95
96 ข้อมลู นักเรยี นรายบคุ คล ห้องเรยี น หนว่ ยบริการอำเภอแจ้หม่ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕ ๑. ขอ้ มูลดา้ นนักเรียน ๑.๑ ขอ้ มูลสว่ นตวั นกั เรยี น ชอื่ -นามสกุล (ด.ช/ด.ญ/นาย/น.ส) สุวชิ ชา ผิวงาม ช่ือเลน่ โตชิ ประเภทความพกิ าร บกพร่องทางสติปัญญา เกิดวนั ที่ ๑๒เดือน กรกฏาคม พ.ศ. ๒๕๕๐ อายุ ๑๕ ปี เชอื้ ชาติ ไทย สัญชาติ ไทย ศาสนา พุทธ เลขบัตรประจำตัวประชาชน ๑๑๑๙๙๐๒๓๗๓๐๗๘ หม่โู ลหิต........................................................... การจดทะเบยี นคนพกิ าร ไมต่ อ้ งการจดทะเบียน ยังไมจ่ ดทะเบียน จดทะเบียนแล้ว ท่ีอยู่ปัจจุบนั ๖๒ ม.๔ ต.วเิ ชตนคร อ.แจห้ ม่ จ.ลำปาง ๕๒๑๒๐ ๑.๒ ดา้ นสุขภาพ ๑) สุขภาพกาย มสี ขุ ภาพร่างกายสมบรู ณ์แขง็ แรง เจบ็ ป่วยบอ่ ย (ระบุ)............................................................................ มโี รคประจำตัว (ระบ)ุ ......................................................................... ป่วยเปน็ โรครา้ ยแรง/เร้ือรัง (วณั โรค โรคอว้ น โรคทางเดินหายใจเรอ้ื รงั (หอบหดื ) โรคหัวใจและหลอดเลอื ด โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตวายเรอ้ื รัง โรคมะเร็ง ภาวะภูมคิ ุม้ กนั ตำ่ โรคเบาหวาน ภาวะบกพร่องทางระบบประสาทอยา่ งรุนแรง ลมชัก ฯลฯ ระบโุ รค)............................................................... นำ้ หนัก ๗๐ กิโลกรัม ส่วนสงู ๑๔๐ เซนตเิ มตร นำ้ หนักผิดปกติไม่สัมพันธ์กับสว่ นสูงหรืออายุ นอนติดเตียง ๒) สขุ ภาพจิต/อารมณ์/พฤติกรรม อารมณ์ดี ยม้ิ ง่าย มีปฏิสัมพันธท์ ีเ่ หมาะสมกับผู้อื่น อารมณห์ งดุ หงิดง่าย/โมโหง่าย ไม่มปี ฏสิ ัมพนั ธก์ ับผอู้ น่ื เช่น เฉยเมย ไม่สบตา ไม่มีการตอบสนอง/แสดงออกทางอารมณ์ ซมึ เศร้า แยกตัวออกจากกลุม่ หวาดระแวง ไม่พบพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ พบพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ทสี่ ง่ ผลกระทบไม่รุนแรงต่อตนเอง/ผูอ้ ืน่ /ส่ิงของ พบพฤติกรรมท่ีไม่พึงประสงคท์ ่ีส่งผลกระทบรนุ แรงต่อตนเอง/ผูอ้ ่นื /ส่งิ ของ
97 ๑.๓ ด้านการเรียนรู้ ๑) พฒั นาการ/ความสามารถ พัฒนาการ/ความสามารถเทียบเท่ากับอายจุ รงิ พัฒนาการ/ความสามารถลา่ ชา้ กว่าอายจุ รงิ ๑ – ๓ ปี พัฒนาการ/ความสามารถล่าช้ากวา่ อายจุ รงิ ๓ ปี ขึ้นไป ๒) การช่วยเหลือตนเอง สามารถชว่ ยเหลอื ตนเองได้ สามารถชว่ ยเหลอื ตนเองได้บา้ ง ไมส่ ามารถช่วยเหลือตนเองได้ ๑.๔ ด้านสิทธิคนพิการ/สนบั สนนุ ช่วยเหลือจากองคก์ รภาครฐั หรอื เอกชน ๑) เบี้ยยังชพี คนพกิ าร ได้รบั จำนวน ๘๐๐ บาท/เดอื น ไมไ่ ดร้ ับ เน่ืองจาก................................................................................................................ ๒) บริการฟื้นฟูทางการแพทย์ ได้รับ (ระบุโรงพยาบาล) โรงพยาบาลแจ้ห่ม ไม่ได้รบั เนื่องจาก................................................................................................................ ๓) บรกิ ารเทคโนโลยี ส่ือ สิ่งอำนวยความสะดวก ได้รบั (ระบสุ งิ่ ที่ได้รับ) สื่อส่ิงอำนวยความสะดวก (ระบุหน่วยงานที่ได้รับ) ศูนยก์ ารศึกษาพิเศษประจำจังหวัดลำปาง ไม่ได้รับ เนื่องจาก............................................................................................................... ๔) ทุนการศกึ ษา/เงินช่วยเหลืออืน่ ๆ ไดร้ ับ (ระบุชื่อทนุ การศึกษา/เงนิ ช่วยเหลอื อืน่ ๆ) จำนวน.......................บาท/เดอื น ไม่ไดร้ บั เน่ืองจากไม่ได้รับ ๕) รบั บรกิ ารสวัสดกิ ารทางสังคม ไดร้ บั (ส่ิงท่ไี ดร้ บั เช่น บริการเคสเมเนเจอร์ บรกิ ารรับส่งไปโรงพยาบาล ฯลฯ ระบุ).......... (หนว่ ยงานท่ไี ดร้ บั เชน่ พมจ. กสศ. ฯลฯ ระบุ ).................................................................. ไมไ่ ด้รบั เนื่องจากไม่ได้รับ
98 ๑.๕ ดา้ นการเดินทางในชีวติ ประจำวนั ๑) ยานพาหนะทใ่ี ช้ในครอบครวั ไมม่ ยี านหนะใช้ภายในครอบครัว มียานพาหนะ โปรดระบุประเภท จกั รยาน จกั รยานยนต์ จกั รยานยนต์พว่ ง รถเกง๋ รถกระบะ ๒ ประตู รถกระบะ ๔ ประตู (นั่ง ๒ ตอนท้ายบรรทุก) รถกระบะ ๔ ประตู (นงั่ ๒ ตอนท้ายบรรทุกมหี ลังคา) รถกระบะ ๔ ประตู (นงั่ ๒ ตอนแวน) รถตู้สว่ นบคุ คล ๒) วิธกี ารเดนิ ทางในชวี ติ ประจำวนั เดิน ใชย้ านพาหนะ โปรดระบุประเภท จักรยาน จกั รยานยนต์ จกั รยานยนต์พว่ ง รถเก๋ง รถกระบะ ๒ ประตู รถกระบะ ๔ ประตู (นง่ั ๒ ตอนท้ายบรรทุก) รถกระบะ ๔ ประตู (นง่ั ๒ ตอนทา้ ยบรรทุกมีหลงั คา) รถกระบะ ๔ ประตู (นั่ง ๒ ตอนแวน) รถรับจ้าง / รถรับ-สง่ นกั เรยี น รถโดยสารประจำทาง รถตู้ส่วนบคุ คล ๓) ระยะทางจากที่พกั อาศัยมายังสถานศกึ ษา (ระบรุ ะยะทาง) ๗ กิโลเมตร
99 ๒. ขอ้ มูลดา้ นครอบครัว ๒.๑ ข้อมูลบดิ า มีชีวติ อยู่ ถงึ แกก่ รรม ไมม่ ีข้อมลู ช่อื -นามสกุล บิดา นายอุทิศ ผ่องเสียง อายุ ๓๔ ปี เชอ้ื ชาติ ไทย สญั ชาติ ไทย ศาสนา พทุ ธ ไมม่ งี านทำ มีงานทำ อาชีพ รับจ้างราย ได๙้ ๐๐๐บาท/เดอื น ระดับการศึกษา ไม่ไดร้ บั การศึกษา ประถมศึกษา มธั ยมศกึ ษา/ปวช ปวส/อนปุ รญิ ญา ปรญิ ญา ทอี่ ย่ปู จั จุบัน ทีอ่ ยเู่ ดยี วกบั นักเรยี น ทอี่ ยู่ตา่ งจากนกั เรียน (โปรดกรอกข้อมลู ) บ้านเลขที่ 62 ม.๔ ต.วิเชตนคร อ.แจห้ ม่ จ.ลำปาง ๕๒๑๒๐ เบอร์โทรศัพท์............................................................................ ๒.๒ ข้อมูลมารดา มีชีวติ อยู่ ถึงแกก่ รรม ไมม่ ีข้อมลู ช่อื -นามสกุล มารดา นางสาวประนอม ผวิ งาม อายุ ๓๒ ปี เชอื้ ชาติ ไทย สัญชาติ ไทย ศาสนา พทุ ธ ไมม่ งี านทำ มงี านทำ อาชีพ แม่บ้าน รายได้ -บาท/เดือน ระดบั การศึกษา ไม่ไดร้ ับการศึกษา ประถมศึกษา มัธยมศกึ ษา/ปวช ปวส/อนปุ รญิ ญา ปรญิ ญา ทีอ่ ยู่ปจั จุบัน ทอี่ ยเู่ ดียวกับนักเรยี น ที่อยู่ตา่ งจากนักเรยี น (โปรดกรอกข้อมลู ) บ้านเลขท่ี๖๒ ม.๔ ต.วเิ ชตนคร อ.แจ้หม่ จ.ลำปาง ๕๒๑๒๐เบอร์โทรศัพท์...................................... ๒.๓ ขอ้ มลู ผู้ปกครอง บิดา นางสาวประนอม ผวิ งาม มารดา นางสาวประนอม ผิวงาม ผปู้ กครองไมใ่ ชบ่ ดิ า/มารดา (โปรดกรอกข้อมูล) ชื่อ-นามสกลุ ผปู้ กครองนางประนอม ผวิ งาม อายุ ๖๕ ปี เชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย ศาสนา พุทธ อาชพี รับจา้ ง รายได้ ๔๐๐๐บาท/เดอื น ระดบั การศกึ ษา ไมไ่ ด้รับการศึกษา ประถมศึกษา มธั ยมศึกษา/ปวช ปวส/อนุปรญิ ญา ปริญญา ท่อี ยูป่ ัจจุบนั ท่อี ยูเ่ ดยี วกับนักเรยี น ที่อยตู่ ่างจากนักเรยี น (โปรดกรอกข้อมูล) บ้านเลขที่๖๒ ม.๔ ต.วิเชตนคร อ.แจห้ ่ม จ.ลำปาง ๕๒๑๒๐เบอรโ์ ทรศพั ท.์ .................................... รายได้ครอบครวั ๑๐๐,๐๐๐ บาท/ปี ขน้ึ ไป ๔๐,๐๐๑ – ๙๙,๙๙๙ บาท/ปี ไม่เกนิ 40,000 บาท/ปี สภาพความเปน็ อยูใ่ นครอบครัว อย่รู ่วมกับบดิ ามารดา อยู่กับบดิ า อยกู่ ับมารดา อย่กู ับผ้อู ืน่ (ระบุ ตา ยาย
100 สถานภาพของบิดามารดา อยู่ดว้ ยกัน หยา่ รา้ ง แยกกนั อยู่ บดิ าถงึ แก่กรรม มารดาถงึ แก่กรรม บิดา มารดาถงึ แกก่ รรม ครอบครวั ของนักเรียนมสี มาชิกท้งั หมด ๓ คน ประกอบดว้ ย ตา ยาย หลาน บคุ คลในครอบครวั มีการใช้สารเสพติด มี ไมม่ ี เกย่ี วข้องเปน็ ............ตา..........กบั นักเรียน ประเภทสารเสพตดิ ท่ใี ชค้ ือ บุหรี่ สุรา ยาบา้ อืน่ ๆ ระบ.ุ ............................ ความถ่ีในการใชส้ ารเสพตดิ ของบุคคลในครอบครัว เปน็ ประจำ บางคร้ัง บคุ คลในครอบครัวเกีย่ วขอ้ งกับการเลน่ การพนนั มี ไมม่ ี ความถี่ในการเลน่ การพนันของบุคคลในครอบครัว เป็นประจำ บางคร้ัง ภายในครอบครวั มีความขัดแยง้ และมีการใช้ความรนุ แรง มี ไม่มี บุคคลในครอบครวั เจ็บป่วยด้วยโรครุนแรง/เรือ้ รงั มี ไมม่ ี อาชพี บิดา/มารดา/ผู้ปกครองเสย่ี งต่อกฎหมาย มี ไม่มี ๒.๔ ดา้ นเศรษฐกิจครอบครัว มีรายไดเ้ พียงพอสำหรับเลย้ี งดูครอบครัวไดอ้ ย่างดี มรี ายไดเ้ พียงพอสำหรบั เลีย้ งดูครอบครัวเฉพาะทีจ่ ำเป็น มหี น้ีสิน มีรายได้เพยี งเลก็ น้อย ไม่เพียงพอสำหรบั ครอบครวั ไม่มรี ายได้เลย ต้องพงึ่ พาผอู้ นื่ ทง้ั หมด และมหี นี้สิน ๒.๕ ดา้ นการคมุ้ ครองนักเรียน ๑) การดแู ลเอาใจใส่นกั เรยี น สมาชิกทุกคนในครอบครัวช่วยกันดแู ลเอาใจใส่นักเรียนเป็นประจำสม่ำเสมอ ขาดการดูแลเอาใจใส่/ปล่อยปละละเลยนักเรยี นเปน็ บางครั้ง ขาดการดแู ลเอาใจใส่/ปล่อยปละละเลยนักเรียน/ไม่มีผู้ดูแล นกั เรยี นถกู ล่วงละเมิดทางเพศ นักเรยี นถกู ทำร้ายทารุณ ๒) การช่วยเหลือในการพัฒนานักเรยี น สมาชิกทุกคนในครอบครัวเขา้ ใจ/รว่ มมือในการช่วยเหลอื ในการพฒั นานกั เรยี นเปน็ อย่างดี สมาชกิ ในครอบครวั บางคนไมม่ ีความเข้าใจ/ร่วมมือในการช่วยเหลอื ในการพฒั นานักเรยี น สมาชกิ ทุกคนในครอบครัวขาดความเขา้ ใจ/รว่ มมือในการช่วยเหลือในการพัฒนานักเรยี น
101 ๒.๖ ด้านเจตคตติ อ่ นักเรียน ครอบครัวมีความคาดหวังในการพัฒนานักเรยี น นกั เรยี นสามารถพัฒนาได้และมีการแสวงหาความรู้ในการพฒั นานักเรยี นอยู่เสมอ มีความคาดหวงั ในการพัฒนานักเรยี นแต่ไม่มีการแสวงหาความรเู้ พ่ือนำมาพัฒนานักเรียน ไม่มีความคาดหวังในการพัฒนานักเรยี นและนกั เรยี นเป็นภาระของครอบครัว ๒.๗ ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะของผ้ปู กครองในการพฒั นานกั เรียน ๑) ความรู้ ความเข้าใจ ทักษะของผู้ปกครองในการจดั กิจกรรมเพอื่ พัฒนานกั เรียน มีการจดั กิจกรรมเพ่ือพัฒนานกั เรียนเป็นประจำทกุ วนั มกี ารจัดกจิ กรรมเพือ่ พัฒนานกั เรียนเป็นบางครง้ั ไมเ่ คยมีการจดั กจิ กรรมเพ่อื พัฒนานักเรยี น ๒) ความรู้ ความเข้าใจ ทักษะของผู้ปกครองในการฝกึ ด้วยเทคนคิ /กิจกรรม มีการฝึกดว้ ยเทคนิค/กจิ กรรมท่ีหลากหลายเปน็ ประจำทกุ วัน มกี ารฝกึ ดว้ ยเทคนิค/กิจกรรมเป็นบางครั้ง ไมเ่ คยฝกึ ด้วยเทคนคิ /กิจกรรม ๓. ขอ้ มูลด้านสภาพแวดล้อม ๓.๑ สภาพแวดลอ้ มภายในศูนย์การศึกษาพเิ ศษประจำจงั หวัดลำปาง/หนว่ ยบรกิ าร ๑) บริเวณภายในหอ้ งเรียนอาคารเรยี น สภาพแวดล้อมในห้องเรียน/อาคารเรียนมคี วามเหมาะสมกับความต้องการจำเป็นพิเศษของ นักเรียนและปลอดภัยตอ่ การดำรงชวี ติ สภาพแวดลอ้ มในห้องเรียน/อาคารเรียนบางอยา่ งขาดความเหมาะสมกบั ความต้องการจำเปน็ พเิ ศษของนกั เรียนแต่ยงั สามารถใช้ได้อยา่ งปลอดภยั ต่อการดำรงชวี ติ สภาพแวดลอ้ มในหอ้ งเรยี น/อาคารเรียนบางอย่างขาดความเหมาะสมกับความตอ้ งการจำเปน็ พเิ ศษของนักเรยี นและไมป่ ลอดภยั ต่อการดำรงชีวติ สภาพแวดล้อมในห้องเรยี น/อาคารเรยี นทุกอย่างไม่มีความเหมาะสมกับความต้องการจำเปน็ พิเศษของนักเรยี นและไม่ปลอดภัยต่อการดำรงชวี ิต ระบุรายละเอียดเพ่มิ เตมิ ...........................................................................................................................................
102 ๒) บรเิ วณภายนอกอาคารเรยี น สภาพแวดลอ้ มนอกอาคารเรยี นมคี วามเหมาะสมกับความต้องการจำเปน็ พเิ ศษของนักเรยี น และปลอดภยั ต่อการดำรงชวี ติ สภาพแวดลอ้ มนอกอาคารเรยี นบางอย่างขาดความเหมาะสมกบั ความต้องการจำเป็นพเิ ศษ ของนักเรยี นแตย่ งั สามารถใช้ไดอ้ ย่างปลอดภยั ตอ่ การดำรงชีวิต สภาพแวดลอ้ มนอกอาคารเรยี นบางอยา่ งขาดความเหมาะสมกับความต้องการจำเป็นพเิ ศษ ของนักเรียนและไมป่ ลอดภยั ต่อการดำรงชวี ติ สภาพแวดลอ้ มนอกอาคารเรียนทุกอยา่ งไมม่ ีความเหมาะสมกบั ความต้องการจำเปน็ พิเศษของ นกั เรียนและไม่ปลอดภยั ตอ่ การดำรงชีวิต ระบุรายละเอยี ดเพมิ่ เติม........................................................................................................................................... นกั เรียน ๓) ผู้เกี่ยวขอ้ ง คร/ู ผ้ปู กครอง/พ่ีเลย้ี งเด็กพกิ าร/ผู้ปฏบิ ตั ิงานให้ราชการทกุ คนพร้อมใหก้ ารชว่ ยเหลือนักเรียน ครู/ผู้ปกครอง/พเ่ี ลีย้ งเด็กพิการ/ผูป้ ฏิบตั ิงานให้ราชการบางคนละเว้นไมใ่ ห้การช่วยเหลอื คร/ู ผ้ปู กครอง/พ่ีเลย้ี งเด็กพกิ าร/ผปู้ ฏิบัตงิ านใหร้ าชการบางคนรงั เกียจนักเรียน เพอื่ นหรอื สมาชิกในครอบครวั ทุกคนยอมรบั /ใหเ้ ขา้ กลมุ่ ทำกิจกรรม เพ่อื นหรือสมาชิกในครอบครวั บางคนไม่ยอมรบั /ไมใ่ หเ้ ข้ากล่มุ ทำกิจกรรม เพ่อื นหรือสมาชกิ ในครอบครวั ทุกคนไม่ยอมรับ/ไมใ่ หเ้ ข้ากล่มุ ทำกิจกรรม ๓.๒ สภาพแวดลอ้ มภายในบ้าน ๑) บรเิ วณภายในบา้ น สะอาดปลอดภัยเอื้อต่อการพฒั นาศักยภาพนักเรียน สะอาดปลอดภยั แตไ่ ม่เอ้ือต่อการพฒั นาศักยภาพนกั เรียน ไม่สะอาดและไมป่ ลอดภัย ๒) บริเวณภายนอกบ้าน สะอาดปลอดภยั เอื้อต่อการพัฒนาศักยภาพนักเรียน สะอาดปลอดภัยแต่ไม่เอ้ือตอ่ การพฒั นาศักยภาพนกั เรียน ไมส่ ะอาดและไม่ปลอดภัย
103 ๓.๓ สภาพแวดล้อมภายในชุมชน ๑) เจตคตขิ องชุมชนที่มีต่อนักเรยี นและครอบครวั เปน็ ภาระของสงั คม พรอ้ มให้ความช่วยเหลอื ความเชือ่ เร่อื งเวรกรรม มสี ทิ ธเิ ทา่ เทยี มกับคนท่ัวไป นา่ รงั เกียจ คนพกิ ารสามารถพัฒนาได้ ไม่สนใจ ๒) ความสัมพนั ธข์ องนักเรยี นกบั ชมุ ชน เปน็ ทรี่ ู้จกั ในชมุ ชน มสี ว่ นรว่ มในชุมชน เป็นท่รี ักของคนในชมุ ชน ชมุ ชนใหค้ วามช่วยเหลอื ไมม่ คี นในชมุ ชนรูจ้ ัก ไมส่ นใจ สรา้ งความเดือดร้อนใหค้ นในชุมชน ๔. ข้อมูลดา้ นความปลอดภัยสถานศึกษา ๔.๑ ภัยทเ่ี กดิ จากการใช้ความรนุ แรงของมนุษย์ ๑) การล่วงละเมดิ ทางเพศ นกั เรยี นมีผดู้ ูแลใกลช้ ิดตลอดเวลา นกั เรยี นมผี ดู้ แู ลใกลช้ ิดเป็นบางเวลา นักเรียนมักถูกทง้ิ ให้อยู่ตามลำพังหรือไม่มผี ู้ดแู ล นักเรยี นมปี ฏสิ ัมพนั ธท์ างสังคมโดยมีระยะห่างกับผู้อนื่ นักเรยี นมีพฤตกิ รรมกอดหรอื หอมแกม้ เพศตรงข้ามที่ไม่ใชญ่ าติหรอื คนรู้จกั นักเรียนมพี ฤติกรรมล้วงหรอื จบั อวยั วะเพศของตนเอง นักเรยี นมีพฤติกรรมลว้ งหรือจับอวยั วะเพศของผู้อื่น นกั เรียนมีพฤตกิ รรมกระตุน้ ตนเองทางเพศเปน็ บางคร้ัง นักเรียนมพี ฤติกรรมกระตุ้นตนเองทางเพศบ่อยครงั้ /เป็นประจำ นักเรียนมีพฤตกิ รรมการเขา้ ใชส้ ื่อเทคโนโลยีโดยไมม่ กี ารควบคมุ ดแู ล นกั เรยี นมพี ฤติกรรมชอบดสู ่อื อนาจารลามก ๒) การทะเลาะววิ าท นักเรยี นมผี ูด้ แู ลใกลช้ ิดตลอดเวลา นักเรยี นมีผู้ดูแลใกลช้ ดิ เป็นบางเวลา นักเรยี นมักถูกทง้ิ ใหอ้ ยตู่ ามลำพังหรือไม่มีผดู้ แู ล นกั เรียนมกี ริยาท่าทางเรียบรอ้ ย สภุ าพ ไม่ก้าวรา้ ว ไม่มพี ฤติกรรมทำรา้ ยตนเองหรือผูอ้ ่ืน นกั เรยี นมีพฤติกรรมเลน่ ไมเ่ ปน็ หรอื แย่งสง่ิ ของ ของเพื่อนหรือผู้อืน่ เป็นบางครั้ง
104 นกั เรียนมีพฤตกิ รรมชอบแยง่ ของ ของผอู้ ื่นหรือเพ่ือนบ่อยคร้งั /เปน็ ประจำ นกั เรยี นมพี ฤติกรรมชอบดสู ่ือหรอื ให้ความสนใจสอื่ ทมี่ ีความรุนแรงในสังคม นกั เรยี นมพี ฤตกิ รรมเลียนแบบการกระทำหรือคำพดู ท่ีก้าวรา้ วรนุ แรงเมอ่ื เหน็ ผู้อ่ืนทำหรือ จากการเสพสือ่ นักเรยี นมกั แสดงพฤติกรรมหรอื คำพดู ที่ก้าวรา้ วรนุ แรงตอ่ ผู้อืน่ นกั เรยี นไดร้ บั ยาท่ีมีฤทธ์ใิ นการปรับพฤติกรรม (ยากลุ่มจิตเวช) แตท่ านยาไมส่ ม่ำเสมอ ๓) การกลนั่ แกลง้ รงั แก นกั เรยี นมผี ้ดู แู ลใกลช้ ดิ ตลอดเวลา นกั เรยี นมีผ้ดู ูแลใกลช้ ิดเป็นบางเวลา นกั เรียนมักถูกท้งิ ใหอ้ ยตู่ ามลำพงั หรือไม่มีผู้ดูแล นักเรียนมีกริยาท่าทางเรียบร้อย สุภาพ ไม่กา้ วร้าว ไม่มีพฤติกรรมทำรา้ ยตนเองหรอื ผ้อู ่นื นักเรียนมพี ฤติกรรมเล่นไมเ่ ปน็ หรือแย่งสงิ่ ของ ของเพื่อนหรือผอู้ ื่นเป็นบางครั้ง นักเรียนมีพฤติกรรมชอบแย่งของ ของผอู้ ่ืนหรือเพื่อนบ่อยๆ/เป็นประจำ นักเรยี นมพี ฤติกรรมชอบดสู ื่อหรือให้ความสนใจส่อื ท่มี ีความรนุ แรงในสงั คม นกั เรยี นมีพฤตกิ รรมเลียนแบบการกระทำหรือคำพดู ท่แี สดงถึงการกลน่ั แกลง้ รงั แก เช่น พูดแซว พดู คำหยาบคาย ดึงผมผอู้ นื่ กดั หยิกหรือตผี ู้อื่น เม่ือเหน็ ผอู้ นื่ ทำหรือจากการเสพสื่อ นกั เรยี นมกั แสดงพฤติกรรมหรอื คำพูดที่แสดงถงึ การกล่นั แกลง้ รังแก เชน่ พูดแซว พูดคำ หยาบคาย ดึงผมผอู้ ืน่ กัดหยิกหรอื ตผี อู้ ื่น อยูเ่ สมอ ๔) การชุมนุมประทว้ งและการจลาจล นักเรียนมีผ้ดู แู ลใกล้ชิดตลอดเวลา นกั เรยี นมีผ้ดู แู ลใกลช้ ิดเป็นบางเวลา นกั เรยี นมักถูกทิง้ ให้อยตู่ ามลำพงั หรือไม่มผี ดู้ ูแล นกั เรยี นมกี รยิ าท่าทางเรียบร้อย สภุ าพ ไม่มีพฤติกรรม ก้าวร้าว กอ่ กวน ทำร้ายตนเองหรือ ผอู้ นื่ และไมม่ ีการแสดงพฤติกรรมท่กี ่อใหเ้ กิดการชมุ นุม ชักจงู ผู้อ่นื หรอื การประทว้ ง นักเรียนมีพฤตกิ รรมชอบดูสอ่ื หรือให้ความสนใจส่ือท่ีเกี่ยวกบั การชุมนุมประท้วงและ การจลาจลในสงั คม นกั เรยี นเสี่ยงตอ่ การถกู ชักชวนจากผูอ้ น่ื ไปร่วมหรือก่อการชุมนมุ ประทว้ งและการจลาจล นกั เรียนถูกชกั ชวนไปรว่ มการชมุ นุมประทว้ งและการจลาจล
105 ๕) การกอ่ วนิ าศกรรม นกั เรยี นมีผู้ดแู ลใกลช้ ดิ ตลอดเวลา นกั เรยี นมผี ู้ดแู ลใกล้ชิดเป็นบางเวลา นักเรียนมกั ถูกท้งิ ให้อย่ตู ามลำพงั หรือไม่มผี ู้ดแู ล นกั เรยี นมีกรยิ าท่าทางเรียบรอ้ ย สภุ าพ ไมม่ ีพฤตกิ รรม ก้าวรา้ ว กอ่ กวน ทำร้ายตนเองหรอื ผอู้ ่นื และไมม่ ีการแสดงพฤติกรรมทเก่ียวกบั ทำรา้ ยผู้อื่น ทำลายสาธารณะสมบตั ิในสงั คม เป็นต้น นกั เรียนมีพฤตกิ รรมชอบดูสอื่ หรอื ให้ความสนใจสือ่ ท่ีเกี่ยวกับ ทำร้ายผ้อู น่ื ทำลายสาธารณะ สมบตั ิในสงั คม เปน็ ตน้ นักเรียนเสี่ยงตอ่ การถูกชักชวนจากผู้อ่นื ไปรว่ มหรือก่อการชมุ นุมประท้วงและการจลาจล นักเรียนถกู ชักชวนไปร่วม ทำรา้ ยผอู้ นื่ ทำลายสาธารณะสมบัตใิ นสังคม เป็นต้น ๖) การระเบดิ นกั เรียนมผี ดู้ ูแลใกล้ชดิ ตลอดเวลา นกั เรียนมีผ้ดู ูแลใกล้ชดิ เป็นบางเวลา นกั เรยี นมักถูกท้งิ ให้อยตู่ ามลำพังหรือไม่มผี ้ดู แู ล นักเรยี นไม่มีแนวโน้มที่จะแสดงพฤติกรรม การพกพาหรือเลน่ สารเคมหี รือวัตถทุ ี่อาจ กอ่ ใหเ้ กิดระเบดิ บคุ คลในครอบครัวนักเรยี นมีการใชส้ ารเคมหี รือวตั ถุทอ่ี าจกอ่ ให้เกดิ ระเบดิ ในครอบครัวหรือ ในการประกอบอาชีพของครอบครวั เชน่ ยาฆ่าแมลงวชั พืช หรอื สารประกอบในปยุ๋ เคมี หรือสารเคมที ำประทัด พลุ หรือบ้ังไฟ หรอื มวี ัตถุอนั ตราย เชน่ กระป๋องสเปรย์ นำ้ มนั ไมข้ ีดไฟ ไฟแชค็ ในบ้าน นกั เรยี นคลุกคลกี ับบุคคลมีการใช้สารเคมหี รือใช้วตั ถุอัตรายในการประกอบอาชีพท่ีอาจ กอ่ ให้เกิดระเบดิ นกั เรยี นคลกุ คลีกับบุคคลมีการใชส้ ารเคมีหรือใช้วัตถุอัตรายในการทำประทัด พลุ หรือบงั้ ไฟ นักเรียนเสี่ยงต่อการถกู ชักชวนจากผอู้ ื่นในการพกพาหรือเลน่ สารเคมีหรือใช้วัตถทุ ่ีอาจ ก่อให้เกิดระเบดิ นักเรียนมพี ฤติกรรมพกพาหรือนำสารเคมีหรือวัตถุท่ีอาจก่อใหเ้ กดิ ระเบิด เช่น ยาฆ่าแมลง วชั พืช หรอื สารประกอบในปุ๋ยเคมี หรือสารเคมีทำประทดั พลุ หรอื บงั้ ไฟ หรอื มีวัตถุอันตราย เชน่ กระปอ๋ งสเปรย์ นำ้ มัน ไม้ขีดไฟ ไฟแชค็
106 ๗) สารเคมีและวัตถุอันตราย นักเรยี นมีผ้ดู ูแลใกล้ชิดตลอดเวลา นักเรียนมีผดู้ แู ลใกลช้ ิดเป็นบางเวลา นกั เรียนมกั ถูกทิ้งให้อยตู่ ามลำพงั หรือไม่มีผ้ดู แู ล นกั เรียนไม่มีแนวโน้มท่ีจะแสดงพฤติกรรม การพกพาหรือเลน่ สารเคมีหรือวัตถุอันตราย บุคคลในครอบครัวนักเรียนมีการใช้สารเคมีหรือวัตถุอันตราย ในครอบครัวหรือใน การประกอบอาชีพของครอบครัว เช่น น้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างห้องน้ำ น้ำส้มสายชู ยาฆ่าแมลง ผงซักฟอก น้ำยาซกั ฟอก กระปอ๋ งสเปรย์ น้ำมนั ไมข้ ดี ไฟ ไฟแช็ค เป็นต้น นักเรียนคลกุ คลกี บั บุคคลมีการใชส้ ารเคมหี รือใช้วตั ถุอตั รายในการประกอบอาชพี นกั เรยี นคลุกคลกี ับบุคคลมกี ารใชส้ ารเคมีหรือใชว้ ตั ถุอัตรายในการทำประทัด พลุ หรือบ้งั ไฟ นกั เรียนเสย่ี งต่อการถกู ชักชวนจากผู้อืน่ ในการพกพาหรือเลน่ สารเคมีหรือใชว้ ตั ถอุ ันตราย นักเรียนมพี ฤติกรรมพกพาหรอื นำสารเคมหี รือวัตถุอตั รายน้ำยาล้างจาน นำ้ ยาลา้ งห้องน้ำ น้ำส้มสายชู ยาฆ่าแมลง ผงซักฟอก นำ้ ยาซักฟอก กระป๋องสเปรย์ น้ำมัน ไมข้ ดี ไฟ ไฟแช็ค เปน็ ต้น ๘) การล่อลวง ลักพาตวั นกั เรียนมีผดู้ ูแลใกลช้ ดิ ตลอดเวลา นกั เรียนถกู ทิ้งอย่ตู ามลำพงั ในห้องเรียนหรือทีบ่ ้านหรือสถานท่สี าธารณะในชุมชนเป็น บางครั้ง นกั เรียนถูกท้ิงอยู่ตามลำพงั ในห้องเรียนหรือท่ีบ้านหรือสถานทีส่ าธารณะในชมุ ชนบ่อยครัง้ หรือเปน็ ประจำ นักเรยี นสามารถแสดงอาการหรอื พูดปฏิเสธเมือ่ ถูกชกั ชวนจากผอู้ ืน่ หรือคนแปลกหน้า นกั เรยี นสามารถแสดงอาการหรือพูดปฏเิ สธเม่อื ถูกชักชวนจากผอู้ น่ื หรอื คนแปลกหน้าเปน็ บางคร้งั นกั เรียนสามารถแสดงอาการหรอื พูดปฏเิ สธหรือไม่รบั ของจากผู้อ่ืนหรือคนแปลกหนา้ ทใี่ ห้ สิ่งของ/ขนม นกั เรยี นไมส่ ามารถแสดงอาการหรือพดู ปฏิเสธเมื่อถูกชกั ชวนจากผูอ้ ื่นหรือคนแปลกหน้า นกั เรียนสามารถแสดงอาการหรอื พูดปฏเิ สธในการรบั ของจากผู้อนื่ หรอื คนแปลกหนา้ ทใ่ี ห้ ส่ิงของ/ขนมเปน็ บางครั้ง นักเรยี นไม่สามารถแสดงอาการหรือพูดปฏเิ สธในการรับของจากผูอ้ ่นื หรือคนแปลกหน้าที่ให้ สง่ิ ของ/ขนม
107 ๔.๒ ภยั ทีเ่ กิดจากอบุ ตั ิเหตุ ๑) ภัยธรรมชาติ ๑.๑) ภัยจากนำ้ ท่วม (จมน้ำ/ไฟดูด/สตั ว์มพี ิษ) นกั เรยี นมผี ดู้ ูแลใกลช้ ิดตลอดเวลา นกั เรยี นมผี ้ดู แู ลใกลช้ ดิ เป็นบางเวลา นักเรยี นบอกสถานการณ์ คำเตอื นภัยหรือภาพสัญลกั ษณ์ในการเตือนภัยทเ่ี กดิ ขน้ึ ได้ นกั เรยี นไม่สามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภัยหรอื ภาพสญั ลักษณใ์ นการเตือนภัยทีเ่ กิดข้นึ ได้ นกั เรียนสามารถดแู ลตวั เองเม่ือเกิดเหตกุ ารณ์ได้ นกั เรยี นไม่สามารถดูแลตัวเองเม่ือเกิดเหตุการณ์ได้ นักเรียนมพี ฤตกิ รรม ชอบเล่นน้ำ ชอบเอานิว้ ไปแหย่ ชอบไปจับ ชอบเอาของหรือมือใส่ปาก นักเรียนบอกไม่ได้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ไม่สามารถดูแลตัวเองเมื่อเกิดเหตุการณ์ได้ และมีพฤติกรรม ชอบเลน่ นำ้ ชอบเอานว้ิ ไปแหย่ ชอบไปจบั ชอบเอาของหรือมือใส่ปาก และถูกทง้ิ ให้อยู่ตามลำพัง หรอื ไมม่ ีผู้ดแู ล ๑.๒) ไฟไหม้ปา่ หรือไฟไหมท้ ี่ลุกลามในสถานทตี่ า่ ง ๆ นกั เรียนมผี ู้ดูแลใกล้ชดิ ตลอดเวลา เรียนมีผู้ดแู ลใกล้ชิดเป็นบางเวลา นกั เรยี นสามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภัยหรอื ภาพสัญลกั ษณใ์ นการเตือนภัยท่ีเกิดขน้ึ ได้ นักเรียนไม่สามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภัยหรอื ภาพสญั ลกั ษณ์ในการเตือนภยั ท่ีเกิดขึน้ ได้ นกั เรียนสามารถดแู ลตัวเองเมื่อเกดิ เหตกุ ารณไ์ ด้ นักเรยี นไม่สามารถดแู ลตัวเองเม่ือเกิดเหตุการณ์ได้ นกั เรียนมพี ฤตกิ รรมชอบเลน่ วัตถไุ วไฟ วตั ถุทกี่ ่อใหเ้ กดิ ไฟหรือเช้อื เพลงิ นักเรยี นไม่สามารถบอกเหตกุ ารณท์ ีเ่ กิดขน้ึ ไม่สามารถดูแลตวั เองเมื่อเกิดเหตกุ ารณ์ได้ และมี พฤติกรรม ชอบเลน่ วัตถุไวไฟ วัตถทุ กี่ ่อใหเ้ กิดไฟหรือเช้อื เพลิง และถกู ทิ้งให้อยู่ตามลำพงั หรือไม่มผี ูด้ ูแล ๑.๓) พายุ นักเรยี นมผี ดู้ แู ลใกล้ชิดตลอดเวลา เรยี นมีผู้ดูแลใกลช้ ิดเปน็ บางเวลา นักเรยี นสามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภัยหรือภาพสญั ลักษณใ์ นการเตือนภัยท่เี กิดขึ้นได้ นักเรยี นไม่สามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภัยหรอื ภาพสญั ลักษณใ์ นการเตอื นภัยทีเ่ กิดขน้ึ ได้
108 นกั เรยี นสามารถดแู ลตวั เองเมื่อเกิดเหตกุ ารณ์ได้ นกั เรยี นไมส่ ามารถดูแลตัวเองเมื่อเกิดเหตุการณ์ได้ นักเรยี นไม่สามารถบอกเหตุการณท์ เ่ี กดิ ขนึ้ ไมส่ ามารถดแู ลตัวเองเมื่อเกิดเหตุการณ์ได้ และ ถกู ทิ้งให้อย่ตู ามลำพังหรือไมม่ ีผู้ดูแล ๑.๔) แผ่นดนิ ไหว นักเรยี นมีผ้ดู ูแลใกล้ชดิ ตลอดเวลา เรยี นมีผดู้ แู ลใกล้ชดิ เป็นบางเวลา นกั เรยี นสามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภัยหรอื ภาพสญั ลกั ษณใ์ นการเตือนภัยท่เี กิดข้ึนได้ นกั เรยี นไมส่ ามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภัยหรอื ภาพสัญลกั ษณใ์ นการเตือนภัยที่เกิดขน้ึ ได้ นกั เรียนสามารถดแู ลตวั เองเม่ือเกิดเหตกุ ารณไ์ ด้ นักเรยี นไมส่ ามารถดแู ลตัวเองเมื่อเกิดเหตุการณ์ได้ นกั เรียนไมส่ ามารถบอกเหตุการณท์ ีเ่ กดิ ขน้ึ ไมส่ ามารถดูแลตัวเองเมื่อเกิดเหตกุ ารณไ์ ด้ และ ถกู ทง้ิ ใหอ้ ยู่ตามลำพังหรอื ไมม่ ีผ้ดู แู ล ๑.๕) ภัยธรรมชาตใิ นช่วงฤดูหนาว นักเรียนมผี ู้ดแู ลใกล้ชิดตลอดเวลา เรียนมผี ดู้ แู ลใกล้ชิดเปน็ บางเวลา นักเรยี นสามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภยั หรอื ภาพสญั ลกั ษณใ์ นการเตือนภัยทเี่ กิดขน้ึ ได้ นกั เรียนไมส่ ามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภยั หรอื ภาพสญั ลกั ษณใ์ นการเตือนภยั ที่เกิดข้ึน ได้ นกั เรยี นสามารถดูแลตัวเองเม่ือเกิดเหตุการณ์ได้ นกั เรยี นไม่สามารถดแู ลตัวเองเมื่อเกิดเหตุการณ์ได้ นักเรียนไมส่ ามารถบอกเหตกุ ารณ์ทเี่ กิดข้ึน ไมส่ ามารถดูแลตัวเองเม่ือเกิดเหตกุ ารณไ์ ด้ และ ถูกทง้ิ ใหอ้ ยตู่ ามลำพังหรอื ไม่มีผู้ดแู ล ๒) ภัยจากอาคารเรียน สิ่งก่อสรา้ ง นักเรียนมผี ู้ดูแลใกลช้ ิดตลอดเวลา เรยี นมผี ้ดู ูแลใกล้ชิดเปน็ บางเวลา นักเรียนสามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภัยหรือภาพสญั ลักษณใ์ นการเตือนภยั ท่เี กิดขนึ้ ได้ นกั เรยี นไมส่ ามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภัยหรอื ภาพสญั ลกั ษณ์ในการเตอื นภยั ที่เกิดขน้ึ ได้
109 นกั เรยี นสามารถดูแลตวั เองเม่ือเกดิ เหตุการณไ์ ด้ นกั เรยี นไม่สามารถดแู ลตัวเองเม่ือเกิดเหตุการณ์ได้ นักเรยี นไม่สามารถบอกเหตุการณ์ท่ีเกิดขึน้ ไม่สามารถดแู ลตัวเองเม่ือเกิดเหตกุ ารณไ์ ด้ และ ถกู ท้งิ ให้อยู่ตามลำพังหรือไมม่ ีผดู้ ูแล ๓) ภยั จากยานพาหนะ นักเรียนมีผูด้ ูแลใกล้ชดิ ตลอดเวลา นักเรียนมีผดู้ ูแลใกล้ชิดเป็นบางเวลา นกั เรียนสามารถปฏบิ ัติตนเมื่อใชห้ รอื โดยสารยานพาหนะที่จำเป็นในชวี ติ ประจำวนั ได้ เช่น รถจกั รยาน รถจักรยานยนต์ รถยนต์ เปน็ ต้น นักเรยี นไม่สามารถปฏบิ ตั ิตนเม่อื ใช้หรือโดยสารยานพาหนะทีจ่ ำเปน็ ในชีวติ ประจำวันได้ เช่น รถจกั รยาน รถจกั รยานยนต์ รถยนต์ เปน็ ต้น นักเรยี นสามารถปฏิบตั ติ นในการป้องกันอนั ตรายที่อาจเกดิ จากยานพาหนะในชีวติ ประจำวัน ได้ นักเรยี นไมส่ ามารถปฏิบัติตนในการป้องกนั อันตรายท่ีอาจเกดิ จากยานพาหนะใน ชีวติ ประจำวนั ได้ นักเรียนไม่สามารถปฏิบัติตนเมื่อใช้หรือโดยสารยานพาหนะและไม่สามารถปฏิบัติตนใน การปอ้ งกันอันตรายที่อาจเกิดจากยานพาหนะในชีวติ ประจำวันได้ รวมถงึ มกั ถูกท้งิ ให้อยตู่ ามลำพังหรือไม่มผี ดู้ แู ล ๔) ภยั จากการจัดกิจกรรม นกั เรยี นมีผู้ดูแลใกล้ชดิ ตลอดเวลา นักเรยี นมีผูด้ แู ลใกล้ชดิ เป็นบางเวลา นกั เรยี นสามารถปฏบิ ัติตามกฎ กติกา ข้อตกลงได้ นักเรยี นปฏบิ ตั ิตามกฎ กตกิ า ข้อตกลงได้เป็นบางครัง้ นักเรียนไม่สามารถปฏบิ ัติตามกฎ กติกา ข้อตกลงได้ และ มกั ถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังหรือไม่มี ผ้ดู ูแล ๕) ภัยจากเครื่องมือ อปุ กรณ์ นกั เรยี นมผี ดู้ ูแลใกลช้ ิดตลอดเวลา นักเรียนมีผ้ดู แู ลใกลช้ ิดเป็นบางเวลา นักเรียนสามารถใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ เช่น กรรไกร/กาว/ดินสอแหลม/มีดครัว/ เครื่องใชไ้ ฟฟ้า/เครอ่ื งมือชา่ งในบ้านหรือสถานศกึ ษา ไดด้ ว้ ยตนเองอยา่ งปลอดภัย นักเรียนไม่สามารถใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ เช่น กรรไกร/กาว/ดินสอแหลม/มีดครัว/ เครื่องใช้ไฟฟ้า/เคร่อื งมือช่างในบ้านหรือสถานศึกษา ไดด้ ้วยตนเองอย่างปลอดภัย
110 นักเรียนไม่สามารถใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ เช่น กรรไกร/กาว/ดินสอแหลม/มีดครัว/ เครื่องใช้ไฟฟ้า/เครื่องมือช่างในบ้านหรือสถานศึกษา ได้ด้วยตนเองอย่างปลอดภัย และมักถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง หรือไม่มผี ดู้ แู ล ๔.๓ ภัยทเ่ี กดิ จากการถกู ละเมิดสิทธ์ิ ๑) การถกู ปล่อยปละ ละเลย ทอดท้ิง นักเรียนไดร้ บั การดแู ลเล้ยี งดจู ากผปู้ กครองและผ้ดู ูแลเป็นอยา่ งดี นักเรยี นถูกปล่อยปละ ละเลย ทอดทิ้ง เปน็ บางครง้ั นกั เรยี นถูกปล่อยปละ ละเลย ทอดท้ิง เปน็ บ่อยครั้ง ๒) การคกุ คามทางเพศ นกั เรียนรูว้ ิธีการเอาตวั รอดจากการคุกคามทางเพศ นกั เรยี นไดร้ ับการดูแลเลย้ี งดูจากผู้ปกครองและผ้ดู ูแลเป็นอย่างดี นักเรียนถูกท้ิงให้อยูบ่ ้านเพยี งลำพังเปน็ บางครง้ั นกั เรียนถูกท้ิงให้อยบู่ ้านเพยี งลำพังเป็นประจำ บ้านนกั เรียนอยู่ในพน้ื ที่ห่างไกลชุมชน บา้ นนกั เรยี นอยใู่ นพนื้ ท่ีห่างไกลชุมชน เมื่อมเี หตสุ ุดวิสัยไม่สามารถขอความชว่ ยเหลือจาก ผอู้ ืน่ หรือหน่วยงานต่าง ๆ ได้ทนั ที บ้านนกั เรียนอยใู่ นพืน้ ท่ที ่ีมีการมั่วสุม เชน่ ยาเสพตดิ สุรา การพนนั บา้ นนกั เรยี นอยใู่ นพ้นื ท่ีที่มกี ารมว่ั สมุ เช่น ยาเสพติด สุรา การพนัน เม่ือมเี หตสุ ดุ วิสัยไม่ สามารถขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นหรือหนว่ ยงานต่าง ๆ ได้ทันที ๓) การไมไ่ ดร้ บั ความเป็นธรรมจากระบบการศกึ ษา นักเรยี นไดร้ ับการศกึ ษาและการพัฒนาตนเองจากหน่วยงานทเี่ กยี่ วข้องกบั ระบบการศกึ ษา ครอบครัวนักเรียนขาดการรับข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานต่าง ๆ เนื่องจากอยู่ในพื้นท่ี ห่างไกล บนเขา ติดชายแดน หรือพน้ื ทเี่ สีย่ งภยั ผปู้ กครองกลัวลกู ถกู รังแกหรอื กล่ันแกล้งหรือไม่ได้รับการดูแลเทา่ ท่คี วรเหมาะสม ผูป้ กครองขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการศกึ ษา เพราะคดิ วา่ เด็กพิการไม่ต้องเข้า ระบบการศกึ ษา การคมนาคมและระบการติดตอ่ ส่ือสารไมส่ ะดวก การสื่อสารดา้ นภาษา เช่น กลมุ่ ชาตพิ ันธ์ กลุ่มชนกลมุ่ น้อย
111 ๔.๔ ภยั ท่เี กดิ จากผลกระทบต่อสขุ ภาวะทางกายและจิตใจ ๑) ภาวะจติ เวช นกั เรยี นได้รับการดแู ลเลย้ี งดจู ากผปู้ กครองและผดู้ แู ลเป็นอยา่ งดี นกั เรยี นมีพฤติกรรม อารมณ์ รา่ งเริงแจ่มใส่ หรือสามารถแสดงพฤติกรรม อารมณ์ได้อยา่ ง เหมาะสมและสอดคลอ้ งตามสถานการณ์ นกั เรียนมีพฤตกิ รรม อารมณ์ไมเ่ หมาะสมบางสถานการณ์ นักเรียนปญั หาด้านครอบครวั สง่ ผลกระทบต่อจติ ใจ นกั เรียนมปี ัญหาด้านสภาพแวดลอ้ มในชุมชน ท่ีสง่ ผลต่อพฤตกิ รรม นักเรยี นมีภาวะอาการโรคซมึ เศร้า นักเรยี นมีปัญหาทางดา้ นพฤติกรรมและอารมณ์ท่รี ุนแรง ๒) ตดิ เกม นกั เรียนได้รบั การดแู ลเล้ียงดูจากผปู้ กครองและผู้ดแู ลเป็นอยา่ งดี นักเรียนสามารถแบ่งเวลาในการเล่นเกมและทำกิจกรรมอื่น ๆ โดยไม่มีภาวะพฤติกรรม ต่อต้าน นักเรยี นถกู ปล่อยปละละเลยใหเ้ ลน่ โทรศพั ทห์ รือเลน่ คอมพวิ เตอร์โดยไมม่ ีการควบคุม ดแู ล เปน็ บางคร้งั นกั เรียนถกู ปล่อยปละละเลยใหเ้ ล่นโทรศัพท์หรือเล่นคอมพิวเตอร์โดยไมม่ ีการควบคุม ดูแล บอ่ ยครั้ง สภาพแวดลอ้ มทใี่ กล้ชดิ ทำใหน้ กั เรยี นมีพฤติกรรมเลียนแบบ เชน่ ผ้ดู แู ลเลน่ เกมคอมพวิ เตอร์ หรือมอื ถืออย่างไมร่ ะมัดระวงั นักเรียนแสดงพฤติกรรมหรอื อารมณท์ ี่ก้าวร้าวรุนแรง เมอ่ื ถูกหา้ ม ยึด หรือจำกดั เวลาใน การเล่นเกม ผู้ดแู ลขาดความเขา้ ใจในส่อื ออนไลน์ไม่สามารถแนะนำให้นักเรยี นเลน่ เกมอยา่ งระมัดระวังได้ ๓) ยาเสพตดิ นกั เรียนได้รบั การดูแลเลยี้ งดูจากผปู้ กครองและผู้ดแู ลเปน็ อยา่ งดี นกั เรียนสามารถรับรูถ้ ึงโทษของยาเสพติด นักเรียนอยู่ในสภาพแวดล้อม ครอบครัวหรือชุมชน ที่มีการใช้สารเสพติดหรือมีความ เก่ียวขอ้ งกบั ยาเสพตดิ และการกระทำผดิ กฎหมาย นักเรียนถูกชกั ชวนจากผู้อ่นื ไดง้ ่าย นักเรยี นมพี ฤติกรรม เลียนแบบหรอื ทำตามผอู้ นื่ นักเรียนเคยทดลองใช้ยาเสพติด นักเรยี นใชย้ าเสพติด นกั เรียนถกู หลอกใชใ้ หเ้ ป็นผสู้ ง่ -รบั ยาเสพติด นกั เรียนเป็นผู้ขายหรอื ผู้ซื้อยาเสพตดิ
112 ๔) โรคระบาดในมนษุ ย์ นักเรียนไดร้ บั การดูแลเล้ยี งดจู ากผู้ปกครองและผู้ดแู ลเปน็ อย่างดี นกั เรยี นมีผ้ดู แู ลใกล้ชดิ เป็นบางเวลา นักเรยี นมกั ถูกท้งิ ให้อยูต่ ามลำพงั หรือไม่มีผดู้ ูแล นกั เรยี นรู้จักวิธกี ารปอ้ งกนั และสามารถดูแลตนเองใหป้ ลอดภยั จากโรคระบาดได้ ร่างกาย นกั เรยี นไม่สามารถดแู ลตนเองจากโรคระบาดได้ เชน่ การใส่แมส ล้างมอื ทำความสะอาด นักเรียนอาศัยหรือใช้ชวี ติ อยใู่ นสภาพแวดล้อมท่ีเปน็ แหล่งแพรเ่ ชอื้ โรค นักเรียนอย่ใู กล้ชดิ กบั ผูป้ ่วย เช่น บุคคลในครอบครัว เพ่อื น ผใู้ กล้ชดิ หรือบคุ คลในครอบครวั เปน็ โรคระบาดและนักเรียนไมส่ ามารถปอ้ งกนั ตัวเองได้ นักเรียนป่วยเปน็ โรคระบาดและไมส่ ามารถป้องกันการแพร่กระจายเชื้อจากตนเองไปสูผ่ ้อู ื่น ได้ ๕) ภยั ไซเบอร์ นักเรียนได้รบั การดูแลเลย้ี งดูจากผปู้ กครองและผู้ดูแลเปน็ อยา่ งดี นักเรยี นสามารถแบ่งเวลาในใช้สือ่ เครือข่ายสังคมออนไลน์และทำกิจกรรมอืน่ ๆ โดยไมม่ ี ภาวะพฤติกรรมต่อตา้ น นักเรยี นถูกปล่อยปละละเลยใหเ้ ลน่ โทรศพั ทห์ รือเลน่ คอมพิวเตอร์โดยไมม่ ีการควบคุม ดแู ล เป็นบางครัง้ สภาพแวดลอ้ มทีใ่ กล้ชิดทำใหเ้ ดก็ มีพฤติกรรมเลียนแบบ เชน่ ผู้ดูแลใชส้ อื่ เครือข่ายสังคม ออนไลน์อยา่ งไม่ระมดั ระวงั ผู้ดแู ลขาดความเข้าใจในใชส้ ือ่ เครือข่ายสงั คมออนไลน์ ไม่สามารถแนะนำ ใหเ้ ดก็ ใช้อย่าง ระมัดระวงั ได้ นกั เรยี นถูกปลอ่ ยปละละเลยให้เลน่ โทรศพั ท์หรือเลน่ คอมพวิ เตอร์โดยไม่มีการควบคุม ดแู ล บอ่ ยครัง้ นักเรียนแสดงพฤตกิ รรมหรืออารมณ์ที่กา้ วรา้ วรุนแรง เมื่อถกู ห้าม ยึด หรือจำกัดเวลาในใช้สื่อ เครอื ข่ายสงั คมออนไลน์และทำกิจกรรมอ่นื ๆ ๖) การพนนั นักเรยี นได้รบั การดูแลเลยี้ งดจู ากผู้ปกครองและผู้ดแู ลเป็นอย่างดี นกั เรียนสามารถรบั รู้ถึงโทษของการเล่นการพนัน นักเรยี นอยู่ในครอบครัว ชมุ ชนหรอื สภาพแวดล้อม ที่มีการเล่นพนัน นักเรียนถูกชกั ชวนจากเพื่อนหรือผู้ใกลช้ ิดใหเ้ ล่นการพนัน นกั เรียนมพี ฤตกิ รรมอยากทดลอง เลยี นแบบการเล่นการพนนั ตามเพ่ือนหรือผทู้ ี่อยู่ใกลช้ ดิ นักเรียนมีพฤติกรรมส่อไปทางการเล่นหรือตดิ การพนัน
113 ๗) มลภาวะเปน็ พษิ นักเรียนได้รบั การดแู ลเลย้ี งดูจากผปู้ กครองและผู้ดแู ลเปน็ อยา่ งดี นักเรียนรูจ้ กั วธิ กี ารปอ้ งกันและสามารถดแู ลตนเองใหป้ ลอดภัยจากมลภาวะตา่ ง ๆ ได้ นกั เรยี นอย่ใู นสภาพแวดล้อมทเ่ี ป็นแหล่งมลภาวะ ทางอากาศ ทางเสียง ทางดนิ ทางนำ้ นกั เรยี นไม่สามารถดแู ลตนเองจากมลภาวะได้ เชน่ การใส่แมสเพื่อป้องกนั มลภาวะทาง อากาศ นกั เรยี นปว่ ยหรือเปน็ โรคทีเ่ กดิ จากมลภาวะ ทางอากาศ ทางเสียง ทางดนิ ทางนำ้ เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ โรคท่เี ก่ียวกับการไดย้ ินเสียง โรคทางระบบทางเดินอาหาร และสขุ ภาวะทางกายอืน่ ๆ ท่ี เกิดจากมลภาวะเปน็ พิษ ๘) โรคระบาดในสัตว์ นักเรียนได้รับการดแู ลเลยี้ งดูจากผ้ปู กครองและผู้ดแู ลเปน็ อย่างดี ครอบครวั นักเรยี นรจู้ ักวิธีการป้องกันและสามารถดูแลสตั วเ์ ล้ียงและคนในครอบครัวให้ ปลอดภยั จากโรคระบาดหรือโรคตดิ ต่อจากสตั วไ์ ด้ ครอบครัวนักเรียนไมม่ ีความรูใ้ นการดูแล ป้องกันโรคต่าง ๆ จากสตั ว์เลย้ี ง นักเรยี นอยใู่ นสภาพแวดลอ้ มหรือชมุ ชนท่ีมีการเลย้ี งสัตว์ ทำการปศุสัตว์ นกั เรียนอยู่ในสภาพแวดล้อมหรือชุมชนที่มีการเกิดโรคระบาดสตั ว์ นกั เรยี นปว่ ยหรอื ติดเชือ้ จากโรคตา่ ง ๆ จากสัตวเ์ ลี้ยง หรอื โรคระบาดในสัตว์ เช่น โรคพษิ สุนัขบ้า โรคไขเ้ ลือดออก ไขห้ วดั นก โรคฉ่หี นู โรคอหวิ าในสตั ว์ โรคเชือ้ ราผวิ หนงั โรคเก่ียวกับพยาธใิ นสตั ว์ เปน็ ตน้ ๙) โรคภาวะทุพโภชนาการ นกั เรยี นสามารถรับประทานอาหารท่ีมปี ระโยชน์ ถกู ต้องตามหลกั โภชนาการ ครบ 5 หมู่ นักเรยี นร้จู กั โทษของอาหารทไี่ ม่มปี ระโยชนต์ ่อร่างกาย นกั เรยี นสามารถออกกำลังกายได้อยา่ งสมำ่ เสมอ ผูป้ กครองดูแลและมีความรู้ความเข้าใจด้านโภชนาการอย่างถูกต้อง นกั เรียนรับประทานที่ไม่มปี ระโยชน์ ไม่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ ผปู้ กครองขาดความรู้และไมม่ เี วลาในการดูแลจัดอาหารใหถ้ กู ต้องตามหลักโภชนาการ นกั เรียนมีน้ำหนักผดิ ปกติไม่สัมพันธ์กบั สว่ นสงู หรืออายุ นักเรียนป่วยเปน็ โรคขาดสารอาหาร นกั เรยี นป่วยเปน็ โรคขาดสารอาหารหรอื มีปญั หาทางด้านสขุ ภาพต้งั แต่กำเนิด
114 ๔.๕ ภัยสงั คมในเทศกาลต่าง ๆ ๑) ถูกจป้ี ล้น/ถกู วงิ่ ราวทรพั ย์/ถกู ล้วงกระเป๋า นกั เรยี นรูจ้ ักวธิ กี ารปอ้ งกันตนเองต่อการถูกจี้ปลน้ /ถูกวิ่งราวทรัพย์/ถูกล้วงกระเป๋า และผู้ปกครองดูแลอยา่ งใกล้ชิด นักเรียนไม่รจู้ ักวิธีการป้องกันตนเองต่อการถูกจีป้ ล้น/ถูกว่ิงราวทรพั ย/์ ถูกลว้ งกระเปา๋ แตผ่ ู้ปกครองดแู ลอยา่ งใกลช้ ดิ นกั เรยี นรู้จกั วิธีการป้องกันตนเองต่อการถกู จีป้ ลน้ /ถูกว่ิงราวทรพั ย/์ ถูกล้วงกระเปา๋ และมผี ู้ดูแลใกล้ชดิ บางเวลา นกั เรยี นไมร่ จู้ กั วธิ ีการป้องกันตนเองต่อการถูกจี้ปล้น/ถูกว่ิงราวทรพั ย์/ถูกล้วงกระเป๋า และมผี ู้ดูแลใกลช้ ิดบางเวลา รู้นกั เรยี นจักวิธีการป้องกันตนเองต่อการถกู จปี้ ลน้ /ถูกวิ่งราวทรัพย/์ ถูกล้วงกระเปา๋ แต่ถูกทง้ิ ให้อยู่ตามลำพังหรอื ไม่มีผ้ดู ูแล นกั เรยี นไม่รจู้ ักวิธกี ารป้องกันตนเองตอ่ การถูกจ้ปี ลน้ /ถูกว่ิงราวทรัพย์/ถูกล้วงกระเป๋า และถูกทงิ้ ให้อย่ตู ามลำพงั หรือไม่มผี ู้ดแู ล ๒) ถกู ลอ่ ลวง/ถกู หลอก นักเรยี นรู้จกั วิธกี ารปอ้ งกันตนเองต่อการถูกล่อลวง/ถกู หลอก และผูป้ กครองดแู ลอย่าง ใกล้ชิด นักเรียนไม่รจู้ ักวธิ กี ารป้องกนั ตนเองต่อการถูกล่อลวง/ถกู หลอก แตผ่ ู้ปกครองดูแลอยา่ ง ใกลช้ ดิ นกั เรียนรจู้ ักวธิ กี ารปอ้ งกันตนเองต่อการถกู ล่อลวง/ถูกหลอกและมีผ้ดู ูแลใกล้ชดิ บางเวลา นักเรยี นไมร่ จู้ กั วธิ ีการป้องกันตนเองตอ่ การถูกลอ่ ลวง/ถกู หลอกและมผี ้ดู แู ลใกล้ชดิ บางเวลา นักเรยี นรู้จกั วิธีการป้องกันตนเองต่อการถกู ล่อลวง/ถูกหลอกแต่ถกู ท้ิงใหอ้ ยู่ตามลำพังหรอื ไม่ มผี ู้ดแู ล นกั เรียนไมร่ ู้จกั วธิ ีการป้องกันตนเองต่อการถูกลอ่ ลวง/ถูกหลอก และถกู ทิ้งให้อยู่ตามลำพงั หรอื ไม่มผี ้ดู แู ล ๓) ถูกลักพาตัว นกั เรยี นรจู้ กั วธิ ีการป้องกันตนเองต่อการถกู ลักพาตวั และผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิด นกั เรยี นไม่รจู้ ักวธิ ีการป้องกันตนเองต่อการถูกลักพาตัว แตผ่ ู้ปกครองดูแลอยา่ งใกล้ชดิ นกั เรียนรูจ้ กั วิธกี ารปอ้ งกันตนเองต่อการถูกลกั พาตัวและมีผูด้ แู ลใกลช้ ิดบางเวลา นักเรียนไมร่ จู้ กั วธิ กี ารป้องกันตนเองตอ่ การถูกลกั พาตวั และมผี ดู้ ูแลใกลช้ ิดบางเวลา นกั เรียนรู้จักวธิ กี ารป้องกันตนเองต่อการถกู ลักพาตวั แต่ถูกทิ้งให้อยตู่ ามลำพังหรอื ไม่มผี ู้ดูแล
115 นกั เรยี นไมร่ ้จู กั วธิ ีการป้องกันตนเองต่อการถูกลักพาตวั และถกู ท้งิ ให้อยตู่ ามลำพงั หรือไม่มี ผดู้ แู ล ๔) ถูกวางยาด้วยวธิ ีการตา่ ง ๆ นกั เรียนรูจ้ กั วธิ กี ารป้องกันตนเองต่อการถกู วางยาด้วยวธิ กี ารตา่ ง ๆ และผปู้ กครองดูแลอยา่ ง ใกล้ชดิ นกั เรยี นไม่รจู้ กั วิธีการป้องกันตนเองตอ่ การถูกวางยาด้วยวธิ ีการต่าง ๆ แตผ่ ูป้ กครองดูแล อย่างใกล้ชิด นกั เรยี นรู้จกั วิธกี ารปอ้ งกันตนเองต่อการถกู วางยาด้วยวธิ ีการตา่ ง ๆ และมีผดู้ ูแลใกล้ชิดบาง เวลา นกั เรียนไม่รจู้ กั วิธกี ารป้องกนั ตนเองต่อการถูกวางยาด้วยวิธกี ารต่าง ๆ และมผี ้ดู ูแลใกล้ชดิ บางเวลา นักเรียนรูจ้ ักวธิ กี ารปอ้ งกันตนเองต่อการถกู วางยาดว้ ยวิธีการต่าง ๆ แต่ถกู ท้งิ ให้อยตู่ ามลำพงั หรอื ไม่มีผูด้ ูแล นกั เรียนไมร่ จู้ กั วธิ ีการป้องกนั ตนเองตอ่ การถูกวางยาด้วยวธิ ีการตา่ ง ๆ และถูกท้งิ ให้อยู่ตาม ลำพงั หรือไม่มผี ดู้ ูแล ๕) อนาจารข่มขืนกระทำชำเรา ร้จู ักวธิ กี ารปอ้ งกันตนเองตอ่ การอนาจารข่มขืนกระทำชำเรา และผ้ปู กครองดูแลอย่างใกล้ชดิ ไม่รู้จักวธิ กี ารป้องกนั ตนเองต่อการอนาจารข่มขืนกระทำชำเรา แต่ผปู้ กครองดูแลอย่าง ใกลช้ ิด ร้จู ักวิธีการป้องกันตนเองตอ่ การอนาจารข่มขืนกระทำชำเราและมีผูด้ ูแลใกลช้ ดิ บางเวลา ไม่รู้จักวิธกี ารป้องกันตนเองต่อการอนาจารข่มขืนกระทำชำเราและมผี ู้ดูแลใกล้ชิดบางเวลา รู้จกั วิธกี ารป้องกันตนเองต่อการอนาจารข่มขืนกระทำชำเราแต่ ถกู ท้ิงใหอ้ ยู่ตามลำพังหรือไม่ มผี ู้ดูแล ไม่รจู้ กั วิธกี ารปอ้ งกันตนเองต่อการอนาจารข่มขนื กระทำชำเรา และถูกท้ิงใหอ้ ยตู่ ามลำพัง หรอื ไม่มีผูด้ แู ล ลงช่อื ...............................................ผู้บันทึกข้อมูล (นายอุเทน ขอน้อย) ตำแหน่ง ครู
117 แบบรวบรวมขอ้ มูลผ้เู รียน ตามกรอบคิดแนวเชงิ นิเวศ (Ecological System) ชื่อ-นามสกลุ นกั เรียน นายสวุ ิชชา ผิวงาม ช่อื เล่น โตชิ ระดบั ช้นั เตรียมความพร้อม ปีการศึกษา ๒๕๖๕ ประเภทการรับบรกิ าร หน่วยบริการ ชอ่ื สถานศึกษา ศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษประจำจงั หวัดลำปาง อำเภอ แจห้ ่ม จังหวดั ลำปาง ขอ้ มลู ณ วันท่ี ๔ เดอื น กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ กล่มุ บรหิ ารงานวชิ าการ ศูนยก์ ารศึกษาพิเศษประจำจังหวัดลำปาง
118 รวบรวมข้อมลู ผู้เรยี น ข้อมลู ของผเู้ รียน ๑. ข้อมูลของผู้เรยี น ชื่อ-นามสกุลนกั เรียน เดก็ ชายสวุ ชิ ชา ผวิ งาม ชอ่ื เลน่ โตชิ เชื้อชาติ ไทย อายุ ๑๕ ปี เพศ ชาย ประเภทความพกิ าร สติปัญญา โรคประจำตวั - ลกั ษณะความพกิ าร นั ก เรีย น ยั งไม่ ส าม ารถ ดู แ ล ตั ว เอ งใน ชี วิ ต ป ระ จ ำวั น ได้ น้ อ ย ใน ก ารรั บ ป ระ ท าน อ าห าร / การอาบน้ำ /ล้างหน้า/ แปรงฟัน /การแต่งกายต้องกระตุ้นในการปฏิบัติกิจวตั รประจำวันอยู่เสมอ ช่วยเหลือตนเอง ในชีวิตประจำวันได้ต่ำกว่าวัย เล่นเลียนแบบผู้อ่ืนอย่างไม่เหมาะสมกับวัย มีปัญ หาด้านพฤติกรรม ใน ก า ร ใ ช้ สิ่ ง ข อ ง ส า ธ า ร ณ ะ ป ร ะ โ ย ช น์ เช่ น ใ ช้ ข อ ง อ ย่ า ง ไ ม่ ร ะ มั ด ร ะ วั ง ไม่ รู้ จั ก วิ ธี ก า ร ใ ช้ การจัดเก็บ และการดูแลรักษาของส่วนรวม ไม่สามารถควบคุมตนเองทำสิ่งท่ีต้องการทำ ลืมง่าย/ จำในส่ิงท่ีเรียนมาแล้วไม่ได้ ไม่สามารถนำทักษะที่เรียนรู้ไปแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ ช่วงความสนใจสั้น ไม่สามารถรับผิดชอบงานท่ีต้องทำ ทำตามคำสั่งต่อเนื่อง ๒คำส่ังข้ึนไปได้ยาก สับสนง่าย สนใจส่ิงรอบตัวน้อย ใช้ เวลาว่างแสดงพฤติกรรมทไี่ ม่เหมาะสม ดูแลสุขภาพตนเองได้น้อย เช่น ล้างหน้า แปรงฟัน ล้างมอื ไม่เป็น หรือไม่รู้จัก รบั ประทานอาหารทเี่ ปน็ ประโยชน์ และมคี วามระมัดระวงั เรอ่ื งความปลอดภยั ตนเองน้อย พฤติกรรมของผูเ้ รียน พฤตกิ รรมสว่ นบุคคล นักเรียนเป็นนักเรียนของครูอุเทน ให้บริการสอนในหน่วยบริการอำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง โดยมีการจัด กิจกรรมการเรียนการสอนท่ีสอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษาการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษา ขั้นพ้ืนฐาน สำหรับผู้เรียนพิการ ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดลำปาง ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๕ เมื่อครูจัดกิจกรรมใดกิจกรรมหน่ึงนักเรียนจะนักเรียนยังไม่สามารถดูแลตัวเองในชีวิตประจำวันได้น้อยในการ รับประทานอาหาร/ การอาบน้ำ /ล้างหน้า/ แปรงฟัน /การแต่งกายต้องกระตุ้นในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันอยู่ เสมอ ช่วยเหลือตนเองในชีวิตประจำวันได้ต่ำกว่าวัย เล่นเลียนแบบผู้อ่ืนอย่างไม่เหมาะสมกับวัย มีปัญหาด้าน พ ฤ ติ กรรม ใน ก ารใช้ สิ่งขอ งส าธารณ ะป ระโย ช น์ เช่ น ใช้ ข องอย่ างไม่ ระมั ด ระวังไม่ รู้จัก วิธีก ารใช้ การจัดเก็บ และการดูแลรักษาของส่วนรวม ไม่สามารถควบคุมตนเองทำส่ิงท่ีต้องการทำ ลืมง่าย/ จำในสิง่ ท่ีเรียนมาแล้วไม่ได้ ไมส่ ามารถนำทกั ษะทีเ่ รียนรไู้ ปแก้ไขปัญหาเฉพาะหนา้ ได้ กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ศูนยก์ ารศึกษาพิเศษประจำจังหวดั ลำปาง
119 พฤติกรรมการเรียนรู้ นักเรียนสามารถแสดงความต้องการของตนเอง โดยการออกเสียง จับมือ และแสดงการปฏิเสธโดยการ แสดงออกทางท่าทางและสีหน้าไม่พึงพอใจและใช้มือผลักออก นักเรียนไม่สามารถส่ือสารด้วยภาษาที่มีความหมาย สามารถฟังและทำตามคำส่ังง่ายๆ เช่น หยิบ ใส่ ขอ และสามารถทำตามตัวแบบได้ นักเรยี นทำกิจกรรมต่างๆได้โดย การจับมือทำ หรือมีผู้ดูแลคอยช่วยเหลือทุกขั้นตอนในการทำกิจวัตรประจำวัน เช่น การล้างมือ แปรงฟัน อาบน้ำ แต่งตัวและการขับถ่าย แต่สามารถหยิบอาหารเข้าปากและเจาะกล่องนมเพ่ือด่ืมเองได้ และสามารถทำกิจกรรมการ เรยี นรู้โดยใช้การเสริมแรงทางบวกดว้ ยของทน่ี ักเรียนชอบ ไดแ้ ก่ ผลไม้ รูปภาพกจิ กรรม ในระหว่างการฝึกการเรียนรู้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้โดยผ่านการมอง การฟัง การจับมือทำโดยเป็นคำส่ัง งา่ ยๆ เป็นลำดับข้ันตอนการทำงานจากขั้นตอนง่ายๆไปหาข้ันตอนท่ียากขึ้นด้วยการกระตุ้นเตือนทางกายและวาจา โดยการใชส้ ่ืออุปกรณ์ทีเ่ ป็นของจริงท่ีเหมาะสมกับผู้เรียนในชีวิตประจำวันและใช้การประสมประสานทุกวิธีในการทำ กิจกรรมทุกขั้นตอนโดยการใช้ส่ิงอำนวยความสะดวกช่วยในการเรียนรู้ วิธีท่ีการสอนที่ผู้เรียนให้ความร่วมมือมาก ที่สดุ คือ การประเมินรางวัลและการให้รางวลั ภาพนักเรยี น กลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ ศูนย์การศกึ ษาพเิ ศษประจำจังหวดั ลำปาง
120 รวบรวมขอ้ มูลผู้เรียน ขอ้ มลู ความสามารถผเู้ รยี น ความสามารถพนื้ ฐานของผ้เู รียน ๑.๑ ความสามารถพน้ื ฐานทางด้านรา่ งกาย จุดเด่น จุดอ่อน ๑. เมื่อใหน้ ักเรยี นสามารถใช้มือหยบิ จบั เอ้ือม กำ นำ ๑. เมื่อให้นักเรียนปล่อยวัตถุในจุดที่กำหนด นักเรียน ปล่อยวตั ถุได้ในระดบั อกและมผี ู้ช่วยเหลอื ในการชี้นำ ไม่สามารถปล่อยวัตถุตามเป้าหมายได้ซ่ึงจะต้องใช้การ ทิศทางปล่อยวัตถุ กระตุ้นเตือนทางกายโดยการจับมือผู้เรียนปล่อยวัตถุ ลงตามเป้าหมายที่กำหนดในการ ๒. เม่อื ให้นักเรียนน่งั ทรงตัวอยู่ในทา่ น่ังขัดสมาธบิ นพ้ืน ๒. เม่ือให้นกั เรียนนั่งทรงตัวอยู่ในท่าน่ังขัดสมาธิบนพื้น หลังต้ังตรงผู้เรียนสามารถน่ังทรงตัวในการทำกิจกรรม หลังตั้งตรง นักเรียนไม่สามารถน่ังทรงได้นานมากกว่า ได้ ๓-๕ นาที ๓ นาที เน่ืองจากมีความล้าของกล้ามเน้ือ ซ่ึงนักเรียน จะแสดงอาการโดยการท้ิงตัวลงนอนกับพ้ืนจำเป็นท่ี จะตอ้ งมีเกา้ อท้ี ีม่ พี นักพิงใหเ้ หมาะสมกับผเู้ รยี น ๓. เมื่อให้นักเรียนเคลื่อนย้ายตนเองขณะที่อยู่บนพื้น ๓. นักเรียนสามารถเคลื่อนย้ายตนเองไปในทิศทางที่ ผู้เรยี นเคล่ือนยา้ ยตนเองไปยงั ทศิ ทางทต่ี อ้ งการ กำหนดได้ ซึ่งนกั เรียนจะแสดงอาการปวดเท้าขณะยืน นานๆ กลุม่ บรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวดั ลำปาง
121 รวบรวมข้อมูลผเู้ รียน ขอ้ มูลความสามารถผู้เรียน ๑.๒ ความสามารถพนื้ ฐานทางดา้ นอารมณ์ จิตใจ จุดเด่น จุดออ่ น ๑. นักเรียนเข้าใจอารมณ์ของตนเองและสามารถ ๑. นักเรียนไม่เข้าใจอารมณ์ของผู้อื่น เมื่อผู้อื่นโกรธ แสดงออกทางท่าทางหรือการส่งเสียงได้ โดยการย้ิม โมโห หรือดุด่า ผู้เรยี นไม่เขา้ ใจ นิ่งเฉย ไม่ตอบสนอง และหัวเราะเมือ่ ได้รบั สิ่งท่ีต้องการ เช่น ได้รับขนมหรือ ผลไม้ เปน็ ตน้ ๒. นักเรียนสามารถขอความช่วยเหลือได้ เช่น เมื่อ ๒. นักเรียนไม่สามารถขอความช่วยเหลือ เม่ือต้องการ ต้องการสิ่งของบางอย่างนักเรียนจะแสดงความ ความช่วยเหลือหรือต้องการสิ่งของบางโดยการออก ต้องการโดยการร้องไห้ เสียงดัง หรือมองไปทางส่ิงท่ี เสียงเปน็ คำ หรอื ช้ีที่สิ่งท่ตี ้องการได้ ตอ้ งการได้ ๓. ผู้เรียนยอมทำกิจกรรมจนสำเร็จตามท่ีกำหนดให้ได้ ๓. ผู้เรียนยอมทำกจิ กรรมจนสำเร็จตามที่กำหนดให้ได้ เปน็ บางครัง้ เป็นบางคร้ัง แต่ไม่สามารถแสดงออกถึงความ ภาคภูมใิ จในตนเองเมอ่ื ทำกจิ กรรมได้สำเรจ็ กล่มุ บรหิ ารงานวิชาการ ศนู ยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษประจำจังหวดั ลำปาง
122 รวบรวมขอ้ มลู ผูเ้ รยี น ขอ้ มูลความสามารถผ้เู รียน ๑.๓ ความสามารถพ้ืนฐานทางด้านสงั คม จดุ ออ่ น จดุ เด่น ๑. เมื่อให้นักเรยี นถอด และสวมใส่เครอ่ื งแตง่ กาย ๑. นกั เรยี นไมส่ ามารถถอดและสวมใส่เครื่องแตง่ กาย นักเรยี นสามารถให้ความรว่ มมอื ในการถอดและสวมใส่ ได้ดว้ ยตนเองบางขนั้ ตอน เครอ่ื งแตง่ กายได้โดยมผี ู้ปกครองเป็นถอดและสวมใส่ ให้ทกุ ขนั้ ตอน ๒. นกั เรยี นสามารถล้างทำความสะอาดมือไดโ้ ดยมี ๒. นกั เรียนไมส่ ามารถล้างทำความสะอาดมือได้ดว้ ย ผู้ปกครองเปน็ ผู้ชว่ ยเหลอื ทุกข้นั ตอน ตนเองตามข้นั ตอน กลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ ศนู ยก์ ารศึกษาพเิ ศษประจำจังหวดั ลำปาง
123 รวบรวมขอ้ มูลผ้เู รยี น ขอ้ มลู ความสามารถผู้เรียน ๑.๔ ความสามารถพนื้ ฐานทางด้านสติปัญญา จดุ เดน่ จดุ อ่อน ๑. เมื่อครูหรือผู้ดูแลให้ทำกิจกรรมและปฏิบัติตาม ๑. นักเรยี นไมส่ ามารถปฏบิ ัติตามคำส่ังท่ยี ากๆ ได้ คำสั่งง่ายๆ (หยิบ ใส่) เช่น หยิบ จับส่ิงของใส่ตะกร้า โดยการเอ้ือมมือไปหยบิ ของแตไ่ มส่ ามารถนำของ ผู้เรียนสามารถปฏิบัติตามคำสั่งได้โดยการเอ้ือมมือไป ไปใส่ตามเป้าหมายท่ีกำหนดได้ด้วยตนเอง หยิบของแต่ไม่สามารถเอาไปใส่ตามเป้าหมายที่ กำหนดได้ ซึ่งครูหรือผู้ดูแลต้องกระตุ้นเตือนอยู่ ตลอดเวลาและใช้เวลานานในการตอบสนองต่อคำสั่ง ต่างๆ ๒. เมื่อครูให้ทำกิจกรรมวงกลมและมีการเรียกชื่อ ๒. เม่ือครูให้ทำกิจกรรมวงกลมและมีการเรียกชื่อ นักเรียนสามารถหันหน้าตามเสียงเรียกชื่อเล่นของ นักเรียนไม่ตอบสนอง แสดงการน่ิงเฉย หรือหันตาม ตนเอง และมองหน้าผู้พูดได้ เสยี งเรียกชอ่ื จรงิ ของตนเองและมองหนา้ ผพู้ ูดได้ ๓. นักเรียนสามารถจดจำช่ือและใบหน้าบุคคลท่ี ๓. นกั เรยี นไมส่ ามารถจดจำชอ่ื และใบหน้าบคุ คลอืน่ ๆ ใกลช้ ิดได้ เช่น พอ่ แม่ ลุง ป้า เปน็ ต้น เชน่ ครู ได้ กลุม่ บรหิ ารงานวิชาการ ศนู ยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจำจังหวัดลำปาง
124 รวบรวมขอ้ มูลผู้เรียน ขอ้ มลู ความสามารถผ้เู รียน ๑.๕ ความสามารถพ้ืนฐานทางดา้ นทกั ษะจำเป็นเฉพาะความพิการ จุดเดน่ จุดอ่อน ๑. นักเรยี นสามารถเดนิ ยืน นง่ั ได้ ๑. นักเรียนสามารถเคล่ือนย้ายตนเองได้แต่ยืนได้ไม่ นาน กลุม่ บรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ยก์ ารศึกษาพเิ ศษประจำจังหวดั ลำปาง
125 รวบรวมขอ้ มลู ผ้เู รียน ขอ้ มลู ความสามารถผเู้ รยี น กรอบการประเมิน The Van Dijk Framework for Assessment of Individuals who have Severe Multiple Disabilities ๑. Approach-Withdrawal (การเขา้ ใกล-้ ถอนหนี) การดูปฏิกิริยาของเดก็ ในการเผชญิ สงิ่ ใหม่ ประสบการณ์ บคุ คล/สถานที่ ส่ิงของ ความคิด ๑.๑ อะไรทเ่ี ปน็ ตวั ชบี้ อกว่าเด็กเขา้ ร่วม นกั เรียนให้ความรว่ มมอื ในการทำกจิ กรรม ๑.๒ อะไรท่ีเป็นตวั ชี้บอกวา่ เด็กไมเ่ ข้าร่วม นักเรยี นมีพฤติกรรมหลกั หนใี นขณะท่ที ำกิจกรรม โดย ๑.๓ มอี ะไรที่สงั เกตเหน็ ว่าจงู ใจเด็กบ้าง เมอื่ นักเรยี นมีความต้องการอยากรบั ประทานผลไม้ ๑.๔ อะไรทส่ี ังเกตเหน็ ว่าเด็กไม่สนใจ การเดินไปในทิศทางต่างๆนอกเหนอื จากการทำ กจิ กรรม ๒. Sensory Learning Channels (ช่องทางการเรยี นรู้ดา้ นประสาทการรับร)ู้ ๒.๑ เด็กรบั ขอ้ มูลไดโ้ ดยวิธีใดบ้าง แสดงสีหนา้ ทา่ ทาง ย้ิม หัวเราะ รอ้ งไห้ ดีใจ เสียใจ ๒.๒ เดก็ ตอบสนองต่อเสยี งอยา่ งไร หนั หน้า พยักหน้าตามเสยี ง ๒.๓ เดก็ ตอบสนองต่อสง่ิ เร้าทางสายตาอยา่ งไร จอ้ งหน้าตามเสยี ง หยุดฟงั และหน้ากรอกตาไปตาม เสยี งต่างๆท่ีได้ยิน ๒.๔ เด็กตอบสนองต่อการสัมผสั อย่างไร มีพฤติกรรมหลีกหนีการสมั ผัส ไม่จับผิวสมั ผสั ท่ี เหนียว ๒.๕ เดก็ ใช้ประสาทสมั ผัสมากกวา่ หนงึ่ อย่างในเวลา ใช้ประสาทสัมผัสมากกวา่ หน่ึงอย่างโดยใชต้ า เดียวกนั หรอื ไม่ ประสานกบั มือ ๒.๖ เด็กแสดงตัวชแี้ นะการรว่ มหรือไม่เขา้ ร่วมในการ ไม่ นกั เรียนแสดงออกทางพฤติกรรมโดยทำสีหน้า ตอบสนองขอ้ มลู ทางประสาทสัมผสั เฉพาะหรือไม่ ท่าทางเฉยๆ ไมต่ อบสนองเม่ือไม่ต้องการเข้าร่วม หรือไมเ่ ขา้ รว่ มการทำกจิ กรรม กล่มุ บรหิ ารงานวิชาการ ศนู ย์การศกึ ษาพเิ ศษประจำจังหวัดลำปาง
126 รวบรวมข้อมลู ผเู้ รยี น ขอ้ มลู ความสามารถผเู้ รียน ๓. Biobehavioral State ชุดของสภาพการณด์ า้ นชวี พฤติกรรมและกายภาพต้ังแต่การนอนหลบั จนถึงการต่นื นอนและการรอ้ ง ๓.๑ สภาพปจั จุบันของเด็กคอื อะไร นักเรียนยังไม่สามารถดูแลตัวเองในชีวิตประจำวันได้ น้ อ ย ใ น ก า ร รั บ ป ร ะ ท า น อ า ห า ร / การอาบน้ำ /ล้างหน้า/ แปรงฟัน /การแต่งกายต้อง กระตุ้นในการปฏิบัติกิจวัตรประจำวันอยู่เสมอ ช่วยเหลอื ตนเองในชวี ิตประจำวนั ได้ตำ่ กว่าวัย ๓.๒ เด็กสามารถควบคมุ /เปลย่ี นสภาพของตนได้ นักเรียนยังไม่สามารถดูแลตัวเองในชีวิตประจำวันได้ หรอื ไม่ น้อยในการรับประทานอาหาร/ การอาบน้ำ /ล้าง หน้า/ แปรงฟัน /การแต่งกายต้องกระตุ้นในการ ปฏิบัติกิจวัตรประจำวันอยู่เสมอ ช่วยเหลือตนเองใน ชีวิตประจำวันได้ต่ำกว่าวัย เล่นเลียนแบบผู้อื่นอย่าง ไม่เหมาะสมกับวัย มีปัญหาด้านพฤติกรรมในการใช้ สิ่งของสาธารณะประโยชน์ เช่นใช้ของอย่างไม่ ร ะ มั ด ร ะ วั ง ไ ม่ รู้ จั ก วิ ธี ก า ร ใ ช้ การจัดเก็บ และการดูแลรักษาของส่วนรวม ไม่ สามารถควบคุมตนเองทำส่ิงที่ต้องการทำลืมง่าย/ จำในส่ิงที่เรียนมาแล้วไม่ได้ ไม่สามารถนำทักษะท่ี เรยี นรไู้ ปแก้ไขปัญหาเฉพาะหนา้ ได้ กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ย์การศกึ ษาพิเศษประจำจังหวดั ลำปาง
รวบรวมขอ้ มลู ผู้เรยี น 127 ข้อมลู ความสามารถผู้เรียน ๓.๓ เดก็ ใช้เวลาในการตนื่ ตัวมากน้อยแค่ไหน ใช้เวลานานประมาณ ๓-๕ นาที ในการตอบสนอง ต่อส่ิงตา่ งๆ ๓.๔ มีช่วงกว้างของแตล่ ะสภาพเทา่ ใดท่ีเด็กแสดงให้ การใช้ระยะเวลานานในการทำกิจกรรม เห็นและมแี บบแผนการเปล่ยี นแปลงอะไรระหว่าง สภาพ อากาศ สภาพแวดลอ้ ม อารมณ์ การรับประทาน ๓.๕ มีตัวแปรอะไรบา้ งท่ีกระทบตอ่ สภาพเด็ก อาหาร หากไม่ได้รบั ประทานอาหารทชี่ อบจะแสดง พฤติกรรมไมพ่ อใจ มีผลกระทบตอ่ การทำกิจกรรมไม่ สำเร็จ ๔. orienting Response (การตอบสนองปฏิกิรยิ าตอบสนองของรา่ งกายในสภาพแวดล้อม) ๔.๑ มปี ัจจยั อะไรบ้างท่ที ำใหเ้ ด็กการตอบสนองไป สภาพอากาศ และดา้ นอารมณ์ความรู้สึก เชน่ ในทศิ ทางนั้นได้ชัดแจ้ง อารมณโ์ กรธ โมโห เป็นตน้ ๔.๒ เดก็ แสดงการตอบสนองตอ่ ทศิ ทางออกอย่างไร พยายามเดินไปยังทศิ ทางอ่ืนทีต่ อ้ งการ ๔.๓ ประสาทการรับรชู้ อ่ งทางใดท่ปี รากฏเชื่อมโยง การมอง การสัมผัส กบั การตอบสนอง (ข้อมูลประสาทการรบั รทู้ ี่กระตนุ้ ให้มีการตอบสนองและประสาทการรบั รทู้ ี่ใช้ ประโยชน)์ กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ ศนู ย์การศึกษาพเิ ศษประจำจังหวดั ลำปาง
128 รวบรวมขอ้ มูลผเู้ รียน ข้อมลู ความสามารถผ้เู รยี น ๕. Memory (ความจำ) ๕.๑ เด็กใช้/คนุ้ กบั สงิ่ เรา้ ที่คุ้นชินหรือไม่ นกั เรียนคนุ้ เคยกบั ส่งิ เร้า ในการทำกิจกรรม เชน่ เมื่อได้รับการกระตุน้ ทางกาย วาจา ในการทำ กิจกรรมต่างๆนักเรยี นสามารถทำกจิ กรรมนัน้ ได้ด้วย ตนเองแต่ใชร้ ะเวลานาน ๓-๕ นาที ๕.๒ การนำเสนอสง่ิ เรา้ จำเป็นตอ้ งใช้เวลานานหรือก่ี ใช้เวลานาน กว่าเด็กจะคุ้นเคย โดยครูตอ้ งคอยจับ ครัง้ ก่อนทเ่ี ด็ดจะคนุ้ ชิน มือทำและกระตนุ้ เตือนทางกาย วาจา ๕.๓ เดก็ เขา้ รว่ มอกี ครั้งไหมเมื่อเปลย่ี นแปลง เขา้ ร่วมอีกครงั้ แต่ต้องใชเ้ วลานานในการกระต้นุ ลกั ษณะของสงิ่ เร้า ความสนใจของผู้เรียน ๕.๔ การตอบสนองแตกตา่ งไปหรือไม่ แตกต่าง บางกจิ กรรมนักเรียนเหม่อลอยไม่สนใจ ใน การเข้าร่วมกิจกรรมและพยายามหลักหนเี มื่อเป็น กจิ กรรมที่ตนเองไม่ต้องการเข้าร่วมทำ ๕.๕ เดก็ แสดงการตองสนองแตกต่างหรือไม่กับ แตกต่าง เมอ่ื ไมเ่ ห็นหน้าบุคคลท่คี ุ้นเคยจะพยามมอง บคุ คลทีค่ ยุ้ เคยและไม่คนุ้ เคย หา หรือหันหนา้ ไปหาเสียงที่คุ้นเคย ๕.๕ เดก็ แสดงการรบั รู้หรอื ไม่ว่าส่ิงของน้นั ยังอย่แู ม้ รบั ร้โู ดยการใชม้ อื ขยบั ไปมา เพื่อหาสิง่ ของนัน้ ๆ จะไม่อยใู่ นสายตาตอนนั้น ๕.๖ เดก็ เช่อื มโยงเหตุการณ์ที่กำลงั เผชญิ กบั สิ่งที่ นกั เรียนไม่มีการเช่ือมโยงเหตุการณต์ า่ งๆ ตามมาไหม ๕.๗ เด็กแสดงการคาดเดาต่อสิง่ /เหตกุ ารณท์ ่ีกำลัง นักเรยี นไม่แสดงการคาดเดาต่อส่งิ /เหตุการณ์ต่างๆ เผชิญหรือไม่ ที่กำลงั เผชญิ ๕.๘ เด็กแสดงอาการหรือไม่เมอ่ื สง่ิ ทเี่ กดิ ใหม่ไม่ตรง เด็กแสดงอารมณโ์ กรธ ร้องไห้ เมื่อไมต่ รงกับความ กับความคาดหวงั ต้องการและพยายามหลีกหนีการทำกิจกรรม ๕.๙ เดก็ สามารถเรยี นรกู้ จิ วัตรง่าย ๆ ไดห้ รือไม่ ได้ เช่น การด่มื น้ำ การรบั ประทานอาหาร เป็นต้น ๕.๑๐ กิจวตั รทใ่ี หเ้ ด็กเรียนรู้จำไดไ้ หม จำได้ เชน่ การไป- กลับ จากบา้ นมาทหี่ นว่ ยบริการ อำเภอแจ้ห่ม กล่มุ บรหิ ารงานวิชาการ ศนู ย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวดั ลำปาง
129 รวบรวมข้อมลู ผูเ้ รียน ข้อมลู ความสามารถผเู้ รยี น ๖. Social Interactions ปฏิสมั พันธ์ทางสงั คม หนั ไปหาบคุ ลอ่ืน เมือ่ ไดย้ นิ เสียง และและเมอื่ เปลี่ยน ๖.๑ เด็กหนั ไปหาบคุ คลหรือไม่ ส่ิงแวดล้อม ใช่ จะใหบ้ คุ คลท่ีคนุ้ เคย กอดหรอื หอม ๖.๒ เดก็ แสดงความผกู พนั ว่ามคี วามปลอดภัยกับ บคุ คลสำคัญในชวี ติ ของเขา/เธอหรือไม่ นกั เรียนมสี ่วนรว่ มในการผลดั เปลย่ี นกันเมอ่ื เร่ิมทำ ๖.๓ เดก็ มีสว่ นรว่ มในการผลดั เปลย่ี นกนั เม่ือเร่ิมมี กจิ กรรมในห้องเรยี นโดยการมองแลละฟังเสียง ปฏสิ ัมพนั ธ์หรือไม่ จากผ้พู ูด นักเรียนมปี ฏิกริ ยิ าดีใจ เมอ่ื มองเหน็ น้ากำลงั ๖.๔ เดก็ มีส่วนร่วมในการผลดั เปลยี่ นกนั เม่ือคนอ่ืน ขับรถจักรยานยนต์มารับกลบั บ้าน เรมิ่ ปฏิสมั พนั ธ์หรอื ไม่ ๒-๓ รอบ จะมอี าการเหม่อลอย ไม่ทำกิจกรรม ๖.๕ เดก็ ผลดั เปลยี่ นก่ีรอบก่อนทจี่ ะไมร่ ่วม นกั เรียนแสดงปฏิกิรยิ าเพิ่มมากข้ึนต่อการปฏิสมั พันธ์ ๖.๖ เดก็ เพ่ิมการผลัดเปล่ยี นการมีปฏิสมั พนั ธ์มาก กับผู้อ่ืน เมื่อไมไ่ ดส้ งิ่ ท่ีตอ้ งการ ขึ้น เพอื่ ตอบสนองต่อปฏิสัมพันธข์ องค่หู รือไม่ ๗. Communication การส่ือสาร เดก็ ใชท้ ่าทาง และสง่ เสียงในการกิจกรรม แสดง ๗.๑ เด็กแสดงใหเ้ หน็ ความตงั้ ใจในการส่ือสารผา่ น อารมณ์ ยิ้ม หัวเราะ เมื่อนกั เรียนชอบทำกิจกรรม การใชง้ านของสญั ญาณ การเปลง่ เสยี ง ท่าทาง ฯลฯ นั้นๆ หรอื ไม่ อธิบายการสื่อสารท่ีใช้ สอดคลอ้ งกนั เมื่อมีความต้องการจะส่งเสียงเรยี ก ๗.๒ เด็กใช้สัญญาณอย่างสอดคลอ้ งกันหรอื ไม่ และแสดงอาการดีใจเมื่อไดร้ ับของทตี่ นเองต้องการ แสดงอาการเสียใจ ร้องไห้ โวยวายเม่ือไมไ่ ดร้ ับของที่ ๗.๓ เดก็ ใช้การส่ือสารแตกต่างกันหรอื ไม่ อธบิ าย ตนเองต้องการ การส่อื สารและความความหมายท่ีน่าจะเป็น แตกต่างกนั โดยใช้ทา่ ทางและเสียงในการสือ่ ๗.๔ เมอื่ นำเสนอตวั เลอื กเดก็ ตดั สินใจเลือกหรือไม่ ความหมาย นักเรยี นสามารถเลือกด้วยตนเอง เช่น การเลือกขนม ๗.๕ เด็กใชท้ า่ ทางเหมือนบุคคลทว่ั ไปใช้หรือไม่ ทีต่ นเองชอบ หรอื ตนเองต้องการ ๗.๖ เด็กสามารถใช้ของหน่ึงอย่างหรอื สญั ลักษณ์ ใช้เสียง ในการสอ่ื สาร แทนกจิ กรรมหรอื วัตถุหรือไม่ ได้ กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ศูนย์การศกึ ษาพิเศษประจำจังหวดั ลำปาง
รวบรวมข้อมลู ผเู้ รยี น 130 ข้อมลู ความสามารถผ้เู รยี น ๗.๗ เดก็ แสดงให้เหน็ ความเข้าใจในการส่ือสารโดย นกั เรียนแสดงอาการจ้องหน้า เมื่อได้ยินเสียง และ ใชส้ ญั ลักษณห์ รือไม่ (การได้ยิน ภาพ หรอื การ เมอื่ ได้รบั คำสัง่ ง่ายๆจากครู เช่น หยิบแกว้ น้ำ สมั ผัส) นกั เรียนก็จะหนั มามองหนา้ และหยิบแก้ว ๗.๘ เด็กใชก้ ารส่อื สารทางสัญลกั ษณ์หรือไม่ อธบิ าย สามารถส่ือสารด้วยสญั ลักษณ์ได้ หรอื ภาษาของ ตนเองเพ่อื ให้ครหู รือผู้ดูแลเข้าใจในส่งิ ท่ีตนเอง ตอ้ งการ ๘. การแก้ปญั หา Problem solving ไมแ่ สดงให้เห็นใดๆ ๘.๑ เดก็ แสดงให้เหน็ สาเหตุและผลกระทบหรือไม่ เดก็ ไม่เข้าใจใจวธิ ีการหรอื จดุ สนิ้ สดุ หรอื การใชข้ นั้ ๘.๒ เด็กแสดงความเข้าใจในวิธีการ/จุดสิ้นสดุ หรอื ตอนกลางเพื่อแกป้ ัญหาโดยแสดงปฏิกริ ิยาเพิกเฉย การใช้ข้ันตอนกลางเพ่ือแกป้ ัญหาหรือไม่ ตอ่ สถานการณ์ตา่ งๆ เดก็ แสดงความเขา้ ใจโดยการปฏบิ ตั ิตาม เช่น เม่อื ๘.๓ เด็กแสดงความเข้าใจในหน้าทข่ี องวัตถทุ ว่ั ไป เหน็ แกว้ น้ำเดก็ กจ็ อ้ งมองภายในแกว้ เพื่อเตรียม หรอื ไม่ ยกขึ้นด่มื นำ้ เป็นต้น เด็กจะพยายามทำดว้ ยตนเองกอ่ น หากทำไม่ไดจ้ ะ ๘.๔ เด็กมีวิธีการแกป้ ัญหาอย่างไร เรยี กครู ไม่ เมื่อมีการเปลย่ี นแปลงสถานการณ์ในการแกไ้ ข ๘.๕ เด็กรักษาความสนใจและคงอยกู่ ับส่ิงน้ันหรือไม่ ปัญหาจะใหค้ วามสนใจอย่างอน่ื ทนั ที และเพิกเฉย ต่อสถานการณ์นั้นๆ กลุม่ บรหิ ารงานวิชาการ ศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษประจำจังหวดั ลำปาง
131 รวบรวมข้อมูลผู้เรียน กรอบแนวคดิ ตามระบบนเิ วศวทิ ยา (Ecological Framework) ๒. กรอบแนวคดิ ตามระบบนิเวศวิทยา (Ecological Framework) ๒.๑ ด้านสภาพแวดล้อมของผู้เรยี น (Microsystem) บคุ คลภายในครอบครวั ท่ีผู้เรียนไว้วางใจ นักเรียนอาศัยอยู่บ้านกับตาและยาย เป็นผู้ดูแลนักเรียนตั้งแต่นักเรียนตั้งแต่เกิดจนถึงปัจจุบัน ทำ ใหน้ ักเรยี นมีความไวว้ างใจมากทสี่ ุด นอกจากนยี้ ังมญี าติพ่ีน้องอาศยั อยู่บริเวณรอบๆบา้ นนกั เรยี น คือ น้า เป็นบุคคลที่นักเรียนให้ความไว้วางใจเป็นลำดับถัดมาเน่ืองจากเป็นผู้ขับขี่ยานพาหนะ โดยรถจักรยานยนต์ไปรับ-ส่ง น้องทุกวัน ในการเดินทางมารับบริการที่หน่วยบริการอำเภอแจ้ห่มหรือไปยัง สถานที่ต่างๆ ที่แม่ได้ขอความช่วยเหลือ โดยน้าจะให้ความดูแลเอาใจใส่ตลอดระยะเวลาการเดินทางจนถึงท่ี หมายทุกครั้งอย่างปลอดภัย ทำให้นักเรียนมีความไว้วางใจและจะแสดงพฤติกรรม ท่าทางดีใจทุกครั้ง ทม่ี ารับกลบั บา้ น นอกจากนี้ยังมีลุง เป็นลุงข้างบ้านที่ให้ความช่วยเหลือด้าน ของอุปโภค บริโภคต่างๆ ที่ขาดแคลน ซ่ึงป้าหลอดสามารถไปเดินไปติดต่อ ขอความช่วยเหลือได้บ้าง เนื่องจากบ้านอยู่ติดกัน ลุง มีความยนิ ดีใหค้ วามช่วยเหลือด้วยความเตม็ ใจ ลกั ษณะท่ีอย่อู าศยั (ห้องอะไรบา้ ง / ความสะอาด) นักเรียนพักอาศัยอยู่ทบ่ี ้านของพอ่ แมซ่ งึ่ อยู่ซอยบ้านของนักเรยี นมลี ักษณะของบา้ นเปน็ บ้านช้ัน เดยี วไมย้ กสูง บรเิ วณหนา้ บา้ นป็นพน้ื ดินและบันไดไมซ้ ่ึงมรี าวจับท้ัง ๒ ด้านทใี่ ช้ขน้ึ ไปยังระเบยี งชัน้ บน ดา้ นบนเป็น ไมม้ ี ๒ ห้องนอน ๑ หอ้ งโถงอยูต่ รงกลางบา้ น บรเิ วณใต้ถนุ บ้านเป็นพนื้ ดิน มหี ้องนำ้ ๑ หอ้ งอยนู่ อกตวั บ้าน ซ่งึ นักเรียนจะใช้พนื้ ทบี่ ริเวณใต้ถุนบา้ นเป็นท่ีพักอาศยั มกี ารจัดเก็บอุปกรณ์ในห้องครัวอยา่ งเหมาะสม บริเวณบ้านของ ผ้เู รยี นท้ังดา้ นในและดา้ นนอกความสะอาดเรียบร้อย อากาศถา่ ยเทสะดวก มแี สงสวา่ งเข้าถงึ ลักษณะห้องน้ำ (ระบรุ ายละเอียด) ห้องน้ำมี ๑ ห้อง คือ ห้องท่ีอยู่บริเวณนอกตัวบ้าน มีประตูทางเข้า ความกว้าง ๘๐ เซนติเมตร พ้ืน หอ้ งน้ำเปน็ พืน้ คอนกรีต มถี ังน้ำและขัน ไมม่ ีชักโครก กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ ศนู ย์การศกึ ษาพเิ ศษประจำจังหวดั ลำปาง
132 ลกั ษณะหอ้ งนอน (ระบรุ ายละเอยี ด) ห้องนอนบริเวณบนบ้าน มีความสะอาด มีมุ้งกาง ท่ีนอนมีความกว้างและนอนพ้ืน สามารถนอนได้ ๓-๔ คน กว้างขวางและเพียงพอต่อผู้เรียนและมีหน้าต่างระบาย เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก มีการจัดวางของที่ เป็นระเบยี บเป็นสัดสว่ น พื้นท่ใี นการฝกึ /ทำกจิ กรรมกับผเู้ รยี น (ระบรุ ายละเอยี ด) บ ริ เว ณ บ้ า น ข อ งนั ก เรี ย น พื้ น ที่ ใน ก า ร ฝึ ก ใน ด้ า น ข อ ง วิ ช า ก า ร ส า ม า ร ถ ใช้ พ้ื น ท่ี ห้ อ งน่ั งเล่ น ใต้ถุนบ้าน ลานหน้าบ้าน ในการฝึกกิจกรรมต่างๆ เช่น การหยิบ จับ หรือเคล่ือนย้ายสิ่งของได้ ในส่วนของการ ฝึกทักษะการดำรงชีวิต มีพ้ืนท่ี ห้องครัว ห้องน้ำ สามารถฝึกการใช้ชีวิตของผู้เรียนได้ และสามารถใช้ลานหน้า บ้านในการฝึกการเคลื่อนย้ายตนเองไปยังที่ตา่ งๆได้ กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ ศูนยก์ ารศกึ ษาพเิ ศษประจำจังหวัดลำปาง
133 รวบรวมขอ้ มูลผูเ้ รียน กรอบแนวคดิ ตามระบบนเิ วศวิทยา (Ecological Framework) ๒.๒ ด้านความสัมพันธ์และปฏิสมั พันธ์ระหว่างบคุ คลทเ่ี กยี่ วขอ้ งของผเู้ รยี น (Mesosystem) ลกั ษณะของครอบครัวและความสมั พนั ธ์ของบุคคลในครอบครวั นกั เรียนอยรู่ ่วมกบั ตายาย ซ่งึ เป็นผแู้ ลนักเรียนตงั้ แต่วยั เด็กจนถึงปัจจบุ ัน นกั เรียนมี ความสัมพันธ์อยา่ งใกลช้ ดิ เป็นอยา่ งมาก พ่อแม่แยกทางกันโดยยายจะเป็นผู้ทเี่ ข้าใจในการแสดงออก ของพฤติกรรมและความต้องการต่างๆอยา่ งง่าย ของนกั เรียน เช่น หิวน้ำ หวิ ขา้ ว และอยากไปยงั สถานที่ตา่ งๆ ด้วยการสง่ เสียงรอ้ ง ภาษาที่ไม่มีความหมายภาษากาย และทา่ ทางต่างๆ เป็นต้น เมอื่ แมเ่ ห็นพฤติกรรมต่างๆ ของนักเรยี น กจ็ ะสามารถตอบสนองตอ่ ความต้องการของนักเรียนไดท้ ันที หากตอบสนองชา้ ผู้เรยี นก็จะมอี าการฉนุ เฉียว โมโห รอ้ งไห้บ้างในบางคร้ัง และตาและยายรวมถึง ญาติ ต่างกเ็ ข้าใจภาวะความบกพร่องของนักเรียนยังให้ความรักความเอาใจใส่ทด่ี ีเสมอมา ความสัมพันธก์ บั บคุ คลในห้องเรยี น/โรงเรียน นกั เรียนชอบแยกตัวอยู่คนเดียวและอยูเ่ ฉพาะกบั ผู้ปกครองของตนเอง ไม่เข้าร่วมกจิ กรรม กับเพื่อนและผู้ปกครองคนอื่น จะต่อต้านทันทีเม่ือโดนบังคับหรือขัดใจ และจะทำร้ายเพ่ือนทำให้ เพ่อื นไม่อยากใกล้ชิด ไม่มีปฏิสัมพันธร์ ่วมกับผอู้ ื่น แต่เม่ือผู้เรียนมคี วามตอ้ งการต่างๆ เช่น หิว หรือ หลกี เลี่ยงการทำกจิ กรรม จะสง่ เสียงร้องเรียก และโวยวายเรียกผ้ปู กครองทนั ที ความสัมพนั ธก์ บั บุคคลอ่ืนๆ เช่น ญาตพิ ่นี อ้ ง เพื่อน เพือ่ นบา้ น คนในชมุ ชน เป็นตน้ นักเรียนมีความสัมพันธ์ที่ดีกับยาย ซ่ึงเป็นบุคคลท่ีนักเรียนให้ความไว้วางใจเป็นลำดับ ถัดมาเน่ืองจากเป็นผู้ขับข่ียานพาหนะโดยรถจักรยานยนต์ไปรับ-ส่ง ทุกวัน ในการเดินทางมารับ บริการท่ีหน่วยบริการอำเภอแจ้ห่มหรือไปยังสถานท่ีต่างๆ ที่แม่ได้ขอความช่วยเหลือ โดยน้าจะให้ ความดูแลเอาใจใส่ตลอดระยะเวลาการเดินทางจนถึงที่หมายทุกครั้งอย่างปลอดภัย ทำให้นักเรียนมี ความไวว้ างใจและจะแสดงพฤตกิ รรม ท่าทางดใี จทกุ คร้ังทแี่ มม่ ารบั กลบั บา้ น นอกจากน้ี ยายสามารถไปเดินไปติดต่อ ขอความช่วยเหลือได้บ้าง เนื่องจากบ้านอยู่ติดกัน ญาติก็ยินดีให้ความ ชว่ ยเหลอื ด้วยความเต็มใจ กล่มุ บรหิ ารงานวชิ าการ ศูนยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจำจังหวัดลำปาง
134 รวบรวมข้อมูลผ้เู รียน กรอบแนวคิดตามระบบนิเวศวิทยา (Ecological Framework) ๒.๓ ด้านส่ิงแวดลอ้ มและสภาพสงั คมท่ีมผี ลต่อครอบครัว (Exosystem) สถานการณ์ปัจจุบันทส่ี ง่ ผลกระทบกบั ผเู้ รียน เนอ่ื งจากการคล่ีคลายของสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคไวรสั โคโรนา (Covid 2019) ในปัจจุบันส่งผลให้นักเรียนมารับบริการท่ีหน่วยบริการอำเภอแจ้ห่มอย่างต่อเนื่อง แต่จะมีบางช่วงมี อาการชักอาจส่งผลให้ผู้เรียนขาดการมารับบริการได้ ทำให้พัฒนาการดา้ นต่างๆ ของนักเรยี นถดถอยลง ไปบ้าง ครูต้องปรับรูปแบบการเรียนการสอนโดยระบบออนไลน์ตามความเหมาะสม แต่ยังไม่สามารถ บรรลุตามวัตถปุ ระสงค์ทกี่ ำหนดได้ สถานท่ที ำงานของพ่อแม่/ผูป้ กครอง ตาไม่มีอาชีพส่วนยายมีอาชีพรับจ้าง ซ่ึงทำงานอยู่บริเวณภายในหมู่บ้าน ทำให้มีเวลาดูแล นักเรยี นอย่างใกล้ชิด เนื่องจากตายาย ได้อยู่กับนักเรียน จึงทำให้นักเรียนมีความใกล้ชิดและสนิทกับตา ยาย สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพ หรือ การจดั ส่งิ อำนวยความสะดวกของชมุ ชนทีผ่ ้เู รยี น อาศัยอยู่ ตาไม่มีอาชีพส่วนยายมีอาชีพรับจ้าง ซ่ึงทำงานอยู่บริเวณภายในหมู่บ้าน จึงเป็นผู้ดูแล นกั เรยี นตลอดเวลา กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ศูนยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจำจังหวดั ลำปาง
135 รวบรวมข้อมลู ผู้เรียน กรอบแนวคดิ ตามระบบนิเวศวิทยา (Ecological Framework) ๒.๔ ดา้ นวฒั นธรรม ประเพณี ค่านิยมของสังคม (Macrosystem) บ้านของผู้เรียนยังไม่มีส่ือที่เหมาะสมกับความพิการของบุคคลออทิสติก การทำความ สะอาดร่างกายอย่างเหมาะสมไม่เหมาะสม เนื่องด้วยผูป้ กครองไม่ยอมปล่อยให้ผู้เรียนใช้ความสามารถ ของตนเองไดเ้ ต็มตามศกั ยภาพทำใหน้ กั เรียนไมส่ ามารถชว่ ยเหลือตนเองได้ ๒.๕ ดา้ นสง่ิ ตา่ งๆทอี่ าจกระทบต่อผเู้ รยี น เชน่ กฎหมาย การไดร้ ับสทิ ธดิ ้านต่างๆ เทคโนโลยี หรือแอพพลเิ คช่นั ทเ่ี กี่ยวขอ้ งกบั ผ้เู รยี นในชีวิตประจำวนั (Chronosystem) นักเรียนได้รับเบี้ยพิการ เดือนละ ๑,๐๐๐ บาท จากเบ้ียยังชีพคนพิการและได้รับบริการทาง การแพทย์ ตามโครงการ ๓๐ บาทรักษาทุกโรค ตามสวัสดิการของรัฐ นักเรียนได้รับการให้บริการทาง การศึกษาจากศูนยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจำจังหวดั ลำปาง หนว่ ยบริการ โดยไม่เสยี ค่าใชจ้ ่าย อกี ท้ังนกั เรียน สามารถเข้าถึงสื่อเทคโนโลยีผ่านทางโทรศัพท์ แท็บเลต และโทรทัศน์โดยมีผู้ปกครองกำกับดูแล นอกจากนี้หากสถานการณ์เศรษฐกิจไม่ดขี ้นึ อาชีพของพ่อและแม่เกิดความไม่มน่ั คง อาจสง่ ผลต่อรายไดท้ ่ี จะสง่ มายังครอบครวั เพือ่ ดแู ลนกั เรียนได้ กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ ศนู ยก์ ารศึกษาพเิ ศษประจำจังหวัดลำปาง
136 รวบรวมข้อมลู ผเู้ รียน สรปุ เป้าหมายในการพฒั นา ๓. ความคาดหวังของผูป้ กครองท่ีมีตอ่ ตัวผเู้ รียน ผู้ปกครองมีความคาดหวังให้นักเรียนตอบสนองต่อการรักษาทางการแพทย์ มีอาการคงท่ี ไม่ถดถอย มีชีวิต อยู่ต่อไปให้นานท่ีสุดเท่าที่จะทำได้ และนอกจากน้ีหากเป็นไปได้ต้องการให้นักเรียนสามารถสื่อสารความต้องการ การบอกความร้สู กึ ของตนเองแก่ผ้ดู ูแลได้ ผู้ปกครองมีความคาดหวังให้นักเรียนสามารถเรียนรู้ด้านวิชาการหรือการดำรงชีวิตประจำวันของตนเองได้ ได้แก่ นักเรยี นสามารถบอกหรือช้ีสิ่งทตี่ ้องการในการส่ือสารเพม่ิ มากขน้ึ กวา่ เดิม นักเรียนสามารถดื่มน้ำ ดม่ื นม และ สามารถใชช้ อ้ นตกั รบั ประทานอาหารได้ดว้ ยตนเอง ๔. เปา้ หมายหลักท่ีผู้เรยี นควรได้รับการพฒั นา/ส่งเสริม ๑) นกั เรยี นสามารถบอกหรือช้ีส่ิงท่ีตอ้ งการได้ด้วยตนเอง ๒) นกั เรียนสามารถด่ืมน้ำ ดม่ื นม ไดด้ ้วยตนเอง ๓) นักเรยี นสามารถรบั ประทานอาหารโดยการใชช้ ้อนตกั อาหารใส่ปาก ไดด้ ้วยตนเอง ๕. เป้าหมายหลกั ทีผ่ ู้เรยี นควรไดร้ บั การป้องกัน/แก้ไขปัญหา ๑) ควรไดร้ บั สื่ออำนวยความสะดวกทีเ่ หมาะสมกับความพิการของผู้เรียน ๒) การปรบั สภาพพ้นื ทบี่ ริเวณในการฝึกผูเ้ รยี น เรื่อง การชว่ ยเหลือตนเองในชวี ิตประจำวนั . ผูบ้ ันทกึ ข้อมูล…………………………………………… (……น…าย…อ…เุ ท…น….ข.…อ…น้อ…ย……………) ตำแหนง่ ………………ค…รู…………… วนั ที่……๑…..เดือน……ก…รก…ฎ…า…ค…ม…..พ.ศ…๒…๕…๖..๕ กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ ศูนย์การศึกษาพเิ ศษประจำจังหวดั ลำปาง
137 ๒ ๒๗ ๖ ประเมินครั้งที่ ๒ แบบคดั กรองบุคคลท่ีมคี วามบกพร่องทางสตปิ ัญญา ชื่อ-นามสกุล เดก็ ชายสวุ ิชชา ผวิ งาม วนั เดอื น ปี เกดิ ๑๒ กรกฎาคม ๒๕๕๐ อายุ ๑๕ ปี ๑ เดือน ระดบั ชน้ั เตรียมความพร้อม วัน เดือน ปี ท่ปี ระเมนิ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๕ คาชี้แจง ๑ แบบคัดกรองฉบบั นี้เปน็ แบบคัดกรองเพื่อประโยชน์ในทางการจัดการศึกษาเทา่ น้ัน ๒ วิเคราะห์ลักษณะ/พฤติกรรม ของเด็กซึ่งเป็นลักษณะหรือพฤติกรรม ท่ีเด็กแสดงออกบ่อยๆ โดยให้ทา เคร่ืองหมาย /ลงในชอ่ ง “ ใช่ ” หรือ “ไมใ่ ช่ ” ทต่ี รงกบั ลกั ษณะหรือพฤติกรรมน้ันๆ ของเดก็ ๓ ผู้ทาการคัดกรองเบื้องต้นต้องผา่ นการอบรมวธิ ีการใช้ และการประเมิน ตามแบบคัดกรองนี้ และควรสอบถาม ข้อมลู เพิม่ เตมิ จากผู้ท่ีอยใู่ กลช้ ิดเดก็ มากที่สุด เชน่ ผปู้ กครองหรือครู เพือ่ ใหเ้ กิด ความชัดเจน ถูกต้อง ๔ ผคู้ ัดกรองควรจะมอี ยา่ งน้อย ๒ คนข้ึนไป ท่ี ลักษณะ / พฤตกิ รรม ผลการวิเคราะห์ ใช่ ไมใ่ ช่ ทกั ษะการส่ือสาร ๑ ใช้ภาษาไมส่ มวยั / ๒ ไมเ่ ข้าใจคาส่งั ไม่สามารถทาตามคาส่ังได้ / ทักษะการดูแลตนเอง ๓ ไมส่ ามารถ หรอื สามารถดูแลตัวเองในชีวติ ประจาวันได้น้อย / ในการรบั ประทานอาหาร / การอาบน้า / แปรงฟัน / การแตง่ กาย ๔ ไม่สามารถทาความสะอาดหลงั การขบั ถ่าย / ทกั ษะการดารงชวี ติ ภายในบา้ น ๕ ตอ้ งกระตนุ้ ในการปฏบิ ตั กิ จิ วตั รประจาวนั อยู่เสมอ / ๖ ช่วยเหลอื ตนเองในชีวิตประจาวนั ไดต้ า่ กวา่ วยั / ทกั ษะทางสงั คม/การปฏสิ มั พนั ธก์ ับผ้อู ืน่ ๗ ชอบเล่นกับเด็กท่มี ีอายนุ อ้ ยกวา่ หรอื ไมส่ ามารถเลน่ กับเพื่อนตามวยั / ๘ เลน่ เลยี นแบบผอู้ ่นื อยา่ งไมเ่ หมาะสมกบั วยั / ทกั ษะการรู้จักใช้ทรัพยากรในชมุ ชน ๙ มีปัญหาด้านพฤติกรรมในการใช้สิ่งของสาธารณะประโยชน์ เช่น ชอบ / ทาลายหรือใช้อย่างไม่ระมดั ระวัง ๑๐ ไมร่ จู้ กั วิธีการใช้ การจดั เก็บ และการดูแลรกั ษาของส่วนรวม / ทักษะการรู้จกั ดแู ลควบคุมตนเอง ๑๑ เอาแตใ่ จตนเอง มอี ารมณโ์ กรธ ฉุนเฉียวบอ่ ย ๆ / ๑๒ ไม่สามารถควบคุมตนเองทาตามสงิ่ ทตี่ ้องทา / ทักษะการนาความรู้มาใช้ในชวี ิตประจาวนั ๑๓ ลมื งา่ ย / จาในสิง่ ทเี่ รยี นมาแล้วไมไ่ ด้ /
138 ๒๘ ท่ี ลกั ษณะ / พฤตกิ รรม ผลการวิเคราะห์ ใช่ ไม่ใช่ ๑๔ ไมส่ ามารถนาทกั ษะทเ่ี รยี นรู้ไปแก้ไขปญั หาเฉพาะหน้าได้ / ทกั ษะการทางาน / ๑๕ ชว่ งความสนใจส้ัน ไม่สามารถรบั ผิดชอบงานทตี่ อ้ งทา / ๑๖ ทาตามคาส่งั ต่อเน่ือง ๒คาสง่ั ข้ึนไปได้ยาก สบั สนงา่ ย / ทักษะการใช้เวลาวา่ ง / ๑๗ สนใจสงิ่ รอบตวั น้อย ๑๘ ใชเ้ วลาวา่ งแสดงพฤติกรรมท่ไี ม่เหมาะสม / ทักษะการรักษาสุขภาพอนามัยและความปลอดภัย / ๑๙ ดูแลสุขภาพตนเองได้น้อย เช่น ล้างมือไม่เป็น หรือไม่รู้จักรับประทาน อาหารทเ่ี ป็นประโยชน์ ๒๐ มีความระมัดระวงั เรอ่ื งความปลอดภยั ตนเองน้อย หมายเหตุ ทงั้ นี้พฤติกรรมดงั กล่าวตอ้ งเทยี บเคยี งกับพฒั นาการของเด็กท่ัวไป เกณฑก์ ารพิจารณา แต่ละทักษะจะต้องมีผลการวิเคราะห์พฤติกรรมทักษะว่าใช่ท้ัง ๒ข้อ แสดงว่าไม่ผ่านทักษะนั้น และ หากว่าพบทักษะการปรับตัวไม่ผ่านต้ังแต่ ๒ ทักษะขึ้นไป แสดงว่ามีแนวโน้มท่ีจะเป็นบุคคล ทม่ี ีความบกพรอ่ ง ทางสตปิ ญั ญา ใหจ้ ดั บริการช่วยเหลือทางการศึกษาพิเศษ และส่งต่อให้แพทย์ตรวจวินิจฉัย ตอ่ ไป ผลการคดั กรอง ไม่พบความบกพร่อง / พบความบกพร่อง ความคดิ เหน็ เพมิ่ เติม ........................................น...ัก..เ.ร..ยี ..น..ค..ว..ร..ไ.ด..ร้..บั..ก..า..ร..พ..ฒั....น..า.ต...า.ม...ศ..ัก..ย..ภ..า..พ............................ ................................................. .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ ใบวฒุ บิ ตั ร เลขทศ่ี กศ.-ลป.-๐๐๘๑/๒๕๖๑(ผู้คัดกรอง) (นายอุเทน ขอน้อย) ลงชอ่ื ใบวุฒิบัตร เลขที่ ศกศ.-ลป.-๐๐๙๘/๒๕๖๑(ผู้คัดกรอง) (นางสาวปณุ ยนุช คาจิตแจ่ม) ลงชอื่ ใบวุฒบิ ัตร เลขทศี่ กศ.-ลป.-๐๐๙๗/๒๕๖๑(ผคู้ ัดกรอง) (นางสาวบษุ กร สนั เทพ)
๒๙ 139 คายินยอมของผ้ปู กครอง ขา้ พเจา้ นางประนอม ผิวงาม เปน็ ผ้ปู กครองของ เด็กชายสุวิชชา ผวิ งาม / ยนิ ยอม ไมย่ นิ ยอม ใหด้ าเนนิ การคดั กรอง เด็กชายสุวิชชา ผวิ งาม ตามแบบคัดกรองน้ี เมอื่ พบว่ามีแนวโน้มเป็นผูท้ ีม่ คี วามบกพรอ่ งตามแบบคัดกรองขา้ งต้น / ยนิ ดี ไม่ยินดี ใหจ้ ดั บรกิ ารชว่ ยเหลอื ทางการศกึ ษาพเิ ศษต่อไป ลงช่ือ ผู้ปกครอง (นางประนอม ผวิ งาม)
140 แบบประเมนิ หลกั สตู รสถานศกึ ษาการศึกษานอกระบบ ระดบั การศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน สาหรบั ผ้เู รยี นพิการ ศนู ยก์ ารศึกษาพเิ ศษประจาจงั หวดั ลาปาง ฉบับปรับปรุง พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๕ ระดับการศกึ ษาภาคบงั คับ : ระดบั ชนั้ ประถมศกึ ษา (ปที ่ี ๒) ช่ือ-สกุล เด็กชายสุวชิ ชา ผิวงาม อายุ ๑๕ ปี ๑ เดือน วนั ท่ปี ระเมนิ ๒๔ พฤษภาคม ๒๕๖๕ คาช้แี จง ๑. แบบประเมนิ ตามหลักสตู รสถานศึกษาการศกึ ษานอกระบบ ระดบั การศึกษาขั้นพน้ื ฐานสาหรบั ผูเ้ รยี นพิการ ศูนย์การศึกษาพเิ ศษประจาจงั หวดั ลาปาง ฉบับปรับปรงุ พุทธศักราช ๒๕๖๕ ใช้ประเมินสาหรบั เดก็ ทอี่ ยูใ่ นระดับการศกึ ษาภาคบังคับ ๒. แบบประเมนิ ฉบบั นส้ี ามารถใชไ้ ดก้ ับผรู้ ับการประเมนิ ทุกประเภทความพกิ าร เกณฑก์ ารประเมนิ ผล ๑. ผลการประเมินก่อนการพัฒนา ระดบั ๔ หมายถงึ ไมต่ ้องชว่ ยเหลอื /ทาไดด้ ้วยตนเอง ระดับ ๓ หมายถงึ กระตุ้นเตอื นดว้ ยวาจา ระดับ ๒ หมายถึง กระตนุ้ เตือนดว้ ยท่าทาง และวาจา ระดบั ๑ หมายถึง กระตุ้นเตือนทางกาย ทา่ ทาง และวาจา ระดบั ๐ หมายถึง ตอบสนองผิดหรือไม่มีการตอบสนอง ๒. สรุป ๒.๑ หนว่ ย ฯ หมายถงึ จดั การเรยี นการสอนตามหนว่ ยการจัดการเรยี นรู้ ๒.๒ IEP / IFSP หมายถึง จดั การเรียนการสอนตามแผนการจดั การศกึ ษาเฉพาะบุคคล หรือแผนการใหบ้ ริการชว่ ยเหลอื เฉพาะครอบครวั
141 ๑. สาระการดารงชีวติ ประจาวันและการจัดการตนเอง คาชแ้ี จง ใหท้ าเครือ่ งหมาย ลงในช่องผลการประเมนิ ที่ตรงตามสภาพความเป็นจรงิ ผลการประเมนิ สรปุ ที่ ตัวชวี้ ดั กอ่ นการพฒั นา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หนว่ ยฯ IIP/FCSP ๑ ดป ๑.๑/๓ ดแู ลความสะอาดสุขอนามัยของตนเอง ๒ ดป ๑.๑/๔ ดแู ลสขุ อนามัยได้อยา่ งเหมาะสมตามเพศของ ตนเอง ๓ ดป ๑.๑/๕ ปฏิบตั ติ นตามมาตรการการป้องกนั โรค ๔ ดป ๑.๒/๔ เลอื กเครื่องแตง่ กายหรือเคร่ืองประดับตาม ความชอบสว่ นตัว ๕ ดป ๑.๒/๕ เลือกเคร่ืองแต่งกายได้เหมาะสมกับกาลเทศะ และโอกาส ๖ ดป ๑.๓/๒ บอกเลือกใช้อปุ กรณ์และห้องน้าภายในบ้าน ห้องนา้ สาธารณะได้อย่างถูกต้อง ตรงตามเพศ ของตนเอง ๗ ดป ๑.๓/๓ ทาความสะอาดตนเองและห้องนา้ หลังใช้หอ้ งนา้ และแตง่ กายให้แลว้ เสรจ็ ก่อนออกจากห้องนา้ ๘ ดป ๑.๖/๔ ข้ามถนนอย่างปลอดภัย
142 ผลการประเมิน สรุป ท่ี ตวั ชี้วดั ก่อนการพฒั นา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หนว่ ยฯ IIP/FCSP ๙ ดป ๒.๑/๓ ออกกาลังกาย เลน่ กีฬา หรือนันทนาการตาม ๑๐ ดป ๓.๑/๒ บอกอารมณพ์ นื้ ฐานของตนเอง ๑๑ ดป ๓.๑/๕ แสดงสหี น้า อารมณแ์ ละสนทนาตอบโต้ เมือ่ ได้รับคาชมเชย คาตชิ ม หรอื คาเตือน จากผู้อ่นื ๑๒ ดป ๓.๑/๖ มีความยืดหยนุ่ เม่ือมีการเปลยี่ นแปลงเวลา หรอื จากสถานทห่ี นงึ่ ไปอีกสถานทห่ี นึ่ง ๑๓ ดป ๓.๑/๗ ตีความหมายสีหน้า ทา่ ทาง ภาษากาย และ น้าเสยี งของผู้อ่ืนและตอบสนองอารมณ์ของผู้อน่ื ๒. สาระการเรยี นรูแ้ ละความรพู้ นื้ ฐาน คาชแ้ี จง ให้ทาเครอ่ื งหมาย ลงในชอ่ งผลการประเมินท่ตี รงตามสภาพความเป็นจรงิ ที่ ตัวช้วี ดั ผลการประเมิน สรปุ กอ่ นการพัฒนา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หน่วยฯ IIP/FCSP ๑ รพ ๑.๑/๓ ใช้การฟัง การดู การสมั ผัสเพ่ือแสดงความสนใจ ต่อส่ือ บุคคลและมสี ว่ นรว่ มในสถานการณต์ ่าง ๆ ในชวี ิตประจาวัน
143 ที่ ตวั ช้ีวดั ผลการประเมิน สรุป กอ่ นการพัฒนา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หนว่ ยฯ IIP/FCSP ๒ รพ ๑.๑/๔ เลยี นแบบการแสดงออกในการสอ่ื สารกบั บคุ คลอ่ืน ทีค่ นุ้ เคยหรือไม่คนุ้ เคยในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ได้ ๓ รพ ๑.๑/๗ ใช้กระบวนการส่ือสารในการแสวงหาขอ้ มลู ขา่ วสารในการติดตามความเคล่อื นไหวต่าง ๆ ในสงั คม สาหรับการดารงชวี ติ และการประกอบ อาชพี ๔ รพ ๑.๒/๑ ใชก้ ระบวนการอ่านในการเลือกภาพ คา ท่อี อกเสยี งเหมือนเสียงพยัญชนะตน้ ทเ่ี ป็นชอ่ื ของตนเอง สง่ิ ของ บุคคลอืน่ ได้ ๕ รพ ๑.๒/๒ ระบชุ อ่ื สิง่ ของ บุคคลท่ีรจู้ ักในหนังสือภาพ หรอื สื่อรูปแบบอน่ื ๆ ๖ รพ ๑.๓/๓ เขยี นพยญั ชนะไทย สระ วรรณยกุ ต์ ได้ตาม ศักยภาพเขยี นตัวอักษรภาษาองั กฤษด้วยวธิ ีการ ต่าง ๆ ได้ตามศกั ยภาพ ๗ รพ ๓.๑/๑ บอกประวตั คิ วามเปน็ มาของตนเอง และครอบครวั โดยใชร้ ูปแบบทห่ี ลากหลาย ๘ รพ ๖.๑/๒ บอกประโยชนส์ ง่ิ ของเครอื่ งใช้ทีเ่ ปน็ เทคโนโลยี ในชวี ิตประจาวนั โดยการบอก ช้ี หยบิ หรือ รูปแบบการสอ่ื สารอ่นื ๆ
144 ๓. สาระสงั คมและการเป็นพลเมืองท่ีเข้มแข็ง คาช้แี จง ใหท้ าเคร่ืองหมาย ลงในช่องผลการประเมินทต่ี รงตามสภาพความเป็นจริง ที่ ตวั ช้วี ดั ผลการประเมนิ สรุป ก่อนการพัฒนา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หน่วยฯ IIP/FCSP ๑ สพ ๑.๑/๒ ปฏบิ ัติหน้าทขี่ องตนเองในการเป็นสมาชิกทีด่ ี ของครอบครัว ๒ สพ ๑.๑/๔ ปฏิบตั ติ นตามบทบาทหนา้ ที่ของตนเอง ในการเป็นสมาชกิ ท่ดี ขี องโรงเรียน ๓ สพ ๑.๑/๖ ปฏิบัติตนตามบทบาทหน้าทีข่ องตนเอง ในการเปน็ สมาชกิ ทด่ี ขี องชมุ ชนและสงั คม ๔ สพ ๓.๑/๒ ปฏิบตั ติ าม ขนบธรรมเนยี มประเพณี ศิลปะ วัฒนธรรมไทย และมีความกตัญญูกตเวที ๕ สพ ๓.๒/๑ เขา้ ใจ ตระหนักถงึ ความสาคัญตอ่ ศาสนพิธี พธิ กี รรมและวนั สาคญั ทางศาสนาทตี่ นเอง นบั ถือ ๔. สาระการงานพน้ื ฐานอาชีพ คาช้ีแจง ใหท้ าเครือ่ งหมาย ลงในช่องผลการประเมินที่ตรงตามสภาพความเป็นจรงิ ท่ี ตวั ชี้วดั ผลการประเมนิ สรปุ ก่อนการพฒั นา ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ หนว่ ยฯ IIP/FCSP ๑ กอ ๑.๑/๓ เกบ็ ของเลน่ – ของใช้สว่ นตัวหรอื ของสมาชิก ในครอบครัวจนเป็นนิสยั
145 ลงชื่อ................... ..............................ผ้ปู ระเมิน ลงช่ือ................. ................................ผู้ประเมนิ (นายอเุ ทน ขอนอ้ ย) (นางสาวปณุ ยนุช คาจติ แจ่ม) ตาแหน่ง ครู ตาแหน่ง ครู ลงชื่อ................... ..............................ผปู้ ระเมิน (นางสาวบุษกร สันเทพ) ตาแหนง่ ครู
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 477
Pages: