19 3.6 File Upload ใช้สำหรับอัพโหลดไฟล์ เช่นไฟล์หลักฐานการชำระเงนิ แต่หาก เลือกรูปแบบฟอร์มนี้ ระบบแบบฟอร์จะบังคับให้ผู้ตอบคำถามต้องทำการ login email ก่อนจึงจะ สามารถอัพโหลดไฟลไ์ ด้ ภาพท่ี 1.15 การสร้างคำตอบแบบอพั โหลดไฟล์ 3.7 Linear scale เป็นฟอรม์ สำหรับสร้างคำตอบแบบตัวเลอื ก โดยท่ผี ู้ตอบสามารถ เลือกตอบได้แค่คำตอบเดยี วเท่านน้ั แต่คำตอบจะอยู่ในรูปแบบตวั เลขเท่านั้น ยกตวั อยา่ งเช่น การให้ คะแนน ภาพที่ 1.16 การสร้างคำตอบแบบตัวเลอื กแบบ Linear scale 3.8 Multiple choice grid เป็นฟอร์มสำหรับสรา้ งคำตอบแบบตวั เลือกในรูปแบบ ตาราง เหมาะกับการใช้งานกรณีที่มีหลายคำถามโดยที่มีชุดคำตอบเป็นชุดเดียวกัน ผู้ตอบสามารถ เลอื กตอบไดแ้ คค่ ำตอบเดียวเท่านั้นในแตล่ ะคำถาม ยกตวั อย่างเช่น แบบประเมนิ การจัดฝึกอบรม ภาพที่ 1.17 การสร้างคำตอบแบบตวั เลือกในรปู แบบตาราง 3.9 Checkbox grid จะเป็นฟอร์มสำหรับสร้างคำตอบแบบตัวเลือกในรูปแบบ ตาราง คล้ายๆกบั Multiple choice grid แตจ่ ะตา่ งกันตรงทรี่ ูปแบบนี้สามารถเลอื กไดห้ ลายคำตอบ
20 ภาพท่ี 1.18 การสร้างคำตอบแบบตวั เลือกในรปู แบบตาราง Checkbox grid การสร้างแบบสอบจะมเี ครอ่ื งมอื ตา่ ง ๆ ดังรปู ภาพที่ 1.19 แสดงเครอ่ื งมอื การแบบสอบถาม 4. เมื่อแบบฟอร์มได้รับการสร้างเรียบร้อยแล้ว สามารถตรวจสอบความถูกต้องและความ สวยงามของแบบฟอรม์ ก่อนสง่ ไดโ้ ดยกดปุ่ม ทอ่ี ยมู่ มุ ขวาบนของหน้าสรา้ งแบบฟอร์ม 5. ขั้นตอนในการส่งแบบฟอร์มเพื่อใหค้ นตอบแบบฟอร์มได้รับ ให้กดปุ่ม send ที่อยู่มุมขวา บนของหน้าสร้างแบบฟอร์ม โดยสามารถเลือกรูปแบบการส่งได้หลายแบบ เช่น ส่งผ่านอีเมล์, แนบ link, เพม่ิ เขา้ ไปในเวบ็ ไซต์โดยใช้ iFrame หรอื แม้แต่สง่ ผา่ นทาช่องทาง Social media ก็ได้
21 ภาพที่ 1.20 การตั้งคา่ สง่ แบบฟอร์ม เมอื่ แบบฟอร์มที่เราสง่ ไป ไดร้ บั การตอบคำถามเรียบรอ้ ยแล้ว Google Form จะสรุปคำตอบ ต่างๆออกมาให้อัตโนมัติในรูปแบบกราฟ ทำให้เราสามารถนำข้อมูลที่ได้ ไปวิเคราะห์ได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพมากขน้ึ เพียงแค่เลอื กในส่วน Responses ที่หน้าสร้างแบบฟอร์ม ภาพท่ี 1.21 การแสดงผลขอ้ มลู ใน Google Form Google Form ยังมีความสามารถในการสร้างแบทดสอบออนไลน์ก็ได้ ท่านสามารถระบุ คะแนนของแตล่ ะคำตอบได้ และระบบสามารถออกคะแนนให้ไดท้ ันทีเมื่อตอบคำถามเสร็จแล้ว โดย ใหเ้ ลอื กรปู แบบของ Form เป็น Quizzes ทีเ่ มนู Setting ทอี่ ยู่มุมขวาบนของหนา้ สร้างแบบฟอรม์ สรปุ ปัจจุบันนี้ เทคโนโลยีสารสนเทศมีบทบาทอย่างกว้างขวางในทุกวงการ และเทคโนโลยี สารสนเทศกลายเป็นเครื่องมือสำคัญของการทำงานทุกด้าน นับตั้งแต่ทางด้านการศึกษา พาณิชยก รรม เกษตรกรรม อุตสาหกรรม สาธารณสุข การวิจัยและพฒั นา ตลอดจนด้านการเมอื งและราชการ อันที่จริงแล้วจะเห็นว่าไมม่ ีงานด้านใดทีไ่ ม่มีผู้คิดประยุกต์หรือนำเทคโนโลยีสารสนเทศเข้าไปช่วยให้ การทำงานนั้น ๆ มปี ระสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ลยงิ่ ขน้ึ
22 คอมพิวเตอร์เป็นเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ที่สามารถจดจำข้อมูลต่าง ๆ และปฏิบัติตามคำสั่งท่ี บอก เพื่อให้คอมพิวเตอร์ทำงานอย่างใดอย่างหนึ่งให้ คอมพิวเตอร์นั้นประกอบด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ ต่อเชื่อมกันเรียกว่า ฮาร์ดแวร์ (Hardware) และอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์นีจ้ ะต้องทำงานร่วมกับโปรแกรม คอมพิวเตอรห์ รือท่เี รยี กกนั วา่ ซอฟต์แวร์ (Software) ข้อมูล (Data) คือ ขอเท็จจริงที่ได้จากการรวบรวมข้อมูล ซึ่งมีทั้งที่อยู่ในรูปแบบตัวอักษร, ข้อความ, ตัวเลข, เสียง รูปภาพ และ ภาพเคลื่อนไหว ส่วนสารสนเทศ (Information) คือ ข้อมูลท่ี ผ่านการประมวลผล เพื่อนำไปใช้ในการตัดสินใจ เช่น เกรดเฉลี่ยของนักเรียน,ยอดขายประจำเดือน และสถิติการขาดงาน และระบบสารสนเทศ (Information System) คือ ระบบที่สามารถจัดการ ข้อมูลตั้งแต่การรวบรวมและตรวจสอบข้อมูล การประมวลผลข้อมูล รวมถึงการดูแลรักษาข้อมูล เพอื่ ใหไ้ ดส้ ารสนเทศที่ถูกตอ้ งและทนั ต่อความตอ้ งการของผใู้ ช้ และผ้ใู ชส้ ามารถนำสารสนเทศท่ีได้ไป ประกอบการตดั สนิ ใจไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ คำถามท้ายบท 1. จงให้นยิ ามความหมายของระบบสารสนเทศ 2. จงอธิบายเกี่ยวกบั กระบวนการทำงานของระบบสารสนเทศ 3. องคป์ ระกอบของระบบสารสนเทศประกอบดว้ ยอะไรบ้าง 4. อธบิ ายความแตกต่างของข้อมลู และสารสนเทศ 5. แฟ้มขอ้ มลู ชัว่ คราวท่ีรวบรวมการเปลย่ี นแปลงของขอ้ มลู หลกั หรือทำหน้าทีร่ ายงานการ เปล่ยี นแปลงของแฟม้ ข้อมลู หลกั คือแฟ้มประเภทใด 6. ผู้ใชง้ านเทคโนโลยีในยุคดิจิทัลควรมคี ุณธรรมจรยิ ธรรมในการใช้งานอยา่ งไรบา้ ง 7. ทักษะความสามารถสำหรับการรดู้ ิจิทัลทสี่ ำคัญมอี ะไรบ้าง 8. ประโยชน์จากการมที กั ษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยดี จิ ิทัล 9. หากผู้ใช้ขาดคุณธรรมและจริยธรรมในการใช้งาน จะทำให้เกิดปัญหาแก่ตนเอง สงั คม และ ประเทศชาติ อย่างไร 10.กฎหมายดิจทิ ัลได้แก่อะไรบ้าง
23 เอกสารอา้ งอิง กชกร เสรรรี ักษ์. (ม.ป.ป.). กฎหมายดจิ ิทลั ในประเทศไทย. สบื ค้นเมือ่ 2564, มถิ นุ ายน 10 เข้าถงึ ได้ จาก: https://sites.google.com/dei.ac.th/digital-literacy นชุ . (2563). สรปุ พ.ร.บ.คอมพวิ เตอร์: กรณีศึกษาและเนอื้ หา 13 เรอ่ื งท่ชี าวเน็ตต้องรู้. สบื คน้ เมื่อ 2564, มิถนุ ายน 10 เข้าถึงได้จาก: https://contentshifu.com/blog/computer-law/ พนดิ า พานชิ กุล. (2005). เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology). สำนักพิมพ:์ เคทพี ี วรลกั ษณ์ สงวนแก้ว. (2558). พลเมอื งดจิ ิทัล. สืบคน้ เมอ่ื 2564, กรกฎาคม 10 เขา้ ถึงได้จาก: https://www.stou.ac.th/study/sumrit/1-59(500)/page2-1-59(500).html วศนิ เพมิ่ ทรพั ย์. (2562). ความรเู้ บ้ืองต้นเกีย่ วกับคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ. สำนกั พมิ พ์: โปรวิช่ันและดีพลสั ไกด์ ศูนยเ์ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร, เวบ็ ไซต์. (ม.ป.ป.). การรดู้ ิจทิ ัล. สืบคน้ เม่ือ 2564, มถิ ุนายน 10 เข้าถงึ ไดจ้ าก: https://www.ops.go.th/main/index.php/knowledge- base/article-pr/854-zxfdgsdgs ศนู ยเ์ ทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร, เวบ็ ไซต์. (ม.ป.ป.). ทกั ษะดิจิทัล ก้าวสู่ พลเมอื งในศตวรรษ ท่ี 21. สืบคน้ เมื่อ 2564, มถิ ุนายน 1 เขา้ ถึงได้จาก: https://www.ops.go.th/main/index.php/knowledge-base/article-pr/1355-goto- citizens21st สำนกั งานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.), เว็บไซต์. (ม.ป.ป.). ทกั ษะความเข้าใจ และใชเ้ ทคโนโลยีดิจทิ ัล. สืบคน้ เมือ่ 2564, มิถนุ ายน 1 เข้าถึงไดจ้ าก: https://www.ocsc.go.th/DLProject/mean-dlp สำนักงานพัฒนาธรุ กรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.), เวบ็ ไซต.์ (ม.ป.ป.). รจู้ ัก พ.ร.บ. คอมพวิ เตอร์ฯ ฉบับที่ 2 พ.ศ. 2560. สบื ค้นเมอื่ 2564, มิถนุ ายน 10 เข้าถึงได้จาก: https://ictlawcenter.etda.or.th/news/detail/computer-2559 โอภาส เอีย่ มศริ ิวงศ์. (2557). วิทยาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยสี ารสนเทศ (ฉบับปรบั ปรุง เพมิ่ เติม). สำนกั พิมพ:์ ซเี อ็ดยเู คช่นั . freepik.com, Website. (n.d.). digital. Cited 2021 June 18. Available from: https://www.freepik.com/ Jayesh Shinde, Website. (2019). How India Helps Build The World's Most Powerful Mainframe Computer Which All Of Us Use. Cited 2021 June 18. Available from: https://www.indiatimes.com/technology/news/how-india-helps-in- building-the-world-s-most-powerful-mainframe-computer-which-all-of-us-use- 378916.html thaipng.com. Website. (2021). Computer Hardware. Cited 2021 June 18. Available from: https://www.thaipng.com/png-k6w0l5/download.html
24 theevolutionofcomputers.wordpress. Website. (n.d.). Fourth Generation Computers. Cited 2021 June 18. Available from: https://theevolutionofcomputers.wordpress.com/fourth-generation- computers/ Wikipedia, Website. (2021). IBM Personal Computer. Cited 2021 July 30. Available from: https://en.wikipedia.org/wiki/IBM_Personal_Computer Workboxs. Website. (2021). Search Engine. Cited 2021 July 22. Available from: http://www.workboxs.com/thai/online-marketing/search-engine.html
25 แผนการสอนประจำสัปดาหท์ ี่ 2 หวั ขอ้ เร่อื ง ความรูเ้ บอ้ื งต้นเกีย่ วกับคอมพวิ เตอร์ รายละเอยี ด เนื้อหาประจำสัปดาห์ท่ี 2 เน้นให้ผู้เรียนมีความรู้ความเขา้ ใจเก่ียวกับ ข้อมูลและการจดั การ การสืบค้นข้อมูลดว้ ย Search Engine การประยุกต์ใชค้ อมพิวเตอร์ จริยธรรมในการใช้เทคโนโลยีใน ยุคดจิ ทิ ัล กฎหมายในยุคดิจิทัล และWorkshop สรุปการรวบรวมขอ้ มูลและนำเสนองานจากสัปดาห์ ที่ 1 จำนวนชวั่ โมงทส่ี อน 4 ช่วั โมง วัตถุประสงคเ์ ชงิ พฤติกรรม 1. เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับขอ้ มูลและการจัดการการสืบค้น ขอ้ มูล 2. เพอ่ื ใหผ้ ูเ้ รยี นมคี วามรู้และสามารถประยกุ ต์ใชค้ อมพวิ เตอร์ได้ 3. เพอ่ื ให้ผู้เรยี นมีความรู้ในจรยิ ธรรมในการใชเ้ ทคโนโลยใี นยุคดิจิทัล กฎหมายในยคุ ดจิ ทิ ัล กิจกรรมการเรยี นการสอน 1. ใชว้ ธิ ีสอนแบบร่วมมือ โดยใช้เทคนิคการสอนท่ีให้ผู้เรียนแสวงหาความรู้ด้วยการพึ่งพากัน มี การปรึกษาหารืออยา่ งใกลช้ ิดในประเดน็ ศกึ ษาทมี่ อบหมาย ผูส้ อนกำหนดและมอบหมายงาน ให้ผู้เรียนรับผิดชอบเป็นกลุ่มๆ โดยให้ใช้ทักษะปฏิสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและทักษะการ ทำงานกลุ่ม ความคิดวิเคราะห์ การระดมพลังสมอง และการแสดงความคิดเห็นที่เหมาะสม พร้อมทง้ั จดั ทำสรปุ เปน็ ผลงานส่งผ้สู อน 2. ใช้วิธีสอนแบบแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน โดยอาศัยทักษะและเทคนิคการสอนที่ให้ผู้เรียน ศึกษาประเด็นศึกษาต่างๆ ตามใบงานและให้เชื่อมต่อความคิดและเนื้อหาสาระด้วยเทคนคิ การเชื่อมความรู้จากการปฏิบัตงิ านตามที่กำหนดไว้ในใบงานโดยใช้ทักษะกระบวนการกลุ่ม และทักษะการสรุปความแล้วจดั ทำผลการศกึ ษานำเสนอหนา้ ช้ันเรยี น 3. ใช้วิธีสอนแบบศึกษาเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยให้ผู้เรียนศึกษาขอ้ มลู จากใบความรู้และเอกสาร ประกอบการสอนรายวชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศยคุ ดจิ ิทัลในธรุ กจิ บรกิ ารอาหารและแหล่งการ เรยี นรตู้ ่าง ๆตลอดจนหนังสือเอกสารและแหล่งการเรียนรู้ทแ่ี นะนำความรู้ทไ่ี ด้ศกึ ษามาสร้าง เปน็ ผลงานและนำเสนอผลงานและรายงานสง่ ผู้สอน 4. ให้ภาพรวมของความรู้ก่อนเข้าสู่บทเรียน การสรุปย้ำความรู้ใหม่หลังบทเรียนพร้อมกับ เช่อื มโยงความรใู้ หม่กบั ความรู้เดิม การเชอื่ มโยงความรู้จากวิชาหนง่ึ ไปสู่อกี วิชาหนึ่งในระดับ
26 ที่สูงข้ึนเรียนรจู้ ากสถานการณ์จรงิ สอดแทรกคณุ ธรรมจริยธรรม และจรรยาบรรณวิชาชีพใน เนื้อหาวิชาเรียน จัดกิจกรรมพิเศษเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ ทำการสอนแบบอภิปรายจาก ตัวอย่างกรณีศึกษา แนะนำและฝึกกระบวนการคดิ อยา่ งสรา้ งสรรคเ์ ม่ือเร่มิ เข้าศึกษา เรมิ่ จาก โจทยท์ ง่ี ่าย และเพม่ิ ความยากตามระดบั ชนั้ เรียนที่สงู ขึน้ ในรายวชิ าที่เหมาะสม สื่อการเรยี นการสอน 1. เอกสารประกอบการสอนรายวชิ าเทคโนโลยสี ารสนเทศยคุ ดิจิทัลในธรุ กจิ บรกิ ารอาหาร 2. ส่ือประกอบการสอนแบบภาพสไลด์ (Power Point) 3. ส่อื อุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ 4. เอกสารและหนงั สืออา่ นประกอบเพือ่ การศึกษาค้นควา้ เพ่มิ เตมิ 5. การศึกษาเว็บไซต์เพมิ่ เตมิ ท่ีเกีย่ วขอ้ ง แผนประเมนิ ผลการเรยี นรู้ 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม 1.1.1 มจี ติ สำนึกและตระหนักในการปฏบิ ัตติ ามจรรยาบรรณวชิ าชพี 1.1.2 ความมีวินัย ตรงต่อเวลา และมีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม เคารพ กฎระเบียบและขอ้ บงั คับต่าง ๆ ขององคก์ รและสังคม 1.1.3 การตระหนักในคณุ คา่ ของคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และความซือ่ สตั ย์ 1.1.4 เคารพสทิ ธแิ ละยอมรับฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ ่นื 1.1.5 การมจี ิตสาธารณะ เอ้ือเฟื้อเผอื่ แผ่ 1.2 ด้านความรู้ 1.2.1 มีความรู้ ความเข้าใจ ในหลักการ แนวคิด ทฤษฎี และเนื้อหาสาระสำคญั ของรายวิชาที่เกี่ยวข้องเพื่อสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการประกอบ วชิ าชพี 1.2.2 มที กั ษะ และความชำนาญ ในงานดา้ นวชิ าชีพ 1.2.3 สามารถในการนำความรู้มาประยุกต์ใชใ้ นบริบททางวชิ าการและวชิ าชีพ 1.2.4 สามารถศึกษาค้นคว้าและพัฒนาความรู้ของตนเองได้และสามารถบูรณา การความรใู้ นศาสตรต์ า่ งๆทีเ่ กี่ยวขอ้ ง เพอื่ ใช้เป็นประโยชน์ในวชิ าชพี ได้ 1.3 ดา้ นทกั ษะทางปัญญา 1.3.1 สามารถคิดวเิ คราะห์อยา่ งเป็นระบบ เพื่อหาข้อเทจ็ จริง หรอื ต้นเหตขุ องปญั หา และ เสนอแนวทางการแก้ไขได้อยา่ งสร้างสรรค์ 1.3.2 มีความสามารถในการทำความเข้าใจและประเมินข้อมูล แนวคิดและ หลักฐานใหม่ๆ จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และใช้ข้อสรุปที่ได้ในการ พฒั นางานในวชิ าชีพ
27 1.3.3 สามารถถ่ายทอดและแลกเปล่ยี นความรู้กับผู้อื่น 1.4 ดา้ นทกั ษะความสัมพนั ธ์ระหว่างบคุ คลและความรบั ผิดชอบท่ตี อ้ งพฒั นา 1.4.1 รับผิดชอบในการทำงานทไี่ ด้รบั มอบหมายทง้ั รายบุคคลและงานกลุ่ม 1.4.2 สามารถปรับตัวในและทำงานร่วมกับผู้อน่ื ทั้งในฐานะผู้นำและสมาชิกกลุ่ม ไดอ้ ย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ 1.4.3 มีความสามารถในการวางตัวและแสดงความคิดเห็นได้อย่างเหมาะสมกับ บทบาท หน้าที่ และความรับผิดชอบ 1.4.4 มบี ุคลิกภาพทด่ี ี และมมี นุษยสมั พนั ธ์ 1.4.5 มีความสามารถในการวางแผนและรับผดิ ชอบในการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง และวิชาชพี อย่างต่อเนือ่ ง 1.5 ดา้ นทกั ษะการคดิ วิเคราะห์เชงิ ตัวเลขการส่อื สาร และการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ 1.5.1 สามารถนำเทคนิคทางสถิติหรือคณิตศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ และ เทคโนโลยีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมาประยุกต์ใช้ในการสืบค้น วิเคราะห์ข้อมูล แปลความหมาย และเสนอแนวทางในการพัฒนางาน หรือ แก้ไขปัญหา ไดอ้ ยางสรา้ งสรรค์ 1.5.2 สามารถสื่อสาร สามารถสรุปประเด็นจากสิง่ ที่ได้เห็นและฟัง ถ่ายทอดและ นำเสนอ ข้อมูลได้อย่างสรา้ งสรรคแ์ ละมปี ระสทิ ธภิ าพ 1.5.3 สามารถติดตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นวัตกรรม และสถานการณ์ โลกโดยใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ 2. วิธปี ระเมินผลการเรยี นรู้ 2.1 คุณธรรม จรยิ ธรรม 2.1.1 นกั ศกึ ษาประเมินผลการเรยี นรูด้ ว้ ยตนเอง ก่อนและหลังการเรยี น 2.1.2 ประเมินโดยอาจารย์จากการสังเกตพฤติกรรมการแสดงออกตามปกติของ นักศกึ ษา 2.1.3 ผใู้ ช้บณั ฑิตประเมินคุณธรรมจริยธรรมของบณั ฑติ 2.2 ความรู้ 2.2.1 ประเมินจากผลงานระหว่างภาค เช่น การบ้าน การเขียนรายงาน การสอบ ย่อย การนำเสนอรายงานการค้นควา้ หน้าช้ัน 2.2.2 ประเมนิ จากการสอบขอ้ เขยี น การสอบปฏิบัติ 2.2.3 ประเมนิ ผลความรูข้ องบณั ฑติ โดยการสำรวจความคดิ เห็นของผู้ใชบ้ ัณฑติ 2.3 ทักษะทางปญั ญา 2.3.1 ประเมนิ จากผลงานการแก้ไขปัญหาที่ได้รับมอบหมาย 2.3.2 ประเมินโดยการสอบข้อเขียนดว้ ยโจทย์ทตี่ อ้ งใชท้ ักษะทางปญั ญา 2.3.3 ประเมินรายงานผลการวจิ ัย
28 2.4 ทกั ษะความสัมพันธร์ ะหว่างบุคคลและความรบั ผดิ ชอบ 2.4.1 มอบหมายนักศึกษาประเมินตนเองและเพื่อนในกลุ่ม สรุปผลและมีการ ประเมินโดยใชเ้ สียงสว่ นใหญ่ 2.4.2 สงั เกตพฤตกิ รรมในชัน้ เรียน 2.5 ทกั ษะการคิดวิเคราะหเ์ ชงิ ตวั เลข การส่ือสาร การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ 2.5.1 ประเมินจากกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสืบค้นข้อมลู ดว้ ยเทคโนโลยสี ารสนเทศทม่ี อบหมายแต่ละบุคคล 2.5.2 ประเมินจากการสอบข้อเขียนในการแก้โจทย์ปัญหาเชิงตัวเลขที่ไมเ่ คยพบมา กอ่ น 2.5.3 ประเมินทักษะการสื่อสารด้วยภาษาเขียนจากรายงานแต่ละบุคคลหรือ รายงานกลุ่มในส่วนที่นักศึกษานั้นรับผดิ ชอบ 2.5.4 ประเมินทักษะการสื่อสารด้วยภาษาพูดจากพัฒนาการในการนำเสนอรายงาน ในชั้นเรียน การนำเสนอสัมมนา การนำเสนอนิทรรศการโครงงานต่อผู้เยี่ยม ชมด้วยวาจา 3. สดั สว่ นของการประเมิน ร้อยละ 10 ร้อยละ 40 3.1 ดา้ นคุณธรรมจริยธรรม 3.2 ด้านความรู้ ร้อยละ 30 ร้อยละ 10 3.3 ดา้ นทักษะทางปญั ญา ร้อยละ 10 3.4 ด้านทกั ษะความสมั พันธ์ระหวา่ งบุคคลและความรับผิดชอบ 3.5 ด้านทักษะการคดิ วิเคราะหต์ วั เลข การส่อื สาร และการใชเ้ ทคโนโลยี เนอ้ื หาท่ีสอน ขอ้ มลู และการจัดการ การจดั เก็บขอ้ มูล การจัดเก็บข้อมูลจำเป็นต้องมีแผนในการดำเนินการหรือกล่าวได้ว่าการได้มาซึ่งข้อมูลที่จะ นำมาใช้ประโยชน์ต่อองค์กรจำเป็นต้องลงทุนทัง้ ในด้านตวั ข้อมูล เครื่องจักร และอุปกรณ์ ตลอดจน การพัฒนาบุคลากรขึน้ มารองรับระบบ เพื่อให้ใช้งานอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดการระบบขอ้ มูลจึง ตอ้ งคำนงึ ปญั หาต่าง ๆ และพยายามมองปญั หาแบบทเี่ ปน็ จริง สามารถดำเนนิ การไดใ้ ห้ประสิทธิภาพ คมุ้ ค่ากบั การลงทนุ ข้อมลู ทดี่ ีจะตอ้ งมคี ุณสมบตั ิข้นั พื้นฐานดงั น้ี 1) ความถูกต้อง เพราะข้อมูลที่ได้ต้องนำไปใช้ในการตัดสินใจ หากข้อมูลไม่มีความ ถกู ตอ้ งแล้วกจ็ ะกอ่ ให้เกิดผลเสียหายตามมา 2) ความรวดเร็วและเป็นปัจจุบัน การได้มาของข้อมูลจำเป็นต้องให้ทันต่อความ ตอ้ งการของผูใ้ ช้ ทนั สมัยและทันต่อเหตุการณ์ปจั จุบนั
29 3) ความสมบูรณ์ ข้อมูลที่มีความสมบูรณ์ คือ ข้อมูลที่สามารถตอบสนองความ ต้องการของผู้ใช้ ซึ่งจะขึ้นกับวิธีการรวบรวมข้อมูลและวิธีการประมวลผล ดังนั้นในการดำเนินการ รวบรวมข้อมูลตอ้ งสำรวจและสอบถามความตอ้ งการในการใช้ขอ้ มูลเพอ่ื ให้ไดข้ อ้ มลู ท่ีมคี วามสมบรู ณ์ 4) ความกระชับและชัดเจน การจัดเก็บข้อมูลจำนวนมากจะต้องใช้พื้นที่มาก จึง จำเป็นต้องออกแบบโครงสร้างขอ้ มูลให้กระชับและสื่อความหมายได้ อาจมีการใช้รหัสแทนข้อมูลให้ เหมาะสมเพ่ือจดั เกบ็ ไว้อย่างเปน็ ระบบ 5) ความสอดคลอ้ ง ความต้องการเป็นเร่ืองท่ีสำคญั ดงั นัน้ จึงตอ้ งมกี ารสำรวจเพื่อหา ความต้องการของหน่วยงานและองค์กร ดูสภาพการใชข้ อ้ มูล และขอบเขตของข้อมูลทีส่ อดคล้องกับ ความต้องการ หน่วยข้อมูล (Data Units) 1) บติ (bit) หน่วยทเี่ ล็กท่สี ุดเปน็ เลขฐานสองซึ่งมคี า่ เป็น 0 หรอื 1 2) ตัวอักษร (character) กลุ่มของบิตสามารถแทนค่าตัวอักษรได้ ในชุดอักขระ ASCII 1 ไบต์(8 บิต) แทนตวั อักษร 1 ตัว 3) ไบต์ (Byte) กลุ่มของบิตมีขนาด8บิตเท่ากับ1ไบต์และ1ไบต์ใช้แทนอักขระหน่งึ ตัว ในวิทยาการคอมพิวเตอร์หน่วยวัดที่ใช้กันนั้นนิยมวัดเป็นกิโลไบต์ (Kilobyte) เมกะไบต์ (Megabyte) จิกะไบต์ (Gigabyte) และเทระไบต์ (Terabyte) ซึ่งแต่ละหน่วยวัดมีค่าตัวคูณต่างกัน 1,024 หรอื 210 หนว่ ย แตม่ นุษย์จะประมาณค่าตัวคูณไวท้ ่ี 1,000 นอกจากนี้ยงั มี เพตะไบต์ (Petabyte) เอกซะไบต์ (Exabyte) เซตตะไบต์ (Zettabyte) และ ยอตตะไบต์ (Yottabyte) ซงึ่ มีคา่ ตัวคณู 1,024 หนว่ ยถดั จากเทระไบต์เป็นตน้ ไป แตย่ ังไม่มีสื่อบันทึก ขอ้ มูลใดสามารถเก็บข้อมูลไดม้ ากขนาดน้ันในปจั จุบนั ปัจจุบันนี้เพ่ือลดความสับสนระหวา่ งคา่ ตัวคูณ 1,024 (210) หน่วยและ 1,000 (103) หน่วย ทาง SI จึงไดม้ ีหน่วยสำหรบั ฐาน 2 แยกออกมา เชน่ จากกโิ ลไบต์ เป็น กิบิไบต์แทน 4) เขตข้อมูลหรือฟิลด์ (field) เกิดจากการนำอกั ขระที่มีความเกี่ยวข้องกันนำมา รวมกนั เพื่อให้เกดิ ความหมาย 5) ระเบยี น (record) ประกอบดว้ ยฟลิ ด์หลาย ๆ ฟิลด์ท่ีเกี่ยวข้องกันนำมารวมกัน เปน็ ขอ้ มลู แตล่ ะแถวหรอื แต่ละชดุ ข้อมูล 6) แฟม้ (file) ไฟล์หรอื แฟม้ ขอ้ มูลท่ปี ระกอบด้วยระเบยี น ตัง้ แตห่ นึ่งระเบยี นขน้ึ ไป 7) ฐานข้อมลู (database) ฐานข้อมูลเกิดจากการรวบรวมเอาแฟ้มขอ้ มูลหลาย ๆ แฟ้มทมี่ ีความสมั พนั ธ์กนั นำมารวมไวด้ ว้ ยกนั ประเภทแฟ้มขอ้ มลู ประเภทแฟ้มขอ้ มูลหลกั แบง่ ออกเป็น 6 ประเภท ดังนี้ 1) แฟ้มข้อมูลหลัก (Master File) เป็นแฟ้มที่เก็บข้อมูลอย่างถาวร แฟ้มนี้จะไม่ ค่อยมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลบ่อยนักเพราะการปรับปรุงข้อมูลจะกระทำจากแฟ้มรายการ (Transaction File)ดงั น้นั ขอ้ มูลท่เี ก็บข้อมูลจะเปน็ ข้อมูลหลักจะเปน็ ขอ้ มูลที่ทนั สมัย (Up to date )
30 อยู่เสมอ สามารถนำไปอ้างอิงได้ เช่น แฟ้มข้อมูลพนักงงาน แฟ้มรายการสนิ ค้า แฟ้มข้อมูลนักศึกษา แฟ้มข้อมลู ภาควิชา 2) แฟ้มรายการ(Transaction File) เป็นแฟ้มข้อมูลชั่วคราวที่รวบรวมการ เปลี่ยนแปลงของขอ้ มูลหลักหรอื ทำหนา้ ท่ีรายงานการเปล่ยี นแปลงของแฟม้ ข้อมูลหลกั มีการเก็บเป็น รายการย่อย ๆ โดยอาจจัดเรียงข้อมูลให้เหมือนแฟ้มข้อมูลหลัก เพื่อนำไปปรับปรับปรุงแฟ้มข้อมูล หลักให้ทันทันสมัย เมื่อปฏิบัติงานเสร็จสิ้นก็จะถูกลบทิ้งโดยอัตโนมัติ ส่วนใหญ่จะเก็บข้อมูลที่ใช้ใน ธุรกจิ ประจำวนั เชน่ แฟ้มข้อมลู รายการขายสนิ คา้ ประจำวนั รายการฝาก-ถอนเงิน เปน็ ตน้ 3) แฟ้มดรรชนี(Index File) เป็นแฟ้มข้อมูลที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อช่วยในการ ประมวลผลข้อมูลให้รวดเร็วยิ่งขึ้น โดยส่วนใหญ่จะถูกสร้างมาจากแฟ้มข้อมูลหลัก คือ แฟ้มดรรชนี ของแฟ้มข้อมูลหลักนัน่ เอง เพื่อช่วยในการค้นหาข้อมลู ในแฟม้ หลักให้รวดเร็วยิ่งขึ้น แฟ้มดรรชนีของ แฟ้มข้อมูลที่ผ่านการจัดเรียงแล้วโดยการจัดเรียงตามคยี ์หลกั ของแฟ้มข้อมูลหลัก โดยปกติแล้วแฟ้ม ดรรชนีจะประกอบด้วยฟิลด์ 2 ฟิลด์ คือ ฟิลด์ที่เป็นคีย์หลักของแฟ้มข้อมูลหลักและฟิลด์ที่เก็บ ตำแหน่งระเบียนของคยี ห์ ลกั ในแฟ้มข้อมลู หลัก 4) แฟ้มงาน (Work File) เป็นแฟ้มข้อมูลที่ถูกสร้างในระหว่างการทำงานของ โปรแกรมระบบการทำงานเม่ือสนิ้ สุดการทำงานของโปรแกรม แฟ้มขอ้ มลู ประเภทนี้จะถูกลบท้ิงทันที เชน่ Temp File ท่ถี ูกสรา้ งโดยระบบวินโดว์ เปน็ ต้น 5) แฟม้ รายงาน (Report File) ซงึ่ เราสามารถจัดรูแแบบของรายงานได้ตามตอ้ งการ 6) แฟม้ สำรอง (backup File) เปน็ แฟม้ ข้อมลู ท่คี ัดลอกข้อมลู หลักเพ่ือสำรองเห็บไว้ เมื่อเกิดปัญหากับแฟ้มข้อมูลหลักก็สามารถนำแฟ้มสำรองกลับมาใช้งานได้ ถือว่าเป็นแฟ้มที่มี ความสำคัญมากประเภทหน่ึง ลกั ษณะการประมวลผลข้อมลู การประมวลผลขอ้ มลู (Data Processing) การประมวลผลขอ้ มูลคอื การเก็บรวบรวมข้อมูลที่ ได้มาผ่านกระบวนการต่างๆ เพื่อแปรสภาพข้อมูลให้อยู่ในรูปแบบที่ต้องการเรียกว่าข้อสนเทศหรือ สารสนเทศ (Information) ลกั ษณะการประมวลผลขอ้ มูล สามารถแบ่งออกเป็นข้อมลู 2 ประเภท คือ 1) การประมวลผลแบบกลุ่ม (Bath Processing) การประมวลผลแบบกลุ่ม เป็น วิธีการประมวลผล ซึ่งจะกำหนดช่วงเวลาในการเก็บรวบรวมข้อมูลตามกำหนดเวลาแล้วจึงนำข้อมลู เหลา่ นไ้ี ปประมวลผลรวมกนั โดยจะไมค่ ำนงึ ถงึ ปริมาณของขอ้ มูล 2) การประมวลผลแบบทนั ที (Real-time Processing) การประมวลแบบทนั ที เป็น วิธีการประมวลผลข้อมูลท่ีต้องการผลลัพธใ์ นทันทีเมือ่ มีการจัดทำรายการเขา้ มาภายในระบบ วิธีการ ประมวลผลทันทีนี้ จะช่วยปรบั ปรงุ ขอ้ มูลในระบบให้เปน็ ปจั จบุ นั ตลอดเวลา การเลือกลักษณะการประมวลผลข้อมลู แบบใดนั้นขึ้นอยู่กับความต้องการสารสนเทศในงาน แตล่ ะประเภทด้วยเช่นกัน ฉะนัน้ เราจงึ ควรเลอื กให้เหมาะสมกับการใชง้ านในแตล่ ะประเภท การคน้ หาขอ้ มลู ด้วย Search Engine การค้นหาข้อมูล หมายถึง การสืบค้นข้อมูลที่ต้องการทราบบนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต เป็น เครอื ข่ายทีส่ ามารถเข้าถงึ ได้สะดวกและรวดเรว็ โดยวิธกี ารคน้ หาทส่ี ามารถทำได้ง่ายและให้ผลลัพธ์ที่
31 แม่นยำ จะต้องทำการค้นหาจากเว็บไซต์สำหรับค้นหาข้อมูลหรือเรียกว่า Search Engine Site ที่มี หน้าที่ในการรวบรวมรายชื่อของเว็บไซต์ต่างๆ ไว้เป็นหมวดหมู่ ทำให้ประหยัดเวลาในการใช้งาน มากกว่าการค้นหาขอ้ มูลด้วยตนเอง Search Engine หมายถึง เครื่องมือที่ช่วยในการค้นหาข้อมูลต่างๆ ผ่านระบบเว็บไซต์และ เครือขา่ ยอนิ เทอร์เน็ต เพื่อเข้าถึงเวบ็ ไซตข์ อ้ มูลที่ต้องการคน้ หา เรียกอย่างเปน็ ทางการวา่ “โปรแกรม ช่วยในการสืบคน้ ข้อมูล” ซึ่งคำค้นหาที่ใช้จะเรียกว่าเป็น Keyword (คีย์เวิร์ด) ของการสืบค้นข้อมูล ในปัจจุบัน เทคโนโลยีของ Search Engine ได้มีการพัฒนาและปรับปรุงคุณภาพให้สูงมากยิ่งขึ้น โดยหลังจากท่ี ทำการค้นหาเรยี บรอ้ ยแลว้ ระบบจะสามารถทำการเลือกผลลพั ธข์ องผ้ใู ช้ และบันทกึ ประวัติการคน้ หา ไว้สำหรบั การกรองผลลัพธ์การค้นหาครงั้ ต่อไป เพอ่ื ช่วยใหผ้ ู้สืบค้นข้อมูล สามารถทำการค้นหาข้อมูล ไดอ้ ย่างมปี ระสิทธภิ าพ ถูกตอ้ งแมน่ ยำ ภาพที่ 2.1 Search Engine ทีม่ า: workboxs.com, Website. 2021. รายช่อื Search Engine Site ท่ีนยิ ม 1) Google (www.google.com) – อนั ดับหน่งึ ของโลก ในเกือบทุกๆ ประเทศ รวมถึงประเทศไทย 2) Bing (www.bing.com) – เป็นเว็บค้นหา ของบรษิ ัท Microsoft คแู่ ข่งกับ Google โดยตรง 3) Yahoo (www.yahoo.com) – ตั้งแต่ ตุลาคม 2554 ที่ผ่านมา Yahoo ถูกซื้อกิจการโดย Bing (จาก Microsoft) 4) Ask.com (www.ask.com) – เว็บแสดงผลการค้นหา โดยเจาะจงที่คำถาม-คำตอบ มากกว่า How-to 5) AOL.com (www.aol.com) – เอโอแอล network ค้นหาขอ้ มลู ภายใต้เว็บไซตท์ มี่ ีสว่ นรว่ ม 6) Baidu (www.baidu.com) – ไป่ตู้ เป็นเว็บ Search Engine ประจำประเทศจีน มีบริการต่างๆ คลา้ ยกบั Google
32 7) Wolframalpha (www.wolframalpha.com) – เว็บไซต์สำหรับค้นหา ข้อเท็จจริง เอกสาร วิชาการตา่ งๆ 8) DuckDuckGo (duckduckgo.com) – ผลการค้นหาคล้าย Google ข้อดีคือ หน้าตาสะอาด ไม่ คอ่ ยมีโฆษณา 9) Internet Archive (archive.org) – เป็นเว็บรวมผลการค้นหา เว็บไซต์เก่า – เว็บไซต์ที่ผิดตัวไป แลว้ ประโยชนข์ อง Search Engine 1. สามารถค้นหาเว็บไซตท์ ี่ต้องการได้สะดวก รวดเร็ว 2. สามารถค้นหาแบบเจาะลึกได้ 3. สามารถคน้ หาเว็บไซตเ์ ฉพาะทางที่มกี ารจำกัดไว้ 4. มีความหลากหลายในการคน้ หาขอ้ มลู 5. รองรบั การค้นหาภาษาไทย ประเภทของ Search Engines Search Engine สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ประเภท โดยมีความแตกต่างกันที่หลักการ ทำงาน และการจัดอนั ดบั ข้อมลู ในการคน้ หา 1) Crawler Based Search Engines คือ เครื่องมือที่ใช้สำหรับการสืบค้นข้อมูลบน เครือข่ายอินเทอร์เน็ต ซึ่ง Search Engines ชนิดนี้เป็นประเภทที่ได้รับความนยิ มในการใช้งานสูงสดุ มหี ลกั การทำงานโดยการบันทกึ และจัดเก็บขอ้ มูลต่างๆ สามารถให้ผลลพั ธ์การค้นหาที่มีความแม่นยำ สูง และมีการประมวลผลที่รวดเร็ว จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ในปัจจุบัน Crawler Based Search Engines มีบทบาทในการสืบคน้ ข้อมูลมากท่ีสดุ 2) Web Directory คอื สารบัญเว็บไซต์สำหรบั การสืบค้นขอ้ มูลข่าวสาร ทมี่ กี ารจัดระเบียบ และแบง่ ข้อมูลต่างๆ ไวเ้ ปน็ หมวดหมู่ ผสู้ ืบคน้ จงึ สามารถใชง้ านได้งา่ ยและมีความสะดวกในการค้นหา โดยในการค้นหาจะมกี ารสร้างดรรชนี และระบุหมวดหมู่ไว้อยา่ งชัดเจน ทำให้ในขณะที่กำลังทำการ คน้ หาขอ้ มลู ต่างๆ ในหมวดหมู่หนึ่ง ที่อาจมเี นอื้ หาคล้ายกันมากมายหลายเวบ็ ไซต์ ผูส้ บื คน้ สามารถนำ ข้อมูลที่ได้จากการประมวลผลมาเปรียบเทียบ และอ้างอิงเพื่อค้นหาข้อเท็จจริงที่มีคุณภาพ และตรง ประเดน็ มากทส่ี ุดได้ 3) Meta Search Engine คือ เครื่องมือที่ใช้สำหรับการสืบค้นข้อมูลบนเครือข่าย อนิ เทอรเ์ น็ต มหี ลักการทำงานโดยการอาศัย Meta Tag สำหรบั ประกาศชุดคำสั่งที่ไดร้ ับมาในรูปแบบ ของ Text Editor โดยใช้ภาษา HTML ในการประมวลผลลัพธ์ ตัวอย่างเช่น คำค้นหา “บริษัท วันบี ลฟี ” หรือคำอธิบายเว็บไซต์ เปน็ ตน้ ซง่ึ Search Engine ชนดิ ดังกล่าวน้ี เป็นชนดิ ท่ีมีความแม่นยำใน การค้นหาค่อนข้างต่ำ เนื่องจากสามารถถูกแก้ไขและออกแบบได้โดยผู้ให้บริการ เพื่อให้บล็อกหรือ เว็บไซตข์ องตนเองสามารถค้นพบได้งา่ ยข้ึน
33 ลกั ษณะการทำงานของ Search Engine Search Engineแต่ละประเภทจะมีการทำงานที่คล้ายๆ กันคือ การส่ง Web Crawler หรือ Spider ไปเก็บข้อมลู เว็บไซต์ต่างๆ เข้ามาเก็บไว้ในระบบ เพอื่ จัดทำเปน็ ดชั นี (Index) กระบวนการทำงานของ Search engines บนเวบ็ ไซตท์ ว่ั ไป สามารถแบง่ ขัน้ ตอนการทำงานออกเป็น 3 ข้ันตอน ดงั น้ี 1) ใช้โปรแกรมรวบรวมเอกสารเว็บ (spider หรือ crawler) ขั้นแรกที่ Search engines ทำการสำรวจและตรวจสอบหน้าเว็บไซต์ต่างๆ จากโดเมน แล้วติดตาม Links ที่พบภายในเว็บไซต์ ทั้งหมด โดยการทำงานของโปรแกรมมีรูปแบบลักษณะโยงใย จึงเรียกโปรแกรมดังกล่าวว่า Spider หรือ Crawler ซ่ึงหลังจากที่ Spider ทำการติดตาม Links และนำข้อมูลของเวบ็ ไซต์เหลา่ นั้นไปเก็บไว้ ในฐานขอ้ มูลของ Search Engine เรียบร้อยแลว้ Spider จะกลับไปทำการสำรวจและตรวจสอบการ เปล่ียนแปลงของข้อมูลในเว็บไซต์เหล่าน้ัน ทุกๆ เดือนหรอื สองเดอื น 2) จัดทำรายการดรรชนี เมื่อโปรแกรม Spider ทำการค้นพบข้อมูลต่างๆ แล้ว จะมีการนำ ข้อมูลเหล่านั้นไปทำสำเนา และสง่ ไปจัดเกบ็ ยงั รายการดรรชนี ทเ่ี รยี กว่า index หรอื catalog ซงึ่ เม่ือ ขอ้ มลู ในเว็บไซต์หลักมกี ารเปลยี่ นแปลง จะส่งผลให้ขอ้ มูลภายในสมดุ ดรรชนเี ปล่ียนแปลงตามไปด้วย ตามบัญชดี ัชนที ่ีถูกกำหนดไว้ 3) โปรแกรมสืบค้น โปรแกรมที่ใช้สำหรับทำการค้นหาข้อมูลต่างๆ จากฐานข้อมูลของ Search Engine โดยมกี ารทำงานเร่ิมตน้ จากการรบั คำคน้ หาท่ถี ูกป้อนเข้ามาในโปรแกรม โดยผู้ใชง้ าน บนเครือข่ายอินเทอร์เน็ต แลว้ นำคำคน้ หาไปจบั ค่กู ับดรรชนีในฐานข้อมูล หลงั จากนนั้ จึงจะทำการดึง เอกสารจากเว็บไซต์นั้นๆ หรือดึงข้อมูลจากฐานออกมาประมวลผลลัพธ์ให้แก่ผู้สืบค้น ซึ่งจะมีการ จดั ลำดับผลการคน้ หาตามระดบั ความเกี่ยวขอ้ งของขอ้ มูล จรยิ ธรรมในการใช้เทคโนโลยีในยุคดจิ ทิ ลั คุณธรรมจริยธรรม เป็นสิ่งที่ทำใหส้ ังคมอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข เอื้อประโยชน์ซึง่ กันและกัน เป็นความรับผิดชอบต่อสังคมของสมาชิกทุกคนในสังคม ที่จะมีไวซ้ ึง่ คุณธรรมและจริยธรรม เพื่อให้ สงั คมอยู่ร่วมกนั ได้ การใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัล หากผู้ใช้ขาดคุณธรรมและจริยธรรมในการใช้งาน จะทำให้เกิด ปัญหาขนึ้ ทง้ั แก่ตนเอง สังคม และประเทศชาติ เช่น เกดิ จารกรรม บดิ เบอื น ข้อมลู สารสนเทศ มีการ นำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิด มกี ารปิดกัน้ ขัดขวางให้ไม่สามารถเข้าถึงขอ้ มูลได้ หรอื ถูกทำลายเสียหายไป เป็นตน้ ดังนัน้ ผใู้ ช้งานเทคโนโลยดี ิจิทัล จึงควรมีคุณธรรมจรยิ ธรรมในการใช้งาน โดยสังเขป ดังน้ี 1. ยึดถือ ปฏิบัตติ ามแนวทาง แนวปฏบิ ัติ ระเบยี บ กฎเกณฑ์ตามท่กี ำหนด 2. ใชส้ อ่ื โซเชียลมเี ดียอย่างมคี วามรบั ผิดชอบต่อสงั คม 3. ไม่ละเมิดลิขสทิ ธิ์ ทรัพยส์ นิ ทางปญั ญา เช่น ใช้ซอฟตแ์ วรท์ ่ไี ม่มีลิขสทิ ธิ์ถูกต้อง 4. ไม่ละเมิดสิทธิของผอู้ นื่ เชน่ ใช้อปุ กรณเ์ ทคโนโลยีของผูอ้ ่นื โดยไม่ได้รับอนญุ าต ตลอดจน การ เข้าถงึ ขอ้ มลู สว่ นบุคคลของผู้อน่ื 5. การใช้เทคโนโลยดี ิจิทัล ต้องไม่รบกวนการทำงานของผู้อนื่
34 6. ตอ้ งคำนงึ ถงึ สิ่งทจ่ี ะเกดิ ขึน้ กับสังคมอนั ตดิ ตามมาจากการกระทำของตน 7. ไมค่ วรใหข้ ้อมลู ที่เป็นเทจ็ หรอื นำขอ้ มลู ทเ่ี ปน็ เท็จเขา้ สู่ระบบอินเทอร์เน็ต 8. ไมบ่ ดิ เบอื นความถูกตอ้ งของข้อมูล ให้ผูร้ ับคนตอ่ ไปไดข้ อ้ มลู ทไ่ี ม่ถูกต้อง 9. ตอ้ งไมโ่ จรกรรมขอ้ มลู ขา่ วสาร ทำรา้ ยหรือละเมิดสทิ ธขิ องผู้อ่ืน 10. ตอ้ งไมส่ อดแนมหรือแก้ไขเปดิ ดูในแฟ้มของผอู้ ื่น 11. ไมค่ วรเปดิ เผยขอ้ มูลกับผ้ทู ่ไี มไ่ ดร้ บั อนญุ าต 12. ตอ้ งไม่คัดลอกโปรแกรมผู้อ่ืนท่ีมลี ิขสิทธ์ิ 13. ต้องไมน่ ำเอาผลงานของผ้อู ื่นมาเป็นของตน 14. ไม่ทำใหอ้ ีกฝา่ ยหนึ่งเขา้ ใจวา่ ตวั เองเปน็ อกี บุคคลหนง่ึ ตวั อย่างเช่น การปลอมอเี มล การปลอม แปลงบตั รเครดติ เปน็ ต้น 15. ไม่ควรแชร์สิ่งที่เป็นเท็จ หรือสิ่งที่ยังไมไ่ ดต้ รวจสอบให้แน่ใจเสียก่อน หรือสิ่งที่อาจจะส่งผล เสยี ตอ่ บุคคลอน่ื กฎหมายในยคุ ดจิ ิทัล กฎหมายดิจทิ ลั ในประเทศไทย สำหรบั ประเทศไทย มที ้ังกฎหมายเดมิ ทีร่ ะบุเก่ียวกบั สื่อแต่ละ ประเภท เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อวิทยุและโทรทัศน์ โดยกฎหมายที่เกีย่ วข้องกับอินเทอรเ์ น็ตโดยตรง คือ พระราชบัญญัตวิ า่ ด้วยการกระทำความผิดเกย่ี วกบั คอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 หรอื พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กับ พ.ร.บ. ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ และกฎหมายอื่น ๆ ที่ไม่ได้ควบคุมเฉพาะสื่อ เช่น ประมวล กฎหมายอาญา ว่าด้วยความผิดฐานหมิ่นประมาท หรือมาตรา 112 ว่าด้วยความผิดต่อองค์ พระมหากษตั ริย์ไทย หรอื มาตราท่วี ่าด้วยสื่อลามกอนาจารเดก็ กฎหมายทรพั ยส์ นิ ทางปญั ญา พ.ร.บ. คมุ้ ครองผู้บรโิ ภค พ.ร.บ.สอบสวนคดพี เิ ศษ เป็นต้น เมื่อเดือนธันวาคม 2557 กระทรวงเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ได้แต่งตัง้ คณะทำงานทดสอบระบบเฝา้ ติดตามส่ือออนไลน์ และตอ่ มาได้มีคำส่งั ให้ทดสอบเคร่อื งมือและวิธีการ พิเศษที่ใช้ถอดรหัสข้อมูลที่ถูกเข้ารหัส นอกจากนี้ ข้อมูลจากวิกิลีกส์ ยังเปิดเผยว่าสภาความมั่นคง แหง่ ชาติของไทยเป็นลกู คา้ ของ Hacking Team อีกด้วย การกำหนดความรับผดิ ของตวั กลาง เชน่ ผูใ้ หบ้ ริการอนิ เทอร์เน็ต นับเปน็ อีกจุดหน่ึงท่ีอาจทำ ให้มีการปดิ ก้นั ในระดับท่ีใหญข่ น้ึ ในการกลน่ั กรองหรอื ปิดกนั้ ขอ้ มูล เคยมขี า่ วว่ารัฐบาลไทยมีแนวคิด จะใช้ Single Gateway ควบคุมการเข้าออกของข้อมูลข่าวสารออนไลน์ แม้ไม่ได้นำมาใช้จริง แต่มี แนวโน้มของการปดิ ก้ันที่ขยายจากเว็บเพจทีม่ ีเน้ือหานั้นเป็นการเฉพาะไปยังระดับเครือข่ายน้นั มอี ยู่ เพราะขอ้ มลู ข่าวสารทกุ วันนี้แพรก่ ระจายอย่างรวดเร็วในทกุ ทิศทุกทางโดยมีผู้ทำหน้าที่ส่งสารได้มาก ๆ ในเวลาเดียวกนั (กชกร เสรรรี ักษ์, ม.ป.ป.) 1. พระราชบัญญตั ลิ ิขสิทธ์ิ พระราชบญั ญตั ิลขิ สิทธ์ิ พ.ศ. 2537 ไดใ้ ห้ความหมายของคำวา่ “ลิขสทิ ธิ์” วา่ หมายถึง สิทธิ แต่เพียงผู้เดียวที่จะทำการใดๆตามพระราชบัญญัติน้ี” เกี่ยวกับงานที่ผู้สร้างสรรค์ได้ทำขึ้น นั่นก็
35 หมายความ ว่า เจ้าของลิขสทิ ธิเ์ พียงผู้เดียวเท่านั้นที่มีสิทธิจะทำอย่างไรก็ได้ กับงานอันมีลขิ สิทธ์ขิ อง ตนเอง กฎหมายลิขสิทธิ์มีวัตถุประสงค์ให้ความคุ้มครองป้องกันผลประโยชน์ทั้งทางเศรษฐกิจและ ทางศีลธรรม ซึ่งบุคคลพึงได้รับจากผลงานสร้างสรรค์อันเกิดจากความนึกคิดและสติปัญญาของตน นอกจากนี้ยังมุ่งที่จะสนับสนนุ ส่งเสรมิ ให้เกิดการสร้างสรรค์ผลงาน กล่าวคือ เมื่อผู้สร้างสรรค์ได้รบั ผลตอบแทนจากหยาดเหง่ือแรงกายและสติปัญญาของตน ไดร้ ับผลประโยชน์ตอบแทนจากการลงทุน ก็ย่อมจะเกิดกำลังใจที่จะคิดค้นสรา้ งสรรค์และเผยแพร่ผลงานให้แพร่หลายออกไปมากยิง่ ข้ึน อันจะ เป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาประเทศชาติ ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และเทคโนโลยี การกระตุ้นให้เกิด การพัฒนาสติปัญญาของคนในชาติ เป็นปัจจัยสำคัญที่สุดที่จะนำไปสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนต่อไปใน อนาคต ประเทศไทยได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 เพื่อใช้บังคับแทน พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 โดยมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2538 พระราชบัญญัติ ลิขสิทธิ์ ให้ความคุ้มครองต่อโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยจัดเป็นผลงานทางวรรณกรรมประเภทหนง่ึ และงานทีไ่ ด้จัดทำขึน้ ก่อนวันท่ีพระราชบัญญัตินีใ้ ช้บังคับ และเป็นงานที่ได้รบั ความคุม้ ครองลิขสิทธ์ิ ตามพระราชบญั ญัตนิ ้ี จะได้รบั ความคุ้มครองลิขสิทธิ์ตามพระราชบัญญัตนิ ี้ แม้ว่าประเทศไทยจะมีกฎหมายคุ้มครองลิขสิทธิ์มาเป็นระยะเวลานานแล้ว แต่ความเข้าใจ ของประชาชนโดยท่ัวไปในเรื่องลิขสิทธิ์ยังไม่ชดั เจน ความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการคุ้มครอง ลิขสิทธ์ิ และทศั นคติทีถ่ ูกต้องเกยี่ วกับการคุ้มครองทรัพย์สินทางปญั ญาเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะนำไปสู่ การคมุ้ ครองทรัพย์สินทางปัญญา ท่ยี งั่ ยืนกว่าการปราบปรามการละเมิดลิขสิทธซิ์ ง่ึ เป็นการแก้ปัญหาที่ ปลายเหตุ ลิขสิทธิ์ เป็นทรัพย์สินทางปัญญาอย่างหนึ่ง ที่กฎหมายให้ความคุ้มครอง โดยให้เจ้าของ ลขิ สทิ ธิ์ถอื สิทธิแตเ่ พียงผู้เดียว ท่จี ะกระทำการใด ๆ เกีย่ วกับงานสร้างสรรคท์ ต่ี นไดก้ ระทำขึ้น งานอันมีลิขสิทธ์ิ คือ งานสร้างสรรค์ทจ่ี ะได้รับความคุ้มครองตามพระราชบัญญัติลิขสิทธ์ิต้อง เป็นงานในสาขา วรรณกรรม นาฎกรรม ศิลปกรรม ดนตรีกรรม โสตทัศนวัสดุ ภาพยนตร์ สิ่ง บันทกึ เสียง งานแพรเ่ สียงแพรภ่ าพ รวมถงึ งานอ่นื ๆ ในแผนกวรรณคดี วทิ ยาศาสตร์ หรอื แผนกศิลปะ งานเหล่านีถ้ ือเป็นผลงาน ที่เกิดจากการใช้สตปิ ัญญา ความรู้ความสามารถ และความวิริยะอุตสาหะ ในการสร้างสรรคง์ านให้เกิดขึ้น ซง่ึ ถือเปน็ ทรัพย์สินทางปญั ญาประเภทหนึ่งท่ีมคี ุณคา่ ทางเศรษฐกจิ การได้มาซึ่งลิขสิทธ์ิ สิทธิในลิขสิทธิ์เกิดขึ้นทันที นับแต่ผู้สร้างสรรค์ได้สร้างสรรค์ผลงาน ออกมาโดยไมต่ ้องจดทะเบียน หรอื ผา่ นพิธกี ารใด ๆ การค้มุ ครองลขิ สทิ ธิ์ ผเู้ ปน็ เจ้าของลขิ สิทธิ์ มีสิทธแิ ต่เพยี งผู้เดียว ในการใช้ประโยชน์จากผลงานสร้างสรรค์ของตน ในการทำซ้ำ ดัดแปลง หรือเผยแพร่ต่อสาธารณชน รวมทั้งสิทธิในการให้เช่า โดยทั่วไปอายุการ คุ้มครองสิทธิจะมผี ลเกิดขึ้นทันทีที่มีการสร้างสรรค์ผลงาน โดยความคุ้มครองนีจ้ ะมีตลอดอายขุ องผู้ สร้างสรรค์ และคุ้มครองต่อไปอีก 50 ปีนับแต่ผู้สร้างสรรค์เสียชีวิต ประโยชน์ต่อผู้บริโภค คือ การ คุ้มครองและพิทักษ์สิทธิในผลงานลขิ สิทธิ์ มผี ลให้เกิดแรงจูงใจแก่ผู้สร้างสรรค์ ผลงานที่จะสร้างสรรค์
36 ผลงานท่มี ีประโยชน์ มคี ุณคา่ ทางวรรณกรรมและศลิ ปกรรมออกสู่ตลาด ส่งผลให้ผบู้ ริโภคไดร้ ับความรู้ ความบนั เทิง และไดใ้ ชผ้ ลงานท่มี ีคณุ ภาพ การละเมดิ ลิขสิทธ์ิ 1. การละเมิดลิขสิทธิ์โดยตรง : คือ การทำซ้ำ ดัดแปลง เผยแพร่โปรแกรมคอมพิวเตอร์แก่ สาธารณชน รวมทง้ั การนำตน้ ฉบบั หรอื สำเนางานดังกล่าวออกให้เช่า โดยไมไ่ ด้รบั อนุญาตจากเจ้าของ ลขิ สิทธิ์ 2. การละเมดิ ลิขสิทธ์ิโดยอ้อม : คอื การกระทำทางการค้า หรือการกระทำที่มีส่วนสนับสนุน ให้เกิดการละเมิดลิขสิทธิ์ดังกล่าวข้างต้นโดยผู้กระทำรูอ้ ยู่แล้ว ว่างานใดได้ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์ ของผู้อื่น แต่ก็ยังกระทำเพื่อหากำไรจากงานนั้น ได้แก่ การขาย มีไว้เพือ่ ขาย ให้เช่า เสนอให้เช่า ให้ เช่าซื้อ เสนอให้เช่าซื้อ เผยแพร่ต่อสาธารณชน แจกจ่ายในลักษณะที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อ เจ้าของลขิ สทิ ธแิ์ ละนำหรือสั่งเขา้ มาในราชอาณาจกั ร บทกำหนดโทษ 1. การละเมิดลิขสิทธิ์โดยตรง : มีโทษปรับตั้งแต่ 20,000 บาท ถึง 200,000 บาท หากเป็น การกระทำเพ่อื การคา้ มีโทษจำคุกตัง้ แต่ 6 เดอื น ถงึ 4 ปี หรอื ปรบั ตัง้ แต่ 100,000 บาท ถึง 800,000 บาท หรือท้ังจำทง้ั ปรับ 2. การละเมิดลิขสิทธิ์โดยอ้อม : มีโทษปรับตั้งแต่ 10,000 บาท ถึง 100,000 บาท หากเป็น การกระทำเพื่อการค้า มีโทษจำคกุ ตั้งแต่ 3 เดอื น ถงึ 2 ปี หรอื ปรบั ตง้ั แต่ 50,000 บาท ถึง 400,000 บาท หรือท้งั จำทัง้ ปรบั 2.1 ผู้ใดกระทำความผิดต้องระวางโทษตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ฉบับนี้ เมื่อพ้น โทษแล้วยงั ไม่ครบกำหนดหา้ ปกี ระทำความผดิ ตอ่ พระราชบัญญตั ินี้อีก จะตอ้ งระวางโทษเป็นสองเท่า ของโทษท่กี ำหนดไว้สำหรบั ความผิดน้ัน 2.2 กรณีที่นิติบุคคลกระทำความผิดตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ถือว่ากรรมการหรือ ผูจ้ ดั การทกุ คนของนติ ิบุคคลนัน้ เปน็ ผรู้ ่วมกระทำความผิดกบั นิตบิ ุคคลน้นั เว้นแต่จะพิสูจน์ได้ว่ามิได้รู้ เห็นหรือยินยอมดว้ ย 2.3 ค่าปรับที่ได้มีการชำระตามคำพิพากษานั้น ครึ่งหนึ่งจะตกเป็นของเจ้าของ ลิขสิทธิ์อย่าวไรก็ดีการได้รับค่าปรับดังกล่าวไม่กระทบต่อสิทธิของเจ้าของลิขสิทธิ์ ที่จะฟ้องเรียก ค่าเสยี หายในทางแพ่งสำหรบั สว่ นทเี่ กินจำนวนเงินค่าปรบั ท่เี จ้าของลิขสทิ ธิไ์ ด้รับไว้แลว้ นน้ั 2. พระราชบญั ญตั ิคอมพิวเตอร์ พระราชบญั ญตั วิ ่าด้วยการกระทำความผิดเกย่ี วกบั คอมพวิ เตอร์ พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มี 2 ฉบับ คือ พระราชบัญญตั ิว่าด้วยการกระทำความผิดเกีย่ วกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 และ พระราชบญั ญัติว่า ด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2560 (สำนักงานพฒั นาธุรกรรมทาง อเิ ลก็ ทรอนิกส์ (สพธอ.), เวบ็ ไซต์, ม.ป.ป.). ประเดน็ ที่ควรรู้เกี่ยวกับ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
37 1. เขา้ ถึงระบบ หรือขอ้ มูลของผู้อื่นโดยไม่ชอบ เชน่ การปล่อยไวรสั มัลแวรเ์ ข้าคอมพิวเตอร์ คนอืน่ เพอ่ื เจาะข้อมลู บางอย่าง บทลงโทษ • เขา้ ถึงระบบคอมพวิ เตอร์: จำคุกไมเ่ กิน 6 เดือน ปรบั ไม่เกิน 1 หม่นื บาท หรือท้ังจำ ทัง้ ปรับ • เข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์: จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทงั้ ปรับ • ล่วงรู้มาตรการป้องกนั การเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์และนำไปเปิดเผย: จำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรบั ไมเ่ กิน 2 หมืน่ บาท หรือท้ังจำทั้งปรับ • ดักรับข้อมูลคอมพิวเตอร์: จำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 4 หมื่นบาท หรือทั้งจำทงั้ ปรบั 2. แก้ไข ดัดแปลง หรอื ทำให้ขอ้ มลู ผูอ้ นื่ เสยี หาย รวมหมายถงึ การทำใหข้ อ้ มูลเสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง เพิ่มเติมข้อมูลของผู้อื่นโดยมิชอบ หรือจะเป็นในกรณีที่ทำให้ระบบคอมพิวเตอร์ ของผู้อื่นไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ อย่างเช่น กรณีของกลุ่มคนที่ไม่ชอบใจกับการกระทำของอีก ฝ่าย แล้วต่อต้านด้วยการเขา้ ไปขัดขวาง ทำร้ายระบบเว็บไซต์ของฝ่ายตรงข้าม ให้บุคคลอื่นๆ ใช้งาน ไม่ได้ บทลงโทษ ตอ้ งระวางโทษจำคุกไมเ่ กิน 5 ปี ปรบั ไม่เกนิ 1 แสนบาท หรือท้ังจำทั้งปรับ 3. สง่ ขอ้ มลู หรืออีเมลกอ่ กวนผ้อู ืน่ หรอื สง่ อีเมลสแปม เชน่ พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์ หรอื นกั การ ตลาดที่ส่งอีเมลขายของที่ลูกคา้ ไม่ยินดีทีจ่ ะรบั หรือที่รู้จกั กันว่า อีเมลสแปม หรือแม้แตก่ ารฝากร้าน ตาม Facebook กับ IG ก็เป็นสิ่งที่ไม่ควรทำ และยังรวมถึงคนที่ขโมย Database ลูกค้าจากคนอื่น แลว้ ส่งอีเมลขายของตัวเอง บทลงโทษ ถ้าส่งโดยปกปิดหรือปลอมแปลงแหล่งที่มา ปรับไม่เกิน 1 แสนบาท และถ้าส่งโดยไม่เปิด โอกาสให้ปฏิเสธตอบรบั ได้โดยงาน ตอ้ งได้รับโทษจำคุกไมเ่ กนิ 2 ปี ปรบั ไมเ่ กนิ 4 หมืน่ บาท หรอื ทงั้ จำ ทัง้ ปรับ 4. เขา้ ถึงระบบ หรอื ข้อมลู ทางด้านความมั่นคงโดยมิชอบ เช่น โพสตเ์ กีย่ วกับเร่อื งการเมืองท่ี ส่งผลให้เกิดความเสียหายหรือความมั่นคงต่อประเทศ หรือโพสต์ที่เป็นการก่อกวน หรือการก่อการ ร้ายขึ้น ก็มีความผดิ คะ่ เพราะมาตรา 12 ไดบ้ อกไวว้ ่าการเข้าถึงระบบหรือข้อมูลทางด้านความมั่งคง โดยมิชอบ หรือการโพสต์ข้อความในโลกออนไลน์ที่เข่าข่ายข้อมูลเท็จที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อ ความมั่นคงของประเทศ ความปลอดภัยสาธารณะ หรือทำให้ประชาชนเกิดอาการต่ืนตระหนก และ ลว่ งรู้ถงึ มาตรการการป้องกันการเข้าถึงระบบคอมพิวเตอรแ์ ละนำไปเปดิ เผย
38 บทลงโทษ • กรณไี ม่เกดิ ความเสียหาย: จำคุก 1-7 ปี และปรับ 2 หมื่น – 1.4 แสนบาท • กรณเี กดิ ความเสยี หาย: จำคุก 1-10 ปี และปรบั 2 หม่นื – 2 แสนบาท • กรณเี ปน็ เหตุใหผ้ ้อู ่นื ถึงแกค่ วามตาย: จำคุก 5-20 ปี และปรบั 1 แสน – 4 แสนบาท 5. จำหนา่ ยหรือเผยแพร่ชุดคำสัง่ เพอ่ื นำไปใชก้ ระทำความผิด บทลงโทษ • กรณีทำเพื่อเป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ตาม ข้อ 1-3 ใน บทความนี้ ต้องจำคุกไมเ่ กนิ 1 ปี ปรบั ไมเ่ กนิ 2 หม่ืนบาท หรือทัง้ จำท้ังปรับ หากมี ผู้นำไปใช้กระทำความผดิ ผจู้ ำหนา่ ยหรือผ้เู ผยแพร่ต้องรบั ผดิ ชอบร่วมด้วย • กรณีทำเพื่อเป็นเครื่องมือในการกระทำความผิดทางคอมพิวเตอร์ มาตรา 12 ต้อง จำคกุ ไม่เกิน 2 ปี ปรับไมเ่ กนิ 4 หมื่นบาท หรือท้ังจำทั้งปรบั หากมีผู้นำไปใช้กระทำ ความผดิ ผู้จำหนา่ ยหรือผ้เู ผยแพรต่ อ้ งรบั ผิดชอบร่วมด้วย 6. นำขอ้ มลู ที่ผิดพ.ร.บ.เข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ (มาตรา 14) • โพสต์ข้อมูลปลอม ทุจริต หลอกลวง (อย่างเช่น ข่าวปลอม โฆษณาธุรกิจลูกโซ่ท่ี หลอกลวงเอาเงนิ ลกู ค้า และไมม่ ีการส่งมอบของใหจ้ ริงๆ เปน็ ต้น) • โพสตข์ อ้ มูลความผดิ เก่ียวกับความมงั่ คงปลอดภยั • โพสต์ข้อมูลความผิดเกีย่ วกับความม่ันคง ก่อการรา้ ย • โพสตข์ ้อมูลลามก ท่ปี ระชาชนเข้าถงึ ได้ • เผยแพร่ สง่ ตอ่ ขอ้ มูล ทร่ี ้แู ลว้ วา่ ผดิ บทลงโทษ หากเปน็ การกระทำที่ส่งผลถึงประชาชน ต้องได้รบั โทษจำคกุ ไม่เกิน 5 ปี ปรบั ไมเ่ กิน 1 แสน บาท หรือทง้ั จำทง้ั ปรับ และหากเปน็ กรณที เี่ ป็นการกระทำทีส่ ่งผลต่อบคุ ลใดบุคคลหนง่ึ ต้องไดร้ บั โทษ จำคกุ ไมเ่ กนิ 3 ปี ปรบั ไม่เกิน 6 แสนบาท หรอื ทั้งจำท้ังปรับ 7. ให้ความรว่ มมอื ยนิ ยอม รูเ้ หน็ เปน็ ใจกับผู้ร่วมกระทำความผิด ตัวอยา่ ง เชน่ เพจต่างๆ ที่ เปดิ ใหม้ กี ารแสดงความคิดเห็น แล้วมีความคดิ เหน็ ท่ีมีเนื้อหาผิดกฎหมายผู้ดูแลเว็บก็มีความผิด แต่ถ้า หาก มกี ารตรวจสอบแล้วพบเจอ และลบออก จะถอื ว่าเปน็ ผทู้ ี่พน้ ความผดิ บทลงโทษ แต่ถา้ ไม่ยอมลบออกต้องได้รบั โทษ ถอื ว่าเปน็ ผ้กู ระทำความผิดตามมาตร 14 ผ้ดู แู ลเว็บ ต้อง ไดร้ บั โทษเช่นเดยี วกนั ผโู้ พสต์ หรอื แสดงความคดิ เห็นทางออนไลน์ แตถ่ ้าพิสูจน์ไดว้ ่า ตนไดป้ ฏิบัติตาม ข้นั ตอนการแจง้ เตอื นแล้ว ไมต่ อ้ งรับโทษ
39 8. ตดั ตอ่ เติม หรอื ดัดแปลงภาพ ความผดิ ข้อน้ี แบ่งออกเป็น 2 ประเด็นหลกั คอื • การโพสต์ภาพของผู้อื่นทีเ่ กิดจากการสร้าง ตัดต่อ หรือดัดแปลง ที่น่าจะทำให้ผู้อื่น นั้นเสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง อย่างเช่นกรณีที่เอาภาพดาราไปตัดต่อ และ ตกแตง่ เรอื่ งขน้ึ มา จนทำใหบ้ ุคคลนน้ั เกดิ ความเสยี หาย ก็ถือวา่ มคี วามผดิ ตามพ.ร.บ. คอมพวิ เตอร์ • การโพสต์ภาพผ้เู สียชวี ิต หากเป็นการโพสตท์ ่ีทำใหบ้ ิดามารดา ค่สู มรส หรอื บุตรของ ผตู้ ายเสียชอ่ื เสยี ง ถกู ดหู ม่นิ เกลยี ดชงั หรอื ได้รับความอับอาย บทลงโทษ หากทำผิดตามน้ี ตอ้ งไดร้ ับโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี และปรบั ไมเ่ กิน 2 แสนบาท (นชุ , 2563) สรปุ ระบบสารสนเทศประกอบดว้ ยกระบวนการทำงานหลกั ๆ คือ เป็นการนำขอ้ มูลดบิ (Data) ท่ี ได้จากการเก็บรวบรวมเข้าสู่ระบบ เพื่อนำไปประมวลผลให้เป็นสารสนเทศ แล้วนำผลลัพธ์ที่ได้จาก การประมวลผลมาแสดงในรูปแบบที่ผู้ใช้ต้องการ และการนำข้อมูลดิบเข้าสู่ระบบจะมีการจัดเก็บ จนถึงระยะยาวระยะหนึ่งแล้วจึงนำไปประมวลผลหรือจัดเก็บข้อมูลที่ประมวลผลแล้วในถังข้อมูล องค์ประกอบที่สำคัญของระบบสารสนเทศประกอบดว้ ย 5 ส่วน ซึ่งทำให้เกิดสารสนเทศได้ หากขาดส่วนประกอบใด หรอื สว่ นประกอบใดไม่สมบูรณ์ก็อาจทำใหร้ ะบบสารสนเทศไม่สมบรู ณ์ เช่น ใชเ้ คร่ืองคอมพิวเตอร์ไม่เหมาะสมกบั งาน ก็จะทำใหง้ านล่าช้า ไมท่ นั ตอ่ การใช้งาน เสริ ช์ เอนจิน (Search Engines) เป็นโปรแกรมคน้ หาท่ถี กู ออกแบบมาเป็นเครอื่ งมือใช้งานใน การสืบค้นข้อมูลต่างๆ โดยโปรแกรมส่วนมากที่ใช้สำหรับการค้นหาข้อมูลบนเว็บไซต์ Search engines จะมีวิธีการค้นหาโดยการกรอกข้อมูลหรือคำที่ต้องการสืบค้นลงไป แล้วเว็บไซต์จะทำการ ประมวลผลลัพธต์ ่างๆ ออกมาให้ผู้สืบค้นขอ้ มูลทราบ ซึ่งคำค้นหาที่ใช้จะเรียกวา่ เป็น Keyword (คีย์ เวิร์ด) ของการสืบค้นข้อมูล ในปัจจุบันเทคโนโลยีของ Search Engine ได้มีการพัฒนาและปรับปรุง คุณภาพให้สูงมากยิ่งขึ้น โดยหลังจากที่ทำการค้นหาเรียบร้อยแล้ว ระบบจะสามารถทำการเลือก ผลลพั ธข์ องผู้ใช้ และบันทึกประวัติการคน้ หาไว้สำหรับการกรองผลลพั ธ์การคน้ หาคร้ังต่อไป เพ่ือช่วย ให้ผูส้ บื ค้นขอ้ มลู สามารถทำการคน้ หาขอ้ มูลได้อย่างมีประสิทธภิ าพ ถูกตอ้ งแม่นยำ คุณธรรมจริยธรรม เป็นสิ่งที่ทำใหส้ ังคมอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข เอื้อประโยชน์ซึง่ กันและกัน เป็นความรับผิดชอบต่อสังคมของสมาชิกทุกคนในสังคม ท่ีจะมีไว้ซึ่ง คุณธรรมและจริยธรรม เพื่อให้ สังคมอยรู่ ่วมกนั ได้ การใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัล หากผู้ใช้ขาดคุณธรรมและจรยิ ธรรมในการใช้งาน จะ ทำให้เกิดปัญหาขึ้น ทั้งแก่ตนเอง สังคม และประเทศชาติ เช่น เกิดจารกรรม บิดเบือน ข้อมูล สารสนเทศ มีการนำข้อมลู ไปใช้ในทางท่ีผดิ มกี ารปดิ กน้ั ขัดขวางใหไ้ ม่สามารถเขา้ ถึงขอ้ มลู ได้ หรือถูก ทำลายเสยี หายไป
40 กฎหมายดจิ ิทัลในประเทศไทย สำหรบั ประเทศไทย มที ั้งกฎหมายเดิมทรี่ ะบุเก่ียวกับสื่อแต่ละ ประเภท เช่น สื่อสิ่งพิมพ์ สื่อวิทยุและโทรทัศน์ โดยกฎหมายที่เกีย่ วขอ้ งกับอินเทอรเ์ นต็ โดยตรง คือ พระราชบัญญัติวา่ ด้วยการกระทำความผดิ เกย่ี วกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 หรือ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ กบั พ.ร.บ. ธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ และกฎหมายอ่นื ๆ ทีไ่ ม่ไดค้ วบคุมเฉพาะส่อื ประเทศไทยได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 เพื่อใช้บังคับแทน พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2521 โดยมีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2538 พระราชบัญญัติ ลิขสิทธิ์ ให้ความคุ้มครองต่อโปรแกรมคอมพิวเตอร์ โดยจัดเป็นผลงานทางวรรณกรรมประเภทหนง่ึ และงานที่ได้จัดทำขึน้ ก่อนวนั ที่พระราชบัญญตั ินีใ้ ช้บังคับ และเป็นงานที่ได้รับความคุ้มครองลิขสิทธิ์ ตามพระราชบญั ญัตนิ ี้ จะไดร้ บั ความคุ้มครองลขิ สทิ ธ์ติ ามพระราชบัญญัตินี้ แม้ว่าประเทศไทยจะมีกฎหมายคุ้มครองลิขสิทธิ์มาเป็นระยะเวลานานแล้ว แต่ความเข้าใจ ของประชาชนโดยท่ัวไปในเรื่องลิขสิทธิ์ยังไม่ชดั เจน ความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการคุม้ ครอง ลิขสทิ ธ์ิ และทัศนคติทถ่ี ูกต้องเกี่ยวกับการคุ้มครองทรัพย์สนิ ทางปัญญาเปน็ ปัจจัยสำคัญ ท่ีจะนำไปสู่ การคมุ้ ครองทรพั ยส์ ินทางปญั ญา ท่ยี ั่งยนื กว่าการปราบปรามการละเมดิ ลิขสิทธิซ์ ่งึ เปน็ การแก้ปัญหาท่ี ปลายเหตุ คำถามท้ายบท 1. จงใหน้ ิยามความหมายของระบบสารสนเทศ 2. จงอธบิ ายเก่ียวกับกระบวนการทำงานของระบบสารสนเทศ 3. องคป์ ระกอบของระบบสารสนเทศประกอบดว้ ยอะไรบ้าง 4. อธิบายความแตกต่างของขอ้ มูลและสารสนเทศ 5. แฟม้ ข้อมูลชวั่ คราวที่รวบรวมการเปลย่ี นแปลงของขอ้ มลู หลักหรอื ทำหนา้ ทร่ี ายงานการ เปลย่ี นแปลงของแฟม้ ขอ้ มูลหลักคือแฟ้มประเภทใด 6. ผใู้ ช้งานเทคโนโลยีในยุคดิจิทัลควรมคี ุณธรรมจรยิ ธรรมในการใช้งานอยา่ งไรบา้ ง 7. ทกั ษะความสามารถสำหรบั การรู้ดจิ ิทัลทสี่ ำคัญมอี ะไรบ้าง 8. ประโยชนจ์ ากการมีทกั ษะความเข้าใจและใช้เทคโนโลยีดจิ ทิ ัล 9. หากผูใ้ ช้ขาดคณุ ธรรมและจรยิ ธรรมในการใช้งาน จะทำใหเ้ กิดปัญหาแก่ตนเอง สังคม และ ประเทศชาติ อยา่ งไร 10.กฎหมายดจิ ิทัลไดแ้ กอ่ ะไรบ้าง
41 เอกสารอา้ งองิ กชกร เสรรรี กั ษ์. (ม.ป.ป.). กฎหมายดิจิทลั ในประเทศไทย. สบื คน้ เมือ่ 2564, มถิ ุนายน 10 เข้าถึงได้ จาก: https://sites.google.com/dei.ac.th/digital-literacy นุช. (2563). สรปุ พ.ร.บ.คอมพวิ เตอร:์ กรณศี ึกษาและเนื้อหา 13 เรื่องที่ชาวเน็ตตอ้ งรู้. สืบค้นเม่ือ 2564, มถิ นุ ายน 10 เข้าถงึ ไดจ้ าก: https://contentshifu.com/blog/computer-law/ พนดิ า พานชิ กุล. (2005). เทคโนโลยีสารสนเทศ (Information Technology). สำนกั พิมพ์: เคทพี ี วรลกั ษณ์ สงวนแกว้ . (2558). พลเมืองดจิ ิทัล. สืบค้นเม่อื 2564, กรกฎาคม 10 เข้าถึงไดจ้ าก: https://www.stou.ac.th/study/sumrit/1-59(500)/page2-1-59(500).html วศนิ เพมิ่ ทรพั ย์. (2562). ความรู้เบอื้ งต้นเกย่ี วกับคอมพวิ เตอร์และเทคโนโลยีสารสนเทศ. สำนักพิมพ์: โปรวชิ ัน่ และดีพลสั ไกด์ ศนู ย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สาร, เว็บไซต์. (ม.ป.ป.). การรู้ดจิ ิทัล. สืบคน้ เมือ่ 2564, มถิ นุ ายน 10 เข้าถึงไดจ้ าก: https://www.ops.go.th/main/index.php/knowledge- base/article-pr/854-zxfdgsdgs ศนู ย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สาร, เว็บไซต.์ (ม.ป.ป.). ทักษะดจิ ทิ ัล กา้ วสู่ พลเมืองในศตวรรษ ที่ 21. สืบคน้ เมอ่ื 2564, มิถุนายน 1 เข้าถงึ ไดจ้ าก: https://www.ops.go.th/main/index.php/knowledge-base/article-pr/1355-goto- citizens21st สำนักงานคณะกรรมการขา้ ราชการพลเรือน (สำนักงาน ก.พ.), เวบ็ ไซต.์ (ม.ป.ป.). ทักษะความเข้าใจ และใช้เทคโนโลยีดิจิทัล. สืบคน้ เม่อื 2564, มิถนุ ายน 1 เขา้ ถึงไดจ้ าก: https://www.ocsc.go.th/DLProject/mean-dlp สำนักงานพฒั นาธรุ กรรมทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (สพธอ.), เวบ็ ไซต์. (ม.ป.ป.). รู้จัก พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ ฉบับท่ี 2 พ.ศ. 2560. สบื คน้ เมื่อ 2564, มิถนุ ายน 10 เขา้ ถึงได้จาก: https://ictlawcenter.etda.or.th/news/detail/computer-2559 โอภาส เอี่ยมศริ ิวงศ์. (2557). วิทยาการคอมพิวเตอร์และเทคโนโลยสี ารสนเทศ (ฉบับปรับปรุง เพมิ่ เติม). สำนักพิมพ:์ ซเี อด็ ยเู คชน่ั . Freepik.com, Website. (n.d.). digital. Cited 2021 June 18. Available from: https://www.freepik.com/ Jayesh Shinde, Website. (2019). How India Helps Build The World’s Most Powerful Mainframe Computer Which All Of Us Use. Cited 2021 June 18. Available from: https://www.indiatimes.com/technology/news/how-india-helps-in- building-the-world-s-most-powerful-mainframe-computer-which-all-of-us-use- 378916.html thaipng.com. Website. (2021). Computer Hardware. Cited 2021 June 18. Available from: https://www.thaipng.com/png-k6w0l5/download.html
42 theevolutionofcomputers.wordpress. Website. (n.d.). Fourth Generation Computers. Cited 2021 June 18. Available from: https://theevolutionofcomputers.wordpress.com/fourth-generation- computers/ Wikipedia, Website. (2021). IBM Personal Computer. Cited 2021 July 30. Available from: https://en.wikipedia.org/wiki/IBM_Personal_Computer Workboxs. Website. (2021). Search Engine. Cited 2021 July 22. Available from: http://www.workboxs.com/thai/online-marketing/search-engine.html
43 แผนการสอนประจำสปั ดาห์ที่ 3 หวั ข้อเรอื่ ง การประยกุ ตใ์ ช้ Microsoft Word ในธุรกิจการบรกิ ารอาหาร รายละเอียด เนื้อหาประจำสัปดาห์ที่ 3 เน้นให้ผู้เรียนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับส่วนประกอบของ Microsoft Word การใช้ Microsoft Word เบื้องตน้ การจดั การเอกสาร และการนำไปประยุกตใ์ ช้ใน ธุรกิจการบริการอาหาร จำนวนชว่ั โมงทีส่ อน 4 ชัว่ โมง วตั ถปุ ระสงคเ์ ชิงพฤตกิ รรม 1. เพือ่ ใหผ้ ้เู รยี นมีความรคู้ วามเข้าใจความรู้เบือ้ งตน้ เกย่ี วกับการใช้ Microsoft Word เบ้ืองต้น 2. เพือ่ ใหผ้ ้เู รยี นมีความรู้และสามารถประยกุ ตใ์ ช้ Microsoft Word ในการทำงานได้ 3. เพื่อใหผ้ เู้ รียนมคี วามรู้และสามารถจัดการงานเอกสารได้ กจิ กรรมการเรียนการสอน 1. ใช้วิธีสอนแบบแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน โดยอาศัยทักษะและเทคนิคการสอนที่ให้ผู้เรียน ศกึ ษาประเด็นศกึ ษาต่าง ๆ ตามใบงานและให้เชอื่ มตอ่ ความคิดและเน้ือหาสาระด้วยเทคนิค การเชอื่ มความรจู้ ากการปฏบิ ัติงาน 2. ใช้วิธีสอนแบบซปิ ปา ท่ีเนน้ ใหผ้ เู้ รียนได้มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนการสอนท่ีเน้นผู้เรียน เป็นสำคัญโดยให้ผู้เรียนแบ่งกลุ่มศึกษาตามใบความรู้ประเด็นต่าง ๆ และช่วยการรวบรวม ความรู้และสร้างองค์ความรู้ ร่วมกันเรียนรู้กระบวนการคิด กระบวนการแก้ปัญหา การ แสวงหาความรู้และการประยุกต์ใช้ โดยนำความรู้ที่ได้จากการเรียนรู้ไปประยุกต์ใช้ใน สถานการณอ์ ่ืนหรือเชือ่ มโยงสร้างองคค์ วามรู้ท่ีเปน็ สาระใกลเ้ คยี งกนั ตามทผ่ี ู้สอนกำหนดขน้ึ 3. ใช้วิธีสอนแบบอุปนัย โดยใช้ทักษะและเทคนิคการสอนจากรายละเอียดปลีกย่อยไปหา กฎเกณฑ์หลกั การหรือข้อสรุป โดยผสู้ อนนำเสนอรายละเอียดและตัวอย่างของสาระความรู้ ตา่ ง ๆ และใหผ้ เู้ รยี นชว่ ยกันสังเกต เปรยี บเทยี บ ระดมความคิดความเขา้ ใจอยา่ งชัดเจน 4. ใชว้ ธิ สี อนแบบให้ฝกึ หัดและปฏิบัติ โดยผูส้ อนมอบหมายให้ผู้เรียนได้กระทำซ้ำด้วยการตอบ คำถามทบทวนเพื่อพัฒนาทกั ษะ และเทคนคิ การปฏิบัตจิ ริงในสิง่ ทไี่ ดเ้ รียนมา สอื่ การเรียนการสอน 1. เอกสารประกอบการสอนรายวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศยุคดิจิทลั ในธรุ กจิ บรกิ ารอาหาร 2. สื่อประกอบการสอนแบบภาพสไลด์ (Power Point)
44 3. ส่อื อปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์ 4. เอกสารและหนงั สอื อา่ นประกอบเพ่ือการศกึ ษาคน้ ควา้ เพิม่ เตมิ 5. การศกึ ษาเวบ็ ไซต์เพม่ิ เตมิ ทีเ่ กี่ยวขอ้ ง แผนประเมินผลการเรยี นรู้ 1. ผลการเรียนรู้ 1.1. ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม 1.1.1. มจี ิตสำนกึ และตระหนกั ในการปฏบิ ตั ติ ามจรรยาบรรณวิชาชีพ 1.1.2. ความมีวินัย ตรงต่อเวลา และมีความรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม เคารพ กฎระเบยี บและขอ้ บังคบั ต่าง ๆ ขององค์กรและสังคม 1.1.3. การตระหนกั ในคุณคา่ ของคุณธรรม จริยธรรม และความซ่อื สัตย์สจุ รติ 1.1.4. เคารพสทิ ธิและยอมรบั ฟังความคดิ เห็นของผูอ้ นื่ 1.1.5. การมจี ิตสาธารณะ เอื้อเฟอ้ื เผื่อแผ่ 1.2. ด้านความรู้ 1.2.1. มีความรู้ ความเข้าใจ ในหลักการ แนวคิด ทฤษฎี และเนื้อหาสาระสำคญั ของรายวิชาที่เกี่ยวข้องเพื่อสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการประกอบ วิชาชีพ 1.2.2. มที ักษะ และความชำนาญ ในงานดา้ นวชิ าชีพ 1.2.3. สามารถในการนำความรมู้ าประยุกตใ์ ช้ในบรบิ ททางวิชาการและวิชาชพี 1.2.4. มีความสามารถในการศึกษาค้นคว้าและพัฒนาความรู้ของตนเองได้ และ สามารถบูรณาการความรู้ในศาสตร์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อใช้เป็น ประโยชน์ในวิชาชีพได้ 1.3. ดา้ นทักษะทางปญั ญา 1.3.1. สามารถคดิ วิเคราะห์อยา่ งเป็นระบบ เพอ่ื หาข้อเทจ็ จรงิ หรอื ต้นเหตขุ องปญั หา และ เสนอแนวทางการแก้ไขได้อยา่ งสร้างสรรค์ 1.3.2. มีความสามารถในการทำความเข้าใจและประเมินข้อมูล แนวคิดและ หลักฐานใหม่ๆ จากแหล่งข้อมูลที่หลากหลาย และใช้ข้อสรุปที่ได้ในการ พัฒนางานในวชิ าชีพ 1.3.3. สามารถถ่ายทอดและแลกเปลีย่ นความรู้กบั ผู้อื่น 1.4. ด้านทกั ษะความสมั พันธร์ ะหว่างบคุ คลและความรับผดิ ชอบ 1.4.1. รับผิดชอบในการทำงานทไ่ี ด้รับมอบหมายท้งั รายบคุ คลและงานกลุ่ม 1.4.2. สามารถปรับตวั ในและทำงานร่วมกบั ผู้อื่นทั้งในฐานะผู้นำและสมาชิกกลุ่ม ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 1.4.3. มคี วามสามารถในการวางตวั และแสดงความคดิ เหน็ ได้อย่างเหมาะสมกับ บทบาท หน้าท่ี และความรบั ผิดชอบ 1.4.4. มีบุคลกิ ภาพท่ีดี และมีมนุษยสัมพันธ์
45 1.4.5. มีความสามารถในการวางแผนและรับผิดชอบในการเรยี นรู้และพัฒนาตนเอง และวชิ าชพี อย่างต่อเนอ่ื ง 1.5. ดา้ นทกั ษะการคดิ วิเคราะหเ์ ชิงตวั เลขการสือ่ สาร และการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ 1.5.1. สามารถนำเทคนิคทางสถิติหรือคณิตศาสตร์ เทคโนโลยีสารสนเทศ และ เทคโนโลยีอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องมาประยุกต์ใช้ในการสืบค้น วิเคราะห์ข้อมูล แปลความหมาย และเสนอแนวทางในการพัฒนางาน หรือ แก้ไขปัญหา ได้อยางสรา้ งสรรค์ 1.5.2. สามารถสอื่ สาร สามารถสรุปประเด็นจากสิ่งท่ีได้เหน็ และฟัง ถา่ ยทอดและ นำเสนอ ข้อมลู ได้อย่างสรา้ งสรรคแ์ ละมปี ระสทิ ธภิ าพ 1.5.3. สามารถติดตามความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี นวัตกรรม และสถานการณ์ โลกโดยใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศ 2. วิธีประเมินผลการเรยี นรู้ 2.1. คณุ ธรรม จริยธรรม 2.1.1. นกั ศกึ ษาประเมนิ ผลการเรียนรดู้ ้วยตนเอง กอ่ นและหลงั การเรยี น 2.1.2. ประเมนิ โดยอาจารยจ์ ากการสงั เกตพฤติกรรมการแสดงออกตามปกติของ นักศึกษา 2.1.3. ผู้ใชบ้ ัณฑิตประเมนิ คณุ ธรรมจริยธรรมของบณั ฑิต 2.1.4. ประเมนิ ผลพฤติกรรมผูเ้ รยี นจากการสงั เกตในกจิ กรรมต่าง ๆ ท้งั ในและนอก ช้ันเรยี น ท้งั ในด้านระเบียบวินัย ความรบั ผิดชอบ การมีนำ้ ใจ ซอ่ื สตั ย์ มีสมั มา คาราวะ และร้จู ักกาลเทศะ 2.1.5. ประเมินผลผู้เรียนจากการปฏิบัติงานที่ได้รับมอบหมาย ทั้งด้านความ รบั ผดิ ชอบ การตรงตอ่ เวลา ความซ่ือสัตย์ และการมีนำ้ ใจเออ้ื เฟ้ือเผ่อื แผ่ 2.2. ความรู้ 2.2.1. ประเมินผลความรู้ของผู้เรียนจากผลงานระหว่างภาค เช่น การบา้ น การเขียน รายงาน การทดสอบย่อย การนำเสนอรายงานการค้นคว้าหนา้ ช้ันเรยี น 2.2.2. ประเมนิ ผลความรขู องผู้เรยี นจากการสอบข้อเขยี น การสอบปฏบิ ัติ 2.2.3. ประเมนิ ผลความร้ขู องบัณฑติ โดยการสำรวจความคดิ เห็นของผใู้ ชบ้ ณั ฑติ 2.3. ทักษะทางปัญญา 2.3.1. ประเมินจากผลงานการแกไ้ ขปัญหาทไี่ ด้รบั มอบหมาย 2.3.2. ประเมินโดยการสอบข้อเขียนด้วยโจทยท์ ตี่ อ้ งใช้ทักษะทางปัญญา 2.3.3. ประเมินรายงานผลการวิจยั 2.3.4. ประเมินจากการปฏิบัติงานและกิจกรรมที่ได้รับมอบหมาย ในการแก้ไขโจทย์ ปัญหาทซี่ บั ซ้อน
46 2.4. ทักษะความสัมพนั ธ์ระหว่างบคุ คลและความรบั ผิดชอบ 2.4.1. มอบหมายนักศึกษาประเมินตนเองและเพื่อนในกลุ่ม สรุปผลและมีการ ประเมินโดยใชเ้ สยี งสว่ นใหญ่ 2.4.2. สังเกตพฤติกรรมในชน้ั เรยี น 2.4.3. ประเมนิ ผลจากการทำกิจกรรมและการปฏิบตั งิ านทไ่ี ด้รับมอบหมาย 2.5. ทกั ษะการคิดวิเคราะห์เชิงตวั เลข การส่ือสาร การใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ 2.5.1. ประเมินจากกิจกรรมท่ีเกี่ยวข้องกับการวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสืบค้นข้อมูล ดว้ ยเทคโนโลยสี ารสนเทศท่มี อบหมายแต่ละบุคคล 2.5.2. ประเมินจากการสอบขอ้ เขยี นในการแกโ้ จทยป์ ัญหาเชงิ ตัวเลขทไ่ี ม่เคยพบมา ก่อน 2.5.3. ประเมนิ ทกั ษะการสอ่ื สารด้วยภาษาเขยี นจากรายงานแต่ละบคุ คลหรือรายงาน กลมุ่ ในส่วนท่นี ักศึกษานน้ั รบั ผดิ ชอบ 2.5.4. ประเมนิ ทกั ษะการส่ือสารด้วยภาษาพูดจากพฒั นาการในการนำเสนอรายงาน ในชั้นเรียน การนำเสนอสัมมนา การนำเสนอนิทรรศการโครงงานต่อผู้เยี่ยม ชมดว้ ยวาจา 3. สัดสว่ นของการประเมิน 3.1. ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม ร้อยละ 10 3.2. ดา้ นความรู้ รอ้ ยละ 40 3.3. ด้านทักษะทางปัญญา รอ้ ยละ 30 3.4. ด้านทักษะความสัมพันธ์ระหวา่ งบคุ คลและความรับผดิ ชอบ รอ้ ยละ 10 3.5. ด้านทักษะการคิดวเิ คราะห์เชงิ ตัวเลข การสือ่ สาร และการใชเ้ ทคโนโลยี รอ้ ยละ 10 เนื้อหาทสี่ อน ในปัจจุบันการใช้งานโปรแกรมชุด Microsoft Office เป็นที่นิยมแพร่หลายอย่างมากใน สำนักงานเพราะว่าโปรแกรม Microsoft Office สามารถใช้งานง่ายและมีประสิทธิภาพสูง ทำให้ สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็วและส่วนมากที่จะใชใ้ นการพมิ พ์เอกสารต่างๆก็จะเป็น ในบทน้ีมาทำ ความรจู้ ักกับ Microsoft Word วา่ โปรแกรมนส้ี ามารถทำอะไรได้บ้าง Microsoft Word เป็นโปรแกรมประมวลผลคำแบบพิเศษ ช่วยให้สร้างเอกสารอย่างมี ประสิทธิภาพและประหยัดเวลา เหมาะกับงานด้านการพิมพ์เอกสารทุกชนิด สามารถพิมพ์เอกสาร ออกมาเป็นชุด ๆ ซึ่งเอกสารอาจเป็นจดหมาย บันทึกข้อความ รายงาน บทความ ประวัติย่อและยงั สามารถตรวจสอบ ทบทวน แก้ไข ปรบั ปรุง ความถกู ต้องในการพมิ พ์เอกสารไดอ้ ยา่ งง่ายดาย สามารถ ตรวจสอบ สะกดคำ และหลักไวยากรณ์ เพม่ิ ตาราง เพ่มิ กราฟฟิก ในเอกสารได้อยา่ งง่ายดาย หรอื เพ่ิม เติมข้อมูลไดต้ ลอดเวลา Microsoft Word สามารถพิมพ์และแก้ไขเอกสาร ลบ โยกย้าย สำเนาข้อความ พิมพ์ ตัวอักษรประเภทต่างๆ ขยายขนาดตัวอักษร จัดตัวอักษรให้เป็นตัวหนา ตัวเอียงและขีดเส้นใต้ได้
47 สามารถใส่เครื่องหมาย ตัวเลขลำดับหน้าหวั ขอ้ แบ่งคอลัมน์ ตีกรอบและแรเงา ตรวจการสะกดและ แกไ้ ขใหถ้ กู ต้อง สามารถคน้ หาและเปล่ียนแปลงข้อความท่ีพิมพ์ผิด จัดข้อความในเอกสารให้พิมพ์ชิด ซ้าย ชิดขวาและกึ่งกลางบรรทัด สามารถใส่รูปภาพในเอกสาร ประดิษฐ์ตัวอักษร พิมพ์ตาราง พิมพ์ จดหมายเวียน ซองจดหมายและป้ายผนึก จะเห็นได้ว่าโปรแกรม Microsoft Word สามารถทำงาน เอกสารได้หลากหลาย เช่น เขียนจดหมาย ทำรายงาน หรือสร้างตารางต่างๆ ที่สะดวกและรวดเร็ว และยงั สามารถตกแตง่ เอกสารให้สวยงามไดต้ ามท่ตี อ้ งการ รูจ้ ัก Microsoft Office Microsoft Office เป็นโปรแกรมการจัดการงานเอกสารที่เรารู้จักกันอย่างดีครับ เช่นไฟล์ งานอย่าง Word, Excel, Power Point เปน็ ตน้ ซ่งึ ประสทิ ธิภาพในการจดั การไฟล์เอกสาร Microsoft Office เป็นชุดโปรแกรมสำนักงาน พัฒนาโดยไมโครซอฟท์ซึ่งสามารถใช้งานได้ในระบบปฏิบัติการ ไมโครซอฟท์ วินโดวส์และแอปเปิล แม็คอินทอช ไมโครซอฟท์ ออฟฟิศยังมีการส่งเสริมให้ใช้บริการ ผ่านระบบเครื่องแม่ข่าย (Server) และ บริการผ่านหน้าเว็บ (Web Based) ในรุ่นใหม่ๆ ของ ไมโครซอฟท์ ออฟฟิศ เราจะเรียกมันว่า ระบบสำนักงาน (Office system) แทนแบบเก่าคือ ชุด โปรแกรมสำนักงาน (Office Suite) ซึ่งการเรียกว่า ระบบสำนักงานจะรวมการทำงานกับเครื่องแม่ ขา่ ยเอาไว้ดว้ ย ปัจจุบนั พฒั นาถึง Office 2019 ทท่ี ำงานบน Windows 10 ข้ึนไป แล้วบรษิ ัท Microsoft ได้ เปิดตัว Office 365 สำหรับองค์กร (Organization) ในเดือนตุลาคม 2553 (2010) มีคุณสบัติ (Features) ที่หลากหลายให้เลือกทั้ง Office Online (Free) , Business , Enterprise (Unlimited) , Personal , Home ซ่งึ มโี ปรแกรมในชุดมากมาย อาทิ Word , Excel , PowerPoint , OneNote , OneDrive , Outlook และ Teams ภาพที่ 3.1 Microsoft Office ท่ีมา: geektech.me. n.d.
48 Office รุ่นแรก เกิดขึ้นราวยุค 90 เมื่อ Office ออกสู่ตลาด ทำให้เข้ามาแบ่งส่วนตลาดส่วน หนึ่งได้อย่างงา่ ยดาย จดุ ขายหลักของ Office คือราคาที่ถูกกวา่ และสามารถเลอื กซ้ือเฉพาะที่ต้องการ ได้อีกด้วย โดยรุ่นแรกของ Office ประกอบด้วย เวิร์ด (Word) เอกเซล (Excel) และพาวเวอร์พอยท์ (PowerPoint) และมรี นุ่ \"โปร (PRO)\" ทจ่ี ะรวม แอคเซส (Access) และ สเคสดลู พลัส เขา้ ไป รุ่นของ Microsoft Office ที่เป็นที่รู้จักในตลาดซอฟท์แวร์ อาทิ Office 2010, Office 2007, Office 2003, Office XP, Office 2000, Office 95 ไมโครซอฟท์ (Microsoft) ประกาศ Windows Live Hotmail โดย Chris Jones รอง ประธานฝ่ายองค์กรของไมโครซอฟท์ ในงานแถลงข่าวที่ซานฟรานซิสโก [2553] ว่าบริการใหม่ช่วย แชร์ภาพถ่าย (Photo Sharing) การจัดการเอกสารไมโครซอฟท์ออฟฟิศ (MS Office documents) สามารถพรวี ิวอตั โนมตั ิ (auto-preview) โดยไม่ตอ้ งออกจาก Inbox สามารถแชรภ์ าพผา่ น SkyDrive ในบริการ Cloud ของไมโครซอฟท์ รวมถึงความสามารถในการวิว แก้ไข และแชร์เอกสาร ไมโครซอฟท์ออฟฟศิ แมว้ ่าภายในเครอ่ื งคอมพิวเตอร์ของผู้ใช้จะไม่ได้ติดตัง้ MS Office ไว้ก็ตาม ความแตกต่าง Microsoft Office 365 กับ Microsoft Office ทัว่ ไป Microsoft Office 2019 คือโปรแกรม Office ตามปกติ โดยจะเป็นเวอร์ชั่นที่มีการซื้อคร้ัง เดียวแล้วจบ ไม่ต้องจ่ายเพิ่มในปีต่อๆ ไป แต่จะมากับตัวโปรแกรมแบบคลาสสิก เช่น Word, Excel และ PowerPoint สำหรับใช้บนพีซหี รือ Mac เพียงเท่านั้น จะไม่มบี รกิ ารใดๆ เพิ่มเข้ามาให้ และใน อนาคตหากต้องการอัปเดตเป็นเวอรช์ นั่ ใหม่ ตอ้ งซ้อื ใหม่เท่านัน้ ข้อดีคอื เป็นการซอื้ ขาดแล้วจบกนั ไป Microsoft Office 365 ใช้งานได้เหมือนกบั Office 2019 แต่ Microsoft Office 365 พเิ ศษ กว่าตรงที่โปรแกรมต่างๆ ภายในแอพจะได้รับการอัปเดตเป็น Version ใหม่ล่าสุดเสมอ และยังได้ พ้นื ท่ีเก็บข้อมลู บน Cloud อีก 1TB ด้วย โดย Office 365 จะขายเป็นแบบ Subscribe เป็นรายปี ใช้ งานได้นานประมาณ 365 วันตามชือ่ ของมันนัน้ เอง และจำหน่ายในราคาที่คนทัว่ ไปเขา้ ถึงได้ง่ายกวา่ เพราะจ่ายเป็นราคารายปี เมอ่ื ไม่ตอ้ งการใช้งานแล้วกเ็ ลิกได้ทันที โดยในชดุ บรกิ ารของ Office 365 นอกจากความสามารถในการจัดงานเอกสารต่างๆ ได้แล้ว มันจะมีบริการเสริมแถมมาให้อีกหลายอย่างมาก โดยเจตนาในการออกแบบระบบเพื่อให้สอดรับ กบั ไลฟส์ ไตล์คนทำงานในยุคน้ี โดยมหี ลายฟีเจอรท์ น่ี า่ สนใจทีต่ อ้ งอธิบายเพิ่มเตมิ กนั มอี ะไรบา้ ง 1) Office 365 จะได้รบั อัปเดตโปรแกรมเปน็ เวอรช์ น่ั ใหมส่ ุดเสมอโดยไมต่ อ้ งจา่ ยเพมิ่ ผใู้ ช้บรกิ ารของ Office 365 ไม่ตอ้ งกลัวว่าเวอร์ชนั่ ของโปรแกรมและแอพพลเิ คชัน่ ต่างๆ ของ ตัวเองที่อยู่ในชุดจะเกา่ หรือตกรุน่ เลย เพราะตลอดระยะเวลาของการเป็นสมาชิกเราจะไดร้ บั การอัป เดตแอพทั้งหมดให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุดเสมอ โดยไม่ต้องจ่ายตังค์เพิ่มในการอัปเดตเหมือนตัว Office ปกตแิ ตอ่ ย่างใด 2) รองรับการใชง้ านหลายอปุ กรณ์ร่วมกนั Office 365 จริงๆ จะมีหลายแพ็คเกจให้เลือก แต่ที่เราเลือกใช้งานกันเป็นหลักๆ จะมีสอง แพ็คเกจนี้ คือ Office 365 Personal และ Office 365 Home ความแตกต่างของสองแพ็คเกจนี้คอื “จำนวนเครื่องที่ติดตั้งใช้งานได้พร้อมกัน” โดย Office 365 Personal จะราคาประหยัดกว่า แต่ สามารถติดตั้งชุดโปรแกรม Office ลงอุปกรณ์หลักในระบบ MacOS, Windows ได้เพียงไอดีเดียว
49 และอุปกรณ์เดียวเทา่ นัน้ แตส่ ำหรับ Office 365 Home จะสามารถตดิ ต้งั ชดุ โปรแกรมต่างๆ ลงได้ใน อุปกรณ์หลักที่ใช้ระบบ MacOS และ Windows ได้มากถึง 6 ไอดี หรือ 6 อุปกรณ์พร้อมกันในไอดี เดียวกัน ฉะนั้นด้วยความหยืดหยุ่นของ Office 365 Home เราจึงสามารถติดตั้งลงอุปกรณ์ที่เราใช้ งานได้ 6 อุปกรณใ์ นไอดขี องเรา หรือจะแบ่งใหเ้ พ่ือนต่างไอดีใชโ้ ควต้าติดต้ังแยกใช้งานกันก็ได้เช่นกัน โดยในทุกๆ ไอดีจะได้สิทธิ์และบริการเสริมเหมือนกันทั้งหมด เรียกว่าซื้อครั้งเดียว ใช้งานได้ 6 คน นั้นเอง ทั้งนี้ทั้งนั้นทาง Microsoft ยังไม่นับโควต้าการติดตั้งแอพพลิเคชั่น Office เพื่อใช้งานบน อปุ กรณ์พกพา เชน่ iPad, iPhone หรอื อปุ กรณร์ ะบบ Android ในไอดีของเราอกี ด้วย ฉะนั้นซ้ือครั้ง เดียว ใช้งานจรงิ ได้เป็นสิบอปุ กรณ์สบายๆ 3) ซิงกข์ อ้ มูลกันอัตโนมัตผิ า่ นระบบคลาวด์ ติดตั้งหลายอุปกรณ์ได้แล้วดียังไง เพราะอย่างที่อธิบายไป Office 365 เป็นบริการที่มี แพ็คเกจให้เราซื้อสิทธิ์ติดตั้งได้หลายอุปกรณ์พร้อมกัน แถมยังรองรับการติดตั้งใช้ได้บนระบบหลัก แทบทกุ ระบบในขณะนเ้ี ลย ทั้ง MacOS, Windows, Android, iOS และ iPadOS เรยี กวา่ มใี ห้ใช้งาน กันไดต้ อ่ เนอ่ื งทุกๆ อปุ กรณ์ ซงึ่ ทาง Microsoft ก็เจตนาออกแบบมาให้เราสามารถทำงานต่อเน่ืองกัน ข้ามอุปกรณ์เหล่านั้นกันได้แบบไร้รอยต่อนั่นเอง ไม่ว่าคุณจะเริ่มพิมพ์งานหรือแก้เอกสารค้างไว้ใน อุปกรณ์ไหน เช่นเริ่มทำงานทีเ่ ครื่อง Macbook ที่บริษัท ก็สามารถมางานมาทำตอ่ ได้บน iPad หรือ สมาร์ทโฟน ขณะเรานั่งอยู่ร้านกาแฟหรือจะกลับไปทำงานต่อที่บ้านด้วยเครื่อง Windows PC ก็ได้ เช่นกนั เพราะขอ้ มลู ทัง้ หมดของเรา จะถูกเชือ่ มขอ้ มลู กนั ผ่านระบบคลาวด์ในไอดี Microsoft ของเรา ประสานกนั ซงิ ก์อัปเดตขอ้ มูลระหว่างกนั โดยอัตโนมัติ หรือแม้แตส่ ง่ ลิงก์ไฟลข์ องเราเพื่อให้เพ่ือนร่วม เข้ามาแก้ไขไฟล์เดียวกันได้แบบออนไลน์ ซึ่งเป็นความสามารถของ Office 365 ที่ยอดเยี่ยมที่สุด น่ันเอง 4) บรกิ ารเสริมพิเศษทใ่ี ห้มาเกินคุ้มราคา ผู้ที่ใช้งาน Office 365 จะได้รับบริการเสริมสุดคุ้มจาก Microsoft ที่เพิ่มความพิเศษมากขน้ึ ไปอกี ได้แก่ ▪ ที่เก็บข้อมูลบน Cloud ของ OneDrive ขนาด 1 TB แจกให้กันทุกไอดีที่แชร์ใช้งานกัน ถ้า แชร์ 6 ไอดี ก็รับไปไอดีละ 1TB เลย เป็นพื้นที่สำหรับการจัดเก็บสำรองไฟล์ โดยมี แอพพลิเคชัน่ และโปรแกรมใหใ้ ชง้ านกันทุกแพลตฟอร์มไมต่ ่างจากโปรแกรม Office เลย ▪ บรกิ ารปกปอ้ งไฟลแ์ ละดแู ลข้อมูลใน OneDrive ของคณุ จากไวรสั , มลั แวร์ หรือแรนซมั แวร์ ▪ แจก Skype ฟรี 60 นาทีต่อเดือน สามารถโทรศัพท์ไปยังเบอร์บ้านหรือเบอร์มือถือทั่วโลก ผ่านระบบ Skype ได้ฟรี 60 นาทีต่อเดือน โดยทุกไอดีที่แชร์กันจะได้รับแยกกันคนละ 60 นาทตี ่อไอดี ▪ แกไ้ ขเอกสารร่วมกนั กับผู้อ่นื แบบออนไลน์ โดยพวกเขาไมจ่ ำเป็นตอ้ งมี Office 365 แค่เพียง มอี ินเตอร์เนต็ และลิงก์ไลฟ์ท่ีเราอนญุ าตให้เขา้ มาแกไ้ ขไฟลร์ ่วมกนั ▪ Template เลยเ์ อาท์ฟรี ต้นแบบเอกสาร การด์ เชญิ ใบสำคัญทางกฏหมาย และงานเอกสาร ออฟฟิศ, Presentation ใน PowerPoint จะมีเป็นรูปแบบสำเร็จพร้อมใช้งานที่สามารถดึง มาใชไ้ ด้ฟรจี ากในโปรแกรมชดุ Office
50 จะเห็นว่า Microsoft Office 365 เปน็ ชดุ เคร่อื งมือสำหรับคนทำงานรวมถึงนกั ศึกษาที่ให้มา อย่างครบเครื่องเลย มีมาให้หมดและระบบดี ที่สำคัญราคาค่อนข้างถูก โดยเฉพาะชุด Office 365 Home ท่ีสามารถแชร์ใชง้ านกันได้ 6 ไอดี ซ่งึ ล่าสุดกเ็ ป็น Office 365 กล่องเวอรช์ น่ั 2019 หารราคา กนั แลว้ เหลือราคาปีละไมก่ ี่ร้อยบาทเท่าน้นั เอง รจู้ ัก Microsoft Word Microsoft Word เป็นโปรแกรมประมวลคำเพื่อการค้า ออกแบบโดยไมโครซอฟท์ เปิดตัว เป็นคร้งั แรกในปี ค.ศ. 1983 ภายใตช้ อ่ื มลั ติ-ทลู เวิร์ด สำหรับระบบปฏิบตั ิการ Xenix โดยมีเวอร์ชัน อื่นๆ ออกมาอีกภายหลังเพื่อทำงานเขียนสำหรับแพลตฟอร์มอื่นๆ อาทิเช่น ไอบีเอ็มพีซีรันบนดอส (1983), แอปเปลิ แมคอนิ ทอช (1984), เอที&ที Unix PC (1985), Atari ST (1986), SCO UNIX, โอ เอส/2, และไมโครซอฟท์ วนิ โดวส์ (1989) โดยเปน็ องค์ประกอบหนงึ่ ของซอฟตแ์ วรร์ ะบบไมโครซอฟท์ ออฟฟศิ ซึง่ เป็นผลิตภัณฑท์ ีข่ ายแยกต่างหาก และรวมอยู่ในไมโครซอฟท์ เวริ ์ก สูท เวอร์ชันปัจจุบัน คือ Microsoft Word 2019 สำหรับวินโดว์ และ 2019 สำหรับแมค (Microsoft Office 2019 for Mac) นอกจากนี้ยังมีใน Word Mobile ซึ่งเป็น freeware ในกลุ่ม ไมโครซอฟท์ ออฟฟิส โมบายล์ ในระบบปฏิบัติการ Windows 10, Windows Phone, iOS และ Android (Wikipedia, n.d.) นอกจากนีย้ ังมีเวอร์ชน้ั Office 365 ซง่ึ ท้งั 2 เวอร์ชนั่ ไดแ้ บง่ ตามลกั ษณะ การใช้งานของผู้ใช้ ได้แก่ แบบ Home, แบบ personal, แบบ Business, แบบ professional เป็น ตน้ ภาพที่ 3.2 ตารางการเลอื กซือ้ Microsoft Office ท่ีมา: เวบ็ ไซต์เซริ ์ฟเวอร์โปรไทย. 2561
51 ประโยชนข์ องโปรแกรม Microsoft Word 1. ดา้ นการจัดการเกบ็ เอกสาร เนอื่ งจากเปน็ ระบบคอมพวิ เตอร์ ทำใหเ้ อกสารที่จัดเก็บไม่ได้อยู่ ในรูปแบบที่เป็นกระดาษ แต่จัดเก็บในรูปแบบของไฟล์ข้อมูล ทำให้ข้อมูลอยู่ได้ครบถ้วนใน สภาพดีและสมบรู ณ์ 2. การเรียกใช้ข้อมูล ข้อมูลที่จัดเก็บจะเป็นลักษณะของไฟล์ข้อมูล ถ้ารู้ชื่อไฟล์ข้อมูลและ ตำแหนง่ ท่ีจดั เกบ็ ก็จะสามารถหาและเปิดใชง้ านไดง้ ่าย 3. การทำสำเนา เมื่อผู้ใช้ทำเอกสารขึ้นมาแล้วสามารถพิมพ์ (Print) ทางเครื่องพิมพ์ ได้ตาม จำนวนที่ต้องการและพิมพ์กี่ครั้งก็ได้โดยไม่จำกัด สามารถนำไปใช้เป็นสำเนาได้อย่างมี ประสทิ ธิภาพ 4. การค้นหาและแก้ไขเอกสาร เมื่อพิมพ์เอกสารแล้วสามารถค้นหาคำที่ต้องการได้ หรือหาก ต้องการแก้ไขคำในเอกสารก็แก้ไขได้ทันที หรืออาจใช้เครื่องมือแก้ไขคำที่เหมือนกัน โดย แทนทค่ี ำทเี่ หมอื นกนั ด้วยคำใหมท่ ่ีกำหนดข้ึนมาได้ทันที 5. การจัดรูปแบบเอกสาร สามารถจัดรูปแบบของเอกสารได้ตามที่ต้องการ เช่น ตั้งระยะ ด้านหน้า ด้านหลัง ด้านบน ด้านล่าง การแบ่งคอลัมน์ หรือใส่ข้อความหรือตัวเลขที่หัว กระดาษและทา้ ยกระดาษของแตล่ ะหนา้ โดยอตั โนมัติ 6. การตรวจสอบคำสะกดและไวยากรณ์ ในเอกสารที่เราพมิ พข์ อ้ ความลงไปน้นั บางคำหรือบาง ขอ้ ความท่พี มิ พ์ผดิ โปรแกรมจะเน้นข้อความท่ีผดิ ดว้ ยการขีดเสน้ ใตส้ ีแดงเพื่อบ่งบอกผู้ใช้งาน ว่าคำน้ันเขยี นไม่ถูกตอ้ ง การใช้ Microsoft Word เบ้อื งต้น 1. หน้าต่างและส่วนประกอบของ Microsoft Word ภาพที่ 3.3 หน้าต่างแรกของการใช้ Microsoft Word
52 ในหน้าตา่ งแรกของการใชง้ านจะอยใู่ นแทบ็ File ทีอ่ ยู่บนริบบอน (ribbon) ซึง่ ประกอบดว้ ย • แท็บ Home ทแ่ี สดงภาพรวมของโปรแกรม • แทบ็ New แสดงการสรา้ งเอกสารใหม่ และแทมเพลต (template) แบบต่างๆ ใหเ้ ลือกใชง้ าน • แท็บ Open แสดงชอ่ งทางการเปดิ เอกสารที่เคยสรา้ งไว้ รวมถึงเอกสารท่ีเคยเปิดใช้ลา่ สุด • แทบ็ Info แสดงข้อมูลเกยี่ วกบั เอกสาร การปอ้ งกันเอกสาร การตรวจเอกสาร เวอรช์ น่ั เอกสาร • แท็บ Save และ Save as จะแสดงเหมอื นกนั เปน็ การจดั เกบ็ เอกสารในแหล่งต่างๆ • แท็บ Print แสดงการตัง้ ค่าการสัง้ พมิ พเ์ อกสาร • แทบ็ share แสดงการแชรเ์ อกสารใน one drive • แท็บ Export แสดงการสร้างไฟลเ์ อกสารเปน็ PDF/XPS หรอื ตอ้ งการเปลย่ี นรูปแบบเอกสาร เช่น word 97-2003 Document, template, Rich Text Format เปน็ ตน้ • แทบ็ Transform แสดงการเปลย่ี นเอกสารไปเปน็ web page ซ่งึ จะมี template ใหเ้ ลอื ก • แท็บ Close คือ การปิดหน้าเอกสารน้ันไป • แทบ็ Account แสดงข้อมลู ผูใ้ ช้ และข้อมูลผลติ ภณั ฑข์ อง office ทีใ่ ช้ • แทบ็ Feedback แสดงข้อมูลยอ้ นกลับใหร้ ะบบเพ่ือใช้ในการปรับปรุงระบบตอ่ ไป • แท็บ option แสดงการตงั้ คา่ โปรแกรม Word หน้าต่างโปรแกรม Microsoft Word เมื่อเข้าสูโ่ ปรแกรมแล้วจะปรากฏพ้นื ทกี่ ารทำงานของโปรแกรมซง่ึ มสี ่วนประกอบหลักๆ ดังนี้ 1 34 2 5 8 67 ภาพที่ 3.4 หน้าต่างแรกของการใช้ Microsoft Word
53 ตารางที่ 3.1 หน้าตา่ งโปรแกรม Microsoft Word เลข ส่วนประกอบ หน้าท่ี 1 แถบเครือ่ งมือด่วน ป่มุ คำสงั่ ทใ่ี ชบ้ อ่ ย เพ่ือใหเ้ ลือกใชไ้ ด้อย่างรวดเร็ว เชน่ (Quick Access Toolbar) - ปุ่มบนั ทกึ เอกสาร - ป่มุ ยกเลกิ คำสง่ั ก่อนหน้าน้ี - ปุ่มให้พมิ พซ์ ้ำตัวอกั ษรหรือตัวเลขเดมิ - คลิกเรียกคำสั่งด่วนอื่น ได้แก่ สร้างเอกสารใหม่, เปิด เอกสาร, บนั ทกึ , ส่งเมล, พิมพด์ ่วน, ดูตัวอยา่ ง ก่อนพิมพ,์ ตรวจสอบคำผิด, ยกเลิกคำสั่งก่อนหน้าน้ี, พิมพ์ซ้ำ ตัวอักษรหรือตัวเลขเดิม, วาดตาราง, ใช้โหมดสัมผัส/ เมาส์ เป็นต้น 2 แถบรบิ บอน (Ribbon) แถบที่รวบรวมคำสั่งที่ใช้ควบคุมการสร้างงานเอกสาร ทง้ั หมด 3 แถบช่อื เอกสาร (Title Bar) แถบแสดงชื่อโปรแกรมและชื่อไฟล์ปัจจุบันที่เปิดใช้งาน อยู่ 4 ปมุ่ ควบคมุ หนา้ ต่างโปรแกรม (Program Windows - ป่มุ ปรับรปู แบบการแสดงแถบริบบอน Controls) - ปมุ่ ยุบหน้าตา่ งโปรแกรม - ปมุ่ ย่อ/ขยายหนา้ ตา่ งโปรแกรม - ปุ่มปดิ โปรแกรม 5 พ้ืนทที่ ำงาน (Work Space) พื้นที่สำหรับจัดการ แก้ไข และแสดงข้อความ รูปภาพ ฯลฯ 6 แถบสถานะ (Status Bar) แสดงรายละเอียดของเอกสาร เช่น จำนวนหน้า, จำนวน ตวั อกั ษรและการตรวจสอบขอ้ ผดิ พลาดการพสิ ูจนอ์ กั ษร 7 ปุ่มควบคุมการแสดงเอกสาร ควบคุมมุมมองเอกสาร ได้แก่ แสดงโหมดการอ่าน, เค้า (View Shortcuts) โครงเหมอื นพมิ พแ์ ละเค้าโครงเว็บ 8 แถบย่อ/ขยายเอกสาร ปรบั ขนาดการแสดงผลของเอกสาร โดยมวี ธิ กี ารใชด้ งั นี้ (Zoom Controls) - ขยายเอกสาร โดยการเลื่อนขีดไปทางเครอื่ งหมายบวก - ย่อเอกสาร โดยการเลื่อนขดี ไปทางเคร่อื งหมายลบ แถบริบบอน (Ribbon) ในโปรแกรม Microsoft Word แถบริบบอน (Ribbon) เป็นแถบชุดคำสั่งต่างๆ ที่ใช้ควบคุมการสร้างงานเอกสารเพ่ือให้เรา เรียกใช้งานได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยจัดเรียงเป็นแท็บ ซึ่งในแต่ละแท็บจะมีคำสั่งย่อยท่ี เก่ยี วขอ้ งกันตามหมวดหม่กู ารใชง้ านดังน้ี
54 1) แท็บหน้าแรก (Home) รวบรวมคำสั่งในการคัดลอก วาง ตัด การกำหนดรูปแบบ ตัวอักษร จัดตำแหน่งข้อความ การกำหนดลักษณะให้กับเอกสาร การค้นหา/แทนที่ เป็นตน้ ภาพที่ 3.5 แท็บหนา้ แรก (Home) 2) แท็บแทรก (Insert) รวบรวมคำสั่งในการแทรกวัตถุต่างๆ ลงในไฟล์งาน เช่น รูปภาพ ภาพตัดปะ อักษรศิลป์ ตาราง แผนภูมิ สัญลักษณ์พิเศษต่างๆ วีดิโอแบบออนไลน์ ลิงค์ สมการ คณิตศาสตร์ การกำหนดหัวกระดาษ/ท้ายกระดาษ เปน็ ตน้ ภาพที่ 3.6 แทบ็ แทรก (Insert) 3) แทบ็ ออกแบบ (Design) รวบรวมคำสง่ั ในการออกแบบเอกสารเพ่ือใชก้ บั งานตา่ งๆ เช่น รูปแบบธีม สี ตัวอักษร ระยะห่างของย่อหน้า เอฟเฟ็กต์ การใส่ลายน้ำ สีพื้นหลัง สีเส้นขอบเอกสาร เป็นตน้ ภาพท่ี 3.7 แท็บออกแบบ (Design) 4) แท็บเคา้ โครง (Layout) รวบรวมคำสง่ั การกำหนดคา่ ตา่ งๆ เกี่ยวกบั เคา้ โครงหน้าเอกสาร เช่น การปรับระยะขอบกระดาษ การวางแนวกระดาษ การปรับขนาดกระดาษ การแบ่งคอลัมน์ การ กำหนดระยะของย่อหน้า การกำหนดระยะห่างระหว่างบรรทัด การจัดวางข้อความและรูปภาพ เป็น ต้น
55 ภาพที่ 3.8 แท็บเค้าโครง (Layout) 5) แท็บการอ้างอิง (References) รวบรวมคำสั่งการจัดการเกี่ยวกับการอ้างอิงเอกสาร เชน่ การสรา้ งสารบัญ การแทรกเชิงอรรถ การแทรกข้อมูลอา้ งองิ การจดั การบรรณานุกรม การแทรก คำอธิบายภาพ เป็นตน้ ภาพท่ี 3.9 แท็บการอา้ งองิ (References) 6) แท็บการส่งจดหมาย (Mailings) จัดการเกี่ยวกับการสร้างหน้าซองจดหมาย การสร้าง จดหมายเวียน การพมิ พ์ลาเบล เปน็ ตน้ ภาพที่ 3.10 แท็บการส่งจดหมาย (Mailings) 7) แท็บรีวิว (Review) รวบรวมเครื่องมือในการตรวจสอบเอกสาร ทั้งการสะกดคำ การ แปลภาษา การพิสูจน์อกั ษร การเขียนข้อคดิ เหน็ ลงบนเอกสาร การกำหนดการติดตาม เอกสาร การ เปรียบเทียบเวอรช์ ่ันของเอกสาร และการปอ้ งกันเอกสาร เป็นต้น ภาพท่ี 3.11 แทบ็ รีววิ (Review)
56 8) แท็บมุมมอง (View) เป็นคำสั่งสำหรับการกำหนดมุมมองของเอกสารในรูปแบบต่างๆ เชน่ โหมดการอ่าน เคา้ โครงเหมอื นพิมพ์ เคา้ โครงเวบ็ การยอ่ /ขยายมมุ มอง การแสดง ไมบ้ รรทดั เสน้ ตาราง บานหนา้ ต่างนำทาง เปน็ ตน้ ภาพที่ 3.12 แทบ็ มุมมอง (View) 2. การใช้ Microsoft Word เบอื้ งต้น 2.1 การสรา้ งเอกสารใหม่ ภาพท่ี 3.13 การสรา้ งเอกสารใหม่ การสร้างเอกสารใหม่โดยการเลอื ก Blank document เพื่อเขา้ ส่หู น้าต่างหลักของการจดั การ เอกสาร หน้าต่างหลักประกอบด้วยริบบอน (ribbon) แสดงแท็บเมนูต่างๆ ที่ต้องใช้งาน และมีแท็บ พเิ ศษเพ่ิมเตมิ เมอื่ เลอื กใช้คำสงั่ อืน่ ได้แก่ เมื่อต้องการจดั การรูปภาพจะมีแทบ็ พิเศษเก่ยี กับการจัดการ รูปภาพ มชี ่อื วา่ Picture Format เปน็ ต้น ภาพท่ี 3.14 หนา้ ตา่ งหลกั ในการสรา้ งเอกสารและรบิ บอน (ribbon) 2.2 การสรา้ งเอกสารจากเทมเพลต (Template) คลิกเลือกหมวดของเทมเพลตที่ต้องการ หรือพิมพ์ในช่องเพื่อค้นหาเทมเพลตออนไลน์ท่ี
57 ต้องการ แล้วคลิกเลือกเทมเพลตที่ต้องการ ระบบแสดงตัวอย่างเทมเพลตที่เราเลือก คลิกปุ่ม สร้าง (Create) หนา้ จอจะแสดงไฟล์เอกสารเทมเพลต ทส่ี ามารถแก้ไข ปรับแต่งได้ตามต้องการ ภาพที่ 3.15 หนา้ ตา่ งชอ่ งเพือ่ คน้ หาเทมเพลตออนไลน์ ภาพท่ี 3.16 แสดงตวั อยา่ งเทมเพลตที่คน้ หา
58 ภาพที่ 3.17 แสดงตวั อย่างเทมเพลตที่เราเลอื ก เมื่อได้ template ท่ีต้องการใหก้ ด create เพือ่ สรา้ งเอกสารในแบบที่ตอ้ งการ ผ้ใู ช้สามารถ เปลย่ี นขอ้ ความ หรือรปู ภาพท่ปี รากฏใน template ไดต้ ามต้องการ 2.3 การบันทึกไฟลเ์ อกสาร (Save) เมือ่ ทำงานเสรจ็ แลว้ ก่อนออกจากโปรแกรม Word เราจะตอ้ งส่ังบันทึกไฟล์เอกสาร เพ่อื สามารถนำกลบั มาใช้ไดใ้ นครั้งตอ่ ไป ข้ันตอนการบนั ทึกไฟล์มีดังนี้ 1) คลิกทแ่ี ทบ็ ไฟล์ (File) หรอื คลกิ ปมุ่ ท่แี ถบเครอ่ื งมือดว่ น 2) เลอื กคำสั่งบันทกึ เปน็ (Save as) 3) คลิกท่ี เรยี กดู (Browse) เพอื่ เลือกไดรฟ์ทจ่ี ะเกบ็ เอกสาร 4) เลอื กโฟลเดอรท์ ี่ตอ้ งการบันทกึ งาน และตงั้ ชื่อให้กับไฟลเ์ อกสารที่จะบันทึก 5) คลิกปมุ่ บันทกึ (Save)
59 1 2 34 5 ภาพที่ 3.18 แสดงการบนั ทกึ ไฟลเ์ อกสาร 2.4 การเปิดไฟล์เอกสาร หากเราต้องการเปิดไฟลง์ านท่ีเคยบันทกึ ไว้ เพอ่ื จะแก้ไขหรือปรับปรงุ เพิ่มเติม สามารถทำได้ ตามขัน้ ตอนดังน้ี 1) คลิกท่ีแท็บไฟล์ (File) 2) เลือกคำสัง่ เปดิ (Open) 3) คลกิ ท่ี เรยี กดู 4) เลอื กไดรฟท์ เี่ ก็บไฟล์เอกสาร 5) เลอื กไฟล์เอกสารทต่ี ้องการเปิด 6) คลิกปุ่มเปดิ (Open)
60 1 24 3 56 ภาพท่ี 3.19 แสดงการเปดิ ไฟล์เอกสาร 2.5 การต้งั ค่าหนา้ กระดาษ การจัดการกับหน้ากระดาษ เช่น การกำหนดค่าขอบกระดาษ การวางแนวกระดาษ การ เปลยี่ นขนาดกระดาษ การแบ่งคอลมั น์ และการพิมพเ์ อกสารออกทางเครอ่ื งพมิ พ์ 2.5.1 การกำหนดค่าขอบกระดาษ กอ่ นที่เราจะสรา้ งงานเอกสาร เราจะตอ้ งเตรยี มหนา้ กระดาษ ใหไ้ ดส้ ดั สว่ นตามที่ เราตอ้ งการ ไมว่ า่ จะเป็น ดา้ นบน ดา้ นลา่ ง ด้านซ้าย หรือดา้ นขวา โดยการกำหนดค่าขอบ กระดาษทำไดด้ งั นี้ 1) คลกิ ทแี่ ท็บเคา้ โครง (Layout) 2) คลิกปมุ่ ระยะขอบ 3) เลือกระยะขอบทโี่ ปรแกรมกำหนดมาให้
61 21 3 ภาพที่ 3.20 การกำหนดคา่ ขอบกระดาษ แตถ่ ้าหากต้องการจะกำหนดขนาดดว้ ยตนเอง ก็สามารถทำไดด้ งั น้ี 1) คลิกที่แทบ็ เคา้ โครง (Layout) 2) คลิกที่ปมุ่ ระยะขอบ 3) คลิกทรี่ ะยะขอบแบบกำหนดเอง 4) จะแสดงกลอ่ งการตง้ั ค่าหนา้ กระดาษขึน้ มาใหเ้ รากำหนดคา่ ระยะขอบในสว่ นตา่ งๆ 5) เสรจ็ แลว้ คลิกปุ่มตกลง
62 2 4 1 3 5 ภาพที่ 3.21 การกำหนดค่าขอบกระดาษ 2.5.2 การวางแนวกระดาษ 1) ใหค้ ลกิ ทีแ่ ท็บเค้าโครง (Layout) 2) คลกิ ปมุ่ การวางแนว และ 3) เลือกแนวกระดาษที่ต้องการ 21 3 ภาพท่ี 3.22 การวางแนวกระดาษ
63 2.5.3 การเปลี่ยนขนาดกระดาษ คลกิ ที่แทบ็ เคา้ โครง (Layout) แลว้ คลกิ ปมุ่ ขนาด และเลือกขนาดกระดาษที่ตอ้ งการ 21 3 ภาพท่ี 3.23 การเปลย่ี นขนาดกระดาษ 2.5.4 การแบ่งคอลัมน์ คลกิ ทีแ่ ทบ็ เคา้ โครง (Layout) แล้วคลิกปมุ่ คอลัมน์ ตอ่ มาเลอื กจำนวนคอลมั นท์ ต่ี อ้ งการ รบิ บอนจะแสดงการแบ่งคอลมั น หากต้องการคอลัมน์ทีม่ ากกวา่ ระบบแสดง ใหเ้ ลือก more columns 21 3 ภาพที่ 3.24 เว็บไซตบ์ รกิ ารวิทยอุ อนไลน์
64 2.5.5 การพิมพ์เอกสารออกทางเครือ่ งพิมพ์ 1. คลกิ ที่แทบ็ ไฟล์ (File) เลอื กพมิ พ์ (Print) 2. ก่อนพมิ พ์เอกสารสามารถตรวจสอบจำนวนหนา้ ข้อความในเอกสาร เพื่อใหแ้ นใ่ จ A. สามารถเปลี่ยนรูปแบบการวางแนวเอกสารได้ B. สามารถเปล่ยี นขนาดของกระดาษได้ C. สามารถเปลีย่ นระยะขอบกระดาษได้ 3. กำหนดหนา้ กระดาษท่ตี ้องการพิมพท์ ี่ส่วนการต้งั คา่ (พมิ พท์ ุกหน้า, พิมพเ์ ฉพาะหนา้ ทีเ่ ปิดใช้งาน, พิมพ์เฉพาะหนา้ ทเี่ ลอื ก, พมิ พ์เฉพาะหน้าท่ีกำหนดเทา่ น้นั ) 4. เลือกจำนวนแผ่น/ชุด ท่ีตอ้ งการ และคลิกที่ปุ่มพมิ พ 54 1 3 ACB 2 ภาพท่ี 3.25 การพิมพ์เอกสารออกทางเครอ่ื งพมิ พ์ การประยกุ ต์ใช้ Microsoft Word ในงานธรุ กิจการบริการอาหาร การดำเนินงานธุรกิจการบริการอาหาร ผู้ประกอบการหรือพนักงานในองค์กรจำเป็นต้องใช้ เครื่องมือหรือเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการดำเนินงานเพื่อช่วยประหยัดเวลาในการดำเนินงาน สร้าง ความสะดวก รวดเร็วในการทำงาน โดยเฉพาะงานด้านเอกสาร งานธุรการ การใช้เครื่องมืออย่าง Microsoft word เป็นสิ่งที่จำเป็นในการออกรายงาน การนำเสนอข้อมูลให้กับลูกค้าหรือผู้บริหาร ระดบั สูง Microsoft word ไม่ไดม้ เี พียงถกู ใช้ในการออกรายงานอย่างเดยี วเท่านน้ั ยงั มแี ทมเพลตอน่ื ๆ ท่ีผู้ใช้งานสามารถเอาไปประยกุ ต์ใชก้ ับธุรกิจที่ดำเนินการอยไู่ ด้ ได้แก่ การออกแบบโบร์ชัว การเขียน จดหมาย การทำรายการ checklist การทำระเบียบวาระการประชุม (agenda) การทำหนังสือพมิ พ์ (newsletter) การทำ label การทำการด์ ขอบคณุ ลกู คา้ การทำ resume เพอ่ื รบั สมคั รงาน เป็นตน้
65 ตัวอย่างการใชง้ าน Microsoft word ในงานธุรกิจการบรกิ ารอาหาร ตัวอย่างท่ี 1 การทำรายงานนำเสนอขอ้ มูลต่อผู้บริหาร เริ่มจากการกำหนดรูปแบบของเอกสาร หากต้องการสร้างด้วยตัวเอง ให้เลือก Blank Document หากต้องการใช้ template ของ Microsoft word ให้เลือก New จะปรากฎรูปแบบ ต่างๆ ของ template แล้วพิมพใ์ นชอ่ งค้นหาว่า “report” จะปรากฏแมแ่ บบมากมาย ใหเ้ ลอื กตามท่ี ตอ้ งการ และกด create เพื่อปรบั ใช้แม่แบบใหต้ รงกับงานของเรา 12 3 4 ภาพท่ี 3.26 template ของหนา้ เอกสาร เมื่อได้แม่แบบที่ต้องการให้ทำการปรับข้อมูล รูปแบบ เนื้อหาต่างๆ ให้สอดคล้องกับงานท่ี ตนเองจะทำ ก่อนอ่ืนให้ตรวจสอบการตั้งค่าหนา้ กระดาษวา่ เปน็ ไปตามที่ต้องการหรือไม่ เนื่องจากบาง องคก์ รมรี ปู แบบทีใ่ ช้กันเป็นมาตรฐานตามแต่ละองคก์ าร แมแ่ บบทเ่ี ลอื กมาใช้อาจจะไม่สอดคล้องกัน
66 โดยเข้าไปตรวจสอบที่ แท็บ layout แล้วเลือก margins และเลือก custom margins จะปรากฏ กลอ่ งช่อื วา่ page setup ให้ตรวจสอบและปรับให้เหมาะสมกับงานทจ่ี ำทำ 21 4 35 ภาพท่ี 3.27 การปรับขนาดเอกสาร หลังจากนั้นให้ปรับเปลี่ยนเนื้อหาข้อความ รูปภาพ รูปแบบ ให้สอดคล้องกับรายงานที่ ต้องการทำ ผู้ใช้สามารถเพิ่มเนื้อหาตาราง กราฟ หรือส่วนอื่นๆที่จำเป็นเพิ่มไดต้ ามต้องการ เทคนิค การเปลี่ยนภาพโดยไมต่ อ้ ง insert เข้าไปใหม่ กรณีต้องการในทีเ่ ดิม มวี ธิ กี ารดงั นี้ ให้คลกิ เลือกทภี่ าพท่ีตอ้ งการจะเปลี่ยน จะปรากฏจุดสีขาวตามมุมภาพ ให้คลิกแท็บ picture format ซึ่งเป๋นแท็บพิเศษที่ขึ้นมาเมื่อต้องการจะปรับแต่งภาพ แล้วให้คลิกเลือกคำสั่ง change picture ซึ่งอยู่ในคอลัม adjust บนริบบอน เมื่อคลิกเข้าไปจะปรากฏคำสั่ง From a file คือการเข้า ไปเลอื กภาพจากไดร์ฟท่อี ย่ใู นเคร่ืองของผ้ใู ชง้ าน
3 67 4 2 1 ภาพที่ 3.28 การปรบั ขนาดเอกสาร เม่อื เลอื ก from a file จะปรากฏกลอ่ งให้ insert ภาพ ใหเ้ ลอื กภาพตามที่ตอ้ งและกด insert ภาพจะถูกเปลี่ยนไปตามขนาดรูปที่เลือก อาจจะไม่ใช้ขนาดเดิมที่ปรากฏบนแม่แบบเดิม ดังนั้นหาก ภาพเลก็ กใ็ หป้ รบั ให้สมดลุ กบั หนา้ กระดาษ 1 2 3 ภาพท่ี 3.29 การเปลีย่ นภาพในหนา้ เอกสารแมแ่ บบ
68 หากต้องการเพิ่มภาพอื่นๆ เพิ่มเติม ให้ไปที่แท็บ Insert แล้วเลือก picture จะปรากฏหน้า เมนู insert picture from ใหเ้ ลอื ก this device ซง่ึ ภาพทต่ี ้องการคน้ หาจะอยู่ในเครอ่ื งผู้ใชง้ าน เมื่อ กดจะปรากฏกล่องให้ภาพ เลอื กภาพทต่ี อ้ งการ แล้วกด insert 1 3 2 4 ภาพที่ 3.30 การเพมิ่ ภาพใหมใ่ นหน้าเอกสารแมแ่ บบ หากต้องการเพิ่มข้อมลู ตาราง ให้ไปที่แท็บ insert เช่นกัน จะปรากฏเมนู table ให้ลากขนาด ตารางตามต้องการ หรอื จะเลอื กระบุจำนวนแถวและคอลัมเองท่ี เมนู insert table 1 2 3 เพ่ิมเองแบบระบจุ ำนวน ภาพที่ 3.31 การเพ่ิมตารางในหนา้ เอกสารแม่แบบ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423