บทเรียนออนไลน์ท่ี 3 48 วชิ าวทิ ยาศาสตร์ (พว21001) ม.ตน้ เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น เรอื่ ง สารเพอื่ ชวี ิต 1. ข 2. ง 3. ข 4. ค 5. ก
บทเรียนออนไลน์ที่ 4 49 วชิ าวิทยาศาสตร์ (พว21001) ม.ตน้ ใบงาน คำสั่ง ให้ผเู้ รยี นศกึ ษาความรู้ ในบทเรียนออนไลน์ท่ี 4 โดยสแกนควิ อารโ์ คด้ ทีก่ ำหนดให้ต่อไปนี้ 1. ใหผ้ ้เู รียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี นบทเรยี นออนไลน์ท่ี 4 เรื่อง แรงและพลงั งานเพื่อชีวติ จำนวน 5 ข้อ 2. ใหผ้ ูเ้ รยี นศกึ ษาใบความรูบ้ ทเรยี นออนไลน์ท่ี 4 เร่ือง แรงและพลังงานเพ่ือชวี ิต 3. ให้ผเู้ รยี นศึกษาความรจู้ ากคลปิ วีดีโอ เรือ่ ง 3.1 แรงและการใชป้ ระโยชน์ https://www.youtube.com/watch?v=73xpV0B7aM0 3.2 งานและพลังงาน https://www.youtube.com/watch?v=lPEsr8BCUiE 4. ใหผ้ เู้ รยี นทำกจิ กรรมท่ี 4 เรอื่ ง แรงและพลงั งานเพอ่ื ชวี ิต จำนวน 10 ขอ้ 5. ให้ผ้เู รียนทำแบบทดสอบหลังเรียน เรื่อง แรงและพลังงานเพื่อชีวิต จำนวน 5 ข้อ https://sites.google.com/ml.ac.th/pw21001-4 บทเรียนออนไลนท์ ่ี 4 Google site วิชาวิทยาศาสตร์
บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 4 50 วชิ าวทิ ยาศาสตร์ (พว21001) ม.ต้น แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เรอื่ ง แรงและพลังงานเพ่ือชีวติ ช่อื -นามสกุล..............................................................รหัสนกั ศกึ ษา...................................................... คำชแ้ี จง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถกู ต้องทีส่ ดุ เพยี งคำตอบเดยี ว จำนวน 5 ข้อ (5 คะแนน) 1. ถ้าโยนวัตถุขึ้นในแนวด่งิ การเคล่ือนที่ของวตั ถุ 4. คีมสำหรบั ตัดลวด ทำข้ึนโดยอาศยั จะเป็นอยา่ งไร ก. หลักของงาน ก. วตั ถุมคี วามเรว็ คงตัว ข. หลักของโมเมนต์ ข. วัตถุคอ่ ยๆ ลดความเร็วลง ค. กฎการคงทข่ี องพลังงาน ค. วตั ถมุ คี วามเรว็ มากขนึ้ ง. ใชห้ ลักท้งั สามข้อขา้ งต้น ง. วัตถเุ คล่ือนที่เรว็ และช้าสลบั กัน 5. ภาวะสมดุลของโมเมนต์ตรงกบั ข้อใด 2. นกั วิทยาศาสตรท์ ่ศี ึกษาเก่ียวกับแรงและ ก. คานอยู่น่ิงในแนวระนาบ การเคลอื่ นทคี่ ือใคร ข. จดุ หมุนของคานอย่ทู ่ีก่ึงกลางคาน ก. นวิ ตัน ค. คานมีลักษณะตรงและโตสม่ำเสมอ ข. ดาร์วิน ง. เมอ่ื เปน็ โมเมนตท์ ห่ี มนุ ตามเข็มนาฬิกา ค. เมลเดล ง. เอกสิ ัน 3. ข้อใดเปน็ ความหมายของคำว่าโมเมนต์ ก. ผลคูณของแรงกับระยะทาง ข. ผลบวกของแรงกับระยะทาง ค. ผลคณู ของแรงกบั ระยะทางตามแนวแรง ง. ผลคณู ของแรงกับระยะต้งั ฉากจากจดุ หมนุ ไปยงั แนวแรง
บทเรียนออนไลนท์ ่ี 4 51 วชิ าวทิ ยาศาสตร์ (พว21001) ม.ตน้ เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรียน เรอ่ื ง แรงและพลังงานเพ่ือชวี ติ 1. ข 2. ง 3. ง 4. ข 5. ก
บทเรียนออนไลนท์ ี่ 4 52 วชิ าวิทยาศาสตร์ (พว21001) ม.ตน้ ใบความรู้ เรื่อง แรงและพลงั งานเพื่อชวี ิต กกก1. แรงและความหมายของแรง 1.1 แรง (Force) หมายถึง สิ่งที่ไปกระทำต่อวัตถุ แล้วทำให้วัตถุนั้นเกิดการ เปลี่ยนแปลงสภาพของวัตถุ เช่น เปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ เปลี่ยนขนาดของอัตราเร็ว หรือเปลี่ยน ขนาด รปู รา่ งของวตั ถุ แรง มีหน่วย เป็น นิวตัน (N) (เป็นการให้เกียรติแก่เซอร์ไอแซค นิวตัน ผู้ค้นพบ แรงโนม้ ถ่วงของโลก) แรง เป็น ปริมาณเวกเตอร์ ซึ่งมีขนาดและทศิ ทาง 1.2 นอกจากน้ี นิวตันยงั ได้อธิบายเก่ียวกบั แรงไวเ้ ปน็ กฎตา่ ง ๆ 3 ขอ้ คือ กฎข้อ 1 \"วัตถุจะรักษาสภาพอยู่นิ่งหรือสภาพเคลื่อนที่อย่างสม่ำเสมอในแนว เส้นตรง นอกจากจะมีแรงลัพธ์ทีค่ า่ ไมเ่ ปน็ ศนู ย์มากระทำ\" กฎข้อ 2 \"เมื่อมีแรงลัพธ์ซ่ึงมีขนาดไม่เป็นศูนย์มากระทำต่อวัตถุ จะทำให้วัตถุเกดิ ความเรง่ ในทิศเดียวกับ แรงลัพธท์ ่มี ากระทำและขนาดของความเร่งน้จี ะแปลผันตรงกับขนาดของแรง ลัพธ์และแปลผกผนั กบั มวลของวัตถุ กฎข้อ 3 \"ทุกแรงกิริยาจะต้องมแี รงปฏกิ ริ ยิ าทมี่ ีขนาดเท่ากันและทศิ ทางตรงข้ามเสมอ\" 1.3 ชนิดของแรง แบ่งออกเปน็ 2 ประเภทใหญ่ๆ คือ 1.3.1 แรงในธรรมชาติ หมายถึง แรงที่เกิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ เราไม่สามารถ อธบิ ายไดว้ ่าเพราะเหตใุ ดจึงเกดิ แรงเหลา่ นีข้ ้ึน แต่เรารวู้ ่ามแี รงเกดิ ข้ึนเพราะสามารถทดลองใหเ้ หน็ จริงได้ แรงในธรรมชาติจะแบ่งออกเปน็ ชนิดตา่ ง ๆ ได้ 4 แรง คอื 1) แรงโน้มถ่วงของโลก (Gravitation Force) เป็นแรงที่ใกล้ตัวเราที่สุด ทำให้เราไม่หลุดออกไปแล้วอยู่อย่างอิสระเหมือนอยู่ในอวกาศ นิวตัน อธิบายโดยใช้กฎแรงดึงดูด ระหวา่ งมวล คือ \"วตั ถุ 2 วตั ถุท่ีอย่หู า่ งกันจะเกดิ แรงดึงดูดซึง่ กันและกัน โดยขนาดของแรงจะแปรผัน ตรงกับขนาดของมวลท้ัง 2 และแปรผกผันกับระยะห่างระหว่างมวลท้ัง 2 ยกกำลงั สอง \" 1.4 แรง หมายถงึ อำนาจภายนอกทสี่ ามารถทำใหว้ ัตถุเปลีย่ นสถานะได้ เชน่ ทำให้วัตถุ ที่อยู่นงิ่ เคล่อื นที่ไป ทำใหว้ ตั ถุที่เคลือ่ นทอ่ี ยูแ่ ลว้ เคลือ่ นที่ เร็วหรือช้าลง ทำให้วัตถุมีการเปลี่ยนทิศตลอดจนทำให้วัตถุมีการเปลี่ยนขนาดหรอื รูปทรงไปจากเดิม ได ้แรงเปน็ ปรมิ าณเวกเตอร์ที่มีทัง้ ขนาดและทิศทางการรวมหรือหักล้างกันของแรงจึงตอ้ งเป็นไปตาม แบบเวกเตอร์
บทเรียนออนไลนท์ ี่ 4 53 วชิ าวิทยาศาสตร์ (พว21001) ม.ต้น 1.5 แรง (force) หมายถึง ปริมาณที่กระทำต่อวัตถุแล้วทำให้วัตถุเปลี่ยนแปลงจาก สภาพเดมิ แรงนอี้ าจจะสมั ผสั กบั วัตถุหรือไม่สัมผสั กับวตั ถุกไ็ ด้ แรงดงึ แรงผลัก และแรงยก แรงพวกนี้ กระทำบนพื้นผิวของวัตถุ แต่มีแรงบางชนิด เช่น แรงแม่เหล็ก แรงทางไฟฟ้า และแรงโน้มถ่วงจะไม่ กระทำบนผิวของวัตถุ แต่กระทำกับเนื้อของวัตถุทุกตำแหน่ง เช่น น้ำหนักของวัตถุ ก็คือ แรงดึงดูด ของโลกที่กระทำกับวัตถุโดยไม่ต้องสัมผัสกับผิวของวัตถุเลย แรงจัดเป็นปริมาณเวกเตอร์ เพราะมีทั้ง ขนาดและทิศทาง หน่วยของแรงในระบบเอสไอ คอื นวิ ตนั (N) 1.6 เวกเตอร์ของแรง ปริมาณบางปริมาณที่ใช้กันอยู่ในชีวิตประจำวันบอกเฉพาะขนาดเพียงอย่างเดียวก็ได้ความหมาย สมบูรณ์แล้ว แต่บางปริมาณจะต้องบอกทั้งขนาดและทิศทางจึงจะได้ความหมายที่สมบูรณ์ ปริมาณ ในทางฟิสิกส์แบง่ ออกเปน็ 2 ประเภท คือ 1.6.1 ปริมาณสเกลาร์ (scalar quantity) คือ ปริมาณที่บอกแต่ขนาดอย่างเดียว ก็ได้ความหมายที่สมบูรณ์ โดยไม่ต้องบอกทิศทาง เช่น เวลา ระยะทาง มวล พลังงาน งาน ปริมาตร ฯลฯ ในการหาผลลัพธข์ องปริมาณสเกลารท์ ำได้โดยอาศัยหลกั ทางพชี คณติ คือ ใชว้ ิธกี ารบวก ลบ คณู หาร 1.6.2 ปริมาณเวกเตอร์ (vector quantity) คือ ปริมาณที่ต้องการบอกทั้งขนาด และทศิ ทางจงึ จะได้ความหมายที่สมบูรณ์ เชน่ ความเร็ว ความเรง่ การกระจดั โมเมนตัม แรง ฯลฯ กกกกกกก2. โมเมนต์ กกกกกกก 2.1 โมเมนต์ (Moment) หมายถึง ผลของแรงที่กระทำต่อวัตถุหมุนไปรอบจุดคงที่ ซง่ึ เรยี กวา่ จดุ ฟลั คัม (Fulcrum) คา่ ของโมเมนต์ หาได้จากผลคูณของแรงท่ีมากระทากับระยะที่วดั จากจดุ ฟลั ครมั มาตั้งฉากกับแนวแรง ดังสตู ร M = F x S หรือ กกกกกกก 2.2 ทศิ ทางของโมเมนต์ มี 2 ทิศทาง คือ 2.2.1 โมเมนตต์ ามเขม็ นาฬิกา คาน A B มจี ดุ หมนุ ท่ี F มแี รงมากระทำทป่ี ลาย คาน A จะเกิดโมเมนต์ตามเข็มนาฬิกา
บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 4 54 วิชาวทิ ยาศาสตร์ (พว21001) ม.ต้น 2.2.2 โมเมนต์ทวนเขม็ นาฬิกา คาน A B มจี ุดหมนุ ท่ี F มีแรงมากระทำท่ปี ลาย คาน B จะเกดิ โมเมนต์ทวนเข็มนาฬิกา รปู แสดงทศิ ทำงของโมเมนต์ จากภาพ F เป็นจุดหมุน เอาวัตถุ W วางไว้ที่ปลายคานข้างหนึง่ ออกแรงกดท่ปี ลายคานอกี ข้างหนงึ่ เพอ่ื ใหไ้ ม้อย่ใู นแนวระดบั พอดี โมเมนตต์ ามเขม็ นาฬกิ า = W x L2 (นวิ ตัน-เมตร) โมเมนตท์ วนเขม็ นาฬิกา = E x L1 (นิวตนั -เมตร) 2.3 กฎของโมเมนต์ เมอื่ วัตถหุ น่ึงถูกกระทำดว้ ยแรงหลายแรง แล้วทำให้วัตถุนั้น อยู่ในสภาวะสมดุล (ไม่เคลื่อนที่และไม่หมุน) จะได้ว่า ผลรวมของโมเมนต์ทวนเข็มนาฬิกา = ผลรวม ของโมเมนต์ตามเขม็ นาฬิกา 2.4 คาน หลักการของโมเมนต์ เรานำมาใช้กับอุปกรณ์ที่เรียกว่า คาน (lever) หรือคานดีดคานงัด คานเป็นเครื่องกลชนิดหนึ่งที่ใช้ดีดงัดวัตถุให้เคลื่อนที่รอบจุดหมด (fulcrum) มี ลักษณะเปน็ แท่งยาว หลักการทำงานของคานใช้หลกั ของโมเมนต์ รูปแสดงลักษณะของคาน ถา โจทยไ มกําหนดน้ําหนกั คานมาใหแสดงวา คานไมม ีนํา้ หนกั จากรปู กําหนดให W = แรงความตานทาํ น หรอื นาํ้ หนักของวัตถุ E = แรงความพยายาม หรอื แรงทีก่ ระทําตอคาน a = ระยะตั้งฉากจากจดุ หมุนถงึ แรงตานทําน b = ระยะทํางต้งั ฉากจากจดุ หมนุ ถงึ แรงพยายาม โดยมี F (Fulcrum) เปน จดุ หมุนหรือจุด ฟลครมั เมื่อคานอยูใ นภาวะสมดลุ โมเมนตต ามเขม็ นาฬก า = โมเมนตท วนเข็มนาฬก า W x a = E x b
บทเรยี นออนไลน์ท่ี 4 55 วชิ าวทิ ยาศาสตร์ (พว21001) ม.ตน้ 2.5 การจำแนกคาน คานจำแนกได้ 3 ประเภทหรือ 3 อันดับดังนี้ 2.5.1 คานอันดบั ที่ 1 เป็นคานที่มีจดุ (F) อยู่ระหวา่ งแรงความพยายาม (E) และแรงความตา้ นทาน (W) เชน่ กรรไกรตัดผ้า กรรไกรตัดเล็บ คมี ตดั ลวด เรือแจว ไม้กระดก เปน็ ต้น รูปแสดงคานอันดับ 1 ศกึ ษาความร้เู พม่ิ เติมไดท้ ่ี https://zhort.link/ldF
บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 4 56 วิชาวทิ ยาศาสตร์ (พว21001) ม.ต้น กจิ กรรม/แบบทดสอบที่ 4 เร่ือง แรงและพลงั งานเพื่อชีวติ ชือ่ -นามสกุล............................................................................รหสั นกั ศกึ ษา.................................. คำชแ้ี จง ตอบคำถามต่อไปนี้ให้ถูกต้อง จำนวน 10 ขอ้ (5 คะแนน) 1. แรง หมายถึงอะไร คำตอบ............................................................................................................................ ......................................................................................................................... ....................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ 2. แรงมหี นว่ ยเปน็ อะไร คำตอบ............................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ 3. แรงในธรรมชาติ หมายถึง คำตอบ............................................................................................................................ .............................................................................................................................. .................................. ................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ................................... 4. ปรมิ าณสเกลาร์ (scalar quantity) คอื คำตอบ............................................................................................................................ ................................................................................................................. ............................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ 5. ปรมิ าณเวกเตอร์ (vector quantity) คือ คำตอบ ............................................................................................. ................................................................ ............................................................................................................................. ................................ ............................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................
บทเรียนออนไลนท์ ี่ 4 57 วชิ าวิทยาศาสตร์ (พว21001) ม.ต้น 6. งาน หมายถึง คำตอบ............................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ 7. พลังงาน คอื คำตอบ............................................................................................................................ ....................................................................................................................................... ......................... .......................................................................................................... ...................................................... ............................................................................................................................. ................................... 8. พลังงานเสยี ง พลังงานเสียงเป็นพลังงานแบบใด คำตอบ............................................................................................................................ .................................................................................................................... ............................................ ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ 9. กระแสไฟฟา้ สามารถแบง่ ออกได้เป็น 2 ชนิด อะไรบ้าง คำตอบ............................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... 10. วตั ถุโปรง่ ใสและวัตถโุ ปร่งแสงตา่ งกันอยา่ งไร คำตอบ............................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................
บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 4 58 วชิ าวิทยาศาสตร์ (พว21001) ม.ตน้ เฉลยกิจกรรมที่ 4 เร่อื ง แรงและพลังงานเพื่อชวี ิต ชื่อ-นามสกลุ ............................................................................รหสั นักศึกษา.................................. คำชแี้ จง จงตอบคำถามตอ่ ไปนี้ใหถ้ ูกต้อง จำนวน 10 ข้อ (5 คะแนน) 1. แรง หมายถึงอะไร คำตอบ ส่งิ ทไี่ ปกระทำตอ่ วัตถุ แลว้ ทำใหว้ ตั ถุนั้นเกิดการเปลย่ี นแปลงสภาพของวตั ถุ 2. แรงมีหนว่ ยเปน็ อะไร คำตอบ นวิ ตัน (N) 3. แรงในธรรมชาติ หมายถึง คำตอบ แรงทเ่ี กิดขึ้นเองโดยธรรมชาติ เราไมส่ ามารถอธิบายไดว้ า่ เพราะเหตใุ ดจึงเกิด แรงเหลา่ นีข้ ้นึ แตเ่ รารูว้ า่ มีแรงเกิดขนึ้ เพราะสามารถทดลองใหเ้ หน็ จรงิ ได้ 4. ปรมิ าณสเกลาร์ (scalar quantity) คอื คำตอบ ปริมาณทีบ่ อกแต่ขนาดอย่างเดียวก็ได้ความหมายทีส่ มบรู ณ์ โดยไม่ตอ้ งบอก ทิศทาง เช่น เวลา ระยะทาง มวล พลงั งาน งาน ปริมาตร 5. ปรมิ าณเวกเตอร์ (vector quantity) คือ คำตอบ ปริมาณท่ีต้องการบอกทั้งขนาดและทิศทางจึงจะได้ความหมายที่สมบูรณ์ เช่น ความเร็ว ความเรง่ การกระจัด โมเมนตัม 6. งาน หมายถึง คำตอบ แรงท่กี ระทำต่อวัตถุแล้วทำใหว้ ตั ถุเคลอื่ นที่ไปตามทิศทางของแนวแรง ถา้ เรา ออกแรงกระทำต่อวตั ถแุ ลว้ วัตถไุ มเ่ คล่อื นท่ี แสดงวา่ ไมเ่ กดิ งาน 7. พลงั งาน คอื คำตอบ ความสามารถในการทำงาน เราใช้พลงั งานในการทำกิจกรรมหรอื ทำงานต่าง ๆ 8. พลังงานเสยี ง พลงั งานเสียงเป็นพลงั งานแบบใด คำตอบ เป็นพลงั งานรูปหนึง่ ทเ่ี กิดจากการสัน่ สะเทือน เราสามารถไดย้ ินได้ คือเป็น พลังงานรูปหน่งึ ท่ีสำคัญโดยมนษุ ย์ เพราะเราใช้เสียงในการส่ือสาร 9. กระแสไฟฟา้ สามารถแบง่ ออกได้เปน็ 2 ชนดิ อะไรบ้าง คำตอบ ไฟฟา้ กระแสตรง และ ไฟฟ้ากระแสสลบั 10. วัตถุโปร่งใสและวัตถโุ ปรง่ แสงต่างกันอย่างไร คำตอบ วตั ถทุ ่ีแสงผ่านได้หมดหรือเกือบหมดอย่างเป็นระเบียบ วตั ถทุ ี่แสงผา่ นได้อย่าง ไม่เปน็ ระเบียบ เมื่อเรามองผ่านวัตถุโปรง่ แสง จงึ เห็นวตั ถอุ ีกดา้ นหน่งึ ไม่ชดั เจน
บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 4 59 วชิ าวทิ ยาศาสตร์ (พว21001) ม.ต้น แบบทดสอบหลงั เรียน เรอื่ ง แรงและพลงั งานเพ่ือชีวติ ช่อื -นามสกุล..............................................................รหัสนักศกึ ษา...................................................... คำชแ้ี จง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบที่ถูกต้องทีส่ ดุ เพยี งคำตอบเดยี ว จำนวน 5 ขอ้ (5 คะแนน) 1. ถ้าโยนวัตถุขึ้นในแนวด่งิ การเคล่ือนท่ีของวตั ถุ 4. คีมสำหรบั ตัดลวด ทำข้ึนโดยอาศยั จะเป็นอยา่ งไร ก. หลักของงาน ก. วตั ถุมคี วามเรว็ คงตัว ข. หลักของโมเมนต์ ข. วัตถุคอ่ ยๆ ลดความเร็วลง ค. กฎการคงทขี่ องพลังงาน ค. วตั ถมุ คี วามเรว็ มากขนึ้ ง. ใชห้ ลักท้งั สามข้อขา้ งต้น ง. วัตถุเคล่ือนที่เรว็ และช้าสลบั กัน 5. ภาวะสมดุลของโมเมนต์ตรงกบั ข้อใด 2. นกั วิทยาศาสตรท์ ่ศี ึกษาเก่ียวกับแรงและ ก. คานอยู่น่ิงในแนวระนาบ การเคลอื่ นทีค่ ือใคร ข. จดุ หมุนของคานอย่ทู ่ีก่ึงกลางคาน ก. นวิ ตัน ค. คานมีลักษณะตรงและโตสม่ำเสมอ ข. ดาร์วิน ง. เมอ่ื เปน็ โมเมนต์ทห่ี มนุ ตามเขม็ นาฬิกา ค. เมลเดล ง. เอกสิ ัน 3. ข้อใดเปน็ ความหมายของคำว่าโมเมนต์ ก. ผลคูณของแรงกับระยะทาง ข. ผลบวกของแรงกับระยะทาง ค. ผลคณู ของแรงกบั ระยะทางตามแนวแรง ง. ผลคณู ของแรงกับระยะต้งั ฉากจากจดุ หมนุ ไปยงั แนวแรง
บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 4 60 วชิ าวทิ ยาศาสตร์ (พว21001) ม.ตน้ เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น เร่ือง แรงและพลังงานเพ่ือชวี ติ 1. ข 2. ง 3. ง 4. ข 5. ก
บทเรยี นออนไลน์ท่ี 5 61 วิชาวิทยาศาสตร์ (พว21001) ม.ตน้ ใบงาน คำสง่ั ให้ผู้เรยี นศกึ ษาความรู้ ในบทเรยี นออนไลน์ท่ี 5 โดยสแกนคิวอาร์โคด้ ที่กำหนดให้ต่อไปน้ี 1. ใหผ้ เู้ รยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียนบทเรยี นออนไลน์ท่ี 5 เร่ือง ดาราศาสตรเ์ พื่อชีวิต ดวงดาว กับชีวติ จำนวน 5 ข้อ 2. ใหผ้ ้เู รยี นศกึ ษาใบความรู้บทเรยี นออนไลน์ที่ 5 เร่ือง ดาราศาสตร์เพ่ือชีวติ ดวงดาวกับชีวิต 3. ให้ผู้เรยี นศึกษาความรูจ้ ากคลปิ วดี โี อ เรื่อง 3.1 ดาราศาสตร์เพื่อชีวิต https://www.youtube.com/watch?v=iLVfvcpiH5U 3.2 ดวงดาวกบั ชีวติ https://www.youtube.com/watch?v=zPcuKWbQlDk 4. ใหผ้ เู้ รยี นทำกิจกรรมที่ 5 เร่ือง ดาราศาสตรเ์ พื่อชวี ิต ดวงดาวกบั ชวี ิต จำนวน 10 ข้อ 5. ใหผ้ ้เู รยี นทำแบบทดสอบหลงั เรียน เรื่อง ดาราศาสตร์เพื่อชวี ิต ดวงดาวกับชวี ติ จำนวน 5 ขอ้ https://sites.google.com/ml.ac.th/pw21001-5 บทเรยี นออนไลนท์ ่ี 1 Google site วชิ าวิทยาศาสตร์
บทเรียนออนไลน์ที่ 5 62 วิชาวทิ ยาศาสตร์ (พว21001) ม.ตน้ แบบทดสอบก่อนเรยี น เรือ่ ง ดาราศาสตร์เพื่อชีวิต ดวงดาวกบั ชวี ติ ช่ือ-นามสกลุ ..............................................................รหัสนักศกึ ษา...................................................... คำช้แี จง ใหน้ กั ศึกษาเลอื กคำตอบที่ถกู ต้องทส่ี ดุ เพยี งคำตอบเดยี ว จำนวน 5 ขอ้ (5 คะแนน) 1. จากทฤษฎกี ารระเบดิ คร้ังใหญอ ธบิ ายวา รังสคี วามรอ นทก่ี ระจายอยใู นเอกภพมาจากอะไร ก. เปน พลงั งานความรอ นทดี่ าวฤกษแผรงั สีออกมา ข. เปนพลงั งานความรอ นท่ดี วงอาทติ ยแ ผร ังสีออกมา ค. เปน พลงั งานความรอ นที่ไดมาจากการชนกันของดวงดาว ง. เปนพลงั งานความรอ นท่เี หลอื จากการระเบิดครัง้ ใหญ 2. นกั ดาราศาสตรแ บงชนิดของดาวฤกษ โดยใชเกณฑใ นขอ ใด ก. สแี ละมวล ข. สีและอุณหภมู ิผวิ ค. มวลและความสวาง ง. มวลและกาํ ลงั สอ งสวา ง 3. สขี องดาวฤกษในขอใดมกี ารเรยี งลําดับตามอุณหภูมิพ้ืนผวิ จากสงู ไปต่าํ ก. ขาว แดง สม ข. แดง เหลอื ง ขาว ค. นํา้ เงิน ขาว สม ง. เหลอื ง สม นาํ้ เงิน 4. เพราะเหตใุ ดดาวเคราะหทงั้ 9 ดวงในระบบสรุ ยิ ะจงึ ตองโคจรรอบดวงอาทติ ย ก. เพราะดวงอาทิตยม ขี นาดใหญมากกวา ข. เพราะดวงอาทิตยม ีแรงโนมถวงมาก ค. เพราะดวงอาทิตยม แี สงสวา งในตวั เอง ง. เพราะดวงอาทติ ยเ ปนศนู ยกลางของระบบสรุ ยิ ะ 5. ดาวเคราะหย ักษไ ดแกข อ ใด ก. โลก ข. ดาวงอาทติ ย ค. ดาวอังคาร ง. ดาวพฤหสั บดี
บทเรียนออนไลนท์ ี่ 5 63 วิชาวทิ ยาศาสตร์ (พว21001) ม.ตน้ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรียน เร่อื ง ดาราศาสตร์เพื่อชีวิต ดวงดาวกบั ชวี ติ 1. ง 2. ข 3. ค 4. ข 5. ง
บทเรียนออนไลน์ท่ี 5 64 วชิ าวิทยาศาสตร์ (พว21001) ม.ต้น ใบความรู้ เร่อื ง ดาราศาสตรเ์ พ่ือชวี ิต ดวงดาวกบั ชีวิต กกก1. กลมุ่ ดาวจักรราศี กลมุ่ ดาวในจักรราศี ประกอบดว้ ยกลมุ่ ดาว 12 กลมุ่ คนในสมยั โบราณสังเกตวุ ่า ในชว่ ง แต่ละเดือน ดวงอาทิตย์ จะเคลื่อนเข้าไปอยู่ในกลุ่มดาวกลุ่มหนึ่งเป็นประจำ (แท้จริงแล้วโลกโคจร รอบดวงอาทิตย์ใน 1 ปี ทำให้ดูเหมือนว่าดวงอาทิตย์เคลื่อนที่) มนุษย์เราจินตนาการกลุ่มดาว 12 ราศีเป็นรูปร่างต่าง ๆ มีทั้งสัตว์ มนุษย์ และสิ่งของ แต่มีสัตว์เป็นส่วนใหญ่จึงเป็นที่มาของคำว่า Zodiac มาจากคำว่า Zoo กลุ่มดาวจักรราศี ใช้กันมานานกว่า 3,000 ปีก่อนคริสตกาล โดยสังเกตว่ากลุ่มดาว จกั รราศีจะตกไปพร้อมกบั ดวงอาทติ ย์ ในเดอื นนน้ั ๆ จงึ ทำให้รูว้ า่ เข้าเดอื นใหมแ่ ล้ว 1.1 กลุมดาวแพะทะเล Capricornus เปนกลมุ ดาวในราศีมงั กร ดวงอาทติ ยจะเคลอ่ื น มาในกลุมดาวนช้ี ว ง วนั ท่ี 22 มกราคม ถึง 21 กมุ ภาพันธ เขา เดอื นมกราคม เมื่อดวงอาทิตยต กจะเห็น กลมุ ดาวน้ีอยูทํางทิศตะวนั ตกพอดี 1.2 กลุม ดาวคนแบกหมอนา้ํ Aqurius เปนกลุมดาวในราศกี ุมภ ดวงอาทติ ยจ ะเคลอ่ื น มาในกลุมดาวนช้ี ว ง วนั ท่ี 22 กุมภาพนั ธ ถงึ 21 มนี าคม เขา เดอื นกมุ ภาพนั ธ เม่ือดวงอาทติ ยตกจะเห็น กลมุ ดาวนอ้ี ยทู ํางทิศตะวนั ตกพอดี 1.3 กลมุ ดาวปลาคู Pisces เปน กลุมดาวในราศีมนี ดวงอาทติ ยจ ะเคลื่อนมาในกลมุ ดาวนชี้ วง วนั ที่ 22 มนี าคม ถึง 21เมษายน เขาเดอื นมีนาคม เม่อื ดวงอาทติ ยต กจะเหน็ กลมุ ดาวน้ี อยู ทาํ งทิศตะวนั ตกพอดี
บทเรียนออนไลนท์ ี่ 5 65 วิชาวทิ ยาศาสตร์ (พว21001) ม.ต้น 1.4 กลุ่มดาวแพะ Aries เป็นกลุ่มดาวในราศีเมษ ดวงอาทิตย์จะเคลื่อนมาในกลุ่มดาว นช้ี ่วง วนั ท่ี 22 เมษายน ถึง 21 พฤษภาคม เขา้ เดอื นเมษายน เม่ือดวงอาทิตย์ตกจะเห็นกล่มุ ดาวน้ี อยู่ ทำงทิศตะวนั ตกพอดี 1.5 กลุ่มดาววัว Taurus เป็นกลุ่มดาวในราศีพฤษภ ดวงอาทิตย์จะเคลื่อนมาในกลุ่ม ดาวนี้ช่วง วันที่ 22 พฤษภาคม ถึง 21 มิถุนายน เข้าเดือนพฤษภาคม เมื่อดวงอาทิตย์ตกจะเห็นกลุ่ม ดาว น้ีอยู่ทำงทศิ ตะวันตกพอดี 1.6 กลุ่มดาวคนคู่ Gemini เป็นกลุ่มดาวในราศีเมถุน ดวงอาทิตย์จะเคลือ่ นมาในกลุ่ม ดาวนีช้ ว่ ง วนั ท่ี 22 มถิ นุ ายน ถึง 21 กรกฎาคม เข้าเดอื นมถิ นุ ายน เมื่อดวงอาทติ ยต์ กจะเหน็ กลมุ่ ดาว นอ้ี ยทู่ ำงทิศตะวันตกพอดี 1.7 กลุ่มดาวปู Cancer เป็นกลุ่มดาวในราศีกรกฏ ดวงอาทิตย์จะเคลื่อนมาในกลุ่ม ดาวน้ีช่วง วันที่ 22 กรกฎาคม ถึง 21 สิงหาคม เขา้ เดือนกรกฎาคม เมอ่ื ดวงอาทิตยต์ กจะเหน็ กลุ่มดาว นี้ อยู่ทำงทิศตะวนั ตกพอดี 1.8 กลุม่ ดาวหญงิ สาว Virgo เป็นกลุ่มดาวในราศกี ันย์ ดวงอาทิตย์จะเคลื่อนมาในกลุ่ม ดาวนี้ช่วง วันที่ 22 กันยายน ถึง 21 ตุลาคม เข้าเดือนกันยายน เมื่อดวงอาทิตย์ตกจะเห็นกลุ่มดาวนี้ อยู่ทำงทิศตะวนั ตกพอดี 1.9 กลุ่มดาวคันช่ัง Libra เป็นกลุ่มดาวในราศีตุลย์ ดวงอาทิตย์จะเคลื่อนมาในกลุ่ม ดาวนีช้ ว่ ง วันที่ 22 ตลุ าคม ถงึ 21 พฤศจิกายน เข้าเดือนตลุ าคม เมื่อดวงอาทติ ย์ตกจะเห็นกลุ่มดาวนี้ อยู่ทำงทิศตะวนั ตกพอดี 1.10 กลมุ่ ดาวแมงปอ่ ง Scorpio เป็นกลมุ่ ดาวในราศีพจิ ิก ดวงอาทิตยจ์ ะเคล่ือนมาใน กล่มุ ดาวน้ีช่วง วนั ท่ี 22 พฤศจกิ ายน ถึง 21 ธนั วาคม เข้าเดือนพฤศจิกายน เม่อื ดวงอาทิตย์ตกจะเห็น กลุ่มดาวนี้อยทู่ ำงทศิ ตะวนั ตกพอดี 1.11 กลุ่มดาวคนยิง Sagittarius เป็นกลุ่มดาวในราศีธนู ดวงอาทิตย์จะเคลื่อนมาใน กลุ่มดาวนี้ช่วง วันที่ 22 ธันวาคม ถึง 21 มกราคม เข้าเดือนธันวาคม เมื่อดวงอาทิตย์ตกจะเห็นกลุ่ม ดาวนอ้ี ยทู่ ำงทศิ ตะวันตกพอดี กกกกกกก2. การหาตำแหน่งทิศเหนอื จากกลุ่มดาว ทรงกลมท้องฟ้าเคลื่อนที่อย่างช้า ๆ ตลอดเวลา เราจึงมองเห็นกลุ่มดาวหมุนเวียน เปลี่ยนไปตามวันเวลา และตามฤดูกาล ดังนั้นในการเริ่มต้นสังเกตการณ์ท้องฟ้า เราจะต้องรู้จัก ตำแหน่งของทิศท้ังสี่เสียก่อน หากไม่มเี ข็มทิศเราก็สามารถใช้กลมุ่ ดาวเปน็ ประโยชน์ในการบอกทิศได้ โลกหมุนรอบตวั เองจากทิศตะวันตกไปยังทิศตะวนั ออก ทำให้เรามองเห็นดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ และ กลุ่มดาวบนท้องฟ้า เคลื่อนที่จากทำงตะวันออกไปยังทำงตะวันตก ดาวเหนือเป็นดาวดวงเดียวที่
บทเรียนออนไลน์ที่ 5 66 วชิ าวิทยาศาสตร์ (พว21001) ม.ตน้ ปรากฏอยู่กับที่ ไม่เคลื่อนที่ไปไหน อย่างไรก็ตามดาวเหนือมีความสว่างไม่มาก และอยู่สูงเหนือเส้น ขอบฟา้ ไมม่ าก เมอื่ มองดูที่ประเทศไทย การเคลื่อนท่ีของกลุ่มดาวรอบข้ัวฟ้าเหนือ (หอดูดาวเกิดแกว้ ) ในภาพ เป็นผลจากการถ่ายภาพข้วั ฟ้าเหนือ โดยเปดิ หนา้ กลอ้ งเปน็ ระยะเวลานาน เม่ือ เวลาเปลี่ยนไป โลกหมุนรอบตัวเอง ดาวบนท้องฟ้าเคลื่อนที่เป็นเส้นโค้ง โดยมีศูนย์กลางเป็นอยู่ที่ข้ัว ฟ้าเหนือ ดาวสว่างที่เป็นจุดอยู่ตรงกลางนั้นคือ “ดาวเหนือ” (Polaris) เราเรียกเส้นโค้งเหล่านี้ว่า “เส้นทางเดนิ ของดาว” (Startrails) ดวงดาวแรกทีผ่ ู้ที่เริม่ ต้นหัดดูดาวควรรูจ้ ักก็คือ \"ดาวเหนือ (Polaris)\" ดาวดวงนี้อยู่ทาง ทิศเหนือ อยสู่ งู จาก ขอบฟ้าเท่ากับละติจูดของผู้สงั เกตพอดี เชน่ ถา้ ผูส้ ังเกตอยู่ท่ีเชียงใหม่ซ่ึงละติจูด ประมาณ 18 องศา ดาวเหนือก็จะ อยู่ในทิศเหนอื และสูงจากขอบฟ้า 18 องศาพอดี ดาวเหนือเปน็ ดาว ที่เป็นขั้วของท้องฟ้า ถ้าสังเกตคร่าว ๆ จะพบว่า ดาวเหนือไม่เคลื่อนที่เลย ต่างจากดาวดวงอื่น ๆ ที่ เคล่อื นทขี่ ้ึนทางทศิ ตะวันออกและตกทางทิศตะวนั ตก ถ้าสงั เกต ดาวฤกษ์อื่น ๆ ทีอ่ ยใู่ กลด้ าวเหนอื จะ พบว่าดาวเหล่านั้นเคลื่อนที่รอบดาวเหนือ ดาวเหนือเป็นดาวฤกษ์ที่ไม่สว่างมาก สามารถมองเห็นได้ ด้วยตาเปลา่
67 บทเรียนออนไลน์ที่ 5 วิชาวทิ ยาศาสตร์ (พว21001) ม.ตน้ 2.1 การหาทศิ เหนือจากทศิ ตะวนั ตก หากไม่มีเข็มทิศ ให้จำตำแหน่งที่ดวงอาทิตย์หรือดวงจันทร์ตกลับขอบฟ้าไว้ว่า นั่นคือ “ทิศตะวันตก” (โดยประมาณ) หากเราหันหน้าเข้าหาทิศตะวันตก ยกแขนขวาขึ้นขนานพื้น และ เหยียดออกไปทำงข้างลำตัว มือขวาจะชี้ไปยังทิศเหนือ จากนั้นเหยียดนิ้วโป้งลงพื้นไว้ที่เส้นขอบฟ้า เหยียดนิ้วชี้ ชี้ขึ้นข้างบน จะมองเห็นดาวเหนืออยู่บนปลายนิ้วชี้ ดาวเหนือเป็นดาวสีขาวมีความสว่าง ปานกลาง (ดาวเหนือจะอยู่สูงจากขอบฟ้าด้านทิศเหนือ เท่ากับ องศาละติจูดของผู้สังเกตการณ์ ตัวอย่างเช่น ถ้าผู้สังเกตการณ์อยู่ที่ กทม. หรือละติจูดที่ 13 องศาเหนือ ดาวเหนือก็จะอยู่เหนือขอบ ฟา้ ด้านทิศเหนือขน้ึ มา 13 องศา เช่นกัน) ศกึ ษาความรู้เพิม่ เตมิ ได้ท่ี https://zhort.link/ldW
บทเรียนออนไลนท์ ี่ 5 68 วิชาวิทยาศาสตร์ (พว21001) ม.ตน้ กจิ กรรม/แบบทดสอบที่ 5 เร่อื ง ดาราศาสตรเ์ พ่ือชวี ิต ดวงดาวกบั ชวี ติ ช่อื -นามสกุล............................................................................รหสั นักศกึ ษา.................................. คำชแี้ จง ตอบคำถามต่อไปนีใ้ ห้ถูกต้อง จำนวน 10 ข้อ (5 คะแนน) 1. กล่มุ ดาวในจกั รราศี ประกอบด้วยกลุม่ ดาวก่ีกล่มุ คำตอบ............................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... 2. กลุ่มดาวคนแบกหม้อน้ำ Aqurius เป็นกลุ่มดาวในราศีใด คำตอบ............................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ 3. ราศพี ฤษภ ดวงอาทติ ย์จะเคลอ่ื นมาในกล่มุ ดาวน้ีชว่ งวนั ท่ใี ดถึงวันที่ใด คำตอบ............................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... 4. ดวงดาวแรกที่ผู้ทเี่ ร่ิมตน้ หัดดูดาวควรรจู้ กั กค็ ือดาวอะไร คำตอบ............................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... 5. กลุ่มดาวจระเข้ เรยี งตัวกันอย่างไร คำตอบ............................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................... ................................. .................................................................................................. ..............................................................
บทเรยี นออนไลนท์ ่ี 5 69 วิชาวทิ ยาศาสตร์ (พว21001) ม.ตน้ 6. แผนท่ีดาวเปรยี บเสมอื นอะไร คำตอบ............................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ 7. หากต้องการดูดาวบนท้องฟ้าในทางทศิ เหนือเวลา 20.00 น. ของวันท่ี 10 ธันวาคม ต้องทำอยา่ งไร คำตอบ............................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................................................. ... ............................................................................................................................. ................................... 8. เกษตรกรใช้ประโยชน์จากการดูดาวอย่างไร คำตอบ............................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... 9. ดวงดาวมปี ระโยชน์ในดา้ นการศึกษาอยา่ งไร คำตอบ............................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... 10. การศกึ ษาเกย่ี วกบั ดวงดาวจำเป็นตอ้ งรู้จกั กลุม่ ดาวและดาวฤกษ์ เพราะเหตใุ ด คำตอบ............................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ...................................
บทเรียนออนไลนท์ ่ี 5 70 วชิ าวิทยาศาสตร์ (พว21001) ม.ต้น เฉลยกจิ กรรมที่ 5 เรื่อง ดาราศาสตรเ์ พื่อชีวิต ดวงดาวกบั ชวี ติ ชอ่ื -นามสกุล............................................................................รหสั นกั ศกึ ษา.................................. คำชี้แจง จงตอบคำถามตอ่ ไปนใี้ หถ้ กู ต้อง จำนวน 10 ข้อ (5 คะแนน) ขอ้ 1. คำตอบ 12 กลุ่ม ขอ้ 2. คำตอบ ราศีกมุ ภ์ ข้อ 3. คำตอบ วันท่ี 22 พฤษภาคม ถงึ 21 มิถุนายน ข้อ 4. คำตอบ ดาวเหนือ (Polaris) ข้อ 5. คำตอบ เรียงตวั เป็นรูปกระบวยตักน้ำ ขอ้ 6. คำตอบ เสมอื นเปน็ ท้องฟ้าจำลองแบบ 2 มิติที่มลี ักษณะเป็นรูปวงกลมหมุนได้ บางครั้งเรียกวา่ แผนที่ดาวแบบหมุน ข้อ 7. คำตอบ - ให้หมุนแผ่นวงกลมซ่ึงมีวนั ทแี่ ละเดือนจนชอ่ งวนั ท่ี 10 ธันวาคมอยู่ตรงขดี เลข 20 ของ แผน่ เวลา - หันหน้าไปทางทิศเหนือ ถอื แผนทีด่ าวไวต้ รงหนา้ โดยทิศเหนือในแผนท่ี จะอยตู่ รงกับ ทศิ เหนือของโลกและดาวเหนือ ซง่ึ ทิศตะวนั ออกจะอยู่ขวามอื และทิศตะวนั ตกซ้ายมือ - ดาวบนฟ้าท่ีอย่บู นคร่ึงโดมด้านเหนือคือ ดาวท่ีล้อมรอบด้วยเส้นโคง้ 2 เส้น เปน็ ดาวท่อี ยู่ ทางทศิ เหนือ - ดาวที่อยู่นอกกรอบข้างบนเป็นดาวที่อยทู่ างทศิ ใต้ ถา้ ต้องการดดู าวทาง ทิศใต้ต้องหนั ไป ทางทิศใต้และให้กลับแผนทด่ี าวให้ทิศใตอ้ ยดู่ า้ นลา่ ง ทิศตะวันออกจะอยู่ซา้ ยมือและ ทศิ ตะวันตกจะอยทู่ างขวามือ ข้อ 8. คำตอบ เขาใชด้ วงดาวในการบ่งบอกถึงฤดเู พาะปลกู หรือแม้แตก่ ารเลือกปลูกพชื ท่ี เหมาะสม ข้อ 9. คำตอบ ปรากฏการณ์ สรุ ิยุปราคา จนั ทรุปราคา ดาวหางปรากฎบนฟ้า ท้ังน้ีเพราะ ความไมเ่ ขา้ ใจสาเหตุการเกิดที่แทจ้ ริงปัจจบุ ันเราไมต่ ้องตื่นตกใจอีกต่อไป อันเปน็ ผลมาจากการศึกษา ดาราศาสตร์ทั้งสิน้ การศึกษาค้นคว้าทางด้านดาราศาสตร์สามารถให้ความรู้ ความเข้าใจธรรมชาติแก่ เรามากขึ้นเสมอ ยิ่งมีความรู้มากขึ้นก็ยิ่งมีความสงสัยมากขึ้น ดาราศาสตร์จึงเป็นวิชาที่ตอบปัญหา เหลา่ น้ี ข้อ 10. คำตอบ สามารถช้ีบอกดาวเคราะห์ได้ ส่งิ สำคญั ที่จะช่วยในการบอกตำแหน่งและ ช้ีบอกกล่มุ ดาวตา่ ง ๆ ได้
บทเรียนออนไลน์ท่ี 5 71 วชิ าวทิ ยาศาสตร์ (พว21001) ม.ตน้ แบบทดสอบหลงั เรียน เรอ่ื ง ดาราศาสตรเ์ พ่ือชวี ิต ดวงดาวกบั ชีวติ ชอื่ -นามสกลุ ..............................................................รหัสนักศึกษา...................................................... คำชี้แจง ใหน้ ักศึกษาเลือกคำตอบท่ีถกู ต้องทสี่ ุดเพยี งคำตอบเดยี ว จำนวน 5 ขอ้ (5 คะแนน) 1. จากทฤษฎกี ารระเบิดครั้งใหญอ ธบิ ายวารงั สคี วามรอนทก่ี ระจายอยใู นเอกภพมาจากอะไร ก. เปนพลงั งานความรอนท่ดี าวฤกษแผร ังสีออกมา ข. เปนพลงั งานความรอ นที่ดวงอาทติ ยแผร ังสีออกมา ค. เปน พลังงานความรอนที่ไดม าจากการชนกันของดวงดาว ง. เปน พลังงานความรอนทีเ่ หลอื จากการระเบิดคร้งั ใหญ 2. นกั ดาราศาสตรแ บง ชนิดของดาวฤกษ โดยใชเ กณฑใ นขอ ใด ก. สีและมวล ข. สแี ละอุณหภูมิผิว ค. มวลและความสวาง ง. มวลและกาํ ลงั สอ งสวาง 3. สีของดาวฤกษในขอ ใดมีการเรียงลําดบั ตามอุณหภมู ิพ้นื ผิวจากสูงไปตาํ่ ก. ขาว แดง สม ข. แดง เหลือง ขาว ค. นํา้ เงนิ ขาว สม ง. เหลอื ง สม นาํ้ เงนิ 4. เพราะเหตุใดดาวเคราะหท ง้ั 9 ดวงในระบบสรุ ยิ ะจึงตอ งโคจรรอบดวงอาทิตย ก. เพราะดวงอาทติ ยมีขนาดใหญมากกวา ข. เพราะดวงอาทติ ยม แี รงโนมถว งมาก ค. เพราะดวงอาทิตยมแี สงสวา งในตวั เอง ง. เพราะดวงอาทิตยเ ปนศนู ยก ลางของระบบสรุ ิยะ 5. ดาวเคราะหย กั ษไ ดแ กข อ ใด ก. โลก ข. ดาวงอาทติ ย ค. ดาวองั คาร ง. ดาวพฤหสั บดี
บทเรียนออนไลนท์ ี่ 5 72 วิชาวทิ ยาศาสตร์ (พว21001) ม.ตน้ เฉลยแบบทดสอบหลงั เรยี น เร่อื ง ดาราศาสตร์เพื่อชีวิต ดวงดาวกบั ชวี ติ 1. ง 2. ข 3. ค 4. ข 5. ง
73 ตารางวเิ คราะหเ์ นื้อหารายวชิ าเศรษฐกิจพอเพยี ง ทช21001 ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น จำนวน 1 หน่วยกติ จำนวน 40 ชั่วโมง ท่ี หวั เรอื่ ง จำนวน ระดบั การเรียนรู้ (ชั่วโมง) งา่ ย ปาน ยาก กลาง 1 บทท่ี 1 ความพอเพียง เรอื่ งท่ี 1 ความเปน็ มา ความหมาย หลักการ 1 แนวคิดของหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง เรอ่ื งท่ี 2 การแสวงหาความรู้ 3 2 บทท่ี 2 ประกอบอาชพี อยา่ งพอเพยี ง เรื่องที่ 1 หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 6 กบั การจดั การทรัพยากรท่ีมีอยูข่ องตนเอง ครอบครัว ชุมชน เร่อื งท่ี 2 หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงกบั 6 การประกอบอาชพี 3 บทที่ 3 การวางแผนประกอบอาชีพแบบพอเพียง เร่ืองท่ี 1 การวางแผนการประกอบอาชีพ 4 ตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง เร่ืองท่ี 2 โครงการและแผนงานประกอบอาชพี 2 ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง
74 ท่ี หัวเรอื่ ง จำนวน ระดับการเรียนรู้ (ช่ัวโมง) งา่ ย ปาน ยาก กลาง 4 บทท่ี 4 เครอื ขา่ ยดำเนนิ ชีวติ แบบพอเพียง 6 เร่ืองที่ 1 การส่งเสริม เผยแพร่ ขยายผลงาน การปฏบิ ตั ติ ามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ของบุคคล ชุมชน ท่ีประสบผลสำเร็จ เร่ืองที่ 2 การสรา้ งเครือขา่ ยการประกอบอาชพี 6 และการดำเนินชวี ติ ตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 6 เร่ืองท่ี 3 กระบวนการขับเคลื่อนเศรษฐกจิ พอเพียง รวม(ช่ัวโมง) 40
75 การวดั ประเมินผล บทเรยี น กิจกรรม คะแนน ออนไลน์ ใหผ้ ้เู รียนศกึ ษาบทเรียนที่ 1 เรือ่ ง ความเป็นมา ความหมาย หลักการ - ท่ี แนวคิดของหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง และสรปุ ความรทู้ ่ไี ด้ลงใน สมุดบนั ทึก 10 1 กิจกรรมท่ี 2 เร่ือง การแสวงหาความรูต้ นเอง (5คะแนน) 10 และทำแบบทดสอบหลงั เรยี น (5คะแนน) 10 2 กจิ กรรมท่ี 3 เร่ือง ประกอบอาชีพอยา่ งพอเพยี ง(5คะแนน) 10 และทำแบบทดสอบหลงั เรียน (5คะแนน) 40 3 กจิ กรรมที่ 4 เรื่อง การวางแผนประกอบอาชีพแบบพอเพียง (5คะแนน) 20 และทำแบบทดสอบหลงั เรียน (5คะแนน) 40 4 กิจกรรมที่ 5 เครือขา่ ยดำเนนิ ชีวิตแบบพอเพียง (5คะแนน) 100 และทำแบบทดสอบหลังเรียน (5คะแนน) 5 รวมคะแนนเก็บระหว่างภาค สอบระหว่างภาค สอบปลายภาค รวมท้ังส้ิน
แผนการจัดการเรยี นรู้รายวิชาออนไลน์ รายวิชา เศรษฐกจิ พอเพียง ทช21001 จำนวน 1 หนว่ ยกิต ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น จำนวน 40 ชวั่ โมง บทเรยี น วตั ถปุ ระสงค์เชิง กจิ กรรมการ จำนวน สอื่ การเรยี นรู้ การวดั และ กศน.4 ผลการเรยี นรูท้ ่ี ออนไลน์ หัวเรือ่ ง ชวั่ โมง ประเมนิ ผล คาดหวงั พฤตกิ รรม เรยี นรู้ ท่ี บทเรยี น รู้เข้าใจแนวคดิ 1. ผู้เรียนศึกษา 1 1.หนงั สือเรียน ออนไลนท์ ่ี 1 - สามารถรู้เข้าใจ 1 บทท่ี 1 ความ วชิ า เศรษฐกจิ แนวคิด หลกั การ พอเพยี ง หลักการความสำคญั เรยี นรู้จากสอื่ พอเพยี ง ความสำคัญปรัชญา 76 ความหมาย ของเศรษฐกิจ ความสำคญั ปรัชญาของ ออนไลนท์ ี่ 1 พอเพียงได้ ปรัชญาของ เศรษฐกจิ เศรษฐกิจพอเพยี ง Google site วิชา พอเพยี ง เศรษฐกิจพอเพยี ง ทช21001 เรื่อง ความเปน็ มา ความหมาย หลักการ แนวคดิ ของหลกั ปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพยี ง
แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าออนไลน์ รายวิชา เศรษฐกิจพอเพียง ทช21001 จำนวน 1 หน่วยกติ ระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ จำนวน 40 ช่ัวโมง บทเรยี น หัวเรอื่ ง วตั ถุประสงคเ์ ชิง กจิ กรรมการ จำนวน สื่อการเรียนรู้ การวดั และ กศน.4 ผลการเรียนรทู้ ่ี ออนไลน์ พฤติกรรม เรยี นรู้ ชว่ั โมง ประเมินผล คาดหวงั ท่ี 2. ผู้เรียนทำบทเรยี น 2. บทเรียน ออนไลนท์ ่ี 1 ออนไลนท์ ่ี 1 1 Google site วชิ า เศรษฐกิจ พอเพยี ง ทช 77 21001
แผนการจดั การเรยี นรู้รายวชิ าออนไลน์ รายวชิ า เศรษฐกจิ พอเพียง ทช21001 จำนวน 1 หนว่ ยกติ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน้ จำนวน 40 ช่วั โมง บทเรียน หวั เรอ่ื ง วัตถปุ ระสงคเ์ ชงิ กจิ กรรมการ จำนวน สื่อการเรียนรู้ การวดั และ ผลการ 78 ออนไลน์ พฤติกรรม เรียนรู้ ชั่วโมง ประเมนิ ผล กศน.4 เรียนรู้ที่ บทท่ี 1 1.หนังสอื เรยี น ที่ ความ รเู้ ข้าใจแนวคิด 1.ผูเ้ รียนทำ 3 ชั่วโมง วิชา เศรษฐกิจ บทเรียน คาดหวงั พอเพยี ง หลักการ แบบทดสอบก่อน พอเพยี ง ออนไลนท์ ่ี 2 2 การแสวงหา ความสำคญั ปรชั ญา เรยี น ชอ่ ง1 สามารถรู้ ความรตู้ นเอง ของเศรษฐกจิ 2. ผเู้ รียนศกึ ษาเรียนรู้ กจิ กรรมท่ี 2 เข้าใจแนวคิด ตามหลัก พอเพยี ง จากสือ่ บทเรียน (5คะแนน) หลกั การ แนวคดิ ของ ออนไลนท์ ี่ 2 Google แบบทดสอบ ความสำคัญ หลักปรัชญา site วชิ า เศรษฐกิจ หลังเรียน ปรัชญาของ ของเศรษฐกจิ พอเพียง เรื่อง การ (5คะแนน) เศรษฐกจิ พอเพยี ง แสวงหาความรู้ ตนเองตามหลัก พอเพียงได้
แผนการจัดการเรยี นรู้รายวิชาออนไลน์ รายวชิ า เศรษฐกิจพอเพียง ทช21001 จำนวน 1 หนว่ ยกิต ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนต้น จำนวน 40 ช่ัวโมง บทเรียน หัวเรือ่ ง วัตถปุ ระสงคเ์ ชิง กจิ กรรมการเรยี นรู้ จำนวน ส่อื การเรยี นรู้ การวดั และ กศน.4 ผลการ ออนไลน์ พฤติกรรม ช่ัวโมง ประเมินผล เรยี นรูท้ ี่ คาดหวัง ท่ี แนวคดิ ของหลักปรชั ญา 2. บทเรยี น 2 ของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ออนไลน์ที่ 2 3. ผู้เรยี นทำกิจกรรมที่ 2 Google site วิชา เรื่องการแสวงหาความรู้ เศรษฐกจิ พอเพยี ง 79 ตนเอง ตามหลักแนวคดิ ทช21001 ของหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียง 4. ผเู้ รียนทำแบบทดสอบ หลังเรียน
แผนการจัดการเรียนรู้รายวชิ าออนไลน์ รายวิชา เศรษฐกจิ พอเพียง ทช21001 จำนวน 1 หนว่ ยกติ ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น จำนวน 40 ชวั่ โมง บทเรียน วตั ถุประสงค์ กิจกรรมการ จำนวน สือ่ การ การวัดและ ผลการ ออนไลน์ หัวเรอื่ ง เชงิ พฤติกรรม เรียนรู้ ชวั่ โมง เรียนรู้ ประเมนิ ผล กศน.4 เรียนรู้ท่ี ที่ 1.นำหลักปรัชญา 1.ผูเ้ รียนทำ 12 ชวั่ โมง 1.หนังสอื บทเรยี น คาดหวงั เศรษฐกิจ แบบทดสอบก่อน เรียนวิชา ออนไลน์ที่ 3 3 บทที่ 2 พอเพยี งไปใชใ้ น เรยี น เศรษฐกจิ ชอ่ ง2 1. สามารถ 80 การประกอบ การจัดการ 2. ผเู้ รียนศึกษาเรยี นรู้ พอเพียง กจิ กรรมที่ 3 นำหลัก อาชีพอย่าง ทรพั ยากรที่มีอยู่ จากสื่อบทเรยี น (5คะแนน) ปรัชญา พอเพยี ง ของตนเอง ออนไลน์ที่ 3 Google แบบทดสอบ เศรษฐกจิ 1. หลักปรชั ญา ครอบครวั ชุมชน site วิชา เศรษฐกจิ หลงั เรยี น พอเพียงไปใช้ ของเศรษฐกิจ 2.กำหนดแนวทาง พอเพียง เรื่อง (5คะแนน) ในการจัดการ พอเพียงกับการ และปฏบิ ตั ิตนใน 1. หลักปรัชญาของ จัดการ การนำหลัก เศรษฐกิจพอเพียงกับ ทรพั ยากรที่มี ทรัพยากรท่มี ี การจัดการทรัพยากร อยขู่ อง อยู่ของตนเอง ท่มี ีอยู่ของตนเอง ตนเอง ครอบครวั ครอบครัว ชุมชน ชุมชนได้
แผนการจัดการเรยี นรู้รายวชิ าออนไลน์ รายวิชา เศรษฐกจิ พอเพียง ทช21001 จำนวน 1 หนว่ ยกิต ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 40 ชั่วโมง บทเรียน วัตถปุ ระสงค์ กิจกรรมการเรยี นรู้ จำนวน สือ่ การเรยี นรู้ การวัดและ กศน.4 ผลการเรยี นรู้ ออนไลน์ หวั เร่ือง เชงิ พฤตกิ รรม ชวั่ โมง ประเมนิ ผล ทีค่ าดหวัง ท่ี ปรชั ญาของ ครอบครัว ชมุ ชน 2. บทเรยี น 2. สามารถ 81 เศรษฐกิจ 2. หลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ ออนไลนท์ ี่ 3 กำหนดแนวทาง 3 2. หลกั พอเพียงไป พอเพยี งกบั การประกอบ Google site วชิ า และปฏิบัตติ น ปรชั ญาของ ประยกุ ต์ใชใ้ น อาชพี เศรษฐกิจพอเพียง ในการนำหลัก เศรษฐกิจ การประกอบ 3. ผเู้ รียนทำกจิ กรรมที่ 2 เร่ือง ทช21001 ปรัชญาของ พอเพยี งกบั อาชีพ การแสวงหาความร้ตู นเอง เศรษฐกิจได้ การประกอบ ตามหลกั แนวคดิ ของหลกั อาชพี ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 4. ผู้เรียนทำแบบทดสอบ หลังเรยี น
แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาออนไลน์ รายวิชา เศรษฐกิจพอเพียง ทช21001 จำนวน 1 หนว่ ยกติ ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น จำนวน 40 ช่วั โมง บทเรียน วัตถปุ ระสงคเ์ ชงิ กจิ กรรมการ จำนวน สื่อการเรยี นรู้ การวดั และ กศน.4 ผลการ ออนไลน์ หัวเร่อื ง พฤตกิ รรม เรยี นรู้ ช่วั โมง ประเมินผล เรียนรทู้ ่ี คาดหวงั ท่ี 1.การวางแผน 1.ผู้เรยี นทำ ประกอบอาชีพท่ี แบบทดสอบกอ่ นเรียน 6 1.หนังสือเรยี น บทเรยี น ชอ่ ง2 1.สามารถ 82 4 บทท่ี 3 การ เป็นไปตามปรัชญา 2. ผ้เู รยี นศึกษาเรยี นรู้ วางแผน ของเศรษฐกิจ จากส่ือบทเรียน ชั่วโมง วชิ า เศรษฐกจิ ออนไลนท์ ี่ 4 กจิ กรรมท่ี 4 วางแผน ประกอบอาชีพ พอเพียง ออนไลน์ท่ี 4 Google แบบพอเพียง 2. การวางแผนการ site วชิ า เศรษฐกจิ พอเพยี ง (5คะแนน) ประกอบ 1. การวางแผน เรยี นรู้ และการทำ พอเพยี ง เรอื่ ง การประกอบ โครงงานการ 1. การวางแผนการ แบบทดสอบ อาชพี ท่ี อาชพี ตามหลัก ประกอบอาชีพ โดย ประกอบอาชีพ ตาม ปรชั ญาของ ใชก้ ระบวนการ 3 หลักปรัชญาของ หลังเรยี น เปน็ ไปตาม เศรษฐกจิ หว่ ง 2 เงอ่ื นไข เศรษฐกจิ พอเพยี ง พอเพียง (5คะแนน) ปรชั ญาของ เศรษฐกิจ พอเพียงได้
แผนการจัดการเรียนรู้รายวชิ าออนไลน์ รายวชิ า เศรษฐกจิ พอเพียง ทช21001 จำนวน 1 หน่วยกติ ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น จำนวน 40 ช่ัวโมง บทเรยี น วัตถุประสงค์ กจิ กรรมการเรียนรู้ จำนวน สอ่ื การ การวดั และ กศน.4 ผลการ ออนไลน์ หวั เรอ่ื ง เชงิ พฤตกิ รรม ช่ัวโมง เรยี นรู้ ประเมินผล เรยี นรู้ท่ี 2. โครงการและ คาดหวงั ท่ี แผนงานประกอบ 2. บทเรยี น อาชพี ตามหลัก ออนไลนท์ ่ี 4 ช่อง2 2. สามารถ 83 4 2. โครงการและ ปรัชญาของเศรษฐกจิ Google site แผนงาน พอเพยี ง วิชา เศรษฐกิจ กิจกรรมที่ 4 วางแผนการ ประกอบอาชีพ 3. ผ้เู รยี นทำกจิ กรรมที่ พอเพียง ทช ตามหลกั ปรชั ญา 2 เรื่อง การวางแผน 21001 (5คะแนน) เรียนรู้ และ ของเศรษฐกจิ ประกอบอาชีพแบบ พอเพียง พอเพยี ง แบบทดสอบ การทำ 4. ผเู้ รยี นทำ แบบทดสอบหลังเรยี น หลงั เรยี น โครงงานการ (5คะแนน) ประกอบ อาชพี โดยใช้ กระบวนการ 3 ห่วง 2 เง่อื นไขได้
แผนการจดั การเรยี นรู้รายวิชาออนไลน์ รายวชิ า เศรษฐกจิ พอเพียง ทช21001 จำนวน 1 หน่วยกติ ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน้ จำนวน 40 ชว่ั โมง บทเรียน วัตถปุ ระสงค์ กจิ กรรมการเรยี นรู้ จำนวน สอ่ื การ การวดั และ กศน.4 ผลการ ออนไลน์ หัวเรอ่ื ง เชงิ ชว่ั โมง เรยี นรู้ ประเมินผล เรยี นร้ทู ่ี คาดหวัง ท่ี พฤตกิ รรม 5 บทท่ี 4เครอื ขา่ ย ปฏบิ ตั ติ นเปน็ 1.ผู้เรยี นทำแบบทดสอบ 18 1.หนังสือ บทเรียน ช่อง2 สามารถปฏบิ ัติ 84 ดำเนินชวี ติ แบบ พอเพียง แบบอย่างของ ก่อนเรยี น ชว่ั โมง เรียนวชิ า ออนไลนท์ ี่ 5 กจิ กรรมท่ี 5 ตนเป็น 1.การสง่ เสริม เผยแพร่ ขยาย ชมุ ชนในการ 2. ผ้เู รียนศกึ ษาเรยี นรู้ เศรษฐกิจ (5คะแนน) แบบอย่างของ ผลงานการปฏบิ ตั ิ ตาม หลกั ปรัชญา ประกอบอาชีพ จากส่ือบทเรียนออนไลน์ พอเพยี ง แบบทดสอบ ชมุ ชนในการ ของเศรษฐกิจ พอเพยี งของบุคคล และการดำเนิน ท่ี 5 Google site วชิ า หลงั เรยี น ประกอบ ชมุ ชน ทป่ี ระสบ ผลสำเร็จ ชวี ติ ตามหลัก เศรษฐกิจพอเพียงเรื่อง (5คะแนน) อาชีพและการ ปรชั ญาของ 1.การส่งเสริม เผยแพร่ ดำเนินชวี ิต เศรษฐกจิ ขยายผลงานการปฏบิ ัติ ตามหลัก พอเพยี ง ตาม หลักปรชั ญาของ ปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพียงของ เศรษฐกจิ บคุ คล ชุมชน พอเพยี งได้
แผนการจดั การเรียนรู้รายวิชาออนไลน์ รายวชิ า เศรษฐกิจพอเพียง ทช21001 จำนวน 1 หน่วยกิต ระดับมัธยมศกึ ษาตอนตน้ จำนวน 40 ชั่วโมง บทเรยี น วัตถุประสงค์เชงิ กจิ กรรมการเรยี นรู้ จำนวน สอื่ การเรยี นรู้ การวดั และ กศน.4 ผลการ ออนไลน์ หวั เร่อื ง พฤติกรรม ช่วั โมง ประเมินผล เรียนร้ทู ่ี คาดหวัง ที่ ทป่ี ระสบผลสำเรจ็ 2. บทเรียน 85 5 2. การสร้าง 2. การสร้างเครือขา่ ย ออนไลนท์ ่ี 5 เครอื ข่ายการ การประกอบอาชีพ Google site ประกอบอาชีพ และการดำเนินชวี ิต วิชา เศรษฐกจิ และการดำเนิน ตามหลักปรัชญาของ พอเพยี ง ทช ชวี ติ ตามหลัก เศรษฐกิจพอเพียง 21001 ปรชั ญาของ 3. กระบวนการ เศรษฐกิจพอเพียง ขบั เคลื่อนเศรษฐกจิ 3. กระบวนการ พอเพียง ขบั เคลื่อน 4. ผูเ้ รียนทำ เศรษฐกิจพอเพยี ง แบบทดสอบหลังเรียน
บทเรียนออนไลนท์ ี่ 1 86 วชิ าเศรษฐกิจพอเพียง (ทช21001) ม.ตน้ ใบงาน คำสั่ง ใหผ้ ้เู รยี นศกึ ษาความรู้ ในบทเรยี นออนไลน์ที่ 1 โดยสแกนควิ อารโ์ ค้ดทกี่ ำหนดให้ ตอ่ ไปน้ี 1. ใหผ้ ้เู รยี นศึกษาความรจู้ ากใบความรู้ เรื่อง ความเป็นมา ความหมาย หลักการแนวคดิ ของ หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง 2. ให้ผเู้ รียนศึกษาความรจู้ ากคลิป เร่อื ง การความเป็นมา ความหมาย หลกั การแนวคิดของ หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง 3. ใหผ้ ู้เรียนบนั ทึกความรูท้ ไ่ี ดล้ งในสมุดบนั ทึกการเรียนรู้ บทเรียนออนไลน์ท่ี 1 Google site วิชา เศรษฐกิจพอเพียง
บทเรียนออนไลน์ท่ี 1 87 วิชาเศรษฐกิจพอเพียง (ทช21001) ม.ต้น เร่ือง ความเปน็ มา ความหมาย หลกั การแนวคิดของหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ความเปน็ มาปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง เศรษฐกิจพอเพียงเปน็ ปรัชญาที่ชี้แนวทางการดำรงอยู่และปฏิบตั ิตน ที่พระบาทสมเดจ็ พระ- ปรมินทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดชมีพระราชดำรัสแก่พสกนิกรชาวไทยมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2517 มีใจความว่า “...การพัฒนาประเทศจำเป็นตอ้ งทำตามลำดับขัน้ ตอ้ งสรา้ งพน้ื ฐาน คอื ความพอมี พอกิน พอใช้ ของ ประชาชนส่วนใหญ่เป็นเบื้องต้นก่อนโดยใช้วิธีการและใช้อุปกรณ์ที่ประหยัด แต่ถูกต้องตามหลักวิชา เมื่อได้พื้นฐานมั่นคงพร้อมพอควร และปฏิบัติได้แล้ว จึงค่อยสร้างค่อยเสริมความเจริญและฐานะ เศรษฐกิจขั้นที่สูงขึ้นโดยลำดับต่อไป...” และนับจากนั้นเป็นต้นมาพระองค์ได้ทรงเน้นย้ำถึงแนว ทางการพัฒนาหลักแนวคิดพึ่งตนเองเพื่อให้เกิดความพอมี พอกิน พอใช้ของคนส่วนใหญ่ โดยใช้หลัก ความพอประมาณ การคำนึงถึงความมีเหตุผล การสร้างภูมคิ ุม้ กันในตัวท่ีดี ตลอดจนทรงเตือนสติปวง ชนชาวไทยไม่ให้ประมาท มีความตระหนักถึงการพัฒนาอย่างเป็นขั้นเป็นตอนที่ถูกต้องตามหลักวิชา และการมีคุณธรรมเป็นกรอบในการปฏบิ ตั ิและการดำรงชีวติ ในปี พ.ศ. 2540 ประเทศไทยประสบกับภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ นับว่าเป็นบทเรียนของการ พัฒนาที่ไม่สมดุลและไม่มีเสถียรภาพ ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเป็นอยู่ของประชาชนส่วนใหญ่ ส่วน หนึ่งเป็นผลมาจากการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ไม่ได้คำนึงถึงระดับความเหมาะสมกับศักยภาพ ของประเทศ หรือความพร้อมของคนและระบบและอีกส่วนหนึ่งนั้น การหวังพึ่งพิงจากต่างประเทศ มากเกินไปทั้งในด้านความรู้ เงินลงทุน หรือตลาด โดยไม่ได้เตรียมสร้างพื้นฐานภายในประเทศให้มี ความมั่นคงและเข้มแข็ง หรือสร้างภูมิคุ้มกันที่ดีเพื่อให้สามารถพร้อมรับความเสี่ยงจากความผกผัน เปลี่ยนแปลงของปัจจัยภายในและภายนอก บทเรียนจากการพัฒนาที่ผ่านมานั้นทำให้ประชาชนคน ไทยทุกระดับในทกุ ภาคส่วนของสังคม ท้ังภาครฐั เอกชน ประชาสงั คม นักวิชาการ หนั กลับมาทบทวน แนวทางการพัฒนาและการดำเนินชีวิตของคนในชาติ แล้วมุ่งให้ความสำคัญกับพระราชดำริของพระ บามสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวในเรื่องการพัฒนาและการดำเนนิ ชวี ิตแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง และศึกษา ค้นคว้าพัฒนาความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับแนวคดิ เศรษฐกิจพอเพียงทั้งในเชิงกรอบแนวคิดทางทฤษฎี และใช้เป็นแนวในการนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจำวันมากขน้ึ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้เชิญผู้ทรงคุณวุฒิจาก หน่วยงานต่างๆ มาร่วมกันพิจารณา กลั่นกรอง พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ได้ พระราชทายแก่ปวงชนชาวไทยในโอกาสต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องเศรษฐกิจพอเพียงแล้วสรุปเป็น นิยามความหมายปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และได้อัญเชิญเป็นปรัชญานำทางในการจัดทำ แผนพฒั นาเศรษฐกิจ และสงั คมแหง่ ชาติ ฉบบั ที่ 9 (พ.ศ. 2545 - 2549) และฉบับที่ 10 (พ.ศ. 2550 - 2554) เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนทุกระดับและทุกภาคส่วนของสังคมมีความเข้าใจในหลักปรัชญาของ เศรษฐกิจพอเพียงและนำไปเป็นพื้นฐานและแนวทางในการดำเนินชีวิตอันจะนำไปสู่การพัฒนาท่ี
บทเรียนออนไลนท์ ่ี 1 88 วชิ าเศรษฐกิจพอเพียง (ทช21001) ม.ต้น สมดุลและยั่งยืน ประชาชนมีความเป็นอยู่ร่มเย็นเป็นสุข สังคมมีความเข้มแข็ง และประเทศชาติมี ความม่ันคง ความหมายปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นปรัชญาที่เป็นแนวคิด หลักการ และแนวทางปฏิบัติตน ของแต่ละบุคคลและองค์กรทกุ ระดบั ตั้งแต่ระดบั ครอบครวั ระดับชุมชน และระดับประเทศทั้งในการ พัฒนาและบริหารประเทศให้ดำเนินไปในทางสายกลาง โดยคำนึงถึงความพอประมาณกับศักยภาพ ตนเองและสภาวะแวดล้อม ความมีเหตุผลและการมีภูมคิ ุ้มกันที่ดีในตัวเองโดยใช้ความรู้อย่างถูกหลกั วิชาการด้วยความรอบคอบและระมัดระวังควบคู่ไปกับการมีคุณธรรม ไม่เบียดเบียนกัน แบ่งปัน ช่วยเหลือซึ่งกันและกันและร่วมมือปรองดองกันในสังคม ซึ่งนำไปสู่ความสามัคคี การพัฒนาที่สมดุล และยั่งยืนพร้อมรับตอ่ การเปล่ยี นแปลงภายใต้กระแสโลกาภวิ ตั น์ได้ หลกั แนวคดิ ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ได้พัฒนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อที่จะให้ พสกนกิ รชาวไทยได้เขา้ ถึงทางสายกลางของชีวิตและเพื่อคงไว้ซ่ึงทฤษฎีของการพัฒนาท่ีย่ังยืน ทฤษฎี นี้เป็นพื้นฐานของการดำรงชีวิตซึ่งอยู่ระหว่างสังคมระดับท้องถิ่นและตลาดระดับสากล จุดเด่นของ แนวปรัชญานี้คือแนวทางที่สมดุล โดยใช้หลักธรรมชาติที่เป็นเหตุเป็นผลอย่างเชื่อมโยง พัฒนาให้ ทนั สมยั และก้าวสคู่ วามเปน็ สากลได้ โดยปราศจากการต่อต้านกระแสโลกาภิวตั น์ หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงมีความสำคัญในชว่ งปี พ.ศ. 2540 เม่ือปที ่ปี ระเทศไทยต้องการ รกั ษาความม่นั คงและเสถยี รภาพทางเศรษฐกิจเพ่ือทจี่ ะยนื หยัดในการพึ่งตนเองและพัฒนานโยบาย ท่ี สำคัญเพื่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ โดยการสร้างแนวคิดเศรษฐกิจที่พึ่งตนเองได้ ซึ่งคนไทยจะ สามารถเลี้ยงชีพโดยอยู่บนพื้นฐานของความพอเพียงและการนำแนวคิดดังกล่าวมาใช้ก็ได้ผ่านการ ทดลองในพระตำหนกั สวนจติ รลดารโหฐานและโครงการในภูมิภาคตา่ ง ๆ หลายโครงการ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระราชดำริว่า มันไม่ได้มีความจำเป็นที่เราจะกลายเป็นประเทศ อตุ สาหกรรมใหม่ (NIC) พระองค์ได้ทรงอธิบายว่า ความพอเพียงและการพ่ึงตนเอง คอื ทางสายกลาง ที่จะป้องกันการเปลี่ยนแปลงความไม่มั่นคงของประเทศได้ และการดำเนินชีวิตตามหลักเศรษฐกิจ พอเพียงเชื่อวา่ จะสามารถปรับเปลีย่ นโครงสรา้ งทางสังคมของชมุ ชนใหด้ ีข้นึ โดยมีปจั จัย 2 อยา่ ง คือ 1. การผลติ จะต้องมีความสมั พันธ์กนั ระหวา่ งปริมาณผลผลติ และการบริโภค 2. ชมุ ชนจะตอ้ งมคี วามสามารถในการจัดการทรพั ยากรของตนเองอย่างครบวงจร
บทเรยี นออนไลน์ท่ี 1 89 วชิ าเศรษฐกจิ พอเพยี ง (ทช21001) ม.ต้น ผลที่เกดิ ขน้ึ คือ 1. เศรษฐกิจพอเพยี งสามารถทีจ่ ะคงไว้ซ่งึ ขนาดของประชากรที่ได้สัดสว่ น 2. ใช้เทคโนโลยีไดอ้ ยา่ งเหมาะสม 3. รกั ษาสมดุลของระบบนเิ วศ และปราศจากการแทรกแซงจากปจั จัยภายนอก ปัจจุบันแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงได้มีการนำไปใช้เป็นนโยบายของรัฐบาล และปรากฏ ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 มาตรา 78 (1)ว่า “การบริหารราชการ แผ่นดินให้เป็นไปเพื่อการพัฒนาสังคม เศรษฐกิจและความมั่นคงของประเทศอย่างยั่งยืน โดยต้อง ส่งเสริมการดำเนินการตามปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติใน ภาพรวมเป็นสำคญั ” การพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง คือ การพัฒนาที่ตั้งอยู่บนพื้นฐานทางสายกลางและ ความไมป่ ระมาท โดยคำนึงถึงความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล การสร้างภมู ิคุ้มกันในตัวท่ีดีตลอดจน ใช้ความรู้ ความรอบคอบ และคณุ ธรรมประกอบการวางแผน การตดั สนิ ใจและการกระทำ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมีหลักการพิจารณา 5 สว่ น ดังน้ี 1. กรอบแนวคดิ เป็นปรัชญาท่ชี ้แี นะแนวทางการดำรงชวี ิตและการปฏบิ ัติตนในทางท่ีควรจะ เป็นโดยมีพื้นฐานจากวิถีชีวิตดั้งเดิมของสงั คมไทยทีน่ ำประยุกต์ใชไ้ ด้ตลอดเวลา และเป็นการมองโลก เชิงระบบที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา มุ่งเน้นการรอดพ้นจากภัยและวิกฤติเพื่อความมัน่ คงและ ความยงั่ ยืนของการพฒั นา 2. คุณลักษณะ เศรษฐกิจพอเพียงสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการปฏิบัติตนได้ในทุกระดับ โดยเนน้ การปฏบิ ัติบนทางสายกลางและการพฒั นาอยา่ งเป็นขน้ั ตอน 3. คำนยิ ามความพอเพียง ประกอบดว้ ย 3 คณุ ลักษณะ ดงั นี้ 3.1 ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกินไปและไม่มากเกินไป โดยไม่ เบียดเบียนตนเองและผู้อื่น การจะทำอะไรต้องมีความพอดี พอเหมาะ พอควร ต่อความจำเป็น เหมาะสมกับฐานะของตนเอง สภาวะสังคมแวดล้อม รวมทั้งวัฒนธรรมในแต่ละท้องถิ่น และไม่น้อย เกินไปจนกระทั่งไม่เพียงพอที่จะดำเนินการได้ ซึ่งการตัดสินว่าในระดับพอประมาณนั้นจะต้องอาศัย ความรอบรู้ ความรอบคอบในการวางแผนและตัดสนิ ใจอยา่ งมีคุณธรรมด้วย เช่น ไมเ่ บียดเบียนตนเอง และผูอ้ ืน่ ไม่ทำใหส้ ังคมเดอื ดร้อน ไมท่ ำลายธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม 3.2 ความมเี หตผุ ล หมายถึง การตดั สินใจเก่ียวกบั ระดบั ความพอเพยี งน้นั จะต้องเป็นไปอย่าง มีเหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนคำนึงถึงผลที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากการ กระทำน้นั อย่างรอบคอบ ครบวงจรบนพ้นื ฐานของความถูกต้อง ความเปน็ จรงิ ตามหลกั วชิ าการ หลัก กฎหมาย หลักศีลธรรม จริยธรรม และวัฒนธรรมที่ดีงาม ทั้งในระยะยาว ทั้งต่อตนเอง ผู้อื่น และ ส่วนรวม การคิดพจิ ารณาแยกแยะใหเ้ หน็ ความเช่ือมโยงของเหตุ ปจั จยั ต่างๆ อย่างตอ่ เนอ่ื ง อยา่ งเป็น ระบบจะทำให้บรรลุเป้าหมายได้อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ มีข้อผิดพลาดน้อย การที่จะวางแผนดำเนินการ
บทเรยี นออนไลน์ที่ 1 90 วชิ าเศรษฐกิจพอเพยี ง (ทช21001) ม.ตน้ สิง่ ใดอยา่ งสมเหตสุ มผล ตอ้ งอาศยั ความรอบรู้ ขยนั หมน่ั เพยี ร อดทนท่จี ะจัดเก็บข้อมูลอยา่ งเปน็ ระบบ และแสวงหาความร้ทู ี่ถูกต้องอย่างสมำ่ เสมอ มีความรอบคอบในความคิด พิจารณาตัดสินใจ โดยใช้สติ ปัญญา อย่างเฉลยี วฉลาดในทางท่ถี ูกทีค่ วร 3.3 การมีภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี หมายถึง การเตรียมตัวให้พร้อมรับผลกระทบและการเปลี่ยน ด้านต่างๆ ที่จะเกิดทั้งในด้านเศรษฐกิจสังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม เพื่อให้สามารถปรบั ตัวและ รับมือได้ทันที หรือกล่าวได้ว่าการที่จะทำอะไรอย่างไม่เสี่ยงเกินไป ไม่ประมาท คิดถึงแนวโน้มความ เป็นไปได้ของสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้ แล้วเตรียมตนเอง เตรียมวิธีการทำงานรองรับกับ การเปลี่ยนแปลงต่างๆ เพื่อให้การทำงานสามารถดำเนินเป็นไปได้อย่างราบรื่นและนำมาซ่ึง ผลประโยชนใ์ นระยะยาวและความสุขที่ยัง่ ยนื 4. เงื่อนไข การตัดสินและการดำเนินกิจกรรมต่างๆ ให้อยู่ในระดับพอเพียง ต้องอาศัยท้ัง ความรแู้ ละคุณธรรมเปน็ พ้ืนฐาน ดังนี้ 4.1 เงื่อนไขความรู้ ประกอบด้วย ความรอบรู้เกี่ยวกับวิชาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างรอบ ด้าน ความรอบคอบที่จะนำความรู้เหล่านั้นมาพิจารณาให้เชื่อมโยงกันเพื่อประกอบการวางแผนและ ความระมดั ระวงั ในขั้นปฏิบัติ 4.2 เงอื่ นไขคณุ ธรรม คณุ ธรรมทจี่ ะต้องเสรมิ สรา้ งใหเ้ ปน็ พ้ืนฐานของคนในชาติ ประกอบด้วย มคี วามตระหนักในคุณธรรม มีความซือ่ สตั ยส์ ุจริต มคี วามอดทน มคี วามเพยี ร รผู้ ดิ รชู้ อบ ใชส้ ติปัญญา ในการดำเนินชีวิตอย่างถูกต้องและเหมาะสม ไมโ่ ลภและไม่ตระหนี่ รูจ้ กั แบง่ ปันและรับผิดชอบในการ อย่รู ่วมกับผอู้ นื่ ในสังคม 5. แนวทางการปฏิบัติ/ผลที่คาดว่าจะได้รับจากการนำปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงไป ประยุกต์ใช้ คือ การพัฒนาที่สมดุลและยั่งยืน พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงในทุกด้านทั้งด้านเศรษฐกิจ สงั คม สิ่งแวดลอ้ ม ความรู้และเทคโนโลยี
บทเรียนออนไลนท์ ี่ 1 91 วิชาเศรษฐกจิ พอเพยี ง (ทช21001) ม.ตน้ สรปุ ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพียง แผนภาพแสดงแนวคิดเศรษฐกจิ พอเพียง 3 หว่ ง 2 เง่ือนไข
บทเรียนออนไลนท์ ่ี 1 92 วิชาเศรษฐกจิ พอเพยี ง (ทช21001) ม.ตน้ ควิ อาร์โคด้ เร่อื ง ความเปน็ มา ความหมาย หลกั การแนวคดิ ของหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 2 93 วชิ าเศรษฐกจิ พอเพยี ง (ทช21001) ม.ตน้ ใบงาน คำสัง่ ให้ผเู้ รยี นศกึ ษาความรู้ ในบทเรยี นออนไลนท์ ่ี 2 โดยสแกนควิ อารโ์ ค้ดที่กำหนดใหต้ อ ไปนี้ 1. ใหผ้ เู้ รียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี นบทเรยี นออนไลน์ท่ี 2 เรอื่ ง การแสวงหาความรดู้ ้วย ตนเอง จำนวน 5 ขอ้ 2. ใหผ้ ูเ้ รียนศึกษาความรู้จากใบความรบู้ ทเรียนออนไลน์ท่ี 2 เรื่อง การแสวงหาความรดู้ ้วย ตนเอง 3. ให้ผูเ้ รยี นทำกจิ กรรมที่ 2 เรอ่ื งการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง จำนวน 5 ขอ้ 4. ใหผ้ เู้ รียนทำแบบทดสอบหลงั เรยี นบทเรียนออนไลนท์ ่ี 2 เร่ือง การแสวงหาความร้ดู ้วย ตนเอง จำนวน 5 ขอ้ บทเรยี นออนไลน์ท่ี 2 Google site วิชา เศรษฐกิจพอเพยี ง
บทเรียนออนไลนท์ ี่ 2 94 วิชาเศรษฐกจิ พอเพยี ง (ทช21001) ม.ตน้ แบบทดสอบก่อนเรียน เรือ่ ง การแสวงหาความรู้ด้วยตัวเอง ชอ่ื - นามสกุล………………………………………………….…รหสั นักศึกษา…………………………………………… คำช้แี จง ใหน้ กั ศกึ ษาเลอื กคำตอบท่ีถกู ต้องที่สดุ เพยี งคำตอบเดียว จำนวน 5 ข้อ (5 คะแนน) 1. ข้อใดหมายถึงการแสวงหาความรูด้ ้วย 4. การเรียนรูแบบใดท่ีนกั ศึกษาสามารถนํา ตนเองที่ถกู ที่สุด ไปใชใ หเ กิดประโยชนไดม ากท่สี ุด ก. นำเสนอตัง้ แตต่ น้ จนจบ ก. การเรยี นรูโ ดยกลมุ ข. จดบนั ทกึ ข้อมูลต้ังแต่ตน้ จนจบ ข. การเรียนรโู ดยบงั เอิญ ค. เรียบเรียงข้อมูลต้ังแตต่ ้นจนจบ ค. การเรยี นรูดว ยตนเอง ง. ผ้เู รียนศึกษาตามความสนใจอยากรู้จาก ง. การเรยี นรูจ ากสถาบนั การศกึ ษา แหล่งเรยี นร้ตู ่างๆ 5. ขอใดคอื ความสาํ คัญเปน อันดับแรกของ 2. บุคคลในข้อใดแสวงหาความรู้ได้อย่าง ผูเรียนที่จะประสบความสาํ เร็จได เหมาะสมท่ีสุด ก. แหลงขอ มูล ก. เจนศึกษาข้อมูลจากหนังสือหลายเล่ม ข. การวางแผน ข. ดาวซักถามวิทยากรทันทีที่เกิดข้อสงสัย ค. การดาํ เนินงาน ค. บัวเชื่อผลการทดลองต้ังแต่ครั้งแรกที่เห็น ง. การประเมนิ ผล ง. เป้ิลสัมภาษณ์เกษตรกรเกี่ยวกับการ ประดิษฐ์ดอกไม้ 3. ขอ้ ใดคือลกั ษณะการเรยี นรดู้ ้วยตนเอง ก. การเรยี นรโู้ ดยการสาธิต ข. การเรียนรู้ท่ไี ม่พ่งึ บุคคลอ่ืน ค. การเรยี นรู้ทใ่ี ชเ้ งนิ ทุนของตนเอง ง. การเรยี นร้ทู เ่ี น้นผู้เรียนเป็นศนู ย์กลาง
บทเรยี นออนไลน์ท่ี 2 95 วชิ าเศรษฐกจิ พอเพยี ง (ทช21001) ม.ตน้ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น เรือ่ ง การแสวงหาความรู้ดว้ ยตัวเอง 1. ง 2. ก 3. ง 4. ค 5. ข
บทเรียนออนไลน์ที่ 2 96 วิชาเศรษฐกิจพอเพยี ง (ทช21001) ม.ต้น ใบความรู้ เร่อื ง การแสวงหาความรู้ การแสวงหาความรู้ของมนุษย์เกิดจากความต้องการของคนที่ต้องการของพัฒนาชีวิตความ เป็นอยู่ของตนเองให้ดขี ึน้ จึงเป็นแรงกระตุ้นให้มคี วามอยากรู้ อยากเห็น อยากเข้าใจในปรากฎการณ์ ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้รู้และเข้าใจถึงความจริงที่ควรเชื่อและยอมรับในความเป็นจริงของ ปรากฎการณ์ตา่ งๆ เหล่านน้ั วิธกี ารแสวงหาความรู้ของมนุษย์ มดี ังนี้ 1. การแสวงหาความรู้จากประสบการณ์ (Experience) เป็นวิธีการแสวงหาความรู้ของแต่ละบุคคล จากการคน้ พบด้วยตนเองหรือเกิดข้ึนโดยบังเอิญ (By Chance) เช่น การคน้ พบความรูข้ องชาร์ลส์ กูด เยียร์ (Charls Goodyear) เกยี่ วกับยางพาราดิบเมอ่ื ถกู ความร้อนจะช่วยใหย้ างน้ันแขง็ ตวั และมคี วาม ทนทานเพิ่มขึ้น ซึ่งนำไปสู่การประดิษฐ์ยางรถยนต์ที่แพร่หลายในปัจจุบันนี้ หรือเกิดจากการลองผิด ลองถกู (By Trial and Error) เชน่ ผู้เดินทางไปเทีย่ วในปา่ ถกู แมลงกดั ต่อยเกิดเป็นผ่นื คัน ไม่มียาทาจึง นำใบไมช้ นดิ ใดชนิดหนึ่งมาทาแลว้ หาย จงึ เกิดการเรยี นรู้วา่ ใบไม้ชนิดนนั้ สามารถนำมาใชแ้ ก้ผนื่ คนั ได้ 2. การแสวงหาความรู้จากผู้รู้ (Authority) เป็นการแสวงหาความรจู้ ากคำบอกเลา่ ของผู้รู้ ผู้เช่ียวชาญ หรือผู้มีอำนาจหน้าที่เป็นที่ยอมรับทั่วไป เช่น นักปราชญ์ ผู้นำ นักบวช หรือการเรียนรู้จากประเพณี วัฒนธรรมที่มีผู้รู้ หรือผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ เป็นผู้บอกหรือถ่ายทอดความรู้โดยการเขียน หนังสือตำรา หรอื บอกโดยผ่านสอื่ อ่นื ๆ 3. การแสวงหาความรู้โดยอาศัยเหตผุ ลจากการอนุมาน (Deductive Reasoning) เปน็ การแสวงหา ความรู้จากความสัมพันธ์เชิงเหตุผลระหว่างขอ้ เท็จจรงิ ใหญ่และข้อเท็จจรงิ ย่อยแล้วนำมาสรปุ เป็น ความร้ขู ้อเทจ็ จรงิ ใหญ่ : เป็นขอ้ ตกลงที่กำหนดขึ้นเป็นขอ้ เท็จจรงิ ในวงกวา้ ง ข้อเท็จจริงย่อย : เป็นเหตุเฉพาะกรณีใดๆ เป็นข้อเท็จจริงในวงแคบที่มีความสัมพันธ์กับ ข้อเท็จจริง ใหญ่ ข้อสรุป : เป็นข้อสรุปจากความสัมพันธ์ของข้อเท็จจริงใหญ่และข้อเท็จจริงย่อย ซึ่ง กล่าวว่าการ อนมุ านคอื การสรปุ สว่ นใหญ่ไปหาส่วนย่อย
บทเรียนออนไลน์ท่ี 2 97 วิชาเศรษฐกจิ พอเพยี ง (ทช21001) ม.ต้น ตัวอย่างเหตผุ ลจากการอนุมาน ข้อเท็จจรงิ ใหญ่ : ลูกชายของลุงกำนันทุกคนเรียนเก่ง ขอ้ เทจ็ จริงย่อย : พงไพรเป็นลูกชายคนท่สี องของลงุ กำนนั ขอ้ สรปุ : พงไพรเป็นคนท่ีเรียนเก่ง 4. การแสวงหาความรู้โดยอาศัยเหตุผลจากการอุปมาน (Inductive Reasoning) เป็นวิธีแสวงหา ความรู้ที่ย้อนกลับกับวิธีอนุมาน เป็นการค้นหาความรู้จากข้อเท็จจริงย่อยๆ โดยพิจารณาจากสิ่งที่ เหมือนกนั ตา่ งกนั สัมพันธก์ นั แลว้ สรปุ รวมเปน็ ข้อเทจ็ จริงใหญ่ ตัวอย่างเหตุผลจากการอปุ มาน ข้อเท็จจริงย่อย : คนที่เป็นโรคมะเร็งระยะสุดท้าย แต่ละคนไม่สามารถรักษาให้หายได้ และ จะต้อง ตายในท่ีสุด ดงั น้นั : กล่มุ คนท่เี ปน็ โรงมะเรง็ ระยะสดุ ท้ายตอ้ งตายทุกคน 5. วธิ กี ารทางวทิ ยาศาสตร์ (Scientific Approach) เป็นวธิ แี สวงหาความรู้ของมนุษย์ทีช่ าร์ลส์ ดาร์วิน (Charles Darwin) และจอห์น ดวิ อ้ี (John Dewey)ได้พฒั นาและนำแนวคดิ เชิงย้อนกลับ (Reflective Thinking) และแนวคิดการแก้ปัญหา (Problem Solving) มาเป็นพื้นฐานในการคิดเป็นกระบวนการ ศึกษาข้อเท็จจริงและความรู้ต่างๆ โดยผ่านการสังเกต การดำเนินการตามแนวคิดทฤษฎีต่างๆ การ ทดสอบ การค้นพบ การทบทวน และการทำซ้ำ ผลิตความรู้ใหม่จากกระบวนการที่มีความสัมพันธ์กนั และเกย่ี วขอ้ งเปน็ วฏั จักร โดยวธิ ีการทางวทิ ยาศาสตร์ คอื การพจิ ารณาให้ใกล้ความจริงมากทีส่ ุด โดย อาศัยการศึกษาข้อเท็จจริง ทฤษฎีและการทดสอบเครื่องมือ ดังนั้นวิธีการวิทยาศาสตร์ ถือว่าเป็น วิธีการที่มีหลักเกณฑ์และเหตุผลที่สามารถอธิบายได้มีลักษณะการศึกษาที่เป็นระบบ ตรงไปตรงมา ปราศจากความลำเอียงและสามารถพิสูจน์ได้ ประกอบด้วย 5 ขั้นตอนด้วยกัน ซึ่งเรียกว่าขั้นตอน วธิ ีการทางวิทยาศาสตร์ ดงั น้ี 1. ขน้ั ปัญหา (Problem) เปน็ การระบแุ ละกำหนดขอบเขตของปัญหาของสิ่งที่ต้องการศกึ ษาใหช้ ัดเจน 2. ขั้นตั้งสมมติฐาน (Hypotheses) เป็นการคาดเดาหรอื คาดคะเนคำตอบของปัญหาไว้ล่วงหนา้ อย่าง มีเหตุผล
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442