Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 221 นายอัมรินทร์ อวดกล้า 2565 ลงเลขแล แก้ไข

221 นายอัมรินทร์ อวดกล้า 2565 ลงเลขแล แก้ไข

Published by Uthen Khornoi, 2023-04-21 03:44:24

Description: 221 นายอัมรินทร์ อวดกล้า 2565 ลงเลขแล แก้ไข

Search

Read the Text Version

96

97

98

99

100

101

102

103

104

105

106

107

108 ข้อมลู นักเรียนรายบคุ คล ห้องเรียน หน่วยบรกิ ารอำเภอแจห้ ม่ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๕ ๑. ข้อมูลดา้ นนักเรียน ๑.๑ ข้อมูลส่วนตวั นกั เรยี น ชอ่ื -นามสกลุ (ด.ช/ด.ญ/นาย/น.ส) อัมรินทร์ อวดกล้า ช่อื เลน่ ดรีม ประเภทความพิการ บกพร่องออทิสติก เกดิ วนั ที่ ๔เดอื น สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๔๗ อายุ ๑๘ ปี เชอ้ื ชาติ ไทย สญั ชาติ ไทย ศาสนา พุทธ เลขบัตรประจำตวั ประชาชน ๑๕๒๙๙ ๐๒๒๑๕ ๔๓๙ หมโู่ ลหิต........................................................... การจดทะเบยี นคนพิการ  ไมต่ ้องการจดทะเบียน  ยงั ไม่จดทะเบียน  จดทะเบยี นแล้ว ท่ีอย่ปู จั จบุ นั บ้านเลขที่๓๓๓ ม.๙ ต.แจห้ ่ม อ.แจห้ ่ม จ.ลำปาง ๕๒๑๒๐ ๑.๒ ดา้ นสขุ ภาพ ๑) สุขภาพกาย  มสี ขุ ภาพร่างกายสมบูรณ์แขง็ แรง  เจบ็ ปว่ ยบอ่ ย (ระบ)ุ ............................................................................  มีโรคประจำตัว (ระบ)ุ .........................................................................  ป่วยเป็นโรครา้ ยแรง/เร้อื รัง (วณั โรค โรคอว้ น โรคทางเดินหายใจเร้อื รงั (หอบหืด) โรคหวั ใจและหลอดเลือด โรคหลอดเลอื ดสมอง โรคไตวายเรอ้ื รงั โรคมะเร็ง ภาวะภูมคิ ุม้ กันตำ่ โรคเบาหวาน ภาวะบกพร่องทางระบบประสาทอย่างรนุ แรง ลมชกั ฯลฯ ระบโุ รค)............................................................... น้ำหนัก ๕๕ กิโลกรมั ส่วนสงู ๑๕๗ เซนตเิ มตร  น้ำหนักผิดปกตไิ ม่สัมพันธ์กับส่วนสงู หรืออายุ  นอนติดเตยี ง ๒) สุขภาพจิต/อารมณ์/พฤติกรรม  อารมณด์ ี ยม้ิ งา่ ย  มีปฏิสมั พันธ์ทเี่ หมาะสมกับผอู้ ื่น  อารมณ์หงุดหงดิ งา่ ย/โมโหงา่ ย  ไม่มปี ฏิสัมพันธก์ ับผอู้ นื่ เชน่ เฉยเมย ไม่สบตา  ไมม่ กี ารตอบสนอง/แสดงออกทางอารมณ์  ซมึ เศร้า  แยกตวั ออกจากกลมุ่  หวาดระแวง  ไมพ่ บพฤติกรรมท่ีไม่พึงประสงค์  พบพฤติกรรมที่ไม่พงึ ประสงค์ท่สี ง่ ผลกระทบไมร่ ุนแรงต่อตนเอง/ผู้อืน่ /ส่ิงของ  พบพฤตกิ รรมท่ไี ม่พงึ ประสงคท์ ่สี ่งผลกระทบรนุ แรงต่อตนเอง/ผ้อู นื่ /สิ่งของ

109 ๑.๓ ด้านการเรยี นรู้ ๑) พฒั นาการ/ความสามารถ  พัฒนาการ/ความสามารถเทียบเท่ากับอายจุ ริง  พัฒนาการ/ความสามารถลา่ ชา้ กว่าอายุจริง ๑ – ๓ ปี  พฒั นาการ/ความสามารถลา่ ช้ากว่าอายุจรงิ ๓ ปี ขึน้ ไป ๒) การชว่ ยเหลือตนเอง  สามารถช่วยเหลือตนเองได้  สามารถชว่ ยเหลอื ตนเองไดบ้ ้าง  ไมส่ ามารถชว่ ยเหลือตนเองได้ ๑.๔ ดา้ นสิทธคิ นพิการ/สนบั สนุนช่วยเหลือจากองค์กรภาครัฐหรอื เอกชน ๑) เบ้ยี ยังชพี คนพกิ าร  ไดร้ ับ จำนวน ๘๐๐ บาท/เดือน  ไม่ไดร้ บั เนื่องจาก................................................................................................................ ๒) บรกิ ารฟน้ื ฟูทางการแพทย์  ได้รับ (ระบุโรงพยาบาล) โรงพยาบาลนครพิงค์  ไมไ่ ด้รบั เน่ืองจาก................................................................................................................ ๓) บรกิ ารเทคโนโลยี สอื่ ส่ิงอำนวยความสะดวก  ได้รับ (ระบุสงิ่ ที่ได้รบั ) สื่อสงิ่ อำนวยความสะดวก (ระบหุ น่วยงานทไี่ ดร้ บั ) ศูนยก์ ารศึกษาพเิ ศษประจำจังหวดั ลำปาง  ไม่ได้รับ เนื่องจาก............................................................................................................... ๔) ทุนการศึกษา/เงนิ ชว่ ยเหลอื อืน่ ๆ  ได้รบั (ระบุชอ่ื ทุนการศึกษา/เงนิ ช่วยเหลืออ่นื ๆ) ทุนคุณพุ่ม จำนวน.......................บาท/เดอื น  ไม่ได้รบั เน่ืองจาก................................................................................................................ ๕) รับบริการสวัสดิการทางสังคม  ไดร้ บั (สิง่ ทไ่ี ดร้ บั เชน่ บริการเคสเมเนเจอร์ บริการรบั ส่งไปโรงพยาบาล ฯลฯ ระบุ).......... (หน่วยงานทไี่ ด้รับ เช่น พมจ. กสศ. ฯลฯ ระบุ )..................................................................  ไมไ่ ด้รบั เนื่องจากไม่ได้รับ

110 ๑.๕ ดา้ นการเดนิ ทางในชีวิตประจำวนั ๑) ยานพาหนะทีใ่ ชใ้ นครอบครวั  ไมม่ ียานหนะใชภ้ ายในครอบครวั  มียานพาหนะ โปรดระบุประเภท  จกั รยาน  จักรยานยนต์  จักรยานยนตพ์ ว่ ง  รถเก๋ง  รถกระบะ ๒ ประตู  รถกระบะ ๔ ประตู (นง่ั ๒ ตอนท้ายบรรทุก)  รถกระบะ ๔ ประตู (นง่ั ๒ ตอนท้ายบรรทุกมหี ลังคา)  รถกระบะ ๔ ประตู (นงั่ ๒ ตอนแวน)  รถตู้สว่ นบคุ คล ๒) วธิ ีการเดินทางในชีวติ ประจำวนั  เดิน  ใช้ยานพาหนะ โปรดระบุประเภท  จกั รยาน  จักรยานยนต์  จักรยานยนตพ์ ว่ ง  รถเกง๋  รถกระบะ ๒ ประตู  รถกระบะ ๔ ประตู (น่งั ๒ ตอนทา้ ยบรรทุก)  รถกระบะ ๔ ประตู (นง่ั ๒ ตอนท้ายบรรทุกมหี ลังคา)  รถกระบะ ๔ ประตู (นั่ง ๒ ตอนแวน)  รถรบั จ้าง / รถรบั -สง่ นกั เรียน  รถโดยสารประจำทาง  รถต้สู ่วนบคุ คล ๓) ระยะทางจากท่ีพกั อาศยั มายงั สถานศึกษา (ระบุระยะทาง) ๕ กิโลเมตร

111 ๒. ขอ้ มูลดา้ นครอบครัว ๒.๑ ข้อมลู บดิ า  มีชีวิตอยู่  ถึงแกก่ รรม  ไมม่ ขี ้อมลู ชอื่ -นามสกุล บดิ า นายวชิ ิต อวดกลา้ อายุ ๔๖ ปี เชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย ศาสนา พุทธ  ไม่มงี านทำ  มีงานทำ อาชีพ รบั จ้างราย ได๙้ ๐๐๐บาท/เดือน ระดบั การศึกษา  ไม่ได้รบั การศึกษา  ประถมศึกษา  มัธยมศึกษา/ปวช  ปวส/อนปุ ริญญา  ปรญิ ญา ทอ่ี ยู่ปัจจุบนั  ทอ่ี ยู่เดียวกับนักเรยี น  ทีอ่ ยู่ตา่ งจากนกั เรยี น (โปรดกรอกข้อมลู ) บา้ นเลขท่ี๓๓๓ ม.๙ ต.แจ้ห่ม อ.แจห้ ่ม จ.ลำปาง ๕๒๑๒๐ เบอรโ์ ทรศพั ท.์ ........................................................................... ๒.๒ ข้อมูลมารดา  มีชวี ิตอยู่  ถึงแก่กรรม  ไม่มขี ้อมลู ช่อื -นามสกลุ มารดา นางอำไพร อวดกล้า อายุ ๔๖ ปี เชอ้ื ชาติ ไทย สัญชาติ ไทย ศาสนา พทุ ธ  ไมม่ ีงานทำ  มงี านทำ อาชีพ แม่บ้าน รายได้ -บาท/เดือน ระดบั การศึกษา  ไม่ได้รับการศึกษา  ประถมศึกษา มธั ยมศกึ ษา/ปวช  ปวส/อนปุ รญิ ญา  ปริญญา ทอี่ ยูป่ ัจจบุ ัน  ทอ่ี ยเู่ ดยี วกบั นักเรยี น  ทอ่ี ยตู่ า่ งจากนกั เรียน (โปรดกรอกข้อมลู ) บา้ นเลขที่๓๓๓ ม.๙ ต.แจ้ห่ม อ.แจห้ ่ม จ.ลำปาง ๕๒๑๒๐ เบอรโ์ ทรศพั ท์...................................... ๒.๓ ขอ้ มลู ผู้ปกครอง  บิดา  มารดา  ผ้ปู กครองไม่ใช่บิดา/มารดา (โปรดกรอกข้อมลู ) ชื่อ-นามสกุลผู้ปกครองนางอำไพร อวดกลา้ อายุ ๔๖ ปี เชื้อชาติ ไทย สัญชาติ ไทย ศาสนา พุทธ อาชีพ แมบ่ ้าน รายได-้ บาท/เดือน ระดบั การศึกษา  ไม่ได้รับการศึกษา  ประถมศึกษา  มัธยมศกึ ษา/ปวช  ปวส/อนุปรญิ ญา  ปริญญา ที่อยู่ปัจจบุ ัน  ทีอ่ ยู่เดียวกับนักเรียน  ท่อี ยตู่ า่ งจากนักเรยี น (โปรดกรอกข้อมลู ) บา้ นเลขที่๓๓๓ ม.๙ ต.แจ้ห่ม อ.แจห้ ่ม จ.ลำปาง ๕๒๑๒๐ เบอรโ์ ทรศัพท์..................................... รายไดค้ รอบครัว  ๑๐๐,๐๐๐ บาท/ปี ข้นึ ไป  ๔๐,๐๐๑ – ๙๙,๙๙๙ บาท/ปี  ไมเ่ กิน 40,000 บาท/ปี สภาพความเปน็ อยใู่ นครอบครวั  อยูร่ ว่ มกบั บิดามารดา  อยกู่ ับบดิ า  อยู่กับมารดา  อยกู่ บั ผู้อืน่ (ระบ)ุ .......................................................................

112 สถานภาพของบิดามารดา อย่ดู ว้ ยกัน  หย่าร้าง  แยกกันอยู่  บิดาถึงแก่กรรม  มารดาถึงแก่กรรม  บิดา มารดาถึง แกก่ รรม ครอบครัวของนักเรียนมสี มาชิกท้ังหมด ๔ คน ประกอบดว้ ย พ่อแม่ บตุ ร บคุ คลในครอบครวั มีการใชส้ ารเสพตดิ  มี  ไมม่ ี เก่ยี วข้องเป็น...............................กับนกั เรียน ประเภทสารเสพตดิ ท่ใี ชค้ ือ  บุหร่ี  สุรา  ยาบา้  อนื่ ๆ ระบุ............................. ความถใี่ นการใช้สารเสพติดของบุคคลในครอบครัว  เปน็ ประจำ  บางคร้ัง บคุ คลในครอบครัวเก่ียวขอ้ งกับการเลน่ การพนนั  มี  ไมม่ ี ความถีใ่ นการเล่นการพนันของบุคคลในครอบครัว  เปน็ ประจำ  บางครงั้ ภายในครอบครัวมีความขัดแยง้ และมีการใช้ความรนุ แรง  มี  ไม่มี บุคคลในครอบครัวเจ็บป่วยด้วยโรครุนแรง/เร้ือรัง  มี  ไม่มี อาชพี บิดา/มารดา/ผูป้ กครองเส่ียงตอ่ กฎหมาย  มี  ไม่มี ๒.๔ ด้านเศรษฐกิจครอบครัว  มรี ายไดเ้ พียงพอสำหรบั เลี้ยงดูครอบครัวไดอ้ ย่างดี  มีรายได้เพียงพอสำหรับเล้ียงดูครอบครัวเฉพาะท่จี ำเป็น  มหี นสี้ นิ  มรี ายได้เพยี งเลก็ น้อย ไม่เพียงพอสำหรับครอบครวั  ไมม่ ีรายได้เลย ตอ้ งพ่งึ พาผู้อนื่ ทงั้ หมด และมีหน้สี ิน ๒.๕ ดา้ นการคมุ้ ครองนักเรียน ๑) การดแู ลเอาใจใส่นักเรียน  สมาชกิ ทุกคนในครอบครัวช่วยกนั ดแู ลเอาใจใสน่ ักเรยี นเป็นประจำสม่ำเสมอ  ขาดการดูแลเอาใจใส่/ปล่อยปละละเลยนักเรยี นเป็นบางคร้ัง  ขาดการดแู ลเอาใจใส่/ปล่อยปละละเลยนกั เรยี น/ไม่มผี ู้ดูแล  นักเรยี นถูกลว่ งละเมิดทางเพศ  นกั เรียนถูกทำร้ายทารณุ ๒) การช่วยเหลือในการพฒั นานักเรยี น  สมาชิกทกุ คนในครอบครัวเข้าใจ/รว่ มมอื ในการชว่ ยเหลอื ในการพฒั นานักเรยี นเปน็ อย่างดี  สมาชิกในครอบครัวบางคนไมม่ ีความเขา้ ใจ/ร่วมมือในการชว่ ยเหลอื ในการพฒั นานักเรียน  สมาชิกทุกคนในครอบครัวขาดความเขา้ ใจ/ร่วมมือในการชว่ ยเหลือในการพัฒนานักเรียน

113 ๒.๖ ด้านเจตคตติ อ่ นักเรียน ครอบครวั มีความคาดหวังในการพฒั นานักเรียน  นกั เรยี นสามารถพัฒนาได้และมีการแสวงหาความรู้ในการพฒั นานักเรยี นอยู่เสมอ  มีความคาดหวังในการพัฒนานักเรียนแต่ไม่มีการแสวงหาความรเู้ พ่ือนำมาพฒั นานักเรียน  ไม่มีความคาดหวังในการพฒั นานักเรียนและนกั เรยี นเป็นภาระของครอบครวั ๒.๗ ดา้ นความรู้ ความเขา้ ใจ ทักษะของผ้ปู กครองในการพฒั นานกั เรียน ๑) ความรู้ ความเข้าใจ ทักษะของผู้ปกครองในการจดั กิจกรรมเพอื่ พัฒนานกั เรียน  มีการจดั กิจกรรมเพื่อพฒั นานักเรียนเป็นประจำทกุ วนั มกี ารจัดกจิ กรรมเพื่อพัฒนานกั เรียนเปน็ บางครง้ั  ไมเ่ คยมีการจัดกจิ กรรมเพ่อื พัฒนานักเรยี น ๒) ความรู้ ความเข้าใจ ทกั ษะของผู้ปกครองในการฝกึ ด้วยเทคนคิ /กิจกรรม  มีการฝึกดว้ ยเทคนิค/กจิ กรรมทห่ี ลากหลายเปน็ ประจำทกุ วัน  มกี ารฝกึ ดว้ ยเทคนิค/กิจกรรมเป็นบางครั้ง  ไมเ่ คยฝกึ ด้วยเทคนคิ /กิจกรรม ๓. ขอ้ มูลด้านสภาพแวดล้อม ๓.๑ สภาพแวดลอ้ มภายในศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจงั หวัดลำปาง/หนว่ ยบรกิ าร ๑) บริเวณภายในหอ้ งเรียนอาคารเรียน  สภาพแวดลอ้ มในหอ้ งเรียน/อาคารเรียนมคี วามเหมาะสมกับความต้องการจำเป็นพิเศษของ นักเรียนและปลอดภัยตอ่ การดำรงชวี ติ  สภาพแวดลอ้ มในห้องเรียน/อาคารเรยี นบางอยา่ งขาดความเหมาะสมกบั ความต้องการจำเปน็ พเิ ศษของนกั เรียนแต่ยังสามารถใช้ได้อยา่ งปลอดภยั ตอ่ การดำรงชวี ติ  สภาพแวดลอ้ มในหอ้ งเรียน/อาคารเรยี นบางอย่างขาดความเหมาะสมกับความตอ้ งการจำเปน็ พเิ ศษของนักเรยี นและไมป่ ลอดภัยต่อการดำรงชวี ติ  สภาพแวดล้อมในหอ้ งเรยี น/อาคารเรียนทุกอย่างไม่มีความเหมาะสมกับความต้องการจำเปน็ พิเศษของนักเรยี นและไม่ปลอดภัยตอ่ การดำรงชวี ิต ระบุรายละเอียดเพ่มิ เตมิ ...........................................................................................................................................

114 ๒) บรเิ วณภายนอกอาคารเรยี น  สภาพแวดลอ้ มนอกอาคารเรยี นมคี วามเหมาะสมกับความต้องการจำเปน็ พเิ ศษของนักเรยี น และปลอดภยั ต่อการดำรงชวี ติ  สภาพแวดลอ้ มนอกอาคารเรยี นบางอย่างขาดความเหมาะสมกบั ความต้องการจำเป็นพเิ ศษ ของนักเรยี นแตย่ งั สามารถใช้ไดอ้ ย่างปลอดภยั ตอ่ การดำรงชีวิต  สภาพแวดลอ้ มนอกอาคารเรยี นบางอยา่ งขาดความเหมาะสมกับความต้องการจำเป็นพเิ ศษ ของนักเรียนและไมป่ ลอดภยั ต่อการดำรงชวี ติ  สภาพแวดลอ้ มนอกอาคารเรียนทุกอยา่ งไมม่ ีความเหมาะสมกบั ความต้องการจำเปน็ พิเศษของ นกั เรียนและไม่ปลอดภยั ตอ่ การดำรงชีวิต ระบุรายละเอยี ดเพมิ่ เติม........................................................................................................................................... นกั เรียน ๓) ผู้เกี่ยวขอ้ ง  คร/ู ผ้ปู กครอง/พ่ีเลย้ี งเด็กพกิ าร/ผู้ปฏบิ ตั ิงานให้ราชการทกุ คนพร้อมใหก้ ารชว่ ยเหลือนักเรียน  ครู/ผู้ปกครอง/พเ่ี ลีย้ งเด็กพิการ/ผูป้ ฏิบตั ิงานให้ราชการบางคนละเว้นไมใ่ ห้การช่วยเหลอื  คร/ู ผ้ปู กครอง/พ่ีเลย้ี งเด็กพกิ าร/ผปู้ ฏิบัตงิ านใหร้ าชการบางคนรงั เกียจนักเรียน  เพอื่ นหรอื สมาชิกในครอบครวั ทุกคนยอมรบั /ใหเ้ ขา้ กลมุ่ ทำกิจกรรม  เพ่อื นหรือสมาชิกในครอบครวั บางคนไม่ยอมรบั /ไมใ่ หเ้ ข้ากล่มุ ทำกิจกรรม  เพ่อื นหรือสมาชกิ ในครอบครวั ทุกคนไม่ยอมรับ/ไมใ่ หเ้ ข้ากล่มุ ทำกิจกรรม ๓.๒ สภาพแวดลอ้ มภายในบ้าน ๑) บรเิ วณภายในบา้ น  สะอาดปลอดภัยเอื้อต่อการพฒั นาศักยภาพนักเรียน  สะอาดปลอดภยั แตไ่ ม่เอ้ือต่อการพฒั นาศักยภาพนกั เรียน  ไม่สะอาดและไมป่ ลอดภัย ๒) บริเวณภายนอกบ้าน  สะอาดปลอดภยั เอื้อต่อการพัฒนาศักยภาพนักเรียน  สะอาดปลอดภัยแต่ไม่เอ้ือตอ่ การพฒั นาศักยภาพนกั เรียน  ไมส่ ะอาดและไม่ปลอดภัย

115 ๓.๓ สภาพแวดล้อมภายในชุมชน ๑) เจตคตขิ องชุมชนที่มีต่อนักเรยี นและครอบครวั  เปน็ ภาระของสงั คม  พรอ้ มให้ความช่วยเหลอื  ความเชือ่ เร่อื งเวรกรรม  มสี ทิ ธเิ ทา่ เทยี มกับคนท่ัวไป  นา่ รงั เกียจ  คนพกิ ารสามารถพัฒนาได้  ไม่สนใจ ๒) ความสัมพนั ธข์ องนักเรยี นกบั ชมุ ชน  เปน็ ทรี่ ู้จกั ในชมุ ชน  มสี ว่ นรว่ มในชุมชน  เป็นท่รี ักของคนในชมุ ชน  ชมุ ชนใหค้ วามช่วยเหลอื  ไมม่ คี นในชมุ ชนรูจ้ ัก  ไมส่ นใจ  สรา้ งความเดือดร้อนใหค้ นในชุมชน ๔. ข้อมูลดา้ นความปลอดภัยสถานศึกษา ๔.๑ ภัยทเ่ี กดิ จากการใช้ความรนุ แรงของมนุษย์ ๑) การล่วงละเมดิ ทางเพศ  นกั เรยี นมีผดู้ ูแลใกลช้ ิดตลอดเวลา  นกั เรยี นมผี ดู้ แู ลใกลช้ ิดเป็นบางเวลา  นักเรียนมักถูกทง้ิ ให้อยู่ตามลำพังหรือไม่มผี ู้ดแู ล  นักเรยี นมปี ฏสิ ัมพนั ธท์ างสังคมโดยมีระยะห่างกับผู้อนื่  นักเรยี นมีพฤตกิ รรมกอดหรอื หอมแกม้ เพศตรงข้ามที่ไม่ใชญ่ าติหรอื คนรู้จกั  นักเรียนมพี ฤติกรรมล้วงหรอื จบั อวยั วะเพศของตนเอง  นักเรยี นมีพฤติกรรมลว้ งหรือจับอวยั วะเพศของผู้อื่น  นกั เรียนมีพฤตกิ รรมกระตุน้ ตนเองทางเพศเปน็ บางคร้ัง  นักเรียนมพี ฤติกรรมกระตุ้นตนเองทางเพศบ่อยครงั้ /เป็นประจำ  นักเรียนมีพฤตกิ รรมการเขา้ ใชส้ ื่อเทคโนโลยีโดยไมม่ กี ารควบคมุ ดแู ล  นกั เรยี นมพี ฤติกรรมชอบดสู ่อื อนาจารลามก ๒) การทะเลาะววิ าท  นักเรยี นมผี ูด้ แู ลใกลช้ ิดตลอดเวลา  นักเรยี นมีผู้ดูแลใกลช้ ดิ เป็นบางเวลา  นักเรยี นมักถูกทง้ิ ใหอ้ ยตู่ ามลำพังหรือไม่มีผดู้ แู ล  นกั เรียนมกี ริยาท่าทางเรียบรอ้ ย สภุ าพ ไม่ก้าวรา้ ว ไม่มพี ฤติกรรมทำรา้ ยตนเองหรือผูอ้ ่ืน  นกั เรยี นมีพฤติกรรมเลน่ ไมเ่ ปน็ หรอื แย่งสง่ิ ของ ของเพื่อนหรือผู้อืน่ เป็นบางครั้ง

116  นกั เรียนมีพฤตกิ รรมชอบแยง่ ของ ของผอู้ ื่นหรือเพ่ือนบ่อยคร้งั /เปน็ ประจำ  นกั เรยี นมพี ฤติกรรมชอบดสู ่ือหรอื ให้ความสนใจสอื่ ทมี่ ีความรุนแรงในสังคม  นกั เรยี นมพี ฤตกิ รรมเลียนแบบการกระทำหรือคำพดู ท่ีก้าวรา้ วรนุ แรงเมอ่ื เหน็ ผู้อ่ืนทำหรือ จากการเสพสือ่  นักเรยี นมกั แสดงพฤติกรรมหรอื คำพดู ที่ก้าวรา้ วรนุ แรงตอ่ ผู้อืน่  นกั เรยี นไดร้ บั ยาท่ีมีฤทธ์ใิ นการปรับพฤติกรรม (ยากลุ่มจิตเวช) แตท่ านยาไมส่ ม่ำเสมอ ๓) การกลนั่ แกลง้ รงั แก  นกั เรยี นมผี ้ดู แู ลใกลช้ ดิ ตลอดเวลา  นกั เรยี นมีผ้ดู ูแลใกลช้ ิดเป็นบางเวลา  นกั เรียนมักถูกท้งิ ใหอ้ ยตู่ ามลำพงั หรือไม่มีผู้ดูแล  นักเรียนมีกริยาท่าทางเรียบร้อย สุภาพ ไม่กา้ วร้าว ไม่มีพฤติกรรมทำรา้ ยตนเองหรอื ผ้อู ่นื  นักเรียนมพี ฤติกรรมเล่นไมเ่ ปน็ หรือแย่งสงิ่ ของ ของเพื่อนหรือผอู้ ื่นเป็นบางครั้ง  นักเรียนมีพฤติกรรมชอบแย่งของ ของผอู้ ่ืนหรือเพื่อนบ่อยๆ/เป็นประจำ  นักเรยี นมพี ฤติกรรมชอบดสู ื่อหรือให้ความสนใจส่อื ท่มี ีความรนุ แรงในสงั คม  นกั เรยี นมีพฤตกิ รรมเลียนแบบการกระทำหรือคำพดู ท่แี สดงถึงการกลน่ั แกลง้ รงั แก เช่น พูดแซว พดู คำหยาบคาย ดึงผมผอู้ นื่ กดั หยิกหรือตผี ู้อื่น เม่ือเหน็ ผอู้ นื่ ทำหรือจากการเสพสื่อ  นกั เรยี นมกั แสดงพฤติกรรมหรอื คำพูดที่แสดงถงึ การกล่นั แกลง้ รังแก เชน่ พูดแซว พูดคำ หยาบคาย ดึงผมผอู้ ืน่ กัดหยิกหรอื ตผี อู้ ื่น อยูเ่ สมอ ๔) การชุมนุมประทว้ งและการจลาจล  นักเรียนมีผ้ดู แู ลใกล้ชิดตลอดเวลา  นกั เรยี นมีผ้ดู แู ลใกลช้ ิดเป็นบางเวลา  นกั เรยี นมักถูกทิง้ ให้อยตู่ ามลำพงั หรือไม่มผี ดู้ ูแล  นกั เรยี นมกี รยิ าท่าทางเรียบร้อย สภุ าพ ไม่มีพฤติกรรม ก้าวร้าว กอ่ กวน ทำร้ายตนเองหรือ ผอู้ นื่ และไมม่ ีการแสดงพฤติกรรมท่กี ่อใหเ้ กิดการชมุ นุม ชักจงู ผู้อ่นื หรอื การประทว้ ง  นักเรียนมีพฤตกิ รรมชอบดูสอ่ื หรือให้ความสนใจส่ือท่ีเกี่ยวกบั การชุมนุมประท้วงและ การจลาจลในสงั คม  นกั เรยี นเสี่ยงตอ่ การถกู ชักชวนจากผูอ้ น่ื ไปร่วมหรือก่อการชุมนมุ ประทว้ งและการจลาจล  นกั เรียนถูกชกั ชวนไปรว่ มการชมุ นุมประทว้ งและการจลาจล

117 ๕) การกอ่ วนิ าศกรรม  นกั เรยี นมีผู้ดแู ลใกลช้ ดิ ตลอดเวลา  นกั เรยี นมผี ู้ดแู ลใกล้ชิดเป็นบางเวลา  นักเรียนมกั ถูกท้งิ ให้อย่ตู ามลำพงั หรือไม่มผี ู้ดแู ล  นกั เรยี นมีกรยิ าท่าทางเรียบรอ้ ย สภุ าพ ไมม่ ีพฤตกิ รรม ก้าวรา้ ว กอ่ กวน ทำร้ายตนเองหรอื ผอู้ ่นื และไมม่ ีการแสดงพฤติกรรมทเก่ียวกบั ทำรา้ ยผู้อื่น ทำลายสาธารณะสมบตั ิในสงั คม เป็นต้น  นกั เรียนมีพฤตกิ รรมชอบดูสอื่ หรอื ให้ความสนใจสือ่ ท่ีเกี่ยวกับ ทำร้ายผ้อู น่ื ทำลายสาธารณะ สมบตั ิในสงั คม เปน็ ตน้  นักเรียนเสี่ยงตอ่ การถูกชักชวนจากผู้อ่นื ไปรว่ มหรือก่อการชมุ นุมประท้วงและการจลาจล  นักเรียนถกู ชักชวนไปร่วม ทำรา้ ยผอู้ นื่ ทำลายสาธารณะสมบัตใิ นสังคม เป็นต้น ๖) การระเบดิ  นกั เรียนมผี ดู้ ูแลใกล้ชดิ ตลอดเวลา  นกั เรียนมีผ้ดู ูแลใกล้ชดิ เป็นบางเวลา  นกั เรยี นมักถูกท้งิ ให้อยตู่ ามลำพังหรือไม่มผี ้ดู แู ล  นักเรยี นไม่มีแนวโน้มที่จะแสดงพฤติกรรม การพกพาหรือเลน่ สารเคมหี รือวัตถทุ ี่อาจ กอ่ ใหเ้ กิดระเบดิ  บคุ คลในครอบครัวนักเรยี นมีการใชส้ ารเคมหี รือวตั ถุทอ่ี าจกอ่ ให้เกดิ ระเบดิ ในครอบครัวหรือ ในการประกอบอาชีพของครอบครวั เชน่ ยาฆ่าแมลงวชั พืช หรอื สารประกอบในปยุ๋ เคมี หรือสารเคมที ำประทัด พลุ หรือบ้ังไฟ หรอื มวี ัตถุอนั ตราย เชน่ กระป๋องสเปรย์ นำ้ มนั ไมข้ ีดไฟ ไฟแชค็ ในบ้าน  นกั เรยี นคลุกคลกี ับบุคคลมีการใช้สารเคมหี รือใช้วตั ถุอัตรายในการประกอบอาชีพท่ีอาจ กอ่ ให้เกิดระเบดิ  นกั เรยี นคลกุ คลีกับบุคคลมีการใชส้ ารเคมีหรือใช้วัตถุอัตรายในการทำประทัด พลุ หรือบงั้ ไฟ  นักเรียนเสี่ยงต่อการถกู ชักชวนจากผอู้ ื่นในการพกพาหรือเลน่ สารเคมีหรือใช้วัตถทุ ่ีอาจ ก่อให้เกิดระเบดิ  นักเรียนมพี ฤติกรรมพกพาหรือนำสารเคมีหรือวัตถุท่ีอาจก่อใหเ้ กดิ ระเบิด เช่น ยาฆ่าแมลง วชั พืช หรอื สารประกอบในปุ๋ยเคมี หรือสารเคมีทำประทดั พลุ หรอื บงั้ ไฟ หรอื มีวัตถุอันตราย เชน่ กระปอ๋ งสเปรย์ นำ้ มัน ไม้ขีดไฟ ไฟแชค็

118 ๗) สารเคมีและวัตถุอันตราย  นักเรยี นมีผ้ดู ูแลใกล้ชิดตลอดเวลา  นักเรียนมีผดู้ แู ลใกลช้ ิดเป็นบางเวลา  นกั เรียนมกั ถูกทิ้งให้อยตู่ ามลำพงั หรือไม่มีผ้ดู แู ล  นกั เรียนไม่มีแนวโน้มท่ีจะแสดงพฤติกรรม การพกพาหรือเลน่ สารเคมีหรือวัตถุอันตราย  บุคคลในครอบครัวนักเรียนมีการใช้สารเคมีหรือวัตถุอันตราย ในครอบครัวหรือใน การประกอบอาชีพของครอบครัว เช่น น้ำยาล้างจาน น้ำยาล้างห้องน้ำ น้ำส้มสายชู ยาฆ่าแมลง ผงซักฟอก น้ำยาซกั ฟอก กระปอ๋ งสเปรย์ น้ำมนั ไมข้ ดี ไฟ ไฟแช็ค เป็นต้น  นักเรียนคลกุ คลกี บั บุคคลมีการใชส้ ารเคมหี รือใช้วตั ถุอตั รายในการประกอบอาชพี  นกั เรยี นคลุกคลกี ับบุคคลมกี ารใชส้ ารเคมีหรือใชว้ ตั ถุอัตรายในการทำประทัด พลุ หรือบ้งั ไฟ  นกั เรียนเสย่ี งต่อการถกู ชักชวนจากผู้อืน่ ในการพกพาหรือเลน่ สารเคมีหรือใชว้ ตั ถอุ ันตราย  นักเรียนมพี ฤติกรรมพกพาหรอื นำสารเคมหี รือวัตถุอตั รายน้ำยาล้างจาน นำ้ ยาลา้ งห้องน้ำ น้ำส้มสายชู ยาฆ่าแมลง ผงซักฟอก นำ้ ยาซักฟอก กระป๋องสเปรย์ น้ำมัน ไมข้ ดี ไฟ ไฟแช็ค เปน็ ต้น ๘) การล่อลวง ลักพาตวั  นกั เรียนมีผดู้ ูแลใกลช้ ดิ ตลอดเวลา  นกั เรียนถกู ทิ้งอย่ตู ามลำพงั ในห้องเรียนหรือทีบ่ ้านหรือสถานท่สี าธารณะในชุมชนเป็น บางครั้ง  นกั เรียนถูกท้ิงอยู่ตามลำพงั ในห้องเรียนหรือท่ีบ้านหรือสถานทีส่ าธารณะในชมุ ชนบ่อยครัง้ หรือเปน็ ประจำ  นักเรยี นสามารถแสดงอาการหรอื พูดปฏิเสธเมือ่ ถูกชกั ชวนจากผอู้ ืน่ หรือคนแปลกหน้า  นกั เรยี นสามารถแสดงอาการหรือพูดปฏเิ สธเม่อื ถูกชักชวนจากผอู้ น่ื หรอื คนแปลกหน้าเปน็ บางคร้งั  นกั เรียนสามารถแสดงอาการหรอื พูดปฏเิ สธหรือไม่รบั ของจากผู้อ่ืนหรือคนแปลกหนา้ ทใี่ ห้ สิ่งของ/ขนม  นกั เรยี นไมส่ ามารถแสดงอาการหรือพดู ปฏิเสธเมื่อถูกชกั ชวนจากผูอ้ ื่นหรือคนแปลกหน้า  นกั เรียนสามารถแสดงอาการหรอื พูดปฏเิ สธในการรบั ของจากผู้อนื่ หรอื คนแปลกหนา้ ทใ่ี ห้ ส่ิงของ/ขนมเปน็ บางครั้ง  นักเรยี นไม่สามารถแสดงอาการหรือพูดปฏเิ สธในการรับของจากผูอ้ ่นื หรือคนแปลกหน้าที่ให้ สง่ิ ของ/ขนม

119 ๔.๒ ภยั ทีเ่ กิดจากอบุ ตั ิเหตุ ๑) ภัยธรรมชาติ ๑.๑) ภัยจากนำ้ ท่วม (จมน้ำ/ไฟดูด/สตั ว์มพี ิษ)  นกั เรยี นมผี ดู้ ูแลใกลช้ ิดตลอดเวลา  นกั เรยี นมผี ้ดู แู ลใกลช้ ดิ เป็นบางเวลา  นักเรยี นบอกสถานการณ์ คำเตอื นภัยหรือภาพสัญลกั ษณ์ในการเตือนภัยทเ่ี กดิ ขน้ึ ได้  นกั เรยี นไม่สามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภัยหรอื ภาพสญั ลักษณใ์ นการเตือนภัยทีเ่ กิดข้นึ ได้  นกั เรียนสามารถดแู ลตวั เองเม่ือเกิดเหตกุ ารณ์ได้  นกั เรยี นไม่สามารถดูแลตัวเองเม่ือเกิดเหตุการณ์ได้  นักเรียนมพี ฤตกิ รรม ชอบเล่นน้ำ ชอบเอานิว้ ไปแหย่ ชอบไปจับ ชอบเอาของหรือมือใส่ปาก  นักเรียนบอกไม่ได้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ ไม่สามารถดูแลตัวเองเมื่อเกิดเหตุการณ์ได้ และมีพฤติกรรม ชอบเลน่ นำ้ ชอบเอานว้ิ ไปแหย่ ชอบไปจบั ชอบเอาของหรือมือใส่ปาก และถูกทง้ิ ให้อยู่ตามลำพัง หรอื ไมม่ ีผู้ดแู ล ๑.๒) ไฟไหม้ปา่ หรือไฟไหมท้ ี่ลุกลามในสถานทตี่ า่ ง ๆ  นกั เรียนมผี ู้ดูแลใกล้ชดิ ตลอดเวลา  เรียนมีผู้ดแู ลใกล้ชิดเป็นบางเวลา  นกั เรยี นสามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภัยหรอื ภาพสัญลกั ษณใ์ นการเตือนภัยท่ีเกิดขน้ึ ได้  นักเรียนไม่สามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภัยหรอื ภาพสญั ลกั ษณ์ในการเตือนภยั ท่ีเกิดขึน้ ได้  นกั เรียนสามารถดแู ลตัวเองเมื่อเกดิ เหตกุ ารณไ์ ด้  นักเรยี นไม่สามารถดแู ลตัวเองเม่ือเกิดเหตุการณ์ได้  นกั เรียนมพี ฤตกิ รรมชอบเลน่ วัตถไุ วไฟ วตั ถุทกี่ ่อใหเ้ กดิ ไฟหรือเช้อื เพลงิ  นักเรยี นไม่สามารถบอกเหตกุ ารณท์ ีเ่ กิดขน้ึ ไม่สามารถดูแลตวั เองเมื่อเกิดเหตกุ ารณ์ได้ และมี พฤติกรรม ชอบเลน่ วัตถุไวไฟ วัตถทุ กี่ ่อใหเ้ กิดไฟหรือเช้อื เพลิง และถกู ทิ้งให้อยู่ตามลำพงั หรือไม่มผี ูด้ ูแล ๑.๓) พายุ  นักเรยี นมผี ดู้ แู ลใกล้ชิดตลอดเวลา  เรยี นมีผู้ดูแลใกลช้ ิดเปน็ บางเวลา  นักเรยี นสามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภัยหรือภาพสญั ลักษณใ์ นการเตือนภัยท่เี กิดขึ้นได้  นักเรยี นไม่สามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภัยหรอื ภาพสญั ลักษณใ์ นการเตอื นภัยทีเ่ กิดขน้ึ ได้

120  นกั เรยี นสามารถดแู ลตวั เองเมื่อเกิดเหตกุ ารณ์ได้  นกั เรยี นไมส่ ามารถดูแลตัวเองเมื่อเกิดเหตุการณ์ได้  นักเรยี นไม่สามารถบอกเหตุการณท์ เ่ี กดิ ขนึ้ ไมส่ ามารถดแู ลตัวเองเมื่อเกิดเหตุการณ์ได้ และ ถกู ทิ้งให้อย่ตู ามลำพังหรือไมม่ ีผู้ดูแล ๑.๔) แผ่นดนิ ไหว  นักเรยี นมีผ้ดู ูแลใกล้ชดิ ตลอดเวลา  เรยี นมีผดู้ แู ลใกล้ชดิ เป็นบางเวลา  นกั เรยี นสามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภัยหรอื ภาพสญั ลกั ษณใ์ นการเตือนภัยท่เี กิดข้ึนได้  นกั เรยี นไมส่ ามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภัยหรอื ภาพสัญลกั ษณใ์ นการเตือนภัยที่เกิดขน้ึ ได้  นกั เรียนสามารถดแู ลตวั เองเม่ือเกิดเหตกุ ารณไ์ ด้  นักเรยี นไมส่ ามารถดแู ลตัวเองเมื่อเกิดเหตุการณ์ได้  นกั เรียนไมส่ ามารถบอกเหตุการณท์ ีเ่ กดิ ขน้ึ ไมส่ ามารถดูแลตัวเองเมื่อเกิดเหตกุ ารณไ์ ด้ และ ถกู ทง้ิ ใหอ้ ยู่ตามลำพังหรอื ไมม่ ีผ้ดู แู ล ๑.๕) ภัยธรรมชาตใิ นช่วงฤดูหนาว  นักเรียนมผี ู้ดแู ลใกล้ชิดตลอดเวลา  เรียนมผี ดู้ แู ลใกล้ชิดเปน็ บางเวลา  นักเรยี นสามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภยั หรอื ภาพสญั ลกั ษณใ์ นการเตือนภัยทเี่ กิดขน้ึ ได้  นกั เรียนไมส่ ามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภยั หรอื ภาพสญั ลกั ษณใ์ นการเตือนภยั ที่เกิดข้ึน ได้  นกั เรยี นสามารถดูแลตัวเองเม่ือเกิดเหตุการณ์ได้  นกั เรยี นไม่สามารถดแู ลตัวเองเมื่อเกิดเหตุการณ์ได้  นักเรียนไมส่ ามารถบอกเหตกุ ารณ์ทเี่ กิดข้ึน ไมส่ ามารถดูแลตัวเองเม่ือเกิดเหตกุ ารณไ์ ด้ และ ถูกทง้ิ ใหอ้ ยตู่ ามลำพังหรอื ไม่มีผู้ดแู ล ๒) ภัยจากอาคารเรียน สิ่งก่อสรา้ ง  นักเรียนมผี ู้ดูแลใกลช้ ิดตลอดเวลา  เรยี นมผี ้ดู ูแลใกล้ชิดเปน็ บางเวลา  นักเรียนสามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภัยหรือภาพสญั ลักษณใ์ นการเตือนภยั ท่เี กิดขนึ้ ได้  นกั เรยี นไมส่ ามารถบอกสถานการณ์ คำเตือนภัยหรอื ภาพสญั ลกั ษณ์ในการเตอื นภยั ที่เกิดขน้ึ ได้

121  นกั เรยี นสามารถดูแลตวั เองเม่ือเกดิ เหตุการณไ์ ด้  นกั เรยี นไม่สามารถดแู ลตัวเองเม่ือเกิดเหตุการณ์ได้  นักเรยี นไม่สามารถบอกเหตุการณ์ท่ีเกิดขึน้ ไม่สามารถดแู ลตัวเองเม่ือเกิดเหตกุ ารณไ์ ด้ และ ถกู ท้งิ ให้อยู่ตามลำพังหรือไมม่ ีผดู้ ูแล ๓) ภยั จากยานพาหนะ  นักเรียนมีผูด้ ูแลใกล้ชดิ ตลอดเวลา  นักเรียนมีผดู้ ูแลใกล้ชิดเป็นบางเวลา  นกั เรียนสามารถปฏบิ ัติตนเมื่อใชห้ รอื โดยสารยานพาหนะที่จำเป็นในชวี ติ ประจำวนั ได้ เช่น รถจกั รยาน รถจักรยานยนต์ รถยนต์ เปน็ ต้น  นักเรยี นไม่สามารถปฏบิ ตั ิตนเม่อื ใช้หรือโดยสารยานพาหนะทีจ่ ำเปน็ ในชีวติ ประจำวันได้ เช่น รถจกั รยาน รถจกั รยานยนต์ รถยนต์ เปน็ ต้น  นักเรยี นสามารถปฏิบตั ติ นในการป้องกันอนั ตรายที่อาจเกดิ จากยานพาหนะในชีวติ ประจำวัน ได้  นักเรยี นไมส่ ามารถปฏิบัติตนในการป้องกนั อันตรายท่ีอาจเกดิ จากยานพาหนะใน ชีวติ ประจำวนั ได้  นักเรียนไม่สามารถปฏิบัติตนเมื่อใช้หรือโดยสารยานพาหนะและไม่สามารถปฏิบัติตนใน การปอ้ งกันอันตรายที่อาจเกิดจากยานพาหนะในชีวติ ประจำวันได้ รวมถงึ มกั ถูกท้งิ ให้อยตู่ ามลำพังหรือไม่มผี ดู้ แู ล ๔) ภยั จากการจัดกิจกรรม  นกั เรยี นมีผู้ดูแลใกล้ชดิ ตลอดเวลา  นักเรยี นมีผูด้ แู ลใกล้ชดิ เป็นบางเวลา  นกั เรยี นสามารถปฏบิ ัติตามกฎ กติกา ข้อตกลงได้  นักเรยี นปฏบิ ตั ิตามกฎ กตกิ า ข้อตกลงได้เป็นบางครัง้  นักเรียนไม่สามารถปฏบิ ัติตามกฎ กติกา ข้อตกลงได้ และ มกั ถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังหรือไม่มี ผ้ดู ูแล ๕) ภัยจากเครื่องมือ อปุ กรณ์  นกั เรยี นมผี ดู้ ูแลใกลช้ ิดตลอดเวลา  นักเรียนมีผ้ดู แู ลใกลช้ ิดเป็นบางเวลา  นักเรียนสามารถใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ เช่น กรรไกร/กาว/ดินสอแหลม/มีดครัว/ เครื่องใชไ้ ฟฟ้า/เครอ่ื งมือชา่ งในบ้านหรือสถานศกึ ษา ไดด้ ว้ ยตนเองอยา่ งปลอดภัย  นักเรียนไม่สามารถใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ เช่น กรรไกร/กาว/ดินสอแหลม/มีดครัว/ เครื่องใช้ไฟฟ้า/เคร่อื งมือช่างในบ้านหรือสถานศึกษา ไดด้ ้วยตนเองอย่างปลอดภัย

122  นักเรียนไม่สามารถใช้เครื่องมือ อุปกรณ์ เช่น กรรไกร/กาว/ดินสอแหลม/มีดครัว/ เครื่องใช้ไฟฟ้า/เครื่องมือช่างในบ้านหรือสถานศึกษา ได้ด้วยตนเองอย่างปลอดภัย และมักถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพัง หรือไม่มผี ดู้ แู ล ๔.๓ ภัยทเ่ี กดิ จากการถกู ละเมิดสิทธ์ิ ๑) การถกู ปล่อยปละ ละเลย ทอดท้ิง นักเรียนไดร้ บั การดแู ลเล้ยี งดจู ากผปู้ กครองและผ้ดู ูแลเป็นอยา่ งดี  นักเรยี นถูกปล่อยปละ ละเลย ทอดทิ้ง เปน็ บางครง้ั  นกั เรยี นถูกปล่อยปละ ละเลย ทอดท้ิง เปน็ บ่อยครั้ง ๒) การคกุ คามทางเพศ  นกั เรียนรูว้ ิธีการเอาตวั รอดจากการคุกคามทางเพศ  นกั เรยี นไดร้ ับการดูแลเลย้ี งดูจากผู้ปกครองและผ้ดู ูแลเป็นอย่างดี  นักเรียนถูกท้ิงให้อยูบ่ ้านเพยี งลำพังเปน็ บางครง้ั  นกั เรียนถูกท้ิงให้อยบู่ ้านเพยี งลำพังเป็นประจำ  บ้านนกั เรียนอยู่ในพน้ื ที่ห่างไกลชุมชน  บา้ นนกั เรยี นอยใู่ นพนื้ ท่ีห่างไกลชุมชน เมื่อมเี หตสุ ุดวิสัยไม่สามารถขอความชว่ ยเหลือจาก ผอู้ ืน่ หรือหน่วยงานต่าง ๆ ได้ทนั ที  บ้านนกั เรียนอยใู่ นพืน้ ท่ที ่ีมีการมั่วสุม เชน่ ยาเสพตดิ สุรา การพนนั  บา้ นนกั เรยี นอยใู่ นพ้นื ท่ีที่มกี ารมว่ั สมุ เช่น ยาเสพติด สุรา การพนัน เม่ือมเี หตสุ ดุ วิสัยไม่ สามารถขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นหรือหนว่ ยงานต่าง ๆ ได้ทันที ๓) การไมไ่ ดร้ บั ความเป็นธรรมจากระบบการศกึ ษา  นักเรยี นไดร้ ับการศกึ ษาและการพัฒนาตนเองจากหน่วยงานทเี่ กยี่ วข้องกบั ระบบการศกึ ษา  ครอบครัวนักเรียนขาดการรับข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานต่าง ๆ เนื่องจากอยู่ในพื้นท่ี ห่างไกล บนเขา ติดชายแดน หรือพน้ื ทเี่ สีย่ งภยั  ผปู้ กครองกลัวลกู ถกู รังแกหรอื กล่ันแกล้งหรือไม่ได้รับการดูแลเทา่ ท่คี วรเหมาะสม  ผูป้ กครองขาดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับระบบการศกึ ษา เพราะคดิ วา่ เด็กพิการไม่ต้องเข้า ระบบการศกึ ษา  การคมนาคมและระบการติดตอ่ ส่ือสารไมส่ ะดวก  การสื่อสารดา้ นภาษา เช่น กลมุ่ ชาตพิ ันธ์ กลุ่มชนกลมุ่ น้อย

123 ๔.๔ ภยั ท่เี กดิ จากผลกระทบต่อสขุ ภาวะทางกายและจิตใจ ๑) ภาวะจติ เวช  นกั เรยี นได้รับการดแู ลเลย้ี งดจู ากผปู้ กครองและผดู้ แู ลเป็นอยา่ งดี  นกั เรยี นมีพฤติกรรม อารมณ์ รา่ งเริงแจ่มใส่ หรือสามารถแสดงพฤติกรรม อารมณ์ได้อยา่ ง เหมาะสมและสอดคลอ้ งตามสถานการณ์  นกั เรียนมีพฤตกิ รรม อารมณ์ไมเ่ หมาะสมบางสถานการณ์  นักเรียนปญั หาด้านครอบครวั สง่ ผลกระทบต่อจติ ใจ  นกั เรียนมปี ัญหาด้านสภาพแวดลอ้ มในชุมชน ท่ีสง่ ผลต่อพฤตกิ รรม  นักเรยี นมีภาวะอาการโรคซมึ เศร้า  นักเรยี นมีปัญหาทางดา้ นพฤติกรรมและอารมณ์ท่รี ุนแรง ๒) ตดิ เกม  นกั เรียนได้รบั การดแู ลเล้ียงดูจากผปู้ กครองและผู้ดแู ลเป็นอยา่ งดี  นักเรียนสามารถแบ่งเวลาในการเล่นเกมและทำกิจกรรมอื่น ๆ โดยไม่มีภาวะพฤติกรรม ต่อต้าน  นักเรยี นถกู ปล่อยปละละเลยใหเ้ ลน่ โทรศพั ทห์ รือเลน่ คอมพวิ เตอร์โดยไมม่ ีการควบคุม ดแู ล เปน็ บางคร้งั  นกั เรียนถกู ปล่อยปละละเลยใหเ้ ล่นโทรศัพท์หรือเล่นคอมพิวเตอร์โดยไมม่ ีการควบคุม ดูแล บอ่ ยครั้ง  สภาพแวดลอ้ มทใี่ กล้ชดิ ทำใหน้ กั เรยี นมีพฤติกรรมเลียนแบบ เชน่ ผ้ดู แู ลเลน่ เกมคอมพวิ เตอร์ หรือมอื ถืออย่างไมร่ ะมัดระวงั  นักเรียนแสดงพฤติกรรมหรอื อารมณท์ ี่ก้าวร้าวรุนแรง เมอ่ื ถูกหา้ ม ยึด หรือจำกดั เวลาใน การเล่นเกม  ผู้ดแู ลขาดความเขา้ ใจในส่อื ออนไลน์ไม่สามารถแนะนำให้นักเรยี นเลน่ เกมอยา่ งระมัดระวังได้ ๓) ยาเสพตดิ  นกั เรียนได้รบั การดูแลเลยี้ งดูจากผปู้ กครองและผู้ดแู ลเปน็ อยา่ งดี  นกั เรียนสามารถรับรูถ้ ึงโทษของยาเสพติด  นักเรียนอยู่ในสภาพแวดล้อม ครอบครัวหรือชุมชน ที่มีการใช้สารเสพติดหรือมีความ เก่ียวขอ้ งกบั ยาเสพตดิ และการกระทำผดิ กฎหมาย  นักเรียนถูกชกั ชวนจากผู้อ่นื ไดง้ ่าย  นักเรยี นมพี ฤติกรรม เลียนแบบหรอื ทำตามผอู้ นื่  นักเรียนเคยทดลองใช้ยาเสพติด  นักเรยี นใชย้ าเสพติด  นกั เรียนถกู หลอกใชใ้ หเ้ ป็นผสู้ ง่ -รบั ยาเสพติด  นกั เรียนเป็นผู้ขายหรอื ผู้ซื้อยาเสพตดิ

124 ๔) โรคระบาดในมนษุ ย์  นักเรียนไดร้ บั การดูแลเล้ยี งดจู ากผู้ปกครองและผู้ดแู ลเปน็ อย่างดี  นกั เรยี นมีผ้ดู แู ลใกล้ชดิ เป็นบางเวลา  นักเรยี นมกั ถูกท้งิ ให้อยูต่ ามลำพงั หรือไม่มีผดู้ ูแล  นกั เรยี นรู้จักวิธกี ารปอ้ งกนั และสามารถดูแลตนเองใหป้ ลอดภยั จากโรคระบาดได้ ร่างกาย  นกั เรยี นไม่สามารถดแู ลตนเองจากโรคระบาดได้ เชน่ การใส่แมส ล้างมอื ทำความสะอาด  นักเรียนอาศัยหรือใช้ชวี ติ อยใู่ นสภาพแวดล้อมท่ีเปน็ แหล่งแพรเ่ ชอื้ โรค  นักเรียนอย่ใู กล้ชดิ กบั ผูป้ ่วย เช่น บุคคลในครอบครัว เพ่อื น  ผใู้ กล้ชดิ หรือบคุ คลในครอบครวั เปน็ โรคระบาดและนักเรียนไมส่ ามารถปอ้ งกนั ตัวเองได้  นักเรียนป่วยเปน็ โรคระบาดและไมส่ ามารถป้องกันการแพร่กระจายเชื้อจากตนเองไปสูผ่ ้อู ื่น ได้ ๕) ภยั ไซเบอร์  นักเรียนได้รบั การดูแลเลย้ี งดูจากผปู้ กครองและผู้ดูแลเปน็ อยา่ งดี  นักเรยี นสามารถแบ่งเวลาในใช้สือ่ เครือข่ายสังคมออนไลน์และทำกิจกรรมอืน่ ๆ โดยไมม่ ี ภาวะพฤติกรรมต่อตา้ น  นักเรยี นถูกปล่อยปละละเลยใหเ้ ลน่ โทรศพั ทห์ รือเลน่ คอมพิวเตอร์โดยไมม่ ีการควบคุม ดแู ล เป็นบางครัง้  สภาพแวดลอ้ มทีใ่ กล้ชิดทำใหเ้ ดก็ มีพฤติกรรมเลียนแบบ เชน่ ผู้ดูแลใชส้ อื่ เครือข่ายสังคม ออนไลน์อยา่ งไม่ระมดั ระวงั  ผู้ดแู ลขาดความเข้าใจในใชส้ ือ่ เครือข่ายสงั คมออนไลน์ ไม่สามารถแนะนำ ใหเ้ ดก็ ใช้อย่าง ระมัดระวงั ได้  นกั เรยี นถูกปลอ่ ยปละละเลยให้เลน่ โทรศพั ท์หรือเลน่ คอมพวิ เตอร์โดยไม่มีการควบคุม ดแู ล บอ่ ยครัง้ นักเรียนแสดงพฤตกิ รรมหรืออารมณ์ที่กา้ วรา้ วรุนแรง เมื่อถกู ห้าม ยึด หรือจำกัดเวลาในใช้สื่อ เครอื ข่ายสงั คมออนไลน์และทำกิจกรรมอ่นื ๆ ๖) การพนนั  นักเรยี นได้รบั การดูแลเลยี้ งดจู ากผู้ปกครองและผู้ดแู ลเป็นอย่างดี  นกั เรียนสามารถรบั รู้ถึงโทษของการเล่นการพนัน  นักเรยี นอยู่ในครอบครัว ชมุ ชนหรอื สภาพแวดล้อม ที่มีการเล่นพนัน  นักเรียนถูกชกั ชวนจากเพื่อนหรือผู้ใกลช้ ิดใหเ้ ล่นการพนัน  นกั เรียนมพี ฤตกิ รรมอยากทดลอง เลยี นแบบการเล่นการพนนั ตามเพ่ือนหรือผทู้ ี่อยู่ใกลช้ ดิ  นักเรียนมีพฤติกรรมส่อไปทางการเล่นหรือตดิ การพนัน

125 ๗) มลภาวะเปน็ พษิ  นักเรียนได้รบั การดแู ลเลย้ี งดูจากผปู้ กครองและผู้ดแู ลเปน็ อยา่ งดี  นักเรียนรูจ้ กั วธิ กี ารปอ้ งกันและสามารถดแู ลตนเองใหป้ ลอดภัยจากมลภาวะตา่ ง ๆ ได้  นกั เรยี นอย่ใู นสภาพแวดล้อมทเ่ี ป็นแหล่งมลภาวะ ทางอากาศ ทางเสียง ทางดนิ ทางนำ้  นกั เรยี นไม่สามารถดแู ลตนเองจากมลภาวะได้ เชน่ การใส่แมสเพื่อป้องกนั มลภาวะทาง อากาศ  นกั เรยี นปว่ ยหรือเปน็ โรคทีเ่ กดิ จากมลภาวะ ทางอากาศ ทางเสียง ทางดนิ ทางนำ้ เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ โรคท่เี ก่ียวกับการไดย้ ินเสียง โรคทางระบบทางเดินอาหาร และสขุ ภาวะทางกายอืน่ ๆ ท่ี เกิดจากมลภาวะเปน็ พิษ ๘) โรคระบาดในสัตว์  นักเรียนได้รับการดแู ลเลยี้ งดูจากผ้ปู กครองและผู้ดแู ลเปน็ อย่างดี  ครอบครวั นักเรยี นรจู้ ักวิธีการป้องกันและสามารถดูแลสตั วเ์ ล้ียงและคนในครอบครัวให้ ปลอดภยั จากโรคระบาดหรือโรคตดิ ต่อจากสตั วไ์ ด้  ครอบครัวนักเรียนไมม่ ีความรูใ้ นการดูแล ป้องกันโรคต่าง ๆ จากสตั ว์เลย้ี ง  นักเรยี นอยใู่ นสภาพแวดลอ้ มหรือชมุ ชนท่ีมีการเลย้ี งสัตว์ ทำการปศุสัตว์  นกั เรียนอยู่ในสภาพแวดล้อมหรือชุมชนที่มีการเกิดโรคระบาดสตั ว์  นกั เรยี นปว่ ยหรอื ติดเชือ้ จากโรคตา่ ง ๆ จากสัตวเ์ ลี้ยง หรอื โรคระบาดในสัตว์ เช่น โรคพษิ สุนัขบ้า โรคไขเ้ ลือดออก ไขห้ วดั นก โรคฉ่หี นู โรคอหวิ าในสตั ว์ โรคเชือ้ ราผวิ หนงั โรคเก่ียวกับพยาธใิ นสตั ว์ เปน็ ตน้ ๙) โรคภาวะทุพโภชนาการ  นกั เรยี นสามารถรับประทานอาหารท่ีมปี ระโยชน์ ถกู ต้องตามหลกั โภชนาการ ครบ 5 หมู่  นักเรยี นร้จู กั โทษของอาหารทไี่ ม่มปี ระโยชนต์ ่อร่างกาย  นกั เรยี นสามารถออกกำลังกายได้อยา่ งสมำ่ เสมอ  ผูป้ กครองดูแลและมีความรู้ความเข้าใจด้านโภชนาการอย่างถูกต้อง  นกั เรียนรับประทานที่ไม่มปี ระโยชน์ ไม่ถูกต้องตามหลักโภชนาการ  ผปู้ กครองขาดความรู้และไมม่ เี วลาในการดูแลจัดอาหารใหถ้ กู ต้องตามหลักโภชนาการ  นกั เรียนมีน้ำหนักผดิ ปกติไม่สัมพันธ์กบั สว่ นสงู หรืออายุ  นักเรียนป่วยเปน็ โรคขาดสารอาหาร  นกั เรยี นป่วยเปน็ โรคขาดสารอาหารหรอื มีปญั หาทางด้านสขุ ภาพต้งั แต่กำเนิด

126 ๔.๕ ภัยสงั คมในเทศกาลต่าง ๆ ๑) ถูกจป้ี ล้น/ถกู วงิ่ ราวทรพั ย์/ถกู ล้วงกระเป๋า  นกั เรยี นรูจ้ ักวธิ กี ารปอ้ งกันตนเองต่อการถูกจี้ปลน้ /ถูกวิ่งราวทรัพย์/ถูกล้วงกระเป๋า และผู้ปกครองดูแลอยา่ งใกล้ชิด  นักเรียนไม่รจู้ ักวิธีการป้องกันตนเองต่อการถูกจีป้ ล้น/ถูกว่ิงราวทรพั ย/์ ถูกลว้ งกระเปา๋ แตผ่ ู้ปกครองดแู ลอยา่ งใกลช้ ดิ  นกั เรยี นรู้จกั วิธีการป้องกันตนเองต่อการถกู จีป้ ลน้ /ถูกว่ิงราวทรพั ย/์ ถูกล้วงกระเปา๋ และมผี ู้ดูแลใกล้ชดิ บางเวลา  นกั เรยี นไมร่ จู้ กั วธิ ีการป้องกันตนเองต่อการถูกจี้ปล้น/ถูกว่ิงราวทรพั ย์/ถูกล้วงกระเป๋า และมผี ู้ดูแลใกลช้ ิดบางเวลา  รู้นกั เรยี นจักวิธีการป้องกันตนเองต่อการถกู จปี้ ลน้ /ถูกวิ่งราวทรัพย/์ ถูกล้วงกระเปา๋ แต่ถูกทง้ิ ให้อยู่ตามลำพังหรอื ไม่มีผ้ดู ูแล  นกั เรยี นไม่รจู้ ักวิธกี ารป้องกันตนเองตอ่ การถูกจ้ปี ลน้ /ถูกว่ิงราวทรัพย์/ถูกล้วงกระเป๋า และถูกทงิ้ ให้อย่ตู ามลำพงั หรือไม่มผี ู้ดแู ล ๒) ถกู ลอ่ ลวง/ถกู หลอก  นักเรยี นรู้จกั วิธกี ารปอ้ งกันตนเองต่อการถูกล่อลวง/ถกู หลอก และผูป้ กครองดแู ลอย่าง ใกล้ชิด  นักเรียนไม่รจู้ ักวธิ กี ารป้องกนั ตนเองต่อการถูกล่อลวง/ถกู หลอก แตผ่ ู้ปกครองดูแลอยา่ ง ใกลช้ ดิ  นกั เรียนรจู้ ักวธิ กี ารปอ้ งกันตนเองต่อการถกู ล่อลวง/ถูกหลอกและมีผ้ดู ูแลใกล้ชดิ บางเวลา  นักเรยี นไมร่ จู้ กั วธิ ีการป้องกันตนเองตอ่ การถูกลอ่ ลวง/ถกู หลอกและมผี ้ดู แู ลใกล้ชดิ บางเวลา  นักเรยี นรู้จกั วิธีการป้องกันตนเองต่อการถกู ล่อลวง/ถูกหลอกแต่ถกู ท้ิงใหอ้ ยู่ตามลำพังหรอื ไม่ มผี ู้ดแู ล  นกั เรียนไมร่ ู้จกั วธิ ีการป้องกันตนเองต่อการถูกลอ่ ลวง/ถูกหลอก และถกู ทิ้งให้อยู่ตามลำพงั หรอื ไม่มผี ้ดู แู ล ๓) ถูกลักพาตัว  นกั เรยี นรจู้ กั วธิ ีการป้องกันตนเองต่อการถกู ลักพาตวั และผู้ปกครองดูแลอย่างใกล้ชิด  นกั เรยี นไม่รจู้ ักวธิ ีการป้องกันตนเองต่อการถูกลักพาตัว แตผ่ ู้ปกครองดูแลอยา่ งใกล้ชดิ  นกั เรียนรูจ้ กั วิธกี ารปอ้ งกันตนเองต่อการถูกลกั พาตัวและมีผูด้ แู ลใกลช้ ิดบางเวลา  นักเรียนไมร่ จู้ กั วธิ กี ารป้องกันตนเองตอ่ การถูกลกั พาตวั และมผี ดู้ ูแลใกลช้ ิดบางเวลา  นกั เรียนรู้จักวธิ กี ารป้องกันตนเองต่อการถกู ลักพาตวั แต่ถูกทิ้งให้อยตู่ ามลำพังหรอื ไม่มผี ู้ดูแล

127  นกั เรยี นไมร่ ้จู กั วธิ ีการป้องกันตนเองต่อการถูกลักพาตวั และถกู ท้งิ ให้อยตู่ ามลำพงั หรือไม่มี ผดู้ แู ล ๔) ถูกวางยาด้วยวธิ ีการตา่ ง ๆ  นกั เรียนรูจ้ กั วธิ กี ารป้องกันตนเองต่อการถกู วางยาด้วยวธิ กี ารตา่ ง ๆ และผปู้ กครองดูแลอยา่ ง ใกล้ชดิ  นกั เรยี นไม่รจู้ กั วิธีการป้องกันตนเองตอ่ การถูกวางยาด้วยวธิ ีการต่าง ๆ แตผ่ ูป้ กครองดูแล อย่างใกล้ชิด  นกั เรยี นรู้จกั วิธกี ารปอ้ งกันตนเองต่อการถกู วางยาด้วยวธิ ีการตา่ ง ๆ และมีผดู้ ูแลใกล้ชิดบาง เวลา  นกั เรียนไม่รจู้ กั วิธกี ารป้องกนั ตนเองต่อการถูกวางยาด้วยวิธกี ารต่าง ๆ และมผี ้ดู ูแลใกล้ชดิ บางเวลา  นักเรียนรูจ้ ักวธิ กี ารปอ้ งกันตนเองต่อการถกู วางยาดว้ ยวิธีการต่าง ๆ แต่ถกู ท้งิ ให้อยตู่ ามลำพงั หรอื ไม่มีผูด้ ูแล  นกั เรียนไมร่ จู้ กั วธิ ีการป้องกนั ตนเองตอ่ การถูกวางยาด้วยวธิ ีการตา่ ง ๆ และถูกท้งิ ให้อยู่ตาม ลำพงั หรือไม่มผี ดู้ ูแล ๕) อนาจารข่มขืนกระทำชำเรา  ร้จู ักวธิ กี ารปอ้ งกันตนเองตอ่ การอนาจารข่มขืนกระทำชำเรา และผ้ปู กครองดูแลอย่างใกล้ชดิ  ไม่รู้จักวธิ กี ารป้องกนั ตนเองต่อการอนาจารข่มขืนกระทำชำเรา แต่ผปู้ กครองดูแลอย่าง ใกลช้ ิด  ร้จู ักวิธีการป้องกันตนเองตอ่ การอนาจารข่มขืนกระทำชำเราและมีผูด้ ูแลใกลช้ ดิ บางเวลา  ไม่รู้จักวิธกี ารป้องกันตนเองต่อการอนาจารข่มขืนกระทำชำเราและมผี ู้ดูแลใกล้ชิดบางเวลา  รู้จกั วิธกี ารป้องกันตนเองต่อการอนาจารข่มขืนกระทำชำเราแต่ ถกู ท้ิงใหอ้ ยู่ตามลำพังหรือไม่ มผี ู้ดูแล  ไม่รจู้ กั วิธกี ารปอ้ งกันตนเองต่อการอนาจารข่มขนื กระทำชำเรา และถูกท้ิงใหอ้ ยตู่ ามลำพัง หรอื ไม่มีผูด้ แู ล ลงช่อื ...............................................ผู้บันทึกข้อมูล (นายอุเทน ขอน้อย) ตำแหน่ง ครู

129 แบบรวบรวมข้อมลู ผเู้ รียน ตามกรอบคิดแนวเชงิ นิเวศ (Ecological System) ชื่อ-นามสกลุ นกั เรียน นายอมั รินทร์ อวดกลา้ ชอ่ื เล่น แดน ระดับช้นั เตรียมความพร้อม ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๕ ประเภทการรับบรกิ าร หน่วยบริการ ชื่อสถานศกึ ษา ศูนยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจำจงั หวัดลำปาง อำเภอ แจห้ ่ม จังหวัด ลำปาง ขอ้ มูล ณ วันท่ี ๔ เดือน กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ กลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ ศูนย์การศึกษาพเิ ศษประจำจังหวัดลำปาง

130 รวบรวมข้อมูลผเู้ รยี น ข้อมูลของผเู้ รียน ๑. ขอ้ มูลของผเู้ รยี น ชอ่ื -นามสกุลนกั เรยี น นายอมั รินทร์ อวดกล้า ช่อื เล่น แดน เชื้อชาติ ไทย อายุ ๑๘ ปี เพศ ชาย ประเภทความพิการ ออทสิ ติก โรคประจำตัว ลมชัก  ลักษณะความพิการ นกั เรียนมีพฤติกรรมกระตุ้นตัวเอง ซง่ึ เป็นพฤติกรรมซ้ำๆ เช่น สา่ ยหน้า เล่นมือ ดม เคาะ แสดงพฤติกรรมท่ี ไม่เหมาะสมเมื่อมีการเปล่ียนแปลงกิจกรรมประจำวัน เช่น เวลาในการรับประทานอาหาร ชนิดของอาหารที่ รับประทาน ชอบทานอาหารซ้ำๆ อาหารท่ีมีรสชาติเปรี้ยว การเปล่ียนแปลงเวลาในการทำกิจวัตรประจำวัน มพี ฤติกรรมหลกี หนีการสัมผัส ไม่จบั ผิวสัมผสั ท่เี หนยี ว เชน่ กาว สีน้ำไมช่ อบการกอดรดั มีพฤตกิ รรมอยู่ไมน่ ิ่ง คลาน หรือขยับตัวออกจากกิจกรรมท่ีให้ทำ คลานไปมารอบห้อง ไม่เข้าใจอารมณ์ของผู้อื่น เช่น ไม่เข้าใจเวลาเพ่ือนโกรธ เศร้า เสียใจ แสดงความต้องการโดยการจูงมือ เช่น เด็กจะจูงมือผู้ปกครอง / ครู เพ่ือนำไปทำส่ิงที่ต้องการ ใช้ภาษา พูดของตนเองที่ผู้อ่ืนไม่เข้าใจ พูดคำซ้ำๆ ท่ีเคยได้ยินบ่อย เช่น พูดเป็นภาษาของตนเอง (ภาษาที่ไม่มีความหมาย) ไม่สามารถเริ่มต้นบทสนทนากับผู้อื่นได้ ไม่เข้าใจคำท่ีเป็นนามธรรม เช่น การเอื้อเฟ้ือเผ่ือแผ่ ไม่มีปฏิสัมพันธ์กับ บุคคลรอบข้าง เช่น ไม่เล่นกับเพื่อน ไม่สนใจ คนรอบข้าง เป็นต้น ไมม่ ีปฏิสัมพันธก์ ับบุคคลรอบข้าง เช่น ไม่เล่นกับ เพื่อน ไม่สนใจ คนรอบข้าง เป็นต้นแสดงพฤติกรรมการตอบสนองทางอารมณ์ และสังคมไม่เหมาะสม เช่น ส่งเสียง กรีดรอ้ ง ทำร้ายตนเองโดยการตีหัวตนเอง หรือทำร้ายผู้อ่ืนโดยการกัด หยิก เม่ือถูกขัดใจ มักชอบแยกตัวออกมาอยู่ ตามลำพัง เมื่อทำกิจกรรมกลุ่มไม่ยอมเข้าร่วมกิจกรรม ไม่สามารถปฏิบัติตามกฎกติกา ระเบียบหรือข้อตกลงได้ ไมร่ ้จู ักการรอคอย ไมร่ ูจ้ กั การเข้าแถว มลี ักษณะ มีความเจ็บป่วยที่ต้องได้รับการรักษาเป็นระยะเวลานาน ด้วยอาการของโรคประจำตัวลมชัก ส่งผล ทำให้กล้ามเน้ือของผู้เรียนทำงานได้ไม่เต็มท่ี มีความตึงตัวของกล้ามเนื้อมาก เกร็ง ควรฝึกกระตุ้นพัฒนาการ พัฒนา ดา้ นความแข็งแรงของกล้ามเน้ือและการควบคุมตนเอง คือ โรคลมชัก พฤติกรรมกา้ วร้าว  พฤตกิ รรมของผ้เู รียน พฤติกรรมส่วนบุคคล นักเรียนเป็นนักเรียนของครูอุเทน ให้บริการสอนในหน่วยบริการอำเภอแจ้ห่ม จังหวัดลำปาง โดยมีการจัด กิจกรรมการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษาการศึกษานอกระบบ ระดับการศึกษา ข้ันพ้ืนฐาน สำหรับผู้เรียนพิการ ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดลำปาง ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช ๒๕๖๕ เมื่อครูจัดกิจกรรมใดกิจกรรมหน่ึงนักเรียนจะมีพฤติกรรมที่ต่อต้านพยายามหลีกหนีการทำกิจกรรมร่วมกับครูหรือ กลุม่ บรหิ ารงานวิชาการ ศูนยก์ ารศึกษาพเิ ศษประจำจังหวดั ลำปาง

131 ผู้ปกครองในขณะท่ีให้ทำกิจกรรม มักพยายามหลีกหนีโดยการเคลื่อนตัวออกจากกิจกรรม เช่นส่งเสียง มีการ ตอบสนองทางอารมณ์และสังคมไม่เหมาะสม เช่น ขว้างปาสิ่งของส่งเสยี งกรีดร้อง ทำร้ายตนเองโดยการตีหัวตนเอง หรือทำร้ายผู้อื่นโดยการกัด หยิก เมื่อถูกขัดใจ ชอบแยกตัวออกมาอยู่ตามลำพัง เมื่อทำกิจกรรมกลุ่มไม่ยอมเข้าร่วม กิจกรรม ไม่สามารถปฏิบัติตามกฎกติกา ระเบียบหรือข้อตกลงได้ ไม่รู้จักการรอคอย ไม่รู้จักการเข้าแถว มีการ กระตุ้นตวั เองโดยการส่ายหน้า เล่นมือ ดม เคาะ มีการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมเมอ่ื มีการเปลยี่ นแปลงกิจกรรม ประจำวนั เชน่ เวลาในการรับประทานอาหาร ชนดิ ของอาหารท่ีรับประทาน ชอบทานอาหารซ้ำๆ ไดแ้ ก่ ผลไม้ ขนม มีพฤตกิ รรมหลีกหนกี ารสมั ผสั ไม่ชอบการกอดรดั อยไู่ ม่น่ิง พฤติกรรมการเรยี นรู้ นักเรียนสามารถแสดงความต้องการของตนเอง โดยการออกเสียง จับมือ และแสดงการปฏิเสธโดยการ แสดงออกทางท่าทางและสีหน้าไม่พึงพอใจและใช้มือผลักออก นักเรียนไม่สามารถสื่อสารด้วยภาษาที่มีความหมาย สามารถฟังและทำตามคำสั่งง่ายๆ เช่น หยิบ ใส่ ขอ และสามารถทำตามตัวแบบได้ นักเรียนทำกิจกรรมต่างๆได้โดย การจับมือทำ หรือมีผู้ดูแลคอยช่วยเหลือทุกขั้นตอนในการทำกิจวัตรประจำวัน เช่น การล้างมือ แปรงฟัน อาบน้ำ แต่งตัวและการขับถ่าย แต่สามารถหยิบอาหารเข้าปากและเจาะกล่องนมเพื่อด่ืมเองได้ และสามารถทำกจิ กรรมการ เรยี นรู้โดยใช้การเสริมแรงทางบวกด้วยของทน่ี ักเรียนชอบ ได้แก่ ผลไม้ ขนม ในระหว่างการฝึกการเรียนรู้ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้โดยผ่านการมอง การฟัง การจับมือทำโดยเป็นคำสั่ง งา่ ยๆ เป็นลำดับข้ันตอนการทำงานจากขั้นตอนง่ายๆไปหาขั้นตอนที่ยากข้ึนด้วยการกระตุ้นเตือนทางกายและวาจา โดยการใชส้ ื่ออุปกรณ์ที่เป็นของจริงท่ีเหมาะสมกบั ผู้เรียนในชีวิตประจำวันและใช้การประสมประสานทกุ วิธีในการทำ กิจกรรมทุกขั้นตอนโดยการใช้ส่ิงอำนวยความสะดวกช่วยในการเรียนรู้ วิธีท่ีการสอนที่ผู้เรียนให้ความร่วมมือมาก ทสี่ ดุ คอื การประเมนิ รางวัลและการให้รางวลั ภาพนกั เรียน กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจำจังหวดั ลำปาง

132 รวบรวมข้อมลู ผ้เู รยี น ขอ้ มลู ความสามารถผเู้ รยี น  ความสามารถพืน้ ฐานของผเู้ รียน ๑.๑ ความสามารถพื้นฐานทางด้านร่างกาย จุดเด่น จดุ ออ่ น ๑. เม่อื ใหน้ กั เรยี นสามารถใช้มือหยิบ จับ เอื้อม กำ นำ ๑. เมื่อให้นักเรียนปล่อยวัตถุในจุดท่ีกำหนด นักเรียน ปล่อยวตั ถุได้ในระดบั อกและมผี ู้ชว่ ยเหลือในการชี้นำ ไม่สามารถปล่อยวัตถุตามเป้าหมายได้ซ่ึงจะต้องใช้การ ทิศทางปล่อยวัตถุ กระตุ้นเตือนทางกายโดยการจับมือผู้เรียนปล่อยวัตถุ ลงตามเป้าหมายทีก่ ำหนดในการ ๒. เมอื่ ให้นกั เรียนนัง่ ทรงตัวอยู่ในท่าน่ังขัดสมาธบิ นพ้ืน ๒. เมอื่ ให้นกั เรียนนั่งทรงตัวอยู่ในทา่ นั่งขัดสมาธิบนพ้ืน หลังตั้งตรงผู้เรียนสามารถนั่งทรงตัวในการทำกิจกรรม หลังต้ังตรง นักเรียนไม่สามารถนั่งทรงได้นานมากกว่า ได้ ๓-๕ นาที ๓ นาที เนื่องจากมีความล้าของกล้ามเนื้อ ซ่ึงนักเรียน จะแสดงอาการโดยการทิ้งตัวลงนอนกับพื้นจำเป็นท่ี จะต้องมเี ก้าอีท้ ่มี พี นักพิงให้เหมาะสมกับผเู้ รยี น ๓. เม่ือให้นักเรียนเคลื่อนย้ายตนเองขณะท่ีอยู่บนพ้ืน ๓. นักเรียนสามารถเคลื่อนย้ายตนเองไปในทิศทางท่ี ผู้เรียนเคลือ่ นย้ายตนเองไปยงั ทศิ ทางทตี่ ้องการ กำหนดได้ ซง่ึ นักเรียนจะแสดงอาการโดยการทิ้งตัวลง นอน หรือกรดี ร้อง กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ศูนยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจำจังหวัดลำปาง

133 รวบรวมข้อมูลผเู้ รียน ข้อมูลความสามารถผูเ้ รียน ๑.๒ ความสามารถพน้ื ฐานทางด้านอารมณ์ จิตใจ จดุ เด่น จุดอ่อน ๑. นักเรียนเข้าใจอารมณ์ของตนเองและสามารถ ๑. นักเรียนไม่เข้าใจอารมณ์ของผู้อ่ืน เม่ือผู้อ่ืนโกรธ แสดงออกทางท่าทางหรือการส่งเสียงได้ โดยการยิ้ม โมโห หรือดุดา่ ผ้เู รียนไม่เข้าใจ น่ิงเฉย ไมต่ อบสนอง และหัวเราะเมื่อได้รับส่ิงที่ต้องการ เช่น ได้รบั ขนมหรือ ผลไม้ โดยมีเฉพาะผู้ปกครองที่เข้าใจการแสดงอารมณ์ ของผู้เรียน และแสดงการปฏิเสธเมื่อได้ของท่ีไม่ ตอ้ งการปรือทำกิจกรรมที่ไม่ชอบด้วยการแสดงท่าทาง (ผลักมือคนอ่ืน หรือ ผลักส่ิงของออก) และส่งเสียง “อ้ือ /อ๊า” เปน็ ตน้ ๒. นักเรียนสามารถขอความช่วยเหลือได้ เช่น เมื่อ ๒. นักเรียนไม่สามารถขอความช่วยเหลือ เม่ือต้องการ ต้องการส่ิงของบางอย่างนักเรียนจะแสดงความ ความช่วยเหลือหรือต้องการส่ิงของบางโดยการออก ต้องการโดยการร้องไห้ เสียงดัง เอะอะโวยวายหรือ เสยี งเป็นคำ หรอื ชี้ท่ีสิ่งที่ตอ้ งการได้ มองไปทางส่งิ ที่ต้องการได้ ๓.นักเรียนสามารถน่ังนิ่งเพื่อรอคอยส่ิงที่ต้องการ เม่ือ ๓.นักเรียนไม่สามารถน่ังนิ่งเพื่อรอคอยส่ิงท่ีต้องการ ผใู้ หญ่บอกให้รอได้ชว่ั ครู่ ประมาณ ๑ นาที เมื่อผู้ใหญ่บอกให้รอได้ชั่วครู่ หากนานเกินระยะเวลา ๑ นาที ซ่ึงจะแสดงอาการส่งเสียงร้องโวยวาย และ รอ้ งไห้ ๔. ผู้เรยี นยอมทำกิจกรรมจนสำเร็จตามที่กำหนดให้ได้ ๔. ผเู้ รียนยอมทำกจิ กรรมจนสำเร็จตามที่กำหนดให้ได้ เป็นบางคร้งั เป็นบางคร้ัง แต่ไม่สามารถแสดงออกถึงความ ภาคภมู ใิ จในตนเองเมอื่ ทำกจิ กรรมได้สำเร็จ กลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ ศนู ยก์ ารศึกษาพิเศษประจำจังหวัดลำปาง

134 รวบรวมข้อมูลผู้เรียน ข้อมูลความสามารถผูเ้ รยี น ๑.๓ ความสามารถพืน้ ฐานทางด้านสงั คม จดุ ออ่ น ๑. นกั เรียนไมส่ ามารถรบั ประทานอาหาร โดยการใช้ จดุ เดน่ ช้อนในการตักอาหารจากถว้ ยแล้วนำมาใส่ปากของ ๑. นักเรยี นสามารถรบั ประทานอาหาร โดยการหยิบ ตนเองได้ อาหารเข้าปากไดเ้ อง ใช้หลอดเจาะกล่องนมได้ ดม่ื น้ำ โดยมีผชู้ ว่ ยเหลือ ๒. เม่ือให้นักเรียนถอด และสวมใส่เครือ่ งแตง่ กาย ๒. นักเรยี นไมส่ ามารถถอดและสวมใส่เคร่ืองแตง่ กาย นักเรียนสามารถใหค้ วามรว่ มมอื ในการถอดและสวมใส่ ได้ด้วยตนเอง เครอื่ งแต่งกายได้โดยมผี ู้ปกครองเป็นถอดและสวมใส่ ให้ทุกขั้นตอนโดยไมแ่ สดงอาการต่อตา้ น ๓. นกั เรยี นสามารถล้างทำความสะอาดมือไดโ้ ดยมี ๓. นกั เรยี นไมส่ ามารถล้างทำความสะอาดมือได้ด้วย ผูป้ กครองเปน็ ผ้ชู ว่ ยเหลือทกุ ขนั้ ตอน ตนเองตามขน้ั ตอน ๔. เมอ่ื ใหน้ กั เรียนทำกจิ กรรมกลมุ่ เชน่ กิจกรรม ๔. ผเู้ รียนไมส่ ามารถทำกิจกรรมกับผู้อื่นได้นานเกนิ ๑- วงกลม นกั เรยี นทำกจิ กรรมอยู่ร่วมกับเพ่ือนไดภ้ ายใน ๒ นาที ซง่ึ จะแสดงพฤติกรรมตอ่ ต้านทำเสียงโวยวาย ระยะเวลา ๑-๒ นาที โดยมผี ู้ปกครองคอยช่วยเหลอื อยู่ไมน่ ่ิง ใชม้ อื บังคบั เกา้ อ้ีรถเขน็ ไปมาเพื่อหลกี หนีออก จากกิจกรรมและจบั มือผูด้ แู ลชใี้ ห้นำตนเองเอาออก จากกจิ กรรม กล่มุ บรหิ ารงานวชิ าการ ศูนยก์ ารศึกษาพเิ ศษประจำจังหวดั ลำปาง

135 รวบรวมข้อมลู ผู้เรยี น ขอ้ มลู ความสามารถผูเ้ รียน ๑.๔ ความสามารถพนื้ ฐานทางดา้ นสตปิ ญั ญา จดุ เดน่ จุดออ่ น ๑. เม่ือครูหรือผู้ดูแลให้ทำกิจกรรมและปฏิบัติตาม ๑. นักเรยี นไมส่ ามารถปฏิบัติตามคำส่ังท่ยี ากๆ ได้ คำส่ังง่ายๆ (หยิบ ใส่) เช่น หยิบ จับสิ่งของใส่ตะกร้า โดยการเอ้ือมมือไปหยิบของแตไ่ ม่สามารถนำของ ผู้เรียนสามารถปฏิบัติตามคำสั่งได้โดยการเอื้อมมือไป ไปใสต่ ามเป้าหมายท่ีกำหนดได้ดว้ ยตนเอง หยิบของแต่ไม่สามารถเอาไปใส่ตามเป้าหมายท่ี กำหนดได้ ซึ่งครูหรือผู้ดูแลต้องกระตุ้นเตือนอยู่ ตลอดเวลาและใช้เวลานานในการตอบสนองต่อคำส่ัง ต่างๆ ๒. เมื่อครูให้ทำกิจกรรมวงกลมและมีการเรียกชื่อ ๒. เม่ือครูให้ทำกิจกรรมวงกลมและมีการเรียกช่ือ นักเรียนสามารถหันหน้าตามเสียงเรียกชื่อเล่น(ดรีม) นักเรียนไม่ตอบสนอง แสดงการนิ่งเฉย หรือหันตาม ของตนเอง และมองหน้าผู้พดู ได้ เสียงเรียกชื่อจริงของตนเอง(อัมรินทร์ และมองหน้าผู้ พูดได้ ๓. นักเรียนสามารถจดจำเสียงและใบหน้าบุคคลที่ ๓. นกั เรยี นไมส่ ามารถจดจำเสยี งและใบหน้าบุคคล ใกลช้ ดิ ได้ เช่น พ่อ แม่ ลุง ป้า เป็นต้น อน่ื ๆเชน่ ครูประจำชัน้ ครูพี่เลีย้ ง ได้ กลุม่ บรหิ ารงานวชิ าการ ศูนยก์ ารศกึ ษาพิเศษประจำจังหวดั ลำปาง

136 รวบรวมขอ้ มลู ผู้เรียน ข้อมลู ความสามารถผ้เู รยี น ๑.๕ ความสามารถพนื้ ฐานทางด้านทกั ษะจำเป็นเฉพาะความพิการ จดุ เด่น จุดอ่อน ๑ . นั ก เ รี ย น ส า ม า ร ถ เ ดิ น น่ั ง ไ ด้ โ ด ย มี ๑. นกั เรยี นสามารถเคลอื่ นย้ายตนเองไดอ้ ย่ไู มน่ ิ่ง ผู้ช่วยเหลือ กล่มุ บรหิ ารงานวิชาการ ศนู ย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวดั ลำปาง

137 รวบรวมข้อมูลผ้เู รยี น ขอ้ มลู ความสามารถผ้เู รียน กรอบการประเมิน The Van Dijk Framework for Assessment of Individuals who have Severe Multiple Disabilities ๑. Approach-Withdrawal (การเขา้ ใกล-้ ถอนหนี) การดูปฏกิ ิรยิ าของเด็กในการเผชิญสงิ่ ใหม่ ประสบการณ์ บุคคล/สถานที่ ส่งิ ของ ความคิด ๑.๑ อะไรท่ีเปน็ ตัวชี้บอกว่าเด็กเข้าร่วม นักเรียนใหค้ วามรว่ มมอื ในการทำกจิ กรรม ๑.๒ อะไรทเ่ี ปน็ ตัวชีบ้ อกว่าเด็กไมเ่ ข้ารว่ ม นักเรยี นมพี ฤติกรรมหลกั หนใี นขณะท่ที ำกจิ กรรม โดย ๑.๓ มอี ะไรทส่ี ังเกตเหน็ วา่ จูงใจเด็กบา้ ง เม่ือนกั เรียนมีความตอ้ งการอยากรับประทานผลไม้ อยู่ไมน่ ่ิง ๑.๔ อะไรทีส่ ังเกตเหน็ วา่ เดก็ ไมส่ นใจ/หลีกหนีบ้าง การเดินไปในทิศทางตา่ งๆนอกเหนือจากการทำ กิจกรรม มีพฤติกรรมหลีกหนีการสัมผสั ไม่จบั ผวิ สัมผสั ท่ี เหนียว เช่น กาว สีนำ้ ไมช่ อบการกอดรดั ๒. Sensory Learning Channels (ชอ่ งทางการเรียนรู้ด้านประสาทการรบั ร้)ู ๒.๑ เด็กรบั ข้อมลู ไดโ้ ดยวธิ ใี ดบา้ ง แสดงสีหน้าท่าทาง ย้ิม หัวเราะ ร้องไห้ ดใี จ เสยี ใจ ๒.๒ เดก็ ตอบสนองต่อเสียงอย่างไร หันหนา้ พยกั หน้าตามเสียง ๒.๓ เด็กตอบสนองต่อสง่ิ เรา้ ทางสายตาอย่างไร จอ้ งหน้าตามเสียง หยดุ ฟงั และหน้ากรอกตาไปตาม เสียงต่างๆที่ได้ยนิ ๒.๔ เดก็ ตอบสนองต่อการสมั ผสั อยา่ งไร มพี ฤติกรรมหลกี หนีการสมั ผสั ไมจ่ ับผวิ สมั ผสั ที่ เหนียว เช่น กาว สนี ำ้ ไม่ชอบการกอดรัด ๒.๕ เดก็ ใช้ประสาทสมั ผสั มากกวา่ หน่งึ อย่างในเวลา ใชป้ ระสาทสัมผสั มากกวา่ หน่ึงอย่างโดยใชต้ า เดยี วกันหรอื ไม่ ประสานกับมือ ๒.๖ เด็กแสดงตวั ชี้แนะการร่วมหรอื ไม่เขา้ ร่วมในการ ไม่ นกั เรียนแสดงออกทางพฤติกรรมโดยทำสีหนา้ ตอบสนองข้อมลู ทางประสาทสมั ผัสเฉพาะหรือไม่ ท่าทางเฉยๆ ไม่ตอบสนองเม่ือไม่ต้องการเข้ารว่ ม หรอื ไมเ่ ขา้ รว่ มการทำกิจกรรม กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ศูนยก์ ารศึกษาพิเศษประจำจังหวัดลำปาง

138 รวบรวมข้อมูลผูเ้ รยี น ข้อมลู ความสามารถผูเ้ รียน ๓. Biobehavioral State ชุดของสภาพการณด์ า้ นชวี พฤตกิ รรมและกายภาพตัง้ แต่การนอนหลับจนถึงการตน่ื นอนและการร้อง ๓.๑ สภาพปัจจบุ ันของเด็กคอื อะไร นักเรียนมีพฤติกรรมกระตุ้นตัวเอง ซึ่งเป็นพฤติกรรม ซ้ำๆ เช่น ส่ายห น้า เล่น มือ ดม เคาะ แสดง พฤติกรรมท่ีไม่เหมาะสมเมื่อมีการเปล่ียนแปลง กิจกรรมประจำวัน เช่น เวลาในการรับประทาน อาหาร ชนิดของอาหารที่รับประทาน ชอบทาน อ าห าร ซ้ ำๆ อ าห าร ที่ มี รส ช า ติ เป รี้ ย ว ก า ร เป ล่ี ย น แ ป ล ง เว ล า ใ น ก า ร ท ำ กิ จ วั ต ร ป ร ะ จ ำ วั น มีพฤติกรรมหลีกหนีการสัมผัส ไม่จับผิวสัมผัสที่ เหนยี ว เชน่ กาว สีน้ำไมช่ อบการกอดรัด ๓.๒ เด็กสามารถควบคมุ /เปลีย่ นสภาพของตนได้ มพี ฤติกรรมอยไู่ ม่นิ่ง คลานหรือขยับตัวออกจาก หรอื ไม่ กจิ กรรมที่ใหท้ ำ ไม่เข้าใจอารมณ์ของผอู้ ื่น เช่น ไม่ เข้าใจเวลาเพื่อนโกรธ เศร้า เสียใจ แสดงความ ต้องการโดยการจงู มือ เช่น เดก็ จะจงู มือผูป้ กครอง / ครู เพื่อนำไปทำส่ิงทตี่ ้องการ ใช้ภาษาพูดของตนเองท่ี ผู้อ่ืนไม่เข้าใจ พูดคำซ้ำๆ ที่เคยได้ยนิ บ่อย เชน่ พูด เปน็ ภาษาของตนเอง (ภาษาท่ีไม่มีความหมาย) ไม่ สามารถเร่มิ ต้นบทสนทนากบั ผ้อู น่ื ได้ ไมเ่ ข้าใจคำที่ เป็นนามธรรม เชน่ การเอื้อเฟื้อเผอ่ื แผ่ ไม่มี ปฏิสมั พนั ธ์กับบุคคลรอบข้าง เชน่ ไมเ่ ล่นกับเพื่อน ไม่ สนใจ คนรอบขา้ ง เปน็ ตน้ ไมม่ ีปฏิสมั พนั ธ์กบั บุคคล รอบขา้ ง เช่น ไมเ่ ล่นกับเพ่ือน ไมส่ นใจ คนรอบข้าง เป็นตน้ แสดงพฤตกิ รรมการตอบสนองทางอารมณ์ และสังคมไม่เหมาะสม เช่น ส่งเสยี งกรีดร้อง ทำรา้ ย ตนเองโดยการตีหัวตนเอง หรือทำรา้ ยผู้อื่นโดยการกดั หยกิ เม่ือถกู ขัดใจ มักชอบแยกตวั ออกมาอยูต่ าม ลำพงั เมื่อทำกิจกรรมกล่มุ ไม่ยอมเข้ารว่ มกจิ กรรม ไม่ สามารถปฏิบัตติ ามกฎกติกา ระเบยี บหรอื กลุม่ บรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ย์การศกึ ษาพเิ ศษประจำจังหวัดลำปาง

รวบรวมข้อมลู ผู้เรียน 139 ขอ้ มลู ความสามารถผเู้ รยี น ๓.๓ เดก็ ใช้เวลาในการตนื่ ตัวมากน้อยแค่ไหน ขอ้ ตกลงได้ ไม่รู้จกั การรอคอย ไม่รู้จกั การเขา้ แถว ๓.๔ มีชว่ งกว้างของแต่ละสภาพเท่าใดทเ่ี ด็กแสดงให้ ใชเ้ วลานานประมาณ ๓-๕ นาที ในการตอบสนอง เหน็ และมีแบบแผนการเปล่ียนแปลงอะไรระหว่าง ต่อส่ิงตา่ งๆ สภาพ การใช้ระยะเวลานานในการทำกจิ กรรม ๓.๕ มีตัวแปรอะไรบา้ งท่ีกระทบตอ่ สภาพเด็ก อากาศ สภาพแวดลอ้ ม อารมณ์ การรบั ประทาน อาหาร หากไม่ได้รบั ประทานอาหารที่ชอบจะแสดง พฤติกรรมไม่พอใจ มีผลกระทบตอ่ การทำกิจกรรมไม่ สำเร็จ ๔. orienting Response (การตอบสนองปฏกิ ิริยาตอบสนองของรา่ งกายในสภาพแวดล้อม) ๔.๑ มปี ัจจยั อะไรบ้างท่ที ำใหเ้ ดก็ การตอบสนองไป สภาพอากาศ และด้านอารมณ์ความรู้สึก เชน่ ในทศิ ทางน้นั ได้ชดั แจ้ง อารมณ์โกรธ โมโห รอ้ งไห้ เป็นตน้ ๔.๒ เดก็ แสดงการตอบสนองต่อทิศทางออกอย่างไร พยายามเดินไปยังทศิ ทางอื่นที่ต้องการ ๔.๓ ประสาทการรับร้ชู อ่ งทางใดท่ีปรากฏเช่ือมโยง การมอง การสมั ผสั กบั การตอบสนอง (ข้อมูลประสาทการรบั รูท้ ่ีกระตุน้ ให้มีการตอบสนองและประสาทการรับรทู้ ี่ใช้ ประโยชน)์ กลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ ศูนยก์ ารศึกษาพเิ ศษประจำจังหวดั ลำปาง

140 รวบรวมขอ้ มูลผเู้ รียน ข้อมลู ความสามารถผ้เู รยี น ๕. Memory (ความจำ) ๕.๑ เด็กใช้/คนุ้ กบั สงิ่ เรา้ ที่คุ้นชินหรือไม่ นกั เรียนคนุ้ เคยกบั ส่งิ เร้า ในการทำกิจกรรม เชน่ เมื่อได้รบั การกระตุน้ ทางกาย วาจา ในการทำ กิจกรรมต่างๆนักเรยี นสามารถทำกจิ กรรมนัน้ ได้ด้วย ตนเองแต่ใชร้ ะเวลานาน ๓-๕ นาที ๕.๒ การนำเสนอสง่ิ เรา้ จำเป็นตอ้ งใช้เวลานานหรือก่ี ใช้เวลานาน กว่าเด็กจะคุ้นเคย โดยครูตอ้ งคอยจับ ครัง้ ก่อนทเ่ี ด็ดจะคนุ้ ชิน มือทำและกระตนุ้ เตือนทางกาย วาจา ๕.๓ เดก็ เขา้ รว่ มอกี ครั้งไหมเมื่อเปลย่ี นแปลง เขา้ ร่วมอีกครงั้ แต่ต้องใชเ้ วลานานในการกระต้นุ ลกั ษณะของสงิ่ เร้า ความสนใจของผู้เรียน ๕.๔ การตอบสนองแตกตา่ งไปหรือไม่ แตกต่าง บางกจิ กรรมนักเรียนเหม่อลอยไม่สนใจ ใน การเข้าร่วมกิจกรรมและพยายามหลักหนเี มื่อเป็น กจิ กรรมที่ตนเองไม่ต้องการเข้าร่วมทำ ๕.๕ เดก็ แสดงการตองสนองแตกต่างหรือไม่กับ แตกต่าง เมอ่ื ไมเ่ ห็นหน้าบุคคลท่คี ุ้นเคยจะพยามมอง บคุ คลทีค่ ยุ้ เคยและไม่คนุ้ เคย หา หรือหันหนา้ ไปหาเสียงท่ีคุ้นเคย ๕.๕ เดก็ แสดงการรบั รู้หรอื ไม่ว่าส่ิงของน้นั ยังอย่แู ม้ รบั ร้โู ดยการใชม้ อื ขยบั ไปมา เพื่อหาสิง่ ของนัน้ ๆ จะไม่อยใู่ นสายตาตอนนั้น ๕.๖ เดก็ เช่อื มโยงเหตุการณ์ที่กำลงั เผชญิ กบั สิง่ ที่ นกั เรียนไม่มีการเช่ือมโยงเหตุการณต์ า่ งๆ ตามมาไหม ๕.๗ เด็กแสดงการคาดเดาต่อสิง่ /เหตกุ ารณท์ ่ีกำลัง นักเรยี นไม่แสดงการคาดเดาต่อส่งิ /เหตุการณ์ต่างๆ เผชิญหรือไม่ ที่กำลงั เผชญิ ๕.๘ เด็กแสดงอาการหรือไม่เมอ่ื สง่ิ ทเี่ กดิ ใหม่ไม่ตรง เด็กแสดงอารมณโ์ กรธ ร้องไห้ เมื่อไมต่ รงกับความ กับความคาดหวงั ต้องการและพยายามหลีกหนีการทำกิจกรรม ๕.๙ เดก็ สามารถเรยี นรกู้ จิ วัตรง่าย ๆ ไดห้ รือไม่ ได้ เช่น การด่มื น้ำ การรบั ประทานอาหาร เป็นต้น ๕.๑๐ กิจวตั รทใ่ี หเ้ ด็กเรียนรู้จำไดไ้ หม จำได้ เชน่ การไป- กลับ จากบา้ นมาทหี่ นว่ ยบริการ อำเภอแจ้ห่ม กล่มุ บรหิ ารงานวิชาการ ศนู ย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวัดลำปาง

141 รวบรวมขอ้ มูลผเู้ รียน ขอ้ มลู ความสามารถผเู้ รยี น ๖. Social Interactions ปฏสิ ัมพันธ์ทางสงั คม หนั ไปหาบุคลอื่น เม่อื ไดย้ ินเสียง และและเมอ่ื เปลยี่ น ๖.๑ เด็กหนั ไปหาบคุ คลหรือไม่ สิ่งแวดลอ้ ม ใช่ จะให้บุคคลท่ีคนุ้ เคย กอดหรอื หอม ๖.๒ เด็กแสดงความผกู พันวา่ มคี วามปลอดภัยกบั บคุ คลสำคญั ในชีวิตของเขา/เธอหรอื ไม่ นกั เรยี นมสี ่วนร่วมในการผลัดเปล่ยี นกันเมอ่ื เริ่มทำ ๖.๓ เดก็ มีสว่ นรว่ มในการผลัดเปล่ียนกนั เม่ือเร่มิ มี กจิ กรรมในห้องเรียนโดยการมองแลละฟงั เสียง ปฏสิ ัมพันธห์ รอื ไม่ จากผู้พูด นักเรียนมปี ฏกิ ิริยาดีใจ เมอ่ื มองเหน็ น้ากำลงั ๖.๔ เดก็ มสี ว่ นร่วมในการผลัดเปลยี่ นกนั เม่ือคนอืน่ ขบั รถจักรยานยนต์มารับกลับบา้ น เรม่ิ ปฏิสมั พันธ์หรอื ไม่ ๒-๓ รอบ จะมีอาการเหม่อลอย ไม่ทำกิจกรรม ๖.๕ เดก็ ผลัดเปลยี่ นกร่ี อบก่อนทีจ่ ะไมร่ ่วม นักเรียนแสดงปฏกิ ริ ยิ าเพม่ิ มากขึ้นต่อการปฏสิ มั พันธ์ ๖.๖ เดก็ เพมิ่ การผลดั เปล่ียนการมีปฏสิ ัมพันธ์มาก กับผู้อื่น เม่ือไมไ่ ดส้ ิง่ ที่ต้องการ ขึน้ เพื่อตอบสนองต่อปฏิสัมพันธข์ องค่หู รือไม่ ๗. Communication การสื่อสาร เด็กใช้ท่าทาง และส่งเสยี งในการกิจกรรม แสดง ๗.๑ เดก็ แสดงใหเ้ ห็นความต้งั ใจในการส่ือสารผ่าน อารมณ์ ยิ้ม หัวเราะ เม่ือนักเรียนชอบทำกิจกรรม การใชง้ านของสัญญาณ การเปล่งเสียง ทา่ ทาง ฯลฯ นนั้ ๆ หรอื ไม่ อธบิ ายการส่ือสารท่ีใช้ สอดคล้องกนั เมื่อมีความต้องการจะส่งเสียงเรยี ก ๗.๒ เด็กใช้สญั ญาณอย่างสอดคล้องกันหรือไม่ และแสดงอาการดีใจเมื่อได้รับของทตี่ นเองต้องการ แสดงอาการเสียใจ ร้องไห้ โวยวายเมือ่ ไม่ไดร้ บั ของที่ ๗.๓ เด็กใช้การสื่อสารแตกตา่ งกันหรอื ไม่ อธบิ าย ตนเองต้องการ การส่ือสารและความความหมายท่นี ่าจะเป็น แตกต่างกนั โดยใช้ท่าทางและเสียงในการส่อื ๗.๔ เมอ่ื นำเสนอตัวเลอื กเดก็ ตัดสนิ ใจเลือกหรือไม่ ความหมาย นกั เรียนสามารถเลือกด้วยตนเอง เชน่ การเลือกขนม ๗.๕ เด็กใชท้ ่าทางเหมือนบุคคลทว่ั ไปใชห้ รอื ไม่ ที่ตนเองชอบ หรือตนเองต้องการ ๗.๖ เดก็ สามารถใชข้ องหนึง่ อย่างหรือสัญลกั ษณ์ ใช้เสยี ง ในการสือ่ สาร แทนกิจกรรมหรอื วตั ถหุ รือไม่ ไม่ได้ กลมุ่ บรหิ ารงานวิชาการ ศนู ย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวดั ลำปาง

รวบรวมขอ้ มลู ผเู้ รียน 142 ข้อมลู ความสามารถผ้เู รยี น ๗.๗ เด็กแสดงให้เห็นความเข้าใจในการสื่อสารโดย นกั เรียนแสดงอาการจ้องหนา้ เมื่อได้ยนิ เสียง และ ใช้สัญลกั ษณ์หรือไม่ (การไดย้ ิน ภาพ หรอื การ เม่อื ได้รับคำสง่ั ง่ายๆจากครู เช่น หยิบแก้วน้ำ สมั ผสั ) นักเรียนกจ็ ะหนั มามองหน้าและหยิบแก้ว โดยครูทำ เป็นแบบอย่าง ๗.๘ เดก็ ใชก้ ารสือ่ สารทางสัญลกั ษณ์หรือไม่ อธบิ าย ไมส่ ามารถส่อื สารด้วยสัญลกั ษณ์ได้ จะส่งเสียงหรือ ภาษาของตนเองเพื่อให้ครหู รือผู้ดแู ลเข้าใจในส่งิ ท่ี ตนเองต้องการ ๘. การแกป้ ัญหา Problem solving ไม่แสดงใหเ้ ห็นใดๆ ๘.๑ เดก็ แสดงให้เห็นสาเหตุและผลกระทบหรือไม่ เดก็ ไม่เข้าใจใจวธิ ีการหรอื จดุ สน้ิ สดุ หรอื การใช้ขั้น ๘.๒ เดก็ แสดงความเขา้ ใจในวิธกี าร/จดุ สนิ้ สุดหรอื ตอนกลางเพื่อแก้ปัญหาโดยแสดงปฏิกิริยาเพิกเฉย การใช้ขนั้ ตอนกลางเพื่อแกป้ ัญหาหรอื ไม่ ต่อสถานการณต์ า่ งๆ เดก็ แสดงความเข้าใจโดยการปฏบิ ตั ิตาม เช่น เม่อื ๘.๓ เดก็ แสดงความเข้าใจในหนา้ ท่ขี องวัตถทุ ่ัวไป เหน็ แก้วนำ้ เดก็ กจ็ อ้ งมองภายในแก้วเพ่ือเตรยี ม หรอื ไม่ ยกขน้ึ ดื่มน้ำ เป็นต้น เด็กจะพยายามทำด้วยตนเองก่อน หากทำไม่ไดจ้ ะ ๘.๔ เดก็ มวี ิธกี ารแกป้ ญั หาอย่างไร ส่งเสียงเรียกครูหรือผู้แดและขว้างปาสิ่งของนั้นๆ ไม่ เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ในการแก้ไข ๘.๕ เด็กรกั ษาความสนใจและคงอยูก่ ับสิ่งน้ันหรือไม่ ปัญหาจะใหค้ วามสนใจอย่างอื่นทนั ที และเพิกเฉย ตอ่ สถานการณ์น้นั ๆ กลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ย์การศกึ ษาพิเศษประจำจังหวัดลำปาง

143 รวบรวมข้อมลู ผเู้ รียน กรอบแนวคิดตามระบบนิเวศวทิ ยา (Ecological Framework) ๒. กรอบแนวคดิ ตามระบบนิเวศวิทยา (Ecological Framework) ๒.๑ ดา้ นสภาพแวดล้อมของผเู้ รยี น (Microsystem)  บุคคลภายในครอบครัวที่ผู้เรยี นไว้วางใจ นกั เรียนอาศัยอยู่บา้ นกบั พอ่ และแม่ เปน็ ผู้ดแู ลนกั เรียนต้ังแตน่ ักเรียนตั้งแต่เกดิ จนถึงปัจจบุ ัน ทำให้ นกั เรยี นมคี วามไว้วางใจากที่สุด นอกจากนย้ี ังมญี าตพิ ี่น้องอาศยั อยู่บรเิ วณรอบๆบา้ นนักเรยี น คอื น้า เป็นบุคคลท่ีนักเรียนให้ความไว้วางใจเป็นลำดับถัดมาเนื่องจากเป็นผู้ขับข่ียานพาหนะ โดยรถจักรยานยนต์ไปรับ-ส่ง น้องทุกวัน ในการเดินทางมารับบริการท่ีหน่วยบริการอำเภอแจ้ห่มหรือไปยัง สถานท่ีต่างๆ ที่แม่ได้ขอความช่วยเหลือ โดยน้าจะให้ความดูแลเอาใจใส่ตลอดระยะเวลาการเดินทางจนถึงที่ หมายทุกคร้ังอย่างปลอดภัย ทำให้นักเรียนมีความไว้วางใจและจะแสดงพฤติกรรม ท่าทางดีใจทุกคร้ัง ทม่ี ารับกลบั บ้าน นอกจากนี้ยังมีลุง เป็นลุงข้างบ้านที่ให้ความช่วยเหลือด้าน ของอุปโภค บริโภคต่างๆ ที่ขาดแคลน ซ่ึงป้าหลอดสามารถไปเดินไปติดต่อ ขอความช่วยเหลือได้บ้าง เนื่องจากบ้านอยู่ติดกัน ลุง มคี วามยินดใี หค้ วามช่วยเหลอื ด้วยความเตม็ ใจ  ลกั ษณะที่อย่อู าศัย (หอ้ งอะไรบา้ ง / ความสะอาด) นักเรยี นพักอาศัยอยู่ทบ่ี ้านของพอ่ แมซ่ งึ่ อยู่ซอยบ้านของนักเรียนมลี กั ษณะของบา้ นเป็นบ้านชน้ั คร่ึง บรเิ วณหน้าบา้ นมปี ูนและบันไดไมซ้ ง่ึ มีราวจับท้งั ๒ ด้านทใ่ี ช้ขน้ึ ไปยงั ระเบียงช้นั บน ดา้ นบนเปน็ ไม้มี ๒ หอ้ งนอน ๑ หอ้ งโถงอยู่ตรงกลางบา้ น บรเิ วณใตถ้ นุ บา้ นเป็นปูน พืน้ ปูกระเบื้อง ห้องโถงโล่ง มีห้องนำ้ ๑ หอ้ ง ซ่งึ ใช้ต้กู น้ั ห้องโถง ออกเป็นหอ้ งนอนและห้องน่ังเล่น ซ่งึ นักเรยี นจะใช้พนื้ ทบ่ี ริเวณใตถ้ นุ บา้ นเป็นทพี่ ักอาศัย มีห้องครวั ซึ่งแยกออกจาก ตวั บ้านอยา่ งชัดเจน มีการจัดเก็บอุปกรณใ์ นห้องครวั อยา่ งเหมาะสม บริเวณบา้ นของผ้เู รยี นท้งั ด้านในและด้านนอกมี ความสะอาดเรยี บร้อย อากาศถ่ายเทสะดวก มีแสงสว่างเข้าถึง  ลกั ษณะหอ้ งนำ้ (ระบุรายละเอียด) ห้องน้ำมี ๑ ห้อง คือ ห้องท่ีอยู่บริเวณในตัวบ้าน ห้องน้ำด้านในบ้าน มีประตูทางเข้า ความกว้าง ๘๐ เซนติเมตร พ้ืนห้องน้ำเป็นกระเบื้องพ้ืนหยาบภายใน สุขภัณฑ์เป็นชักโครก มีฝักบัว มีถังน้ำและขัน พ้ืนห้องน้ำ เป็นพ้นื กระเบ้อื ง มชี กั โครกไวส้ ำหรับขบั ถา่ ย มีเคร่อื งทำนำ้ อนุ่ มีฝกั บวั มชี อ่ งระบายอากาศ กลุ่มบรหิ ารงานวชิ าการ ศูนย์การศกึ ษาพิเศษประจำจังหวดั ลำปาง

144  ลักษณะหอ้ งนอน (ระบุรายละเอียด) ห้องนอนบริเวณใต้ถุนบ้าน มีความสะอาด มีมุ้งกาง ท่ีนอนมีความกว้างและยาวมีเตียงไม้ ขนาด ๖ ฟุต สามารถนอนได้ ๓-๔ คน กว้างขวางและเพยี งพอต่อผู้เรียนและมีหน้าต่างระบาย เพ่ือให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก มีการจัดวางของทเ่ี ป็นระเบยี บเปน็ สดั สว่ น  พ้ืนทใ่ี นการฝกึ /ทำกจิ กรรมกบั ผู้เรยี น (ระบุรายละเอยี ด) บ ริ เว ณ บ้ า น ข อ งนั ก เรี ย น พื้ น ที่ ใน ก า ร ฝึ ก ใน ด้ า น ข อ ง วิ ช า ก า ร ส า ม า ร ถ ใช้ พื้ น ที่ ห้ อ งนั่ งเล่ น ใต้ถุนบ้าน ลานหน้าบ้าน ในการฝึกกิจกรรมต่างๆ เช่น การหยิบ จับ หรือเคลื่อนย้ายส่ิงของได้ ในส่วนของการ ฝึกทักษะการดำรงชีวิต มีพ้ืนท่ี ห้องครัว ห้องน้ำ สามารถฝึกการใช้ชีวิตของผู้เรียนได้ และสามารถใช้ลานหน้า บา้ นในการฝกึ การเคลื่อนยา้ ยตนเองไปยังที่ตา่ งๆได้ กล่มุ บรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ยก์ ารศึกษาพเิ ศษประจำจังหวัดลำปาง

145 รวบรวมขอ้ มลู ผู้เรียน กรอบแนวคดิ ตามระบบนเิ วศวิทยา (Ecological Framework) ๒.๒ ด้านความสัมพนั ธแ์ ละปฏสิ มั พันธ์ระหว่างบุคคลท่เี กี่ยวข้องของผเู้ รยี น (Mesosystem)  ลกั ษณะของครอบครัวและความสัมพนั ธ์ของบุคคลในครอบครวั นักเรียนอยู่ร่วมกับพ่อแม่ ซ่ึงเป็นผู้แลนักเรียนต้ังแต่วัยเด็กจนถึงปัจจุบัน นักเรียนมี ค ว า ม สั ม พั น ธ์ อ ย่ า ง ใ ก ล้ ชิ ด เ ป็ น อ ย่ า ง ม า ก ใ น ข ณ ะ ที่ พ่ อ ไ ป ไ ป ท ำ ง า น โด ย แ ม่ จ ะ เป็ น ผู้ ท่ี เข้ า ใจ ใน ก า ร แ ส ด ง อ อ ก ข อ ง พ ฤ ติ ก ร ร ม แ ล ะ ค ว า ม ต้ อ ง ก า ร ต่ า ง ๆ อ ย่ า ง ง่ า ย ของนักเรียน เช่น หิวน้ำ หิวข้าว และอยากไปยังสถานที่ต่างๆ ด้วยการส่งเสียงร้อง ภาษาท่ีไม่มี ความหมายภาษากาย และท่าทางต่างๆ เป็นต้น เม่ือแม่เห็นพฤติกรรมต่างๆ ของนักเรียน ก็จะ สามารถตอบสนองต่อความต้องการของนักเรียนได้ทันที หากตอบสนองช้าผู้เรียนก็จะมีอาการ ฉุนเฉียว โมโห หยิก กัด ร้องไห้บ้างในบางครั้ง และพ่อและแม่รวมถึงญาติ ต่างก็เข้าใจภาวะความ บกพร่องของนกั เรยี นยงั ให้ความรกั ความเอาใจใส่ทด่ี ีเสมอมา  ความสัมพันธ์กบั บุคคลในห้องเรียน/โรงเรียน นักเรียนชอบแยกตัวอยู่คนเดียวและอยูเ่ ฉพาะกบั ผู้ปกครองของตนเอง ไม่เข้าร่วมกจิ กรรม กับเพื่อนและผู้ปกครองคนอื่น จะต่อต้านทันทีเม่ือโดนบังคับหรือขัดใจ และจะทำร้ายเพ่ือนทำให้ เพอ่ื นไม่อยากใกลช้ ิด ไมม่ ีปฏสิ ัมพันธ์ร่วมกบั ผอู้ ื่น แต่เม่ือผู้เรียนมคี วามต้องการต่างๆ เช่น หิว หรือ หลกี เลีย่ งการทำกจิ กรรม จะส่งเสียงร้องเรียก และโวยวายเรยี กผปู้ กครองทนั ที  ความสมั พันธ์กับบุคคลอ่ืนๆ เช่น ญาตพิ น่ี ้อง เพ่ือน เพื่อนบ้าน คนในชุมชน เป็นตน้ นักเรียนมีความสัมพันธ์ท่ีดีกับแม่ ซึ่งเป็นบุคคลที่นักเรียนให้ความไว้วางใจเป็นลำดับ ถัดมาเนื่องจากเปน็ ผู้ขับขี่ยานพาหนะโดยรถจักรยานยนต์ไปรับ-ส่ง น้องออโต้ทุกวัน ในการเดินทาง มารับบริการท่ีหน่วยบริการอำเภอแจ้ห่มหรือไปยังสถานท่ีต่างๆ ที่แม่ได้ขอความช่วยเหลือ โดยน้า จะให้ความดูแลเอาใจใส่ตลอดระยะเวลาการเดินทางจนถึงท่ีหมายทุกคร้ังอย่างปลอดภัย ทำให้ นักเรยี นมีความไว้วางใจและจะแสดงพฤตกิ รรม ท่าทางดใี จทุกครั้งทแ่ี มม่ ารับกลับบา้ น นอกจากนี้ แม่สามารถไปเดินไปติดต่อ ขอความช่วยเหลือได้บ้าง เน่ืองจากบ้านอยู่ติดกัน ลุงก็ยินดีให้ความ ชว่ ยเหลือด้วยความเต็มใจ กลมุ่ บรหิ ารงานวชิ าการ ศนู ย์การศกึ ษาพเิ ศษประจำจังหวดั ลำปาง

146 รวบรวมข้อมูลผู้เรียน กรอบแนวคิดตามระบบนิเวศวทิ ยา (Ecological Framework) ๒.๓ ด้านสิ่งแวดล้อมและสภาพสังคมท่ีมผี ลตอ่ ครอบครัว (Exosystem)  สถานการณ์ปัจจุบนั ทสี่ ง่ ผลกระทบกับผูเ้ รยี น เนอ่ื งจากการคล่ีคลายของสถานการณ์การแพรร่ ะบาดของโรคไวรัสโคโรนา (Covid 2019) ในปัจจุบันส่งผลให้นักเรียนมารับบริการที่หน่วยบริการอำเภอแจ้ห่มอย่างต่อเน่ือง แต่จะมีบางช่วงมี อาการชักอาจส่งผลให้ผู้เรียนขาดการมารับบริการได้ ทำให้พัฒนาการดา้ นต่างๆ ของนักเรยี นถดถอยลง ไปบ้าง ครูต้องปรับรูปแบบการเรียนการสอนโดยระบบออนไลน์ตามความเหมาะสม แต่ยังไม่สามารถ บรรลตุ ามวัตถุประสงค์ทก่ี ำหนดได้  สถานที่ทำงานของพ่อแม่/ผู้ปกครอง พ่อกับแม่มีอาชพี ทำนา ทำไร่ เพาะปลกู ทั่วไป ซง่ึ ทำงานอยู่บริเวณภายในหมู่บ้าน ทำให้มี เวลาดูแลนักเรียนอย่างใกล้ชิด เน่ืองจากบิดา มารดาได้อยู่กับนักเรียน จึงทำให้นักเรียนมีความใกล้ชิด และสนทิ กบั บดิ า มารดา  สภาพแวดลอ้ มทางกายภาพ หรือ การจดั ส่งิ อำนวยความสะดวกของชมุ ชนทผ่ี เู้ รยี น อาศยั อยู่ พ่อมีอาชพี รับจ้าง แม่มีอาชีพ ทำนา ทำไร่ เพาะปลูกพืชผักสวนครัวตามฤดูกาล ซ่ึงทำงาน อยบู่ ริเวณภายในหมบู่ า้ น จึงเป็นผดู้ ูแลนักเรียนตลอดเวลา กลุ่มบรหิ ารงานวิชาการ ศูนย์การศึกษาพิเศษประจำจังหวดั ลำปาง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook