69 หากตอ้ งการจัดการกบั หัวขอ้ เร่ืองซ่งึ ในแม่แบบไดก้ ำหนดหวั เร่ืองขนาดตา่ งๆ ด้วย styles ซึ่ง อยู่ในแท็บ Home ผู้ใช้สามารถเข้าไปปรับเปล่ียนรูปแบบฟอนต์ ขนาดสี ระยะห่าง ให้สอดคล้องกบั งานท่ีทำได้ โดยผใู้ ช้เลอื กท่ีแทบ็ home เลอื กคอลมั นเ์ มนู styles อนั ดบั แรกตรวจสอบก่อนวา่ แมแ่ บบ เดมิ ไดก้ ำหนดรปู แบบใดไว้ หากต้องการเปลย่ี นแค่รูปแบบตัวอกั ษร ขนาด สี แตไ่ มเ่ ปลย่ี น styles ให้ คลิกที่ styles เดิมแล้วคลิกขวาเลอื ก modify ภาพท่ี 3.32 การเปลย่ี น styles ในหน้าเอกสารแมแ่ บบ เมื่อกด modify จะปรากฏกล่องให้ปรับแต่งรูปแบบ ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนรูปแบบตัวอักษร ขนาด สี ระยะห่าง การแท็บของย่อหนา้ ทเ่ี มนู format ภาพที่ 3.33 การเปลี่ยนรปู แบบในหนา้ เอกสารแม่แบบ
70 หากต้องการเพ่ิม smartArt เพ่ือแสดงขอ้ มูล เช่น ขอ้ มลู กระบวนการ (process) ข้อมูลแบบ ลำดบั ข้ัน (hierarchy) ขอ้ มลู แบบรายการ (list) เป็นต้น ซงึ่ อยู่ในแทบ็ insert สามารถเลือกรปู แบบได้ จากในเมนู smartArt เม่ือเลอื กรูปแบบไดแ้ ลว้ ให้กด ok ภาพที่ 3.34 การเพิ่ม SmartArt ในหน้าเอกสารแม่แบบ เม่ือเลอื ก smartArt ท่ีต้องการไดแ้ ล้ว ใหก้ ด ok แลว้ จะปรากฏแบบทเ่ี ลือก ให้เพิ่มข้อความ ท่ตี ้องการลงไป และปรบั แตง่ สีได้ตามความตอ้ งการ ภาพที่ 3.35 การเลอื กใช้ SmartArt ในหนา้ เอกสารแม่แบบ
71 ภาพที่ 3.36 การปรบั ใช้ SmartArt ในหนา้ เอกสารแมแ่ บบ หากต้องการเพิ่ม chart แสดงข้อมูล ให้เพิ่มได้ที่แท็บ insert แล้วเลือก chart จะปรากฏ รูปแบบ chart ใหเ้ ลือกไดต้ ามตอ้ งการ ภาพท่ี 3.37 การเพม่ิ chart ในหน้าเอกสารแมแ่ บบ
72 การเพิ่มเลขหนา้ ให้กบั เอกสาร โดยหาเป็นแม่แบบจะมีเลขหน้ามาให้แล้ว หากต้องการปรับ รูปแบบ ให้ไปท่ีแท็บ insert เลือกเมนู page number จะปรากฏเมนูรูปแบบการวางเลขหน้าและการ จดั การรปู แบบ (format) ของเลขหน้า ซ่งึ มแี บบเลขไทย เลขอาราบกิ หรอื แบบโรมนั และสามารถระ เลขเรม่ิ ต้นทไี่ ม่ใช่หนา้ 1 ไดด้ ว้ ย ภาพท่ี 3.38 การปรับเลขหนา้ ในหน้าเอกสารแมแ่ บบ ภาพท่ี 3.39 การปรับเลขหนา้ ในหน้าเอกสารแมแ่ บบ
73 ภาพท่ี 3.40 การปรับรปู แบบเลขหนา้ ในหน้าเอกสารแมแ่ บบ การใช้คำสัง่ Section Break คำสั่ง Section Break หรอื ตวั แบ่งส่วนเป็นคำส่ังท่ีใชส้ ำหรบั แบ่งส่วนตา่ งๆ ของเอกสารออก จากกัน โดยแต่ละส่วนในเอกสารมีความเป็นอิสระในการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขเอกสาร การ จดั รปู แบบเอกสารทน่ี ำคำส่ัง Section Break มาใช้ เช่น การปรับเอกสารเดียวกนั ใหม้ ีทั้งแนวต้ัง และ แนวนอน การใสร่ ูปแบบหมายเลขหนา้ หลายรูปแบบในเอกสารเดยี วกัน การเรียงลำดับหมายเลขหน้า ในแตล่ ะส่วนของเอกสารแยกเป็นอิสระจากกัน เปน็ ตน้ ซงึ่ คำสง่ั Section Break หรือตวั แบ่งส่วนมี 4 ชนิดดังนี้ 1) หน้าถัดไป (Next Page) เป็นการแทรกตัวแบ่งส่วน และเริ่มต้นส่วนใหม่ของเอกสารใน หนา้ ถดั ไป 2) ต่อเนื่อง (Continuous) เป็นการแทรกตัวแบ่งส่วน และเริ่มต้นส่วนใหม่ของเอกสารใน หน้าเดยี วกัน 3) หน้าคู่ (Even Page) เป็นการแทรกตัวแบ่งส่วน และเริ่มต้นส่วนใหม่ของเอกสารในหน้า ถัดไปท่เี ปน็ หน้าเลขคู่ 4) หน้าคี่ (Odd Page) เป็นการแทรกตัวแบ่งส่วน และเริ่มต้นส่วนใหม่ของเอกสารในหน้า ถัดไปท่เี ปน็ หน้าเลขคี่ การใชค้ ำสง่ั Section Break เพอื่ จัดหนา้ ในเอกสารใหม้ ที ้งั แนวตง้ั และแนวนอน 1) คลิกในหนา้ เอกสารทอ่ี ยกู่ อ่ นหน้าที่ตอ้ งการจัดหนา้ เอกสารเปน็ แนวนอน 2) แทรกตัวแบ่งสว่ น โดยไปที่เมนู Page Layout -> Breaks -> Next Page 3) เมื่อแทรกตัวแบ่งส่วนในเอกสารเรียบร้อยแล้ว เราสามารถตรวจสอบโดยการดบั เบิ้ลคลกิ เมาส์ในส่วนของ Header หรือ Footer ของเอกสาร ซงึ่ จะแสดงลำดบั ที่ของ Section ท่ถี ูกสร้างขน้ึ หรือตรวจสอบโดยการใช้คำสั่ง Show/Hide π โดยการคลิกที่เมนู Home -> Show/Hide π จะ แสดงคำวา่ “Section Break (ชนิดของตัวแบง่ ส่วน)” ในหนา้ ที่มกี ารแทรกตัวแบ่งสว่ นเอาไว้
74 4) จากนั้นเคอร์เซอร์เมาส์จะอยู่ในหน้าถัดไปให้จัดหน้าเอกสารเป็นแนวนอน โดยไปที่เมนู Page Layout -> Orientation -> Landscape 5) จะได้เอกสารที่มหี น้าแรกเป็นแนวตัง้ และหนา้ ทีส่ องเปน็ แนวนอน การลบ Section Break หรอื ตัวแบ่งส่วน 1) ไปที่เมนู Home -> Show/Hide π เพ่อื แสดงตัวแบง่ สว่ นที่ได้สร้างไว้ 2) จะแสดงตัวแบง่ ส่วนที่ไดส้ รา้ งไว้ ตัวแบง่ ส่วนทแี่ สดงในรูปเปน็ ตัวแบ่งสว่ นหนา้ ถดั ไป (Next Page) 3) คลิกวางเคอร์เซอร์ไว้หนา้ ตวั แบ่งสว่ นที่ต้องการลบ และกดปุ่ม “Delete” เมื่อลบตัวแบง่ ส่วนโปรแกรมจะรวมข้อความท่ีอยู่กอ่ น และหลังตัวแบ่งส่วนเข้าด้วยกนั เป็นส่วนเดียว ส่วนใหม่ที่ถูก รวมเขา้ ดว้ ยกนั จะใชก้ ารจดั รูปแบบจาก Section หรือส่วนท่อี ยู่ตอ่ จากตวั แบง่ ส่วนท่ีถกู ลบ ภาพที่ 3.41 การใชค้ ำส่งั Section Break ในหน้าเอกสารแมแ่ บบ เมื่อปรับเปลี่ยนข้อมูลในเอกสาร และตกแต่งเรียบร้อยแล้ว ให้บันทึก (save) เอกสารไว้ใน เครื่อง หรือในอุปกรณ์ที่ต้องใช้ ในการบันทึกให้ไปที่แท็บไฟล์ (file) แล้วเลือก save และเลือกโฟล์ เดอร์ที่ต้องการจะเก็บข้อมูล เปลี่ยนชื่อเอกสารให้เป็นชื่อที่ต้องการ เลือกนามสกุลท่ีต้องการบันทึก และกดตกลง
75 ตวั อยา่ งท่ี 2 การทำจดหมายขา่ ว (newsletters) จดหมายข่าว เอกสารที่บริษัทหรือองค์กรผลิตขึ้นเพื่อประชาสัมพันธ์ หรือรายงานข่าวและ เหตกุ ารณต์ ่างๆ ท่มี คี วามเก่ยี วข้องกับองค์กรของตนให้พนกั งาน และบุคคลภายนอกทราบเป็นระยะๆ โดยมากจะจัดทำในรูปแบบอเิ ล็กทรอนกิ ส์ เรียกวา่ E-newsletter เป็นจดหมายข่าวสารในรูปการส่ง แบบออนไลน์ เป็นสื่อที่ไดร้ ับความประสบความสำเร็จอยา่ งกวา้ งขวางสำหรับผู้ผลิต ผู้เผยแพร่ และ ผู้อ่าน ดังนั้นจึงสามารถวัดความสนใจของผูอ้ ่านในข่าวนั้นๆ เราสามารถรู้ได้ว่าอีเมลข่าวที่ส่งไปฉบบั ใดบา้ งทไ่ี ปไม่ถงึ ผ้รู ับโดยตรวจสอบจากฉบบั ที่เดง้ กลับมา ทั้งนกี่ ารเลอื กส่งขอ้ ความไปยังกลุ่มผู้อ่านท่ี แตกต่างกันสามารถทำได้ หรือแม้แต่การเก็บรวบรวมและวิเคราะห์พฤติกรรมหรือความชอบของ ผูอ้ า่ นจากข้อมลู ท่ีผ้อู า่ นตอบรับมา เมอื่ มอี งค์ประกอบทัง้ 3 อย่างน้ี E-newsletter กจ็ ะเกดิ ข้ึน การทำจดหมายขา่ วจากแมแ่ บบ Microsoft Word เริ่มจากการสร้างหน้าเอกสารจากแม่แบบที่มีใน Microsoft Word เลือกเมนู new แล้ว คน้ หาคำว่า newsletter แลว้ เลอื กรูปแบบท่ตี ้องการทีส่ อดคลอ้ งกบั งานทจ่ี ะทำ ทำการกด create ภาพที่ 3.42 การหา newsletter จากแมแ่ บบ ภาพที่ 3.43 การสร้าง newsletter จากแมแ่ บบ
76 เมอื่ ไดแ้ บบท่ตี ้องการใหต้ รวจสอบขนาดใหต้ รงตามทีต่ อ้ งการ โดยเขา้ ไปท่ีแท็บ layout เลือก margins และเลือก custom margins แล้วปรับขนาดให้ตรงกับที่ต้องการ หลังจากนั้นปรับเปลี่ยน เน้ือความ รูปภาพในแบบท่ตี ้องการ สอดคลอ้ งกับงานท่จี ะทำ แล้วจงึ บันทกึ งานในโฟลเ์ ดอร์ท่ีเลือกไว้ โดยมากมกั จะบนั ทึกไฟลใ์ นรูปแบบ pdf เพราะเนอ้ื ความจะไม่ถูกขยับหรอื แก้ไขโดยความไม่ต้ังใจของ ผอู้ า่ น และจะได้ไฟลท์ ีมขี นาดเล็กลง สามารถจดั ส่งในอีเมลได้โดยงา่ ย ตัวอยา่ งที่ 3 การทำการ์ดเชญิ (invitation card) บตั รเชิญเขา้ รว่ มงานมีหลากหลายรูปแบบขึ้นอยู่กับผู้ให้จะเชญิ ด้วยโอกาสใด บัตรเชิญแต่ละ แบบจะมี concept ของงานหรือที่เรียกว่า ธีมงาน ซึ่งอาจจะบ่งบอกด้วยสีในตัวบัตร การใช้คำพูดที่ เปน็ ทางการและแบบไมเ่ ปน็ ทางการจะข้นึ อยกู่ บั งานและผรู้ บั เป็นใคร การทำการด์ เชญิ (invitation card) จากแม่แบบ Microsoft Word เริ่มจากการสร้างหน้าเอกสารจากแม่แบบที่มีใน Microsoft Word เลือกเมนู new แล้ว ค้นหาคำว่า invitation card แล้วเลือกรูปแบบที่ต้องการที่สอดคล้องกับงานที่จะทำ ทำการกด create ภาพที่ 3.44 การหา invitation card จากแม่แบบ ภาพที่ 3.45 การสร้าง invitation card จากแม่แบบ
77 เมื่อไดแ้ บบท่ีตอ้ งการใหต้ รวจสอบขนาดให้ตรงตามทต่ี ้องการ โดยเข้าไปท่ีแท็บ layout เลือก margins และเลือก custom margins แล้วปรับขนาดให้ตรงกับที่ต้องการ หลังจากนั้นปรับเปลี่ยน เน้อื ความ รูปภาพในแบบทีต่ ้องการ สอดคล้องกับงานท่ีจะทำ แลว้ จงึ บันทึกงานตามปกติในโฟล์เดอร์ ที่เลือกไว้ โดยมากมักจะบันทึกไฟล์ในรูปแบบ pdf เพราะเนือ้ ความจะไมถ่ ูกขยบั หรอื แก้ไขโดยความ ไมต่ งั้ ใจของผู้อ่าน และขนาดไฟลจ์ ะเล็กลงดว้ ย สามารถจัดส่งในอีเมลไดโ้ ดยง่าย บางคร้งั เราสามารถปรับรูปแบบบัตรเชิญเป็นการ์ดขอบคุณลูกค้า เพือ่ สรา้ งความสัมพันธ์ที่ดี ในระยะยาวกบั ลูกค้าได้อีกด้วย เช่น ส่งเป็นการด์ แสดงความยินดีในโอกาสพิเศษ ส่งการ์ดอวยพรวัน เกิดใหล้ ูกค้าทเี่ ป็นลูกคา้ ประจำ เป็นตน้ Workshop ท้ายบทเรยี น การฝึกออกแบบ สร้างสรรค์ใบปลิว (flyers) ในงานธรุ กจิ การบรกิ ารอาหาร ใบปลิว เปน็ สอ่ื ทีใ่ ช้ในการสง่ เสริมทางการตลาดอกี ชนิดหนึ่งท่ีไดร้ ับความนิยมในปัจจุบัน ซึ่ง จัดทำขึ้นสำหรับ โฆษณา, ประชาสัมพันธ์ ของบริษัทและหน่วยงานต่างๆ เพื่อประชาสัมพันธ์ข้อมลู ข่าวสารในใบปลิวให้ลูกค้าหรือกลุม่ เป้าหมายได้รับทราบเก่ียวกับกิจกรรมนัน้ ๆ เช่น ร้านอาหารเปดิ ใหมม่ ีการแจกใบปลิวโปรโมชน่ั เปดิ ร้านใหม่ เพ่ือโปรโมตรา้ นและเชญิ ชวนลกู ค้าใหม้ าใช้บริการ ลักษณะของงานพิมพ์ใบปลิว คือ เอกสารใบเดียว ที่ผู้อ่านสามารถเข้าใจเนื้อหาได้ทันที ใบปลิวที่มีการจัดเนื้อหาออกเป็นคอคอลัมน์และมีการพับเอกสาร เรียกอีกอย่างว่า “แผ่นพับ” งาน พับ 2 ได้ 3 ตอน หรือมากกว่านั้นตามความต้องการของลูกค้า งานพิมพ์ใบปลิวที่ดี จัดทำโดยมี วตั ถปุ ระสงค์ทชี่ ัดเจน, ครอบคลุมเนื้อหาทต่ี ้องการสื่อสารถึงกลมุ่ เปา้ หมาย การทำใบปลวิ จากแม่แบบ Microsoft Word เริ่มจากการสร้างหน้าเอกสารจากแม่แบบที่มีใน Microsoft Word เลือกเมนู new แล้ว คน้ หาคำว่า flyers แลว้ เลือกรูปแบบทีต่ อ้ งการท่สี อดคลอ้ งกบั งานที่จะทำ ทำการกด create ภาพท่ี 3.46 การหาแม่แบบ flyers
78 ภาพท่ี 3.47 การสรา้ ง flyers จากแม่แบบ เมอื่ ได้แบบท่ีตอ้ งการให้ตรวจสอบขนาดให้ตรงตามทีต่ ้องการ โดยเขา้ ไปทแี่ ท็บ layout เลือก margins และเลือก custom margins แล้วปรับขนาดให้ตรงกับที่ต้องการ หลังจากนั้นปรับเปลี่ยน เนอื้ ความ รปู ภาพในแบบท่ตี ้องการ สอดคล้องกับงานที่จะทำ แล้วจึงบันทึกงานตามปกติในโฟล์เดอร์ ทเ่ี ลอื กไว้ สรุป Microsoft Word เป็นโปรแกรมประเภท word processor ที่ใช้เหมาะสำหรับการพิมพ์ รายงาน พิมพ์จดหมาย หรือจะใช้สำหรับแต่งนิยายก็ยังได้ เป็นหนึ่งในโปรแกรมของไมโครซอฟท์ ออฟฟศิ ซงึ่ มีพฒั นาการอย่างต่อเนอื่ ง หลากหลายเวอร์ช่ัน แตอ่ ย่างไรกต็ าม โดยหลักการถ้าเราศึกษา ไมโครซอฟทเ์ วิร์ดเวอร์ช่ันใดเวอร์ช่ันหน่ึง เรากจ็ ะสามารถเรียนร้เู วอร์ชั่นอื่นๆ ได้ค่อนข้างง่าย เพราะ สว่ นใหญ่เวอร์ช่นั ใหมๆ่ ก็จะการเปล่ียนแปลงในลกั ษณะเพ่มิ เตมิ เสียมากกว่าการลบออกไป การศึกษา การใช้งาน เราควรศึกษาจากเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด หรืออย่างน้อยก็เป็นเวอรช์ ั่นเดียวกับที่เราติดตั้งบน คอมพิวเตอร์ของเรา สำหรับเวอร์ชั่นที่สามารถเรียนรู้กันได้ไม่ยาก นั่นคือ ไมโครซอฟท์เวิร์ด 2007, 2010 และ 2013 ขึ้นไป ส่วน ไมโครซอฟท์เวิร์ด 2003 หรือเวอร์ชั่นต่ำกว่าน้ี จะมีหน้าตาที่แตกต่าง กันค่อนข้างมาก ไม่แนะนำใหใ้ ช้ เพราะเวอร์ช่ันใหม่ ๆ มีความสามารถที่ทำให้เราทำงานไดง้ ่าย และ รวดเรว็ ข้นึ มาก
79 คำถามท้ายบท 1. แทบ็ คำสัง่ สำหรับการต้งั คา่ หน้ากระดาษอยทู่ ่ีแท็บใดบนริบบอน 2. หากต้องการเปดิ งานเอกสารทเี่ คยบนั ทกึ ไวข้ ึน้ มาใช้งาน ตอ้ งใชค้ ำสง่ั ที่อยใู่ นแทบ็ ใด 3. จงอธิบายคุณสมบัติของโปรแกรม Microsoft Word 4. จงอธิบาย วธิ ีการแบง่ คอลัมน์ในโปรแกรม Microsoft Word 5. สว่ นประกอบใดของโปรแกรม Microsoft Word ทร่ี วมปมุ่ คำสง่ั ทต่ี ้องใช้บอ่ ยๆ 6. หากตอ้ งการทำจดหมายเวยี นตอ้ งใชแ้ ท็บคำสั่งใด 7. หากต้องการใส่สพี ้ืนหลังเอกสารต้องใช้แท็บคำส่ังใด 8. แทบ็ ท่มี คี ำส่ังการตรวจสอบการสะกดคำคอื แท็บใด 9. หากต้องการที่จะสร้างแผนภมู ติ ้องใชแ้ ทบ็ คำสงั่ ใด 10. จงอธิบายขัน้ ตอนการกำหนดคา่ ขอบกระดาษด้วยตนเอง
80 เอกสารอ้างอิง ดวงพร เกีย๋ งคำ. (2559). คมู่ อื Office 2016 ฉบับใช้งานจรงิ . กรุงเทพฯ: ไอดีซี พรเี มยี ร.์ พนั จนั ทร์ ธนวัฒนเสถยี ร และอมรินทร์ เพช็ รกลุ . (2559). Office 2016 ฉบบั สมบูรณ.์ กรงุ เทพฯ: ซิม พลฟิ าย. บุ๊คพลัส, เวบ็ ไซต์. (ม.ป.ป.). ใบปลวิ (Flyers). สบื คน้ เมื่อ 2564, มถิ ุนายน 10 เข้าถึงไดจ้ าก: https://plusprinting.bookplus.co.th/flyers/ มสิ เตอรว์ ัน, เวบ็ ไซต.์ (2556). ไมโครซอฟท์เวิรด์ คอื อะไร. สืบคน้ เม่อื 2564, มิถุนายน 9 เข้าถงึ ได้ จาก: https://www.technointrend.com/what-is-microsoft-word/ ลาดิก, เว็บไซต์. (2556). Newsletter คอื อะไร. สืบค้นเมอื่ 2564, มิถุนายน 10 เข้าถึงได้จาก: https://www.ladict.asia/web-solutions/newsletter-คืออะไร/ วิกพิ ีเดีย, เวบ็ ไซต.์ (2563). ไมโครซอฟต์ เวริ ด์ . สืบค้นเม่ือ 2564, มถิ ุนายน 9 เข้าถึงได้จาก: https://th.wikipedia.org/wiki/ไมโครซอฟต์_เวริ ด์ สธุ รี ์ นวกลุ . (2559). คู่มือใช้งาน Windows 10 & Office 2016. กรงุ เทพฯ: ซีเอ็ดยูเคช่ัน. แอฟดิสคัส (NOPPINIJ), เว็บไซต์. (2563). Microsoft Office 365 โปรแกรมสำคัญทีแ่ นะนำให้ทกุ คน ตอ้ งมี รองรบั ทกุ ระบบรวมถงึ Mac และ iPad. สืบคน้ เม่อื 2564, มิถุนายน 7 เขา้ ถงึ ไดจ้ าก: https://www.appdisqus.com/2020/03/11/microsoft-office-365-2019-app- recommend.html geektech.me. (n.d.). Microsoft Office. Cited 2021 June 18. Available from: https://geektech.me/th/%D0%BD%D0%BE%D0%B2%D0%B0%D1%8F- %D0%B2%D0%B5%D1%80%D1%81%D0%B8%D1%8F-microsoft-office- %D0%B2%D1%8B%D0%B9%D0%B4%D0%B5%D1%82-%D0%B2%D0%BE- %D0%B2%D1%82%D0%BE%D1%80%D0%BE%D0%B9- %D0%BF%D0%BE%D0%BB%D0%BE/
81 แผนการสอนประจำสัปดาห์ที่ 4 หวั ขอ้ เร่ือง การใชง้ าน Microsoft Excel เบอ้ื งตน้ ในธรุ กิจการบริการอาหาร รายละเอยี ด เนื้อหาประจำสัปดาห์ที่ 4 เน้นให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับส่วนประกอบของ Microsoft Excel การใช้ Microsoft Excel เบอ้ื งตน้ การจัดการเอกสาร และการนำไปประยุกต์ใช้ใน ธรุ กิจการบริการอาหาร จำนวนชั่วโมงทส่ี อน 4 ชั่วโมง วตั ถปุ ระสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม 1. เพื่อให้ผูเ้ รยี นมคี วามรูค้ วามเข้าใจความรู้เบื้องต้นเก่ียวกบั การใช้ Microsoft Excel เบ้อื งตน้ 2. เพอื่ ใหผ้ เู้ รยี นมคี วามร้แู ละสามารถประยกุ ตใ์ ช้ Microsoft Excel ในการทำงานได้ 3. เพ่อื ให้ผูเ้ รยี นมีความรู้และสามารถจัดการงานเอกสารได้ กิจกรรมการเรยี นการสอน 1. ใช้วิธีสอนแบบแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน โดยอาศัยทักษะและเทคนิคการสอนที่ให้ผู้เรียน ศึกษาประเด็นศึกษาต่าง ๆ ตามใบงานและให้เชือ่ มต่อความคิดและเน้ือหาสาระด้วยเทคนิค การเชื่อมความรจู้ ากการปฏิบตั งิ าน 2. ใช้วธิ สี อนแบบซปิ ปา ทเี่ นน้ ให้ผู้เรยี นไดม้ สี ่วนรว่ มในกจิ กรรมการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียน เป็นสำคัญโดยให้ผู้เรียนแบ่งกลุ่มศึกษาตามใบความรูป้ ระเด็นตา่ ง ๆ และช่วยการรวบรวม ความรู้และสร้างองค์ความรู้ ร่วมกันเรียนรู้กระบวนการคิด กระบวนการแก้ปัญหา การ แสวงหาความรู้และการประยุกต์ใช้ โดยนำความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ใน สถานการณ์อื่นหรอื เชือ่ มโยงสรา้ งองคค์ วามรูท้ เ่ี ป็นสาระใกลเ้ คยี งกันตามท่ผี ูส้ อนกำหนดขึ้น 3. ใช้วิธีสอนแบบอุปนัย โดยใช้ทักษะและเทคนิคการสอนจากรายละเอียดปลีกย่อยไปหา กฎเกณฑห์ ลกั การหรือขอ้ สรุป โดยผสู้ อนนำเสนอรายละเอียดและตัวอย่างของสาระความรู้ ตา่ ง ๆ และให้ผู้เรียนช่วยกนั สงั เกต เปรียบเทยี บ ระดมความคิดความเขา้ ใจอยา่ งชดั เจน 4. ใชว้ ธิ ีสอนแบบให้ฝึกหัดและปฏิบัติ โดยผูส้ อนมอบหมายให้ผู้เรียนได้กระทำซ้ำด้วยการตอบ คำถามทบทวนเพ่อื พัฒนาทกั ษะ และเทคนิคการปฏิบัติจริงในสิ่งทไี่ ด้เรียนมา ส่ือการเรียนการสอน 1. เอกสารประกอบการสอนรายวิชาเทคโนโลยสี ารสนเทศยุคดจิ ทิ ัลในธุรกจิ บรกิ ารอาหาร 2. สอื่ ประกอบการสอนแบบภาพสไลด์ (Power Point)
82 3. ส่อื อปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์ 4. เอกสารและหนงั สอื อา่ นประกอบเพ่ือการศกึ ษาคน้ ควา้ เพิม่ เตมิ 5. การศกึ ษาเวบ็ ไซต์เพมิ่ เติมทีเ่ กี่ยวขอ้ ง แผนประเมินผลการเรยี นรู้ 1. ผลการเรียนรู้ 1.1. ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม 1.1.1. มจี ิตสำนึกและตระหนกั ในการปฏบิ ตั ติ ามจรรยาบรรณวิชาชีพ 1.1.2. ความมีวินัย ตรงต่อเวลา และมีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม เคารพ กฎระเบียบและขอ้ บังคบั ต่าง ๆ ขององค์กรและสังคม 1.1.3. การตระหนกั ในคุณคา่ ของคุณธรรม จริยธรรม และความซ่ือสัตย์สจุ รติ 1.1.4. เคารพสิทธแิ ละยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผู้อ่นื 1.1.5. การมจี ิตสาธารณะ เอื้อเฟอ้ื เผื่อแผ่ 1.2. ด้านความรู้ 1.2.1. มีความรู้ ความเข้าใจ ในหลักการ แนวคิด ทฤษฎี และเนื้อหาสาระสำคญั ของรายวิชาที่เกี่ยวข้องเพื่อสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการประกอบ วิชาชีพ 1.2.2. มที ักษะ และความชำนาญ ในงานดา้ นวิชาชีพ 1.2.3. สามารถในการนำความรมู้ าประยกุ ตใ์ ชใ้ นบรบิ ททางวิชาการและวชิ าชพี 1.2.4. มีความสามารถในการศึกษาค้นคว้าและพัฒนาความรู้ของตนเองได้ และ สามารถบูรณาการความรู้ในศาสตร์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้เป็น ประโยชนใ์ นวิชาชีพได้ 1.3. ดา้ นทักษะทางปัญญา 1.3.1. สามารถคิดวิเคราะห์อยา่ งเป็นระบบ เพ่อื หาข้อเทจ็ จรงิ หรอื ต้นเหตขุ องปญั หา และ เสนอแนวทางการแก้ไขได้อยา่ งสร้างสรรค์ 1.3.2. มีความสามารถในการทำความเข้าใจและประเมินข้อมูล แนวคิดและ หลักฐานใหม่ๆ จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และใช้ข้อสรุปที่ได้ในการ พัฒนางานในวชิ าชีพ 1.3.3. สามารถถ่ายทอดและแลกเปลีย่ นความรู้กบั ผู้อื่น 1.4. ด้านทกั ษะความสัมพนั ธร์ ะหว่างบคุ คลและความรับผดิ ชอบ 1.4.1. รับผิดชอบในการทำงานทไ่ี ด้รับมอบหมายท้งั รายบคุ คลและงานกลุ่ม 1.4.2. สามารถปรับตวั ในและทำงานร่วมกบั ผู้อื่นทั้งในฐานะผู้นำและสมาชิกกลุ่ม ได้อย่างมปี ระสิทธิภาพ 1.4.3. มคี วามสามารถในการวางตวั และแสดงความคดิ เหน็ ได้อย่างเหมาะสมกับ บทบาท หน้าท่ี และความรบั ผิดชอบ 1.4.4. มีบุคลกิ ภาพท่ีดี และมีมนุษยสัมพันธ์
83 1.4.5. มีความสามารถในการวางแผนและรับผิดชอบในการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง และวชิ าชพี อย่างต่อเนอื่ ง 1.5. ดา้ นทกั ษะการคดิ วิเคราะหเ์ ชงิ ตวั เลขการสือ่ สาร และการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ 1.5.1. สามารถนำเทคนิคทางสถิติหรือคณิตศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ และ เทคโนโลยีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมาประยุกต์ใช้ในการสืบค้น วิเคราะห์ข้อมูล แปลความหมาย และเสนอแนวทางในการพัฒนางาน หรือ แก้ไขปัญหา ได้อยางสรา้ งสรรค์ 1.5.2. สามารถสอื่ สาร สามารถสรุปประเด็นจากสิ่งท่ีได้เหน็ และฟัง ถา่ ยทอดและ นำเสนอ ข้อมลู ได้อย่างสรา้ งสรรคแ์ ละมปี ระสทิ ธภิ าพ 1.5.3. สามารถติดตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นวัตกรรม และสถานการณ์ โลกโดยใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ 2. วิธีประเมินผลการเรยี นรู้ 2.1. คณุ ธรรม จริยธรรม 2.1.1. นกั ศกึ ษาประเมนิ ผลการเรียนรดู้ ้วยตนเอง กอ่ นและหลงั การเรยี น 2.1.2. ประเมนิ โดยอาจารยจ์ ากการสงั เกตพฤติกรรมการแสดงออกตามปกติของ นักศึกษา 2.1.3. ผู้ใชบ้ ณั ฑิตประเมนิ คณุ ธรรมจริยธรรมของบณั ฑิต 2.1.4. ประเมนิ ผลพฤติกรรมผูเ้ รยี นจากการสงั เกตในกจิ กรรมต่าง ๆ ท้งั ในและนอก ช้ันเรยี น ท้งั ในด้านระเบียบวินยั ความรบั ผิดชอบ การมนี ำ้ ใจ ซอ่ื สัตย์ มสี มั มา คาราวะ และร้จู ักกาลเทศะ 2.1.5. ประเมินผลผู้เรียนจากการปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมาย ทั้งด้านความ รบั ผดิ ชอบ การตรงต่อเวลา ความซ่ือสัตย์ และการมีนำ้ ใจเออ้ื เฟอื้ เผ่ือแผ่ 2.2. ความรู้ 2.2.1. ประเมินผลความรู้ของผู้เรียนจากผลงานระหว่างภาค เช่น การบ้าน การเขียน รายงาน การทดสอบยอ่ ย การนำเสนอรายงานการค้นคว้าหน้าชน้ั เรียน 2.2.2. ประเมนิ ผลความรขู องผู้เรยี นจากการสอบข้อเขยี น การสอบปฏิบัติ 2.2.3. ประเมินผลความร้ขู องบัณฑติ โดยการสำรวจความคดิ เห็นของผูใ้ ชบ้ ัณฑติ 2.3. ทักษะทางปัญญา 2.3.1. ประเมนิ จากผลงานการแกไ้ ขปัญหาทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 2.3.2. ประเมนิ โดยการสอบข้อเขยี นด้วยโจทยท์ ตี่ อ้ งใช้ทักษะทางปัญญา 2.3.3. ประเมนิ รายงานผลการวิจัย 2.3.4. ประเมินจากการปฏิบัติงานและกิจกรรมที่ได้รับมอบหมาย ในการแก้ไขโจทย์ ปัญหาทซี่ บั ซ้อน
84 2.4. ทักษะความสมั พันธ์ระหวา่ งบุคคลและความรบั ผดิ ชอบ 2.4.1. มอบหมายนักศึกษาประเมินตนเองและเพื่อนในกลุ่ม สรุปผลและมีการ ประเมนิ โดยใชเ้ สียงส่วนใหญ่ 2.4.2. สงั เกตพฤตกิ รรมในชน้ั เรยี น 2.4.3. ประเมินผลจากการทำกิจกรรมและการปฏบิ ัตงิ านที่ได้รบั มอบหมาย 2.5. ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์เชงิ ตวั เลข การส่ือสาร การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ 2.5.1. ประเมินจากกิจกรรมท่ีเกีย่ วข้องกับการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสืบค้นข้อมลู ด้วยเทคโนโลยีสารสนเทศที่มอบหมายแต่ละบุคคล 2.5.2. ประเมินจากการสอบขอ้ เขียนในการแก้โจทยป์ ญั หาเชิงตวั เลขทไ่ี มเ่ คยพบมา ก่อน 2.5.3. ประเมินทกั ษะการสอื่ สารด้วยภาษาเขยี นจากรายงานแต่ละบุคคลหรอื รายงาน กล่มุ ในส่วนทน่ี ักศึกษาน้ันรับผิดชอบ 2.5.4. ประเมนิ ทักษะการส่ือสารด้วยภาษาพูดจากพัฒนาการในการนำเสนอรายงาน ในชั้นเรียน การนำเสนอสัมมนา การนำเสนอนิทรรศการโครงงานต่อผู้เยี่ยม ชมดว้ ยวาจา 3. สัดส่วนของการประเมนิ 3.1. ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม ร้อยละ 10 3.2. ด้านความรู้ ร้อยละ 40 3.3. ด้านทกั ษะทางปัญญา รอ้ ยละ 30 3.4. ด้านทักษะความสมั พันธ์ระหว่างบุคคลและความรบั ผดิ ชอบ ร้อยละ 10 3.5. ด้านทักษะการคิดวิเคราะหเ์ ชิงตวั เลข การสอ่ื สาร และการใช้เทคโนโลยี ร้อยละ 10 เนอื้ หาทีส่ อน โปรแกรม Microsoft Office Excel เปน็ โปรแกรมประเภทตารางทำการหรือกระดาษทำการ อเิ ล็กทรอนกิ ส์ (Electronic Spreadsheet) มลี ักษณะเป็นตารางขนาดใหญน่ ยิ มใช้บันทึกขอ้ มูลตา่ ง ๆ ลงในตาราง และใช้คำนวณหาผลลัพธ์ตามต้องการ โปรแกรมกระดาษทำการอิเล็กทรอนกิ ส์แตเ่ ดิมมีใช้ ในเครือ่ งคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ หรือเมนเฟรม (Main Frame) ซ่ึงจะใชค้ ำนวณงานทางด้านบญั ชีของ หน่วยงานภาครฐั ที่มีขนาดใหญ่เท่าน้ัน ต่อมาในปีพ.ศ. 2522 บ็อบ แฟรงค์ตัน (Bob Frakston) และ แดน บริคลิน (Dan Bricklin) ได้คิดและผลิตโปรแกรมวิสิแคลค์ (ViciCalc) ซึ่งเป็นโปรแกรมแรกของ กระดาษทำการอิเล็กทรอนิกส์ที่ใช้ในเครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer) มีราคา ถูกกว่าเครื่องเมนเฟรมมาก สง่ ผลใหเ้ คร่อื งคอมพวิ เตอร์สว่ นบุคคลมีบทบาทโดดเด่นในการทำงานด้าน ธรุ กจิ อย่างมากและไดม้ ีการนำเครอ่ื งคอมพิวเตอร์สว่ นบุคคลมำใช้ประโยชน์ทางธุรกิจอย่างแพร่หลาย เป็นต้นมา
85 ภาพท่ี 4.1 Microsoft Excel รู้จัก โปรแกรม Microsoft Excel เกิดขึ้นในปีพ.ศ. 2528 ผลิตมำเพื่อใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์แอปเปิ้ล แมคอินทอช (Apple Macintosh) ซ่ึงได้มีการพัฒนาเพิ่มข้ึนจากเครื่องรุ่น แอปเปิล ทู (Apple II) อย่างมากในด้านการใช้ งานกราฟิกที่ง่ายและสะดวกคล่องตัว ต่อมาในปี พ.ศ. 2530 บริษทัไมโครซอฟตได้พัฒนาโปแกรม วินโดวส์เพื่อใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ในตระกูลไอบีเอ็มให้สามารถใช้งานแบบกราฟิกในลกัษณะ เดียวกันกับเครื่องแมคอินทอชแล้ว จึงได้พัฒนาและนำโปรแกรม Excel มาใช้ร่วมกับโปรแกรม วินโดวสด์ ้วย สง่ ผลให้โปรแกรม Excel และโปรแกรมอ่ืนๆ ในชดุ โปรแกรมสำนักงานท่ีทำงานร่วมกับ วนิ โดวส์ Windows ไดร้ ับความนิยมมาจนถงึ ปัจจบุ ัน คณุ สมบตั ใิ หม่ในโปรแกรม Microsoft Excel เวอร์ชั่น 2016 1) ส่วนติดต่อผูใ้ ช้ (interface) ที่มุ่งเน้นผลลัพธ์ โดยออกแบบให้คำสัง่ และคุณลักษณะต่างๆ รวมอยูใ่ นแทบ็ เดียว จัดเตรยี มเครื่องมอื และตัวอยา่ งไวใ้ ห้เลอื กได้อย่างถกู ตอ้ ง 2) เพิ่มจำนวนแถวและคอลัมน์มากกวา่ เดิม มีจำนวนแถว 1,048,576 แถว จำนวนคอลัมน์ 16,384 คอลัมน์ โดยคอลัมน์สุดทา้ ยคอื XFD และสนับสนุนการใชส้ ถี ึง 16 ลา้ นสี 3) เพิ่มชุดรปู แบบ (Theme) และลกั ษณะสไตล์ใหม่ ช่วยจัดรูปแบบข้อมูลในแผน่ งานไดอ้ ย่าง รวดเร็วดว้ ยการใช้ชดุ รปู แบบใหมส่ วยงาม สามารถใช้รว่ มกับโปรแกรม Word และ PowerPoint ได้ 4) การเขียนสูตรอย่างง่าย ปรับปรุงการเขียนสูตรให้ง่ายขึ้น โดยใช้แทบสูตรแบบปรับขนาด ได้ สามารถรองรับสตู รท่ียาวและซบั ซอ้ นไดโ้ ดยอัตโนมัติ ปอ้ งกนั ไม่ใหส้ ตู รครอบคลุมขอ้ มูลอ่ืนในแผ่น งาน ทำใหส้ ามารถเขยี นสตู รได้ยาวขึน้ และซบั ซ้อนมากกว่าเดมิ ลักษณะงานเหมาะกบั Excel 1) งานดา้ นบญั ชี (Accounting) 2) งานด้านการเงิน (Financial) 3) งานด้านการวางแผน (Planning) 4) งานด้านงบประมาณ (Budgeting)
86 5) งานด้านสถติ ิ (Statistic) 6) งานด้านวิศวกรรมศาสตร์ (Engineering) เครื่องมือในใช้งานข้นั สูง • Pivot Table และ Pivot Chart เป็นเครื่องมือใช้ในการสรุปผลข้อมูลในรปู แบบตาราง และ กราฟ สามารถจดั กลุ่มข้อมลู สรุปผลได้ในมุมมองทตี่ อ้ งการ • PowerBI ได้แก่ PowerPivot, PowerVIew, Power Query, Power Map เป็นเครื่องมือขน้ั สงู เพ่ือใช้ประมวลผลในงาน Business Intelligence (BI) เพอ่ื นำเสนอในมมุ มองทเ่ี ราตอ้ งการได้ และ ปลดลอ็ คขอ้ จำกัดตา่ งๆ ของ Excel ในการทำงานกับข้อมูลลงไป ขอ้ จำกดั ของ Excel (.xlsx) • 1,048,576 rows by 16,384 columns • จำนวน Sheets ใน Workbook = ไม่จำกดั • รายการทีจ่ ะอยู่ใน Dropdown = 10,000 • ฟงั ก์ชัน่ ซ้อนกนั ได้ = 64 ช้นั • ตัวแปรสงู สดุ ในฟังก์ชั่น = 255 ตวั แปร • จำนวนคนท่ีเปดิ พร้อมกนั = 256 คน • จำนวนข้นั ของการ Undo = 100 ขน้ั • จำนวน คอลัมน์ ใน Pivot = 16,384 • จำนวน แถว ใน Pivot = 1,048,576 ประโยชน์ของโปรแกรม Microsoft Excel โปรแกรมสามัญประจำเครื่องที่มีประโยชน์มากมาย ใช้ช่วยงานทางธุรกิจได้มากมาย หาก ใช้ไดอ้ ย่างคล่องแคล่ว และใชง้ านความสามารถของมันได้อย่างครบถว้ น บทความนี้จะชว่ ยให้เรารู้จัก กับความสามารถของ Microsoft Excel ที่เราอาจจะยังไม่ทราบ เพื่อที่จะได้นำไปประยุกต์ใช้งาน ในทางธรุ กิจตอ่ ไปได้ 1) สรา้ งตารางทำงาน จัดตารางสวยงาม ในรูปแบบตา่ งๆ 2) สร้างเอกสารทีต่ ้องมีการคำนวณ เชื่อมโยงสูตร (สามารถเชื่อมโยงในไฟล์เดียวกนั ข้ามไฟล์ หรือ ข้ามเคร่ืองกไ็ ด้) 3) งานจดั เก็บข้อมลู เบ้ืองตน้ ท่ีจำนวนข้อมูลไม่เกิน 1 ล้านแถว (ในทางปฏบิ ัติ แนะนำวา่ ไม่เกิน หลัก แสน จะทำงานได้คลอ่ งตวั ) 4) สรา้ งรายงานสรปุ ผลในมุมมองต่างๆ เช่น ตารางสรปุ ยอดขาย ตารางสรปุ ขอ้ มูลสินค้า สรุปงบดุล สรุปแผนการผลิต สรุปข้อมลู ขาดลามาสาย ของพนักงาน เป็นต้น 5) สร้างกราฟ นำเสนอข้อมูล ในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกราฟแท่ง กราฟเส้น วงกลม จุด ทั้ง 2 มติ ิ และ 3 มิติ มรี ปู แบบตา่ งๆ มากมาย
87 ความหมายของแต่ละส่วนหน้าจอของโปรแกรม (Interface) 2 4 1 35 67 98 ภาพท่ี 4.2 สว่ นประกอบของหน้าตา่ งโปรแกรม ตารางท่ี 3.2 สว่ นประกอบของหน้าตา่ งโปรแกรม เลข เคร่อื งมอื หน้าที่ 1 Quick Access เราสามารถทำการเพิ่มไอคอน Tools ต่าง ๆ ที่เราใช้บ่อยๆ มาไว้ตรงนี้ได้ 2 Tools ตา่ งๆ จะเป็นการรวม Tools ต่าง ๆ ในการจัดการ เรียกว่า Ribbon 3 Name Box ช่ือของ Cell น้ัน ๆ หรือ จะเป็นการพิมพช์ ื่อ Cell น้นั ๆ ลง ไปแลว้ Enter เคอเซอร์จะนำเราไปอยู่ใน Cell ท่ีเราต้องการ 4 Formula bar แถบสตู รเป็นชอ่ งใส่สตู รท่ีเราจะใช้ 5 ชอ่ื คอลมั น์ (Column) ช่อื คอลมั น์ในการใชง้ าน อาทิเช่น A , B , C , D , E , F…… 6 ชื่อแถว (Row) ชอื่ แถวในการใชง้ าน อาทเิ ชน่ 1,2,3,4,5……. 7 Active cell สถานะของเซลปัจจุบันทก่ี ำลังทำงานอยู่ 8 Zoom in–Zoom out ซมู เข้า – ซมู ออก ไฟล์เอกสาร 9 Worksheet ป้ายชื่อ (Sheet) เป็นชื่อของแผ่นงานที่เลือกใช้งานอยู่ใน ขณะน้นั ชุดเครือ่ งมอื (ribbon) ของโปรแกรม Microsoft Excel ชุดเครอื่ งมอื ของ Microsoft Excel ประกอบไปดว้ ยกลมุ่ เครื่องมอื หรือคำสั่งต่าง ๆ ทเ่ี รียกว่า “ริบบอน” (Ribbon) ที่ได้จัดรวบรวมไว้เป็นกลุ่มๆ ตามประเภทของการใช้งาน โดยจะมีการแยก
88 ออกเป็นแต่ละเมนู เพื่อให้สามารถค้นหาเครื่องมือได้สะดวกขึ้น ซึ่งแต่ละเมนูนั้นก็มีรายละเอียดของ เครื่องมือต่างๆ ดงั น้ี 1) เมนูหน้าแรก (Home) จะเป็นที่รวบรวมชุดเครื่องมือพื้นฐานที่ผู้ใช้งานส่วนมากต้องใช้ บ่อยๆ เช่น การจัดการแบบตัวอักษร รูปแบบตารางหรือเซล เป็นต้น โดยจะแสดงข้ึนมาเป็นเมนูแรก เสมอ ภาพที่ 4.3 เมนูหน้าแรก (Home) 2) เมนแู ทรก (Insert) เป็นเมนูท่ใี ช้สำหรับแทรกออบเจ็กต์หรือองค์ประกอบต่างๆ ลงไปบน แผ่นงาน เพอ่ื ใชอ้ า้ งองิ ประกอบขอ้ มูลใหส้ มบูรณย์ ่ิงขนึ้ รวมถงึ การเพิ่มความสวยงาม เชน่ กราฟ รูปภาพ หรือไดอะแกรม เป็นตน้ ภาพที่ 4.4 เมนแู ทรก (Insert) 3) เมนูเค้าโครงหนา้ กระดาษ (Page Layout) เปน็ เมนูท่ีใชส้ ำหรบั ปรับแต่ง กำหนดขนาด หรอื มุมมองตา่ งๆ บนหนา้ แผน่ งานให้เป็นไปตามความตอ้ งการ ภาพที่ 4.5 เมนูเค้าโครงหน้ากระดาษ (Page Layout) 4) เมนูสูตร (Formula) เป็นเมนูที่ใช้สำหรับใสส่ ูตรคำนวณและฟังกช์ นั สำเร็จรปู ต่างๆ ลงใน เซลโดยแยกประเภทตามการใช้งาน เช่น ฟังก์ชันการเงิน ฟังก์ชันเกี่ยวกับข้อความ ฟังก์ชันทาง คณิตศาสตร์ เป็นตน้
89 ภาพท่ี 4.6 เมนสู ูตร (Formula) 5) เมนขู ้อมูล (Data) เปน็ เมนทู ใี่ ช้สำหรับติดต่อข้อมลู กบั ภายนอกโปรแกรม และทำงานกบั ขอ้ มลู ทมี่ จี ำนวนมาก เพือ่ ให้มีความคล่องตวั ในการใช้งานและมปี ระสิทธิภาพเพม่ิ ขนึ้ ภาพท่ี 4.7 เมนขู อ้ มูล (Data) 6) เมนูตรวจทาน (Review) เป็นเมนูที่รวบรวมประโยชน์หลายๆ อย่างเข้าด้วยกันซ่ึง ประกอบด้วยการตรวจสอบความถูกต้องของตัวสะกด การแทรกข้อคิดเห็น และการป้องกันความ ปลอดภยั ของแผน่ งาน ภาพท่ี 4.8 เมนตู รวจทาน (Review) 7) เมนมู ุมมอง (View) เปน็ เมนูท่ใี ชป้ รับเปล่ียนมมุ มองของแผน่ งานแบบต่างๆ ใหเ้ หมาะสม กบั ลกั ษณะการทำงานในขณะนนั้ ภาพที่ 4.9 เมนูมมุ มอง (View)
90 การใช้โปรแกรม Microsoft Excel เบือ้ งต้น 1. การสรา้ งไฟล์งานใหม่ เมื่อต้องการท่ีจะสรา้ งไฟล์งานใหม่ขนึ้ มา มวี ิธดี งั นี้ เมื่อเปิดโปรแกรม Microsoft Excel แล้วคลิกที่ปุ่มเมนู File จากนั้นจะปรากฎหน้าต่างให้ เลอื กเมนู New เลือก Blank Workbook 1 23 ภาพที่ 4.10 การสรา้ งไฟล์งานใหม่ 2. การบนั ทกึ ไฟล์งาน หลังจากที่ทำงานต่าง ๆ บนโปรแกรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว หากต้องการบันทึกไฟล์งานเพื่อ นำมาใช้งานในภายหลงั สามารถทำได้โดย คลกิ ปุม่ Save หรือ เลอื กเมนู File และเลอื ก Save จากน้ัน ให้เลือกตำแหน่งของข้อมูลที่ต้องการบันทึกและตั้งชื่อไฟล์เอกสาร นอกจากนี้ยังสามารถเลือกชนิด ของไฟล์เอกสารที่ต้องการบันทึกได้ เช่น สมุดงาน Excel 97-2007 เมื่อต้องการให้โปรแกรม Excel เวอร์ชันต้ังแต่ 97-2003 สามารถเปิดไฟล์งานนีไ้ ด้ หรือถ้าไม่ตอ้ งการบนั ทึกแบบ Excel 97-2003 ก็ ให้ท าการบันไฟลข์ อ้ มลู โดยคลิกทป่ี มุ่ Save มวี ธิ ีดังนี้ คลิกปมุ่ Save หรอื เมนู File แลว้ เลือกคลิกปุ่ม Save เลือกแหล่งจัดเก็บไฟล์เอกสาร ตั้งช่ือ ไฟลเ์ อกสารและเลอื กชนดิ ของ คลกิ ปุ่ม Save หนา้ File 13 4 2 5 ภาพที่ 4.11 การสรา้ งไฟล์งานใหม่
91 3. การทำงานกบั แผ่นงาน (Worksheet) ปกติแฟ้มงานของ Microsoft Excel จะแสดงแผ่นงานเพียง 1 แผ่นงาน แต่ถ้าต้องการเพ่ิม คัดลอกหรอื ตง้ั ชอ่ื แผน่ งาน ฯลฯ มขี น้ั ตอนดังนี้ คลกิ ขวาช่ือ sheet ท่ตี อ้ งการ จะปรากฎคำส่ังใหเ้ ลือกใช้ เลอื กคำสั่ง ภาพท่ี 4.12 การทำงานกบั แผน่ งาน ภาพท่ี 4.13 คำสง่ั ในการทำงานกับแผน่ งาน 4. การตรึงแนวหนา้ จอ ทางเลือกของการแบ่งหน้าจออีกอย่างวิธีหน่ึงคือการทาให้หน้าจอส่วนหน่ึงไม่เคลื่อนไหว ซ่ึง ต่างจากการแบ่งหน้าจอ ที่หน้าจอทุกส่วนสามารถเคลื่อนไหวได้ด้วยการใช้ Scroll bar แต่การตรึง
92 แนวหนา้ จอจะทาใหส้ ว่ นที่ถกู ตรึง ไม่เคลือ่ นที่ มีประโยชนใ์ นการทาให้ส่วนหวั ของตารางคงที่ ในขณะ ท่ีสว่ นท่เี ตมิ ข้อมูลเคลอื่ นทีไ่ ปได้เร่อื ย ๆ การตรึงแนวทาไดท้ ้งั แนวนอนและแนวตัง้ การตรึงแนวหน้าจอ มีวิธีการคือ เลือกเมนู View แล้วคลิก Freeze Panes เลือก Freeze Panes การตรงึ แนวจะตรึงแนว ในตำแหนง่ ของเคอเซอร์โดยตรงึ ท้งั แนวนอนและแนวตั้ง ภาพที่ 4.14 เมนูตรึงแนวหน้าจอ การตรึงแถวบนสุด (Freeze Top Row) เป็นการตรึงแนว แนวนอนแถวบนสุด และการตรงึ คอลมั นแ์ รก (Freeze First Column) เปน็ การตรึงแนว แนวตง้ั คอลมั นแ์ รก การยกเลิกการตรึงแนว ทำได้โดย คลิกปุ่มคาสั่ง Freeze Panes แล้ว คลิกปุ่มคำส่ัง Unfreeze Panes ภาพท่ี 4.15 เมนูยกเลกิ การตรงึ แนวหนา้ จอ
93 5. การจดั รูปแบบตามเงือ่ นไข เม่ือตอ้ งการกาหนดเงื่อนไขในการจัดรูปแบบขอ้ มูล เช่น ตวั เลขของเงินเดอื นพนักงานให้เป็น สนี ้าเงนิ เฉพาะคนทมี่ ากกว่า 20000 ให้ใช้เรอ่ื งของ Conditional Formatting ภาพที่ 4.16 เมนูการจัดรปู แบบตามเงอื่ นไข การ Highlight สลี งในเซลท่ีตรงตามเงื่อนไขทก่ี าหนดแสดงขอ้ มลู ทำไดโ้ ดย หากตอ้ งการใส่สี ในเซลท่มี ีข้อมูลมลู มากกวา่ 150 โดยเริ่มต้นจากเลือกจากข้อมูลช่วง C14 ถึง C21 ให้เลือกช่วงข้อมูล ที่ต้องการ แล้วเลือกเมนู Home หลังจากนั้น คลิก Conditional Formatting แล้วเลือกเงื่อนไขใน การจัดรปู แบบ ภาพท่ี 4.17 การจัดรูปแบบตามเงื่อนไข
94 ภาพที่ 4.18 ผลลพั ธ์การจดั รูปแบบตามเงือ่ นไข เงื่อนไขที่ต้องการให้แสดงผลสามารถเลือกไดห้ ลากหลายรปู แบบ ซึ่งอยใู่ นตวั เลอื กหลงั with จะไดผ้ ลลพั ธท์ แี่ ตกตา่ งกนั หลงั จากน้ันกด OK เมื่อเสรจ็ สน้ิ การตั้งคา่ 6. การกำหนดชว่ งขอ้ มลู (Range of Data) สำหรบั การคำนวณ การใช้เครื่องหมาย : (Colon) เพื่อระบุถึงช่วงของข้อมูลที่ต้องการ สำหรับการอ้างถึงช่วง ขอ้ มลู (Range) ทีต่ อ้ งการสำหรับนำมาคำนวณ สามารถนำช่อื เซล และ เครอ่ื งหมาย : (Colon) มาใช้ รว่ มกัน มรี ูปแบบดงั นี้ ตำแหน่งเริม่ ต้นของข้อมูล : ตำแหน่งสดุ ท้ายของกลุ่ม เชน่ กลมุ่ ขอ้ มูลเร่ิมที่เซล C7 ถงึ เซล D9 สามารถเขยี นช่วงขอ้ มูลนีค้ ือ =C7:D9 ภาพที่ 4.19 การกำหนดชว่ งขอ้ มูล 7. การคำนวณ การใสส่ ตู รคำนวณปกตนิ นั้ สามารถใส่ลงในเซลท่ีต้องการแสดงผลลพั ธ์ โดยพมิ พ์เครื่องหมาย เท่ากับ (=) แล้วตามด้วยรูปแบบการคำนวณลงในเซลนั้น จากตัวอย่างนี้ ตำแหน่งเซลผลลัพธ์ท่ี ตอ้ งการอยู่ท่ี E10 วธิ ีทำโดย พิมพเ์ คร่ืองหมายเท่ากับ (=) แลว้ ตามด้วยตำแหน่งเซล เชน่ =C10*D10
95 เสร็จแล้วกดปุ่ม Enter ที่เซล E10 จะแสดงผลลัพธ์ และที่ Formula bar จะแสดงสูตรคำนวณที่ กำหนดไว้ ภาพที่ 4.20 การคำนวณ การคำนวณหาตอ้ งการคำนวณดว้ ยสูตรอะไรให้ใส่เครือ่ งหมายนั้นเข้าไป พรอ้ มกับการอ้างอิง ด้วยเซล ตัวอย่างเช่น การคำนวณเพื่อหาผลรวมของกลุ่มตัวเลขที่ต้องการ สามารถนำเครื่องหมาย บวก (+) มาใชร้ ว่ มกับการอ้างถึงชอ่ื เซลท่ีตอ้ งการนำมาหาผลรวม คิดเหมอื นการต้ังสมการผลบวกของ ตัวแปรนั่นเอง เช่น หาผลรวมของกลุ่ม เซล D2, D3, D4 และ D5 แสดงผลลัพธ์ที่เซล D6 เพียงใส่ =D2+D3+D4+D5 ในช่องเซล D6 แลว้ กด enter จะปรากฏผลลพั ธ์ตามท่ีต้องการ ชนดิ ของการคำนวณ โปรแกรม Microsoft Excel แบง่ ชนดิ ของสตู รออกเปน็ 4 ชนิด คอื 1. สูตรในการคานวณทางคณติ ศาสตร์ (Arithmetic Formula) ตารางท่ี 4.1 แสดงสูตรในการคำนวณทางคณติ ศาสตร์ (Arithmetic Formula) เคร่อื งหมาย ความหมาย ตวั อยา่ งสูตร + บวก =40 + 10 เทา่ กบั 50 - ลบ =40 - 10 เท่ากับ 30 * คณู =40 * 10 เท่ากับ 400 / หาร =40 / 10 เทา่ กับ 4 % =40% เทา่ กับ 0.4 ^ เปอรเ์ ซ็น =40 ^ 2 เท่ากบั 1600 ยกกำลงั 2. สตู รในการเปรยี บเทียบ (Comparison Formula) ตารางที่ 4.2 แสดงสูตรในการเปรียบเทียบ (Comparison Formula) เครอื่ งหมาย ความหมาย ตวั อย่างสูตร = เท่ากับ =40=30 เทา่ กับ false
96 เครอ่ื งหมาย ความหมาย ตวั อยา่ งสูตร > มากกว่า =40>30 เท่ากบั true < นอ้ ยกวา่ =40<30 เท่ากับ false >= มากกวา่ หรือเทา่ กับ =40>=30 เทา่ กับ true <= นอ้ ยกวา่ หรอื เท่ากบั =40<=30 เทา่ กบั false <> ไม่เทา่ กับ =40<>40 เท่ากับ false 3. เคร่อื งหมายในการเชือ่ มข้อความสองขอ้ ความหรอื มากกวา่ นัน้ (Text Formula) ตารางที่ 4.3 แสดงเครื่องหมายในการเชื่อมขอ้ ความสองข้อความหรอื มากกว่านัน้ (Text Formula) เครอ่ื งหมาย ความหมาย ตัวอย่างสูตร & เชื่อมหรือนำคำสองคำมาต่อ =story&board จะได้ผลลัพธ์ กันให้เกิดข้อความต่อเนื่องท่ี เทา่ กบั storyboard เป็นค่าเดยี วกนั 4. สตู รในการอา้ งองิ (Text Formula) ตารางที่ 4.4 แสดงสตู รในการอ้างองิ (Text Formula) เครอ่ื งหมาย ความหมาย ตัวอย่างสตู ร : (colon) เว้นวรรค บอกชว่ งของขอ้ มลู =(B1:B5) , (comma) กำหนดพน้ื ทท่ี ับกนั 2 ช่วง เอา =SUM(B1:C1 D1:E5) ขอ้ มลู ทง้ั 2 ชว่ งมาเชอ่ื มต่อกนั กำหนดพนื้ ทีท่ บั กนั 2 ชว่ ง เอา =SUM(C1:C1,D9:D12) ขอ้ มูลทง้ั 2 ชว่ งมาเชื่อมต่อกนั ลำดบั ความสำคัญของเคร่ืองหมายทางการคำนวณ ในการคำนวณของโปรแกรม Excel นนั้ สามารถนำเครอื่ งหมายทางคณิตศาสตร์พื้นฐานมาใช้ ร่วมกับการกำหนดสูตรเพื่อคำนวณได้ นอกเหนือจากนั้นโปรแกรม Excel ยังมีฟังก์ชันสำเร็จรูปท่ี สามารถนำมาใชใ้ นการคำนวณได้อย่างสะดวกและไม่ซับซ้อน สำหรับเคร่อื งหมายคณติ ศาสตร์ท่ีใช้ใน การคำนวณในเครื่องคอมพิวเตอร์หรือในโปรแกรม Excel นั้น โปรแกรมจะดูความสำคัญของ เคร่อื งหมายทางการคำนวณตามหลกั ทางคณติ ศาสตร์ดงั ตาราง ตารางท่ี 4.5 แสดงสตู รในการอ้างอิง (Text Formula) เครื่องหมาย คำอธิบาย เคร่อื งหมาย คำอธบิ าย () วงเล็บ & ตัวเชือ่ ม ^ ยกกำลงั เท่ากบั น้อยกวา่ นอ้ ยกวา่ หรือเทา่ กับ คณู และหาร =, <, <= มากกวา่ มากกวา่ หรอื เท่ากบั ไม่เท่ากบั * และ / บวกและลบ >, >=, <> + และ -
97 ความสำคัญของเครือ่ งหมายทางการคำนวณ จะไลจ่ ากบนลงล่าง บนสุดจะสำคญั สงู สุด และ ล่างสุดจะสำคัญต่ำสุด ในสูตรคำนวณสูตรหนึ่ง ถ้าเครื่องหมายใดสำคัญกว่าก็จะทำการคำนวณ เครื่องหมายนั้นก่อนแล้วไล่ตามลำดับไปเรื่อย ๆ เช่น ตัวอย่างการคำนวณโดยใช้เครื่องหมายทาง คณติ ศาสตร์ ผลลพั ธ์ทเ่ี กดิ จากการคำนวณและการทำงานทไี่ มถ่ ูกตอ้ ง การทำงานในโปรแกรม Excel มักอาจเกิดผลลัพธ์ที่ผิดพลาดอยู่เสมอโดยผลลัพธ์นี้ จะเป็น ขอ้ ความแปลกๆ ทผ่ี ้ใู ช้โปรแกรมอาจไม่เข้าใจได้ ซง่ึ สามารถสรุปได้ ดงั ตารางนี้ ตารางที่ 4.6 แสดงผลลัพธท์ ่เี กดิ จากการคำนวณและการทำงานทไ่ี มถ่ ูกตอ้ ง ผลลัพธท์ เี่ กิด สาเหตทุ ่ีเกิด แนวทางการแกไ้ ข ##### เกิดขึ้นเมื่อตัวเลขในเซลยาวกว่าความกว้าง ขยายขนาดความกว้างของเซล ของเซล เกิดเมอื่ ใชส้ ูตรผดิ หลักไวยากรณ์ของสูตร เช่น สำรวจดูว่าประเภทของข้อมูล #VALUE นำตวั เลขไปบวกกบั ตวั อักษร เปน็ ตน้ ถูกต้องตามหลักคณิตศาสตร์ หรือไม่ #DIV/0! เกิดขึ้นเม่ือใช้ 0 เป็นตัวหาร เช่น 10/0 ซึ่งทำ ใชต้ วั เลขอน่ื เป็นตัวหารแทน ไมไ่ ด้โดยเด็ดขาด เกิดเมอื่ ในสูตรมขี ้อความท่ี excel ไม่สามารถ ตรวจสอบสูตรดูว่ามีข้อความ #NAME? บอกได้วา่ คอื อะไร เช่น A21+วตั ถุ โดยที่คำว่า อะไรแปลกปลอมเข้าไปหรอื ไม่ วตั ถุ ไม่ไดเ้ กยี่ วขอ้ งอะไรเลยในแผ่นงานนั้น เกิดขึ้นเมื่อโปรแกรมไม่สามารถค้นหา ตรวจสอบว่าประเภทตัวแปรของ #N/A ตำแหน่งอ้างอิงเซลที่ไม่ใช้ในสูตรได้ มักพบ ฟังก์ชันคืออะไร แล้วเปลี่ยนให้ เมอ่ื อ้างองิ เซลข้ามแผน่ งานหรอื ข้ามสมดุ งาน ถกู ต้อง เกิดขึ้นเมื่อโปรแกรมไม่สามารถค้นหา ตรวจสอบตำแหน่งอ้างอิงเซลท่ี #REF! ตำแหน่งอ้างอิงเซลที่ไม่ใช้ในสูตรได้ มักพบ อาจจะหายไป เม่อื อา้ งอิงเซลขา้ มแผน่ งานหรือขา้ มสมุดงาน เกิดขึ้นเมื่อกำหนดพื้นท่ีเซลสองเซลที่ไม่ได้มี แก้ไขโดยการใส่เครื่องหมายค่ัน #NULL! สว่ นใดตอ่ กัน แตล่ มื แบง่ แยกด้วยเครื่องหมาย (,) ใหถ้ ูกต้อง คั่น (,) เช่น SUM(A1:B2,C2:D5) แต่พิมพ์ผิด เปน็ SUM(A1:B2 C2:D5) 8. การใชง้ านฟังกช์ ่นั การคำนวณหาผลรวมโดยฟงั กช์ นั ถา้ ต้องการหาผลรวมของตวั เลขหลายๆ ตำแหน่ง สามารถ ใช้ฟังกช์ นั ของการหาผลรวมเข้ามาชว่ ยในการคำนวณได้ ดงั น้ี โดยเลือกเซลที่ต้องการแสดงผลลัพธ์ จากตัวอย่างนี้ ตำแหน่งเซลอยู่ท่ี C24 แล้วคลิกท่ีเมนู Home -> Editing คลิกปุ่มคำสัง่ AutoSum บนริบบอน
98 ภาพที่ 4.21 การคำนวณหาผลรวมโดยฟังกช์ ัน ปรากฎสูตรคำนวณ =SUM(C14:C22) ให้ดูช่วงข้อมูลตัวเลขที่จะคำนวณว่าถูกต้องหรือไม่ สังเกตจากเส้นวิ่งรอบๆ ข้อมูล ถ้าถูกต้องแล้วกดปุ่ม Enter ถ้าไม่ถูกต้อง Drag เมาส์คลุมช่วงข้อมูล ใหม่แล้ว กดปุ่ม Enter หรือสามารถพิมพ์สูตรการคำนวณ =SUM(C14:C22) ใส่ในตำแหน่งเซลอยู่ที่ C24 หรือการหาผลรวมที่มีขอ้ มูลจำนวนมาก ๆ โดยใช้ AutoSum เช่นจากตัวอย่างนี้ ต้องการแสดง ผลลัพธ์ตำแหนง่ เซลอยทู่ ี่ C24 การสรา้ งสตู รดว้ ยฟงั กช์ ันท่ใี ช้งานบอ่ ยๆ โปรแกรม Excel จะทำการแบ่งชุดของสูตรคำนวณตามประเภทการใชง้ าน ถ้าผู้ใช้โปรแกรม ต้องการใช้สูตรคำนวณประเภทใด คลิกเลือกปุ่มนั้นได้เลย หรือคลิกปุ่ม Insert Function ก็ได้ สูตร คำนวณที่นำมายกตัวอย่างจะเป็นสูตรที่ใช้งานบ่อย ๆ เช่น Sum = ฟังก์ชันหาผมรวม Average = ฟังก์ชันหาค่าเฉลี่ย, Count Numbers = ฟังก์ชันนบั จำนวนขอ้ มูล, Max = ฟังก์ชันหาค่าสูงสดุ , Min = ฟงั กช์ ันหาค่าต่ำสดุ มีข้ันตอนดังนี้ โดยเลือกเมนู Home ไปที่ Editing หรอื เมนู Formula จะแสดงประเภทของสูตรคำนวณให้ เลอื กใช้ แลว้ คลิกปมุ่ ลูกศรลงของ AutoSum จะปรากฎสูตรฟงั กช์ นั คำนวณที่ใช้งานใหเ้ ลือก Sum = ฟังก์ชันหาผมรวม Average = ฟังก์ชันหาค่าเฉลี่ย Count Numbers = ฟังก์ชันนับจำนวนข้อมูล Max = ฟังก์ชันหาคา่ สงู สุด Min = ฟังกช์ ันหาคา่ ต่ำสดุ และ More Functions = สตู รอื่นๆ
99 ภาพที่ 4.22 ฟังกช์ นั ท่ีใช้งานบ่อยๆ 9. การเรยี งลำดบั ข้อมูล เมื่อนำงานฐานข้อมูลมาสร้างในโปรแกรม Excel ส่วนใหญ่หลังจากสร้างงานเรียบร้อยแลว้ สง่ิ ท่จี ะทำตอ่ ไป คือ การจดั เรียงข้อมูล มีข้ันตอนดงั น้ี ให้คลิกเซลที่ต้องการใหแ้ สดงผลลัพธ์ แล้วเลือกเมนู Data จากนั้นเลือก Sort & Filter คลิก ปมุ่ บนทูลบาร์ เพ่อื เลือกเกณฑก์ ารจัดเรียง โดยคำสง่ั Sort Smallest to Largest จะจัดเรียงจากน้อย ไปมาก และ คำสัง่ Sort Largest to Smallest จัดเรียงจากมากไปน้อย ภาพที่ 4.23 ฟังกช์ ันท่ใี ช้งานบอ่ ยๆ 10. การกรองข้อมูล การกรองขอ้ มูลในช่วงหรือตาราง เมื่อการค้นหาข้อมูลหรือการกรองข้อมลู นั่นเอง มีขั้นตอน ดังนี้ คลิกเซลที่ต้องการใหแ้ สดงผลลัพธ์ แล้วเลือกเมนู Home หลังจากนั้นเลือก Edit เลือก Sort &
100 Filter หรือ Data เลือก Sort & Filter แล้วคลิกปุ่มลูกศรลงของหัวข้อที่จะค้นหา และเลือกข้อมูลที่ ตอ้ งการ เสรจ็ แลว้ คลิก OK ภาพที่ 4.24 ฟังก์ชนั การกรองข้อมลู หรือต้องการกรองแบบมีเงอื่ นไข ทำได้โดยเลอื ก Number Filters จะปรากฎ Custom AutoFilter Dialog ใหเ้ ลอื กเพือ่ สรา้ งการกรองขอ้ มลู เชน่ เท่ากับ มากกวา่ นอ้ ยกวา่ ข้นึ ต้นด้วย และ สามารถใช้ OR และ AND ร่วมในการกรองได้ ภาพท่ี 4.25 การกรองข้อมลู ในชว่ งหรือตาราง เมอื่ ต้องการยกเลกิ การกรองข้อมูล ใหท้ ำการเลือกตำแหนง่ เซลมกี ารสรา้ งตวั กรองและเลือก เมนู Data หวั ขอ้ Sort & Filter คลิกปุ่ม อกี ครง้ั เพ่ือยกเลิกตวั กรอง
101 11. กราฟ การสร้างกราฟในโปรแกรม Excel ส่วนใหญจ่ ะเปน็ ข้อมูลเกี่ยวกบั ตวั เลขสามารถนำเข้ากราฟ ได้จากเมนู Home -> charts ถ้าผู้ใช้โปรแกรมนำตัวเลขเหล่านั้นมาแสดงเป็นกราฟจะทำให้ข้อมูล ของผูใ้ ชโ้ ปรแกรมดงู ่ายขน้ึ โดยทำการเลือกชว่ งข้อมูลที่ตอ้ งการนำมาสร้างกราฟ ในท่ีน้ีเลือกช่วงเซล A1-E5 หรือเลือกเป็นชว่ งข้อมูลแบบไม่ต่อเน่ืองได้เช่น เลือกเซล A1-E2 แล้วกดปุ่ม Ctrl ที่คีย์บอร์ด คา้ งไว้ และเลอื กเซล A4-E5 - เลอื กช่วงขอ้ มูลแบบตอ่ เนือ่ ง ภาพท่ี 4.26 การเลอื กช่วงขอ้ มูลแบบตอ่ เนื่อง - เลอื กช่วงขอ้ มลู แบบไม่ต่อเนื่อง ภาพที่ 4.27 การเลือกชว่ งขอ้ มูลแบบไม่ตอ่ เนือ่ ง เมื่อเลือกช่วงข้อมลู ได้แล้วให้คลิกเมนู Insert แล้วเลือกประเภทของกราฟจากหัวขอ้ Chart จากตวั อย่างเลอื กแบบ Column จะปรากฎรปู แบบยอ่ ยให้คลิกเลอื กได้ทันที
102 ภาพที่ 4.28 การสรา้ งกราฟในโปรแกรม Excel จากนัน้ จะแสดงรูปกราฟท่ีสร้างไว้ พร้อมกบั แถบ Ribbon ชื่อ Chart Tools หวั ขอ้ Design ให้ เพอ่ื ใช้ในการกำหนดรายละเอียดเพ่ิมเตมิ เชน่ ปรบั เปลยี่ นรูปแบบโครงสร้างของรูปกราฟ สลบั แถว ของกราฟหรือแกนของกราฟ และตกแตง่ รปู กราฟ ภาพที่ 4.29 รูปกราฟที่สรา้ งไว้
103 การประยุกต์ใช้ Microsoft Excel ในงานธรุ กิจการบรกิ ารอาหาร โปรแกรมตารางงาน หรือโปรแกรมสเปรดชีต (Spread Sheet) หรือตารางคำนวณ อิเล็กทรอนิกส์ เป็นโปรแกรมที่อำนวยความสะดวกในการทำงานเกี่ยวกับการคำนวณข้อมูล แสดง ข้อมูลในลักษณะเป็นคอลัมน์ หรือเป็นช่องตาราง ซึ่งเราสามารถบันทึกข้อมูลต่าง ๆ โดยส่วนมาก มักจะเป็นตวั เลขลงในตารางสเี่ หลี่ยมทแี่ บ่งออกเป็นชอ่ งเลก็ ๆ มากมาย เรียกว่า เซลล์ (Cell) พร้อม ทั้งสามารถใส่สูตรลงในเซลล์บางเซลลเ์ พ่ือให้โปรแกรมทำการคำนวณหาผลลัพธจ์ ากขอ้ มลู ท่ีกำหนดไว้ โปรแกรม Excel ช่วยให้เราคำนวณตวั เลขในตารางได้ง่าย ๆ ตั้งแต่คณิตศาสตร์ขัน้ พื้นฐาน ไปจนถงึ สตู รทางการเงินทีซ่ ับซ้อน และเรายงั สามารถใช้ Excel ในการจัดกลุม่ ข้อมูล วิเคราะห์ข้อมูล สรา้ งรายงาน และสรา้ งแผนภมู ไิ ดอ้ กี ดว้ ย โปรแกรม Excel มีประโยชน์กับผู้คนแทบทุกสาขาอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นบัญชี ซึ่ง สามารถนำ Excel มาชว่ ยคำนวณรายรบั รายจ่ายและงบการเงินได้ นักวเิ คราะห์การตลาด ทจี่ ะนำ Excel มาช่วย ในการสรปุ ขอ้ มลู แบบสอบถามจำนวนมาก ๆ วิศวกรทส่ี ามารถนำขอ้ มลู จากการ ทดลองมาให้ Excel สร้างเป็นแผนภูมลิ งในรายงานของตนเองได้ง่าย ๆ นักวางแผนสามารถทดลอง ได้วา่ จะเกิดเหตุการณ์ อะไรถา้ ตวั แปรบางตัวเปลี่ยนไป แมก้ ระทงั่ ครอู าจารย์ก็ยงั สามารถคำนวณ เกรดของนักศึกษาได้ด้วย และนอกจากท่ีกล่าวแล้ว Excel กย็ งั สามารถประยกุ ตใ์ ช้กบั งานอ่ืน ๆ ได้ อกี มากมาย Microsoft Excel เป็นโปรแกรมประเภท Spreadsheet หรือตารางคํานวณอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งออกแบบมาสำหรับบันทึกวเิ คราะห์ และแสดงข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลขได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ ทั้งใน รูปแบบของแผนภาพ หรือรายงาน ซึ่งโปรแกรม Microsoft Excel ยังมีความสามารถในการ จัดรูปแบบเอกสารไดส้ วยงาม และง่ายดายไมแ่ พ้โปรแกรมอืน่ ๆ เลยทีเดียว เทคนคิ การใช้ Excel ทีท่ กุ คนควรรเู้ อาไว้ 1. ขา้ มจากแผน่ งานหนงึ่ ไปยังอีกแผ่นงานหนึ่ง เพียงกด Ctrl + PgDn และ Ctrl + PgUp ภาพที่ 4.30 การใชค้ ยี ์บนแป้นพิมพ์ในการข้ามแผ่นงาน ที่มา: สกอรา่ ชิป (อรสิ า เจเค), เว็บไซต์. 2017
104 2. ขา้ มจากขอ้ มูลในแถวท้ายสุด ไปยังข้อมูลแถวถัดไป เพียงกด Ctrl + ลูกศร ซง่ึ จรงิ ๆ เราก็ ใชล้ ูกศรในการเคลอ่ื นทไ่ี ปมาอยูแ่ ลว้ แตถ่ ้ากด Ctrl + ลูกศร กจ็ ะทำใหเ้ ปลยี่ นทศิ ไดไ้ วขน้ึ กวา่ เดมิ ภาพท่ี 4.31 การใชค้ ยี ์บนแปน้ พิมพ์ในการข้ามแถว ทีม่ า: สกอร่าชิป (อรสิ า เจเค), เว็บไซต์. 2017 3. ใชป้ ุ่ม shift เพื่อคลุมดำขอ้ ความที่ต้องการ โดยกด Ctrl + Shift +ลกู ศร ภาพท่ี 4.32 การใช้ shift เพอื่ คลุมดำข้อความ ทม่ี า: สกอรา่ ชปิ (อรสิ า เจเค), เวบ็ ไซต.์ 2017
105 4. ใช้ปุม่ ลดั ในการแปลงคา่ • Ctrl + Shift + ! สำหรับเปลี่ยนให้เปน็ จดุ ทศนิยมสองตัว • Ctrl + Shift + $ สำหรบั แปลงสกุลเงินเปน็ ดอลลาร์ • Ctrl + Shift + % สำหรบั เปลย่ี นเปน็ เปอร์เซ็นต์ ภาพท่ี 4.33 การใชป้ มุ่ ลดั ในการแปลงค่า ที่มา: สกอร่าชปิ (อรสิ า เจเค), เวบ็ ไซต์. 2017 5. กด F4 เพื่อลอ็ คเซลล์ เมื่อคุณทำการคัดลอกสตู รใน Excel แต่ไม่ไดต้ ้องการก็อปไปทัง้ เซลล์ วิธีแก้งา่ ยๆ คือ เลือก เซลล์ที่ต้องการจากน้ันกด F4 เพื่อใส่เครื่องหมายดอลลาร์ $ และล็อกเซลล์ ถ้าคุณยังคงกด F4 มันก็ จะวนไปวนมาระหว่าง ล๊อคทัง้ คอลมั น์ถั้งแถว หรอื ลอ๊ คอยา่ งใดอย่างหนึ่ง หรือไมล่ ๊อคเลย ภาพที่ 4.34 การกด F4 เพอ่ื ล็อคเซลล์ ทมี่ า: สกอรา่ ชปิ (อริสา เจเค), เว็บไซต์. 2017
106 6. ดบั เบิลคลกิ เพ่ือทำการคัดลอก ไมจ่ ำเปน็ ต้องกดค้างไว้และลากเมาสเ์ พ่ือคดั ลอกสูตรหรือชุดข้อมูล เพยี งดับเบิลคลิกท่ีกล่อง เลก็ ๆ ทีม่ มุ ขวาลา่ งของเซลลก์ ็จะทำการคัดลอกขอ้ มลู อย่างงา่ ยดาย ภาพที่ 4.35 การดับเบิลคลกิ เพ่อื ทำการคดั ลอก ทีม่ า: สกอร่าชิป (อริสา เจเค), เวบ็ ไซต.์ 2017 7. ลบข้อมูลด้วย LEFT, RIGHT และ LEN • LEFT (ขอ้ ความตน้ ฉบบั ,จำนวนอกั ขระ) • LEN (นบั จำนวนตัวอักษร) • RIGHT (ขอ้ ความต้นฉบับ,จำนวนอกั ขระ) ภาพท่ี 4.36 การลบข้อมูลด้วยคำส่ัง ทม่ี า: สกอร่าชิป (อริสา เจเค), เวบ็ ไซต.์ 2017
107 8. สรา้ งค่าส่มุ ดว้ ย RAND สำหรับสูตรนี้คือ RAND() เป็นการใช้สร้างค่าสุ่มระหว่างค่า 0-1 สำหรับวงเล็บนั้นให้ปล่อย ว่างไว้ไม่จำเป็นตอ้ งใส่ขอ้ มูลใดๆ และคา่ สมุ่ ใหมน่ ้ีกจ็ ะถกู สรา้ งขน้ึ ทกุ คร้ังทม่ี ีการคำนวณอีกครัง้ ภาพท่ี 4.37 การสรา้ งค่าส่มุ ด้วย RAND ท่ีมา: สกอรา่ ชิป (อรสิ า เจเค), เว็บไซต์. 2017 ตัวอยา่ งการใช้งาน Microsoft Excel ในงานธุรกจิ การบรกิ ารอาหาร ตวั อยา่ งที่ 1 วิเคราะหย์ อดขายแบบง่ายๆ ด้วย Excel เริ่มจากการบันทึกข้อมูล เพื่อให้ง่ายต่อการวิเคราะห์การขาย เราจะใส่หัวข้อของข้อมูล ทั้งหมดแยกกนั เพ่อื ให้วิเคราะหไ์ ดง้ ่ายขึ้น จากนน้ั เราก็ใสข่ ้อมลู การขายในแต่ละวันลงไป สมมติว่าเรา ตอ้ งการรวู้ ่า • สินคา้ ตวั ไหนขายดี • ลูกคา้ คนไหนซ้ือของกับเราเยอะ • เวลาไหนท่มี ักขายดี เพื่อนำมาจัดทำการตลาดหรือปรับปรุงธุรกิจ ก็เริ่มจากการใส่ข้อมูลเหล่านี้ลงไปในแถวบน ของ Excel กอ่ น ภาพท่ี 4.38 หัวขอ้ ของข้อมูลท้ังหมด ท่มี า: ดีโฟบสิ , เวบ็ ไซต์. ม.ป.ป. เมอื่ สรา้ งตารางข้อมูลที่เหมาะสมแล้ว เราจะใสห่ ัวขอ้ แยกตามหัวขอ้ ท่กี ำหนด เพื่อให้ง่ายต่อ การวเิ คราะห์ข้อมูล จากนัน้ เราจะบันทึกขอ้ มูลการขายในแตล่ ะวันลงไป
108 ภาพที่ 4.39 บันทึกขอ้ มลู การขายในแตล่ ะวนั ที่มา: ดีโฟบิส, เว็บไซต์. ม.ป.ป. ในชอ่ งของยอดขาย (Sales) นั้น ที่เวน้ ว่างเอาไว้ ตอ้ งการให้ใส่สตู รลงไปแทน โดยสูตรที่ใช้ คอื { ยอดขาย (Sales) = ราคาขาย (Price) x จำนวนทีข่ ายได้ (Amount) } ดงั น้ัน หากใสห่ ัวข้อตามตัวอย่าง (Price อยู่แนวตงั้ แถว F, Amount อย่แู นวตง้ั แถว G, ท้ังคู่ อยู่แนวนอนแถว 2) ใหใ้ ส่สตู รตามนี้ ภาพที่ 4.40 การใส่สตู รลงไป ทมี่ า: ดโี ฟบสิ , เวบ็ ไซต.์ ม.ป.ป. Excel จะคำนวณยอดขายให้โดยอัตโนมัติ จากนั้นให้เราใส่ขอ้ มูลการขายท่ีเหลอื ให้ครบ จะ ไดห้ นา้ ตาประมาณน้ี จากนนั้ ให้เราลากเม้าสไ์ ปที่มุมขวาล่างของช่องที่มเี ลข 200 แล้ว Double Click Excel จะคำนวณทุกช่องที่เราใส่ข้อมูลให้อัตโนมัติ ทีนี้ข้อมูลเราก็พร้อมแล้ว เราจะมาวิเคราะห์ ยอดขายกนั ดว้ ยฟงั ค์ช่ันท่เี รียกวา่ Pivot Table ภาพที่ 4.41 การคำนวณยอดขายใหโ้ ดยอัตโนมัติ ที่มา: ดีโฟบสิ , เว็บไซต.์ ม.ป.ป. โดยก่อนอื่น ให้เราลากเม้าส์ให้คลุมช่องทั้งหมดที่มีข้อมูล แล้วกด แทรก (Insert) แล้วกด Pivot Table แลว้ จะเหน็ กล่องข้อความอันนีข้ ้นึ มา ใหก้ ด ok
109 ภาพที่ 4.42 การทำ Pivot Table ทีม่ า: ดีโฟบิส, เว็บไซต์. ม.ป.ป. จากน้ัน เราจะเหน็ หน้าจอประมาณน้ี ซึ่งจากหน้าจอน้ี เราสามารถเลอื กข้อมูลที่วิเคราะห์ได้ เลย ในตัวอย่างนี้ จะขอเลือกวิเคราะห์ว่าสินค้าตัวไหนขายดี โดยกดเครื่องหมายถูก ที่ Product, Amount, Sales จะไดห้ นา้ ตาประมาณนี้ ภาพที่ 4.43 หน้าตา่ งทำ Pivot Table ทม่ี า: ดีโฟบสิ , เวบ็ ไซต.์ ม.ป.ป. ภาพที่ 4.44 การวิเคราะห์ขอ้ มลู ดว้ ย Pivot Table ที่มา: ดโี ฟบสิ , เวบ็ ไซต.์ ม.ป.ป.
110 จะเห็นว่า สินค้าที่ขายดีที่สุดคือ Coffee ครับ และยอดขายรวมทั้งหมดก็คือ 1,480 บาท หรือจะดูว่าลูกค้าคนไหนซื้อสินค้ากับเราเยอะที่สุดก็ได้ โดยกดเอา Product ออก แล้วกดท่ี Customer Name แทน ภาพท่ี 4.45 การวิเคราะห์ข้อมูลดวู ่าลูกค้าคนไหนซื้อสินค้ากบั เราเยอะท่ีสดุ ทมี่ า: ดีโฟบสิ , เวบ็ ไซต์. ม.ป.ป. จะเห็นวา่ แม้ A ซื้อสินค้าจำนวนน้อยกว่า B และ C แต่ใช้จ่ายซื้อสินคา้ มากกว่า หรือจะดูวา่ เวลาไหนทขี่ ายดี ก็ให้กดเอา Customer Name ออก แลว้ กดที่ Time แทน ภาพท่ี 4.46 การวิเคราะห์ขอ้ มูลดวู ่าเวลาไหนท่ขี ายดี ทีม่ า: ดโี ฟบสิ , เวบ็ ไซต.์ ม.ป.ป. จะเหน็ ว่า 14:00 เปน็ เวลาทีเ่ รามยี อดขายดีที่สดุ หรือจะดวู ่าสนิ คา้ ตวั ไหน ขายดีในเวลาไหน ก็ได้เช่นกนั โดยกดที่ Product แลว้ ย้าย Time ไปไวท้ ชี่ อ่ ง Column
111 ภาพท่ี 4.47 การวิเคราะหข์ ้อมูลดูว่าเวลาไหนทขี่ ายดี ทม่ี า: ดีโฟบิส, เว็บไซต์. ม.ป.ป. ภาพที่ 4.48 สนิ ค้าทข่ี ายดีในแตล่ ะชว่ งเวลา ท่ีมา: ดีโฟบิส, เวบ็ ไซต.์ ม.ป.ป. หน้าตาผลลัพธ์จะเห็นสินค้าที่ขายดีในแต่ละช่วงเวลาครับ เช่น กาแฟ มักขายดีช่วงเวลา 14:00 คุกกี้มักขายดีช่วงเวลา 16:00, 19:00 ส่วน 14:00 แม้จะมียอดขายสูงกว่าช่วงเวลาอื่น แต่ สินคา้ ทีข่ ายได้ มเี พียงกาแฟ จะเห็นไดว้ ่า การวเิ คราะหย์ อดขายด้วย Excel น้ัน แค่เพียงใส่ข้อมูลให้ถกู ตอ้ ง กจ็ ะสามารถดู ข้อมูลการขายไดไ้ มย่ าก หากใครต้องการวิเคราะห์ด้วยข้อมูลอื่นๆ เช่น วันไหนของสัปดาห์ กลุ่มอายุ ลกู ค้า เพศ ชอ่ งทางการขาย ก็สามารถใสแ่ ถวเพิ่ม เพอื่ นำมาวเิ คราะหต์ ่อใน Pivot Table ได้เลย
112 ตัวอยา่ งท่ี 2 เทคนคิ เลือก Chart ในการทำ Data Visualization ให้เหมาะกับการวเิ คราะห์ ตัวอย่างเป็นการรวมเทคนิคเลือก Chart ในการทำ Data Visualization ให้เหมาะกับการ วิเคราะห์ ซึ่งก่อนจะได้ chart ต้องมีข้อมูลและทำการสร้างขึ้นมาโดยโปรแกรม excel ซึ่งได้อธิบาย การเพิ่ม chart ไว้ในหัวข้อ การใช้ Microsoft excel เบื้องต้นแล้ว ตัวอย่างที่ 2 จะแสดงวิธีเลือกใช้ รปู แบบ chart ในการทำ Data Visualization ให้เหมาะกับการวเิ คราะห์ หนง่ึ ในขน้ั ตอนท่ีสำคัญที่สดุ ในการวิเคราะห์ข้อมลู ทอี่ าจถูกลมื ไปก็คือ การรวู้ า่ คุณต้องการจะ สื่ออะไร เพื่อให้คุณวิเคราะห์ได้ตรงตามเป้าหมายที่คุณต้องการจะสื่อ และแน่นอนว่าการจะรู้ เป้าหมายไดน้ นั้ คุณตอ้ งต้งั คำถามท่ตี รงกับเป้าหมายของคุณด้วย เช่น หากคุณต้องการวิเคราะห์ราคา หุ้น คุณอาจตั้งคำถามว่า อะไรส่งผลกับราคาหุ้นบ้าง กำไรส่งผลกับราคาหุ้นหรือไม่ เป็นต้น จากนนั้ คุณถึงจะรู้ว่าคุณควรวิเคราะห์อย่างไร แล้วเลือกกราฟหรือชาร์ตให้เหมาะกับการวิเคราะห์ ลองมาดู กันครับวา่ เทคนคิ การวเิ คราะห์ท่ีเรามักจะใชก้ ันนน้ั ควรใช้ชารต์ แบบไหนบา้ ง 1. Trends over Time การวเิ คราะหแ์ นวโนม้ ตามช่วงเวลา Trends over Time มักจะถูกจำมาใช้เพื่อดู Trend หรือแนวโน้ม ตามช่วงเวลา โดยใน ตัวอย่างที่เขายกมา จะเป็นเร่ืองของเงินลงทุนรายปีในแต่ละ Sector ซึ่ง Chart ที่เหมาะสมกับการดู แนวโน้มที่สุดก็มักจะเป็น Line Chart ครับ โดยให้แกนตั้ง หรือ แกน Y เป็น Sector และแกนนอน หรือ แกน X เป็นชว่ งเวลา และอีกสง่ิ ทช่ี ่วยให้เราเหน็ ภาพของแต่ละ Sector ได้ชัดเจนข้นึ ก็คือ สีของ แตล่ ะเส้นนัน่ เอง ภาพที่ 4.49 การวเิ คราะหแ์ นวโนม้ ตามช่วงเวลา ท่ีมา: ดโี ฟบสิ , เวบ็ ไซต.์ ม.ป.ป. แต่หากเราอยากรู้ยอดรวมของทุก Sector ในแต่ละปีแล้ว การใช้ Line Chart อาจจะไม่ เหมาะสมเท่าไหร่ เพราะหากเราลองดู Chart ข้างบน ก็จะเห็นว่า Line Chart นั้นเหมาะกับการใช้ เปรียบเทียบ Data แบบแบ่งกลุม่ เพื่อให้เห็นความต่างของแต่ละกลุ่ม แต่หากคุณลองใสแ่ บบ Total เข้าไป เส้นที่เป็น Total จะดีดขั้นสูงกว่าเส้นอื่นมากๆ หรือ ถ้าคุณจะใส่จริงๆ ก็ไม่ควรใส่เส้นแบบ แบง่ กลมุ่ เข้าไปด้วย
113 หากเราต้องการดูภาพรวมหรอื สัดส่วนให้ชัดเจนขึ้น การใช้ Chart แบบอื่นอาจจะเหมาะสม กวา่ เชน่ Chart น้ี ภาพที่ 4.50 การใช้ Area Chart ทมี่ า: ดีโฟบสิ , เว็บไซต์. ม.ป.ป. หนง่ึ ใน Chart ทีเ่ ราควรใชก้ ็คอื Area Chart นั่นเอง เพราะ Area Chart นั่นบอกทงั้ แนวโนม้ และสัดส่วนได้พร้อมกัน เพียงแต่อาจจะเปรียบเทียบความต่างของแต่ละ Sector ได้ไม่เท่า Line Chart และถ้าหากเราอยากเห็นสัดส่วนและภาพรวมในแต่ละปีได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ก็ยังอาจมี Chart ท่ี เหมาะสมกวา่ ภาพท่ี 4.51 การใช้ Stacked Bar Chart ท่มี า: ดีโฟบสิ , เวบ็ ไซต์. ม.ป.ป. และ Chart ที่ทำให้เราเห็นภาพรวมในแต่ละปีได้ชัดเจนที่สุดก็คือ Stacked Bar Chart นั่นเอง เพราะหากเทียบกับ Area Chart แล้ว Stacked Bar Chart จะช่วยให้เราเห็นความแตกต่าง ในแตล่ ะปีไดช้ ดั เจนกวา่
114 2. Comparison and Ranking การเปรยี บเทียบและจัดอนั ดับ Comparison and Ranking หรือ การเปรียบเทียบและจัดอันดับตามหมวดหมู่ต่างๆ ไม่ว่า จะเป็นแบ่งตามประเทศ หมวดหมูธ่ ุรกจิ และอื่นๆ ซ่งึ น่าจะค่อนขา้ งชดั เจนวา่ Chart ทีเ่ หมาะสมท่ีสุด น้ันกค็ งจะหนไี มพ่ ้น Bar Chart นั่นเอง ภาพท่ี 4.52 การเปรยี บเทียบและจัดอันดับ ท่มี า: ดโี ฟบสิ , เวบ็ ไซต.์ ม.ป.ป. 3. Correlation ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งตัวแปร เมอ่ื เรามขี ้อสงสัยว่า สงิ่ ท่ีเกิดข้ึนมคี วามสัมพันธ์หรอื ส่งผลอะไรกับอกี สง่ิ นงึ รึเปล่า เช่น ราคา ส่งผลกับยอดขายหรือเปล่า เราก็อาจจะเอาลองตัวเลขของราคากับยอดขายมาเปรียบเทียบดูวา่ มัน สอดคล้องหรือล้อกันไปหรือเปล่า ซึ่ง Chart ที่เหมาะสมกับการดู Correlation ก็คือ Scatter Plot หรือ Bubble Chart นนั่ เอง ภาพท่ี 4.53 การใช้ Scatter Plot หรอื Bubble Chart ทีม่ า: ดโี ฟบิส, เว็บไซต.์ ม.ป.ป.
115 ซึ่งการทำ Correlation Analysis ง่ายๆ ด้วย Scatter Plot ถือว่าเป็นการเริ่มต้นทีด่ ีในการ ค้นหาว่า สองสงิ่ ทเ่ี กิดขนึ้ สง่ ผลกันหรอื มีความสมั พันธก์ นั หรือเปล่า เช่น ในตัวอย่างนี้ เราใชร้ าคาไว้บน แกนแนวตั้ง และ ยอดขาย (ชิ้น) ไว้บนแกนแนวนอน เราก็อาจจะเห็นว่า ยิ่งราคาน้อยลง ยอดขาย (ช้ิน) จะยิง่ เพมิ่ ขึ้น แตเ่ ราควรจะลดราคาเพ่ือเพม่ิ ยอดขายหรอื เปล่านน้ั เราอาจควรดู กำไร ประกอบ ไปด้วย และใน Chart นี้ ขนาดของแต่จะจุดที่อยู่บนกราฟก็คือ กำไรนั่นเอง ซึ่งเราก็จะเห็นว่า เรา สามารถทำกำไรได้จากสินคา้ ฝง่ั ที่ราคาท่สี ูง ยอดขายไม่สูง และ ฝ่ังที่ยอดขายสูง ราคาไมส่ งู ไปด้วยกนั ได้น่ันเอง อย่างไรก็ตาม การที่ทั้งราคาและยอดขายล้อไปด้วยกัน อาจไม่ได้ยืนยันได้ 100% ว่าราคา ส่งผลต่อยอดขาย แค่มัน “มีโอกาส” ที่จะส่งผลได้ครับ ดังนั้น เราอาจต้องลองวิเคราะห์ในแง่มุมอ่ืน เพิม่ เตมิ ด้วย เพื่อหาสาเหตุท่ีแทจ้ ริง หรอื หากเราต้องการดูเทรนด์ประกอบไปดว้ ย ก็อาจเปลี่ยนไปใช้ Chart หลายแบบประกอบกนั ได้ เช่นตวั อยา่ งใน Chart นี้ ภาพท่ี 4.54 การใช้ Chart หลายแบบประกอบกัน ที่มา: ดโี ฟบสิ , เว็บไซต.์ ม.ป.ป. เราจะเหน็ ทง้ั ราคา ยอดขาย และกำไร ในแต่ละช่วงเวลาไปพร้อมๆ กนั ได้ และการท่ีเราเห็น กำไรบน Bar Chart ประกอบไปด้วย ก็ช่วยให้เราได้ข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งอาจช่วยให้เราตัดสินใจได้ดี ยงิ่ ขน้ึ ดว้ ย 4. Distribution การกระจายตวั ของขอ้ มูล การทำ Distribution Analysis นั้น ชว่ ยให้เราเหน็ ภาพรายละเอียดทชี่ ัดเจนของข้อมูลยิ่งข้ึน เช่น ในแต่ละกลุม่ นัน้ มีค่าสูงสดุ ต่ำสุด ที่เท่าไหร่ หรือ ความหนาแนน่ ที่ค่าไหนมากที่สุด รวมถึงการ detect outlier ในข้อมูลได้ชัดเจนด้วย ซึ่งเป็น Chart หน่ึงที่สามารถบอกการกระจายตัวได้ดี คือ Box Plot นัน่ เอง
116 ภาพที่ 4.55 การใช้ Box Plot ทำ Distribution Analysis ทมี่ า: ดโี ฟบสิ , เวบ็ ไซต.์ ม.ป.ป. ใน Box Plot นี้ ช่วยให้เราเหน็ เวลาท่ีใช้ไปกับผู้ป่วยแต่ละกลุ่ม ซึง่ อาจทำให้เราสามารถเห็น และตั้งข้อสงสัยได้ตรงจุดว่า ทำไมเวลาที่ใช้ไปกับ Non Urgent Case สูงกว่าเคสอื่นๆ เพราะมีการ เปลี่ยนเคส Urgent เป็น Non Urgent หรือเปล่า หรือเพราะได้รับการรักษาที่ต่างกันหรือเปล่า ซึ่ง การทเ่ี ราตงั้ คำถามไดถ้ ูกน้นั กจ็ ะชว่ ยใหเ้ ราหาคำตอบหรอื แกป้ ญั หาไดด้ ีย่งิ ข้ึน ภาพท่ี 4.56 การใช้ Histogram ที่มา: ดโี ฟบิส, เว็บไซต.์ ม.ป.ป. 5. Part to Whole การเปรยี บเทียบสดั สว่ น ในการเปรียบเทียบสัดส่วนนั้น ส่วนมาก Chart ที่ถูกนำมาใช้กันก็คือ Pie Chart ซึ่งหลายๆ คนทที่ ำ Data Analysis มักแนะนำให้หลกี เลี่ยงดว้ ยสองเหตผุ ล ก็คอื • คนเรามักประเมนิ พื้นท่ีดว้ ยสายตาไดย้ าก • เรามักจะเปรียบเทยี บสัดส่วนได้ภายใน Chart เดียวกัน แตเ่ ปรียบเทียบกับ Chart อ่ืนได้ ยาก เชน่ ในรูปน้ี
117 ภาพท่ี 4.57 การใช้ Pie Chart ในการเปรียบเทียบสดั ส่วน ที่มา: ดีโฟบิส, เวบ็ ไซต์. ม.ป.ป. หากเราต้องการดูว่า สัดส่วนของ West ใน Chart ในช่วงอายุไหนสูงสุด ก็คงไม่ง่ายเท่าไหร่ แตห่ ากเราเปลี่ยน Chart เป็นแบบนแ้ี ทน ซง่ึ เปน็ Stacked Bar Chart แบบเปรียบเทียบสัดส่วนเป็น เปอร์เซน็ ต์ กน็ า่ จะช่วยใหเ้ ห็นชัดและตอบคำถามว่า สดั สว่ นของ West ใน Chart ในช่วงอายุ 25-40 นั่นสูงสุดในทุกชว่ งอายุ ภาพท่ี 4.58 การใช้ Stacked Bar Chart แบบเปรยี บเทียบสัดส่วนเป็นเปอรเ์ ซ็นต์ ทม่ี า: ดโี ฟบสิ , เว็บไซต.์ ม.ป.ป. 6. Geographical Data ข้อมลู เชงิ พืน้ ที่ หากเราตอ้ งการดขู ้อมูลรายพื้นทีห่ รือ Location แลว้ Chart ท่ชี ดั เจนท่ีสุด คอื Map น่ันเอง แต่ Map Chart จะวิเคราะหไ์ ด้ดนี ้ัน ควรใช้ Chart อ่นื ประกอบไปดว้ ย เพ่อื ให้เห็นภาพและวิเคราะห์ ได้ดยี ่ิงข้ึน เช่น การใช้ Pie Chart หรอื Cross-tab Table ประกอบไปด้วย
118 ภาพท่ี 4.59 การใช้ Pie Chart หรือ Cross-tab Table ท่มี า: ดโี ฟบิส, เว็บไซต์. ม.ป.ป. แม้วา่ Pie Chart มกั จะถกู แนะนำวา่ ไมค่ วรนำมาใชใ้ นการวิเคราะห์สัดสว่ น แต่หากนำมาใช้ ประกอบกับ Map แลว้ เพื่อใหเ้ ราประเมินขอ้ มูลในแต่ละพนื้ ท่ีได้ดยี ่ิงขึ้น Workshop ท้ายบทเรยี น 1. ใหน้ ักศกึ ษาจัดทำข้อมูลใบกำกบั ภาษีของบริษัท Best Seller และตกแตง่ เอกสารตามรปู ภาพท่ี 4.60 การจดั ทำขอ้ มูลใบกำกับภาษี 2. ใหน้ กั ศึกษาใช้สูตรในการคำนวณหาคา่ ตา่ งๆ ดังน้ี - คำนวณหาช่อง “ราคารวม” - คำนวณหาผลรวมของสินค้าทงั้ หมด - คำนวณหาราคาก่อนคิดภาษี
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423