๑๕ครู ครขู วัญดิน สิงห์คำ ด้านการจดั การทรัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดลอ้ ม ภูมิปัญญาไทย 150 ครขู ยายความดว้ ยวา่ โรคเบาหวาน จะ ยากนิดนึงเพราะมาจากตับไม่ดี ต้อง รกั ษาตบั กอ่ น รกั ษาตบั กค็ อื ตบั ออ่ นจะ ผลติ อนิ ซลู นิ ตบั ออ่ นทา� งานไมไ่ ด้ จรงิ ๆ ตับใหญ่ท�างานได้ไม่ดี ต้องไปบ�ารุงตับ ใหญ่ก่อนเพื่อท่ีจะมาช่วยควบคุมและ ผลติ อนิ ซลู นิ ช่วยตบั อ่อน นค่ี ือหลกั การ ในวนั นท้ี ท่ี า� อยกู่ ค็ อื ตอ้ งเอาพษิ ออกจาก ตบั กอ่ นโดยการดม่ื นา้� มนั มะกอกดงึ พษิ จากตับออกก่อน จนพิษในตับลดลงจึง ไปชว่ ยตบั ออ่ นท�างาน แนะนา� ใหก้ นิ แบบนา�้ มนั มะกอกผสมมะนาว กนิ ทกุ วนั คอื หมอญปี่ นุ่ กนิ ทกุ วนั สองชอ้ นโตะ๊ หลงั อาหารเชา้ จะชว่ ย ใหล้ ดลงแลว้ กเ็ อาบอระเพด็ ไปกนิ กจ็ ะลดลง ควบคมุ แตว่ า่ ตอ้ งทา� ตบั กอ่ น หลกั การของแพทยแ์ ผนไทยตอ้ งรกุ อ่ นแลว้ ก็ลอ้ มรักษาบา� รุง ของเรามพี วกเกษตรและวทิ ยาศาสตรม์ าเรียนเรอ่ื งน้ี เรามแี ลป็ ใหญ่ ตอนน้ีก�าลังเตรียมหวั เชอ้ื ไตรโคเดอร์บาไป แจกช่วงปีใหม่ ครบู อกวา่ ตอนน้ีผลิตไดห้ ลายตวั สมนุ ไพรเบาหวาน ตอนนีท้ า� ได้ ๓๐๐ กว่าตัว หลายกลุ่ม กลุ่มบ�ารุงเลือดอะไรพวกนี้ เราขายแบบ ออนไลน์ ท่ีนี่เราไม่ปฏิเสธส่ิงใหม่ แต่จะเอามาอย่างพอเหมาะ เรา เห็นเกษตรกรเขาแบกกระสอบปุ๋ย มันหนัก เราก็เลี้ยงจุลินทรีย์กลุ่ม บาซิลลัสคูซิแลนพร้อมให้อาหารควบคู่ไปด้วย แคปซูลสีเขียวให้เร่ือง การเจริญเติบโต สีฟ้าจะไปเร่งดอก สีแดงเร่งผล จุลินทรีย์ตัวนี้เข้า สปอร์พร้อมอาหาร เราก็เอาจุลินทรีย์ตัวน้ีไปเลี้ยงในน้�าก่อนหน่ึงคืน แล้วก็เอาไปละลายน�้าย่ีสิบลิตร หน่ึงเม็ดต่อหน่ึงไร่ อินทรียวัตถุท่ีอยู่ ในดินที่ท�าให้เกดิ เหด็ โคน ยอ่ ยไมไ่ ดเ้ ราก็เอาจุลนิ ทรยี ์ตัวนไี้ ปพน่
ครขู วัญดิน สิงหค์ ำ ๑๕ครู ด้านการจัดการทรพั ยากรธรรมชาติและส่งิ แวดลอ้ ม ภูมปิ ญั ญาไทย 151 ชาวบ้านเอาไปใช้เยอะ ปีนี้เยอะมาก เขตนี้ถือว่าเราดูแลเขาอยู่ ลองกองที่น่ีรสชาติดีมาก ทุเรียนทนี่ ีถ่ อื วา่ เปน็ ทเุ รยี นอรอ่ ยท่ีสดุ ปลูกบนดินภูเขาไฟรสชาติเลยดี มากนิ เปรยี บเทียบกัน ตัว น้ีจะกรอบและไม่เละ หวานนดิ ๆ มันหนอ่ ย ๆ คนนิยมมาก นักเรียนมาจากทั่วประเทศ มีทุกฐานะ ไมเ่ กี่ยงเรอื่ งรวยจน แตเ่ กีย่ ง เรื่องหัวใจ อยูอ่ ย่างนไี้ ดไ้ หม เดก็ เราพดู ภาษาอังกฤษได้ ทน่ี มี่ นี กั เรยี นมาจากทวั่ ประเทศ มที กุ ฐานะ เดก็ ทแ่ี บบวา่ คณุ หนกู ม็ มี า โรงเรยี นไมเ่ กย่ี งเรอ่ื ง รวยจนแต่เกย่ี งเรอ่ื งหัวใจ คณุ อย่อู ยา่ งน้ไี ดไ้ หม ถ้าอยอู่ ยา่ งน้ไี ด้ เอาเป็นโรงเรยี นแบบกนิ นอนแต่ สว่ นใหญก่ ฐ็ านะไมร่ วย นกั เรยี นแคน่ พ้ี อดกี บั แรง ถา้ มากกวา่ นก้ี ด็ แู ลไมไ่ หว ทพี่ กั กไ็ มพ่ อ นกั เรยี น ส่วนใหญ่จะเป็นเด็กในศรีสะเกษ แต่ตอนน้ีท่ีเพิ่มข้ึนก็จะเป็นระยอง ปราจีน นครศรีธรรมราช สกลนคร หนองคาย เลย ก็มากัน ถามครูว่า เด็ก ๆทม่ี าเรยี นรู้ ไดย้ งั ไงวา่ มเี รยี นแบบนท้ี ่ีน่ี คา� ตอบคอื ส่วนใหญ่รเู้ พราะพ่อแม่ มาสัมผสั กบั เรา คนอสี านบอกหลังจากท�านาแลว้ จะทา� อะไรไม่ได้ แต่นาเราไมว่ า่ งเลย ตามแนว เกษตรทฤษฎีใหมอ่ นั เนอ่ื งมาจากพระราชด�าริ เมอื่ มผี ลผลติ มากขนึ้ เรากม็ าแปรรปู เปน็ หลายอยา่ งมาก ไดม้ าตรฐานผลติ ภณั ฑท์ กุ อยา่ งสง่ ออกทวั่ โลก คือ ถ้าเราผลติ อะไรให้คนบรโิ ภค เราตอ้ งมีมาตรฐาน เดก็ ของเราองค์ความรูท้ ี่มอี ยู่ก็ ไม่เก็บไว้ ไปประกวด ไม่ได้อยากได้รางวัล แคอ่ ยากใหท้ ราบ
๑๕ครู ครูขวัญดิน สิงห์คำ ด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม ภมู ิปัญญาไทย สมุนไพรไทยเพื่อสขุ ภาพ 152 ลา่ สุดไปทีโ่ อมาน สุลต่าน ทา่ นสนใจเรื่องของเรา ทา่ นทูต กล็ งมา ปนี ไี้ ปทบี่ ราซลิ เดก็ เราพดู ภาษาองั กฤษไดเ้ พราะมอี าสา สมคั รจากเยอรมนมี าอย่กู ับเราเป็นปี เศรษฐกจิ พอเพยี ง คนบอก คือ ทา� น้อย ๆ แตเ่ ราท�าเกิน แล้ว ส่วนทเ่ี กนิ กเ็ อามาดูแลโรงเรียนนแี่ หละ พาท�าไร่ท�านาทา� สวน และก็ดูแลแพทยแ์ ผนไทย ดูแลเด็กตา่ งประเทศ เด็กเหลา่ นี้ท�างานไม่เป็น เราพาไปท�าปุ๋ย ถอนหญา้ อันนี้เปน็ เดก็ อาสา ทมี่ าอยกู่ บั เรา เยอรมนั ดีอยา่ งหนงึ่ คอื จบไฮสคลู เขาจะให้ไป อยตู่ า่ งประเทศแลว้ กม็ าอยกู่ บั เราหนง่ึ ปแี ลว้ ไปเรยี นมหาลยั อกี ๓ ปี อันน้ี คอื ส่ิงที่เราคนื ใหแ้ ก่สงั คม ทีส่ �าคญั คือ เราไมป่ ฏเิ สธ การศกึ ษา เราเอาองคค์ วามรจู้ ากมหาลยั มาดว้ ย มหาลยั มาชว่ ย เราในเรอ่ื งของการท�าวิจยั จะมธี รรมศาสตร์ เชยี งใหม่ ม.อบุ ล เครอื ขา่ ยของเรามอี ยแู่ ลว้ ๙ แหง่ ทวั่ ประเทศ แนวทางหลกั เหมือนกนั กบั ตรงน้ี ครูบอก การศึกษามันต้องตลอดชีวิต ไม่ใช่ออกจาก โรงเรียนแล้วไม่เรียนรู้ ผู้ปกครองของนักเรียนเราก็เอาเขามา อบรม วันแมเ่ ราต้องจัดอบรมให้เรยี นรู้ดว้ ย บ้าน วดั โรงเรียน ของท่นี อ่ี ยู่ด้วยกนั และเป็นค�าตอบของสงั คม
ครูขวัญดิน สงิ หค์ ำ ๑๕ครู ด้านการจัดการทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม ภมู ิปญั ญาไทย 153 “คนเหล่าน้ี(ดอกเตอร์ สถาปนิก สจ๊วต ครูบอกคนกลุ่มน้ีเขาจะอยู่ในหมู่บ้าน ก็ กัปตัน) เขามาเรียนรู้ ดิฉันอาจมองอีกมุมว่า สอนเขาวา่ ตอ้ งไปตอ่ ยอดเรอ่ื งสขุ ภาพในชมุ ชน ศาสตร์พระราชามันเข้าไปซึมซับในคน คนก็ กลุ่มนี้ไม่ต้องไปเรียนแพทย์แผนไทย สอนเขา เลยคิดว่าจะเอาไปท�ายังไง คนกลุ่มน้ีก็อยากมี ไป แบบน้ี เพอ่ื ใหเ้ ขาไปสอนตอ่ เขากไ็ ปทา� แบบ ชีวติ ทเี่ ป็นสจ๊วต แต่อยากทา� สวนไปดว้ ย ดิฉัน ง่าย แล้วก็ช่วยชาวบ้าน กลายเป็นศูนย์กลาง ก็มีใหด้ ูตัง้ แตแ่ ปลงเล็ก ๆ เวลามาน่ังออกแบบ ของชาวบ้าน ตอนนี้เขากลับมาอยู่บ้านตัวเอง เขาจะไมม่ เี วลาตอ้ งท�าแบบไหน เขากเ็ ลยมาหา เขาไปแสวงหาเหน็ มาหมดแล้ว เรา เพือ่ เขาจะได้ไปตอบโจทยข์ องเขา สดุ ทา้ ย คดิ วา่ ประเทศไทย ศาสตรพ์ ระ ทุกวันน้ี เมืองไทยมีคนกลุ่มน้ีกระจายไป ราชาหรอื พระราชดา� รสั พระบรมราโชวาทของ อยู่ท่ัวประเทศ น่าสนใจมากเด็กรุ่นใหม่ท่ีมา ในหลวง รชั กาลที่ ๙ ล้วนอยู่ในใจคน และคนก็ เรียนด้วยจบเกียรตินิยมอันดับหน่ึงจุฬา ตอน แสวงหาทา� เอง น้ีเขาท�า เราสอนอย่างสบายใจ ค�าพูดหน่ึงที่ “แต่ระบบการศึกษาของเรา ขาดการย�้า กนิ ใจเราคอื ผมไปหาเงนิ มาตลอดชวี ติ ตอนน้ี คิด ย�้าท�า ย�้าบอก จริง ๆ แล้วเด็กต้องบอก ผมไมต่ ้องไปหาเงนิ เงินอยบู่ า้ นผม เขามคี วาม บอ่ ย เขาอาจจะเบื่อ ไมเ่ ป็นไร สังเกตจากเด็ก สขุ มเี งินท่ีขายขา้ วของเขาได้ พอทีเ่ ลย้ี งตัวเอง จะมีช่วงเวลาของเขา อย่างวัยรุ่นเขาจะไม่ฟัง มีหลายคนท่ีเป็นแบบน้ี เขาจะมาจะนัดกันมา เรา จะพาเขาดหู นงั บา้ ง ฉนั ใชส้ อื่ เปน็ หนงั สอน ๒๐ คน เปน็ หนมุ่ สาวในอบุ ล ศรสี ะเกษ บรุ รี มั ย์ เรือ่ งความรกั สอนก็ใหเ้ ขาไปดรู ากนครา สุรินทร์ กลุ่มน้ีเขาจะมาคุย ไปท�าแล้ว หากมี ปัญหา เขาก็จะปรึกษาเรา”
๑๕ครู ครขู วญั ดิน สงิ หค์ ำ ดา้ นการจดั การทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ ม ภมู ปิ ัญญาไทย 154 เกษตรผสมผสานท่ปี ลูกตน้ ไม้ใหญก่ ลางนา มนั จะบงั แดด ถ้าเราปลกู เปน็ หัว ไร่ สว่ นปลายนานน้ั จะมีปลูกต้นไม้และจุลินทรีย์ ปลกู มะละกอพนั ธเุ์ ต้ีย ทาง นกี้ ล็ งกระเจ๊ยี บ ฟักทอง หน้าแลง้ ใบไม้ร่วงลงมา หน้าฝนจุลนิ ทรียก์ ย็ อ่ ย น้า� เยอะก็ชะจุลินทรีย์ลงหน้า ชาวบ้านเขาท�าแบบน้ี พอจุลินทรีย์เกิดข้ึนมาปุ๊บ มันก็ลงไปในนา สอนประวตั ศิ าสตรน์ แ่ี หละ เขาสนใจประวตั ศิ าสตรแ์ ลว้ ตอนน้ีเม่ืออธิบายเขาก็น่ังฟังรู้เร่ือง ระบบการศึกษาในวันนี้ ตื้นเกินไปในการจัดตารางสอน นี่สังคม นี่ภาษาไทย ไม่ได้ เอาความต้องการท่ีเขาอยาก แล้วครูกไ็ มร่ อบรู้ ไมร่ อบรู้ คือ รู้แตว่ ิชาของตวั เอง ต้องบรู ณาการ อนั น้ผี ดิ มาสอนแต่วิชาที่ รู้ จริง ๆ ครูตอ้ งเปน็ ผู้บริหารจดั การเปน็ ” ครูน่ังเล่าความเป็นมาใช้เวลาไปพอสมควรทีเดียว ถึงเวลาดูของจริงกันหละ ครูพาไปเดินทุกจุดต่างๆ จาก ท่ีสังเกตช่วงริมถนนเป็นร้านค้าขายผลผลิตจากเรือกสวน ไร่นาที่ชาวบ้านน�ามาวางขายได้รวมถึงผลผลิตในแปลงของ ศีรษะอโศก ต้ังแต่อาคารจ�าหน่ายผลผลิตยาสมุนไพร แปลงเกษตร แหลง่ นา�้ ปา่ ไมน้ านาชนิด โรงบ่มหมักนา�้ จลุ ินทรยี น์ บั แสนลติ ร
ครูขวัญดิน สิงห์คำ ๑๕ครู ด้านการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม ภูมปิ ญั ญาไทย 155 ชว่ งทีค่ รูพาเดนิ ดู ครูอธิบายและช้ใี หด้ ู อันน้กี องปยุ๋ อันนสี้ วนทนี่ า� นักเรียนท�า สวนเดมิ ซง่ึ เป็นดนิ ไม่ดเี ลย พา นักเรียนปลูกกล้วยปลูกอะไรไป ท�าให้เรียนรู้ แต่ก่อนภู คาวเราไม่พอใช้ เราเลยปลกู ตอนน้คี นตดั ตัดไมท่ นั แล้ว เพราะว่าเวลาคิดเราตอ้ งคดิ ใหญว่ างแผน ดินถ้าไมด่ ตี ้อง เอามาปรุงก่อนแล้วคอ่ ยเอาไปปลกู “ปลูกมะเขือพวง ส�าหรับคนท่ีเลือดจางต้องมี ธาตุเหล็กเขา้ ไป สอนให้เดก็ เข้าใจ ต้องทานวันละ ๗ เมด็ ทุกวนั ” ครชู ้ใี หด้ ผู ลพวงทีอ่ อกมา ด้วยความภาคภูมใิ จ อันน้ีเป็นโรงตากพลังงานแสงอาทิตย์ กิจการเรา ขยายขน้ึ มนั ไมพ่ อ กลว้ ยเอาไปหลายอยา่ ง กลว้ ยหลกั คอื ทา� นา�้ ผง้ึ กลว้ ย จะเปน็ ผลติ ภณั ฑท์ มี่ าแรง พอเปน็ กระษยั คนอายุมากจะขาดโปแทสเซียม แต่ในน้�าผึ้งกล้วยจะมี พวกน้ี ภคู าวนอกจากจะหมกั แลว้ เอาไปบดบรรจแุ คปซลู ได้ด้วย พาเดนิ ดปู ลกู หอมหลงั เกยี่ วขา้ วในแปลงนา ทมี่ ยี อด อ่อนโผล่ข้ึนมาเต็มแปลงนา แล้วบอกว่าอันน้ี คือ การ เรยี นรวู้ า่ ปลกู หอมโดยไมต่ อ้ งทา� แปลงหลงั นา อยา่ งนไ้ี ม่ เปลืองแรงงานเพราะเราเอาฟาง ออกคลมุ ไมต่ ้องขนมาจากทอี่ ่ืน
๑๕ครู ครูขวญั ดิน สิงหค์ ำ ด้านการจดั การทรัพยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อม ภูมปิ ัญญาไทย 156 วันน้ี เกษตรผสมผสานที่ปลูกต้นไม้ใหญ่ หัวไร่ปลายนา คือ ชาวบ้านปลูกให้มัน กลางนา มันจะบังแดด ถ้าเราปลูกเป็นหัวไร่ เทา่ ทท่ี า� ไดแ้ ตท่ า� ใหห้ า่ งกนั หนอ่ ย ตอ้ งวางแผน ส่วนปลายนาน้ันจะมีปลูกต้นไม้และจุลินทรีย์ แปลงให้ดี ๆ เราจ้างชาวบ้าน พัฒนามาถึงจุด ปลูกมะละกอพันธุ์เต้ีย ทางน้ีก็ลงกระเจี๊ยบ นก้ี ต็ อ้ งเอ้ือชาวบ้านด้วย ผลผลิตจากทน่ี ่ี มีคน ฟักทอง หน้าแล้งใบไม้ร่วงลงมา หน้าฝน มีรายได้หลายคน คนมีที่มีทางเราก็ให้ความรู้ จุลินทรีย์ก็ย่อย น�้าเยอะก็ชะจุลินทรีย์ลงหน้า เขาไปท�า พอหนา้ นา เรากเ็ อาปุ๋ยแบง่ ไปใหเ้ ขา ชาวบ้านเขาท�าแบบนี้ พอจุลินทรีย์เกิดข้ึนมา ทข่ี องเราติดถนนใหญ่ มคี นบอกว่าท�าไมไม่เอา ปบุ๊ มนั ก็ลงไปในนา เปน็ ท่ีท�าการค้า เราบอกเราไม่ได้อยากจะขาย ก็เลยคิดว่า เราท�าถนน เราจะประดับ แต่จะขายแนวความคิด แต่จะปลูกป่าให้เขาดู ถนนอย่างไร ปลูกหอม กระเทียม เชียงดา เพ่อื ท่จี ะสะดุดใจ กล้วยน�้าไทเป็นสมุนไพรที่ขายดีมาก เมืองนี้ ตรงนี้เปน็ ทป่ี ลกู ไผ่ คนอีสานชอบไผ่ เปน็ เป็นเมืองหอมกระเทยี ม ปกตหิ นา้ นาแถวนที้ �า อาหารหลักของอีสานเลย คือ หน่อไม้ ก็เลย นาหมดเลย หลังนาก็มาปลูกหอมกระเทียม ปลกู ไผไ่ วแ้ ตม่ ปี ระดแู่ ซม ใหเ้ ขาอยดู่ ว้ ยกนั ตรง รายได้ตัวน้ีดีกว่านา หลังน�้าแห้งท�าไปเลย ที่ น้ี คอื หวั ไร่ ปลายนา คอื ถนนเสน้ นนู้ มสธ.บอก เราต้องท�านาเพราะเรากินข้าว ข้าวพันธุ์หอม ว่า ไร่นาสวนผสมต้นไม้มันบังแสง เลยเข้าไป มะลิจริง ที่น่ีเอาข้าวปลูกหลายสายพันธุ์มาท�า ขา้ งในจะเปน็ สวนไมผ้ ล นา ข้าวทไ่ี ดจ้ ะอร่อยมาก แมข้ า้ วนาปกี เ็ หมอื น กัน เอามลู ไกม่ าหมกั ก่อนท่ีจะลงแปลงนา
ครูขวญั ดนิ สงิ หค์ ำ ๑๕ครู ดา้ นการจัดการทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดล้อม ภมู ิปัญญาไทย ส่วนน้ีปลูกข้าวแต่มีอีกส่วนหนึ่งปลูกพืชผล พะยูงก็มีปลูกเยอะเลยที่นี่ มันต้องเกื้อกูลกันใน 157 สงั คมไมใ่ ชเ่ ราทา� หมดเลย ตอ้ งใหค้ นอนื่ เขาทา� ดว้ ย ไมใ่ ชค่ นอน่ื ตายหมดกบ็ อกวา่ อะไรกต็ ามคนอนื่ ทา� อยา่ ทา� อยา่ ไปแย่งเขา อันนสี้ �าคัญตอ้ งสอน ไม่ไป แยง่ คนอน่ื เดด็ ขาด มหี ลายเรอ่ื งทใ่ี หเ้ ราทา� เยอะใน โลก ไปทา� ตัวอืน่ นา้� มาจากสระใชร้ ะบบน้�าพุง่ เดินผ่านตน้ มะขาม ครูช้ใี ห้ดบู อกว่า ทกุ วนั น้ี คนแหไ่ ปปลกู มะขามหวานจนลมื มะขามเปรยี้ ว แต่ มะขามเปรี้ยวราคาแพง ก็มีคนมาดูงานบ่อยมาก เขามาดูแต่ละด้านแต่ส่วนใหญ่จะเป็นภาคเกษตร เพราะเราทา� ครบวงจร กล้วยจะเปน็ หลัก จะเห็น กล้วยหลายส่วนมาก เพราะกล้วยในกระบวนการ ผลิตยามีทุกขน้ั ตอน กล้วยจงึ ไม่พอ นา้� หมกั กล้วย สูตรที่พระพุทธเจ้าให้คือ กล้วยงอมแล้ว ๓ กิโล น�้าตาล ๑ กโิ ล เกลือ ๑ ชอ้ นโตะ๊ คลุกเคล้าเขา้ กนั หมกั ไว้ ๑๕ วัน วัตถุดิบ ถังบรรจุต้องสะอาดก่อน พระพุทธเจ้าบอกว่า หนึ่งปี สองปี สามปี ท�าไมท่านพูดแบบน้ี ก็ได้มาเข้าใจจากการท�า เอง วัตถุดบิ บางอยา่ งตอ้ งใชเ้ วลาหน่ึงปใี นการ ยอ่ ย บางอยา่ งสองปี บางอยา่ งสามปี ตอนหมกั แรก ๆ วัตถุดิบจะลอย แต่พอหมักไปมันจะ คอ่ ยๆจมลงไปขา้ งล่างหมด ยงั ใช้ไม่ได้ ตอ้ งชิม ก่อน ถา้ เปร้ียวจ๊ีด แปลวา่ ใช้ไดแ้ ลว้
๑๕ครู ครขู วญั ดิน สงิ หค์ ำ ด้านการจัดการทรพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อม ภูมิปัญญาไทย 158 ถา้ มองเปน็ วทิ ยาศาสตร์ตอ้ งมีเคร่ืองวดั คือ วัดคา่ พีเอส ต้องตา่� กว่า ๓ และวัด ค่าบรคิ คอื วัดคา่ น�า้ ตาลตอ้ งตา�่ กวา่ ๕ ใช้หลักวิทยาศาสตร์เข้ามา แต่พระพทุ ธเจา้ บอกว่า หนง่ึ ป ี สองปี สามปี ส้มจ๊ีดแกไ้ ออย่างด ี อนั น้ีโรงเห็ด เพราะเราเป็นนักมงั สวิรัติ เราต้องกนิ เห็ดกเ็ ลยปลูกเอง อนั น้นั ปลกู ผักทที่ ้งั ปีปลูกได้ เลย กเ็ ลยใชโ้ รงเรอื น เห็นวา่ การถ่ายทอดของครขู วญั ดินสู่ผสู้ นใจ สว่ นใหญเ่ น้นหนักไปในเรอ่ื งของ การจัดสมดุลส่ิงแวดล้อม เพ่ือให้เกิดผลกระทบในทางท่ีดีต่อร่างกายและจิตใจของ มนษุ ย ์ ไดแ้ ก ่ การปรบั ปรงุ ดนิ ปยุ๋ ชวี ภาพ นา้� หมกั ชวี ภาพ ขยะวทิ ยา การพฒั นาจติ ใจ มนุษย์และคุณภาพชีวิต การแปรรูปอาหารจากผักและผลไม้ การแพทย์ทางเลือก กสิกรรมไร้สารพษิ การรักษาดิน การปลูกปา่ และการรักษาป่าและการปฏบิ ตั ธิ รรม ภายใตส้ โลแกนว่า “สร้างโลกสวยดว้ ยมอื เรา” ใช้เวลาพูดคุยกับครูขวัญดิน สิงห์ค�า ครูภูมิปัญญาไทย ด้านการจัดการ ทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดล้อม นานทเี ดียว ไดค้ วามเพลิดเพลิน ได้ความรู้ ไดแ้ งค่ ดิ กอ่ นรา่� ลา ครชู วนกนิ ขา้ วมอื้ กลางวนั ทล่ี ว่ งเลยมาถงึ ชว่ งบา่ ยแบบงา่ ย ๆ มงั สวริ ตั ิ ฝมี อื ชาวบา้ นทท่ี า� มาขายของใหก้ บั ผผู้ า่ นไปมา นอกจากไดป้ ระโยชนแ์ ก่ รา่ งกายแลว้ อาหารดงั กลา่ วยงั ทา� ดว้ ยผลผลติ อนิ ทรยี ข์ องชาวบา้ นยา่ นนน้ั นน่ั เอง ทอ่ี ยู่ปจั จบุ นั : ศีรษะอโศก (บา้ น) ๒๗๑ หมู่ ๑๕ ต.กระแซง อ.กันทรลกั ษ์ จ.ศรีสะเกษ ๓๓๑๑๐
ครขู วญั ดนิ สิงหค์ ำ ๑๕ครู ด้านการจดั การทรัพยากรธรรมชาตแิ ละสิง่ แวดล้อม ภมู ปิ ัญญาไทย 159 สรา้ งโลกสวยด้วยมอื เรา ชุมชนท้องถ่นิ ต้นแบบ ใช้ชีวิตแบบพอเพียงและพงึ่ พาตนเอง ที่มี ความพอม ี พอกิน พอใช้ โดยยดึ หลักความพอประมาณ มคี ณุ ธรรม ในการด�ารงชีวิต และใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้ภูมิปัญญาที่ปู่ย่า ตายาย สอนไว้ กอปรกับอยากรู้อะไรต้องรใู้ หจ้ รงิ อธิบายได ้ ส่งผล ให้ครูขวญั ดิน สิงห์คา� ครูภมู ิปัญญาไทย ร่นุ ที่ ๓ ได้รับอนุมตั ิให้จัด ต้ังโรงเรียนสัมมาสิกขาศีรษะอโศก ท่ีใช้หลักธรรม หลักปฏิบัติสอน เดก็ ตั้งแต่ลงมือท�าแปลงเกษตร จนเกิดเครอื ขา่ ย การอบรมกสกิ รรม ไร้สารพิษ การแพทย์ทางเลอื ก และผลติ ผลจากเรือกสวนไร่นา ทีไ่ ด้ จากการปลูกป่า รกั ษาป่าและปฏบิ ตั ธิ รรม
๑๕ครู ครูขวัญดนิ สิงห์คำ ดา้ นการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ภูมิปัญญาไทย 160
ครพู งษเ์ ทพ เพยี รทำ ๑๕ครู ด้านปรัชญา ศาสนา และประเพณี ภูมิปญั ญาไทย 161 ครพู งษเ์ ทพ เพียรทำ� ครภู มู ิปญั ญ�ไทย ด้�นปรชั ญ� ศ�สน� และประเพณี
๑๕ครู คครรพู พู งงษษ์เ์เททพพ เเพพยี ียรรททำำ ดา้ นปรชั ญา ศาสนา และประเพณี ภูมิปญั ญาไทย 162
ครพู งษเ์ ทพ เพียรทำ ๑๕ครู ดา้ นปรชั ญา ศาสนา และประเพณี ภูมปิ ัญญาไทย ¨Ò¡à´ç¡Ç´Ñ àÁ×ͧ ʻ׺ÃÐÊླÒÕȹÒÊ¹Ò 163 โอ.๊ ..โอ๊ ..โอ๊สาวโอ...สาวคนโกส้ ิจะไปไส...ไปเซ้งิ บง้ั ไฟกอ้ สิยโสธร... ทันท่ีย่างกรายเข้าสู่จังหวัดยโสธร พลันความทรงผุดเสียงเพลงลูกทุ่งที่ขับร้อง โดยศิลปนิ แห่งชาติไวพจน์ เพชร สุพรรณ ผุดข้ึนมาในมโนภาพ “...โอ๊...โอ๊ ..โอ๊สาวโอ...สาวคนโก้สิจะไปไส...ไปเซ้ิง บั้งไฟก้อสิยโสธร...” เซิ้งบ้ังไฟการแสดงอัน ทรงเอกลักษณ์ของพื้นถิ่นผุดข้ึนมาใน ความรู้สึกทนั ที เซง้ิ ยโสธรเหน็ จะเป็นการ แสดงพ้ืนบา้ นเลอื่ งช่อื ทเี ดียว
๑๕ครู ครพู งษเ์ ทพ เพยี รทำ ด้านปรชั ญา ศาสนา และประเพณี ภูมิปัญญาไทย 164 ไปเยือนจังหวัดยโสธรหนนี้ด้วยภารกิจ ในฐานะผู้ไปเยือนท่ีจ�าต้องด้นด้ันหาบ้าน ส�าคัญทีเดียว คือ การไปพบปะพูดคุยกับครู ครใู หพ้ บ ไมว่ า่ จะอยใู่ นชมุ ชนลกึ ลบั ซอ้ นแคไ่ หน พงษเ์ ทพ เพยี รท�า ครูภูมิปัญญาไทยท่านหน่ึง ท่ีสุดกไ็ ปถึงบ้านครจู นได้ บ้านหลังขนาดเขอ่ื ง ของจังหวัดนี้ ท่ีทางสภาการศึกษา กระทรวง ที่เห็นในชว่ งไปเยือน มผี ู้คนอยใู่ นบ้านนอ้ ยคน ศึกษาธิการ ประกาศยกย่องเชิดชูไว้ในฐานะผู้ นัก บ้านปลกู สรา้ งอยู่ในพ้ืนทอี่ นั เปน็ สัดส่วนที่ ท�าคุณประโยชน์แก่ชาติบ้านเมือง แล้วก็เป็น มีอาณาเขตชัดเจนในชุมชนท่ีไม่ใหญ่โตเท่าใด ศูนย์รวมพลังความสามัคคีที่น�าพาไปสู่ความดี นักเป็นชุมชนท่ีกล่าวได้เต็มปากว่า ห่างเมือง งามของชุมชน เจริญพอสมควร เงียบสงบด้วยแมกไม้ท่ีให้ ครู เกิดเมื่อวันท่ี ๗ พฤษภาคม พ.ศ. ร่มเงา สร้างความชื่นเย็นแก่ผู้อยู่อาศัย และผู้ ๒๔๙๒ อ�าเภอค�าเข่ือนแก้ว จังหวัดยโสธร ไปเยือน ปัจจุบันอยู่บ้านจาน ต�าบลกู่จาน อ�าเภอ ค�าเข่ือนแก้ว เปน็ บุตรคนโต ในจ�านวน ๓ คน ของ นายเคน และนางอมรรตั น ์ เพยี รทา� สมรส กับนางสาวนงคร์ กั ษ ์ จินาพร อาชพี รับราชการ มคี วามเชย่ี วชาญดา้ นดาราศาสตร ์ การตงั้ ผงั เมอื งโบราณ ประวตั ศิ าสตร์พ้นื ถน่ิ ปรัชญา ศาสนา วัฒนธรรมประเพณีพื้นถ่ิน ความเชื่อ ของคนโบราณ ด้วยการอนุรักษ์ สืบสาน สร้างสรรค์และพัฒนาจนก่อให้เกิดประโยชน์ ต่อการเรียนรู้และเกิดการสืบสานส่ิงที่ดีงามไว้ เป็นมรดกของแผน่ ดนิ
ครูพงษ์เทพ เพียรทำ ๑๕ครู ด้านปรัชญา ศาสนา และประเพณี ภมู ิปัญญาไทย 165 ครูพงษ์เทพ เจ้าของบ้านยืนให้สัญญาณอยู่หน้าบ้าน บอก ให้คณะที่ไปเยือนรู้ได้ว่าถึงที่หมายแล้ว ครูเชิญเข้าบ้านยกน้�าท่ามา ต ้ อ น รั บ พ ร ้ อ ม ผ ล ไ ม ้ แ น ะ น� า ตั ว กั บ ค รู เ รี ย บ ร ้ อ ย ก็ บ อ ก ถึ ง วัตถุประสงค์ที่มาเย่ียมเยียนเพ่ือขอให้ครูเล่าความถึงวิถีชีวิต ก่อนเข้าสู่ ท�าเนียบครภู ูมิปัญญาไทย ครูเล่าวา่ บา้ นของครสู มยั เด็ก ๆ เป็นรา้ นขายของอยู่ตดิ ท่ารถ อา� เภอ ค�าเขื่อนแก้ว ก่อนเป็นจังหวัดอุบลราชธานี ปัจจุบันน้ีเป็นจังหวัดยโสธร จึง เปรยี บเหมอื นเปน็ สถานทพี่ บปะชมุ นมุ ของผคู้ นตา่ งเพศ ตา่ งวยั ตา่ งสถานภาพ หลากหลายอาชพี ทง้ั ท่คี ุน้ เคยและแปลกหนา้ ตา่ งถน่ิ มาพบกันเพื่อจรก่อน การเดนิ ทางไปยงั จุดหมายทต่ี ้องการ ดังน้ัน องค์ความรู้และแรงบันดาลใจ ท่านก็ได้ท่ีท่ารถคิวรถ ใกล้บ้าน ทา่ นนแ่ี หละ เกดิ ข้ึนทุกวนั เร่มิ ตั้งแต่ลืมตาตื่นข้นึ ออกมาหน้าบ้านช่วยขาย ของ พระสงฆอ์ งคเ์ จา้ ผู้เฒ่า ผแู้ ก ่ แม่คา้ คนส่งของ คนทา� นา คนมาหาของด ี คนสร้างพระ นักเดินทาง ครู ขา้ ราชการ คนเมา คนจน นักการเมอื งทอ้ งถ่นิ เซลแมนจากเมอื งใหญ่ แมก้ ระทง่ั คนเรร่ ่อน จะมาถกกันทท่ี า่ รถ คนนจ้ี ะไป ทน่ี ่นั ท่นี ี่ มีพระองค์ดงั ยาวิเศษทไี่ หน อยา่ งไร คนเหงาคนเศรา้ รับรหู้ มด
๑๕ครู ครูพงษเ์ ทพ เพียรทำ ด้านปรัชญา ศาสนา และประเพณี ภมู ิปญั ญาไทย 166 จรงิ หรอื ไม ่ ครบู อกวา่ ไมร่ ู้ แตก่ ค็ อ่ นขา้ งจะเชอื่ ไปมากกวา่ เพราะ ยงั เปน็ เดก็ แต่ส่วนใหญ่กย็ ังจ�าได ้ ส่ิงที่ไม่เคยลืม ถงึ คร้งั หนง่ึ ของเด็กอีสานบา้ นนอก มวี ันหน่ึงกอง ถ่ายหนังไทยมาถ่ายท�าหนังท่ีทุ่งนาก็เลยไปดู คนเขียนบทมาแล้วแต่ เขาจะฟงั ชาวบา้ นวา่ เรอ่ื งทจ่ี รงิ มนั เปน็ อยา่ งไร เทา่ ทจ่ี า� ไดเ้ ปน็ กองถา่ ย หนงั เรอื่ ง ก่องขา้ วนอ้ ยฆา่ แม ่ พระเอกในตอนนนั้ จา� ได้วา่ คอื สุรสิทธ์ ิ สตั ยวงศ ์ มนั กเ็ ลยเปน็ ลกั ษณะทฤษฎกี บั พน้ื เพมาผสมกนั กเ็ ลยเกดิ องค์ ความรู้ตรงน ี้ การเลา่ การเขียนต้องเอือ้ ต่อกนั เรยี นจบมัธยมในตวั อ�าเภอ และก็ไปเรยี น ป.กศ.สงู วิทยาลัยครู อุบลราชธานี จบก็มาเป็นสอบบรรจุได้เป็นครูสอนประถมปลาย ครู ใหญบ่ อกวา่ เรยี นสงู กวา่ เพ่ือนกเ็ ลยได้มาสอน ป.๖ - ๗ สว่ นครูเกา่ ก็ ไปสอนประถมตน้ ชว่ งเปน็ คร ู ขยนั ออกพน้ื ทเ่ี ยยี่ มบา้ นนกั เรยี น เดก็ บอกวา่ บา้ นหนู ติดแม่น�้าตรงน้ีติดคลองน้ี พอไปเห็นคลองแล้ว คลองมันพาดจาก โรงเรียนไปทุ่งนาบ้านนักเรียน เราก็ศึกษาจากชาวบ้าน คลองนี้เป็น ทางเดนิ ทัพสมยั โบราณ กจ็ ดไวใ้ นสมุดบันทกึ และเร่มิ ศกึ ษารอ่ งรอย จากชาวบา้ น บรรทดั ๑ หนา้ ๑ ปีน ี้ ร่นุ ลกู วา่ อยา่ งน ้ี รุ่นแมว่ ่าอย่างน ้ี ร่นุ ปู่ย่าว่าอกี อยา่ งหนึ่ง
ครพู งษเ์ ทพ เพยี รทำ ๑๕ครู ดา้ นปรชั ญา ศาสนา และประเพณี ภมู ปิ ัญญาไทย 167 ครูเป็นคนชอบศึกษา และศึกษาอย่าง จริงจังจนกว่าจะได้ค�าตอบ เร่ิมจากตามรอย ปู่ย่าตายายพ่อแม่เล่าให้ฟัง ผนวกกับชาวบ้าน ล้วนสอดคล้องกัน แล้วก็ไปซ้ือหนังสือมาอ่าน พูดคุยกับนักวิชาการด้านนั้น ๆ ทุกอย่างถูก จากลูกศิษย์วัดบูรพารามอาศัย บันทึกไว้แบบละเอียด หากไม่ได้ค�าตอบจะไม่ ข้าวก้นบาตรพระเลยี้ งชพี สู่ ภูมิ ยอมจบท้งิ ไปง่าย ๆ จะตอ้ งหาค�าตอบใหไ้ ดใ้ น บ้าน ภูมิเมอื ง ทกุ เรอ่ื งทต่ี งั้ โจทย์ เป็นครูก็ไปคลุกคลีกับชาวบ้าน ประถม ครูพงษ์เทพ เพียรท�า บอกตอนเด็ก ๆ สอนพอ่ แมเ่ ดก็ มธั ยมสอนลกู เขา เราสนใจเรอ่ื ง เคยเป็นลูกศิษย์วัดบูรพาราม อาศัยข้าวก้น ท้องถน่ิ ทัง้ วิถีชวี ติ ทงั้ ประวัติศาสตร ์ ก็มกั จะ บาตรพระเลีย้ งชพี ครูบอก เน่ืองจากพอ่ เสยี ใหเ้ ขาเล่าบา้ ง เป็นแบบเลา่ ต่อกนั มา เรากไ็ ป แม่ป่วย ประกอบอาชีพไม่ได้ ระหว่างเป็นลูก ศกึ ษาค้นควา้ เพม่ิ ขนึ้ ศิษย์วัดน้ันได้ฟังเรื่องราวเกี่ยวกับภูมิบ้าน ภูมิ อย่างเช่น โจทย์อ�าเภอน�้าพุ เป็นอ�าเภอ เมือง จากพระบ้าง จากผูเ้ ฒ่าผแู้ กท่ ่ีมาทา� บุญ ค�าเขื่อนแก้วได้ไง ไปศึกษากับลูกหลานนาย บา้ ง ไดซ้ ึมซบั ภูมิปญั ญากบั นายโหง่น ขยนั หา อา� เภอคนแรก ขอ้ มลู ทไี่ ดไ้ ปสอดคลอ้ งกบั รนุ่ แม่ ไวยาวัจกร และพระอาจารย ์ สุรพล เตชะธมั โม ที่บอกวา่ นายอ�าเภอคนแรกเป็นลูกทา่ นหลาน รองเจ้าอาวาสวัดกู่จาน เกี่ยวกับเร่ือง ศาสนา เธอ มศี กั ดนิ าเปน็ ถงึ พระยา และยงั ตามไปถาม ความเชอื่ พธิ กี รรมและประเพณตี า่ งๆ ของทอ้ ง พอ่ รนุ่ ป ู่ ทเี่ ปน็ คนไปประจา� สถานตี า� รวจเปน็ คน ถิน่ มาตลอด แรกที่เขอื่ งในอกี ด้วย
๑๕ครู ครูพงษเ์ ทพ เพียรทำ ดา้ นปรชั ญา ศาสนา และประเพณี ภมู ิปญั ญาไทย 168 พอมาเป็นประธานวัฒนธรรม เสาร์ อาทติ ยเ์ ขาหยดุ แตต่ วั เองไมย่ อมหยดุ ไปอบุ ลฯ เจอนกั โบราณคดพี บวตั ถโุ บราณ รองอธบิ ดกี รม ศิลปากรเล่าให้ฟังท้ังหมด ก็เกิดความรู้โดยไม่ ต้องอ่านหนังสือ เพราะเอาของจริงมาให้ดู กบ็ นั ทกึ เอาไว ้ ตอบโจทย์ตัวเองไดแ้ ล้ววา่ มนั คืออะไร สนใจการวางจุดต้ังพีรามิดที่สรุปว่า ต้ังตามดวงดาว เชน่ ดาวลกู ไก่ แล้วก็ มาเปรียบเทียบของไทย โดยเฉพาะอยา่ งยงิ่ การขดุ พบประตลู บั ใน ชอบอ่านหนังสือ ต่วยตูน ที่มีเร่ือง สสุ านของฟาโรห์หนุม่ ตุตันคามนุ ในราชวงค์ท่ี ลกึ ลบั เกย่ี วกบั พรี ะมดิ ในประเทศอยี ปิ ต์ ๑๘ ของอยี ิปต์โบราณ ซึ่งมีพระชนมเ์ พยี ง ๙ - โบราณสมยั กอ่ นยคุ เหลก็ เปน็ สง่ิ กอ่ สรา้ ง ๑๐ ชนั ษา ครองราชยร์ ะหวา่ ง ๑๓๒๕ - ๑๓๓๔ ของชาวอียิปต์ สิ่งก่อสร้างท่ีน่าอัศจรรย์ ปีก่อนครสิ ตกาล ทีซ่ ่อนอยู่ในบรเิ วณที่เรยี กวา่ ของมนุษย์ ซ่ึงแสดงให้เห็นถึงความ “หุบเข�กษัตริย์” ฝั่งตะวันตกของแม่น้�าไนล ์ ก้าวหน้าทางวิทยาการ ซึ่งมีความคิด เมืองลกั ซอร์ อยี ิปตป์ ัจจุบนั ความเชื่อเร่ืองเทพเจ้ามาไม่น้อยกว่า เม่ือน�ามาเปรียบเทียบของไทยในการ ๖,๐๐๐ ปี สรา้ งเทวาลัย เทวสถาน สมัยขอม หรือโบราณ สถานต่าง ๆ อาท ิ ปราสาทหนิ ปรางค์ หรือวัด ในศาสนาซง่ึ เปน็ สง่ิ กอ่ สรา้ งเพอ่ื เปน็ ทสี่ มมตุ วิ า่ เปน็ ทปี่ ระทบั ของเทพเจา้ หรอื เทวดา ในดนิ แดน แถบน้ี พบว่า ได้วางตามแนวดาวแทบทั้งส้ิน
ครพู งษเ์ ทพ เพียรทำ ๑๕ครู ดา้ นปรชั ญา ศาสนา และประเพณี ภูมิปัญญาไทย 169 เขาก็สนใจที่จะอ่านเร่ืองราวต่าง ๆเพ่ือให้ค�า แนะนา� และตอ่ มาเห็นว่าหอ้ งเล็กเกิน จึงมอบ ห้องให้อีกห้อง โดยแบ่งคนละคร่ึงกับ กศน.” ครูเล่าถึงความส�าเร็จที่ผ่านมาด้วยความภาค ภมู ใิ จในสงิ่ ทท่ี า� ให้บ้านเกิด พอลาออกจากครปู ระถม สอบใหมเ่ ปน็ ครู มธั ยม กไ็ ปอยใู่ นตวั เมอื ง คราวนไ้ี ดร้ บั รางวลั ครู “ผมเรยี นดาราศาสตรม์ าพอดี และเคยตงั้ ภูมิปัญญาไทย เป็นผลงานเขยี นท่ีนี้แต่ไดไ้ ปรบั ขอ้ สงสยั วา่ ทา� ไมโบราณสถานของเมอื งไทยถงึ ทนี่ ู้น โรงเรียนประถมที่เคยสอนเลยได้หน้าไป วางแบบนี้ๆ เอาอะไรเป็นหลัก น่าจะต้องยึด แต่ตอนผมเรียนปริญญาตรี ปริญญาโท โยงตรงกับดวงดาวสักดวง และพบว่าตรงกับ ผมชอบเขียนบันทึก ไปเรียนเทอมแรกเรียน ต�าแหน่งดาวนายพราน ลองไปขุดดูก็พบวัตถุ ไม่ทันเขา เพราะมหาลัยสอนระดับผู้ใหญ่ พอ โบราณทต่ี า� บลกจู่ าน กน็ า� ไปเกบ็ ไวท้ พ่ี พิ ธิ ภณั ฑ์ เทอมสองเสร็จผมไปสนใจจริงจังในด้านภาษา แลว้ เขยี นประวตั ิตา� บลกจู่ าน ออกมาจน กรม อังกฤษ ผ่านเปเปอร์ภาษาอังกฤษ ได้เป็น ศิลปากรเข้ามา และคนท่ัวไปรู้ว่า บ้านเรามี หวั หนา้ ช้ันดว้ ย อะไรดมี ากมาย แต่กอ่ นไมม่ ใี ครสนใจ” มาเขียนกลอนเชิญบั้งไฟ เขียนต�านาน ผลงานเขียนประวัติต�าบล คร้ังนั้น ผลที่ พญาคันคาก ท่ีปรากฏศึกษาเอกสารท่ีอยู่ตาม ตามมา คอื ไดง้ บประมาณทา� ถนนคอนกรตี เขา้ หมู่บ้านต่างๆ ล้วนเป็นลักษณะเล่าต่อกันมา มา เพราะจากหนงั สอื เลม่ น ้ี และผลพวงทไี่ ดต้ อ่ เช่อื ถอื ไม่ได้ จงึ ไปค้นควา้ ที่ใบลาน ถึงจะไดค้ �า มา คอื จดั เป็นแหลง่ ท่องเทีย่ ว ขอไป ๓๐ ล้าน ตอบ ไดม้ า ๓๒ ลา้ น เงนิ ทีเ่ หลอื ก็ท�าพิพิธภณั ฑ์ และ สนใจเรอื่ งไหนกไ็ ปศกึ ษาเรอื่ งนนั้ ตรงนไ้ี ด้ หอสมดุ อยู่ในตวั เมือง รภู้ าษาอ่นื ๆ จากการบันทกึ ไว้ในหลากหลาย “เขาให้ห้องครูห้องหนึ่ง ส�าหรับต้ังของดี โดยอตั โนมตั ิ ตอบโจทยไ์ ด ้ อา้ งองิ ได ้ ตอ่ มากไ็ ด้ ท่ีขุดได้ไปวางแสดง ผมเขียนสคริปไว้พร้อม อา่ นจารกึ กดุ จานทใี่ บเสมา ตวั นจี้ ดุ ประกายเลย วเิ คราะหใ์ ห้เหน็ ของชนิ้ นเี้ ปน็ ยุคไหน ๆ จาก เพราะเปน็ ภาษาขอมโบราณ วา่ อยยู่ คุ ไหน สมยั เดิมบรรณารักษ์ไม่อ่านหนังสือ พอมีวัตถุ ไหน จารกึ น้บี อกชดั ว่า พน้ื ที่นี้เขมรเคยครอบ โบราณมีของจ�าลองจับ ได้ดู ได้ชี้ ได้อธิบาย ครองไว้หมด
๑๕ครู ครูพงษ์เทพ เพยี รทำ ดา้ นปรัชญา ศาสนา และประเพณี ภูมิปญั ญาไทย 170 ดงเมืองเตย กับ อโรคยาศาลา พระเจา้ ชยั วรมัน ท่ี ๗ ครูบอกว่าได้จากนิสัยรักการอ่าน ชอบ เมื่อศึกษาในทางโบราณคดี ยังพบอีก ค้นคว้า บันทึก ตั้งประเด็นถกเถียง และ วา่ การอยอู่ าศยั ภายในเมอื งโบราณดงเมอื งเตย พยายามเรียนรู้ภาษา เหล่านี้ล้วนมีประโยชน์ กอ่ นประวตั ศิ าสตร ์ เมอ่ื ประมาณ ๒,๕๐๐ ป ี มา ท�าให้รู้ว่า ถ่ินฐานท่ีตนเองอยู่ได้อย่างมีความ แล้ว น่าจะเป็นเมืองส�าคัญแห่งดินแดนลุ่มน้�า สุขนั้นมีประวัติความส�าคัญมาอย่างไร เช่น มูล - ชี - โขง เพราะพบหลกั ฐานเครือ่ งมือหนิ รู้ว่า ชื่อบ้านเมืองอย่างดงเมืองเตย ในเขต ภายในศาลายงั มตี กู้ ระจกเกบ็ เศษกระดกู มนษุ ย์ ตา� บลสงเปือย อ�าเภอคา� เขื่อนแก้ว ตวั หมบู่ า้ น หมอ้ ไห กระเบ้อื งดนิ เผา และเครอ่ื งมือเครื่อง จะมีลักษณะเป็นเมืองโบราณ ที่มีคูน้�า คัน ใช้ท�าด้วยส�าริด เหล็ก ท่ีขุดได้ ล้วนเป็นวัตถุ ดินล้อมรอบเนินดินขนาดใหญ่ คูน�้าคันดินมี พยานถึงอารยะหลายยคุ สมยั ในสถานที่แหง่ นี้ รูปร่างค่อนข้างรี เคยเป็นชุมชนโบราณสมัย ทวาราวดี ที่ได้รับอิทธิพลของอารยธรรมใน สมัยเจนละ มีโบราณก่อด้วยอิฐ และชิ้น ส่วนสถาปัตยกรรมท�าจาก หินทรายสีแดงพร้อมศิลา จารกึ ดงเมอื งเตย แต่ปัจจุบันดงเมือง เ ต ย มี ส ภ า พ เ ป ็ น ป ่ า สวน และส�านักสงฆ์ มี ร ่ อ ง ร อ ย คู เ มื อ ง ที่ ถูกขุดลอกเป็นสระ น�้า พบเศษภาชนะ เครื่องปั้นดินเผาหลาย ยุค พบประติมากรรมรูป สิงห์ หนิ แกะสลกั ตามรปู แบบศิลป ลพบุรีรวมทั้งเศษตะกรันโลหะใน อารยธรรมยุคส�ารดิ
ครูพงษ์เทพ เพยี รทำ ๑๕ครู ด้านปรชั ญา ศาสนา และประเพณี ภมู ปิ ัญญาไทย 171 เครื่องมอื หนิ ภายในศาลายงั มตี ูก้ ระจกเกบ็ เศษกระดกู มนุษย์ หมอ้ ไห กระเบื้องดนิ เผา และเคร่อื งมือเคร่อื งใชท้ �าด้วยส�ารดิ เหลก็ ทขี่ ดุ ได้ ลว้ น เปน็ วตั ถุพยานถงึ อารยะหลายยคุ สมยั ในสถานท่ีแหง่ นี้ ท�าให้เช่ือมโยงค้นไปถึงพระเจ้าชัยวรมัน ลองลากแผนท่ีไปหากันเลย จะพบการ ที ่ ๗ คา� ว่า “วรมนั ” นี้มาจากภาษาสนั สกฤต สร้างโรงพยาบาล หรือ “อโรคยาศาลา” ที่เป็น ทแี่ ปลวา่ “เสอ้ื เกราะ” หรอื อาจจะหมายความ ฐานพักอะไรก็แล้วแต่ ในสมัยพระเจ้าชยั วรมัน ถึง “ก�รปกปอ้ งรกั ษ�” กไ็ ด้ พระองค์จะทรง ของแตล่ ะแหง่ ไปหากันเลย ทกุ ๒๐ กโิ ลเมตร สร้างโรงพยาบาล ท่ีจารึกเรียกว่า “อโรคย� จะไปเจอพอดที ่ีดงเมืองเตย ศ�ล�” จา� นวน ๑๐๒ แห่ง กระจายอยทู่ ่วั ราช ตอนน้นั ผอู้ �านวยการโรงเรยี นลาบวช ผม อาณาจักรที่ครอบครอง ส่วนหน่ึงอยู่ในเขต รักษาการแทน มีโอกาสไปเย่ียมที่ดงเมืองเตย ประเทศไทย เปน็ ศาสนสถานของพุทธศาสนา ปรากฏวา่ กรมศลิ ปก์ า� ลงั มาขดุ พบซากวดั สระ ลทั ธมิ หายาน สรา้ งข้นึ เพอื่ เปน็ ธรรมศาลาหรือ นา้� กา� แพงเมอื ง ทไ่ี ดช้ อ่ื วา่ ดงเมอื งเตย ผมบอก เป็นท่ีพักของคนเดินทางแห่งหนึ่ง ซึ่งในแต่ละ กรมศิลป์ว่า คือ เมืองเตย “เตย” ตัวนี้ไม่ใช่ แหง่ หา่ งกนั ประมาณ ๑๒ – ๑๕ กโิ ลเมตร ภาษาไทยแนน่ อน เมอื ง นะใช ่ เพราะวา่ คนไทย ใชค้ า� วา่ เมอื งในภาษากลาง เมอื งของลาวใชค้ า� ว่า เวียง ภาคเหนือใชค้ า� วา่ เชียง เขมรใชค้ �าวา่ นคร เหลอื เพยี งวา่ “เตย” มาจากคา� วา่ “ตรยุ๊ ” แปลวา่ ยง่ิ ใหญไ่ พศาล เปน็ เมอื งยงิ่ ใหญไ่ พศาล สมัยก่อนนัน้ กค็ อื อาณาจกั รเจนละ นั่นเอง จาก ดงเมืองเตย ห่างออกไปทางทิศ ตะวันออกเฉียงเหนือ ตามเส้นทางยโสธร – อบุ ลราชธาน ี กย็ งั มโี บราณสถานอกี ๒ แหง่ คอื พระธาตกุ จู่ าน กบั กบู่ า้ นงว้ิ ทเ่ี หลอื ใหเ้ หน็ ซาก โบราณสถาน
๑๕ครู ครพู งษ์เทพ เพยี รทำ ด้านปรัชญา ศาสนา และประเพณี ภมู ิปัญญาไทย 172 พระธาตกุ จู่ าน เปน็ สถาปตั ยกรรมลกั ษณะเหมอื นองคพ์ ระธาตพุ นมแตม่ ขี นาดเลก็ กวา่ ส่วนของฐานล่างรูปบัวคว่�าบัวหงายเตี้ยๆ รองรับฐานสูงรูปส่ีเหล่ียมเรียบต่อด้วยทรงบัว เหลีย่ ม ประดับตกแตง่ ด้วยลวดลายประณีตสวยงามตามโบราณ มีปา้ ยบรรยายไวว้ า่ สรา้ ง ขน้ึ ในพทุ ธศตวรรษท ่ี ๗ ต้ังอยใู่ นเขตวัดบ้านกู่จาน อ�าเภอคา� เข่อื นแก้ว วัดนี้ ห่างจากตัวอ�าเภอ ๑๒ กิโลเมตร ตามทางหลวงหมายเลข ๒๓ (ยโสธร- อุบลราชธานี) มีเส้นทางถนนลูกรังแยกจากถนนแจ้งสนิท ระหว่างอ�าเภอค�าเขื่อนแก้วกับ จงั หวดั อบุ ลราชธาน ี โดย มจี ดุ แยกข้างๆ สถานีพืชอาหารสัตวย์ โสธร ข้นึ ไป ทางเหนือผา่ น บ้านแหล่งแปน้ บา้ นโคกโก่ย เข้า สู่บา้ นกู่จาน ระยะทางประมาณ ๑๐ กโิ ลเมตร คางคก ภาษาอีสาน คือ คันคาก เสือ คอื เสือในป่า ไมใ่ ช่โจร “กูจ่ าน” คุณอย่าไปแปลวา่ จานร้องได้นะ ครูพงษเ์ ทพ เพยี รทา� จากจังหวัดยโสธร น่แี หละ เป็นผู้บกุ เบกิ การจดั ต้ัง พพิ ธิ ภณั ฑก์ ลางแจง้ กจู่ าน โดยรว่ มมอื กบั องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตา� บลกจู่ าน พระ สงฆ์ท่ีวัดกู่จาน และปราชญ์ชาวบ้านพากันส�ารวจแหล่งอารยธรรม บ้านกู่จาน บ้านงิ้ว โดยเอาพระธาตกุ ู่จานเป็นศนู ยร์ วม ในท่ีสุด ได้ร่วมกันจัดตั้งพิพิธภัณฑ์กลางแจ้งกู่จาน ขึ้นส�าเร็จ โดยความร่วมมือจากส�านักโบราณคดีและ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติท่ี ๘ จังหวัดอุบลราชธานี จด ทะเบยี นเปน็ แหลง่ โบราณสถาน ทา� ใหเ้ กดิ แหลง่ เรยี นรทู้ างดา้ น ปรชั ญา ศาสนา และประเพณที อ้ งถน่ิ ขนึ้ ในเขตตา� บลกจู่ าน อา� เภอ คา� เขอื่ นแก้ว จังหวดั ยโสธร
ครูพงษเ์ ทพ เพียรทำ ๑๕ครู ด้านปรชั ญา ศาสนา และประเพณี ภมู ปิ ัญญาไทย 173 แล้วท่ีน้ีค�าว่า พญาคันคาก ซึ่งผู้ว่าคนที่ สองไม่เข้าใจเขาใช้พญาแบบน้ี ถามว่าไปเอา ข้อมลู มาจากไหน ครเู ล่าวา่ ใชใ้ บลานตัวน ี้ เขาใช้ ญ ผู้หญิง พญา เพราะวา่ คนอีสานยกย่องคนทเ่ี ก่ง อยา่ ง เชน่ พญาคร ู มนั เพย้ี นมาจาก เพยี้ ในภาษาลาว จังหวะเดียวกับท่ีท่าน ดร.พีระพรรณ มันมีบา้ นสามเพยี้ ก็ คือ สามพญา สว่ นพระยา เปน็ รฐั มนตรีกระทรวงวทิ ยาศาสตร์ แตผ่ มเปน็ กษตั รยิ แ์ ตง่ ตง้ั พระยาตวั นเ้ี ขาไปเลยี นแบบทา้ ว ประธานวัฒนธรรมจังหวัดอยู่เชียงใหม่ มีครู แสนปม ขรขุ ระเหมอื นพญาคนั คากแบบนน้ั มนั สอนฟสิ กิ ส ์ รนุ่ นอ้ งผมสบิ ปคี นหนง่ึ มาเปน็ ปลดั ไมใ่ ชข่ องอีสาน กระทรวงวิทยาศาสตร์ มาตรวจวางแผนท�า “คางคก ภาษาอีสาน คือ คันคาก ค�า พญาคันคากเน่ีย เมื่อเจอกันท่านถามว่าเรียน เดียวกัน แต่ที่น้ีตัวที่ยกย่องเป็นพญา มันมี ฟสิ กิ สม์ าไปยงุ่ อะไรกบั วฒั นธรรม กบ็ อกทา่ นวา่ คางคกพนั ธห์ุ นงึ่ มมุ เงยเกนิ ๓๐ องศา สจี ะออก มนั มาโดยอตั โนมตั แิ ลว้ สว่ นทา่ น ดร. พรี ะพรรณ ทองแดงหน่อยก็ ระดับพญา ถ้าคางคกท่ัวไป บอกท�าไมไม่เอามาอยกู่ ระทรวงด้วย บ้านเราก็จะหมอบลงต�่ากว่า ๓๐ องศา เป็น “ผมไม่ไปแล้ว มันอยู่ตรงน้แี ลว้ ตอ้ งสร้าง คางคกช้ันตา่� ผิวขรขุ ระมากกว่ากนั ” ความเจริญให้ตรงนกี้ ่อน” ครูพูดถึงเกร็ดแห่งการด�าเนินชีวิตแล้ว น�าเข้าเรื่องต่อถึง การได้น�าจารึกที่มีในแต่ละ หมู่บ้านมาใช้ประโยชน์ตรงท่ีว่า การปลูกฝัง ความภาคภูมิใจรักในแผ่นดินถ่ินเกิดที่ทุกคน อาศยั ทุกวนั น้ี มีทม่ี าทไี่ ป เปน็ มาอยา่ งไร รูจ้ ัก และสา� นึกถงึ บญุ คณุ บรรพบุรษุ รือ้ ฟ้ืนของเก่า เปน็ ประโยชน์ บา้ นเมือง เราตั้งอย่างไร วดั ตั้ง ยงั ไง ยา้ ยจากไหนไปไหน หมบู่ า้ นแคบ ทา� ไม มนั ถึงแคบ พอสรา้ งใหม่ ทา� ไมบ้านมนั ถึงกวา้ ง
๑๕ครู ครูพงษเ์ ทพ เพยี รทำ ด้านปรัชญา ศาสนา และประเพณี ภูมิปญั ญาไทย 174 เพราะแตเ่ ดิม ชาวบ้านกลัวเสือ บา้ นเลย ต้องอยู่ใกล ้ ๆ กนั เสือ คอื เสือในปา่ ไม่ใชโ่ จร เพราะทกุ คนเปน็ นกั รบอยแู่ ลว้ กเ็ ลยไมก่ ลวั โจร เพราะฉะนน้ั ตอ้ งมจี ดุ ไฟตลอดทง้ั คนื เพราะเสอื กลัวไฟ ต่อมากค็ อื การขับถ่ายต้ังอยู่รมิ น้�า ขบั ถ่ายลงไปก็เกดิ โรคหา่ เขาว่าผิดผ ี ได้รรู้ ากฐาน ตรงน ี้ แล้วทีนี้ ส�าเนียงแต่ละพ้ืนบ้าน ลาวใต ้ ส�าเนยี งกจ็ ะแปร่งนิด ๆ หนง่ึ มาจากลาวเหนือ กแ็ ปร่งนิด ๆ หนง่ึ บ้านกู่จานมาจากสว่ ย บา้ น หนองกบใกล ้ ๆ มาจากเวยี งจนั ทน ์ สองภาษาน้ี ทะแมง่ ๆ ตา่ งกนั จงึ ทา� ใหเ้ กดิ การเรยี นรเู้ พราะ ผมเปน็ คร ู ตอ้ งสอนเดก็ สองฝา่ ย กเ็ ลยเอามาใช้ วา่ บา้ นน้เี ปน็ อย่างน้ี ๆ กู่จาน คณุ อยา่ ไปแปลว่า จานร้องได ้ มัน ไม่ใช่นะ มันมาจากค�าว่า กู่จนะ กู่ตัวน้ีเป็น ภาษาอนิ เดยี แปลวา่ เนนิ ดนิ เพราะฉะนน้ั ขอม ไปสรา้ งตรงไหนต้องไปสร้างท่ีเนินสงู ท่ภี ูเขา กู่ จนะ คอื ตน้ จานอยู่บนเนินดินนัน้ กเ็ ลยรูท้ มี่ า “บันทึกเร่ืองราวเหล่าน้ีไว้เป็นเอกสาร ถึงตรงนี้ ผมต้ังใจเขียนเรื่องการต้ังแหล่ง เรียบร้อยหมดแล้ว เผยแพร่ตามเว็บไซต์ เป็น โบราณสถานของไทยเปรียบเทียบกับพีระมิด วิทยากรอบรม เป็นเอกสารให้ในวัด เวลา ของอียิปต์ โบราณ มันเชิงเชื่อมโยงกันหรือ เขาจัดงาน ในวงการศึกษา คือ ตอนมาเป็น เปรียบเทียบกันได้ แต่ยังไม่ได้เขียน เกรงจะ ผอ.วิทยาลัยชุมชน เอาเป็นหลักสูตรท้องถ่ิน ถูกหาว่าไปก็อปปี้เขามา คือ ต้องเอาความรู้ เพราะฉะนั้นเลยได้เป็นผู้เขียนประวัติจังหวัด คนอื่นมาใช้ ต้องสืบค้นเปรียบเทียบ หาท่ีมา ยโสธร” ทุกอย่างเป็นวิทยาศาสตร์ ภาษาหมอดูก็เป็น วทิ ยาศาสตร ์ เพราะผลค�าท�านายวทิ ยาศาสตร์ กบั ดาราศาสตร์ตรงกัน
ครพู งษเ์ ทพ เพียรทำ ๑๕ครู ด้านปรัชญา ศาสนา และประเพณี ภูมปิ ัญญาไทย ครูเล่าอีกว่า พระเจ้าชัยวรมัน ที่ ๗ ของขอม เวลาจะก่อสรา้ งเจดีย์หรอื อะไรกแ็ ลว้ ขอมจะไมม่ ีตัว 175 ดงิ่ วดั ความเทยี่ งของอาคาร แตจ่ ะใชแ้ สงอาทติ ยส์ รา้ ง เป็นประตูข้ึนมา ถ้าแสงอาทิตย์ส่องเข้ามาจะเกิดเงา ต ้ อ ง เ อ า ค ว า ม รู ้ หากหันหลงั ไปทางทศิ ตะวนั ตก หันหนา้ ไปทางตะวนั คนอื่นมาใช้ ต้อง ออกเพื่อดูพระอาทิตย์ขึน้ ถา้ ฐานและประตูเทีย่ งตรง สืบค้นเปรียบเทียบ ยอดไมม่ ีปัญหา ถา้ ฐานไมด่ ี เจดยี ก์ ็เอยี ง หาที่มา ทุกอย่าง เ ป ็ น วิ ท ย า ศ า ส ต ร ์ นี่คือ ยุคของชัยวรมัน เขาเอาแสงอาทิตย์เป็น ภ า ษ า ห ม อ ดู ก็ เ ป ็ น ตวั วดั ความเทยี่ ง คน้ ควา้ แลว้ ประกอบกบั พระอาทติ ย์ วิทยาศาสตร์ เพราะ แล้วเชอื่ มเขา้ กับช่วงเวลาจะก่อสร้าง พระอาทติ ยจ์ ะ ผ ล ค� า ท� า น า ย ส่องแสงลอดช่องประตูพอดี แต่ว่าเวลา วิ ท ย า ศ า ส ต ร ์ กั บ ดดู วง ดูฤกษ์ยาม วา่ จะขึ้นหรอื ตก นี้นะ ดาราศาสตร์ตรงกนั ต้องอย่างนี้ด ี อนั นีอ้ าศยั ดาราศาสตร์ แต่ของเราอาศัยโหราศาสตร์ดูฤดูกาล ตอนนน้ั ฤดกู าลมนั ไมเ่ ปลยี่ นแปลงเหมอื นทกุ วนั น ้ี แตก่ ่อนเข้าสรา้ งเดือนเมษากอ่ นเข้าฤดู ฝน แตท่ กุ วนั นฝ้ี นมนั เลอ่ื นมาพฤษภาแลว้ ฝน มันเปลยี่ นฤดูกาลตอนนี้ ยึดไม่ได้แลว้
๑๕ครู ครูพงษ์เทพ เพยี รทำ ด้านปรัชญา ศาสนา และประเพณี ภูมิปัญญาไทย 176 “ชัยวรมัน ก็น่าจะมาจากฮินดูแล้วมาเป็น พุทธ อิทธิพลที่สร้างอาคารเป็นของฮินดู พอสร้าง เสร็จแล้วก็รับอิทธิพลของพุทธเข้ามา ความเช่ือทางศาสนาตรง กับวิทยาศาสตร์ คือ ค�าท�านาย ยกตัวอย่าง ตอนน้ีดูหมอ หมอดูเอา วทิ ยาศาสตรไ์ ปใช้อยา่ งเช่น สมยั ก่อนวันปีใหม่ใช้เดือนธันวาคมครัง้ แรกสุด ปฏิทินทุกวันน้ีเป็นของจูเลียส ซีซ่าร์ ถ้าอ่านจูไลเดือนกรกฎาคม ถ้าอ่านภาษา อังกฤษ จูลเ่ี ปน็ ชื่อผูห้ ญงิ แตถ่ ้าอ่านภาษากรีกโรมนั อ่านว่าจไู ล กรกฎาคม เอามาจาก ชื่อจเู ลียส ซีซา่ ร์ ออกสั เปน็ ลูกเลี้ยงของออกสุ ตสุ อยากเป็นใหญเ่ ลยฆ่าพ่อ แล้วกเ็ ลยใช้ ออกสั เดือนสิงหา มาจากออกุสตุส เพราะฉะนนั้ ปฏทิ นิ ของเดอื นมกราคมกบั ของเดอื นธนั วาคมมนั อยคู่ นละโซน เพราะ พวกนดี้ วงอาทติ ยข์ นึ้ ชา้ กวา่ เรา พวกนเ้ี ลยเอาเดอื นมกราคม ผลการทา� นายคอื เดอื นเดยี วกนั แล้วเล่าตอ่ กันมา”
ครูพงษเ์ ทพ เพยี รทำ ๑๕ครู ด้านปรัชญา ศาสนา และประเพณี ภมู ปิ ญั ญาไทย 177 พ่อแม่บอกปีเกิดผิด ดวงก็ผิดด้วยแต่ลายมือ เหมอื นกบั ดวงแผนท่ี ดาวจะเปลย่ี นไมไ่ ด้ โกหกไมไ่ ด้ ครูขยายความว่า แล้วท่นี ้ใี ครเกดิ เดอื นธันวาคมใหเ้ ปน็ เลข ๑ แล้ว เกดิ วนั อาทติ ยก์ เ็ ปน็ เลข ๑ เกดิ วนั เสารใ์ หเ้ ปน็ เลข ๗ อนั นเี้ อาโหราศาสตร์ กบั วทิ ยาศาสตรม์ าใสก่ นั แลว้ นะ ออกมาแลว้ ถา้ คนไหนเกดิ วนั อาทติ ยน์ ะ เดอื นธนั วา จะตรงกบั เดอื นเจด็ มิถนุ ายน ดวงจะเป็นอยา่ งนี ้ เลข ๙ คอื ดาวพระเกศ เลข ๕ คือ ดาวพฤหสั นับตามนิว้ องั คาร คอื วันแขง็ อยา่ ง ๑๑ ก ็ คอื รอ้ นใจพระอาทิตย์สองดวง ใครมีตวั น้ีจะ ทา� งานราชการไมไ่ ดม้ นั จะรอ้ น อนั นต้ี คี วามออกมาแลว้ นะ เลข ๑๔ เปน็ นักวิชาการ พูดตรงไปตรงมาเหมือนผม ๖ ๑๒ อนั นี ้ ๔ ๕ ๖ ๕ ๑๒ เลข ๑๗ อนั นบี้ ญุ เกา่ ๑๗ เปน็ พทุ ธราห ู อนั นเี้ ขาวา่ ปดิ ทองหลงั พระ เพราะดา้ นน้ีดา้ นมืด ๑๔๒๐ ผู้ใหญช่ อบอนั นี้เรียกวา่ เร่ิมต้นดี กลางเสยี แล้วกลบั มาดีปลาย ดไู ลอ่ ยา่ งน้ีแลว้ ก็รจู้ กั คนเลยครับ แลว้ เอาดวงคนนี้ สรุปออกมาแล้วมาดูลายมือว่ามันตรงกับลายมือไหม เพราะว่าบางคน พ่อแม่บอกปีเกิดผิด ดวงก็ผิดด้วยแต่หลักฐานลายมือน้ี เหมือนกับดวง แผนทดี่ าวมันจะเปล่ยี นไม่ได้ โกหกไม่ไดเ้ ลย เพราะฉะนั้น เวลาฝร่ังมาดูหมอต้องแปลงดวงเขามาเป็นของไทย มันห่างกันก่ีช่ัวโมง ไม่งั้นทายผิด อย่างเกิน ๒๔ นาฬิกา ๐๑ นะครับ วนิ าทีเดียวเปน็ วันใหมแ่ ล้ว นบั เป็นวันใหมด่ วงคนก็จะเปล่ยี นทันที ไม่ไดเ้ รียน แต่ซอื้ หนังสอื มาอ่าน และไปถามพระดว้ ย ด้วยความที่ เรยี นดาราศาสตรเ์ ปน็ ทนุ เดมิ อยแู่ ลว้ มนั ถงึ เชอื่ มหากนั เมอ่ื ไดค้ วามรกู้ าร เชือ่ มโยง อย่างชาวบา้ นเขาความรู้ต�า่ กจ็ ริงแต่เราต้องฟังเขาเพราะเขามี ประสบการณ์ ศกึ ษาตรงนี้ มนั รูว้ า่ บ้านเมืองมนั แปรผันอย่างไร การตั้ง บ้านเมอื งเปน็ ยงั ไง เช่ือได้
๑๕ครู ครพู งษเ์ ทพ เพียรทำ ดา้ นปรชั ญา ศาสนา และประเพณี ภมู ปิ ัญญาไทย 178 “อยา่ งเชน่ กรุงรัตนโกสินทร์ ๒๓๒๕ เลข คือ ห้องพระ เราอยู่หัวเตียงนอน แล้วทุกวัน อะไรกไ็ ด้ ๑๘ ๒๗ เปน็ เลขไมด่ ที ง้ั นนั้ ๒ + ๕ ได้ นี้อธิษฐานทุกวัน แม่บ้านเราเป็นมะเร็งก็แผ่ ๗ ๒ + ๓ ได้ ๕ รวมกันเป็น ๕๗ รวมกนั แล้ว เมตตาใหท้ ุกวนั พาไปทา� บุญ แฟนเราก็ยงั รอด เป็น ๑๒ นี่ เลขราหู ๑๒ กค็ อื ๒๑ อนั เดียวกนั เพราะง้ันเวลาเราท�างานให้วัด เราจะไม่ คือต้ังบ้านเมือง พ.ศ.นี้คือ ร้อน ร.๑ ร้อนซิ เอาเอกสารของวัดเลย เราจะเอาเอกสารของ สงครามเก้าทัพด้วย เพราะง้ันเลข ๑ คือ เลข เรา เวลามงี านก็ทา� แผ่นพับเอง ไม่ตอ้ งรบกวน ร้อนไง ดวงอาทิตย์” วดั เราไมไ่ ด้ทา� บญุ แบบใสต่ ้บู ริจาคแตท่ �าแบบ เม่ือถามครูถึงการแบบอย่างของคนที่ใช้ นกี้ ถ็ ือว่าบริจาค อันนค้ี วามเชอ่ื แต่ตวั เองก็มี คณุ ธรรมด�าเนินชีวติ ครบู อก คณุ ธรรมเดย๋ี วนี้ ขอ้ เสยี คอื พดู ตรงเกนิ ไป ขวานผา่ ซาก เราเรยี น เรม่ิ ต้นปฏบิ ตั ิกับคณุ พ่อแม่ เชือ่ ฟังพอ่ แม่ ต้อง ฟสิ กิ ส์มา ถูกกถ็ กู ผดิ กค็ ือผดิ อุปการะเลี้ยงดูพ่อแม่ แล้วต่อยอดไปสู่สังคม คุยมาทั้งหมดนั้น ครูเน้นเร่ืองการศึกษา คอื มเี มตตามคี วามเออื้ เฟอ้ื ชว่ ยเหลอื เกอ้ื กลู กนั ค้นคว้าปูมพื้นถิ่น ประเพณี วัฒนธรรม ตอ้ งทา� บญุ เราคนไทยโดยเฉพาะคนภาคอสี าน พ้ืนถิ่น ปูมการตั้งถ่ินฐานตาม มคี วามเช่ืออยา่ งหน่ึง คือ ต้องทา� บุญท่วี ัด แต่ เอกสารโบราณและสบื เสาะจาก เราทา� บญุ ใหก้ ับเด็กทยี่ ากจน คนเฒ่าคนแก่ กลายเป็นองค์ น่ีเป็นเร่ืองจริงเคยให้เงินเด็กสิบบาท พอ ความร ู้ ในอกี มมุ หนงึ่ ทตี่ อ้ งอยู่ มนั โตทา� งานตงั้ ตวั ได ้ มนั จะมาหาเรา ซอ้ื นนั่ ซอื้ คกู่ นั ไปแยกกนั ลา� บาก เพราะ นม่ี ามอบใหเ้ รา “อาจารยใ์ หเ้ งนิ ผมสบิ บาท ผม เปน็ คณุ คา่ มรดกของชมุ ชนของ ไมเ่ คยลมื เพราะผมไมม่ ขี า้ วกิน พ่อแม่ผมหยา่ ประเทศชาติเช่นเดียวกนั ร้าง” นนั่ คอื คา� พดู ของอดตี เดก็ คนน้ัน ตรงนี้ ครูเน้นเร่อื งการศกึ ษาคน้ คว้าปูมพ้นื ถ่นิ ประเพณี วฒั นธรรม พนื้ ถิ่น ปูมการตง้ั ถน่ิ ฐานตามเอกสารโบราณและสืบเสาะจาก คนเฒา่ คนแก่ กลายเป็นองค์ความรู้ ในอกี มมุ หน่ึงทตี่ ้องอยูค่ ู่ กันไปแยกกันล�าบาก เพราะเป็นคุณค่ามรดกของชุมชนของ ประเทศชาตเิ ชน่ เดียวกัน
ครูพงษเ์ ทพ เพียรทำ ๑๕ครู ด้านปรชั ญา ศาสนา และประเพณี ภมู ปิ ัญญาไทย 179 ปตู่ าหา้ มจบั กนิ ทา� ลายสตั วพ์ าหนะ ของท่าน คือ ลิงและเต่า ถ้าท�า อนั ตราย จะต้องมีอันเป็นไป เร่ืองน้ีครูบอกว่าที่ผ่านมา ก็คือตรงพระ สังกัจจายน์ (ครูพาออกไปสัมผัสพ้ืนท่ีในเวลา ตอ่ มา) เราศกึ ษาปา่ ปา่ ตวั นถ้ี ูกบุกรกุ ปรากฏ ว่า ต้องท�าอะไรสักอย่างเพ่ือเป็นที่ยึดเหน่ียว จิตใจ ไม่ให้คนไปท�าลายป่า แล้วให้คนเข้ามา เพียงใหม้ าแค่หาฟืน หาของปา่ บา้ ง “สมัยขอมจะเป็นเมืองร้างมาแล้ว นาน เท่าไรไม่ทราบได้ สภาพท่ีเห็นมาจากปู่ย่า ตาทวดหลายชัว่ อายคุ น ดงเมอื งเตยมปี ่าไมข้ ้นึ สูง ขา้ งลา่ งโปรง่ มีหมู่ไมเ้ ล็กๆ ข้ึนบ้าง ตน้ ไม้ ใหญ่ ไดแ้ ก่ ไมย้ าง ไมต้ ะแบก ไม้ยางเหียง เปน็ ปา่ หนาแนน่ มาก พวกพอ่ แมป่ ยู่ า่ ตายายไมก่ ลา้ ตัดต้นไม้ในดงนี้ บริเวณดงเป็นหนองน้�าขนาด ลกึ นา้� ขังตลอดปี ได้ช่ือวา่ มีเตา่ มากทส่ี ดุ เหตทุ ่ี มเี ตา่ มากเชน่ น้ี ชาวบา้ นนบั ถอื ผปี ตู่ า ปตู่ าหา้ ม จบั กนิ ท�าลายสตั ว์พาหนะของท่าน คอื ลิงและ เต่า ถ้าเกดิ ท�าอนั ตรายข้นึ มา จะตอ้ งมอี ันเป็น ไป” ครชู ้ีให้ดูบรเิ วณรอบ ๆ มนั มีลงิ อยนู่ ะ เราเรียกว่า ปา่ ดงลงิ ถ้าเราอนุรกั ษล์ งิ เรากต็ ้อง อนรุ กั ษป์ า่ ถา้ เราตดั ไมท้ า� ลายปา่ ลงิ กอ็ ยไู่ มไ่ ดเ้ พราะมนั เออื้ ตอ่ กนั แลว้ ป่าเป็นโอโซนของชาวบา้ น เปน็ แหล่งอาหาร จงึ ได้รว่ มกนั สร้างส�านกึ ใหช้ าวชมุ ชนเหน็ คณุ คา่ ปา่ เกดิ ความรกั ความหวงแหนปา่ ยา�้ กบั ทกุ คน อยา่ ตดั ไม้ทา� ลายปา่ กม็ าเจาะลึกถึงพันธุ์ไม ้ อนั นีล้ ิงกินไดแ้ ต่ใบ อนั น้ี กนิ ไดท้ ้ังไม้และใบ อนั นีก้ นิ ผล อันนใ้ี หเ้ ฉพาะรม่ เงาหลบฝน มันกินไม่ ได้สักอย่าง
๑๕ครู ครูพงษ์เทพ เพยี รทำ ดา้ นปรัชญา ศาสนา และประเพณี ภมู ปิ ัญญาไทย 180 อย่างเช่น ต้นยาง สุดท้ายเราก็บวช\\ “ก็มีลักษณะหน่วยอาสาพัฒนาหมู่บ้าน ต้นไม้ เพราะฉะน้ันเราก็เลยคิดสร้างสวน ก็มีท�าบุญหมู่บ้าน ห้ามตัดไม้ ท�าลายสัตว์ใน เฉลิมพระเกียรตดิ ้วย ๗๒ พรรษาราชิน ี และก็ วันนั้น ในประเพณีวัฒนธรรมของเราบอกว่า ๗๒ พรรษามหาราชของในหลวง รชั กาลท ี่ ๙ มี ใครตดั ไม้ทา� ร้ายสตั วใ์ นวนั นน้ั ขอให้บาป ได้ ๒ ท ่ี อนรุ กั ษป์ า่ ไปในตวั แลว้ ทน่ี มี้ นั จะมแี หลง่ นา้� เขียนไว้เรียบร้อย พรรณนาป่ามีเด็กเขียนเพิ่ม สุดท้ายก็กลายเป็นแหล่งท่องเท่ียวเชิง ให้ เอกสารเหล่าน้ีมีไว้เพื่อเผยแพร่ ทุนตัวเอง อนุรักษ์ เพราะฉะนัน้ เลยมนี ักวิชาการพาไปว่า เปน็ หนส้ี หกรณอ์ อมทรพั ยค์ รแู ลว้ กข็ อการทอ่ ง มาดตู รงนี้กไ็ ด ้ ๔ อย่างคือ ไดป้ ่าไม้ ไดล้ งิ ได้ เทย่ี วแหง่ ประเทศไทยมาดสู ง่ิ เหลา่ นท้ี ง้ั หมด ขอ โบราณวัตถุ ใบเสมา ไหโบราณ สุดท้ายก็เกิด งบสองแสนตอนนี้อยู่ระหวา่ งนา� เสนอ” มูลคา่ เพม่ิ ลองถามครวู า่ มองตวั เองออกมย้ั วา่ สกศ. มายกยอ่ งจดุ เดน่ ในความเปน็ ครภู มู ปิ ญั ญาไทย คืออะไร “ผมมองตวั เองนะ คอื เอาความรสู้ องสว่ น คือฝา่ ยโลกธรรม วทิ ยาศาสตร์ โหราศาสตรม์ า เชื่อมโยงด้วยกัน หรือฟิสิกส์กับสังคมศึกษา และก็ภาษาไทย เอาผลการทา� นาย พระจันทร์ ใหค้ วามสวา่ งนวลไสว แตอ่ าศยั แสงอาทติ ยน์ น้ั ก็คือบริวาร แต่เปรียบเทียบกับโหราศาสตร์ก็ คือ เป็นหญิงสาว พระอาทิตย์เป็นผู้ชายดุดัน โหราศาสตรต์ คี วามแบบน้ัน”
ครูพงษ์เทพ เพยี รทำ ๑๕ครู ด้านปรชั ญา ศาสนา และประเพณี ภูมปิ ัญญาไทย เหตุผลพระเจ้าชัยวรมัน สร้างโรง พยาบาลทกุ ยส่ี บิ กโิ ลเมตร ทง้ั หมดรอ้ ย 181 สองแห่งในภาคอสี าน ครกู ลวั ผไู้ ปเยอื นจะเบอ่ื ทน่ี งั่ คยุ กนั แตใ่ นบา้ น ชวน ออกไปสมั ผสั ทอ้ งถนิ่ บา้ ง ครอู ยากพาไปชมแหลง่ โบราณ สถาน ป่าชุมชน เราไปตามค�าชวน ครูพาเดินดูแล้ว อธบิ ายไปด้วยวา่ พ้ืนทน่ี ้ี คือ บา้ นกู่บ้านงิ้ว ขน้ึ ทะเบียน ปี ๒๔๗๙โดย กรมศิลปากร เป็นซากโบราณของอโรค ยาศาลา ตา� บลกู่จาน อ�าเภอค�าเข่อื นแกว้ สร้างในสมัย พระเจา้ ชัยวรมนั ที ่ ๗ ประมาณปี ๑๘๐๐ โดยประมาณ ปี ๑๘๑๙ พอปี ๑๘๒๖ กพ็ อ่ ขนุ ศรีอินทราทติ ย์กด็ ังเลย ตอนน้ันที่สุโขทัย ทางนี้เส่ือม ทางนั้นขึ้นเป็นอิทธิพล ของศาสนาฮินดูแล้วมาเปลี่ยนเป็นพุทธก็เลยวุ่นวายทั้ง ตระกลู กเ็ ลยกเ็ ลยเสอื่ มลงกอ่ นหนา้ นนั้ เปน็ ฮนิ ดหู มดเลย “ในเร่ืองท่ีเก่ียวกับการเปล่ียนแปลงศาสนา ก็คือ ลกั ษณะตรงนก้ี ค็ อื อโรคยาศาลา อโรคยา คอื ไมเ่ ปน็ โรค ศาลา คอื ศาล เปน็ ศาลากค็ อื โรงพยาบาล อโรคยาศาลา กค็ อื โรงพยาบาลนนั้ เองแลว้ ทนี่ ก้ี เ็ อามาในลกั ษณะรกั ษา คน เพราะสมยั กอ่ นนน้ั ใชห้ มอสมนุ ไพร พระเจา้ ชยั วรมนั เป็นโรคเรื้อน กลัวประชาชนจะเป็นเหมือนท่านก็เลย สนั สกฤตกเ็ ขา้ มาดว้ ย ศาสนาพทุ ธมา สรา้ งโรงพยาบาลทกุ ยสี่ บิ กโิ ลเมตร ทง้ั หมดรอ้ ยสองแหง่ พร้อมภาษาบาล”ี ในภาคอีสาน ครูบอกเลา่ กันมาเร่อื ย ๆ ความ ภาษาพ่อขุนรามไม่มีตรงน้ี แปลจากภาษาขอม สนใจอยากรู้จุดประกายให้เราไป อักษรปัลลวะมาเป็นสันสกฤต เสร็จแล้วถึงจะไปเป็น ศกึ ษา ก็มาศกึ ษาอยากจะสืบทอดใน ภาษาไทย สนั สกฤตมนั มาพรอ้ มกบั ภาษาฮนิ ดู ภาษาเดมิ ส่วนท่ีเรารู้ จากปากคนนู้นคนนี้ก็มี คอื ภาษาขอมมนั เกา่ แกอ่ ยแู่ ลว้ เขาเรยี กวา่ เขมรโบราณ หลายที่หลายแห่งเข้ามา จากที่ไม่ได้ จารกึ ดว้ ยภาษาเขมรโบราณ ทน่ี ศี้ าสนาฮนิ ดเู ขา้ มา ภาษา สนใจกเ็ ลยหนั มาสนใจ
๑๕ครู ครพู งษ์เทพ เพียรทำ ดา้ นปรัชญา ศาสนา และประเพณี ภูมปิ ญั ญาไทย 182 ครูพาเดนิ ดชู ี้ใหเ้ ห็นร่องรอยอดตี กัน ย้อน “ทง้ั ชมุ ชนและหลายหนว่ ยงานในจงั หวดั ก็ ไปนับพันปีแล้วบอกว่าจริงๆแล้วที่น่ีเคยมีพระ มาปรึกษานะ ทกุ อย่างเร่ืองของโบราณ กเ็ รียก ธาตุท่ีน้ีน่าจะเป็นท่ีอุดมสมบูรณ์เพราะถ้าคน ภาษาชาวบา้ นวา่ ครคู น้ คว้าอันนีใ้ หห้ น่อย ท�า โบราณไปอยู่ท่ีไหนแปลว่าเป็นท่ีอุดมสมบูรณ ์ อนั นใ้ี หห้ นอ่ ย ชาวบา้ นกร็ ทู้ ม่ี าของกบู่ า้ นงว้ิ จาก ก็เลยว่าวันวิสาขบูชาก็เป็นงานรวมประจ�าปี แผ่นพับท่ีมีท้ังภาษาไทย ภาษาอังกฤษ จากท่ี ทั้ง ๑๒ หมู่บ้านมาร่วมกันที่น่ี ถือว่าเป็นงาน ผมท�าแจก” ตรงจุดโบราณสถาน มีรองนายก ใหญ่ประจ�าปี คนที่มาศึกษาที่นี่ก็เพียงแต่คน อบต. นายสวา่ งพงษ ์ บญุ ตามทนั มารว่ มทกั ทาย รุ่นใหม่เล่าไป ใครจะเช่ือไม่เช่ือก็บังคับกันไม่ ช่วยย�้าความส�าคัญของครูภูมิปัญญาไทย ได ้ เราอยแู่ ตเ่ รากห็ วงแหนในสว่ นทเ่ี ราอยวู่ า่ จะ รองนายก อบต.ใหข้ อ้ มูลดว้ ยวา่ ชมุ ชนไป ทา� ยงั ไงใหเ้ จรญิ ได ้ ไหนสว่ นทตี่ นเองศกึ ษาและ ดแู ลแตเ่ ขาไมไ่ ดบ้ อกใหไ้ ปปฏสิ งั ขรณ ์ หา้ มไปยงุ่ เชญิ ชวนชาวบ้านดแู ลรกั ษา อบต.กส็ นับสนนุ เลยกเ็ ลยทา� อะไรไมไ่ ด ้ มนั ไมเ่ กดิ การตอ่ ยอด นี่ แล้วก็ยังมีคนมาศึกษาวรรณกรรมตรง คอื ระเบยี บกรมศลิ ป ์ มนั กลายเปน็ สง่ิ ไรค้ า่ คนก็ น้ี ความเช่ือเดิมมันก็ยังมีอยู่ เราบังคับเขาไม่ ไมร่ ้เู ปน็ อะไรกนั แน ่ ครภู ูมปิ ญั ญาคอื ก�าลงั ของ ได ้ ยังไงก็เป็นความเช่ือ ถือวา่ ต่างคนก็ต่างคิด แผน่ ดนิ โดยแท ้ เพราะรกั ษา สง่ เสรมิ สง่ิ ทก่ี า� ลงั ตามจรงิ แล้วในท้องที่มคี นมาดู เด็กนักเรียนมา จะหายไปใหค้ งอย ู่ มนั่ คง คอื รกั ษาฐานของชาว ศกึ ษาเรือ่ ย ๆ บ้าน ถ้าลองไม่มี ป่านน้ีเป็นอะไรไปหมดแล้ว ครบู อกกด็ มี ปี ระโยชนน์ ะ อยา่ งนอ้ ยตง้ั แต่ ความเปน็ ครภู ูมปิ ญั ญาคอื ความย่ิงใหญ่ สมัยเด็กก็ยังไม่เรียนลึกขนาดนี้ ก็ไม่ทราบว่า ตอนน้ีก�าลังเขียนของบกระทรวง ตรงนี้เป็นปราสาท เป็นโรงพยาบาลเก่าสมัย วัฒนธรรมเพ่ือลงพื้นที่ ให้ประธานที่อยู่พื้นท่ี โบราณ ก็เพ่ิงจะมาศึกษาสนใจ ตอนเด็กก็ไม่ อยูแ่ ลว้ ไดส้ านต่อดูแลตัวน้ี เพราะผมอยอู่ �าเภอ สนใจอะไร สมัยเดก็ เรียกแตด่ อนกู่บ้านงิว้ แต่ เขาอยู่แค่ต�าบลกู่จานก็ฟิกลงมาอีก เจาะลึก ไม่ร้วู ่ามายงั ไงก็ เพงิ่ จะมาทราบทหี ลงั ไปอีก ตอนนี้ขอไปแล้วแต่อนุมัติแล้ว ของบ มาพฒั นาตัวน้ี จรงิ ๆ แลว้ เดก็ สนใจ แตจ่ ะจดุ ประกายให้เขามาได้ยังไง อย่างผมท�าชมรมที่ สืบสานประเพณี วัฒนธรรม ผมก็ท�าทุกเร่ือง เป่า แคน ทา� ดว้ ยใจ ท�าแล้วไม่รวยก็ใช่ ทา� แลว้ เสยี ตงั คใ์ ช่ โดนสงั คมดา่ ใช่ ทา� ดี ๆ เขาบอกทา� ๆ ทา� ไม”ครเู น้นเสยี งจริงจัง
ครพู งษ์เทพ เพียรทำ ๑๕ครู ดา้ นปรัชญา ศาสนา และประเพณี ภูมปิ ัญญาไทย พิพิธภัณฑ์หนังประโมทยั องค์การบรหิ ารสว่ น ต�าบลโพนทนั แหล่งเรียนรู้ของชมุ ชน 183 นักทอ่ งเท่ียวมาดูไมข่ าด ชนื่ ชมแหลง่ โบราณสถาน ปา่ ดงลงิ พอหอม ปากหอมคอแลว้ ครพู าไปแห่งหนงึ่ คราวน้อี อก มาจากหมู่บ้านสถู่ นนใหญ ่ สถานทีด่ ังกลา่ วอยู่ ริมถนนเกิดจากความสามัคคีร่วมแรง ร่วมใจกันด้วยตระหนักถึงคุณค่า คือ พิพิธภัณฑ์หนังประโมทัย อันเป็นจุดแหล่งเรียนรู้ของ ชมุ ชนอกี สว่ นหน่งึ หนังประโมทัยเป็นตัวหนังที่แกะจากหนังวัว หนังควาย เช่น เรื่องรามเกียรต์ิ ท�านองเดียวกับ หนงั ใหญว่ ดั ขนอน จงั หวดั ราชบรุ ี แตห่ นงั นเี้ ปน็ ศลิ ป วัฒนธรรมของคนภาคอีสานมีอยู่เกือบทุกจังหวัด ทยี่ ังถูกสืบสานอนุรักษไ์ ว ้ โดยมกี ารฝึกคนร่นุ หนุ่ม สาวรนุ่ แลว้ รนุ่ เลา่ เพอ่ื มาเชดิ หนงั ประโมทยั ดงั กลา่ ว แสดงให้สาธารณชนท่ัวไปไดช้ ม
๑๕ครู ครพู งษ์เทพ เพยี รทำ ดา้ นปรชั ญา ศาสนา และประเพณี ภูมิปัญญาไทย 184 ครูบอกการละเล่นหนังใหญ่ประโมทัยน ี้ นอกจากจะเล่นหากันในพื้นถ่ินภาคอีสานแล้ว ยงั ไดร้ บั การวา่ จา้ งไปแสดงถน่ิ อน่ื อยโู่ ดยเฉพาะ ใน กทม.คนอีสานไปอยู่กรุงเทพฯ เยอะ คน มเี งินเขาจ้างไปสองคนื สามคนื เชน่ พระคณุ ครูบอกหนังประโมทัย ภาษากลางเรียก เจ้าที่เป็นพระดัง ๆ เหมาไปเลยก็ไปนอนอยู่ หนังบักตื้อ ส่วนใหญ่บักต้ือจะเป็นตัวตลก ทน่ี น้ั ไปแสดงสด ไปกนั ทัว่ ทีร่ อ้ ยเอด็ โคราช ตัวพระตัวนางจะเป็นตัวละครในรามเกียรต์ิ บางบวั ทอง เพราะฉะนั้นวัฒนธรรมท้องถิ่นจะผสมในตัว การเล่นต่างกันจากทางใต้ หนังใหญ่ก็ไป บกั ตอื้ ใหเ้ ปน็ ตวั ตลกแตเ่ ดนิ เรอ่ื งคอื รามเกยี รต์ิ ดมู า มันคนละอย่าง ตัวหนงั เขาใหญ่ แตห่ นัง เพราะฉะนั้นภูมิปัญญาต่าง ๆ จะมาสอด ประโมทยั ตวั เลก็ เลน่ เรอ่ื งรามเกยี รต ิ์ เลน่ เรอ่ื ง แทรกในหนงั ประเพณตี า่ ง ๆ แม้จะเล่นเรอื่ ง พญาแถน ต�านานท้องถิน่ คอื เลน่ ตามเจา้ ภาพ รามเกยี รตกิ์ จ็ ะมาแทรกตลอด มนั กเ็ ขา้ วถิ ชี วี ติ จะเป็นแบบหมอรา� ซงิ่ กไ็ ด ้ เป็นแบบดั้งเดิมพื้น ชุมชน แล้วทีน้ีบรรพบุรุษของเรามาตั้งเมือง บ้านก็ได้ สมัยใหม่ก็ได้หรือจะเอาหางเครื่อง ใหม่ ๆ มาถา่ ยทอดให้ลูกหลายผ่านตวั หนงั บกั ดนตรสี ดไปดว้ ยก็ได้ เขาปรบั ปรงุ เปล่ียนไปนดิ ตอื้ มาจากขอมบรุ รี มั ย ์ มาอยทู่ น่ี แ้ี ลว้ มาพบกบั หนึ่ง ในยโสธรมีทงั้ หมด ๖ คณะ แตเ่ ขารับงาน ชาวบ้านที่เป็นเวียงจันทน์ ก็เลยเป็นหมู่บ้าน ประจา� เหมอื นวงดนตร ี โพนทัน
ครพู งษ์เทพ เพียรทำ ๑๕ครู ด้านปรชั ญา ศาสนา และประเพณี ภมู ปิ ญั ญาไทย 185 ผมกบ็ นั ทกึ ไว้เรยี บร้อยแลว้ ปรมั ปรามีสองอัน คอื โพนทันมาอย่างไร แล้วบ่ ทันมาอย่างไร สองตัวนี้มันเพ้ียนมาเหมือนกันกับยโสธร ตอนก่อนชื่อยศโสธร แลว้ ยโสธรมสี ระอะ แตท่ กุ วนั นไ้ี มม่ สี ระอะเปน็ แบบนว้ี า่ ชว่ งพฒั นาเปน็ อยา่ งไร แต่ทีนี้มีอีกต�านานหน่ึง คือ หมู่บ้านโพน ทันไปขนหินขนทรายสร้างพระธาตุพนมกับ พระธาตุกู่จาน แต่ตรงน้ันไปไม่ทันเลยเรียกว่า บ่ทัน แล้วเพี้ยนมาเป็นโพนทัน ต�านานน้ีก็จะ ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบหนังบักตื้อ พอปี ๒๕๐๐ เอามาบรรจุอีก ผมเลย “ผมก็บันทึกไว้เรียบร้อยแล้ว ปรัมปรา วา่ ตรงนเี้ ป็นเมืองเก่า ท�าไมจอมพล ป. พิบลู มีสองอัน คอื โพนทันมาอย่างไร แลว้ บท่ ันมา สงคราม จึงสนใจ คน้ พบว่า เปน็ เมืองเก่า คน้ อย่างไร สองตัวน้ีมันเพี้ยนมาเหมือนกันกับ พบบา้ นโพนทนั เกา่ เปน็ ลกั ษณะสมยั ลาวอพยพ ยโสธร ตอนก่อนชื่อยศโสธรแลว้ ยโสธรมีสระ สมยั เจา้ อนวุ งศ ์ เวยี งจนั ทน ์ แลว้ มาเจอคนทมี่ า อะ แต่ทุกวันนี้ไม่มีสระอะเป็นแบบนี้ว่า ช่วง จากบรุ รี มั ย ์ คอื พระยาเอย่ี วชา ผสู้ รา้ งพระธาตุ พัฒนาเป็นอย่างไร โพนทนั กวา้ ง ยาว ดา้ นละ ๘ เมตร สงู ประมาณ โพนทัน พัฒนามาอย่างน้ี คือ มีกลุ่มคน ๒๓ เซนติเมตร เป็นสิ่งศักด์ิสิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง สองกลุ่ม เขมรส่วยกับลาวมาอยู่ด้วยกันแล้ว เอาไว้ มาเจอพระธาตุโพนทัน แต่พอตัดถนนเสร็จปี เดิม มีพระยาเอี่ยวตอง น�าไพร่พลเดิน ๒๔๙๓ จอมพล ป.พิบลู สงครามกเ็ ลยมาต้งั ช่ือ ทางเพื่อไปร่วมก่อสร้างองค์พระธาตุพนมได้ ถนนแจ้งสนิท ท่านก็มาเจอพระธาตุก็สังเวช มาหยุดพักแรม บริเวณบ้านโพนทัน แต่ทาง นียสถานจากอินเดียมาเก็บไว้นี่ก็ปรัมปราด้วย นนู้ ข่มี า้ มาบอกว่า “บ่ทนั ” คอื ไม่ทันแล้ว องค์ เหมือนกนั ทสี่ บื คน้ ได้บนั ทึกไว้เรียบร้อย พระธาตพุ นมไดด้ า� เนนิ การสรา้ งเสรจ็ เรยี บรอ้ ย จอมพลป.พิบูลสงคราม มาบรรจุไว้สอง แลว้ จงึ เกดิ ความเสยี ใจทไ่ี ปรว่ มสรา้ งไมท่ นั พา ครั้ง คือ คร้ังที่ในหลวง รัชกาลท่ี ๙ เสด็จ ไพรพ่ ลทไ่ี ปตง้ั ถนิ่ ฐานอยทู่ างทศิ ตะวนั ออกของ พระราชด�าเนินมาบรรจุไว้ที่บ้านสงเปือย หนองสนม และตัง้ ชื่อว่า “บา้ นพลทัน” ต่อมา อา� เภอคา� เขอ่ื นแกว้ เปลีย่ นช่ือเป็น “โพนทัน” ป ี ๒๔๒๖
๑๕ครู ครูพงษ์เทพ เพยี รทำ ดา้ นปรชั ญา ศาสนา และประเพณี ภูมิปญั ญาไทย 186 สุดท้ายก่อนลาจาก รู้สึกได้ถึง ความเหงา เมื่อตะวันจวนลับท่ี ปลายฟ้า ครูพงษ์เทพ ได้น�าไปชมพิพิธภัณฑ์หนัง การละเล่น ครูบอกว่า จะใช้ดนตรีพื้น ประโมทัย บ้านโพนทัน จัดสร้างข้ึนโดย บ้านหมอล�าเข้าไปประกอบการแสดงเพ่ือให้ องค์การบริหารส่วนต�าบลโพนทัน เม่ือป ี สอดคล้องกลมกลืนกับค่านิยมของคนอีสาน ๒๕๕๑ เพ่ือเป็นสถานที่รวบรวมองค์ความรู้ ให้ความบันเทิงและสอดแทรกความรู้ต่าง ๆ ด้านศิลปะและเปน็ สถานท่แี สดงพื้นบ้าน หนงั เป็นการแสดงหุ่นเชิดเล่นแสงเงาที่มีเสน่ห์ ประโมทัย หรอื หนังบกั ต้ือ มีลกั ษณะเหมือน เฉพาะตวั เพราะเลน่ และพากยเ์ สยี งดว้ ยภาษา กับหนังตะลงุ ของภาคใต้ หรอื จะเรียกว่า หนัง อีสาน แถมมีกลอนล�าท่ีแฝงปรัชญาแนวคิด ตะลุงอสี าน แบบอีสานไว้มากมาย รวมไปถึงส่งเสริมสนับสนุนอนุรักษ์ เรื่องท่ีนิยมเล่น ส่วนใหญ่จะเล่นเร่ือง ประเพณี เป็นแหล่งเรียนรู้ทางวัฒนธรรมท้อง รามเกียรติ ์ และ เร่อื งสนิ ไซ (สงั ข์ศลิ ปไ์ ชย) แต่ ถ่ิน ปลูกจิตส�านึกให้เด็กเยาวชน ตลอดจน ยงั มีนิทานพนื้ บา้ นสนกุ ๆ และใหข้ อ้ คิดกับคน ประชาชนในท้องถิ่น เกิดความภาคภูมิใจ ท่ี ดู ท่เี คยไดร้ ับความนยิ มมาต้ังแตป่ ี ๒๔๖๙ แต่ ส�าคัญคือเป็นพ้ืนท่ีการแสดงหนังประโมทัย วันน้กี า� ลงั จะเลอื นหายไป เพ่อื ให้เด็กเยาวชน รุ่นลกู รนุ่ หลาน ได้สบื ทอด “ทุกเดือนจะมีเยาวชน ผู้พิพากษาระดับ มรดกการแสดงหนังประโมทัย วัฒนธรรมรุ่น ภาคเขากม็ าดู ประชุมกันภาคเชา้ ภาคบา่ ยยก ปูย่ า่ ตายาย ไมใ่ หส้ ญู หายไปดว้ ย มาดกู นั มเี ดก็ นกั เรยี นจากโรงเรยี นตา่ ง ๆ หมนุ กันเข้ามาฝึก แทบจะไม่มีวันว่าง อาคารนี้มีไว้ ประชมุ และใหเ้ ดก็ แสดงโชว์ หรอื หนว่ ยงาน นกั ท่องเทยี่ วมาดูไม่ขาดเหมอื นกนั ไป ๆ มา ๆชกั จะคบั แคบไปแล้ว”
ครูพงษเ์ ทพ เพยี รทำ ๑๕ครู ด้านปรัชญา ศาสนา และประเพณี ภูมิปญั ญาไทย 187 หนังทีใ่ ชท้ า� คอื หนงั วัว ควาย ทกุ วนั นเี้ รม่ิ เปน็ พวกโฟมดว้ ย เพราะหนงั ววั ควาย หายากก็ใช้ โฟมแทน เพราะวา่ รบกัน แขน มนั หลดุ ซอ่ มบอ่ ย คนเฒา่ คนแกท่ มี่ ฝี มี อื กย็ งั มอี ยทู่ งั้ ทา� ดว้ ย เลน่ ดว้ ย เตน้ ดว้ ย เอาหมดทกุ อยา่ งเลย” คณุ ณฐั ชนก โคตรภกั ดี นายกองคก์ ารบรหิ ารส่วนตา� บลโพนทัน คนเกง่ บอกกับเรา โดยมีครู คอยเสรมิ เตมิ เต็มอยู่ข้าง ๆ “เราคอ่ ย ๆ ด�าเนินการไปเรอ่ื ย ๆ พฒั นาใหเ้ ป็นแหลง่ ท่องเท่ยี ว และเขียนแผนเข้าจังหวัดให้ความส�าคัญ จัดงบให้ทุกปี พอคนมาดู เยอะกไ็ ดเ้ ขา้ แผนจังหวดั ชว่ งทตี่ ้งั ข้นึ ใหม่ ๆ ผมกม็ าชว่ ยเขา เนอ้ื ร้องดา� เนนิ การก็แต่ง ผญา ค�าสร้อย กลอนกม็ าจากโบราณ ปรับให้เข้ากบั เสียงดนตรีเขา และวรรณกรรมของตนจะเปน็ เซิง้ บ้ังไฟ เปน็ กลอนเซิ้ง เปน็ เรอ่ื งราว ต�านานพญาคันคาก แล้วเป็นภาษาอังกฤษด้วย รามเกียรต์ิ ยังคง เหมอื นเดิม” ครบู อก ตา� นานพญาคนั คาก ผมไปศกึ ษาจากใบลานกอ่ นจนกระทง่ั มน่ั ใจ แล้วมาเขียน สรา้ งเป็นโมเดลพญาคนั คากท่ีน่ี ต�านานตัวน้ีบอกไว้ ว่า เป็นหน่ึงในห้าร้อยชาติของพระพุทธเจ้าก่อนท่ีจะเป็นมนุษย์ เก่ยี วกบั ขอฝน นาคเปน็ ลูกนอ้ งพญาคันคาก
๑๕ครู ครูพงษ์เทพ เพยี รทำ ด้านปรชั ญา ศาสนา และประเพณี ภูมิปัญญาไทย 188 คนอีสานมักจะต้ังบ้านเรือนใกล้แม่น�้า เมื่ออยู่ใกล้แม่น�้าก็มโนภาพ ขน้ึ มาเพ่ือสอนคนหรอื ให้ปฏบิ ตั ิตามใหเ้ กรงกลวั ต่อบาป มสี องอยา่ ง คอื วถิ ชี วี ติ กบั ใหค้ นกลวั เพราะเขาเหน็ ปลาสมยั กอ่ นมนั ยาวเลยเกดิ มโนภาพ เปน็ พญานาค ไปหาปลาตวั ยาวมาไดก้ ค็ ดิ วา่ เปน็ พญานาค หาคางคกไดก้ ็ เปน็ พญาคนั คาก หาไดช้ ว่ งหนา้ ฝนพอดกี เ็ ลยเปน็ ลกั ษณะประเพณขี อฝน “ประเพณีขอฝนก็น�าเอาบั้งไฟเข้ามา ที่ใดก็ตามจะต้องมีการจุด ไฟ ท้ังตะไล พลุ อะไรกแ็ ล้วแต่กเ็ ลยววิ ฒั นาการมาเป็นบัง้ ไฟสงู ขนึ้ เปน็ โคมบ้าง ก็ท�าไปก็เร่ิมมีการแข่งขันกันอยากที่จะให้ขึ้นสูง พัฒนาขึ้นมา ประกอบกับพิธีกรรมให้มันขลัง ปรากฏว่าส่วนใหญ่ท�าแล้วสนุกสนานก็ ต้องทา� ชว่ งหนา้ ฝน เปน็ ช่วงเดอื น ๖” ครูพงษ์เทพ เพยี รทา� มาลงเอย เอาตรงน ้ี ก่อนทจี่ ะลุกขึน้ รา�่ ลากนั เมอื่ ตะวันเรมิ่ คล้อยต�่า ลมหนาวจากท้องทุ่งด้านหลัง เริ่มพัดแรงเป็นช่วง ๆ ทั้งนายก องค์การบริหารส่วนต�าบลโพนทัน และครพู งษ์เทพ ขอชักรปู เปน็ ท่รี ะลกึ ร่วมกับเจา้ หน้าที่ทยี่ งั ไม่ยอมกลับเคหา ท้ังๆ ทล่ี ว่ งเลยเวลาราชการนาน แล้ว กอ่ นแยกยา้ ยจากลากนั จรงิ ๆ เราเล้ียวรถกลับไปบนถนนหลวงแผ่นดินหมายเลข ๒๓ มุ่งหน้า เข้าสู่จังหวัดอุบลราชธานีเพ่ือพักและเดินทางท�างานต่อในวันใหม่ เสียง เครื่องยนต์จากรถยังคงท�าหน้าท่ีพาเราและคณะทะยานผ่าความมืดไป ขา้ งหนา้ จนไดย้ นิ เสยี งปะทะกบั ลมหนาวรอบขา้ งอยา่ งมมิ คี วามหวนั่ ไหว เร่ืองร�วท้ังหมดน้ีเปรียบได้กับ ชุมชนท่ีเข้มแข็งอันมีร�กแก้วที่ แข็งแรง ยอ่ มไม่หว่ันไหวไปกบั กระแสโลกท่ถี �โถมเข�้ ม� เนอ่ื งจ�กมี ดลุ ยภ�พท�งปญั ญ�และคว�มรทู้ จ่ี ะอนรุ กั ษใ์ นสง่ิ ทบี่ รรพบรุ ษุ ไดส้ ร�้ ง ไวต้ อ่ ไป ทีอ่ ย่ปู จั จบุ ัน : ๑๓๒ ม.๓ ต.กู่จ�น อ.ค�ำ เขอื่ นแก้ว จ.ยโสธร ๓๕๑๑๐
ครพู งษ์เทพ เพียรทำ ๑๕ครู ดา้ นปรชั ญา ศาสนา และประเพณี ภมู ิปัญญาไทย 189 หนงั บักตื้อ หนังตะลุงอสี าน ด้วยนสิ ยั รกั การอา่ น ชอบคน้ ควา้ เห็นรอ่ งรอยคูเมือง ช้ินสว่ นสถาปัตย์ ส่งผลใหเ้ รียนรู้ประวัติถิน่ ฐานบ้านเกดิ ทั้งประวัตศิ าสตร์ โบราณคดี ร่วม กบั อบต. ชุมชน ภกิ ษุ สรา้ ง พพิ ิธภัณฑก์ ลางแจง้ กจู่ าน ทม่ี ีความเปน็ มา ตง้ั แต่ยุคพระเจา้ ชยั วรมนั ที่ ๗ ผู้บุกเบกิ อโรคยาศาลา ทุกยีส่ บิ กิโลเมตร ทง้ั พ้ืนที่อีสานที่ครอบครอง ครพู งษเ์ ทพ เพยี รทา� ครภู มู ิปญั ญาไทย รนุ่ ที่ ๔ ร่วมอนุรกั ษ์ประเพณี ทอ้ งถนิ่ ดว้ ยพพิ ธิ ภณั ฑห์ นงั ประโมทยั (หนงั บกั ตอ้ื /หนงั ตะลงุ อสี าน) แหลง่ เรียนรู้ที่ปลูกจิตส�านึกให้ภูมิใจในท้องถิ่น เรียนรู้ สืบทอดศิลปะการแสดง ท้องถิ่น หมอล�า
๑๕ครู ครพู งษ์เทพ เพยี รทำ ด้านปรัชญา ศาสนา และประเพณี ภมู ปิ ัญญาไทย 190
ครูถนอม ศิริรักษ์ ๑๕ครู ด้านโภชนาการ ภมู ิปญั ญาไทย 191 ครถู นอม ศริ ริ กั ษ์ ครภู ูมปิ ัญญาไทย ดา้ นโภชนาการ
๑๕ครู ครถู นอม ศริ ิรกั ษ์ ด้านโภชนาการ ภมู ปิ ัญญาไทย 192
ครูถนอม ศิริรักษ์ ๑๕ครู ด้านโภชนาการ ภมู ปิ ัญญาไทย ¨Ò¡ 193 จากผูช้ ่วยครูใหญ่โรงเรียนจะท้ิงพระ สเู่ สน้ ทางขา้ วยา� นา�้ บูดู เอกลกั ษณ์ทีไ่ มเ่ หมอื นท่ีใดๆ เกดิ เมอ่ื วันที่ ๑๙ มกราคม พ.ศ. ๒๔๗๐ ที่อา� เภอระโนด จงั หวดั สงขลา เปน็ บุตรของ นายสวุ รรณ ศกึ ษาธกิ ารอ�าเภอระโนด และ นางแช่ม เจรญิ กุล เคยรับราชการครูจนต�าแหนง่ สดุ ทา้ ยทลี่ าออก จากราชการ คอื ผชู้ ว่ ยครใู หญ่โรงเรยี นบา้ นจะทิง้ พระ ดว้ ยวยั ๕๕ ปี
๑๕ครู ครถู นอม ศิรริ กั ษ์ ด้านโภชนาการ ภมู ปิ ญั ญาไทย 194 วันน้ี ครูถนอม ศิริรักษ์ เข้าวัย ๙๑ ปีแล้ว แต่ยังแข็งแรง ได้รับความเคารพนับถือจาก สังคมถึงการเป็นผู้น�าสตรีตัวอย่างท่ีต่อสู้ชีวิตและ ใฝ่เรียนรู้ มีความสุขกับงานช่วยสังคม ส า ม า ร ถ เ ป ็ น แ บ บ อ ย ่ า ง ท่ี ดี ข อ ง ชาวสทิงพระ จ.สงขลา ตลอดมา จนได้รับต�าแหน่งทางสังคมจนถึง ระดับจงั หวดั มากมาย เมื่อปี ๒๔๗๐ บิดาย้ายมา ดา� รงตา� แหนง่ ศกึ ษาธกิ ารอา� เภอ สทงิ พระ จงึ เขา้ เรยี นชน้ั ประถม ที่โรงเรียนบ้านจะท้ิงพระ จน จบชนั้ ประถมปที ี่ ๔ มารดาเสยี ชีวิต จึงไปอาศัยอยู่กับคุณป้า ทีจ่ งั หวดั พทั ลุง คือ ครอบครวั ของคุณลุงปล้อง และคุณป้า เจมิ รัตนากร (บดิ า - มารดา คุณหมอประสพ รตั นากร) เรียนหนังสือชั้นมัธยมปี ท่ ี ๑ ทโี่ รงเรียนสตรีพทั ลงุ และ เมอื่ ครอบครวั รตั นากรยา้ ยไปรบั ราชการทจี่ งั หวดั ปตั ตาน ี จงึ ยา้ ย ไปเรียนต่อท่ีโรงเรียนสตรีเดชะ ปตั ตนกุ ูล
ครูถนอม ศิริรักษ์ ๑๕ครู ด้านโภชนาการ ภมู ปิ ัญญาไทย เมื่อคุณลุงเกษียณราชการ จึงย้ายมาอาศัยอยู่กับอา ทอี่ า� เภอเมอื งสงขลา เรยี นตอ่ ทโ่ี รงเรยี นวรนารเี ฉลมิ สงขลา 195 จนจบชั้นมัธยมปีท่ี ๖ ตอนเรียนช้ันมัธยมฯต้องโยกย้ายท่ี เรียน ๒ - ๓ ครัง้ และตอ้ งอาศัยอยูก่ ับญาติตลอดจนเรียน จบ การเดนิ ทางไปโรงเรยี นตอ้ งเดนิ เทา้ กลบั มาบา้ นแลว้ ชว่ ย งานบา้ น และใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยดั วนั ละ ๒๕ สตางค ์ คณุ พอ่ จา่ ยใหเ้ ดอื นละ ๑๕ บาท เปน็ คา่ ใชจ้ า่ ยทกุ อยา่ ง ทงั้ สมดุ ดินสอ หนังสอื เรียน และอุปกรณ์ต่างๆ เรียนจบเม่ือปี ๒๔๘๗ ก็เข้ารับราชการเป็นครูที่ โรงเรยี นบา้ นจะทง้ิ พระ อา� เภอสทงิ พระ ระหวา่ งทส่ี อนเดก็ อย่ทู ่ีโรงเรยี นประชาบาล มแี ม่คา้ ขายอาหารกลางวัน ขาย ขนมจนี ขา้ วยา� ขนมพน้ื เมอื ง ดนู า่ กนิ นา่ อรอ่ ย จงึ เปน็ ทมี่ า ของแรงบันดาลใจ ท�านา้� บูดู ชว่ งน้นั มเี พ่ือนครูเขา้ ไปกรงุ เทพฯ กลับ มากเ็ ลา่ ใหฟ้ งั วา่ “ฉนั ไปกรงุ เทพฯ ทา่ นเจา้ คณุ วดั บรู ณะศิริ กรงุ เทพฯ ที่บวชใหท้ า� ข้าวย�าให้ ท่านฉัน” ครูก็ถามว่า “น้องเอาอะไรท�า กรุงเทพฯ หาเคร่ืองและน้�าปรุงอย่างทางใต้ ไมไ่ ด้งา่ ยๆ” ได้รับค�าตอบว่า “กเ็ อากะปิ กุ้ง ทา� นา�้ บดู ขู า้ วย�า ถวายให้ท่านได้ฉัน”
๑๕ครู ครูถนอม ศริ ิรกั ษ์ ด้านโภชนาการ ภมู ปิ ัญญาไทย 196 ตอนหลงั แมก่ ็คิดวา่ ข่า ตะไคร้ หอม กระเทยี ม พวกน้ีมันกนิ ได้ตักท้งิ ท�าไม จึงคดิ ขน้ึ เองอกี ดว้ ยการห่ันแล้วกโ็ ขกกบั ครกใหญแ่ ล้วก็ใสไ่ ปเค่ยี ว โขกแบบ เครือ่ งแกงก็รสู้ ึกมนั อรอ่ ยพเิ ศษขึน้ มาทันที จึงทา� ให้ครถู นอม ศริ ริ กั ษ ์ ฉุกคิดว่า นา่ จะท�าข้าวย�า ขายเปน็ รายไดเ้ สรมิ หลังจากเลกิ งานโรงเรยี น เพยี งแต่ยงั ไม่มีความรู้ด้านการปรุงอาหาร มิหน�าซ�้าเป็นคนก�าพร้า แม่ แม่ตายตั้งแต่อายุ ๘ ขวบ อาหารน่ีไม่รจู้ กั ทา� ทุกอย่าง มีพี่เล้ียงจัดการให้ไปเรียนหนังสือ จึงไปศึกษากับคุณป้า นว่ ม กลัดวิภาค ผู้เป็นญาติ ไดแ้ นะน�าให้เอา “จิ้งจงั คลงุ้ ” เป็นการน�าปลาทะเลตัวเล็กๆเช่น ปลาไส้ตัน ปลาหลัง เขียว ปลาลูกเมละ มาหมกั กบั เกลือ เป็นอาหารพนื้ บา้ น บนคาบสมุทรสทิงพระอีกอย่างหนึ่ง ท่ีคุณป้าน่วมท�าเอา ไว้มาท�า “น้า� บดู ขู ้าวยา� ” เพอ่ื ขายในตลาดของหมู่บ้าน แต่เมื่อมีใจที่จะท�าแล้วก็ลองท�าข้าวย�าไปขายด้วย การ หงุ ขา้ วกบั ฟนื เตรียมข้าวสารใส่หมอ้ ไป เตรียมไม้ ฟนื ไฟอะไรทกุ อยา่ ง แลว้ กเ็ ครอ่ื งตา่ ง ๆ ในหาบ มผี า้ เชด็ มอื มีดหั่นผัก ช้อนตักข้าว ทกุ อยา่ งเตรียมให้เสร็จ ไมใ่ ห้ ใครหยบิ ออกเดยี๋ วลมื ไปขายตรงสถานตี า� รวจเกา่ ตรงตน้ ยางนาใหญ่ ๆ ขายใหแ้ มค่ า้ จากทะเลสาปมาขายปลาน่ัง แบกะดนิ กอ่ นไปโรงเรียน
ครูถนอม ศิริรักษ์ ๑๕ครู ด้านโภชนาการ ภมู ิปัญญาไทย 197 ตอนเท่ียงกลับมาจากโรงเรียน ลูกสาวไม่กินนมกระป๋อง กินแต่นมแม่ มีลูกชายก็กินนมแม่ ลูก ๕ คน กินนม กระปอ๋ ง ๓ คน กินนมแม ่ ๒ คน ตอน เชา้ ไปโรงเรยี น ใหล้ กู กนิ นมเสรจ็ กฝ็ ากให้ ยายท่ีเป็นลุงป้าเขาไม่มีลูกช่วยเล้ียง พอ ให้ลูกกินนมแล้วก็ไปพอกลับมาโรงเรียน ถึงตอนเทีย่ ง รบี กลับมา ลา้ งข้าวสาร หุง ข้าวสาร ไม่เอาลูกน่ะ ก่อไฟ หงุ ข้าวเสรจ็ กม็ าล้างมือให้ลกู กนิ นม พอสกั พกั ขา้ วกเ็ รม่ิ สกุ เอาไมฟ้ นื เขย่ี ไว ้ แมก่ ใ็ หล้ กู กนิ นม แมก่ ก็ นิ ขา้ วเทย่ี ง กอ่ นจะไปกใ็ หล้ กู กนิ นมอกี รอบหนง่ึ พอตอนเยน็ กลบั มาถงึ กใ็ หล้ กู กนิ นม คดขา้ ว ใส่หม้อแลว้ ก็รบี ไปเพราะอน่ื ๆ พร้อมหมดแลว้ ขายจานละ ๑๐ สตางค ์ ต่อมา จานละ ๒๕ สตางค ์ เดี๋ยวนี้จานละ ๒๐ บาท แรก ๆ กวา่ จะไดท้ า� บูดูน�้ายา� ที่ทางใตเ้ รยี กวา่ นา�้ เคยขา้ วย�า เมือ่ ก่อนเขา ก็ทบุ ข่า ตะไคร้ ใบมะกรดู พวกเน้ียใสเ่ คยี่ วกับน้า� ตาลแล้วก็ตกั ท้งิ ตอนหลงั แม่ กค็ ิดว่า ข่า ตะไคร้ หอม กระเทียม พวกนีม้ ันกนิ ได้ตกั ทง้ิ ทา� ไม จึงคดิ ขน้ึ เองอกี ดว้ ยการหน่ั แลว้ กโ็ ขกกบั ครกใหญแ่ ลว้ กใ็ สไ่ ปเคยี่ ว โขกแบบเครอ่ื งแกงกร็ สู้ กึ มนั อร่อยพิเศษข้นึ มาทันที
๑๕ครู ครูถนอม ศริ ิรักษ์ ด้านโภชนาการ ภมู ปิ ญั ญาไทย 198 ปกตนิ �้ำขำ้ วยำ� ทว่ั ไป จะเอำใบมะกรดู ข่ำ แทนทจ่ี ะไดพ้ กั ผอ่ นแบบสบำยๆ เนอื่ งจำกเปน็ หอม มะขำมเปียก ใส่เป็นช้ินเพื่อให้สมุนไพร คนท่ีมีควำมสุขกับกำรท�ำงำนและมีควำมสุข เหล่ำน้ันได้ปรุงรส เปร้ียว หวำน มัน เค็ม กับกำรช่วยเหลือผู้อ่ืนและสังคม ด้วยบุคลิก แต่ของครูถนอมต้องต�ำให้ละเอียด สมุนไพร กำรเป็นผู้น�ำ และได้รับรู้กำรท�ำงำนเป็นกลุ่ม ทั้งหมดจึงเป็นเนื้อเดียวกันหมดน้�ำ ไม่ใช่ จำกกำรอบรมของหน่วยรำชกำร ในปี ๒๕๒๗ สมุนไพรเป็นชิ้น ๆ ขำ้ วย�ำก็เลยขน้ จึงเปน็ อัต จึงได้ริเริ่มชักชวนสมำชิกในชุมชนจัดตั้งกลุ่ม ลักษณ์ของน�้ำเคยที่น่ี ตัวข้ำวย�ำจะอร่อยไม่ ต่ำง ๆ ขึ้นมำกมำย และ เป็นที่ยอมรับ ได้ อร่อยอย่ทู ี่นำ้� เคย รับต�ำแหน่งทำงสังคมทั้งระดับหมู่บ้ำน ต�ำบล แตก่ อ่ นจะทุบๆ บุบๆ แลว้ ใส่หมอ้ เพ่อื เอำ อ�ำเภอ จังหวัด และระดับประเทศ มำกมำย กลน่ิ อะไรออกมำ เรำปน่ั เหมอื นเครอ่ื งแกง สตู ร หลำยตำ� แหน่ง ขำ้ วย�ำกอ็ ีกตวั หนึ่ง สตู รน้�ำบดู กู ็อกี ตัวหนึง่ อตั ลกั ษณข์ องแตล่ ะเจำ้ ไมเ่ หมอื นกนั นำ�้ บดู ขู ำ้ วยำ� จะมีอัตลกั ษณ์ของตัวเอง คอื กินแลว้ อร่อย ไม่ เป็นพษิ เป็นภยั ติดใจซื้อติดไมต้ ดิ มือไปฝำก เมอื่ ท�ำงำนสักพัก จงึ ศึกษำเลำ่ เรียน สอบปรับ วิทยฐำนะดว้ ยตนเองมำตลอด ตง้ั แต่หลักสตู ร ครูมูล พ.ครู พป. ครูพม. ครูตรี ครูโท และ ลำออกจำกรำชกำรในต�ำแหน่งผู้ช่วยครูใหญ่ โรงเรียนบ้ำนจะท้ิงพระ ด้วยวัย ๕๕ ปี เมื่อ ปี ๒๕๒๐ เน่ืองจำกกำรขอร้องของบุตรคนที่ ๓ เพ่ือให้แม่ได้มีเวลำพักผ่อนหลังจำกตนเอง เรียนจบ เมอ่ื ลำออก ทำ� ใหค้ รถู นอม มเี วลำวำ่ งชว่ ย งำนบำ้ น ชว่ ยงำนญำต ิ และงำนสงั คมมำกขน้ึ
ครูถนอม ศิริรักษ์ ๑๕ครู ด้านโภชนาการ ภมู ิปัญญาไทย 199 ภมู ิปญั ญานา้� บูดู ปรงุ รสใหไ้ มเ่ คม็ จัด ใสน่ ้�าตาลโตนด หรอื เปลือก สับปะรด ถ้ามมี ะกรดู ก็ใสม่ ะกรูดเพื่อดับกล่ินคาว ใส่ต้งั แต่ เริ่มหมกั สตู รนีท้ อี่ ืน่ ไม่มี เปน็ นวตั กรรมของทน่ี ่ี นายไพฑรู ย ์ ศริ ริ กั ษ ์ ลกู ชายคนท ่ี ๓ ของ ครถู นอม อดตี อาจารย ์ ศนู ยพ์ ฒั นาอาชพี จ.สงขลา “ศรเี กยี รตพิ ฒั น”์ กศน.เออร่มี าหลายปีแลว้ ไดก้ ลายเปน็ ก�าลงั สา� คญั ของครถู นอมผเู้ ปน็ แมน่ งั่ อยขู่ า้ ง ๆ ชว่ ยอธบิ ายวา่ เขามีท�ากันมาอยู่แล้ว แต่แม่เอามา ต่อยอด ต่อยอดให้สตู รมนั อร่อยขึน้ ของโบราณเขามีอย่แู ลว้ แตเ่ รามา ปรงุ รสใหไ้ ม่เคม็ จดั “เขามีท�ากันมาอยู่แล้ว แต่แม่เอา มาต่อยอด ต่อยอดให้สูตรมันอร่อยข้ึน ของโบราณเขามีอยู่แล้ว แต่เรามาปรุง รสใหไ้ ม่เค็มจัด เชน่ ใส่น้า� ตาลโตนด หรอื เปลอื กสบั ปะรด ถา้ มมี ะกรดู กใ็ สม่ ะกรดู เพอื่ ดับกลิ่นคาว อันนี้ใส่ตั้งแต่เร่ิมหมัก สูตรที่อ่ืน ไมม่ ี มนั เป็นนวตั กรรมของทนี่ ี่ แลว้ สตู ร ๒ ต่อ ๕ เกลอื ๒ ปลา ๕ นี่คอื สูตร ที่ลงตวั ลองใหค้ นชมิ แล้วไปประกวดไดร้ างวลั ดว้ ย อกี อยา่ ง คอื บดู ู พอใสเ่ ครอื่ งเขา้ ไปกเ็ ปน็ บดู นู า�้ ยา� เรยี กวา่ นา�้ เคย ขา้ วยา� เรยี กว่า ๔ ใน ๑ อกี หนึ่งตวั ทเ่ี ปน็ นวัตกรรมของแม่ ที่ไมม่ ี ที่ไหนทา� กค็ ือ ซีอ้วิ ปลาทา� จากตัวน้ี”
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450