Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_72

tripitaka_72

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:44

Description: tripitaka_72

Search

Read the Text Version

พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย อปทาน เลม ๙ ภาค ๑ - หนา ท่ี 617 ทนั ใดน้นั พระบรมศาสดาไดตรัสกะดิฉันวา ดกู อ นขัตติยนันทนา เธอจักไดตาํ แหนงที่ตนปรารถนา ตําแหนง ทเี่ ธอปรารถนาน้เี ปน ผลแหงการถวายประทีปธรรม ในกปั ท่ีหนึ่งแสนแตกัปนี้ พระศาสดาพระนามวา โคดม จัดทรงสมภพในวงศพ ระเจาโอกกากราช จกั เสด็จอุบตั ิข้ึนในโลก เธอจกั ไดเ ปน ธรรมทายาทของพระศาสดาพระองคน ้ัน เปนโอรสอันธรรมนริ มติ จกั เปนพระสาวกิ าของพระศาสดา มีนามวา สกุลา ดว ยกศุ ลกรรมทีไ่ ดท าํ ไวแ ลวนน้ั และดว ยการตั้งเจตนจาํ นงไว ดฉิ นั ละรา งกายมนษุ ยแ ลวไดไ ปสูสวรรคช้นั ดาวดึงส ในภทั รกัปนี้ พระพุทธเจาพระนามวากัสสปะ ผูเ ปนพงศพ นั ธแุ หงพรหม มียศมากประเสริฐกวา บณั ฑติ ท้ังหลาย เสดจ็ อุบตั ขิ ้ึนแลว ครัง้ น้นั ดิฉนั เปนปรพิ าชกิ า ประพฤติอยผู เู ดยี ว เท่ียวไปเพอื่ ภกิ ษา ไดน้ํามนั มานอยหนึ่ง มีใจผอ งใส เอานํา้ มนั นน้ั ตามประทปีบชู าพระเจดยี ช อื่ สพั พสังวร แหง พระพุทธเจา ผูประเสริฐกวา สตั ว

พระสุตตันตปฎก ขทุ ทกนกิ าย อปทาน เลม ๙ ภาค ๑ - หนาท่ี 618 ดวยกศุ ลกรรมท่ีไดทาํ ไวแ ลว นนั้ และดว ยการต้ังเจตนจ าํ นงไว ดิฉนั ละรา งกายมนุษยน้ันแลว ไดไปสูสวรรคชน้ั ดาวดงึ ส ดว ยอาํ นาจบุญกรรมนนั้ ดิฉนั ไปเกิดในทใี่ ด ๆ ประทีปเปนอนั มากก็สวางไสวแกดฉิ ันในท่ีน้ัน ๆ ดฉิ ันปรารถนาจะเห็นสง่ิ ทีอ่ ยูนอกฝาหรอืสง่ิ ที่อยนู อกภเู ขาศลิ า กเ็ ห็นไดท ะลปุ รโุ ปรง นี้เปนผลแหง การถวายประทีป ดฉิ นั มนี ยั นต าแจมใส รุงเรอื งดว ยยศ มีศรัทธา มีปญ ญา นกี้ ็เปนผลแหง การถวายประทีป ในภพหลงั ครั้งนี้ ดิฉนั เกดิ ในสกุลพราหมณ อันมที รัพยและขา วเปลือกมากมายมหาชนยนิ ดี พระราชาทรงบชู า ดฉิ นั สมบรู ณไปดวยอวยั วะทงั้ ปวง ประ-ดับดว ยสรรพาภรณ ยืนอยทู ่หี นาตาง ไดเห็นพระสุคตเจาเสดจ็ เขาไปในเมืองทรงรงุ เรอื งดวยยศ อันเทวดาและมนุษยสกั การะบชู า ทรงสมบรู ณดว ยพระอนุพยัญชนะ ประดับดวยพระลกั ษณะทัง้ หลาย มจี ิตเล่อื มใสโสมนัส พอใจบรรพชาครนั้ ไดบ รรพชาแลวไมน านนกั กไ็ ดบ รรลอุ รหตั -ผล.

พระสตุ ตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย อปทาน เลม ๙ ภาค ๑ - หนาท่ี 619 ดิฉันมีความชาํ นาญในฤทธิแ์ ละทพิ โสต- ธาตุ รวู าระจติ ของผอู น่ื เปน ผปู ฏิบัตติ ามสตั ถุ- ศาสน รปู ุพเพนิวาสญาณ และทิพยจกั ษุอัน หมดจดวิเศษ ยังอาสวะทง้ั ปวงใหสิ้นไปแลว เปน ผูบริสทุ ธ์ิ หมดมลทนิ ดว ยดี ดิฉนั บํารุงพระศาสดาแลว ปฏบิ ตั ติ ามคาํ สอนของพระพทุ ธเจา เสรจ็ แลว ปลงภาระอนั หนัก ลงไดแ ลว ถอนตัณหาอนั นําไปสูภพขน้ึ ไดแลว บรรลุถึงประโยชน คือ ธรรมเปนทสี่ ้นิ สงั โยชนท ัง้ ปวง ท่กี ุลบตุ รทงั้ หลายออกบวชเปน บรรพชิตตองการน้ันแลว แตนน้ั พระผูมีพระภาคเจา ผทู รงพระ- มหากรุณา ผอู ุดมกวานรชน ทรงต้งั ดฉิ นั ไวใน ตาํ แหนงเอตทคั คะวา สกลุ าภกิ ษุณี เปนผเู ลิศ กวา ภิกษณุ ที งั้ หลาย ฝา ยที่มที พิ ยจกั ษุ ดฉิ ันเผากเิ ลสทัง้ หลายแลว . . . คําสอน ของพระพุทธเจาดฉิ นั ไดท ําเสร็จแลว . ทราบวา ทานพระสกุลาภิกษณุ ไี ดก ลาวคาถาเหลา น้นั ดว ยประการฉะนีแ้ ล. จบสกุลาเถรอี ปทาน

พระสตุ ตันตปฎก ขุททกนิกาย อปทาน เลม ๙ ภาค ๑ - หนา ท่ี 620 นันทาเถรอี ปทานที่ ๕ (๒๕) วา ดวยบุพจรยิ าของพระนนั ทาเถรี [๑๖๕] ในกัปท่ีหน่ึงแสนแตภัทรกปั นี้ พระพิชิตมารผเู ปนนายกของโลก พระนามวา ปทมุ ุตตระ ผูท รงรูจบธรรมทั้งปวง เสด็จอบุ ัติขึน้ แลว พระองคเ ปนพระพทุ ธเจาผฉู ลาดในวธิ -ี เทศนา ตรัสสอนเหลาสตั วใ หรแู จง ทรงชวย สรรพสตั วใหข ามแลว ทรงชว ยใหหมูชนขามพน ไดเปน อนั มาก ทรงพระกรณุ าอนเุ คราะห แสวงหา ประโยชนแกสัตวท้งั ปวง ทรงตั้งพวกเดียรถียท ี่มาถึงแลว ทง้ั หมดไวในเบญจศลี พระศาสนาของพระองคไมอากูล วา ง- เปลา จากพวกเดียรถยี  งดงามไปดวยพระอรหันต ท้งั หลายทม่ี คี วามชํานาญ เปนผูคงท่ี พระองคเปน พระมหามนุ มี ีพระกายสงู ๕๘ ศอก มีพระรัศมีงามปานทองคาํ ท่ีมคี า มี พระลกั ษณะอนั ประเสริฐ ๓๒ ประการ มพี ระชนมายแุ สนป พระองคด ํารงอยู โดยกาลเทา นั้น ทรงชวยใหห มชู นขา มพนไดเปน อนั มาก.

พระสุตตนั ตปฎก ขุททกนกิ าย อปทาน เลม ๙ ภาค ๑ - หนา ที่ 621 คร้ังน้นั ดฉิ นั เกดิ ในสกุลเศรษฐีมีความรงุ เรอื งดวยรตั นะตาง ๆ ในเมอื งหงั สวดี เปนผูเพียบพรอมไปดวยความสขุ มาก ดิฉัน เขาไปเฝาพระมหาวีรเจาพระองคนั้น ไดฟงพระธรรมเทศนา อันประกาศปรมัตถ-ธรรมอยางจบั ใจย่งิ ซงึ่ เปนอมตธรรม คร้ังน้ันดิฉนั มีความเลอ่ื มใส ไดน ิมนตพระพทุ ธเจาผเู ปนนายกของโลกพรอมดว ยพระสงฆ ไดถวายมหา-ทานแดพระองคดว ยมอื ของตน ไดซบเศียรลงใกลพระมหาวีรเจา พรอมดวยพระสงฆปรารถนาตําแหนงทเี่ ลิศกวาภิกษุณีทัง้ หลายฝา ยที่มฌี าน. ครง้ั นนั้ พระสคุ ตเจาผูฝกนรชนทยี่ งั ไมไดฝ ก เปนสรณะของโลกสาม ผูเ ปนใหญ ทรงนรชนไวใหดี ทรงพยากรณวา ทานจักไดต าํ แหนงที่ปรารถนาดีแลวน้ันในกปั ทห่ี นง่ึ แสนแตกปั นี้ พระศาสดาพระนามวาโคดม มสี มภพในวงศพระเจา โอกกากราช จกัเสด็จอุบัตขิ ึ้นในโลก ทานผเู จริญจักไดเ ปนธรรมทายาทของพระศาสดาพระองคน น้ั เปนโอรสอันธรรมนริ มติ จักเปน สาวิกาของพระองค มีนามช่อื วา นนั ทา.

พระสุตตนั ตปฎ ก ขุททกนกิ าย อปทาน เลม ๙ ภาค ๑ - หนา ท่ี 622 ครงั้ นนั้ ดฉิ ันไดฟงพระพทุ ธพจนนั้นแลว มใี จยนิ ดี มีจิตประกอบดว ยเมตตา บาํ รุงพระพชิ ิตมารผเู ปนนายกชนั้ พเิ ศษ ดวยปจ จัยทง้ั หลายตลอดชีวติ ดว ยกุศลกรรมที่ไดทําไวด ีนนั้และดว ยการต้ังเจตนจ ํานงไว ดิฉนั ละรางกายมนุษยแ ลว ไดไ ปสสู วรรคช น้ั ดาวดึงส จตุ จิ ากสวรรคช ั้นน้นั แลว ดฉิ ันไปสูสวรรคช ้นั ยามา จตุ ิจากนัน้ แลว ไปสวรรคช ัน้ ดุสิตจุตจิ ากนั้นแลว ไปสวรรคช้นั นิมมานรดี จุตจิ ากนน้ั แลวไปสวรรคชั้นปรนิมมติ วสวตั ดี ดว ยอํานาจบญุ กรรมนน้ั ดิฉนั เกิดในภพใด ๆ กไ็ ดครองตําแหนงราชเมหสใี นภพนน้ั ๆ จตุ จิ ากสวรรคช นั้ ปรนิมมติ วสวตั ดีแลวมาเกดิ เปน มนุษย ไดครองตาํ แหนงอคั รมเหสีของพระเจาจักรพรรดิ และพระเจา เอกราช เสวยสมบัติในเทวดาและมนษุ ย เปน ผูม ีความสขุ ในท่ีทุกสถาน ทอ งเทย่ี วไปในกปั เปนอเนก. ในภพหลังทมี่ าถึงบัดน้ี ดฉิ นั เปนพระ-ธิดาแหงพระเจาสทุ โธทนะในกรงุ กบิลพัสดุ เปนผมู ีรูปสมบตั อิ นั ประชาชนสรรเสริญ

พระสุตตันตปฎ ก ขุททกนิกาย อปทาน เลม ๙ ภาค ๑ - หนาที่ 623 ราชสกุลนน้ั เห็นดฉิ ันมรี ปู งามเปน สริ ิจึงพากันชื่นชม เพราะฉะน้นั ดฉิ นั จึงมีนามวานนั ทา เปน ผูมรี ูปลักษณะสวยงาม ในพระนครกบิลพัสดุซงึ่ เปน เปนธานีทีร่ ื่น-รมยน้ัน นอกจากพระนางยโสธรา ปรากฏวาดฉิ นั งามกวายุวนารีทงั้ ปวง พระภาดาพระองคใ หญเ ปน พระพุทธเจาผูเ ลศิ ในไตรโลก พระภาดาองคร องกเ็ ปน พระ-อรหันต ดิฉันยงั เปน คฤหสั ถอยูผูเ ดียว พระ-มารดาทรงตกั เตอื นวา ดูกอนพระราชสุดา ลกู รกั เกิดในศากย-สกลุ เปน พระอนุชาแหงพระพุทธเจา เม่อื เวนจากนันทกุมารแลวจกั ไดป ระโยชนอ ะไรในวงั เลา รปู ถึงมคี วามเจริญ กม็ ีความแกเปนอวสาน บัณฑติ รูกนั วา ไมส ะอาด เม่ือยงั เจรญิมิไดม โี รค แตมโี รคในตอนปลาย ชวี ิตมมี รณะเปนทสี่ ดุ รูปของเธอนี้ แมวา จะงามจงู ใจใหน ิยมดุจดวงจนั ทรทใ่ี ครกนั เมอื่ ตกแตง ดว ยเครื่องประดับมากอยา ง ก็ย่ิงมคี วามงามเปลงปลั่งเปน ที่กาํ หนัด

พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย อปทาน เลม ๙ ภาค ๑ - หนาที่ 624 เปนท่ียินดีแหง นัยนตาท้ังหลายคลา ยกะวา ทรัพยข องโลกทบี่ ูชากัน เปนรปู ทใี่ หเกิดความสรรเสริญ เพราะบญุ มากท่ีบําเพ็ญไว เปน ท่ีชนื่ ชมแหงวงศโอกกากราช ไมช านานเทาไร ชราก็จักมายํ่ายี ลูกรกัจงละพระราชฐานและรปู ทบ่ี ัณฑิตตําหนิ ประ-พฤตพิ รหมจรรยเถดิ . ดิฉนั ผยู ังหลงใหลดว ยความเจริญแหง รูปไดฟงพระดาํ รสั ของพระมารดาแลว กอ็ อกบวชแตรางกาย แตมไิ ดออกบวชดว ยความเตม็ ใจดฉิ ันระลกึ ถงึ ตวั เองอยูดวยความเพง ฌานเปนอนั -มาก พระมารดาตรัสตักเตือนเพื่อใหประพฤติธรรม แตดฉิ ันมิไดข วนขวายในธรรมจริยาน้ัน. ครั้งนั้น พระพิชิตมารผูท รงพระมหา-กรณุ า ทอดพระเนตรเหน็ ดิฉันผูม ีผวิ หนาดังดอกบัว ทรงนิรมติ หญงิ คนหน่งึ งามนาชม นา ชอบใจย่งิ นกั มรี ปู งามกวาดิฉนั ในคลองจกั ษุของดฉิ นัดวยอานุภาพของพระองค เพอ่ื ใหด ฉิ ันเบื่อหนายในรูป ดฉิ นั เปนคนสวย เห็นหญิงมรี า งกายสวยยิง่ กวา คดิ เพอไปวา เราเหน็ หญงิ มนุษยดงั น้ีมีผล เปน ลาภนยั นต าของเรา

พระสุตตันตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย อปทาน เลม ๙ ภาค ๑ - หนาที่ 625 เชิญเถดิ แมค นงาม แมจงบอกสิ่งที่ตอ งประสงคแ กฉ นั ฉันจะให แมจ งบอกสกุล นามและโคตรของแม ซ่ึงเปนท่ีรักแหง แมแกฉันเถิด. แมค นงาม เวลานี้ยงั ไมใชก าลแหงปญ หา แมจงใหฉ นั อยบู นตัก อวยั วะท้ังหลายของฉนั จะทบั อยู แมใหฉนั หลับสกั ครเู ถดิ แตน้ันแมคนสวยพึงพิงศีรษะตักฉันนอนหลับไป ของแข็งหยาบตกลงท่หี นา ผากของแมค นสวย ตอ มาฝก ป็ รากฏขน้ึ พรอมกบั ทขี่ องแข็งตกลงถกู นางน้ัน หัวฝก ็แตกออกแลวมเี ครอ่ื งโสโครกคอื หนองและเลือดไหลออก หนาท่ีแตกแลวมกี ลน่ิ เนา ปฏกิ ลู ตวั ท่ัวไปกบ็ วมเขยี ว แมคนสวยมีสรรพางคส น่ั หายใจถเ่ี สวยทุกขข องตนอยู รําพันอยางนา สมเพช. เพราะแมคนสวยประสบทกุ ข ฉันกม็ ีทุกข ตองทกุ ขเ วทนา จมอยูในมหาสมทุ ร ขอแมค นสวยจงเปน ทพี่ งึ่ ของฉนั หนาท่งี ามของแมหายไปไหน จมูกท่ีโดงงามของแมหายไปไหน ริมฝป ากที่สวยเหมอื นสลี ูกมะพลบั สกุ ของแมหายไปไหน

พระสตุ ตันตปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย อปทาน เลม ๙ ภาค ๑ - หนา ท่ี 626 วงหนางามคลายดวงจนั ทรแ ละ ลาํ คอละมา ยตอมทองคําของแมห ายไปไหน ใบหขู องแมเปน ดังพวงดอกไม มสี ีเสยี ไปแลว ถนั ทัง้ คขู องแม เหมอื นดอกบวั ตูมแตกแลว มกี ลิน่ เหม็นฟงุ ไปคลายกะวา ศพเนา แมม ีเอวกลมกลอ ม มตี ะโพกผ่งึ ผายแมเ ตม็ ไปดว ยสิ่งช่ัวถอย โอ รูปไมเ ทีย่ ง อวยั วะทเ่ี นื่องในสรรี ะท้งั หมดมีกล่นิ ปฏิ-กลู นา กลัว นาเกลียด เหมือนซากศพท่ีเขาท้งิไวในปาชา เปนท่ียนิ ดขี องพวกพาลชน ครง้ั นั้น พระภาดาของดฉิ ันผเู ปน นายกของโลก ผูป ระกอบดวยพระมหากรุณา ทอดพระเนตรเหน็ ดฉิ ันมีจิตสลด ไดต รสั พระคาถาเหลานว้ี า ดูกอ นนันทา เธอจงดูรปู ทที่ ่ีกระสบั กระสายเปอยเนาดงั ซากศพ จงอบรมจติ ใหต ัง้ มน่ั มีอารมณเ ดยี ว ดวยอสุภารมณ รูปน้ี เปน ฉนั ใด รปู เธอ กเ็ ปน ฉนั นั้นรปู เธอ เปนฉนั ใด รูปนี้ ก็เปนฉันนัน้ รูปนี้มีกล่ินเหม็นเนา ฟุงไป พวกคนพาลยินดียิง่ นกั พวกบณั ฑติ ผมู ิไดเกียจครา น ยอมพิจารณาเหน็ รปู เปน อยา งน้นั ทงั้ กลางคืนกลางวนั

พระสตุ ตนั ตปฎก ขทุ ทกนิกาย อปทาน เลม ๙ ภาค ๑ - หนาท่ี 627 เธอจงเบือ่ หนา ย พิจารณาดรู ูปนน้ั ดวยปญ ญาของ คน. ลาํ ดบั นัน้ ดฉิ นั ไดฟงคาถาเปนสุภาษิต แลวมีความสลดใจ ตงั้ อยูใ นธรรมน้ัน ไดบ รรลุ ซง่ึ อรหัตผล ในกาลนัน้ ดฉิ นั นั่งอยูในทไ่ี หน ๆ กม็ ี ฌานเปนเบอ้ื งหนา พระพชิ ติ มารทรงพอพระทัย ในคณุ สมบตั นิ นั้ จึงทรงต้ังดฉิ ันไวใ นตาํ แหนง เอตทคั คะ ดิฉนั เผากเิ ลสทง้ั หลายแลว.. . คาํ สอน ของพระพุทธเจา ดิฉนั ไดท ําเสร็จแลว . ทราบวา ทานพระนนั ทาภกิ ษุณไี ดก ลา วคาถาเหลานี้ ดวยประการฉะน้ีแล. จบนนั ทาเถรีอปทาน โสณาเถรีอปทานท่ี ๖ [๒๖] วาดว ยบุพจริยาของพระโสณาเถรี [๑๖๖] ในกปั ทีห่ นง่ึ แสนแตภ ทั รกปั นี้ พระพิชิตมาผูเปนนายกของโลกพระนามวา ปทมุ ตุ ตระ ผทู รงรูจบธรรมทัง้ ปวง เสดจ็ อุบัติขน้ึ แลว

พระสุตตนั ตปฎก ขุททกนิกาย อปทาน เลม ๙ ภาค ๑ - หนา ท่ี 628 คร้ังน้ัน ดฉิ นั เถดิ ในสกุลเศรษฐี เปนผมู สี ุขชอบตกแตง เปน ทร่ี กั ของบดิ า เขา ไปเฝาพระมุนผี ปู ระเสรฐิ พระองคน ั้น ไดฟงพระ-ดาํ รสั อนั ไพเราะ. พระพชิ ิตมารทรงสรรเสริญภกิ ษอุ งค-หนึง่ วา เปนผเู ลิศกวา ภิกษุณีทงั้ หลาย ฝา ยผูปรารภความเพยี รคร้ังนนั้ ดฉิ ันไดฟ ง พระพุทธ-พจนน ั้นแลวมีความยินดี ไดทาํ สกั การะแดพ ระ-ศาสดา ถวายบังคมพระพุทธเจา แลว ไดปรารถนาตาํ แหนง นนั้ พระมหาวีรเจา ทรงอนุโมทนาวาความปรารถนาของทานจะสาํ เรจ็ ในกัปทแ่ี สนหน่ึงแตก ปั นี้ พระศาสดาพระนามวา โคดม มีสมภพในวงศพระเจาโอก-กากราชจกั เสดจ็ อบุ ัตขิ นึ้ ในโลก ทา นน้ีจักไดเปนธรรมทายาทของพระศาสดาพระองคนนั้ จักเปนโอรสอนั ธรรมนริ มติ จกั ไดเ ปน พระสาวิกาของพระศาสดามีช่อื วาโสณา. ครง้ั นน้ั ดฉิ นั ไดฟ ง พทุ ธานุโมทนานั้นแลว มีความยนิ ดี มีจติ ประกอบดวยเมตตา บํารุงพระพชิ ติ มารผูเปน นายกชน้ั พิเศษดวยปจจัยทั้งหลายจนตลอดชวี ิต

พระสตุ ตันตปฎ ก ขุททกนิกาย อปทาน เลม ๙ ภาค ๑ - หนาท่ี 629 ดว ยกศุ ลกรรมท่ีทําไวแลว น้ัน และดวยการตั้งเจตนจํานงไว ดฉิ นั ละรางกายมนุษยแลวไดไปสสู วรรคช ั้นดาวดึงส ในภพหลงั ครั้งนดี้ ฉิ นั เกิดในสกุลเศรษฐีที่มั่งคั่งเจรญิ มีทรพั ยมากในพระนครสาวัตถี เมือ่ ดฉิ นั เติบโตเปน สาว ไดไปสูสกุลสามีคลอดบตุ รชาย ๑๐ คนลว นแตมรี ูปงามย่ิงนกั บุตรทกุ คนนัน้ ตงั้ อยูในความสขุ เจริญตาและใจของชนใหนยิ ม แมแ ตพ วกศัตรูก็ชอบใจ เปนท่ีรกัของดิฉันมาก. ในกาลนนั้ โดยท่ดี ฉิ นั ไมปรารถนา สามีของดฉิ นั พรอ มดว ยบตุ รท้งั ๑๐ คนพากนั ไปบวชในพระพุทธศาสนา ดฉิ นั อยผู ูเดียวคดิ วา เราพลดั พรากจากสามีและบตุ รเปนกาํ พรา อยู ไมควรจะเปนอยูแมเราก็จกั ไปในอารามทภ่ี ิกษผุ เู คยเปน สามอี ยูครัน้ คดิ อยา งนีแ้ ลว จึงออกบวช. ครั้งนั้น พวกภกิ ษณุ ีละดิฉนั ไวใ นสาํ นักท่อี ยอู าศยั แตผเู ดยี ว สั่งดิฉนั วา ทานจงตมนํา้ไวแ ลว พากนั ไป เวลาน้นั ดิฉันตกั นาํ้ มาใสในหมอเลก็ตัง้ ทง้ิ ไวแลวนัง่ อยู แตน ้นั ดฉิ ันก็เร่ิมเพยี รทางจิต

พระสุตตนั ตปฎก ขุททกนิกาย อปทาน เลม ๙ ภาค ๑ - หนาท่ี 630 ไดพ จิ ารณาเหน็ ขันธทุ งั้ หลายโดยความเปน ของไม เที่ยง เปนทกุ ข และเปนอนตั ตา ยงั อาสวะ ทง้ั ปวงใหส น้ิ ไปแลว ไดบรรลุอรหัตผล เมื่อพวก ภกิ ษุณกี ลบั มาแลวถามถึงนํา้ รอ น ดฉิ ันอธิษฐาน เตโชธาตใุ หนํ้ารอนเร็วพลัน ภิกษุณีเหลานนั้ พากันพศิ วง ไปกราบทูล พระพิชติ มารผูประเสรฐิ ใหทรงทราบเรื่องน้ัน พระโลกนาถทรงสดบั เรอื่ งน้นั แลว ทรง ชื่นชม ไดตรสั พระคาถานว้ี า แทจ ริง บคุ คลผู ปรารภความเพียรนน่ั มีชีวติ เปน อยเู พียงวนั เดยี ว ก็ประเสริฐ กวา คนเกยี จครานละความเพียรเปน อยู ตั้ง ๑๐๐ ป พระมหามุนมี หาวรี เจาอันดฉิ นั ใหโ ปรด แลว เพราะความปฏิบัติดีตรัสวา ดฉิ นั เปนผเู ลศิ กวา ภิกษณุ ีทง้ั หลายฝา ยปรารภความเพยี ร ดิฉันเผากเิ ลสท้งั หลายแลว ... คาํ สอน ของพระพุทธเจาดิฉนั ไดทาํ เสรจ็ แลว . ทราบวา ทานพระโสณาภิกษุณไี ดกลา วคาถาเหลา นั้น ดวยประการฉะนี้แล. จบโสณาเถรอี ปทาน

พระสุตตนั ตปฎ ก ขทุ ทกนิกาย อปทาน เลม ๙ ภาค ๑ - หนา ท่ี 631 ภัททกาปล านีเถรอี ปทานที่ ๗ [๒๗] วา ดวยบุพจรยิ าของพระภัททกาปล านีเถรี [๑๖๗] ในกัปที่หน่ึงแสนแตภ ัทรกปั น้ี พระพิชติ มารผเู ปนนายกของโลก พระนามวา ปทมุ ตุ ตระ ผูท รงรูจบธรรมท้งั ปวง เสดจ็ อุบตั ิ ขน้ึ แลว ครง้ั นน้ั ดฉิ ันเปนภรรยาของเศรษฐมี ี ชอ่ื วา วเิ ทหะ มรี ตั นะมาก ในเมอื งหังสวดี บางครงั้ เศรษฐนี ัน้ พรอ มกบั นรชนทเี่ ปนบรวิ าร เขาไปเฝา พระพุทธเจาซงึ่ เปน ดังดวง อาทิตยแ หงนรชน ไดฟงธรรมของพระองคอัน เปนเหตุนาํ มาซ่ึงความสิน้ ทุกขท งั้ ปวง พระผูม ีพระภาคเจาผนู ายก ทรงประกาศ พระสาวกองคหนึ่งวา เปนผเู ลิศกวา ภกิ ษทุ ้ังหลาย ฝา ยกลา วคุณแหงธดุ งค เศรษฐีผเู ปนสามีแหงดิฉันไดฟ ง แลว ไดถวายทานแดพระพทุ ธเจาผูค งทต่ี ลอด ๗ วนั แลวซบเศยี รลงแทบพระบาท ปรารถนาตําแหนง นนั้ กใ็ นกาลนน้ั พระพทุ ธเจา ผปู ระเสริฐกวา นรชน เมือ่ จะทรงใหบ ริษัทรืน่ เรงิ

พระสตุ ตันตปฎก ขทุ ทกนกิ าย อปทาน เลม ๙ ภาค ๑ - หนาท่ี 632 ไดต รสั พระคาถาเหลา นเี้ พื่อทรงอนุ-เคราะหเ ศรษฐีวา ดกู อนบุตร ทานจะไดตําแหนงทตี่ นปรารถนา จงเปนผเู ย็นใจเถิด ในกปั ทห่ี นง่ึ แสนแตกัปนี้ พระศาสดาพระนามวาโคดม จกั มีสมภพในวงศพระเจาโอกกากราช เสดจ็ อุบตั ขิ น้ึ ในโลก ทานนีจ้ กั ไดเปน ธรรมทายาท ของพระศาสดาพระองคน้นั จกั เปน โอสอันธรรมนิรมิตจักเปน สาวกของพระศาสดา มนี ามวากสั สปะ เศรษฐีไดฟง พระพุทธพยากรณน ้นั แลวมีความเบกิ บานใจ มิจิตประกอบดว ยเมตตาบาํ รงุ พระพชิ ิตมารผูเปน นายกชั้นพิเศษ ดว ยปจจยั ท้ังหลายจนตลอดชวี ติ พระผูมพี ระภาคเจา พระองคนนั้ ทรงยงัพระศาสนาใหร ุง เรอื งแลว ทรงกาํ จดั เดียรถยี ท ่ีชวั่และทรงแนะนาํ ประชาชนท่คี วรแนะนาํ แลว พระองคก ับทั้งพระสาวกกป็ รนิ พิ พาน เม่อื พระสคุ ตเจาซึง่ เปน ผูเลิศในโลก พระองคนน้ั ปรนิ พิ พานแลว เศรษฐนี นั้ เชิญญาตแิ ละมติ รมาประชมุ แลว พรอ มกบั ญาติและมติ รเหลานนั้ ไดส รา งพระสถูปสําเรจ็ ดวยรัตนะ สูง ๗ โยชนงามเหมอื นดวงอาทิตย และตนพระยารงั ทม่ี ีดอกบาน เพอ่ื สักการะบชู าพระศาสดา




































Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook