แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวชิ าออนไลน์ รายวชิ า ศลิ ปศึกษา ทช21003 จานวน 2 หนว่ ยกิต ระดับมัธยมศึกษาตอนตน้ จานวน 83 ชั่วโมง บทเรียน หัวเร่อื ง วตั ถุประสงคเ์ ชิง กจิ กรรมการเรียนรู้ จานวน ส่อื การเรยี นรู้ การวดั และ กศน.4 ผลการเรยี นรทู้ ่ี คาดหวัง ออนไลน์ พฤตกิ รรม ช่ัวโมง ประเมนิ ผล ช่อง 3 ผูเ้ รียนสามารถบอก ท่ี กิจกรรมท่ี 4 ถงึ ประวตั คิ วาม ( 5 คะแนน) เป็นมาวิวัฒนาการ 4 บทที่ 4 ผู้เรียนมีความรู้ - ผู้เรียนทํา 30 ชวั่ โมง 1. บทเรียนออนไลนท์ ่ี 4 บทเรียน แบบทดสอบ องค์ประกอบและ หลังเรียน วธิ กี ารแสดงและ นาฏศลิ ป์ ความเขา้ ใจ แบบทดสอบกอ่ นเรียน Google site ออนไลน์ท่ี 4 (5 คะแนน) วธิ ีการอนุรกั ษ์ นาฏศลิ ป์ไทย ไทย ประวัติความเปน็ มา - ผเู้ รยี นศึกษาเรยี นรู้ วชิ าศิลปศึกษา ทช 21003 แตล่ ะภาค ววิ ัฒนาการ จากสอื่ แบบเรียน เรอ่ื ง นาฏศิลปไ์ ทย องค์ประกอบและ ออนไลน์ Google site 198 วิธีการแสดงและ วชิ าศลิ ปศึกษา ทช วิธกี ารอนรุ กั ษ์ 21003 นาฏศลิ ปไ์ ทยแต่ละ เร่อื ง นาฏศิลป์ไทย ภาค - ผู้เรียนทาํ กิจกรรมท4่ี เร่อื ง นาฏศิลป์ไทย https://youtu.be/ySUa5rQvj50 -ผูเ้ รียนทําบบทดสอบ หลงั เรียน
แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาออนไลน์ รายวชิ า ศิลปศึกษา ทช21003 จานวน 2 หน่วยกิต ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนต้น จานวน 83 ชวั่ โมง บทเรียน หวั เรื่อง วัตถุประสงคเ์ ชิง กจิ กรรมการเรียนรู้ จานวน สอ่ื การเรียนรู้ การวัดและ กศน.4 ผลการเรยี นรทู้ ่ี ออนไลน์ คาดหวัง พฤตกิ รรม ชั่วโมง ประเมนิ ผล ท่ี 5 บทที่ 5 1.ผูเ รียนมคี วามรู -ผเู้ รยี นทาํ แบบทดสอบ 3 ชั่วโมง 1.บทเรียนออนไลนท์ ่ี 5 บทเรียน ช่อง 4 ผเู้ รยี นบอก Google siteวิชา ออนไลนท์ ี่ 5 ลกั ษณะอาชีพ นาฏศิลปไ์ ทย ความเขา ใจ กอ่ นเรียน ศลิ ปศกึ ษา ทช 21003 กิจกรรมที่ 5 นาฏศิลป์ไทย กบั การ เรอ่ื ง นาฏศิลป์ไทยกับการ (5 คะแนน) ประเภทต่างๆ ประกอบ ลกั ษณะอาชีพ - ผเู้ รยี นศึกษาเรียนรจู้ าก ประกอบอาชีพ แบบทดสอบ และบอกขน้ั ตอน อาชีพ หลงั เรียน แนวทางในการ นาฏศลิ ปไทย สื่อบทเรยี นออนไลน์ที่ 5 shorturl.asia/gfX08 (5 คะแนน) ประกอบอาชีพ นาฏศิลป์ไทย ประเภทตางๆ Google site วิชา 199 2.ผเู รียนมีความรู ศลิ ปศกึ ษา ทช 21003 ความเขา ใจ ขัน้ เรอ่ื ง นาฏศิลปไ์ ทยกับ ตอนและ การประกอบอาชพี แนวทางในการ - ผู้เรียนทาํ กิจกรรมที่ 5 ประกอบอาชีพ เรอ่ื ง นาฏศลิ ปไ์ ทยกับ นาฏศลิ ปไทย การประกอบอาชีพ -ผู้เรยี นทําแบบทดสอบ หลังเรียน
200 บทเรียนออนไลนท์ ่ี 1 วิชาศิลปศึกษา (ทช21003) ม.ตน้ ใบงาน คาส่งั ให้ผู้เรียนศึกษาความรู้ ในบทเรยี นออนไลน์ที่ 1 โดยสแกนคิวอาร์โคด้ ทีก่ ําหนดใหต้ อ่ ไปนี้ 1. ให้ผู้เรียนศึกษาความรจู้ ากสือ่ บทเรียนออนไลนท์ ่ี 1 Google site เรื่อง ความสําคัญทัศนศลิ ปไ์ ทย คุณค่าของดนตรีไทย 2. ให้ผู้เรยี นทาํ แบบทดสอบก่อนเรียนบทเรียนออนไลนท์ ่ี 1 เรอ่ื ง ความสาํ คัญทัศนศิลปไ์ ทย คณุ ค่าของดนตรไี ทย จาํ นวน 10 ข้อ 3. ให้ผู้เรียนบนั ทกึ ความรู้ท่ไี ดล้ งในสมุดบนั ทึก 4. ให้ผเู้ รียนทาํ แบบทดสอบหลังเรยี น เรื่อง ความสาํ คัญทัศนศลิ ปไ์ ทย คุณค่าของดนตรีไทย จํานวน 10 ขอ้ shorturl.asia/XT8RM หลักการทศั นศลิ ป์ https://youtu.be/49_9T52jYIQ ความรทู้ ่ัวไปเกี่ยวกบั ดนตรไี ทย
201 บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 2 วิชาศิลปศกึ ษา (ทช21003) ม.ตน้ ใบงาน คาส่งั 1. ให้ผูเ้ รียนทาํ แบบทดสอบกอ่ นเรียนบทเรยี นออนไลน์ท่ี 2 เร่อื ง ทัศนศิลป์ไทย จํานวน 10 ขอ้ 2. ให้ผเู้ รียนศึกษาใบความรบู้ ทเรยี นออนไลนท์ ี่ 2 เรื่องทัศนศลิ ป์ไทย 3. ใหผ้ เู้ รียนทาํ กิจกรรมท่ี 2 เร่อื งทศั นศิลป์ไทย จํานวน 5 ขอ้ 4. ให้ผเู้ รยี นทาํ แบบทดสอบหลงั เรียน เรอื่ ง ทศั นศิลปไ์ ทย จาํ นวน 10 ข้อ https://m.youtube.com/watch?v=ObYFDx3kVdM ควิ อารโ์ คด้ ทัศนศิลปค์ อื อะไร https://www.youtube.com/watch?v=pUrwjiBniGE คิวอาร์โคด้ หลักการทัศนศิลป์
202 บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 2 วชิ าศิลปศกึ ษา (ทช21003) ม.ตน้ แบบทดสอบก่อนเรยี น เร่อื ง ทัศนศิลปไ์ ทย ชื่อ-นามสกลุ ..............................................................รหัสนักศกึ ษา...................................................... คาชแ้ี จง ใหน้ ักศึกษาเลือกคําตอบที่ถูกต้องที่สุดเพยี งคาํ ตอบเดยี ว จํานวน 10 ข้อ (5 คะแนน) 1. ผลงานศลิ ปะในข้อใดจัดอยู่ในสาขา 5. ข้อใดไมใ่ ชง่ านศิลปะ ทัศนศลิ ปท์ ้ังหมด ก. การสรา้ งรูปเคารพ ก. การละคร ภาพพมิ พ์ ภาพถ่าย ข. การเขยี นภาพเหมือน ข. ภาพพมิ พ์ นาฏศิลป์ จติ รกรรม ค. ความสวยงามของน้าํ ตก ค. ภาพถา่ ย สอื่ ประสม ประติมากรรม ง. การออกแบบรถยนต์รุ่นใหม่ ง. จิตรกรรม ประติมากรรม วรรณกรรม 6. ศลิ ปหตั ถกรรมพื้นบา้ นในขอ้ ใดจัดเปน็ งาน 2. จิตรกร (Artist) หมายถงึ ผูส้ รา้ งสรรค์ จิตรกรรม ผลงานประเภทใด ก. ลวดลายบนด้ามกริช ก. จติ รกรรม ข. ลวดลายบนเรอื กอและ ข. วรรณกรรม ค. ลวดลายบนเทียนพรรษา ค. ประตมิ ากรรม ง. ลวดลายบนกระตา่ ยขูดมะพร้าว ง. สถาปัตยกรรม 3. ช่างป้ันแกะสลกั และช่างหลอ่ หมายถึง 7. งานออกแบบทร่ี ูปแบบสามารถสอื่ บคุ คลในขอ้ ใด ความหมายให้ผู้พบเหน็ มคี วามเข้าใจตรงกนั ก. จิตรกร โดยไมจ่ ําเปน็ ต้องมีคําบรรยายประกอบคือ ข. กรรมกร อะไร ค. สถาปนกิ ก. การออกแบบสงิ่ พิมพ์ ง. ประติมากร ข. การออกแบบสญั ลกั ษณ์ 4. ผู้ออกแบบกอ่ สร้างอาคารสถานที่ ค. การออกแบบเคร่ืองแตง่ กาย หมายถึง บุคคลในข้อใด ง. การออกแบบตกแตง่ หน้ารา้ น ก. จติ รกร ข. ประตมิ ากร 8. ข้อใดต่อไปนี้ คอื งานประติมากรรม ค. สถาปนิก ก. พระประธานในอโุ บสถ ง. มัณฑนาการ ข. รปู ปนั้ พระบรมรปู ทรงม้า ค. รปู ปั้นหลวงปทู่ วดวดั ชา้ งให้ ง. รูปปั้นนางเงือกริมหาดสมิหลา
บทเรยี นออนไลนท์ ่ี 2 203 วชิ าศิลปศกึ ษา (ทช21003) ม.ตน้ 9. การออกแบบสิ่งของเครือ่ งใช้ ใน 10. ขอ้ ใดกล่าวถกู ตอ้ งทีส่ ดุ ชวี ติ ประจาํ วัน หมายถงึ การออกแบบขอ้ ใด ก. ศลิ ปะ คอื ส่งิ ที่สวยงามสดุ ก. การออกแบบส่งิ พมิ พ์ ข. ภาพถา่ ยของธรรมชาตทิ ่ีสวยงาม ข. การออกแบบหนุ่ จําลอง ค. ศิลปะ คอื ความงามทไ่ี ด้จากธรรมชาติที่ ค. การออกแบบผลิตภัณฑ์ สวยงาม ง. การออกแบบพาณชิ ยศิลป์ ง. ศิลปะ คือ สิ่งที่มนุษยส์ ร้างข้ึนมาเพื่อความ พงึ พอใจ
บทเรียนออนไลนท์ ่ี 2 204 วิชาศลิ ปศึกษา (ทช21003) ม.ตน้ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น เรอื่ ง ทศั นศิลป์ไทย 1.ค 2.ก 3.ง 4.ค 5.ค 6.ข 7.ข 8.ก 9.ค 10.ข
บทเรยี นออนไลน์ท่ี 2 205 วิชาศลิ ปศกึ ษา (ทช21003) ม.ตน้ ใบความรู้ เรอื่ ง ความหมายและความเป็นมาของทศั นศิลป์ไทย ความหมายและความเป็นมาของทัศนศลิ ป์ไทย ศิลปะประเภททัศนศิลป์ท่ีสําคัญของไทย ได้แก่ จิตรกรรม ประติมากรรม และ สถาปัตยกรรม มีรูปแบบท่ีเป็นเอกลักษณ์ไทยท่ีสะท้อนให้เห็นวิถีชีวติ ขนบธรรมเนียมประเพณีความ เชือ่ และรสนยิ มเกี่ยวกบั ความงามของคนไทย ลักษณะของศิลปะไทย ศิลปะไทยได้รับอิทธิพลจากธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมในสังคมไทย ซ่ึงมีลักษณะเด่น คือ ความงามอย่างนิ่มนวลมีความละเอียดประณีต ซงึ่ แสดงให้เห็นถงึ ลกั ษณะนิสัยและจิตใจของคนไทยท่ี ได้สอดแทรกไว้ในผลงานที่สร้างสรรค์ข้ึน โดยเฉพาะศิลปกรรมที่เกี่ยวกับพระพุทธศาสนา ซ่ึงเป็น ศาสนาประจําชาติของไทย อาจกล่าวได้ว่าศิลปะไทยสร้างข้ึนเพื่อส่งเสริมพุทธศาสนา เป็นการ เ ชื่ อ ม โ ย ง แ ล ะ โ น้ ม น้ า ว จิ ต ใ จ ข อ ง ป ร ะ ช า ช น ใ ห้ เ กิ ด ค ว า ม เ ล่ื อ ม ใ ส ศ รั ท ธ า ใ น พุ ท ธ ศ า ส น า จติ รกรรมไทย จติ รกรรมไทย เป็นการสรา้ งสรรคภ์ าพเขียนทีม่ ีลกั ษณะโดยท่วั ไปมกั จะเป็น 2 มติ ิ ไมม่ ีแสง และเงา สพี ื้นจะเป็นสีเรียบๆไม่ฉูดฉาดสีทใี่ ช้ส่วนใหญ่จะเป็นสีดํา สีนํ้าตาล สีเขยี ว เสน้ ท่ีใช้มักจะเป็น เส้นโค้งช่วยให้ภาพดูอ่อนช้อย นุ่มนวล ไม่แข็งกระด้าง จิตรกรรมไทยมักพบในวัดต่างๆ เรียกว่า “จิตรกรรมฝาผนงั ” จิตรกรรมไทย จัดเป็นภาพเล่าเรื่องท่ีเขียนขึ้นด้วยความคิดจินตนาการของคนไทย มี ลกั ษณะตามอุดมคติของช่างไทย คอื 1. เขียนสีแบน ไม่คํานึงถึงแสงและเงา นิยมตัดเส้นให้เห็นชัดเจน และเส้นที่ใช้ จะแสดง ความรสู้ กึ เคลอื่ นไหวนุ่มนวล 2. เขียนตัวพระ-นาง เป็นแบบละคร มีลีลา ท่าทางเหมือนกัน ผิดแผกแตกต่าง กันด้วยสี ร่างกายและเคร่ืองประดบั 3. เขยี นแบบตานกมอง หรอื เป็นภาพตํ่ากวา่ สายตา โดยมมุ มองจากท่ีสงู ลงสู่ ลา่ ง จะเห็น เป็นรปู เรอ่ื งราวได้ตลอดภาพ 4. เขียนตดิ ตอ่ กันเปน็ ตอน ๆ สามารถดูจากซ้ายไปขวาหรือล่างและบนได้ท่ัวภาพ โดยขั้น แตล่ ะตอนของภาพดว้ ยโขดหิน ต้นไม้ กําแพงเมือง เปน็ ตน้ 5. เขยี นประดบั ตกแต่งด้วยลวดลายไทย มีสีทองสร้างภาพใหเ้ ดน่ เกดิ บรรยากาศ สขุ สว่าง และมคี ณุ คา่ มากข้นึ ประติมากรรมไทย ประติมากรรมเป็นผลงานศิลปกรรมท่ีเป็นรูปทรง 3 มติ ิ ประกอบจากความสูง ความกว้าง และความนูน หรือความลึก ประติมากรรมเกิดข้ึนจากกรรมวิธกี ารสร้างสรรค์แบบต่างๆ เช่น การปนั้
บทเรยี นออนไลน์ที่ 2 206 วิชาศิลปศึกษา (ทช21003) ม.ตน้ และหล่อ การแกะสลัก การฉลุหรือดุน ประติมากรรมไทยเป็นผลงานการสร้างสรรค์ของบรรพบุรุษ ส่วนใหญ่เน้นเนื้อหาทางศาสนา มักปรากฏอยู่ตามวัดและวัง มีขนาดตั้งแต่เล็กที่สุด เช่น พระเครื่อง เครือ่ งรางของขลัง จนถึงขนาดใหญท่ ีส่ ุด เชน่ พระอจั นะ หรือพระอัฏฐารส เม่อื พิจารณาภาพรวมของ ประติมากรรมไทยอาจแบ่งประติมากรรมออกเป็น 3 ประเภทคือ ประติมากรรมรูปเคารพ ประตมิ ากรรมตกแต่ง และประติมากรรมเพ่อื ประโยชน์ใช้สอย ผลงานประตมิ ากรรมไทย แบ่งออกไดเ้ ป็น 4 ประเภท สรุปได้ ดังนี้ 1. ประติมากรรมไทยที่เกิดขึ้นจากความเชื่อ ความศรัทธา คตินิยมเกี่ยวข้องกับศาสนา เช่น พระพุทธรปู ปางต่างๆ ลวดลายของฐานเจดยี ์หรือพระปรางคต์ ่างๆ 2. ประติมากรรมไทยพวกเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น โอ่ง หม้อ ไห ครก กระถาง 3. ประติมากรรมไทยพวกของเล่น ได้แก่ ตุ๊กตาดินปั้น ตุ๊กตาจากกระดาษ ตุ๊กตาจากผ้า หุ่นกระบอก ปลาตะเพียนสานใบลาน หน้ากาก วัสดุจากเปลือกหอย ปลาตะเพียนสานใบลาน 4. ประติมากรรมไทยพวกเครอ่ื งประดับตกแต่ง เช่น กระถางตน้ ไม้ โคมไฟดินเผา สถาปัตยกรรมไทย สถาปัตยกรรมไทย หมายถึง ศิลปะการก่อสร้างของไทย อันได้แก่ อาคาร บ้านเรือน โบสถ์ วิหาร วัง สถูป และสิ่งก่อสร้างอื่น ๆ ที่มีมูลเหตุที่มาของการก่อสร้างอาคารบ้านเรือนในแต่ละ ท้องถิ่น จะมีลักษณะผิดแผกแตกต่างกันไปบ้างตามสภาพทางภูมิศาสตร์ และคตินิยมของแต่ละ ท้องถิ่นแต่สิ่งก่อสร้างทางศาสนาพุทธ มักจะมีลักษณะที่ไม่แตกต่างกันมากนัก เพราะมีความเชื่อ ความศรัทธาและแบบแผนพิธีกรรมท่ีเหมือนๆ กัน สถาปัตยกรรมไทย สามารถจัดหมวดหมู่ ตามลกั ษณะการใช้งานได้ 2 ประเภท คอื 1. สถาปัตยกรรมที่ใช้เป็นที่อยู่อาศัย ได้แก่ บ้านเรือน ตำหนัก วังและพระราชวัง เป็นต้น บ้านหรือเรือนเป็นที่อยู่อาศัยของสามัญชน ธรรมดาทั่วไป ซึ่งมีทั้งเรือนไม้ และเรือนปูน เรือนไม้มีอยู่ 2 ชนิด คือ เรือนเครื่องผูก เป็นเรือนไม้ไผ่ ปูด้วยฟากไม้ไผ่ หลังคามุงด้วย ใบจาก หญ้าคา หรือใบไม้ อกี อยา่ งหนงึ่ เรียกวา่ เรอื นเครื่องสบั เป็นไม้จริงทงั้ เนือ้ ออ่ น และเน้ือแข็ง ตามแตล่ ะทอ้ งถน่ิ หลังคามุง ด้วยกระเบื้อง ดินเผา พน้ื และฝาเป็นไมจ้ ริงท้ังหมด ลกั ษณะเรอื น ไม้ของไทยในแต่ละท้องถ่ินแตกต่าง กัน และโดยทั่วไปแล้วจะมี ลักษณะสำคัญร่วมกันคือ เป็นเรือนไม้ชั้นเดียว ใต้ถุนสูง หลังคาทรงจ่ัว เอียงลาดชัน 2. สถาปัตยกรรมทีเ่ กย่ี วข้องศาสนา ซง่ึ ส่วนใหญอ่ ย่ใู นบรเิ วณสงฆ์ ทเี่ รียกว่า วัด ซ่ึงประกอบ ไปด้วยสถาปัตยกรรมหลายอย่าง ได้แก่ โบสถ์ เป็นที่กระทำสังฆกรรมของพระภิกษุ วิหารใช้ ประดิษฐาน พระพุทธรูปสำคัญ และกระทำสังฆกรรมด้วยเหมือนกัน กุฎิ เป็นที่อยู่ของพระภิกษุ สามเณร หอไตร เป็นที่เก็บรักษาพระไตรปิฎกและคัมภีร์สำคัญทางศาสนา หอระฆัง และหอกลอง เป็นที่ใช้เก็บระฆังหรือกลองเพื่อตีบอกโมงยาม หรือเรียกชุมนุมชาวบ้าน สถูปเป็นที่ฝังศพเจดีย์เป็นที่ ระลกึ อันเกีย่ วเนื่องกบั ศาสนา
บทเรียนออนไลน์ที่ 2 207 วิชาศลิ ปศึกษา (ทช21003) ม.ตน้ กจิ กรรม/แบบทดสอบที่ 2 เร่ือง ทัศนศลิ ป์ไทย ช่ือ-นามสกุล............................................................................รหัสนักศึกษา.................................. คาชี้แจง จงตอบคําถามต่อไปนใ้ี หถ้ ูกตอ้ ง จํานวน 3 ข้อ (10 คะแนน) 1. ทัศนศิลปไ์ ทย หมายถึง ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ 2. จติ รกรรมไทย หมายถงึ ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... 3. ประติมากรรม หมายถงึ ………………………………………………………………………………………………………………………………………… …....…………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………….…………………………………………………………………………………………………… 4. สถาปัตยกรรมไทย หมายถึง ………………………………………………………………………………………………………………………………………… …....…………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………….……………………………………………………………………………………………………
บทเรียนออนไลนท์ ่ี 2 208 วชิ าศิลปศึกษา (ทช21003) ม.ต้น เฉลยกจิ กรรมที่ 2 เรือ่ ง ทศั นศิลป์ไทย ช่อื -นามสกลุ ............................................................................รหัสนักศึกษา.................................. คาชี้แจง จงตอบคําถามต่อไปนใี้ ห้ถูกตอ้ ง จํานวน 5 ข้อ (5 คะแนน) 1. ทัศนศิลปไ์ ทย หมายถงึ ตอบ ศลิ ปะประเภททัศนศิลป์ทสี่ ําคัญของไทย ได้แก่ จิตรกรรม ประตมิ ากรรม และสถาปตั ยกรรม มีรปู แบบที่เป็นเอกลกั ษณไ์ ทยท่ีสะทอ้ นให้เห็นวิถีชวี ิต ขนบธรรมเนียมประเพณี ความเช่ือและรสนยิ ม เก่ยี วกับความงามของคนไทย 2. จิตรกรรมไทย หมายถึง ตอบ เป็นการสร้างสรรค์ภาพเขยี นท่มี ีลักษณะโดยทั่วไปมกั จะเปน็ 2 มิติ ไมม่ ีแสงและเงา สีพืน้ จะเปน็ สเี รียบๆไมฉ่ ดู ฉาดสที ี่ใชส้ ่วนใหญจ่ ะเปน็ สีดํา สีนา้ํ ตาล สเี ขียว เสน้ ที่ใชม้ ักจะเปน็ เส้นโคง้ ชว่ ยใหภ้ าพดู ออ่ นช้อย นุ่มนวล ไม่แขง็ กระดา้ ง จิตรกรรมไทยมกั พบในวดั ต่างๆเรยี กวา่ “จติ รกรรมฝาผนงั ” 3. ประตมิ ากรรม หมายถึง ตอบ ผลงานศิลปกรรมท่เี ปน็ รูปทรง 3 มติ ิ ประกอบจากความสูง ความกว้างและความนูน หรือความ ลกึ ประติมากรรมเกิดขึน้ จากกรรมวธิ ีการสรา้ งสรรคแ์ บบตา่ งๆ เชน่ การป้นั และหลอ่ การแกะสลัก การฉลหุ รอื ดุน ประตมิ ากรรมไทยเป็นผลงานการสรา้ งสรรคข์ องบรรพบรุ ษุ ส่วนใหญเ่ นน้ เน้อื หาทาง ศาสนา มักปรากฏอยตู่ ามวดั และวงั มขี นาดตง้ั แตเ่ ลก็ ทส่ี ุด เช่น พระเครอื่ ง เคร่อื งรางของขลงั จนถงึ ขนาดใหญ่ที่สุด 4. สถาปัตยกรรมไทย หมายถงึ ตอบ ศิลปะการก่อสร้างของไทย อันได้แก่ อาคาร บ้านเรือน โบสถ์ วิหาร วัง สถูป และส่ิงก่อสร้าง อ่ืนๆ ท่ีมีมูลเหตุท่ีมาของการก่อสร้างอาคารบ้านเรือนในแต่ละท้องถิ่น จะมีลักษณะผิดแผกแตกต่าง กันไปบ้างตามสภาพทางภมู ิศาสตร์ และคตินิยมของแต่ละท้องถิน่ แต่ส่งิ ก่อสรา้ งทางศาสนาพุทธ มักจะ มลี ักษณะทไ่ี ม่แตกต่างกนั มากนกั เพราะมคี วามเชื่อ ความศรัทธาและแบบแผนพธิ ีกรรมท่ีเหมือนๆ กนั
บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 2 209 วชิ าศลิ ปศึกษา (ทช21003) ม.ต้น แบบทดสอบหลังเรยี น เรอ่ื ง ทัศนศลิ ปไ์ ทย ช่ือ-นามสกุล..............................................................รหสั นกั ศกึ ษา...................................................... คาช้ีแจง ใหน้ ักศกึ ษาเลอื กคําตอบท่ถี ูกต้องท่สี ุดเพียงคาํ ตอบเดียว จํานวน 10 ข้อ (5 คะแนน) 1. ผลงานศลิ ปะในข้อใดจัดอยู่ในสาขา 5. ขอ้ ใดไม่ใชง่ านศิลปะ ทัศนศลิ ปท์ ัง้ หมด ก. การสรา้ งรูปเคารพ ก. การละคร ภาพพิมพ์ ภาพถ่าย ข. การเขยี นภาพเหมือน ข. ภาพพิมพ์ นาฏศิลป์ จติ รกรรม ค. ความสวยงามของนํา้ ตก ค. ภาพถ่าย สอื่ ประสม ประติมากรรม ง. การออกแบบรถยนต์รุน่ ใหม่ ง. จติ รกรรม ประติมากรรม วรรณกรรม 6. ศิลปหตั ถกรรมพน้ื บ้านในข้อใดจดั เป็นงาน 2. จติ รกร (Artist) หมายถึง ผู้สรา้ งสรรค์ จติ รกรรม ผลงานประเภทใด ก. ลวดลายบนด้ามกรชิ ก. จิตรกรรม ข. ลวดลายบนเรอื กอและ ข. วรรณกรรม ค. ลวดลายบนเทียนพรรษา ค. ประตมิ ากรรม ง. ลวดลายบนกระตา่ ยขดู มะพร้าว ง. สถาปัตยกรรม 7. งานออกแบบท่รี ปู แบบสามารถสอ่ื 3. ชา่ งปัน้ แกะสลัก และชา่ งหลอ่ หมายถึง ความหมายให้ผพู้ บเห็นมีความเข้าใจตรงกัน บคุ คลในขอ้ ใด โดยไมจ่ าํ เปน็ ตอ้ งมีคําบรรยายประกอบคอื ก. จติ รกร อะไร ข. กรรมกร ก. การออกแบบส่ิงพิมพ์ ค. สถาปนกิ ข. การออกแบบสญั ลกั ษณ์ ง. ประตมิ ากร ค. การออกแบบเครอ่ื งแต่งกาย 4. ผู้ออกแบบกอ่ สรา้ งอาคารสถานท่ี ง. การออกแบบตกแต่งหน้าร้าน หมายถึง บคุ คลในขอ้ ใด ก. จิตรกร 8. ข้อใดตอ่ ไปนี้ คอื งานประตมิ ากรรม ข. ประตมิ ากร ก. พระประธานในอุโบสถ ค. สถาปนิก ข. รูปปั้นพระบรมรูปทรงม้า ง. มณั ฑนากร ค. รูปปนั้ หลวงปู่ทวดวัดช้างให้ ง. รปู ป้ันนางเงือกรมิ หาดสมิหลา
บทเรยี นออนไลนท์ ่ี 2 210 วชิ าศิลปศกึ ษา (ทช21003) ม.ตน้ 9. การออกแบบสิ่งของเครือ่ งใช้ ใน 10. ขอ้ ใดกล่าวถกู ตอ้ งทีส่ ดุ ชวี ติ ประจาํ วัน หมายถงึ การออกแบบขอ้ ใด ก. ศลิ ปะ คอื ส่งิ ที่สวยงามสดุ ก. การออกแบบส่งิ พมิ พ์ ข. ภาพถา่ ยของธรรมชาตทิ ่ีสวยงาม ข. การออกแบบหนุ่ จําลอง ค. ศิลปะ คอื ความงามทไ่ี ด้จากธรรมชาติที่ ค. การออกแบบผลิตภัณฑ์ สวยงาม ง. การออกแบบพาณชิ ยศิลป์ ง. ศิลปะ คือ สิ่งที่มนุษยส์ ร้างข้ึนมาเพื่อความ พงึ พอใจ
บทเรียนออนไลนท์ ่ี 2 211 วิชาศลิ ปศึกษา (ทช21003) ม.ตน้ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น เรอื่ ง ทศั นศิลป์ไทย 1.ค 2.ก 3.ง 4.ค 5.ค 6.ข 7.ข 8.ก 9.ค 10.ข
บทเรยี นออนไลนท์ ่ี 3 212 วชิ าศลิ ปศึกษา (ทช21003) ม.ตน้ ใบงาน คาสั่ง 1. ใหผ้ เู้ รยี นทําแบบทดสอบก่อนเรยี นบทเรียนออนไลน์ท่ี 3 เร่อื ง ดนตรีไทย จํานวน 10 ข้อ 2. ให้ผูเ้ รยี นศกึ ษาใบความรบู้ ทเรยี นออนไลนท์ ่ี 3 เรื่อง ดนตรีไทย 3. ใหผ้ เู้ รยี นทํากิจกรรมที่ 3 เรื่อง ดนตรีไทย จาํ นวน 5 ขอ้ 4. ใหผ้ ู้เรยี นทาํ แบบทดสอบหลงั เรยี น เรือ่ ง ดนตรไี ทย จํานวน 10 ขอ้ https://youtu.be/nCnttRGrbRI ควิ อารโ์ ค้ด ดนตรไี ทย https://youtu.be/d9Vaav2iOlk คิวอารโ์ คด้ ประเภทของเครื่องดนตรไี ทย สแกนควิ อารโ์ ค้ด บทเรียนออนไลนท์ ่ี 3 เร่ือง ดนตรีไทย
บทเรยี นออนไลนท์ ่ี 3 213 วิชาศลิ ปศึกษา (ทช21003) ม.ตน้ แบบทดสอบก่อนเรยี น เร่อื ง ดนตรไี ทย ช่ือ-นามสกุล..............................................................รหัสนักศกึ ษา...................................................... คาช้ีแจง ใหน้ ักศกึ ษาเลอื กคาํ ตอบทถี่ กู ต้องท่ีสุดเพยี งคาํ ตอบเดียว จํานวน 10 ขอ้ (10 คะแนน) 1. เครอื่ งดนตรีในข้อใดทีไ่ มน่ าํ มาบรรเลงใน 5. ข้อใดไมใ่ ช่เครอ่ื งดนตรีสากลประเภทสาย วงโยธวาทติ ก.ฟลุต ก. เชลโล่ ข.กีตาร์ ข. เปียโน ค.แบนโจ ค. ทรมั เป็ท ง.ไวโอลนิ ง. ออร์แกน 6. ขอ้ ใดไม่ใช่ประเภทของเคร่อื งดนตรีสากล ก. ตี 2. เคร่ืองดนตรีชนดิ ใดเมือ่ เล่นเสรจ็ แลว้ ควรลด ข. ดดี สายให้หย่อนลง ค. เปา่ ก.ไวโอลนิ ง. เคาะ ข. ทรัมเปท ค.ทรอมโบน 7. ขอ้ ใดไม่ใช่คุณประโยชนข์ องเครือ่ งดนตรีท่ี ง. กลองใหญ่ มีตอ่ มนุษย์ ก.สร้างสมาธิ 3. ดนตรีสากลแบง่ เปน็ กี่ประเภท ข.กลอ่ มเกลาจิตใจให้สุขมุ ก. 4 ค.เปน็ เคร่ืองบาํ บดั ความเครียด ข. 5 ง.เกดิ ความวติ กกังวล หวาดกลัว ค. 6 ง. 7 8. ขอ้ ใดเป็นองคป์ ระกอบของดนตรีสากล ก.เสียง 4. ขอ้ ใดท่ีไม่ใช่เพลงทบี่ รรเลงโดยวง ข.ทํานอง ออรเ์ คสตรา้ ค.จงั หวะ ก.ซมิ โฟน่ี ง.ถูกทกุ ข้อ ข.โชนาตา ค.คอนเซอร์โต ง.เพลงเบด็ เตล็ด
บทเรียนออนไลน์ท่ี 3 214 9. ขอ้ ใดไมใ่ ช่เครื่องดนตรปี ระเภทเปา่ วิชาศลิ ปศกึ ษา (ทช21003) ม.ตน้ ก.วิโอลา ข.ทรมั เป็ต 10. ยุคใดมกี ารเปลย่ี นแปลง กฎเกณฑ์ ค.ทรอมโบน แบบแผน รปู แบบและหลกั ในการเลน่ ดนตรี ง.แซกโซโฟน มากที่สุด ก.ยคุ กลาง ข.ยคุ คลาสสิก ค.ยคุ เรเนสซองส์ ง.ยคุ บาโรค
บทเรียนออนไลนท์ ่ี 3 215 วชิ าศิลปศกึ ษา (ทช21003) ม.ตน้ เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น เรื่อง ดนตรีไทย 1.ข 2.ก 3.ค 4.ง 5.ก 6.ง 7.ง 8.ง 9.ก 10.ข
บทเรียนออนไลน์ท่ี 3 216 วชิ าศลิ ปศกึ ษา (ทช21003) ม.ต้น ใบความรู้ เร่ืองดนตรีไทย 1. ความหมาย ดนตรไี ทย หมายถึง เพลงไทยทีม่ รี ะดบั เสยี งซ่ึงประกอบข้นึ เปน็ ทำนองมีลลี า จังหวะ มีความ เสนาะไพเราะ ก่อใหเ้ กิดความร้สู ึกรืน่ เรงิ สนุกสนาน รัก อ่อนหวาน ให้ความสขุ เศรา้ โศก ปลุกจิตใจ ให้ฮกึ เหิม เป็นตน้ ดนตรไี ทย มีความสำคัญต่อการดำเนินวถิ ีชีวิตของคนไทยมาตัง้ แต่อดีตถงึ ปจั จุบัน นิยมให้มี วงดนตรีไทยร่วมบรรเลงด้วย เช่น งานขึ้นบ้านใหม่ งานทำบุญ งานบวชนาค งานมงคลสมรส งานเฉลมิ ฉลอง งานในเทศกาลตา่ งๆ ตลอดจนการบรรเลงประกอบการแสดง เป็นต้น 2. ความเปน็ มา ดนตรไี ทย เป็นดนตรที ีศ่ ิลปินสรา้ งสรรค์ขึ้น เพ่ือใช้บรรเลงในกจิ กรรมต่างๆ ของสงั คมทตี่ น อาศยั อยู่ เช่น บรรเลงประกอบพธิ ีกรรม บรรเลงเพอ่ื ความบันเทงิ ของผผู้คนในชุมชน เป็นต้น ลักษณะ และรูปแบบของดนตรีไทยนั้นจะมีความเรียบง่าย สำหรับในสังคมที่ใหญ่ขึ้น เช่น สงั คมเมอื ง รัฐทมี่ เี จ้าผู้ครองนคร มีพระมหากษตั ริย์ปกครอง เปน็ ตน้ การนำดนตรีเขา้ ไปใชใ้ นกิจกรรม ต่างๆ จะมีความประณตี มีการพฒั นาความสามารถของศิลปิน รูปแบบทางดนตรี เพลงร้อง ทำนอง ดนตรี จะมีระเบียบ มากขึน้ และใช้เป็นแบบแผนต่อกนั มาจนถงึ ปัจจุบัน สำหรบั การแบง่ ยุคสมัยทางดนตรีไทย จะนิยมจดั แบ่งตามการดำรงอยู่ของราชธานี คอื สมยั กอ่ นสโุ ขทยั สมัยสโุ ขทยั สมัยอยธุ ยา และสมัยรตั นโกสนิ ทร์ ดงั นี้ 2.1 สมัยก่อนสโุ ขทัย ดนตรีไทยสมัยก่อนสุโขทัยเปน็ ราชธานี จากหลักฐานทางโบราณคดี พบว่าได้มีการเล่นดนตรีกันในหลายลักษณะทั่วทุกอาณาจักรไม่ว่าจะเป็น อาณาจักร ล้านนา อาณาจักรทวารวดี ศรีวิชัย สุวรรณภูมิ ละโว้ เครื่องดนตรที ีใ่ ช้ ได้แก่ เครื่องดนตรีประเภท เครื่องดีด เช่น พิณน้ำเต้า พิณเพี๊ยะ พิณเปี๊ยะ เป็นต้น เครื่องดนตรีประเภทตี เช่น ฆ้องกลอง เป็นตน้ และเครอ่ื งดนตรปี ระเภทเปา่ เช่น แคน ปี่ เปน็ ต้น 2.2 สมัยสุโขทัย เครื่องดนตรีสมยั สุโขทัยมีความคล้ายคลึงกบั สมัยก่อนสุโขทัยเปน็ ราชธานี โดยเครอ่ื งดนตรีทปี่ รากฏในยคุ สมัยนี้ ได้แก่ กระจับป่ี พณิ นำ้ เตา้ พิณเปี๊ยะ ซอสามสาย ฆอ้ ง กลองทดั ตะโพน กลองตกุ๊ (กลองชาตรี) ทับ (โทน) มโหระทกึ บณั เฑาะว์ กังสดาล ฉงิ่ เปน็ ตน้ และได้มีการ ประสมวงดนตรีในรูแบบต่างๆ ขึ้น เช่น วงขับไม้ ใช้บรรเลงในงานพระราชพิธีสำคัญ ได้แก่ พระราชพิธขี บั กล่อมพระเศวตฉตั ร พระราชพธิ ีขับกลอ่ มพระบรรทมพระราชกุมารหรอื พระราชกุมารี พระราชพิธีขับกล่อมพระยาช้างเผือก มีการนำวงปีพาทย์เคร่ืองห้าไปใช้บรรเลงประกอบการแสดง ละครชาตรแี ละในพิธกี ารตา่ งๆ และวงมโหรีเคร่ืองสใี ชบ้ รรเลงในพระราชพธิ ต่ี า่ งๆ เปน็ ต้น 2.3 สมยั อยุธยา มกี ารประดิษฐ์เครื่องดนตรปี ระเภทสายขึน้ ไดแ้ ก่ ซอดว้ ง ซออู้ จะเข้ และ ยังไดม้ ีการปรับปรุงประสมวงดนตรขี น้ึ มาใหม่ ไดแ้ ก่ วงมโหรเี ครื่องหก วงปพ่ี าทย์เครือ่ งห้าและ
บทเรียนออนไลนท์ ่ี 3 217 วิชาศลิ ปศึกษา (ทช21003) ม.ต้น และวงเครื่องสาย ทใี่ ช้บรรเลงขับกล่อม ในงานมงคลท่ัวไป ส่วนเพลงไทยท่ีมีการประพนั ธข์ ้ึนในสมยั อยุธยา เช่น เพลงนางนาค ยิกนิ แปดบท สมงิ ทอง เขนง เป็นต้น 2.4 สมัยรัตนโกสินทร์ ดนตรีในสมัยรัตนโกสินทร์มีความเจริญรุ่งเรืองอย่างมาก โดยมี พัฒนาการมาจากดนตรีสมัยอยุธยา มีวงดนตรีหลายลักษณะเกิดข้ึน เช่น วงปี่พาทย์เสภา วงปี่พาทย์ เครื่องคู่ วงปี่พาทย์เครื่องใหญ่ วงปี่พาทย์ดึกดำบรรพ์ วงเครื่องสายไทย วงมหาดุริยางค์ไทย เป็นต้น สำหรับเครื่องดนตรีที่เกิดขึ้นหรือนำมาใช้ในวงดนตรีไทยมีหลายชนิด เช่น ฆ้องวงเล็ก ระนาดทุ้ม กลองสองหน้า อังกะลุง เป็นต้น ส่วนลักษณะของเพลงที่เกิดขึ้นในสมัยนี้ มีเพลงเถา เพลงโหมโรง เสภา เพลงละคร และเพลงสำเนยี งภาษา
บทเรียนออนไลนท์ ่ี 3 218 วิชาศลิ ปศึกษา (ทช21003) ม.ตน้ กจิ กรรม/แบบทดสอบท่ี 3 เร่อื ง ดนตรีไทย ชอ่ื -นามสกลุ ............................................................................รหสั นักศกึ ษา.................................. คำช้ีแจง จงตอบคำถามตอ่ ไปนใ้ี หถ้ ูกตอ้ ง จำนวน 5 ข้อ (10 คะแนน) 1. ดนตรไี ทย หมายถึง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. 2. เครอ่ื งดนตรไี ทยแบ่งเปน็ กปี่ ระเภท อะไรบา้ ง ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ……………………………………………………………………………………………………………………………………………. ชอื่ เคร่อื งดนตรี ................………………………............. 3. อยใู่ นลักษณะของเครื่องดนตรี …………...…………… มวี ธิ กี ารเลน่ ตีดว้ ยมอื ทง้ั สองข้าง โดยจบั ข้าง ละอัน ให้ดา้ นทเ่ี ป็นผวิ ไมก้ ระทบกนั ตีลงบรเิ วณใกล้ กบั ตอนหวั มเี สียงดงั กรับ กรับ 4. ชอื่ เครอ่ื งดนตร.ี ........................................................ อยใู่ นลักษณะของเครื่องดนตรี ……………………….…. มีวธิ กี ารจับขลุย่ น้นั จะใช้มือไหนอยบู่ นหรือล่าง ก็ไดข้ น้ึ อยกู่ ับความถนดั ของผู้เป่า 5. ชือ่ เครือ่ งดนตรี......................................................... อย่ใู นลกั ษณะของเครอื่ งดนตรี ……………………….…. มีวธิ ีการบรรเลงระนาดผู้บรรเลงนั่งพบั เพยี บ หรือขัดสมาธิ โดยใหล้ ำตัวอยู่กง่ึ กลางของเท้าระนาดการ จับไม้ระนาด ให้นิ้วช้อี ยดู่ ้านบนของก้านไม้
219 บทเรียนออนไลนท์ ี่ 3 วชิ าศิลปศึกษา (ทช21003) ม.ต้น เฉลยกจิ กรรม/แบบทดสอบท3ี่ เรอ่ื ง ดนตรไี ทย คำชี้แจง จงตอบคำถามต่อไปนีใ้ ห้ถกู ตอ้ ง จำนวน 5 ข้อ (10 คะแนน) 1. ดนตรีไทย หมายถึง ตอบ เพลงไทยท่ีมรี ะดับเสียงซง่ึ ประกอบขึ้นเปน็ ทำนอง มลี ลี า จงั หวะ มคี วามเสนาะ ไพเราะ กอ่ ใหเ้ กิดความรู้สึกร่นื เริง สนุกสนาน รัก ออ่ นหวาน ให้ความสุข เศรา้ โศก ปลุกจติ ใจให้ ฮกึ เหมิ 2. เครอื่ งดนตรีไทยแบ่งเป็น กป่ี ระเภท อะไรบา้ ง ตอบ สามารถจําแนกเปน 4 ประเภท คือ เครอื่ งดดี เครอ่ื งสี เคร่ืองตี เคร่อื งเปา 1. เครอื่ งดดี ไดแ้ ก่ กระจับป่ี พิณ นำ้ เต้า 2. เครอื่ งสี ได้แก่ ซอสามสาย ซอด้วงและซออู้ ดนตรี 3. เครอื่ งตี ไดแ้ ก่ ฆ้อง ระนาด ฉง่ิ ฉาบ กรับ และกลองประเภทตา่ ง ๆ 4. เคร่อื งเป่า ไดแ้ ก่ แตรเขาควาย แตรงอน แตรสงั ข์ ป่ใี น ขลยุ่ และปซี่ อ ชอ่ื เครอ่ื งดนตรี ................………กรบั ………………............... 3. อย่ใู นลักษณะของเครื่องดนตรี ……เครื่องต.ี ..……………….. มีวิธีการเล่น ตีด้วยมือทั้งสองข้าง โดยจับข้างละอัน ใหด้ ้านทีเ่ ป็นผวิ ไม้กระทบกัน ตีลงบรเิ วณใกลก้ บั ตอนหัว มี เสยี งดงั กรับ กรบั 4. ช่อื เครอ่ื งดนตรี ................………ขลุ่ย………………............... อยใู่ นลักษณะของเครื่องดนตรี ….......…เครอื่ งเป่า…........ มีวิธีการจับ ขลุ่ยนั้นจะใช้มือไหนอยูบ่ นหรือล่างกไ็ ด้ ขึน้ อยู่กับความถนัดของผ้เู ป่า 5. ชอ่ื เครื่องดนตรี................………ระนาด……………............... อยใู่ นลกั ษณะของเครอื่ งดนตรี ………....เครอ่ื งตี.............. มีวิธีการบรรเลง ระนาดผู้บรรเลงนั่งพับเพียบหรือ ขดั สมาธิ โดยใหล้ ำตวั อยกู่ ง่ึ กลางของเท้าระนาดการจับไม้ ระนาด ใหน้ ว้ิ ช้อี ย่ดู า้ นบนของกา้ นไม้
บทเรียนออนไลนท์ ่ี 3 220 วชิ าศลิ ปศกึ ษา (ทช21003) ม.ตน้ แบบทดสอบหลังเรยี น เรื่อง ดนตรีไทย ชื่อ-นามสกุล..............................................................รหสั นักศกึ ษา...................................................... คาช้ีแจง ใหน้ กั ศกึ ษาเลอื กคําตอบท่ถี ูกต้องที่สุดเพยี งคาํ ตอบเดยี ว จํานวน 10 ข้อ (10 คะแนน) 1. เครือ่ งดนตรใี นข้อใดท่ีไมน่ ํามาบรรเลงใน 5. ขอ้ ใดไม่ใช่เคร่ืองดนตรีสากลประเภทสาย วงโยธวาทิต ก. ฟลุต ก. เชลโล่ ข. กีตาร์ ข. เปียโน ค. แบนโจ ค. ทรมั เป็ท ง. ไวโอลนิ ง. ออรแ์ กน 6. ข้อใดไม่ใช่ประเภทของเครอ่ื งดนตรสี ากล 2. เครื่องดนตรีชนิดใดเม่อื เล่นเสร็จแล้วควรลด ก. ตี สายให้หย่อนลง ข. ดดี ก. ไวโอลิน ค. เป่า ข. ทรมั เปท ง. เคาะ ค.ทรอมโบน 7. ข้อใดไม่ใช่คุณประโยชนข์ องเคร่อื งดนตรที ี่ ง. กลองใหญ่ มตี อ่ มนษุ ย์ 3. ดนตรีสากลแบ่งเปน็ ก่ีประเภท ก. สรา้ งสมาธิ ก. 4 ข. กล่อมเกลาจติ ใจใหส้ ขุ ุม ข. 5 ค. เปน็ เครือ่ งบาํ บัดความเครยี ด ค. 6 ง. เกดิ ความวติ กกังวล หวาดกลวั ง. 7 8. ข้อใดเปน็ องคป์ ระกอบของดนตรีสากล 4. ขอ้ ใดทีไ่ มใ่ ช่เพลงที่บรรเลงโดยวง ก. เสยี ง ออรเ์ คสตร้า ข. ทาํ นอง ก. ซิมโฟน่ี ค. จงั หวะ ข. โชนาตา ง. ถูกทกุ ข้อ ค. คอนเซอร์โต ง. เพลงเบ็ดเตลด็
บทเรียนออนไลนท์ ่ี 3 221 9. ขอ้ ใดไม่ใช่เครือ่ งดนตรีประเภทเป่า วิชาศลิ ปศกึ ษา (ทช21003) ม.ตน้ ก. วิโอลา ข. ทรมั เป็ต 10. ยุคใดมีการเปล่ยี นแปลง กฎเกณฑ์ ค. ทรอมโบน แบบแผน รปู แบบและหลกั ในการเลน่ ดนตรี ง. แซกโซโฟน มากทส่ี ุด ก. ยคุ กลาง ข. ยุคคลาสสกิ ค. ยคุ เรเนสซองส์ ง. ยุคบาโรค
บทเรียนออนไลนท์ ่ี 3 222 วชิ าศิลปศกึ ษา (ทช21003) ม.ตน้ เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น เรื่อง ดนตรีไทย 1.ข 2.ก 3.ค 4.ง 5.ก 6.ง 7.ง 8.ง 9.ก 10.ข
บทเรียนออนไลนท์ ี่ 4 223 วิชาศิลปศึกษา (ทช21003) ม.ตน้ ใบงาน คาสง่ั 1. ใหผ้ ้เู รยี นทาํ แบบทดสอบกอ่ นเรยี นบทเรียนออนไลน์ท่ี 4 เร่ือง นาฏศลิ ปไ์ ทย จํานวน 10 ขอ้ 2. ให้ผูเ้ รยี นศกึ ษาใบความร้บู ทเรยี นออนไลน์ท่ี 4 เร่ืองนาฏศลิ ปไ์ ทย 3. ใหผ้ เู้ รยี นทํากิจกรรมท่ี 4 เร่อื งนาฏศลิ ป์ไทย จํานวน 3 ขอ้ 4. ให้ผเู้ รียนทําแบบทดสอบหลังเรยี น เรื่อง นาฏศิลปไ์ ทย จํานวน 5 ขอ้ https://youtu.be/ySUa5rQvj50 คิวอาร์โคด้ ประวตั ิความเป็นมาของนาฏศลิ ปไ์ ทย https://youtu.be/fWg0J1GC6Qw คิวอารโ์ คด้ ประเภทการแสดงนาฏศลิ ป์ไทย สแกนควิ อารโ์ ค้ด บทเรยี นออนไลน์ที่ 4 เรอ่ื ง นาฏศลิ ปไ์ ทย
บทเรยี นออนไลนท์ ่ี 4 224 วิชาศิลปศึกษา (ทช21003) ม.ตน้ แบบทดสอบก่อนเรยี น เร่ือง นาฏศลิ ป์ไทย ชื่อ-นามสกลุ ..............................................................รหสั นักศกึ ษา...................................................... คาชแ้ี จง ใหน้ กั ศึกษาเลอื กคาํ ตอบทถี่ กู ต้องท่ีสุดเพยี งคาํ ตอบเดียว จํานวน 10 ขอ้ (10 คะแนน) 1. นาฎยศัพท์ คือ ศพั ท์ทใ่ี ช้เก่ยี วกับท่ารํา 4. ศิลปะการเตน้ ราํ ทีไ่ ด้ตน้ แบบมาจาก การยกแขนให้ไดส้ ่วนยกสูง ตั้งข้อมือ ฝา่ มือ ภาพวาดบนผนงั ถา้ํ จดั อยใู่ นยดุ ใด ? เหยยี ดตรงทั้งสี่น้ิว นิ้วหวั แมม่ อื งอเข้าหาฝา่ มือ ก. ยุคกลาง เลก็ น้อย หกั ข้อมอื เข้าหาลําแขน หมายถึง ข. ยุคโบราณ ขอ้ ใด ค. ยุคโรแมนติค ก. กนั วง ง. ยุคกอ่ นประวัตศิ าสตร์ ข. ตั้งวง 5 . ภาษาทางนาฏศลิ ป์ ใช้เรยี กการแสดง ค. จบี หงาย ท่าทางแทนคําพดู ของตวั ละครว่าอยา่ งไร ง. จบี วง ก. การตบี ท 2.ภาษาทางนาฏศิลปใ์ ชเ้ รียกการแสดงทา่ ทาง ข. นาฏศพั ท์ ในการพดู ของตวั ละครวา่ อยา่ งไร ค. บทของละคร ก. นาฏยศพั ท์ ง. ภาษาการแสดง ข. การตบี ท 6. ผแู้ สดงเปน็ หญงิ ล้วน คอื ละครข้อใด ค. บทของละคร ก. ละครใน ง. ภาษาของการแสดง ข. ละครนอก 3.การละครทใี่ ช้ผแู้ สดงเปน็ ชายล้วน และมีตวั ง. ละครดึกดาํ บรรพ์ แสดงเพยี ง 3 ตวั คือละครในขอ้ ใด ค. ละครชาตรี ก. ละครใน 7. ทา่ ราํ จบี ปรกสูงเหนือศีรษะ หมายถึงข้อใด ข. ละครนอก ก. ยินดี ค. ละครชาตรี ข. คดิ ถงึ ง. ละครดกึ ดําบรรพ์ ค. สญู ส้นิ ง. รม่ เย็น
บทเรยี นออนไลน์ท่ี 4 225 วชิ าศิลปศกึ ษา (ทช21003) ม.ตน้ 8. คาํ ศัพทท์ ี่ใช้เรียกชือ่ ท่ารํา เชน่ จบี มอื ต้ังวง 10. การละครทใ่ี ช้ผูแ้ สดงเปน็ ชายล้วน และมี และสอดมอื คอื ข้อใด ตัวแสดงเพียง 3 ตัว คือละครในขอ้ ใด ก. การตบี ท ก. ละครนอก ข. นาฎยศพั ท์ ข. ละครเสภา ง. ศพั ท์การแสดง ค. ละครชาตรี ค. ภาษามอื ง. ละครดกึ คําบรรพ์ 9. การเสดง \"โขน\" ท่ีไมม่ ีการสร้างโรง แสดง กับพืน้ ดินกลางสนาม นิยมเลน่ ตอนการรบ การยกทัพ คอื ขอ้ ใด ก. โขนกลางแปลง ข. โขนโรงใน ค. โขนหนา้ ข่อ ง. โขนโรงนอกหรือโขนนงั่ ราว
บทเรียนออนไลนท์ ่ี 4 226 วชิ าศลิ ปศึกษา (ทช21003) ม.ตน้ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น เร่ือง นาฏศิลปไ์ ทย 1. ข 2. ข 3. ข 4. ง 5. ก 6. ก 7. ง 8. ข 9. ข 10. ก
227 บทเรียนออนไลน์ท่ี 4 วชิ าศิลปศึกษา (ทช21003) ม.ตน้ ใบความรู้ เร่ือง นาฏศิลปไทย นาฏศิลป์ คือ ศิลปะการร้องรําทําเพลง ที่มนุษย์เป็นผู้สร้างสรรค์ โดยประดิษฐ์ข้ึนอย่าง ประณีตและมีแบบแผน ให้ความรู้ ความบันเทิง ซึ่งเป็นพ้ืนฐานสําคัญที่แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรม ความรุ่งเรอื ง ของชาติไดเ้ ปน็ อย่างดี ความเปน็ มาของนาฏศิลป์ นาฏศลิ ป์ หรอื ศิลปะแหง่ การแสดงละครฟอ้ นรํานน้ั มคี วามเปน็ มาที่สาํ คญั 4 ประการคอื 1. เกิดจากการที่มนุษย์ต้องการแสดงอารมณ์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ ให้ปรากฏออกมาโดยมี จดุ ประสงคเ์ พ่อื การสือ่ ความหมายเปน็ สําคัญเร่ิมต้ังแต่ 1.1 มนุษย์แสดงอารมณ์ตามธรรมชาติออกมาตรง ๆ เช่น การเสียใจก็ร้องไห้ ดีใจก็ปรบมือ หรอื ส่งเสยี งหวั เราะ 1.2 มนุษย์ใช้กริยาอาการเป็นการสื่อความหมายให้ชัดเจนข้ึน กลายเป็นภาษาท่า เช่น กวักมือเขา้ มาหาตวั เอง 1.3 มีการประดิษฐ์คิดท่าทางให้มีลีลาที่วิจิตรบรรจงข้ึน จนกลายเป็นท่วงทีลีลาการฟอ้ นรําท่ี งดงามมีลักษณะท่ีเรียกวา่ “นาฏยภาษา”หรอื “ภาษานาฏศลิ ป์” ท่สี ามารถสอ่ื ความหมายดว้ ยศิลปะ แห่งการแสดงทา่ ทางทงี่ ดงาม 2. เกิดจากการท่ีมนุษย์ต้องการเอาชนะธรรมชาติด้วยวิธตี ่าง ๆ ท่ีนําไปสู่การปฏิบัติเพื่อบูชา สิ่งท่ีตนเคารพตามลัทธิศาสนาของตน ต่อมาจึงเกิดเป็นความเชื่อในเรื่องเทพเจ้า ซ่ึงถือว่าเป็น ส่ิงศักดิ์สิทธ์ิที่เคารพบูชา โดยจะเริ่มจากวิงวอนอธิษฐาน จนมีการประดิษฐ์เครือ่ งดนตรี ดีด สี ตี เป่า ตา่ ง ๆ การเล่นดนตรี การร้องและการรํา จงึ เกิดข้นึ เพื่อให้เทพเจา้ เกดิ ความพอใจมากยิ่งข้ึน 3. เกิดจากการเล่นเลียนแบบของมนุษย์ ซึ่งเป็นการเรียนรู้ในขั้นต้นของมนุษย์ ไปสู่การ สร้างสรรค์ศิลปะแบบต่าง ๆ นาฏศิลป์ก็เช่นกันจะเห็นว่ามนุษย์นิยมเลียนแบบสิ่งต่างๆ ทั้งจาก มนุษย์เอง สังเกตจาก เด็ก ๆ ชอบแสดงบทบาทสมมุติเป็นพ่อเป็นแม่ในเวลาเล่นกัน เช่น การเล่น ตุ๊กตา การเล่นหม้อข้าวหม้อแกง หรือเลียนแบบจากธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ทําให้เกิดการ เล่น เช่น การเล่นงูกินหาง การแสดงระบําม้า ระบํากาสร ระบํานกยูง ( ทรงศักด์ิ ปรางค์วัฒนากุล : ม.ป.ป. ) 4. เกิดจากการที่มนุษย์คิดประดิษฐ์หาเคร่ืองบันเทิงใจ หลังจากการหยุดพักจากภารกิจ ประจําวัน เริ่มแรกอาจเป็นการเล่านิทาน นิยาย มีการนําเอาดนตรีและการแสดงท่าทางต่าง ๆ ประกอบเป็นการร่ายราํ จนถึงการแสดงเปน็ เรอื่ งราว
บทเรยี นออนไลนท์ ่ี 4 228 วชิ าศิลปศกึ ษา (ทช21003) ม.ตน้ เอกลกั ษณข์ องนาฏศลิ ป์ไทย 1. มีทา่ รำออ่ นชอ้ ย งดงาม และแสดงอารมณ์ ตามลักษณะท่ีแทจ้ ริงของคนไทย ตลอดจนใช้ลลี า การเคล่ือนไหวท่ดี สู อดคลอ้ งกัน 2. เครื่องแต่งกายจะแตกต่างกับชาติอื่น ๆ มีแบบอย่างของตนโดยเฉพาะ ขนาดยืดหยุ่นได้ ตามสมควร เครื่องแต่งกายบางประเภท เช่น เครื่องแต่งกายยืนเครื่อง การสวมใส่จะใช้ตรึงด้วยด้าย แทนท่ีจะเยบ็ สำเรจ็ รปู เปน็ ต้น 3. มีเครื่องประกอบจังหวะหรือดนตรีประกอบการแสดง ซึ่งอาจมีแต่ทำนองหรือมีบทร้อง ผสมอยู่ 4. ถา้ มคี ำร้องหรือบทร้องจะเป็นคำประพันธ์ ส่วนมากแล้วมีลกั ษณะเป็นกลอนแปด สามารถ นำไปร้องเพลงชั้นเดียว หรือสองชั้นได้ทุกเพลง คำร้องนี้ทำให้ผู้สอนหรือผู้รำกำหนดท่ารำไปตามบท ร้อง การอนรุ กั ษน์ าฏศิลปไ์ ทย 1. การอนุรักษ์รูปแบบ หมายถึง การรักษาให้คงรูปดังเดิม เช่น เพลงพื้นบ้านก็ต้องรักษา ขน้ั ตอนการร้อง ทำนอง การแตง่ กาย ทา่ รำ ฯลฯ หรอื หากจะผลติ ข้ึนใหม่ก็ใหร้ กั ษารูปแบบเดมิ ไว้ 2. การอนุรักษ์เนื้อหา หมายถึง การรักษาในด้านเนื้อหาประโยชน์คุณค่าด้วยวิธีการผลิต การรวบรวมขอ้ มูลเพ่ือการศึกษา เชน่ เอกสาร และสอ่ื สารสนเทศต่างๆ การอนุรักษ์ทั้ง 2 แบบนี้ หากไม่มีการสืบทอดและส่งเสริม ก็คงไว้แต่ประโยชน์ในที่นี้จะขอ นำเสนอแนวทางในการสง่ เสรมิ เพ่ืออนุรกั ษ์นาฏศิลป์ไทย ดงั นี้ 1. จัดการศึกษาเฉพาะทาง ส่งเสริมให้มีสถาบันการศึกษาด้านนาฏศิลป์จัดการเรียนการสอน เพอ่ื สบื ทอดงานศลิ ปะด้านนาฏศิลป์ เช่น วิทยาลยั นาฏศิลป์ สถาบนั เอกชน องค์กรของรฐั บางแหง่ ฯลฯ 2. จัดการเรียนการสอนในขั้นพ้ืนฐาน โดยนำวิชานาฏศลิ ป์จดั เข้าในหลักสูตรและเข้าสูร่ ะบบ การเรียนการสอนทุกระดับ ตามระบบที่ควรจะให้เยาวชนได้รับรู้เป็นขั้นตอนตั้งแต่อนุบาล – ประถมศึกษา มัธยมศึกษา และอุดมศึกษา ตลอดจนสถาบันการศึกษาทุกระดับ จัดรวบรวมข้อมูล ต่างๆ เพอ่ื ประโยชน์ต่อการศกึ ษาคน้ ควา้ และบรกิ ารแก่ชมุ ชนได้ด้วย 3. มีการประชาสัมพันธ์ในรูปแบบสื่อโฆษณาต่างๆ ทั้งวิทยุ โทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ โดยนำศิลปวฒั นธรรมดา้ นนาฏศิลป์เข้ามาเกีย่ วข้องเพ่ือเป็นการสร้างบทบาทของความเปน็ ไทยให้เป็น ทร่ี จู้ กั 4. จัดเผยแพร่ ศิลปวัฒนธรรม ในรูปแบบการแสดงนาฏศิลป์แก่หน่วยงานรัฐและเอกชน โดยทวั่ ไปทัง้ ภายในประเทศและต่างประเทศ 5. สง่ เสรมิ และปลูกฝังมรดกทางศลิ ปวฒั นธรรมภายในครอบครวั ให้รซู้ งึ้ ถงึ ความเปน็ ไทยและ อนรุ ักษ์รักษาเอกลกั ษณ์ไทย
บทเรยี นออนไลน์ท่ี 4 229 วชิ าศิลปศึกษา (ทช21003) ม.ตน้ กิจกรรม/แบบทดสอบที่ 4 นาฏศลิ ปไ์ ทย ชอื่ -นามสกุล..............................................................รหสั นักศึกษา...................................................... คาชแี้ จง อธบิ ายใหไ้ ด้ใจความท่สี ําคัญ 1. นาฏศิลป์ หมายถงึ ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... 2. เอกลกั ษณ์ของนาฏศลิ ป์ไทย มอี ะไรบ้าง ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... ........................................................................................................................................................... 3. บอกแนวทางในการสง่ เสริมเพ่ืออนุรักษ์นาฏศลิ ปไ์ ทย ………………………………………………………………………………………………………………………………………… …....…………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………… …………………………………….…………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………..………………………………………
บทเรียนออนไลนท์ ่ี 4 230 วิชาศิลปศกึ ษา (ทช21003) ม.ตน้ เฉลยกจิ กรรม/แบบทดสอบที่ 4 เร่ืองนาฏศิลป์ไทย คาช้แี จง อธิบายให้ไดใ้ จความที่สําคญั 1. นาฏศิลป์ หมายถงึ ตอบ ศลิ ปะการร้องรําทําเพลง ที่มนุษยเ์ ป็นผู้สร้างสรรค์ โดยประดิษฐข์ ึ้นอยา่ งประณตี และมีแบบแผน ให้ความรู้ ความบนั เทิง ซึง่ เป็นพนื้ ฐานสาํ คญั ทแี่ สดงใหเ้ ห็นถงึ วัฒนธรรมความรุง่ เรอื ง ของชาติได้เป็น อย่างดี 2. เอกลักษณข์ องนาฏศิลปไ์ ทย มีอะไรบา้ ง ตอบ 1. มที ่าราํ ออ่ นชอ้ ย งดงาม และแสดงอารมณ์ ตามลักษณะท่ีแทจ้ ริงของคนไทย ตลอดจนใช้ลลี าการ เคลือ่ นไหวท่ดี สู อดคล้องกนั 2. เคร่ืองแตง่ กายจะแตกต่างกบั ชาตอิ ื่น ๆ มแี บบอยา่ งของตนโดยเฉพาะ ขนาดยดื หยนุ่ ได้ตามสมควร เครื่องแต่งกายบางประเภท เช่น เครอื่ งแต่งกายยืนเครื่อง การสวมใสจ่ ะใช้ตรงึ ด้วยด้ายแทนท่ีจะเยบ็ สาํ เรจ็ รปู เป็นต้น 3. มเี ครอื่ งประกอบจังหวะหรอื ดนตรีประกอบการแสดง ซ่งึ อาจมแี ต่ทํานองหรอื มีบทรอ้ งผสมอยู่ 4. ถา้ มคี ํารอ้ งหรอื บทร้องจะเปน็ คาํ ประพันธ์ ส่วนมากแล้วมลี กั ษณะเปน็ กลอนแปด สามารถนาํ ไปรอ้ ง เพลงช้ันเดียว หรือสองชัน้ ได้ทกุ เพลง คําร้องน้ที ําใหผ้ สู้ อนหรอื ผู้รํากําหนดทา่ ราํ ไปตามบทร้อง 3. บอกแนวทางในการส่งเสรมิ เพือ่ อนุรักษ์นาฏศลิ ปไ์ ทย ตอบ 1. จัดการศึกษาเฉพาะทาง ส่งเสริมให้มีสถาบันการศึกษาด้านนาฏศิลป์จัดการเรียนการสอน เพ่อื สบื ทอดงานศิลปะดา้ นนาฏศิลป์ เช่น วิทยาลยั นาฏศิลป์ สถาบนั เอกชน องคก์ รของรัฐบางแหง่ ฯลฯ 2. จัดการเรียนการสอนในขัน้ พืน้ ฐาน โดยนําวชิ านาฏศิลป์จัดเข้าในหลกั สูตรและเข้าสู่ระบบการเรียน การสอนทุกระดับ ตามระบบที่ควรจะให้เยาวชนได้รับรู้เป็นขั้นตอนตั้งแต่อนุบาล – ประถม มัธยมศึกษา และอุดมศึกษา ตลอดจนสถาบันการศึกษาทุกระดับ จัดรวบรวมข้อมูลต่างๆ เพือ่ ประโยชน์ต่อการศกึ ษาค้นคว้า และบริการแกช่ มุ ชนได้ด้วย 3. มีการประชาสัมพันธ์ในรูปแบบสื่อโฆษณาต่างๆ ท้ังวิทยุ โทรทัศน์ และหนังสือพิมพ์ โดยนําศลิ ปวัฒนธรรมด้านนาฏศลิ ป์เข้ามาเกีย่ วขอ้ งเพ่อื เปน็ การสร้างบทบาทของความเป็นไทยให้เป็น ทีร่ จู้ ัก 4. จดั เผยแพร่ ศิลปวฒั นธรรม ในรูปแบบการแสดงนาฏศิลป์แก่หน่วยงานรัฐและเอกชน โดยทวั่ ไปท้ัง ภายในประเทศและตา่ งประเทศ 5. ส่งเสริมและปลูกฝังมรดกทางศิลปวัฒนธรรมภายในครอบครวั ใหร้ ู้ซงึ้ ถึงความเป็นไทยและอนุรักษ์ รักษาเอกลักษณไ์ ทย
บทเรยี นออนไลน์ท่ี 4 231 วิชาศิลปศกึ ษา (ทช21003) ม.ต้น แบบทดสอบหลังเรียน เร่อื ง นาฏศิลป์ไทย ชื่อ-นามสกลุ ..............................................................รหัสนกั ศึกษา...................................................... คาชี้แจง ใหน้ ักศกึ ษาเลอื กคาํ ตอบที่ถกู ต้องที่สุดเพยี งคําตอบเดยี ว จํานวน 10 ขอ้ (10 คะแนน) 1. นาฎยศพั ท์ คือ ศพั ท์ท่ใี ช้เกี่ยวกับทา่ ราํ การ 5. ภาษาทางนาฏศิลป์ ใชเ้ รียกการแสดง ยกแขนใหไ้ ด้สว่ นยกสูง ต้งั ข้อมอื ฝ่ามือเหยยี ด ท่าทางแทนคําพดู ของตวั ละครวา่ อย่างไร ตรงทง้ั ส่นี ิว้ น้ิวหวั แม่มอื งอเขา้ หาฝา่ มือ ก. การตีบท เล็กน้อย หักขอ้ มือเข้าหาลําแขน หมายถึงข้อใด ข. นาฏศัพท์ ก. กนั วง ค. บทของละคร ข. ต้ังวง ง. ภาษาการแสดง ค. จบี หงาย 6. ผแู้ สดงเป็นหญงิ ล้วน คอื ละครข้อใด ง. จีบวง ก. ละครใน ข. ละครนอก 2. ภาษาทางนาฏศิลป์ใช้เรียกการแสดงท่าทาง ง. ละครดกึ ดําบรรพ์ ในการพดู ของตวั ละครว่าอยา่ งไร ค. ละครชาตรี ก.นาฏยศัพท์ 7. ท่าราํ จีบปรกสูงเหนือศีรษะ หมายถึงข้อใด ข.การตบี ท ก. ยนิ ดี ค.บทของละคร ข. คดิ ถงึ ง.ภาษาของการแสดง ค. สูญส้ิน 3. การละครที่ใชผ้ ูแ้ สดงเป็นชายล้วนและมี ง. รม่ เย็น ตวั แสดงเพียง 3 ตัว คือละครในขอ้ ใด 8. คาํ ศพั ทท์ ่ีใชเ้ รียกชือ่ ท่ารํา เช่น จีบมอื ตั้งวง ก. ละครใน และสอดมอื คือขอ้ ใด ข. ละครนอก ก. การตบี ท ค. ละครชาตรี ข. นาฎยศพั ท์ ง. ละครดึกดําบรรพ์ ค. ภาษามอื 4. ศิลปะการเตน้ ราํ ทไ่ี ด้ต้นแบบมาจาก ง. ศพั ทก์ ารแสดง ภาพวาดบนผนงั ถ้ําจดั อยใู่ นยุดใด ? ก. ยุคกลาง ข. ยุคโบราณ ค.ยุคโรแมนตคิ ง.ยุคกอ่ นประวัติศาสตร์
บทเรยี นออนไลน์ที่ 4 232 วิชาศิลปศกึ ษา (ทช21003) ม.ตน้ 9. การเสดง \"โขน\" ท่ไี มม่ กี ารสรา้ งโรง แสดง 10. การละครท่ใี ช้ผแู้ สดงเป็นชายถว้ น และมี กบั พ้ืนดินกลางสนาม นิยมเลน่ ตอน ตัวแสดงเพียง 3 ตวั คอื ละครในขอ้ ใด การรบ การยกทัพ คือขอ้ ใด ก. ละครนอก ก. โขนกลางแปลง ข. ละครเสภา ข. โขนโรงใน ค. ละครชาตรี ค. โขนหนา้ ขอ่ ง. ละครดกึ คาํ บรรพ์ ง. โขนโรงนอกหรอื โขนนงั่ ราว
บทเรียนออนไลนท์ ่ี 4 233 วชิ าศลิ ปศึกษา (ทช21003) ม.ตน้ เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น เร่ือง นาฏศิลปไ์ ทย 1. ข 2. ข 3. ข 4. ง 5. ก 6. ก 7. ง 8. ข 9. ข 10. ก
บทเรียนออนไลนท์ ่ี 5 234 วิชาศลิ ปศึกษา (ทช21003) ม.ตน้ ใบงาน คาส่งั 1. ให้ผเู้ รียนทาํ แบบทดสอบกอ่ นเรยี นบทเรียนออนไลน์ที่ 5 เรือ่ ง นาฏศลิ ปไ์ ทยกับการประกอบอาชีพ จํานวน 10 ขอ้ 2. ให้ผเู้ รียนศกึ ษาใบความรูบ้ ทเรยี นออนไลนท์ ่ี 5 เรื่องนาฏศลิ ป์ไทยกับการประกอบอาชพี 3. ใหผ้ ูเ้ รียนทาํ กิจกรรมที่ 5 เรอ่ื งนาฏศิลปไ์ ทยกบั การประกอบอาชีพ จาํ นวน 4 ข้อ 4. ให้ผู้เรยี นทาํ แบบทดสอบหลงั เรียน เรื่อง นาฏศิลปไ์ ทยกบั การประกอบอาชีพจํานวน 10 ขอ้ https://youtu.be/W_Nz28J3ZjQ อาชีพหนังตะลุง https://youtu.be/aeBdZ8LQG0o อาชพี ลเิ ก https://youtu.be/oDbHO_5yoVI อาชีพหมอลา shorturl.asia/gfX08 คณุ สมบัติของนักแสดงท่ดี ี สแกนคิวอาร์โคด้ บทเรยี นออนไลน์ท่ี 5 เรือ่ ง นาฏศิลป์ไทยกับการประกอบอาชีพ
บทเรียนออนไลนท์ ี่ 5 235 วชิ าศิลปศึกษา (ทช21003) ม.ต้น แบบทดสอบกอ่ นเรยี น เรื่อง นาฏศลิ ป์ไทยกบั การประกอบอาชพี ชอ่ื -นามสกุล..............................................................รหัสนกั ศกึ ษา...................................................... คำช้แี จง ให้นกั ศึกษาเลอื กคำตอบท่ถี กู ต้องที่สดุ เพยี งคำตอบเดียว จำนวน 10 ข้อ (10 คะแนน) 1. ข้อใดเปน็ ลกั ษณะของการวิจารณ์นาฏศลิ ปท์ ดี่ ี 5. นาฏศิลปไ์ ทยมีท่ีมาและเกิดขึน้ จาก ก. เลอื กใชภ้ าษาหยาบคายเพ่อื เรา้ อารมณผ์ ฟู้ งั สาเหตุ ตามแนวคิดอะไร หรอื ผอู้ ่าน ก. เกิดจากการสรา้ งสรรค์ของมนษุ ย์ ข. ติ หรอื ชม ใหเ้ กิดผลในทางลบ ข. เกิดจากธรรมชาติกำหนดขึน้ มาเอง ค. การเปรยี บเทยี บเพอื่ ใหเ้ ห็นขอ้ บกพรอ่ ง ค. เกดิ จากเหตกุ ารณท์ ส่ี ำคญั ทตี่ อ้ งการจารกึ ไว้ อยา่ งชัดเจน ง. เกิดจากความรสู้ กึ กระทบกระเทอื นทาง ง. ลอกเลียนแบบผลงานใหม้ ีความเหมือนทส่ี ุด อารมณ์ 2. นาฏศิลป์ทจี่ ดั วา่ เป็นนาฏศลิ ปส์ ากลนัน้ 6. ขอ้ ใดไม่ใชจ่ ารีตในนาฏศลิ ป์ไทย จะต้องมีคณุ ลกั ษณะอย่างไร ก. ตัวพระห้อยอุบะด้านขวา ตัวนางห้อยอบุ ะ ก. มีลักษณะเฉพาะท่ที กุ ชาติเขา้ ใจ ยอมรบั ด้านซ้าย และเผยเเพร่ไปทั่วโลก ข. ประไหมสหุ รนี ง่ั ทางขวามอื ของทา้ วดาหา ข. ต้องเปน็ การแสดงทางภาคอสี านเทา่ น้ัน ส่วนมะเตทวนี ่งั ทางดา้ นมอื ซา้ ยของท้าวดาหา เพราะเปน็ นาฏศลิ ปส์ ากล ค. ตัวละครจะถืออาวธุ ด้วยมอื ขวาเท่าน้นั ค. แบบไหนกไ็ ด้ เพราะ อินด้ี ง. เมือ่ ตัวละครต่อส้กู ัน ฝ่ายธรรม/ฝ่ายชนะ ง. ถกู ทกุ ขอ้ จะอยูด่ ้านขวามือของเวทีเสมอ 3. เอกลกั ษณ์อันสะทอ้ นความงามของ 7. การแสดงนาฎศิลป์ชั้นสงู ของไทยทมี่ ี นาฎศลิ ป์ไทยคืออะไร เอกลักษณค์ อื อะไร ก. บทละคร ก. โขน ข. องค์ประกอบในการปฏบิ ัตทิ า่ รำ ข. ละคร ค. สขี องเครอ่ื งแตง่ กายตอ้ งฉูดฉาดสรา้ ง ค. ระบำ จุดเดน่ ง. เพลงพ้ืนบ้าน ง. ต้องใช้เรอื่ งราวท่แี ปลมาจากต่างประเทศ 8. ศลิ ปะการรา่ ยรำทเ่ี ลน่ เป็นเร่อื งราว มี 4. ข้อใดไมใ่ ช่ลักษณะของนาฎศลิ ปพ์ ้ืนเมอื ง พัฒนาการมาจากการเล่านทิ าน คอื ศลิ ปะชนิดใด ก. เนือ้ เรือ่ งตอ้ งเปน็ สากล ก. โขน ข. เน้นความปราณตี ข. ละคร ค. ใช้เครื่องดนตรที อ้ งถิน่ ค. หนงั ตะลงุ ง. สะทอ้ นวิถีชวี ติ ง. รำตดั
บทเรียนออนไลน์ท่ี 5 236 วชิ าศลิ ปศึกษา (ทช21003) ม.ตน้ 9. การแสดงนาฏศิลปัไทย ทนี่ ยิ มอย่เู พยี งเรื่อง 10. ข้อใดเปน็ การอนรุ ักษ์วฒั นธรรมและ เดยี ว คือเร่ืองรามเกยี รติ์ซึง่ ไดเ้ คา้ เดมิ มาจาก ศลิ ปการแสดงของไทย เรื่องรามายณะของอนิ เดียคอื อะไร ก. ปู่พาหลานไปกินไอศกรมี ท่ีร้าน ใกล้ๆ ก. ละคร โรงเรียนสอนนาฏศิลป์ ข. ลเิ ก ข. แม่อธบิ ายเร่ืองราวในการแสดงโขนให้ลูกฟงั ค. โขน ค. พกี่ ับนอ้ งเปลย่ี นช่องไปดูละครเมื่อมีข่าว ง. ระบาํ การแสดงนาฏศลิ ป์ ง. ปา้ กบั ลงุ ชอบราํ แก้บนทว่ี ดั ใกล้บ้าน
บทเรียนออนไลน์ที่ 5 237 วิชาศลิ ปศึกษา (ทช21003) ม.ตน้ เฉลยแบบทดสอบกอ่ นเรยี น เรอื่ ง นาฏศิลป์ไทยกบั การประกอบอาชีพ 1. ค 2. ง 3. ข 4 .ก 5. ง 6. ค 7. ก 8. ข 9. ค 10. ข
บทเรยี นออนไลนท์ ี่ 5 238 วิชาศลิ ปศกึ ษา (ทช21003) ม.ต้น ใบความรู้ เร่อื ง นาฏศลิ ป์ไทยกับการประกอบอาชพี นาฏศิลป์ไทยเป็นการแสดงศิลปะที่เป็นเอกลักษณ์ของไทย เป็นเรื่องที่มีความเกี่ยวข้อง สัมพันธ์ กับประวัติศาสตร์ไทย วัฒนธรรมไทย เป็นการละเล่นเพื่อความบันเทิง รื่นเริงของชาวบ้าน ภายหลังฤดูเก็บเกี่ยว นาฏศิลป์ไทยมีหลายประเภท เช่น โขน ละคร รํา การละเล่นพื้นเมือง เป็นต้น สําหรับแนวทางในการประกอบอาชีพนาฏศลิ ป์ไทยนัน้ ได้แก่ อาชีพการละเลน่ พื้นเมอื งของแต่ละภาค ดังนี้ 1. อาชีพการแสดงหนังตะลงุ 2. อาชีพการแสดงลเิ ก 3. อาชพี การแสดงหมอลํา ผู้เรยี นสนใจทจี่ ะศกึ ษาแนวทางการประกอบอาชพี ดา้ นนี้ต้องมีความสนใจ และมีความเชือ่ ม่ัน ในตัวเอง พร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ เกี่ยวกับอาชีพดังกล่าวโอกาสก้าวหน้าในอาชีพ เป็นนักแสดง โอกาสกา้ วหนา้ ขึ้นอย่กู ับความสามารถของผ้แู สดง และความนยิ มของผู้ชม ท้ังนอี้ ยทู่ ีก่ ารพัฒนาตนเอง และการใฝ่หาความรู้ของผทู้ จี่ ะประกอบอาชพี 1. อาชพี การแสดงหนงั ตะลุง หนังตะลุง คือ ศิลปะการแสดงประจําท้องถิ่นอย่างหนึ่งของภาคใต้ เป็นการเล่าเรื่องราวท่ี ผูกร้อยเป็นนิยาย ดําเนินเร่ืองด้วยบทร้อยกรองที่ขับร้องเป็นสำเนียงท้องถิ่น หรือที่เรียกกันว่าการ “ว่าบท” มีบทสนทนาแทรกเป็นระยะ และใช้การแสดงเงาบนจอผ้าเป็นสิ่งดึงดูดสายตาของผู้ชม ซึ่ง การว่าบท การสนทนา และการแสดงเงานี้นายหนังตะลุงเป็นคนแสดงเองทั้งหมด หนังตะลุงเป็น มหรสพที่นิยมแพร่หลายอย่างยิ่งมาเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในยุคสมัยก่อนที่ไม่มี ไฟฟ้าใช้กันทั่วถึง ทุกหมู่บ้านอย่างในปัจจุบัน หนังตะลุงแสดงได้ทั้งในงานบุญและงานศพ ดังนั้น งานวัด งานศพ หรือ งานเฉลิมฉลองที่สําคัญจึงมักมีหนังตะลุงมาแสดงให้ชมด้วยเสมอ ปัจจุบัน โครงการศิลปินแห่งชาติ สํานักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ ได้ส่งเสริมให้มีการอนุรักษ์และสืบทอดศิลปะการแสดง หนังตะลุงให้แก่อนุชนร่นุ หลงั เพ่อื รักษามรดกทางวฒั นธรรมอันทรงคุณค่านี้ให้คงอยู่สบื ไป 2. อาชพี การแสดงลเิ ก ลิเก เกิดขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 คําว่า ลิเก ในภาษามลายู แปลว่า ขับร้อง เดิมเป็นการสวด บูชาพระ ในศาสนาอิสลาม สวดเพลงแขกเข้ากับจังหวะรํามะนา พวกแขกเจ้าเซ็นได้สวดถวายตัวเป็น ครั้งแรกในการบําเพ็ญพระราชกุศล เมื่อ พ.ศ. 2423 ต่อมาคิดสวดแผลงเป็นลํานําต่างๆ ร้องเป็น เพลงต่าง ๆภาษา และทําตัวหนังเชิด โดยเอารํามานาเป็นจอ ก็มีลิเกจึงกลายเป็นการละเล่นขึ้นต่อมา มผี ้คู ิดเลน่ ลเิ กอยา่ งละคร คอื เรม่ิ ร้องเพลงแขกแล้วตอ่ ไปเล่นอยา่ งละครราํ และใชป้ พ่ี าทย์อยา่ งละคร
บทเรยี นออนไลน์ท่ี 5 239 วิชาศิลปศึกษา (ทช21003) ม.ตน้ ลเิ กประจำถน่ิ มี 4 แบบ คือ ลิเกบันตน เริ่มด้วยร้องเพลงบันตน (เพี้ยนจาก ปันตน) เป็นภาษามลายู ต่อมาก็แทรกคำไทย เข้าไปบ้าง ดนตรีก็ใช้รำมะนา จากนั้นก็แสดงเป็นชุด ๆ ต่างภาษา เช่น แขก ลาว มอญ พม่า ต้องเริ่ม ด้วยชดุ แขกเสมอ ผู้แสดงแตง่ ตัวเปน็ ชาติต่าง ๆ รอ้ งเอง พวกตรี ำมะนาเป็นลูกคู่ มีการร้องเพลงบันตน แทรกระหว่างการแสดงแต่ละชุด ลิเกลูกบท คือ การแสดงผสมกับการขับร้องและบรรเลงเพลงลูกบท ร้องและรำไปตาม กระบวนเพลง ใช้ปี่พาทย์ประกอบแทนรำมะนา แต่งกายตามทีน่ ิยมในสมยั นั้นๆ แต่งสีฉูดฉาด ผู้แสดง เป็นชายล้วน เมื่อแสดงหมดแต่ละชุด ปี่พาทย์จะบรรเลงเพลง 3 ชั้น ที่เป็นแม่บทขึ้นอีกและออก ลกู หมดเป็นภาษาตา่ ง ๆ ชุดอ่นื ๆ ต่อไปใหม่ ลิเกทรงเครื่อง เป็นการผสมผสาน ระหว่างลิเกบันตนและลิเกลูกบท มีท่ารำเป็นแบบแผน แต่งตัวคล้ายละครรำ แสดงเป็นเรื่องยาวๆ อย่างละคร เริ่มด้วยโหมโรงและบรรเลงเพลงภาษาต่างๆ เรียกว่า \"ออกภาษา\" หรือ \"ออกสิบสองภาษา\" เพลงสุดท้ายเป็นเพลงแขก พอปี่พาทย์หยุด พวกตีรำมะนาก็ร้องเพลงบันตน แล้วแสดงชุดแขก เป็นการคำนับครู ใช้ปี่พาทย์รับ ต่อจากนั้นก็แสดง ตามเน้ือเรือ่ ง ลเิ กท่แี สดงในปจั จบุ นั เป็นลิเกทรงเคร่อื ง ลิเกป่า เป็นศิลปะการแสดงที่เคยได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางในจังหวัดสุราษฎร์ธานีและ จังหวัดทางภาคใต้ทั่ว ๆ ไป แต่ในปัจจุบันลิเกป่ามีเหลืออยู่น้อยมาก ผู้เฒ่าผู้แก่เล่าว่า เดิมลิเกป่าจะมี แสดงให้ดูทุกงานไม่ว่าจะเป็นบวชนาค งานวัด หรืองานศพ ลิเกป่ามีเครื่องดนตรีประกอบการแสดง 3 อย่าง คือ กลองรำมะนา 1-2 ใบ ฉิ่ง 1 คู่ กรับ 1 คู่ บางคณะอาจจะมีโหม่ง และทับด้วย ลิเกป่ามี นายโรงเช่นเดียวกับหนังตะลุง และมโนราห์ และโรงสำหรับการแสดงก็คล้ายกับโรงมโนราห์ ผู้แสดง ลิเกป่า คณะหนี่งมีประมาณ 6-8 คน ถ้ารวมลูกคู่ด้วยก็จะมีจำนวนคนพอ ๆ กับมโนราห์หนึ่งคณะ การแสดงจะเริ่มด้วยการโหมโรง \"เกริ่นวง\" ต่อจากเกริ่นวงแขกขาวกับแขกแดงจะออกมาเต้นและร้อง ประกอบ โดยลกู ค่จู ะรบั ไปด้วย หลงั จากนนั้ จะมีผอู้ อกมาบอกเรอ่ื ง แล้วกจ็ ะเรม่ิ แสดงเลย 3. อาชพี การแสดงหมอลำ คําว่า \"ลํา\" มีความหมายสองอย่าง อย่างหนึ่งเป็นชื่อของเรื่อง อีกอย่างหนึ่งเป็นชื่อของ การขับรอ้ งหรอื การลําทเ่ี ป็นช่ือของเร่ืองได้แก่เร่ืองต่าง ๆ เชน่ เรอ่ื งนกกระจอกนอ้ ย เรอ่ื งท้าวก่ำกาดํา เรื่องขูลูนางอั้ว เป็นต้น เรื่องเหล่านี้โบราณแต่งไว้เป็นกลอนแทนที่จะเรียกว่า เรื่องก็เรียกว่าลํากลอน ที่เอามาจากหนังสือลํา เรียกว่ากลอนลํา อีกอย่างหนึ่งหมายถึงการขับร้องหรือการลํา การนําเอาเรื่อง ในวรรณคดีอีสานมาขับร้อง หรือมาลํา เรียกว่า ลํา ผู้ที่มีความชํานาญในการขับร้องวรรณคดีอีสาน โดยการท่องจําเอากลอน มาขับร้อง หรือผู้ที่ชํานาญในการเล่านิทานเรื่องนั้น เรื่องน้ีหลายๆ เรื่อง เรยี กวา่ \"หมอลาํ \"
บทเรยี นออนไลน์ที่ 5 240 วชิ าศลิ ปศกึ ษา (ทช21003) ม.ตน้ กจิ กรรม/แบบทดสอบที่ 5 เร่อื ง นาฏศิลปไทยกับการประกอบอาชีพ ชอื่ -นามสกุล..............................................................รหสั นักศึกษา...................................................... 1. ถ้าผู้เรยี นสนใจทีจ่ ะศกึ ษาแนวทางการประกอบอาชพี ดา้ นนาฏศลิ ป์ควรทาํ อย่างไร ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................................................. ... ............................................................................................................................. ................................ 2. อธิบายอาชพี การแสดงหนังตะลงุ มลี ักษณะเปน็ อย่างไร ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................................. ................... ................................................................................................................ ................................................ ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ 3. อธบิ ายอาชีพการแสดงลเิ กลกั ษณะเปน็ อย่างไร .................................................................................................... ............................................................ ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ............................................................... 4. อธบิ ายอาชพี การแสดงหมอลำลักษณะเปน็ อยา่ งไร ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... .................................................................................... ............................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................................... ................
บทเรียนออนไลนท์ ี่ 5 241 วชิ าศิลปศกึ ษา (ทช21003) ม.ต้น เฉลยกจิ กรรม/แบบทดสอบที่ 5 เรอ่ื ง นาฏศลิ ปไ ทยกบั การประกอบอาชพี 1. ถาผเู รยี นสนใจทจี่ ะศึกษาแนวทางการประกอบอาชีพดานนาฏศลิ ปควรทำอยา งไร ตอบ ผูเรยี นสนใจทีจ่ ะศกึ ษาแนวทางการประกอบอาชีพดานนต้ี องมคี วามสนใจ และมคี วามเชอื่ มั่นใน ตวั เองพรอ มที่จะเรียนรูสิง่ ตางๆ เก่ยี วกบั อาชพี ดงั กลา วโอกาสกา วหนาในอาชีพเปนนกั แสดง โอกาส กาวหนาขึ้นอยูกับความสามารถของผูแสดง และความนิยมของผูชม ทั้งนีอ้ ยูที่การพฒั นาตนเองและ การใฝหาความรูของผูท จ่ี ะประกอบอาชพี 2.อธบิ ายอาชีพการแสดงหนงั ตะลุงมลี กั ษณะเปน อยา งไร ตอบ หนงั ตะลุง คอื ศิลปะการแสดงประจาํ ทอ งถน่ิ อยางหนึง่ ของภาคใต เปนการเลา เรอ่ื งราวทผ่ี กู รอย เปน นยิ าย ดาํ เนินเร่อื งดว ยบทรอ ยกรองที่ขบั รองเปน สำเนยี งทองถิน่ หรือทีเ่ รยี กกนั วา “การวา บท” มบี ทสนทนาแทรกเปน ระยะและใชการแสดงเงาบนจอผาเปน ส่ิงดงึ ดดู สายตาของผูช มซึ่งการวา บทการ สนทนาและการแสดงเงานี้นายหนังตะลุงเปนคนแสดงเองทั้งหมดหนังตะลุงเปนมหรสพที่นิยม แพรห ลายอยา งยง่ิ มาเปน เวลานาน 3 อธบิ ายอาชพี การแสดงลิเกลกั ษณะเปน อยางไร ตอบ อาชพี การแสดงลเิ ก เกิดข้ึนในสมัยรชั กาลที่ 5 คําวา ลิเก ในภาษามลายู แปลวา ขับรอง เดิมเปน การสวดบชู าพระ ในศาสนาอสิ ลาม สวดเพลงแขกเขา กับจงั หวะรํามะนา พวกแขกเจาเซน็ ไดสวดถวาย ตัวเปนครั้งแรกใน การบําเพ็ญพระราชกุศล เมื่อ พ.ศ. 2423 ตอมาคิดสวดแผลงเปนลํานําตางๆ รอ งเปนเพลงตางๆ ภาษา และทาํ ตวั หนัง เชดิ โดย เอาราํ มานาเปน จอ ก็มลี ิเกจงึ กลายเปน การละเลน ขึ้นตอมามีผูคิดเลนลิเกอยางละคร คือเริ่มรองเพลงแขก แลวตอไปเลนอยางละครรํา และใชปพาทย อยางละคร 4. อธิบายอาชีพการแสดงหมอลำลกั ษณะเปน อยา งไร ตอบ คําวา \"ลํา\" มีความหมายสองอยา ง อยางหนึ่งเปนชือ่ ของเรื่อง อีกอยางหน่ึงเปนชื่อของการขับ รอ งหรือการลาํ ทเี่ ปนชอื่ ของเรือ่ ง ไดแ กเ ร่อื งตา ง ๆ เชน เรื่องนกกระจอกนอ ย เรอื่ งทาวกำ่ กาดํา เรื่อง ขูลูนางอ้วั เปนตน เรื่องเหลา นี้โบราณแตง ไวเ ปน กลอน แทนท่ีจะเรยี กวา เรือ่ งก็เรียกวา ลํา กลอนทเี่ อา มาจากหนงั สอื ลาํ เรียกวากลอนลํา อีกอยางหนึ่งหมายถึงการขับรอง หรือการลํา การนําเอาเรื่องใน วรรณคดีอีสานมาขับรอ งหรอื มาลํา เรียกวา ลํา ผูที่มีความชาํ นาญในการขับรองวรรณคดีอีสาน โดย การทอ งจําเอากลอนมาขับรอง หรือผูท่ชี ํานาญในการเลา นทิ านเร่อื งน้นั เรื่องน้ีหลายๆ เรื่องเรียกวา\" หมอลาํ \"
บทเรียนออนไลนท์ ่ี 5 242 วิชาศิลปศกึ ษา (ทช21003) ม.ต้น แบบทดสอบหลงั เรยี น เรื่อง นาฏศิลปไ์ ทยกบั การประกอบอาชพี ชอ่ื -นามสกุล..............................................................รหสั นกั ศกึ ษา...................................................... คำชีแ้ จง ให้นักศึกษาเลือกคำตอบท่ีถกู ต้องทีส่ ดุ เพยี งคำตอบเดยี ว จำนวน 10 ขอ้ (10 คะแนน) 1. ข้อใดเปน็ ลกั ษณะของการวจิ ารณน์ าฏศลิ ปท์ ี่ดี 4. ขอ้ ใดไม่ใชล่ กั ษณะของนาฎศลิ ป์พ้ืนเมือง ก. เลือกใชภ้ าษาหยาบคายเพื่อเร้าอารมณผ์ ู้ฟัง ก. เนื้อเรอื่ งต้องเป็นสากล หรือผูอ้ า่ น ข. เน้นความปราณีต ข. ติ หรือชม ใหเ้ กดิ ผลในทางลบ ค. ใชเ้ ครอื่ งดนตรที ้องถิ่น ค. การเปรียบเทียบเพือ่ ให้เห็นข้อบกพร่อง ง. สะท้อนวถิ ีชีวติ อย่างชัดเจน 5. นาฏศลิ ปไ์ ทยมที ี่มาและเกิดข้ึนจากสาเหตุ ง. ลอกเลยี นแบบผลงานใหม้ ีความเหมือน ตามแนวคิดอะไร ที่สุด ก. เกิดจากการสรา้ งสรรคข์ องมนษุ ย์ 2. นาฏศิลป์ทีจ่ ดั ว่าเปน็ นาฏศลิ ปส์ ากลน้นั ข. เกิดจากธรรมชาตกิ ำหนดขึ้นมาเอง จะต้องมคี ุณลักษณะอยา่ งไร ค. เกิดจากเหตุการณท์ ี่สำคญั ท่ีต้องการจารึกไว้ ก. มีลกั ษณะเฉพาะท่ที ุกชาตเิ ขา้ ใจ ยอมรับ ง. เกิดจากความรู้สึกกระทบกระเทือนทาง และเผยเเพร่ไปทวั่ โลก อารมณ์ ข. ตอ้ งเปน็ การแสดงทางภาคอสี านเท่าน้นั 6. ขอ้ ใดไมใ่ ช่จารีตในนาฏศลิ ป์ไทย เพราะเป็นนาฏศิลปส์ ากล ก.ตัวพระห้อยอบุ ะด้านขวา ตัวนางหอ้ ยอุบะ ค. แบบไหนก็ได้ เพราะ อินดี้ ดา้ นซา้ ย ง. ถกู ทุกขอ้ ข.ประไหมสหุ รนี ง่ั ทางขวามอื ของทา้ วดาหา 3. เอกลักษณอ์ ันสะท้อนความงามของ สว่ นมะเตทวีน่ังทางดา้ นมือซา้ ยของทา้ วดาหา นาฎศิลป์ไทยคืออะไร ค. ตัวละครจะถืออาวธุ ด้วยมอื ขวาเทา่ นน้ั ก. บทละคร ง. เม่อื ตัวละครต่อสู้กนั ฝ่ายธรรม/ฝา่ ยชนะ ข. องคป์ ระกอบในการปฏิบัติทา่ รำ จะอย่ดู ้านขวามือของเวทีเสมอ ค. สีของเครื่องแต่งกายต้องฉูดฉาดสรา้ ง 7. การแสดงนาฎศลิ ป์ชัน้ สงู ของไทยท่มี ี จดุ เดน่ เอกลักษณ์คืออะไร ง. ตอ้ งใช้เร่อื งราวท่ีแปลมาจากตา่ งประเทศ ก. โขน ข. ละคร ค. ระบำ ง. เพลงพื้นบา้ น
บทเรียนออนไลนท์ ี่ 5 243 วิชาศิลปศึกษา (ทช21003) ม.ตน้ 8. ศลิ ปะการรา่ ยรำที่เล่นเปน็ เร่ืองราว มี 10. ขอ้ ใดเปน็ การอนุรักษว์ ฒั นธรรมและ พัฒนาการมาจากการเลา่ นิทาน คอื ศลิ ปะชนดิ ใด ศลิ ปการแสดงของไทย ก. โขน ก.ป่พู าหลานไปกนิ ไอตมิ ทรี่ า้ นใกลๆ้ โรงเรียน ข. ละคร สอนนาฏศิลป์ ค. หนงั ตะลงุ ข. แม่อธบิ ายเร่ืองราวในการแสดงโขนใหล้ ูกฟัง ง. รำตดั ค. พี่กับน้องเปลย่ี นชอ่ งไปดูละครเม่ือมีข่าว 9. การแสดงนาฏศลิ ป์ไทย ที่นิยมอยู่เพยี ง การแสดงนาฏศิลป์ เรอื่ งเดยี ว คือ เรื่องรามเกียรต์ิซ่ึงได้เคา้ เดมิ มา ง. ปา้ กับลงุ ชอบรำแกบ้ นท่ีวัดใกล้บา้ น จากเรือ่ งรามายณะของอินเดียคอื อะไร ก. ละคร ข. ลเิ ก ค. โขน ง. ระบำ
บทเรียนออนไลน์ที่ 5 244 วิชาศลิ ปศึกษา (ทช21003) ม.ตน้ เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น เรอื่ ง นาฏศิลป์ไทยกบั การประกอบอาชีพ 1. ค 2. ง 3. ข 4 .ก 5. ง 6. ค 7. ก 8. ข 9. ค 10. ข
245 ตารางวิเคราะหเนอ้ื หารายวชิ า การใชพ ลังงานไฟฟาในชวี ิตประจำวัน 2 พว22002 ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนตน จำนวน 3 หนวยกิต จำนวน 120 ช่ัวโมง ท่ี หวั เรอ่ื ง จำนวน ระดบั การเรียนรู (ชั่วโมง) งา ย ปาน ยาก 1 บทท่ี 1 พลังงานไฟฟา เร่ืองท่ี 1 การกาํ เนดิ ของไฟฟา 5 กลาง เรื่องที่ 2 สถานการณพลงั งานไฟฟา ของประเทศไทย 5 และประเทศในอาเซียน 5 เรื่องที่ 3 หนวยงานทีเ่ กย่ี วขอ งดา นพลังงานไฟฟาใน ประเทศไทย 2 บทท่ี 2 ไฟฟามาจากไหน 25 เร่ืองที่ 1 เชอ้ื เพลงิ และพลังงานทใี่ ชในการผลติ ไฟฟา 20 เรือ่ งที่ 2 โรงไฟฟากับการจดั การดา นสง่ิ แวดลอม 10 3 บทที่ 3 วงจรไฟฟา และอปุ กรณไฟฟา 10 เรอ่ื งที่ 1 อุปกรณไ ฟฟา 10 เรื่องท่ี 2 วงจรไฟฟา เรอ่ื งที่ 3 สายดนิ และหลักดิน 10 10 4 บทที่ 4 การใชแ ละการประหยัดพลงั งานไฟฟา เรอื่ งที่ 1 กลยทุ ธการประหยดั พลงั งานไฟฟา 3 อ. 10 เร่ืองที่ 2 การเลอื กซอื้ การใช และการดแู ลรักษา 120 เครอ่ื งใชไ ฟฟาในครวั เรือน เรื่องท่ี 3 การคาํ นวณคาไฟฟาในครวั เรือน รวม
246 การวัดผลประเมินผล บทเรียน ออนไลน์ กิจกรรม คะแนน ที่ 1 ใหผ้ ้เู รียนศึกษาจากบทเรียนออนไลน์ท่ี 1 เร่ืองพลงั งานไฟฟ้า และสรุปความรู้ท่ี - ไดล้ งในสมดุ บันทกึ 2 กิจกรรมที่ 2 เรื่อง ไฟฟ้ามาจากไหน (5คะแนน) 10 และทำแบบทดสอบหลงั เรียน (5 คะแนน) 3 กจิ กรรมที่ 3 เรื่อง อปุ กรณ์ไฟฟ้า (5คะแนน) และทำแบบทดสอบหลงั เรยี น 10 (5 คะแนน) 4 กจิ กรรมท่ี 4 เร่ือง วงจรไฟฟ้า (5คะแนน) และทำแบบทดสอบหลังเรียน 10 (5 คะแนน) 5 กจิ กรรมที่ 5 เรื่อง การใชแ้ ละการประหยดั พลังงานไฟฟ้า (5คะแนน) และ 10 ทำแบบทดสอบหลังเรยี น (5 คะแนน) รวมคะแนนเกบ็ ระหวา่ งภาค 40 สอบระหวา่ งภาค 20 สอบปลายภาค 40 รวมทั้งสน้ิ 100
แผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรูร ายวิชาออนไลน รายวิชา การใชพลงั งานไฟฟา ในชวี ติ ประจำวัน 2 พว22002 จำนวน 3 หนว ยกิต ระดบั มธั ยมศึกษาตอนตน จำนวน 120 ชว่ั โมง บทเรยี น หัวเรอ่ื ง วัตถุประสงคเ ชิง กจิ กรรมการเรยี นรู จำนวน สื่อการเรียนรู การวัดและ กศน.4 ผลการเรยี นรูท่ี ออนไลน คาดหวงั พฤตกิ รรม ชัว่ โมง ประเมนิ ผล ที่ 1 บทท่ี 1พลังงานไฟฟา 1. ผูเ รยี นบอกการ -ผูเ รยี นศึกษาเรยี นรจู าก 15 ช่ัวโมง 1.บทเรยี นออนไลนท ่ี 1 บทเรยี น - 1. ผูเรยี นบอก - การกําเนิดของไฟฟา กาํ เนิดของไฟฟา ส่ือแบบเรียนออนไลนท ่ี 1 Google site ออนไลนท ี่ 1 การกาํ เนิดของ - สถานการณพ ลงั งาน 2. ผูเรยี นบอกสดั สวน Googlesiteวชิ าการใช วิชา การใชพ ลงั งาน ไฟฟา ไฟฟา ของประเทศไทย เชื้อเพลิงท่ีใชใ นการ พลงั งานไฟฟา ใน ไฟฟา ในชีวติ 2. ผูเรียนบอก 247 และประเทศใน ผลติ ไฟฟา ของ ชวี ิตประจำวนั 2 ประจำวัน 2 สัดสวนเชือ้ เพลงิ อาเซยี น ประเทศไทย เรอ่ื ง พลังงานไฟฟา พว22002 ทีใ่ ชในการผลติ - หนวยงานท่ีเก่ียว 3. ผูเรยี นตระหนักถึง 1. บอกการกําเนดิ ของ ไฟฟา ของ ขอ งดา นพลงั งานไฟฟา สถานการณข อง ไฟฟา ประเทศไทย ในประเทศไทย เช้ือเพลิงท่ีใชในการ 2. บอกสดั สว นเชอ้ื เพลิง 3. ผูเรยี น ผลติ ไฟฟาของ ทใ่ี ชในการผลติ ไฟฟา ตระหนักถงึ สถาน ประเทศไทย ของประเทศไทย การณของ 4. ผูเ รยี นวเิ คราะห 3. ตระหนักถึงสถานการณ เชอื้ เพลงิ ท่ีใชใ น สถานการณพลังงาน ของเชื้อเพลิงท่ีใชใ นการ การผลิตไฟฟา ไฟฟา ของประเทศไทย ของประเทศไทย
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442