๑๕ครู ครเู ลก็ กุดวงค์แก้ว ด้านเกษตรกรรม ภูมิปัญญาไทย 300 ครูบอกยา้� ว่า ด้ังเดิม ท�านาไมใ่ ช้ปยุ๋ เคมี แต่ใช้ปยุ๋ น้า� หมัก ทีแรกเร่มิ ยงั ไมร่ เู้ ลยว่าน�า้ หมกั คอื อะไร แตม่ คี นมาบอกจงึ มาศกึ ษาในชว่ งป ี ๒๕๓๒ เชน่ ไปศกึ ษาเรอื่ งปยุ๋ ขไี้ ก ่ ขคี้ า้ งคาว คนแนะนา� เขาบอกวา่ มันด ี คา้ งคาวมันกนิ กล้วย ไก่ก็เช่นเดียวกันแล้วมนั เป็นป๋ยุ อยา่ งด ี มันเปน็ ปยุ๋ ท�าให้ผล ไมด้ ก ผลผลติ ดก แต่ถา้ ใชเ้ ฉพาะขี้วัวขคี้ วาย ท�าให้ต้นไมใ้ บงามซะมากกวา่ อดสงสยั ไมไ่ ดว้ า่ ทา� ไมคณุ ถงึ ไดม้ าศกึ ษา มนั มเี หตอุ ะไรทที่ า� ใหม้ าทา� ครบู อก เปน็ คน คบคน คบหลายคนกห็ ลายความร ู้ คบมาก ความรมู้ าก ความรอู้ ยกู่ บั คนถา้ รจู้ กั เกบ็ สมเดจ็ พระสมั มาสมั พุทธเจา้ ทรงสอนไว้วา่ คบคนพาล คนพาลพาไปหาผิด คบบัณฑิต บณั ฑิตพาไปหาผล นัน้ สา� คัญ มาก ความรู้มนั อยูก่ ับคน เป็นเรอ่ื งสา� คัญนะ ถา้ เราคบคนดีๆเรากไ็ ดค้ วามรู้ความดีจากเขา รู้จกั ค�าว่า เกษตรทฤษฎใี หม่อนั เน่อื งมาจากพระราชดา� ริมั้ย ในฐานะ เปน็ ผ้เู ชย่ี วชาญดา้ นเกษตรกรรม แล้วร้จู กั ตอนไหน ครูบอกวา่ รูจ้ กั ตอนท่อี าจารย์ยกั ษ ์ (นายวิวัฒน์ ศลั ยก�าธร) ปจั จุบนั รมช.เกษตร ตอนนัน้ เชิญไปเป็นวิทยากรแถวสระบุรี ก็ได้เติมเต็มความรู้จากคนที่ไปร่วมกิจกรรมและได้ความรู้จาก อ.ยกั ษ ์ แลว้ เรมิ่ รจู้ กั ซอื้ เปน็ กต็ อนนน้ั รจู้ กั หลกั การทา� เกษตรทฤษฎใี หมฯ่ จากการไปดู งานศนู ยศ์ กึ ษาการพฒั นาภพู านอนั เนอื่ งมาจากพระราชดา� ร ิ ทสี่ ระบรุ ี แลว้ ท ่ี อ.ยกั ษ ์ มาเชญิ ก็ไมไ่ ดร้ ู้จักกนั แตท่ า่ นคงรจู้ ักเรากระมัง
ครูเล็ก กุดวงค์แก้ว ๑๕ครู ดา้ นเกษตรกรรม ภูมิปญั ญาไทย 301 “สระบรุ มี เี บย้ี (ต้นกลา้ ) ผกั หวาน เขาขายตน้ กล้าผกั หวาน ผมกเ็ ลยซ้ือมาปลูก ปลูกมาถึง ปจั จบุ นั ผมยดึ หลกั ในหลวง รชั กาลท ี่ ๙ ทท่ี รงบอกวา่ ปลกู ทกุ อยา่ งทกี่ นิ กนิ ทกุ อยา่ งทปี่ ลกู แลว้ นั่นคือรัก รกั ต้นไมร้ ักทรัพยากรธรรมชาติ เราปลูกพืชผักผลไม้สมนุ ไพรไวก้ นิ ในครอบครัวทา� ให้ เราไม่เดอื ดร้อน เงินหลาย (เยอะ)ก็ดอี ย่ ู แต่ถา้ ใช้ประโยชนไ์ ม่เป็นกไ็ ร้ความหมาย เรอ่ื งส�าคัญคอื เร่ืองอาหาร เรื่องท้อง เรอ่ื งปาก มีคนไม่คดิ ไมเ่ ลือกกิน บางคนบอกซอ้ื กนิ กไ็ ด้อยู่ แต่วา่ ไมร่ กู้ นิ ของอะไร ยคุ หนึง่ คนท�าอาหารถุงไปขายหน้าโรงงาน คนทา� งานโรงงานไมม่ ีเวลาทา� กินก็ท�ามาขายได้ ขายอยไู่ ดป้ ระโยชน ์ แสดงวา่ คนไมม่ อี าหารกนิ นค่ี อื ปญั หาใหญ ่ ถา้ เขามอี าหารกนิ เขากไ็ มซ่ อ้ื ของ เรา แลว้ รัฐบาลทผ่ี ่านมา ขอบอกวา่ ถ้าเอาของไปขายให้หมบู่ ้านหรืออา� เภอ จังหวัดไหนจะขายด ี แปล ว่ามันเจริญ ผู้บรหิ ารประเทศเมื่อ ๕๐ - ๖๐ ปีทผ่ี า่ นมา คดิ อย่างน้นั เขาคดิ ว่าภาวะ เศรษฐกจิ เฟอ่ื งฟ ู ทจี่ รงิ ชาวบา้ นตาย มนั ดยี งั ไงกไ็ มไ่ ดก้ นิ ของตวั เอง ตอ้ งไปซอ้ื เขากนิ วนั นีก้ ็เหมอื นกัน ช็อปเพ่อื ชาต ิ ชาวบ้านตาย” ครบู อกวา่ แตก่ น็ า่ แปลกใจนะ หลกั การทา� เกษตรทคี่ นอน่ื มาศกึ ษาเรยี นร ู้ คนใน หมู่บ้านนี้ไม่ค่อยจะมาเรียนรู้มาสนใจ แต่คนท่ีอ่ืนมา ไปแนะน�าที่ไหน เขาสนใจ แล้วเอาไปลองท�าลองปรับปรุงแล้วก็ส�าเร็จ ท�าให้นึกถึงพระพุทธเจ้า คนอ่ืนอย่าง ปญั จวคั คยี ท์ งั้ ๕ กอ่ น แลว้ เขาเกดิ ดวงตาเหน็ ธรรมบรรลตุ าม แลว้ คอ่ ยมาสอนประยรู ญาต ิ หมบู่ า้ นนพ้ี ดู ยากแตค่ นอนื่ เหน็ ดว้ ยเหน็ ตาม แตก่ ไ็ มโ่ ทษใครหรอก เขาไมร่ เู้ พราะ คนสอนเขาใหท้ �าอย่างอืน่ เขาปลืม้ กับการมาหลอกให้ชาวบ้านปลูก เขารวยแตช่ าว บ้านจน
๑๕ครู ครูเล็ก กุดวงคแ์ ก้ว ด้านเกษตรกรรม ภูมิปัญญาไทย 302 “ในบ้าน มีพืชผักผลไม้เยอะ งอกงามให้ ผลผลติ ด ี เปน็ พืชผักผลไมอ้ นิ ทรยี ์ แต่ชาวบ้าน เขาไมเ่ ชอ่ื เลยทจี่ ะเอาอยา่ งไปทา� เขาลา้ งสมอง ชาวบา้ นตงั้ แตป่ ี ๒๕๐๔ ผใู้ หญล่ ตี กี ลองประชมุ เพราะเงิน เงินคืองานบันดาลสุข แต่ก่อนเค้า บอกว่า งานคือชีวิต งานคือความสุข เด๋ียวน้ี งานคอื เงนิ ” นั่นคือ ท่ีครูได้รับยกย่องให้เป็นครูภูมิปัญญาไทยใช่ หรอื ไม่ “อันน้ีไม่รู้ ผมสังเกตว่าเขาให้ปริญญาผมเรื่องพืช ราชมงคลบอกว่า วิทยาศาสตร์ ผมไม่รู้จักก็ให้ปริญญาโทมหาบัณฑิตพืชศาสตร์ ราชภัฏให้ บัณฑิตกิตติมศักดิ์ ให้เยอะแยะเหลือเกิน ไม่รู้จะให้ท�าไม รามค�าแหงแค่ ด้านการปกครอง
ครูเล็ก กุดวงค์แก้ว ๑๕ครู ด้านเกษตรกรรม ภูมปิ ัญญาไทย 303 หลายคน บอกผมพูดเก่ง มีความรู้ ท�าไมไม่สมัครผ้แู ทน ผมก็ตอบเขาวา่ จะสมคั รท�าไม ผมเปน็ ตวั จรงิ แลว้ เปน็ ตวั แทนท�าไม ไมค่ ดิ เหมอื นเขา เราเปน็ ตวั จรงิ นกั การเมอื งทกุ ระดบั คอื ตวั แทนของประชาชน ขา้ ราชการทกุ ตา� แหนง่ คอื ลูกจ้างของประเทศ ประชาชนเป็นใหญ่ในแผ่นดินต้ังแต่การปกครอง มันใหญ่ ขนาดไหนก็ยังนอ้ ยกวา่ เรา ขอเปน็ ตวั แทนเราเป็นตัวจรงิ หลายคนเตือนผม แต่ วา่ สงสารชาวบา้ น ผมไปกบั ชาวบ้านหลายแหง่ ” ท่ีท�ามาท้ังชีวิต ที่พูดให้ใครฟังเยอะแยะ ครูบอกว่า ก็มีคนเช่ืออยู่แต่ไม่ เชื่อเยอะ ที่เน้นย�้าตลอดคือตนเองไม่มีต้นทุนท�าอะไรก็ไม่มีทุน แต่ทุน คือ ทรัพยากรธรรมชาตทิ ่เี ทอื กภูพาน จะยกตัวอยา่ งให้เหน็ เสมอว่า เมด็ ผกั เมด็ ผล ไม้ก็ไปหาจากปา่ เพราะน่ันคอื ต้นทนุ อินแปง...ปลูกทุกอย่างท่ีกิน กินทุกอย่างท่ี ปลกู ถา้ อยากบอกอะไรใหไ้ ดต้ อ้ งไปศกึ ษาใจ มนั ถา้ ไม่รจู้ กั เขา จะเอาเมยี ไดอ้ ยา่ งไร อดที่จะถามครูไม่ได้ว่า อย่างนี้ก็ต้องรู้จักพืชพรรณต้นไม้ ต่างๆ เช่น ต้นนี้ชื่อนี้ ประโยชน์ใช้สอย มันเป็นอย่างไร เป็น อาหารหรอื ไม ่ เปน็ อาหารแตเ่ ปน็ ยา เรยี กวา่ รจู้ กั พนั ธกุ รรมพชื หัวใจอย่าลืมตามหลักที่ก่อเกิดกลุ่มอินแปง...ปลูกทุกอย่างท่ี กนิ กินทกุ อยา่ งท่ีปลกู “ไมร่ ทู้ กุ อยา่ งหรอก เชน่ ผกั หวานปา่ ทปี่ ลกู ไวใ้ นนาในสวน ลูกสาวปลูกในบ้านไม่ยาก มันไม่ยาก ถ้าอยากบอกอะไรให้ได ้ ต้องไปศึกษาใจมัน มันปลกู ตอนไหนเมือ่ ไหร่ น�้าขนาดไหน ลม ขนาดไหน แตล่ ะชนดิ นสิ ยั ไมเ่ หมอื นกนั มนั ถงึ ไมต่ าย ถา้ เปรยี บ อยา่ งคนหนมุ่ จบี สาว ถา้ ไมร่ จู้ กั เขา จะเอาเมยี ไดอ้ ยา่ งไร ถา้ ไมร่ ู้ จกั ไม ้ ไม้กไ็ ม่ใหญ่ เมือ่ รจู้ กั ใจมันแลว้ กป็ ลกู มนั ร้วู า่ ปลกู ฤดูไหน แลว้ กต็ อ้ งรดนา�้ ขนาดไหน สมยั นคี้ นเกง่ เยอะแลว้ อนั นเ้ี ปน็ เรอื่ ง ส�าคญั
๑๕ครู ครเู ลก็ กดุ วงค์แก้ว ดา้ นเกษตรกรรม ภูมิปญั ญาไทย 304 พืชแต่ละชนิด ท่ีเพาะกล้า มันไม่เหมือนกัน เพาะกลา้ หวาย ตน้ พะยงู ยางนา ประดู่ หลายอยา่ งมาก เพราะมโี ครงการปลกู ปา่ เขามาซอ้ื ไป ผมไปหาเกบ็ มา เวน้ แต่อันไหนมันหายาก หาอะไรง่ายเก็บเอา ลูกสาวที่อยู่ บา้ น เพาะกลา้ ปหี นงึ่ เปน็ ๑๐๐,๐๐๐ บาท แลว้ ในสวนมี ของกินมีมะมว่ งมีขนนุ เราก็กนิ เหลอื ก็ขายกล้าไม ้ ขาย ตน้ ในถงุ ด�า ถุงละ ๓ บาท” ที่ครูบอกว่า ปลูกต้นไม้ต้องรู้จักใจต้นไม ้ ในหลวง รชั กาลท ่ี ๙ สมเดจ็ พระบรมราชนิ นี าถ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราช กุมารี ทรงให้ความส�าคัญเรื่องปลูกป่า สร้าง แหล่งน�า้ มาก
ครูเล็ก กุดวงค์แก้ว ๑๕ครู ดา้ นเกษตรกรรม ภูมปิ ัญญาไทย 305 แมพ้ ระองคไ์ มพ่ ดู ตรง ๆ วา่ รจู้ กั ตน้ ไม ้ แต่ สง่ิ ทท่ี รงทา� ใหเ้ หน็ ยนื ยนั ไดว้ า่ ทรงรกั ธรรมชาติ รกั ตน้ ไม ้ หนงั สอื ของในหลวง ของ สมเดจ็ พระ เทพรัตนราชสุดาฯ ครูบอก อ่านอยู่หลายเล่ม มีหน่วยงานส่งมาให้ที่รู้จักกัน เช่น ส�านักงาน ทรพั ยส์ นิ สว่ นพระมหากษตั รยิ ์ เขาจะสง่ หนงั สอื มาให้ทุกปีกช็ อบอ่าน อันนี้เป็นเรอ่ื งส�าคญั ของ การเรียน ไม่ได้ไปเรียนในโรงเรียน ก็เรียนกับ คนทั่วไป เพราะความรู้มันอยู่กับคนท่ัวไปถ้า เรารู้จักเก็บเอาความรู้แล้วมันก็ได้ประโยชน ์ ถ้าเปรียบอย่างคนหนุ่มจีบสาว ถ้าไม่รู้ ถา้ ไมร่ จู้ กั เก็บ ไมร่ ู้จักท�า ไม่รู้จักฟงั กไ็ มไ่ ด ้ ก็ที่ จกั เขา จะเอาเมียไดอ้ ยา่ งไร ถา้ ไมร่ ู้จกั พระพุทธเจ้าทรงสอน ไม้ ไม้ก็ไม่ใหญ่ เมื่อรู้จักใจมันแล้วก็ ปลกู มนั รวู้ า่ ปลกู ฤดไู หนแลว้ กต็ อ้ งรดนา้� “ฟังด้วยดีย่อมมีปัญญา ปัญญามันอยู่ ขนาดไหน สมยั น้คี นเกง่ เยอะแล้ว อนั น้ี ไมไ่ กล” พูดถึงเร่ืองเรียนเรื่องปัญญา ครูบอกว่า มหาวิทยาลัยราชภัฏ โดยเฉพาะอธิการบดี ก็ เปน็ เรอ่ื งส�าคญั มาเยี่ยมบอ่ ย มาหลายเทยี่ ว ก็จะพูดกบั เขาว่า มากด็ ี ความจรงิ ราชภฏั เปน็ สถาบนั การศกึ ษา เพ่อื พัฒนาท้องถ่ิน เปน็ ยังไง คงไมป่ ลอ่ ยใหล้ กู หลานไมร่ ู้สา� นึก
๑๕ครู ครูเลก็ กุดวงค์แก้ว ดา้ นเกษตรกรรม ภมู ปิ ัญญาไทย 306 ท�าให้อดถามครูข้ึนมาทันทีไม่ได้ ว่า รูจ้ ักคา� วา่ พัฒนาทอ้ งถ่นิ น้ี มา ตง้ั แตเ่ มื่อไหร่ “ผมไปมหาลยั บอ่ ย ในประเทศไทยหลายแหง่ โดยเฉพาะมหาวิทยาลัยราชภฏั เป็นวทิ ยากร เหน็ เขาเขียนไว้” ครูเผลอยิ้มเม่ือพูดเร่ืองนี้แล้วบอกด้วย ว่า ความจริง ในหลวงทรงมีความเสมอภาค พระราชทานแนวทางดีงามให้ทุกคน อย่างหลัก ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงฯ แต่ไม่ค่อยมีใครท�า ตาม โดยเฉพาะนักการเมือง เขาให้เป็นตัวแทน ของประชาชนคิดค่าท�าแทน โทษทีแถวบ้านไม่รู้ จกั ฉบิ หายวายป่วง ตามหลักเกษตรทฤษฎีใหม่อันเน่ืองมาจากพระราชด�าริ ในหลวง รชั กาลท ี่ ๙ ทรงใหห้ ลักไว้วา่ หัวใจสา� คัญ คือ น้า� เพราะ น�้าคือชีวิต ครูได้รับยกย่องเป็นปราชญ์ทางเกษตรกรรม เลยอด ถามไม่ได้วา่ ขุดสระน�้ากแี่ ห่ง
ครูเลก็ กุดวงคแ์ ก้ว ๑๕ครู ด้านเกษตรกรรม ภมู ิปญั ญาไทย 307 ครูบอกสระขุดไว้อยู่ท่ีนา แต่ในบ้านใช้น�้าบาดาล สมัย โบราณทา� นาดว้ ยนา�้ ฝน วนั นก้ี ย็ งั อาศยั นา�้ ฝนอยกู่ ต็ อ้ งหาวธิ เี กบ็ นา�้ ฝนไวด้ ว้ ยการขดุ บอ่ เพอื่ ใชป้ ระโยชนใ์ นชว่ งทไี่ มใ่ ชห่ นา้ ฝน มา ถึงตรงนี้ ครบู อกวา่ แล้วมนั กจ็ ุดประกายใหเ้ กิดความคิดว่า น้า� บ่อกค็ ือ น้�าหมึก ดิน คือ กระดาษ ปากกา คือ จอบเสยี ม ตัว อกั ษร คือ พชื พรรณธญั ญาหาร “อนั นม้ี ันมาจากการกระทา� คอื ประสบการณ ์ ผมเห็นเขา วางแผนมีแผนเป็นกระดาษแล้ว ผมก็เลยว่า มันแค่กระดาษ จริงๆแล้วมันไม่เกิดผลข้ึนจริงหรอก ถ้าไม่ลงมือท�า คือ ต้องมี ดิน มีปากกา(จอบเสียม)ลงมอื เขียนเปน็ ตัวอกั ษร คอื พืชพนั ธ ุ์ แลว้ กม็ ีน้�าปลกู เต็มพื้นดิน มนั ถงึ จะเกิดผลจริง ครูเลา่ ว่า เหน็ เขาเขยี นกระดาษเป็นแผน ครูก็งงที่วา่ จะเขียนถงึ เม่ือไหร ่ กี่เดอื นมันจะเกิด ขึ้นถา้ ไม่ลงมือทา� จริง ครูไปประชุมอยู่ท่ีประเทศฟิลิปปินส์ ปี ๓๖ ไปประชุมธนาคารโลก ธนาคารพัฒนาเอเชีย เขาถามผมว่าเรียนหนงั สอื จบชน้ั ไหน บอกจบ ป. ๔ คือไดม้ าประชุมกบั เขา มลี า่ มแปลให้ ขอให้ มาก็มา ก็ร่วมคิดเหน็ วา่ ธนาคารเงินเยอะจรงิ แตจ่ ะเอาไปท�าอะไรให้เกิดผลแกป่ ากทอ้ ง แตม่ ีกก ไม้ (มีต้นไม้พืชพนั ธ)์ุ ทีต่ ้องลงมอื ปลูกก็จะไดผ้ ลเก็บกนิ ได้ อันนส้ี า� คัญ อยา่ มองข้าม ธนาคารกส็ �าคญั แต่กส็ �าคัญอกี แบบหนึง่ ทกุ คนตอ้ งมรี ะเบียบมีหนา้ ที ่ แตค่ วามจริงแล้วคน เราอยา่ มีทิฐิ แค่มองหน้าท่ีของตัวเองเป็นเร่ืองใหญ ่ กา� นันผู้ใหญบ่ ้าน สัง่ เราทา� โน่นทา� นี่ทง้ั ทีไ่ มม่ ี หนา้ ท ี่ หน้าทข่ี องตัวเองไม่รู้ รแู้ ต่ของคนอน่ื หมดเลย
๑๕ครู ครเู ลก็ กดุ วงคแ์ ก้ว ดา้ นเกษตรกรรม ภูมปิ ญั ญาไทย 308 “ผมไปเปน็ วทิ ยากรผวู้ า่ หมดประเทศไทยทช่ี ลบรุ ี เรอ่ื งพวกนเ้ี ปน็ เรอื่ งเฉพาะ กระทรวงไหน ก็ตามก็ต้องท�าตรงน้ัน มนั ต้องทา� หนา้ ทีข่ องตัวเองตอ้ งทา� มันใหด้ ี” “ผมเร่ิมให้ความส�าคัญกับชุมชนคือ ชวนเพ่ือนบ้านต้ังกลุ่มอะไร อย่างเช่น กลุ่มเยาวชน กลมุ่ ผู้ใหญ่ตา่ งๆในหมู่บา้ น ผมเป็นคนชอบสรา้ งกลมุ่ แต่ก่อนข้าราชการเหน็ วิธกี ารนี้ บอกเป็น คอมมิวนสิ ต์ ผมวา่ ผมไม่ได้เปน็ คอมมิวนิสต์ แตใ่ หช้ าวบา้ นทา� ในทางทถ่ี กู ตอ้ งไม่ ได้เป็นโทษ ผมก็จะไม่กลัว ท่ีตั้งกลุ่มเพราะมีนักศึกษาโทรมาหาผมก็มาคุยกัน แล้วกม็ าศึกษาเรือ่ งคณุ คา่ ของทอ้ งถ่ินเรา” เมื่อครูมองมรดกของบ้านคือ พวกทรัพยากรธรรมชาติ ถ้าจะบอกให้ คนร่นุ ใหม่เขาหันมาเห็นความจริง ขอ้ น้ีมันคือ ตน้ ทนุ ของชวี ิตเลยนะ ครูคิด ว่าใชว้ ิธไี หนทีจ่ ะทา� ให้เขาเหน็ ภาพและคลอ้ ยตาม ผมเปน็ คนชอบสร้างกลุ่ม แต่ก่อนข้าราชการเห็น วธิ กี ารนี้ บอกเปน็ คอมมวิ นสิ ต์ ผมวา่ ผมไมไ่ ดเ้ ปน็ คอมมวิ นสิ ต์ แตใ่ หช้ าวบา้ นทา� ในทางทถี่ กู ตอ้ งไม่ ไดเ้ ปน็ โทษ ผมกจ็ ะไมก่ ลวั
ครเู ล็ก กดุ วงค์แกว้ ๑๕ครู ด้านเกษตรกรรม ภูมปิ ญั ญาไทย 309 “ผมบอกอธิการบดีไปแล้วว่า ต้องเขียน หลักสูตรทอ้ งถนิ่ มเี ดือนนึง ๒ เดือนกม็ ี ทีเ่ รยี น ๖ เดอื นกม็ ี หนงึ่ ปกี ม็ ี เรยี งเปน็ ลา� ดบั แลว้ มนั จะ มตี ลอดป ี พชื เดอื นนงึ ม ี ผมเหน็ เขาขายพชื เดอื น หนงึ่ คอื มผี กั เสยี้ น เดอื นนงึ กข็ ายไดแ้ ลว้ ผมเคย ปลูกออกมาขาย คนไปหวังเอาพืชท่ีมันไกล บ้านไกลเมืองไกลตัวเรา เราก็กินของบ้านเรา ลกู สาวผมอยบู่ า้ นนาหมอ่ ง ปลกู หนอ่ ไมไ้ ผ่ เล้ียงขายหมดตลอดปี โทรไปแล้ว รดน้�าใส่ ปยุ๋ ปยุ๋ ขวี้ วั แบบเลย้ี งววั เอาฟางกลบแลว้ รดนา้� ออกตลอดปีขายตลอดป ี กิโลละ ๓๐ บาท ฤดู แล้งฤดูฝน ๒๐ บาทกด็ ีไมไ่ ดไ้ ปหาเงนิ ไกลแลว้ ได้กินอีกต่างหาก ไม่ได้ลงทุนเยอะก็ไปเอาต้น ต่อมาปลูกหาเงินไม่ต้องหาไกลขายอยู่ใกล้ๆ ก็ได้ บ่อเล้ียงปลาสามบ่อ การปลูกมะพร้าว มะนาว ปลกู พชื หลายอยา่ ง ของกนิ อยู่ในสวน จนกลายเปน็ ธุรกจิ ของตวั เอง” พูดถงึ ครอบครวั ครบู อกมลี ูกสาว ๔ คน ลกู ชาย ๔ คน รวมกัน ๘ คน ลกู สาวเดนิ ตาม วิถีท่ีเห็นพ่อท�ามาแต่เด็ก เริ่มจากปลูกต้นไม้ แล้วท�าเป็นเกษตรกรรมเป็นหลัก ดูแลพ่อไป ดว้ ย ทา� ไรท่ า� สวนไปดว้ ย ครบู อกวา่ ลกู เกง่ กวา่ ก้าวหน้ากว่าทใ่ี ชเ้ ทคโนโลยอี ะไรเข้ามาเสริม
๑๕ครู ครเู ลก็ กุดวงคแ์ กว้ ดา้ นเกษตรกรรม ภมู ปิ ัญญาไทย 310 “เขาปลูกผักหวานไม่ได้ใช้เคมี ผมเคยปลูกแต่ไม่โต คนทป่ี ลกู ผกั หวานเกง่ คอื ครผู าย เปน็ ครภู มู ปิ ญั ญารนุ่ ใกล้ เคยี งกัน แกเป็นตน้ แบบการปลูกผักหวาน” เหน็ บา้ นครรู ม่ รนื่ ตน้ ไมป้ ลกู ไวข้ า้ งบา้ นใหร้ ม่ เงา ดา้ น หลังเป็นสวนพืชผัก ไม้ยืนต้นแล้วก็แปลงเพาะช�าต้นกล้า อดถามครูไม่ได้ว่าพื้นที่เท่าไหร่ ครูบอกที่บ้าน ๑ ไร่ แต่ ท่ีนามีท่อี ย่ ู ๕๐ ไร่อยู่อีกทีห่ นึง่ ครูบอก ท่ีนากไ็ ม่ได้ทา� นา ทงั้ หมด แบง่ ทา� เปน็ สวนผกั หวาน ไมไ่ กลนาเปน็ นาปลี ะครงั้ อาศยั นา้� ฝน สระนา้� ทมี่ กี ใ็ ชป้ ระโยชนพ์ ชื ผกั อนื่ บอกลกู สาว ทา� หมด ลกู ชายแยกกันทา� ๕๐ ไรแ่ บง่ ให้ลูกหมดแลว้ แบ่ง เปน็ สว่ นไมใ่ ชต่ ายแลว้ คอ่ ยไปใหเ้ ขา ใหเ้ ขาทา� มาหากนิ บาง อย่างเขาถามก็ตอ้ งบอกไปและเขาก็ท�าของเขา ถา้ เขา ไม่ ถาม แปลวา่ เขารู้แลว้ ทม่ี าของกะเลงิ เจา้ อยา่ คดิ วา่ ไปพงึ่ โรงงาน มนั ไมใ่ ช่ โรงงานพอ่ เจา้ จะไปทา� ธนาคาร มนั ไมใ่ ชธ่ นาคารพอ่ เจา้ เราต้องเป็นท่ีพ่ึงของตัวเอง ไม่ใชไ่ ปพึง่ คนอ่ืน “ชาวกะเลิงอยู่บ้านบัว มาจากเมืองภูวานากระแดง แขวงคา� มว่ น ประเทศลาว เข้ามาอยู่พื้นทน่ี ี้ ตอนสมยั จนี ฮ่อ ความจริงแล้วผมศึกษาเผ่าตัวเอง อพยพมาประมาณ ๒๐๐ กวา่ ปี ชาวบ้านเขาพูดภาษาเดียวกัน ผเู้ ฒา่ ผู้แกบ่ อก วา่ จากเมอื งขะเรง่ิ ภวู านากระแดง ไปเยย่ี มผเู้ ฒา่ ทบ่ี า้ นเรา แกเป็นคนรู้จักเรื่องของเผ่ากะเลิง ผมเล่าให้ทางโรงเรียน และผมเคยเขยี นหนงั สอื ตอนนหี้ นงั สอื ไมม่ แี ลว้ ใหค้ นหมด กลุ่มที่เหลอื อยู่กลุ่มอินแปง ทีต่ ง้ั ช่ืออินแปง ผอ.มาให ้ ผลไม้มนั ยังมีเยอะ บ้านเขาไมม่ ีไม่สมบูรณเ์ ท่า เขาบอกยัง เป็นธรรมชาติอย ู่ อินแปง หมายถงึ พระอนิ ทรแ์ ปลงมาให้ ชาวบา้ นเห็นอยู่ แสดงวา่ โชคดี”
ครูเล็ก กุดวงคแ์ กว้ ๑๕ครู ด้านเกษตรกรรม ภูมิปญั ญาไทย 311 มีสมาชิกเครือข่ายครูในเขตจังหวัดสกลนครทุกอ�าเภอ แต่ อ�าเภอละไม่กี่คน จังหวัดกาฬสินธุ์ ๓ อ�าเภอ จังหวัดอุดรมีหนึ่ง อา� เภอ นครพนม มุกดาหาร เป็นเครอื ข่ายอีก เรียนรดู้ ้วยกนั มี ความอุดมสมบูรณ์เหมือนกันแต่แตกต่างกัน เราก็เรียนรู้ไปด้วย กัน ครูบอกมีคนมองว่า คงมคี าถาหมากนิ ความคึด(คดิ )ไปพูดกบั ใครกเ็ ชอ่ื ฟงั ทา� เกษตรปลกู ตน้ ไมต้ ามได ้ เขาปลกู ออ้ ยทล่ี ะ ๒๐๐ - ๓๐๐ ตัน ไปบอกให้เขาปลูกหวาย ชนิดเดยี วกบั ในปา่ ไทยพัฒนา ประเทศใหเ้ ป็นเมอื งเหมอื นยุโรป วิธีหนึ่งที่สอนใจกันได้ง่าย คือ พยายามไม่ให้ทุกครอบครัวเป็นหน้ีเป็นสิน อยกู่ นิ กบั ครอบครวั กส็ บายใจแลว้ กไ็ ปชว่ ยสงั คม ไปเปน็ วทิ ยากรทวั่ ประเทศไมเ่ คยได้ นบั แล้วกค็ ่อย ๆ ขยายวงสูก่ ารใหต้ ระหนกั เห็นความส�าคัญทรัพยากรธรรมชาติ กล็ ว้ นเป็นภูมิปัญญาของบ้านเราเอง เจ้าอย่าคิดว่าไปพ่ึงโรงงาน มันไม่ใช่โรงงานพ่อเจ้า จะไปทา� ธนาคาร มนั ไมใ่ ชธ่ นาคารพอ่ เจา้ เราตอ้ งเปน็ ท่ีพึง่ ของตวั เอง ไม่ใช่ไปพง่ึ คนอนื่
๑๕ครู ครเู ลก็ กุดวงค์แก้ว ด้านเกษตรกรรม ภมู ปิ ญั ญาไทย พูดถึงเร่ืองการให้ตระหนักถึงความส�าคัญเรื่อง 312 ทรัพยากรธรรมชาต ิ คือป่า คือน�้า คือ ดิน สมเดจ็ พระ เทพรัตนราชสุดาฯสยามบรมราชกมุ าร ี ทรงเนน้ ว่า ปู พื้นจากเยาวชน ใหไ้ ด้เรยี นรไู้ ด้ซมึ ซับไปด้วย ผมมองว่า ทรัพยากรธรรมชาติ คือ ปัจจัย ๔ สา� คญั ในการดา� เนนิ ชวี ติ อยา่ งอนื่ กไ็ มไ่ ดป้ ฎเิ สธ ผมเคย พดู กบั อธกิ ารบดีเสมอว่า ราชภัฏ คอื สถาบันพฒั นา ทอ้ งถิน่ แล้วท�าไมไม่เอาจริงเอาจัง ต้งั แต่สมัยรัชกาล ท ี่ ๕ ไดท้ รงเลกิ ทาสแตเ่ รากเ็ ป็นทาสเหมอื นเดิมในทกุ วนั น ี้ นนั้ คอื ปญั หามคี นมาคนหนงึ่ เรยี นอยรู่ าชภฎั สกล ตอนนี้ไปอย่เู ชียงใหม่ มนั บ้า เพราะผมบอกวา่ “เจา้ อยา่ คดิ วา่ ไปพงึ่ โรงงานมนั ไมใ่ ชโ่ รงงานพอ่ เจา้ จะไปทา� ธนาคาร มนั ไมใ่ ชธ่ นาคาร พ่อเจ้า เราต้องเป็นท่ีพ่ึงของตัวเอง ไมใช่ไปพึ่งคนอ่ืน เคยเปน็ หนสี้ มยั กอ่ นอย่ ู ๔ หมนื่ บาท เกดิ จากปลกู พชื เชงิ เดยี่ ว ปลดหนไี้ ดเ้ พราะ หาเกบ็ หอมรอมริบจากผลผลติ ในสวนในนา” อนั นท้ี �าให้ผมเข็ดหราบ คนอื่นไม่ยอมเชอื่ คนซ้ือมันส�าปะหลงั รวยขึ้น แต่ คนขายจนลง เศรษฐกิจพอเพยี งตามแนวพระราชด�าริแน่นอนที่สุด เพราะปลด หน ี้ ปลกู พชื ผกั เปน็ แหลง่ อาหาร แลว้ ไดแ้ หลง่ ทรพั ยากรธรรมชาต ิ ตามทสี่ มเดจ็ พระเทพรตั นราชสดุ าฯทรงสร้าง อพ. สธ. นั่นชี้ให้เห็นเลยว่า ทรงแนะให้ตระหนักถึงการสร้างปัจจัยส่ีไว้ มีกินมีใช้ มคี วามสุข ส่งิ สา� คัญคือพอ ชาวบา้ นบางคนมีอยู่มกี ินแลว้ อยากมรี ถ”
ครูเลก็ กดุ วงคแ์ กว้ ๑๕ครู ดา้ นเกษตรกรรม ภมู ิปญั ญาไทย สังเกตเหน็ ครูพดู ถงึ ในหลวง ครทู า� ตาแดง ๆ 313 “ความจริงแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาภูมิพลอดุลยเดช และ สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสุดาฯ นา� ทางเราทางที่ถูก แต่ผ้บู รหิ ารใหญ่ เราเพนิ่ บเ่ อา เสยี ดายประเทศไทยไมอ่ ดไมอ่ ยาก แตท่ า� ใหค้ นไทยเปน็ คน อดอยากน่าสงสาร พ่อแม่อนุรักษ์ไป แต่กลับไปมองสถาบันการศึกษา พฒั นาท้องถ่นิ กลบั ไม่เป็นจรงิ ทพี่ อ่ หลวงเราก็เวา้ คกั นน้ั คอื ปญั หาใหญ ่ ถา้ ผมเกดิ ใหมก่ ไ็ มใ่ หล้ กู ไปเรยี นหนงั สอื หรอก มนั ไมไ่ ด้ความร ู้ มนั เสยี ดายคน ปัญหาใหญ่ คอื ตรงน้ี มันไมเ่ ปน็ จรงิ เสียเงิน ต้งั หลายหมื่นหลายแสนแต่กลับเอามาใช้ประโยชน์ไมไ่ ด้ มคี วามร ู้ ท�าไม ไมส่ รา้ งงาน เปน็ หยงั ตอ้ งไปหางาน มนั ผดิ ปกต ิ ความรเู้ อามาใชป้ ระโยชน์ ไม่ใชไ่ ปเปน็ ลูกจา้ งคน”
๑๕ครู ครเู ล็ก กุดวงค์แก้ว ด้านเกษตรกรรม ภูมิปญั ญาไทย 314 บา้ น โรงเรียน และวัด เปน็ เสมอื นบนั ไดแห่งการเรียนรู้ทห่ี ล่อหลอม ให้ครูเล็กเติบโตมาพร้อมกับความคิดความอ่านหลากหลายรปู แบบ ครูเล็ก กุดวงค์แก้ว เป็นผู้น�าส�าคัญชุมชนบ้านบัว ต�าบลกุดบาก อา� เภอกดุ บาก จงั หวดั สกลนคร ทเี่ หน็ คณุ คา่ แหง่ การสบื สานประวตั ศิ าสตร ์ ประเพณี ศาสนา วัฒนธรรม อันเป็นรากเหง้าดั้งเดิมของชาวกะเลิง แห่งเทือกเขาภูพาน ซ่ึงมีวิถีชีวิตความเป็นอยู่อย่างเรียบง่าย รัก และ หวงแหนทรัพยากรธรรมชาติดุจชีวิตน�ามาปลุกกระแสให้คนในชุมชนไม่ ใหห้ นั ไปตดั ไมท้ า� ลายปา่ จากการขาดความเออื้ อาทรซงึ่ กนั และกนั ไดห้ วน กลับมาใช้วิถีชีวิตในรูปแบบเดิมที่เรียบง่าย รวมกลุ่มกันอนุรักษ์ปกป้อง ทรัพยากรธรรมชาติ พลิกฟื้นความเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อมและจิตใจ จนคืนสคู่ ุณธรรมจรยิ ธรรมความดงี าม อันเป็นที่มาของการก่อต้ังศูนย์อินแปง ศูนย์กลางความรู้และความ ร่วมมือของคนในชุมชนท่ีช่วยกันพลิกฟื้นความเสื่อมโทรมให้กลับมาเป็น ดินแดนแห่งความอุดมสมบรู ณ์อกี คร้งั หนึ่ง ภายใตห้ ลกั คดิ ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียงฯปลูกทกุ อยา่ งทกี่ นิ กนิ ทกุ อยา่ งท่ปี ลกู เป็นจุดเร่ิมแหง่ การพลิกฟ้ืนปา่ ตน้ ไม้ แหล่งน�า้ บ้าน โรงเรียน และวัด เปน็ เสมือนบันไดแห่งการเรียนรู้ท่ีหลอ่ หลอม ให้ครเู ลก็ เติบโตมาพร้อมกบั ความคดิ ความอา่ นหลากหลายรปู แบบ ครตู ง้ั ขอ้ สงั เกตวา่ เทอื กเขาภพู านในวยั เดก็ กบั เทอื กเขาภพู านในวยั ท่ี ครเู ลก็ เปน็ หนมุ่ เตม็ ตวั นชี้ า่ งหา่ งกนั ไกลเสยี เหลอื เกนิ ปา่ ทเี่ คยอดุ มสมบรู ณ์ มาอย่างยาวนานนั้น เมื่อความเจริญแพร่ขยายไปถึง บ้านบัวก็เปลี่ยนไป จากเดมิ น่าใจหาย ป่าถกู ถากถางจนเกือบสิ้นสภาพความเป็นป่า
ครูเลก็ กุดวงค์แกว้ ๑๕ครู ดา้ นเกษตรกรรม ภมู ิปัญญาไทย 315 ผมไมม่ ที นุ ทุนเจ้า คือน้อยแท้ ทุนเจา้ หลายแท้ ทนุ ของผม คอื ไปเอา มา เขาไมท่ �าเองต่างหาก มนั ไมใ่ ชเ่ รอ่ื งยาก ไปเปน็ ลูกจา้ งคนสิ ยากกว่า น้นั ไกลพอ่ ไกลแม่ ไกลบ้านไกลเมืองมนั ยงั ทา� ได้ แคน่ ี้ท�าไมไ่ ด้ ผมวา่ มันคือ คา่ นยิ มบ้าๆ บอ้ ๆ หลายสิ่งหลายอย่างกลายเป็นอดีตท่ี ครูริเริ่มจัดต้ังสหกรณ์ร้านค้า ครุ่นคิดวิธี ยากจะหวนกลับคืนมา ในขณะเดียวกันความ การตา่ งๆ ทจี่ ะทา� ใหท้ กุ คนมชี วี ติ ทเ่ี ปน็ สขุ อยา่ ง เปลี่ยนแปลงใหม่ๆ ท่ีเกิดข้ึนก็เข้าไปรุกราน แท้จรงิ และมอิ าจจะรอตอ่ ไปได้อกี แล้ว วัฒนธรรมและวิถีชีวิตดั้งเดิมของคนในชุมชน การเกิดศูนย์อินแปง ก่อให้เกิดกิจกรรม ใหล้ ดคุณคา่ ลง การฟื้นฟูป่าไม้ร่วมกันของชุมชนเป็นการใหญ่ ตัง้ แต่ปี พ.ศ. ๒๕๑๒ เปน็ ต้นมา ครเู ลก็ เป็นทั้งการปลูกป่าและการปลูกจิตส�านึกของ เรยี นรู้วา่ ความเจริญแมจ้ ะเปน็ สิ่งทีด่ ีแตค่ วาม ชาวบา้ นบัวไปพร้อมๆ กนั เจริญก็มีส่วนอย่างส�าคัญในการท�าลายวิถีชีวิต ณ เวลานี้ ศูนย์อินแปงยังเป็นเสมือน ท่ีดีให้สูญหาย จึงเริ่มตระหนักถึงมหันตภัยท่ี ต้นธารทางความคิดในการถ่ายทอดความรู้ ก�าลังเคลื่อนเข้ามาสู่พี่น้องชาวกะเลิงอย่าง ดา้ นตา่ งๆ ทา� ใหเ้ กิดกลมุ่ ย่อยๆ ในการพลกิ ฟ้นื น่ากลัว มองเห็นชะตากรรมของชาวบ้านบัว สงิ่ ดงี ามในอดตี ใหเ้ กดิ ตามมาอกี หลายกลมุ่ เชน่ ได้อย่างชัดเจนว่า ในอนาคตแค่เอื้อม เมื่อป่า กลมุ่ คลองสง่ นา�้ กลมุ่ ออมทรพั ย ์ กลมุ่ เดก็ ฮกั ถน่ิ หมด ทุกสง่ิ ทกุ อยา่ งก็จะหมดตามไปดว้ ย ศนู ยป์ ระสานงาน กลุ่มหมอพื้นบ้าน
๑๕ครู ครูเลก็ กุดวงค์แก้ว ด้านเกษตรกรรม ภมู ิปญั ญาไทย 316 กอ่ นอำ� ลำจำกกนั ครูชวนเดินดรู อบบ้ำน ไปสวนหลงั บ้ำน เดินไปแล้วชใี้ หด้ ตู รงน ้ี คอื บอ่ ปลำดุก มีเยำวชนเคยมำท�ำ แต่ตอนน้ไี ม่มำแลว้ “ตอนน้ีผ้วู ่าฯ เร่ิมพาชาวบ้านเล้ียงปลาในบ่อซเี มนต์ตามผมแลว้ ผมพาทา� อยา่ งน้ี หาวา่ ผมเป็นคอมมวิ นิสต ์ ตอนนที้ า� ตามผมหมดแลว้ หวายตอนนีท้ �าตาม (ผมว่ามนั เป็น ดอกเบี้ยของป่าภูพาน ผมไปเอามาจากปา่ ภพู าน) เขาพูดว่า ผมไมม่ ที ุน ทุนเจ้า คอื นอ้ ยแท้ ทุนเจา้ หลายแท ้ ทุนของผม คือ ไปเอามา เขาไมท่ า� เองตา่ งหาก มันไมใ่ ชเ่ ร่ืองยาก ไปเป็นลูกจา้ งคนสิ ยากกว่านนั้ ไกลพอ่ ไกลแม ่ ไกลบา้ นไกลเมืองมันยงั ทา� ได้ แค่น้ที า� ไมไ่ ด้ ผมวา่ มนั คอื คา่ นิยมบา้ ๆ บ้อๆ” ครูเลก็ กดุ วงคแ์ กว้ ครภู ูมิปัญญาไทยวถิ เี กษตร สภาการศึกษา ทง้ิ ท้าย ขณะ ชใี้ หด้ แู ปลงตน้ กลา้ หวาย ตน้ ทนุ ดอกเบย้ี จากเทอื กเขาภพู าน อนั เปน็ รากเหงา้ ดงั้ เดมิ ของชาวกะเลิง ท่ีอยปู่ จั จุบนั : ๒๓๔ หมู่ ๕ บ้านบัว ต.กดุ บาก อ.กุดบาก จ.สกลนคร ๔๗๑๘๐
ครเู ลก็ กดุ วงคแ์ กว้ ๑๕ครู ด้านเกษตรกรรม ภูมิปญั ญาไทย 317 คณุ ค่าของปา่ คือ แหล่งดอกเบย้ี ของชมุ ชน เครือข่ายอินแปง จุดเร่มิ ตน้ ของการรวมกลมุ่ แลกเปล่ยี นความคดิ เห็นเพื่อการสืบสานประวัติศาสตร์ และศิลปวัฒนธรรมของชาวกะเลิง อนรุ กั ษท์ รพั ยากรธรรมชาตแิ หง่ เทอื กเขาภพู าน สานตอ่ การอยรู่ ว่ มกนั และ พึง่ พากันอยา่ งย่ังยืน ผลงานของ ครูเล็ก กุดวงคแ์ ก้ว ครูภมู ิปญั ญาไทย รนุ่ ท่ี ๑ มงุ่ สรา้ งจติ สา� นกึ และฟน้ื ฟทู รพั ยากรธรรมชาติ โดยนอ้ มนา� แนว พระราชดา� ริ ปลกู ทกุ อยา่ งทกี่ นิ ได้ กนิ ทกุ อยา่ งทป่ี ลกู เพอ่ื การพลกิ ฟน้ื ฟู ป่า ต้นไม้ แหลง่ นา้� เป็นแบบอย่างของการพฒั นาท้องถ่ินที่ดี
๑๕ครู ครูเลก็ กุดวงคแ์ ก้ว ดา้ นเกษตรกรรม ภูมิปัญญาไทย 318
ครูกติ ติ อนนั ต์แดง ๑๕ครู ดา้ นอุตสาหกรรมและหตั ถกรรม ภมู ปิ ัญญาไทย 319 ครกู ติ ติ อนันตแ์ ดง ครภู มู ปิ ญั ญาไทย ด้านอตุ สาหกรรม และหัตถกรรม
๑๕ครู ครูกติ ติ อนนั ต์แดง ด้านอุตสาหกรรมและหตั ถกรรม ภูมิปัญญาไทย 320
ครูกติ ติ อนนั ต์แดง ๑๕ครู ดา้ นอตุ สาหกรรมและหัตถกรรม ภูมิปญั ญาไทย 321 พบกนั ท่วี งั ตะกอ ในช่วงตะวนั คลอ้ ยหลังนำ้� หลำกจำกภเู ขำ ทันทที เ่ี หน็ ครกู ติ ติ อนนั ตแ์ ดง แทบไม่เชื่อว่า เด็กหนุม่ หน้าตาคมเข้ม ผวิ คลา้� แบบชาวใตท้ ว่ั ไป รปู รา่ งคอ่ นขา้ งสงู ทซ่ี อ่ นความมาดมนั่ ในทว่ งทา่ แตร่ บั รไู้ ด้ถึงความเด็ดเดี่ยวในดวงตา น่ีคอื ครูภมู ปิ ัญญาไทย ร่นุ ที่ ๗ ดา้ น อตุ สาหกรรมและหตั ถกรรม นน้ี ะคอื เขา ซงึ่ วนั นี้ ไดร้ บั เลอื กเปน็ ถงึ ผใู้ หญบ่ า้ น แห่งตา� บลวงั ตะกอ อา� เภอหลังสวน จังหวัดชมุ พร อีกต�าแหน่งหนึ่ง
๑๕ครู ครูกิตติ อนนั ต์แดง ดา้ นอุตสาหกรรมและหตั ถกรรม ภูมิปัญญาไทย 322 จรงิ แล้วกค็ ือ ครูกิตติ อนนั ต์แดง เกิดเม่อื วนั เสยี งโทรศพั ท์ในมอื ดังข้นึ ไดย้ ินถาม ท ี่ ๒๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๙ ที่จงั หวดั ชุมพร อายุ ว่า ถึงตรงไหนแล้ว จะออกไปรับครึ่งทาง อานาม ๔๑ ปี บตุ รคนท ี่ ๒ ในจ�านวนพน่ี อ้ ง ๓ คน สบายใจไปอีกเปลาะหนึ่ง ด้วยถนนทีป่ กติ ของนายเชอ้ื - นางสนอง อนนั ตแ์ ดง และสมรสกบั ใช้สัญจรได้กลับโดนน�้าป่าหลากลงมา นางสาวศิริวรรณ ศรสี ังข์ มีบุตรหญงิ ๑ คน เป็น ตดั ขาดเมอ่ื สองวนั กอ่ น เลยตอ้ งใชเ้ สน้ ทาง บุคคลทเ่ี รามาหา เบย่ี งบงั คบั ใหอ้ อ้ มไปอกี แนวหนงึ่ ประมาณ พบกันในช่วงตะวันคล้อยไปเกือบบ่ายสาม เกอื บ ๒ กโิ ลเมตร กวา่ จะถงึ จดุ หมายทมี่ คี รู หลังค้นหาเส้นทางไปยังต�าบลวังตะกอ อ�าเภอ ขบั รถสวนออกมารับ หลังสวน ที่มีข่าวว่าน�้าจะหลากท่วมหลายพ้ืนท่ี ของถนนเพชรเกษม หากฝนยงั ไม่หยดุ ตก แต่เมอ่ื ผา่ นแยกปฐมพร ประตทู างเขา้ ตวั จงั หวดั ชมุ พรไป ได ้ การไปพบกับ ครูภมู ิปัญญา ด้านอุตสาหกรรม และหัตถกรรม ที่ชื่อ ครูกิตติ อนันต์แดง ผู้ใหญ่ บ้านแห่งวงั ตะกอ กไ็ ม่ตอ้ งกงั วลอะไรแลว้
ครูกิตติ อนันตแ์ ดง ๑๕ครู ดา้ นอุตสาหกรรมและหตั ถกรรม ภูมปิ ัญญาไทย 323 พบคุยกันแล้ว ไม่แปลกใจถึงความรู้ ความสามารถในความเป็นครูภูมิปัญญาไทย ด้านอุตสาหกรรมและหัตถกรรม ท้ังเป็นผู้มีความประณีตบรรจง สร้างคุณค่าให้กับผล งาน สร้างแรงบันดาลใจใหแ้ ก่เดก็ ร่นุ ใหมอ่ กี ดว้ ย ฟังเล่าถึงชีวิตในวัยเด็ก ด้วยแววตาที่บ่งบอกถึงอารมณ์พอจะเดาได้ถึงความรู้สึกที่ มีแม่อาชีพค้าขาย ขณะที่พ่อเป็นช่างตัดผมในหมู่บ้าน จึงค่อนข้างใช้ชีวิตผูกพันอยู่กับ ธรรมชาติ มีความเรียบงา่ ยและชนื่ ชอบ มคี วามสุขกับงานดา้ นศลิ ปท์ ั้งงานปน้ั วาดภาพ แกะ ตัด แต่ง ชอบประดิษฐ์ของเล่นจากส่ิงต่างๆรอบตัวและไม่ชอบเลียนแบบใคร จะ รสู้ กึ ภาคภมู ิใจมากหากได้ค้นพบกบั ส่ิงใหม ่ ๆ ทส่ี ร้างสรรคด์ ว้ ยตนเอง เด็กบ้านๆ ซน ๆ ที่รู้ตัวเพียงว่า ชอบศลิ ปะ เคยรับตัดผมตอนเป็นทหาร แม่ขายผัก และทา� สวน พอมเี งนิ กม็ าซือ้ ที่ทีน่ ี ่ รับผกั ไปขายตลาด แลว้ ก็รับซ้ือของจากตลาดมาขาย “ตอนเด็ก ผมขเี้ กียจ เขาไมใ่ หเ้ ข้ากลุ่ม ตอนนน้ั ผมไมช่ อบกีฬา ผมชอบแตศ่ ิลปะ ถา้ เรื่องศลิ ปะเขาก็ต้องมาหาเราซ่ึงเปน็ เรอื่ งเดยี วท่เี ขาเขา้ มาหาผม” ครูเร่ิมตน้ แบบคุน้ เคย มากข้นึ นอกนัน้ กไ็ ม่เอาเข้ากลมุ่ พวกวชิ าการกพ็ อไดอ้ ยู่ ตอนเดก็ เป็นคนท่ตี ง้ั ใจ แลว้ แม่ผม จะสอนแบบทงิ้ ขว้าง แมไ่ ม่มีเวลาวา่ งสอนหรอก กรอกหูอยทู่ ุกวนั ถ้าไมช่ ว่ ยเหลือตวั เอง ไม่ไดน้ ะ จึงทา� ให้เราตอ้ งรบั ผิดชอบและมันท�าให้เราโต ไปเรียนกเ็ ดนิ ไปกลบั สองกิโลทกุ วัน ตอนเดก็ ปน่ั จักรยานไมเ่ ป็น ก็เดนิ เอา ไปกลบั ทุกวนั ชวี ิตเปล่ียนไปหลายอยา่ ง
๑๕ครู ครกู ิตติ อนนั ต์แดง ดา้ นอุตสาหกรรมและหัตถกรรม ภูมิปัญญาไทย 324 “ไปเรยี นไทยวิจิตรศลิ ป ์ ตอน ปวช. และกเ็ รยี น ม.รังสติ เพราะเอนทรานซ์ ไมต่ ดิ กห็ มดหนทางแหละ ไปเรยี นไทยวจิ ติ รศลิ ปก์ ไ็ ดค้ วามรดู้ า้ นศลิ ปะจากตรงนนั้ มากเลยจริง ๆ และกไ็ ปตอ่ สาขาทศั นศลิ ป ์ ศลิ ปกรรม ท่ ี ม.รงั สติ ก็ชอบวาดภาพ ตง้ั แตเ่ ดก็ เรยี นไปทา� งานศลิ ปะคไู่ ปดว้ ยตลอด ทา� ตง้ั แตอ่ ยใู่ นหอ้ งเชา่ จนถงึ มาทา� ทเี่ ซยี ร ์ รงั สติ ตอนหลงั กไ็ ปเปดิ รา้ นแถวมหาวทิ ยาลยั งานปา้ ย งานวาดภาพ งาน ปน้ั บา้ งทีไ่ มใ่ ช่เซรามิก ตอนน้ันเปิดรา้ นรับทา� มีออเดอรเ์ ขา้ มามากมาย เรียนจบ ป.ตรีแล้ว ไปเป็นทหารปีหนึ่ง ระหว่างน้ันยังติดต่อกับเพื่อนคน หนงึ่ ทที่ า� งานอย่โู ครงการแม่ฟ้าหลวงกับอาจารย ์ ชวนให้ไปทา� งานด้วย หลงั พ้น ทหารออกจากค่ายก็ดิ่งไปหาเพ่ือนทันที พบกับอาจารย์ที่รู้อยู่แล้วว่าผมเป็นคน แบบไหน ก็บอกว่าเต็มที ่ นายทา� อะไรได้ก็ทา� ไป ดู ๆ เขาไปกอ่ น มีอะไรใหไ้ ดก้ ็ ใหไ้ ด้ไป” ครเู ลา่ ถึงอดีต กเ็ รมิ่ เปน็ ครตู ง้ั แตว่ นั นนั้ เปน็ ประสบการณใ์ หมข่ องชวี ติ ทตี่ อ้ งสมั ผสั กบั ผอู้ น่ื ชนดิ ปฏิเสธไม่ได้ ตง้ั แตท่ �างานศิลปะ ท�างานคนเดยี วไมส่ นใจโลก ลูกคา้ บางทยี ัง ไมส่ นใจ ศลิ ปะเราคดิ วา่ เราวเิ ศษแลว้ รบั ไมไ่ หวกไ็ มท่ า� แตม่ าทา� งานทน่ี ต่ี อ้ งปรบั ตัวเข้าหาสงั คม
ครกู ิตติ อนันต์แดง ๑๕ครู ด้านอตุ สาหกรรมและหตั ถกรรม ภมู ปิ ญั ญาไทย โลกใหม่ คุณครคู นใหม่ ตวั ด�ำด�ำ หัวเกรียน จะไปสอนเขำได้ไง 325 ไปอยู่ใหม่ ๆ ดูเหมอื นจะไมค่ ่อยมีคนเช่ือว่า ผมทา� งานศลิ ปะได ้ เพราะเพ่งิ พน้ การเป็นทหารเกณฑ์ ตัวด�าด�า หัวเกรยี น จะไปสอนเขาได้ไง อกี ทง้ั เขายังไม่ เห็นผลงานปั้นถ้วยชามอันใดเลย แม้กระทั่งเด็กชาวเขาท่ีอยู่ในโครงการฯ จะ ช้แี นะอย่างไรไป แม้แตช่ าวเขาทีเ่ อางานมาส่งก็ไม่มีใครเชอื่ เพราะส่ิงทีเ่ รามอี าจ จะเปน็ มมุ มองทต่ี า่ งจากอตุ สาหกรรมทเ่ี ขาเคยทา� มา ตอนหลงั พอเขาเรมิ่ เหน็ จดุ เดน่ บางอย่างทเ่ี ราแนะน�า ก็เรมิ่ ท�าตาม จนชาวเขาชุดต่าง ๆ ทยอยตามมาทน่ี ่ี หมดเลย ยอมรบั เป็นอาจารยเ์ ขา ตอนเดก็ ผมขเ้ี กยี จ เขาไม่ใหเ้ ขา้ กลุม่ ตอนนัน้ ผมไมช่ อบกฬี า ผม ชอบแตศ่ ลิ ปะ ถ้าเร่ืองศลิ ปะเขากต็ ้องมาหาเราซ่งึ เปน็ เรื่องเดยี วทเ่ี ขา เข้ามาหาผม” ครูเร่มิ ต้นแบบคุ้นเคยมากขึน้ เมอื่ เดก็ ชาวเขาชดุ นน้ั กลบั ไปทา� เองบา้ ง เปลยี่ นอาชพี บา้ ง แตผ่ มกย็ งั อย ู่ แม้ จะมาประจา� ทลี่ า� พนู กย็ งั มคี วามเปน็ ตวั ตนสงู รสู้ กึ ตนเองตลอดเวลาวา่ ไมอ่ าจทน อยู่กบั ระบบตอ่ ไปได ้ ไม่เข้าใจวา่ ทา� ไมตอ้ งเป็นอย่างนี้ ตอนน้ันคิดวา่ ยงั ไงกต็ อ้ ง กลบั ไปบา้ นหรือออกไปทา� อะไรเองนา่ จะดกี วา่ แต่อาจารยข์ องผม มคี วามคดิ เหนือและมเี หตุผลทีโ่ นม้ นา้ วใจเหนือกว่าเรา เยอะ ทา่ นวางแผนใหเ้ ราอยดู่ ว้ ยกนั ทล่ี า� พนู โดยจดุ ประกายใหเ้ ราเหน็ สงิ่ ทเ่ี ราขาด เกนิ นนั้ มมี ากมาย ทา� ใหไ้ ดค้ วามรมู้ าจากตรงนน้ั มาเยอะ รวมถงึ ไดร้ บั การถา่ ยทอด วชิ าความรู้จากสงิ่ ทเี่ ราเคยเรยี นรูม้ าจากตรงนัน้ ด้วย ตอนนน้ั ได้คา่ ตอบแทนเริม่ ต้น ๘,๕๐๐ บาท “อตุ สาหกรรมเครอื่ งปน้ั ดนิ เผา ผมวา่ ลา� ปางเขาครบเครอ่ื งนะ เขาเพนทแ์ ตง่ หนา้ แตง่ ตาเกง่ แตค่ ดิ วา่ ตอ่ ไป หากลา� ปางทา� แบบเดมิ ๆ เหมอื นกนั ทง้ั เมอื งหมด เลย ลา� ปางตาย ตายกันทงั้ จงั หวดั เลย เพราะเขากจ็ ะทา� ไดเ้ หมือน ๆ กัน ฝมี อื กเ็ หมอื นกนั พอหันไป ป้นั เณร ปัน้ หุน่ ปั้นต๊กุ ตา ทกุ โรงงานตา่ งรับทา� กนั หมด ท�าตวั ละ ๓ บาท เขาจะได้ชว่ งแรกเทา่ น้นั
๑๕ครู ครูกิตติ อนันตแ์ ดง ด้านอุตสาหกรรมและหตั ถกรรม ภูมิปัญญาไทย 326 ผมเจอกบั แมค่ า้ เยอะ แมค่ า้ เขาฉลาด เคย เพราะมีบางอย่างที่เป็นเอกลักษณ์แบบ ซอ้ื ของผมตวั ละ ๒๐๐ เมอ่ื เขาไปโคราช ไปบอก เรา มันดูมีชีวิต ผมพยายามใส่ความรู้สึกให้ วา่ แบบนตี้ อ้ งพนั ตวั ตวั ละ ๑๕๐ ใหท้ า� แบบของ มากกวา่ เป็นเครอ่ื งปั้น ยมิ้ ก็ตอ้ งยม้ิ ต้งั แต่ ปาก ผม อกี วันเขาไปอีกโรง ๕๐๐ ตวั ตัวละ ๑๒๐ ตา ห ู จมกู หมด เราใสไ่ ป ถา้ มนั ไปนอนกบั ลกู คา้ บาท กต็ อ้ งทา� สุดท้ายเหลอื ๗๐ บาท ๕๐ บาท ก่อนน่ะ เขาก็จะรู้สึกการปั้นที่มีสุนทรียะทาง ปรากฏว่าตอนหลัง ท้ังล�าปางและทุกโรง แข่ง อารมณจ์ ริง ๆ กนั เจง๊ ” ครกู ติ ต ิ อนนั ตแ์ ดง ใหค้ วามเหน็ สว่ นตวั “แม้แต่เนื้อดินของผมก็จะไม่เหมือนท่ี ความจริงแล้ว อารมณ์ของคนป้นั หรอื จะ อื่น แม้ผมจะเอาเนื้อดินจากท่ีอ่ืนมาปั้น มันก็ เรียกว่าสุนทรียะทางอารมณ์ในช่วงน้ัน ๆ จะ ยงั เปน็ ดนิ ของผม สมั ผสั การปน้ั ของผม พ้ืนผวิ มีส่วนส�าคัญตอ่ ชน้ิ งานทอี่ อกมา แตล่ ะชิน้ งาน ธรรมดาที่ต่างกันอย่างเห็นได้ชัดกว่าการมอง จะออกมาในสไตลข์ องศลิ ปนิ แต่ละคน มลี กู ค้า เหน็ แบบธรรมดา ตอนแรกคิดว่าเขาจา� เน้ือดิน มาบอกงานหล่อรปู เณร รูปป้นั ตุ๊กตา ก็มคี นท�า ของเราได ้ เขาจา� เทคนิคและลายมอื ของเราได้ ทวั่ ไปนะ แตท่ า� ไมผมกย็ งั ทา� อยตู่ รงทไ่ี มเ่ หมอื น เว้นแต่รูปลักษณ์มันเปลี่ยนไปได้” ครูพูดด้วย ของคนอ่ืนเขา รอยยิ้มเหมือนไม่ได้ตั้งใจ แต่เรากลับมองเห็น ปรากฏการณ์บนส่ิงท่ีเป็นช้ินงานขณะที่ครูน�า ไปชมผลงานท่วี างไว้ข้างในอีกห้อง
ครกู ิตติ อนันต์แดง ๑๕ครู ดา้ นอุตสาหกรรมและหตั ถกรรม ภูมปิ ัญญาไทย 327 เจอปัญหำดินก็คิดถึงแม่ทุก คร้ัง ตำมด้วยแง่คิดจำก อำจำรย์ ก็เอาเป็นว่า มองตัวเองโดยพินิจจากที่คนอ่ืน มอง ไม่ว่าในฐานะท�างานศิลปะหรือฐานะท่ีเป็น พอเจอปญั หากค็ ดิ ถงึ แมท่ กุ ครงั้ กอ่ น ผใู้ หญบ่ า้ นกต็ าม มนั มหี ลายอยา่ งทจ่ี ะบอกไดถ้ งึ เรอื่ ง หน้าน้ีผมเอาดินมาผสมสารเคมีต่าง ๆ การยอมรบั ในวยั ของผม ถา้ ผมอยใู่ นเวทที ม่ี คี นเยอะ สารพัดก็แก้ปัญหาไม่ได้ มันแก้ได้เหมือน หากต้องการความคิดเห็น จะพูดถึงอะไรบางอย่าง กันแตพ่ อถงึ เวลา ความชนื้ อะไรกไ็ ม่ได้อกี เพอ่ื พฒั นา ผมก็จะเป็นคนแรกๆ ทีล่ กุ ข้ึนพูดเพราะ ยงั ไมเ่ จอจดุ ทที่ า� ใหด้ นิ ของเรามคี ณุ ภาพได้ เขาเชอ่ื ม่ันจากส่ิงท่ีเราเป็นและสิ่งที่ทา� มากบั มือ ตอนหลงั ผมเอาดนิ มากองกลางฝน พองาน ผมเป็นคนท่ีพยายามศึกษาจากส่ิงที่ไม่รู้ ผม เร่ง ผมก็ขุด เอามานวดแล้วมันก็มีทราย เรยี นศลิ ปะมา เร่อื งปนั้ เรื่องวาดกม็ พี อตวั แต่ส่งิ ท่ี อะไรติดเต็มไปหมด ผมก็เอามาปั้นแปะ เราไม่มเี ลย คือ เร่อื งของภูมิปัญญาน่ีแหละ เพราะ ก็ใช้ได้ มันสวยมาก สีไม่มีด่าง แล้วตอน ผมไม่ได้รับการถ่ายทอดมาเช่นท่านอ่ืน ๆ แต่ผม หลังกล็ องทา� แบบนี้ลองเอาป้ัน ก็เจอแลว้ ม่ันใจรับรู้ได้ว่าสิ่งที่รับการถ่ายทอดมาจากแม่มา ส่งิ มชี วี ติ ท่ีอยใู่ นดนิ เร่ืองเดียว คือ การท�าเชิงกรานของเตาถ่าน และ ผมกไ็ มร่ วู้ า่ เปน็ เรอ่ื งของโมเลกลุ การ ตอนนนั้ ผมไมค่ ดิ วา่ มนั จะเปน็ ความรอู้ ะไรหรอก จน เรยี งตวั แบบวทิ ยาศาสตรห์ รอื อะไร ถามวา่ ผมมาทา� งานดนิ เผา เมอื่ เจอปญั หา กน็ กึ วา่ ตอนทแี่ ม่ โบราณ ท�าไมต้องหมักดินไว้สามวัน คือ เอาดนิ เหนยี วมาต�า ๆ แลว้ ก็ทรายและขีเ้ ถ้ามาผสม มันมีวิธีการธรรมชาติ ท�าให้ผมนึกถึงวิธี เอาไปแปะแล้วเอาไม้มาเจาะเป็นรู ๆ เต็มไปหมด การของแม ่ มนั ก็ใช้ได ้ ใช้ไปแล้วมันแดงเหมอื นอิฐเลย
๑๕ครู ครกู ติ ติ อนนั ตแ์ ดง ดา้ นอตุ สาหกรรมและหัตถกรรม ภูมิปัญญาไทย 328 จรงิ ๆ แลว้ มนั กต็ อ้ งมอี ยา่ งอน่ื ผสมอยู่ งานของผมไมไ่ ดท้ �าตลาดแบบ ทเ่ี ขาทา� ลกู คา้ ทซ่ี อ้ื งานผมกเ็ พราะจดุ เดน่ มนั จะเหนอื กวา่ จดุ ดอ้ ย หากเซรา มกิ มตี ามดเพยี งจดุ เดยี ว กเ็ ปน็ อกี เกรดหนง่ึ ไปเลย แตง่ านของอาจารยท์ า่ น หนงึ่ ตอนทา� โรงงานเซรามกิ มจี ดุ มอี ะไรเตม็ ไปหมดเลย แตข่ องแกทา� ไมยง่ิ แพง มคี นมาดูแลว้ บอกมจี ุดนอ่ี าจารย์ แกบอกย่งิ มีจดุ นน้ั ดี มนั ย่งิ แพง ผม กม็ าคดิ จากค�าพดู ของอาจารย์ เรอ่ื งปน้ั แบบสง่ ตอ่ จากบรรพบรุ ษุ มาถงึ ผม ไมม่ ี แตพ่ น้ื ฐานอดตี ม ี พอ เราชอบตรงนี้ ผมกศ็ กึ ษาหมดเลย ตั้งแตช่ ว่ ยอาจารย์ทเี่ รม่ิ ทา� เตา เตาผม ทา� เองกม็ ีอาจารย์ทไ่ี ดด้ เู ขา้ มาช่วย ดินกไ็ ปดู เครอื่ งป้นั ก็ไปด ู ไปดูมาหมด ไม่ใชไ่ ปดูแคส่ วยไม่สวย ดทู กุ อยา่ งรู้บา้ งไม่ร้บู ้าง ไปดูทกุ ครงั้ มันก็จะกลับ มาอยใู่ นงานเรา ผมวา่ เสนห่ ข์ องปน้ั ดนิ เผาไทยมนั มมี าตง้ั แตส่ มยั โบราณ แตเ่ ราไปยดึ ตดิ วา่ มนั ตอ้ งเอามาจากพอ่ นะแมน่ ะ มนั ถงึ เปน็ ภมู ปิ ญั ญาแคเ่ ราเปน็ คนไทย นะ บางทอี าจไม่ใชค่ นไทยก็ได ้ เหมอื นหม้อสามขาโบราณ เราศกึ ษาและ เอามาจากทุกที่ มาอยู่ในงานของเราจนวันน้ี ผมก็เลยรู้สึกว่ามันยังไม่พอ ก็เลยเข้าพิพิธภัณฑ์จังหวัด ศึกษาหาข้อมูล เขาก็สนใจและได้คุยกันด้วย ไดค้ น้ หาเจออะไรหลายอย่าง
ครูกิตติ อนันต์แดง ๑๕ครู ด้านอุตสาหกรรมและหตั ถกรรม ภมู ิปญั ญาไทย 329 เขาก็มีสไตล์ของเขา ต่อให้เขามาหล่อเป็นโดเรม่อน มันก็ยังเป็นมอญ คือ เปน็ มอญแบบนัน้ มอญปั้นโดเรม่อนก็ไมเ่ หมอื นกันกับผม ไมว่ า่ จะ พลิกแพลงเทคนคิ แค่ไหนก็มอี ารมณ์ของเขา จนเชื่อว่าบริเวณนี้ คือ แหล่ง มันก็ยังเป็นฝีมือคนไทยที่ เครอ่ื งปน้ั ดนิ เผาตง้ั แต่ยุคหิน สืบทอดจากตา่ งชาติหลาย ๆ ท ่ี หรอื เพราะช้ินส่วนของเครื่องปั้น ทม่ี อี ยตู่ งั้ แตก่ อ่ นจะมไี ทยเขา้ มา หรอื ดนิ เผาพวกนนั้ มนั จะตอบคา� ถามเรา มาจากศาสนาแตผ่ มกย็ งั เชอื่ มนั่ มนั ก็ ไดว้ ่า ตรงนกี้ ม็ อี ารยธรรมทอ่ี ลงั การ มีความเช่ือเข้ามาผสมจะให้เป็นไทย ในอดีต ตรงน้ันแหละ คือเสน่ห ์ แทเ้ ลยกไ็ มไ่ ด ้ อยา่ งคนไทยนกี้ ม็ ผี สม เหมือนปัจจุบันที่มีความทันสมัย แตม่ ันมเี สน่ห์อยอู่ ยา่ งหนง่ึ คอื ไม่วา่ อะไรเขา้ มา แตเ่ ราไมเ่ อา เราใสศ่ ลิ ปะ เอาอะไรเขา้ มาใส ่ มนั ก็ยงั เปน็ ไทย ใส่ส่ิงท่ีเรามีพิเศษอยู่ ซึ่งในวงการ ผมได้ศึกษาเปรียบเทียบ เซรามิกอาจจะไม่เยอะส�าหรับคน เครื่องปั้นดินเผาของเมืองไทยกับ ท่ีท�าศิลปะอยู่ ก็เลยเอาทั้งสองส่วน ชาติอื่น ๆ จากหนังสือ ท�าไมจีน มาผสมกัน ตอ้ งปัน้ แจกันใบใหญ ่ ๆ หนา ๆ มัน จริง ๆ แล้ว ดินทุกท่ีบนโลก มีความเป็นเขาอยู่แล้ว ซ่ึงเราไปท�า ปั้นได้หมด แต่ว่ามันขาดดินเหนียว แบบเขาคงไมไ่ ด ้ แตก่ พ็ ยายามศกึ ษา ทรายเมื่อเอาไปผสมดินเหนียวก็ปั้น ชาวบ้านชอบเอาดินที่นู่นที่นี่มาให้ ได้ อันท่ีจริง เรามีทรัพยากรอะไร ลอง เอาดนิ เหนียวมาให ้ ก็ตาม ตรงน้ันก็ใช้ตรงนั้น ใส่ความ “ดินท่ีไหนก็ดีทั้งน้ัน แต่มันดี เชื่อของเราเข้าไป เขาก็มีสไตล์ของ คนละแบบ ดินของผมมันก็อาจจะ เขา ต่อให้เขามาหล่อเป็นโดเรม่อน เหมาะกบั การปน้ั แบบผม เอาไปปั้น มนั กย็ งั เปน็ มอญ คอื เป็นมอญแบบ แบบอ่ืนอาจจะย้วย มันก็เหมาะกับ นน้ั มอญปน้ั โดเรมอ่ นกไ็ มเ่ หมอื นกนั งานคนละแบบกนั เทคนคิ กต็ า่ งกนั ” กบั ผม ไม่ว่าจะพลิกแพลงเทคนคิ แค่ ไหนก็มีอารมณ์ของเขา
๑๕ครู ครูกิตติ อนนั ตแ์ ดง ดา้ นอุตสาหกรรมและหัตถกรรม ภูมิปัญญาไทย 330 ความจริง ผมมาอยู่เหมือนคนแปลก ประหลาด ผมไม่สนใจเร่ืองดินเลย แต่อยู่ที่ เทคนิควิธีการที่เป็นส่วนส�าคัญ เพราะมันจะ ส่ือสารกับลูกค้าได้ ส่วนของดินเม่ือรู้หลักการ ธรรมชาติ ท�าให้ดีมันง่ายมาก คือ ให้มันอยู่ เฉยๆ นน้ั แหละไมต่ อ้ งไปยงุ่ ปลอ่ ยใหธ้ รรมชาติ จดั การ ดนิ มนั กจ็ ะเหนยี วของมนั เอง แตเ่ ราตอ้ ง เลือกดินว่า ตรงไหนใชไ้ ด้ก็เทา่ น้นั เราปั้นลักษณะแบบโอ่ง แต่บิดไปตาม บางทีผมจะให้คนอ่ืนแต่ง อย่างปั้นเณร เราก็ จินตนาการ เอาสบาย ๆ งานปั้นมือคนชอบ จะใส่หลักคิดอะไรไปหน่อยหนงึ่ ภาพวาดผมก็ เยอะ ตอนนี้ผมปั้นกลึงล้อเล่นบ้าง ถ้างานปั้น จะวาดทง้ั หมด อันนเี้ ปน็ พน้ื ฐานของเราเพราะ มอื มนั ก็จะมีอารมณท์ ่ตี า่ งกนั มันนา่ สนใจอยู่ เราเรียนมาแบบน ี้ แล้ว แตถ่ ้าเปน็ งานหล่อ ผมกจ็ ะใสอ่ ยา่ งอนื่ ไป จรงิ แลว้ ดนิ มปี ญั หามาตลอด จนผมไดม้ า เจอหลกั การธรรมชาตเิ นยี้ แหละ พรอ้ มกบั การ ทเ่ี ราเจอหลกั การใชช้ วี ติ พอมาเรยี นรชู้ วี ติ แลว้ จรงิ ๆ มนั ง่าย ดนิ ก็เหมอื นกนั เราปล่อยใหม้ ัน หมกั อยใู่ นธรรมชาตแิ ลว้ ขดุ มาใช ้ ทา� ไมมนั ดที ง้ั ที่ ๆ เปน็ ดนิ กองเดยี วกบั ทไี่ มด่ ี
ครกู ิตติ อนันตแ์ ดง ๑๕ครู ด้านอุตสาหกรรมและหัตถกรรม ภูมิปัญญาไทย แตว่ นั นเ้ี อาไปใชเ้ ลย มนั กใ็ ชไ้ ด ้ เราหาเหตุ ผล หลกั การธรรมชาติ จลุ นิ ทรียต์ า่ ง ๆ เข้าไป 331 จดั การใหด้ ินมันเหนยี ว นัน่ คือ ความพอดขี อง ดนิ เอง ประสบกำรณเ์ หนอื กว่ำควำมรใู้ น ตำ� รำ เตำเผำทสี่ รำ้ งขนึ้ เองพสิ จู น์ ไดถ้ ึง แตเ่ ตานใ้ี ชเ้ วลา ๓๐ ชว่ั โมงแบบเราไมต่ อ้ ง เฝา้ เผาคนเดยี วไดส้ บายมาก ซง่ึ เราตอ้ งตกแตง่ เตาขา้ งในดว้ ย คดิ วา่ จะใหไ้ ฟขนึ้ ตรงไหน เพราะ เตาเผาตรงน้ี ผมพัฒนามาหลายคร้ัง อณุ หภมู เิ ตามนั สมั พนั ธก์ บั อากาศและเชอื้ เพลงิ ผมใช้หลักการฝรั่งซึ่งจะมีลักษณะเหมือนข้ัน ทา� ยังไงใหด้ นิ ทั้งหมด ในทุกชว่ งอุณหภูมจิ ึงจะ บนั ได เอาเรอื่ งเตาแกส๊ มาผสมดว้ ย อนั นที้ า� เอง เท่ากัน ออกแบบเอง มีช่องระบายอากาศ เรียนรจู้ าก หลกั การธรรมชาตเิ หลา่ นส้ี อนผม แรกนน้ั การมีโอกาสช่วยช่างที่ราชบุรี และจากท่ีเรา ผมเชื่อว่าเอาดินเหนียวมาก่อเป็นเตาแล้วจะดี เรียนมาค�านวณเอง เอาจดุ เดน่ ของเขามา พอ แต่พอก่อเสร็จแล้วมันพังเลย ตอนหลังนึกถึง เข้าใจท�าไมต้องเป็นอยา่ งนัน้ ลงทุนแค่อิฐ แพง จอมปลวก ว่ามันกเ็ ป็นดนิ ทา� ไมจงึ ทา้ ทายฝน ค่าขนสง่ เตานปี้ ระมาณ ๕๐,๐๐๐ บาท ถา้ มนั ได ้ ออ๋ ตอ้ งเรยี งเพม่ิ ทลี ะเมด็ เพราะมนั แหง้ ดนิ ไมร่ ว่ั มันอยูไ่ ด้นาน ปกตเิ ตาแบบนีท้ ่ัว ๆ ไปจะ เหนียวมันแห้งพร้อมกัน มันก็หดตัวเยอะ แต่ ใชเ้ วลาเผาสามวนั ดินทเี่ ราโปะทีละนิด ฉาบไปบาง ๆ ฉาบไปตรง ไหนเป็นหลุมก็คอ่ ย ๆ เติมไป พอแหง้ เขาก็หด ตัวแค่น้ันเพราะหมด การหดตวั แลว้ เรากเ็ ตมิ อีกได้ตลอดเวลา ระบบ ระบายใช้ผสมกับเตา แก๊สดว้ ย
๑๕ครู ครูกติ ติ อนนั ต์แดง ด้านอตุ สาหกรรมและหัตถกรรม ภูมิปัญญาไทย 332 เอาประสบการณ์สมัยใหม่มาผสมผสาน ใช้เทคนิคของเตาแก๊สมาใส่ของเราซ่ึงมันจะ เป็นข้ันบันได ห้องเชื้อเพลิงของผมจะเจาะรู ขา้ ง ๆ ไวเ้ ตมิ อากาศดว้ ยเพราะเรารวู้ า่ เชอื้ เพลงิ ตอ้ งการอากาศ จดุ ขา้ งๆ จะเป็นจุดอับเพราะ อากาศไม่เข้า อากาศก็จะเข้าไป พอไฟแรงไป ผมกอ็ ดุ ไฟกจ็ ะไปเรอ่ื ย ๆ ความยาวของเตา คอื ๔ x ๘ เมตร นีค่ ือ ภมู ิปัญญา ถามว่าผมเอามาจากพ่อ ไหม ผมเอามาจากพ่อใครก็ไม่รู้บ้าง พ่อของ หลาย ๆ คนมาอยู่ในเตาผม ผมเอาความคิด ของเขา จรงิ แลว้ สมยั ใหมอ่ งิ หลกั การธรรมชาต ิ อกี อยา่ ง ผมไมเ่ นน้ อา่ นคมั ภรี ์ เนน้ อา่ นคน ถา้ งานมนั คอื ชวี ติ เรา เรากไ็ มต่ อ้ งแยกออกจาก มากกวา่ เหมือนเรารู้วา่ คนนีม้ แี นวคิดนา่ สนใจ ชวี ติ เรากท็ า� งานสนกุ เกษตรเรากต็ อ้ งทา� มเิ ชน่ ทจี่ ะอ่าน ถ้าเราสนใจชีวติ เราก็ตอ้ งไปหาคนท่ี นน้ั จะคุยกบั ชาวบา้ นไม่รู้เร่อื ง สนใจชีวิต เราก็จะไดค้ วามคดิ อะไรหลายอยา่ ง ผมอยากบวชก่อนหน้าน้ีแต่ตอนน้ีคงไม่อยาก แลว้ คงไมใ่ ชส่ า� หรบั ผม อาจจะเหมาะกบั คนอน่ื ผมเป็นคนไม่ค่อยท้อแท้ แต่วัยรุ่นก็เคย อกหกั อะไรประมาณน้นั กม็ ี เมื่อกลับมาอยู่บ้าน อันไหนท�าได้ก็ให้ท�า งานหมู่บ้านมีเยอะ งานท่ีเราช่วยได้เราก็ช่วย เขาก็เห็นฝีมือ เหมือนมีบางเวทีที่เราข้ึนพูด แต่ในขณะที่เราสั่นตอนพูด เรากก็ ล้าทส่ี ดุ แลว้ ทเี่ ปน็ ผู้น�า ท้งั ๆ ท่ีเรากไ็ ม่มคี วามพรอ้ มอะไร มาก ปญั หาทแ่ี กไ้ มไ่ ดเ้ ลยมนั คงไม่ม ี ผมเรียนรู้ ปญั หาทแ่ี กไ้ มห่ าย ทา� ใหก้ ลายเปน็ นอนไมห่ ลบั อยหู่ ลายป ี
ครกู ิตติ อนนั ต์แดง ๑๕ครู ด้านอตุ สาหกรรมและหตั ถกรรม ภูมปิ ัญญาไทย 333 ผมแกป้ ญั หาการนอน อีกอย่าง ผมไม่เน้น ไมห่ ลบั ดว้ ยการหดั วาดภาพ อ่านคัมภีร์ เน้นอ่านคน แต่จะไปง่วงตอนเชา้ พอเรา มากกว่า เหมือนเรารู้ว่า เร่ิมเข้าใจชีวิตจึงบอกกับตัว คนนี้มีแนวคิดน่าสนใจที่ เองวา่ ถา้ คดิ แตเ่ รอ่ื งเดมิ แลว้ จะอ่าน ถ้าเราสนใจชีวิต ยงั แกไ้ ขไมไ่ ดก้ ไ็ มค่ วรตอ้ งคดิ เราก็ต้องไปหาคนท่ีสนใจ แล้ว ค่อยคิดในวันพรุ่งน้ีดีกว่า มีเวลาทั้งวัน จากนั้นก็ชีวิต ชีวิต เราก็จะได้ความคิด กลายเป็นพลกิ เลย จากนอนไมห่ ลบั กห็ ลบั เลย อะไรหลายอยา่ ง ผมอยาก ถา้ เปน็ งานผใู้ หญบ่ า้ นกเ็ ลยคดิ วา่ อนั นเ้ี ปน็ ปญั หาอยนู่ ะ บวชก่อนหน้านี้แต่ตอน แตใ่ ครจะแกไ้ ขได้ เอากองไวก้ อ่ นไมท่ �าให้เราเครยี ด เผลอๆ น้ีคงไม่อยากแล้ว มันคง ไมท่ ันแก้ มนั กค็ ล่ีคลายของมนั เองได ้ ไม่ใช่ส�าหรับผม มันอาจ “เหมือนเร่ืองช้างป่าบุกรุก บริเวณน้ีเคยโดนช้างป่า จะเหมาะกบั คนอ่ืน บกุ รกุ มากทสี่ ดุ แตต่ อนนก้ี เ็ ปน็ หมบู่ า้ นทป่ี ลอดภยั เพราะชาว บ้านออกมารว่ มมือ เขาเช่อื วา่ ผมสอ่ื สารกับชา้ งได ้ นัน่ ไมใ่ ช ่ นั่นเปน็ เพราะผมทุ่มเทศกึ ษาติดตามช้างมาเปน็ เวลานาน นี่ เขา้ สปู่ ที ี่ ๘ แลว้ จนคดิ วา่ เราเปน็ สว่ นหนงึ่ ของวถิ คี ชสาร และ มองสังคมเป็นหลกั ครง้ั แรก ผมเข้าป่าหลงั จากมคี นมาแจง้ ว่า “ผใู้ หญ่ ชา้ ง มา” ค�าวา่ ผใู้ หญ่ หมายถงึ ต�าแหน่งผใู้ หญบ่ า้ นแห่งต�าบลวัง ตะกอ ที่ครเู ป็นอย่เู วลาน้ี
๑๕ครู ครกู ิตติ อนันตแ์ ดง ดา้ นอุตสาหกรรมและหัตถกรรม ภูมิปัญญาไทย 334 เหมือนเร่อื งช้างปา่ บกุ รกุ บริเวณนเ้ี คยโดนชา้ งป่าบกุ รุกมากที่สุด แต่ตอนนีก้ ็เป็น หมูบ่ า้ นท่ปี ลอดภัย เพราะชาวบา้ นออกมาร่วมมอื เขาเช่อื วา่ ผมสือ่ สารกบั ชา้ งได้ นนั่ ไมใ่ ช่ นนั่ เป็นเพราะผมทมุ่ เทศกึ ษาติดตามชา้ งมาเปน็ เวลานาน นเ่ี ข้าสปู่ ที ่ี ๘ แลว้ จนคดิ ว่าเราเป็นส่วนหน่ึงของวถิ ีคชสาร และมองสังคมเปน็ หลกั “กอ่ นนผี้ มไปคนเดยี ว จนครงั้ ลา่ สดุ มชี าว จริงแล้วแนวพระราชด�าริของในหลวง บา้ น ๕๐ คน สมัครใจขน้ึ ไปดว้ ย ขนเสบียงข้นึ รชั กาลที ่ ๙ นน้ั ใครน้อมน�าไปปฏิบัติไดไ้ มย่ าก ไปท�ากินกันด้วย เขารู้ว่าไปกับผู้ใหญ่ มันรอด ในหลากหลายวิธี พอดีผมรู้สึกว่าอยากท�าส่ิง มีอะไรดี ๆเกิดข้ึนเยอะ ช้างมันก็มีอะไรวิเศษ นัน้ เรอื่ งทรัพยากรผมก็ทา� พาเด็กเขา้ ไปในป่า เหมอื นงานศลิ ปะกเ็ ชน่ กนั โรงเรยี นทง้ั หมดแถว สวนทางกับการสอนของครู สอนให้เด็กรู้จัก นี้พอพูดถึงงานศิลปะก็ต้องนึกถึงผม ปกติผม เป็นขัน้ ๆ ไป อันนก้ี ้อนหนิ ใบไม ้ ฯลฯ แต่เรา เข้าไปในกลุ่มครูที่มีแต่ครูเท่าน้ัน เมื่อมีผู้ใหญ่ ไม่ใช ่ เราให้เขาเห็น นฤ่ี ดรู อ้ นนะ เหน็ ไหมมัน บ้านหนมุ่ ๆ โผล ่ มาคนหนึ่ง แลว้ ไปสอนครู จัด ไมม่ อี ะไร พนื้ ดนิ แหง้ แลง้ ปา่ ผลดั ใบเปน็ อยา่ งไร อบรมครใู นเรอื่ งของศลิ ปะ ทกุ คนกย็ อมรบั และ อะไรเปน็ เหต ุ ทางแก้ของมนั เป็นอยา่ งไร โดย ตดิ ตามผลงาน นอกจากในเวทีก็ได้ร้จู กั กัน เอา เรียนร้จู ากธรรมชาติรอบตวั จรงิ ๆ ลูกศิษยม์ าเรยี นกัน ยกตัวอย่าง การจัดเรื่องน�้า ตั้งแต่ต้นน�้า ตอนผมกลับมาอยู่บ้านใหม ่ ๆ ก็คิดเยอะ ยันชาวบ้านทุกคน น�้าทุกเส้น คนเห็นสิ่งที่เรา ทจี่ ะเอาอะไรกเ็ อาไปใหช้ าวบา้ น แตพ่ อถงึ เวลา ทา� ดว้ ยความจรงิ ใจ จากไมย่ อมรบั เขากย็ อมรบั จรงิ มนั ไมใ่ ชจ่ รงิ ๆ เพราะตวั เรากแ็ บบหนง่ึ การ เพราะไมใ่ ชผ่ มเป็นคนได้ประโยชน์คนแรก จะให้เขายอมรับ ไว้วางใจต้องท�าให้เขารู้สึก เข้าใจถึงท่ีมาที่ไป ตอนหลังผมก็จัดระบบการ ใหเ้ ลย เดก็ อนบุ าลกต็ อ้ งแบบหนงึ่ เขาตอ้ งสนกุ ต้องมีนิทาน การสอนต้องต่างกัน ต้องให้เขา สนุก
ครูกิตติ อนันต์แดง ๑๕ครู ด้านอตุ สาหกรรมและหตั ถกรรม ภมู ปิ ญั ญาไทย 335 ฝำยยำงรถยนต์ ต้องกำรสื่อถึง หลักกำรของพระองค์ อีกอยา่ งทผี่ มทา� คอื ฝายยางรถยนต์ ไมใ่ ช่เพราะตอ้ งการฝาย จรงิ ๆ แลว้ ผม ต้องการให้คนเข้าใจหลักการของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพติ ร ในหลวง รชั กาลท ี่ ๙ ท่วี ่า ทรงเปน็ ต้นแบบในการท�าคนไทยทุกคนไดค้ น้ พบ หวั ใจสา� คญั ของการอนรุ กั ษน์ า้� ทตี่ า่ งไปจากเขอื่ นกกั เกบ็ นา้� ทว่ั ไป แตเ่ ปน็ อะไรทช่ี ว่ ยชะลอความ ชุม่ ชื้นในผืนดินและกลายเป็นสิ่งต้งั ตน้ สา� คัญตอ่ เมล็ดพนั ธ์ุทีร่ อการเติบโต ดงั นน้ั ฝายจงึ เปน็ สง่ิ ทถี่ กู สรา้ งขนึ้ ดว้ ยฝมี อื มนษุ ย ์ ทา� ไวส้ า� หรบั ชว่ ยกกั เกบ็ นา้� และชะลอการ ไหลเวยี นของนา�้ ไดด้ ี ปอ้ งกนั นา�้ ทว่ มจากแมน่ า�้ ลา� ธารไดด้ ี โดยเฉพาะฤดฝู นทเี่ สย่ี งตอ่ กระแสนา�้ ท่ี รุนแรง อีกทั้งยงั ช่วยปกปอ้ งหน้าดนิ ชว่ ยลดการพงั ทลายของหนา้ ดินไดเ้ ป็นอย่างดี ปกติเราจะ เหน็ ฝายกนั้ นา้� สว่ นใหญจ่ ะถกู สรา้ งบรเิ วณลา� หว้ ย และเปน็ ลา� ธารขนาดเลก็ ทอ่ี ยใู่ นชว่ งของตน้ นา้� แต่ฝายยางรถยนต์ ก็เป็นเร่ืองของวัสดุที่แปลกไปจากท่ีเห็นกันท่ัวไปเท่าน้ันเอง และ ต้องการใหเ้ ดก็ ๆ และคนในชุมชนได้เข้ามามสี ่วนร่วมด้วยมอื ของเขาเอง มากกว่าจะไป เรยี กรอ้ งใหค้ นขา้ งนอกเขา้ มาสนใจ ขอใหค้ นนนู้ คนนม้ี าทา� ฝายใหเ้ รา แตอ่ ยากให้ ชาวบา้ นลกุ ขน้ึ มาทา� เองจรงิ ๆ ผมกท็ า� เรอ่ื งของฝายกบั ปา่ ผมกพ็ ดู แนวคดิ อะไรไปทกุ วัน และความรว่ มมือมนั ก็เกิด
๑๕ครู ครูกิตติ อนนั ต์แดง ดา้ นอุตสาหกรรมและหตั ถกรรม ภมู ิปัญญาไทย 336 แรกนั้น มีบางคนต่อว่าผมเรื่องการสร้างฝายแต่ก็ พยายามชแี้ จงใหเ้ หน็ วา่ ผมไมไ่ ดท้ า� ฝายกกั นา�้ ไมใ่ หท้ ว่ มทข่ี อง ผม ไมไ่ ดก้ กั นา�้ เพอื่ ใชป้ ระโยชนส์ ว่ นตวั แตท่ า� ฝายเพอื่ กกั ไมใ่ ห้ มนั ทว่ มลงไปทา� ใหบ้ า้ นคนอน่ื เขาเดอื ดรอ้ น ชวี ติ เปน็ ทกุ ขก์ บั การเผชญิ นา้� จากปา่ ทไ่ี หลบา่ ไปทว่ มขา้ งลา่ งเรว็ เกนิ ไป ผมมงุ่ สรา้ งเพอ่ื สรา้ งความชนื้ ใหก้ บั ผนื ปา่ อนั เปน็ มรดกของชาตขิ อง มวลมนษุ ยท์ ต่ี อ้ งอยรู่ ว่ มกนั ทไ่ี ปถงึ ปากนา้� หลงั สวนเลยทเี ดยี ว ตรงน ี้ ผมเข้าถงึ เด็กไดท้ ุกคน เดก็ ท่ีน่ชี อบพายเรอื ผมก็ ทา� ใหเ้ ขา ซอื้ เรอื ใหเ้ ขา ผกู แพใหเ้ ขา บอ่ นา�้ กข็ ดุ ไวเ้ ยอะเพราะ ในหลวงบอกวา่ ๒๐% ผมเชอื่ ผมยงั มบี อ่ น�้าขา้ งหลงั อกี ผมมี หว้ ยอกี กใ็ นหลวงบอกใหพ้ งึ่ พากนั ผมเอาไก ่ เปด็ หม ู ไปเลย้ี ง รวมกนั ไก่กไ็ ปเขยี่ ขีว้ วั กิน เขาก็พึ่งพากันได้ หา่ นก็ช่วยเล้ียง เป็ด ที่ปล่อยมันหลุดออกมาเอง และในส่วนของทรัพยากร ทางพันธกุ รรมพชื น้ีจะถกู หลอมเขา้ ไปดว้ ยกัน แลว้ สงิ่ ท่ีไดจ้ ะตามมา คอื เปน็ การสร้างจติ ส�านกึ ใหเ้ ดก็ เยาวชน และคนชมุ ชน รสู้ กึ หวงแหน ทรพั ยากรของพนั ธพ์ุ ชื ที่ มอี ยูใ่ นปา่ ของตา� บลวงั ตะกอ ไดใ้ ห้เขา้ ใจถงึ โครงการ อพ.สธ. ทท่ี รงใหค้ วามสา� คญั และทรงหว่ งใยถงึ ความหลากหลายทาง พนั ธกุ รรมของพชื ทอ่ี าจสญู หายไป หากไมม่ กี ารอนรุ กั ษไ์ วใ้ ห้ เดก็ ไทยรนุ่ หลงั ไดร้ จู้ กั ประโยชนข์ องทรพั ยากรพรรณพชื และ การอนรุ กั ษ์สิ่งแวดลอ้ ม
ครูกติ ติ อนันต์แดง ๑๕ครู ดา้ นอุตสาหกรรมและหตั ถกรรม ภูมิปัญญาไทย 337 ผมติดตามผลงานของท่านพุทธทาสภิกขุ ธรรมะท่ี เหมาะกบั ตวั ผมทสี่ ดุ วา่ ไปแลว้ ผมกเ็ ปน็ แคเ่ ตา่ แบกตา� รามา นาน อ่านจนเข้าใจ อ่านเล่มใหม่กล็ ืมเลม่ เกา่ เพราะอนั น้ดี ี กวา่ อา่ นไปกไ็ มเ่ ขา้ ใจชวี ติ สกั ท ี ตงั้ คา� ถามตนเองตลอด ชวี ติ ตอ้ งการอะไรกนั แน ่ ออกไปขวนขวายในสง่ิ ทส่ี งั คมตอ้ งการ เราไมไ่ ดต้ ้องการ พอเราเขา้ ใจว่าหลักการเรือ่ งของศีลธรรม ไมใ่ ชเ่ รอ่ื งทเ่ี รยี นร ู้ มนั คอื เรอื่ งพน้ื ฐานของเราแลว้ แคเ่ อาสง่ิ รบเรา้ ของนอกออกไป เราก็มศี ีลธรรมได้แล้ว การสรา้ งจติ ส�านกึ ใหเ้ ดก็ เยาวชน และคนชมุ ชน รูส้ ึกหวงแหน ทรัพยากรของพันธุ์พืช ที่มีอยู่ในป่าของต�าบลวังตะกอ ได้ให้ เข้าใจถึงโครงการอนุรักษ์พันธุกรรมพืชอันเนื่องมาจากพระ ราชด�าริ สมเดจ็ พระเทพรัตนราชสดุ าฯ สยามบรมราชกมุ ารี ขชี้ ำ้ ง คอื เจตนำ เปน็ สมบตั ขิ องผมและของผคู้ นทน่ี ี่ ตอนนผี้ มเอาขช้ี า้ งมาทา� คอื เจตนาของผม ตอ้ งการทา� ผา่ นเรอ่ื งชา้ ง ผมฟงั ทงั้ ประเทศในเรอื่ งทช่ี า้ งมาบกุ ทท่ี า� กนิ ผมเชอ่ื วา่ ยงั ไมม่ ใี ครแกไ้ ด ้ ไม่ เชิงวา่ แกไ้ มไ่ ด้ คือ การจะอยูร่ ว่ มกับช้างได้จริง ๆ นอกจากผลกั ดันให้ช้าง อยู่ในปา่ แล้ว ยงั ต้องมคี นอยูใ่ กล ้ ๆ ชา้ ง ด้วย ไม่งน้ั เราย่อยยับ ตอนน ้ี เรม่ิ ลกุ ขน้ึ มาทา� เพอื่ ชา้ ง คดิ วา่ ชา้ งเปน็ สมบตั ขิ องผมและของ ผู้คนทนี่ ี่ ผมจึงลงมอื ปลกู กลว้ ยขา้ งทางใหช้ ้าง พอชา้ งมาก็จะต้อนใหข้ น้ึ ถนน ไม่ต้องบุกที่ชาวบ้าน ผมพานักเรียนชาวบ้านขึ้นไปข้างบนท�าฝายให้ช้าง ฝายนี้ไม่ได้เอาน้า� มาใช้ในสวน แต่สร้างฝายเพ่ือสรา้ งความช้ืน ไมต่ อ้ งไป ปักป้ายว่าอันนี้พ้ืนที่อนุรักษ์ แต่เราต้องไม่ล่าก่อน ด้วย ความเขา้ ใจทช่ี าวบา้ นอนรุ กั ษไ์ มใ่ ชเ่ ขากลวั ผใู้ หญบ่ า้ น อยา่ งผมจบั น�า้ มใี นห้วยเพราะเราไปสร้างไว้
๑๕ครู ครกู ติ ติ อนันตแ์ ดง ดา้ นอตุ สาหกรรมและหตั ถกรรม ภูมิปญั ญาไทย 338 เมอื่ หว้ ยมคี วามชนื้ สระน้�าที่ขุดไว้ เขาก็จะ มนี า้� ปีแรกไม่เห็นผล ปี ท่ีสองเห็นผล ชาวบ้าน เชอ่ื ในหว้ ยในคลองเขา อนญุ าตให้เราไปจัดการ ทง้ั หมด ชา้ งอยตู่ รงไหน คน ก็บุกรุกป่ายาก ขณะ เดยี วกนั เมอ่ื เรารบู้ รเิ วณ ท่ีช้างอยู่ตรงไหนเราก็พาเด็กข้ึนไปหว่านเมล็ด พืชให้ช้างกิน มันก็อนุรักษ์ไปด้วย ช้างโดย ธรรมชาติจะลงมาหาของกินในหมู่บ้าน เวลา ที่ผมตอ้ นข้นึ ไปจะมปี ัญหา คอื ช้างตอ้ งผ่านใน สวนของชาวบ้าน แล้วไปกินของชาวบ้านไม่ เท่าไหร่ แต่ส�าคัญตรงท่ีเหยียบท่อน�้าชาวบ้าน ผมก็ใช้ข้ีช้างมาผสมกับวัสดุต่างๆ เอามาปั้น แตกหกั ผสมดนิ เพื่อใหใ้ ช้ดินน้อยลง จรงิ ๆ แลว้ เรอื่ ง ผมจะต้อนช้างข้ึนถนนหมด ถนนจะมุ่งสู่ นก้ี ท็ า� ใหผ้ มคดิ ได”้ ครบู อกดว้ ยความภาคภมู ใิ จ ปา่ ท่นี ี้ถนนไมม่ อี าหาร ช้างก็พยายามจะต่อสู้ ชา้ ง ทา� ใหเ้ ราคดิ อกี มมุ หนงึ่ เราคดิ วา่ เราก็ กบั เราบา้ ง แหกฝงู ออกไปกนิ ของชาวบา้ น ผมก็ อยกู่ บั งานทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั ธรรมชาต ิ แตท่ จ่ี รงิ เรา มาสอ่ื กบั ชา้ งบนถนนทเ่ี ราปลกู มนั ไมม่ ากพอที่ กท็ า� รา้ ยธรรมชาตเิ ยอะเหมอื นกนั ชา้ งทา� ใหผ้ ม จะท�าใหช้ า้ งอม่ิ ไดแ้ ตเ่ ราพดู ให้มนั ดงั ๆ ใหช้ า้ ง เปลี่ยนความคิด อย่างน้อยตอนน้ีชาวบ้านใน ได้ยินว่า วันนี้ผู้ใหญ่เอาจริงนะ ทุกคนก็จะมา ชุมชนเห็นคล้อยกับเร่อื งน้ ี (ช้าง) และชาวบา้ น โวยวายว่า ช้างจะมากินของเขา ที่อนื่ เห็น ก็ไปบอกผู้นา� เขา เยาวชนเปน็ เรือ่ งท่ี “เร่ืองช้าง ท�าให้ผมเปล่ียนส่วนผสมผม ผมไม่ท้งิ เยาวชนจะสร้างปญั หาข้นึ เรื่อยๆ ถา้ ลดมา คือ ในเวทีผมกค็ ยุ เรื่องชา้ งเรากจ็ ะเห็น เรายอมรบั ไมไ่ ด้ วนั ขา้ งหนา้ จะทา� ใหเ้ รายงิ่ เดนิ ปัญหาด้านนั้นแหละ เอาเร่ืองของประโยชน์ หา่ งเขา เขาเปน็ ผนู้ า� เรา เรารบั ไหวไหม วนั นค้ี ง หละ ชา้ งไปขต้ี รงไหน ขใี้ นสวนเรา ปยุ๋ ชน้ั เยยี่ ม ตอ้ งดแู ลเขา
ครูกติ ติ อนันตแ์ ดง ๑๕ครู ดา้ นอตุ สาหกรรมและหัตถกรรม ภูมปิ ัญญาไทย อยำ่ ทงิ้ ควำมเชอื่ มน่ั ทเ่ี รำมมี ำตง้ั แตแ่ รก สิง่ ทีเ่ รำเช่อื น้ันแหละ คอื ตัวตนของคน 339 จริง ๆ แล้ว ไม่ว่าเราขยับทางไหนมีแต่ท�าลาย ผมวา่ ผมต้องมีตลาดให้ชาวบา้ น เรา ธรรมชาติหมด แม้แต่นักอนุรักษ์เขาก็เลี่ยงหมดเลยนะ อยกู่ ับชาวบ้าน เราตอ้ งทา� ถา้ ผมไม่ แตบ่ างทเี ขาอาจทา� ลายหนกั เขา้ ไปอกี ผมมองตรงน ี้ ผม ทา� ปัญหากอ็ ยู่ที่ผมตลอด ผมไดง้ บ กพ็ ยายามหนเี หมอื นเรอื่ งชา้ ง ผมจะมาทา� ยงั ไงใหง้ านตวั มาก็สร้างตลาด วันนี้เราเป็นผู้ใหญ่ ตนของเรากต็ อ้ งยงั ม ี สงิ่ ทเ่ี ราเรยี นมากต็ อ้ งม ี ภมู ปิ ญั ญา ทา� สิง่ นี้ได้กท็ า� ไป ก็ต้องมี ผมก็คดิ ว่าเราไมท่ า� ลายทางนี้ เราก็ตอ้ งท�าลาย รายไดเ้ ฉล่ยี ผม ไม่ได้สนใจมาก ทางอ่นื กม็ พี อชว่ ยเหลอื เออ้ื เฟอ้ื สงั คมได ้ ผม ผมกค็ ดิ วา่ เราจะทา� ยงั ไงกไ็ ดใ้ หเ้ ราอยไู่ ดด้ ว้ ยความ ไมอ่ ยากคดิ มากวา่ ทา� อนั นไ้ี ดพ้ นั หนงึ่ พอด ี สมดลุ ของมนั อยแู่ คน่ ี้ และเรากอ็ ยา่ ทง้ิ ความเชอ่ื มนั่ แล้วต้องท�าอีก ส่ิงใดที่เราท�าแล้ว ทเ่ี รามมี าตง้ั แตแ่ รกวา่ สงิ่ ทเ่ี ราเชอ่ื ความเชอ่ื ของเรานนั้ สามารถเล้ียงเราได้ ก็อย่าไปคิดมาก แหละคอื ตวั ตนของคนทนี่ ี้ ความเชอื่ แบบผม ผมกเ็ อามา คดิ แลว้ เหมอื นเราบม่ เพาะความเหน็ ใสใ่ นงานของผม แกต่ วั ไวต้ ลอด แตเ่ ราคดิ วา่ ถึงเวลา รายได้มาจากงานปั้น งานวาด งานสวน สวนม ี ท่ีควรท�าให้ชาวบ้านได้แล้วนะ ถ้า ๑๐ กวา่ ไร่ ถ้าเราไม่ไดฟ้ ุม่ เฟอื ยมาก ผมมรี า้ นกาแฟอยู่ ชาวบ้านเห็นว่าเราควรท�า เขาก็จะ ที่ตลาด ผมรณรงค์ให้ชาวบ้านเล้ียงไก่ เอาไข่ ไปไหน เลือกเรา แตถ่ ้าเขาคดิ วา่ เราเดก็ ไปก็ ครับ ปลกู ผักกินไมห่ มด เอาไปไหนครบั มนั กไ็ มม่ ีที่ไป ไมเ่ ปน็ ไร
๑๕ครู ครูกิตติ อนันต์แดง ด้านอตุ สาหกรรมและหตั ถกรรม ภูมิปัญญาไทย 340 บางคนบอกชา่ งมนั สิผใู้ หญ่ ให้มนั รบู้ า้ ง ผมบอกคดิ ผดิ แลว้ ถา้ เขาเจ็บมาจากท่ี นนู้ เขาจะกลบั มาทไ่ี หน บา้ นเขาอยไู่ หน แลว้ ปญั หาจะเกดิ กบั ใคร ผมไปตามกลบั มา ช้างอยกู่ ับคนได้ ต้องคิดดีจรงิ ไม่ใช่คิดดีแต่ใจไมด่ ี ผมวา่ ช้างเหมอื นคนทเ่ี ราเหน็ เลยวา่ คนน้ี ผมบอกคิดผิดแล้ว ถ้าเขาเจ็บมาจากท่ีนู้นเขา คบได ้ คบไมไ่ ด ้ แลว้ ชา้ งหวั สมองใหญ ่ ผมวา่ ชา้ ง จะกลับมาท่ีไหน บ้านเขาอยู่ไหน แล้วปัญหา มองคนขาดมากกวา่ เรา ผมเปน็ คนไมค่ อ่ ยเช่ือ จะเกดิ กับใคร ผมไปตามกลับมา ชา้ งอยู่กับคน อะไรง่าย แต่เหมือนช้างเขามีสัมผัสพิเศษกับ ได ้ ต้องคดิ ดจี ริง ไมใ่ ช่คิดดแี ตใ่ จไมด่ ี ผมวา่ ช้าง คน ต้ังแต่ลุกมาท�าเรื่อง เขาร ู้ ผมยงั เชอ่ื มน่ั วา่ ชา้ ง ช้าง ปรากฏว่าหมู่บ้าน น้ันรับรู้ได้ว่า เราไม่เคย คอ่ นขา้ งปลอดภยั ชา้ งลง คิดร้ายเลยกบั พวกเขา มาเดนิ ผา่ นหมบู่ า้ นเราไป ผ ม ใ ช ้ เ ฟ ส บุ ๊ ค เลยไปเกือบสิบกิโล หาก ประชาสัมพันธ์หลายๆ ผมไปตอ้ นกลบั มา ชา้ งมนั อย่าง ผมท�าท้ังเรื่อง หลงไปอยู่ที่นู้นคืนหนึ่ง งานดินปั้นและเร่ืองช้าง แหละ ท�าให้คนข้างนอกเข้าใจ ผมใช้เวลาอีกสาม มากขน้ึ คืนเอากลับมาที่น้ี มีแต่ ทั้งหลายทั้งปวง คนคิดว่าผมคงไม่ได้กลับ ของเรื่องราวตั้งแต่ต้น มาและคงไมไ่ ดเ้ ปน็ ผใู้ หญ่ จนจบ ล้วนเป็นความ แล้วจะมีใครคนไหนไป หลากหลายท่ีเข้ามาเติม เอาช้างตัวท่เี ปน็ ปญั หากลับมาไวท้ บี่ า้ นตวั เอง เตม็ ชวี ติ ของครกู ติ ติ อนนั ตแ์ ดง ครภู มู ปิ ญั ญา แต่ชาวบ้านเข้าใจ ท่ีนู้นไม่มีป่า กลางวัน ไทย ด้านอตุ สาหกรรมและหตั ถกรรม ผใู้ หญ่ ช้างจะไปหลบที่ไหนครับ เม่ือใดที่ช้างออกมา บ้าน แห่งต�าบลวังตะกอ อ�าเภอหลังสวน หากินกต็ ้องทะเลาะกบั ชาวบา้ นเรอ่ื ยไป ไม่คน จงั หวดั ชมุ พร ให้มีสีสนั ประหนึ่งงานศลิ ปะท่ี ก็ช้างต้องเสยี หาย น่าติดตามมใิ ชน่ ้อย บางคนบอกช่างมันสิผู้ใหญ่ ให้มันรู้บ้าง ทอ่ี ยปู่ จั จบุ นั : ๑๐๔ หมทู่ ี่ ๑๒ ต.วงั ตะกอ อ.หลงั สวน จ.ชมุ พร ๘๖๑๑๐
ครูกติ ติ อนันตแ์ ดง ๑๕ครู ด้านอุตสาหกรรมและหตั ถกรรม ภมู ปิ ัญญาไทย 341 ฝกึ ปนั้ ดนิ ใหเ้ ปน็ ดาว ครูกิตติ อนันต์แดง ครูภูมิปัญญาไทย รุ่นที่ ๗ ผู้ใหญ่บ้านที่ รกั ษางานศิลปะ สนใจเคร่ืองปนั้ ดนิ เผา เรียนรใู้ ช้หลักธรรมชาติ ผสม ผสานแนวคิดแนวปฏิบตั ิยุคใหม่ พัฒนาดิน พฒั นาเตาเผา และศลิ ปะ ผลิตงานเซรามกิ ในรูปแบบของตน ร่วมแก้ปญั หาให้ชาวบา้ น โดยใช้ ประโยชนจ์ ากทรพั ยากรในพนื้ ท่ี ทง้ั ในเรอ่ื งฝายยางรถยนต์ ลดการพงั ทลายของหนา้ ดนิ ปลกู กลว้ ยตลอดแนวเสน้ ทางถนน เพอื่ เลยี้ งชา้ งลด ปัญหาช้างบกุ ไร่สวน สอนเดก็ เยาวชน และชมุ ชนใหร้ จู้ ักคุณค่าและ ร่วมอนรุ ักษ์ทรัพยากรพรรณพืชและสงิ่ แวดล้อม
๑๕ครู ครูกติ ติ อนนั ต์แดง ด้านอุตสาหกรรมและหตั ถกรรม ภูมิปัญญาไทย 342
ครูกชี า วิมลเมธี ๑๕ครู ดา้ นการแพทยแ์ ผนไทย ภูมิปญั ญาไทย 343 ครูกชี า วิมลเมธี ครูภมู ปิ ญั ญาไทย ดา้ นการแพทย์แผนไทย
๑๕ครู ครูกีชา วิมลเมธี ด้านการแพทย์แผนไทย ภมู ิปญั ญาไทย 344
ครูกชี า วมิ ลเมธี ๑๕ครู ดา้ นการแพทย์แผนไทย ภูมิปญั ญาไทย 345 áçºÑ¹´ÒÅ㨠เกดิ ในครอบครวั ที่ยากจนทีส่ ุด และอย่ใู นถ่ินทรุ กันดาร “ผ ท่ีสดุ ในประเทศไทย มเกิดในครอบครัวท่ียากจนที่สุด และอยู่ในถ่ินทุรกันดาร ที่สุดในประเทศไทย ไม่มีถนน มีแต่ป่าดึกด�าบรรพ์เลยที่ ผมเกิด อ�าเภอรอ่ นพิบูลย์ นครศรีธรรมราช พ่อเป็นคนจนี ตายตัง้ แต่ แบเบาะไม่เคยเหน็ หน้าพ่อ
๑๕ครู ครกู ชี า วิมลเมธี ดา้ นการแพทย์แผนไทย ภมู ปิ ัญญาไทย 346 346 ตอนเด็กเรียนหนังสือกย็ ากจนนะครับ พอพ่อตาย แม่ กไ็ ปฝากวดั เพราะบา้ นอยใู่ กลว้ ดั กเ็ รยี นหนงั สอื กบั อาจารย์ ทวี่ ดั ไมไ่ ดเ้ รยี นตอ่ บวชเรยี นมาสบิ กวา่ พรรษา ตอนบวชจบ นกั ธรรมเอก จบบาลปี ระโยคสาม แตไ่ มไ่ ดส้ อบมหาเปรยี ญ เพราะผมเดินทางไปพม่า ไปอยพู่ มา่ ๗ ป ี ไม่มีพาสปอร์ต เลย ตรวจคนเขา้ เมืองไมม่ ี ผมกเ็ ดนิ ไปเร่ือย ๆ อยู่ทั้งในปา่ ในเมือง ศึกษาธรรมะไปเร่ือย แล้วทีนี้ในสกุลของผมนี้ แพทยแ์ ผนไทยรอ้ ยเปอรเ์ ซน็ ต์ครบั ” ครูเร่ิมต้นเล่าชีวิต ด้วยน�้าเสียงที่แสดงความคุ้นเคย หลังทักทายแนะน�าตัวกันแล้ว โดยพาเดินเข้าไปที่จัดเป็น ห้องรับแขกภายในเรือนไม้ข้าง ๆ ยังมหี ้องสมดุ ขนาดใหญ่ ใช้ได้ทั้งการประชุมหรือเสวนาหรือใช้ในการอบรมกลุ่ม ประมาณสิบกวา่ คน สามารถทะลไุ ปถงึ หอ้ งตา่ ง ๆได้อย่าง สะดวก มองเลยออกไปท่ีลานหน้าบ้านท่ีเดินผ่านเข้ามา เป็นสวนสมนุ ไพรทปี่ ลกู เอาไวม้ ากมาย “ปลูกเอาไว้ ให้คนทเ่ี ข้ามาได้เห็นของจริง นักเรยี นที่ ครใู ชใ้ หม้ าทา� รายงานเขา้ มาถาม ผมกอ็ อกใหค้ วามรู้ ทเี่ หน็ เดก็ ๆ เดินเลียบ ๆ เคยี ง ๆ กลุ่มหนง่ึ นน่ั แหละ ผมบอก ให้รอก่อน เขาก็รอนะ มัธยมบ้าง กศน.บ้าง ชาวบ้าน บ้าง มตี ลอดกลุ่มเลก็ กลมุ่ ใหญ่” ครูช้ใี หด้ ู อย่าง มีความสุขกับภาพท่เี ห็น
ครกู ีชา วมิ ลเมธี ๑๕ครู ด้านการแพทยแ์ ผนไทย ภูมปิ ัญญาไทย จิบน้�าสมุนไพรอุ่น ๆ แก้วแรกท่ีครูตั้งใจหยิบย่ืนให้ กระดกดมื่ ทเี ดยี วหมดแกว้ ในใจบอกวา่ เปน็ นา้� จากตน้ ตะไคร้ 347 แน่ ๆ แตค่ รยู กขน้ึ จบิ ชา้ ๆ เหมอื นรอใหม้ นั ซมึ ซบั ซาบซา่ นไป ทั้งลิ้นกอ่ นหายไปในล�าคอ ปล่อยให้เครอื่ งดืม่ บรรจกุ ระปอ๋ ง ผลิตภัณฑ์ จากโรงงานใหญ่ที่ครูจัดวางไว้ต้อนรับอีกชุดหน่ึง เหมือนเป็นนางร�าขเ้ี หร่ รอเก้อบนเวทอี ยู่อยา่ งนั้น “ผมลมื ตาดูโลกเม่ือวันที ่ ๖ เดอื นมนี าคม พ.ศ. ๒๔๗๖ ทจี่ งั หวดั นครศรธี รรมราช เปน็ บตุ รคนท ่ี ๔ คนสดุ ทอ้ งของพอ่ เอย้ี งกบั นางสม้ แปน้ วมิ ลเมธ ี เกดิ ในครอบครวั ของแพทยแ์ ผน โบราณ ในวยั เดก็ ไดเ้ รยี นรเู้ รอื่ งสมนุ ไพร และการประกอบยา จากตาและลงุ ของตนเอง..” อดถามไม่ได้ว่า สมัยตอนเด็กน้ันท่ีว่ายากจนที่สุด อดอยากขนาดไหน “มนั อดจรงิ ๆ จนทส่ี ดุ ไมก่ นิ เจด็ วนั แปดวนั ยงั อยไู่ ดค้ รบั หุงข้าวไม่พอเอามันเทศใส่เข้าไป เวลากินไม่มีกับข้าว ทาง ปกั ษ์ใต้เขาเอากะปมิ าเกาะกบั ชอ้ นแลว้ ไปผงิ กับถา่ นไฟ พอ มันกรอบเหลืองหอมฉุยก็เอามาคลุกกินกับข้าวเปล่า บางที หกวันเจ็ดวันกินอย่างเดียว กินได้นะครับกินสบาย” ครูพูด เล่าไป หัวเราะไป
๑๕ครู ครกู ีชา วมิ ลเมธี ด้านการแพทยแ์ ผนไทย ภูมิปัญญาไทย ตอนนนั้ มกี นั หลายคนเปน็ ครอบครวั ใหญ่ สบิ กวา่ คน เรอ่ื งปลาเรอ่ื งกงุ้ ในทงุ่ 348 นาหากินสบาย ปัจจัย ๔ คอื ปจั จยั หลกั ของชีวิต อาหาร เคร่ืองน่งุ หม่ ทีอ่ ยู่อาศยั และยารักษาโรค ซง่ึ จะอย่ลู �าดับท้ายสุด ถา้ ไม่จา� เป็นไม่ตอ้ งใช้ ซง่ึ พระพุทธองค์ ทรงจัดอนั ดับไว้ ๔ ชนิด คอื • อาหาร จะมาอันดบั หนง่ึ ไม่มอี าหารตายหมดไมว่ า่ คน พืช สตั ว์ • อนั ดับสอง เสอื้ ผา้ ป้องกันหนาวปอ้ งกันลม • อันดับสาม ท่พี ักที่นอน • แลว้ ทีส่ ่ี ยารกั ษา เป็นตวั สดุ ท้าย มันจา� เปน็ หรือไมจ่ า� เปน็ ไมต่ อ้ งใชย้ า ต้ังแต่เด็กท่ีอยู่วัดมาจนถึงบัดนี้ สึกมาแล้ว ผมไม่ได้เดือดร้อนอะไร เพราะผม อยูใ่ นบ่อทอง ธรรมะรักษาผ้ปู ฏบิ ัตธิ รรมไมใ่ ห้ตกลงไปในท่ชี ั่ว ไม่ตอ้ งเอาอะไร หรอกครบั เอาตวั นต้ี วั เดียว พอธรรมะรกั ษาผู้ปฎิบตั ิธรรมไมใ่ ห้ตกลงไปในท่ีชว่ั กเ็ หมอื นเกลือรกั ษาความเคม็ อยทู่ ่ไี หนมันกเ็ คม็ ทน่ี ี่ ผมบอกท่ีจนนะว่า อาหารแล้ว เสอื้ ผ้า กางเกงขาสนั้ เน้ียไมม่ เี ปลย่ี น มี มาสองตวั กส็ องตวั ถา้ สองตวั นน้ั มนั ขาดกเ็ ยบ็ กบั ดา้ ย ไมม่ ดี า้ ยไปใชท้ างสบั ปะรด ผมไปขูดเอาใยสับปะรดเหนียวเหมือนด้ายเอามาเย็บ ถ้าสับปะรดหาไม่ได้ก็ ไอ้เถาย์หนวด
ครูกชี า วิมลเมธี ๑๕ครู ด้านการแพทย์แผนไทย ภมู ปิ ญั ญาไทย “นผี่ มพดู ความจน เพอื่ นผมทม่ี อี าชพี พอ่ แมร่ วย ๆ เขาใสน่ า้� มนั ตนั โจ แต่ผมไปเจอต้นไมเ้ คลด็ อยู่กลางทงุ่ เป็นหนาม เอาลกู มันมาต ี มนั จะ 349 มยี างเหนยี ว ๆ เอามาใสผ่ ม ติดแล้วมนั แน่นอยู่ไดเ้ ปน็ เดือนครบั อาบนา�้ ไมห่ ลดุ นน้ั คอื นา้� มนั ใสข่ องผม มนั จนแคไ่ หนลองคดิ ด ู อยากหลอ่ กห็ ลอ่ ไมไ่ ด”้ คราวนี้ระเบดิ เสยี งหัวร่อด้วยความชอบใจทัง้ คนเล่าและคนฟัง ผมว่าชีวติ ผมนี่มัน หนง่ึ เกดิ ในที่ยากจนที่สดุ ลา� บากท่ีสุด และ ขอ้ สองเป็นลูกก�าพร้า แคน่ คี้ นเขาร้กู นั แลว้ วา่ มนั ล�าบากขนาดไหน ล�าบาก ที่สุด เกิดในครอบครัวท่ียากจนท่ีสุด แต่ว่าน่าจะเป็นบุญท่ีได้ท�ามาใน อดตี ตรงที่ “ต้งั แต่ไม่มีเตี่ย แม่ก็ทา� อะไรไมถ่ กู ไปไม่รอด คดิ ไดแ้ คฝ่ ากเป็นเด็ก วดั ถอื วา่ ผมมบี ญุ มบี ญุ ตง้ั แตเ่ ปน็ เดก็ วดั ไดอ้ ยบู่ อ่ ทองแลว้ ไมต่ ก พอพน้ จากวยั เดก็ กบ็ วช เทา่ กบั ตกอยใู่ นบ่อทองเข้าไปใหญ่ ตง้ั แตเ่ ดก็ ท่ีอย่วู ัด มาจนถงึ บดั น ี้ สกึ มาแลว้ ผมไมไ่ ดเ้ ดอื ดรอ้ นอะไร เพราะผมอยใู่ นบอ่ ทอง ธรรมะรกั ษาผู้ปฏบิ ตั ธิ รรมไม่ให้ตกลงไปในทชี่ ั่ว ไมต่ อ้ งเอาอะไรหรอก ครบั เอาตวั นต้ี วั เดยี ว พอธรรมะรกั ษาผปู้ ฎบิ ตั ธิ รรมไมใ่ หต้ กลงไปใน ทีช่ ่วั กเ็ หมอื นเกลือรกั ษาความเคม็ อยู่ที่ไหนมันก็เค็ม”
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450