ไฟล์สรุปทบทวนนักวิชาการศึกษาเข้มข้น2564

301

302

303

304

หลักสูตรการศกึ ษาในประเทศไทย การศึกษาปฐมวยั พทุ ธศกั ราช 2560 ตา่ กว่า 3 ปี , 3-6 ปี คุณลกั ษณะ,ประสบการณ์สาคญั ,สาระทค่ี วรเรยี น แกนกลางการศึกษาขนั้ ฐานพทุ ธศกั ราช 2551 ประถม, ม.ต้น, ม.ปลาย ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ.2560 หลกั สตู รประกาศนียบตั รวิชาชีพ พทุ ธศกั ราช 2562 หลกั สตู รประกาศนียบตั รวิชาชีพชนั้ สงู พทุ ธศกั ราช 2563 หลกั สตู รระดบั อดุ มศึกษา ป.ตรี,ป.โท,ป.เอก 305

ปัจจบุ นั เป็นหลกั สตู รแบบองิ มาตรฐาน อยรู่ ะหวา่ งปรับปรุงพฒั นา “หลกั สตู รฐานสมรรถนะ” 306

307

308

309

310

กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน 1. กจิ กรรมแนะแนว 2. กจิ กรรมนักเรียน 2.1 กจิ กรรมชุมนุม ชมรม 2.2 กจิ กรรมลูกเสือ เนตรนารี ยุวกาชาด 3ร..กดิจ. กรรมเพ่อื สังคมและสา31ธ1 ารณประโยชน์

ระดับการศกึ ษา หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน แบ่งเป็ น 3 ระดบั คือ 1.ระดบั ประถมศึกษา (ป.1-ป.6) เน้นการจดั การเรยี นร้แู บบบรู ณาการ 2.ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น (ม.1-ม.3) เป็นการจดั การศึกษาโดยเน้น สารวจความถนัด ความสนใจในการประกอบอาชีพหรือการศึกษาต่อ 3.ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย (ม.4-ม.6) เป็นการเพิ่มพนู ความร้ดู ้าน ต่างๆ นาความรไู้ ปประยกุ ตใ์ ช้ในการประกอบอาชีพ

313

6 มาตรการป้องกนั โควิดในสถานศึกษา 314

315

316

317

318

319

โครงการบูรณาการการศกึ ษาจังหวดั - โรงเรียนคณุ ภาพของชุมชน - โรงเรียนมธั ยมดสี ีม่ ุมเมอื ง - โรงเรยี นขนาดเล็กที่ดารงอยู่ ด้วยตนเอง (Stand Alone) โครงการบริหารจัดการนา้ โดยชุมชนตาม แนวพระราชดาริ หลักสูตร “ชลกร” “Coding for All .. All for Coding” Coding for Teacher Plus (C4T Plus) วทิ ยาศาสตรพ์ ลังสบิ ดว้ ย STI วทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวตั กรรม 320

คณะกรรมการขบั เคล่อื นยุทธศาสตรแ์ ละนโยบายสง่ เสรมิ การเรยี นการสอนภาษาคอมพวิ เตอร์ (Coding) แหง่ ชาติ คณะอนุกรรมการ Coding เพอ่ื การปฏริ ปู ประเทศ 321

322

การวิจยั ทางการศึกษา • การวิจยั (Research) หมายถงึ การศกึ ษาคน้ ควา้ หาความรู้ ดว้ ยวธิ กี าร ทเ่ี ป็นระบบ มรี ะเบยี บเชอ่ื ถอื ได้ หรอื อาศยั กระบวนการทางวทิ ยาศาสตรน์ นั่ เอง

ขนั้ ตอนการวิจยั โดยทวั่ ไป 1. กาหนดปัญหา 2. ตงั้ สมมตฐิ าน 3. การเกบ็ รวบรวมขอ้ มลู 4. การวเิ คราะหข์ อ้ มลู 5. การสรปุ ผล

งานวิจยั มหี ลายประเภท Classroom Action Research Research And Development Evaluation Research Institute Research

วงจรการทางานการวิจยั ในชน้ั เรียน ของ Kemmis วางแผน (Plan) สะท้อนกลับ ลงมอื ปฏบิ ตั ิ (Reflecting) (Act) สังเกต (Observe)

คาถามข้อสงสัย ท่ตี ้องการคาตอบ ปัญหาขดั ขอ้ ง ปัญหาป้องกนั และปัญหาพฒั นา

การคาดเดาคาตอบ ลว่ งหน้าอยา่ งมีเหตผุ ล สมมตฐิ านเกดิ จากการอ่านทฤษฎแี ละงานวจิ ยั ทเ่ี กย่ี วขอ้ ง

สมมตฐิ าน (hypothesis) สมมตฐิ านทางสถติ ิ สมมตฐิ านการวจิ ยั H0 : µ = 50 H1 = µ ≠ 50 คา่ เฉลย่ี ผลสมั ฤทธทิ ์ างการเรยี นของนกั เรยี น หลงั เรยี นดว้ ยชดุ กจิ กรรมมากกวา่ 50 คะแนน H0 : µ1 = µ2 H1 = µ1 ≠ µ2 ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นหลงั เรยี นดว้ ยชดุ กจิ กรรม สงู กวา่ ก่อนเรยี น เพศชายและเพสศมหมญตงิ มฐิ ผี าลนสมักฤาทรธวทิ์ ิจายังการเรยี น แตกต่างกนั

วธิ ดี าเนนิ การวจิ ยั แผนการ ประชากร และวิธีการ ศึกษา/ สุม่ ตวั อยา่ ง ทดลอง เครื่องมือ ระบุใหท้ ราบ ท่ีใช้ รายละเอยี ดการ ปฏิบตั ใิ นแตล่ ะ ข้นั ตอน การเก็บ รวบรวม การวิเคราะห์ ขอ้ มูล ขอ้ มูลและ สถิตทิ ่ีใช้

การวิเคราะหข์ ้อมลู เชิงปริมาณ เชิงคณุ ภาพ ใชส้ ถติ ิ ใชข้ อ้ มลู เชงิ ประจกั ษ์ แบบสอบถาม สงั เกต สมั ภาษณ์ แบบทดสอบ ประชมุ สนทนา ฯลฯ ฯลฯ

การสรปุ ผล สรุปข้อมลู อภิปรายผล ข้อเสนอแนะ 1.เชงิ ปรมิ าณ 1.ใชค้ วามคดิ ของ 1.นาผลไปใช้ 2.เชงิ คณุ ภาพ ผวู้ จิ ยั 2.วจิ ยั ครงั้ ต่อไป 2.อา้ งองิ ทฤษฎแี ละ งานวจิ ยั

ประชากร และ กล่มุ ตวั อย่าง ประชากร เลอื กมาศกึ ษา นกั เรยี น ม.1/1 – ม.1/6 กลมุ่ ตวั อยา่ ง จานวน 200 คน นกั เรียน ม.1/3 จานวน 40 คน 333

การกาหนดเกณฑก์ ล่มุ ตวั อย่าง ในกรณีนีผ้ ้วู จิ ยั ต้องทราบจานวนประชากรท่ีแน่นอนกอ่ นแล้ว ใช้เกณฑ์โดยกาหนด เป็นร้อยละของประชากรในการพจิ ารณา ดงั นี ้ ถ้าขนาดประชากรเป็นหลกั ร้อย ควรใช้กลมุ่ ตวั อยา่ งอยา่ งน้อย 25% ถ้าขนาดประชากรเป็นหลกั พนั ควรใช้กลมุ่ ตวั อยา่ งอยา่ งน้อย 10% ถ้าขนาดประชากรเป็นหลกั หม่ืน ควรใช้กลมุ่ ตวั อยา่ งอยา่ งน้อย 5% ถ้าขนาดประชากรเป็นหลกั แสน ควรใช้กลมุ่ ตวั อยา่ งอยา่ งน้อย 1% 334

335

336

วธิ สี มุ่ กลุม่ ตวั อยา่ ง ไมอ่ าศยั ความน่าจะเป็น อาศยั ความน่าจะเป็น 1.บงั เอิญ 1.อยา่ งงา่ ย 2.โควตา 2.มรี ะบบ 3.เจาะจง 3.แบง่ ชนั 4.บอกต่อ 4.แบ่งกลมุ่ 5.หลายขนั้ ตอน

ตวั แปร (Variable) ตวั แปรต้น/อิสระ ตวั แปรตาม วิธีสอน ผลสมั ฤทธ์ิ เพศ ความตงั้ ใจ คณุ ลกั ษณะ ID plan การกาหนดเป้าหมาย ความรู้ ทกั ษะ ความต่นื เตน้ ความเจบ็ ป่วย การเรยี นเสรมิ ฯลฯ

ตวั แปร (Variable) ตวั แปรอสิ ระ/ตวั แปรตน้ สง่ ผลตอ่ ตวั แปรตาม ผลสมั ฤทธทิ ์ างการเรยี น การสอนโดยใชช้ ดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ ตวั แปรเกนิ ตวั แปรสอดแทรก ความรพู้ น้ื ฐานของแตล่ ะคน ความต่นื เตน้ ความเจบ็ ป่วย 339

สมมติฐาน (Hypothesis) = การคาดเดาคาตอบล่วงหน้าอยา่ งมเี หตุผล ระดบั นัยสาคญั (Level of significance) 0.01 หมายความวา่ การทดสอบ 100 ครงั้ ยอมใหผ้ ดิ พลาดไมเ่ กนิ 1 ครงั้ 0.05 หมายความวา่ หากทาการทดสอบ 100 ครงั้ ยอมใหผ้ ดิ พลาดไมเ่ กนิ 5 ครงั้ การวิเคราะหข์ ้อมลู 1.เชงิ ปรมิ าณ 2.เชงิ คุณภาพ 340

นัยสาคญั ทางสถิติ นัยสาคญั ทางสถิติ นัยสาคญั ทางสถิติ ที่ระดบั .01 ท่ีระดบั .05 มีความเช่ือมนั่ 99% มคี วามเช่ือมนั่ 95% เคร่ืองหมาย ** เคร่อื งหมาย *

342

เครื่องมือที่ใช้ในการวิจยั • แบบทดสอบ คณุ ภาพเครอื่ งมอื • แบบสอบถาม 1.ความตรง = IOC 2.ความเชอ่ื มนั่ = KR-20,KR-21 • แบบสมั ภาษณ์ สมั ประสทิ ธแิ ์ อลฟาคอนบราด • แบบสงั เกต 3.อานาจจาแนก • ฯลฯ 4.ปรนยั 5.ยากงา่ ยพอเหมาะ

สถติ ทิ ใ่ี ชใ้ นการวจิ ยั • ใสช้ ถิติพรรณนา สถิตอิ ้างอิง กลมุ่ ประชากร กลมุ่ ตวั อยา่ ง แจกแจงความถ่ี T-test ไคสแคว์ F-test สหสมั พนั ธ์ วดั แนวโน้มเข้าสู่ สว่ นกลาง Anova วดั การกระจาย

แบบแผนการวิจยั ทวั่ ไป ใช้นวตั กรรม/พฒั นา - ทดสอบหลงั เรียน X O2 ทดสอบก่อนเรียน - ใช้นวตั กรรม/พฒั นา - ทดสอบหลงั เรียน O1 X O2 ทดสอบก่อนเรียน - ใช้นวตั กรรม/พฒั นา - ทดสอบหลงั เรียน กลมุ่ 1 O1 X O2 กลมุ่ 2 O1 - O2 345

การศึกษาผลการใช้แบบฝึ กทกั ษะการคิดเลขเรว็ สาหรบั นักเรียนชนั้ ประถมศึกษาปี ที่ 6 ตวั แปรต้น/ตวั แปรอสิ ระ การสอนโดยใช้แบบฝึกทกั ษะการคดิ เลขเร็ว ตวั แปรตาม ทกั ษะการคิดเลขเร็ว ประชากร นกั เรียน ป.6 ทกุ คน กลมุ่ ตวั อยา่ ง นกั เรียน ป.6 ท่ีเลือกมาศกึ ษา นวตั กรรม แบบฝึกทกั ษะ สมมตฐิ าน การสอนโดยใช้แบบฝึกทกั ษะการคดิ เลขเร็ว ทาให้นกั เรียนมที กั ษะการคดิ เลขเร็วสงู ขนึ ้ 346

การพฒั นาชดุ กิจกรรมการเรียนร้ภู าษาองั กฤษ สาหรบั นักเรียนชนั้ ม.1 ตวั แปรต้น/ตวั แปรอิสระ การสอนโดยใช้ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ ตวั แปรตาม ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนภาษาองั กฤษ ประชากร นกั เรียน ม.1 ทกุ คน กลมุ่ ตวั อยา่ ง นกั เรียน ม.1 ท่ีเลอื กมาศกึ ษา นวตั กรรม ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ภาษาองั กฤษ สมมติฐาน การสอนโดยใช้ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ ทาให้นกั เรียนมีผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน ภาษาองั กฤษสงู ขนึ ้ 347

ตวั อย่างช่ือเรอ่ื งการวิจยั การพฒั นาแบบฝึกทกั ษะการอ่านภาษาไทยสาหรับนกั เรียนชนั้ ป.1 การศกึ ษาผลการใช้นทิ านสง่ เสริมคณุ ธรรมสาหรับนกั เรียน ป.1 การวจิ ยั เชงิ ปฏบิ ตั กิ ารเพ่ือพฒั นาทกั ษะการคดิ เลขเร็วของนกั เรียน ป.6 การศกึ ษาผลการใช้ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้วิชาวิทยาศาสตร์ ม.3 348

ตวั อย่างวตั ถปุ ระสงคก์ ารวิจยั 1. เพื่อสร้างและหาประสทิ ธิภาพของชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียนระหวา่ งก่อนเรียนและหลงั เรียน โดยใช้ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ 3. เพอ่ื ศกึ ษาความพงึ พอใจของนกั เรียนที่เรียนโดยใช้ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ 349

RESEARCH AND DEVELOPMENT นวตั กรรมประเภทส่ือ วสั ดุ อปุ กรณ์ นวตั กรรม เทคนิค วิธีการ รปู แบบ 1. ชดุ กจิ กรรม 1. รปู แบบการสอน 2. บทเรยี นสาเรจ็ รปู 2. วธิ สี อน 3. E-Leaning 3. เทคนิคการสอน 4. DLIT 4. หลกั สตู ร 5. แบบฝึกทกั ษะ 5. รปู แบบการบรหิ าร 6. นิทานคุณธรรม 7. บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ **จดั ทาคมู่ อื ประกอบการใช*้ * ฯลฯ