คมู่ ือเตรียมสอบบรรจุเข้ารบั ราชการ ตาแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 196 เฉลยแนวข้อสอบพระราชบัญญัตกิ ารศกึ ษาภาคบังคับ พ.ศ. 2545 ข้อ ข้อ 1 ก 11 ค 2 ข 12 ง 3 ก 13 ง 4 ง 14 ง 5 ข 15 ค 6ค 7ข 8ค 9ง 10 ค เตรียมสอบครูผชู้ ่วย By ทมี ฮกั แพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คูม่ ือเตรยี มสอบบรรจเุ ข้ารบั ราชการ ตาแหนง่ ครผู ชู้ ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 197 พระราชบัญญัติการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 และทแี่ กไ้ ขเพิม่ เติม - มี 9 หมวด จานวนทั้งส้ิน 78 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล หมวดที่ 1 บททั่วไปความม่งุ หมายและหลักการ หมวดท่ี 2 สิทธิและหนา้ ท่ที างการศกึ ษา หมวดที่ 3 ระบบการศกึ ษา หมวดที่ 4 แนวการจัดการศกึ ษา หมวดที่ 5 การบรหิ ารและการจัดการศึกษา หมวดท่ี 6 มาตรฐานและการประกันคณุ ภาพการศกึ ษา หมวดที่ 7 คทรรูัพคยณาากจราแรลยะ์ กแาลระลบงุคทลุนากเกพรอื่ ทกาางรกศากึ รษศาึกษา หมวดท่ี 8 หมวดท่ี 9 เทคโนโลยีเพ่อื การศึกษา บทเฉพาะกาล ..2540 ครูใจนาพา มาช่วยจา มงุ่ + สิทธ์ิ + บบ + แนว + หาร + ฐาน + จารย์ + ทรัพย์ + เทคโน พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้า ฯ ใหป้ ระกาศ ว่าโดยท่ีเป็นการสมควรมีกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติพระราชบัญญัติน้ีมีบทบัญญัติบางประการ เก่ียวกับการจากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซึ่งมาตรา 29 ประกอบกับมาตรา 50 ของรัฐธรรมนูญแห่ง ราชอาณาจักรไทย บัญญัติให้กระทาได้โดยอาศัยอานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมายจึงทรงพระกรุณา โปรดเกลา้ ฯ ใหต้ ราพระราชบญั ญัติข้นึ ไวโ้ ดยคาแนะนาและยนิ ยอมของรฐั สภา ดงั ต่อไปน้ี มาตรา 1 พระราชบญั ญตั นิ เ้ี รยี กว่า \"พระราชบัญญตั กิ ารศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542\" มาตรา 2 พระราชบญั ญตั นิ ้ใี หใ้ ช้บังคับตัง้ แต่วนั ถัดจากวันประกาศในราชกจิ จานุเบกษา มาตรา 3 บรรดาบทกฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ และคาสั่งอ่ืนในส่วนท่ีได้บัญญัติไว้แล้วใน พระราชบญั ญัตนิ ้ี หรอื ซึ่งขัดหรอื แยง้ กบั บทแหง่ พระราชบญั ญตั นิ ี้ ให้ใชพ้ ระราชบัญญตั นิ ี้แทน เตรียมสอบครผู ชู้ ่วย By ทมี ฮักแพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มอื เตรียมสอบบรรจเุ ข้ารบั ราชการ ตาแหนง่ ครผู ้ชู ว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 198 มาตรา 4 ในพระราชบญั ญตั ินี้ คานยิ าม \"การศึกษา\" หมายความว่า กระบวนการเรียนรู้เพ่ือความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคม โดยการถ่ายทอดความรู้ การฝึก การอบรม การสืบสานทางวัฒนธรรม การสร้างสรรค์จรรโลงความก้าวหน้า ทางวิชาการ การสร้างองค์ความรู้อันเกิดจากการจัดสภาพแวดล้อม สังคมการเรียนรู้และปัจจัยเกื้อหนุนให้ บคุ คลเรยี นรอู้ ย่างต่อเนื่องตลอดชีวติ \"การศึกษาข้นั พืน้ ฐาน\" หมายความว่า การศึกษากอ่ นระดบั อดุ มศกึ ษา \"การศึกษาตลอดชีวิต\" หมายความว่า การศึกษาที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เพ่ือให้สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างต่อเนื่อง ตลอดชีวติ \"สถานศึกษา\" หมายความว่า สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย โรงเรียน ศูนย์การเรียนวิทยาลัย สถาบัน มหาวิทยาลัย หน่วยงานการศึกษาหรือหน่วยงานอื่นของรัฐหรือของเอกชน ที่มีอานาจหน้าที่หรือมี วัตถปุ ระสงค์ในการจดั การศึกษา \"สถานศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน\" หมายความว่า สถานศึกษาที่จัดการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน \"มาตรฐานการศึกษา\" หมายความว่า ข้อกาหนดเก่ียวกับคุณลักษณะ คุณภาพที่พึงประสงค์และมาตรฐานท่ี ต้องการให้เกิดขึ้นในสถานศึกษาทุกแห่ง และเพ่ือใช้เป็นหลักในการเทียบเคียงสาหรับการส่งเสริมและกากับ ดูแล การตรวจ-สอบ การประเมนิ ผล และการประกันคุณภาพทางการศึกษา \"การประกนั คณุ ภาพภายใน\" หมายความวา่ การประเมินผลและการตดิ ตามตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐาน การศึกษาของสถานศึกษาจากภายใน โดยบุคลากรของสถานศึกษาน้ันเอง หรือโดยหน่วยงาน ตน้ สงั กดั ท่ีมีหน้าที่กากบั ดูแลสถานศึกษานัน้ \"การประกันคุณภาพภายนอก\" หมายความว่า การประเมินผลและการติดตามตรวจสอบคุณภาพและ มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาจากภายนอก โดยสานักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพ การศึกษาหรือบุคคลหรือหน่วยงานภายนอกท่ีสานักงานดังกล่าวรับรอง เพ่ือเป็นการประกันคุณภาพและให้มี การพัฒนาคณุ ภาพและมาตรฐานการศกึ ษาของสถานศึกษา \"ผสู้ อน\" หมายความว่า ครูและคณาจารยใ์ นสถานศึกษาระดับต่าง ๆ \"ครู\" หมายความว่า บุคลากรวิชาชีพซ่ึงทาหน้าที่หลักทางด้านการเรียนการสอนและการส่งเสริมการเรียนรู้ ของผ้เู รยี นด้วยวธิ ีการตา่ ง ๆ ในสถานศึกษาท้ังของรฐั และเอกชน เตรียมสอบครผู ชู้ ว่ ย By ทีมฮักแพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คูม่ อื เตรยี มสอบบรรจุเขา้ รบั ราชการ ตาแหนง่ ครูผู้ช่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 199 \"คณาจารย์\" หมายความว่า บุคลากรซ่ึงทาหน้าท่ีหลักทางด้านการสอนและการวิจัยในสถานศึกษา ระดับอดุ มศกึ ษาระดบั ปริญญาของรฐั และเอกชน \"ผู้บริหารสถานศึกษา\" หมายความว่า บุคลากรวิชาชีพที่รับผิดชอบการบริหารสถานศึกษาแต่ละแห่ง ท้ังของ รัฐและเอกชน \"ผู้บริหารการศึกษา\" หมายความว่า บุคลากรวิชาชีพท่ีรับผิดชอบการบริหารการศึกษานอกสถานศึกษาต้ังแต่ ระดับเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษาขึ้นไป \"บุคลากรทางการศกึ ษา\" หมายความวา่ ผู้บริหารสถานศกึ ษา ผูบ้ รหิ ารการศกึ ษารวมท้ังผสู้ นับสนุนการศึกษา เป็นผู้ทาหน้าที่ให้บริการ หรือปฏิบัติงานเกี่ยวเนื่องกับการจัดกระบวนการเรียนการสอน การนิเทศ และการ บรหิ ารการศกึ ษาในหนว่ ยงานการศึกษาต่าง ๆ \"กระทรวง\" หมายความว่า กระทรวงศึกษาธิการ \"รฐั มนตรี\" หมายความว่า รัฐมนตรีผรู้ ักษาการตามพระราชบญั ญัตนิ ี้ มาตรา 5 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการศึกษาธิการ รักษาการตามพระราชบัญญัติน้ี และมีอานาจออก กฎกระทรวง ระเบยี บ และประกาศเพอื่ ปฏิบตั กิ ารตามพระราชบัญญตั ินี้ กฎกระทรวง ระเบยี บ และประกาศนัน้ เมือ่ ไดป้ ระกาศในราชกิจจานุเบกษาแลว้ ให้ใชบ้ งั คับได้ หมวดท่ี 1 บทท่ัวไปความมงุ่ หมายและหลกั การ มาตรา 6 การจดั การศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพฒั นาคนไทยให้เปน็ มนุษยท์ ี่สมบูรณ์ท้ังร่างกาย จิตใจ สติปญั ญา ความรู้ และคณุ ธรรม มจี ริยธรรมและวัฒนธรรมในการดารงชวี ติ สามารถอยู่ร่วมกบั ผู้อืน่ ไดอ้ ยา่ งมีความสุข *** เทคนคิ การจา *** ร่างกาย จิตใจ เก่ง ดี มสี ขุ มาตรา 7 ในกระบวนการเรียนรู้ต้องมงุ่ ปลูกฝังจิตสานักทถ่ี ูกตอ้ งเก่ยี วกับการเมืองการปกครองในระบอบ ประชาธิปไตยอันมีพระมหากษตั ริยท์ รงเปน็ ประมุข รจู้ ักรกั ษาและส่งเสริมสิทธิ หน้าท่ี เสรภี าพ ความเคารพ กฎหมาย ความเสมอภาค และศกั ด์ศิ รคี วามเป็นมนุษย์ มีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย รู้จักรักษาผลประโยชน์ส่วนรวมและของประเทศชาติ รวมท้ัง สง่ เสริมศาสนา ศลิ ปะ วฒั นธรรมของชาติ การกฬี า ภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถนิ่ ภูมิปญั ญาไทย และความรู้อนั เปน็ สากล ตลอดจนอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีความสามารถในการประกอบอาชีพรู้จักพ่ึงตนเอง มีความริเริ่มสร้างสรรค์ ใฝ่รแู้ ละเรยี นรู้ด้วยตนเองอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง *** เทคนิคการจา *** ไตย + สิทธิ + รวม + ศลิ ป์ + ทรพั ย์ + ชพี + รเิ รมิ่ + รู้ เตรยี มสอบครูผู้ช่วย By ทมี ฮักแพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ อื เตรียมสอบบรรจเุ ข้ารับราชการ ตาแหนง่ ครผู ชู้ ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 200 มาตรา 8 การจัดการศึกษาให้ยดึ หลักดังนี้ (1) เปน็ การศกึ ษาตลอดชวี ติ สาหรบั ประชาชน (2) ให้สงั คมมสี ่วนรว่ มในการจดั การศึกษา (3) การพฒั นาสาระและกระบวนการเรยี นรู้ใหเ้ ปน็ ไปอย่างต่อเนอื่ ง *** เทคนคิ การจา *** ตลอด + รว่ ม + ต่อ มาตรา 9 การจัดระบบ โครงสรา้ ง และกระบวนการจดั การศกึ ษา ใหย้ ดึ หลกั ดงั น้ี (1) มเี อกภาพดา้ นนโยบาย และมีความหลากหลายในการปฏิบตั ิ (2) มีการกระจายอานาจไปสู่เขตพนื้ ท่ีการศึกษา สถานศกึ ษา และองค์กรปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ (3) มีการกาหนดมาตรฐานการศกึ ษา และจดั ระบบประกนั คุณภาพการศึกษาทุกระดบั และประเภท การศกึ ษา (4) มีหลักการส่งเสรมิ มาตรฐานวชิ าชีพครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาและการพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาอย่างตอ่ เน่ือง (5) ระดมทรพั ยากรจากแหล่งตา่ ง ๆ มาใชใ้ นการจดั การศกึ ษา (6) การมีส่วนรว่ มของบุคคล ครอบครวั ชมุ ชน องคก์ รชมุ ชน องคก์ รปกครองส่วนท้องถ่ิน เอกชน องค์กรเอกชน องค์กรวชิ าชีพ สถาบนั ศาสนา สถานประกอบการ และสถาบันสงั คมอ่ืน *** เทคนิคการจา *** เอก + กระจาย + ฐาน + ครู + ทรัพย์ + ร่วม หมวดท่ี 2 สิทธิและหนา้ ทท่ี างการศกึ ษา มาตรา 10 การจัดการศึกษา ต้องจดั ใหบ้ คุ คลมสี ทิ ธิและโอกาสเสมอกันในการรบั การศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน ไมน่ ้อยกว่าสบิ สองปีท่ีรัฐต้องจัดให้อยา่ งทว่ั ถงึ และมีคณุ ภาพโดยไมเ่ ก็บคา่ ใช้จ่าย การจัดการศึกษาสาหรับบคุ คลซึง่ มคี วามบกพรอ่ งทางร่างกาย จติ ใจ สติปัญญาอารมณ์ สังคม การ สื่อสารและการเรียนรู้ หรือมรี ่างกายพกิ าร หรอื ทพุ พลภาพหรือบคุ คลซึ่งไมส่ ามารถพึง่ ตนเองได้หรอื ไม่มีผู้ดแู ล หรอื ด้อยโอกาส ตอ้ งจัดให้บุคคลดงั กล่าวมีสิทธิและโอกาสไดร้ ับการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐานเป็นพเิ ศษ การศกึ ษาสาหรับคนพิการในวรรคสอง ให้จัดต้งั แต่แรกเกดิ หรือพบความพิการโดยไม่เสียคา่ ใช้จ่าย และให้ บคุ คลดงั กลา่ วมสี ิทธไิ ด้รับสิง่ อานวยความสะดวก ส่ือ บริการ และความช่วยเหลืออน่ื ใดทางการศกึ ษา ตาม หลกั เกณฑ์และวธิ กี ารท่กี าหนดในกฎกระทรวง การจดั การศึกษาสาหรบั บุคคลซ่งึ มีความสามารถพเิ ศษ ตอ้ งจดั ด้วยรปู แบบทเี่ หมาะสมโดยคานงึ ถงึ ความสามารถของบคุ คลนนั้ เตรียมสอบครผู ชู้ ว่ ย By ทีมฮักแพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คูม่ ือเตรยี มสอบบรรจุเขา้ รบั ราชการ ตาแหน่งครผู ้ชู ว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 201 มาตรา 11 บิดา มารดา หรือผ้ปู กครองมีหนา้ ทจ่ี ัดให้บุตรหรอื บุคคลซ่ึงอย่ใู นความดูแลได้รบั การศึกษา ภาคบงั คับ ตามมาตรา 17 และตามกฎหมายทีเ่ ก่ียวข้องตลอดจนใหไ้ ด้รบั การศึกษานอกเหนอื จากการศึกษา ภาคบังคบั ตามความพรอ้ มของครอบครวั มาตรา 12 นอกเหนือจากรฐั เอกชน และองค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถิน่ ให้บุคคล ครอบครวั องคก์ รชุมชน องคก์ รเอกชน องค์กรวชิ าชีพ สถาบนั ศาสนา สถานประกอบการ และสถาบันสงั คมอ่ืน มสี ิทธใิ น การจดั การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน ท้ังนีใ้ หเ้ ปน็ ไปตามท่ีกาหนดในกฎกระทรวง มาตรา 13 บิดา มารดา หรอื ผ้ปู กครองมีสิทธิได้รบั สิทธิประโยชน์ ดังต่อไปน้ี (1) การสนบั สนุนจากรัฐ ให้มีความรคู้ วามสามารถในการอบรมเล้ยี งดู และการใหก้ ารศกึ ษาแกบ่ ตุ ร หรือบุคคลซ่ึงอยู่ในความดแู ล (2) เงินอุดหนุนจากรฐั สาหรบั การจัดการศึกษาขั้นพน้ื ฐานของบตุ รหรือบุคคลซึง่ อย่ใู นความดูแลทคี่ รอบครัวจดั ให้ ท้ังนี้ ตามท่ีกฎหมายกาหนด (3) การลดหยอ่ นหรือยกเว้นภาษีสาหรบั ค่าใชจ้ า่ ยการศึกษาตามท่ีกฎหมายกาหนด มาตรา 14 บุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรชุมชน องคก์ รเอกชน องค์กรวิชาชพี สถาบัน ศาสนา สถาน ประกอบการ และสถาบันสังคมอื่น ซง่ึ สนับสนุนหรือจดั การศึกษาข้ันพนื้ ฐาน มสี ิทธไิ ดร้ ับสิทธิ ประโยชนต์ าม ควรแก่กรณี ดงั ต่อไปน้ี (1) การสนับสนุนจากรัฐให้มีความรู้ความสามารถในการอบรมเลี้ยงดบู ุคคลซ่ึงอยู่ในความ ดแู ลรบั ผดิ ชอบ (2) เงินอุดหนุนจากรัฐสาหรบั การจดั การศกึ ษาข้นั พื้นฐานตามทีก่ ฎหมายกาหนด (3) การลดหยอ่ นหรือยกเวน้ ภาษีสาหรบั คา่ ใชจ้ า่ ยการศึกษาตามท่ีกฎหมายกาหนด ***เทคนิคการจา*** รัฐ + รู้ + เงิน + ษี หมวดที่ 3 ระบบการศกึ ษา มาตรา 15 การจดั การศึกษามีสามรูปแบบ คือ การศึกษาในระบบ การศกึ ษานอกระบบ และการศึกษาตาม อธั ยาศัย (1) การศึกษาในระบบ เปน็ การศึกษาท่ีกาหนดจดุ มุ่งหมาย วิธีการศึกษา หลักสตู รระยะเวลาของ การศกึ ษา การวัดและประเมินผล ซงึ่ เป็นเง่ือนไขของการสาเร็จการศกึ ษาท่ีแน่นอน (2) การศึกษานอกระบบ เป็นการศึกษาท่ีมีความยืดหยุ่นในการกาหนดจุดมุ่งหมายรูปแบบ วิธีการ จัดการศึกษา ระยะเวลาของการศึกษา การวัดและประเมินผล ซึ่งเป็นเง่ือนไขสาคัญของการสาเร็จการศึกษา โดยเนื้อหาและหลักสูตรจะต้องมีความเหมาะสมสอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการของบุคคล แต่ละกลมุ่ เตรยี มสอบครผู ูช้ ่วย By ทมี ฮักแพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มอื เตรยี มสอบบรรจเุ ข้ารับราชการ ตาแหนง่ ครูผู้ช่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 202 (3) การศึกษาตามอัธยาศยั เปน็ การศกึ ษาที่ให้ผู้เรียนได้เรียนรดู้ ้วยตนเองตามความสนใจ ศักยภาพ ความพร้อม และโอกาส โดยศึกษาจากบุคคล ประสบการณ์ สังคม สภาพแวดล้อมส่ือหรือแหล่งความรู้อื่น ๆ สถานศึกษาอาจจัดการศึกษาในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งหรือท้ังสามรูปแบบก็ได้ ให้มีการเทียบโอนผลการ เรียนที่ผู้เรียนสะสมไว้ในระหว่างรูปแบบเดียวกันหรือต่างรูปแบบได้ไม่ว่าจะเป็นผลการเรียนจาก สถานศึกษา เดียวกันหรือไม่ก็ตาม รวมท้ังจากการเรียนรู้นอกระบบ ตามอัธยาศัย การฝึกอาชีพ หรือจากประสบการณ์ การทางาน *** เทคนิคการจา *** ใน For = แน่นอน นอก Non = ยดึ หย่นุ อัธ In = สนใจ มาตรา 16 การศึกษาในระบบมสี องระดับ คือ การศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน และการศกึ ษาระดบั อุดมศกึ ษา การศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ประกอบด้วย การศึกษาซึ่งจัดไม่น้อยกว่าสิบสองปีก่อนระดับอุดมศึกษา การแบง่ ระดับและประเภทของการศึกษาขนั้ พื้นฐาน ให้เปน็ ไปตามทก่ี าหนดในกฎกระทรวง ก่อนระดบั อดุ มศกึ ษา กอ่ นประถม ประถม มัธยม 3-6 ปี 6 ปี ม.ตน้ ม.ปลาย สายสามญั สายอาชพี ม. 4-6 ปวช. การศึกษาระดับอุดมศึกษาแบ่งเป็นสองระดับ คือ ระดับต่ากว่าปริญญา และระดับปริญญา การแบ่งระดับหรือการเทียบระดับการศึกษานอกระบบหรือการศึกษาตามอัธยาศัยให้เป็นไปตามที่กาหนดใน กฎกระทรวง ปวช. ปวส. ต่ากวา่ ปริญญา ป.ตรี ปรญิ ญา ป.โท ป.เอก เตรยี มสอบครผู ้ชู ่วย By ทมี ฮักแพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ อื เตรียมสอบบรรจุเขา้ รับราชการ ตาแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 203 มาตรา 17 ให้มกี ารศึกษาภาคบังคับจานวนเก้าปี โดยให้เด็กซง่ึ มีอายุย่างเข้าปีทเ่ี จ็ด เขา้ เรียนใน สถานศึกษาขั้นพ้ืนฐานจนอายุยา่ งเขา้ ปีท่ีสิบหก เวน้ แต่สอบได้ช้ันปที ่ีเก้าของการศกึ ษาภาคบังคบั หลักเกณฑ์ และวธิ กี ารนับอายุให้เป็นไปตามท่กี าหนดในกฎกระทรวง สูตรนบั ปที เ่ี ข้าเรยี น ปที เี่ กดิ + 7 = ปที ่ีเข้าเรยี น เชน่ เด็กชายตอ้ ม เกิดปี พ.ศ. 2563 จะต้องส่งเข้าเรยี นในปีใด และจบการศกึ ษาภาคบังคับปีใด ปเี กดิ = 2563 + 7 = ปีที่เข้าเรียน 2570 ปีเกิด = 2563 + 16 = ปที ่จี บ 2579 มาตรา 18 การจัดการศกึ ษาปฐมวยั และการศึกษาข้นั พน้ื ฐานใหจ้ ัดในสถานศึกษาดังต่อไปนี้ (1) สถานพัฒนาเดก็ ปฐมวยั ได้แก่ ศูนย์เด็กเลก็ ศนู ย์พัฒนาเดก็ เล็ก ศูนยพ์ ฒั นาเดก็ ก่อนเกณฑข์ อง สถาบนั ศาสนา ศูนย์บริการชว่ ยเหลอื ระยะแรกเร่มิ ของเดก็ พิการและเด็กซ่งึ มีความต้องการพเิ ศษ หรอื สถาน พัฒนาเด็กปฐมวยั ทเ่ี รียกชอ่ื อย่างอ่นื (2) โรงเรียน ไดแ้ ก่ โรงเรียนของรัฐ โรงเรียนเอกชน และโรงเรยี นทส่ี งั กัดสถาบนั พุทธศาสนาหรอื ศาสนาอื่น (3) ศูนย์การเรียน ไดแ้ ก่ สถานทเี่ รยี นท่ีหนว่ ยงานจดั การศกึ ษานอกโรงเรียนบคุ คล ครอบครัวชุมชน องค์กรชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพสถาบันศาสนา สถานประกอบการ โรงพยาบาล สถาบันทางการแพทย์ สถานสงเคราะห์ และสถาบันสังคมอน่ื เปน็ ผู้จัด หมวดท่ี 4 แนวการจัดการศึกษา มาตรา 22 การจดั การศกึ ษาตอ้ งยึดหลักวา่ ผเู้ รยี นทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถอื ว่าผเู้ รียนมีความสาคญั ทีส่ ุด กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมใหผ้ เู้ รียนสามารถพฒั นาตามธรรมชาติและ เต็มตามศักยภาพ มาตรา 23 การจดั การศึกษา ทง้ั การศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และการศึกษาตามอธั ยาศัย ต้องเน้น ความสาคญั ท้ังความรู้ คุณธรรม กระบวนการเรียนรแู้ ละบูรณาการตามความเหมาะสมของแต่ละระดับ การศึกษาในเรื่องต่อไปนี้ (1) ความรู้เร่ืองเกีย่ วกับตนเอง และความสมั พันธข์ องตนเองกับสังคม ได้แก่ ครอบครวั ชมุ ชน ชาติ และสังคมโลก รวมถึงความรู้เก่ียวกับประวัตศิ าสตรค์ วามเป็นมาของสงั คมไทยและระบบการเมืองการปกครอง ในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมขุ (2) ความรแู้ ละทกั ษะด้านวิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี รวมทั้งความรู้ความเข้าใจและประสบการณ์ เรอ่ื งการจดั การ การบารงุ รกั ษาและการใชป้ ระโยชนจ์ ากทรัพยากรธรรมชาติและสิง่ แวดล้อมอยา่ งสมดลุ ยง่ั ยนื เตรียมสอบครผู ้ชู ่วย By ทมี ฮักแพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มือเตรียมสอบบรรจเุ ขา้ รับราชการ ตาแหน่งครผู ูช้ ่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 204 (3) ความรู้เก่ียวกับศาสนา ศลิ ปะ วฒั นธรรม การกฬี า ภูมิปัญญาไทย และการประยุกต์ใชภ้ ูมิปญั ญา (4) ความรู้ และทกั ษะดา้ นคณิตศาสตร์ และด้านภาษา เนน้ การใชภ้ าษาไทยอย่างถูกต้อง (5) ความรู้ และทกั ษะในการประกอบอาชีพและการดารงชีวิตอย่างมคี วามสุข มาตรา 24 การจัดกระบวนการเรียนรู้ ใหส้ ถานศึกษาและหน่วยงานที่เก่ียวข้องดาเนนิ การ ดังต่อไปน้ี (1) จัดเน้อื หาสาระและกจิ กรรมให้สอดคล้องกับความสนใจและความถนัดของผูเ้ รียนโดยคานึงถงึ ความแตกต่างระหว่างบุคคล (2) ฝกึ ทักษะ กระบวนการคดิ การจัดการ การเผชญิ สถานการณ์ และการประยกุ ต์ความรมู้ าใชเ้ พ่ือ ป้องกนั และแก้ไขปญั หา (3) จดั กิจกรรมใหผ้ ้เู รียนได้เรียนรจู้ ากประสบการณจ์ ริง ฝึกการปฏิบัตใิ ห้ทาได้ คดิ เป็นทาเป็น รกั การอ่านและเกิดการใฝ่รู้อยา่ งต่อเนอื่ ง (4) จดั การเรยี นการสอนโดยผสมผสานสาระความร้ดู ้านต่าง ๆ อยา่ งได้สัดสว่ นสมดุลกัน รวมทง้ั ปลกู ฝังคณุ ธรรม คา่ นยิ มทด่ี ีงามและคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ไวใ้ นทุกวิชา (5) สง่ เสริมสนับสนนุ ให้ผสู้ อนสามารถจดั บรรยากาศ สภาพแวดล้อม ส่ือการเรียนและอานวยความ สะดวกเพื่อให้ผู้เรียนเกดิ การเรยี นรแู้ ละมคี วามรอบรู้ รวมท้ังสามารถใช้การวิจัยเปน็ ส่วนหนง่ึ ของกระบวนการ เรยี นรู้ ทงั้ น้ี ผู้สอนและผเู้ รยี นอาจเรียนรไู้ ปพรอ้ มกันจากสื่อการเรยี นการสอนและแหล่งวิทยาการประเภท ต่าง ๆ (6) จดั การเรียนรใู้ ห้เกิดข้ึนไดท้ กุ เวลาทกุ สถานที่ มีการประสานความร่วมมือกบั บดิ ามารดา ผ้ปู กครอง และบุคคลในชมุ ชนทุกฝา่ ย เพื่อร่วมกันพฒั นาผู้เรียนตามศกั ยภาพ มาตรา 27 ให้คณะกรรมการการศึกษาขั้นพน้ื ฐานกาหนดหลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐานเพ่ือความ เป็นไทย ความเป็นพลเมอื งที่ดีของชาติ การดารงชีวิต และการประกอบอาชพี ตลอดจนเพ่ือการศกึ ษาต่อ ให้สถานศึกษาข้ันพ้ืนฐานมีหน้าท่ีทาสาระของหลักสูตรตามวัตถุประสงค์ในวรรคหนึ่งในส่วนที่เกี่ยวกับสภาพ ปัญหาในชุมชนและสังคม ภูมิปัญญาท้องถิ่น คุณลักษณะอันพึงประสงค์เพื่อเป็นสมาชิกท่ีดีของครอบครัว ชมุ ชน สังคม และประเทศชาติ มาตรา 28 หลักสูตรการศึกษาระดับต่าง ๆ รวมทั้งหลักสูตรการศึกษาสาหรับบุคคลตาม มาตรา 10 วรรคสอง วรรคสาม และวรรคสี่ ต้องมีลักษณะหลากหลาย ท้ังน้ี ให้จัดตามความเหมาะสมของแต่ละระดับ โดยมุ่งพัฒนาคุณภาพชีวิตของบุคคลให้เหมาะสมแก่วัยและศักยภาพ สาระของหลักสูตร ทั้งที่เป็นวิชาการ และวิชาชพี ตอ้ งมงุ่ พฒั นาคนให้มคี วามสมดลุ ทัง้ ด้าน ความรู้ ความคดิ ความสามารถ ความดงี าม และความ รับผิดชอบต่อสังคม สาหรับหลักสูตรการศึกษาระดับอุดมศึกษา นอกจากคุณลักษณะในวรรคหนึ่ง และวรรค สอง แล้วยังมีความมุ่งหมายเฉพาะท่ีจะพัฒนาวิชาการ วิชาชีพช้ันสูงและการค้นคว้า วิจัย เพื่อพัฒนาองค์ ความรู้ และพัฒนาสังคม เตรียมสอบครผู ูช้ ว่ ย By ทมี ฮักแพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ ือเตรียมสอบบรรจุเข้ารับราชการ ตาแหนง่ ครผู ู้ช่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 205 มาตรา 30 ให้สถานศึกษาพัฒนากระบวนการเรียนการสอนท่ีมีประสิทธิภาพ รวมท้ังการส่งเสริมให้ ผู้สอนสามารถวิจัยเพอื่ พัฒนาการเรียนรทู้ ีเ่ หมาะสมกบั ผ้เู รียนในแตล่ ะระดับการศกึ ษา หมวดท่ี 5 การบริหารและการจดั การศกึ ษา มาตรา 31 กระทรวงมีอานาจหน้าท่ีเก่ียวกับการส่งเสริมและกากับดูแลการศึกษาทุกระดับ ทุกประเภท และการอาชวี ศึกษา แตไ่ มร่ วมถึงการศึกษาระดับอุดมศึกษาที่อยู่ในอานาจหน้าที่ของกระทรวงอนื่ ท่ีมีกฎหมาย กาหนดไว้เป็นการเฉพาะ กาหนดนโยบาย แผน และมาตรฐานการศึกษา สนับสนุนทรัพยากรเพ่ือการศึกษา ส่งเสริมและประสานงานการศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม และการกีฬา ท้ังนี้ ในส่วนท่ีเก่ียวกับการศึกษา รวมทั้ง การติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการจัดการศึกษา และราชการอ่ืนตามท่ีมีกฎหมายกาหนดให้เป็นอานาจ หนา้ ทขี่ องกระทรวงหรือส่วนราชการทสี่ งั กัดกระทรวง มาตรา 32 การจัดระเบียบบริหารราชการในกระทรวงให้มีองค์กรหลักที่เป็นคณะบุคคลในรูปสภาหรือในรูป คณะกรรมการจานวนสามองค์กร ได้แก่ สภาการศึกษา คณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน และคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เพื่อพิจารณาให้ความเหน็ หรือให้คาแนะนาแก่รัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรี และมอี านาจหน้าท่อี นื่ ตามที่กฎหมายกาหนด กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มีอานาจหน้าท่ีเก่ียวกับการส่งเสริม สนับสนุน และกากับการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ การวิจัยและการสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อให้การพัฒนา ประเทศเท่าทันการเปล่ียนแปลงของโลกและราชการอ่ืนตามท่ีมีกฎหมายกาหนดให้เป็นอานาจหน้าที่ของ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือส่วนราชการท่ีสังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวตั กรรม การจัดระเบียบราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมให้เป็นไปตาม กฎหมายว่าด้วยการนนั้ มาตรา 33 สภาการศึกษา มีหน้าท่ี (1) พจิ ารณาเสนอแผนการศึกษาแหง่ ชาติ วาระ 20 ปี (2) พจิ ารณาเสนอนโยบาย แผน และมาตรฐานการศกึ ษาเพ่อื ดาเนินการให้เปน็ ไปตามแผนตาม (3) พจิ ารณาเสนอนโยบายและแผนในการสนับสนนุ ทรัพยากรเพื่อการศึกษา (4) ดาเนนิ การประเมินผลการจัดการศึกษา (5) ให้ความเห็นหรือคาแนะนาเก่ียวกับกฎหมายและกฎกระทรวงท่ีออกตามความในพระราชบัญญัตินี้ การเสนอนโยบาย แผนการศึกษาแห่งชาติ และมาตรฐานการศกึ ษา ให้เสนอต่อคณะรฐั มนตรี ให้ คณะกรรมการสภาการศึกษา ประกอบดว้ ย รฐั มนตรเี ปน็ ประธาน เตรยี มสอบครูผชู้ ่วย By ทมี ฮกั แพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ ือเตรียมสอบบรรจเุ ขา้ รบั ราชการ ตาแหน่งครผู ชู้ ่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 206 มาตรา 34 คณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน มีหนา้ ท่ีพิจารณาเสนอนโยบาย แผนพัฒนามาตรฐานและ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพืน้ ฐานที่สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสงั คมแหง่ ชาติและแผนการ ศกึ ษาแห่งชาติ มาตรา 35 ให้มคี ณะกรรมการการอดุ มศึกษา มีหน้าทพี่ จิ ารณาเสนอนโยบาย แผนพัฒนาและมาตรฐานการ อดุ มศึกษาทส่ี อดคล้องกบั ความตอ้ งการตามแผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชาติและแผนการศึกษา แห่งชาติ การสนับสนนุ ทรัพยากร การตดิ ตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการจดั การศึกษาระดบั อุดมศึกษา โดยคานึงถึงความเป็นอิสระและความเปน็ เลศิ ทางวิชาการของสถานศึกษาระดับปริญญาตามกฎหมายวา่ ดว้ ย การจัดต้งั สถานศกึ ษาแตล่ ะแหง่ และกฎหมายทเ่ี กย่ี วข้อง องคป์ ระกอบ จานวนกรรมการ คุณสมบตั ิ ลกั ษณะต้องห้าม หลกั เกณฑ์ วธิ ีการสรรหาการเลือกและ การแตง่ ตง้ั ประธานกรรมการ กรรมการ และกรรมการและเลขานุการ วาระการดารงตาแหนง่ และการพ้นจาก ตาแหนง่ ของกรรมการการอดุ มศึกษา ใหเ้ ปน็ ไปตามกฎหมายวา่ ด้วยการนนั้ มาตรา 36 ให้สถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษาระดับปริญญาเป็นนิติบุคคล และอาจจัดเป็นส่วนราชการ หรือเป็นหน่วยงานในกากับของรัฐ ยกเว้นสถานศึกษาเฉพาะทางตามมาตรา 21 ให้สถานศึกษาดังกล่าว ดาเนินกิจการได้โดยอิสระ สามารถพัฒนาระบบบริหาร และการจัดการท่ีเป็นของตนเอง มีความคล่องตัว มีเสรีภาพทางวิชาการ และอยู่ภายใต้การกากับดูแลของสภาสถานศึกษา ตามกฎหมายว่าด้วยการจัดต้ัง สถานศึกษานน้ั ๆ มาตรา 37 การบริหารและการจัดการศึกษาข้นั พ้ืนฐานใหย้ ึดเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษาโดยคานึงถงึ ระดับของ การศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน จานวนสถานศึกษา จานวนประชากร วัฒนธรรมและความเหมาะสมด้านอื่นด้วย เว้นแต่ การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามกฎหมายว่าดว้ ยการอาชีวศึกษา ใหร้ ฐั มนตรโี ดยคาแนะนาของสภาการศึกษา มีอานาจประกาศในราชกิจจานุเบกษากาหนดเขตพื้นท่ี การศกึ ษาเพื่อการบริหารและการจัดการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน แบง่ เปน็ เขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาและเขต พน้ื ท่กี ารศกึ ษามธั ยมศกึ ษา ในกรณีท่ีสถานศึกษาใดจดั การศกึ ษาข้นั พื้นฐานทงั้ ระดับประถมศึกษาและระดับมธั ยมศกึ ษาการ กาหนดให้สถานศึกษาแห่งนั้นอยใู่ นเขตพน้ื ท่ีการศึกษาใด ใหย้ ึดระดบั การศึกษาของสถานศึกษานนั้ เปน็ สาคญั ทงั้ นี้ ตามที่รัฐมนตรปี ระกาศกาหนดโดยคาแนะนาของคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน ในกรณีที่เขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษาไมอ่ าจบรหิ ารและจดั การได้ตามวรรคหนง่ึ กระทรวงอาจจัดให้มี การศึกษาข้ันพน้ื ฐานดังต่อไปน้ีเพอื่ เสริมการบรหิ ารและการจัดการของเขตพ้นื ท่ีการศึกษาก็ได้ 1.สาหรบั บคุ คลทมี่ ีความบกพรอ่ งทางรา่ งกาย จิตใจ สตปิ ญั ญา ฯ 2.ในรปู แบบการศึกษานอกระบบหรอื ตามอธั ยาศยั 3.สาหรบั บุคคลท่มี ีความสามารถพิเศษ 4.การศกึ ษาทางไกลและการใหบ้ รกิ ารในหลายเขตพ้ืนท่ีการศึกษา เตรียมสอบครผู ู้ชว่ ย By ทีมฮักแพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
ค่มู อื เตรยี มสอบบรรจุเข้ารับราชการ ตาแหนง่ ครผู ูช้ ว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 207 มาตรา 38 (คาสั่งหัวหนา้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ 11/2560 เร่อื ง การปฏิรปู การศึกษาใน ภมู ภิ าคของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร) 1. สานกั งานศกึ ษาธกิ ารภาค จานวน 18 ภาค สังกัดสานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ โดยมี ศกึ ษาธิการภาค และรองศึกษาธกิ ารภาคเป็นผ้บู งั คบั บัญชา 2. สานักงานศึกษาธิการจงั หวัด จานวน 77 จังหวดั สังกัดสานักงานปลัดกระทรวงศกึ ษาธิการ โดยมี ศึกษาธิการจังหวดั และรองศึกษาธกิ ารจังหวัดเป็นผบู้ ังคับบญั ชา และกาหนดให้มีคณะกรรมการศึกษาธกิ าร จงั หวดั (กศจ.) จานวน 22 คน และ อกศจ. จานวน 9 คน 1. ผู้ว่าราชการจังหวดั หรือรองผูว้ า่ ราชการจังหวัดทไี่ ดร้ ับมอบหมาย เป็นประธานกรรมการ 2. ศกึ ษาธกิ ารภาคในพนื้ ท่ีท่รี ับผิดชอบ เป็นรองประธานกรรมการ 3. ผแู้ ทนสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน กรรมการ 4. ผ้แู ทนสานกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กรรมการ 5. ผแู้ ทนสานักงานคณะกรรมการการอดุ มศกึ ษา กรรมการ 6. ผูแ้ ทนสานกั งานคณะกรรมการข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา กรรมการ 7. ผูแ้ ทนสานกั งานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน กรรมการ 8. ผแู้ ทนสานักงานสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย กรรมการ 9. ท่องเทีย่ วและกีฬาจงั หวดั กรรมการ 10. ทอ้ งถิน่ จังหวัด กรรมการ 11. ประธานสภาอตุ สาหกรรมจงั หวัด กรรมการ 12. ประธานหอการคา้ จังหวัด กรรมการ 13. ผ้อู านวยการสานักงานพระพุทธศาสนาจังหวดั กรรมการ 14. วัฒนธรรมจงั หวดั กรรมการ 15. ผู้แทนภาคประชาชนในท้องถ่ิน ซึ่งรัฐมนตรวี ่าการกระทรวงศึกษาธกิ ารแต่งตง้ั โดยความ เห็นชอบของคณะกรรมการขับเคลอื่ นการปฏริ ูปการศึกษาของกระทรวงศกึ ษาธกิ ารในภูมภิ าค จานวนสองคน เปน็ กรรมการ 16. ผแู้ ทนขา้ ราชการครใู นทอ้ งถน่ิ ซึ่งรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศกึ ษาธิการแต่งตั้ง โดยความเห็นชอบ ของคณะกรรมการขบั เคล่อื นการปฏิรปู การศึกษาของกระทรวงศึกษาธกิ ารในภูมภิ าค จานวนสองคน เปน็ กรรมการ 17. กรรมการผูท้ รงคณุ วุฒิ ซ่ึงรัฐมนตรวี า่ การกระทรวงศึกษาธกิ ารแตง่ ต้ังจากผู้ทรงคุณวุฒดิ ้าน กฎหมาย ด้านบริหารงานบคุ คล หรือดา้ นอน่ื ๆ ที่เก่ยี วข้อง โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการขบั เคล่ือน การปฏิรปู การศึกษาของกระทรวงศกึ ษาธกิ ารในภมู ภิ าค จานวนไมเ่ กนิ สามคน เปน็ กรรมการ 18. ศกึ ษาธิการจังหวัด เปน็ กรรมการและเลขานุการ สาหรับกรงุ เทพมหานคร ให้คณะกรรมการ ขับเคลอื่ นการปฏิรปู การศกึ ษาของกระทรวงศึกษาธิการในภมู ิภาคทาหนา้ ท่ีเปน็ กศจ. เตรียมสอบครูผู้ชว่ ย By ทีมฮกั แพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มอื เตรยี มสอบบรรจเุ ขา้ รับราชการ ตาแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 208 มาตรา 39 ให้กระทรวงกระจายอานาจการบรหิ ารและการจดั การศกึ ษา 1. ด้านวชิ าการ 2. งบประมาณ *** เทคนคิ การจา *** 3. การบรหิ ารงานบุคคล วิ มาน คล ไป 4. การบริหารทว่ั ไป มาตรา 40 ให้มคี ณะกรรมการสถานศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน สถานศึกษาระดับอุดมศึกษา ระดับต่ากว่าปริญญา และสถานศึกษาอาชีวศึกษาของแต่ละสถานศึกษาเพื่อทาหน้าท่ีกากับและส่งเสริม สนับสนุนกิจการของสถานศึกษา ประกอบด้วย ผู้แทนผู้ปกครอง ผู้แทนครู ผู้แทนองค์กรชุมชน ผู้แทนองค์กร ปกครองส่วนท้องถ่ิน ผู้แทนศิษย์เก่าของสถานศึกษา ผู้แทนพระภิกษุสงฆ์หรือผู้แทนองค์กรศาสนาอื่นในพื้นที่ และผทู้ รงคณุ วุฒิ สถานศกึ ษาระดับอดุ มศึกษาระดบั ต่ากวา่ ปริญญาและสถานศึกษาอาชีวศึกษาอาจมีกรรมการ เพ่ิมข้ึนได้ ท้ังน้ี ตามท่ีกฎหมายกาหนด จานวนกรรมการ คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธีการสรรหา การเลือก ประธานกรรมการและ กรรมการ วาระการดารงตาแหน่ง และการพ้นจากตาแหน่ง ให้เป็นไปตามที่กาหนดใน กฎกระทรวง ให้ผู้บริหารสถานศึกษาเป็นกรรมการและเลขานุการของคณะกรรมการสถานศึกษา ความใน มาตรานี้ไมใ่ ช้บงั คบั แก่สถานศึกษาตามมาตรา 18 (1) สถานพัฒนาเดก็ ปฐมวัย และ (3) ศูนย์การเรียน มาตรา 41 การจัดการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินมีสิทธิในการจัด การศึกษาในระดบั ใดระดับหนึ่งหรือทกุ ระดบั ตามความเหมาะสมและความต้องการภายในท้องถนิ่ มาตรา 42 หลกั เกณฑ์และวธิ ีการประเมินความพร้อม ในการจัดการศึกษาขององค์กรปกครองสว่ นท้องถน่ิ ให้ กระทรวงกาหนดหลักเกณฑ์และวิธีประเมินความพร้อมในการจัดการศึกษาขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน และมีหน้าท่ีในการประสานและส่งเสริมองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินให้สามารถจัดการศึกษา สอดคล้องกับ นโยบายและได้มาตรฐานการศึกษารวมท้ังการเสนอแนะการจัดสรรงบประมาณอุดหนุนการจัดการศึกษาของ องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ มาตรา 43 การบริหารจัดการศึกษาของเอกชน ให้มีความเป็นอิสระโดยมีการกากับ ติดตามการประเมิน คุณภาพและมาตรฐานการศึกษาจากรัฐ และต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์การประเมินคุณภาพและมาตรฐาน การศกึ ษาเชน่ เดียวกบั สถานศกึ ษาของรัฐ มาตรา 44 สถานภาพของสถานศึกษาเอกชน และคณะกรรมการบริหารสถานศึกษา ให้สถานศึกษาเอกชน ตามมาตรา 18(2) เป็นนติ บิ ุคคล และมคี ณะกรรมการบรหิ าร คณะกรรมการบริหาร ประกอบด้วย ผู้บริหารสถานศึกษาเอกชน ผู้รับใบอนุญาต ผู้แทนผู้ปกครอง ผู้แทนองคก์ รชุมชน ผ้แู ทนครู ผู้แทนศษิ ย์เก่า และผทู้ รงคณุ วุฒิ จานวนกรรมการ คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วธิ ีการสรรหา การเลือกประธานกรรมการและกรรมการวาระ การดารงตาแหน่งและการพ้นจากตาแหน่ง ใหเ้ ป็นไปตามทกี่ าหนดในกฎกระทรวง เตรียมสอบครผู ู้ชว่ ย By ทมี ฮักแพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มอื เตรยี มสอบบรรจเุ ขา้ รบั ราชการ ตาแหน่งครูผู้ช่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 209 มาตรา 45 การจัดการศึกษาเอกชน รวมถึงนโยบายของรัฐที่เก่ียวกับการศึกษาเอกชน ให้สถานศึกษาเอกชน จดั การศึกษาไดท้ ุกระดับและทุกประเภทการศึกษาตามท่ีกฎหมายกาหนดรัฐต้องกาหนดนโยบายและมาตรการ ที่ชดั เจนเกี่ยวกบั การมีส่วนร่วมของเอกชนในดา้ นการศกึ ษา การกาหนดนโยบายและแผนการจัดการศึกษาของนรัฐของเขตพ้ืนท่ีการศึกษาหรื อขององค์กร ปกครองส่วนท้องถ่ินให้คานึงผลกระทบต่อการจัดการศึกษาเอกชน โดยให้รัฐมนตรี หรือคณะกรรมการ ศึกษาธิการจังหวัด หรือองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินรับฟังความคิดเห็นของเอกชนและประชาชนประกอบการ พิจารณาดว้ ย ให้สถานศึกษาเอกชนที่จัดการศึกษาระดับปริญญา ดาเนินกิจการได้โดยอิสระสามารถพัฒนาระบบ บริหารและการจัดการท่ีเป็นของตนเอง มีความคล่องตัว มีเสรีภาพทางวิชาการและอยู่ภายใต้การกากับดูแล ของสภาสถานศกึ ษา ตามกฎหมายว่าดว้ ยสถาบนั อดุ มศกึ ษาเอกชน มาตรา 46 การสนับสนุนของรัฐเกี่ยวกับการศึกษาเอกชน รัฐต้องให้การสนับสนุน การลดหย่อนหรือการ ยกเว้นภาษี และสิทธิประโยชน์อย่างอื่นท่ีเป็นประโยชน์ในทางการศึกษาแก่สถานศึกษาเอกชนตามความ เหมาะสม รวมทั้งสง่ เสริมสนบั สนนุ ดา้ นวชิ าการใหส้ ถานศกึ ษาเอกชนมมี าตรฐานและสามารถพึง่ ตนเองได้ หมวดท่ี 6 มาตรฐานและการประกันคณุ ภาพการศกึ ษา มาตรา 47 ให้มีระบบการประกันคุณภาพการศึกษาเพ่ือพัฒนาคณุ ภาพและมาตรฐานการศกึ ษาของการศกึ ษา ขนั้ พน้ื ฐาน และการศึกษาระดบั อุดมศึกษา ประกอบด้วย ระบบการประกนั คุณภาพภายในและระบบการ ประกนั คุณภาพภายนอก ระบบ หลักเกณฑ์ และวธิ กี ารประกันคุณภาพการศึกษาของการศึกษาขน้ั พื้นฐาน และการอาชวี ศึกษา ให้เปน็ ไปตามทีก่ าหนดในกฎกระทรวง สาหรับระบบการประกันคุณภาพการศึกษาระดบั อุดมศึกษาท่ีอยู่ใน อานาจหน้าท่ีของกระทรวงอ่ืนที่มีกฎหมายกาหนดไว้เปน็ การเฉพาะ ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าดว้ ยการนั้น มาตรา 48 ให้หน่วยงานต้นสังกดั และสถานศึกษาจดั ให้มีระบบการประกนั คณุ ภาพภายในสถานศกึ ษา โดยมกี ารจดั ทารายงานประจาปีเสนอต่อหน่วยงานต้นสังกัด เพ่ือรองรบั การประกนั คุณภาพภายนอก มาตรา 49 ให้มีสานักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา มีฐานะเป็น องค์การมหาชนทา หน้าท่ีพัฒนาเกณฑ์ วิธีการประเมินคุณภาพภายนอก และทาการประเมินผลการจัด การศึกษา ที่มิใช่การ จัดการอุดมศึกษาซ่ึงอยู่ในอานาจหน้าที่ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือ กระทรวงอ่ืน เพ่ือให้มีการตรวจสอบคุณภาพของสถานศึกษา โดยคานึงถึง ความมุ่งหมาย หลักการ และแนว การจัดการศึกษาในแต่ละระดับตามท่ีกาหนดไว้ในพระราชบัญญัตินี้ ให้มีการประเมินคุณภาพภายนอกของ สถานศึกษาทุกแห่งอยา่ งนอ้ ยหนึ่งคร้ังในทุกห้าปี นับตัง้ แต่ การประเมินครั้งสดุ ทา้ ย และเสนอผลการประเมิน ตอ่ หน่วยงานที่เกย่ี วข้องและสาธารณชน เตรยี มสอบครผู ชู้ ่วย By ทีมฮักแพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ ือเตรียมสอบบรรจุเข้ารับราชการ ตาแหน่งครผู ูช้ ว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 210 มาตรา 50 หน้าที่ของสถานศึกษาในการให้ความร่วมมือกับสานักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพ การศึกษา ให้สถานศึกษาให้ความร่วมมือในการจัดเตรียมเอกสารหลักฐานต่าง ๆ ท่ีมีข้อมูลเกี่ยวข้องกับ สถานศึกษา ตลอดจนให้บุคลากร คณะกรรมการสถานศึกษา รวมท้ังผู้ปกครองและผู้มีส่วนเก่ียวข้องกับ สถานศึกษาให้ข้อมูลเพ่ิมเติมในส่วนที่พิจารณาเห็นว่าเกี่ยวข้องกับการปฏิบัติภารกิจของสถานศึกษา ตามคารอ้ งขอของสานักงานรบั รองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษาหรือบุคคลหรือหน่วยงานภายนอก ทสี่ านกั งานดังกล่าวรับรองทท่ี าการประเมนิ คุณภาพภายนอกของสถานศึกษานนั้ มาตรา 51 ในกรณีท่ีผลการประเมินภายนอกของสถานศึกษาใดไม่ได้ตามมาตรฐานท่ีกาหนดให้สานักงาน รับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา จัดทาข้อเสนอแนะการปรับปรุงแก้ไขต่อหน่วยงานต้นสังกัด เพ่ือให้สถานศึกษาปรับปรุงแก้ไขภายในระยะเวลาท่ีกาหนด หากมิได้ดาเนินการดังกล่าวให้สานักงานรับรอง มาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษารายงานต่อคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐานหรือคณะกรรมการ การอาชวี ศกึ ษา เพ่ือดาเนินการใหม้ ีการปรับปรงุ แก้ไข หมวดที่ 7 ครู คณาจารย์ และบคุ ลากรทางการศกึ ษา มาตรา 51/1 คาวา่ “คณาจารย์” ในหมวดนี้ ใหห้ มายความว่า บุคลากรซึ่งทาหน้าท่หี ลักทางด้านการสอน และการวิจยั ในสถานศึกษาระดบั อุดมศึกษาระดับปรญิ ญาของรัฐและเอกชน แต่ไมร่ วมถึงบุคลากรซ่ึงสังกดั กระทรวงการอดุ มศึกษา วิทยาศาสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรม ในวาระเร่มิ แรก ให้คณะกรรมการการอดุ มศึกษาตามพระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ซง่ึ ปฏบิ ตั ิหนา้ ทีอ่ ยู่ในวันกอ่ นวันที่พระราชบญั ญัตินีใ้ ช้บงั คับ ปฏิบัติหน้าทค่ี ณะกรรมการการอดุ มศึกษาตาม มาตรา 35/1 แห่งพระราชบญั ญัติการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 ซงึ่ แกไ้ ขเพ่ิมเตมิ โดยพระราชบัญญัตินี้ไป พลางก่อนจนกว่าจะมคี ณะกรรมการการอุดมศกึ ษาตามกฎหมายวา่ ด้วยการน้ัน มาตรา 52 ใหก้ ระทรวงส่งเสรมิ ใหม้ ีระบบ กระบวนการผลิต การพัฒนา ครู คณาจารย์ และ บคุ ลากรทางการ ศึกษา ให้มีคุณภาพ และ มาตรฐานที่เหมาะสม กับการเป็น วิชาชีพชั้นสูง โดยการกากับ และ ประสานให้ สถาบัน ท่ีทาหน้าที่ ผลิต และ พัฒนาครู คณาจารย์ รวมท้ัง บุคลากรทางการศึกษาให้มี ความพร้อม และ มีความเข้มแข็ง ในการเตรียม บคุ ลากรใหม่ และ การพฒั นา บุคลากรประจาการ อย่างต่อเน่ือง รฐั พงึ จดั สรร งบประมาณ และ จัดตัง้ กองทุนพัฒนาครู คณาจารย์ และ บุคลากรทางการศึกษา อย่างเพียงพอ มาตรา 53 ให้มีองค์กรวิชาชีพครู ผู้บริหารสถานศึกษา และ ผู้บริหารการศึกษา มีฐานะเป็นองค์กรอิสระ ภายใต้การบริหารของสภาวิชาชีพ ในกากับของกระทรวง มีอานาจหน้าที่ กาหนดมาตรฐานวิชาชีพ ออก และเพิกถอน ใบอนุญาตประกอบวชิ าชพี กากับดแู ลการปฏบิ ัติ ตามมาตรฐาน และ จรรยาบรรณ ของ วชิ าชีพ รวมทงั้ การพัฒนาวชิ าชีพครู ผูบ้ ริหารสถานศกึ ษา และ ผบู้ ริหารการศกึ ษา เตรียมสอบครูผู้ชว่ ย By ทมี ฮักแพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
ค่มู ือเตรยี มสอบบรรจเุ ขา้ รับราชการ ตาแหนง่ ครผู ูช้ ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 211 ให้ ครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา และ บุคลากรทางการศึกษาอื่น ทั้งของ รัฐ และ เอกชน ตอ้ งมี ใบอนญุ าตประกอบวิชาชพี ตามทก่ี ฎหมายกาหนด การจัดให้มีองค์กรวิชาชีพครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษา และ บุคลากรทางการ ศกึ ษาอนื่ คณุ สมบตั ิ หลักเกณฑ์ และ วธิ ีการในการ ออก และ เพิกถอน ใบอนญุ าตประกอบวชิ าชีพ ให้เป็นไป ตามทก่ี ฎหมายกาหนด ความในวรรคสอง ไม่ใช้บังคับแก่ บุคลากรทางการศึกษา ที่จัดการศึกษาตามอัธยาศัย สถานศกึ ษา ตามมาตรา 18 (3) ผ้บู ริหารการศึกษาระดับเหนือเขตพนื้ ที่การศกึ ษา และ วิทยากรพิเศษทาง การศกึ ษา ความในมาตราน้ี ไม่ใช้บังคับ แก่ คณาจารย์ ผู้บริหารสถานศึกษา และ ผู้บริหารการศึกษาใน ระดับอดุ มศึกษาระดับปรญิ ญา (ทาให้เกิด พรบ.สภาครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา 46) มาตรา 54 ให้มีองค์กรกลางบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูโดยให้ ครูและบุคลากรทางการศึกษาท้ังของ หน่วยงานทางการศึกษาในระดับสถานศึกษาของรัฐ และระดับเขตพื้นท่ีการศึกษา เป็นข้าราชการในสังกัด องค์กรกลางบริหารงานบคุ คลของขา้ ราชการครู (ทาให้เกดิ พรบ.ระเบยี บข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา 47) มาตรา 55 ให้มีกฎหมายว่าด้วยเงินเดือน ค่าตอบแทน สวัสดิการ และ สิทธิประโยชน์เก้ือกูลอื่นสาหรับ ข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา เพ่ือให้มีรายได้ท่ีเพียงพอและเหมาะสมกับฐานะทางสังคมและ วชิ าชีพ ให้มีกองทุนส่งเสริมครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาเพ่ือจัดสรรเป็นเงินอุดหนุนงาน ริเริ่มสร้างสรรค์ ผลงานดีเด่น และเป็นรางวัลเชิดชูเกียรติ ครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา ทั้งน้ีให้ เป็นไปตามทกี่ าหนดในกฎกระทรวง มาตรา 56 การผลติ และพัฒนา คณาจารย์ และบคุ ลากรทางการศึกษา การพัฒนามาตรฐาน และจรรยาบรรณ ของวชิ าชพี และการบรหิ ารงานบุคคลของขา้ ราชการ หรอื พนกั งานของรฐั ในสถานศึกษา ระดับปรญิ ญาท่ีเป็น นติ ิบุคคลให้เป็นไปตามกฎหมายวา่ ด้วยการจัดตงั้ สถานศึกษาแต่ละแห่งและกฎหมายท่ีเกยี่ วข้อง มาตรา 57 ให้หน่วยงานทางการศึกษาระดมทรัพยากรบุคคลในชุมชนใหม้ ีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาโดยนา ประสบการณ์ความรอบรู้ความชานาญและภูมิปัญญาท้องถ่ินของบุคคลดังกล่าวมาใช้เพ่ือให้เกิดประโยชน์ทาง การศกึ ษาและยกย่องเชดิ ชผู ูท้ ่สี ง่ เสริมและสนับสนนุ การจัดการศึกษา เตรยี มสอบครูผ้ชู ่วย By ทีมฮักแพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มอื เตรียมสอบบรรจเุ ข้ารบั ราชการ ตาแหนง่ ครูผชู้ ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 212 หมวดท่ี 8 ทรพั ยากรและการลงทุนเพื่อการศึกษา มาตรา 58 ให้มีการระดมทรัพยากรและการลงทุนด้านงบประมาณ การเงิน และทรัพย์สินท้ังจากรัฐ องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น บุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรชุมชนเอกชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบัน ศาสนา สถานประกอบการ สถาบันสังคมอ่นื และ ต่างประเทศ มาใช้ จดั การศึกษา ดังน้ี (1) ให้รัฐ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดมทรัพยากรเพื่อการศึกษาโดยอาจจัดเก็บภาษี เพ่ือการศึกษาไดต้ ามความเหมาะสมทัง้ น้ี ใหเ้ ป็นไปตามท่กี ฎหมายกาหนด (2) ให้บุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรชุมชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เอกชน องค์กร เอกชน องคก์ รวชิ าชีพ สถาบนั ศาสนา สถานประกอบการ และ สถาบนั สงั คมอื่น ระดมทรพั ยากรเพอ่ื การศึกษา โดยเป็นผู้จัดและมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา บริจาค ทรัพย์สินและทรัพยากรอื่นให้แก่ สถานศึกษา และ มสี ว่ นร่วมรบั ภาระคา่ ใชจ้ ่ายทางการศึกษาตามความเหมาะสมและความจาเป็น ท้ังน้ี ให้รัฐและองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ส่งเสริมและให้แรงจูงใจในการระดมทรัพยากร ดังกล่าวโดยการสนับสนุนการอุดหนุน และใช้มาตรการลดหย่อนหรือยกเว้นภาษีตามความเหมาะสมและ ความจาเป็นทงั้ นีใ้ หเ้ ปน็ ไปตามทก่ี ฎหมายกาหนด มาตรา 59 ให้สถานศึกษาของรัฐท่ีเป็นนิติบุคคลมีอานาจในการปกครองดูแลบารุงรักษาใช้และจัดหา ผลประโยชน์จากทรัพย์สินของสถานศึกษาทั้งท่ีเป็นที่ราชพัสดุตามกฎหมายว่าด้วยที่ราชพัสดุและที่เป็น ทรพั ย์สนิ อน่ื รวมท้งั จัดหารายได้จากบริการของสถานศกึ ษาและเกบ็ ค่าธรรมเนยี มการศกึ ษาที่ไม่ขัดหรือแย้งกับ นโยบายวตั ถุประสงค์ และภารกิจหลกั ของสถานศึกษา บรรดาอสังหาริมทรัพย์ ที่สถานศึกษาของรัฐท่ีเป็นนิติบุคคลได้มาโดยมีผู้อุทิศให้หรือโดย การซ้ือ หรือแลกเปลี่ยนจากรายได้ของสถานศึกษาไม่ถือเป็นท่ีราชพัสดุและให้เป็นกรรมสิทธ์ิของ สถานศกึ ษา บรรดารายได้ และผลประโยชน์ของสถานศึกษาของรัฐท่ีเป็นนิติบุคคลรวมทั้งผลประโยชน์เกิด จากท่ีราชพัสดุเบ้ียปรับที่เกิดจากการผิดสัญญาลาศึกษาและเบ้ียปรับที่เกิดจากการผิดสัญญาการซ้ือทรัพย์สิน หรือจ้างทาของท่ีดาเนินการโดยใช้เงินงบประมาณไม่เป็นรายได้ท่ีต้องนาส่งกระทรวงการคลังตามกฎหมายว่า ด้วยเงินคงคลังและกฎหมายวา่ ดว้ ยวธิ ีการงบประมาณ บรรดารายได้ และผลประโยชน์ของสถานศึกษาของรัฐท่ีไม่เป็นนิติบุคคลรวมทั้งผลประโยชน์ท่ี เกิดจากท่ีราชพัสดุเบี้ยปรับที่เกิดจากการผิดสัญญาลาศึกษาและเบี้ยปรับท่ีเกิดจากการผิดสัญญาการซื้อ ทรัพย์สินหรือจ้างทาของท่ีดาเนินการโดยใช้งบประมาณให้สถานศึกษาสามารถจัดสรรเป็นค่าใช้จ่ายในการจัด การศึกษาของสถานศึกษานัน้ ๆ ได้ตามระเบยี บทกี่ ระทรวงการคลงั กาหนด มาตรา 60 ให้รฐั จดั สรรงบประมาณแผน่ ดินให้กับการศึกษาในฐานะทมี่ ีความสาคัญสงู สุดต่อการพฒั นาท่ียั่งยืน ของประเทศโดยจดั สรรเป็นเงินงบประมาณเพอ่ื การศึกษา ดังนี้ เตรยี มสอบครผู ู้ช่วย By ทมี ฮักแพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มอื เตรียมสอบบรรจเุ ขา้ รับราชการ ตาแหน่งครผู ้ชู ่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 213 (1) จดั สรรเงินอดุ หนุนท่ัวไปเป็นคา่ ใช้จ่ายรายบคุ คลทเ่ี หมาะสมแกผ่ ูเ้ รียนการศึกษาภาคบังคับ และการศกึ ษาข้นั พื้นฐานทจี่ ดั โดยรฐั และเอกชนให้เท่าเทยี มกนั (2) จัดสรรทนุ การศึกษาในรูปของกองทุนกยู้ ืม ใหแ้ ก่ ผ้เู รียนที่มาจากครอบครัวท่ีมีรายได้น้อย ตามความเหมาะสมและความจาเปน็ (3) จัดสรรงบประมาณ และทรัพยากรทางการศึกษาอื่นเป็นพิเศษให้เหมาะสม และ สอดคล้องกบั ความจาเปน็ ในการจัดการศึกษาสาหรับผู้เรยี นที่มคี วามต้องการเป็นพิเศษ แต่ละกลุ่มตาม มาตรา 10 วรรคสอง วรรคสาม และวรรคสี่ โดยคานึงถึงความเสมอภาคในโอกาสทางการศึกษาและความเป็นธรรม ทง้ั น้ใี ห้เป็นไปตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการที่กาหนดในกฎกระทรวง (4) จัดสรรงบประมาณเป็นค่าใช้จ่ายดาเนินการและงบลงทุนให้สถานศึกษาของรัฐตาม นโยบายแผนพัฒนาการศึกษาแห่งชาติ และภารกิจของสถานศึกษา โดยให้มีอิสระในการบริหารงบประมาณ และทรพั ยากรทางการศกึ ษา ทงั้ นใี้ ห้คานงึ ถงึ คุณภาพและความเสมอภาคในโอกาสทางการศึกษา (5) จัดสรรงบประมาณในลักษณะเงินอุดหนุนทั่วไปให้สถานศึกษาระดับอุดมศึกษาของรัฐ ทเี่ ป็นนติ บิ คุ คลและเปน็ สถานศึกษาในกากับของรฐั หรือองคก์ ารมหาชน (6) จดั สรรกองทนุ กูย้ ืมดอกเบ้ยี ต่าให้สถานศกึ ษาเอกชนเพื่อใหพ้ ่ึงตนเองได้ (7) จัดต้งั กองทนุ เพอ่ื พัฒนาการศึกษาของรัฐและเอกชน มาตรา 61 ให้รัฐจัดสรรเงินอุดหนุนการศึกษาที่จัดโดยบุคคล ครอบครัว องค์กรชุมชน องค์กรเอกชน องค์กร วชิ าชีพ สถาบนั ศาสนา สถานประกอบการ และ สถาบันสังคมอื่น ตามความเหมาะสม และ ความจาเปน็ มาตรา 62 ให้มีระบบการตรวจสอบติดตามและประเมินประสิทธิภาพและประสทิ ธิผลการใชจ้ ่ายงบประมาณ การจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับหลักการศึกษาแนวการจัดการศึกษา และคุณภาพมาตรฐานการศึกษาโดย หน่วยงานภายในและหน่วยงานของรัฐท่ีมีหน้าท่ีตรวจสอบภายนอกหลักเกณฑ์และวิธีการในการตรวจสอบ ตดิ ตามและการประเมนิ ให้เปน็ ไปตามท่กี าหนดในกฎกระทรวง หมวดที่ 9 เทคโนโลยเี พ่ือการศกึ ษา มาตรา 63 รัฐต้องจัดสรรคลื่นความถ่ีส่ือตัวนา และโครงสร้างพื้นฐานอื่นที่จาเป็นต่อการส่งวิทยุกระจายเสยี ง วิทยโุ ทรทศั น์ วทิ ยโุ ทรคมนาคม และการสอื่ สารในรปู อ่ืนเพ่ือใชป้ ระโยชนส์ าหรับการศึกษาในระบบ การศึกษา นอกระบบ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั การทะนุบารุงศาสนา ศิลปะและวฒั นธรรม ตามความจาเปน็ มาตรา 64 รัฐต้องส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการผลิต และพัฒนาแบบเรียน ตาราหนังสือทางวิชาการ ส่ือ สิ่งพิมพ์อื่น วัสดุอุปกรณ์ และเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาอื่น โดยเร่งรัดพัฒนาขีดความสามารถในการผลิต จัดให้ มีเงินสนับสนุนการผลิตและมีการให้แรงจงู ใจแก่ผ้ผู ลติ และพัฒนาเทคโนโลยเี พื่อการศึกษา ท้ังนี้ โดยเปิดให้มี การแขง่ ขนั โดยเสรอี ยา่ งเปน็ ธรรม เตรียมสอบครูผชู้ ว่ ย By ทมี ฮักแพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มอื เตรียมสอบบรรจุเข้ารบั ราชการ ตาแหน่งครผู ูช้ ่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 214 มาตรา 65 ให้มีการพัฒนาบุคลากรทั้งด้านผู้ผลิตและผู้ใช้เทคโนโลยีเพ่ือการศึกษาเพ่ือให้มีความรู้ ความสามารถ และทักษะในการผลิตรวมท้งั การใช้เทคโนโลยีท่ีเหมาะสมมีคุณภาพและประสิทธิภาพ มาตรา 66 ผู้เรียนมีสิทธิได้รับการพัฒนาขีดความสามารถในการใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาในโอกาสแรกที่ ทาได้เพ่ือให้มีความรู้ และทักษะเพียงพอที่จะใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาในการแสวงหาความรู้ด้วยตนเองได้ อย่างตอ่ เนอ่ื งตลอดชวี ติ มาตรา 67 รัฐต้องส่งเสริมให้มีการวจิ ัยและพัฒนาการผลิตและการพัฒนาเทคโนโลยีเพ่ือการศึกษารวมท้ังการ ติดตามตรวจสอบและประเมินผลการใช้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาเพ่ือให้เกิดการใช้ท่ีคุ้มค่าและเหมาะสมกับ กระบวนการเรยี นรูข้ องคนไทย มาตรา 68 ให้มีการระดมทุนเพื่อจัดตั้งกองทุนพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อการศึกษาจากเงินอุดหนุนของรัฐ ค่าสัมปทานและผลกาไรท่ีได้จากการดาเนินกิจการด้านส่ือสารมวลชนเทคโนโลยีสารสนเทศและโทรคมนาคม จากทุกฝ่ายท่ีเกีย่ วข้องท้ังภาครัฐภาคเอกชนและองค์กรประชาชน รวมทัง้ ใหม้ ีการลดอัตราค่าบริการเป็นพิเศษ ในการใช้เทคโนโลยีดังกลา่ วเพือ่ การพฒั นาคนและสงั คม หลักเกณฑ์และวิธีการจัดสรรเงินกองทุนเพ่ือการผลิตการวิจัยและการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อ การศกึ ษาใหเ้ ป็นไปตามทีก่ าหนดในกฎกระทรวง มาตรา 69 รัฐต้องจัดให้มีหน่วยงานกลางทาหน้าที่พิจารณาเสนอนโยบายแผนส่งเสริมและประสานการวจิ ยั การพัฒนาและการใช้รวมท้ังการประเมินคุณภาพและประสิทธิภาพของการผลิตและการใช้เทคโนโลยีเพ่ือ การศึกษา บทเฉพาะกาล มาตรา 70 บรรดาบทกฎหมาย กฎ ข้อบังคับ ระเบียบ ประกาศ และคาส่ังเกี่ยวกับการศึกษา ศาสนา ศิลปะ และวัฒนธรรม ท่ีใช้บังคับอยู่ในวันท่ีพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ยังคงใช้บังคับได้ต่อไปจนกว่าจะได้มีการ ดาเนินการปรับปรุงแก้ไขตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ ซึ่งต้องไม่เกินห้าปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ ใชบ้ งั คับ มาตรา 71 ให้กระทรวง ทบวง กรม หน่วยงานการศึกษา และสถานศึกษาที่มีอยู่ในวันท่ีพระราชบัญญัติน้ีใช้ บังคับยังคงมีฐานะและอานาจหน้าท่ีเช่นเดิมจนกว่าจะได้มีการจัดระบบการบริหารและการจัดการศึกษาตาม บทบัญญัติแห่งพระราชบญั ญัตนิ ี้ซ่งึ ต้องไมเ่ กนิ สามปีนบั แตว่ นั ที่พระราชบญั ญตั นิ ใี้ ชบ้ ังคบั มาตรา 72 ในวาระเร่ิมแรกมิใหน้ าบทบัญญัตมิ าตรา 10 วรรคหนึ่ง และมาตรา 17 มาใช้บังคับจนกวา่ จะมีการ ดาเนินการให้เป็นไปตามบทบัญญัติดังกลา่ วซึ่งต้องไมเ่ กนิ หา้ ปี นับแต่วนั ท่รี ัฐธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทยใช้ บังคบั เตรียมสอบครูผูช้ ว่ ย By ทมี ฮักแพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มอื เตรยี มสอบบรรจเุ ขา้ รบั ราชการ ตาแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 215 ภายในหนึ่งปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตนิ ี้ใช้บงั คับให้ดาเนินการออกกฎกระทรวงตามมาตรา 16 วรรคสอง และ วรรคสี่ ให้แลว้ เสรจ็ ภายในหกปีนับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับให้กระทรวงจัดให้มีการประเมินผลภายนอก คร้ังแรกของสถานศกึ ษาทุกแห่ง เตรียมสอบครูผชู้ ่วย By ทมี ฮักแพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มอื เตรียมสอบบรรจุเข้ารับราชการ ตาแหนง่ ครผู ้ชู ว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 216 แนวขอ้ สอบพระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 และท่แี ก้ไขเพิ่มเติม 1. ใครเปน็ ผรู้ บั สนองพระบรมราชโองการ พระราชบญั ญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ก. นายกรัฐมนตรี ข. รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ค. ปลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ง. เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาข้นั พื้นฐาน 2. พระราชบญั ญัตกิ ารศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มกี ี่หมวด กม่ี าตรา ก. 8 หมวด 78 มาตรา ข. 9 หมวด 78 มาตรา ค. 8 หมวด 81 มาตรา ง. 9 หมวด 81 มาตรา 3. แนวการจัดการศกึ ษา ถูกระบุไวใ้ นหมวดใด ก. หมวดที่ 3 ข. หมวดท่ี 4 ค. หมวดท่ี 5 ง. หมวดท่ี 6 4. ครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศกึ ษา ถกู ระบุไว้ในหมวดใด ก. หมวดที่ 5 ข. หมวดที่ 6 ค. หมวดที่ 7 ง. หมวดที่ 8 5. \"การศกึ ษา\" หมายความวา่ ก. การเรียนรูเ้ พ่ือความเจริญงอกงามของบุคคลและสงั คม ข. กระบวนการเรียนรเู้ พอื่ อนาคตของบคุ คลและสังคม ค. กระบวนการเรียนรเู้ พอ่ื การดารงชีวติ ของบคุ คลและสงั คม ง. กระบวนการเรยี นร้เู พ่อื ความเจรญิ งอกงามของบคุ คลและสงั คม 6. “การศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน” หมายความวา่ ก. ปฐมวยั ประถม มธั ยม ข. ประถม มธั ยม ปริญญา ค. ประถม มัธยมต้น มธั ยมปลาย ง. การศึกษาก่อนระดบั อุดมศึกษา เตรยี มสอบครูผชู้ ว่ ย By ทีมฮักแพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มอื เตรยี มสอบบรรจุเขา้ รับราชการ ตาแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 217 7. “การศกึ ษาตลอดชวี ติ ” หมายความว่า ก. ประถม มธั ยมตน้ มัธยมปลาย ข. Formal Education Non-formal Education Edformal education ค. การศกึ ษาในระบบ การศกึ ษานอกระบบ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั ง. การศกึ ษาภาคบงั คบั และการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน 8. ขอ้ ใดไมเ่ ปน็ “สถานศึกษา” ก. วทิ ยาลัย ข. สถาบนั ค. ศูนยก์ ารเรยี น ง. ศูนย์เด็กเล็ก 9. ข้อใดไม่เป็นสถานศกึ ษา ก. สถาบัน ข. มหาวิทยาลยั ค. ศนู ย์การเรยี น ง. ศูนย์การเรยี นรู้กอ่ นระดับปฐมวัย 10. ข้อใดเปน็ สถานศึกษา ก. สถาบนั ข. มหาวิทยาลยั ราชภฏั สกลนคร ค. วิทยาลยั เทคนคิ ง. โรงเรยี นคุณธรรม 11. \"มาตรฐานการศกึ ษา\" หมายความวา่ ก. ข้อกาหนดเก่ียวกบั คุณลักษณะ คุณภาพที่พึงประสงค์และตวั ช้วี ดั ข. ขอ้ กาหนดเกี่ยวกับคณุ ลักษณะ คุณภาพท่ีพงึ ประสงค์และสมรรถนะ ค. ข้อกาหนดเกีย่ วกบั คณุ ลักษณะ คุณภาพทีพ่ ึงประสงค์และมาตรฐาน ง. ข้อกาหนดเกย่ี วกบั คณุ ลักษณะ คณุ ภาพทพ่ี ึงประสงค์และการเรยี นรู้ 12. ใครเป็นผูจ้ ัดทา \"การประกนั คณุ ภาพภายใน\" ก. ครแู ละผ้อู านวยการโรงเรยี น ข. คณะกรรมการสถานศกึ ษา ค. บุคลากรของสถานศึกษา ง. สานกั งานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา เตรยี มสอบครผู ู้ช่วย By ทมี ฮักแพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ อื เตรียมสอบบรรจเุ ข้ารบั ราชการ ตาแหนง่ ครูผชู้ ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 218 13. ใครเปน็ ผู้จดั ทา \"การประกนั คณุ ภาพภายนอก\" ก. ครูและผู้อานวยการโรงเรยี น ข. คณะกรรมการสถานศึกษา ค. บคุ ลากรของสถานศกึ ษา ง. สานักงานรับรองมาตรฐานและประเมนิ คณุ ภาพการศึกษา 14. “ผู้สอน” หมายความวา่ ก. บคุ ลากรวิชาชีพซง่ึ ทาหน้าทห่ี ลักทางดา้ นการเรียนการสอน ข. บุคลากรซ่ึงทาหน้าท่หี ลักทางดา้ นการสอนและการวจิ ัย ค. บคุ ลากรวิชาชีพที่รับผิดชอบการบริหารสถานศึกษา ง. ครแู ละคณาจารย์ในสถานศึกษาระดบั ต่าง ๆ 15. ขอ้ ใดเป็นผู้สอน ก. คณาจารย์ ข. ครู คศ.1 ค. ครผู ชู้ ่วย ง. อาจารย์ 16. \"คร\"ู หมายความว่า ก. บุคลากรวชิ าชพี ซ่งึ ทาหนา้ ทหี่ ลกั ทางด้านการเรียนการสอน ข. บุคลากรซึ่งทาหนา้ ทห่ี ลักทางด้านการสอนและการวจิ ัย ค. บคุ ลากรวชิ าชีพทีร่ บั ผิดชอบการบริหารสถานศึกษา ง. ครูและคณาจารย์ในสถานศึกษาระดับต่าง ๆ 17. \"คณาจารย์\" หมายความวา่ ก. บุคลากรวิชาชีพซ่งึ ทาหน้าทห่ี ลักทางดา้ นการเรียนการสอน ข. บคุ ลากรซึ่งทาหนา้ ทห่ี ลักทางด้านการสอนและการวจิ ยั ค. บคุ ลากรวชิ าชพี ที่รับผิดชอบการบริหารสถานศึกษา ง. ครูและคณาจารยใ์ นสถานศกึ ษาระดับตา่ ง ๆ 18. ข้อใดเป็นบคุ ลากรวชิ าชีพท่ีรบั ผดิ ชอบการบรหิ ารสถานศกึ ษาแต่ละแหง่ ทั้งของรัฐและเอกชน ก. ผอู้ านวยการโรงเรียน ข. ผ้อู านวยการสถานศึกษา ค. ผูบ้ รหิ ารสถานศกึ ษา ง. ผูร้ กั ษาการในตาแหนง่ เตรยี มสอบครูผ้ชู ่วย By ทมี ฮักแพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มอื เตรยี มสอบบรรจเุ ข้ารับราชการ ตาแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 219 19. ข้อใดเป็นบุคลากรวิชาชีพท่ีรับผิดชอบการบริหารการศึกษานอกสถานศึกษาต้ังแต่ระดับเขตพื้นท่ี การศึกษาขนึ้ ไป ก. รองผู้อานวยการสานักงานเชตพื้นท่ีการศึกษา ข. ผอู้ านวยการสานกั งานเชตพ้นื ที่การศกึ ษา ค. ผ้อู านวยการกล่มุ งานบรหิ ารงานบคุ คล ง. ผู้บริหารการศกึ ษา 20. ข้อใด เปน็ \"บุคลากรทางการศึกษา\" ก. ศึกษานิเทศก์ ข. ผูอ้ านวยการสานกั งานเชตพน้ื ท่ีการศกึ ษา ค. ผู้อานวยการโรงเรยี น ง. ผบู้ ริหารการศึกษา 21. ความมงุ่ หมายของพระราชบญั ญตั ิการศกึ ษาแห่งชาติ หมายถงึ ขอ้ ใด ก. การจัดการศึกษาต้องเป็นไปเพื่อพฒั นาคนไทยใหเ้ ปน็ มนษุ ย์ทส่ี มบูรณ์ ข. เปน็ การศึกษาตลอดชีวิตสาหรบั ประชาชน ค. ให้สังคมมีสว่ นร่วมในการจัดการศกึ ษา ง. การพัฒนาสาระและกระบวนการเรยี นรู้ใหเ้ ปน็ ไปอยา่ งต่อเน่อื ง 22. ข้อใดไมใ่ ชห่ ลกั การจัดการศึกษา ก. เป็นการศึกษาตลอดชวี ติ สาหรับประชาชน ข. ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการจดั การศกึ ษา ค. ให้สังคมมสี ว่ นรว่ มในการจัดการศกึ ษา ง. การพัฒนาสาระและกระบวนการเรยี นรู้ให้เป็นไปอยา่ งต่อเนื่อง 23. มีการกาหนดมาตรฐานการศึกษา และจัดระบบประกันคุณภาพการศึกษาทุกระดับและประเภท การศกึ ษา ถูกระบุไว้ในมาตราใด ก. มาตรา 8 ข. มาตรา 9 ค. มาตรา 10 ง. มาตรา 11 24. การจดั การศกึ ษา ตอ้ งจัดให้บคุ คลมสี ทิ ธแิ ละโอกาส.......... ก. เทา่ เทยี มกนั ข. เสมอหนา้ กนั ค. เสมอกัน ง. ถกู ทกุ ขอ้ เตรยี มสอบครูผู้ชว่ ย By ทมี ฮักแพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คูม่ อื เตรยี มสอบบรรจุเขา้ รบั ราชการ ตาแหน่งครูผูช้ ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 220 25. การรับการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน........ที่รฐั ตอ้ งจัดให้อยา่ งทั่วถงึ และมคี ณุ ภาพโดยไม่เกบ็ ค่าใชจ้ ่าย ก. 12 ปี ข. ไม่นอ้ ยกวา่ 12 ปี ค. ไม่เกนิ กวา่ 12 ปี ง. ไม่ต่ากว่า 12 ปี 26. การจดั การศึกษาสาหรับบุคคลซึง่ มคี วามบกพร่องจะต้องจัดอยา่ งไร ก. จดั เปน็ พเิ ศษ ข. จดั ต้งั แต่แรกเกิดหรือพบความพกิ าร ค. จดั ด้วยรูปแบบทเ่ี หมาะสม ง. จดั ได้ทกุ ขอ้ 27. การจัดการศึกษาสาหรบั บคุ คลซงึ่ มคี วามสามารถพเิ ศษ จดั อย่างไร ก. จัดเปน็ พิเศษ ข. จัดตง้ั แตแ่ รกเกิดหรือพบความพิการ ค. จดั ด้วยรปู แบบท่ีเหมาะสม ง. จดั ไดท้ ุกขอ้ 28. บิดา มารดา หรือผปู้ กครองมีหน้าท่ีอะไร ก. จัดใหบ้ ตุ รหรือบคุ คลซ่ึงอยู่ในความดแู ลไดร้ บั การศึกษา ม.3 ข. จัดใหบ้ ตุ รหรอื บคุ คลซึ่งอย่ใู นความดูแลได้รบั การศึกษาภาคบงั คบั ค. จัดให้บตุ รหรือบคุ คลซงึ่ อยู่ในความดูแลได้รับการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน ง. จดั ให้บุตรหรอื บุคคลซึ่งอยใู่ นความดแู ลไดร้ บั การศึกษา ม.6 29. ใครมสี ทิ ธิในการจดั การศึกษาข้นั พื้นฐาน ก. สถานประกอบการ ข. ครอบครัว ค. ขอ้ ก และ ข ถกู ง. ไมม่ ขี ้อถูก 30. ใครไมม่ ีสิทธิในการจดั การศึกษาขั้นพ้นื ฐาน ก. โรงเรียน ข. เอกชน ค. องค์กรปกครองท้องถิ่น ง. รฐั เตรียมสอบครูผู้ชว่ ย By ทีมฮกั แพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คูม่ ือเตรยี มสอบบรรจเุ ข้ารับราชการ ตาแหน่งครผู ชู้ ว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 221 31. ขอ้ ใดไม่ใชส่ ิทธปิ ระโยชน์ บิดา มารดา หรอื ผปู้ กครอง ก. การสนับสนุนจากรัฐ ข. เงนิ อุดหนนุ จากรัฐ ค. เข้าถึงเงินก้จู ากรฐั ง. การลดหย่อนหรอื ยกเวน้ ภาษี 32. การจัดการศึกษามกี ี่รปู แบบ ก. 2 รูปแบบ ข. 3 รูปแบบ ค. 4 รปู แบบ ง. 5 รูปแบบ 33. เปน็ การศกึ ษาท่ีกาหนดจุดมงุ่ หมาย วธิ ีการศึกษา เป็นการจดั การศึกษารูปแบบใด ก. การศกึ ษาในระบบ ข. การศกึ ษานอกระบบ ค. การศกึ ษาตามอัธยาศยั ง. เปน็ การจัดการศึกษาทุกรูปแบบ 34. เป็นการศึกษาท่ีมีความยืดหยุ่นในการกาหนดจุดมุ่งหมายรูปแบบ วิธีการจัดการศึกษา เป็นการจัด การศกึ ษารูปแบบใด ก. การศกึ ษาในระบบ ข. การศึกษานอกระบบ ค. การศกึ ษาตามอธั ยาศัย ง. เป็นการจดั การศกึ ษาทกุ รปู แบบ 35. เป็นการศึกษาท่ีให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองตามความสนใจ ศักยภาพ ความพร้อม และโอกาส การจัดการศกึ ษารูปแบบใด ก. การศึกษาในระบบ ข. การศกึ ษานอกระบบ ค. การศึกษาตามอัธยาศัย ง. เป็นการจัดการศึกษาทุกรปู แบบ 36. การศึกษาในระบบมีกรี่ ะดับ ก. 2 ระดบั ข. 3 ระดับ ค. 4 ระดับ ง. 5 ระดับ เตรยี มสอบครูผชู้ ว่ ย By ทีมฮกั แพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ อื เตรยี มสอบบรรจเุ ขา้ รบั ราชการ ตาแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 222 37. ข้อใดเปน็ สถานศกึ ษา ก. ศูนย์เด็กเล็ก ข. ศูนย์พัฒนาเดก็ เลก็ ค. ศูนยพ์ ัฒนาเดก็ กอ่ นเกณฑข์ องสถาบันศาสนา ง. ศูนยก์ ารเรยี น 38. ขอ้ ใดไมเ่ ป็นโรงเรียน ก. โรงเรยี นของรฐั ข. โรงเรยี นเอกชน ค. โรงเรยี นทส่ี งั กดั สถาบันพทุ ธศาสนาหรอื ศาสนาอืน่ ง. โรงเรียนคุณธรรม 39. ข้อใดไม่เปน็ ศูนยก์ ารเรยี น ก. สถานสงเคราะห์ ข. สถาบนั ศาสนา ค. สถาบนั ทางการแพทย์ ง. ศูนย์พฒั นาเด็กก่อนเกณฑข์ องสถาบนั ศาสนา 40. การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่าผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ และถือว่า ผู้เรียนมีความสาคัญท่สี ดุ ถกู ระบุไว้ในมาตราใด ก. มาตรา 20 ข. มาตรา 22 ค. มาตรา 32 ง. มาตรา 53 41. ข้อใดกล่าวถกู ต้อง มาตรา 22 ก. ยดึ เด็กเป็นศนู ย์กลาง ข. ยดึ เด็กเป็นสาคญั ค. ยึดผู้เรยี นเป็นศูนย์กลาง ง. ถือวา่ ผู้เรียนมคี วามสาคัญ 42. การจัดการศึกษา ตอ้ งเน้นความสาคัญ เร่ืองใด ก. ความแตกต่างระหว่างบคุ คล ข. ความรคู้ วามสามารถ ค. เนน้ การจัดการเรียนร้ใู นศตวรรษที่ 21 ง. ความรู้ คณุ ธรรม เตรียมสอบครูผชู้ ่วย By ทมี ฮักแพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มือเตรียมสอบบรรจเุ ขา้ รับราชการ ตาแหน่งครูผ้ชู ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 223 43. ขอ้ ใดกล่าวผิด การจัดกระบวนการเรยี นรู้ ก. จดั เนอ้ื หาสาระและกจิ กรรมให้สอดคล้องกบั สภาพแวดลอ้ ม ข. จัดกิจกรรมให้ผเู้ รียนไดเ้ รียนรจู้ ากประสบการณจ์ รงิ ค. จดั การเรียนการสอนโดยผสมผสานสาระความรู้ด้านตา่ ง ๆ ง. จดั การเรียนรู้ให้เกิดขนึ้ ไดท้ กุ เวลาทกุ สถานท่ี 44. ขอ้ ใดไมถ่ กู ต้องในดา้ นการกระจายอานาจให้เขตพ้นื ที่และสถานศึกษา ก. ด้านวิชาการ ข. ด้านงบประมาณ ค. ดา้ นหลักสตู รการสอน ง. ด้านการบรหิ ารทั่วไป 45. ใครเป็นผู้กาหนดสาระของหลกั สูตร ก. สถานศกึ ษา ข. โรงเรียน ค. คณะกรรมการสถานศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน ง. ผอู้ านวยการโรงเรียน 46. ขอ้ ใดไมเ่ ปน็ คณะกรรมการสถานศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน ก. ผแู้ ทนผู้ปกครอง ข. ผ้แู ทนครู ค. ผู้แทนองค์กรชมุ ชน ง. ผูบ้ ริหารองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ 47. ขอ้ ใดไม่เปน็ คณะกรรมการสถานศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน ก. ผแู้ ทนผปู้ กครอง ข. ผแู้ ทนครู ค. ผแู้ ทนพระภิกษสุ งฆ์ ง. ผู้อานวยการโรงเรียน 48. ผูแ้ ทน ในคณะกรรมการสถานศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน มีกป่ี ระเภท ก. 5 ข. 6 ค. 7 ง. 8 เตรียมสอบครูผชู้ ่วย By ทมี ฮกั แพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มือเตรียมสอบบรรจเุ ขา้ รับราชการ ตาแหน่งครผู ูช้ ว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 224 49. พระราชบัญญตั ิการศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 32 กอ่ ให้เกดิ พรบ.ใด ก. พรบ.ระเบยี บบรหิ ารกระทรวงศึกษาธกิ าร ข. พรบ.สภาครูและบุคลากรทางการศึกษา ค. พรบ.ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา ง. พรบ.ค้มุ ครองเดก็ 50. พระราชบัญญัติการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 53 ก่อให้เกดิ พรบ.ใด ก. พรบ.ระเบยี บบริหารกระทรวงศึกษาธิการ ข. พรบ.สภาครูและบุคลากรทางการศกึ ษา ค. พรบ.ระเบียบข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา ง. พรบ.ค้มุ ครองเดก็ 51. พระราชบัญญัติการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 54 กอ่ ให้เกิด พรบ.ใด ก. พรบ.ระเบยี บบรหิ ารกระทรวงศกึ ษาธิการ ข. พรบ.สภาครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา ค. พรบ.ระเบยี บข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ง. พรบ.คุ้มครองเดก็ 52. ข้อใดไมใ่ ชห่ น้าท่ีของ สภาการศึกษา ก. พิจารณาเสนอแผนการศกึ ษาแห่งชาติ ข. พิจารณาเสนอนโยบาย แผน ค. พจิ ารณาการยา้ ยครู ง. พจิ ารณาเสนอนโยบายและแผนในการสนับสนนุ ทรัพยากรเพ่ือการศกึ ษา 53. การแยกเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษา ไม่ต้องคานงึ ถงึ เร่ืองใด ก. จานวนสถานศึกษา ข. จานวนประชากร ค. จานวนนกั เรียน ง. วฒั นธรรม 54. การแยกเขตพื้นที่การศกึ ษา ต้องคานึงถึงเรอื่ งใดมากทส่ี ุด ก. ระดับการศึกษาการศึกษาขนั้ พื้นฐาน ข. จานวนสถานศึกษา ค. จานวนประชากร ง. ความเหมาะสมด้านอนื่ เตรยี มสอบครผู ู้ช่วย By ทมี ฮกั แพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ ือเตรยี มสอบบรรจุเขา้ รับราชการ ตาแหนง่ ครูผชู้ ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 225 55. การแยกเขตพื้นท่ีการศกึ ษา ตอ้ งคานึงถงึ เรอื่ งใดนอ้ ยทสี่ ุด ก. ระดบั การศกึ ษาการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน ข. จานวนสถานศกึ ษา ค. จานวนประชากร ง. ความเหมาะสมด้านอ่ืน 56. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ แก้ไข พ.ศ. 2562 การจัดระเบียบบริหารราชการในกระทรวงให้มี องค์กรหลักทเี่ ป็นคณะบุคคลในรูปสภาหรอื ในรปู คณะกรรมการจานวนมีจานวนก่อี งคก์ ร ก. 2 องคก์ ร ข. 3 องคก์ ร ค. 4 องคก์ ร ง. 5 องคก์ ร 57. ขอ้ ใดไม่ใช่ คณะบคุ คลในรปู สภาหรือในรปู คณะกรรมการ ในกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ก. คณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน ข. คณะกรรมการการอาชวี ศึกษา ค. สภาการศึกษา ง. คณะกรรมการการอดุ มศกึ ษา 58. “มาตรา 51/1 คาว่า “คณาจารย์” ในหมวดน้ี ให้หมายความว่า บุคลากรซึ่งทาหน้าท่ีหลักทางด้าน การสอนและการวิจัยในสถานศึกษาระดับอุดมศกึ ษาระดบั ปริญญาของรัฐและเอกชน....... ก. โดยรวมถงึ บุคลากรซึง่ สังกดั กระทรวงการอุดมศกึ ษา วิทยาศาสตร์ วจิ ัยและนวตั กรรม ข. รวมโดยถงึ บุคลากรซ่งึ สังกัดกระทรวงการอดุ มศึกษา วทิ ยาศาสตร์ วิจยั และนวตั กรรม ค. แต่ไม่รวมถึงบคุ ลากรซง่ึ สงั กัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจยั และนวัตกรรม ง. อาจจะรวมถงึ บุคลากรซง่ึ สังกัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วจิ ัยและนวัตกรรม 59. ใครเป็นผ้รู ักษาการตามพระราชบญั ญตั กิ ารศึกษาแหง่ ชาติ ก. นายกรัฐมนตรี ข. รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ ค. ปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร ง. เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน 60. เหตผุ ลในการประกาศใช้พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ ฉบบั ท่ี 4 ก. สงั คม เศรษฐกิจ ทเี่ ปลี่ยนแปลงไป ข. การเปลยี่ นโครงสรา้ งการศกึ ษา ค. การเปล่ยี นแปลงเขา้ ส่ปู ระเทศไทย 4.0 ง. การจัดต้ังกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวตั กรรม เตรียมสอบครูผชู้ ่วย By ทมี ฮักแพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ ือเตรียมสอบบรรจุเขา้ รับราชการ ตาแหน่งครผู ู้ช่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 226 61. พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ ฉบับใด แยก สพป.สพม ก. ฉบบั ท่ี 1 ข. ฉบับที่ 2 ค. ฉบับที่ 3 ง. ฉบบั ที่ 4 62. พระราชบญั ญตั ิการศึกษาแห่งชาติ ฉบับใด เปลย่ี นช่อื กระทรวง ก. ฉบับท่ี 1 ข. ฉบบั ท่ี 2 ค. ฉบับท่ี 3 ง. ฉบับที่ 4 63. ใครเป็นผรู้ ับสนองพระบรมราชโองการ พระราชบญั ญตั กิ ารศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2562 ก. นายกรัฐมนตรี ข. รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศึกษาธิการ ค. ปลัดกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ง. เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ***เชก็ สภาพความพร้อม*** 64. ทา่ นคดิ วา่ จะไดบ้ รรจุรบั ราชการตาแหนง่ ครผู ้ชู ่วยในปใี ด ก. 2563 ข. 2564 ค. 2565 ง. 2566 เตรยี มสอบครูผู้ช่วย By ทมี ฮกั แพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ อื เตรียมสอบบรรจุเข้ารบั ราชการ ตาแหน่งครผู ชู้ ่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 227 เฉลยแนวขอ้ สอบพระราชบัญญัตกิ ารศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2542 และทแ่ี กไ้ ขเพม่ิ เติม ขอ้ ขอ้ ข้อ ขอ้ 1 ก 21 ก 41 ง 61 ค 2 ข 22 ข 42 ง 62 ข 3 ข 23 ข 43 ก 63 ก 4 ค 24 ค 44 ค 64 ก 5 ง 25 ข 45 ก 6 ง 26 ก 46 ง 7 ค 27 ค 47 ง 8 ง 28 ข 48 ข 9 ง 29 ค 49 ก 10 ก 30 ก 50 ข 11 ค 31 ค 51 ค 12 ค 32 ข 52 ค 13 ง 33 ก 53 ค 14 ง 34 ข 54 ก 15 ก 35 ค 55 ง 16 ก 36 ก 56 ข 17 ข 37 ง 57 ง 18 ค 38 ง 58 ค 19 ง 39 ง 59 ข 20 ง 40 ข 60 ง เตรียมสอบครผู ูช้ ่วย By ทีมฮกั แพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มอื เตรียมสอบบรรจุเขา้ รับราชการ ตาแหนง่ ครูผ้ชู ่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 228 พระราชบัญญตั ิระเบียบขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา พ.ศ.2547 และทแ่ี กไ้ ขเพม่ิ เตมิ ใหไ้ ว้ ณ วันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ.2547 เป็นปที ่ี 59 ในรัชกาลปจั จบุ ัน ประกาศ วนั ที่ 23 ธนั วาคม พ.ศ.2547 ผ้รู บั สนองพระบรมราชโองการ นายวิษณุ เครอื งาม (รองนายกรฐั มนตรี) มผี ลบังคับใช้ วันท่ี 24 ธันวาคม พ.ศ.2547 มี 9 หมวด 140 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล หมวดที่ 1 คณะกรรมการบริหารงานบุคคลของขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา หมวดที่ 2 บททว่ั ไป หมวดที่ 3 การกาหนดตาแหน่ง วทิ ยฐานะ และการให้ได้รบั เงินเดอื น เงินวิทยฐานะ และเงนิ ประจาตาแหนง่ หมวดที่ 4 การบรรจุและการแต่งต้งั หมวดท่ี 5 การเสรมิ สร้างประสิทธภิ าพในการปฏบิ ัตริ าชการ หมวดท่ี 6 วนิ ยั และการรักษาวนิ ยั หมวดท่ี 7 การดาเนินการทางวินัย หมวดท่ี 8 การออกจากราชการ หมวดที่ 9 การอุทธรณ์และการร้องทุกข์ บทเฉพาะกาล *** เทคนคิ การจา*** กรรม ท่ัว ตา แต่ง ประสิทธ์ิ รกั ษ์ ดา ออก อุทธรณ์ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดลุ ยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกลา้ ฯให้ ประกาศว่าโดยทีเ่ ป็นการสมควรให้มกี ฎหมายว่าด้วยระเบียบขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ ให้ตราพระราชบัญญตั ิขน้ึ ไว้โดยคาแนะนาและยนิ ยอมของรฐั สภา ดงั ต่อไปน้ี มาตรา 3 ใหย้ กเลิก (1) พระราชบัญญตั ริ ะเบียบข้าราชการครู พ.ศ. 2523 (2) พระราชบัญญตั ริ ะเบยี บข้าราชการครู (ฉบบั ที่ 2) พ.ศ. 2535 (3) พระราชบญั ญตั ิระเบียบข้าราชการครู (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2538 เตรยี มสอบครูผ้ชู ว่ ย By ทีมฮักแพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มือเตรียมสอบบรรจุเข้ารับราชการ ตาแหน่งครูผ้ชู ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 229 มาตรา 4 ในพระราชบัญญัตินี้ คานิยาม “ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษา” หมายความว่า บคุ คลซึ่งได้รับการบรรจุและแตง่ ตั้งตาม พระราชบญั ญตั ินใ้ี หร้ บั ราชการโดยไดร้ บั เงนิ เดอื นจากเงนิ งบประมาณแผ่นดิน งบบุคลากรที่จา่ ยในลักษณะ เงนิ เดือนในกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการทอ่ งเท่ยี วและกีฬา กระทรวงวัฒนธรรม หรอื กระทรวงอื่นที่ กาหนดในพระราชกฤษฎกี า “ขา้ ราชการครู” หมายความวา่ ผ้ทู ี่ประกอบวิชาชีพซึง่ ทาหนา้ ท่หี ลักทางดา้ นการเรยี น การสอนและสง่ เสริมการเรียนร้ขู องผู้เรยี นดว้ ยวิธีการตา่ งๆ ในสถานศึกษาของรัฐ “คณาจารย์” หมายความวา่ บคุ ลากรซ่ึงทาหนา้ ที่หลักทางดา้ นการสอนและการวิจยั ใน สถานศึกษาระดับอดุ มศึกษาระดับปรญิ ญาของรัฐ “บคุ ลากรทางการศกึ ษา” หมายความว่า ผ้บู ริหารสถานศึกษา ผูบ้ ริหารการศึกษา รวมทั้งผู้สนบั สนนุ การศึกษาซ่ึงเปน็ ผูท้ าหนา้ ทีใ่ ห้บริการ หรือปฏบิ ตั งิ านเกย่ี วเน่ืองกับการจดั กระบวนการเรียนการสอน การนเิ ทศ การบรหิ ารการศึกษา และปฏิบัตงิ านอืน่ ในหนว่ ยงาน การศึกษา “วชิ าชีพ” หมายความวา่ วิชาชพี ครู วชิ าชีพบริหารการศึกษา และวิชาชพี บุคลากรทาง การศกึ ษาอืน่ “เขตพ้ืนที่การศึกษา” หมายความว่า เขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษาตามประกาศกระทรวง “หนว่ ยงานการศกึ ษา” หมายความวา่ (1) สถานศึกษา (2) สานกั งานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษา (3) สานกั งานการศึกษานอกโรงเรียน (4) แหล่งการเรียนรตู้ ามประกาศของสานักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษา (5) หน่วยงานตามกฎหมายวา่ ดว้ ยระเบยี บบริหารราชการกระทรวงศึกษาธกิ ารหรือตาม ประกาศกระทรวง หรอื หนว่ ยงานท่ีคณะกรรมการขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษากาหนด “สถานศกึ ษา” หมายความว่า สถานพฒั นาเดก็ ปฐมวัย โรงเรยี น ศนู ย์การศึกษาพิเศษ ศูนย์การศึกษานอกระบบและตามอธั ยาศัย ศนู ย์การเรยี น วิทยาลยั วทิ ยาลัยชุมชน สถาบัน หรอื สถานศกึ ษาท่เี รยี กชอ่ื อย่างอ่ืนของรัฐท่ีมอี านาจหน้าทห่ี รอื มวี ัตถปุ ระสงคใ์ นการจดั การศึกษาตามกฎหมายว่า ดว้ ยการศึกษาแหง่ ชาตแิ ละตามประกาศกระทรวง “สว่ นราชการ” หมายความวา่ หนว่ ยงานของรัฐที่มีฐานะเป็นกรมหรือเทียบเทา่ กรม “หวั หนา้ สว่ นราชการ” หมายความวา่ ปลดั กระทรวง เลขาธิการ อธบิ ดี หรือตาแหนง่ ท่ี เรยี กชอื่ อย่างอืน่ ที่มีฐานะเทียบเท่า “กระทรวง” หมายความวา่ กระทรวงศึกษาธกิ าร เตรียมสอบครูผชู้ ่วย By ทมี ฮกั แพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ อื เตรียมสอบบรรจุเขา้ รับราชการ ตาแหน่งครผู ู้ชว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 230 “รฐั มนตรีเจ้าสงั กดั ” หมายความว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงในกระทรวงท่ีมขี ้าราชการ ครูและบคุ ลากรทางการศึกษาอยูใ่ นสังกดั “รฐั มนตรี” หมายความวา่ รัฐมนตรีผูร้ ักษาการตามพระราชบัญญตั นิ ้ี มาตรา 5 บรรดาคาว่า “ขา้ ราชการพลเรอื น” ทม่ี ีอยู่ในกฎหมาย ประกาศ ระเบยี บ และข้อบังคบั อน่ื ใด ใหห้ มายความรวมถึงขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาด้วย เวน้ แต่ จะได้มีกฎหมาย ประกาศ ระเบียบ หรอื ข้อบงั คับอืน่ ใดที่บัญญตั ไิ ว้สาหรับข้าราชการครแู ละ บคุ ลากรทางการศึกษาโดยเฉพาะ มาตรา 6 ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธกิ ารรกั ษาการตามพระราชบญั ญัตินี้ ในกรณที ีม่ ีปญั หาขดั แย้ง หรอื การทจ่ี ะตอ้ งตคี วามในปัญหาเกยี่ วกับข้าราชการครู ตามพระราชบัญญัตริ ะเบียบขา้ ราชการครู พ.ศ. 2523 และข้าราชการพลเรือนในสงั กดั กระทรวงซ่งึ ตามพระราชบัญญตั ินีก้ าหนดใหเ้ ปน็ ขา้ ราชการครแู ละ บคุ ลากรทางการศึกษา ยกเวน้ ขา้ ราชการครแู ละขา้ ราชการพลเรือนสามัญในสังกดั สถาบนั เทคโนโลยรี าชมงคล มหาวทิ ยาลัยราชภฏั สถาบนั เทคโนโลยีปทุมวัน และเปน็ กรณีที่พระราชบญั ญัตนิ ้ีมิได้กาหนดใหค้ ณะกรรมการ บรหิ ารงานบุคคลของขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาหรือองค์กรใดเปน็ ผู้กาหนดหรอื วินิจฉัยชีข้ าด ใหเ้ ปน็ อานาจหนา้ ที่ของรฐั มนตรีเป็นผู้กาหนดหรือวินจิ ฉัยชีข้ าด หมวดที่ 1 คณะกรรมการบรหิ ารงานบุคคลของขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา มาตรา 7 ให้มีคณะกรรมการบรหิ ารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษาคณะหนง่ึ เรยี กว่า “คณะกรรมการข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา”เรยี กโดยยอ่ ว่า “ก.ค.ศ.” (ใครเปน็ ประธาน ก.ค.ศ. ตัวย่อมีกีจ่ ดุ เลขาชอื่ วา่ ) คาสงั่ หัวหนา้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ท่ี 16/2560 เรื่อง การบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา(ก.ค.ศ.) จานวน 14 คน ลาดับ คณะกรรมการ ตาแหนง่ 1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศกึ ษาธิการ ประธานกรรมการ 2. กรรมการโดยตาแหนง่ จานวน 9 คน รมช.การกระทรวงศึกษาธิการ กรรมการ รมช.การกระทรวงศกึ ษาธิการ กรรมการ ปลัดกระทรวงศกึ ษาธิการ กรรมการ เลขาธิการคณะกรรมการขา้ ราชการพลเรือน กรรมการ เลขาธิการสภาการศกึ ษา กรรมการ เลขาธกิ ารคณะกรรมการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน กรรมการ เลขาธกิ ารคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา กรรมการ เลขาธกิ ารคณะกรรมการอดุ มศกึ ษา กรรมการ เลขาธกิ ารครุ สุ ภา กรรมการ เตรยี มสอบครูผ้ชู ่วย By ทมี ฮักแพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มอื เตรียมสอบบรรจเุ ขา้ รบั ราชการ ตาแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 231 3. กรรมการผ้ทู รงคุณวุฒิใน ก.ค.ศ. จานวน 3 ราย ผ้ทู รงคุณวุฒดิ า้ นบริหารทรัพยากรบคุ คล ผู้ทรงคณุ วฒุ ดิ า้ นการศกึ ษา ผทู้ รงคณุ วุฒดิ ้าน กฎหมาย 4. เลขาธิการ ก.ค.ศ. กรรมการและเลขานุการ 5. แต่งตงั้ ผู้ชว่ ยเลขานุการใน ก.ค.ศ. จานวน 2 คน รองเลขาธิการ ก.ค.ศ. เป็นผู้ชว่ ยเลขานุการ คนท่ี 1 ผู้อานวยการภารกิจนโยบายและระบบบริหาร งานบุคคล เปน็ ผชู้ ่วยเลขานุการ คนที่ 2 มาตรา 8 กรรมการผทู้ รงคุณวุฒติ ้องมีคุณสมบตั ิและไม่มีลักษณะต้องหา้ ม ดงั ต่อไปนี้ (1) มีสัญชาติไทย( เขาจะเอาคาว่าเช้ือชาตไิ ทยมาหลอก) (2) มีอายุไมต่ ่ากว่าสามสิบหา้ ปีบรบิ ูรณ์ และไม่เกนิ เจด็ สบิ ปีบรบิ รู ณ์ (3) ไม่เปน็ ผู้ดารงตาแหนง่ ทางการเมือง (4) ไม่เปน็ สมาชิกสภาท้องถนิ่ หรือผู้บรหิ ารทอ้ งถ่ิน (5) ไม่เปน็ เจา้ หน้าท่ี ท่ีปรึกษา หรือผมู้ ีตาแหนง่ บรหิ ารในพรรคการเมือง (6) เปน็ ผทู้ ่ีได้รับการยอมรบั ในเรอ่ื งความซอื่ สตั ย์ ความยุติธรรม มาตรา 9 กรรมการผูแ้ ทนผ้อู านวยการสานักงานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษาตอ้ งมคี ุณสมบตั ดิ งั ต่อไปน้ี (1) มีใบอนญุ าตประกอบวิชาชีพ และไมเ่ คยถูกพกั ใชห้ รอื เพิกถอน (2) เป็นผู้ที่ได้รับการยอมรบั ในเรื่องความซ่ือสตั ย์ ความยุติธรรม มาตรา 10 กรรมการผู้แทนผู้บรหิ ารสถานศึกษา (1)มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และไมเ่ คยถกู พกั ใช้หรอื เพิกถอน (2) มีประสบการณ์ดา้ นการบริหารในตาแหน่งผู้บริหารสถานศึกษาหรือผูบ้ ริหารสถานศึกษาทีเ่ รยี กชื่อ อยา่ งอืน่ ในหน่วยงานการศกึ ษาเป็นเวลาไม่นอ้ ยกวา่ ห้าปี (3) เปน็ ผทู้ ี่ไดร้ ับการยอมรับในเร่ืองความซื่อสัตย์ ความยุติธรรม มาตรา 11 กรรมการผู้แทนข้าราชการครูต้องมคี ณุ สมบตั ิ ดังตอ่ ไปนี้ (1) มใี บอนญุ าตประกอบวชิ าชพี และไมเ่ คยถูกพกั ใชห้ รือเพิกถอน (2) มีประสบการณ์ดา้ นปฏบิ ัติการสอนในวทิ ยฐานะไมต่ ่ากว่าครูชานาญการ การสอนเป็นเวลาไมน่ ้อยกว่าสิบหา้ ปี (3) เปน็ ผู้ท่ีไดร้ บั การยอมรับในเร่ืองความซ่อื สัตย์ ความยุติธรรม เตรียมสอบครผู ู้ชว่ ย By ทมี ฮักแพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ ือเตรียมสอบบรรจุเขา้ รบั ราชการ ตาแหน่งครูผ้ชู ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 232 มาตรา 12 กรรมการผ้แู ทนบุคลากรทางการศึกษาอืน่ ต้องมีคุณสมบตั ิ ดงั ต่อไปน้ี (1) มีวุฒกิ ารศึกษาไมต่ ่ากวา่ ระดับปริญญาตรี (2) มีประสบการณด์ า้ นสนับสนนุ การศึกษาซึง่ เปน็ ผ้ทู าหน้าทใ่ี ห้บรกิ าร หรือปฏบิ ตั ิงานเกี่ยวเนอ่ื งกบั การจดั กระบวนการเรยี นการสอน การนเิ ทศ การบริหารการศึกษา และปฏบิ ตั ิงานอ่ืนในหนว่ ยงานการศึกษา เป็นเวลาไมน่ ้อยกว่าสิบห้าปี (3) เปน็ ผู้ที่ไดร้ ับการยอมรบั ในเร่ืองความซอื่ สตั ย์ ความยุติธรรม มาตรา 13 กรรมการผูท้ รงคุณวฒุ ิ และกรรมการผู้แทนขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีวาระอยู่ใน ตาแหนง่ คราวละสป่ี ี แต่จะดารงตดิ ต่อกนั เกนิ กว่าสองวาระมไิ ด้ มาตรา 14 นอกจากการพน้ จากตาแหนง่ ตามวาระ กรรมการผู้ทรงคณุ วุฒิพน้ (1) ตาย (2) ลาออกโดยย่นื หนังสือลาออกต่อประธานกรรมการ (3) เปน็ บุคคลลม้ ละลาย (4) เป็นคนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ (5) ขาดคณุ สมบัติ หรือมลี ักษณะต้องห้ามตามมาตรา 8 (6) ได้รับโทษจาคุกโดยคาพิพากษาถึงทส่ี ดุ ให้จาคกุ เว้นแต่เปน็ โทษสาหรับความผดิ ที่ไดก้ ระทาโดย ประมาทหรือความผิดลหโุ ทษ (7) คณะรฐั มนตรีมมี ติให้ออก มาตรา 15 นอกจากการพน้ จากตาแหน่งตามวาระ กรรมการผูแ้ ทนขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา พ้นจากตาแหน่งเม่ือ (1) ตาย (2) ลาออกโดยยนื่ หนงั สือลาออกต่อประธานกรรมการ (3) พน้ จากการเป็นขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา (4) ขาดคุณสมบัตติ ามมาตรา 9 มาตรา 10 มาตรา 11 หรอื มาตรา 12 (5) ถูกถอดถอนโดยรัฐมนตรีตามมติของ ก.ค.ศ. ด้วยคะแนนเสยี งไม่น้อยกวา่ สองในสามของจานวน กรรมการทัง้ หมด (6) มิไดเ้ ปน็ ผู้ดารงตาแหนง่ หรอื เป็นผบู้ ริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศกึ ษา ผู้สอนในหน่วยงาน การศึกษา หรอื บุคลากรทางการศึกษาอื่นตามทีต่ นได้รบั เลือก มาตรา 17 ก.ค.ศ. มีอานาจต้ังคณะอนุกรรมการวิสามัญ เรียกโดยยอ่ วา่ “อ.ก.ค.ศ. วสิ ามัญ” เพื่อทาการใด ๆ แทน ก.ค.ศ. หรอื ทาหน้าทีเ่ ช่นเดยี วกับคณะอนุกรรมการอื่นท่ีกาหนดตามพระราชบัญญัตินไี้ ด้ ในกรณที ต่ี ้ัง อ.ก.ค.ศ. วสิ ามัญ เพือ่ ทาหน้าท่ีพิจารณาเร่ืองการดาเนินการทางวนิ ัย การออกจากราชการ การอทุ ธรณ์ เตรยี มสอบครผู ชู้ ว่ ย By ทีมฮกั แพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มือเตรียมสอบบรรจุเข้ารบั ราชการ ตาแหน่งครูผ้ชู ่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 233 และการร้องทุกข์ ให้ต้ังจากกรรมการ ก.ค.ศ. ที่เปน็ กรรมการผทู้ รงคุณวฒุ ิ อย่างนอ้ ยสองคน และกรรมการ ก.ค.ศ. ทเี่ ป็นผู้แทนข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา จานวนไมน่ อ้ ยกว่าหน่งึ ในสามของจานวน อนกุ รรมการทั้งหมด และใหน้ ามาตรา 13 มาตรา 14 มาตรา 15 และมาตรา 16 มาใชบ้ งั คบั โดยอนโุ ลม มาตรา 19 ให้ ก.ค.ศ. มีอานาจและหนา้ ท่ีดงั ตอ่ ไปน้ี (1) เสนอแนะและให้คาปรึกษาแก่คณะรฐั มนตรีเก่ยี วกบั นโยบายการผลติ และการบริหารงาน บุคคลของข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาตามพระราชบญั ญตั นิ ี้ (2) กาหนดนโยบาย วางแผน และกาหนดเกณฑอ์ ัตรากาลงั ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการ ศึกษา รวมท้ังให้ความเห็นชอบจานวนและอตั ราตาแหน่งของหนว่ ยงานการศึกษา (3) เสนอแนะและให้คาปรึกษาแกค่ ณะรัฐมนตรใี นกรณีทีค่ ่าครองชพี เปล่ียนแปลงไปมาก หรือการ จัดสวัสดกิ ารหรอื ประโยชน์เก้ือกูลสาหรบั ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษายังไม่เหมาะสมเพือ่ ให้ คณะรัฐมนตรพี จิ ารณาในอันท่ีจะปรับปรุงเงินเดือน เงนิ วทิ ยฐานะ เงินประจาตาแหนง่ เงินเพมิ่ ค่าครองชีพ สวสั ดกิ าร หรอื ประโยชนเ์ กื้อกูลสาหรับขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใหเ้ หมาะสม (4) ออกกฎ ก.ค.ศ. ระเบียบ ข้อบังคบั หลักเกณฑ์ วธิ กี าร และเง่ือนไขการบรหิ ารงานบุคคลของ ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา กฎ ก.ค.ศ. เม่อื ไดร้ บั อนุมัติจากคณะรฐั มนตรีและประกาศในราช กจิ จานเุ บกษาแลว้ ให้ใชบ้ ังคับได้ (5) พจิ ารณาวนิ จิ ฉัยตคี วามปัญหาทีเ่ กดิ ขนึ้ เนอ่ื งจากการใช้บงั คับพระราชบัญญตั นิ ี้ เมื่อ ก.ค.ศ. มีมติ เปน็ ประการใดแล้วใหห้ นว่ ยงานการศึกษาปฏิบัติตามน้ัน (6) พฒั นาหลักเกณฑ์ วธิ ีการ และมาตรฐานการบริหารงานบคุ คล รวมท้งั การพทิ ักษ์ระบบคุณธรรม ของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (7) กาหนดวิธีการและเง่ือนไขการจา้ งเพ่ือบรรจแุ ละแต่งตั้งบุคคลเพื่อปฏิบัติหนา้ ท่ีในตาแหน่งครูและ บุคลากรทางการศึกษาในหน่วยงานการศึกษา รวมท้ังกาหนดอตั ราเงนิ เดือนหรือค่าตอบแทน (8) สง่ เสริม สนบั สนนุ การพัฒนา การเสรมิ สรา้ งขวัญกาลงั ใจ และการยกย่องเชิดชเู กยี รติขา้ ราชการ ครแู ละบุคลากรทางการศึกษา (9) ส่งเสรมิ สนับสนนุ ใหม้ กี ารจัดสวสั ดกิ ารและสิทธิประโยชนเ์ ก้ือกูลอ่นื แก่ขา้ ราชการครูและบุคลากร ทางการศกึ ษา (10) พจิ ารณาตงั้ อ.ก.ค.ศ. เขตพืน้ ท่ีการศึกษา และคณะอนกุ รรมการอน่ื เพื่อปฏบิ ตั หิ น้าทต่ี ามท่ี ก.ค. ศ. มอบหมาย (11) ส่งเสรมิ สนบั สนุน ประสานงาน ใหค้ าปรกึ ษา แนะนาและชแ้ี จงดา้ นการบริหารงานบุคคลแก่ หน่วยงานการศกึ ษา (12) กาหนดมาตรฐาน พิจารณา และให้คาแนะนาเกีย่ วกบั การดาเนินการทางวนิ ยั การออกจาก ราชการ การอุทธรณ์และการร้องทุกข์ตามที่กาหนดไวใ้ นพระราชบญั ญัตินี้ เตรยี มสอบครผู ชู้ ว่ ย By ทมี ฮักแพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
ค่มู อื เตรียมสอบบรรจเุ ข้ารับราชการ ตาแหนง่ ครูผู้ช่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 234 (13) กากับ ดูแล ติดตาม ตรวจสอบและประเมินผลการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษาเพ่ือรักษาความเป็นธรรมและมาตรฐานด้านการบริหารงานบุคคล ตรวจสอบและ ปฏิบัติการตามพระราชบัญญัติน้ี ในการนี้ให้มีอานาจเรียกเอกสารและหลักฐานจากหน่วยงานการศึกษา ให้ ผู้แทนของหน่วยงานการศึกษา ข้าราชการ หรือบุคคลใด มาชี้แจงข้อเท็จจริง และให้มีอานาจออกระเบียบ ข้อบังคับ รวมท้ังให้ส่วนราชการ หน่วยงานการศึกษา ข้าราชการหรือบุคคลใดรายงานเกี่ยวกับการบรหิ ารงาน บุคคลของข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาท่ีอยูใ่ นอานาจหน้าท่ีไปยงั ก.ค.ศ. (14)[7] ในกรณที ่ีปรากฏวา่ สว่ นราชการ หนว่ ยงานการศกึ ษา อ.ก.ค.ศ. เขตพ้ืนที่การศึกษา คณะอนกุ รรมการหรือผมู้ ีหน้าท่ปี ฏิบัติตามพระราชบัญญัตนิ ้ี ไม่ปฏบิ ตั ิตามพระราชบัญญตั ิน้หี รือปฏิบัตกิ ารโดย ไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสม หรือปฏบิ ตั กิ ารโดยขดั หรือแยง้ กบั กฎหมาย กฎ ก.ค.ศ. ระเบียบ ขอ้ บังคับ หลกั เกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด ให้ ก.ค.ศ. มีอานาจยบั ยัง้ การปฏบิ ัติการดังกลา่ วไวเ้ ปน็ การชั่วคราว เมอ่ื ก.ค.ศ. มีมติเปน็ ประการใดแล้ว ให้สว่ นราชการหนว่ ยงานการศึกษา อ.ก.ค.ศ. เขตพน้ื ท่ี การศกึ ษา คณะอนกุ รรมการหรือผ้มู ีหน้าทปี่ ฏิบัตติ ามพระราชบัญญตั นิ ีป้ ฏิบตั ิไปตามนน้ั (15) พจิ ารณารับรองคณุ วุฒิของผูไ้ ดร้ ับปริญญา ประกาศนยี บัตรวิชาชีพ หรือคณุ วุฒอิ ยา่ งอ่นื เพื่อประโยชนใ์ นการบรรจุและแตง่ ตงั้ เป็นข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา และการกาหนดอตั รา เงนิ เดือนหรือค่าตอบแทนท่คี วรไดร้ ับ (16) กาหนดอัตราค่าธรรมเนียมในเรือ่ งการปฏิบัติการตา่ งๆ ตามท่กี าหนดในพระราชบัญญัตินี้ (17) พิจารณาจัดระบบทะเบียนประวัตแิ ละแกไ้ ขทะเบียนประวัติเก่ยี วกับวัน เดือน ปเี กิด และควบคมุ การเกษยี ณอายขุ องขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา (18) ปฏิบตั หิ นา้ ที่อน่ื ตามที่บัญญตั ิไวใ้ นพระราชบัญญัตนิ ้ี หรือตามกฎหมายอ่ืน มาตรา 20 ให้มสี านกั งานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เรยี กโดยยอ่ ว่า “สานกั งาน ก.ค.ศ.” โดยมีเลขาธกิ ารคณะกรรมการขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เรยี กโดยย่อวา่ “เลขาธิการ ก.ค.ศ.” ซง่ึ มีฐานะเป็นอธิบดีเปน็ ผ้บู งั คบั บัญชาข้าราชการและบรหิ ารราชการของสานักงานคณะกรรมการ ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา สานกั งาน ก.ค.ศ. มีอานาจและหน้าท่ี ดังต่อไปนี้ (1) เป็นเจ้าหนา้ ท่เี กี่ยวกับการดาเนนิ งานในหนา้ ท่ีของ ก.ค.ศ. (2) วเิ คราะห์และวจิ ัยเกีย่ วกับการบริหารงานบุคคลสาหรับขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา และการจดั ระบบบรหิ ารราชการในหน่วยงานการศึกษา (3) ศึกษา วเิ คราะหเ์ กย่ี วกบั มาตรฐาน หลักเกณฑ์และวิธกี ารบรหิ ารงานบุคคลของขา้ ราชการครแู ละ บคุ ลากรทางการศึกษา (4) พฒั นาระบบขอ้ มูล และจัดทาแผนกาลงั คนสาหรบั ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (5) ศึกษา วเิ คราะห์ เสนอแนะนโยบาย ประสานงานและดาเนินการเก่ียวกบั การพัฒนาข้าราชการครู และบคุ ลากรทางการศึกษา เตรียมสอบครผู ชู้ ่วย By ทีมฮกั แพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คูม่ อื เตรยี มสอบบรรจเุ ข้ารบั ราชการ ตาแหนง่ ครูผชู้ ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 235 (6) ศึกษา วิเคราะห์ วิจัย และบริหารเงินทุน ตลอดจนสวัสดิการข้าราชการครูและบุคลากรทางการ ศกึ ษา (7) กากับ ติดตาม และตรวจสอบการปฏิบัติการตามพระราชบัญญัตินี้ของหน่วยงานการศึกษาและ เขตพนื้ ทีก่ ารศกึ ษา (8) จัดทารายงานประจาปีเก่ียวกบั การบรหิ ารงานบุคคลของขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เสนอ ก.ค.ศ. (9) ปฏบิ ัตหิ น้าทอี่ ืน่ ตามท่ีบัญญตั ไิ ว้ในพระราชบัญญตั ินี้ กฎหมายอืน่ หรอื ตามท่ี ก.ค.ศ. มอบหมาย มาตรา 21 แทนโดยคาส่ังหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติท่ี 19/2560 คณะอนุกรรมการศึกษาธิการ จงั หวดั เรยี กโดยยอ่ วา่ “อกศจ.”ไม่เกิน 9 คน ลาดับ คณะกรรมการ ตาแหน่ง 1. กรรมการใน กศจ. ประธานกรรมการ กรรมการใน กศจ. จานวนสองคน 2. ผ้อู านวยการสานกั งานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษาหรือ กรรมการ 3. ผูอ้ านวยการสถานศึกษาในจังหวัดจานวนสองคนเปน็ กรรมการ อนุกรรมการ 4. ผู้ทรงคุณวฒุ ิ ซึง่ มิไดเ้ ป็นกรรมการใน กศจ. กรรมการ จานวนไม่เกินสามคน 5. ศึกษาธิการจงั หวดั อนุกรรมการและเลขานกุ าร มาตรา 23 (แทน) คาสงั่ หัวหนา้ คณะรกั ษาความสงบแห่งชาติท่ี 19/2560 คณะกรรมการศึกษาธกิ ารจงั หวดั เรยี กโดยย่อว่า “กศจ.”ประกอบด้วย ลาดับ คณะกรรมการ ตาแหน่ง 1. ผูว้ า่ ราชการจงั หวดั ประธานกรรมการ 2. ศึกษาธิการภาคในพื้นทีท่ ่ีรบั ผิดชอบ รองประธานกรรมการ 3. ผู้แทนสานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน กรรมการ 4. ผู้แทนสานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา กรรมการ 5. ผแู้ ทนสานกั งานคณะกรรมการการอดุ มศึกษา กรรมการ 6. ผู้แทนสานกั งานคณะกรรมการขา้ ราชการครูและ กรรมการ บคุ ลากรทางการศกึ ษา 7. ผแู้ ทนสานกั งานคณะกรรมการส่งเสรมิ การศึกษาเอกชน กรรมการ 8. ผ้แู ทนสานักงานส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและ กรรมการ การศึกษาตามอัธยาศัย เตรยี มสอบครูผู้ช่วย By ทมี ฮักแพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คูม่ อื เตรยี มสอบบรรจเุ ขา้ รบั ราชการ ตาแหน่งครูผ้ชู ว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 236 9. กรรมการผู้ทรงคณุ วุฒิ จานวนไม่เกนิ หกคน กรรมการ ผ้แู ทนองค์กรภาคเอกชน ผ้แู ทนองค์กรวิชาชีพ กรรมการและเลขานุการ ผู้แทนภาคประชาชน ดา้ นละหนง่ึ คน ผชู้ ่วยเลขานุการ 10. ศกึ ษาธกิ ารจงั หวดั 11. รองศกึ ษาธิการจงั หวัด (ไมน่ บั เป็นองคค์ ณะ) มาตรา 24 ใหผ้ ู้อานวยการสานกั งานเขตพนื้ ที่การศึกษาเป็นผบู้ รหิ ารราชการในสานักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษา และเปน็ ผ้บู ังคบั บัญชาของขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษาในเขตพืน้ ท่ีการศึกษา และมีอานาจหนา้ ท่ี ดังตอ่ ไปนี้ (1) รับผดิ ชอบในการปฏิบัติงานราชการทเี่ ป็นอานาจและหน้าที่ของ อ.ก.ค.ศ. เขตพน้ื ที่การศกึ ษาและ ตามที่ อ.ก.ค.ศ. เขตพ้นื ที่การศกึ ษามอบหมาย ( คณะกรรมการศกึ ษาธกิ ารจังหวัด แทน) (2) เสนอแนะการบรรจุและแต่งต้งั และการบรหิ ารงานบุคคลในเร่ืองอื่นท่ีอยู่ในอานาจและหน้าทีข่ อง อ.ก.ค.ศ. เขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษา ( คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด แทน) (3) พจิ ารณาเสนอความดคี วามชอบของผบู้ ริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษาในหนว่ ยงาน การศึกษาในเขตพ้นื ที่การศึกษา และข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาในสานักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษา (4) จดั ทาแผนและส่งเสริมการพัฒนาขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในหนว่ ยงานการศึกษา ในเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษา (5) จดั ทาทะเบยี นประวตั ิข้าราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษาในเขตพน้ื ที่การศึกษา (6) จดั ทามาตรฐานคณุ ภาพงาน กาหนดภาระงานขั้นตา่ และเกณฑก์ ารประเมนิ ผลงานสาหรบั ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาของสานักงานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษา (7) ประเมนิ คุณภาพการบรหิ ารงานบคุ คลและจดั ทารายงานการบรหิ ารงานบุคคลเสนอ อ.ก.ค.ศ. เขต พ้นื ที่การศึกษาเพอื่ เสนอ ก.ค.ศ. ต่อไป ( คณะกรรมการศกึ ษาธิการจงั หวัด แทน) (8) ปฏบิ ัตหิ น้าที่อนื่ ตามทบ่ี ัญญัติไว้ในพระราชบญั ญัตนิ ี้ กฎหมายอนื่ หรอื ตามท่ี ก.ค.ศ. มอบหมาย มาตรา 26 ให้คณะกรรมการสถานศึกษา มอี านาจและหน้าท่ีเก่ยี วกับการบรหิ ารงานบุคคลสาหรับขา้ ราชการ ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา ดงั ต่อไปน้ี (1) กากบั ดแู ลการบริหารงานบุคคลในสถานศึกษาใหส้ อดคลอ้ งกบั นโยบาย กฎ ระเบียบ ขอ้ บังคับ หลักเกณฑ์และวิธกี ารตามท่ี ก.ค.ศ. และ (คณะกรรมการศกึ ษาธกิ ารจังหวัด) กาหนด (2) เสนอความตอ้ งการจานวนและอตั ราตาแหนง่ ของขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษาใน สถานศกึ ษาเพื่อเสนอ(คณะกรรมการศึกษาธิการจังหวัด) พิจารณา (3) ใหข้ ้อคิดเห็นเก่ียวกับการบริหารงานบคุ คลของขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาใน สถานศึกษาต่อผ้บู รหิ ารสถานศึกษา เตรียมสอบครผู ูช้ ว่ ย By ทีมฮักแพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ ือเตรียมสอบบรรจเุ ขา้ รับราชการ ตาแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 237 (4) ปฏบิ ตั หิ นา้ ที่อืน่ ตามท่ีบัญญัตไิ วใ้ นพระราชบญั ญตั ิน้ี กฎหมายอืน่ หรือตามที่ อ.ก.ค.ศ. เขตพ้ืนท่ี การศกึ ษามอบหมาย ให้นาความในมาตรา 16 มาใชบ้ ังคับแก่คณะกรรมการสถานศกึ ษา โดยอนุโลม มาตรา 27 ให้ผู้บริหารสถานศกึ ษาเป็นผบู้ งั คบั บัญชาของขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาใน สถานศกึ ษา และมีอานาจและหน้าที่ ดงั ต่อไปนี้ (1) ควบคุม ดูแลให้การบริหารงานบุคคลในสถานศกึ ษาสอดคลอ้ งกบั นโยบาย กฎ ระเบยี บ ข้อบังคบั หลักเกณฑ์และวธิ ีการตามท่ี ก.ค.ศ. และ (คณะกรรมการศกึ ษาธกิ ารจังหวดั ) กาหนด (2) พจิ ารณาเสนอความดีความชอบของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษา (3) สง่ เสรมิ สนับสนนุ ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาในสถานศกึ ษาให้มีการพัฒนาอยา่ ง ต่อเน่ือง (4) จดั ทามาตรฐาน ภาระงานสาหรับขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศกึ ษา (5) ประเมนิ ผลการปฏิบตั งิ านตามมาตรฐานของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาเพ่ือเสนอ (คณะกรรมการศกึ ษาธิการจงั หวดั ) (6) ปฏิบตั ิหนา้ ที่อน่ื ตามที่บัญญตั ไิ ว้ในพระราชบญั ญัตินี้ กฎหมายอื่นหรอื ตามท่ี คณะกรรมการ ศกึ ษาธิการจังหวัดหรอื คณะกรรมการสถานศึกษามอบหมาย มาตรา 29 การดาเนินการตามพระราชบญั ญตั นิ ี้ให้เปน็ ไปตามหลกั การบริหารกิจการบา้ นเมอื งทดี่ โี ดยยดึ ถือ ระบบคุณธรรม ความเสมอภาคระหวา่ งบคุ คล และหลกั การไดร้ ับการปฏิบัติและการคุม้ ครองสทิ ธิอย่างเสมอ ภาคเทา่ เทียมกัน การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม เพราะเหตแุ ห่งความแตกต่างในเรื่องถ่ินกาเนิด เช้ือชาติ ภาษา เพศ อายุ สภาพทางกายหรือสขุ ภาพ สถานะของบคุ คล ฐานะทางเศรษฐกจิ หรือสังคม ความเช่อื ทางศาสนา การศึกษาอบรม หรือความคิดเห็นทไี่ ม่ตรงกันในเร่ืองอนื่ ๆ จะกระทามไิ ด้ หมวดที่ 2 บททั่วไป มาตรา 30 ภายใต้บังคบั กฎหมายว่าด้วยสภาครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาสาหรับการเปน็ ผู้ประกอบวชิ าชพี ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ผูซ้ ง่ึ จะเขา้ รับราชการเปน็ ข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาได้ต้องมี คุณสมบตั ทิ ่ัวไป ดังต่อไปน้ี (1) มีสัญชาติไทย (2) มีอายไุ ม่ตา่ กว่าสบิ แปดปีบรบิ ูรณ์ (3) เป็นผู้เลอื่ มใสในการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตรยิ ท์ รงเปน็ ประมุขตาม รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจักรไทย (4) ไมเ่ ปน็ ผู้ดารงตาแหนง่ ทางการเมือง สมาชกิ สภาท้องถ่นิ หรือผู้บรหิ ารท้องถน่ิ (5) ไมเ่ ป็นคนไร้ความสามารถ หรือจติ ฟน่ั เฟือนไม่สมประกอบ เตรยี มสอบครผู ชู้ ่วย By ทมี ฮกั แพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
ค่มู อื เตรียมสอบบรรจุเข้ารบั ราชการ ตาแหนง่ ครูผ้ชู ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 238 หรือเปน็ โรคตามทกี่ าหนดในกฎ ก.ค.ศ. (6) ไมเ่ ปน็ ผูอ้ ยู่ในระหวา่ งถูกสั่งพกั ราชการ ถูกสั่งให้ออกจากราชการไวก้ ่อนตามพระราชบญั ญัตนิ หี้ รือ ตามกฎหมายอ่ืน หรือถูกสั่งพัก หรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพตามหลกั เกณฑ์ท่ีกาหนดในกฎหมาย องค์กรวิชาชีพน้นั ๆ (7) ไม่เป็นผ้บู กพรอ่ งในศีลธรรมอันดสี าหรับการเป็นผู้ประกอบวชิ าชีพครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา (8) ไมเ่ ป็นกรรมการบริหารพรรคการเมืองหรือเจา้ หนา้ ทใ่ี นพรรคการเมือง (9) ไม่เป็นบคุ คลลม้ ละลาย (10) ไมเ่ ป็นผู้เคยต้องโทษจาคุกโดยคาพิพากษาถึงที่สดุ ใหจ้ าคกุ เว้นแตเ่ ป็นโทษสาหรับความผดิ ทไี่ ด้ กระทาโดยประมาทหรอื ความผดิ ลหุโทษ (11) ไมเ่ ปน็ ผูเ้ คยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากรัฐวสิ าหกิจ องค์การมหาชน หรือ หน่วยงานอื่นของรฐั หรอื องค์การระหว่างประเทศ (12) ไมเ่ ปน็ ผ้เู คยถกู ลงโทษให้ออก ปลดออก หรอื ไลอ่ อกเพราะกระทาผดิ วินัยตามพระราชบญั ญตั นิ ้ี หรือตามกฎหมายอ่นื (13) ไมเ่ ปน็ ผู้เคยกระทาการทุจริตในการสอบเขา้ รบั ราชการหรอื เขา้ ปฏิบตั งิ านในหนว่ ยงานของรฐั มาตรา 31 อัตราเงินเดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจาตาแหนง่ ของข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา ให้เป็นไปตามกฎหมายว่าด้วยเงินเดือน เงินวิทยฐานะ เงนิ วทิ ยฐานะและเงนิ ประจาตาแหน่งไมถ่ ือเปน็ เงนิ เดอื น มาตรา 33 ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาอาจได้รับเงินเพมิ่ สาหรับตาแหน่งท่ีมเี หตพุ ิเศษตาม ระเบยี บท่ี ก.ค.ศ. กาหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี มาตรา 35 วนั เวลาทางาน วันหยดุ ราชการตามประเพณี วนั หยดุ ราชการประจาปี และการลาหยุดราชการ ของขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษา ใหเ้ ปน็ ไปตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด หมวดที่ 3 การกาหนดตาแหน่ง วทิ ยฐานะ และการใหไ้ ด้รับเงนิ เดือน เงินวิทยฐานะ และเงินประจาตาแหนง่ มาตรา 38 ตาแหน่งขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษามี 3 ประเภทดังน้ี ก. ตาแหน่งซงึ่ มีหน้าท่เี ป็นผู้สอน (1) ครผู ้ชู ่วย (2) ครู ข. ตาแหนง่ ผบู้ ริหารสถานศึกษาและผบู้ รหิ ารการศกึ ษา (1) รองผู้อานวยการสถานศึกษา (2) ผอู้ านวยการสถานศึกษา เตรยี มสอบครูผู้ชว่ ย By ทีมฮักแพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ ือเตรยี มสอบบรรจุเขา้ รบั ราชการ ตาแหน่งครผู ูช้ ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 239 (3) รองผู้อานวยการสานักงานเขตพ้นื ท่กี ารศึกษา (4) ผอู้ านวยการสานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา (5) ตาแหน่งทเ่ี รยี กชื่ออย่างอื่นตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด ค. ตาแหนง่ บุคลากรทางการศกึ ษาอืน่ มดี ังต่อไปนี้ (1) ศึกษานเิ ทศก์ (2) ตาแหนง่ ทีเ่ รยี กชอ่ื อย่างอ่ืนตามที่ ก.ค.ศ. กาหนด มาตรา 39 ให้ตาแหน่งข้าราชการครู เปน็ ตาแหนง่ ทม่ี ีวิทยฐานะ ก. ตาแหน่งครู มวี ทิ ยฐานะ ดังตอ่ ไปน้ี (1) ครูชานาญการ ไดร้ บั เงินวทิ ยฐานะ 3,500 บาท (2) ครูชานาญการพเิ ศษ ได้รบั เงินวทิ ยฐานะ 5,600 บาท (3) ครูเชี่ยวชาญ ไดร้ บั เงนิ วทิ ยฐานะ 9,900 บาท (4) ครเู ชยี่ วชาญพิเศษ ได้รบั เงินวิทยฐานะ 13,000บาท ข. ตาแหน่งผู้บริหารสถานศึกษา มีวิทยฐานะ ดังต่อไปน้ี (1) รองผู้อานวยการชานาญการ (2) รองผู้อานวยการชานาญการพเิ ศษ (3) รองผู้อานวยการเชี่ยวชาญ (4) ผู้อานวยการชานาญการ (5) ผอู้ านวยการชานาญการพิเศษ (6) ผอู้ านวยการเช่ียวชาญ (7) ผอู้ านวยการเชยี่ วชาญพิเศษ ค. ตาแหนง่ ผ้บู รหิ ารการศึกษา มีวทิ ยฐานะ ดงั ตอ่ ไปนี้ (1) รองผู้อานวยการสานักงานเขตพน้ื ท่กี ารศึกษาชานาญการพิเศษ (2) รองผู้อานวยการสานักงานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษาเชยี่ วชาญ (3) ผอู้ านวยการสานกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษาเชย่ี วชาญ (4) ผอู้ านวยการสานักงานเขตพน้ื ที่การศกึ ษาเช่ียวชาญพิเศษ ง. ตาแหน่งศึกษานิเทศก์ มวี ิทยฐานะ ดังต่อไปนี้ (1) ศึกษานเิ ทศกช์ านาญการ (2) ศึกษานเิ ทศก์ชานาญการพิเศษ (3) ศึกษานิเทศก์เชี่ยวชาญ (4) ศึกษานเิ ทศกเ์ ช่ยี วชาญพิเศษ จ. ตาแหนง่ ท่เี รยี กช่ืออย่างอื่นตามที่ ก.ค.ศ. กาหนดใหม้ ีวทิ ยฐานะ เตรียมสอบครูผู้ชว่ ย By ทมี ฮกั แพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ ือเตรยี มสอบบรรจเุ ขา้ รบั ราชการ ตาแหนง่ ครผู ชู้ ่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 240 มาตรา 40[11] ใหต้ าแหนง่ คณาจารย์ดงั ต่อไปนี้ เปน็ ตาแหนง่ ทางวชิ าการ (ก) อาจารย์ (ข) ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ (ค) รองศาสตราจารย์ (ง) ศาสตราจารย์ หมวดท่ี 4 การบรรจุและการแต่งต้ัง มาตรา 45 การบรรจุบคุ คลเข้ารับราชการเป็นขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษา เพอ่ื แต่งตงั้ ให้ ดารงตาแหน่งใด ให้บรรจแุ ละแตง่ ต้งั จากผสู้ อบแข่งขันได้สาหรับตาแหน่งนน้ั โดยบรรจุและแต่งต้งั ตามลาดบั ท่ใี นบญั ชผี ้สู อบแขง่ ขนั ได้ มาตรา 46 ผ้สู มัครสอบแข่งขนั เพ่ือบรรจุและแต่งตงั้ เป็นข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาตาแหน่งใด ต้องมีคณุ สมบัติทั่วไปตามมาตรา 30 และต้องมีคณุ สมบัติเฉพาะสาหรบั ตาแหนง่ ตามมาตรฐานตาแหน่งนน้ั ตาม มาตรา 42 มาตรา 47 ให้ กศจ เป็นผู้ประกาศ รบั สมัคร สอบบรรจุ ก.ค.ศ. เป็นผดู้ าเนนิ การ มาตรา 49 ผู้ได้รับการบรรจแุ ละแตง่ ตัง้ เขา้ รบั ราชการเปน็ ขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาตามมาตรา 45 วรรคหน่ึง มาตรา 50 มาตรา 51 มาตรา 58 มาตรา 64 มาตรา 65 มาตรา 66 และมาตรา 67 หาก ภายหลงั ปรากฏว่าผูน้ ้ันขาดคณุ สมบัติท่ัวไป หรอื ขาดคุณสมบัติตามมาตรฐานตาแหน่งตามมาตรา 42 หรือขาด คุณสมบัติพิเศษตามมาตรา 48 อยู่ก่อนก็ดี หรือมีกรณีต้องหาอยู่ก่อนและภายหลังปรากฏว่าเป็นผู้ขาด คณุ สมบัติเน่ืองจากกรณตี อ้ งหานั้นก็ดี ใหผ้ มู้ ีอานาจตามมาตรา 53 สั่งใหผ้ ู้นนั้ ออกจากราชการโดยพลนั มาตรา 50 ในกรณีท่มี ีความจาเปน็ หรอื มเี หตพุ ิเศษที่ อ.ก.ค.ศ. เขตพ้นื ทกี่ ารศึกษาไม่สามารถดาเนินการ สอบแข่งขนั ได้ หรือการสอบแขง่ ขันอาจทาใหไ้ ม่ได้บคุ คลต้องตามประสงค์ของทางราชการ อ.ก.ค.ศ. เขต พนื้ ที่การศึกษาอาจคัดเลือกบุคคลเพื่อบรรจุและแตง่ ตงั้ เป็นข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาโดยวิธีอื่น ได้ ทัง้ นี้ ตามหลักเกณฑแ์ ละวิธีการท่ี ก.ค.ศ. กาหนด มาตรา 53 ภายใตบ้ งั คับมาตรา 45 วรรคหนง่ึ มาตรา 50 มาตรา 51 มาตรา 58 มาตรา 64 มาตรา 65 มาตรา 66 และมาตรา 67 การบรรจุและแต่งตั้งข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษา ผมู้ ีอานาจดังตอ่ ไปน้เี ปน็ ผูม้ ี อานาจสง่ั บรรจุและแตง่ ต้งั (1) การบรรจแุ ละแตง่ ตัง้ ตาแหนง่ ซึ่งมีวิทยฐานะเช่ยี วชาญพเิ ศษ เม่ือได้รับอนมุ ตั ิจาก ก.ค.ศ. แลว้ ใหผ้ บู้ ังคบั บัญชาสูงสดุ ของส่วนราชการท่ีผ้นู ั้นสงั กัดอยเู่ ป็นผู้มีอานาจสั่งบรรจุและใหร้ ฐั มนตรีเจ้าสงั กดั นาเสนอนายกรฐั มนตรีเพอ่ื นาความกราบบงั คมทลู เพื่อทรงพระกรณุ าโปรดเกล้าฯ แตง่ ต้งั เตรียมสอบครูผูช้ ว่ ย By ทมี ฮักแพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คูม่ ือเตรยี มสอบบรรจุเขา้ รับราชการ ตาแหน่งครูผ้ชู ว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 241 (2) การบรรจุและแต่งต้งั ให้ดารงตาแหนง่ รองผู้อานวยการสานกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษา ตาแหนง่ รองผู้อานวยการสานักงานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาชานาญการพิเศษ ตาแหนง่ รองผู้อานวยการสานักงานเขต พื้นท่กี ารศึกษาเชยี่ วชาญ ตาแหนง่ ผอู้ านวยการสานกั งานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษา และตาแหน่งผอู้ านวยการ สานักงานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาเช่ยี วชาญ ใหเ้ ลขาธิการ กพฐ. เปน็ ผมู้ ีอานาจสั่งบรรจุและแต่งต้งั โดยอนุมตั ิ ก.ค.ศ. (3)การบรรจแุ ละแตง่ ตง้ั ใหด้ ารงตาแหน่งรองผู้อานวยการสถานศึกษา ตาแหน่งผูอ้ านวยการสถานศึกษา ตาแหนง่ ผบู้ ริหารทีเ่ รยี กช่ืออย่างอนื่ ตามมาตรา 38 ข. (5) ตาแหนง่ ศึกษานิเทศก์ ตาแหนง่ บคุ ลากรทางการศึกษาอืน่ ตามมาตรา 38 ค. (2) ในสานักงาน เขตพนื้ ทกี่ ารศึกษา ตาแหน่งซ่ึงมวี ทิ ยฐานะชานาญการ ตาแหน่งซ่ึงมีวทิ ยฐานะชานาญการพิเศษ และตาแหน่งซ่งึ มีวทิ ยฐานะเช่ยี วชาญ ให้ ศึกษาธกิ ารจังหวัด โดยความเหน็ ชอบจาก กศจ. (แก้ไขตามคาสั่งคสช.ที่ 19/2560) (4) การบรรจแุ ละแต่งตงั้ ใหด้ ารง ตาแหน่งครผู ชู้ ว่ ย ตาแหนง่ ครู และตาแหนง่ บุคลากรทางการศกึ ษาอนื่ ตามมาตรา 38 ค.ในสถานศึกษา ให้ ศึกษาธิการจงั หวดั โดยความเห็นชอบจาก กศจ.( แกไ้ ขตามคาสัง่ คสช.ท่ี 19/2560) มาตรา 56 ผู้ใดได้รบั การบรรจุและแตง่ ตั้งใหเ้ ขา้ รบั ราชการเป็นข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาและ แต่งตงั้ ใหด้ ารงตาแหน่งตามมาตรา 45 วรรคหนง่ึ หรือมาตรา 50 ให้ทดลองปฏบิ ัติหนา้ ที่ราชการในตาแหนง่ นัน้ แต่ถา้ ผู้ใดไดร้ บั การบรรจุและแต่งต้ังในตาแหน่งครผู ้ชู ่วย ให้ผ้นู ้นั เตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม เปน็ เวลาสองปีก่อนแต่งต้ังให้ดารงตาแหนง่ ครู ทั้งน้ี การทดลองปฏิบตั ิหนา้ ท่ีราชการและการเตรียมความ พรอ้ มและพฒั นาอย่างเข้ม ให้เป็นไปตามหลักเกณฑแ์ ละวธิ ีการที่ ก.ค.ศ. กาหนด ถ้าในระหว่างทดลองปฏิบัติหน้าที่ราชการหรือเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม แล้วแต่กรณี ผู้มีอานาจตามมาตรา 53 พิจารณาเห็นว่าข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดมีความประพฤติไม่ดี หรือไม่มีความรู้หรือไม่มีความเหมาะสม หรือมีผลการประเมินทดลองปฏิบัติหน้าท่ีราชการหรือเตรียมความ พร้อมและพัฒนาอยา่ งเข้มอยู่ต่ากวา่ เกณฑ์ที่ ก.ค.ศ. กาหนด โดยไมค่ วรให้รบั ราชการต่อไปก็ให้ส่ังใหผ้ ู้นั้นออก จากราชการได้ ไม่ว่าจะครบกาหนดเวลาทดลองปฏิบัติหน้าท่ีราชการหรือเตรียมความพร้อมและพัฒนาอย่าง เข้มหรือไม่ก็ตาม ถ้าพ้นกาหนดเวลาทดลองปฏบิ ัติหน้าที่ราชการหรือเตรยี มความพร้อมและพัฒนาอย่างเข้ม ดังกล่าวแล้ว และผู้มีอานาจตามมาตรา 53 พิจารณาเห็นว่า ควรให้ผู้น้ันรับราชการต่อไป ก็สั่งให้ ผู้นั้น ปฏิบัตหิ น้าท่ใี นตาแหนง่ หรอื วทิ ยฐานะทจ่ี ะไดร้ บั แตง่ ต้ังตอ่ ไป เตรยี มสอบครผู ้ชู ่วย By ทมี ฮักแพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คูม่ อื เตรียมสอบบรรจเุ ขา้ รับราชการ ตาแหนง่ ครผู ู้ช่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 242 มาตรา 66 ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษาผูใ้ ดถูกสั่งให้ออกจากราชการเพื่อไปรับราชการทหาร ตามกฎหมายว่าด้วยการรบั ราชการทหาร เม่ือผนู้ ้ันพน้ จากราชการทหารโดยมิได้กระทาการใด ๆ ในระหวา่ งรบั ราชการทหารอนั เสยี หายแก่ราชการอย่างร้ายแรงหรอื ไดช้ ่ือว่าเป็นผูป้ ระพฤติช่วั อย่างรา้ ยแรงและผนู้ ัน้ ไม่เปน็ ผู้ขาดคณุ สมบัติตามมาตรา 30 และไม่ได้ถกู สง่ั เปลีย่ นแปลงคาสัง่ ตามมาตรา 114 วรรคสอง เป็นให้ออกจาก ราชการตามมาตราอื่น หากประสงคจ์ ะกลับเข้ารบั ราชการเป็นขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษาใน หน่วยงานการศึกษาเดมิ ให้ย่ืนเร่ืองขอกลับเขา้ รบั ราชการภายในกาหนดหน่งึ ร้อยแปดสิบวันนับแต่วันพ้น จากราชการทหาร และให้ผูม้ ีอานาจตามมาตรา 53 สง่ั บรรจุและแต่งตั้งผนู้ นั้ เปน็ ขา้ ราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษา โดยใหม้ ตี าแหนง่ วทิ ยฐานะ และรบั เงนิ เดือนตาม หลกั เกณฑ์และวธิ ีการที่ ก.ค.ศ. กาหนด มาตรา 68 ภายใต้บังคับกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ ถ้าตาแหน่งข้าราชการ ครูและบุคลากรทางการศึกษาตาแหนง่ ใดว่างลง หรือผู้ดารงตาแหน่งไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ราชการได้ ให้ผู้มี อานาจตามมาตรา 53 สั่งใหข้ า้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาไปรกั ษาการในตาแหนง่ นน้ั ได้ ผู้รักษาการในตาแหน่งตามวรรคหน่ึงให้มีอานาจและหน้าท่ีตามตาแหน่งท่ีรักษาการนั้น ในกรณีท่ีมี กฎหมายอ่ืน กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี มติคณะกรรมการตามกฎหมาย หรือมีคาสั่งของ ผูบ้ งั คบั บญั ชา แต่งต้งั ให้ผดู้ ารงตาแหนง่ นัน้ ๆ เป็นกรรมการ หรอื ใหม้ ีอานาจและหน้าทอ่ี ย่างใดก็ให้ผรู้ ักษาการ ในตาแหน่งทาหน้าท่ีกรรมการ หรือมีอานาจและหน้าทีอ่ ยา่ งนัน้ ในระหว่างรกั ษาการในตาแหน่งแลว้ แตก่ รณี หมวดที่ 5 การเสรมิ สร้างประสทิ ธิภาพในการปฏบิ ัตริ าชการ มาตรา 72 ให้ผู้บังคับบัญชามีหน้าที่ประเมินผลการปฏิบัติงานของข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษา โดยยึดหลักการปฏิบัติตนที่เหมาะสมกับการเป็นข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศึกษาและปฏิบัติราชการ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเกิดประสิทธิผลมีผลงาน เป็นที่ประจักษ์ ถือว่าผู้น้ันมีความชอบสมควรได้รับ บาเหนจ็ ความชอบ ซ่งึ อาจเปน็ บันทึกคา ชมเชย รางวัล เครอื่ งเชิดชูเกียรติ หรอื การเลื่อนขน้ั เงินเดือน หรอื การ บรหิ ารงานบุคคลในเรื่อง อ่ืน ทั้งน้ี ให้เปน็ ไปตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ ีการที่ ก.ค.ศ. กาหนด มาตรา 80 ให้มีการพัฒนาขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษากอ่ นแตง่ ต้งั ให้ดารงตาแหน่งบาง ตาแหนง่ และบางวิทยฐานะ เพือ่ เพิม่ พูนความรู้ ทักษะ เจตคติทดี่ ี คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณ วชิ าชีพทีเ่ หมาะสม ในอันทีจ่ ะทาใหก้ ารปฏบิ ตั หิ น้าที่ราชการเกดิ ประสทิ ธิภาพ ประสทิ ธิผล และความก้าวหน้า แกร่ าชการ ท้ังนี้ ตามหลกั เกณฑแ์ ละวธิ กี ารที่ ก.ค.ศ. กาหนด มาตรา 81 ให้ผู้บังคับบัญชามหี นา้ ท่ใี นการสง่ เสรมิ สนับสนุนผอู้ ย่ใู ต้บังคับบญั ชา โดยการใหไ้ ปศึกษา ฝึกอบรม ดงู าน หรือปฏิบตั ิงานวิจยั และพฒั นาตามระเบียบที่ ก.ค.ศ. กาหนด ในกรณที ่ีมีความจาเปน็ หรือเปน็ ความต้องการของหน่วยงานเพอื่ ประโยชนต์ อ่ การพัฒนาคุณภาพ การศึกษาหรอื วิชาชพี หรือคุณวุฒิขาดแคลน ผ้บู งั คบั บัญชาอาจส่งหรอื อนญุ าตให้ขา้ ราชการครูและบุคลากร เตรยี มสอบครูผชู้ ว่ ย By ทีมฮักแพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
ค่มู ือเตรียมสอบบรรจุเขา้ รบั ราชการ ตาแหน่งครผู ้ชู ่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 243 ทางการศกึ ษาลาไปศกึ ษา ฝึกอบรม หรือวจิ ัย โดยอนุมัติ ก.ค.ศ. หรอื อ.ก.ค.ศ. เขตพนื้ ที่การศึกษาที่ได้รับ มอบหมาย โดยให้ถอื เปน็ การปฏิบัตหิ นา้ ทีร่ าชการ และมีสิทธไิ ด้เล่ือนขัน้ เงนิ เดือนในระหวา่ งลาไปศึกษา ฝึกอบรม หรือวิจยั แลว้ แต่กรณี ทงั้ นี้ ภายใตบ้ งั คับมาตรา 73 วรรคสาม หมวดที่ 5 การเสรมิ สร้างประสิทธภิ าพในการปฏิบัตริ าชการ มาตรา 82 ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาต้องรักษาวนิ ัยทบ่ี ญั ญตั ิเป็นข้อหา้ มและข้อปฏิบตั ิไวใ้ น หมวดน้โี ดยเคร่งครัดอยูเ่ สมอ มาตรา 83 ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาต้องสนบั สนุนการปกครองในระบอบประชาธปิ ไตยอันมี พระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมุขตามรฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทยดว้ ยความบริสทุ ธิใ์ จและมหี นา้ ท่ี วางรากฐานใหเ้ กดิ ระบอบการปกครองเช่นว่าน้นั มาตรา 84 ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตอ้ งปฏบิ ัตหิ นา้ ทร่ี าชการดว้ ยความซ่ือสตั ย์สจุ ริต เสมอ ภาคและเท่ยี งธรรม มคี วามวริ ิยะ อุตสาหะ ขยนั หมน่ั เพยี ร ดแู ลเอาใจใส่ รักษาประโยชนข์ องทางราชการ และ ต้องปฏิบัตติ นตามมาตรฐานและจรรยาบรรณวิชาชพี อย่างเคร่งครดั หา้ มมใิ ห้อาศยั หรือยอมใหผ้ ูอ้ ่ืนอาศยั อานาจและหน้าท่ีราชการของตน ไม่วา่ จะโดยทางตรงหรือทางออ้ ม หา ประโยชน์ให้แก่ตนเองหรอื ผู้อื่น การปฏบิ ตั หิ รอื ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ราชการโดยมิชอบ เพ่อื ใหต้ นเองหรอื ผู้อืน่ ไดร้ ับประโยชนท์ ี่ มิควรได้ เปน็ การทุจรติ ต่อหน้าท่ีราชการ เป็นความผดิ วินยั อยา่ งรา้ งแรง มาตรา 85 ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาตอ้ งปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีราชการใหเ้ ป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ แบบแผนของทางราชการและหนว่ ยงานการศกึ ษา มติคณะรฐั มนตรี หรอื นโยบายของรฐั บาลโดยถือ ประโยชน์สูงสดุ ของผเู้ รยี น และไม่ให้เกดิ ความเสยี หายแก่ทางราชการ การปฏบิ ตั ิหน้าท่รี าชการโดยจงใจไมป่ ฏิบตั ติ ามกฎหมาย ระเบียบแบบแผนของทางราชการและ หนว่ ยงานการศึกษา มติคณะรัฐมนตรหี รือนโยบายของรฐั บาล ประมาทเลนิ เล่อหรือขาดการเอาใจใส่ ระมัดระวังรักษาประโยชนข์ องทางราชการ อนั เปน็ เหตใุ หเ้ กดิ ความเสยี หายแกร่ าชการอยา่ งรา้ ยแรงเป็น ความผิดวนิ ัยอย่างร้ายแรง มาตรา 86 ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องปฏิบัติตามคาสั่งของผู้บังคับบัญชาซึ่งส่ังในหน้าที่ ราชการโดยชอบด้วยกฎหมายและระเบียบของทางราชการ โดยไม่ขัดขืนหรือหลีกเล่ียง แต่ถ้าเห็นว่าการ ปฏิบัติตามคาส่ังนั้นจะทาให้เสียหายแก่ราชการ หรือจะเป็นการไม่รักษาประโยชน์ของทางราชการจะเสนอ ความเห็นเป็นหนังสือภายในเจ็ดวัน เพื่อให้ผู้บังคับบัญชาทบทวนคาสั่งนั้นก็ได้และเม่ือเสนอความเห็นแล้ว ถา้ ผู้บังคบั บัญชายนื ยันเปน็ หนังสอื ใหป้ ฏบิ ตั ติ ามคาสง่ั เดิม ผอู้ ย่ใู ตบ้ งั คับบัญชาจะตอ้ งปฏิบัติตาม เตรยี มสอบครูผ้ชู ว่ ย By ทีมฮักแพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ ือเตรียมสอบบรรจุเขา้ รบั ราชการ ตาแหน่งครผู ู้ชว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 244 การขดั คาสงั่ หรอื หลกี เลยี่ งไม่ปฏบิ ัติตามคาสั่งของผู้บังคับบัญชา ซ่ึงสง่ั ในหน้าท่ีราชการโดยชอบด้วย กฎหมายและระเบยี บของทางราชการ อนั เปน็ เหตุใหเ้ สยี หายแกร่ าชการอย่างรา้ ยแรง เปน็ ความผดิ วนิ ัย อยา่ งรา้ ยแรง มาตรา 87 ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาตอ้ งตรงต่อเวลา อุทิศเวลาของตนให้แกท่ างราชการและ ผเู้ รยี น จะละท้ิงหรือทอดท้ิงหน้าทีร่ าชการโดยไม่มเี หตุผลอนั สมควรมไิ ด้ การละท้งิ หน้าที่หรอื ทอดทิ้งหนา้ ท่ี ราชการโดยไมม่ เี หตผุ ลอนั สมควร เปน็ เหตุให้เสียหายแก่ราชการอยา่ งร้ายแรง หรอื การละทิ้งหน้าท่ีราชการ ติดตอ่ ในคราวเดยี วกันเป็นเวลาเกินกวา่ สิบห้าวัน โดยไม่มีเหตผุ ลอันสมควรหรือโดยมพี ฤติการณ์อันแสดงถึง ความจงใจไม่ปฏิบตั ติ ามระเบียบของทางราชการเป็นความผิดวนิ ัยอยา่ งร้ายแรง มาตรา 88 ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาตอ้ งประพฤตเิ ปน็ แบบอย่างที่ดีแก่ผู้เรียน ชมุ ชน สงั คม มี ความสภุ าพเรยี บรอ้ ย รักษาความสามคั คี ช่วยเหลอื เก้ือกลู ตอ่ ผ้เู รียนและระหว่างข้าราชการด้วยกันหรือผู้ร่วม ปฏบิ ัตริ าชการ ตอ้ นรบั ให้ความสะดวก ให้ความเปน็ ธรรมแกผ่ เู้ รยี นและประชาชนผมู้ าตดิ ต่อราชการ การกลนั่ แกลง้ ดหู ม่ิน เหยียดหยาม กดขี่ หรือข่มเหงผู้เรยี น หรอื ประชาชนผู้มาติดต่อราชการอยา่ ง ร้ายแรง เป็นความผดิ วนิ ัยอยา่ งรา้ ยแรง มาตรา 89 ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตอ้ งไม่กล่ันแกล้ง กล่าวหาหรือร้องเรียนผ้อู ืน่ โดย ปราศจากความเป็นจรงิ การกระทาตามวรรคหน่ึง ถ้าเปน็ เหตใุ ห้ผอู้ ืน่ ได้รบั ความเสียหายอย่างรา้ ยแรงเป็นความผิดวินัย อยา่ งรา้ ยแรง มาตรา 90 ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษาต้องไม่กระทาการหรือยอมใหผ้ อู้ น่ื กระทาการหาประโยชน์ อนั อาจทาใหเ้ ส่ือมเสยี ความเที่ยงธรรมหรือเสอ่ื มเสยี เกียรติศักด์ิในตาแหนง่ หน้าทร่ี าชการของตน การกระทาตามวรรคหนงึ่ ถา้ เปน็ การกระทาโดยมีความมงุ่ หมายจะให้เปน็ การซ้ือขาย หรือใหไ้ ดร้ ับแตง่ ต้งั ให้ ดารงตาแหน่งหรือวทิ ยฐานะใดโดยไมช่ อบด้วยกฎหมาย หรือเป็นการกระทาอนั มีลกั ษณะเป็นการให้ หรอื ไดม้ า ซง่ึ ทรัพย์สนิ หรือสิทธปิ ระโยชนอ์ น่ื เพื่อใหต้ นเองหรือผ้อู ื่นได้รบั การบรรจแุ ละแตง่ ตง้ั โดยมชิ อบหรือเสื่อมเสีย ความเท่ียงธรรม เปน็ ความผิดวินัยอยา่ งร้ายแรง มาตรา 91 ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาต้องไม่คัดลอกหรอื ลอกเลียนผลงานทางวชิ าการของ ผอู้ ่ืนโดยมชิ อบ หรอื นาเอาผลงานทางวชิ าการของผู้อืน่ หรือจ้าง วาน ใชผ้ ้อู นื่ ทาผลงานทางวิชาการเพื่อไปใช้ ในการเสนอขอปรบั ปรุงการกาหนดตาแหน่ง การเลื่อนตาแหนง่ การเลอ่ื นวทิ ยฐานะหรือการใหไ้ ด้รับเงนิ เดือนในระดับท่สี ูงข้นึ การฝา่ ฝนื หลักการดังกล่าวนี้ เป็น ความผดิ วนิ ัยอยา่ งร้ายแรง เตรยี มสอบครูผู้ชว่ ย By ทีมฮกั แพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ อื เตรียมสอบบรรจุเขา้ รับราชการ ตาแหน่งครูผูช้ ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 245 ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาท่ีร่วมดาเนนิ การคัดลอกหรือลอกเลียนผลงานของผู้อ่ืนโดยมิชอบ หรอื รบั จัดทาผลงานทางวิชาการไมว่ า่ จะมีคา่ ตอบแทนหรือไม่ เพอื่ ให้ผู้อื่นนาผลงานนั้นไปใชป้ ระโยชนใ์ น การดาเนินการตามวรรคหนึง่ เป็นความผิดวนิ ยั อยา่ งร้ายแรง มาตรา 92 ขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาต้องไม่เปน็ กรรมการผ้จู ดั การ หรอื ผู้จดั การ หรือดารง ตาแหน่งอ่ืนใดที่มีลักษณะงานคล้ายคลึงกันน้ันในหา้ งหุ้นส่วนหรือบริษทั มาตรา 93 ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาต้องวางตนเป็นกลางทางการเมืองในการปฏบิ ัติหนา้ ท่ี และในการปฏบิ ตั ิการอ่นื ทเี่ ก่ียวข้องกับประชาชน โดยต้องไมอ่ าศัยอานาจและหน้าทร่ี าชการของตนแสดงการ ฝกั ใฝ่ ส่งเสริม เกือ้ กลู สนับสนุนบุคคล กลมุ่ บุคคล หรือพรรคการเมืองใด ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาต้องไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการดาเนินการใด ๆ อันมีลักษณะ เป็นการทุจริตโดยการซ้ือสิทธิหรือขายเสียงในการเลือกตั้งสมาชิกรัฐสภา สมาชิกสภาท้องถ่ิน ผู้บริหาร ท้องถ่ิน หรือการเลือกตั้งอ่ืนที่มีลักษณะเป็นการส่งเสริมการปกครองในระบอบประชาธิปไตยรวมท้ังจะต้อง ไม่ให้การส่งเสริม สนับสนุน หรือชักจูงให้ผู้อื่นกระทาการในลักษณะเดียวกัน การดาเนินการท่ีฝ่าฝืนหลักการ ดงั กล่าวนี้ เป็นความผิดวินยั อย่างรา้ ยแรง มาตรา 94 ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตอ้ งรักษาช่อื เสียงของตนและรกั ษาเกียรติศักดิข์ อง ตาแหนง่ หนา้ ทีร่ าชการของตนมิใหเ้ สอื่ มเสีย โดยไม่กระทาการใด ๆ อนั ไดช้ อ่ื ว่าเป็นผ้ปู ระพฤติชวั่ การกระทาความผิดอาญาจนได้รับโทษจาคุก หรือโทษที่หนักกว่าจาคุก โดยคาพิพากษาถึงที่สุดให้ จาคุกหรือให้รับโทษท่ีหนักกว่าจาคุก เว้นแต่เป็นโทษสาหรับความผิดท่ีได้กระทาโดยประมาท หรือความผิด ลหโุ ทษ หรือกระทาการอนื่ ใดอันได้ช่ือว่าเป็นผปู้ ระพฤติชว่ั อยา่ งร้ายแรง เปน็ ความผิดวินยั อยา่ งรา้ ยแรง ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาท่ีเสพยาเสพติดหรือสนับสนุนให้ผู้อื่นเสพยาเสพติด เล่นการพนันเป็นอาจิณ หรอื กระทาการล่วงละเมิดทางเพศต่อผูเ้ รียนหรือนักศึกษา ไมว่ ่าจะอยู่ในความดูแล รบั ผดิ ชอบของตนหรือไม่ เปน็ ความผดิ วินยั อยา่ งรา้ ยแรง มาตรา 95 ให้ผู้บงั คบั บัญชามีหนา้ ท่เี สรมิ สรา้ งและพฒั นาใหผ้ อู้ ยู่ใต้บังคบั บญั ชามีวินัย ปอ้ งกนั มใิ ห้ผ้อู ยใู่ ต้ บงั คบั บญั ชากระทาผดิ วินยั และดาเนนิ การทางวนิ ัยแกผ่ ู้อยู่ใต้บงั คับบญั ชาซ่ึงมกี รณอี ันมีมลู ท่ีควรกล่าวหาวา่ กระทาผิดวินยั การเสริมสร้างและพัฒนาให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชามีวินัย ให้กระทาโดยการปฏิบัติตนเปน็ แบบอย่างท่ี ดี การฝึกอบรม การสร้างขวัญและกาลังใจ การจูงใจ หรือการอื่นใดในอันที่จะเสริมสร้างและพัฒนาเจตคติ จติ สานกึ และพฤติกรรมของผู้อยใู่ ตบ้ งั คบั บญั ชาให้เป็นไปในทางท่ีมวี นิ ัย การป้องกันมิให้ผู้อยู่ใต้บังคับบัญชากระทาผิดวินัยใหก้ ระทาโดยการเอาใจใส่ สังเกตการณ์และขจัด เหตทุ ี่อาจกอ่ ให้เกดิ การกระทาผิดวนิ ยั ในเรือ่ งอันอยใู่ นวิสยั ทจ่ี ะดาเนนิ การปอ้ งกันตามควรแกก่ รณไี ด้ เม่ือปรากฏกรณีมีมูลที่ควรกล่าวหาว่าข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาผู้ใดกระทาผิดวินัยโดยมี พยานหลกั ฐานในเบือ้ งต้นอยูแ่ ล้ว ใหผ้ ู้บังคับบญั ชาดาเนินการทางวินัยทันที เตรียมสอบครูผูช้ ่วย By ทีมฮักแพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445