พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ เล่ม 2

204 วาระ มาตรา ๒๑ กรรมการมีวาระการด�ำรงต�ำแหน่ง การดำ� รงตำ� แหน่ง เจ็ดปีนับแต่วันที่พระมหากษัตริย์ทรงแต่งต้ังและให้ด�ำรง ของกรรมการ ต�ำแหน่งได้เพยี งวาระเดียว ตรวจเงินแผ่นดิน ในกรณีท่ีกรรมการพ้นจากต�ำแหน่งตามวาระ ให้กรรมการที่พ้นจากต�ำแหน่งปฏิบัติหน้าท่ีต่อไปจนกว่า จะมีการแต่งตั้งกรรมการใหม่แทน การพน้ จากตำ� แหนง่ มาตรา ๒๒ นอกจากการพ้นจากต�ำแหน่ง ของกรรมการ ตามวาระ  กรรมการพน้ จากต�ำแหน่งเม่อื ตรวจเงินแผ่นดิน (๑) ตาย (๒) ลาออก (๓) ขาดคุณสมบัติตามมาตรา  ๑๒  หรือมาตรา  ๑๓ หรือมลี กั ษณะต้องห้ามตามมาตรา  ๑๔ (๔) พ้นจากต�ำแหนง่ ดว้ ยเหตอุ ื่นตามรฐั ธรรมนูญ เมื่อประธานกรรมการพ้นจากต�ำแหน่งประธาน กรรมการ  ใหพ้ ้นจากต�ำแหน่งกรรมการดว้ ย ในกรณีท่ีมีปัญหาว่ากรรมการผู้ใดพ้นจาก ต�ำแหน่งตาม  (๒)  หรือ  (๓)  หรือไม่  ให้เป็นหน้าท ่ี แ ล ะ อ� ำ น า จ ข อ ง ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ส ร ร ห า เ ป ็ น ผู ้ วิ นิ จ ฉั ย คำ� วินิจฉยั ของคณะกรรมการสรรหาใหเ้ ปน็ ท่ีสดุ ในกรณีท่ีไม่มีผู้ด�ำรงต�ำแหน่งประธานกรรมการ หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้  ให้กรรมการเลือกกรรมการ คนหน่ึงทำ� หน้าที่แทนประธานกรรมการ

205 ในระหว่างท่ีกรรมการพ้นจากต�ำแหน่งก่อนวาระ แ ล ะ ยั ง ไ ม ่ มี ก า ร แ ต ่ ง ต้ั ง ก ร ร ม ก า ร แ ท น ต� ำ แ ห น ่ ง ท่ี ว ่ า ง ให้กรรมการเท่าท่ีเหลืออยู่ปฏิบัติหน้าท่ีต่อไปได้  แต่ถ้ามี กรรมการเหลืออยู่ไม่ถึงส่ีคน  ให้กระท�ำได้แต่เฉพาะ การที่จ�ำเปน็ อันไมอ่ าจหลีกเล่ยี งได้ ในกรณีท่ีกรรมการจะพ้นจากต�ำแหน่งตามวาระ ให้ด�ำเนินการสรรหากรรมการใหม่ภายในหนึ่งร้อยยี่สิบวัน ก่อนวันที่กรรมการครบวาระ  แต่ถ้ากรรมการพ้นจาก ต�ำแหน่งด้วยเหตุอ่ืนนอกจากการพ้นจากต�ำแหน่งตามวาระ ให้ด�ำเนินการสรรหากรรมการภายในเก้าสิบวันนับแต่วันที่ ต�ำแหน่งว่างลง มาตรา ๒๓ เมื่อมีผู้ร้องขอโดยมีหลักฐาน การวนิ จิ ฉยั ตามสมควรว่ากรรมการผู้ใดพ้นจากต�ำแหน่งตามมาตรา  ๒๒ ของคณะกรรมการสรรหา (๒)  หรือ  (๓)  ให้เลขาธิการวุฒิสภาเสนอเรื่อง เรอ่ื งการพ้นจากต�ำแหนง่ ต่อประธานกรรมการสรรหาภายในห้าวันนับแต่วันที่ได้รับ ของกรรมการ การร้องขอ  และให้คณะกรรมการสรรหาวินิจฉัยให้แล้วเสร็จ ตรวจเงินแผน่ ดนิ โดยเร็ว  ในการวินิจฉัยให้ถือเสียงข้างมากและให้ใช ้ วิธีลงคะแนนโดยเปิดเผย  ในกรณีที่มีเสียงเท่ากัน ให้ประธานกรรมการสรรหาออกเสียงเพ่ิมขึ้นอีกเสียงหน่ึง เป็นเสยี งชขี้ าด หลักฐานตามวรรคหนึ่ง  ให้เป็นไปตามท ี่ คณะกรรมการสรรหาก�ำหนด

206 กรณที ก่ี รรมการ มาตรา ๒๔ ในกรณีที่กรรมการต้องหยุดปฏิบัติ ตรวจเงินแผน่ ดิน หน้าท่ีเพราะถูกกล่าวหาและศาลฎีกาหรือศาลฎีกา ตอ้ งหยุดปฏิบตั ิหน้าที่ แผนกคดีอาญาของผู้ด�ำรงต�ำแหน่งทางการเมืองประทับรับฟ้อง เพราะถูกกลา่ วหา และมีกรรมการเหลืออยู่ไม่ถึงก่ึงหนึ่ง  ให้ประธานศาลฎีกา แ ล ะ ป ร ะ ธ า น ศ า ล ป ก ค ร อ ง สู ง สุ ด ร ่ ว ม กั น แ ต ่ ง ตั้ ง บุ ค ค ล ซ่ึงมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้ามเช่นเดียวกับกรรมการ ท�ำหน้าท่ีเป็นกรรมการเป็นการชั่วคราวให้ครบเจ็ดคน โดยให้ผู้ซึ่งได้รับแต่งต้ังท�ำหน้าที่ในฐานะกรรมการได้ จนกว่ากรรมการท่ีตนท�ำหน้าท่ีแทนจะปฏิบัติหน้าท่ีได้ หรือจนกว่าจะมีการแต่งต้งั ผู้ด�ำรงตำ� แหนง่ แทน การประชมุ มาตรา ๒๕ ภายใต้บังคับมาตรา  ๒๒  วรรคห้า ของคณะกรรมการ การประชุมของคณะกรรมการต้องมีกรรมการมาประชุม ตรวจเงนิ แผ่นดนิ ไม่น้อยกว่าห้าคน  จึงจะเป็นองค์ประชุม  ในกรณีที่กรรมการ คนใดไม่อาจมาประชุมได้ให้จดแจ้งเหตุนั้นไว้ในรายงาน การประชมุ การลงมติ การลงมติในการประชุมของคณะกรรมการ ในการประชมุ ให้ใช้คะแนนเสียงข้างมาก  โดยประธานในท่ีประชุม ของคณะกรรมการ และกรรมการท่ีมาประชุมต้องลงคะแนนเสียงเพ่ือมีมต ิ ตรวจเงนิ แผน่ ดิน แ ล ะ ใ ห ้ ก ร ร ม ก า ร ค น ห นึ่ ง มี เ สี ย ง ห น่ึ ง ใ น ก า ร ล ง ค ะ แ น น ในกรณีมีคะแนนเสียงเท่ากัน  ให้ประธานในที่ประชุม มสี ิทธิออกเสยี งเพ่ิมขนึ้ อกี เสยี งหน่ึงเปน็ เสียงชขี้ าด

207 การไม่เข้าประชุมหรือไม่อยู่ในท่ีประชุม การไมเ่ ข้าประชมุ ตามวรรคสองโดยไม่มีเหตุอันสมควร  ให้ถือว่าเป็นการจงใจ หรอื ไมอ่ ยู่ในท่ปี ระชุม ฝา่ ฝืนหรอื ไมป่ ฏิบัตติ ามมาตรฐานทางจริยธรรม ให้ประธานกรรมการเป็นประธานในท่ีประชุม ประธาน ถ้าประธานกรรมการไม่มาประชุม  ให้กรรมการ ในท่ีประชุม ที่มาประชุมเลือกกรรมการคนหนึ่งเป็นประธานในที่ประชุม ท้ังนี้  ตามหลักเกณฑ์และวิธีการประชุมท่ีคณะกรรมการ ก�ำหนด ในการประชุมของคณะกรรมการ  ให้เป็นหน้าท ่ี ของผู้ว่าการท่ีจะเข้าร่วมประชุมเพ่ือช้ีแจงแสดงความคิดเห็นด้วย เวน้ แตเ่ ป็นการประชุมเพ่อื มมี ตติ ามมาตรา  ๕๐  (๔) ให้ประธานกรรมการ  กรรมการ  และผู้ว่าการ ไ ด ้ รั บ เ บี้ ย ป ร ะ ชุ ม เ ป ็ น ร า ย ค รั้ ง เ ท ่ า กั บ ก ร ร ม ก า ร ตามพระราชกฤษฎีกาวา่ ด้วยเบ้ยี ประชมุ กรรมการ มาตรา ๒๖ กรรมการต้องปฏิบัติหน้าที่เต็มเวลา การปฏิบตั ิหนา้ ที่ และการปฏิบัติหน้าท่ีและการใช้อ�ำนาจของคณะกรรมการ และการใชอ้ ำ� นาจ ต้องเป็นไปโดยสุจริต  เที่ยงธรรม  กล้าหาญ  และ ของคณะกรรมการ ปราศจากอคติทั้งปวงในการใช้ดุลพินิจและปฏิบั ติตน ตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ให้ถูกต้องตามมาตรฐานทางจริยธรรม  ในระหว่าง การด�ำรงต�ำแหน่ง  กรรมการจะเข้ารับการศึกษาหรือ อบรมในหลักสูตรหรือโครงการใด  ๆ  มิได้  เว้นแต่เป็น ห ลั ก สู ต ร ห รื อ โ ค ร ง ก า ร ท่ี ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร เ ป ็ น ผู ้ จั ด ข้ึ น โดยเฉพาะส�ำหรบั กรรมการ

208 หนา้ ที่และอำ� นาจ มาตรา ๒๗ ให้คณะกรรมการมีหน้าที่และอ�ำนาจ ของคณะกรรมการ ดังต่อไปน้ี ตรวจเงนิ แผ่นดนิ (๑) วางนโยบายการตรวจเงินแผ่นดนิ (๒) ก�ำหนดหลักเกณฑ์มาตรฐานเกี่ยวกับ การตรวจเงนิ แผน่ ดิน (๓) ก�ำกับการตรวจเงินแผ่นดินให้เป็นไป ตาม  (๑)  และ  (๒)  และตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงิน การคลงั ของรัฐ (๔) ให้ค�ำปรึกษา  แนะน�ำ  หรือเสนอแนะ เก่ียวกับการใช้จา่ ยเงนิ แผน่ ดินให้เป็นไปตามกฎหมายวา่ ด้วย วินัยการเงินการคลังของรัฐ  รวมทั้งการให้ค�ำแนะน�ำ แก่หน่วยงานของรัฐในการแก้ไขข้อบกพร่องเกี่ยวกับ การใชจ้ า่ ยเงินแผ่นดนิ (๕) ส่ังลงโทษทางปกครองกรณีมีการกระท�ำผิด กฎหมายวา่ ดว้ ยวินยั การเงินการคลังของรฐั (๖) หน้าท่ีและอ�ำนาจอื่นตามท่ีบัญญัติไว้ใน พระราชบญั ญัตปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู น้ีหรอื กฎหมายอ่นื ในการก�ำหนดหลักเกณฑ์มาตรฐานตาม  (๒) ให้คณะกรรมการรับฟังความคิดเห็นของหน่วยรับตรวจ และหนว่ ยงานทเ่ี กี่ยวขอ้ งประกอบดว้ ย การวางนโยบาย มาตรา ๒๘ นโยบายการตรวจเงินแผ่นดิน การตรวจเงินแผ่นดนิ ตามมาตรา  ๒๗  (๑)  ให้คณะกรรมการวางเป็นนโยบาย

209 การตรวจเงินแผ่นดินประจ�ำปีและนโยบายการตรวจเงินแผ่นดิน ระยะยาว  ซ่ึงอยา่ งน้อยตอ้ งมีสาระส�ำคัญ  ดังตอ่ ไปน้ี (๑) ทิศทางและเป้าหมายในการตรวจเงิน แผน่ ดนิ (๒) ผลสัมฤทธ์ิในการตรวจเงินแผ่นดนิ (๓) การพัฒนาการตรวจเงินแผ่นดินให้มี ประสทิ ธิภาพและรวดเร็ว นโยบายการตรวจเงินแผ่นดินท่ีคณะกรรมการ จัดท�ำแล้ว  ให้แจ้งสภาผู้แทนราษฎร  วุฒิสภา  และ คณะรัฐมนตรีทราบ  และเผยแพร่ให้ประชาชนทราบ เป็นการทัว่ ไปดว้ ย มาตรา ๒๙ หลักเกณฑ์มาตรฐานเกี่ยวกับ หลกั เกณฑ์ การตรวจเงินแผ่นดินที่คณะกรรมการก�ำหนดข้ึน มาตรฐานเกยี่ วกบั ตามมาตรา  ๒๗  (๒)  ต้องสอดคล้องกับหลักการและ การตรวจเงนิ แผน่ ดนิ มาตรฐานการตรวจเงินแผ่นดินที่เป็นท่ียอมรับของสากล และให้ใช้ได้จนกว่าคณะกรรมการจะมีมติให้แก้ไข เ ป ล่ี ย น แ ป ล ง เ ป ็ น ค ร้ั ง ค ร า ว ต า ม ค ว า ม เ ห ม า ะ ส ม แตก่ ารแก้ไขเปล่ยี นแปลงดังกลา่ ว  ถ้าเก่ียวขอ้ งกบั การปฏบิ ตั ิ ของหน่วยรับตรวจ  ต้องมีระยะเวลาให้หน่วยรับตรวจ เพียงพอที่จะปฏิบัติตามหลักเกณฑ์มาตรฐานท่ีแก้ไข เปล่ียนแปลงใหม่

210 หลักเกณฑ์มาตรฐานเกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดิน ตามวรรคหนึ่ง  ให้เผยแพร่ให้หน่วยรับตรวจและประชาชน ทราบเป็นการทั่วไป ในกรณีที่หน่วยรับตรวจเห็นว่าหลักเกณฑ์มาตรฐาน เกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดินที่ก�ำหนดตามวรรคหน่ึง ก่อให้เกิดปัญหาหรืออุปสรรคในการด�ำเนินงาน  หรือ ยังไม่สอดคล้องกับกฎหมาย  ระเบียบ  ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี  หรือแบบแผนการปฏิบัติราชการ จะแจ้งให้คณะกรรมการทราบและพิจารณาปรับปรุงแก้ไข หลักเกณฑ์มาตรฐาน  หรือเสนอแนะให้มีการปรับปรุง แก้ไขกฎหมาย  ระเบียบ  ข้อบังคับ  มติคณะรัฐมนตรี หรือแบบแผนการปฏิบัติราชการของทางราชการดังกล่าว ตามท่คี ณะกรรมการเห็นสมควรก็ได้ องค์ประกอบ มาตรา ๓๐ หลักเกณฑ์มาตรฐานเก่ียวกับ ของหลักเกณฑ์ การตรวจเงินแผ่นดินตามมาตรา  ๒๗  (๒)  อย่างน้อย มาตรฐานเกี่ยวกับ ต้องประกอบดว้ ย การตรวจเงินแผน่ ดนิ (๑) วธิ กี ารตรวจเงินแผ่นดนิ แตล่ ะด้าน (๒) ความเคร่งครัดในจริยธรรมแห่งวิชาชีพ ในการตรวจเงนิ แผ่นดิน (๓) ระยะเวลาในการตรวจเงนิ แผน่ ดิน (๔) วิธปี ฏบิ ัติในการเขา้ ตรวจ (๕) วิธีการให้ค�ำแนะน�ำหรือข้อเสนอแนะ เกยี่ วกบั วธิ กี ารแกไ้ ขปัญหาแก่หนว่ ยรับตรวจ

211 (๖) วิธกี ารเปดิ โอกาสใหห้ น่วยรับตรวจชีแ้ จง (๗) วิธีการรายงาน  การแจ้ง  และการเผยแพร่ ผลการตรวจ มาตรา ๓๑ การวางนโยบายการตรวจเงินแผ่นดิน การวางนโยบาย และการก�ำหนดหลักเกณฑ์มาตรฐานเกี่ยวกับการตรวจเงิน การตรวจเงนิ แผ่นดิน แผ่นดิน  ตามมาตรา  ๒๗  (๑)  และ  (๒)  หากผู้ว่าการ และการก�ำหนด เห็นว่านโยบายหรือหลักเกณฑ์มาตรฐานท่ีคณะกรรมการ หลกั เกณฑ์มาตรฐาน ก�ำหนดมีผลเป็นการเลือกปฏิบัติต่อหน่วยรับตรวจ  หรือ เกีย่ วกบั การตรวจเงนิ ท�ำให้มีการตรวจสอบใด  ๆ  ท่ีอยู่นอกเหนือหน้าท่ีและ แผน่ ดนิ อ�ำนาจของผู้ว่าการ  หรือมีผลให้ผู้ว่าการไม่มีความเป็นอิสระ ในการปฏิบัติหน้าที่  ผู้ว่าการจะขอให้คณะกรรมการ พิจารณาทบทวนกไ็ ด้ มติของคณะกรรมการในการพิจารณาทบทวน มติ ตามวรรคหน่ึงให้เป็นที่สุด  เว้นแต่ในกรณีท่ีผู้ว่าการ ของคณะกรรมการ เห็นว่านโยบายหรือหลักเกณฑ์มาตรฐานดังกล่าวมีผลให ้ ตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ผู ้ ว ่ า ก า ร ไ ม ่ มี ค ว า ม เ ป ็ น อิ ส ร ะ ใ น ก า ร ป ฏิ บั ติ ห น ้ า ท่ี ในการพิจารณา ให้ผู้ว่าการมีสิทธิยื่นค�ำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญเพ่ือม ี ทบทวน ค�ำวนิ จิ ฉยั ตอ่ ไป มาตรา ๓๒ น อ ก จ า ก ห น ้ า ท่ี แ ล ะ อ� ำ น า จ การออกระเบียบ ตามมาตรา  ๒๗  ให้คณะกรรมการมีอ�ำนาจออกระเบียบ ประกาศ ประกาศ  หรอื ขอ้ บังคับในเรื่องดงั ตอ่ ไปน้ี หรือข้อบงั คบั (๑)  การก�ำกับการตรวจเงิ น แ ผ ่ น ดิ น ต า ม ของคณะกรรมการ มาตรา  ๒๗  (๓) ตรวจเงินแผ่นดิน

212 (๒)  การจัดให้มีการประเมินผลการปฏิบัติงาน ของสำ� นกั งานโดยผปู้ ระเมนิ อิสระ (๓)  การจัดเก็บค่าธรรมเนียมต่าง  ๆ  ในการปฏิบัติงาน ของสำ� นกั งาน (๔)  การอื่นใดอันจ�ำเป็นต่อการด�ำเนินงาน ของผู้ว่าการหรือส�ำนักงาน  หรือการท�ำให้บุคคลดังกล่าว ท�ำงานได้อยา่ งมีประสทิ ธภิ าพ การออกระเบียบตาม  (๑)  จะก�ำหนดให้ผู้ว่าการ ต ้ อ ง จั ด ท� ำ ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ต ร ว จ เ งิ น แ ผ ่ น ดิ น โ ด ย ส รุ ป เป็นรายไตรมาสกไ็ ด้ การกำ� กบั มาตรา ๓๓ ในการก�ำกับการตรวจเงินแผ่นดิน การตรวจเงนิ ตามมาตรา  ๒๗  (๓)  ถ้าความปรากฏต่อคณะกรรมการ แผ่นดิน ว่าการตรวจสอบไม่เป็นไปตามนโยบายการตรวจเงินแผ่นดิน หรือหลักเกณฑ์มาตรฐานเกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดิน ที่คณะกรรมการก�ำหนด  หรือตามกฎหมายว่าด้วย วินัยการเงินการคลังของรัฐ  ให้คณะกรรมการมีอ�ำนาจ สั่งให้ผู้ว่าการรับไปด�ำเนินการปรับปรุง  แก้ไข  หรือ ปฏบิ ตั ิให้ถกู ตอ้ งต่อไป ก่อนสั่งการตามวรรคหน่ึง  คณะกรรมการ ต้องน�ำค�ำช้ีแจงและความเห็นของผู้ว่าการมาประกอบ การพิจารณาวนิ จิ ฉยั ด้วย

213 มาตรา ๓๔ ในกรณีท่ีผู้ว่าการเห็นว่ามีปัญหา กรณีท่ีผู้ว่าการ ในการปฏิบัติหน้าท่ีในการตรวจเงินแผ่นดินตามนโยบาย ตรวจเงนิ แผน่ ดิน การตรวจเงินแผ่นดินหรือหลักเกณฑ์มาตรฐานเกี่ยวกับ เหน็ ว่ามปี ญั หา การตรวจเงินแผ่นดิน  และประสงค์จะได้รับค�ำแนะน�ำ ในการปฏิบัติหนา้ ท่ี จากคณะกรรมการ  ให้ผู้ว่าการปรึกษาหารือคณะกรรมการ ในการตรวจเงิน เพ่ือขอค�ำแนะน�ำหรือข้อเสนอแนะ  เพื่อน�ำมาใช ้ แผ่นดนิ ในการแกไ้ ขปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติหน้าทด่ี ังกล่าว มาตรา ๓๕ ในกรณีท่ีหน่วยรับตรวจเห็นว่า กรณที ่ีหน่วยรับตรวจ ผู้ว่าการหรือผู้ได้รับมอบหมายด�ำเนินการตรวจสอบ เหน็ ว่าผวู้ ่าการ ไ ม ่ เ ป ็ น ไ ป ต า ม น โ ย บ า ย ก า ร ต ร ว จ เ งิ น แ ผ ่ น ดิ น ห รื อ ตรวจเงนิ แผ่นดิน หลักเกณฑ์มาตรฐานเก่ียวกับการตรวจเงินแผ่นดิน หรอื ผ้ไู ด้รับมอบหมาย หน่วยรับตรวจมีสิทธิย่ืนค�ำร้องไปยังคณะกรรมการ ด�ำเนินการตรวจสอบ เพื่อพิจารณาวินจิ ฉยั ตอ่ ไป ไม่เปน็ ไปตามนโยบาย หรอื หลกั เกณฑ์ มาตรฐานเกยี่ วกับ หลักเกณฑ์  วิธีการ  และเง่ือนไขในการยื่น การตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ค�ำร้องตามวรรคหนึ่ง  ให้เป็นไปตามท่ีคณะกรรมการ กำ� หนด มาตรา ๓๖ ในกรณีท่ีจ�ำเป็นต้องได้ข้อมูลหรือ การจา้ งบุคคล มีการศึกษาเร่ืองใด  คณะกรรมการจะขอให้ส�ำนักงานจ้าง หรือสถาบนั หรือ บุคคลหรือสถาบันซึ่งมีความรู้ความเชี่ยวชาญด�ำเนินการ การแตง่ ต้งั ในเร่ืองนั้นได้ตามท่ีจ�ำเป็น  หรือในกรณีท่ีไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ อนุกรรมการ จะแต่งตั้งคณะอนุกรรมการเพื่อปฏิบัติหน้าท่ีดังกล่าวแทน ในกรณที ี่จำ� เป็น ต้องได้ขอ้ มูลหรือ ก็ได้  โดยต้องค�ำนึงถึงความคุ้มค่าและประสิทธิภาพ มีการศกึ ษาเรื่องใด ท่ีจะเกดิ ข้ึน  ทง้ั น ี้ กอ่ นการจา้ งหรือแต่งตงั้   คณะกรรมการ

214 ต้องก�ำหนดเป้าหมาย  ผลสัมฤทธ์ิ  และระยะเวลา ของการปฏบิ ัติหน้าท่ดี ังกล่าวไวใ้ หช้ ดั เจน หลักเกณฑ์และวิธีการจ้าง  และค่าตอบแทน ของบุคคลหรือสถาบัน  หรือการแต่งตั้งอนุกรรมการ การพ้นจากต�ำแหน่ง  ค่าตอบแทนและประโยชน์ตอบแทนอ่ืน และวิธีปฏิบัติงานของอนุกรรมการ  ให้เป็นไปตามระเบียบ ท่ีคณะกรรมการกำ� หนด การใช้อ�ำนาจ มาตรา ๓๗ ในการปฏิบัติหน้าท่ีตามพระราชบัญญัติ ขอใหห้ น่วยรับตรวจ ประกอบรัฐธรรมนูญนี้  ให้คณะกรรมการมีอ�ำนาจขอให้ มีหนงั สือชแี้ จง หน่วยรับตรวจมีหนังสือช้ีแจงข้อเท็จจริง  หรือส่งเอกสาร ข้อเทจ็ จริงหรือ หลักฐานหรือพยานหลักฐานอ่ืนท่ีเกี่ยวข้อง  และเรียกผู้รับตรวจ ส่งเอกสารหลักฐาน มาใหถ้ อ้ ยคำ�   เพอื่ ประกอบการพจิ ารณาของคณะกรรมการ เงนิ เดอื น มาตรา ๓๘ เงินเดือน  เงินประจ�ำต�ำแหน่ง เงินประจำ� ต�ำแหน่ง และประโยชน์ตอบแทนอ่ืนของกรรมการให้เป็นไป และประโยชน์ ตามกฎหมายว่าดว้ ยการนั้น ตอบแทนอนื่ ให้กรรมการได้รับเงินค่ารับรองเหมาจ่าย ของกรรมการ เป็นรายเดือนตามอัตราที่กระทรวงการคลังก�ำหนด  ซึ่งต้อง ตรวจเงนิ แผ่นดนิ ไม่น้อยกว่าเงินประจ�ำต�ำแหน่งของประธานกรรมการหรือ กรรมการ  แลว้ แตก่ รณี สิทธใิ นบำ� เหนจ็ มาตรา ๓๙ ก ร ร ม ก า ร ซ่ึ ง ด� ำ ร ง ต� ำ แ ห น ่ ง ตอบแทน ไม่น้อยกว่าหนึ่งปี  มีสิทธิได้รับบ�ำเหน็จตอบแทนเป็นเงิน ของกรรมการ ซ่ึงจ่ายครั้งเดียวเม่ือพ้นจากต�ำแหน่งด้วยเหตุอย่างใดอย่างหน่ึง ตรวจเงนิ แผ่นดนิ ดังตอ่ ไปนี้

215 (๑) ครบวาระ (๒) ตาย (๓) ลาออก (๔) มอี ายุครบเจด็ สบิ ปี ในการค�ำนวณบ�ำเหน็จตอบแทนนั้น  ให้น�ำ อัตราเงินเดือนตามมาตรา  ๓๘  คูณด้วยจ�ำนวนปี ทดี่ �ำรงต�ำแหน่ง  เศษของปีให้นับเปน็ หน่ึงปี สิทธิในบ�ำเหน็จตอบแทนน้ัน  เป็นสิทธิเฉพาะตัว จะโอนไม่ได้  เว้นแต่กรณีตาย  ให้ตกได้แก่คู่สมรส และทายาทที่ได้แจ้งไว้  และถ้าการตายนั้นเกิดขึ้น เพราะเหตุปฏิบัติหน้าท่ีหรือในการปฏิบัติหน้าที่ให้ได้รับ เป็นสองเทา่ ของบำ� เหน็จตอบแทนท่ีกำ� หนดไว้ตามวรรคสอง หมวด  ๓ ผูว้ า่ การตรวจเงนิ แผน่ ดิน มาตรา ๔๐ ให้มีผู้ว่าการคนหนึ่งซ่ึงพระมหากษัตริย์ ผูว้ า่ การ ทรงแต่งตั้งตามค�ำแนะน�ำของวุฒิสภาโดยได้รับการเสนอช่ือ ตรวจเงนิ แผ่นดนิ จากคณะกรรมการ ผู้ว่าการต้องมีคุณสมบัติและไม่มีลักษณะต้องห้าม เช่นเดยี วกับกรรมการ

216 กรณีท่แี ต่งต้งั มาตรา ๔๑ เม่ือมีกรณีที่จะต้องแต่งต้ังผู้ว่าการ ผ้วู ่าการ ให้คณะกรรมการด�ำเนินการสรรหาบุคคลที่สมควรได้รับ ตรวจเงินแผ่นดนิ การเสนอชอื่ เพื่อแต่งตง้ั เปน็ ผู้วา่ การ การสรรหา มาตรา ๔๒ ในการสรรหาผู้ว่าการ  ให้คณะ ผวู้ ่าการ กรรมการประกาศรับสมัครบุคคลเพ่ือเข้ารับการสรรหา ตรวจเงนิ แผ่นดนิ เป็นระยะเวลาไม่น้อยกว่าสามสิบวัน  ซึ่งต้องกระท�ำ โดยเปดิ เผย  และให้มีการประกาศรายชอ่ื บคุ คลที่จะเข้ารับ การสรรหาให้ประชาชนทราบเป็นการท่ัวไป  เพ่ือรับฟัง ข้อมูลเกี่ยวกับความเหมาะสมของผู้เข้ารับการสรรหา ดังกลา่ วเพื่อประกอบการพิจารณาในการสรรหาด้วย หลักเกณฑ์  วิธีการ  และเงื่อนไขการสมัคร  และ ระยะเวลาท่ีจะใช้ในการสรรหาทุกข้ันตอนให้เป็นไปตามที่ คณะกรรมการก�ำหนด การปรึกษาหารอื มาตรา ๔๓ ให้คณะกรรมการปรึกษาหารือ เพ่อื คดั เลอื กบุคคล เพื่อคัดเลือกให้ได้บุคคลซ่ึงมีความรู้ความเช่ียวชาญและ ด�ำรงตำ� แหนง่ ประสบการณ์เกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดิน  กฎหมาย ผวู้ า่ การ การบัญชี  การตรวจสอบภายใน  การเงินการคลัง  และ ด้านอ่ืนท่ีเป็นประโยชน์ต่อการตรวจเงินแผ่นดิน  และ ตรวจเงินแผ่นดิน เป็นผู้ที่มีความรับผิดชอบสูง  มีความกล้าหาญและ ความซื่อสัตย์สุจริตในการปฏิบัติหน้าท่ี  และมีพฤติกรรม ทางจริยธรรมเป็นตัวอย่างที่ดีของสังคม  รวมตลอดท้ังมี ทัศนคตทิ เ่ี หมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ใหเ้ กดิ ผลสำ� เร็จ

217 มาตรา ๔๔ ในการสรรหา  ให้ใช้วิธีลงคะแนน การลงคะแนน โดยเปิดเผย  และให้กรรมการแต่ละคนบันทึกเหตุผล ของกรรมการ ในการลงคะแนนของตนไวด้ ้วย ตรวจเงินแผน่ ดิน ผู้ซึ่งจะได้รับการเสนอช่ือเพื่อแต่งตั้งเป็นผู้ว่าการ ในการสรรหา ต้องได้รับคะแนนเสียงถึงสองในสามของจ�ำนวนทั้งหมด ผูว้ า่ การ เท่าท่ีมีอยู่ของคณะกรรมการ  ในกรณีที่ไม่มีผู้ได้รับ ตรวจเงนิ แผ่นดนิ คะแนนเสียงถงึ สองในสามให้ดำ� เนินการ  ดงั ต่อไปน้ี (๑)  ในกรณมี ีผสู้ มัครคนเดยี ว  ใหด้ ำ� เนินการสรรหาใหม่ (๒)  ในกรณีมีผู้สมัครสองคนให้ลงคะแนนใหม่ อีกคร้ังหน่ึง  ถ้ายังไม่มีผู้ใดได้คะแนนเสียงถึงสองในสาม ให้ด�ำเนนิ การสรรหาใหม่ (๓)  ในกรณีมีผู้สมัครเกินสองคนข้ึนไป  ให้น�ำผู้ท่ีได้รับ คะแนนสูงสุดสองล�ำดับแรกมาลงคะแนนใหม่  ถ้ายังไม่มีผู้ใด ไดค้ ะแนนเสยี งถึงสองในสาม  ใหด้ ำ� เนนิ การสรรหาใหม่ ถ ้ า มี ผู ้ ไ ด ้ รั บ ค ะ แ น น เ ท ่ า กั น จ น เ ป ็ น เ ห ตุ ให้มีผู้ได้คะแนนสูงสุดเกินสองคน  ให้ประธานกรรมการ จั บ ส ล า ก ผู ้ ที่ ไ ด ้ รั บ ค ะ แ น น เ ท ่ า กั น เ พ่ื อ ใ ห ้ เ ห ลื อ ส อ ง ค น แลว้ จึงลงคะแนน มาตรา ๔๕ เม่ือคณะกรรมการคัดเลือกบุคคล การเสนอชือ่ ท่ีสมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้ว่าการได้แล้ว  ให้เสนอชื่อ ผไู้ ดร้ บั การคดั เลอื ก ผู ้ ไ ด ้ รั บ ก า ร คั ด เ ลื อ ก พ ร ้ อ ม ค ว า ม ยิ น ย อ ม ข อ ง ผู ้ น้ั น เปน็ ผู้ว่าการ ตอ่ ประธานวฒุ สิ ภา ตรวจเงินแผน่ ดิน พรอ้ มความยนิ ยอม

218 ให้น�ำบทบัญญัติมาตรา  ๑๘  มาใช้บังคับ แก่ผู้ซึ่งได้รับการคดั เลือกดว้ ยโดยอนโุ ลม การแตง่ ต้ัง มาตรา ๔๖ ผู้ได้รับการเสนอช่ือเพื่อแต่งตั้ง ผวู้ า่ การ เป็นผู้ว่าการ  ต้องได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา ตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่าก่ึงหนึ่งของสมาชิกวุฒิสภา ทงั้ หมดเทา่ ทีม่ อี ยู่ ในกรณีท่ีวุฒิสภาไม่ให้ความเห็นชอบผู้ได้รับ การเสนอชื่อ  ให้ด�ำเนินการสรรหาบุคคลใหม่แทนผู้นั้น แล้วเสนอต่อวุฒิสภาเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป  โดยผู้ซึ่ง ไม่ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาในคร้ังนี้จะเข้ารับ การสรรหาในครง้ั ใหมน่ ้ไี มไ่ ด้ ให้ประธานวุฒิสภาน�ำความกราบบังคมทูล เพ่ือทรงแต่งตั้งผู้ว่าการ  และเป็นผู้ลงนามรับสนอง พระบรมราชโองการ วาระการดำ� รงต�ำแหน่ง มาตรา ๔๗ ให้ผู้ว่าการมีวาระการด�ำรงต�ำแหน่ง ของผวู้ ่าการ คราวละหกปีนับแต่วันท่ีพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้ง ตรวจเงินแผ่นดิน และใหด้ �ำรงต�ำแหนง่ ไดเ้ พยี งวาระเดียว ความเปน็ อสิ ระ มาตรา ๔๘ ให้ผู้ว่าการมีความเป็นอิสระ ในการปฏิบัติหนา้ ท่ี ในการปฏิบัติหน้าที่โดยรับผิดชอบต่อคณะกรรมการ ของผวู้ ่าการ และเป็นผู้บังคบั บัญชาสงู สุดของส�ำนกั งาน ตรวจเงนิ แผน่ ดิน

219 ในการปฏิบัติหน้าท่ีตามวรรคหน่ึง  ผู้ว่าการ พึงรับฟังค�ำแนะน�ำ  ข้อเสนอแนะ  หรือข้อท้วงติง ของคณะกรรมการซึ่งต้องไม่กระทบต่อความเป็นอิสระ ในการตรวจเงนิ แผ่นดินของผูว้ า่ การ มาตรา ๔๙ ผู้ว่าการต้องปฏิบัติหน้าที่เต็มเวลา การปฏบิ ตั ิหน้าท่ี และการปฏิบัติหน้าที่และการใช้อ�ำนาจของผู้ว่าการ และการใช้อำ� นาจ ต้องเป็นไปโดยสุจริต  เที่ยงธรรม  กล้าหาญ  และปราศจาก ของผู้ว่าการ อคติทั้งปวงในการใช้ดุลพินิจ  และปฏิบัติตนให้ถูกต้อง ตรวจเงนิ แผ่นดิน ตามมาตรฐานทางจริยธรรม  ในระหว่างการด�ำรงต�ำแหน่ง ผู้ว่าการจะเข้ารับการศึกษาหรืออบรมในหลักสูตรหรือ โครงการใด  ๆ  มิได้  เว้นแต่เป็นหลักสูตรหรือโครงการ ท่ีจดั ข้ึนโดยเฉพาะสำ� หรับกรรมการและผู้ว่าการ มาตรา ๕๐ นอกจากการพ้นจากต�ำแหน่ง การพน้ จากต�ำแหนง่ ตามวาระ  ผวู้ ่าการพ้นจากต�ำแหน่งเมอ่ื ของผู้ว่าการ (๑) ตาย ตรวจเงนิ แผน่ ดนิ (๒) ลาออก (๓) ขาดคุณสมบัติตามมาตรา  ๑๓  หรือ มีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา  ๑๔ (๔) คณะกรรมการมีมติให้พ้นจากต�ำแหน่ง ด้วยคะแนนเสียงสามในส่ีของกรรมการทั้งหมดเท่าท่ีมีอยู่ เน่ืองจากจงใจฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามนโยบายการตรวจเงิน แผ่นดินหรือหลักเกณฑ์มาตรฐานเกี่ยวกับการตรวจเงิน

220 แผ่นดินท่ีคณะกรรมการก�ำหนดและเมื่อคณะกรรมการ สั่ ง ใ ห ้ แ ก ้ ไ ข แ ล ้ ว ไ ม ่ ด� ำ เ นิ น ก า ร ภ า ย ใ น เ ว ล า อั น ส ม ค ว ร จนอาจกอ่ ให้เกิดความเสียหายอย่างรา้ ยแรงตอ่ ทางราชการ (๕) พน้ จากต�ำแหน่งดว้ ยเหตอุ ื่นตามรัฐธรรมนูญ (๖) ไม่สามารถท�ำงานไดเ้ ตม็ เวลา กรณที ีผ่ ูว้ า่ การ มาตรา ๕๑ ในกรณีที่ผู้ว่าการต้องหยุดปฏิบัติ ตรวจเงินแผ่นดิน หน้าท่ีเพราะถูกกล่าวหาและศาลฎีกาหรือศาลฎีกา ตอ้ งหยดุ ปฏิบตั ิหน้าที่ แผนกคดีอาญาของผู้ด�ำรงต�ำแหน่งทางการเมืองประทับรับฟ้อง เพราะถูกกล่าวหา ให้รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินซ่ึงมีอาวุโสสูงสุดปฏิบัติ หน้าท่ีแทน  จนกว่าผู้ว่าการจะปฏิบัติหน้าที่ได้  หรือ จนกว่าจะมกี ารแตง่ ตง้ั ผ้ดู �ำรงต�ำแหนง่ ผวู้ ่าการแทน หลักเกณฑ์การก�ำหนดอาวุโสตามวรรคหน่ึง ใ ห ้ เ ป ็ น ไ ป ต า ม ร ะ เ บี ย บ ท่ี ผู ้ ว ่ า ก า ร โ ด ย ค ว า ม เ ห็ น ช อ บ ของคณะกรรมการกำ� หนด เงนิ เดอื น มาตรา ๕๒ ให้ผู้ว่าการได้รับเงินเดือน  เงินประจ�ำ เงินประจำ� ต�ำแหน่ง ต�ำแหน่ง  ค่ารับรองเหมาจ่ายและประโยชน์ตอบแทนอ่ืน ค่ารับรองเหมาจ่าย ฯลฯ เชน่ เดยี วกบั กรรมการ หนา้ ที่และอำ� นาจ มาตรา ๕๓ ให้ผู้ว่าการมีหน้าท่ีและอ�ำนาจ ของผู้ว่าการ ดงั ตอ่ ไปน้ี ตรวจเงนิ แผ่นดิน (๑)  ตรวจเงินแผ่นดินตามนโยบายการตรวจเงิน แผ่นดินและหลักเกณฑ์มาตรฐานเกี่ยวกับการตรวจเงิน แผ่นดินที่คณะกรรมการก�ำหนด  และตามกฎหมายว่าด้วย วนิ ยั การเงินการคลงั ของรัฐ

221 (๒) ตรวจผลสัมฤทธ์ิและประสิทธิภาพในการใช้จ่าย เงนิ ของหน่วยงานของรัฐ (๓) มอบหมายให้เจ้าหน้าท่ีด�ำเนินการตาม  (๑) และ  (๒) (๔) ก�ำกับและรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าท่ี ของเจ้าหน้าทต่ี าม  (๓) ในการตรวจเงินแผ่นดินส�ำหรับหน่วยรับตรวจ ตามบทนิยามค�ำว่า  “หน่วยรับตรวจ”  ตามมาตรา  ๔  (๗) ให้ตรวจเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับเงินอุดหนุนหรือกิจการ ท่ี ไ ด ้ รั บ เ งิ น ห รื อ ท รั พ ย ์ สิ น ล ง ทุ น จ า ก ห น ่ ว ย รั บ ต ร ว จ ตามบทนิยามค�ำว่า  “หน่วยรับตรวจ”  ตามมาตรา  ๔ (๑)  (๒)  (๓)  (๔)  หรือ  (๖)  ว่ามีการใช้จ่ายไปตาม วัตถปุ ระสงคห์ รอื ไม่ มาตรา ๕๔ นอกจากหน้าท่ีและอ�ำนาจตาม หนา้ ที่ มาตรา  ๕๓  ให้ผู้วา่ การมีหนา้ ท่แี ละอำ� นาจ  ดงั ตอ่ ไปนดี้ ้วย และอำ� นาจอ่นื ๆ (๑) ก�ำหนดแผนการตรวจสอบประจ�ำปีเพื่อให้ ของผู้วา่ การ สำ� นักงานถอื ปฏบิ ัติ  และเสนอคณะกรรมการเพอื่ ทราบ ตรวจเงินแผ่นดนิ (๒) ต ร ว จ ส อ บ ร า ย ง า น ก า ร เ งิ น แ ผ ่ น ดิ น ประจ�ำปีงบประมาณ  และแสดงความเห็นว่าเป็นไป ตามกฎหมายและตามความเป็นจรงิ หรอื ไม่ (๓) ตรวจสอบบัญชีทุนส�ำรองเงินตราประจ�ำปี แ ล ะ แ ส ด ง ค ว า ม เ ห็ น ว ่ า เ ป ็ น ไ ป ต า ม ก ฎ ห ม า ย แ ล ะ ตามความเป็นจริงหรือไม่

222 (๔) แจ้งผลการตรวจสอบและติดตามให้หน่วยงาน ที่เก่ียวข้องด�ำเนินการตามหน้าท่ีและอ�ำนาจเพื่อให้เป็นไป ตามผลการตรวจสอบ (๕) วางระเบียบเก่ียวกับการปฏิบัติงาน ของส�ำนักงานเท่าที่ไม่ขัดกับระเบียบหรือประกาศหรือ มติของคณะกรรมการ (๖) แต่งต้ังท่ีปรึกษาหรือผู้เช่ียวชาญในสาขา วิชาการหรือในกิจการต่าง  ๆ  เพื่อช่วยการปฏิบัติงาน ของส�ำนักงาน  ทั้งน้ี  ตามระเบียบท่ีคณะกรรมการ ก�ำหนด (๗) จัดจ้างและก�ำหนดค่าจ้างที่ปรึกษาหรือ ผู้เชี่ยวชาญในการปฏิบัติงานของส�ำนักงาน  ทั้งน้ี ตามระเบียบทคี่ ณะกรรมการก�ำหนด (๘) มอบหมายเจ้าหน้าท่ีเพื่อปฏิบัติการ ตาม  (๒)  (๓)  และ  (๔)  และมาตรา  ๗  วรรคสาม รวมถึงรับผิดชอบในการปฏิบัติหน้าท่ีของเจ้าหน้าท ี่ ดงั กล่าว (๙) ปฏิบัติหน้าที่อ่ืนใดตามที่มีกฎหมายก�ำหนด หรอื ตามทคี่ ณะกรรมการมอบหมาย การก�ำหนดแผนการตรวจสอบตาม  (๑) ต้องสอดคล้องกับนโยบายการตรวจเงินแผ่นดินและหลักเกณฑ์ มาตรฐานเกี่ยวกับการตรวจเงินแผ่นดินที่คณะกรรมการ ก�ำหนด

223 มาตรา ๕๕ การใช้หน้าที่และอ�ำนาจตาม ข้อห้ามในการใช้ มาตรา  ๕๓  และมาตรา  ๕๔  นั้น  ห้ามมิให้ผู้ว่าการหรือ หน้าท่ีและอำ� นาจ เจ้าหน้าท่ีท่ีผู้ว่าการมอบหมายด�ำเนินการสอบบัญช ี ของผู้วา่ การ โดยมีการเรียกค่าใช้จ่ายจากหน่วยรับตรวจอันเป็นการขัดกัน ตรวจเงินแผน่ ดิน แหง่ ผลประโยชน์ มาตรา ๕๖ ห้ามมิให้มีการเปิดเผยหรือเผยแพร่ ข้อหา้ มเก่ียวกับ ข้อมูลเก่ียวกับการตรวจสอบที่อยู่ระหว่างการด�ำเนินการ การเปดิ เผยหรือ ให้สาธารณชนทราบ  จนกว่าจะได้ข้อยุติเกี่ยวกับการตรวจสอบ เผยแพรข่ ้อมูล นั้นแล้ว  เว้นแต่เป็นกรณีจ�ำเป็นเพื่อประโยชน์ในการระงับ การตรวจสอบ ความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นแก่ทางราชการ  ผู้ว่าการ ทีอ่ ยรู่ ะหวา่ ง การด�ำเนินการ จะเปิดเผยหรือเผยแพร่ข้อมูลที่จะเป็นประโยชน์ดังกล่าวก็ได้ ใหส้ าธารณชนทราบ ตามระเบียบท่ีคณะกรรมการก�ำหนด  แต่ไม่ว่าจะเป็นกรณีใด การเปดิ เผยตอ้ งไมม่ ลี กั ษณะเปน็ การวนิ จิ ฉยั วา่ มกี ารกระทำ� ความผดิ เกดิ ขึน้ แลว้ มาตรา ๕๗ ในกรณีท่ีหน่วยรับตรวจสอบถาม กรณที ีห่ น่วยรบั ตรวจ เก่ียวกับการปฏิบัติให้ถูกต้องตามพระราชบัญญัต ิ สอบถามเก่ียวกบั ประกอบรัฐธรรมนูญน้ี  กฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ การปฏบิ ตั ิ หรือในเรื่องที่อยู่ในอ�ำนาจการตรวจสอบของผู้ว่าการ ให้ผู้ว่าการหรือเจ้าหน้าท่ีท่ีได้รับมอบหมายตอบข้อสอบถาม เป็นหนังสือโดยเร็ว  ซ่ึงต้องไม่ช้ากว่าสามสิบวันนับแต ่ วนั ไดร้ บั การสอบถาม ในกรณีท่ีหน่วยรับตรวจได้ปฏิบัติตามท่ีได้รับแจ้ง ตามวรรคหนึ่ง  หรือตามที่หน่วยงานที่เป็นผู้มีหน้าท ี่

224 ดูแลการปฏิบัติตามกฎหมาย  ระเบียบ  ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี  หรือแบบแผนการปฏิบัติราชการได้แจ้ง ให้ทราบแล้ว  มิให้ถือว่าเป็นการกระท�ำท่ีไม่ชอบหรือ ไม่ถูกต้อง  แต่ไม่ตัดอ�ำนาจผู้ว่าการท่ีจะแก้ไขค�ำตอบหรือ โต้แย้งกับหน่วยงานท่ีเป็นผู้มีหน้าท่ีดูแลการปฏิบัติตาม กฎหมาย  ระเบียบ  ข้อบังคับ  มติคณะรัฐมนตรี  หรือ แบบแผนการปฏิบัติราชการดังกล่าว  และในกรณีท่ีมี ข้อยุติที่แตกต่างไป  มิให้มีผลกระทบกับการกระท�ำท่ีได้ ด�ำเนินการไปก่อนแล้ว หมวด  ๔ สำ� นักงานการตรวจเงินแผ่นดนิ ส�ำนักงาน มาตรา ๕๘ ให้มีส�ำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน การตรวจเงนิ แผน่ ดิน เป็นส่วนราชการที่เป็นหน่วยงานอิสระตามรัฐธรรมนูญ มีฐานะเป็นนิติบุคคล  และอยู่ภายใต้การบังคับบัญชา ของผวู้ ่าการ ให้ส�ำนักงานท�ำหน้าที่เป็นหน่วยธุรการ ของคณะกรรมการ มาตรา ๕๙ ส�ำนักงานมีหน้าท่ีและอ�ำนาจ ดงั ต่อไปน้ี

225 (๑) รับผิดชอบงานธุรการ  และด�ำเนินการ หนา้ ที่และอำ� นาจ เพ่ือให้คณะกรรมการบรรลุภารกิจและหน้าที่ตามที่ก�ำหนด ของส�ำนกั งาน ไว้ในรัฐธรรมนูญ  พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญน ี้ การตรวจเงนิ และกฎหมายอ่ืน แผน่ ดิน (๒) อ�ำนวยความสะดวก  ช่วยเหลือ  ส่งเสริม และสนับสนุนการปฏิบัติงานของคณะกรรมการ  กรรมการ และผวู้ า่ การ (๓) ด�ำเนินการเพ่ือให้หน่วยรับตรวจมีความรู้ ความเข้าใจในหน้าที่ที่ต้องปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย ระเบียบ  ข้อบังคับ  มติคณะรัฐมนตรี  และแบบแผน การปฏิบตั ิราชการ (๔) จัดให้มีการฝึกอบรมและพัฒนาความรู ้ ความเข้าใจให้แก่เจ้าหน้าที่และบุคลากรอื่นของส�ำนักงาน เพ่อื สนับสนนุ และส่งเสรมิ กระบวนการตรวจสอบ (๕) ประสานงานและร่วมมือกับหน่วยงาน ต่างประเทศหรือระหว่างประเทศเก่ียวกับการตรวจเงิน แผ่นดนิ (๖) จัดท�ำรายงานผลการปฏิบัติงานประจ�ำปี แ ล ะ ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ป ฏิ บั ติ ง า น ร ะ ห ว ่ า ง ป ี เ ส น อ ต ่ อ คณะกรรมการเพื่อให้ค�ำแนะน�ำ  ข้อเสนอแนะ  หรือข้อท้วงติง และพิจารณาเห็นชอบก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎร  วุฒิสภา และคณะรฐั มนตรีทราบ

226 (๗) ติดตามผลการด�ำเนินงานของหน่วยรับตรวจ ตามข้อเสนอแนะของส�ำนักงาน (๘) รวบรวมค�ำสั่งของผู้ว่าการและเจ้าหน้าท ี่ ที่มีถึงหน่วยรับตรวจในส่วนท่ีเก่ียวกับผลการตรวจสอบ เพื่อเสนอคณะกรรมการพิจารณาวางหลักเกณฑ ์ ให้เจ้าหน้าท่ีปฏิบัติให้เป็นมาตรฐาน  รวมถึงเผยแพร ่ ใหห้ นว่ ยรบั ตรวจและประชาชนทราบ (๙) เผยแพร่ผลการตรวจสอบให้ประชาชน ทราบเป็นการท่ัวไปตามหลักเกณฑ์ท่ีคณะกรรมการ ก�ำหนด (๑๐) ปฏิบัติหน้าท่ีอ่ืนตามที่กฎหมายก�ำหนด หรือท่คี ณะกรรมการหรอื ผ้วู ่าการมอบหมาย การก�ำกับดแู ล มาตรา ๖๐ ใ น ก า ร ก� ำ กั บ ดู แ ล ส� ำ นั ก ง า น ส�ำนักงาน ให้คณะกรรมการมีอ�ำนาจออกระเบียบหรือประกาศ การตรวจเงนิ ในเรื่องดังต่อไปน้ี แผน่ ดิน (๑)  การแบ่งส่วนราชการภายในของส�ำนักงาน และขอบเขตหนา้ ที่และอ�ำนาจของส่วนราชการดงั กลา่ ว (๒) การก�ำหนดต�ำแหน่ง  การจัดประเภท ต�ำแหน่งและระดับต�ำแหน่ง  และการเทียบต�ำแหน่ง อัตราเงินเดือน  เงินเพ่ิมพิเศษส�ำหรับต�ำแหน่ง  และ ค่าตอบแทนพเิ ศษหรือสทิ ธปิ ระโยชน์อืน่ ของเจา้ หน้าท่ี (๓) การก�ำหนดคุณสมบัติ  การคัดเลือก การบรรจุ  การแต่งต้ัง  การออกจากราชการ  วินัย  การร้องทุกข์

227 แ ล ะ ก า ร อื่ น ท่ี จ� ำ เ ป ็ น ใ น ก า ร บ ริ ห า ร ง า น บุ ค ค ล ส� ำ ห รั บ เจ้าหนา้ ท่ี (๔) การก�ำหนดวิธีการและเงื่อนไขในการจ้าง ลูกจ้างของส�ำนักงาน  รวมตลอดท้ังอัตราเงินเดือน เงินเพิ่ม  และค่าตอบแทนพิเศษหรือสิทธิประโยชน์อ่ืน ของลูกจา้ งของส�ำนกั งาน (๕) การก�ำหนดวิธีการและเง่ือนไขในการจ้าง ท่ีปรึกษาหรือผู้เชี่ยวชาญ  เพ่ือช่วยการปฏิบัติงาน ของส�ำนักงาน  รวมตลอดท้ังค่าจ้างหรือค่าตอบแทนอื่น ของทปี่ รึกษาหรือผ้เู ชย่ี วชาญ (๖) การบริหารจัดการการเงินและทรัพย์สิน การงบประมาณ  และการพัสดุของสำ� นักงาน (๗) การจัดสวัสดิการหรือการสงเคราะห์อ่ืน แกเ่ จ้าหน้าทแี่ ละบคุ ลากรอ่ืนของส�ำนกั งาน (๘)  การก�ำหนดเครื่องแบบและการแต่งเครื่องแบบ ของกรรมการ  ผู้ว่าการ  เจ้าหน้าท่ี  และบุคลากรอ่ืน ของส�ำนักงาน การด�ำเนินการตาม  (๑)  และ  (๒)  ต้องค�ำนึงถึง ความมปี ระสทิ ธิภาพและความคลอ่ งตวั การก�ำหนดตาม  (๒)  และ  (๔)  ต้องค�ำนึงถึง ค่าครองชีพ  และความเพียงพอในการด�ำรงชีพและภาระ ความรับผิดชอบที่แตกต่างกันของบุคลากรแต่ละสายงาน และระดับดว้ ย

228 ในการออกระเบียบเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล ตามวรรคหนึ่ง  ให้คณะกรรมการค�ำนึงถึงความเที่ยงธรรม ขวัญและกำ� ลงั ใจของบุคลากร ให้ประธานกรรมการเป็นผู้มีหน้าท่ีลงนาม ในระเบียบหรือประกาศที่คณะกรรมการมีมติเห็นชอบแล้ว และเม่ือประกาศในราชกจิ จานุเบกษาแล้วให้ใชบ้ ังคับได้ การด�ำเนินการตามมาตราน้ี  ต้องไม่มีผล เป็นการให้คณะกรรมการหรือกรรมการมีอ�ำนาจในการบรรจุ แต่งตั้ง  ย้าย  เลื่อนต�ำแหน่ง  หรือขึ้นเงินเดือนเจ้าหน้าที่ เว้นแต่เป็นกรณีของรองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินหรือ ต�ำแหน่งอ่ืนท่ีเทียบเท่า  คณะกรรมการจะก�ำหนดให้ ตอ้ งไดร้ ับความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการกอ่ นกไ็ ด้ กรณแี ต่งต้ังรองผ้วู ่าการ เม่ือมีกรณีที่จะต้องแต่งตั้งรองผู้ว่าการตรวจเงิน ตรวจเงนิ แผน่ ดิน แผ่นดินหรือผู้ด�ำรงต�ำแหน่งอ่ืนที่เทียบเท่าให้น�ำความ หรอื เทียบเทา่ กราบบงั คมทลู เพ่อื ทรงแต่งตง้ั ตอ่ ไป ข้าราชการ มาตรา ๖๑ ข้าราชการส�ำนักงาน  ได้แก่ สำ� นกั งาน บุคคลซึ่งได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้เป็นข้าราชการ การตรวจเงิน ตามพระราชบญั ญัตปิ ระกอบรฐั ธรรมนูญนี้ แผ่นดนิ ให้ข้าราชการส�ำนักงานเป็นข้าราชการ ตามกฎหมายว่าด้วยกองทุนบ�ำเหนจ็ บำ� นาญขา้ ราชการ และการบริหารงาน การใดอันเก่ียวกับการบริหารงานบุคคลท่ีมิได้ บคุ คลของเจ้าหนา้ ที่ ก�ำหนดไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญน้ีหรือ

229 ร ะ เ บี ย บ ห รื อ ป ร ะ ก า ศ ที่ อ อ ก ต า ม พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ต ิ ประกอบรัฐธรรมนูญนี้  ให้น�ำกฎหมายว่าด้วยระเบียบ ข้าราชการพลเรือนมาใช้บังคับแก่การบริหารงานบุคคล ของเจ้าหนา้ ท่ีดว้ ยโดยอนโุ ลม การจ่ายเงินเดือนและเงินประจ�ำต�ำแหน่ง ให้แก่ข้าราชการส�ำนักงาน  ให้เป็นไปตามกฎหมาย ว่าด้วยการน้ัน มาตรา ๖๒ ภายใต้บังคับมาตรา  ๖๐  วรรคหก การปฏิบตั ิหน้าท่ี และเพื่อประโยชน์ในการด�ำเนินการตามมาตรา  ๖๑ ของคณะกรรมการ ให้คณะกรรมการท�ำหน้าที่เป็น  ก.พ.  ตามกฎหมายว่าด้วย ตรวจเงินแผ่นดิน ร ะ เ บี ย บ ข ้ า ร า ช ก า ร พ ล เ รื อ น แ ล ะ มี อ� ำ น า จ แ ต ่ ง ต้ั ง ในฐานะองค์กรกลาง อนุกรรมการเพื่อท�ำหน้าที่เป็นคณะอนุกรรมการข้าราชการ บริหารงานบคุ คล และคณะอนกุ รรมการ ส�ำนักงานได้  โดยมีองค์ประกอบและหน้าที่และอ�ำนาจ ท่ไี ด้รบั การแตง่ ตัง้ ตามหลกั เกณฑ์และวิธกี ารท่ีคณะกรรมการก�ำหนด ให้คณะอนุกรรมการที่ได้รับแต่งตั้งท�ำหน้าท ่ี เ ช ่ น เ ดี ย ว กั บ ค ณ ะ อ นุ ก ร ร ม ก า ร ส า มั ญ ป ร ะ จ� ำ ก ร ะ ท ร ว ง ตามกฎหมายวา่ ดว้ ยระเบียบขา้ ราชการพลเรอื น ในการปฏิบัติหน้าท่ีของคณะกรรมการในฐานะ อ ง ค ์ ก ร ก ล า ง บ ริ ห า ร ง า น บุ ค ค ล แ ล ะ ค ณ ะ อ นุ ก ร ร ม ก า ร ที่ได้รบั การแต่งตั้ง  ใหม้ ีสิทธิได้รับค่าเบ้ยี ประชมุ เช่นเดยี วกบั ก.พ.  หรอื   อ.ก.พ.  แลว้ แต่กรณี

230 การออกข้อกำ� หนด มาตรา ๖๓ ให้คณะกรรมการออกข้อก�ำหนด ทางจริยธรรม ทางจริยธรรมข้ึนใช้บังคับแก่เจ้าหน้าที่และบุคลากรอ่ืน ของเจ้าหน้าทแ่ี ละ ของส�ำนักงาน  ทั้งนี้  ข้อก�ำหนดทางจริยธรรมดังกล่าว บคุ ลากรอืน่ ของส�ำนักงาน ต้องระบุด้วยว่าการฝา่ ฝืนหรือไม่ปฏบิ ัติตามจะต้องได้รบั โทษ การตรวจเงินแผน่ ดิน อยา่ งใด การโอนขา้ ราชการ มาตรา ๖๔ การโอนข้าราชการตามกฎหมายอ่ืน มาบรรจุเป็นข้าราชการส�ำนักงานอาจกระท�ำได ้ ถ้าเจ้าตัวสมัครใจ  โดยผู้มีอ�ำนาจส่ังบรรจุท�ำความตกลง กับเจ้าสังกัดแล้วเสนอคณะกรรมการเพื่อพิจารณาอนุมัติ ทั้งน้ี  จะแต่งตั้งให้ด�ำรงต�ำแหน่งระดับใดและได้รับ เงินเดือนเท่าใดให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และเง่ือนไข ท่ีคณะกรรมการก�ำหนด  แต่เงินเดือนท่ีจะให้ได้รับจะต้อง ไม่สูงกว่าข้าราชการส�ำนักงานท่ีมีคุณวุฒิ  ความสามารถ และความช�ำนาญงานในระดับเดยี วกัน เพ่ือประโยชน์ในการนับเวลาราชการ  ให้ถือ เวลาราชการหรือเวลาท�ำงานของผู้ซ่ึงโอนมาตามวรรคหนึ่ง ในขณะที่เป็นข้าราชการน้ัน  เป็นเวลาราชการของข้าราชการ ส�ำนักงานตามพระราชบญั ญตั ิประกอบรฐั ธรรมนญู นดี้ ้วย การโอนข้าราชการการเมืองและข้าราชการท่ีอยู่ ในระหว่างทดลองปฏิบัติหน้าท่ีราชการมาเป็นข้าราชการ ส� ำ นั ก ง า น ต า ม พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ ป ร ะ ก อ บ รั ฐ ธ ร ร ม นู ญ น ี้ จะกระท�ำมิได้

231 มาตรา ๖๕ ในกิจการของส�ำนักงานท่ีเก่ียวกับ กิจการของสำ� นักงาน บุคคลภายนอก  ให้ผู้ว่าการเป็นผู้แทนของส�ำนักงาน การตรวจเงนิ แผน่ ดิน เพ่ือการน้ี  ผู้ว่าการจะมอบอ�ำนาจให้เจ้าหน้าท่ีปฏิบัติงานแทน ท่เี กย่ี วกับ กไ็ ด ้ ตามระเบียบทีค่ ณะกรรมการก�ำหนด บุคคลภายนอก มาตรา ๖๖ ในการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติ การแสดง ประกอบรัฐธรรมนูญน้ี  ผู้ว่าการ  เจ้าหน้าที่และบุคลากรอ่ืน บตั รประจ�ำตัว ตอ้ งแสดงบัตรประจำ� ตวั ต่อบคุ คลทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง บัตรประจ�ำตัวตามวรรคหน่ึง  ให้เป็นไปตาม แบบที่ผวู้ า่ การก�ำหนด  โดยประกาศในราชกิจจานเุ บกษา มาตรา ๖๗ ในการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติ การเป็นเจา้ พนักงาน ประกอบรัฐธรรมนูญนี้  ให้ประธานกรรมการ  กรรมการ ตามประมวล ผู้ว่าการ  และเจ้าหน้าที่ท่ีได้รับมอบหมายตามมาตรา  ๕๓ กฎหมายอาญา มาตรา  ๕๔  และมาตรา  ๙๓  แห่งพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญน้ี  เป็นเจ้าพนักงานตามประมวล กฎหมายอาญา มาตรา ๖๘ ให้ผู้ว่าการโดยความเห็นชอบ การเสนอ ของคณะกรรมการเสนองบประมาณรายจ่ายเพื่อจัดสรร งบประมาณรายจ่าย เป็นเงินอุดหนุนของคณะกรรมการและส�ำนักงานไว้ใน ร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจ�ำปีงบประมาณ หรือร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพ่ิมเติม แลว้ แต่กรณี

232 ในกรณีที่ผู้ว่าการเห็นว่างบประมาณรายจ่ายท่ีได้รับ การจัดสรรให้ไม่เพียงพอ  ให้ผู้ว่าการโดยความเห็นชอบ ของคณะกรรมการเสนอค�ำขอแปรญัตติต่อคณะกรรมาธิการ พจิ ารณางบประมาณของสภาผูแ้ ทนราษฎรไดโ้ ดยตรง ในการเสนองบประมาณรายจ่ายดังกล่าว ให้ผู้ว่าการพิจารณาผลการตรวจสอบของคณะผู้ตรวจสอบ ตามมาตรา  ๗๔  ประกอบด้วย ในการเสนองบประมาณรายจ่ายตามวรรคหน่ึง และวรรคสอง  ให้ผู้ว่าการแจ้งให้คณะรัฐมนตรีทราบถึง รายไดแ้ ละทรพั ยส์ ินทีม่ อี ยดู่ ้วย การจัดท�ำ มาตรา ๖๙ เมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณ งบประมาณรายจ่าย รายจ่ายประจ�ำปีงบประมาณหรือพระราชบัญญัติ งบประมาณรายจ่ายเพ่ิมเติมตามมาตรา  ๖๘  ใช้บังคับแล้ว ใ ห ้ ส� ำ นั ก ง า น จั ด ท� ำ ง บ ป ร ะ ม า ณ ร า ย จ ่ า ย ป ร ะ จ� ำ ป ี เพื่อขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการ  และเผยแพร่ ใหป้ ระชาชนทราบเปน็ การท่ัวไป  การใช้จา่ ยเงิน การใช้จ่ายเงินของส�ำนักงานต้องเป็นไปตามท่ี ของส�ำนกั งาน ระบุไว้ในงบประมาณรายจ่ายประจ�ำปีตามวรรคหน่ึง การตรวจเงนิ แผ่นดนิ เวน้ แต่จะได้รับอนมุ ัตจิ ากคณะกรรมการเปน็ การเฉพาะกรณี การเบกิ ในการเบิกงบประมาณท่ีได้รับการจัดสรร งบประมาณ ให้ส�ำนักงานส่งข้อมูลค�ำขอเบิกงบประมาณต่อกรมบัญชีกลาง โดยให้ระบุจ�ำนวนเงินที่จะต้องใช้ในแต่ละงวด  งวดละสามเดือน

233 และให้กรมบัญชีกลางสั่งจ่ายเงินให้แก่ส�ำนักงานภายใน สามวันก่อนวันข้ึนงวดใหม่  แต่ในกรณีที่ส�ำนักงาน มีความจ�ำเป็นต้องใช้เงินมากกว่าท่ีได้แจ้งไว้ในงวดใด ให้กรมบัญชกี ลางจ่ายใหต้ ามท่สี �ำนกั งานร้องขอ มาตรา ๗๐ รายได้และทรัพย์สินในการด�ำเนิน รายได้และทรพั ยส์ นิ กิจการของสำ� นกั งาน  ประกอบด้วย ในการด�ำเนนิ กิจการ (๑)  เงินอดุ หนุนทไ่ี ด้รับตามมาตรา  ๖๘ ของส�ำนกั งาน (๒)  ทรัพยส์ นิ ท่ีมีผ้อู ุทศิ ใหแ้ กส่ �ำนกั งาน การตรวจเงนิ แผน่ ดิน (๓) ดอกผลหรือประโยชน์ของเงินหรือทรัพย์สิน ของส�ำนักงาน (๔) รายไดอ้ ่นื ตามทีก่ ฎหมายก�ำหนด ในการรับทรัพย์สินตาม  (๒)  ให้ค�ำนึงถึง การรบั ทรัพยส์ ิน ความเป็นกลางในการปฏิบัติหน้าท่ี  และในกรณีท่ีคณะกรรมการ เ ห็ น ว ่ า ก า ร รั บ ท รั พ ย ์ สิ น ดั ง ก ล ่ า ว อ า จ มี ผ ล ก ร ะ ท บ ต ่ อ ความเป็นกลางในการปฏิบัติหน้าที่ของส�ำนักงาน  จะส่ัง ให้ส�ำนักงานไม่รับทรัพย์สินนั้นหรือให้คืนทรัพย์สินนั้น แก่ผ้อู ทุ ศิ ให้ก็ได้ การใช้จ่ายเงินรายได้ของส�ำนักงานให้เป็นไป ตามระเบียบทค่ี ณะกรรมการกำ� หนด มาตรา ๗๑ รายได้ของส�ำนักงานไม่เป็นรายได้ รายได้ ท่ีต้องน�ำส่งคลังตามกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง  กฎหมาย ของสำ� นกั งาน ว่าด้วยวธิ กี ารงบประมาณ  หรือกฎหมายอนื่ การตรวจเงนิ แผน่ ดนิ

234 ให้ส�ำนักงานจัดท�ำรายงานการรับและการใช้จ่ายเงิน ตามวรรคหนึ่งเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร  วุฒิสภา  และ คณะรฐั มนตรีเม่อื สน้ิ ปีงบประมาณทุกปี อสังหาริมทรัพย์ซึ่งส�ำนักงานได้กรรมสิทธิ์มา ไม่ว่าจากการซ้ือ  หรือมีผู้ยกให้  ให้เป็นท่ีราชพัสดุ  แต่ส�ำนักงาน มอี �ำนาจในการปกครองดแู ล  ใช้  หรอื หาประโยชน์ได้ ทรัพยส์ นิ มาตรา ๗๒ ทรัพย์สินของส�ำนักงานไม่อยู่ ของส�ำนักงาน ในความรับผิดแห่งการบังคับคดี  และผู้ใดจะยกอายุความ การตรวจเงินแผน่ ดนิ ขึ้นเปน็ ขอ้ ต่อสมู้ ไิ ด้ คณะกรรมการ มาตรา ๗๓ ให้มีคณะกรรมการก�ำกับการตรวจสอบ กำ� กับการตรวจสอบ เพ่ือท�ำหน้าที่ในการก�ำกับการปฏิบัติหน้าที่ในการตรวจสอบ ส�ำนักงานของคณะผู้ตรวจสอบ  และดูแลให้คณะผู้ตรวจสอบ มีความอิสระในการปฏิบัติหน้าท่ีตรวจสอบส�ำนักงาน ประกอบดว้ ย (๑) ประธานวุฒสิ ภาเป็นประธานกรรมการ (๒) ประธานองค์กรอิสระทุกองค์กร  ยกเว้น ประธานกรรมการตรวจเงินแผน่ ดนิ   เปน็ กรรมการ ให้อธิบดีกรมบัญชีกลางเป็นกรรมการและ เลขานุการ การแตง่ ต้งั มาตรา ๗๔ ให้กรมบัญชีกลางโดยความเห็นชอบ คณะผู้ตรวจสอบ ของคณะกรรมการก�ำกับการตรวจสอบแต่งตั้งคณะผู้ตรวจสอบ จากเจ้าหน้าที่ในกรมบัญชีกลางขึ้นคณะหนึ่งตามจ�ำนวน ท่ีเพียงพอต่อการปฏิบัติหน้าที่  ท�ำหน้าท่ีในการตรวจสอบ

235 ส�ำนักงาน  โดยให้คณะผู้ตรวจสอบมีหน้าที่และอ�ำนาจ เช่นเดียวกับที่ผู้ว่าการมีหน้าที่และอ�ำนาจในการตรวจเงิน แผ่นดินของหน่วยรับตรวจ  ท้ังนี้  ตามหลักเกณฑ์ มาตรฐานเก่ียวกับการตรวจเงินแผ่นดินตามมาตรา  ๒๗  (๒) แล้วท�ำรายงานเสนอผลการตรวจสอบต่อคณะกรรมการ ก�ำกับการตรวจสอบ  คณะกรรมการ  สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา  และคณะรัฐมนตรี  เพ่ือทราบและด�ำเนินการ ตามหน้าท่ีและอ�ำนาจต่อไป  รายงานดังกล่าวให้เผยแพร่ ให้ประชาชนทราบเป็นการทวั่ ไปด้วย ในการตรวจสอบตามวรรคหน่ึง  ให้คณะผู้ตรวจสอบ มหี น้าท่ีและอำ� นาจเชน่ เดียวกบั ผู้ว่าการตามมาตรา  ๙๓ มาตรา ๗๕ ให้ส�ำนักงานจัดท�ำรายงานการเงิน การจัดทำ� รายงาน ประจ�ำปีซ่ึงอย่างน้อยต้องประกอบด้วยงบแสดงฐานะ การเงนิ ประจำ� ปี ก า ร เ งิ น แ ล ะ ง บ แ ส ด ง ผ ล ก า ร ด� ำ เ นิ น ง า น ท า ง ก า ร เ งิ น ข อ ง ส� ำ นั ก ง า น ส ่ ง ค ณ ะ ผู ้ ต ร ว จ ส อ บ ภ า ย ใ น เ ก ้ า สิ บ วั น นับแตว่ นั สนิ้ ปงี บประมาณ มาตรา ๗๖ ใ ห ้ ส� ำ นั ก ง า น จั ด ใ ห ้ มี ร ะ บ บ การจัดตงั้ การตรวจสอบภายในเพื่อตรวจสอบการด�ำเนินงานต่าง  ๆ ระบบการตรวจสอบ ของส�ำนักงานและกองทุน  ทั้งนี้  ตามหลักเกณฑ์และวิธีการ ภายใน ท่คี ณะกรรมการกำ� หนด มาตรา ๗๗ ใ ห ้ ส� ำ นั ก ง า น ท� ำ ร า ย ง า น การจัดท�ำรายงาน ผลการปฏิบัติงานประจ�ำปีเสนอต่อสภาผู้แทนราษฎร  วุฒิสภา ผลการปฏบิ ตั งิ าน และคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบ  ภายในสองร้อยสิบวัน ประจ�ำปี

236 นับแต่วันส้ินปีงบประมาณ  ท้ังนี้  ให้ประธานกรรมการ หรือกรรมการที่คณะกรรมการมอบหมายและผู้ว่าการ มาแถลงรายงานดังกล่าวต่อสภาผู้แทนราษฎร  วุฒิสภา และคณะรฐั มนตรีดว้ ย รายงานผลการปฏิบัติงานตามวรรคหน่ึงจะต้อง รายงานผลการปฏิบัติงานที่ส�ำคัญในทุกด้าน  โดยเฉพาะ ด ้ า น ผ ล สั ม ฤ ท ธิ์ แ ล ะ ป ร ะ สิ ท ธิ ภ า พ ข อ ง ก า ร ใ ช ้ จ ่ า ย เ งิ น ของหน่วยรับตรวจ  เว้นแต่เป็นเรื่องที่คณะกรรมการ เห็นว่าควรแก่การรักษาไว้เป็นความลับหรือมีกฎหมาย ห้ามมใิ หเ้ ปดิ เผย ในกรณีเพื่อประโยชน์ทางราชการ  ส�ำนักงาน จะจัดท�ำรายงานเผยแพร่เป็นคร้ังคราวนอกเหนือจาก รายงานตามวรรคหน่งึ กไ็ ด้ หมวด  ๕ กองทุนเพ่ือการพัฒนาการตรวจเงินแผน่ ดนิ การจัดตงั้ มาตรา ๗๘ ใ ห ้ มี ก อ ง ทุ น เ พ่ื อ ก า ร พั ฒ น า กองทุน ก า ร ต ร ว จ เ งิ น แ ผ ่ น ดิ น ใ น ส� ำ นั ก ง า น ก อ ง ทุ น ห น่ึ ง เพอื่ การพฒั นา มี วั ต ถุ ป ร ะ ส ง ค ์ เ พื่ อ ใ ช ้ จ ่ า ย ใ น ก า ร ส นั บ ส นุ น แ ล ะ พั ฒ น า การตรวจเงินแผน่ ดิน การตรวจเงินแผ่นดิน  เพื่อให้การตรวจเงินแผ่นดินเป็นไป อย่างมีประสิทธิภาพ

237 มาตรา ๗๙ กองทุนประกอบด้วยเงินและทรัพย์สิน เงินและทรัพย์สนิ ดังต่อไปนี้ ของกองทนุ เพือ่ การพัฒนา (๑) เงนิ ทไ่ี ดร้ ับโอนมาตามมาตรา  ๑๑๒ การตรวจเงินแผน่ ดิน (๒) รายได้จากค่าธรรมเนียมต่าง  ๆ  ในการปฏิบัติงาน ของส�ำนกั งาน (๓) เงินรายได้ตามมาตรา  ๗๐  (๑)  ท่ีด�ำเนินการแล้ว มเี หลือจา่ ยในแต่ละปีงบประมาณ (๔) เงนิ หรือทรพั ย์สนิ อื่นใดที่มผี ูบ้ รจิ าคให้กองทนุ (๕) ดอกผลหรือผลประโยชน์ที่เกิดจากเงินหรือ ทรัพย์สินของกองทุน เงินและทรัพย์สินของกองทุนตามวรรคหนึ่ง ไม่ต้องนำ� สง่ คลงั เปน็ รายไดแ้ ผน่ ดิน มาตรา ๘๐ เงินกองทุนให้ใช้จ่ายเพื่อเป็นไป การใช้จา่ ย ตามวัตถปุ ระสงค์ของกองทุน  ดงั ต่อไปนี้ เงนิ กองทนุ เพื่อการพฒั นา (๑) เป็นค่าใช้จ่ายกรณีงบประมาณรายจ่าย การตรวจเงินแผน่ ดิน ประจ�ำปีไม่เพียงพอหรือท่ีไม่อาจเบิกจ่ายจากงบประมาณ แผ่นดินได้ (๒) เป็นค่าใช้จ่ายในการพัฒนาประสิทธิภาพ ในการตรวจเงินแผน่ ดิน (๓) สมทบเป็นค่าตอบแทนพิเศษ  และสวัสดิการ ของเจ้าหนา้ ทแ่ี ละบุคลากรอนื่ ของส�ำนักงาน (๔) เป็นค่าใช้จ่ายในการจ้างที่ปรึกษา  ผู้เช่ียวชาญ และลกู จา้ งเพ่ือชว่ ยในการปฏิบตั ิหนา้ ทีข่ องสำ� นกั งาน

238 (๕) ค ่ า ใ ช ้ จ ่ า ย อื่ น ใ ด ที่ จ ะ เ ป ็ น ป ร ะ โ ย ช น ์ ในการปฏิบัติหน้าท่ีของส�ำนักงานตามที่คณะกรรมการ กองทนุ กำ� หนด การใช้จ่ายเงินกองทุนตามวรรคหนึ่ง  ให้เป็นไป ตามระเบยี บท่ีคณะกรรมการกองทนุ ก�ำหนด การน�ำฝาก มาตรา ๘๑ เงินกองทุนให้น�ำฝากกระทรวง เงนิ กองทนุ การคลังหรือธนาคารท่ีเป็นรัฐวิสาหกิจหรือน�ำไปลงทุน เพื่อการพัฒนา ท้ังนี้  ตามท่ีคณะกรรมการกองทุนก�ำหนด  แต่ในการลงทุน การตรวจเงินแผ่นดนิ คณะกรรมการกองทุนจะก�ำหนดให้ลงทุนอื่นใดนอกจาก การซื้อพันธบัตรของรัฐบาลหรือรัฐวิสาหกิจท่ีมีกระทรวง และข้อก�ำหนด การคลงั เปน็ ผูค้ ำ้� ประกันไมไ่ ด้ ในการลงทนุ การจัดตงั้ มาตรา ๘๒ ให้มีคณะกรรมการกองทุนประกอบด้วย คณะกรรมการ ประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน  เป็นประธานกรรมการ กองทุน ก ร ร ม ก า ร ต ร ว จ เ งิ น แ ผ ่ น ดิ น ค น ห น่ึ ง ซึ่ ง ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร เพ่ือการพัฒนา มอบหมาย  ผู้ว่าการ  รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน การตรวจเงนิ แผน่ ดนิ คนหน่ึงซ่ึงผู้ว่าการมอบหมาย  และผู้แทนส�ำนักงบประมาณ เป็นกรรมการ ให้ผู้อ�ำนวยการส�ำนักการเงินและการคลัง ส�ำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน  เป็นเลขานุการ  และ ผู้ว่าการจะแต่งตั้งเจ้าหน้าที่เป็นผู้ช่วยเลขานุการคนหน่ึง กไ็ ด้

239 มาตรา ๘๓ ให้คณะกรรมการกองทุนมีหน้าท่ี หน้าทีแ่ ละอ�ำนาจ และอำ� นาจ  ดงั ต่อไปนี้ ของคณะกรรมการ กองทนุ (๑)  บริหารจัดการ  อนุมัติการจ่ายเงินกองทุน เพอ่ื การพฒั นา และก�ำกับดูแลการใช้จ่ายเงินกองทุนให้เป็นไปตาม การตรวจเงินแผ่นดิน วัตถปุ ระสงค์ (๒)  วางและรักษาไว้ซึ่งระบบบัญชีท่ีเหมาะสม เพ่ือให้สามารถจัดท�ำรายงานการเงินประจ�ำปี  ซึ่งอย่างน้อย ต ้ อ ง ป ร ะ ก อ บ ด ้ ว ย ง บ แ ส ด ง ฐ า น ะ ก า ร เ งิ น แ ล ะ ง บ แ ส ด ง ผลการด�ำเนินงานทางการเงินของกองทุนได้อย่างถูกต้อง ตามหลกั การบญั ชที ร่ี ับรองโดยทวั่ ไป (๓)  ปฏิบัติการอื่นใดตามที่พระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญนี้หรือกฎหมายอ่ืนก�ำหนดให้เป็น หนา้ ท่ีและอำ� นาจของคณะกรรมการกองทุน ให้คณะกรรมการกองทุนส่งรายงานการเงิน ของกองทนุ ตาม  (๒) ใหค้ ณะผ้ตู รวจสอบภายในเกา้ สิบวัน นบั แต่วนั สนิ้ ปงี บประมาณ มาตรา ๘๔ ให้คณะผู้ตรวจสอบตามมาตรา  ๗๔ ผู้สอบบญั ชี เป็นผู้สอบบัญชีของกองทุน  ท�ำหน้าที่ตรวจสอบรายงาน ของกองทุน การเงินของกองทุนและแสดงความเห็นต่อรายงานการเงินน้ัน เพื่อการพัฒนา และเผยแพร่ให้ประชาชนทราบเปน็ การทัว่ ไป การตรวจเงนิ แผ่นดนิ

240 หมวด  ๖ หน้าที่และอำ� นาจในการตรวจสอบของผู้วา่ การ กรณีท่มี ขี ้อบกพรอ่ ง มาตรา ๘๕ ในกรณีที่ผลการตรวจสอบปรากฏว่า เนื่องจากเจา้ หนา้ ที่ มีข้อบกพร่องเนื่องจากเจ้าหน้าท่ีของหน่วยรับตรวจ หนว่ ยรบั ตรวจ ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย  ระเบียบ  ข้อบังคับ  มติคณะรัฐมนตรี ไม่ปฏบิ ตั ิตาม หรือแบบแผนการปฏิบัติราชการ  ให้ผู้ว่าการมีหนังสือ แจ้งข้อบกพร่องพร้อมท้ังข้อเสนอแนะให้ผู้รับตรวจทราบ กฎหมาย ระเบียบ ข้อบงั คบั มตคิ ณะรฐั มนตรี เพื่อด�ำเนินการแก้ไขและควบคุมหรือก�ำกับมิให้เกิดข้อบกพร่อง หรอื แบบแผน ขึ้นอีก  แต่ผู้ว่าการต้องรับฟังค�ำช้ีแจงและเหตุผลหรือความจ�ำเป็น การปฏบิ ัตริ าชการ ของหนว่ ยรบั ตรวจประกอบด้วย ในกรณีตามวรรคหน่ึง  ถ้าก่อให้เกิดความเสียหาย แก่รัฐหรือหน่วยรับตรวจที่ไม่เก่ียวกับกฎหมายว่าด้วย วินัยการเงินการคลังของรัฐ  ให้ผู้ว่าการแจ้งให้ผู้รับตรวจ พิจารณาด�ำเนินการเพ่ือให้มีการชดใช้ค่าเสียหายแก่รัฐ หรือหน่วยรับตรวจหรือด�ำเนินการทางวินัย  แล้วแต่กรณี และเม่ือผู้รับตรวจด�ำเนินการเป็นประการใดแล้วให้แจ้ง ใหผ้ วู้ า่ การทราบ ในกรณีท่ีผลการตรวจสอบประกอบกับค�ำชี้แจง ของหน่วยรับตรวจปรากฏว่ากฎหมาย  ระเบียบ  ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี  หรือแบบแผนการปฏิบัติราชการใด

241 ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์  หรือการปฏิบัติตามจะก่อให้ เกิดความเสียหายต่อราชการหรือประชาชน  ให้เป็นหน้าที่ ของผู้ว่าการที่จะเสนอแนะต่อหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องเพื่อปรับปรุง แก้ไขกฎหมาย  ระเบียบ  ข้อบังคับ  มติคณะรัฐมนตรี หรอื แบบแผนการปฏิบตั ริ าชการให้เหมาะสมต่อไป  ในกรณี เช่นน้ัน  การด�ำเนินการของหน่วยรับตรวจท่ีบกพร่อง ใหเ้ ป็นอันพับไป  เวน้ แตเ่ ปน็ กรณที จุ รติ มาตรา ๘๖ ในกรณีท่ีผลการตรวจสอบปรากฏว่า กรณีทห่ี นว่ ยรบั ตรวจ หน่วยรับตรวจจัดเก็บรายได้หรือผลตอบแทนไม่เป็นไป จัดเก็บรายไดห้ รอื ตามกฎหมายหรือสัญญา  ให้ผู้ว่าการมีหนังสือแจ้ง ผลตอบแทน ข้อบกพร่องพร้อมท้ังข้อเสนอแนะไปยังหน่วยรับตรวจ ไมเ่ ป็นไปตาม เพื่อด�ำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมายหรือสัญญา  และ กฎหมายหรอื สญั ญา ให้หน่วยรับตรวจชี้แจงเหตุผลหรือแจ้งผลการด�ำเนินการ แก้ไขข้อบกพร่องตามข้อเสนอแนะภายในระยะเวลา ที่ผวู้ า่ การก�ำหนด ในกรณีท่ีผู้ว่าการไม่เห็นด้วยกับการชี้แจงเหตุผล กรณที ผี่ ู้ว่าการ ของหน่วยรับตรวจ  หรือเห็นว่าการด�ำเนินการไม่เป็นไป ตรวจเงนิ แผ่นดิน ตามข้อเสนอแนะหรือไม่ด�ำเนินการโดยไม่มีเหตุอันสมควร ไมเ่ หน็ ด้วยกบั ให้ผู้ว่าการแจ้งรัฐมนตรีเจ้าสังกัด  หรือรัฐมนตรี การชี้แจงเหตุผล ซึ่งกฎหมายก�ำหนดให้มีหน้าท่ีก�ำกับหรือควบคุมกิจการ ของหน่วยรับตรวจ ของหนว่ ยรบั ตรวจ  หรือรัฐมนตรผี ้รู ักษาการตามกฎหมาย เพือ่ พจิ ารณาด�ำเนนิ การตามหนา้ ที่และอำ� นาจตอ่ ไป

242 กรณที ี่มหี ลกั ฐาน ในกรณีท่ีผู้ว่าการมีหลักฐานอันน่าเช่ือว่า เชื่อวา่ หน่วยรบั ตรวจ หน่วยรับตรวจมีข้อบกพร่องในการจัดเก็บภาษีอากร มขี ้อบกพรอ่ ง ค่าธรรมเนียม  หรือรายได้อ่ืนใด  ผู้ว่าการมีอ�ำนาจขอให้ ในการจัดเกบ็ หน่วยรับตรวจเปิดเผยข้อมูลโดยรวมที่ได้มาจากผู้เสียภาษี อากร  ผู้ช�ำระค่าธรรมเนียม  หรือรายได้อ่ืนใด  โดยต้อง ภาษอี ากร คา่ ธรรมเนียม หรือรายได้อื่นใด ระบุหลักฐานให้หน่วยรับตรวจทราบตามสมควร และให้ถือว่าการที่หน่วยรับตรวจเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว ให้แกผ่ ้วู ่าการเป็นการกระท�ำที่ชอบด้วยกฎหมาย อ�ำนาจในการขอให้หน่วยรับตรวจเปิดเผยข้อมูล ตามวรรคสาม  ถ้าเป็นกรณีเก่ียวกับภาษีอากรประเมิน ผู้ว่าการจะมอบหมายให้รองผู้ว่าการกระท�ำการแทนก็ได้ แตจ่ ะมอบใหเ้ จา้ หนา้ ทีอ่ ่ืนมิได้ ในการตรวจสอบการจัดเก็บภาษีอากรประเมิน ตามวรรคสามต้องไม่มีลักษณะเข้าไปใช้อ�ำนาจประเมิน แทนหน่วยรับตรวจ  หรือเป็นการวินิจฉัยการประเมิน ของผู้มอี �ำนาจประเมนิ กรณที ห่ี นว่ ยรบั ตรวจ มาตรา ๘๗ ในกรณีท่ีผลการตรวจสอบปรากฏว่า ละเว้นหรือ หน่วยรับตรวจท่ีมีหน้าท่ีและอ�ำนาจบริหารจัดการ  ดูแล ไมป่ ฏบิ ัติหน้าที่ รักษา  และติดตามทรัพย์สินของแผ่นดิน  ละเว้นหรือ ตามท่กี �ำหนดไว้ ไม่ปฏิบัติหน้าท่ีตามที่ก�ำหนดไว้ในกฎหมาย  ให้ผู้ว่าการ มีหนังสือแจ้งไปยังหน่วยรับตรวจพร้อมทั้งข้อเสนอแนะ ในกฎหมาย เพื่อด�ำเนินการให้ถูกต้อง  โดยให้หน่วยรับตรวจชี้แจง

243 เ ห ตุ ผ ล ห รื อ แ จ ้ ง ผ ล ก า ร ด� ำ เ นิ น ก า ร ภ า ย ใ น ร ะ ย ะ เ ว ล า ที่ผ้วู า่ การกำ� หนด ในกรณีที่หน่วยรับตรวจไม่ด�ำเนินการโดยไม่มี กรณีทีห่ นว่ ยรับตรวจ เหตุอันสมควร  ให้ผู้ว่าการแจ้งรัฐมนตรีเจ้าสังกัดหรือ ไมด่ �ำเนนิ การ รัฐมนตรีซ่ึงกฎหมายก�ำหนดให้มีหน้าท่ีก�ำกับหรือควบคุม โดยไม่มีเหตุ กิจการของหน่วยรับตรวจ  หรือรัฐมนตรีผู้รักษาการ อนั สมควร ตามกฎหมาย  เพื่อพิจารณาด�ำเนินการตามหน้าที่และ อ�ำนาจต่อไป  หรือในกรณีที่มีกฎหมายก�ำหนดให้ผู้ว่าการ มีอ�ำนาจด�ำเนินการอย่างใดต่อไป  ก็ให้ผู้ว่าการด�ำเนินการ ไปตามน้ัน มาตรา ๘๘ ในกรณีที่ผลการตรวจสอบปรากฏ กรณกี ารแจ้ง หลักฐานอันควรเช่ือได้ว่า  มีการกระท�ำด้วยประการใด  ๆ คณะกรรมการ ที่มีผลให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร  สมาชิกวุฒิสภา  หรือ ป.ป.ช. กรรมาธิการ  มสี ่วนไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางออ้ มในการใช้ งบประมาณรายจ่าย  หรือตรวจสอบพบว่าคณะรัฐมนตรี เป็นผู้กระท�ำการหรืออนุมัติให้กระท�ำการหรือรู้ว่ามีการกระท�ำ ดังกล่าวแล้วแต่มิได้ส่ังยับย้ัง  หรือพบว่ามีเจ้าหน้าที่ ของหน่วยรับตรวจจัดท�ำโครงการหรืออนุมัติหรือจัดสรร เ งิ น ง บ ป ร ะ ม า ณ โ ด ย รู ้ ว ่ า มี ก า ร ด� ำ เ นิ น ก า ร ดั ง ก ล ่ า ว ใ ห ้ ผู ้ ว ่ า ก า ร แ จ ้ ง ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ป ้ อ ง กั น แ ล ะ ป ร า บ ป ร า ม การทุจริตแห่งชาติ  เพ่ือด�ำเนินการตามหน้าที่และอ�ำนาจ ต่อไป

244 ในการด�ำเนินการของคณะกรรมการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติตามวรรคหน่ึง  ให้ถือว่า ร า ย ง า น แ ล ะ เ อ ก ส า ร แ ล ะ ห ลั ก ฐ า น ที่ ผู ้ ว ่ า ก า ร จั ด ส ่ ง ใ ห ้ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เ ป ็ น ส ่ ว น ห นึ่ ง ข อ ง ส� ำ น ว น ก า ร ไ ต ่ ส ว น ห รื อ ส อ บ ส ว น ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจรติ แหง่ ชาติ การตรวจสอบ มาตรา ๘๙ ในการตรวจสอบผลสัมฤทธิ์และ ผลสมั ฤทธแิ์ ละ ประสิทธิภาพ  ต้องตรวจสอบเม่ือการด�ำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ประสิทธิภาพ เว้นแต่ผู้ว่าการจะเห็นว่ามีการปฏิบัติอย่างหน่ึงอย่างใด ท่ี เ ห็ น ไ ด ้ ชั ด เ จ น ว ่ า จ ะ ไ ม ่ ก ่ อ ใ ห ้ เ กิ ด ผ ล สั ม ฤ ท ธ์ิ ห รื อ ขาดประสิทธิภาพ  จะแจ้งให้หน่วยรับตรวจทราบก่อนหรือ ในระหว่างด�ำเนินการก็ได้  ในกรณีเช่นนั้น  ผู้ว่าการ ต้องแนะน�ำวิธีด�ำเนินการท่ีถูกต้องให้หน่วยรับตรวจปฏิบัติด้วย แ ล ะ ใ น ก ร ณี ท่ี ห น ่ ว ย รั บ ต ร ว จ เ ห็ น ว ่ า ก า ร ด� ำ เ นิ น ก า ร ท่ีผู้ว่าการแนะน�ำนั้นไม่อาจหรือไม่สมควรด�ำเนินการ โดยมีเหตุผลอันสมควร  ให้เป็นหน้าที่ของผู้ว่าการ หน่วยรับตรวจ  และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องจะร่วมกัน หารือเพื่อหาข้อยุติโดยเร็ว  เพ่ือมิให้เกิดความเสียหายขึ้น เม่ือได้ข้อยุติประการใดแล้ว  ให้หน่วยรับตรวจด�ำเนินการ ไปตามข้อยตุ นิ น้ั การตรวจสอบผลสมั ฤทธิ์ มาตรา ๙๐ ในการตรวจสอบผลสัมฤทธิ์และ และประสทิ ธภิ าพ ประสิทธิภาพในการใช้จ่ายเงินของหน่วยรับตรวจ ในการใชจ้ ่ายเงิน ใ ห ้ ผู ้ ว ่ า ก า ร จั ด ท� ำ ร า ย ง า น ผ ล ก า ร ต ร ว จ ส อ บ แ ล ะ แ ส ด ง ของหน่วยรับตรวจ

245 ความเห็นว่าเป็นไปโดยประหยัด  เกิดผลสัมฤทธ์ิ  และ มีประสิทธิภาพตามวัตถุประสงค์ท่ีหน่วยรับตรวจก�ำหนดไว้ หรือไม่  และให้จัดท�ำข้อเสนอแนะให้แก่หน่วยรับตรวจ ในการเพิ่มผลสัมฤทธิ์และประสิทธิภาพในการใช้จ่ายเงิน ของหน่วยรบั ตรวจ ในการตรวจสอบตามวรรคหนึ่ง  ต้องค�ำนึงถึง ประเพณี  วัฒนธรรม  สังคม  และความนิยมของท้องถิ่น รวมถึงประโยชน์สูงสุดของประชาชนในด้านต่าง  ๆ โดยให้รับฟังเหตุผลและความจ�ำเป็นของหน่วยรับตรวจ ประกอบดว้ ย มาตรา ๙๑ ให้ผู้ว่าการตรวจสอบรายงาน การตรวจสอบ การเงินที่หน่วยงานของรัฐส่งให้ตามกฎหมายว่าด้วยวินัย รายงานการเงิน การเงินการคลังของรัฐให้แล้วเสร็จภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวัน ทห่ี น่วยงานของรัฐ นับแต่วันสิ้นปีงบประมาณหรือตามท่ีได้ตกลงกับกระทรวง ส่งให้ การคลัง  แล้วแจ้งผลการตรวจสอบไปยังหน่วยรับตรวจ ทั้งน้ี  ตามหลักเกณฑ์มาตรฐานเก่ียวกับการตรวจเงินแผ่นดิน ที่คณะกรรมการกำ� หนดตามมาตรา  ๒๗  (๒) มาตรา ๙๒ การตรวจสอบการใช้จ่ายเงินราชการลับ การตรวจสอบ หรือเงินที่มีลักษณะคล้ายกับเงินราชการลับให้เป็นไปตาม การใชจ้ า่ ย หลักเกณฑ์ท่ีคณะกรรมการก�ำหนด  แต่หลักเกณฑ์ เงนิ ราชการลบั ดังกล่าวต้องไม่ก�ำหนดในลักษณะท่ีจะขัดต่อวัตถุประสงค์ ของการใชจ้ ่ายเงินราชการลับ

246 อ�ำนาจ มาตรา ๙๓ ในการตรวจสอบ  ให้ผู้ว่าการและ ในการตรวจสอบ เจ้าหน้าท่ีซึ่งผู้ว่าการมอบหมายมีอ�ำนาจตรวจสอบเงิน ของผู้ว่าการ และทรัพย์สินอ่ืน  บัญชี  ทะเบียน  เอกสาร  หรือหลักฐาน ตรวจเงนิ แผน่ ดนิ ในการใช้จ่ายและหลักฐานอื่นท่ีอยู่ในความรับผิดชอบ ของหน่วยรับตรวจและให้มอี �ำนาจ  ดงั ต่อไปนี้ด้วย และเจ้าหน้าที่ (๑) ให้ผู้รับตรวจหรือเจ้าหน้าท่ีของหน่วยรับตรวจ ทไ่ี ด้รับมอบหมาย มีหนังสือช้ีแจงข้อเท็จจริง  มาให้ถ้อยค�ำ  หรือส่งมอบบัญชี ทะเบียน  เอกสาร  หรือหลักฐานอื่นบรรดาท่ีหน่วยรับตรวจ จดั ทำ� ข้นึ หรอื มีไวใ้ นครอบครองเพื่อประโยชน์ในการตรวจสอบ (๒) อายัดบัญชี  ทะเบียน  เอกสาร  หรือ หลักฐานอน่ื ท่มี ีอยู่ในความรบั ผิดชอบของหนว่ ยรับตรวจ (๓) ให้บุคคลใดมาให้ถ้อยค�ำ  หรือส่งมอบบัญชี ทะเบียน  เอกสาร  หรือหลักฐานอื่นที่เกี่ยวข้องกับ หนว่ ยรบั ตรวจเทา่ ทจ่ี �ำเป็นเพือ่ ประโยชน์ในการตรวจสอบ (๔) มีอ�ำนาจเข้าไปในสถานท่ีใด  ๆ  ในระหว่าง พระอาทิตย์ข้ึนและพระอาทิตย์ตก  หรือในเวลาท�ำการ เพ่ือตรวจสอบ  ค้น  ยึด  หรืออายัด  บัญชี  ทะเบียน เอกสาร  หรือหลักฐานอื่น  หรืออายัดเงินหรือทรัพย์สิน ท่ีเกี่ยวกับหรือมีเหตุอันควรเช่ือว่าเกี่ยวกับหน่วยรับตรวจ เทา่ ทจี่ ำ� เปน็ ในการมอบหมายเจ้าหน้าที่ตามวรรคหนึ่ง  จะให้ มีอ�ำนาจทั้งหมดหรือบางส่วนให้ระบุให้ชัดแจ้งโดยค�ำนึงถึง สถานะของเจ้าหน้าทใ่ี นแต่ละระดับ

247 มาตรา ๙๔ บรรดาบัญชีและเอกสารหลักฐาน กรณที ี่บัญชี ต่าง  ๆ  ซึ่งเก่ียวกับการตรวจสอบ  ถ้าเป็นภาษาต่างประเทศ และเอกสาร และเจ้าหน้าที่ไม่อาจเข้าใจได้  จะขอให้หน่วยรับตรวจ หลกั ฐานตา่ ง ๆ จัดการแปลเป็นภาษาไทยให้แล้วเสร็จภายในเวลาตามท่ี เกี่ยวกบั การตรวจสอบ เหน็ สมควรกไ็ ด้ เปน็ ภาษาตา่ งประเทศ หมวด  ๗ วินัยการเงนิ การคลัง มาตรา ๙๕ ใ น ก า ร ต ร ว จ ส อ บ ก า ร ป ฏิ บั ติ กรณีที่ขอ้ บกพร่อง ตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ ทีต่ รวจพบไมม่ ลี กั ษณะ หากข้อบกพร่องที่ตรวจพบไม่มีลักษณะเป็นการทุจริต เปน็ การทุจริต และไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐหรือหน่วยรับตรวจ ผู้ว่าการจะแจ้งให้ผู้รับตรวจทราบเพื่อก�ำกับดูแลมิให้ เกิดขอ้ บกพรอ่ งอกี ก็ได้ ในกรณีท่ีข้อบกพร่องที่ตรวจพบมีลักษณะ กรณีท่ขี ้อบกพร่อง เป็นการทุจริต  ให้ผู้ว่าการส่งเรื่องให้คณะกรรมการ ทต่ี รวจพบมีลกั ษณะ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติด�ำเนินการ เป็นการทจุ ริต ตามหน้าท่ีและอ�ำนาจต่อไป  และให้น�ำความในมาตรา  ๘๘ วรรคสอง  มาใชบ้ งั คับด้วยโดยอนโุ ลม

248 กรณีท่ีข้อบกพร่อง ในกรณีท่ีข้อบกพร่องที่ตรวจพบมีลักษณะก่อให้ ทตี่ รวจพบมลี กั ษณะ เกิดความเสียหายแก่รัฐหรือหน่วยรับตรวจหรือมีลักษณะ กอ่ ให้เกดิ ความเสยี หาย เป็นการจงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงิน แก่รฐั หรือ การคลังของรัฐ  ให้ผู้ว่าการแจ้งให้ผู้รับตรวจพิจารณา ด� ำ เ นิ น ก า ร เ พื่ อ ใ ห ้ มี ก า ร ช ด ใ ช ้ ค ่ า เ สี ย ห า ย ต ่ อ รั ฐ ห รื อ หนว่ ยรับตรวจ หรอื จงใจ ไม่ปฏิบตั ติ าม หน่วยรับตรวจต่อไป  หรือด�ำเนินการทางวินัยแล้วแต่กรณี กฎหมายว่าดว้ ย และเมอื่ ผูร้ ับตรวจดำ� เนนิ การแล้วให้แจ้งให้ผวู้ า่ การทราบ วนิ ยั การเงินการคลงั ในกรณีที่ผู้รับตรวจไม่ด�ำเนินการตามที่ได้รับแจ้ง ตามวรรคสามภายในเวลาอันสมควร  ผู้ว่าการจะแจ้งให้ ของรฐั ดำ� เนินการภายในระยะเวลาทกี่ �ำหนดก็ได้ การเสนอ มาตรา ๙๖ ผู้รับตรวจผู้ใดไม่ด�ำเนินการ เพ่ือใหล้ งโทษ ภายในเวลาที่ผู้ว่าการก�ำหนดตามมาตรา  ๘๕  วรรคสอง ทางปกครอง หรือมาตรา  ๙๕  วรรคส่ี  โดยไม่มีเหตุอันสมควร แก่ผรู้ บั ตรวจ ผู้ว่าการจะเสนอต่อคณะกรรมการให้ลงโทษทางปกครอง แก่ผรู้ ับตรวจผูน้ ั้นก็ได้ ในการเสนอเพื่อให้ลงโทษตามวรรคหนึ่ง ให้ผู้ว่าการสรุปข้อเท็จจริง  และพฤติการณ์ที่เป็นเหตุ อันควรลงโทษทางปกครอง  พร้อมทั้งข้อเสนอแนะ เก่ียวกับโทษท่สี มควรลงด้วย การลงโทษ มาตรา ๙๗ เจ้าหน้าที่ของรัฐผู้ใดมีหน้าท่ี ทางปกครอง ตอ้ งปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงนิ การคลังของรัฐ แกเ่ จา้ หน้าทีข่ องรัฐ จงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลัง ของรัฐและเป็นกรณีที่ไม่อาจด�ำเนินการตามมาตรา  ๙๕

249 ว ร ร ค ส า ม   ห รื อ ม า ต ร า   ๙ ๖   ใ ห ้ ผู ้ ว ่ า ก า ร เ ส น อ ต่อคณะกรรมการให้ลงโทษทางปกครองแก่ผู้นั้น  โดยให้ น�ำความในมาตรา  ๙๖  วรรคสอง  มาใช้บังคับด้วย โดยอนุโลม มาตรา ๙๘ โทษทางปกครอง  มีดังต่อไปนี้ โทษทางปกครอง (๑) ภาคทณั ฑ์ (๒) ต�ำหนโิ ดยเปิดเผยต่อสาธารณชน (๓) ปรับทางปกครอง ในการลงโทษปรับทางปกครอง  จะลงโทษปรับ เปน็ เงินเกินเงนิ เดือนสิบสองเดอื นของผถู้ กู ลงโทษมไิ ด้ ในการพิจารณาโทษทางปกครองตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการค�ำนึงถึงความร้ายแรงแห่งพฤติกรรม ทกี่ ระท�ำผิดและความเสยี หายท่ีเกิดจากการกระทำ� นน้ั มาตรา ๙๙ ในการพิจารณาวินิจฉัยเพื่อลงโทษ การพิจารณา ทางปกครอง  ให้คณะกรรมการใช้รายงานผลการตรวจสอบ วินิจฉัย ของผู้ว่าการเป็นหลัก  แต่ต้องเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหา เพอ่ื ลงโทษ ช้ีแจงแสดงหลกั ฐานประกอบการพิจารณาด้วย ทางปกครอง การแจ้งข้อกล่าวหาให้ผู้ถูกกล่าวหาทราบ  และ การย่ืนค�ำช้ีแจงของผู้ถูกกล่าวหา  ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ และวธิ กี ารทค่ี ณะกรรมการกำ� หนด มาตรา ๑๐๐ ผู ้ รั บ ต ร ว จ ห รื อ เ จ ้ า ห น ้ า ท ี่ การกระทำ� ผดิ ของหน่วยรับตรวจผู้ใดกระท�ำความผิดตามที่บัญญัติไว้ใน วินัยการเงินการคลัง หมวดนี้  เพราะต้องปฏิบัติตามค�ำส่ังของผู้บังคับบัญชา เพราะต้องปฏิบัติตาม คำ� สั่งของผูบ้ งั คับบญั ชา

250 หากปรากฏพยานหลักฐานว่า  ผู้รับตรวจหรือเจ้าหน้าท่ี ของหน่วยรับตรวจผู้น้ันได้โต้แย้งหรือคัดค้านค�ำส่ังนั้นไว้แล้ว ใ ห ้ ไ ด ้ รั บ ย ก เ ว ้ น โ ท ษ ท า ง ป ก ค ร อ ง ต า ม ที่ ก� ำ ห น ด ไ ว ้ ใ น หมวดนี้ กรณีที่ต้องระงับ มาตรา ๑๐๑ การด�ำเนินการเกี่ยวกับความผิด การดำ� เนินการ วนิ ยั การเงินการคลังของรัฐระงบั ลงในกรณ ี ดังต่อไปนี้ เกย่ี วกบั ความผิด (๑)  ผู้ถกู กลา่ วหาถึงแกค่ วามตาย วนิ ัยการเงนิ การคลงั (๒)  ด�ำเนินการไม่แล้วเสร็จภายในก�ำหนดเวลา ห้าปีนับแต่วันท่กี ระท�ำความผิด ของรฐั การวินิจฉัย มาตรา ๑๐๒ การวินิจฉัยลงโทษทางวินัย ลงโทษทางวนิ ัย การเงินการคลังของรัฐไม่เป็นการตัดอ�ำนาจของผู้บังคับบัญชา การเงนิ การคลัง ข อ ง ผู ้ ถู ก ล ง โ ท ษ ท า ง วิ นั ย ใ น ฐ า น ะ ท่ี เ ป ็ น ผู ้ รั บ ผิ ด ช อ บ ของรฐั ก า ร บ ริ ห า ร ข อ ง ห น ่ ว ย รั บ ต ร ว จ ที่ จ ะ พิ จ า ร ณ า ล ง โ ท ษ ทางวินัยเพราะเหตุเดียวกันนี้อีก  แต่โทษดังกล่าวจะต้อง เ ป ็ น โ ท ษ ส ถ า น อ่ื น ซ่ึ ง มิ ใ ช ่ เ ป ็ น โ ท ษ ตั ด เ งิ น เ ดื อ น ห รื อ ลดข้นั เงนิ เดอื น การอุทธรณ์ มาตรา ๑๐๓ ผู้ถูกส่ังลงโทษทางปกครอง อาจอุทธรณ์ต่อศาลปกครองสูงสุดได้ภายในเก้าสิบวัน นบั แตว่ นั ท่ีไดร้ ับคำ� สัง่

251 หมวด  ๘ บทก�ำหนดโทษ มาตรา ๑๐๔ ผู้ใดเปิดเผยข้อความ  ข้อเท็จจริง บทก�ำหนดโทษ ห รื อ ข ้ อ มู ล ที่ ไ ด ้ ม า เ น่ื อ ง จ า ก ก า ร ป ฏิ บั ติ ห น ้ า ที่ ต า ม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้  ต้องระวางโทษจ�ำคุก ไม่เกินหกเดือน  หรือปรบั ไมเ่ กนิ หนง่ึ หมน่ื บาท  หรือทั้งจำ� ท้ังปรบั ความในวรรคหนึ่งไม่ใช้บังคับแก่การเปิดเผย สรุปผลการตรวจสอบที่เสร็จสิ้นแล้วโดยไม่ระบุช่ือบุคคล ท่ีเกี่ยวข้อง  หรือเป็นการเปิดเผยตามมาตรา  ๕๖  หรือ เป็นการเปิดเผยต่อศาล  พนักงานอัยการ  หรือหน่วยงาน ท่ี ต ้ อ ง ด� ำ เ นิ น ก า ร ต า ม ผ ล ก า ร ต ร ว จ ส อ บ ข อ ง ส�ำ นั ก ง า น หรือตามค�ำวินิจฉัยของคณะกรรมการตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญนี้  หรือเป็นการกระท�ำตามหน้าท่ี ราชการ มาตรา ๑๐๕ ผู ้ ใ ด ไ ม ่ ป ฏิ บั ติ ต า ม ค� ำ สั่ ง ของคณะกรรมการตามมาตรา  ๓๗  หรือไม่ปฏิบัติตามค�ำสั่ง หรือขัดขวางการปฏิบัติหน้าท่ีของผู้ว่าการหรือเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา  ๙๓  ต้องระวางโทษจ�ำคุกไม่เกินหกเดือน หรอื ปรบั ไม่เกนิ หน่งึ หมืน่ บาท  หรือทง้ั จำ� ท้งั ปรับ

252 มาตรา ๑๐๖ ผู้ใดครอบครองเงินหรือรักษา ทรัพย์สิน  บัญชี  ทะเบียน  เอกสาร  หรือหลักฐานอ่ืนใด ที่ผู้ว่าการหรือเจ้าหน้าที่ตามมาตรา  ๙๓  ยึด  อายัด หรือเรียกให้ส่ง  ท�ำให้เสียหาย  ท�ำลาย  ซ่อนเร้น  เอาไปเสีย หรือท�ำให้สูญหายหรือท�ำให้ไร้ประโยชน์  ต้องระวางโทษ จ�ำคุกไม่เกินห้าปี  หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท  หรือ ทงั้ จำ� ทงั้ ปรบั การกระท�ำผิดวนิ ยั มาตรา ๑๐๗ เจ้าหน้าท่ีผู้ใด  ละเลยหรือจงใจ ของเจ้าหน้าท่ี ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์มาตรฐานเกี่ยวกับการตรวจเงิน แผ่นดิน  ให้ถือว่าผู้น้ันกระท�ำผิดวินัย  และให้ผู้ว่าการ ด�ำเนินการทางวินัยกับเจ้าหน้าที่ผู้น้ันตามกฎหมาย ระเบียบ  ข้อบังคับ  หรือมติคณะรัฐมนตรีท่ีเก่ียวข้อง ต่อไป บทเฉพาะกาล บทเฉพาะกาล มาตรา ๑๐๘ ให้ประธานกรรมการตรวจเงิน แผ่นดินและกรรมการตรวจเงินแผ่นดินซึ่งด�ำรงต�ำแหน่ง อยู่ในวันก่อนวันท่ีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ใช้บังคับ  เป็นประธานกรรมการตรวจเงินแผ่นดินและ ก ร ร ม ก า ร ต ร ว จ เ งิ น แ ผ ่ น ดิ น ต า ม พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ ประกอบรัฐธรรมนูญน้ี  โดยให้นับวาระการด�ำรงต�ำแหน่ง

253 ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญน้ีต้ังแต่วันท่ีได้รับ โปรดเกลา้ โปรดกระหม่อมแตง่ ตงั้ เป็นต้นไป มาตรา ๑๐๙ ให้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ซึ่งด�ำรงต�ำแหน่งอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัต ิ ประกอบรัฐธรรมนูญน้ีใช้บังคับ  เป็นผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญน้ี  โดยให ้ นั บ ว า ร ะ ก า ร ด� ำ ร ง ต� ำ แ ห น ่ ง ต า ม พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ ประกอบรัฐธรรมนูญน้ีตั้งแต่วันท่ีได้รับโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม แตง่ ตัง้ เป็นต้นไป ใ น ก ร ณี ที่ ไ ม ่ มี ผู ้ ด� ำ ร ง ต� ำ แ ห น ่ ง ผู ้ ว ่ า ก า ร ตรวจเงินแผ่นดินอยู่ในวันก่อนวันที่พระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ  ให้รองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ผู้รักษาการแทนผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินตามค�ำสั่ง หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ  ที่  ๔๓/๒๕๖๐ เรื่อง  การแต่งต้ังผู้รักษาการแทนผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ลงวันที่  ๒๒  กนั ยายน  พุทธศักราช  ๒๕๖๐ และทแ่ี กไ้ ข เพ่ิมเติม  ซ่ึงปฏิบัติหน้าท่ีอยู่ในวันก่อนวันท่ีพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญน้ีใช้บังคับ  ยังคงปฏิบัติหน้าท่ีต่อไป จนกว่าจะมีการแต่งตั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินตาม พระราชบัญญัตปิ ระกอบรัฐธรรมนูญน้ี ในกรณีท่ีได้มีการด�ำเนินการสรรหา  คัดเลือก ห รื อ เ ส น อ ช่ื อ ผู ้ ว ่ า ก า ร ต ร ว จ เ งิ น แ ผ ่ น ดิ น อ ยู ่ ใ น วั น ที่ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญน้ีใช้บังคับ  ให้ถือว่า