Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เอกสารประกอบการเรียนวิชาการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้

เอกสารประกอบการเรียนวิชาการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้

Published by supada khunnarong, 2021-08-28 10:51:41

Description: เอกสารประกอบการเรียนวิชาการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนรู้

Search

Read the Text Version

มลู และระดับการวดั LEVEL OF MEASUREMENT) แบ่งกลุ่ม (NORMINAL SCALE) ข้อมูลในลักษณะน้ีจะ เพศ หรือถ้าเป็นตัวเลขก็จะไม่ได้บ่งบอกถึงปริมาณมาก – างเท่าน้ัน เช่น เบอร์ของทีมฟุตบอล เลขทะเบียนรถยนต์ ารวัดข้อมูลระดับนี้จะกระทาได้ในลักษณะการแจกแจง BUTION) การคานวณค่าร้อยละ (PERCENTAGE) หาฐาน ต้น รรคการเมอื งทช่ี อบ

ลกั ษณะของข้อม (DATA CHARACTER & L 2. ข้อมลู ระดับเรียงอันดับ (ORDINAL อันดับเท่าน้ัน เช่น จัดอันดับความเก่งอันดับ 1, อันดับ 2, อันดับ 3 เป็นต้น ลักษณะของการจัด สามารถทราบได้ว่า คนเก่ง เก่งกว่ากันเท่าใด สวย ลักษณะการจัดเรียงอันดับเท่าน้ันและสถิติที่น (MEDIAN) สว่ นเบีย่ งเบนควอไทล์ (QUARTILE DE ตวั อยา่ งได้แก่ ตวั แปรอายทุ แ่ี บง่ เป็นชว่

มูลและระดับการวดั LEVEL OF MEASUREMENT) SCALE) เป็นข้อมูลที่กระทาได้แค่นามาเรียงเพอ่ื จัด 2, 3 หรืออันดับความสวยความงาม สวยอันดับ1, ดเรียงอันดับข้อมูลสามารถจัดเรียงอันดับได้ แต่ไม่ ยกว่ากันเท่าใด ดังนั้นข้อมูลระดับนี้จึงกระทาได้ใน นามาใช้ในการจัดเรียงระดับน้ี ได้แก่ มัธยฐาน EVIATION) วง ระดับการศึกษา รายไดท้ แี่ บง่ เปน็ ชว่ ง

ลกั ษณะของข้อม (DATA CHARACTER & L 3. ข้อมูลระดบั อันตรภาค (INTERVAL SCA ออกเป็นช่วง ๆ มีระยะห่างเท่า ๆ กัน เรียงอันดับจ สามารถบอกได้ว่าเปน็ กีเ่ ท่าของกันและกนั เพราะไมม่ อณุ หภูมิ 0 องศาเซลเซียส ก็ยังมีความร้อน หรือคะแ ว่าคนได้คะแนนมากท่สี ดุ ได้คะแนนมากกว่าคนอนั ดับร ได้คะแนนอันดับรองเก่งกว่าคนท่ีได้อันดับสุดท้ายเป็น ศนู ยส์ มมติ (ARBITRARY ZERO) เทา่ นน้ั สถติ ทิ ่ีใช้กับ มัธยฐาน (MEDIAN) คา่ เฉลี่ย (MEAN) เปน็ ตน้ ตวั อย่าง ไดแ้ ก่ คะแนนแสดงความคิดเห็นห

มลู และระดับการวัด LEVEL OF MEASUREMENT) ALE) ข้อมูลในระดับน้ี จะเปน็ ขอ้ มลู ทแ่ี บง่ คา่ ตัวแปร จากมากไปหาน้อย จึงสามารถเปรียบเทียบกันได้แต่ไม่ มีศนู ยแ์ ท้ เชน่ นักศึกษาทส่ี อบได้คะแนน 0 ก็ยังมีความรู้ แนนสอบนักศึกษาได้ 45, 30, 32, 27, 22, 15 ก็บอกได้ รอง 15คะแนน (45 – 30 = 15) แต่เราจะบอกวา่ คนที่ น 2 เท่าไม่ได้ เพราะคะแนนไม่มีศูนย์แท้ เพียงแต่จะมี บข้อมลู ระดับการวัดนี้ ไดแ้ ก่ ฐานนิยม (MODE) หรอื ทัศนคติ คะแนนสอบ

ลักษณะของข้อม (DATA CHARACTER & L 4. ขอ้ มลู ระดบั อตั ราสว่ น (RATIO SCAL ค่าท่ีได้จะบอกลักษณะได้อยา่ งแนน่ อน มีศนู ยแ์ ท้ ( ท่ีใช้กับขอ้ มลู ในระดบั น้กี ็สามารถใชไ้ ดก้ ับทกุ สถติ ิ ตวั อยา่ งไดแ้ ก่ ยอดขาย ส่วนสงู นา้ หนกั

มูลและระดับการวดั LEVEL OF MEASUREMENT) LE) ข้อมูลในระดับน้เี ปน็ ขอ้ มลู ที่มีลกั ษณะสมบูรณ์ (TRUE ZERO) สามารถเปรยี บเทยี บกนั ได้ ดงั น้นั สถติ ิ ก ปรมิ าณสนิ ค้า

การตรวจสอบความเช่อื • ความจาเปน็ ทต่ี อ้ งตรวจสอบความเชอื่ ถอื ได้ เพื่อให้ไดข้ อ้ มูลท่เี ป็นความจรงิ ขอ้ มูลท เทย่ี งตรงและเชอื่ ถือได้ ดังนัน้ จึงตอ้ งมกี ารตรวจสอ มอื มหี ลายดา้ น เชน่ การตรวจสอบความเชื่อถอื ได้ เท่ียงตรง (VALIDITY) • ความหมายของความเช่ือถอื ได้ หมายถึง การนาเคร่ืองมอื มาวดั หลาย ๆ ความคงเส้นคงวาหรือมคี วามสอดคล้อง เช่น ถาม คาตอบเหมอื นกันหรอื มีความใกลเ้ คียงกัน • ตวั อย่างของการตรวจสอบความเชอ่ื ถือได้ -การตรวจสอบความเชื่อถือไดข้ องขอ้ สอบ -การตรวจสอบความเชือ่ ถอื ได้ของแบบส

อถือได้ (RELIABILITY) ทีเ่ ป็นความจริงจะมาจากเครอ่ื งมอื ทม่ี ีความ อบคณุ ภาพของเครื่องมอื การตรวจสอบเครอื่ ง (RELIABILITY) และการตรวจสอบความ ครงั้ ผลการวดั ต้องเหมอื นกัน หรอื เรียกวา่ เป็น มคาถามเดียวกันหลาย ๆ ครั้งกับคนๆหนง่ึ กไ็ ด้ บวิชาวิทยาศาสตร์ สอบถามในการวิจัย

VALIDITY (คว • CONTENT VALIDITY ผู้ทรงคณุ วฒุ ติ รวจส • CONSTRUCT VALIDITY เครือ่ งมือมโี ครงสรา้ CONFIRMATORY FACTOR ANALYSIS

วามเทย่ี งตรง) สอบเครอื่ งมือ างตามแนวคดิ ทฤษฎีท่เี ป็นฐานการวจิ ัยหรอื ไม่

ประเภทของค • ความเชอื่ ถือได้ทว่ี ัดความมเี สถยี รภาพ เป็นกา กลมุ่ เดียวกนั แตเ่ วลาตา่ งกนั โดยเปน็ การใช้เคร่ือง เดยี วกนั 2 ครง้ั ในเวลาทีต่ ่างกัน ถ้าคาตอบจากกา เรียกว่ามคี วามเชอ่ื ถือได้ • ความเชอ่ื ถือไดท้ วี่ ดั จากเคร่อื งมือทีส่ ามารถทดแ เคร่ืองมอื โดยการสอบถามหรือวดั จากคน ๆ เดียว แตม่ คี ุณภาพเหมอื นกัน คอื วัตถุประสงค์ เน้ือหา ความสอดคล้องกันแสดงว่ามคี วามเชื่อถอื ได้ • ความเช่อื ถอื ที่วดั ความสอดคล้องภายในชดุ เดยี คร้งั เดียวโดยใช้แบบสอบถามชุดเดยี วและถามเพีย ภายในชุดเดียวกันหลายวิธี ได้แก่ วธิ กี ารแบง่ ครงึ่ ความเชื่อมน่ั ของคูเดอร-์ รชิ ารด์ สนั

ความเช่อื ถอื ได้ ารวดั ความเชื่อถือไดห้ รอื ความสอดคลอ้ งของคน งมอื หรือแบบสอบถามแบบเดยี วกันในคนกลุ่ม ารถาม 2 ครง้ั เหมอื นกนั หรือสอดคล้องกันจะ แทนกันได้ เป็นการวัดความเชื่อถอื ของ วกนั หรอื สิง่ ของเดียวกนั โดยใช้เคร่ืองมือตา่ งกนั า ความยากง่าย ถา้ ขอ้ มลู ที่ได้จากคาถาม 2 ชุดมี ยวกนั เป็นการวัดความเช่อื ถือได้โดยการวัด พยงครัง้ เดยี ว ซงึ่ มเี ทคนคิ การวัดความสอดคลอ้ ง ง สมั ประสทิ ธ์ิอัลฟาของครอนบคั และการหา

การเลอื กสถิติเชงิ พรรณนาทใี่ ชใ้ นงาน การเลอื กใช้สถิติเชงิ พรรณนาในงานวจิ ัย แบง่ เปน็ 1. สาหรับข้อมลู เชงิ คุณภาพหรอื ข้อมลู เชงิ กลุ่ม 2. สาหรับข้อมูลเชิงปรมิ าณ

นวิจัย (DESCRIPTIVE STATISTICS ) น 2 กลมุ่ ม

สถติ เิ ชงิ พรรณนาสาหรบั ขอ้ มูล การมโี ทรศัพท์มือถือ จานวน มี 343 ไมม่ ี 57 รวม 400 ท่มี า กัลยา วานชิ ยบ์ ญั ชา 2550

ลเชงิ คุณภาพหรือข้อมูลเชิงกล่มุ รอ้ ยละ Valid Percent 85.8 85.8 14.3 14.3 100.0 100.0

ขอ้ มูลทวั่ ไป ตารางข้อมูลทว่ั ไปของผ เพศ ไม่มีงานทา ชาย จานวน ร้อยละ จาน หญิง รวม 54 20.38 13 211 79.62 15 สถานภาพ 265 100.0 28 โสด สมรส 55 20.75 10 หมา้ ย/หยา่ ร้าง 196 73.96 17 รวม 14 5.28 5 265 100.0 28

ผู้ตอบแบบสอบถาม มีงานทา รวม นวน ร้อยละ จานวน ร้อยละ 31 46.13 185 33.70 53 53.87 364 66.30 84 100.0 549 100.0 02 35.92 157 28.60 77 62.32 373 67.94 5 1.76 19 3.46 84 100.0 549 100.0

รายได้ สถิตเิ ชิงพรรณนาส ไม่มรี ายได้ Frequency ต่ากว่า 5,000 5,000-9,999 74 10,000-19,999 28 20,000-29,999 60 30,000 ข้ึนไป 96 48 รวม 93 ไม่ตอบ 399 รวม 1 400 ท่ีมา กัลยา วานชิ ยบ์ ญั ชา 2550

สาหรับสเกลอันดับ Valid percent Percent 18.5 7.0 18.5 15.0 7.0 24.1 15.0 12.0 24.0 23.3 12.0 100.0 23.3 99.8 .3 100.0

สถติ เิ ชงิ พรรณนาสาห ข้อมลู เชิงปริมาณ หมายถงึ สเกลแบบชว่ ค่าสถิตเิ พ่ือสรุปลกั ษณะขอ้ มลู โดยจะตอ้ งหาคา่ สถ 1. ค่ากลางสาหรับข้อมูลเชงิ ปรมิ าณ - คา่ เฉลีย่ - ค่ามธั ยฐาน - คา่ ฐานนิยม 2. คา่ การกระจายของขอ้ มลู เชิงปริมาณ เปน็ ค่า กระจายมาก แสดงวา่ ค่าของข้อมูลชดุ น้นั มีความแ - การวัดคา่ การกระจายดว้ ยค่าสถติ ิ ได - การแสดงการกระจายข้อมลู ด้วยกราฟ

หรับขอ้ มูลเชงิ ปรมิ าณ วง และสเกลอตั ราสว่ น ซ่ึงเปน็ ข้อมูลที่จะต้องคานวณ ถติ ซิ ง่ึ แสดงค่ากลางและค่าการกระจายของข้อมูล าแสดงความแตกตา่ งของขอ้ มลู ถ้าขอ้ มูลชดุ ใดมกี าร แตกต่างกันมาก ด้แก่ ค่าพสิ ัย ค่าแปรปรวน และค่าเบ่ยี งเบนมาตรฐาน ฟ

ค่ากลางขอ N Valid Missin Mean Median Mode ทีม่ า กัลยา วานชิ ย์บัญชา 255

องอายุ d 388 ng 12 30.38 29.00 15 50

สรปุ สถติ ิพน้ื ฐานสาห สถิติ Nominal Ordi / / ความถี่ / / ร้อยละ / / ฐานนยิ ม(Mode) X / มัธยฐาน (Median) X X ค่าเฉลยี่ (Mean) X / พิสัย (Range) X X สว่ นเบยี่ งเบน มาตรฐาน (S.D.) X X ความแปรปรวน ทีม่ า บณั ฑติ วรรณประพนั ธ์ สานักงานปอ้ งกันควบคมุ โรคที่ 5 นครราช

หรับข้อมลู ระดบั ต่างๆ Ratio / ระดบั ขอ้ มูล / / inal Interval / / / / / / / / / X/ / X/ X/ ชสีมา

การเกบ็ รวบรวมข • การสมั ภาษณ์ • การใชแ้ บบสอบถาม • การชงั่ วัด นับ • การสงั เกต

ขอ้ มลู

การเลอื กต การเลอื กตวั อย่างแบ่งเปน็ 2 ประเภทใหญ่ ๆ 1. การเลอื กตัวอยา่ งตามความนา่ จะเปน็ 2. การเลอื กตัวอย่างท่ไี ม่เป็นไปตามความ

ตัวอย่าง (PROBABILITY SAMPLING) มน่าจะเป็น ( NON-PROBABILITY SAMPLING)

การเลือกตัวอยา่ ง (PROBABILIT • การสมุ่ ตวั อย่างแบบง่าย (SIMPLE RANDOM SA • การสมุ่ ตัวอยา่ งแบบเปน็ ระบบ (SYSTEMATIC SA • การส่มุ ตวั อย่างแบบแบง่ ชน้ั ภูมิ (STRATIFIED SA • การสุ่มตวั อยา่ งแบบกลุ่ม (CLUSTER SAMPLING

งทใ่ี ชค้ วามน่าจะเปน็ TY SAMPLING) AMPLING ) AMPLING ) AMPLING) G)

การเลือกตัวอยา่ งที่ไ (NON-PROBABIL • การเลอื กตัวอยา่ งแบบสะดวก (CONVENIENC • การเลอื กตวั อยา่ งแบบเจาะจง (PURPOSIVE • การเลอื กตวั อยา่ งแบบบงั เอิญ ((ACCIDENTAL • การเลอื กตวั อยา่ งแบบโควตา้ (QUOTA SAMP

ไม่ใช้ความนา่ จะเปน็ LITY SAMPLING) CE SAMPLING) SAMPLING) L SAMPLING) PLING)

การทดสอบสมมต ขอ้ มูลท่ีไดม้ าจากตวั อย่างจะต้องมีการทดสอบส สาเหตทุ ที่ าให้ผตู้ อบมีความเหน็ ท่ีต่างกนั หรือการทดสอบ สมมตฐิ านเป็นความเช่ือของนักวจิ ัย เช่น เชื่อว่า การทดสอบสมมตฐิ านของงานวิจยั เปน็ การทดส หรือไม่ โดยการเก็บรวบรวมข้อมลู จรงิ เพื่อนามาทดสอบค

ติฐานกบั งานวิจยั สมมติฐานเพือ่ สรปุ ลกั ษณะของประชากร หรือเพอื่ หา บความสัมพนั ธ์ า คะแนนสอบของนกั เรียนขน้ึ กบั วิธกี ารสอนของครู สอบหรอื ตรวจสอบความเช่ือของนักวิจัยว่าเปน็ จรงิ ความเชื่อ

ขนั้ ตอนการทดส • ขน้ั ที่ 1 การต้งั สมมตฐิ านเพือ่ การทดสอบ • ขัน้ ท่ี 2 การกาหนดสถิตทิ ใ่ี ช้ในการทดสอบ • ขั้นท่ี 3 กาหนดระดบั นยั สาคัญของการทดสอบ ( SIGNIFICANCE) หรอื ความผดิ พลาดของการทด • ขั้นที่ 4 การเก็บรวบรวมขอ้ มลู และการคานวณค • ขั้นท่ี 5 การหาคา่ วิกฤติเพ่อื สรปุ ผลการทดสอบ ในการท่จี ะสรุปวา่ สงิ่ ทผ่ี ้วู ิจัยคาดไว้เป็นจรงิ หรือไ • ขน้ั ที่ 6 การสรุปผลการทดสอบ นาค่าสถติ ทิ คี่ าน ได้จากขัน้ ที่ 5 เพอ่ื สรุปผล

สอบสมมติฐาน (กาหนดระดับนัยสาคญั (LEVEL OF ดสอบ ค่าสถติ ทิ จ่ี ะใช้ในการทดสอบทเี่ ลอื กไว้ในข้ันที่ 3 คา่ วิกฤติ (CRITICAL VALUE) เปน็ คา่ ท่แี บ่งเขต ไม่ นวณได้จากขน้ั ท่ี 3 มาเปรียบเทียบกบั คา่ วิกฤตทิ ่ี

การตงั้ คา่ สมมติฐานเพอ่ื ก การทดสอบสมมติฐานจะตอ้ งตัง้ สมมตฐิ าน 2 ชนดิ ค่กู ัน 1. สมมติฐานฐานวา่ ง (NULL HYPOTHESIS) 2. สมมติฐานแย้ง (ALTERNATIVE HYPOTHE หลักเกณฑ์การตั้งสมมตฐิ าน ถ้าส่งิ ทเ่ี ช่ือหรือคาดไว้รวมเครอ่ื งหมายเทา่ กบั อ ถา้ ส่งิ ท่เี ชื่อหรือคาดไวไ้ มร่ วมเครือ่ งหมายเทา่ กับ (<) ใหใ้ สไ่ วใ้ น H1

การทดสอบของงานวจิ ยั นทกุ ครัง้ ใช้สัญลักษณ์ H0 (หรือเรยี กว่า สมมตฐิ านหลกั ) ESIS) ใช้สญั ลักษณ์ H1 (หรอื เรยี กวา่ สมมติฐานรอง) อยู่ดว้ ยใหใ้ สไ่ วใ้ น H0 บ คอื เปน็ เคร่อื งหมายไมเ่ ท่ากับ () หรอื (>) หรอื

ประเภทของการท การทดสอบสมมติฐานทางสถติ แิ บง่ เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ 1. การทดสอบสมมตฐิ านแบบ 2 ด้าน (2-TAILED TE จะถือวา่ เปน็ การทดสอบ 2 ด้าน ตวั อยา่ ง ผู้วิจยั คาดว่าคะแนนความพึงพอใจเฉล่ียของลกู ค้าท ไวเ้ ปน็ เคร่อืHHง10หคคมะะาแแยนน(นน=คค)ววจาางึมมใพสพ่ใงึ ึงนพพอHอใใ0จจเแเฉฉลลละยี่ ีย่มเี ค=ร่ือง44หมายตรงกนั 2. การทดสอบสมมตแิ บบด้านเดยี ว (1-TAILED TEST ตัวอยา่ ง HH10 คะแนนความพึงพอใจเฉลีย่  4 คะแนนความพงึ พอใจเฉล่ยี > 4

ทดสอบสมมติฐาน EST) กรณีท่ี H1 มีเครอื่ งหมายไมเ่ ท่ากบั () ทมี่ ตี ่อการใหบ้ ริการของธนาคารเปน็ 4 คะแนน ส่งิ ทีน่ ักวิจยั คาด นข้ามคอื ไมเ่ ท่ากบั () T) กรณสี มมตฐิ าน H1 มเี ครอ่ื งหมาย (>) หรอื (<) HH10 คะแนนความพงึ พอใจเฉลี่ย  4 คะแนนความพงึ พอใจเฉลย่ี < 4

การกาหนดระดับนัยสาคัญหรือ การทดสอบเพื่อตรวจสอบวา่ สง่ิ ทนี่ กั วิจยั คาดไวเ้ ป ผดิ พลาดในการสรปุ ข้ึนถ้าหากข้อมลู ตัวอยา่ งไม่มคี ุณภาพเพ 1. ความผิดพลาดประเภทที่ 1 (TYPE I ERROR  = P (ปฏเิ สธ H0 / โดยท่ี H0 เป็นจ  = โอกาสที่ผูว้ จิ ยั จะสรปุ ผิด คอื สรปุ ว และเรียกค่า  ว่าระดับนัยสาคัญ (LEVEL OF SIGNIFICAN 2. ความผิดพลาดประเภทที่ 2 (TYPE II ERRO Β = P (ยอมรบั H0 / โดยท่ี H0 ไมจ่ หรือ Β = โอกาสทผ่ี ู้วจิ ยั จะสรปุ ผิดโดยสรุป

อความผิดพลาดของการทดสอบ ปน็ จรงิ หรือไมน่ ้ัน การทดสอบอาจจะเกดิ ความ พียงพอ ความผิดพลาดแบ่งเป็น 2 ชนิด R) จรงิ ) ว่า H0 ไมจ่ รงิ ทงั้ ท่ีความจรงิ สมมติฐาน H0 จรงิ NCE) OR) จรงิ ) ปวา่ H0 จริงทง้ั ท่ีความจรงิ H0 ไมจ่ รงิ

ระดบั นัยสาคัญ (Level of signif ความมนี ัยสาคญั  (alpha) = การกาหนดขอบเขตของความคาดเคลอ่ื น โดยทว่ั ไป  = .05 หรอื .01

ficance) นทีย่ อมใหเ้ กิดในการทดสอบสมมตฐิ าน

ระดับนยั LEVEL OF SIGN ระดบั นัยสาคญั หมายถงึ ค่าความน่าจะเป็น ทีส่ มมตฐิ านน้นั เป็นจริง (ความน่าจะเป็นท่ีจะ จากการสุ่มตัวอย่าง มาชว่ ยในการบ่งบอกคณุ ล  กค็ ือพ้นื ทใี่ ต้โค้งปกติ ท

ยสาคญั NIFICANCE :  หรอื โอกาสท่ีสมมติฐาน H0 ทต่ี ้ังไวจ้ ะถกู ปฏิเสธทงั้ ๆ ะตดั สินใจผิดพลาด อนั เนือ่ งมาจากการนาหลกั ฐานที่ได้ ลกั ษณะของประชากร) ที่เป็นเขตปฏเิ สธ H0

คา่ วกิ ฤต critical valu ขอบเขตของการตัดสินใจว่าจะปฏิเสธหรอื • ค่าสถิตจิ ากตารางภายใตเ้ งอื่ นไขของการ • ชนิดของการทดสอบว่าเปน็ ทางเดยี วหรือ • ระดับความมีนยั สาคญั ทก่ี าหนดไว้