คู่มือเตรยี มสอบบรรจเุ ข้ารับราชการ ตาแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 346 หมวด 1 บททวั่ ไป มาตรา 5 การพัฒนาเด็กปฐมวยั ตามพระราชบัญญัตินี้ มีวัตถปุ ระสงค์ ดังต่อไปนี้ (1) ให้มารดาไดร้ ับการดูแลในระหว่างต้ังครรภเ์ พ่ือใหบ้ ตุ รทอี่ ยใู่ นครรภ์มสี ขุ ภาวะและพัฒนาการที่ดี (2) ใหเ้ ดก็ ปฐมวยั อยรู่ อดปลอดภัยและได้รับความคุ้มครองใหพ้ น้ จากการล่วงละเมดิ ไมว่ า่ ในทางใด (3) ให้เดก็ ปฐมวยั มพี ัฒนาการที่ดรี อบดา้ นทงั้ ทางร่างกาย จิตใจ วินยั อารมณ์ สังคม และสติปญั ญา ให้สมกับวัย เพื่อให้เกิดทกั ษะพน้ื ฐานในการเรียนรู้อย่างต่อเนือ่ งตลอดชีวติ สามารถเรยี นรอู้ ยา่ งสอดคลอ้ งกับ หลกั การพฒั นาศกั ยภาพของแตล่ ะบคุ คลและความต้องการจาเป็นพิเศษ (4) สร้างคณุ ลักษณะให้เด็กปฐมวัยมอี ุปนสิ ัยใฝด่ ี มคี ณุ ธรรม มีวนิ ัย ใฝร่ ู้ มีความคดิ สรา้ งสรรค์ และ สามารถซึมซับสนุ ทรียะและวัฒนธรรมท่ีหลากหลายได้ (5) บ่มเพาะเจตคติของเด็กปฐมวยั ให้เคารพคุณค่าของบุคคลอ่นื มจี ติ วิญญาณของการอย่รู ว่ มกนั ใน สงั คมอยา่ งเสมอภาค และมีจติ สานึกในความเป็นพลเมืองไทยและพลโลก (6) ให้ผู้ดูแลเดก็ ปฐมวัยได้รับความรู้ ทกั ษะ และเจตคตทิ ่ีดใี นการพฒั นาเดก็ ปฐมวยั มาตรา 6 ให้หน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมที่เก่ียวข้อง มีภารกิจร่วมกันดาเนินการเพ่ือให้มีการพัฒนาเด็กปฐมวัย และดาเนินการให้เป็นไปตามมาตรฐานและแนว ปฏิบัติที่ดีเกี่ยวกับการพัฒนาเดก็ ปฐมวยั ตามที่คณะกรรมการกาหนด รวมทั้งส่งเสริมให้ผ้ดู ูแลเด็กปฐมวยั จัดให้ เด็กปฐมวัยซึ่งอยู่ในความดูแลได้รับการพัฒนาตามมาตรฐานและแนวปฏิบัติที่ดีเกี่ยวกับการพัฒนาเด็กปฐมวยั ดงั กล่าว มาตรา 7 บดิ า มารดา และผู้ปกครองมหี นา้ ทจี่ ดั ใหเ้ ด็กปฐมวัยซงึ่ อยู่ในความดูแลไดร้ บั การพฒั นาตามแนว ปฏบิ ัตทิ ่ดี เี กยี่ วกบั การพฒั นาเดก็ ปฐมวัย มาตรา 8 การจัดการเรยี นร้ขู องสถานพฒั นาเด็กปฐมวยั ต้องเปน็ ไปเพื่อเตรยี มความพรอ้ มของเด็กปฐมวัย แต่ตอ้ งไมเ่ ปน็ การจัดการเรยี นร้ทู ่ีมุ่งเน้นการสอบแขง่ ขนั ระหว่างเดก็ ปฐมวยั เตรียมสอบครูผู้ชว่ ย By ทมี ฮกั แพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มือเตรยี มสอบบรรจเุ ขา้ รบั ราชการ ตาแหน่งครผู ูช้ ว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 347 หมวด 2 คณะกรรมการนโยบายการพฒั นาเดก็ ปฐมวยั มาตรา 9 ให้มีคณะกรรมการนโยบายการพฒั นาเด็กปฐมวัย ประกอบด้วย ที่ คณะกรรมการ ตาแหน่ง 1. นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรซี ึ่งนายกรัฐมนตรีมอบหมาย ประธานกรรมการ 2. รฐั มนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสงั คมและความม่ันคงของมนุษย์ กรรมการโดยตาแหน่ง 3. รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย 4. รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศกึ ษาธิการ 5. รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงสาธารณสขุ 6. ผู้ว่าราชการกรงุ เทพมหานคร 7. นายกสมาคมสนั นบิ าตเทศบาลแหง่ ประเทศไทย 8. นายกสมาคมองคก์ ารบริหารสว่ นจงั หวัดแหง่ ประเทศไทย 9. นายกสมาคมองค์การบริหารสว่ นตาบลแห่งประเทศไทย 10. กรรมการผทู้ รงคณุ วุฒิ จานวน 8 คน ซง่ึ นายกรัฐมนตรแี ตง่ ตั้งจากผู้ กรรมการผทู้ รงคุณวุฒิ มีความรู้ความเช่ยี วชาญด้านการพฒั นาเดก็ ปฐมวยั ด้านการศกึ ษา ด้านการศึกษาพเิ ศษ ด้านการสาธารณสุขดา้ นสังคมสงเคราะห์ และ ดา้ นสื่อสารมวลชน ด้านละหนึ่งคน และด้านการบรหิ ารสถานพัฒนา เดก็ ปฐมวัยจานวนสองคน ซง่ึ มาจากสถานพฒั นาเด็กปฐมวัยภาครัฐ หนึง่ คนและภาคเอกชนหนึง่ คน 11. เลขาธิการสภาการศึกษา กรรมการและเลขานุการ 12. ขา้ ราชการหรอื เจ้าหน้าที่ของสานกั งานเลขาธกิ ารสภาการศึกษา ผ้ชู ว่ ยเลขานกุ าร จานวนไม่เกนิ 2 คน ซง่ึ เลขาธิการสภาการศึกษาแตง่ ตั้ง มาตรา 10 กรรมการผ้ทู รงคุณวฒุ ติ ามมาตรา 9 (3) ต้องมีคณุ สมบตั แิ ละไม่มลี ักษณะตอ้ งหา้ ม ดงั ตอ่ ไปน้ี (1) มีสญั ชาติไทย (2) มีอายไุ มต่ า่ กวา่ สามสิบห้าปี (3) ไม่เปน็ หรอื เคยเปน็ บคุ คลล้มละลายทจุ รติ (4) ไม่เปน็ คนไรค้ วามสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ (5) ไม่เคยไดร้ บั โทษจาคกุ โดยคาพิพากษาถงึ ทสี่ ดุ ใหจ้ าคุก เวน้ แตเ่ ปน็ โทษสาหรับความผิด ท่ไี ด้กระทาโดยประมาทหรือความผิดลหโุ ทษ (6) ไม่เป็นขา้ ราชการการเมอื ง ผ้ดู ารงตาแหน่งทางการเมอื ง กรรมการหรือผ้ดู ารงตาแหน่งท่ี รับผิดชอบในการบริหารพรรคการเมือง ทปี่ รึกษาพรรคการเมอื ง หรอื เจ้าหนา้ ท่ีพรรคการเมือง เตรียมสอบครูผชู้ ว่ ย By ทมี ฮักแพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
ค่มู ือเตรียมสอบบรรจเุ ขา้ รับราชการ ตาแหนง่ ครูผู้ชว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 348 (7) ไม่เคยถูกไล่ออก ปลดออก หรือให้ออกจากราชการ หนว่ ยงานของรฐั หรอื หนว่ ยงาน ของเอกชน เพราะทุจริตตอ่ หนา้ ท่ี มาตรา 11 กรรมการผู้ทรงคุณวุฒติ ามมาตรา 9 (3) มีวาระการดารงตาแหน่งคราวละส่ปี ี และอาจไดร้ ับ แตง่ ต้ังอีกได้ แต่จะดารงตาแหนง่ ตดิ ตอ่ กันเกินสองวาระไม่ได้ เม่อื ครบกาหนดตามวาระหากยังมิไดแ้ ต่งตั้ง กรรมการผู้ทรงคณุ วุฒขิ ้นึ ใหม่ ใหก้ รรมการผทู้ รงคุณวุฒิซ่งึ พน้ จากตาแหน่งตามวาระนนั้ อยู่ในตาแหน่งเพ่ือ ปฏบิ ัติหน้าที่ต่อไปจนกวา่ กรรมการผู้ทรงคุณวฒุ ซิ งึ่ ไดร้ บั แต่งต้งั ใหมเ่ ข้ารับหนา้ ท่ี มาตรา 12 นอกจากการพน้ จากตาแหนง่ ตามวาระ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒติ ามมาตราพน้ จากตาแหนง่ เม่ือ (1) ตาย (2) ลาออก (3) ขาดคุณสมบัตหิ รือมลี ักษณะต้องหา้ มตามมาตรา 10 (4) ขาดประชุมคณะกรรมการสามครงั้ ตดิ ต่อกนั โดยไมม่ เี หตอุ นั สมควรตามหลักเกณฑท์ ่ีคณะกรรมการ กาหนด (5) นายกรัฐมนตรีใหอ้ อกเพราะบกพรอ่ งตอ่ หน้าที่ มีความประพฤติเส่อื มเสยี หรือ หยอ่ นความสามารถ มาตรา 13 ในกรณีท่ีกรรมการผ้ทู รงคุณวุฒติ ามมาตรา 9 (3) พ้นจากตาแหน่งก่อนวาระ ใหด้ าเนนิ การแต่งตั้ง กรรมการผทู้ รงคณุ วุฒแิ ทนตาแหน่งที่วา่ งภายในหกสิบวันนับแต่วันที่ตาแหนง่ ว่างลงและให้ผซู้ ่งึ ได้รับแต่งตัง้ ให้ดารงตาแหนง่ แทนอยใู่ นตาแหน่งเท่ากับวาระทเี่ หลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน เว้นแต่วาระของกรรมการ ผทู้ รงคุณวุฒนิ น้ั เหลอื ไม่ถึงเก้าสบิ วันจะไมแ่ ต่งตัง้ กรรมการแทนก็ได้ โดยในระหวา่ งทย่ี ังมไิ ด้มีการแตง่ ต้ัง กรรมการแทนตาแหน่งทว่ี ่าง ใหค้ ณะกรรมการประกอบดว้ ยกรรมการเทา่ ท่ีเหลืออยู่ มาตรา 14 คณะกรรมการมหี น้าทีแ่ ละอานาจ ดังต่อไปน้ี (1) จัดทานโยบายระดับชาตดิ ้านการพัฒนาเด็กปฐมวัยซ่งึ ต้องสอดคล้องกบั กฎหมายวา่ ด้วยการศึกษา แห่งชาติ ยทุ ธศาสตรช์ าติ และแผนการปฏิรูปประเทศ และใหค้ วามเห็นชอบแผนพัฒนาเด็กปฐมวยั เสนอต่อ คณะรัฐมนตรีเพ่ือพจิ ารณาให้ความเหน็ ชอบ เพ่ือใหห้ นว่ ยงานและบคุ ลากรท่ีเก่ียวข้องกับเดก็ ปฐมวยั ไดน้ าไป ปฏิบัติ (2) อนุมัติแผนงบประมาณและแผนการดาเนนิ งานประจาปีแบบบูรณาการของหน่วยงานของรัฐและ องค์กรปกครองสว่ นท้องถน่ิ ที่เกย่ี วข้องกับการพัฒนาเด็กปฐมวัย (3) เสนอแนะและใหค้ าปรกึ ษาแกค่ ณะรฐั มนตรีในการพัฒนาเด็กปฐมวัยและการจัดการศึกษาของเด็ก ปฐมวัยตงั้ แต่ระดบั อนบุ าลจนถึงระดบั ประถมศึกษาใหเ้ ชื่อมโยงกบั พัฒนาการของเดก็ ปฐมวยั (4) เสนอให้มีหรือแก้ไขปรับปรงุ กฎหมายทจ่ี าเป็นเพ่ือดาเนินการตามนโยบายระดับชาติด้านการ พัฒนาเดก็ ปฐมวยั และแผนพัฒนาเด็กปฐมวัย เตรยี มสอบครผู ู้ช่วย By ทมี ฮกั แพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มอื เตรียมสอบบรรจุเข้ารับราชการ ตาแหนง่ ครผู ชู้ ่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 349 (5) บูรณาการการพฒั นาเด็กปฐมวยั ของหนว่ ยงานของรัฐ องค์กรปกครองสว่ นท้องถ่นิ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ใหเ้ ปน็ ไปตามนโยบายระดบั ชาตดิ ้านการพัฒนาเด็กปฐมวยั และ แผนพฒั นาเดก็ ปฐมวยั (6) กาหนดมาตรฐานและแนวปฏิบตั ทิ ่ีดีเกย่ี วกับการพฒั นาเดก็ ปฐมวัย (7) กาหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการรับเดก็ ปฐมวยั เขา้ ศึกษาในระดบั อนบุ าลและระดบั ประถมศึกษา เพอ่ื มิใหม้ ีผลกระทบต่อพฒั นาการของเด็กปฐมวัย (8) กาหนดสมรรถนะและตัวช้ีวดั การพัฒนาเด็กปฐมวัย (9) ติดตามและส่งเสริมให้หน่วยงานทเี่ ก่ียวข้องดาเนนิ การจัดเกบ็ ข้อมลู สารสนเทศของเด็กปฐมวยั อย่างเปน็ ระบบ (10) ส่งเสรมิ ให้มีการศกึ ษาวจิ ยั และการสร้างนวัตกรรมที่เก่ียวกบั การพฒั นาเดก็ ปฐมวัย (11) ส่งเสรมิ ใหผ้ ดู้ ูแลเด็กปฐมวัยและครูอาจารยส์ ามารถดูแลและพัฒนาเด็กปฐมวยั ได้อย่างมคี ุณภาพ ตามหลกั การและปรชั ญาของการพัฒนาเด็กปฐมวยั (12) ประสานงานและใหข้ ้อมูลแก่กองทนุ เพอ่ื ความเสมอภาคทางการศึกษาตามกฎหมายว่าดว้ ย กองทนุ เพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา เพอื่ พจิ ารณาใหค้ วามช่วยเหลือเดก็ ปฐมวัยซึ่งขาดแคลนทนุ ทรัพย์ หรือดอ้ ยโอกาสไดร้ บั การพัฒนาทางรา่ งกาย จิตใจ วินัย อารมณ์ สังคม และสติปญั ญาใหส้ มกบั วัย (13) ปฏิบัติหน้าที่อนื่ ตามที่พระราชบญั ญตั นิ ี้หรอื กฎหมายอื่นกาหนดใหเ้ ป็นหน้าทีห่ รืออานาจของ คณะกรรมการ หรือตามที่คณะรฐั มนตรมี อบหมาย มาตรา 15 การประชุมของคณะกรรมการต้องมกี รรมการมาประชมุ ไม่น้อยกวา่ กึ่งหนงึ่ ของจานวนกรรมการ ท้ังหมด จึงจะเปน็ องคป์ ระชมุ ในการประชุมของคณะกรรมการ ถา้ ประธานกรรมการไม่มาประชมุ หรอื ไม่อาจ ปฏบิ ัตหิ น้าท่ีได้ให้ท่ีประชมุ เลือกกรรมการคนหนึง่ เปน็ ประธานในทีป่ ระชุมการวินิจฉยั ช้ีขาดของที่ประชมุ ใหถ้ ือ เสยี งขา้ งมาก กรรมการคนหน่ึงใหม้ ีเสยี งหน่งึ ในการลงคะแนนถา้ คะแนนเสียงเท่ากนั ใหป้ ระธานในท่ปี ระชมุ ออกเสียงเพ่ิมขึ้นอีกเสยี งหนงึ่ เปน็ เสยี งช้ขี าด ให้มกี ารประชุมคณะกรรมการอย่างนอ้ ยปีละ 4 ครัง้ มาตรา 16 ในการปฏิบัติหน้าท่ีตามพระราชบัญญัติน้ี คณะกรรมการมีอานาจแต่งตั้งท่ีปรึกษาและ คณะอนุกรรมการ เพื่อดาเนินการตามท่ีคณะกรรมการมอบหมายได้ การประชุมของคณะอนุกรรมการ ให้นา ความในมาตรา 15 มาใช้บงั คบั ด้วยโดยอนุโลม มาตรา 17 ให้มคี ณะอนกุ รรมการบูรณาการการพัฒนาเดก็ ปฐมวัยซ่ึงคณะกรรมการแตง่ ตั้ง มหี น้าที่และอานาจในการเสนอแนะและให้ความเหน็ ต่อคณะกรรมการในเรื่อง ดงั ต่อไปน้ี (1) จัดทาแผนพฒั นาเด็กปฐมวัยใหส้ อดคล้องกบั กฎหมายว่าดว้ ยการศกึ ษาแหง่ ชาติยุทธศาสตร์ชาติ และแผนการปฏิรปู ประเทศ (2) กาหนดแนวทางบูรณาการการทางานรว่ มกนั ระหวา่ งหนว่ ยงานของรัฐ องค์กรปกครองสว่ น ทอ้ งถน่ิ ภาคเอกชน และภาคประชาสงั คมท่ีเกี่ยวข้องกับการพฒั นาเด็กปฐมวัย รวมทงั้ การบรู ณาการการ จดั บริการในแตล่ ะชว่ งรอยต่อของเด็กปฐมวัย เตรยี มสอบครผู ้ชู ว่ ย By ทมี ฮกั แพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คูม่ ือเตรยี มสอบบรรจเุ ขา้ รบั ราชการ ตาแหน่งครผู ชู้ ว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 350 (3) จัดทาแผนงบประมาณและแผนการดาเนนิ งานประจาปีแบบบรู ณาการของหนว่ ยงานของรัฐและ องค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ ทีเ่ กยี่ วข้องกับการพัฒนาเด็กปฐมวัย (4) กาหนดแนวทางการติดตามผลการดาเนินงานของหนว่ ยงานของรฐั องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่ิน ภาคเอกชน และภาคประชาสังคมท่ีเกีย่ วขอ้ งกบั การพัฒนาเดก็ ปฐมวยั (5) จัดทามาตรฐานและแนวปฏิบัตทิ ีด่ เี ก่ยี วกับการพฒั นาเด็กปฐมวัย (6) จดั ทาสมรรถนะและตวั ช้วี ัดการพฒั นาเด็กปฐมวัย (7) ปฏบิ ัติการอน่ื ใดทเี่ ก่ียวข้องเพอ่ื ใหบ้ รรลุวัตถุประสงค์ตามท่ีคณะกรรมการมอบหมาย องค์ประกอบ จานวน คณุ สมบัติ ลกั ษณะต้องหา้ ม วาระการดารงตาแหน่ง และการพน้ จากตาแหนง่ ของ คณะอนุกรรมการตามวรรคหนง่ึ ใหเ้ ป็นไปตามที่คณะกรรมการกาหนด มาตรา 18 ให้สานักงานเลขาธิการสภาการศึกษาทาหนา้ ทีเ่ ปน็ สานกั งานเลขานุการของคณะกรรมการ รบั ผิดชอบงานธุรการ งานประชมุ งานวชิ าการ การศึกษาข้อมูลและกจิ การตา่ ง ๆ ทเ่ี ก่ยี วกบั งานของ คณะกรรมการและคณะอนุกรรมการ และมีหน้าท่แี ละอานาจ ดงั ตอ่ ไปน้ี (1) รวบรวมขอ้ มูลเพื่อประกอบการจัดทานโยบายระดบั ชาติด้านการพฒั นาเดก็ ปฐมวัยและ แผนพฒั นาเดก็ ปฐมวัย (2) วิเคราะห์และเสนอแนะมาตรการเพ่ือผลกั ดันและสนับสนุนการนานโยบายระดับชาติดา้ นการ พัฒนาเดก็ ปฐมวยั และแผนพัฒนาเด็กปฐมวยั ไปสู่การปฏบิ ัติ ตลอดจนพิจารณาเสนอแนะแนวทางและวิธกี าร แกไ้ ขปญั หาและอปุ สรรคของการดาเนินการต่อคณะกรรมการ (3) จดั ทาและพฒั นากลไกและระบบการประสานงานด้านการพัฒนาเด็กปฐมวัย เพื่อสร้าง ประสิทธภิ าพการบรหิ ารจดั การ ตลอดจนรว่ มมอื และประสานงานกับหน่วยงานของรฐั องค์กรปกครองสว่ น ทอ้ งถ่นิ ภาคเอกชน และภาคประชาสงั คมที่เก่ยี วข้องกับการพัฒนาเดก็ ปฐมวัยในการปฏิบตั งิ านตาม พระราชบัญญตั ิน้ีและกฎหมายอื่นท่เี กยี่ วขอ้ ง (4) สง่ เสรมิ และสนบั สนนุ การสร้างเครือข่ายในระดับจังหวัดและระดับอาเภอเพื่อการพฒั นา เดก็ ปฐมวัย (5) ใหค้ าแนะนาแก่หน่วยงานของรฐั องคก์ รปกครองส่วนท้องถน่ิ ภาคเอกชน และภาคประชาสงั คม ซงึ่ มีหน้าท่ีดาเนินการตามภารกจิ ทีก่ าหนดไวใ้ นแผนพัฒนาเด็กปฐมวยั (6) เสนอแนะแนวทางการจัดสรรและแสวงหาทรัพยากรเพ่ือส่งเสริม สนบั สนุน และพฒั นา เดก็ ปฐมวยั ให้เป็นไปอย่างมีประสทิ ธิภาพตอ่ คณะกรรมการ (7) จดั ใหม้ ีการศึกษาวิจยั และการสร้างนวัตกรรมที่เกี่ยวกับการพัฒนาเด็กปฐมวยั (8) สารวจและเก็บรวบรวมข้อมลู เดก็ ปฐมวัยเพื่อจดั ทาฐานข้อมลู รวมท้ังติดตามสถานการณเ์ ก่ียวกับ เดก็ ปฐมวัย และเผยแพร่ข้อมูลและสถติ เิ ก่ยี วกบั เด็กปฐมวัย เตรยี มสอบครผู ู้ช่วย By ทีมฮักแพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ ือเตรียมสอบบรรจเุ ข้ารบั ราชการ ตาแหน่งครูผชู้ ว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 351 (9) จัดทาการประเมนิ ผลการปฏบิ ตั งิ านตามนโยบายระดบั ชาตดิ ้านการพัฒนาเด็กปฐมวัยและ แผนพัฒนาเดก็ ปฐมวัยเพ่ือเพิ่มประสทิ ธิภาพในการดาเนนิ งาน เสนอต่อคณะกรรมการเพ่ือเสนอตอ่ คณะรฐั มนตรเี พอื่ ทราบ อยา่ งน้อยปีละหน่ึงครงั้ (10) ปฏิบตั ิการอน่ื ตามทค่ี ณะกรรมการหรือคณะอนุกรรมการมอบหมาย เลขาธกิ ารสภาการศึกษาอาจมอบหมายใหร้ องเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษาคนหนง่ึ เป็นผ้รู ับผิดชอบบังคับบัญชา งานการพัฒนาเด็กปฐมวัย แล้วรายงานตอ่ เลขาธกิ ารสภาการศกึ ษาได้ หมวด 3 แผนพฒั นาเดก็ ปฐมวยั มาตรา 19 ให้คณะกรรมการเสนอแผนพฒั นาเดก็ ปฐมวัยต่อคณะรฐั มนตรี เพ่ือพจิ ารณาให้ความเห็นชอบ และประกาศให้ทราบเป็นการทัว่ ไป ในกรณที ส่ี ถานการณเ์ ปลี่ยนแปลงไปในระหวา่ งท่ีแผนพัฒนาเดก็ ปฐมวัยใช้บงั คับ คณะกรรมการ อาจดาเนนิ การปรับปรงุ ให้เหมาะสมกบั สถานการณ์นนั้ ได้ โดยให้นาความในวรรคหนึ่งมาใชบ้ งั คบั โดยอนุโลม มาตรา 20 แผนพัฒนาเด็กปฐมวยั ตามมาตรา 19 ตอ้ งกาหนดรายละเอียดเก่ยี วกับระยะเวลาการใช้ บงั คับ แผน การบริหารและพฒั นาเดก็ ปฐมวัย วิธีปฏบิ ัติ หน่วยงานท่ีเกยี่ วข้อง รวมท้ังระยะเวลาในการดาเนนิ การ ให้ชัดเจน และอย่างน้อยต้องมแี นวทางการดาเนินการในเร่ือง ดังต่อไปน้ี (1) แผนงานและโครงการของหน่วยงานของรฐั และองคก์ รปกครองส่วนท้องถนิ่ และการใช้ งบประมาณด้านการพัฒนาเด็กปฐมวยั อย่างเป็นระบบ (2) การบูรณาการการทางานร่วมกันระหว่างหนว่ ยงานของรัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพ่ือขับเคล่อื นการดาเนินการตามแผนพฒั นาเด็กปฐมวยั (3) การส่งเสรมิ และสนับสนุนการดาเนินการของหน่วยงานทเ่ี กยี่ วข้องกบั การพฒั นาเดก็ ปฐมวยั ให้มี คณุ ภาพ ไดม้ าตรฐาน และมสี ภาพแวดลอ้ มที่เหมาะสมกบั การพัฒนาเดก็ ปฐมวยั (4) การสง่ เสรมิ และสนับสนนุ การจัดสภาพแวดล้อมในครอบครวั และชมุ ชนท่ีเอ้ือต่อการพฒั นาเด็ก ปฐมวัย รวมทง้ั ให้เด็กปฐมวัยอย่รู อดปลอดภัยและได้รบั ความคุ้มครองให้พ้นจากการล่วงละเมดิ ไมว่ า่ ในทางใด (5) การจัดใหม้ ีการพัฒนาบุคลากรดา้ นการพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มีความสามารถ ศักยภาพ และคุณธรรม (6) การจัดทาฐานข้อมูลเด็กปฐมวยั มาตรา 21 เมื่อไดม้ ีการประกาศแผนพฒั นาเดก็ ปฐมวยั แลว้ ใหห้ นว่ ยงานของรัฐและองค์กร ปกครองสว่ น ทอ้ งถน่ิ ซึ่งมหี น้าทดี่ าเนินการตามภารกจิ ที่กาหนดไวใ้ นแผนพฒั นาเดก็ ปฐมวัย จัดทาแผนปฏิบัตกิ ารให้ สอดคลอ้ งกับแผนพฒั นาเด็กปฐมวยั และปฏิบตั กิ ารให้เปน็ ไปตามแผนดงั กลา่ ว เตรยี มสอบครผู ู้ชว่ ย By ทีมฮักแพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
ค่มู ือเตรยี มสอบบรรจุเข้ารับราชการ ตาแหนง่ ครผู ู้ช่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 352 มาตรา 22 ให้คณะกรรมการติดตามให้หนว่ ยงานของรัฐหรอื องคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่นซงึ่ มีหน้าที่ ปฏิบัตกิ ารตามแผนพฒั นาเด็กปฐมวัย หรอื ภาคเอกชนที่ได้รบั มอบหมายใหด้ าเนินการตามแผนพฒั นาเดก็ ปฐมวัย ปฏิบัตหิ รือดาเนนิ การตามแผนพัฒนาเดก็ ปฐมวยั ในกรณีท่ีมีการไมป่ ฏบิ ตั หิ รือไม่ดาเนินการตามแผน ดงั กลา่ ว ใหค้ ณะกรรมการแจ้งให้หน่วยงานของรฐั องค์กรปกครองส่วนทอ้ งถ่นิ หรือภาคเอกชน แลว้ แตก่ รณี แกไ้ ขหรอื ระงบั ยบั ยงั้ การกระทาที่ไม่เป็นไปตามแผนพัฒนาเด็กปฐมวัยภายในเวลาทีค่ ณะกรรมการกาหนด เมือ่ พ้นกาหนดเวลาดงั กลา่ วแล้ว หากยังไม่มีการปฏิบตั ิหรอื ดาเนนิ การใหถ้ ูกต้องครบถ้วน ให้คณะกรรมการมี หนงั สอื แจ้งผซู้ ่งึ มอี านาจกากับดูแลทราบพร้อมดว้ ยเหตุผล เพือ่ พิจารณาดาเนนิ การตามหน้าท่ีและอานาจ ต่อไป หมวด 4 การพฒั นาเดก็ ปฐมวัย มาตรา 23 ในการผลิตครูหรือพฒั นาครดู ้านการพฒั นาเดก็ ปฐมวัย ให้สถาบนั อดุ มศกึ ษาจดั ให้มกี ารเรียนการ สอนเพื่อเสรมิ สร้างจิตวิญญาณของความเป็นครู มคี ุณธรรม จรยิ ธรรม ความรู้ทักษะ และความสามารถในการ จัดการเรียนการสอนเพ่ือดูแลและพัฒนาเด็กปฐมวยั ตามหลักการและปรัชญาของการพฒั นาเดก็ ปฐมวยั ในการพัฒนาผ้ดู แู ลเดก็ ปฐมวัย ให้หนว่ ยงานท่ีทาหนา้ ทพี่ ัฒนาผู้ดูแลเด็กปฐมวยั จดั การเรียนการสอนเพ่ือ เสรมิ สร้างจิตวิญญาณของความเปน็ ผู้ดแู ลเดก็ มีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม ความรู้ ทกั ษะ และความสามารถในการ ดูแลเด็กปฐมวยั ตามหลักการพัฒนาเด็กปฐมวัย มาตรา 24 สถานพยาบาลของหน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองสว่ นท้องถนิ่ หรอื ภาคเอกชนทีม่ หี นา้ ที่ ใหบ้ รกิ ารสาธารณสุขแกห่ ญงิ ตง้ั ครรภแ์ ละเด็กปฐมวยั ต้องจดั ใหม้ ีการใหบ้ ริการสุขภาพแก่มารดาและบุตรอย่าง ท่วั ถงึ โดยให้บริการวางแผนครอบครัว การอนามัยเจริญพันธุ์ การฝากครรภก์ ารเตรียมความพร้อมการเป็น บดิ ามารดา ตลอดจนให้บริการการสร้างเสริมภูมคิ มุ้ กัน การสง่ เสรมิ โภชนาการ มาตรา 25 สถานพฒั นาเด็กปฐมวยั ทม่ี ีหน้าทจ่ี ัดการศกึ ษาใหแ้ ก่เด็กปฐมวัย ต้องจัดให้มีการอบรมเลีย้ งดู เพิ่มพนู ประสบการณ์ ส่งเสรมิ พฒั นาการเรียนรู้ และจัดการศึกษาแก่เด็กปฐมวยั อย่างทว่ั ถึง รวมทัง้ จัดให้มีการ ส่งเสริมพฒั นาการของเดก็ ปฐมวยั ทเี่ หมาะสมในชว่ งรอยต่อต้งั แต่ก่อนระดับอนบุ าลจนถึงระดบั ประถมศึกษา อยา่ งต่อเน่ือง มาตรา 26 หน่วยงานของรฐั องค์กรปกครองส่วนท้องถนิ่ หรอื ภาคเอกชน ที่มีหนา้ ที่ในการพฒั นาเด็กปฐมวัย ตอ้ งจัดสวัสดกิ ารและให้บรกิ ารด้านการคุม้ ครองสทิ ธิแก่เด็กปฐมวยั รวมทงั้ ตดิ ตามดแู ลเด็กปฐมวัยใหไ้ ดร้ บั สวสั ดิการและบรกิ ารดา้ นการคุ้มครองสิทธิอย่างท่วั ถงึ มาตรา 27 นอกจากการดาเนินการตามมาตรา 24 มาตรา 25 และมาตรา 26 หนว่ ยงานของรฐั องคก์ ร ปกครองส่วนทอ้ งถนิ่ และภาคเอกชน ทีม่ ีหนา้ ทใี่ หบ้ ริการสาธารณสุข จดั การศึกษา และจดั สวสั ดิการและ ใหบ้ รกิ ารด้านการคุม้ ครองสิทธิแกเ่ ดก็ ปฐมวยั ตอ้ งดาเนินการ ดงั ตอ่ ไปนี้ เตรยี มสอบครูผู้ช่วย By ทีมฮกั แพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
ค่มู อื เตรยี มสอบบรรจุเข้ารบั ราชการ ตาแหนง่ ครูผชู้ ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 353 (1) ให้ความรู้ ส่งเสริมทกั ษะ และสร้างเสริมเจตคตทิ ่ดี ีแกผ่ ู้ดแู ลเดก็ ปฐมวยั และบุคคลอื่น ท่เี ก่ยี วข้องกบั การพัฒนาเดก็ ปฐมวัย ในเรอื่ งการพฒั นาเด็กปฐมวัยอยา่ งท่วั ถึง (2) จัดใหม้ ีการคัดกรองทีเ่ ปน็ ระบบและไดม้ าตรฐานเพ่ือค้นหาเดก็ ปฐมวัยทพี่ ิการหรือมคี วามบกพร่อง ทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สงั คม หรือสตปิ ญั ญา หรือเด็กปฐมวยั ทีไ่ มม่ ีผดู้ ูแลหรอื ดอ้ ยโอกาส หรอื เด็กปฐมวัย ทีม่ คี วามต้องการการพฒั นาเปน็ พเิ ศษอยา่ งทันทว่ งที และจดั ใหเ้ ด็กปฐมวัยเหล่าน้เี ขา้ ถงึ สิทธิและได้รับโอกาส ในการพฒั นาที่มีคุณภาพเป็นพเิ ศษ ส่ิงอานวยความสะดวก สอื่ และบรกิ าร รวมท้ังความชว่ ยเหลืออืน่ ใด ทางการพฒั นาและการศึกษาทส่ี อดคล้องเหมาะสมกับความจาเป็นทง้ั น้ี ตามหลกั เกณฑ์และวธิ ีการที่ คณะกรรมการกาหนด มาตรา 28 เพ่ือประโยชนใ์ นการพัฒนาเด็กปฐมวัย หน่วยงานของรัฐ องค์กรปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ และ ภาคเอกชน อาจดาเนนิ การแบบบูรณาการโดยจัดให้มีบรกิ ารสาธารณสขุ จดั การศึกษาหรือจัดสวัสดกิ ารและ ใหบ้ รกิ ารดา้ นการคุ้มครองสิทธแิ กเ่ ด็กปฐมวยั ในหน่วยงานเดียวกันได้ บทเฉพาะกาล มาตรา 29 ในวาระเร่ิมแรก ใหค้ ณะกรรมการประกอบดว้ ย กรรมการตามมาตรา 9 (1) และ (2) และ ให้เลขาธิการสภาการศกึ ษาเปน็ กรรมการและเลขานกุ าร เพอ่ื ปฏบิ ตั หิ นา้ ทข่ี องคณะกรรมการตาม พระราชบัญญตั ินี้ไปพลางก่อน จนกว่าจะมกี ารแตง่ ตง้ั กรรมการผูท้ รงคุณวฒุ ิตามมาตรา 9 (3)ทงั้ น้ี ต้องไม่เกิน เกา้ สบิ วนั นบั แตว่ นั ท่พี ระราชบญั ญตั ินี้ใช้บงั คับ มาตรา 30 ในวาระเริ่มแรก ใหส้ านักงบประมาณจดั สรรงบประมาณใหแ้ ก่สานักงานเลขาธิการสภาการศกึ ษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานของรฐั ทเ่ี ก่ียวข้องตามความจาเป็นเพื่อปฏิบัติหนา้ ท่ตี าม พระราชบัญญตั ินี้ มาตรา 31 ในระหว่างท่ีคณะกรรมการยังมิได้มีการกาหนดหลักเกณฑ์และวิธีการตามมาตรา 27 (2) ให้นา บทบัญญัติเกี่ยวกับการเข้าถึงสิทธิและได้รับโอกาสในการพัฒนาที่มีคุณภาพสิ่งอานวยความสะดวก สื่อ และ บริการ รวมท้ังความช่วยเหลืออื่นใดทางการพัฒนาและการศึกษาที่สอดคล้องเหมาะสมกับความจาเป็นตาม กฎหมายว่าด้วยการจัดการศึกษาสาหรับคนพิการและกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคน พิการ มาใช้บังคบั ไปพลางกอ่ นจนกว่าคณะกรรมการจะได้กาหนดหลักเกณฑแ์ ละวิธกี ารตามพระราชบัญญตั ินี้ เตรยี มสอบครูผ้ชู ว่ ย By ทมี ฮักแพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ อื เตรียมสอบบรรจุเข้ารับราชการ ตาแหน่งครผู ู้ชว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 354 แนวขอ้ สอบพระราชบัญญตั ิการพัฒนาเด็กปฐมวยั พ.ศ. 2562 1. ใครเปน็ ผรู้ บั สนองพระบรมราชโองการ พรบ.การพัฒนาเด็กปฐมวัยพ.ศ. 2562 ก. นายกรัฐมนตรี ข. รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ ค. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ง. เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน 2. พรบ.การพฒั นาเดก็ ปฐมวัยพ.ศ. 2562 มีก่ีหมวด กี่มาตรา ก. 4 หมวด 30 มาตรา ข. 4 หมวด 31 มาตรา ค. 4 หมวด 32 มาตรา ง. 4 หมวด 33 มาตรา 3. ให้ตราพระราชบัญญตั ิขน้ึ ไวโ้ ดยคาแนะนาและยนิ ยอมของใคร ก. รฐั สภา ข. สภาผแู้ ทนราษฎร ค. สภานิติบญั ญัติแห่งชาติ ง. วฒุ สิ ภา 4. คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเดก็ ปฐมวัย ถูกระบุไวใ้ นหมวดใด ก. หมวดที่ 1 ข. หมวดท่ี 2 ค. หมวดที่ 3 ง. หมวดที่ 4 5. แผนพฒั นาเดก็ ปฐมวัย ถูกระบุไวใ้ นหมวดใด ก. หมวดที่ 1 ข. หมวดที่ 2 ค. หมวดที่ 3 ง. หมวดที่ 4 6. ข้อใดเปน็ “เด็กปฐมวัย” ก. เดก็ ซ่ึงมีอายุไม่ตา่ กว่าหกปีบริบรู ณ์ ข. เดก็ ซ่งึ มีอายไุ ม่มากกว่าหกปีบรบิ รู ณ์ ค. เดก็ ซึ่งมีอายุไมเ่ กินกวา่ หกปบี ริบูรณ์ ง. เดก็ ซึง่ มีอายตุ า่ กวา่ หกปบี ริบรู ณ์ เตรยี มสอบครผู ูช้ ว่ ย By ทีมฮกั แพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คูม่ อื เตรียมสอบบรรจุเข้ารบั ราชการ ตาแหนง่ ครผู ชู้ ่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 355 7. “การพัฒนาเดก็ ปฐมวยั ” หมายความว่า ก. การรบั เล้ียง การพัฒนา ข. ใหก้ ารศกึ ษา การพัฒนา ค. การดูแล การพัฒนา ง. การอบรม การพฒั นา 8. ขอ้ ใดเป็น “ผู้ดแู ลเดก็ ปฐมวัย” ก. พอ่ แม่ ข. นา้ สาว น้าชาย ค. ลงุ ปา้ ง. ผู้ปกครอง 9. ขอ้ ใดไมเ่ ปน็ “ผดู้ ูแลเด็กปฐมวัย” ก. บิดา มารดา ข. พ่อ แม่ ค. ผปู้ กครอง ง. ผซู้ ่ึงเล้ียงดูเด็กปฐมวัย 10. ข้อใดไมเ่ ปน็ “สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย” ก. ศูนย์เด็กเลก็ ข. ศนู ย์พฒั นาเด็กเล็ก ค. สานกั งานเขตพน้ื ท่ีการศึกษา ง. โรงเรยี น 11. ข้อใด รกั ษาการตามพระราชบญั ญตั ิน้ี ก. นายกรัฐมนตรี ข. รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธกิ าร ค. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ง. ถกู ทง้ั ก และ ข 12. ข้อใด ไม่เป็นวัตถุประสงค์ การพฒั นาเดก็ ปฐมวยั ตามพระราชบัญญัติน้ี ก. ให้มารดาได้รบั การดแู ลในระหว่างต้งั ครรภ์เพื่อใหบ้ ุตรที่อยใู่ นครรภ์มีสุขภาวะและพฒั นาการท่ดี ี ข. ใหเ้ ดก็ ปฐมวัยอยรู่ อดปลอดภยั และไดร้ ับความคมุ้ ครองให้พน้ จากการลว่ งละเมิดไมว่ า่ ในทางใด ค. ใหเ้ ดก็ ปฐมวยั มพี ัฒนาการที่ดรี อบดา้ นทัง้ ทางร่างกาย จิตใจ วนิ ยั อารมณ์ สังคม ง. ให้เด็กปฐมวยั มีพฒั นาการทบี่ ม่ เพาะเจตคตขิ องเด็กปฐมวัยให้เคารพคุณค่าของบุคคลอื่น เตรยี มสอบครผู ูช้ ่วย By ทีมฮักแพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
ค่มู ือเตรยี มสอบบรรจเุ ขา้ รบั ราชการ ตาแหน่งครูผู้ชว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 356 13. บิดา มารดา และผ้ปู กครองมีหนา้ ที่ ตามข้อใด ก. ให้เด็กปฐมวัยซง่ึ อยใู่ นความดูแลได้รับการพัฒนาตามแนวปฏิบตั ิทดี่ ีเก่ยี วกบั การพัฒนาเดก็ ปฐมวยั ข. ให้เด็กอนบุ าลซ่ึงอยู่ในความดแู ลได้รบั การพัฒนาตามแนวปฏบิ ัติท่ดี ีเกย่ี วกบั การพฒั นาเด็กอนบุ าล ค. ใหเ้ ด็กก่อนวยั เรียนซง่ึ อยู่ในความดูแลไดร้ ับการพฒั นาตามแนวปฏบิ ตั ทิ ีด่ เี กยี่ วกับการพัฒนา กอ่ นวัยเรียน ง. ใหเ้ ด็กซงึ่ อยู่ในความดูแลได้รับการพัฒนาตามแนวปฏบิ ตั ิทด่ี เี ก่ียวกับการพฒั นาเดก็ 14. การจดั การเรียนร้ขู องสถานพัฒนาเด็กปฐมวยั ต้องเป็นไปเพอ่ื เตรียมความพรอ้ มของเดก็ ปฐมวัย ขอ้ ใดกลา่ วถูกตอ้ ง ก. เป็นการจัดการเรียนรูท้ ี่มุง่ เนน้ การสอบแขง่ ขนั ระหว่างเด็กปฐมวยั ข. ไมเ่ ปน็ การจดั การเรยี นรทู้ ่ีมุ่งเนน้ การสอบแข่งขนั ระหวา่ งเดก็ ปฐมวยั ค. ไมเ่ ป็นการจดั การเรียนรทู้ ี่มุ่งเนน้ การเรียนระหวา่ งเดก็ ปฐมวัย ง. เปน็ การจัดการเรยี นรู้ท่ีมงุ่ เน้นการเรียนระหว่างเด็กปฐมวยั 15. ข้อใดคือประธานกรรมการคณะกรรมการนโยบายการพฒั นาเด็กปฐมวัย ก. นายกรัฐมนตรี ข. รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงศึกษาธิการ ค. ปลดั กระทรวงศึกษาธิการ ง. เลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา 16. กรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการพฒั นาเดก็ ปฐมวัย หมายถึง ก. นายกรฐั มนตรี ข. รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธกิ าร ค. ปลดั กระทรวงศึกษาธิการ ง. เลขาธิการสภาการศกึ ษา 17. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ มีจานวนกีค่ น ก. 5 ข. 6 ค. 7 ง. 8 18. กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ มวี าระก่ีปี ก. 1 ข. 2 ค. 3 ง. 4 เตรียมสอบครผู ู้ชว่ ย By ทีมฮักแพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มือเตรยี มสอบบรรจเุ ข้ารบั ราชการ ตาแหน่งครผู ู้ชว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 357 19. สานกั งานใดทาหนา้ ที่เป็นสานักงานเลขานกุ ารของคณะกรรมการ รบั ผดิ ชอบงานธรุ การ ก. สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน ข. สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร ค. สานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ง. สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา 20. คณะกรรมการเสนอแผนพัฒนาเด็กปฐมวัยต่อขอ้ ใด ก. รฐั สภา ข. สภาผแู้ ทนราษฎร ค. คณะรัฐมนตรี ง. วฒุ สิ ภา 21. การผลติ ครหู รือพฒั นาครูด้านการพัฒนาเด็กปฐมวัย เสรมิ สรา้ งเรื่องใด ก. จิตวญิ ญาณของความเป็นครู ข. มีคณุ ธรรม ค. จริยธรรม ง. ถูกทกุ ขอ้ 22.การจดั ทาหลักสตู รการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 สอดคล้องกับเรอ่ื งใด ก. กรอบยทุ ธศาสตรช์ าติ 20 ปี ข. แผนพัฒนาเศรษฐกจิ สงั คมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ค. แผนการศึกษาแหง่ ชาติ ง. ถกู ทุกขอ้ 23. หลักสูตรการศกึ ษาปฐมวยั พุทธศักราช 2560 เป็นหลักสูตรสาหรบั สถานศึกษา สถานพฒั นาเด็ก ปฐมวัย นาไปใช้เป็นกรอบทิศทางในการพัฒนาหลกั สูตร ทกี่ าหนดเป้าหมายท่จี ะใหเ้ กิดขึ้น ข้อใดไม่ถกู ต้อง ก. ด้านรา่ งกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม และสตปิ ัญญา ข. เป็นคนดี มวี นิ ัย สานึกความเป็นไทย ค. มีความรับผดิ ชอบต่อตนเอง ครอบครัว ชุมชน สงั คม และประเทศชาติในอนาคต ง. มีจติ สานักในการเป็นพลเมืองไทยและพลเมืองโลก 24.ใครเป็นผูจ้ ัดทาหลกั สูตรการศกึ ษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 ก. กระทรงศกึ ษาธกิ าร ข. สานักงานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร ค. สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน ง. สานกั งานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา เตรยี มสอบครูผชู้ ว่ ย By ทมี ฮกั แพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
ค่มู ือเตรยี มสอบบรรจุเขา้ รบั ราชการ ตาแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 358 25. ใครเปน็ ลงนามประกาศใช้หลกั สตู รการศึกษาปฐมวัย พทุ ธศักราช 2560 ก. นายแพทย์ ธรี ะเกียรติ เจริญเศรษฐศลิ ป์ ข. ดร.ชัยพฤกษ์ เสรรี ักษ์ ค. นายการณุ สกุลประดษิ ฐ์ ง. นายพินิจศกั ดิ์ สวุ รรณรังค์ 26. หลักสูตรการศกึ ษาปฐมวัย พุทธศกั ราช 2560 ลงนามประกาศใช้วนั ทีเ่ ทา่ ไหร่ ก. 3 สงิ หาคม 2560 ข. 5 สงิ หาคม 2560 ค. 9 สิงหาคม 2560 ง. 12 สิงหาคม 2560 27. หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศกั ราช 2560 เริ่มใชใ้ นปกี ารศกึ ษาใด ก. เรมิ่ ใช้ ปกี ารศกึ ษา 2560 ข. เริ่มใช้ ปกี ารศกึ ษา 2561 ค. เรม่ิ ใช้ ปกี ารศึกษา 2562 ง. เรมิ่ ใช้ ปีการศกึ ษา 2563 28.ข้อใดหมายถงึ ปรัชญาการศึกษาปฐมวัย ก. การศกึ ษาปฐมวยั เป็นการพฒั นาเดก็ ตั้งแต่แรกเกิดถงึ 3 ปี บรบิ ูรณ์ อยา่ งเปน็ องค์รวม ข. การศกึ ษาปฐมวัยเป็นการพฒั นาเดก็ ต้ังแต่แรกเกดิ ถงึ 5 ปี บริบรู ณ์ อย่างเป็นองคร์ วม ค. การศึกษาปฐมวัยเปน็ การพฒั นาเด็กต้ังแต่แรกเกดิ ถงึ 6 ปี บริบรู ณ์ อย่างเป็นองค์รวม ง. การศึกษาปฐมวยั เปน็ การพัฒนาเด็กตั้งแต่แรกเกิดถงึ 7 ปี บรบิ ูรณ์ อยา่ งเปน็ องค์รวม 29. เด็กทกุ คนมีสิทธิที่จะไดร้ ับการอบรมเล้ียงดแู ละสง่ เสริมพฒั นาการ ตามอนสุ ญั ญาว่าด้วยสทิ ธเิ ด็ก ตลอดจนไดร้ ับการจัดประสบการณก์ ารเรยี นรู้อยา่ งเหมาะสม หมายถึงข้อใด ก. วิสัยทัศน์ ข. หลักการ ค. จุดหมาย ง. สมรรถนะ 30.หลกั การหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 มีกี่ข้อ ก. 3 ข้อ ข. 5 ข้อ ค. 7 ขอ้ ง. 9 ข้อ เตรียมสอบครผู ูช้ ่วย By ทีมฮักแพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มือเตรยี มสอบบรรจุเขา้ รับราชการ ตาแหน่งครผู ูช้ ว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 359 31.ส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาการทค่ี รอบคลุมเดก็ ปฐมวยั ทุกคน หมายถงึ หลกั การหลักสตู ร การศกึ ษาปฐมวัย พทุ ธศักราช 2560 ข้อใด ก. ขอ้ ที่ 1 ข. ขอ้ ท่ี 2 ค. ข้อท่ี 4 ง. ข้อที่ 5 32.หลักการหลกั สูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 ขอ้ ที่ 4 หมายถึงขอ้ ใด ก. ส่งเสริมกระบวนการเรยี นรู้และพฒั นาการที่ครอบคลุมเด็กปฐมวยั ทุกคน ข. ยดึ พฒั นาการและการพฒั นาเด็กโดยองคร์ วม ผา่ นการเล่นอย่างมีความหมายและมีกิจกรรมที่ หลากหลาย ค. จัดประสบการณ์การเรยี นรใู้ หเ้ ดก็ มที ักษะชวี ิต สามารถปฏิบัตติ นตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพยี ง ง. สร้างความรู้ ความเข้าใจ และประสานความรว่ มมอื ในการพฒั นาเด็กระหว่างสถานศกึ ษากับพ่อแม่ ครอบครัว ชุมชน 33.จดุ หมายหลกั สูตรการศกึ ษาปฐมวัย สาหรับเดก็ อายตุ ่ากว่า 3 ปี มกี ่ีขอ้ ก. 3 ข้อ ข. 4 ข้อ ค. 6 ข้อ ง. 9 ข้อ 34.ข้อใดกลา่ วไม่ถกู ต้อง จุดหมายหลกั สูตรการศกึ ษาปฐมวัย สาหรับเดก็ อายุตา่ กวา่ 3 ปี ก. ร่างกายเจริญเตบิ โตตามวัย แข็งแรง และมสี ุขภาพดี ข. สุขภาพจติ ดีและมคี วามสุข ค. มีทกั ษะการใช้ภาษาสือ่ สาร และสนใจเรียนร้สู งิ่ ต่าง ๆ ง. มที กั ษาการใช้เทคโนโลยี อยา่ งเหมาะสมกบั ระดบั พฒั นาการ 35.คณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ หลักสตู รการศกึ ษาปฐมวัย สาหรับเดก็ อายุต่ากว่า 3 ปี แบง่ ออกเปน็ กด่ี า้ น ก. 4 ด้าน ข. 5 ด้าน ค. 6 ดา้ น ง. 7 ดา้ น เตรยี มสอบครูผชู้ ว่ ย By ทมี ฮกั แพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ ือเตรียมสอบบรรจุเขา้ รับราชการ ตาแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 360 36.หลกั สูตรการศกึ ษาปฐมวัย สาหรบั เดก็ อายุตา่ กวา่ 3 ปี กาหนดคณุ ลกั ษณะท่ีพึงประสงค์ ดา้ นใดไมใ่ ช่ ก. พัฒนาการด้านรา่ งกาย ข. พฒั นาการดา้ นอารมณ์ จติ ใจ ค. พฒั นาการด้านสงั คม ง. พัฒนาการดา้ นสิง่ แวดล้อมรอบตัว 37. ช่วยเหลอื ตัวเองได้เหมาะสมกับวัย หมายถึงพฒั นาการดา้ นใด ก. พัฒนาการด้านร่างกาย ข. พฒั นาการดา้ นอารมณ์ จิตใจ ค. พัฒนาการดา้ นสงั คม ง. พฒั นาการดา้ นสติปญั ญา 38. สื่อความหมายและใชภ้ าษาได้เหมาะสมกบั วยั หมายถงึ พัฒนาการด้านใด ก. พัฒนาการด้านร่างกาย ข. พฒั นาการดา้ นอารมณ์ จิตใจ ค. พัฒนาการดา้ นสังคม ง. พฒั นาการด้านสตปิ ญั ญา 39.จดุ หมายหลักสตู รการศึกษาปฐมวัย สาหรับเดก็ อายุต่ากว่า 3-6 ปี มกี ่ขี ้อ ก. 3 ข้อ ข. 4 ข้อ ค. 6 ขอ้ ง. 9 ข้อ 40.มาตรฐานคุณลักษณะทพี่ ึงประสงค์ หลกั สูตรการศึกษาปฐมวัย สาหรับเด็กอายตุ า่ กวา่ 3-6 ปี มีกี่ มาตรฐาน ก. 4 มาตรฐาน ข. 8 มาตรฐาน ค. 10 มาตรฐาน ง. 12 มาตรฐาน 41.พัฒนาการด้านร่างกาย มกี ี่มาตรฐาน ก. 2 มาตรฐาน ข. 3 มาตรฐาน ค. 4 มาตรฐาน ง. 5 มาตรฐาน เตรยี มสอบครูผูช้ ว่ ย By ทมี ฮกั แพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ อื เตรียมสอบบรรจเุ ขา้ รับราชการ ตาแหน่งครูผูช้ ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 361 42.พฒั นาการ มาตรฐานคณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ หลกั สูตรการศึกษาปฐมวยั สาหรบั เดก็ อายตุ ่ากว่า 3-6 ปี พฒั นาการใดที่มี 4 มาตรฐาน ก. พฒั นาการดา้ นรา่ งกาย ข. พัฒนาการด้านอารมณ์ จิตใจ ค. พัฒนาการดา้ นสังคม ง. พัฒนาการด้านสติปญั ญา 43.มีทักษะชีวติ และการปฏิบัติตนหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง หมายถงึ พฒั นาการด้านใด ก. พัฒนาการด้านรา่ งกาย ข. พัฒนาการดา้ นอารมณ์ จิตใจ ค. พฒั นาการดา้ นสังคม ง. พฒั นาการดา้ นสติปญั ญา 44. กลา้ มเน้อื ใหญ่และกล้ามเน้อื เล็กแข็งแรงใชไ้ ด้อย่างคล่องแคลว่ และประสานสมั พันธก์ ัน หมายถึง มาตรฐานใด ก. มาตรฐานท่ี 1 ข. มาตรฐานที่ 2 ค. มาตรฐานที่ 3 ง. มาตรฐานที่ 4 45.มาตรฐานที่ 5 ชืน่ ชมและแสดงออกทางศลิ ปะ ดนตรี การเคลือ่ นไหว และรกั การออกกาลังกาย มกี ่ีตัวบง่ ช้ี ก. 3 ตัวบง่ ชี้ ข. 4 ตวั บง่ ช้ี ค. 5 ตวั บง่ ชี้ ง. 6 ตวั บ่งช้ี 46. ประหยดั และพอเพียง หมายถงึ ตวั บ่งช้ี มาตรฐานใด ก. มาตรฐานที่ 4 ข. มาตรฐานที่ 6 ค. มาตรฐานที่ 8 ง. มาตรฐานท่ี 10 เตรียมสอบครูผูช้ ่วย By ทมี ฮักแพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คูม่ ือเตรียมสอบบรรจุเข้ารบั ราชการ ตาแหนง่ ครูผู้ช่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 362 47.การจัดเวลาเรียน จดั ประสบการณ์ใหก้ ับเดก็ 1-3 ปีการศกึ ษา โดยประมาณ โดยมีเวลาเรียนต่อ 1 ปี การศกึ ษา ตามขอ้ ใด ก. เวลาเรียนไมน่ อ้ ยกว่า 160 วัน ต่อ 1 ภาคเรียน ข. เวลาเรียนไม่นอ้ ยกวา่ 160 วัน ตอ่ 1 ปกี ารศกึ ษา ค. เวลาเรยี นไมน่ อ้ ยกว่า 180 วัน ตอ่ 1 ภาคเรียน ง. เวลาเรยี นไม่นอ้ ยกวา่ 180 วนั ตอ่ 1 ปกี ารศึกษา 48.การจัดเวลาเรยี น จดั ประสบการณใ์ หก้ ับเดก็ 1-3 ปกี ารศึกษาในแตล่ ะวันจะใชเ้ วลาเรียนต่อวัน ตามขอ้ ใด ก. ไมน่ ้อย 5 ชวั่ โมง ข. ไม่น้อยกว่า 5 ชว่ั โมง ค. ไมม่ าก 5 ชวั่ โมง ง. ไม่มากกวา่ 5 ชัว่ โมง 49. กาหนดระยะเวลาในการจัดกิจกรรมตามความต้องการและความสนใจของเดก็ เด็กอายุ 3-4 ปี มี ความสนใจประมาณกีน่ าที ก. 5-8 นาที ข. 8-12 นาที ค. 12- 15 นาที ง. 15-20 นาที 50. กาหนดระยะเวลาในการจดั กจิ กรรมตามความต้องการและความสนใจของเดก็ เด็กอายุ 4-5 ปี มี ความสนใจประมาณกีน่ าที ก. 5-8 นาที ข. 8-12 นาที ค. 12- 15 นาที ง. 15-20 นาที เตรยี มสอบครูผ้ชู ว่ ย By ทีมฮกั แพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ ือเตรียมสอบบรรจุเขา้ รบั ราชการ ตาแหนง่ ครผู ูช้ ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 363 เฉลยแนวข้อสอบพระราชบัญญตั ิการพฒั นาเด็กปฐมวัย พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ขอ้ ขอ้ ข้อ 1 ก 16 ง 31 ก 46 ข 2 ข 17 ง 32 ค 47 ง 3 ค 18 ง 33 ข 48 ข 4 ข 19 ค 34 ง 49 ข 5 ค 20 ค 35 ก 50 ค 6 ง 21 ง 36 ง 7 ค 22 ง 37 ค 8 ง 23 ง 38 ง 9 ข 24 ค 39 ข 10 ค 25 ก 40 ง 11 ง 26 ก 41 ก 12 ง 27 ข 42 ง 13 ก 28 ค 43 ค 14 ข 29 ข 44 ข 15 ก 30 ข 45 ข เตรียมสอบครูผ้ชู ่วย By ทมี ฮกั แพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มอื เตรยี มสอบบรรจเุ ข้ารบั ราชการ ตาแหนง่ ครผู ชู้ ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 364 พระราชบญั ญัติส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั พ.ศ. 2551 ประกาศในราชกิจจานุเบกษา 3 มนี าคม 2551 บงั คับใช้วนั ถดั จากวันประกาศฯ 4 มนี าคม 2551 จานวน 25 มาตรา ผูร้ กั ษาการตาม พรบ. รมว.ศกึ ษาธิการ ผรู้ ับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก สุรยทุ ธ จุลานนท พรบ.นไี้ ม่บงั คับใช้กบั สถาบันอดุ มศึกษาของรฐั และเอกชน **** คานยิ าม “การศึกษานอกระบบ” หมายความวา กิจกรรมการศึกษาท่ีมีกลุมเปาหมายผูรับบริการและวัตถุ ประสงคของการเรียนรูท่ีชัดเจน มีรูปแบบ หลักสูตร วิธีการจัดและระยะเวลาเรียนหรือฝกอบรมท่ียืด หยุนและหลากหลายตามสภาพความตองการและศักยภาพในการเรียนรูของกลุมเปาหมายน้ันและมีวิธีการ วัดผลและประเมนิ ผลการเรยี นรูท่ีมมี าตรฐานเพอ่ื รบั คุณวฒุ ทิ างการศึกษา หรือเพื่อจัดระดบั ผลการเรยี นรู “การศกึ ษาตามอธั ยาศยั ” หมายความวา กจิ กรรมการเรยี นรูในวถิ ชี วี ิตประจาวันของบุคคลซงึ่ บคุ คล สามารถเลือกท่ีจะเรียนรูไดอยางตอเนื่องตลอดชีวิต ตามความสนใจ ความตองการ โอกาสความพร้อมและ ศักยภาพในการเรียนรูของแตละบคุ คล “สถานศึกษา” หมายความวา สถานศึกษาท่จี ดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ในสานกั งานสงเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั “ภาคีเครือขาย” หมายความวา บุคคล ครอบครวั ชมุ ชน องคกรชมุ ชน องคกรปกครองสวนทองถน่ิ องคกรเอกชน องคกรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ และองคกรอนื่ รวมท้ังสถานศกึ ษาอ่นื ท่มี ไิ ดสังกดั สานักงานสงเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยท่ีมสี วนรวมหรอื มวี ัตถุประสงคใน การดาเนนิ งานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั “คณะกรรมการ” หมายความวา คณะกรรมการสงเสรมิ สนบั สนนุ และประสานความรวมมือ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยตามกฎหมายวาด้วยระเบียบบริหารราชการ กระทรวงศึกษาธิการ ***ออกข้อสอบปี 58 และ 60*** “สานักงาน” หมายความวา สานักงานสงเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั “รฐั มนตรี” หมายความวา รัฐมนตรีผูรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้ เตรยี มสอบครูผชู้ ว่ ย By ทมี ฮักแพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ อื เตรยี มสอบบรรจุเขา้ รับราชการ ตาแหน่งครผู ู้ชว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 365 การสง่ เสริมและสนบั สนนุ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ให้ยดึ หลักดังตอ่ ไปนี้ (1) การศึกษานอกระบบ ***ออกข้อสอบปี 60*** (ก) ความเสมอภาคในการเข้าถงึ และได้รับการศึกษาอยา่ งกว้างขวาง ทว่ั ถงึ เป็นธรรมและมคี ุณภาพ เหมาะสมกับสภาพชีวติ ของประชาชน (ข) การกระจายอานาจแกส่ ถานศึกษาและการใหภ้ าคเี ครอื ข่ายมสี ว่ นรว่ มในการจัดการเรียนรู้ (2) การศกึ ษาตามอธั ยาศัย (ก) การเข้าถงึ แหล่งการเรียนรู้ทีส่ อดคล้องกับความสนใจและวถิ ชี วี ิตของผู้เรียนทุกกลุม่ เป้าหมาย (ข) การพฒั นาแหล่งการเรยี นรู้ให้มีความหลากหลายท้งั ส่วนทีเ่ ป็นภมู ิปญั ญาท้องถ่นิ และส่วนทีน่ า เทคโนโลยมี าใช้เพ่ือการศึกษา (ค) การจัดกรอบหรอื แนวทางการเรยี นรู้ทเ่ี ปน็ คณุ ประโยชน์ตอ่ ผู้เรยี น การสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ให้ดาเนินการเพอ่ื เปา้ หมายในเร่อื งดงั ตอ่ ไปน้ี (1) การศึกษานอกระบบ (1) ประชาชนได้รบั การศึกษาอย่างต่อเน่ือง เพ่อื พัฒนาศักยภาพกาลงั คนและสังคม ท่ีใชค้ วามรูแ้ ละ ภูมิปัญญาเป็นฐานในการพฒั นา ท้งั ดา้ นเศรษฐกจิ สงั คม สิ่งแวดลอ้ ม ความมนั่ คง และคุณภาพชีวติ ท้ังน้ี ตาม แนวทางการพัฒนาประเทศ (2) ภาคเี ครือขา่ ยเกดิ แรงจงู ใจและมคี วามพร้อมในการมสี ่วนรว่ มเพื่อจดั กิจกรรมการศึกษา (2) การศึกษาตามอัธยาศยั (1) ผู้เรียนได้รบั ความรู้และทักษะพนื้ ฐานในการแสวงหาความรทู้ จ่ี ะเอ้อื ต่อการเรยี นรตู้ ลอดชวี ิต (2) ผู้เรียนไดเ้ รยี นรู้สาระทสี่ อดคล้องกบั ความสนใจและความจาเป็นในการยกระดบั คุณภาพชวี ิต ท้ังในดา้ นการเมือง เศรษฐกจิ สงั คมและวฒั นธรรม (3) ผ้เู รยี นสามารถนาความรู้ทไี่ ดร้ ับไปใช้ประโยชนแ์ ละเทียบโอนผลการเรยี นกบั การศึกษาในระบบ และการศึกษานอกระบบ มาตรา 9 ให้กระทรวงศึกษาธกิ ารสง่ เสริมและสนบั สนนุ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั โดยให้ความสาคญั แก่ผเู้ ก่ียวข้องตามบทบาทและหนา้ ที่ดังตอ่ ไปน้ี (1) ผ้เู รยี น ซง่ึ เป็นผ้ทู ี่ได้รับประโยชน์ มสี ว่ นรว่ มในกจิ กรรมการเรยี นรู้ และสามารถเลอื กรบั บรกิ ารได้ หลากหลายตามความต้องการของตนเอง (2) ผู้จดั การเรียนรสู้ าหรับการศกึ ษานอกระบบ และผู้จดั แหล่งการเรียนรู้สาหรับการศึกษาตาม อธั ยาศัย มกี ารดาเนนิ การทีห่ ลากหลายตามศักยภาพเพ่ือตอบสนองความต้องการของผเู้ รยี นโดยบูรณาการ ความรู้ ปลูกฝงั คณุ ธรรม และคา่ นยิ มทดี่ ีงาม (3) ผู้ส่งเสรมิ และสนับสนนุ ซึ่งเปน็ ผ้ทู ่เี อ้ือประโยชนใ์ ห้แก่ผู้เรียนและผู้จดั การเรยี นรู้มีการดาเนนิ การท่ี หลากหลาย เพอื่ สง่ เสรมิ และสนับสนุนใหเ้ กิดการเรยี นรู้อย่างตอ่ เน่ือง เตรียมสอบครูผู้ช่วย By ทีมฮักแพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มอื เตรียมสอบบรรจเุ ข้ารับราชการ ตาแหนง่ ครผู ชู้ ่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 366 มาตรา 10 เพื่อประโยชนใ์ นการส่งเสริมและสนบั สนุนการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั สว่ นราชการ หน่วยงานของรฐั ทเ่ี ก่ยี วข้องและภาคเี ครอื ขา่ ย อาจดาเนนิ การสง่ เสริมและสนับสนุนในเรอ่ื ง ดังตอ่ ไปนี้ (1) สอ่ื และเทคโนโลยีเพ่อื การศกึ ษาทจ่ี าเป็นสาหรบั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั และการชว่ ยเหลอื ด้านการเงินเพอ่ื การจดั การศกึ ษานอกระบบ (2) การจัดการศึกษา การพฒั นาวิชาการและบุคลากร การใชป้ ระโยชน์จากทรพั ยากรเพ่ือการศึกษา และการยกยอ่ งประกาศเกียรติคุณสาหรับผจู้ ดั การเรียนรู้การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย (3) สิทธิประโยชน์ตามความเหมาะสมให้แก่ผูส้ ง่ เสริมและสนบั สนุนการศกึ ษานอกระบบ (4) การสรา้ งและพัฒนาแหลง่ การเรียนรู้ทหี่ ลากหลาย เพอื่ ให้ผูเ้ รียนของการศึกษาตามอธั ยาศยั สามารถเขา้ ถงึ ไดต้ ามความเหมาะสม (5) ทรัพยากรอ่นื ท่เี กี่ยวข้องกับการดาเนินการเพ่ือใหบ้ ุคคลและชุมชนไดเ้ รียนรตู้ ามความสนใจและ ความต้องการทสี่ อดคล้องกบั ความจาเป็นในสงั คมของการศกึ ษาตามอัธยาศัย หลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเงื่อนไขในการสง่ เสริมและสนบั สนุนตามวรรคหนงึ่ ใหเ้ ปน็ ไปตามท่กี าหนดใน กฎกระทรวง มาตรา 11 เพื่อประโยชน์ในการจัดและพัฒนาการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยให้ส่วน ราชการและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องร่วมมือกับภาคเี ครอื ขา่ ย เพื่อดาเนินการในเรือ่ งดังต่อไปนี้ (1) จดั ให้มีโครงสรา้ งพนื้ ฐานเพื่อการเรยี นรู้ เช่น แหลง่ การเรยี นรู้ ศนู ยก์ ารเรยี นชมุ ชนสอื่ และ เทคโนโลยที ่หี ลากหลายเพ่ือใหผ้ ู้เรยี นมีโอกาสเข้าถงึ การเรยี นรู้ (2) ส่งเสรมิ และสนับสนุนการดาเนินงานของภาคเี ครือข่าย เพือ่ ใหเ้ กดิ ความร่วมมือและการพฒั นา อยา่ งต่อเน่ือง (3) ส่งเสรมิ และสนับสนุนใหภ้ าคเี ครือข่าย ได้รับโอกาสในการจัดสรรทรพั ยากรและเข้าถึงแหล่ง เงนิ ทนุ เพ่ือการดาเนินงาน คณะกรรมการสง่ เสรมิ สนับสนนุ และประสานงานความรว่ มมือการศกึ ษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศัยตามกฎหมายวาดว้ ยระเบียบบริหารราชการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร คณะกรรมการส่งเสริมสนบั สนุนและประสานงานความรว่ มมือการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตาม อัธยาศยั ตามกฎหมายวาด้วยระเบยี บบริหารราชการกระทรวงศึกษาธกิ าร ประกอบดว้ ย รฐั มนตรวี ่าการ กระทรวงศึกษาธกิ าร เป็นประธาน ปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ปลัดกระทรวงมหาดไทย ปลัดกระทรวงดจิ ทิ ลั เพอ่ื เศรษฐกจิ และสังคม เลขาธกิ ารสภาการศึกษา เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน เลขาธกิ ารคณะกรรมการอดุ มศกึ ษา เลขาธิการคณะกรรมการอาชวี ศึกษา เลขาธิการ กคศ. เลขาธกิ าร คณะกรรมการการศึกษาเอกชน เป็นกรรมการโดยตาแหน่ง กรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ิ จานวน 8 คน และ เลขาธิการ กศน. เปน็ กรรมการและเลขานกุ าร ***ออกข้อสอบ ปี 58 และ 60*** เตรยี มสอบครูผชู้ ่วย By ทีมฮกั แพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มือเตรยี มสอบบรรจเุ ขา้ รับราชการ ตาแหนง่ ครผู ชู้ ่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 367 คณะกรรมการสง่ เสรมิ สนบั สนุนและประสานงานความร่วมมือการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษา ตามอธั ยาศยั ตามกฎหมายวาดว้ ยระเบียบบรหิ ารราชการกระทรวงศึกษาธิการ รฐั มนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ประธานกรรมการ กรรมการโดยตาแหน่ง ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงศกึ ษาธิการ 3 ปลดั ปลดั กระทรวงมหาดไทย 6 เลขาฯ ปลดั กระทรวงดิจทิ ัลเพื่อเศรษฐกิจและสงั คม เลขาธิการสภาการศึกษา เลขาธิการ กพฐ. เลขาธิการคณะกรรมการอดุ มศกึ ษา เลขาธกิ ารคณะกรรมการอาชีวศึกษา เลขาธกิ าร ก.ค.ศ. เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศกึ ษาเอกชน กรรมการผทู้ รงคณุ วุฒิ จานวน 8 คน เลขาธกิ าร กศน. กรรมการและเลขานุการ มาตรา 12 เพื่อประโยชน์ในการดาเนนิ การตามพระราชบัญญัตนิ ้ี ให้คณะกรรมการมีอานาจหน้าท่ี ดงั ตอ่ ไปนี้ (1) กาหนดนโยบายและแผนการสง่ เสริมและสนับสนุนการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษา ตามอัธยาศยั ที่สอดคล้องกับแผนการศกึ ษาแหง่ ชาติและแผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ (2) กาหนดแนวทางการดาเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (3) สง่ เสริมและสนับสนนุ การประสานงานระหว่างส่วนราชการ รฐั วิสาหกิจ และภาคเอกชน ทงั้ ในประเทศและตา่ งประเทศเพื่อการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เตรียมสอบครผู ้ชู ่วย By ทมี ฮักแพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คูม่ ือเตรียมสอบบรรจุเข้ารบั ราชการ ตาแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 368 (4) เสนอแนะต่อรฐั มนตรีในการจัดทาและการพัฒนาระบบการเทยี บโอนผลการเรียนจาก การเรยี นรู้ในการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย (5) ปฏิบัตงิ านอ่นื ใดตามที่พระราชบัญญัตนิ ี้หรือกฎหมายอ่ืนบญั ญัติใหเ้ ป็นอานาจหนา้ ท่ีของ คณะกรรมการหรอื ตามที่คณะรฐั มนตรมี อบหมาย มาตรา 13 ให้คณะกรรมการแตง่ ตั้งคณะอนกุ รรมการขน้ึ คณะหนงึ่ เรียกว่า “คณะอนกุ รรมการ ภาคีเครือขา่ ย” ทป่ี ระกอบด้วยภาคสว่ นตา่ ง ๆ ของสังคมทีเ่ ขา้ มามสี ว่ นร่วมในการสง่ เสรมิ และสนบั สนุน การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย จานวนอนกุ รรมการ คุณสมบัติ หลกั เกณฑ์ วธิ ีการไดม้ าของประธานและอนกุ รรมการ วาระการดารงตาแหนง่ และการพน้ จากตาแหน่ง รวมทั้งอานาจหน้าทขี่ องคณะอนุกรรมการภาคเี ครือขา่ ย ใหเ้ ป็นไปตามท่ีกาหนดในกฎกระทรวง มาตรา 14 ให้มสี านกั งานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั ข้นึ ในสานกั งาน ปลัดกระทรวง กระทรวงศกึ ษาธกิ าร เรยี กโดยยอ่ วา่ “สานักงาน กศน.” โดยมเี ลขาธกิ ารสานกั งานส่งเสริม การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั เรียกโดยย่อว่า “เลขาธิการ กศน.”ซ่ึงมฐี านะเปน็ อธิบดี และเป็นผู้บังคบั บัญชาข้าราชการ พนักงานและลูกจา้ ง และรบั ผิดชอบการดาเนนิ งานของสานักงาน ***ออกข้อสอบ ปี 60*** สานักงานมีอานาจหน้าทีด่ งั ต่อไปนี้ (1) เป็นหน่วยงานกลางในการดาเนินการ สง่ เสรมิ สนบั สนนุ และประสานงานการศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และรับผิดชอบงานธุรการของคณะกรรมการ (2) จดั ทาขอ้ เสนอแนะ นโยบาย ยทุ ธศาสตร์ แผน และมาตรฐานการศกึ ษานอกระบบและ การศึกษาตามอัธยาศยั ตอ่ คณะกรรมการ (3) ส่งเสรมิ สนบั สนุน และดาเนนิ การพัฒนาคุณภาพทางวชิ าการ การวจิ ยั การพัฒนาหลกั สูตร และนวัตกรรมทางการศกึ ษา บคุ ลากร และระบบข้อมูลสารสนเทศทีเ่ ก่ียวข้องกบั การศกึ ษานอกระบบและ การศึกษาตามอธั ยาศัย (4) ส่งเสริม สนับสนุน และดาเนินการเทยี บโอนผลการเรียน การเทียบโอนความรแู้ ละ ประสบการณ์ และการเทียบระดบั การศกึ ษา (5) สง่ เสรมิ สนับสนุน และประสานงานให้บุคคล ครอบครัว ชุมชน องคก์ รชมุ ชนองค์กรปกครอง สว่ นท้องถน่ิ องค์กรเอกชน องคก์ รวิชาชพี สถาบันศาสนา สถานประกอบการ และองค์กรอ่นื รวมตวั กันเปน็ ภาคีเครอื ขา่ ย เพ่ือเสริมสรา้ งความเขม้ แข็งในการดาเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย (6) จดั ทาข้อเสนอแนะเก่ยี วกับการใช้ประโยชนเ์ ครอื ข่ายเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สถานวี ทิ ยโุ ทรทศั น์เพ่อื การศึกษา วิทยชุ มุ ชน ศนู ย์วิทยาศาสตร์เพ่ือการศึกษา หอ้ งสมุดประชาชน พพิ ิธภัณฑ์ ศูนย์การเรียนชมุ ชน และแหล่งการเรยี นรู้อนื่ เพ่ือส่งเสริมการเรียนร้แู ละการพัฒนาคุณภาพชีวติ อยา่ งต่อเน่ืองของประชาชน เตรียมสอบครผู ูช้ ว่ ย By ทีมฮกั แพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คูม่ ือเตรียมสอบบรรจุเขา้ รบั ราชการ ตาแหน่งครูผ้ชู ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 369 (7) ดาเนินการเกี่ยวกับการตดิ ตาม ตรวจสอบ และประเมนิ ผลการดาเนินงานการศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศยั (8) ปฏิบัตงิ านอนื่ ใดตามพระราชบัญญัตนิ ห้ี รือกฎหมายอ่นื ที่บญั ญัตใิ หเ้ ป็นอานาจหน้าที่ของ สานักงาน หรือตามทีร่ ฐั มนตรีมอบหมาย มาตรา 15 ให้มีคณะกรรมการสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั จงั หวดั ทุกจงั หวัด ดังตอ่ ไปนี้ ***ออกขอ้ สอบปี 58 และ 60*** (1) ในกรุงเทพมหานคร ให้มีคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศัยกรุงเทพมหานคร ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานกรรมการ ปลัดกรุงเทพมหานคร เลขาธิการ กศน. ผู้แทนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ ผู้แทน กระทรวงมหาดไทย ผู้แทนกระทรวงแรงงาน ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข และผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งรัฐมนตรีแต่งต้ัง จานวนแปดคนเป็นกรรมการ ซ่ึงในจานวนนี้จะต้องแต่งต้ังจากผู้ปฏิบัติงานในภาคเอกชนท่ีเก่ียวข้องกับงาน การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจานวนไมน่ ้อยกว่าหา้ คน และให้ ผ้อู านวยการสานกั งาน กศน. กทม. เปน็ กรรมการและเลขานุการ คณะกรรมการ กศน. กทม. ผูว้ า่ ราชการกรงุ เทพมหานคร ประธานกรรมการ ปลดั กรุงเทพมหานคร เลขาธกิ าร กศน. รัฐมนตรีแต่งต้ัง จานวน 8 คน ผแู้ ทนกระทรวงการพฒั นาสงั คมฯ กรรมการและเลขานุการ ผู้แทนกระทรวงมหาดไทย ผแู้ ทนกระทรวงแรงงาน ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข ผ้ทู รงคณุ วฒุ ิ ผอู้ านวยการสานกั งาน กศน.กทม. เตรียมสอบครผู ูช้ ่วย By ทมี ฮักแพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มือเตรียมสอบบรรจุเขา้ รบั ราชการ ตาแหน่งครูผู้ช่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 370 (2) ในจังหวัดอ่ืน ให้มีคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย จงั หวัด ประกอบดว้ ย ผวู้ ่าราชการจงั หวดั เป็นประธานกรรมการ ปลดั จงั หวัด เกษตรจังหวัด สาธารณสุขจังหวดั แรงงานจงั หวัด พฒั นาสังคมและความม่ันคงของมนุษยจ์ งั หวดั นายกองค์การบรหิ ารสว่ นจังหวดั และ ผู้ทรงคุณวุฒิซ่ึงรัฐมนตรีแต่งต้ังจานวนแปดคนเป็นกรรมการ ซึ่งในจานวนนี้จะต้องแต่งต้ังจากผู้ปฏิบัติงาน ในภาคเอกชนทเี่ กี่ยวข้องกับงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยในพื้นท่ีของจงั หวัด จานวนไม่ นอ้ ยกวา่ หา้ คน และใหผ้ ้อู านวยการสานักงาน กศน. จังหวดั เป็นกรรมการและเลขานกุ าร *ออกข้อสอบปี60* คณุ สมบัติ วาระการดารงตาแหนง่ การพ้นจากตาแหนง่ ของกรรมการผทู้ รงคุณวุฒิและการประชมุ ของคณะกรรมการตามวรรคหนง่ึ ให้เปน็ ไปตามท่ีกาหนดในกฎกระทรวง คณะกรรมการ กศน.จังหวัด ผู้วา่ ราชการจงั หวดั ประธานกรรมการ ปลัดจงั หวดั เกษตรจงั หวดั สาธารณสขุ จงั หวดั แรงงานจังหวดั พัฒนาสงั คมและความมน่ั คงของมนุษย์จังหวดั นายกองคก์ ารบริหารสว่ นจังหวดั ผ้ทู รงคณุ วฒุ ิ รัฐมนตรแี ต่งตัง้ จานวน 8 คน ผอู้ านวยการสานกั งาน กศน.จังหวดั กรรมการและเลขานุการ มาตรา 16 คณะกรรมการสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยกรุงเทพมหานคร และ คณะกรรมการสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั จงั หวัด มีอานาจหน้าที่ดงั ตอ่ ไปนี้ (1) ให้คาปรึกษาและร่วมมือในการพฒั นาการจัดการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั กับภาคเี ครือข่าย (2) สง่ เสริมและสนบั สนนุ ภาคเี ครือข่าย เพื่อจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ใหส้ อดคล้องกับนโยบายและมาตรฐานทีค่ ณะกรรมการกาหนด เตรียมสอบครูผชู้ ว่ ย By ทมี ฮกั แพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มือเตรยี มสอบบรรจเุ ขา้ รบั ราชการ ตาแหน่งครูผชู้ ว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 371 (3) ตดิ ตามการดาเนินการจัดการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยของสถานศึกษา และหน่วยงานที่จัดการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ให้มีคุณภาพและมาตรฐานตามท่ีกาหนด และสอดคล้องกบั ทิศทางการพัฒนาของประเทศรวมทงั้ ความต้องการเพ่ือการพัฒนาของท้องถิ่น (4) ปฏบิ ัติงานอืน่ ตามทค่ี ณะกรรมการมอบหมาย มาตรา 17 ให้มสี านักงานสง่ เสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยจังหวัดทุกจงั หวัด ดังต่อไปนี้ (1) ในกรงุ เทพมหานคร ให้มีสานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อัธยาศยั กรงุ เทพมหานคร เรยี กโดยย่อวา่ “สานักงาน กศน. กทม.” เปน็ หนว่ ยงานในสังกดั ของสานักงาน และเป็นหนว่ ยงานการศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ทาหน้าที่ เป็นหน่วยงานธุรการของคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย กรงุ เทพมหานคร และมีอานาจหน้าท่ีบริหารการจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยภายใน กรุงเทพมหานคร (2) ในจังหวัดอื่น ให้มสี านกั งานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั จังหวัด เรียกโดยย่อวา่ “สานกั งาน กศน. จังหวัด” เป็นหน่วยงานในสังกัดของสานักงาน และเปน็ หน่วยงานการศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษา ทาหนา้ ทีเ่ ปน็ หน่วยงานธุรการของคณะกรรมการส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยจังหวดั และมีอานาจหนา้ ท่ีบริหารการจัดการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยภายในจังหวดั ใหห้ น่วยงานการศึกษาตามวรรคหน่งึ มผี ู้อานวยการเปน็ ผบู้ ังคบั บัญชาข้าราชการครูและ บุคลากรทางการศกึ ษา ในสังกัดสานกั งาน กศน. กทม. หรอื สานักงาน กศน. จงั หวดั แลว้ แตก่ รณี รวมท้งั เป็นผูบ้ งั คบั บญั ชาขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษาในสงั กัดสถานศกึ ษาที่อยใู่ นพื้นทท่ี ีร่ บั ผดิ ชอบและมี ฐานะเปน็ ผ้บู ริหารการศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษาตลอดจน รบั ผดิ ชอบในการปฏิบัตริ าชการของหน่วยงานดังกล่าว มาตรา 18 ให้สถานศกึ ษาทาหน้าทส่ี ่งเสรมิ สนับสนุน ประสานงาน และจดั การศึกษานอกระบบและ การศึกษาตามอธั ยาศยั ร่วมกับภาคเี ครอื ขา่ ย การดาเนินงานของสถานศึกษาตามวรรคหนง่ึ อาจจัดให้มศี ูนย์การเรยี นชมุ ชนเปน็ หน่วยจดั กจิ กรรมและสรา้ งกระบวนการเรียนรขู้ องชมุ ชนก็ได้ การจดั ต้งั ยบุ เลกิ รวม การกาหนดบทบาท อานาจและหน้าที่ของสถานศึกษาตามวรรคหนึ่งให้ เป็นไปตามที่รฐั มนตรปี ระกาศกาหนด มาตรา 19 ให้สถานศกึ ษาแต่ละแหง่ มีคณะกรรมการสถานศึกษา จานวนกรรมการ คุณสมบัติ หลักเกณฑ์ วิธกี ารได้มาของประธานและกรรมการวาระการดารงตาแหนง่ และการพน้ จากตาแหนง่ รวมท้งั อานาจหน้าที่ ของคณะกรรมการสถานศึกษาใหเ้ ปน็ ไปตามท่คี ณะกรรมการประกาศกาหนด เตรยี มสอบครูผู้ชว่ ย By ทมี ฮกั แพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มือเตรียมสอบบรรจเุ ข้ารบั ราชการ ตาแหนง่ ครผู ูช้ ว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 372 คณะกรรมการสถานศึกษา สถานศกึ ษาในสงั กัดสานกั งานสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย มี คณะกรรมการสถานศึกษาประกอบด้วย ประธานคณะกรรมการ ซึ่งคัดเลือกจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ กรรมการผทู้ รงคณุ วุฒิ จานวน 8 คน โดยผู้ทรงคุณวุฒิตอ้ งมีความรู้ความสามารถในดา้ นการศกึ ษา ดา้ นศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม ด้านพัฒนาสังคม ชุมชนและสิ่งแวดล้อม ด้านการเมืองการปกครอง ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสารสนเทศ ด้านภูมิปัญญาท้องถิ่น ด้านสาธารณสุข และให้ผู้อานวยการสถานศึกษาเป็น กรรมการและเลขานุการ กรรมการและเลขานุการ อาจแต่งตั้งข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาในสถานศึกษามาเป็น ผู้ช่วยเลขานุการได้ มาตรา 20 ให้สานักงานจัดให้มีระบบการประกันคุณภาพการศึกษานอกระบบซึ่งเป็นระบบการประกัน คุณภาพภายในสาหรับสถานศกึ ษาทมี่ คี ณุ ภาพและมาตรฐานสอดคลอ้ งกับกฎหมายวา่ ดว้ ยการศกึ ษาแห่งชาติ ให้สถานศกึ ษาดาเนนิ การประกันคุณภาพภายในให้สอดคล้องกับระบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการประกัน คุณภาพภายใน โดยได้รบั ความร่วมมอื สง่ เสริม และสนับสนุนจากภาคเี ครอื ขา่ ยและสานกั งาน ระบบ หลักเกณฑ์ และวธิ กี ารประกันคณุ ภาพภายใน ใหเ้ ป็นไปตามทก่ี าหนดในกฎกระทรวง มาตรา 21 ให้สานักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน ปรับเปลี่ยนภารกิจมาเป็นสานกั งานส่งเสริมการศึกษา นอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย และให้ผู้อานวยการสานักบริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน ซ่ึงดารง ตาแหน่งอยู่ในวันท่ีพระราชบัญญัตินี้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ปฏิบัติหน้าท่ีเลขาธิการ กศน. จนกว่าจะมี การแต่งตั้งเลขาธิการ กศน. ข้ึนใหม่ตามพระราชบัญญัตินี้ ทั้งนี้ ต้องไม่เกินหน่ึงร้อยแปดสิบวันนับแต่วันท่ี พระราชบัญญัตินใี้ ช้บงั คบั ใหค้ ณะกรรมการสง่ เสริมสนบั สนุนและประสานความร่วมมือการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตาม อัธยาศัยตามกฎหมายวา่ ด้วยระเบยี บบริหารราชการกระทรวงศกึ ษาธิการซ่งึ ดารงตาแหน่งอยใู่ นวันที่ พระราชบญั ญตั ินี้ประกาศในราชกจิ จานุเบกษา คงมฐี านะเป็นคณะกรรมการดังกล่าวตอ่ ไปและปฏิบตั หิ น้าที่ ตามพระราชบัญญัตนิ ้ี จนกวา่ จะได้มกี ารแต่งตั้งคณะกรรมการดังกลา่ วข้ึนใหม่เพ่ือดาเนนิ การตาม พระราชบัญญตั ินี้ มาตรา 22 ให้เลขาธกิ าร กศน. แตง่ ต้งั ผู้บริหารสถานศกึ ษาในเขตกรุงเทพมหานครคนหนง่ึ ปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี ผอู้ านวยการสานกั งาน กศน. กทม. จนกวา่ จะมีการแตง่ ตงั้ ผอู้ านวยการสานกั งาน กศน.กทม. ขน้ึ ใหม่ตาม พระราชบญั ญัตินี้ ให้ผอู้ านวยการศูนย์การศึกษานอกโรงเรียนจงั หวัด ซ่งึ ดารงตาแหนง่ อยู่ในวันทพ่ี ระราชบัญญัติน้ี ประกาศในราชกิจจานุเบกษา ปฏิบตั ิหน้าท่ผี อู้ านวยการสานกั งาน กศน. จงั หวดั จนกวา่ จะมีการแต่งตง้ั ผอู้ านวยการสานักงาน กศน. จังหวัด ข้นึ ใหม่ตามพระราชบัญญตั ิน้กี ารดาเนินการแต่งตั้งตามวรรคหนึง่ และ วรรคสอง ตอ้ งดาเนินการให้แล้วเสรจ็ ภายในหนงึ่ รอ้ ยแปดสิบวนั นับแต่วันทพี่ ระราชบญั ญัตนิ ใ้ี ช้บงั คับ เตรียมสอบครูผ้ชู ว่ ย By ทีมฮกั แพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
ค่มู ือเตรียมสอบบรรจเุ ข้ารับราชการ ตาแหน่งครูผชู้ ว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 373 มาตรา 23 ให้รัฐมนตรจี ัดทาบัญชรี ายช่ือสถานศึกษาในสังกัดสานักบรหิ ารงานการศึกษานอกโรงเรียน สานักงานปลดั กระทรวง กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ท่ีมคี วามพร้อมในการปฏบิ ัตภิ ารกิจของสถานศกึ ษาตามที่ กาหนดในพระราชบัญญัตินี้ และประกาศรายช่ือสถานศกึ ษาดังกลา่ วในราชกิจจานเุ บกษาภายใน 90 วัน นับแตว่ ันท่พี ระราชบญั ญตั นิ ใ้ี ช้บังคับให้ถือวา่ สถานศึกษาตามบัญชีรายช่ือทรี่ ฐั มนตรีประกาศกาหนดตามวรรค หนึง่ เป็นสถานศึกษาตามพระราชบัญญัตินี้ ***ออกข้อสอบ ปี 58*** มาตรา 24 ให้นากฎกระทรวง ขอ้ บังคับ ระเบยี บ ประกาศและคาสง่ั เกยี่ วกับการจัดการศึกษานอกโรงเรยี นท่ี ใช้บงั คบั อยู่ในวนั ทพ่ี ระราชบัญญัตนิ ใ้ี ช้บังคับ มาใชบ้ ังคบั โดยอนโุ ลมจนกวา่ จะได้มีกฎกระทรวง ข้อบังคบั ระเบยี บ และประกาศที่ออกตามพระราชบญั ญัตินี้ ทงั้ นี้ ต้องไม่เกนิ สองปนี บั แต่วนั ทพ่ี ระราชบญั ญตั ิน้ใี ช้บังคับ มาตรา 25 ให้รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ ารรักษาการตามพระราชบญั ญัตนิ ้ีและมีอานาจออก กฎกระทรวงและประกาศเพ่ือปฏบิ ัติการตามพระราชบัญญัติน้ี กฎกระทรวงและประกาศน้ัน เมอ่ื ไดป้ ระกาศในราชกิจจานุเบกษาแลว้ ใหใ้ ช้บงั คบั ได้ เตรียมสอบครูผู้ช่วย By ทีมฮกั แพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ ือเตรียมสอบบรรจเุ ข้ารับราชการ ตาแหน่งครผู ้ชู ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 374 แนวขอ้ สอบพระราชบญั ญตั ิส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย 1. พรบ. กศน. 2551 ไม่ใช้บังคบั กับการจัดการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยซึ่งดาเนนิ การ โดยหน่วยงานใด ก. สถาบันอุดมศึกษาของรฐั ข. สถาบันอดุ มศึกษาของเอกชน ค. สถาบนั อาชวี ศึกษาของรัฐและเอกชน ง. ขอ้ ก และ ข 2. ขอ้ ใดคอื การศึกษานอกระบบ ก. กิจกรรมการศกึ ษาท่ีมีกลมุ่ เป้าหมายผู้รบั บริการและวัตถุ ประสงค์ของการเรยี นรู้ทช่ี ัดเจน มี รูปแบบ หลกั สตู ร วธิ กี ารจดั และระยะเวลาเรียนหรอื ฝกึ อบรมทีต่ รงตามสภาพความต้องการและศักยภาพ ใน การเรียนรู้ของกลุ่มเป้าหมายน้ัน ข. กิจกรรมการศึกษาท่ีมกี ลุ่มเปา้ หมายผู้รับบรกิ ารและวตั ถุประสงคข์ องการเรยี น รู้ท่ชี ดั เจน มี รูปแบบ หลักสูตร วธิ กี ารจัดและระยะเวลาเรียนหรอื ฝกึ อบรมท่ตี รงตามสภาพความต้องการและศักยภาพ ใน การเรียนรูข้ องกลมุ่ เป้าหมายนัน้ และมีวธิ ีการวัดผลและประเมนิ ผลการเรียน ค. กจิ กรรมการศกึ ษาที่มกี ลุ่มเปา้ หมายผ้รู บั บรกิ ารและวตั ถุประสงคข์ องการเรยี น รู้ทชี่ ดั เจน มี รปู แบบ หลกั สูตร วิธีการจดั และระยะเวลาเรียนหรอื ฝกึ อบรมท่เี หมาะสมกบั สภาพความตอ้ งการและ ศักยภาพ ในการเรียนรู้ของกลุ่มเปา้ หมายนน้ั และมีวิธีการวดั ผลและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ง. กิจกรรมการศึกษาท่ีมีกลุ่มเป้าหมายผรู้ ับบริการและวัตถุประสงค์ของการเรยี น รทู้ ่ชี ัดเจน มรี ปู แบบ หลกั สูตร วธิ กี ารจดั และระยะเวลาเรียนหรือฝึกอบรมทีย่ ดื หยนุ่ และหลากหลายตามสภาพความ ต้องการและ ศักยภาพในการเรียนรขู้ องกลุ่มเป้าหมายนั้นและมีวธิ ีการวัดผลและ ประเมนิ ผลการเรียนรู้ท่มี ีมาตรฐานเพอื่ รับ คุณวุฒิทางการศึกษา หรือเพื่อจดั ระดับผลการเรียนรู้ 3. ขอ้ ใดคือ การศกึ ษาตามอัธยาศยั ก. กจิ กรรมการเรยี นรู้ในวิถชี วี ติ ประจาวนั ของบุคคลซึง่ บุคคลสามารถเลอื กที่จะ เรยี นรู้ไดอ้ ย่าง ตอ่ เนอ่ื งตลอดชีวิต ตามความสนใจ ความตอ้ งการ โอกาสความพร้อม และศักยภาพในการเรียนรูข้ องแตล่ ะ บุคคล ข. กิจกรรมการเรยี นรู้ในวิถชี วี ิตประจาวันของบุคคลซง่ึ บุคคลสามารถเลอื กท่ีจะ เรียนรู้ได้อยา่ ง ตอ่ เนอื่ งตลอดชวี ิต ตามหลักสูตร และศกั ยภาพในการเรียนร้ขู องแตล่ ะบคุ คล ค. กิจกรรมการเรยี นรู้ในวิถชี ีวิตประจาวันของบุคคลซึง่ บคุ คลสามารถเลือกที่จะ เรยี นร้ไู ด้อยา่ ง ตอ่ เนอ่ื งตลอดชีวติ มคี วามยืดหยุ่น ตามความต้องการ โอกาสความพร้อม และศักยภาพในการเรยี นร้ขู องแต่ละ บคุ คล เตรยี มสอบครผู ้ชู ว่ ย By ทมี ฮักแพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มอื เตรียมสอบบรรจุเขา้ รับราชการ ตาแหน่งครูผชู้ ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 375 ง. กิจกรรมการเรียนรใู้ นวิถีชีวติ ประจาวนั ของบคุ คลซ่ึงบุคคลสามารถเลอื กทจ่ี ะ เรียนรู้ได้อย่าง ต่อเน่อื งตลอดชวี ิต ตามหลกั สูตรและความยดื หยนุ่ ในโอกาสความพร้อม และศักยภาพในการเรยี นรขู้ องแต่ละ บุคคล 4. ขอ้ ใดคอื หลักการข้อที่ 1 ของ การศึกษานอกระบบ ก. ความเสมอภาคในการเขา้ ถึงและได้รับการศึกษาอย่างกว้างขวาง ข. การกระจายอานาจแก่สถานศกึ ษาและการให้ภาคีเครอื ข่าย ค. การเข้าถึงแหลง่ การเรยี นรู้ทส่ี อดคล้องกบั ความสนใจและวถิ ีชวี ติ ของผเู้ รียน ง. การพฒั นาแหลง่ การเรยี นรู้ใหม้ ีความหลากหลายทั้งสว่ นทเ่ี ปน็ ภูมิปัญญาท้องถน่ิ 5. ขอ้ ใดคือ หลักการขอ้ ที่ 1 ของ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั ก. ความเสมอภาคในการเขา้ ถึงและไดร้ ับการศึกษาอยา่ งกว้างขวาง ข. การกระจายอานาจแก่สถานศกึ ษาและการใหภ้ าคีเครือข่าย ค. การเข้าถึงแหลง่ การเรียนรู้ท่ีสอดคล้องกับความสนใจและวถิ ีชีวิตของผู้เรยี น ง. การพฒั นาแหลง่ การเรยี นรู้ให้มคี วามหลากหลายทั้งส่วนท่ีเป็นภูมิปญั ญาท้องถนิ่ 6. ขอ้ ใดคือ เป้าหมายของการส่งเสริมและสนบั สนนุ การศึกษาตามอธั ยาศัย ก. ได้รับความร้แู ละทักษะพืน้ ฐานในการแสวงหาความรู้ท่ีจะเอ้ือต่อการเรียนรตู้ ลอดชวี ิต ข. ไดเ้ รียนรสู้ าระท่ีสอดคล้องกับความสนใจและความจาเป็นในการยกระดบั คุณภาพชวี ิต ค. นาความรทู้ ไี่ ด้รับไปใชป้ ระโยชน์และเทยี บโอนผลการเรียนกบั การศึกษาในระบบและการศกึ ษา นอกระบบ ง. ถูกทกุ ขอ้ 7. ใครเป็นประธานคณะกรรมการสง่ เสริมการศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ก. รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ ข. รฐั มนตรีช่วยวา่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ ารที่ได้รับมอบหมาย ค. ปลดั กระทรวงศึกษาธิการ ง. เลขาธกิ ารสานักงานสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั 8. คณะกรรมการสง่ เสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยมีกคี่ น ก. 17 คน ข. 19 คน ค. 21 คน ง. 28 คน 9. ขอ้ ใดไมใ่ ชก่ รรมการโดยตาแหนง่ ในคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศยั ก. เลขาธิการสภาการศึกษา ข. เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสรมิ การศึกษาเอกชน ค. เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศกึ ษา ง. เลขาธิการคุรสุ ภา เตรยี มสอบครูผชู้ ว่ ย By ทีมฮักแพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
ค่มู อื เตรยี มสอบบรรจุเขา้ รับราชการ ตาแหน่งครผู ู้ช่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 376 10. ใครเปน็ ผ้แู ตง่ ตั้งคณะอนุกรรมการภาคเี ครอื ขา่ ย ก. รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงศึกษาธกิ าร ข. ปลดั กระทรวงศึกษาธิการ ค. เลขาธกิ าร กศน. ง. คณะกรรมการ กศน. 11. ใครเปน็ ประธานคณะกรรมการสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยจังหวดั ก. ผวู้ า่ ราชการจังหวัด ข. รองผวู้ า่ ราชการจังหวัดทไี่ ด้รับมอบหมาย ค. ผอู้ านวยการสานักงานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษา เขต 1 ง. ผู้อานวยการสานกั งาน กศน.จงั หวดั 12. ใครเปน็ ผ้จู ดั ทาบญั ชรี ายช่อื สถานศึกษาสังกัดสานักงาน กศน. ก. รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ ข. ปลดั กระทรวงศึกษาธิการ ค. เลขาธิการสานกั งานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั ง. ผู้อานวยการสานกั บริหารงานการศึกษานอกโรงเรียน 13. การประกาศรายชื่อสถานศกึ ษาใหป้ ระกาศอย่างไร ก. ประกาศเป็นกฎกระทรวง ข. ประกาศเปน็ ประกาศกระทรวง ค. ประกาศเปน็ ระเบยี บกระทรวง ง. ประกาศในราชกจิ จานุเบกษา 14. การประกาศรายชื่อสถานศึกษาตามขอ้ 197 ให้ประกาศภายในกว่ี ัน ก. 30 วันนบั แตว่ นั ที่พระราชบัญญัตนิ ใี้ ช้บงั คับ ข. 60 วนั นบั แต่วนั ท่พี ระราชบญั ญัตินี้ใชบ้ งั คับ ค. 90 วันนับแต่วนั ทพ่ี ระราชบัญญตั นิ ีใ้ ชบ้ งั คับ ง. 120 วันนบั แต่วนั ทพี่ ระราชบญั ญัตนิ ้ใี ชบ้ ังคบั 15. เหตุผลในการตราพ.ร.บ.ส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย 2551 คอื ก. เพ่ือส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศยั ข. เพื่อให้มีการประสานกบั การศกึ ษาในระบบ ค. เพ่อื การบริหารงานท่ีคล่องตวั ของการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย ง. เพื่อให้มีกฎหมายรองรับการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย 16. คณะกรรมการหมายถึงข้อใด ก. คณะกรรมการส่งเสรมิ สนับสนนุ และประสานความร่วมมอื การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตาม อธั ยาศยั ตามกฎหมายวา่ ด้วยระเบียบบรหิ ารราชการกระทรวงศกึ ษาธิการ ข. คณะกรรมการสง่ เสรมิ สนับสนนุ และประสานความรว่ มมือการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตาม อธั ยาศัย เตรยี มสอบครผู ู้ช่วย By ทมี ฮกั แพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มือเตรียมสอบบรรจุเขา้ รับราชการ ตาแหนง่ ครูผูช้ ว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 377 ค. คณะกรรมการส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยจังหวัด/กรุงเทพมหานคร ง. คณะกรรมการส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัย 17. การสง่ เสริมและสนบั สนุนการศกึ ษานอกระบบให้ยดึ หลกั ตามข้อใด ก. ความเสมอภาค ข. ผูเ้ รยี นเปน็ สาคญั ค. การเขา้ ถึงแหล่งเรียนรู้ ง. การจัดกรอบกระบวนการเรียนรู้ 18. การส่งเสริมและสนบั สนุนการศกึ ษาตามอัธยาศัยให้ยึดหลกั ตามข้อใด ก. ความเสมอภาค ข. กระจายอานาจ ค. การเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ ง. การพัฒนาผู้เรยี นเป็นสาคัญ 19. ข้อใดคือเปา้ หมายการส่งเสริมและสนับสนนุ การศกึ ษานอกระบบ ก. ผู้เรียนได้รบั ความรแู้ ละทกั ษะพนื้ ฐานในการแสวงหาความรู้ ข. ประชาชนได้รับการศึกษาอยา่ งต่อเนอื่ ง ค. ผเู้ รยี นได้เรยี นรูส้ าระทสี่ อดคล้องกับความสนใจ ง. ถูกทกุ ข้อ 20. ข้อใดคอื เป้าหมายการส่งเสรมิ และสนบั สนนุ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั ก. ประชาชนไดร้ บั การศึกษาอย่างต่อเนอ่ื ง ข. ภาคีเครอื ข่ายมีสว่ นร่วมเพ่ือจดั กิจกรรมการศกึ ษา ค. ผเู้ รียนได้เรยี นรู้สาระที่สอดคล้องกบั ความสนใจ ง. ความเสมอภาคในการเข้าถึงและได้รบั การศึกษาอย่างกว้างขวาง 21. เลขาธกิ ารสานกั งานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยมีฐานะตามขอ้ ใด ก. เป็นอธิบดี ข. เทียบเท่าอธบิ ดี ข. เลขานกุ าร ง.ถูกทกุ ข้อ 22. สานกั งานส่งเสริมการศกึ ษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั มีชือ่ เรียกย่อตามขอ้ ใด ก. สานกั งาน ก.ศน. ข. กศน. ค. ก.ศ.น. ง. สานักงาน กศน. 23. ข้อใดไม่ใช่คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัยกรุงเทพมหานคร ก. ผูแ้ ทนกระทรวงแรงงาน ข. ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข ค. ผแู้ ทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ง. ผแู้ ทนกระทรวงแรงงาน 24. ข้อใดไม่ใช่คณะกรรมการสง่ เสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศยั จังหวดั ก. นายกองคก์ ารบรหิ ารสว่ นจังหวัด ข. สาธารณสขุ จงั หวดั ค. แรงงานจงั หวัด ง. เกษตรและสหกรณ์จงั หวดั 25. คณะกรรมการสถานศึกษา กศน.อาเภอมจี านวนกี่คน ก. 7 คน ข. 8 คน ค. 9 คน ง. 10 คน เตรยี มสอบครผู ู้ชว่ ย By ทีมฮักแพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คูม่ อื เตรียมสอบบรรจเุ ขา้ รับราชการ ตาแหนง่ ครูผู้ช่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 378 26. คณะกรรมการส่งเสรมิ การศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอธั ยาศัยจงั หวัดมกี ่ีคน ก. 15 คน ข. 16 คน ค. 17 คน ง. 18 คน 27. คณะกรรมการส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั จังหวดั มีอานาจหนา้ ที่ ตามข้อใด ก. ให้คาปรึกษาและรว่ มมอื ในการพัฒนาการจดั การศกึ ษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศยั กบั ภาคีเครอื ขา่ ย ข. กาหนดนโยบายและแผนการสง่ เสริมและสนับสนนุ การศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศัย ค. กาหนดแนวทางการดาเนินงานการศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอัธยาศัย ง. จดั ให้มีโครงสรา้ งพนื้ ฐานเพ่ือการเรยี นรู้ 28. คณะกรรมการมอี านาจหน้าท่ีตามข้อใด ก. กาหนดแนวทางการดาเนินงานการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย ข. ใหค้ าปรกึ ษาและรว่ มมือในการพฒั นาการจดั การศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอัธยาศยั กบั ภาคเี ครือขา่ ย ค. ส่งเสริม สนับสนุน และดาเนนิ การพฒั นาคณุ ภาพทางวชิ าการ ง. ดาเนินการเกยี่ วกบั การตดิ ตาม ตรวจสอบ และประเมนิ ผลการดาเนินงานการศึกษานอกระบบ และการศกึ ษาตามอัธยาศัย 29. ข้อใดต่อไปน้ีไมใ่ ช่คณะกรรมการส่งเสริมสนบั สนุนและประสานความร่วมมือการศกึ ษานอกระบบและ การศกึ ษาตามอธั ยาศัยตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ ก. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ข. ปลัดกรุงเทพมหานคร ค. ปลัดกระทรวงมหาดไทย ง. เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน 30. ประธานคณะกรรมการส่งเสรมิ สนับสนุนและประสานความร่วมมือการศึกษานอกระบบและการศึกษา ตามอธั ยาศยั ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการคือข้อใด ก. นายกรฐั มนตรี ข. รฐั มนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ค. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ง. ผวู้ า่ ราชการจังหวดั เตรียมสอบครผู ู้ช่วย By ทมี ฮักแพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ ือเตรยี มสอบบรรจเุ ข้ารับราชการ ตาแหน่งครผู ชู้ ว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 379 เฉลยแนวขอ้ สอบพระราชบัญญัติส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศยั ขอ้ ข้อ ขอ้ 1 ง 11 ก 21 ก 2 ง 12 ก 22 ง 3 ก 13 ง 23 ค 4 ก 14 ค 24 ง 5 ค 15 ง 25 ค 6 ง 16 ก 26 ข 7 ก 17 ก 27 ก 8 ข 18 ค 28 ก 9 ง 19 ข 29 ข 10 ง 20 ค 30 ข เตรียมสอบครผู ชู้ ว่ ย By ทีมฮกั แพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ อื เตรยี มสอบบรรจุเขา้ รบั ราชการ ตาแหน่งครผู ู้ช่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 380 ระเบียบวา่ ด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. 2555 1. ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา 24 มกราคม 2555 2. บังคบั ใช้ ตัง้ แตว่ นั ถัดจากวันประกาศในราชกจิ จานเุ บกษาเป็นตน้ ไป ตรงกบั 25 มกราคม 2555 3. จานวน 3 หมวด 43 ข้อ หมวด 1 บททั่วไป หมวด 2 ประเภทของการลา (1) การลาปว่ ย (2) การลาคลอดบุตร (3) การลาไปช่วยเหลอื ภรยิ าทคี่ ลอดบตุ ร (4) การลากิจส่วนตวั (5) การลาพกั ผ่อน (6) การลาอปุ สมบทหรือการลาไปประกอบพิธฮี จั ย์ (7) การลาเข้ารับการตรวจเลือกหรือเข้ารบั การเตรียมพล (8) การลาไปศกึ ษา ฝกึ อบรม ปฏบิ ตั กิ ารวจิ ัย หรอื ดงู าน (9) การลาไปปฏิบัติงานในองค์การระหวา่ งประเทศ (10) การลาตดิ ตามกคสู่ มรส (11) การลาไปฟนื้ ฟสู มรรถภาพดา้ นอาชพี *** เทคนิคการจา*** ป่วย คลอด ชว่ ย กจิ ผ่อน บว.ช.2ต5ร4ว0จ ศึกษา ระหว่างประเทศ ติดตาม ฟ้นื ฟู หมวด 3 การลาของขา้ ราชการการเมือง 4. ผูร้ ักษาการตามระเบียบและมีอานาจตีความ และวนิ ิจฉัยปญั หาเกย่ี วกับการปฏิบัตติ ามระเบียบ ปลัดสานักนายกรฐั มนตรี 5. นายกรฐั มนตรีผู้ลงนามในประกาศ นางสาวยิง่ ลักษณ์ ชินวตั ร เตรียมสอบครผู ชู้ ว่ ย By ทมี ฮกั แพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คูม่ ือเตรียมสอบบรรจุเขา้ รับราชการ ตาแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 381 หมวด 1 บททัว่ ไป คานิยาม ข้อ 5 “ปลัดกระทรวง” ให้หมายความรวมถึงปลัดสานักนายกรัฐมนตรี ปลัดทบวง และรอง ปลดั กระทรวงผเู้ ปน็ หวั หนา้ กลุ่มภารกจิ “หัวหน้าส่วนราชการขึ้นตรง” หมายความว่า ปลัดสานักนายกรัฐมนตรี ปลัดกระทรวง หรือปลัด ทบวง ในฐานะผู้บังคับบัญชาสานักงานปลัดสานักนายกรัฐมนตรี สานักงานปลัดกระทรวง หรือสานักงานปลัด ทบวง แล้วแต่กรณี หัวหน้าส่วนราชการท่ีมีฐานะหรือไม่มีฐานะเป็นกรมซึ่งข้ึนตรงต่อนายกรัฐมนตรีหรือ รัฐมนตรี หรือหัวหน้าส่วนราชการที่มีกฎหมายกาหนดให้การปฏิบัติราชการข้ึนตรง หรืออยู่ภายใต้การบังคับ บญั ชาของนายกรฐั มนตรหี รือรฐั มนตรี “หวั หนา้ ส่วนราชการ” หมายความวา่ อธิบดี หวั หนา้ สว่ นราชการที่เรยี กชื่ออย่างอื่นและมีฐานะเป็น กรม หัวหน้าส่วนราชการซึ่งไม่มีฐานะเป็นกรมแต่มีฐานะเป็นอธิบดี ผู้ว่าราชการจังหวัดและให้หมายความ รวมถงึ เลขานุการรฐั มนตรีในฐานะผบู้ ังคบั บัญชาสานักงานรฐั มนตรีด้วย “เข้ารับการตรวจเลือก” หมายความว่า เข้ารับการตรวจเลือกเพ่ือรับราชการเป็นทหารกอง ประจาการตามกฎหมายว่าดว้ ยการรับราชการทหาร “เข้ารับการเตรียมพล” หมายความว่า เข้ารับการระดมพล เข้ารับการตรวจสอบพล เข้ารับการฝึก วิชาทหาร หรือเข้ารับการทดลองความพร่งั พร้อม ตามกฎหมายว่าด้วยการรบั ราชการทหาร “ลาตดิ ตามคู่สมรส” หมายความวา่ ลาตดิ ตามสามหี รอื ภริยาโดยชอบดว้ ยกฎหมายทีเ่ ปน็ ขา้ ราชการ หรือพนักงานรัฐวิสาหกิจซึ่งไปปฏิบัติหน้าที่ราชการหรือไปปฏิบัติงานในต่างประเทศหรือทางราชการสั่งให้ ไปปฏิบัติงานในต่างประเทศต้ังแต่ ๑ ปีข้ึนไปตามความต้องการของทางราชการตามพระราชกฤษฎีกาเกี่ยวกับ การกาหนดหลักเกณฑ์การส่ังให้ข้าราชการไปทาการซึ่งให้นับเวลาระหว่างนั้นเหมือนเต็มเวลาราชการ แต่ไม่ รวมถึงกรณีทีค่ ู่สมรสลาไปศกึ ษา ฝกึ อบรม ปฏบิ ตั กิ ารวจิ ัย หรอื ดงู าน ณ ต่างประเทศ ข้อ 6 ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับแก่ข้าราชการพลเรือนตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน ข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษา ข้าราชการการเมืองตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการการเมือง และข้าราชการตารวจตามกฎหมาย วา่ ด้วยตารวจแหง่ ชาติ ในกรณีที่กระทรวง ทบวง กรม หรือส่วนราชการที่เรียกชื่ออย่างอ่ืนและมีฐานะเทียบเท่ากรม มีเหตุพิเศษซึ่งจะต้องวางหลักเกณฑ์และข้ันตอนวิธีปฏิบัติเก่ียวกับการลาประเภทใดเพ่ิมเติมหรือแตกต่างไป จากที่ระเบียบนี้กาหนด ให้ดาเนินการเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่ออนุมัติให้กาหนดระเบียบเป็นการเฉพาะได้ ท้ังน้ี ใหป้ ลดั สานักนายกรฐั มนตรเี สนอความเหน็ เพอื่ ประกอบการพิจารณาด้วย เตรียมสอบครูผู้ช่วย By ทมี ฮกั แพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
ค่มู ือเตรยี มสอบบรรจุเข้ารบั ราชการ ตาแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 382 ข้อ 7 การลาทกุ ประเภทตามระเบยี บนี้ ถา้ มีกฎหมาย ระเบียบ หรอื มตคิ ณะรฐั มนตรี กาหนดเก่ียวกับ การลาประเภทใดไว้เป็นพิเศษ ผู้ลาและผู้มีอานาจพิจารณาหรืออนุญาตจะต้องปฏิบัติ ตามกฎหมาย ระเบียบ หรอื มตคิ ณะรัฐมนตรเี กย่ี วกับการลาประเภทน้นั ดว้ ย ข้อ 8 ผู้มีอานาจพิจารณาหรืออนุญาตการลา และการใช้อานาจพิจารณาหรืออนุญาต การลาสาหรับ ข้าราชการแต่ละประเภท ใหเ้ ป็นไปตามตารางทกี่ าหนดไว้ทา้ ยระเบยี บน้ี ส่วนราชการหรือหน่วยงานใดมีข้าราชการหลายประเภท ให้ผู้มีอานาจพิจารณาหรืออนุญาต การลา ของส่วนราชการหรอื หน่วยงานนัน้ มีอานาจพิจารณาหรอื อนุญาตการลาสาหรับข้าราชการ ทุกประเภทท่ีอยู่ใน สงั กดั ส่วนราชการหรอื หนว่ ยงานนนั้ ในกรณีที่ผู้มีอานาจอนุญาตการลาตามระเบียบน้ีไม่อยู่หรือไม่สามารถปฏิบัติราชการได้ และมีเหตุ จาเปน็ เร่งดว่ นไม่อาจรอขออนุญาตจากผ้มู ีอานาจอนญุ าตได้ ใหผ้ ู้ลาเสนอหรือจัดสง่ ใบลาต่อผมู้ ี อานาจอนญุ าต ชั้นเหนือข้ึนไปเพื่อพิจารณา และเมื่ออนุญาตแล้วให้แจ้งให้ผู้มีอานาจอนุญาตตามระเบียบน้ีทราบด้วย ผู้มีอานาจพิจารณาหรืออนุญาตการลาจะมอบหมายหรือมอบอานาจโดยทาเป็นหนังสือให้แก่ ผู้ดารง ตาแหน่งอ่ืน เป็นผู้พิจารณาหรืออนุญาตแทนก็ได้โดยให้คานึงถึงระดับตาแหน่งและความ รับผิดชอบของผู้รับ มอบอานาจเปน็ สาคญั การลาของข้าราชการในชว่ งก่อนและหลังวนั หยดุ ราชการประจาสัปดาห์หรอื วนั หยุดราชการประจาปี เพื่อให้มีวันหยุดต่อเนื่องกัน ให้ผู้มีอานาจพิจารณาหรืออนุญาตใช้ดุลพินิจตามความเหมาะสมและจาเป็นท่ีจะ อนุญาตใหล้ าได้ โดยมิใหเ้ สียหายแก่การปฏบิ ตั ริ าชการ ขอ้ 9 ขา้ ราชการผใู้ ดไดร้ ับคาส่งั ให้ไปชว่ ยราชการ ณ หนว่ ยงานอนื่ ใดของทางราชการหากประสงค์จะ ลาป่วย ลาคลอดบุตร ลากิจส่วนตัว ลาพักผ่อน หรือลาเข้ารับการตรวจเลือกหรือเข้ารับการเตรียมพลใน ระหว่างเวลาที่ไปช่วยราชการ ให้เสนอขออนุญาตลาต่อผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานท่ีไปช่วยราชการ แล้วให้ หนว่ ยงานนั้นรายงานจานวนวันลาใหห้ น่วยงานต้นสงั กัดของผูน้ ้นั ทราบอยา่ งน้อยปลี ะครงั้ การลาประเภทอ่ืนนอกจากที่ระบุไว้ในวรรคหนึ่ง ให้เสนอขออนุญาตลาต่อผู้มีอานาจพิจารณาหรือ อนญุ าตการลาของสว่ นราชการเจา้ สังกัดตามหลกั เกณฑ์ที่กาหนดสาหรบั การลาประเภทนน้ั ข้อ 10 การนับวันลาตามระเบียบน้ีให้นับตามปีงบประมาณการนับวันลาเพ่ือประโยชน์ในการเสนอ หรือจัดส่งใบลา อนญุ าตใหล้ า และคานวณวันลาให้นับต่อเนื่องกนั โดยนบั วันหยดุ ราชการที่อยู่ในระหวา่ งวันลา ประเภทเดียวกันรวมเป็นวนั ลาด้วยเว้นแต่การนบั เพ่ือประโยชน์ในการคานวณวนั ลาสาหรับวันลาป่วยท่ีมิใช่วนั ลาปว่ ยตามกฎหมายวา่ ด้วยการสงเคราะห์ข้าราชการผู้ได้รับอันตรายหรอื การป่วยเจ็บเพราะเหตุปฏิบตั ริ าชการ วนั ลาไปช่วยเหลือภรยิ าท่คี ลอดบตุ รวันลากิจสว่ นตัว และวนั ลาพกั ผอ่ น ให้นับเฉพาะวันทาการ การลาป่วยหรือลากิจส่วนตัวซ่ึงมีระยะเวลาต่อเน่ืองกัน จะเป็นในปีงบประมาณเดียวกันหรือไม่ก็ตาม ให้นับเป็นการลาครั้งหน่ึง ถา้ จานวนวนั ลาคร้งั หนึง่ รวมกนั เกนิ อานาจของผู้มีอานาจอนญุ าตระดับใดใหน้ าใบลา เสนอขนึ้ ไปตามลาดบั จนถึงผู้มีอานาจอนุญาต เตรียมสอบครูผู้ชว่ ย By ทีมฮักแพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คูม่ อื เตรียมสอบบรรจเุ ขา้ รับราชการ ตาแหน่งครูผ้ชู ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 383 ข้าราชการท่ีได้รับอนุญาตให้ลาไปช่วยเหลือภริยาที่คลอดบุตร ลากิจส่วนตัวซึ่งมิใช่ลากิจส่วนตัวเพ่ือ เลี้ยงดูบุตรตามข้อ 22 หรือลาพักผ่อน ซ่ึงได้หยุดราชการไปยังไม่ครบกาหนด ถ้ามีราชการจาเป็นเกิดข้ึน ผู้บังคับบญั ชาหรอื ผมู้ อี านาจอนุญาตจะเรียกตวั มาปฏบิ ตั ิราชการระหว่างการลาก็ได้ การลาของข้าราชการท่ีถูกเรียกกลับมาปฏบิ ัตริ าชการระหว่างการลา ให้ถือว่าสิ้นสุดก่อนวันมาปฏิบตั ิ ราชการ เว้นแตผ่ ู้มีอานาจอนญุ าตเห็นวา่ การเดินทางตอ้ งใช้เวลา ให้ถอื ว่าส้ินสุดก่อนวนั เดนิ ทางกลบั การลาครึ่งวันในตอนเช้าหรือตอนบ่าย ให้นับเป็นการลาครึ่งวันตามประเภทของการลาน้ัน ๆ ข้าราชการซึ่งได้รับอนุญาตให้ลา หากประสงค์จะยกเลิกวันลาท่ียังไม่ได้หยุดราชการ ให้เสนอขอยกเลิกวันลา ต่อผู้บังคับบัญชาตามลาดับจนถึงผู้มีอานาจอนุญาตให้ลา และให้ถือว่าการลาเป็นอันสิ้นสุดก่อนวันมาปฏิบัติ ราชการ ข้อ 11 เพ่ือควบคุมให้เป็นไปตามระเบียบนี้ ให้ส่วนราชการจัดทาบัญชลี งเวลาการปฏิบัตริ าชการของ ข้าราชการในสังกัด โดยมีสาระสาคัญตามตัวอย่างท้ายระเบียบนี้ หรือจะใช้เครื่องบันทึกเวลาการปฏิบัติ ราชการแทนกไ็ ด้ ในกรณีจาเป็น หัวหน้าส่วนราชการข้ึนตรงหรือหัวหน้าส่วนราชการจะกาหนดวิธีลงเวลาการปฏิบัติ ราชการ หรือวิธีควบคุมการปฏิบัติราชการของข้าราชการท่ีมีการปฏิบัติราชการในลักษณะพิเศษเป็นอย่างอ่ืน ตามทเ่ี หน็ สมควรกไ็ ด้ แตจ่ ะต้องมหี ลักฐานให้สามารถตรวจสอบวนั เวลาการปฏบิ ัติราชการได้ดว้ ย ข้อ 12 การลาให้ใช้ใบลาตามแบบท้ายระเบียบน้ี เว้นแต่ในกรณีจาเป็นหรือรีบด่วนจะใช้ใบลาท่ีมี ข้อความไม่ครบถ้วนตามแบบหรือจะลาโดยวิธีการอย่างอื่นก็ได้ แต่ต้องส่งใบลาตามแบบในวันแรกที่มาปฏิบัติ ราชการ ส่วนราชการอาจนาระบบอิเล็กทรอนิกส์มาประยุกต์ใช้ในการเสนอใบลา อนุญาตให้ลาและยกเลิก วนั ลาสาหรบั การลาปว่ ย ลาพกั ผอ่ น หรอื ลากจิ สว่ นตัวซง่ึ มิใชล่ ากจิ สว่ นตวั เพ่ือเล้ียงดูบุตรตามข้อ 22 กไ็ ด้ ทั้งนี้ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ดังกล่าวจะต้องเป็นระบบที่มีความปลอดภัย รัดกุมสามารถตรวจสอบตัวบุคคล และเก็บ ขอ้ มลู เกย่ี วกบั การลาเปน็ หลกั ฐานในราชการได้ ข้อ 13 ข้าราชการซึ่งประสงคจะไปต่างประเทศในระหว่างการลาตามระเบียบน้ี หรือในระหว่าง วันหยุดราชการ ให้เสนอขออนุญาตต่อผู้บังคับบัญชาตามลาดับจนถึงหัวหน้าส่วนราชการข้ึนตรงหรือหัวหน้า สว่ นราชการ ในกรณีที่ข้าราชการตามวรรคหนึ่งเป็นหัวหน้าส่วนราชการขึ้นตรงให้เสนอขออนุญาตต่อรัฐมนตรีเจ้า สังกัด ถ้าเป็นหัวหน้าส่วนราชการให้เสนอขออนุญาตตอ่ ปลดั กระทรวงหรือหัวหน้าส่วนราชการข้ึนตรง แล้วแต่ กรณีการอนุญาตของหัวหน้าสว่ นราชการตามวรรคหนึ่ง เมื่ออนุญาตแล้วให้รายงานปลัดกระทรวงหรือหัวหนา้ ส่วนราชการขนึ้ ตรง แลว้ แตก่ รณี ทราบดว้ ย ข้อ 14 การขออนุญาตไปต่างประเทศซ่ึงอยู่ติดเขตแดนประเทศไทย ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดและ นายอาเภอในท้องท่ีที่มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศนั้นมีอานาจอนุญาตให้ข้าราชการในราชการบริหารส่วน ภูมิภาคในสังกดั จังหวดั หรืออาเภอนั้น ๆ ไปประเทศน้นั ได้คร้งั หนงึ่ ไม่เกิน 7 วัน และ 3 วนั ตามลาดบั เตรยี มสอบครผู ูช้ ่วย By ทมี ฮกั แพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คูม่ ือเตรียมสอบบรรจุเข้ารับราชการ ตาแหนง่ ครูผูช้ ่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 384 ข้อ 15 ข้าราชการผู้ใดไม่สามารถมาปฏิบัติราชการได้อันเน่ืองมาจากพฤติการณ์พิเศษซึ่งเกิดขึ้นกับ บุคคลทั่วไปในท้องที่นั้น หรือพฤติการณ์พิเศษซึ่งเกิดขึ้นกับข้าราชการผู้น้ันและมิได้เกิดจากความประมาท เลินเล่อหรือความผิดของข้าราชการผู้นั้นเอง โดยพฤติการณ์พิเศษดังกล่าวรา้ ยแรงจนเป็นเหตุขัดขวางทาใหไ้ ม่ สามารถมาปฏิบัติราชการ ณ สถานท่ีตั้งตามปกติ ให้ข้าราชการผู้นั้นรีบรายงานพฤติการณ์ที่เกิดข้ึนรวมทั้ง อุปสรรคขัดขวางท่ีทาให้มาปฏิบัติราชการไม่ได้ต่อผู้บังคับบัญชาตามลาดับจนถึงหัวหน้าส่วนราชการข้ึนตรง หรอื หัวหนา้ ส่วนราชการทนั ทีในวันแรกทีม่ าปฏิบตั ริ าชการ ในกรณีที่ข้าราชการตามวรรคหน่ึงเป็นหัวหน้าส่วนราชการขึ้นตรงให้รายงานต่อรัฐมนตรีเจ้าสังกัด ถ้าเป็นหวั หนา้ สว่ นราชการใหร้ ายงานต่อปลดั กระทรวงหรอื หัวหน้าสว่ นราชการข้ึนตรงแล้วแต่กรณี ในกรณีท่ีรัฐมนตรีเจ้าสังกัด ปลัดกระทรวง หัวหน้าส่วนราชการขึ้นตรง หรือหัวหน้าส่วนราชการเห็น ว่าการที่ข้าราชการผู้นั้นไม่สามารถมาปฏิบัติราชการได้เป็นเพราะพฤติการณ์พิเศษตามวรรคหนึ่งให้ส่ังให้การ หยุดราชการของข้าราชการผู้น้ันไม่นับเป็นวันลาตามจานวนวันท่ีไม่มาปฏิบัติราชการได้อันเน่ืองมาจาก พฤติการณ์พิเศษดังกล่าว ถ้าเห็นว่าไม่เป็นพฤติการณ์พิเศษ ให้ถือว่าวันท่ีข้าราชการผู้นั้นไม่มาปฏิบัติราชการ เปน็ วนั ลากิจสว่ นตวั ข้อ 16 การใหไ้ ด้รบั เงนิ เดือนระหวา่ งการลา ให้เปน็ ไปตามพระราชกฤษฎีกาเก่ียวกับการจ่ายเงินเดือน เงนิ ปี บาเหน็จ บานาญ และเงินอน่ื ในลักษณะเดียวกัน หมวด 2 ประเภทการลา ข้อ 17 การลาแบ่งออกเปน็ 11 ประเภท ดังต่อไปนี้ (1) การลาปว่ ย (2) การลาคลอดบุตร (3) การลาไปช่วยเหลือภรยิ าท่คี ลอดบุตร (4) การลากจิ ส่วนตัว (5) การลาพักผ่อน (6) การลาอุปสมบทหรือการลาไปประกอบพธิ ีฮัจย์ (7) การลาเข้ารับการตรวจเลอื กหรือเข้ารบั การเตรียมพล (8) การลาไปศกึ ษา ฝกึ อบรม ปฏบิ ัตกิ ารวจิ ัย หรือดงู าน (9) การลาไปปฏบิ ตั งิ านในองคก์ ารระหว่างประเทศ (10) การลาติดตามคู่สมรส (11) การลาไปฟนื้ ฟูสมรรถภาพดา้ นอาชีพ *** เทคนคิ การจา*** ปว่ ย คลอด ชว่ ย กิจ ผ่อน บวช ตรวจ ศกึ ษา ระหวา่ งประเทศ ตดิ ตาม ฟนื้ ฟู เตรียมสอบครผู ู้ช่วย By ทีมฮักแพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
ค่มู อื เตรยี มสอบบรรจุเขา้ รับราชการ ตาแหนง่ ครูผูช้ ว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 385 สว่ นท่ี 1 การลาปว่ ย ข้อ 18 ข้าราชการซึ่งประสงค์จะลาป่วยเพ่ือรักษาตัว ให้เสนอหรือจัดส่งใบลาต่อผู้บังคับบัญชา ตามลาดับจนถึงผู้มีอานาจอนุญาตก่อนหรือในวันที่ลา เว้นแต่ในกรณีจาเป็น จะเสนอหรือจัดส่งใบลา ในวัน แรกทม่ี าปฏิบตั ิราชการก็ได้ ในกรณีที่ข้าราชการผู้ขอลามีอาการปว่ ยจนไม่สามารถจะลงชอ่ื ในใบลาได้จะใหผ้ อู้ น่ื ลาแทนกไ็ ด้ แต่ เมอ่ื สามารถลงชอ่ื ได้แล้ว ให้เสนอหรือจดั สง่ ใบลาโดยเรว็ การลาป่วยต้ังแต่ 30 วันขึ้นไป ต้องมีใบรับรองของแพทย์ซ่ึงเป็นผู้ที่ได้ขึ้นทะเบียนและ รับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมแนบไปกับใบลาด้วย ในกรณีจาเป็นหรือเห็นสมควร ผู้มีอานาจ อนญุ าตจะส่งั ใหใ้ ชใ้ บรับรองของแพทย์อ่ืนซ่งึ ผมู้ ีอานาจอนุญาตเหน็ ชอบแทนกไ็ ด้ การลาป่วยไม่ถึง 30 วัน ไม่ว่าจะเป็นการลาครั้งเดียวหรือหลายครั้งติดต่อกัน ถ้าผู้มีอานาจ อนุญาต เห็นสมควร จะสั่งให้มีใบรับรองของแพทย์ตามวรรคสามประกอบใบลา หรือสั่งให้ผู้ลาไปรับการตรวจจาก แพทย์ของทางราชการเพ่อื ประกอบการพิจารณาอนญุ าตก็ได้ ส่วนที่ 2 การลาคลอดบตุ ร ข้อ 19 ข้าราชการซ่ึงประสงค์จะลาคลอดบุตร ให้เสนอหรือจัดส่งใบลาต่อผู้บังคับบัญชา ตามลาดับจนถึงผู้มอี านาจอนญุ าตกอ่ นหรือในวนั ที่ลา เว้นแต่ไมส่ ามารถจะลงชือ่ ในใบลาไดจ้ ะใหผ้ อู้ ืน่ ลาแทนก็ได้ แต่เม่ือสามารถลงชื่อได้แล้ว ให้เสนอหรือจัดส่งใบลาโดยเร็ว โดยไม่ต้องมีใบรับรอง ของ แพทย์ การลาคลอดบตุ รจะลาในวนั ทค่ี ลอดกอ่ นหรอื หลังวนั ทค่ี ลอดบตุ รกไ็ ดแ้ ตเ่ มอ่ื รวมวนั ลา แล้วตอ้ งไมเ่ กิน 90 วนั ข้าราชการที่ได้รับอนุญาตให้ลาคลอดบุตรและได้หยุดราชการไปแล้ว แต่ไม่ได้คลอดบุตร ตามกาหนด หากประสงค์จะขอยกเลิกวันลาคลอดบุตรท่ีหยุดไป ให้ผู้มีอานาจอนุญาตอนุญาตให้ ยกเลิก วันลาคลอดบตุ รไดโ้ ดยให้ถอื วา่ วันทีไ่ ด้หยดุ ราชการไปแล้วเป็นวันลากจิ สว่ นตวั การลาคลอดบุตรคาบเกี่ยวกับการลาประเภทใดซ่ึงยังไม่ครบกาหนดวันลาของการลาประเภท น้นั ใหถ้ อื วา่ การลาประเภทน้นั สนิ้ สุดลง และให้นบั เปน็ การลาคลอดบุตรตั้งแตว่ ันเรมิ่ วนั ลาคลอดบตุ ร ส่วนที่ 3 การลาไปช่วยเหลอื ภรยิ าทีค่ ลอดบุตร ข้อ 20 ข้าราชการซ่ึงประสงค์จะลาไปช่วยเหลือภริยาโดยชอบด้วยกฎหมายที่คลอดบุตร ให้เสนอหรือจัดส่งใบลาต่อผู้บังคับบัญชาตามลาดับจนถึงผู้มีอานาจอนุญาตก่อนหรือในวันท่ีลา ภายใน 90 วัน นับแต่วันที่คลอดบุตร และให้มีสิทธิลาไปช่วยเหลือภริยาที่คลอดบุตรคร้ังหน่ึงติดต่อกัน ได้ไม่เกนิ 15 วันทาการ ผู้มีอานาจอนญุ าตตามวรรคหนงึ่ อาจให้แสดงหลักฐานประกอบการพิจารณาอนญุ าตด้วยกไ็ ด้ เตรียมสอบครผู ูช้ ว่ ย By ทีมฮักแพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ ือเตรยี มสอบบรรจุเขา้ รบั ราชการ ตาแหนง่ ครผู ู้ช่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 386 สว่ นที่ 4 การลากิจส่วนตวั ข้อ 21 ข้าราชการซ่ึงประสงค์จะลากิจส่วนตัว ให้เสนอหรือจัดส่งใบลาต่อผู้บังคับบัญชา ตามลาดับ จนถึงผู้มีอานาจอนุญาต และเม่ือได้รับอนุญาตแล้วจึงจะหยุดราชการได้เว้นแต่มีเหตุจาเป็น ไม่สามารถรอรับ อนุญาตได้ทัน จะเสนอหรือจัดส่งใบลาพร้อมระบุเหตุจาเป็นไว้แล้วหยุดราชการไปก่อนก็ได้ แต่จะต้องช้ีแจง เหตผุ ลให้ผูม้ ีอานาจอนญุ าตทราบโดยเรว็ ในกรณีมีเหตุพิเศษท่ีไม่อาจเสนอหรือจัดส่งใบลาก่อนตามวรรคหน่ึงได้ให้เสนอหรือจัดส่งใบลา พร้อมท้ังเหตุผลความจาเป็นต่อผู้บังคับบัญชาตามลาดับจนถึงผู้มีอานาจอนุญาตทันทีในวันแรก ท่ีมา ปฏบิ ัตริ าชการ ข้อ 22 ข้าราชการท่ลี าคลอดบตุ รตามขอ้ 19 แล้ว หากประสงค์จะลากิจสว่ นตวั เพื่อเล้ยี งดูบตุ ร ใหม้ ีสิทธลิ าต่อเนื่องจากการลาคลอดบตุ รไดไ้ ม่เกนิ 150 วนั ทาการ ส่วนที่ 5 การลาพกั ผอ่ น ข้อ 23 ข้าราชการมีสิทธิลาพักผ่อนประจาปีในปีงบประมาณหนึ่งได้ 10 วันทาการ เว้นแต่ ข้าราชการดงั ตอ่ ไปนีไ้ มม่ ีสทิ ธลิ าพกั ผ่อนประจาปีในปที ไ่ี ดร้ ับบรรจเุ ข้ารับราชการยังไม่ถงึ 6 เดือน (1) ผซู้ ึ่งไดร้ ับบรรจเุ ขา้ รบั ราชการเปน็ ข้าราชการคร้งั แรก (2) ผู้ซง่ึ ลาออกจากราชการเพราะเหตสุ ่วนตวั แล้วต่อมาได้รบั บรรจุเขา้ รบั ราชการอีก (3) ผู้ซ่ึงลาออกจากราชการเพ่ือดารงตาแหน่งทางการเมืองหรือเพอื่ สมัครรับเลอื กต้ังแล้วต่อมา ไดร้ ับบรรจเุ ขา้ รบั ราชการอกี หลัง 6 เดือน นบั แต่วนั ออกจากราชการ (4) ผู้ซ่ึงถูกสั่งใหอ้ อกจากราชการในกรณอี ื่น นอกจากกรณีไปรบั ราชการทหารตามกฎหมาย ว่าด้วยการรับราชการทหาร และกรณีไปปฏิบัติงานใด ๆ ตามความประสงค์ของทางราชการ แล้ว ตอ่ มา ได้รบั บรรจเุ ข้ารับราชการอีก ข้อ 24 ถ้าในปีใดข้าราชการผู้ใดมิได้ลาพักผ่อนประจาปีหรือลาพักผ่อนประจาปแี ล้วแต่ไม่ครบ 10 วันทาการ ให้สะสมวันท่ยี ังมิไดล้ าในปีน้นั รวมเข้ากับปีต่อ ๆ ไปได้แตว่ นั ลาพักผ่อนสะสมรวมกับ วันลา พกั ผ่อนในปปี ัจจุบนั จะตอ้ งไม่เกิน 20 วันทาการ สาหรับผู้ท่ีได้รับราชการติดต่อกันมาแล้วไม่น้อยกว่า 10 ปีให้มีสิทธินาวันลาพักผ่อนสะสม รวมกบั วนั ลาพกั ผ่อนในปีปจั จบุ ันไดไ้ มเ่ กิน 30 วนั ทาการ ข้อ 25 ใหข้ า้ ราชการทป่ี ระจาการในตา่ งประเทศในเมืองท่ีกาลงั พฒั นาซ่งึ ตั้งอย่ใู นภูมิภาค แอฟริกา ลาตนิ อเมรกิ า และอเมริกากลาง หรอื เมืองที่มคี วามเปน็ อยู่ยากลาบาก เมอื งทม่ี ีภาวะ ความ เป็นอยู่ไมป่ กติ และเมืองทมี่ ีสถานการณ์พิเศษ มีสิทธิลาพักผ่อนประจาปีในปีหน่ึงได้เพิ่มขึ้นอีก 10 วัน ทาการ สาหรับวนั ลาตามขอ้ น้มี ิใหน้ าวันที่ยังมิไดล้ าในปีนนั้ รวมเข้ากบั ปีต่อไป การกาหนดรายชื่อเมืองตามวรรคหน่ึง ให้เป็นไปตามท่ีปลัดสานักนายกรัฐมนตรีประกาศ กาหนดอยา่ งน้อยปลี ะหนึ่งครั้ง เตรียมสอบครผู ู้ชว่ ย By ทีมฮักแพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มอื เตรียมสอบบรรจุเข้ารบั ราชการ ตาแหน่งครูผู้ชว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 387 ข้อ 26 ข้าราชการซ่ึงประสงค์จะลาพักผ่อน ให้เสนอหรือจัดส่งใบลาต่อผู้บังคับบัญชา ตามลาดับจนถงึ ผ้มู ีอานาจอนญุ าต และเมอ่ื ไดร้ บั อนญุ าตแล้วจึงจะหยุดราชการได้ ข้อ 27 การอนุญาตใหล้ าพกั ผ่อน ผู้มีอานาจอนญุ าตจะอนญุ าตใหล้ าครั้งเดยี วหรือหลายคร้ัง กไ็ ดโ้ ดยมิให้เสยี หายแกร่ าชการ ข้อ 28 ข้าราชการประเภทใดท่ีปฏิบัติงานในสถานศึกษาและมวี ันหยุดภาคการศึกษา หากได้ หยุดราชการตามวันหยุดภาคการศึกษาเกินกว่าวันลาพักผ่อนตามระเบียบนี้ไม่มีสิทธิลาพักผ่อนตามที่ กาหนดไวใ้ นส่วนนี้ ส่วนท่ี 6 การลาอปุ สมบทหรือการลาไปประกอบพิธีฮัจย์ ข้อ 29 ข้าราชการซึ่งประสงค์จะลาอุปสมบทในพระพุทธศาสนา หรือข้าราชการท่ีนับถือ ศาสนาอิสลามซ่ึงประสงค์จะลาไปประกอบพิธีฮัจย์ ณ เมืองเมกกะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย ให้เสนอ หรือจัดส่งใบลาต่อผู้บังคับบัญชาตามลาดับจนถึงผู้มีอานาจพิจารณาหรืออนุญาตก่อนวันอุปสมบท หรือกอ่ นวันเดนิ ทางไปประกอบพิธีฮจั ย์ไมน่ ้อยกว่า 60 วนั ในกรณีมเี หตุพิเศษไมอ่ าจเสนอหรือจดั ส่งใบลากอ่ นตามวรรคหนง่ึ ให้ช้ีแจงเหตผุ ลความจาเปน็ ประกอบการลา และใหอ้ ย่ใู นดุลพินจิ ของผ้มู อี านาจพิจารณาหรอื อนุญาตทจี่ ะพิจารณาใหล้ าหรอื ไมก่ ็ได้ ข้อ 30 ข้าราชการท่ีได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ลาอุปสมบทหรือได้รับอนุญาต ให้ลาไปประกอบพิธีฮัจย์ตามข้อ 29 แล้ว จะต้องอุปสมบทหรือออกเดินทางไปประกอบพิธีฮัจย์ภายใน 10 วนั นบั แตว่ ันเรม่ิ ลา และจะต้องกลับมารายงานตัวเขา้ ปฏบิ ัตริ าชการภายใน 5 วนั นับแต่วนั ท่ีลาสิกขา หรือวนั ท่ีเดนิ ทางกลบั ถงึ ประเทศไทยหลังจากการเดินทางไปประกอบพิธฮี จั ย์ทง้ั น้จี ะต้องนับรวมอยู่ ภายในระยะเวลาที่ไดร้ ับอนญุ าตการลา ข้าราชการที่ได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้ลาอุปสมบทหรือได้รับอนุญาตให้ลา ไป ประกอบพธิ ฮี จั ยแ์ ละได้หยดุ ราชการไปแล้ว หากปรากฏวา่ มีปัญหาอุปสรรคทาให้ไม่สามารถอุปสมบท หรือ ไปประกอบพิธฮี ัจย์ตามท่ีขอลาไว้เมื่อได้รายงานตัวกลบั เข้าปฏบิ ัตริ าชการตามปกติและขอยกเลิกวันลา ให้ ผู้มีอานาจตามข้อ 29 พิจารณาหรืออนุญาตให้ยกเลิกวันลาอุปสมบทหรือไปประกอบพิธีฮัจย์โดยให้ ถือว่า วนั ที่ไดห้ ยุดราชการไปแลว้ เปน็ วันลากจิ ส่วนตวั ส่วนที่ 7 การลาเขา้ รับการตรวจเลอื กหรอื เข้ารับการเตรยี มพล ข้อ 31 ข้าราชการท่ีได้รับหมายเรียกเข้ารับการตรวจเลือก ให้รายงานลาต่อผู้บังคับบัญชา ก่อนวัน เข้ารับการตรวจเลือกไม่น้อยกว่า 48 ชั่วโมง ส่วนข้าราชการที่ได้รับหมายเรียกเข้ารับการเตรียมพลให้ รายงานลาตอ่ ผู้บงั คับบัญชาภายใน 48 ชวั่ โมง นบั แตเ่ วลารบั หมายเรียกเป็นตน้ ไป และใหไ้ ปเขา้ รบั การตรวจ เลือก หรือเข้ารับการเตรียมพลตามวันเวลาในหมายเรียกน้ันโดยไม่ต้องรอรับ คาสั่งอนุญาต และให้ ผบู้ ังคบั บญั ชาเสนอรายงานลาไปตามลาดับจนถึงหวั หนา้ ส่วนราชการข้นึ ตรง หรือหัวหน้าส่วนราชการ ในกรณีท่ีข้าราชการตามวรรคหนึ่งเป็นหวั หนา้ สว่ นราชการข้นึ ตรงใหร้ ายงานลาต่อรฐั มนตรี เจ้า สงั กัด ถา้ เป็นหวั หน้าส่วนราชการใหร้ ายงานลาต่อปลดั กระทรวงหรือหวั หนา้ ส่วนราชการขนึ้ ตรง แล้วแต่กรณี เตรียมสอบครูผ้ชู ่วย By ทมี ฮักแพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ อื เตรียมสอบบรรจเุ ขา้ รบั ราชการ ตาแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 388 ข้อ 32 เม่ือข้าราชการที่ลานั้นพ้นจากการเข้ารับการตรวจเลือกหรือเข้ารับการเตรียมพลแล้ว ให้ มารายงานตัวกลับเข้าปฏิบัติราชการตามปกติต่อผู้บังคับบัญชาภายใน 7 วัน เว้นแต่กรณีท่ีมีเหตุ จาเป็น ปลัดกระทรวง หัวหน้าส่วนราชการข้ึนตรง หัวหน้าส่วนราชการ หรือรัฐมนตรีเจ้าสังกัดตามข้อ 31 อาจขยาย เวลาใหไ้ ดแ้ ต่รวมแล้วไม่เกิน 15 วัน ส่วนท่ี 8 การลาไปศกึ ษา ฝึกอบรม ปฏิบตั ิการวิจยั หรอื ดงู าน ขอ้ 33 ข้าราชการซ่ึงประสงค์จะลาไปศึกษา ฝกึ อบรม ปฏิบัตกิ ารวจิ ยั หรอื ดงู าน ในประเทศหรือ ต่างประเทศ ให้เสนอหรือจัดส่งใบลาต่อผูบ้ ังคับบัญชาตามลาดับจนถึงหัวหน้าส่วนราชการ ยกเว้นผู้วา่ ราชการ จังหวดั หรอื หวั หนา้ ส่วนราชการขึ้นตรง แล้วแตก่ รณีเพ่ือพจิ ารณาอนุญาต การอนุญาตของหัวหน้าสว่ นราชการตามวรรคหน่งึ เมอื่ อนุญาตแล้วให้รายงานปลดั กระทรวง หรอื หวั หนา้ สว่ นราชการขน้ึ ตรง แลว้ แต่กรณที ราบด้วย ในกรณีท่ีข้าราชการตามวรรคหนึ่งเป็นหัวหน้าส่วนราชการข้ึนตรงให้เสนอหรือจัดส่งใบลา ต่อ รัฐมนตรีเจ้าสังกัด ถ้าเป็นหัวหน้าส่วนราชการให้เสนอหรือจัดส่งใบลาต่อปลัดกระทรวงหรือหัวหน้า ส่วนราชการขน้ึ ตรง แลว้ แต่กรณีเพือ่ พิจารณาอนุญาต ส่วนที่ 9 การลาไปศึกษา ฝกึ อบรม ปฏบิ ตั กิ ารวจิ ัย หรือดงู าน ข้อ 34 ข้าราชการซึ่งประสงค์จะลาไปปฏิบัติงานในองค์การระหว่างประเทศ ให้เสนอ หรือจัดส่ง ใบลาต่อผู้บังคับบัญชาตามลาดับจนถึงรัฐมนตรีเจ้าสังกัดเพื่อพิจารณาอนุญาต โดยถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ท่ี กาหนดไว้ในพระราชกฤษฎีกาเก่ียวกับการกาหนดหลักเกณฑ์การสั่งให้ข้าราชการไปทาการซ่ึงให้นับเวลา ระหว่างนัน้ เหมือนเตม็ เวลาราชการ ข้อ 35 ข้าราชการท่ีลาไปปฏิบัติงานในองค์การระหว่างประเทศท่ีมีระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี เมื่อ ปฏิบัติงานแล้วเสร็จ ให้รายงานตัวเข้าปฏิบัติหน้าที่ราชการภายใน 15 วัน นับแต่วันครบ กาหนดเวลาและ ให้รายงานผลเก่ียวกับการลาไปปฏิบัติงานให้รัฐมนตรีเจ้าสังกัดทราบภายใน 30 วัน นับแต่วันท่ีกลับมาปฏิบัติ หน้าท่ีราชการการรายงานผลเกี่ยวกับการลาไปปฏิบัติงานตามวรรคหนึ่ง ให้ใช้แบบรายงานตามที่กาหนดไว้ ทา้ ยระเบยี บน้ี สว่ นท่ี 10 การลาติดตามคสู่ มรส ข้อ 36 ข้าราชการซ่ึงประสงค์จะลาติดตามคู่สมรส ให้เสนอหรือจัดส่งใบลาต่อผู้บังคับบัญชา ตามลาดับจนถึงปลัดกระทรวงหรือหัวหน้าส่วนราชการขึ้นตรง แล้วแต่กรณีเพ่ือพิจารณาอนุญาตให้ลาได้ ไม่เกิน 2 ปีและในกรณีจาเป็นอาจอนุญาตให้ลาต่อได้อีก 2 ปีแต่เม่ือรวมแล้วต้องไม่เกิน 4 ปี ถ้าเกิน 4 ปี ใหล้ าออกจากราชการ เตรยี มสอบครูผ้ชู ว่ ย By ทมี ฮักแพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มือเตรยี มสอบบรรจุเข้ารบั ราชการ ตาแหนง่ ครูผูช้ ว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 389 ในกรณีที่ข้าราชการตามวรรคหน่ึงเป็นปลัดกระทรวง หรือหัวหน้าส่วนราชการข้ึนตรงให้เสนอ หรอื จดั สง่ ใบลาตอ่ รัฐมนตรเี จ้าสังกดั ข้อ 37 การพิจารณาอนญุ าตให้ขา้ ราชการลาติดตามคูส่ มรส ผมู้ ีอานาจอนุญาตจะอนุญาต ให้ ลาครั้งเดียวหรือหลายครั้งก็ได้โดยมิให้เสียหายแก่ราชการ แต่เม่ือรวมแล้วจะต้องไม่เกินระยะเวลา ตามที่ กาหนดในข้อ 36 และจะต้องเป็นกรณีที่คู่สมรสอยู่ปฏิบัติหน้าที่ราชการ หรือปฏิบัติงาน ในต่างประเทศเป็น ระยะเวลาติดต่อกัน ไมว่ ่าจะอยู่ปฏิบัตหิ น้าท่ีราชการหรือปฏิบตั งิ านในประเทศเดยี วกันหรือไม่ ข้อ 38 ข้าราชการท่ีได้ลาติดตามคู่สมรสครบกาหนดระยะเวลาตามข้อ 36 ในระหว่างเวลาที่ คู่สมรสอยู่ปฏิบัติหน้าที่ราชการหรือปฏิบัติงานในต่างประเทศติดต่อกันคราวหน่ึงแล้ว ไม่มีสิทธิขอลา ติดตาม คู่สมรสอีก เว้นแต่คู่สมรสจะได้กลับมาปฏิบัติหน้าท่ีราชการหรือปฏิบัติงานประจาในประเทศไทย แล้วต่อมา ไดร้ ับคาสัง่ ให้ไปปฏบิ ัติหน้าทร่ี าชการหรือไปปฏิบตั งิ านในตา่ งประเทศอีก จึงจะมสี ทิ ธิขอลา ตดิ ตามคสู่ มรสตาม ข้อ 36 ได้ใหม่ ส่วนท่ี 11 การลาไปฟนื้ ฟูสมรรถภาพดา้ นอาชีพ ข้อ 39 ข้าราชการผู้ใดได้รับอันตรายหรือการป่วยเจ็บเพราะเหตุปฏิบัติราชการในหน้าที่ หรือถูก ประทุษร้ายเพราะเหตุกระทาการตามหน้าท่ีจนทาให้ตกเป็นผู้ทุพพลภาพหรือพิการ หากข้าราชการผู้น้ัน ประสงค์จะลาไปเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรเกี่ยวกับการฟ้ืนฟูสมรรถภาพที่จาเป็นต่อการปฏิบัติหน้าที่ ราชการ หรือที่จาเป็นต่อการประกอบอาชีพ แล้วแต่กรณี มีสิทธิลาไปฟื้นฟู สมรรถภาพด้านอาชีพคร้ังหน่ึงได้ ตามระยะเวลาทก่ี าหนดไวใ้ นหลกั สูตรทป่ี ระสงคจ์ ะลา แต่ไม่เกิน 12 เดือน ข้าราชการท่ีได้รับอันตรายหรือการป่วยเจ็บจนทาให้ตกเป็นผู้ทุพพลภาพหรือพิการเพราะเหตุอื่น นอกจากที่กาหนดในวรรคหน่งึ และผู้มอี านาจส่ังบรรจุพิจารณาแลว้ เห็นว่ายังสามารถรับราชการต่อไปได้ หาก ข้าราชการผู้น้ันประสงค์จะลาไปเข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรเก่ียวกับการฟ้ืนฟูสมรรถภาพท่ีจาเป็น ต่อการ ปฏิบัติหน้าท่ีราชการ ให้ผู้มีอานาจพิจารณาหรืออนุญาตพิจารณาให้ลาไปฟื้นฟูสมรรถภาพ ด้านอาชีพดังกลา่ ว คร้ังหนงึ่ ไดต้ ามระยะเวลาทก่ี าหนดไว้ในหลักสตู รที่ประสงค์จะลา แตไ่ มเ่ กนิ 12 เดือน หลักสูตรตามวรรคหนึ่งและวรรคสองต้องเป็นหลักสูตรท่ีส่วนราชการ หน่วยงานอ่ืนของรัฐ องค์กรการกุศลอันเป็นสาธารณะหรือสถาบันที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานของทางราชการ เป็นผู้จัด หรือรว่ มจดั ข้อ 40 ข้าราชการซ่ึงประสงค์จะลาไปฟ้ืนฟูสมรรถภาพด้านอาชีพตามข้อ 39 ให้เสนอหรือ จัดส่ง ใบลาต่อผู้บงั คบั บัญชาตามลาดบั จนถึงผู้มีอานาจพจิ ารณาหรอื อนุญาตพร้อมแสดงหลักฐานเกย่ี วกบั หลักสูตรท่ี ประสงค์จะลา และเอกสารที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี) เพ่ือพิจารณาอนุญาต และเมื่อได้รับอนุญาตแล้ว จึงจะหยุด ราชการเพอ่ื ไปฟื้นฟูสมรรถภาพด้านอาชีพได้ เตรยี มสอบครูผูช้ ่วย By ทีมฮกั แพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ ือเตรยี มสอบบรรจเุ ขา้ รบั ราชการ ตาแหน่งครูผ้ชู ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 390 หมวด 3 การลาของข้าราชการการเมอื ง ข้อ 41 การลาทุกประเภทและการไปต่างประเทศของนายกรัฐมนตรี ให้อยู่ในดุลพินิจของ นายกรัฐมนตรแี ละแจง้ ใหค้ ณะรฐั มนตรีทราบ ข้อ 42 การลาทุกประเภทและการไปต่างประเทศของข้าราชการการเมือง ให้เป็นอานาจของ นายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาล หรือในฐานะรัฐมนตรีเจ้าสังกัด รองนายกรัฐมนตรี หรือรัฐมนตรี เจา้ สังกัด แลว้ แต่กรณีเป็นผู้พจิ ารณาอนญุ าต ข้อ 43 การลาทุกประเภทและการไปต่างประเทศของข้าราชการการเมืองกรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นข้าราชการการเมืองตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการการเมือง ให้เป็นอานาจของผู้ว่าราชการ กรุงเทพมหานครหรือประธานสภากรงุ เทพมหานคร แลว้ แต่กรณเี ป็นผ้พู ิจารณาอนญุ าต เตรียมสอบครผู ชู้ ่วย By ทมี ฮักแพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ อื เตรยี มสอบบรรจุเข้ารับราชการ ตาแหน่งครผู ู้ชว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 391 แนวข้อสอบ ระเบยี บสานกั นายกรัฐมนตรีว่าด้วยการลาของข้าราชการ พ.ศ. ๒๕๕๕ 1.ระเบยี บสานกั นายกรัฐมนตรวี า่ ด้วยการลาของข้าราชการปี 2555 มีผลใชบ้ ังคับเม่อื ใด ก. 23 มกราคม 2555 ข. 24 มกราคม 2555 ค. 25 มกราคม 2555 ง. 26 มกราคม 2555 2. การลาของข้าราชการมที งั้ หมดกปี่ ระเภท ก. 11 ประเภท ข. 10 ประเภท ค. 9 ประเภท ง. 5 ประเภท 3. หัวหนา้ ส่วนราชการหมายความวา่ อย่างไร ก. ผวู้ า่ ราชการจังหวดั ข. อธิการบดี ค. เลขานุการรฐั มนตรีในฐานะผูบ้ งั คบั บัญชาสานกั งานรฐั มนตรี ง. ถกู ทกุ ข้อ 4. เข้ารบั การตรวจเลอื ก หมายความว่าอย่างไร ก. การเข้ารบั การตรวจเลอื กรับราชการทหาร ข. การเข้ารบั การคดั เลอื กให้ทางานในหน่วยงานราชการ ค. การสอบคดั เลอื กเขา้ รับการอบรม ง. การสอบชงิ ทนุ ศึกษาต่างประเทศ 5. “เข้ารบั การเตรยี มพล”หมายความว่าอย่างไร ก. การเข้ารบั การตรวจเลือกรับราชการทหาร ข. การเข้ารับการคดั เลอื กใหท้ างานในหน่วยงานราชการ ค. เขา้ รับการระดมพล เขา้ รบั การตรวจสอบพล เข้ารบั การฝกึ วิชาทหาร ง. การเข้ารบั การตรวจเลือกรับราชการทหาร 6. ขา้ ราชการตามขอ้ ใดตอ่ ไปน้ีมสี ิทธิลาไปฟ้นื ฟูสมรรถภาพด้านอาชีพ ก. ขา้ ราชการที่เกษยี นอายรุ าชการแล้ว ข. ขา้ ราชการท่ีตกเปน็ ผทู้ ุพพลภาพหรือพกิ าร ค. ข้าราชการทีป่ ฏบิ ัตหิ นา้ ท่ใี นสามจังหวดั ชายแดนภาคใต้ ง. ขา้ ราชการทปี ฏิบัติหนา้ ทีใ่ นประเทศท่กี าลังพฒั นา 7. การลาป่วยตั้งแตก่ ่วี นั ขน้ึ ไปตอ้ งมีใบรบั รองแพทย์ ก. 15 วันขนึ้ ไป ข. 20 วันข้ึนไป ค. 30 วนั ขึน้ ไป ง. 45 วนั ข้ึนไป เตรยี มสอบครผู ู้ชว่ ย By ทมี ฮักแพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ อื เตรียมสอบบรรจุเขา้ รับราชการ ตาแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 392 8. ข้าราชการที่ได้รับคาสัง่ ไปช่วยราชการ ณ หน่วยงานอ่นื หากประสงคล์ าจะตอ้ งลากบั หน่วยงานใด ก. ต้นสังกดั ข. หน่วยงานท่ไี ปช่วยราชการ ค. กระทรวงศึกษาธิการ ง. สานกั นายกรฐั มนตรี 9. ข้าราชการมีสิทธิล์ าพกั ผ่อนประจาปีในปงี บประมาณหน่งึ ได้กวี่ ัน ก. 5 วัน ข. 10 วัน ค. 15 วนั ง. 20 วนั 10. ผู้ซ่ึงถูกส่ังให้ออกจากราชการในกรรีอื่น นอกจากกรณีไปรบั ราชการทหารตามกฏหมายว่าดว้ ยการรับ ราชการทหารและกรณไี ปปฏิบตั ิงานใด ๆ ตามความประสงคข์ องทางราชการ แล้วต่อมาไดร้ บั บรรจุเข้ารับ ราชการอีกในกรณีที่ข้าราชการผู้ใดมิได้ลาพักผ่อนประจาปี หรือลาผักผ่อนไม่ครบ10 วันทาการสามรถ นามาสะสมกับปีตอ่ ๆ ไปได้ไมเ่ กนิ กว่ี ัน ก. ไม่เกนิ 12 วันทาการ ข. ไมเ่ กนิ 15 วนั ทาการ ค. ไม่เกิน 20 วัน ทาการ ง. ไมเ่ กนิ 25 วันทาการ 11. ในการลาคลอดบุตรจานวนวนั ที่ลาต้องไม่เกินกวี่ ัน ก. ไมเ่ กิน 30 วัน ข. ไมเ่ กิน 45 วนั ค. ไม่เกิน 60 วัน ง. ไม่เกิน 90 วัน 12. ข้าราชการทีป่ ระสงค์จะลาไปชว่ ยเหลอื ภรรยาคลอดบตุ รมสี ทิ ธลิ์ าคร้งั หนง่ึ ติดต่อกันไดก้ ่วี นั ก. ไมเ่ กิน 15 วนั ข. ไมเ่ กนิ 30 วนั ค. ไมเ่ กิน 60 ง. ไมเ่ กิน 90 วัน 13. ข้าราชการที่ลาคลอดบุตรแล้วหากประสงค์จะลากิจเพิ่มเติม เพื่อเล้ียงดูบุตรสามารถลาต่อเนื่อง ไดไ้ ม่เกนิ ก่ีวัน ก. ไมเ่ กิน120 วนั ข. ไม่เกิน 150 วนั ค. ไมเ่ กิน 180 วัน ง. ไม่เกิน 190 วนั 14. การลาอุปสมทหรอื ลาประกอบพิธฮี ัจย์ในศาสนาอิสลามต้องย่ืนใบลาไม่นอ้ ยกว่าก่วี ัน ก. ไม่นอ้ ยกว่า 30 วัน ข. ไม่นอ้ ยกวา่ 45 วนั ค. ไมน่ อ้ ยกวา่ 60 วนั ง. ไมน่ อ้ ยกว่า 90 วนั 15. ในกรณีที่มีอุปสรรรคทาให้ไม่สามารถอุปสมบทหรือประกอบพิธีธีฮัจน์ได้ตามปกติและขอยกเลิกวันลา จะถือวา่ เป็นวนั ลาประเภทใด ก. การลากิจสว่ นตัว ข. การลาพกั ผอ่ น ค. การลาอุปสมบทหรอื การลาไปประกอบพธิ ีฮจั ย์ ง. การลาไปศกึ ษา ฝกึ อบรม ปฏิบัตกิ ารวิจยั หรอื ดงู าน เตรยี มสอบครผู ู้ช่วย By ทีมฮกั แพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ อื เตรยี มสอบบรรจุเขา้ รบั ราชการ ตาแหน่งครผู ู้ชว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 393 16. ขอ้ ใดกลา่ วผดิ ตามระเบียบว่าดว้ ยการลาปี พ.ศ.2555 ก. ลากิจธรุ ะ ข. ลาติดตามคู่สมรส ค. ลาไปช่วยเหลอื ภริยาที่คลอดบุตร ง. ลาไปฟื้นฟูสมรรถภาพด้านอาชีพ 17. ข้อใดกล่าวผดิ ก. ข้าราชการซึ่งประสงค์จะลาคลอดบุตร ให้เสนอหรือจัดส่งใบลาต่อผู้บังคับบัญชาตามลาดับ จนถึงผู้มีอานาจอนุญาตก่อนหรือในวันท่ีลา เว้นแต่ไม่สามารถจะลงชื่อในใบลาได้จะให้ผู้อ่ืนลาแทนก็ได้แต่เมื่อ สามารถลงชือ่ ไดแ้ ลว้ ใหเ้ สนอหรอื จดั ส่งใบลาโดยเร็ว โดยไมต่ ้องมีใบรบั รองของแพทย์ ข. การลาคลอดบุตรจะลาในวันท่ีคลอด ก่อน หรือหลังวันที่คลอดบุตรก็ได้ แต่เม่ือรวมวันลา แลว้ ต้องไม่เกิน 90 วนั ค. ขา้ ราชการที่ได้รบั อนญุ าตให้ลาคลอดบุตรและไดห้ ยดุ ราชการไปแล้ว แตไ่ มไ่ ดค้ ลอดบตุ รตาม กาหนด หากประสงค์จะขอยกเลิกวันลาคลอดบุตรท่ีหยุดไป ให้ผู้มีอานาจอนุญาตให้ยกเลิกวันลาคลอดบุตร ได้ โดยให้ถือวา่ วันท่ไี ดห้ ยดุ ราชการไปแลว้ เป็นวนั ลากจิ ธรุ ะ ง. การลาคลอดบุตรคาบเกี่ยวกับการลาประเภทใดซ่ึงไม่ครบกาหนดวนั ลาของการลาประเภทนั้น ให้ถือวา่ การลาประเภทนนั้ สิ้นสุดลง และให้นบั เป็นการลาคลอดบุตรตง้ั แต่วนั ที่เริ่มลาคลอดบุตร 18. ขอ้ ใดกล่าวถูกต้องเกยี่ วกับการลาไปชว่ ยเหลือภรยิ าท่ีคลอดบตุ ร ก. ให้ข้าราชการท่ีประสงค์จะลาไปช่วยเหลือภริยาโดยชอบด้วยกฏหมายที่คลอดบุตรให้จัดส่ง ใบลากอ่ นหรือในวนั ที่ลาภายใน 60 วนั นับแต่วันทค่ี ลอดบุตร ข. ให้มสี ทิ ธิลาไปช่วยเหลอื ภริยาทค่ี ลอดบุตรครงั้ หน่งึ ติดต่อกันไดไ้ มเ่ กิน 16 วนั ทาการ ค. ให้มสี ิทธลิ์ ากจิ เพ่อื เล้ียงดูบตุ รได้ไม่เกิน 30 วันทาการ ง. ไมม่ ขี ้อใดกล่าวถูก 19. ข้อใดกลา่ วสอดคล้องเกย่ี วกับขา้ ราชการที่ลาไปปฏิบัตงิ านในองคก์ ารระหว่างประเทศ ก. มีระยะเวลาไมเ่ กนิ 1 ปี ข. มีระยะเวลาไม่เกิน 2 ปี ค. มีระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี ง. มีระยะเวลาไมเ่ กนิ 4 ปี 20. จากข้อ 19 เมือ่ ปฏิบัติงานเสรจ็ แล้ว ให้รายงานตัวเข้าปฏบิ ตั หิ น้าที่ราชการภายในขอ้ ใด ก. ให้รายงานตัวเข้าปฏิบัติหน้าท่ีราชการภายใน 10 วัน และรายงานผลเกี่ยวกับการลา ไป ปฏิบัติงานให้ รัฐมนตรีเจ้าสงั กดั ทราบภายใน 15 วนั ข. ให้รายงานตัวเข้าปฏิบัติหน้าท่ีราชการภายใน 15 วัน และรายงานผลเก่ียวกับการลาไป ปฏบิ ัติงานให้ รฐั มนตรีเจ้าสังกดั ทราบภายใน 30 วนั เตรียมสอบครูผู้ช่วย By ทมี ฮกั แพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ อื เตรยี มสอบบรรจเุ ขา้ รบั ราชการ ตาแหนง่ ครผู ชู้ ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 394 ค. ให้รายงานตัวเข้าปฏิบัติหน้าที่ราชการภายใน 20วัน และรายงานผลเก่ียวกับการลาไป ปฏบิ ัตงิ านให้ รฐั มนตรีเจ้าสงั กดั ทราบภายใน 45 วัน ง. ใหร้ ายงานตวั เข้าปฏบิ ตั ิหนา้ ทรี่ าชการภายใน 30 วัน และรายงานผลเกีย่ วกับการลาไป ปฏบิ ตั ิงานให้ รฐั มนตรีเจ้าสงั กัดทราบภายใน 60 วนั 21. ขา้ ราชการท่ปี ระสงคจ์ ะลาไปฟ้ืนฟูสมรรถภาพดา้ นอาชพี ขอ้ ใดตอ่ ไปนี้กลา่ วสอดคลอ้ ง ก. มีสิทธิลาไปฟื้นฟูสมรรถภาพด้านอาชีพครั้งหน่ึงได้ตามระยะเวลาท่ีกาหนดไว้ในหลักสูตรที่ ประสงคจ์ ะลา แต่ไม่เกนิ 60 วนั ข. มีสิทธิลาไปฟ้ืนฟูสมรรถภาพด้านอาชีพคร้ังหน่ึงได้ตามระยะเวลาท่ีกาหนดไว้ใน หลักสูตรที่ ประสงค์จะลา แตไ่ มเ่ กิน 6 เดือน ค. มีสิทธิลาไปฟื้นฟูสมรรถภาพด้านอาชีพครั้งหนึ่งได้ตามระยะเวลาท่ีกาหนดไว้ในหลักสูตรที่ ประสงคจ์ ะลา แต่ไม่เกนิ 120 วัน ง. มีสิทธิลาไปฟ้ืนฟูสมรรถภาพด้านอาชีพคร้ังหน่ึงได้ตามระยะเวลาที่กาหนดไว้ในหลักสูตรที่ ประสงค์จะลา แตไ่ ม่เกิน 12 เดือน 22. ข้าราชการมาสายกคี่ รัง้ จึงจะถอื ว่ามาสายบ่อยครั้ง ก. 10 ครั้ง ข. 11 คร้ัง ค. 12 ครงั้ ง. 13 ครงั้ 23. ข้าราชการลาป่วย ลากิจ กค่ี รั้งขึน้ ไปจงึ จะถือวา่ ลาบ่อยครงั้ ก. 10 ครง้ั ข. 11 ครัง้ ค. 12 คร้งั ง. 13 ครั้ง 24. ข้าราชการลากจิ ลาปว่ ย รวมกนั ไดไ้ ม่เกนิ กี่วนั จึงจะมีสิทธิไดร้ ับการพิจารณาเล่ือนเงนิ เดอื น ก. 21 วัน ข. 22 วนั ค. 23 วนั ง. 24 วนั 25. ขอ้ ใดคอื ผู้มีอานาจเกีย่ วกับ การตคี วาม วนิ จิ ฉยั ปญั หาเกีย่ วกบั การปฏบิ ตั ิตามระเบียบว่าด้วยการลา ก. รัฐมนตรีประจาสานักนายกรัฐมนตรี ข. นายกรัฐมนตรี ค. ปลดั สานกั นายรฐั มนตรี ง. รัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธกิ าร 26. การนับวันลาตามระเบยี บวา่ ดว้ ยการลาปี 2555 เป็นการนับตามข้อใด ก. ตามปปี ฏทิ ิน ข. ตามปีงบประมาณ ค. ตามปชี นปี ง. ตามหน่วยงานตน้ สงั กัดกาหนด 27. เพือ่ เป็นการควบคมุ ให้เปน็ ไปตามระเบียบวา่ ด้วยการลาปี 2555 ลกั ษณะการจะดาเนนิ การอย่างไรจึง จะชอบดว้ ยระเบียบ ก. จดั ทาบัญชีลงเวลาปฏบิ ัตริ าชการ ข. ใชเ้ ครอื่ งบันทึกเวลาปฏิบตั ิราชการ ข. ผูบ้ ริหารจะกาหนดแบบใดกไ็ ด้ ง. ถูกทกุ ขอ้ เตรยี มสอบครูผู้ช่วย By ทมี ฮกั แพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มือเตรียมสอบบรรจเุ ข้ารับราชการ ตาแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 395 28. นายอาเภอแมส่ ายสามารถอนุญาตใหข้ า้ ราชการครูไปตา่ งประเทศ คือ ประเทศพม่า จานวนกว่ี นั ก. 3 วัน ข. 7 วัน ค. ไม่สามารถอนญุ าตได้ ง. ไมเ่ กิน 3 วัน 29. การลาปว่ ยจานวนกว่ี นั จงึ ต้องแนบใบรบั รองแพทย์ ก. 25 วัน ข. 30 วัน ค. แล้วแต่ผู้บังคับบัญชาเหน็ สมควร ง. ขอ้ ข และ ค 30. ข้อใดตอ่ ไปนีก้ ล่าวได้ถกู ตอ้ งในการปฏิบตั กิ ารลาคลอดบุตร ก. ลาครง้ั หนึง่ ได้ 60 วัน โดยไม่ตอ้ งมีใบรับรองแพทย์ ข. ลาครั้งหนึง่ ได้ 90 วนั โดยไมต่ อ้ งมใี บรับรองแพทย์ ค. ลาคร้งั หนง่ึ ได้ 120 วนั โดยไม่ตอ้ งมใี บรับรองแพทย์ ง. ลาครัง้ หนงึ่ ได้ 80 วนั โดยไม่ต้องมีใบรับรองแพทย์ เฉลยแนวขอ้ สอบแนวขอ้ สอบ ระเบยี บสานกั นายกรัฐมนตรวี ่าด้วยการลาของขา้ ราชการ ข้อ ขอ้ ข้อ 1 ค 11 ง 21 ง 2 ก 12 ก 22 ก 3 ง 13 ข 23 ข 4 ก 14 ค 24 ค 5 ค 15 ก 25 ค 6 ข 16 ก 26 ข 7 ข 17 ค 27 ง 8 ข 18 ง 28 ง 9 ข 19 ก 29 ง 10 ค 20 ข 30 ข เตรียมสอบครผู ู้ช่วย By ทีมฮักแพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445