407 ให้หนว่ ยงานของรัฐหรอื เอกชนท่ีเก่ียวข้องด�ำเนนิ การ ใ ห ้ เ ป ็ น ไ ป ต า ม ท่ี ไ ด ้ รั บ แ จ ้ ง ภ า ย ใ น ก� ำ ห น ด เ ว ล า ต า ม วรรคหนึ่ง แล้วแจ้งผลการด�ำเนินการให้คณะกรรมการ ทราบภายในระยะเวลาทีค่ ณะกรรมการก�ำหนด ในกรณีท่ีหน่วยงานของรัฐหรือเอกชนที่เก่ียวข้อง ไม่อาจด�ำเนินการได้เน่ืองจากไม่อยู่ในหน้าท่ีและอ�ำนาจ ของหน่วยงานของรัฐหรือเอกชนนั้น หรือเป็นการร้องเรียน โดยใช้สิทธิไม่สุจริต หรือได้มีการแก้ไขปัญหาอย่าง เหมาะสมแล้ว หรือมีเหตุจ�ำเป็นอื่นใด ให้แจ้งให้คณะกรรมการ ทราบกอ่ นพน้ กำ� หนดเวลาตามวรรคหน่ึง ในกรณีท่ีหน่วยงานของรัฐหรือเอกชนที่เก่ียวข้อง มิได้ด�ำเนินการตามวรรคสองหรือวรรคสามภายในระยะ เวลาท่ีก�ำหนดโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้คณะกรรมการ จัดทำ� รายงานเสนอคณะรฐั มนตรี มาตรา ๓๗ ในกรณีท่ีการละเมิดสิทธิมนุษยชน ความผดิ อาญา เร่ืองใดเป็นความผิดอาญาและผู้เสียหายไม่อยู่ในฐานะท่ีจะ ร้องทุกข์หรือกล่าวโทษด้วยตนเองได้ ให้คณะกรรมการ หรือผู้ซ่ึงคณะกรรมการมอบหมายมีอ�ำนาจร้องทุกข์หรือ กล่าวโทษได้โดยให้ถือว่าเป็นผู้เสียหายตามประมวล กฎหมายวธิ ีพจิ ารณาความอาญา มาตรา ๓๘ ในกรณีท่ีกรรมการผู้ใดพบเห็น การดำ� เนินการ การละเมิดสิทธิมนุษยชนและจ�ำเป็นต้องด�ำเนินการ เรง่ ด่วน
408 โดยเร่งด่วน ซ่ึงหากปล่อยให้เน่ินช้าไปจะเป็นภยันตราย ต่อชีวิตหรือร่างกายของบุคคลซึ่งถูกละเมิดสิทธิมนุษยชน หรือไม่มีทางเยียวยาได้ในภายหลัง กรรมการผู้น้ันอาจ แจ้งให้หน่วยงานของรัฐให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ได้รับ ความเสียหายจากการละเมิดสิทธิมนุษยชนตามหน้าท่ีและ อ�ำนาจของหน่วยงานน้ันได้ แล้วแจ้งให้คณะกรรมการ ทราบ ในกรณีจ�ำเป็นอันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้กรรมการ ผู้นั้นอาจส่ังให้พนักงานฝ่ายปกครองหรือต�ำรวจที่อยู่ใน บริเวณใกล้เคียงหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือ ตามทเ่ี หน็ สมควรได้ ให้เป็นหน้าที่ของพนักงานฝ่ายปกครองหรือ ต�ำรวจหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ท่ีได้รับค�ำสั่งตามวรรคหน่ึง ทจ่ี ะต้องปฏิบตั ติ ามคำ� สัง่ น้ัน ลกั ษณะของ มาตรา ๓๙ ภายใต้บังคับมาตรา ๖ ห้ามมิให้ เรอื่ งที่มิให้รบั คณะกรรมการรับเรื่องท่ีคณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่า ไวพ้ ิจารณา มีลักษณะดังต่อไปน ้ี ไวพ้ จิ ารณา (๑) เร่ืองท่ีมีการฟ้องร้องเป็นคดีอยู่ในศาลหรือ เร่ืองท่ีศาลมีค�ำพิพากษา ค�ำสั่ง หรือค�ำวินิจฉัยเสร็จ เด็ดขาดแล้ว เว้นแต่เป็นการศึกษาเพ่ือประโยชน์ใน การเสนอแนะให้มีการแก้ไขปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือค�ำส่ัง ที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการยุติธรรม เพ่อื ให้สอดคล้องกับหลกั สทิ ธิมนษุ ยชน
409 (๒) เร่ืองท่ีไม่อยู่ในหน้าท่ีและอ�ำนาจของ คณะกรรมการ (๓) เรื่องที่อยู่ในหน้าท่ีและอ�ำนาจขององค์กร อิสระอื่น หรือท่ีองค์กรอิสระอ่ืนรับไว้ด�ำเนินการตาม หน้าที่และอ�ำนาจขององค์กรอิสระน้ันแล้ว แต่ไม่ตัด อ�ำนาจในการท่ีจะขอรับทราบผลการพิจารณาขององค์กร อิสระท่รี บั เรอ่ื งไว้ด�ำเนนิ การ (๔) เป็นการร้องเรียนโดยใช้สิทธิไม่สุจริตและ การพิจารณาจะไมเ่ ป็นประโยชนต์ ่อประชาชนโดยส่วนรวม (๕) เร่อื งท่มี กี ารแก้ไขปญั หาอย่างเหมาะสมแลว้ (๖) เป็นเร่ืองที่คณะกรรมการเคยพิจารณาแล้ว เห็นว่าไม่เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน เว้นแต่จะปรากฏ พยานหลักฐานหรือข้อเท็จจริงใหม่อันอาจท�ำให้ผลการพิจารณา เปลยี่ นแปลงไป (๗) เรื่องอ่นื ตามทคี่ ณะกรรมการก�ำหนด ในกรณีที่ความปรากฏในภายหลังว่าเป็นเร่ืองที่มี ลักษณะตามวรรคหน่ึง ใหค้ ณะกรรมการสั่งยุตเิ รือ่ ง มาตรา ๔๐ ให้คณะกรรมการจัดท�ำรายงาน การจัดทำ� รายงาน ผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศ ผลประเมนิ ประจ�ำปีให้แล้วเสร็จภายในเก้าสิบวันนับแต่วันส้ินปีปฏิทิน สถานการณ์ เพ่ือเสนอต่อรัฐสภาและคณะรัฐมนตรี และเผยแพร่ให้ประชาชน ด้านสิทธมิ นษุ ยชน ทราบเป็นการท่ัวไป ท้ังน้ี ให้กรรมการมาแถลงรายงาน ดังกล่าวตอ่ รัฐสภาดว้ ย
410 ในกรณีท่ีมีสถานการณ์อันกระทบหรือเป็น การละเมิดสิทธิมนุษยชนเกิดขึ้นอย่างร้ายแรงให้คณะกรรมการ ด�ำเนินการตรวจสอบแล้วจัดท�ำรายงานผลการประเมิน สถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศในเร่ืองนั้นขึ้น เป็นการเฉพาะ เพ่ือรายงานให้รัฐสภาและคณะรัฐมนตรี ทราบโดยเร็ว พร้อมท้ังเผยแพร่ให้ประชาชนทราบ เปน็ การทว่ั ไป ในกรณีท่ีคณะกรรมการจัดท�ำรายงานตาม วรรคหนึ่งไม่แล้วเสร็จภายในก�ำหนดเวลาจะขยายเวลา ออกไปอีกไม่เกินหน่ึงร้อยแปดสิบวันก็ได้แต่ต้องแจ้งให้ รัฐสภาทราบ ในกรณีท่ียังไม่สามารถเสนอรายงาน ดังกล่าวต่อรัฐสภาและคณะรัฐมนตรีได้ภายในก�ำหนดเวลา ท่ีขยายโดยไม่มีเหตุอันสมควรให้คณะกรรมการพ้นจาก ตำ� แหนง่ ทง้ั คณะ การจัดท�ำรายงานตามมาตรานี้ ให้กระท�ำ เป็นการสรุป โดยอย่างน้อยในรายงานต้องประกอบด้วย ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะในการส่งเสริมและ คุ้มครองสิทธิมนุษยชน โดยมิให้ระบุรายละเอียดอัน เป็นการเปิดเผยความลับของบุคคลหรือหน่วยงานของรัฐท่ี เก่ียวข้องโดยไม่จ�ำเป็น และต้องค�ำนึงถึงความถูกต้อง เป็นธรรม และผลประโยชน์ส่วนรวมของชาติเป็นส�ำคัญด้วย ทั้งน้ี ให้หน่วยงานของรัฐที่คณะกรรมการร้องขอแจ้งข้อมูล ห รื อ ข ้ อ เ ท็ จ จ ริ ง ท่ี เ กี่ ย ว กั บ ส ถ า น ก า ร ณ ์ สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น
411 ในส่วนท่ีอยู่ในหน้าท่ีและอ�ำนาจให้คณะกรรมการทราบ และให้น�ำความในมาตรา ๓๕ (๑) มาใชบ้ ังคบั โดยอนุโลม มาตรา ๔๑ ให้คณะกรรมการจัดให้มีแผน แผนการ การด�ำเนินการตามมาตรา ๔๐ เพื่อให้การปฏิบัติหน้าท่ี ดำ� เนินการ แต่ละกรณีเป็นไปโดยไม่ชักช้า และแล้วเสร็จตามระยะเวลา ที่ก�ำหนดไว้ มาตรา ๔๒ ในกรณีท่ีคณะกรรมการเห็นว่า การกำ� หนด การแก้ไขปัญหาหรือการป้องกันเพ่ือมิให้เกิดการละเมิด มาตรการ สิทธิมนุษยชนในเร่ืองใดหรือลักษณะใดข้ึนอีก จ�ำเป็นต้อง การส่งเสริม มีการก�ำหนดมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและ และคมุ้ ครอง คุ้มครองสิทธิมนุษยชน รวมตลอดทั้งการแก้ไขปรับปรุง สิทธิมนษุ ยชน กฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือค�ำส่ังใด เพื่อให้สอดคล้อง กบั หลกั สทิ ธิมนุษยชน ใหค้ ณะกรรมการจดั ทำ� ขอ้ เสนอแนะ เสนอต่อรัฐสภาคณะรัฐมนตรี หรือหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง เพื่อดำ� เนนิ การตามหน้าที่และอำ� นาจต่อไป มาตรา ๔๓ ในกรณีท่ีรัฐสภา คณะรัฐมนตรี รายงานหรือ หรือหน่วยงานที่เก่ียวข้องได้รับรายงานหรือข้อเสนอแนะ ข้อเสนอแนะ ตามมาตรา ๓๖ วรรคส่ี มาตรา ๔๐ หรือมาตรา ๔๒ แล้ว ให้รัฐสภา คณะรัฐมนตรีหรือหน่วยงานท่ีเก่ียวข้อง ด� ำ เ นิ น ก า ร ป รั บ ป รุ ง แ ก ้ ไ ข ต า ม ค ว า ม เ ห ม า ะ ส ม โ ด ย เ ร็ ว กรณใี ดไม่อาจด�ำเนนิ การไดห้ รอื ต้องใชเ้ วลาในการดำ� เนนิ การ ใหแ้ จ้งเหตผุ ลใหค้ ณะกรรมการทราบโดยไมช่ กั ช้า
412 ในกรณีท่ีเห็นสมควร คณะกรรมการอาจเผยแพร่ ร า ย ง า น ห รื อ ข ้ อ เ ส น อ แ น ะ ข อ ง ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร ห รื อ ผลการด�ำเนินการของรัฐสภา คณะรัฐมนตรี หรือ หน่วยงานของรัฐหรือเอกชนที่เก่ียวข้องให้ประชาชนทราบ เป็นการทั่วไปได้ การรายงาน มาตรา ๔๔ เม่ือความปรากฏต่อคณะกรรมการ สถานการณ์ ไม่ว่าโดยทางใดว่ามีการรายงานสถานการณ์เกี่ยวกับ เกีย่ วกับ สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยโดยไม่ถูกต้องหรือไม่เป็นธรรม สทิ ธมิ นุษยชน คณะกรรมการต้องตรวจสอบและชี้แจงหรือจัดท�ำรายงาน ข้อเท็จจริงท่ีถูกต้องของสถานการณ์น้ันโดยไม่ชักช้า เพื่อเผยแพร่ให้ประชาชนทราบเป็นการท่ัวไป และ ให้สรุปไว้ในรายงานตามมาตรา ๔๐ วรรคหนึ่ง ด้วย ท้ังนี้ ให้น�ำความในมาตรา ๓๕ (๑) มาใช้บังคับ แกก่ ารตรวจสอบโดยอนุโลม การจัดทำ� มาตรา ๔๕ ภายในหน่ึงร้อยแปดสิบวันนับแต่ รายงานประจ�ำปี วันสิ้นปีงบประมาณ ให้คณะกรรมการจัดท�ำรายงาน ประจ�ำปีเสนอต่อคณะรัฐมนตรีและรัฐสภา โดยอย่างน้อย ให้คณะกรรมการสรุปปัญหาอุปสรรค และข้อเสนอแนะ ในการด�ำเนินการด้วย และเผยแพร่ให้ประชาชนทราบ เปน็ การทว่ั ไป การห้าม มาตรา ๔๖ ห้ามมิให้ผู้ใดเปิดเผยข้อมูล เปดิ เผยขอ้ มูล อันท�ำให้สามารถระบุตัวตนของผู้แจ้งหรือผู้ร้องเรียนรวมทั้ง ข้อมูลข่าวสารท่ีได้มาเนื่องจากการปฏิบัติตามพระราช
413 บัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ เว้นแต่เป็นการเปิดเผย ข้อมูลเพื่อปฏิบัติตามหน้าท่ีและอ�ำนาจหรือตามกฎหมาย หรอื ตามคำ� สง่ั ศาล ผู้จัดท�ำและเผยแพร่รายงานตามหมวดน้ี หากได้ กระท�ำโดยสุจริต ผู้นั้นไม่ต้องรับผิดทั้งทางแพ่งทางอาญา ทางปกครอง หรือทางวินยั หมวด ๓ สำ� นักงานคณะกรรมการสทิ ธมิ นุษยชนแหง่ ชาติ มาตรา ๔๗ ให้มีส�ำนักงานคณะกรรมการ สำ� นกั งานคณะ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นส่วนราชการและมีฐานะเป็น กรรมการสิทธิ นิติบุคคล อย่ภู ายใตก้ ารกำ� กับดแู ลของคณะกรรมการ มนษุ ยชนแหง่ ชาติ มาตรา ๔๘ ส�ำนักงานมีหน้าท่ีและอ�ำนาจ หนา้ ท่แี ละอำ� นาจ ดังตอ่ ไปน้ี (๑) รับผิดชอบงานธุรการและด�ำเนินการเพื่อให้ คณะกรรมการบรรลุภารกิจและหน้าที่ตามที่ก�ำหนดไว้ ในรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ และกฎหมายอ่นื (๒) อ�ำนวยความสะดวก ช่วยเหลือ ส่งเสริม และสนับสนุน การปฏิบัติงานของคณะกรรมการและ กรรมการ
414 (๓) ศึกษา รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูล และ สนับสนุนให้มีการวิจัยเกี่ยวกับงานของคณะกรรมการ รวมท้ังประสานงานกับหน่วยงานของรัฐ องค์กรเอกชน หรือองค์กรอื่นใดในด้านสิทธิมนุษยชน เพ่ือประโยชน์ใน การสนบั สนนุ ภารกิจและหน้าทีข่ องคณะกรรมการ (๔) ปฏิบัติหน้าท่ีอื่นใดตามที่มีกฎหมายก�ำหนด หรอื ท่ีคณะกรรมการมอบหมาย การด�ำเนินการตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตาม หลกั เกณฑ ์ วิธีการ และแนวทางท่ีคณะกรรมการก�ำหนด อ�ำนาจ มาตรา ๔๙ ในการก�ำกับดูแลส�ำนักงาน ให้ การออกระเบียบ คณะกรรมการมีอ�ำนาจออกระเบียบหรือประกาศ ในเร่ือง หรือประกาศ ดังตอ่ ไปน้ี (๑) การแบ่งส่วนราชการภายในของส�ำนักงาน และขอบเขตหน้าทแ่ี ละอำ� นาจของส่วนราชการดังกล่าว (๒) การก�ำหนดต�ำแหน่ง การจัดประเภทต�ำแหน่ง ระดับต�ำแหน่ง และการเทียบต�ำแหน่งอัตราเงินเดือน เงินเพิ่มพิเศษส�ำหรับต�ำแหน่ง และค่าตอบแทนหรือ สิทธิประโยชน์อ่ืนของข้าราชการพนักงานราชการ และ ลูกจ้างของสำ� นักงาน (๓) การก�ำหนดคุณสมบัติ การคัดเลือก การบรรจุ การแต่งต้ัง การออกจากราชการ วินัยและการลงโทษ ทางวินัย การร้องทุกข์ การอุทธรณ์การลงโทษ และ
415 การอ่ืนที่จ�ำเป็นในการบริหารงานบุคคลส�ำหรับข้าราชการ และพนักงานราชการของส�ำนักงาน รวมทั้งวิธีการและ เง่อื นไขในการจ้างลกู จา้ งของส�ำนกั งาน (๔) การบริหารจัดการการเงินและทรัพย์สิน การงบประมาณ และการพัสดุของส�ำนกั งาน (๕) การจัดสวัสดิการหรือการสงเคราะห์อ่ืน แก่ข้าราชการ พนกั งานราชการ และลูกจ้างของสำ� นักงาน (๖) การก�ำหนดคุณสมบัติ วิธีการสรรหา และ การคดั เลือกเลขาธิการ (๗) การก�ำหนดเคร่ืองแบบและการแต่งเคร่ืองแบบ ของกรรมการ ข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้าง ของสำ� นกั งาน (๘) การจ้างและการแต่งต้ังบุคคลเพื่อเป็น ท่ีปรึกษาหรือผู้ช�ำนาญการประจ�ำคณะกรรมการรวมท้ัง เลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการประจ�ำประธานกรรมการ และกรรมการ และการก�ำหนดเงินเดือนและประโยชน์ ตอบแทนอ่นื ให้แก่บคุ คลดังกล่าว (๙) การอ่ืนใดอันจ�ำเป็นต่อการก�ำกับหรือ ควบคุมการด�ำเนินงานของส�ำนักงานหรือการบังคับบัญชา เลขาธิการ ข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้าง ของส�ำนักงาน หรือการท�ำให้บุคคลดังกล่าวท�ำงานได้ อย่างมีประสิทธิภาพ
416 การด�ำเนินการตาม (๑) (๒) และ (๘) ต้อง ค�ำนึงถึงความมีประสิทธิภาพ ความคุ้มค่า และ ความคลอ่ งตัว การก�ำหนดตาม (๒) ต้องค�ำนึงถึงค่าครองชีพ และความเพียงพอในการด�ำรงชีพ และภาระความรับผิดชอบ ทีแ่ ตกตา่ งกันของบุคลากรแต่ละสายงานและระดับด้วย ในการออกระเบียบเก่ียวกับการบริหารงานบุคคล ตามวรรคหนึ่ง ให้คณะกรรมการค�ำนึงถึงความเท่ียงธรรม ขวญั และก�ำลังใจของบคุ ลากร ให้ประธานกรรมการเป็นผู้มีหน้าที่ลงนาม ในระเบียบหรือประกาศท่ีคณะกรรมการมีมติเห็นชอบแล้ว และเม่ือประกาศในราชกิจจานเุ บกษาแลว้ ให้ใช้บงั คบั ได้ ข้าราชการ มาตรา ๕๐ ขา้ ราชการสำ� นกั งาน ไดแ้ ก่ บุคคล ส�ำนักงาน ซึ่งได้รับบรรจุและแต่งต้ังให้เป็นข้าราชการตามพระราช บญั ญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ให้ข้าราชการส�ำนักงานเป็นข้าราชการตาม กฎหมายวา่ ดว้ ยกองทุนบำ� เหนจ็ บำ� นาญข้าราชการ การใดอันเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคลที่มิได้ ก�ำหนดไว้ในพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญน้ีให้น�ำ กฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนมาใช้บังคับกับ การบรหิ ารงานบคุ คลของขา้ ราชการโดยอนุโลม การจ่ายเงินเดือนและเงินประจ�ำต�ำแหน่งให้แก่ ข้าราชการสำ� นกั งาน ใหเ้ ปน็ ไปตามกฎหมายวา่ ด้วยการนั้น
417 มาตรา ๕๑ เพ่ือประโยชน์ในการด�ำเนินการ การแต่งต้ัง ตามมาตรา ๕๐ วรรคสาม ให้คณะกรรมการท�ำหน้าที่ คณะอนุกรรมการ เป็น ก.พ. ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการ พลเรือน และมีอ�ำนาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการ เพื่อท�ำหน้าท่ีเป็นคณะอนุกรรมการข้าราชการส�ำนักงานได้ โดยมีองค์ประกอบและหน้าที่และอ�ำนาจตามหลักเกณฑ์ และวิธกี ารทคี่ ณะกรรมการกำ� หนด ให้คณะอนุกรรมการท่ีได้รับแต่งต้ังท�ำหน้าท ่ี เช่นเดียวกับคณะอนุกรรมการสามัญประจ�ำกระทรวงตาม กฎหมายว่าดว้ ยระเบยี บข้าราชการพลเรือน ในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการในฐานะ อ ง ค ์ ก ร ก ล า ง บ ริ ห า ร ง า น บุ ค ค ล แ ล ะ ค ณ ะ อ นุ ก ร ร ม ก า ร ท่ีได้รับแต่งต้ัง ให้มีสิทธิได้รับเบี้ยประชุมเช่นเดียวกับ ก.พ. หรือ อ.ก.พ. แล้วแตก่ รณี มาตรา ๕๒ ให้คณะกรรมการออกข้อก�ำหนด ขอ้ ก�ำหนด ทางจริยธรรมขึ้นใช้บังคับแก่ข้าราชการ พนักงานราชการ ทางจรยิ ธรรม และลูกจ้างของส�ำนักงาน ทั้งนี้ ข้อก�ำหนดทางจริยธรรม ดงั กล่าวตอ้ งระบดุ ว้ ยว่าการฝา่ ฝืนหรือไม่ปฏิบัตติ ามจะตอ้ ง ได้รับโทษอยา่ งใด มาตรา ๕๓ ให้ส�ำนักงานมีเลขาธิการคนหนึ่ง เลขาธกิ าร เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการ พนักงานราชการและ ลูกจ้างของส�ำนักงาน และรับผิดชอบการปฏิบัติงาน ของส�ำนักงาน ข้ึนตรงต่อคณะกรรมการโดยคณะกรรมการ
418 จะก�ำหนดให้มีรองเลขาธิการเป็นผู้ช่วยสั่งและปฏิบัติ ราชการแทนเลขาธกิ ารก็ได้ ให้เลขาธิการท�ำหน้าที่เป็นเลขานุการของ คณะกรรมการ การบรรจุ มาตรา ๕๔ การบรรจุบุคคลเข้ารับราชการ และแตง่ ตง้ั เป็นข้าราชการส�ำนักงาน และการแต่งต้ังให้ด�ำรงต�ำแหน่ง เปน็ ขา้ ราชการ ให้ผู้มอี ำ� นาจดังตอ่ ไปนเี้ ป็นผสู้ งั่ บรรจแุ ละแต่งตงั้ สำ� นกั งาน (๑) การบรรจุและแต่งตั้งให้ด�ำรงต�ำแหน่ง เลขาธิการ เม่ือได้ด�ำเนินการสรรหาและคัดเลือกตาม มาตรา ๔๙ (๖) แล้ว ให้ประธานกรรมการเป็นผู้มีอ�ำนาจ ส่ังบรรจุและน�ำความกราบบังคมทูล เพื่อทรงพระกรุณา โปรดเกลา้ ฯ แต่งต้งั (๒) การบรรจุและแต่งต้ังให้ด�ำรงต�ำแหน่ง ประเภทบริหารระดับสูงนอกจาก (๑) หรือเทียบเท่า เม่ือได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการแล้ว ให้ประธาน กรรมการเป็นผู้มีอ�ำนาจสั่งบรรจุและน�ำความกราบบังคมทูล เพอื่ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ แต่งตัง้ (๓) การบรรจุและแต่งต้ังให้ด�ำรงต�ำแหน่งอื่น นอกจาก (๑) และ (๒) ให้เลขาธิการเป็นผู้มีอ�ำนาจ สัง่ บรรจแุ ละแตง่ ตัง้ กิจการของ มาตรา ๕๕ ในกิจการของส�ำนักงานท่ีเก่ียวกับ สำ� นกั งาน บุคคลภายนอก ให้เลขาธิการเป็นผู้แทนของส�ำนักงาน
419 เพ่ือการน้ี เลขาธิการจะมอบอ�ำนาจให้บุคคลใดปฏิบัติ ราชการแทนกไ็ ด ้ ตามระเบียบท่คี ณะกรรมการก�ำหนด ในการด�ำเนินการตามวรรคหน่ึง ถ้าเป็นกิจการ ส�ำคัญเก่ียวกับการงบประมาณของส�ำนักงานและกิจการ อื่นใดท่ีมีผลต่อการปฏิบัติภารกิจของคณะกรรมการตามที่ คณะกรรมการก�ำหนด ให้เลขาธิการขอความเห็นชอบ จากคณะกรรมการกอ่ น มาตรา ๕๖ ใหค้ ณะกรรมการเสนองบประมาณ งบประมาณ รายจ่ายเพื่อจัดสรรเป็นเงินอุดหนุนของคณะกรรมการและ รายจ่าย ส�ำนักงานไว้ในร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจ�ำปีงบประมาณหรือร่างพระราชบัญญัติงบประมาณ รายจ่ายเพิ่มเติม แล้วแต่กรณี ในการเสนองบประมาณ รายจ่ายดังกล่าวให้คณะกรรมการพิจารณาผลการตรวจ สอบของส�ำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตามมาตรา ๕๘ วรรคสองประกอบดว้ ย ในกรณีที่คณะกรรมการเห็นว่างบประมาณรายจ่าย ท่ีได้รับการจัดสรรให้ไม่เพียงพอให้คณะกรรมการเสนอ ค�ำขอแปรญัตติต่อคณะกรรมาธิการพิจารณางบประมาณ ของสภาผูแ้ ทนราษฎรไดโ้ ดยตรง ในการเสนองบประมาณรายจ่ายตามวรรคหน่ึง และวรรคสอง ให้คณะกรรมการแจ้งให้คณะรัฐมนตรีทราบ ถงึ รายไดแ้ ละทรัพย์สนิ ท่ีมีอยูด่ ้วย
420 การจัดทำ� มาตรา ๕๗ เมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณ งบประมาณ รายจ่ายประจ�ำปีงบประมาณหรือพระราชบัญญัติ รายจา่ ยประจ�ำปี งบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมตามมาตรา ๕๖ ใช้บังคับ แล้ว ให้ส�ำนักงานจัดท�ำงบประมาณรายจ่ายประจ�ำป ี เพื่อขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการ และเผยแพร่ ใหป้ ระชาชนทราบเปน็ การทวั่ ไป การใช้จ่ายเงินของส�ำนักงานต้องเป็นไปตามท่ี ร ะ บุ ไ ว ้ ใ น ง บ ป ร ะ ม า ณ ร า ย จ ่ า ย ป ร ะ จ� ำ ป ี ต า ม ว ร ร ค ห น่ึ ง เว้นแต่จะได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการเป็นการเฉพาะ กรณี ในการเบิกงบประมาณท่ีได้รับการจัดสรร ให้ส�ำนักงานส่งข้อมูลค�ำขอเบิกงบประมาณต่อกรมบัญชีกลาง โดยให้ระบุจ�ำนวนเงินที่จะต้องใช้ในแต่ละงวด งวดละ สามเดือน และให้กรมบัญชีกลางส่ังจ่ายเงินให้แก่ส�ำนักงาน ภายในสามวันก่อนวันข้ึนงวดใหม่ แต่ในกรณีที่ส�ำนักงาน มีความจ�ำเป็นต้องใช้เงินมากกว่าท่ีได้แจ้งไว้ในงวดใด ใหก้ รมบญั ชกี ลางจ่ายใหต้ ามท่ีสำ� นกั งานร้องขอ การจดั ทำ� งบดลุ มาตรา ๕๘ ให้ส�ำนักงานจัดท�ำงบดุล งบการเงิน งบการเงนิ และบัญชีท�ำการส่งผู้สอบบัญชีภายในเก้าสิบวันนับแต ่ วนั สิ้นปบี ัญชี ใหส้ �ำนกั งานการตรวจเงินแผ่นดนิ เปน็ ผสู้ อบบัญชี ของส�ำนักงาน โดยให้ท�ำการตรวจสอบรับรองบัญชีและ การเงินทุกประเภทของส�ำนักงาน รวมทั้งประเมินผล
421 การใช้จ่ายเงินและทรัพย์สินของส�ำนักงานโดยแสดงให ้ เห็นด้วยว่าการใช้จ่ายดังกล่าวเป็นไปตามวัตถุประสงค์ ประหยัด ได้ผลตามเป้าหมายมีประสิทธิภาพ เกิดผล สัมฤทธ์ิ และคุ้มค่าเพียงใด แล้วท�ำรายงานเสนอผล การสอบบัญชีตอ่ รัฐสภาและคณะรฐั มนตร ี โดยไม่ชักช้า หมวด ๔ บทกำ� หนดโทษ มาตรา ๕๙ ผู้ใดไม่ปฏิบัติตามค�ำสั่งของ บทกำ� หนดโทษ คณะกรรมการตามมาตรา ๓๕ (๑) มาตรา ๔๐ วรรคส่ี หรือมาตรา ๔๔ โดยไม่มีเหตุอันสมควร หรือฝ่าฝืน มาตรา ๔๖ ต้องระวางโทษจ�ำคุกไม่เกินหกเดือน หรือ ปรบั ไมเ่ กนิ หน่ึงหมนื่ บาท หรอื ทั้งจำ� ทั้งปรบั บทเฉพาะกาล มาตรา ๖๐ ใหป้ ระธานกรรมการสทิ ธมิ นุษยชน การด�ำรงตำ� แหนง่ แห่งชาติและกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติซึ่งด�ำรงต�ำแหน่ง ของประธาน อยู่ในวันก่อนวันท่ีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญน้ี กรรมการ ใช้บังคับพ้นจากต�ำแหน่งนับแต่วันท่ีพระราชบัญญัติ สทิ ธิมนษุ ยชน
422 ประกอบรัฐธรรมนูญน้ีใช้บังคับ แต่ให้ยังคงปฏิบัติหน้าที่ ต่อไปจนกว่าประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาต ิ และกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่แต่งต้ังขึ้นใหม่จะ เขา้ รับหน้าท่ี ให้ผู้ซึ่งอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปตามวรรคหนึ่งม ี สิทธิได้รับเงินเดือน เงินประจ�ำต�ำแหน่งและประโยชน์ ตอบแทนอื่นตามท่ีได้รับอยู่ในวันก่อนวันท่ีพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับและให้มีสิทธิได้รับบ�ำเหน็จ ตอบแทนตามมาตรา ๓๒ โดยให้ถือว่าเป็นการพ้นจาก ต�ำแหน่งเพราะลาออกโดยให้ค�ำนวณระยะเวลาตั้งแต่วันท่ี ได้รบั โปรดเกล้าฯ แตง่ ต้ังจนถงึ วันทหี่ ยดุ ปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ี ในกรณีผู้ซ่ึงอยู่ปฏิบัติหน้าท่ีต่อไปตามวรรคหน่ึง ตาย ลาออก หรือไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ไม่ว่าด้วยเหตุใด และมีผู้ซ่ึงอยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปไม่ถึงก่ึงหนึ่ง ให้นำ� ความ ในมาตรา ๒๒ มาใช้บังคบั โดยอนุโลม กระบวน มาตรา ๖๑ ในวาระเริม่ แรก ให้การด�ำเนนิ การ การสรรหา เกี่ยวกับการสรรหาผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นประธาน ประธาน กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและกรรมการสิทธิมนุษยชน กรรมการ แห่งชาติตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ สิทธิมนุษยชน นอกจากต้องด�ำเนินการตามหมวด ๑ คณะกรรมการ แหง่ ชาติ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ แล้วให้เป็นไปตามกระบวนการ และกำ� หนดเวลาดังต่อไปน้ี
423 (๑) ให้คณะกรรมการก�ำหนดระเบียบเก่ียวกับ การจดแจ้ง การรับจดแจ้ง และการเลือกกันเองตาม มาตรา ๑๑ วรรคสาม ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับ แต่วันท่ีพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับและ ประกาศให้ประชาชนทราบเป็นการทัว่ ไป (๒) ให้ส�ำนักงานประกาศการรับจดแจ้งและ ด�ำเนินการรบั จดแจง้ การเป็นองค์กรเอกชนดา้ นสทิ ธิมนุษยชน ตามมาตรา ๑๑ (๔) และสภาวชิ าชีพตามมาตรา ๑๑ (๕) ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่ท่ีระเบียบตาม (๑) ใช้บงั คับ (๓) ให้องค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนและ สภาวิชาชีพซ่ึงได้รับการจดแจ้งตาม (๒) ด�ำเนินการ เลือกกันเองเพ่ือเป็นกรรมการสรรหาตามมาตรา ๑๑ (๔) และ (๕) ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่พ้นก�ำหนด เวลาตาม (๒) (๔) ให้กรรมการสรรหาตามมาตรา ๑๑ (๑) (๒) (๓) (๔) และ (๕) ตกลงวิธีการเลือกกรรมการ สรรหาตามมาตรา ๑๑ (๖) ให้แล้วเสร็จภายในยี่สิบวัน นับแต่วันที่พ้นก�ำหนดเวลาตาม (๓) และด�ำเนินการ เลือกกรรมการสรรหาตามมาตรา ๑๑ (๖) ให้แล้วเสร็จ ภ า ย ใ น ส า ม สิ บ วั น นั บ แ ต ่ วั น ท่ี มี ข ้ อ ต ก ล ง วิ ธี ก า ร เ ลื อ ก ดงั กลา่ ว
424 (๕) เมื่อพ้นก�ำหนดเวลาตาม (๔) แล้ว ให้ กรรมการสรรหาตามมาตรา ๑๑ ด�ำเนินการจัดท�ำ หลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาท่ีจะใช้ในการสรรหา ตามมาตรา ๑๓ (๑) ให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับ แตพ่ ้นก�ำหนดเวลาตาม (๔) (๖) ให้กรรมการสรรหาด�ำเนินการสรรหาให้แล้ว เสร็จภายในเกา้ สบิ วนั นบั แตพ่ น้ กำ� หนดเวลาตาม (๕) ในกรณีท่ีมีปัญหาเกี่ยวกับการด�ำเนินการตาม (๑) (๒) หรือ (๓) ให้เป็นหน้าที่และอ�ำนาจของ คณะกรรมการเป็นผู้วินิจฉัย ค�ำวินิจฉัยของคณะกรรมการ ให้เป็นที่สุด และให้น�ำความในมาตรา ๑๘ มาใช้บังคับ โดยอนุโลม เลขาธิการ มาตรา ๖๒ ให้เลขาธิการคณะกรรมการสิทธิ คณะกรรมการ มนุษยชนแห่งชาติซ่ึงด�ำรงต�ำแหน่งอยู่ในวันก่อนวันท ี่ สิทธิมนษุ ยชน พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ ยังคงเป็น แหง่ ชาติ เ ล ข า ธิ ก า ร ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น แ ห ่ ง ช า ติ ต า ม พระราชบญั ญตั ิประกอบรฐั ธรรมนญู นี้ สำ� นักงาน มาตรา ๖๓ ให้ส�ำนักงานคณะกรรมการสิทธิ คณะกรรมการ มนุษยชนแห่งชาติตามพระราชบัญญัติคณะกรรมการ สทิ ธิมนุษยชน สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ เป็นส�ำนักงาน แหง่ ชาติ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติตามพระราชบัญญัติ ประกอบรฐั ธรรมนญู นี้
425 บรรดาสิทธิ หน้าท่ี และความผูกพันใด ๆ ท่ี ส� ำ นั ก ง า น ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น แ ห ่ ง ช า ติ ต า ม พระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาต ิ พ.ศ. ๒๕๔๒ มีอยู่กับบุคคลใดในวันก่อนวันที่พระราช บัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ ให้โอนมาเป็นของ ส� ำ นั ก ง า น ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น แ ห ่ ง ช า ติ ต า ม พระราชบญั ญัติประกอบรฐั ธรรมนญู น้ี มาตรา ๖๔ ใ ห ้ โ อ น บ ร ร ด า ง บ ป ร ะ ม า ณ การโอน ทรัพย์สิน ข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างของ งบประมาณ ส�ำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติตาม ทรพั ยส์ นิ พระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาต ิ ขา้ ราชการ พ.ศ. ๒๕๔๒ มาเป็นของส�ำนักงานคณะกรรมการ พนกั งานราชการ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติตามพระราชบัญญัติประกอบ และลกู จา้ ง รัฐธรรมนูญนี้ และให้ถือว่าสิทธิและประโยชน์อ่ืนใดซึ่ง ข้าราชการพนักงานราชการ หรือลูกจ้างดังกล่าวได้รับ ตามพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ เป็นสิทธิและประโยชน์อื่นใดท่ีได้รับต่อไป ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญน้ีเว้นแต่จะมี ระเบียบที่ออกตามมาตรา ๔๙ (๒) ก�ำหนดไว้เป็น อย่างอน่ื ให้พระราชบัญญัติเคร่ืองแบบกรรมการสิทธิ มนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๗ ยังคงมีผลใช้บังคับต่อไป จนกว่าจะมีระเบียบตามมาตรา ๔๙ (๗) ใชบ้ งั คับ
426 การรบั เงินเดอื น มาตรา ๖๕ ในระหว่างที่ยังไม่มีกฎหมาย ประจ�ำต�ำแหน่ง ว่าด้วยเงินเดือน เงินประจ�ำต�ำแหน่งและประโยชน์ตอบแทน อ่ืนของกรรมการตามมาตรา ๓๑ ให้ประธานกรรมการ และกรรมการได้รับเงินเดือนเงินประจ�ำต�ำแหน่งและ ประโยชน์ตอบแทนอ่ืนเช่นเดียวกับประธานกรรมการหรือ กรรมการในองค์กรอิสระอ่ืน แลว้ แต่กรณี การบังคับใช้ มาตรา ๖๖ บรรดาระเบียบ ประกาศ และค�ำส่ัง ระเบยี บ ประกาศ ที่ออกตามพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน และค�ำส่งั แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ ซ่ึงใช้บังคับอยู่ในวันก่อนวันท่ี พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ใช้บังคับ ให้ม ี ผลใช้บังคับต่อไปเท่าที่ไม่ขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือพระราช บัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญน้ี ทั้งน้ี จนกว่าจะมีระเบียบ ข้อก�ำหนด ประกาศ หรือค�ำสั่งตามพระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนญู นี้ หนา้ ทแ่ี ละ มาตรา ๖๗ บรรดาการด�ำเนินการใด ๆ ตาม อ�ำนาจของ หน้าท่ีและอ�ำนาจของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ คณะกรรมการ ห รื อ ส� ำ นั ก ง า น ค ณ ะ ก ร ร ม ก า ร สิ ท ธิ ม นุ ษ ย ช น แ ห ่ ง ช า ติ สิทธมิ นษุ ยชน ตามพระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ ซึ่งด�ำเนินการก่อนวันท่ีพระราชบัญญัติ แห่งชาติ ประกอบรฐั ธรรมนูญนีใ้ ชบ้ ังคับ ถ้าการน้นั อย่ใู นหน้าทแ่ี ละ อ�ำนาจของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติตาม พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญนี้ ให้ถือว่าการนั้น
427 เ ป ็ น ก า ร ด� ำ เ นิ น ก า ร ต า ม พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ ป ร ะ ก อ บ รัฐธรรมนูญน้ี ส่วนการด�ำเนินการต่อไปให้เป็นไปตาม พระราชบญั ญตั ปิ ระกอบรฐั ธรรมนญู นี้ ผูร้ ับสนองพระราชโองการ พลเอก ประยุทธ ์ จนั ทร์โอชา นายกรฐั มนตรี
428 หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติ ประกอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้ คือ โดยท่ีรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย มาตรา ๑๓๐ (๑๐) มาตรา ๒๔๖ มาตรา ๒๔๗ และมาตรา ๒๖๗ บัญญัติให้มีการตรา พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เพ่ือก�ำหนดคุณสมบัติลักษณะ ต้องห้าม การสรรหา การพ้นจากต�ำแหน่ง หน้าที่และ อ�ำนาจ ตลอดจนการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติเพ่ือให้ได้มาซึ่งข้อมูล ความเห็น แ ล ะ เ อ ก ส า ร ห ลั ก ฐ า น ที่ เ กี่ ย ว ข ้ อ ง ที่ จ ะ ใ ช ้ ป ร ะ ก อ บ ก า ร พิ จ า ร ณ า แ ล ะ ด� ำ เ นิ น ก า ร ต า ม ห น ้ า ท่ี แ ล ะ อ� ำ น า จ ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ให้เป็นไปอย่างมี ประสิทธิภาพและบรรลุตามเป้าหมาย โดยการด�ำเนินการ ดงั กลา่ วมคี วามจ�ำเปน็ ตอ้ งมกี ารกระทบหรือจ�ำกดั สิทธหิ รือ เสรีภาพของบุคคลบางประการ และเป็นไปเท่าที่จ�ำเป็น ต ่ อ ก า ร ป ฏิ บั ติ ห น ้ า ที่ ป ร ะ ก อ บ กั บ เ พื่ อ ใ ห ้ ส อ ด ค ล ้ อ ง กับหลักสากลเก่ียวกับกระบวนการได้มาซึ่งกรรมการ สิทธิมนุษยชนแห่งชาติที่ต้องมาจากความหลากหลาย ของภาคส่วนท่ีเกี่ยวข้อง จึงจ�ำเป็นต้องตราพระราชบัญญัติ ประกอบรฐั ธรรมนูญน้ี ราชกิจจานุเบกษา เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๑๒๓ ก วนั ที่ ๑๒ ธนั วาคม ๒๕๖๐ หน้า ๑-๒๔.
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423