Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารประกอบการสอน การบัญชีชั้นกลาง 2

เอกสารประกอบการสอน การบัญชีชั้นกลาง 2

Published by kitthanachon01, 2022-06-14 00:34:41

Description: เอกสารประกอบการสอน การบัญชีชั้นกลาง 2

Search

Read the Text Version

เอกสารประกอบการสอน การบญั ชชี น้ั กลาง 2 1 โดย นายกฤษฐนชนม์ หาระไชย

บทที่ 1 ความรทู ว่ั ไปเกย่ี วกบั หางหนุ สว น การประกอบธุรกิจเพื่อมุงหวังผลกําไรอาจดําเนินการจัดตั้งไดหลายรูปแบบท้ัง กิจการเจาของคนเดียว หางหุนสวน หรือบริษัทจํากัด โดยกิจการเจาของคนเดียวมีการจัดตั้งโดย บุคคลเพียงคนเดียว ซ่ึงอาจมีเงินทุนไมเพียงพอ หรือบางครั้งอาจมีเงินทุนมากเพียงพอแตขาด ความรูความสามารถเฉพาะดานท่ีจะชวยใหการประกอบธุรกิจเปนไปอยางมีประสิทธิภาพ และ กอใหเกิดผลกําไรตอบแทนตามท่ีตองการจึงไมอาจเส่ียงท่ีจะลงทุนเพียงลําพังได ดังนั้นจึงอาจ ทําใหเกิดการรวมทุน รวมแรง รวมความคิดความรูความสามารถเขาดวยกันเพื่อจัดตั้งเปน หางหุน สวน หรือบรษิ ทั ในบทนจ้ี ะอธบิ ายการประกอบธุรกจิ ในรปู แบบของหางหุน สวนซ่งึ เปน ทางเลือกหน่ึงท่ีผูประกอบการนิยมจัดตั้ง ท้ังนี้เนื่องจากความไมยุงยากซับซอนในการจดทะเบียน จัดต้ังกิจการ ความไดเปรียบทางดานภาษี อีกท้ังการดําเนินกิจการก็สามารถดําเนินงานไดอยาง รวดเรว็ เน่อื งจากจํานวนหุน สว นมไี มม าก จงึ ชว ยทําใหการตดั สนิ ใจทางธุรกจิ มคี วามรวดเรว็ และ มีประสทิ ธภิ าพมากขึ้น ความหมายของหางหนุ สว น นกั วชิ าการไดใ หความหมายของหางหนุ สวน (partnership) ไวห ลายทศั นะ ดงั นี้ ประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา 1012 บัญญัติวา อันวาสัญญาจัดตั้งหาง หุนสวนน้ัน คือ สัญญาซึ่งบุคคลตั้งแต 2 คนข้ึนไปตกลงเขากันเพ่ือกระทํากิจการรวมกันดวย ประสงคจะแบงปนกําไรอันจะพึงไดจากกิจการท่ีทํานั้น (สุรศักด์ิ วาจาสิทธิ์, และคนอื่นๆ, 2548, หนา 327) หางหุนสวน หมายถึง กิจการหรือกิจกรรมที่บุคคลตั้งแตสองคนขึ้นไปมี วัตถุประสงครวมกันท่ีจะประกอบกิจกรรมอยางใดอยางหนึ่งและแบงปนผลกําไรหรือขาดทุน จากการน้ัน โดยมีสัญญาเขาเปนหุนสวนกัน (สมาคมนักบัญชีและผูสอบบัญชีรับอนุญาตแหง ประเทศไทย, 2538, หนา 71) หางหุนสวน หมายถึง กิจการที่จะตองมีบุคคลตั้งแต 2 คนขึ้นไปลงทุนรวมกัน โดยมีวัตถุประสงคที่จะแบงผลกําไรขาดทุนระหวางกันตามเงื่อนไขที่ไดตกลงกันไว ซึ่งผูท่ี 2

2 รวมลงทุนในกิจการประเภทหางหุนสวนแตละคนเรียกวา ผูเปนหุนสวน (สุริยุ เมืองขุนรอง, ม.ป.ป., หนา 1-1) จากความหมายของหางหุนสวนดังกลาวขางตนสรุปไดวา หางหุนสวน หมายถึง กิจการท่ีมีบคุ คลต้งั แต 2 คนข้นึ ไปลงทนุ รว มกันเพ่ือกระทาํ กจิ การรวมกัน โดยมีวัตถุประสงคจะ แบงปนกําไรขาดทุนที่จะไดรับจากกิจการท่ีทํานั้น ซ่ึงอาจสรุปไดวาหางหุนสวนตองมี สวนประกอบดงั นี้ 1. มบี ุคคลต้งั แต 2 คนข้นึ ไป 2. บคุ คลน้ันตอ งกระทาํ กจิ การรวมกัน โดยการทํากิจการรวมกันนั้นจะตองรวมกัน ตั้งแตการลงทุนรวมกัน ไมวาส่ิงที่นํามาลงทุนน้ันอาจจะเปน การลงทุนดวยเงินสด สินทรัพย อยางอื่น เชน ที่ดิน อาคาร เคร่ืองจักร หรือลงทุนดวยแรงงาน เปนตน ซึ่งกิจการท่ีทําตองเปน กิจการทไ่ี มข ัดตอกฎหมาย 3. มีความประสงคจะแบงปนกําไรท่ีจะพึงไดจากกิจการที่ทําน้ัน ทั้งน้ีมิได หมายความวาจะตองแบงแตเพียงกําไรเทาน้ัน หากกิจการท่ีทํามีผลขาดทุนผูเปนหุนสวนก็ตอง ยอมรบั และแบงปน ผลขาดทุนในอตั ราเดยี วกับการแบง ผลกาํ ไร จากความหมายของหางหนุ สว นอาจนาํ มาแสดงไดดังภาพตอไปนี้ 3

3 ผูเปนหุน สว น นายกมล นายเขตต นายคณติ การลงทนุ เงินสด อปุ กรณ แรงงาน หางหุนสวน หา งหุน สว นกติ ตคิ ณุ ผเู ปนหุนสวน วีรี วีณา การลงทุน สินทรพั ย หางหนุ สว น สนิ ทรพั ย หางหนุ สว นวณี และหน้ีสนิ ผเู ปนหุน สว น การลงทุน กมลา เขมา คณา หางหุน สว น เงนิ สด เงินสด สินทรัพยอืน่ แรงงาน ที่มใิ ชเงินสด หางหุนสว นสามสหาย ภาพท่ี 1.1 ความหมายของหา งหนุ สวน ทมี่ า (นชุ จรี พเิ ชฐกลุ , 2547, หนา 112) 4

4 ประเภทของหางหนุ สว น การจัดประเภทของหางหุนสวนตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย ไดแบง หา งหุนสว นออกเปน 2 ประเภท คือ 1. หางหุนสวนสามัญ (unlimited partnership) ตามประมวลกฎหมายแพงและ พาณิชย มาตรา 1025 บัญญัติวา อันวาหางหุนสวนสามัญนั้น คือ หางหุนสวนประเภทซึ่ง ผูเปนหุนสวนประเภทซึ่งผูเปนหุนสวนทุกคนตองรับผิดชอบรวมกัน เพื่อหน้ีสินท้ังปวงของ หา งหุนสวนโดยไมมีจํากัด (สุรศักดิ์ วาจาสิทธิ์, และคนอ่ืนๆ, 2548, หนา 330) ซ่ึงแสดงใหเห็น ไดวาหางหุนสวนสามัญมีหุนสวนเพียงประเภทเดียวเทานั้นเรียกวาหุนสวนประเภทไมจํากัด ความรบั ผดิ โดยหางหนุ สวนสามญั แบง ไดเปน 2 ประเภท ดงั นี้ 1.1 หางหุนสวนสามัญที่มิไดจดทะเบียน มีฐานะเปนบุคคลธรรมดา ถา ผูเปนหุนสวนมิไดตกลงกันไวในสัญญาของหางหุนสวนแลว กฎหมายใหถือวาผูเปนหุนสวน ทกุ คนมสี ทิ ธิเขา จดั การงานของหา งหนุ สวนได 1.2 หางหุนสวนสามัญท่ีจดทะเบียน มีฐานะเปนนิติบุคคล จะตองใชคําวา หางหุน สวนสามญั นิตบิ คุ คล ประกอบหนาชื่อหางเสมอ หางหุนสวนประเภทนี้จะตองระบุชื่อผู เปนหุนสวนผูจัดการจะมีคนเดียวหรือหลายคนก็ได และหุนสวนผูจัดการเทานั้นที่มีสิทธิเขา จัดการงานของหางหนุ สว นและทํานติ ิกรรมใด ๆ ในนามหางหนุ สวนได หางหุน สวนสามัญท่จี ดทะเบียนใหม รี ายการ ดังตอไปนี้ คอื 1. ชอื่ หา งหุนสวน 2. วัตถุทีป่ ระสงคข องหา งหุน สวน 3. ท่ีตัง้ สาํ นกั งานแหง ใหญและสาขาทั้งปวง 4. ช่อื และที่สํานกั กับทงั้ อาชีวะของผูเปนหุนสวนทุก ๆ คนถาผูเปนหุนสวนคนใดมี ช่อื ยี่หอ ก็ใหลงทะเบยี นทง้ั ชอ่ื และย่ีหอ ดวย 5. ช่อื หุน สว นผจู ดั การในเมอ่ื ไดต ั้งแตง ใหเ ปน ผจู ัดการแตเพียงบางคน 6. ถา มีขอ จํากัดอํานาจของหุนสวนผจู ัดการประการใดใหล งไวดว ย 7. ตราซึ่งใชเปนสําคัญของหางหุนสวน ขอความซ่ึงลงทะเบียนนั้นจะลงรายการ อ่ืน ๆ อีกอันคูสัญญาเห็นสมควรจะให ประชาชนทราบดวยก็ไดการลงทะเบียนน้ันตองลง ลายมือช่ือของผูเปนหุนสวนทุกคน และตองประทับตราของหางหุนสวนน้ันดวยใหพนักงาน ทะเบียนทาํ ใบสาํ คญั แสดงการจดทะเบียนสงมอบใหแ กหางหุน สวนน้นั ฉบับหน่งึ 5

5 2. หางหุนสวนจํากัด (limited partnership) ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา 1077 บัญญัติวา อันหางหุนสวนจํากัดนั้นคือหางหุนสวนประเภทหน่ึงซึ่งมีผูเปนหุนสวน 2 ประเภท ดงั น้ี (สรุ ศักด์ิ วาจาสทิ ธิ์, และคนอ่นื ๆ, 2548, หนา 343) 2.1 หุนสวนจํากัดความรับผิด หรือผูเปนหุนสวนคนเดียวหรือหลายคนซ่ึงมี จาํ กัดความรับผิดเพียงไมเกินจํานวนเงนิ ทีต่ นรบั จะลงหนุ ในหางหุนสว นนั้นจาํ พวกหนงึ่ และ 2.2 หุนสวนไมจํากัดความรับผิด หรือผูเปนหุนสวนคนเดียวหรือหลายคนซ่ึง ตองรับผิดรว มกันในบรรดาหนี้ของหางหนุ สว นไมม จี ํากัดจํานวนอกี จาํ พวกหนึ่ง ดังน้ันหางหุนสวนจํากัดอาจมีทั้งหุนสวนจํากัดความรับผิด และหุนสวนไมจํากัดความ รับผิด แตอยางนอยหางหุนสวนประเภทน้ีตองมีหุนสวนประเภทไมจํากัดความรับผิด 1 คน ซึ่งจะทํา หนาท่เี ปนหนุ สวนผูจ ัดการ สวนหนุ สว นประเภทจาํ กดั ความรบั ผิดจะมหี รอื ไมม ีก็ได หางหุนสวนจํากัดนั้น ตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย บังคับวาตองจด ทะเบียน การจดทะเบยี นนน้ั ตอ งมรี ายการ ดังตอไปน้คี อื 1. ช่อื หา งหุนสว น 2. ขอ แถลงความวาเปน หา งหนุ สว นจาํ กดั และวตั ถทุ ปี่ ระสงคข องหางหุนสว น นัน้ 3. ที่ตงั้ สาํ นักงานแหงใหญและสาํ นักงานสาขาทงั้ ปวง 4. ชื่อยี่หอสํานักและอาชีวะของผูเปนหุนสวนจําพวกจํากัดความรับผิดและจํานวน เงนิ ซ่ึงเขาเหลา นั้นไดลงหนุ ดว ยในหา งหนุ สวน 5. ชื่อย่หี อสํานักและอาชวี ะของผูเปนหุน สวนจําพวกไมจ ํากดั ความรับผิด 6. ชื่อหนุ สวนผจู ดั การ 7. ถามีขอจํากัดอํานาจหุนสวนผูจัดการอันจะผูกพันหางหุนสวนน้ันประการใด ใหลงไวดวยขอความซึ่งลงทะเบียนน้ันจะลงรายการอ่ืนๆอีกอันคูสัญญาเห็นสมควรจะให ประชาชนทราบดวยก็ไดการลงทะเบียนนั้นตองลงลายมือชื่อของผูเปนหุนสวนทุกคนและตอง ประทับตราของหางหุนสวนนั้นดวยใหพนักงานทะเบียนทําใบสําคัญแสดงการจดทะเบียน สง มอบใหแกห า งหนุ สว นน้นั ฉบับหนึ่ง 6

6 ตารางท่ี 1.1 เปรยี บเทยี บความแตกตางระหวา งหุนสว นจาํ กัดความรับผิด และหุน สวนไมจ ํากัด ความรับผิด มาตราทเ่ี กย่ี วของ หนุ สว นจํากัดความรับผดิ หุนสว นไมจ ํากดั ความรบั ผดิ มาตรา 1077 จํากัดจํานวนเพียงไมเกินจํานวน รบั ผิดชอบไมจ ํากดั จาํ นวน มาตรา 1083 มาตรา 1087 เงินที่ตนรับวาจะลงทุนในหาง มาตรา 1081/1082 มาตรา 1091 หนุ สว น มาตรา 1092 ตองลงทุนเปนเงินหรือสินทรัพย จะลงทุนเปนเงินสดหรือสินทรัพย มาตรา 1093 อืน่ จะลงทุนดวยแรงงานไมไ ด อืน่ หรอื ลงทนุ ดวยแรงงานได มาตรา 1094 เปน หนุ สว นผจู ดั การไมได เปน ผจู ัดการได หามมิใหเอาชื่อของผูเปนหุนสวน เอาช่ือของผูเปนหุนสวนมาเรียก มาเรยี กขานระคนเปน ชื่อหาง ขานระคนเปน ช่อื หาง โอนหุนของตนใหผูอื่นโดยไมตอง โอนหุนของตนใหผูอ่ืนโดยตอง ไดรั บความยิ นยอมของผู เป น ไดรับความยินยอมของผูเปน หุนสวน อื่นๆ กไ็ ด หนุ สว นทกุ คน กรณีที่หุนสวนตาย ลมละลายหรือ ถือวาหางหุนสวนน้ันตองลมเลิก เปนบุคคลไรความสามารถ หาง ไป ตามมาตรา 1055 หุนสวนไมเลิก เวนแตมีขอสัญญา กาํ หนดไวเปน อยา งอ่ืน กรณีตาย : ทายาทของผูนั้นเขามา เปน หนุ สว นแทนผตู าย กรณีลมละลาย : เอาหุนของผูนั้น อ อ ก ข า ย เ ป น สิ น ท รั พ ย ใ น ก อ ง ลม ละลาย ท่ีมา (พชั รินทร ไตรรตั นร ุง เรือง, 2548, หนา 4-3) 7

7 การจดทะเบยี นจดั ตง้ั หา งหุนสวน การจดทะเบียนจัดตั้งหางหุนสวนทําใหหางหุนสวนมีฐานะเปนนิติบุคคล ซึ่งผูเปน หุนสวนผูจัดการที่ไดรับการแตงตั้งจากผูเปนหุนสวนทุกคนจะตองเปนผูดําเนินการขอจด ทะเบียนจัดตั้งหางหุนสวนตอพนักงานเจาหนาที่ ณ สํานักงานทะเบียนหุนสวนท่ีหางนั้นมี สาํ นักงานใหญต ้งั อยู โดยในการจดทะเบยี นมี 4 ข้ันตอนดังนี้ 1. ทาํ สัญญาระหวา งหนุ สว น เพื่อปองกันการขัดแยงระหวา งหุนสว นดวยกนั ใน อนาคต โดยในสัญญาควรมีการระบุในรายละเอียดของเรื่องตาง ๆ ดังน้ี 1.1 ช่อื หา งหนุ สว น จาํ กดั 1.2 จํานวนผเู ปนหนุ สว น และส่ิงที่นํามาลงทุนรว มกนั 1.3 แตงต้งั หนุ สว นผจู ดั การ โดยระบชุ ่ือ ทีอ่ ยู 1.4 กิจการที่หา งหนุ สว นจะดาํ เนนิ การหรอื เรยี กวา วัตถปุ ระสงค 1.5 การแบงกาํ ไรขาดทนุ 1.6 เร่ืองอ่ืน ๆ เชน สถานทแ่ี หง ใหญ หลกั เกณฑ และวธิ กี ารเปล่ียนแปลงสัญญา อํานาจของหนุ สวนผูจ ดั การ แตง ต้ังหนุ สว นผจู ัดการ เปน ตน 2. ขอตรวจสอบ และจองช่ือหางหุนสวนจํากัด เพื่อมิใหเกิดการเขาใจผิด หรือเกิด ความซํ้าซอนกับช่ือของหางหุนสวนที่ต้ังกิจการอยูกอนแลว จึงตองมีการจองช่ือหางหุนสวน โดยชื่อของหา งหนุ สว นจะตอ งไมพอ ง หรอื เรยี กขานตรงกัน หรือคลายคลึงกับชื่อนิติบุคคลที่จด ทะเบยี นไวแ ลว เม่ือไดรบั อนุญาตจึงจะใชช ่ือน้ันจดทะเบยี นไดภ ายใน 30 วนั ในการจองชอื่ หา ง หุนสวนหรือนติ ิบคุ คล มีหลกั เกณฑดงั นี้ 2.1 ชอ่ื นิติบุคคลตอ งไมม คี ําหรอื ขอ ความใด ดังตอ ไปน้ี 2.1.1 พระนามของพระเจาแผนดิน พระมเหสี รัชทายาท หรือพระบรม- วงศานวุ งศ ในพระราชวงศป จ จบุ ัน เวน แตจะไดรับพระบรมราชานุญาติ 2.1.2 ชื่อกระทรวง ทบวง กรม สวนราชการ ราชการสวนทองถ่ิน หนวยงานหรอื องคก ารของรัฐ เวนแตจ ะไดร บั อนญุ าตจากรฐั มนตรเี จากระทรวงที่เกยี่ วขอ ง 2.1.3 ชือ่ ประเทศ เวนแตจะไดร ะบไุ วตอทายชือ่ และอยหู นา คาํ วา จํากัด 2.1.4 ชื่อท่ีอาจกอใหเกิดสําคัญผิดวา รัฐบาล กระทรวง ทบวง กรม สวนราชการ ราชการสวนทองถ่ิน หนวยงาน หรือองคการของรัฐบาลทั้งของประเทศไทยหรือ ตา งประเทศ หรือองคการระหวางประเทศเปน เจา ของหรอื ผดู ําเนินการ 8

8 2.1.5 ช่ือที่ขัดตอแนวนโยบายแหงรัฐ หรือขัดตอความสงบเรียบรอย หรือ ศลี ธรรมอันดีของประชาชน 2.1.6 ช่ือซึ่งมีคําวา บริษัทมหาชนจํากัด หรือ บริษัทจํากัด (มหาชน) หรือ คําวา “บมจ.” หรอื ชอ่ื ทค่ี ลายกันหรอื เรียกขานคลายกบั คําเชน วา นนั้ 2.1.7 ชื่อภาษาไทยหรือภาษาตางประเทศ ซึ่งมีความหมายหรือทําใหเขาใจ ไดวา ประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย ธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลักทรัพย ธุรกิจเครดิตฟองซิเอร กิจการประกันภัย กิจการจัดหางาน และกิจการคลัง สินคา เวนแตจะไดแสดงหลักฐานการ อนุญาตใหป ระกอบธรุ กจิ ดงั หลาวไดจ ากสว นราชการทีเ่ กี่ยวขอ ง 2.1.8 ช่ือที่เหมือนหรือมีเสียงเรียกขานตรงกันกับชื่อของหางหุนสวน หนังสือบริคณหสนธิ และบริษัทที่ไดยื่นขอจดทะเบียน หรือนายทะเบียนไดรับจดทะเบียนไว กอนแลว ซ่งึ อาจทําใหเกิดความหลงผดิ ได 2.1.9 ช่ือที่อาจกอใหเกิดความสําคัญผิด หรือ การหลอกลวงประชาชน เกีย่ วกบั ความเปนเจาของลักษณะวัตถุประสงค หรอื ฐานะของกิจการ หรอื ในประการอน่ื 2.1.10ชื่อหางหุนสวนบริษัทท้ังภาษาไทยและ ภาษาตางประเทศ จะตองมี คําแสดงประเภทนิติบุคคล และชื่อภาษาตางประเทศใหมีการออกเสียงตรง หรือมีความหมาย ตรงกับชื่อภาษาไทย ในกรณีเปนบริษัทมหาชนจํากัดตองเขียนชื่อภาษาตางประเทศเปน ภาษาอังกฤษเทา นนั้ 2.2 ชอ่ื ทสี่ ว นราชการขอความรวมมอื ไมใหใ ชค ําหรอื ชื่อภาษาตา งประเทศทม่ี ี ความหมายดงั ตอไปน้ี เปนสว นหน่งึ ของชอื่ หางหุนสว น และบริษัท ทหารผานศึก อผศ. ผานศึก นอกประจําการ 2.1.1 ทหาร หรอื ตาํ รวจ 2.1.2 กูเ กยี รตไิ ทย 2.1.3 แหงชาติ แหงประเทศไทย ชาติไทย 2.1.4 พทุ ธมณฑล 2.1.5 บริษัทจังหวัด บริษัทพาณิชยจ งั หวดั 2.1.6 ชื่อองคก ารระหวางประเทศ เชน สหประชาชาติ องคการ สหประชาชาติ องคการศึกษา วิทยาศาสตร และวฒั นธรรมของสหประชาชาติ เปน ตน 2.1.7 ออสเตรเลยี เฮา ส 2.1.8 สวิส หรอื สวิต 9

9 2.1.9 นคิ มอตุ สาหกรรม เขตอตุ สาหกรรมทวั่ ไป เขตอตุ สาหกรรม สง ออกอาเซียน 2.1.10 ศูนยหตั ถกรรมภาคเหนือ ศนู ยหตั ถกรรมภาคใต ศนู ยหตั ถกรรม ภาคตะวันออกศนู ยห ัตถกรรมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 2.1.11 มหาวิทยาลยั วิทยาลัย สถาบัน โรงเรยี น การศึกษา และคาํ อืน่ ใน ภาษาอื่นท่มี ี ความหมายดังกลาว เวน แต จะไดรบั ความเหน็ ชอบจาก 2.1.12 สว นราชการทเ่ี กยี่ วของ 2.1.13 อบพืช ไซโล หรือหอ งเยน็ 2.1.14 ตลาดกลาง 2.1.15 เรดโิ อ ไทยแลนด 2.1.16 ทางดว น หรือ ทางพเิ ศษ 2.1.17 ออมสนิ 2.1.18 ไทยไฟโตเลยี ม 2.1.19 ไฟโตลู 2.1.20 ไฟโตเลียม วธิ กี ารจองช่ือนิติบุคคลและการกรอกแบบพิมพ 1. การขอจองช่ือนิติบุคคลจะตองเปนภาษาไทย และใหระบุภาษาตางประเทศเปน อักษรโรมนั ดวยทุกคร้ัง 2. ในกรณีตั้งใหมถาไมไดระบุประเภทนิติบุคคล จะนําไปจดทะเบียนนิติบุคคล ประเภทใดหรือนาํ ไปจดทะเบียนทส่ี าํ นกั งานทะเบียนหนุ สว นบรษิ ัทใดกไ็ ด 3. ในกรณีแกไขเปล่ียนแปลงชื่อ ตองย่ืนจดทะเบียนท่ีสํานักงานทะเบียนหุนสวน บรษิ ทั ซง่ึ นติ บิ คุ คลนน้ั มีสาํ นักงานแหง ใหญต ้งั อยู 4. แบบขอจองชื่อนิติบุคคลท่ีนายทะเบียนอนุญาตใหจองช่ือไดแลว ตองย่ืนจด ทะเบียนภายใน 30 วัน นับแตว ันท่ีนายทะเบียนมีคาํ สัง่ อนญุ าต 5. วิธกี ารจองชือ่ นิตบิ ุคคลสามารถจองชื่อนิติบุคคลไดต ามวธิ ีการดงั นี้ 5.1 ทางระบบอินเทอรเ น็ต (internet) โดยใหล งทะเบยี นไดท ี่ WWW.thairegistration.com 5.2 ย่นื แบบจองชื่อตอนายทะเบียน 10

10 6. วธิ กี ารกรอกแบบพิมพ 6.1 ทางระบบอินเทอรเน็ต ใหกรอกรายละเอียดลงในแบบท่ีปรากฏใน จอคอมพวิ เตอร 6.2 ย่ืนแบบจองชอื่ ตอ นายทะเบยี น ใหดําเนนิ การ ดังน้ี 6.2.1 ใหผูเร่ิมกอการ กรรมการ ผูเปนหุนสวน หรือหุนสวนผูจัดการ แลวแตกรณี กรอกรายละเอียด ชื่อท่ีอยู หมายเลขโทรศัพทท่ีสามารถติดตอได และเปน ผูลงลายมือชื่อในแบบจอง ช่ือนิติบุคคลที่นายทะเบียนกําหนดขึ้นโดยนําไปยื่นดวยตนเอง หรือ มอบอํานาจใหบุคคลอ่ืน (ระบุชื่อผูรับมอบอํานาจพรอมผนึกอากรแสตมป 10 บาท) ยื่นขอจองชื่อ ตอ นายทะเบียนจํานวน 2 ฉบับ 6.2.2 ขอจองช่ือไดคราวละไมเกิน 3 ช่ือ โดยใหเรียงช่ือตามลําดับความ ตองการกอนหลัง เพราะนายทะเบียนจะไมพิจารณาชื่อลําดับถัดไป หากช่ือลําดับกอนไดรับ อนุญาตใหใชแลว 6.2.3 การกรอกแบบจองชือ่ นิติบุคคล ใชพ มิ พดดี หรอื เขียนดว ยตวั บรรจงกไ็ ด ทั้งนี้ตามคําส่ังสํานักงานทะเบียนหุนสวนบริษัทกลาง เรื่อง แกไขเพิ่มเติมระเบียบ สํานักงานทะเบียนหุนสวนบริษัทกลางวาดวยการจดทะเบียนหางหุนสวนบริษัท พ.ศ. 2538 ไดก ําหนดใหต ราของหางหนุ สวน และบรษิ ทั ตองไมม ลี ักษณะอยางหนึ่งอยางใด ดังตอไปนี้ 1. เครอื่ งหมายตรามหาจักรีบรมราชวงศ 2. พระบรมราชาภิไธย พระปรมาภิไธยยอของพระมหากษัตริยทุกรัชกาล และ พระนามาภไิ ธยยอ ของสมเดจ็ พระอคั รมเหสี หรือสมเดจ็ พระยพุ ราช 3. พระบรมราชสัญลักษณ และพระราชสัญลักษณ ของพระมหากษัตริย สมเด็จ พระอคั รมเหสี หรอื สมเด็จพระยุพราช 4. พระมหามงกุฎ มงกุฎขัตติยราชนารี หรือเคร่ืองราชอิสริยาภรณอ่ืนใดท่ีใกลเคียง กับมงกฎุ 5. ฉัตรตางๆ อันเปนลกั ษณะของเครือ่ งประกอบพระบรมราชอิสรยิ ยศ 6. ตราแผนดินตราราชการ ตราครุฑพาห ธงหลวง ธงชาติ หรือ ธงราชการ เวนแต จะไดร บั พระราชทานพระบรมราชานุญาต 7. พระราชลญั จกร และลัญจกรในราชการ 8. เคร่ืองหมายกาชาด ชื่อการชาด กาเยเนวา เคร่ืองหมายราชการ หรือ เครื่องหมาย ใด ๆ ท่ขี ัดตอรฐั ประศาสโนบาย หรอื ศลี ธรรมอันดขี องประชาชน 11

11 9. เครื่องหมายท่ีราชการ องคการ หนวยงานของรัฐหรือองคการระหวางประเทศ ขอสงวนไว 10.สญั ลกั ษณป ระจําชาตไิ ทย ไดแก ชางไทย ดอกราชพฤกษ และศาลาไทย 3. จัดทําคําขอจดทะเบียน และเอกสารประกอบ เพ่ือตรวจพิจารณาโดยมีรายละเอียด ดังน้ี (กรมพัฒนาธุรกจิ การคา , 2548) 3.1 หา งหนุ สวนสามญั นติ บิ ุคคล 3.1.1 คําขอ : แบบ หส.1 , หนังสือรับรอง (ในการ print-out หนังสือรับรอง ใหอยูดา นหลังของหนา แบบ หส. 1) 3.1.2 รายการ : แบบ หส. 2 (ใชเ ฉพาะหนา 1 และ หนา 3) 3.1.3 เอกสารประกอบรายการ : แบบ ว. 3.1.4 เอกสารประกอบ 3.1.4.1 แบบจองชอื่ นิติบุคคล 3.1.4.2 สาํ เนาบตั รประจําตวั ของผจู ดั การทล่ี งช่ือในคาํ ขอจดทะเบยี น 3.1.4.3 สําเนาบตั รทนายความหรอื หลกั ฐานการเปนสมาชิกเนติบณั ฑติ ยสภา ของผูรับรองลายมอื ชอื่ (ถา มี) 3.1.4.4 แบบ สสช. 1 จาํ นวน 2 ฉบับ (ภมู ภิ าคใช 3 ฉบบั ) 3.1.4.5 หนังสอื มอบอํานาจ (ถาม)ี 3.2 หางหนุ สว นจาํ กัด 3.2.1 คาํ ขอ : แบบ หส.1 , หนังสือรับรอง (ในการ print-out หนังสือรับรอง ใหอ ยูดา นหลงั ของหนา แบบ หส. 1) 3.2.2 รายการ : แบบ หส. 2 (ใชท งั้ 3 หนา) 3.2.3 เอกสารประกอบรายการ : แบบ ว. 3.2.4 เอกสารประกอบ 3.2.4.1 แบบจองชอ่ื นิติบุคคล 3.2.4.2 สาํ เนาบัตรประจําตัวของผจู ดั การท่ลี งชอ่ื ในคําขอ จดทะเบยี น 3.2.4.3 สาํ เนาบัตรทนายความหรอื หลกั ฐานการเปน สมาชกิ เนติบณั ฑิตยสภาของผรู ับรองลายมอื ชอื่ (ถา ม)ี 12

12 3.2.4.5 แบบ สสช. 1 จาํ นวน 2 ฉบับ (ภูมิภาคใช 3 ฉบบั ) 3.2.4.6 หนังสือมอบอาํ นาจ (ถามี) ตามประกาศสํานักงานทะเบียนหุนสวนบริษัทกลาง เร่ือง กําหนดแบบวัตถุประสงค ประกอบคําขอจดทะเบยี น ไดก ําหนดแบบวตั ถทุ ป่ี ระสงค (แบบ ว.) ไว จํานวน 4 แบบ คอื 1. แบบวัตถุทีป่ ระสงค สําหรบั ประกอบพาณิชยกรรม (แบบ ว. 1) 2. แบบวัตถุทีป่ ระสงค สําหรับประกอบธุรกจิ บริการ (แบบ ว. 2) 3. แบบวตั ถุท่ปี ระสงค สําหรบั ประกอบกิจการอตุ สาหกรรมและหตั ถกรรม(แบบว.3) 4. แบบวตั ถุทป่ี ระสงค สําหรบั ประกอบเกษตรกรรม (แบบ ว. 4) ในกรณีท่ีผูขอจดทะเบียนย่ืนคําขอจดทะเบียนโดยใชวัตถุประสงคตามแบบที่ กําหนดไวใหเลือกใชไดเพียงแบบใดแบบหน่ึง และหากเปนกรณีขอจดทะเบียนท่ีมีรายละเอียด วัตถุที่ประสงคเพ่ิมเติมหรือแกไขเปลี่ยนแปลงจกแบบวัตถุท่ีประสงคกําหนดดังกลาวผูขอจด ทะเบียนตองจัดทํารายละเอียดวัตถุท่ีประสงคทั้งหมดตามแบบ ว. แนบประกอบคําขอจด ทะเบยี น 4. การยื่นขอจดทะเบียน เมื่อจัดทําคําขอจดทะเบียน และเอกสารประกอบเสร็จ แลวใหผูเปนหุนสวนหรือหุนสวนผูจัดการจะตองลงลายมือช่ือในคําขอจดทะเบียนและเอกสาร ประกอบคําขอดวยตนเอง จะมอบหมายบุคคลอื่นลงลายมือช่ือแทนไมได และตองลงลายมือช่ือ ตอหนานายทะเบียนพรอมแสดงบัตรประจําตัว หรือในกรณีที่ หุนสวนผูจัดการไมสามารถลง ลายมือชื่อตอหนานายทะเบียนไดใหหุนสวนผูจัดการลงลายมือช่ือตอหนาสมาชิกเนติ บัณฑิตยสภา หรือทนายความก็ได โดยเสียคาธรรมเนียมซึ่งนับจากจํานวนผูเปนหุนสวน กลาวคือ ผูเปนหุนสวนไมเกิน 3 คน เสียคาธรรมเนียม 1,000 บาท กรณีเกิน 3 คน จะเสีย คาธรรมเนียมหุนสวนที่เกินเพ่ิมอีกคนละ 200 บาททั้งนี้ตองจดทะเบียน ณ สถานที่รับจด ทะเบยี นดงั น้ี (กรมพัฒนาธรุ กจิ การคา, 2548) 4.1 สํานักงานแหงใหญตั้งอยูในกรุงเทพมหานคร สามารถย่ืนจดทะเบียนไดท่ี สํานักงานบรกิ ารจดทะเบยี นธรุ กิจ 1-7 และสว นจดทะเบียนกลาง กรม พัฒนาธรุ กิจการคา ถนน นนทบรุ ี หรือทางอินเทอรเน็ตเว็บไซต www.dbd.go.th 4.2 สํานักงานแหงใหญตั้งอยูในเขตภูมิภาค สามารถยื่นจดทะเบียนไดท่ี สํานักงานพัฒนาธุรกิจการคาจังหวัดนั้นๆ ยกเวน จังหวัดนนทบุรี สมุทรปราการ และปทุมธานี สามารถขอจดทะเบียนไดท างอินเทอรเน็ตเวบ็ ไซต www.dbd.go.th อกี ทางหน่ึง 13

หุนสวนจาํ พวกไมจ าํ กดั ความรบั ผดิ หา งห มีหนุ สว • รบั ผดิ ไมจํากัดจาํ นวน ตรวจและจอง • มสี ิทธเิ ปน หุนสวนผูจ ดั การ พิมพคําขอแล • สาํ เนาบัตรประจําตวั และสําเนา เอกสารประกอบ ค ทะเบียนบา นของผขู อจดทะเบยี น คําขอจดทะเบียน หส.1 • สําเนาเอกสารสิทธิ ของสํานกั งานแหงใหญ เชน ย่นื - ทะเบียนบาน หรอื เอสารประก - สัญญาซอื้ ขาย หรือ - สัญญาเชา ช อ • หนังสือยนิ ยอมใหใชสถานท่ี (ถา รบั ใบสาํ ค ม)ี แล • แบบ สสช. 1 จํานวน 2 ฉบบั • แบบจองช่ือนติ บิ ุคคล 14 • สําเนาบัตรสมาชกิ เนตบิ ัณฑติ ยสภา (ถา มี) • หนงั สอื รับรอง เร่ือง 20 บาท • ใบสาํ คัญแสดงการจดทะเบียน ฉบับละ 50 บาท • รบั รองสําเนาเอกสาร หนาละ 50 บาท ภาพที่ 1.2 ผังแสดงการจดทะเบยี นต้งั หา งหุนสว น ทมี่ า (ธารี หริ ัญรัศม,ี 2546, หนา 7)

หนุ สว นจาํ กดั หนุ สวนจําพวกจาํ กดั ความรบั ผดิ 13 วนสองจาํ พวก งชื่อใชแ บบจองช่ือนิติบคุ คล • รบั ผดิ เทากับเงนิ ท่ลี งหุน ละจัดเตรยี มเอกสารประกอบ • ไมมีสทิ ธเิ ปนหุนสวนผูจัดการ คาํ ขอจดทะเบยี น ตน ฉบบั เอกสาร • บัตรประจาํ ตัวของผูยื่นคําขอ หส.2 ท่ตี องนํามาแสดง จดทะเบียน แบบ ว. นคาํ ขอจดทะเบยี น • คาธรรมเนียมในการจดั ตง้ั หางฯ กอบคาํ ขอพือ่ ตรวจพจิ ารณา คดิ ตามจาํ นวนผเู ปน หนุ สว น โดย หนุ สว นไมเ กนิ 3 คน ชาํ ระคา ธรรมเนยี ม ชาํ ระเงิน 1,000 บาท ถา เกิน 3 คน คนท่เี กนิ ัตราคาธรรมเนยี ม ชําระเพิ่มอกี คนละ 200 บาท ไมม ีสทิ ธิเปนหนุ สวนผจู ดั การ คัญแสดงการจดทะเบียน ละหนังสอื รับรอง 4

14 ขอ ดแี ละขอเสยี ของการจัดตง้ั หา งหนุ สว น การจัดต้ังหางหุนสวนมีทั้งขอดี และขอเสียซ่ึงสามารถสรุปไดดังน้ี (ธารี หิรัญรัศมี, 2546, หนา 6) ขอ ดีของการจัดตงั้ หางหนุ สวน 1. สามารถรวมทุน และความรคู วามชํานาญของผูเ ช่ียวชาญเขา มารว มกันดาํ เนนิ งาน โดยผูเปนหุนสวนจะแบงความรับผิดชอบในการดําเนินงานรวมกันเพื่อใหหางหุนสวนไดรับ ผลตอบแทนสงู สดุ 2. การดาํ เนินงานของหา งหุนสวนจัดทําไดงายกวาบริษัทจํากัด การตัดสินใจในการ ดําเนนิ งานกระทําไดรวดเรว็ และกฎหมายควบคมุ การดาํ เนินงานเขม งวดนอ ยกวา บรษิ ทั 3. การจดั ต้ังหางหุนสว นกระทาํ ไดงาย และเสียคาใชจา ยนอยกวา บริษัทจํากัด ขอเสยี ของการจดั ตง้ั หางหนุ สวน 1. หางหนุ สว นอาจสน้ิ สุดเม่ือใดก็ได เชน หา งหนุ สวนสามญั เมอื่ หนุ สว นคนใดคน หน่ึงตาย ลาออก ลมละลาย หรือไรความสามารถ หางหุนสวนก็ตองเลิก หางหุนสวนสามัญจด ทะเบยี นหรือหางหนุ สวนจํากดั หากในสัญญาจดั ตั้งหา งหนุ สวนกําหนดกรณีทจ่ี ะตองเลกิ ไว เมอ่ื กรณีนนั้ เกิดขน้ึ หา งหนุ สว นก็จาํ ตองเลกิ เปน ตน 2. เงนิ ลงทุนจาํ กัด เนื่องจากคุณสมบัติของผเู ปน หนุ สวนเปน สาระสาํ คัญ 3. รับผิดชอบในหนี้สินโดยไมจํากัดจํานวน ผูเปนหุนสวนในหางหุนสวนสามัญ และหางหุนสวนจํากัด (ประเภทไมจํากัดความรับผิด) ตองรับผิดชอบในหน้ีสินทั้งปวงของหาง หุนสวนโดยไมจ าํ กดั จํานวน 4. การดาํ เนนิ งานของหา งหุนสวนตอ งไดรบั ความเหน็ ชอบจากผูเปนหนุ สว นทกุ คน ซง่ึ ถา ผูเ ปนหนุ สว นมีความคิดเหน็ ขดั แยง กันอาจเปน อปุ สรรคตอ การดาํ เนนิ งานของหา งหุนสวนได 15

15 การเปลย่ี นกิจการจากกิจการเจาของคนเดียวเปนหางหุนสวน ทางเลือกหน่งึ เม่อื กจิ การตอ งการขยายการดําเนินงานหรือตองการเพ่ิมเงินทุนอาจทํา ไดโดยการรวมกิจการกันจากกิจการเจาของคนเดียวนํามารวมเปนหางหุนสวน โดยการโอน สนิ ทรัพย หน้สี ิน และสวนของเจาของ ซ่งึ การบันทกึ บัญชที าํ ได 2 วิธี ดังนี้ 1. เปดสมุดบัญชีของหางหุนสวนข้ึนใหม วิธีน้ีตองปรับปรุงสินทรัพย หน้ีสิน ผลตางท่ีเกิดข้ึนจากการปรับปรุงจะถูกโอนเขาบัญชีทุนของกิจการเจาของคนเดียว หลังจากน้ัน จึงทําการปดบัญชีของกิจการเดิมแตละกิจการ แลวจึงเปดสมุดบัญชีของหางหุนสวนขึ้นมาใหม เพื่อบนั ทกึ การรับโอนสนิ ทรพั ย หนส้ี ิน และสวนของผูเปน หุนสวนตอ ไป 2. ใชสมดุ บญั ชีของกจิ การเดมิ เปนสมุดบัญชีของหางหุนสวนตอไป วิธีน้ีตองตกลง กันระหวางหุนสวนวาจะใชสมุดบัญชีของกิจการใดเปนสมุดบัญชีของหางหุนสวนตอไป แลว จงึ ปรับปรงุ สนิ ทรัพย หนี้สิน ผลตางท่ีเกิดขึ้นจากการปรับปรุงจะถูกโอนเขาบัญชีทุนของกิจการ เจาของคนเดียว ทําการปดบัญชีของกิจการท่ียกเลิกการใชสมุดบัญชี และโอนสินทรัพย หน้ีสิน สว นของเจาของไปใหก จิ การท่ีใชสมดุ บญั ชเี ปน สมุดบัญชีของหางหนุ สว นตอ ไป ตัวอยา งท่ี 1.1 ตอไปนีเ้ ปนงบดุลของราน ปู และรา นปลา กอนทจี่ ะรวมกิจการเปน หางหุนสว น สนิ ทรัพย รานปู รา นปลา เงินสด 8,000 16,000 ลูกหนี้ 4,000 2,400 อปุ กรณ 20,000 15,000 หัก คา เสือ่ มราคาสะสม 2,000 18,000 1,500 13,500 30,000 31,900 หนีส้ นิ และทุน เจาหนี้ 10,000 5,000 ทุน 20,000 26,900 30,000 31,900 รายการปรบั ปรงุ กอ นท่จี ะรวมกจิ การเปนหา งหุน สว น ปปู ลา มดี ังนี้ 1. ต้งั คา เผอื่ หนส้ี งสยั จะสูญเปน 3% จากยอดลกู หนี้ทงั้ รา นปู และรานปลา 2. คดิ คาความนยิ มใหรา นปลา จาํ นวน 1,600 บาท 3. คาใชจ ายคางจายรา นปู มีจาํ นวน 2,000 บาท 16

16 ใหรวมกจิ การรา นปู และรานปลา เปนหา งหุน สวนปูปลา โดยเปดสมุดบัญชีของหาง หุนสวนข้ึนมาใหม การบันทกึ บัญชเี ปน ดังน้ี สมุดบัญชีรานปู การบันทึกบญั ชีเปน ดังน้ี เลขที่ เดบิต เครดติ บัญชี สมุดรายวันทวั่ ไป 2,120 - 120 - 2,000 - วนั ท่ี รายการ 2,000 - 10,000 - 8,000 - ทุน – ปู 4,000 - 120 - 20,000 - คาเผื่อหน้สี งสัยจะสูญ 2,000 - คา ใชจ า ยคา งจา ย 17,880 - บันทกึ รายการปรับปรุงบัญชี คา เส่ือมราคาสะสม-อปุ กรณ เจา หนี้ คา เผือ่ หน้ีสงสัยจะสูญ คา ใชจา ยคา งจา ย ทุน - ปู เงินสด ลกู หน้ี อุปกรณ ปดบญั ชีเพอ่ื โอนสินทรพั ย หนีส้ ินไปหาง หุน สว น 17

17 สมุดบญั ชีรา นปลา การบนั ทกึ บญั ชีเปน ดังนี้ เลขท่ี เดบิต เครดติ บัญชี สมุดรายวันทว่ั ไป 1,600 - 72 - 1,528 - วันท่ี รายการ 1,500 - 5,000 - 16,000 - คา ความนยิ ม 2,400 - คา เผื่อหนีส้ งสัยจะสญู 72 - 15,000 - ทนุ - ปลา 28,428 - 1,600 - บันทกึ รายการปรับปรุงบัญชี คาเสอื่ มราคาสะสม-อุปกรณ เจาหนี้ คาเผ่อื หนสี้ งสยั จะสญู ทนุ - ปลา เงินสด ลกู หน้ี อุปกรณ คา ความนยิ ม ปดบัญชเี พอื่ โอนสนิ ทรัพย หนี้สินไปหา ง หุน สว น 18

18 สมดุ บัญชขี องหา งหนุ สวนปูปลา การบนั ทึกบัญชีเปน ดงั นี้ สมดุ รายวันทั่วไป วันที่ รายการ เลขท่ี เดบติ เครดิต บญั ชี 8,000 - 2,000 - 4,000 - 10,000 - เงินสด 20,000 - 120 - ลูกหนี้ 16,000 - 2,000 - 2,400 - 17,880 - อปุ กรณ 15,000 - 1,600 - 1,500 - คาเสือ่ มราคาสะสม-อุปกรณ 5,000 - เจา หน้ี 72 - 28,428 - คาเผอ่ื หนส้ี งสยั จะสญู คา ใชจา ยคางจา ย ทุน - ปู ปูนําสินทรัพย และหนี้สินมาลงทนุ ในหาง หุนสวนสตั วน าํ้ เงินสด ลกู หน้ี อุปกรณ คา ความนิยม คา เสอื่ มราคาสะสม-อุปกรณ เจา หนี้ คาเผือ่ หน้ีสงสัยจะสญู ทนุ - ปลา ปลานําสินทรพั ย และหนี้สนิ มาลงทนุ ในหาง หนุ สวนสัตวนาํ้ 19

19 หา งหุนสว นปปู ลา งบดุล ณ วันที่ 31 ธันวาคม 25x1 สินทรพั ย 6,400 (หนว ย:บาท) 192 สนิ ทรัพยห มนุ เวียน 24,000 เงินสด (8,000 + 16,000) 35,000 6,208 30,208 ลูกหน้ี (4,000 + 2,400) 3,500 หกั คา เผอ่ื หนสี้ งสยั จะสูญ (120 + 72) 31,500 1,600 33,100 สินทรพั ยไมห มนุ เวยี น อปุ กรณ (20,000 + 15,000) 63,308 หกั คาเสอ่ื มราคาสะสม (2,000 + 1,500) คา ความนยิ ม 15,000 2,000 17,000 หน้สี นิ และสว นของผเู ปน หนุ สว น 17,880 หน้ีสนิ หมนุ เวยี น 28,428 46,308 เจา หนี้ (10,000 + 5,000) คาใชจายคางจาย 63,308 สวนของผูเปน หุนสวน ทุน – ปู (4,000 + 2,400) ทนุ – ปลา (4,000 + 2,400) 20

20 ตัวอยางที่ 1.2 จากตัวอยางท่ี 1.1 ใหใชสมุดบัญชีของรานปลาเปนสมุดบัญชีของหางหุนสวน ปูปลาตอ ไป การบันทึกบญั ชีเปนดงั นี้ สมดุ บัญชีรา นปู การบันทึกบัญชเี ปนดงั นี้ เลขท่ี เดบติ เครดิต บัญชี สมุดรายวันท่วั ไป 2,120 - 120 - 2,000 - วนั ที่ รายการ 2,000 - 10,000 - 8,000 - ทุน – ปู 4,000 - 120 - 20,000 - คาเผื่อหน้สี งสัยจะสญู 2,000 - คา ใชจายคางจา ย 17,880 - บันทึกรายการปรับปรุงบญั ชี คา เสอ่ื มราคาสะสม-อปุ กรณ เจา หน้ี คา เผ่ือหน้สี งสัยจะสูญ คา ใชจ ายคางจา ย ทุน - ปู เงนิ สด ลูกหน้ี อปุ กรณ ปด บญั ชีเพอ่ื โอนสินทรพั ย หนี้สนิ ไปหาง หนุ สว น 21

21 สมุดบัญชีรานปลา (ใชเปนสมดุ บญั ชขี องหางหุน สวนปปู ลาตอไป) การบนั ทึกบญั ชเี ปน ดงั นี้ สมุดรายวันท่ัวไป วันท่ี รายการ เลขที่ เดบติ เครดิต บญั ชี คาความนิยม 1,600 - คา เผื่อหนสี้ งสยั จะสูญ 72 - ทุน - ปลา 1,528 - บนั ทกึ รายการปรับปรุงบัญชี เงินสด 8,000 - ลูกหนี้ 4,000 - อุปกรณ 20,000 - คาเสื่อมราคาสะสม-อปุ กรณ 2,000 - เจาหน้ี 10,000 - คาเผอ่ื หนี้สงสยั จะสูญ 120 - คาใชจา ยคางจาย 2,000 - ทุน - ปู 17,880 - รับโอนสินทรัพย และหน้ีสินของรานปู มา ลงทนุ ใน หางหุน สวนสัตวน ้าํ งบดุลหลังรับโอนสินทรัพย และหน้ีสินของรานปูจะมีแสดงรายการและจํานวนเงิน เชน เดียวกับตวั อยางท่ี 1.1 22

22 สรุป หางหุนสวนเปนกิจการที่จัดต้ังโดยบุคคลตั้งแต 2 คนข้ึนไปตกลงเขากันเพ่ือกระทํา กิจการรวมกันดวยประสงคจะแบงปนกําไรอันจะพึงไดจากกิจกรรมท่ีทํานั้น โดยแบงเปน 2 ประเภท คอื หางหุน สวนสามัญ และหางหุน สว นจํากดั หางหุนสวนสามัญจะจดทะเบียนเปนนิติ บุคคลหรือไมก็ได ถาไมจดทะเบียนหางหุนสวนสามัญจะมีฐานะเปนบุคคลธรรมดา แตถาจด ทะเบียนหางหุนสวนสามัญจะมีฐานะเปนนิติบุคคล มีหุนสวนประเภทเดียว ไดแก หุนสวน ประเภททําไมจํากัดความรับผิด สําหรับหางหุนสวนจํากัด กฎหมายกําหนดใหตองจดทะเบียน เปนนิติบุคคลเทาน้ัน โดยมีหุนสวน 2 ประเภท ไดแก หุนสวนประเภทจํากัดความรับผิด และ หุนสว นประเภทไมจาํ กัดความรบั ผดิ การจดทะเบียนจัดต้ังหางหุนสวน มีขั้นตอน คือ ทําสัญญาระหวางหุนสวน ขอ ตรวจสอบและจองชอ่ื หางหนุ สวนจํากัด จัดทําคําขอจดทะเบียนและเอกสารประกอบ การย่ืนขอ จดทะเบยี น ทงั้ น้ีการจดั ตั้งหางหุน สวนอาจเกดิ จากการระดมทนุ เพม่ิ หรือขยายกิจการจากกิจการ เจาของคนเดยี วนาํ มารวมกันเปนหา งหนุ สวน ซ่งึ มีวิธีการบนั ทึกบัญชีได 2 วิธี คือ เปดสมุดบัญชี ของหางหนุ สว นขึ้นใหม และใชส มุดบัญชขี องกิจการเดิมเปนสมุดบัญชีของหางหนุ สวนตอไป 23

23 แบบฝก หดั ทายบท 1. หางหนุ สว นหมายถึงอะไร 2. หางหุนสว นแบง ไดกี่ประเภท อะไรบา ง อธิบาย 3. หนุ สว นประเภทจํากัดความรับผดิ กับหนุ สวนประเภทไมจาํ กัดความรบั ผิดตางกนั อยา งไร 4. วธิ กี ารจดทะเบยี นจัดตง้ั หางหุน สว นมีขน้ั ตอนอยา งไร 5. การขอตรวจสอบและจองช่อื นิตบิ ุคคลทําไดอ ยา งไรบา ง 6. การต้งั ช่ือนติ ิบคุ คลตอ งไมม ีคาํ หรือขอความใดบาง 7. แบบวัตถปุ ระสงคท ี่ใชป ระกอบการจดทะเบียน มกี ่ีแบบอะไรบาง 8. ใหบอกขอดี และขอเสยี ของการจดั ตัง้ หา งหุนสว นมาอยางละ 3 ขอ 9. รา นนก และรา นเล็กตกลงรวมกิจการเขา เปน หา งหนุ สว น นกเล็ก โดยแบง ผลกาํ ไรขาดทุน เทา กนั งบดุลของรา นนก และรา นเล็ก ในวนั ที่ 1 มนี าคม 25x2 เปน ดงั น้ี เงนิ สด รานนก รา นเล็ก ลูกหน้ี 45,000 60,000 สินคา 90,000 75,000 เครอื่ งใชสาํ นกั งาน 60,000 75,000 คา เสอื่ มราคาสะสม-เครื่องใชส ํานักงาน 75,000 90,000 (30,000) (45,000) เจา หน้ี 240,000 255,000 เงินกู 75,000 90,000 ทุน 15,000 30,000 150,000 135,000 240,000 255,000 นก และเลก็ ตกลงกันวา จะรบั โอนสินทรพั ย หน้สี ิน และทนุ ของแตล ะกจิ การ หลงั จากที่ไดป รับปรงุ รายการตาง ๆ ดังนี้ 1. ใหต ัง้ คา เผอ่ื หน้ีสงสยั จะสูญ 5% ของยอดลกู หนแ้ี ตละกจิ การ 24

24 2. สนิ คา ของรา น นก ใหต รี าคาเปน 80,000 บาท สว นสนิ คา ของรา นเลก็ ใหตรี าคา ลดลง 10,000 บาท 3. ใหบนั ทกึ คาใชจายลวงหนา รา นเล็ก จํานวนเงนิ 1,000 บาท 4. ใหบ ันทกึ คา ใชจ า ยคางจาย รานนก จํานวนเงนิ 800 บาท 5. เครื่องใชส าํ นักงาน รานนก ใหตรี าคาใหมเ ปนราคาสุทธิ 50,000 บาท ใหทาํ 1. บนั ทกึ รายการปรบั ปรงุ สนิ ทรัพย หน้สี นิ และทุน ในสมุดบญั ชขี องแตละกจิ การ 2. บันทึกรายการรวมกจิ การเปน หา งหนุ สว น นกเล็ก โดยเปด สมดุ บญั ชขี องหา ง หุนสวนนกเลก็ ใหม 3. งบดลุ ของหางหนุ สว น นกเลก็ ณ วนั ที่ 1 มีนาคม 25x2 10. จากแบบฝกหดั ขอ 9 ใหท าํ 1. บันทึกรายการปรับปรงุ สนิ ทรพั ย หนี้สิน และทนุ ในสมดุ บญั ชีของแตล ะกจิ การ 2. บันทกึ รายการรวมกิจการเปน หา งหนุ สวน นกเล็ก โดยใชสมดุ บัญชีของรานเล็ก เปน สมุดบัญชีของหา งหุนสว น (ใหป ด สมุดบัญชขี องนกดว ย) 3. งบดุลของหา งหุนสว น นกเล็ก ณ วนั ท่ี 1 มนี าคม 25x2 25

บทที่ 2 การบนั ทึกบญั ชีของหา งหุน สว น หางหุนสวนสามารถแบงเปนหางหุนสวนสามัญ และหางหุนสวนจำกัด การบันทึก บัญชีของหางหุนสวนสามัญที่มิไดจดทะเบียนเปนนิติบุคคล จะมีการบันทึกบัญชีเชนเดียวกับ กิจการเจาของคนเดียว สวนหางหุนสวนสามัญท่ีจดทะเบียนและหางหุนสวนจํากัดซ่ึงมีฐานะ เปนนิติบุคคลตองบันทึกบัญชีใหถูกตองตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย ท้ังนี้นักบัญชี ตองถือวาหางหุนสวนเปนหนวยงานทางเศรษฐกิจท่ีแยกตางหากจากเจาของกิจการหรือผูเปน หุนสวน โดยตองบันทึกบัญชีเก่ียวกับสินทรัพย หนี้สิน และสวนของผูเปนหุนสวน เพ่ือให ขอมูลท่ีมีประโยชนตอการประเมินฐานะทางการเงินและผลการดําเนินงานของหางหุนสวนได อยางชัดเจน วธิ กี ารบันทกึ บัญชีทุนของหางหนุ สว น การบนั ทึกบัญชีเก่ียวกบั ทนุ ของหา งหนุ สวน มี 2 วิธี ดังน้ี (สงกรานต ไทยวงษ, และ ขาบธชั ปญ จมะวัต, 2545, หนา 9-12) 1. วิธีทุนคงท่ี (fixed capital method) ตามวิธีน้ีจะบันทึกเฉพาะทุนท่ีนํามาลงไวใน บัญชีทุนของผูเปนหุนสวนแตละคนเทาน้ัน รายการอื่นที่ทําใหเงินทุนเปล่ียนแปลง เชน สวนแบงกําไร เงินถอน เปนตน จะบันทึกไวอีกบัญชีหน่ึงตางหาก บัญชีที่เก่ียวของตามวิธีทุน คงทีม่ ีดงั นี้ 1.1 บัญชีทุน ใชบันทึกรายการเก่ียวกับการลงทุน การเพิ่มทุนหรือการถอนทุน บัญชีทุนนี้จะตองแยกออกตามจํานวนของผูเปนหุนสวน โดยปกติจะมียอดคงเหลือเปนยอดดุล เครดิต 1.2 บัญชีกระแสทุน ใชบันทึกรายการท่ีทําใหสิทธิสวนไดเสียของหุนสวน เปลี่ยนแปลงไปทุกรายการยกเวนการเพ่ิมทุนหรือการถอนทุน ไดแก เงินเดือน โบนัส ดอกเบี้ย เงินถอน สวนแบงกําไร บัญชีกระแสทุนจะตองแยกออกตามจํานวนของผูเปนหุนสวน 26

26 เชนเดียวกับบัญชีทุน ยอดคงเหลือในบัญชีทุนจะยกไปในงวดบัญชีใหมซึ่งจะเปนยอดดุลเดบิต หรอื ยอดดุลเครดติ กไ็ ด 1.3 บัญชีเงินถอน ใชบันทึกรายการเกี่ยวกับการถอนกําไรไปใชลวงหนาซ่ึงเปน การถอนเงินสดหรือเบิกสินคาไปใชสวนตัว เม่ือส้ินงวดการบัญชีจะโอนปดบัญชีไปยังบัญชี กระแสทนุ บัญชีแยกประเภทวิธีทนุ คงที่ 25x1 ถอนทุน ทนุ - ก ยอดยกมา 18,000 พ.ค. 1 ยอดยกไป ลงทุนเพมิ่ 22,000 ธ.ค. 31 25x1 40,000 10,000 ม.ค. 1 ยอดยกมา 30,000 มี.ค. 1 30,000 40,000 25x2 ม.ค.1 วธิ ีทนุ คงทใี่ นบางกรณอี าจจะไมเ ปด บญั ชีเงนิ ถอนก็ได สว นการถอนกําไรลว งหนา ใหใชบ ญั ชกี ระแสทนุ แทนบญั ชีเงินถอน กระแสทนุ - ก 25x1 25x1 ธ.ค. 31 เงนิ ถอน 24,000 ม.ค. 1 ยอดยกมา 48,000 ดอกเบี้ยเงินถอน 6,000 ธ.ค. 31 ดอกเบีย้ ทนุ 10,000 ยอดยกไป 80,000 โบนัส 15,000 เงนิ เดอื น 36,000 สว นแบงกําไร 1,000 110,000 110,000 2549 ม.ค. 1 ยอดยกมา 80,000 27

27 25x1 เงินถอน - ก 24,000 ม.ค. 31 เงนิ ถอน 24,000 25x1 24,000 ธ.ค.31 กระแสทุน-ก 24,000 2. วิธีทุนเปลี่ยนแปลง (alternative capital method) ตามวิธีนี้จะบันทึกเงินทุนของ หุนสวนแตละคนเพียงบัญชีเดียว โดยรวมเงินลงทุนของหุนสวนและรายการอ่ืนๆ ซ่ึงทําใหทุน เปลี่ยนแปลงไวในบัญชีทุนเพียงบัญชีเดียว สวนบัญชีเงินถอนของหุนสวนก็จะถูกโอนเขาบัญชี ทุนในวันสิ้นงวดบัญชี วิธีนี้จะแสดงยอดคงเหลือสิทธิสวนไดเสียของผูเปนหุนสวนที่มีอยูใน หางหนุ สวนซงึ่ จะเปล่ียนแปลงอยเู สมอ บัญชที เี่ กี่ยวของตามวธิ ีทุนเปลยี่ นแปลงมดี งั นี้ 2.1 บัญชีทุน ใชบันทึกรายการเกี่ยวกับการลงทุน การเพิ่มทุน การถอนทุน ดอกเบี้ยเงินทุน โบนัส เงินเดือน และสวนแบงกําไรหรือขาดทุน บัญชีนี้จะตองแยกออกตาม จาํ นวนของผเู ปน หุนสว นโดยปกตจิ ะมียอดคงเหลือเปนยอดดลุ เครดติ 2.2 บัญชีเงนิ ถอน ใชบันทกึ รายการเก่ยี วกับการถอนกําไรไปใชลวงหนาไมวาจะ เปน การถอนเงนิ สดไปใชส ว นตวั หรอื เบกิ สินคาไปใชสวนตวั กต็ าม และเม่ือวันสิ้นสุดงวดบัญชีก็ จะปด โอนบญั ชีเงนิ ถอนไปบญั ชที นุ ทุน - ก 25x1 25x1 พ.ค. 1 ถอนทนุ 10,000 ม.ค. 1 ยอดยกมา 66,000 ธ.ค. 31 เงนิ สด 24,000 เม.ย. ลงทนุ เพ่ิม 22,000 ดอกเบ้ยี เงนิ ถอน 6,000 ธ.ค. 31 ดอกเบีย้ เงนิ ทนุ 10,000 ยอดยกไป 110,000 โบนัส 15,000 เงินเดือน 36,000 สว นแบงกาํ ไร 1,000 150,000 150,000 25x2 ม.ค. 1 ยอดยกมา 110,000 28

28 25x1 เงินถอน - ก กระแสทนุ -ก 24,000 ม.ค. 31 เงินถอน 24,000 25x1 24,000 ธ.ค. 31 24,000 จากรายการขางตนสามารถสรุปรายการท่ีทําใหสวนของผูเปนหุนสวนเกิดการ เปล่ียนแปลงตามวธิ ที นุ เปลี่ยนแปลงไดด งั น้ี 1. รายการท่ีทําใหทุนของหางหุนสวนเพิ่มขึ้น นอกจากการเพ่ิมทุนแลวยังมีรายการ ดังตอไปนี้ 1.1 ดอกเบีย้ เงนิ ทนุ 1.2 เงนิ เดอื นทีค่ ดิ ใหแ กห นุ สว น 1.3 เงนิ โบนัสทคี่ ดิ ใหแ กห นุ สวนจากกําไรสุทธิ 1.4 สว นแบง ผลกาํ ไรจากการคา 1.5 รายการอนื่ ๆ ซึ่งทําใหท ุนหนุ สวนเพิม่ ขนึ้ 2. รายการทที่ ําใหท นุ ของหุนสวนลดลง นอกจากการลดทุนแลวยงั มรี ายการดงั ตอ ไปนี้ 2.1 เงนิ ถอนใชส ว นตัว หรอื เบกิ สนิ คา ไปใชสว นตวั 2.2 ดอกเบ้ยี เงินถอน 2.3 สว นแบง ผลขาดทุนจากการคา 2.4 รายการอื่นๆ ซ่งึ ทําใหท นุ หนุ สว นลดลง การบันทกึ บญั ชเี ก่ยี วกับการลงทุนของหางหุน สว น การจดั ต้งั หางหนุ สว นนั้นผเู ปนหนุ สว นอาจนาํ เงินสด สนิ ทรัพย หรอื แรงงานมา ลงทนุ ในตอนเริม่ กจิ การ โดยการบนั ทึกบญั ชีอาจแยกพจิ ารณาไดด งั ตารางที่ 2.1 29

29 ตารางท่ี 2.1 การบนั ทกึ บัญชีเกี่ยวกบั การลงทนุ ตามวธิ ที ุนคงที่กบั วธิ ที นุ เปลยี่ นแปลง รายการ วิธที นุ คงท่ี วิธีทนุ เปล่ยี นแปลง บันทกึ เหมอื นวธิ ีทุนคงท่ี 1. การลงทุนของผเู ปน หนุ สวน บนั ทกึ เหมอื นวธิ ที นุ คงที่ 1.1 ลงทนุ ดว ยเงนิ สด เงนิ สด XX บันทกึ เหมือนวิธีทนุ คงท่ี บนั ทึกเหมือนวิธที นุ คงท่ี ทนุ -ระบชุ อ่ื หนุ สวน XX บันทกึ เหมอื นวธิ ที ุนคงท่ี 1.2 ลงทุนเปนสินทรัพยอื่น สนิ ทรัพย XX บนั ทกึ เหมือนวธิ ีทุนคงที่ ควรตีราคาสินทรัพยนั้นตาม ทนุ -ระบุชอ่ื หุน สว น XX ราคาตลาด ณ วันที่ลงทุน และ ก า ร ตี ร า ค า ค ว ร ไ ด รั บ ค ว า ม เหน็ ชอบจากหนุ สว นทุกคน 1.3 ลงทุนโดยโอนสินทรัพย สนิ ทรัพย(ระบ)ุ XX และหน้ีสนิ ใหหา งหนุ สว น หนส้ี ิน(ระบ)ุ XX ทนุ -ระบุชอ่ื หุนสว น XX 1.4 ลงทนุ เปน แรงงาน(ช่ือเสยี ง กรณไี มจายคืนทนุ ความรูความสามารถ)ผเูปน หุนสว น ใหบันทึกเปนความทรง ควรตกลงกนั เพ่อื กําหนดมูลคา ของ จําวาควรลงทุนดวยแรงงาน คาแรงทถ่ี ือเปน การลงทนุ และตอ ง และตีคา เปน จํานวนเทา ใด ตกลงกนั ใหแ นว า จะจา ยคนื ทนุ กรณีจา ยคืนทุน ใหก บั หนุ สว นทล่ี งทนุ ดว ยแรงงาน เงนิ สด XX หรือไม ทนุ -ระบุช่อื หุนสว น XX 2. การลดทนุ ของผเู ปน หนุ สว น 2.1 ลดทุนโดยขอคนื เปน ทุน-ระบุชอ่ื หนุ สวน XX เงนิ สด เงนิ สด XX 2.2 ลดทุนเปนสินทรัพยอื่น ทนุ -ระบุชอื่ หนุ สวน XX (ราคาตามบัญชีหรือมูลคา เงนิ สด XX ยตุ ธิ รรม) ผลตาง(ถามี) ใหปด เขา บญั ชี กําไรขาดทนุ จากการจําหนาย สนิ ทรพั ย) 30

30 ตารางท่ี 2.1 เปรียบเทียบการบันทึกบัญชีเกี่ยวกับการลงทุนตามวิธีทุนคงท่ีกับวิธีทุน เปล่ยี นแปลง (ตอ) รายการ วธิ ที นุ คงที่ วธิ ที ุนเปลย่ี นแปลง 3. การถอนใชสว นตัวของผู เปน หนุ สวน กรณีเปดบญั ชีเงนิ ถอน กรณีเปด บัญชเี งินถอน 3.1 ถอนเปน เงินสด เงนิ ถอน XX เงนิ ถอน XX เงนิ สด XX เงนิ สด XX กรณีไมเปด บญั ชีเงนิ ถอน กรณไี มเ ปด บญั ชีเงนิ ถอน กระแสทนุ -ระบชุ ่ือหุนสว น XX ทุน-ระบชุ อ่ื หนุ สว น XX เงนิ สด XX เงินสด XX 3.2 ถอนเปน สนิ คา กรณีเปด บัญชีเงินถอน กรณเี ปด บญั ชีเงินถอน (ราคาทุน) เงินถอน XX เงนิ ถอน XX ซื้อ/สินคา XX ซอ้ื /สินคา XX กรณไี มเ ปด บญั ชีเงินถอน กรณไี มเ ปด บญั ชีเงินถอน กระแสทนุ -ระบชุ ื่อหนุ สว น XX ทนุ -ระบุชอื่ หนุ สวน XX ซ้อื /สนิ คา XX ซื้อ/สินคา XX ตัวอยา งที่ 2.1 วนั ท่ี 1 มกราคม 25x1 นายกร นายกานต และนายกาย ตกลงเขาเปน หนุ สวนกนั โดยลงทุนดว ยสนิ ทรพั ยด ังตอ ไปนี้ นายกร นําเงินสด 30,000 บาท และอาคาร 100,000 บาท มาลงทุน นายกานต นําเงินสด 20,000 บาท สินคาราคาตลาด 40,000 บาท อุปกรณ 30,000 บาท และเจาหนี้ 10,000 บาท มาลงทุน นายกาย นําเงินสด 20,000 บาท มาลงทุน แตเน่ืองจาก นายกายเปนผูมีชื่อเสียงอันอาจจะกอใหเกิดประโยชนกับหางหุนสวน ผูเปนหุนสวนจึงตกลงตี ราคาคาความนิยมและบนั ทึกบญั ชีใหนายกาย 10,000 บาท ตอมาวนั ที่ 20 กมุ ภาพนั ธ 25x1 นายกรไดล ดเงนิ ทุนลง 10,000 บาท นายกานต ได ถอนเงินสดไปใชส ว นตวั 5,000 บาท และนายกาย นําเงนิ สดมาลงทนุ เพมิ่ 15,000 บาท 31

31 การบนั ทกึ บัญชเี ปน ดงั นี้ วิธที นุ คงที่ วิธีทุนเปลีย่ นแปลง 25x1 25x1 ม.ค. 1 เงินสด 30,000 ม.ค. 1 เงนิ สด 30,000 อาคาร 100,000 อาคาร 100,000 ทุน-กร 130,000 ทุน-กร 130,000 นายกรนําสนิ ทรัพยมาลงทุน นายกรนําสนิ ทรัพยมาลงทนุ เงินสด 20,000 เงนิ สด 20,000 สนิ คา 40,000 สนิ คา 40,000 อปุ กรณ 30,000 อปุ กรณ 30,000 เจาหนี้ 10,000 เจาหน้ี 10,000 ทุน-กานต 80,000 ทุน-กานต 80,000 นายกานตน าํ สนิ ทรพั ยม าลงทนุ นายกานตนําสนิ ทรพั ยม าลงทุน เงินสด 20,000 เงนิ สด 20,000 คาความนยิ ม 10,000 คาความนิยม 10,000 ทุน-กาย 30,000 ทุน-กาย 30,000 นายกายนาํ สินทรัพยม าลงทนุ นายกายนาํ สินทรพั ยมาลงทนุ ก.พ. 20 ทนุ -กร 10,000 ก.พ. 20 ทุน-กร 10,000 เงนิ สด 10,000 เงนิ สด 10,000 นายกรลดเงนิ ทนุ นายกรลดเงนิ ทนุ กระแสทนุ -กานต 5,000 ทุน-กานต 5,000 เงินสด 5,000 เงนิ สด 5,000 นายกานตถ อนเงนิ ใชสว นตวั นายกานตถ อนเงนิ ใชส ว นตวั เงนิ สด 15,000 เงนิ สด 15,000 ทุน-กาย 15,000 ทนุ -กาย 15,000 นายกายนําเงนิ สดมาลงทนุ เพม่ิ นายกายนาํ เงนิ สดมาลงทนุ เพม่ิ 32

32 การแบง กาํ ไรขาดทุน การแบงกําไรขาดทุนหากมีขอตกลงระบุไวในสัญญาการจัดตั้งหางหุนสวนแลวให ดาํ เนนิ การจัดแบงตามสัญญาดังกลาว แตหากหางหุนสวนยังมิไดระบุไวในสัญญาการจัดตั้งหาง หุนสวนตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย มาตรา 1044 บัญญัติวา อันสวนกําไรก็ดีสวน ขาดทุนก็ดีของผูเปนหุนสวนทุกๆคนนั้น ยอมเปนไปตามสวนท่ีลงหุน การแบงกําไรขาดทุนที่ นิยมปฏบิ ตั กิ นั โดยทั่วไป มีดงั น้ี (พัชรนิ ทร ไตรรัตนรุง เรือง, 2548, หนา 4-12) 1. แบงเทา กัน 2. แบงตามอตั ราสวนทตี่ กลง 3. แบงตามอตั ราสว นทุน 4. แบงกําไรขาดทุนโดยใหเงินเดือน และกําไรหรือขาดทุนสวนท่ีเหลือแบงใน อตั ราทต่ี กลง 5. แบง กําไรขาดทนุ โดยใหเงินเดือน ดอกเบ้ียทุน และกําไรหรือขาดทุนสวนที่เหลือ แบง ในอัตราทต่ี กลง 6. แบง กําไรขาดทุนโดยใหเ งินเดอื น ดอกเบยี้ ทนุ โบนัส และกําไรหรือขาดทุนสวน ท่ีเหลือแบง ในอัตราที่ตกลง การบันทกึ บัญชีการแบงกาํ ไรขาดทนุ การบันทึกรายการแบงกําไรขาดทุน สามารถทําได 2 วิธี เชนเดียวกับการบันทึก รายการเกยี่ วกบั ทุนของหา งหุนสว นดังตารางท่ี 2.2 ตารางท่ี 2.2 เปรียบเทียบการบันทึกบัญชีเก่ียวกับการแบงกําไรตามวิธีทุนคงท่ีกับวิธีทุน เปล่ยี นแปลง รายการ วธิ ที ุนคงท่ี วิธีทุนเปล่ยี นแปลง 1. แบงกาํ ไรสทุ ธิ กาํ ไรขาดทุน XX กําไรขาดทุน XX 2. แบงขาดทุนสทุ ธิ กระแสทุน-ระบชุ อื่ ทนุ -ระบชุ ่อื หุนสว น XX หนุ สว น XX กระแสทุน-ระบชุ อื่ หุนสว น XX ทุน-ระบุช่ือหนุ สว น XX กําไรขาดทนุ XX กาํ ไรขาดทนุ XX 33

33 1. แบงเทากัน การแบงผลกําไรขาดทุนเทากนั เกิดจากการท่ีหุนสวนไดต กลงกนั โดย ระบุไวในสัญญาจัดตั้งหางหุนสวน ทั้งน้ีอาจเน่ืองมาจากหุนสวนทุกคนไดเขาจัดการงานของ หา งหุนสว นอยางพรอ มเพรยี งกนั หรอื อาจเนื่องมาจากการลงทุนทมี่ ีมลู คา ไมแ ตกตา งกนั ตวั อยางที่ 2.1 กร และกุน ตกลงเปน หุน สว นกุน โดยนําเงินสดมาลงทุน กรลงทุน 250,000 บาท และกุน ลงทุน 200,000 บาท ตกลงแบงผลกาํ ไรขาดทนุ เทากัน สมมตวิ า ส้ินปห า งหนุ สว นมีกําไร สทุ ธิ 120,000 บาท กร และกุน จะไดรบั สวนแบงกาํ ไรดงั น้ี การคาํ นวณ 1 12 กร ไดร บั สว นแบง กําไร = 120,000 x 2 = 60,000 บาท กุน ไดรบั สว นแบง กาํ ไร = 120,000 x = 60,000 บาท การบันทกึ บญั ชีเปน ดงั น้ี วธิ ีทุนคงที่ วิธที นุ เปลย่ี นแปลง 25x1 25x1 ธ.ค. 31 กําไรขาดทนุ 120,000 ธ.ค. 31 กําไรขาดทุน 120,000 กระแสทุน-กร 60,000 ทุน-กร 60,000 กระแสทุน-กุน 60,000 ทนุ -กนุ 60,000 แบง กาํ ไรสทุ ธปิ ระจาํ ป แบงกําไรสทุ ธิประจาํ ป 2. แบงตามอัตราสวนที่ตกลง การแบงผลกําไรขาดทุนแบบน้ีเปนผลจากการตกลง ในสัญญาการจัดตั้งหางหุนสวน ท้ังน้ีขึ้นอยูกับขอตกลงท่ีหุนสวนกระทํารวมกัน ซึ่งอาจ พิจารณาจากความสามารถของหุนสวนแตละคนท่ีมีไมเทาเทียมกันในการรวมกันบริหารกิจการ การกําหนดอัตราสวนแบงกําไรขาดทุนน้ีอาจกําหนดเปนอัตราสวน เชน อัตราสวนแบงกําไร ขาดทุนของหุนสวน กร และกุน เปน 2 สวน และ 3 สวน ตามลําดับ เปนตน แตถาหุนสวนมี หลายคนการแบงกําไรขาดทุนเชนน้ีอาจประสบปญหาการคํานวณท่ียุงยากจึงอาจกําหนดการ แบงกําไรขาดทุนเปนอัตรารอยละก็ได เชน หุนสวนกร ไดรับสวนแบง 60% และกุนไดรับสวน แบง 40% เปนตน 34

34 ตัวอยางที่ 2.2 กร และกุน ตกลงเปนหุนสวนกัน โดยนําเงินสดมาลงทุน กรมีทุน 250,000 บาท และกุน มีทุน 200,000 บาท ตกลงแบงกําไรขาดทุน 2 : 3 ตามลําดับ สมมติวาส้ินปหางหุนสวนมี กาํ ไรสทุ ธิ 120,000 บาท กร และกุนจะไดรบั สวนแบงกาํ ไรขาดทนุ ดงั นี้ การคํานวณ กร ไดร ับสวนแบง กาํ ไร = 120,000 x 2 = 48,000 บาท กนุ ไดรับสวนแบง กําไร 5 = 72,000 บาท การบันทึกบญั ชีเปน ดงั นี้ = 120,000 x 3 5 วิธีทุนคงท่ี วธิ ีทุนเปลย่ี นแปลง 25x1 25x1 ธ.ค. 31 กาํ ไรขาดทนุ 120,000 ธ.ค. 31 กําไรขาดทนุ 120,000 กระแสทุน-กร 48,000 ทนุ -กร 48,000 กระแสทุน-กนุ 72,000 ทนุ -กนุ 72,000 แบงกําไรสุทธิประจาํ ป แบง กําไรสทุ ธปิ ระจาํ ป ตวั อยางที่ 2.2 กร และกนุ ตกลงเปนหุน สว นกนั โดยนาํ เงินสดมาลงทนุ กรมที นุ 250,000 บาท และกุน มที นุ 250,000 บาท ตกลงแบง กําไรขาดทนุ 40% และ 60% ตามลําดบั สมมติวา ส้นิ ป หา งหนุ สว นมกี าํ ไรสทุ ธิ 120,000 บาท กร และกุนจะไดร บั สวนแบง กาํ ไรขาดทนุ ดงั น้ี การคาํ นวณ กร ไดรับสว นแบง กาํ ไร = 120,000 x 40% = 48,000 บาท กุน ไดรับสว นแบง กําไร = 120,000 x 60% = 72,000 บาท การบนั ทกึ บัญชีเปนดงั น้ี วธิ ที นุ คงที่ วิธีทนุ เปลย่ี นแปลง 25x1 25x1 ธ.ค. 31 กําไรขาดทุน 120,000 ธ.ค. 31 กําไรขาดทุน 120,000 กระแสทุน-กร 48,000 ทุน-กร 48,000 กระแสทุน-กนุ 72,000 ทนุ -กุน 72,000 แบงกําไรสุทธิประจาํ ป แบงกาํ ไรสทุ ธปิ ระจาํ ป 35

35 3. แบงตามอัตราสวนทุน การแบงผลกําไรขาดทุนตามอัตราสวนทุนเปนอีกวิธี หนึ่งตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชยกําหนดไววาหากหางหุนสวนมิไดมีการระบุอัตรา การแบง กําไรขาดทุนไวในสัญญาการจัดตั้งหางหุนสวนใหใชอัตราสวนทุน หางหุนสวนจะระบุ ไวในสัญญาการจัดต้ังหางหุนสวนต้ังแตเริ่มตนวามีทุนของหุนสวนแตละคนมีจํานวนเทาใด และทั้งหมดรวมกันเปนทุนเทาใด แตบางครั้งการลงทุนของหุนสวนบางคนอาจไมทราบทุนที่ แนนอน ไดแก หุนสวนท่ีลงทุนดวยแรงงาน ดังนั้นตามประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย กําหนดไววาใหแบงกําไรขาดทุนใหแกหุนสวนที่ไมทราบทุนที่แนนอนดวยสวนถัวเฉลี่ยของ หุนสวนที่ทราบทุนท่ีแนนอน การแบงตามอัตราสวนทุนจะตองระบุใหชัดเจนวาแบงตาม อตั ราสว นทุน ณ วันใด โดยทนุ ของผเู ปน หุน สว นมี 4 ลกั ษณะ ดังนี้ 3.1 ทุน ณ วันเริม่ ตงั้ กจิ การ การแบง กาํ ไรขาดทุนจะสามารถคํานวณไดด ังน้ี ตวั อยางท่ี 2.4 กร และกุน เปนหุนสวนกัน โดยมีเงินลงทุนเริ่มแรกในการจัดตั้งหางหุนสวน 110,000 บาท และ 90,000 บาท ตามลําดบั เม่ือวันท่ี 1 มกราคม 25x1 กรมีทุน 150,000 บาท และ กุนมีทุน 90,000 บาท เม่ือวันที่ 1 มีนาคม 25x1 กรถอนทุน 30,000 บาท และวันที่ 30 มิถุนายน กร ลงทุนเพิ่มอีก 20,000 บาท และกุน ลงทุนเพ่ิม 10,000 บาท สมมติวาสิ้นปหางหุนสวน มีกาํ ไรสทุ ธิ 60,000 บาท กร และกนุ จะไดรบั สวนแบงกําไรขาดทุนดังน้ี การคาํ นวณ กร ไดรบั สว นแบง กาํ ไร = 60,000 x 121000,,000000 = 33,000 บาท กุน ไดรบั สวนแบง กาํ ไร = 60,000 x 90,000 = 27,000 บาท 200,000 การบันทึกบญั ชีเปน ดงั น้ี วธิ ีทนุ คงที่ วิธีทุนเปลย่ี นแปลง 25x1 25x1 ธ.ค. 31 กาํ ไรขาดทนุ 60,000 ธ.ค. 31 กาํ ไรขาดทนุ 60,000 กระแสทนุ -กร 33,000 ทนุ -กร 33,000 กระแสทุน-กนุ 27,000 ทนุ -กุน 27,000 แบงกําไรสุทธปิ ระจาํ ป แบง กาํ ไรสทุ ธปิ ระจาํ ป 36

36 3.2 ทุน ณ วันตนงวด จากตัวอยางที่ 2.4 การแบงกําไรขาดทุนจะสามารถ คาํ นวณไดดังน้ี การคาํ นวณ ไดรับสวนแบง กาํ ไร = 60,000 x 150,000 = 37,500 บาท กร 240,000 = 22,500 บาท กนุ ไดร บั สวนแบง กาํ ไร = 60,000 x 90,000 240,000 การบันทกึ บญั ชีเปนดงั นี้ 37,500 วิธีทนุ เปลีย่ นแปลง 37,500 22,500 25x1 22,500 วธิ ที ุนคงที่ ธ.ค. 31 กําไรขาดทนุ 60,000 25x1 ธ.ค. 31 กาํ ไรขาดทนุ 60,000 ทนุ -กร ทุน-กุน กระแสทุน-กร แบง กําไรสุทธิประจาํ ป กระแสทนุ -กนุ แบง กาํ ไรสุทธิประจาํ ป 3.3 ทุน ณ วันปลายงวด จากตัวอยางท่ี 2.4 การแบงกําไรขาดทุนจะสามารถ คาํ นวณไดดงั น้ี การคาํ นวณ หุนสวน ระยะเวลา ทนุ ทนุ คงเหลือ กร 1 ม.ค. – 1 มี.ค. 150,000 150,000 1 ม.ี ค. – 30 มิ.ย. (30,000) 120,000 กนุ 30 ม.ิ ย. – 31 ธ.ค. 20,000 140,000 1 ม.ค. – 30 มิ.ย. 80,000 80,000 30 ม.ิ ย. – 31 ธ.ค. 20,000 100,000 37

37 กร ไดรับสว นแบง กําไร = 60,000 x 214400,,000000 = 35,000 บาท กุน ไดร ับสว นแบง กาํ ไร = 60,000 x 100,000 = 25,000 บาท 240,000 การบนั ทึกบัญชเี ปน ดงั นี้ วิธที ุนคงท่ี วธิ ที ุนเปล่ยี นแปลง 25x1 25x1 ธ.ค. 31 กาํ ไรขาดทุน 60,000 ธ.ค. 31 กาํ ไรขาดทุน 60,000 กระแสทนุ -กร 35,000 ทนุ -กร 35,000 กระแสทุน-กนุ 25,000 ทุน-กุน 25,000 แบง กําไรสุทธปิ ระจําป แบงกาํ ไรสทุ ธิประจาํ ป 3.4 ทุนถัวเฉลี่ยของงวดบัญชี จากตัวอยางที่ 2.4 การแบงกําไรขาดทุน จะสามารถคาํ นวณไดด ังน้ี การคาํ นวณ หุนสวน ระยะเวลา ทุน ทุนคงเหลอื จาํ นวนเดือน ผลคณู (บาท/เดอื น) กร 1 ม.ค. – 1 ม.ี ค. 150,000 150,000 2/12 25,000 1 มี.ค. – 30 มิ.ย. (30,000) 120,000 4/12 40,000 30 มิ.ย. – 31 ธ.ค. 20,000 140,000 6/12 70,000 135,000 ทนุ ถวั เฉลยี่ กนุ 1 ม.ค. – 30 ม.ิ ย. 80,000 80,000 6/12 40,000 50,000 30 ม.ิ ย. – 31 ธ.ค. 20,000 100,000 6/12 90,000 ทนุ ถัวเฉลี่ย รวมทุนถัวเฉลีย่ ของ กร และกุน = 135,000 + 90,000 = 225,000 กร ไดร ับสว นแบง กําไร = 60,000 x 212355,,000000 = 36,000 บาท กุน ไดรับสวนแบง กาํ ไร = 60,000 x 90,000 = 24,000 บาท 225,000 38

38 การบันทกึ บัญชเี ปน ดงั น้ี 36,000 วธิ ที ุนเปล่ยี นแปลง 36,000 24,000 25x1 24,000 วธิ ีทนุ คงที่ ธ.ค. 31 กาํ ไรขาดทนุ 60,000 25x1 ธ.ค. 31 กาํ ไรขาดทุน 60,000 ทุน-กร ทนุ -กนุ กระแสทนุ -กร แบงกาํ ไรสุทธิประจาํ ป กระแสทุน-กนุ แบงกําไรสุทธปิ ระจําป 4. แบงกําไรขาดทุนโดยใหเงินเดือน และกําไรหรือขาดทุน สวนที่เหลือแบงในอัตรา ทต่ี กลง กรณีทหี่ ุนสว นรว มกนั ลงทุน และเขา ดาํ เนินกจิ การรวมกนั อาจมีความไมเทาเทยี มกนั ใน เรื่องของการใหเวลาในการดูแลกิจการ หรือการลงทุน และลักษณะความซับซอนของงานท่ีรับ มอบหมายใหดูแลรับผิดชอบมีความแตกตางกัน เพื่อตอบแทนหุนสวนจึงมีการคิดเงินเดือนให ตามความเหมาะสมโดยควรพิจารณาจากความสามรถ การอุทิศเวลาของหุนสวนท่ีใหกับหาง หุนสวน และถือเปนสวนหนึ่งของกําไรขาดทุนไมใชคาใชจาย แตถาหางหุนสวนจะถือวา เงนิ เดือนเปน คาใชจ า ยกส็ ามารถทาํ ได ซึ่งทกุ คร้งั ทมี่ กี ารจา ยเงนิ เดือนออกไปจะตองบันทึกไวใน บัญชีเงนิ เดือนและตองหักภาษีเงินไดบุคคลธรรมดาไวทุกครั้งที่มีการจายเงินเดือนออกไป หลัง คิดเงินเดือนใหกับผูเปนหุนสวนแลวซึ่งถือเปนสวนแบงกําไรแลว กําไรสวนที่เหลืออาจแบงกัน ตามอัตราสวนทุน หรืออาจแบงเทากันก็ได ท้ังนี้ข้ึนอยูกับขอตกลงซึ่งควรระบุใหชัดเจนใน สัญญาการจัดตัง้ หางหนุ สวน ตัวอยา งท่ี 2.5 กร และกุน เปนหุนสวนกัน กร มีทุน 200,000 บาท กุนมีทุน 300,000 บาท ตกลง ใหกร และกุน ไดร บั เงินเดอื นๆ ละ 8,000 บาท และ 10,000 บาท ตามลําดับ หลังคิดเงินเดือนให หุนสวนแลวกําไรที่เหลือใหแบงในอัตราสวน 2:3 ตามลําดับ สมมติวาส้ินปหางหุนสวนมี กําไรสุทธิ 600,000 บาท กร และกนุ จะไดร ับสวนแบงกาํ ไรขาดทนุ ดงั น้ี 39

39 การคาํ นวณ กร ไดร ับเงินเดือน = 8,000 x 12 = 96,000 บาท กุน ไดร ับเงินเดอื น รวม = 10,000 x 12 = 120,000 บาท กําไรสุทธคิ งเหลอื กร ไดร ับสวนแบง กําไร = 216,000 บาท กนุ ไดรับสว นแบง กําไร = 600,000 - 216,000 = 384,000 บาท = 384,000 x 2 = 153,600 บาท 5 = 230,400 บาท = 384,000 x 3 5 เงินเดอื น (ท้ังป) กร การแบงกําไร รวม สว นแบง กําไร (2:3) 96,000 กนุ 216,000 รวม 153,600 384,000 249,600 120,000 600,000 230,400 350,400 การบนั ทึกบัญชเี ปนดงั น้ี วิธีทนุ เปลย่ี นแปลง วิธีทนุ คงที่ 25x1 25x1 ธ.ค. 31 กําไรขาดทนุ 600,000 ธ.ค. 31 กําไรขาดทนุ 600,000 กระแสทนุ -กร 249,600 ทนุ -กร 249,600 กระแสทนุ -กุน 350,400 แบง กาํ ไรสุทธปิ ระจาํ ป ทนุ -กนุ 350,400 แบงกาํ ไรสทุ ธปิ ระจาํ ป 40

40 จากตัวอยางขางตน ถาผเู ปนหนุ สว นตอ งการเบกิ เงนิ เดอื นเปน รายเดือน จะลงบัญชีดังนี้ วิธที ุนคงท่ี วธิ ีทุนเปลีย่ นแปลง 25x1 ม.ค. 31 กระแสทุน-กร 8,000 25x1 กระแสทุน-กุน 10,000 ม.ค. 31 ทุน-กร 8,000 เงนิ สด 18,000 ทนุ -กุน 10,000 จา ยเงินเดือนประจาํ เดอื นมกราคม ธ.ค. 31 กาํ ไรขาดทุน 216,000 เงนิ สด 18,000 กระแสทนุ -กร 96,000 จายเงินเดือนประจาํ เดอื นมกราคม กระแสทุน-กุน 120,000 เงินเดอื นท่ีคดิ ใหห นุ สว นปด เขา ธ.ค. 31 กําไรขาดทนุ 216,000 กาํ ไรขาดทุน ธ.ค. 31 กําไรขาดทนุ 384,000 ทนุ -กร 96,000 กระแสทุน-กร 153,600 กระแสทุน-กนุ 230,400 ทนุ -กุน 120,000 แบงกําไรขาดทุนทเ่ี หลอื ตาม ขอ ตกลง เงนิ เดอื นท่คี ิดใหห นุ สว นปด เขา กําไรขาดทุน ธ.ค. 31 กาํ ไรขาดทุน 384,000 ทุน-กร 153,600 ทนุ -กุน 230,400 แบง กาํ ไรขาดทนุ ทเี่ หลือตาม ขอตกลง 5. แบงกําไรขาดทนุ โดยใหเ งินเดอื น ดอกเบี้ยทุน และกําไรหรือขาดทุนสวนท่ีเหลือ แบงในอัตราท่ีตกลง กรณีหุนสวนแตละคนลงทุนไมเทากัน การกําหนดใหมีการคํานวณสวน แบงกําไรขาดทุนเพ่ือใหเกิดความเหมาะสม และเปนธรรมมากท่ีสุด เชน มีการคิดเงินเดือนให หุนสวนตามท่ีกลาวมาแลว เปนตน นอกจากน้ีอาจระบุใหมีการคิดดอกเบ้ียทุนใหกับหุนสวน ตามอัตราสวนทุนเน่ืองจากหุนสวนท่ีนําเงินมาลงทุนนั้นควรไดรับผลตอบแทนข้ันต่ําในกรณีที่ ไมลงทุนแตนําเงินไปฝากธนาคารก็จะไดรับดอกเบี้ยตอบแทน ดังน้ันในการลงทุนอาจระบุให คํานวณสว นแบงกาํ ไรขาดทุนโดยคดิ ดอกเบี้ยเงินทุนใหกับหุนสวนดวย และควรระบุใหชัดเจนวา จะคิดในอัตราเทาใด ของทุน ณ วันเร่ิมต้ังกิจการ ทุน ณ วันตนงวด ทุน ณ วันปลายงวด หรือ ทนุ ถวั เฉล่ียของงวดบญั ชี 41

41 ตวั อยา งท่ี 2.6 กร และกนุ เปนหุนสวนกัน มีทุน ณ วันตนงวด 200,000 บาท และ 300,000 บาท ตกลงใหกร และกุน ไดรับเงินเดือนปละ 100,000 บาท และ 150,000 บาท ตามลําดับ คิดดอกเบ้ียทุนรอยละ 2 ตอป ของทุน ณ วันตนงวด กําไรท่ีเหลือใหแบงเทากัน สมมติวาส้ินป หางหนุ สว นมกี าํ ไรสทุ ธิ 400,000 บาท กร และกนุ จะไดรับสวนแบง กาํ ไรขาดทุนดังน้ี เงินเดือน (ท้งั ป) กร การแบง กาํ ไร รวม ดอกเบีย้ ทนุ : 100,000 กุน 250,000 150,000 กร = 200,000 x 2% 4,000 4,000 กนุ = 300,000 x 2% 6,000 6,000 สวนแบง กําไร (แบงเทากนั ) 70,000 140,000 = 400,000 − 250,000 −10,000 70,000 226,000 400,000 2 174,000 รวม การบันทกึ บัญชีเปน ดงั น้ี วธิ ที ุนเปลีย่ นแปลง วิธีทุนคงที่ 25x1 25x1 ธ.ค. 31 กาํ ไรขาดทนุ 400,000 ธ.ค. 31 กําไรขาดทุน 400,000 กระแสทุน-กร 174,000 ทนุ -กร 174,000 กระแสทุน-กนุ 226,000 แบงกําไรสทุ ธิประจาํ ป ทุน-กุน 226,000 แบง กาํ ไรสุทธิประจําป 42

42 6. แบงกําไรขาดทุนโดยใหเงินเดือน ดอกเบี้ยทุน โบนัส และกําไรหรือขาดทุนสวน ท่ีเหลือแบงในอัตราที่ตกลง การคํานวณสวนแบงกําไรขาดทุนใหหุนสวนนอกจากจะคิด เงินเดือน ดอกเบ้ียทุนแลวอาจระบุการคิดโบนัส หรือเงินเพิ่มพิเศษใหกับหุนสวนผูจัดการ เพื่อ ตอบแทนการทํางาน ท้ังนี้การคิดโบนัสใหผูเปนหุนสวนนั้นตองระบุวาคิดจากกําไรสุทธิ กอ นหกั โบนัส หรือกําไรสุทธหิ ลงั หกั เงินโบนัสแลว ตัวอยางที่ 2.7 กร และกุน เปนหุนสวนกัน มีทุน ณ วันตนงวด 200,000 บาท และ 300,000 บาท ระหวางป กร ลงทุนเพ่ิม 30,000 บาท และกุน ลดทุน 20,000 บาท สิ้นป กร มีบัญชีเงินถอน 5,000 บาท ไดต กลงใหกร และกนุ ไดรบั เงนิ เดอื นปละ 100,000 บาท และ 150,000 บาท ตามลําดับ คดิ ดอกเบ้ียทนุ รอ ยละ 2 ตอป ของทนุ ณ วนั ตนงวด คิดโบนัสให กนุ ในฐานะหนุ สว นผจู ดั การ 5% ของกําไรสุทธิ หลังหักเงินเดือน และดอกเบี้ยทุน กําไรที่เหลือใหแบงเทากัน สมมติวาส้ินปหาง หนุ สว นมีกาํ ไรสุทธิ 400,000 บาท กร และกนุ จะไดรับสว นแบงกําไรขาดทุนดงั น้ี เงินเดอื น (ท้ังป) กร การแบง กําไร รวม 100,000 กนุ 250,000 150,000 ดอกเบี้ยทนุ : กร = 200,000 x 2% 4,000 4,000 6,000 6,000 กุน = 300,000 x 2% โบนสั - กุน : = (400,000 – 250,000 – 10,000) x 5% 7,000 7,000 สว นแบงกําไร (แบงเทา กนั ) : 400,000 − 250,000 −10,000 − 7,000 = 2 66,500 66,500 133,000 170,500 229,500 400,000 รวม 43

43 การบันทึกบญั ชเี ปน ดงั นี้ วธิ ีทุนเปล่ียนแปลง วิธีทุนคงที่ 25x1 25x1 ธ.ค. 31 กาํ ไรขาดทุน 400,000 ธ.ค. 31 กาํ ไรขาดทนุ 400,000 กระแสทุน-กร 170,500 ทนุ -กร 170,500 กระแสทุน-กนุ 229,500 แบงกาํ ไรสทุ ธปิ ระจําป ทนุ -กนุ 229,500 แบงกําไรสุทธปิ ระจําป ตัวอยางที่ 2.8 จากตัวอยางท่ี 2.7 ถาคิดโบนัสให กุน ในฐานะหุนสวนผูจัดการ 5% ของกําไรสุทธิ หลังหักเงินเดือน ดอกเบี้ยทุน และโบนัส กําไรท่ีเหลือแบงเทากัน กร และกุนจะไดรับสวนแบง กาํ ไรขาดทนุ ดงั น้ี เงนิ เดอื น (ทัง้ ป) กร การแบงกาํ ไร รวม 100,000 กนุ 250,000 150,000 ดอกเบยี้ ทนุ : กร = 200,000 x 2% 4,000 4,000 6,000 6,000 กุน = 300,000 x 2% โบนัส - กนุ : 5 105 = (400,000 – 250,000 – 10,000) x 6,667 6,667 สวนแบงกาํ ไร (แบง เทากนั ) : 400,000 − 250,000 −10,000 − 6,667 = 2 66,666.50 66,666.50 133,333 170,666.50 229,333.50 400,000 รวม 44

44 การบนั ทกึ บญั ชเี ปน ดงั น้ี วิธีทุนคงที่ วธิ ที ุนเปลยี่ นแปลง 25x1 25x1 ธ.ค. 31 กําไรขาดทุน 400,000 ธ.ค. 31 กําไรขาดทนุ 400,000 กระแสทุน-กร 170,666.50 ทุน-กร 170,666.50 กระแสทุน-กนุ 229,333.50 ทนุ -กนุ 229,333.50 แบง กําไรสทุ ธิประจาํ ป แบง กําไรสุทธปิ ระจาํ ป การบนั ทกึ รายการปดบัญชขี องหา งหุนสวน ในวันสิ้นงวดบัญชี หางหุนสวนตองทํารายการปรับปรุง ปดบัญชีรายไดและ คาใชจายเชนเดียวกับกิจการเจาของคนเดียว ในกรณีท่ีหางหุนสวนใชวิธีทุนเปลี่ยนแปลงยอด คงเหลือในบัญชีกําไรขาดทุนจะถูกโอนไปบัญชีทุนเชนเดียวกับกิจการเจาของคนเดียว แตใน กรณีท่ีหางหนุ สว นใชวิธีทนุ คงท่ียอดคงเหลอื ในบญั ชกี ําไรขาดทุนจะถูกโอนไปบัญชีกระแสทุน ตามอัตราสวนแบงกาํ ไรขาดทนุ สาํ หรับงวดบัญชีใดท่ีไมตองการแบงกําไรขาดทุน ยอดคงเหลือ ในบัญชีกําไรขาดทุนจะถูกโอนไปบัญชีกําไรสุทธิท่ียังไมไดแบงและแสดงไวในงบดุลภายใต หัวขอ สว นของผเู ปน หนุ สวนตอ ทา ยบัญชที นุ การแสดงรายการสวนของผูเปนหุนสวนจะแตกตางจากกิจการเจาของคนเดียว เน่ืองจากหางหุนสวนมผี ูเปนหนุ สวนต้งั แต 2 คนขนึ้ ไป จึงควรแสดงแยกสวนของผูเปนหุนสวน ของแตล ะคนออกจากกันใหชดั เจน ดังนี้ 1. ในกรณีท่ีใชกระดาษทําการในการปดบัญชี ควรมีชองลงรายการสวนไดเสียของ ผเู ปนหุนสว นแตละคน 2. ในบัญชีกําไรขาดทุน ตอนทายของบัญชีควรแสดงการแบงกําไรขาดทุนระหวาง ผูเปน หุนสวน 3. ในงบดุล กรณีที่เปนหางหุนสวนจดทะเบียน การแสดงรายการในงบดุลจะแสดง รายละเอยี ดดังน้ี 3.1 สวนของผูเปนหุนสวนจะแสดงบัญชีทุนของผุเปนหุนสวนแตละคน และ บัญชีกําไรสุทธิทยี่ ังไมไ ดแบง 45

45 3.2 เจาหนี้และเงินกูยืมจากผูเปนหุนสวน จะแสดงบัญชีเงินกูจากผูเปนหุนสวน และเจา หนผ้ี เู ปน หนุ สวนในกรณที ่ีบญั ชกี ระแสทนุ ของผูเปน หุนสวนมยี อดคงเหลือดานเครดิต 3.3 ลูกหนี้และเงินใหกูยืมแกผูเปนหุนสวน จะแสดงบัญชีลูกหน้ีผูเปนหุนสวน ในกรณีทีบ่ ัญชีกระแสทนุ ของผูเปนหนุ สวนมยี อดคงเหลอื ดา นเดบิต เน่ืองจากหางหนุ สว นในประเทศไทยสวนมากเปน ประเภทจดทะเบียน การแสดง บญั ชกี ระแสทุนของผเู ปนหุนสวนแยกออกจากบัญชีทุนเนื่องจากกฎหมายบังคับใหระบุทุนของ ผูเปนหุนสวนอยางชัดเจน และทุกครั้งที่มีการเปลี่ยนแปลงทุนตองแจงขอเปล่ียนแปลงทุนที่จด ทะเบียนไวในคร้ังกอ น ดังนน้ั บัญชีทุนจงึ ไมค วรนํารายการอื่น ๆ ทมี่ ใิ ชทุนมาปะปน นอกจากจะ เปนการเพมิ่ ทุนหรอื ถอนทุนเปน การถาวร ซึง่ เปน วธิ ีที่สอดคลองกับการบนั ทึกบัญชีวิธีทุนคงที่ การแสดงสวนของผูเปนหุนสวนในงบดุลอาจยาวเกินไป หากผูเปนหุนสวน ประสงคจะทราบรายละเอียดเกี่ยวกับบัญชีทุนอาจจัดทํา งบแสดงทุนของผูเปนหุนสวน (statement of partners’ capitals) เพ่ือแสดงรายละเอียดในบัญชีทุนตั้งแตตนปจนส้ินงวดบัญชี ของผูเปน หนุ สวนแตละคน ตัวอยางที่ 2.9 จากตวั อยางที่ 2.7 นํามาจดั ทาํ งบแสดงทนุ ของผเู ปน หุนสว นไดด ังนี้ หางหนุ สวน กรกนุ งบแสดงทนุ ของผูเปน หนุ สว น สําหรบั ป ส้นิ สุด วันที่ 31 ธันวาคม 25x1 (หนว ย:บาท) กร กนุ รวม ทนุ ณ วันที่ 1มกราคม 25x1 200,000 300,000 500,000 บวก เพ่มิ ทุน (ลดทนุ ) 30,000 (20,000) 10,000 230,000 280,000 510,000 บวก สว นแบง กาํ ไร 170,500 229,500 400,000 400,500 509,500 910,000 หกั เงินถอน 5,000 - 5,000 ทุน ณ วนั ท่ี 31 มกราคม 25x1 395,500 509,500 905,000 46

46 งบการเงิน การจัดทํางบการเงินของหางหุนสวนจะจัดขึ้นในวันส้ินส้ินงวดบัญชีโดยจัดทํางบดุล งบกําไรขาดทนุ และหมายเหตปุ ระกอบงบการเงนิ ดังนี้ (กรมพฒั นาธุรกจิ การคา , 2547, หนา 23-26) 1. งบดุล (balance sheet) เปนงบที่แสดงถึงฐานะการเงินของกิจการ ณ วันใด วนั หนึง่ เกยี่ วกับสินทรพั ย หน้สี นิ และสวนของผเู ปนหุนสวน โดยแสดงไดดงั น้ี หา งหนุ สวนจดทะเบียน งบดุล ณ วนั ที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 25x1 สินทรัพย (หนว ย:บาท) 25x1 1. สินทรัพยห มุนเวียน 1.1 เงินสดและเงนิ ฝากสถาบนั การเงิน 1.2 เงินลงทนุ ชว่ั คราว 1.3 ลูกหนกี้ ารคา-สุทธิ 1.4 เงนิ ใหกูยืมระยะสั้นแกบคุ คลหรือกจิ การที่เก่ยี วของกัน 1.5 เงนิ ใหก ูยมื ระยะสั้นอ่นื 1.6 สนิ คา คงเหลอื 1.7 สินทรัพยห มนุ เวยี นอ่ืน รวมสนิ ทรัพยหมุนเวยี น 2. สินทรพั ยไ มห มุนเวยี น 2.1 เงนิ ลงทุนระยะยาว 2.2 เงนิ ใหกยู ืมระยะยาวแกบคุ คลหรือกิจการทเี่ ก่ยี วของกัน 2.3 เงินใหกยู ืมระยะยาวอืน่ 2.4 ทด่ี ิน อาคารและอุปกรณ-สทุ ธิ 2.5 สินทรัพยไ มมีตวั ตน 2.6 สนิ ทรพั ยไ มหมุนเวยี นอน่ื รวมสินทรพั ยไ มหมุนเวยี น รวมสนิ ทรัพย 47

หนีส้ ินและสวนของผเู ปน หนุ สว น 47 3. หนีส้ ินหมนุ เวียน (หนว ย:บาท) 3.1 เงนิ เบกิ เกินบัญชแี ละเงินกูย ืมระยะสน้ั จากสถาบันการเงิน 25x1 3.2 เจา หนี้การคา 3.3 เงินกรู ะยะยาวที่ถึงกําหนดชาํ ระภายในหนงึ่ ป 3.4 เงนิ กุยมื ระยะส้นั จากบคุ คลหรือกิจการท่เี กี่ยวขอ งกัน 3.5 เงนิ กยู มื ระยะสั้นอ่นื 3.6 หนส้ี ินหมุนเวียนอนื่ รวมหนส้ี นิ หมนุ เวยี น 4. หน้ีสนิ ไมหมนุ เวียน 4.1 เงนิ กูย มื ระยะยาวจากบุคคลหรือกจิ การท่เี กยี่ วของกัน 4.2 เงนิ กยู ืมระยะยาวอ่นื 4.3 ประมาณการหน้ีสนิ 4.4 หน้ีสนิ ไมหมนุ เวียนอนื่ รวมหนสี้ ินไมหมุนเวยี น รวมหนีส้ ิน 5. สวนของผเู ปน หนุ สว น 5.1 ทุนของผเู ปนหนุ สว นแตล ะคน 5.2 สวนเกินทนุ อน่ื 5.3 สวนตํา่ กวาทนุ อ่ืน 5.4 กาํ ไร(ขาดทุน)สะสมยังไมไ ดแบง รวมสวนของผเู ปน หนุ สว น รวมหนส้ี ินและสว นของผเู ปนหุนสวน 48

48 2. งบกําไรขาดทุน (income statement) เปนงบที่แสดงรายการเก่ียวกับรายไดและ คา ใชจา ย ซึ่งสามารถแสดงได 2 แบบ คอื 2.1 งบกาํ ไรขาดทนุ แบบขั้นเดยี ว ซ่งึ แสดงไดด ังนี้ หางหุนสวนจดทะเบยี น งบกําไรขาดทนุ แบบขน้ั เดยี ว สาํ หรับปส ้ินสดุ วนั ท่ี 31 ธันวาคม พ.ศ. 25x1 (หนว ย:บาท) 25x1 1. รายได 1.1 รายไดจ ากการขายหรอื การใหบ ริการ 1.2 รายไดอน่ื รวมรายได 2. คา ใชจ า ย 2.1 ตน ทนุ ขายและหรอื ตน ทนุ การใหบ รกิ าร 2.2 คาใชจ า ยในการขายและบรหิ าร 2.3 คา ใชจ า ยอืน่ รวมคา ใชจาย 3. กาํ ไร(ขาดทนุ )กอนดอกเบยี้ จา ยและภาษเี งินได 4. ดอกเบี้ยจาย 5. ภาษเี งินได 6. กาํ ไร(ขาดทนุ )จากกิจกรรมตามปกติ 7. รายการพเิ ศษ – สุทธิ 8. กาํ ไร(ขาดทุน)สทุ ธิ 49


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook