Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ๑๕ ครูภูมิปัญญาไทย ผู้อารักษ์พรรณพืช

๑๕ ครูภูมิปัญญาไทย ผู้อารักษ์พรรณพืช

Description: ๑๕ ครูภูมิปัญญาไทย ผู้อารักษ์พรรณพืช

Search

Read the Text Version

๑๕ครู ครูกีชา วิมลเมธี ดา้ นการแพทย์แผนไทย ภูมิปัญญาไทย 350 เมื่อเรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ แล้ว ได้ช่วย ครอบครวั หาเคร่อื งยาสมนุ ไพร ท�าให้ได้เรียนรเู้ รือ่ งสมนุ ไพร เพ่ิมเติมตลอดมา เม่ืออายุครบบวช ได้อุปสมบทและศึกษา พระธรรม กระทง่ั สอบไดน้ กั ธรรมเอก และภาษาบาลธี รรมบท ลาสกิ ขาแลว้ ไดศ้ กึ ษาวชิ าแพทยแ์ ผนไทยเพม่ิ เตมิ จากอาจารย์ แคลว้ มขุ คารี จนสอบไดร้ ับใบอนุญาตประกอบโรคศลิ ปะใน สาขาเวชกรรม (บ.ว.) เภสชั กรรม (บ.ภ.) ผดงุ ครรภ์ (บ.ผ) “ท้ังบ้านและศูนย์แพทย์แผนไทย อยู่บริเวณวัดศาลา มีชัย ด้านหลังเป็นโรงเรียน ท่านเจ้าอาวาสอนุญาตให้สร้าง เป็นท่ีอนรุ กั ษแ์ พทย์แผนไทย เพ่อื ช่วยเหลือคนในชมุ ชนยาม เจบ็ ปว่ ยเปน็ เวลากวา่ ๒๒ ปี ต้ังแต่แรกเร่มิ จนถึงวนั น้ี โดยไม่ ตอ้ งเชา่ เพราะไมไ่ ดท้ า� ธรุ กจิ หลกั ใหญ ่ คอื ใหค้ วามรแู้ พทย์ แผนไทยเปน็ ตวั ประเดมิ อาคารทง้ั หมดทกุ หลงั ใชท้ นุ ตวั เองหมด สิบกวา่ หลงั ตงั้ แตแ่ ม่บา้ นเสยี ชวี ติ และไม่มี ลูก ทา� งานอะไรกเ็ กบ็ ไปเรอ่ื ย ๆ สรา้ งห้องสมุดไป ถึงสวนสมนุ ไพร ปลกู ๒๐๐ กวา่ ชนดิ ให้ผู้สนใจ มาค้นคว้าฟรี ส�าคัญท่ีสุดคือ สอนธรรมศึกษา ฟร ี เพราะจบถงึ นกั ธรรมเอก” ครเู ลา่ ถงึ สภาพ ปัจจบุ นั ของบรเิ วณสถานท่ี ท่กี า� ลงั นง่ั คยุ

ครูกีชา วิมลเมธี ๑๕ครู ดา้ นการแพทย์แผนไทย ภูมปิ ัญญาไทย 351 พั ฒ น า ต น เ อ ง จ น สามารถทอดภูมิปัญญา ด้านการแพทย์แผนไทยจาก บรรพบุรุษ พัฒนาองค์ความรู้เพ่ิมเติมจนเป็นผู้เชี่ยวชาญ ได้รับใบ อนญุ าตประกอบโรคศิลปะ ทัง้ ด้านเวชกรรมไทยและเภสัชกรรมไทย วิเคราะห์จดั ระบบหมวดหมู่องคค์ วามร้แู พทย์พื้นบา้ น เพ่อื การศึกษา เรยี นรู้ ณ ศูนย์แพทย์แผนไทย วัดศาลามชี ยั เปน็ ผูร้ า่ งหลกั สตู รการ แพทย์แผนไทย ปั้นรูปฤาษีดัดตน ๘๒ ท่า เพื่อเป็นแหล่งการเรียนรู้ เร่ืองการบา� บดั โรคด้วยตนเองของคนในชมุ ชน ทวดอายุเกือบร้อยเป็นหมอ จะมีคานหามไว้ส่ีคน แก่แล้ว เดินไม่ไหวต้องหาม กลางค่�ากลางคืนดึกดื่นแค่ไหน ก็ หามไปรักษาตอนนน้ั ก็ตอ้ งไป จ�าความถงึ เมอื่ ครง้ั คณุ แม่เล่าให้ฟัง เหมือนเหน็ ภาพอดีต ทวด ของครยู ามนั้นอายุเกือบร้อยเป็นหมอท่ใี คร ๆ ต้องมาหา ดังนนั้ จะ มีคานหามไวส้ ี่คน ทวดแกแ่ ล้วเดินไม่ไหวต้องหาม มีคนไข้บอกมา ตอนไหนก็หามไปรักษาตอนนั้น กลางค่�ากลางคืนดึกดื่นแค่ไหนก็ ต้องไป วชิ าตา่ ง ๆไดถ้ า่ ยทอดมาถึงคุณตาและลุงถงึ สองช่วงคน จา� ไดว้ า่ ตอนนนั้ ยงั เดก็ ๆ เรยี นจบชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๔ แล้ว ไดช้ ว่ ยครอบครัวหาเคร่อื งยาสมุนไพร เพราะคนป่วย สมยั กอ่ นไขพ้ ษิ ไขก้ าฬไขห้ นกั ๆ หมอตอ้ งเปลยี่ นยา คนื หนงึ่ สามส่สี �ารบั แล้วก็ช่วยกนั หาในดงในป่า จุดไตห้ าของ เชน่ หญา้ ระงบั หญ้าคา เป็นเด็กทีช่ อบอาสาจนติดเป็นนสิ ัย ได้ คลกุ คลอี ยปู่ ระจา� กระทง่ั บวชแลว้ กย็ งั ไมท่ งิ้ เจอยาทไ่ี หนก็ บนั ทกึ ไว้

๑๕ครู ครูกีชา วมิ ลเมธี ดา้ นการแพทยแ์ ผนไทย ภมู ิปญั ญาไทย 352 พอลาสกิ ขาบทแลว้ ไปอยวู่ ดั โพธ์ิ กรงุ เทพฯ ๔ - ๕ ปี ไปอยู่ ทปี่ ากคลองตลาดกบั หนา้ ศาลาเฉลมิ กรงุ เรยี นเกย่ี วกบั ซอ่ ม สรา้ งวทิ ยุโทรทศั น์ อเิ ลก็ ทรอนกิ สท์ ่โี รงเรียน RTTS หน้า เฉลมิ กรงุ ทกุ วันน้ีก็ยงั มอี ยู่ แตว่ า่ วนั เสารอ์ าทติ ย์ ครจู ะชอบไปอยวู่ ดั โพธิ์ นงั่ ฟงั เขา สอน อะไรชอบกบ็ ันทึกไว้ เมือ่ กลับมาอยนู่ ครศรธี รรมราช เปดิ รา้ นซอ่ มโทรทศั นว์ ทิ ยุ อยู่ ๕ - ๖ ปี ขายกด็ ี ซอ่ มกด็ ี สรา้ ง กด็ ี กา� ไรมันเยอะอยู่ แล้วแต่จะตกั จะตวง จนกระทง่ั สายตามี ปัญหาในการมองเหน็ และรู้ตัวว่าทา� ต่อไปไม่ไดแ้ ล้วแน่นอน จงึ ยกเครื่องซ่อมวิทยุโทรทัศน์ให้เพ่ือน รุ่นน้องทั้งหมดฟรีๆ ของที่ เหลือก็บรจิ าคแบบไมไ่ ดข้ าย

ครกู ชี า วิมลเมธี ๑๕ครู ดา้ นการแพทยแ์ ผนไทย ภมู ปิ ญั ญาไทย 353 แล้วหันมาท�าแพทย์แผนไทย ช่วงน้ันยังไม่ช�านาญอะไรสัก อย่าง แตม่ ใี จรกั ชอบจดบันทึก แล้วคดิ ต้งั ชมรมเพื่อรวมกล่มุ แล้ว มาแลกเปลย่ี นเรยี นรกู้ นั ผมมาเรยี นอยดู่ ว้ ย จากนนั้ คอ่ ย ๆ ชกั ชวน เพ่ือนจัดต้ังกลุ่มชมรมแพทย์แผนไทย เพ่ือเปิดบริการเป็นสถาน ศกึ ษาของพยาบาล ไมม่ เี ตยี ง และใหบ้ รกิ ารตรวจโรคทวั่ ไป ภายใน สถานบริการจะมีการผลิตยาไทย ห้องสมุดแพทย์แผนไทย สวน สมนุ ไพร โดยใชเ้ งินสว่ นตวั กอ่ สรา้ งอาคารจา� นวน ๖ หลงั เพอื่ ใช้ ในกจิ การแพทย์แผนไทย เปน็ เงินทั้งส้ิน ๑,๐๕๐,๐๐๐ บาท เพอื่ ให้เป็นสถานที่ถ่ายทอดความรู้ด้านแพทย์แผนไทยแก่ผู้สนใจโดย ทวั่ ไป “ปัจจุบัน ผู้ท่ีเข้ามาศึกษาการแพทย์แผนไทยท่ีศูนย์แพทย์ แผนไทยวัดศาลามีชัย ได้รับใบอนุญาตประกอบโรคศิลปะแล้ว จ�านวนกว่า ๒๓๐ คน” ครบู อก ดว้ ยความภาคภมู ิใจ ไม่มคี วามเช่ยี วชาญอะไรสกั นิด เพียงแต่ รู้แค่ ทา� นวดได้ แตเ่ ชยี่ วชาญไมไ่ ด้ หายกพ็ ดู ไมไ่ ด้ ไม่ หายก็พูดไม่ได้ ครบู อกดว้ ยเสยี งดงั ๆ วา่ ไมม่ คี วามเชย่ี วชาญอะไรสกั เรอ่ื ง แค่ ผมทา� ได้ จะบอกว่าเช่ยี วชาญไมต่ ้องมาพดู กันเลย ไม่วา่ วิชาการ หรอื วา่ ปฏิบตั ิไมเ่ อาเลย ไม่ต้องเอามาให้ อย่ายงุ่ เลย ผมไมร่ บั ตรง นนั้ หากมคี นปว่ ยมา ผมทา� ไดร้ กั ษาใหไ้ ด้ และขอรบั อยอู่ ยสู่ องอยา่ ง ทไี่ ดม้ าโดยบังเอญิ คือ ครภู มู ิปญั ญาไทย เพราะท่านให้มาเอง อยู่ ๆ ก็ส่งหนงั สือมาให้ผมไปรับ แลว้ พอท้ิงช่วงมา ๔ ปีก็ได้รับเคร่ืองราชฯ ผมต้องไปให้ได้เพราะ พระองค์ท่านนั่นสูงสุดในชีวิต และนั่นเป็นเกียรติยศสูงสุด จะให้ ผมเชยี่ วชาญอะไรอกี ไม่รู้และไม่รบั เพียงแตร่ ูว้ ่าผมท�านวดได้ แต่ เชี่ยวชาญไมไ่ ด้ หายกพ็ ดู ไมไ่ ด้ ไม่หายก็พูดไม่ได้

๑๕ครู ครกู ีชา วิมลเมธี ดา้ นการแพทยแ์ ผนไทย ภมู ิปญั ญาไทย 354 “หมอใดพูดว่าหาย น่ันเขาพูดโกหก แลว้ ไม่รกั ษาจรรยาบรรณของหมอ หมอใดพดู ไมห่ าย หมอน้ันก็โกหกแลว้ หมอทป่ี ระเสรฐิ สดุ คอื พดู ไมไ่ ดว้ า่ หาย หรือไม่หาย ทุกอย่างรักษาไปตามกฎ เกณฑข์ องมนั ตามปจั จัยของมนั ทกุ สิ่ง ทุกอย่างล้วนไปตามปัจจัยของเหตุและ ผล ถา้ ไม่มปี จั จัยแวดล้อมประกอบมนั ก็ ไมเ่ กิดหรอก ที่มนั เกดิ เพราะปัจจยั มารวมกนั ทกุ เรื่อง ไมว่ ่ากินอาหาร อาบน้า� อุจจาระ ปสั สาวะ ปัจจยั มันพร้อมเสร็จในตวั ” ผมมสี ถานพยาบาล แตไ่ มร่ บั คนปว่ ยนอนพกั เปดิ สถานพยาบาลเอาไวฝ้ กึ ผทู้ เี่ รยี น เวชกรรมตอ้ งสอนสามปคี รงึ่ ถงึ จะมสี ทิ ธสิ์ อบ จงึ ตอ้ งมสี ถานพยาบาลไวว้ นิ จิ ฉยั โรค สอบ ประวตั ผิ ปู้ ว่ ย ตอ้ งทา� ในสถานพยาบาล พอตงั้ ขนึ้ มาแลว้ จรงิ ผมทา� ไมไ่ ดม้ าก ผชู้ ว่ ยกเ็ กง่ กวา่ ผมเสยี อกี เขาเรียนทุกอยา่ งเสรจ็ และมีใบแตง่ ต้งั ครเู สรจ็ นน่ั แน่นอนเพราะว่า การเรยี นหมอไทย ถ้าไม่เรยี นเร่อื งยาไทยก็เป็นหมอไมไ่ ด้

ครูกีชา วิมลเมธี ๑๕ครู ด้านการแพทยแ์ ผนไทย ภมู ิปญั ญาไทย 355 หมอทปี่ ระเสรฐิ สุด คอื พดู ไม่ได้วา่ หายหรอื ไมห่ าย ทุกอย่างรกั ษาไปตาม กฎเกณฑ์ของมนั ตามปัจจยั ของมนั ทุกส่ิงทุกอย่างลว้ นไปตามปจั จัยของ เหตุและผล ถ้าไม่มีปัจจัยแวดล้อมประกอบ มันก็ไม่เกิดหรอก ที่มันเกิด เพราะปจั จัยมารวมกนั ทกุ เรือ่ ง ไม่ว่ากินอาหาร อาบนา�้ อจุ จาระ ปสั สาวะ ปจั จัยมันพรอ้ มเสร็จในตวั หมอไทย เรมิ่ ตน้ มาจากเครอื่ งยาไทยทเี่ รยี กวา่ สมนุ ไพรไทยนนั่ แหละ แตย่ าสมนุ ไพรนา� ไปใชต้ คี วามหมายผดิ ทา� ใหท้ กุ คนเขา้ ใจผดิ สุ่มส่สี ุ่มห้าเอามาท�าขาย อนั น้ันมันไม่ใชย่ าไทย มันเป็นยาสมุนไพร ไมใ่ ช่ยารักษาโรค หมออย่างผมน่ไี มเ่ อายาสมนุ ไพร ยาสมนุ ไพรมัน ใชต้ ามภาษากฎหมาย กฎหมายเขาเขยี นวา่ ยาสมนุ ไพร หมายความวา่ อยา่ งนน้ั อยา่ ง นี ้ ทจ่ี รงิ คือ นยิ ามศพั ท์ ยาสมนุ ไพร คอื พืช สัตว์ แร่ธาตทุ ย่ี ังไม่ไดป้ รุงผสมหรอื แปร สภาพ เขาเรยี กยาสมุนไพร มันยงั เปน็ ดอก เปน็ พืช เปน็ ต้น เปน็ ใบ นัน่ คือ ยาสมุนไพร ตามโรงพยาบาลท่ีขายยาสมุนไพร เอาสตางค์ ไม่ใช่ยาไทย รักษาโรคไม่ได้ครับ ยาสมุนไพรเป็นเพียงแค่น้�ากระสายยาไม่ใช่ยา ไทย ถา้ เป็นยาไทยก็เป็นยาทม่ี ีสองส�ารบั ข้นึ ไปมารวมกนั ถึงจะเปน็ ยาไทย ยาสมุนไพร กม็ สี รรพคุณอยูใ่ นตัวแตร่ กั ษาโรคไมไ่ ด ้ หมอไทยเขาใชเ้ ปน็ นา�้ กระสายยา เปน็ นา้� กระสายยาเอามาตม้ มันใช้รักษาโรคไมไ่ ด ้ ตามโรงพยาบาลเอาไปขายเอาแตเ่ งนิ ลูกเดยี ว ทโ่ี รงพยาบาลต่าง ๆ มนั หลอกคน กระทรวงสาธารณสขุ ก็ปล่อยให้ ทา� อย่ไู ด้ ยาสมุนไพร คอื ตวั ยาทีย่ งั ไมแ่ ปรสภาพ ไม่ปรุงผสม เชน่ หัวหอม หัวกระเทยี ม ใบสะเดา ฟ้าทะลายโจร สรรพคณุ ในตัวมนั ม ี ขมก็ขม หวานกห็ วาน เปร้ียวก็เปรยี้ ว

๑๕ครู ครูกีชา วมิ ลเมธี ดา้ นการแพทย์แผนไทย ภมู ปิ ัญญาไทย 356 แต่รักษาโรคไม่ได้ เมือ่ ไหร่เอาพวกหัวหอม ฟ้าทะลายโจร มา ผสมกนั นนั้ แหละ เรียกวา่ ยาไทย จงึ จ�าเป็นตอ้ งตัง้ ส�ารบั ยาใหถ้ กู ตง้ั สมุ่ สส่ี ุ่มห้าตายได้เหมอื นกัน บริเวณสวนสมุนไพรตรงนี้ไม่ถึงไร่ ผมแค่ปลูกไว้ศึกษาเพ่ือดู กว่าสองร้อยชนิดน่าจะได้ เมื่อก่อนมีการผลิตยาไทยแต่ตอนน้ีเลิก แลว้ สถานพยาบาลทเ่ี หน็ น่ี ผมใหส้ า� รบั ยาไปรา้ นทท่ี า� ยาใหเ้ ขาทา� ให้ หรือไมไ่ ปรับยากลับมาใชใ้ นสถานพยาบาล เม่อื ก่อนหอ้ งที่นงั่ คยุ อยู่ นี่เปน็ หอ้ งสมดุ คือ ห้องบดยา มีเครือ่ งบด ๔ ตัว เคร่อื งยากว่าสาม รอ้ ยกวา่ ชนดิ ใหล้ กู ศษิ ยห์ มด จะเหลอื แคต่ ยู้ าสบิ กวา่ ลกู ใหญ่ ๆ แลว้ กเ็ ครือ่ งยาสามร้อยชนิดกย็ ังอยู่ เอาไว้ส�าหรบั สอน จ�านวน ๒๐๐ กวา่ ชนดิ ได้ในสวน สว่ นใหญไ่ ว้ศกึ ษา นกั ศึกษา คนมาเรียนจะได้รู้ว่าต้นน้ีเป็นยังไง เขาเอามาให้ก็มี แต่ส่วนใหญ่ก็ ซ้ือมาปลูกเองเอาไว้ศกึ ษา สะสมไปเรอื่ ย ๆ สา� รบั ยาก็ดี วธิ รี ักษาก็ ดี สมุนไพรกด็ ีเป็นเรือ่ งทตี่ ้องศกึ ษา พบแลว้ มีแล้วกจ็ ะเขียนบนั ทึก ไปเรอ่ื ย ๆ น่งั เขียนอยา่ งเดียว ไมพ่ ิมพ์

ครกู ีชา วิมลเมธี ๑๕ครู ดา้ นการแพทยแ์ ผนไทย ภมู ิปัญญาไทย จากต�ารายาวัดโพธ์ิ มาถงึ ปนั้ ฤาษีดัดตน ๘๐ ท่า 357 สรา้ งไวเ้ ปน็ มาตรฐานคกู่ บั ศลิ าจารกึ หมอไทยของหลวงกใ็ ช่ จะพาไป ชมของผม เพราะตอนอยทู่ ก่ี รงุ เทพฯ การทไี่ ด้ไปวัดโพธ์ิ ทุกเสาร์ อาทิตย์ ไปฟัง ไปดู ชอบสงั เกตจดจ�า มหาวทิ ยาลัยแห่งแรกของประเทศไทย ไป ซ้ือต�ารายาวดั โพธิม์ าหน่งึ เล่ม มภี าพฤาษีดดั ตน ทสี่ รา้ งขึน้ สมยั รัชกาลที่ ๓ มที ง้ั หมด ๘๒ ตน ๘๐ ทา่ แตท่ ราบว่า ขณะน้สี ูญหายไปจนเหลอื เพียง ๒๔ ตน เทา่ นั้น จงึ คดิ วา่ นครศรีธรรมราชทีผ่ มท�าแพทยแ์ ผนไทยอยแู่ ลว้ ท�านวดอยแู่ ลว้ และท่าบา� บัดโยคะ ฤาษดี ดั ตนก็เป็นพ้ืนฐานเพอ่ื เอามาไว้ ดแู ละใหป้ ระชาชนไดศ้ กึ ษาเรยี นรวู้ ธิ กี ารบา� บดั รกั ษาโรคดว้ ยตนเอง เปน็ เร่ืองท่ีดี จงึ ได้จ้างใหเ้ ดก็ ชา่ งมาปั้น ๘๒ ตน ๘๐ ทา่ สูงไมเ่ กิน ๑ เมตร ลง นา้� ทองเสร็จแล้วสรา้ งอาคารไว้สา� หรับตง้ั ฤาษีดัดตนไวถ้ งึ ๘๐ ทา่ จรงิ ๆ แลว้ อยากจะบอกวา่ ปัจจบุ นั นวี้ ดั โพธิ์ มีฤาษีดดั ตน ส้ขู อง ผมไม่ได้แล้วจรงิ ๆ เพราะของผมครบ ๘๐ ท่าทีส่ มบูรณ์ และสรา้ งไว้เปน็ มาตรฐานของหลวงคกู่ บั ศลิ าจารกึ หมอไทย คดิ วา่ นา่ จะใหญแ่ ละสวยงาม ที่สดุ ของทเ่ี คยมี นี่มันเปน็ ภูมปิ ัญญาไทยแท้ ๆ ทีเ่ อามาอนรุ ักษไ์ ว้ ถึง แมว้ ่าของเก่าของโบราณ ของอนิ เดยี กต็ าม แตว่ า่ เราทา� เลียนแบบเอามา ไว้ มันเป็นสมบัตขิ องเราได้ ครพู าออกมาเดนิ ตรงไปยงั หอ้ งใหญพ่ อประมาณอนั เปน็ ทต่ี งั้ ของรปู ป้ันฤาษีดดั ตนทั้ง ๘๒ ตน ๘๐ ท่า อาบสที อง ดูละลานตาที่ตั้งเรียงราย อยา่ งเปน็ ระเบยี บ โดยใชเ้ วลาคยุ กนั ตรงนน้ั คอ่ นขา้ งนานสมควร กอ่ นเดนิ ออกไปยงั อกี หอ้ งซงึ่ จดั ไวใ้ หเ้ ปน็ หอ้ งสมดุ ลว้ นเปน็ หนงั สอื ทม่ี คี ณุ คา่ และ หายาก ด้วยความประทับใจ

๑๕ครู ครกู ชี า วิมลเมธี ดา้ นการแพทย์แผนไทย ภูมปิ ัญญาไทย 358 WatpHheorm

ครูกชี า วิมลเมธี ๑๕ครู ดา้ นการแพทยแ์ ผนไทย ภมู ิปญั ญาไทย mit 359 สา� นักพระราชวังเป็นแมแ่ บบทกุ อย่าง ทุกเรื่อง “มีหนังสือมากมายหลายประเภท จัดแยกหมวดหมู่ เท่าท่ีจะมี เวลา มันน่าจะถึงหม่ืนเล่ม เก็บสะสมมาเรือ่ ย ๆ เลือกเฉพาะทคี่ ดิ วา่ จะ เปน็ ความรถู้ งึ ชาวบา้ นได ้ และเรอ่ื งทผี่ มชอบ ไมม่ เี วลาทา� ทะเบยี นอะไร หรอก” กเ็ ห็นจริงตามครูวา่ แตเ่ รากใ็ ช้เวลานานไม่นอ้ ยท่หี ้องสมดุ ใน บรรยากาศแบบชาวบา้ นของครทู มี่ เี สนห่ ม์ ใิ ชน่ อ้ ยสา� หรบั หนอนหนงั สอื ส่วนของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ครู บอกว่า ชอบใจทีพ่ ระองค์แบ่งหมวดหมู่ไว้ หมนู่ แ้ี กไ้ ข้ หมแู่ ก้มะเรง็ ผม คดั ลอกมาหมด ๕๐๐-๖๐๐ ชนดิ ทกุ เรอ่ื งทที่ า่ นทา� มา นนั่ แหละเปน็ การ สง่ เสริมภูมิปญั ญาไทย ไมใ่ ห้ตกหล่นจริง ๆ แม้แตข่ องในหลวง รัชกาล ท่ี ๙ ก็มีประมาณ ๖๐๐ กว่าชนดิ ผมก็คัดลอกไว้ ท่านมพี ระราชด�ารัส พระราชด�ารโิ ครงการหลายพันโครงการ ถ้าทา� ตามในหลวงทรงตรสั ไว้ ประเทศไทยคงไม่อยู่เปน็ อย่างนี้ “ผมพูดอยู่เสมอว่า ประเทศไทย ส�านักพระราชวังเป็นแม่แบบ ทกุ อยา่ ง ทกุ เรื่อง ถ้าสา� นกั พระราชวงั หมดเหมอื นประเทศอืน่ ศาสนา พุทธก็หมด แล้วทีน้ีไม่รู้ใครมาครองประเทศไทย เชื่อเถอะครับ ถ้า สา� นกั พระราชวังหมด ศาสนาพุทธกห็ มด ถ้าสองอยา่ งน่ีหมด คนไทย กล็ �าบาก” สดุ ยอดของผมคอื หนง่ึ ตอนนผี้ มสงั กดั สา� นกั งานเลขาธกิ ารสภา การศึกษา สอง คอื ผมสังกัด กองราชเลขาธิการ ส�านกั พระราชวัง สองอย่างนี่คือ สุดยอดในชีวิต การที่ผมจะพูดผมจะท�า จะคิด ทจุ รติ ไม่ได้ ต้องเป็นสจุ รติ ตอ้ งท�าสุจริตครับ ชีวติ มาถึงตรงนจี้ ากเด็ก บา้ นนอกยากจนทสี่ ดุ ในชวี ติ เรยี นหนงั สอื กน็ อ้ ยทสี่ ดุ ผมเหน็ แลว้ วา่ ทาง นี้ คือ ทางชว่ ยคน ตอ้ งชว่ ยสรา้ งคนขึ้นมา ช่วยคนที่จะไปด้วยเกวียนก็ ไม่ได้ สองลอ้ ก็ไมไ่ ด้ ท่เี หลือเราจะกนั เก็บตก อยา่ ให้มนั สญู ไป ท�าเพื่อ ชาตเิ หมอื นโดยไมต่ อ้ งคดิ วา่ จะไดอ้ ะไรตอบแทน เดนิ ตามรอยพระบาท สมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมิพลอดลุ ยเดช บรมนาถบพิตร

๑๕ครู ครูกชี า วิมลเมธี ดา้ นการแพทยแ์ ผนไทย ภูมิปัญญาไทย 360 “พอเพียง” ของ พระบาทสมเด็จ สุดยอดในชีวิต การท่ีผมจะพูด พระเจ้าอยู่หัว สรุปย่อสุด คือ ไม่มีหน้ีสิน หนึ่ง ผมจะทา� จะคดิ ทจุ รติ ไมไ่ ด้ ตอ้ ง บาทก็พอเพียง ร้อยบาทก็พอเพียง ล้านบาทก็ เป็นสุจริต ต้องท�าสุจริตครับ พอเพยี ง สบิ ล้านก็พอเพียง แตค่ ุณจะทา� อย่างไร ชีวิตมาถึงตรงนี้จากเด็กบ้าน ให้เป็นปัจจัยที่ถูกต้อง อย่าท�าให้เป็นปัจจัยที่ นอกยากจนที่สุดในชีวิต เรียน เบียดเบียนตัวเอง น้ันคือเศรษฐกิจพอเพียงของ หนังสอื ก็นอ้ ยทส่ี ดุ ผมเหน็ แลว้ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ปจั จยั ทถี่ กู ตอ้ งไมม่ ี ว่าทางนี้ คือ ทางช่วยคน หนส้ี นิ รจู้ กั พอใชไ้ ปตามสถานภาพของตวั เอง พอ มกี ินมใี ชน้ น้ั แหละพอ” ความร้สู ึกของผมอยแู่ ค่น้นั หละครับ ไม่ต้อง พูดมากเลย ไม่มีหน้ีสิน จะท�าอะไรไม่ต้องเอา เงนิ นา� หน้า เอาภมู ปิ ญั ญากบั ก�าลงั ของตนเองไป ทา� ถา้ เอาเงินนา� หนา้ จบทกุ ราย ใครทีอ่ ยากได้ เงิน ต้องการเงินเอาเงินขึ้นหน้าไปลงทุน จบทุก ราย ต้องใช้ภมู ิปัญญา ใช้สติ แลว้ ใช้สง่ิ แวดลอ้ ม ธรรมชาติที่ตนเองท�า เรอื่ งนค้ี งตอ้ งตอกยา�้ พดู บอ่ ย ตอ้ งเตอื นบอ่ ย นค่ี อื หลักการ

ครูกีชา วิมลเมธี ๑๕ครู ดา้ นการแพทย์แผนไทย ภมู ปิ ัญญาไทย 361 ตลอด ๓๗ ปี ตอกย�้ำเร่ืองคุณธรรม วัฒนธรรม หมอไทย คอื หมอวัฒนธรรมไม่ใช่หมอประกอบอำชีวะ ที่จริงแพทย์แผนไทยใช่ว่าจะมีแค่ เวชกรรม เภสชั กรรม ผดงุ ครรภห์ รอื นวด หรอื ๔ ประเภทแคน่ นั้ แตก่ ฎหมายไปจา� กดั เองวา่ มี ๔ ประเภท คอื เวชกรรม ไทย เภสชั กรรมไทย ผดงุ ครรภ์ไทย และ นวดไทย เวชกรรมไทย หากจะเป็นหมอต้องเรียนสามปี ครงึ่ ถงึ มีสิทธ์ิสอบ กม็ คี นมาเรียนกับผม เภสัชกรรมไทย ตอ้ งเรยี น ๒ ปีคร่งึ ยนื ยันวา่ ยา ไทยต้องผา่ นเคร่อื งยาสมุนไพร ตอ้ งรู้จกั เครื่องยาไทย ท้งั หมดและตอ้ งรูจ้ ักพชื สตั ว์ แร่ธาตุ ผดุงครรภ์ กเ็ รียนกายวภิ าคศาสตร์ รจู้ กั อวัยวะ ทงั้ หมด เรยี นการเตรยี มคลอด การคลอด การเตรียม ห้องคลอด ส่วนนวดไทยกน็ วดตามปกติ นวดไทยจริง ๆ มี หลายต�ารา นยิ ามศพั ท์ของคา� ว่า นวดไทย ของสภา แพทย์ เขาดีอย่แู ล้ว มีทง้ั ดงึ สับ ดดั ทุบ สบั แตข่ อง แทข้ องจรงิ ตอ้ งวดั โพธเ์ิ ปน็ หลกั ควรจะตอ้ งเรยี น ๘๐๐ ชวั่ โมง ใหเ้ ปน็ เรอื่ งเปน็ ราว อยา่ งไรกต็ าม ทกุ วนั นตี้ า� รา นวดยงั มีปัญหา ยังไม่ลงตวั แต่พระราชบัญญัติประกอบการเพ่ือสุขภาพ ท่ี ออกมาที่จริงดูแลเรื่องของสปา เรียนแค่นวด ๖๐ ช่ัวโมง ๒๐๐ ช่วั โมง มนั ระยะสัน้ ผมสอนมา ๓๗ ปี เพิ่งหยุดปีนี้เพราะแก่มาก แล้ว มีคนทม่ี าเรียนแล้วไปประกอบอาชพี เยอะทม่ี ใี บ ประกอบเวชกรรมไทย ตอ้ งรจู้ กั หมอไทย รปู้ ระวตั เิ ปน็ มาอยา่ งไร ตอ้ งรจู้ ักธาตุ

๑๕ครู ครูกีชา วมิ ลเมธี ด้านการแพทย์แผนไทย ภูมปิ ัญญาไทย 362 “...แพทย์แผนไทยอยู่กับเงินไม่ได้ มัน ไม่ใช่อาชีพ เป็นอาชีวะไม่ได้เด็ดขาด ต้องอยู่ กับวัฒนธรรม เป็นหมอวัฒนธรรม ที่ธ�ารงไว้ ซึ่งศีลธรรมท้ังหมด ผมยืนยันเสมอว่า ผมเป็น หมอโบราณ เป็นหมอประจ�าครอบครัว และ หมอประจ�าครอบครัวมีอยู่ทุกบ้าน ทุกภาคทั่ว ประเทศ ไมต่ อ้ งสร้างโรงพยาบาล ถา้ สง่ เสรมิ หมอไทยกนั อยา่ งจรงิ จงั กไ็ มต่ อ้ ง สร้างโรงพยาบาล ครอบครวั จะเปน็ ทตี่ งั้ โรงพยาบาล หมอไทย เขารกั ษาเองกท็ า� กนั มา ๒,๐๐๐ กวา่ ปแี ลว้ ตงั้ แต่ ครง้ั พระพทุ ธกาลมาถงึ รชั กาลท่ี ๖” ครกู ลา่ วดว้ ย น�้าเสียงรันทด สอนนักเรียนทุกปีมาเรื่อย ตลอด ๓๗ ปี จะเน้นย�้าเร่ืองคุณธรรม วัฒนธรรม ย�้าตลอดว่า หมอไทย คือ หมอวัฒนธรรมไม่ใช่หมอประกอบ อาชีวะ เขียนหนังสือแล้วก็แจกปีละเป็นร้อย ๆ เล่ม แจกหมด ในหนังสือต�าราที่เขียนก็ใช้ต�ารา แพทยแ์ ผนไทย ใชศ้ ลิ าจารกึ วดั โพธ์ิ ตรงนน้ั ชดั เจน ไม่เข้าใจว่า ท�าไมจะต้องออกพระราชบัญญัติ ประกอบการเพอ่ื สุขภาพอีก ห่วงว่า ภูมิปัญญาไทย มันสูญหมด หากไม่ รักษาวัฒนธรรม ทจ่ี ริงควรเรียน ๔-๕ ปี และต้อง เรียนถึง ๗ ส�านัก เพื่อความช�านาญ และจะได้ ผา่ นการหลอ่ หลอมวา่ เปน็ ของจรงิ ตา� ราแพทยเ์ ขา เขยี นไวใ้ นตา� ราแพทยศ์ าสตรส์ งเคราะห์ เขยี นไวใ้ น คัมภีรเ์ กา่ แก่

ครูกชี า วมิ ลเมธี ๑๕ครู ดา้ นการแพทย์แผนไทย ภูมปิ ัญญาไทย ทเ่ี อามาพดู น้ี ไมไ่ ดค้ ดิ เอง เรอ่ื งวฒั นธรรม ของชาติ ภูมิปัญญาของชาติ ต้องอาศัย 363 วัฒนธรรมไม่ใช่ความรู้อาชีวะ ส่ิงเหล่านี้ มันจะเป็นเลิศได้อย่างไร ถ้าขาดคุณธรรม ขาดวัฒนธรรม แพทย์ที่เป็นเศรษฐายา ณ แพทย์ ต้องเรียนถึงเจ็ดส�านักจึงจะเป็นแพทย์ ที่ประเสริฐ ต้องท�าอย่างน่ี ภูมิปัญญาไทยจึง จะเหลอื จะเลศิ ไดจ้ ากวฒั นธรรม ใหด้ ใู นสา� นกั พระราชวัง ท�าไมถึงท�าได้เพราะเขาหนักแน่น สนใจพเิ ศษ มรี ะบบนนั่ แหละถงึ ไดห้ ลงเหลอื อยู่ สดุ ยอดสดุ ฝมี อื ชาตไิ หนมี ไมม่ ชี าตไิ หนมแี พทย์ แผนไทย เป๊ะท้ังหลักสูตร แต่ละสาขาวิชาและชั่วโมง เน้ือหาการถ่ายทอดวิชาความรู้ของครูแก่ผู้ เรียน ผิดไปจากท่วี างไว้ ไม่ใช่ครกู ชี า ระยะ สน้ั ๆ แค่ ๒ - ๓ วัน ไม่รบั เรยี นสาขานวด ไทย ตอ้ งเรยี นไม่นอ้ ยกวา่ ๓๐๐ ชัว่ โมง ผมไมม่ ตี ารางสอนทแี่ นน่ อน แตเ่ ดอื นหนง่ึ กจ็ ะมาหลายครงั้ ทศี่ นู ยแ์ พทยแ์ ผนไทย วดั ศาลามชี ยั ตรงน้ี โรงเรยี นตา่ ง ๆ จะ มาเอาความรู้ ประวัติแพทยแ์ ผนไทย ประวตั ินวด สว่ น ใหญ่เป็นเยาวชนเข้ามาศกึ ษา คร้ังละ ๕ คน มาเรอ่ื ยๆ เดือนหลายครั้ง ไม่ใช่แค่เฉพาะคนนครศรีธรรมราช เกือบทกุ จังหวัดภาคใตร้ จู้ กั หมด ผมเป็นผ้กู ่อการจดั การ ตั้งสมาพันธ์แพทย์แผนไทยภาคใต้ ๔ เดือนประชุมคร้ัง หนึ่ง แลว้ ก็มีสมาพันธ์แพทย์แผนไทยแห่งประเทศไทย ท่ีตั้ง ในกรงุ เทพฯ อกี ท่ีจฬุ า ผมริเรมิ่ ก่อตั้งเหมือนกัน ตง้ั หลักท่ีน่ี

๑๕ครู ครูกชี า วิมลเมธี ด้านการแพทยแ์ ผนไทย ภมู ปิ ัญญาไทย 364 แพทย์แผนไทยอยู่กับเงินไม่ได้ ต้องอยู่กับวัฒนธรรม มันไม่ใช่ อาชพี ผมยนื ยนั เสมอวา่ ผมเปน็ หมอโบราณแตแ่ พทยแ์ ผนไทยเปน็ อาชวี ะไมไ่ ดเ้ ดด็ ขาด เพราะมนั เปน็ หมอวฒั นธรรม ทธ่ี า� รงไวซ้ งึ่ ศลี ธรรมทั้งหมด ไม่ใช่หมอในกฎหมายที่เอาไวแ้ ย่งชิงกนั ใครจะเรียนต้องมาท่ีแหล่งเรียนรู้ที่ครูจัดไว้หรือเฉพาะที่วัดศาลามีชัย ทุกวันเสาร์และวันอาทิตย์ โดยใช้เวลาตลอดวัน ตามหลักสูตร เรียนสาขา เวชกรรม ตอ้ งเรยี นไมน่ อ้ ยกวา่ ๙๐๐ ชว่ั โมง เรยี นสาขาเภสชั กรรม ตอ้ งเรยี น ไมน่ อ้ ยกวา่ ๓๐๐ ช่วั โมง เรยี นสาขาผดุงครรภ์ ตอ้ งเรยี นไมน่ ้อยกวา่ ๓๐๐ ชว่ั โมง และ เรียนสาขานวดไทย ต้องเรียนไม่น้อยกว่า ๓๐๐ ชัว่ โมง ผิดไป จากน้ี ไมใ่ ช่หลักของครกู ชี า “แต่ท่ีนี้หลักจริงๆ ท่ีต้องเรียน ๘๐๐ ชั่วโมง ใครจะเรียนมาละ มันก็ เรียนระยะสั้น ไม่ช้าก็สูญหายหมด แพทย์แผนไทยอยู่กับเงินไม่ได้ ต้องอยู่ กบั วฒั นธรรม มนั ไมใ่ ชอ่ าชพี ผมยนื ยนั เสมอวา่ ผมเปน็ หมอโบราณแตแ่ พทย์ แผนไทยเปน็ อาชวี ะไมไ่ ดเ้ ดด็ ขาด เพราะมนั เปน็ หมอวฒั นธรรม ทธี่ า� รงไวซ้ ง่ึ ศีลธรรมท้ังหมด ไม่ใช่หมอในกฎหมายทเ่ี อาไวแ้ ย่งชิงกัน” พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอย่หู ัว รัชกาลท่ี ๕ ทรงเห็นวา่ การ แพทย์แผนโบราณของไทยเรา ได้ดูแลรักษาคนไทยเรามานบั พันปี หลังทรง สรา้ งโรงพยาบาลศริ ริ าชขนึ้ แลว้ ตามโลกตะวนั ตก ทเ่ี นน้ ไปในดา้ นการแพทย์ แผนปจั จบุ นั แตย่ งั มพี ระราชดา� รติ อ่ คณะกรรมการบรหิ ารโรงพยาบาล ทวี่ า่ หมอยงั ขาดแคลน ซง่ึ พระองคไ์ ดท้ รงเขียนพระราชปรารภไว้ ดังน้ี

ครูกชี า วิมลเมธี ๑๕ครู ด้านการแพทยแ์ ผนไทย ภมู ปิ ญั ญาไทย 365 “ . . . ข อ เ ตื อ น ว ่ า หมอฝรั่งนั้นดีจริง แต่ควร ใหย้ าไทยสญู หฤๅหาไม ่ หมอไทยควรจะไมใ่ หม้ ตี อ่ ไป ในภายน่า หฤาควร จะมีไว้บ้าง ถ้าว่าส่วนตัวฉันเอง ยังสมัคกินยาไทย แลยงั วางใจหฤๅ อนุ่ ใจในหมอไทยมาก ถา้ หมอไทย จะ รักษาอย่างฝรั่งหมด ดูเยือกเยนเหมือน เหนอืน่ ไม่ เหนพระเหนสงฆ์เลยเหมือนกัน แต่ตัวฉันก็อายุ มากแล้ว เหน็ จะไม่ได้อย่ไู ปจนหมอไทยหมดดอก คนภายนา่ จะพอใจ อย่างฝรั่งกันท่ัวไป จะไม่เดือดร้อนเช่นฉันดอกกระมัง เป็นแต่ลองเตอื นด ู ตามหัวเก่า ท่หี น่งึ เทา่ นนั้ ..” ครกู ชี า ยกข้อความดงั กลา่ วมาใหด้ ู ผมสอบได้เวชกรรม ผมก็มีสิทธ์ิสอบรับใบอนุญาตประกอบโรคศิลป์ ต้งั แตป่ ี พ.ศ. ๒๔๗๙ มาถงึ กอ่ นสภาแพทยจ์ ะเกิด ไดเ้ คยรว่ มแลกเปล่ียน เรียนรู้กับนักศึกษาที่เข้ามาเรียนรู้ดูกิจกรรมแพทย์แผนไทยของศูนย์ กับ ครูภูมิปัญญา ซึ่งผมมองเห็นว่าการรักษาและดูแลสุขภาวะของชุมชนใน ปจั จบุ นั การแพทยแ์ ผนไทยนบั วนั จะมบี ทบาทมากยง่ิ ขน้ึ ไมว่ า่ ดา้ นเวชกรรม เภสัชกรรม การผดงุ ครรภ์ และดา้ นหตั ถเวช หากไดเ้ ร่ิมฟื้นฟูอยา่ งจรงิ จังจะ เป็นประโยชน์แกป่ ระเทศโดยรวม นอกจากน้ี ยงั พบวา่ ปัจจบุ นั คนมีอาการเป็นโรคมดลกู ตา�่ หรอื มดลกู ไมเ่ ขา้ อู่ เพราะเกดิ จากไมไ่ ดใ้ ชก้ อ้ นเสา ละเลยการอยไู่ ฟซงึ่ โบราณจะทา� การ ขับน้�าคาวปลาและมดลูกเข้าอู่หลังคลอดได้ดี คลอดลูกแล้วไม่ได้บริหาร ร่างกายอย่างถูกต้อง และขาดการดูแลทางใจหรือความม่ันคงทางใจอะไร ท�านองน้ัน ตลอดการใช้หมอต�าแยที่ขาดหายไป หรือการกินยาท่ีช่วยใน การขับน้�าคาวปลาต่างๆ อาการมะเร็งปากมดลูก การตัดมดลูกจึงเกิดขึ้น มากในผ้หู ญงิ ไทย

๑๕ครู ครกู ชี า วิมลเมธี ด้านการแพทย์แผนไทย ภูมปิ ญั ญาไทย 366 แพทย์ไทย หลักประจ�าชาติไทยมาช้านาน ความอยู่รอดของประเทศไทยต้องเหมือน ขาหยง่ั ของฆ้องชัย หรือ ตรีโกณ และท่ีส�าคัญความเช่ือทฤษฎีในการดูแลรักษาผู้ป่วย ระหว่างปรัชญาของตะวันตกและตะวันออกต่างกันโดยสิ้นเชิง “กระบวนทศั นก์ ารรกั ษาผปู้ ว่ ยตามปรชั ญาตะวนั ตก มองรา่ งกาย มนษุ ยเ์ ปน็ เครอ่ื งจกั รหรอื กลไก รกั ษาไดเ้ ปน็ จดุ ๆตามอาการของ ความเจ็บโดยแยกจติ ใจออกจากอาการป่วยไข้ ในขณะทก่ี ระบวนทศั น์ ปรชั ญาตะวนั ออก เชอ่ื วา่ การเจบ็ ไข้ ไดป้ ว่ ยเนอื่ งจากการเสยี สมดลุ ของรา่ งกาย ทกุ สว่ นของรา่ งกายมี ความสมั พนั ธก์ นั หมดโดยความสมั พนั ธข์ องธาตทุ งั้ ๔ คอื ธาตดุ นิ น�้า ลม ไฟ และพบวา่ จริง ตอ้ ง ๖ ธาตุ คอื ทเ่ี พิม่ ธาตุอากาศ กบั ธาตจุ ติ วญิ าณ การรกั ษาจงึ ตอ้ งรกั ษาแบบองคร์ วมทง้ั รา่ งกาย และจิตใจคกู่ ันไป ครูยงั บอกอกี ด้วยวา่ การแพทยไ์ ทยเป็นแพทย์หลกั ประจ�า ชาติไทยมาช้านาน นับเน่ืองมาจากกรุงสุโขทัย ศรีอยุธยา กรุงธนบุรี มาถึง กรุงรัตนโกสินทร์ แพทย์ศาสตร์ไทยได้รับมา จากคัมภีร์ของศาสนาพราหมณ์ คือ คัมภีร์อถรรพเวท จะเป็น มูลเหง้าเดิมของแพทย์แผนไทย แพทย์ศาสตร์สงเคราะห์ ฉบับ หลวงของไทย ทัง้ วชิ าการ สมฏุ ฐานโรค วธิ กี ารตรวจรกั ษาโรค วธิ กี ารใชย้ าสมนุ ไพรรกั ษาโรค ไดม้ าจากคมั ภรี ์ ทางพุทธศาสนาและศาสนาพราหมณ์ ประมาณ ๖๐% ขององค์ความรู้ ในวิชาแพทย์

ครกู ีชา วิมลเมธี ๑๕ครู ด้านการแพทย์แผนไทย ภมู ปิ ัญญาไทย 367 การแพทย์ไทยยึดถือพุทธศาสนาเป็นสรณะ ปฎิบัติ การตามหลกั ศีล - ธรรม ช่วยเหลือสงั คมตามศีลธรรม ยอมรับตามจารีตประเพณีและวัฒนธรรมไทย ไม่มี ทุนนยิ ม วตั ถนุ ิยม หรือ บริโภคนยิ ม เขา้ มาเก่ียวข้อง เพราะพระธรรมวินัย เป็นจรรยาบรรณและธรรมนูญ ของชีวติ “ดงั นนั้ จะเหน็ วา่ การแพทยไ์ ทยจงึ เปน็ แพทยอ์ าสาไมเ่ ปน็ อาชวี ะ นบั เปน็ อาชพี ไมไ่ ด้ การแพทยไ์ ทยยดึ ถอื พทุ ธศาสนาเปน็ สรณะ ปฎบิ ตั ิ การตามหลกั ศลี - ธรรม ชว่ ยเหลอื สงั คมตามศลี ธรรม ยอมรบั ตามจารตี ประเพณแี ละวฒั นธรรมไทย ไมม่ ที นุ นยิ ม วตั ถนุ ยิ ม หรอื บรโิ ภคนยิ ม เขา้ มาเกย่ี วขอ้ ง เพราะพระธรรมวนิ ยั เปน็ จรรยาบรรณและธรรมนญู ของชีวิต” ครูเน้น ก่อนคุยกันต่อถึงการแพทย์ดั้งเดิมยุคต่าง ๆ ท�าให้เรานึกไปถึงนักบวช เช่น อิมโฮเทป สถาปนิกแห่งอียิปต์ โบราณ ผู้ออกแบบพีระมิดแหง่ แรกของโลก สัญลกั ษณข์ องอมิ โฮเทป เป็นนักบวชโกนศีรษะ นั่งหรือคุกเข่าบนม้วนกระดาษพาไพรัส บาง คร้ังก็สวมกระโปรงยาวอย่างนักบวช ม้วนกระดาษพาไพรัสแสดงถึง แหล่งของความรู้ ส่วนการแต่งกายอย่างนักบวชนั้นเป็นสัญลักษณ์ ของความบริสุทธิ์ทางศาสนา และได้รับการยกย่อง โดยชาวกรีกรุ่น ตอ่ มาวา่ เปน็ เสมอื นหนง่ึ เทพเจา้ แห่งการแพทย์ ทเี ดียว

๑๕ครู ครูกชี า วิมลเมธี ดา้ นการแพทยแ์ ผนไทย ภมู ิปัญญาไทย 368 สมัยกรกี โบราณ ชาวกรีกไดบ้ ูชาเทพแอสคลปี ิอุส ช่ือว่าเป็นเทพแห่งการแพทย์ เช่นเดยี ว กับพระธดิ า คือ เทพีไฮเจยี เทพแี ห่งสุขอนามยั โดยพระองคจ์ ะถือถ้วยยาและงไู ว้ ดงั นน้ั งู เป็น สัญลักษณ์ในการดูดพิษของชาวกรีกโบราณ จนกระทั่งเป็นสัญลักษณ์ของวิชาชีพเภสัชกรรมใน ปจั จบุ นั คือ งพู นั ไมเ้ ท้า มาเป็น งพู ันคบเพลงิ เภสชั กรรมในจีนมหี ลักฐานบันทกึ ในต�านานของของกษัตรยิ เ์ สนิ หนง ช่วง ๒,๐๐๐ ปกี อ่ น คริสตศ์ กั ราช พระองคท์ รงตรวจสอบหาคุณสมบตั ขิ องสมนุ ไพรในจนี และทดลองคณุ สมบัติของ สมนุ ไพรเหลา่ น้นั โดยพระองคเ์ อง มีการบนั ทกึ ตวั ยาประมาณ ๓๖๕ ขนาน ซึง่ พระองคย์ งั เป็นที่ สกั การะของชาวจีนพื้นเมอื งจวบจนปจั จุบัน จากหมอชีวกโกมารภัจจ์ “เภสัชราชา” มาถึง โรงเรียนแพทยป์ รุงยา ในสมยั พทุ ธกาล วชิ าการแพทยไ์ ดเ้ จรญิ เตม็ ที่ เปน็ ทส่ี นใจของ ชาวอินเดียและบุคคลต่างประเทศ บุคคลส�าคัญได้แก่ ชีวกโกมาร ภัจจ์ ได้ศึกษาส�าเร็จเป็นผู้เชี่ยวชาญทางเวชปฏิบัติและเภสัชวัตถุ จนได้รับสมัญญานามว่า “เภสัชราชา” เป็นแพทย์ประจ�าพระเจ้า พิมพิสารและพระพุทธเจ้า พร้อมกันน้ัน ก็ได้ ถ่ายทอดองค์ความรู้มายังสุวรรณภูมิผ่านทาง พระพุทธศาสนา ทา่ นชีวกโกมารภจั จ์ จงึ ได้รับการนับถือ เป็นครูหมอแผนไทยในประเทศไทยจวบจน ปจั จบุ นั

ครูกชี า วมิ ลเมธี ๑๕ครู ด้านการแพทยแ์ ผนไทย ภูมิปัญญาไทย ชวี กโกมารภจั จ์ ไดศ้ กึ ษาสา� เรจ็ เปน็ ผู้เช่ยี วชาญทางเวชปฏบิ ัตแิ ละ เภสชั วตั ถุ จนไดร้ บั สมญั ญานามวา่ “เภสชั ราชา” เปน็ แพทยป์ ระจา� 369 พระเจา้ พมิ พสิ ารและพระพทุ ธเจ้า พรอ้ มกันน้นั ก็ได้ถา่ ยทอดองค์ ความรูม้ ายังสุวรรณภมู ิผ่านทางพระพทุ ธศาสนา ส�าหรับประเทศไทย เภสัชกรรมเป็นส่วนหนึ่งของระบบการแพทย์ แผนไทยมาโดยตลอด อาทิ การใช้สมุนไพรและเภสัชวัตถุต่าง ๆ เข้า ร่วมการรักษา การศึกษาทางด้านเภสัชศาสตร์ได้สถาปนาข้ึนอย่างเป็น ทางการโดยสมเดจ็ พระเจา้ บรมวงศเ์ ธอ กรมพระยาชยั นาทนเรนทร ใน ฐานะโรงเรยี นแพทย์ปรงุ ยา ปจั จุบนั คอื คณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั ในรชั สมัย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ภายหลังการก่อต้ัง กองโอสถศาลาข้ึน ต่อมาได้มีการจัดตั้งโรงงานเภสัชกรรม โดย เภสชั กร ดร. ต้ัว ลพานกุ รม ซงึ่ ภายหลงั ได้รวมกบั กอง โอสถศาลา จัดต้งั เป็นองคก์ ารเภสัชกรรม ถ้าจะไปดูระบบการแพทย์ตะวันตกกับการแพทย์ ตะวันออก ทม่ี าจะคล้ายคล้ายกนั แตไ่ ม่เหมอื นกนั นกั บวช พระสงฆ์ นางชี ของการแพทย์ตะวันออก มโี รงพยาบาลได้ รกั ษาคนปว่ ยเอง แตใ่ ชส้ า� หรบั กบั เพอ่ื นสหธรรมกิ ดว้ ยกนั เท่าน้ัน ปฎบิ ตั กิ ารไดเ้ ฉพาะในอารามเท่าน้นั จะตัง้ ตน เป็นหมอรักษาไข้หรือกรงุ ยาให้คนไขท้ วั่ ไปไม่ได้ เป็น พุทธบัญญัติทรงห้าม ปรับโทษเป็นอาบัติ เพราะ อาชพี หมอ คอื อาชพี ทข่ี วางทางพระนพิ พาน

๑๕ครู ครูกีชา วิมลเมธี ด้านการแพทยแ์ ผนไทย ภมู ปิ ัญญาไทย 370 ในประเทศไทย ก็มีกฎมหาเถรสมาคมได้ประกาศเอา ไว้ชัดเจน พุทธบัญญัติ ทรงอนุญาตไว้ในเภสัชชขันธถะ พระวินัยปิฎก ปรุงยา ผลิตยา พยาบาลดูแลเฉพาะเพื่อน พระภิกษุด้วยกันเท่านั้น จะพยาบาลบุคคลทั่วไปไม่ได้ แต่ นักบวช พระ นางชี ระบบการแพทย์ตะวันตกช่วยเหลือผู้ ป่วยคนทวั่ ไปได้ เป็นหมอ เป็นพยาบาลประจ�าโรงพยาบาล ได้ปกติ พระ นางชี ได้เป็นผู้น�าริเร่ิมและเป็นผู้ปฎิบัติการ ทางการแพทย์กอ่ นชาวบ้าน “ความอยรู่ อดของประเทศไทยตอ้ งเหมอื นขาหยงั่ ของ ฆ้องชัย หรือ ตรโี กณ คอื สถาบนั ชาติ สถาบันศาสนา และ สถาบันพระมหากษตั รยิ ์ แยกจากกนั มิได”้ ครยู า�้ อีกครัง้ บันทึก ชว่ ยความจา� ศนู ยแ์ พทย์ไทย วดั ศาลามชี ัย นครศรีธรรมราช วนั อาทติ ย์ เปดิ ตูพ้ ระไตรปฎิ ก... นอกจากนี้ ครกู ีชา ยังมบี นั ทึกทเ่ี รียกว่า ช่วยความจ�าในการท�างาน เพอ่ื งานของทาง ศนู ยแ์ พทยไ์ ทย วดั ศาลามชี ยั นครศรธี รรมราช ใหท้ กุ คน ได้รบั รู้วา่ แตล่ ะวนั นั้นมีกจิ กรรมอะไรบา้ ง “ วนั อาทติ ย์ เปดิ ตพู้ ระไตรปฎิ ก วนั จนั ทร์ เปดิ ยาสมนุ ไพร ยาไทย วันอังคาร เปิดหมอไทย วันพุธเปิดพยาธิกุมาร วันพฤหัส เปิดพยาธิ ทว่ั ไป วนั ศุกร์ เปดิ พยาธสิ ตรี วนั เสาร์ เปิดพยาธิผสู้ ูงอายุ วนั พระ หากตรงกบั วนั ใด วชิ าใด วนั นนั้ ตอ้ งปดิ เพราะครตู อ้ งเอา เวลาไปสอนธรรมศกึ ษา ชน้ั ตรี โท เอก ทกุ กรณตี ามพธิ กี รรมแพทยไ์ ทย วนั อาทิตยท์ ่ี ๗ มกราคม ๒๕๖๑ วนั ปฐมนิเทศ ทุกหมวดวชิ า” วัดศาลามีชัย ถนนราชด�าเนิน ต�าบลในเมือง อ�าเภอเมือง จังหวัด นครศรธี รรมราช เป็นแหลง่ เรียนรู้ภาคใต้ศูนย์แพทย์ไทย

ครูกชี า วมิ ลเมธี ๑๕ครู ด้านการแพทยแ์ ผนไทย ภูมปิ ญั ญาไทย 371 พระครูวิชัยนันทคุณ เจ้าอาวาสวัดศาลามีชัย เป็นผู้ริเร่ิมก่อการจัดต้ังขึ้น และอปุ ถมั ภ์ สงเคราะห ์ อนเุ คราะหท์ ุกประการ ปงี บประมาณ ๒๕๒๓ ได้มอบ อา� นาจใหค้ ณาจารยแ์ พทยแ์ ผนไทย ๗ คน รวมกลมุ่ กนั ในทดี่ นิ ของวดั เปดิ ทา� งาน ในอาคารตกึ สองชนั้ ในนามวา่ ตกึ พระยาบดนิ ทรเ์ ดชานชุ ติ เปน็ สา� นกั งานทเ่ี รยี ก ว่า ชมรมแพทย์แผนโบราณเพ่ือสืบสานสืบทอดศึกษา อบรมสัมมนาภูมปิ ัญญา ไทย อนุรกั ษ์ภมู ิปญั ญาไทยดา้ นการแพทยแ์ ผนไทย ต่อมาประธานชมรมร่วมคณะท�างานได้ซ่อมแซมปฏิสังขรณ์อาคารสถาน ท่ี สร้างอาคารเพิ่มเติมให้เป็นสถานที่เยี่ยมท�ากิจกรรมทัศนศึกษาของชุมชนทั้ง กลุ่มชนหรือสนใจภายในประเทศและชาวต่างประเทศตลอดปี เปน็ เวลาสามสิบ เจ็ดปกี ว่าแล้ว การศึกษาศูนย์แพทย์แผนไทย แหล่งเรียนรู้ ปัจจุบันจัดเป็นอุทยานการ ศึกษา เดิมมีแค่อาคารสถานที่ ตึกพระยาบดินทร์เดชานุชิตเพียงหลังเดียว ต่อ มาได้สร้างขึ้นเพมิ่ อกี ๑๐ หลงั และปรับสถานท ี่ รกรา้ งว่างเปล่ากลายเปน็ สวน สมุนไพร มีตวั ยาทปี่ ลกู ไว้ให้ดแู ล้วประมาณ ๓๐๐ ถงึ ๔๐๐ ชนิด ศกึ ษาได ้ มรี ูป ฤาษีดัดตน ๘๐ ทา่ เปน็ ปูนซเิ มนตป์ ้ันมโี ครงเหลก็ ภายในรูปยืนไมเ่ กิน ๑ เมตร ลงรกั ปดิ ทอง ศึกษาเรอื่ งโยคี

๑๕ครู ครกู ชี า วมิ ลเมธี ด้านการแพทยแ์ ผนไทย ภมู ิปญั ญาไทย 372 การศึกษาวิชาแพทยแ์ ผนไทย ธรรมศึกษาชน้ั ตรี ช้ันโท และชัน้ เอก สอนทกุ วันพระ ให้การศึกษาวิชาแพทย์แผนไทย สอนทุกประเภท เวชกรรม เภสัชกรรม นวดไทย และ ผดุงครรภ์ มีต�าราทางวิชาการให้ศึกษาค้นคว้าประมาณ ๓,๐๐๐ - ๔,๐๐๐ เลม่ สรรพวชิ า สนใจใฝ่ร้ไู ดโ้ ดยครกู ีชา และ มนี วดสุขภาพไทย มสี ถาน พยาบาล ส�าหรบั นักศึกษาเวชกรรมไทยฝึกงาน และนวดสขุ ภาพไทย บริการชว่ ย เหลือบุคคลที่ว่างงาน ทง้ั หมดคอื แหลง่ การเรยี นรแู้ บบโบราณ เปน็ อทุ ยานการศกึ ษาของชาตโิ ดยจติ อาสาของคณาจารยแ์ พทยไ์ ทย ไมไ่ ดท้ า� ธรุ กจิ พาณชิ ย์ ไมไ่ ดย้ ดึ ตดิ เปน็ อาชพี และไม่ เก่ยี วขอ้ งกบั การเมอื งแต่ประการใด การทค่ี รกู ีชา วมิ ลเมธี เป็นบคุ คลผทู้ รงภมู ปิ ัญญาดา้ นการแพทย์แผนไทย เปน็ ผสู้ รา้ งสรรคแ์ ละสบื สานภมู ปิ ญั ญาดงั กลา่ วมาอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง จนเปน็ ทย่ี อมรบั ของสังคมและชุมชน การยกยอ่ งเชิดชูเกียรตจิ ากส�านกั งานเลขาธิการสภาการ ศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ให้เป็นครูภูมิปัญญาไทย เพ่ือท�าหน้าที่ถ่ายทอด ภูมิปัญญาในการจดั การศึกษาท้ังการศกึ ษาในระบบ การศึกษานอกระบบ และ การศกึ ษาตามอธั ยาศยั นับว่าชอบแลว้ ทอี่ ยปู่ จั จบุ นั : ศนู ยแ์ พทยแ์ ผนไทย ๑๗/๑ วดั ศาลามชี ยั ถ.ราชดา� เนนิ ต.ใน เมือง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ๘๐๐๐๐

ครกู ีชา วมิ ลเมธี ๑๕ครู ดา้ นการแพทย์แผนไทย ภูมปิ ญั ญาไทย 373 แรงบนั ดาลใจ ทีเ่ หนอื กวา่ ความยากไร้ จากศูนย์แพทย์แผนไทย วัดศาลามีชัย พัฒนาเป็นอุทยานการ ศึกษา รวมสวนสมุนไพร ฤาษีดัดตน ต�าราวัดโพธ์ิครบทุกท่า เพื่อ อนรุ ักษ์และสบื ทอดภมู ิปัญญาแพทย์แผนไทย ให้เป็นแหล่งเรียนร้กู าร บ�าบัดโรคด้วยตนเอง รวมทั้ง ถ่ายทอดความรู้ท้ังด้านเวชกรรมไทย เภสัชกรรมไทย สาขาผดุงครรภ์ และสาขาการนวดไทย คอื ภารกจิ ท่ี ครกู ีชา วมิ ลเมธี ครภู ูมิปญั ญาไทย รนุ่ ที่ ๓ มุง่ สบื สานการแพทย์แผน ไทย ใหส้ มกับทเ่ี กิดในครอบครัวหมอไทย การรกั ษาตอ้ งเปน็ องค์รวม รกั ษาทัง้ รา่ งกายและจติ ใจควบคกู่ นั

๑๕ครู ครูกีชา วิมลเมธี ด้านการแพทย์แผนไทย ภมู ิปญั ญาไทย 374

ครจู นิ ดา บุษสระเกษ ๑๕ครู ด้านกองทุนและธุรกจิ ชุมชน ภมู ิปญั ญาไทย 375 ครูจนิ ดา บุษสระเกษ ครภู ูมิปัญญาไทย ดา้ นกองทุนและธรุ กิจชมุ ชน

๑๕ครู ครูจนิ ดา บษุ สระเกษ ด้านกองทุนและธุรกิจชุมชน ภูมิปัญญาไทย 376

ครจู ินดา บษุ สระเกษ ๑๕ครู ดา้ นกองทนุ และธุรกจิ ชุมชน ภูมิปญั ญาไทย ¨Ò¡ 377 สองแขกแปลกหนา้ มาจากเมืองกรงุ เยอื นอา� เภอที่มเี ฟอ่ื งฟา้ งาม นา�้ ผง้ึ หวาน กลา่ วขาน ขนนุ ดี คนมคี ุณธรรม ศลิ ปกรรมลา้� ค่า พบกนั ในชว่ งยา่ งเขา้ สยู่ ามบา่ ย ทห่ี นองบญุ มาก เมอื งยา่ โม นครราชสมี า ทไ่ี ดช้ อื่ วา่ เปน็ อ�าเภอทมี่ ีเฟื่องฟ้างาม น้�าผ้งึ หวาน กลา่ วขานขนุนดี คนมีคุณธรรม ศลิ ปกรรมล�้าค่า ในวันท่ี มลี มหนาวโฉบผา่ นเบาบาง รอครอู ยตู่ รงขา้ งรา้ นขายของช�าหนา้ ปากซอยทเี่ ชอ้ื เชญิ สองแขก แปลกหนา้ มาจากเมืองกรงุ ค่อนข้างสูงวัย น่ังพกั พรอ้ มเปดิ น�้าเยน็ จากตแู้ ช่ส่งใหด้ ว้ ยรอยยม้ิ ครเู ขาไปหาหมอตามนัด หมายถงึ ครจู ินดา บุษสระเกษ โทรมาบอกว่าให้รอหน่อย ไมน่ า่ เกนิ จะ ๓๐ นาทีคงถึง บ้านครูอยตู่ รงฝัง่ ถนนด้านข้างนเ่ี อง หรือจะเขา้ ไปคอยทบ่ี า้ นครกู อ่ นก็ได้ หญงิ เจา้ ของรา้ นขายของวยั ประมาณ ๕๐ กวา่ วา่ แลว้ ชไี้ ปยงั เรอื นครงึ่ ตกึ ครงึ่ ไมข้ นาดยอ่ ม ๆ เปดิ ประตกู วา้ งเอาไว้ โฉบสายตาผา่ นเขา้ ไปรบั รไู้ ดถ้ งึ ความอบอนุ่ ภายในบา้ นทพ่ี รอ้ มจะเปน็ ทพี่ ง่ึ ของ ชุมชนแห่งน้ี กระนน้ั เราเลอื กทจี่ ะนงั่ คอยทรี่ า้ นชา� ขา้ งทางชวนสนทนาถงึ เรอ่ื งราวของครจู นิ ดาบษุ สระเกษ ครภู มู ปิ ญั ญา ดา้ นกองทนุ และธรุ กจิ ชมุ ชน ของสภาการศกึ ษา ในทา� นองอยากจะฟงั เสยี งสะทอ้ น จากชาวบา้ นอยา่ งไงอยา่ งงั้น ไม่ผดิ หวงั กบั ประโยคแรกทีไ่ ดฟ้ ัง “ครเู ปน็ คนทที่ ำ� เพอ่ื ชมุ ชนจรงิ ใครเดอื ดรอ้ นใหช้ ว่ ยอะไรมำรบั ไวห้ มด ทำ� งำนแบบจติ อำสำ คนทีจ่ ะทุ่มเท เสียสละใหส้ งั คม ชุมชนไหนยังมีปัญหำก็ไปช่วยเหลอื เขำ เรอื่ งของตลำดเขำจะเกง่ ใครเดือดร้อนไม่มีที่อยู่อำศัย ก็หำท่ีให้เขำแล้วเขำก็ผ่อนส่ง สอนให้ชำวบ้ำนปลูกผักไว้กิน ปุ๋ย ชวี ภำพ ขว้ี วั ขค้ี วำย เอำมำทำ� ใหแ้ หง้ ชำวบำ้ นมรี ำยไดด้ ว้ ยกำรสรำ้ งงำนสรำ้ งอำชพี ใหแ้ กช่ ำวบำ้ น ใคร ๆ ก็รักเขำ...”

๑๕ครู ครูจนิ ดา บุษสระเกษ ด้านกองทนุ และธรุ กจิ ชมุ ชน ภูมิปญั ญาไทย 378 จงึ รบั รไู้ ดว้ า่ ทกุ เรอ่ื งในชมุ ชน ใครมปี ญั หา หรอื คดิ อะไรไม่ออกบอก ครจู นิ ดา บุษสระเกษ เลยคะ่ เธอจบแค่ ป.๗ แตค่ วามรคู้ วามสามารถ เกินปริญญาเอก สุดยอดนักบริหาร ท่ีผูกร้อย ดวงใจทกุ ดวง ดว้ ยความเขา้ ใจ เขา้ ถงึ จงึ พฒั นา นา� พาชุมชนพ่ึงพาตนเองไดอ้ ย่างเหลอื เชือ่ รวมถึงการปลูกฝังให้คนในชุมชนมี “วันหน่ึง ๒๔ ช่ัวโมง ต้องแบ่งให้สังคม ขบวนการท�างานแบบจิตอาสา ช่วยเหลือแบ่ง ครอบครัว และอื่น ๆ อันนี้เป็นกิจกรรมเพ่ือ ปันทั้งแรงกาย แรงใจ แรงความคิด พิชิตใจ ครอบครัว กิจกรรมยกป่ำเข้ำบ้ำน นี่เป็นผัก คนในชุมชน ร่วมด้วยชว่ ยกนั เตมิ เตม็ ดว้ ยการ หวำนป่ำ ซ่ึงเป็นกำรอนุรักษ์และสืบสำนพันธุ์ เพิ่มความรู้ การถ่ายทอดความรู้ ขบวนการ ไม้พ้ืนเมือง ช่วงท่ีฟื้นฟูมันเส่ือมเพรำะชำว ท�าการตลาด รู้จักพึ่งพาตนเอง มีการจัดการ- บ้ำนขดุ กันมำหมดแลว้ ท�ำให้เรำคดิ ว่ำสิง่ ทีเ่ รำ ทุน(เงินทุน) -ทุนคน-ทุนทรัพยากรธรรมชาติ ควรอนุรักษ์ คือ ผักหวำนป่ำ ก็พำชำวบ้ำน อย่างชาญฉลาด ท�ำเป็นกำรสร้ำงงำนสร้ำงอำชีพให้แก่ชำวบ้ำน คยุ กนั ไดไ้ มน่ านนกั เหน็ ผหู้ ญงิ วยั คอ่ นเลย สังคมและโลก ผักหวำนป่ำประมำณ ๔ หมื่น กลางคนกา้ วลงจากรถ ตรงมายงั ทบ่ี รเิ วณนง่ั คยุ กวำ่ ต้น มนั เปน็ ช่วงฤดกู ำล พฤษภำคม มนั จะ ด้วยท่าทางรีบร้อน รู้ได้ทันทีว่าน่ีน่าจะใช่ครู ออกผลผลิต” ไม่ทันได้น่ังพัก ครูพาเดินอ้อม จินดา แนน่ อน จึงรบี ยกมือไหวแ้ ละทักทายกนั ไปทางลานหลงั บา้ นรา้ นขายของ แลว้ ชใี้ หด้ ตู น้ เหมือนรู้จกั กนั มานานปี ซ่ึงดูเหมอื นครเู องเอย่ กลา้ ผกั หวานทเ่ี รม่ิ แทงยอดออกมาจากดนิ ในถงุ ปากขอโทษที่ท�าให้ต้องรอ ด้วยเหตุผลจ�าเป็น ด�านบั พัน ๆ ต้นเรียงรายกนั อยา่ งเป็นระเบยี บ ดังกลา่ ว กอ่ นท่จี ะเร่ิมเร่อื งชวี ติ ครู

ครจู นิ ดา บษุ สระเกษ ๑๕ครู ดา้ นกองทนุ และธรุ กจิ ชุมชน ภมู ปิ ัญญาไทย 379 “ส่ิงที่เรำช่วยชำวบ้ำนคือตอนก่อนผัก เรำสรำ้ งเครอื ขำ่ ยโดยมชี ำวบำ้ นขบั เคลอื่ น หวำนป่ำคือหล่นท้งิ ตอนนก้ี โิ ลละ ๒๐๐ ไมม่ ี แล้วเรำก็บอกต่อกัน ขำยต้นกล้ำต้นละ ๒๐ ขำย มีแต่คนจอง เรำขยำยป่ำโดยอัตโนมัติ บำท ผักหวำนเป็นพืชท่ีอยู่โดดเด่ียวไม่ได้ เรำ เรำประชำสัมพันธ์กับเครือข่ำยว่ำ บ้ำนฉันมี ตอ้ งปลกู แบบมเี พอื่ น เช่น ชะอม แคบำ้ น ฯลฯ ผกั หวำนปำ่ นะ มำซ้อื ชำวบำ้ นได้ขำยจำกเรำ เรำปลูกฝังเร่ืองกำรปลูกพืชเอำไว้กิน เหลือก็ เอำเมล็ดจำกป่ำชุมชนมำเพำะ เอำไปขำย ปลูกฝังชุมชนและเด็ก เรำมีเครือ ขำ่ ยจัดกจิ กรรมใหเ้ ดก็ รู้เท่ำทนั สื่อ”

๑๕ครู ครจู ินดา บษุ สระเกษ ด้านกองทุนและธรุ กจิ ชมุ ชน ภูมิปญั ญาไทย 380 จากครอบครัวท่ีมีหนี้สินจากการ ปลูกข้าวฟ่าง พลิกชีวิตด้วยเดิน ตาม ในหลวงของเรา ครูบอกว่า ต้นแบบ คือ ในหลวงเราท�า ส่ีพันกว่าโครงการ เราก็ขับเคลื่อนเลียนแบบ ในส่ิงที่พระองค์ทรงสอนและท�า ทรงท�าให้ดู เชน่ กจิ กรรมเรื่องขยะ สิง่ แวดล้อม เรือ่ งความ ซ่อื สัตย์ เรอ่ื งคุณธรรม ความเสียสละ เรือ่ งนา�้ เร่อื งดนิ เรอื่ งของการท�างาน ท�าร่วมกบั ชมรม เรารักในหลวง เราก็ส่งเสริมเร่ืองปากท้องชาว บ้านเพอ่ื ลดปัญหาความยากจน ทน่ี ี่เปน็ ชมุ ชน เข้มแข็ง จนเราไดเ้ ป็นตน้ แบบของระดบั ด้วย เรากลับมาก็เร่ิมท�าและเร่ิมเรียนรู้ เป็น การศึกษาเรียนรู้วิธีการเช่ือมเครือข่าย ต้ังแต่ ครอบครัวที่เร่ิมต้นในการปลูกเฟื่องฟ้าใน เข้าสวู่ งการ ลักษณะธุรกิจข้ามจังหวัด และสร้างเครือข่าย เดมิ เราเปน็ ครอบครวั ทม่ี หี นจ้ี ากการปลกู คือ ชาวบ้านในชุมชนได้หันมาท�ากิจการปลูก ข้าวฟ่าง ปลูกแล้วไม่รู้แหล่งตลาด หลังจาก ขายทั้งต้นทั้งตอ สู่การพัฒนาต่อกิ่งขยายพันธุ์ พ่อบ้านกลับมาจากซาอุดิอาระเบียแล้วกลับ ในรปู แบบตา่ ง ๆ ทมี่ คี วามหลากหลายดว้ ยสสี นั มาบ้าน มันเหมือนเป็นโชคดีท่ีมีพ่อค้ามาจาก จัดจ้านชวนชม เป็นที่นิยมซ้ือหาน�าไปประดับ ปราจีนบุรีมาหาซอื้ ตน้ ตอเฟื่องฟา้ จ�านวนมาก บ้านและสวนกัน แทบท�าไม่ทัน ตอนน้ีท�าทั้ง โดยไม่ได้บอกอะไร เราเป็นเพียงคนรับจ้างพา ชุมชน มีการเชื่อมโยงกันและเป็นรายได้ของ ไปหาแหลง่ และรบั หาตน้ เฟอ่ื งฟา้ ใหอ้ ยา่ งเดยี ว คนท่ีนี่ ขณะเดยี วกนั กส็ งั เกตวา่ พอ่ คา้ คนเดมิ ไป “ค�ำขวัญของอ�ำเภอหนองบุญมำก เป็น ไมก่ ว่ี นั เดยี๋ วกลบั มา เดยี๋ วกลบั มา ทงั้ ๆ ทแี่ ตล่ ะ สิ่งท่ีเรำภูมิใจย่ิงเมื่อทำงกำรยอมรับต้นเฟื่อง ครั้งทีข่ นเอาไปก็มใิ ช่นอ้ ย แสดงวา่ เขาต้องขาย ฟ้ำเข้ำไปเป็นส่วนหนึ่งในบรรดำส่ิงดี ๆ ท่ีบ่ง ดี มตี ลาดทีเ่ ป็นแหล่งรับซือ้ ขาย จงึ ขอตดิ ตาม บอกถงึ อัตลกั ษณ์ของคนในอ�ำเภอนี้ ทีม่ ที ั้งน้�ำ เขาไปที่หมู่บ้านเขา เป็นชุมชนท่ีปลูกไม้นานา ผงึ้ หวำน ขนนุ ดี คนมคี ญุ ธรรม ศลิ ปกรรมลำ�้ ค่ำ ชนิด ไปเห็นแล้วคิดว่า มันน่าจะกลับมาท�าท่ี ตำมค�ำขวัญ” ครูบอก บ้านตัวเองบ้างนะ คือท�าไม้ขายและชาวบ้าน จะมีรายได้จากเฟื่องฟ้าน่แี หละ

ครจู นิ ดา บุษสระเกษ ๑๕ครู ดา้ นกองทุนและธรุ กิจชุมชน ภูมปิ ญั ญาไทย 381 เร่อื งของการท�างาน ท�าร่วมกบั ชมรมเรารกั ในหลวง เรากส็ ง่ เสรมิ เร่ืองปาก ท้องชาวบ้านเพื่อลดปัญหาความยากจน ที่นี่เป็นชุมชนเข้มแข็ง จนเราได้ เป็นต้นแบบของระดับ ด้วยการศึกษาเรียนรู้วิธีการเชื่อมเครือข่าย ตั้งแต่ เขา้ สูว่ งการ พอท�าเร่ืองเฟื่องฟ้าเสร็จ ฐานะดีขึ้น มี อนั น้ี คอื การพฒั นา ในชมุ ชนของเรา เขา ตลาดรองรับ ครูจึงเริ่มบอกต่อคนข้างเคียงถึง จะเก่งเรื่องการผลิต และการตลาด ไม่ใช่ว่า การพัฒนารูปแบบเพ่ือขยายตลาดออกไปอีก เราจะอยู่แบบไม่พัฒนา สามารถพัฒนาตัวอ่ืน ตอนนเี้ ราโกอนิ เตอร์แลว้ ทัง้ จีน บรูไน คูเวต ก็ ด้วยผสมผสานกันไป มีการแลกเปล่ียนความรู้ มาซอื้ รปู แบบเรามกี ารพฒั นามากขน้ึ จากเฟอ่ื ง ประสบการณแ์ ละหาทางพฒั นาร่วมกนั ตลอด ฟ้าธรรมดา มาเปน็ เฟอ่ื งฟา้ แฟนซีแล้วกไ็ ปเปน็ ไมด้ ัด เป็นรูปสตั ว์ตา่ ง ๆ

๑๕ครู ครจู นิ ดา บษุ สระเกษ ดา้ นกองทนุ และธุรกิจชุมชน ภูมิปัญญาไทย 382 “น่ีคือกิจกรรมที่เรำท�ำ ใครสนใจก็มำ เรียนรู้กับเรำ เป็นกิจกรรมของเครือข่ำย เรำ ท�ำระดับอ�ำเภอก่อนแล้วขยำยไปสู่ภำคและ รอบบ้านมีผักปลูกไว้กิน อย่าง ระดับประเทศ ไมต่ ดิ หวงควำมรู้ ใครมวี ัตถุดบิ มะนาว เรากภ็ ูมใิ จเพราะเราทา� ให้ หรือพนื้ ท่ีวำ่ งก็ปลูก พรอ้ มสนบั สนนุ ” ครูบอก ชาวบ้าน ตอนน้ันช่วงมะนาวแพง ระหว่างพาเดินทัวร์ ระหว่างที่คุยเพ่ือให้เห็น เราก็ตระหนัก บอกชาวบ้านว่า ภาพจริง ๆ ถ้าแพงอย่างน้ีไม่ได้แล้ว เราต้อง อีกอย่าง เราก็ขยายเร่ืองครอบครัวตู้เย็น คอื รอบบา้ นมผี กั ปลกู ไวก้ นิ อย่างมะนาว เรา ปลูกไวก้ ิน ก็ภูมิใจเพราะเราท�าให้ชาวบ้าน ตอนน้ันช่วง มะนาวแพงเราก็ตระหนัก บอกชาวบ้านว่าถ้า แพงอยา่ งน้ีไมไ่ ด้แล้ว เราต้องปลูกไว้กิน “ตอนนค้ี นกป็ ลกู ผกั ปลกู มะนำวกนั เยอะ การพัฒนา คือ การอยู่กบั ปญั หา อยูก่ บั เรำก็ขำยสำยพันธุ์ด้วย มีรำยได้ ชำวบ้ำนก็ได้ ชุมชน ถา้ ละทง้ิ ชุมชน เท่ากับละทงิ้ ปญั หา ถ้า เหมือนในหลวงว่ำ เรำต้องเห็นประโยชน์ส่วน ไม่เรม่ิ ทต่ี ัวเองก่อน เมอื่ ไรจะไดเ้ หน็ การพฒั นา รวมด้วยไม่ใช่แต่ประโยชน์ส่วนตน ไม่งั้นเรำก็ เราต้องเข้มแข็งก่อนไม่ใช่รอแต่นโยบายท่ีเอา อยู่ไมไ่ ด้ เรำทำ� แบบให้มันครบวงจร” ประโยค เงนิ ลงมา ๆ แล้วไม่พฒั นาคน มนั ไมไ่ ดผ้ ล เงิน ทไี่ มย่ าว แตก่ นิ ใจเหลอื เกนิ เมอ่ื เอย่ ถงึ พระบาท มาก็ยังจนอยู่ สมเด็จพระเจ้าอยหู่ วั รชั กาลท่ี ๙

ครจู ินดา บุษสระเกษ ๑๕ครู ดา้ นกองทนุ และธรุ กจิ ชมุ ชน ภมู ปิ ัญญาไทย 383 อย่างเราให้เขาปลูกเฟื่องฟ้า มะนาว ผัก แลว้ กม็ าทา� เฟอ่ื งฟา้ จนเจรญิ เตบิ โต ทปี่ ลกู หวานป่า นี่เป็นการพัฒนาเขาไปในตัว ท�า เพราะความโชคดีของเราที่มีพ่อค้าชาวปราจีน แบบอย่างใหเ้ ขาดกู ่อน เขากจ็ ะเห็นเรามเี สรมิ เขามาขออาศัยอยู่ที่บ้านเรา แล้วเขาจ้างพ่อ อยา่ งเช่น มะนาวมเี ยอะ เขากแ็ ปรรปู เขาเห็น บ้านไปหาต้นตอเฟื่องฟ้า พอหาเสร็จเขามา เราเปลี่ยนแปลง เขาก็ท�าแบบอยา่ งเหมือนเรา แปลกอาทติ ยห์ นง่ึ ทสี องทไี ปมากห็ มด เขากเ็ อา บ้าง เขาเลียนแบบเรา ฐานะดีข้ึน ชีวิตความ ไป ขอไปดูหนอ่ ยเถอะ เป็นอยู่ดีข้ึน จากไม่มีรถ ตอนนี้มีบ้านละสอง “เรำเคยเอำต้นตอไปขำยท่ีสวนจตุจักร สามคนั ส่วนมากทน่ี ่ีเรอื่ งของตลาด เขาจะเก่ง เรำกไ็ มเ่ กง่ เหมอื นเขำ เรำยงั ไมม่ ีรถ เรำจ้ำงรถ เขาจะเรียนรู้ แบบเดยี วกนั ไป ขำยไปกไ็ มเ่ หลอื ” นคี่ อื ชวี ติ จรงิ ของครู เลา่ “สมมุติว่ำ ตลำดทำงภำคใต้เป็นคนไปปกั ไปฟังไป ดราม่ากนั ไปท้ังคนฟงั คนเลา่ หลกั ทำ� ทนี่ น่ั เลย ไมต่ อ้ งหว่ งคนทนี่ ่ี เรำปลกู แลว้ ตอนแรกเกดิ แรงบนั ดาลแบบทางรอดเรา สง่ มำใหเ้ ขำทำ� ตลำด เพรำะทน่ี เ่ี ขำไมก่ ลวั ตลำด เลย เราลงทนุ แปดรอ้ ยขายไดแ้ ปดพนั ไดข้ นาด พดู อยำ่ งนี้ถงึ จะเรียกว่ำทำ� จรงิ เรำกร็ บั ซือ้ ชว่ ย นน้ั ทา� ใหพ้ อ่ บา้ นลยุ ทา� ใหญเ่ ลย ไปหาซอื้ ตน้ ตอ เขำด้วย อย่ำงมีออเดอร์มำปุ๊บของเรำ ๒๐๐ มาปลูก มีการประกวดท่ีไหนเราก็ไปเลย ไม่ ของเขำ ๒๐๐ ซ่ึงมันมีจ�ำนวนท่ีเขำต้องกำร ท�าคนเดียวชักชวนชาวบ้านท�าด้วย ประจวบ ทนั ท”ี ครูอธบิ าย เหมาะช่วงนั้น น้องชายเป็นผู้ใหญ่บ้าน หนุน ช่วงหน่ึงที่เราเป็นเกษตรกรปลูกมัน พอ่ บา้ นและชาวบา้ นเตม็ ท่ี สง่ ผลจรญิ กา้ วหนา้ สา� ปะหลงั ราคามันตกต่�า ปี ๒๕๒๗ เหลอื ๒๕ จนถึงทุกวันน้ี จนเปลี่ยนค�าขวัญอ�าเภอได้เลย สตางค์/กิโล ก็ขายแล้วแต่เป็นหนี้ ก่อนท่ีสามี “เฟอ่ื งฟา้ งาม นา�้ ผงึ้ หวาน กลา่ วขานขนนุ ดี คน จะไปทา� งานซาอฯุ เรากม็ อี าชพี คา้ ขายเปน็ ชา่ ง มคี ุณธรรม” เสรมิ สวยดว้ ย ปลกู มนั สา� ปะหลงั ไปดว้ ย มนั ลม้ เหลว ขายไปหมดแลว้ แต่หน้ยี ังไมห่ มด

๑๕ครู ครูจนิ ดา บุษสระเกษ ดา้ นกองทุนและธุรกจิ ชมุ ชน ภูมิปญั ญาไทย 384 เหน็ สงิ่ ดงี ามทมี่ นษุ ยก์ ระทา� ใหแ้ กก่ นั ท่ี ไต้หวนั จุดหนั เหทา� เรอ่ื งกองทนุ เมื่อก่อนเราเป็นแหล่งจ�าหน่ายขนุน หลังจากที่ ครอบครัวเรามีความเป็นอยู่ดีขึ้น ก็กลับมาคิดพัฒนา เร่ืองสังคม พอเราได้ทางราชการหรือหมู่บ้านก็ส่งให้ เราเป็นผู้น�าหมู่บ้าน เราก็เลยหันมามองเร่ืองกองทุน พัฒนาสงั คม ณ วนั น้ีมสี ามสิบกว่ากองทุนทเ่ี ราขยับ ฉนั ไมแ่ ตะเรอ่ื งเงนิ เพราะฉนั ไมอ่ ยนู่ ง่ิ แลว้ เรอ่ื งนม้ี นั ละเอยี ดออ่ น สมาชิกต้องเป็นคนในเขตนี้ ฉนั บอกลูกวา่ แมท่ �าตรงน้บี ุญกุศล มันถึงพวกเธอด้วยนะ งานที่ขยบั เราได้เพราะเรารบั ฟัง ส่งิ ทเ่ี ปน็ จุดหนั เห ท�าใหค้ ดิ ทจ่ี ะท�าเร่ืองกองทุนฯ ข้ึนมา ครูเล่าว่า ไปดูงานที่ไต้หวัน ไปเห็นส่ิงดีงามที่ มนุษย์กระท�าให้แก่กันที่ฉือจ้ี (มูลนิธิพุทธฉือจี้) ซึ่งมี ทา่ นธรรมาจารยเ์ จง้ิ เหยยี น บวชเปน็ ภกิ ษณุ ตี งั้ แตอ่ ายุ ๒๓ ปี ซ่งึ เคยไดร้ ับรางวัลแมก็ ไซไซจากงานทท่ี า� เมือ่ ประมาณ ๒๐ กวา่ ปีมาแล้ว เปน็ ตัวอยา่ งของผูป้ ฏิบตั ิ ตนท่งี ดงาม สรา้ งระบบการจดั การท่เี ป็นเลศิ ส่งผลให้ บรรดาศษิ ยานศุ ษิ ยแ์ ละคนทวั่ ไปไดเ้ หน็ เปน็ แบบอยา่ ง และเกิดการหลอมรวมจิตอาสาท่ีกลายเป็นพลังศีล ธรรมในสังคม มุ่งมั่นเสียสละ อยากทา� ความดี อย่าง สม�่าเสมอ

ครูจนิ ดา บษุ สระเกษ ๑๕ครู ด้านกองทนุ และธรุ กิจชุมชน ภูมปิ ญั ญาไทย 385 หากเป็นในระดับจังหวัด ท�างานแบบจิต อาสา แบง่ การรบั ผดิ ชอบกันไปตามความถนัด ความเช่ียวชาญที่มี ชุมชนไหนยังไม่เข้มแข็ง คอื สมาชิกไมเ่ พ่ิม ก็เข้าไปช่วยเหลือ โคราชมี ๙ เขต ฉันดแู ลเขต ๒ ฉันถนัดเร่อื งเศรษฐกจิ ก็ ดแู ลเรอ่ื งเศรษฐกจิ สรา้ งงาน สรา้ งรายได้ เรอ่ื ง สง่ เสรมิ อาชพี เรายง่ิ ใหเ้ ทา่ กบั เรายงิ่ ได้ เหมอื น ในหลวงท่านว่าไว้ เรอ่ื งบญุ กศุ ล บางคนเขากน็ า่ สงสาร อยา่ ง บ้านเราทา� ผ้ามา่ น เขาก็โทรมาให้ไปท�าผา้ ม่าน ให้อ�าเภอ นี่เป็นบุญกุศล ขณะเดียวกันงาน ปกตขิ องตวั เองกย็ งั ท�าอยู่ ฉนั สรา้ งกลไกในการ เห็นแล้วสุดประทับใจ ในเร่ืองของการ บรหิ ารขน้ึ มา ฉนั ไมแ่ ตะเรอ่ื งเงนิ เพราะฉนั ไมอ่ ยู่ ท�าความดีที่มีท้ัง งานการกุศล งานการศึกษา นงิ่ แลว้ เรอ่ื งนมี้ นั ละเอยี ดออ่ น สมาชกิ ตอ้ งเปน็ งานด้านมนุษยธรรม งานบรรเทาทุกข์ การ คนในเขตน้ี ฉนั บอกลกู ว่า แม่ทา� ตรงนี้บุญกศุ ล อนุรักษ์ส่ิงแวดล้อม อาสาสมัครชุมชน ไป มันถึงพวกเธอด้วยนะ งานท่ีขยับเราได้เพราะ กระทั่งถงึ งานการแพทย์ ธนาคารไขกระดกู เรารบั ฟงั ฟงั คนน้ันคนนีพ้ ดู ครคู ดิ วา่ จะกลบั มาบา้ นเราทา� ไดไ้ หม เพยี ง อนั นท้ี า� แบบชาวบา้ น เราขยบั ไปถงึ อา� เภอ แคเ่ ศษเสย้ี วกย็ งั ดกี วา่ ไมท่ า� อะไรเลย โชคดที ไ่ี ด้ ตอนนที้ า� เรอื่ งสวสั ดกิ ารสทิ ธขิ องสตรี อนั นเี้ ปน็ เป็นคณะกรรมการกองทุนขับเคลื่อนกองทุน สง่ิ ท่ีเราขยับ ไม่ใช่เดนิ ย้า� อย่างเดียว คิดถงึ พ่อ สวัสดิการชุมชน กระทรวงพัฒนาสงั คมฯ เลย คนท่ีเป็นต้นแบบและแรงบันดาลใจ เป็นทุก มีโอกาสน�าความรู้ที่ไปเห็นมาปรับใช้ เรื่อง สงิ่ ทกุ อยา่ งทีล่ ูกภมู ิใจ กองทุนสวัสดิการจัดการช่วยเหลือสังคมต้ังแต่ ครรภ์มารดาถึงเชงิ ตะกอน มันขยับไปตรงนั้นได้แล้ว คราวน้ีขยับไป ถงึ เรอื่ งพฒั นาคนเพราะโอกาสและเสน้ ทางเปดิ ใหเ้ ราแลว้ กเ็ รม่ิ ปลกู ฝงั ใหช้ าวบา้ นออมตง้ั แตป่ ี ๕๑ พอชาวบ้านออม เขาก็จะได้รับสวัสดิการ นอนโรงบาลไดค้ ืนละสองรอ้ ย ปีหน่ึงห้าคนื

๑๕ครู ครจู นิ ดา บษุ สระเกษ ดา้ นกองทุนและธรุ กิจชุมชน ภมู ิปัญญาไทย พอ่ เป็นครู พอ่ เปน็ สารวตั รก�านัน พ่อจะสอนไมใ่ หข้ ้ี 386 เหนยี วแรง ใครทา� อะไรได้ นั่นคือ เราก็ทา� ได้ และจะได้ ความรู้ พอ่ บอกวา่ ทกุ อย่าง คือ ครเู รา เขาท�าอะไรเขา้ ไป ทุกวันน้ียงั คิดถึงพ่อ ภมู ใิ จ เรียน เรื่องไม้ พ่อก็ปลูกฝัง ฉันเลยได้ตรงนั้นเลย มาท�า กับส่ิงที่พ่อสอนและไม่ เฟื่องฟ้า มันมีองค์ความรู้ พ่อเป็นสารวัตรก�านันและนัก ยอมท�าอะไรท่ีผิด ๆ ว่า พัฒนา พ่อจะเขยี นผงั เหมือนเป็นแผนท่ี ครเู ปน็ พีค่ นโต ไปแล้วมันก็น่าจะเป็น มพี น่ี อ้ ง ๙ คน ตอนเดก็ เลยี้ งนอ้ งและใหน้ อ้ งเรยี น ทกุ วนั นี้ ภมู ปิ ญั ญาและเปน็ สง่ิ ทเ่ี รา เราเปน็ ผสู้ บื สานเจตนารมณข์ องพอ่ ทเี่ สยี ชวี ติ ในตา� แหนง่ ต้องสืบสานและสืบทอด ต่อจากบรรพบุรุษ พร้อม พอ่ จะสอนใหร้ กั การคา้ ขาย สมยั ทพี่ อ่ ทา� วกิ หนงั จะ ขยายให้คนอ่ืนต่อได้ พ่อ ใหล้ กู สาวขายของ เรากท็ า� อาหารขาย ไมไ่ ดใ้ ชช้ วี ติ เหมอื น ถือเป็นนักพัฒนาที่ไม่เคย เด็กท่ัวไป ต้องเลี้ยงน้อง พอน้องโต เราก็แต่งงานแล้ว หยดุ นงิ่ เปน็ ผนู้ า� ทค่ี ดิ แบบ คา้ ขายอยา่ งทีพ่ ่อสอนมา และเรากไ็ ดแ้ ม่ดเี ด่นระดับชาติ ไม่อยู่กับท่ี คิดอย่างเดียว ท�าอย่างไรให้ชีวิตคนอื่นท่ี “ทุกวันนี้ยังคิดถึงพ่อ ภูมิใจกับส่ิงท่ีพ่อสอน อยูร่ อบขา้ งดีขึ้นด้วย และไม่ยอมท�ำอะไรที่ผิด ๆ ว่ำไปแล้วมันก็น่ำจะเป็น ภูมิปัญญำและเป็นสิ่งท่ีเรำต้องสืบสำนและสืบทอดต่อ จำกบรรพบุรุษ พร้อมขยำยให้คนอ่ืนต่อได้ พ่อถือเป็น นักพัฒนำท่ีไม่เคยหยุดนิ่ง เป็นผู้น�ำที่คิดแบบไม่อยู่กับที่ คิดอย่ำงเดยี ว ท�ำอยำ่ งไรใหช้ วี ิตคนอื่นท่ีอยู่รอบข้ำงดีขนึ้ ดว้ ย” ครบู อกว่า ตนเองจบ ป.๗ แล้วต่อ ไป กศน. ตอน นี้เรียนจบปริญญาตรีแล้ว จากสถาบันอาศรมศิลป์ เรา จดั สรรเวลาไปเรยี น และไดพ้ ยายามเดนิ ตามคา� สอน เพอื่ ทา� ใหท้ กุ คนเหน็ วา่ สงั คมนช้ี มุ ชนนอี้ ยรู่ อดได้ ถา้ ท�าจรงิ ใน ทกุ เรอ่ื ง ทา� ใหน้ กึ ถงึ พระราชดา� รสั พระบาทสมเดจ็ พระปร มนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร พระราชทาน แก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯ เนื่องในโอกาสวันเฉลิม พระชนมพรรษา ๔ ธนั วาคม ๒๕๓๓ ความตอนหนง่ึ วา่

ครูจินดา บุษสระเกษ ๑๕ครู ดา้ นกองทนุ และธุรกิจชุมชน ภมู ิปัญญาไทย “..ตา่ งคนตา่ งมหี นา้ ที่ แตก่ ไ็ มไ่ ดห้ มายความวา่ ทา� เฉพาะหนา้ ทนี่ นั้ ... 387 เพราะว่า...ถ้าคนใดท�าหน้าท่ีเฉพาะของตัว โดย ไม่มองไมแ่ ลคนอน่ื งานก็ด�าเนนิ ไปไม่ได้ เพราะเหตุว่า...งานทุกงานจะต้องพาดพิงกัน จะต้อง เกยี่ วโยงกนั ฉะนั้น...แต่ละคนจะต้องมีความรู้ถึงงานของผู้อื่น แล้วช่วยกันท�า..” และ พระราชด�ารสั พระราชทานแกป่ ระชาชนชาว ไทย เนอื่ งในวนั ขึน้ ปีใหม่ ๒๕๓๒ ความตอนหนึง่ วา่ “ ความสามัคคปี รองดองเป็นอนั หน่ึงอันเดยี วกนั กบั ความรกั ใครเ่ ผอ่ื แผช่ ว่ ยเหลอื กนั ฉนั ญาตพิ น่ี อ้ ง สอง ประการนี้ คอื คณุ ลกั ษณะสา� คญั ของไทย ทช่ี ว่ ยใหช้ าติ บา้ นเมอื งอยูร่ อดเปน็ อิสระ และเจริญมัน่ คง มาต้งั แต่ อดีตจนถงึ ปจั จบุ นั ” ทุกวนั น้ี คนท่จี ะทมุ่ เท เสียสละให้สังคมจรงิ ๆ กย็ งั มอี ยู่ เพยี งแต่วา่ ต้องมองให้ออกว่า เขาถนดั อะไร ใชค้ น ให้ถกู ทาง เราได้เรยี นรู้จากเครือข่ายและหนังสือ สมมุติ วา่ ชาวบา้ นไมม่ สี วสั ดกิ ารกต็ อ้ งไปเดอื ดรอ้ นรฐั บาล ชมุ ชน เราเปน็ ต้นแบบของอา� เภอ ตอ้ งทา� ใหเ้ ขาเห็นวา่ ชว่ ยเขา ได้ แตไ่ ม่ใชก่ ารให้ฝ่ายเดียว

๑๕ครู ครจู นิ ดา บุษสระเกษ ด้านกองทนุ และธุรกจิ ชุมชน ภมู ิปญั ญาไทย “กลำ้ พดู เลย ตอนนร้ี ฐั บำลทำ� เรอ่ื งหนง่ึ ไมไ่ ดอ้ ยำ่ งฉนั คอื เรอื่ ง 388 ที่ดิน เรำใช้ชำวบ้ำนลงชื่อเหมือนสหกรณ์ หำกเดือดร้อนในเร่ือง ไม่มีที่อยู่อำศัย ก็ให้มำลงช่ือ หำที่ให้เขำแล้วเขำก็ผ่อนส่ง ตอนน้ี จะท�ำโครงกำรบำ้ นพอเพยี ง จะซ่อมแซมบำ้ นให้คนยำกจน ท�ำใน ชมุ ชนกอ่ น เรำเปน็ เซ็นเตอร์ที่เคลื่อนไหว ไม่ได้อยกู่ บั ท่ี ดงึ ชุมชน เขำ้ มำสกู่ ระบวนดว้ ยกนั สมำชกิ ของสวสั ดกิ ำรมนั ตอ้ งเพมิ่ ขน้ึ ทกุ ปี วิธีกำรขยำยสมำชิกต้องมีเทคนิค” ครูเล่าด้วยน้�าเสียงและสีหน้า จรงิ จงั และขยายตอ่ อยา่ งตน้ ผกั หวาน ปนี ม้ี ี ๔๐,๐๐๐ ตน้ เฉพาะปนี ที้ บ่ี า้ นครู ผกั หวานปลูกยากแต่ก็ได้องค์ความรูจ้ าก พอ่ ผาย ครภู มู ิปัญญา สภา การศกึ ษา นแ่ี หละ ไปพบและรบั ฟงั น�ามาพัฒนา ผักหวานปา่ ชอบ ดนิ ปลวก เราฟงั มากเ็ อาดนิ ปลวกไปผสม และกเ็ รอื่ งหนิ ถา้ เอาหนิ วางใกล้ ๆ ผกั หวานมนั กช็ อบ นค่ี อื การไดม้ โี อกาสไดจ้ ากปราชญ์ ซงึ่ เปน็ ภมู ปิ ญั ญาของแผน่ ดินไทย ทุกท่านมีองค์ความรู้ที่เหนือนักวิชาการในระบบ เชื่อแต่ ตา� รา ความรไู้ มไ่ ดเ้ กดิ จากประสบการณข์ องตนเอง กลา้ ทจี่ ะลอง ผดิ ลองถกู ครง้ั แลว้ ครงั้ เลา่ แบบไมเ่ คยทอ้ แลว้ สะสมสง่ิ ตา่ ง ๆ เพมิ่ เติมจากการเรยี นรแู้ ละพดู คยุ อย่างครู ถา้ จะคุยว่ารู้จกั ตน้ ไมก้ ค็ งจะเป็น ผกั หวาน เฟื่องฟ้า จันทร์ผาและลีลาวดี ปลูกยังไงให้งาม มันใช้ธรรมชาติทั้งน้ัน ผัก หวานกม็ ตี ามทว่ั ไป ในหมบู่ า้ นปลกู ผกั หวานหมด มที กุ บา้ น เคมไี ม่ ได้เลย มันไม่ชอบ เราตอ้ งใชป้ ยุ๋ ชีวภาพ ขี้ววั ขคี้ วาย เอามาทา� ให้ แห้งก่อน แต่มนั ก็ไมช่ อบข้ีไก่ คนตา่ งจงั หวดั ท่รี ูเ้ ขาบอกมา เฟื่องฟา้ เป็นพืชทไี่ ม่ชอบนา�้ ถา้ อยากให้ดอกออกเยอะ ๆ ไม่ ตอ้ งรดนา�้ เลยสองอาทติ ยก์ จ็ ะออกดอกสะพรงั่ การดแู ลรกั ษาใชแ้ ค่ ปุ๋ยคอก ถ้าใช้ป๋ยุ เคมี ดินจะดานแขง็ ท่ีนีไ่ ม่เร่งดอก ชว่ งระยะหมด ดอกก็จะต่อยอดขึน้ มาใหม่ ใหเ้ วลานดิ นงึ ทนี ี่เน้นเป็นแดง เหลือง ฟ้า ซากุระ บานเย็น ในฟอร์มเดียวกัน เฟ่อื งฟ้าอยนู่ านมาก ถ้าไม่ รดนา�้ ทกุ วนั เฟอ่ื งฟา้ ทนมาก

ครูจนิ ดา บษุ สระเกษ ๑๕ครู ด้านกองทุนและธุรกิจชุมชน ภมู ิปญั ญาไทย 389 ปลกู เฟือ่ งฟ้า เหมอื นเราฝากออมเงิน ซื้อ ฉันชอบศาสตร์ ของพระราชา มา ๑๐ บาท ปีเดยี วเราได้ ๓๐ บาท เดมิ เฟอ่ื ง ในเรอ่ื งของพลงั ปญั ญา ฉนั ชอบ ฟ้าเป็นพืชของทางอินโดนีเซีย เขาต้องขุดตอ เร่ืองความเพียร ถ้าเราไม่เพียร เอารากเอนหงา้ เลยตอ่ กงิ่ ได้ ต่อยังไงก็ขึน้ ราก แลว้ เราไปไมไ่ ด้ มนั จะออกจากกงิ่ กา้ นแตค่ วามแขง็ แรงสแู้ บบมี รากแก้วไมไ่ ด้ วิธีการท�างานของครูท่ีท�าให้ส่งผลเกิด อินทผลัม คนก็จะได้เยอะ ชาวบ้านจะ ความสา� เรจ็ ครูบอกวา่ เลยี นแบบของเรา รสชาติหวานหอม สังเกตจากภาวะผู้น�าของเขา ส่วนใหญ่ ต้นจันทรผ์ า ก็ชกั ชวนชาวบ้านปลกู เป็น ต้องอาสาท�า บางอย่างต้องมีเทคนิค ไม่ใช่ว่า พืชป่า ไม่ชอบเคมี ชอบอยู่กับโขดหิน แต่ถ้า อยู่ ๆ ไปสร้างเขาได้ ต้องสร้างแรงบันดาลใจ เป็นลีลาวดี ใชว้ ธิ กี ารตัดแตง่ ก่งิ พรรณ เราขาย ใหเ้ ขา ต้องคุยใหเ้ ขาเกดิ จิตสา� นึก ในสมาชกิ ก็ ไดเ้ ปน็ ร้อย ๆ มีเดก็ มธั ยม กับ มหาวิทยาลัย แม้กระทง่ั หลาน ก็ปลูกฝัง นีค่ ือ ขบวนการฝกึ อบรม เดก็ กจ็ ะได้ ความรู้ เกิดภาวะผู้น�า ครูจะเปน็ ตวั เชื่อมแตล่ ะ เครือข่าย ส่งเสริมให้เขามีความรู้อันเกิดจาก การอา่ น อย่างเชน่ เรือ่ งลูกปะคบ ก็เอาเดก็ ไป ออกงาน เขาก็ภูมิใจจากสิ่งทีเ่ ขาทา� ได้

๑๕ครู ครูจินดา บษุ สระเกษ ด้านกองทุนและธรุ กจิ ชุมชน ภูมิปญั ญาไทย 390 จะสรา้ งกระแสการลงมอื ทา� ให้เห็น ใสใ่ จดูแล คนก็เร่มิ ทา� งานกบั เรา ไมช่ อบไปงานคนรวย เขามีพอแลว้ แตค่ นจนยงั ขาด ทา� งานตรงนี้ตอ้ งใชเ้ ทคนคิ ท�างานท้ังวัน มีฝรง่ั มาท�าเพราะเขาได้ แฟนเป็นคนไทย ตรงนี้เปน็ ครอบครวั ท่ไี ดร้ บั อานิสงสจ์ ากเรา เปน็ มือสองทีถ่ า่ ยทอดใหช้ ุมชนตอ่ จากเรา อันนีเ้ ปน็ เรอ่ื งคุณภาพชวี ติ ท่ีดี ในเร่ืองของพลงั ปัญญา ฉนั “ฉันชอบศำสตร์ ของ พระรำชำ ในเรือ่ งของพลัง ชอบเรื่องความเพียร ถ้า ปัญญำ ฉันชอบเร่อื งควำมเพียร ถ้ำเรำไม่เพยี รแล้วเรำ เราไม่เพียรแล้วเราไปไม่ได้ ไปไมไ่ ด้ ถ้ำไมม่ ีควำมเพยี ร อดทน จรงิ ๆ แลว้ มันมแี ค่ ถ้าไม่มีความเพียร อดทน ทนุ เดมิ แตค่ นทมี่ จี ติ อำสำ เวลำเรำคยุ เรำจะรเู้ ลย จะให้ จริงๆ แล้วมันมีแค่ทุนเดิม กำ� ลงั ใจฉัน มันเตมิ พลังให้เรำได้ บำงอย่ำงเรำใช้ควำม แตค่ นท่ีมจี ิตอาสา เวลาเรา รกั แบบฝรง่ั จะกอดกนั ใหก้ ำ� ลงั ใจตอ่ กนั ” ฟงั ครเู ลำ่ แลว้ คุยเราจะรู้เลย จะให้ก�าลัง เหน็ ภำพแห่งควำมสุข ใจฉัน มันเติมพลังให้เรา ได้ บางอยา่ งเราใช้ความรัก ทน่ี จี่ ดั ทวั รช์ มุ ชน คดิ คา่ อาหารเหมอื นนกั ทอ่ งเทยี่ ว แบบฝรั่งจะกอดกันให้ก�าลัง มา เราก็มรี ายได้ ทนี่ ่ที า� ขนมอร่อย ขนมเปยี กปนู ปลูก ใจต่อกนั เฟอ่ื งฟ้าเกอื บทัง้ ตา� บล เขาก็ทา� เปน็ แหลง่ วตั ถดุ บิ พ่อบ้านของครูนี่แหละท่ีเป็นคนน�าพา ค�าขวัญ อ�าเภอหนองบุญมาก มาอยู่ที่บ้านเราถึง ๒ อย่าง ทัง้ เฟื่องฟ้าและน้�าผึ้ง เราแก้ไขความยากจนให้ชาวบ้าน เช่น น้า� ผง้ึ ชาวบ้านเขาจะรูเ้ ลยวา่ รังผึ้งอยตู่ รงไหน เขา ก็จะตามไป ตามีเชื้อสายจีน ปนี ้อี ายุ ๖๒ ปแี ลว้ นา้� ผง้ึ หวานจะขายตามริมถนน แต่กม็ ีคนหาขายอยู่ ท่ีน่ีรักษาคณุ ภาพ ซื่อกนิ ไม่หมด คดกนิ ไมไ่ ด้ มัน เป็นป่าธรรมชาติ ป่าชุมชน มีหลวงพ่อเป็นผู้สืบทอด ขยายภูมิปัญญาชาวบ้าน ถึงเวลาชาวบ้านก็มาเก้ือกูล กันหมดทงั้ วดั โรงเรียน ชมุ ชน

ครูจนิ ดา บุษสระเกษ ๑๕ครู ด้านกองทุนและธุรกิจชุมชน ภูมปิ ญั ญาไทย 391 “ส่วนมำกเรำจะเวิร์กช็อปแบบสัญจร แวะเขา้ ไปคยุ กบั หนุม่ อีกคน ทีก่ �าลังขยัน จินดำจะเป็นคนสอน หมู่ ๖ จะแปรรูปกล้วย แข็งกับการตกแต่งก่ิงเฟื่องฟ้าบนพื้นท่ี ๒ ไร่ ปำรกิ ำ้ กลว้ ยเบรกแตก ตอนนีท้ �ำแบบปศุสตั ว์ ทา่ มกลางแดดจา้ ยามบา่ ย กบั ทมี งาน ๓ - ๔ คน เปน็ ฝมื อื เครอื ขำ่ ยแตค่ รเู ปน็ ฝกึ อบรม สรำ้ งแรง นา่ จะเป็นคนในครอบครัว เล่าวา่ บนั ดำลใจ พง่ึ พำตนเองทำ� อะไรแลว้ มีควำมสขุ “จำกเมอ่ื กอ่ นทำ� อยทู่ ่ี บ.เครอื ซเี มนตไ์ ทย กท็ �ำ จริงแลว้ เรำมีเครือขำ่ ยทเ่ี ขำตอ้ งกำร เรำ พอฟองสบู่แตกจึงอพยพมำอยู่นี้ ท�ำไร่มันก็ กไ็ ป แตเ่ รำกไ็ ม่ท้ิงฐำนเดมิ เรำที่อยขู่ องเรำ เรำ ไม่ประสบควำมส�ำเร็จ ค่ำเช่ำเขำแพง ได้ พี่ กช็ ่วยเขำแลว้ กไ็ ปช่วยเหลอื เครือขำ่ ย ตน้ แบบ ประกอบกบั ครจู นิ ดำ นแ่ี หละ สอนผมทกุ อยำ่ ง เรำ คอื ในหลวง พระองคท์ รงเปน็ ผใู้ ห้ เรำกต็ อ้ ง ไมห่ วงวชิ ำ กระทงั่ ทำ� ได้ถงึ ทกุ วันนี้ ครใู ห้แบ่ง เปน็ ผใู้ หผ้ อู้ นื่ ดว้ ย ในเมอื่ เรำไดร้ บั โอกำสเรำกส็ ง่ งำนกนั ทำ� รำยไดจ้ ะถกู แบง่ ปนั เรมิ่ จำกคนหนง่ึ โอกำสต่อ” ครูเรยี กตวั เอง วา่ จินดา ตามชอ่ื ตอ่ ยอด คนหนง่ึ ขุดรำก คนหนง่ึ เอำใสก่ ระถำง นี่คือ ตัวอย่างของการพัฒนาท่ีเกิดจาก ไปขำย ท�ำให้ทุกคนเก่งกำรตลำด จะมีลูกค้ำ ความสมัครสามัคคีของคนในชุมชน จนมีวัน ประจ�ำ เป็นกำรสร้ำงอำชีพใหค้ นในชมุ ชน ผม น้ีวันที่เป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง แค่การ ก็เกบ็ เกี่ยวประสบกำรณ์และมำปรบั ใช้ พัฒนำ รวมตัวกันของกลุ่มไม้ดอก ไม้ประดับ มีลีลา ตอ่ ในหมู่บำ้ นของผม” วดี อนิ ทผลมั โดยเฉพาะเปน็ แหลง่ ส่งเฟ่อื งฟ้า ทใี่ หญ่ทสี่ ุดในประเทศไทย น่ังรถข้ามไปอีกหมู่บ้านอีกฟากหน่ึงของ ถนน เป็นท่ีตั้งของ บ้านใหม่อุดม ต.บ้านใหม่ อ.หนองบุญมาก จอดรถแล้วเดนิ เลาะเลียบไป ตามบา้ นตา่ งพดู ถงึ ครจู นิ ดาเปน็ เสยี งเดยี วกนั วา่ ครูเป็นท่ียอมรับกันในวงการไม้ดอกไม้ ประดบั วา่ ดงั มากเรอ่ื งไมด้ อกไมป้ ระดบั เฟอ่ื ง ฟา้ ดดั ลลี าวดี จันทร์ผา นา้� ผง้ึ ป่า อบรมแลว้ น�า มาปฏบิ ตั ไิ ดจ้ รงิ ทงั้ ยงั ตอ่ ยอดสรา้ งความมนั่ คง ในอาชีพสู่การรับช่วงต่อ และทดแทนกันได้ อยา่ งมั่นคง

๑๕ครู ครจู นิ ดา บุษสระเกษ ด้านกองทุนและธรุ กจิ ชมุ ชน ภูมิปัญญาไทย 392 ตง้ั แตม่ าอยตู่ รงนี้ ชวี ติ พลกิ ผนั จรงิ ๆ ระยะ ช่วงระยะเขาหมดดอกก็จะทยอยข้ึนมา ๑๐ ปี จากมพี น้ื ทแ่ี ค่ ๒ งาน ตอนนมี้ ที ี่ ๒ ไร่ สรา้ ง ใหม่ ใหเ้ วลาเขานดิ นึง เฟื่องฟา้ อยูน่ านมากถ้า บา้ นไดห้ ลงั หนง่ึ รถสองคนั ถอื วา่ ความประหยดั ไม่รดน�้าทุกวัน เฟื่องฟ้าทนมาก วิธีการจัดขึ้น ไอเดีย หามุมมอง สินค้าจะต้องมีคุณภาพ รถเขาจะช�านาญ ผมเรียนจบ ป.๔ น้องๆผม ออกไป รักษาลูกค้าให้อยู่กับเราไปนาน ๆ จบปริญญา แต่ผมได้แบบนี้ผมก็ดีใจแล้ว ผม ส่วนลูกค้าที่อยู่ต่างจังหวัดเขาไม่ค่อยมาดู เขา จบ ม.๓ ทีน่ ี่ แลว้ กเ็ รยี น กศน. ผมกค็ นื ความรู้ เช่ือใจไว้ใจเรา ถ้าเขาไม่ไว้ใจเราเขาจะซื้อคร้ัง ใหอ้ าจารย์ แลว้ ไมค่ ดิ วา่ จะประสบความสา� เรจ็ เดียว เรามีบริการหลังการขายถ้าอยู่ไม่ไกลไม่ คิดตงั ค์ ถ้าอยู่ไกลคิดตามกโิ ลเมตร เราจะบอก วธิ รี ดนา้� บางคนรดนา�้ ไมเ่ ปน็ เฟอ่ื งฟา้ ไมช่ อบนา้� สองวนั ใหค้ รัง้ หน่ึง ท่ีเหลอื กต็ ดั แตง่ อย่างเดียว ทา� โบรช์ วั ร์ แผน่ พบั วธิ ดี แู ล บา� รงุ เฟอ่ื งฟา้ แต่หลัง ๆ อธิบายสด เพราะว่าทางนี้ให้ผม มา ผมกต็ ้องให้ต่อไป คนงานเวลาไม่มีงาน ผม ให้เขาช่วยท�า พอเสร็จคุณไม่ต้องไปหางาน ข้างนอกแล้ว มาท�างานในหมู่บ้าน เม่ือมีงาน ท�า ปัญหาสังคมก็ไม่เกิด ก็ถ้าอยู่ท่ีว่าถ้าส่ังรถ ปิกอัพหรือรถหกล้อ แล้วแต่เขาจะซื้อ ผมจะ บวกคา่ ขนสง่ อกี ถา้ มารบั เองจะไมบ่ วกคา่ ขนสง่ บางใหญค่ ลอง ๑๕ เขาจะมารบั ดอกไมจ้ ากท่นี ้ี ทีแรกลูกค้าไม่รู้จักเท่าไหร่ แต่เขาจะส่ัง กิ่งเฟื่องฟ้าจากที่น้ีไปแล้วไปท�าท่ีนู้น แต่ตอน น้ีวัตถุดิบบ้านเรารองรับท่ีสุพรรณได้ อีกที่ หน่ึง คอื มีคนปลูกไว้ผมก็ไปซือ้ จากตรงนั้นมา เลยเพราะผมไม่มีเวลาปลูก ต้นทุน ๕๐ บาท ตอ่ ต้น อยากไดฟ้ อร์มไหนเลือกเอา มาตอ่ ยอด เอา นเ่ี ขาเปน็ วทิ ยากรบา้ งหรอื ใหเ้ ดก็ มาเรยี นรู้ กับเขา เพราะเรามีเวลาไมม่ ากพอ

ครูจินดา บษุ สระเกษ ๑๕ครู ด้านกองทนุ และธุรกิจชุมชน ภูมิปัญญาไทย ครอบครัวตู้เย็น ฐานเรียนรู้ภูมิปัญญา คู่กับ กองทุนสามขา สวัสดิการชุมชน วิถีชีวิตของ 393 พื้นบ้าน เป็นเครอื ขา่ ย “ ท�ำไร่นำสวนผสมแบบนี้ ยกให้ครูจินดำ เขำเก่งจริง ๆ ” ผ่ำนแวะไปอีกแห่ง หญิงวัย ๗๐ ออกมำต้อนรับด้วยท่ำทำง กระฉับกระเฉงแข็งแรงเกินวัย เรำนึกในใจว่ำ คงกินข้ำวกับน้�ำ พริกผักจิ้มและผลไม้ไร้สำรเคมีในสวนนับสิบ ๆ ไร่ นีเ่ อง เยาวชนจากจังหวดั และคนสนใจจากที่อน่ื ๆ จะ มาเรียนรู้ภูมิปัญญา วิถีชีวิตของพื้นบ้าน เวลามี ผลติ ภณั ฑ์เหล่าน้ี เขากม็ าซ้ือ ผลผลิตทีเ่ หน็ มที ัง้ ขายราคาพออยู่ได้ ส่วนใหญ่จะใหค้ วามรู้ สว่ นที่ เพาะไวข้ ายก็มี แวะผ่านไปอีกบ้านที่มีต้นไม้ร่มรื่นท่ีก�าลัง ผลิตผลอ่อน ท้ังขนุน ทุเรียน มะละกอ มะม่วง มะนาวพนั ธด์ุ ี สะเดาบา้ น กฐนิ ทแี่ ตกยอดเขยี วสด น่าเด็ดไปเป็นเคร่ืองเคียงแกงเผ็ด ถั่วฝักยาวแข่ง กบั ผกั บุ้งในคนู ้า� ออกฝกั ดอู วบนา่ เดด็ และ ข้าวใบ เขยี วพรวิ้ ลอ้ ลมหลายสบิ ไร่ รอบบา้ นยงั ปลกู พชื ผกั เล้ียงไก่ มองไปทางไหนดูร่มร่ืนสบายตาสบายใจ น่าจะเป็นภูมิปัญญาเรื่องครอบครัวที่เริ่มมาจาก ครจู ินดา

๑๕ครู ครจู นิ ดา บษุ สระเกษ ดา้ นกองทนุ และธรุ กิจชมุ ชน ภูมปิ ัญญาไทย 394 “ท่ีนี่เป็นหน่ึงในครอบครัวตู้เย็น ท�ำ เราอาศัยว่าร่วมเป็นเครือข่าย ไม่จ�าเป็น ไว้หมู่บ้ำนละ ๓ ครอบครัว ขณะน้ีมี ๓๒ ตอ้ งมีมาตรฐานอะไรมากมายแต่เรากห็ าลกู คา้ ครอบครัวในชุมชนแห่งน้ี จัดเป็นฐำนเรียนรู้ ใหเ้ ขาดว้ ย ทา� เปน็ เหมอื นเทยี่ วชมุ ชน ของเรามี เหมือนท่องเท่ียวชุมชน เด็ก ๆ เยำวชนจำก ทเุ รยี น มีล�าไย มเี งาะ มกี ลว้ ยหอม ครอบครัว จังหวัดและคนสนใจจำกที่อื่น ๆ จะมำเรียนรู้ ตู้เย็นเป็นเรื่องที่น่ารัก แม้ว่าตอนนี้ยังไม่มี ภมู ปิ ญั ญำ วถิ ชี วี ติ ของพน้ื บำ้ น เวลำมผี ลติ ภณั ฑ์ นโยบายที่จะท�าจริงจัง ก็ยังมีอยู่ในหลายแห่ง เหลำ่ น้ี เขำกม็ ำซอ้ื ผลผลติ ทเ่ี หน็ มที งั้ ขำยรำคำ เพียงแต่สังคมไมร่ ับรู้ อย่างครูมพี ลังทางสงั คม พออยไู่ ด้ ส่วนใหญจ่ ะให้ควำมรู้ ส่วนท่เี พำะไว้ เยอะ และยงั มปี า่ ชมุ ชน ๑,๑๐๐ ไร่ ใหช้ าวบา้ น ขำยกม็ ี ชว่ ยดแู ล เดก็ มำเรยี นรู้ ไมเ่ คยรำ� คำญ จะซกุ ซนบำ้ ง นอกจากนี้ ครูจินดา ยังจัดท�ากองทุน อยำกกนิ กใ็ หเ้ ขำกนิ ไป แตค่ นมำแบบทอ่ งเทย่ี ว สามขา หนึง่ ในขาน้ันคอื สวสั ดิการชุมชน ชว่ ย หรือเข้ำมำศึกษำถ้ำเขำอยำกได้ก็ซื้อ และแบ่ง สร้างบ้านให้ผู้ไม่มีที่อยู่อาศัย แบ่งที่ดินท�ากิน เอำไปขำยตลำดชมุ ชน มตี ลำดรบั ไป ผลไมข้ อง ให้ผู้ไม่มีที่ท�ากิน การจัดการบริหารองค์ความ เรำหวำนธรรมชำติไม่ได้ใช้ปุ๋ยเคมี น้�ำท่ีใช้เป็น รู้ ยกย่องให้เกียรติคนดี คนมีความสามารถ นำ�้ บำดำล ” ครูจินดา อธบิ ายจนเราอยากจะ ภูมิปัญญาท่ีมีอยู่ในท้องถิ่น มาถ่ายทอดวิชา ชมิ ทเุ รยี นข้ึนมาทนั ที ครูบอกวา่ คงตอ้ งปหี น้า ความรู้ ในดา้ นตา่ งๆ ไมว่ า่ การเกษตร ปา่ ชมุ ชน คอ่ ยว่ากัน พรอ้ มท้ังขอความช่วยเหลือจากองคก์ ร หน่วย น่ีเป็นการเคล่ือนไหวแบบฐานเวิร์กช็อป งานของรฐั มาเตมิ เตม็ ใหช้ มุ ชน ทา� ใหข้ ยายฐาน ท�าแบบใครสนใจ กม็ าตามอธั ยาศัย ทีเ่ ป็นสวน การผลิตที่ตรงความต้องการของตลาด ของครูก็ให้ลูกเขยท�า น้�าใต้ดินมีพอใช้ท้ังปีไม่ เคยขาด เกษตรท่ีน่ีมีการพัฒนาก้าวไกล เขา เรียนรู้และพัฒนาไปแลกเปล่ียนความรู้กันใน ระหวา่ งครอบครัวตู้เยน็

ครูจินดา บุษสระเกษ ๑๕ครู ดา้ นกองทุนและธรุ กิจชุมชน ภูมิปัญญาไทย 395

๑๕ครู ครูจนิ ดา บษุ สระเกษ ดด้า้านนกกอองงททนุ นุ และธรุ กิจชุมชน ภมู ิปญั ญาไทย 396 บทสรปุ สดุ ทา้ ยก่อนเดนิ ทางกลบั ครูจินดา ผู้น�าท่ีสุดยอดนักบริหาร ผู้ร้อยดวงใจ ทุกดวง ด้วยความเข้าใจ เข้าถึง จึงพัฒนา สามารถ น�าพาชุมชนพ่ึงพาตนเองได้อย่างเข้มแข็ง ต้องยกให้ เป็น จินดา บุษสระเกษ ประธานคณะกรรมการพฒั นา สตรี อ.หนองบญุ มาก จ.นครราชสมี า ครภู มู ปิ ญั ญาไทย ดา้ นกองทนุ และธรุ กจิ ชมุ ชน สภาการศกึ ษา ทส่ี ามารถ พาชุมชนพ่ึงพาตนเองได้อย่างเหลือเชื่อ สร้างรายได้ สรา้ งวถิ พี อเพยี ง ลดหนี้ ลดรายจา่ ย ออมเพอื่ การแกไ้ ข ปัญหา สรา้ งความม่นั คงดา้ นอาชพี สร้างอาชีพเสรมิ ช่วยเหลือกัน รวมถึงปลูกฝังให้คนในชุมชนมีขบวนการท�างาน แบบจติ อาสา ชว่ ยเหลอื แบง่ ปนั ทง้ั แรงกาย แรงใจ แรง ความคดิ พชิ ติ ใจคนในชมุ ชน รว่ มดว้ ยชว่ ยกนั เตมิ เตม็ ด้วยการเพ่ิมความรู้ การถ่ายทอดความรู้ ขบวนการ ท�าการตลาด รู้จักพ่งึ พาตนเอง มีการจดั การ-ทนุ (เงิน ทุน) -ทนุ คน-ทุนทรัพยากรธรรมชาติ อยา่ งชาญฉลาด สามารถ ท่อี ยปู่ ัจจบุ นั : ๓ ม.๒ ต.บา้ นใหม่ อ.หนองบุญมาก จ.นครราชสีมา ๓๐๔๑๐

ครูจนิ ดา บษุ สระเกษ ๑๕ครู ดา้ นกองทุนและธรุ กจิ ชุมชน ภมู ปิ ัญญาไทย 397 จากเฟ่อื งฟา้ สตู่ น้ แบบกองทุนชุมชน ด้วยนิสัยรักการค้าขาย ชอบพฒั นา ตน้ เฟอ่ื งฟ้า ไมป้ ระดบั ท่วั ไป กลายเป็นปัจจยั สา� คัญพฒั นาเศรษฐกิจครอบครัว ชุมชน เกดิ เครอื ขา่ ย แลกเปลีย่ นเรียนรู้ กอปรกบั กระบวนการทา� งานแบบจิตอาสา รว่ มด้วย ช่วยกัน อ�าเภอหนองบุญมาก เมืองยา่ โม พฒั นาเป็นแหลง่ สง่ เฟือ่ งฟา้ ที่ ใหญ่ท่สี ุดของประเทศ ครจู นิ ดา บษุ สระเกษ ครูภมู ิปัญญาไทย รุ่นท่ี ๖ สรา้ งฐานเรยี นรภู้ มู ปิ ญั ญาไทย ตอ่ ยอดชมุ ชนใหพ้ งึ่ พาตนเองจดั กองทนุ สามขา สวัสดิการชมุ ชน เปน็ ตน้ แบบการพฒั นาชุมชนใหพ้ นื้ ทตี่ า่ งๆ

๑๕ครู ครูจนิ ดา บษุ สระเกษ ด้านกองทุนและธุรกิจชุมชน ภูมิปัญญาไทย 398

ครูดวงเนตร ดุริยพันธุ์ ครูภูมปิ ญั ญาไทย ดา้ นศิลปกรรม