ครูอธิบายขั้นตอนวิธีการเขียนแสดงวิธีทา ต้องเขียนหน่วยไว้ด้านบนก่อนจากนั้น เขียนข้อความและตัวเลขที่เป็นตัวต้ัง และตัวบวก ตามลาดับ แล้วครูอธิบายต่อไปว่า การบวก เมื่อได้ ผลบวกแลว้ ต้องเปล่ียนจานวนในหนว่ ยยอ่ ยใหเ้ ปน็ หน่วยใหญ่ดว้ ยถา้ ทาได้ 3. ครูยกตัวอย่างโจทย์ปัญหาการบวกเก่ียวกับปริมาตรและความจุ ให้นักเรียนช่วยกัน วเิ คราะห์โจทย์และแสดงวิธที าอกี 3 – 5 ตวั อย่าง 4. ครใู ห้นักเรยี นทาใบงานท่ี 13 โจทยป์ ัญหาการบวกเก่ยี วกับปริมาตรและความจุ เม่ือ เสรจ็ แลว้ ใหน้ ักเรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากน้นั ครูและนักเรยี นร่วมกันเฉลยกิจกรรมในใบ งานท่ี 13 ขน้ั สรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งท่ีได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับ ปริมาตรและความจุได้นั้น ต้องศึกษาก่อนว่าโจทย์ต้องการให้หาอะไร โจทย์กาหนดส่ิงใดมาให้ พร้อม ท้ังตรวจสอบหนว่ ยปริมาตรท่ีให้ว่าเปน็ หน่วยเดียวกนั หรอื ไม่ สอ่ื การเรยี นรู้ 1. โจทยป์ ัญหา 2. ใบงานท่ี 13 โจทยป์ ัญหาการบวกเกีย่ วกบั ปริมาตรและความจุ การวัดผลและประเมนิ ผล สิง่ ทีต่ ้องการวดั วิธวี ัด เครือ่ งมือวัด เกณฑ์การประเมนิ 1. ดา้ นความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานท่ี 13 70% ขนึ้ ไป ถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์ 13 การประเมิน 2. ดา้ นทักษะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นักเรียนได้คะแนนระดบั กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดีข้ึนไป ทักษะกระบวนการ 3. ด้านคุณลักษณะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรยี นได้คะแนนระดับ ทพ่ี ึงประสงค์ คณุ ลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดีขน้ึ ไป คณุ ลักษณะ ท่พี งึ ประสงค์
ความคิดเหน็ ผูบ้ รหิ าร ลงชอื่ .....................................ผู้ตรวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผู้อานวยการโรงเรยี น ........./.........../.......... บันทึกหลังการเรียนการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรูต้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนได้คะแนนเฉลี่ยรอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นกั เรียนอยู่ในระดับดีมาก คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอยใู่ นระดับพอใช้ คน คดิ เป็นร้อยละ นักเรียนอยใู่ นระดับปรับปรุง คน คดิ เปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยูใ่ นระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยูใ่ นระดับพอใช้ คน คดิ เป็นร้อยละ นกั เรยี นอยใู่ นระดับปรับปรุง คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ญั หา ลงชื่อ.....................................ผู้สอน (นางสาวฐติ ริ ัตน์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 14 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 3 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 11 การวัดปริมาตร เวลาเรียน 16 ช่วั โมง เรือ่ ง โจทยป์ ัญหาการลบเกี่ยวกับปริมาตรและความจุ เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ครูผู้สอน นางสาวฐติ ิรัตน์ โป่อนิ ทนะ ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพื้นฐานเก่ียวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งท่ีต้องการ วัดและนาไปใช้ ตวั ชวี้ ดั ค 2.1 ป.3/13 : แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับปริมาตรและความจุที่มีหน่วย เป็นลติ รและมิลลลิ ติ ร สาระสาคญั การแก้โจทย์ปัญหาทาได้โดย อ่านทาความเข้าใจปัญหา วางแผนแก้ปัญหา หาคาตอบ และ ตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคาตอบ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายวิธีการหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับปริมาตรและความจุที่มีหน่วยเป็นลิตร และมลิ ลิลิตรได้ (K) 2. เขียนแสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับปริมาตรและความจุที่มีหน่วยเป็นลิตร และมิลลิลิตรได้ (P) 3. นาความรเู้ ก่ียวกบั โจทยป์ ัญหาเกย่ี วกับปริมาตรไปใช้ในชีวิตจรงิ ได้ (A) สาระการเรียนรู้ โจทย์ปญั หาการลบเกย่ี วกบั ปรมิ าตรและความจุ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการแก้ปญั หา 2. ความสามารถในการสื่อสารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเชือ่ มโยง 4. ความสามารถในการใหเ้ หตุผล
คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มุง่ มนั่ ในการทางาน กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นาเข้าสู่บทเรียน 1. ทบทวนความรู้เรอ่ื ง โจทย์ปัญหาการบวกเกี่ยวกับปริมาตรและความจุ จากน้ันครูให้ นักเรียนแต่ละกลุ่มแข่งขันกันตอบปัญหาโดยครูเล่าสถานการณ์โจทย์ปัญหาให้นักเรียนฟัง แล้วให้ นักเรียนแต่ละกลุ่มหาคาตอบ กลุ่มใดยกมือก่อนแล้วออกมานาเสนอข้ันตอนการแก้โจทย์ปัญหาได้ ถูกต้อง กลุ่มนน้ั จะเปน็ ผชู้ นะ ข้ันสอน 1. ครูตดิ โจทย์ปัญหาการลบเกี่ยวกับปริมาตรและความจุบนกระดาน โดยใหน้ กั เรยี นตอบ คาถามตอ่ ไปน้ี ถังใบแรกมนี ้ามนั อยู่ 400 ลิตร ถังใบทส่ี องมีน้ามนั 200 ลติ ร 390 มลิ ลลิ ติ ร ถังน้ามันใบทส่ี องมีนา้ มันน้อยกวา่ ถงั ใบแรกเทา่ ไร - โจทย์ถามอะไร (ถงั น้ามนั ใบท่ีสองมนี า้ มันน้อยกวา่ ถงั ใบแรกเทา่ ไร) - โจทย์กาหนดอะไร (ถังใบแรกมีน้ามันอยู่ 400 ลิตร ถังใบท่ีสองมีน้ามัน 200 ลิตร 390 มลิ ลิลิตร - หาคาตอบได้อย่างไรเพราะเหตุใด (400 ลิตร ลบด้วย 200 ลิตร 390 มิลลิลิตร เพราะถังนา้ มนั ใบทส่ี องมนี ้ามันนอ้ ยกว่าถงั ใบแรก) - ไดค้ าตอบเทา่ ไร (199 ลิตร 610 มิลลลิ ติ ร) - สรุปคาตอบว่าอย่างไร (ถังใบที่สองมีน้ามันน้อยกว่าถังแรก 199 ลิตร 610 มิลลิลิตร) 2. ครเู ขยี นแสดงวิธีทาโจทย์ปัญหาจากกิจกรรมข้อ 1. พร้อมทั้งอธิบายให้นักเรียนฟงั ดังนี้ วธิ ีทา ลิตร มิลลิลิตร 399 1000 ถังใบแรกมนี า้ มนั อยู่ 400 390 - 610 ถงั ใบทสี่ องมีน้ามัน 200 ถังใบทส่ี องมนี ้ามนั นอ้ ยกวา่ ถงั ใบแรก 199 ตอบ ถังใบทสี่ องมนี ้ามนั นอ้ ยกว่าถงั ใบแรก ๑๙๙ ลิตร ๖๑๐ มิลลิลติ ร
ครูอธิบายข้ันตอนวิธีการเขียนแสดงวิธีทา ต้องเขียนหน่วยไว้ด้านบนก่อนจากนั้น เขียนขอ้ ความและตัวเลขที่เป็นตัวตงั้ และตัวลบ ตามลาดบั แลว้ ครูอธบิ ายต่อไปวา่ การลบ ถา้ จานวน ในหนว่ ยย่อยลบกนั ไม่ได้ ต้องมีการกระจายจากจานวนในหน่วยใหญ่ 3. ครูยกตัวอย่างโจทย์ปัญหาการลบเก่ียวกับปริมาตรและความจุ ให้นักเรียนช่วยกัน วเิ คราะหโ์ จทยแ์ ละแสดงวิธที าอกี 3 – 5 ตัวอย่าง 4. ครูให้นักเรียนทาใบงานที่ 14 โจทย์ปัญหาการลบเกี่ยวกับปริมาตรและความจุ เมื่อ เสร็จแลว้ ให้นักเรียนชว่ ยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากนัน้ ครูและนักเรยี นร่วมกันเฉลยกิจกรรมในใบ งานที่ 14 ขัน้ สรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งท่ีได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ การแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับ ปริมาตรและความจุได้นั้น ต้องศึกษาก่อนว่าโจทย์ต้องการให้หาอะไร โจทย์กาหนดสิ่งใดมาให้ พร้อม ทัง้ ตรวจสอบหน่วยปรมิ าตรท่ีใหว้ า่ เปน็ หน่วยเดียวกันหรือไม่ สอ่ื การเรยี นรู้ 1. โจทย์ปัญหา 2. ใบงานที่ 14 โจทยป์ ัญหาการลบเก่ียวกบั ปรมิ าตรและความจุ การวดั ผลและประเมนิ ผล สง่ิ ทต่ี ้องการวดั วิธีวดั เครือ่ งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมิน 1. ด้านความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 14 70% ข้นึ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์ 14 การประเมนิ 2. ดา้ นทกั ษะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกต นกั เรียนได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีขนึ้ ไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคุณลกั ษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรยี นได้คะแนนระดบั ที่พึงประสงค์ คุณลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีข้นึ ไป คณุ ลกั ษณะ ทีพ่ งึ ประสงค์
ความคิดเหน็ ผูบ้ รหิ าร ลงชอื่ .....................................ผู้ตรวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผู้อานวยการโรงเรยี น ........./.........../.......... บันทึกหลังการเรียนการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรูต้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนได้คะแนนเฉลี่ยรอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นกั เรียนอยู่ในระดับดีมาก คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอยใู่ นระดับพอใช้ คน คดิ เป็นร้อยละ นักเรียนอยใู่ นระดับปรับปรุง คน คดิ เปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยูใ่ นระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยูใ่ นระดับพอใช้ คน คดิ เป็นร้อยละ นกั เรยี นอยใู่ นระดับปรับปรุง คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ญั หา ลงชื่อ.....................................ผู้สอน (นางสาวฐติ ริ ัตน์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 15 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 3 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 11 การวัดปริมาตร เวลาเรยี น 16 ชว่ั โมง เรือ่ ง โจทย์ปัญหาการคูณเกย่ี วกบั ปรมิ าตรและความจุ เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง ครผู สู้ อน นางสาวฐิตริ ัตน์ โป่อินทนะ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ต้องการ วัดและนาไปใช้ ตวั ชว้ี ดั ค 2.1 ป.3/13 : แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับปริมาตรและความจุที่มีหน่วย เปน็ ลติ รและมลิ ลลิ ิตร สาระสาคญั การแก้โจทย์ปัญหาทาได้โดย อ่านทาความเข้าใจปัญหา วางแผนแก้ปัญหา หาคาตอบ และ ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายวิธีการหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับปริมาตรและความจุที่มีหน่วยเป็นลิตร และมลิ ลลิ ิตรได้ (K) 2. เขียนแสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับปริมาตรและความจุที่มีหน่วยเป็นลิตร และมิลลลิ ติ รได้ (P) 3. นาความรเู้ ก่ียวกบั โจทยป์ ัญหาเกย่ี วกบั ปรมิ าตรและความจุไปใช้ในชีวิตจริงได้ (A) สาระการเรียนรู้ โจทย์ปญั หาการคูณเกีย่ วกบั ปริมาตรและความจุ ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 2. ความสามารถในการสื่อสารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเชอ่ื มโยง 4. ความสามารถในการใหเ้ หตุผล
คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. ม่งุ ม่นั ในการทางาน กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นนาเข้าสบู่ ทเรยี น 1. ทบทวนความรู้เรื่อง โจทย์ปัญหาการลบเก่ียวกับปริมาตรและความจุ จากน้ันครูให้ นักเรียนแต่ละกลุ่มแข่งขันกันตอบปัญหาโดยครูเล่าสถานการณ์โจทย์ปัญหาให้นักเรียนฟัง แล้วให้ นักเรียนแต่ละกลุ่มหาคาตอบ กลุ่มใดยกมือก่อนแล้วออกมานาเสนอข้ันตอนการแก้โจทย์ปัญหาได้ ถูกต้อง กลุ่มนน้ั จะเปน็ ผู้ชนะ ขน้ั สอน 1. ครูติดโจทยป์ ัญหาการคูณเกย่ี วกบั ปริมาตรและความจุบนกระดาน โดยให้นกั เรยี นตอบ คาถามตอ่ ไปนี้ ซอสมะเขือเทศขวดหนง่ึ มีปริมาตร 1 ลติ ร 350 มิลลลิ ติ ร ตอ้ งการใช้ 5 ขวด ตอ้ งการใชซ้ อสมะเขือเทศเท่าใด - โจทยถ์ ามอะไร (ต้องการใช้ซอสมะเขือเทศเท่าใด) - โจทย์กาหนดอะไร (ซอสมะเขือเทศขวดหน่ึงมีปริมาตร 1 ลิตร 350 มิลลิลิตร ต้องการใช้ 5 ขวด) - หาคาตอบไดอ้ ยา่ งไร (1 ลิตร 350 มิลลลิ ติ ร คณู ด้วย 5) - ได้คาตอบเท่าไร (๖ ลติ ร ๗๕๐ มลิ ลลิ ติ ร) - สรุปคาตอบวา่ อย่างไร (ต้องการใชซ้ อสมะเขือเทศ ๖ ลิตร ๗๕๐ มลิ ลิลติ ร) 2. ครูเขยี นแสดงวิธที าโจทย์ปัญหาจากกจิ กรรมข้อ 1. พรอ้ มท้ังอธบิ ายใหน้ ักเรียนฟัง ดงั น้ี วิธที า ลติ ร มลิ ลลิ ิตร ซอสมะเขอื เทศขวดหน่ึงมีปริมาตร ต้องการใช้ 1 350 × 5 ตอ้ งการใชซ้ อสมะเขือเทศ ตอบ ตอ้ งการใชซ้ อสมะเขือเทศ ๖ ลติ ร ๗๕๐ มิลลลิ ติ ร 5 1750 6 750 ครูอธิบายข้ันตอนวิธีการเขียนแสดงวิธีทา ต้องเขียนหน่วยไว้ด้านบนก่อนจากนั้น เขียนขอ้ ความและตัวเลขท่ีเป็นตัวตง้ั และตวั ลบ ตามลาดับ แลว้ ครูอธิบายต่อไปว่า การคณู เมอ่ื ได้ผล คูณแลว้ ต้องเปล่ียนจานวนในหน่วยย่อยใหเ้ ปน็ หน่วยใหญ่ด้วยถ้าทาได้
3. ครูยกตัวอย่างโจทย์ปัญหาการคูณเก่ียวกับปริมาตรและความจุ ให้นักเรียนช่วยกัน วเิ คราะหโ์ จทยแ์ ละแสดงวิธีทาอีก 3 – 5 ตัวอย่าง 4. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 15 โจทย์ปัญหาการคูณเกี่ยวกับปริมาตรและความจุ เมื่อ เสรจ็ แล้วให้นกั เรียนชว่ ยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากน้นั ครแู ละนักเรียนรว่ มกันเฉลยกิจกรรมในใบ งานท่ี 15 ขน้ั สรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปส่ิงท่ีได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ การแก้โจทย์ปัญหาเก่ียวกับ ปริมาตรและความจุได้นั้น ต้องศึกษาก่อนว่าโจทย์ต้องการให้หาอะไร โจทย์กาหนดส่ิงใดมาให้ พร้อม ท้งั ตรวจสอบหน่วยปริมาตรทีใ่ หว้ า่ เปน็ หนว่ ยเดียวกนั หรอื ไม่ สอ่ื การเรียนรู้ 1. โจทยป์ ญั หา 2. ใบงานที่ 15 โจทยป์ ัญหาการคูณเกีย่ วกบั ปริมาตรและความจุ การวัดผลและประเมนิ ผล สง่ิ ท่ตี ้องการวดั วธิ ีวัด เครือ่ งมอื วดั เกณฑ์การประเมนิ 1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 15 70% ขนึ้ ไป ถือว่าผ่านเกณฑ์ 15 การประเมนิ 2. ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรียนได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขึ้นไป ทักษะกระบวนการ 3. ด้านคุณลกั ษณะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกต นกั เรยี นได้คะแนนระดับ ท่ีพงึ ประสงค์ คณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีขึน้ ไป คณุ ลักษณะ ทพ่ี ึงประสงค์
ความคดิ เหน็ ผบู้ ริหาร ลงช่ือ.....................................ผตู้ รวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผอู้ านวยการโรงเรยี น ........./.........../.......... บนั ทึกหลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรยี นรตู้ ามจุดประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรียนได้คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นกั เรียนอยใู่ นระดับดีมาก คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ นกั เรียนอยใู่ นระดับดี คน คดิ เปน็ ร้อยละ นกั เรียนอยใู่ นระดบั พอใช้ คน คิดเป็นร้อยละ นักเรียนอยู่ในระดบั ปรับปรงุ คน คดิ เป็นร้อยละ 1.3 ผลการประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรยี นอยู่ในระดับดีมาก คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรียนอยใู่ นระดับพอใช้ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ นักเรียนอยใู่ นระดบั ปรบั ปรุง คน คดิ เป็นร้อยละ 2. ปัญหาและอุปสรรค 3. ข้อเสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ญั หา ลงชอื่ .....................................ผู้สอน (นางสาวฐติ ริ ตั น์ โปอ่ นิ ทนะ) ........./.........../..........
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 16 รายวิชาคณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 11 การวัดปรมิ าตร เวลาเรียน 16 ชั่วโมง เร่อื ง โจทยป์ ัญหาการหารเกี่ยวกบั ปริมาตรและความจุ เวลาเรยี น 1 ชัว่ โมง ครผู สู้ อน นางสาวฐติ ริ ัตน์ โป่อนิ ทนะ ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพ้ืนฐานเก่ียวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งท่ีต้องการ วดั และนาไปใช้ ตวั ชีว้ ัด ค 2.1 ป.3/13 : แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับปริมาตรและความจุท่ีมีหน่วย เป็นลติ รและมลิ ลิลติ ร สาระสาคญั การแก้โจทย์ปัญหาทาได้โดย อ่านทาความเข้าใจปัญหา วางแผนแก้ปัญหา หาคาตอบ และ ตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคาตอบ จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายวิธีการหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับปริมาตรและความจุที่มีหน่วยเป็นลิตร และมิลลิลิตรได้ (K) 2. เขียนแสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับปริมาตรและความจุท่ีมีหน่วยเป็นลิตร และมิลลิลติ รได้ (P) 3. นาความรเู้ กี่ยวกบั โจทย์ปญั หาเก่ยี วกบั ปรมิ าตรและความจุไปใช้ในชีวิตจริงได้ (A) สาระการเรียนรู้ โจทย์ปญั หาการหารเกี่ยวกับปริมาตรและความจุ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการแก้ปัญหา 2. ความสามารถในการสื่อสารและการสือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเชอ่ื มโยง 4. ความสามารถในการใหเ้ หตุผล
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี นิ ยั 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. ม่งุ มนั่ ในการทางาน กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขนั้ นาเข้าสูบ่ ทเรยี น 1. ทบทวนความรู้เรื่อง โจทย์ปัญหาการคูณเกี่ยวกับปริมาตรและความจุ จากนั้นครูให้ นักเรียนแต่ละกลุ่มแข่งขันกันตอบปัญหาโดยครูเล่าสถานการณ์โจทย์ปัญหาให้นักเรียนฟัง แล้วให้ นักเรียนแต่ละกลุ่มหาคาตอบ กลุ่มใดยกมือก่อนแล้วออกมานาเสนอขั้นตอนการแก้โจทย์ปัญหาได้ ถูกตอ้ ง กลุ่มนน้ั จะเปน็ ผู้ชนะ ขนั้ สอน 1. ครูติดโจทย์ปัญหาการหารเกี่ยวกับปริมาตรและความจุบนกระดาน โดยให้นักเรียน ตอบคาถามต่อไปน้ี นา้ สม้ เหยือกหน่ึงมี 2 ลิตร 700 มลิ ลิลิตร เทแบง่ ใส่แก้วได้ 9 ใบพอดี แกว้ แต่ละใบจะมีน้าส้มเทา่ ไร - โจทยถ์ ามอะไร (แกว้ แต่ละใบจะมีนา้ ส้มเท่าไร) - โจทย์กาหนดอะไร (น้าส้มเหยือกหน่ึงมี 2 ลิตร 700 มิลลิลิตร เทแบ่งใส่แก้วได้ 9 ใบพอดี) - หาคาตอบไดอ้ ยา่ งไร (2 ลติ ร 700 มลิ ลิลติ ร หาร 9) - ได้คาตอบเท่าไร (300 มิลลลิ ตร) - สรุปคาตอบวา่ อยา่ งไร (แกว้ แตล่ ะใบจะมีนา้ ส้ม ๓๐๐ มิลลิลิตร) 2. ครเู ขยี นแสดงวิธีทาโจทยป์ ัญหาจากกจิ กรรมข้อ 1. พร้อมท้ังอธบิ ายใหน้ ักเรียนฟงั ดังน้ี วิธที า นา้ สม้ เหยือกหน่ึงมี 2 ลิตร 700 มิลลิลิตร เทแบ่งใส่แก้วได้ 9 ใบ ลิตร มิลลิลติ ร 92 700 แกว้ แตล่ ะใบจะมนี ้าส้ม 300 ตอบ แกว้ แต่ละใบจะมีน้าส้ม ๓๐๐ มลิ ลลิ ิตร ครูอธิบายข้ันตอนวิธีการเขียนแสดงวิธีทา ต้องเขียนหน่วยไว้ด้านบนก่อนจากน้ัน เขียนขอ้ ความและตัวเลขท่ีเปน็ ตวั ตั้ง และตัวลบ ตามลาดบั
3. ครูยกตัวอย่างโจทย์ปัญหาการหารเก่ียวกับปริมาตรและความจุ ให้นักเรียนช่วยกัน วิเคราะหโ์ จทยแ์ ละแสดงวธิ ีทาอกี 3 – 5 ตัวอย่าง 4. ครูให้นักเรียนทาใบงานที่ 16 โจทย์ปัญหาการหารเกี่ยวกับปริมาตรและความจุ เมื่อ เสร็จแลว้ ให้นกั เรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นครแู ละนักเรียนร่วมกันเฉลยกิจกรรมในใบ งานที่ 16 ขั้นสรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปส่ิงท่ีได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังน้ี การแก้โจทย์ปัญหาเก่ียวกับ ปริมาตรและความจุได้นั้น ต้องศึกษาก่อนว่าโจทย์ต้องการให้หาอะไร โจทย์กาหนดสิ่งใดมาให้ พร้อม ทั้งตรวจสอบหนว่ ยปริมาตรทีใ่ ห้วา่ เปน็ หน่วยเดยี วกนั หรือไม่ สอ่ื การเรียนรู้ 1. โจทย์ปัญหา 2. ใบงานที่ 16 โจทย์ปัญหาการหารเก่ยี วกบั ปริมาตรและความจุ การวัดผลและประเมนิ ผล สิ่งทีต่ ้องการวัด วธิ ีวัด เครื่องมอื วดั เกณฑก์ ารประเมิน 1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานท่ี ใบงานท่ี 16 70% ขนึ้ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์ 16 การประเมนิ 2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสงั เกต นกั เรยี นได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดีขึ้นไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ดา้ นคณุ ลักษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกต นักเรยี นได้คะแนนระดับ ที่พึงประสงค์ คณุ ลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีขนึ้ ไป คณุ ลักษณะ ทีพ่ งึ ประสงค์
ความคิดเหน็ ผูบ้ รหิ าร ลงชอื่ .....................................ผู้ตรวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผู้อานวยการโรงเรยี น ........./.........../.......... บันทึกหลังการเรียนการสอน 1. ผลการเรียนรู้ 1.1 ผลการเรยี นรูต้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนได้คะแนนเฉลี่ยรอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นกั เรียนอยู่ในระดับดีมาก คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยู่ในระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอยใู่ นระดับพอใช้ คน คดิ เป็นร้อยละ นักเรียนอยใู่ นระดับปรับปรุง คน คดิ เปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยูใ่ นระดบั ดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ นกั เรยี นอยูใ่ นระดับพอใช้ คน คดิ เป็นร้อยละ นกั เรยี นอยใู่ นระดับปรับปรงุ คน คิดเปน็ รอ้ ยละ 2. ปญั หาและอุปสรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ญั หา ลงชื่อ.....................................ผู้สอน (นางสาวฐติ ริ ัตน์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 12 เงนิ และบันทกึ รายรับรายจา่ ย เวลาเรียน 13 ชว่ั โมง เรือ่ ง การบอกจานวนเงินและเขียนแสดงจานวนเงินแบบใชจ้ ดุ เวลาเรยี น 1 ชัว่ โมง ครูผสู้ อน นางสาวฐิติรตั น์ โปอ่ ินทนะ ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ต้องการ วดั และนาไปใช้ ตวั ชวี้ ัด ค 2.1 ป.3/1 : แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทย์ปญั หาเก่ยี วกับเงิน สาระสาคญั เงินเหรียญหรือธนบัตรแต่ละชนิด เมื่อน้ามารวมกันจะมีค่าของเงินรวมกัน ซ่ึงมีจ้านวน เปน็ บาทและสตางค์ สามารถเขยี นโดยใช้จุดคั่นระหว่างจ้านวนบาทและสตางค์ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 14. บอกจานวนเงินแบบใชจ้ ดุ ได้ (K) 15. เขยี นแสดงจานวนเงินแบบใช้จดุ ไดถ้ ูกต้อง (P) 16. อ่านจานวนเงนิ แบบใชจ้ ุดจากโจทยท์ ก่ี าหนดให้ไดถ้ ูกต้อง (P) 17. นาความรู้เกี่ยวกับการบอกจานวนเงินและเขียนแสดงจานวนเงินแบบใช้จุดและการอ่าน ไปใช้ในชีวิตจริงได้ (A) สาระการเรียนรู้ การบอกจานวนเงินและเขยี นแสดงจานวนเงินแบบใช้จดุ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการส่ือสารและการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการเชื่อมโยง คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝ่เรียนรู้ 3. มงุ่ มั่นในการทางาน
กิจกรรมการเรยี นรู้ ขั้นนาเขา้ สบู่ ทเรยี น 5. ให้นักเรียนทบทวนประสบการณ์ของตนเองเก่ียวกับการซื้อสินค้าต่างๆ ใน ชีวิตประจาวัน โดยครูให้ผู้แทนนักเรียน 2-3 คน ออกมาเล่าประสบการณ์ให้เพ่ือนฟังว่าซ้ืออะไรบ้าง ใช้อะไรในการซ้ือ ส่งิ ทใี่ ช้ในการซอ้ื มีลักษณะอยา่ งไร จากนั้นครถู ามคาถามนักเรยี น ดงั นี้ - เราใช้อะไรในการซ้ือสินค้า (เงิน) - เงินที่ใช้ในปัจจุบันมีลักษณะอย่างไร (เป็นเงินเหรียญ และธนบัตร) 6. ครูให้ผู้แทนนักเรียนครั้งละ 1 คน บอกชนิดของเงินเหรียญและธนบัตรที่นักเรียน รู้จักคนละ 1 ชนิด แล้วครูนาเงินเหรียญและธนบัตรจริงมาให้นักเรียนดูประกอบ ขนั้ สอน 11. ครนู าธนบตั รและเงินเหรยี ญจาลองติดบนกระดานตามจานวน ดงั นี้ ธนบัตรใบละห้าร้อยบาท หน่ึงร้อยบาท ห้าสิบบาท และยี่สิบบาท อย่างละ 1 ใบ และเงินเหรียญห้าสิบสตางค์และย่ีสิบสตางค์อย่างละ 1 เหรียญ แล้วให้นักเรียนร่วมกันคิดว่าเป็น จานวนเงินท้ังหมดเท่าไร โดยออกมาเขียนบนกระดาน (670 บาท 75 สตางค์) และเขียนคาอ่าน (หก ร้อยเจด็ สิบบาทเจ็ดสบิ หา้ สตางค)์ 12. ครตู ดิ แถบโจทยบ์ นกระดาน 1. เหรยี ญห้าบาท 2 เหรียญ เหรียญหา้ สิบสตางค์ 3 เหรยี ญ ให้ผู้แทนนักเรียน 1 คน ออกมาหยิบเงินจาลองติดบนกระดานตามจานวนในแถบ โจทย์ แลว้ ใหน้ ักเรียนบอกจานวนเงนิ วา่ เป็นจานวนเงินเท่าไร (11 บาท 50 สตางค)์ 13. ครูติดแถบโจทย์บนกระดาน แล้วให้ผู้แทนนักเรียนครั้งละ 3 คน ออกมาแข่งขันกัน เขยี นจานวนเงินโดยใช้จดุ และเขยี นคาอ่านบนกระดาน นมยเู อชที 4 กล่อง ราคา 38 บาท 75 สตางค์ (38.75 บาท อ่านว่า สามสิบแปดบาทเจด็ สิบหา้ สตางค์)
ปลากระป๋องครึง่ โหลราคา 61 บาท 25 สตางค์ (61.25 บาท อา่ นวา่ หกสบิ เอด็ บาทยส่ี บิ หา้ สตางค์) 14. ครูวางภาพสินค้าพร้อมราคาจากสื่อโฆษณา หนังสือพิมพ์ บนโต๊ะ ให้นักเรียนเขียน จานวนเงินของสินคา้ โดยใชจ้ ดุ ลงในกระดาษ คาตอบละ 1 แผน่ 15. นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้ การเขียนจานวนเงินโดยใช้จุดและการอ่าน โดยครูถาม คาถามนกั เรียน ดังนี้ - ตัวเลขหนา้ จุดแทนจานวนเงนิ เป็นหน่วยอะไร (บาท) - ตวั เลขหลังจดุ แทนจานวนเงนิ เป็นหน่วยอะไร (สตางค์) 16. ครูให้นักเรียนทาใบงานที่ 1 การบอกจานวนเงินและเขียนแสดงจานวนเงินแบบใช้ จุด เมื่อเสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันเฉลย กิจกรรมในใบงานที่ 1 ขน้ั สรปุ 5. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งท่ีได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ เงินเหรียญและธนบัตร เป็น เงินที่ใช้ในชีวติ ประจาวัน การบอกจานวนเงนิ ทาได้โดยการนาคา่ ของเงนิ ทง้ั หมดมารวมกนั สอ่ื การเรียนรู้ 17. ธนบตั รและเงินเหรียญจาลอง 18. แถบโจทย์ 19. ใบงานที่ 1 การบอกจานวนเงนิ และเขยี นแสดงจานวนเงินแบบใชจ้ ดุ การวัดผลและประเมนิ ผล สง่ิ ท่ตี ้องการวดั วธิ วี ัด เครื่องมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ 1. ดา้ นความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานท่ี 1 70% ข้นึ ไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์ 1 การประเมนิ 2. ด้านทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรยี นได้คะแนนระดบั กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดีข้ึนไป ทักษะกระบวนการ 3. ด้านคุณลักษณะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกต นกั เรียนได้คะแนนระดบั ท่ีพึงประสงค์ คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีขึน้ ไป คณุ ลกั ษณะ ที่พึงประสงค์
ความคิดเหน็ ผบู้ ริหาร ลงชอื่ .....................................ผู้ตรวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผ้อู านวยการโรงเรยี น ........./.........../.......... บันทกึ หลังการเรียนการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรยี นรตู้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นกั เรียนได้คะแนนเฉล่ียรอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นกั เรียนอยู่ในระดับดีเยย่ี ม คน คดิ เปน็ ร้อยละ นกั เรียนอย่ใู นระดับดี คน คิดเปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดับดี คน คิดเป็นร้อยละ นกั เรียนอยู่ในระดับพอใช้ คน คิดเป็นร้อยละ นกั เรยี นอยูใ่ นระดบั ปรับปรุง คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปัญหา ลงช่อื .....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ิรตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 12 เงินและบันทกึ รายรับรายจา่ ย เวลาเรยี น 13 ช่ัวโมง เร่ือง การเปรยี บเทียบจานวนเงนิ เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ครผู ู้สอน นางสาวฐิติรัตน์ โป่อนิ ทนะ ภาคเรยี นที่ 2 ปีการศกึ ษา 2564 ................................................................................................. ............................................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพ้ืนฐานเก่ียวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งท่ีต้องการ วดั และนาไปใช้ ตัวชี้วัด ค 2.1 ป.3/1 : แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทย์ปัญหาเก่ียวกับเงนิ สาระสาคญั การเปรยี บเทียบจานวนเงนิ ใหเ้ ปรียบเทยี บจานวนบาทกอ่ น ถา้ เทา่ กนั จงึ เปรียบเทียบจานวน สตางค์ จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายข้นั ตอนการเปรยี บเทยี บจานวนเงนิ ได้ (K) 2. เขยี นการเปรียบเทยี บและเรียงลาดับจานวนเงนิ จากโจทยท์ กี่ าหนดให้ได้ (P) 3. นาความรเู้ กี่ยวกบั การเปรยี บเทียบจานวนเงินไปใชใ้ นชวี ติ จรงิ ได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การเปรยี บเทยี บจานวนเงิน ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 2. ความสามารถในการส่ือสารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเชือ่ มโยง คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งม่นั ในการทางาน
กจิ กรรมการเรียนรู้ ขน้ั นาเขา้ ส่บู ทเรียน 1. ให้นักเรยี นทบทวนความรเู้ รื่อง การบอกจานวนเงิน โดยครูติดแถบโจทยบ์ นกระดาน 2 แถบ แลว้ ให้ผู้แทนนกั เรยี นคร้ังละ 1 คน ออกมาเขียนจานวนเงนิ บนกระดาน ธนบัตรใบละยสี่ บิ บาท 3 ใบ กับเหรียญสิบบาท 2 เหรยี ญ เหรียญสบิ บาท 5 เหรยี ญ ขั้นสอน 1. จากกจิ กรรมข้อ 1 ครถู ามคาถามนกั เรยี น ดงั น้ี - 80 บาท มากกว่าหรอื นอ้ ยกวา่ 50 บาท (มากกว่า) - ดังนัน้ สรุปได้อย่างไร (ธนบัตรใบละยีส่ บิ บาท 3 ใบ กับเหรียญสบิ บาท 2 เหรียญ มากกว่าเหรียญสบิ บาท 5 เหรียญ) 2. ครูติดบัตรจานวนเงินบนกระดาน 2 จานวน (61.25 บาท และ 61.50 บาท) แล้วให้ นกั เรยี นอา่ นพรอ้ มๆ กนั และถามคาถาม ดังนี้ - จานวนเงินเป็นบาทเทา่ กนั หรือไม่ (เทา่ กนั ) - จานวนเงนิ เป็นสตางคเ์ ท่ากนั หรือไม่ (ไมเ่ ทา่ กัน) - 25 สตางค์ มากกว่าหรือนอ้ ยกว่า 50 สตางค์ (น้อยกว่า) - ดงั นั้น 61.25 บาท มากกวา่ หรอื นอ้ ยกวา่ 61.50 บาท (น้อยกวา่ ) - สรปุ คาตอบได้อยา่ งไร (61.25 บาท นอ้ ยกวา่ 61.50 บาท) 3. ครูให้นักเรียนวาดภาพสินค้าท่ีสนใจ พร้อมท้ังกาหนดราคาสินค้า แล้วร่วมกันเล่น เกมเปรยี บเทียบสนิ ค้า ดังนี้ - นกั เรยี นแบ่งกล่มุ กลุม่ ละ 4 – 5 คน - นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมาคร้ังละ 1 คน (2 กลุ่ม) แล้วเปรียบเทียบ ราคาสินคา้ นน้ั โดยบอกวา่ ใครมรี าคาสนิ คา้ มากกว่าหรอื นอ้ ยกวา่ - ดาเนนิ กิจกรรมจนครบทกุ กลมุ่ ทุกคน - นักเรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง 4. นักเรียนร่วมกันสรุปความรู้เร่ือง การเปรียบเทียบจานวนเงิน โดยครูถามคาถาม นกั เรียน ดงั นี้ - การเปรียบเทียบจานวนเงนิ ใหเ้ ปรียบเทียบจานวนในหน่วยใดก่อน (บาท) - ถา้ ไมเ่ ท่ากันเปรียบเทยี บจานวนในหน่วยใดตอ่ ไป (สตางค)์ 5. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 2 การเปรียบเทียบจานวนเงิน เม่ือเสร็จแล้วให้นักเรียน ช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากน้นั ครแู ละนักเรียนร่วมกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 2
ขั้นสรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปส่ิงท่ีได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังน้ี การเปรียบเทียบจานวนเงิน ให้เปรยี บเทยี บจานวนบาทกอ่ น ถ้าเทา่ กนั จงึ เปรียบเทยี บจานวนสตางค์ สอ่ื การเรยี นรู้ 1. แถบโจทย์ 2. บัตรจานวนเงิน 3. กระดาษเปลา่ 4. ใบงานที่ 2 การเปรียบเทยี บจานวนเงิน การวดั ผลและประเมินผล ส่ิงทตี่ ้องการวัด วธิ ีวัด เครอ่ื งมือวดั เกณฑ์การประเมิน 1. ด้านความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานท่ี ใบงานที่ 2 70% ขึ้นไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์ 2 การประเมิน 2. ด้านทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรียนได้คะแนนระดบั กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขน้ึ ไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ดา้ นคุณลกั ษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดับ ท่พี งึ ประสงค์ คุณลักษณะทพ่ี ึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขน้ึ ไป คณุ ลักษณะ ที่พึงประสงค์ ความคิดเหน็ ผบู้ รหิ าร ลงช่ือ.....................................ผูต้ รวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผู้อานวยการโรงเรียน ........./.........../..........
บนั ทกึ หลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรียนร้ตู ามจุดประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนได้คะแนนเฉลย่ี รอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดเี ยี่ยม คน คดิ เป็นร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดับดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรียนอยใู่ นระดับดีมาก คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรียนอย่ใู นระดบั ดี คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอยู่ในระดับพอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดับปรับปรงุ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ญั หา ลงช่ือ.....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ริ ตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 3 รายวิชาคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3 หน่วยการเรียนรู้ที่ 12 เงินและบนั ทึกรายรับรายจ่าย เวลาเรียน 13 ชั่วโมง เร่ือง การแลกเงนิ เวลาเรียน 1 ชัว่ โมง ครูผสู้ อน นางสาวฐติ ิรัตน์ โป่อนิ ทนะ ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพื้นฐานเก่ียวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ต้องการ วัดและนาไปใช้ ตัวชว้ี ดั ค 2.1 ป.3/1 : แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทยป์ ญั หาเกี่ยวกับเงิน สาระสาคญั การแลกเงินเป็นการแลกเปล่ียนเงินเหรียญกับเงินเหรียญ เงินเหรียญกับธนบัตร ธนบัตรกับ ธนบัตร หรอื ธนบตั รกบั เงนิ เหรียญและธนบตั ร โดยเงินท่ีนามาแลกเปล่ียนกนั ต้องมีค่าเท่ากัน จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. อธิบายวิธีการแลกเปลี่ยนเงินเหรียญกับเงินเหรียญ เงินเหรียญกับธนบัตร ธนบัตรกับ ธนบตั ร หรือธนบัตรกบั เงินเหรียญและธนบัตรได้ (K) 2. แลกเปลี่ยนเงินเหรียญกับเงินเหรียญ เงินเหรียญกับธนบัตร ธนบัตรกับธนบัตร หรือ ธนบัตรกบั เงนิ เหรยี ญ และธนบตั รได้อย่างถูกต้อง (P) 3. นาความรู้เกี่ยวกบั การแลกเงนิ ไปใชใ้ นชวี ิตจริงได้ (A) สาระการเรยี นรู้ การแลกเงนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการสื่อสารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์ 2. ความสามารถในการเชือ่ มโยง คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ มัน่ ในการทางาน
กจิ กรรมการเรยี นรู้ ขั้นนาเขา้ สูบ่ ทเรยี น 1. ครูทบทวนความรเู้ กยี่ วกบั การเปรียบเทียบจานวนเงิน โดยนาบตั รภาพแสดงจานวน เงินมาแสดงแล้วให้นกั เรยี นตอบ ซึ่งนักเรียนคนใดยกมือก่อนมีสิทธ์ิตอบก่อน เม่ือจบกิจกรรมครูกลา่ ว ชมเชยนกั เรยี นที่ตอบไดม้ ากทส่ี ดุ ข้นั สอน 1. ครูและนักเรียนร่วมกันเสนอว่า เราสามารถแลกเปลี่ยนประเภทของเงินจากเงิน เหรียญเป็นเงินธนบัตรหรือจากเงินธนบัตรเป็นเงินเหรียญได้ หรือธนบัตรเป็นธนบัตร หรือเงินเหรียญ เปน็ เงนิ เหรยี ญ โดยมมี ูลคา่ เงินเท่าเดิม 2. ครูชูเงินธนบัตรฉบับละ 20 บาท ขึ้นมา 3 ฉบับ จากนั้นถามนักเรียนว่าเงินน้ีมีค่า เท่าใด แล้วให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเลือกเงินชนิดต่างๆ ท่ีต่างจากครูแสดงมารวมกันให้ได้จานวน 60 บาท ครูและนกั เรียนรว่ มกนั เฉลยคาตอบ 3. ครูแสดงแผนภาพจานวนเงิน 60 บาท ด้วยธนบัตรฉบับละ 20 บาท 3 ใบ บน กระดาน จากนั้นแสดงแผนภาพจานวนเงิน 60 บาทด้วยเหรียญ 10 บาท 6 เหรียญ ครูให้นักเรียน รว่ มกนั ตรวจสอบวา่ แผนภาพท้ังสองมคี ่าเท่ากันหรือไม่ (เท่ากนั ) 4. ครูให้นักเรียนคิดหาคาตอบเพ่ิมว่ามีรูปแบบการแสดงเงินใดอีกบ้างท่ีมีค่าเท่ากับ 60 บาท (เหรยี ญบาทจานวน 60 เหรียญ หรือเหรียญ 5 บาทจานวน 12 เหรยี ญ เปน็ ตน้ ) 5. ครตู งั้ คาถามกระตนุ้ ความคิดนักเรยี น โดยใหน้ กั เรยี นร่วมกนั ตอบคาถาม ดงั นี้ - ธนบัตรฉบับละหนึ่งร้อยบาท 1 ฉบับ แลกธนบัตรฉบับละย่ีสิบบาทได้ก่ีฉบับ (5 ฉบบั ) - ธนบตั รใบละ 50 บาท 3 ฉบับ แลกเหรียญ 10 บาทไดก้ ่เี หรียญ (15 เหรียญ) - เหรยี ญ 2 บาท 2 เหรยี ญ แลกเหรียญ 50 สตางคไ์ ดก้ ่ีเหรยี ญ (8 เหรียญ) 6. ครูแสดงตัวอย่าง เรื่อง การแลกเงิน เพิ่มเติมอีก 2 – 3 ตัวอย่าง เพื่อให้นักเรียนเกิด ความเข้าใจมากยง่ิ ขึ้น 7. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 3 การแลกเงิน เม่ือเสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกันตรวจสอบ ความถกู ต้อง จากนน้ั ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 3 ขั้นสรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปส่ิงที่ได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ การแลกเงินเป็น การแลกเปลยี่ นเงนิ เหรยี ญกับเงินเหรียญ เงนิ เหรยี ญกบั ธนบัตร ธนบัตรกบั ธนบตั ร หรอื ธนบัตรกับเงิน เหรยี ญและธนบัตร โดยเงินทนี่ ามาแลกเปล่ียนกันต้องมีคา่ เทา่ กนั สอ่ื การเรยี นรู้ 1. ธนบัตร 2. แผนภาพ 3. เหรียญ 4. ใบงานท่ี 3 การแลกเงิน
การวัดผลและประเมินผล สิง่ ท่ตี ้องการวัด วธิ ีวดั เครือ่ งมือวัด เกณฑก์ ารประเมิน 1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 3 70% ขึ้นไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์ 3 การประเมนิ 2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขึน้ ไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดบั ทพี่ ึงประสงค์ คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีขนึ้ ไป คุณลักษณะ ทพ่ี งึ ประสงค์ ความคดิ เห็นผูบ้ ริหาร ลงชอื่ .....................................ผู้ตรวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผูอ้ านวยการโรงเรียน ........./.........../..........
บนั ทกึ หลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรียนร้ตู ามจุดประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนได้คะแนนเฉลย่ี รอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดเี ยี่ยม คน คดิ เป็นร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดับดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรียนอยใู่ นระดับดีมาก คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรียนอย่ใู นระดบั ดี คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอยู่ในระดับพอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดับปรับปรงุ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ญั หา ลงช่ือ.....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ริ ตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 4 รายวิชาคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3 หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 12 เงินและบนั ทกึ รายรับรายจา่ ย เวลาเรียน 13 ชั่วโมง เร่ือง การบวกจานวนเงิน เวลาเรยี น 1 ชัว่ โมง ครูผสู้ อน นางสาวฐิตริ ัตน์ โป่อินทนะ ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศึกษา 2564 ......................................................................................................... ....................................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพ้ืนฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงที่ต้องการ วดั และนาไปใช้ ตัวชี้วดั ค 2.1 ป.3/1 : แสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ปัญหาเกยี่ วกบั เงิน สาระสาคญั การบวกจานวนเงนิ ใหน้ าจานวนเงินท่เี ปน็ บาทรวมกบั จานวนเงินทเ่ี ป็นบาท และจานวนเงินท่ี เป็นสตางค์รวมกับจานวนเงินท่เี ป็นสตางค์ โดยใหบ้ วกจานวนท่ีเป็นสตางคก์ ่อน ถ้าผลบวกของจานวน เงนิ ทเ่ี ป็นสตางค์ครบ 100 สตางค์ หรือมากกวา่ ซ่งึ 100 สตางค์ เทา่ กับ 1 บาท ใหน้ า 1 บาท ไปรวม กับจานวนเงินท่ีเปน็ บาท จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. สามารถบอกวธิ หี าผลบวกเกี่ยวกบั จานวนเงินทก่ี าหนดให้ได้ (K) 2. หาคาตอบของการบวกเกีย่ วกบั จานวนเงนิ ไดถ้ ูกต้อง (P) 3. นาความรู้เก่ียวกบั การบวกเกยี่ วกับจานวนเงนิ ไปใชใ้ นชวี ิตจรงิ ได้ (A) สาระการเรียนรู้ การบวกจานวนเงนิ ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 2. ความสามารถในการสื่อสารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเช่ือมโยง คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. มีวินยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน
กจิ กรรมการเรียนรู้ ขั้นนาเข้าสบู่ ทเรียน 1. ครูทบทวนความสัมพันธ์ของบาทและสตางค์ โดยแบ่งนกั เรยี นออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 3 – 4 คน ให้แต่ละกลุ่มมีนักเรียนความสามารถคละกัน แต่ละกลุ่มตั้งคาถาม และให้กลุ่มอ่ืนตอบ กลุม่ ที่ตอบได้ตัง้ คาถามถามกลุ่มอ่นื ต่อไป เช่น - 1 บาท เทา่ กับกส่ี ตางค์ - 5 บาท เท่ากับกี่สตางค์ - 750 สตางค์ เท่ากับกี่บาท กี่สตางค์ ขน้ั สอน 1. ครูให้หาคาตอบจากโจทย์การบวกจานวนเงิน โดยเริ่มจากการบวกไม่มีทด และการ บวกมีทด โดยใช้การถาม-ตอบ ประกอบการเขยี นแสดงวธิ กี ารหาคาตอบ เชน่ 3.50 บาท รวมกบั 6.25 บาท เปน็ เงินเทา่ ใด วิธีทา บาท สตางค์ 3 50 + 6 25 9 75 ตอบ ๙ บาท ๗๕ สตางค์ หรอื ๙.๗๕ บาท 4 บาท รวมกับ 2.25 บาท เป็นเงนิ เท่าใด วิธที า บาท สตางค์ 4 00 + 2 25 6 25 ตอบ ๖ บาท ๒๕ สตางค์ หรือ ๖.๒๕ บาท 2. ครูถามนกั เรียนดงั น้ี - 100 สตางค์ เทา่ กับกี่บาท (1 บาท) จากนัน้ ครยู กตัวอย่างเพิม่ เตมิ ดังนี้
5.25 บาท รวมกับ 2.75 บาท เป็นเงินเทา่ ใด วิธีทา บาท สตางค์ + 5 25 2 75 7 100 8 00 ตอบ ๘ บาท หรือ ๘.๐๐ บาท 8.50 บาท รวมกบั 12.75 บาท เปน็ เงนิ เท่าใด วิธที า บาท สตางค์ 8 50 + 12 75 20 125 21 25 ตอบ ๒๑ บาท ๒๕ สตางค์ หรอื ๒๑.๒๕ บาท 3. ครูให้นักเรียนทาใบงานที่ 4 การบวกจานวนเงิน เม่ือเสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกัน ตรวจสอบความถกู ต้อง จากนนั้ ครแู ละนกั เรียนร่วมกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานท่ี 4 ข้นั สรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งท่ีได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังน้ี การบวกจานวนเงินให้นา จานวนเงินที่เป็นบาทรวมกับจานวนเงินที่เป็นบาท และจานวนเงินท่ีเป็นสตางค์รวมกับจานวนเงินที่ เป็นสตางค์โดยให้บวกจานวนที่เป็นสตางค์ก่อน ถ้าผลบวกของจานวนเงินที่เป็นสตางค์ครบ 100 สตางค์ หรือมากกวา่ (100 สตางค์ เท่ากบั 1 บาท) ให้นา 1 บาท ไปรวมกับจานวนเงินท่เี ป็นบาท สอ่ื การเรยี นรู้ 1. โจทย์การบวก 2. ใบงานท่ี 4 การบวกจานวนเงนิ
การวัดผลและประเมินผล สิง่ ท่ตี ้องการวัด วธิ ีวดั เครือ่ งมือวัด เกณฑก์ ารประเมิน 1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 4 70% ขึ้นไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์ 4 การประเมนิ 2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขึน้ ไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดบั ทพี่ ึงประสงค์ คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีขนึ้ ไป คุณลักษณะ ทพ่ี งึ ประสงค์ ความคดิ เห็นผูบ้ ริหาร ลงชอื่ .....................................ผู้ตรวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผูอ้ านวยการโรงเรียน ........./.........../..........
บนั ทกึ หลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรียนร้ตู ามจุดประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนได้คะแนนเฉลย่ี รอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดเี ยี่ยม คน คดิ เป็นร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดับดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรียนอยใู่ นระดับดีมาก คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรียนอย่ใู นระดบั ดี คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอยู่ในระดับพอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดับปรับปรงุ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ญั หา ลงช่ือ.....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ริ ตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 5 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 12 เงินและบันทึกรายรับรายจ่าย เวลาเรียน 13 ชั่วโมง เรอื่ ง การลบจานวนเงนิ เวลาเรียน 1 ชัว่ โมง ครูผ้สู อน นางสาวฐติ ริ ัตน์ โปอ่ ินทนะ ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพ้ืนฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งท่ีต้องการ วัดและนาไปใช้ ตวั ช้ีวัด ค 2.1 ป.3/1 : แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทย์ปญั หาเกยี่ วกบั เงิน สาระสาคัญ การลบจานวนเงินให้นาจานวนเงินท่ีเป็นบาทลบกับจานวนเงินท่ีเป็นบาท และจานวนเงินท่ี เป็นสตางค์ลบด้วยจานวนเงินท่ีเป็นสตางค์ โดยให้ลบจานวนที่เป็นสตางค์ก่อน ถ้าจานวนเงินท่ีเป็น สตางค์ของตัวตั้งน้อยกว่าตัวลบ ให้กระจายจานวนเงินท่ีเป็นบาทมา 1 บาท ซ่ึงเท่ากับ 100 สตางค์ นาไปรวมกับจานวนเงนิ ท่ีเป็นสตางคข์ องตวั ตงั้ แล้วจึงลบ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. สามารถบอกวธิ หี าผลลบเกี่ยวกับจานวนเงินทีก่ าหนดให้ได้ (K) 2. หาคาตอบของการลบเกยี่ วกับจานวนเงินได้ถูกต้อง (P) 3. นาความรเู้ ก่ยี วกับการลบเกย่ี วกับจานวนเงินไปใช้ในชีวิตจริงได้ (A) สาระการเรียนรู้ การลบจานวนเงิน ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 2. ความสามารถในการส่ือสารและการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเชอ่ื มโยง คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รยี นรู้ 3. มงุ่ มั่นในการทางาน
กิจกรรมการเรียนรู้ ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรยี น 1. ทบทวนการบวกจานวนเงิน โดยให้นักเรียนฝึกคิดในใจ โดยบอกโจทย์ทีละข้อ นกั เรียนคนใดจะต้องให้ยกมือข้นึ เชน่ - 5 บาท รวมกบั 12 บาท เปน็ เงินเทา่ ใด - 8 บาท รวมกับ 4 บาท 50 สตางค์ เป็นเงินเท่าใด - 4 บาท 25 สตางค์ รวมกับ 3 บาท 50 สตางค์ เป็นเงิน เทา่ ใด ข้นั สอน 1. ครูให้หาคาตอบจากโจทย์การลบจานวนเงิน โดยเร่ิมจากการลบที่ไม่มีการกระจาย และการลบท่ีมีการกระจายตามลาดบั โดยใช้การถาม-ตอบ ประกอบการเขียนแสดงวธิ ีการหาคาตอบ เช่น มเี งิน 7.75 บาท ใชไ้ ป 2.25 บาท เหลอื เงนิ เท่าใด วธิ ีทา บาท สตางค์ 7 75 - 2 25 5 50 ตอบ ๕ บาท ๕๐ สตางค์ หรอื ๕.๕๐ บาท มเี งนิ 8.25 บาท ใช้ไป 3.50 บาท เหลือเงินเท่าใด วิธที า บาท สตางค์ 7 125 8 25 - 3 50 4 75 ตอบ ๔ บาท ๗๕ สตางค์ หรอื 4.75 บาท ครใู ช้เงินเหรยี ญจาลองประกอบการอธิบาย ดงั น้ี - มีเงิน 25 สตางค์ เอาออก 50 สตางค์ไม่พอ จึงกระจาย เงิน 8 บาทมา 1 บาท ซ่ึงเท่ากับ 100 สตางค์ รวมกับ 25 สตางค์ เป็น 125 สตางค์ แล้วจึงหาผลลบ
มเี งิน 3 บาท 50 สตางค์ ใชไ้ ป 1 บาท 75 สตางค์ เหลือเงินเทา่ ใด วธิ ที า บาท สตางค์ 2 150 3 50 - 1 75 1 75 ตอบ ๑ บาท ๗๕ สตางค์ หรอื 1.75 บาท มีเงนิ 12 บาท ใช้ไป 5.50 บาท เหลอื เงนิ เท่าใด วิธีทา บาท สตางค์ 11 100 12 0 - 5 50 6 50 ตอบ ๖ บาท ๕๐ สตางค์ หรอื 6.50 บาท 2. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 5 การลบจานวนเงิน เมื่อเสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกัน ตรวจสอบความถกู ต้อง จากนัน้ ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยกิจกรรมในใบงานท่ี 5 ข้ันสรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปส่ิงที่ได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังน้ี การลบจานวนเงินให้นา จานวนเงินท่ีเป็นบาทลบด้วยจานวนเงินที่เป็นบาท และจานวนเงินท่ีเป็นสตางค์ลบด้วยจานวนเงินท่ี เป็นสตางค์โดยให้ลบจานวนท่ีเป็นสตางค์ก่อน ถ้าจานวนเงินท่ีเป็นสตางค์ของตัวตั้งน้อยกว่าตัวลบให้ กระจายจานวนเงนิ ท่ีเป็นบาทมา 1 บาท ซ่งึ เท่ากับ 100 สตางค์ นาไปรวมกับจานวนเงนิ ท่ีเปน็ สตางค์ ของตวั ตัง้ แลว้ จึงลบ สอ่ื การเรยี นรู้ 1. โจทยก์ ารลบ 2. ใบงานที่ 5 การลบจานวนเงนิ
การวัดผลและประเมินผล สิง่ ท่ตี ้องการวัด วธิ ีวดั เครือ่ งมือวัด เกณฑก์ ารประเมิน 1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 5 70% ขึ้นไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์ 5 การประเมนิ 2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขึน้ ไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดบั ทพี่ ึงประสงค์ คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีขนึ้ ไป คุณลักษณะ ทพ่ี งึ ประสงค์ ความคดิ เห็นผูบ้ ริหาร ลงชอื่ .....................................ผู้ตรวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผูอ้ านวยการโรงเรียน ........./.........../..........
บนั ทกึ หลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรียนร้ตู ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนได้คะแนนเฉลี่ยรอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดเี ยี่ยม คน คดิ เป็นร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดับดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรียนอยใู่ นระดับดีมาก คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรียนอย่ใู นระดบั ดี คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอยู่ในระดับพอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดับปรบั ปรงุ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ญั หา ลงช่ือ.....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ริ ตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 6 รายวชิ าคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 3 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 12 เงินและบันทกึ รายรับรายจา่ ย เวลาเรียน 13 ชว่ั โมง เร่อื ง การคณู จานวนเงิน เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง ครูผสู้ อน นางสาวฐติ ิรัตน์ โปอ่ นิ ทนะ ภาคเรียนที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพื้นฐานเก่ียวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงที่ต้องการ วดั และนาไปใช้ ตวั ช้ีวดั ค 2.1 ป.3/1 : แสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ปัญหาเกย่ี วกับเงิน สาระสาคัญ การคูณจานวนเงินให้นาจานวนเงินท่ีเป็นบาท และจานวนเงินที่เป็นสตางค์คูณด้วยตัวคูณ โดยให้คูณจานวนท่ีเป็นสตางค์ก่อน ถ้าผลคูณของจานวนเงินที่เป็นสตางค์ครบ 100 สตางค์ หรือ มากกวา่ ซ่งึ 100 สตางค์ เทา่ กบั 1 บาท ให้นา 1 บาท ไปรวมกับจานวนเงินท่เี ปน็ บาท จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. สามารถบอกวิธีหาผลคณู เก่ียวกับจานวนเงินที่กาหนดให้ได้ (K) 2. หาคาตอบของการคูณเกีย่ วกบั จานวนเงนิ ได้ถกู ต้อง (P) 3. นาความรเู้ ก่ยี วกบั การคูณเก่ียวกับจานวนเงนิ ไปใชใ้ นชวี ิตจรงิ ได้ (A) สาระการเรียนรู้ การคณู จานวนเงิน ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 2. ความสามารถในการส่ือสารและการสือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเชือ่ มโยง คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. มวี ินยั 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุ่งมั่นในการทางาน
กิจกรรมการเรียนรู้ ขัน้ นาเขา้ สู่บทเรียน 1. ทบทวนการลบจานวนเงิน โดยให้นักเรียนฝึกคิดในใจ โดยบอกโจทย์ทีละข้อ นกั เรียนคนใดจะตอ้ งให้ยกมอื ขึน้ เชน่ - 12 บาท ใช้ไป 7 บาท เปน็ เงินเทา่ ใด - 8 บาท ใชไ้ ป 4 บาท 50 สตางค์ เป็นเงนิ เทา่ ใด - 4 บาท 25 สตางค์ ใชไ้ ป 3 บาท 50 สตางค์ เปน็ เงินเทา่ ใด ขน้ั สอน 1. ครใู หห้ าคาตอบจากโจทย์การคูณจานวนเงิน โดยใช้การถาม-ตอบประกอบการเขียน แสดงวิธกี ารหาคาตอบ เชน่ 3 เทา่ ของเงนิ 7.25 บาท เปน็ เงินเทา่ ใด วธิ ที า บาท สตางค์ 7 25 × 3 21 75 ตอบ ๒๑ บาท ๗๕ สตางค์ หรอื ๒๑.๗๕ บาท 4 เทา่ ของเงิน 5.50 บาท เป็นเงนิ เท่าใด วธิ ีทา บาท สตางค์ × 5 50 4 20 200 22 00 ตอบ ๒๒ บาท หรอื ๒๒.๐๐ บาท
7 เทา่ ของเงิน มีเงิน 3 บาท 50 สตางค์ เป็นเงนิ เท่าใด วธิ ีทา บาท สตางค์ 3 50 × 7 21 350 24 50 ตอบ ๒๔ บาท ๕๐ สตางค์ หรือ ๒๔.๕๐ บาท 5 เทา่ ของเงิน 9 บาท 75 สตางค์ เป็นเงินเทา่ ใด วิธที า บาท สตางค์ 9 75 × 5 45 375 48 75 ตอบ ๔๘ บาท ๗๕ สตางค์ หรอื ๔๘.๗๕ บาท 2. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 6 การคูณจานวนเงิน เม่ือเสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกัน ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากน้ันครแู ละนักเรยี นร่วมกันเฉลยกิจกรรมในใบงานที่ 6 ขนั้ สรปุ 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งที่ได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังน้ี การคูณจานวนเงินให้นา จานวนเงินท่ีเป็นบาท และจานวนเงินท่ีเปน็ สตางค์คูณด้วยตัวคูณ โดยให้คูณจานวนที่เป็นสตางค์กอ่ น ถ้าผลคูณของจานวนเงินท่ีเป็นสตางค์ครบ 100 สตางค์ หรือมากกว่า ซ่ึง 100 สตางค์ เท่ากับ 1 บาท ให้นา 1 บาท ไปรวมกับจานวนเงินทีเ่ ป็นบาท สอ่ื การเรยี นรู้ 1. โจทยก์ ารคูณ 2. ใบงานที่ 6 การคูณจานวนเงิน
การวัดผลและประเมินผล สิง่ ท่ตี ้องการวัด วธิ ีวดั เครือ่ งมือวัด เกณฑก์ ารประเมิน 1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 6 70% ขึ้นไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์ 6 การประเมนิ 2. ดา้ นทักษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทักษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขึน้ ไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกต นักเรยี นได้คะแนนระดบั ทพี่ ึงประสงค์ คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีขนึ้ ไป คุณลักษณะ ทพ่ี งึ ประสงค์ ความคดิ เห็นผูบ้ ริหาร ลงชอื่ .....................................ผู้ตรวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผูอ้ านวยการโรงเรียน ........./.........../..........
บนั ทกึ หลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรียนร้ตู ามจุดประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนได้คะแนนเฉลย่ี รอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดเี ยี่ยม คน คดิ เป็นร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดับดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรียนอยใู่ นระดับดีมาก คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรียนอย่ใู นระดบั ดี คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอยู่ในระดับพอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดับปรับปรงุ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ญั หา ลงช่ือ.....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ริ ตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 7 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 12 เงนิ และบันทกึ รายรับรายจา่ ย เวลาเรยี น 13 ชัว่ โมง เรื่อง การหารจานวนเงิน เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง ครผู ู้สอน นางสาวฐติ ิรตั น์ โป่อินทนะ ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 ......................................................................................................... ....................................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงที่ต้องการ วัดและนาไปใช้ ตวั ชว้ี ัด ค 2.1 ป.3/1 : แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทย์ปัญหาเกย่ี วกบั เงิน สาระสาคญั การหารจานวนเงินให้นาจานวนเงินที่เป็นบาท และจานวนเงินท่ีเป็นสตางค์หารด้วยตัวหาร โดยใหห้ ารจานวนที่เปน็ บาทก่อน จดุ ประสงค์การเรียนรู้ 1. สามารถบอกวิธีหาผลหารเกยี่ วกับจานวนเงินท่ีกาหนดให้ได้ (K) 2. หาคาตอบของการหารเกีย่ วกบั จานวนเงินไดถ้ กู ต้อง (P) 3. นาความรเู้ กยี่ วกับการหารเกย่ี วกับจานวนเงินไปใชใ้ นชวี ติ จริงได้ (A) สาระการเรียนรู้ การหารจานวนเงนิ ทกั ษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการแก้ปญั หา 2. ความสามารถในการสื่อสารและการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเชอ่ื มโยง คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. มีวนิ ัย 2. ใฝ่เรยี นรู้ 3. มงุ่ มัน่ ในการทางาน
กิจกรรมการเรยี นรู้ ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรียน 1. ทบทวนการคูณจานวนเงิน โดยให้นักเรียนฝึกคิดในใจ โดยบอกโจทย์ทีละข้อ นักเรียนคนใดจะตอ้ งใหย้ กมอื ข้นึ เชน่ - 5 เทา่ ของเงนิ 10 บาท เป็นเงินเท่าใด - 8 เท่าของเงนิ 4 บาท 50 สตางค์ เปน็ เงนิ เทา่ ใด - 7 เท่าของเงิน 3 บาท 25 สตางค์ เปน็ เงินเท่าใด ขั้นสอน 1. ครูให้หาคาตอบจากโจทย์การหารจานวนเงิน โดยใช้การถาม-ตอบประกอบการ เขียนแสดงวธิ กี ารหาคาตอบ เช่น เงนิ 7.50 บาท แบ่งเป็น 5 ส่วน จะไดส้ ว่ นละเทา่ ใด วิธีทา บาท สต25า0งค์ 57 1 50 ตอบ ๑ บาท ๕๐ สตางค์ หรอื ๑.๕๐ บาท เงนิ 33.75 บาท แบง่ เป็น 9 สว่ น จะไดส้ ่วนละเท่าใด วธิ ที า บาท สต67า5งค์ 9 33 3 75 ตอบ ๑ บาท ๕๐ สตางค์ หรอื ๑.๕๐ บาท เงนิ 66 บาท แบ่งเป็น 8 ส่วน จะไดส้ ว่ นละเท่าใด วธิ ที า บาท สต20า0งค์ 8 66 8 25 ตอบ ๘ บาท ๒๕ สตางค์ หรอื ๘.๒๕ บาท
เงิน 48 บาท 75 สตางค์ แบ่งเปน็ 5 ส่วน จะได้ส่วนละเทา่ ใด วธิ ีทา บาท สต37า5งค์ 5 48 9 75 ตอบ ๙ บาท ๗๕ สตางค์ หรือ ๙.๗๕ บาท 2. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 7 การหารจานวนเงิน เมื่อเสร็จแล้วให้นักเรียนช่วยกัน ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนั้นครูและนักเรียนรว่ มกนั เฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 7 ขน้ั สรุป 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปส่ิงที่ได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังนี้ การหารจานวนเงินให้นา จานวนเงินท่ีเปน็ บาท และจานวนเงินทเ่ี ป็นสตางคห์ ารดว้ ยตวั หาร โดยใหห้ ารจานวนที่เปน็ บาทกอ่ น สอ่ื การเรยี นรู้ 1. โจทย์การหาร 2. ใบงานที่ 7 การหารจานวนเงิน การวดั ผลและประเมนิ ผล สงิ่ ท่ีต้องการวัด วธิ ีวดั เครือ่ งมือวัด เกณฑ์การประเมิน 1. ดา้ นความรู้ ทากจิ กรรมจากใบงานที่ ใบงานท่ี 7 70% ข้นึ ไป ถือว่าผา่ นเกณฑ์ 7 การประเมนิ 2. ด้านทกั ษะ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกต นักเรียนได้คะแนนระดับ กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คณุ ภาพดีข้ึนไป ทักษะกระบวนการ 3. ดา้ นคณุ ลักษณะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกต นักเรียนได้คะแนนระดับ ทพี่ งึ ประสงค์ คณุ ลักษณะท่ีพึงประสงค์ พฤติกรรมด้าน คุณภาพดีขึ้นไป คณุ ลกั ษณะ ท่พี งึ ประสงค์
ความคิดเหน็ ผบู้ ริหาร ลงชอื่ .....................................ผู้ตรวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผ้อู านวยการโรงเรยี น ........./.........../.......... บันทกึ หลังการเรียนการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรยี นรตู้ ามจดุ ประสงค์การเรียนรู้ นกั เรียนได้คะแนนเฉล่ียรอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นกั เรียนอยู่ในระดับดีเยย่ี ม คน คดิ เปน็ ร้อยละ นกั เรียนอย่ใู นระดับดี คน คิดเปน็ ร้อยละ 1.3 ผลการประเมินคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรยี นอยู่ในระดบั ดีมาก คน คิดเปน็ ร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดับดี คน คิดเป็นร้อยละ นกั เรียนอยู่ในระดับพอใช้ คน คิดเป็นร้อยละ นกั เรยี นอยูใ่ นระดบั ปรับปรุง คน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแก้ปัญหา ลงช่อื .....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ิรตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........
แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 8 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 3 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 12 เงนิ และบนั ทึกรายรับรายจา่ ย เวลาเรียน 13 ช่ัวโมง เรอื่ ง โจทยป์ ัญหาการบวกเกี่ยวกับเงนิ เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ครูผสู้ อน นางสาวฐติ ริ ัตน์ โปอ่ นิ ทนะ ภาคเรียนท่ี 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 ........................................................................................... ..................................................................... มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพื้นฐานเก่ียวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของสิ่งที่ต้องการ วดั และนาไปใช้ ตวั ชีว้ ดั ค 2.1 ป.3/1 : แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาเกี่ยวกับเงิน สาระสาคัญ การแก้โจทย์ปัญหาทาได้โดย อ่านทาความเข้าใจปัญหา วางแผนแก้ปัญหา หาคาตอบ และ ตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคาตอบ จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายวธิ กี ารหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกย่ี วกบั เงินได้ (K) 2. เขยี นแสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ญั หาเกย่ี วกับเงนิ ได้ (P) 3. นาความรเู้ กย่ี วกับโจทยป์ ญั หาเกีย่ วกับเงินไปใชใ้ นชีวิตจริงได้ (A) สาระการเรยี นรู้ โจทยป์ ัญหาการบวกเกี่ยวกบั เงิน ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 1. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 2. ความสามารถในการสื่อสารและการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเชื่อมโยง 4. ความสามารถในการให้เหตผุ ล คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ 1. มีวินัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. ม่งุ ม่นั ในการทางาน
กจิ กรรมการเรียนรู้ ข้ันนาเข้าสบู่ ทเรยี น 1. ครูทบทวนความรู้ เร่ือง การแก้โจทย์ปัญหา จากน้ันครูให้นักเรียนร่วมกันอภิปราย วิธีการแก้โจทย์ปัญหาเกี่ยวกับเงิน โดยครูเขียนคาตอบของนักเรียนบนกระดาน และสรุปขั้นตอนการ แกโ้ จทยป์ ัญหาต่างๆ ดงั นี้ - ข้ันที่ 1 การวิเคราะห์โจทย์ปัญหา - ขั้นที่ 2 การวางแผนแก้โจทย์ปัญหา - ขั้นท่ี 3 การแก้ปัญหา - ข้ันท่ี 4 การตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ ขนั้ สอน 15. ครตู ิดโจทย์ปญั หาการบวกเกยี่ วกับเงนิ บนกระดาน โดยใหน้ ักเรียนตอบคาถามต่อไปนี้ อุมาซื้อเงาะ 67.50 บาท ซ้ือมังคุด 52.75 บาท อมุ าซ้ือเงาะและมังคุดเปน็ เงนิ เท่าไร - โจทยถ์ ามอะไร (อุมาซอ้ื เงาะและมังคุดเปน็ เงนิ เทา่ ไร) - โจทยก์ าหนดอะไร (อมุ าซื้อเงาะ 67.50 บาท ซ้อื มงั คุด 52.75 บาท) - หาคาตอบได้อยา่ งไร (67.50 บวกกบั 52.75) - ได้คาตอบเทา่ ไร (120 บาท 25 สตางค์) - สรปุ คาตอบวา่ อยา่ งไร (อมุ าซอื้ เงาะและมังคุดเป็นเงิน 120 บาท 25 สตางค์) 16. ครูเขยี นแสดงวิธีทาโจทย์ปัญหาจากกจิ กรรมข้อ 1. พรอ้ มท้งั อธบิ ายใหน้ ักเรียนฟงั ดังน้ี วิธที า บาท สตางค์ อุมาซ้อื เงาะ 67 ซือ้ มังคุด 52 50 + 119 75 อุมาซื้อเงาะและมังคดุ เปน็ เงิน ตอบ อมุ าซื้อเงาะและมังคุดเป็นเงนิ ๑๒๐ บาท ๒๕ สตางค์ 120 125 25 ครูอธิบายขั้นตอนวิธีการเขียนแสดงวิธีทา ต้องเขียนหน่วยไว้ด้านบนก่อนจากนั้น เขียนข้อความและตัวเลขที่เป็นตัวต้ัง และตัวบวก ตามลาดับ แล้วครูอธิบายต่อไปว่า การบวก เมื่อได้ ผลบวกแล้วต้องเปลี่ยนจานวนในหนว่ ยยอ่ ยใหเ้ ปน็ หน่วยใหญ่ดว้ ยถ้าทาได้ 17. ครูยกตัวอย่างโจทย์ปัญหาการบวกเกี่ยวกับเงิน ให้นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์โจทย์ และแสดงวิธีทาอีก 3 – 5 ตัวอย่าง 18. ครูให้นักเรียนทาใบงานท่ี 8 โจทย์ปัญหาการบวกเก่ียวกับเงิน เมื่อเสร็จแล้วให้ นักเรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง จากน้นั ครูและนักเรยี นร่วมกันเฉลยกจิ กรรมในใบงานที่ 8
ข้นั สรปุ 1. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิ่งท่ีได้เรียนรู้ร่วมกัน ดังน้ี การแก้โจทย์ปัญหาเก่ียวกับ เงินได้น้ัน ต้องศึกษาก่อนว่าโจทย์ต้องการให้หาอะไร โจทย์กาหนดส่ิงใดมาให้ พร้อมทั้งตรวจสอบ หน่วยน้าหนกั ท่ีใหว้ ่าเปน็ หน่วยเดยี วกนั หรือไม่ สอ่ื การเรียนรู้ 1. โจทย์ปญั หา 2. ใบงานที่ 8 โจทย์ปญั หาการบวกเกีย่ วกบั เงนิ การวดั ผลและประเมินผล ส่ิงท่ตี ้องการวัด วธิ ีวดั เครื่องมือวัด เกณฑ์การประเมิน 1. ดา้ นความรู้ ทากิจกรรมจากใบงานท่ี ใบงานที่ 8 70% ขึน้ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์ 8 การประเมนิ 2. ดา้ นทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสงั เกต นกั เรียนได้คะแนนระดบั กระบวนการ ทกั ษะกระบวนการ พฤติกรรมดา้ น คุณภาพดีขึน้ ไป ทกั ษะกระบวนการ 3. ด้านคณุ ลกั ษณะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกต นักเรยี นได้คะแนนระดบั ที่พงึ ประสงค์ คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์ พฤติกรรมด้าน คณุ ภาพดีขน้ึ ไป คุณลักษณะ ทพ่ี ึงประสงค์ ความคิดเหน็ ผู้บรหิ าร ลงชื่อ.....................................ผตู้ รวจ (นายอดิศร แดงเรือน) ผอู้ านวยการโรงเรียน ........./.........../..........
บนั ทกึ หลังการเรยี นการสอน 1. ผลการเรยี นรู้ 1.1 ผลการเรียนร้ตู ามจุดประสงค์การเรียนรู้ นักเรียนได้คะแนนเฉลย่ี รอ้ ยละ 1.2 ผลการประเมนิ ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ นกั เรียนอยใู่ นระดบั ดเี ยี่ยม คน คดิ เป็นร้อยละ นักเรยี นอยใู่ นระดับดี คน คิดเป็นรอ้ ยละ 1.3 ผลการประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ นักเรียนอยใู่ นระดับดีมาก คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรียนอย่ใู นระดบั ดี คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นักเรยี นอยู่ในระดับพอใช้ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ นกั เรียนอยูใ่ นระดับปรับปรงุ คน คดิ เป็นรอ้ ยละ 2. ปญั หาและอปุ สรรค 3. ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางในการแกป้ ญั หา ลงช่ือ.....................................ผสู้ อน (นางสาวฐติ ริ ตั น์ โป่อนิ ทนะ) ........./.........../..........
แผนการจัดการเรียนรูท้ ี่ 9 รายวชิ าคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 3 หน่วยการเรยี นรู้ที่ 12 เงนิ และบนั ทกึ รายรับรายจา่ ย เวลาเรียน 13 ชว่ั โมง เร่ือง โจทย์ปัญหาการลบเกี่ยวกับเงนิ เวลาเรยี น 1 ช่ัวโมง ครผู ูส้ อน นางสาวฐติ ริ ัตน์ โป่อนิ ทนะ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2564 ............................................................................................................................. ................................... มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ค 2.1 : เข้าใจพ้ืนฐานเก่ียวกับการวัด วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงที่ต้องการ วดั และนาไปใช้ ตวั ช้ีวัด ค 2.1 ป.3/1 : แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทย์ปญั หาเกีย่ วกับเงิน สาระสาคญั การแก้โจทย์ปัญหาทาได้โดย อ่านทาความเข้าใจปัญหา วางแผนแก้ปัญหา หาคาตอบ และ ตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคาตอบ จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายวิธกี ารหาคาตอบของโจทยป์ ญั หาเก่ียวกบั เงินได้ (K) 2. เขยี นแสดงวธิ หี าคาตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกบั เงนิ ได้ (P) 3. นาความรู้เกยี่ วกับโจทยป์ ญั หาเก่ียวกับเงนิ ไปใช้ในชวี ิตจรงิ ได้ (A) สาระการเรยี นรู้ โจทยป์ ญั หาการลบเก่ียวกับเงนิ ทักษะและกระบวนการทางคณติ ศาสตร์ 1. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 2. ความสามารถในการส่ือสารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ 3. ความสามารถในการเช่ือมโยง 4. ความสามารถในการให้เหตุผล คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ 1. มวี นิ ัย 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. มุง่ มั่นในการทางาน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424