คูม่ อื เตรยี มสอบบรรจุเข้ารบั ราชการ ตาแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 296 พระราชบญั ญัติระเบยี บบรหิ ารราชการกระทรวงศึกษาธกิ าร พ.ศ. 2546 และที่แก้ไขเพิ่มเตมิ ฉบบั ที่ 2 พ.ศ.2553 และฉบบั ท่ี 3 พ.ศ.2562 ประกาศในราชกจิ จานเุ บกษา 6 กรกฎาคม 2546 (ฉบบั ท่ี 1) 22 กรกฏาคม 2553 (ฉบับที่ 2) 1 พฤษภาคม 2562 (ฉบับที่ 3) บังคับใช้วันถัดจากวันประกาศฯ 7 กรกฎาคม 2546 (ฉบับที่ 1) 23 กรกฏาคม 2553 (ฉบับท่ี 2) 2 พฤษภาคม 2562 (ฉบับท่ี 3) จานวน 5 หมวด หมวด 1 การจดั ระเบียบบริหารราชการในสว่ นกลาง หมวด 2 การจัดระเบียบบริหารราชการในเขตพื้นท่ีการศกึ ษา หมวด 3 การจดั ระเบียบบริหาราชการในสถานศกึ ษาของรฐั ทจ่ี ัดการศึกษาระดับปริญญา ทีเ่ ปน็ นิติบคุ คล หมวด 4 การปฏิบัติราชการแทน หมวด 5 การรักษาราชการแทน *** เทคนคิ การจา*** กลาง เขต ปรญิ ญา ปฏิบัติ รักษา ผรู้ กั ษาการตาม พรบ. รมว.ศึกษาธิการ การจดั ระเบยี บราชการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร แบง่ ออกเป็น 3 ส่วน ดงั น้ี (1) ระเบยี บบรหิ ารราชการในสว่ นกลาง (2) ระเบียบบริหารราชการเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษา (3) ระเบยี บบรหิ ารราชการในสถานศกึ ษาของรัฐท่จี ดั การศึกษาระดับปริญญาทเี่ ปน็ นติ บิ ุคคล แต่ไม่รวมถึงการจดั การศึกษาทอ่ี ยใู่ นอานาจหน้าท่ีของกระทรวงอ่นื ทีม่ ีกฎหมายกาหนดไว้เป็นการเฉพาะ การกาหนดตาแหนง่ และอัตราเงนิ เดือนของขา้ ราชการในกระทรวงศึกษาธกิ าร ให้คานงึ ถึงคุณวฒุ ิ ประสบการณ์มาตรฐานวิชาชพี ลักษณะหน้าทีค่ วามรับผดิ ชอบ และคุณภาพของงานแล้วแตก่ รณี หมวด 1 การจดั ระเบยี บบริหารราชการในสว่ นกลาง การจัดระเบยี บบริหารราชการในส่วนกลาง (1) สานักงานปลัดกระทรวง (2) สว่ นราชการท่ีมหี ัวหน้าส่วนราชการขนึ้ ตรงต่อรฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศึกษาธกิ าร เตรยี มสอบครผู ู้ชว่ ย By ทมี ฮักแพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มอื เตรียมสอบบรรจเุ ขา้ รับราชการ ตาแหนง่ ครูผู้ชว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 297 มาตรา 10 การแบง่ ส่วนราชการในส่วนกลางของกระทรวงศกึ ษาธกิ ารใหเ้ ปน็ ไปตามพระราชบัญญัตนิ ี้ โดย ใหม้ ีหัวหน้าสว่ นราชการขนึ้ ตรงตอ่ รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงศึกษาธิการ ดังน้ี (1) สานักงานรฐั มนตรี (2) สานักงานปลัดกระทรวง (3) สานกั งานเลขาธิการสภาการศกึ ษา (4) สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน (5) สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา สว่ นราชการตาม (2) (3) (4) และ (5) มฐี านะเปน็ นิตบิ ุคคลและเป็นกรมตามกฎหมายว่าดว้ ย ระเบยี บบริหารราชการแผ่นดิน มาตรา 12 กระทรวงศึกษาธิการมีรัฐมนตรวี า่ การกระทรวงศึกษาธิการเปน็ ผบู้ งั คับบัญชาข้าราชการ และ กาหนดนโยบาย เปา้ หมาย และผลสมั ฤทธ์ขิ องงานในกระทรวงศกึ ษาธิการ มาตรา 13 ในกรณที ีส่ ภาการศกึ ษา คณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน และคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา เสนอความเห็นหรือคาแนะนาต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการแล้ว ให้รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงศึกษาธิการนาความเห็นหรือคาแนะนามาประกอบการพิจารณาเพ่ือให้เหมาะสมกับการศึกษา ของชาติ” สภาการศกึ ษา มีหนา้ ท่ี (1) พิจารณาเสนอแผนการศึกษาแหง่ ชาติ (2) พจิ ารณาเสนอนโยบาย แผน และมาตรฐานการศกึ ษา (3) พจิ ารณาเสนอนโยบายและแผนในการสนบั สนุนทรพั ยากรเพ่ือการศกึ ษา (4) ดาเนนิ การประเมินผลการจดั การศึกษา (5) ให้ความเหน็ หรอื คาแนะนาในเรอื่ งกฎหมายและกฎกระทรวงท่เี กีย่ วกับการศึกษา ***สานกั งานเลขาธิการสภาการศกึ ษา เปน็ นิติบคุ คล การเสนอนโยบาย แผนการศึกษาแหง่ ชาติ และมาตรฐานการศึกษาใหเ้ สนอต่อคณะรฐั มนตรี มาตรา 15 ใหม้ ีคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน มีหนา้ ท่ีพิจารณาเสนอนโยบายแผนพฒั นา มาตรฐาน และหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพน้ื ฐานท่ี สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสงั คมแห่งชาติและแผนการศกึ ษาแห่งชาติ มาตรา 18 สภาการศึกษา คณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน และคณะกรรมการการอาชีวศึกษา อาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทางานเพื่อพิจารณาเสนอความเห็นในเร่ืองหนึ่งเรื่องใด หรือมอบหมาย ให้ปฏิบตั กิ ารอย่างหน่ึงอยา่ งใด อันอยู่ในอานาจหน้าทขี่ องสภาหรือคณะกรรมการก็ได้” เตรยี มสอบครูผูช้ ่วย By ทมี ฮักแพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ ือเตรียมสอบบรรจุเข้ารบั ราชการ ตาแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 298 มาตรา 19 สานกั งานรัฐมนตรมี อี านาจหน้าท่เี กีย่ วกับราชการทางการเมอื งมเี ลขานุการรัฐมนตรซี ึ่งเป็น ขา้ ราชการการเมืองเป็นผบู้ ังคบั บญั ชาขา้ ราชการ มาตรา 22 ในกรณีท่ีเขตพ้ืนที่การศึกษาตามมาตรา 33 ไม่อาจบริหารและจัดการการศึกษาขนั้ พื้นฐานบาง ประเภทได้ (1) การจัดการศึกษาขัน้ พนื้ ฐานสาหรับบคุ คลทมี่ ีความบกพร่องทางร่างกายจิตใจ (2) การจดั การศึกษาขน้ั พ้นื ฐานทจี่ ัดในรปู แบบการศกึ ษานอกระบบ (3) การจดั การศึกษาขนั้ พื้นฐานสาหรับบุคคลทีม่ ีความสามารถพิเศษ (4) การจัดการศึกษาทางไกล และการจดั การศึกษาท่ใี ห้บริการในหลายเขตพนื้ ท่ีการศึกษา (5) การจัดการศกึ ษาระดับอุดมศกึ ษาระดบั ตา่ กว่าปริญญาแตไ่ ม่รวมถึงสถาบนั วิทยาลัยชมุ ชน ตามกฎหมายว่าดว้ ยสถาบันวทิ ยาลัยชุมชน” “มาตรา 28 ให้สานกั งานท่ีมีหวั หน้าส่วนราชการขึ้นตรงต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธกิ ารตามมาตรา 10 (3) (4) และ (5) มีรฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศกึ ษาธิการเป็น ผู้บงั คบั บญั ชาข้าราชการและรับผิดชอบในการ ปฏบิ ตั ิราชการของสานักงาน และอาจแบง่ สว่ นราชการ ดงั น้ี (1) สานกั อานวยการ (2) สานกั สานักบรหิ ารงาน หรอื สว่ นราชการท่เี รยี กชื่ออย่างอ่นื ที่มฐี านะเทียบเทา่ สานัก หรอื สานัก บรหิ ารงาน” มาตรา 29 ให้สว่ นราชการท่ีมีหัวหนา้ ส่วนราชการขึ้นตรงต่อรฐั มนตรีว่าการกระทรวงศกึ ษาธิการตาม มาตรา 10 (3) (4) และ (5) มีเลขาธิการซง่ึ มีฐานะเทียบเท่าปลดั กระทรวงเป็นผู้บงั คบั บญั ชาและ รับผิดชอบในการปฏิบตั ิราชการของส่วนราชการนนั้ ให้เป็นไปตามพระราชบัญญตั ินี้ มาตรา 30 เลขาธกิ ารซึ่งเปน็ ผู้บังคับบัญชาของส่วนราชการตามมาตรา 28 มอี านาจหนา้ ทดี่ งั ตอ่ ไปน้ี (1) รบั ผดิ ชอบควบคมุ ราชการประจาในสานกั งาน แปลงนโยบายเป็นแนวทางและแผนปฏบิ ัตกิ าร กากับการปฏบิ ตั งิ านของสว่ นราชการในสานักงานให้เกดิ ผลสมั ฤทธ์ิ รวมท้ังเรง่ รดั ตดิ ตามและประเมนิ ผลการ ปฏิบตั ริ าชการของสว่ นราชการในสานักงาน (2) เปน็ ผู้บังคับบัญชาข้าราชการในสานักงานรองจากรฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ ารและ รบั ผดิ ชอบในการปฏิบตั ริ าชการของขา้ ราชการในสานักงาน ตลอดจนการจัดทาแผนพฒั นาของหนว่ ยงาน ใหเ้ ลขาธกิ ารสภาการศึกษารับผิดชอบบังคบั บัญชาสานักงานเลขาธกิ ารสภาการศึกษาตามมาตรา 10 (3) ใหเ้ ลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้นื ฐานซึ่งรับผิดชอบบังคบั บัญชาสานักงานคณะกรรมการ การศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐานตามมาตรา 10 (4) เป็นผบู้ ังคบั บัญชาข้าราชการในสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาหรือใน สถานศกึ ษาที่อยูใ่ นสังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาดว้ ย เตรยี มสอบครผู ชู้ ว่ ย By ทมี ฮักแพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
ค่มู ือเตรยี มสอบบรรจุเข้ารับราชการ ตาแหนง่ ครูผ้ชู ว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 299 ให้เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาซึ่งรับผิดชอบบังคับบัญชาสา นักงานคณะกรรมการการ อาชีวศึกษาตามมาตรา 10 (5) เป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการในสถานศึกษาของรัฐในสังกัดสานักงาน คณะกรรมการการอาชีวศกึ ษาดว้ ย ในการปฏบิ ตั ริ าชการของเลขาธิการตามมาตรานี้ ให้มรี องเลขาธิการเปน็ ผูช้ ่วยสงั่ และปฏบิ ตั ริ าชการ และจะให้มผี ชู้ ว่ ยเลขาธกิ ารเป็นผชู้ ว่ ยสงั่ และปฏิบัตริ าชการดว้ ยก็ไดใ้ นกรณีท่ีมรี องเลขาธิการหรอื ผูช้ ่วย เลขาธิการ หรือมีทั้งรองเลขาธิการและผู้ช่วยเลขาธิการให้รองเลขาธิการหรือผู้ช่วยเลขาธิการเปน็ ผู้บงั คับบัญชา ข้าราชการและรับผดิ ชอบในการปฏบิ ตั ริ าชการรองจากเลขาธกิ าร ให้รองเลขาธิการ ผูช้ ว่ ยเลขาธิการ และผู้ ดารงตาแหนง่ ทเี่ รยี กชอื่ อยา่ งอ่นื ในสานักงานเลขาธิการ มีอานาจหน้าทตี่ ามทีเ่ ลขาธิการกาหนดหรอื มอบหมาย” หมวดท่ี 2 การจดั ระเบยี บบริหารเขตพืน้ ทก่ี ารศกึ ษา มาตรา 33 การบริหารและการจัดการศึกษาข้ันพื้นฐานให้ยึดเขตพื้นท่ีการศึกษาโดยคานึงถึงระดับของ การศึกษาขั้นพื้นฐาน จานวนสถานศึกษา จานวนประชากร วัฒนธรรมและความเหมาะสมด้านอ่ืนด้วยเว้นแต่ การจัดการศึกษาข้ันพ้ืนฐานตามกฎหมายว่าด้วยการอาชีวศึกษาให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการโดย คาแนะนาของสภาการศึกษามีอานาจประกาศในราชกิจจานุเบกษากาหนดเขตพ้ืนที่การศึกษาเพ่ือการ บริหารและการจัดการศึกษาขน้ั พนื้ ฐานแบ่งเปน็ 1. เขตพนื้ ทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษา 2. เขตพน้ื ทกี่ ารศึกษามธั ยมศึกษา ในกรณีท่ีสถานศึกษาใดจัดการศึกษาขั้นพ้ืนฐานท้ังระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษาการ กาหนดให้สถานศึกษาแห่งนั้นอยู่ในเขตพ้ืนที่การศึกษาใด ให้ยึดระดับการศึกษาของสถานศึกษาน้ันเป็น สาคัญ ท้ังนี้ ตามที่รัฐมนตรีประกาศกาหนดโดยคาแนะนาของคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐานในกรณีที่มี ความจาเป็นเพ่ือประโยชน์ในการจัดการศึกษาหรือมีเหตุผลความจาเป็นอย่างอื่นตามสภาพการจัดการศึกษา บางประเภท คณะกรรมการการศึกษาขัน้ พ้ืนฐานอาจประกาศกาหนดให้ขยายการบริการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน ของเขตพ้นื ท่ีการศึกษาหนงึ่ ไปในเขตพ้นื ท่ีการศึกษาอืน่ ได้” มาตรา 34 ใหจ้ ัดระเบยี บบรหิ ารราชการของเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษา (1) สานักงานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษา (2) สถานศึกษาทีจ่ ัดการศกึ ษาข้นั พื้นฐาน มาตรา 35 สถานศึกษาทจี่ ดั การศึกษาขัน้ พ้ืนฐานตามมาตรา 34 (2) เฉพาะทเี่ ปน็ โรงเรยี น มฐี านะเปน็ นิติบคุ คล เตรยี มสอบครูผู้ชว่ ย By ทีมฮกั แพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มอื เตรียมสอบบรรจเุ ขา้ รับราชการ ตาแหนง่ ครูผชู้ ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 300 มาตรา 36 ยุบคณะกรรมการเขต เปล่ียนเปน็ กศจ. (คาสัง่ หัวหน้าคณะรกั ษาความสงบแห่งชาติ ที่ 11/2560 เรื่อง การปฏริ ูปการศึกษาในภูมภิ าคของ กระทรวงศึกษาธกิ าร) 1. สานักงานศึกษาธกิ ารภาค จานวน 18 ภาค สังกัดสานักงานปลัดกระทรวงศกึ ษาธิการ โดยมี ศกึ ษาธิการภาค และรองศึกษาธิการภาคเปน็ ผ้บู งั คับบัญชา 2. สานักงานศกึ ษาธกิ ารจงั หวัด จานวน 77 จงั หวัด สังกัดสานกั งานปลดั กระทรวงศกึ ษาธิการ โดยมี ศึกษาธิการจงั หวดั และรองศึกษาธิการจังหวัดเป็นผ้บู ังคบั บญั ชา และกาหนดให้มคี ณะกรรมการศึกษาธกิ าร จงั หวัด (กศจ.) จานวน 22 คน และ อกศจ. จานวน 9 คน 1. ผู้วา่ ราชการจังหวดั หรอื รองผวู้ ่าราชการจังหวดั ทีไ่ ด้รับมอบหมาย เปน็ ประธานกรรมการ 2. ศกึ ษาธกิ ารภาคในพืน้ ทท่ี ่ีรับผดิ ชอบ เป็นรองประธานกรรมการ 3. ผแู้ ทนสานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน กรรมการ 4. ผู้แทนสานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กรรมการ 5. ผูแ้ ทนสานกั งานคณะกรรมการการอดุ มศกึ ษา กรรมการ 6. ผู้แทนสานักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา กรรมการ 7. ผแู้ ทนสานกั งานคณะกรรมการส่งเสรมิ การศึกษาเอกชน กรรมการ 8. ผู้แทนสานกั งานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั กรรมการ 9. ท่องเที่ยวและกีฬาจงั หวดั กรรมการ 10. ทอ้ งถนิ่ จังหวดั กรรมการ 11. ประธานสภาอตุ สาหกรรมจังหวัด กรรมการ 12. ประธานหอการค้าจังหวัด กรรมการ 13. ผ้อู านวยการสานกั งานพระพุทธศาสนาจงั หวดั กรรมการ 14. วัฒนธรรมจังหวัด กรรมการ 15. ผูแ้ ทนภาคประชาชนในท้องถิ่น ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธกิ ารแตง่ ตั้ง โดยความเหน็ ชอบ ของคณะกรรมการขับเคลอ่ื นการปฏริ ูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภมู ภิ าค จานวนสองคน เป็นกรรมการ 16. ผแู้ ทนข้าราชการครใู นท้องถิน่ ซ่งึ รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงศกึ ษาธกิ ารแต่งตงั้ โดยความเหน็ ชอบ ของคณะกรรมการขบั เคล่ือนการปฏิรูปการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมภิ าค จานวนสองคน เป็นกรรมการ 17. กรรมการผทู้ รงคณุ วฒุ ิ ซ่ึงรัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธกิ ารแตง่ ตั้งจากผทู้ รงคุณวุฒิดา้ น กฎหมาย ด้านบริหารงานบคุ คล หรอื ด้านอื่น ๆ ทีเ่ กีย่ วข้อง โดยความเหน็ ชอบของคณะกรรมการขับเคล่ือน การปฏริ ปู การศึกษาของกระทรวงศึกษาธกิ ารในภูมิภาค จานวนไม่เกนิ สามคน เปน็ กรรมการ 18. ศกึ ษาธกิ ารจังหวัด เปน็ กรรมการและเลขานุการ สาหรับกรุงเทพมหานคร ให้คณะกรรมการ ขับเคลื่อนการปฏิรปู การศกึ ษาของกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาคทาหน้าที่เปน็ กศจ. เตรยี มสอบครผู ู้ชว่ ย By ทีมฮกั แพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มอื เตรียมสอบบรรจเุ ขา้ รบั ราชการ ตาแหนง่ ครผู ชู้ ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 301 อานาจหนา้ ท่ี (1) กาหนดยุทธศาสตร์ แนวทางการจัดการศึกษา และการส่งเสริมสนับสนุนการจัดการศึกษา ทุกระดับและทุกประเภท ประสานและส่งเสริมการบริหารและการจัดการศึกษาขององค์กรปกครอง สว่ นทอ้ งถ่นิ รวมทง้ั ส่งเสรมิ และสนบั สนนุ การจดั การศึกษาของบุคคล ครอบครัว องค์กรชุมชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ และสถาบันสังคมอนื่ ทจี่ ัดการศึกษาในรูปแบบที่หลากหลาย ในจังหวดั (2) พจิ ารณาและให้ความเห็นชอบแผนพัฒนาการศึกษาของจงั หวัด (3) พิจารณาและใหค้ วามเห็นชอบกรอบการประเมนิ ผลการปฏบิ ัติงานและตวั ชีว้ ดั ในการดาเนนิ งาน ในลกั ษณะตวั ชีว้ ัดรว่ มของส่วนราชการหรือหน่วยงาน และสถานศกึ ษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการในจังหวัด (4) เสนอความเหน็ เก่ยี วกับการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษาใน จังหวดั ตอ่ คณะกรรมการขบั เคล่อื นการปฏริ ูปการศึกษาของกระทรวงศกึ ษาธกิ ารในภมู ภิ าคเพื่อใชอ้ านาจ ตามข้อ 2 (4) (5) กากับ เรง่ รดั ตดิ ตาม และประเมินผลการปฏบิ ตั งิ านของส่วนราชการหรอื หนว่ ยงานและ สถานศกึ ษาในสงั กดั กระทรวงศึกษาธิการในจังหวัด (6) วางแผนการจดั การศกึ ษาในจังหวัดและพจิ ารณาเสนอแนะการจัดสรรงบประมาณให้แก่ สถานศึกษา (7) เสนอคณะกรรมการขับเคล่อื นการปฏริ ปู การศกึ ษาของกระทรวงศกึ ษาธิการในภูมภิ าคเพื่อแตง่ ตง้ั คณะอนุกรรมการและคณะทางานเพ่ือชว่ ยเหลือการปฏิบัติงานของ กศจ. ได้ตามความจาเปน็ (8) ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีอ่ืนตามท่กี ฎหมายกาหนด หรอื ตามทค่ี ณะกรรมการขับเคลอ่ื นการปฏริ ปู การศึกษา ของกระทรวงศกึ ษาธิการในภูมิภาคมอบหมาย มาตรา 37 ให้มีสานักงานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษา (ปัจจบุ ันมีกเี่ ขต ประถม 183 มธั ยม 42 รวมแล้วมี 225 เขต) มาตรา 38 ให้มคี ณะกรรมการสถานศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน ประกอบด้วย ผแู้ ทนผู้ปกครอง เทคนิคการจา ผู้แทนครู ธาน + ครอง + ชน + ครู ผู้แทนองค์กรชุมชน + ถ่ิน + เกา่ + พระ ผู้แทนองคก์ รปกครองส่วนทอ้ งถน่ิ + วุฒิ+ เล ผ้แู ทนศิษยเ์ ก่าของสถานศกึ ษา ผู้แทนพระภิกษุสงฆ์และหรือผ้แู ทนองค์กรศาสนาอนื่ ในพื้นท่ี และผ้ทู รงคุณวุฒิ ใหผ้ ูบ้ รหิ ารสถานศึกษาเปน็ กรรมการและเลขานุการของคณะกรรมการสถานศกึ ษา (โรงเรียนขนาดเลก็ มี 9 คน โรงเรยี นขนาดใหญ่ มี 15 คน) เตรยี มสอบครูผชู้ ่วย By ทีมฮักแพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ ือเตรียมสอบบรรจุเข้ารับราชการ ตาแหน่งครผู ู้ช่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 302 มาตรา 39 สถานศกึ ษา มอี านาจหน้าท่ี (1) บรหิ ารกจิ การของสถานศึกษา (2) ประสานการระดมทรพั ยากรเพอ่ื การศึกษา (3) เป็นผูแ้ ทนของสถานศึกษาหรอื สว่ นราชการในกิจการทั่วไป (4) จดั ทารายงานประจาปีเกี่ยวกับกจิ การของสถานศึกษา เสนอ กศจ. (5) อานาจหน้าท่ีในการอนุมัติประกาศนียบัตรและวฒุ บิ ตั รของสถานศกึ ษา (6) ปฏิบตั ิงานอ่ืนตามที่ไดร้ บั มอบหมายจากรฐั มนตรีว่าการกระทรวงศกึ ษาธิการปลัดกระทรวง เลขาธิการสภาการศึกษา เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พนื้ ฐาน เลขาธิการคณะกรรมการการ อาชวี ศึกษา และผ้อู านวยการสานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษา รวมท้ังงานอ่ืนที่กระทรวงมอบหมาย” หมวดท่ี 3 การจดั ระเบยี บบรหิ ารราชการในสถานศกึ ษาของรัฐทีจ่ ดั การศึกษา 1. มีการแบง่ ส่วนราชการในสถานศกึ ษาของรัฐและเปน็ นิตบิ คุ คลในสายบงั คบั บัญชาใน ระดับอดุ มศกึ ษาให้เปน็ ไปตามกฎหมาย 2. มีคณะกรรมการขา้ ราชการพลเรอื นในมหาวทิ ยาลยั 3. กระทรวงศึกษาธิการอาจขอใหก้ ระทรวง ทบวง กรมอ่ืน และองค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินท่ีมี สถานศึกษาระดับอุดมศึกษาระดบั ปริญญามสี ถานศึกษาในระดับอุดมศึกษาระดับปรญิ ญา **** ในระหว่างที่ยังไม่มีกฎหมายว่าด้วยการอุดมศึกษาหรือกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกระทรวง การอดุ มศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจยั และนวัตกรรม ให้คณะกรรมการการอุดมศึกษาและสานักงานคณะกรรมการ การอุดมศึกษาตามมาตรา 16 แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 ยังคงปฏิบัติหน้าท่ีอยู่ต่อไปจนกวา่ จะมีคณะกรรมการการอุดมศึกษาและหน่วยธุรการตามกฎหมายว่าด้วยการ อุดมศึกษาหรือกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหารราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ นวตั กรรม หมวดท่ี 4 การปฏิบตั ิราชการแทน มาตรา 44 ใหป้ ลดั กระทรวง เลขาธิการสภาการศกึ ษา เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน และ เลขาธกิ ารคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา กระจายอานาจการบริหารและการจดั การศกึ ษาดา้ นวิชาการ งบประมาณ การบริหารงานบุคคล และการบรหิ ารท่วั ไป ไปยงั คณะกรรมศึกษาธกิ ารจงั หวัดและสานักงาน เขตพื้นทกี่ ารศึกษาและสถานศึกษาโดยตรง ในกรณีที่มีกฎหมายกาหนดใหเ้ ปน็ อานาจหน้าที่ของปลัดกระทรวง เลขาธิการสภาการศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้นื ฐานและเลขาธกิ ารคณะกรรมการการ อาชวี ศกึ ษาไว้เปน็ การเฉพาะให้ผู้ดารงตาแหนง่ ดังกล่าวมอบอานาจให้แกผ่ ู้อานวยการสานกั งานเขตพนื้ ที่ เตรยี มสอบครูผชู้ ว่ ย By ทีมฮักแพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มอื เตรียมสอบบรรจเุ ข้ารับราชการ ตาแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 303 การศกึ ษา หรือผู้อานวยการสถานศึกษาแล้วแต่กรณี ทัง้ น้ีใหค้ านงึ ถึงความเป็นอิสระและการบรหิ ารงานที่ คล่องตัวในการจัดการศกึ ษาของสานกั งานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาและสถานศกึ ษา ภายใต้หลักการบริหารงาน การศึกษา ดังต่อไปนี้ (1) อานาจหน้าทีใ่ นการพิจารณาให้ความเหน็ ชอบเกี่ยวกบั งบประมาณและการดาเนนิ การทาง งบประมาณของผ้อู านวยการสานักงานเขตพ้นื ที่การศึกษาหรอื ผอู้ านวยการสถานศกึ ษารวมตลอดถึงหลกั การ การใหส้ านักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาหรือสถานศกึ ษามีอานาจทานิตกิ รรมสญั ญาในวงเงินงบประมาณที่ไดร้ บั อนุมตั ิแล้ว (2) หลักเกณฑ์การพิจารณาความดีความชอบ การพัฒนา และดาเนินการทางวนิ ัยกับครูและบุคลากร ทางการศึกษาโดยสัมพันธ์กับแนวทางท่ีกาหนดในกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทาง การศึกษาการกระจายอานาจและการมอบอานาจตามวรรคหนึ่ง ให้เป็นไปตามท่ีกาหนดในกฎกระทรวง ปลัดกระทรวง เลขาธิการสภาการศึกษา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน และเลข าธิการ คณะกรรมการการอาชีวศึกษา อาจกาหนดให้หัวหน้าส่วนราชการในสังกัดมอบอานาจในส่วนที่เกี่ยวข้องกับ ภารกิจท่ีตนรับผิดชอบไปยังผู้อานวยการสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาและผู้อานวยการสถานศึกษาในเขต พื้นที่การศึกษาโดยตรงก็ได้ ท้ังนี้ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ผู้ดารงตาแหน่งในการบังคับบัญชาส่วนราชการ ดงั กล่าวเปน็ ผกู้ าหนด ผู้อานวยการสานักบริหารงานในสังกัดสานักงานปลัดกระทรวง และผู้อานวยการสานักบริหารงานใน สังกัดสานักงานคณะกรรมการต่าง ๆ อาจมอบอานาจในส่วนท่ีเก่ียวกับภารกิจท่ีตนรับผิดชอบ หรือท่ีได้รับ มอบหมายตามระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ จากสานักงานคณะกรรมการต่าง ๆ ไปยังผู้อานวยการสานักงานเขต พ้ืนท่ีการศึกษา หรือผู้อานวยการสถานศึกษา หรือหัวหน้าหน่วยงานที่เรียกช่ืออย่างอ่ืนท่ีมีฐานะเทียบเท่า ผู้อานวยการสถานศึกษาโดยตรงได้ ท้ังนี้ โดยจะต้องไม่ขัดต่อนโยบายหรือการส่ังการของกระทรวง หรือ คณะกรรมการตน้ สงั กัด” มาตรา 45 อานาจในการสง่ั การอนุญาต การอนมุ ัติ การปฏิบัตริ าชการ (1) รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศกึ ษาธิการอาจมอบอานาจให้รฐั มนตรีช่วยว่าการ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ปลัดกระทรวง เลขาธิการ หัวหน้าส่วนราชการซึ่งดารงตาแหนง่ เทียบเทา่ อธิการบดี หรอื ผวู้ ่าราชการจังหวัด (2) ปลัดกระทรวงอาจมอบอานาจให้รองปลัดกระทรวง ผู้ช่วยปลัดกระทรวง เลขาธิการหัวหน้า ส่วนราชการซ่ึงดารงตาแหน่งเทียบเท่าอธิการบดี ผู้อานวยการสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา ผู้อานวยการ สถานศึกษา หรือผู้วา่ ราชการจงั หวัด (3) เลขาธกิ ารอาจมอบอานาจให้รองเลขาธิการ ผูช้ ่วยเลขาธิการ หวั หน้าส่วนราชการซึง่ ดารง ตาแหน่งเทียบเท่าอธกิ ารบดี ผอู้ านวยการสานัก ผู้อานวยการสานักบริหารงานหรือผู้ดารงตาแหนง่ เทยี บเท่า ผ้อู านวยการสานักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษา ผู้อานวยการสถานศึกษา หรอื ผู้วา่ ราชการจงั หวดั ” เตรยี มสอบครผู ู้ชว่ ย By ทมี ฮักแพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มือเตรียมสอบบรรจเุ ขา้ รับราชการ ตาแหน่งครูผู้ชว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 304 (6) ผู้อานวยการสานกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษาหรอื ผดู้ ารงตาแหน่งเทยี บเท่า อาจมอบอานาจให้ ขา้ ราชการในสานกั งานเขตพื้นที่การศึกษา หรือผอู้ านวยการสถานศกึ ษาหรอื หวั หน้าหน่วยงานทเี่ รียกชื่อ อย่างอ่ืนในเขตพนื้ ที่การศึกษาท่ีตนรบั ผิดชอบได้ตามระเบียบทีเ่ ลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน กาหนด (7) ผอู้ านวยการสถานศกึ ษาหรือผ้ดู ารงตาแหนง่ เทยี บเท่า อาจมอบอานาจใหข้ า้ ราชการใน สถานศึกษาหรือในหนว่ ยงานทเี่ รียกช่อื อยา่ งอนื่ ได้ ตามระเบียบท่ีคณะกรรมการเขตพ้นื ที่การศึกษากาหนด (8) ผ้ดู ารงตาแหน่ง (1) ถงึ (6) อาจมอบอานาจใหบ้ ุคคลอืน่ ไดต้ ามระเบียบท่ีคณะรัฐมนตรกี าหนด *** จา *** การมอบอานาจตามมาตราน้ใี ห้ทาเปน็ หนังสือ หมวดท่ี 5 การรกั ษาราชการแทน มาตรา 53 ในกรณีที่ไม่มีผู้ดารงตาแหน่งผู้อานวยการสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติ ราชการได้ ให้รองผู้อานวยการสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษารักษาราชการแทน ถ้ามีรองผู้อานวยการ สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาหลายคน ให้เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐานแต่งตั้ง รองผู้อานวยการสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาคนใดคนหนึ่งรักษาราชการแทน ถ้าไม่มีผู้ดารงตาแหน่ง รองผู้อานวยการสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ให้เลขาธิการคณะกรรมการ การศึกษาข้ันพ้ืนฐานแต่งตั้งข้าราชการในเขตพื้นท่ีการศึกษาซ่ึงดารงตาแหน่งเทียบเท่ารอง ผู้อานวยการ สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาหรือดารงตาแหน่งไม่ต่ากวา่ ผอู้ านวยการสถานศึกษาหรือตาแหน่งเทียบเท่าขึ้นไป คนใดคนหนึ่งเปน็ ผู้รักษาราชการแทนก็ได้ มาตรา 54 ในกรณีที่ไม่มีผู้ดารงตาแหน่งผู้อานวยการสถานศึกษา หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ใหร้ องผอู้ านวยการสถานศกึ ษารักษาราชการแทน ถ้ามีรองผู้อานวยการสถานศกึ ษาหลายคน ให้ผู้อานวยการ สานกั งานเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษาแต่งตัง้ รองผอู้ านวยการสถานศึกษาคนใดคนหน่ึงรักษาราชการแทน ถ้าไมม่ ีผู้ดารง ตาแหนง่ รองผู้อานวยการสถานศกึ ษา หรอื มแี ตไ่ มอ่ าจปฏบิ ตั ริ าชการได้ ให้ผอู้ านวยการสานกั งานเขตพนื้ ที่ การศกึ ษาแต่งตง้ั ขา้ ราชการในสถานศึกษาคนใดคนหนง่ึ เปน็ ผู้รักษาราชการแทนก็ได้ มาตรา 55 ให้ผูร้ กั ษาราชการแทนตามความในพระราชบัญญัตินมี้ ีอานาจหนา้ ท่เี ช่นเดยี วกับผู้ซ่ึงตนแทน มาตรา 56 การเป็นผู้รักษาราชการแทนตามพระราชบญั ญัติน้ไี ม่กระทบกระเทอื นอานาจของนายกรฐั มนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธกิ าร ปลดั กระทรวงหรือผดู้ ารงตาแหนง่ เทยี บเทา่ ปลัดกระทรวง เลขาธิการ หรอื ผู้ดารงตาแหน่งเทยี บเทา่ เลขาธิการ ซง่ึ เปน็ ผบู้ งั คบั บัญชาท่จี ะแต่งต้ังขา้ ราชการอืน่ เป็นผรู้ กั ษาราชการ แทนตามอานาจหนา้ ท่ีท่ีมีอยู่ตามกฎหมาย เตรยี มสอบครูผชู้ ว่ ย By ทีมฮักแพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ อื เตรยี มสอบบรรจุเขา้ รับราชการ ตาแหนง่ ครูผู้ชว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 305 *** เทคนิคการจาการรักษาราชการแทน*** ไม่มี ไม่อยู่ ป่วย ตาย ลา ขาด **** แกไ้ ข ตามคาสง่ั ท่ี 16/2560 ใหใ้ ช้คาวา่ รกั ษาการในตาแหนง่ **** ตวั อยา่ ง นายครูเก่ง สอนดี ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการพิเศษ รกั ษาการในตาแหน่งผ้อู านวยการ............... นางสาวบรหิ ารดี เก่งเสมอ นกั วิชาการศึกษาเช่ยี วชาญ รกั ษาการในตาแหนง่ ผอู้ านวยการ....................... เตรยี มสอบครผู ู้ช่วย By ทีมฮักแพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ ือเตรยี มสอบบรรจุเข้ารับราชการ ตาแหนง่ ครผู ชู้ ่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 306 แนวข้อสอบพระราชบัญญตั ริ ะเบยี บบรหิ ารราชการกระทรวงศกึ ษาธิการ 1. ใครเปน็ ผรู้ ับสนองพระบรมราชโองการ พรบ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ ก. นายกรฐั มนตรี ข. รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงศึกษาธกิ าร ค. ปลดั กระทรวงศึกษาธิการ ง. เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน 2. พรบ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร มีก่ีหมวด ก่ีมาตรา ก. 4 หมวด 82 มาตรา ข. 5 หมวด 82 มาตรา ค. 6 หมวด 82 มาตรา ง. 7 หมวด 82 มาตรา 3. การจัดระเบียบบริหารราชการในส่วนกลาง ถูกระบไุ ว้ในหมวดใด ก. หมวดท่ี 1 ข. หมวดที่ 2 ค. หมวดที่ 3 ง. หมวดที่ 4 4. การปฏิบตั ิราชการแทน ถูกระบุไว้ในหมวดใด ก. หมวดที่ 1 ข. หมวดที่ 2 ค. หมวดท่ี 3 ง. หมวดท่ี 4 5. พระราชบัญญตั ใิ ดยกเลิก พระราชบัญญัติคณะกรรมการการศึกษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2535 ก. พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ข. พระราชบัญญัตสิ ภาครูและบคุ ลากรทางการศึกษา ค. พรบ.ระเบยี บบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ ง. พรบ.ระเบยี บข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา 6. พรบ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศกึ ษาธิการ ยกเลิก กี่ พรบ. ก. 1 พรบ. ข. 2 พรบ. ค. 3 พรบ. ง. 4 พรบ เตรยี มสอบครูผชู้ ว่ ย By ทมี ฮักแพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คูม่ ือเตรียมสอบบรรจเุ ขา้ รับราชการ ตาแหน่งครูผ้ชู ว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 307 7. ระเบียบบริหารราชการ ของกระทรวงศึกษาธกิ ารแบ่งออกเปน็ ก่สี ่วน ก. 3 ส่วน ข. 4 ส่วน ค. 5 ส่วน ง. 6 สว่ น 8. ขอ้ ใดกล่าวผดิ การจดั ระเบยี บราชการกระทรวงศกึ ษาธิการ ก. ระเบียบบรหิ ารราชการในส่วนกลาง ข. ระเบียบบริหารราชการในส่วนท้องถน่ิ ค. ระเบียบบริหารราชการเขตพืน้ ท่ีการศกึ ษา ง. ระเบียบบรหิ ารราชการในสถานศกึ ษาของรัฐท่ีจัดการศึกษาระดับปริญญาทเ่ี ปน็ นติ ิบุคคล 9. ข้อใดกลา่ วถกู ต้อง การจัดระเบยี บราชการกระทรวงศึกษาธกิ าร ก. ระเบียบบรหิ ารราชการในส่วนกลาง ข. ระเบยี บบริหารราชการในสว่ นภูมิภาค ค. ระเบยี บบรหิ ารราชการในสว่ นท้องถิ่น ง. ระเบยี บบริหารราชการในเมอื งพัทยา 10. ข้อใดไม่ใชก่ ารกาหนดตาแหน่งและอัตราเงนิ เดือน กระทรวงศึกษาธิการ ก. คุณวุฒิ ข. ประสบการณ์ ค. วทิ ยฐานะ ง. มาตรฐานวิชาชพี 11. ข้อใดเป็น การกาหนดตาแหน่งและอัตราเงินเดือน กระทรวงศกึ ษาธิการ ก. เครื่องราชย์ ข. ประสบการณ์ ค. วิทยฐานะ ง. อายุราชการ 12. ข้อใดไม่ใชก่ ารกาหนดตาแหน่งและอัตราเงนิ เดือน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ก. คณุ วฒุ ิ ข. ประสบการณ์ ค. มาตรฐานวชิ าชีพ ง. หนา้ ทค่ี วามรับผิดชอบ เตรียมสอบครผู ู้ช่วย By ทีมฮักแพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คูม่ ือเตรยี มสอบบรรจเุ ขา้ รบั ราชการ ตาแหน่งครผู ู้ช่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 308 13. ใครเปน็ ผู้รกั ษาการ พรบ.ระเบียบบรหิ ารราชการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ก. นายกรฐั มนตรี ข. รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงศึกษาธิการ ค. ปลดั กระทรวงศึกษาธิการ ง. เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน 14. ข้อใดกล่าวถูกตอ้ ง กับการจดั ระเบียบบริหารราชการในสว่ นกลาง ก. สานกั งานรฐั มนตรี ข. สานักงานปลดั กระทรวง ค. สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน ง. สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 15. ส่วนราชการท่มี ีหวั หนา้ ส่วนราชการขนึ้ ตรงตอ่ ใคร ก. นายกรัฐมนตรี ข. รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงศึกษาธกิ าร ค. ปลดั กระทรวงศึกษาธิการ ง. เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน 16. การแบ่งส่วนราชการในสว่ นกลางของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ขอ้ ใดไม่เป็นนิติบคุ คล ก. สานกั งานรฐั มนตรี ข. สานักงานปลัดกระทรวง ค. สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพนื้ ฐาน ง. สานักงานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา 17. การแบ่งส่วนราชการภายในสว่ นราชการตามมาตรา 10 ให้ตราเปน็ กฎหมายใด ก. พระราชบญั ญตั ิ ข. พระราชกาหนด ค. กฎกระทรวง ง. ประกาศกระทรวง 18. ใครเป็นผ้บู งั คบั บญั ชาข้าราชการกระทรวงศึกษาธิการ ก. รฐั มนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธกิ าร ข. เลขาธกิ ารคณะกรรมการข้าราชการครแู ละบคุ คลากรทางการศึกษา ค. ปลดั กระทรวงศึกษาธิการ ง. เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เตรียมสอบครผู ูช้ ่วย By ทีมฮักแพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มือเตรยี มสอบบรรจเุ ขา้ รบั ราชการ ตาแหนง่ ครูผู้ช่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 309 19. สภาการศึกษา มคี ณะกรรมการกค่ี น ก. 14 ข. 41 ค. 59 ง. 62 20. ใครเปน็ ประธาน สภาการศึกษา ก. รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศึกษาธิการ ข. เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคคลากรทางการศึกษา ค. ปลดั กระทรวงศึกษาธิการ ง. เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน 21. ข้อใดไม่ใช่หน้าท่ี ของสภาการศึกษา ก. พจิ ารณาเสนอแผนการศึกษาแหง่ ชาติ ข. พิจารณาเสนอนโยบาย แผน และมาตรฐานการศกึ ษา ค. พจิ ารณาเสนอแผนพัฒนาเศรษฐกิจสังคมแหง่ ชาติ ง. พจิ ารณาเสนอนโยบายและแผนในการสนับสนุนทรัพยากรเพ่อื การศึกษา 22. หลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พนื้ ฐานออกโดยใคร ก. คณะกรรมการการอาชวี ะ ข. คณะกรรมการขา้ ราชการครูและบุคคลากรทางการศึกษา ค. คณะกรรมการสภาการศึกษา ง. คณะกรรมการการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน 23. หลักสตู รแกนกลางการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน สอดคลอ้ งกับเร่อื งใด ก. แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ ข. แผนการศึกษาแหง่ ชาติ ค. แผนบริหารราชการแผ่นดิน ง. ข้อ ก ข ถูก 24. เลขานกุ ารรฐั มนตรซี ึ่งเป็น........ ก. ข้าราชการพลเรือน ข. ขา้ ราชการประจา ค. ขา้ ราชการการเมอื ง ง. พนกั งานราชการเชี่ยวชาญ เตรยี มสอบครผู ูช้ ่วย By ทมี ฮกั แพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คูม่ อื เตรยี มสอบบรรจเุ ขา้ รบั ราชการ ตาแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 310 25. ข้อใดคอื หนา้ ทีผ่ ตู้ รวจราชการของกระทรวง ก. ศึกษา สงั เคราะห์ ติดตาม และประเมินผลระดบั นโยบาย ข. ศกึ ษา ตดิ ตาม ตรวจสอบคุณภาพ และประเมนิ ผลระดบั นโยบาย ค. ศกึ ษา ติดตาม ประเมนิ ผลการจดั การศึกษา และประเมินผลระดับนโยบาย ง. ศกึ ษา วิเคราะห์ วจิ ยั ติดตาม และประเมินผลระดับนโยบาย 26. ในกรณีท่ีเขตพน้ื ท่ีการศึกษาตามมาตรา 33 ไม่อาจบรหิ ารและจัดการการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน บางประเภทไดใ้ ครเป็นคนจัดการศกึ ษา ก. สานักงานรฐั มนตรี ข. สานกั งานปลัดกระทรวง ค. สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พื้นฐาน ง. สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา 27. คณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาพเิ ศษ ในสงั กดั หน่วงงานใด ก. สานักงานรฐั มนตรี ข. สานักงานปลดั กระทรวง ค. สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน ง. สานักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา 28. การบริหารและการจัดการศกึ ษาขั้นพน้ื ฐานใหย้ ึดเขตพ้นื ที่การศึกษาโดยคานงึ ถงึ เรอ่ื งใด มากทีส่ ดุ ก. ระดบั ของการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน ข. จานวนสถานศกึ ษา ค. จานวนประชากร ง. วัฒนธรรม 29. การบริหารและการจัดการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐานให้ยึดเขตพื้นที่การศึกษาโดยคานึงถึงเรอ่ื งใด นอ้ ยทสี่ ดุ ก. ระดบั ของการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน ข. จานวนสถานศึกษา ค. จานวนประชากร ง. วฒั นธรรม เตรียมสอบครูผู้ช่วย By ทีมฮักแพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คูม่ อื เตรียมสอบบรรจุเข้ารบั ราชการ ตาแหนง่ ครูผชู้ ่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 311 30. ใครมอี านาจประกาศในราชกิจจานุเบกษากาหนดเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาเพื่อการบริหารและการจดั การศกึ ษาขั้นพ้ืนฐานแบง่ เป็นเขตพน้ื ท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาและเขตพื้นทีก่ ารศึกษามัธยมศึกษา ก. รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศึกษาธกิ าร ข. เลขาธิการคณะกรรมการข้าราชการครูและบคุ คลากรทางการศึกษา ค. ปลดั กระทรวงศึกษาธิการ ง. เลขาธิการคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน 31. รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศกึ ษาธกิ ารประกาศในราชกิจจานเุ บกษาโดยคาแนะนาของใคร ก. กพฐ. ข. สภาการศึกษา ค. ก.ค.ศ. ง. ถกู ทกุ ขอ้ 32. ข้อใดไม่กล่าวถกู ตอ้ ง กับการจดั ระเบียบบรหิ ารราชการของเขตพ้นื ทก่ี ารศึกษา ก. สานกั งานเขตพื้นที่การศึกษา ข. สถานศึกษาที่จัดการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐานหรอื ส่วนราชการท่ีเรยี กชอื่ อย่างอืน่ ค. สถานศึกษาอกชน ง. ถูกทกุ ขอ้ 33. การแบ่งส่วนราชการ สานักงานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษา ใหต้ ราเป็นกฎหมายใด ก. พระราชบญั ญัติ ข. พระราชกาหนด ค. กฎกระทรวง ง. ประกาศกระทรวง 34. การแบ่งส่วนราชการ สานักงานเขตพืน้ ที่การศกึ ษา โดยคาแนะนาของใคร ก. กพฐ. ข. สภาการศกึ ษา ค. ก.ค.ศ. ง. ถูกทุกขอ้ 35. สานกั งานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษา มีกีเ่ ขต ก. 42 ข. 183 ค. 185 ง. 225 เตรียมสอบครผู ชู้ ว่ ย By ทมี ฮกั แพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มือเตรยี มสอบบรรจุเข้ารบั ราชการ ตาแหนง่ ครูผู้ชว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 312 36. สานกั งานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษามธั ยมศกึ ษา มกี เ่ี ขต ก. 42 ข. 183 ค. 185 ง. 225 37. รวมสานกั งานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษา มธั ยมศึกษา มีก่เี ขต ก. 42 ข. 183 ค. 185 ง. 225 38. ในกรณีทไี่ ม่มผี ู้ดารงตาแหน่งผูอ้ านวยการสถานศกึ ษา หรอื มีแตไ่ ม่อาจปฏบิ ตั ริ าชการได้ ให้ รองผู้อานวยการ.........(แกไ้ ข ตามคาส่งั ที่ 16/2560) ก. รกั ษาราชการแทน ข. ปฏบิ ตั ริ าชการแทน ค. ดูแลราชการแทน ง. รักษาการในตาแหนง่ 39. ในกรณีท่ีไม่มีผูด้ ารงตาแหนง่ ผู้อานวยการสานักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษา หรือมแี ต่ไมอ่ าจ ปฏบิ ัติราชการได้ ให้รองผู้อานวยการสานักงานเขตพื้นทีก่ ารศึกษา...............(ยงั คงเดมิ ) ก. รักษาราชการแทน ข. ปฏบิ ัติราชการแทน ค. ดแู ลราชการแทน ง. รกั ษาการในตาแหน่ง 40. การมอบอานาจตามมาตรานใ้ี ห้ทาเป็นอะไร ก. ลายลกั ษณ์อักษร ข. หนังสอื ค. บนั ทึกข้อความ ง. คาส่งั 41. ใครเป็นผ้รู ับสนองพระบรมราชโองการ พรบ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2562 ก. นายกรัฐมนตรี ข. รฐั มนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธิการ ค. ปลดั กระทรวงศึกษาธิการ ง. เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน เตรียมสอบครผู ู้ชว่ ย By ทีมฮกั แพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ ือเตรยี มสอบบรรจเุ ขา้ รบั ราชการ ตาแหน่งครผู ู้ช่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 313 42. การแบง่ ส่วนราชการในสว่ นกลางของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร มีกสี่ านกั ก. 3 สานัก ข. 4 สานกั ค. 5 สานกั ง. 6 สานัก 43. ข้อใดกล่าวผิด กบั การแบง่ สว่ นราชการในส่วนกลางของกระทรวงศึกษาธกิ าร ก. สานักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ข. สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน ค. สานกั งานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษา ง. สานกั งานคณะกรรมการการอดุ มศึกษา 44. การจดั การศกึ ษาระดับอุดมศึกษาระดบั ตา่ กวา่ ปริญญา......... ก. รวมโดยสถาบันวิทยาลยั ชมุ ชนตามกฎหมายวา่ ดว้ ยสถาบันวิทยาลัยชุมชน” ข. โดยรวมถงึ สถาบนั วิทยาลัยชุมชนตามกฎหมายวา่ ด้วยสถาบันวทิ ยาลัยชุมชน” ค. แต่ไมร่ วมถึงสถาบนั วิทยาลัยชุมชนตามกฎหมายว่าด้วยสถาบนั วทิ ยาลัยชุมชน” ง. อาจจะรวมถึงสถาบนั วทิ ยาลยั ชมุ ชนตามกฎหมายวา่ ดว้ ยสถาบันวิทยาลยั ชุมชน” 45. เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพืน้ ฐาน ซึ่งมฐี านะเทียบเทา่ ตาแหน่งใด ก. อธิบดี ข. รฐั มนตรี ค. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ง. เลขาธกิ าร ก.ค.ศ. 46. เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ซ่งึ มฐี านะเทียบเท่า ตาแหนง่ ใด ก. อธบิ ดี ข. รฐั มนตรี ค. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ง. เลขาธิการ ก.ค.ศ. 47. เลขาธิการคณะกรรมการสภาการศึกษา ซึ่งมีฐานะเทียบเทา่ ตาแหน่งใด ก. อธิบดี ข. รฐั มนตรี ค. ปลดั กระทรวงศึกษาธิการ ง. เลขาธกิ าร ก.ค.ศ. เตรยี มสอบครูผูช้ ว่ ย By ทีมฮักแพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
ค่มู ือเตรียมสอบบรรจเุ ข้ารับราชการ ตาแหน่งครูผชู้ ว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 314 48. รฐั มนตรไี มส่ ามารถมอบอานาจให้แก่ ข้อใด ก. ปลัดกระทรวง ข. เลขาธิการ ค. ผอู้ านวยการสถานศึกษา ง. ผู้วา่ ราชการจงั หวดั 49. ข้อใดกลา่ วถูกตอ้ ง กระทรวงใหม่ ก. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์เทคโนโลยวี จิ ยั และนวตั กรรม ข. กระทรวงการอุดมศกึ ษา วจิ ัย วทิ ยาศาสตรแ์ ละนวัตกรรม ค. กระทรวงการอดุ มศึกษา นวัตกรรมวิทยาศาสตรแ์ ละวิจัย ง. กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวตั กรรม 50. เหตผุ ล ในการประกาศใชพ้ รบ.ระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธกิ าร(ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2562 ก. การเปลย่ี นแปลงเขา้ ส่ปู ระเทศไทย 4.0 ข. เพ่ือกาหนดโครงสรา้ งและตาแหนง่ ตา่ ง ๆ ให้สอดคล้องกบั อานาจหนา้ ที่ท่เี ปลยี่ นแปลงไป ค. เพือ่ การจัดการเรียนการสอนสู่ ศตวรรษท่ี 21 ง. การจดั ตั้งกระทรวงการอดุ มศกึ ษา วิทยาศาสตรว์ ิจัยและนวตั กรรม เตรียมสอบครูผู้ชว่ ย By ทีมฮกั แพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ อื เตรียมสอบบรรจุเขา้ รบั ราชการ ตาแหน่งครผู ชู้ ว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 315 เฉลยแนวข้อสอบพระราชบญั ญัติระเบียบบรหิ ารราชการกระทรวงศึกษาธิการ ขอ้ ข้อ ขอ้ 1 ก 21 ค 41 ก 2 ข 22 ง 42 ค 3 ก 23 ง 43 ง 4 ง 24 ค 44 ค 5 ค 25 ง 45 ค 6 ข 26 ข 46 ค 7 ก 27 ค 47 ค 8 ข 28 ก 48 ค 9 ก 29 ง 49 ง 10 ค 30 ก 50 ข 11 ข 31 ข 12 ง 32 ค 13 ข 33 ง 14 ข 34 ก 15 ข 35 ข 16 ก 36 ก 17 ค 37 ง 18 ก 38 ง 19 ข 39 ก 20 ก 40 ข เตรียมสอบครผู ู้ช่วย By ทมี ฮักแพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ ือเตรยี มสอบบรรจุเข้ารบั ราชการ ตาแหน่งครผู ู้ช่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 316 พระราชบญั ญัติคุ้มครองเดก็ พ.ศ. 2546 1. ใหไ้ ว้ ณ วันที่ 24 กนั ยายน พ.ศ.2546 เปน็ ปีท่ี 58 ในรัชกาลปัจจบุ นั 2. ผรู้ บั สนองพระบรมราชโองการ พันตารวจโท ทกั ษิณ ชินวตั ร (นายกรัฐมนตรี) 3. มบี ังคบั เม่ือพ้นกาหนดหน่ึงร้อยแปดสิบวนั นับแตว่ ันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป 4. มี 9 หมวด 88 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล หมวดที่ 1 คณะกรรมการคมุ้ ครองเด็ก หมวดที่ 2 การปฏิบตั ติ อ่ เดก็ หมวดท่ี 3 การสงเคราะหเ์ ด็ก หมวดท่ี 4 การคุม้ ครองสวสั ดภิ าพเดก็ หมวดท่ี 5 ผู้คมุ้ ครองสวัสดิภาพเดก็ หมวดท่ี 6 สถานรบั เล้ียงเดก็ สถานแรกรับ สถานสงเคราะห์ สถานค้มุ ครองสวัสดภิ าพ และ สถานพัฒนาและฟน้ื ฟู หมวดท่ี 7 การส่งเสรมิ ความประพฤตนิ ักเรยี นและนักศกึ ษา หมวดที่ 8 กองทนุ คุม้ ครองเดก็ หมวดท่ี 9 บทกาหนดโทษ บทเฉพาะกาล พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดุลยเดช มพี ระราชโองการโปรดเกลา้ ฯ ให้ ประกาศว่าโดยท่ีเปน็ การสมควรปรับปรงุ กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองเด็ก พระราชบัญญัตินี้มีบทบัญญัติบางประการเก่ียวกับการจากัดสิทธิและเสรีภาพของบุคคล ซงึ่ มาตรา 29 ประกอบกบั มาตรา 31 มาตรา 34 มาตรา 35 มาตรา 36 มาตรา 39 มาตรา 48 และมาตรา 50 ของรฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจกั รไทย บัญญตั ใิ หก้ ระทาได้โดยอาศัยอานาจตาม บทบัญญัตแิ หง่ กฎหมาย จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ใหต้ ราพระราชบัญญตั ขิ ึน้ ไวโ้ ดยคาแนะนาและยนิ ยอมของ รัฐสภา ดังต่อไปนี้ เตรียมสอบครผู ู้ช่วย By ทีมฮักแพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มือเตรียมสอบบรรจุเขา้ รับราชการ ตาแหน่งครผู ู้ชว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 317 มาตรา 1 พระราชบญั ญตั นิ ้ีเรียกว่า “พระราชบัญญัตคิ มุ้ ครองเด็ก พ.ศ. 2546” มาตรา 2 พระราชบัญญัตินี้ใหใ้ ช้บังคับเมื่อพน้ กาหนดหน่ึงรอ้ ยแปดสิบวนั นับแตว่ ันประกาศใน ราชกจิ จานุเบกษาเปน็ ต้นไป มาตรา 3 ให้ยกเลกิ (1) ประกาศของคณะปฏิวตั ิ ฉบบั ที่ 132 ลงวันที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2515 (2) ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับท่ี 294 ลงวันท่ี 27 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2515 มาตรา 4 ในพระราชบัญญัตินี้ คานิยาม “เดก็ ” หมายความวา่ บคุ คลซง่ึ มีอายุตา่ กวา่ สิบแปดปีบรบิ ูรณ์แตไ่ มร่ วมถงึ ผทู้ ี่บรรลนุ ติ ิภาวะ ด้วยการสมรส “เด็กเรร่ ่อน” หมายความว่า เดก็ ทไ่ี มม่ บี ิดามารดาหรอื ผู้ปกครองหรือมีแตไ่ ม่เล้ียงดหู รือไม่ สามารถเล้ยี งดไู ด้ จนเปน็ เหตใุ หเ้ ดก็ ต้องเรร่ อ่ นไปในทตี่ ่าง ๆ หรือเด็กท่ีมีพฤติกรรมใชช้ วี ิตเรร่ อ่ นจนน่าจะ เกิดอันตรายตอ่ สวสั ดภิ าพของตน “เดก็ กาพร้า” หมายความวา่ เดก็ ทบ่ี ดิ าหรือมารดาเสยี ชวี ิต เดก็ ทไี่ ม่ปรากฏบิดามารดาหรอื ไม่ สามารถสบื หาบดิ ามารดาได้ “เด็กท่ีอยใู่ นสภาพยากลาบาก” หมายความว่า เดก็ ที่อยู่ในครอบครวั ยากจนหรอื บิดามารดา หยา่ รา้ ง ท้ิงรา้ ง ถูกคมุ ขัง หรือแยกกนั อยู่และได้รบั ความลาบาก หรือเด็กท่ตี ้องรบั ภาระหนา้ ท่ใี นครอบครวั เกิน วยั หรอื กาลังความสามารถและสตปิ ัญญา หรือเด็กที่ไม่สามารถชว่ ยเหลอื ตัวเองได้ “เด็กพิการ” หมายความว่า เดก็ ที่มีความบกพร่องทางรา่ งกาย สมอง สตปิ ัญญาหรือจติ ใจ ไม่ ว่าความบกพร่องนั้น จะมีมาแต่กาเนิดหรือเกิดขึ้นภายหลงั “เด็กที่เสย่ี งต่อการกระทาผิด” หมายความวา่ เดก็ ทป่ี ระพฤติตนไมส่ มควรเด็กทป่ี ระกอบอาชพี หรอื คบหาสมาคมกบั บุคคลท่ีน่าจะชกั นาไปในทางกระทาผิดกฎหมายหรือขดั ต่อศลี ธรรมอันดีหรอื อยใู่ น สภาพแวดลอ้ มหรือสถานท่ีอันอาจชกั นาไปในทางเสยี หาย ทั้งน้ี ตามท่ีกาหนดในกฎกระทรวง “นักเรยี น” หมายความว่า เด็กซึง่ กาลังรับการศึกษาขัน้ พืน้ ฐานระดับประถมศึกษาและ มธั ยมศึกษาทงั้ ประเภทสามัญศกึ ษาและอาชีวศกึ ษาหรือเทยี บเท่าอยู่ในสถานศึกษาของรัฐหรือเอกชน “นักศึกษา” หมายความวา่ เดก็ ซง่ึ กาลังรบั การศกึ ษาระดับอดุ มศึกษาหรือเทียบเท่าอยู่ใน สถานศกึ ษาของรฐั หรอื เอกชน “บดิ ามารดา” หมายความว่า บดิ ามารดาของเด็กไมว่ า่ จะสมรสกนั หรือไม่ “ผู้ปกครอง” หมายความว่า บดิ ามารดา ผู้อนุบาล ผรู้ บั บุตรบุญธรรม และผ้ปู กครอง ตามประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ และใหห้ มายความรวมถึงพ่อเลย้ี งแมเ่ ลยี้ ง ผู้ปกครองสวสั ดิภาพ นายจ้าง ตลอดจนบคุ คลอ่นื ซึ่งรบั เด็กไว้ในความอุปการะเล้ียงดหู รอื ซ่งึ เด็กอาศัยอยู่ดว้ ย เตรียมสอบครูผชู้ ่วย By ทมี ฮักแพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คูม่ อื เตรียมสอบบรรจเุ ข้ารับราชการ ตาแหน่งครผู ูช้ ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 318 “ครอบครวั อุปถัมภ์” หมายความว่า บคุ คลทรี่ บั เดก็ ไวอ้ ปุ การะเลย้ี งดูอย่างบุตร “การเล้ยี งดโู ดยมชิ อบ” หมายความว่า การไมใ่ หก้ ารอุปการะเลี้ยงดูอบรมสัง่ สอนหรือพัฒนา เด็กตามมาตรฐานขัน้ ตา่ ท่กี าหนดในกฎกระทรวง จนน่าจะเกิดอนั ตรายแกร่ ่างกายหรือจิตใจของเด็ก “ทารุณกรรม” หมายความวา่ การกระทาหรอื ละเว้นการกระทาดว้ ยประการใด ๆ จนเป็นเหตุ ใหเ้ ดก็ เสอ่ื มเสยี เสรีภาพ หรือเกดิ อนั ตรายแกร่ ่างกายหรือจติ ใจ การกระทาผิดทางเพศตอ่ เดก็ การใช้เด็กให้ กระทาหรือประพฤติในลักษณะที่นา่ จะเป็นอนั ตรายแกร่ ่างกายหรือจิตใจหรือขัดตอ่ กฎหมายหรือศีลธรรมอันดี ทัง้ น้ี ไมว่ า่ เด็กจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม “สืบเสาะและพนิ ิจ” หมายความวา่ การค้นหาและรวบรวมข้อเท็จจรงิ เก่ยี วกับบุคคลและนามา วเิ คราะห์วินิจฉยั ตามหลักวิชาการทางสงั คมสงเคราะห์ แพทย์ จติ วทิ ยา กฎหมายและหลักวชิ าการอนื่ ท่ี เกีย่ วข้องกบั บุคคลและครอบครัวของบุคคลนน้ั “สถานรบั เล้ยี งเด็ก” หมายความวา่ สถานทรี่ บั เลีย้ งและพัฒนาเดก็ ทมี่ ีอายุไมเ่ กินหกปีบริบูรณ์ และมจี านวนตั้งแตห่ กคนขน้ึ ไป ซึ่งเด็กไม่เกย่ี วข้องเป็นญาติกบั เจ้าของหรือผู้ดาเนินการสถานรบั เล้ยี ง เดก็ ดังกล่าว ทง้ั น้ี ไมร่ วมถึงสถานพยาบาลหรือโรงเรียนท้งั ของรัฐและเอกชน “สถานแรกรับ” หมายความว่า สถานท่รี ับเด็กไวอ้ ุปการะเป็นการชว่ั คราวเพื่อสืบเสาะและพินิจ เดก็ และครอบครัว เพื่อกาหนดแนวทางในการสงเคราะห์และคมุ้ ครองสวสั ดภิ าพท่ีเหมาะสมแก่เด็กแต่ละราย “สถานสงเคราะห์” หมายความว่า สถานทใี่ หก้ ารอปุ การะเลยี้ งดูและพฒั นาเดก็ ทจี่ าตอ้ งได้รบั การสงเคราะห์ ซง่ึ มจี านวนตงั้ แตห่ กคนข้นึ ไป “สถานคุม้ ครองสวัสดภิ าพ” หมายความว่า สถานท่ีใหก้ ารศกึ ษา อบรม ฝกึ อาชีพเพ่ือแก้ไข ความประพฤติ บาบัด รักษา และฟ้ืนฟูสมรรถภาพทงั้ ทางด้านรา่ งกายและจติ ใจแกเ่ ด็กที่พงึ ได้รับการ คุ้มครองสวสั ดภิ าพ “สถานพฒั นาและฟ้นื ฟู” หมายความวา่ สถานที่ โรงเรยี น สถาบัน หรือศนู ยท์ ่ีจัดขึ้นเพอ่ื ให้ การบาบดั รักษา การฟ้ืนฟสู มรรถภาพทั้งทางดา้ นร่างกายและจติ ใจ ตลอดจนการศึกษา แนะแนวและการ ฝึกอบรมอาชพี แก่เด็กทีจ่ าต้องได้รับการสงเคราะห์หรือคุ้มครองสวัสดิภาพเป็นกรณีพเิ ศษ “สถานพินิจ” หมายความวา่ สถานพินจิ และคุ้มครองเด็กและเยาวชนกลาง สถานพินิจและ คุ้มครองเด็กและเยาวชนจังหวัด และสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนของแผนกคดีเยาวช นและ ครอบครัวในศาลจังหวัด ซึ่งจัดตั้งข้ึนตามกฎหมายวา่ ด้วยการจัดตั้งศาลเยาวชนและครอบครัวและวธิ ีพิจารณา คดีเยาวชนและครอบครัว “กองทนุ ” หมายความว่า กองทุนคุม้ ครองเดก็ “คณะกรรมการ” หมายความวา่ คณะกรรมการคมุ้ ครองเด็กแหง่ ชาติ “พนกั งานเจา้ หนา้ ที่” หมายความว่า ผูซ้ ง่ึ รัฐมนตรีแตง่ ตง้ั ใหป้ ฏิบัติการตามพระราชบัญญตั ินี้ “ผวู้ ่าราชการจงั หวดั ” หมายความรวมถึง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและผ้ซู ง่ึ ไดร้ ับ มอบหมายจากผวู้ ่าราชการจงั หวัด เตรยี มสอบครผู ชู้ ่วย By ทมี ฮักแพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คูม่ อื เตรยี มสอบบรรจเุ ข้ารับราชการ ตาแหนง่ ครูผ้ชู ว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 319 “ปลดั กระทรวง” หมายความว่า ปลัดกระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมั่นคงของมนุษย์และ หมายความรวมถึงผซู้ งึ่ ไดร้ บั มอบหมายจากปลัดกระทรวง “รฐั มนตรี” หมายความวา่ รัฐมนตรีผรู้ ักษาการตามพระราชบญั ญตั นิ ี้ มาตรา 5 ให้ศาลที่มีอานาจพิจารณาพิพากษาคดีเยาวชนและครอบครัวตามกฎหมายว่าด้วยการจัดตั้งศาล เยาวชนและครอบครัวและวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว มีอานาจพิจารณา พิพากษาคดีตาม พระราชบัญญัติน้ีเว้นแต่ในจังหวัดใดยังมิได้เปิดทาการศาลเยาวชนและครอบครัวหรือแผนกคดีเยาวชนและ ครอบครัวข้นึ ในศาลจงั หวดั ให้ศาลจังหวัดมีอานาจพิจารณาพิพากษาคดตี ามพระราชบัญญัตนิ ้ี มาตรา 6 ให้รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคง ของมนุษย์ รัฐมนรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รักษาการตาม พระราชบัญญัตินี้ และให้รัฐมนตรีแตล่ ะกระทรวงมีอานาจแต่งตั้งพนักงานเจ้าหน้าทีก่ ับออกกฎกระทรวงหรือ ระเบยี บเพอ่ื ปฏิบัตกิ ารตามพระราชบญั ญตั ินี้ ทั้งน้ี ในสว่ นท่ีเก่ยี วกับราชการของกระทรวงนั้น กฎกระทรวงหรือระเบียบนัน้ เมอื่ ไดป้ ระกาศในราชกจิ จานุเบกษาแล้วใหใ้ ชบ้ ังคบั ได้ หมวดท่ี 1 คณะกรรมการคมุ้ ครองเดก็ มาตรา 7 ใหม้ ีคณะกรรมการคมุ้ ครองเดก็ แหง่ ชาติ ประกอบดว้ ย 1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมน่ั คงของมนษุ ย์ เปน็ ประธาน 2. ปลดั กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนษุ ย์ เป็น รองประธาน 3. โดยมรี องปลัดกระทรวงการพฒั นาสังคมและความมน่ั คงของมนษุ ย์ ซงึ่ ปลัดกระทรวงมอบหมายเปน็ กรรมการและเลขานุการกรรมการ ผทู้ รงคุณวุฒติ ามวรรคหนึ่งต้องเป็นสตรไี มน่ อ้ ยกวา่ หน่ึงในสาม มาตรา 9 กรรมการผูท้ รงคุณวุฒมิ ีวาระอยูใ่ นตาแหน่งคราวละสามป)ี แตต่ ้องไมเ่ กนิ สองวาระติดต่อกนั มาตรา 16 ให้มคี ณะกรรมการคมุ้ ครองเด็กกรงุ เทพมหานคร ประกอบด้วย ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็น ประธานกรรมการ ปลดั กรงุ เทพมหานคร เป็น รองประธานกรรมการ โดยมีผู้อานวยการสานักสวัสดิการสังคม เปน็ กรรมการและเลขานุการ กรรมการผ้ทู รงคุณวุฒติ ามวรรคหนึ่งตอ้ งเปน็ สตรไี มน่ ้อยกว่าหนงึ่ ในสาม มาตรา 17 ให้มีคณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัด ประกอบด้วย ผูว้ า่ ราชการจังหวดั เป็น ประธานกรรมการ รองผวู้ า่ ราชการจงั หวัด เปน็ รองประธานกรรมการ เตรียมสอบครผู ชู้ ว่ ย By ทีมฮกั แพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คูม่ อื เตรียมสอบบรรจเุ ข้ารับราชการ ตาแหน่งครูผู้ชว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 320 โดยมพี ัฒนาสังคมและสวัสดิการจังหวดั เป็นกรรมการและเลขานุการ กรรมการผ้ทู รงคุณวุฒิตามวรรคหนง่ึ ตอ้ งเปน็ สตรไี มน่ ้อยกว่าหน่งึ ในสาม มาตรา 21 ในการปฏบิ ัตหิ นา้ ทต่ี ามพระราชบัญญัตนิ ้ีใหก้ รรมการและอนุกรรมการเป็นเจ้าพนกั งานตาม ประมวลกฎหมายอาญา หมวดที่ 2 การปฏบิ ตั ติ อ่ เดก็ มาตรา 22 การปฏิบัติต่อเด็กไมว่ ่ากรณีใด ให้คานึงถึงประโยชนส์ งู สุดของเดก็ เปน็ สาคัญและไม่ให้มีการเลอื ก ปฏิบตั โิ ดยไมเ่ ป็นธรรมการกระทาใดเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของเดก็ หรือเป็นการเลอื กปฏบิ ตั โิ ดยไมเ่ ปน็ ธรรมต่อเด็กหรือไม่ ใหพ้ ิจารณาตามแนวทางที่กาหนดในกฎกระทรวง มาตรา 23 ผปู้ กครองต้องให้การอปุ การะเล้ยี งดู อบรมส่ังสอน และพฒั นาเด็กทอ่ี ยู่ในความปกครองดแู ลของ ตนตาม สมควรแก่ขนบธรรมเนยี มประเพณีและวฒั นธรรมแห่งท้องถ่นิ แตท่ ัง้ นตี้ อ้ งไม่ตา่ กวา่ มาตรฐานข้ันต่า ตามทีก่ าหนดในกฎกระทรวงและต้องคุ้มครองสวสั ดภิ าพเด็กทีอ่ ยู่ในความปกครองดูแลของตนมิให้ตกอย่ใู น ภาวะอนั น่าจะเกิดอันตรายแก่รา่ งกายหรอื จติ ใจ มาตรา 24 ปลัดกระทรวง ผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้อานวยการเขต นายอาเภอ ปลัดอาเภอผู้เป็นหัวหน้า ประจาก่ิงอาเภอ หรอื ผ้บู รหิ ารองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถ่ิน มีหน้าทคี่ มุ้ ครองสวัสดภิ าพเด็กทอี่ ยใู่ นเขตพ้ืนทท่ี ีร่ บั ผิดชอบ ไม่ว่าเด็กจะมีผปู้ กครองหรอื ไม่กต็ าม รวมทั้งมอี านาจและหนา้ ท่ีดูแลและตรวจสอบสถานรบั เลีย้ งเด็ก สถานแรกรับ สถานสงเคราะห์ สถาน ค้มุ ครองสวัสดิภาพสถานพัฒนาและฟื้นฟแู ละสถานพินิจที่ต้ังอยู่ในเขตอานาจแล้วรายงานผลการตรวจสอบต่อ คณะกรรมการ คณะกรรมการคุ้มครองเด็กกรุงเทพมหานคร หรือคณะกรรมการคุ้มครองเด็กจังหวัด แล้วแต่ กรณี เพ่ือทราบและใหม้ อี านาจและหน้าท่ีเชน่ เดียวกบั พนักงานเจ้าหนา้ ที่ตามพระราชบัญญตั นิ ี้ มาตรา 25 ผู้ปกครองต้องไม่กระทาการดังตอ่ ไปน้ี (1) ทอดท้ิงเดก็ ไว้ในสถานรับเลย้ี งเด็กหรอื สถานพยาบาลหรือไว้กับบุคคลท่รี บั จ้างเลย้ี งเด็กหรอื ท่ี สาธารณะหรือสถานที่ใด โดยเจตนาท่ีจะไม่รับเด็กกลับคืน (2) ละท้ิงเดก็ ไว้ณ สถานที่ใด ๆ โดยไม่จดั ให้มีการปอ้ งกนั ดูแลสวัสดิภาพหรือใหก้ ารเล้ยี งดทู ีเ่ หมาะสม (3) จงใจหรือละเลยไมใ่ หส้ งิ่ ที่จาเปน็ แก่การดารงชีวติ หรอื สุขภาพอนามยั จนน่าจะเกิดอนั ตรายแก่ รา่ งกายหรือจติ ใจของเด็ก (4) ปฏบิ ัตติ อ่ เด็กในลักษณะท่ีเปน็ การขัดขวางการเจริญเตบิ โตหรือพฒั นาการของเด็ก (5) ปฏบิ ัติตอ่ เด็กในลักษณะท่ีเปน็ การเลี้ยงดโู ดยมชิ อบ เตรยี มสอบครูผชู้ ว่ ย By ทมี ฮกั แพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มอื เตรยี มสอบบรรจุเขา้ รับราชการ ตาแหน่งครผู ้ชู ่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 321 มาตรา 26 ภายใตบ้ ังคบั บทบญั ญัตแิ ห่งกฎหมายอืน่ ไม่ว่าเด็กจะยนิ ยอมหรือไมห่ า้ มมิใหผ้ ู้ใดกระทาการ ดงั ตอ่ ไปนี้ (1) กระทาหรือละเวน้ การกระทาอันเป็นการทารณุ กรรมต่อรา่ งกายหรือจิตใจของเดก็ (2) จงใจหรือละเลยไมใ่ หส้ งิ่ จาเปน็ แก่การดารงชวี ติ หรอื การรักษาพยาบาลแกเ่ ดก็ ที่อยใู่ นความดแู ล ของตน จนน่าจะเกดิ อันตรายแก่รา่ งกายหรอื จิตใจของเด็ก (3) บงั คับ ขู่เข็ญ ชกั จงู สง่ เสรมิ หรอื ยนิ ยอมให้เด็กประพฤติตนไมส่ มควรหรอื นา่ จะทาให้เด็กมีความ ประพฤตเิ สยี่ งต่อการกระทาผดิ (4) โฆษณาทางส่ือมวลชนหรอื เผยแพรด่ ว้ ยประการใด เพ่ือรบั เด็กหรือยกเด็กใหแ้ ก่บุคคลอ่นื ทมี่ ใิ ช่ ญาตขิ องเดก็ เวน้ แต่เปน็ การกระทาของทางราชการหรือไดร้ ับอนญุ าตจากทางราชการแล้ว (5) บังคบั ข่เู ขญ็ ชักจูง สง่ เสริม ยินยอม หรอื กระทาด้วยประการใดใหเ้ ด็กไปเปน็ ขอทาน เดก็ เร่รอ่ น หรือใช้เด็กเป็นเคร่อื งมอื ในการขอทานหรอื การกระทาผดิ หรือกระทาด้วยประการใดอันเปน็ การแสวงหา ประโยชนโ์ ดยมิชอบจากเด็ก (6) ใช้ จา้ ง หรือวานเด็กให้ทางานหรอื กระทาการอันอาจเป็นอนั ตรายแกร่ ่างกายหรือจติ ใจมี ผลกระทบต่อการเจริญเติบโต หรอื ขัดขวางต่อพฒั นาการของเด็ก (7) บังคับ ขู่เขญ็ ใช้ ชักจูง ยุยง ส่งเสรมิ หรือยนิ ยอมใหเ้ ดก็ เลน่ กีฬาหรอื ให้กระทาการใดเพอื่ แสวงหาประโยชน์ทางการค้าอันมีลักษณะเปน็ การขัดขวางต่อการเจรญิ เตบิ โตหรอื พัฒนาการของเด็กหรือมี ลกั ษณะเปน็ การทารณุ กรรมต่อเดก็ (8) ใช้หรือยินยอมให้เดก็ เล่นการพนันไม่วา่ ชนิดใดหรือเข้าไปในสถานที่เล่นการพนัน สถาน ค้าประเวณี หรือสถานท่ีทห่ี า้ มมิให้เด็กเขา้ (9) บงั คับ ขู่เขญ็ ใช้ ชักจูง ยยุ ง สง่ เสรมิ หรือยินยอมให้เดก็ แสดงหรือกระทาการอนั มลี ักษณะลามก อนาจาร ไมว่ า่ จะเปน็ ไปเพื่อให้ไดม้ าซ่ึงคา่ ตอบแทนหรือเพ่ือการใด (10) จาหนา่ ย แลกเปลยี่ น หรอื ให้สรุ าหรอื บุหร่ีแก่เด็ก เว้นแตก่ ารปฏิบัตทิ างการแพทย์ ผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 26 ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรบั ไม่เกินสามหมืน่ บาท หรอื ทงั้ จาทง้ั ปรบั มาตรา 27 หา้ มมใิ หผ้ ู้ใดโฆษณาหรือเผยแพร่ทางส่ือมวลชนหรือสือ่ สารสนเทศประเภทใด ซึง่ ข้อมูลเกยี่ วกบั ตวั เดก็ หรือผู้ปกครอง โดยเจตนาทจี่ ะทาใหเ้ กิดความเสยี หายแกจ่ ติ ใจ ชอ่ื เสียง เกียรตคิ ุณ หรอื สทิ ธิประโยชน์ อืน่ ใดของเด็กหรอื เพ่ือแสวงหาประโยชน์สาหรบั ตนเองหรอื ผอู้ ื่นโดยมชิ อบต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินหก เดือน หรอื ปรบั ไม่เกินหกหมนื่ บาท หรือทง้ั จาทั้งปรับ มาตรา 28 ในกรณีผปู้ กครองตกอยู่ในสภาพไม่อาจใหก้ ารอุปการะเลย้ี งดูอบรมส่ังสอนและพัฒนาเด็กไดไ้ ม่ว่า ดว้ ยเหตใุ ด หรือผู้ปกครองกระทาการใดอนั น่าจะเกดิ อนั ตรายต่อสวสั ดภิ าพหรอื ขดั ขวางต่อความเจรญิ เติบโต หรอื พฒั นาการของเด็กหรอื ใหก้ ารเล้ยี งดูโดยมชิ อบ หรือมีเหตุจาเปน็ อน่ื ใดเพ่ือประโยชนใ์ นการสงเคราะห์หรอื คมุ้ ครองสวสั ดภิ าพเด็กหรือป้องกันมใิ หเ้ ดก็ ไดร้ ับอนั ตรายหรือถกู เลือกปฏบิ ัตโิ ดยไม่เป็นธรรม พนักงาน เจา้ หนา้ ทีต่ ้องดาเนนิ การให้การสงเคราะห์หรือคุม้ ครองสวสั ดิภาพตามพระราชบัญญัตนิ ้ี เตรียมสอบครผู ู้ชว่ ย By ทีมฮกั แพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ อื เตรียมสอบบรรจเุ ข้ารับราชการ ตาแหนง่ ครผู ู้ช่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 322 มาตรา 29 ผใู้ ดพบเหน็ เด็กตกอยู่ในสภาพจาต้องได้รบั การสงเคราะห์หรอื คุ้มครองสวสั ดิภาพตามหมวด 3 และหมวด 4 จะต้องให้การชว่ ยเหลอื เบื้องต้นและแจ้งต่อพนกั งานเจา้ หนา้ ท่ีหรอื ผู้มหี น้าที่ค้มุ ครองสวัสดภิ าพ เด็กตามมาตรา 24 โดยมชิ ักช้า แพทย์ พยาบาล นักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ หรือเจ้าหน้าท่ีสาธารณสุข ท่ีรับตัวเด็กไว้ รักษาพยาบาล ครูอาจารย์ หรือนายจ้าง ซึ่งมีหน้าท่ีดูแลเด็กท่ีเป็นศิษย์หรือลูกจ้าง จะต้องรายงานให้ พนักงานเจ้าหน้าท่ีหรอื ผ้มู หี นา้ ท่คี มุ้ ครองสวัสดภิ าพเด็กตามมาตรา 24 ทราบโดยมิชกั ช้า หากเปน็ ที่ปรากฏ ชดั หรอื น่าสงสยั ว่าเด็กถกู ทารณุ กรรมหรือเจ็บปว่ ยเน่อื งจากการเลยี้ งดโู ดยมิชอบ การแจ้งหรอื การรายงานตามมาตรานี้ เม่อื ได้กระทาโดยสจุ รติ ยอ่ มไดร้ บั ความค้มุ ครองและไม่ตอ้ งรบั ผดิ ทัง้ ทางแพง่ ทางอาญาหรอื ทางปกครอง มาตรา 30 เพื่อประโยชน์ในการปฏิบตั ติ ามพระราชบัญญัติน้ี ให้พนกั งานเจ้าหน้าทต่ี ามหมวด 3 และหมวด 4 มอี านาจและหน้าที่ ดังตอ่ ไปน้ี (1) เข้าไปในเคหสถาน สถานท่ีใด ๆ หรือยานพาหนะใด ๆ ในระหว่างเวลาพระอาทิตย์ข้ึนถึง พระอาทิตย์ตกเพื่อตรวจค้นในกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการกระทาทารุณกรรมเด็ก มีการกักขังหรือเล้ียงดู โดยมิชอบ แต่ในกรณีมีเหตุอันควรเช่ือวา่ หากไม่ดาเนินการในทันทีเด็กอาจได้รับอันตรายแก่ร่างกายหรือจิตใจ หรอื ถูกนาพาไปสถานที่อ่นื ซึง่ ยากแก่การติดตามช่วยเหลอื ก็ใหม้ ีอานาจเขา้ ไปในเวลาภายหลังพระอาทิตยต์ ก (2) ซักถามเด็กเมื่อมีเหตุอันควรสงสัยว่าเด็กจาต้องได้รับการสงเคราะห์หรือคุ้มครองสวัสดิภาพ ในกรณีจาเป็นเพื่อประโยชน์แก่การสงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กอาจนาตัวเด็กไปยังที่ทาการของ พนักงานเจ้าหน้าท่ี เพื่อทราบข้อมูลเกี่ยวกับเด็กและครอบครัว รวมทั้งบุคคลที่เด็กอาศัยอยู่ ทั้งน้ี จะต้อง กระทาโดยมิชักช้า แตไ่ ม่วา่ กรณีใดจะกักตัวเดก็ ไว้นานเกนิ กวา่ สบิ สองช่ัวโมงไมไ่ ด้เม่ือพ้นระยะเวลาดังกล่าว ให้ปฏิบัติตาม (6) ระหว่างท่ีเด็กอยู่ในความดูแลจะต้องให้การอุปการะเลี้ยงดู และหากเจ็บป่วยจะต้องให้การ รกั ษาพยาบาล (3) มีหนงั สือเรียกผูป้ กครอง หรือบคุ คลอน่ื ใดมาให้ถ้อยคาหรือขอ้ เท็จจรงิ เก่ียวกับสภาพความเปน็ อยู่ ความประพฤติ สุขภาพ และความสัมพนั ธ์ในครอบครวั ของเด็ก (4) ออกคาสง่ั เปน็ หนังสอื ให้ผู้ปกครองของเด็ก นายจ้างหรอื ผู้ประกอบการ เจ้าของหรือ ผู้ ครอบครองสถานท่ีที่เด็กทางานหรือเคยทางาน อาศัยหรือเคยอาศัยอยู่ เจ้าของหรือผู้ครอบครองหรือผู้ดูแล สถานศึกษาท่ีเด็กกาลังศึกษาหรือเคยศึกษาหรือผู้ปกครองสวัสดิภาพ ส่งเอกสารหรือหลักฐานเกี่ยวกับสภาพ ความเป็นอยู่ การศึกษา การทางาน หรือความประพฤติของเด็กมาให้ (5) เข้าไปในสถานท่ีอยู่อาศยั ของผูป้ กครอง สถานท่ปี ระกอบการของนายจ้างของเดก็ สถานศึกษาของ เดก็ หรอื สถานทท่ี ี่เด็กมคี วามเก่ียวขอ้ งด้วย ในระหว่างเวลาพระอาทิตย์ข้นึ ถงึ พระอาทติ ย์ตกเพื่อสอบถาม บุคคลท่ีอยูใ่ นทนี่ ั้น ๆ และรวบรวมขอ้ มลู หรือหลกั ฐานเก่ียวกับสภาพความเปน็ อยู่ ความสัมพนั ธใ์ นครอบครัว การเลยี้ งดู อุปนสิ ัย และความประพฤติของเด็ก เตรยี มสอบครูผู้ชว่ ย By ทมี ฮกั แพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คูม่ ือเตรียมสอบบรรจเุ ขา้ รับราชการ ตาแหนง่ ครผู ูช้ ว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 323 (6) มอบตัวเดก็ ให้แกผ่ ู้ปกครองพร้อมกบั แนะนาหรือตกั เตอื นผู้ปกครองใหด้ ูแล และอุปการะ เลีย้ งดูเด็กในทางท่ีถูกต้อง เพื่อให้เดก็ ไดร้ บั การพฒั นาในทางที่เหมาะสม (7) ทารายงานเกีย่ วกบั ตัวเด็กเพอื่ มอบใหแ้ ก่สถานแรกรับในกรณีมีการส่งเด็กไปยงั สถานแรกรับ หรือหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องเมื่อมกี ารร้องขอ เดก็ ท่ีอย่ใู นความดแู ลของพนักงานเจ้าหน้าทจี่ ะต้องได้รับการอปุ การะเล้ยี งดแู ละไดร้ ับการศกึ ษาอยา่ ง เหมาะสม และก่อนที่จะจดั ใหเ้ ดก็ เข้าอยู่ในสถานรับเลีย้ งเด็ก สถานแรกรบั สถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครอง สวัสดภิ าพ และสถานพัฒนาและฟนื้ ฟู จะต้องปรึกษากบั ผู้เชย่ี วชาญในสาขาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์และ การแพทยก์ อ่ นเทา่ ที่สามารถกระทาได้ ในการปฏิบัตหิ นา้ ทต่ี าม (1) (2) และ (5) พนักงานเจา้ หนา้ ท่ีตอ้ งแสดงบตั รประจาตวั กอ่ นและให้ บุคคลที่เก่ียวข้องอานวยความสะดวกตามสมควรบัตรประจาตัวพนกั งานเจา้ หน้าทีใ่ หเ้ ป็นไปตามแบบท่ี รัฐมนตรีกาหนดโดยประกาศในราชกิจจานุเบกษา มาตรา 31 ในการปฏิบตั หิ น้าทีต่ ามพระราชบัญญตั นิ ้ีให้พนักงานเจ้าหน้าทเี่ ปน็ เจ้าพนกั งานตามประมวล กฎหมายอาญา หมวดท่ี 3 การสงเคราะหเ์ ด็ก มาตรา 32 เด็กท่ีพึงได้รับการสงเคราะหไ์ ด้แก่ (1) เดก็ เร่ร่อน หรอื เด็กกาพร้า (2) เด็กทถี่ ูกทอดท้ิงหรอื พลัดหลง ณ ทใ่ี ดที่หน่งึ (3) เด็กทผี่ ูป้ กครองไม่สามารถอุปการะเลีย้ งดูได้ดว้ ยเหตุใด ๆ เชน่ ถูกจาคกุ กักขัง พิการ ทพุ พลภาพ เจบ็ ปว่ ยเร้ือรัง ยากจน เปน็ ผู้เยาวห์ ยา่ ถูกทิ้งรา้ ง เปน็ โรคจิตหรือโรคประสาท (4) เด็กที่ผู้ปกครองมีพฤติกรรมหรอื ประกอบอาชีพไม่เหมาะสมอนั อาจส่งผลกระทบตอ่ พัฒนาการ ทางรา่ งกายหรอื จิตใจของเดก็ ท่อี ย่ใู นความปกครองดแู ล (5) เด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูโดยมิชอบ ถูกใช้เป็นเคร่ืองมือในการกระทาหรือแสวงหาประโยชน์โดย มชิ อบ ถูกทารณุ กรรม หรอื ตกอยูใ่ นภาวะอื่นใดอันอาจเป็นเหตุให้เด็กมีความประพฤติเสื่อมเสียในทางศลี ธรรม อนั ดีหรอื เป็นเหตุใหเ้ กิดอนั ตรายแก่กายหรอื จติ ใจ (6) เด็กพกิ าร (7) เด็กทอ่ี ยู่ในสภาพยากลาบาก (8) เดก็ ทอี่ ยู่ในสภาพท่ีจาต้องได้รับการสงเคราะห์ตามที่กาหนดในกฎกระทรวง ในกรณที ่บี คุ คลที่ไดร้ ับการสงเคราะห์มีอายุสบิ แปดปบี รบิ ูรณแ์ ตย่ ังอยู่ในสภาพที่จาเป็นจะต้อง ไดร้ ับการสงเคราะห์ต่อไป ปลดั กระทรวงหรือผู้ว่าราชการจังหวดั แล้วแตก่ รณี อาจส่งั ให้บุคคลนัน้ ได้รับการ สงเคราะหต์ ่อไปจนอายยุ ่สี ิบปบี รบิ รู ณ์ก็ไดแ้ ต่ถา้ มเี หตุจาเปน็ ต้องให้การสงเคราะหต์ ่อไปอกี และบคุ คลนน้ั มไิ ด้ เตรยี มสอบครผู ชู้ ่วย By ทีมฮักแพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ ือเตรียมสอบบรรจุเข้ารบั ราชการ ตาแหน่งครูผชู้ ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 324 คัดค้าน ปลดั กระทรวงหรือผูว้ ่าราชการจังหวัด แล้วแตก่ รณีอาจสั่งให้สงเคราะห์บุคคลน้ันตอ่ ไปตามความจา เป็นและสมควร แต่ท้งั นตี้ อ้ งไมเ่ กินเวลาท่บี ุคคลนัน้ มีอายุครบยี่สบิ สปี่ บี ริบรู ณ์ มาตรา 37 เม่ือสถานแรกรบั สถานสงเคราะห์ หรือสถานพัฒนาและฟน้ื ฟูไดร้ บั ตวั เด็กไว้ตามมาตรา 33 (5) (6) หรอื (7) ใหผ้ ปู้ กครองสวัสดภิ าพรีบสืบเสาะและพนิ ิจเกยี่ วกับตวั เด็กและครอบครวั และเสนอความเหน็ เกีย่ วกบั วธิ กี ารสงเคราะหห์ รือคุ้มครองสวสั ดภิ าพเดก็ แต่ละคนพรอ้ มด้วยประวตั ไิ ปยังปลัดกระทรวงหรอื ผู้ว่าราชการจงั หวัด แลว้ แต่กรณี โดยมชิ กั ชา้ และใหป้ ลัดกระทรวงหรอื ผูว้ า่ ราชการจงั หวดั ส่ังการตามท่ี เหน็ สมควรตอ่ ไป มาตรา 38 ในกรณีท่ีปลัดกระทรวงหรือผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งให้เด็กเข้ารับการสงเคราะห์โดยผู้ปกครอง ไม่ยนิ ยอมตามมาตรา 33 วรรคสอง กรณที ่ีผปู้ กครองของเดก็ ไม่เห็นดว้ ยกับกาหนดระยะเวลาตามมาตรา 33 วรรคสาม หรือกรณีท่ีผู้ปกครองยื่นคาร้องขอรับเด็กไปปกครองดูแลเองแต่ได้รับการปฏิเสธจากปลัดกระทรวง หรือผู้ว่าราชการจังหวัดตามมาตรา 33 วรรคสี่ ผู้ปกครองย่อมมีสิทธินาคดีไปสู่ศาลตามมาตรา 5 ในเขต ทอ้ งทีน่ ้นั ภายในหนงึ่ ร้อยย่ีสบิ วันนบั แต่วนั รับทราบคาส่งั มาตรา 39 ในกรณที ีผ่ ปู้ กครองซ่งึ ไดร้ ับเด็กกลับมาอยู่ในความดแู ล มพี ฤตกิ ารณน์ ่าเช่ือว่าจะให้การเล้ียงดูโดยมิ ชอบแก่เด็กอีก ใหพ้ นักงานเจ้าหน้าที่หรือผู้มีหนา้ ท่ีคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กตามมาตรา 24 ใหค้ าแนะนาแก่ ผปู้ กครอง หากผปู้ กครองไม่ปฏิบตั ิตามคาแนะนาก็ให้ยน่ื คาขอต่อปลดั กระทรวง ผวู้ ่าราชการจงั หวัด นายอาเภอหรือปลดั อาเภอผเู้ ปน็ หวั หน้าประจาก่ิงอาเภอแล้วแตก่ รณี เพ่ือเรยี กผู้ปกครองมาทาทัณฑบ์ นว่าจะ ไม่กระทาการใดอันมีลักษณะเปน็ การใหก้ ารเลีย้ งดูโดยมชิ อบแกเ่ ด็กอีกและให้วางประกันไว้เปน็ จานวนเงนิ ตาม สมควรแกฐ่ านานุรูป แตจ่ ะเรียกประกนั ไว้ได้ไมเ่ กินระยะเวลาสองปี ถา้ กระทาผดิ ทณั ฑ์บนให้ริบเงินประกนั เป็น ของกองทุตคุ้มครองเด็กตามมาตรา 69 การใหค้ าแนะนาหรอื การเรยี กประกันใหค้ านงึ ถึงฐานะทางเศรษฐกิจของผู้ปกครอง และประโยชน์ สูงสุดของเดก็ เปน็ สาคญั หมวดที่ 4 การคุ้มครองสวสั ดภิ าพเดก็ มาตรา 40 เดก็ ที่พึงได้รบั การคุ้มครองสวัสดภิ าพ ได้แก่ (1) เดก็ ทีถ่ ูกทารุณกรรม (2) เดก็ ทเ่ี ส่ียงต่อการกระทาผิด (3) เด็กที่อยู่ในสภาพทจี่ าต้องได้รบั การคมุ้ ครองสวัสดภิ าพ เตรยี มสอบครูผูช้ ่วย By ทีมฮักแพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
ค่มู อื เตรียมสอบบรรจเุ ขา้ รบั ราชการ ตาแหนง่ ครูผู้ช่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 325 มาตรา 42 การดาเนินการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กตามมาตรา 41 วรรคสอง ตอ้ งรบี จดั ให้มกี ารตรวจรกั ษา ทางร่างกายและจิตใจทันที ถ้าพนักงานเจา้ หน้าท่เี หน็ สมควรตอ้ งสืบเสาะและพนิ ิจเก่ียวกับเด็กและครอบครวั เพือ่ หาวธิ กี ารคุ้มครองสวสั ดิภาพท่ีเหมาะสมแกเ่ ด็ก ก็อาจสง่ ตวั เดก็ ไปสถานแรกรบั กอ่ นไดห้ รอื ถา้ จาเป็นต้องให้ การสงเคราะห์กใ็ ห้พจิ ารณาใหก้ ารสงเคราะหต์ ามมาตรา 33 และถ้าจาเปน็ ตอ้ งใหก้ ารฟ้ืนฟูสภาพจติ ใจกใ็ ห้ รบี ส่งเด็กไปยังสถานพฒั นาและฟ้ืนฟู การสง่ เด็กไปสถานแรกรบั สถานพฒั นาและฟ้ืนฟูหรอื สถานที่อืน่ ใดตามวรรคหนึง่ ระหว่างการสืบเสาะ และพนิ จิ เพื่อหาวธิ กี ารคุ้มครองสวสั ดภิ าพทเ่ี หมาะสม ให้กระทาได้ไม่เกินเจ็ดวนั แต่ในกรณที มี่ ีเหตุจาเปน็ และ สมควรเพือ่ ประโยชนข์ องเดก็ พนกั งานเจ้าหนา้ ทห่ี รือพนักงานอัยการจะย่ืนคาร้องขอต่อศาลตามมาตรา 5 เพื่อ มคี าสงั่ ขยายระยะเวลาออกไปรวมแลว้ ไม่เกินสามสบิ วันก็ได้ มาตรา 43 กรณีท่ีผู้ปกครองหรือญาตขิ องเด็กเปน็ ผู้กระทาทารณุ กรรมตอ่ เด็ก ถา้ มีการฟ้องคดีอาญาแก่ ผกู้ ระทาผดิ และมีเหตุอนั ควรเชือ่ ว่าผู้ถกู ฟ้องนน้ั จะกระทาทารณุ กรรมแกเ่ ด็กอีก ก็ให้ศาลท่พี ิจารณาคดีนน้ั มี อานาจกาหนดมาตรการคุมความประพฤติผนู้ นั้ หา้ มเขา้ เขตกาหนด หรอื ห้ามเข้าใกล้ตัวเดก็ ในระยะทศี่ าล กาหนด เพ่อื ป้องกันมใิ ห้กระทาการดังกล่าวและจะสัง่ ใหผ้ ู้นน้ั ทาทณั ฑ์บนตามวธิ ีการทกี่ าหนดไวต้ ามมาตรา 46 และมาตรา 47 แห่งประมวลกฎหมายอาญาด้วยก็ได้ หากยังไม่มีการฟ้องคดีอาญาหรือไม่ฟ้องคดีอาญาแต่มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่าจะมีการกระทาทารุณ กรรมแก่เด็กอีก ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ พนักงานฝ่ายปกครอง ผู้มีหน้าท่ีคุ้มครองสวัสดิภาพเด็กตามมาตรา 24 หรือพนักงานอัยการยื่นคาขอต่อศาลตามมาตรา 5 เพ่ือออกคาส่ังมิให้กระทาการดังกล่าว โดยกาหนด มาตรการคุมความประพฤติและเรียกประกันด้วยก็ได้ในกรณีตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง หากศาลเห็นว่ามี เหตุจาเป็นเร่งด่วนเพื่อคุ้มครองเด็กมิใหถ้ ูกกระทาทารณุ กรรมอีก ให้ศาลมีอานาจออกคาส่ังให้ตารวจจับกุมผูท้ ่ี เช่ือวา่ จะกระทาทารุณกรรมแกเ่ ด็กมากักขังไว้มกี าหนดครั้งละไมเ่ กนิ สามสบิ วนั การพจิ ารณาออกคาสง่ั หรือการ เรยี กประกันตามมาตราน้ี ใหค้ านงึ ถงึ ประโยชน์สูงสุดของเดก็ เปน็ สาคญั มาตรา 45 หา้ มมิใหเ้ ด็กซื้อหรอื เสพสรุ าหรือบุหร่ี หรือเขา้ ไปในสถานท่เี ฉพาะเพ่ือการจาหน่ายหรือเสพสุรา หรือบุหรี่ หากฝ่าฝืนให้พนักงานเจ้าหน้าที่สอบถามเด็กเพื่อทราบข้อมูลเก่ียวกับเด็กและมีหนังสือเรียก ผูป้ กครองมาร่วมประชุมเพื่อปรึกษา,หารือและมีข้อตกลงรว่ มกนั เก่ยี วกบั วิธีการและระยะเวลาในการจัดให้เด็ก ทางานบริการสังคมหรือทางานสาธารณประโยชน์และอาจวางข้อกาหนดให้ผู้ปกครองต้องปฏบิ ัติข้อใดข้อหน่ึง หรือหลายขอ้ ตามมาตรา 44 วรรคสองหรือวางข้อกาหนดอื่นใด เพอ่ื แกไ้ ข หรอื ปอ้ งกันมิใหเ้ ด็กกระทาความผิด ขึน้ อกี กไ็ ด้ หากปรากฏวา่ ผู้ปกครองของเด็กฝ่าฝนื บทบญั ญตั ิในวรรคหนง่ึ ใหน้ าบทบญั ญตั ิมาตรา 39 มาใชบ้ ังคับ โดยอนุโลม การว่ากลา่ วตกั เตอื น ทาทัณฑบ์ น และจดั ใหเ้ ดก็ ทางานบรกิ ารสงั คมหรือทางานสาธารณประโยชน์ ตามวรรคหนึง่ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วธิ กี าร และเง่อื นไขทก่ี าหนดในกฎกระทรวง เตรยี มสอบครูผชู้ ว่ ย By ทีมฮักแพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
ค่มู ือเตรียมสอบบรรจเุ ขา้ รบั ราชการ ตาแหน่งครผู ชู้ ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 326 มาตรา 46 ในกรณีท่ีปลัดกระทรวงหรือผู้ว่าราชการจังหวัดส่ังให้ส่งเด็กเข้ารับการคุ้มครองสวัสดิภาพหรือใน กรณพี นักงานเจ้าหน้าที่ออกข้อกาหนดให้เด็กทางานบริการสังคมหรือทางานสาธารณประโยชน์ตามมาตรา 45 หากผู้ปกครองไม่เห็นด้วยให้มีสิทธินาคดีไปสู่ศาลตามมาตรา 5 ภายในหนึ่งร้อยย่ีสิบวันนับแต่วันรับทราบ คาสั่ง มาตรา 47 วิธีการดาเนินการคุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก นอกจากท่ีบัญญัติไว้ในหมวดนี้ให้เป็นไปตามระเบียบท่ี คณะกรรมการกาหนด หมวดที่ 5 ผคู้ ้มุ ครองสวสั ดภิ าพเดก็ มาตรา 48 ในการดาเนินการสงเคราะห์ คุ้มครองสวัสดิภาพ และส่งเสริมความประพฤติแก่เด็กตาม พระราชบัญญัติน้ีหรือกฎหมายอ่ืน ถ้าพนักงานเจ้าหน้าท่ีเห็นว่ามีเหตุสมควรแต่งต้ังผู้คุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก เพ่ือกากับดูแลเด็กคนใด ก็ให้ยื่นคาขอต่อปลัดกระทรวงหรือผู้ว่าราชการจังหวัด แล้วแต่กรณี ให้แต่งตั้ง พนกั งานเจ้าหน้าที่ นกั สงั คมสงเคราะห์หรือบุคคลท่สี มัครใจและมีความเหมาะสมเป็นผู้คุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก โดยจะกาหนดสถานที่อยู่อาศัยของเด็กท่ีอยู่ในการกากับดูแลของผู้คุ้มครอง สวัสดิภาพเด็กด้วยก็ได้การ แตง่ ต้ังผูค้ ุ้มครองสวสั ดภิ าพเดก็ ให้มีระยะเวลาคราวละไมเ่ กินสองปี มาตรา 49 ผู้คมุ้ ครองสวสั ดิภาพเด็กมีอานาจและหนา้ ท่ี ดงั ตอ่ ไปน้ี (1) เย่ียมเยียน ให้คาปรึกษา แนะนา และตักเตือนเก่ียวกับเรื่องความประพฤติการศึกษา และการ ประกอบอาชพี แกเ่ ดก็ ทอี่ ยู่ในการกากับดูแล (2) เย่ยี มเยียน ใหค้ าปรกึ ษา และแนะนาแกผ่ ู้ปกครองเก่ียวกับเรื่องการอบรมสั่งสอนและเลีย้ งดูเด็กที่ อยู่ในการกากับดแู ล (3) จัดทารายงานและความเห็นเกี่ยวกับสภาพความเป็นอยู่ของเด็กและของผู้ปกครองเสนอต่อ ปลัดกระทรวง ผู้ว่าราชการจังหวัด พนักงานเจ้าหน้าท่ี ผู้ปกครองสวัสดิภาพ คณะกรรมการคณะกรรมการ คุ้มครองเด็กกรงุ เทพมหานคร หรอื คณะกรรมการคุม้ ครองเดก็ จังหวัด แลว้ แต่กรณเี พื่อดาเนนิ การตอ่ ไป มาตรา 50 ห้ามมิให้ผู้ปกครองสวัสดิภาพหรือผู้คุ้มครองสวัสดิภาพเด็ก เปิดเผยชื่อตัวชื่อสกุลภาพหรือ ข้อมูลใด ๆ เก่ียวกับตัวเด็ก ผู้ปกครอง ในลักษณะที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ช่ือเสียง เกียรติคุณหรือสิทธิ ประโยชนอ์ ย่างใดอย่างหน่งึ ของเด็กหรือผูป้ กครอง บทบัญญัติในวรรคหนงึ่ ให้ใช้บังคบั แก่พนกั งานเจ้าหน้าที่ นกั สงั คมสงเคราะห์นักจติ วิทยาและผมู้ ีหน้าที่ คุ้มครองสวัสดิภาพเด็กตามมาตรา 24 ซึ่งได้ล่วงรู้ข้อมูลดังกล่าวเน่ืองในการปฏิบัติหน้าที่ของตนด้วย โดย อนโุ ลม หา้ มมิใหผ้ ้ใู ดโฆษณาหรือเผยแพร่ทางสื่อมวลชนหรือสอ่ื สารสนเทศประเภทใดซึง่ ข้อมลู ทเ่ี ปิดเผยโดย ฝ่าฝืนบทบญั ญตั ใิ นวรรคหนึง่ หรอื วรรคสองต้องระวางโทษจาคุกไม่เกนิ หกเดือน หรือปรับไม่เกนิ หกหมื่นบาท หรอื ทง้ั จาท้ังปรบั เตรยี มสอบครผู ู้ชว่ ย By ทีมฮักแพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ อื เตรียมสอบบรรจเุ ขา้ รบั ราชการ ตาแหนง่ ครูผ้ชู ว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 327 หมวดที่ 6 สถานรบั เลย้ี งเดก็ สถานแรกรับ สถานสงเคราะห์ สถานคมุ้ ครอง สวสั ดิภาพ และสถานพฒั นาและฟนื้ ฟู มาตรา 51 ปลัดกระทรวงมีอานาจจัดต้ังสถานรับเลี้ยงเด็ก สถานแรกรับ สถานสงเคราะห์สถานคุ้มครอง สวัสดิภาพ และสถานพัฒนาและฟื้นฟู ได้ทั่วราชอาณาจักร และผู้ว่าราชการจังหวัดมีอานาจจัดต้ังสถานรับ เลี้ยงเด็ก สถานแรกรับสถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ และสถานพัฒนาและฟื้นฟูภายในเขต จังหวัดน้ัน หน่วยงานอ่ืนของรัฐนอกจากท่ีมีอานาจหน้าท่ีตามพระราชบัญญัตินี้อาจจัดตั้งและดาเนินกิจการได้ เฉพาะสถานรับเล้ียงเด็ก โดยแจ้งให้ปลัดกระทรวงหรือผู้ว่าราชการจังหวัดแล้วแต่กรณีทราบและให้ ปลัดกระทรวงหรือผู้วา่ ราชการจงั หวัดแนะนาหรอื สนับสนนุ การจัดตง้ั และการดาเนินการดังกล่าว มาตรา 52 ภายใต้บังคับของมาตรา 51 ผู้ใดจะจัดต้ังสถานรับเล้ียงเด็ก สถานแรกรับสถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครองสวัสดิภาพ และสถานพัฒนาและฟ้ืนฟู ต้องขอรับใบอนุญาตต่อปลัดกระทรวงหรือผู้ว่าราชการ จงั หวัด แลว้ แต่กรณี การขอรับใบอนุญาต การออกใบอนุญาต การขอต่ออายุใบอนุญาต การให้ต่ออายุ ใบอนุญาตการ ขอรบั ใบแทนใบอนุญาตท่สี ญู หาย ถกู ทาลาย หรือชารดุ การออกใบแทนใบอนุญาตและการเพกิ ถอนใบอนุญาต ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเง่ือนไขท่ีกาหนดในกฎกระทรวงและให้เสียค่าธรรมเนียมตามอัตราที่ กาหนดในกฎกระทรวง มาตรา 58 ผู้ปกครองสวสั ดิภาพของสถานสงเคราะห์มีอานาจและหน้าทต่ี ามมาตรา 56 (1)(2) (3) และ (4) และให้มีอานาจและหน้าที่ ดงั ตอ่ ไปน้ี (1) จัดการศกึ ษา อบรม สั่งสอน และฝึกหดั อาชีพแก่เด็กท่ีอยใู่ นความปกครองดูแลของสถาน สงเคราะหใ์ ห้เหมาะสมกับเด็กแตล่ ะคน (2) จัดบรกิ ารแนะแนว ให้คาปรกึ ษา และชว่ ยเหลือแกผ่ ปู้ กครอง (3) สอดสอ่ งและตดิ ตามให้คาปรกึ ษา แนะนา และชว่ ยเหลือแก่เด็กที่ออกจากสถานสงเคราะห์ไปแลว้ เพื่อเป็นการสงเคราะห์หรือคุ้มครองสวัสดิภาพแกเ่ ด็กทเี่ คยอยูใ่ นสถานสงเคราะห์มิให้กลับไปสสู่ ภาพเดิม การสบื เสาะและพินิจตามมาตรา 56 (2) ถา้ เปน็ กรณีทีเ่ ด็กถูกส่งมาจากสถานแรกรับซง่ึ มีรายงานการ สบื เสาะและพินิจแล้ว อาจงดการสืบเสาะและพนิ จิ ก็ได้ มาตรา 59 ผูป้ กครองสวสั ดิภาพของสถานคุ้มครองสวัสดภิ าพมีอานาจและหน้าทด่ี ังต่อไปน้ี (1) ปกครองดแู ลและอุปการะเล้ียงดเู ด็กทอี่ ยใู่ นสถานคุ้มครองสวัสดิภาพ (2) จดั การศึกษา อบรม และฝึกอาชีพแกเ่ ด็กที่อยใู่ นสถานคมุ้ ครองสวัสดภิ าพ (3) แก้ไขความประพฤติ บาบัดรกั ษาและฟืน้ ฟูสมรรถภาพทง้ั ทางรา่ งกายจติ ใจแก่เด็กที่อยใู่ นสถาน ค้มุ ครองสวัสดภิ าพ เตรยี มสอบครผู ู้ช่วย By ทมี ฮกั แพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
ค่มู ือเตรียมสอบบรรจุเขา้ รับราชการ ตาแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 328 (4) สอดส่องและติดตามใหค้ าปรึกษา แนะนา และช่วยเหลอื แกเ่ ด็กที่ออกจาก สถานค้มุ ครองสวสั ดิ ภาพไปแล้ว มาตรา 60 ผู้ปกครองสวัสดิภาพของสถานพัฒนาและฟ้ืนฟูมีอานาจและหน้าท่ี ดงั ตอ่ ไปน้ี (1) รบั เดก็ ทีจ่ าต้องได้รับการบาบัดฟ้ืนฟูสมรรถภาพดา้ นร่างกายหรือจิตใจไว้ปกครองดูแล (2) ทาการสืบเสาะและพนิ จิ เก่ยี วกบั เด็กและครอบครวั เพอื่ กาหนดแนวทางการพัฒนาและฟน้ื ฟเู ด็ก แตล่ ะคน (3) จัดการศึกษา ฝึกอบรม สงั่ สอน บาบดั รักษา แนะแนว และฟน้ื ฟูสภาพรา่ งกายและจิตใจให้ เหมาะสมแกเ่ ด็กแต่ละคนท่ีอยู่ระหว่างการปกครองดูแล มาตรา 61 หา้ มมใิ หเ้ จ้าของ ผู้ปกครองสวสั ดิภาพ และผ้ปู ฏิบัตงิ านในสถานรบั เล้ยี งเด็กสถานแรกรับ สถาน สงเคราะห์ สถานค้มุ ครองสวัสดิภาพ และสถานพัฒนาและฟนื้ ฟู ทาร้ายร่างกายหรือจิตใจ กกั ขัง ทอดทิง้ หรือลงโทษเดก็ ท่ีอยู่ในความปกครองดแู ลโดยวธิ กี ารรุนแรงตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กินหกเดอื น หรือปรบั ไม่เกนิ หกหมน่ื บาท หรือทัง้ จาท้งั ปรับ หมวดที่ 7 การสง่ เสรมิ ความประพฤตินกั เรยี นและนกั ศกึ ษา มาตรา 64 นกั เรียนและนกั ศึกษาต้องแตง่ กายตามระเบียบของโรงเรียนหรือสถานศกึ ษาและต้องประพฤติ ตนตามระเบยี บของโรงเรยี นหรือสถานศกึ ษาและตามทก่ี าหนดในกฎกระทรวง มาตรา 65 นักเรียนหรือนักศึกษาผู้ใดฝ่าฝืนมาตรา 64 ให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามระเบียบท่ีรัฐมนตรี ก า หน ด แ ล ะมี อา นา จนา ตัวไปมอบแก่ ผู้ บริหาร โรงเรี ยน หรือสถานศึกษาของนั กเ รียน หรื อนั กศึก ษ า น้ั น เพ่ือดาเนินการสอบถามและอบรมส่ังสอนหรือลงโทษตามระเบียบ ในกรณีท่ีไม่สามารถนาตัวไปมอบได้ จะแจ้งดว้ ยวาจาหรอื เปน็ หนังสอื ก็ได้ เม่ือได้อบรมส่ังสอนหรือลงโทษนักเรียนหรือนักศึกษาแล้ว ให้พนักงานเจ้าหน้าท่ี หรือผู้บริหาร โรงเรียนหรือสถานศกึ ษาแจ้งใหผ้ ู้ปกครองวา่ กลา่ วตักเตือนหรือสั่งสอนเด็กอีกช้นั หนง่ึ การลงโทษนักเรียนหรอื นักศึกษาใหก้ ระทาเทา่ ทสี่ มควรเพื่อการอบรมส่ังสอนตามระเบยี บที่ รฐั มนตรกี าหนด มาตรา 66 พนักงานเจา้ หนา้ ทีต่ ามหมวดนม้ี อี านาจดาเนินการเพ่ือส่งเสริมความประพฤติ นักเรยี นและนักศกึ ษา ดังตอ่ ไปนี้ (1) สอบถามครู อาจารย์หรือหวั หนา้ สถานศกึ ษา เกี่ยวกับความประพฤติ การศึกษานสิ ัยและ สตปิ ัญญาของนกั เรยี นหรือนักศกึ ษาท่ีฝ่าฝนื มาตรา 64 (2) เรยี กให้ผู้ปกครอง ครู อาจารย์หรือหัวหน้าสถานศกึ ษาท่ีนกั เรียนหรอื นักศึกษานั้นกาลังศึกษาอยู่ มารบั ตวั นกั เรียนหรือนักศกึ ษา เพอื่ วา่ กลา่ วอบรมสง่ั สอนต่อไป เตรยี มสอบครูผู้ชว่ ย By ทมี ฮกั แพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ อื เตรียมสอบบรรจุเขา้ รบั ราชการ ตาแหนง่ ครูผชู้ ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 329 (3) ใหค้ าแนะนาแกผ่ ปู้ กครองในเรื่องการอบรมและสัง่ สอนนกั เรียนหรอื นกั ศกึ ษา (4) เรยี กผูป้ กครองมาวา่ กล่าวตกั เตอื น หรือทาทัณฑบ์ นวา่ จะปกครองดูแลมใิ ห้นกั เรยี นหรือ นักศกึ ษาฝา่ ฝืนมาตรา 64 อีก (5) สอดส่องดูแลรวมท้ังรายงานตอ่ คณะกรรมการเกย่ี วกับพฤติกรรมของบุคคลหรอื แหลง่ ท่ี ชกั จูงนักเรยี นหรอื นักศึกษาใหป้ ระพฤติในทางมชิ อบ (6) ประสานงานกับผบู้ รหิ ารโรงเรียนหรือสถานศกึ ษา ครู ผปู้ กครอง ตารวจ หรือพนักงาน เจ้าหนา้ ท่ีอนื่ เพ่อื ดาเนินการให้เป็นไปตามหมวดน้ี มาตรา 67 ในกรณีมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีการฝ่าฝืนกฎหมายหรือระเบียบเกี่ยวกับความประพฤติของ นักเรียนหรือนักศึกษา ให้พนักงานเจ้าหน้าที่มีอานาจเข้าไปในเคหสถาน สถานท่ีหรือยานพาหนะใด ๆ ใน ระหว่างเวลาพระอาทิตย์ข้ึนถึงพระอาทิตย์ตก หรือในระหว่างเวลาทาการเพื่อทาการตรวจสอบการฝ่าฝืน ดังกลา่ วได้ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามวรรคหนึ่ง พนักงานเจ้าหน้าท่ีต้องแสดงบัตรประจาตัวก่อนและให้บุคคลที่ เกยี่ วขอ้ งอานวยความสะดวกตามสมควร บัตรประจาตัวพนักงานเจ้าหน้าท่ี ให้เป็นไปตามแบบท่ีรัฐมนตรีกาหนดโดยประกาศใน ราชกิจจานุเบกษา หมวดท่ี 8 กองทุนคุ้มครองเดก็ มาตรา 68 ใหร้ ัฐบาลจัดสรรงบประมาณเพ่ือจดั ตงั้ กองทุนข้ึนกองทนุ หน่ึงในสานกั งานปลดั กระทรวงการพัฒนา สงั คมและความม่ันคงของมนุษย์ เรยี กว่า “กองทนุ คุ้มครองเด็ก” เพอื่ เป็นทุนใชจ้ า่ ยในการสงเคราะห์ คมุ้ ครอง สวัสดิภาพ และส่งเสริมความประพฤตเิ ดก็ รวมทง้ั ครอบครัวและครอบครัวอุปถัมภข์ องเดก็ ตามพระราชบัญญัติ น้ี มาตรา 69 กองทนุ ประกอบด้วย (1) เงินทนุ ประเดิมทีร่ ัฐบาลจัดสรรให้ (2) เงนิ ท่ีได้รบั จากงบประมาณรายจ่ายประจาปี (3) เงนิ หรอื ทรัพย์สินทมี่ ีผู้บริจาคหรอื มอบให้ (4) เงินอุดหนุนจากตา่ งประเทศหรอื องคก์ ารระหวา่ งประเทศ (5) ดอกผลทเี่ กดิ จากเงนิ หรือทรพั ย์สนิ ของกองทนุ มาตรา 70 เงนิ และดอกผลท่ีกองทุนได้รบั ตามมาตรา 74 ใหเ้ ปน็ ของสานักงานปลัดกระทรวงการพฒั นาสังคม และความมัน่ คงของมนษุ ย์ โดยไม่ต้องนาสง่ กระทรวงการคลังเป็นรายได้แผน่ ดนิ เตรียมสอบครูผู้ช่วย By ทมี ฮักแพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ อื เตรียมสอบบรรจเุ ขา้ รับราชการ ตาแหนง่ ครูผ้ชู ่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 330 มาตรา 71 ให้มคี ณะกรรมการบรหิ ารกองทุนคณะหนง่ึ ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงการพัฒนาสงั คมและ ความมน่ั คงของมนุษย์ เปน็ ประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงมหาดไทยปลดั กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ผ้แู ทน สานักงบประมาณ ผแู้ ทนกรมบญั ชกี ลาง และผู้ทรงคุณวุฒิ ซึง่ คณะกรรมการแตง่ ตัง้ ไมเ่ กนิ สามคน ใน จานวนนีต้ ้องเป็นผแู้ ทนจากภาคเอกชนซึง่ เกยี่ วขอ้ งกับงานด้านสวัสดิการเดก็ อย่างน้อยหน่ึงคน เปน็ กรรมการ และใหร้ องปลดั กระทรวงการพัฒนาสงั คมและความม่นั คงของมนษุ ย์ซ่งึ ปลดั กระทรวงมอบหมาย เป็นกรรมการและเลขานุการ มาตรา 77 ใหค้ ณะกรรมการบรหิ ารกองทุนจัดทางบดุลและบญั ชที าการส่งผู้สอบบญั ชีตรวจสอบภายในหนึง่ ร้อยยี่สบิ วันนับแตว่ นั สิ้นปีบัญชีทุกปี ให้สานกั งานการตรวจเงินแผ่นดินเป็นผู้สอบบัญชีของกองทนุ ทกุ รอบปแี ลว้ ทารายงานผลการสอบและ รบั รองบญั ชแี ละการเงินของกองทนุ เสนอต่อคณะกรรมการภายในหนึง่ รอ้ ยห้าสบิ วนั นบั แต่วันสิ้นปบี ญั ชีเพื่อ คณะกรรมการเสนอต่อคณะรัฐมนตรีเพือ่ ทราบ รายงานผลการสอบบญั ชีตามวรรคสองให้รัฐมนตรเี สนอต่อนายกรฐั มนตรีเพื่อนาเสนอตอ่ สภาผแู้ ทนราษฎรและวฒุ ิสภาเพือ่ ทราบและจัดใหม้ ีการประกาศในราชกจิ จานุเบกษา หมวดที่ 9 บทกาหนดโทษ มาตรา 78 ผใู้ ดฝา่ ฝืนมาตรา 26 ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกนิ สามเดือน หรือปรับไม่เกินสามหมน่ื บาท หรือ ท้งั จาท้ังปรบั มาตรา 79 ผใู้ ดฝา่ ฝืนมาตรา 27 มาตรา 50 หรือมาตรา 61 ตอ้ งระวางโทษจาคกุ ไมเ่ กนิ หกเดอื น หรอื ปรับ ไม่เกินหกหมน่ื บาท หรือท้ังจาทัง้ ปรบั มาตรา 80 ผูใ้ ดขัดขวางไม่ให้พนกั งานเจ้าหนา้ ท่ตี อ้ งระวางโทษจาคุกไม่เกนิ หน่ึงเดอื น หรือปรบั ไม่เกนิ หนงึ่ หม่ืนบาทหรอื ทั้งจาทั้งปรบั ผู้ใดไม่ยอมมาให้ถ้อยคาไมย่ อมให้ถอ้ ยคาโดยไม่มเี หตอุ นั สมควรตอ้ งระวางโทษ จาคุกไม่เกินหนง่ึ เดือน หรือปรบั ไมเ่ กินหนึ่งหมืน่ บาท หรือท้งั จาทั้งปรับ มาตรา 81 ผใู้ ดฝา่ ฝนื ข้อกาหนดของศาลในการคุมความประพฤติห้ามเขา้ เขตกาหนดหรือห้ามเข้าใกลต้ วั เดก็ ตามมาตรา 43 ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกนิ หนงึ่ เดอื น หรือปรบั ไมเ่ กนิ หนึง่ หมน่ื บาท หรอื ทั้งจาทงั้ ปรบั มาตรา 82 ผู้ใดจัดตง้ั หรือดาเนนิ กจิ การสถานรับเล้ยี งเด็ก สถานแรกรบั สถานสงเคราะหส์ ถานคุ้มครอง สวัสดภิ าพ หรือสถานพัฒนาและฟืน้ ฟตู ามมาตรา 52 โดยมไิ ดร้ บั ใบอนุญาตหรือใบอนุญาตถกู เพิกถอน หรือหมดอายตุ ้องระวางโทษจาคุกไม่เกนิ หนึง่ เดอื น หรอื ปรับไมเ่ กินหน่ึงหมื่นบาท หรือท้ังจาทัง้ ปรับ เตรียมสอบครูผชู้ ว่ ย By ทีมฮกั แพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คูม่ ือเตรยี มสอบบรรจเุ ขา้ รับราชการ ตาแหนง่ ครผู ชู้ ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 331 มาตรา 83 เจา้ ของหรือผูป้ กครองสวัสดิภาพของสถานรับเลยี้ งเด็กสถานแรกรบั สถานสงเคราะห์ สถาน คุ้มครองสวัสดิภาพ หรือสถานพฒั นาและฟน้ื ฟผู ู้ใดไมป่ ฏบิ ัติตามพระราชบัญญัตนิ ้ีหรือกฎกระทรวง หรอื ระเบียบท่ีออกตามความในพระราชบัญญตั นิ ้ีต้องระวางโทษจาคุกไมเ่ กนิ หนึ่งเดือนหรอื ปรบั ไมเ่ กนิ หนง่ึ หมนื่ บาทหรือท้ังจาทั้งปรับ มาตรา 84 ผใู้ ดกระทาการเปน็ ผ้ปู กครองสวัสดิภาพของสถานแรกรับ สถานสงเคราะห์สถานค้มุ ครองสวสั ดิ ภาพ และสถานพัฒนาและฟื้นฟูโดยมิได้รบั แต่งต้ังตามมาตรา 55 ต้องระวางโทษจาคุกไมเ่ กนิ หน่งึ เดือน หรือปรบั ไม่เกนิ หน่งึ หม่นื บาท หรอื ท้ังจาทั้งปรับ มาตรา 85 ผู้ใดกระทาการอันเป็นการยุยง ส่งเสริม ชว่ ยเหลอื หรือสนบั สนุนให้นักเรียนหรือนักศึกษาฝา่ ฝนื บทบัญญัติตามมาตรา 64 ต้องระวางโทษจาคุกไม่เกินสามเดือน หรือปรับไม่เกินสามหม่ืนบาทหรือท้ังจา ทง้ั ปรับ มาตรา 86 ผใู้ ดไม่อานวยความสะดวกแกพ่ นกั งานเจา้ หนา้ ที่ทีป่ ฏิบตั ิหน้าทต่ี ามมาตรา 67 ต้องระวางโทษ จาคุกไมเ่ กนิ หนึง่ เดือน หรอื ปรบั ไมเ่ กินหนึง่ หมนื่ บาท หรือทั้งจาท้งั ปรับ เตรยี มสอบครผู ้ชู ่วย By ทีมฮักแพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มอื เตรียมสอบบรรจุเขา้ รบั ราชการ ตาแหน่งครูผู้ช่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 332 แนวขอ้ สอบพระราชบัญญตั ิคุ้มครองเดก็ พ.ศ. 2546 1. ใครเปน็ ผู้รบั สนองพระบรมราชโองการ พระราชบญั ญัตคิ มุ้ ครองเดก็ พ.ศ. 2546 ก. นายกรฐั มนตรี ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธกิ าร ค. ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ ง. เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน 2. พระราชบัญญัติคมุ้ ครองเดก็ พ.ศ. 2546 มีกหี่ มวด ก่ีมาตรา ก. 7 หมวด 88 มาตรา ข. 8 หมวด 88 มาตรา ค. 9 หมวด 88 มาตรา ง. 10 หมวด 88 มาตรา 3. การสงเคราะหเ์ ด็ก ถกู ระบไุ วใ้ นหมวดใด ก. หมวดที่ 1 ข. หมวดที่ 2 ค. หมวดท่ี 3 ง. หมวดที่ 4 4. การส่งเสริมความประพฤตนิ ักเรยี นและนกั ศกึ ษา ถกู ระบไุ ว้ในหมวดใด ก. หมวดท่ี 5 ข. หมวดท่ี 6 ค. หมวดท่ี 7 ง. หมวดที่ 8 5. พระราชบัญญัตใิ ดที่มีผลบังคบั ใช้เมื่อพน้ กาหนด 180 วัน ก. พระราชบัญญัติการศึกษาแหง่ ชาติ ข. พระราชบญั ญตั ิสภาครูและบคุ ลากรทางการศึกษา ค. พรบ.ระเบยี บบริหารราชการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร ง. พระราชบัญญตั ิคุ้มครองเด็กพ.ศ. 2546 6. ขอ้ ใดเปน็ “เดก็ ” ก. บคุ คลซ่งึ มีอายตุ า่ กวา่ 19 ปี ยงั ไมส่ มรส ข. บคุ คลซึ่งมีอายตุ า่ กวา่ 17 ปี สมรสแล้ว ค. บุคคลซ่ึงมีอายุต่ากว่า 16 ปี ยงั ไมส่ มรส ง. บุคคลซึง่ มีอายุตา่ กว่า 15 ปี สมรสแลว้ เตรียมสอบครูผู้ช่วย By ทีมฮกั แพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มอื เตรียมสอบบรรจเุ ขา้ รับราชการ ตาแหนง่ ครผู ู้ช่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 333 7. ข้อใดเป็น เด็กทไ่ี ม่มีบดิ ามารดาหรือผู้ปกครองหรอื มแี ตไ่ ม่เลยี้ งดหู รือไม่สามารถเลย้ี งดไู ด้ ก. เดก็ เร่ร่อน ข. เดก็ กาพรา้ ค. เดก็ ที่อยู่ในสภาพยากลาบาก ง. เดก็ พิการ 8. ขอ้ ใดเปน็ เด็กท่ีอยใู่ นครอบครวั ยากจนหรือบิดามารดาหย่ารา้ ง ท้ิงร้าง ถูกคุมขงั ก. เด็กเร่รอ่ น ข. เด็กกาพร้า ค. เดก็ ท่อี ยู่ในสภาพยากลาบาก ง. เด็กพกิ าร 9. ข้อใดเป็น เดก็ ท่ีบิดาหรือมารดาเสียชวี ิต ก. เด็กเรร่ ่อน ข. เด็กกาพรา้ ค. เด็กทีอ่ ยู่ในสภาพยากลาบาก ง. เดก็ พิการ 10. ข้อใดเปน็ เด็กท่มี ีความบกพร่องทางร่างกาย ก. เด็กเรร่ ่อน ข. เดก็ กาพรา้ ค. เด็กที่อยู่ในสภาพยากลาบาก ง. เดก็ พิการ 11. ข้อใดเป็น “เดก็ พกิ าร” ก. เดก็ ท่ีตาบอด ข. เด็กที่ขาขาด ค. เด็กทห่ี ูหนวก ง. เดก็ ทม่ี คี วามบกพร่องทางร่างกาย 12. เด็กท่ปี ระพฤติตนไม่สมควรเดก็ ทีป่ ระกอบอาชพี หรือคบหาสมาคมกับบคุ คลที่นา่ จะชกั นาไปในทาง กระทาผิดกฎหมายหรือขดั ต่อศีลธรรม หมายถึงข้อใด ก. เดก็ ทีเ่ ส่ยี งต่ออนั ตราย ข. เดก็ ที่เสีย่ งต่อยาเสพติด ค. เด็กท่ีเสี่ยงต่อการกระทาผิด ง. เดก็ ท่เี สีย่ งตอ่ อาชพี เตรียมสอบครูผู้ชว่ ย By ทมี ฮักแพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ อื เตรียมสอบบรรจุเข้ารับราชการ ตาแหนง่ ครูผู้ช่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 334 13. ข้อใดเป็น “นกั เรยี น” ก. เด็กซง่ึ กาลังรบั การศึกษาข้ันพน้ื ฐานระดบั ประถมศกึ ษาและมัธยมศึกษา ข. เดก็ ซ่งึ กาลังรับการศึกษาข้ันพื้นฐานระดบั สามญั ศึกษาและอาชวี ศึกษา ค. เดก็ ซ่งึ กาลังรบั การศึกษาขั้นพนื้ ฐานระดับประถมศกึ ษาและมธั ยมศึกษา ทั้งประเภท สามญั ศกึ ษาและอาชวี ศึกษาหรือเทยี บเท่า ง. เดก็ ซงึ่ กาลงั รับการศึกษาข้ันพ้นื ฐานระดับประถมศกึ ษาและมธั ยมศึกษา ทั้งประเภท สามญั ศกึ ษาและอาชีวศึกษาหรือเทยี บเท่าอย่ใู นสถานศึกษาของรฐั หรอื เอกชน 14. ข้อใดเป็น “บิดามารดา” ก. พ่อแมข่ องเด็กไมว่ ่าจะแต่งงานกันหรอื ไม่ ข. บดิ ามารดาของเด็กไม่ว่าจะแตง่ งานกนั หรือไม่ ค. บดิ ามารดาของเด็กไม่ว่าจะหน่าร้างกนั หรือไม่ ง. บดิ ามารดาของเด็กไม่วา่ จะสมรสกันหรอื ไม่ 15. ข้อใดเป็น “ผู้ปกครอง” ก. ผอู้ นุบาล ข. พอ่ แม่ ค. ลงุ ปา้ ง. ตา ยาย 16. ข้อใดไม่เปน็ “ผู้ปกครอง” ก. ผอู้ นบุ าล ข. บิดา มารดา ค. ผูร้ ับบุตรบญุ ธรรม ง. ตา ยาย 17. “ผู้ปกครอง” หมายความวา่ ก. โดยรวมถึงพ่อเลี้ยงแม่เลยี้ ง ข. รวมโดยถึงพ่อเลี้ยงแมเ่ ล้ยี ง ค. แต่ไมร่ วมถึงพ่อเลี้ยงแมเ่ ลย้ี ง ง. หมายความรวมถึงพอ่ เลยี้ งแมเ่ ลี้ยง 18. ข้อใดเปน็ สถานรบั เลยี้ งเดก็ ก. เด็กที่มีอายุไมเ่ กิน 7 บรบิ ูรณ์และมีจานวนต้ังแต่ 6 คนข้ึนไป ข. เด็กท่มี ีอายไุ มเ่ กนิ 5 บริบรู ณ์และมีจานวนตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป ค. เด็กที่มีอายุไม่เกิน 4 บริบรู ณ์และมจี านวนตั้งแต่ 10 คนขน้ึ ไป ง. เดก็ ทีม่ ีอายุไมเ่ กิน 6 บริบรู ณ์และมีจานวนต้ังแต่ 4 คนขึ้นไป เตรียมสอบครผู ชู้ ว่ ย By ทีมฮักแพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มอื เตรียมสอบบรรจุเขา้ รับราชการ ตาแหนง่ ครูผชู้ ่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 335 19. ข้อใดเปน็ สถานท่รี ับเลี้ยงและพัฒนาเดก็ ที่มีอายุไมเ่ กินหกปีบรบิ ูรณแ์ ละมีจานวนต้ังแตห่ ก คนข้นึ ไป ก. สถานรับเลี้ยงเด็ก ข. สถานแรกรับ ค. สถานสงเคราะห์ ง. สถานพฒั นาและฟน้ื ฟู 20. ข้อใดเปน็ สถานทีร่ บั เด็กไว้อุปการะเปน็ การชั่วคราวเพื่อสบื เสาะ ก. สถานรบั เลี้ยงเด็ก ข. สถานแรกรบั ค. สถานสงเคราะห์ ง. สถานพฒั นาและฟน้ื ฟู 21. ข้อใดเป็น สถานทใี่ หก้ ารอปุ การะเลี้ยงดูและพัฒนาเด็กที่จาต้องได้รับการสงเคราะห์ ซึ่งมีจานวนตั้งแต่ หกคนขน้ึ ไป ก. สถานรบั เลีย้ งเด็ก ข. สถานแรกรับ ค. สถานสงเคราะห์ ง. สถานพัฒนาและฟ้นื ฟู 22. ข้อใดเปน็ สถานที่ใหก้ ารศกึ ษา อบรม ฝกึ อาชพี เพอื่ แก้ไขความประพฤติ บาบัด รักษา ก. สถานรบั เล้ียงเดก็ ข. สถานแรกรับ ค. สถานคมุ้ ครองสวสั ดภิ าพ ง. สถานพฒั นาและฟนื้ ฟู 23. ข้อใดเปน็ “สถานพฒั นาและฟ้นื ฟู” ก. วดั พระพุทธบาทนา้ พุ ข. ศูนย์บาบดั ยาเสพติด ค. โรงเรียน ง. โรงพยาบาลสง่ เรมิ สขุ ภาพ 24. ข้อใดไม่เปน็ “สถานพัฒนาและฟ้นื ฟู” ก. สถานที่ ข. โรงเรยี น ค. สถาบนั ง. โรงพยาบาลทหารสงเคราะห์ เตรียมสอบครผู ู้ชว่ ย By ทมี ฮกั แพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มอื เตรยี มสอบบรรจุเขา้ รับราชการ ตาแหน่งครูผูช้ ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 336 25. ข้อใดเปน็ สถานพฒั นาและฟื้นฟู ก. โรงเรยี น ข. ศูนยก์ ารศึกษานอกระบบและตามอัธยาศยั ค. ศนู ยก์ ารเรียน ง. ศนู ยส์ งเคราะห์ 26. ข้อใดเป็น“พนกั งานเจา้ หนา้ ที่” ก. รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย แตง่ ตัง้ ข. รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงศึกษาธิการ แต่งตัง้ ค. รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่นั คงของมนษุ ย์ แต่งตง้ั ง. รัฐมนตรแี ตง่ ตง้ั 27. ข้อใดคอื “ปลัดกระทรวง” ตามพรบ.น้ี ก. กระทรวงศึกษาธิการ ข. กระทรวงการทอ่ งเที่ยวและกีฬา ค. กระทรวงยุตธิ รรม ง. กระทรวงพัฒนาสงั คมและความมัน่ คงของมนุษย์ 28. ข้อใดไม่ไดร้ กั ษาการตามพระราชบัญญัติน้ี ก. รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงมหาดไทย ข. รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงศึกษาธกิ าร ค. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมนั่ คงของมนุษย์ ง. รฐั มนตรวี ่าการกระทรวงท่องเทยี่ วและกีฬา 29. ประธาน คณะกรรมการคมุ้ ครองเด็กแหง่ ชาติหมายถึง ก. รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงมหาดไทย ข. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธกิ าร ค. รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงการพัฒนาสงั คมและความมั่นคงของมนษุ ย์ ง. รัฐมนตรีวา่ การกระทรวงยุติธรรม 30. รองประธาน คณะกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติหมายถงึ ก. ปลัดกระทรวงมหาดไทย ข. ปลดั กระทรวงศึกษาธิการ ค. ปลัดกระทรวงการพฒั นาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ ง. ปลดั กระทรวงยตุ ิธรรม เตรียมสอบครูผู้ชว่ ย By ทมี ฮักแพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คูม่ ือเตรยี มสอบบรรจเุ ขา้ รับราชการ ตาแหน่งครูผชู้ ่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 337 31. ข้อใดกล่าวถูกต้อง ผู้ทรงคุณวุฒติ ามวรรคหนึ่ง ก. ต้องเป็นสตรไี ม่น้อยกวา่ 1 ใน 2 ข. ต้องเป็นสตรีไมน่ ้อยกว่า 1 ใน 3 ค. ตอ้ งเปน็ สตรีไม่น้อยกว่า 1 ใน 4 ง. ตอ้ งเปน็ สตรไี มน่ ้อยกว่า 1 ใน 5 32. คณะกรรมการ ผู้ทรงคุณวุฒิมีวาระก่ปี ี ก. 1 ปี ข. 2 ปี ค. 3 ปี ง. 4 ปี 33. ประธาน คณะกรรมการคุ้มครองเด็กกรงุ เทพมหานคร หมายถึง ก. รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงมหาดไทย ข. ผวู้ ่าราชการกรุงเทพมหานคร ค. ปลัดกรุงเทพมหานคร ง. ผู้อานวยการสานกั สวสั ดิการสังคม 34. ประธาน คณะกรรมการคุ้มครองเดก็ กรุงเทพมหานคร หมายถึง ก. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ข. ผู้วา่ ราชการกรุงเทพมหานคร ค. ปลดั กรุงเทพมหานคร ง. ผอู้ านวยการสานกั สวสั ดิการสังคม 35. ในการปฏบิ ตั ิหน้าท่ีตามพระราชบญั ญัตนิ ้ใี หก้ รรมการและอนุกรรมการเป็นเจ้าพนักงานตาม กฎหมายใด ก. กฎหมายวา่ ด้วยการจดั ตง้ั ศาลเยาวชนและครอบครัว ข. ประมวลกฎหมายอาญา ค. ประมวลกฎหมายแพง่ และพาณิชย์ ง. กฎหมายวธิ ีพิจารณาคดเี ยาวชนและครอบครวั 36“ผู้ปกครอง” ปฎบิ ตั ติ ามกฎหมายใด ก. กฎหมายวา่ ด้วยการจดั ต้งั ศาลเยาวชนและครอบครัว ข. ประมวลกฎหมายอาญา ค. ประมวลกฎหมายแพ่ง และพาณิชย์ ง. กฎหมายวิธีพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว เตรยี มสอบครผู ชู้ ่วย By ทมี ฮกั แพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คู่มอื เตรียมสอบบรรจุเขา้ รบั ราชการ ตาแหนง่ ครผู ชู้ ว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 338 37. ปลัดกระทรวง ผู้วา่ ราชการจงั หวดั ผู้อานวยการเขต นายอาเภอ ปลดั อาเภอผู้เป็นหวั หน้า ประจากิง่ อาเภอ หรือผู้บริหารองค์กรปกครองสว่ นท้องถน่ิ มีหนา้ ที่ ก. ดูแลเด็ก ข. สงเคราะหเ์ ด็ก ค. ค้มุ ครองสวัสดิภาพเด็ก ง. ช่วยเหลือเด็ก 38. ใครมี หนา้ ท่ีดูแลและตรวจสอบสถานรบั เลี้ยงเด็ก สถานแรกรับ สถานสงเคราะห์ ก. นายอาเภอ ข. ผอู้ านวยการโรงเรยี น ค. กานนั ง. ผู้ใหญ่บา้ น 39. ผู้ปกครองต้องไม่กระทาการดังตอ่ ไปน้ขี อ้ ใดกล่าวผิด ก. ทอดทง้ิ เด็กไวใ้ นสถานรบั เลี้ยงเดก็ ข. จงใจหรือละเลยไม่ให้ส่ิงท่ีจาเปน็ แกก่ ารดารงชวี ติ ค. ปฏบิ ตั ิตอ่ เด็กในลักษณะท่ีเป็นการเลย้ี งดโู ดยมชิ อบ ง. ปฏบิ ตั ติ อ่ เดก็ ด้วยการสง่ เสริมการเรยี นรู้ 40. ทารุณกรรมเดก็ มีโทษตามข้อใด ก. จาคุกไม่เกิน 1 เดือน หรอื ปรบั ไมเ่ กนิ 10,000 บาท ข. จาคุกไมเ่ กนิ 3 เดือน หรอื ปรับไม่เกนิ 30,000 บาท ค. จาคกุ ไม่เกนิ 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท ง. จาคุกไมเ่ กนิ 6 เดือน หรือปรบั ไมเ่ กนิ 90,000 บาท 41. จงใจหรือละเลยไมใ่ ห้สงิ่ จาเปน็ แก่การดารงชวี ติ เด็ก มีโทษตามขอ้ ใด ก. จาคุกไม่เกิน 1 เดือน หรอื ปรับไม่เกนิ 10,000 บาท ข. จาคุกไมเ่ กิน 3 เดือน หรอื ปรับไม่เกนิ 30,000 บาท ค. จาคุกไมเ่ กนิ 6 เดือน หรอื ปรับไม่เกิน 60,000 บาท ง. จาคกุ ไม่เกิน 6 เดือน หรอื ปรับไม่เกนิ 90,000 บาท 42. ใหเ้ ดก็ ไปเป็น ขอทาน มีโทษตามข้อใด ก. จาคกุ ไมเ่ กนิ 1 เดือน หรอื ปรับไม่เกิน 10,000 บาท ข. จาคุกไม่เกนิ 3 เดือน หรือปรับไมเ่ กิน 30,000 บาท ค. จาคุกไมเ่ กนิ 6 เดือน หรอื ปรับไมเ่ กิน 60,000 บาท ง. จาคกุ ไมเ่ กนิ 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 90,000 บาท เตรยี มสอบครูผชู้ ่วย By ทมี ฮกั แพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
ค่มู อื เตรียมสอบบรรจเุ ข้ารบั ราชการ ตาแหนง่ ครูผู้ช่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑ์ใหม่ 339 43. ใหเ้ ดก็ ไป ต่อยมวย มโี ทษตามข้อใด ก. จาคกุ ไม่เกิน 1 เดือน หรือปรบั ไมเ่ กนิ 10,000 บาท ข. จาคุกไมเ่ กิน 3 เดือน หรอื ปรับไมเ่ กิน 30,000 บาท ค. จาคุกไม่เกนิ 6 เดือน หรอื ปรับไม่เกนิ 60,000 บาท ง. จาคกุ ไมเ่ กิน 6 เดือน หรอื ปรบั ไมเ่ กิน 90,000 บาท 44. ให้เด็กไปเล่น ป็อก 8 ป็อก 9 มีโทษตามข้อใด ก. จาคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท ข. จาคุกไม่เกิน 3 เดือน หรอื ปรบั ไมเ่ กิน 30,000 บาท ค. จาคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไมเ่ กนิ 60,000 บาท ง. จาคกุ ไม่เกนิ 6 เดือน หรอื ปรบั ไม่เกนิ 90,000 บาท 45. ให้เด็กทาลามกอนาจาร มโี ทษตามข้อใด ก. จาคุกไม่เกิน 1 เดือน หรอื ปรบั ไมเ่ กิน 10,000 บาท ข. จาคุกไมเ่ กิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกนิ 30,000 บาท ค. จาคุกไมเ่ กนิ 6 เดือน หรือปรบั ไมเ่ กนิ 60,000 บาท ง. จาคกุ ไมเ่ กนิ 6 เดือน หรือปรบั ไม่เกิน 90,000 บาท 46. จาหนา่ ย แลกเปลยี่ น หรือให้สรุ าหรอื บุหรี่แกเ่ ดก็ มโี ทษตามข้อใด ก. จาคกุ ไม่เกนิ 1 เดือน หรือปรับไมเ่ กิน 10,000 บาท ข. จาคุกไมเ่ กิน 3 เดือน หรอื ปรบั ไมเ่ กิน 30,000 บาท ค. จาคุกไมเ่ กิน 6 เดือน หรอื ปรับไมเ่ กิน 60,000 บาท ง. จาคุกไม่เกนิ 6 เดือน หรือปรับไม่เกนิ 90,000 บาท 47. ห้ามมใิ ห้ผู้ใดโฆษณาหรือเผยแพรท่ างสอื่ มวลชนหรือส่อื สารสนเทศประเภทใด ซึ่งขอ้ มลู เกีย่ วกบั ตัวเด็กหรือผ้ปู กครอง มีโทษตามข้อใด ก. จาคุกไม่เกนิ 1 เดือน หรือปรบั ไม่เกนิ 10,000 บาท ข. จาคกุ ไมเ่ กิน 3 เดือน หรอื ปรบั ไมเ่ กิน 30,000 บาท ค. จาคุกไม่เกนิ 6 เดือน หรือปรบั ไมเ่ กิน 60,000 บาท ง. จาคุกไม่เกนิ 6 เดือน หรอื ปรับไม่เกนิ 90,000 บาท 48. หา้ มมใิ หผ้ ู้ปกครองสวัสดภิ าพหรอื ผ้คู ุ้มครองสวัสดิภาพเดก็ เปิดเผยชื่อตัว ช่ือสกุลภาพหรอื ข้อมูลใด ๆ เก่ยี วกบั ตัวเด็ก ผู้ปกครอง ในลกั ษณะท่นี ่าจะเกิดความเสยี หายแก่ชื่อเสยี ง เกียรติคณุ หรอื สทิ ธิประโยชนอ์ ยา่ งใดอย่างหนง่ึ ของเด็กหรือผู้ปกครอง มโี ทษตามข้อใด ก. จาคุกไมเ่ กนิ 1 เดือน หรือปรบั ไม่เกนิ 10,000 บาท ข. จาคกุ ไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกนิ 30,000 บาท ค. จาคกุ ไมเ่ กิน 6 เดือน หรอื ปรบั ไมเ่ กิน 60,000 บาท ง. จาคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกนิ 90,000 บาท เตรียมสอบครูผู้ช่วย By ทีมฮักแพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ อื เตรียมสอบบรรจเุ ข้ารบั ราชการ ตาแหน่งครูผชู้ ว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 340 49. ห้ามมใิ หเ้ จ้าของ ผูป้ กครองสวสั ดภิ าพ และผปู้ ฏิบตั ิงานในสถานรับเล้ียงเดก็ สถานแรกรบั สถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครองสวสั ดิภาพ และสถานพัฒนาและฟืน้ ฟู ทาร้ายรา่ งกายหรอื จิตใจ กักขัง ทอดทิ้ง มโี ทษตามขอ้ ใด ก. จาคกุ ไม่เกนิ 1 เดือน หรอื ปรบั ไมเ่ กนิ 10,000 บาท ข. จาคกุ ไม่เกิน 3 เดือน หรือปรบั ไมเ่ กิน 30,000 บาท ค. จาคุกไม่เกิน 6 เดือน หรอื ปรบั ไม่เกิน 60,000 บาท ง. จาคุกไมเ่ กนิ 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 90,000 บาท 50. ผูใ้ ดพบเหน็ เด็กตกอยู่ในสภาพจาต้องไดร้ ับการสงเคราะห์หรือคุ้มครองสวัสดภิ าพ ตอ้ งทา อะไรเปน็ อันดับแรก ก. จะตอ้ งใหก้ ารชว่ ยเหลอื เบ้ืองตน้ ข. แจง้ ตอ่ ผู้อานวยการโรงเรยี น ค. แจง้ ต่อพนกั งานเจ้าหน้าท่ี ง. แจ้งต่อผูป้ กครอง 51. พนกั งานเจา้ หน้าที่ เข้าไปในเคหสถาน สถานท่ใี ด ๆ หรือยานพาหนะใด ๆ ในระหว่างเวลาใด ก. วนั เปิดทาการ ข. 8.30-16.30 น. ค. พระอาทิตย์ตกถงึ พระอาทิตย์ขน้ึ ง. พระอาทติ ยข์ น้ึ ถึงพระอาทิตยต์ ก 52. เม่ือตรวจพบเดก็ แลว้ กรณใี ดจะกักตัวเดก็ ไวน้ านเทา่ ใด ก. เกนิ กวา่ 6 ชัว่ โมงไมไ่ ด้ ข. เกินกวา่ 12 ช่วั โมงไม่ได้ ค. เกนิ กว่า 48 ชัว่ โมงไม่ได้ ง. เกนิ กว่า 72 ชั่วโมงไมไ่ ด้ 53. เดก็ ท่พี ึงได้รับการสงเคราะห์มกี ่ีข้อ ก. 6 ขอ้ ข. 7 ขอ้ ค. 8 ข้อ ง. 9 ขอ้ 54. ข้อใดเป็น เดก็ ทีพ่ ึงได้รับการสงเคราะห์ ก. เด็กเรร่ ่อน ข. เดก็ ทีเ่ สีย่ งต่อการกระทาผิด ค. เดก็ ท่ีถูกทารุณกรรม ง. เด็กท่ีอยู่ในสภาพที่จาต้องได้รับการคมุ้ ครองสวัสดภิ าพ เตรียมสอบครผู ู้ชว่ ย By ทีมฮักแพง เรยี บเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คูม่ ือเตรียมสอบบรรจุเข้ารับราชการ ตาแหนง่ ครูผ้ชู ว่ ย ภาค ข ตามหลักเกณฑ์ใหม่ 341 55. ข้อใดไมเ่ ป็น เดก็ ที่พึงได้รับการสงเคราะห์ ก. เด็กเร่ร่อน ข. เดก็ พิการ ค. เด็กท่ถี ูกทารณุ กรรม ง. เดก็ ทีถ่ ูกทอดท้ิง 56. ในกรณีทบ่ี คุ คลทไ่ี ด้รบั การสงเคราะหม์ ีอายุสบิ แปดปีบรบิ รู ณ์แต่ยงั อยู่ในสภาพท่จี าเปน็ จะตอ้ ง ไดร้ ับการสงเคราะหต์ อ่ ไป ต้องขอใคร ก. นายอาเภอ ข. ผวู้ า่ ราชการจังหวดั ค. กานนั ง. นายกองค์การบริหารสว่ นตาบล 57. ในกรณที ี่บคุ คลทไ่ี ด้รับการสงเคราะห์เด็ก ต้องมอี ายุไม่เกิน ก. 18 ปี ข. 20 ปี ค. 24 ปี ง. 28 ปี 58. ข้อใดไมเ่ ป็น เด็กทีพ่ ึงได้รบั การคุ้มครองสวสั ดภิ าพ ก. เดก็ เรร่ ่อน ข. เด็กท่ีเสีย่ งต่อการกระทาผิด ค. เดก็ ทถี่ ูกทารุณกรรม ง. เด็กท่อี ยู่ในสภาพท่จี าต้องไดร้ ับการคุม้ ครองสวัสดภิ าพ 58. ข้อใดเป็น เดก็ ทีพ่ ึงไดร้ ับการคุ้มครองสวัสดภิ าพ ก. เด็กเรร่ อ่ น ข. เด็กพิการ ค. เดก็ ท่ีถูกทารณุ กรรม ง. เด็กท่ถี กู ทอดทิ้ง 59. ในกรณีท่ีปลัดกระทรวงหรอื ผู้วา่ ราชการจงั หวัดสงั่ ใหส้ ่งเดก็ เขา้ รบั การคุม้ ครองสวสั ดภิ าพ หากผ้ปู กครองไมเ่ หน็ ด้วยให้มีสิทธนิ าคดไี ปสศู่ าล ภายใน ก. ภายใน 60 วันนบั แต่วันรับทราบคาส่งั ข. ภายใน 90 วนั นับแต่วันรับทราบคาสั่ง ค. ภายใน 120 วนั นับแต่วนั รบั ทราบคาสั่ง ง. ภายใน 180 วนั นับแต่วนั รบั ทราบคาส่ัง เตรียมสอบครผู ู้ชว่ ย By ทีมฮกั แพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
ค่มู ือเตรยี มสอบบรรจุเขา้ รบั ราชการ ตาแหน่งครผู ู้ชว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 342 60. การแต่งต้ังผ้คู ุ้มครองสวัสดิภาพเดก็ ให้มรี ะยะเวลาคราวละ ก. ไมเ่ กนิ 1 ปี ข. ไมเ่ กิน 2 ปี ค. ไมเ่ กนิ 3 ปี ง. ไมเ่ กนิ 4 ปี 61. ใครมอี านาจจัดต้ังสถานรบั เลยี้ งเด็ก สถานแรกรบั สถานสงเคราะห์สถานค้มุ ครองสวัสดภิ าพ และสถานพัฒนาและฟื้นฟู ได้ทัว่ ราชอาณาจักร ก. ปลัดกระทรวง ข. รฐั มนตรี ค. ผวู้ า่ ราชการจังหวัด ง. เลขาธกิ าร กพฐ. 62. ใครมีอานาจจัดต้ังสถานรับเลย้ี งเดก็ สถานแรกรบั สถานสงเคราะหส์ ถานคมุ้ ครองสวัสดภิ าพ และสถานพัฒนาและฟ้นื ฟู ภายในเขตจังหวัด ก. ปลัดกระทรวง ข. รัฐมนตรี ค. ผ้วู ่าราชการจังหวัด ง. เลขาธิการ กพฐ. 63. นักเรยี นหรอื นักศกึ ษาผใู้ ดฝา่ ฝืนมาตรา 64 ให้พนักงานเจา้ หนา้ ท่ี มอบเด็กให้ใคร ก. ผบู้ ริหารโรงเรียน ข. ผปู้ กครอง ค. ครูประจาช้ัน ง. กานนั ผู้ใหญ่บา้ น 64. กองทนุ คมุ้ ครองเด็ก สังกัด หน่วยงานใด ก. สานักงานปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความม่ันคงของมนุษย์ ข. สานกั งานปลัดกระทรวงศึกษาธกิ าร ค. สานกั งานปลัดกระทรวงยุติธรรม ง. สานกั งานปลดั กระทรวงวฒั นธรรม 65. ประธานกรรมการ คณะกรรมการบรหิ ารกองทนุ ค้มุ ครองเดก็ หมายถึงข้อใด ก. ปลัดกระทรวงมหาดไทย ข. ปลดั กระทรวงศึกษาธิการ ค. ปลดั กระทรวงการพฒั นาสังคมและความมั่นคงของมนษุ ย์ ง. ปลัดกระทรวงยตุ ิธรรม เตรยี มสอบครูผชู้ ว่ ย By ทมี ฮักแพง เรียบเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ ือเตรียมสอบบรรจเุ ข้ารบั ราชการ ตาแหน่งครผู ชู้ ่วย ภาค ข ตามหลักเกณฑใ์ หม่ 343 66. ผู้ใดขดั ขวางไม่ให้พนกั งานเจา้ หนา้ ที่ มีโทษตามข้อใด ก. จาคุกไม่เกนิ 1 เดือน หรอื ปรับไมเ่ กิน 10,000 บาท ข. จาคกุ ไมเ่ กิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท ค. จาคกุ ไมเ่ กนิ 6 เดือน หรอื ปรับไมเ่ กิน 60,000 บาท ง. จาคกุ ไมเ่ กนิ 6 เดือน หรอื ปรับไมเ่ กนิ 90,000 บาท 67. ผู้ใดไม่ยอมมาให้ถอ้ ยคาไม่ยอมให้ถ้อยคาโดยไม่มีเหตุอันสมควร มีโทษตามข้อใด ก. จาคุกไมเ่ กิน 1 เดือน หรือปรบั ไม่เกิน 10,000 บาท ข. จาคกุ ไม่เกนิ 3 เดือน หรือปรับไมเ่ กิน 30,000 บาท ค. จาคกุ ไม่เกิน 6 เดือน หรอื ปรบั ไม่เกิน 60,000 บาท ง. จาคุกไมเ่ กนิ 6 เดือน หรอื ปรบั ไม่เกิน 90,000 บาท 68. ผู้ใดจัดต้งั หรอื ดาเนนิ กิจการสถานรับเลย้ี งเด็ก สถานแรกรบั สถานสงเคราะหโ์ ดยมิได้รบั ใบอนุญาตหรือใบอนญุ าตถูกเพิกถอนหรือหมดอายุ มีโทษตามขอ้ ใด ก. จาคกุ ไมเ่ กนิ 1 เดือน หรอื ปรับไมเ่ กิน 10,000 บาท ข. จาคกุ ไม่เกนิ 3 เดือน หรือปรบั ไมเ่ กิน 30,000 บาท ค. จาคุกไม่เกิน 6 เดือน หรอื ปรบั ไมเ่ กิน 60,000 บาท ง. จาคุกไม่เกนิ 6 เดือน หรือปรับไมเ่ กนิ 90,000 บาท 69. เจา้ ของหรือผปู้ กครองสวสั ดิภาพของสถานรับเล้ียงเด็กสถานแรกรบั สถานสงเคราะห์ สถานคุ้มครอง สวัสดิภาพ หรือสถานพัฒนาและฟน้ื ฟูผ้ใู ดไมป่ ฏิบตั ิตามพระราชบัญญตั ิน้ีมีโทษตามข้อใด ก. จาคกุ ไมเ่ กนิ 1 เดือน หรือปรบั ไมเ่ กนิ 10,000 บาท ข. จาคุกไมเ่ กิน 3 เดือน หรอื ปรับไมเ่ กิน 30,000 บาท ค. จาคกุ ไม่เกนิ 6 เดือน หรอื ปรบั ไมเ่ กิน 60,000 บาท ง. จาคกุ ไม่เกนิ 6 เดือน หรือปรบั ไม่เกิน 90,000 บาท 70. ผ้ใู ดไม่อานวยความสะดวกแกพ่ นักงานเจา้ หนา้ ท่ี มโี ทษตามข้อใด ก. จาคุกไม่เกิน 1 เดือน หรอื ปรบั ไม่เกนิ 10,000 บาท ข. จาคกุ ไม่เกนิ 3 เดือน หรือปรบั ไมเ่ กนิ 30,000 บาท ค. จาคุกไมเ่ กิน 6 เดือน หรอื ปรบั ไม่เกนิ 60,000 บาท ง. จาคกุ ไมเ่ กิน 6 เดือน หรอื ปรับไม่เกิน 90,000 บาท เตรยี มสอบครผู ูช้ ่วย By ทมี ฮกั แพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ ือเตรยี มสอบบรรจเุ ข้ารบั ราชการ ตาแหนง่ ครูผู้ชว่ ย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 344 เฉลยแนวขอ้ สอบพระราชบัญญตั คิ ุ้มครองเด็ก พ.ศ. 2546 ขอ้ ข้อ ขอ้ ขอ้ 1 ก 21 ค 41 ข 61 ก 2 ค 22 ง 42 ข 62 ค 3 ค 23 ค 43 ข 63 ก 4 ค 24 ง 44 ข 64 ก 5 ง 25 ก 45 ข 65 ค 6 ค 26 ง 46 ข 66 ก 7 ก 27 ง 47 ค 67 ก 8 ค 28 ง 48 ค 68 ก 9 ข 29 ค 49 ค 69 ก 10 ง 30 ค 50 ก 70 ก 11 ง 31 ข 51 ง 12 ค 32 ค 52 ข 13 ง 33 ข 53 ค 14 ง 34 ค 54 ก 15 ก 35 ข 55 ค 16 ง 36 ค 56 ข 17 ง 37 ค 57 ค 18 ค 38 ก 58 ก 19 ก 39 ง 59 ค 20 ข 40 ข 60 ข เตรียมสอบครผู ูช้ ว่ ย By ทมี ฮกั แพง เรยี บเรยี งโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
คมู่ ือเตรียมสอบบรรจุเขา้ รับราชการ ตาแหน่งครผู ชู้ ่วย ภาค ข ตามหลกั เกณฑใ์ หม่ 345 พระราชบญั ญตั กิ ารพัฒนาเด็กปฐมวยั พ.ศ. 2562 1. ใหไ้ ว้ ณ วันท่ี 26 เมษายน พ.ศ. 2562 เป็นปีท่ี 4 ในรชั กาลปัจจุบนั 2. ประกาศ 30 เมษายน 2562 3. ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรฐั มนตรี 4. มีผลบังคบั ใช้ ตงั้ แตว่ ันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานเุ บกษา เปน็ ต้นไป (1 พฤษภาคม 2562) 5. มี 4 หมวด 31 มาตรา 1 บทเฉพาะกาล หมวด 1 บทท่ัวไป หมวด 2 คณะกรรมการนโยบายการพฒั นาเดก็ ปฐมวยั หมวด 3 แผนพัฒนาเดก็ ปฐมวยั หมวด 4 การพฒั นาเดก็ ปฐมวัย บทเฉพาะกาล 6. ผ้รู ักษาการตามพระราชบัญญัตนิ ี้ นายกรัฐมนตรีและรฐั มนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ มาตรา 3 ในพระราชบญั ญัติน้ี คานยิ าม “เด็กปฐมวัย” หมายความว่า เดก็ ซง่ึ มีอายุตา่ กว่าหกปบี ริบูรณ์ และใหห้ มายความรวมถึง เดก็ ซึง่ ตอ้ งไดร้ บั การพฒั นาก่อนเข้ารับการศึกษาในระดับประถมศึกษา “การพฒั นาเด็กปฐมวัย” หมายความวา่ การดูแล การพัฒนา และการจัดการเรียนรู้สาหรบั เดก็ ปฐมวัย หญิงตง้ั ครรภ์ หรือผ้ดู ูแลเด็กปฐมวยั “ผดู้ แู ลเด็กปฐมวัย” หมายความวา่ บิดา มารดา ผปู้ กครอง หรอื ผซู้ ึง่ เลี้ยงดเู ดก็ ปฐมวยั “สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย” หมายความว่า ศูนย์เด็กเล็ก ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ศูนย์บริการช่วยเหลือระยะ แรกเร่มิ ของเดก็ พิการหรือเดก็ ซึ่งมีความต้องการพเิ ศษ สถานรับเลยี้ งเด็ก และสถานสงเคราะห์ตามกฎหมายว่า ด้วยการคุ้มครองเด็กซ่ึงมีเด็กปฐมวัยอยู่ในความคุ้มครองดูแล หรือสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยท่ีเรียกชื่ออย่างอื่น รวมทั้งโรงเรียน ศูนย์การเรียน หน่วยงานการศึกษา หรือหน่วยงานอื่นของรัฐหรือเอกชน และสถาบันศาสนา ทม่ี วี ตั ถปุ ระสงค์ในการจดั การศึกษาใหแ้ กเ่ ดก็ ปฐมวยั “คณะกรรมการ” หมายความวา่ คณะกรรมการนโยบายการพัฒนาเดก็ ปฐมวัย เตรยี มสอบครูผู้ชว่ ย By ทีมฮักแพง เรียบเรียงโดย อ.ใจนาพา ศรัทธานาทาง
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445