Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore tripitaka_22

tripitaka_22

Published by sadudees, 2017-01-10 01:15:38

Description: tripitaka_22

Search

Read the Text Version

พระสตุ ตันตปฎ ก มชั ฌิมนกิ าย อุปรปิ ณ ณาสก เลม ๓ ภาค ๑ - หนา ที่ 1 พระสตุ ตันตปฎก มัชฌมิ นกิ าย อุปริปณ ณาสก เลม ที่ ๓ ภาคที่ ๑ขอนอบนอ มแดพ ระผูมพี ระภาคอรหนั ตสัมมาสัมพุทธเจา พระองคนนั้ เทวทหวรรค ๑. เทวทหสูตรวาดว ยวาทะของพวกนคิ รนถแ ละพระตถาคต [๑] ขาพเจา ไดฟง มาแลว อยา งน้ี สมัยหนง่ึ พระผมู พี ระภาคเจา ประทบั อยทู ่ีสกั ยนคิ ม อนั มีนามวาเทวทหะ ในสักกชนบท สมยั นนั้ พระผมู ีพระภาคเจาตรสั เรียกภิกษุทงั้ หลายวา ดูกอนภิกษุทง้ั หลาย ภิกษเุ หลานน้ั ทลู รับพระดํารัสแลว . [๒] พระผมู พี ระภาคเจา ไดต รัสดงั นี้วา ดกู อ นภกิ ษทุ ้ังหลาย มีสมณพราหมณพวกหน่งึ มีวาทะอยา งน้ี มีทฏิ ฐิอยา งน้ีวา บรุ ุษบคุ คลนี้ยอ มเสวยเวทนาอยา งใดอยา งหนง่ึ ไมว าสุข ทกุ ข หรือมิใชท กุ ขมิใชสุขก็ดี ขอนัน้ ทง้ั หมดกเ็ พราะเหตแุ หง กรรมทต่ี นทําไวแตก อ น ดังน้ันเพราะกรรมเกา หมดดว ยตบะ ไมท าํ กรรมใหม กจ็ ักไมมผี ลตอไป เพราะไมม ีผลตอไป ก็จักสิ้นกรรม เพราะสิ้นกรรม ก็จกั สิน้ ทุกข เพราะส้นิ ทกุ ข ก็จกั สน้ิ เวทนา

พระสุตตนั ตปฎ ก มัชฌิมนกิ าย อุปริปณณาสก เลม ๓ ภาค ๑ - หนาที่ 2เพราะสิ้นเวทนา ทกุ ขท ้ังปวงจักเปน อันไมมไี ปเอง ดูกอนภกิ ษุทั้งหลายพวกนิครนถมกั มวี าทะอยางนี.้ [๓] ดกู อนภกิ ษุทง้ั หลาย เราเขาไปหาพวกนิครนถผมู ีวาทะอยางน้ีแลวถามอยา งนว้ี า ทา นนคิ รนถ จรงิ หรอื ที่มีขาววา พวกทา นมวี าทะอยา งน้ีมที ิฏฐอิ ยา งน้วี า บุรษุ บุคคลน้ยี อมเสวยเวทนาอยา งใดอยา งหน่งึ แมวาสขุ ทกุ ขหรือมิใชท ุกขม ิใชสขุ ขอน้นั ท้งั หมดเปน เพราะเหตแุ หงกรรมที่ตนทําไวแตกอน ท้ังนี้เพราะกรรมเกาหมดดว ยตบะ ไมท าํ กรรมใหม กจ็ กั ไมมผี ลตอ ไปเพราะไมม ีผลตอไป กจ็ กั สน้ิ กรรม เพราะสิ้นกรรม กจ็ กั ส้ินทกุ ข เพราะสิน้ ทุกข กจ็ ักสิน้ เวทนา เพราะส้นิ เวทนา ทกุ ขท ัง้ ปวงจกั เปนอันไมมีไปเอง. ดกู อ นภิกษทุ ้ังหลาย พวกนิครนถน ้นั ถกู เราถามอยางนแี้ ลวกย็ ืนยันเราจงึ ถามอยางนี้วา ทา นนิครนถ พวกทานทราบละหรือวา เราทั้งหลายไดมแี ลวในกอ น มิใชไมไ ดม แี ลว. นคิ รนถเ หลาน้นั ตอบวา ทา นผูมอี ายุ ขอนหี้ ามิไดเลย. เรา. ทา นนิครนถ พวกทานทราบละหรือวา เราทั้งหลายไดท ําบาปกรรมไวใ นกอ น มิใชไ มไ ดท ําไว. น.ิ ทานผูมอี ายุ ขอนีห้ ามิไดเ ลย. เรา. ทา นนคิ รนถ พวกทา นทราบละหรือวา เราท้งั หลายไดทาํ บาปกรรมอยางนีบ้ า ง ๆ. นิ. ทา นผูมีอายุ ขอนห้ี ามิไดเ ลย. เรา. ทานนคิ รนถผ ูม อี ายุ พวกทา นทราบละหรือวา ทกุ ขเทา นเ้ี ราสลัดไดแลว หรือวา ทุกขเทา น้ี เราตองสละเสยี หรอื วา เมอื่ ทุกขเทาน้ี เราสลดัไดแลว ทกุ ขท ั้งหมดก็จักเปน อันไมม ไี ปเอง.

พระสตุ ตันตปฎก มัชฌิมนกิ าย อปุ รปิ ณณาสก เลม ๓ ภาค ๑ - หนาที่ 3 น.ิ ทา นผมู ีอายุ ขอ นี้หามิไดเลย. เรา. ทานนคิ รนถ พวกทานทราบการละอกศุ ลธรรม การบาํ เพ็ญกศุ ลธรรมในปจจบุ ันละหรอื . น.ิ ทานผมู อี ายุ ขอ นห้ี ามไิ ดเ ลย. [๔] เรา. ทา นนิครนถ เทาทีพ่ ูดกนั มาน้ีเปนอนั วา พวกทา นไมทราบวา เราทง้ั หลายไดมแี ลว ในกอ น มใิ ชไ มไ ดมีแลว ไมทราบวา เราทง้ัหลายไดท าํ บาปกรรมไวใ นกอน มใิ ชไมไดทําไว ไมทราบวา เราท้งั หลายไดทาํ บาปกรรมอยา งนีบ้ า ง ๆ ไมท ราบวา ทกุ ขเทา น้ี เราสลดั ไดแลว หรือวาทกุ ขเ ทานี้ เราตอ งสลัดเสีย หรือวาเมื่อทกุ ขเทาน้ี เราสลดั ไดแ ลว ทกุ ขท ง้ั หมดกจ็ ักเปนอนั ไมม ไี ปเอง ไมทราบการละอกุศลธรรม การบําเพ็ญกุศลธรรมในปจ จุบนั เมอื่ เปน เชน น้ี ทานนิครนถไ มส มควรจะพยากรณวา บุรษุ บคุ คลนี้ยอ มเสวยเวทนาอยา งใดอยา งหนึ่ง ไมว าสขุ ทุกข หรอื มใิ ชทุกขม ิใชสขุ ขอน้ันทัง้ หมดก็เพราะเหตแุ หงกรรมท่ตี นทําไวแตกอน ทัง้ นี้ เพราะกรรมเกาหมดดว ยตบะ ไมท าํ กรรมใหม ก็จกั ไมม ผี ลตอ ไป เพราะไมม ีผลตอไป ก็จกัสนิ้ กรรม เพราะสิ้นกรรม ก็จกั ส้นิ ทุกข เพราะสิ้นทุกข กจ็ กั สน้ิ เวทนาเพราะส้ินเวทนา ทุกขท ัง้ ปวงจกั ไมม ไี ปเอง. ทา นนิครนถ กถ็ า พวกทา นพึงทราบวา เราท้งั หลายไดม แี ลว แตก อนมใิ ชไมไดมแี ลว พึงทราบวา เราท้งั หลายไดท าํ บาปกรรมไวแ ตกอ น มิใชไ มไดท าํ ไว พงึ ทราบวา เราท้งั หลายไดทําบาปกรรมอยา งนบ้ี าง ๆ พงึ ทราบวาทกุ ขเ ทา นี้ เราสลดั ไดแลว หรือวา ทุกขเทา นี้ เราตอ งสลัดเสีย หรอื วา เม่ือทุกขเทาน้ี เราสลดั ไดแ ลว ทกุ ขท ้ังหมดกเ็ ปน อันไมม ไี ปเอง พงึ ทราบการละอกุศลธรรม การบาํ เพญ็ กศุ ลธรรมในปจจุบนั เม่อื เปน เชน น้ี ทานนคิ รนถ ควรจะ

พระสตุ ตนั ตปฎ ก มัชฌมิ นกิ าย อปุ รปิ ณ ณาสก เลม ๓ ภาค ๑ - หนา ท่ี 4พยากรณไดว า บรุ ุษบคุ คลนีย้ อมเสวยเวทนาอยา งใดอยางหนึ่ง ไมวา สขุ ทุกขหรอื มใิ ชท ุกขมิใชส ุข ขอ นนั้ ทง้ั หมดกเ็ พราะเหตแุ หง กรรมทต่ี นทาํ ไวแ ตก อนทง้ั น้ี เพราะกรรมเกาหมดดวยตบะ ไมท าํ กรรมใหม กจ็ กั ไมม ีผลตอ ไป เพราะไมมผี ลตอไป ก็จักสิ้นกรรม เพราะสนิ้ กรรมกจ็ กั ส้นิ ทกุ ข เพราะสิน้ ทกุ ขก็จักสน้ิ เวทนา เพราะสน้ิ เวทนา ทกุ ขทงั้ ปวงก็จกั เปน อันไมมไี ปเอง. [๕] ทานนิครนถ เปรียบเหมือนบรุ ุษถูกยิงดว ยลกู ศรที่มยี าพษิ อาบไวอ ยางหนาแลว พงึ เสวยเวทนาอนั เปนทุกขก ลา เจ็บแสบ เพราะเหตกุ ารเสยี ดแทงของลกู ศร มติ ร สหาย ญาตสิ าโลหิตของเขาพงึ ใหห มอผาตัดรกั ษาหมอผา ตดั ใชศัสตราชาํ แหละปากแผลของเขา เขาพงึ เสวยทกุ ขเวทนาอนั กลาเจ็บแสบ แมเ พราะเหตถุ กู เครอ่ื งตรวจคน หาลกู ศร หมอผาตดั ถอนลูกศรออกเขาพึงเสวยทกุ ขเวทนาอนั กลาเจ็บแสบ แมเพราะเหตุถอนลูกศรออก หมอผาตดั ใสยาถอนพิษทีป่ ากแผล เขาพึงเสวยทกุ ขเวทนาอันกลา เจบ็ แสบ แมเพราะเหตุใสย าถอนพษิ ทีป่ ากแผล ตอ มา เขามีแผลหาย มีผิวหนงั สนทิ จึงไมม โี รค มีความสขุ เสรี อยไู ดต ามลําพงั ไปไหนไปได จึงมคี วามคดิ อยา งน้วี า เมอ่ื กอ น เราถูกยิงดวยลูกศรท่ีมียาพิษอาบไวอ ยางหนา ไดเ สวยทุกข-เวทนาอนั กลา เจบ็ แสบ แมเ พราะเหตุการเสียดแทงของลูกศร มติ ร สหายญาติสาโลหติ ของเราใหห มอผา ตัดรักษา หมอผา ตดั ใชศ ัสตราชาํ แหละปากแผลเราน้ันไดเสวยทุกขเวทนาอนั กลา เจ็บแสบ แมเพราะเหตถุ กู ศัสตราชาํ แหละปากแผล หมอผาตดั ใชเครื่องตรวจคนหาลูกศร เราน้นั ไดเ สวยทุกขเวทนาอันกลา เจบ็ แสบ แมเ พราะเหตุถกู เครอื่ งตรวจคน หาลูกศร หมอผา ตัดถอนลูกศรออก เรานัน้ ไดเ สวยทกุ ขเวทนาอันกลา เจ็บแสบ แมเ พราะเหตถุ อนลูกศรออก หมอผาตดั ใสย าถอนพิษทป่ี ากแผล เรานัน้ ไดเสวยทุกขเวทนาอนั กลา

พระสตุ ตนั ตปฎก มัชฌิมนิกาย อุปริปณณาสก เลม ๓ ภาค ๑ - หนาท่ี 5เจบ็ แสบ แมเพราะเหตใุ สยาถอนพษิ ทปี่ ากแผล เดย๋ี วนี้ เราน้นั มีแผลหายมีผิวหนงั สนิท จงึ ไมมีโรค มคี วามสขุ เสรี อยไู ดตามลาํ พงั ไปไหนไปไดฉนั ใด. ทานนิครนถ ก็ฉนั นน้ั เหมือนกันแล ถา พวกทานพงึ ทราบวา เราทัง้ หลาย ไดมแี ลวในกอ น มใิ ชไ มไดม ีแลว พึงทราบวา เราทง้ั หลายไดทาํบาปกรรมไวในกอ น มิใชไ มไ ดท ําไว พึงทราบวา เราทัง้ หลายไดท ําบาปกรรมอยา งนบี้ า ง ๆ พงึ ทราบวา ทุกขเทาน้เี ราสลัดไดแ ลว หรือวาทุกขเทานี้ เราตองสลดั เสยี หรอื วา เมื่อทุกขเทา นีเ้ ราสลดั ไดแ ลว ทกุ ขท งั้ หมดก็เปนอันไมม ไี ปเอง พึงทราบการละอกศุ ลธรรม การบาํ เพ็ญกุศลธรรมในปจ จุบันเม่อื เปน เชนน้ี พวกนคิ รนถ ควรจะพยากรณไดว า บรุ ุษบคุ คลนย้ี อ มเสวยเวทนาอยางใดอยางหน่ึง ไมวาสุข ทกุ ข หรอื มใิ ชทุกขม ิใชส ขุ ขอนั้นท้ังหมดกเ็ พราะเหตแุ หง กรรมทต่ี นทําไวแ ตกอ น ทั้งนเ้ี พราะกรรมเกาหมดดว ยตบะไมท ํากรรมใหม จักไมม ผี ลตอไป เพราะไมมผี ลตอ ไป กจ็ ักสิน้ กรรมเพราะสนิ้ กรรม จกั สนิ้ ทกุ ข เพราะสน้ิ ทกุ ข จักสนิ้ เวทนา เพราะสน้ิ เวทนาทุกขท้ังปวงจักเปนอนั ไมม ไี ปเอง. ทา นนคิ รนถ ก็เพราะเหตทุ ่พี วกทา นไมท ราบวา เราทั้งหลายไดมีแลวในกอน มใิ ชไมไ ดมีแลว ไมท ราบวา เราทงั้ หลายไดท าํ บาปกรรมไวในกอน มใิ ชไ มไดท ําไว ไมท ราบวา เราทั้งหลายไดท ําบาปกรรมอยา งนบี้ างๆไมทราบวา ทกุ ขเทา นี้ เราสลัดไดแ ลว หรอื วาทุกขเ ทา นี้ เราตองสลัดเสยี หรอืวาเม่ือทุกขเ ทานี้ เราสลดั ไดแลว ทุกขท ั้งหมดกเ็ ปน อันไมม ีไปเอง ไมท ราบการละอกศุ ลธรรม การบาํ เพ็ญกศุ ลธรรมในปจ จุบนั ฉะนั้น ทา นนคิ รนถจงึ ไมสมควรจะพยากรณวา บุรุษบุคคลนี้ยอ มเสวยเวทนาอยา งใดอยา งหนงึ่

พระสตุ ตันตปฎ ก มัชฌมิ นกิ าย อปุ รปิ ณณาสก เลม ๓ ภาค ๑ - หนา ท่ี 6ไมวา สขุ ทกุ ข หรอื มใิ ชทุกขม ใิ ชสขุ ขอนั้นทงั้ หมดก็เพราะเหตุแหง กรรมท่ตี นทําไวแตกอน ทงั้ น้ี เพราะกรรมเกา หมดดวยตบะ ไมทาํ กรรมใหม จักไมมีผลตอ ไป เพราะไมม ผี ลตอ ไป จกั สนิ้ กรรม เพราะสิน้ กรรม ก็จักสน้ิ ทุกขเพราะส้นิ ทุกข กจ็ ักส้ินเวทนา เพราะส้ินเวทนา ทุกขท้ังปวงก็จักเปน อันไมม ไี ปเอง. [๖] ดกู อนภิกษุทงั้ หลาย เมือ่ เรากลาวอยา งน้ี พวกนิครนถน้นัไดกลา วกะเราดังน้ีวา ทานผมู ีอายุ ทานนคิ รนถน าฏบตุ ร เปนผรู ูธรรมท้งั ปวงเปน ผเู ห็นธรรมทง้ั ปวง ยืนยันญาณทสั สนะตลอดทุกสวนวา เม่ือเราเดินก็ดียนื ก็ดี หลับก็ดี ตนื่ กด็ ี ญาณทัสสนะไดปรากฏตดิ ตอ เสมอไป ทา นกลาวอยางนว้ี า ดูกอนพวกนคิ รนถผ ูมอี ายุ บาปกรรมท่ีพวกทา นทาํ ไวในกอ นมีอยูพวกทานจงสลัดบาปกรรมน้นั เสีย ดวยปฏิปทาประกอบดว ยการกระทําทีท่ ําไดยากอนั เผ็ดรอนน้ี ขอ ท่ที า นทง้ั หลายเปนผสู าํ รวมกาย สาํ รวมวาจา สํารวมใจในบดั นี้นั้น เปน การไมท าํ บาปกรรมตอไป ทัง้ น้ี เพราะกรรมเกาหมดดวยตบะ ไมทาํ กรรมใหม กจ็ ักไมมผี ลตอไป เพราะไมมีผลตอไป ก็จักส้นิกรรม เพราะสนิ้ กรรม ก็จักส้ินทุกข เพราะสิ้นทุกข กจ็ ักสิน้ เวทนา เพราะสน้ิ เวทนา ทุกขท ้ังหมดก็จกั เปน อนั ไมม ไี ปเอง กแ็ หละคาํ นน้ั ถกู ใจและควรแกพวกขา พเจา และเพราะเหตนุ ้นั พวกขา พเจา จึงไดชนื่ ชม. [๗] ดูกอนภิกษทุ ัง้ หลาย เมื่อพวกนคิ รนถกลา วแลว อยา งนี้ เราไดกลา วกะพวกนคิ รนถน นั้ ดงั นว้ี า ทา นนคิ รนถ ธรรม ๕ ประการนแ้ี ลมวี บิ าก ๒ ทางในปจ จุบัน ๕ ประการเปน ไฉน คอื ความเช่ือ ความชอบใจการฟง ตามเขาวา ความตรึกตามอาการ ความปกใจดง่ิ ดว ยทฏิ ฐิ ทานนคิ รนถเหลานี้แล ธรรม ๕ ประการ มีวบิ าก ๒ ทางในปจจบุ นั บรรดาธรรม ๕

พระสตุ ตนั ตปฎ ก มัชฌมิ นกิ าย อปุ ริปณ ณาสก เลม ๓ ภาค ๑ - หนา ท่ี 7ประการน้ัน ทา นนคิ รนถ มคี วามเชื่ออยา งไร ชอบใจอยางไร รํ่าเรยี นมาอยา งไร ไดยินมาอยา งไร ตรกึ ตามอาการอยา งไร ปก ใจด่ิงดว ยทิฏฐอิ ยา งไรในศาสดาผมู ีวาทะเปน สวนอดตี ดูกอ นภิกษุทง้ั หลาย เรามีวาทะอยา งนแี้ ลจึงไมเ ล็งเหน็ การโตต อบวาทะอันชอบดวยเหตอุ ะไร ๆ ในพวกนิครนถ. [๘] ดกู อ นภิกษทุ ง้ั หลาย เรากลา วกะพวกนคิ รนถนั้นตอ ไปอกีอยา งนี้วา ทา นนิครนถ พวกทา นจะสาํ คญั ความขอนน้ั เปน ไฉน สมัยใดพวกทา นมีความพยายามแรงกลา มีความเพียรแรงกลา สมัยนนั้ พวกทานยอมเสวยทุกขเวทนาอนั กลา เจ็บแสบ อันเกิดแตค วามพยายามแรงกลา แตสมยั ใด พวกทา นไมม ีความพยายามแรงกลา ไมม คี วามเพยี รแรงกลา สมัยนั้นพวกทานยอมไมเสวยทกุ ขเวทนาอันกลา เจบ็ แสบอันเกดิ แตความพยายามแรงกลา. นคิ รนถรับวา ทานพระโคดม สมยั ใด พวกขาพเจา มีความพยายามแรงกลา มคี วามเพียรแรงกลา สมัยน้นั พวกขาพเจา ยอมเสวยทกุ ขเวทนาอนั กลา เจ็บแสบ อนั เกิดแตความพยายามแรงกลา สมยั ใด พวกขา พเจาไมมคี วามพยายามแรงกลา ไมม คี วามเพียรแรงกลา สมัยน้นั พวกขา พเจายอ มไมเ สวยทกุ ขเวทนาอันกลา เจบ็ แสบ อันเกดิ แตค วามพยายามแรงกลา [๙] พ. ทา นนคิ รนถ เทาทีพ่ ูดกันมานี้ เปน อนั วา สมยั ใด พวกทานมีความพยายามแรงกลา มีความเพยี รแรงกลา สมยั นน้ั พวกทานยอ มเสวยทกุ ขเวทนาอันกลา เจ็บแสบ อันเกิดแตความพยายามแรงกลา แตสมัยใดพวกทา นไมม คี วามพยายามแรงกลา ไมมีความเพียรแรงกลา สมยั นนั้ พวกทานยอ มไมเสวยทกุ ขเวทนาอนั กลา เจ็บแสบ อนั เกดิ แตความพยายามแรงกลาเมื่อเปน เชนน้ี ทา นนิครนถ ไมส มควรจะพยากรณว า บรุ ษุ บคุ คลนี้ยอ มเสวย

พระสตุ ตันตปฎก มัชฌิมนกิ าย อปุ ริปณณาสก เลม ๓ ภาค ๑ - หนาท่ี 8เวทนาอยางใดอยา งหนึง่ ไมว าสุข ทกุ ข หรอื มิใชทกุ ขมใิ ชสุข ขอนนั้ ท้งัหมดกเ็ พราะเหตุแหงกรรมทตี่ นทาํ ไวแตกอ น ทัง้ น้เี พราะกรรมเกา หมดดว ยตบะ ไมทาํ กรรมใหม กจ็ ักไมม ีผลตอ ไป เพราะไมมผี ลตอไป กจ็ ักส้นิ กรรมเพราะสิน้ กรรม ก็จกั สน้ิ ทกุ ข เพราะส้ินทุกข กจ็ ักส้นิ เวทนา ทกุ ขท้ังปวงกจ็ ักเปน อันไมม ีไปเอง. ทานนิครนถ ถา สมยั ใด พวกทานมคี วามพยายามแรงกลา มีความเพียรแรงกลา สมยั นัน้ ทุกขเวทนาอนั กลา เจบ็ แสบ อันเกิดแตความพยายาม พึงหยุดไดเอง และสมัยใด พวกทา นไมม คี วามพยายามแรงกลาไมม ีความเพียรแรงกลา สมยั นนั้ ทุกขเวทนาอันกลา เจบ็ แสบ อนั เกิดแตความพยายามพงึ หยุดไดเ อง เมื่อเปน เชนนี้ ทานพวกนิครนถกค็ วรพยากรณไดวา บรุ ุษบุคคลนีย้ อมเสวยเวทนาอยา งใดอยา งหนึง่ ไมว า สขุ ทกุ ข หรอืมใิ ชทกุ ขมใิ ชส ุข ขอนัน้ ทง้ั หมดกเ็ พราะเหตแุ หงกรรมที่ตนทาํ ไวแตก อ น ท้ังน้ีเพราะกรรมเกาหมดดว ยตบะ ไมท าํ กรรมใหม ก็จกั ไมม ีผลตอไป เพราะไมมีผลตอ ไป กจ็ กั สนิ้ กรรม เพราะสิ้นกรรม ก็จกั สน้ิ ทกุ ข เพราะสิน้ ทกุ ขกจ็ ักสิน้ เวทนา เพราะส้ินเวทนาทกุ ขท ั้งปวงก็จกั เปนอันไมม ไี ปเอง. ทา นนคิ รนถ ก็เพราะเหตุที่ สมยั ใด พวกทา นมคี วามพยายามแรงกลา มคี วามเพียรแรงกลา สมยั น้ัน พวกทา นจงึ เสวยทุกขเวทนาอนั กลา เจ็บแสบ อันเกิดแตความพยายามแรงกลา แตส มยั ใด พวกทานไมมคี วามพยายามแรงกลา ไมมคี วามเพยี รแรงกลา สมัยนนั้ พวกทานจึงไมเ สวยทุกขเวทนาอันกลา เจ็บแสบ อนั เกดิ แตความพยายามแรงกลา พวกทา นนั้นเสวยทกุ ข-เวทนาอนั กลา เจบ็ แสบ อันเกิดแตความเพยี รเองทเี ดียว ยอ มเชอ่ื ผิดไปเพราะอวชิ ชา เพราะความไมรู เพราะความหลงวา บรุ ษุ บคุ คลนย้ี อมเสวย

พระสตุ ตนั ตปฎก มชั ฌิมนิกาย อปุ รปิ ณ ณาสก เลม ๓ ภาค ๑ - หนา ท่ี 9เวทนาอยางใดอยางหนง่ึ ไมวาสขุ ทุกข หรือมใิ ชท กุ ขมิใชสขุ ขอน้นั ทั้งหมดก็เพราะเหตุแหง กรรมทีต่ นทาํ ไวแตกอน ทัง้ นเ้ี พราะหมดกรรมเกา ดวยตบะ ไมทํากรรมใหม กจ็ ักไมมผี ลตอ ไป เพราะไมมีผลตอ ไป กจ็ ักสน้ิ กรรมเพราะสนิ้ กรรมก็จักสิน้ ทกุ ข เพราะสน้ิ ทกุ ขก ็จักสิ้นเวทนา เพราะส้ินเวทนาทุกขท งั้ ปวงก็จักเปนอันไมม ไี ปเอง ดกู อนภกิ ษทุ ้งั หลาย เรามีวาทะแมอ ยางนแ้ี ล จงึ ไมเล็งเหน็ การโตตอบวาทะอนั ชอบดวยเหตอุ ะไร ๆ ในพวกนคิ รนถ. [๑๐] ดกู อนภิกษทุ งั้ หลาย เรากลา วกะพวกนิครนถน ้ันตอไปอกี อยางน้ีวา ทา นนคิ รนถ พวกทานจะสาํ คญั ความขอนน้ั เปน ไฉน พวกทา นจะพงึปรารถนาไดดังนีห้ รือวา กรรมใดใหผ ลในปจจุบนั ขอกรรมนัน้ จงใหผ ลในชาติหนา ดว ยความพยายามหรือดวยความเพียรเถดิ พวกนคิ รนถน ้นั กลา ววาทานผมู อี ายุ ขอนหี้ ามไิ ดเลย. พ. และพวกทานจะพงึ ปรารถนาไดด ังนห้ี รือวา กรรมใดใหผลในชาตหิ นา ขอกรรมนน้ั จงใหผลในปจ จบุ ัน ดวยความพยายามหรอื ดว ยความเพียรเถิด. น.ิ ทานผูมอี ายุ ขอนห้ี ามิไดเลย. พ. ทา นนคิ รนถ พวกทานจะสําคญั ความขอ น้ันเปน ไฉน พวกทา นจะพึงปรารถนาไดดังนห้ี รอื วา กรรมใดใหผ ลเปน สขุ ขอกรรมน้นั จงใหผลเปนทกุ ข ดว ยความพยายามหรือดว ยความเพียรเถดิ . นิ. ทานผูม ีอายุ ขอ นีห้ ามิไดเ ลย. พ. และพวกทานจะพงึ ปรารถนาไดดังนีห้ รือวา กรรมใดใหผ ลเปนทุกข ขอกรรมนัน้ จงใหผ ลเปนสขุ ดวยความพยายามหรอื ดว ยความเพียรเถิด. นิ. ทา นผมู อี ายุ ขอนห้ี ามิไดเลย.

พระสุตตนั ตปฎก มัชฌิมนิกาย อุปรปิ ณ ณาสก เลม ๓ ภาค ๑ - หนาท่ี 10 พ. ทา นนคิ รนถ พวกทา นจะสําคัญความขอ น้ันเปนไฉน พวกทานจะพึงปรารถนาไดดงั นีห้ รอื วา กรรมใดใหผลเสรจ็ สน้ิ แลว ขอกรรมนนั้ จงใหผลอยา เพอเสรจ็ ส้ิน ดว ยความพยายามหรือดว ยความเพียรเถดิ . น.ิ ทานผมู ีอายุ ขอนห้ี ามิไดเ ลย. พ. และพวกทานจะพึงปรารถนาไดด งั นีห้ รือวา กรรมใดใหผ ลยงั ไมเสร็จสน้ิ ขอกรรมนน้ั จงใหผ ลเสร็จสน้ิ ดวยความพยายามหรอื ดว ยความเพียรเถดิ . น.ิ ทา นผมู ีอายุ ขอ น้หี ามไิ ดเลย. พ. ทานนคิ รนถ พวกทานจะสําคญั ความขอนัน้ เปนไฉน พวกทานจะพึงปรารถนาไดด งั นี้หรอื วา กรรมใดใหผ ลมาก ขอกรรมน้ันจงใหผ ลนอยดว ยความพยายามหรือดวยความเพยี รเถิด. น.ิ ทา นผูม อี ายุ ขอ น้ีหามไิ ดเ ลย. พ. และพวกทา นจะพึงปรารถนาไดดังน้หี รือวา กรรมใดใหผลนอยขอกรรมนั้นจงใหผ ลมาก ดวยความพยายามหรอื ดว ยความเพยี รเถิด. นิ. ทา นผูมอี ายุ ขอน้หี ามไิ ดเลย. พ. ทา นนคิ รนถ พวกทานจะสาํ คัญความขอนั้นเปน ไฉน พวกทานจะพึงปรารถนาไดด งั น้หี รอื วา กรรมใดใหผล ขอกรรมน้ันจงอยา ใหผ ล ดวยความพยายามหรอื ดวยความเพียรเถิด. น.ิ ทานผูมีอายุ ขอนี้หามไิ ดเ ลย. พ. และพวกทานจะพงึ ปรารถนาไดดังนี้หรอื วา กรรมใดไมใ หผ ลขอกรรมน้ันจงใหผ ล ดว ยความพยายามหรอื ดวยความเพียรเถิด. น.ิ ทานผมู ีอายุ ขอนห้ี ามไิ ดเ ลย.

พระสตุ ตันตปฎ ก มชั ฌมิ นิกาย อปุ ริปณ ณาสก เลม ๓ ภาค ๑ - หนา ที่ 11 [๑๑] พ. ทานนคิ รนถ เทา ที่พดู กนั มาน้ีเปนอันวา พวกทานจะพงึปรารถนาไมไดด ังน้วี า กรรมใดใหผลในปจจุบัน ขอกรรมน้นั จงใหผ ลในชาตหิ นา ดว ยความพยายามหรือดว ยความเพยี รเถดิ วากรรมใดใหผลในชาติหนาขอกรรมน้นั จงใหผลในปจ จุบนั ดว ยความพยายามหรอื ดวยความเพยี รเถดิ วากรรมใดใหผ ลเปนสุข ขอกรรมนนั้ จงใหผลเปน ทกุ ข ดว ยความพยายามหรอืดวยความเพียรเถดิ วากรรมใดใหผลเปนทกุ ข ขอกรรมนน้ั จงใหผลเปน สขุดวยความพยายามหรอื ดวยความเพยี รเถิด วา กรรมใดใหผ ลเสร็จส้นิ แลว ขอกรรมนั้นจงใหผลอยาเพอเสรจ็ ส้ิน ดวยความพยายามหรือดวยความเพียรเถิดวา กรรมใดใหผ ลยังไมเ สรจ็ สิ้น ขอกรรมนั้นจงใหผลเสร็จส้นิ ดวยความพยายามหรอื ดวยความเพยี รเถิด วากรรมใดใหผลมาก ขอกรรมน้นั จงใหผ ลนอ ยดวยความพยายามหรือดวยความเพียรเถิด วากรรมใดใหผ ลนอ ย ขอกรรมนนั้จงใหผลมาก ดว ยความพยายามหรอื ดวยความเพียรเถดิ วากรรมใดใหผล ขอกรรมนัน้ จงอยาใหผ ล ดว ยความพยายามหรอื ดว ยความเพียรเถดิ วากรรมใดไมใหผ ล ขอกรรมน้นั จงใหผล ดว ยความพยายามหรือดวยความเพียรเถดิเมื่อเปน เชนนี้ ความพยายามของพวกนิครนถกไ็ รผล ความเพียรก็ไรผ ล. ภิกษุทงั้ หลาย พวกนิครนถมีวาทะอยางนี้ การกลา วกอ นและการกลา วตาม๑ ๑๐ ประการอนั ชอบดวยเหตขุ องพวกนคิ รนถ ผูมวี าทะอยางน้ีนาตําหนิ. ดูกอนภิกษทุ งั้ หลาย ถาหมสู ตั วย อ มเสวยสุขและทกุ ข เพราะเหตแุ หงกรรมทตี่ นทาํ ไวแ ตก อน พวกนิครนถตอ งเปนผูทํากรรมชว่ั ไวกอนแน ในบัดน้ี พวกเขาจงึ ไดเ สวยทุกขเวทนาอันกลาเจ็บแสบเหน็ ปานน้ี ถา หมสู ตั วยอ มเสวยสขุ และทุกข เพราะเหตทุ ีพ่ ระผูเ ปนใหญเนรมติ ให พวกนิครนถตองเปน ผู๑. คือวาทะของพวกครู และอนวาทะของศษิ ยท ีว่ าตามกนั

พระสตุ ตันตปฎก มัชฌิมนกิ าย อปุ รปิ ณณาสก เลม ๓ ภาค ๑ - หนาที่ 12ถกู พระผูเ ปน ใหญช นั้ เลวเนรมิตมาแน ในบัดนี้ พวกเขาจงึ ไดเ สวยทกุ ขเวทนาอันกลา เจ็บแสบเหน็ ปานน้ี ถา หมูสัตวย อ มเสวยสุขและทกุ ข เพราะเหตเุ คราะหกรรม พวกนคิ รนถต องเปน ผมู ีเคราะหกรรมชวั่ แน ในบัดน้ี พวกเขาจึงไดเ สวยทกุ ขเวทนาอนั กลา เจ็บแสบเห็นปานนี้ ถา หมูสตั วย อ มเสวยสุขและทกุ ข เพราะเหตุอภชิ าติ พวกนิครนถตองเปน ผมู ีอภชิ าติเลวแน ในบัดน้ี พวกเขาจงึ ไดเสวยทกุ ขเวทนาอันกลาเจ็บแสบเห็นปานนี้ ถา หมสู ตั วยอมเสวยสุขและทกุ ขเพราะเหตุพยายามในปจ จบุ ัน พวกนคิ รนถตองเปนผมู ีความพยายามในปจ จบุ ันเลวแน ในบดั นี้ พวกเขาจงึ ไดเ สวยทุกขเวทนาอันกลาเจบ็ แสบเห็นปานน้ีดูกอนภิกษทุ ง้ั หลาย ถา หมูสัตวยอมเสวยสขุ และทกุ ข เพราะเหตกุ รรมทต่ี นทําไวแ ตก อ น พวกนิครนถก ต็ องนา ตําหนิ ถา หมสู ัตวไ มใ ชเ สวยสุขและทกุ ข เพราะเหตุแหงกรรมทตี่ นทาํ ไวแ ตกอ น พวกนิครนถก็ตองนาตําหนิ ถา หมสู ตั วย อ มเสวยสุขและทุกข เพราะเหตุทพ่ี ระผเู ปนใหญเนรมิตให พวกนิครนถต อ งนาตําหนิ ถาหมูสัตวไ มใชเ สวยสขุ และทกุ ข เพราะเหตทุ พ่ี ระผเู ปน ใหญเนรมิตให พวกนคิ รนถก ็ตองนาตําหนิ ถา หมสู ตั วย อ มเสวยสุขและทกุ ข เพราะเหตุเคราะหกรรม พวกนคิ รนถต องนา ตําหนิ ถาหมสู ตั วไมใ ชเ สวยสขุ และทุกข เพราะเหตเุ คราะหกรรม พวกนคิ รนถก ็ตอ งนาตําหนิ ถา หมูสตั วยอมเสวยสุขและทกุ ขเพราะเหตุอภชิ าติ พวกนิครนถก ็ตอ งนา ตาํ หนิ ถา หมสู ตั วไ มใ ชเ สวยสขุ และทกุ ขเพราะเหตอุ ภชิ าติ พวกนคิ รนถก ็ตองนาตาํ หนิ ถา หมูสตั วยอ มเสวยสุขและทุกขเพราะเหตพุ ยายามในปจจุบัน พวกนิครนถกต็ องนา ตําหนิ ถา หมูส ตั วไ มใชเสวยสขุ และทกุ ข เพราะเหตุพยายามในปจ จุบัน พวกนิครนถก ็ตองนาตําหนิดกู อ นภิกษทุ ั้งหลาย พวกนคิ รนถม วี าทะอยางน้ี วาทะของอาจารยแ ละวาทะของศษิ ย ๑๐ ประการ อนั ชอบดว ยเหตขุ องพวกนคิ รนถผ ูมวี าทะอยางน้ี นาตําหนิ ดูกอ นภิกษทุ ้งั หลาย ความพยายามไรผล ความเพยี รไรผ ล อยา งน้ีแล.

พระสตุ ตนั ตปฎก มัชฌิมนิกาย อปุ ริปณ ณาสก เลม ๓ ภาค ๑ - หนา ท่ี 13 [๑๒] ดูกอนภกิ ษทุ งั้ หลาย กอ็ ยางไร ความพยายามจงึ จะมผี ลความเพียรจึงจะมผี ล ดูกอนภกิ ษุท้ังหลาย ภกิ ษุในธรรมวินัยน้ี ไมเ อาทกุ ขทับถมตนทไี่ มมีทกุ ขทับถม ๑ ไมส ละความสุขทเ่ี กดิ โดยธรรม ๑ ไมเ ปนผูหมกมนุ ในความสุขนนั้ ๑ เธอยอมทราบชัดอยางนวี้ า ถึงเราน้ยี งั มเี หตุแหงทกุ ข เม่ือเริม่ ต้ังความเพียร วิราคะยอมมไี ดเพราะการตงั้ ความเพยี ร อนง่ึถึงเราน้ยี งั มเี หตแุ หงทกุ ข เมื่อวางเฉย บําเพ็ญอเุ บกขาอยู วิราคะกย็ อ มมไี ดเธอพึงเริม่ ตง้ั ความเพียร ในทํานองทีภ่ กิ ษุยงั มเี หตุแหง ทกุ ข เร่มิ ต้ังความเพียรยอ มมีวริ าคะ เพราะการเริม่ ตง้ั ความเพยี รและบาํ เพ็ญอเุ บกขา ในทํานองท่ีภิกษุยงั มีเหตุแหง ทกุ ข วางเฉย บําเพ็ญอเุ บกขาอยู ยอมมวี ริ าคะ เมื่อเธอนน้ั ยงั มีเหตแุ หง ทกุ ข เริ่มตง้ั ความเพียร วิราคะยอ มมีไดเ พราะการตั้งความเพียร แมอยา งน้ี ทกุ ขน ้นั ก็เปนอนั ไมมไี ปเอง เม่อื เธอนัน้ ยังมเี หตแุ หง ทกุ ขวางเฉย บาํ เพญ็ อุเบกขาอยู วริ าคะยอมมไี ด แมอยา งนี้ ทกุ ขน ัน้ กเ็ ปน อนัไมม ไี ปเอง. [๑๓] ดกู อนภิกษทุ ้ังหลาย เปรียบเหมอื นชายผูกาํ หนดั มจี ติ ปฏิพัทธพอใจอยา งแรงกลา มุงหมายอยา งแรงกลาในหญงิ เขาเห็นหญิงน้นั ยืนพดู จากระซกิ กระซี้รา เรงิ อยกู บั ชายอื่น ดูกอนภิกษทุ ัง้ หลาย พวกเธอจะสาํ คญัความขอน้ันเปนไฉน ความโศก ความราํ พนั ความทกุ ขก าย ความทุกขใ จและความคบั แคนใจ จะพึงเกดิ ขึ้นแกช ายน้ัน เพราะเห็นหญงิ คนโนน ยนืพดู จากระซกิ กระซีร้ า เริงอยูก บั ชายอืน่ บา งหรือไม. พวกภกิ ษุทลู วา ตองเปน เชนน้นั พระพทุ ธเจาขา. พ. ขอนั้นเพราะเหตไุ ร. ภ.ิ พระพทุ ธเจา ขา เพราะชายคนโนนกําหนดั มจี ิตปฏพิ ทั ธพ อใจอยา งแรงกลา มุงหมายอยา งแรงกลาในหญิงคนโนน ฉะน้นั ความโศก

พระสตุ ตันตปฎก มชั ฌิมนกิ าย อปุ รปิ ณ ณาสก เลม ๓ ภาค ๑ - หนา ที่ 14ความราํ พัน ความทกุ ขกาย ความทกุ ขใ จและความคับแคนใจ จงึ เกิดขนึ้ ไดแกเ ขา เพราะเห็นหญงิ นน้ั ยนื พดู จากระซกิ กระซ้ีรา เริงอยูกบั ชายอื่น. พ. ดูกอ นภกิ ษทุ ัง้ หลาย ตอ มาชายคนนนั้ มีความดาํ รอิ ยา งน้ีวา เรากําหนดั มจี ิตปฏิพทั ธ พอใจอยา งแรงกลา มุงหมายอยางแรงกลาในหญิงคนโนน ความโศก ความราํ พนั ความทุกขก าย ความทกุ ขใจและความคับแคน ใจจึงเกดิ ขึ้นแกเราได เพราะเห็นหญงิ คนโนน ยืนพูดจากระซกิ กระซร้ี าเริงอยกู ับชายอน่ื อยา กระนนั้ เลย เราพึงละความกําหนัด พอใจในหญงิ คนโนนทีเ่ รามีนน้ั เสียเถิด เขาจึงละความกําหนดั พอใจในหญิงคนโนนนนั้ เสีย สมยั ตอมาเขาเห็นหญิงคนนนั้ ยืนพดู จากระซิกกระซรี้ าเรงิ อยูกับชายอื่น ดูกอ นภิกษทุ งั้หลาย พวกเธอจะสาํ คญั ความขอ นน้ั เปนไฉน ความโศก ความราํ พัน ความทกุ ขก าย ความทกุ ขใจ และความคับแคน ใจ จะพงึ เกิดข้นึ แกชายน้ัน เพราะเหน็ หญิงคนโนน ยืนพดู จากระซิกกระชี้รา เริงอยูกับชายอื่นบา งหรอื ไม. ภ.ิ ขอ นัน้ หามิได พระพุทธเจาขา. พ. ขอนัน้ เพราะเหตอุ ะไร. ภิ. พระพทุ ธเจาขา เพราะชายคนโนน คลายกาํ หนัดในหญงิ คนโนนแลว ฉะนัน้ ถึงเห็นหญงิ น้นั ยนื พดู จากระซกิ กระซี้รา เริงอยกู ับชายอืน่ความโศก ความราํ พนั ความทกุ ขกาย ความทุกขใจและความคบั แคนใจ ก็ไมเ กิดแกเ ขา. [๑๔] ดูกอนภิกษทุ ้งั หลาย ฉนั น้นั แล ภกิ ษไุ มเอาทกุ ขท ับถมตนทไ่ี มมีทกุ ขท บั ถม ๑ ไมส ละความสุขท่เี กิดขน้ึ โดยธรรม ๑ ไมเปนผูห มกมุนในความสขุ น้นั ๑ เธอยอ มทราบชดั อยางน้ีวา ถึงเรานย้ี งั มีเหตุแหง ทกุ ขเม่อื เริ่มต้ังความเพยี ร วิราคะยอมมไี ดเ พราะการตง้ั ความเพยี ร อนึ่ง ถึงเรา

พระสตุ ตันตปฎก มชั ฌมิ นิกาย อุปรปิ ณณาสก เลม ๓ ภาค ๑ - หนาที่ 15นย้ี ังมีเหตุแหงทกุ ข เมื่อวางเฉย บาํ เพญ็ อุเบกขาอยู วิราคะกย็ อมมีได เธอจึงเริม่ ตง้ั ความเพียร ในทํานองท่ภี ิกษยุ งั มเี หตุแหง ทุกข เรม่ิ ต้ังความเพยี รยอมมวี ิราคะ เพราะการเริม่ ต้ังความเพียร และบําเพญ็ อเุ บกขา ในทํานองที่ภิกษยุ งั มเี หตแุ หงทุกข วางเฉย บําเพ็ญอุเบกขาอยู ยอ มมีวริ าคะ เมื่อเธอนั้นยังมเี หตุแหง ทกุ ข เรมิ่ ตัง้ ความเพียร วิราคะยอมมไี ดเพราะการตง้ั ความเพยี ร แมอยางนท้ี ุกขน ัน้ ก็เปนอนั ไมม ไี ปเอง เมอื่ เธอนนั้ ยงั มเี หตุแหง ทกุ ขวางเฉย บําเพญ็ อุเบกขาอยู วริ าคะยอมมไี ด แมอยา งนี้ ทุกขนัน้ กเ็ ปน อนัไมม ่ี ไปเอง ดกู อ นภิกษทุ ั้งหลาย ความพยายามมผี ล ความเพยี รมผี ล แมอยางน้ี. [๑๕] ดูกอนภกิ ษุท้ังหลาย อีกประการหนงึ่ ภิกษุพิจารณาเห็นดงั น้วี า เมื่อเราอยตู ามสบาย อกศุ ลธรรมยอมเจรญิ ยง่ิ กศุ ลธรรมยอ มเสอื่ มแตเ มอ่ื เราเร่มิ ตง้ั ตนเพอื่ ความลาํ บาก อกุศลธรรมยอ มเสอื่ ม กุศลธรรมยอ มเจรญิ ย่งิ อยา กระนนั้ เลย เราพงึ เรม่ิ ตั้งตนเพอ่ื ความลาํ บากเถดิ เธอจงึ เร่ิมตัง้ ตนเพอื่ ความลําบาก เมือ่ เธอเริ่มตงั้ ตนเพอื่ ความลาํ บากอยู อกศุ ลธรรมยอ มเสือ่ ม กศุ ลธรรมยอ มเจริญยง่ิ สมยั ตอ มา เธอไมต อ งเริม่ ตงั้ ตนเพ่ือความลําบาก ขอ น้นั เพราะเหตุไร ดูกอนภิกษุทัง้ หลาย เพราะภกิ ษุน้ันเร่ิมต้ังตนเพ่อื ความลําบาก เพอื่ ประโยชนใ ด ประโยชนน ัน้ ของเธอ เปน อันสําเรจ็ แลวฉะนัน้ สมยั ตอ มา เธอจงึ ไมต อ งเริ่มตั้งตนเพอื่ ความลําบาก ดกู อ นภิกษุทัง้ หลายเปรียบเหมือนชางศร ยา งลนลูกศรบนขาไฟ ๒ อัน ดดั ใหตรงจนใชก ารไดเพราะเหตทุ ี่ลกู ศรเปน ของอนั ชา งศรยา งลนบนขาไฟ ๒ อัน ดดั ใหต รงจนใชการไดแลว สมัยตอมา ชางศรนนั้ ไมตอ งยางลนลูกศรน้ันบนขา ไฟ ๒ อันดัดใหตรงจนใชการได ขอ นน้ั เพราะเหตไุ ร ดกู อ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย เพราะชางศรน้นั พึงยา งลนลกู ศรบนขา ไฟ ๒ อนั ดดั ใหต รงจนใชการได เพอื่ ประโยชนใด

พระสตุ ตนั ตปฎก มัชฌิมนิกาย อุปรปิ ณณาสก เลม ๓ ภาค ๑ - หนาท่ี 16ประโยชนนน้ั ของเขาเปน อนั สําเร็จแลว ฉะนัน้ สมยั ตอ มา ชางศรจึงไมต อ งยางลนลูกศรบนขา ไฟ ๒ อัน ดัดใหตรงจนใชการได ฉันใด ดูกอนภิกษุท้ังหลาย ฉันน้นั เหมือนกนั แล ภกิ ษุยอ มพิจารณาเหน็ ดังนีว้ า เมื่อเราอยตู ามสบาย อกศุ ลธรรมยอมเจรญิ ยิง่ กุศลธรรมยอ มเสื่อม แตเมือ่ เราเริม่ ต้งั ตนเพ่อื ความลาํ บาก อกศุ ลธรรมยอมเสอื่ ม กศุ ลธรรมยอ มเจรญิ ยง่ิ อยากระนั้นเลยเราพึงเร่ิมต้งั ตนเพอื่ ความลําบากเถิด เธอจึงเรม่ิ ต้งั ตนเพื่อความลําบาก เม่ือเธอเริม่ ตงั้ ตนเพื่อความลาํ บากอยู อกศุ ลธรรมยอมเสอ่ื ม กศุ ลธรรมยอ มเจรญิย่ิง สมัยตอ มา เธอไมตองเรมิ่ ตงั้ ตนเพ่อื ความลาํ บาก ขอ น้นั เพราะเหตไุ รดูกอ นภิกษุท้ังหลาย เพราะภิกษนุ ้นั เร่ิมต้ังตนเพอื่ ความลาํ บาก เพือ่ ประโยชนใด ประโยชนน ้ันของเธอ เปนอนั สําเรจ็ แลว ฉะน้นั สมัยตอ มา เธอจงึไมตอ งเรม่ิ ตั้งตนเพอ่ื ความลําบากแล ดกู อ นภิกษุท้งั หลาย ความพยายามมผี ลความเพยี รมผี ล แมอยางน้.ี [๑๖] ดูกอนภิกษทุ ัง้ หลาย อีกประการหน่ึง ตถาคตอุบัตขิ ึน้ ในโลกนี้เปน พระอรหันต ตรัสรูเ องโดยชอบ ถงึ พรอ มดว ยวชิ ชาและจรณะ ดําเนนิ ไปดีรูแ จง โลก เปนสารถีผูฝกบรุ ุษท่ีควรฝก อยางหาคนอื่นยง่ิ กวา มไิ ด เปนครูของเทวดาและมนุษยท ัง้ หลาย เปน ผตู ่ืนแลว เปน ผูแ จกธรรม ตถาคตนั้นทาํ ใหแจงดวยปญ ญาอนั ย่งิ เองแลว สอนโลกน้พี รอมทัง้ เทวโลก มารโลก พรหมโลก หมูสตั วพ รอ มทง้ั สมณพราหมณ เทวดาและมนุษยใหรทู ่ัว แสดงธรรมงามในเบอื้ งตน ในทามกลาง ในที่สดุ พรอ มทั้งอรรถทั้งพยัญชนะ ประกาศพรหมจรรยอันบรสิ ทุ ธิบ์ รบิ รู ณส ิน้ เชิง คฤหบดีกด็ ี บตุ รของคฤหบดี คนเกิดภายหลังในสกลุ ใดสกลุ หนง่ึ ก็ดี ยอมฟงธรรมนน้ั ครัน้ ฟง แลว ยอ มไดความเชอ่ื ในตถาคต เขาประกอบดว ยการไดความเช่ือโดยเฉพาะนนั้ จึงพิจารณา

พระสตุ ตนั ตปฎก มัชฌมิ นิกาย อุปรปิ ณณาสก เลม ๓ ภาค ๑ - หนา ท่ี 17เหน็ ดงั นี้ วา ฆราวาสคับแคบเปน ทางมาแหง ธุลี บรรพชาเปนชองวาง เรายังอยคู รองเรือน จะประพฤตพิ รหมจรรยใ หบรสิ ุทธบ์ิ ริบูรณโดยสวนเดยี วดุจสังขทเ่ี ขาขัดแลว นไ้ี มใชท ําไดงา ย อยากระนนั้ เลย เราพงึ ปลงผมและหนวดนงุ หมผากาสาวพสั ตรแลว ออกจากเรือนบวชเถิด สมยั ตอมา เขาละโภคสมบัตินอยบาง มากบาง ละเครอื ญาตเิ ลก็ บา ง ใหญบ า ง ปลงผมและหนวด นุง หมผา กาสาวพัสตรแลว ออกจากเรอื นไมม เี รือนบวช เขาบวชแลวอยางนี้ ถึงพรอมดวยสิกขาสาชพี ของภิกษุท้งั หลาย ละปาณาตบิ าต เปน ผูเวน ขาดจากปาณาตบิ าตวางไม วางมดี แลว มีความละอาย ถงึ ความเอ็นดูอนเุ คราะหดว ยความเก้ือกลูในสรรพสตั วอ ยู ละอทนิ นาทาน เปนผเู วนขาดจากอทินนาทาน ถอื เอาแตของท่ีเขาให หวังแตข องท่เี ขาให มีตนเปนคนสะอาด ไมใชข โมยอยู ละกรรมอันเปน ขาศกึ แกพรหมจรรย เปน ผปู ระพฤติพรหมจรรย ประพฤติหา งไกล เวนเมถุนอันเปนเรือ่ งของชาวบา น ละมุสาวาท เปนผเู วน ขาดจากมุสาวาท เปน ผูกลาวคาํ จริงดาํ รงอยใู นคาํ สัตย เปน หลกั ฐานเชอ่ื ถอื ได ไมพ ดูลวงโลก ละวาจาสอเสยี ด เปนผูเวน ขาดจากวาจาสอเสยี ด ไดยนิ จากฝา ยนแ้ี ลวไมบ อกฝายโนน เพ่ือทําลายฝายน้ี หรือไดยินจากฝายโนน แลว ไมบอกฝา ยนี้เพือ่ ทําลายฝายโนน ทั้งน้ี เม่ือเขาแตกแยกกันแลว กส็ มานใหดีกนั หรือเมอื่ เขาดกี ันอยูก ็สงเสรมิ ชอบความพรอ มเพรียงกัน ยนิ ดใี นคนท่ีพรอมเพรยี งกนั ช่ืนชมในคนทพ่ี รอมเพรยี งกัน เปนผูก ลา ววาจาสมานสามคั คีกันละวาจาหยาบ เปนผเู วน ขาดจากวาจาหยาบ เปน ผกู ลาววาจาซ่งึ ไมมีโทษเสนาะหู ชวนใหร ักใคร จบั ใจ เปนภาษาชาวเมือง อันคนสวนมากปรารถนาและชอบใจ ละการเจรจาเพอเจอ เปนผูเวน ขาดจากการเจรจาเพอเจอ กลา วถูกกาล กลา วตามเปนจรงิ กลาวองิ อรรถ กลาวองิ ธรรม กลา วอิงวนิ ยัเปนผกู ลาววาจามีหลกั ฐาน มีทีอ่ า ง มีขอบเขต ประกอบดวยประโยชน

พระสตุ ตันตปฎ ก มชั ฌิมนกิ าย อปุ ริปณณาสก เลม ๓ ภาค ๑ - หนา ท่ี 18ตามกาล เธอเปนผเู วนจากการพรากพชื คามและภตู คาม เปน ผฉู นั หนเดยี ว งดการฉนั ในราตรี เวนขาดจากการฉันในเวลาวิกาล เปนผเู วนขาดจากการฟอ นรําขับรอ ง ประโคมดนตรี และดกู ารเลน อันเปน ขาศึกแกกศุ ล เปน ผูเวน ขาดจากการทัดทรงและตกแตง ดว ยดอกไมของหอม และเครอื่ งประเทอื งผวิ อนั เปนฐานะแหงการแตง ตัว เปนผูเวนขาดจากการนง่ั นอนบนทีน่ ั่งทนี่ อนอันสูงใหญเปนผูเวนขาดจากการรบั ทองและเงิน เปน ผเู วน ขาดจากการรบั ธัญญชาตดิ ิบเปน ผเู วนขาดจากการรับเนื้อดบิ เปนผูเ วนขาดจากการรับหญงิ และกุมารี เปนผูเ วน ขาดจากการรับทาสแี ละทาส เปนผเู วน ขาดจากการรบั แพะและแกะ เปนผเู วน ขาดจากการรับไกและสุกร เปน ผเู วน ขาดจากการรบั ชา ง โค มา และลาเปน ผเู วน ขาดจากการรบั ไรน าและท่ดี ิน เปนผูเ วน ขาดจากการประกอบทูตกรรมและการรับใช เปนผเู วน ขาดจากการซ้ือและการขาย เปนผูเวนขาดจากการโกงดว ยตาช่ัง การโกงดวยของปลอมและการโกงดวยเครอ่ื งตวงวัด เปนผูเวน ขาดจากการรบั สนิ บน การลอ ลวงและการตลบตะแลง เปนผูเวนขาดจากการตดั การฆา การจองจํา การตีชงิ การปลน และการกรรโชก เธอเปนผูส นั โดษดวยจีวรเปนเคร่อื งบรหิ ารกาย และบณิ ฑบาตเปนเครื่องบริหารทองจะไปที่ใด ๆ ยอมถอื เอาบรขิ ารไปไดห มด เหมอื นนกมปี ก จะบนิ ไปทใี่ ด ๆยอมมีแตป กของตัวเทาน้ันเปนภาระบนิ ไป. [๑๗] เธอประกอบดว ยศีลขนั ธอ ันเปนอริยะเชน นแี้ ลว ยอมเสวยสุขอันปราศจากโทษในภายใน เหน็ รูปดวยจกั ษแุ ลว ยอมไมถ ือเอาโดยนมิ ิตและโดยอนพุ ยญั ชนะ ยอ มปฏิบตั เิ พอื่ สํารวมจกั ขนุ ทรีย ทเ่ี มื่อไมสาํ รวมแลวพงึ เปนเหตุใหอ กศุ ลธรรมอนั ลามก คืออภิชฌาและโทมนสั ครอบงาํ ได ยอมรักษาจักขนุ ทรีย ถงึ ความสํารวมในจักขนุ ทรีย ไดยนิ เสยี งดว ยโสต..... ไดด ม

พระสตุ ตันตปฎ ก มัชฌมิ นกิ าย อุปริปณณาสก เลม ๓ ภาค ๑ - หนา ที่ 19กลิน่ ดวยฆานะ... ไดล ้ิมรสดวยชวิ หา.. ไดถ กู ตอ งโผฏฐัพพะดว ยกาย...ไดรูแ จงธรรมารมณดวยใจแลว ยอมไมถือเอาโดยนิมติ และโดยอนุพยัญชนะยอมปฏิบัตเิ พอื่ สาํ รวมมนินทรยี  ที่เมือ่ ไมสาํ รวมแลว พึงเปนเหตใุ หอ กศุ ลธรรมอนั ลามกคืออภชิ ฌาและโทมนสั ครอบงําได ยอ มรกั ษามนนิ ทรยี  ถึงความสาํ รวมในมนินทรีย. [๑๘] เธอประกอบดว ยอินทรียสงั วรอันเปน อริยะเชนน้แี ลว ยอมเสวยสขุ อันไมเจือทกุ ขในภายใน เปนผทู าํ ความรสู กึ ในเวลากาวไปและถอยกลบั ในเวลาแลดแู ละเหลียวดู ในเวลาคูเขา และเหยียดออก ในเวลาทรงสังฆาฏิ บาตรและจวี ร ในเวลาฉัน ดื่ม เค้ยี ว และล้มิ ในเวลาถายอุจจาระและปสสาวะ ในเวลาเดนิ ยืน นัง่ นอนหลับ ต่นื พูด และนิ่ง. [๑๙] เธอประกอบดว ยศีลขนั ธอ ันเปนอรยิ ะเชน น้ี ประกอบดว ยอนิ ทรียสังวรอนั เปน อรยิ ะเชน น้ี และประกอบดว ยสติสมั ปชัญญะอนั เปนอริยะเชน น้ีแลว ยอมพอใจเสนาสนะอันสงัด คือ ปา โคนไม ภเู ขา ถ้ํา ปาชาปาชัฏ ทแี่ จง และลอมฟาง เธอกลับจากบณิ ฑบาต ภายหลังเวลาอาหารแลวนั่งคูบลั ลงั ก ตง้ั กายตรง ดาํ รงสตมิ น่ั เฉพาะหนา ละอภิชฌาในโลกไดแ ลวมีจติ ปราศจากอภชิ ฌาอยู ยอมชาํ ระจติ ใหบริสุทธิ์จากอภชิ ฌาได ละความประทษุ รา ยคือพยาบาท เปน ผมู จี ิตไมพ ยาบาท อนุเคราะหดวยความเกอื้ กลูในสรรพสตั วอยู ยอมชําระจิตใหบ ริสทุ ธจิ์ ากความประทษุ รา ยคือพยาบาทละถีนมทิ ธะแลว เปน ผูมีจติ ปราศจากถ่นิ มทิ ธะ มอี าโลกสญั ญา มสี ตสิ ัมปชญั ญะอยู ยอ มชาํ ระจติ ใหบริสทุ ธิจ์ ากถ่ินมทิ ธะได ละอทุ ธจั จะกกุ กุจจะแลวเปนผูไมฟงุ ซา น มีจติ สงบภายในอยู ยอมชาํ ระจิตใหบริสทุ ธ์ิจากอุทธจั จะ-กกุ กุจจะได ละวจิ ิกิจฉาแลว เปนผูขามความสงสัย ไมม ปี ญ หาอะไรในกุศลธรรมทั้งหลายอยู ยอมชาํ ระจิตใหบ ริสุทธจ์ิ ากวิจกิ จิ ฉาได.

พระสตุ ตนั ตปฎ ก มัชฌิมนกิ าย อุปรปิ ณณาสก เลม ๓ ภาค ๑ - หนา ที่ 20 [๒๐] เธอ ครัน้ ละนิวรณ ๕ ประการอันเปนเครือ่ งทาํ ใหเศราหมอง ทาํ ปญ ญาใหถ อยกาํ ลังนไ้ี ดแลว จึงสงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรมเขาปฐมฌาน มีวิตก มีวิจาร มปี ติและสขุ เกดิ แตวเิ วกอยู ดูกอนภกิ ษทุ ้งั หลายแมอ ยางน้กี ็ชื่อวาความพยายามมผี ล ความเพยี รมผี ล. [๒๑] ดูกอนภิกษทุ ้ังหลาย ประการอื่นยังมอี กี ภกิ ษเุ ขา ทุตยิ ฌานมคี วามผอ งใสแหง ใจภายใน มีความเปนธรรมเอกผุดขน้ึ เพราะสงบวติ กและวิจาร ไมมวี ิตก ไมม วี จิ าร มีปติและสขุ เกิดแตส มาธอิ ยู ดูกอ นภกิ ษุท้งั หลายแมอยา งน้ีกช็ ื่อวา ความพยายามมผี ล ความเพียรมผี ล. [๒๒] ดูกอนภกิ ษุทง้ั หลาย ประการอนื่ ยงั มอี ีก ภกิ ษุเปนผวู างเฉยเพราะหนา ยปต ิ มสี ตสิ มั ปชัญญะอยู และเสวยสุขดวยนามกาย เขา ตติยฌานที่พระอรยิ ะเรยี กเธอไดว า ผูวางเฉย มีสติ อยเู ปน สขุ อยู ดูกอ นภกิ ษุทงั้ หลายแมอ ยางน้ีก็ชื่อวา ความพยายามมีผล ความเพยี รมผี ล. [๒๓] ดูกอนภิกษทุ ง้ั หลาย ประการอื่นยงั มอี ีก ภกิ ษุเขา จตุตถฌานอันไมมีทุกข ไมมีสุข เพราะละสขุ ละทกุ ข และดบั โสมนัสโทมนัสกอนๆไดมีสตบิ รสิ ุทธิ์ เพราะอุเบกขาอยู ดูกอนภกิ ษุท้งั หลาย แมอยางน้กี ็ช่ือวา ความพยายามมีผล ความเพยี รมีผล. [๒๔] เธอ เม่ือจิตเปน สมาธิ บรสิ ุทธผ์ิ ุดผอ ง ไมมีกเิ ลสเคร่ืองยยี วน ปราศจากอุปกิเลส เปนจิตออ นโยน ควรแกก ารงาน ต้ังมน่ั ไมหว่นั ไหวอยางนี้แลว ยอ มนอ มจิตไปเพือ่ ปพุ เพนิวาสานุสสติญาณ ระลึกถงึ ขนั ธที่อยอู าศัยในชาติกอ นไดเ ปนอเนกประการ คอื ระลกึ ไดช าติหนึ่งบาง สองชาติบาง สามชาติบา ง สชี่ าติบา ง หาชาติบา ง สิบชาติบา ง ยี่สบิ ชาตบิ า งสามสบิ ชาตบิ าง สี่สบิ ชาตบิ าง หาสิบชาตบิ าง รอยชาติบาง พันชาตบิ า งแสนชาตบิ าง หลายสงั วฏั กปั บา ง หลายวิวัฏกปั บา ง หลายสังวัฏววิ ัฏกปั บา ง

พระสตุ ตนั ตปฎ ก มัชฌิมนิกาย อปุ รปิ ณณาสก เลม ๓ ภาค ๑ - หนา ที่ 21วา ในชาตโิ นน เรามชี อื่ อยา งนี้ มีโคตรอยา งนี้ มผี ิวพรรณอยา งนี้ มอี าหารอยางน้ี เสวยสุขและทกุ ขอ ยางน้ี มกี ําหนดอายุเทา นี้ เราน้ันเคล่ือนจากชาตินัน้ แลว บงั เกิดในชาตโิ นน แมในชาติน้นั เรากม็ ชี อ่ื อยา งนี้ มโี คตรอยางน้ีมีผวิ พรรณอยา งน้ี มอี าหารอยา งน้ี เสวยสขุ และทกุ ขอยา งนี้ มีกาํ หนดอายุเทาน้ี เราน้ันเคลื่อนจากชาตนิ น้ั แลว จงึ เขาถึงในชาตนิ ้ี เธอยอ มระลกึ ถึงขนั ธทีอ่ ยอู าศยั ในชาตกิ อ นไดเ ปนอเนกประการ พรอ มท้ังอาการ พรอมทงั้ อเุ ทศเชนนี้ ดูกอ นภกิ ษุทั้งหลาย แมอ ยางนก้ี ช็ ่ือวา ความพยายามมีผล ความเพียรมีผล. [๒๕] เธอ เมื่อจิตเปน สมาธิ บริสทุ ธ์ผิ ุดผอง ไมมกี ิเลสเครื่องยยี วน ปราศจากอปุ กเิ ลส เปนจิตออนโยน ควรแกก ารงาน ตั้งมน่ั ไมหวั่นไหวอยา งนแ้ี ลว ยอมนอ มจิตไปเพอ่ื ญาณเคร่ืองรจู ตุ แิ ละอปุ บตั ขิ องสตั วท้ังหลาย มองเห็นหมูส ตั วก าํ ลงั จตุ ิ กําลงั อุปบัติ เลว ประณตี มีผิวพรรณดีมผี ิวพรรณทราม ไดดี ตกยาก ดวยทพิ ยจักษุอนั บริสุทธ์ิ ลวงจักษขุ องมนษุ ยทราบชดั หมูสตั วผูเ ปนไปตามกรรมไดว า สตั วผกู าํ ลงั เปน อยูเหลา น้ี ประกอบแลวดว ยกายทจุ ริต วจที ุจริต มโนทจุ รติ ตเิ ตียนพระอริยะ เปนมจิ ฉาทฏิ ฐิเช่ือมน่ั กรรมดวยอํานาจมจิ ฉาทิฏฐิ เมื่อตายไป จงึ ไดเ ขา ถึงอบาย ทุคติวนิ บิ าต นรก สว นสัตวผกู าํ ลังเปน อยูเ หลานี้ ประกอบแลว ดว ยกายสจุ รติวจสี จุ รติ มโนสจุ รติ ไมติเตียนพระอรยิ ะ เปน สมั มาทฏิ ฐิ เชือ่ ม่นั กรรมดว ยอํานาจสมั มาทฏิ ฐิ เม่ือตายไปจึงไดเขา ถึงสุคติโลกสวรรค เธอยอ มมองเห็นหมูสตั วท ี่กําลังจตุ ิ กาํ ลังอปุ บตั ิ เลว ประณตี มีผวิ พรรณดี มผี ิวพรรณทรามไดดี ตกยากดว ยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ ลวงจกั ษขุ องมนษุ ย ยอ มทราบชัดหมูสัตวผ ูเปนไปตามกรรม เชนนี้ ดกู อ นภิกษุท้งั หลาย แมอ ยา งนี้ก็ชอื่ วา ความพยายามมผี ล ความเพียรมีผล.

พระสตุ ตันตปฎก มัชฌมิ นิกาย อุปรปิ ณณาสก เลม ๓ ภาค ๑ - หนา ที่ 22 [๒๖] เธอ เมอ่ื จติ เปนสมาธิ บรสิ ุทธิ์ผุดผอง ไมมกี เิ ลสเคร่อื งยยี วน ปราศจากอุปกิเลส เปน จิตออนโยน ควรแกการงาน ตง้ั มัน่ ไมหวนั่ ไหวอยางน้ีแลว ยอ มนอมจติ ไปเพือ่ อาสวักขยญาณ รูชดั ตามเปนจริงวานท้ี ุกข นีเ้ หตใุ หเ กิดทุกข นี้ความดับทุกข นี้ปฏปิ ทาใหถ งึ ความดบั ทุกข รูชัดตามเปนจรงิ วา เหลา น้ีอาสวะ นเี้ หตใุ หเกดิ อาสวะ นีค้ วามดับอาสวะน้ปี ฏปิ ทาใหถงึ ความดับอาสวะ เมอ่ื เธอรูอ ยางนี้ เหน็ อยางน้ี จิตก็หลดุ พนแมจากกามาสวะ แมจากภวาสะ แมจากอวชิ ชาสวะ เมื่อจิตหลดุ พน แลวยอ ม มญี าณรูวา หลดุ พนแลว รูชดั วาชาตสิ นิ้ แลว พรหมจรรยอยูจบแลวกิจที่ควรทาํ ไดท ําเสรจ็ แลว กิจอน่ื เพื่อความเปนอยางน้ีมิไดมี ดูกอนภกิ ษุท้งั หลาย อยา งนี้แล ความพยายามจงึ มีผล ความเพียรจึงมีผล. [๒๗] ดกู อนภิกษทุ ัง้ หลาย ตถาคตมวี าทะอยางน้ี วาทะ ๑๐ ประการอนั ชอบดวยเหตขุ องตถาคตผูม วี าทะอยา งนี้ ยอมถึงฐานะควรสรรเสรญิ . ดูกอนภิกษทุ ั้งหลาย ถา หมสู ัตวย อมเสวยสขุ และทกุ ข เพราะเหตุแหงกรรมที่ตนทําไวแตก อ น ตถาคตตองเปนผูทํากรรมดีแตกอ นแน ผลในบดั น้ีจึงเสวยสุขเวทนาอนั หาอาสวะมิไดเ หน็ ปานน้ี ถา หมสู ัตวยอ มเสวยสขุ และทุกขเพราะเหตทุ ่พี ระผูเ ปน ใหญเนรมิตให ตถาคตตอ งเปนผทู ีพ่ ระผูเปน ใหญช้นั ดีเนรมิตแน ผลในบัดนี้ จงึ เสวยสุขเวทนาอนั หาอาสวะมไิ ดเ ห็นปานนี้ ถาหมูสตั วย อมเสวยสขุ และทกุ ขเพราะเหตเุ คราะหกรรม ตถาคตตองเปน ผูม ีเคราะหกรรมดแี น ผลในบัดนี้ จึงเสวยสขุ เวทนาอนั หาอาสวะมิไดเ ห็นปานนี้ ถา หมูสตั วย อ มเสวยสขุ และทุกขเพราะเหตุอภิชาติ ตถาคตตองเปนผูม อี ภชิ าตดิ ีแนผลในบดั นี้ จงึ เสวยสุขเวทนาอนั หาอาสวะมไิ ดเ หน็ ปานนี้ ถาหมูส ัตวยอมเสวยสุขและทกุ ข เพราะเหตุแหงความพยายามในปจจุบนั ตถาคตตอ งเปนผมู ีความ

พระสุตตนั ตปฎก มชั ฌิมนกิ าย อปุ รปิ ณ ณาสก เลม ๓ ภาค ๑ - หนาที่ 23พยายามในปจจบุ ันดแี น ผลในบดั น้ี จงึ เสวยสขุ เวทนาอันหาอาสวะมิไดเ ห็นปานนี้ ดูกอ นภกิ ษทุ งั้ หลาย ถา หมูส ตั วยอ มเสวยสุขและทกุ ข เพราะเหตุแหงกรรมทีต่ นทําไวแ ตก อน ตถาคตตองนาสรรเสริญ ถาหมสู ตั วไมใชเสวยสขุ และทุกข เพราะเหตุแหง กรรมที่ตนทําไวแตก อ น ตถาคตกต็ องนา สรรเสรญิ ถาหมูสัตวย อ มเสวยสขุ และทกุ ข เพราะเหตทุ ีอ่ ิศวรเนรมิตให ตถาคตตอ งนาสรรเสริญ ถา หมสู ตั วไมใ ชเสวยสุขและทุกขเ พราะเหตุทอ่ี ิศวรเนรมติ ใหตถาคตก็ตอ งนา สรรเสริญ ถา หมูสตั วยอมเสวยสุขและทกุ ข เพราะเหตเุ คราะหกรรม ตถาคตกต็ องนาสรรเสรญิ ถาหมูสตั วไมใ ชเสวยสุขและทุกข เพราะเหตุเคราะหก รรม ตถาคตก็ตอ งนาสรรเสรญิ ถา หมสู ตั วย อมเสวยสุขและทุกขเพราะเหตอุ ภชิ าติ ตถาคตตองนา สรรเสริญ ถาหมูส ตั วไมใชเ สวยสุขและทุกขเพราะเหตุอภิชาติ ตถาคตตอ งนาสรรเสริญ ถาหมูสตั วยอมเสวยสุขและทุกขเพราะเหตแุ หง ความพยายามในปจ จบุ ัน ตถาคตตองนาสรรเสรญิ ถา หมสู ตั วไมใชเสวยสุขและทกุ ข เพราะเหตแุ หง ความพยายามในปจ จุบัน ตถาคตก็ตองนา สรรเสริญ ดูกอนภกิ ษทุ ัง้ หลาย ตถาคตมวี าทะอยา งนี้ วาทะ ๑๐ ประการอนั ชอบดวยเหตขุ องตถาคตผมู ีวาทะอยางนี้ จงึ ถงึ ฐานะควรสรรเสรญิ . พระผูม พี ระภาคเจาไดต รัสพระภาษติ น้ีแลว ภกิ ษุเหลา น้ันตางชน่ื ชมยนิ ดพี ระภาษิตของพระผมู พี ระภาคเจา แล. จบ เทวหสตู รท่ี ๑






















































Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook