิ การเลน่ จากสอื่ บทเรยี น และดนตรีไทย ได้ และกระบวนการ ออนไลน์ท่ี 3 Google 197 ถา่ ยทอดของภมู ิ site วชิ าศิลปศกึ ษา ปญั ญาทางด้านเพลง ทช 21003 และดนตรีไทย เรื่อง ดนตรไี ทย - ผเู้ รียนทาํ กิจกรรมที่ 3 เรื่อง ดนตรไี ทย https://youtu.be/nCnttRGrbRI -ผู้เรียนทาํ แบบทดสอบหลงั เรียน


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook